แผนการจัดประสบการณ์ ฤดูฝน อ3ห้อง4

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้
ระดบั ชัน้ อนบุ าล 3

สาระท่คี วรเรียนรู้ เร่อื งราวเก่ยี วกับธรรมชาติรอบตวั

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ฤดฝู น

ระหว่างวนั ที่ 12-16 กรกฎาคม 2564

สอนโดย
นางธนัชชา แกว้ เกตุ
ครูประจาชั้นอนุบาลปีที่ 3/4

โรงเรียนวัดเวฬวุ ัน อาเภอสารภี จังหวดั เชียงใหม่
อนบุ าลประจาเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 4

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

1. ปรากฏการณธ์ รรมชาติ แผนการจัดประสบการณ์
วฏั จักรของน้า โรงเรยี นวดั เวฬวุ นั สพป.เชยี งใหม่ เขต 4 ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา 2564 ภาคเรียนที่ 1

สัปดาห์ท่ี 7 สาระที่ควรเรยี นรู้ เร่ืองราวเกย่ี วกับธรรมชาติรอบตวั
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ฤดฝู น

ระดมความคิด

5. โครงการฝนหลวง

2. ปรากฏการณ์ในฤดฝู น ฤดูฝน

ส่ิงที่เดก็ ร้แู ล้ว 4. โรคท่ีพบบ่อยในฤดูฝน
- ฝนตกทาให้เปยี ก
- ฝนตกลงมาจากฟา้ 3. การปฏิบตั ติ นอย่างเหมาะสมเม่ือฝนตก
(การแต่งกายในฤดฝู น)

สิง่ ท่ีเด็กควรรู้ สิ่งท่ีเดก็ อยากรู้

- ปรากฏการณธ์ รรมชาติ วฏั จกั รของนา้ - การเกดิ ฝน
- ปรากฏการณ์ในฤดูฝน - ปรากฏการณ์ในฤดฝู น
- การปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมเม่อื ฝนตก
(การแตง่ กายในฤดฝู น)
- โรคทีพ่ บบ่อยในฤดูฝน
- โครงการฝนหลวง

การกา้ หนดจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ของหน่วยที่ 7 ฤดูฝน ชันอนบุ าลปีที่ 3
โรงเรียนวัดเวฬุวัน สา้ นักงานเขตพืนท่กี ารศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 4

มาตรฐาน/ตวั บ่งชี/สภาพที่พงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ้าคัญ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี 4 ชื่นชมและแสดงออก 1. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถสนใจ มีความสขุ 1. สุนทรียภาพดนตรี สาระทค่ี วรเรียนรู้
2. การทากจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ - เรียนรูง้ านศิลปะ ชื่นชม สร้างสรรคอ์ ยา่ ง
ทางศิลปะ ดนตรี และการเคล่อื นไหว และแสดงออกผ่านงานศลิ ปะได้ 3. การทางานศิลปะ มีความสขุ
- การแสดงออกทางอารมณ์และความรสู้ กึ
4.1 สนใจ มีความสุขและ อย่างเหมาะสม
- การสร้างศลิ ปะจากวัสดตุ า่ งๆ รอบตัวเดก็
แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ดนตรี และ

การเคลื่อนไหว

4.1.1 สนใจ มคี วามสุข และ

แสดงออกผ่านงานศิลปะ

มาตรฐานท่ี 6 มีทักษะชีวติ และปฏิบัติ 2. เพอื่ ให้เด็กสามารถแต่งตัวด้วย 1. การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวนั - การแตง่ กายด้วยตนเองอยา่ งถกู วิธแี ละ
กาลเทศะ
ตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ ตนเองไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ - การรับประทานอาหารท่ีถูกวธิ ี
- การใช้และทาความสะอาดหลังใชห้ ้องนา้
พอเพยี ง (กิจวัตรประจาวนั ) ห้องสว้ มด้วยตนเอง

6.1 ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบตั ิ

กจิ วัตรประจาวนั

6.1.1 แตง่ ตัวด้วยตนเองได้

อยา่ งคล่องแคล่ว

มาตรฐานที่ 8 อยรู่ ่วมกบั ผู้อื่นไดอ้ ยา่ ง 3. เพอื่ ให้เด็กสามารถเล่นและทา 1. การเลน่ และทางานร่วมกับผอู้ ่นื - การเลน่ และทางานร่วมกับเพอ่ื นอยา่ งมี

มีความสุขและปฏิบัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดี กิจกรรมร่วมกับเดก็ ทีแ่ ตกต่างไปจาก 2. การเลน่ และทางานรว่ มกบั กลุ่มเพ่ือน เป้าหมายโดยปราศจากข้อขดั แยง้

ของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมี ตนได้

พระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ

8.1 ยอมรับความเหมือนและ

ความแตกต่างระหว่างบุคคล

8.1.1 เลน่ และทากิจกรรม

ร่วมกับเด็กท่ีแตกต่างไปจากตน

มาตรฐาน/ตัวบ่งชี/สภาพทพี่ งึ ประสงค์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
4. เพือ่ ให้เด็กสามารถสนใจหยิบหนังสือ
มาตรฐานท่ี 12 มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรยี นรู้ มาอา่ นและเขยี นสื่อความคดิ ด้วยตนเอง ประสบการณ์สา้ คัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้
และมคี วามสามารถในการแสวงหา เป็นประจาอย่างต่อเน่ืองได้
ความรไู้ ดเ้ หมาะสมกับวัย 1. การอา่ นหนังสือภาพนทิ าน - การมเี จตคติที่ดีต่อการอา่ นและการเขยี น
5. เพอื่ ให้เด็กสามารถกระตอื รอื รน้ ใน หลากหลายประเภท/รปู แบบ - การกระตือรือรน้ ในการอ่าน การเขยี น
12.1 มีเจตคติทด่ี ตี ่อการเรยี นรู้ การรว่ มกิจกรรมต้งั แต่ตน้ จนจบได้ 2. การคดิ สะกดคาและเขียนเพอ่ื สื่อ - การอ่านหนังสือแล้วเขยี นสื่อความหมาย
12.1.1 สนใจหยิบหนังสือมา ความหมายด้วยตนเองอย่างอิสระ จากหนังสือด้วยตนเอง
6. เพื่อให้เด็กสามารถใช้ประโยคคาถาม
อา่ นและเขียนส่อื ความคดิ ด้วยตนเองเปน็ วา่ “เม่ือไร” “อย่างไร” ในการคน้ หา 1. การเลน่ และทางานรว่ มกับ - การปฏบิ ัติตน สนใจในการเข้าร่วมกิจกรรม
ประจาอยา่ งต่อเนื่อง คาตอบจากการทากจิ กรรมได้ กล่มุ เพ่ือน ดว้ ยความกระตือรือร้น
มาตรฐานที่ 12 มีเจตคตทิ ด่ี ีต่อการเรยี นรู้ 2. การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิ
และมีความสามารถในการแสวงหา กิจกรรมต่างๆ
ความรไู้ ดเ้ หมาะสมกับวัย
1. การตง้ั คาถามในเร่ืองที่สนใจ - การใชป้ ระโยคคาถามว่า “เม่อื ไหร่”
12.1 มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรยี นรู้ 2. การพูดเรยี งลาดับเพื่อใชใ้ นการ “อยา่ งไร” ในการค้นหาคาตอบ
12.1.2 กระตอื รือร้นในการรว่ ม สือ่ สาร

กิจกรรมตง้ั แตต่ น้ จนจบ
มาตรฐานท่ี 12 มีเจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นรู้
และมคี วามสามารถในการแสวงหา
ความรู้ได้เหมาะสมกับวยั

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหา
ความรู้

12.2.2 ใช้ประโยคคาถามวา่
“เม่ือไร” “อยา่ งไร” ในการค้นหาคาตอบ

เกณฑ์การประเมนิ

พัฒนาการ/ตวั บง่ ชี สภาพที่พึงประสงค์ (สพป.) ดี (3) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ควรสง่ เสรมิ )
อายุ 5 ปี 2 (พอใช้)
4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ เด็กสามารถสนใจ มคี วามสุข และ
แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ 4.1.1 สนใจ มีความสขุ และ เดก็ สามารถสนใจ มีความสขุ เด็กสามารถสนใจ มีความสขุ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะได้ด้วย
ดนตรี และการเคลือ่ นไหว ตนเองโดยมผี ชู้ ี้แนะตลอดเวลา
แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ และแสดงออกผ่านงานศิลปะได้ และแสดงออกผ่านงานศลิ ปะได้

ด้วยตนเอง ด้วยตนเองโดยมีผู้ชแี้ นะบางครัง้

6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 6.1.1 แตง่ ตวั ด้วยตนเองได้ เดก็ สามารถแตง่ ตัวดว้ ยตนเอง เดก็ สามารถแตง่ ตวั ดว้ ยตนเองได้ เดก็ สามารถแตง่ ตัวด้วยตนเองได้โดย

ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจาวัน อยา่ งคล่องแคล่ว ได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว โดยมีผชู้ ่วยเหลอื บางครัง้ มีผู้ช่วยเหลือตลอดเวลา

8.1 ยอมรบั ความเหมือนและ 8.1.1 เลน่ และทากิจกรรม เด็กสามารถเล่นและทา เด็กสามารถเล่นและทากิจกรรม เดก็ สามารถเลน่ และทากิจกรรม
ความแตกต่างระหว่างบุคคล ร่วมกบั เดก็ ที่แตกต่างไปจาก ร่วมกบั เด็กที่แตกต่างไปจากตนได้
ตน กจิ กรรมร่วมกับเด็กทีแ่ ตกตา่ ง ร่วมกับเด็กที่แตกต่างไปจากตน ด้วยตนเองโดยมผี ้ชู แ้ี นะตลอดเวลา
12.1 มเี จตคติทดี่ ตี อ่ การ
เรยี นรู้ 12.1.1 สนใจหยบิ หนงั สอื มา ไปจากตนไดด้ ้วยตนเอง ไดด้ ้วยตนเองโดยมีผ้ชู แ้ี นะ เดก็ สามารถสนใจหยบิ หนังสอื มา
อ่านและเขยี นส่ือความคิด อา่ นและเขียนส่อื ความคดิ ด้วยตนเอง
12.1 มีเจตคติทดี่ ตี ่อการ ด้วยตนเองเป็นประจาอยา่ ง บางคร้งั เป็นประจาอย่างต่อเน่อื งได้ด้วย
เรยี นรู้ ต่อเนือ่ ง ตนเองโดยมผี ชู้ แี้ นะตลอดเวลา
เด็กสามารถสนใจหยิบหนังสอื เดก็ สามารถสนใจหยบิ หนังสอื มา
12.2 มีความสามารถในการ 12.1.2 กระตือรอื ร้นในการ เดก็ สามารถกระตอื รือรน้ ในการร่วม
แสวงหาความรู้ รว่ มกิจกรรมต้งั แต่ตน้ จนจบ มาอา่ นและเขียนสื่อความคดิ อา่ นและเขียนสอ่ื ความคดิ ดว้ ย กจิ กรรมตง้ั แตต่ น้ จนจบได้ดว้ ย
ตนเองโดยมีผู้ช้ีแนะตลอดเวลา
12.2.2 ใช้ประโยคคาถามวา่ ด้วยตนเองเปน็ ประจาอย่าง ตนเองเป็นประจาอย่างต่อเน่ือง
“เมือ่ ไร” “อย่างไร” ในการ
คน้ หาคาตอบ ต่อเนอ่ื งได้ด้วยตนเอง ไดด้ ้วยตนเองโดยมีผชู้ ้ีแนะ

บางคร้ัง

เด็กสามารถกระตอื รือร้นในการ เด็กสามารถกระตือรือร้นในการ

รว่ มกจิ กรรมตง้ั แต่ต้นจนจบได้ รว่ มกิจกรรมตง้ั แต่ต้นจนจบได้

ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเองโดยมผี ้ชู แี้ นะบางคร้ัง

เดก็ สามารถใชป้ ระโยคคาถาม เด็กสามารถใช้ประโยคคาถามวา่ เดก็ สามารถใชป้ ระโยคคาถามวา่

วา่ “เมือ่ ไร” “อย่างไร” ในการ “เม่ือไร” “อยา่ งไร” ในการ “เม่ือไร” “อยา่ งไร” ในการค้นหา

คน้ หาคาตอบจากการทา คน้ หาคาตอบจากการทากจิ กรรม คาตอบจากการทากิจกรรมได้ด้วย

กิจกรรมได้ดว้ ยตนเอง ไดด้ ว้ ยตนเองโดยมผี ชู้ ี้แนะ ตนเองโดยมผี ู้ช้แี นะตลอดเวลา

บางครั้ง

แบบบันทึกผลสภาพทพี่ ึงประสงคห์ ลังจัดประสบการณป์ ระจา้ หน่วยการจดั ประสบการณ์
หนว่ ยที่ 7 ฤดูฝน ชันอนบุ าลปีที่ 3 โรงเรยี นวดั เวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4 ปกี ารศกึ ษา 2564

อารมณ-์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา
มฐ. 4 มฐ. 12
มฐ. 6 มฐ. 8 มฐ. 12 ตบช. มฐ. 12
ตบช. 4.1 12.1 ตบช.
เลข ชอื่ ตบช. ตบช. ตบช. 12.2
ท่ี - 4.1.1 สนใจ มี 6.1 8.1 12.1 12.1.2 กระตอื รือร้น
สกุล ความสขุ และ ในการรว่ มกิจกรรม 12.2.2 ใชป้ ระโยค
แสดงออกผ่านงาน สภาพท่พี งึ ประสงค์ (สพป.) ต้ังแต่ต้นจนจบ คาถามวา่
ศลิ ปะ “เมื่อไร”
6.1.1 แต่งตวั ด้วย 8.1.1 เลน่ และทา 12.1.1 สนใจหยบิ “อยา่ งไร” ในการ
ตนเองไดอ้ ยา่ ง กิจกรรมร่วมกับ หนงั สอื มาอา่ นและ คน้ หาคาตอบ
คลอ่ งแคล่ว เด็กท่แี ตกต่างไป เขียนสอ่ื ความคดิ
ดว้ ยตนเองเป็น
จากตน ประจาอยา่ งตอ่ เน่อื ง

1 เด็กชายกูน
2 เดก็ ชายธนกฤต ปาทาน
3 เดก็ ชายณฎั ฐพงศ์ ทองห่อ
4 เด็กชายกฤตบวรพจน์ ธนวัตแสงเหล็ก
5 เดก็ ชายภัทรพล แสงฟอง
6 เด็กชายไตรภพ สุธาชัย
7 เดก็ ชายสิทธินนท์ นายทะ
8 เด็กชายปุณพจน์ ปรชี าเฉลมิ
9 เด็กชายรัชฐน์ ิธิ ตนมิตร
10 เด็กชายกรินทร์ จนั คณา
11 เดก็ ชายกมลภพ ตนั กุรมิ าน
12 เด็กชายธนกร ฟแู สง
13 เด็กชายชาตฉิ กาจ นาสาวงศก์ ลุ
14 เดก็ หญิงพมิ พณ์ ดา นะรา
15 เดก็ หญงิ ภณั ฑลิ า แจม่ ใส
16 เด็กหญิงยม้ิ วนั ลงุ ออ
17 เด็กหญงิ กนกดารินทร์ หนอ่ แก้ว

อารมณ-์ จติ ใจ สงั คม สติปญั ญา
มฐ. 4 มฐ. 12
มฐ. 6 มฐ. 8 มฐ. 12 ตบช. มฐ. 12
ตบช. 4.1 12.1 ตบช.
ช่ือ ตบช. ตบช. ตบช. 12.2
- 4.1.1 สนใจ มี 6.1 8.1 12.1 12.1.2 กระตอื รอื ร้น
สกลุ ความสุข และ ในการร่วมกจิ กรรม 12.2.2 ใชป้ ระโยค
เลข แสดงออกผ่านงาน สภาพท่ีพึงประสงค์ (สพป.) ตัง้ แต่ต้นจนจบ คาถามว่า
ที่ ศิลปะ “เม่ือไร”
6.1.1 แตง่ ตัวดว้ ย 8.1.1 เล่นและทา 12.1.1 สนใจหยบิ “อยา่ งไร” ในการ
ตนเองได้อยา่ ง กจิ กรรมรว่ มกบั หนังสอื มาอา่ นและ ค้นหาคาตอบ
คลอ่ งแคลว่ เดก็ ทแี่ ตกต่างไป เขยี นส่ือความคดิ

