เกม
ปดตาเดินทาง
วิธีเลน
1.ลกู เสือเขา แถวตอนนายหมอู ยูหวั แถว รองนายหมอู ยูถดั จากนายหมู นําเชอื กผกู
เอวนายหมแู ละลกู หมูท กุ คนไมใหห ลุดจากกัน
2.นาํ ผาปด ตานายหมู และรองนายหมู
3.เมอื่ ไดยนิ สญั ญาณเริ่มเลน ใหล ูกเสือพากันเดนิ โดยมีนายหมนู ําหนา และใหลูกหมู
จบั เอวตอๆ กนั ไปและหา มลกู หมบู อกเสน ทางนายหมโู ดยการพดู แตใหใชส ญั ญาณอยา งอน่ื แทน
4.หากหมูใดผิดกติกาใหอ อกจากการแขง ขันหรอื มาเร่มิ เดนิ ใหม หมใู ดถึงเสน ชยั กอ น
เปน หมูชนะ ใหห มอู น่ื กลา วคําชมเชย (เยล) ให
เรอ่ื งเลา ที่เปนประโยชน
เดก็ โลภ
เด็กชายคนหนึ่งอยากกินลูกเกาลัดมาก จึงลวงมือลงไปในโถ เเลวกอบเอาลูกเกาลัดจนเต็ม
กํามือเเละไมสามารถเอามือออกจาก ปากโถเเคบๆ ไดเด็กชายจึงรองไหอยูอยางนั้นเพราะไมยอม
ปลอยลูกเกาลดั ออกจากมอื เมือ่ ผูใ หญคนหน่งึ เดินผา นมาเหน็ เขาจงึ วา"ทาํ ไมไมปลอยลกู เกาลดั ในมือ
เสียกอน ถาลวงหยิบเกาลัด ทีละลูกเดียว ก็สามารถหยิบกินไดจนอิ่มเหมือนกัน มือก็ไมติด ปากโถ
ดว ย"
เรอ่ื งนส้ี อนใหรวู า ไดท ีละนอ ย ก็สามารถเก็บใหเ ปนมากได
ตัก๊ เเตนผูหิวโหย
ตั๊กเเตนตัวหน่ึงไมไดกินอาหารมาหลายวันเเลวมันเดินโซเซเพราะไรเเรงกระโดดมาจนถึง
ลานดิน ใตตนโอกใหญทามกลางลมฤดูหนาวพวกมดกําลังขนเมล็ดขาวโพดออกจากรังมาตากให
เเหงตั๊กเเตนจึงเดินไปขอกินเมล็ดขาวโพดสัก 2-3 เม็ดเพื่อประทังชีวิต เเตมดกลับถามวา ทําไมตอน
ฤดูรอน ไมหาเสบียงอาหารกักตุนไวตั๊กเเตนก็ตอบวาตนรองเพลงเท่ียวเลนไปตลอดฤดูรอน
"ถาเชนนั้น เจาก็ควรจะเตนรําไปตลอดฤดูหนาว" มดตอบ เเลวก็ขนเมล็ดขาวโพดกลับเขารังไปให
พวกของตนกิน
46 คูมอื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 2
เร่อื งนส้ี อนใหรูวา ควรขยนั ทาํ มาหากนิ เพื่อใหม ีพอเพยี งในยามยาก
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสอื สามัญรุน ใหญ (เครือ่ งหมายลกู เสือชน้ั พิเศษ) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
หนวยที่ 2 หนาท่พี ลเมอื ง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 8 คิดอยา งไรไมเ ปน ทกุ ข เวลา 1 ชวั่ โมง
1.จุดประสงค
สามารถคดิ เชงิ บวกในสถานการณต า ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชวี ติ ประจาํ วัน
2. เนื้อหา
การคิดเชงิ บวกเปนการวเิ คราะหห าส่งิ ดีๆท่มี อี ยใู นสถานการณต า งๆที่เกิดข้ึนในชวี ิตประจาํ วนั การ
ฝก คิดเชงิ บวกจะชว ยใหม องโลกในแงด ี มคี วามหวัง และหาทางออกจากปญ หาไดงา ยข้ึน
3. สือ่ การเรยี นรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 กระดาษปรฟู ปากกาหัวสักหลาด
3.3 กรณศี กึ ษาเร่ือง นางฟา กับซาตาน
3.4 ใบความรู เรอื่ ง ความคดิ 2 ประเภท
