แผนการสอน วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชพี - 21 -

7. โปรแกรมเมอร์ ทำหนา้ ท่ีอะไร
ก. ทำหนา้ ท่ีเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาใดภาษาทเี่ หมาะสมกับระบบงานที่ตอ้ งจัดทำ
ข. ทำหน้าที่วิเคราะห์ ออกแบบและพัฒนาระบบงานใหมใ่ หม้ ีประสิทธิภาพการทำงานสูงสดุ
ค. ทำหน้าที่กำหนดนโยบายการใชค้ อมพิวเตอร์ในการบริหารจดั การให้เปน็ ไปตามเปา้ หมาย
ของหนว่ ยงาน
ง. ทำหนา้ ท่ีเปน็ ผ้ใู ช้งานโปรแกรมทถ่ี ูกเขยี นขึ้น

8. ข้อมูลในข้อใดเปน็ ข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการแปลงสัญญาณอนาล็อกใหเ้ ปน็ สญั ญาณดิจิตอลแล้วจัดเก็บอยู่ในรูป
ของสัญญาณดจิ ติ อล

ก. ข้อมลู ที่เปน็ ตวั เลข
ข. ข้อมูลทเ่ี ปน็ ภาพ
ค. ขอ้ มลู ภาพเคลอ่ื นไหว
ง. ขอ้ มลู เสยี ง
9. อปุ กรณ์ในขอ้ ใดทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมลู
ก. Mouse
ข. Monitor
ค. CPU
ง. RAM
10. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใชอ่ ุปกรณ์ในการแสดงผลขอ้ มลู
ก. จอภาพ
ข. เคร่อื งพิมพ์
ค. ลำโพง
ง. สแกนเนอร์
11. ข้อใดต่อไปน้ีคือการดแู ลบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์เบื้องตน้ ที่ถกู ต้อง
ก. ควรวางคอมพวิ เตอร์ใหห้ า่ งจากผนงั ไม่นอ้ ยกว่า 5 เซนติเมตร
ข. การเคลอื่ นย้ายคอมพิวเตอร์สามารถทำได้แม้ในขณะเปิดใช้งานอยู่
ค. ต้องกดปุ่ม Power ในการปดิ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทุกครั้ง
ง. ไม่ควรวางน้ำหรอื ของเหลวทุกชนดิ ใกลเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์
12. ถา้ ต้องการปิดเครื่องคอมพวิ เตอร์ทกุ ครงั้ ตอ้ งเลือกข้อใด
ก. Restart
ข. Shut down
ค. close Program
ง. Sleep
13. “สงิ่ ทม่ี นษุ ยส์ ร้างขน้ึ มาเพ่ืออำนวยความสะดวกและร้จู ักนำมาทำให้เกิดประโยชน์ช่วยในการทำงาน
หรือแก้ปัญหาตา่ ง” หมายถึงข้อใด
ก. เทคโนโลยี
ข. สารสนเทศ
ค. เทคโนโลยีสารสนเทศ

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพือ่ งานอาชพี - 22 -

ง. ระบบ
14. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่ใช่ประโยชนข์ องเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ก. มีความสะดวกสบายในการตดิ ตอ่ หรือแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร
ข. มีการจัดลำดับความสำคัญในสังคมได้อย่างดี
ค. ชว่ ยใหต้ ิดต่อสอ่ื สารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ง. ช่วยในการตดั สนิ ใจเกีย่ วกับวางแผนระบบงานได้
15. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
ก. ฮาร์ดแวร์
ข. ซอฟต์แวร์
ค. ระบบเครือขา่ ย
ง. ระบบออนไลน์
16. ขอ้ ใดเป็นระบบที่สร้างข้ึนเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับผู้บรหิ ารระดับสูงโดยเฉพาะ
ก. Office Automation System
ข. Artificial Intelligence
ค. Executive Information System
ง. Decision Support System
17. Transaction Processing Systems หมายถึงระบบสารสนเทศประเภทใด
ก. ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ
ข. ระบบสนบั สนนุ การตัดสินใจ
ค. ระบบสารสนเทศแบบประมวลรายการ
ง. ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์
18. Geographic Information System หมายถงึ ระบบสารสนเทศประเภทใด
ก. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ข. ระบบสนับสนุนการตดั สินใจ
ค. ระบบสารสนเทศแบบประมวลรายการ
ง. ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์
19. Windows เป็นองค์ประกอบของระบบสารสนเทศด้านใด
ก. ฮาร์ดแวร์
ข. ซอฟตแ์ วร์
ค. กระบวนการ
ง. บคุ ลากร
20. Personnel หมายถงึ ขอ้ ใดในองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศด้านใด
ก. เป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์
ข. ชุดคำสง่ั หรือโปรแกรมทีเ่ ขยี นขนึ้
ค. ผู้ออกแบบและวเิ คราะหร์ ะบบ ผู้เขยี นโปรแกรม
ง. เปน็ ข้ันตอนวธิ กี ารดำเนินงานการกำหนดนโยบาย

แผนการเรยี นร้หู นว่ ยที่ 2

รหัสวชิ า 2001-2001 ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี
หน่วยกติ (ท-ป-น) 1-2-2

หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชพี ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวชิ า คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ

เรอื่ ง ระบบปฏบิ ตั ิการเบ้ืองต้น จำนวนชวั่ โมงสอน 3

1. สาระสำคญั
โปรแกรมระบบปฏิบตั เิ ป็นซอฟต์แวร์ระบบทีม่ คี วามสำคัญมากสำหรับการทำงานของเครื่อง

คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์จะเร่มิ ตน้ การทำงานดว้ ยโปรแกรมระบบปฏบิ ัติการเสมอ จากนัน้ กจ็ ะทำหน้าที่
ตรวจสอบความเรียบร้อยของการตอ่ พว่ งอปุ กรณ์ใหพ้ ร้อมใชง้ าน รับคำสัง่ ตดิ ต้ังโปรแกรมเสริมที่ผู้ใช้
ตอ้ งการ และทำหน้าทีจ่ ดั การเกย่ี วกบั ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
2. งานประจำหน่วยการเรยี นรู้

ทำใบงานประจำหน่วย
3. สมรรถนะประจำหน่วยการเรยี นรู้

3.1. แสดงความรู้เกี่ยวกับระบบปฏบิ ตั ิการ
3.2. บอกวิธกี ารใชง้ านของระบบปฏิบัติการ
3.3. บอกวธิ กี ารจดั การเก่ียวกบั ไฟลข์ ้อมลู
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (สมรรถนะรายวิชา)
4.1 จดุ ประสงค์ท่ัวไป

4.1.1 เพอื่ ให้มีความรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับระบบปฏบิ ตั ิการ ความหมายของระบบปฏิบัติการ
ประเภทของระบบปฏิบัตกิ าร การจดั การเก่ยี วกบั ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์

41.2 เพื่อใหม้ ที ักษะในการติดตั้งระบบปฏบิ ตั ิการ และการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์
เบอ้ื งตน้ ได้

4.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
4.2.1. บอกความหมายของระบบปฏบิ ัตกิ ารได้
4.2.2. บอกประเภทของระบบปฏิบัตกิ ารได้
4.2.3. บอกมาตรฐานของโปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ ารได้
4.2.4. อธิบายระบบปฏบิ ัติการวนิ โดวส์ 10 ได้
4.2.5. บอกส่วนประกอบหน้าจอของวนิ โดวส์ 10 ได้
4.2.6. ใชเ้ มาสไ์ ด้
4.2.7. ใชง้ านวินโดวสเ์ บอื้ งตน้ ได้
4.2.8. จัดการไฟล์เอ็กซ์พลอเรอรไ์ ด้
4.2.9. ปดิ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ได้
4.2.10. มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม คา่ นิยม และมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ได้

5. สาระการเรยี นรู้
5.1. ระบบปฏิบตั ิการ

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชพี - 27 -

5.2. สว่ นประกอบหน้าจอของวนิ โดวส์
5.3. การใชเ้ มาส์
5.4. การใช้งานวินโดวส์เบอ้ื งตน้
5.5. การจดั การไฟล์และโฟลเดอร์
6. กระบวนการจดั การเรียนรู้
6.1 ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน

6.1.1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นถงึ ชนดิ ของระบบปฏบิ ัติการ ความหมายของระบบปฏิบัตกิ าร
การทำงานเก่ยี วกบั คอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น

6.2 ขั้นสอน
6.2.1. นกั เรียนศึกษาและปฏิบตั เิ กีย่ วกับการติดตัง้ ระบบปฏบิ ัติการ การจดั การไฟล์และ

โฟลเดอร์และการใชง้ านคอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้
6.2.2. ครอู ธบิ ายเน้ือหาเพิ่มเตมิ เรื่อง ส่วนประกอบหนา้ จอของวินโดวส์ การใช้เมาส์ การปิด

เครือ่ งคอมพวิ เตอรไ์ ด้อยา่ งถกู วิธี
6.2.3. ครสู าธิตการติดต้ังระบบปฏิบตั ิการ สว่ นประกอบหน้าจอของวินโดวส์ การใช้เมาส์

การใชง้ านวินโดวสเ์ บอื้ งตน้ และการจัดการไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
6.2.4. นกั เรยี นฝกึ ติดตงั้ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
6.2.5. นักเรียนทำแบบฝกึ หัด

6.3 ขั้นสรปุ
6.3.1. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เน้อื หาวชิ า เรอ่ื งระบบปฏิบตั กิ าร ส่วนประกอบหน้าจอ

ของวนิ โดวส์ การใช้เมาส์ การใชง้ านวินโดวส์เบ้ืองต้น และการจัดการไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
6.3.2. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น

7. ส่ือการเรียนรู้
7.1 หนังสอื เรยี น
7.2 ใบความรู้
7.3 แบบฝึกหดั
7.4 แบบทดสอบหลงั เรียน
7.5 แบบสังเกตพฤตกิ รรม
7.6 คอมพวิ เตอร์

8. หลักฐานการเรียนรู้
8.1 ใบงาน
8.2 แบบฝกึ หัด

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ - 28 -

9. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีวัดและประเมิน เกณฑ์
เครอ่ื งมอื การประเมิน การประเมิน
ตรวจแบบฝกึ หดั ไดค้ ะแนน
แบบฝึกหัด ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
ถกู 1 คะแนน
แบบฝึกปฏิบัติ ไมถ่ ูก 0 คะแนน ได้คะแนน
ตรวจแบบฝึกปฏิบตั ิ รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป
แบบทดสอบหลังเรียน ขอ้ ละ 1 คะแนน
ถูก 1 คะแนน ไดค้ ะแนน
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม ไมถ่ ูก 0 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
ประสงค์ ข้อละ 1 คะแนน ไดค้ ะแนน
10. แหล่งการเรียนรู้ ถกู 1 คะแนน ร้อยละ 80 ข้ึนไป
ไม่ถูก 0 คะแนน
10.1 ห้องสมุด สงั เกตพฤตกิ รรม
10.2 อนิ เตอรเ์ น็ต ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชพี - 29 -

11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
บนั ทึกหลังสอน

ข้อสรุปหลังการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………...….……………..………………………
……………………............................................................................................................................. ..............……
…………………………………………….……………………………………...............................................…………………………
…………………………………………….………………………………………………………...............................................………
…………………………………………….…………………………………………...............................................……………………
ปัญหาท่ีพบ
……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………
………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………………
…………………………………………….……………………………………………………………..................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………
………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………………
…………………………………………….……………………………………………………………..................................................
……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………
………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………………
…………………………………………….……………………………………………………………..................................................

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 30 -

แบบฝกึ หัดพร้อมเฉลยหน่วยที่ 2

รหสั วิชา 2001-2001 ชื่อวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี
หน่วยกิต (ท-ป-น) 1-2-2
หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม
สาขาวชิ า คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ สาขางาน คอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ
คำส่ัง จงตอบคำถามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ ง
1. ระบบปฏิบตั ิการ (Operating System) มีความหมายว่าอย่างไร
ตอบ ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (Systems Software) ทีท่ ำหน้าที่ควบคมุ การทำงานของฮารด์ แวร์
ทงั้ หมด รวมทั้งการปฏบิ ัติงานของโปรแกรมดว้ ย เปรยี บเสมือนเป็นแม่บ้าน ทค่ี อยดูแลให้อุปกรณ์ตา่ งๆ
ทำงานประสานกนั ” ดงั นนั้ ระบบปฏบิ ตั ิการจึงทำหน้าทเ่ี ป็นตัวกลางในการจัดการการทำงานของฮารด์ แวร์
(Hardware) และซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (Application Software)
2. ระบบปฏบิ ตั ิการมีบทบาทอย่างไรในคอมพิวเตอร์
ตอบ - อำนวยความสะดวก ทำให้ผูใ้ ช้งานเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ใช้งานได้ง่ายและสะดวก
- ใชง้ านเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ (Efficiency) สามารถจดั การการใช้ทรพั ยากร
ของระบบไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
- เพม่ิ ขดี ความสามารถเพื่อพัฒนาโปรแกรม (Ability to evolve) เพ่ือผใู้ ช้สามารถพฒั นา
โปรแกรมได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ สามารถทดสอบโปรแกรม และสามารถใชฟ้ ังกช์ ่ันใหม่ๆ ของระบบได้
โดยปราศจากการแทรกแซงของระบบปฏบิ ัติการในระหวา่ งการทำงาน
3. ระบบปฏบิ ตั กิ าร ลินุกซ์ เกดิ ขึ้นจากโครงการใด ใครเป็นผู้ก่อต้งั
ตอบ ระบบปฏิบัติการ ลนิ กุ ซ์ กำเนิดข้นึ จาก โครงการกนูขึ้นในปี พ.ศ. 2526 โดยริชาร์ด สตอล
แมน (Richard Stallman) เป็นผู้กอ่ ต้ัง
4. ระบบปฏบิ ัตกิ ารวินโดวส์ มลี ักษณะการใช้งานอย่างไร
ตอบ มลี ักษณะการใชง้ านทีง่ ่าย มีความสามารถในการสนับสนุนมัลตมิ ีเดยี เช่น ดหู นัง ฟงั เพลง
เลน่ เกม และมีโปรแกรมประยกุ ตม์ ากมาย
5. จงบอกคุณสมบตั ิทรัพยากรระบบ สำหรบั ระบบปฏบิ ตั วิ ินโดวส์ 10
ตอบ - Windows 10 Home สำหรับผใู้ ช้ท่วั ไปทั้งบนคอมพิวเตอร์และแท็บเลต็
- Windows 10 Pro (Professional) สำหรับใช้งานในธุรกิจขนาดกลางไป
จนถงึ ขนาดใหญ่
- Windows 10 HomeSingle Language สำหรับผใู้ ช้ทั่วไปทัง้ บนคอมพวิ เตอร์และแท็บเลต็ แต่
รองรับภาษาไดเ้ พียงภาษาเดยี ว
- Windows 10 Education สำหรบั ผู้ใช้ท้งั กลมุ่ เจ้าหน้าที่, ผู้ดแู ลระบบ, ครู-อาจารย์ และ
นักเรยี นนักศึกษา
6. จงบอกส่วนประกอบหนา้ จอของวนิ โดวส์ 10
ตอบ 1. ปุ่ม Start menu เป็นปุ่มเริ่มตน้ การทำงานต่างๆ บนวินโดวส์
2. ไอคอนเดสก์ทอป แต่ละไอคอนบนหนา้ ตา่ งจะแสดงสัญลกั ษณแ์ ทนโปรแกรม ไฟล์ หรอื
โฟลเดอร์
3. พน้ื ท่ีเดสก์ทอป หรือโต๊ะทำงานใช้สำหรบั เรยี กใช้โปรแกรมหรือเอกสาร

