The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปกิณกะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Samphan Suwannalert, 2020-11-03 04:38:19

ปกิณกะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

ปกิณกะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

Keywords: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ

พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

สมศรี ชยั วณิชา และคณะ

ปกิณกะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อบุ ลราชธานี

จดั ทําโดย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมศรี ชยั วณชิ ยา

สนบั สนนุ โดย สาํ นกั งานสง่ เสรมิ บรหิ ารงานวจิ ยั บรกิ ารวชิ าการ
และทํานบุ าํ รงุ ศลิ ปวฒั นธรรม มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี

เผยแพร่ ระบบออนไลน์ (E-book) ตลุ าคม 2563

ทีปรกึ ษา รองศาสตราจารย์ ดร.ชวลิต ถินวงศ์พทิ ักษ์

รองอธกิ ารบดฝี ายวจิ ยั นวตั กรรมและบรกิ ารวชิ าการ
มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี

คณะกรรมการบรหิ ารงานทํานบุ าํ รงุ ศิลปวฒั นธรรม
มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี

นายระลึก ธานี

อดตี ผอู้ ํานวยการสาํ นกั งานการประถมศกึ ษา จงั หวดั อุบลราชธานี

นางสาวเชาวนี เหล็กกล้า

หวั หนา้ พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ อุบลราชธานี

ผเู้ ขยี น ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมศรี ชยั วณชิ ยา
นายมติ ต ทรพั ยผ์ ดุ

บรรณาธกิ าร ดร.วรรณภา ชาํ นาญกิจ
นายมติ ต ทรพั ยผ์ ดุ
นายสมั พนั ธ์ สวุ รรณเลิศ

ออกแบบ นายสมั พนั ธ์ สวุ รรณเลิศ
นายศิวกร บุปผาดี

สารบัญ

เ รื อ ง ห น้ า

๑. ความนาํ ๑

๒. ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี : ๒
พลวตั ของสถานทใี นการบรหิ ารราชการ ๑๕
จากสมัยจารตี สมัยสมุหเทศาภิบาล ๑๖
มณฑลอีสาน มณฑลร้อยเอ็ด และ ๑๙
มณฑลอุบลราชธานี จนถึงสมัยหลัง ๒๑
ก า ร เ ป ลี ย น แ ป ล ง ก า ร ป ก ค ร อ ง ๒๗
พ.ศ.๒๔๗๕ (พ.ศ. ๒๔๖๑ - ๒๕๑๐) ๓๓

๓. สมหุ เทศาภบิ าลสาํ เรจ็ ราชการมณฑล ๕๖
อุบลราชธานีทีใช้อาคาร “ศาลากลาง
จังหวัดอุบลราชธานี” คนแรก

๔. เรอื งราวของหอ้ งตา่ ง ๆ ในตวั อาคาร
เคยเปนหอ้ งทํางานของใครหนว่ ยงานใด
ในสมยั เปนทตี งั ของหนว่ ยงานราชการ

๕. ชมุ ชนบรเิ วณอาคารศาลากลางจงั หวดั
อุบลราชธานี

๖. รา้ นอาหารเจยี วกกี บั ศาลากลางจงั หวดั
อุบลราชธานี

๗. เรอื งเลา่ ชาวพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ
อุบลราชธานี : ชาวพิพิธภัณฑ์รุน่ หา
วัตถุโบราณ

๘. ทัศนาอาคารและสถาปตยกรรม :
มรดกภมู ปิ ญญาในตวั อาคารศาลากลาง
จงั หวดั สอู่ าคารพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ
อุบลราชธานี

๙. บทส่งท้าย เก็บสรุปเรอื งเล่าจาก
"เหลยี วหลงั แลหนา้ ทศั นาพพิ ธิ ภณั ฑ”์
กา้ วเขา้ สทู่ ศวรรษที ๔ ของพพิ ธิ ภณั ฑสถาน
แหง่ ชาติ อุบลราชธานี : พลังของการ
เปลียนแปลงสแู่ หล่งเรยี นรขู้ องชุมชน
ในครสิ ต์ศตวรรษที ๒๑

ป กิ ณ ก ะ | ๑

๑ . ค ว า ม นาํ

พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ อาคารพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตอิ ุบลราชธานี
ไ ม่ ใ ช่ มี แ ต่ เ ร ือ ง ร า ว ท า ง ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร ์
อุ บ ล ร า ช ธ า นี และโบราณคดที ีจดั แสดงใหเ้ หน็ พฒั นาการ
ข อ ง จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี ใ น ห้ อ ง จั ด
แสดงตา่ ง ๆ แตย่ งั มเี รอื งราวของประวตั ศิ าสตร์
ที เ ชื อ ม โ ย ง กั บ พ ล วั ติ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์
อุบลราชธานี..เรืองราวของห้องต่าง ๆ
ในตัวอาคารเคยเปนห้องทํางานของใคร
หน่วยงานไหน... ในสมัยเปนทีตังของ
หน่วยงานราชการ และชุมชนรอบอาคาร
พิ พิ ธ ภั ณ ฑ ส ถ า น แ ห่ ง ช า ติ ที มี เ ร ือ ง เ ล่ า
จากภาพถ่ายเก่า เรอื งราวของคนทํางาน
พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ตั ง แ ต่ แ ร ก เ ร ิม ที บ อ ก เ ล่ า ถึ ง
การจัดหาโบราณวัตถุมาจัดแสดงการ
ดาํ เนินงานพิพิธภัณฑ์ในสามทศวรรษที
ผ่านมา (พ.ศ.๒๕๓๒-พ.ศ.๒๕๖๒) เรอื งราว
ข อ ง ม ร ด ก ภู มิ ป ญ ญ า ใ น ตั ว อ า ค า ร ผ่ า น
งานสถาปตยกรรมของตวั อาคารทสี รา้ งมา
แตเ่ รมิ แรกตงั แตล่ กั ษณะอาคาร การยกพนื
ตวั อาคาร หนา้ ตา่ งบานกระทงุ้ สขี องอาคาร
การปูพืนกระดานไม้สูง ฯลฯ