จากตน ดว้ ยตนเองเป็น
ประจาอย่างตอ่ เนอื่ ง

18 เดก็ หญิงพรธติ า สร้างใหม่
19 เด็กหญิงนลนิ ธดิ า มนสั พรชัย
20 เด็กหญิงวนัดดา ธาดาจรญู เพ็ชร
21 เดก็ หญิงชลดิ า ราชเวียง
22 เด็กหญิงธดิ ารัตน์ เคราะห์ดี
23 เดก็ หญงิ สภุ ัสสรา ยาธิ

หนว่ ยการจดั ประสบการณช์ ันอนุบาล 3 (อายุ 5 ป)ี

สาระท่ีควรเรียนรู้ เรือ่ งราวเกีย่ วกับตัวเดก็ หนว่ ยท่ี 7 ฤดูฝน

แนวคดิ หลัก

ฝนที่ตกลงมานนั้ เปน็ สว่ นหนึ่งทส่ี าคญั ของวฏั จักรของน้า เมื่อน้าไดร้ ับความร้อนจะระเหยกลายเปน็ ไอน้าลอยขนึ้ ไปในอากาศ ไอน้าควบแนน่ เปน็ ละอองนา้ ซ่ึง
รวมตวั กนั เปน็ เมฆ และตกลงมาเปน็ ฝน ไหลสแู่ ม่นา้ ลาคลอง ทะเล มหาสมุทร วนเวยี นกันเชน่ น้เี ปน็ วฏั จกั ร เมอ่ื ฝนตกเราควรหลบฝนหรอื ใช้อุปกรณ์กนั ฝน โรคที่พบบอ่ ยในฤดฝู น
ได้แก่ ไข้หวดั และไขเ้ ลือดออก ซงึ่ เราสามารถปอ้ งกนั ตนเองจากโรคดังกล่าวได้ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชฯ รชั กาลท่ี 9 ทรงมพี ระมหากรุณาธิคณุ ในการ
ริเร่มิ โครงการฝนหลวงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยแล้ง และโครงการแกม้ ลิงเพื่อแกป้ ัญหาน้าทว่ มและน้าไม่พอใช้

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรียนรู้

1. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเคลือ่ นไหวร่างกายประกอบเพลงฉันคือเมฆได้ ประสบการณส์ า้ คญั 1. ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
2. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถอธิบายเชือ่ มโยงเหตุและผลทเี่ กดิ ขนึ้ ตามวฏั จักรของนา้ ได้ วัฏจักรของน้า
3. เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถตดั กระดาษตามแนวเส้นโคง้ ได้ ดา้ นรา่ งกาย 2. ปรากฏการณใ์ นฤดูฝน
4. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเล่นและทากิจกรรมร่วมกบั เด็กทแ่ี ตกต่างไปจากตนได้ 1. การเคลอ่ื นไหวอยกู่ ับท่ี 3. การปฏิบัตติ นอยา่ ง
5. เพอ่ื ให้เด็กสามารถวิ่งหลบหลกี สิง่ กีดขวางได้ 2. การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ เหมาะสมเมอื่ ฝนตก
6. เพอ่ื ให้เด็กสามารถจดั กลุ่มภาพเพื่อแสดงผลรวมจานวน 4-6 ได้ 3. การเคลอื่ นไหวพรอ้ มวสั ดอุ ุปกรณ์ (การแตง่ กายในฤดูฝน)
7. เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถเคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการประกอบการใชร้ บิ บนิ้ ผ้าได้ 4. การเลน่ เคร่ืองเล่นสนามอย่างอสิ ระ 4. โรคทพ่ี บบอ่ ยในฤดูฝน
8. เพ่อื ให้เด็กสามารถใช้ประโยคคาถามว่า “เมื่อไร” “อย่างไร” ในการคน้ หา 5. การเขียนภาพและการเล่นกับสี 5. โครงการฝนหลวง
คาตอบจากการทากิจกรรมได้ 6. การปน้ั
9. เพอ่ื ให้เด็กสามารถสร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือสื่อความคิด ความร้สู ึกของตนเอง 7. การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การฉกี การตัด การปะ และ
โดยมีการดัดแปลง และแปลกใหม่จากเดิม หรอื มรี ายละเอียดเพมิ่ ขึ้นได้ การรอ้ ยวัสดุ
10. เพอ่ื ให้เด็กสามารถเกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ ที่อย่างเรียบร้อยดว้ ยตนเองได้ 8. การเล่นเครอ่ื งเล่นอย่างปลอดภัย
11. เพอ่ื ให้เด็กสามารถเล่น และปฏบิ ัติต่อผู้อ่ืนอยา่ งปลอดภัยได้ 9. การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดบั พื้นท่ี
12. เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถเรียงลาดบั ภาพการเจริญเตบิ โตของตน้ ไม้ได้ 10. การเคลือ่ นไหวที่ใชก้ ารประสานสมั พนั ธข์ องการใช้
13. เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถทาท่าทางกายบริหารประกอบเพลงออกกาลังกาย กลา้ มเนอ้ื ใหญใ่ นการขวา้ ง การจับ การโยน การเตะ
ด้านอารมณ์-จติ ใจ
รบั แสงตะวันได้ 1. การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
2. การทากจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ
3. การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ สาระทคี่ วรเรียนรู้
ประสบการณส์ ้าคัญ

14. เพ่ือให้เดก็ สามารถปฏบิ ตั ิตนอยา่ งปลอดภยั เมอ่ื ฝนตกได้ 4. การเล่นนอกห้องเรยี น

15. เพื่อให้เด็กสามารถสร้างสรรค์ผลงานศลิ ปะได้อย่างสวยงาม 5. การปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ตามความสามารถของตนเอง
16. เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถเลอื กเลน่ มมุ ประสบการณ์ตามความสนใจได้ ด้านสงั คม
17. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถรบั ลูกบอลท่ีกระดอนข้ึนจากพ้นื ได้ 1. การมสี ่วนรว่ มรับผดิ ชอบดแู ลรักษาส่ิงแวดล้อมทง้ั ภายใน
18. เพอ่ื ให้เด็กสามารถจบั คภู่ าพเหมือนโดยใช้ลักษณะท่สี งั เกตพบ 2 ลกั ษณะได้ และภายนอกหอ้ งเรียน
19. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้นาและผู้ตามได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 2. การสนทนาขา่ วและเหตุการณ์ท่ีเกีย่ วกบั ธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมในชวี ติ ประจาวัน
20. เพอ่ื ให้เดก็ สามารถค้นหาคาตอบเกยี่ วกบั โรคไข้เลอื ดออกและการป้องกนั ได้ 3. การละเล่นพน้ื บา้ นของไทย

21. เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถระบายสีภาพตามแบบรูปได้ 4. การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดีของห้องเรียน

22. เพอ่ื ให้เดก็ สามารถแบ่งปันสง่ิ ของให้กบั ผู้อ่นื ได้ 5. การให้ความร่วมมือในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ
23. เพอ่ื ให้เด็กสามารถวง่ิ เหยียบสีพนื้ ตามคาสั่งได้อย่างคลอ่ งแคล่ว 6. การดแู ลห้องเรียนร่วมกนั
24. เพ่ือให้เด็กสามารถเล่นเกมจัดหมวดหมภู่ าพกับสัญลกั ษณ์ได้ 7. การร่วมสนทนาและแลกเปลย่ี นความคิดเห็น
25. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถเคลื่อนไหวร่างกายตามคาส่งั ได้ 8. การเลน่ และทางานร่วมกับผอู้ ืน่
26. เพอื่ ให้เด็กสามารถบอกประโยชนข์ องการทาฝนหลวงได้ 9. การทางานศิลปะทน่ี าวัสดุหรอื สง่ิ ของทใี่ ช้แลว้ มาใช้ซ้า
ด้านสตปิ ัญญา
27. เพ่อื ให้เดก็ สามารถทางานร่วมมอื กบั เพ่ือนในการประดษิ ฐ์
1. การฟงั และปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา

เครอื่ งบินฝนหลวงได้ 2. การพดู เรียงลาดับเพ่ือใชใ้ นการสอื่ สาร

28. เพือ่ ใหเ้ ดก็ สามารถสนใจหยบิ หนงั สอื มาอ่านและเขียนส่ือความคิดด้วยตนเอง 3. การอ่านหนังสือภาพนทิ านหลากหลายประเภท/รูปแบบ
4. การเล่นเกมภาษา
เป็นประจาอย่างต่อเนื่องได้ 5. การคิดสะกดคาและเขยี นเพอ่ื สื่อความหมายด้วยตนเอง
29. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเล่นโพงพางได้อย่างมคี วามสขุ อย่างอสิ ระ
30. เพอ่ื ให้เดก็ สามารถเล่นเกมโดมโิ นภาพเครือ่ งบินฝนหลวงตามจานวน 1-6 ได้ 6. การอธิบายเชอื่ มโยงสาเหตุและผลที่เกดิ ข้นึ ในเหตุการณ์

หรอื การกระทา

7. การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่านภาษา ทา่ ทาง

การเคล่อื นไหวและศิลปะ

8. การตง้ั คาถามในเร่ืองท่ีสนใจ

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรียนรู้

ประสบการณส์ ้าคญั

9. การนับและแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั
10. การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหาค้าตอบของข้อสงสัยต่างๆ
11. การมสี ่วนรว่ มในการรวบรวมขอ้ มูลและนาเสนอขอ้ มลู
จากการสืบเสาะหาความรใู้ นรูปแบบตา่ งๆ
12. การสารวจสงิ่ ต่างๆ และแหลง่ เรียนรรู้ อบตัว
13. การคาดเดาหรือการคาดคะเนสงิ่ ที่อาจจะเกดิ ข้นึ อย่างมี
เหตผุ ล
14. การมสี ่วนรว่ มในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล

แผนการจัดประสบการณร์ ายสัปดาห์ สปั ดาห์ท่ี 7 หนว่ ย ฤดฝู น ชนั อนุบาลปที ่ี 3
ระหวา่ งวนั ที่ 12-16 กรกฏาคม 2564 โรงเรยี นวัดเวฬุวนั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

วนั ท่ี เคล่ือนไหวและจงั หวะ กิจกรรม

เสริมประสบการณ์ ศิลปะสรา้ งสรรค์ การเล่นตามมมุ การเลน่ กลางแจง้ เกมการศกึ ษา

- เคล่ือนไหวรา่ งกาย - ต้ังสมมุตฐิ านวา่ ถ้าตม้ นา้ แลว้ นากระจก - การวาดภาพก้อนเมฆ เล่นตามมุม การวิง่ หลบหลกี เกมจดั กลุ่มภาพ

ประกอบเพลง มาองั ไอน้าที่ระเหยจะเกิดอะไรขึน้ ตามเส้นประและระบายสี ประสบการณ์ใน ส่งิ กีดขวาง เพอ่ื แสดงผลรวม
1 ฉนั คอื เมฆ จานวน 4-6
- รว่ มกนั ดูแผนภูมิวฏั จกั รของน้า และ - การตัดกระดาษทาที่ หอ้ งเรียน

ทาการทดลองการระเหยของไอนา้ คาดศีรษะรูปหยดนา้ หรือ

เมฆ

- เคลือ่ นไหวตาม - ชมวดี ที ศั น์สถานการณ์น้าท่วมใน - การวาดภาพอสิ ระดว้ ย เลน่ ตามมุม การเล่นเครื่องเล่น เกมเรียงลาดบั ภาพ

จนิ ตนาการประกอบ ประเทศไทย และรว่ มสนทนาถงึ สีเทียน ประสบการณ์ใน สนาม การเจริญเตบิ โต
2 การใชร้ บิ บน้ิ ผา้ - การพิมพภ์ าพดว้ ยแกน หอ้ งเรยี น ของต้นไม้
เหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ขึ้น

- ทดลองการไหลของนา้ กระดาษชาระ

- การร้อยหลอดดูด

- เคลอื่ นไหวร่างกาย - เล่นบทบาทสมมติการใช้อุปกรณ์กนั ฝน - การเปา่ สนี า้ เลน่ ตามมุม การรับลูกบอลที่ เกมจบั คู่

ทาทา่ ทางกายบรหิ าร - วิธีการแกป้ ญั หาเม่ือฝนตกแตเ่ ดก็ ไม่มี - การวาดภาพอสิ ระดว้ ย ประสบการณ์ใน กระดอนข้ึนจากพ้นื ภาพเหมอื น

3 ประกอบเพลงออก อุปกรณ์กันฝน สีเทยี น หอ้ งเรียน คนกางรม่

กาลงั กายรับแสงตะวนั - การสวมใส่เครือ่ งแต่งกายในฤดูฝน และ - การปัน้ ดินนา้ มนั

การใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั ฝน

- เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย - สนทนาเกีย่ วกบั เรือ่ งโรคไขเ้ ลือดออก - การระบายสีภาพยงุ ลาย เลน่ ตามมุม การวิง่ เหยียบสีพืน้ เกมจัดหมวดหมู่

4 ปฏบิ ัติตนเป็นผู้นาและ - สารวจและทาลายแหล่งเพาะพันธ์ุ - การป้นั ดินน้ามัน ประสบการณ์ใน ตามคาส่งั ภาพกับสญั ลักษณ์
ผูต้ าม ยงุ ลายภายในโรงเรยี น - การวาดภาพแหล่ง ห้องเรยี น

เพาะพนั ธย์ งุ ลาย

วนั ท่ี เคลอ่ื นไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์ กจิ กรรม การเลน่ ตามมุม การเล่นกลางแจ้ง เกมการศึกษา
การเล่นโพงพาง
- เคล่อื นไหวรา่ งกาย - สงั เกตภาพพื้นดนิ ท่แี ห้งแลง้ รว่ มกัน ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมุม เกมโดมิโนภาพ
ประสบการณ์ใน เครอ่ื งบนิ ฝนหลวง
ตามคาสง่ั สนทนาเกีย่ วกบั ส่ิงทส่ี ังเกตและ การประดิษฐเ์ ครือ่ งบนิ หอ้ งเรยี น ตามจานวน 1-6
ฝนหลวง

5 วิธีแกป้ ัญหา
- ชมวีดที ศั นก์ ารทาฝนหลวง

แผนการจดั ประสบการณ์ชันอนุบาลปที ี่ 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วนั ท่ี 1

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์สา้ คัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถ เพลง 1. วธิ ีการ
เคล่อื นไหวรา่ งกาย ด้านรา่ งกาย - การแสดงออกทาง กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ “ฉันคือเมฆ” - สังเกตการ
ประกอบเพลง เคล่อื นไหว
ฉันคือเมฆได้ - การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี อารมณผ์ า่ น 1. ให้เดก็ เคลื่อนไหวอบอนุ่ รา่ งกายโดยอยู่ในเขตของตนเอง ประกอบเพลง
ฉนั คอื เมฆ
ดา้ นอารมณ์-จิตใจ เสียงดนตรี และเคลื่อนไหวตามจังหวะ ดังนี้ 2. เคร่อื งมือ
- แบบบันทกึ ผล
- การเคลือ่ นไหวตาม - เรยี นรู้รอ้ งเพลง - เตะเทา้ ไปด้านหนา้ 10 ครงั้ หลงั การจัด
ประสบการณ์
เสยี งเพลง ดนตรี และการ - เตะเทา้ ไปดา้ นหลงั 10 คร้ัง
ด้านสังคม เคลอื่ นไหว
- การใหค้ วามร่วมมือใน - แกว่งแขน 10 ครัง้
การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
ดา้ นสติปญั ญา 2. เปดิ เพลง “ฉนั คือเมฆ” ให้ฟัง 1 รอบ
- การแสดงความคดิ ฉันคือเมฆๆ ลอยไปลอยมา อยู่บนฟากฟา้
สร้างสรรค์ผ่านภาษา ลอยไปลอยมา ลอยมาลอยไป
ท่าทาง การเคล่ือนไหว ฉันเกดิ ขน้ึ จากไอนา้ น้อย ทีล่ อยขน้ึ บนนภา
และศลิ ปะ แลว้ เจออากาศที่เยน็ ๆ ฉันเยน็ ฉันจึงเขา้ มา
เข้ามารวมตวั กนั มาผูกสมั พนั ธ์คือเมฆ

