ระเบียบปฏิบัติในการสอบของโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบของโรงเรียนสตรีนนทบุรีว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ " ระเบียบนี้ให้ใช ้
บังคับแก่ผู้เข้าสอบสำหรับการสอบทุกประเภท
หน้าที่นักเรียน อ่านระเบียบให้เข้าใจและปฏิบัติโดยเคร่งครัด
1. นักเรียนต้องมาโรงเรียนให้ทันเวลาสอบ ผู้ใดมาไม่ทันภายหลังจากเริ่มสอบแล้ว 15 นาที จะต้องมา
รายงานตัวที่งานทะเบียนวัดผล
2. นักเรียนที่เจ็บป่วย หรือมีเหตุสุดวิสัย มาสอบตามกำหนดเวลาไม่ได้ ต้องรีบแจ้งให้ครูที่ปรึกษาหรืองาน
วัดผลทราบโดยด่วน และเมื่อหายเป็นปกติแล้ว ต้องนำหลักฐาน เช่น ใบรับรองแพทย์มายื่นคำร้องขอสอบที่
งานทะเบียนวัดผล
3. นักเรียนที่ขาดสอบโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะมีการจัดการสอบทดแทนให้ และจะได้ 0 คะแนนในรายวิชา
4. การแต่งกายในการสอบ ต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนที่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ไม่ใส่ชุดกีฬา
5. ผู้เข้าสอบจะต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบให้ทราบว่าสถานที่สอบอยู่ ณ ที่ใด ห้องใด
6. นักเรียนต้องปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับการสอบ และคำสั่งครูผู้กำกับการสอบดังนี้
6.1 นำหลักฐานประจำตัวนักเรียน เช่น บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวนักเรียน
มาด้วยทุกครั้ง
6.2 ไม่นำเอกสารใด ๆ เครื่องอิเล็กทรอนิคส์ เครื่องสื่อสาร หรือ อุปกรณ์ใดๆที่จะให้
ประโยชน์ในการสอบเข้าไปในห้องสอบ
6.3 นั่งประจำตามโต๊ะที่กำหนดให้ จะเปลี่ยนที่นั่งก่อนได้รับอนุญาตไม่ได้
6.4 ระมัดระวังไม่ให้ผู้เข้าสอบคนอื่นคัดลอกคำตอบของตน
6.5 ไม่เขียน หรือทำเครื่องหมายใด ๆ ในแบบทดสอบ เมื่อทำเสร็จแล้วนำส่งคืนครูผู้กำกับการ
สอบพร้อมกับกระดาษคำตอบ
6.6 ไม่ติดต่อหรือพูดจากับผู้ใดในเวลาสอบ เมื่อมีข้อสงสัยหรือมีกิจจำเป็น ให้แจ้งต่อครูผู้กำกับการสอบ
6.7 ผู้ที่สอบเสร็จแล้ว ต้องออกไปจากห้องสอบ และไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนผู้ที่ยัง
สอบอยู่ ทั้งนี้ต้องไม่ออกจากห้องสอบก่อนเวลา 20 นาที นับแต่เริ่มสอบวิชานั้น
6.8 ผู้ใดสอบเสร็จก่อน ผู้นั้นต้องออกไปห่างจากห้องสอบ และไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวน
แก่ผู้ที่ยังสอบอยู่ แต่ทั้งนี้ผู้เข้าสอบทุกคนจะออกจากห้องสอบก่อนเวลา 20 นาที หลังจากเริ่มสอบ
วิชานั้นไม่ได ้
ระเบียบปฏิบัติในการสอบของโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบของโรงเรียนสตรีนนทบุรีว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ " ระเบียบนี้ให้ใช้
บังคับแก่ผู้เข้าสอบสำหรับการสอบทุกประเภท
หน้าที่นักเรียน อ่านระเบียบให้เข้าใจและปฏิบัติโดยเคร่งครัด
1. นักเรียนต้องมาโรงเรียนให้ทันเวลาสอบ ผู้ใดมาไม่ทันภายหลังจากเริ่มสอบแล้ว 15 นาที จะต้องมา
รายงานตัวที่งานทะเบียนวัดผล
2. นักเรียนที่เจ็บป่วย หรือมีเหตุสุดวิสัย มาสอบตามกำหนดเวลาไม่ได้ ต้องรีบแจ้งให้ครูที่ปรึกษาหรืองาน
วัดผลทราบโดยด่วน และเมื่อหายเป็นปกติแล้ว ต้องนำหลักฐาน เช่น ใบรับรองแพทย์มายื่นคำร้องขอสอบที่
งานทะเบียนวัดผล
3. นักเรียนที่ขาดสอบโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะมีการจัดการสอบทดแทนให้ และจะได้ 0 คะแนนในรายวิชา
4. การแต่งกายในการสอบ ต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนที่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ไม่ใส่ชุดกีฬา
5. ผู้เข้าสอบจะต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบให้ทราบว่าสถานที่สอบอยู่ ณ ที่ใด ห้องใด
6. นักเรียนต้องปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับการสอบ และคำสั่งครูผู้กำกับการสอบดังนี้
6.1 นำหลักฐานประจำตัวนักเรียน เช่น บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวนักเรียน
มาด้วยทุกครั้ง
6.2 ไม่นำเอกสารใด ๆ เครื่องอิเล็กทรอนิคส์ เครื่องสื่อสาร หรือ อุปกรณ์ใดๆที่จะให้
ประโยชน์ในการสอบเข้าไปในห้องสอบ
6.3 นั่งประจำตามโต๊ะที่กำหนดให้ จะเปลี่ยนที่นั่งก่อนได้รับอนุญาตไม่ได้
6.4 ระมัดระวังไม่ให้ผู้เข้าสอบคนอื่นคัดลอกคำตอบของตน
6.5 ไม่เขียน หรือทำเครื่องหมายใด ๆ ในแบบทดสอบ เมื่อทำเสร็จแล้วนำส่งคืนครูผู้กำกับการ
สอบพร้อมกับกระดาษคำตอบ
6.6 ไม่ติดต่อหรือพูดจากับผู้ใดในเวลาสอบ เมื่อมีข้อสงสัยหรือมีกิจจำเป็น ให้แจ้งต่อครูผู้กำกับ
การสอบ
6.7 ผู้ที่สอบเสร็จแล้ว ต้องออกไปจากห้องสอบ และไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนผู้ที่ยัง
สอบอยู่ ทั้งนี้ต้องไม่ออกจากห้องสอบก่อนเวลา 20 นาที นับแต่เริ่มสอบวิชานั้น
6.8 ผู้ใดสอบเสร็จก่อน ผู้นั้นต้องออกไปห่างจากห้องสอบ และไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวน
แก่ผู้ที่ยังสอบอยู่ แต่ทั้งนี้ผู้เข้าสอบทุกคนจะออกจากห้องสอบก่อนเวลา 20 นาที หลังจากเริ่มสอบ
วิชานั้นไม่ได ้
6.9 ไม่นำกระดาษสำหรับเขียนคำตอบที่ผู้กำกับการสอบแจกให้ออกไปจากห้องสอบ
7. ถ้านักเรียนฝ่าฝืนระเบียบข้อ 6 หรือทำทุจริตในการสอบวิชาใด ๆ เมื่อได้สอบสวนแล้วจะถูกลงโทษ
8. นักเรียนที่กระทำการทุจริต หรือพยายามทำทุจริตในการสอบวิชาใด เมื่อได้สอบสวนแล้วผู้มีหน้าที่
จัดการสอบสั่งไม่ตรวจคำตอบ จะได้คะแนน 0 ในรายวิชาที่กระทำการทุจริตในการสอบครั้งนั้น
9. ในกรณีทุจริตในการสอบด้วยวิธีคัดลอกคำตอบระหว่างผู้สอบด้วยกัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าได้สมคบกัน
ทุจริต ผู้ทำหน้าที่จัดการสอบพิจารณาสอบสวนสั่งไม่ตรวจคำตอบ จะได้คะแนน 0 ในรายวิชาที่ กระทำการ
ทุจริตในการสอบครั้งนั้นทั้ง 2 ฝ่าย
การวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
มีหลักเกณฑ์การประเมินที่ควรทราบดังนี้
1. การประเมินผล
นักเรียนจะได้รับการประเมินผลการเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง ตามเกณฑ์มาตรฐานที่โรงเรียนกำหนด ทั้ง 4
ด้าน คือ
1. สาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ ( ภาษาไทย , คณิตศาสตร์ , วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, สุขศึกษาและพลศึกษา ,ศิลปะ , การงาน, และ
ภาษาต่างประเทศ
2. ด้าน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ
3. ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสถานศึกษา
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซื่อสัตย์ สุจริต
3. มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมั่นในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ
4. ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. การตัดสินผลการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม
โรงเรียนจัดให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม ให้ครบทุกตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ผลการตัดสิน
การเรียนรู้กลุ่มสาระทั้ง 8 กลุ่ม กำหนดเป็น ผลการเรียน ดังนี้
1. ผลการเรียนที่เป็นตัวเลข แสดงระดับคะแนน
ระดับคะแนน ช่วงคะแนน(%) ความหมายของระดับคะแนน
“ 4 ” 80-100 ผลการเรียน “ ดีเยี่ยม ”
“ 3.5 ” 75-79 ผลการเรียน “ ดีมาก”
“ 3 ” 70-74 ผลการเรียน “ ดี ”
“2.5 ” 65-69 ผลการเรียน “ ค่อนข้างดี ”
“ 2 ” 60-64 ผลการเรียน “ น่าพอใจ ”
“ 1.5 ” 55-59 ผลการเรียน “ พอใช้ ”
“ 1 ” 50-54 ผลการเรียน “ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ”
“ 0 ” 0-49 ผลการเรียน “ ต่ำกว่าเกณฑ์ ”
2. ผลการเรียนที่เป็นตัวอักษร
ผลการเรียน ความหมาย
“ ร ” รอการตัดสิน รอการตัดสินผลการเรียน
“ มส ” ไม่มีสิทธิ์สอบ ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมินปลายภาค / ปลายปี
ผ ผ่าน ผ่านกิจกรรมที่สำคัญ และมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมครบ 80%
มผ ไม่ผ่าน ไม่ผ่านกิจกรรมที่สำคัญ หรือ มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบ 80 %
มก ไม่นับหน่วยการเรียน เรียนโดยไม่นับหน่วยการเรียน และมีเวลาเรียนครบ 80%
มค เวลาไม่ครบ 80% เรียนโดยไม่นับหน่วยการเรียน และมีเวลาเรียนไม่ครบ 80%
หมายเหตุ นักเรียนมีผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศึกษาใด น้อยกว่า 1.00 แล้วในปีการศึกษาต่อไปนักเรียน
ต้องเรียนซ้ำในระดับชั้นเดิม
นักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ หรือไม่มีผลการเรียน
1. ได้ผลการเรียน 0 ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
นักเรียนได้ผลการเรียน 0 ต้องทำการซ่อมเสริม ปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัด/กับผลการ
เรียนรู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินให้เสร็จสิ้นในภาคเรียนต่อไป นักเรียนมีสิทธิ์ ยื่นคำร้องสอบแก้ตัวได้ 2 ครั้ง
ตามวนและเวลาที่โรงเรียนกำหนด ถ้ายังสอบไม่ผ่าน ต้องลงทะเบียน เรียนซ้ำ
ั
2. ได้ผลการเรียน ร
นักเรียนไม่ได้สอบปลายภาค หรือ ไม่ได้ส่งรายงานที่ครูมอบหมายให้ทำ หรือมีเหตุสุดวิสัย เช่น เจ็บป่วย
จะได้รับผลการเรียนวิชานั้นเป็น “ร” นักเรียนจะต้องแจ้งเหตุสุดวิสัยในการไม่ได้สอบปลายภาค หรือเหตุสุดวิสัยอื่นให้
โรงเรียนทราบโดยด่วน เพื่อโรงเรียนจะได้กำหนดระยะเวลาให้นักเรียนแก้ “ร”
2.1 นักเรียนมีสิทธิ์ ยื่นคำร้องสอบแก้ตัวได้ 2 ครั้ง ตามวันและเวลาที่โรงเรียนกำหนด
2.2 ถ้านักเรียนมาดำเนินการแก้ “ร ” ตามวิธีการและเวลาที่กำหนด นักเรียนมีสิทธิ์ได้ระดับ
ผลการเรียน0 ถึง 4
2.3 ในกรณีที่ได้ผลการเรียน “ร” ที่ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อนักเรียนดำเนินการแก้ “ร”ตามวิธีการ
ขั้นตอนและเวลาที่กำหนด นักเรียนจะได้ระดับผลการเรียน 0 ถึง 1
2.4 ถ้ายังไม่จัดการแก้ไขให้เรียบร้อยเสร็จสิ้น ในภาคเรียนถัดไป ต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำ
3. ได้ผลการเรียน มส.
