The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวิศวกรรมงานคอนกรีต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-07-15 01:43:10

มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวิศวกรรมงานคอนกรีต

มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวิศวกรรมงานคอนกรีต

Keywords: มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวิศวกรรมงานคอนกรีต

30

ชนิดของความคลาดเคล่อื น ความคลาดเคลอื่ นทยี่ อมให้

(ข) ความคลาดเคลื่อนของระดับหรือความลาดเอียงจากค่าที่กำหนดในแบบสำหรับงานแผ่น
พนื้ , คาน, Horizontal Joint grooves

ส่วนของอาคารทม่ี องเห็นได้

- ทุกๆ ระยะ 3 เมตร + 0.6 ซม.

- ค่าสงู สดุ ตลอดความยาว + 1.3 ซม.

ส่วนของอาคารที่ฝังดิน เปน็ สองเท่าของคา่ ปกต

(ค) ความคลาดเคล่ือนของขนาดหน้าตดั ของเสา, คาน, ตอม่อ, Buttresses และสว่ นอ่ืน ๆ
ที่มีลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กัน

- ทางลบ ไม่เกนิ 0.6 ซม.

- ทางบวก ไมเ่ กนิ 1.3 ซม.

(ง) ความคลาดเคล่ือนของความหนาของแผน่ พ้ืน, กำแพง, Arch Sections และส่วนอื่น ๆ

ทีม่ ีลักษณะคล้ายคลงึ กนั

- ทางลบ ไมเ่ กนิ 0.6 ซม.

- ทางบวก ไมเ่ กิน 1.3 ซม.

(จ) งานฐานราก

(1) ความคลาดเคลือ่ นในแนวราบจากตำแหน่งท่ีกำหนดไว้ในแบบ

- ทางลบ ไม่เกนิ 1.3 ซม.

- ทางบวก ไม่เกิน 5 ซม.

(2) ความเบ่ยี งเบนของศนู ย์กลางยอมให้คลาดเคล่อื นได้ 2 % ของความกวา้ งฐานราก

ดา้ นที่ขนานกับทิศทางทเี่ กดิ ความเบี่ยงเบนแต่ไมเ่ กนิ 5 ซม.

(3) ความคลาดเคลื่อนของความหนาของฐานรากจากคา่ ท่ีกำหนดในแบบ

- ทางลบ ไม่เกนิ 5 % ของความหนาฐานราก

- ทางบวก ไม่เกนิ 10 ซม.

(4) ความคลาดเคลื่อนของขนาดฐานรากจากมิตทิ ี่กำหนดในแบบ

- ไมเ่ กิน + 5 ซม.

(ฉ) ความคลาดเคล่ือนจากแนวดิ่งและค่าระดับสำหรับงานพ้ืนธรณี และกำแพงข้างของ
งานตดิ ตัง้ บานระบาย

- ไมเ่ กิน 0.3 ซม.





กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต

31

(2) สำหรับงานทอ่ และปล่องคอนกรีต (Conduit and Shaft)

ชนดิ ของความคลาดเคลื่อน ความคลาดเคลื่อนที่ยอมให

(ก) ความคลาดเคลอื่ นในแนวราบจากแนวทีก่ ำหนด 2.5 ซม.

(ข) ความคลาดเคลอ่ื นของความหนาทอ่ คอนกรตี ณ จดุ ใด ๆ


- ทางลบ 0.6 ซม.

- ทางบวก 1.3 ซม.

(ค) ความคลาดเคลื่อนของเส้นผ่านศูนย์กลางภายในที่ระบุในแบบ+0.5% ของเส้นผ่าน
ศนู ยก์ ลาง

(3) สำหรับงานสะพานรถยนต์

ชนดิ ของความคลาดเคล่ือน ความคลาดเคล่อื นที่ยอมให้

(ก) ความคลาดเคล่ือนในแนวราบจากแนวท่กี ำหนด 2.5 ซม.

(ข) ความคลาดเคลอ่ื นจากแนวด่ิง หรือแนวลาดเทที่กำหนดสำหรบั พน้ื , เสา, ตอมอ่ , กำแพง
และส่วนอื่น ๆ ทีม่ ีลักษณะคลา้ ยคลึงกัน

- สว่ นของอาคารที่มองเหน็ ได ้ 1.3 ซม.

- สว่ นของอาคารทีฝ่ ังดนิ เปน็ สองเทา่ ของคา่ ปกติ

(ค) ความคลาดเคล่อื นของขนาดหนา้ ตัดของพื้น,เสา, ตอมอ่ , กำแพง, คานและส่วนอืน่ ๆ ท่ี
มลี กั ษณะคลา้ ยคลึงกนั


- ทางลบ 0.6 ซม.

- ทางบวก 1.3 ซม.

(ง) ความคลาดเคลอื่ นของความหนาของพื้น

- ทางลบ 0.3 ซม.

- ทางบวก 0.6 ซม.


