The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ซ่อมบำรุงเครื่องมือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการสอนวิชาซ่อมบำรุงเครื่องมือกล

แผนการจัดการเรียนรู้ ซ่อมบำรุงเครื่องมือ

แผนการจัดการเรียนรู้

มงุ่ เน้นฐานสมรรถนะบรณู าการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ชอื่ วชิ า ซอ่ มบารงุ เครอื่ งมือกล
รหัสวิชา 2102-2104 ท-ป-น 0-6-2

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556
ประเภทวิชา ชา่ งอุตสาหกรรม

จดั ทาโดย
นายณรงค์ชยั สารวิ งษา

วทิ ยาลยั เทคนิคสวา่ งแดนดนิ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แบบคาขออนมุ ัติใชแ้ ผนการสอน

แผนการสอน มุง่ เน้นฐานสมรรถนะบรณู าการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ชอื่ วชิ า ซ่อมบารุงเครอ่ื งมือกล รหสั วิชา 2102-2104 ท-ป-น 0-6-2

ลงชอ่ื ..............................

(นายณรงคช์ ัย สาริวงษา)

ครพู เิ ศษสอน แผนกวิชาชา่ งกลโรงงาน

ผูจ้ ัดทา

ความเห็นหวั หน้าแผนกวชิ าช่างกลโรงงาน ความเหน็ หัวหนา้ งานพัฒนาหลกั สตู รฯ

………………………….……………….. ……………………………………….……….

(นายสรุ ตั น์ โคตรปัญญา) (นายคมุ ดวง พรมอนิ ทร)์

หัวหน้าแผนกวิชาช่างกลโรงงาน หวั หน้างานพฒั นาหลักสตู รการเรยี นการสอน

ความเห็นรองผูอ้ านวยการฝุายวชิ าการ
…………………..……………………………
(นายทินกร พรหมอนิ ทร์)
รองผู้อานวยการฝาุ ยวชิ าการ

ความเห็นผู้อานวยการวิทยาลัยการอาชพี สว่างแดนดนิ

O อนมุ ตั ิ O ไมอ่ นมุ ัติ

......................................
(นางวรรณภา พ่วงกลุ )
ผอู้ านวยการวทิ ยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดนิ

คานา

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาซ่อมบารุงเครื่องมือกล รหัสวิชา 2102 - 2104 จัดทาขึ้นตามหลักสูตร
ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พุทธศักราช 2556 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ เนื้อหา
ภายในแบ่งออกเป็น 10 บท ประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับ งานบารุงรักษา การศึกษาคู่มือถอดประกอบ การ
ตรวจสอบชิ้นส่วนเครื่องจักรกล การบารุงรักษาเครื่องมือกลเบื้องต้น การปรับตั้งชิ้นส่วนเครื่องกล การหล่อลื่น
ชนิ้ สว่ นเครอื่ งจกั รกล การจัดเตรยี มอะไหล่ซอ่ มบารุง การจัดทาช้ินส่วนทดแทนอย่างง่าย การบารุงรักษาระบบนิว
เมติกสแ์ ละไฮดรอลกิ และการวางแผนการซ่อมบารุง

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาน้ี ผเู้ รียบเรียงได้จัดทาโดยมุ่งเน้นฐานสมรรถนะและการเรียนรู้แบบบูรณา
การของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ ใชเ้ ป็นแนวทางการสอนในรายวิชาเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นสาคัญ มีแบบทดสอบและ
กจิ กรรมการฝึกทกั ษะท่เี หมาะสมกับผเู้ รยี น การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยมีความ
มุ่งหวังทจ่ี ะให้เกดิ ประสิทธิผลแกผ่ ู้เรยี นและเกิดประสิทธิภาพต่อการเรยี นการสอนมากย่ิงข้นึ ไปดว้ ย

ผู้เรียบเรียงขอขอบคุณผู้ที่สร้างแหล่งความรู้และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อครู-อาจารย์ และผู้ที่สนใจทั่วไป หากพบข้อบกพร่องหรือมี
ขอ้ เสนอแนะประการใด โปรดแจง้ ผเู้ รียบเรียงทราบด้วยเพือ่ จะไดป้ รบั ปรุงในครั้งตอ่ ไป

นายณรงค์ชยั สารวิ งษา

สารบญั หนา้

คานา ค
สารบญั ง
ลกั ษณะรายวชิ า จ
หนว่ ยการเรยี นรู้ ฉ
มาตรฐานการศกึ ษาวิชาชีพ ซ
ตารางวิเคราะห์สมรรถนะรายวิชา ฌ
คุณธรรมและจรยิ ธรรม ญ
ตารางวิเคราะห์หลกั สูตร 1
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 งานบารงุ รักษา 6
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การศกึ ษาค่มู ือถอดประกอบ 10
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 การตรวจสอบชิ้นสว่ นเครือ่ งจักรกล 15
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 4 การบารุงรกั ษาเครอื่ งมอื กลเบอ้ื งตน้ 20
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 การปรบั ต้ังช้นิ สว่ นเคร่อื งจกั รกล 24
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6 การหล่อลน่ื ช้นิ ส่วนเครอื่ งจกั รกล 29
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 การจดั เตรยี มอะไหล่ซอ่ มบารงุ 35
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 การจัดทาชนิ้ สว่ นทดแทนอย่างง่าย 40
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 9 การบารุงรกั ษาระบบนวิ เมติกส์และไฮดรอลิก 44
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 10 การวางแผนการซอ่ มบารงุ

ลกั ษณะรายวชิ า

วิชา ซอ่ มบารุงเครือ่ งมือกล รหัสวชิ า 2102 - 2104
ท–ป–น 0–6–2 จานวน 6 คาบ/สปั ดาห์ รวม 108 คาบ

จุดประสงค์รายวชิ า

1. เขา้ ใจการซ่อมบารงุ รกั ษา การถอดประกอบเครื่องมือกล
2. มีทักษะการซ่อมบารุงเครอ่ื งมอื กล การถอดประกอบเคร่อื งมอื กล
3. มีกจิ นิสัยในการทางานอยา่ งมรี ะเบียบแบบแผน มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ส่วนรวม และปฏิบัติงาน
ตามหลกั ความปลอดภยั

สมรรถนะรายวชิ า

1. ซ่อมบารงุ เครอื่ งมือกลตามหลักการและกระบวนการ
2. ผลติ ช้นิ สว่ นทดแทนตามหลักการและกระบวนการ

คาอธบิ ายรายวชิ า

ปฏิบตั เิ กยี่ วกับการซอ่ มบารุงเครื่องมือกล การบารุงรักษาเชิงปูองกัน (Preventive Maintenance) การ
บารุงรกั ษาหลงั เกิดเหตขุ ดั ขอ้ ง (Breakdown Maintenance) ในงานเครอ่ื งมอื กล ศึกษาคมู่ ือถอดประกอบชิ้นส่วน
ปรับตั้ง ตดิ ตั้ง หล่อลื่น จัดเตรียมอะไหล่ จัดทาชิ้นส่วนทดแทนอย่างง่าย บารุงรักษาระบบนิวเมติกส์และไฮดรอ
ลกิ ส์เบอ้ื งต้น ตรวจสอบและทดสอบการทางาน บันทกึ ประวตั กิ ารบารุงรักษา ปฏบิ ตั ิงานตามหลกั ความปลอดภัย

หน่วยการเรยี นรู้

วิชา ซอ่ มบารงุ เครอ่ื งมือกล รหัสวิชา 2102 - 2104
ท–ป–น 0–6–2 จานวน 6 คาบ/สปั ดาห์ รวม 108 คาบ

สปั ดาหท์ ่ี หน่วยท่ี ช่อื หนว่ ยการสอน จานวนคาบ
1 1 งานบารุงรักษา 6
2 2 การศึกษาค่มู ือถอดประกอบ 6
3 การตรวจสอบชนิ้ ส่วนเครื่องจกั รกล 12
3-4 4 การบารุงรกั ษาเคร่ืองมอื กลเบอ้ื งต้น 12
5-6 5 การปรับต้งั ชนิ้ สว่ นเครือ่ งจักรกล 12
7-8 6 การหล่อลืน่ ชนิ้ ส่วนเคร่อื งจกั รกล 12
9 - 10 7 การจดั เตรียมอะไหล่ซอ่ มบารุง 12
11 - 12 8 การจัดทาช้นิ ส่วนทดแทนอยา่ งงา่ ย 12
13 - 14 9 การบารุงรกั ษาระบบนวิ เมตกิ ส์และไฮดรอลิก 6
15 10 การวางแผนการซอ่ มบารุง 12
16 - 17 สอบปลายภาคเรยี น 6
18
รวม 108

มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชีพ

วชิ า ซ่อมบารุงเครือ่ งมือกล รหัสวิชา 2102 - 2104
ท–ป–น 0–6–2 จานวน 6 คาบ/สัปดาห์ รวม 108 คาบ

คุณภาพของผู้สาเรจ็ การศกึ ษาระดับคุณวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม
สาขาวิชาชา่ งกลโรงงาน ประกอบด้วย

1. ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
1.1 คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ความเสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญู

กตเวที ความอดกลน้ั การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนัน การมจี ติ สานกึ และเจตคติที่ดีตอ่ วิชาชีพและสงั คม
1.2 พฤติกรรมลกั ษณะนิสัย ความมวี ินยั ความรบั ผดิ ชอบ ความมมี นุษยสมั พันธ์ ความเช่ือมั่นในตนเอง

ความรกั สามคั คี ความขยัน ประหยดั อดทน การพ่งึ ตนเอง
1.3 ทักษะทางปญั ญา ความรู้ในหลักทฤษฎี ความสนใจใฝรุ ู้ ความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ ความสามารถใน

การคดิ วิเคราะห์
2. ด้านสมรรถนะหลกั และสมรรถนะท่ัวไป
2.1 สือ่ สารโดยใชภ้ าษาไทยและภาษาต่างประเทศในชีวิตประจาวนั และในงานอาชพี
2.2 แกไ้ ขปญั หาในงานอาชีพโดยใช้หลกั การและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์
2.3 ปฏิบัติตนตามหลักศาสนา วัฒนธรรม ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมทางสังคมและสิทธิหน้าที่

พลเมอื ง
2.4 พฒั นาบุคลิกภาพและสุขอนามัยโดยใช้หลักการและกระบวนการด้านสุขศึกษาและพลศึกษา

3. ดา้ นสมรรถนะวิชาชพี
3.1 วางแผน ดาเนนิ งาน จัดการงานอาชีพตามหลกั การและกระบวนการ โดยคานึงถึงการบริหารงาน