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ - 31 -

4. ทาสก์บาร์แสดงไอคอนหรือโปรแกรมทกี่ ำลงั เปิดใช้งาน
5. พนื้ ทแ่ี สดงการแจง้ สถานะ
6. แสดงเวลาและวันท่ี
7. จงบอกลักษณะการใชง้ านเมาสต์ ่อไปนี้
7.1 คลิกเมาสป์ ุ่มซ้าย (Left Click)
ตอบ การคลิกเมาสป์ ุม่ ซ้าย 1 คร้งั เป็นการเลอื กคำสั่ง เลอื กไอคอน เลือกสว่ นตา่ งๆของ
โปรแกรมหรอื เลือกตำแหนง่ ของเมาส์
7.2 คลกิ เมาสป์ ุม่ ขวา (Right Click)
ตอบ การคลิกเมาสป์ มุ่ ขวา 1 คร้ัง เป็นการแสดงเมนยู ่อย (Dialog Box) เพื่อเลอื กคำสัง่ ตามที่
ตอ้ งการ
7.3 ดับเบิลคลกิ (Double Click)
ตอบ การดบั เบิลคลกิ เป็นการกดเมาส์ปมุ่ ซ้ายตดิ กนั 2 ครั้ง อยา่ งเรว็ ตามจงั หวะทีเ่ หมาะสมเพื่อ
เปดิ โปรแกรมจากไอคอน ตามที่เราต้องการใช้งาน
7.4 ลากแล้วปลอ่ ย (Drag and Drop)
ตอบ ลากแลว้ ปลอ่ ยเปน็ การเลือกวัตถุหรอื ยา้ ยวัตถุ เช่น ไอคอน ไฟล์ โฟลเดอร์ หรอื ข้อความ
8. การกำหนดความละเอยี ดหน้าจอวนิ โดวส์ มีขน้ั ตอนอย่างไร
ตอบ 1. คลกิ ปมุ่ เมาสด์ ้านขวาบนพืน้ ที่ว่างหนา้ จอเดสก์ทอป
2. เลือก Display Settings
3. เลือก Advanced Settings

4. เลือก
5. เลอื กรายละเอียดหนา้ จอ
6. กด Apply
7. กด Keep changes
8. กด Close
9. จงบอกขนั้ ตอนการย้ายไฟลห์ รอื โฟลเดอร์
ตอบ การยา้ ยไฟล์หรือโฟลเดอร์เปน็ การยา้ ยไฟล์หรอื โฟลเดอรจ์ ากจดุ หน่ึงไปยงั อีกจุดหนึ่งซ่ึงไฟล์
หรอื โฟลเดอร์ที่อย่ตู ำแหน่งต้นฉบับจะหายไป มขี นั้ ตอนดังน้ี
1. เลือกแท็บ Home
2. เลอื ก Display Settings
3. เลือกไดรฟ์ทจี่ ัดเกบ็ ขอ้ มูล
4. เลอื กไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการยา้ ย
5. กดป่มุ Cut หรือกด Ctrl+X
6. เลือกไดรฟ์ท่ีต้องการวางข้อมูล
7. กดปมุ่ Paste หรอื กด Ctrl+V

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพือ่ งานอาชพี - 32 -

10. เม่อื เลกิ ใชง้ านและต้องการปิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ต้องปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร
ตอบ การเลิกใชง้ านและการปดิ เคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ ปน็ การปิดเครอื่ งคอมพวิ เตอร์เม่ือเลิกใชง้ าน

ผ้ใู ชค้ วรปฏิบัตดิ งั นี้
1. เลอื ก
2. เลือก Power
3. เลือก Shut down

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพือ่ งานอาชพี - 33 -

แบบทดสอบหลังเรียนพร้อมเฉลยหน่วยท่ี 2

รหสั วิชา 2001-2001 ช่ือวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี
หน่วยกติ (ท-ป-น) 1-2-2
หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม
สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ สาขางาน คอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ

คำสงั่ จงทำเคร่อื งหมายกากบาท () หน้าข้อท่ถี ูกตอ้ งมากท่สี ุดเพยี งข้อเดียว
1. ทำหน้าท่ีควบคุมการทำงานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หมายถงึ ข้อใด

ก. ระบบปฏิบตั กิ าร
ข. ระบบคอมพิวเตอร์
ค. ระบบสารสนเทศ
ง. ระบบซอฟต์แวร์
2. OS ในระบบปฏบิ ตั ิการ ย่อมาจากข้อใด
ก. Operating Software
ข. Operating System
ค. Open System
ง. Open Software
3. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกับซอฟตแ์ วร์
ก. ซอฟตแ์ วร์ ประกอบไปดว้ ยซอฟต์แวร์ระบบ และซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์
ข. ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ ทำหน้าท่ีควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวรท์ ั้งหมด
ค. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ ทำหนา้ ท่เี ปน็ อปุ กรณ์ควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ง. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทำหน้าท่คี วบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์
4. ระบบปฏบิ ัตกิ ารแอปเปลิ แมค โอเอส เปน็ ระบบปฏิบตั ิการสำหรบั เครือ่ งในข้อใด
ก. เครือ่ งโอเอส
ข. เครือ่ งแอปเปลิ
ค. เครอื่ งแมคอนิ ทอช
ง. เคร่อื งแมค
5. ระบบปฏิบัติการ Mac OS เหมาะสมกับคอมพวิ เตอรท์ ี่ผลิตโดยบรษิ ทั ใด
ก. บริษัทแอปเปลิ
ข. บรษิ ัทแมคอนิ ทอช
ค. บริษัทแมค
ง. บริษทั ไมโครซอฟท์
6. ระบบปฏบิ ัตกิ ารลนิ กุ ซ์เป็นระบบปฏบิ ตั กิ ารที่มคี วามสามารถสงู ในดา้ นใด
ก. ด้านการตกแต่งทำส่ือส่ิงพิมพท์ ี่ต้องการความละเอียดสูง
ข. ด้านเดสก์ทอ็ ปพับลิชชง่ิ
ค. ดา้ นการทำงานพรอ้ มกนั หลายหลายโปรแกรม
ง. ด้านระบบเครือขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ - 34 -

7. ระบบปฏิบัตกิ ารทีเ่ รียกได้วา่ ถกู พัฒนาใหเ้ ป็นซอฟต์แวร์เสรีทั้งระบบ (Free Open Source) คือ
ระบบปฏบิ ัตกิ ารในขอ้ ใด

ก. Linux
ข. Windows
ค. Apple Mac OS
ง. DOS
8. ระบบปฏิบตั กิ ารทเ่ี รยี กได้วา่ เปน็ ระบบปฏิบตั กิ ารที่ครองความนิยมในตลาดคอมพวิ เตอร์สว่ นบคุ คลมาก
ที่สุด คอื ระบบปฏิบตั ิการใด
ก. Linux
ข. Windows
ค. Apple Mac OS
ง. DOS
9. ปัจจบุ นั ระบบปฏิบตั กิ ารวินโดวส์ เวอร์ชันล่าสดุ มีช่ือเรียกว่าอยา่ งไร
ก. ไมโครซอฟท์ วนิ โดวส์ 7
ข. ไมโครซอฟท์ วนิ โดวส์ 8
ค. ไมโครซอฟท์ วนิ โดวส์ 10
ง. ไมโครซอฟท์ วนิ โดวส์ X10
10. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับการใชเ้ มาส์
ก. การคลิกเมาสป์ ุ่มขวา 1 ครั้ง เลือกส่วนต่างๆของโปรแกรม
ข. การคลิกเมาสป์ ุ่มซ้าย 2 คร้ัง เป็นการดบั เบิลคลิก
ค. การดบั เบิลคลกิ เปน็ การเลือกเมนูย่อย
ง. การคลิกเมาสป์ ุ่มซา้ ย 1 คร้งั เป็นการเลอื กคำสัง่
11. การลากแล้วปล่อยเมาส์เป็นการเลอื กวตั ถหุ รอื ยา้ ยวตั ถุ เรยี กอีกอยา่ งหนึ่งวา่ อย่างไร
ก. Drag and Drop
ข. Double Click
ค. Left Click
ง. Right Click
12. ข้อใดหมายถึงเการเริ่มต้นเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ใหท้ ำการเปดิ โปรแกรมวนิ โดวส์ใหม่ เพอ่ื ให้คอมพวิ เตอร์
ทำงานอย่างสมบูรณ์
ก. Restart
ข. Shut down
ค. close Program
ง. Open Program
13. การจัดเรยี งไอคอนบนหนา้ จอเดสก์ทอปเปน็ การจดั เรียงไอคอนจาก A-Z ให้อตั โนมัติ คือการจดั เรยี งใน
ขอ้ ใด
ก. Large icon
ข. Auto arrange icons

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี - 35 -

ค. Align icons to grid
ง. Show desktop icons
14. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่ใช่การจัดเรียงไอคอนบนหน้าจอเดสก์ทอป
ก. การจดั เรยี งตามช่ือ
ข. การจดั เรยี งตามขนาด
ค. การจดั เรยี งตามชนดิ
ง. การจดั เรยี งตามตัวเลข
15. การกำหนดความละเอียดหนา้ จอเดสก์ทอปเมื่อคลกิ ขวาทีเ่ ดสก์ทอปแลว้ ตอ้ งเลือกข้อใด
ก. Personalize
ข. Display Settings
ค. Graphics properties
ง. Graphics options
16. การเปลยี่ นภาพแบก็ กราวด์เปน็ การเปลยี่ นภาพพืน้ หลังของหน้าจอเดสกท์ อปเมื่อคลิกขวาทเ่ี ดสก์ทอป
แลว้ ต้องเลอื กข้อใด
ก. Personalize
ข. Display Settings
ค. Graphics properties
ง. Graphics options
17. การเปลยี่ นภาพแบก็ กราวด์แลว้ เลอื กแสดงรูปภาพในลักษณะ Span หมายถงึ ข้อใด
ก. เปน็ การแสดงภาพตามขนาดจริง
ข. เปน็ การบีบภาพให้พอดีกับหน้าจอ
ค. เป็นการขยายภาพให้พอดีกับหน้าจอ
ง. เปน็ การแบ่งแสดงภาพเป็นหลายหน้าจอ
18. ถ้าต้องการเลือกหรือคลุมดำไฟล์งานทั้งหมดต้องเลือกข้อใด
ก. Ctrl+C
ข. Ctrl+A
ค. Shift+C
ง. Shift +A
19. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้องเก่ยี วกับโฟลเดอร์
ก. การสร้างโฟลเดอรเ์ ลือกไดรฟท์ ่ตี ้องการสร้างโฟลเดอร์ แลว้ กดปุ่ม New folder
ข. การแก้ไขช่อื โฟลเดอร์เลือกไฟล์ทตี่ ้องการแก้ไขช่ือแล้วเลอื ก Rename
ค. ทำหนา้ ทเ่ี สมอื นกล่องข้อมูล เพือ่ เกบ็ ไฟล์เข้าไวด้ ้วยกนั อยา่ งเป็นหมวดหมู่ ข้อมลู งา่ ยต่อการ

คน้ หาและเรยี กใชง้ าน เรียกวา่ โฟลเดอร์
ง. โฟลเดอรเ์ รียกอีกอยา่ งหน่ึงว่าไอคอนใชเ้ ปน็ ทางลัดเพื่อเข้าสูโ่ ปรแกรม
20. Shut down หมายถงึ ข้อใด
ก. การปดิ โปรแกรมที่ใชง้ านในเครื่องคอมพวิ เตอร์
ข. การปิดเคร่อื งคอมพิวเตอร์

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชีพ - 36 -

ค. การ Boot เครื่องคอมพวิ เตอร์
ง. การอัพเดทเครื่องคอมพิวเตอร์

แผนการเรยี นร้หู นว่ ยท่ี 3

รหสั วชิ า 2001-2001 ช่ือวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หนว่ ยกิต (ท-ป-น) 1-2-2

หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม
สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ

เรื่อง การใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคำ จำนวนชว่ั โมงสอน 12

1. สาระสำคัญ
โปรแกรมประมวลผลคำเปน็ โปรแกรมที่ใชพ้ มิ พ์งานเอกสารท่ัวไป ผ้ใู ชส้ ามารถพิมพ์ บันทกึ

แก้ไขงานเอกสารได้อยา่ งรวดเรว็ ประหยัดเวลาในการปฏิบัติงาน ผู้ใชต้ ้องศึกษาวธิ กี ารใช้โปรแกรมอย่างถูก
วิธี เข้าใจการทำงานของโปรแกรม สามารถใช้เครอื่ งมอื ของโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง จะทำให้ผใู้ ช้
โปรแกรมสามารถปฏบิ ตั ิงานไดร้ วดเรว็ และเหมาะสมกบั งาน
2. งานประจำหน่วยการเรยี นรู้

ใบงานประจำหนว่ ย
3. สมรรถนะประจำหน่วยการเรียนรู้

3.1. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับการใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคำได้อยา่ งถูกต้อง
3.2. ใชเ้ ครือ่ งมือของโปรแกรมโปรแกรมประมวลผลคำได้อยา่ งถูกต้อง
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (สมรรถนะรายวิชา)
4.1 จุดประสงคท์ ่ัวไป

4.1.1 เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับโปรแกรมประมวลผลคำ บอกความหมาย
ความสำคัญของโปรแกรมประมวลผลคำ บอกส่วนประกอบของโปรแกรมประมวลผลคำ และอธิบายแท็บ
เครื่องมือของโปรแกรมประมวลผลคำได้

4.1.2 เพือ่ ให้มีทกั ษะในการสร้างเอกสาร บันทึกเอกสาร เปิดเอกสาร แสดงเอกสารใน
รูปแบบตา่ ง ๆ จดั หน้ากระดาษ ต้ังตำแหน่งแทบ็ การพมิ พ์ ลบขอ้ มลู คัดลอกข้อมลู พมิ พ์ทบั ขอ้ มูล กำหนด
รูปแบบกระดาษ ปรบั ระยะห่างระหวา่ งบรรทัด จดั รปู แบบขอ้ ความ ปรบั แตง่ รูปแบบตัวอักษร เปลยี่ นขนาด
ตวั อักษร กำหนดตัวอักษรหนา ตวั อกั ษรเอยี ง ตวั อักษรขีดเส้นใต้ ตกแต่งขอ้ ความ สร้างตาราง ปรบั ขนาด
ตาราง แทรกตาราง ผสานเซลลแ์ ละการแยกเซลล์ ลบคอลัมน์และแถว ลบเซลล์ จดั ตำแหน่งขอ้ ความใน
ตาราง แทรกภาพประกอบได้

4.2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม
4.2.1. อธบิ ายความหมายของโปรแกรมประมวลผลคำได้
4.2.2. บอกความสำคญั ของโปรแกรมประมวลผลคำได้
4.2.3. เรยี กใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำได้
4.2.4. บอกสว่ นประกอบของโปรแกรมประมวลผลคำได้
4.2.5. อธิบายแถบเครอื่ งมือของโปรแกรมประมวลผลคำได้
4.2.6. ออกจากโปรแกรมประมวลผลคำได้
4.2.7. สรา้ งเอกสารใหมไ่ ด้

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชีพ - 40 -

4.2.8. บนั ทกึ เอกสารได้
4.2.9. เปิดเอกสารได้
4.2.10. จดั หน้ากระดาษได้
4.2.11. ลบขอ้ มูลได้
4.2.12. คัดลอกข้อมูลได้
4.2.13. กำหนดรูปแบบกระดาษได้
4.2.14. จัดรปู แบบข้อความได้
4.2.15. สรา้ งตารางได้
4.2.16. ปรับขนาดตารางได้
4.2.17. แทรกตารางได้
4.2.18. ผสานเซลลแ์ ละการแยกเซลลไ์ ด้
4.2.19. ลบคอลมั นแ์ ละแถวได้
4.2.20. จดั ตำแหน่งขอ้ ความในตารางได้
4.2.21. แทรกภาพประกอบได้
4.2.22. แทรกแผนภูมไิ ด้
4.2.23. มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ ม และมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5. สาระการเรยี นรู้
5.1. ความหมายของโปรแกรมประมวลผลคำ
5.2. ความสำคญั ของโปรแกรมประมวลผลคำ
5.3. การเรยี กใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคำ
5.4. ส่วนประกอบของโปรแกรมประมวลผลคำ
5.5. แถบเครอ่ื งมอื ของโปรแกรมประมวลผลคำ
5.6. การออกจากโปรแกรมประมวลผลคำ
5.7. การสร้างเอกสารใหม่
5.8. การบันทกึ เอกสาร
5.9. การเปดิ เอกสาร
5.10. การจัดหนา้ กระดาษ
5.11. การลบข้อมูล
5.12. การคัดลอก
5.13. การกำหนดรปู แบบกระดาษ
5.14. การจัดรปู แบบข้อความ
5.15. การสรา้ งตาราง
5.16. การปรบั ขนาดตาราง
5.17. การแทรกตาราง
5.18. การผสานเซลลแ์ ละการแยกเซลล์
5.19. การลบคอลัมน์และแถว

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ - 41 -

5.20. การจัดตำแหนง่ ข้อความในตาราง
5.21. การแทรกภาพประกอบ
5.22. การแทรกแผนภมู ิ
6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้

6.1 ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกีย่ วกบั โปรแกรมประมวลผลคำ บอกความหมาย ความสำคัญของ

โปรแกรมประมวลผลคำ บอกส่วนประกอบของโปรแกรมประมวลผลคำ และอธบิ ายแท็บเครอ่ื งมอื ของ
โปรแกรมประมวลผลคำ

6.2 ขน้ั สอน
1. นักเรยี นศึกษาเอกสารประกอบการสอน เร่ือง การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ
2. ครูอธบิ ายเนื้อหาเพ่มิ เติม เรอ่ื ง การสร้างเอกสาร บนั ทึกเอกสาร เปิดเอกสาร แสดง

เอกสารในรูปแบบตา่ งๆ จัดหน้ากระดาษ ตงั้ ตำแหนง่ แท็บการพิมพ์ ลบข้อมูล คัดลอกข้อมลู พมิ พท์ บั
ข้อมลู กำหนดรูปแบบกระดาษ ปรบั ระยะหา่ งระหว่างบรรทดั จดั รูปแบบข้อความ ปรับแตง่ รูปแบบ
ตัวอักษร เปล่ียนขนาดตวั อักษร กำหนดตวั อักษรหนา ตวั อักษรเอยี ง ตวั อกั ษรขีดเสน้ ใต้ ตกแต่งข้อความ
สร้างตาราง ปรบั ขนาดตาราง แทรกตาราง ผสานเซลล์และการแยกเซลล์ ลบคอลมั น์และแถว ลบเซลล์ จัด
ตำแหน่งข้อความในตาราง แทรกภาพประกอบ

3. ครสู าธติ การปฏบิ ัติการใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำ เรื่อง การสร้างเอกสารใหม่
บันทกึ เอกสาร เปดิ เอกสาร แสดงเอกสารในรปู แบบต่างๆ จดั หนา้ กระดาษ ตง้ั ตำแหน่งแทบ็ การพิมพ์ ลบ
ข้อมลู คัดลอกข้อมูล พิมพท์ ับข้อมูล กำหนดรปู แบบกระดาษ ปรบั ระยะห่างระหวา่ งบรรทัด จัดรปู แบบ
ข้อความ ปรบั แต่งรูปแบบตัวอกั ษร เปลีย่ นขนาดตวั อักษร กำหนดตวั อักษรหนา ตวั อักษรเอยี ง ตวั อกั ษรขีด
เสน้ ใต้ ตกแตง่ ข้อความ สรา้ งตาราง ปรับขนาดตาราง แทรกตาราง ผสานเซลล์และการแยกเซลล์ ลบ
คอลัมน์และแถว ลบเซลล์ จัดตำแหน่งข้อความในตาราง แทรกภาพประกอบ

4. นักเรยี นฝึกปฏิบตั กิ ารใช้โปรแกรมประมวลผลคำ เรื่อง การสรา้ งเอกสารใหม่ การบันทกึ
เอกสาร การเปิดเอกสาร การแสดงเอกสารในรูปแบบต่างๆ การจัดหน้ากระดาษ การตั้งตำแหน่งแทบ็
การพมิ พ์ การป้อนข้อมลู การเลอื กและลบขอ้ มลู การคดั ลอกและย้ายข้อมูล การแทรกและพิมพ์ทบั
ข้อมลู

5. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด
6.3 ขัน้ สรุป

1. นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรุปเนือ้ หาวิชา เรือ่ ง การสร้างเอกสารใหม่ การบันทึกเอกสาร
การเปดิ เอกสาร การแสดงเอกสารในรปู แบบต่างๆ การจัดหน้ากระดาษ การตัง้ ตำแหน่งแทบ็ การพิมพ์
การปอ้ นขอ้ มูล การเลอื กและลบขอ้ มลู การคัดลอกและย้ายข้อมลู การแทรกและพิมพ์ทับขอ้ มลู

2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน
7. สื่อการเรียนรู้

7.1 หนงั สอื เรียน
7.2 ใบความรู้
7.3 แบบฝึกหัด

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอื่ งานอาชพี - 42 -

7.4 แบบทดสอบหลงั เรียน วธิ วี ดั และประเมิน เกณฑ์
7.5 แบบสังเกตพฤติกรรม การประเมนิ
7.6 คอมพวิ เตอร์ ตรวจแบบฝกึ หดั ไดค้ ะแนน
8. หลักฐานการเรียนรู้ ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป
8.1 ใบงาน ถูก 1 คะแนน
8.2 รายงาน ไมถ่ ูก 0 คะแนน ได้คะแนน
8.3 แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝึกปฏบิ ตั ิ รอ้ ยละ 75 ขึ้นไป
9. การวดั ผลและประเมนิ ผล ข้อละ 1 คะแนน
เคร่ืองมือการประเมนิ ถกู 1 คะแนน ได้คะแนน
แบบฝึกหดั ไมถ่ ูก 0 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ข้อละ 1 คะแนน ได้คะแนน
ถูก 1 คะแนน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
แบบทดสอบหลงั เรียน ไมถ่ ูก 0 คะแนน
สังเกตพฤตกิ รรม
แบบสังเกตพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม ดี 2 คะแนน
จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึง พอใช้ 1 คะแนน
ประสงค์ ปรับปรุง 0 คะแนน

10. แหล่งการเรียนรู้
10.1 ห้องสมุด
10.2 ห้องอินเตอรเ์ น็ต

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 43 -

11. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
บนั ทกึ หลังสอน

ข้อสรปุ หลังการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
แนวทางแกป้ ัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอื่ งานอาชพี - 44 -

แบบฝึกหัดพร้อมเฉลยหน่วยท่ี 3

รหัสวชิ า 2001-2001 ชอื่ วิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ
หนว่ ยกติ (ท-ป-น) 1-2-2
หลักสูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม
สาขาวิชา คอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ สาขางาน คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ
คำส่ัง จงตอบคำถามต่อไปนใี้ หถ้ กู ต้อง
1. จงบอกความหมายของโปรแกรมประมวลผลคำ
ตอบ โปรแกรมท่ีใช้สำหรับพิมพ์เอกสาร เช่น เอกสารทางราชการ บันทึกรายงาน จดหมาย
บทความวิชาการ เอกสารประชาสมั พนั ธ์ หนงั สอื ประเภทต่างๆ เป็นตน้
2. การเรยี กใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำมขี ้ันตอนอย่างไร
ตอบ มี 4 ขน้ั ตอน ดงั น้ี
1. คลิกปมุ่ Start
2. เลือก ปุ่ม Word 2016
3. เลือกเอกสารเปล่า
3. การสร้างเอกสารใหม่มขี ้ันตอนอย่างไร
ตอบ มีขนั้ ตอนดงั นี้
1. คลกิ ป่มุ ไฟล์
2. เลอื กใหม่
3. เลอื กรูปแบบเอกสาร
4. การบันทึกเอกสารใหม่มีข้ันตอนอยา่ งไร
ตอบ มขี นั้ ตอนดงั น้ี
1. คลิกแทบ็ ไฟล์
2. คลิกป่มุ บนั ทึกเป็น
3. เลอื กแหลง่ ข้อมูลทีต่ ้องการบันทึก
4. เลือกไดรฟทต่ี ้องการ
5. ตั้งชอ่ื ไฟล์
6. เลอื กนามสกุลที่ต้องการ
7. บนั ทกึ
5. ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งวิธีการสรา้ งตารางมาอย่างน้อย 1 ตวั อย่าง
ตอบ วธิ กี ารสรา้ งตารางโดยการเลือกจำนวนแถวและคอลัมนด์ ้วยตนเอง
1. เลอื กแทบ็ แทรก
2. เลอื กปุ่มตาราง
3. เลอื กแทรกตาราง
4. เลอื กจำนวนแถวและคอลัมนต์ ามท่ตี ้องการ
5. ตกลง
6. การแทรกตารางมขี ัน้ ตอนอยา่ งไร