3. เคลือ่ นไหวร่างกายประกอบเพลง “ฉันคือเมฆ”

พรอ้ มกนั

4. ทากจิ กรรมซ้า 1-2 รอบ

5. รว่ มกันผ่อนคลายกลา้ มเน้ือในทา่ ทีส่ บาย และใชม้ ือนวด

ตรงขมบั เบาๆ

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนุบาลปีท่ี 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ นั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันที่ 1

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้
เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถ 1. ตะเกยี ง 1. วิธกี าร
อธิบายเชอ่ื มโยง ดา้ นร่างกาย ปรากฏการณ์ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ แอลกอฮอล์ - สังเกตการ
เหตแุ ละผลท่ีเกดิ ขึ้น 2. บีกเกอร์ใสน่ ้า บอกวฏั จกั รการ
ตามวัฏจักรของน้าได้ - การเคลือ่ นไหวอยู่กบั ที่ ธรรมชาติ 1. เด็กรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ ในอากาศมนี ้าอยู่หรือไม่ 3. น้าเปลา่ เกิดฝน
4. กระจก 2. เครือ่ งมือ
ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ วฏั จกั รของนา้ ทราบได้อยา่ งไร 5. แผนภาพ - แบบบันทกึ ผล
วัฏจกั รของนา้ หลงั การจัด
- การปฏบิ ตั ิกิจกรรม 2. ครแู นะนาอปุ กรณ์การทดลอง สร้างข้อตกลง ประสบการณ์

ตา่ งๆ ตามความสามารถ ในการสังเกตส่งิ ท่ีเกิดข้นึ เม่ือต้มนา้

ของตนเอง 3. เดก็ อาสาสมัครเทน้าใสภ่ าชนะ ครจู ดุ ไฟต้มนา้ เด็กสงั เกต

ดา้ นสังคม การเปลยี่ นแปลงที่เกดิ ขนึ้ และร่วมกันลงความเห็นว่า

- การใหค้ วามรว่ มมือใน นา้ หายไปไหน

การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ 4. เดก็ ต้งั สมมติฐานว่าถ้าตม้ น้าแลว้ นากระจกมาองั ไอน้าท่ี

- การสนทนาข่าวและ ระเหยจะเกดิ อะไรขึน้ และทดลองนากระจกมาอังท่ไี อนา้

เหตุการณ์ท่ีเกี่ยวกับ เพ่ือทดสอบสมมติฐาน

ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5. เด็กมีสว่ นรว่ มในการบนั ทึกผลการทดลองโดย

ในชวี ิตประจาวัน การวาดภาพ ครูถามคาถามและอธิบายเพิม่ เติม

ด้านสติปญั ญา เพื่อเช่ือมโยงไปยังแผนภาพวัฏจกั รของนา้

- การอธิบายเชื่อมโยง 6. เด็กรว่ มกนั อธิบายเชื่อมโยงเหตุและผลทเี่ กิดข้ึนตาม

สาเหตุและผลท่ีเกิดข้ึนใน วฏั จกั รของน้า

เหตกุ ารณห์ รือการกระทา 7. ร่วมกนั สรุปกจิ กรรม

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนบุ าลปีท่ี 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 1

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ า้ คัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้
เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถ 1. สีเทียน 1. วิธกี าร
ตัดกระดาษตาม ด้านรา่ งกาย - การใชก้ รรไกรตัด กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ 2. ใบงาน - สงั เกตการตดั
แนวเสน้ โคง้ ได้ - การใช้กรรไกร กระดาษตามแนว 1. เตรียมความพร้อมดว้ ยเบรนยิม ทา่ โป้ง-กอ้ ย เส้นประรปู กระดาษตามแนว
- การปั้น เส้นโคง้ ก้อนเมฆ เสน้ โค้ง
ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - การประสาน - ยกมือท้ัง 2 ข้าง ให้มอื ขวาทาทา่ โปง้ โดยกามือและ 3. กรรไกร 2. เคร่อื งมือ
- การทากิจกรรมศิลปะ สมั พันธ์ของ ยกหวั แมม่ ือข้นึ มา สว่ นมือซา้ ยให้ทาทา่ ก้อย โดยกามือ 4. ดนิ สอ - แบบบนั ทึกผล
ต่างๆ กลา้ มเน้อื มอื และตา และเหยียดน้วิ ก้อยชี้ออกมา 5. กระดาษสี หลงั การจดั
ดา้ นสงั คม 6. แถบกระดาษ ประสบการณ์
- การให้ความรว่ มมือใน - เปลีย่ นมือซ้ายเป็นทา่ โป้งและมือขวาเปน็ ทา่ ก้อย สาหรบั ทา
- ทาสลบั กันไปมา 10 ครั้ง ท่คี าดศีรษะ
7. รูปโครงร่าง
การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ 2. แนะนากิจกรรมสรา้ งสรรค์ 2 กิจกรรม ดงั นี้ หยดนา้ และเมฆ
- การดูแลหอ้ งเรยี น - การวาดภาพก้อนเมฆตามเส้นประและระบายสี 8. กาว
ร่วมกัน - การตัดกระดาษทาท่คี าดศรี ษะรูปหยดน้าหรอื เมฆ 9. ผา้ เชด็ มอื
ด้านสตปิ ญั ญา
- การแสดงความคดิ 3. ให้เด็กเลือกทากิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรคต์ ามความสนใจ
สร้างสรรค์ผ่านงานศลิ ปะ
โดยอยูใ่ นพ้นื ทข่ี องตนเอง และใช้วัสดุ/อปุ กรณข์ องตนเอง
ทอี่ ยใู่ นตะกรา้ โดยมีครูดูแลอย่างใกล้ชิด

4. ร่วมกนั สรุปกิจกรรมสร้างสรรค์ โดยใหเ้ ดก็ เลอื กผลงาน

ของตนเองออกมาแสดงความคดิ เหน็ และเสนอผลงาน

หน้าชนั้ เรียน

5. ให้เด็กนาผลงานไปแสดงท่ีบอร์ดผลงานของหนู

6. เด็กเก็บอุปกรณ์และทาความสะอาดห้องเรียน

แผนการจดั ประสบการณช์ ันอนบุ าลปที ่ี 3

โรงเรยี นวดั เวฬุวนั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันที่ 1

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์ส้าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้
เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถ
เล่นและทากจิ กรรม ด้านรา่ งกาย การปฏิบตั ิตนต่อ กิจกรรมการเล่นตามมุม มุมประสบการณ์ 1. วธิ ีการ
ร่วมกับเดก็ ท่ี
แตกต่างไปจากตน - การเคล่อื นไหวอยู่กับที่ ผอู้ ่นื ในการเล่น 1. แนะนามมุ ต่างๆ ในห้องเรียน ดงั น้ี ตา่ งๆ ใน - สังเกตการเล่น
ได้ - การเคลือ่ นไหวเคล่ือนที่
ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ - มุมบ้าน หอ้ งเรียน และทากจิ กรรม
- การเล่นตามมมุ
ประสบการณ์ - มมุ บล็อก ร่วมกับเดก็ ที่
ดา้ นสงั คม
- การเลน่ และทางาน - มมุ หนังสอื แตกต่างไปจาก
รว่ มกบั ผู้อื่น
- การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั - มุมวทิ ยาศาสตร์ ตน
ด้านสติปญั ญา
- การฟังและปฏิบัตติ าม - มมุ ดนตรี 2. เคร่อื งมือ
คาแนะนา
2. สรา้ งข้อตกลงร่วมกนั ดงั น้ี - แบบบนั ทึกผล
- เลอื กเล่นมุมกจิ กรรมตามความสนใจ
- 1 มุม เข้าไดไ้ ม่เกิน 4 คน หลังการจัด
- เว้นระยะห่างทางสงั คม
- แบง่ ปันของเล่นให้กบั เพื่อน ประสบการณ์

- รู้จักการรอคอยส่ิงของจากเพ่ือน
- เลน่ เสรจ็ แลว้ เกบ็ ของเข้าทีใ่ หเ้ รยี บร้อย
3. ใหเ้ ดก็ เลือกเล่นตามมุมกิจกรรมตามความสนใจ โดยมี

ครูคอยดูแลอย่างใกล้ชดิ

4. รว่ มกนั สรุปกิจกรรมเลน่ ตามมุม โดยใหเ้ ด็กออกมาเลา่

ประสบการณ์จากการเลน่

แผนการจดั ประสบการณ์ชนั อนุบาลปที ี่ 3

โรงเรียนวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วันท่ี 1

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์ส้าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ กลอ่ งกระดาษ
เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถ 1. วธิ ีการ
วง่ิ หลบหลกี ด้านรา่ งกาย - การเคลื่อนไหว กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง - สงั เกตการวิ่ง
ส่ิงกดี ขวางได้ หลบหลกี
- การเคลอ่ื นไหวเคล่ือนท่ี อย่างคล่องแคลว่ 1. เด็กลงมาเข้าแถวท่ลี านตัวหนอนผู้ชาย 1 แถว ผูห้ ญิง 1 ส่งิ กดี ขวาง
2. เครือ่ งมือ
- การเคล่ือนไหวโดย - การเคลือ่ นไหว แถว โดยเวน้ ระยะห่างอยา่ งน้อย 1 เมตร - แบบบันทกึ ผล
หลังการจดั
ควบคมุ ตนเองไปในทิศทาง หลบสง่ิ กีดขวาง 2. นาเดก็ ทาทา่ กายบริหาร ดังน้ี ประสบการณ์

ระดบั พ้ืนท่ี - การรกั ษาความ - กระโดดขึน้ ลง 10 คร้ัง

ดา้ นอารมณ์-จิตใจ ปลอดภัยของตนเอง - เตะเท้าไปข้างหน้า 10 คร้งั

- การปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่างๆ - หมนุ ไหล่ 10 ครั้ง

ตามความสามารถของ 3. สรา้ งข้อตกลงรว่ มกัน ดังน้ี

ตนเอง - ต่อแถวให้เรียบร้อย ไม่แซงหนา้ กัน

ด้านสังคม - ระมัดระวงั ในการเล่น

- การเล่นและการทางาน 4. เดก็ นากลอ่ งกระดาษไปวางกระจายใหท้ ่วั พื้นที่

ร่วมกับผอู้ ืน่ 5. เลน่ วง่ิ หลบหลกี ส่งิ กีดขวาง โดยเดก็ คนท่ียืนหวั แถววิง่

ด้านสติปญั ญา จากฝ่ังท่ียนื ไปยังอีกฝง่ั หนง่ึ โดยระวังไม่ให้วิง่ ชน

- การฟังและปฏบิ ตั ิตาม กล่องกระดาษ

คาแนะนา 6. เดก็ เล่นเกมวง่ิ หลบหลีกสงิ่ กีดขวาง 3-4 รอบ

7. เดก็ ทาท่าผ่อนคลายกลา้ มเนอ้ื

- ยดื เหยยี ดแขน/ขา

8. เดก็ ทาความสะอาดร่างกาย ล้างมอื ใหส้ ะอาดเพ่ือ

เตรยี มตวั ทากิจกรรมต่อไป

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนุบาลปีท่ี 3

โรงเรยี นวัดเวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 1

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณส์ ้าคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
เพื่อใหเ้ ด็กสามารถ
จดั กล่มุ ภาพ ด้านร่างกาย - การเล่นเกม กิจกรรมเกมการศึกษา 1. เกมพ้นื ฐานการ 1. วิธีการ
เพื่อแสดงผลรวม บวกเมฆ - สงั เกตการเลน่
จานวน 4-6 ได้ - การเคลอื่ นไหวอยู่กับที่ การศึกษา 1. ชวนเดก็ ทากจิ กรรมเบรนยิมตบมือ ตบตัก ตบไหล่ 2. แทมบรู นี จัดกลุ่มภาพ
เพอ่ื แสดงผลรวม
ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - การรวมและ 2. ร่วมกันสรา้ งข้อตกลง ดังนี้ จานวน 4-6
2. เครือ่ งมือ
- การปฏิบตั กิ จิ กรรม การแยก - แบ่งกันเลน่ - แบบบนั ทกึ ผล
หลงั การจัด
ต่างๆ ตามความสามารถ - เก็บใหเ้ รียบร้อยเมื่อเลน่ เสร็จ ประสบการณ์

ของตนเอง 3. อธิบายและสาธิตวิธกี ารเลน่ เกมพนื้ ฐานการบวกเมฆ

ด้านสังคม ดงั นี้

- การเล่นและทางาน - สังเกตก้อนเมฆในแตล่ ะภาพวา่ มเี มฆก่กี ้อน

รว่ มกับผอู้ นื่ - ให้เดก็ จับคูจ่ บั กลุ่มภาพก้อนเมฆโดยให้มีผลรวม

ด้านสตปิ ัญญา จานวน 4-6

- การฟังและปฏิบตั ติ าม 4. ให้เด็กนั่งเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน

คาแนะนา 5. ตวั แทนกลุ่มออกมารับเกมการบวกเมฆ

- การนับและแสดง 6. เล่นการบวกเมฆโดยมีครูดูแล และแนะนา

จานวนของส่งิ ต่างๆ อย่างใกล้ชดิ

ในชวี ติ ประจ้าวนั 7. เขย่าแทมบูรีน 3 คร้ัง ใหส้ ลับเกมกับกลุ่มอื่น

8. เขยา่ แทมบรู นี รวั ๆ หมายถึง หมดเวลา

9. ให้เด็กช่วยกันเกบ็ ของให้เรียบร้อย

เกณฑป์ ระเมนิ คุณภาพ

รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ

1. เพอ่ื ให้เด็กสามารถเคล่อื นไหวร่างกาย 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ควรส่งเสรมิ )
ประกอบเพลงฉันคือเมฆได้
เด็กสามารถเคลอ่ื นไหวรา่ งกายประกอบ เดก็ สามารถเคล่ือนไหวร่างกายประกอบ เดก็ สามารถเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบ
เพลงฉนั คือเมฆได้โดยมผี ู้ช้แี นะตลอดเวลา
เพลงฉนั คือเมฆได้ดว้ ยตนเอง เพลงฉนั คือเมฆได้โดยมีผชู้ แี้ นะบางคร้ัง

2. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถอธบิ ายเช่ือมโยง เดก็ สามารถอธิบายเชื่อมโยงเหตแุ ละผล เด็กสามารถอธบิ ายเชอ่ื มโยงเหตุและผล เด็กสามารถอธิบายเชอ่ื มโยงเหตแุ ละผล
เหตแุ ละผลท่เี กดิ ข้นึ ตามวัฏจักรของน้าได้ ท่เี กิดขนึ้ ตามวฏั จกั รของน้าได้ดว้ ยตนเอง ที่เกิดข้นึ ตามวฏั จกั รของน้าได้โดย ที่เกดิ ข้นึ ตามวัฏจักรของน้าได้โดยมผี ู้
มผี ู้ช้แี นะบางครั้ง ชีแ้ นะตลอดเวลา
3. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถตดั กระดาษ เดก็ สามารถตัดกระดาษตามแนวเส้นโคง้
ตามแนวเสน้ โค้งได้ ไดด้ ้วยตนเอง เดก็ สามารถตดั กระดาษตามแนวเส้นโคง้ เดก็ สามารถตดั กระดาษตามแนวเส้นโค้ง
ไดโ้ ดยมีผู้ช่วยเหลือบางคร้งั ไดโ้ ดยมผี ู้ชว่ ยเหลอื ตลอดเวลา

4. เพอื่ ให้เด็กสามารถเลน่ และทากจิ กรรม เดก็ สามารถเล่นและทากจิ กรรมรว่ มกับ เด็กสามารถเล่นและทากิจกรรมร่วมกับ เด็กสามารถเลน่ และทากิจกรรมร่วมกับ
เด็กทแ่ี ตกต่างไปจากตนได้โดยมีผู้ชแ้ี นะ เดก็ ทีแ่ ตกตา่ งไปจากตนได้โดยมีผชู้ ้แี นะ
ร่วมกับเด็กท่ีแตกต่างไปจากตนได้ เด็กที่แตกต่างไปจากตนได้ดว้ ยตนเอง บางครง้ั ตลอดเวลา