3.19.2 ความคลาดเคล่ือนของการวางเหลก็ เสริม

(1) ความคลาดเคลือ่ นของระยะหุ้มผิวเหล็ก (Covering)

(ก) น้อยกว่า 5 ซม. Covering ยอมให้คลาดเคลอ่ื นได ้ ± +0.5 ซม.

(ข) 5 ซม. Covering ยอมใหค้ ลาดเคลอ่ื นได้ ± +0.9 ซม.

(ค) มากกวา่ 5 ซม. Covering ยอมใหค้ ลาดเคลื่อนได ้ ± +1.2 ซม.

(2) ความคลาดเคลือ่ นเนอื่ งจาก Side Movement


ยอมใหค้ ลาดเคลือ่ นได้ ± +2.5 ซม.





กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวิศวกรรม

งานคอนกรตี

32

3.20 การทำชอ่ งคอนกรตี ท่ีเวน้ ไว้ (Blockout)

กรณที แี่ บบระบุให้ทำชอ่ งคอนกรตี ท่ีเว้นไว้ (Blockout) เพ่อื ตดิ ต้งั งานโลหะหรืออปุ กรณ์ทฝ่ี งั
ติดอยู่กับคอนกรีต ผู้รับจ้างจะต้องจัดทำแบบหล่อใส่ในช่องคอนกรีตท่ีเว้นไว้ (Blockout) ของคอนกรีต
บริเวณนั้น เพ่ือให้สามารถติดตั้งงานโลหะหรืออุปกรณ์นั้นได้ตามแบบ โลหะหรืออุปกรณ์ที่ฝังติดอยู่กับ
คอนกรีตจะต้องได้รับการยึดแน่นตรงตามตำแหน่ง และครบถ้วนตามจำนวนท่ีแสดงไว้ในแบบ โดย
โลหะหรืออุปกรณ์ที่จะยึดฝังในคอนกรีตน้ีจะต้องมีผิวที่สะอาดปราศจากการเคลือบของน้ำมัน จารบี
สนิม สี ปนู ทรายหรอื สารอื่น ๆ ทีล่ ดคา่ ยดึ เกาะของผวิ วัสดกุ ับเนอ้ื คอนกรีต หลงั จากการติดตงั้ งาน
โลหะหรืออุปกรณ์แล้ว ผู้รับจ้างจะต้องเทคอนกรีตระยะที่สองหรือวัสดุอ่ืนๆ ตามที่ระบุไว้ในแบบลงไปใน
ชอ่ งท่เี วน้ ไว้ (Blockout) ดังกลา่ วใหเ้ ต็มตามแบบ

ก่อนที่จะเทคอนกรีตระยะท่ีสอง ผู้รับจ้างจะต้องทำผิวหน้าของคอนกรีตเดิมในช่องที่เว้นไว้
(Blockout) ให้ขรุขระโดยการสกัดหรือวิธีอ่ืนๆ และทำความสะอาดให้ปราศจากฝุ่น ผง หรือสิ่งไม่พึง

ประสงค์อื่นๆ เพื่อให้คอนกรีตใหม่ที่เทลงไปในช่องท่ีเว้นไว้ (Blockout) สามารถยึดเกาะกับโลหะหรือ
อปุ กรณ์และคอนกรตี เดิมได้เป็นอย่างดี

การเทคอนกรีตระยะท่ีสองนี้ จะต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษโดยต้องเทคอนกรีต
ด้วยอัตราการเทและความสูงในการเทท่ีจะไม่กระเทือนต่อความม่ันคงของสิ่งท่ียึดไว้ หากเกิดการเคลื่อน
ตวั ของงานโลหะหรอื อุปกรณ์ที่ยึดฝงั ไว้ ผู้รบั จ้างตอ้ งดำเนนิ การแกไ้ ขทนั ที เพื่อให้งานโลหะหรืออปุ กรณ์
ท่ีติดต้ังไว้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและยึดติดกับคอนกรีตเดิมได้อย่างม่ันคง ผิวหน้าของคอนกรีตต้อง
ตกแต่งให้เรียบร้อยสวยงาม คอนกรีตท่ีใช้ในการเทคอนกรีตระยะที่สองจะต้องมีความแข็งแรงเท่า
คอนกรตี เดิม นอกจากแบบไดร้ ะบุไวเ้ ปน็ อย่างอ่นื




4. งานรอยต่อคอนกรีต (Joints)


4.1 ชนดิ ของรอยตอ่ คอนกรีต

รอยต่อสำหรับงานคอนกรีตแต่ละแห่งจะต้องปฎิบัติตามที่แสดงหรือกำหนดไว้ในแบบอย่าง
เคร่งครัด ทั้งตำแหน่ง ชนิดของรอยต่อ และขนาดต่างๆ ชนิดของรอยต่อคอนกรีตจะแบ่งออกได้เป็น

4 ชนดิ ดงั น้ี

- รอยตอ่ กอ่ สร้าง (Construction Joint)