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพือ่ งานอาชพี - 45 -

ตอบ 1. คลุมดำแถวหรอื คอลมั น์ท่ีตอ้ งการแทรก
2. เลือกแท็บเค้าโครง
3. เลอื กปุ่มการแทรกตาราง ซึง่ สามารถแทรกได้ท้งั ด้านซ้ายหรอื ด้านขวา ดา้ นบนหรือดา้ นลา่ ง
ของตาราง
7. การแทรกรูปภาพมขี น้ั ตอนอยา่ งไร
ตอบ มีขน้ั ตอนดังน้ี
1. เลือกตำแหนง่ ที่ตอ้ งการวางภาพ
2. เลือกแท็บแทรก
3. เลอื กปมุ่ รปู ภาพ
4. เลือกแหล่งเกบ็ ข้อมูล
5. เลอื กภาพทีต่ ้องการ
6. แทรก
8. การแทรก SmartArt เหมาะสมกับการแสดงขอ้ มลู ในลักษณะใด
ตอบ เหมาะสมกับการนำเสนอลำดับขั้นตอน การแบ่งหมวดหมู่ หรอื ผงั ความคิด
9. การแทรก SmartArt มีขั้นตอนอยา่ งไร
ตอบ การแทรก SmartArt มีขั้นตอนดงั นี้
1. เลือกแทบ็ แทรก
2. เลอื กปมุ่ SmartArt
3. เลือกรูปแบบ SmartArt ท่ีเราต้องการ
4. ตกลง
10. การแทรกแผนภมู มิ ีขนั้ ตอนอย่างไร
ตอบ การแทรกแผนภมู ิมีขน้ั ตอนดงั น้ี
1. เลือกแทบ็ แทรก
2. เลือกปุ่มแผนภมู ิ
3. เลือกประเภทของแผนภูมิ
4. เลือกชนิดของแผนภูมิ
5. ตกลง
6. โปรแกรม Excel จะเปิดข้นึ มาพร้อมกบั ข้อมูลตัวอย่าง ผใู้ ชส้ ามารถกรอกข้อมลู ใหม่ไดต้ าม
ความตอ้ งการ

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 46 -

11. จงอธิบายส่วนประกอบของโปรแกรมต่อไปนที้ ำหน้าที่อะไร 45
ตอบ

3
12

หมา1ยเลข14 แบบ13อักษร (Ct1rl2+Shi1ft1+F) 10 9ทำหนา้ ที่ 8 7 6
2 ขนาดแบบอกั ษร (Ctrl+Shift+P)
3 เพิม่ ลด ขนาดแบบอักษร(Ctrl+> หรอื Ctrl+<)
4 เปลีย่ นตวั พิมพ์
5 ลา้ งการจัดรปู แบบทงั้ หมด
6 สีแบบอกั ษร
7 สีเน้นข้อความ
8 ข้อความเอฟเฟ็กตแ์ ละตัวพิมพ์
9 ตัวยก (Ctrl+Shift++)
10 ตัวห้อย (Ctrl+=)
11 ขดี ทับ
12 ขีดเส้นใต้ (Ctrl+U)
13 ตวั เอียง (Ctrl+I)
14 ตัวหนา (Ctrl+B)

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ - 47 -

แบบทดสอบหลังเรยี นพรอ้ มเฉลยหน่วยที่ 3

รหสั วชิ า 2001-2001 ชอ่ื วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี
หนว่ ยกิต (ท-ป-น) 1-2-2
หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวชิ า คอมพิวเตอร์ธรุ กจิ สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ

คำส่งั จงทำเคร่อื งหมายกากบาท () หนา้ ขอ้ ท่ถี กู ต้องมากทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว
1. โปรแกรมประมวลผลคำทำหน้าท่อี ะไรดีที่สุด

ก. คำนวณตัวเลข
ข. จัดเกบ็ ข้อมลู
ค. จดั พมิ พเ์ อกสาร
ง. ตกแตง่ ภาพ
2. โปรแกรมประมวลผลคำมีความสำคญั ตรงกับข้อใด
ก. บรหิ ารจดั การกับตวั เลขได้
ข. บริหารจัดการรปู ภาพได้
ค. บรหิ ารจดั การขอ้ มลู ได้
ง. บริหารจัดการเอกสารได้
3. ข้อใดต่อไปน้ีไมใ่ ช่คุณสมบัตขิ องโปรแกรมประมวลผลคำ
ก. สามารถพิมพ์เอกสารได้อยา่ งสะดวกรวดเร็วและมีประสทิ ธภิ าพ
ข. สามารถบันทึกขอ้ มูลได้อยา่ งรวดเร็ว
ค. สามารถเรยี กใชข้ ้อมูลเก่าเพื่อนำมาแกไ้ ขไดง้ ่ายไม่ต้องเสียเวลาในการทำงานซำ้ ซอ้ น
ง. สามารถแสดงผลขอ้ มูลในรูปแบบภาพ แสง สี เสียงได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. แทบ็ หน้าแรกประกอบด้วยคำส่ังใด
ก. ปรบั ขนาดตัวอกั ษร, จัดตำแหน่งข้อความ
ข. แทรกรูปภาพ, กำหนดหัวกระดาษ
ค. ส่งจดหมาย, แทรกกราฟ
ง. แทรกตาราง, กำหนดย่อหน้า
5. การออกจากโปรแกรมประมวลผลคำตอ้ งกดปมุ่ ใด

ก.

ข.

ค.

ง.
6. ข้อใดต่อไปน้ีคือความหมายของคำว่า รบิ บอน (Ribbon) ในโปรแกรมประมวลผลคำ

ก. แสดงชอ่ื เอกสารทใี่ ชง้ านอยู่
ข. แสดงเคร่ืองมือการใชง้ านตามแทบ็ เมนู
ค. แสดงการทำงานของโปรแกรม เช่น แสดงรายละเอยี ดของเอกสาร เครื่องมือย่อขยายเอกสาร

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 48 -

ง. แสดงชดุ คำสัง่ ต่าง ๆ ในการทำงานของโปรแกรม
7. ถา้ ต้องการบนั ทึกเอกสารต้องกดปุ่มใด

ก. Ctrl+S
ข. Alt+S
ค. Ctrl+A
ง. Alt+A
8. ถา้ ต้องการคัดลอกเอกสารตอ้ งกดปุ่มใด
ก. Ctrt+Copy
ข. Ctrt+C
ค. Ctrt+P
ง. Ctrt+V
9. ถ้าตอ้ งการวางเอกสารทีค่ ัดลอกต้องกดป่มุ ใด
ก. Ctrt+P
ข. Ctrt+C
ค. Ctrt+A
ง. Ctrt+V
10. ถ้าตอ้ งการลบข้อมลู ตอ้ งกดปมุ่ ใด
ก. End
ข. Delete
ค. Home
ง. Insert
11. ถา้ ต้องการเลอื กขนาดกระดาษจะต้องกดแทบ็ ใด
ก. แทบ็ แทรก
ข. แทบ็ หน้าแรก
ค. แท็บเคา้ โครง
ง. แท็บออกแบบ
12. การพมิ พ์หนังสือ เอกสารทางราชการใช้รปู แบบตัวอักษรในข้อใดต่อไปนี้
ก. CordiaUPC
ข. LilyUPC
ค. TH SarabunPSK
ง. KodchiangUPC

13. ปุม่ ทำหนา้ ทีอ่ ะไร
ก. กำหนดขดี เส้นใต้
ข. กำหนดตวั อกั ษรเอยี ง
ค. กำหนดตวั อกั ษรห้อย
ง. กำหนดตวั อักษรหนา

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ - 49 -

14. ปุ่ม ทำหนา้ ทอ่ี ะไร
ก. กำหนดขดี เส้นใต้
ข. กำหนดตัวอักษรเอียง
ค. กำหนดตวั อักษรห้อย
ง. กำหนดตวั อักษรหนา

15. ถ้าต้องการสร้างตารางต้องกดแท็บใด
ก. แท็บหนา้ แรก
ข. แทบ็ เค้าโครง
ค. แทบ็ แทรก
ง. แทบ็ มุมมอง

16. ปุ่ม ทำหนา้ ทีอ่ ะไร
ก. แทรกแผนภูมิ
ข. แทรกตาราง
ค. แทรกรปู รา่ ง
ง. แทรกรปู ภาพ

17. ปุม่ ทำหนา้ ท่อี ะไร

ก. จัดตำแหนง่ ชิดขวา

ข. จัดตำแหน่งชดิ ซ้าย

ค. จัดตำแหนง่ หน้าหลังเท่ากัน

ง. จดั ตำแหนง่ กงึ่ กลาง

18. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเก่ยี วกับการแทรกรปู ภาพ

ก. การแทรกรูปร่างเปน็ การนำรปู ภาพทีจ่ ดั เก็บในหน่วยความจำสำรองมาแทรกในเอกสาร

ข. การแทรกรูปภาพเปน็ การนำภาพในเคร่ืองคอมพิวเตอร์มาแทรกเทา่ นัน้

ค. การแทรกภาพออนไลนเ์ ป็นการนำภาพที่เก็บอยู่ในเวบ็ ไซตม์ าแทรก

ง. การแทรกรูปภาพต้องเลือกแทบ็ ออกแบบ

19. ถ้าตอ้ งการแทรกข้อมลู น้ี ต้องเลือกข้อใดตอ่ ไปน้ี

ก. แทรกรปู ภาพ

ข. แทรกรูปรา่ ง

ค. แทรกรูปทรง

ง. แทรกสญั ลกั ษณ์

20. ปุ่ม ทำหนา้ ทอี่ ะไร

ก. แทรกแผนภมู ิ

ข. แทรกตาราง

ค. แทรกรูปรา่ ง

ง. แทรกรูปภาพ

แผนการเรยี นร้หู น่วยที่ 4

รหัสวชิ า 2001-2001 ชื่อวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หน่วยกิต (ท-ป-น) 1-2-2

หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ สาขางาน คอมพิวเตอร์ธรุ กจิ

เร่ือง การใช้โปรแกรมตารางคำนวณ จำนวนชวั่ โมงสอน 12

1. สาระสำคญั
โปรแกรมตารางคำนวณเป็นโปรแกรมทเ่ี หมาะสำหรับในการคำนวณตัวเลขทั่วไป ผ้ใู ชโ้ ปรแกรม

สามารถสรา้ งตารางขอ้ มลู คำนวณตวั เลข ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและแมน่ ยำ นอกจากนี้โปรแกรมยังสามารถ
สรา้ งแผนภูมิได้อย่างเหมาะสม ทำใหผ้ ู้ใช้โปรแกรมสามารถคำนวณข้อมลู และนำเสนอข้อมลู ในรปู แบบของ
แผนภมู ิไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผูใ้ ชโ้ ปรแกรมจะต้องศึกษาการใช้เครื่องมือของโปรแกรมใหถ้ กู ตอ้ งจะทำให้
การทำงานมคี วามสะดวกรวดเร็วมากยิง่ ขน้ึ
2. งานประจำหน่วยการเรยี นรู้

ใบงานประจำหนว่ ย
3. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

3.1. แสดงความร้พู ื้นฐานเกยี่ วกับการใชโ้ ปรแกรมตารางคำนวณ
3.2. ใชส้ ตู รคำนวณตวั เลขในตารางได้ถูกต้อง
3.3. สรา้ งแผนภูมินำเสนอข้อมูลได้ถูกต้อง
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ (สมรรถนะรายวิชา)
4.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป

4.1.1 เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการสรา้ งตาราง การเลือกตาราง การปรับขนาด
ตาราง การแทรกตาราง การแยกตาราง การแทรกเซลล์ว่างในตาราง การผสานเซลล์และการแยกเซลล์
การลบคอลัมนห์ รอื แถว การลบเซลล์ การจัดตำแหนง่ ข้อความในตาราง การเรยี งลำดับตาราง การแปลง
ตาราง การจดั รปู แบบตาราง การคำนวณคา่ ตวั เลขในตาราง

4.1.2 เพื่อให้มีทกั ษะการสรา้ งตาราง การเลอื กตาราง การปรับขนาดตาราง การแทรก
ตาราง การแยกตาราง การแทรกเซลล์วา่ งในตาราง การผสานเซลล์และการแยกเซลล์ การลบคอลัมน์
หรือแถว การลบเซลล์ การจัดตำแหนง่ ข้อความในตาราง การเรียงลำดบั ตาราง การแปลงตาราง การ
จดั รูปแบบตาราง การคำนวณคา่ ตัวเลขในตาราง

4.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
4.2.1. บอกหลักการของโปรแกรมตารางทำการเพื่อการคำนวณได้
4.2.2. บอกความสามารถของโปรแกรมตารางทำการเพ่ือการคำนวณได้

4.2.3. บอกหนา้ ทีข่ องหน้าต่างโปรแกรมตารางทำการเพื่อการคำนวณได้
4.2.4. ใชง้ านแทบ็ ริบบอนได้
4.2.5. เข้าสู่โปรแกรมตารางทำการเพอื่ การคำนวณได้
4.2.6. สร้างสมุดงานใหม่ได้

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ - 54 -

4.2.7. บนั ทกึ สมดุ งานได้
4.2.8. เปิดสมุดงานได้
4.2.9. กำหนดรปู แบบกระดาษได้
4.2.10. ออกจากโปรแกรมได้
4.2.11. บอกประเภทและชนิดของข้อมลู ได้
4.2.12. ปรบั ขนาดของแถวและคอลัมน์ได้
4.2.13. คัดลอกข้อมูลได้
4.2.14. ยา้ ยขอ้ มูลได้
4.2.15. ลบขอ้ มูลได้
4.2.16. กำหนดรปู แบบและขนาดตัวอักษรได้
4.2.17. แทรกแถวและคอลัมน์ได้
4.2.18. เพิ่มแผน่ งานได้
4.2.19. เปล่ยี นชื่อแผน่ งานได้
4.2.20. ลบแผ่นงานได้
4.2.21. ใส่เส้นขอบให้กับตารางได้
4.2.22. ผสานเซลล์ได้
4.2.23. ใช้สูตรและฟงั กช์ นั ในการคำนวณได้
4.2.24. สรา้ งแผนภูมิได้
4.2.25. แทรกภาพประกอบลงในตารางได้
4.2.26. มคี ุณธรรมจริยธรรม คา่ นิยม และมีคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5. สาระการเรยี นรู้
5.1. หลกั การของโปรแกรมตารางทำการ
5.2. ความสามารถของโปรแกรมตารางทำการเพื่อการคำนวณ
5.3. หน้าตา่ งของโปรแกรมตารางทำการเพื่อการคำนวณ
5.4. การใช้งานแทบ็ รบิ บอน
5.5. การเข้าสู่โปรแกรมตารางทำการเพื่อการคำนวณ
5.6. การสรา้ งสมดุ งานใหม่
5.7. การบันทึกสมุดงาน
5.8. การเปิดสมดุ งาน
5.9. การกำหนดรูปแบบกระดาษ
5.10. การออกจากโปรแกรม
5.11. ประเภทและชนดิ ของขอ้ มลู
5.12. การปรับขนาดของแถวและคอลมั น์
5.13. การคดั ลอกข้อมลู
5.14. การย้ายขอ้ มูล
5.15. การลบขอ้ มลู