5. เพ่อื ให้เด็กสามารถวิง่ หลบหลีก เด็กสามารถวงิ่ หลบหลกี สิง่ กดี ขวางได้ เด็กสามารถว่ิงหลบหลกี ส่งิ กดี ขวางได้ เด็กสามารถวิง่ หลบหลีกสง่ิ กีดขวางได้
สง่ิ กดี ขวางได้ ดว้ ยตนเอง โดยมผี ้ชู แ้ี นะบางครงั้ โดยมผี ู้ชแี้ นะตลอดเวลา

6. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถจัดกลมุ่ ภาพ เด็กสามารถจดั กลมุ่ ภาพ เพ่ือแสดง เด็กสามารถจัดกลุม่ ภาพ เพ่ือแสดง เด็กสามารถจดั กลมุ่ ภาพ เพ่ือแสดง
เพ่อื แสดงผลรวมจานวน 4-6 ได้ ผลรวมจานวน 4-6 ไดด้ ้วยตนเอง ผลรวมจานวน 4-6 ไดโ้ ดยมีผู้ชี้แนะ ผลรวมจานวน 4-6 ไดโ้ ดยมีผู้ชแี้ นะ
บางครงั้ ตลอดเวลา

แบบบนั ทึกหลงั การจดั ประสบการณ์ นกั เรยี นชนั อนุบาลปีที่ 3 โรงเรยี นวดั เวฬุวัน

สาระที่ควรเรยี นรู้ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับธรรมชาตริ อบตวั หนว่ ย ฤดฝู น เร่ือง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ วัฏจกั รของนา้

วนั ท่ี 12 เดอื น กรกฏาคม พ.ศ. 2564

คา้ ชีแจง เตมิ / ลงในช่องทต่ี รงกับพฤติกรรมของนักเรยี น ระดับคณุ ภาพ 3 : ดี 2 : พอใช้ 1 : ปรบั ปรงุ

เดก็ สามารถ เด็กสามารถอธบิ าย เดก็ สามารถตดั เด็กสามารถเลน่ และ เด็กสามารถว่งิ เดก็ สามารถจดั กลมุ่

เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย เชื่อมโยงเหตุและผล กระดาษตามแนว ทา้ กจิ กรรมร่วมกบั หลบหลีก ภาพ เพอื่ แสดง

เลข ชื่อ-นามสกลุ ประกอบเพลง ท่ีเกดิ ขนึ ตามวฏั จกั ร เส้นโคง้ ได้ เดก็ ทีแ่ ตกตา่ งไปจาก สิง่ กดี ขวางได้ ผลรวมจา้ นวน 4-6
ที่ ฉนั คอื เมฆได้ ของน้าได้ ตนได้ ได้

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 213 2 1

1 เดก็ ชายกูน
2 เด็กชายธนกฤต ปาทาน
3 เดก็ ชายณฎั ฐพงศ์ ทองหอ่
4 เด็กชายกฤตบวรพจน์ ธนวตั แสงเหล็ก
5 เดก็ ชายภทั รพล แสงฟอง
6 เด็กชายไตรภพ สุธาชัย
7 เดก็ ชายสทิ ธินนท์ นายทะ
8 เดก็ ชายปณุ พจน์ ปรีชาเฉลมิ
9 เดก็ ชายรชั ฐน์ ิธิ ตนมติ ร
10 เดก็ ชายกรินทร์ จนั คณา
11 เด็กชายกมลภพ ตันกุรมิ าน
12 เด็กชายธนกร ฟูแสง
13 เด็กชายชาติฉกาจ นาสาวงศ์กุล
14 เดก็ หญิงพมิ พณ์ ดา นะรา
15 เด็กหญิงภณั ฑลิ า แจ่มใส
16 เด็กหญงิ ยมิ้ วัน ลงุ ออ

เด็กสามารถ เด็กสามารถอธบิ าย เด็กสามารถตัด เดก็ สามารถเลน่ และ เด็กสามารถวง่ิ เดก็ สามารถจดั กลมุ่

เคลือ่ นไหวรา่ งกาย เชอื่ มโยงเหตแุ ละผล กระดาษตามแนว ทา้ กจิ กรรมร่วมกับ หลบหลกี ภาพ เพ่ือแสดง

ประกอบเพลง ทเ่ี กดิ ขึนตามวัฏจกั ร เส้นโคง้ ได้ เดก็ ทแ่ี ตกต่างไปจาก สิ่งกีดขวางได้ ผลรวมจา้ นวน 4-6

เลข ช่ือ-นามสกลุ ฉันคือเมฆได้ ของน้าได้ ตนได้ ได้
ที่

3 2 1 3 2 1 3 2 3 2 1 3 2 113 3 2

17 เด็กหญงิ กนกดารินทร์ หนอ่ แกว้
18 เด็กหญงิ พรธติ า สรา้ งใหม่
19 เด็กหญิงนลินธิดา มนัสพรชัย
20 เด็กหญงิ วนดั ดา ธาดาจรญู เพ็ชร
21 เดก็ หญงิ ชลดิ า ราชเวยี ง
22 เดก็ หญงิ ธิดารัตน์ เคราะห์ดี
23 เด็กหญิงสภุ สั สรา ยาธิ

บนั ทกึ ผลการจัดกจิ กรรม
.......................................................................................................................................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ........................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. ............................................................................. .................................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ลงชือ่ ผูป้ ระเมนิ ................................................
(………………………………..)
............./............../............

แผนการจัดประสบการณช์ ันอนบุ าลปีท่ี 3

โรงเรียนวดั เวฬุวนั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ท่ี 2

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้
เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถ
เคลื่อนไหวตาม ดา้ นร่างกาย - การสอื่ สาร กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 1. ดนตรีบรรเลง 1. วิธีการ
จินตนาการ
ประกอบการใช้ - การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดุ ความคดิ ดว้ ยทา่ ทาง 1. ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวอบอุน่ ร่างกายโดยอยใู่ นเขตของตนเอง ต่างๆ - สงั เกตการ
รบิ บ้นิ ผา้ ได้
อปุ กรณ์ - การเคลือ่ นไหว และเคล่ือนไหวตามจังหวะ ดังนี้ 2. รบิ บ้ินผา้ เคล่ือนไหว

ด้านอารมณ์-จติ ใจ ตามจนิ ตนาการ - ย่าเทา้ ชา้ ๆ อยู่กับที่ 10 คร้ัง 3. แทมบูรนี ร่างกายประกอบ

- การเคล่ือนไหวตาม ประกอบการใช้ - หมนุ เอว 10 คร้งั ดนตรปี ระกอบ
เสียงดนตรี รบิ บ้นิ ผา้ อุปกรณ์
ด้านสังคม - แกวง่ แขน 10 คร้ัง 2. เคร่อื งมือ
- การให้ความร่วมมือใน - แบบบนั ทกึ ผล
การปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ 2. เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายโดยทาทา่ ทางตามจินตนาการ หลงั การจดั
ดา้ นสติปัญญา อย่างอิสระประกอบการใช้รบิ บิ้นผ้าเม่อื ครเู ปิดเพลงบรรเลง ประสบการณ์
- การแสดงความคดิ 3. เปิดเสียงดนตรีบรรเลง
สร้างสรรคผ์ ่านภาษา 4. ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายพร้อมอุปกรณ์ (รบิ บิน้ ผ้า)
ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหว ตามเสยี งดนตรตี ามจินตนาการ
และศิลปะ 5. ทากจิ กรรมซ้า 1-2 รอบ
6. รว่ มกนั ผ่อนคลายกล้ามเน้ือในท่าท่ีสบาย และใช้มือนวด
ตรงขมบั เบาๆ

แผนการจัดประสบการณช์ ันอนุบาลปที ่ี 3

โรงเรยี นวัดเวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ท่ี 2

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ า้ คัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้
เพือ่ ให้เดก็ สามารถใช้ 1. วีดที ัศน์ 1. วธิ ีการ
ประโยคคาถามว่า ดา้ นรา่ งกาย การใชป้ ระโยค กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สถานการณน์ ้า - สังเกตการใช้
“เม่ือไร” “อยา่ งไร” ท่วมใน ประโยคคาถามว่า
ในการค้นหาคาตอบ - การเคลอ่ื นไหวอยกู่ บั ท่ี คาถามวา่ “เม่ือไหร่” 1. ชมวีดีทศั น์สถานการณน์ า้ ทว่ มในประเทศไทย ประเทศไทย “เม่ือไร”
จากการทากิจกรรมได้ 2. แก้วตวงนา้ “อยา่ งไร” ในการ
ด้านอารมณ์-จิตใจ “อย่างไร” ในการ 2. สนทนาถงึ เหตุการณใ์ นวดี ีทัศน์ ดังน้ี 3. ถาด ค้นหาคาตอบ
4. ดินนา้ มนั 2. เครื่องมือ
- การปฏิบตั ิกิจกรรม ค้นหาคาตอบ - เด็ก ๆ เหน็ อะไรบ้างจากวิดที ัศน์ท่ีดูไปเม่ือสกั ครู่
- แบบบนั ทกึ ผล
ต่างๆ ตามความสามารถ - เด็กๆ รู้ไหมว่าถ้าฝนตกหนกั จะมปี รากฏการณ์เกดิ ข้นึ หลังการจดั
ประสบการณ์
ของตนเอง อกี 1 อยา่ ง?

ดา้ นสงั คม 3. ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณแ์ ละตง้ั ข้อสงสัยเกีย่ วกับ

- การใหค้ วามรว่ มมือใน สถานการณน์ า้ ท่วมในประเทศไทย

การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ - อยากรไู้ หมวา่ น้ามาจากไหน

- การสนทนาขา่ วและ - รู้ไหมว่าน้าทว่ มเกิดขึ้นได้อยา่ งไร?

เหตุการณท์ ่ีเกย่ี วกับ 4. ครทู ดลองโดยการให้เด็กสังเกตการเปล่ยี นแปลงที่เกิดข้ึน

ธรรมชาตแิ ละ เม่อื ครูเทน้าในถาดท่ีปน้ั ดนิ เป็นทางน้าหลกั ไว้

สิง่ แวดล้อมใน 5. เด็กอาสาสมัครตวงน้าใสแ่ กว้ ปรมิ าณเท่ากับเส้นท่ีครูขีดไว้

ชีวิตประจาวัน เทน้าใสท่ างน้าหลัก สังเกตการเปลี่ยนแปลงท่เี กดิ ข้นึ (นา้ ล้น)

ด้านสตปิ ญั ญา 6. อาสาสมัครให้เด็กปนั้ ทางเก็บน้าสารองใหค้ ล้ายกับแก้มลิง

- การพดู เรยี งลาดับเพ่ือ 7. ตวงน้าใส่แก้วปริมาณเท่าเดมิ เทนา้ ใส่ทางนา้ หลัก

ใช้ในการสอื่ สาร สงั เกตการเปลย่ี นแปลงทเี่ กิดข้ึน (น้าไหลไปยงั แก้มลิง)

- การต้ังคาถามในเร่ืองท่ี 8. รว่ มกนั สรุปกิจกรรมที่ทาในวนั น้ี

สนใจ

แผนการจดั ประสบการณช์ ันอนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรียนวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 2

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์ส้าคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้
เพ่อื ให้เดก็ สามารถ 1. วิธีการ
สร้างผลงานศิลปะ ดา้ นรา่ งกาย - การถ่ายทอด กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 1. กระดาษ A4 - สงั เกตการสร้าง
เพอ่ื สื่อความคดิ 1. เตรียมความพร้อมดว้ ยการทาเบรนยมิ แตะจมูก แตะหู 2. สีเทียน ผลงานศลิ ปะเพ่ือ
ความรู้สกึ ของ - การใชก้ รรไกร ความคดิ ในชน้ิ งาน 3. แกน สอ่ื ความคิด
ตนเอง โดยมกี าร - มอื ขวาไปแตะท่หี ซู า้ ย สว่ นมอื ซา้ ยใหไ้ ปแตะทจี่ มูก กระดาษชาระ ความรู้สึกของ
ดัดแปลง และ - การเขียนภาพและการเล่น - การแสดงออก (ลกั ษณะมือไขวก้ นั ) 4. สีน้า ตนเอง โดยมี
แปลกใหมจ่ ากเดิม 5. เชือก การดัดแปลง
หรือมีรายละเอียด กับสี ทางอารมณแ์ ละ - เปล่ียนมาเปน็ มือซา้ ยแตะที่หูขวา สว่ นมอื ขวาไปแตะ 6. หลอดดดู และแปลกใหม่
เพ่มิ ขนึ้ ได้ ท่ีจมกู (ลกั ษณะมือไขว้กัน) 7. ผ้าเช็ดมอื จากเดิม หรือ
- การร้อย ความรสู้ กึ อยา่ ง 2. แนะนากิจกรรมสรา้ งสรรค์ 3 กิจกรรม ดังนี้ มีรายละเอยี ด
เพมิ่ ขนึ้
ด้านอารมณ์-จติ ใจ เหมาะสม 2. เคร่อื งมือ
- แบบบันทกึ ผล
- การทากจิ กรรมศิลปะ หลังการจดั
ประสบการณ์
ต่างๆ

ดา้ นสงั คม - การวาดภาพอสิ ระดว้ ยสีเทียน
- การใหค้ วามร่วมมือในการ - การพิมพภ์ าพดว้ ยแกนกระดาษชาระ
ปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ - การรอ้ ยหลอดดูด
- การดแู ลหอ้ งเรยี นร่วมกนั 3. ใหเ้ ด็กเลอื กทากจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรคต์ ามความสนใจ
ดา้ นสติปัญญา โดยอยู่ในพน้ื ที่ของตนเอง และใชว้ สั ดุ/อปุ กรณ์ของตนเองที่
- การแสดงความคดิ อย่ใู นตะกรา้ โดยมีครดู แู ลอย่างใกลช้ ิด
สร้างสรรค์ผา่ นงานศลิ ปะ 4. รว่ มกนั สรุปกิจกรรมสร้างสรรค์ โดยให้เดก็ เลอื กผลงาน

ของตนเองออกมาแสดงความคดิ เห็นและเสนอผลงานหนา้

ชนั้ เรียน

5. ใหเ้ ดก็ นาผลงานไปแสดงที่บอร์ดผลงานของหนู

6. เดก็ เก็บอปุ กรณ์และทาความสะอาดหอ้ งเรียน

แผนการจดั ประสบการณ์ชนั อนุบาลปีที่ 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันที่ 2

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้

เพอ่ื ให้เด็กสามารถ ดา้ นร่างกาย - การปฏบิ ตั ิตนตอ่ กิจกรรมการเล่นตามมุม มุมประสบการณ์ 1. วิธกี าร

เกบ็ ของเล่นของใช้ - การเคล่ือนไหวอยกู่ บั ที่ ผอู้ น่ื ในการเล่น 1. แนะนามมุ ต่างๆ ในห้องเรียน ดงั น้ี ตา่ งๆ ใน - สังเกตการเก็บ
- การเกบ็ ของเล่น
เข้าท่ีอย่างเรยี บร้อย - การเคลอื่ นไหวเคลื่อนที่ ของใช้เข้าท่ี - มมุ บา้ น หอ้ งเรยี น ของเลน่ ของใช้

ดว้ ยตนเองได้ ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ - มมุ บล็อก เข้าท่ีอยา่ ง

- การเลน่ ตามมมุ - มมุ หนังสอื เรยี บรอ้ ย

ประสบการณ์ - มมุ วิทยาศาสตร์ 2. เคร่ืองมือ

ด้านสังคม - มมุ ดนตรี - แบบบนั ทึกผล

- การมสี ว่ นร่วมรบั ผิดชอบ 2. สร้างขอ้ ตกลงร่วมกัน ดงั น้ี หลงั การจัด
- เลอื กเล่นมมุ กจิ กรรมตามความสนใจ
ดูแลรกั ษาสิ่งแวดล้อมท้ัง - 1 มุม เขา้ ได้ไม่เกิน 4 คน ประสบการณ์
- เว้นระยะห่างทางสงั คม
ภายในและภายนอก - แบ่งปนั ของเลน่ ให้กับเพื่อน
- รู้จกั การรอคอยสง่ิ ของจากเพ่ือน
ห้องเรียน - เลน่ เสรจ็ แลว้ เก็บของเข้าท่ใี ห้เรียบร้อย