ื้
การเรียนแต่ละรายวิชาทั้งสาระพนฐานและสาระเพิ่มเติม นักเรียนจะต้องมีเวลาเรียนแต่ละรายวิชาไม่น้อยกว่าร้อย
ละ 80 ของเวลาเรียนในรายวิชานั้น ถ้านักเรียนมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ 80 จะได้ผลการเรียนเป็น “ มส” ถ้านักเรียนมี
เหตุผลสมควร ก็อาจพิจารณาให้เข้าสอบปลายภาค โดยโรงเรียนจะจัดสอนเพิ่มเติมใน ตัวชี้วด/ผลการเรียนรู้ที่นักเรียนขาด
ั
อยู่ให้ครบ โดยใช้เวลาว่าง วันหยุด ชั่วโมงสอนซ่อมเสริม หรือ มอบหมายงานให้ไปทำแล้วจะจัดสอบแก้ตัวให้เป็นกรณีพิเศษ
3.1 ถ้าเวลาเรียนน้อยกว่า 60% ของเวลาเรียนทั้งหมด ต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำอย่างเดียวเท่านั้น
่
3.2 ถ้าเวลาเรียนมากกว่า 60% แต่น้อยกวา 80% ของเวลาเรียนทั้งหมด ให้ยื่นคำร้องที่ห้อง
ทะเบียน-วัดผล และ ต้องเรียนซ่อมเสริม หรือทำงานเพิ่มเติมตามครูผู้สอนกำหนด ทั้งนี้ต้อง
ให้เสร็จสิ้นใน 2 สัปดาห์แรกของภาคเรียนถัดไป มิฉะนั้นจะต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำ
3.3 ผลการสอบแก้ตัว
- ถ้าเวลาเรียนไม่ครบ 80% แต่นักเรียนมีเหตุผลอันสมควร จะได้ผลการเรียน 0 – 4
- ถ้าเวลาเรียนไม่ครบ 80% แต่นักเรียนไม่มีเหตุผลอันสมควร ผลการเรียนที่ได้ไม่เกิน 1
4. ได้ผลการเรียน มผ.
4.1 ถ้ามีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ต่ำกว่า 60% ต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำอย่างเดียวเท่านั้น
4.2 ถ้าเวลาเข้าร่วมกิจกรรม มากกว่า 60% แต่น้อยกว่า 80 % ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ให้ยื่นคำ
ร้องที่ห้องทะเบียน-วัดผล และต้องทำงานเพิ่มเติมตามครูผู้สอนกำหนด ทั้งนี้ต้องให้เสร็จสิ้นใน 2
สัปดาห์แรกของภาคเรียนถัดไป มิฉะนั้นจะต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำนักเรียนต้องเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการ
เรียนทั้ง 8 กลุ่ม ครบทุกรายวิชาตามโครงสร้าง หลักสูตรของโรงเรียนและได้รับผลการเรียนผ่านทุก
รายวิชาพื้นฐาน (ระดับคะแนน 1-4) จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้จะได้รับ
การพิจารณา การจบหลักสูตร ร่วมกับเกณฑ์มาตรฐานอื่นๆ ต่อไป
ถ้าผู้เรียนสอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้วยังได้ระดับผลการเรียน "0" หรือไม่มาสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่โรงเรียนกำหนดให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน จะต้องเรียนซ้ำทั้งรายวิชา
2. ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม อาจเรียนซ้ำ หรือเปลี่ยนรายวิชาใหม่ได้ หรือไม่ต้องเปลี่ยนระดับผลการเรียน "0" ก็ได้
การเรียนซ้ำทั้งรายวิชา
1. จะจัดให้ผู้เรียน เรียนซ้ำทั้งภาคเรียน
2. จัดให้ผู้เรียนเรียนซ้ำ โดยใช้ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่โรงเรียนเห็นว่าเหมาะสมหรืออาจใช้ชั่วโมงว่างเวลาหลังเลิกเรียน วันหยุดราชการ จัด
สอนเป็นครั้งคราวแล้วมอบหมายงานให้ทำ โดยต้องนับเวลาเรียนให้ครบตามที่กำหนดไว้ของแต่ละรายวิชา การนับเวลาในกรณีนี้ให้กำหนดเป็นตาราง
เรียนโดยเฉพาะสำหรับผู้เรียนซ้ำให้ครบจำนวนตามหน่วยการเรียนหรือน้ำหนักการเรียนของวิชานั้น
3. จัดให้เรียนซ้ำในภาคฤดูร้อน
การเปลี่ยนผลการผลการเรียน "ร" ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในภาคเรียนถัดไป ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ " ร " ตามเวลาที่กำหนดไว้
นี้ ให้เรียนซ้ำ ยกเว้นเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อำนวยการที่จะขยายเวลาการแก้ " ร " ออกไปอีก 1 ภาคเรียนแต่เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้ว
ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน จะต้องเรียนซ้ำทั้งรายวิชา
ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม เรียนซำทั้งรายวิชา หรือเปลี่ยนรายวิชาใหม่ได้
้
การเรียนซ้ำทั้งรายวิชา
1. จะจัดให้ผู้เรียน เรียนซ้ำทั้งภาคเรียน
2. จัดให้ผู้เรียนเรียนซ้ำ โดยใช้ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่โรงเรียนเห็นว่าเหมาะสมหรืออาจใช้ชั่วโมงว่างเวลาหลังเลิกเรียน วันหยุดราชการ จัด
สอนเป็นครั้งคราวแล้วมอบหมายงานให้ทำ โดยต้องนับเวลาเรียนให้ครบตามที่กำหนดไว้ของแต่ละรายวิชาการนับเวลาในกรณีนี้ให้กำหนดเป็นตาราง
เรียนโดยเฉพาะสำหรับผู้เรียนซ้ำให้ครบจำนวนตามหน่วยการเรียนหรือน้ำหนักการเรียนของวิชานั้น
3. จัดให้เรียนซ้ำในภาคฤดูร้อน
การเปลี่ยนผลการผลการเรียน "มส" ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในภาคเรียนถัดไป ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ "มส" ตามเวลาที่กำหนด
ไว้นี้ ให้เรียนซ้ำ ยกเว้นเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อำนวยการที่จะขยายเวลาการแก้ "ร" ออกไปอีก 1 ภาคเรียนแต่เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้ว
ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน จะต้องเรียนซ้ำทั้งรายวิชา
ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม เรียนซำทั้งรายวิชา หรือเปลี่ยนรายวิชาใหม่ได้
้
การเรียนซ้ำทั้งรายวิชา
1. จะจัดให้ผู้เรียน เรียนซ้ำทั้งภาคเรียน
2. จัดให้ผู้เรียนเรียนซ้ำ โดยใช้ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่โรงเรียนเห็นว่าเหมาะสมหรืออาจใช้ชั่วโมงว่างเวลาหลังเลิกเรียน วันหยุดราชการ จัด
สอนเป็นครั้งคราวแล้วมอบหมายงานให้ทำ โดยต้องนับเวลาเรียนให้ครบตามที่กำหนดไว้ของแต่ละรายวิชาการนับเวลาในกรณีนี้ให้กำหนดเป็นตาราง
เรียนโดยเฉพาะสำหรับผู้เรียนซ้ำให้ครบจำนวนตามหน่วยการเรียนหรือน้ำหนักการเรียนของวิชานั้น
3. จัดให้เรียนซ้ำในภาคฤดูร้อน
ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
1. การประเมินการอ่าน
ตัวบ่งชี้ 1. จับใจความสำคัญได้
2. แปลความจากเรื่องที่อ่านได้
3. ตีความจากเรื่องที่อ่านได้
2. การประเมินการคิดวิเคราะห์
ตัวบ่งชี้ 1. แสดงความคิดเห็นหรือบอกเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้แต่ต้องได้รับการชี้แนะจากผู้อื่น
2. แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลหรือลำดับเรื่องราวต่างๆได้
3. แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และนำไปใช้ประโยชน์ได้
4. การประเมินการเขียนสื่อความ
3. การประเมินการเขียนสื่อความ
ตัวบ่งชี้ 1. เขียนสะกดคำ ถูกต้องชัดเจน
2. เรียบเรียงถ้อยคำ และประโยคได้ถูกต้องชัดเจน
3. เขียนสรุปความจากเรื่องที่ฟังหรืออ่าน
4. เขียนถ่ายทอดความคิดเชิงสร้างสรรค์ได้
การประเมินความสามารถด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
1. ผู้สอนแต่ละรายวิชาประเมินผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความแยกต่างหากจากผลการเรียนกลุ่มสาระรายปี /รายภาค โดยผู้สอนแต่ละ
รายวิชา มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยตนเอง หรือให้ทำโครงงาน หรือให้เลือก ชิ้นงานที่สะท้อนถึง การอ่าน คิด
วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
2. ผู้สอนสรุปผลให้คณะกรรมการการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนเป็นข้อความผู้ประเมินตัดสินทุกภาคเรียนผลการประเมินจากผู้ประเมินทุกฝ่าย นำมา
พิจารณาสรุปผลเป็นรายปี/รายภาค แบ่งพฤติกรรมของผู้เรียนออกเป็นเกณฑ์ระดับคุณภาพ 4 ระดับดังนี้
ดีเยี่ยม หมายถึง ผ่านการประเมินครบทุกตัวบ่งชี้ตามที่สถานศึกษากำหนด
ดี หมายถึง ผ่านการประเมินร้อยละ 75 ของตัวบ่งชี้ตามที่สถานศึกษากำหนด
ผ่านเกณฑ์ หมายถึง ผ่านการประเมินร้อยละ 50 ของตัวบ่งชี้ตามที่สถานศึกษากำหนด
ควรปรับปรุง หมายถึง ผ่านการประเมิน ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของตัวบ่งชี้ตามที่สถานศึกษากำหนด
ในกรณีที่ “ควรปรับปรุง” จะต้องจัดกิจกรรมซ่อมเสริมเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้มีความสามารถด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
ให้ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และบันทึกผลการประเมินแต่ละครั้งอย่างต่อเนื่องเป็นเส้นพัฒนาการ แสดงแนวโน้มการพัฒนา การอ่าน คิด
วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ครูที่ปรึกษารับผลการประเมินจากคณะกรรมการแจ้งให้นักเรียนทราบ นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต้อง
ปรับปรุงแก้ไข
เมื่อจบหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) หรือ จบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(ม.6) จะตัดสินผลการประเมินผู้เรียนในภาคเรียนสุดท้าย
ร่วมกับ แนวโน้มการพัฒนา การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ จากบันทึกผลการประเมินที่ผ่านมาตลอดระดับชั้น ผู้เรียนที่ผ่านเกณฑ์การ
ประเมิน จะได้รับ การพิจารณา การจบหลักสูตรร่วมกับเกณฑ์มาตรฐานอื่นๆ นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินจะต้องทำการซ่อมเสริม เพื่อขอรับ
การประเมินใหม่ เมื่อผ่านการประเมินแล้วจึงจะได้รับการพิจารณาการจบหลักสูตรร่วมกับเกณฑ์มาตรฐานการผ่านอื่นๆ ต่อไป
การประเมินด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เป็นการประเมินการพัฒนาการของผู้เรียนเพิ่มเติมจากคุณลักษณะที่กำหนดในกลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกกลุ่ม เพื่อสร้างเอกลักษณ์
เกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
ผู้สอนทุกรายวิชาจะต้องทำการประเมินคุณลักษณะที่พึงประสงค์อย่างต่อเนื่องเป็นรายภาคเพื่อวินิจฉัยโดยมีตัวบ่งชี้เป็นตัวชี้วัด ดังนี้
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต
ตัวบ่งชี้ 1. มีความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ตัวบ่งชี้ 1. มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
2. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา 2. มีความกตัญญูรู้คุณ
3. แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน
พระมหากษัตริย์
3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้
ตัวบ่งชี้ 1. แต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ถูกระเบียบตรงต่อเวลา ตัวบ่งชี้ 1. ใฝ่เรียนรู้ รักการอ่านและมีวิธีการแสวงหา
2. มีความรับผิดชอบและรู้บทบาทหน้าที่ของ ตนเอง ความรู้ที่หลากหลาย
3. เคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น 2. มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ
3. ใช้สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างมี
ประสิทธิภาพ
5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน
ตัวบ่งชี้ 1. ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด ตัวบ่งชี้ 1. มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่
2. ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ได้รับมอบหมาย
3. ใช้จ่ายอย่างประหยดและมีการเก็บออมเงิน 2. มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค
ั
เพื่อให้งานสำเร็จ
7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ
ตัวบ่งชี้ 1. ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องเหมาะสม ตัวบ่งชี้ 1. มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น
2. มีความเป็นกุลสตรี สุภาพอ่อนโยน 2. มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร
และมีสัมมาคารวะ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3. อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญา 3. รักษาสาธารณะสมบัติ
ท้องถิ่นและภูมิใจในความเป็นไทย
การประเมินจะกระทำอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีที่หลากหลาย เช่น การสังเกต ผลงาน รายงานจากเพื่อนเตือนเพื่อน รายงาน
พฤติกรรมของครูที่ปรึกษา ครูฝ่ายกิจการนักเรียน และการรายงานตนเองของนักเรียน ผลการประเมินจากผู้ประเมินทุกฝ่าย นำมา
พิจารณาประเด็นสรุปผลเป็นรายปีหรือรายภาค แบ่งพฤติกรรมของผู้เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
“ดีเยี่ยม” มีพฤติกรรมสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นได้
“ดี” มีพฤติกรรมสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
“ผ่านเกณฑ์การประเมิน” มีพฤติกรรมตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด
“ควรปรับปรุง” มีพฤติกรรมบางประการที่ต้องปรับปรุง
คณะกรรมการบันทึกผลการประเมินอย่างต่อเนื่องเป็นเส้นพัฒนาการแสดงแนวโน้มการพัฒนาคุณลักษณะแต่ละประการของผู้เรียน
แจ้งผลการสรุปการพัฒนา รายปี /รายภาค ให้อาจารย์ที่ปรึกษาแจ้งให้ผู้เรียนรับทราบ เพื่อปรับปรุงแก้ไขคุณลักษณะบางประการที่มี ผลการ
ประเมิน “ควรปรับปรุง”
การตัดสินเพื่อจบหลักสูตรจะพิจารณาจากผลการประเมินผู้เรียนในภาคเรียนสุดท้าย ร่วมกับ แนวโน้มการพัฒนาคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์แต่ละประการของผู้เรียนจากบันทึกผลการประเมินที่ผ่านมา ผู้เรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมินครบทุกคุณลักษณะ จะได้รับ
การพิจารณา การจบหลักสูตรร่วมกับเกณฑ์มาตรฐานการผ่านช่วงชั้นอื่น ๆ
ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ประการใดประการหนึ่ง จะยังไม่ได้รับการพิจารณาให้ผ่านช่วงชั้น
ต้องปฏิบัติกิจกรรมคุณความดีตามแนวทางที่โรงเรียนกำหนดให้ครบถ้วน จึงจะได้รับการพิจารณาให้ผ่านช่วงชั้นร่วมเกณฑ์การผ่านช่วงชั้น
อื่น ๆ ต่อไปได้
ก ก แ
ก ก
้
ก ก ้ ก ก ก ้
้ ้ ก
้
่
ก ก ก ก
ก ก ก ด
แ
ไ ่ ่ ่
ด ด
ก ก ่ ก
ก
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้ง
ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำ
ประโยชน์เพื่อสังคมสามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแบ่งเป็น 3 ลักษณะดังนี้
1. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อมสามารถคิดตัดสินใจ คิด
แก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและ
เข้าใจผู้เรียนทั้งยังเป็นกิจกรรม ที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน
2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัยความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน
การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับ
ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติตามแผนประเมินและปรับปรุงการทำงาน บริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย
2.1 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร
2.2 กิจกรรมชุมนุม ชมรม
3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน
และท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น
กิจกรรมอาสาพัฒนาต่างๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม
ก ก ้ ด
ก ก ก ้
่ ่ ก ก
้ ่ ก ก
☺ ก ก ด ก ่ ก ก
ดก ก
☺ ้ ่ ก ก
ไ ่ ่ ก ้ ่ ก ก ่ ก ้ ่ ก ก
ก “ ่ ”
่ กก ก ่
กก ก
ก ก
่ ก ก
เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด
2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยการเรียน ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วย โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66
หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 11 หน่วย
3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน สื่อความ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด
2) ผู้เรียนต้องได้หน่วย การเรียน ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วย โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน
41 หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 36 หน่วย
3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา กำหนด
เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์
1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด
2) ผู้เรียนต้องได้หน่วย การเรียน ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 97 หน่วย โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน
41 หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 56 หน่วย
3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงการภาคภาษาอังกฤษ
1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วย และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด
2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยการเรียน ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วย โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41
หน่วยและรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 36 หน่วย
3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี หรือผ่านเกณฑ์
5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
6) ผู้เรียนต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ จากสถาบันใดสถาบันหนึ่ง ดังนี้
TOEFL ตั้งแต่ 400 คะแนนขึ้นไป
TU-GET ตั้งแต่ 500 คะแนนขึ้นไป
CU-TEP ตั้งแต่ 500 คะแนนขึ้นไป
TOEIC ตั้งแต่ 500 คะแนนขึ้นไป
IELTS ตั้งแต่ระดับ 5 ขึ้นไป
RMIT ระดับ UPPER INTERMEDIATE
การประเมินผลการจบระดับชั้น
การประเมิน การประเมิน การประเมิน การประเมิน
ผลการเรียน การอ่าน คิด คุณลักษณะ ก ิ จ ก ร ร ม
กลุ่มสาระการ พัฒนา
วิเคราะห์ อันพึง
เรียนรู้
และเขียน ประสงค์ ผู้เรียน
ผลการ ผลการ ผ่านการ ผลการ
ประเมิน ประเมิน ประเมินของ ประเมิน
คณะกรรม
“ผ่าน” “ผ่าน” “ผ่าน”
การประเมิน
ทุกรายวิชา ทุกกิจกรรม
คุณลักษณะ
จบหลักสูตร
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบาย
การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีงบประมาณ พ.ศ.2565
เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม ในรายการพื้นฐาน 5 รายการ
ได้แก่ ค่าจัดการเรียนการสอน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพ
ผู้เรียน ให้นักเรียนทุกคนมีความพร้อมที่จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน โดยการบริหารจัดการอย่างมี
ประสิทธิภาพ
เกณฑ์การจัดสรรงบประมาณและแนวทางการดำเนินงาน
1.ค่าจัดการเรียนการสอน
เงินสนับสนุนรายหัวสำหรับนักเรียนโรงเรียนปกติ มีเกณฑ์การจัดสรรดังนี้
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
อุดหนุนรายหัวโรงเรียนปกติ 1,750 บาท/คน/ภาคเรียน บาท/คน/ปี (3,500 บาท/คน/ปี)
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
อุดหนุนรายหัวโรงเรียนปกติ 1,900 บาท/คน/ภาคเรียน บาท/คน/ปี (3,800 บาท/คน/ปี)
2.ค่าหนังสือเรียน
ค่าหนังสือเรียนและแบบฝึกหัดในการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อจัดสรรให้นักเรียนมีหนังสือใช้เรียนครบทุกคน
มูลค่าหนังสือต่อชุด
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 808 บาท/คน/ปี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 921 บาท/คน/ปี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 996 บาท/คน/ปี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1,384 บาท/คน/ปี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1,326 บาท/คน/ปี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1,164 บาท/คน/ปี
3.ค่าอุปกรณ์การเรียน
อุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ได้แก่ สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด วัสดุ
ฝึกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ วัสดุฝึกอาชีพ วัสดุ ICT กระดาษ A4 สีเทียน ดินน้ำมันไร้สารพิษ กระเป๋านักเรียน อินเทอร์เน็ต
ซิมเพื่อใช้ในการเรียนการสอนฯลฯ
ี
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 210 บาท/คน/ภาคเรียน (420 บาท/ป)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 230 บาท/คน/ภาคเรียน (460 บาท/ปี)
ทั้งนี้ผู้ปกครอง/นักเรียน สามารถถัวจ่ายระหว่างเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้
4.ค่าเครื่องแบบนักเรียน
เครื่องแบบนักเรียน ประกอบด้วย เสื้อ กางเกง กระโปรง คนละ 2 ชุด/ปี ในอัตรา
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 450 บาท/คน/ปี
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 500 บาท/คน/ป ี
ทั้งนี้ผู้ปกครอง/นักเรียน สามารถถัวจ่ายระหว่างเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้
5.ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ประกอบไปด้วย
1. กิจกรรมวิชาการ
2. กิจกรรมคุณธรรม จริยธรรม จิตอาสา เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์
3. กิจกรรมทัศนศึกษา
4. การบริการสารสนเทศ/ICT (ไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมง/ปี/คน)
งบประมาณค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต่อนักเรียน 1 คน ดังนี้
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 880 บาท/คน/ปี (ภาคเรียนละ 440 บาท/คน)
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 950 บาท/คน/ปี (ภาคเรียนละ 475 บาท/คน)
วิธีการชำระเงินค่าบำรุงการศึกษา
1. เข้า www.satrinon.ac.th (โรงเรียนสตรีนนทบุรี)
2. เลือกดาวน์โหลด คลิกเลือก Pay-In
3. เลือก เทอม/ปีการศึกษา
4. ค้นหา (กรอกข้อมูลนักเรียน) เลขประจำตัวนักเรียน หรือ เลขบัตรประชาชน หรือ ชื่อ เว้นวรรคนามสกุล) อย่างใดอย่าง
หนึ่งเท่านั้น
กลุ่มบริหารงานทั่วไป
นโยบายการบริหารงานกลุ่มบริหารงานทั่วไป
1. มุ่งพัฒนากลุ่มงานบริหารทั่วไปให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว เพียงพอ และทันต่อความต้องการ
2. มุ่งพัฒนาบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ สุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของ
นักเรียน
3. มุ่งพัฒนาระบบบริหารจัดการของกลุ่มงานบริหารทั่วไปให้มีประสิทธิภาพ
4. เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน
แนวปฏิบัติการใช้อาคารเรียน
1. เปิดเวลา 7.00 น. เปิดเวลา 17.30 น.