ป กิ ณ ก ะ | ๒

๒.ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี : พลวัตของสถานทีในการบริหาร
ราชการจากสมยั จารตี สมยั สมหุ เทศาภบิ าลมณฑลอสี าน มณฑลรอ้ ยเอด็
และมณฑลอุบลราชธานี จนถงึ สมัยหลงั การเปลียนแปลงการปกครอง
พ.ศ.๒๔๗๕ (พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๑๐)

อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี สร้างเมือ พ.ศ. ๒๔๖๑
เพือใช้เปนศูนย์กลางในการบริหารราชการ ในระบบเทศาภิบาลมณฑล
ในสมัยทีพระยาศรีธรรมาศกราช (ปว บุนนาค) ดาํ รงตาํ แหน่งเปน
สมุหเทศภิบาล เมือแรกสร้างเรียกอาคารนีว่า “ศาลารัฐบาลมณฑล
อุบลราชธานี ต่อมาในปพ.ศ. ๒๔๖๑ ได้เปลียนมาเรียกอาคารหลังนีว่า
"ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี”

สถานทีบริหารราชการในสมัยก่อนมีศาลารัฐบาลมลฑลอุบลราชธานี
แต่เดิมสถานทีทีใช้ในการบริหารราชการบ้านเมืองของอุบลราชธานี
นับตังแต่สร้างเมืองไม่ปรากฏสถานทีราชการอย่างในปจจุบัน หากแต่
ปรากฏว่าใช้บริเวณเฮือน (เรือน) เจ้านายพืนถินซึงเรียกว่า “คุ้มโฮง”
เปนทีว่าราชการตามแต่อาํ นาจและหน้าทีของเจ้านายพืนถินท่านนัน ๆ
โดยคุ้มโฮงทีสาํ คัญมีจํานวน ๔ โฮง ได้แก่

โฮงกลาง ตังอยู่ใกล้วัดหลวงเปนทีพักของพระประทุมววรราช-
โฮงเหนือ สุริยวงษ (เจ้าคําผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานี
โฮงท่ง เปนทีพักของอุปฮาด (อุปราช) ปจจุบันคือบริเวณทีเปน
โฮงใต้ ตลาดสดและบริเวณติดกับเชิงสะพานข้ามแม่นาํ มูล
เปนทีพักของราชบุตรปจจุบัน คืออาคารสินราชบุตร
ถนนราชบุตร
เปนทีพักของราชวงศ์ อยู่บริเวณเหนือวัดกลาง

ป กิ ณ ก ะ | ๓

ทีมา : อนเุ คราะหภ์ าพโดย จกั รพงศ์ ภารการ

ปลายรชั กาลที ๕ มโี ฮงเกดิ ขนึ อกี โฮงหนงึ เรยี กวา่ โฮงแพ คอื เปนเรอื นแพ
ลกู บวบไมไ้ ผจ่ อดลอยอยใู่ นแมน่ าํ มลู ใชโ้ ซเ่ หลก็ ตรงึ กบั ฝงนํา เปนเรอื นของ
พระอบุ ลกาลประชานติ ย์ (ทา้ วสทิ ธสิ าร บญุ ชู พรหมวงศานนท)์ (๒๒๒ ป
อบุ ลราชธาน,ี ๒๕๕๗ : ๔๓)
ดั ง ภ า พ ว า ด แ ผ น ผั ง เ มื อ ง อุ บ ล ร า ช ธ า นี ศ รี ว ะ น า ไ ล ป ร ะ เ ท ศ ร า ช
ชว่ งพ.ศ. ๒๓๓๗-๒๔๒๕ โดย จกั รพงศ์ ภารการ ทไี ดแ้ สดงตาํ แหนง่ ทตี งั
ของสถานทสี าํ คญั ของเมอื งอบุ ลราชธานี รวมทงั คมุ้ โฮงเจา้ นายพืนเมอื ง
ทงั ๕ โฮง

ป กิ ณ ก ะ | ๔
นอกจากนียังพบหลักฐานภาพวาดของ Louis Delaport ซึงร่วมทางมา
กบั คณะของ Francis Garnier ในการเขา้ รว่ มพิธเี ษกเจา้ เมอื งอบุ ลราชธานี
เมอื วนั ที ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๐ ซงึ จากภาพไดแ้ สดงใหท้ ราบถงึ ลกั ษณะ
ของคมุ้ โฮงเจา้ เมอื งอบุ ลราชธานี

ทมี า : Louis Delaport and Francis Garnier, Walter E.J.Tips (translated and
composed). A Pictorial Journey on the Old Mekong Cambodia, Laos and
Yunna. The Mekong Exploration Commission Report (1866-1868) Volume
3. Bangkok : White Lotus Co.Ltd., 1998. p.73.

ป กิ ณ ก ะ | ๕
ในสมัยปฏิรูปมณฑลเทศาภิบาล พ.ศ.๒๔๓๓ ได้ปรากฏชือสถานทีบริหาร
ราชการว่า “ศาลากลางเมืองอุบลราชธานี” และ “ทีว่าการข้าหลวงเมือง
อุบลราชธานี” ดังนี

ทมี า : สํานกั จดหมายเหตแุ หง่ ชาติ ร.๕ม.๒๑/๖ :๑๗๔

ป กิ ณ ก ะ | ๖

ทมี า : สํานกั จดหมายเหตแุ หง่ ชาติ ร.๕ม.๒๑/๖ :๑๖๔

ตอ่ มาในสมยั ทพี ระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหมนื สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ (พระอสิ สรยิ ยศ
ในขณะนนั ) เสดจ็ วา่ ราชการในฐานะขา้ หลวงตา่ งพระองค์ ปกครองสมหุ เทศาภบิ าล
มณฑลลาวกาว ในพ.ศ. ๒๔๓๖ ต่อมาเมือทรงว่าราชการมาแล้วระยะหนึง
จึงทรงสร้างวังขึนเพือใช้ทังเปนทีประทับและว่าราชการเรียกว่า “วังสงัด”
ปจจุบันไม่ปรากฏตัววังแล้วมีเพียงภาพวาดจากความทรงจาํ ของผู้ที
เคยเห็นวังสงัด เท่านัน