- การดูแลหอ้ งเรยี นรว่ มกัน 3. ใหเ้ ด็กเลือกเล่นตามมุมกจิ กรรมตามความสนใจ โดยมี

ด้านสติปญั ญา

- การฟงั และปฏิบตั ิตาม

คาแนะนา

ครคู อยดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ

4. รว่ มกนั สรุปกิจกรรมเลน่ ตามมมุ โดยให้เด็กออกมาเลา่

ประสบการณ์จากการเลน่

แผนการจัดประสบการณ์ชนั อนุบาลปีท่ี 3

โรงเรยี นวดั เวฬุวนั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ท่ี 2

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ า้ คญั สาระที่ควรเรยี นรู้ เคร่ืองเล่นสนาม
เพอ่ื ให้เดก็ สามารถเลน่ 1. วิธีการ
และปฏบิ ัตติ ่อผู้อนื่ ดา้ นรา่ งกาย วธิ รี ะมดั ระวงั ตนเอง กจิ กรรมการเล่นกลางแจ้ง - สังเกตการการ
อยา่ งปลอดภัยได้ เล่นและปฏบิ ตั ติ อ่
- การเคลื่อนไหว และปฏิบตั ิตอ่ ผู้อื่น 1. เด็กลงมาเขา้ แถวทล่ี านตัวหนอนผู้ชาย 1 แถว ผูห้ ญิง 1 ผ้อู ่ืนอย่างปลอดภยั
2. เครือ่ งมือ
เคลอื่ นที่ อย่างปลอดภัย แถว โดยเวน้ ระยะหา่ งอยา่ งน้อย 1 เมตร - แบบบนั ทึกผล
หลังการจดั
- การเลน่ เคร่ืองเล่น 2. นาเด็กทาท่ากายบรหิ าร ดังนี้ ประสบการณ์

อยา่ งปลอดภยั - หมนุ ขอ้ มือ 10 ครงั้

ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ - กระโดดตบ 10 คร้งั

- การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม - วิง่ รอบสนาม 2 รอบ

ต่างๆ ตามความสามารถ 3. เดก็ เลอื กเล่นอุปกรณ์ในสนามเดก็ เลน่ ตาม

ของตนเอง ความสนใจอย่างอสิ ระ จนกวา่ ได้เม่ือไดย้ ินสัญญาณนกหวดี

ดา้ นสังคม ทบ่ี อกวา่ หมดเวลา

- การเลน่ และการทางาน 4. เด็กทาทา่ ผ่อนคลายกล้ามเนอื้

รว่ มกับผ้อู นื่ - ยืดเหยยี ดแขน/ขา

ด้านสติปญั ญา 5. เด็กทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างมอื ให้สะอาดเพ่ือเตรียม

- การฟังและปฏิบตั ิตาม ตัวทากิจกรรมต่อไป

คาแนะนา

แผนการจัดประสบการณช์ นั อนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรียนวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ท่ี 2

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
เพ่ือให้เด็กสามารถ
เรียงลาดับภาพ ดา้ นรา่ งกาย - การเลน่ เกม กจิ กรรมเกมการศึกษา 1. เกม 1. วิธกี าร
การเจริญเติบโต เรยี งลาดบั ภาพ - สังเกตการ
ของตน้ ไม้ได้ - การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ การศึกษา 1. ชวนเด็กทากิจกรรมเบรนยิมตบมือ ตบตัก ตบไหล่ การเจริญเติบโต เรยี งลาดบั ภาพ
ของตน้ ไม้ การเจริญเตบิ โต
ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - การเรยี งลาดบั ภาพ 2. รว่ มกนั สร้างข้อตกลง ดังนี้ 2. แทมบูรีน ของตน้ ไม้
2. เครอ่ื งมือ
- การปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ การเจริญเติบโต - แบง่ กันเลน่ - แบบบันทกึ ผล
หลังการจดั
ตามความสามารถของ ของตน้ ไม้ - เกบ็ ใหเ้ รียบร้อยเมอ่ื เลน่ เสร็จ ประสบการณ์

ตนเอง 3. อธบิ ายและสาธติ วิธกี ารเลน่ เกมเรยี งลาดบั ภาพ

ดา้ นสงั คม การเจรญิ เตบิ โตของต้นไม้ ดงั นี้

- การเล่นและทางาน - แนะนาให้เด็กดูภาพตน้ ไม้ท่ีค่อยๆ เจริญเติบโต

ร่วมกับผอู้ ่ืน ตามลาดบั เวลา 6 ภาพ

ดา้ นสติปญั ญา - ให้เดก็ เรยี งลาดับภาพการเจรญิ เตบิ โตของต้นไม้

- การฟังและปฏบิ ัตติ าม - เมื่อเล่นเสรจ็ ให้เดก็ นาเกมใสก่ ล่องเกบ็ เขา้ ทีใ่ ห้

คาแนะนา เรยี บรอ้ ย

4. ใหเ้ ด็กนง่ั เป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 5 คน

5. ตวั แทนกลุ่มออกมารับเกมเรยี งลาดบั ภาพ

การเจริญเตบิ โตของตน้ ไม้

6. เลน่ เกมเล่นเกมเรียงลาดับภาพการเจรญิ เติบโตของ

ต้นไม้ โดยมคี รูดูแล และแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด

7. เขย่าแทมบูรีน 3 ครัง้ ใหส้ ลับเกมกบั กลุ่มอ่ืน

8. เขยา่ แทมบูรีนรัวๆ หมายถึง หมดเวลา

9. ใหเ้ ดก็ ช่วยกนั เก็บของให้เรียบรอ้ ย

รายการประเมนิ เกณฑ์ประเมนิ คุณภาพ 1 (ควรส่งเสรมิ )

1. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถเคล่อื นไหวตาม ระดบั คุณภาพ เดก็ สามารถเคลอื่ นไหวตามจินตนาการ
จินตนาการประกอบการใช้ริบบิน้ ผ้าได้ 3 (ดี) 2 (พอใช้) ประกอบการใชร้ ิบบิน้ ผ้าได้โดยมีผู้ชีแ้ นะ
ตลอดเวลา
2. เพื่อให้เด็กสามารถใช้ประโยคคาถามวา่ เดก็ สามารถเคลอื่ นไหวตามจินตนาการ เด็กสามารถเคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ
“เมื่อไร” “อย่างไร” ในการค้นหาคาตอบ ประกอบการใช้ริบบ้นิ ผา้ ไดด้ ้วยตนเอง ประกอบการใชร้ ิบบน้ิ ผ้าไดโ้ ดยมีผู้ชี้แนะ เด็กสามารถใช้ประโยคคาถามว่า
จากการทากิจกรรมได้ “เมอ่ื ไร” “อย่างไร” ในการค้นหาคาตอบ
บางครง้ั จากการทากจิ กรรมได้โดยมผี ู้ชแ้ี นะ
3. เพอ่ื ให้เด็กสามารถสรา้ งผลงานศลิ ปะ ตลอดเวลา
เพือ่ สื่อความคิด ความร้สู กึ ของตนเอง โดย เดก็ สามารถใชป้ ระโยคคาถามวา่ เด็กสามารถใชป้ ระโยคคาถามว่า เด็กสามารถสรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่ือสื่อ
มีการดดั แปลง และแปลกใหม่จากเดมิ ความคดิ ความรู้สึกของตนเอง โดยมกี าร
หรอื มีรายละเอยี ดเพ่ิมขนึ้ ได้ “เมื่อไร” “อยา่ งไร” ในการค้นหา “เมือ่ ไร” “อยา่ งไร” ในการค้นหาคาตอบ ดดั แปลง และแปลกใหม่จากเดิม หรือมี
รายละเอียดเพ่ิมข้ึนได้โดยมีผู้ชแ้ี นะ
4. เพื่อให้เด็กสามารถเกบ็ ของเล่นของใช้ คาตอบจากการทากิจกรรมได้ด้วยตนเอง จากการทากจิ กรรมได้โดยมผี ู้ช้ีแนะ ตลอดเวลา
เขา้ ที่อยา่ งเรียบร้อยด้วยตนเองได้ เดก็ สามารถเกบ็ ของเลน่ ของใช้เข้าที่อย่าง
5. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถเลน่ และปฏิบตั ติ อ่ บางครั้ง เรียบร้อยไดโ้ ดยมีผู้ชแี้ นะตลอดเวลา
ผอู้ ่นื อย่างปลอดภยั ได้
เด็กสามารถสรา้ งผลงานศิลปะเพื่อสอื่ เดก็ สามารถสร้างผลงานศิลปะเพ่ือสื่อ เด็กสามารถเลน่ และปฏิบัติต่อผู้อ่ืนอยา่ ง
ปลอดภยั ไดโ้ ดยมผี กู้ ระตุ้นตลอดเวลา
ความคิด ความรู้สึกของตนเอง โดยมีการ ความคิด ความรู้สึกของตนเอง โดยมีการ

ดัดแปลง และแปลกใหม่จากเดมิ หรอื มี ดัดแปลง และแปลกใหม่จากเดิม หรอื มี

รายละเอยี ดเพิ่มขึน้ ได้ด้วยตนเอง รายละเอียดเพ่มิ ขน้ึ ไดโ้ ดยมีผู้ช้ีแนะ

บางคร้ัง

เดก็ สามารถเก็บของเลน่ ของใชเ้ ข้าท่ี เด็กสามารถเก็บของเลน่ ของใช้เข้าท่ีอยา่ ง

อยา่ งเรียบร้อยด้วยตนเองได้ เรยี บรอ้ ยไดโ้ ดยมผี ูช้ ้แี นะบางครัง้

เดก็ สามารถเลน่ และปฏิบตั ติ ่อผ้อู ่ืนอย่าง เด็กสามารถเลน่ และปฏบิ ตั ิต่อผ้อู ่ืนอย่าง

ปลอดภัยไดด้ ้วยตนเอง ปลอดภยั ไดโ้ ดยมีผู้กระต้นุ บางครง้ั

6. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเรยี งลาดบั เด็กสามารถเรียงลาดับภาพการ เด็กสามารถเรยี งลาดบั ภาพการ เดก็ สามารถเรียงลาดับภาพการ
ภาพการเจรญิ เตบิ โตของตน้ ไมไ้ ด้ เจริญเติบโตของต้นไม้ได้ดว้ ยตนเอง เจรญิ เตบิ โตของต้นไม้ได้โดยมีผู้ชี้แนะ เจรญิ เตบิ โตของต้นไม้ได้โดยมีผู้ชแ้ี นะ
บางครัง้ ตลอดเวลา

แบบบนั ทึกหลังการจดั ประสบการณ์ นกั เรียนชนั อนบุ าลปที ่ี 3 โรงเรียนวดั เวฬุวัน

สาระท่ีควรเรียนรู้ เรอื่ งราวเก่ียวกับธรรมชาติรอบตวั หนว่ ย ฤดฝู น เรอื่ ง ปรากฏการณ์ในฤดูฝน

วนั ที่ 13 เดอื น กรกฏาคม พ.ศ. 2564

ค้าชแี จง เตมิ / ลงในช่องท่ีตรงกบั พฤตกิ รรมของนักเรยี น ระดบั คณุ ภาพ 3 : ดี 2 : พอใช้ 1 : ปรับปรุง

เด็กสามารถ เดก็ สามารถใช้ เดก็ สามารถสร้าง เด็กสามารถเกบ็ ของ เดก็ สามารถเล่น เดก็ สามารถ

เคล่อื นไหวตาม ประโยคคา้ ถามว่า ผลงานศลิ ปะเพื่อสื่อ เลน่ ของใชเ้ ข้าท่ี และปฏิบัติตอ่ ผ้อู ่ืน เรยี งล้าดับ

จนิ ตนาการ “เมื่อไร” “อย่างไร” ความคดิ ความรสู้ ึก อย่างเรียบร้อยดว้ ย อยา่ งปลอดภัยได้ ภาพการเจริญเตบิ โต

เลข ประกอบการใช้ ในการคน้ หาคา้ ตอบ ของตนเอง โดยมี ตนเองได้ ของตน้ ไม้ได้
ท่ี รบิ บนิ ผา้ ได้ จากการท้ากจิ กรรม การดัดแปลง และ
ชื่อ-นามสกลุ ได้ แปลกใหม่จากเดมิ

หรอื มีรายละเอียด

เพ่ิมขึนได้

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3213 2 1

1 เดก็ ชายกนู

2 เด็กชายธนกฤต ปาทาน

3 เด็กชายณฎั ฐพงศ์ ทองห่อ

4 เดก็ ชายกฤตบวรพจน์ ธนวัตแสงเหลก็

5 เดก็ ชายภัทรพล แสงฟอง

6 เดก็ ชายไตรภพ สธุ าชยั

7 เด็กชายสิทธินนท์ นายทะ

8 เด็กชายปุณพจน์ ปรชี าเฉลมิ

9 เด็กชายรชั ฐน์ ิธิ ตนมิตร

10 เดก็ ชายกรินทร์ จันคณา

11 เดก็ ชายกมลภพ ตันกุรมิ าน

12 เดก็ ชายธนกร ฟูแสง

13 เด็กชายชาตฉิ กาจ นาสาวงศ์กุล

14 เดก็ หญิงพมิ พณ์ ดา นะรา

15 เดก็ หญงิ ภณั ฑลิ า แจ่มใส

16 เดก็ หญงิ ยม้ิ วัน ลงุ ออ

เลข ชือ่ -นามสกลุ เด็กสามารถ เดก็ สามารถใช้ เดก็ สามารถสร้าง เดก็ สามารถเกบ็ ของ เดก็ สามารถเล่น เด็กสามารถ
ที่ เคลอื่ นไหวตาม ประโยคค้าถามวา่ ผลงานศิลปะเพอื่ ส่อื เลน่ ของใชเ้ ข้าท่ี และปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อนื่ เรียงล้าดับ
จนิ ตนาการ “เมอื่ ไร” “อยา่ งไร” ความคิด ความรสู้ กึ อย่างเรียบรอ้ ยด้วย อยา่ งปลอดภัยได้ ภาพการเจริญเตบิ โต
ประกอบการใช้ ในการค้นหาคา้ ตอบ ของตนเอง โดยมี ตนเองได้ ของต้นไม้ได้
ริบบนิ ผา้ ได้ จากการท้ากิจกรรม การดัดแปลง และ 3 21
ได้ แปลกใหม่จากเดิม 321 321
321 หรอื มีรายละเอียด
321 เพ่มิ ขนึ ได้

321

17 เดก็ หญิงกนกดารินทร์ หน่อแก้ว
18 เดก็ หญิงพรธติ า สร้างใหม่
19 เดก็ หญิงนลินธดิ า มนัสพรชัย
20 เดก็ หญงิ วนดั ดา ธาดาจรญู เพช็ ร
21 เดก็ หญิงชลดิ า ราชเวียง
22 เด็กหญงิ ธิดารัตน์ เคราะห์ดี
23 เดก็ หญงิ สุภสั สรา ยาธิ

บันทกึ ผลการจดั กจิ กรรม
.......................................................................................................................................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ........................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. ............................................................................. .................................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ ................................................
(………………………………..)
............./............../............