คณุ ภาพ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม หลกั อาชวี อนามัยและความปลอดภัย
3.2 ใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ
3.3 ปฏบิ ัตงิ านพนื้ ฐานอาชีพตามหลกั และกระบวนการ
3.4 อา่ นแบบ เขยี นแบบเครือ่ งมือกล สัญลกั ษณ์มาตรฐาน
3.5 เลอื กใชว้ สั ดุอตุ สาหกรรม
3.6 ประกอบ ทดสอบวงจร อุปกรณ์ไฟฟาู และอเิ ล็กทรอนิกสเ์ บ้ืองต้น
3.7 เชื่อมโลหะและโลหะแผน่ เบื้องต้น
3.8 ตรวจสอบ ถอด และประกอบชนิ้ สว่ นเครื่องมอื กล

3.9 ปรับ แปรรปู และขนึ้ รปู งานดว้ ยเคร่ืองมอื กล
3.10 เขียนโปรแกรมเอน็ ซีพนื้ ฐาน
3.11 ตรวจสอบชน้ิ งานด้วยเคร่ืองมือวดั
3.12 ปรบั ปรงุ สมบตั ิโลหะดว้ ยความร้อน
3.13 ซอ่ มบารงุ เครอ่ื งมอื กล

ตารางวิเคราะห์สมรรถนะรายวชิ า

วชิ า ซอ่ มบารุงเครื่องมือกล รหัสวิชา 2102 - 2104
ท–ป–น 0–6–2 จานวน 6 คาบ/สปั ดาห์ รวม 108 คาบ

สมรรถนะรายวชิ า
ซ่อมบารุงเค ่รืองมือกลตามหลักการ
หนว่ ยท่ี และกระบวนการ
ผลิต ิ้ชนส่วนทดแทนตามหลักการ
1. งานบารงุ รกั ษา และกระบวนการ
2. การศึกษาค่มู อื ถอดประกอบ
3. การตรวจสอบชิ้นส่วนเครอ่ื งจกั รกล 
4. การบารงุ รักษาเครือ่ งมอื กลเบือ้ งต้น 
5. การปรับตงั้ ชิ้นส่วนเคร่ืองจกั รกล 
6. การหลอ่ ล่นื ชนิ้ ส่วนเคร่อื งจกั รกล 
7. การจดั เตรียมอะไหลซ่ อ่ มบารงุ 
8. การจดั ทาชิน้ ส่วนทดแทนอย่างงา่ ย 
9. การบารุงรักษาระบบนิวเมติกสแ์ ละไฮดรอลิก 
10. การวางแผนการซ่อมบารุง




คุณธรรมและจริยธรรม

การบรู ณาการตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
วชิ า ซ่อมบารงุ เครอ่ื งมอื กล รหสั วชิ า 2102 - 2104
ท–ป–น 0–6–2 จานวน 6 คาบ/สปั ดาห์ รวม 108 คาบ

คุณธรรม จรยิ ธรรม พิจารณาจากเกณฑด์ ้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความมมี นุษยสมั พันธ์ 7. ความสนใจใฝรุ ู้

2. ความมีวินัย 8. ความสามคั คี

3. ความรบั ผดิ ชอบ 9. การมมี ารยาท

4. ความซอื่ สัตย์สจุ ริต 10. มคี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์

5. ความเช่อื มั่นในตนเอง 11. การพง่ึ ตนเอง

6. การตรงต่อเวลา 12. การอดทนอดกล้ัน

การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

1. ความพอประมาณ
2. เงื่อนไขความรู้
3. ความมีเหตุผล
4. เงื่อนไขคุณธรรม
5. การมภี มู ิคุม้ กันในตวั

คะแนนประเมินผลตลอดภาคเรียน 10%
80%
1. พุทธิพิสยั 10%
2. ทกั ษะพิสัย 100%
3. จิตพิสัย

รวม

ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร

วชิ า ซ่อมบารงุ เครอ่ื งมือกล รหัสวชิ า 2102 - 2104
ท–ป–น 0–6–2 จานวน 6 คาบ/สปั ดาห์ รวม 108 คาบ

พฤติกรรม พุทธพิ สิ ยั (10%)

ช่ือหนว่ ย ความ ู้ร
ความเข้าใจ
การนาไปใ ้ช
การวิเคราะ ์ห
การสังเคราะห์
การประเ ิมน ่คา
ัทกษะ ิพสัย (80%)
ิจต ิพสัย (10%)
รวม
ลา ัดบความสา ัคญ

1. งานบารุงรักษา 1 - - 6 183
2. การศึกษาคู่มือถอดประกอบ 1 10 6 183
3. การตรวจสอบชิ้นสว่ น 1 2 9 1 11 1

เครื่องจกั รกล 1 9 1 11 1

4. การบารงุ รักษาเคร่อื งมอื กล 1 9 1 11 1
1 9 1 11 1
เบอ้ื งต้น 1 9 1 11 1
1 8 1 10 2
5. การปรบั ต้ังช้ินส่วนเครื่องจกั รกล 1 6 183
6. การหลอ่ ล่ืนชิ้นสว่ นเครอ่ื งจกั รกล
1 9 1 11 1
7. การจัดเตรียมอะไหล่ซอ่ มบารงุ 10
8. การจัดทาชิน้ ส่วนทดแทนอย่างงา่ ย 80 10 100
9. การบารุงรักษาระบบนิวเมติกส์ 12
และไฮดรอลิก

10. การวางแผนการซ่อมบารุง

รวม
ลาดบั ความสาคญั

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1

วิชา ซ่อมบารุงเคร่ืองมอื กล รหัสวชิ า 2102 - 2104 สัปดาหท์ ี่ 1
หน่วยท่ี 1 ชื่อหนว่ ย งานบารุงรกั ษา

แนวคิด

เครอื่ งจกั รในงานอตุ สาหกรรม
ประเภทของเคร่อื งจักรกลตามลักษณะการใช้งานไดท้ ้งั หมด 3 ประเภทดว้ ยกันประกอบไปดว้ ย
1. เครอ่ื งจกั รกลแบบบงั คบั ด้วยมอื (Manually Operated Machine)
2. เครื่องจักรกลก่ึงอัตโนมัติ (Semi-Automatic Machine)
3. เครือ่ งจักรกลอตั โนมัติ (Fully Automatic Machine)
งานบารุงรกั ษา
จุดประสงค์ในการงานซ่อมบารงุ
1. เพอื่ ใหส้ ามารถนาเคร่ืองจกั รกลมาใชง้ านไดอ้ ย่างเต็มประสทิ ธิภาพและเป็นไปอย่างต่อเนอื่ ง
2. เพื่อเป็นการบารุงรกั ษาใหเ้ คร่ืองจกั รกลมีอายกุ ารใชง้ านทยี่ าวนาน
3. เพอ่ื เปน็ การปูองกนั อบุ ัตเิ หตจุ ากการใช้งานเครื่องจักรกลท่ชี ารุด
4. เพื่อเปน็ การเตรยี มความพรอ้ มในการใชง้ านเคร่ืองจกั รกลในกรณีฉกุ เฉิน
5. เพอื่ เป็นการลดต้นทนุ ในการจดั หาเครอ่ื งจักรกล
หนา้ ทขี่ องหนว่ ยซอ่ มบารุง
1. วางแผนงานในการซอ่ มบารงุ ให้เปน็ ระบบ
2. บารงุ รกั ษาเคร่ืองจกั รกลตามขอ้ กาหนดของบริษัทผูผ้ ลิต
3. ดูแลใหเ้ ครือ่ งจกั รกลและสภาพแวดล้อมในการทางานให้อยู่ในสภาพทีป่ กติพร้อมใชง้ าน
4. แก้ไขปญั หาในงานซ่อมบารงุ โดยจะตอ้ งดาเนนิ การในทันทที นั ใด
5. จัดเก็บขอ้ มลู ประวัตกิ ารซอ่ มบารงุ เพ่ือใช้ในการวางแผนการซอ่ มบารงุ
6. ตรวจสอบการใช้งานของเครอ่ื งจักรตามระยะเวลาที่กาหนดอยา่ งเคร่งครัด
ประเภทของงานซอ่ มบารงุ
1. การซอ่ มบารงุ ตามแผนปฏบิ ตั ิ
2. การซ่อมบารุงตามการใช้งานของเคร่ืองจักรกล

3. การซอ่ มบารุงตามระยะเวลาทีก่ าหนด
4. การซอ่ มบารงุ ตามลักษณะงาน
ข้ันตอนดาเนินการซอ่ มบารงุ
1. เครื่องจักรกลเกดิ เหตเุ สยี /ขดั ขอ้ ง/ชารุด
2. ตรวจสอบเหตุเสีย
3. วเิ คราะหเ์ หตุเสยี
4. วางแผน/กาหนดขัน้ ตอนการซอ่ มบารุง
5. ดาเนินการซอ่ มบารงุ
6. ทดสอบการใชง้ านเคร่อื งจักรกล
7. ผา่ น/ไม่ผ่าน (ถ้าไมผ่ า่ นให้กลับไปตรวจสอบเหตุเสยี )
8. เครอ่ื งจกั รกลคืนสู่การทางานปกติ
ขน้ั ควรระวังในการใชเ้ คร่ืองจกั รกล
1. อย่าสับสวิตช์เคร่ืองมือกลใด ๆ ทง้ั สนิ้ เมอ่ื ยังไม่ทราบวา่ เครือ่ งมือกลนั้น ๆ มีลักษณะการทางาน อย่าง
ใด เพราะเคร่ืองมอื กลอาจชารุดเสยี หายหรือเกิดอนั ตรายแกผ่ ้ใู ชไ้ ด้
2. หยอดนา้ มนั หล่อล่นื ทุกวนั เครื่องมือกลท่ีขาดการหลอ่ ลื่นมอี ายงุ านสนั้ มาก
3. ก่อนเดินเครื่องทางานให้ตรวจลักษณะเครื่องมือกลให้แน่ใจเสียก่อนว่าคันโยกต่าง ๆ อยู่ถูก ตาแหน่ง
หรือไมอ่ ยา่ งไร
4. ระวงั อยา่ ให้เศษโลหะเข้าไปขดั อยู่ในชอ่ งเล่ือนตา่ ง ๆ ได้ เพราะชอ่ งเลื่อนจะสึกลงอย่างรวดเร็ว งานจะ
ไมไ่ ดค้ วามเท่ยี งดงั ต้องการ
5. แบร่งิ จะต้องไม่ร้อนเกนิ กว่าท่มี อื จะทนได้
6. ระวังอย่าให้น้าและฝุนเข้าข้างในมอเตอร์ได้ หากพบว่ามอเตอร์เริ่มทางานไม่เป็นปกติให้หยุดเครื่อง
และแจง้ ให้หัวหน้าโรงงานทราบทันที
7. รักษาเครอ่ื งมือกลให้สะอาด อย่าใช้ลมอัดเปุาเศษโลหะหรือฝุนออกจากเครอ่ื ง เพราะเศษโลหะ และฝุน
อาจเข้าไปอดั ชอ่ งเล่ือนต่าง ๆ ได้
8. อย่าประมาทในการใชเ้ ครอ่ื งมอื กลเพราะอาจไดร้ บั อนั ตราย