2. รักษาความสะอาดภายในห้องเรียน และบริเวณอาคารเรียน ไม่ขีดเขียนข้อความใดๆ ลงบนพื้นโต๊ะ เก้าอี้ และ
กระดานดำ จัดโต๊ะเรียนและเก้าอี้ให้เรียบร้อยอยู่เสมอ จัดเก็บอุปกรณ์การทำความสะอาดให้เป็นระเบียบ
3. ห้ามนำขนมเครื่องดื่ม อาหารทุกชนิด และภาชนะภายในโรงเรียน
4. ห้ามจำหน่ายสินค้าทุกชนิดบนอาคารเรียน
5. ห้ามปีนออกนอกห้องเรียนและอาคารเรียน
6. ปิดประตู หน้าต่าง ทุกครั้งหลังโรงเรียนเลิก
7. ปิดไฟฟ้า พัดลม เครื่องปรับอากาศ ก่อนออกจากห้องเรียนทุกครั้ง
8. ห้ามใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดบนอาคารเรียน
แนวปฏิบัติการใช้ห้องน้ำของโรงเรียน
1. ใช้น้ำอย่างประหยัด
2. พบเห็นท่อน้ำรั่ว หรือวัสดุอุปกรณ์ชำรุด ให้แจ้งกลุ่มบริหารทั่วไปทันที
3. ไม่ขีดเขียนข้อความใดๆ ลงบนฝาผนัง หรือส่วนอื่นๆ ของห้องน้ำ
4. ช่วยกันรักษาความสะอาดของห้องน้ำ
5. ปิดน้ำ ปิดไฟ เมื่อเสร็จกิจทุกครั้ง
6. ห่อผ้าอนามัยให้มิดชิดก่อนนำทิ้งลงในภาชนะที่จัดให้
แนวปฏิบัติการใช้น้ำดื่มในโรงเรียน
1. ใช้น้ำอย่างประหยัด
2. น้ำดื่มใช้สำหรับดื่มเท่านั้น
3. ทุกคนต้องช่วยกันรักษาความสะอาดตู้น้ำดื่ม
4. พบตู้น้ำดื่มชำรุด แจ้งกลุ่มบริหารงานทั่วไปทันที
งานสุขภาพและอนามัย
1. ให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นกับบุคลากรในโรงเรียนทุกระดับ
2. นักเรียนที่ขออนุญาตนอนพักต้องนำใบขออนุญาตให้กับครูประจำวิชารับทราบ
3. นักเรียนที่ป่วยขณะอยู่ในโรงเรียนและต้องการกลับบ้านต้องแจ้งครูพยาบาลทราบก่อนเพื่อสะดวกในการรับนักเรียน
ออก
4. นักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุทั้งนอกและในโรงเรียนตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ที่อาคาร
พยาบาล เพื่อส่งไปเบิกบริษัทประกัน และนักเรียนจะได้รับเงินทุกวันที่ 15 และ 30 ของทุกเดือน
5. นักเรียนและครูที่มีโรคประจำตัว ต้องฉีดยาตามแพทย์สั่งให้นำใบสั่งของแพทย์มาเพื่อฉีดยาต่อที่โรงเรียนได ้
6. นักเรียนทุกคนจะได้รับการตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง
7. มีบุคลากรให้คำปรึกษา แนะนำปัญหาสุขภาพกับนักเรียนและครู
แนวปฏิบัติในการขอรับสินไหมทดแทนในการประกันอุบัติเหตุ
โรงเรียนสตรีนนทบุรีได้จัดทำโครงการประกันอุบัติเหตุให้แก่นักเรียน เพื่อเป็นสวัสดิการ ในการรักษาพยาบาลใน
กรณีประสบอุบัติเหตุ ตามความสมัครใจของผู้ปกครอง จึงกำหนดแนวปฏิบัติในการขอรับค่าสินไหมทดแทนในการประกัน
อุบัติเหตุ ดังนี้
1. เมื่อนักเรียนประสบอุบัติเหตุ ภายในโรงเรียนในเวลาเรียน ให้นักเรียนติดต่อประสานงานกับงานพยาบาล
2. เมื่อนักเรียนประสบอุบัติเหตุภายในโรงเรียนนอกเวลาเรียน ให้นักเรียนติดต่อประสานงานกับครูเวรประจำวัน หรือ
ครูที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
3. เมื่อนักเรียนประสบอุบัติเหตุนอกโรงเรียน ให้นักเรียนนำหลักฐานติดต่อประสานงานกับงานพยาบาลเมื่อเปิดเรียน
4. กรณีจ่ายค่ารักษาพยาบาลในการที่ได้รับอุบัติเหตุไปก่อน สามารถทำการเบิกเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลหรือค่า
สินไหมทดแทนได้ โดยผ่ายงานพยาบาลโรงเรียนสตรีนนทบุรี ใช้เอกสารประกอบการเบิกค่ารักษาพยาบาลหรือ
สินไหมทดแทน ถูกต้องตามที่ระบุในกรมธรรม์ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีเอกสารประกอบดังนี้
- ใบรับรองแพทย์ของสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาว่าประสบอุบัติเหตุ
- ใบเสร็จรับเงินที่ได้จ่ายไป ซึ่งต้องระบุชื่อของผู้ที่ประสบอุบัติเหต ุ
- แบบคำขอรับเงินชดเชยค่าสินไหมทดแทนในการประสบอุบัติเหตุ
5. การรับเงินค่าสินไหมทดแทนในการได้รับอุบติเหตุ สามารถติดต่อผ่านงานพยาบาลโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ั
ระเบียบการใช้บริการห้องพยาบาล
1. เมื่อเข้าใช้บริการห้องพยาบาลให้เขียน ชื่อ – นามสกุล ให้ตรงกับห้องและระดับชั้นของตนเองในบัตรสุขภาพ
พร้อมทั้งแจ้งอาการป่วย ประวัติการแพ้ยา ให้พยาบาลทราบ
2. รับประทานยาให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องพยาบาล ( ห้ามนำยาไปให้เพื่อน เนื่องจากเคยมีนักเรียนแพ้ยา )
3. การนอนพักที่ห้องพยาบาล ต้องขอใบอนุญาตเพื่อแจ้งครูประจำวิชาทราบ
4. นักเรียนป่วย ไม่สามารถกลับบ้านเองได้ต้องแจ้งให้ทราบก่อนโรงเรียนเลิก 1 ชั่วโมง
5. นักเรียนป่วยต้องการให้ผู้ปกครองมารับควรแจ้งที่ห้องพยาบาลเพื่อเขียนใบออกนอกโรงเรียน
งานประชาสัมพันธ์
1. ให้การบริการติดต่อ – สอบถาม แก่นักเรียน ผู้ปกครอง ครู ชุมชน และบุคคลทั่วไป
2. จัดทำวารสาร จดหมายข่าว จุลสารในด้านการประชาสัมพันธ์โรงเรียน
3. บริการข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ทางเสียงตามสาย และป้ายไฟวิ่ง
4. จัดป้ายนิเทศ ข่าวสาร ความรู้
การขอใช้บริการ
ผู้ใช้บริการ ถ้าต้องการฝากข้อความ สิ่งของ หรือพบครู และนักเรียนให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ห้องประชาสัมพันธ์
ทางเจ้าหน้าที่จะพิจารณาเพอประกาศ หรือติดตามในเวลาอันเหมาะสม ถ้าเป็นกรณีเร่งด่วนจะติดต่อให้ทันที
ื่
เวลาประกาศ
ช่วงเช้า ก่อนเข้าแถว 07.15 – 07.30 น.
ช่วงกลางวัน ประกาศเฉพาะกรณีเร่งด่วน ( เนื่องจากมีนักเรียนบางส่วนกำลังเรียน )
ช่วงเย็น ก่อนกลับบ้าน 15.10 – 17.00 น.
ช่วงเปลี่ยนคาบเรียน 5 นาที
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อภายในโรงเรียนสตรีนนทบุรี
หมายเลขโทรศัพท์ภายในโรงเรียน
Tax 02 925 1506
100 ผู้อำนวยการ 128 ERIC
101 ประชาสัมพันธ์ 135 การงาน ฯ
102 กลุ่มบริหารทั่วไป 136 ศิลปะ
103 ป้อมยาม ฝั่งวัดปากน้ำ 140 คอมพิวเตอร์
104 งานกิจการนักเรียน 141 ร้านค้าสวัสดิการ
105 งานธุรการ 142 วิทยาการ (EP)
106 งานการเงิน 144 งานการพิมพ์ (น้าสมชาย)
107 กลุ่มบริหารงานวิชาการ 145 ห้องเรียนสีเขียว
108 กลุ่มบริหารงานบุคคล 146 รองฯกิจการนักเรียน
109 สำนักงานผู้อำนวยการ 147 สังคม 2
112 คณิตศาสตร์ 148 สังคม 3
113 งานอนามัย 149 ภาษาไทย 3
115 พลานามัย 161 ภาษาไทย 2
116 ICT 166 ทะเบียน-วัดผล
117 ห้องสมุด 167 ห้องรองฯ วิชาการ
118 วิทยาศาสตร์ 483 สำนักงาน EP ห้อง 414
119 ภาษาไทย 1 484 ครูพาสทาม EP ห้อง 415
120 สังคม 1 485 ห้องพักครู EP ห้อง 425
121 โสตทัศนศึกษา 02-5253171 Fax วิชาการ
123 ดนตรีสากล 02-5253229 เบอร์กลาง
125 แนะแนว 02-9665700 Fax การเงิน
126 ต่างประเทศ 2
127 ต่างประเทศ 1
งานสัมพันธ์ชุมชน
1. สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนและชุมชน
2. โรงเรียนเป็นแหล่งเผยแพร่ข่าวสารต่างๆ สู่ชุมชน
3. โรงเรียนและชุมชนมีโอกาสช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
4. สร้างเจตคติที่ดีต่อโรงเรียน
งานบริการและสวัสดิการ
1. จัดบริการอาหารและเครื่องดื่มในโอกาสต่างๆ
จัดเลี้ยงคณะศึกษาดูงาน คณะตรวจเยี่ยมประเมินโรงเรียน การประชุม อบรม สัมมนา การจัดกิจกรรมต่างๆ
้
ตามโครงการของโรงเรียน และการจัดเลี้ยงอื่นๆ ตามที่ไดรับมอบหมาย
2. สวัสดิการสร้างขวัญกำลังใจ แก่บุคลากรในโรงเรียน
งานโภชนาการ
1. นักเรียนซื้ออาหารได้ในเวลาที่กำหนด ดังนี้
1.1 ช่วงเช้า เวลา 06.00 – 07.20 น.
1.2 ช่วงพักกลางวัน เวลา 10.50 – 11.40 น.
เวลา 11.40 – 12.30 น.