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ - 55 -

5.16. การกำหนดรปู แบบและขนาดตวั อักษร
5.17. การแทรกแถวและคอลัมน์
5.18. การเพ่ิมแผ่นงาน
5.19. การเปลีย่ นช่อื แผ่นงาน
5.20. การลบแผ่นงาน
5.21. การใสเ่ ส้นขอบให้กับตาราง
5.22. การผสานเซลล์
5.23. การใชส้ ูตรและฟงั กช์ ันในการคำนวณ
5.24. การสร้างแผนภูมิ
5.25. การแทรกภาพประกอบลงในตาราง

6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
6.1 ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน
ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับหลักการของโปรแกรมตารางคำนวณ ความสามารถของ

โปรแกรมตารางคำนวณ การสร้างตาราง การเลือกตาราง การปรบั ขนาดตาราง การแทรกตาราง การแยก
ตาราง การแทรกเซลลว์ ่างในตาราง การผสานเซลลแ์ ละการแยกเซลล์ การลบคอลมั น์หรือแถว การลบ
เซลล์ การจดั ตำแหน่งข้อความในตาราง การเรยี งลำดบั ตาราง การแปลงตาราง การจัดรปู แบบตาราง
การคำนวณค่าตวั เลขในตาราง

6.2 ข้ันสอน
6.2.1. นกั เรยี นศึกษาเอกสารประกอบการสอน เรอ่ื ง การใชโ้ ปรแกรมตารางคำนวณ
6.2.2. ครอู ธบิ ายเน้ือหาเพ่ิมเติม เรอ่ื ง การสร้างตาราง การเลอื กตาราง การปรับขนาด

ตาราง การแทรกตาราง การแยกตาราง การแทรกเซลลว์ ่างในตาราง การผสานเซลล์และการแยกเซลล์
การลบคอลัมน์หรอื แถว การลบเซลล์ การจัดตำแหนง่ ข้อความในตาราง การเรียงลำดับตาราง การแปลง
ตาราง การจดั รูปแบบตาราง การคำนวณค่าตัวเลขในตาราง

6.2.3. ครสู าธติ การปฏิบตั ิเรอ่ื งการสร้างตาราง การใช้งานแท็บรบิ บอน (Tap Ribbon)
การเลอื กตาราง การปรบั ขนาดตาราง การแทรกตาราง การแยกตาราง การแทรกเซลลว์ ่างในตาราง การ
ผสานเซลลแ์ ละการแยกเซลล์ การลบคอลมั นห์ รือแถว การลบเซลล์ การจดั ตำแหนง่ ข้อความในตาราง
การเรยี งลำดบั ตาราง การแปลงตาราง การจดั รูปแบบตาราง การคำนวณคา่ ตวั เลขในตาราง

6.2.4. นกั เรยี นฝกึ ปฏิบตั ิเร่ือง การเขา้ สโู่ ปรแกรมตารางคำนวณ การสร้างตาราง การ
เลอื กตาราง การปรับขนาดตาราง การแทรกตาราง การแยกตาราง การแทรกเซลล์ว่างในตาราง การ
ผสานเซลล์และการแยกเซลล์ การลบคอลัมนห์ รือแถว การลบเซลล์ การจดั ตำแหน่งข้อความในตาราง
การเรยี งลำดับตาราง การแปลงตาราง การจดั รูปแบบตาราง การคำนวณคา่ ตัวเลขในตาราง

6.2.5. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด
6.3 ข้ันสรปุ

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 56 -

6.3.1. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปเน้อื หาวิชาเรอื่ ง หลักการของโปรแกรมตารางคำนวณ
ความสามารถของโปรแกรมตารางคำนวณ การสรา้ งตาราง การเลอื กตาราง การปรบั ขนาดตาราง การ
แทรกตาราง การแยกตาราง การแทรกเซลลว์ า่ งในตาราง การผสานเซลลแ์ ละการแยกเซลล์ การลบ
คอลมั น์หรือแถว การลบเซลล์ การจัดตำแหน่งข้อความในตาราง การเรยี งลำดับตาราง การแปลงตาราง
การจัดรูปแบบตาราง การคำนวณค่าตัวเลขในตาราง

6.3.2. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น
7. สือ่ การเรยี นรู้

7.1 หนังสือเรียน
7.2 ใบความรู้
7.3 แบบฝึกหดั
7.4 แบบทดสอบหลังเรียน
7.5 แบบสังเกตพฤตกิ รรม
7.6 คอมพวิ เตอร์
8. หลักฐานการเรยี นรู้
8.1 ใบงาน
8.2 แบบฝกึ หัด

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ - 57 -

9. การวัดผลและประเมินผล วธิ ีวดั และประเมิน เกณฑ์
เครอื่ งมอื การประเมิน การประเมนิ
ตรวจแบบฝึกหดั ได้คะแนน
แบบฝกึ หดั ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขึ้นไป
ถูก 1 คะแนน
แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ไม่ถูก 0 คะแนน ไดค้ ะแนน
ตรวจแบบฝึกปฏิบัติ รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป
แบบทดสอบหลงั เรยี น ข้อละ 1 คะแนน
ถกู 1 คะแนน ได้คะแนน
แบบสงั เกตพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม ไม่ถูก 0 คะแนน ร้อยละ 75 ข้ึนไป
จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
ประสงค์ ข้อละ 1 คะแนน ได้คะแนน
10. แหล่งการเรยี นรู้ ถูก 1 คะแนน ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
ไมถ่ ูก 0 คะแนน
10.1 หอ้ งสมดุ สงั เกตพฤตกิ รรม
10.2 ห้องอนิ เตอร์เน็ต ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรุง 0 คะแนน

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ - 58 -

11. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
บนั ทกึ หลังสอน

ข้อสรปุ หลังการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
แนวทางแกป้ ัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชีพ - 59 -

แบบฝึกหดั พร้อมเฉลยหน่วยท่ี 4

รหสั วิชา 2001-2001 ชอื่ วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หนว่ ยกิต (ท-ป-น) 1-2-2
หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ สาขางาน คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ
คำสง่ั จงตอบคำถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ ูกต้อง
1. จงบอกหลักการทำงานของโปรแกรมตารางคำนวณ
ตอบ หลักการทำงานของโปรแกรมตารางคำนวณมีลกั ษณะเป็นช่องตารางซึ่งประกอบดว้ ย
คอลัมน์ และแถวมีคอลมั น์ต้ังแต่ คอลัมน์ A จนถงึ คอลัมน์ XFD มจี ำนวนท้งั หมด 16,384 คอลมั น์
และมจี ำนวนแถวทั้งหมด 1,048,576 แถว โปรแกรมตารางคำนวณเปน็ โปรแกรมประเภท
Spreadsheet ไฟลข์ อง Excel เรยี กวา่ สมดุ งานหรือเวริ ก์ บคุ๊ (Workbook) และในแตล่ ะหน้าเรยี กว่า
แผ่นงานหรอื เวริ ก์ ชตี (Worksheet) สมุดงานหนึง่ สมุดงานมแี ผ่นงานไดห้ ลายแผน่ งานขนึ้ อยกู่ ับ
หน่วยความจำของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์แตล่ ะแผน่ งานจะแบ่งออกเปน็ ชอ่ งตารางเรยี กวา่ เซลล์ (Cell) แตล่ ะ
เซลล์สามารถบรรจุข้อมลู ต่าง ๆ ได้ เชน่ พมิ พ์ข้อความ พิมพต์ ัวเลข เป็นตน้ แตถ่ ้าต้องการอ้างองิ ข้อมูล
จะอา้ งองิ ถึงช่องตารางโดยการระบุ คอลัมน์และแถว เชน่ B5 หมายถึง คอลมั น์ B และ แถวที่ 5
2. โปรแกรมตารางคำนวณมีความสามารถอะไรบา้ ง
ตอบ โปรแกรมตารางคำนวณมคี วามสามารถดังต่อไปนี้
1. สามารถคำนวณตวั เลขต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. สามารถใช้สูตรและฟังกช์ ัน คำนวณและหาค่าต่าง ๆ ได้
3. สามารถสรา้ งงานตารางไดส้ ะดวกรวดเร็ว
4. สามารถจดั เก็บข้อมูลเป็นฐานขอ้ มลู ได้
5. สามารถสร้างแผนภมู ิไดห้ ลายรูปแบบ
6. สามารถจดั เรียงข้อมูล และกรองข้อมูลได้
7. สามารถจัดแต่งตารางข้อมูลและจดั แต่งแผนภมู ไิ ด้อย่างสวยงาม
8. สามารถออกแบบรปู แบบตัวอักษรได้ตามต้องการ
3. แทบ็ รบิ บอนประกอบด้วยแทบ็ ใดบ้าง
ตอบ 1. แท็บหน้าแรก เป็นกลมุ่ คำสง่ั ท่ีใชจ้ ดั รูปแบบข้อความ การแสดงผล การคักลอก การ
จดั ตำแหน่ง เป็นต้น
2. แท็บแทรก เป็นกล่มุ คำสั่งท่ีใชแ้ ทรก รปู ภาพ ตาราง แผนภมู ิ สญั ลักษณ์ รปู วาด สมการ
อกั ษรศลิ ป์ เปน็ ตน้
3. แท็บเค้าโครงหน้ากระดาษ เป็นกลุม่ คำสั่งท่ใี ช้ต้งั ค่าหน้ากระดาษ เช่น กำหนดขนาดกระดาษ
ระยะขอบกระดาษ การปรบั มาตราส่วน การจัดเรยี ง เปน็ ตน้
4. แท็บสูตร เปน็ กล่มุ คำสงั่ ทีใ่ ช้สร้างสตู รคำนวณ เช่น แทรกฟังก์ชัน การตรวจสอบสูตร การ
คำนวณ เป็นต้น
5. แท็บข้อมลู เป็นกลุม่ คำส่ังทใี่ ชใ้ นการจดั การข้อมลู เชน่ การเรยี งข้อมูล การกรองขอ้ มลู การ
ตรวจสอบข้อมูล เปน็ ตน้

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชีพ - 60 -

6. แทบ็ รีวิว เป็นกลุม่ คำสงั่ ที่ใช้ในการตรวจสอบและป้องกันสมุดงาน เชน่ การตรวจพสิ จู น์อกั ษร
ขอ้ คิดเห็น การป้องกันสมุดงาน เป็นต้น

7. แท็บมุมมอง เป็นกลุ่มคำส่ังทใี่ ช้ในการปรับมมุ มองสมดุ งาน เชน่ กำหนดรปู แบบมมุ มอง การ
แสดงมุมมอง การย่อขยายหนา้ กระดาษ เป็นต้น
4. จงบอกขั้นตอนการเข้าใชง้ านโปรแกรมตารางคำนวณ

ตอบ การเข้าส่โู ปรแกรมตารางคำนวณสามารถเขา้ โปรแกรมไดห้ ลายวธิ ีขึน้ อยู่กับผูใ้ ชโ้ ปรแกรม
ปฏิบัตไิ ด้หลายวิธี ยกตวั อย่างดงั นี้

วิธีที่ 1 ดับเบิลคลิกทปี่ ุ่ม ซง่ึ เป็น Shortcut Icon ท่ีอย่บู น Desktop
วิธีที่ 2 ปฏบิ ัติไดด้ ังนี้

1. คลกิ ปุม่
2. คลิกปุ่ม Excel 2016
3. เลอื กสมดุ งานเปล่าหรือเลอื กเท็มเพลตออนไลนต์ ามที่ต้องการ
4. โปรแกรมจะสรา้ งไฟล์ชอื่ “เวิรก์ บกุ๊ 1.xlsx” ให้โดยอตั โนมตั ิ
5. จงบอกหลักการบนั ทึกสมุดงานในโปรแกรมตารางคำนวณ
ตอบ หลักในการบนั ทึกสมุดงานการต้ังช่อื สมุดงานคือความยาวของตวั อักษรจะต้องยาวไมเ่ กิน
256 ตัว ใช้ตัวอกั ษรหรือสญั ลักษณ์ต่าง ๆ ไดย้ กเวน้ สญั ลักษณ์ /, \, *, <, > และ | การบนั ทึกสมุด
งานมี 2 ลักษณะ คือ ลักษณะที่ 1 บนั ทึกทับสมุดงานเดมิ ลักษณะท่ี 2 ตง้ั ชอื่ สมุดงานใหม่
ลกั ษณะท่ี 1 เป็นการบนั ทึกสมุดงานเดิมทจี่ ัดทำมาแล้วแต่ผู้ใชโ้ ปรแกรมนำมาแกไ้ ขข้อมลู ใหม่
สามารถกดปุ่ม บนแถบเครื่องมือดว่ นหรือกดปุ่ม Ctrl+S โปรแกรมจะทำการบนั ทึกทับขอ้ มลู เดิม
ทันที
ลกั ษณะท่ี 2 ผใู้ ชโ้ ปรแกรมไมต่ ้องการบันทึกทบั ขอ้ มูลเดิมตอ้ งการตงั้ ชือ่ สมุดงานใหม่หรือไม่เคย
บันทกึ มากอ่ น สามารถปฏิบัตไิ ด้ดงั นี้
1. คลกิ แท็บ ไฟล์ หรอื กดปุ่ม Ctrl+S
2. คลกิ ปมุ่ บนั ทกึ เปน็
3. เลอื กแหลง่ ข้อมลู
4. คลกิ ป่มุ เรียกดู
5. เลอื กแหล่งข้อมลู ทตี่ ้องการบนั ทึก
6. พมิ พ์ชอ่ื สมุดงานตามที่ต้องการ
7. บันทกึ
6. ขอ้ มูลในโปรแกรมตารางคำนวณมีกีป่ ระเภท มอี ะไรบ้าง
ตอบ ข้อมลู ที่ใช้ในโปรแกรมตารางคำนวณแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดว้ ยกนั คือ

