กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน
สาํ นกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล ก
กระบวนการปฏิบัติงานเพ่ือสง่ ตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
คานา
ตามท่ีกระทรวงสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงความสาคัญของอุบัติเหตุที่เกิดกับรถพยาบาล
ขณะเคล่ือนย้ายหรือส่งต่อผู้ป่วย ทาให้เกิดการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพของผู้ป่วยฉุกเฉิน บุคลากรการแพทย์
และประชาชนก่อให้เกิดความสูญเสียอันประมาณค่ามิได้ จึงได้มีนโยบายด้านความปลอดภัยของรถพยาบาล
ให้สามารถให้บริการผู้ป่วยโดยคานึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและบุคลากรการแพทย์เป็นสูงสุด
กระทรวงสาธารณสุขมีความมุ่งม่ันที่จะลดการเกิดอุบัติเหตุและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยรถพยาบาล
ให้สามารถนาสง่ ผูป้ ว่ ยได้อย่างปลอดภยั และกาหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ เพ่ือส่งเสริมความปลอดภัยในระบบ
บรกิ ารการแพทยฉ์ กุ เฉิน
กองสาธารณสุขฉุกเฉิน จึงได้จัดทาคู่มือมาตรฐานรถพยาบาล กระบวนการปฏิบัติงานเพ่ือ
ความปลอดภัยในการส่งต่อผู้ป่วย ประกอบด้วย มาตรฐานโครงสร้างรถพยาบาล แนวปฏิบัติเพื่อการขับขี่
รถพยาบาลปลอดภัย แนวทางเพื่อความปลอดภัยของบุคลากรการแพทย์ขณะปฏิบัติงานบนรถพยาบาล
แนวทางการพัฒนาเครือข่ายเพื่อสร้างระบบความปลอดภัยบนรถพยาบาล และแนวทางการสอบสวนและ
ตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาล เพ่ือเป็นแนวทางการปฏิบัติของสถานพยาบาล สังกัดสานักงาน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการกาหนดมาตรฐานรถพยาบาลกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อส่งต่อ
ผู้ป่วยให้ปลอดภัย และคณะทางานมาตรฐานความปลอดภัยรถพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกัน
พิจารณาจัดทาเนื้อหา และได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการให้คาแนะนา
และข้อเสนอแนะ
กองสาธารณสุขฉุกเฉินหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องจะนาคู่มือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบัตงิ านเพือ่ การสง่ ตอ่ ผูป้ ว่ ยใหป้ ลอดภัยฉบับน้ี ไปใช้ประโยชน์ในการดาเนินงานด้านการบริการ
รับส่งต่อผู้ปว่ ยเพื่อประโยชน์สูงสดุ แก่ประชาชนต่อไป
คณะผจู้ ดั ทา
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉิน
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุข
คานิยม
นายแพทยป์ ระพนธ์ ต้ังศรเี กียรติกลุ
คณะที่ปรกึ ษารฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั้งกรณีฉุกเฉินและเจ็บป่วยทั่วไป กระบวนการสาคัญท่ีมีอยู่เสมอ
คือ การรบั สง่ ต่อผู้ป่วยทัง้ จากจุดเกดิ เหตุไปโรงพยาบาล รวมทั้งการส่งต่อระหว่างโรงพยาบาล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
องค์ประกอบหน่ึงท่ีสาคัญ คือ รถพยาบาลที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วย แต่จากข้อมูลท่ีผ่านมา
ยงั พบอุบตั ิเหตทุ ่ีเกดิ ขน้ึ กับรถพยาบาล เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สิน และบางเหตุการณ์มีผู้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ
เสยี ชีวิต เป็นสิ่งทเี่ ราทกุ คนไม่อยากให้เกดิ ข้นึ
ผมขอขอบคุณทุกๆท่านที่เห็นความสาคัญในเร่ืองนี้และมีส่วนร่วมในการสร้าง “คู่มือมาตรฐาน
รถพยาบาล กระบวนการปฏิบัติงานเพื่อส่งต่อผู้ป่วยให้ปลอดภัย” หวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือเล่มน้ีจะเป็นส่วนสาคัญ
ให้ประเทศไทยเกิดคุณภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานด้วยรถพยาบาล ทั้งต่อผู้ป่วยและต่อบุคลากร
ทางการแพทยท์ ุกคน
(นายประพนธ์ ต้ังศรเี กียรตกิ ลุ )
คณะที่ปรกึ ษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
คานยิ ม
นายแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศร์ จิต
ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
ความปลอดภยั ในการนาผปู้ ่วยส่งโรงพยาบาลเปน็ ส่ิงจาเปน็ ลาดบั แรกๆ ทหี่ นว่ ยงานตอ้ งให้ความสาคัญ
อย่างจริงจัง เน่ืองจากสถิติที่ผ่านมาพบว่ามีการสูญเสียผู้ป่วย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์จากอุบัติเหตุ
ท่ีเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าท่ีในขณะนาส่งผู้ป่วยฉุกเฉินจากจุดเกิดเหตุไปโรงพยาบาล หรือการส่งต่อระหว่าง
โรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้นและความปลอดภัยในการทางานของผู้ที่เก่ียวข้องในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
ความครอบคลุมถึงกระบวนการในการระบบส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน ตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับการปฏิบัติการ
ทัง้ กอ่ นการส่งต่อ การดูแลระหว่างการส่งต่อ และการส่งมอบผู้ป่วยฉุกเฉินแก่สถานพยาบาลปลายทาง รวมทั้ง
ระบบการกากับติดตามและประเมนิ ผลทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ
กระทรวงสาธารณสขุ ขอขอบคุณคณะผจู้ ดั ทาคูม่ ือมาตรฐานรถพยาบาล กระบวนการปฏิบัติงานเพื่อส่ง
ต่อผู้ป่วยให้ปลอดภัย ท่ีได้เล็งเห็นและให้ความสาคัญเร่ืองความปลอดภัยรถพยาบาลมาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้
ผ้ปู ว่ ยและเจ้าหน้าทีผ่ ปู้ ฏิบตั งิ านขณะส่งต่อมีความปลอดภยั ลดความสญู เสีย ทาใหผ้ ู้ปว่ ยและบุคลากรทางการแพทย์
ที่อยู่บนรถพยาบาลมีความปลอดภัยและไดร้ บั การรกั ษาพยาบาลอยา่ งทันทว่ งที
(นายเกยี รตภิ ูมิ วงศ์รจิต)
ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุข
คานิยม
นายแพทยธ์ งชยั กรี ตหิ ตั ถยากร
รองปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล กระบวนการปฏิบตั ิงานเพื่อสง่ ต่อผปู้ ่วยใหป้ ลอดภัยซ่ึงกระทรวงสาธารณสุข
เป็นการจัดทาข้ึนเพื่อนาไปพัฒนาศักยภาพให้สามารถปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัยอันจะช่วยลดการเกิด
อบุ ตั ิเหตุระหว่างการนาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล นาไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานรับส่งผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย
และเกิดประสิทธิผลตามเป้าหมายท่ีวางไว้ กระทรวงสาธารณสุขได้กาหนดมาตรฐานความปลอดภัยของ
รถพยาบาลฉุกเฉนิ ทใ่ี ช้ในโรงพยาบาลในสังกัดท่ัวประเทศกว่า 800 แห่ง ประมาณ 3,000 คัน ซ่ึงจากการประเมิน
พบว่ามสี ภาพอยใู่ นเกณฑ์มาตรฐานพร้อมปฏิบัตงิ าน แต่ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานรับส่ง
ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินบ่อยคร้ังและแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุสูงข้ึน หน่วยงานในสังกัดจาเป็นต้องมีคู่มือมาตรฐาน
รถพยาบาล กระบวนการปฏิบัติงานเพ่ือส่งต่อผู้ป่วยให้ปลอดภัยซ่ึงกระทรวงสาธารณสุข ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ
เดยี วกนั อันจะสง่ ผลให้เกิดการดาเนินงานทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลตอ่ ประชาชนอยา่ งสงู สดุ
ผมขอขอบคุณคณะผู้จัดทาคู่มือมาตรฐานรถพยาบาล กระบวนการปฏิบัติงานเพื่อส่งต่อผู้ป่วย
ให้ปลอดภัย และเช่ือมั่นว่าจะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน มีประสิทธิภาพ เป็นไปตาม
นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ด้านความปลอดภัยของรถพยาบาลให้สามารถดาเนินการให้บริการ
ประชาชนที่เจ็บป่วยโดยคานึงถึงความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนเป็นสูงสุด ซ่ึงได้มีการพัฒนาและ
เน้นย้าให้หน่วยงานทุกแห่งในสังกัดดาเนินการอย่างเคร่งครัดในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ
ของรถพยาบาลอย่างตอ่ เน่ือง
(นายธงชัย กีรตหิ ตั ถยากร)
รองปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุข
คานยิ ม
นายแพทย์วิทูรย์ อนันกลุ
ผู้อานวยการกองสาธารณสุขฉุกเฉิน
การเกิดอบุ ัติเหตขุ องรถพยาบาลถอื เปน็ ส่วนหนึ่งของปญั หาการบาดเจ็บจากการจราจรทางถนน ทาให้
เกิดการสูญเสียผู้ป่วย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ในระหว่างปฏิบัติหน้าท่ีทั้งในเหตุการณ์ท่ีต้องดูแลและ
นาส่งผู้ปว่ ยฉุกเฉนิ จากจุดเกิดเหตุไปโรงพยาบาล หรือการส่งต่อระหว่างโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขจึงมี
ความม่งุ มน่ั ท่ีจะแกป้ ญั หาดังกลา่ ว และยกระดับมาตรฐานรถพยาบาลทั้งในด้านโครงสร้างรถพยาบาล การขับข่ี
การปฏิบัติงานของบุคลากรบนรถพยาบาล เครือข่ายระบบความปลอดภัยในรถพยาบาล และระบบสอบสวน
หลังเกดิ เหตุ ให้สามารถนาส่งผปู้ ่วยไดอ้ ย่างปลอดภัย
กระทรวงสาธารณสขุ จงึ ได้พัฒนาค่มู อื มาตรฐานรถพยาบาล กระบวนการปฏิบัติงานเพื่อส่งต่อผู้ป่วยให้
ปลอดภัยเล่มน้ีร่วมกับผู้เช่ียวชาญจากหน่วยงานที่เก่ียวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติในการบริการรับส่งต่อผู้ป่วย
ของสถานพยาบาล ใหผ้ ปู้ ว่ ยและบคุ ลากรทางการแพทย์ท่ีปฏบิ ตั งิ านบนรถพยาบาลมคี วามปลอดภัยสูงสดุ
(นายวทิ ูรย์ อนันกลุ )
ผอู้ านวยการกองสาธารณสขุ ฉุกเฉิน
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล ฉ
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผ้ปู ว่ ยปลอดภยั
สารบัญ หน้า
ก
เร่อื ง ข
1
คานา 1
2
คานิยมผู้บรหิ าร 7
8
หมวดท่ี 1 มาตรฐานโครงสร้างรถพยาบาล 10
11
คณุ ลกั ษณะทั่วไป 13
คุณลักษณะดา้ นความปลอดภัย 13
หมวดที่ 2 แนวปฏิบัติเพ่ือการขบั ขี่รถพยาบาลปลอดภัย 14
19
คณุ สมบตั ิของพนักงานขับรถพยาบาล