2. การซื้ออาหาร นักเรียนเข้าแถวให้เป็นระเบียบ
3. รับประทานอาหารตามเวลาที่กำหนด ยกเว้นกรณีพิเศษ ต้องมีใบอนุญาตจากสำนักงานกิจการนักเรียน หรืองาน
พยาบาล
4. นักเรียนต้องรับประทานอาหารในโรงอาหารเท่านั้น ห้ามนำภาชนะใดๆ ออกนอกบริเวณโรงอาหาร
5. เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ให้นำภาชนะไปคืนในที่ที่จัดเตรียมให้
6. ต้องช่วยกันรักษาความสะอาดของโรงอาหาร
7. ต้องมีมารยาทในการรับประทานอาหาร
8. ห้ามจองที่นั่งในโรงอาหาร
9. นักเรียนต้องช่วยกันดูแลรักษาภาชนะและอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร ถ้าจับได้ว่ามีพฤติกรรม ลักขโมย หรือ
นำภาชนะออกนอกโรงอาหารจะถูกลงโทษ
งานกิจการนักเรียน เป็นภาระงานหนี่งที่สำคัญของสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ของนักเรียนให้
กว้างขวางยิ่งขึ้นและบรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร พัฒนานักเรียนให้เกิดความเจริญงอกงามใน ทุกด้าน ทั้งทางด้าน
อารมณ์ สังคม จิตใจ ช่วยให้เป็นคนที่สมบูรณ์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีความสุข สอดคล้องกับ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา
นักเรียนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งหวังให้นักเรียนมีพัฒนาการแบบองค์รวม กล่าวคือ ให้เป็นคนดี คนเก่ง คนมีความสุข
ดังนั้น ครูทุกคนจึงมีบทบาทหน้าที่ดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล มี
ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับนักเรียนที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน เพื่อช่วยให้ครู เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนานักเรียน โดยผ่าน
กระบวนการวางแผน และการบริหารจัดการเพื่อสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ
สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มีการส่งเสริมพัฒนานักเรียนให้มีคุณธรรม
จริยธรรม มีระเบียบวินัย ภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย เกิดการเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยผ่านกระบวนการและ
กิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน เทิดทูน และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีจิตสาธารณะใช้ชีวิตอย่าง
พอเพียง ปรับตัวมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน สามารถ เลือกดำเนินชีวิต อย่างมีภูมิรู้ และภูมิธรรม โดยมีมาตรการเชื่อมโยงกัน
อย่างเป็นระบบ
ครูทุกคนนับว่าเป็นคณะกรรมการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน สามารถว่ากล่าว ตักเตือน อบรมนักเรียน หวังที่
จะเห็นนักเรียนเป็นผู้มีความงดงามทั้งทางกาย วาจา ใจ คือ แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ สง่างาม สมวัย ประพฤติ
ปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของโรงเรียน พูดจาไพเราะ มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม สมกับเป็น
“กุลสตรี ดี เด่น” ตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน เป็นที่ชื่นชมแก่คนทั่วไป
งานระดับชั้นและครูที่ปรึกษา
จากวิสัยทัศน์ของโรงเรียน “กุลสตรี ดี เด่น” และภาระงานของกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนของโรงเรียนสตรี
นนทบุรี ซึ่งจะเกิดผลสำเร็จได้นั้น ส่วนหนึ่งต้องอาศัยบทบาทหน้าที่ของหัวหน้าระดับ และครูที่ปรึกษา ร่วมกันรับผิดชอบ
ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุด และร่วมกับผู้ปกครองในการดูแล ช่วยเหลือ อบรมบ่มนิสัยนักเรียน ดังนั้น เพื่อให้การ
ปฏิบัติหน้าที่ของครูทุกคนเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเป็นการประสานสัมพันธ์กับผู้ปกครอง จึงสรุปบทบาทหน้าที่ของ
หัวหน้าระดับ และครูที่ปรึกษา ดังนี้
บทบาทหน้าที่หัวหน้าระดับชั้น
1. เป็นคณะกรรมการงานกิจการนักเรียน และเป็นคณะกรรมการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2. ประสานงานกับครูที่ปรึกษาในการควบคุมป้องกัน และดูแลความประพฤติของนักเรียน ให้ปฏิบัติ ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน
3. ให้การอบรม สร้างเสริมลักษณะนิสัยมารยาทที่ดีงาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้แก่นักเรียนในทุกโอกาส
4. วิเคราะห์ แก้ไขปัญหาของนักเรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในระดับชั้นที่ได้รับมอบหมาย
5. ประสานงานกับเครือข่ายผู้ปกครองระดับชั้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพนักเรียน
6. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
บทบาทหน้าที่รองหัวหน้าระดับชั้น
1. ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าระดับ ในกรณีที่หัวหน้าระดับไปปฏิบัติราชการนอกสถานศึกษา
2. เป็นผู้ช่วยหัวหน้าระดับ ในการดำเนินการต่างๆ ตามที่โรงเรียนมอบหมาย
3. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
บทบาทหน้าที่ครูที่ปรึกษา
1. ศึกษาประวัตินักเรียนในชั้นเรียน โดยให้นักเรียนกรอกประวัติในระเบยนสะสมซึ่งมีข้อมูลนักเรียน ผู้ปกครองและ
ี
แผนผังบ้านพักอาศัยของนักเรียนเพื่อสะดวกในการติดต่อประสานงาน กับผู้ปกครอง
2. ควบคุมดูแลการเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ของนักเรียนทุกเช้า สำรวจการมาเรียนของนักเรียนและทำหน้าที่
โฮมรูมนักเรียนทุกวัน
3. ดูแลเกี่ยวกับการมาเรียน การขาดเรียนของนักเรียนและการออกนอกบริเวณโรงเรียน
4. ดูแลเกี่ยวกับการมาสายของนักเรียน โรงเรียนจะมีสัญญาณให้นักเรียนเข้าแถวทำพิธีหน้าเสาธงเวลา 07.50 น.
ถ้านักเรียนมาไม่ทันทำพิธีหน้าเสาธง หลังเวลา 07.50 น. ถือว่ามาสาย และถูกตัดคะแนน
5. ติดต่อประสานงานกับผู้ปกครอง ในกรณีที่นักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ การขาดเรียน ติดต่อกัน
การมาสาย หรือปัญหาอื่นๆ
6. จัดให้มีการเลือกตั้งหัวหน้าชั้นเรียน รองหัวหน้าชั้นเรียน และตำแหน่งอื่นๆ ตามความเหมาะสม จำเปนแล้ว
็
มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ
7. จัดแบ่งนักเรียนเป็นเวรรักษาความสะอาดของนักเรียน โดยดูแลกวดขันให้นักเรียนร่วมกันจัดบรรยากาศในห้อง
โฮมรูม มีบรรยากาศเชิงวชาการและสิ่งแวดล้อมที่ดี ตามโครงการห้องเรียนสวย ด้วยมือเรา โดยยึดประโยชน์ใช้
ิ
สอยอย่างคุ้มค่าและประหยัด
8. อบรมและกวดขันดูแลนักเรียนในด้านการเรียน เครื่องแต่งกาย เครื่องหมาย ทรงผม อุปกรณ์ การเรียน
กิริยามารยาท ระเบียบวินัย การเข้าเรียน และความประพฤติของนักเรียน โดยใกล้ชิด อีกทั้งรับทราบปัญหาของ
นักเรียนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง หรือปัญหาอื่นๆ ของนักเรียนได้ทันเวลา
9. กำกับดูแลนักเรียนให้ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยข้อบังคับต่างๆ ของโรงเรียนและระเบียบของ ห้องเรียนอย่าง
เคร่งครัด ดูแลการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนอย่าสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยประสานกับงานกิจการ
นักเรียนและผู้ปกครอง รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนที่มีพฤติกรรมดีงามให้ได้รับการยก
ย่องเชิดชูเกียรติ และให้คะแนนความประพฤต ิ
10. กำกับดูแลนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
11. รับทราบคำสั่ง หรือประกาศต่างๆ ของโรงเรียนเพื่อชี้แจงเรื่องต่างๆ ของโรงเรียนที่นักเรียนควรทราบและ
เตือนให้นักเรียนปฏิบัติตามโดยพร้อมเพรียงกัน
12. ตรวจตรา ดูแลรักษาพัสดุ เครื่องใช้ประจำห้องเรียน ถ้าพบสิ่งใดชำรุดเสียหายหรือเป็นอันตรายต่อนักเรียนได้
ให้รายงานแจ้งหัวหน้าอาคารสถานที่ หรือรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานทั่วไป เพื่อแก้ไขต่อไป
13. ร่วมมือกับครูผู้สอนประจำวิชาและครูแนะแนวในการแก้ไขปัญหาด้านการเรียนและความ ประพฤติตามระบบ
ดูแลช่วยเหลือนักเรียน
14. เมื่อมีเหตุการณ์อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเหตุการณ์ร้ายแรงที่สามารถจัดการเองได้ให้
รายงานหัวหน้าระดับชั้น หรือรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนตามลำดับทันที
15. เยี่ยมบ้านของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ
16. ให้ความร่วมมือกับหัวหน้าระดับชั้นการดูแลนักเรียนในการเข้าอบรมนักเรียนประจำสัปดาห์
และร่วมมือกับหัวหน้าคณะในการดูแลนักเรียนทำกิจกรรมของนักเรียน
17. คิดต่อผู้ปกครอง รายงานความประพฤติ ผลการเรียนของนักเรียน และข่าวสารต่างๆ ของ โรงเรียนอย่าง
สม่ำเสมอ
18. เป็นคณะกรรมการระดับชั้น และคณะกรรมการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน
19. ประสานงานการเลือกเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพนักเรียน
20. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนตามจรรยาบรรณครู
21. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด
งานคณะสี
นักเรียนทุกคนต้องสังกัดคณะสี และมีส่วนร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่งานคณะสีจัดให้ ทั้งนี้ เพื่อพัฒนานักเรียนให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของหลักสูตร และสถานศึกษา งานคณะสี จึงมีบทบาทในการจัดนักเรียนประจำคณะสี และ
ดูแล กำกับ ติดตาม ประสานงานร่วมกับครูที่ปรึกษาในการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมกีฬาสี งานคณะกรรมการ
นักเรียน กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ และกิจกรรมต่างๆเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ปีการศึกษา 2565 งานคณะสี ได้จัดนักเรียนประจำคณะสี ดังนี้
บทบาทหน้าที่ของงานคณะสี
1. เป็นคณะกรรมการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2. เป็นคณะกรรมการดำเนินกิจกรรมหน้าเสาธง
3. เป็นคณะกรรมการวางแผนระบบการเข้าแถว ระเบียบแถว เพื่อสะดวกแก่การเดินแถวเข้าห้องโฮมรูม
อย่างเป็นระเบียบ
4. ดำเนินการกำกับดูแล ติดตามนักเรียนมาสาย
5. รักษาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ให้นักเรียนรับผิดชอบบริเวณโรงเรียนตามคณะสี
6. กำกับ ดูแล ติดตามการอยู่เวรประจำจุด และสรุปผลการปฏิบัติงานเป็นปัจจุบันรายงานต่อผู้บริหารสถานศึกษา
7. กำกับนโยบาย คำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับคณะสีและปฏิบัติในส่วน ที่เกี่ยวข้องกับคณะสี
ั
8. ให้ความร่วมมือกับครูที่ปรึกษาในการแก้ปัญหาความประพฤติของนกเรียน
ื
9. ติดตาม ดูแลว่ากล่าวตักเตอนนักเรียนที่กระทำผิดระเบียบวินัย ข้อบังคับของโรงเรียน
10. รวบรวมปัญหา เสนอต่อคณะกรรมการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน เพื่อหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้การ
ปฏิบัติงานเกิดผลดียิ่งขึ้น
11. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ระเบียบปฏิบัติสำหรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562
นักเรียนโรงเรียนสตรีนนทบุรี พึงปฏิบัติ ดังนี้
1. นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ตามกำหนด ดังนี้
1.1 กำหนดสัญญาณเวลาเข้าเรียนและเลิกเรียน ดังนี้
เวลา กิจกรรม
07.40 น. เปิดเพลง “มาร์ชโรงเรียนสตรีนนทบุรี” จำนวน 3 เที่ยว นักเรียนทุกคนมาเข้า
แถว ณ สนามโรงเรียนสตรีนนทบุรี ตามจุดที่กำหนด
07.50 น. เคารพธงชาติ สวดมนต์ แผ่เมตตา กล่าวคำปฏิญาณตน ถวายความเคารพ
ร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนสตรีนนทบุรี รับฟังข่าวสารจากทางโรงเรียน และเดิน
แถวเข้าห้องเรียนด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย
08.10 – 08.30 น. กิจกรรม Homeroom
08.30 – 09.20 น. คาบเรียนที่ 1
09.20 – 10.10 น. คาบเรียนที่ 2
10.10 – 11.00 น. คาบเรียนที่ 3
11.00 – 11.50 น. คาบเรียนที่ 4 และพักรับประทานอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนม.ต้น
11.50 – 12.40 น. คาบเรียนที่ 5 และพักรับประทานอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนม.ปลาย
12.40 – 13.30 น. คาบเรียนที่ 6
13.30 – 14.20 น. คาบเรียนที่ 7
14.20 – 15.10 น. คาบเรียนที่ 8
15.10 – 16.00 น. คาบเรียนที่ 9
16.00 – 16.50 น. คาบเรียนที่ 10
2. ระเบียบทั่วไป
2.1 นักเรียนทุกคนต้องแต่งเครื่องแบบและไว้ทรงผมตามระเบียบ ฯ ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักเรียน
2.2 มีหนังสือ และอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ตามที่โรงเรียนกำหนด
2.3 ต้องมาถึงโรงเรียนก่อนเวลา 07.40 น. เพื่อเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ แผ่เมตตา กล่าวคำปฏิญาณตน ถวายความเคารพ
ร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนสตรีนนทบุรี รับฟังข่าวสารจากทางโรงเรียน โดยพร้อมเพรียงกัน ด้วยความสำนึกในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนตามกำหนด และไม่ควรกลับบ้านเกินเวลา 17.30 น.