ป กิ ณ ก ะ | ๗

ทมี า : สํานกั จดหมายเหตแุ หง่ ชาติ ร.๕ม.๒๑/๖ :๑๖๔

ตอ่ มาในสมยั ทพี ระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหมนื สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ (พระอสิ สรยิ ยศ
ในขณะนนั ) เสดจ็ วา่ ราชการในฐานะขา้ หลวงตา่ งพระองค์ ปกครองสมหุ เทศาภบิ าล
มณฑลลาวกาว ในพ.ศ. ๒๔๓๖ ต่อมาเมือทรงว่าราชการมาแล้วระยะหนึง
จึงทรงสร้างวังขึนเพือใช้ทังเปนทีประทับและว่าราชการเรียกว่า “วังสงัด”
ปจจุบันไม่ปรากฏตัววังแล้วมีเพียงภาพวาดจากความทรงจาํ ของผู้ที
เคยเห็นวังสงัด เท่านัน

ป กิ ณ ก ะ | ๘

ภาพวาดตําหนักใหญ่ วังสงัด โดยวาดจากความทรงจาํ ของ นางนิภา วีสเพ็ญ และ
นางสัมฤทธิ วีสเพ็ญ นายสังคม ฤทธิทศิ และนายนสุ ร จําปาวัลย์ เปนผูเ้ ขยี นและ
ตกแตง่ ภาพ
ทมี า : อมั พวนั (บวั ขาว) ศรวี รมาศ (บรรณาธกิ าร). สืบคน้ สายตระกลู หมอ่ มเจยี งคาํ

ชมุ พล ณ อยธุ ยา (ท.จ.). อบุ ลราชธานี : โรงพิมพ์ศิรธิ รรมออฟเซท็ , ๒๕๕๒.
หนา้ ๒๖.

ป กิ ณ ก ะ | ๙

ภาพถา่ ยของเจา้ นายในราชสกลุ ชมุ พลและบรวิ าร ขณะประทบั ในวงั สงดั เมอื งอบุ ลราชธานี
ภาพถ่ายทัง ๒ ภาพ เปนของสะสมส่วนตัวของ ม.ล.ภูมิใจ ชุมพล
ทมี า : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10158335805764738&set
=pb.713079737.-2207520000..&type=3 สบื คน้ เมอื ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๓ และ
https://www.facebook.com/photo?fbid=10158332656804738&set=pb.71307
9737.-2207520000.. สบื คน้ เมอื ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๓

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๐
สมัยหลังจากทีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์
(พระอสิ รยิ ยศในขณะนนั ) เสดจ็ นวิ ตั ิ กรงุ เทพมหานคร ใน พ.ศ.๒๔๕๓ แลว้
ข้าราชการจากสยามทีมาดํารงตําแหน่งสมุหเทศาภิบาลได้ใช้พืนทีบริเวณ
ริมแม่นํามูลซึงเปนคุ้มโฮงเจ้านายพืนเมืองเก่า เปนสถานทีบริหารราชการ
แผ่นดิน เรียกกันว่า “จวนเจ้าเมือง” ดังทีปรากฏว่ามีการเรียกท่าเรือ
บริเวณนันว่า “ท่าจวนริมมูล”

ทมี า : ขวญั สรวง อตโิ พธ.ิ แผนทเี มอื งอบุ ลราชธาน.ี (เอกสารอดั สําเนา, ม.ป.ป.)

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๑
มขี อ้ สงั เกตประการหนงึ วา่ ในสมยั การปกครองทอ้ งถนิ ระบบเทศาภบิ าลมลฑลนนั
เรยี กอาคารทใี ชว้ า่ ราชการวา่ “ศาลารฐั บาลอสี าณ” ดงั ในหนงั สอื แพนกสรรพากร
วนั ที ๑๓ มกราคม ร.ศ.๑๒๘ (พ.ศ. ๒๔๕๒) ทไี ดแ้ จง้ ความไปยงั พระยาวงษานปุ ระพทั ธ์
รองเสนาบดกี ระทรวงเกษตราธกิ าร เรอื ง การประกวดไหมในมณฑลอสี าณ
ดังนี

ทมี า : สาํ นกั จดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ ๑๗๓๕ กส.๑๓/๓๔๕.

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๒
ต่อมาได้ปรากฏคาํ ว่า “ศาลารัฐบาลมณฑลอุบลราชธานี” ในเอกสาร
ของทางราชการ ในสมยั ทพี ระยาศรธี รรมศกราช (ปว บนุ นาค) ดาํ รงตาํ แหนง่
เปนสมุหเทศาภิบาลมณฑลอุบลราชธานี ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๔๖๘
โดยเอกสารนนั ปรากฏเรยี กสถานทวี า่ ราชการดว้ ยคาํ วา่ “ศาลารฐั บาลมณฑลอบุ ลราชธาน”ี
พ.ศ. ๒๔๕๗ ดังหลักฐานดังนี

ทมี า : เอกสารของวดั มณวี นาราม.

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๓

ใน พ.ศ. ๒๔๕๙ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ใหป้ รบั เปลยี นการเรยี กชอื “เมอื ง” อนั เปนศนู ยร์ วมการปกครอง
ของอาํ เภอต่าง ๆ เปน “จงั หวัด” ทงั หมด (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๓๓,
๒๘ พฤษภาคม ๒๔๕๙ : ๕๑-๕๓)

ดังนันจึงเปนข้อสันนิษฐานในเบืองต้นว่าอาคารทีเปนทีตังของ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ทีสร้างเสร็จเมือ พ.ศ. ๒๔๖๑
แต่แรกน่าจะเรียกว่า “ศาลารัฐบาลมณฑลอุบลราชธานี” และต่อมาจึงเปน
ทีมาของลายปูนปนหน้าบันของอาคารว่า “ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. ๒๔๖๑” เพือให้สอดคล้องกับราชกิจจานุเบกษา ทีให้เปลียนแปลง
“เมอื ง” เปน “จงั หวดั ” ดงั หลกั ฐานทปี รากฏขา้ งตน้ และภาพหนา้ บนั อาคาร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อบุ ลราชธานี ดงั นี

ทมี า : สมศรี ชยั วณชิ ยา, ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๓.