สาระการเรียนรู้

1. เครื่องจักรในงานอตุ สาหกรรม
2. งานบารงุ รกั ษา
3. หนา้ ทข่ี องหน่วยซอ่ มบารงุ

4. ประเภทของงานซอ่ มบารงุ
5. ขน้ั ตอนดาเนนิ การซ่อมบารุง
6. ข้อควรระวงั ในการใชเ้ ครื่องจักรกล

ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง

1. จาแนกประเภทของเคร่อื งจกั รกลได้
2. บอกจดุ ประสงค์ในการซ่อมบารงุ ได้
3. ระบหุ น้าทขี่ องหนว่ ยงานซอ่ มบารงุ ได้
4. อธิบายประเภทของงานซ่อมบารุงได้
5. บอกขน้ั ตอนในการซอ่ มบารงุ ได้
6. สรุปขอ้ ควรระวังในการใชง้ านเคร่ืองจักรกลได้

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครอู ภิปรายถงึ ขอบขา่ ยสาระการเรียนรู้ วิธีการวดั ผลและแนวทางการประเมนิ ผลการเรียนรู้ในวิชาซ่อม
บารงุ เครื่องมือกล รหสั วชิ า 2102 – 2104 แลว้ ให้นักเรยี นซกั ถาม
2. ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นในเร่ือง งานบารงุ รกั ษา จากน้นั ครูสรุปเพื่อนาเข้าสูบ่ ทเรยี น
ข้ันสอน
3. ครูให้นักเรียนช่วยกันจาแนกประเภทของเครื่องจักรกล จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติม โดยใช้สื่อ
PowerPoint พร้อมนาเคร่ืองจกั รกลประเภทตา่ ง ๆ มาใหน้ กั เรยี นศกึ ษา
4. ครอู ธิบายเกีย่ วกบั งานบารงุ รกั ษา พร้อมภาพประกอบ จากนนั้ ให้นักเรียนชว่ ยกันแสดงความคิดเห็น
5. ครแู ละนักเรียนอภปิ รายรว่ มกนั เพอื่ ใหไ้ ด้ขอ้ สรุปเกีย่ วกับหนา้ ทข่ี องหนว่ ยซอ่ มบารุง
6. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั จาแนกประเภทของงานซ่อมบารงุ รว่ มกนั
7. ครอู ธิบายขั้นตอนดาเนนิ การซ่อมบารุง พร้อมแผนผังประกอบ แล้วตั้งคาถามให้นักเรียนช่วยกันตอบ
จากนน้ั ใหน้ ักเรียนจดบนั ทกึ
8. ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกข้อควรระวังในการใชเ้ คร่ืองจกั รกล
9. ครูพานักเรียนสารวจโรงฝึกปฏบิ ตั ิการ เพือ่ ใหน้ ักเรียนสร้างความคนุ้ เคยและเรียนรู้ว่าเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง
ๆ ท่ตี อ้ งใชเ้ รียนภาคปฏิบัติอยู่ตรงไหน
ข้ันสรปุ และการประยุกต์
10. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เนือ้ หาในบทเรยี น และให้นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ โดยครู
ใช้วิธกี ารถาม – ตอบ

11. ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบท้ายบท ตอนที่ 1 และตอนที่ 2
12. ครูให้นกั เรยี นปฏิบตั ิใบงานที่ 1.1 งานบารุงเครื่องจกั รกลในงานอุตสาหกรรม
13. ครูให้นักเรยี นทบทวนเนอื้ หาของบทท่ี 1 และศกึ ษาบทที่ 2 ลว่ งหนา้

สือ่ การเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทที่ 1 งานบารุงรกั ษา
2. เครอ่ื งจักรกลประเภทตา่ ง ๆ
3. ภาพแสดงการซอ่ มบารงุ
4. แผนผงั แสดงขัน้ ตอนในการซอ่ มบารงุ
5. แบบทดสอบท้ายบทท่ี 1

การวดั ผลและประเมนิ ผล

วธิ วี ดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบปฏบิ ตั ิงาน
3. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครือ่ งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินใบปฏบิ ตั ิงาน
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมนิ

เกณฑ์การประเมินผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ า่ น 60% ข้นึ ไป
2. แบบประเมนิ ใบปฏิบัตงิ าน เกณฑ์ผ่าน 70% ขึ้นไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจริง

บันทกึ หลังการสอน

ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนักเรียน
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการสอนของครู
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ……………………………….

(…………………………………..)
ผ้สู อน

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2

วิชา ซ่อมบารุงเครือ่ งมอื กล รหสั วิชา 2102 - 2104 สปั ดาหท์ ี่ 2
หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย การศกึ ษาค่มู อื ถอดประกอบ

แนวคดิ

ประเภทคู่มอื
ค่มู อื แบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท ตามลักษณะดังนี้
1. คู่มอื ของผ้ใู ช้
2. คมู่ อื ชา่ งหรอื ค่มู ือประจาเครอ่ื ง
รูปแบบของคมู่ ือ
ค่มู ือของผูใ้ ช้และคู่มือของชา่ งสามารถจัดทาไดห้ ลายรปู แบบ ดังนี้
1. ใบอธบิ ายวิธที า (Instruction Sheets)
2. เอกสารเลม่ บางให้ข้อมลู ทั่วไป
3. บันทึกสัน้ ๆ ท่ีใชก้ ันภายในหน่วยงาน
4. สัญลักษณ์
สว่ นประกอบของคู่มอื
1. ขอ้ มลู ท่วั ไป (Overview/Introduction)

1.1 สารบญั (Content)
1.2 ลกั ษณะเด่นของเครื่อง (Features)
1.3 ส่วนตา่ ง ๆ ของเครื่องและหนา้ ทีก่ ารทางาน (Working Parts)
1.4 สัญลักษณ์ (Symbols)
2. การประกอบ การติดตัง้ และการถอดประกอบ (Assembling/Installation/Dismantling)
3. การใชเ้ ครอ่ื งมือ (Operation/ Instructions)
4. การบารงุ รักษา (Maintenance)
5. การแกไ้ ขข้อขัดขอ้ ง (Trouble and Solution)

6. ขอ้ มูลจาเพาะ (Specification) มลี ักษณะ ดงั น้ี
6.1 สนั้ งา่ ย ชดั เจน ควรหลีกเลย่ี งการใชค้ าศัพทก์ วา้ ง ๆ
6.2 หลีกเล่ยี งการใช้ศัพท์ที่บ่งชท้ี ศั นะส่วนตัว
6.3 หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์ท่คี าดเดา
6.4 หลีกเลย่ี งการใช้ขอ้ มูลทีย่ าวเกินไปหรือยน่ ยอ่ จนเกนิ ไป

7. ขอ้ มูลประกอบ (Note) เป็นรายละเอยี ดเพ่ิมเติมด้านต่าง ๆ เพือ่ ประกอบการใช้เครอื่ ง เช่น
7.1 คาเตือนเร่อื งความปลอดภัย (Safety Guide)
7.2 ใบรบั ประกนั เคร่อื ง (Guarantee)
7.3 การตรวจสอบ (Inspection)

สาระการเรยี นรู้

1. ประเภทคมู่ อื
2. รปู แบบของคู่มอื
3. สว่ นประกอบของคมู่ อื

ผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวงั

1. บอกประเภทของคู่มอื ของผู้ใช้
2. อา่ นคู่มือและสัญลักษณใ์ นคมู่ อื การใช้งานไดท้ กุ รปู แบบ
3. ติดต้ังและถอดประกอบไดต้ ามค่มู ือ
4. แก้ไขปญั หาเบอื้ งตน้ และบารุงรกั ษาได้ตามคูม่ ือ
5. บอกข้อมลู จาเพาะทางเทคนิคของเครื่องตามค่มู ือ

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนเนือ้ หาในหนว่ ยท่ี 1 รว่ มกับนักเรยี น
2. ครูตง้ั คาถามให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบเก่ียวกับเรื่อง การศกึ ษาคมู่ อื ถอดประกอบ
3. ครูสรปุ เพอื่ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น
ขัน้ สอน

4. ครูให้นักเรียนช่วยกันจาแนกประเภทของคู่มือ จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติม และนาตัวอย่างคู่มือแต่ละ
ประเภทมาใหน้ กั เรยี นศึกษา

5. ครอู ธบิ ายเกีย่ วกับรปู แบบของคู่มือ โดยใช้สื่อ PowerPoint และตัวอย่างค่มู อื ของผใู้ ช้และคู่มือของช่าง
ประกอบ แลว้ ให้นักเรยี นซกั ถาม

6. ครูให้นักเรียนอ่านคูม่ ือและสัญลักษณใ์ นคมู่ อื การใช้งานรูปแบบตา่ ง ๆ
7. ครอู ธิบายเก่ยี วกับส่วนประกอบของคู่มือ พรอ้ มทง้ั ใหน้ กั เรยี นศึกษาคู่มือท่นี ามาเปน็ ตัวอยา่ งตามไปดว้ ย
8. ครใู หน้ ักเรียนกลับไปสารวจดูคู่มือของเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ภายในบ้าน แล้วให้นักเรียน
ศกึ ษาค่มู ือนน้ั ตามที่ไดเ้ รยี นมา จากน้ันใหจ้ ดบันทกึ สง่ ครู
9. ครูอธิบายและสาธติ วิธีการใช้คมู่ อื แล้วใหน้ ักเรยี นซกั ถาม
ขัน้ สรุปและการประยุกต์
10. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เนื้อหาในบทเรยี น และใหน้ กั เรียนมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น โดยครู
ใช้วิธีการถาม – ตอบ
11. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบท้ายบท
12. ครใู ห้นกั เรยี นปฏิบตั ิใบงานที่ 2.1 ศกึ ษาคมู่ อื ถอดประกอบ
13. ครูให้นักเรียนทบทวนเน้อื หาของบทที่ 2 และศึกษาบทท่ี 3 ลว่ งหน้า

สอ่ื การเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทท่ี 2 การศกึ ษาคมู่ อื ถอดประกอบ
2. ตัวอยา่ งค่มู ือประเภทต่าง ๆ
3. แบบทดสอบทา้ ยบทที่ 2

การวดั ผลและประเมนิ ผล

วิธวี ดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบปฏบิ ัตงิ าน
3. การสังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
เคร่อื งมอื วัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมนิ ใบปฏิบัตงิ าน

3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมนิ

เกณฑ์การประเมินผล

1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ า่ น 60% ขึน้ ไป
2. แบบประเมนิ ใบปฏบิ ตั ิงาน เกณฑ์ผ่าน 70% ขึ้นไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจริง

บันทึกหลังการสอน

ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนักเรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการสอนของครู
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………….
(…………………………………..)