2.4 เชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของครูทุกคน มีความสุภาพอ่อนโยนต่อบุคคลทั่วไป ไม่กล่าวคำหยาบ
2.5 ประพฤติ และปฏิบัติตนให้สมกับสภาพความเป็นนักเรียน ละเว้นจากการสูบบุหรี่ และสิ่งเสพติด
2.6 รักความสามัคคีในหมู่คณะ รุ่นพี่จะต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง รุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่
2.7 ต้องทำความเคารพครู รู้จักกล่าวคำว่า “สวัสดี” “ขอบคุณ” “ขอโทษ” ตามโอกาสอันเหมาะสม
2.8 เล่นกีฬาในสถานที่ที่โรงเรียนจัดให้ และเล่นอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน และไม่กระทำให้เกิดความ
เสียหายต่อทรัพย์สินหรืออันเป็นเหตุใหเกิดการทะเลาะวิวาท
้
2.9 ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดบริเวณโรงเรียน รักษาทรัพย์สินสมบัติส่วนรวมของโรงเรียน
2.10 ช่วยกันประหยัดน้ำและไฟฟ้าของโรงเรียน ผู้ที่ออกจากห้องเรียนเป็นคนสุดท้ายต้องปิดไฟฟ้าและพัดลม
ทุกครั้ง รวมทั้งปิดไฟฟ้าและพัดลมทุกครั้งที่พบเห็นที่ใดเปิดไฟฟ้าและพัดลมทิ้งไว้
2.11 ไม่ทำการใด ๆ ที่จะเกิดความเสื่อมเสียแก่โรงเรียน ควรช่วยกันเพิ่มพูนชื่อเสียงของโรงเรียนด้วยการแสดง
ความสามารถด้านต่าง ๆ ที่ดีงาม
2.12 ผู้ปกครองหรือบุคคลภายนอกที่มาติดต่อกับนักเรียน คุณครู หรือบุคลากรภายในโรงเรียน ให้ติดต่อที่งาน
ประชาสัมพันธ์ก่อนทุกครั้ง
2.13 ไม่นำเพื่อนหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเข้ามาในบริเวณโรงเรียน หากจำเป็นต้องขออนุญาตผู้อำนวยการ
ก่อนทุกครั้ง เพื่อนหรือผู้ที่เข้ามานั้นจะต้องแต่งกายสุภาพ มีมารยาทเรียบร้อย และต้องนั่งรอในที่ที่โรงเรียน
จัดไว้ให้
2.14 นักเรียนพึงใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กับตนเอง ครอบครัว และหมู่คณะ
3. ข้อปฏิบัติในเวลาเรียน
3.1 ตั้งใจเรียนอย่างมีสัมมาคารวะ ไม่ลุกจากที่นั่งโดยมิได้รับอนุญาตจากคุณครู
3.2 ไม่ทำกิจกรรมอื่นใดนอกเหนือจากวิชาที่กำลังเรียน และไม่นำวิชาอื่นมาดูหรือทำโดยครูผู้สอนไม่อนุญาต
้
3.3 ระหว่างการเรียน ถ้านักเรียนมีปัญหาต้องการถามหรือแสดงความคิดเห็นใหยกมือขออนุญาตก่อน
้
3.4 ถ้าจำเป็นต้องออกจากห้องเรียน ใหขออนุญาตครูผู้สอน และไม่ควรขออนุญาตออกนอกห้องเรียน ในคาบแรกที่เข้าห้องเรียน
ทั้งในภาคเช้าและภาคบ่าย
3.5 ในกรณีที่คุณครูไม่อยู่ในห้องเรียน ให้นักเรียนทำงานด้วยความสงบเรียบร้อย ถ้ามีความจำเป็นจะต้องออกนอกห้องเรียน ให้
ขออนุญาตหัวหน้าห้อง
3.6 เมื่อมีการเปลี่ยนห้องเรียนระหว่างคาบให้กระทำโดยไม่ชักช้าเถลไถล
4. ข้อปฏิบัติในการมาโรงเรียนสาย
นักเรียนที่มาถึงโรงเรียน เวลา 07.40 น. จะคิดเป็นเวลามาสาย หลังเวลาโรงเรียนเข้าแล้ว ต้องไปบันทึกหลักฐาน เพื่อรับบัตร
อนุญาตเข้าเรียนที่ห้องสำนักงานกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนหรือคุณครูที่ได้รับมอบหมาย ถ้ามาสายเกินกว่า 1 คาบ ต้องมีผู้ปกครองมาส่ง
ี
หรือมใบลาชี้แจงเหตุผลในการมาสายจากผู้ปกครอง หากมาสายจะมีโทษถูกตัดคะแนนความประพฤติตามบทลงโทษครั้งละ 5 คะแนน และ
ถ้ามาสายเกิน 3 ครั้งต่อเดือน ต้องทำกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่โรงเรียนกำหนด
5. ข้อปฏิบัติในการหยุดเรียนหรือขาดเรียน
เมื่อนักเรียนหยุดเรียน ต้องส่งใบลาถึงครูที่ปรึกษาโดยเร็วที่สุด หรือโทรศัพท์ให้ทางโรงเรียนทราบ และส่งใบลาโดยมีลายมือชื่อ
ผู้ปกครองรับรองอย่างถูกต้องเป็นหลักฐานในวันที่นักเรียนมาเรียนตามปกติ นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้ให้คุณครูที่ปรึกษาจัดทำสมุดสำรวจ
จำนวนนักเรียนที่มาเรียนทุกวันในตอนเช้า พร้อมทั้งส่งรายชื่อนักเรียนที่ไม่มาเรียนให้กลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนทราบด้วย และครูผู้สอน
จะต้องสำรวจนักเรียนทุกคาบ หากพบว่านักเรียนคนใดไม่เข้าเรียนตามเวลาเรียนของตนให้แจ้งกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน การหยุด
เรียนแล้วไม่ส่งใบลาจะถือว่าเป็นการขาดเรียน
6. การออกนอกบริเวณโรงเรียน
6.1 นักเรียนที่เข้ามาในโรงเรียนแล้ว จะออกนอกบริเวณโรงเรียนต้องได้รับอนุญาตจากโรงเรียน จะออกจากโรงเรียนโดยมิได้รับ
อนุญาตไม่ได้
6.2 นักเรียนจะออกนอกบริเวณโรงเรียนได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น และต้องปฏิบัติตาม ระเบียบ ดังนี้
(1) ผู้ปกครองต้องมาขออนุญาตรับนักเรียนออกนอกบริเวณโรงเรียนด้วยตนเอง (ผู้ปกครองที่บันทึกหลักฐานในแบบ
บันทึกข้อมูลนักเรียนและรับรองความประพฤตินักเรียน) โดยติดต่อที่สำนักงานกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน
นักเรียนและผู้ปกครอง จะต้องลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนรับบัตรอนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน
(2) ในกรณีที่ผู้ปกครองมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนไม่สามารถมาติดต่อกับทางโรงเรียนได้ นักเรียนต้องนำจดหมายขออนุญาต
ออกนอกบริเวณโรงเรียนซึ่งมีลายมือชื่อผู้ปกครองรับรองมาใหคุณครูที่ปรึกษาลงลายมือชื่ออนุญาตก่อนและนำ
้
จดหมายนี้ไปขอรับบัตรอนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนจากสำนักงานกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนพร้อมลงบันทึก
ไว้เป็นหลักฐาน
(3) นักเรียนที่ขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนแล้วกลับเข้ามาเรียนอีกในวันเดียวกันต้องไปบันทึกเป็นหลักฐานที่
สำนักงานกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน พร้อมทั้งรับบัตรอนุญาตเข้าห้องเรียนด้วย
7. การมาโรงเรียนในวันที่ไม่มีการเรียน
7.1 การร่วมกิจกรรมหรือมาช่วยงานโรงเรียนจะมีจดหมายแจ้งให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า โดยมีครูควบคุมดูแล และต้องแต่ง
เครื่องแบบนักเรียนให้เรียบร้อยตามระเบียบฯ ว่าด้วยเครื่องแต่งกาย
7.2 นักเรียนที่มาติดต่อราชการ เช่น ขอรับเอกสาร ใบรับรอง ฯลฯ ต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนให้เรียบร้อยตามระเบียบฯ ว่าด้วย
เครื่องแต่งกาย
8. ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย
8.1 เพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน ไม่อนุญาตใหผู้ปกครองนำรถเข้ามารับ – ส่งนักเรียนในบริเวณโรงเรียน นอกจากฝนตก
้
8.2 ไม่อนุญาตให้นักเรียนขับยานพาหนะเข้ามาในโรงเรียน ไม่ว่ากรณีใด ๆ
8.3 กรณีที่จำเป็นต้องใช้จักรยานสองล้อเพื่อการเดินทางมาโรงเรียน ต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบโดยมีจดหมายรับรองการขออนุญาต
จากผู้ปกครองเป็นหลักฐาน และต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการก่อน
8.4 ไม่อนุญาตให้นำของเล่นที่อาจเกิดอันตรายหรือก่อความรำคาญแก่ผู้อื่น หรือส่อไปในทางเล่นการพนันมาโ สำหรับบางสิ่งที่
จำเป็นต้องใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนต้องได้รับอนุญาตเป็นครั้งคราวจากครูผู้สอนวิชานั้น ๆ
9. การรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
9.1 ให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มตามเวลาที่โรงเรียนกำหนดเท่านั้น
9.2 ไม่นำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นบนอาคารเรียน
9.3 ให้นักเรียนรับประทานอาหารเช้า และอาหารกลางวันที่ห้องอาหารของโรงเรียน โดยรับประทานอาหารที่โรงเรียนจัดให้หรือ
นำมาเองจากบ้าน ไม่อนุญาตใหซื้อหรือรับประทานอาหารนอกบริเวณโรงเรียน
้
10. การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในห้องเรียน
10.1 จัดที่นั่ง โต๊ะเรียน ให้เป็นระเบียบ และเป็นไปตามแผนผังที่กำหนดไว้
้
10.2 ให้นักเรียนระวังรักษาโต๊ะ เก้าอี้ และหองเรียนให้สะอาดตลอดเวลา
10.3 ไม่ขีดเขียนหรือกรีดโต๊ะ เก้าอี้ ฝาผนัง ประตูหน้าต่างห้องเรียนและบริเวณต่าง ๆ ของอาคารเรียน และไม่ทำลายให้ชำรุด
เสียหาย
10.4 ทำความสะอาดห้องเรียนทุกวัน โดยผลัดเปลี่ยนกันตามวันเวลาที่คุณครูที่ปรึกษากำหนดไว้
10.5 ห้ามเคลื่อนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ออกจากห้องเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณครูที่ปรึกษา
10.6 ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและรับโทษจากโรงเรียน ในกรณีที่ทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน
11. การทำความเคารพ
11.1 การทำความเคารพนอกห้องเรียน
(1) นักเรียนต้องทำความเคารพคุณครูทุกคน เมื่อพบในบริเวณโรงเรียน ในกรณีที่เดินผ่านประตูโรงเรียนซึ่งมีคุณครูที่
ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยประจำวัน และดูแลความเรียบร้อยในเรื่องการแต่งกาย ขอให้นักเรียนทำความ
เคารพอย่างสุภาพ
(2) เมอคุณครูเดินผ่าน ให้ทำความเคารพด้วยการไหว้ นักเรียนในเครื่องแบบเนตรนารีและผู้บำเพ็ญประโยชน์ให้
ื่
วันทยหัตถ์ และนักเรียนในเครื่องแบบยุวกาชาดให้ยกมือไหว้ กรณีที่นักเรียนถือของให้ทำความเคารพด้วยการยืน
ตรง ถ้าเดินแซงหน้าคุณครูให้กล่าว “ขอโทษค่ะ” แล้วเดินก้มหลังเล็กน้อยพองามผ่านไป
(3) เมอเดินสวนกับคุณครูขณะขึ้น – ลงบันได ให้นักเรียนหลบข้างใดข้างหนึ่งตามความเหมาะสมและยืนตรง
ื่
(4) ขณะที่คุณครูยืนอยู่กับที่ นักเรียนจะเดินผ่านไปให้ก้มหลังเล็กน้อยพองาม และระยะห่างพอสมควร
ื่
(5) เมอเข้าไปพบคุณครู ให้ยืนห่างพอสมควรและยืนโดยอาการสำรวม
ี่
(6) ในกรณีที่พบผู้ใหญ่ที่ควรเคารพ เช่น ผู้ปกครอง ผู้มาตรวจหรือเยยมโรงเรียน ก็ให้ทำความเคารพเช่นกัน
11.2 การทำความเคารพในห้องเรียน
ื่
(1) เมอคุณครูเข้าหรือออกจากห้องเรียนให้หัวหน้าบอก “นักเรียนเคารพ” นักเรียนนั่งลง ค้อมศีรษะลงไหว้ (ให้กึ่งกลาง
นิ้วก้อยจรดขอบโต๊ะในลักษณะการกราบอย่างสุภาพ)
(2) นักเรียนยืนตรงทุกครั้งที่พูดกับคุณครู
ื่
(3) เมอมีคุณครูเข้ามาในห้องเรียน ขณะที่คุณครูประจำวิชาไม่อยู่ ให้หัวหน้าห้องบอกทำความเคารพ
12. ของหายภายใน / ภายนอกห้องเรียน
นักเรียนทุกคนต้องช่วยกันต้องช่วยกันรักษาสมบัติและของมีค่าของตนเอง อย่ารื้อค้นหรือหยิบสิ่งของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ของมีค่า เงิน ควรนำติดตัวไปเสมอ ถ้ามีของหายควรปฏิบัติ ดังนี้
้
12.1 ให้รีบแจ้งคุณครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน ดำเนินการค้นหรือสอบถามใหทันเหตุการณ์ และบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หรือแจ้งครูที่
้
รับผิดชอบบริเวณนั้น เช่น ครูห้องสมุด ครูห้องพยาบาล ห้องโสต ฯ ใหดำเนินการก่อน
12.2 บันทึกแจ้งของหายในสมุดที่สำนักงานงานกิจการนักเรียน
12.3 นักเรียนจะติดตามของหายได้ที่สำนักงานงานกิจการนักเรียน นำหลักฐานและลงลายมือชื่อขอรับของคืน
13. การเก็บของได้
หากนักเรียนเก็บของได้ภายในโรงเรียนให้นำส่งสำนักงานกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน พร้อมทั้งบันทึกในเล่มธนาคารความดี ไว้
เป็นหลักฐานเพื่อมอบเกียรติบัตรต่อไป
ระเบียบโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักเรียน พุทธศักราช 2562
...............................................................................................
เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติตนในด้านการแต่งกายให้เหมาะสมกับวัย และสถานภาพ จึงกำหนด
ระเบียบเครื่องแต่งกายนักเรียนไว้เป็นบรรทัดฐานดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ขอยกเลิก “ระเบียบโรงเรียนสตรีนนบุรี ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักเรียน พุทธศักราช 2558” และให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ 2. ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
ข้อ 3. คำสั่ง ระเบียบ และกฎข้อบังคับอื่นใดที่ระเบียบนี้กำหนดไว้แล้วหรือที่ขัดแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ 4. เครื่องแบบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
4.1 เครื่องแบบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
เครื่องแบบปกติ
เสื้อ สีขาวไม่มีลวดลาย ไม่บางและสวมเสื้อทับเสื้อชั้นในให้มิดชิด คอปกแบบกลาสี แขนสั้นเหนือข้อศอกพอสมควร ปลายแขน
จีบเล็กน้อย ขอบแขนกว้างประมาณ 3 ซม. ริมขอบล่าง เสื้อด้านหน้าข้างขวาติดกระเป๋าขนาดไม่ต่ำกว่า 5 / 7 ซม. และไม่
เกิน 9 / 10 ซม. ที่หน้าอกเสื้อด้านขวาปักอักษรย่อ น.บ. (ใช้แบบของโรงเรียน) และเลขประจำตัว ด้วยไหมสีน้ำเงิน พร้อม
ปักจุดแสดงระดับชั้น และคณะสีตามแบบข้อ 5
กระโปรง สีกรมท่า ไม่มีลวดลาย ด้านหน้าและด้านหลังพับกลีบออกมาด้านนอกข้างละ 3 กลีบ พับตรงยาวประมาณ 6 - 8 ซม. และ
ให้ชายกระโปรงคลุมเลยเข่าลงมา 3 - 4 ซม.
ถุงเท้า ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า รองเท้าหนังหุ้มส้น สีดำ มีสายรัดหลังเท้า ไม่มีลวดลาย หัวมน สีดำ ส้นสูงไม่เกิน 2 ซม.
(ห้ามสวมรองเท้าแหลมหรือหัวตัด)
โบว์ (คอซอง) เป็นสีเดียวกับกระโปรง ขนาดของโบว์พอเหมาะ ไม่ผูกยาวจนเกินไป
เครื่องแบบพลศึกษา
เสื้อ ม.ต้น ใช้เสื้อสีเขียวแก่ ผ้าเนื้อเรียบ ปกคอเชิ้ตโปโล มีกระดุม 2 เม็ด สีเขียวตามเนื้อผ้า ความยาวของเสื้อระดับ
สะโพก มีกระเป๋าเครื่องหมายพลับพลาสีขาวอยู่ระดับอกซ้าย เหนือกระเป๋าปักเลขประจำตัวด้วยไหมสีขาว ปัก
เครื่องหมายแสดงระดับชั้นเหนือเลขประจำตัว โดยปักจุดกลมด้วยไหมสีเดียวกับคณะสีสังกัด ตามแบบข้อ 5 และปักชื่อ
- นามสกุลด้านขวาดตามระดับชั้น
กางเกง ใช้กางเกงวอร์มสีดำ มีแถบสีเขียวอ่อนเขียวแก่ด้านข้างตามที่โรงเรียนกำหนดเท่านั้น
้
ถุงเทา ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า รองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ไม่มีลวดลาย มีเชือกผูก
หมายเหตุ กางเกงพละศึกษา ให้ใช้เฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 เท่านั้น
4.2 เครื่องแบบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
การแต่งกายด้วยเครื่องแบบของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้แต่งเครื่องแบบในวันที่เรียนของทุกสัปดาห์
เครื่องแบบยุวกาชาด
เสื้อ เสื้อปกเชิ้ตสีฟ้าอมเทา แขนสั้นเหนือข้อศอก ผ้าอกตลอดอกเสื้อทำเป็นสาบกว้าง 3.5 ซม. มีกระดุมเหนือเข็มขัด 4
เม็ด ที่อกมีกระเป๋าข้างละ 1 ใบ มีสาบตรงกึ่งกลางตามแนวดิ่ง ปกกระเป๋าเป็นรูปมนเจาะรังดุมกึ่งกลาง 1 ดุม มี
อินทรธนูสีเดียวกับเสื้ออยู่เหนือบ่าทั้งสองข้าง ที่ไหล่กว้าง 3.5 ซม. เย็บติดตะเข็บเปิดไหล่เสื้อด้านคอกว้าง 2.5 ซม. มี
ปลายมน มีกระดุมที่ปลายอินทรธนูทางด้านคอ ด้านละ 1 เม็ด เวลาสวมเสื้อให้สอดชายเสื้อไว้ในกระโปรง
หมวก ทำด้วยผ้าสีกรมท่าแบบมีแก๊ปข้างหน้าและตลบปีกด้านหน้าประดับเครื่องหมายหน้าหมวก
ผ้าผูกคอ สีกรมท่าเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว มุมผ้าผูกคอด้านหลังติดเครื่องหมายยุวกาชาด
กระโปรง สีฟ้าอมเทา ยาวคลุมเข่า ด้านหน้าและด้านหลังมีจีบหันทางเดียวกัน ด้านละ 6 จีบ กระโปรงบานพองาม
สวมทับชายเสื้อ
เข็มขัด หนังสีดำกว้างไม่เกิน 3 ซม. หัวเข็มขัดเป็นชนิดเกี่ยว ทำด้วยโลหะสีเงินมีตราเครื่องหมายยุวกาชาด
ถุงเทา ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
้
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า ใช้รองเท้านักเรียนหนังสีดำ ตามเครื่องแบบปกติ
เครื่องแบบเนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ (เหล่าเสนา)
เสื้อ เสื้อปกเชิ้ตสีเขียวแก่คอบพับ แขนสั้นเหนือข้อศอก ผ้าอกตลอด อกเสื้อทำเป็นสาบกว้าง 3.5 ซม. มีกระดมเหนือเข็มขัด
ุ
4 เม็ด ทอกมีกระเป๋าข้างละ 1 ใบ มีสาบตรงกึ่งกลางตามแนวดิ่งปกกระเป๋าเป็นรูปมนเจาะรังดุมกึ่งกลาง 1 ดุม มีอินทรธนู
ี่
สีเดียวกับเสื้ออยู่เหนือบ่าทั้งสองข้าง ที่ไหล่กว้าง 3.5 ซม. เย็บติดตะเข็บเปิดไหล่เสื้อ ด้านคอกว้าง 2.5 ซม. มีปลายมน มี
กระดุมสีเขียวแก่ ลักษณะกลมแบน ที่ปลายอินทรธนูทางด้านคอ ด้านละ 1 เม็ด เวลาสวมเสื้อให้สอดชายเสื้อไว้ใน
กระโปรง
กระโปรง สีเขียวแก่ยาวคลุมเข่า ด้านหน้าและด้านหลังพับกลีบ หันออกด้านข้าง ข้างละกลีบ
หมวก ใช้สีเขียวแก่ มีตราหน้าหมวกรูเครื่องหมายเนตรนารี ทำด้วยโลหะสีทองเวลาสวมให้หน้าหมวกอยู่กึ่งกลางหน้าผาก พับปีก
หมวกด้านหลังขึ้น
ผ้าผูกคอ เป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านฐานยาว 100 ซม. ด้านตั้ง 75 ซม. สีตามสีประจำเขตการศึกษา และมีห่วงสวม
ผ้าผูกคอ
เข็มขัด หนังดำ กว้างไม่เกิน 3 ซม. หัวเข็มขัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำด้วยโลหะทองมีลายดุนตราเครื่องหมายเนตรนารี
้
ถุงเทา ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า ใช้รองเท้านักเรียนหนังสีดำ ตามเครื่องแบบปกติ
เครื่องแบบผู้บำเพ็ญประโยชน์
เสื้อ เสื้อปกเชิ้ตสีฟ้าอมเทา แขนซ้ายติดบั้งผู้บำเพ็ญประโยชน์ และบั้ง Girl Guides Thailand แขนขวาติดบั้งโรงเรียนสตรี
นนทบุรีสีน้ำเงิน หน้าอกด้านซ้ายเหนือกระเป๋าติดชื่อดอกไม้ประจำหมู่หน้าอกด้านขวาติดเข็มองค์กรโลก สูงกว่าเข็ม
ปฏิญาณตน
หมวก เบเล่สีกรมท่า มีหน้าหมวกสีแดงสัญญาลักษณ์ผู้บำเพ็ญประโยชน์
ผ้าผูกคอ สีกรมท่าพิมพ์สัญญาลักษณ์ผู้บำเพ็ญประโยชน์ เป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วสอดใต้ปกเสื้อเชิ้ตผูกเงื่อนพิรอด และเข็ม
ปฏิญาณตน
กระโปรง นักเรียนสีกรมท่า
เข็มขัด หนังสีดำ หัวเข็มขัดเป็นตราผู้บำเพ็ญประโยชน์ทำด้วยโลหะสีทอง
้
ถุงเทา ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า ใช้รองเท้านักเรียนหนังสีดำ ตามเครื่องแบบปกติ
4.3 เครื่องแบบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
เครื่องแบบปกติ
เสื้อ สีขาวไม่มีลวดลาย ไม่บางและสวมเสื้อทับเสื้อชั้นในให้มิดชิด ห้ามใช้ผ้าแพรหรือผ้าไหมคอเสื้อเป็นคอเชิ้ต ห้ามใช้แบบคอ
ฮาวาย ผ่าหน้าตลอด ทำเป็นสาบตลบเข้าข้างในกว้าง3 ซม. แขนยาวเหนือข้อศอกพอสมควร ปลายแขนจีบดามขอบด้วย
ผ้าสองชั้นกว้างประมาณ 3 ซม. อกเสื้อด้านขวาปักตราพลับพลาโรงเรียนสตรีนนทบุรี และตัวอักษร น.บ.(ตามแบบของ
โรงเรียน) ด้วยไหมสีน้ำเงินต่ำจากไหล่ประมาณ 12 ซม.