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๔

ในช่วงการบริหารแบบสมุหเทศาภิบาลสาํ เร็จราชการมณฑลอีสาน
มณฑลร้อยเอ็ดและมณฑลอุบลราชธานี อยู่ในช่วงทีพระยาศรีธรรมศกราช
(ปว บุนนาค) (พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๔๖๘) เปนสมุหเทศาภิบาลสาํ เร็จราชการ
มณฑลอสี าน มณฑลรอ้ ยเอด็ และมณฑลอบุ ลราชธานี ทงั นใี นชว่ ง พ.ศ. ๒๔๕๖
เปนผู้รังสมุหเทศาภิบาล มณฑลอุบลราชธานี และเปนสมุหเทศาภิบาล
สําเร็จราชการมณฑลอุบลราชธานี ในปเดียวกันรับราชการในตาํ แหน่งนี
จนถงึ พ.ศ. ๒๔๖๙ หลงั จากนนั จงึ เปนตําแหนง่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อบุ ลราชธานี

ดังนันศาลากลางรัฐบาลมณฑลอุบลราชธานี จึงเปนศาลากลาง
จงั หวดั อบุ ลราชธานี ตงั แต่ พ.ศ. ๒๔๕๙-๒๕๑๐ หลงั จากนนั จงึ มกี ารสรา้ ง
ศาลากลางจงั หวดั แหง่ ใหม่ ซงึ ทางดา้ นตะวนั ตกของ ทงุ่ ศรเี มอื ง เมอื พ.ศ. ๒๕๑๑
ในช่วงนี อาคารศาลากลางจังหวัดเก่าใช้เปนสาํ นักงานของหน่วยงาน
ราชการตา่ ง ๆ จนถึงพ.ศ. ๒๕๒๕

ตอ่ มา พ.ศ.๒๕๒๖ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อบุ ลราชธานไี ดม้ อบศาลากลางหลงั เกา่
ให้กรมศิลปากรบูรณะและใช้เปนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี
ประกอบดว้ ยการจดั แสดงเรอื งภมู ศิ าสตร์ ธรณวี ทิ ยา ประวตั ศิ าสตร์ โบราณคดี
วฒั นธรรมพืนบ้าน และชาติพันธว์ุ ิทยา โดยแบง่ เปน ๑๐ ห้อง

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๕

๓.พระยาศรีธรรมศกราช

(ปว บุนนาค)

ทมี า : http://www.bunnag.in.th/prarajpannuang048.html

คื อสมุ หเ ทศ าภิ บาลสาํ เร็จราช ก าร
ม ณฑลอุ บลร าชธานี ท่ านแ รก ที ใช้อ าค าร

“ ศ า ล า ก ล า ง จัง ห วัด อุ บ ล ร า ช ธ า นี ”
เ ปน สถาน ที ปฏิ บัติ ร าช ก าร

ระหว่างป พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๔๖๘

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๖

๔. เรืองราวของห้องต่าง ๆ ในตัวอาคาร
เคยเปนห้องทาํ งานของใครหน่วยงานใด
ในสมยั เปนทตี งั ของหนว่ ยงานราชการ

ห้องผู้ว่าราชการจังหวัด

หอ้ งประชุม

ห้ อ ง ผู้ ว่ า ร า ช ก า ร จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี

คาํ ถามสําคัญสําหรับการรําลึกถึงอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ย้อนกลับไป
สมยั เปนศาลากลางจงั หวดั เมอื ไดเ้ ขา้ ไปในตวั อาคาร คอื หอ้ งใดคอื หอ้ งผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อบุ ลราชธานี
คําบอกเล่าจากความทรงจําจากผู้รู้ ให้คําตอบว่า คือ ห้องหมายเลข ๘ ทีอยู่หลังห้องบรรยาย ปจจุบัน
เรยกวา่ หอ้ งพระเจา้ เปนทปี ระดษิ ฐาน “พระพทุ ธเจา้ จอมเมอื ง” และพระพทุ ธรูปสาํ คญั เปนหอ้ งสําหรบั
การประชมุ ขา้ ราชการ ดังแผนผงั ข้างต้น

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๗

ห้องราชพัสดุ / ศกึ ษาธิการ ห้องคลัง/จัดเก็บภาษี
(เงนิ ตรา)

มีหน่วยงานใดใช้พื นทีอาคารทาํ การราชการบ้าง

จากการค้นคว้าพบว่ามีสองหน่วยงาน ทีเคยใช้อาคารหลังนีเปนทีสาํ นักงานทีทาํ การ คือ
สาํ นักงานราชพัสดุ และสาํ นักงานศึกษาธิการจังหวัด ดังแผนผังข้างต้น

ห้ อ ง ค ลั ง

“ห้องคลัง” คือ ห้องสําคัญทีเปนห้องจัดเก็บของมีค่า ต่าง ๆ ได้แก่ ภาษี ส่วย เงินตราก่อน
นําส่งไปยังกรุงเทพมหานคร ปจจุบันเปนห้องคลังเก็บรักษาโบราณวัตถุ หลักฐานประวัติศาสตร์
และโบราณคดีเพือนําไปหมุนเวยนจัดแสดงในห้องต่าง ๆ ดังแผนผังข้างต้น