3.5 เร่อื งเลาทีเ่ ปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พธิ เี ปด ประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรือเกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
1) ผูกํากบั ลกู เสือขออาสาสมัครลูกเสอื อานกรณีศกึ ษา เร่ือง “นางฟากับซาตาน”
2) ผกู ํากบั ลกู เสอื ตั้งคําถามในกองลูกเสอื ใหลูกเสอื รว มกนั แสดงความเหน็ และสรุปดงั น้ี
- คิดวาพมิ จะรูสกึ อยางไร
- ความรูสกึ เชน นมี้ าจากความคดิ อยา งไร
3) ใหหมูล กู เสอื รว มกันคิดวา ในสถานการณเ ชนน้ี พิมควรจะคดิ อยางไร จงึ จะไมเปน
ทุกข แตล ะหมู ระดมสมองใหไ ดม ากทส่ี ุดในเวลา 5 นาที แลวเขยี นลงกระดาษปรฟู
4) นายหมนู ําความคดิ ทุกขอ มาโหวต วา ความคิดขอ ใดจะทําใหเกิดอารมณท างบวก
มากกวา กนั โดยใหส มาชกิ เลือกไดค นละ 2 ขอ แลว รวมคะแนนเรยี งลาํ ดับคะแนนมากสุดและ
รองลงมา
5) สงตัวแทนรายงานในกองลกู เสอื ทีละหมู จนครบ
6) ผกู ํากบั ลูกเสือนาํ อภิปราย สรุป และเพม่ิ เตมิ เรือ่ ง ความคิด 2 ประเภท ตามใบความรู
7) ผูก าํ กบั ลกู เสือถามขอคดิ ทไี่ ดแ ละการนาํ ไปใชใ นชวี ติ ประจําวัน
4.4 ผกู าํ กบั ลกู เสอื เลา เรอ่ื งทเ่ี ปนประโยชน
4.5 พิธปี ด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลกิ )
คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 2 47
5. การประเมนิ ผล
สงั เกตพฤติกรรมการคดิ วิเคราะหก ารใชเ หตผุ ล ความคิดความรสู กึ ในการปรับเปลีย่ นมุมมอง
6. องคประกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเี่ กดิ จากกิจกรรม
คอื ความคดิ วเิ คราะห เขาใจตนเอง เขาใจผอู ่นื
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี8
เพลง
หากวา เรากาํ ลงั สบาย
หากวาเรากาํ ลงั สบายจงตบมือพลัน(ซา้ํ )
หากวาเรากาํ ลงั มสี ุขหมดเรอ่ื งทุกขใดๆ ทุกส่งิ
มัวประวิงอะไรกันเลา จงตบมอื พลนั
(ผงกหวั พลนั – กระทบื เทา – จงสงเสียงดงั – จงออกทา ทาง)
กรณีศึกษา
นางฟา กบั ซาตาน
พมิ เปน คนผวิ คลํ้า เกศเปน คนผิวขาวและสวย มกั มีคําลอเลยี นเสมอวา ใครอยากขาวใหไป
อยูใกลพมิ แลว จะขาวทนั ตาเห็น พิมนอ ยใจและแอบไปรอ งใหอ ยเู สมอ
ใบความรู
ความคิด 2 ประเภท
ลักษณะความคดิ ของคนเรามี 2 ประเภท คอื
คดิ ทางลบ เปนประเภททค่ี ิดแลว นาํ ความทุกขมาสตู นเอง ไดแก
1) การตัง้ ความหวังไวสงู เกนิ ไป ท้ังตอตนเองและผูอ ื่น
2) การคาดการณราย คิดถึงแตส ง่ิ ไมด ีท่อี าจจะเกิดหรือไมเ กิดข้ึนกไ็ ด
3) การตําหนติ นเอง หรือมองตนเองวาไรความสามารถ เปรียบเทยี บตนเองกบั ผอู ืน่ มองวา
ตนเองมีปมดอย หว่ันไหวตามคาํ พูดคนอ่ืน
4) การไมอ ยกู ับปจ จบุ นั วติ กกงั วลกบั อนาคตทยี่ งั มาไมถ งึ หรอื หมกหมุนอยูกบั อดตี ทีผ่ า น