กระโปรง สีกรมท่า ไม่มีลวดลาย ด้านหน้าและด้านหลังพับกลีบออกมาด้านนอกข้างละ 3 กลีบ พับตรงยาวประมาณ 6 - 8 ซม.
และให้ชายกระโปรงคลุมเลยเข่าลงมา 3 - 4 ซม.
เข็มขัด หนังสีดำ เรียบ ไม่มีลวดลาย
ถุงเทา ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
้
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า แบบนักเรียน ชนิดมีสายรัดหลังเท้า ไม่มีลวดลาย หัวมน สีดำ ส้นสูงไม่เกิน 2 ซม.(ห้ามสวมรองเท้าแหลมหรือหัวตัด)
เครื่องแบบพลศึกษา
เสื้อ ใช้เสื้อสีเขียวแก่ เนื้อผ้าธรรมดา ปกคอเชิ้ตโปโล มีกระดุม 2 เม็ด สีเขียวตามเนื้อผ้า ความยาวของเสื้อระดับสะโพก มี
กระเป๋าเครื่องหมายพลับพลาสีเขียวอ่อนก้อนเมฆสีขาวอยู่ระดับอก เหนือกระเป๋าปักเลขประจำตัวด้วยไหมสีขาว และที่
ปกเสื้อปักเครื่องหมายแสดงระดับชั้นเหมือนเสื้อนักเรียน โดยปักจุดกลมด้วยไหมสีเดียวกับคณะสีสังกัด ตามแบบข้อ 5
กางเกง ใช้กางเกงวอร์มสีดำ มีแถบสีเขียวแก่ด้านข้าง ตามที่โรงเรียนกำหนดเท่านั้น
้
ถุงเทา ยาว สีขาว ไม่มีลวดลาย ลอนเล็ก (ห้ามใช้ถุงเท้าที่ทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา) เมื่อสวม ให้ส่วนที่พับทบกว้าง 4 - 5 ซม.
รอยพับด้านล่างอยู่เหนือตาตุ่ม
รองเท้า รองเท้าผ้าใบสีขาวไม่มีลวดลาย มีเชือกผูก
หมายเหตุ กางเกงพละศึกษา ให้ใช้เฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 เท่านั้น
** การสวมเครื่องแบบพลศึกษา ให้สวมเฉพาะวันที่เรียนพลศึกษา หรือวันที่โรงเรียนกำหนด
ข้อ 5 เครื่องหมายของโรงเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ให้ปักอักษร น.บ. และเลขประจำตัวที่อกเสื้อด้านขวา ปักติดเนื้อผ้าในระดับแนวเหนืออกห่างจากตะเข็บไหล่ประมาณ 8 – 10
ซม. อักษรเลขไทยแบบพิมพ์ธรรมดา ใช้ด้ายหรือไหมสีน้ำเงินแก่ปักเว้นช่องไฟพองาม ปักจุดกลม เหนืออักษร นบ. ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
0.5 ซม. ด้วยไหมสีตามคณะสี เป็นแถวเรียงเป็นเส้นตรงจำนวนตามระดับชั้นคือ ม.1 ปัก 1 จุด, ม.2 ปัก 2 จุด , ม.3 ปัก 3 จุด และปักชื่อ
นามสกุลที่อกเสื้อเบื้องซ้ายให้อยู่ในระดับเดียวกับอักษร น.บ. ชื่อตัวอักษรมีขนาดสูง 1ซม.ใช้ด้ายหรือไหมสีน้ำเงินแก่ดังรูป
น.บ.
๑๒
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ให้ปักอักษร น.บ. และเลขประจำตัวที่อกเสื้อด้านขวา ปักติดเนื้อผ้าในระดับแนวเหนืออกห่างจากตะเข็บไหล่ประมาณ 8-10 ซม.
อักษรเลขไทยแบบพิมพ์ธรรมดาใช้ด้ายหรือไหมสีน้ำเงินแก่ปักเว้นช่องไฟ สัญญาลักษณ์พลับพลาเหนือ น.บ. ขนาดกว้าง 2.5 ซม. สูง 2.5
ซม. ปักด้วยไหมสีน้ำเงินแก่
น.บ.
๑๒
ปกเสื้อด้านขวาปักจุดกลม แสดงระดับชั้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซม. ด้วยไหมสีตามคณะสี ที่ปกเสื้อด้านขวามือ (ด้าน
เดียวกับน.บ.) สูงจากตะเข็บและปลายแหลมของปกเสื้อประมาณ 3 ซม. คือ ม.4 ปัก 1 จุด , ม.5 ปัก 2 จุด , ม.6 ปัก 3 จุด ดังรูป
ข้อ 6 ทรงผม
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย สามารถไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้
ั
ผมตดสั้น ทรงผมต้องเป็นทรงนักเรียน ด้านข้างและด้านหลังตรงเท่ากันไม่มีหน้าม้า ความยาวเหนือปกเสื้อด้านหลัง ไม่ดัด ไม่ซอย
ไม่ย้อมสี ไม่ทำทรงผมแปลก ๆ หรือปล่อยผมปรกหน้า
ผมยาว 1. นักเรียนที่จะไว้ผมยาวได้จะต้องรวบผมเป็นมัดเดียว ไม่ไว้ผมหน้าม้าหรือปรกหน้า ตัดตรงเท่ากันทั้งด้านหน้าและ
ด้านหลัง ไม่ซอยผม ไม่ดัด ไม่ย้อมสี ไม่ถักเปีย ไม่เกล้าเป็นทรงผมอื่น หากฝ่าฝืน จะตัดสั้นให้ถูกต้องตามระเบียบของ
โรงเรียน และตัดคะแนนความประพฤตินักเรียน
2. ขนาดความยาวของผม ยาวไม่เกิน 1 ฟุต (วัดจากจุดกึ่งกลางศรีษะลงมาถึงปลายผม)
3. เมื่อรวบผมเป็นมัดเดียวแล้ว จะต้องผูกโบว์สีกรมท่าล้วน ไม่มีลวดลาย หรือ ลายฉลุ ขนาดกว้างของโบว์ ประมาณ 1-
1.5 นิ้ว ผูกโบว์ให้เรียบร้อย
4. ห้ามปล่อยสยายผมในเครื่องแบบนักเรียน ทั้งในและนอกโรงเรียน
ข้อ 7 กรเป๋าหนังสือ
กระเป๋าหนังสือให้ใช้กระเป่าแบบนักเรียน สีดำ ห้ามใช้กระเป๋าลักษณะอื่นหรือกระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าแบบอื่นโดยเด็ดขาด
และให้ถอมาโรงเรียนทุกวัน กระเป๋าเสริมให้ใช้ของโรงเรียนเท่านั้น
ื
ข้อ 8 เครื่องประดับและเครื่องใช้อื่นๆ
8.1 ห้ามนักเรียนทุกคนประดับหรือเครื่องใช้ที่มีราคาสูง และไม่อนุญาตให้นักเรียนใส่ต่างหู
8.2 ห้ามสวมแว่นตารูปแบบแปลกๆ ที่มีกรอบสีขาวหรือสีต่างๆ กรอบแว่นที่ใช้ได้ คือ แบบเรียบ สีดำ สีเทาเข้ม หรือสีน้ำตาล
ไหม้ ทำด้วยพลาสติก หรือโลหะ
8.3 ให้ใช้นาฬิกาข้อมือ ด้วยเรือนขนาดไม่ใหญ่เกินควร สายทำด้วยเหล็ก หนัง หรือพลาสติกสีดำ น้ำตาล น้ำเงิน เท่านั้น
ข้อ 9 ให้รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารงานกิจการนักเรียน เป็นผู้รักษาการให้
เป็นไปตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564
(นายฉัตรชัย ธรรมครบุรี)
ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีนนทบุรี
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ. 2548
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึง
วางระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548 ”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น
ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2543
ข้อ 4 ในระเบียบนี้
“ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา” หมายความว่า ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการอธิการบดี หรือ หัวหน้า ของโรงเรียน หรือ
สถานศึกษา หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นของโรงเรียนหรือสถานศึกษานั้น
“การกระทำผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ
หรือกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา
“การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิดโดยมีความมุ่งหมายเพื่อการสั่งสอนข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียน
หรือนักศึกษาที่กระทำผิดมี 4 สถาน ดังนี้
(1) ว่ากล่าวตักเตือน
(2) ทำทัณฑ์บน
(3) ตัดคะแนนประพฤติ
(4) ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้งหรือลงโทษด้วยความโกรธหรือด้วยความพยาบาท โดยคำนึงถึง
อายุนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัย
และความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไปให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาหรือ ผู้
ที่บริหารโรงเรียน หรือสถานศึกษามอบหมายเป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษนักเรียน นักศึกษา
ข้อ 7 การว่ากล่าวตักเตือน ใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษากระทำความผิดไม่ร้ายแรง
ข้อ 8 การทำทัณฑ์บนใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษาที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน หรือนักศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าด้วย
ความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา หรือกรณีทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา / ฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา / ได้รับโทษว่า
กล่าวตักเตือนแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบการทำทัณฑ์บนให้ทำเป็นหนังสือ และเชิญบิดามารดา หรือผู้ปกครองมาบันทึกรับทราบความผิดและรับรองการทำ
ทัณฑ์บนไว้ด้วย
ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาของแต่ละ
สถานศึกษากำหนด และให้ทำบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ 10 ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้ในกรณีที่นักเรียนและนักศึกษากระทำความผิดที่สมควรต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ข้อ 11 ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความและ
วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548
อดิศัย โพธารามิก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
กฎกระทรวง
กำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา
พ.ศ. 2548
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบาง
ประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 39
มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 นักเรียนและศึกษาต้องไม่ประพฤติตน ดังต่อไปนี้
(1) หนีเรียนหรือออกนอกสถานศึกษา โดยไม่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน
(2) เล่นการพนัน จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือมั่วสุมในวงการพนัน
(3) พกพาอาวุธหรือวัตถุระเบิด
(4) ซื้อ จำหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ หรือยาเสพติด
(5) ลักทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ หรือบังคับขืนใจเพื่อเอาทรัพย์บุคคลอื่น
(6) ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหรือกระทำการใดๆ อันน่าจะก่อให้เกิด ความไม่
สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
(7) แสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ
(8) เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
(9) ออกนอกสถานที่พักเวลากลางวัน เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่
ตนเองหรือผู้อื่น
ข้อ 2 ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษากำหนดระเบียบด้วยว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาได้เท่า
ที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2548
จาตุรนต์ ฉายแสง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
หมายเหตุ : เหตุในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 บัญญัติให้นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติ
ตนตามเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา และตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้