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๘

คุกนักโทษใต้ถุนศาลากลาง

เคยมเี รอื งเลา่ กนั ตอ่ ๆ มาวา่ ชอ่ งมดื ๆ อบั ๆ เ ก ร็ ด น่ า รู้ :
ทีมีลูกกรงสีเขียวทีอยู่ใต้ถุนอาคารฯ นัน
เคยเปน "คุก" สาํ หรบั คมุ ขงั นักโทษมากอ่ น แ ต่ เ ดิ ม ก่ อ น จ ะ มี ทั ณ ฑ ส ถ า น
สําหรับคุมขังผู้ต้องโทษอย่างใน
แม้จะเปนคํารําลือจากปากต่อปากรุ่นสู่รุ่นว่า ใต้ถุนอาคาร ปจจุบัน จวนเจ้าเมืองต่าง ๆ
ศาลากลางอุบลราชธานีเดิม หรออาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ ะ มี คุ ก สํา ห รั บ คุ ม ขั ง นั ก โ ท ษ
อบุ ลราชธานี ในปจจบุ นั เคยเปนคกุ สําหรบั คมุ ขงั นกั โทษ แตค่ วามจรงแลว้ ทีรอการตัดสินคดีอยู่ ในจวน
ไม่ได้เปนเช่นนัน... เจ้าเมือง เช่น คุ้มของเจ้าหลวง
พิรยะเทพวงศ์ เจ้าเมืองแพร่
คุณเชาวนี เหล็กกล้า หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์ ที บ ร เ ว ณ ใ ต้ถุน คุ้ม นัน เ ป น ที
ว่าจากการศึกษาหลักฐานและสัมภาษณ์ผู้ทีรับราชการร่วมสมัย คุมขังบ่าวไพร่ในสังกัดทีทาํ ผิด
กับอาคารศาลากลางหลังนี ต่างก็กล่าวตรงกันว่า บรเวณใต้ถุน ต ล อ ด จ น คุ ม ขั ง นั ก โ ท ษ ที มี
อาคารนั น เปนที "เก็ บเอกสารและพั สดุ เก่ ารอการจาํ หน่ าย" ค ว า ม ผิ ด ล หุ โ ท ษ
ไม่เคยใช้เปนคุกคุมขังนักโทษแต่อย่างใด

ป กิ ณ ก ะ | ๑ ๙

๕. ชุมชนบริเวณอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี

ท่ีมา : สาํ นักวิทยบรกิ าร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สบื คน จาก : http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/picture/?p=514.
สืบคนเมือ่ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๓

บริเวณท่ีตั้งอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เปนบริเวณท่ีดิน
แปลงท่ี ๑ ทห่ี มอ มเจยี งคํา และเครอื ญาตถิ วายทดี่ นิ ใหแ ดก รมหมนื่ สรรพสทิ ธปิ ระสงค
เพอื่ ใชป ระโยชนใ นการบรหิ ารราชการแผน ดนิ ในชว งเปน ศาลากลางจงั หวดั
ชว ง พ.ศ. ๒๕๐๗-๒๕๓๑ มีหนวยงาน วัด และรา นคา โดยรอบทส่ี าํ คญั
คือ วัดศรีอบุ ลรัตนาราม ตํารวจทอ งเทยี่ ว ศึกษาธิการจงั หวดั และราน
อาหารเจียวก่ี ดงั ผังแสดงดังน้ี

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๐

จากผังแสดงที่ตั้งของวัด หนวยงานราชการ
รา นคา ปจ จบุ นั หนว ยงานตาํ รวจทอ งเทย่ี ว ทวี่ า การอําเภอ
และศึกษาธิการจังหวัดไดยายออกไปแลว รวมท้ัง
ศาลาประชาคมกไ็ ดร อื้ ออกแลว ปจ จบุ นั เปน ทต่ี ง้ั ของ
ตลาดโตร งุ สว นรา นอาหารเจยี วกยี่ งั เปด ดําเนนิ การอยู
ดงั จะกลา วในหัวขอตอไป

ทุง ศรีเมอื ง

ถนนศรีณรงค์

ตาํ รวจทองเที่ยว

ถนนราชบุตรศาลหลักเมอื ง
ศาลาประชาคม

ถนนอปุ ราช

วัดศรีอุบลรตั นาราม
ศาลากลางจงั หวัด ศึกษาธกิ ารจังหวดั
(หลังเดมิ ) (หลงั เดมิ )

ทีว่ า การอาํ เภอ
(หลังเดิม)

ถนนเขอื นธานี

รา นอาหารเจียวกี่

ท่ีมา : ปรับปรุงจากผังโฉนดท่ีดินของบริเวณอาคาร
พิพิธภัณฑสถานแหงชาติ อุบลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๑

๖. ร้านอาหารเจียวกี

กับศาลากลางจังหวัดอบุ ลราชธานี

รา นอาหารเจย่ี วกี่ เปด กจิ การ ตอมาเมื่อพระเจาบรมวงศเธอ กรมหม่ืน
มาพรอมกับการสรางอาคาร สรรพสทิ ธปิ ระสงค ทรงมาปฏบิ ตั ริ าชการ ทอ่ี บุ ลราชธานี
พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง ชาติ อบุ ล- ในตําแหนงขาหลวงตางพระองคท่ีมณฑลลาวกาว
ราชธานี คาํ วา “เจยี ว” แปลวา ณ เมอื งอบุ ลราชธานี เมอื่ พ.ศ. ๒๔๓๖ นายเจยี วพงษ
โดดเดนสุดยอด “กี่” แปลวา แซหาน (หาญสกุล) ก็ไดติดตามมาเปน “กุก”
ความประทบั ใจ ผเู รม่ิ ตน กจิ การนี้ ประจําพระองคด ว ย เมอื่ กรมหมนื่ สรรพสทิ ธปิ ระสงค
คือ นายเจียวพงษ แซหาน ไดนิวัติพระนคร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ ครอบครัว
(หาญสกลุ ) ซงึ่ เปน ชาวมณฑล นายเจียวพงษ แซหานก็ไมไดยายกลับพระนคร
ไหหนาน (ไหหลาํ ) ประเทศจนี และไดตัง้ ถน่ิ ฐานอยเู มอื งอบุ ลราชธานี เรอ่ื ยมาจน
ตอ มาไดอ พยพมายงั ประเทศไทย ถงึ พ.ศ. ๒๔๖๑
และไดใ ชฝ ม อื ในการทําอาหาร
ประกอบอาชพี ทําอาหารคา ขาย
จนมชี อื่ ถงึ รสมอื ในการทําอาหาร
จึงไดรับพระมหากรุณาธิคุณ

เขา เปน “กกุ ” ทว่ี งั ปารสุ ก ใน
จอมพล พระเจานองยาเธอ
เจา ฟา จกั รพงษภ วู นารถ กรมหลวง
พษิ ณโุ ลกประชานารถ จนไดร บั
ฉายาวา “กุกจมูกแดง”

