ก
คำนำ
คู่มือการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
เชียงราย เขต ๑ เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนดำเนินงานการนิเทศภายในของ
โรงเรียนใหเ้ ป็นระบบ เพอื่ สรา้ งรูปแบบและกระบวนการนิเทศ ตดิ ตาม และประเมินผลภายในโรงเรียน
ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ และเพือ่ พัฒนาครูให้มคี วามรทู้ นั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงต่าง ๆ มีทักษะในการปฏิบัติการ
และมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ การปฏิบัตงิ าน อีกทง้ั ยังเปน็ การสรา้ งขวัญกำลังใจ สรา้ งความมน่ั ใจในการปฏิบัติงาน
ของครู ซ่งึ จะสง่ ผลต่อการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครูให้มปี ระสิทธิภาพ ส่งผลต่อการพัฒนา
คุณภาพผ้เู รียนใหไ้ ด้ตามมาตรฐานของโรงเรยี น
คู่มอื การนเิ ทศภายในของโรงเรยี นบ้านจะคือ ประกอบดว้ ยส่วนสำคญั ไดแ้ ก่
ส่วนที่ ๑ ขอ้ มูลทวั่ ไปของสถานศึกษา
ส่วนที่ ๒ บทนำ
ส่วนท่ี ๓ หลักการและแนวคดิ การนเิ ทศภายในโรงเรียน
ส่วนที่ ๔ การนเิ ทศภายในโรงเรยี นบา้ นจะคอื โดยใช้รูปแบบ U A D Supervision
ส่วนที่ ๕ กจิ กรรมนิเทศภายในโรงเรียน
ส่วนท่ี ๖ เครอื่ งมอื ท่ีใช้ในการดำเนนิ การนิเทศภายในโรงเรยี น
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ จะมีส่วนในการเติมเต็มความรู้
ความเขา้ ใจ ท่เี ปน็ ประโยชน์สำหรับการนิเทศภายในของโรงเรียนบ้านจะคือเป็นอย่างดี และขอขอบคุณ
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นจะคอื และคณะครู ทีไ่ ดร้ ่วมกันใหก้ รอบแนวคิด แนวทางการดำเนนิ งานนิเทศ
ภายในของโรงเรียนบ้านจะคือเล่มนี้สำเร็จเรียบรอ้ ยดี สามารถนำไปปฏิบัติร่วมกันเพือ่ พัฒนาคุณภาพ
การศึกษาของโรงเรยี น
ฝา่ ยวิชาการโรงเรยี นบา้ นจะคอื
ข
สารบญั
เรอ่ื ง หน้า
คำนำ ก
สารบญั ข
ส่วนท่ี ๑ ขอ้ มูลทั่วไปของสถานศึกษา
๑
- ข้อมลู ท่ัวไป............................................................................................................ 1
- ประวตั ิของสถานศึกษา.......................................................................................... 1
- สภาพบริบทของสถานศกึ ษา.................................................................................. ๕
สว่ นที่ ๒ บทนำ 7
8
- ความเป็นมาและความสำคัญ................................................................................. 8
8
- วตั ถปุ ระสงค์..........................................................................................................
- เป้าหมาย............................................................................................................... 9
9
- ภาพความสำเรจ็ .................................................................................................... 9
- ระยะเวลาดำเนินงาน............................................................................................. 10
ส่วนท่ี ๓ หลักการและแนวคดิ การนเิ ทศภายในโรงเรยี น 12
- ความหมายของการนเิ ทศภายในโรงเรียน.............................................................. ๑๓
- จุดมุ่งหมายของการนิเทศภายในโรงเรียน.............................................................. ๑๔
- ความจำเปน็ ของการนิเทศภายในโรงเรียน............................................................. ๒๑
- หลักการนเิ ทศภายในโรงเรยี น............................................................................... 23
- องคป์ ระกอบของการนเิ ทศภายในโรงเรยี น........................................................... 25
27
ส่วนท่ี ๔ การนเิ ทศภายในโรงเรยี นบา้ นจะคือโดยใชร้ ปู แบบ U A D Supervision 29
- กระบวนการดำเนินการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคอื ....................................... ๓๑
31
- ขน้ั ตอนการดำเนนิ การนิเทศภายในโรงเรยี นบา้ นจะคอื .........................................
สว่ นที่ ๕ กิจกรรมการนิเทศภายในโรงเรยี น
- ปฏทิ ินการนเิ ทศ.....................................................................................................
- การเยี่ยมนิเทศช้ันเรียน..........................................................................................
- การสงั เกตการสอน................................................................................................
- การวิจัยเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร...........................................................................................
- การสรา้ งชุมชนทางการเรยี นรวู้ ชิ าชีพ....................................................................
- การสะท้อนผลหลงั การปฏบิ ัตงิ าน.........................................................................
- การประเมินความพึงพอใจต่อการนเิ ทศภายในโรงเรียน........................................
ค
สารบัญ (ตอ่ )
เรอื่ ง หน้า
ส่วนที่ ๖ เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการดำเนนิ การนเิ ทศภายในโรงเรยี น ๓๒
- แบบบนั ทกึ การเยีย่ มชนั้ เรียน................................................................................. 41
- แบบสังเกตการสอน...............................................................................................
43
- แบบบันทึกการปฏิบตั ิกิจกรรมกลมุ่ ชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ........................... 46
- แบบบันทึกการทบทวนหลงั การปฏิบัตงิ าน............................................................
48
- แบบสอบถามความพงึ พอใจ.................................................................................. ๔๙
เอกสารอา้ งองิ 50
ภาคผนวก
1
สว่ นท่ี 1
ขอ้ มลู ทัว่ ไปของสถานศึกษา
1. ข้อมูลทว่ั ไป
ชื่อสถานศกึ ษา : โรงเรียนบ้านจะคือ
ทอี่ ยู่ : เลขท่ี 419 หมทู่ ่ี 10 บ้านจะคือ ตำบลหว้ ยชมภู อำเภอเมอื งเชียงราย
จังหวดั เชยี งราย รหัสไปรษณยี ์ 57000
สงั กัด : สำนักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1
โทรศัพท์ : 052 020 101 โทรสาร : -
E-Mail : jakue.school256๒@gmail.com
เปิดสอน : ระดบั ชนั้ อนบุ าลปีที่ 2 ถึง ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
ประเภทโรงเรียน : โรงเรียนขยายโอกาสทางการศกึ ษา
2. ประวัตขิ องสถานศึกษา
โรงเรียนบา้ นจะคือ เปิดทำการสอนเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘ โดยศูนย์พัฒนาสงเคราะหช์ าวเขา ต่อมา
วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๙ โอนมาสังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน และโอนมาเป็นโรงเรียน
สังกัดสำนกั งานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ โดยเป็นโรงเรียนสาขา เรียกว่า โรงเรียนบ้าน
ห้วยชมภู สาขาบ้านจะคือ เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๐ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัด
เชยี งราย ได้จดั ตั้งใหเ้ ปน็ โรงเรยี นเอกเทศ เมอื่ วันท่ี ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๒ ตามประกาศ สำนกั งาน
การประถมศึกษาจังหวัดเชียงราย ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ปัจจุบันโรงเรียนบ้านจะคือเปิดสอน
ตัง้ แต่อนุบาล ๒ – มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ โรงเรียนบา้ นจะคือตง้ั อยใู่ นเขตพนื้ ท่ีพเิ ศษ เป็นโรงเรยี นทรุ กนั ดาร
และพื้นที่สูงบนภูเขาตามประกาศของกระทรวงการคลัง อยู่ห่างจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาเชียงราย เขต ๑ ประมาณ ๙๔ กโิ ลเมตร สงั กดั สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษา
เชยี งราย เขต ๑ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
3. สภาพบรบิ ทของสถานศึกษา
3.1 สภาพชมุ ชนโดยรวม
สภาพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียน มีลักษณะเป็นชุมชนเผ่าลาหู่ อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร
มีประชากรประมาณ ๑,๑๒๕ คน บริเวณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรียน ได้แก่ วัด, ลานวัฒนธรรมและ
หอประชุมหมู่บ้าน, ศูนย์พิธีกรรมลาหู่ (หอแหย่), ร้านค้า และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
บา้ นจะคอื
อาชีพหลักของชมุ ชน คือ ทำไร่ เนื่องจาก ไม่มีความรู้ในการประกอบอาชีพอยา่ งอ่นื และ
เป็นอาชพี ที่สืบตอ่ กันมาชา้ นาน
ศาสนาและประเพณีวัฒนธรรม ส่วนใหญ่นับถือศาสนา พุทธ ประเพณี/ศิลปวัฒนธรรม
ท้องถิน่ ทีร่ ูจ้ กั โดยทว่ั ไป คอื ประเพณกี ินขา้ วใหม่ และประเพณกี นิ วอ
2
ผปู้ กครองส่วนใหญ่ ไมจ่ บการศกึ ษา
- อาชีพหลักคอื ทำไร่ คิดเป็นร้อยละ ๙๕
- ส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนาพทุ ธ คิดเปน็ ร้อยละ ๙๘
- ฐานะทางเศรษฐกจิ /รายไดโ้ ดยเฉลยี่ ตอ่ ครอบครัว ตอ่ ปี ๑๐,๐๐๐ บาท
โอกาสและข้อจำกัดของชุมชนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรยี น
โอกาส ชุมชนโดยรอบโรงเรียนเป็นชนเผ่าลาหู่ มีประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็น
เอกลักษณ์ของตนเอง เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว มีวัดและศูนย์วัฒนธรรมลาหู่ อยู่ใกล้โรงเรียน เป็น
แหล่งเรียนรทู้ ีส่ ำคญั ของนักเรียน นอกจากน้ยี งั มีแหล่งเรยี นร้ทู างด้านธรรมชาติ ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้ กก ลำห้วย
ป่าไผ่ น้ำตก โรงเรียนและชุมชนมีระบบไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในการดำเนินชีวิต ทำให้เปิดโลกทัศน์ใน
การศึกษาหาความรูแ้ ละทนั ต่อโลกเหตกุ ารณ์ปจั จุบนั โดยศกึ ษาจากโทรทศั น์ วิทยุ อินเทอร์เนต็
ข้อจำกัด โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตทุรกันดาร เป็นชนเผ่า มีปัญหาเรื่องการติดตอ่ ส่ือสาร
ท้งั เด็กเล็กและตวั ผู้ปกครอง มอี ุปสรรคในเรือ่ งของการเดินทางที่ไกลและยากลำบาก ถ้ามีเด็กไม่สบาย
หรือไดร้ บั อบุ ตั เิ หตุต้องใช้เวลามากในการเดนิ ทางไปสถานพยาบาล และข้อจำกัดทางดา้ นสาธารณูปโภค
ได้แก่ น้ำ มีการใช้ระบบประปาภูเขา มีปัญหาทางด้านความสะอาดและไม่พอเพียงในฤดูแล้ง ส่งผลต่อ
สขุ อนามัยของครูและนกั เรยี น
นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในด้านสื่อที่ไม่มีความหลากหลายและไม่เพียงพอต่อจำนวน
นักเรยี น ความรพู้ น้ื ฐานของการเรยี นคอมพวิ เตอร์ ระบบสญั ญาณอนิ เทอร์เน็ตไรส้ ายในการสบื ค้นข้อมูล
ที่มีความล่าช้า นอกจากนี้การเอาใจใส่ดูแลในเรื่องการเรยี นของนกั เรียน เนื่องจากสภาพชุมชนที่เป็น
ชนเผ่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่รู้หนงั สือ ประกอบอาชีพทำไร่ บางครั้งต้องไปนอนที่ไร่ การสื่อสารติดตอ่
กับผู้ปกครองเป็นไปด้วยความลำบากเด็กอยู่บ้านตามลำพัง หรือจะต้องไปช่วยผู้ปกครองทำงานที่ไร่
ผู้ปกครองมีส่วนรับรู้ในเรื่องการเรียนของนักเรียนน้อย ทำให้นักเรียนขาดการทบทวนความรู้ที่บ้าน
ส่งผลใหเ้ ด็กขาดทกั ษะการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
3.2 การคมนาคมของโรงเรยี นบ้านจะคอื
๑. เดนิ ทางไปทางเรือโดยขึน้ ไปตามลำนำ้ กก ระยะทางประมาณ ๕๐ กิโลเมตร ใช้เวลา
เดินทางประมาณ ๓ ชั่งโมง คา่ โดยสาร ๒๐๐ บาท/คน
๒. เดินทางโดยรถยนต์ไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข ๑ ถึงอำเภอแม่จัน
เลี้ยวซ้ายไปตามถนนแม่จัน – แม่อาย ถึงโรงเรียนบ้านห้วยศาลา ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย
จังหวัดเชยี งใหม่ เล้ียวซ้ายไปประมาณ ๖ กิโลเมตร ถงึ บ้านแมส่ ลัก จากนัน้ เลย้ี วซ้ายไปตามถนนลูกรัง
เลียบลำน้ำกกประมาณ ๙ กิโลเมตร ถึงโรงเรยี นบ้านจะคอื ระยะทางรวม ๙๔ กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาเดินทาง
ประมาณ ๒ ชัว่ โมงคร่ึง
๓. เดินทางด้วยเส้นทางลำรอง จากอำเภอเมืองเชียงราย เดินทางไปทางทิศตะวันตก
หมู่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว จากนั้นข้ามสะพานแม่น้ำกก ผ่านหมู่บ้านผาเสริฐ ตำบลแม่ยาว ผ่าน
อุทยานแห่งชาติหว้ ยหมากเลี่ยม จากนั้นเดินทางกลับเขา้ มาเขตตำบลห้วยชมภู ทางเลียบข้างแมน่ ้ำกก
มาถึงทางแยกบ้านจะคอื หมู่ ๑๐ และบ้านกกน้อย หมู่ ๕ ให้เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านจะคอื เดินทางอีก ๘
กโิ ลเมตร ระยะทางประมาณ ๕๐ กโิ ลเมตร ใช้เวลาในการเดนิ ทางประมาณ ๒ ชว่ั โมง
3
3.3 สภาพบรบิ ทดา้ นอาคารสถานท่ี
15
หมายเลข : 1. สวนหยอ่ มดอกไม้ /2. สนามเปตอง /3. สนามตะกรอ้ /4. สนามฟุตบอล
/5. สนามวอลเลยบ์ อล /6. อาคารเอนกประสงค์ /7. โรงจอดรถ (1) /
8. หอ้ งเรียน ป.๑ /9.อาคารเรยี น ป.2-ป.4 /10.หอ้ งน้ำ (1) /11.อาคารเรียนอนบุ าล
/12.โรงจอดรถ (2) /13. หอประชมุ /14. โรงอาหารนักเรยี น /15. ลานถ่ายภาพปฐมวยั
/16. อาคารพยาบาล /17. อาคารเรยี นแบบ สปช.105/29 * ชั้นบน : หอ้ งเรียน ม.1 –
ม.3 ห้องอำนวยการและสนบั สนนุ การศึกษา ชั้นล่าง : ห้องวทิ ยาศาสตร์ ห้องสมุดมีชีวติ
และโครงการการอ่านฯ และหอ้ งสร้างคนดี (PLC) /18. ห้องประชาสัมพันธ์
/19. ลานกจิ กรรมหนา้ เสาธงและวฒั นธรรม /20. อาคารเฉลิมพระเกียรติ ฯ
** ชน้ั บน : หอ้ งคณุ ธรรมจริยธรรม ห้องสอ่ื และการศึกษาเรียนรว่ ม ห้องกจิ การนกั เรยี น
ห้องวชิ าการและห้องประชมุ ชน้ั ล่าง : ห้อง ICT ห้องเรยี นอาชพี และฝกึ ทักษะอาชพี
หอ้ งเกบ็ พสั ดุ
/21. ห้องเรียน ป.5 /22. ห้องเรยี น ป.6 /23. หอ้ งน้ำ (2)
/24. บา้ นพกั ครู (แบบสรา้ งเอง 1) /25. บา้ นพักครู (แบบสรา้ งเอง 2)
/26. บา้ นพกั ครู (แบบสรา้ งเอง 3) /27. หอพัก(แบบสรา้ งเอง) นักเรียนหญงิ
/28. บ้านพกั ครู (แบบสร้างเอง 4) /29. โรงอาหารสำหรบั ครู (แบบสร้างเอง)
/30. บา้ นพักครู (แบบสรา้ งเอง 5) /31. บา้ นพกั ครู (แบบช้ันเดยี ว 3 ห้องนอน)