ความพร้อมของรา่ งกายและจิตใจของพนักงานขับรถ 20
หลักปฏบิ ตั ใิ นการขับขรี่ ถพยาบาล 21
หมวดท่ี 3 แนวปฏบิ ัตเิ พือ่ ความปลอดภยั ของบคุ ลากรการแพทย์ขณะปฏิบตั ิงานบนรถพยาบาล 22
25
ขั้นตอนปฏิบตั ิการรถพยาบาล 25
คาแนะนาเพ่ือความปลอดภัยในการทาหตั ถการบนรถพยาบาล 26
หมวดท่ี 4 แนวทางการพฒั นาระบบเพ่ือสร้างความปลอดภยั ในรถพยาบาล
27
(2 P Safety Ambulance Operating System)
41
2-P Safety Ambulance Operating System 51
แนวทางการพฒั นาระบบ Safety Ambulance
อปุ กรณ์พน้ื ฐานท่ีจาเป็นตอ้ งมี
หมวด 5 แนวทางการสอบสวนและตอบสนองหลงั เกดิ อุบัตเิ หตขุ องรถพยาบาล
บทบาทและหน้าท่ีของหนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วข้อง
เกณฑ์การออกสอบสวนหาสาเหตุปญั หาเชงิ ลกึ ร่วมกบั ทมี สหสาขาวิชาชพี ของหนว่ ยงาน
สังกดั กระทรวงสาธารณสุข
แนวทางการสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชงิ ลึก หลงั เกดิ อบุ ตั ิเหตขุ องรถพยาบาลสงั กัด
กระทรวงสาธารณสขุ
The New normal Emergency Medical Services Goal: 2P Safety for All EMS
แนวทางการออกปฏิบตั กิ าร และคาแนะนาในการทาหตั ถการสาหรับหน่วย EMS
ในสถานการณ์โรคระบาดของเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
กองสาธารณสุขฉุกเฉนิ
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
หมวดท่ี 1
มาตรฐานโครงสร้างรถพยาบาล
หมวด ก คณุ ลักษณะท่ัวไป
1. รถยนต์ เป็นรถยนต์ที่มีลักษณะ ขนาดสัดส่วน และอุปกรณ์และส่วนควบ เป็นไปตามกฎหมาย
ว่าด้วยรถยนต์ หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรือข้อกาหนดอื่นๆ ที่หน่วยงานอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตามกฎหมายได้กาหนดหรือประกาศไว้ และได้มาตรฐานตามมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต (ไม่รวมถึงรายการ
ทกี่ าหนดไว้ในคุณลกั ษณะเพิ่มเตมิ ) สภาพใหมไ่ มเ่ คยใช้งานมากอ่ นมีตวั รถและเครื่องยนตจ์ ากผผู้ ลิตเดียวกนั
2. คณุ ลกั ษณะต่างๆ ท่ีเป็นคุณลักษณะของรถพยาบาลฉุกเฉิน ให้เป็นไปตามข้อกาหนดของหน่วยงาน
หรือองค์กรต่างๆ ทางกฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ไดก้ าหนดไว้
หมวด ข คณุ ลักษณะดา้ นความปลอดภยั
1. โครงสร้างรถ
2. การยดึ ตรึงอปุ กรณต์ ่างๆ ในรถ
3. การยึดตรึงอปุ กรณ์การแพทย์
4. ระบบปรบั อากาศ ระบบฟอกอากาศ และระบบควบคุมการติดเช้อื
5. เงอื่ นไขเฉพาะอน่ื ๆ
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉิน
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
2 คู่มือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบัติงานเพ่อื ส่งตอ่ ผู้ป่วยปลอดภยั
หมวด ข คณุ ลักษณะด้านความปลอดภัย
1. โครงสรา้ งรถ
ห้องคนขับและห้องพยาบาล ชุดผนังต้องออกแบบให้มีความแข็งแรงปลอดภัยกับผู้โดยสารไม่เสียรูป
หรอื ฉีกขาดกอ่ ใหเ้ กิดอันตรายหรือการบาดเจบ็ ต่อผู้โดยสารเมอื่ เกดิ การชน
โดยชดุ ผนงั รวมทั้งอุปกรณเ์ สริมเพ่ิมความแข็งแรงโครงสรา้ งรถใดๆ รวมทง้ั จดุ ยึดจะต้องไม่หลุด ฉีกขาด
หรอื ยุบตัวจนก่อให้การบาดเจ็บต่อผ้โู ดยสารและคนขบั จากการกระแทกต่างๆ ดังน้ี
1.1 การกระแทกทีห่ ลงั คา จากการทดสอบอย่างใดอย่างหนง่ึ (หรือมากกวา่ ) พร้อมแนบเอกสารรับรอง
หรอื หลกั ฐานอืน่ ใดของการทดสอบนัน้ ๆ ดังตอ่ ไปนี้
1.1.1 การทดสอบพลิกคว่าด้านข้างจากสภาวะหยุดน่ิงท่ีความสูงไม่ต่ากว่า 50 เซนติเมตร
โดยรถทดสอบหรืออุปกรณ์เสริมมีน้าหนักรวมเท่ากับรถพยาบาลทั้งคันตามการใช้งาน หรือ การทดสอบตาม
มาตรฐานอืน่ ทเ่ี ทียบเทา่ หรือสงู กว่า
1.1.2 การทดสอบพลิกคว่าด้านข้างจากสภาวะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่ต่ากว่า 30 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมงจนเกดิ การพลิกควา่ มากกว่า 1 รอบ โดยรถทดสอบหรืออุปกรณ์เสริมมีน้าหนักรวมเท่ากับรถพยาบาล
ทั้งคันตามการใช้งาน หรือ การทดสอบตามมาตรฐานอืน่ ที่เทียบเทา่ หรือสูงกวา่
1.1.3 การทดสอบรับแรงกดท่ีมุมด้านข้างหลังคา โดยแรงกดจะต้องมีค่าเท่ากับหรือมากกว่า
1 เทา่ ของนา้ หนักรวมของรถพยาบาลท้ังคันตามการใช้งาน หรือ การทดสอบตามมาตรฐานอ่ืนที่เทียบเท่าหรือ
สงู กวา่
1.2 การกระแทกที่ดา้ นหน้า จากการทดสอบการชนของรถทค่ี วามเร็วไม่ต่ากว่า 56 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง
หรือ การทดสอบตามมาตรฐานอ่ืนที่เทียบเท่าหรือสูงกว่าพร้อมแนบเอกสารรับรองหรือหลักฐานอ่ืนใดของ
การทดสอบนัน้ ๆ
1.3 การกระแทกทดี่ ้านข้าง จากการทดสอบการชนของรถที่ความเร็วไม่ต่ากว่า 50 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง
หรือ การทดสอบตามมาตรฐานอ่ืนท่ีเทียบเท่าหรือสูงกว่าพร้อมแนบเอกสารรับรองหรือหลักฐานอ่ืนใดของ
การทดสอบน้นั ๆ
หมายเหตุ : การทดสอบต่างๆตามข้อ 1.1 - 1.3 จะต้องผ่านการทดสอบจากหน่วยงานราชการ
ภายในประเทศ หรือหน่วยงานเอกชนอื่นๆ จากภายในหรือนอกประเทศที่สามารถทดสอบ
ตามมาตรฐานสากลท่ีเกี่ยวข้องได้ และแสดงเอกสารหรือหลกั ฐานรับรองการผา่ นมาตรฐานการทดสอบนัน้ ๆ
2. การยึดตรงึ อปุ กรณต์ ่างๆ ในรถ
2.1 ชดุ เก้าอี้ เข็มขดั นริ ภยั และอปุ กรณย์ ึดตรงึ อื่นๆ
ในห้องพยาบาลด้านหลังคนขับ และห้องคนขับ เก้าอ้ีรวมจุดยึดทุกตัว เข็มขัดนิรภัยรวมจุดยึด
ทกุ ช้ิน และกล่องเก็บของจะต้องตดิ ตัง้ กบั โครงสรา้ งของรถอย่างม่ันคงรองรับการกระแทกอย่างน้อยระดับ 10G
ไม่เกิดการเคลื่อนหรือหลุดให้เกิดอันตรายหรือการบาดเจ็บต่อผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จากการกระแทก
ท่ีด้านหน้าและด้านข้างและการพลิกคว่าในความเร็วอย่างน้อยตามทดสอบข้อ 1. เร่ืองโครงสร้างรถ โดยชุด
เก้าอี้ เข็มขัดนริ ภัยดังกลา่ วและกลอ่ งเกบ็ ของจะมีลกั ษณะและตาแหนง่ ติดต้ังต่างๆ ดังตอ่ ไปน้ี
กองสาธารณสุขฉกุ เฉนิ
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล 3
กระบวนการปฏบิ ัตงิ านเพ่ือสง่ ตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
2.1.1 มเี ก้าอน้ี ่งั เดย่ี ว 2 ตวั ติดตงั้ อยหู่ ลังคนขับ ตามคณุ ลกั ษณะดงั นี้
เก้าอี้ 1 ตัวติดตั้งท่ีตาแหน่งใกล้กับประตูด้านข้างหันหน้าไปทางด้านท้ายรถ มีเข็มขัดนิรภัย
แบบดงึ รง้ั 4 จุดปลดล็อกเดียว (ตามข้อแนะนาขอกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข) สามารถ
พับเก็บได้และหมุนได้ 180 องศา โดยติดต้ังกับผนังก้ันหลัง ใต้เก้าอ้ีนั่งมีกล่องเก็บของยาวเต็มพ้ืนท่ีใต้รถและ
มตี วั ลอ็ กท่ผี ่านมาตรฐาน EN 1789
เกา้ อ้ี 1 ตวั ที่อยูด่ ้านคนขบั หนั หนา้ ไปทางด้านทา้ ยรถ มีเข็มขัดนิรภัยแบบดึงร้ัง 4 จุดปลดล็อก
เดยี ว (ตามขอ้ แนะนาขอกรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข) สามารถเลื่อนเข้าออกหน้าหลังได้
เพื่อสามารถปรบั ระยะดูแลผูป้ วุ ยได้
2.1.2 ในห้องพยาบาลฝ่ังประตูด้านข้างมีชุดเก้าอ้ีม้านั่งเด่ียว 2 ท่ีนั่ง มีเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้ง
4 จุดปลดล็อกเดียว (ตามข้อแนะนาขอกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข) สามารถหมุนได้
รอบตัว ปรบั เอนนอนได้ และพับเกบ็ ได้ ตดิ ต้ังบนฐานเกา้ อ้ี
ชุดเก้าอี้ทุกตัวและเข็มขัดนิรภัย เป็นชุดท่ีผลิตและติดตั้งจากผู้ผลิตเดียวกันติดต้ังมาพร้อมกัน
ตามมาตรฐาน UNECE R14 UNECE R16 และ UNECE R17 (หรือมาตรฐานอื่นหรือการทดสอบอื่น ท่ีมีความมั่นคง
เทยี บเทา่ หรอื ดีกวา่ ) พร้อมเอกสารหรอื หลักฐานรบั รอง
2.1.3 ในห้องคนขับ
- ชดุ เกา้ อ้ีและเข็มขัดนิรภัย พร้อมอปุ กรณใ์ นห้องคนขับและการติดตั้ง ให้เป็นไปตาม
ข้อกาหนดของกฎหมายอุตสาหกรรมรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรือกฎหมายอื่นๆ
ของหน่วยงานที่เก่ียวข้อง และข้อกาหนดมาตรฐานของรถพยาบาลระดับสูงได้กาหนดไว้ และจะต้องติดต้ังกับ
โครงสร้างของรถอย่างมั่นคงรองรับการกระแทกอย่างน้อยระดับ 10G ไม่เกิดการเคลื่อนหรือหลุดให้เกิด
อันตรายหรือการบาดเจ็บต่อผู้โดยสารเม่อื เกดิ อบุ ัติเหตุ ดังที่ไดก้ ลา่ วไวใ้ นข้อ 2.1
- ชุดเก้าอี้ทุกตัวและเข็มขัดนิรภัย เป็นชุดท่ีผลิตและติดตั้งจากผู้ผลิตเดียวกัน ติดต้ัง
มาพร้อมกัน ตามมาตรฐาน UNECE R14 UNECE R16 และ UNECE R17 (หรือมาตรฐานอื่นหรือการทดสอบ
อ่นื ทมี่ คี วามมัน่ คงเทียบเทา่ หรอื ดีกว่า) พร้อมเอกสารหรอื หลกั ฐานรับรอง
2.2 ชุดถงั ออกซิเจน การตอ่ ระบบ และการยึดตรงึ
2.2.1 ด้านในสุดของห้องพยาบาลถัดจากเก้าอ้ีหลังคนขับ มีท่อออกซิเจนทาด้วยอลูมิเนียม
หรือวัสดุอื่นที่ดีกว่า (ขนาดไม่น้อยกว่า 30 ลิตรน้า) จานวน 2 ท่อวางตั้งอยู่บนฐานที่รองรับแบบมีที่ยึดจับเพื่อ
ความสะดวกในการนาท่อออกซิเจนเข้าและออกจากรถพร้อมอุปกรณ์จับยึดท่อออกซิเจนท่ี ยึดกับโครงสร้างรถ
อย่างแน่นหนาไม่หลุดหรือฉีกขาดให้เกิดอันตรายเมื่อเกิดการชนหรืออุบัติเหตุรองรับการกระแทกไม่น้อยกว่า
20G ตามมาตรฐาน UNECE R110 หรือมาตรฐานอื่นหรือการทดสอบอ่ืนที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าหรือดีกว่า
(พร้อมเอกสารหรือหลักฐานรับรอง) พร้อมตู้เก็บท่อทั้งสองอย่างสวยงามทาด้วยวัสดุท่ีมีความแข็งแรงทนทาน
ทนความร้อนสงู และยืดหยนุ่ ได้ พร้อมท่อชนิดเดียวกันสารองอกี 1 ท่อ
2.2.2 ตามข้อ 2.2.1 ท่อออกซิเจนท้ังสองเชื่อมต่อด้วยระบบ Pipe Line ครบชุดแบบต่อคู่
ทง้ั สองท่อตอ่ เช่อื มกันและกันไดด้ ว้ ยสายยางทนแรงดันที่ใช้กับก๊าซออกซิเจนโดยเฉพาะ มีสัญลักษณ์อยู่บนสายยาง
สาหรับใช้กับผู้ปุวย และมีชุดขับดันเครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติที่ติดต้ังในรถพยาบาลโดยมีคุณลักษณะและ
อปุ กรณป์ ระกอบดังตอ่ ไปน้ี