- รอยต่อเผอ่ื การหดตวั (Contraction Joint)

- รอยตอ่ เผื่อการขยายตวั (Expansion Joint)

- รอยตอ่ ควบคุม (Control Joint)


4.1.1 รอยต่อก่อสร้าง (Construction Joint)

รอยต่อก่อสร้าง คือ รอยต่อคอนกรีตที่ถูกกำหนดในขณะก่อสร้าง เพื่อให้สะดวกและ
สอดคล้องกับการเทคอนกรีต และสามารถทำการเทคอนกรีตต่อเนื่องในภายหลังโดยคอนกรีตใหม่จะต้อง

กรมชลประทาน

มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต

33

จับตัวรวมกันเป็นเน้ือเดียวกับคอนกรีตเดิม ตำแหน่งของรอยต่อก่อสร้างหากมิได้ระบุไว้ในแบบควรอยู่ใน
ตำแหน่งท่ีจะทำให้โครงสร้างเสียความแข็งแรงน้อยที่สุด (ควรอยู่ใกล้ตำแหน่งที่เกิดแรงเฉือนน้อยที่สุด)
หากรอยต่อก่อสร้างจำเป็นต้องอยู่ตรงตำแหน่งท่ีมีค่าแรงเฉือนสูง รอยต่อดังกล่าวควรเสริมความแข็ง
แรงให้มากขึน้ อกี เช่น ทำรอยตอ่ เป็นเดอื ย ปากฉลาม หรอื การเสรมิ เหลก็ เพิ่มเตมิ โดยตอ้ งเสนอรูปแบบ
และวธิ กี ารให้ผูค้ วบคมุ งานหรอื คณะกรรมการตรวจการจ้างพิจารณาเหน็ ชอบกอ่ นดำเนินการ

การเตรียมผิวรอยต่อก่อสร้าง ผิวหน้าของคอนกรีตเดิมจะต้องสกัดให้ขรุขระ เอาผิวหน้า
คอนกรีตท่ไี ม่ติดแนน่ นำ้ ปนู ท่เี ย้มิ และส่ิงไม่พงึ ประสงค์ออกให้หมด แลว้ ฉดี น้ำลา้ งให้สะอาดอย่างท่วั ถงึ
จนปรากฎเห็นเนื้อคอนกรีตที่แข็งแกร่ง แต่อย่าให้น้ำขังบนผิวรอยต่อ เหล็กเสริมบริเวณรอยต่อต้อง
สะอาดและปราศจากส่ิงสกปรกเคลือบที่ผิว ให้ใช้น้ำปูนเขม้ ข้นเทเคลือบบนผิวหนา้ คอนกรีตเดิมก่อนเท
คอนกรตี ใหม่


4.1.2 รอยตอ่ เผ่ือการหดตวั (Contraction Joint)

รอยต่อเผ่ือการหดตัวจะกำหนดตำแหน่งและรายละเอียดการจัดทำไว้ในแบบ เม่ือเท
คอนกรีตถึงระยะรอยต่อตามแบบ และคอนกรีตแข็งตัวดีแล้วจึงถอดแบบพร้อมทำความสะอาด โดยเอา
เศษคอนกรีต เศษปูนซีเมนต์และสิ่งไม่พึงประสงค์ออกให้หมด แล้วให้ทาผิวหน้าของคอนกรีตเดิมด้วย
น้ำยาท่ีทำให้ผิวคอนกรีตไม่ติดกัน (Bond Breaker) เช่น น้ำยาทาแบบหล่อคอนกรีต (Form Release
Agent) หรือ น้ำยาบ่มคอนกรตี (Curing Compound) เปน็ ต้น กอ่ นที่จะเทคอนกรีตในช่วงตอ่ ไป


4.1.3 รอยต่อเผื่อการขยายตวั (Expansion Joint)

รอยต่อเผ่ือการขยายตัวจะกำหนดตำแหน่งและรายละเอียดไว้ในแบบ เมื่อเทคอนกรีตถึง
ระยะรอยต่อตามแบบ และคอนกรตี แขง็ ตัวดีแลว้ จงึ ถอดแบบพรอ้ มทำความสะอาด โดยเอาเศษคอนกรีต
เศษปูนซีเมนต์และสิ่งไม่พึงประสงค์ออกให้หมด แล้วติดตั้งวัสดุอุดรอยต่อคอนกรีต (Elastic Filler)
ขนาดตามท่ีระบุในแบบ แล้วจึงเทคอนกรีตชนรอยต่อดังกล่าว ในกรณีท่ีต้องอุดด้วยวัสดุยารอยต่อ
คอนกรตี ใหเ้ วน้ ช่วงผิวบนรอยต่อขนาดตามแบบแล้วอุดด้วยวสั ดยุ ารอยต่อคอนกรตี (Joint Sealant)


4.1.4 รอยตอ่ ควบคมุ (Control Joint)