/32. ห้องน้ำ (3) /33. บ้านพกั ครู (แบบสร้างเอง 6)
4
/34. สวนเกษตรแบบผสมผสาน โรงเพาะเหด็ และธนาคารขยะ
/35. โรงเกษตร /36. บา้ นพกั ครู (แบบบ้านพกั โสดสองชั้น)
/37. ห้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ /38. บา้ นพกั ครู (แบบสรา้ งเอง 7)
/39. อาคารเรียนชัว่ คราว (แบบสร้างเอง) /40. หอพัก (แบบสพฐ.) นกั เรยี นหญิง
/41. สวนเกษตรพชื ไรแ่ ละสวนกลว้ ย /42. แหล่งเรียนรพู้ ลังงานแสงอาทิตย์
/43. สวนพืชยืนต้นและหวาย
3.4 สภาพบริบทดา้ นแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ และการใช้
- หอ้ งสมุดมีขนาด 112 ตารางเมตร จำนวนหนังสอื ในห้องสมดุ ท้งั หมด ๑,๕๐๐ เล่ม
- แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ได้แก่ ห้องสมุด สวนเกษตรพอเพียง ห้องคอมพิวเตอร์ สนาม
กีฬา ห้องสอ่ื และเรยี นรว่ ม โรงอาหาร
- แหลง่ เรียนร้ภู ายนอกหอ้ งเรียน เช่น หอภูมิปัญญา หอแหย่ แม่น้ำกก ไรน่ า
แหลง่ เรยี นรู้ภายในโรงเรยี น สถิตกิ ารใช้ แหล่งเรยี นรภู้ ายนอกโรงเรียน
ชอื่ แหลง่ เรียนรู้ (จำนวนครัง้ /ป)ี ชือ่ แหล่งเรียนรู้
๑. ห้องสมุดโรงเรียนบ้านจะคือ ตลอดปกี ารศึกษา 1. โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำบล
๒. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์ ตลอดปกี ารศกึ ษา 2. ศนู ยว์ ฒั นธรรมหมู่บ้านจะคือ
๓. หอ้ งปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตลอดปีการศกึ ษา 3. สำนักสงฆ์
๔. ห้องกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นลกู เสอื ตลอดปีการศกึ ษา 4. แหลง่ เรียนรูต้ ามธรรมชาติ
๕. สวนเกษตรผสมผสาน ตลอดปกี ารศกึ ษา 5. แมน่ ำ้ กก
6. ห้องเรยี นอาชพี ตลอดปกี ารศกึ ษา 6. ไร่
7. ห้องเรียนร่วม ตลอดปกี ารศกึ ษา 7. ศูนย์ฝึกและพฒั นาอาชีพราษฎรไทย
บริเวณชายแดนไทยเชยี งราย
8. วิทยาลยั เทคนิคกาญจนาภิเษก
- ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น/ผู้ทรงคุณวุฒิที่สถานศึกษาเชิญมาให้ความรู้แก่ครู/
นักเรียน ในปีการศกึ ษาน้ี
๑. นายจะหมือ่ จะลอ ให้ความรู้เรอ่ื ง จกั สาน
๒. นางกญั ญา ประดับชมพู ใหค้ วามรู้เรื่อง การตัดเยบ็ กระเป๋าลาหู่
๓. นายแอจแู ส แสนใหม่ ให้ความรู้เรื่อง เปา่ แคน/จงั หวะทา่ เต้นจะคึ
๔. นายเฉลมิ ชัย ธรรมบณั ฑิต ใหค้ วามรเู้ รอ่ื ง การรักษาพยาบาล
๕. นางวนั เพญ็ แฉพอ ใหค้ วามรเู้ รือ่ ง การทำขนมบวั ลอย
5
สว่ นท่ี ๒
บทนำ
1. ความเปน็ มาและความสำคัญ
รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ในหมวด ๑๖ การปฏริ ปู ประเทศมาตรา
๒๕๘ จ. (๓) ให้มีกลไกและระบบการผลิตคัดกรองและพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและอาจารย์
ใหไ้ ดผ้ ูม้ ีจิตวญิ ญาณของความเปน็ ครู มีความรูค้ วามสามารถอย่างแท้จรงิ ไดร้ บั ค่าตอบแทนที่เหมาะสม
กับความสามารถและประสิทธิภาพในการสอน รวมทั้งมีกลไกสร้างระบบคุณธรรมในการบริหารงาน
บุคคลของผู้ประกอบวิชาชีพครู (๔) ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนทุกระดับเพื่อให้ผู้เรียนสามารถ
เรยี นไดต้ ามความถนัดและปรบั ปรงุ โครงสร้างของหน่วยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งเพือ่ บรรลุเป้าหมายดงั กลา่ ว โดย
ให้สอดคล้องกันทั้งในระดับชาติและระดับพื้นท่ี นอกจากนี้ ยุทธศาสตรช์ าตริ ะยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-
๒๕๘๐) ตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์
“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนา ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง” โดยยุทธศาสตร์ที่ ๔.๓ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
มีเปา้ หมายการพัฒนาท่ีสำคญั เพื่อพฒั นาคนในทุกมิตแิ ละในทุกช่วงวัย ให้เปน็ คนดี เกง่ และมีคุณภาพ
มีทักษะที่จําเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ (๔.๒) การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต มุ่งเน้นการพัฒนาคน
เชงิ คณุ ภาพในทุกช่วงวัย ตงั้ แต่ชว่ งการต้งั ครรภ์ ปฐมวยั วยั เดก็ วยั ร่นุ วัยเรียน วยั ผู้ใหญ่ วัยแรงงานและ
วัยผู้สงู อายุ เพอ่ื สรา้ งทรัพยากรมนุษย์ท่มี ีศักยภาพมีทักษะ ความรู้ เป็นคนดี มีวินัย เรียนรู้ได้ดว้ ยตนเอง
ในทุกช่วงวัย (๔.๓) ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ โดย
มุ่งเน้นผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้และมีใจใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา มีการออกแบบระบบการเรียนรู้ใหม่
การเปลยี่ นบทบาทครู การเพ่ิมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศกึ ษาและการพัฒนาระบบการเรียนรู้
ตลอดชีวิต สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๐–๒๕๗๙ ในยุทธศาสตร์ที่ ๓ การ
พัฒนาศักยภาพคน ทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีเป้าหมายให้ผู้เรียนมีทักษะและ
คุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทยทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีทักษะความรู้
ความสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษา มาตรฐานวิชาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต
ได้ตามศักยภาพสถานศึกษา ทุกระดับการศึกษาสามารถจัดกิจกรรม/กระบวนการเรียนรูต้ ามหลักสูตร
อย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งแหล่งเรียนรู้ สื่อ ตำราเรียน และนวัตกรรม ประชาชนสามารถ
เข้าถึงได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่มีระบบและกลไกการวัดการติดตามและประเมินผล
มีประสิทธิภาพ มีระบบการผลิตครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาได้มาตรฐานระดับสากล
ครู อาจารย์ ตลอดจนบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้รบั การพัฒนาสมรรถนะตามมาตรฐาน
การพัฒนาคุณภาพศึกษาให้เกิดคุณภาพนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นคุณภาพของผู้เรียน ที่เชื่อมั่นว่า
คุณภาพผู้เรียนจะเกิดได้และบรรลุหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ นั้น จะตอ้ งมกี ระบวนการสูค่ วามสำเร็จ มีองคป์ ระกอบและปจั จัย คือ คุณภาพของ
ผู้เรียน ที่โรงเรียนต้องประกันคุณภาพตอ่ ผูป้ กครองและผู้มีส่วนได้สว่ นเสีย โรงเรียนต้องประกันคุณภาพ
ต่อผู้ปกครองและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่า ผู้เรียนจะต้องมีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักสูตร มีทักษะ
ที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ดังนั้น การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนจะต้องมีกระบวนการสู่ความสำเร็จ
6
ในการพัฒนา ๓ กระบวนการ คือ กระบวนการบริหาร กระบวนการเรียนการสอน และกระบวนการ
นิเทศการศึกษา ซึ่งกระบวนการนิเทศการศึกษา เป็นภารกิจจำเป็นต่อการจัดการศึกษาที่ต้องอาศัย
ความร่วมมือจากบุคคลหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน บุคลากร
ที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานจัดการศึกษา จำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการนิเทศการศึกษา เป็นกระบวนการที่มี
จุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือ ชี้แนะ และพัฒนางานให้ประสบผลสำเร็จ ทันต่อสภาพการเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเหลือสนับสนุนให้กระบวนการบริหาร และกระบวนการเรียน
การสอนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของประเทศ ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมระบบ
ประกันคุณภาพการศึกษา ที่ต้องพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มที ักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ เพื่อเข้าสู่
การปฏริ ปู การศึกษาและการจดั การศึกษาในยคุ ประเทศไทย ๔.๐ ตลอดทั้งมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ
ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณภาพ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีทักษะวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต
ทักษะการเป็นผู้นำ และทักษะการนำไปสู่การสร้างนวัตกร กระบวนการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน การนเิ ทศการศกึ ษาจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนา ปรับปรุง และเพ่ิมประสทิ ธภิ าพ
ในการจัดการการศึกษาในสถานศกึ ษา เพื่อให้ผู้บริหารและครผู ู้สอนมีความรู้ ความเข้าใจในด้านการบริหาร
จัดการ ด้านหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการปฏิบัติงานอื่น ๆ
ทสี่ ง่ ผลตอ่ การพฒั นาคุณภาพการศึกษา
จากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของผู้เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
และชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ในภาพรวมมคี ะแนนไม่ถึงรอ้ ยละ ๕๐ ในทุกกลุ่มสาระ
และทุกชั้น ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
มีคะแนนสูงกว่าร้อยละ ๕๐ และผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT)
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ พบว่า มคี ะแนนสงู ข้ึนทกุ ด้าน แต่มีคะแนนไมถ่ งึ ร้อยละ ๕๐
ยกเว้นความสามารถด้านภาษา และรายงานผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียน
(Reading Test) ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ของสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ พบว่า ในภาพรวมมคี ะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ ๖๘.๔๔
(คะแนนรายสมรรถนะด้านการอ่านออกเสียง ร้อยละ ๖๕.๗๐ ด้านการอ่านรู้เรื่อง ร้อยละ ๗๑.๑๗)
(สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1, หน้า 1 - 2)
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พบว่า กระบวนการนิเทศภายในโรงเรยี นมีความ
แตกตา่ งกัน มที ั้งปจั จยั ท่ีเอ้ือและปัจจัยที่เปน็ อุปสรรคต่อการนิเทศ การนิเทศยงั ขาดความต่อเนื่องและ
ความเป็นเอกภาพทีส่ อดคล้องกับบริบทของพ้ืนท่ี เพื่อให้ทนั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงในยุคประเทศไทย ๔.๐
และการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทย มีทักษะและคุณลักษณะ
ที่จำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ นอกจากน้ัน สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษายังมีความต้องการให้มกี ารพัฒนา
ระบบนิเทศภายในสถานศึกษาให้เข้มแข็งและต่อเนื่อง หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำแนวทางการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่ฐานและการนิเทศภายใน
โรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพือ่ พฒั นาคุณภาพของผู้เรียน ตามนโยบาย “๒๕๖๒ ปีทองแห่งการ
นิเทศภายใน ห้องเรียนเป็นฐานเพ่ือคุณภาพของผู้เรียน” ขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งการนิเทศภายใน
โรงเรียนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บรรลุเป้าหมายการจัดการศึกษาประเทศไทย ๔.๐ ต่อไป
จากนโยบายนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1 จึงจัดทำแนวทางการนิเทศภายใน
7
โรงเรยี น “๒๕๖๒ ปีทองแห่งการนิเทศภายใน หอ้ งเรยี นเป็นฐานเพอ่ื คุณภาพของผู้เรียน” ให้โรงเรียน
ในสังกัดนำไปใช้เป็นแนวทางในการขับเคลอื่ นการดำเนนิ งานการนิเทศภายในโรงเรยี นให้เปน็ ระบบและ
มีความเข้มแข็งตามบริบทและสภาพของแต่ละโรงเรียน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ทัน ต่อการ
เปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มีความเชี่ยวชาญและเกิดทักษะในการปฏิบตั ิงานให้ครู ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการ
พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครูให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นทีส่ ูงขึ้นและมีคุณภาพตามมาตรฐานที่โรงเรียนกำหนด จะชว่ ยเตมิ เต็มความรู้ ความเขา้ ใจที่
จะเป็นประโยชน์สำหรับการนิเทศภายในโรงเรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1 มเี ปา้ หมายการนิเทศระดับโรงเรียน คอื นิเทศ กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ
และประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาภายในโรงเรียน ด้านการพัฒนาและใช้หลักสูตร
สถานศึกษา การอ่านออกเขียนได้ การจัดการเรียนรูเ้ ชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้โดยใชส้ ่อื
เทคโนโลยที างไกล (DLTV/DLIT) การยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผู้เรยี น การประกันคุณภาพ
การศึกษา ตามบริบท ศักยภาพและความพร้อมของสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนิเทศครูทุกคนใน
ทกุ ห้องเรียน 100 %
ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านจะคือมีการกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับสำนักงาน
เขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1 คอื คุณภาพนกั เรียน คุณภาพครู และคณุ ภาพโรงเรยี น
ตามรูปแบบ สพป.ชร.1 โมเดล มาเป็นแนวทางในการดำเนินการพัฒนา LOVE โมเดล ของโรงเรียน
ทั้งนี้โรงเรียนบ้านจะคอื ได้จัดกิจกรรมชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชพี (PLC) ระหว่างผู้บริหารและครู
เพื่อหาแนวทางร่วมกัน ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2562 ได้นำคู่มือแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน
“2562 ปีทองแห่งการนิเทศภายในโรงเรียนโดยใชห้ ้องเรยี นเป็นฐานเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 1 ซง่ึ เป็นเอกสารทจี่ ัดทำขึ้นโดยกลุ่มงานนิเทศ
ติดตามและประเมินผลระบบบริหารและการจัดการศึกษา กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัด
การศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1 โดยมีประเด็นที่นิเทศ คือ
ใช้หลักสูตรสถานศึกษา การอ่านออกเขียนได้ การจัดการเรยี นรู้เชงิ รุก (Active Learning) การจัดการ