1. ประเภทค่าคงที่ (Constant) ไม่สามารถเปลย่ี นแปลงได้ เชน่ ตัวเลข ตวั อักษร
ตรรกศาสตร์ เวลา วนั ที่ เปน็ ตน้

2. ประเภทสูตรการคำนวณ (Formula) เป็นข้อมลู ทใ่ี ช้คำนวณ ใช้สตู รหรือฟังกช์ นั
7. จงอธิบายชนดิ ของขอ้ มูลในโปรแกรมตารางคำนวณ

ตอบ ขอ้ มลู ทปี่ ้อนลงในเซลล์มีหลายชนดิ ดังตอ่ ไปนี้

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ - 61 -

1. ขอ้ มลู ที่เปน็ ข้อความ (Text) เชน่ A-Z, ก-ฮ, รหสั ประจำตัว, ท่ีอยู่, เบอรโ์ ทรศัพท,์ เป็น
ตน้

2. ข้อมลู ท่เี ปน็ ตวั เลข (Number) เชน่ จำนวนเงิน, จำนวนสินค้า, จำนวนพนักงาน เปน็ ตน้
ตังเลขเหลา่ นสี้ ามารถคำนวณได้ เชน่ หาผลรวม หาค่าเฉลี่ย หาคา่ ร้อยละ ผูใ้ ชโ้ ปรแกรมสามารถ
กำหนดเป็นตวั เลขแบบต่าง ๆ เช่น สกลุ เงิน บญั ชี เปอรเ์ ซน็ ต์ เศษส่วน หรอื เชิงวทิ ยาศาสตร์
ดงั ต่อไปน้ี

3. ขอ้ มลู ทเี่ ปน็ วนั ท่ี (Date) ผู้ใชโ้ ปรแกรมสามารถกำหนดรูปแบบเซลลใ์ หอ้ ยู่ในรปู แบบวนั ทไ่ี ด้
หลายรูปแบบดงั น้ี

4. ข้อมูลทเ่ี ปน็ เวลา (Time) สามารถกำหนดไดห้ ลายรปู แบบ ซึ่งมีรูปแบบเวลาดังนี้
5. ขอ้ มลู พิเศษ เชน่ หมายเลขโทรศพั ท์ หมายเลขบตั รประชาชน เปน็ ต้น
6. ขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ค่าทางตรรกศาสตร์ (Logical Value) ใชส้ ำหรับเปรยี บเทียบข้อมลู
มดี ว้ ยกนั อยู่ 2 คา่ คือ ถูก (True) หรอื ผดิ (False) โดยมีสัญลกั ษณ์ท่ใี ช้ในทางตรรกะ
7. ขอ้ มลู ที่เปน็ สูตรคำนวณ (Formula) ไดแ้ ก่ สตู รสมการทางคณติ ศาสตร์การพิมพ์ทุกครัง้
จะตอ้ งพิมพเ์ คร่ืองหมายเทา่ กับ ( = ) นำหน้าสูตรเสมอเหมือนสตู รคณิตศาสตรเ์ ชน่ บวก ( + ),
ลบ ( - ), คูณ ( * ), หาร ( / ) เป็นตน้
8. ข้อมูลทเ่ี ป็นฟังก์ชัน (Function) การใชฟ้ งั ก์ชนั ในการคำนวณ เช่น การหาผลรวม (Sum)
การหาค่าเฉล่ยี (Average) การหาค่าตำ่ สดุ (Min) หรือ การหาคา่ สูงสุด (Max) เป็นตน้ รปู แบบของ
ฟงั ก์ชัน คือ =ฟังกช์ นั (ชว่ งของเซลล์)
8. ฟงั กช์ นั SUM ใชค้ ำนวณหาอะไรจงอธบิ ายพร้อมยกตวั อยา่ ง
ตอบ ฟังกช์ นั SUM ทำหนา้ ท่ี หาผลรวมของจำนวน Number ยกตวั อย่างเชน่ พิมพ์
=SUM(A1:C1) ลงในเซลล์ D1 แล้วกด Enter โปรแกรมจะทำการคำนวณโดยการบวกข้อมูลตั้งแต่เซลล์
A1 ถงึ C1 ให้ทันที
9. ฟังกช์ ัน MAX ใชค้ ำนวณหาอะไรจงอธบิ ายพร้อมยกตวั อยา่ ง
ตอบ ฟงั กช์ นั MAX ทำหนา้ ท่ี หาคา่ สงู สุดของจำนวน Number ยกตวั อย่างเชน่ พมิ พ์
=MAX(A1:C1) ลงในเซลล์ D1 แลว้ กด Enter โปรแกรมจะทำการคำนวณโดยการหาคา่ สงู สุดของข้อมูล
ต้งั แตเ่ ซลล์ A1 ถึง C1 ให้ทนั ที
10. ฟงั ก์ชัน AVERAGE ใชค้ ำนวณหาอะไรจงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ ฟงั กช์ นั AVERAGE ทำหนา้ ที่ หาค่าเฉลีย่ ของจำนวน Number ยกตวั อย่างเช่น พมิ พ์
=AVERAGE(A1:C1) ลงในเซลล์ D1 แลว้ กด Enter โปรแกรมจะทำการคำนวณโดยการหาค่าเฉลย่ี ของ
ขอ้ มลู ตงั้ แตเ่ ซลล์ A1 ถงึ C1 ให้ทันที

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี - 62 -

ตอนที่ 2 จงอธบิ ายส่วนประกอบของโปรแกรมต่อไปนีท้ ำหน้าทอ่ี ะไร
ตอบ

1 19 18 17 16

15

2 14 3 13

4i

n 5

6 9 10 11 12
66

9

9

@
7 8g
m

หมายเลขai ชื่อ ทำหน้าที่
l. แท็บไฟล์ รวมคำส่งั ทีใ่ ช้งานเกย่ี วกบั การจัดการเอกสาร
1 c (Tab File) แสดงช่ือเซลลห์ รอื กลุ่มเซลลท์ ่ีเราเลอื ก
ตำแหน่งคอลมั น์
2 o กล่องชือ่ เซลล์ ตำแหนง่ แถว
m (Name Box) แสดงตำแหน่งหรือกลุ่มเซลล์ปจั จุบนั
เลอื่ นแผ่นงานตา่ ง ๆ
3 คอลัมน์ แสดงข้อความการทำงาน
(Column)

4 แถว
(Row)

5 กรอบเซลล์
(Active cell)

6 ปุม่ เล่อื นแผ่นงาน

7 แถบสถานะ
(Status Bar)

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพือ่ งานอาชพี - 63 -

หมายเลข ชอื่ ทำหนา้ ท่ี
แสดงช่ือแผน่ งาน
8 แผน่ งาน
(Sheet Tab)

9 เพม่ิ แผน่ งาน เพม่ิ แผ่นงานใหม่

10 แถบเล่ือนแนวนอน ใชเ้ ล่ือนจอภาพ ซ้ายและขวา
(Scroll Bar)
ใช้แสดงเอกสารในรปู แบบตา่ ง ๆ
11 มมุ มองเอกสาร
(View Shortcuts) ใช้ย่อและขยายแผ่นงาน

12 ยอ่ และขยายแผ่นงาน ใช้เลอื่ นจอภาพขน้ึ และลง
(Zoom Slider) ใชแ้ สดงหรอื แก้ไขสตู รรวมทงั้ แก้ไขหรือปรบั เปล่ยี น
ข้อมูลในเซลล์
13 แถบเลอ่ื นแนวต้ัง หนา้ ต่างทีใ่ ชร้ วบรวมคำสงั่ เพื่อความสะดวกของผ้ใู ช้
(Scroll Bar)

14 แถบสูตร
(Formula Bar)

15 ริบบอน
(Ribbon)

16 ยอ่ ขยาย และปดิ ย่อ ขยาย และปิดหน้าจอโปรแกรม

17 แถบช่ือเร่ือง แสดงช่อื สมุดงานที่ใช้งาน
(Title Bar)

18 แท็บริบบอน (Tab แสดงชุดคำสั่งต่าง ๆ ในการทำงานของโปรแกรม
Ribbon)

19 แถบเคร่ืองมือดว่ น แสดงปุ่มคำส่ังท่ีใช้งานบ่อย สามารถเพม่ิ ได้
(Quick Access Toolbar)

แผนการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี - 64 -

แบบทดสอบหลังเรียนพรอ้ มเฉลยหนว่ ยท่ี 4

รหสั วิชา 2001-2001 ช่อื วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี
หนว่ ยกติ (ท-ป-น) 1-2-2
หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม
สาขาวิชา คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ

คำส่ัง จงทำเคร่ืองหมายกากบาท () หน้าขอ้ ทีถ่ ูกตอ้ งมากทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียว
1. โปรแกรม Microsoft Excel ถูกออกแบบมาเพ่ือใช้ในด้านใดเหมาะสมมากท่สี ดุ

ก. การพมิ พเ์ อกสารจำนวนมาก
ข. การนำเสนอข้อมลู ในรปู แบบวีดีโอ
ค. การคำนวณโดยใช้สตู รและฟงั ก์ชัน
ง. การสร้างเวบ็ ไซตข์ ายสนิ ค้า
2. ขอ้ ตอ่ ไปน้เี ปน็ ความสามารถของโปรแกรมตารางคำนวณยกเว้นข้อใด
ก. ความสามารถในการคำนวณโดยใช้สตู รได้อยา่ งถกู ต้อง
ข. ความสามารถในการสร้างตารางได้อยา่ งรวดเร็ว
ค. ความสามารถในการสร้างแผนภูมเิ พ่ือนำเสนอไดห้ ลายรปู แบบ
ง. ความสามารถในการตดั ต่อภาพได้อย่างรวดเร็ว
3. แท็บทีใ่ ชแ้ สดงช่อื เรื่องหรือชอ่ื ของสมดุ งานท่ใี ช้เรียกอีกอยา่ งหนง่ึ วา่ อย่างไร
ก. Status Bar
ข. Scroll Bar
ค. Ribbon
ง. Title Bar
4. แทบ็ แทรกประกอบไปดว้ ยคำสง่ั ใด
ก. กลอ่ งข้อความ, อักษรศิลป์
ข. รูปภาพ, กำหนดหัวกระดาษ
ค. ตาราง, ไม้บรรทัด
ง. สตี วั อักษร, รูปภาพ
5. เมื่อเข้าสู่โปรแกรมตารางคำนวณโปรแกรมจะสร้างชอื่ ไฟลแ์ รกให้โดยอตั โนมตั ิมชี ื่อวา่ อย่างไร
ก. สมุดงาน1
ข. เอกสาร1
ค. ชีต1
ง. เวริ ก์ บุ๊ก1
6. ถ้าต้องการบนั ทึกเอกสารในโปรแกรมตารางงานข้อใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง
ก. ช่ือทีบ่ ันทกึ ความยาวต้องไม่เกิน 256 ตัวอกั ษร
ข. ใชส้ ญั ลักษณ์ในการบนั ทกึ ชื่อเอกสารไม่ได้
ค. ใชต้ ัวเลขและตวั อักษรในการบนั ทึกเอกสารได้
ง. การบนั ทกึ เอกสารสามารถกดปุ่ม Ctrt+S ได้

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ - 65 -

7. ถา้ ตอ้ งเปิดเอกสารในโปรแกรมตารางคำนวณควรเลือกข้อใด

ก. Ctrt+P

ข. Ctrt+C

ค. Ctrt+O

ง. Ctrt+V

8. สัญลกั ษณ์ หมายถงึ ข้อใด

ก. การกำหนดระยะขอบกระดาษ

ข. การกำหนดการวางแนว

ค. การกำหนดขนาดกระดาษ

ง. การกำหนดคอลัมน์

9. ในการกำหนดหวั กระดาษและท้ายกระดาษต้องไปกำหนดในแท็บริบบอนแทบ็ ใด

ก. หนา้ แรก

ข. แทรก

ค. ออกแบบ

ง. เคา้ โครงหน้ากระดาษ

10. ขอ้ มลู ต่อไปน้ีข้อใดไม่ใชข่ ้อมลู ที่เป็นข้อความ (Text)

ก. A - Z

ข. รหัสประจำตวั

ค. เงินเดอื น

ง. เบอร์โทรศัพท์

11. ขอ้ ใดต่อไปน้ีคือวธิ ีการเพ่ิมแผน่ งาน

ก. Shift+F9

ข. Shift+F10

ค. Shift+F11

ง. Shift+F12

12. ถา้ ตอ้ งการคัดลอกขอ้ มูลควรเลือกข้อใด

ก. Ctrt+S

ข. Ctrt+C

ค. Shift+S

ง. Shift+C

13. การคำนวณในโปรแกรมตารางคำนวณต้องนำหนา้ ดว้ ยเคร่ืองหมายใด

ก. *

ข. =

ค. +

ง. @

14. ฟังกช์ นั SUM ผลลพั ธ์คือข้อใด

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 66 -

ก. การหาผลรวม
ข. การหาคา่ เฉลยี่
ค. การหาค่าตำ่ สดุ
ง. การหาค่ามากสุด
15. ฟังกช์ นั MAX ผลลัพธ์คือข้อใด
ก. การหาผลรวม
ข. การหาค่านบั เฉาพะตัวเลข
ค. การหาค่าต่ำสุด
ง. การหาค่ามากสดุ
16. ฟังก์ชัน AVERAGE ผลลพั ธค์ อื ข้อใด
ก. การหาค่านับเฉาพะตัวเลข
ข. การหาค่าเฉลี่ย
ค. การหาคา่ ต่ำสดุ
ง. การหาคา่ มากสดุ
17. ฟังกช์ ัน AVERAGE ผลลพั ธ์คอื ข้อใด
ก. การหาค่านบั เฉาพะตวั เลข
ข. การหาค่าเฉล่ีย
ค. การหาคา่ ตำ่ สุด
ง. การหาคา่ มากสดุ
18. ฟงั ก์ชัน COUNT ผลลัพธ์คอื ข้อใด
ก. การหาคา่ นับเฉาพะตัวเลข
ข. การหาค่าเฉลี่ย
ค. การหาคา่ ตำ่ สดุ
ง. การหาคา่ มากสดุ
19. ถ้าตอ้ งการสร้างแผนภูมิตอ้ งเลือกทีแ่ ทบ็ ริบบอนแท็บใด
ก. หนา้ แรก
ข. แทรก
ค. ออกแบบ
ง. เค้าโครงหน้ากระดาษ
20. ถา้ ต้องการสรา้ งแผนภูมิตอ้ งเลือกเคร่ืองมือใดต่อไปนี้
ก.
ข.