- มี Flow Meter แบบไม่มีแท่งแก้วเลือกหมุนปริมาณได้ตามต้องการ พร้อมชุด
Humidifier แบบมีปมุ เลือก Bubble–Jet จานวน 1 ชดุ
กองสาธารณสุขฉกุ เฉนิ
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
4 คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภยั
- มีชุดปรับลดความดันก๊าซออกซิเจน (Oxygen Regulator) จาก 2,000 PSI เป็น
50 PSI จานวน 2 ชดุ โดยติดตัง้ เข้ากบั ตัวท่อออกซิเจนโดยสามารถเปดิ ใช้งานจากในรถไดส้ ะดวก
- เดินสายส่งออกซิเจนด้วยท่อทนแรงดันท่ีใช้กับก๊าซออกซิเจนมายังแผงควบคุม
สามารถตรวจปรมิ าณทีเ่ หลอื ของกา๊ ซออกซิเจน และมรี ะบบเตอื นแรงดันในทอ่ บรรจตุ ่า
หมายเหตุ : คุณลักษณะใดๆ ที่เป็นการตกแต่งภายใน (Built-in) อ่ืนๆ ท่ีไม่ใช่โครงสร้างที่มาพร้อมกับ
โครงสร้างพื้นฐานของรถในประกาศคุณลักษณะนี้ เช่น ตู้เก็บของหรือเวชภัณฑ์ ชั้นวางของหรือเวชภัณฑ์
เป็นต้น สามารถปรับเปล่ียนได้ตามการพิจารณาของผู้จัดซ้ือ แต่ต้องมีการติดตั้งที่มั่นคงแข็งแรง
ตามมาตรฐาน EN1789 หรอื มาตรฐานอ่ืนๆ ท่ไี ด้กาหนดไว้ในประกาศน้ี
3. อปุ กรณก์ ารแพทย์ และการยึดตรงึ
จานวนครุภัณฑ์การแพทย์หรืออุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ บนรถพยาบาล ให้มีครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไป
ตามมาตรฐานท่ีใช้รับรองและให้ใบอนุญาตของรถพยาบาลระดับสูง ท่ีกาหนดไว้โดยหน่วยงานที่เก่ียวข้อง
ตามกฎหมายหรอื ขอ้ กาหนดต่างๆ เกีย่ วกบั มาตรฐานรถพยาบาลระดบั สูง
ครุภัณฑ์การแพทย์ทกุ ช้นิ (หรอื ครุภัณฑ์การแพทย์อื่นใดที่จัดซื้อเพิ่ม ) สามารถจัดซ้ือตามการพิจารณา
ของผู้ซื้อได้ ภายใต้เงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องตามกฎหมายหรือข้อกาหนด
ตา่ งๆ เกย่ี วกบั มาตรฐานรถพยาบาลระดับสูง แต่ตอ้ งได้รับการติดตัง้ อย่างม่ันคงยึดตรึงกับโครงสร้างรถ เม่ือเกิด
อุบัติเหตุไม่หลุดลอยออกมาเกิดอันตรายต่อผู้โดยสารภายในรถ ตามมาตรฐาน EN1789 หรือมาตรฐานอื่นๆ
สาหรับครุภณั ฑ์นน้ั ๆ ทไี่ ดก้ าหนดไวใ้ นประกาศนี้
เง่อื นไขเฉพาะ สาหรบั อปุ กรณก์ ารแพทย์
1) ครภุ ัณฑก์ ารแพทยต์ อ้ งเป็นของใหม่ไมเ่ คยใชง้ านหรือใชใ้ นการสาธติ มาก่อน
2) ผู้เสนอราคาต้องยื่น แคตตาล็อกหรือแบบรูป แสดง ยี่ห้อ , รุ่น , ประเทศผู้ผลิตของครุภัณฑ์
การแพทยใ์ นรถพยาบาล มาทง้ั หมดในวนั ยื่นเอกสาร
3) หากเกิดการชารุดขัดข้องภายในระยะเวลารับประกันและทาการแก้ไขแล้วถึง 2 ครั้ง ผู้ขายต้องนา
ช้ินสว่ นหรืออะไหล่ใหม่มาเปล่ยี นให้
4) จดั ฝกึ อบรมบุคลากรหรอื หน่วยงานทใี่ ชใ้ นการบารุงรักษาครุภัณฑ์การแพทย์รุ่น (Model) ท่ีส่งมอบ
โดยไมค่ ดิ มลู คา่ ใดๆ ทั้งสนิ้
5) มีคมู่ อื การใชง้ านและบารงุ รกั ษาทัง้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ อย่างละ 2 ชุด
6) ผูจ้ าหนา่ ยจะตอ้ งรบั ประกนั คณุ ภาพเป็นเวลาอยา่ งน้อย 1 ปี ใหแ้ กผ่ ู้ซอ้ื นบั ตั้งแต่วันที่คณะกรรมการ
ตรวจรบั ของเรยี บร้อยแล้ว
7) มหี นงั สือรบั รองคุณภาพจากบรษิ ทั ผู้แทนจาหน่ายครุภัณฑ์การแพทย์แนบมาด้วย เมื่อเวลาส่งมอบ
8) ผู้เสนอราคาจะต้องส่งรูปแบบ (Shop Drawing) ท้ังภายนอกและภายในที่แสดงตาแหน่งอุปกรณ์
และครภุ ัณฑก์ ารแพทยต์ ามข้อกาหนดในวนั ยน่ื เอกสาร
9) รถพยาบาลฉุกเฉินต้องอยู่ในสภาพใช้งานได้ทันทีและมีน้ามันเชื้อเพลิงเต็มถัง โดยตรวจสอบจาก
มาตรวดั ในวนั ตรวจรบั
10) ในกรณีที่แคตตาล็อกมีหลายรุ่น (Model) และ/หรือ Option ผู้เสนอราคาต้องระบุให้ชัดเจนโดย
พมิ พ์เปน็ รายการว่าจะส่งมอบรุ่นและ/หรือ Option ใด
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 5
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพ่อื สง่ ตอ่ ผู้ป่วยปลอดภัย
11) ผู้เสนอราคาต้องทาเคร่ืองหมายให้ชัดเจนที่แคตตาล็อกว่าตรงตามคุณลักษณะเฉพาะข้อใดทุกข้อ
ตามท่ีทางราชการกาหนด
หมายเหตุ : เงอ่ื นไขเฉพาะอ่ืนๆ ของอปุ กรณ์การแพทย์ สามารถใหเ้ ปน็ ไปตามการพจิ ารณาของผูซ้ ้ือได้
4. ระบบปรบั อากาศ ระบบฟอกอากาศ และระบบควบคุมการตดิ เช้อื
4.1 ในห้องคนขับและห้องพยาบาล ตดิ ต้งั ระบบปรบั อากาศ แยกควบคมุ แอรท์ งั้ สองห้องตามมาตรฐาน
ผผู้ ลิตและตดิ ตัง้ ระบบกรองอากาศฆ่าเชื้อโรค (มีระบบเคร่ืองปรับอากาศที่มีการติดต้ัง Filter หรือระบบท่ีฆ่าเช้ือ
กรองฝุนละอองไดไ้ มต่ า่ กว่าระดับ Medium filter)
4.2 ในห้องพยาบาลติดตั้งพัดลมไฟฟูาระบายอากาศ จานวน 1 เครื่อง ติดตั้งด้านบนของห้องพยาบาล
รอยต่อจะต้องเช่อื มด้วยวัสดถุ าวรกนั น้าอยา่ งดี โดยฝาครอบด้านนอกตัวรถและในตัวรถที่สามารถกันน้าอย่างดี
โดยมสี วทิ ซป์ ิด – เปิดอยใู่ นชุดควบคมุ เดยี วกันที่แผงทัง้ หมด พร้อมตดิ ตั้งเคร่อื งฟอกอากาศตามลักษณะในข้อ 4.1
เงอื่ นไขเฉพาะ เครอ่ื งปรบั อากาศ
1) อปุ กรณ์ชน้ิ สว่ นทต่ี ดิ ตงั้ ตอ้ งเปน็ ชนิ้ สว่ นอุปกรณ์ใหม่ทกุ ชน้ิ ที่ไมเ่ คยใช้งานมาก่อน
2) รับประกนั คุณภาพอย่างน้อย 1 ปี นับแต่วนั ท่คี ณะกรรมการตรวจรับของเป็นท่เี รียบร้อยแล้วเป็นต้นไป
3) เงอ่ื นไขเฉพาะหรือพเิ ศษอ่นื ๆ ใหส้ ามารถเปน็ ไปตามการพิจารณาของผซู้ ้ือได้
5. เงือ่ นไขเฉพาะอน่ื ๆ
5.1 เง่อื นไขเฉพาะสาหรับตวั รถยนต์
5.1.1 ผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้ผลิตโดยตรงหรือผู้นาเข้าโดยตรงหรือตัวแทนจาหน่ายที่ได้รับ
การแต่งต้ังจากบริษัทผู้ผลิตหรือผู้นาเข้าโดยตรงหรือเป็นผู้ประกอบติดตั้งรถพยาบาลที่มีประสบการณ์
การประกอบติดตั้งอุปกรณ์รถพยาล (ประเด็นน้ีอาจต้องบอกจานวนปีหรือการรับรองประสบการณ์)
ตามมาตรฐานผ้ผู ลิต
5.1.2 ผลิตภัณฑ์ที่เสนอต้องสอดคล้องกับมาตรฐาน – ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสารมลพิษ
จากรถยนต์ทกี่ ฎหมายกาหนด
5.1.3 ผู้ซ้ือสามารถนารถยนต์พยาบาลเข้าใช้บริการในศูนย์บริการรถยนต์มาตรฐานที่ได้รับ
การรบั รองจากผู้ผลิตหรอื ผนู้ าเขา้ โดยแนบหลักฐานในวันยนื่ เอกสาร
5.1.4 รับประกันคุณภาพ 100,000 กิโลเมตร (หน่ึงแสนกิโลเมตร) หรือระยะเวลา 7 ปี
นับตั้งแต่วันรับมอบของครบเป็นต้นไปสุดแต่อย่างใดจะถึงก่อนหากมีการชารุดเสียหายในกรณีใช้งานตามปกติ
ผขู้ ายตอ้ งรบั ผิดชอบซอ่ มแซมเปลีย่ นชิ้นสว่ นอะไหลใ่ หโ้ ดยไม่คดิ มลู คา่ เว้นแต่กรณีเกิดอุบัตเิ หตหุ รือภยั ธรรมชาติ
5.1.5 ผู้ขายต้องให้บริการบารุงรักษารถพยาบาลฉุกเฉินโดยไม่คิดมูลค่าค่าแรง ภายใน
ระยะเวลา หรือระยะทางท่ศี ูนยบ์ รกิ ารมาตรฐานตามขอ้ 5.1.4
5.1.6 ผู้เสนอราคาต้องดาเนินการขอยกเว้นภาษีสรรพสามิตดัดแปลงรถพยาบาลและ
ดาเนินการจดทะเบยี นรถยนต์พยาบาลใหแ้ ล้วเสร็จโดยไม่คดิ มลู คา่
5.1.7 ผูข้ ายตอ้ งทาประกันภัยชัน้ 1 สาหรับรถพยาบาลก่อนส่งมอบ (คุ้มครองในระยะเวลา 1
ปี นบั จากวันสง่ มอบ)
5.1.8 มีแผนผงั การเดินสายไฟฟูาและท่อออกซิเจน ท้ังหมดในส่วนของห้องพยาบาลโดยแนบ
มากบั เอกสารในวนั ยน่ื เอกสารพร้อมสารอง 1 ชุด
กองสาธารณสุขฉกุ เฉนิ
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุข
6 คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบัติงานเพ่ือส่งตอ่ ผปู้ ่วยปลอดภยั
5.1.9 รถพยาบาลฉุกเฉินท่ีส่งมอบต้องพ่นวัสดุกันสนิม โดยมีหนังสือรับรองการประกันสนิม
3 ปี หรือ 100,000 กม. อย่างใดอยา่ งหน่ึง โดยพ่นทต่ี าแหนง่ ต่างๆ ของตัวรถ ดังน้ี
1. ภายในประตูและตามบล็อกตวั ถงั รอบคนั
2. บริเวณห้องเครือ่ งและตามตะเขบ็
3. บงั โคลน ท่วี างยางอะไหล่ และใตท้ อ้ งรถ
5.1.10 รถพยาบาลมีการติดตั้งระบบระบุตาแหน่งพิกัด (GPS Tracking) ระบบแจ้งเตือนการชน
ระบบตรวจสอบควบคุมความเร็ว ตามมาตรฐานที่หน่วยงานหรือคณะกรรมการของกระทรวงสาธารณสุขหรือ
หน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ งกาหนดไว้
5.2 เงื่อนไขเฉพาะ สาหรับโครงสร้างดา้ นความปลอดภัย และโครงสรา้ งอน่ื ๆ
5.2.1 เงื่อนไขเฉพาะอื่นๆ หรือคุณลักษณะอื่นๆ ให้เป็นไปตามข้อกาหนดของคณะกรรมการ
มาตรฐานรถพยาบาลปลอดภัย (ประกอบด้วย 5 คณะอนุกรรมการ) ของกระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงาน
อืน่ ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ได้กาหนดไว้
5.2.2 คุณลักษณะพิเศษอื่นใดด้านความปลอดภัย ผู้ซ้ือสามารถพิจารณาจัดหาได้ตาม
ความเหมาะสม โดยไม่ขัดกับข้อกฎหมายที่เก่ียวข้อง และไม่ขัดกับข้อกาหนดใดๆในประกาศน้ี หรือข้อกาหนด
ใดๆ ในประกาศของคณะกรรมการรถพยาบาลปลอดภัย
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หมวดที่ 2
แนวปฏิบัตเิ พื่อการขบั ขีร่ ถพยาบาลปลอดภัย
ความปลอดภัยของผู้ปุวยและบุคลากรในระหว่างการเคล่ือนย้ายผู้ปุวยในการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นส่ิงที่
กระทรวงสาธารณสขุ ให้ความสาคัญ และหนึ่งในปัจจัยท่ีมีผลต่อความปลอดภัยของผู้ปุวยและบุคลากร คือการ
ขบั ขรี่ ถพยาบาล
จากรายงานอุบัติเหตุรถพยาบาลในประเทศไทย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน
แห่งชาติ สรุปเม่ือเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ได้มีการวิเคราะห์สาเหตุด้านพนักงานขับรถพยาบาล
ที่อาจทาใหเ้ กดิ อบุ ัตเิ หตุ ซ่ึงสาเหตุทพ่ี บได้แก่ พนักงานขับรถไม่ได้ผ่านการอบรมการขับรถพยาบาล ความอ่อน
ลา้ ของพนกั งานขบั รถก่อนการปฏิบตั ิงาน มกี ารใช้ความเรว็ สูง ไม่รัดเขม็ ขัดนิรภยั ในสว่ น ห้องโดยสาร เป็นตน้
สาเหตุของอุบัติเหตุท่ีเกิดกับรถพยาบาล ในท่ีเก่ียวข้องกับผู้ขับข่ีรถพยาบาล อาจแบ่งประเภทได้เป็น
ความบกพร่องทางด้านสภาพร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ขาดความรู้ความชานาญ และประสบการณ์ในการใช้
ถนนไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือขอ้ บังคบั และความประมาท