เรยี นรู้โดยใช้สอ่ื เทคโนโลยีทางไกล (DLTV/DLIT) การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน การ
ประกันคุณภาพการศึกษา ดังนั้น โรงเรียนบ้านจะคือจึงได้มีการใช้กระบวนการนิเทศภายในโดยใช้
รูปแบบ U A D supervision model เพื่อพัฒนาคุณภาพของโรงเรียนบ้านจะคือ และจัดทำเป็นคู่มือ
การนเิ ทศภายในของโรงเรียนต่อไป
๒. วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือนเิ ทศ ตดิ ตาม การบริหารจัดการชั้นเรียนและการจัดการเรียนรขู้ องครู ตามกระบวนการ
นิเทศภายในโรงเรียนบา้ นจะคอื
2. เพื่อศึกษาผลการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนบ้านจะคือ หลังจากใช้กระบวนการ
นิเทศภายในโรงเรยี นบ้านจะคอื
3. เพ่ือกำหนดแนวทางการนิเทศภายในของโรงเรียนบ้านจะคอื
8
๓. เป้าหมาย
๑. ครูผู้สอน ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้
โดยใชก้ ารนเิ ทศภายในตามรูปแบบของโรงเรยี น
๒. นักเรยี น ได้รบั การพฒั นาจากการเรยี นการสอนของครู โดยผา่ นกระบวนการนเิ ทศภายใน
๓. โรงเรยี นบ้านจะคือ มกี ารพฒั นาการนิเทศภายใน และมีรปู แบบการนเิ ทศภายในทสี่ อดคล้อง
กบั บรบิ ทและสภาพของโรงเรยี น
๔. ภาพความสำเรจ็
๑. ผู้เรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีงานทำ มีอาชีพและเป็น
พลเมอื งดี ตามพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา
๒. ผู้เรียนมคี ณุ ธรรม คุณภาพ ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา
๓. ผู้เรียนมีทักษะทจี่ ำเปน็ ในศตวรรษที่ 21
๔. ผ้เู รยี นมคี วามรู้ ช่วยรกั ษา และเห็นคณุ คา่ วฒั นธรรมของชมุ ชน
๕. ครพู ัฒนาวิชาชีพ เป็นครูมอื อาชีพ ใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้
6. โรงเรยี นรว่ มมือกบั ชุมชน และทุกภาคสว่ นในการจดั การศึกษาเพอ่ื พฒั นาผู้เรยี น
5. ระยะเวลาดำเนินงาน
เดือนพฤษภาคม - เดอื นเมษายน
9
ส่วนที่ ๓
หลักการและแนวคิดการนเิ ทศภายในโรงเรยี น
1. ความหมายของการนเิ ทศภายในโรงเรยี น
การนิเทศภายในโรงเรียน หมายถงึ การสง่ เสรมิ สนับสนนุ หรอื ให้ความชว่ ยเหลือครูในโรงเรยี น
ให้ประสบความสำเร็จในด้านการปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
หรือการสร้างเสริมพัฒนาการของผู้เรียนทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย สังคมอารมณ์ จิตใจ และสติปัญญา
ให้เต็มตามวัยและศักยภาพ การนิเทศภายในโรงเรียนเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้บริหาร
สถานศึกษาและครูในโรงเรียน ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงแก้ไ ข พัฒนาการปฏิบัติงานของครู
ให้มีประสิทธภิ าพ และส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรยี นและคุณภาพการจัดการศกึ ษา
๒. จดุ มุ่งหมายของการนิเทศภายในโรงเรียน
ในการดําเนินงานนิเทศภายในโรงเรียนมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่ วยให้ครูผู้สอนสามารถปรับปรุง
ตนเองและกิจกรรมการเรียนการสอน สามารถพัฒนาพฤติกรรม บุคลิกภาพการสอนของครูให้ดีขึ้น
สนับสนนุ ความรูค้ วามสามารถของครูในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน กำกับ ควบคุม ติดตามผลการ
ปฏิบัติงานของครู ในการปฏิบัติงานอยาง ต่อเนื่อง ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกัน
เปน็ คณะ เพื่อพัฒนาและส่งเสรมิ การบริหารและงานวิชาการของสถานศึกษาให้มีประสทิ ธิภาพย่ิงขน้ึ
๓. ความจำเปน็ ของการนเิ ทศภายในโรงเรยี น
๑. เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน
๒. เพ่อื พัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนของครู
3. บุคลากรภายในสถานศึกษา มีความรู้ ความสามารถ มีความคุ้นเคยและใกล้ชิดปญั หามาก
ท่ีสุด
4. บรรยากาศในการนิเทศมีความเป็นกันเอง และสามารถปฏิบัติงานนิเทศได้อย่างต่อเนื่อง
นำไปสกู่ ารพัฒนาโรงเรยี น
10
4. หลกั การนเิ ทศภายในโรงเรยี น
4.1 กระบวนการนิเทศภายในโรงเรยี นบ้านจะคอื
การนิเทศภายในโรงเรียนบา้ นจะคือ มกี ระบวนการนิเทศภายในแสดงขัน้ ตอนด้วยแผนภาพ
ดงั นี้
เขา้ ใจ - ศึกษาสภาพการบรหิ ารจดั การชนั้ เรยี นและการจดั การเรียนร้ขู องครู
(Understanding) - การวางแผน จดั ทำโครงการ/กจิ กรรม
- กจิ กรรมชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (PLC)
เข้าถงึ - กำหนดวิธกี ารนิเทศภายใน และเลอื กใชเ้ ครื่องมอื การนิเทศโดยให้
(Approach) สอดคลอ้ งกบั คูม่ ือแนวทางของสำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา
ประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 1
พัฒนา - แต่งตง้ั คณะกรรมการนเิ ทศภายใน
(Development) - กำหนดปฏิทินการนิเทศ
- จัดกิจกรรมให้ความรกู้ อ่ นการนเิ ทศ
- ผูบ้ รหิ ารและคณะกรรมการเป็นผูน้ ิเทศ ติดตาม การบริหารจัดการ
ช้ันเรยี นและการจัดการเรียนรู้ของครู โดยวิธีการนเิ ทศ ดังน้ี
1. การเยี่ยมนเิ ทศชัน้ เรียน ใชแ้ บบประเมนิ หอ้ งเรียนคุณภาพ
(Quality Classroom) จำนวน 2 ครั้ง/ปีการศกึ ษา
2. การสังเกตการสอน ใช้แบบสงั เกตการสอน ตามแนวทางของ
สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1
- นำผลการนิเทศภายในมารว่ มกนั ทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After
Action Review) : AAR จำนวน 4 ครัง้ /ปกี ารศกึ ษา
- ร่วมกันหาแนวทางการพฒั นาของครแู ตล่ ะคนโดยใชก้ จิ กรรมชุมชน
แหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชพี (PLC)
- ครนู ำแนวทางทไี่ ดไ้ ปพัฒนาการบริหารจัดการช้ันเรยี นและการ
จดั การเรียนรขู้ องตนต่อไป
- นำผลการพฒั นามาทบทวนหลังจากปฏบิ ัติงาน (After Action
Review) : AAR
- สรุปผลพฒั นาการบรหิ ารจัดการช้ันเรียนและการจัดการเรียนรูข้ อง
ตนตอ่ ไป
- วเิ คราะหผ์ ลการพัฒนา
- รายงานผลการพัฒนาการนิเทศภายในและเผยแพร่
11
๔.๒ บทบาทหน้าทีข่ องผทู้ ่เี กีย่ วขอ้ งกับการนเิ ทศภายในโรงเรียนบ้านจะคอื
๔.๒.๑ บทบาทผูบ้ ริหารโรงเรยี นในการนิเทศภายในโรงเรยี น
ผู้บริหารโรงเรียนมีบทบาทและหน้าที่ในการดำเนินการนิเทศการสอน
โดยทำหน้าที่บริหารโครงการและเป็นผู้นําของคณะผู้นิเทศภายในโรงเรียน การนิเทศภายในโรงเรียน
เป็นระบบหนง่ึ ของงานดา้ นวิชาการ ผู้บรหิ ารโรงเรียนดําเนนิ การนิเทศภายในโรงเรียน ดังนี้
1. เป็นผนู้ ิเทศภายในโรงเรยี น
2. ส่งเสริมใหค้ รมู คี วามรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การนิเทศภายในโรงเรียนอย่าง
แทจ้ ริง
3. ร่วมประชุมวางแผนการนิเทศกบั ผนู้ ิเทศและครใู นฐานะประธานคณะกรรมการ
4. พจิ ารณาอนมุ ัติโครงการนิเทศภายในโรงเรยี นท่ีสอดคล้องกบั นโยบายและ
แผนงานของโรงเรียน
5. เป็นผ้ปู ระสานงานระหว่างผูน้ เิ ทศและผู้รบั การนเิ ทศ
6. ให้การสนับสนุน ทั้งด้านอุปกรณ์ งบประมาณ ขวัญและกําลังใจใน
การดำเนนิ โครงการ
7. ใหค้ ำปรึกษาแนะนํา และเปน็ วทิ ยากรที่ดแี ก่ผู้นเิ ทศและผูร้ ับการนเิ ทศ
8. ชว่ ยเหลอื และส่งเสริมให้ครูมีความรู้และมีพัฒนาการทางวิชาชีพ
9. ใช้เทคนคิ การบรหิ ารมาช่วยเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการนิเทศภายในโรงเรียน
10. ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการนเิ ทศภายในโรงเรยี น
๔.๒.๒ บทบาทและหนา้ ทขี่ องครูผ้สู อน
ครูผสู้ อนตอ้ งปฏิบตั หิ นา้ ทใี่ นสองบทบาทคือ เป็นทั้งผ้นู ิเทศและผูร้ บั การนิเทศ
1. บทบาทและหนา้ ที่ของครูผู้สอนในฐานะผู้นิเทศ
1) ร่วมวางแผนในการปฏิบัติงาน โดยมสี ่วนรว่ มในการวเิ คราะห์
สภาพปญั หาและความตอ้ งการ รวมทงั้ วางแนวทางในการปฏิบัติงาน
2) ดำเนินการนเิ ทศการปฏบิ ตั ิงานโดยการมสี ว่ นรว่ มในการทำงาน
ใหค้ ำแนะนำ ปรึกษาให้การช่วยเหลอื ช่วยแกไ้ ขจดุ บกพร่องและชแ้ี นะให้ผรู้ ับการนเิ ทศไดพ้ ฒั นาตนเอง
3) สร้างขวัญและกาํ ลังใจแกผ่ รู้ ับการนเิ ทศ เพอื่ กระตนุ้ และสนับสนุน
ใหผ้ ูร้ ับการนิเทศได้พัฒนาตนเองดว้ ยความมัน่ ใจ
4) ดำเนนิ การประเมนิ ผลการจดั การนิเทศการศกึ ษา เพ่ือหาแนวทาง
ปรับปรุง แก้ไข จดุ บกพร่องตา่ ง ๆ และเพอื่ หาทางยกระดบั คุณภาพของการปฏบิ ตั งิ านใหส้ ูงขึน้
2. บทบาทและหน้าท่ีของครูผสู้ อนในฐานะผูร้ ับการนเิ ทศ
1) ใหค้ วามรว่ มมือกับผนู้ ิเทศในการร่วมประชุมวางแผน แก้ปญั หา
ภายในโรงเรยี น โดยแสดงความคิดเห็นและอภปิ รายอยา่ งเต็มความสามารถ
2) รับฟงั ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะแล้วนาํ ไปปฏิบัติ
3) ตงั้ ใจปฏบิ ัติงานตามหน้าทีท่ ่ีไดร้ ับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ
12
4) ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผู้นิเทศเป็นอย่างดใี นเรื่องของการติดตาม
ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน
5) รว่ มปรึกษากบั ครูผนู้ เิ ทศในการหาแนวทางแก้ปญั หาและพัฒนา
งานในโรงเรยี น
6) เปน็ ผ้มู ีสว่ นรว่ มในการนิเทศการสอนในชนั้ เรียน
7) เป็นผูท้ ีใ่ ฝ่หาความรูพ้ ยายามเสริมสร้างและความสามารถในการ
ปฏิบตั ิงานเพอื่ ใหเ้ กดิ เจตคตทิ ดี่ ตี ่อการพฒั นาวชิ าชพี
๕. องค์ประกอบของการนเิ ทศภายในโรงเรียน
1. บุคลากรนิเทศ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ทำหน้าที่เป็นผู้นิเทศ
การศึกษา และครผู ู้สอนยงั เปน็ ผู้รบั การนิเทศการศึกษาดว้ ย
2. วธิ กี ารนิเทศ
ขน้ั ท่ี 1 เข้าใจ (Understanding) เปน็ การศึกษาสภาพปัจจุบนั ปัญหาและความต้องการ
พัฒนาการบริหารจัดการชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้ เป็นการศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล สรุปผล
การวิเคราะห์ข้อมูล การวางแผน จัดทำโครงการ/กิจกรรม กำหนดวิธีการนิเทศภายใน และเลือกใช้
เครอื่ งมือการนเิ ทศโดยให้สอดคล้องกับค่มู ือแนวทางการนิเทศภายในโรงเรยี น “2562 ปีทองแห่งการ
นิเทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศกึ ษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 และกำหนดปฏทิ ินการนเิ ทศ โดยกิจกรรมชุมชนแหง่ การเรียนรู้
ทางวชิ าชพี (PLC)
ขั้นที่ 2 เข้าถึง (Approach) เป็นกระบวนการการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ
เพอื่ นเิ ทศตดิ ตามการบรหิ ารจัดการชน้ั เรยี นและการจัดการเรียนรู้ โดยมผี ู้บริหารและคณะกรรมการเป็น
ผู้นิเทศ ติดตาม ใช้แบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ (Quality Classroom) ตามแนวคิด “Beautiful
school, beautiful class” โรงเรียนสวย ห้องเรียนงาม โรงเรียนบ้านจะคือ และแบบสังเกตการสอน
ตามแนวทางการนิเทศภายในโรงเรยี น “2562 ปที องแหง่ การนิเทศภายในโรงเรียนโดยใชห้ อ้ งเรยี นเป็น
ฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 และ
นำผลการนิเทศภายในมาร่วมกนั ทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR)
ขั้นที่ 3 พัฒนา (Development) เป็นการนำผลจากทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน
(After Action Review : AAR) ร่วมกันหาแนวทางการพัฒนาของครแู ต่ละคนโดยใชก้ ิจกรรมชุมชนแห่ง
การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จากนั้นครูนำแนวทางที่ได้ไปพัฒนาการบริหารจัดการชั้นเรียนและการ
จัดการเรยี นร้ขู องตนตอ่ ไป รายงานผลการพฒั นาและเผยแพร่
3. เครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ ได้แก่ ปฏิทินการนิเทศ การเยี่ยมนิเทศชั้นเรียน การสังเกตการ
สอน การวิจัยเชิงปฏิบัติการ การสร้างชุมชนทางการเรียนรู้วิชาชีพ แบบประเมินความพึงพอใจในการ
นิเทศภายใน การสะทอ้ นผลหลงั การปฏิบตั งิ าน (AAR)
13
สว่ นที่ 4
การนเิ ทศภายในโรงเรยี นบา้ นจะคอื โดยใชร้ ปู แบบ U A D Supervision
๑. กระบวนการดำเนินการนิเทศภายในโรงเรยี นบ้านจะคอื
การนเิ ทศภายในโรงเรียนบา้ นจะคอื โดยใช้รปู แบบ U A D supervision model มกี รอบการ
ดำเนินงาน แสดงข้นั ตอนด้วยแผนภาพ ดงั น้ี
เข้าใจ - ศึกษาสภาพการบรหิ ารจัดการชน้ั เรียนและการจัดการเรียนรู้ของครู
(Understanding) - การวางแผน จดั ทำโครงการ/กิจกรรม
- กิจกรรมชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ (PLC)
- กำหนดวิธกี ารนิเทศภายใน และเลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื การนเิ ทศโดยให้
สอดคล้องกับคู่มอื แนวทางของสำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1
- แต่งตง้ั คณะกรรมการนเิ ทศภายใน
- กำหนดปฏทิ ินการนเิ ทศ
-จดั กิจกรรมให้ความรกู้ อ่ นการนิเทศ
เข้าถึง - ผ้บู ริหารและคณะกรรมการเปน็ ผนู้ เิ ทศ ติดตาม การบริหารจัดการ
(Approach) ช้นั เรียนและการจัดการเรียนรขู้ องครู โดยวธิ กี ารนเิ ทศ ดงั น้ี
พฒั นา 1. การเย่ยี มนเิ ทศชนั้ เรยี น ใช้แบบประเมินห้องเรยี นคณุ ภาพ
(Development) (Quality Classroom) จำนวน 2 คร้งั /ปกี ารศกึ ษา
2. การสงั เกตการสอน ใช้แบบสงั เกตการสอน ตามแนวทางของ
สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1
- นำผลการนเิ ทศภายในมาร่วมกันทบทวนหลังจากปฏิบตั งิ าน (After
Action Review) : AAR จำนวน 4 ครง้ั /ปกี ารศกึ ษา
- รว่ มกนั หาแนวทางการพัฒนาของครแู ต่ละคนโดยใชก้ ิจกรรมชมุ ชน
แหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชีพ (PLC)
- ครูนำแนวทางที่ไดไ้ ปพฒั นาการบรหิ ารจดั การชั้นเรียนและการ
จัดการเรยี นร้ขู องตนต่อไป
- นำผลการพฒั นามาทบทวนหลังจากปฏิบัตงิ าน (After Action
Review) : AAR
- สรปุ ผลพฒั นาการบรหิ ารจัดการชน้ั เรยี นและการจดั การเรยี นร้ขู อง
ตนต่อไป
- วเิ คราะหผ์ ลการพัฒนา
- รายงานผลการพฒั นาการนิเทศภายในและเผยแพร่
14
๒. ขัน้ ตอนการดำเนนิ การนเิ ทศภายในโรงเรยี นบ้านจะคอื
๒.1 การเตรียมการ ศึกษาสภาพปัญหาหรือศึกษาหาความจำเป็นของการนิเทศ โดยมีการ
ดำเนินการ ดังนี้
เดือนมนี าคม 1. โรงเรียนบา้ นจะคือได้อาศัยการมีสว่ นรว่ มในการวิเคราะห์สภาพบริบท และแนวนโยบาย
ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ทง้ั ๔ ประการ คอื ๑) มที ศั นคติที่ถูกต้อง
ต่อบ้านเมือง ๒) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง ๓) มีงานทำ-มีอาชีพ และ๔) เป็นพลเมืองดี
ศึกษาศาสตร์พระราชา ของรัชกาลที่ 9 และนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และสพฐ.