รอยต่อควบคุมจะกำหนดตำแหน่งและรายละเอียดไว้ในแบบเพื่อลดการแตกร้าวอันเน่ืองมา
จากการหดตัว (Initial Shrinkage) โดยปกตริ อยตอ่ ควบคมุ จะใช้ในงานท่อคอนกรตี หลอ่ ในท่ี (Cast-in-
place Conduit) ทีม่ ีความยาวมาก การเทคอนกรตี ต้องเทเป็นชว่ งเวน้ ช่วงและต้องท้งิ ระยะเวลาเพ่อื ให้
คอนกรีตช่วงท่ีเทไปแล้วแข็งตัวไม่น้อยกว่า 7 วัน แล้วจึงเทคอนกรีตช่วงที่เว้นไว้ต่อไป ก่อนการเท
คอนกรีตช่วงที่เว้นไว้ ให้ทำความสะอาดรอยต่อ โดยเอาเศษคอนกรีต เศษปูนซีเมนต์และสิ่งไม่พึง
ประสงค์ออกให้หมด แล้วให้ทาผิวหน้าของคอนกรีตเดิมด้วยน้ำยาท่ีทำให้ผิวคอนกรีตไม่ติดกัน (Bond
Breaker) เชน่ น้ำยาทาแบบหล่อคอนกรีต (Form Release Agent) หรอื นำ้ ยาบม่ คอนกรีต (Curing
Compound) เป็นตน้


กรมชลประทาน

มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต

34

4.2 การเคลือบผวิ เพ่ือแยกเนื้อคอนกรตี จากกัน (Coating for Breaking Bond)


สำหรับรอยต่อเผ่ือการหดตัว รอยต่อเผ่ือการขยายตัว รอยต่อควบคุมที่กำหนดให้ทำการ
เคลือบผิว ผู้รับจ้างจะต้องทำความสะอาดรอยต่อโดยเอาเศษคอนกรีต เศษปูนซีเมนต์และสิ่งไม่พึง
ประสงค์ออกให้หมด และจะตอ้ งให้ผิวคอนกรตี น้ันแห้ง แลว้ จงึ ทำการเคลือบผวิ รอยต่อทงิ้ ไวล้ ่วงหนา้ ไม่
น้อยกว่า 24 ช่ัวโมง ก่อนท่ีจะเทคอนกรีตต่อจากรอยต่อน้ัน วัสดุที่ใช้เคลือบผิวเพ่ือแยกเนื้อคอนกรีต
ออกจากกนั น้ี ตอ้ งมคี ณุ สมบัติเป็นนำ้ ยาท่ที ำให้ผิวคอนกรตี ไมต่ ดิ กัน (Bond Breaker) เชน่ นำ้ ยาทาแบบ
หล่อคอนกรตี (Form Release Agent) หรือน้ำยาบ่มคอนกรตี (Curing Compound) หรอื วสั ดทุ ่ีระบไุ ว้
ในแบบ เพอ่ื ใหผ้ วิ หน้าของคอนกรีตแยกจากกันอย่างเด็ดขาด วิธีเคลือบและปรมิ าณการใชใ้ ห้ผรู้ บั จา้ ง
ปฏิบัตติ ามข้อแนะนำของบริษัทผผู้ ลติ อย่างเคร่งครดั





4.3 วสั ดุสำหรับรอยต่อ

4.3.1 แผ่นกันซึมระหวา่ งรอยต่อคอนกรตี ทงั้ ชนิดแผน่ ยาง และ แผ่นพีวซี ี

สำหรับรอยต่อท่ีกำหนดให้มีการติดต้ังแผ่นกันซึมซึ่งอาจเป็นวัสดุประเภทยาง (Rubber)
หรือ สารสังเคราะห์พีวีซี (Polyvinyl Chloride) จะต้องติดต้ังตามตำแหน่งท่ีกำหนดไว้ในแบบ โดยให้
รอยต่ออยู่ตรงก่ึงกลางของความกว้างแผ่นกันซึม และต้องฝังอยู่ในเนื้อคอนกรีตอย่างสม่ำเสมอตลอด
แนว ผรู้ บั จา้ งต้องเสนอรปู แบบการตดิ ต้ังและการยดึ แผน่ กนั ซมึ ใหผ้ คู้ วบคุมงานหรอื คณะกรรมการตรวจ
การจ้างพิจารณาเห็นชอบก่อนดำเนินการ ห้ามใช้ตะปูหรือสลักเกลียวตอกยึดจนทำให้แผ่นกันซึมทะลุ
เป็นอันขาด ใหย้ ึดแผ่นกนั ซึมด้วยลวดจับยึด (Clip Fasteners) การเกบ็ รกั ษาแผ่นกันซึมตอ้ งอย่ใู นสถาน
ที่มรี ่มเงามอี ากาศถ่ายเทได้สะดวกและต้องปอ้ งกันมใิ หถ้ กู ความร้อนและแสงแดดโดยเดด็ ขาด