ผสู้ อน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3

วิชา ซ่อมบารุงเครอ่ื งมอื กล รหสั วิชา 2102 - 2104 สัปดาห์ท่ี 3 - 4
หนว่ ยท่ี 3 ชือ่ หน่วย การตรวจสอบช้ินสว่ นเครือ่ งจักรกล

แนวคดิ

การตรวจสอบฐานของเครื่องจักรกล
ฐานรากจะต้องสามารถรองรับน้าหนักได้เป็นอย่างดี มีระดับที่สม่าเสมอ ไม่เอียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่เกิด
การสน่ั สะเทอื นเมือ่ เปิดเคร่อื งจกั รใชง้ าน
การตรวจสอบความเสียหายของฐานเครื่องจกั รกล
1. ตรวจสอบรอยแตกรา้ วของฐานเครือ่ งจกั รกล
2. ตรวจสอบพน้ื ระดับของฐานเครอ่ื งจักรกล
3. ตรวจสอบรอยรา้ วและชอ่ งว่างใตฐ้ านเครอื่ งจกั รกล
การตรวจสอบความเสยี หายของชิ้นส่วน แบง่ การตรวจสอบออกเปน็ 2 ลกั ษณะ คอื
1. การตรวจสอบระบบการทางานของเครอื่ งจักรกล
2. การตรวจสอบสภาพของเครอ่ื งจักรกล
การตรวจสอบศนู ยร์ ว่ มของเครอ่ื งจกั รกล มอี ยหู่ ลายวธิ ดี ้วยกนั ซ่งึ ประกอบไปดว้ ย
1. ใช้การสมั ผัสผวิ หน้าและผิวขา้ งของของช้ินสว่ น
2. ใชก้ ารสัมผัสดา้ นหน้า 2 จุด ด้านข้าง 1 จุด
3. ใชก้ ารสมั ผสั ด้านขา้ ง 1 จุด
4. ใช้การสมั ผัสด้วยคสู่ มั ผสั
การตรวจสอบสมดลุ ของชิ้นสว่ น มจี ุดมงุ่ หมายดงั ต่อไปนี้

1. บารุงรักษาใหแ้ บร่ิงมีอายกุ ารใช้งานท่ยี าวนาน
2. ปูองกันการสั่นสะเทอื นในขณะใช้งานเครือ่ งจักร
3. ปอู งกันการเกิดเสยี งดัง
4. เพอ่ื ให้เกดิ ความเค้นในระหว่างการทางานของเครื่องจักรกลนอ้ ยที่สดุ
5. ปอู งกันการสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ของเครือ่ งจักรกล
6. ชว่ ยเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการผลิต
เครื่องมอื ทีน่ ามาใช้ในการตรวจสอบความสมดุลจะประกอบไปด้วย
1. Universal balancing machines
2. Semi-automatic balancing machines
3. Full automatic balancing machines with automatic transfer of work

สาระการเรียนรู้

1. การตรวจสอบฐานของเครอ่ื งจกั รกล
2. การตรวจสอบความเสยี หายของฐานเคร่อื งจกั รกล
3. การตรวจสอบความเสยี หายของชิน้ ส่วน
4. การตรวจสอบศูนยร์ ่วมของเครอื่ งจกั รกล
5. การตรวจสอบสมดุลของช้นิ ส่วน

ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวัง

1. บอกประเภทของการตรวจสอบชน้ิ สว่ นเครือ่ งจักรกลได้
2. อธบิ ายวิธกี ารตรวจสอบฐานของเคร่ืองจกั รกลได้
3. ระบุวธิ ีการตรวจสอบความเสยี หายของฐานเครอ่ื งจักรกลได้
4. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั การตรวจสอบความสกึ หรอของชน้ิ ส่วนเครอ่ื งจักรได้
5. ระบวุ ิธีการตรวจสอบศูนย์ร่วมของเคร่อื งจักรกลได้
6. บอกจุดมุ่งหมายของการตรวจสอบความสมดุลของชนิ้ ส่วนเครอื่ งจกั รกลได้

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนเน้อื หาในหนว่ ยท่ี 2 รว่ มกับนกั เรยี น
2. ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันแสดงความคดิ เห็นเรอื่ ง การตรวจสอบชน้ิ ส่วนเคร่ืองจักรกล
3. ครูสรปุ เพ่อื นาเข้าสู่บทเรยี น

ขน้ั สอน
4. ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั บอกประเภทของการตรวจสอบชน้ิ สว่ นเครอื่ งจกั รกล จากนั้นครสู รุปอกี ครั้ง
5. ครูอธิบายวธิ กี ารตรวจสอบฐานของเครือ่ งจักรกล โดยใช้ส่ือ PowerPoint พร้อมภาพประกอบ
6. ครูและนกั เรยี นช่วยกันระบวุ ธิ กี ารตรวจสอบความเสยี หายของฐานเครือ่ งจักรกล
7. ครูอธบิ ายและสาธิตวธิ ีการตรวจสอบความเสียหายของชิ้นส่วน พร้อมตารางประกอบ แล้วให้นักเรียน
ซกั ถาม
8. ครูให้นักเรียนศึกษาการตรวจสอบศูนย์ร่วมของเครื่องจักรกล และการตรวจสอบสมดุลของชิ้นส่วน
จากน้ันครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ และสาธิตวิธกี ารตรวจสอบ
9. ครูให้นกั เรยี นฝึกปฏิบตั ิการตรวจสอบชนิ้ ส่วนเครอื่ งจกั รกล โดยครคู อยใหค้ าแนะนา

ขัน้ สรุปและการประยกุ ต์
10. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเนื้อหาในบทเรยี น และให้นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น โดยครู
ใชว้ ธิ ีการถาม – ตอบ
11. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบท้ายบท ตอนที่ 1 ตอนท่ี 2 และตอนท่ี 3
12. ครใู ห้นกั เรยี นปฏิบัติใบงานท่ี 3.1 การตรวจสอบความสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ใบงานที่ 3.2
การตรวจสอบศนู ยร์ ่วมของเครอื่ งจกั รกล และใบงานที่ 3.3 การตรวจสอบความสมดุลของช้นิ ส่วน
13. ครูใหน้ กั เรียนทบทวนเนอื้ หาของบทท่ี 3 และศกึ ษาบทท่ี 4 ล่วงหนา้

สือ่ การเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทที่ 3 การตรวจสอบชนิ้ สว่ นเคร่อื งจกั รกล
2. ภาพแสดงส่วนตา่ ง ๆ ของฐานราก
3. ตารางแสดงตาแหน่งการตรวจสอบชิ้นส่วนเครือ่ งจักรกล และการตรวจสอบสภาพเครอื่ งจกั รกล
4. ชุดปูอมมีด
5. ชุดแครเ่ ลือ่ น
6. ชุดยันศนู ยท์ ้ายแท่น
7. ผิวขา้ งเพลาหัวเคร่ือง
8. ผิวหนา้ แปลน
9. ผิวเรียบในรองเพลาหัวเคร่อื ง
10. นาฬกิ าขัด

11. ผวิ หนา้ และผวิ ขา้ งของช้ินส่วน
12. เพลางาน
13. เพลาส่งกาลัง
14. แบบทดสอบท้ายบทท่ี 3

การวดั ผลและประเมินผล

วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบปฏิบัติงาน
3. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

เครื่องมือวัดผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินใบปฏิบัตงิ าน
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมิน

เกณฑ์การประเมินผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ ่าน 60% ขึน้ ไป
2. แบบประเมนิ ใบปฏิบตั ิงาน เกณฑ์ผ่าน 70% ขน้ึ ไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจริง

บนั ทึกหลงั การสอน

ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนักเรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการสอนของครู

…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………….
(…………………………………..)

ผู้สอน

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 4

วิชา ซอ่ มบารุงเคร่อื งมอื กล รหสั วิชา 2102 - 2104 สปั ดาห์ที่ 5 - 6
หนว่ ยท่ี 4 ชอ่ื หน่วย การบารงุ รกั ษาเครื่องมอื กลเบื้องต้น

แนวคดิ

เครื่องเจาะ
ชนดิ ของเครอ่ื งเจาะ เครื่องเจาะที่ใชง้ านในการเจาะ จะมีอยู่ดว้ ยกนั 3 ชนดิ ไดแ้ ก่
1. เครื่องเจาะแบบตงั้ โตะ๊ (Bench-Model Sensitive Drilling)
2. เครื่องเจาะแบบตงั้ พนื้ (Floor Type)
3. เคร่ืองเจาะแบบเรเดียล (Redial Drilling Machine)
การบารุงรักษาเครอ่ื งเจาะ
1. ผ้ใู ช้งานเครอื่ งเจาะจะตอ้ งศกึ ษาการใชง้ านในลักษณะต่าง ๆ ของเครอ่ื งเจาะให้เขา้ ใจกอ่ นใช้งาน
2. ศึกษาคู่มือท่ที างบรษิ ทั ผู้ผลิตให้มากับเครอื่ งเจาะ
3. ตรวจเชค็ สภาพชนิ้ สว่ นของเครอ่ื งเจาะก่อนใช้งาน
4. ทาการหล่อล่นื ช้นิ สว่ นที่มกี ารเคลื่อนท่กี ่อนการใชง้ านเคร่อื งเจาะทกุ ครง้ั
5. จะตอ้ งทาความสะอาดคราบสกปรกต่าง ๆ จากการใช้งานเครื่องเจาะภายหลังการใชง้ านทกุ คร้ัง
ขอ้ ควรระวงั ในการใชเ้ ครือ่ งเจาะ
1. ผ้ใู ชง้ านเครื่องเจาะจะตอ้ งมีสภาพรา่ งกายท่ีพรอ้ มจะปฏบิ ัตงิ าน