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๒

ภาพนายเจียวพงษ์ แซ่ห่าน (กุ๊กจมกู แดง)

ในพ.ศ. ๒๔๖๑ ซ่งึ เปน ปเดียวกบั การสราง
อาคารศาลากลางจงั หวดั อบุ ลราชธานี รา นอาหาร
และโรงแรมเจยี วกกี่ ไ็ ดเ กดิ ขน้ึ พรอ มกนั ณ รมิ ถนน
เขื่อนธานี ฝงตรงขามกับอาคารศาลากลาง
จังหวัดอุบลราชธานี การเปดรานอาหารและ
โรงแรมก็เพ่ือเปนการบริการอาหารและท่ีพัก
ใหแ กข าราชการ ประชาชนทม่ี าตดิ ตอ ราชการ
ทศี่ าลากลางจงั หวดั อบุ ลราชธานี อกี ทง้ั บรเิ วณ
หนา รา นอาหารเจยี วก่ี เปน จดุ ทร่ี ถทวั ร (บรษิ ทั
พฒั ทวั ร เจา แรกของจงั หวดั อบุ ลราชธาน)ี จาก
กรงุ เทพฯ มาลงดว ย จงึ ทาํ ให การทํารา นอาหาร
รงุ เรอื งมากและดาํ เนนิ กจิ การคา สบื มาถงึ ปจ จบุ นั

ทีมา : อนเุ คราะห์ภาพใหส้ ําเนา
จากคุณสาทสิ หาญสกุล.

ดังน้ันครอบครัวและทายาทของราน คุณสาทิส หาญสกุล อนุเคราะห์นาํ ภาพเก่า
อาหารเจยี วกจ่ี งึ ไดเ หน็ พฒั นาการของอาคาร ช่วงสงครามเวียดนามมาให้ผู้เขียนชม
ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังแรก
มาโดยตลอดจนสบื เนอื่ งมาเปน พพิ ธิ ภณั ฑสถาน-
แหง ชาติ อบุ ลราชธานี ในปจ จบุ นั หากใคร
แวะเวียน มาท่ีรานอาหารเจียวกี่ก็จะได
รบั ทราบตํานานอาหารและประวตั ศิ าสตร
จงั หวดั อบุ ลราชธานโี ดยเฉพาะสมยั สงคราม
เวยี ดนามทม่ี ฝี รงั่ มาพกั มารบั ประทานอาหาร
และดมื่ เครอื่ งดม่ื เหลา เบยี ร เปน ทช่ี มุ นมุ
สงั สรรคก นั ของชาวอบุ ลราชธานแี ละชาวตา งชาติ
ท่ีมาใชบ รกิ ารดังภาพประกอบ ดังนี้

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๓

บรรยากาศ

ร้ า น อ า ห า ร เ จี ย ว กี ใ น อ ดี ต

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๔

บรรยากาศ

ร้ า น อ า ห า ร เ จี ย ว กี ใ น อ ดี ต

ทีมา : สาํ นกั วทิ ยบรกิ าร
มหาวิทยาลยั อุบลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๕

บรรยากาศ

ร้ า น อ า ห า ร เ จี ย ว กี ป จ จุ บั น

ทมี า : สมศรี ชยั วณชิ ยา,
๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๖

ร้านอาหารเจียวกี

ในปจจุบัน

ปจจุบันรานอาหารเจียวก่ีดาํ เนินกิจการ
โดยคุณสาทิส หาญสกุล ทายาทรุนท่ี ๓
รานเจียวกี่ยังคงใหบริการอาหารตนตาํ รับ
อีกทั้งยังรักษาบรรยากาศรานอาหารในสมัย
สงครามเวยี ดนามไวอ ยางดี

0 1 อ า ร์ ต รี วิ ว | ฉ บั บ ที 2 3

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๗

๗. เรืองเล่าชาวพิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

ช า ว พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ รุ่ น ห า วั ต ถุ โ บ ร า ณ

เจ้าหนา้ ทพี ิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ อบุ ลราชธานี รุ่นแรก กาํ ลงั เลา่ ประสบการณ์ และบรรยากาศการทาํ งานในช่วงทีกําลัง
กอ่ ตงั พพิ ิธภัณฑสถานแห่งชาติ อบุ ลราชธานีใหแ้ กผ่ เู้ ขียน และนักศกึ ษาทีลงพืนทีเก็บข้อมลู ฟง

คณุ สนุ ทร เชอ้ื ไชย เปน เจา หนา ที่ เรมิ่ แรกทม่ี าทาํ งานพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง ชาติ
อบุ ลราชธานตี ง้ั แต พ.ศ. ๒๕๒๙-๒๕๓๑ กอ นพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง ชาติ อบุ ลราชธานี
จะเปด ดาํ เนนิ การ ใน พ.ศ. ๒๕๓๒ เรอื่ งเลา ทส่ี าํ คญั คอื การหาวตั ถโุ บราณในพน้ื ทต่ี า ง ๆ
ในจงั หวดั อบุ ลราชธานี คณุ สนุ ทร เชอื้ ไชย เลา วา “ผมตอ งออกพน้ื ทเี่ ปน ประจํา กบั หวั หนา
ลาํ ดวน สขุ พนั ธ หวั หนา พพิ ธิ ภณั ฑค นแรก เพอื่ หาโบราณวตั ถโุ ดยการเกบ็ ทช่ี าวบา น ชาววดั ทง้ิ
หรอื ใช วธิ กี ารยมื หรอื ขอบรจิ าคเพอ่ื นาํ มาจดั แสดง พระพทุ ธรปู กย็ มื จากวดั และตอนนที้ างวดั
กม็ อบใหพ พิ ธิ ภณั ฑฯ แลว เชน พระพทุ ธรปู ยนื ปางประทานธรรม ซงึ่ เปน พระพทุ ธรปู หนิ ทรายสแี ดง
พบทีช่ ุมชนโบราณบาน ไผใหญ ตําบลยางโยภาพ อําเภอมวงสามสิบ มีขนาดสงู
๒ เมตร” ดงั ภาพประกอบดงั นี้

ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๘

พระพุ ทธรูปยืน หินทรายสีแดง ปางประทานธรรม
ซึงพบทีชุมชนโบราณบ้าน ไผ่ใหญ่ ตําบลยางโยภาพ

อําเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี

ทีมา : สมศร ชัยวณชิ ยา, ๙ สิงหาคม ๒๕๖๓.