1. แผน่ ยางกันซึม ( Rubber Waterstop)

แผ่นยางกนั ซมึ ท่ีนำมาใชต้ ้องมคี ณุ สมบตั ิตาม มอก. 1135-2544 หรือดกี ว่า รูปรา่ ง ลกั ษณะ
ขนาด และตำแหน่งการติดตั้งให้เป็นไปตามท่ีกำหนดในแบบ หากไม่ระบุในแบบให้ใช้ตามแบบหมายเลข
29282 การตดิ ตงั้ จะตอ้ งดำเนนิ การให้ถกู ตอ้ งตามข้นั ตอนวธิ ีการของบริษทั ผูผ้ ลติ

2. แผ่นพวี ซี ีกันซมึ (Polyvinyl Chloride Waterstop)

แผ่นพีวีซีกันซึมท่ีนำมาใช้ต้องมีคุณสมบัติตาม มอก. 1239-2537 หรือดีกว่า รูปร่าง
ลกั ษณะ ขนาด และตำแหน่งการติดต้ังให้เป็นไปตามท่กี ำหนดในแบบ หากไมร่ ะบุในแบบอนุโลมใหใ้ ชต้ าม
แบบหมายเลข 29282 การติดต้งั จะต้องดำเนินการใหถ้ ูกต้องตามข้นั ตอนวิธีการของบริษัทผูผ้ ลติ


4.3.2 วสั ดอุ ุดรอยต่อคอนกรตี (Elastic Filler)

สำหรับรอยตอ่ ชนดิ เผอ่ื การขยายตวั ตามท่ีระบุไวใ้ นแบบ ผู้รับจ้างจะต้องส่งตัวอย่างของวสั ดุ
ท่ีจะใช้งานให้คณะกรรมการตรวจการจ้างอนุมัติก่อนการใช้งาน การทำงานให้ผู้รับจ้างทำการติดตั้งวัสดุ
อุดรอยต่อคอนกรีตให้ถูกต้องตามข้อแนะนำการใช้ของบริษัทผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องตัดแต่ง

กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต

35

วสั ดใุ หม้ ขี นาดพอดกี ับรอยต่อ ผู้รับจา้ งจะต้องใชว้ สั ดทุ ่ีมคี ณุ สมบัติตามข้อกำหนด ต่อไปน
ี้
1. วัสดุอุดรอยต่อคอนกรีตชนิดคืนรูปและไม่ปลิ้น (Non-Extruding and Resilient

Asphalt)

วัสดุอดุ รอยตอ่ คอนกรีตชนิดคนื รูปและไม่ปลิ้น (Non-Extruding and Resilient Asphalt)
เปน็ วัสดุอดุ รอยตอ่ คอนกรตี ทที่ ำจากชานอ้อย หรือเสน้ ใยอื่นๆ ทเ่ี หมาะสม ยดึ ตดิ กันแลว้ ทำใหอ้ ิม่ ตวั เป็น
เนือ้ เดยี วกันด้วยยางมะตอยชนดิ เหลว มีลักษณะเปน็ แผ่นหรือเป็นแถบ ใช้แทรกหรือกน้ั ตรงรอยต่อเผือ่
ขยายตวั สามารถคืนรปู ได้ภายหลงั การคลายแรงอดั และมีคณุ สมบัติตาม มอก. 1041-2534

2. วสั ดุอดุ รอยต่อคอนกรตี ชนิด Polyethylene Foam

วสั ดอุ ุดรอยต่อคอนกรตี ชนิดนีเ้ ปน็ วสั ดุอดุ รอยต่อคอนกรีตชนิดทท่ี ำจากโฟม (Polyethylene)
มีลักษณะเป็นแผ่น มีขนาดตามที่ระบุในแบบ ใช้แทรกหรือกั้นตรงรอยต่อเผื่อขยายตัวสำหรับงานถนน
คอนกรตี หรอื งานโครงสรา้ งอ่ืนๆ ท่ีเหมาะสม มีคณุ สมบตั ติ าม มอก. 2356-2535

วัสดุอุดรอยต่อคอนกรีต (Elastic Filler) หากไม่ได้ระบุชนิดที่ใช้ไว้ในแบบให้ใช้วัสดุอุดรอย
ตอ่ คอนกรีตชนดิ คืนรูปและไมป่ ลิน้


4.3.3 วัสดยุ ารอยตอ่ คอนกรตี แบบยืดหยนุ่ (Joint Sealant)

วัสดุยารอยต่อคอนกรีตจะต้องมีคุณสมบัติการยืดหยุ่นและการยึดเกาะได้ดี เพ่ือป้องกันไม่ให้
ความช้นื หรอื วัสดอุ น่ื ใดซมึ ผา่ นไปในรอยตอ่ ได้ วสั ดยุ ารอยต่อคอนกรีตท่ใี ชม้ ดี งั ต่อไปน
้ี
1. วัสดุยารอยต่อคอนกรีตแบบยืดหยุ่นชนิดเทร้อน (Hot-Poured Joint Sealing
Compound)