ซึ่งมีจุดเน้น คือ จุดเน้นที่ ๑ ห้องเรียนคุณภาพ จุดเน้นที่ ๒ การพัฒนาหลักสูตร จุดเน้นที่ ๓
โรงเรยี นคุณธรรม และจดุ เนน้ ท่ี ๔ การพฒั นาการอา่ นเขียนและคดิ เลขเป็น
2. ศกึ ษาผลการเรียน ผลสมั ฤทธ์ขิ องผ้เู รียน ผลการดำเนนิ งานการจัดการศึกษาของโรงเรียน
บา้ นจะคอื ในปีการศึกษาทผี่ ่านมา รว่ มกนั วิเคราะห์ผลท่เี กิดขึ้น
3. ศึกษาคู่มือแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน “2562 ปีทองแห่งการนิเทศภายใน
โรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 ซึ่งเป็นเอกสารที่จัดทำขั้นโดยกลุ่มงานนิเทศ
ติดตามและประเมินผลระบบบริหารและการจัดการศึกษา กลุ่มนิเทศ ติดตามและ
ประเมินผลการจัดการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย
เขต 1
4. มกี ารประชุมกำหนดมาตรฐานการศึกษาของโรงเรยี น
5. ประชุมวางแผนเพื่อร่วมกันวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและการประเมินสถานภาพของ
โรงเรียน ใช้การ SWOT Analysis เป็นแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี น
6. จดั ทำโครงการกิจกรรม
7. เสนอแผนงาน และอนมุ ตั โิ ครงการกิจกรรม
๒.2 การดำเนนิ การขน้ั ท่ี 1 เขา้ ใจ (Understanding) มีรายละเอยี ดขนั้ ตอน ดงั น้ี
เดอื นพฤษภาคม 1. ประชุมวางแผนการนิเทศภายใน การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการ
เดอื นมิถนุ ายน พัฒนาการบริหารจัดการชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้ เป็นการศึกษาข้อมูล วิเคราะห์
ข้อมูล สรปุ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
2. แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำคู่มอื แนวทางการนิเทศภายในโรงเรยี น
3. จัดทำคู่มือแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ โดยให้สอดคล้องแนวทางการ
นิเทศภายในโรงเรียน “2562 ปีทองแห่งการนิเทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็น
ฐานเพ่อื พัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น สงั กดั สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย
เขต 1
1. จัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) หาแนวทางการนิเทศของโรงเรียน
ร่วมกันเลือกวิธีการและเครื่องมือในการนิเทศในการบริหารจัดการชั้นเรียน และการ
จดั การเรยี นรขู้ องครู
15
2. แต่งต้ังคณะกรรมการนเิ ทศภายใน
3. ประชุมคณะกรรมการการนิเทศภายในโรงเรียน
4. กำหนดปฏิทินการนเิ ทศภายใน
5. มีการจัดกจิ กรรมให้ความรู้ความเขา้ ใจก่อนการนิเทศ
๒.3 การดำเนินงานขนั้ ท่ี 2 เขา้ ถึง (Approach) มรี ายละเอยี ดขัน้ ตอน ดงั นี้
เดือนกรกฎาคม 1. นิเทศแบบสังเกตการสอน ตามแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1 ครัง้ ท่ี 1
เดือนสิงหาคม -
เดือนกนั ยายน 2. คณะกรรมการรวบรวมผลการนเิ ทศ
3. แจ้งผลใหค้ รูผู้สอนทราบ
เดอื นตลุ าคม 4. นำผลการนิเทศแบบสังเกตการสอน ครั้งที่ 1 มาร่วมกันทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน
เดือนธนั วาคม (After Action Review) : AAR และหาแนวทางการพัฒนาตอ่ ไป
เดอื นมกราคม 1. นิเทศแบบเยี่ยมนิเทศชั้นเรียน โดยใช้แบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ (Quality
Classroom) ตามแน ว คิด “ Beautiful school, beautiful class” โ ร ง เร ียน สว ย
ห้องเรยี นงาม ของโรงเรยี นบ้านจะคือ คร้งั ท่ี 1
2. คณะกรรมการรวบรวมผลการนิเทศ
3. แจ้งผลให้ครผู ู้สอนทราบ
4. นำผลการนิเทศแบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ ครั้งที่ 1 มาร่วมกันทบทวนหลังจาก
ปฏิบัตงิ าน (After Action Review) : AAR และหาแนวทางการพฒั นาตอ่ ไป
1. นิเทศแบบสังเกตการสอน ตามแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นท่ี
การศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1 ครงั้ ที่ 2
2. คณะกรรมการรวบรวมผลการนเิ ทศ
3. แจง้ ผลให้ครผู ูส้ อนทราบ
4. นำผลการนิเทศแบบสังเกตการสอน ครั้งที่ 2 มาร่วมกันทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน
(After Action Review) : AAR และหาแนวทางการพัฒนาตอ่ ไป
1. นิเทศแบบสังเกตการสอน ตามแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 1 ครัง้ ที่ 3
2. คณะกรรมการรวบรวมผลการนเิ ทศ
3. แจ้งผลใหค้ รูผูส้ อนทราบ
4. นำผลการนิเทศแบบสังเกตการสอน ครั้งที่ 3 มาร่วมกันทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน
(After Action Review) : AAR และหาแนวทางการพัฒนาตอ่ ไป
1. นิเทศแบบเยี่ยมนิเทศชั้นเรียน โดยใช้แบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ ( Quality
Classroom) ตามแน ว คิด “ Beautiful school, beautiful class” โ ร ง เร ียน สว ย
ห้องเรียนงาม ของโรงเรียนบ้านจะคือ ครัง้ ท่ี 2
2. คณะกรรมการรวบรวมผลการนเิ ทศ
3. แจ้งผลให้ครผู ู้สอนทราบ
16
เดอื นกุมภาพันธ์ 4. นำผลการนิเทศแบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ ครั้งที่ 2 มาร่วมกันทบทวนหลังจาก
ปฏิบัติงาน (After Action Review) : AAR และหาแนวทางการพัฒนาต่อไป
1. นิเทศแบบสังเกตการสอน ตามแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1 คร้ังท่ี 4
2. คณะกรรมการรวบรวมผลการนเิ ทศ
3. แจ้งผลให้ครูผสู้ อนทราบ
4. นำผลการนิเทศแบบสังเกตการสอน ครั้งที่ 4 มาร่วมกันทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน
(After Action Review) : AAR และหาแนวทางการพฒั นาต่อไป
๑. การเย่ียมนิเทศในช้นั เรียน
ผบู้ รหิ าร คณะกรรมการนเิ ทศภายในท่ไี ด้รับการแต่งต้ัง เยย่ี มนิเทศช้นั เรียน ตามตารางปฏิทิน
การนเิ ทศภายในโรงเรยี นบ้านจะคือ การเยยี่ มชัน้ เรียน โดยใชแ้ บบประเมินห้องเรียนคุณภาพ (Quality
Classroom) ตามแนวคิด “Beautiful school, beautiful class” โรงเรียนสวย ห้องเรียนงาม ของ
โรงเรียนบ้านจะคือ เป็นการที่ผู้นิเทศพบ สังเกตการทำงานและตรวจเยี่ยมชั้นเรียน เพื่อร่วมกัน
พฒั นาการทำงานให้มีคุณภาพ มีรายละเอียดการดำเนินงาน ดังน้ี
วตั ถปุ ระสงค์
1. สำรวจความต้องการของครู ในการบรหิ ารจดั การชน้ั เรยี น
2. ศกึ ษาปญั หาของครู ในการบริหารจัดการช้ันเรยี น
3. ประเมินผลการสอนของครู
4. ประเมินผลการบรหิ ารจัดการชน้ั เรียนของครู
5. กระตนุ้ ใหค้ รพู ัฒนาการจดั การเรียนรู้ และการบริหารจดั การชัน้ เรยี น
6. ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ครู
เป้าหมาย
1. ครูมีการจัดบรรยากาศชั้นเรียนที่ดี สะอาด น่าอยู่ น่าดู น่าเรียน ประกอบด้วย ด้าน
สภาพหนา้ หอ้ งเรยี น ด้านสภาพบรบิ ทภายในห้องเรียน และดา้ นการจัดมุมต่าง ๆ ภายในหอ้ ง
2. ครูมีงานธุรการชัน้ เรยี นเปน็ ปจั จบุ ัน
3. ครูจัดทำระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น
ระยะเวลาดำเนนิ การ
1. ผู้บริหารเยี่ยมนิเทศ ติดตามการบริหารจัดการชั้นเรียนของทุกชั้นเรียน แบบไม่เป็น
ทางการ สปั ดาห์ละ 1 คร้ัง เพ่ือกระต้นุ การทำงานของครู
2. ผู้บริหาร คณะกรรมการนิเทศภายใน นิเทศตรวจเยี่ยม ซึ่งให้มีการประเมินห้องเรยี น
คุณภาพ (Quality Classroom) ตามแนวคิด “Beautiful school, beautiful class” โรงเรียนสวย
หอ้ งเรียนงาม ของโรงเรยี นบา้ นจะคือ จำนวน 2 ครงั้ /ปีการศกึ ษา หรอื จำนวน 1 ครง้ั /ภาคเรียน และ
กำหนดเปน็ ปฏทิ ินการนเิ ทศ
17
คณะกรรมการนิเทศ
ครูผูส้ อน ที่ไดร้ บั คำสั่งแตง่ ต้ังทำหน้าทคี่ ณะกรรมการนเิ ทศภายใน โดยใหม้ ีการเยีย่ มนิเทศ
ชั้นเรียน โดยสลับชว่ งช้ันในการตรวจประเมนิ ห้องเรียนคณุ ภาพ ดังนี้
ท่ี คณะกรรมการนเิ ทศ เย่ียมนิเทศชน้ั เรยี น
1 ผบู้ รหิ าร ช่วงชั้นท่ี 1
ครผู ู้สอนระดบั ปฐมวัย ประถมศกึ ษาที่ 1 – 3
2 ผู้บรหิ าร ระดับปฐมวัย
ครผู สู้ อนช่วงชัน้ ที่ 1 อนบุ าล 2 – 3
3 ผบู้ รหิ าร ช่วงช้ันท่ี 2
ครูผสู้ อนชว่ งชัน้ ที่ 3 ประถมศกึ ษาท่ี 4 – 6
4 ผูบ้ รหิ าร ชว่ งชัน้ ท่ี 3
ครผู ู้สอนช่วงชัน้ ที่ 2 มธั ยมศกึ ษาที่ 1 – 3
๒. การสังเกตการสอน
ผู้บริหาร คณะกรรมการนิเทศภายในที่ได้รับการแต่งตั้ง ดำเนินการนิเทศติดตาม ตามตาราง
ปฏิทินการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ โดยใช้แบบสังเกตการสอน ตามแนวทางนิเทศภายใน
โรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 เป็นการจัดให้บุคลากรหนึ่งที่มี
ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเรียนการสอนมาสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูในขณะทำการสอน มี
รายระเอียด ดังน้ี
วตั ถุประสงค์
เพอื่ ให้ครสู ามารถพัฒนาหรือปรับปรุงการสอน ให้มปี ระสทิ ธิภาพโดยใช้ขอ้ มลู ย้อนกลับจากการ
สังเกตการสอนของผนู้ ิเทศ
เป้าหมาย
1. ครูมกี ารจัดการเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษา
2. ครูมกี ารจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
3. ครูมกี ารใช้สอื่ เทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้
4. ครูมกี ารพฒั นานกั เรยี นในการอา่ นการเขียน
ระยะเวลาดำเนินการ
1. ผู้บริหารสังเกตการสอนของครู การจัดเรียนรู้ในชั้นเรียนแบบไม่เป็นทางการ สัปดาห์ละ
1 คร้ัง เพื่อสร้างความตระหนกั ในการจดั การเรยี นการสอนของครู
2. ผู้บริหาร คณะกรรมการนิเทศภายใน สังเกตการสอน แบบเป็นทางการ ตามแบบ
สงั เกตการสอน ตามแนวทางการนิเทศภายในโรงเรียน “2562 ปที องแหง่ การนเิ ทศภายในโรงเรียนโดย
ใช้ห้องเรียนเปน็ ฐานเพือ่ พฒั นาคุณภาพผู้เรยี น สังกดั สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย
เขต 1 จำนวน 4 คร้งั /ปกี ารศึกษา หรือ จำนวน 2 คร้งั /ภาคเรียน และกำหนดเป็นปฏิทนิ การนเิ ทศ
18
คณะกรรมการนเิ ทศ
1. ผ้บู ริหารเปน็ ประธานกรรมการ
2. คณะกรรมการนิเทศภายใน ประกอบด้วยครูที่มีความรู้ความสามารถและมีความ
เข้าใจในการนิเทศการเรียนการสอน จำนวน 4 คน โดยมีหัวหน้าฝ่ายวิชาการเป็นกรรมการและ
เลขานกุ าร
๓. การรวบรวมขอ้ มูล
3.1 ประชุมคณะกรรมการนิเทศภายใน สรุปผลการนิเทศติดตาม ทกุ ครง้ั หลังจากนิเทศ
ติดตามในแต่ละครงั้
3.2 คณะกรรมการนิเทศภายในจัดทำเป็นขอ้ มลู ผลการนิเทศภายใน
4. นำผลขอ้ มลู ผลการนเิ ทศภายใน แตล่ ะครงั้ มาวิเคราะห์โดยนำผลการนิเทศภายในมาร่วมกันทบทวน
หลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) ครูแต่ละคนจะทราบข้อมูลผลการนิเทศ
ข้อเสนอแนะ จากนั้นร่วมกันหาวิธีการในการแก้ไขปัญหา และผลการ AAR ปรับปรงุ พฒั นาการบรหิ าร
ชัน้ เรยี นและการจดั การเรียนรขู้ องตนต่อไป
๒.๔ การดำเนินงานขั้นท่ี 3 พฒั นา (Development) มรี ายละเอียด ดังนี้
เดอื นกรกฎาคม 1. คณะกรรมการนเิ ทศภายในรวบรวมผลการนิเทศ จากแบบสังเกตการสอน คร้งั ท่ี 1
2. แจ้งผลให้ครูทราบ
3. นำผลเข้ากระบวนการทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพ่ือ
ทบทวนการทำงานของครู โดยใชก้ จิ กรรมชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ร่วมกัน
หาวิธีการปรับปรุงพฒั นา
4. ครพู ฒั นาการเรียนการสอน
5. ครูรายงานการพฒั นาการเรยี นการสอน
6. ผู้บริหาร คณะกรรมการนเิ ทศภายใน นิเทศ ตดิ ตามอกี คร้ัง
เดอื นสิงหาคม - 1. คณะกรรมการนิเทศภายในรวบรวมผลการนิเทศ จากแบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ
เดอื นกนั ยายน ครัง้ ท่ี 1
2. แจ้งผลใหค้ รูทราบ
3. นำผลเข้ากระบวนการทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพื่อ
ทบทวนการทำงานของครู โดยใช้กิจกรรมชมุ ชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชพี (PLC) รว่ มกัน
หาวิธกี ารปรับปรุงพัฒนา
4. ครูพฒั นาการบรหิ ารจัดการห้องเรยี น
5. ครรู ายงานการพฒั นาการบริหารจัดการหอ้ งเรียน
6. ผูบ้ ริหาร คณะกรรมการนิเทศภายใน นเิ ทศ ตดิ ตามอกี ครงั้