จากปัญหาท่ีเกิดขึ้นจากพนักงานขับรถพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขจึงให้มีการปูองกันและแก้ไข
ปัญหา โดยการกาหนดแนวปฏิบัติเพ่ือการขับขี่รถพยาบาลปลอดภัยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคู่มือ มาตรฐาน
ความปลอดภัยรถพยาบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือยกระดับมาตรฐานและพัฒนาศักยภาพของ พนักงานขับ
รถพยาบาล ให้สามารถขับรถพยาบาลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทาให้ผู้ปุวยและบุคลากรทาง
การแพทย์ท่อี ยบู่ นรถพยาบาลมคี วามปลอดภยั มากทส่ี ดุ โดยเนื้อหาประกอบด้วย
หมวด ก คณุ สมบตั ิของพนักงานขับรถพยาบาล
หมวด ข ความพร้อมของร่างกายและจิตใจของพนักงานขับรถ
หมวด ค หลกั ปฏบิ ตั ิในการขับขร่ี ถพยาบาล
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉิน
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสุข
8 คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อสง่ ตอ่ ผ้ปู ว่ ยปลอดภัย
หมวด ก คณุ สมบัตขิ องพนกั งานขับรถพยาบาล
คณุ สมบัตขิ องพนักงานขบั รถพยาบาล กระทรวงสาธารณสขุ มลี ักษณะดงั ต่อไปนี้
1. ไมม่ ลี กั ษณะโรคต้องหา้ มตามท่กี าหนดไว้
2. ผา่ นการอบรมตามหลกั สูตรที่กาหนดไว้
ความรู้ / ความเช่ยี วชาญเฉพาะดา้ น
1. พนักงานขับรถพยาบาลต้องมีใบอนุญาตขับข่รี ถสาธารณะ
2. พนักงานขับรถพยาบาลต้องผ่านหลักสูตรการปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ อย่างน้อยหลักสูตร
อาสาสมัครฉุกเฉนิ การแพทย์ (40 ช่ัวโมง)
3. พนักงานขบั รถพยาบาลผ่านการอบรมพนักงานขบั รถพยาบาล / รถปฏบิ ัตกิ ารฉกุ เฉินปลอดภยั
หลักสตู รอบรมพนกั งานขับรถพยาบาลต้องประกอบด้วยหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ทัศนคตแิ ละจติ สานกึ ในการขับรถพยาบาลอย่างปลอดภัย
2. การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นสภาพรา่ งกายและจติ ใจ ของพนักงานขบั รถพยาบาล
3. กรเตรียมความพรอ้ มของรถพยาบาล
4. กฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การขบั รถพยาบาล
5. การสื่อสารในรถพยาบาล
6. การวางแผนการเดนิ ทางด้วย GPS
7. การขับรถพยาบาลปลอดภยั
8. การประเมนิ ควบคมุ และแกไ้ ขสถานการณ์ไมป่ กตแิ ละฉุกเฉนิ
9. การบรหิ ารจดั การความเหนื่อยลา้
10. การปฏิบัติการรถพยาบาล
โรคตอ้ งห้าม
1. โรคหวั ใจ ใหถ้ อื เปน็ ข้อห้ามกรณดี ังตอ่ ไปน้ี
1.1 มีอาการของโรคหลอดเลือดหวั ใจ
1.2 มีประวตั อิ าการหมดสติแบบ (Recurrent vasovagal syncope)
1.3 อัตราการเต้นของหัวใจช้าหรือเร็ว ร่วมกับมีอาการมีอาการผิดปกติ (symptomatic
sinus tachycardia or Sinus bradycardia)
1.4 หัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะอย่างชัดเจน Supraventricular rhythm รวมทั้ง Sinoatrial
dysfunction ไมว่ ่าจะเปน็ แบบ Intermittent หรอื Established
1.5 มี Broad and/or Narrow complex tachycardia
1.6 มีเครอ่ื งควบคมุ การทางานของหวั ใจแบบอัตโนมตั ิ (Endocardial Pacemaker)
1. 7 ยก เว้ นก รณี ต่อ ไป น้ี Asymptomatic isolated uniform atrial or ventricular
ectopic complexes ไม่มีความผิดปกติอ่ืน ๆ นอกจากการมี Incomplete bundle
branch block หรือ Stable left axis deviation
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉนิ
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล 9
กระบวนการปฏบิ ตั งิ านเพ่ือส่งตอ่ ผูป้ ว่ ยปลอดภยั
2. โรคทางระบบประสาท ใหถ้ อื เป็นข้อห้ามกรณดี งั ตอ่ ไปน้ี
2.1 โรคลมชัก (Epilepsy) นอกจากว่ามีหลักฐานท่ีชัดแจ้งว่าเป็นการชัก ตั้งแต่วัยเด็กร่วมกับ
การมโี อกาสกลบั เปน็ ซา้ ตา่ และหยดุ การรักษามาแล้วมากกวา่ 10 ปี
2.2 การมกี ารชกั 1 ครง้ั หรือมากกวา่ หลังอายุ 5 ปี
2.3 โรคพารก์ นิ สัน
2.4 โรคหลอดเลือดสมอง
2.5 ผู้ทเี่ คยผ่าตัดสมองมากอ่ น
3. โรคความดันโลหิต ให้ถอื เป็นขอ้ หา้ มกรณีดังตอ่ ไปน้ี
3.1 ถ้าวัดความดันได้ 160/95 มม. ปรอท ขึ้นไป ไมว่ า่ จะกาลังรักษาหรือไมไ่ ด้รักษากต็ าม
3.2 การใชย้ ารักษาความดนั โลหิตสูงตอ้ งปลอดภัย ไม่มผี ลขา้ งเคียงทอ่ี าจสง่ ผลกระทบต่อการขบั รถ
3.3 ผทู้ ีม่ อี าการเนือ่ งจากความดนั โลหิตตา่
4. โรคเบาหวาน ใหถ้ ือเป็นข้อหา้ ม กรณีเป็นโรคเบาหวานและตอ้ งการรกั ษาดว้ ยอนิ ซลู นิ (Insulin)
5. โรคจติ เวช ให้ถือเป็นข้อหา้ มกรณดี ังต่อไปน้ี
5.1 มปี ระวัติทางการแพทย์หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค หรือความบกพร่องความผิดปกติ
ทางจิตเวช ท้ังเฉียบพลันหรือเรื้อรัง เป็นแต่กาเนิดหรือเกิดข้ึนภายหลัง ซ่ึงอาจ
กระทบกระเทอื นตอ่ ความปลอดภัยในการปฏิบตั หิ น้าที่
5.2 มีความผดิ ปกติดงั ตอ่ ไปนี้
5.2.1 อาการทางจิต (Psychotic symptoms)
5.2.2 โรคอารมณ์แปรปรวน (Mood disorder)
5.2.3 บุคลิกภาพผิดปกติ (Personality disorders) โดยเฉพาะท่ีรุนแรงพอท่ีจะ
เกดิ การแสดงออกมากเกนิ ไป
5.2.4 ความผดิ ปกตทิ างจิตใจและโรคประสาท (Mental abnormality and neurosis)
5.2.5 โรคตดิ สรุ า (Alcohol abuse & dependence)
5.2.6 การใช้ยาหรือการใช้ยาแบบผิด (Abuse) ของยาทางจิตเวช หรือการใช้
สารเสพติดอื่น ๆ ท้งั ท่มี ีการเสพติด (Dependence) หรือไม่มี
6. โรคเลือด ให้ถือเป็นข้อห้ามกรณีตรวจความเข้มข้นของเลือด (Hemoglobin) เม่ือแรกเข้า และเม่ือมี
ข้อบง่ ชี้ทางการแพทย์ในรายที่พบว่ามีอาการซีด (Anemia) อยา่ งชัดเจน Haematocrit ตา่ กวา่ 32%
7. โรคติดต่อรา้ ยแรง ให้ถอื เปน็ ข้อห้ามกรณดี ังตอ่ ไปน้ี
7.1 โรคเท้าชา้ งในระยะทป่ี รากฏเป็นอาการที่น่ารังเกียจแกส่ ังคม
7.2 โรควัณโรคในระยะแพรก่ ระจายเช้อื
7.3 โรคเรือ้ นในระยะติดตอ่ หรอื ในระยะปรากฏอาการเปน็ ทีร่ ังเกียจแก่สังคม
8. โรคทางตา ให้ถือเปน็ ขอ้ หา้ มกรณดี งั ต่อไปน้ี
8.1 โรคตอ้ กระจก
8.2 โรคตอ้ หนิ
8.3 โรคตาบอดสี
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
10 คูม่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบัติงานเพื่อสง่ ตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
หมวด ข ความพร้อมของรา่ งกายและจติ ใจของพนักงานขับรถ
มาตรการเตรียมความพร้อมดา้ นสขุ ภาพ รา่ งกายของพนักงานขับรถพยาบาล
1. ชุดการตรวจสขุ ภาพประจาปี แนะนาใหท้ าอย่างน้อย 1 คร้ัง/ปี โดยให้ดาเนินการตรวจดงั ต่อไปน้ี
1.1 Complete blood count
1.2 BUN, Creatinine, electrolyte
1.3 Liver function test
1.4 Urine analysis
1.5 Fasting blood sugar, Lipid profile
1.6 Thyroid function test
1.7 Chest x-ray
1.8 Electrocardiogram
2. ตรวจสภาพความพร้อมของร่างกาย (Physical Fitness Test) การทดสอบให้ทาที่สานักงานขนส่งพ้ืนท่ี
(ทาปลี ะ 1 ครัง้ )
2.1 การทดสอบท่ี 1 การมองเห็นสี (Color Vision) มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจความสามารถในการ
มองเห็นสที ี่แตกตา่ งกันและใกล้เคยี งกนั ได้
2.2 การทดสอบท่ี 2 การมองเห็นสีสัญญาณไฟจราจร (Traffic Color Recognition) มีวัตถุประสงค์
เพื่อตาบอดสหี ลกั หากผเู้ ข้าทดสอบไมส่ ามารถแยกแยะสีหลักได้ ไมค่ วรที่จะขับรถเพราะจะทาให้
เกดิ อันตรายในการขับขีไ่ ด้
2.3 การทดสอบที่ 3 ปฏิกิริยาตอบสนองในการเบรก (Reaction Time in Braking) มีวัตถุประสงค์
เพื่อตรวจวัดการตอบสนองของร่างกาย เมื่อสายตามองเห็นสมองสั่งการให้ยกเท้าจากคันเร่งมา
แตะเบรกใช้ระยะเวลาเท่าใด ซึ่งผลการทดสอบเฉลี่ย 3 ครั้งไม่ควรเกิน 0.75 วินาที หากเกินกว่า
น้ันอาจหมายถึงปฏิกิริยาตอบสนองของท่านช้า ในการขับรถควรทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้
มากกวา่ ปกติ
2.4 การทดสอบท่ี 4 ลานของสายตา (Field Vision) วัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดลานของสายตาทั้งสอง
ขา้ งรว่ มกนั ปกติไปข้างหนา้ ลานสายตาจะอยทู่ ่ี 180 องศา
2.5 การทดสอบที่ 5 ระยะการมองเห็น - ความลึกของสายตา (Depth Perception) มีวัตถุประสงค์
เพอ่ื ตรวจวดั ระยะการมองเห็นและความลกึ ของสายตาซงึ่ จะส่งผลต่อการมองเห็นระยะที่แตกต่าง
กันของรถท่แี ตกตา่ งกนั ซง่ึ จะส่งผลต่อการตัดสินใจในการแซงรถ หรอื วางตาแหนง่ รถ
2.6 การทดสอบที่ 6 ความคมชัดของสายตา (Visual Acuity) มีวัตถุประสงค์เพ่ือวัดความคมชัดของ
สายตา ซึ่งอาจส่งผลต่อการขับรถ เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง หากไม่ผ่านการ
ทดสอบควรปรึกษาจกั ษุแพทย์
2.7 การทดสอบที่ 7 การมองเห็นในที่มืด (Night Vision) มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดการมองเห็น
ในบริเวณท่ีมีแสงนอ้ ย เช่น เวลากลางคืน หากตา่ กว่าเกณฑ์ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้ความเร็ว ให้
ต่า ให้สามารถหยุดรถไดท้ นั ในชว่ งท่ีแสงไฟส่องถึง
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉิน
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 11
กระบวนการปฏบิ ัตงิ านเพอื่ สง่ ตอ่ ผปู้ ่วยปลอดภัย
2.8 การทดสอบที่ 8 การคืนสภาพการมองเห็นต่อแสงจ้า (Glare Recovery) มีวัตถุประสงค์เพ่ือ
ตรวจวัดระยะเวลาในการปรับสภาพสายตาให้สู่ภาวะปกติหลังจากมอง เห็นแสงจ้าหากต่ากว่า
เกณฑ์ ใหล้ ดความเร็วลงก่อนท่ีรถจะว่ิงสวนมา หลีกเล่ียงการมองแสงไฟ ให้มองท่ีของทาง ด้านซ้าย
ขณะรถอีกคันว่งิ สวนทางมา
3. การตรวจสารเสพติดประจาปี (สมุ่ ตรวจปลี ะ 2 ครัง้ )
3.1 Urine methamphetamine
3.2 Urine morphine
3.3 Urine benzodiazepine
3.4 Urine cannabis
4. ทดสอบความพร้อมของรา่ งกาย
4.1 ตรวจความพรอ้ มโดยหัวหนา้ ทมี /หัวหน้าเวร
4.2 ตรวจสอบความเหมาะสมของการแตง่ กาย
4.3 ตรวจวดั ความดันโลหติ ตอ้ งไมเ่ กิน 160/95 mmHg.