ผู้รับจ้างจะต้องใช้วัสดุยารอยต่อคอนกรีตแบบยืดหยุ่นชนิดเทร้อน (Hot-Poured Joint
Sealing Compound) ที่มีคุณสมบัติตาม มอก. 479-2541 ก่อนท่ีจะทำการเทอุดรอยต่อจะต้องใช้
Asphalt Primer ทารองพื้นบางๆ ท่ีผิวทั้งสองข้างและพ้ืนล่างของรอยต่อ และต้องอุ่นวัสดุยารอยต่อ
คอนกรีตในภาชนะที่มีอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิจนถึงอุณหภูมิท่ีกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิต และให้รักษา
อุณหภูมินี้ไว้ตลอดเวลาที่ดำเนินการเทอุดรอยต่อ โดยในการอุ่นนี้ห้ามใช้วิธีการให้ความร้อนโดยตรงต่อ
วัสดุ จากน้ันให้เทวัสดุท่ีอุ่นจนได้ที่แล้วลงในรอยต่อจนเต็มปริ่มผิวคอนกรีตข้างๆ โดยอาจเทจากกาหรือ
อุปกรณ์อ่นื สว่ นของวัสดทุ ล่ี ้นเกนิ ออกจากรอยต่อตอ้ งขจดั ออกใหห้ มด

2. วัสดุยารอยตอ่ คอนกรตี ชนดิ เยน็

วัสดุยารอยต่อคอนกรีตชนิดเย็น เป็นวัสดุผสมเสร็จที่ใช้ท่ีอุณหภูมิปกติโดยไม่ต้องให้ความ
ร้อนกับวัสดุยารอยต่อ เพ่ือป้องกันการแทรกซึมของความชื้นและส่ิงแปลกปลอมอื่นๆ มีคุณสมบัติยืด
หยุ่นและการยึดเกาะที่ดี เม่ือยารอยต่อคอนกรีตแล้วไม่ไหลออกนอกรอยต่อ เช่น ชนิด Polysulfide
Base ชนิด Polyurethane ชนิด Acrylic ชนดิ Silicone เป็นตน้ การเลอื กใช้วัสดุอดุ รอยต่อชนิดใด
ผรู้ ับจา้ งจะตอ้ งไดร้ ับอนมุ ตั จิ ากคณะกรรมการตรวจการจา้ งกอ่ นการดำเนินการ


กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลกั ษณะทางวิศวกรรม

งานคอนกรีต

36

5. งานคอนกรีตพน่ (Shotcrete )


คอนกรตี พ่น (Shotcrete ) เป็นงานคอนกรีตท่ดี ำเนนิ การโดยการฉดี คอนกรตี ดว้ ยแรงลมอัด
ความเร็วสูงไปยังพ้ืนผิวท่ีต้องการ อาจเสริมด้วยตะแกรงเหล็ก (Wiremesh) หรือเป็นคอนกรีตพ่นล้วนๆ
ก็ได้ โดยส่วนใหญ่คอนกรีตพ่นใช้ในงานซ่อมแซม เสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง เช่น อุโมงค์ เพ่ิม
เสถียรภาพของลาดหนิ หรอื การดาดคอนกรตี คลอง หรือเปน็ ช้ันเคลือบบางๆ เพ่ือปอ้ งกนั เหลก็ ผกุ ร่อน



5.1 วัสด

วัสดุสำหรับคอนกรีตพ่นใช้เหมือนงานคอนกรีตทั่วไป ประกอบด้วย ปูนซีเมนต์ มวลรวม
ละเอยี ด มวลรวมหยาบขนาดโตสดุ ไม่เกิน น้ิว สารเร่งการกอ่ ตัว (Accelerating Admixtures) ชนดิ
ท่ีไม่มีส่วนผสมของคลอไรด์ หรอื สารอน่ื ใดทมี่ ผี ลตอ่ การกัดกร่อนเหลก็



5.2 ตะแกรงเหล็ก (Wiremesh)

มลี กั ษณะเป็นลวดเหล็กเชอื่ มยดึ ติดกันเป็นรูปสเี่ หลี่ยม ตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรม
มอก. 737-2549 หรือ มอก. 926-2533 หรอื เทยี บเท่า มขี นาดตามทแี่ บบกำหนด



5.3 การผสม (Mixing)