2. แต่งกายใหร้ ดั กุม
3. ตรวจสอบชน้ิ สว่ นต่าง ๆ ของเครอื่ งเจาะใหอ้ ยูใ่ นสภาพพร้อมใชง้ านเสมอ
4. เลือกใชค้ วามเรว็ รอบของดอกสว่านใหต้ รงกับชนิดของวสั ดุงานและชนดิ ของดอกสว่าน
5. เลอื กใชด้ อกสว่านใหเ้ หมาะสมกับชนิดของงาน
6. ชนิ้ งานท่นี ามาเจาะบนเคร่อื งเจาะจะต้องทาการจับชน้ิ งานบนแทน่ จับงานหรือปากกาจับชิ้นงาน อย่าง
มนั่ คง
7. ในระหวา่ งการเจาะชิ้นงาน ผู้ปฏิบตั งิ านจะต้องสวมแว่นตาเพ่ือปูองกันเศษโลหะกระเด็นเข้าตา ทุกครั้ง
ท่ีใช้งานเครอื่ งเจาะ
8. อยา่ นาเอาวสั ดหุ รือเครื่องมือต่าง ๆ เข้าไปเกี่ยวหรือสัมผัสกับดอกสว่านหรือชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ใน
ระหวา่ งการใชง้ านเคร่ืองเจาะอยา่ งเดด็ ขาด เพราะอาจทาใหเ้ กิดอันตรายได้
9. พน้ื ทที่ ท่ี าการปฏิบัติงานจะต้องมีแสงสวา่ งอย่างเพยี งพอ
10.ในระหวา่ งการเจาะ จะตอ้ งทาการระบายความร้อนในการตัดเฉือนชิ้นงานของดอกสว่านด้วย น้ามัน
หล่อเยน็ ทุกครัง้
เครื่องเจียระไนลบั คมตดั (Grinding)
ชนิดของเครื่องเจียระไนลับคมตัด เครื่องเจียระไนลับมือที่นามาใช้ในงานทางช่าง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
ได้แก่
1. เคร่ืองเจียระไนลบั คมตดั แบบตง้ั โตะ๊
2. เคร่อื งเจียระไนลบั คมตัดแบบต้งั พน้ื
การบารุงรกั ษาเครอื่ งเจยี ระไนลบั คมตดั
1. ตรวจสภาพหนิ เจียระไนลับคมตดั ก่อนการลงมอื ปฏบิ ตั งิ านทกุ ครั้ง
2. จะต้องทาการแต่งผิวหน้าของล้อหินเจียระไนลับคมตัดให้อยู่ในสภาพที่เรียบ ไม่เอียง หรือเป็นรอย
ขรขุ ระ โดยให้ลอ้ หินเจยี ระไนลับคมตัดท้งั 2 ด้านอยใู่ นสภาพทีส่ มดลุ กัน
3. การยดึ หนิ เจยี ระไนลบั คมตัดเข้ากบั แทน่ วาง หรอื พ้นื โรงงาน จะตอ้ งทาการยึดอยา่ งมั่นคงไม่ให้ เคลื่อน
ตัวได้ และตาแหน่งการวางจะต้องได้ระดบั ท่สี มดลุ
4. หลงั การใช้งานเคร่ืองเจยี ระไนลบั คมตัดทกุ คร้ัง จะตอ้ งทาความสะอาดคราบสิ่งสกปรก เศษโลหะ หรือ
ฝุนละอองจากการใช้งาน
ขอ้ ควรระวังในการใชง้ านเคร่อื งเจียระไนลบั คมตัด
1. ผใู้ ช้งานเครือ่ งเจียระไนลบั คมตัดจะตอ้ งมสี ภาพร่างกายที่พร้อมปฏบิ ัตงิ าน ไมอ่ ยูใ่ นอาการมึนเมา ซึมเศร้า
หรอื งว่ งนอน เป็นตน้
2. ก่อนลงมือปฏบิ ัติงาน ควรแต่งกายให้รัดกุม เสือ้ ผา้ ต้องไม่รมุ่ ร่าม

3. ตรวจสอบช้นิ สว่ นต่าง ๆ ของเคร่ืองเจียระไนลับคมตดั ใหอ้ ยใู่ นสภาพพรอ้ มใชง้ านเสมอ
4. ชนิ้ งานที่นามาเจียระไนบนเคร่ืองเจยี ระไนลับคมตัดจะตอ้ งทาการจบั ช้ินงานอยา่ งมั่นคง
5. ในระหวา่ งเจยี ระไนช้นิ งาน ผูป้ ฏบิ ัติงานจะตอ้ งสวมแวน่ ตาเพื่อปอู งกนั เศษโลหะกระเด็นเข้าตา ทุกครั้ง
ทใ่ี ช้งานเครอื่ งเจียระไนลบั คมตัด
6. อย่านาเอาวัสดหุ รือเครือ่ งมอื ต่าง ๆ เขา้ ไปเกี่ยวหรือสัมผัสกับลอ้ หินเจียระไน
7. พ้ืนทท่ี ท่ี าการปฏิบตั งิ านจะต้องมแี สงสวา่ งอย่างเพยี งพอ
8. ในระหวา่ งเจยี ระไนชิ้นงาน จะตอ้ งทาการระบายความร้อนในการตัดเฉือนชิ้นงานของล้อหินเจียระไน
ด้วยน้ามันหล่อเย็นทกุ ครง้ั

สาระการเรียนรู้

1. เครือ่ งเจาะ
2. เครื่องเจยี ระไนลับคมตดั (Grinding)

ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั

1. ระบุสว่ นต่าง ๆ ของเครื่องเจาะได้
2. จาแนกชนิดของเครอื่ งเจาะได้
3. บอกวิธบี ารงุ รกั ษาและขอ้ ควรระวงั ในการใช้เครื่องเจาะได้
4. อธบิ ายสว่ นประกอบและประเภทของเครื่องเจยี ระไนลบั คมตดั ได้
5. สรปุ การบารุงรกั ษาและข้อควรระวังในการใช้งานเครอ่ื งเจียระไนได้

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนเนือ้ หาในหนว่ ยท่ี 3 รว่ มกบั นกั เรยี น
2. ครูและนกั เรยี นอภิปรายรว่ มกันในเร่อื ง การบารงุ รกั ษาเคร่อื งมอื กลเบอ้ื งต้น จากนั้นครูสรุปเพื่อนาเข้า
สบู่ ทเรยี น
ขัน้ สอน
3. ครูอธิบายเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของเครื่องเจาะ โดยใช้สื่อ PowerPoint พร้อมทั้งให้นักเรียนศึกษา
ตัวเครอื่ งเจาะไปด้วย
4. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั จาแนกชนดิ ของเครอ่ื งเจาะ แล้วครูสรุปอกี ครง้ั

5. ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายรว่ มกนั เพอื่ ใหไ้ ด้ข้อสรุปเก่ยี วกับวิธีบารุงรักษาและข้อควรระวงั ในการใช้เครื่อง
เจาะ

6. ครูอธบิ ายส่วนประกอบและประเภทของเคร่อื งเจียระไนลบั คมตัด พรอ้ มท้ังนาเครอ่ื งเจยี ระไนลับคมตัด
มาให้นกั เรียนศึกษา

7. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกนั เกี่ยวกบั การบารงุ รกั ษาและขอ้ ควรระวังในการใชง้ านเครื่องเจียระไน
8. ครูให้นกั เรยี นฝึกการใช้เครื่องเจาะและเครื่องเจยี ระไนลับคมตัด โดยครคู อยใหค้ าแนะนาและช่วยเหลือ
ขัน้ สรปุ และการประยุกต์
9. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เนอ้ื หาในบทเรยี น และใหน้ กั เรยี นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยครู
ใช้วธิ กี ารถาม – ตอบ
10. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบท้ายบท ตอนท่ี 1 และตอนท่ี 2
11. ครูให้นักเรยี นปฏบิ ตั ิใบงานท่ี 4.1 เคร่ืองเจาะ และใบงานท่ี 4.2 เครอื่ งเจียระไนลบั คมตัด
12. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนเนื้อหาของบทท่ี 4 และศึกษาบทที่ 5 ลว่ งหน้า

สื่อการเรียนการสอน

1. PowerPoint บทที่ 4 การบารงุ รกั ษาเคร่อื งมือกลเบือ้ งต้น
2. เคร่ืองเจาะแบบตา่ ง ๆ
3. เครื่องเจียระไนลบั คมตดั แบบตา่ ง ๆ
4. แบบทดสอบท้ายบทที่ 4

การวัดผลและประเมนิ ผล

วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบปฏิบัติงาน
3. การสังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
เครอื่ งมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินใบปฏิบัตงิ าน
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมิน

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑผ์ า่ น 60% ขึ้นไป
2. แบบประเมินใบปฏิบัติงาน เกณฑ์ผ่าน 70% ขนึ้ ไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจริง

บนั ทกึ หลงั การสอน

ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนกั เรียน
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการสอนของครู

…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ……………………………….
(…………………………………..)

ผสู้ อน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5

วิชา ซอ่ มบารุงเครอ่ื งมอื กล รหัสวชิ า 2102 - 2104 สปั ดาห์ที่ 7 - 8
หนว่ ยท่ี 5 ชอื่ หนว่ ย การปรับตัง้ ช้นิ สว่ นเครอ่ื งจกั รกล

แนวคดิ

การปรบั ตง้ั สายพานสง่ กาลัง
การคานวณหาระยะหยอ่ นของสายพาน
ระยะหย่อนสายพาน Ea = a.E / 100
a = ระยะห่างระหว่างศนู ย์กลางพลุ เล่ (มม.)
E = ระยะดัดต่อ 100 มม. ของระยะหา่ งศูนยข์ ับ (มม.)
Ea = ระยะหยอ่ นสายพาน (มม.)
การปรับตั้งโซส่ ง่ กาลงั
ระยะหย่อนของโซ่
ระยะหย่อน (SS) = 4% ของระยะดา้ นตงึ (Span) สาหรบั สภาพการขับปกติ
ระยะหยอ่ น (SS) = 2% ของระยะด้านตึงในกรณี

- ขับในแนวดงิ่ หรอื ใกลเ้ คยี ง
- ระยะห่างของเพลามากกวา่ 1 เมตร
- กรณีโซ่รบั ภาระงานหนกั และมกี ารใชง้ านความถสี่ งู

- มีการเปลีย่ นทศิ ทางการขับอย่บู ่อย ๆ ครั้ง

การวัดโซ่ยดื

การวดั โซย่ ืดใหด้ งึ โซ่ออก จากนั้นจะใช้เวอร์เนียร์วัดค่าความยาว L1 และ L2 แล้วนามาหาค่า ความยาว

เฉลี่ย L1 + L2
2
L =

สาระการเรียนรู้

1. การปรบั ตงั้ สายพานสง่ กาลงั
2. การปรบั ตง้ั โซส่ ง่ กาลัง

ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง

1. คานวณหาระยะหย่อนของสายพานได้
2. ปรบั ต้งั โซ่ส่งกาลงั ได้
3. อธบิ ายการวัดโซ่ยึดดว้ ยเวอร์เนียรค์ ารล์ ิปเปอรไ์ ด้