ไปแลว และอยากแกไ ขอดีตซึ่งเปนไปไมไ ด
คดิ ทางบวก เปน ประเภทท่ีคิดแลว นําความสุขมาสูตนเอง ไดแ ก
1) ตัง้ ความหวงั และคาดการณตา ง ๆ อยา งสอดคลอ งกบั สภาพความเปนจรงิ ท้ังของตนเอง
และผอู น่ื ไมค าดหวงั จนเกนิ ความสามารถทีจ่ ะทาํ ใหสําเรจ็ ได
48 คูม อื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
2) ยอมรบั จดุ ดี และจดุ ท่ีตอ งแกไขของตนเอง อยา งทเ่ี ปน ไมต ําหนหิ รือเปรียบเทยี บกบั คน
อื่น เนน การพฒั นาคุณคาภายในทีส่ ามารถสรางใหมีมากขนึ้ ไดเรอื่ ย ๆ เชน ความสามารถทาง
สตปิ ญ ญา ความมนี ํา้ ใจชวยเหลอื ผูอ่ืน ความสามารถในการส่อื สารและมสี มั พนั ธภาพทดี่ กี บั ผอู ืน่
ฯลฯ มากกวา การแกไ ขรปู ลกั ษณภ ายนอก ซึ่งเปนธรรมชาติที่มมี าของแตล ะบคุ คล
3) มสี ติอยูก ับปจ จบุ นั รูวาตนเองทาํ อะไร เพอื่ อะไร คนอน่ื ไมร ู ไมเขา ใจ ไมเ ปน ไร ใหอ ภัย
เพราะเขาไมร ู แตเราตอ งรจู กั ตนเอง ทาํ ความเขาใจตนเอง มีแผนสาํ หรับอนาคต และทําปจจบุ ันใหดี
ทส่ี ดุ เพื่อเปนรากฐานท่ีดีสําหรบั อนาคต และไมต องกงั วลกบั การอยากแกไขอดตี ซ่ึงเปนไปไมได
4) มองปญ หาวา มีทางแกไขเสมอ มองหาวา “อะไรผิด” ที่ตองแก แทนการมองหาวา “ใคร
ผิด” เพือ่ กลาวโทษ
5) มองสงิ่ ท่ีเหลอื อยมู ากกวา สง่ิ ท่ขี าดหายไป หรอื หาสิ่งตอบแทนจากการสญู เสยี เชน มอง
ความผดิ พลาดเปน ครูสอนไมใหผดิ ซ้าํ มองการเยา แหยจ ากเพอ่ื นเปนการสรา งสมั พันธภาพทสี่ นทิ
สนมตอกันมากขนึ้
6) มอี ารมณขันเชน มองการลอของเพอ่ื นเปน เร่ืองเลนกนั สนุก ๆ ไมใสใ จเอามาเปน อารมณ
เร่ืองเลาทเ่ี ปน ประโยชน
ตดั เทาไหรถงึ จะพอ
นายชุมชื่นอาศัยอยูในหมูบานเล็กๆแหงหนึ่งใกลเชิงเขา ทุกวันเขาจะเก็บก่ิงไมแหงจากเชิง
เขาเพื่อนําไปขายใหชาวบานใชทําฟนสําหรับหุงตม ฟนของนายชุมชื่นขายดิบขายดีมากเพราะเน้ือ
ไมแหงสนิทจุดงายติดงาย เมื่อไดเงินกลับบานเขาก็แบงใหภรรยาไวใชสอยประจําวัน
วันหน่งึ ภรรยานายชมุ ช่นื พูดกับสามีวา“เดินเก็บก่ิงไมแหงไปขายเมื่อไหรจะร่ํารวยสักทีฉันวา
นะ แทนท่จี ะเกบ็ กิ่งไม เปลย่ี นเปน ไปตัดตนไมน าจะดีกวา”
รุงเชา นายชมุ ชน่ื จงึ ออกตัดตน ไมท่ีข้ึนรอบๆเชิงเขาขณะท่ีนายชุมชื่นกําลังตัดตนไมตนหน่ึงก็
มีแมนกกางเขนตัวหน่ึงบินมาขอรองไมใหตัดตนไมตนน้ัน..แตนายชุมช่ืนไมสนใจ คงตัดตนไมตอไป
จนไดไมก องใหญ เมอื่ นําไปขายก็ไดเงินมากขน้ึ กวาเดมิ
ดวยความโลภคราวนน้ี ายชมุ ชนื่ จงึ เกณฑญ าติพ่นี อ งมาชว ยกันตดั ตน ไม แตม ีสตั วปา ฝูงหนง่ึ
มาขอรองใหเลิกเพราะจะทําลายที่อยูอาศัยและแหลงอาหารของสัตวเหลาน้ัน นายชุมชื่นไมสนใจ
ยงั คงตัดตน ไมตอไป
..โคน โคน โคน ตดั ตดั ตดั ไมใหญ ไมเ ลก็ เรามาตดั กัน!!!