ค.
ง.

แผนการเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 5

รหสั วชิ า 2001-2001 ช่อื วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หนว่ ยกิต (ท-ป-น) 1-2-2

หลกั สตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวิชา คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ สาขางาน คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ

เร่ือง การใชโ้ ปรแกรมนำเสนอผลงาน จำนวนชว่ั โมงสอน 12

1. สาระสำคัญ
โปรแกรมนำเสนอผลงานเป็นโปรแกรมท่ใี ช้สรา้ งนำเสนอผลงานในรปู แบบของสไลดบ์ นเครือ่ ง

คอมพวิ เตอร์เหมาะสำหรบั การนำเสนอผลงานในรปู แบบต่าง ๆ การนำเสนอผลงานมีความจำเป็นสำหรับ
การตดิ ต่อส่ือสารระหว่างหน่วยงานกับหนว่ ยงาน นกั ธุรกิจกบั ลูกคา้ นายจา้ งกับลกู จา้ ง เพื่อสรา้ งความ
เขา้ ใจ เช่น การประชมุ สัมมนา การประชาสมั พันธ์ การนำเสนอผลงาน การสร้างสอื่ การเรียนการสอน
เปน็ ตน้ ดังนน้ั โปรแกรมนำเสนอผลงานจึงเปน็ ทนี่ ิยมในปจั จุบนั
2. งานประจำหน่วยการเรียนรู้

ใบงานประจำหน่วย
3. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรียนรู้

3.1. แสดงความรู้เกีย่ วกับการใช้งานโปรแกรมนำเสนอผลงานได้
3.2. ใช้เครอื่ งมอื ของโปรแกรมโปรแกรมนำเสนอผลงานได้
3.3. สรา้ งงานนำเสนอผลงานได้
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (สมรรถนะรายวิชา)
4.1 จุดประสงคท์ ่ัวไป

เพอื่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั การความหมายของโปรแกรมนำเสนอผลงาน การ
เรยี กใชง้ านโปรแกรมนำเสนอผลงาน สว่ นประกอบของโปรแกรมนำเสนอผลงาน เพื่อให้มีทักษะการแทรก
ภาพประกอบ การปรับแตง่ ภาพประกอบและการจัดการภาพประกอบ

4.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
4.2.1. บอกความหมายของโปรแกรมนำเสนอผลงานได้
4.2.2. เรยี กใชง้ านโปรแกรมนำเสนอผลงานได้
4.2.3. บอกสว่ นประกอบของโปรแกรมนำเสนอผลงานได้
4.2.4. ใช้งานของแท็บริบบอนได้
4.2.5. ออกจากโปรแกรมนำเสนอผลงานได้
4.2.6. สร้างพรเี ซนเทชันด้วยเทมเพลตได้
4.2.7. สร้างพรีเซนเทชนั เปลา่ ได้
4.2.8. บันทึกพรเี ซนเทชนั ได้
4.2.9. แทรกกลอ่ งข้อความได้
4.2.10. เปลีย่ นรปู แบบของตัวอักษรได้
4.2.11. ใช้ขอ้ ความอกั ษรศลิ ปไ์ ด้
4.2.12. ใสร่ ูปภาพลงสไลดไ์ ด้

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชพี - 70 -

4.2.13. ใส่รปู ทรงตา่ ง ๆ ได้
4.2.14. เพ่ิมสไลด์ใหม่ได้
4.2.15. ลบสไลด์ได้
4.2.16. คัดลอกสไลด์ได้
4.2.17. เพ่ิมภาพเคลื่อนไหวได้
4.2.18. กำหนดการเปลีย่ นแปลงให้สไลดไ์ ด้
4.2.19. นำเสนอสไลด์ได้
4.2.20. มคี ณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นยิ ม และมีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5. สาระการเรยี นรู้
5.1. ความหมายของโปรแกรมนำเสนอผลงาน
5.2. การเรียกใช้งานโปรแกรมนำเสนอผลงาน
5.3. สว่ นประกอบของโปรแกรมนำเสนอผลงาน
5.4. การใช้งานของแทบ็ รบิ บอน
5.5. การออกจากโปรแกรมนำเสนอผลงาน
5.6. การสรา้ งพรเี ซนเทชันด้วยเทมเพลต
5.7. การสร้างพรเี ซนเทชันเปล่า
5.8. การบนั ทึกพรีเซนเทชัน
5.9. การแทรกกล่องข้อความ
5.10. การเปลีย่ นรูปแบบของตัวอักษร
5.11. การใชข้ อ้ ความอักษรศิลป์
5.12. การแทรกรปู ภาพลงในสไลด์
5.13. การแทรกรปู ทรงตา่ ง ๆ ลงในสไลด์
5.14. การเพิ่มสไลด์ใหม่
5.15. การลบสไลด์
5.16. การคัดลอกสไลด์
5.17. การเพิม่ ภาพเคลอ่ื นไหม
5.18. การกำหนดการเปลี่ยนแปลงให้สไลด์
5.19. การนำเสนอไลด์
6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
6.1 ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
ครสู นทนากบั นักเรียนเกย่ี วกับการความหมายของโปรแกรมนำเสนอผลงาน การเรยี กใช้
งานโปรแกรมนำเสนอผลงาน สว่ นประกอบของโปรแกรมนำเสนอผลงาน
6.2 ข้ันสอน
6.2.1. นักเรยี นศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน เรื่อง การใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน
6.2.2. ครอู ธบิ ายเนื้อหาเพิ่มเตมิ เรอื่ ง การใชง้ านของแท็บริบบอน
6.2.3. ครูสาธิตการปฏิบตั ิการสร้างพรเี ซนเทชันด้วยเทม็ เพลต การสร้างพรเี ซนเทชันว่างๆ
แทรกภาพประกอบ การปรบั แต่งภาพประกอบและการจดั การภาพประกอบ การแทรกข้อความและการ

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพือ่ งานอาชพี - 71 -

สรา้ งกลอ่ งข้อความ การย้ายตำแหนง่ ข้อความ การลบขอ้ ความ การเปลี่ยนรปู แบบของตัวอกั ษร การใช้

ข้อความอักษรศิลป์ การใสเ่ อฟเฟ็กต์ใหข้ ้อความ การเปลยี่ นทิศทางแสดงข้อความ การใสล่ สิ ตใ์ ห้กับ

ขอ้ ความ การใสร่ ปู ภาพลงสไลด์ การเพม่ิ ชารต์ ในสไลด์ การใสร่ ูปทรงตา่ ง ๆ การแทรก SmartArt การใส่

ตาราง การเพิ่มสไลดใ์ หม่ การลบสไลด์ การคัดลอกสไลด์ การเพิม่ ภาพเคลอ่ื นไหว การกำหนดการ

เปลี่ยนแปลงใหส้ ไลด์ การนำเสนอไลด์

6.2.4. นกั เรยี นฝึกปฏบิ ัติ

6.2.5. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด

6.3 ขน้ั สรุป

6.3.1. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เนื้อหาวชิ า เรือ่ ง การใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน

6.3.2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน

7. สอื่ การเรยี นรู้

7.1 หนงั สอื เรียน

7.2 ใบความรู้

7.3 แบบฝกึ หดั

7.4 แบบทดสอบหลังเรยี น

8. หลักฐานการเรียนรู้

8.1 ใบงาน

8.2 รายงาน

8.3 แบบฝึกหดั

9. การวัดผลและประเมนิ ผล

เครอื่ งมือการประเมนิ วธิ วี ัดและประเมิน เกณฑ์
การประเมนิ

แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝกึ หดั ไดค้ ะแนน

ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้นึ ไป

ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ ูก 0 คะแนน

แบบฝกึ ปฏิบตั ิ ตรวจแบบฝึกปฏิบตั ิ ได้คะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขนึ้ ไป

ถกู 1 คะแนน

ไม่ถูก 0 คะแนน

แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน ได้คะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป

ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ ูก 0 คะแนน

แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม สงั เกตพฤตกิ รรม ได้คะแนน

จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึง ดี 2 คะแนน รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป

ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ - 72 -
ปรับปรงุ 0 คะแนน

10. แหล่งการเรยี นรู้
10.1 ห้องสมดุ
10.2 หอ้ งอนิ เตอรเ์ น็ต

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 73 -

11. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
บนั ทกึ หลังสอน

ข้อสรปุ หลังการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
ปัญหาที่พบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
แนวทางแกป้ ัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………
……………………………………………………………………………………………..………………….……………………………………

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชพี - 74 -

แบบฝึกหดั พร้อมเฉลยหน่วยที่ 5

รหัสวิชา 2001-2001 ชือ่ วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ
หนว่ ยกติ (ท-ป-น) 1-2-2
หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ
คำสง่ั จงตอบคำถามต่อไปน้ใี หถ้ กู ตอ้ ง
1. จงบอกความหมายของโปรแกรมนำเสนอผลงาน
ตอบ โปรแกรมที่ทำหน้าท่ีนำเสนอผลงานในรูปแบบของสไลด์บนเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ซึ่งในสไลด์
นั้นสามารถแทรก ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสยี ง แผนภมู ิ เป็นต้น
2. จงบอกวิธกี ารเข้าใช้งานโปรแกรมนำเสนอผลงาน
ตอบ 1. ดับเบิลคลิกท่ีไอคอน หรือคลกิ เลือกไอคอน แล้วกด Enter
2. คลกิ เลอื กงานนำเสนอเปลา่ หรือเท็มเพลตทต่ี ้องการ
3. แท็บริบบอนของโปรแกรมนำเสนอผลงานประกอบไปดว้ ยแท็บอะไรบ้าง
ตอบ 1. แท็บหน้าแรก เป็นแท็บเครื่องมือท่ีทำหนา้ ทจ่ี ัดรูปแบบข้อความ การแสดงผล การ
คดั ลอก การจดั ตำแหน่ง รูปวาด การคน้ หา การแทนที่ เป็นต้น
2. แทบ็ แทรก เป็นแทบ็ เคร่ืองมือท่ีทำหน้าที่แทรกออบเจ็กตต์ ่าง ๆ เชน่ รปู ภาพ ตาราง
ภาพประกอบ ข้อความ สัญลักษณ์ สมการ อกั ษรศิลป์ กล่องข้อความ เป็นตน้
3. แท็บออกแบบ เปน็ แทบ็ เครอ่ื งมือที่ทำหน้าท่ีออกแบบฉากหลงั ในรูปแบบต่าง ๆ โดยเลอื กแบบ
ที่โปรแกรมกำหนดให้หรือกำหนดเอง
4. แท็บการเปลี่ยน เปน็ แท็บเครื่องมือที่ทำหนา้ ที่แสดงสไลดใ์ นรปู แบบตา่ ง ๆ
5. แทบ็ ภาพเคลื่อนไหว เป็นแทบ็ เครื่องมือท่ีทำหน้าท่ีกำหนดการแสดงข้อความ
6. แทบ็ การนำเสนอสไลด์ เปน็ แท็บเคร่ืองมือท่ีทำหนา้ ทน่ี ำเสนอสไลดใ์ นลักษณะต่าง ๆ
7. แทบ็ รวี วิ เป็นแท็บเครื่องมือท่ีทำหนา้ ท่ีการพสิ จู น์อกั ษร แสดงข้อคดิ เหน็ เปน็ ตน้
8. แทบ็ มมุ มอง เป็นแท็บเครอ่ื งมือท่ีทำหน้าท่ีจดั รูปแบบมุมมองของสไลด์ในรูปแบบต่าง ๆ
9. แทบ็ Storyboarding เปน็ แท็บเครื่องมือท่ีทำหนา้ ที่ เพิ่มสไลด์ ปรับเปล่ยี นเค้าโครงของสไลด์
แทรกภาพ ปรบั แตง่ ข้อความ เปน็ ตน้
4. การสรา้ งพรีเซนเทชนั มดี ว้ ยเท็มเพลตมขี ัน้ ตอนอย่างไร
ตอบ ขัน้ ตอนในการสรา้ งพรีเซนเทชันด้วยเท็มเพลตเป็นการสรา้ งเท็มเพลต
1. คลกิ เลือกแท็บไฟล์
2. คลิกเลือกใหม่
3. เลือกรูปแบบการสร้างพรเี ซนเทชนั ด้วยเท็มเพลตทีโ่ ปรแกรมกำหนดให้
5. การสร้างพรเี ซนเทชัน่ เปล่าหรืองานนำเสนอเปล่ามขี ัน้ ตอนอย่างไร
ตอบ ขนั้ ตอนการสร้างพรเี ซนเทชนั เปลา่ สามารถปฏบิ ตั ิไดด้ งั น้ี
1. คลิกเลือกแทบ็ ไฟล์
2. คลิกเลอื กใหม่
3. เลือกงานนำเสนอเปลา่