แผนการจัดประสบการณช์ นั อนุบาลปที ี่ 3

โรงเรยี นวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ที่ 3

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การ
ประสบการณ์ส้าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ ประเมนิ ผล
เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถ เพลงออกกาลังกาย
ทาทา่ ทาง ด้านร่างกาย - การแสดงออกผา่ น กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ รับแสงตะวัน 1. วธิ ีการ
กายบรหิ ารประกอบ - สงั เกตการ
เพลงออกกาลงั กาย - การเคล่อื นไหวเคลอ่ื นที่ การเคลอ่ื นไหว 1. ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวอบอุ่นรา่ งกายโดยอยู่ในเขตของตนเอง ทาท่าทาง
รับแสงตะวนั ได้ ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - การทาท่าทาง ประกอบเพลง
- การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ กายบริหารประกอบ และเคลื่อนไหวตามจงั หวะ ดังน้ี และดนตรี
ตามความสามารถของ เพลงออกกาลงั กาย - สะบัดข้อมือ 10 ครง้ั 2. เครอ่ื งมือ
ตนเอง รับแสงตะวัน - หมุนขอ้ เท้า 10 คร้งั - แบบบนั ทึก
ด้านสังคม ผลหลังการจัด
- การให้ความรว่ มมือใน - กระโดดข้ึนลง 10 คร้งั ประสบการณ์

2. เปดิ เพลง ออกกาลงั กายรับแสงตะวัน

การปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ 3. เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายทาท่าทางประกอบเพลง
ดา้ นสตปิ ัญญา ออกกาลงั กายรับแสงตะวัน โดยอยู่ในเขตพน้ื ท่ขี องตนเอง
- การแสดงความคดิ 4. ทากิจกรรมซ้า 1-2 รอบ
สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 5. ร่วมกนั ผอ่ นคลายกลา้ มเนื้อในทา่ ท่ีสบาย และใช้มือนวด
ท่าทาง การเคล่อื นไหว ตรงขมบั เบาๆ
และศลิ ปะ

แผนการจัดประสบการณ์ชันอนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ นั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 3

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์ส้าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้
เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถ 1. เพลง 1. วิธีการ
ปฏบิ ตั ิตนอย่าง ด้านรา่ งกาย การปฏบิ ัติตนอย่าง กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หลบฝน - สงั เกตการ
ปลอดภยั เม่ือฝนตกได้ - การเคลือ่ นไหวอยู่กบั ที่ เหมาะสมเมอื่ 1. เด็กและครูรว่ มกันรอ้ งเพลงและทาท่าทางประกอบเพลงหลบฝน 2. บตั รภาพ ปฏบิ ตั ิตนอย่าง
ด้านอารมณ์-จติ ใจ ฝนตก อปุ กรณ์กันฝน ปลอดภยั เม่อื
- การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ซ่า ซ่า ซา่ เชน่ ร่ม เส้ือ ฝนตก
ตามความสามารถของ ฝนตกลงมา กระเด็นเปน็ ฝอย กันฝน เป็นต้น 2. เครือ่ งมือ
ตนเอง เดก็ เด็กหลบฝนกนั หนอ่ ย 3. เสอ้ื กันฝน - แบบบันทึกผล
ด้านสงั คม เดก็ เด็กหลบฝนกนั หน่อย 4. รม่ หลังการจดั
- การใหค้ วามรว่ มมือใน ถกู ฝนเลก็ น้อย จะเป็นหวดั เอย (ซา้ ) 5. รองเท้าบูท ประสบการณ์

การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ 2. เดก็ จับสลากภาพอปุ กรณ์กันฝน และเล่นบทบาทสมมตกิ ารใช้
- การสนทนาข่าวและ อปุ กรณ์ตามภาพใหเ้ พื่อนทายโดยเลือกภาพประกอบเหตุการณ์
เหตกุ ารณ์ท่ีเกีย่ วกบั ฝนตก
ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม 3. เดก็ รว่ มสนทนาและแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นเก่ียวกบั ปญั หา
ในชีวิตประจาวนั ทีเ่ กิดขึน้ และวธิ กี ารแก้ปญั หาเมอื่ ฝนตกแตเ่ ด็กไมม่ อี ุปกรณ์กันฝน
ด้านสติปญั ญา 4. เด็กจัดกลุ่มๆ ละ 4-5 คน สนทนาแลกเปล่ียนความคิดเหน็
- การฟงั และปฏบิ ัตติ าม เก่ยี วกบั ปญั หา และวาดภาพแสดงวธิ กี ารแก้ปญั หาเมือ่ ฝนตก
คาแนะนา

แตเ่ ด็กไมม่ ีอปุ กรณก์ นั ฝน และเลอื กวิธแี กป้ ัญหา 1 วธิ ี มานาเสนอ

ใหก้ ลุ่มใหญ่ฟงั โดยครคู อยชว่ ยเหลอื ช้แี นะ

5. ตัวแทนเดก็ ออกมาสาธิตการแตง่ กาย และการใช้อปุ กรณ์

ป้องกันฝน ไดแ้ ก่ เสื้อกันฝน ร่ม รองเทา้ บูท เปน็ ต้น

6. เดก็ และครูร่วมกันร้องเพลงและทาทา่ ทางประกอบเพลงหลบฝน

แผนการจัดประสบการณ์ชันอนบุ าลปีท่ี 3

โรงเรียนวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วันที่ 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ า้ คัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้
1. วิธีการ
เพ่อื ให้เด็กสามารถ ดา้ นร่างกาย - เรยี นรงู้ านศิลปะ กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ 1. กระดาษ A4 - สงั เกตการ
สร้างสรรคผ์ ลงาน
สรา้ งสรรคผ์ ลงาน - การเขยี นภาพและการเลน่ ชืน่ ชม สร้างสรรค์ 1. เตรยี มความพร้อมดว้ ยการทาทา่ ทางประกอบคาคล้อง 2. หลอดกาแฟ ศลิ ปะ
3. สีเทยี น 2. เครื่องมือ
ศิลปะไดอ้ ยา่ ง กบั สี อย่างมีความสุข ขนมหวาน 4. ดนิ นา้ มนั - แบบบนั ทึกผล
5. แผ่นรองป้นั หลังการจัด
สวยงาม ด้านอารมณ์-จิตใจ - การแสดงออก 2. แนะนากจิ กรรมสร้างสรรค์ 3 กจิ กรรม ดังน้ี 6. ผา้ เช็ดมอื ประสบการณ์

- การทากจิ กรรมศลิ ปะ ทางอารมณ์และ - การเปา่ สนี า้
- การวาดภาพอสิ ระด้วยสีเทยี น
ตา่ งๆ ความร้สู ึกอย่าง

ด้านสงั คม เหมาะสม - การปั้นดนิ นา้ มนั

- การให้ความรว่ มมือในการ 3. ใหเ้ ด็กเลอื กทากจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ตามความสนใจ

ปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ

- การดแู ลห้องเรยี นรว่ มกนั โดยอยู่ในพ้ืนทีข่ องตนเอง และใช้วสั ด/ุ อปุ กรณ์ของตนเองที่

ด้านสติปญั ญา อยใู่ นตะกรา้ โดยมีครดู ูแลอย่างใกลช้ ดิ

- การแสดงความคิด 4. ร่วมกันสรุปกิจกรรมสรา้ งสรรค์ โดยให้เดก็ เลือกผลงาน

สรา้ งสรรค์ผ่านงานศิลปะ ของตนเองออกมาแสดงความคิดเห็นและเสนอผลงานหนา้

ชัน้ เรยี น

5. ให้เด็กนาผลงานไปแสดงที่บอรด์ ผลงานของหนู

6. เด็กเก็บอุปกรณ์และทาความสะอาดหอ้ งเรียน

แผนการจัดประสบการณช์ ันอนบุ าลปีที่ 3

โรงเรียนวดั เวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คัญ สาระที่ควรเรียนรู้
เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถ
เลือกเล่นมมุ ดา้ นร่างกาย การเล่นตามความ กิจกรรมการเล่นตามมุม มุมประสบการณ์ 1. วิธีการ
ประสบการณ์ตาม
ความสนใจได้ - การเคลอ่ื นไหวอยกู่ ับที่ สนใจของตนเอง 1. แนะนามมุ ต่างๆ ในห้องเรียน ดังนี้ ต่างๆ ใน - สงั เกตการเลอื ก
- การเคล่อื นไหวเคลอื่ นที่
ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - มมุ บ้าน หอ้ งเรียน เล่นมุม
- การเลน่ ตามมุม
ประสบการณ์ - มมุ บล็อก ประสบการณ์
ด้านสังคม
- การให้ความรว่ มมือในการ - มมุ หนังสอื ตามความสนใจ
ปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ
ดา้ นสตปิ ญั ญา - มุมวิทยาศาสตร์ 2. เครื่องมือ
- การฟงั และปฏบิ ตั ติ าม
คาแนะนา - มมุ ดนตรี - แบบบนั ทึกผล

2. สรา้ งข้อตกลงรว่ มกัน ดงั น้ี หลังการจดั
- เลอื กเล่นมุมกจิ กรรมตามความสนใจ
- 1 มุม เขา้ ได้ไม่เกนิ 4 คน ประสบการณ์
- เว้นระยะห่างทางสงั คม
- แบ่งปันของเล่นใหก้ บั เพ่ือน

- ร้จู ักการรอคอยสง่ิ ของจากเพ่ือน
- เล่นเสร็จแลว้ เกบ็ ของเข้าท่ใี หเ้ รียบรอ้ ย
3. ให้เดก็ เลือกเลน่ ตามมุมกิจกรรมตามความสนใจ

โดยมีครูคอยดแู ลอย่างใกลช้ ิด

4. รว่ มกนั สรปุ กิจกรรมเล่นตามมมุ โดยใหเ้ ด็กออกมาเล่า

ประสบการณจ์ ากการเลน่

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนบุ าลปีท่ี 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันที่ 3

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์สา้ คญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ลานกิจกรรม
1. วิธกี าร
เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถรบั ดา้ นร่างกาย การโยนและรับ กจิ กรรมการเล่นกลางแจง้ - สังเกตการเลน่
เครอื่ งเล่นสนาม
ลกู บอลท่ีกระดอนขน้ึ - การเคล่อื นไหวเคลอื่ นท่ี ลกู บอล 1. เด็กลงมาเขา้ แถวทลี่ านตวั หนอนผู้ชาย 1 แถว ผูห้ ญิง 1 อยา่ งปลอดภัย
2. เครอื่ งมือ
จากพ้ืนได้ - การเคลอื่ นไหวที่ใช้การ แถว โดยเว้นระยะห่างอยา่ งน้อย 1 เมตร - แบบบันทึกผล
หลังการจดั
ประสานสมั พันธ์ของการ 2. นาเดก็ ทาทา่ กายบรหิ าร ดังน้ี ประสบการณ์

ใชก้ ลา้ มเน้อื ใหญใ่ น - หมนุ ข้อมือ 10 ครั้ง

การขว้าง การจบั การโยน - กระโดดตบ 10 คร้งั

การเตะ - แกว่งแขนไปขา้ งหน้า 10 ครงั้

ด้านอารมณ์-จิตใจ 3. ครสู าธติ การโยนและรบั ลูกบอลกบั ผูช้ ว่ ย (กรณีไม่มี

- การปฏิบัติกิจกรรม ผู้ชว่ ย เลือกเดก็ ท่คี าดว่าจะรับลูกบอลได้มาชว่ ยสาธติ )

ต่างๆ ตามความสามารถ 4. เด็กยนื เป็นแถว ครโู ยนลกู บอลให้เดก็ คนหน้าสุด

ของตนเอง ใหเ้ ดก็ โยนกลับมาให้ครู แล้วเดก็ ไปต่อท้ายแถว

ด้านสงั คม จนครบทกุ คน

- การเลน่ และการทางาน 5. เดก็ จับคเู่ ล่นโยนและรับลกู บอล

รว่ มกับผอู้ ่นื 6. เด็กทาทา่ ผ่อนคลายกล้ามเนือ้

ดา้ นสตปิ ญั ญา - ยดื เหยียดแขน/ขา

- การฟังและปฏบิ ัตติ าม 7. เด็กทาความสะอาดร่างกาย ล้างมอื ใหส้ ะอาดเพื่อ

คาแนะนา เตรียมตัวทากิจกรรมต่อไป

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรยี นวัดเวฬวุ นั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันที่ 3

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณส์ ้าคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้
1. เกมจบั คู่ 1. วธิ ีการ
เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถ ด้านร่างกาย - การเลน่ เกม กจิ กรรมเกมการศึกษา ภาพเหมือน - สงั เกตการเล่น
คนกางร่ม เกมจบั คู่
จบั คู่ภาพเหมือนโดยใช้ - การเคล่อื นไหวอยูก่ ับที่ การศกึ ษา 1. ชวนเดก็ ทากิจกรรมเบรนยิมตบมอื ตบตัก ตบไหล่ 2. แทมบรู ีน ภาพเหมอื นโดย
ใชล้ กั ษณะที่
ลกั ษณะที่สังเกตพบ 2 ด้านอารมณ์-จติ ใจ - การจับคู่ 2. รว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลง ดังน้ี สงั เกตพบ 2
ลักษณะ
ลกั ษณะได้ - การปฏิบัติกิจกรรม ภาพเหมือนโดยใช้ - แบง่ กนั เล่น 2. เคร่อื งมือ
- แบบบนั ทกึ ผล
ต่างๆ ตามความสามารถ ลักษณะที่สงั เกตพบ - เก็บใหเ้ รียบรอ้ ยเมื่อเล่นเสรจ็ หลงั การจดั
ประสบการณ์
ของตนเอง 2 ลักษณะ 3. อธบิ ายและสาธิตวธิ กี ารเลน่ เกมจบั คูภ่ าพเหมือน

ด้านสังคม คนกางรม่ ดังนี้

- การเล่นและทางาน - แนะนาใหเ้ ด็กดภู าพคนกางร่มทเี่ หมือนกนั ทลี ะคู่

ร่วมกับผู้อ่ืน จนครบทุกคู่

ดา้ นสตปิ ญั ญา - ใหเ้ ด็กนาภาพทเ่ี หมือนกันมาวางคูก่ นั เป็นคๆู่

- การฟงั และปฏิบัตติ าม - เม่ือเลน่ เสรจ็ ใหเ้ ดก็ นาเกมใส่กลอ่ งเก็บเขา้ ท่ี

คาแนะนา ใหเ้ รยี บรอ้ ย

4. ใหเ้ ดก็ นง่ั เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

5. ตัวแทนกลมุ่ ออกมารับเกมจบั คภู่ าพเหมือนคนกางร่ม

6. เล่นเกมจบั คภู่ าพเหมือนคนกางร่มโดยมีครูดูแล

และแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด

7. เขยา่ แทมบรู นี 3 ครง้ั ให้สลบั เกมกบั กลุ่มอื่น

8. เขย่าแทมบูรีนรวั ๆ หมายถึง หมดเวลา

9. ให้เด็กชว่ ยกนั เกบ็ ของใหเ้ รียบรอ้ ย

เกณฑป์ ระเมินคณุ ภาพ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

1. เพอ่ื ให้เด็กสามารถทาท่าทาง 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรส่งเสริม)
กายบรหิ ารประกอบเพลงออกกาลงั กาย
รบั แสงตะวนั ได้ เด็กสามารถทาท่าทางกายบริหาร เด็กสามารถทาทา่ ทางกายบริหาร เด็กสามารถทาท่าทางกายบริหารประกอบ

ประกอบเพลงออกกาลังกายรับแสงตะวนั ประกอบเพลงออกกาลังกายรับแสงตะวนั เพลงออกกาลังกายรับแสงตะวันไดด้ ว้ ย

ไดด้ ้วยตนเอง ไดโ้ ดยมีผู้ชแี้ นะบางคร้ัง ตนเองโดยมีผู้ชแ้ี นะตลอดเวลา

2. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิตนอย่าง เดก็ สามารถปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยเมอื่ เด็กสามารถปฏิบตั ิตนอยา่ งปลอดภยั เมอ่ื เดก็ สามารถปฏิบัติตนอยา่ งปลอดภยั เมอ่ื
ปลอดภยั เมอ่ื ฝนตกได้ ฝนตกได้ด้วยตนเอง ฝนตกได้โดยมผี ้ชู แี้ นะบางครงั้ ฝนตกได้ดว้ ยตนเองโดยมีผู้ช้แี นะ
ตลอดเวลา
3. เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งสรรค์ผลงาน เดก็ สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานศลิ ปะได้ เดก็ สามารถสร้างสรรคผ์ ลงานศิลปะได้
ศลิ ปะไดอ้ ย่างสวยงาม อย่างสวยงามด้วยตนเอง อย่างสวยงามโดยมผี ้ชู แ้ี นะบางครัง้ เดก็ สามารถสรา้ งสรรค์ผลงานศิลปะได้
อย่างสวยงามโดยมีผู้ชี้แนะตลอดเวลา

4. เพอ่ื ให้เด็กสามารถเลอื กเล่นมุม เด็กสามารถเลือกเล่นมุมประสบการณ์ เด็กสามารถเลือกเล่นมุมประสบการณ์ เดก็ สามารถเลือกเลน่ มมุ ประสบการณต์ าม
ประสบการณ์ตามความสนใจได้
ตามความสนใจได้ดว้ ยตนเอง ตามความสนใจได้โดยมผี ูช้ แ้ี นะบางครั้ง ความสนใจได้โดยมีผู้ชแี้ นะตลอดเวลา

5. เพอื่ ให้เด็กสามารถรับลกู บอลที่ เด็กสามารถรับลูกบอลทีก่ ระดอนขึน้ เด็กสามารถรบั ลูกบอลทก่ี ระดอนขน้ึ จาก เดก็ สามารถรบั ลูกบอลท่ีกระดอนขน้ึ จาก
กระดอนข้ึนจากพน้ื ได้ จากพนื้ ได้ดว้ ยตนเอง พนื้ ไดโ้ ดยมีผูช้ ้ีแนะบางครั้ง พนื้ ได้ไดโ้ ดยมผี ู้ชี้แนะตลอดเวลา