4.4 ตรวจวัดระดบั แอลกอฮอลโ์ ดยการตรวจแอลกอฮอลจ์ ากการหายใจ ตอ้ งเท่ากับ 0
4.5 ตรวจความพร้อมในการขบั รถ เชน่ อาการมนึ งง ตาแดง อดนอน
หากพบความความผดิ ปกตดิ ังกล่าวให้งดปฏิบตั งิ าน
หมวด ค หลักปฏิบตั ใิ นการขบั ขร่ี ถพยาบาล
มาตรการในการปฏบิ ัติงาน
ให้ยดึ หลักดงั ตอ่ ไปนี้ อยา่ งเครง่ ครดั
1. ใชค้ วามเรว็ ไม่เกนิ 90 กม./ชม. (ตามกฎหมายกาหนด)
2. ปฏบิ ตั ิตามกฎจราจร
3. ระยะเวลาทางานไม่ควรทางานตอ่ เน่ืองเกนิ 12 ชัว่ โมงและควรมีเวลาพักผ่อนอยา่ งนอ้ ย 12 ช่ัวโมงตอ่ วนั
4. ระยะเวลาขับรถรวมกนั ตอ้ งไมเ่ กนิ 9 ช่ัวโมง
5. กรณขี ับรถต่อเน่ืองควรมีการหยุดพักทุก 2 ชัว่ โมง
6. กรณีส่งต่อผู้ปุวยระยะทางไปกลบั มากกวา่ 400 กโิ ลเมตร ตอ้ งมีพนกั งานขับรถอย่างนอ้ ย 2 คน
7. กรณสี ง่ ตอ่ ผู้ปุวยระยะทางไปกลับมากกวา่ 800 กิโลเมตร ต้องมกี ารพกั คา้ งคนื ระหว่างการเดนิ ทางไป – กลบั
มาตรการสรา้ งแรงจูงใจในการปฏิบัตงิ าน
1. ค่าตอบแทนปฏิบัติการ 400 บาท/ เวร (กรณีส่งต่อผู้ปุวยต้องนับช่ัวโมงการทางานท้ังการเดินทาง
ไปและกลบั ) ทัง้ นี้ ให้เป็นไปตามดลุ ยพนิ ิจของคณะกรรมการพิจารณาคา่ ตอบแทนระดับจังหวัด
2. หน่วยงานมีนโยบายชมเชยพนกั งานขับรถพยาบาลท่ปี ฏิบัติหนา้ ที่ดี
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
หมวดท่ี 3
แนวปฏิบตั ิเพือ่ ความปลอดภยั ของบคุ ลากรการแพทยข์ ณะปฏบิ ัตงิ านบนรถพยาบาล
การทาหตั ถการทางการแพทย์ตา่ งๆ เพอื่ ชว่ ยเหลือผปู้ วุ ย ถอื เปน็ จุดประสงค์หลักในการออกปฏิบัติการ
รถพยาบาลฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามในการทาหัตถการบนรถพยาบาลจาเป็นต้องทาตามความเหมาะสมจาเป็น
และเป็นไปอย่างปลอดภัยต่อผู้ปุวย และคานึงถึงความปลอดภัยต่อบุคลากรท่ีปฏิบัติงานบนรถพยาบาล
ด้วย คาแนะนาในในการปฏิบัติการอย่างปลอดภัย ถือเป็นแนวทางที่ใช้ในการพิจารณาสาหรับผู้ปฏิบัติงาน
บนรถพยาบาล ท้งั น้เี พ่ือให้เกิดความปลอดภัยทงั้ ตอ่ ผูป้ ุวยและผเู้ กย่ี วข้องทุกคน
หมวด ก ขนั้ ตอนปฏิบัติการรถพยาบาล
หมวด ข คาแนะนาเพอื่ ความปลอดภยั ในการทาหัตถการบนรถพยาบาล
หมวด ก ขน้ั ตอนปฏิบตั กิ ารรถพยาบาล
1. ขณะการประจาการ
1.1 ความพร้อมบุคลากร : ด้านร่างกาย/ด้านจิตใจ : เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานควรมีสมรรถนะและ
ความพร้อมทางด้านร่างกาย และจิตใจ พักผ่อนอย่างเพียงพอ และได้รับการประเมินความพร้อมด้านสมรรถนะ
ทางกายตามรอบอย่างเหมาะสม
1.2 ความพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือ : การเตรียมอุปกรณ์เคร่ืองมือสาหรับใช้ในรถพยาบาลมีการ
ตรวจสอบความพรอ้ มทกุ เวรให้พร้อมใช้ รวมถึงความพรอ้ มของเครือ่ งมอื และอปุ กรณ์สารองอยา่ งสม่าเสมอ
1.3 ความพรอ้ มยานพาหนะ: รถพยาบาลที่ไดม้ าตรฐาน และได้รับการตรวจสอบสภาพอย่างสม่าเสมอ
ตามวงรอบ
2. การรับมอบภารกจิ โดยสามารถแบง่ เปน็ ภารกจิ รถฉกุ เฉิน หรือรถพยาบาลกรณีส่งตอ่ ไม่ฉกุ เฉนิ
2.1 จานวนเจ้าหน้าที่และประเภทของทีม: จานวนเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานบนรถพยาบาลไม่เกิน 5 คน
รวมพนกั งานขบั รถ และมสี มรรถนะเหมาะสมกับภารกิจ และผ่านการอบรมโดยเฉพาะ หรือรับทราบข้อปฏิบัติ
ด้านความปลอดภยั กอ่ นปฏิบตั ิงานบนรถพยาบาล
2.2 รับข้อมูลภารกิจ และเตรียมความพร้อม: รับทราบข้อมูลของผู้ปุวย และเตรียมความพร้อมผู้ปุวย
อปุ กรณย์ ึดตรึงผ้ปู วุ ย และทาการยดึ ตรึงอปุ กรณท์ างการแพทย์ท่ีตดิ กบั ผปู้ วุ ย ใหเ้ รียบรอ้ ยก่อนออกปฏิบตั กิ าร
2.3 ประเมินผู้ปุวย และความต้องการ (Ambulance request form): ประเมินหัตถการท่ีอาจเกิดขึ้น
บนรถพยาบาล และเตรียมอุปกรณท์ จี่ าเปน็ ครบถ้วนตรวจสอบพร้อมใช้ก่อนออกรถ
3. การเตรยี มเขา้ รบั ผูป้ ุวย ความพรอ้ มของทีม อปุ กรณ์ และรถพยาบาล ตามภารกิจทไ่ี ด้รับมอบ
4. การเข้าประเมนิ ผู้ปุวยกอ่ นออก หากมอี าการเปล่ยี นแปลง
5. การลาเลยี งผ้ปู ุวย เลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ทใี่ ชส้ าหรบั การลาเลียงโดยเฉพาะ สามารถยึดตรึงกับรถพยาบาลได้ กรณี
จาเปน็ ต้องนาอุปกรณ์การแพทยท์ ใี่ ชท้ วั่ ไปไปใช้บนรถพยาบาล ต้องพิจารณาข้อจากัด และคานึงถึงความปลอดภัย
ของผู้ปวุ ยและเจ้าหนา้ ท่ีผ้ปู ฏบิ ตั งิ านเป็นอนั ดบั แรก
6. ความปลอดภัยก่อน และระหว่างการเดินทาง : สวมใส่เข็มขัดนิรภัย และอุปกรณ์ปูองกันตัวส่วนบุคคล
(Personal Protective Equipment: PPE) อย่างเหมาะสม และปฏิบัติตามกฎเพื่อความปลอดภัยตลอดเวลา
หากมีความจาเป็นใด ๆ ในการทาหัตการ พึงปฏิบัติตามคาแนะนา โดยคานึงถึงความปลอดภัยของตนเอง และ
ผู้ปุวยเสมอ
7. การประสานงานปลายทาง : แจง้ ปลายทางเพอ่ื นาส่ง
8. การปฏบิ ัตเิ ม่อื เกดิ สถานการณ์ฉุกเฉนิ : เตรยี มแผนรองรบั เหตฉุ ุกเฉนิ และมกี ารซกั ซ้อมทบทวนอย่างสม่าเสมอ
9. สถานการณพ์ ิเศษ : ขอ้ ปฏิบัตดิ ้านความปลอดภัยในกรณสี ถานการณโ์ รคระบาดติดเชอ้ื ฯลฯ
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
14 คูม่ อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพ่อื สง่ ตอ่ ผู้ป่วยปลอดภยั
หมวด ข คาแนะนาเพ่ือความปลอดภัยในการทาหัตถการบนรถพยาบาล
การทาหัตถการทางการแพทย์กรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะการทาหัตถการช่วยชีวิตเป็นหัตถการ
ที่จาเปน็ ต้องทาทันทีเมื่อเกิดภาวะฉกุ เฉินกบั ผปู้ ุวยขณะทไี่ ด้รับการดแู ลบนรถพยาบาล อยา่ งไรก็ตามพึงคานึงถึง
ความปลอดภัยในการปฏิบัติการตลอดเวลา และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยคาแนะนาในการทา
หัตถการมดี งั น้ี
1. การทาหัตถการใด ๆ ให้พิจารณาตามความเร่งด่วนจาเป็น โดยจุดมุ่งหมายเพื่อความปลอดภัยของ
ทัง้ ผู้ปุวย และผปู้ ฏิบัติงานบนรถเสมอ
2. พจิ ารณาเตรยี มการให้พรอ้ มก่อนออกเดนิ ทาง เพอ่ื หลกี เลี่ยงกรณีฉุกเฉิน
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 15
กระบวนการปฏิบตั งิ านเพอ่ื สง่ ตอ่ ผปู้ ว่ ยปลอดภัย
ตารางท่ี 1 : กล่มุ หัตถการและข้อพิจารณาคาแนะนาในการปฏิบัติ
รถพยาบาล
กลมุ่ หัตถการ หัตถการ คาแนะนา หยุดนง่ิ /ชะลอ เคล่ือนที่
Lifesaving CPR ความเรว็ *
Endotracheal ใช้อุปกรณ์ Mechanical CPR (ถ้ามี) เพอื่ กรณีทที่ า ใช้ Mechanical
intubation ความปลอดภยั ขณะเคลือ่ นย้าย
conventional CPR และมี
Supraglottic กรณไี มม่ อี ปุ กรณ์ Mechanical CPR ให้
device insertion พิจารณาชะลอความเร็วรถ CPR โดยเจา้ หนา้ ที่ อุปกรณ์ยดึ ตรึง
ผ้ทู าหตั การควรสวมใสอ่ ุปกรณ์ปูองกนั อย่าง พิจารณาหยุด หรือ
เหมาะสม และมที ี่ยดึ ตรงึ เพ่ือความปลอดภัย
ขณะทาหตั ถการ ใช้ความเรว็ ไมเ่ กนิ
พิจารณานาสง่ สถานพยาบาลท่ีมศี กั ยภาพที่ 60 km/hr.* โดย
ใกล้ทสี่ ุด
คานึงถงึ ความ
ปลอดภัยของผปู้ ุวย
และเจา้ หน้าที่เปน็
หลกั
เตรยี มความพร้อมในการปฏบิ ตั หิ ตั ถการก่อน ควรใส่ทอ่ ชว่ ย ตรวจตดิ ตาม
ออกรถ หายใจ และ ตาแหน่งท่อชว่ ย
ตรวจเช็คตาแหนง่ หายใจ และ
ทาเม่อื จาเปน็ เทา่ น้นั ให้เรยี บร้อย ขณะ สญั ญาณชีพเปน็
รถหยดุ นิง่ ระยะ
ผู้ปุวยทใี่ ส่ท่อชว่ ยหายใจแล้ว หลงั การ
ตรวจสอบวา่ ทอ่ ชว่ ยหายใจอยูใ่ นตาแหน่งท่ี
เหมาะสมเรียบรอ้ ย ตอ้ งทาการยดึ ตรึงใหแ้ น่น
หนา เนื่องจากมคี วามเส่ียงตอ่ การเล่ือนหลดุ
หรอื ผิดตาแหนง่ ได้ตลอดเวลา
ตดิ อปุ กรณ์ตรวจตดิ ตามเช่น Capnography
หรอื หากไมม่ ี ควรตรวจเช็คทุก ๆ 5 นาที
พิจารณาใช้เปน็ ทางเลอื กในกรณีฉกุ เฉิน หาก สามารถทาได้ ระมัดระวงั การ
ไม่สามารถหยุดรถเพอ่ื ใสท่ อ่ ชว่ ยหายใจได้ ในขณะเคลื่อนที่ เลอ่ื นหลดุ
ระหวา่ งเคล่ือนที่
ตรวจสอบตาแหนง่ ของอปุ กรณ์ และทาการ ชะลอความเรว็
ยึดตรึงใหแ้ น่นหนา ปูองกันการเลอ่ื นหลุด ผดิ
ตาแหน่งระหว่างเคลือ่ นที่
กองสาธารณสุขฉกุ เฉนิ
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
16 คูม่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ัตงิ านเพื่อส่งตอ่ ผปู้ ่วยปลอดภยั