และแลวก็ถึงวันท่ีธรรมชาติลงโทษเมื่อปาไมเหลือแตตอไมมีตนไมคอยโอบอุมซับน้ําฝน เมื่อ
พายุใหญมา ลม และฝนโหมกระหนํ่า นํ้าปาจึงไหลบาพัดพาเอาทอนซุงที่กองไวมาทับถมหมูบานจน
พังพินาศท้ังหมูบานจมอยูใตนํ้า ตัวนายชุมชื่นและภรรยาตองไปอาศัยอยูบนหลังคาบาน จึงเพ่ิงจะ
สํานึกไดถึงความผดิ พลาดของตนเอง
เร่ืองน้สี อนใหร ูวา การเบยี ดเบียนและทําลายธรรมชาติ โดยไมคดิ ถึงผลกระทบตอ สวนรวม จะถูก
ธรรมชาตลิ งโทษ
คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 2 49
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รนุ ใหญ (เครอื่ งหมายลกู เสอื ชัน้ พิเศษ) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 2
หนว ยที่ 3 การเดนิ ทางสาํ รวจ เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 9 การเตรียมตัวกอ นสาํ รวจ
1.จุดประสงคก ารเรียนรู
1.1 สามารถวางแผนการเดนิ ทางสํารวจอยา งเปนขน้ั ตอน
1.2 สามารถเตรียมความพรอ มเพอ่ื ใชใ นการเดนิ ทางสาํ รวจได
2. เนื้อหา
การเตรียมตวั กอ นสาํ รวจเปน การเตรียมความพรอ มเพือ่ ใหการเดินทางสํารวจน้ันสาํ เรจ็ บรรลุ
วตั ถปุ ระสงค ในการเตรียมตวั กอนสํารวจนัน้ มหี ลายสงิ่ ที่ตองจดั เตรยี มใหพรอ มไดแกเ รือ่ งของการปฐม
พยาบาล ความปลอดภัย แผนที่และเข็มทศิ เสน ทาง
3. สอ่ื การเรียนรู
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 ใบความรเู รอ่ื ง การเตรียมตวั กอนสํารวจ (การปฐมพยาบาล ความปลอดภัย แผนทแ่ี ละ
เข็มทศิ เสน ทาง )
3.3 แผนท่ี แสดงเสนทางการเดนิ ทางสํารวจ
3.4 เรือ่ งท่ีเปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมครง้ั ที่ 1
1) พธิ ีเปดประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) ผกู าํ กบั ลกู เสือใหหมลู ูกเสอื รว มกันอภปิ รายกลมุ เก่ียวกับการเตรียมตัวกอน
สํารวจในเร่ืองของการปฐมพยาบาล ความปลอดภัย แผนท่ีและเขม็ ทิศเสน ทางในการเดนิ ทาง
สํารวจ
(2) ผกู าํ กับลกู เสือใหลกู เสอื แตละหมูนาํ เสนอเกีย่ วกับการเตรียมตวั กอนสํารวจใน
เรื่องของการปฐมพยาบาล ความปลอดภยั แผนทีแ่ ละเข็มทศิ เสนทางในการเดินทางสํารวจ ในที่
ประชุมใหญ
(3) ผูกาํ กับลกู เสอื ใหค าํ แนะนาํ เพ่ิมเตมิ จนครบทกุ หมู
4) ผูกาํ กบั ลูกเสอื เลาเรอื่ งทเ่ี ปนประโยชน
5) พธิ ปี ด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธง เลิก)
4.2 กิจกรรมคร้งั ท2ี่
1) พิธีเปดประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
50 คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 2
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) ผูกํากับลูกเสือใหหมูลูกเสือรวมกันอภิปรายกลุมเก่ียวกับการเตรียมตัวกอน
สํารวจในเร่ืองของ วิชาชาวคายรวมทั้งเรื่องอาหารและอุปกรณ ทักษะท่ีจําเปนตองใชในการเดินทาง
สาํ รวจ
(2) ผูกํากับลูกเสือใหลูกเสือแตละหมูนําเสนอผลการอภิปรายเกี่ยวกับการเตรียมตัว
กอนสํารวจในเรื่องของวิชาชาวคาย รวมทั้งเรื่องอาหารและอุปกรณ ทักษะท่ีจําเปนตองใชในการ