เดือนตลุ าคม 1. คณะกรรมการนิเทศภายในรวบรวมผลการนิเทศ จากแบบสงั เกตการสอน ครัง้ ที่ 2
2. แจง้ ผลใหค้ รูทราบ
19
เดอื นธนั วาคม 3. นำผลเข้ากระบวนการทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพ่ือ
ทบทวนการทำงานของครู โดยใชก้ ิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชีพ (PLC) ร่วมกัน
เดือนมกราคม หาวิธีการปรบั ปรุงพฒั นา
เดือนกุมภาพันธ์ 4. ครูพฒั นาการเรยี นการสอน
5. ครูรายงานการพฒั นาการเรียนการสอน
เดือนมนี าคม 6. ผู้บรหิ าร คณะกรรมการนิเทศภายใน นเิ ทศ ตดิ ตามอีกครงั้
เดอื นเมษายน
1. คณะกรรมการนิเทศภายในรวบรวมผลการนิเทศ จากแบบสังเกตการสอน ครั้งที่ 3
2. แจง้ ผลใหค้ รทู ราบ
3. นำผลเข้ากระบวนการทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพื่อ
ทบทวนการทำงานของครู โดยใชก้ จิ กรรมชุมชนแห่งการเรยี นร้ทู างวิชาชีพ (PLC) ร่วมกนั
หาวิธีการปรบั ปรงุ พฒั นา
4. ครพู ฒั นาการเรียนการสอน
5. ครูรายงานการพฒั นาการเรยี นการสอน
6. ผู้บรหิ าร คณะกรรมการนเิ ทศภายใน นิเทศ ตดิ ตามอีกครั้ง
1. คณะกรรมการนิเทศภายในรวบรวมผลการนิเทศ จากแบบประเมินห้องเรียนคุณภาพ
ครง้ั ที่ 2
2. แจง้ ผลให้ครูทราบ
3. นำผลเข้ากระบวนการทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพ่ือ
ทบทวนการทำงานของครู โดยใชก้ จิ กรรมชุมชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชพี (PLC) ร่วมกัน
หาวิธีการปรับปรงุ พฒั นา
4. ครพู ัฒนาการบรหิ ารจัดการหอ้ งเรยี น
5. ครรู ายงานการพฒั นาการบรหิ ารจัดการหอ้ งเรียน
6. ผ้บู รหิ าร คณะกรรมการนเิ ทศภายใน นิเทศ ตดิ ตามอกี ครั้ง
1. คณะกรรมการนิเทศภายในรวบรวมผลการนเิ ทศ จากแบบสงั เกตการสอน ครง้ั ที่ 4
2. แจ้งผลใหค้ รทู ราบ
3. นำผลเข้ากระบวนการทบทวนหลังจากปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพื่อ
ทบทวนการทำงานของครู โดยใชก้ จิ กรรมชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชพี (PLC) รว่ มกัน
หาวธิ ีการปรับปรุงพัฒนา
4. ครพู ัฒนาการเรยี นการสอน
5. ครูรายงานการพัฒนาการเรยี นการสอน
6. ผู้บริหาร คณะกรรมการนเิ ทศภายใน นิเทศ ตดิ ตามอกี ครั้ง
ครูทุกคนสรุปผลการพัฒนาตนเอง
1. วเิ คราะห์ขอ้ มลู สรุปผล
2. เขยี นรายงานผลการนเิ ทศ
3. รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) และเผยแพร่
20
2.5 การกำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลและรายงานผล
การรวบรวมขอ้ มลู การวิเคราะห์ และการสงั เคราะหข์ อ้ มูลจากการนเิ ทศ ตดิ ตาม การ
บริหารจัดการชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้ของครู ตามกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนบา้ นจะคือ
โดยใช้รปู แบบ U A D supervision model มดี งั น้ี
1. ผู้บริหาร คณะกรรมการนิเทศภายในโรงเรียน รวบรวมผลการนิเทศ
ติดตาม การบริหารจัดการชั้นเรียน โดยมีเครื่องมือห้องเรียนคุณภาพ (Quality Classroom) ตาม
แนวคิด “Beautiful school, beautiful class” โรงเรียนสวยห้องเรียนงาม โรงเรียนบ้านจะคือ และ
การจดั การเรียนรู้ของครู ใชเ้ คร่ืองมือแบบสงั เกตการสอน ตามแนวทางนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงาน
เขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1 เสนอตอ่ คณะครู
2. ผลการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ มีการนิเทศ ติดตาม ด้านการ
บริหารจัดการชั้นเรียน (เยี่ยมชั้นเรียน) จำนวน 2 ครั้ง และการจัดการเรียนรู้ของครู (สังเกตการสอน)
จำนวน 4 ครั้ง รวบรวมข้อมูลและบันทึกผลการนิเทศในแบบนิเทศ ติดตาม ตามปฏิทินที่กำหนดการ
นิเทศข้างตน้
4. ให้คณะครูประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการนิเทศภายในโรงเรียน
ตามกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ โดยใช้รูปแบบ U A D supervision model
เมอื่ ดำเนินการตามปฏิทินการนิเทศสิ้นสดุ ลง
5. มีการเก็บรวบรวมข้อมูลผลการพัฒนาของนักเรยี นจากกระบวนการนิเทศ
ภายในโรงเรยี นบ้านจะคือ โดยใชร้ ปู แบบ U A D supervision model โดยพจิ ารณาจากข้อมลู ดงั นี้
- ผลการประเมนิ พฒั นาการปฐมวัย
- ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
- ผลการประเมนิ ผลการอ่านการเขียน (RT) ของนกั เรียนประถมศกึ ษาปที ่ี 1
- ผลการประเมินการทดสอบระดับชาติ (NT) นักเรียนประถมศกึ ษาปีที่ 3
- ผลการประเมินการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ปีการศึกษา
2563 ของนกั เรยี นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓
6. การวิเคราะห์ผล โดยผู้บริหารและคณะครู ร่วมกันการวิเคราะห์ และการ
สังเคราะห์ข้อมูลจากการนิเทศ ติดตาม การบริหารจัดการชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้ของครู
ตามกระบวนการการทบทวนหลังปฏบิ ัติงาน (After Action Review : AAR) และนำผลไปพัฒนาในคร้ัง
ตอ่ ไป
7. รายงานผลการนิเทศภายใน โรงเรยี นบา้ นจะคอื ดำเนนิ การ ดังน้ี
7.1 รายงานผลการนิเทศภายในให้ครูแต่ละคนทราบ โดยใช้การ
ทบทวนหลงั ปฏิบตั งิ าน (After Action Review : AAR)
7.2 รายงานผลตามการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมการนิเทศ
ภายใน จดั ทำโดยฝา่ ยวิชาการ ของโรงเรียนบ้านจะคือ
7.3 รายงานการประเมินผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา
(SAR) สง่ สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1
7.4 จัดทำผลการนิเทศภายใน โดยใชร้ ปู แบบวารสารอิเลก็ ทรอนิกส์
และเผยแพร่ Social network
21
สว่ นที่ 5
กจิ กรรมนเิ ทศภายในโรงเรียน
๑. ปฏทิ ินการนิเทศ
การนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคือ โดยใช้รูปแบบ U A D supervision model มีการ
ดำเนินการ กำหนดแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกบั สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษา
เชยี งราย เขต 1 ประกอบด้วยการสังเกตการสอน โดยใช้แบบสังเกตการสอน ตามแนวทางนิเทศภายใน
โรงเรียน สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 จำนวน 4 ครั้ง/ปีการศกึ ษา หรือ
ภาคเรียนละ 2 ครั้งและการนิเทศโดยวธิ ีการเยี่ยมช้ันเรยี น โดยมีเครื่องมือห้องเรียนคณุ ภาพ (Quality
Classroom) ตามแนวคิด “Beautiful school, beautiful class” โรงเรียนสวย ห้องเรียนงาม โรงเรยี น
บ้านจะคือ ที่คณะครูไดร้ ่วมกนั กำหนดมาตรฐานขึน้ ในกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
จำนวน 2 ครง้ั /ปกี ารศึกษา หรอื ภาคเรียนละ 1 ครง้ั และใชก้ ารนิเทศแบบไม่เปน็ ทางการของผู้บริหาร
สัปดาห์ ละ 1 ครั้ง/ทุกชัน้ เรียน ซึ่งก่อนการนิเทศภายในผู้บริหารให้นโยบายการนิเทศภายใน ชี้แจงให้
เห็นถึงความสำคัญของการนิเทศภายใน คณะกรรมการนิเทศภายในและคณะครู จะได้ศึกษาเอกสาร
การนิเทศรว่ มกนั จากนน้ั ดำเนินการนเิ ทศภายในตามปฏิทนิ การนิเทศภายในโรงเรยี นบ้านจะคอื ดังน้ี
ตารางปฏิทินการนเิ ทศภายในโรงเรียนบ้านจะคอื ใช้การสงั เกตการสอน โดยใช้แบบสังเกตการสอน
ตามแนวทางนเิ ทศภายในโรงเรยี น สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1
การสังเกตการสอน คร้งั ที่ 1 ครัง้ ที่ 2 ครัง้ ที่ 3 ครั้งท่ี 4
สังเกตการสอน โดยใช้แบบ เดอื นกรกฎาคม เดอื นตุลาคม เดอื นธันวาคม เดือนกมุ ภาพันธ์
สงั เกตการสอน ตามแนวทาง
นิเทศภายในโรงเรียน
สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา
ประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 1
จำนวน 4 ครงั้ /ปกี ารศึกษา
หรอื ภาคเรียนละ 2 คร้งั
22
ตารางปฏิทินการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านจะคอื การเยี่ยมชัน้ เรียน โดยมีเครอ่ื งมอื คอื แบบประเมิน
ห้องเรยี นคุณภาพ (Quality Classroom) ตามแนวคิด “Beautiful school, beautiful class”
โรงเรยี นสวย ห้องเรยี นงาม โรงเรยี นบา้ นจะคือ
การเย่ียมช้ันเรียน ห้องเรียน ครง้ั ท่ี 1 ครง้ั ที่ 2
เดือนมกราคม
อนบุ าล 2 เดือนสิงหาคม -
เดอื นกนั ยายน
อนุบาล ๓
ป.1
ป.2
การเย่ยี มชั้นเรยี น โดยมเี ครอ่ื งมอื ป.3
คือ แบบประเมินหอ้ งเรียน ป.4
คณุ ภาพ (Quality Classroom) ป.5
ตามแนวคดิ “Beautiful ป.6
school, beautiful class” ม.1
โรงเรียนสวย หอ้ งเรียนงาม ม.2
จำนวน 2 ครงั้ /ปกี ารศึกษา หรอื ม.3
ภาคเรียนละ 1 ครัง้
หอ้ งวิทยาศาสตร์
หอ้ งคณุ ธรรม
ห้องเรยี นอาชพี
ห้องเรียนร่วม
ห้องสมุดมชี ีวิต
หอ้ ง ICT
23
2. การเยยี่ มนิเทศชนั้ เรยี น
ความหมาย การเยี่ยมนิเทศชั้นเรียน หมายถึง การที่ผู้นิเทศพบและสังเกตการทำงานของครู
ในช้ันเรยี น เพ่อื รว่ มกนั พัฒนาการทำงานใหม้ ีคณุ ภาพ
วัตถุประสงค์
1. สำรวจความต้องการของครู
2. ศึกษาปญั หาของครู
3. ประเมนิ ผลการสอนของครู
4. กระตุ้นใหค้ รปู รับปรุงการสอน
๕. ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ครู
ขนั้ ตอนการเยีย่ มนิเทศชน้ั เรยี น
สรา้ งขอ้ ตกลงในการเยี่ยม
นเิ ทศช้นั เรยี น
ปรบั ปรงุ การทำงาน เยีย่ มนิเทศช้นั เรียน
วเิ คราะห์ผลการเยย่ี มนเิ ทศ
ชนั้ เรยี น
ขั้นที่ 1 สรา้ งข้อตกลงในการเยย่ี มนเิ ทศชัน้ เรียน
1.1 พบปะสนทนาสร้างความคุ้นเคยและสร้างเจตคติท่ีดใี นการนิเทศแก่ครู
1.2 วางแผนการเยีย่ มนิเทศชั้นเรยี นรว่ มกับครูในเรอ่ื งตา่ ง ๆ ดังนี้
1.2.1 กำหนดเวลากรเยี่ยมนเิ ทศชั้นเรียน
1.2.2 กำหนดจดุ มงุ่ หมายในการเยย่ี มนิเทศช้นั เรยี น
1.2.3 กำหนดเรอ่ื งทจ่ี ะนเิ ทศตามความต้องการจำเป็น ดังนี้
- การจัดทำเอกสารประจำช้ัน
- การจัดหอ้ งเรียนและบรรยากาศในหอ้ งเรียน
- การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
1.2.4 กำหนดวธิ ีการนิเทศ ดงั น้ี
- สำรวจปัญหาความต้องการของครู
- สอบถามการปฏบิ ัติงานของครู
- ให้คำปรกึ ษาแนะนำ
- สังเกตการสอน
24
ข้นั ท่ี 2 เยยี่ มนเิ ทศชนั้ เรยี น
ผู้นเิ ทศเขา้ เย่ยี มช้ันเรยี นตามขอ้ ตกลงท่กี ำหนดร่วมของครู ดงั นี้
2.1 เขา้ เยี่ยมนิเทศช้นั เรยี นตรงเวลาทก่ี ำหนด
2.2 ใหค้ วามเป็นกนั เองเพื่อสร้างเจตคติท่ดี ีแก่ครู
2.3 เยย่ี มนิเทศตามเรื่องทก่ี ำหนด
2.4 เยี่ยมนิเทศช้นั เรียนตามเวลาท่กี ำหนด
ขน้ั ที่ 3 วเิ คราะห์ผลการเยยี่ มนเิ ทศช้ันเรยี นร่วมกบั ครู
3.1 วิเคราะห์ผลการเยยี่ มนิเทศชนั้ เรยี นรว่ มกบั ครู
3.2 สรปุ ผลการเย่ยี มนเิ ทศช้ันเรยี น
3.3 ให้คำปรกึ ษาแนะนำแกค่ รู
ข้นั ที่ 4 ปรบั ปรงุ การทำงาน
ครูนำผลการนิเทศชนั้ เรียนมาปรับปรงุ แกไ้ ขการทำงาน
25
๓. การสังเกตการสอน
ความหมาย การสังเกตการสอน หมายถงึ การจดั ใหบ้ ุคลากรหน่งึ ทม่ี คี วามรู้ความเข้าใจในเรอ่ื ง
การเรยี นการสอนมาสังเกตพฤติกรรมการสอนของครใู นขณะทำการสอน
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อให้ครสู ามารถพัฒนาหรอื ปรับปรุงการสอน ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพโดยใช้ขอ้ มูล
ย้อนกลับจากการสังเกตการสอนของผู้นเิ ทศ
ขนั้ ตอนการสงั เกตการสอน
สรา้ งความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งครู
กับผู้นเิ ทศ
ปรบั ปรงุ การสอน ปรกึ ษาหารอื และเตรยี ม
แผนการสอน
การสอนร่วมกนั สงั เกตการสอน
ข้ันท่ี 1 สรา้ งความสมั พันธร์ ะหว่างครูกับผู้นิเทศ
1.1 ปฏิบตั ิตนให้เปน็ เพอื่ นร่วมวิชาชีพกับครู
1.2 เปน็ เพอ่ื นร่วมงานกบั ครู
1.3 ให้ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ แก่ครู
1.4 แก้ไขข้อขัดแยง้ ตา่ ง ๆ ของครู
1.5 รับฟังขอ้ แนะนำตา่ ง ๆ ของครู
1.6 ใหค้ วามสนใจตอ่ ครูในการปฏิบตั ิงาน
1.7 ใหค้ วามจรงิ ใจต่อครทู ง้ั ตอ่ หน้าและลับหลงั
1.8 ให้เกยี รตแิ ละยกยอ่ งครูดว้ ยความจริงใจ
1.9 หาทางสรา้ งความก้าวหน้าให้แกค่ รอู ยเู่ สมอ