รถพยาบาล
กลุม่ หัตถการ หัตถการ คาแนะนา หยดุ นิ่ง/ชะลอ เคล่ือนท่ี
ความเร็ว*
Lifesaving Electrical Therapy ควรหยุดรถเพอ่ื ทาการประเมินคลนื่ ไฟฟูา หากจาเป็นให้แน่ใจ
(Defibrillation/ หวั ใจ การประเมนิ คลื่นไฟฟาู หัวใจขณะรถ วา่ อุปกรณท์ ี่ใชผ้ ่าน
Cardioversion/ เคลอ่ื นที่อาจคลาดเคลื่อน มาตรฐานในการใช้
Initiation of พิจารณาปจั จัยทเ่ี กีย่ วข้อง ได้แก่ ชนดิ ของ บนรถพยาบาล
cardiac pacing) เครอื่ ง Defibrillator หรือ AED ท่ีสามารถใช้ เนือ่ งจากขณะรถ
บนยานพาหนะทเี่ คล่อื นท่ี และใช้ Soft เคลือ่ นทอ่ี าจ ทาให้
paddle ในการ defibrillation และ การประเมิน
cardioversion คล่นื ไฟฟูาหัวใจ
ขณะทาการ electrical therapy ใหค้ านงึ ถงึ คลาดเคลือ่ นได้
ความปลอดภัยบคุ คลอ่ืน ๆ ที่เกยี่ วข้อง
ตลอดเวลา
Airway- Airway ผทู้ าหัตถการตอ้ งสวมอปุ กรณ์เพ่ือความ สามารถทาได้
ปลอดภยั และควรยึดตรึงตนเองใหม้ นั่ คง
Breathing maneuver/Bag- ขณะทาหัตถการตลอดเวลา
valve mask
procedure ventilation
Nasal-Oral airway ควรทาหัตถการใหเ้ รียบรอ้ ยกอ่ นรถเคล่ือนที่ อาจทาหตั ถการได้
insertion/Airway ทาการยึดตรงึ อปุ กรณ์ใหม้ นั่ คงกอ่ นเคลอ่ื นที่ ในขณะรถใช้
suction ความเร็วไม่เกนิ
กาหนดความเร็วใน
เขตพ้นื ที่ชุมชน*
Needle ควรทาหตั ถการใหเ้ รียบรอ้ ยกอ่ นรถเคลอื่ นท่ี ขณะทาหตั ถการ
thoracentesis ทาการยึดตรึงอุปกรณ์ให้มั่นคงก่อนเคล่ือนที่ ควรหยุดรถ
เนื่องจากมีความเสีย่ งเลอ่ื นหลดุ เนอ่ื งจากมคี วาม
เสี่ยงตอ่ วตั ถุแหลม
คมอาจทาให้เกดิ
อนั ตรายตอ่
ผู้ปฏบิ ตั งิ าน และ
ผเู้ กี่ยวข้อง
กองสาธารณสุขฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล 17
กระบวนการปฏิบัติงานเพือ่ สง่ ตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
รถพยาบาล
กลุ่มหตั ถการ หตั ถการ คาแนะนา หยุดนิ่ง/ชะลอ เคลือ่ นท่ี
ความเร็ว*
Airway- Tube ควรทาหตั ถการใหเ้ รียบรอ้ ยกอ่ นรถเคลอื่ นที่ ขณะทาหตั ถการ ตรวจตดิ ตาม
Breathing thoracotomy ทาการยึดตรึงอุปกรณ์ให้ม่ันคงก่อนเคลื่อนที่ ควรหยุดรถ ระดับของเหลว
เน่ืองจากมีความ ในระบบทอ่
procedure การเคลื่อนยา้ ยผู้ปุวยทใ่ี ส่ทอ่ ระบาย หากไมม่ ี เสีย่ งต่อวตั ถุแหลม ระบาย และ
ระบบ digital drainage system เพือ่ คมอาจทาใหเ้ กิด สญั ญาณชพี เป็น
ควบคุมความดันลบในสายระบาย ตอ้ ง อนั ตรายตอ่ ระยะ ๆ
ระมดั ระวงั ใหส้ ายอยตู่ า่ กวา่ ทรวงอก ผู้ปฏบิ ตั งิ าน และ
ตลอดเวลา หากไมส่ ามารถทาได้ จาเปน็ ต้อง ผเู้ กย่ี วขอ้ ง
clamp สาย ต้องระวงั เนือ่ งจากอาจทาให้เกิด
tension pneumothoraxได้
พิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์เฉพาะสาหรับการ
เคล่อื นยา้ ยผปู้ ุวยกอ่ น
others IV/IO insertion ควรทาหัตถการให้เรียบร้อยกอ่ นรถเคล่ือนท่ี ขณะทาหตั ถการ
ทาการยึดตรึงอุปกรณ์ให้ม่ันคงก่อนเคลื่อนที่ ควรหยุดรถ
เนอื่ งจากมคี วาม
เน่ืองจากมคี วามเสยี่ งเล่ือนหลุด
เสี่ยงต่อวตั ถแุ หลม
การให้สารน้าทางหลอดเลือดดา เพ่ือให้ได้ คมอาจทาให้เกิด
อัตราเรว็ ตามทีก่ าหนด ควรต่ออุปกรณ์ อนั ตรายต่อ
Transport IV infusion pump และทาการ ผปู้ ฏิบตั ิงาน และ
ยดึ ตรึงอุปกรณ์ใหแ้ น่นหนา ผู้เก่ยี วขอ้ ง
IV drug การบรหิ ารยาทางหลอดเลือดดา ควร สามารถทาได้
administration via พจิ ารณาต่ออุปกรณ์ Extension ผา่ นทาง
IV line Three-way stopcock หรือทาง Transport
infusion pump
หลกี เลีย่ งการใช้เขม็ หรอื ของมีคมฉีดยา
โดยตรง
Nasogastric tube ควรทาหัตถการใหเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นรถเคลื่อนท่ี อาจทาหตั ถการได้
insertion ทาการยดึ ตรงึ อปุ กรณใ์ หม้ ั่นคงก่อนเคล่ือนท่ี ในขณะรถใช้
ความเร็วไมเ่ กิน
กาหนดความเรว็ ใน
เขตพ้นื ทช่ี มุ ชน*
กองสาธารณสุขฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
18 ค่มู อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบัตงิ านเพอ่ื สง่ ตอ่ ผ้ปู ว่ ยปลอดภัย
รถพยาบาล
กลุ่มหตั ถการ หัตถการ คาแนะนา หยุดนิ่ง/ชะลอ เคลอื่ นท่ี
ความเร็ว*
others Any surgical พิจารณาทาตามเหตุผลความจาเปน็
procedures and ขณะทาหัตถการ
procedures ควรหยดุ รถ
involve เนอื่ งจากการใช้
needle/sharp วัตถุแหลมคมอาจ
objects ทาใหเ้ กดิ อันตราย
ตอ่ ผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน
และผเู้ กย่ี วขอ้ ง
*ความเรว็ จากดั ในเขตพื้นทชี่ มุ ชน 30 - 60 km/hr. ขน้ึ กับกฎระเบียบข้อบงั คบั แต่ละพ้ืนท่ี
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉนิ
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หมวดที่ 4
แนวทางการพฒั นาระบบเพอื่ สร้างความปลอดภัยในรถพยาบาล
(2-P Safety Ambulance Operating System)
จากการดาเนินงานด้านระบบการแพทย์ฉุกเฉินก่อนถึงโรงพยาบาลและการส่งต่อผู้ปุวยระหว่าง
โรงพยาบาล ข้อมูลตั้งแต่ปี 2559 – 2563 เกิดอุบัติเหตุกับรถฉุกเฉิน ซ่ึงรวมถึงรถปฏิบัติการฉุกเฉินและ
รถพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขรวมทั้งสิ้น 156 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นขณะส่งต่อผู้ปุวยระหว่าง
โรงพยาบาล ถงึ ร้อยละ 80 ส่งผลต่อบคุ ลากรการแพทยท์ ั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้รับบาดเจ็บ
รวม 139 ราย เสยี ชีวิต 4 ราย
และจากการสอบสวนการบาดเจ็บหลังเกิดเหตุ เมื่อพิจารณาด้านคน รถ และส่ิงแวดล้อม
ตาม model ทางระบาดวิทยา พบว่า 67% เกิดจากพฤติกรรมและความเหนื่อยล้าของพนักงานขับรถ ได้แก่
หลับใน ขับรถเร็วเกินกาหนด และการขับรถฝุาสัญญาณไฟจราจร ซึ่งนับเป็นปัจจัยท่ีสามารถควบคุมได้
โดยการกาหนดมาตรฐาน การตดิ ตาม ควบคมุ กากบั และการแจง้ เตอื นท่มี ีประสิทธิภาพ แบบ Realtime
แนวทางการพัฒนาระบบเพื่อสร้างความปลอดภัยในรถพยาบาล (2-P Safety Ambulance Operating
System) เป็นแนวทางท่ีเกิดขึ้นจากการดาเนินงานของคณะทางานพัฒนาเครือข่ายเพ่ือสร้างระบบความปลอดภัย
ในรถพยาบาล ซ่ึงเป็น 1 ใน 5 คณะทางานตามคาส่ังกระทรวงสาธารณสุข ที่ 330/2562 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2562
โดยมหี นา้ ทแี่ ละอานาจ คอื
1. อานวยการ ส่ือสาร สง่ั การรถพยาบาล ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานท่กี าหนด
2. พัฒนาแนวปฏิบัติศูนย์ส่ือสาร ส่ังการรถพยาบาลและการดูแลผู้ปุวยในรถพยาบาล เพื่อปรับปรุง
แก้ไขและพัฒนาระบบสื่อสาร ส่ังการ และรถพยาบาลฉุกเฉินและดูแลผู้ปุวยในรถพยาบาลฉุกเฉินที่มี
ประสิทธภิ าพตามมาตรฐาน
3. ควบคมุ กากับ ติดตาม การปฏิบตั งิ านของหนว่ ยปฏบิ ัติการฉุกเฉิน
4. จัดทาคูม่ อื เครอื ขา่ ยเพอ่ื สร้างระบบความปลอดภยั ในรถพยาบาล พร้อมทง้ั เผยแพร่ประชาสมั พันธ์
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉิน
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
20 คูม่ อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบัตงิ านเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ป่วยปลอดภัย
จากหน้าท่ีและอานาจ คณะทางานพัฒนาเครือข่ายเพื่อสร้างระบบความปลอดภัยในรถพยาบาลได้
พฒั นาแนวคดิ
“2-P Safety Ambulance Operating System” เน้นการสร้างระบบเพื่อติดตาม ควบคุมกากับ
การปฏิบัติการเพื่อสร้างความปลอดภัยในรถพยาบาล ครอบคลุมผู้ปฏิบัติงาน (Personnel) และผู้ปุวย
(Patient) โดยเชื่อมโยงแนวปฏิบัติจาก 3 คณะทางาน ได้แก่ คณะทางานมาตรฐานโครงสร้างรถพยาบาล
คณะทางานพัฒนาแนวปฏิบัติเพ่ือการขับข่ีรถพยาบาลปลอดภัย คณะทางานพัฒนาแนวปฏิบัติเพ่ือความปลอดภัย
ของบุคลากรการแพทย์ขณะปฏิบัติงานบนรถพยาบาล และเพื่อเป็นข้อมูลสาหรับคณะทางานพัฒนาระบบ
สอบสวนและตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาล กรณีเกิดอุบัติเหตุจากการดาเนินงาน เพ่ือการปรับปรุง
ระบบเพือ่ สรา้ งความปลอดภัยสาหรับผปู้ ฏิบัติงาน (Personnel) และผู้ปวุ ย (Patient) สูงสดุ โดยแบ่งระยะของ