คุณไพศาล พรโสม เปนเจาหนาท่ี ป กิ ณ ก ะ | ๒ ๙
พิพิธภัณฑสถานแหงชาติ อุบลราชธานี
อีกคนหน่ึงท่ีเปนรุนบุกเบิก พรอมกับ บน : ใบเสมา โบราณวัตถุที่คณุ ไพศาล
คณุ สนุ ทร เชอื้ ไชย ในการออกไปหาโบราณวตั ถุ พรโสม กลาวถงึ
คณุ ไพศาล พรโสม ไดเ ลา ถงึ บรบิ ทในการลง
ภาคสนามเพื่อหาโบราณวัตถุในชวง ลาง : คณุ ไพศาล พรโสม
พ.ศ. ๒๕๒๙-๒๕๓๑ วา

“เวลาลงไปหาโบราณวัตถุสมัยนันไม่ได้
วางแผนไว้เลย ตอนเราไป เราก็ไม่มีอะไรไปนะ
ไปถงึ กต็ อ้ งไปหามเองทาํ เอง เขาไมช่ ่วย เพราะ
เขาไมไ่ ดใ้ ห้เราเอามา เวลาไปเราต้องรบตอนไป
หัวตะพานช่วงนันเปนคอมมิวนิสต์ พูดอะไร
ไมไ่ ดเ้ ลย ไปนงั อยบู่ า้ นเขาตอ้ งนงั นงิ ๆ รอนายอาํ เภอ
อย่างเดียวห้ามพดู ห้ามทาํ อะไร”

“...โอ้ ไปวันแรกนะ เจอของใหญ่เลย
พระพุทธรูปกับใบเสมา เอาขึนรถมารถหน้า
แหงนเลย ปกติต้องเอามาชินเดียว แต่ไป
ทะเลาะกบั พระแลว้ ต้องหาไมม้ าให้เขาอีก...”

คาํ บอกเลาของคุณไพศาล พรโสม
ทาํ ใหเห็นวิถีของคนพิพิธภัณฑเริ่มแรก
ที่ตองมีความยากลําบากในการจัดหา
โบราณวตั ถมุ าจดั แสดงในอาคารพพิ ธิ ภณั ฑสถาน-
แหง ชาติ อบุ ลราชธานี หากมโี อกาสมาแวะ
เยี่ยมเยือนก็อยาลืมมาแวะสนทนากับ
คุณไพศาล พรโสมไดก็จะไดรับคําบอก
เลา ของการทาํ งานพพิ ิธภณั ฑท ี่มีชวี ติ และ
มุมมองท่นี า สนใจ

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๐

โบราณวัตถุชินสําคัญซึงจัดแสดงใน
พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

"เทวรูปพระอรรธนารีศวร"

เฉลิมฉลองวัน
คุ้มครองโลก

ความสนุก
ข้อเท็จจริงและ
เรืองเล็ก ๆ น้อย ๆ

ทมี า : สมศร ชยั วณิชยา, ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๓.

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๑

โบราณวัตถุชินสาํ คัญซึงจัดแสดงใน
พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี

"เทวรูปพระคเณศ"

เฉลิมฉลองวัน
คุ้มครองโลก

ความสนุก
ข้อเท็จจริงและ
เรืองเล็ก ๆ น้อย ๆ

ทมี า : สมศร ชัยวณชิ ยา, ๙ สิงหาคม ๒๕๖๓.

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๒

บรรยากาศการเสวนาในหัวข้อ

เ รื อ ง เ ล่ า ช า ว พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์

เฉลิมฉลองวัน
คุ้มครองโลก

ความสนุก
ข้อเท็จจริงและ
เรืองเล็ก ๆ น้อย ๆ

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๓

๘.ทั ศนาอาคารและสถาปตยกรรม:

ม ร ด ก ภู มิ ป ญ ญ า ใ น ตั ว อ า ค า ร ศ า ล า ก ล า ง จั ง ห วั ด
สู่ อ า ค า ร พิ พิ ธ ภั ณ ฑ ส ถ า น แ ห่ ง ช า ติ อุ บ ล ร า ช ธ า นี

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๔

ทัศนาอาคาร
และสถาปตยกรรม

พิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติ
อบุ ลราชธานี

อ า ค า ร พิ พิ ธ ภั ณ ฑ ส ถ า น แ ห่ ง ช า ติ "ปจจุบันอาคารพิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ
อุบลราชธานี ในปจจุบัน หากนับย้อน อุ บลราชธานี มี อายุ ๑๐๒ ป"
เวลาตังแต่เริมสร้าง พ.ศ. ๒๔๖๑ ถึง
ปจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๖๓) อาคารหลังนี ดังภาพถ่ายการจําลองอาคารในด้าน
มอี ายุ ๑๐๒ ป ความเก่าแกข่ องอาคาร ตา่ ง ๆ ของอาคารกบั ภาพถา่ ยบรเิ วณ
นีจึงมีความน่าสนใจในการเดินทัศนา ตัวอาคารในปจจุบนั ดังนี
ชมอาคารและสถาปตยกรรม

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๕

แบบจําลอง
อาคาร

พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ
อุบลราชธานี

ประวตั ิ ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๖
ความเปนมา
อาคาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ หลังแรกของจังหวัดอุบลราชธานีได้มี
อุบลราชธานี การเปลยี นแปลงสอู่ าคาร พิพิธภณั ฑสถาน
แห่งชาติ อุบลราชธานี กล่าวคือ ในป
พุ ทธศกั ราช ๒๕๒๖ จงั หวดั อบุ ลราชธานี
ได้มอบอาคารศาลากลางหลังนีให้กรม
ศลิ ปากรทําการซอ่ มแซมบรู ณะเพือใชจ้ ดั ตงั
เปนพิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาตปิ ระจาํ จงั หวดั
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดป้ ระกาศในราชกจิ จา-
นุเบกษา เล่มที ๑๐๓ ตอนที ๒๐๔ เมือ
วันที ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ประกาศ
ใหพ้ ิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ อบุ ลราชธานี
เปนพิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ หลังจาก
บูรณะซ่อมแซมและจัดแสดงนิทรรศการ
แลว้ เสรจ็ กรมศลิ ปากรไดก้ ราบบงั คมทลู เชญิ
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรม
ร า ช กุ ม า รี เ ส ด็ จ พ ร ะ ร า ช ดํา เ นิ น เ ป ด
พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี
เมอื วันที ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๓๒