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพ่ืองานอาชพี - 75 -

ตอนที่ 2
คำสงั่ : จงบอกความหมายว่าภาพสัญลกั ษณ์ต่อไปนหี้ มายถงึ อะไร

สัญลักษณ์ ความหมาย
ตอบ การแทรกกลอ่ งขอ้ ความ

ตอบ การแทรกวดี โี อ

ตอบ การแทรกเสยี ง
ตอบ การแทรกตาราง

ตอบ การแทรก SmartArt
ตอบ การแทรกแผนภมู ิ

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชีพ - 76 -

แบบทดสอบหลังเรยี นพรอ้ มเฉลยหน่วยที่ 5

รหสั วชิ า 2001-2001 ช่อื วิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หน่วยกิต (ท-ป-น) 1-2-2
หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชพี ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวชิ า คอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ

คำส่งั จงทำเครอื่ งหมายกากบาท () หนา้ ข้อที่ถกู ตอ้ งมากที่สุดเพียงขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกับโปรแกรมนำเสนอผลงาน

ก. โปรแกรมท่ีเหมาะสำหรบั การนำมาจัดทำสื่อในการเรยี นการสอน
ข. โปรแกรมที่มีความสามารถในการคำนวณเปน็ อย่างดี
ค. โปรแกรมท่ีเหมาะสำหรับการทำจดหมายเวยี น
ง. โปรแกรมท่ีมีความสามารถในการจัดทำฐานข้อมูลทม่ี ีจำนวนมาก
2. การแสดงชุดคำสัง่ ตา่ ง ๆ ในการทำงานของโปรแกรมนำเสนอผลงานหมายถึงการทำงานของแท็บใด
ก. แทบ็ เคร่อื งมือด่วน (Quick Access Toolbar)
ข. แทบ็ เมนู (Menu Tab)
ค. ตวั ควบคมุ หนา้ ต่างของโปรแกรม (Program Window Control)
ง. ริบบอน (Ribbon)
3. พนื้ ทท่ี ่ีใชแ้ สดงรายละเอียดของสไลด์ หมายถึงขอ้ ใด
ก. สไลดโ์ ชว์
ข. มมุ มอง
ค. เอกสาร
ง. พรีเซนเทชัน
4. แทบ็ แทรก เปน็ แท็บเคร่ืองมอื ท่ีทำหน้าที่แทรกออบเจ็กตต์ ่าง ๆในโปรแกรมนำเสนอผลงานยกเว้นแทรก
ข้อใด
ก. แทรกรูปภาพ
ข. แทรกสตู ร
ค. แทรกตาราง
ง. แทรกข้อความ
5. แทบ็ Storyboarding เป็นแทบ็ เครื่องมือท่ีทำหน้าทใ่ี ด
ก. ทำหนา้ ที่เพ่ิมสไลด์ ปรบั เปลี่ยนเคา้ โครงของสไลด์
ข. ทำหนา้ ทจ่ี ัดรปู แบบมุมมองของสไลดใ์ นรูปแบบตา่ ง ๆ
ค. ทำหนา้ ท่ีนำเสนอสไลด์ในลักษณะต่าง ๆ
ง. ทำหนา้ ทีก่ ำหนดการแสดงขอ้ ความในรปู แบบต่าง ๆ
6. ฟงั ก์ชนั Ctrl+F1 ทำหน้าท่ใี นข้อใด
ก. ตัดแทบ็ ริบบอน
ข. ลบแท็บริบบอน
ค. คดั ลอกแทบ็ รบิ บอน

แผนการเรียนรู้วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพื่องานอาชีพ - 77 -

ง. ยบุ แทบ็ ริบบอน
7. คำสงั่ ในข้อใดมีความหมายเดยี วกันกับการกดปมุ่ Alt+F4

ก. ใชเ้ มาสค์ ลกิ เลือกป่มุ
ข. คลิกเมาส์ป่มุ ดา้ นซ้ายที่บริเวณ Title Bar เลอื ก Close
ค. การเลือกแทบ็ ไฟล์ แล้วเลือกปิด
ง. กด Ctrl+C
8. ข้อใดหมายถงึ การสรา้ งพรีเซนเทชันด้วยเท็มเพลต
ก. เป็นการออกแบบพรีเซนเทชันเปล่า
ข. เทม็ เพลตหมายถงึ งานนำเสนอใหม่
ค. เป็นการสร้างงานนำเสนอที่ผูใ้ ชต้ ้องออกแบบเอง
ง. เป็นการสรา้ งงานนำเสนอทโ่ี ปรแกรมจดั เตรียมไว้ให้แล้ว
9. การบันทึกงานนำเสนอต้องเลอื กแทบ็ ในข้อใด
ก. แท็บไฟล์
ข. แทบ็ ออกแบบ
ค. แท็บแทรก
ง. แท็บหนา้ แรก
10. ปมุ่ หมายถึงขอ้ ใด
ก. การเปลีย่ นข้อความ
ข. การย้ายข้อความ
ค. การลบข้อความ
ง. การออกแบบข้อความ
11. การเปลยี่ นรปู แบบของตัวอักษรต้องเลอื กแท็บในข้อใด
ก. แท็บไฟล์
ข. แทบ็ ออกแบบ
ค. แทบ็ แทรก
ง. แทบ็ หนา้ แรก
12. ถา้ ตอ้ งการเปลยี่ นขนาดของขอ้ ความต้องเลอื กแทบ็ ในข้อใด
ก. แท็บไฟล์
ข. แท็บออกแบบ
ค. แท็บแทรก
ง. แท็บหนา้ แรก
13. สญั ลักษณ์ หมายถึงข้อใด
ก. การเปลยี่ นสีของขอ้ ความ
ข. การกำหนดรูปแบบขอ้ ความ
ค. การกำหนดขนาดข้อความ
ง. การกำหนดกล่องข้อความ

แผนการเรยี นรู้วชิ าคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี - 78 -

14. ถา้ ตอ้ งการเปลี่ยนสีข้อความต้องเลือกแทบ็ ในข้อใด
ก. แทบ็ ไฟล์
ข. แท็บออกแบบ
ค. แท็บแทรก
ง. แท็บหน้าแรก

15. ถา้ ตอ้ งการสรา้ งอักษรศิลป์ในโปรแกรมนำเสนอผลงานตอ้ งเลอื กแท็บใด
ก. แทบ็ หน้าแรก > อักษรศลิ ป์
ข. แท็บแทรก > อักษรศลิ ป์
ค. แทบ็ ออกแบบ > อักษรศิลป์
ง. แท็บการเปล่ียน > อักษรศิลป์

16. ถ้าต้องการเปลี่ยนรูปแบบในอักษรศลิ ป์ต้องเลือกแทบ็ ใด
ก. แท็บออกแบบ
ข. แทบ็ การเปลยี่ น
ค. แทบ็ แทรก
ง. แทบ็ รูปแบบ

17. ถา้ ตอ้ งการสรา้ งแผนภมู ิตอ้ งเลอื กแท็บในข้อใด
ก. แทบ็ หนา้ แรก > แผนภูมิ
ข. แท็บแทรก > แผนภูมิ
ค. แทบ็ ออกแบบ > แผนภมู ิ
ง. แท็บการเปลย่ี น > แผนภมู ิ

18. สัญลักษณ์ หมายถึงข้อใด
ก. การแทรกสกรีนช็อต
ข. การแทรกรูปตัดปะ
ค. การแทรกรปู ร่าง
ง. การแทรกรปู ทรง

19. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการกำหนดการเปลี่ยนแปลงใหส้ ไลด์
ก. การเปลยี่ นแปลงสไลด์สามารถกำหนดรูปแบบการนำเสนอคร้งั ละ 1 สไลด์หรือหลายสไลดไ์ ด้
ข. การเปล่ยี นแปลงสไลดส์ ามารถทำไดโ้ ดยเลือกแท็บออกแบบ
ค. การเปลี่ยนแปลงสไลดเ์ ป็นการกำหนดการเปลย่ี นแปลงของวัตถุบนงานนำเสนอ
ง. การเปล่ยี นแปลงสไลดต์ อ้ งทำการเปลยี่ นที่สไลด์แผ่นแรกก่อนเสมอ

20. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้องเกย่ี วกบั การนำเสนอสไลด์
ก. การนำเสนอสไลด์ต้องเลือกแท็บการนำเสนอสไลด์
ข. การนำเสนอสไลดส์ ามารถกดปมุ่ ไดเ้ ลย
ค. ในขณะนำเสนอสไลด์ถา้ ข้อความผิดสามารถแก้ไขได้ทนั ที
ง. การนำเสนอสไลดส์ ามรถทำได้มากกว่า 1 คร้ัง

แผนการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 6

รหสั วชิ า 2001-2001 ช่อื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หนว่ ยกิต (ท-ป-น) 1-2-2

หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวชิ า คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ สาขางาน คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ

เรอื่ ง การใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตเบอื้ งตน้ จำนวนชัว่ โมงสอน 6

1. สาระสำคัญ
ระบบอินเทอรเ์ น็ตมคี วามจำเปน็ ต่อการใชช้ ีวติ ประจำวนั เน่ืองจากระบบอนิ เทอรเ์ น็ตมีการเชื่อมตอ่

กับแหลง่ ข้อมลู มากมายทกุ มุมโลกผ้ใู ช้สามารถสบื คน้ หาข้อมูลไดต้ ามท่ีต้องการ เชน่ สารคดี ความบันเทงิ
วิทยาศาสตร์ อาหารและสขุ ภาพ แหล่งทอ่ งเท่ยี ว เป็นตน้ และยังสามารถติดตอ่ สื่อสารได้ทงั้ ขอ้ ความ
รปู ภาพ วีดีโอ และเสียง ทำให้โลกเล็กลงเนอ่ื งจากการติดต่อสอ่ื สารมีความสะดวกและรวดเรว็ ทำให้ลด
คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทางจึงเป็นท่นี ิยมอย่างรวดเรว็
2. งานประจำหน่วยการเรียนรู้

ใบงานประจำหนว่ ย
3. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

3.1. แสดงความรู้เบอ้ื งต้นเก่ียวกบั อนิ เทอร์เนต็
3.2. สบื ค้นข้อมลู บนอินเทอร์เน็ต
3.3. รบั สง่ ข้อมูลผ่านระบบอินเทอรเ์ น็ตได้
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (สมรรถนะรายวิชา)
4.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป

4.1.1 เพ่อื ให้มีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับเบ้อื งต้นเกีย่ วกับอนิ เทอร์เน็ต การท่องเวบ็ ดว้ ย
โปรแกรม Internet Explorer

4.1.2 เพ่อื ให้มีทักษะในการสืบค้นขอ้ มลู บนอินเทอร์เนต็ บันทกึ ข้อมูลที่ไดจ้ ากการสบื ค้น
รบั ส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์

4.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
4.2.1. แสดงความรู้เบือ้ งตน้ เกยี่ วกับอนิ เทอรเ์ นต็ ได้
4.2.2. บอกสว่ นประกอบหน้าจอของโปรแกรม Google Chrome ได้
4.2.3. สบื คน้ ขอ้ มูลบนอินเทอร์เน็ตได้
4.2.4. รับส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกสไ์ ด้
4.2.5. มคี ณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นิยม และมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

5. สาระการเรียนรู้
5.1. ความรูเ้ บ้ืองตน้ เก่ียวกับอนิ เทอรเ์ น็ต
5.2. เว็บเบราว์เซอร์
5.3. การสืบค้นขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ นต็
5.4. การรบั สง่ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์

แผนการเรยี นรู้วิชาคอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี - 82 -

6. กระบวนการจดั การเรียนรู้
6.1 ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน
6.1.1. ครสู นทนากับนักเรียนความรเู้ บอ้ื งตน้ เกี่ยวกับอินเทอรเ์ น็ต การใช้โปรแกรม

Internet Explorer
6.2 ข้ันสอน
6.2.1. นกั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน เรือ่ ง การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ตเบ้ืองต้น
6.2.2. ครอู ธิบายเน้อื หาเพิ่มเติม เรอ่ื ง การทอ่ งเวบ็ ดว้ ยโปรแกรม Internet Explorer

การสบื คน้ ข้อมูลบนอินเทอรเ์ นต็ บันทกึ ข้อมลู ที่ไดจ้ ากการสบื คน้ รับส่งจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์
6.2.3. ครูสาธิตการปฏิบัติ เรอ่ื ง การสบื คน้ ขอ้ มูลบนอนิ เทอร์เนต็ บนั ทึกข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากการ

สบื คน้ รับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
6.2.4. นักเรียนฝกึ ปฏบิ ัติ เร่อื งการใช้งานอนิ เตอร์เน็ตเบื้องต้น
6.2.5. นักเรยี นทำแบบฝึกหัด

6.3 ขั้นสรุป
6.3.1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเน้ือหาวิชา เรอื่ ง การใช้งานอินเตอรเ์ น็ตเบอื้ งต้น
6.3.2. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน

7. ส่อื การเรยี นรู้
7.1 หนังสือเรียน
7.2 ใบความรู้
7.3 แบบฝึกหัด
7.4 แบบทดสอบหลังเรียน
7.5 แบบสังเกตพฤตกิ รรม
7.6 คอมพวิ เตอร์

8. หลักฐานการเรียนรู้
8.1 ใบงาน
8.2 รายงาน
8.3 แบบฝกึ หดั