1.10 ใหค้ วามรแู้ ละสนับสนุนการทำงานของครู
ขั้นที่ 2 ปรกึ ษาหารอื และการเตรียมแผนการสอน
2.1 ปรึกษาหารอื กบั ครใู นเร่ืองการสอน
2.2 วางแผนการสังเกตการสอนรว่ มกัน
2.3 สรา้ งขอ้ ตกลงในการสังเกตการสอนรว่ มกนั
2.4 พิจารณาแผนการสอนร่วมกนั (บนั ทึกการสอน)
26
ขนั้ ที่ 3 สงั เกตการสอน
3.1 ผนู้ เิ ทศเข้าไปน่ังสงั เกตการสอน โดยนง่ั เงียบ ๆ รวมกบั นักเรียน
3.2 ขณะสงั เกตการสอน ผ้นู ิเทศตอ้ งบันทกึ พฤติกรรมการเรยี นการสอน และบรรยากาศใน
ห้องเรียนอยา่ งละเอียด
3.3 บนั ทกึ พฤตกิ รรมการสอนของครู (อาจใช้เทปบนั ทกึ ชว่ ยด้วย)
3.4 ต้องสังเกตการสอนจนจบการสอนในแต่ละครั้ง
ขน้ั ที่ 4 วิเคราะหพ์ ฤติกรรมการสอนรว่ มกัน
4.1 ครูผู้นเิ ทศรว่ มกันวเิ คราะหพ์ ฤติกรรมการเรยี นการสอน
4.2 นำขอ้ มลู จากการบันทกึ พฤติกรรมการสอนมาพิจารณาร่วมกนั
4.3 พิจารณาพฤติกรรมการสอนใดเด่นหรอื ด้อยอยา่ งไร พฤตกิ รรมใด เปน็ ปญั หา
4.4 ครูกบั ผ้นู ิเทศร่วมกันหาทางปรบั ปรุง หรือพัฒนาการสอนให้ดีข้นึ
ข้ันท่ี 5 ปรับปรงุ การสอน
5.1 ครูต้องยอมรบั พฤตกิ รรมการสอนของตน
5.2 นำเอาผลการวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมท้งั ทางดา้ นดแี ละไมด่ ี มาเป็นขอ้ มูลประกอบการเตรียม
แผนการจัดการเรยี นรู้
5.3 ปรับปรงุ แกไ้ ขพฤตกิ รรมทเี่ ป็นปญั หา
27
๔. การวิจยั เชงิ ปฏบิ ตั ิการ
การวจิ ยั เชงิ ปฏิบตั ิการ เป็นการปฏบิ ัติงานร่วมกันระหว่างผูบ้ รหิ ารโรงเรยี น และครูในการแก้ไข
ปรบั ปรงุ การเรียนการสอน หรอื ปัญหาตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรยี น โดยวธิ กี ารศึกษา ค้นควา้ อย่างเปน็ ระบบด้วย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาคน้ ควา้ สาเหตุของปญั หา วธิ กี ารแก้ไขปญั หาและพัฒนาการเรียนการสอนให้มี
ประสทิ ธิภาพ
ขั้นตอนการวิจยั เชิงปฏบิ ตั กิ าร
ขนั้ ที่ 1 กำหนดปญั หา/ความตอ้ งการ
1.1 ศกึ ษาปัญหา/ความต้องการ อาจจะเป็นปญั หาเด็กเรียนช้า ปัญหาวินัย
ในหอ้ งเรียน ฯลฯ โดยศึกษาจากเรอ่ื งตา่ ง ๆ ดงั น้ี
1.1.1 ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนักเรียน
1.1.2 การผ่านจุดประสงค์ของนกั เรียน
1.1.3 บนั ทกึ พฤติกรรมของนกั เรยี น
1.2 วิเคราะห์ปัญหาความตอ้ งการ
1.2.1 วเิ คราะห์จุดเดน่ จุดดอ้ ยของปัญหา/ความต้องการ
1.2.2 จดั ลำดบั ความสำคัญของปญั หา ความตอ้ งการ
1.3 กำหนดปัญหา/ความต้องการที่จะศกึ ษาค้นควา้
ข้ันที่ 2 กำหนดจุดมงุ่ หมายและการดำเนินการ
2.1 ศึกษาหลกั การ ทฤษฎี จากเอกสาร ผลการวจิ ัย และปัญหา/ความ
ต้องการ เพ่อื กำหนดแนวทางแกไ้ ข
2.2 กำหนดจดุ มงุ่ หมายในการศกึ ษาคน้ คว้า
2.3 กำหนดวธิ ีการศกึ ษาค้นควา้
ขนั้ ที่ 3 ดำเนนิ การศกึ ษาคน้ ควา้
3.1 ศึกษาคน้ ควา้ ตามจดุ มงุ่ หมายและวิธกี ารท่ีกำหนด
3.1.1 ศกึ ษาปญั หาดา้ นการเรยี นการสอน เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดย
- สํารวจปัญหาโดยใชก้ ารสอบถาม การสัมภาษณ์
การศึกษาเอกสาร ฯลฯ
- ทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้แบบทดสอบ
- สงั เกตพฤติกรรมครู, นกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรม
3.1.2 คน้ ควา้ ทดลอง โดยใช้
- แบบฝึก กลุ่มประสบการณต์ ่าง ๆ
- สือ่ การสอน
- กิจกรรม, ทักษะต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนฯลฯ
3.2 รวบรวมขอ้ มลู จากการศึกษาคน้ คว้า
28
ข้ันท่ี 4 วิเคราะห์ สรปุ และรายงานผล
4.1 วเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยเลือกใช้สถิตทิ ่ีงา่ ย ๆ และสอดคลอ้ งกับเรอ่ื งท่ีศึกษา
ค้นควา้ เชน่ ความถ่ี คา่ รอ้ ยละ ค่าเฉลี่ย และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ฯลฯ
4.2 เขียนรายงานผลการศึกษาค้นคว้าโดยใช้ภาษาทีเ่ ข้าใจไดง้ ่าย และ
ถูกต้องตามหลักการรายงานผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ดังน้ี
บทท่ี 1 ความเปน็ มาและสภาพปัจจุบนั ปญั หา
บทท่ี 2 เอกสารและรายงานการวิจัยทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
บทที่ 3 วิธดี าํ เนนิ การศึกษาคน้ ควา้
บทที่ 4 การวิเคราะหข์ อ้ มลู
บทท่ี 5 สรปุ ผลและอภปิ รายผลการศกึ ษาคน้ คว้า
ข้ันที่ 5 ทดสอบ แกไ้ ขปรบั ปรุง
5.1 นําผลการศึกษาค้นควา้ ไปใช้ในห้องเรียน
5.2 วเิ คราะหผ์ ล
5.3 สรุปผล
5.4 แก้ไขปรับปรุง
5.5 ขยายผลการศึกษาค้นคว้า
ข้ันตอนการดำเนินการวิจัยเชิงปฏบิ ัตกิ ารของโรงเรียนบา้ นจะคือ ผู้รบั ผิดชอบ
ท่ี ข้ันตอน
1 ส่งหวั ขอ้ ในการทำวิจยั กำหนดปญั หาในการทำวิจัย ครูผู้ทำวิจยั
๒ รว่ มกนั วิพากษห์ วั ขอ้ ในการทำวจิ ัย ปัญหาในการทำวิจัย โดยใช้
การสรา้ งชุมชนทางการเรยี นรู้วชิ าชีพ (PLC) ครผู ู้ทำวิจยั
ผู้อำนวยการโรงเรียน
๓ จัดทำโครงรา่ งวจิ ัย คณะครู
4 จัดทำเครอื่ งมือในการวจิ ัย ให้ผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบ
ครผู ู้ทำวิจัย
๕ รวบรวมผลจากการดำเนินงานวจิ ยั
๖ นำเสนอผลการดำเนนิ งานวจิ ยั ครูผทู้ ำวิจยั
๗ คณะกรรมการตรวจสอบการดำเนนิ งานวิจยั ผเู้ ช่ียวชาญ ประกอบดว้ ย
ครจู ากสถานศกึ ษาอน่ื ทีม่ ี
วทิ ยฐานะชำนาญการข้นึ ไป
และศกึ ษานเิ ทศก์
ครผู ้ทู ำวิจยั
ครผู ู้ทำวิจยั
คณะกรรมการ
ประกอบด้วย ผอู้ ำนวยการ
โรงเรยี น หวั หน้าวชิ าการ
และครผู ้รู บั ชอบงานดา้ น
วจิ ยั
29
๕. การสรา้ งชมุ ชนทางการเรยี นรู้วชิ าชพี
รปู แบบเครือข่าย (PLC Professional Learning Community) ชมุ ชนแห่งการเรียนรวู้ ิชาชพี
ของโรงเรยี นบา้ นจะคอื สพป.เชยี งราย เขต 1
ขั้นตอนการนำ PLC ไปปฏบิ ัติในสถานศึกษา (การPLC การบริหารจัดการ/กจิ กรรม/อืน่ ๆ)
PLC ในโรงเรียน รวมกล่มุ PLC
ครู ครู คน้ หาปัญหา/ความตอ้ งการ วิธกี าร/นวัตกรรม
ครู – เขา้ ใจ
ครู ครู ออกแบบกิจกรรมการแก้ปัญหา
PLC กลมุ่ โรงเรียน แลกเปลีย่ น/เสนอแนะ ออกแบบตามวธิ ีการท่ี
กลุ่มเลอื ก
ไทย ไทย
เขา้ ถึ นำกจิ กรรมไปใชใ้ นการ
นำเสนอกิจกรรมการ นำไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ/สงั เกตการสอน ง แก้ปัญหา
แกป้ ญั หาให้ผูเ้ ช่ยี วชาญหรือ
ผู้มีประสบการณ์ให้ แลกเปล่ยี น/เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะ นวตั กรรม/Best Practice
พัฒนา
- สรปุ ผลการนำรปู แบบ/
วิธีการในการนำไปแกป้ ัญหา
- อธิปรายผลการแกป้ ญั หา/
เสนอแนะทางการพฒั นา
นโยบาย สพฐ.“ปี 2562 เป็นปที องแห่งการนเิ ทศภายใน”
โดยนอ้ มนำศาสตร์พระราชา (ร.๙) ส่กู ารปฏบิ ัติในสถานศึกษา ของโรงเรยี นบา้ นจะคือ สพป.
เชยี งราย เขต 1
โดยใช้ (PLC Professional Learning Community) ชุมชนแห่งการเรยี นรู้วชิ าชีพ
PLC Time Line ในการจัดการเรยี นรู้ของครู เข้าใจ เขา้ ถงึ พฒั นา
30
การนเิ ทศภายในโรงเรียนบา้ นจะคือ
โดยใช้ PLC (Professional Learning Community) ชมุ ชนแห่งการเรยี นร้วู ิชาชพี เป็นฐาน
ออกแบบแผนการเรยี นรู้
วงรอบท่ี 1 PLC -ไดแ้ ผนการเรียนรทู้ ่เี หมาะสม
แผนการจัดการเรียนรู้ กับมาตรฐาน/สาระการเรยี นรู้/
ประเด็นการพฒั นา *การ มกี จิ กรรมทีเ่ หมาะสมกับ
แผนการเรยี นรู้/ออกแบบ นิเทศ ผเู้ รยี น/มกี ารวัดและประเมินท่ี
กิจกรรมการเรยี นรู้/มเี ครื่องมือ สอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์
วดั และประเมนิ ทีส่ อดคล้อง
-นำผลการจดั การเรียนรู้
*การนเิ ทศ การจัดการเรียนรู้/(ลงสู่การปฏบิ ัติ) (บันทกึ หลงั แผนฯ) /
ผลการจัดการเรียนรู้ รายละเอียดต่างๆ/ปัจจัยที่
สังเกตการเรยี นการสอน/เยย่ี มช้นั เรียน เอ้อื /ปญั หาและอปุ สรรค
(มาตรฐานหอ้ งเรยี นคณุ ภาพของโรงเรยี น นำเข้าสวู่ ง PLC หากไดผ้ ลทด่ี ี
ก็จะเปน็ การเสนอแนะการ
วงรอบที่ 2 PLC พัฒนางานตอ่ ไป /หากผลไม่
ประเด็นการพัฒนา การปรับปรุงพัฒนาการเรยี นรู้ สำเร็จกจ็ ะการปรบั ปรงุ
กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ มีรปู แบบ พัฒนาแผน/กิจกรรมหรอื
วธิ ีการทดี่ แี ละเหมาะสม ผลการจัดการเรียนรู้ รูปแบบวธิ ีการตอ่ ไป
PLC
*การนเิ ทศ - เมือ่ ปรับปรุงการ
นวตั กรรม/Best Practice จัดการเรยี นรโู้ ดย
วงรอบท่ี 3 รูปแบบวิธกี ารแลว้ (จาก
ประเดน็ การปรบั ปรุงพฒั นา วงรอบที่ 2) นำผลการ
รูปแบบวธิ กี ารการเรียนรู้ เรียนรูเ้ ข้าส่กู ารPLC ใน
วงรอบท่ี 3 หากยังมีข้อ
การวจิ ยั ช้นั เรยี น ทีต่ อ้ งปรับปรุงพฒั นาก็
ใหพ้ จิ ารณาแก้ไขแผน
หรือรปู แบบวิธกี าร
เรียนรู้ /หากไดผ้ ลดกี ็จะ
เกดิ เป็น นวัตกรรม/Best
Practice
31
6. การสะทอ้ นผลหลงั การปฏบิ ตั ิงาน (AAR)
การสะท้อนผลหลงั การปฏิบตั ิงาน (After Action Review : AAR) หมายถงึ เครอื่ งมือที่นำมาใช้
ในกระบวนการทำงาน เพื่อทบทวนวิธีการทำงานทั้งด้านความสำเร็จและปัญหา เป็นการทบทวนเพ่ือ
ร่วมกันสะท้อน และทบทวนกระบวนการต่าง ๆ นำบทเรียนที่ได้จากความสำเร็จและปัญหาที่เกิดขึ้น
มาจดั ทำและพัฒนากระบวนการทำงานใหม้ ีประสิทธภิ าพและประสิทธิผลมากข้นึ โดยมีการแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์การทำงาน
ขั้นตอนการทำ AAR
1. รวบรวมพล/ผู้เข้ารว่ ม AAR : ควรทำ AAR ทันที หลังจากจบงานนั้น ๆ หรือเร็วทสี่ ุดที่จัดหา
เวลาได้ เพราะยงั จำได้ดี การเรียนรู้จะได้ถกู นำมาปรับใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2. แนะนำกฎกติกามารยาท : สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองในการทำ AAR ต้องมีการเปิดใจ
และยอมรับที่จะเรียนรู้ ไม่มีการกล่าวโทษ ซ้ำเติม ตอกย้ำซึ่งกันและกัน ทุกคนควรมีส่วนร่วม
ในบรรยากาศที่อิสระไม่มีความเป็นเจ้านาย หรือลูกน้อง AAR เป็นการเรียนรู้จากเหตุการณ์มากกว่า
การวิจารณ์ โดยมี “คุณอำนวย” (Facilitator) เป็นผู้คอยกระตุ้น ตั้งคำถามให้ทุกคนได้แสดงความ
คดิ เห็น ข้อเสนอแนะ
3. ทบทวนเหตกุ ารณก์ ารกระทำท่เี กดิ ขน้ึ และควรเกิดขึ้น โดยมคี ำถามดังน้ี
1) เมอื่ ทำ นั้นทำอะไร ทำอย่างไร
2) คุณรู้สึกอยา่ งไร
3) ด้วยเหตผุ ลใด จึงทำเช่นน้ี
4) มปี จั จัย หรอื องค์ประกอบใด ท่ีมผี ลตอ่ การทำ
5) อะไรคอื เปา้ ประสงค์ท่ีต้งั ใจ
6) อะไรคือผลลพั ธท์ เ่ี กดิ จรงิ
7) ทฤษฎบี ท กลา่ วว่าอย่างไร
8) มีทางเลือกอะไรบา้ ง
9) คร้งั หนา้ จะทำใหแ้ ตกต่างอย่างไร
10) ทกั ษะและความรู้ที่ ตอ้ งมกี อ่ นการทำครงั้ หน้า
11) คุณคิดว่าเรียนรอู้ ะไร
4. บันทึกประเด็นสำคัญ : การบันทึกประเด็นสำคัญหลังจากที่ได้มีการชี้ให้เห็นอย่างชัดเจน
ในการทำ AAR แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเปรียบเทียบกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้
ผ่านประสบการณภ์ ายในทมี งานดว้ ยกนั และเพอ่ื เป็นพ้ืนฐานสำหรบั การเรยี นรู้ที่กวา้ งมากข้นึ กว่าเดมิ ในองคก์ ร
7. การประเมินความพงึ พอใจตอ่ การนเิ ทศภายในโรงเรยี น
เป็นการประเมินผลสำเร็จของการนิเทศภายในโรงเรียน และความพึงพอใจของผู้บริหาร
สถานศึกษาและครทู ่ีมตี อกระบวนการนเิ ทศภายในโรงเรียน ซ่งึ ประเมนิ ได้จากสาระสำคญั ตอไปน้ี
1. บรรลตุ ามวตั ถุประสงคและเปา้ หมายในแผนการนเิ ทศเพียงใด
2. ครเู กดิ การพัฒนาหรอื ไม่
3. การพฒั นาท่ีเกิดขน้ึ สงผลตอนักเรยี นมากนอ้ ยเพยี งใด
4. ผบู้ รหิ ารและครูมีความพงึ พอใจมากน้อยเพียงใด
32
ส่วนท่ี ๖
เครือ่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการดำเนินการนเิ ทศภายในโรงเรียน
๑. แบบบนั ทึกการเยยี่ มชน้ั เรียน
แบบประเมนิ ห้องเรยี นคณุ ภาพ (Quality Classroom)
ตามแนวคิด “Beautiful school, beautiful class” โรงเรยี นสวย หอ้ งเรยี นงาม
โรงเรียนบ้านจะคอื สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1
ครั้งที่............ ประจำเดอื น.................................วนั ที่..............................................