การผสมมีสองขบวนการคอื แบบแห้งและแบบเปียก

(1) ขบวนการแบบแห้ง (Dry-Mix) คือ การให้ปูนซีเมนต์และวัสดุผสม ผสมกันในเคร่ือง
ผสมก่อนจะสง่ ผา่ นไปยังท่อ และหัวฉีด (Nozzle) ด้วยอัตราความเรว็ ท่สี มำ่ เสมอโดยใชแ้ รงลมอดั น้ำจะ
ถกู ส่งผา่ นทอ่ แยกตา่ งหาก สง่ ไปผสมกบั วสั ดแุ หง้ ทีบ่ ริเวณหวั ฉดี กอ่ นทำการฉีด น้ำจะถกู ฉดี เป็นฝอยผ่าน
เขา้ ไปยงั ปูนซเี มนต์และวัสดุผสม สารเร่งการกอ่ ตัว (Accelerating Admixtures) ถา้ เป็นชนดิ ผงจะถูก
ผสมพร้อมกับปนู ซเี มนต์และวัสดผุ สม ถ้าเปน็ ชนิดน้ำจะนำไปผสมกบั นำ้ ช่วงที่อยใู่ กลๆ้ กับหัวฉีด หัวฉดี
จะมคี วามยาวประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร นำ้ ปนู ซเี มนต์ และวสั ดผุ สม จะผสมกนั แลว้ จงึ ถกู อดั ฉดี ออกไป

(2) ขบวนการแบบเปยี ก (Wet-Mix) คอื การทน่ี ำ้ ปูนซีเมนต์ และวสั ดผุ สม ไดถ้ ูกผสมเขา้
ด้วยกันในถังผสมก่อนที่จะถูกส่งผ่านไปยังหัวฉีด ระบบการผสม การส่ง และควบคุมความเร็วในระบบนี้
จะใช้แรงลมทั้งหมด สารเร่งการก่อตัวจะถูกส่งเข้าไปในท่อก่อนถึงหัวฉีดพร้อมๆ กับเพ่ิมแรงอัดของลม
เขา้ ไปเพอื่ เพิ่มความเร็วในการอดั ฉีด





5.4 การปฎิบัตงิ านคอนกรตี พน่

(1) กอ่ นการดำเนินการ ให้จัดทำรายงานตอ่ ผคู้ วบคุมงานของผูว้ ่าจา้ ง ตามรายการดังนี้

- คณุ สมบตั ขิ องเครื่องพ่น

- แรงดันนำ้ ทใี่ ช้พ่น


กรมชลประทาน

มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต

37

- ปริมาตรของนำ้ ท่ใี ช้

- แรงดันลมทใ่ี ช้ของเครื่องพน่

- อตั ราการพน่ ของสว่ นผสม

- อัตราการใชส้ ารเคมีผสมเพิ่มสำหรับคอนกรีต

- อื่นๆ

(2) เครื่องพ่นคอนกรีตพ่นที่ใช้ต้องมีโม่แบบหมุนหรือแบบอื่นๆ ตามท่ีผู้ควบคุมงานของผู้ว่า
จ้างอนุมัติ แต่ทั้งนี้การลำเลียงส่วนผสม และสารเคมีผสมเพ่ิมชนิดเร่งการก่อตัวออกจากเคร่ืองพ่นต้องมี
อัตราสม่ำเสมอ

(3) เคร่ืองพ่นคอนกรีตพ่นที่ใช้ต้องสามารถลำเลียงส่วนผสมแบบแห้งไปตามท่อในอัตรา
ความเร็วที่สม่ำเสมอ และพ่นออกจากหัวพ่นด้วยความเร็วท่ีทำให้วัสดุต่างๆของส่วนผสมมีการกระเด็น
กลบั (Re-bound) ในปริมาณน้อยท่สี ุด และการยึดเกาะของวัสดุแนน่ มากทีส่ ดุ

(4) ก่อนที่จะทำการพ่นคอนกรีตพ่น ต้องทำพื้นผิวให้สะอาด และทำให้ผิวหน้าช้ืนเพื่อ
ปอ้ งกันการดูดน้ำจากคอนกรีตพน่

(5) ผ้รู ับจา้ งต้องจดั หาวิธกี ารควบคมุ นำ้ ใตด้ นิ ไมใ่ ห้เจง่ิ นองท่พี ืน้ ผวิ ซ่งึ มีผลทำให้แรงยึดเกาะ
ของคอนกรีตพ่นกับพ้นื ผวิ ลดลง

(6) ผรู้ บั จา้ งตอ้ งเสนอวธิ กี ารตดิ ตง้ั ตะแกรงเหลก็ ใหผ้ คู้ วบคมุ งานของผวู้ า่ จา้ งอนมุ ตั ิ การตดิ ตง้ั
ตะแกรงเหล็กให้มีการเหลื่อมซ้อนกันไม่น้อยกว่า 1 ช่อง ของตะแกรงเหล็ก แต่ต้องไม่น้อยกว่า 150
มิลลิเมตร ขณะที่พ่นคอนกรีตพ่น หัวพ่นต้องต้ังฉากกับพ้ืนผิวและมีระยะห่างของการพ่นประมาณ 1.00
เมตร และต้องพ่นทับตะแกรงเหล็กใหม้ ดิ จนได้ความหนาตามท่ีกำหนด