การพฒั นาเปน็ 4 ระยะ คอื
ระยะท่ี 1 : Safety Ambulance รถพยาบาลปลอดภัย เป็นการเช่ือมโยงแนวปฏิบัติมาตรฐานโครงสร้าง
รถพยาบาล แนวปฏิบัติเพื่อการขับขี่รถพยาบาลปลอดภัย และแนวปฏิบัติเพ่ือความปลอดภัยของบุคลากร
การแพทย์ขณะปฏิบัติงานบนรถพยาบาล เน้นประเดน็ บุคลากรหรือพนกั งานขับรถพยาบาล (Personnel) เป็นหลกั
ระยะที่ 2 : Medical Referral Linkage การเชื่อมโยงข้อมูลระบบส่งต่อผู้ปุวย มาสู่ระบบระบบเพื่อสร้าง
ความปลอดภัยในรถพยาบาล
ระยะท่ี 3 : Telemedicine การพัฒนาระบบรักษาพยาบาลทางไกลโดยพัฒนาระบบแพทย์ให้คาปรึกษาผ่าน
ระบบเพือ่ สร้างความปลอดภัยในรถพยาบาล
ระยะท่ี 4 : Pool Ambulance for Command and Control การรวมศูนย์รถพยาบาลระดับพื้นท่ีและ
ส่วนกลางเพ่อื การตอบสนองเหตุทท่ี นั ท่วงที
โดยในคูม่ ือน้ี จะกล่าวถงึ แนวทางการพัฒนาระยะท่ี 1 เป็นหลกั
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 21
กระบวนการปฏิบัตงิ านเพ่ือส่งตอ่ ผปู้ ่วยปลอดภัย
แนวทางการพัฒนาระบบ Safety Ambulance
เป็นแนวทางโดยการติดตาม ควบคุมกากับพนักงานขับรถ และการแจ้งเตือนท่ีมีประสิทธิภาพ แบบ
Realtime โดยใช้หลักทางระบาดวิทยาเช่อื มโยงกับปจั จัยทเี่ กี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่
1. Host หรือ พนกั งานขบั รถ โดย
o เป็นระบบทส่ี ามารถ monitor เวลาและพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานของพนักงานขับรถได้
o สามารถแจ้งเตือนพนักงานขับรถ กรณีปฏิบัติงานมากกว่าเวลาที่ควรจะเป็น หรือ
ระยะเวลาท่ีควรหยุดพัก ตามแนวทางของคณะทางานพัฒนาแนวปฏิบัติเพ่ือการขับข่ี
รถพยาบาลปลอดภัย
o สามารถเกบ็ ข้อมลู เพือ่ การศกึ ษา การวิเคราะห์ นาไปสู่การพฒั นาระบบในอนาคต
2. Agent Velocity หรือ ความเรว็ โดย
o เป็นระบบที่สามารถ monitor ความเร็วของรถพยาบาล แบบเป็นปัจจุบัน (Realtime)
โดยมรี ะยะความถข่ี องการสง่ สญั ญาณไม่เกิน 20 วนิ าที
o สามารถแจ้งเตือนกรณีรถพยาบาลมีความเร็วเกินกว่าท่ีกาหนดไว้ ตามแนวทางของ
คณะทางานพัฒนาแนวปฏิบัตเิ พ่อื การขบั ข่รี ถพยาบาลปลอดภัย
o สามารถเก็บข้อมูลย้อนหลังเพื่อการสอบสวนการบาดเจ็บ รวมถึงศึกษาวิจัยพฤติกรรม
การขับขี่ได้
3. Environment หรอื สภาพแวดล้อม โดย
o เปน็ ระบบที่สามารถ monitor และแจ้งเตือนกรณีรถพยาบาลกรณีจอดในท่ีห้ามจอดเกิน
กวา่ 30 นาที
o สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจุดเส่ียงของการจราจรทางถนนในจังหวัด นามาสู่การแจ้งเตือน
รถพยาบาลกอ่ ถงึ จุดดงั กลา่ วในระยะรัศมี 2 กิโลเมตร เพ่ือการระมัดระวังในการขับข่ีเพิ่ม
มากขึน้
o สามารถแจ้งเตือนไปยังโรงพยาบาลแม่ข่ายเม่ือรถพยาบาลใกล้ถึงโรงพยาบาลในรัศมี 5
กโิ ลเมตร
o สามารถส่องภาพสภาพแวดล้อมภายรอบ เก็บข้อมูลเพ่ือการสอบสวนการบาดเจ็บ
นาไปสกู่ ารพัฒนาระบบในอนาคตได้
โดยระบบ Safety Ambulance ต้องสามารถแสดงผลและแจ้งเตือนระดับผู้ปฏิบัติ คือ ระดับบุคคล
และผู้ควบคุมกากับ คือ ระดับโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลแม่ข่ายและโรงพยาบาลระดับจังหวัด ระดับเขต
สุขภาพ และระดบั กระทรวงฯ ได้
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
22 คู่มือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ัติงานเพือ่ ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภยั
อุปกรณพ์ นื้ ฐานทจี่ าเปน็ ตอ้ งมี
1. อุปกรณป์ ระจารถพยาบาล
1) อุปกรณ์แจ้งตาแหน่ง (GPS) พร้อมส่งสัญญาณภาพและบันทึกภาพบนรถพยาบาล (Ambulance
Locating and Recording Device) โดยมีคุณลกั ษณะ คอื
- รองรบั การใชง้ านกบั กระแสไฟบนรถพยาบาล
- สามารถตดิ ตามตาแหนง่ ที่อย่ปู จั จบุ ันของรถพยาบาลและส่งพิกดั ได้ขนั้ ต่าทุก 20 วินาที
- ระบบไมโครโฟน - ลาโพง เพือ่ การส่งสญั ญาณแจ้งเตอื นพนกั งานขับรถ
2) เคร่ืองรูดบัตรใบอนุญาตขบั รถทส่ี ามารถเชือ่ มโยงข้อมูลจากใบอนุญาตของพนักงานขับรถไปยังศูนย์
บริหารจัดการได้
3) มรี ะบบการแจง้ เตือนเปน็ สญั ญาณเสียง (Warning Alarm) ข้นั ตา่ ดงั ต่อไปนี้
- กรณีขับรถพยาบาลเร็วเกินกว่าทีก่ าหนด
- กรณขี บั รถในเขตหา้ มขบั
- กรณจี อดรถบนไหลท่ าง ทางเดินรถ หรือบรเิ วณทีไ่ ม่ใช่จุดจอดทป่ี ลอดภยั
- กรณขี ับรถต่อเนือ่ งโดยไม่หยดุ พักตามท่ีกาหนด
- กรณใี กล้ถงึ จุดเสีย่ งทมี่ โี อกาสเกิดอบุ ัตเิ หตสุ งู ในพ้ืนท่รี ะดับจังหวัด และพ้ืนทรี่ ะดบั เขตสุขภาพ
4) กลอ้ งบันทกึ ภาพวดี ีโอ 2 สว่ น คอื สว่ น
- กล้องหน้ารถ เพ่ือส่องภาพสภาพแวดล้อมภายรอบ เพ่ือบันทึกสถานการณ์ด้านหน้าของรถพยาบาล
ซ่งึ สามารถตรวจสอบภาพวดี ีโอย้อนหลงั ได้อย่างนอ้ ย 15 วนั
- กลอ้ งสอ่ งพนกั งานขบั รถ เพือ่ รองรับการ monitor พฤติกรรมพนกั งานขบั รถได้
2. ศนู ย์บริหารจดั การระบบเพ่อื สร้างความปลอดภยั ในรถพยาบาล
โดยมรี ะบบบรหิ ารจดั การ ระบบแสดงขอ้ มูลและสถานะของรถพยาบาลตามระบบ Safety Ambulance โดย
1) หน้าจอแผนที่สาหรับระบุตาแหน่งรถพยาบาล แสดงผลระยะเวลาจากโรงพยาบาลต้นทางไปถึง
โรงพยาบาลปลายทาง
2) สามารถเรียกดูภาพจากกลอ้ งบันทกึ ภาพบนรถพยาบาลได้แบบเปน็ ปจั จุบนั (Realtime)
3) สามารถแสดงผลข้อมลู พนักงานขบั รถ เจ้าหนา้ ทีอ่ อกปฏิบตั กิ ารได้
4) สามารถแสดงผลสถานะการออกปฏบิ ัติการ การออกเหตหุ รือการส่งต่อผ้ปู วุ ยได้
5) สามารถแสดงขอ้ มลู ความเรว็ ของรถพยาบาล และแสดงผลระยะเวลาจากทม่ี าถงึ จุดหมายปลายทาง
ETA (Estimated Time to Arrival) ได้แบบเปน็ ปัจจบุ นั (Realtime)
6) สามารถบรรจุข้อมูลเพ่ิมเติมเพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้รถพยาบาล อาทิ ข้อมูลจุดเส่ียงท่ีมี
โอกาสเกดิ อุบตั เิ หตสุ ูงในพ้นื ท่ีระดับจังหวัด และพืน้ ทรี่ ะดับเขตสุขภาพได้ เปูนต้น
7) สามารถแจง้ เตอื นพนักงานขับรถกรณีปฏิบัตงิ านเข้าเกณฑ์ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุตามเกณฑ์
ที่กาหนดได้
8) ในกรณีที่เกิดเหตุขึ้นกับรถพยาบาลจะต้องสามารถแจ้งข้อความบอกไปยังเจ้าหน้าที่ดูแลและ
ผเู้ กย่ี วข้องทไ่ี ด้ลงทะเบียนไวล้ ว่ งหน้า ได้แบบเปน็ ปจั จุบนั (Realtime)
9) มรี ะบบรายงานการใช้งานรถพยาบาล และรายการการออกปฏิบัตกิ าร
10) สามารถแสดงผลข้อมูลทุกระบบอยู่บนหน้าจอเดียวกัน เพ่ือให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้เป็นหน้าจอ
หลักในการบรหิ ารจัดการปฏิบตั กิ ารบนรถพยาบาลไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ และรวดเร็วโดยไม่ต้องแยกการแสดงผล
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉนิ
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ อื มาตรฐานรถพยาบาล 23
กระบวนการปฏิบัติงานเพ่ือส่งตอ่ ผู้ป่วยปลอดภยั
ของแต่ละระบบ โดยสามารถแสดงผลและแจ้งเตือนระดับผู้ปฏิบัติ คือ ระดับบุคคล และผู้ควบคุมกากับ คือ
ระดับโรงพยาบาล ท้ังโรงพยาบาลลูกข่ายและโรงพยาบาลแม่ข่าย โรงพยาบาลระดับจังหวัด ระดับเขตสุขภาพ
และระดบั กระทรวงฯ ได้
11) สามารถประมวลผลเกณฑ์ความเสี่ยง เพื่อแจ้งเตือนพนกั งานขบั รถพยาบาล ไดแ้ ก่
- กรณีขับรถพยาบาลเร็วเกินกวา่ ท่ีกาหนด
- กรณีขบั รถในเขตหา้ มขบั
- กรณจี อดรถบนไหล่ทาง ทางเดนิ รถ หรือบรเิ วณท่ไี ม่ใช่จดุ จอดที่ปลอดภยั
- กรณขี บั รถต่อเนื่องโดยไม่หยุดพกั ตามท่ีกาหนด
- กรณีใกล้ถึงจุดเส่ียงที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงในพื้นที่ระดับจังหวัด และพ้ืนที่ระดับเขตสุขภาพ
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
หมวดที่ 5
แนวทางการสอบสวนและตอบสนองหลงั เกิดอุบัตเิ หตขุ องรถพยาบาล
หมวด ก บทบาทและหนา้ ท่ีของหน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้อง
1. กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ (กสธฉ.) และ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ
- ทมี ตระหนกั รสู้ ถานการณ์ (Situation Awareness Team : SAT) กองสาธารณสุขฉุกเฉิน (กสธฉ.)