6. เพ่ือให้เด็กสามารถจับคภู่ าพเหมือน เดก็ สามารถจบั คูภ่ าพเหมอื นโดยใช้ เดก็ สามารถจบั ค่ภู าพเหมือนโดยใช้ เดก็ สามารถจบั คูภ่ าพเหมอื นโดยใช้ลกั ษณะ
โดยใช้ลกั ษณะท่สี งั เกตพบ 2 ลกั ษณะได้ ลกั ษณะที่สงั เกตพบ 2 ลักษณะไดด้ ว้ ย ลกั ษณะทีส่ งั เกตพบ 2 ลักษณะได้โดยมีผู้ ท่ีสังเกตพบ 2 ลักษณะไดโ้ ดยมผี ู้ช้ีแนะ
ตนเอง ชีแ้ นะบางครั้ง ตลอดเวลา

แบบบันทกึ หลงั การจดั ประสบการณ์ นักเรยี นชันอนุบาลปีท่ี 3 โรงเรยี นวัดเวฬุวนั

สาระที่ควรเรียนรู้ เร่ืองราวเกีย่ วกับธรรมชาตริ อบตัว หนว่ ย ฤดูฝน เรือ่ ง การปฏิบัตติ นอยา่ งเหมาะสมเม่ือฝนตก

วนั ที่ 14 เดอื น กรกฏาคม พ.ศ. 2564

คา้ ชแี จง เติม / ลงในช่องทต่ี รงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ระดับคณุ ภาพ 3 : ดี 2 : พอใช้ 1 : ปรบั ปรงุ

เดก็ สามารถท้า เดก็ สามารถ เดก็ สามารถ เดก็ สามารถเลอื ก เดก็ สามารถรบั เดก็ สามารถจบั คู่
ภาพเหมอื นโดยใช้
ท่าทางกายบรหิ าร ปฏิบตั ิตนอยา่ ง สร้างสรรค์ผลงาน เลน่ มุมประสบการณ์ ลกู บอลทกี่ ระดอน ลักษณะทสี่ ังเกตพบ
2 ลักษณะได้
เลข ชือ่ -นามสกลุ ประกอบเพลงออก ปลอดภยั เมื่อ ศิลปะไดอ้ ยา่ ง ตามความสนใจได้ ขนึ จากพนื ได้
ที่ กา้ ลงั กายรับแสง ฝนตกได้ สวยงาม 321

ตะวันได้

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 21

1 เดก็ ชายกนู
2 เดก็ ชายธนกฤต ปาทาน
3 เด็กชายณฎั ฐพงศ์ ทองห่อ
4 เด็กชายกฤตบวรพจน์ ธนวตั แสงเหล็ก
5 เด็กชายภทั รพล แสงฟอง
6 เดก็ ชายไตรภพ สุธาชัย

7 เด็กชายสิทธนิ นท์ นายทะ
8 เด็กชายปุณพจน์ ปรชี าเฉลมิ
9 เด็กชายรชั ฐน์ ิธิ ตนมิตร
10 เดก็ ชายกรนิ ทร์ จันคณา
11 เดก็ ชายกมลภพ ตันกรุ ิมาน
12 เด็กชายธนกร ฟแู สง
13 เดก็ ชายชาตฉิ กาจ นาสาวงศก์ ลุ
14 เด็กหญิงพมิ พณ์ ดา นะรา
15 เด็กหญงิ ภณั ฑลิ า แจม่ ใส
16 เดก็ หญงิ ยม้ิ วนั ลุงออ
17 เดก็ หญงิ กนกดารนิ ทร์ หนอ่ แกว้
18 เดก็ หญิงพรธติ า สร้างใหม่

เลข ชือ่ -นามสกลุ เดก็ สามารถทา้ เด็กสามารถ เด็กสามารถ เดก็ สามารถเลือก เดก็ สามารถรับ เด็กสามารถจบั คู่
ที่ ท่าทางกายบรหิ าร ปฏิบัตติ นอยา่ ง สร้างสรรค์ผลงาน เล่นมุมประสบการณ์ ลกู บอลทก่ี ระดอน ภาพเหมอื นโดยใช้
ประกอบเพลงออก ปลอดภัยเม่อื ศิลปะได้อย่าง ตามความสนใจได้ ขึนจากพนื ได้ ลกั ษณะทส่ี ังเกตพบ
กา้ ลังกายรบั แสง ฝนตกได้ สวยงาม 2 ลกั ษณะได้
ตะวนั ได้ 3 2 1 3 21
321 321 321
321

19 เด็กหญงิ นลินธดิ า มนัสพรชัย
20 เด็กหญงิ วนดั ดา ธาดาจรญู เพ็ชร
21 เดก็ หญิงชลดิ า ราชเวียง
22 เดก็ หญงิ ธดิ ารตั น์ เคราะหด์ ี
23 เด็กหญิงสภุ สั สรา ยาธิ

บันทึกผลการจดั กจิ กรรม
.......................................................................................................................................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ........................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. ............................................................................. .................................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ลงชือ่ ผปู้ ระเมนิ ................................................
(.......................................)
............./............../............

แผนการจดั ประสบการณช์ ันอนบุ าลปที ่ี 3

โรงเรยี นวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วนั ท่ี 4

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ า้ คญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ แทมบูรีน
เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถ 1. วิธีการ
ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้นา ด้านร่างกาย - การเปน็ ผนู้ าและ กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ - สงั เกตการ
และผ้ตู ามได้ ปฏบิ ตั ติ นเป็น
เหมาะสมกับ - การเคลื่อนไหวอยู่กับท่ี ผตู้ าม 1. ใหเ้ ดก็ เคลอื่ นไหวอบอุน่ รา่ งกายโดยอยู่ในเขตของตนเอง ผู้นาและผูต้ าม
สถานการณ์ 2. เครอ่ื งมือ
- การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นที่ และเคลื่อนไหวตามจงั หวะ ดังน้ี - แบบบันทึกผล
หลงั การจัด
ด้านอารมณ์-จติ ใจ - หมุนเอว 10 ครัง้ ประสบการณ์

- การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - ยอ่ ยดื 10 ครัง้
ตามความสามารถของ
ตนเอง 2. เด็กเคลื่อนไหวร่างกายอยา่ งอิสระตามจงั หวะ เมื่อได้ยิน
- การเคล่ือนไหวตาม สัญญาณหยดุ ให้เด็กจดั กลุม่ ๆ ละ 6 คน
เสียงเพลง/ดนตรี 3. เด็กแต่ละกล่มุ เลอื กผนู้ าในการเคลอื่ นไหว เดก็ คนอนื่ ๆ
ด้านสงั คม เคลอ่ื นไหวตามผูน้ าของกลุ่มตน ผลัดเปล่ียนกันเปน็ ผู้นา
- การใหค้ วามรว่ มมือใน และผตู้ าม
การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ 4. ทากิจกรรมซ้า 1-2 รอบ
ด้านสติปัญญา 5. ร่วมกันผ่อนคลายกล้ามเนื้อในท่าทีส่ บาย และใชม้ ือนวด
- การแสดงความคิด ตรงขมับเบาๆ

สรา้ งสรรค์ผ่านภาษา

ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว

และศิลปะ

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนบุ าลปีท่ี 3

โรงเรียนวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ที่ 4

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์ส้าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
เพื่อให้เด็กสามารถ
ค้นหาคาตอบ ด้านร่างกาย การปอ้ งกนั กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ 1. นทิ านเรอ่ื ง 1. วธิ ีการ
เก่ียวกบั โรค
ไข้เลือดออกและ - การเคล่ือนไหวอยกู่ ับท่ี โรคไข้เลือดออก 1. ครูอ่านนทิ านเร่ือง กุ๋งกิง๋ เป็นไขเ้ ลอื ดออก ให้เด็กฟัง กุ๋งกิ๋งเปน็ ไข้เลือดออก - สงั เกตการ
การปอ้ งกนั ได้
ด้านอารมณ์-จติ ใจ 2. เดก็ สนทนาเกี่ยวกบั เร่ืองโรคไข้เลือดออก และ 2. ครูพยาบาล คน้ หาคาตอบ

- การปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ ขอ้ สงสยั ตา่ งๆ เกีย่ วกบั เรื่องไขเ้ ลือดออก โดย 3. แหลง่ เพาะพนั ธุ์ เกี่ยวกับโรค

ตามความสามารถของ ครชู ่วยช้แี นะเพ่ือเตรียมเป็นคาถามสาหรบั สมั ภาษณ์ ยุงลายภายใน ไขเ้ ลือดออกและ

ตนเอง ครูพยาบาล โรงเรยี น การป้องกนั

ด้านสงั คม 3. เดก็ สมั ภาษณ์ครพู ยาบาลตามคาถามที่เตรยี มไว้ 4. กระดาษปรู๊ฟ 2. เคร่อื งมือ

- การให้ความรว่ มมือใน 4. ครสู รา้ งข้อตกลงในการพาเดก็ ไปสารวจและทาลาย 5. สีเทยี น - แบบบันทกึ ผล

การปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ แหลง่ เพาะพนั ธุ์ยุงลายภายในโรงเรียน 6. สเี มจิก หลงั การจัด

ด้านสติปัญญา 5. เด็กสารวจและวาดภาพแหลง่ เพาะพันธุ์ยงุ ลาย ประสบการณ์

- การฟังและปฏบิ ตั ติ าม ท่ีพบ แลว้ ทาลายแหล่งเพาะพันธุย์ ุงลายนน้ั โดยครู

คาแนะนา คอยดูแลอย่างใกลช้ ิด

- การสืบเสาะหาความรู้ 6. เดก็ นาภาพแหลง่ เพาะพนั ธุ์ยงุ ลายมาตดิ ใน

เพ่ือค้นหาคา้ ตอบของ กระดาษปรู๊ฟรวมกนั ชว่ ยกันนบั จานวน

ขอ้ สงสยั ตา่ งๆ แหล่งเพาะพนั ธ์ยุ ุงลายท่ีได้รว่ มกันทาลายไปแล้ว

- การมสี ่วนร่วมในการ และเขยี นตวั เลขกากับ

รวบรวมข้อมูลและนาเสนอ

ข้อมูลจากการสืบเสาะ

หาความร้ใู นรปู แบบต่างๆ

- การสารวจส่งิ ต่างๆ และ

แหล่งเรยี นรรู้ อบตวั

แผนการจัดประสบการณ์ชันอนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรียนวดั เวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ท่ี 4

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณส์ า้ คัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถ 1. ใบงานระบาย 1. วธิ กี าร
ระบายสีภาพ ด้านร่างกาย - เรียนรงู้ านศลิ ปะ กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ สภี าพตามแบบ - สังเกตการ
ตามแบบรูปได้ 2. สีเทียน ระบายสภี าพตาม
- การเขยี นภาพและ ชื่นชม สรา้ งสรรค์ 1. เตรยี มความพร้อมด้วยเบรนยมิ จบี -แอล 3. ดินสอ แบบรปู
4. ดนิ น้ามนั 2. เครือ่ งมือ
การเล่นกับสี อยา่ งมีความสุข 2. แนะนากิจกรรมสร้างสรรค์ 3 กจิ กรรม ดังน้ี 5. แผน่ รองปั้น - แบบบันทกึ ผล
6. ใบงานวาด หลงั การจัด
- การปั้น - การทาผลงาน - การระบายสภี าพยุงลาย ประสบการณ์
- การปั้นดินน้ามัน ภาพแหล่ง
ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ ศิลปะตามแบบ - การวาดภาพแหลง่ เพาะพันธ์ยงุ ลาย
เพาะพนั ธย์ ุงลาย
- การทากิจกรรมศลิ ปะ 3. ใหเ้ ดก็ เลือกทากจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ตามความสนใจ

ต่างๆ โดยอยใู่ นพืน้ ที่ของตนเอง และใช้วัสดุ/อุปกรณ์ของตนเองท่ี

ดา้ นสงั คม อยใู่ นตะกร้าโดยมีครูดูแลอย่างใกล้ชดิ

- การใหค้ วามรว่ มมือในการ

ปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ

- การดูแลห้องเรียนร่วมกนั 4. รว่ มกนั สรุปกจิ กรรมสรา้ งสรรค์ โดยใหเ้ ด็กเลือกผลงาน

ด้านสตปิ ัญญา ของตนเองออกมาแสดงความคิดเห็นและเสนอผลงานหน้า
- การแสดงความคิด ช้นั เรียน
สร้างสรรคผ์ า่ นงานศลิ ปะ 5. ให้เดก็ นาผลงานไปแสดงที่บอรด์ ผลงานของหนู

6. เด็กเก็บอปุ กรณ์และทาความสะอาดห้องเรยี น

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนบุ าลปที ่ี 3

โรงเรียนวัดเวฬุวนั สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 4

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คญั สาระที่ควรเรียนรู้

เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถ ดา้ นรา่ งกาย - คณุ ธรรม กิจกรรมการเล่นตามมุม มมุ ประสบการณ์ 1. วิธกี าร

แบ่งปันสงิ่ ของให้กบั - การเคลอ่ื นไหวอยกู่ บั ที่ จรยิ ธรรม 1. แนะนามมุ ต่างๆ ในห้องเรียน ดังนี้ ต่างๆ ใน - สงั เกตการ
ผู้อนื่ ได้ - การเคล่ือนไหวเคลือ่ นท่ี - มนี ้าใจ
- มุมบา้ น ห้องเรยี น แบง่ ปันสง่ิ ของ
ด้านอารมณ์-จติ ใจ
- การเล่นตามมมุ - มุมบล็อก ใหก้ ับผู้อน่ื
ประสบการณ์
ด้านสังคม - มุมหนังสอื 2. เครื่องมือ
- การใหค้ วามร่วมมือในการ
ปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - มมุ วิทยาศาสตร์ - แบบบันทึกผล
- การเล่นและทางาน
ร่วมกบั ผู้อน่ื - มุมดนตรี หลังการจัด
ดา้ นสตปิ ญั ญา
- การฟังและปฏิบตั ติ าม 2. สรา้ งขอ้ ตกลงรว่ มกนั ดังนี้ ประสบการณ์
คาแนะนา - เลือกเลน่ มมุ กิจกรรมตามความสนใจ
- 1 มมุ เข้าได้ไม่เกนิ 4 คน
- เว้นระยะห่างทางสงั คม
- แบง่ ปนั ของเลน่ ใหก้ ับเพ่ือน
- รจู้ กั การรอคอยสงิ่ ของจากเพื่อน
- เลน่ เสร็จแล้วเกบ็ ของเข้าท่ใี หเ้ รยี บร้อย

3. ให้เดก็ เลอื กเล่นตามมุมกจิ กรรมตามความสนใจ โดยมี

ครคู อยดูแลอยา่ งใกล้ชดิ

4. รว่ มกันสรปุ กจิ กรรมเล่นตามมมุ โดยให้เด็กออกมาเล่า

ประสบการณจ์ ากการเล่น

แผนการจดั ประสบการณช์ นั อนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ท่ี 4

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์สา้ คัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1. นกหวดี
เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถ 1. วิธีการ
ว่งิ เหยียบสีพ้นื ตาม ดา้ นร่างกาย - การเลน่ ตามคาสั่ง กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ - สังเกตการวิง่
คาสง่ั ได้อยา่ ง เหยยี บสีพืน้ ตาม
คล่องแคล่ว - การเคลอื่ นไหวเคลื่อนท่ี - การเคลอื่ นไหว 1. เด็กลงมาเขา้ แถวท่ีลานตวั หนอนผู้ชาย 1 แถว ผู้หญิง 1 คาสง่ั อย่าง
คล่องแคลว่
ด้านอารมณ์-จิตใจ อย่างคล่องแคลว่ แถว โดยเวน้ ระยะห่างอยา่ งน้อย 1 เมตร 2. เครื่องมือ
- แบบบันทกึ ผล
- การปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆ 2. นาเดก็ ทาท่ากายบริหาร ดังน้ี หลงั การจดั
ประสบการณ์
ตามความสามารถของ - ยอ่ ยืด 10 คร้ัง