(7) ผิวคอนกรีตพ่นใดๆ ที่พ่นเสร็จแล้ว เม่ือตรวจสอบพบว่าไม่แน่น มีโพรง และการ
กระจายตัวของส่วนผสมไม่สม่ำเสมอ หรือทดสอบกำลังอัดได้ต่ำกว่าที่กำหนด จะต้องทำการรื้อออกและ
ทำการพน่ ซ้ำ ตามทีผ่ ู้ควบคมุ งานของผูว้ ่าจา้ งส่งั การ





5.5 กำลังอดั ของคอนกรีตพน่

ผู้รับจ้างต้องออกแบบส่วนผสมให้ได้คอนกรีตพ่น (Shotcrete) ที่มีความสามารถในการรับ
แรงได้ตามที่แบบกำหนด ในกรณีที่แบบไม่ได้ระบุกำลังอัดของคอนกรีตพ่นไว้ให้ใช้ไม่น้อยกว่า 140 กก./
ตร.ซม. การทดสอบกำลังอัดกระทำโดยพ่นคอนกรีตพ่นบนแผงทดสอบ (Panel) และทำการตรวจสอบ
คณุ ภาพตามมาตรฐาน ACI 506 โดยใชแ้ บบหลอ่ ทรงลกู บาศกข์ นาด 100x100x100 มิลลเิ มตร กำลังอัด
ตอ้ งเป็นไปตามเกณฑด์ ังน้ี

เมือ่ ขนาดโตสุดของวสั ดุหยาบ น้ิว กำลังอดั ท่ีได้ต้องไม่น้อยกว่า 1.15 เทา่ ของกำลังอดั ท่ี
กำหนดไวใ้ นแบบ (กำลงั อดั ของแบบหลอ่ ลูกบาศก์ขนาด 150x150x150 มลิ ลิเมตร)


กรมชลประทาน

มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี

38

เมอ่ื ขนาดโตสุดของวัสดหุ ยาบ น้วิ กำลังอดั ท่ีไดต้ อ้ งไม่นอ้ ยกว่า 1.11 เทา่ ของกำลงั อัดท่ี
กำหนดไว้ในแบบ (กำลังอดั ของแบบหล่อลกู บาศกข์ นาด 150x150x150 มิลลิเมตร)





5.6 การทดสอบกำลังอดั

การทดสอบในระหว่างก่อสร้าง ขณะทำงานคอนกรีตพ่น ผู้รับจ้างต้องจัดเก็บตัวอย่าง และ
ทดสอบกำลงั อัดทกุ ๆ 30 ลกู บาศกเ์ มตร หรอื ตามทีผ่ คู้ วบคมุ งานของผ้วู ่าจ้างกำหนด โดยเกบ็ แท่งทดสอบ
จำนวน อยา่ งนอ้ ย 3 แท่ง เพื่อทดสอบกำลังอัดท่ีอายุ 28 วนั

- แท่งตัวอย่างทั้ง 3 แท่ง มีค่ากำลังอัดมากกว่า หรือเท่ากับค่ากำลังอัดท่ีกำหนดไว้ใน

ขอ้ 5.5

- คา่ เฉลีย่ ของกำลังอดั ท้งั 3 แท่ง ต้องมีค่ามากกว่า หรอื เท่ากับคา่ กำลังอัดท่ีกำหนดไว้ในข้อ
5.5 ท้งั นี้ยอมใหก้ ำลงั อดั ตำ่ กวา่ ค่าทีก่ ำหนดได้จำนวน 1 แท่ง แตต่ ้องไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 85 ของกำลงั อดั
ท่ีกำหนดไว





5.7 การตรวจสอบ หรอื การทดสอบทว่ั ๆ ไป

ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างอาจสั่งให้ผู้รับจ้างเจาะรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า
25 มิลลิเมตร เพื่อตรวจสอบความหนาของคอนกรีตพน่ ในบริเวณท่สี งสัย

ในกรณีท่ีผลการทดสอบกำลังอัดไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีกำหนดในข้อ 5.6 ผู้รับจ้างอาจร้องขอต่อ
คณะกรรมการตรวจการจ้างเพ่ือทำการเจาะเก็บตัวอย่างคอนกรีตพ่นในสนามเพื่อนำไปทดสอบกำลังอัด
การเก็บตัวอย่าง การทดสอบและการพิจารณาผลการทดสอบกำลังอัดแท่งตัวอย่างคอนกรีตจากสนาม
อนุโลมใหป้ ฎบิ ัตติ ามเรื่อง 3.12.4 (ข้อ ก)

รูเจาะเพ่ือตรวจสอบความหนาและหลุมเจาะที่เกิดจากการเจาะเก็บตัวอย่างให้ทำการอุดด้วย
ปนู ทรายเปียก (Mortar) ท่มี ีอัตราสว่ นผสมปูนซเี มนต์ : ทราย เทา่ กบั 1:1 โดยปรมิ าตร




กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต

39

กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม

งานคอนกรีต


Click to View FlipBook Version