ร่วมกบั คณะทางานพัฒนาระบบสอบสวนและตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาล เฝูาระวัง
อุบตั ิเหตุของรถพยาบาล
- รับการแจง้ ขา่ วรถพยาบาลเกิดอุบตั เิ หตุในเขตพ้นื ทก่ี รุงเทพมหานครจากสถาบันปูองกันควบคุมโรค
เขตเมือง (สปคม.) และข่าวรถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุนอกเขตพ้ืนที่กรุงเทพมหานครจากสานักงาน
สาธารณสุขจังหวดั (สสจ.)
- รายงานขอ้ มูลเมือ่ เกดิ อบุ ตั ิเหตขุ องรถพยาบาลแก่ผู้บรหิ ารกระทรวงสาธารณสุข ทนั ที
- กากบั ติดตามการดาเนนิ การตามแนวทางการรายงานและสอบสวน
- รวบรวมข้อมูลสถติ กิ ารเกดิ อุบัตเิ หตุและรวบรวมรายงานการสอบสวน
- วิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมของประเทศ พร้อมเสนอแนะข้อมูลเชงิ นโยบายแกผ่ ูบ้ รหิ ารกระทรวงทุกปี
- สะท้อนขอ้ มลู และคาแนะนาท่ีไดจ้ ากการรายงานและสอบสวนแก่หน่วยงานสว่ นภูมิภาค
2. สานักงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรค (สคร.)
รับการประสานงานจากสานกั งานสาธารณสขุ จงั หวัด (สสจ.) เพื่อออกสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึก
ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เมื่อรถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุนอกเขตพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร และมีผู้โดยสารใน
รถพยาบาลเสียชีวิตต้ังแต่ 1 รายข้ึนไป หรือเม่ือมีผู้โดยสารในรถพยาบาลได้รับการรักษาแบบผู้ปุวยใน (Admission)
โดยสาเหตจุ ากอุบัติเหตุน้ัน (หรือได้รับการรักษาในโรงพยาบาลนานขึ้น กรณีเป็นผู้ปุวยในที่อยู่ในระหว่างการส่งต่อ)
หรอื เมอื่ ได้รบั มอบหมายจากผบู้ รหิ ารในกระทรวงสาธารณสุข
3. สถาบันป้องกันควบคมุ โรคเขตเมอื ง (สปคม.) / สานักงานสาธารณสขุ จงั หวัด (สสจ.)
- เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานเพื่อดาเนินการสอบสวน กรณีเกิดอุบัติเหตุในเขตพ้ืนท่ี
กรงุ เทพมหานคร หนว่ ยงานหลักได้แก่ สปคม. และกรณีเกิดอุบัติเหตุนอกเขตพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร
หน่วยงานหลักไดแ้ ก่ สสจ.
- เมื่อรถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี ศูนย์ส่ือสารและส่ังการ สปคม./สสจ. ติดต่อ กสธฉ. ทาง
หมายเลขโทรศพั ท์ 09 2251 1771 พร้อมส่งรายงานแบบรายงานสถานการณ์ Director Critical
Information Requirement (DCIR) ทางเว็บไซต์ WEB EOC (eoc.moph.go.th) และทาง
[email protected] ทันที โดยจัดทารายงานการสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึกฉบับ
สมบรู ณ์ สง่ ใหแ้ กโ่ รงพยาบาลต้นสังกัดของรถพยาบาลและ กสธฉ. ภายใน 1 สัปดาห์
- ประสานและจัดทีมสหสาขาวิชาชีพจากหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เช่น กสธฉ. กรมควบคุมโรค
สานักงานปูองกันควบคุมโรค (สคร.) โรงพยาบาลต้นสังกัดของรถพยาบาลท่ีเกิดอุบัติเหตุ ตารวจ
สานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพ่ือร่วมสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึกเมื่อ
รถพยาบาลเกดิ อบุ ัตเิ หตุทุกกรณี พรอ้ มเสนอแนวทางปอู งกนั แกไ้ ข และตดิ ตามการดาเนนิ การ
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
26 ค่มู อื มาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอื่ ส่งตอ่ ผู้ป่วยปลอดภัย
4. โรงพยาบาลต้นสังกดั ของรถพยาบาลทเี่ กดิ อุบตั เิ หตุ
- แจง้ ผู้อานวยการโรงพยาบาล
- ประสานงานกบั สถาบันปอู งกันควบคมุ โรคเขตเมือง (สปคม.) / สานกั งานสาธารณสุขจงั หวัด (สสจ.)
- ออกสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึกรว่ มกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เม่ือรถพยาบาลเกดิ อุบตั ิเหตุทุกกรณี
- ดาเนินการในด้านรักษา ฟ้ืนฟู เยียวยา และติดตามผู้ประสบเหตุ ท้ังทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม
และทรัพย์สิน รวมถงึ การซอ่ มแซมและชดใชต้ ามความจาเปน็
- การเยียวยาทางทรัพย์สิน ให้หน่วยงานต้นสังกัดช่วยเหลือและสนับสนุนการดาเนินการที่เกี่ยวข้อง
กบั พรบ. จราจรทางบก กรมธรรมป์ ระกนั ภยั เงินช่วยเหลอื เบื้องตน้ สาหรบั บุคลากรทางสาธารณสุข
(ตามหนงั สอื ที่ สธ 0208.07/ว3387 ลงวันท่ี 20 กนั ยายน 2561 อ้างถึง ระเบียบกระทรวงการคลัง
พ.ศ. 2561) และ/หรอื ส่วนอืน่ ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง
- ตดิ ตามการดาเนนิ คดี (ในกรณที ี่มีค่กู รณีและมกี ารดาเนนิ คด)ี
กรณรี ถพยาบาลเกิดอุบัตเิ หตุและมผี ู้ได้รับบาดเจบ็ หรอื เสียชีวติ ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวง
สาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสขุ จงั หวดั ผู้อานวยการโรงพยาบาล เขา้ มารายงานในที่ประชุมผู้บริหาร
กระทรวงสาธารณสขุ ณ กระทรวงสาธารณสขุ
หมวด ข เกณฑ์การออกสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึกร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพของหน่วยงานสังกัด
กระทรวงสาธารณสขุ
1. สานักงานป้องกนั ควบคุมโรค (สคร.)
ร่วมออกสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึก ในกรณีท่ีเกิดอุบัติเหตุนอกนอกเขตพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร
และมีขอ้ ใดข้อหนงึ่ ดังต่อไปน้ี
- เมอ่ื ผู้โดยสารในรถพยาบาลเสียชีวติ ตั้งแต่ 1 รายขึ้นไป หรอื
- เมื่อมีผู้โดยสารในรถพยาบาลได้รับการรักษาแบบผู้ปุวยใน (Admission) โดยสาเหตุจากอุบัติเหตุ
นั้น (หรือได้รับการรักษาในโรงพยาบาลนานข้ึน กรณีเป็นผู้ปุวยในท่ีอยู่ในระหว่างการส่งต่อ) หรือ
เมื่อไดร้ บั มอบหมายจากผบู้ รหิ ารในกระทรวงสาธารณสุข
2. สถาบนั ควบคมุ โรคเขตเมือง (สปคม.) / สานักงานสาธารณสขุ จังหวัด (สสจ.)
รว่ มออกสอบสวนหาสาเหตปุ ัญหาเชิงลึก เม่ือรถพยาบาลเกิดอบุ ัติเหตุทุกกรณี
โดยหน่วยงานหลักในการประสานงานเพื่อดาเนินการสอบสวน กรณีเกิดอุบัติเหตุในเขตพ้ืนท่ี
กรงุ เทพมหานคร หน่วยงานหลักได้แก่ สปคม. และกรณเี กิดอุบัติเหตุนอกเขตพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร หน่วยงาน
หลกั ไดแ้ ก่ สสจ.
3. โรงพยาบาลตน้ สงั กดั ของรถพยาบาลทเี่ กดิ อบุ ัตเิ หตุ
รว่ มออกสอบสวนหาสาเหตปุ ัญหาเชิงลกึ เมอื่ รถพยาบาลเกิดอบุ ตั ิเหตุทุกกรณี
กองสาธารณสุขฉกุ เฉนิ
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
ค่มู ือมาตรฐานรถพยาบาล 27
กระบวนการปฏบิ ตั งิ านเพ่ือส่งตอ่ ผู้ป่วยปลอดภัย
หมวด ค แนวทางการสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลกึ หลังเกิดอุบัตเิ หตขุ องรถพยาบาล
สังกัดกระทรวงสาธารณสขุ
ทีมจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขท่ีออกสอบสวนหาสาเหตุปัญหาเชิงลึกให้ดาเนินการ
สอบสวนรว่ มกบั ทีมสหสาขาวิชาชพี ตามหลักการและแนวทางในคู่มือการสอบสวนการบาดเจ็บจากการจราจร
ทางถนน ของสานกั ระบาดวทิ ยา กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ โดยใชแ้ บบสอบสวนดงั ต่อไปนี้
1. แบบสอบสวนการบาดเจ็บเชิงลกึ กรณอี ุบัตเิ หตรุ ถพยาบาล
2. แบบสอบสวนการบาดเจ็บเชงิ ลึกผ้ขู บั ขรี่ ถพยาบาล
3. แบบสอบสวนการบาดเจบ็ เชิงลกึ รายบุคคลผโู้ ดยสารมาบนรถพยาบาล
ดังท่ีแนบท้ายเอกสารฉบับนี้ มาใชป้ ระกอบรายงานการสอบสวนหาสาเหตปุ ญั หาเชิงลึก
กองสาธารณสุขฉุกเฉนิ
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
28 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏิบตั งิ านเพื่อสง่ ตอ่ ผ้ปู ่วยปลอดภยั
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 29
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
30 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 31
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
32 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 33
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
34 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 35
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
36 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 37
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
38 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื มาตรฐานรถพยาบาล 39
กระบวนการปฏิบตั ิงานเพอ่ื ส่งตอ่ ผู้ปว่ ยปลอดภัย
กองสาธารณสุขฉกุ เฉิน
สานกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
40 คมู่ ือมาตรฐานรถพยาบาล
กระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพื่อส่งตอ่ ผูป้ ่วยปลอดภยั
กองสาธารณสขุ ฉุกเฉนิ
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ
The New normal Emerg
Goal: 2P Safet
เป้าหมาย: ผปู้ ว่ ยและเจา้ หน้าที่ปลอดภยั ไดร้ ับการ
Procedure Active Phase
Infrastructure
Equipment 1. ปรับปรุงพ้ืนที่จุดทาความสะอาดรถหลังการใช้งานรับ 1. จ
Logistics ผูป้ วุ ยตดิ เชือ้ แยกจากพน้ื ท่ีปกติ 2. ป
Dispatch
1. จัดเตรียมชุด PPE ระดับปูองกัน Droplet สาหรับ 1. จ
การออกปฏบิ ัติการทุกครง้ั ประ
2. จัดเตรียมชุด PPE ระดับปูองกัน Aerosol สาหรับ CPR
ผู้ปุวยที่สงสยั ทกุ ราย ให้เพยี งพอเหมาะสม 2. ป
3. จัดให้มีรถพยาบาลเฉพาะในผู้ปุวยส่งต่อ (Refer) 3. จ
และจากดั ส่ิงของและอุปกรณ์ในรถเทา่ ที่จาเป็น
กองสาธารณสขุ ฉกุ เฉิน 1. จัดเตรยี มชดุ PPE ให้เพียงพอเหมาะสม และระบบการใช้ แ
สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
2. จดั หา PPE ทดแทนในกรณีไม่เพยี งพอ และจัดเตรยี มแผนส
3. ควบคุมการเบกิ จ่าย ใหม้ ีการวางแผนการใชง้ านใหเ้ หมาะสม
Dispatcher
❏ ควรถามประวัติจากผู้แจ้งเหตุและประเมินสถานการณ์ว่า
ตามคาถามไมค่ วรทาใหก้ ารให้คาแนะนากรณี Immediate life
❏ เมอื่ สงสัย COVID - 19 และผู้ปุวยมีความจาเป็น emerge
EMS ควรไดร้ ับขอ้ มูลก่อนและเตรยี มตัวให้การดแู ล / นาสง่ /