เดนิ ทางสาํ รวจ ในทปี่ ระชมุ ใหญ
(3) ผูกํากับลกู เสอื ใหค ําแนะนาํ เพิม่ เตมิ จนครบทุกหมู
4) ผูก าํ กับลกู เสอื เลาเร่ืองทเี่ ปนประโยชน
5) พธิ ีปดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
ลกู เสือสามารถวางแผนการเดนิ ทางและสามารถเขยี นรายงานการสาํ รวจได
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 9
เพลง
ยก ยาง ยก
ยก ยา งยก ยก ยา ง ยก เขาปา forest ไปกบั ฝูง mad dog หมู animal พากันแตกตื่น
ตี๊ดตะลิว bird บนิ สู sky butterfly ดอ มดม flower ดอ มดม flower แขนก็บอกวา แขนขาก็บอก
วา ขา ดอกไมปาจะมา beautiful
รองเทาสึก
หน่งึ กโิ ลเมตรเดนิ มา รองเทา สึก (ซ้ํา) รองเทา ทะลเุ ปน รู (ซํา้ )
1, 2 สองกิโลเมตร เดินมา รองเทา สึก (ซ้ํา) รองเทา ทะลเุ ปนรู (ซํ้า)
1, 2, 3 สามกโิ ลเมตร เดินมา รองเทาสกึ (ซาํ้ ) รองเทาทะลุเปนรู (ซํ้า)
1, 2, 3, 4 สกี่ โิ ลเมตร เดินมา รองเทา สึก (ซ้าํ ) รองเทา ทะลเุ ปน รู (ซ้ํา)
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 สิบกิโลเมตร เดินมา รองเทาสึก (ซํา้ ) รองเทา ทะลเุ ปนรู (ซํ้า)
คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวิต ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 2 51
ใบความรู
การเตรยี มตวั กอนสํารวจ
ในการเดินทางสํารวจน้ัน ควรเตรียมตัวกอนการสํารวจใหเปนอยางดีสิ่งท่ีควรคํานึงถึงเปน
อันดับแรกคอื เร่อื งของความปลอดภัย คณะเดินทางสํารวจจะตองจัดเตรียมเวชภัณฑยาท่ีจําเปนตาง
ๆ เพ่ือไวใชในการปฐมพยาบาลหากมีผูรวมเดินสํารวจปวย เกิดอุบัติเหตุ หรือพบผูคนทั่วไปท่ี
ตองการความชวยเหลือ คณะผูเดินทางสํารวจทุกคนตองมีความรูสามารถทําการปฐมพยาบาล
เบ้ืองตนได และใหศึกษาเสนทางท่ีจะเดินสํารวจน้ันเปนอยางดี พรอมท้ังมีความรู ความชํานาญใน
การใชแผนที่และเขม็ ทิศ ไดพ อสมควรนอกจากน้ันคณะเดินทางสํารวจจะตองมีความรูในเรื่องของวิชา
ชาวคาย รวมทั้งจัดเตรียมเรื่องอาหารและอุปกรณ ในการประกอบอาหาร ใหพรอมคณะผูเดินทาง
สํารวจทุกคนตองมีทักษะท่ีจําเปนตองใชในการเดินทางสํารวจ เชนการสังเกต การจํา การสะกดรอย
เงอ่ื น เปน ตน
เรื่องเลาท่ีเปน ประโยชน
คนตัดไมก ับสนุ ัขจิง้ จอก
คนตัดไมพ าสนุ ขั จง้ิ จอกเขา ไปซอ นทขี่ างกระทอ ม เมื่อถูกขอความชวยเหลอื พวกลาสตั ว
จงู หมาลาเนอ้ื มาถึงก็ถามคนตดั ไมวา เหน็ สุนขั จงิ้ จอกหรอื ไม "ไมเ ห็นเลยเพือ่ นเอย "คนตดั ไมป ฏเิ สธ
แตก ็ชน้ี ว้ิ ไปทางขา งกระทอมพวกลาสตั วไ มเขาใจสญั ญาณบอกใบน ั้นจึงพากันกลบั ไปสุนขั จงิ้ จอกรอ
อยูอีกสกั ครกู ็ออกมาจากท่ีซอ นแลว วง่ิ ผา นหนา คนตดั ไมไ ป คนตัดไมจึงรอ งขึ้นวา "ขาชว ยชวี ิตเจา ไว
เจาไมขอบคณุ เขาเลยหรอื ""ลิน้ ของเจา ไมต รงเหมอื นน้ิวของเจา เลยนะจะใหขอบใจไดอยางไร"สุนขั
จง้ิ จอกกลาวแลว กว็ ่ิงเขาปาไป
เรื่องน้สี อนใหร ูว า คนไมซื่อ ยอ มไมมผี ูใดนบั ถอื
สุนัขจง้ิ จอกกับลา
วันหน่ึง สุนัขจ้ิงจอกเดินไปพบสิงโตท่ีกลางปา มันรูวาสิงโต จะตองจับมันกินเปนอาหารแนๆ สุนัข