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๗

อาคารพิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารพิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ
อบุ ลราชธานี เปนอาคารชนั เดยี ว กอ่ อฐิ อุบลราชธานี ถือเปนอาคารทมี คี ุณคา่
ถอื ปูน ยกพืนสูง หลงั คาทรงปนหยา ทางสถาปตยกรรมและเปนอนุสรณ์
มงุ กระเบอื งวา่ ว แผนผงั อาคารเปนรปู สถานทีสําคัญแห่งหนึงของจังหวัด
สเี หลยี มผนื ผา้ หนั หนา้ ไปทางทศิ เหนอื อบุ ลราชธานี ไดร้ บั รางวลั อาคารอนรุ กั ษ์
ช่องว่างระหว่างเสาใต้กรอบหน้าต่าง ศลิ ปกรรมดเี ดน่ ในปพุทธศกั ราช ๒๕๓๒
ประดบั ดว้ ยลายปนู ปนรปู ดอกบวั ภายใน จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรม
อาคารประกอบด้วย หอ้ งโถงใหญอ่ ยู่ ราชปู ถมั ถแ์ ละกรมศลิ ปากร ไดป้ ระกาศ
ตรงกลาง มหี อ้ งขนาดเลก็ และระเบยี ง ขนึ ทะเบยี นเปนโบราณสถาน เมอื วนั ที
ทางเดนิ อยโู่ ดยรอบเหนอื กรอบประตแู ละ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
หวั เสารบั ชายคาทรี ะเบยี งประดบั ดว้ ยไม้
ฉลลุ ายพันธพ์ุ ฤกษา ดา้ นบนของมขุ ทํา อาคารศาลากลาง จงั หวดั อบุ ลราชธานี
เปนหนา้ บนั ตรงกลางมชี อื “ศาลากลาง หรืออาคารพิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ
จงั หวดั อบุ ลราชธาน”ี สว่ นบนสดุ มคี รฑุ อุบลราชธานีเปนอาคารรูปแบบตาม
ข น า ด ใ ห ญ่ เ ป น สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง สถาปตยกรรมทเี รยี กวา่ “โคโลเนยี ล”
ศาลากลางจงั หวัดในสมัยนัน เปนรปู แบบอาคารทเี ปนทนี ยิ มแพรห่ ลาย
ในสยามประเทศ ตงั แตส่ มยั รชั กาลที ๕-๖
เรมิ แรกมกั เรียกันวา่ “ตกึ ฝรัง”

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๘

ลักษณะรูปแบบ ๑. รูปทรงอาคารเปนลักษณะสีเหลียมแบบ
อาคารแบบ สมมาตร (Square and Symmetrical Shape)
โคโลเนียล
๒. มีการเน้นประตูทางเข้ากึงกลางอาคาร
(ทมี า : https://maiaunyo.wordpress.com (Central door)
/2010/09/14/colonial-style99/,
เข้าถงึ ข้อมูล วันที ๑๒ กันยายน ๒๕๖๓) ๓. มกี ารใชช้ ดุ เสาสงู เปนแนวรบั ชายคากว้าง
(Colonnade) ปองกนั แดด ลม ฝน และเปนซมุ้
เพือเนน้ บรเิ วณทางเข้า-ออก

๔. มีการออกแบบแนวเสน้ ประตหู นา้ ต่างของ
อาคารใหเ้ ปนระเบยี บในแนวเดยี วกนั ผนงั สว่ นใหญ่
เปนผนงั ไมต้ ซี อ่ นเกลด็ สลบั กนั ไปกบั โครงสรา้ งปนู
อาจประตับตกแต่งด้วยบัวปูนปนรอบชายคา
บัวหัวเสาหรือรอบกรอบหน้าต่าง

๕. มรี ะเบียงโดยรอบ

ป กิ ณ ก ะ | ๓ ๙

ทัศนาความงาม
โดยรอบอาคาร
พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ
อุบลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๐

ความงามโดยรอบ

อาคาร

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๑

ลายปูนปน
รอบอาคาร
ลายดอกบวั

ลายปนู ปนทีแสดงความหมาย
สมั พันธ์กบั นามจังหวดั อบุ ลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๒

หน้าต่ างเรียงอยางเปนระเบียบ
ขนานไปกับตั วอาคาร

แ ล ะ พื น ย ก ร ะ ดั บ มี ช่ อ ง ป ด ใ ต้ ถุ น พ ร้ อ ม ช่ อ ง ร ะ บ า ย อ า ก า ศ

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๓

หน้าต่างและ
ชอ่ งปดใต้ถนุ
พรอ้ มชอ่ ง
ระบายอากาศ

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๔

ทัศนาความงาม
ภายในอาคาร
พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ
อุบลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๕

บรรยากาศภายในอาคาร

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุ บลราชธานี

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๖

ความสงบงาม
ภายในอาคาร
พพิ ธิ ภัณฑ์

ป กิ ณ ก ะ | ๔ ๗

ไมฉ้ ลลุ าย
ประดับอาคาร

พิ พิ ธภัณฑสถานแห่งชาติ
อุบลราชธานี

อ า ค า ร พิ พิ ธ ภั ณ ฑ ส ถ า น แ ห่ ง ช า ติ
อุบลราชธานี มีการประดับอาคารด้วย
ไม้ฉลุลายเปนลวดลายพรรณพฤกษา
ไม้ฉลุลายบางชินสังเกตเห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่าช่างออกแบบลวดลายใหเ้ ปน
ลายดอกบวั บาน


Click to View FlipBook Version