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ข้ันนาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนเนือ้ หาในหน่วยที่ 4 รว่ มกับนกั เรยี น
2. ครูตง้ั คาถามให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบเกยี่ วกบั เร่ือง การปรบั ตัง้ ช้นิ สว่ นเครื่องจักรกล
3. ครสู รปุ เพื่อนาเข้าสบู่ ทเรยี น
ขั้นสอน
4. ครูอธิบายการปรับตั้งสายพานส่งกาลัง และแสดงวิธีการคานวณหาระยะหย่อนของสายพาน โดยใช้สื่อ
PowerPoint พรอ้ มตารางและภาพประกอบ แล้วให้นักเรียนซักถาม
5. ครูให้นักเรียนฝกึ คานวณหาระยะหย่อนของสายพานตามโจทยท์ คี่ รกู าหนดให้
6. ครูอธิบายการปรับตั้งโซ่ส่งกาลังและการวัดโซ่ยึดด้วยเวอร์เนียร์คาร์ลิปเปอร์ โดยใช้ภาพประกอบการ
อธบิ าย แลว้ ต้ังคาถามให้นักเรียนชว่ ยกนั ตอบ
7. ครแู สดงวิธกี ารวัดค่าโซ่ยดึ และการวัดปรบั หาแนวศูนยข์ องเพลาและลอ้ โซ่ แล้วให้นกั เรียนซักถาม จากนั้น
ใหน้ ักเรียนฝกึ ปฏิบัติ โดยครคู อยให้คาแนะนา
ขัน้ สรุปและการประยกุ ต์
8. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ เน้อื หาในบทเรียน และให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยครู
ใชว้ ธิ ีการถาม – ตอบ

9. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบท้ายบท ตอนที่ 1 และตอนท่ี 2
10. ครูให้นักเรียนปฏิบัติใบงานที่ 5.1 การปรับตั้งสายพานส่งกาลัง และใบงานที่ 5.2 การปรับตั้งโซ่ส่ง
กาลงั
11. ครูให้นกั เรียนทบทวนเนื้อหาของบทท่ี 5 และศกึ ษาบทที่ 6 ล่วงหนา้

สือ่ การเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทที่ 5 การปรับตงั้ ช้ินส่วนเครื่องจกั รกล
2. ภาพแสดงการสง่ กาลังผ่านสายพาน
3. ภาพแสดงระยะต่าง ๆ ของสายพาน
4. ตารางแสดงความสัมพันธ์ของสายพาน
5. ภาพแสดงการส่งกาลังดว้ ยโซ่
6. ภาพแสดงแนวศนู ยข์ องลอ้ เฟอื งในแนวนอน
7. ภาพแสดงระยะหยอ่ นของโซ่
8. ภาพแสดงการวดั คา่ โซ่ยดื
9. ภาพแสดงการวดั ปรบั หาแนวศนู ยข์ องเพลาและล้อโซ่
10. สายพานสง่ กาลงั
11. เกจวัดความตงึ
12. โซ่ส่งกาลงั
13. เวอรเ์ นียร
14. แบบทดสอบท้ายบทท่ี 5

การวัดผลและประเมินผล

วิธีวัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบปฏบิ ัติงาน
3. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินใบปฏบิ ัตงิ าน

3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมิน

เกณฑ์การประเมนิ ผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑ์ผ่าน 60% ขน้ึ ไป
2. แบบประเมนิ ใบปฏิบตั งิ าน เกณฑ์ผา่ น 70% ขึ้นไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทึกหลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรยี นของนักเรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………
ผลการสอนของครู

…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………….
(…………………………………..)

ผู้สอน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6

วิชา ซอ่ มบารงุ เครื่องมือกล รหัสวชิ า 2102 - 2104 สปั ดาห์ที่ 9 - 10
หน่วยท่ี 6 ชือ่ หน่วย การหล่อลื่นช้ินส่วนเคร่ืองจกั รกล

แนวคิด

วตั ถุประสงค์ของการหลอ่ ล่ืนภายในเครื่องจกั รกล
1. เพือ่ เปน็ การลดการสูญเสยี กาลงั งานของเคร่ืองจักร
2. เพอ่ื ปอู งกันการสกึ หรอของชิ้นส่วนตา่ ง ๆ ของเครอื่ งจกั ร
3. เปน็ การชว่ ยลดความร้อนจากชิ้นสว่ นตา่ ง ๆ ของเคร่ืองจักรกล
4. นา้ มนั หลอ่ ล่ืนจะชว่ ยในการอุดรอยร่วั
5. นา้ มันหล่อลืน่ จะเปน็ ฟิลม์ บาง ๆ เคลือบในช่องว่างตา่ ง ๆ
6. เพือ่ ช่วยในการชาระลา้ งส่งิ สกปรก
ประเภทของการหลอ่ ล่ืน
1. การใชน้ า้ มนั หลอ่ ล่นื แบ่งออกเป็น 3 ระบบ ประกอบด้วย

1.1 ระบบหลอ่ ลืน่ แบบแรงดัน

1.2 ระบบหล่อลื่นแบบวิดสาด
1.3 ระบบหล่อลืน่ แบบใชแ้ รงดนั และการสาด
2. ระบบใช้โซ่และแหวนในการหล่อล่นื
3. ระบบหลอ่ ลน่ื ดว้ ยเส้นเชือก
4. ระบบหล่อลน่ื แบบหยดน้ามนั
5. การหลอ่ ลน่ื ดว้ ยไอนา้ มันหล่อลน่ื
6. การหลอ่ ลื่นดว้ ยจาระบี
คณุ ลกั ษณะของน้ามันหล่อลนื่
1. ความหนืด (Viscosity) คือ ค่าความต้านทานการไหลของน้ามันหล่อลื่น น้ามันหล่อลื่นที่นามาใช้ ใน
เครื่องยนตจ์ ะตอ้ งมคี า่ ความหนดื ที่เหมาะสมกบั เครือ่ งยนต์แต่ละประเภทตามทีผ่ ู้ผลิตเคร่ืองยนต์กาหนด มาให้ใช้
2. ดัชนีความหนืด (Viscosity Index) คือ การวัดอัตราการเปลี่ยนแปลงความหนืดต่อการเปลี่ยนแปลง
อณุ หภมู ิ
3. ค่าความหนืดของน้ามันหล่อลื่นจะถูกกาหนดด้วยอักษรและค่าตัวเลข โดยขึ้นต้นด้วยอักษร SAE
ตามหลงั ตัวอกั ษร SAE จะกาหนดค่าเปน็ ตวั เลข ซงึ่ จะเปน็ การกาหนดคา่ ความหนืดของน้ามนั หลอ่ ลนื่

อุปกรณ์ในระบบหล่อล่ืน ประกอบไปดว้ ย
1. ป๊มั น้ามันหล่อลนื่
2. อ่างนา้ มันเครอื่ ง
3. หมอ้ กรองน้ามันเครอื่ ง
4. เครอื่ งควบคุมความดนั น้ามนั หลอ่ ล่ืน

สาระการเรยี นรู้

1. วัตถุประสงค์ของการหล่อลน่ื ภายในเคร่ืองจกั รกล
2. ประเภทของการหลอ่ ลืน่
3. คณุ ลกั ษณะของน้ามันหล่อล่ืน
4. อปุ กรณใ์ นระบบหลอ่ ลน่ื

ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง

1. บอกวัตถปุ ระสงค์ของการหล่อลน่ื ได้
2. จาแนกประเภทของการหล่อล่นื ได้

3. ระบุคุณลกั ษณะของนา้ มันหลอ่ ลืน่ ได้
4. อธิบายเกีย่ วกบั ประเภทของน้ามันหลอ่ ลื่นตามมาตรฐานของสถาบนั ปิโตรเลียมของอเมริกาได้

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนเนื้อหาในหนว่ ยท่ี 5 ร่วมกับนกั เรียน
2. ครตู งั้ คาถามให้นักเรยี นช่วยกันตอบเก่ยี วกบั เร่อื ง การหล่อล่ืนชนิ้ สว่ นเคร่ืองจักรกล
3. ครสู รุปเพือ่ นาเข้าสู่บทเรียน
ข้ันสอน
4. ครูและนกั เรียนช่วยกันสรุปวัตถุประสงค์ของการหลอ่ ล่นื
5. ครูให้นกั เรยี นช่วยกันจาแนกประเภทของการหล่อลื่น จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติม พร้อมภาพประกอบ โดย
ใชส้ ่ือ PowerPoint
6. ครอู ธบิ ายคณุ ลกั ษณะของนา้ มันหล่อล่ืน พรอ้ มภาพประกอบ แลว้ ต้งั คาถามใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
7. ครูอธบิ ายและนาตัวอยา่ งอุปกรณ์ในระบบหลอ่ ลน่ื ประเภทตา่ ง ๆ มาให้นกั เรียนศึกษา
8. ครูใหน้ กั เรียนฝึกการใช้อุปกรณ์ในระบบหล่อลื่นประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความชานาญในการใช้งาน
โดยครูคอยให้คาแนะนา
ขั้นสรุปและการประยกุ ต์
9. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เน้ือหาในบทเรียน และให้นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยครู
ใชว้ ิธีการถาม – ตอบ
10. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบท้ายบท ตอนท่ี 1 ตอนที่ 2 และตอนที่ 3
11. ครูให้นักเรียนปฏิบัติใบงานที่ 6.1 ระบบหล่อลื่นแบบแรงดัน ใบงานที่ 6.2 ระบบหล่อลื่นแบบวิดสาด ใบ
งานที่ 6.3 ระบบหล่อลื่นแบบใช้แรงดันและการสาด ใบงานที่ 6.4 ระบบใช้โซ่และแหวนในการหล่อลื่น ใบงานที่ 6.5
ระบบหล่อลื่นด้วยเส้นเชือก ใบงานที่ 6.6 ระบบหล่อลื่นแบบหยดน้ามัน ใบงานที่ 6.7 ระบบหล่อลื่นด้วยไอ
น้ามันหลอ่ ลื่น และใบงานท่ี 6.8 ระบบหล่อล่ืนด้วยจาระบี
12. ครูให้นักเรียนทบทวนเนื้อหาของบทท่ี 6 และศกึ ษาบทที่ 7 ล่วงหน้า

ส่อื การเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทท่ี 6 การหล่อล่นื ชิ้นส่วนเครอื่ งจกั รกล
2. ภาพแสดงป๊ัมน้ามนั หล่อล่นื
3. ภาพแสดงลกั ษณะของการหล่อลืน่ ในระบบวิดสาด

4. ภาพแสดงระบบการหลอ่ ลืน่ แบบใชโ้ ซ่และแหวน
5. ภาพแสดงการหลอ่ ล่ืนด้วยเสน้ เชอื ก
6. ภาพแสดงระบบหลอ่ ล่ืนแบบหยดนา้ มัน
7. ภาพแสดงระบบหลอ่ ลืน่ ดว้ ยไอนา้ มนั
8. ภาพแสดงระบบหลอ่ ลนื่ แบบใชจ้ าระบี
9. ภาพแสดงค่าตา่ ง ๆ ของสัญลกั ษณ์ที่บง่ บอกถึงคุณลักษณะของนา้ มันหล่อล่ืน
10. อุปกรณใ์ นระบบหลอ่ ล่ืนประเภทต่าง ๆ
11. แบบทดสอบท้ายบทที่ 6

การวัดผลและประเมนิ ผล

วธิ ีวดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบปฏิบตั ิงาน
3. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

เครื่องมือวดั ผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมนิ ใบปฏบิ ตั ิงาน
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมนิ

เกณฑ์การประเมนิ ผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑ์ผ่าน 60% ข้ึนไป
2. แบบประเมนิ ใบปฏบิ ตั งิ าน เกณฑผ์ ่าน 70% ขน้ึ ไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจรงิ

บนั ทึกหลังการสอน

ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนักเรียน
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการสอนของครู
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………….
(…………………………………..)