ชน้ั เรยี น.......................................................ครูประจำชั้น......................................................................
1. ด้านสภาพหน้าห้องเรียน ระดบั คะแนนผลการประเมิน ขอ้ สังเกตในการพัฒนา
3210
รายการประเมนิ
........................................................
1.1 ชั้นวางรองเท้า ตอ้ งอยใู่ น ........................................................
สภาพที่คงทนแข็งแรง พร้อม
ใช้งานได้ โดยวางเรียงจาก ........................................................
ผหู้ ญงิ ก่อน ........................................................
1.2 ปา้ ยหอ้ งเรียน ........................................................
ประกอบดว้ ย ปา้ ยชั้นเรยี น
และป้ายชื่อครปู ระจำชน้ั ........................................................
1.3 ปา้ ยสถิตกิ ารมาเรยี น ........................................................
1.4 ปา้ ยสมาชกิ ห้องเรียน
ประกอบดว้ ย รูปภาพ และ ........................................................
ช่ือ-นามสกุล เลขที่
1.5 ปา้ ยประชาสมั พนั ธ์ สูตรคำนวณ
(ข่าวสาร, องค์ความรู้ใหม,่ คะแนน = ผลรวมระดับคะแนน X (25)
กิจกรรมที่จะดำเนินการ)
คะแนนผลการประเมนิ ขอ้ 1 (15)
(1.1-1.5) คะแนน
33
2. ด้านสภาพบรบิ ทภายในห้องเรยี น
รายการประเมนิ ระดบั คะแนนผลการประเมิน ข้อสงั เกตในการพฒั นา
32 1 0
2.1 พื้นห้องเรียน (พื้นห้องเรียนต้อง
สะอาด ไม่มีเศษกระดาษเศษขยะ ..................................................
ผู้อำนวยการสถานศึกษาจัดให้มีปูพ้ืน ..................................................
ห้องด้วยกระเบือ้ ง เพอ่ื ความคงทนและ ..................................................
สวยงาม เออื้ ต่อการจัดการเรยี นร้)ู ..................................................
2.2 โต๊ะครู ให้จัดไว้อยู่หน้าห้องเรียน ..................................................
และต้องอยู่ในสภาพคงทนแข็งแรง ไม่ ..................................................
รก ไม่วางข้าวของระเกะระกะ เป็น ..................................................
แบบอยา่ งแก่นกั เรียนได้ ..................................................
2.3 โต๊ะนักเรียน ในสภาพคงทน ..................................................
แข็งแรง ไม่รก ไม่วางข้าวของ ..................................................
ระเกะระกะ มีจำนวนพอเพียงต่อ ..................................................
นกั เรียนในหอ้ งเรียน จดั วางรูปแบบให้ ..................................................
เออ้ื ต่อการจดั การเรียนรู้ ..................................................
2.4 ชั้นวางของ ให้จัดไว้อยู่ด้านหลัง ..................................................
ของห้องเรียน ในสภาพคงทนแข็งแรง ..................................................
ไม่รก ไม่วางข้าวของระเกะระกะ และ ..................................................
เรียบรอ้ ย ..................................................
2.5 อปุ กรณท์ ำความสะอาดประจำ ..................................................
หอ้ งเรียน ต้องจดั ให้มปี ระจำหอ้ งเรียน
จัดเก็บให้อย่สู ภาพเรยี บร้อยอยู่
ดา้ นหลงั หอ้ ง
2.6 อุปกรณส์ ว่ นตวั ของนักเรยี น (แก้ว สูตรคำนวณ
น้ำ จานชาม ช้อน แปรงฟัน ยาสฟี นั คะแนน = ผลรวมระดบั คะแนน X (25)
และอ่ืน ๆ) จดั ไวใ้ นต้หู รือชั้นวางของ (21)
หรือแขวนไว้ ทง้ั น้ีต้องจดั ใหม้ ปี ระจำ
ห้องเรยี น จดั เกบ็ ให้อย่สู ภาพเรยี บร้อย
อย่ดู ้านหลังห้อง
2.7 สภาพแวดล้อมตา่ ง ๆ ประตู
หน้าต่าง อุปกรณ์ ไฟฟ้า พัดลม ตอ้ ง
อยู่ในสภาพท่พี ร้อมใชง้ าน มคี วาม
มั่นคงแข็งแรง
คะแนนผลการประเมิน ข้อ 2 คะแนน
(๒.1-๒.๗)
34
3. ดา้ นการจดั มุมตา่ ง ๆ ภายในหอ้ ง
รายการประเมนิ ระดบั คะแนนผลการประเมนิ ข้อสังเกตในการพฒั นา
3210
3.1 ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ ติดดา้ นบนหน้า ..................................................
ห้องเรียน ..................................................
3.2 คำขวัญ ประกอบด้วย คำ ..................................................
ขวัญจังหวัด คำขวัญอำเภอ คำ ..................................................
ขวญั ตำบล ..................................................
3.3 นาฬิกา ต้องติดไว้ใหเ้ หน็ ได้ ..................................................
ชดั เจน ..................................................
..................................................
3.4 ปฏทิ ิน ต้องเปน็ ปฏิทินที่เป็น
..................................................
ปีปจั จบุ นั
..................................................
3.5 ปา้ ยโครงสรา้ ง
..................................................
คณะกรรมการหอ้ งเรยี น
..................................................
3.6 ปา้ ยเวรประจำวัน
..................................................
3.7 ตารางเรียน ..................................................
3.8 ป้ายความรู้ กลมุ่ สาระการ ..................................................
เรียนรู้ต่าง ๆ
..................................................
3.9 ป้ายแสดงผลงานนักเรยี น
3.10 ข้อตกลงในห้องเรยี น
3.11 ปา้ ยนักเรยี นดีเด่น สตู รคำนวณ
ประจำเดอื น (มอบเกียรตบิ ัตรยก
ยอ่ งให้ทกุ เดอื น) คะแนน = ผลรวมระดบั คะแนน X (25)
3.12 ปา้ ยบคุ คลสำคญั (36)
1) ป้ายพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อยหู่ ัวฯ พระบรมวงศานวุ งศ์
2) ป้ายตำแหน่งหนว่ ยงาน
ปกครอง
3) ป้ายตำแหน่งหน่วยงาน
การศกึ ษา
คะแนนผลการประเมิน ข้อ 3 คะแนน
(๓.1-๓.๑๒)
35
4. ด้านเอกสารธรุ การชน้ั เรยี น ระดบั คะแนนผลการประเมิน ขอ้ สงั เกตในการพัฒนา
3210
รายการประเมิน
...............................................
4.1 บันทึกการมาเรยี น
4.๒ บันทึกน้ำหนักส่วนสูง และ ...............................................
สขุ ภาพนกั เรียน ...............................................
4.3 บนั ทึกการดม่ื นม ...............................................
4.4 บันทกึ การแปรงฟนั
4.5 แบบคัดกรองนักเรียนเป็น ...............................................
รายบคุ คล ...............................................
4.6 แบบเอกสารตามกรอบระบบ
ดูแลช่วยเหลือนักเรียน (SDQ) ...............................................
4.7 บันทึกการเย่ียมบา้ น ...............................................
4.8 บนั ทกึ การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ภายใน ...............................................
และภายนอกหอ้ งเรียน
4.9 บนั ทึกการโฮมรูม สตู รคำนวณ
4.10 บันทึกการออมทรัพย์
4.11 บันทกึ การสอนซ่อมเสริม คะแนน = ผลรวมระดบั คะแนน X (25)
4.12 แบบนิเทศชนั้ เรียน
(36)
คะแนนผลการประเมิน ขอ้ 4
(๔.1-๔.๑๒) คะแนน
36
สรุปผลการประเมินห้องเรยี นคณุ ภาพ (Quality Classroom)
ตามแนวคดิ “Beautiful school, beautiful class” โรงเรยี นสวย หอ้ งเรยี นงาม
โรงเรยี นบา้ นจะคือ สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 1
คร้งั ท.ี่ ........... ประจำเดือน....................................วนั ท.ี่ .................................................
ชั้นเรียน...........................................................ครปู ระจำช้นั ....................................................................
ท่ี รายการประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ระดับ
๑. ดา้ นสภาพหนา้ หอ้ งเรียน 25
๒. ด้านสภาพบรบิ ทภายในหอ้ งเรยี น 25
3. ด้านการจัดมุมตา่ ง ๆ ภายในห้อง 25
4. ด้านเอกสารธรุ การชน้ั เรยี น 25
รวมผลการประเมนิ 100
ความเห็นผู้ประเมนิ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงช่อื ผ้ปู ระเมนิ
(......................................................)
ตำแหน่ง........................................................
ความเห็นผ้อู ำนวยการสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงช่อื ผบู้ รหิ าร/ผรู้ ับรอง
(......................................................)
ตำแหนง่ ........................................................
37
รายละเอียดหลักเกณฑ์การประเมนิ มาตรฐานห้องเรียนคุณภาพ
(แนบทา้ ยประกาศโรงเรียนบา้ นจะคอื ฉบับลงวนั ท่ี 1 สิงหาคม 2562)
1. หลักการ
ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดให้ปีการศึกษา 2562 เป็นปีทอง
แห่งการนิเทศภายในสถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 ได้
กำหนดใหโ้ รงเรียนในสังกัดตอ้ งดำเนนิ การนิเทศภายในสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ โรงเรียนบ้านจะคือ
จึงจัดให้มีการนิเทศภายในสถานศึกษา ตามกิจกรรมการนิเทศภายในโรงเรียน ตามโครงการพัฒนา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาห้องเรียนให้มีความสะอาด
เรียบร้อย เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ตามแนวคิดที่ว่า Beautiful school, beautiful class มี
เครื่องมือในการนิเทศตรวจเยี่ยมชั้นเรียนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ทำให้
นิเทศภายในของโรงเรียนบ้านจะคือเป็นระบบมีประสิทธิภาพ และมีแนวทางในการพัฒนา ส่งเสริม
กำกับดูแล และติดตามการจัดการเรยี นรู้ของครู จึงกำหนดการดำเนินงานหอ้ งเรียนคุณภาพ (Quality
Classroom) ให้มีหลักเกณฑก์ ารประเมินมาตรฐานหอ้ งเรยี นคณุ ภาพ
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพอ่ื พัฒนาห้องเรียนใหม้ คี วามสะอาดเรยี บร้อย เอือ้ ต่อการเรียนรู้ของนกั เรยี น
2.2 เพื่อให้มีเครื่องมือในการนิเทศตรวจเยี่ยมชั้นเรียนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบท
ของสถานศึกษา ทำให้นิเทศภายในของโรงเรียนบา้ นจะคอื เป็นระบบมปี ระสทิ ธิภาพ
2.3 แนวทางในการพฒั นา สง่ เสริม กำกบั ดูแล และตดิ ตามการจัดการเรยี นรขู้ องครู
3. หลักเกณฑ์การประเมิน
จากกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ Professional Learning Community (PLC)
การบริหารงานวิชาการ วันพุธที่ 31 กรกฎาคม ๒๕๖๒ ในประเด็นการสร้างประสิทธิภาพการนิเทศ
ภายในสถานศึกษา ตามกิจกรรมการนิเทศภายในโรงเรียน ตามโครงการพัฒนาข้าราชการครูและ
บคุ ลากรทางการศึกษาในการจัดการเรียนรู้ ซง่ึ ชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวิชาชีพของโรงเรียนบ้านจะคือ โดย
กำหนดการดำเนินงานพัฒนาห้องเรียนคุณภาพ (Quality Classroom) ให้สอดคล้องกับการนิเทศ
ภายในสถานศกึ ษาและบรบิ ทของโรงเรียนบา้ นจะคือ ซ่งึ จะมีการประเมิน ผ่านวธิ กี ารนิเทศช้นั เรียน โดย
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจะคือ ฝ่ายบริหารงานวิชาการโรงเรียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือ
ผู้อำนวยการโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนห้วยชมภู หรือจากหน่วยงานตน้ สังกัด การประเมินมีคะแนนเตม็
100 คะแนน รายละเอยี ดดงั นี้
1. ด้านสภาพหน้าห้องเรียน (มีคะแนน 25 คะแนน คะแนนเต็มรายข้อ 3 คะแนน/ข้อ)
รายละเอียดดังนี้
1.1 ชัน้ วางรองเท้า ตอ้ งอยูใ่ นสภาพทค่ี งทนแขง็ แรง พร้อมใช้งานได้ โดยวางเรียงจาก
ผูห้ ญงิ กอ่ น
1.2 ป้ายห้องเรยี น ประกอบด้วย ปา้ ยชั้นเรยี นและปา้ ยช่ือครูประจำช้นั
1.3 ป้ายสถติ ิการมาเรยี น
38
1.4 ป้ายสมาชิกห้องเรยี น ประกอบด้วย รูปภาพ และช่ือ-นามสกลุ เลขท่ี
1.5 ป้ายประชาสัมพันธ์ (ขา่ วสาร, องคค์ วามรู้ใหม่, กจิ กรรมที่จะดำเนินการ)
ตอ้ งอย่ใู นสภาพทสี่ ะอาดเรยี บรอ้ ย คงทนแข็งแรง เอือ้ ประโยชนแ์ ก่นกั เรียน
2. ด้านสภาพบริบทภายในหอ้ งเรียน (มีคะแนน 25 คะแนน คะแนนเต็มรายข้อ 3 คะแนน/
ขอ้ ) รายละเอียดดงั น้ี
2.1 พื้นห้องเรยี น (พื้นหอ้ งเรียนต้องสะอาด ไม่มีเศษกระดาษ เศษขยะ ผู้อำนวยการ
สถานศึกษาจดั ใหม้ ีปูพน้ื ห้องดว้ ยกระเบื้อง เพ่ือความคงทนและสวยงาม เออื้ ตอ่ การจดั การเรียนรู้)
2.2 โต๊ะครู ให้จดั ไวอ้ ยหู่ นา้ ห้องเรียน และต้องอย่ใู นสภาพคงทนแข็งแรง ไมร่ ก ไมว่ าง
ข้าวของระเกะระกะ เปน็ แบบอยา่ งแกน่ กั เรียนได้
2.3 โต๊ะนักเรียน ในสภาพคงทนแข็งแรง ไม่รก ไม่วางข้าวของระเกะระกะ มีจำนวน
พอเพียงต่อนักเรยี นในหอ้ งเรียน จดั วางรูปแบบใหเ้ อ้ือต่อการจดั การเรียนรู้
2.4 ชั้นวางของ ให้จัดไว้อยู่ด้านหลังของห้องเรียน ในสภาพคงทนแข็งแรง ไม่รก ไม่
วางข้าวของระเกะระกะ และเรยี บรอ้ ย
2.5 อปุ กรณท์ ำความสะอาดประจำหอ้ งเรียน ต้องจดั ให้มีประจำห้องเรยี น จัดเก็บให้
อยูส่ ภาพเรยี บร้อยอยูด่ ้านหลงั หอ้ ง
2.6 อุปกรณส์ ว่ นตัวของนกั เรียน (แกว้ น้ำ จานชาม ช้อน แปรงฟัน ยาสฟี นั และอ่ืนๆ)