ตนเอง - กระโดดตบ 10 ครัง้

ด้านสงั คม - หมุนขอ้ เทา้ สะบัดข้อมือ 10 ครง้ั

- การเลน่ และการทางาน 3. รว่ มสรา้ งขอ้ ตกลงในการวิ่งเหยียบสพี ้นื ตามคาสั่ง

ร่วมกบั ผู้อนื่ - ตง้ั ใจฟงั คาสง่ั

ดา้ นสติปญั ญา - ใหเ้ หยียบสีพื้นตามคาส่ัง

- การฟังและปฏบิ ตั ิตาม - ไม่เบยี ดกัน

คาแนะนา - ไม่ผลักกัน

- ว่ิงด้วยความระมดั ระวงั

4. เด็กเลน่ วง่ิ เหยยี บสพี น้ื ตามคาส่ัง โดยผลัดเปลีย่ นกัน

ออกมาเป็นคนสงั่

5. เดก็ ทาท่าผ่อนคลายกลา้ มเนอ้ื

- ยดื เหยยี ดแขน/ขา

6. เดก็ ทาความสะอาดร่างกาย ล้างมือให้สะอาดเพ่ือเตรยี ม

ตวั ทากิจกรรมต่อไป

แผนการจดั ประสบการณช์ ันอนบุ าลปที ่ี 3

โรงเรียนวัดเวฬวุ ัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วันท่ี 4

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สา้ คญั สาระที่ควรเรยี นรู้
เพอ่ื ให้เดก็ สามารถ 1. วิธีการ
เลน่ เกมจัดหมวดหมู่ ดา้ นร่างกาย - การเลน่ เกม กจิ กรรมเกมการศึกษา 1. เกมจดั - สังเกตการจดั
ภาพกับสัญลักษณ์ได้ หมวดหม่ภู าพกบั
- การเคลื่อนไหวอยกู่ บั ท่ี การศึกษา 1. ชวนเดก็ ทากจิ กรรมเบรนยิมแกว้ กะลา ขนั โอ่ง หมวดหมู่ภาพ สญั ลักษณ์ ฝนตก
ฟา้ แลบ ฟา้ ร้อง
ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ - จัดหมวดหมภู่ าพ 2. รว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลง ดงั นี้ กบั สญั ลักษณ์ ฟ้าผา่
2. เคร่ืองมือ
- การปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ กบั สัญลักษณ์ - แบ่งกนั เล่น ฝนตก ฟา้ แลบ - แบบบนั ทกึ ผล
หลังการจัด
ตามความสามารถของ - เก็บให้เรยี บร้อยเมื่อเลน่ เสรจ็ ฟา้ ร้อง ฟา้ ผ่า ประสบการณ์

ตนเอง 3. อธิบายและสาธติ วธิ กี ารเลน่ เกมจดั หมวดหมู่ภาพกับ 2. แทมบรู นี

ดา้ นสงั คม สญั ลักษณ์ ดงั นี้

- การเลน่ และทางาน - แนะนาให้เดก็ ดภู าพฝนตก ชใี้ ห้สังเกตคา เลอื กคาว่าฝน

ร่วมกบั ผูอ้ ่ืน ตกมาวางไวด้ ว้ ยกนั ชเี้ พ่ือเปรียบเทยี บ ทาท่เี หมอื นกัน

ด้านสตปิ ญั ญา ทาเช่นน้ีจนครบทุกภาพ

- การฟงั และปฏิบตั ติ าม - ให้เด็กจัดกลุ่มภาพกบั คา ฝนตก ฟา้ แลบ ฟา้ ร้อง ฟา้ ผา่

คาแนะนา - เม่อื เลน่ เสรจ็ ใหเ้ ด็กนาเกมใสก่ ล่องเกบ็ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย

- ให้เด็กนงั่ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

4. ตวั แทนกลุม่ ออกมารับเกมจดั หมวดหมู่ภาพกบั

สัญลกั ษณ์

5. เลน่ เกมจัดหมวดหมู่ภาพกับสญั ลักษณ์โดยมีครูดูแล และ

แนะนาอยา่ งใกลช้ ดิ

6. เขย่าแทมบูรนี 3 ครั้ง ใหส้ ลับเกมกับกลุม่ อื่น

7. เขย่าแทมบูรนี รวั ๆ หมายถึง หมดเวลา

8. ให้เด็กช่วยกันเกบ็ ของใหเ้ รียบรอ้ ย

เกณฑ์ประเมินคุณภาพ

รายการประเมิน ระดับคุณภาพ

1. เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบตั ิตนเปน็ ผนู้ า 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรส่งเสรมิ )
และผตู้ ามได้เหมาะสมกับสถานการณ์
เดก็ สามารถปฏิบัติตนเป็นผู้นาและผ้ตู าม เดก็ สามารถปฏบิ ตั ิตนเป็นผนู้ าและผู้ตาม เด็กสามารถปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้นู าและผ้ตู าม
2. เพื่อให้เด็กสามารถคน้ หาคาตอบ ไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์โดยมผี ู้ชแี้ นะ
เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออกและการป้องกนั ไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ด้วยตนเอง ได้เหมาะสมกบั สถานการณ์โดยมีผูช้ ้แี นะ ตลอดเวลา
ได้
3. เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถระบายสภี าพตาม บางครัง้ เด็กสามารถค้นหาคาตอบเก่ยี วกบั โรค
แบบรูปได้ ไขเ้ ลอื ดออกและการปอ้ งกันได้โดยมีผู้
เด็กสามารถค้นหาคาตอบเก่ยี วกับโรค เด็กสามารถคน้ หาคาตอบเกย่ี วกับโรค ช้ีแนะตลอดเวลา

ไข้เลอื ดออกและการป้องกันได้ด้วยตนเอง ไข้เลอื ดออกและการปอ้ งกันได้โดยมีผู้ เดก็ สามารถระบายสีภาพตามแบบรูปได้
โดยมีผู้ช้แี นะตลอดเวลา
ช้แี นะบางคร้งั

เด็กสามารถระบายสีภาพตามแบบรูปได้ เดก็ สามารถระบายสีภาพตามแบบรูปได้

ด้วยตนเอง โดยมีผชู้ ้แี นะบางคร้ัง

4. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถแบ่งปันสิง่ ของให้กบั เด็กสามารถแบ่งปันสิง่ ของใหก้ ับผู้อ่นื ได้ เด็กสามารถแบง่ ปนั สง่ิ ของให้กับผูอ้ ื่นได้ เดก็ สามารถแบง่ ปนั สิง่ ของใหก้ ับผอู้ น่ื ได้

ผ้อู ื่นได้ ดว้ ยตนเอง โดยมีผู้ช้แี นะบางคร้งั โดยมผี ู้ชแี้ นะตลอดเวลา

5. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถวง่ิ เหยียบสีพ้นื ตาม เดก็ สามารถว่งิ เหยยี บสีพืน้ ตามคาส่งั ได้ เดก็ สามารถวิง่ เหยียบสีพื้นตามคาสั่งได้ เดก็ สามารถวงิ่ เหยียบสีพน้ื ตามคาสั่งได้
อย่างคล่องแคล่วโดยมผี ู้ชีแ้ นะบางครง้ั อยา่ งคล่องแคล่วโดยมผี ู้ช้ีแนะตลอดเวลา
คาสงั่ ได้อย่างคล่องแคลว่ อย่างคล่องแคลว่ ดว้ ยตนเอง
เดก็ สามารถเลน่ เกมจัดหมวดหมภู่ าพกับ เดก็ สามารถเล่นเกมจดั หมวดหม่ภู าพกบั
6. เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถเลน่ เกมจัดหมวดหมู่ เดก็ สามารถเลน่ เกมจดั หมวดหมภู่ าพกบั สญั ลักษณ์ได้โดยมีผชู้ ้ีแนะบางครงั้ สญั ลกั ษณ์ได้โดยมีผู้ชีแ้ นะตลอดเวลา

ภาพกบั สัญลกั ษณ์ได้ สญั ลกั ษณ์ได้ดว้ ยตนเอง

แบบบนั ทึกหลงั การจัดประสบการณ์ นักเรียนชันอนบุ าลปที ่ี 3 โรงเรียนวัดเวฬุวัน

สาระที่ควรเรยี นรู้ เรอ่ื งราวเก่ยี วกับธรรมชาตริ อบตัว หน่วย ฤดูฝน เรอื่ ง โรคทีพ่ บบอ่ ยในฤดฝู น

วันท่ี 15 เดอื น กรกฏาคม พ.ศ. 2564

ค้าชีแจง เตมิ / ลงในช่องท่ตี รงกบั พฤตกิ รรมของนกั เรียน ระดับคณุ ภาพ 3 : ดี 2 : พอใช้ 1 : ปรบั ปรุง

เดก็ สามารถปฏิบัติ เด็กสามารถคน้ หา เด็กสามารถระบายสี เด็กสามารถแบง่ ปนั เด็กสามารถว่งิ เดก็ สามารถเล่นเกม

ตนเปน็ ผนู้ ้าและ ค้าตอบเกย่ี วกบั ภาพตามแบบรูปได้ สง่ิ ของใหก้ ับผูอ้ ืน่ ได้ เหยียบสีพืนตาม จัดหมวดหมู่ภาพกับ

เลข ชอ่ื -นามสกลุ ผู้ตามไดเ้ หมาะสม โรคไข้เลอื ดออกและ คา้ ส่งั ไดอ้ ย่าง สญั ลกั ษณ์ได้
ที่ กบั สถานการณ์ การปอ้ งกนั ได้ คลอ่ งแคล่ว

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 213 2 1

1 เด็กชายกูน
2 เด็กชายธนกฤต ปาทาน
3 เด็กชายณฎั ฐพงศ์ ทองหอ่
4 เด็กชายกฤตบวรพจน์ ธนวัตแสงเหล็ก
5 เด็กชายภทั รพล แสงฟอง
6 เด็กชายไตรภพ สุธาชยั

7 เด็กชายสิทธินนท์ นายทะ
8 เดก็ ชายปณุ พจน์ ปรชี าเฉลมิ
9 เดก็ ชายรชั ฐ์นธิ ิ ตนมิตร
10 เดก็ ชายกรินทร์ จันคณา
11 เด็กชายกมลภพ ตนั กุรมิ าน
12 เดก็ ชายธนกร ฟูแสง
13 เด็กชายชาติฉกาจ นาสาวงศก์ ุล
14 เด็กหญงิ พมิ พณ์ ดา นะรา
15 เดก็ หญิงภณั ฑลิ า แจ่มใส
16 เดก็ หญิงยม้ิ วนั ลงุ ออ
17 เดก็ หญงิ กนกดารินทร์ หนอ่ แก้ว
18 เดก็ หญิงพรธติ า สรา้ งใหม่

เดก็ สามารถปฏิบัติ เดก็ สามารถค้นหา เด็กสามารถระบายสี เดก็ สามารถแบ่งปนั เด็กสามารถว่งิ เดก็ สามารถเลน่ เกม
ตนเป็นผูน้ า้ และ คา้ ตอบเก่ยี วกบั ภาพตามแบบรูปได้ สิ่งของให้กบั ผอู้ น่ื ได้ เหยยี บสพี ืนตาม จัดหมวดหมู่ภาพกับ
ผตู้ ามไดเ้ หมาะสม โรคไขเ้ ลอื ดออกและ ค้าส่งั ไดอ้ ย่าง สัญลกั ษณ์ได้
เลข ช่อื -นามสกลุ กับสถานการณ์ การป้องกันได้ คลอ่ งแคลว่
ท่ี

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 213 2 1

19 เดก็ หญิงนลนิ ธิดา มนัสพรชัย
20 เดก็ หญิงวนัดดา ธาดาจรญู เพช็ ร
21 เด็กหญิงชลดิ า ราชเวียง
22 เด็กหญงิ ธิดารัตน์ เคราะห์ดี
23 เดก็ หญงิ สุภัสสรา ยาธิ

บนั ทึกผลการจดั กิจกรรม
.......................................................................................................................................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ........................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. ............................................................................. .................................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ลงชื่อผปู้ ระเมนิ ................................................
(..........................................)
............./............../............

แผนการจดั ประสบการณ์ชนั อนบุ าลปที ี่ 3

โรงเรยี นวดั เวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หน่วย ฤดูฝน วนั ที่ 5

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์ส้าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้
เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถ 1. วธิ ีการ
เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ดา้ นรา่ งกาย การเคลื่อนไหว กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ แทมบรู นี - สงั เกตการ
ตามคาสงั่ ได้ เคล่อื นไหว
- การเคล่อื นไหวเคล่ือนที่ รา่ งกายตามคาส่งั 1. ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวอบอนุ่ รา่ งกายโดยอยู่ในเขตของตนเอง ร่างกายตามคาสั่ง
2. เครื่องมือ
ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ และเคล่ือนไหวตามจงั หวะ ดังน้ี - แบบบันทกึ ผล
หลังการจดั
- การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - แตะเท้าไปขา้ งหน้า 10 คร้งั ประสบการณ์

ตามความสามารถของ - หมุนเอว 10 ครงั้
ตนเอง
ด้านสงั คม - สะบดั มือ 10 ครั้ง
- การให้ความร่วมมือใน
การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ 2. เด็กเคลือ่ นไหวตามจังหวะ เม่อื ได้ยินสัญญาณหยุด ให้ฟัง
ด้านสตปิ ัญญา ครูบอกจานวน และจดั กลมุ่ ตามจานวนทค่ี รูบอก แล้วนั่งลง
- การฟังและปฏิบัตติ าม 3. ทากิจกรรมซ้า 1-2 รอบ
คาแนะนา 4. ร่วมกันผ่อนคลายกล้ามเน้ือในท่าทสี่ บาย และใชม้ ือนวด
ตรงขมบั เบาๆ

แผนการจัดประสบการณ์ชันอนุบาลปีท่ี 3

โรงเรียนวัดเวฬุวัน สพป.เชียงใหม่ เขต 4

หนว่ ย ฤดูฝน วันท่ี 5

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณส์ ้าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
เพ่อื ให้เด็กสามารถ
บอกประโยชน์ของ ดา้ นรา่ งกาย ประโยชนข์ อง กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ 1. วีดที ัศนเ์ รือ่ ง 1. วิธกี าร
การทาฝนหลวงได้ การทาฝนหลวง - สังเกตการบอก
- การเคลื่อนไหวอยกู่ ับท่ี การทาฝนหลวง 1. เตรียมความพร้อมเด็กดว้ ยเบรนยมิ แกว้ กะลา ขัน โอ่ง 2. ภาพพน้ื ที่ ประโยชนข์ องการ
ดนิ แห้งแลง้ ทาฝนหลวง
ด้านอารมณ์-จิตใจ 2. เดก็ สังเกตภาพพน้ื ดนิ ทีแ่ ห้งแล้ง และสนทนาเกีย่ วกับ 2. เคร่ืองมือ
- แบบบนั ทึกผล
- การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ สง่ิ ท่ีสงั เกตและวิธแี กป้ ัญหา ดังนี้ หลังการจดั
ประสบการณ์
ตามความสามารถของ - ดินทเ่ี ด็กๆ สังเกตมีลักษณะอย่างไรบ้าง

ตนเอง - ให้เดก็ บอกถงี วิธีแกป้ ญั หาพน้ื ทด่ี นิ แห้ง

ดา้ นสงั คม 3. ครูเปิดวดี ีทัศน์การทาฝนหลวงให้เด็กดู

- การให้ความร่วมมือใน 4. ร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกบั การทาฝนหลวง ดังนี้

การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ - เม่ือทาฝนหลวงแลว้ จะเกิดอะไรขึ้น

- การสนทนาขา่ วและ - ฝนหลวงชว่ ยแก้ปัญหาในเรื่องใด

เหตุการณ์ท่เี กยี่ วกบั - ฝนหลวงสามารถแกป้ ญั หาดนิ แหง้ ไดห้ รือไม่

ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม 5. ร่วมกนั สรุปกิจกรรม

ในชีวติ ประจาวัน

ดา้ นสตปิ ญั ญา

- การฟังและปฏบิ ตั ิตาม

คาแนะนา

- การคาดเดาหรือการ

คาดคะเนสิ่งที่อาจจะ

เกดิ ขึ้นอยา่ งมเี หตผุ ล

- การมสี ว่ นรว่ มในการลง

ความเห็นจากข้อมูลอยา่ งมี

เหตผุ ล