ผสู้ อน

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 7

วชิ า ซอ่ มบารุงเครื่องมือกล รหัสวชิ า 2102 - 2104 สัปดาหท์ ี่ 11 - 12
หน่วยที่ 7 ชอ่ื หนว่ ย การจดั เตรยี มอะไหลซ่ อ่ มบารงุ

แนวคิด

ปญั หาของการมอี ะไหลซ่ อ่ มบารุง
1. ประเภทของอะไหล่มีความหลากหลายมาก ทาใหเ้ กดิ ความยุง่ ยากในการจดั หาและการเกบ็ สารอง
2. เมอื่ ผผู้ ลติ ชิน้ ส่วนทาการเปลีย่ นรนุ่ การผลติ ทาให้เกิดความยงุ่ ยากตอ่ การจดั หาอะไหล่
3. การสง่ั ซื้ออะไหล่ปรมิ าณน้อย แค่ระดับทเ่ี พียงพอตอ่ ความต้องการ ทาให้เกดิ ความไม่คุ้มค่าในการส่ังซือ้
4. ระยะเวลาการจัดหาและจัดซ้ืออะไหล่ มคี วามผันแปรไม่แน่นอนและขึ้นกับความพร้อมของ ผู้ผลิตหรือ
ผู้ขาย โดยเฉพาะอะไหล่ท่ีตอ้ งนาเข้าจากตา่ งประเทศอาจใช้เวลาหลายเดือนในการจัดซ้อื
5. เกดิ ปัญหาในการตดั สนิ ใจเพ่ือกาหนดระดบั ของอะไหลท่ ่ีต้องสารอง
ความจาเปน็ ท่ตี ้องมีการบรหิ ารอะไหลซ่ อ่ มบารงุ

1. เพอื่ หาปริมาณอะไหลซ่ ่อมบารงุ ที่เหมาะสมทีส่ ุดโดยใหเ้ กิดค่าใช้จา่ ยน้อยท่ีสุด
2. เพื่อลดเวลาสูญเสียจากการรอคอยอะไหล่เมื่อมีความต้องการใช้ และให้สามารถใช้งานเครื่องมือกลได้
อยา่ งตอ่ เนอื่ ง
3. เพอ่ื ทาให้เกดิ ความสมดลุ ระหวา่ งความต้องการใชอ้ ะไหลก่ บั การจัดหาอะไหล่
ค่าใช้จา่ ยในระบบบรหิ ารอะไหล่ซอ่ มบารุง
1. ค่าใชจ้ ่ายในการสั่งซอ้ื (Ordering Cost)
2. ค่าใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รกั ษา (Carrying Cost)
3. ค่าใช้จา่ ยเม่อื อะไหลข่ าดมือ (Shortage Cost)
ตวั แปรที่เก่ยี วขอ้ งกับระบบบริหารอะไหล่ซอ่ มบารุง ประกอบดว้ ย 3 ตัวแปร คอื
1. ความตอ้ งการ (Demand) ความต้องการใชช้ ้ินส่วนอะไหล่แบง่ เปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี

1.1 ความต้องการแบบแปรตาม (Dependent Demand)
1.2 ความตอ้ งการแบบอิสระ (Independent Demand)
2. ชว่ งเวลานา (Lead Time) เปน็ ระยะเวลาที่นบั จากเร่มิ ออกใบสัง่ ซือ้ จนกระทั่งได้รับของตามทส่ี ่งั
3. จุดส่งั ซ้อื ใหม่ (Reorder Points) เปน็ จุดที่บอกให้ผู้รับผิดชอบในการสั่งซื้อทราบถึงเวลาที่จะต้องออก
คาสั่งซ้ืออะไหลเ่ พิม่ เติม

การแบ่งกล่มุ อะไหล่ซอ่ มบารุง โดยท่วั ไปสามารถแบ่งกล่มุ อะไหลซ่ ่อมบารงุ ไดด้ ังนี้
1. อะไหล่ประเภท A มีปริมาณประมาณ 5 - 10 % ของรายการอะไหล่ซ่อมบารุงทั้งหมด และมีมูลค่า
สูงสดุ ประมาณ 75 - 80 % ของมลู ค่าอะไหลซ่ อ่ มบารงุ ทั้งหมด
2. อะไหล่ประเภท B มีปริมาณประมาณ 20 - 30 % ของรายการอะไหล่ซ่อมบารุงทั้งหมด และมีมูลค่า
ประมาณ 15 % ของมลู ค่าอะไหล่ซ่อมบารุงทง้ั หมด
3. อะไหล่ประเภท C คือ ปริมาณอะไหล่ซ่อมบารุงส่วนใหญ่ที่เหลือประมาณ 40 - 50 % ของ รายการ
อะไหลซ่ อ่ มบารุงท้งั หมด และมีมลู ค่าสูงสุดประมาณเพยี ง 5 - 10 % ของมลู ค่าอะไหล่ซอ่ มบารุงทง้ั หมด
ประเภทของการแบง่ กลมุ่ อะไหล่
1. การแบ่งกลุ่มโดยใชห้ ลักเกณฑ์เดียว (Single-criteria Classification)
2. การแบง่ กลมุ่ โดยใช้หลายหลักเกณฑ์ (Multiple-criteria Classification)
ตวั แปรสาหรับการแบง่ กลุ่มอะไหล่ ประกอบด้วยตัวแปรหลักดังต่อไปน้ี
1. อัตราการใช้ (Usage Rate) เป็นอัตราการเบกิ ใชอ้ ะไหลซ่ อ่ มบารงุ ตอ่ ปใี นอดีตทีผ่ า่ นมา
2. ชว่ งเวลานา (Lead Time) เป็นระยะเวลาท่นี บั จากเรมิ่ ออกใบสั่งซ้ือจนกระทั่งได้รับของตามท่สี งั่
นโยบายการควบคุมอะไหลซ่ อ่ มบารุง

1. การควบคุมอะไหล่ซ่อมบารุงประเภท A อะไหล่ประเภทนี้ต้องมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดและเข้มงวด
การส่งั และการใช้อะไหล่จะต้องมีการบันทึกรายการให้เป็นไปอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด มีการตรวจสอบอยู่
เสมอ

2. การควบคุมอะไหลซ่ อ่ มบารุงประเภท B อะไหล่ซอ่ มบารงุ ประเภทนผี้ บู้ ริหารตอ้ งเป็นผู้พิจารณากาหนด
ชว่ งเวลาในการควบคุมและตรวจสอบ

3. การควบคุมอะไหล่ซ่อมบารุงประเภท C อะไหลซ่ อ่ มบารุงประเภทนี้เปน็ อะไหล่ทีม่ มี ูลค่าต่าแต่มีจานวน
มาก การควบคุมไม่จาเป็นต้องเข้มงวดมากนัก ใช้วิธีง่าย ๆ แต่ก็ควรให้มีการตรวจสอบที่เป็นงานประจาอย่าง
เพียงพอ

Economic Order Quantity Model
EOQ เปน็ รปู แบบการส่ังสินค้าในอุดมคติ ซ่งึ ใช้เป็นพื้นฐานในการคานวณต้นทุนรวมต่าสุดจะเกิดขึ้นจาก
ตน้ ทนุ ส่ังสินค้าและตน้ ทนุ การจดั เก็บที่เหมาะสม

สาระการเรยี นรู้

1. ความสาคญั ของการจัดเตรยี มอะไหลซ่ อ่ มบารงุ
2. ปญั หาของการมอี ะไหล่ซ่อมบารุง
3. ความจาเปน็ ทต่ี ้องมีการบรหิ ารอะไหลซ่ อ่ มบารงุ
4. ค่าใช้จา่ ยในระบบบริหารอะไหลซ่ ่อมบารงุ
5. ตัวแปรที่เกย่ี วขอ้ งกับระบบบริหารอะไหล่ซ่อมบารงุ
6. การแบ่งกล่มุ อะไหล่ซ่อมบารงุ
7. ประเภทของการแบ่งกลุ่มอะไหล่
8. ตัวแปรสาหรับการแบ่งกลมุ่ อะไหล่
9. นโยบายการควบคมุ อะไหลซ่ ่อมบารุง
10. Economic Order Quantity Model

ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง

1. บอกความสาคญั และความจาเปน็ ของการจดั เตรยี มอะไหลซ่ ่อมบารุงได้
2. สรปุ ปัญหาของการมีอะไหลซ่ อ่ มบารงุ ได้
3. บอกค่าใชจ้ า่ ยและตัวแปรในระบบบริหารอะไหล่ซอ่ มบารงุ ได้
4. บอกตวั แปรท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ระบบบริหารอะไหลซ่ อ่ มได้
5. แบ่งกลมุ่ และประเภทของอะไหล่ซ่อมบารุงได้

6. กาหนดนโยบายการควบคมุ อะไหล่ซ่อมบารงุ ได้
7. คานวณปรมิ าณการส่ังซอื้ ที่ประหยัดได้