จดั ไวใ้ นต้หู รือช้ันวางของ หรอื แขวนไว้ ทง้ั นตี้ อ้ งจดั ให้มีประจำห้องเรยี น จดั เก็บให้อย่สู ภาพเรียบร้อยอยู่
ด้านหลังหอ้ ง
2.7 สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ประตู หน้าต่าง อุปกรณ์ ไฟฟ้า พัดลม ต้องอยู่ในสภาพท่ี
พร้อมใชง้ าน มคี วามมัน่ คงแข็งแรง
3. ดา้ นการจัดมุมต่าง ๆ ภายในหอ้ ง (มีคะแนน 25 คะแนน คะแนนเตม็ รายขอ้ 3 คะแนน/
ขอ้ ) รายละเอยี ดดังนี้
3.1 ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ติดดา้ นบนหน้าหอ้ งเรยี น
3.2 คำขวัญ ประกอบดว้ ย คำขวัญจงั หวดั คำขวญั อำเภอ คำขวัญตำบล
3.3 นาฬกิ า ต้องติดไวใ้ ห้เหน็ ได้ชดั เจน
3.4 ปฏทิ ิน ต้องเปน็ ปฏทิ นิ ทเ่ี ปน็ ปีปัจจบุ ัน
3.5 ปา้ ยโครงสรา้ งคณะกรรมการห้องเรียน
3.6 ป้ายเวรประจำวัน
3.7 ตารางเรียน
3.8 ป้ายความรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรูต้ ่าง ๆ
3.9 ป้ายแสดงผลงานนกั เรียน
3.10 ข้อตกลงในห้องเรียน
3.11 ป้ายนักเรียนดีเด่นประจำเดือน (มอบเกียรตบิ ัตรยกย่องใหท้ กุ เดอื น)
3.12 ป้ายบคุ คลสำคัญ ประกอบด้วย
1) ป้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวฯ พระบรมวงศานวุ งศ์
- พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ฯ
- สมเด็จพระราชนิ ี
39
- สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถพระบรมราชชนนพี ันปีหลวง
- สมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
2) ป้ายตำแหนง่ หน่วยงานปกครอง
- นายกรัฐมนตรี
- ผวู้ า่ ราชการจังหวัดเชียงราย
- นายอำเภอเมอื งเชยี งราย
- กำนันตำบลห้วยชมภู /ผูใ้ หญ่บ้าน หมู่ 10 บา้ นจะคอื
3) ป้ายตำแหนง่ หนว่ ยงานการศึกษา
-ผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต1
- ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นจะคือ
- ครปู ระจำช้ัน
ตอ้ งอยู่ในสภาพทีส่ ะอาดเรยี บร้อย คงทนแข็งแรง เอือ้ ประโยชนแ์ ก่การเรยี นรูน้ ักเรียน
4. ดา้ นเอกสารธุรการชน้ั เรียน
4.1 บันทกึ การมาเรียน
4.๒ บนั ทึกนำ้ หนกั ส่วนสูง และสุขภาพนกั เรียน
4.3 บันทกึ การดืม่ นม
4.4 บนั ทกึ การแปรงฟนั
4.5 แบบคดั กรองนกั เรียนเป็นรายบคุ คล
4.6 แบบเอกสารตามกรอบระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน (SDQ)
4.7 บนั ทึกการเย่ยี มบ้าน
4.8 บนั ทึกการใชแ้ หล่งเรยี นรภู้ ายในและภายนอกหอ้ งเรียน
4.9 บนั ทึกการโฮมรูม
4.10 บนั ทึกการออมทรพั ย์
4.11 บนั ทึกการสอนซ่อมเสรมิ
4.12 แบบนิเทศช้ันเรียน
จัดให้มีตามเกณฑ์ อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย เอกสารธุรการชั้นเรียนบันทึกรายละเอยี ดให้เปน็
ปจั จุบนั
4. การประเมินห้องเรียนคุณภาพโรงเรยี นบา้ นจะคอื
4.1 วิธีการประเมินแต่ละรายการ ให้ผู้นิเทศ (ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจะคือ ฝ่าย
บรหิ ารงานวชิ าการโรงเรยี น หรือผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย หรอื ผู้อำนวยการโรงเรยี นในกลมุ่ โรงเรยี นห้วยชมภู
หรือจากหน่วยงานต้นสังกดั ) ดำเนินการดงั นี้
4.1.1 พจิ ารณาจากหอ้ งเรียน /เอกสาร /หลักฐานร่องรอยทส่ี ะทอ้ นผลการดำเนินงาน
พฒั นาหอ้ งเรยี นคณุ ภาพ โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ระดบั ผลการประเมิน
4.1.2 ระดับคณุ ภาพ
- ระดับ 3 เท่ากับ 3 คะแนน หมายถึง มีการดำเนินงาน มีร่องรอย
หลกั ฐานตามเกณฑท์ กี่ ำหนด มรี ายละเอยี ดท่ีเป็นปัจจบุ ัน และสามารถเป็นแบบอย่างท่ีดี
40
- ระดับ 2 เท่ากับ 2 คะแนน หมายถึง มีการดำเนินงาน มีร่องรอย
หลักฐานตามเกณฑท์ ก่ี ำหนด เปน็ ปัจจบุ นั แตย่ ังไม่เรยี บร้อย
- ระดับ 1 เท่ากับ 1 คะแนน หมายถึง มีการดำเนินงาน มีร่องรอย
หลกั ฐานตามเกณฑ์ทกี่ ำหนด ไม่มรี ายละเอียดที่เปน็ ปัจจุบัน และไม่เรียบร้อย
- ระดบั 0 เทา่ กับ 0 คะแนน หมายถงึ ไม่มีการดำเนินงานในห้องเรยี น
ไม่มรี ่องรอยหลักฐานตามหลกั เกณฑ์ทก่ี ำหนด
4.2 สูตรคำนวณคะแนนการประเมิน คอื
- การคำนวณคะแนนการประเมินแต่ละด้าน
คะแนนการประเมนิ แต่ละดา้ น = คะแนนรวมระดบั คณุ ภาพ X คะแนนเตม็ รายด้าน (25)
คะแนนสงู สุดของระดับคุณภาพ X จำนวนข้อในรายด้าน
*เมื่อผลคะแนนการประเมนิ มจี ดุ ทศนยิ มใหใ้ ช้จุดทศนิยมสองตำแหนง่
- การคำนวณในภาพรวมทง้ั 4 ดา้ น (คะแนนเตม็ 100 คะแนน)
คะแนนการประเมิน 4 ด้าน = (1) + (2) + (3) + (4)
4.3 เกณฑ์ตัดสนิ
กำหนดใหม้ ีคะแนนรวม 100 คะแนน เปน็ คะแนนเตม็ นำผลคะแนนการประเมินจาก
องคป์ ระกอบ 4 ดา้ น มารวมกนั จากนน้ั พิจารณา ตามเกณฑ์ตดั สนิ ดงั น้ี
91 – 100 คะแนน อยใู่ นระดบั ดเี ย่ยี ม
81 – 90 คะแนน อย่ใู นระดบั ดีมาก
71 – 80 คะแนน อยู่ในระดบั ดี
61 – 70 คะแนน อยใู่ นระดบั พอใช้
0 – 60 คะแนน อยใู่ นระดบั ปรับปรงุ
4.4 การรับทราบผลการประเมนิ
หอ้ งเรียนใดอยู่ในเกณฑร์ ะดบั ปรับปรุง ผนู้ เิ ทศหรอื ผู้ประเมินต้องบันทึกเหตุผลแจ้งให้
ครูประจำชนั้ นั้นทราบ และใหค้ รูประจำชั้นต้องเรง่ ดำเนินการให้มผี ลการดำเนนิ งาน หลักฐานตามเกณฑ์
ท่ีขาดน้นั
หอ้ งเรยี นใดอยู่ในเกณฑ์ระดบั พอใช้ ผู้นิเทศหรอื ผู้ประเมนิ ต้องบันทึกเหตุผลแจ้งให้ครู
ประจำชั้นนั้นทราบ และให้ครูประจำชัน้ ต้องพฒั นาช้นั เรียน หลักฐานตามเกณฑ์
ห้องเรียนใดอยู่ในเกณฑ์ระดับดี ผู้นิเทศหรือผู้ประเมินต้องแจ้งผลการประเมินให้ครู
ประจำชั้นนนั้ ทราบ และให้ครูประจำชน้ั พัฒนาให้อยูใ่ นระดบั ทีส่ ูงกว่าเดิม
ห้องเรียนใดอยู่ในเกณฑ์ระดับดีมาก ผู้นิเทศหรือผู้ประเมินต้องแจง้ ผลการประเมนิ ให้
ครปู ระจำช้นั นน้ั ทราบ และใหค้ รปู ระจำชน้ั พัฒนาให้อยูใ่ นระดับท่ีสงู กวา่ เดิม
ห้องเรียนใดอยู่ในเกณฑ์ระดับดมี าก ผู้นิเทศหรอื ผู้ประเมินต้องแจง้ ผลการประเมนิ ให้
ครูประจำชั้นนั้นทราบ และประกาศประชาสัมพันธ์ให้ทราบด้วยทั่วไป ทั้งนี้ครูประจำชั้นพัฒนาให้คง
สภาพ และพัฒนาใหม้ คี ะแนนสูงกวา่ เดิม
4. ระยะเวลาประเมนิ หอ้ งเรยี นคุณภาพโรงเรียนบา้ นจะคือ
โดยใชต้ ารางการนเิ ทศชัน้ เรียนทุกเดือน ในปีการศกึ ษานน้ั ๆ แตใ่ หม้ ีการประเมนิ ภาคเรียนละ ๑ คร้ัง
41
2. แบบสงั เกตการสอน
แบบสังเกตการสอน
(ตามแนวทางนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1)
ชอ่ื ผ้รู ับการนเิ ทศ..................................................................ตำแหน่ง....................................................
กลุ่มสาระการเรยี นรู้...............................สอนระดบั ชัน้ ...........สอนวนั ที.่ ........เดอื น............พ.ศ............
แผนการจัดการเรยี นร.ู้ .........หนว่ ยการเรียนร้.ู .......................เรอ่ื ง..........................................................
รายการประเมนิ ปฏบิ ตั ิ หมายเหตุ
มี ไมม่ ี
ดา้ นการเตรยี มการสอน
1.จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคล้องกับตวั ช้ีวัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.กำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ คลอบคลมุ ท้งั 3 ดา้ น (K.P.A.)
3.เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ สื่อ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการ
เรยี นรู้
ด้านการจัดการเรียนรู้
4.มีวธิ กี ารนำเข้าสู่บทเรยี นท่ีน่าสนใจ
5.มีกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และ
เขา้ ใจ
6.จัดกิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ ให้ผ้เู รยี นคน้ คว้าเพ่อื หาคำตอบด้วยตนเอง
7.นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
8.จัดกจิ กรรมทเี่ น้นกระบวนการคดิ (คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิด
สรา้ งสรรค)์
9.กระต้นุ ใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี
10.จัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ี่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงโดยนำภูมิปัญญา/
บรู ณาการเข้ามามสี ่วนรว่ ม
11.จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม
12.มีการเสริมแรงเมอ่ื นกั เรยี นปฏิบตั ิ หรือตอบถูกต้อง
13.มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น
14.เอาใจใสด่ แู ลผเู้ รยี นอยา่ งทัว่ ถงึ
15.ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่ีกำหนด
ด้านสื่อนวัตกรรม แหล่งการเรยี นรแู้ ละอุปกรณ์การสอน
16.ใช้ส่ือที่เหมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผูเ้ รยี น
17.ใชส้ ื่อ แหล่งการเรียนรูอ้ ย่างหลากหลาย
18.มีการประเมินกอ่ นเรยี น/ระหว่างเรยี น/หลงั เรยี น
19.ผู้เรียนมสี ่วนรว่ มในการกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล
20.ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้ง 3 ด้าน (K.P.A.)
21.ครู นกั เรยี น ผูป้ กครอง หรอื ผเู้ กีย่ วข้องมีส่วนรว่ มในการประเมิน
42
ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
สงิ่ ท่ีควรยกย่องชมเชย
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ส่งิ ท่คี วรปรบั ปรงุ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงช่ือ......................................................ผู้นิเทศ
(..............................................)
รับทราบ/ปรับปรุง/ดำเนนิ การตามคำแนะนำ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .....................................................ผรู้ บั การนเิ ทศ
(............................................)
43
3. แบบบนั ทึกการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกลมุ่ ชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี
แบบบันทึกการปฏิบัตกิ ิจกรรมกลุ่มชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชพี
(Professional Learning Community : PLC)
ประจำปีการศกึ ษา .................
โรงเรียนบ้านจะคือ สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1
ชือ่ กลุม่ จำนวนสมาชิกในกลุ่ม คน.
กิจกรรมที่ ช่ือกจิ กรรม .
ระยะเวลา จำนวนช่ัวโมง .
1. รายช่อื สมาชิกเข้ารว่ มกลุม่ ในกจิ กรรมคร้ังนี้ (ประธาน สมาชิก เลขาฯ เจ้าของประเด็น
ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ผู้รว่ มสังเกตการณ์ ฯลฯ)
ท่ี ชอื่ -สกุล ตำแหน่งในกลุม่ ลายมือชอ่ื
1 ประธาน
2 สมาชิก
3 สมาชกิ
4 สมาชกิ
5 สมาชิก
6 สมาชกิ
7 สมาชกิ
8 สมาชกิ
9 สมาชกิ
10 สมาชิก
1 สมาชิกและเลขานกุ าร
2. ประเดน็ /ปญั หาการสนทนากลุ่ม
...........................................................................................................................
3. กล่มุ คนท่ีดำเนินการ
.............................................................................................................. ................
4. การวางแผนการดำเนินการ
ขั้นตอน ระยะเวลา (ว/ด/ป) จำนวนชวั่ โมง ผ้รู ับผดิ ชอบ
44
5. ปัญหา
....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
6. สาเหตขุ องปญั หา
....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
7. วธิ ีการแกป้ ัญหาของสมาชกิ ในกลุ่ม
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
8. ความรู้ หลกั วิชา หรือหลกั การทจ่ี ะนำมาใชใ้ นการแกป้ ัญหา
.....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
9. การประเมนิ ผล (ทำอย่างไร)
....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
10. ผลการดำเนนิ กจิ กรรมโดยสรปุ
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
11. การนำผลทไ่ี ดจ้ ากการแกป้ ัญหาไปใช้
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
12. ชื่อนวัตกรรมทไี่ ดจ้ ากการแก้ปญั หา
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
13. เอกสารทใี่ ชร้ ะหวา่ งแกป้ ญั หา
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงช่อื ..........................................................ผบู้ นั ทึก
()
ตำแหน่ง ครู
45
การรบั รองของผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย
.....................ถูกต้อง ......................ไม่ถูกต้อง
ความคดิ เห็นเพิ่มเติม
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ..........................................................
()
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นจะคอื
46
๔. แบบบนั ทกึ การทบทวนหลังการปฏิบตั ิงาน (After Action Review : AAR)
แบบบนั ทกึ การทบทวนหลงั การปฏิบตั ิงาน (After Action Review : AAR)
โรงเรยี นบ้านจะคอื
เรียน ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นจะคือ
ชือ่ งาน AAR ครั้งท่ี
วนั /เวลาทเ่ี ร่ิมปฏบิ ตั งิ าน วัน/เวลาทส่ี ้นิ สุดการปฏิบัติงาน
วนั ทที่ ำ AAR เวลาเริ่ม-สนิ้ สดุ
ผรู้ ่วม AAR
เปา้ หมายของงาน
ผลการปฏิบัติ/ผลลัพธ์ท่ีเกดิ ข้ึนจริง (โดยสรุป)
งาน/ข้นั ตอนท่ีทำไดด้ ี
งาน/ข้นั ตอนท่ที ำไดไ้ มด่ ี
อปุ สรรค/ข้อจำกัด/ข้อขัดข้อง ทพี่ บในระหวา่ งการปฏิบัตงิ าน
ประเดน็ ท่ไี ด้เรยี นรู้
ขอ้ ปฏบิ ัติในการทำงานครงั้ ต่อไป