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครทู บทวนเน้อื หาในหนว่ ยที่ 6 ร่วมกบั นักเรียน
2. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันในเรื่อง การจัดเตรียมอะไหล่ซ่อมบารุง จากนั้นครูสรุปเพื่อนาเข้าสู่
บทเรยี น
ขัน้ สอน
3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความสาคญั และความจาเปน็ ของการจดั เตรียมอะไหลซ่ อ่ มบารุง
4. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันสรุปปัญหาของการมอี ะไหล่ซ่อมบารงุ
5. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง ค่าใช้จ่ายและตัวแปรในระบบบริหารอะไหล่ซ่อมบารุง จากนั้นครูอธิบาย
เพ่มิ เตมิ โดยใชส้ อ่ื PowerPoint แล้วต้งั คาถามใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบ
6. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกตวั แปรท่ีเกยี่ วข้องกับระบบบริหารอะไหล่ซ่อม จากนั้นครสู รุปอกี ครัง้
7. ครอู ธบิ ายการแบง่ กลมุ่ และประเภทของอะไหลซ่ ่อมบารงุ พรอ้ มภาพประกอบ แล้วให้นักเรียนซักถาม
8. ครูให้นักเรียนชว่ ยกนั แบง่ กลมุ่ และประเภทของอะไหล่ซ่อมบารงุ แล้วครูสรปุ อกี ครั้ง
9. ครแู ละนักเรียนอภปิ รายรว่ มกันเพือ่ หาข้อสรุปในเรือ่ ง การกาหนดนโยบายการควบคุมอะไหลซ่ อ่ มบารงุ
10. ครอู ธบิ ายและแสดงวิธกี ารคานวณปรมิ าณการสง่ั ซื้อทป่ี ระหยดั พรอ้ มภาพประกอบ แล้วใหน้ กั เรียนซักถาม
จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นฝึกคานวณตามโจทยท์ ีค่ รูกาหนดให้
ข้ันสรปุ และการประยุกต์
11. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ เนอื้ หาในบทเรยี น และให้นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ โดยครู
ใช้วิธีการถาม – ตอบ
12. ครใู ห้นกั เรยี นทาแบบทดสอบท้ายบท
13. ครูใหน้ กั เรียนปฏิบัติใบงานที่ 7.1 แบ่งกล่มุ และควบคมุ
14. ครใู ห้นักเรียนทบทวนเน้อื หาของบทท่ี 7 และศึกษาบทที่ 8 ล่วงหนา้

สื่อการเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทที่ 7 การจดั เตรยี มอะไหลซ่ ่อมบารุง
2. ภาพแสดงการแบง่ กลมุ่ อะไหล่ซอ่ มบารุงโดยใช้การวเิ คราะห์ ABC
3. ภาพแสดง EOQ อุดมคติ

4. แบบทดสอบท้ายบทที่ 7

การวัดผลและประเมินผล

วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบปฏบิ ตั ิงาน
3. การสงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
เคร่อื งมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมนิ ใบปฏิบัตงิ าน
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมิน

เกณฑก์ ารประเมินผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑ์ผ่าน 60% ขน้ึ ไป
2. แบบประเมนิ ใบปฏบิ ัติงาน เกณฑผ์ ่าน 70% ขึ้นไป
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บันทึกหลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนักเรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการสอนของครู
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………….
(…………………………………..)

ผู้สอน

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8

วชิ า ซ่อมบารุงเครอื่ งมอื กล รหัสวชิ า 2102 - 2104 สปั ดาห์ที่ 13 - 14
หน่วยท่ี 8 ชื่อหนว่ ย การจดั ทาช้นิ ส่วนทดแทนอยา่ งงา่ ย

แนวคดิ

การวางแผนการทางาน
งานทไ่ี ด้จาก การออกแบบ เรียกว่า แผนผงั ของงาน (Drawing) ซ่ึงมักจะมีการถ่ายสาเนาออกมาที่เรียกว่า
พิมพ์เขียว (Blue Print) เพื่อนามาใช้เป็นแบบในการทางานขั้นต่อไป ในขณะที่ทาการออกแบบงาน วิศวกร
ผู้ออกแบบจะต้องกาหนดจานวน ขนาด และชนิดของวัสดุที่ต้องใช้ในการทางานนั้นด้วย โดยจะกาหนดลงใน
เอกสารที่เรียกวา่ ใบกาหนดวสั ดุ (Bill of Material) หลังจากนนั้ จะเป็นงานทางด้านการวางแผนการทางาน ซ่ึงผู้ท่ี
ปฏิบัติงานทางด้านนี้จะต้องทางานเกี่ยวกับการแยกขั้นตอนการทางานออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ เพื่อใช้ในการ

ปฏบิ ัตงิ าน จะตอ้ งกาหนดเวลาและเครื่องจักรที่ต้องใช้ในการทางานแต่ละขั้นตอน ซึ่งโดยมากมักจะใช้เอกสารท่ี
เรียกวา่ เอกสารแสดงการแยกขนั้ ตอนการทางาน (Route Sheet) หรืออาจใช้เอกสารสาหรับวางแผน (Planning
Sheet) แทน

ตวั อย่างการทางานโดยมกี ารวางแผน
การวางแผนการทางานภายในโรงฝึกงาน จะเริ่มต้นจากการต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ให้พร้อม
กล่าวคอื
1. แผนผงั ของงาน (Drawing) หรือพมิ พเ์ ขียว (Blue Print) ซง่ึ ประกอบไปดว้ ย

1.1 แผนผังประกอบของงาน (Assembly Drawing)
1.2 แผนผังแยกชิน้ ส่วนของงาน (Detailed Drawing)
2. ใบกาหนดวสั ดุ (Bill of Material) ในเอกสารนจ้ี ะแสดงใหเ้ ห็นขอ้ มลู ดังต่อไปน้ี
2.1 จานวนช้นิ ของงานท่ตี อ้ งใชใ้ นแต่ละสว่ นของงาน
2.2 ขนาดของวสั ดุที่ต้องใชท้ างาน
2.3 ช่อื ของวสั ดแุ ตล่ ะช้นิ
2.4 ชนิดของวัสดทุ ่ีตอ้ งใช้
2.5 ชนิ้ ส่วนมาตรฐานทนี่ าเข้ามาใช้ เช่น แปูนเกลยี ว หรือสลกั เกลียว
2.6 รายละเอยี ดอนื่ ๆ
3. เอกสารสาหรับการวางแผน (Planning Sheet)
4. การวางแผนการทาเกจวดั ความลึก
5. วิธีการทาเกจวัดความลึกมดี ังต่อไปน้ี
5.1 สเกต็ ชิ้นงานจากแผนผังของงานใหถ้ ูกตอ้ ง หรืออาจใช้พิมพเ์ ขยี วแทนได้
5.2 ตัดช้นิ งานท่ีต้องใชใ้ ห้ไดข้ นาดตามที่กาหนดไว้ในใบกาหนดวัสดุ
5.3 การทาช้นิ สว่ นชน้ิ ท่ี 3 (Base)
5.4 การทาช้ินส่วนชิน้ ท่ี 2 (Barrel)
5.5 การทาช้นิ สว่ นชิ้นที่ 4 (Thumb Screw)
5.6 การทาชิ้นส่วนชิน้ ท่ี 1 (Rod)
5.7 ประกอบชิ้นส่วนช้นิ ท่ี 2 และ 3 เข้าดว้ ยกนั โดยการอดั ช้ินที่ 2 ลงบนชนิ้ ท3่ี
5.8 ประกอบส่วนอืน่ ๆ ท่เี หลือ
ประโยชน์ของการวางแผนการทางาน
1. ช่วยประหยดั เวลาทีใ่ ชใ้ นการทางาน
2. ช่วยประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยในการทางาน

3. ช่วยประหยดั แรงงานคนงาน ทาใหค้ นงานทางานไดม้ ากข้นึ
4. ชว่ ยลดอบุ ตั เิ หตุทีอ่ าจจะเกดิ ขนึ้ เนื่องจากคนงานไม่เข้าใจวิธีการทางาน

สาระการเรียนรู้

1. การวางแผนการทางาน
2. ตวั อย่างการทางานโดยมกี ารวางแผน
3. ประโยชนข์ องการวางแผนการทางาน

ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง

1. วางแผนการทางานตามขัน้ ตอนท่ีถกู ต้องได้
2. เขยี นแผนผงั งานหรอื พมิ พ์เขยี วงานทต่ี อ้ งปฏิบตั ิได้
3. เขียนขอ้ มลู ในใบกาหนดวสั ดงุ านได้
4. บอกประโยชนข์ องการวางแผนการทางานได้

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ข้ันนาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครทู บทวนเนอื้ หาในหน่วยท่ี 7 ร่วมกบั นกั เรยี น
2. ครูให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันในเรื่อง การจัดทาชิ้นส่วนทดแทนอย่างง่าย จากนั้นครูสรุปเพื่อนาเข้าสู่
บทเรียน

ข้ันสอน
3. ครูอธบิ ายเก่ยี วกับการวางแผนการทางาน โดยใชส้ อื่ PowerPoint แล้วตัง้ คาถามให้นักเรียนชว่ ยกนั ตอบ
4. ครอู ธบิ ายและยกตัวอยา่ งการทางานโดยมกี ารวางแผน พร้อมภาพประกอบ และนาตัวอย่างใบกาหนด
วัสดแุ ละเอกสารสาหรบั การวางแผน มาใหน้ ักเรียนศึกษา
5. ครูสาธติ การเขยี นแผนผงั งานหรือพมิ พเ์ ขียวงานท่ตี อ้ งปฏบิ ัติ แล้วให้นักเรียนฝึกปฏบิ ัตติ าม
6. ครูแสดงวิธีการเขียนข้อมูลในใบกาหนดวัสดุงาน แล้วให้นักเรียนซักถาม จากนั้นให้นักเรียนฝึกเขียน
ขอ้ มูลในใบกาหนดวสั ดงุ าน
7. ครูและนกั เรยี นหาขอ้ สรปุ รว่ มกนั เกย่ี วกับประโยชน์ของการวางแผนการทางาน
ข้ันสรปุ และการประยกุ ต์

8. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เนอื้ หาในบทเรยี น และให้นกั เรยี นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยครู
ใช้วธิ กี ารถาม – ตอบ

9. ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบทา้ ยบท ตอนที่ 1 และตอนที่ 2

สอื่ การเรยี นการสอน

1. PowerPoint บทท่ี 8 การจัดทาช้นิ ส่วนทดแทนอยา่ งง่าย
2. ภาพแผนผงั การประกอบงานเกจวดั ความลึก
3. ภาพแผนผังแยกชนิ้ ส่วนงาน
4. ตวั อย่างใบกาหนดวัสดุ
5. เอกสารสาหรับการวางแผน
6. แบบทดสอบท้ายบทที่ 8

การวัดผลและประเมินผล

วธิ ีวัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. การสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เครอื่ งมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกัน
ประเมนิ

เกณฑ์การประเมนิ ผล

1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑ์ผ่าน 70% ขนึ้ ไป
2. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจริง

บันทึกหลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนของนักเรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………


Click to View FlipBook Version