จ้ิงจอกจึงรีบกลาวกับ สิงโตวา "ขารูจักลาตัวอวนตัวหน่ึง ขาจะไปหลอกมันมาใหทาน"หลังจากนั้น
สุนขั จิ้งจอกกร็ บี ไปหลอกพาลามาทก่ี ลางปา ลายอมตามมาเพราะไดเคยตกลงทําสัญญาเปนเพ่ือนตาย
ตอ กันมานานแลว เม่ือลาเดินเขา ไปตดิ กับท่ีสิงโตวางไว สงิ โตกห็ ันไปตะปบสนุ ัขจง้ิ จอกกอน
เพราะคดิ วา ลาน้ันเกบ็ ไวกนิ ทีหลังสนุ ขั จงิ้ จอกก็ได
เรอื่ งนส้ี อนใหร ูว า คนไมซ ่ือกับมติ รสหายยอ มไมม ใี ครอยากคบหา
52 คูม ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 2
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญรุนใหญ (เครือ่ งหมายลูกเสอื ชนั้ พิเศษ) ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 2
หนวยท่ี 3 การเดนิ ทางสํารวจ เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 10 กิจกรรมระหวางเดินทางสํารวจ
1.จดุ ประสงคก ารเรยี นรู
สามารถปฏิบตั กิ ิจกรรมระหวางการเดินทางสาํ รวจได
2. เนือ้ หา
การปฏิบตั กิ ิจกรรมระหวา งการเดินทางสาํ รวจ
3. สื่อการเรียนรู
3.1แผนภมู ิเพลง
3.2 ใบความรู เรือ่ งกจิ กรรมระหวา งเดินทางสาํ รวจ
3.3เรอื่ งเลาท่เี ปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พธิ ีเปดประชมุ กอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรือเกม
4.3 กิจกรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
1) ผกู าํ กบั ลูกเสือและลูกเสอื รวมกนั สนทนาถึงประสบการณในการเดนิ ทางไปยงั สถานท่ี
ตาง ๆ ของลกู เสือเชน การไปทอ งเทยี่ ว ทศั นศกึ ษา การปฏิบตั ิกจิ กรรมหวางเดินทาง
เปนตน
2) ผูกาํ กบั ลกู เสอื ชแ้ี จงเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั ิกิจกรรมระหวา งเดินทางสาํ รวจ
3) ผูกาํ กบั ลกู เสอื แบงหมูล กู เสอื ใหออกเดินทางสํารวจ พรอ มแจกใบงานใหลกู เสือได
ปฏบิ ัติกิจกรรมระหวา งเดนิ ทางสํารวจ (สเกต็ ภาพสถานทส่ี าํ คญั ระหวา งทาง สเก็ตภาพภูมิ
ประเทศ สํารวจอาชีพของประชาชน สะกดรอย คาดคะเน ฯลฯ)
4) ผูกํากบั ลกู เสอื ใหล ูกเสือนาํ เสนอผลงานตอทป่ี ระชมุ ใหญ
5) ผูกาํ กับลูกเสอื และลูกเสอื รว มกนั สรปุ ถึงผลที่ไดจ ากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
4.4 ผูก ํากบั ลกู เสอื เลาเรื่องทีเ่ ปนประโยชน
4.5 พิธปี ด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธง เลิก)
5. การประเมนิ ผล
ลูกเสือสามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมระหวางการเดนิ ทางสาํ รวจได
คมู อื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวิต ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 2 53
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 10
เพลง
เดนิ ทางสํารวจ
มา มา เถิดพวกเรา จบั มือกนั กาวเดนิ ไป
บานเราแสนสขุ ใจ ธรรมชาตมิ ากมายวดั วาก็มี
ภมู ิปญ ญาทองถ่นิ แหลงทอ งเทย่ี วทําเราสขุ ี
สํารวจใหดี ชุมชนเรานี้มีอะไร
อยา เกยี จครา น
อยาเกยี จครา นการทาํ งานนะพวกเรา งานหนกั งานเบาเหนือ่ ยแลว เราพักผอนก็หาย
ไมท ํางานหลบหลีกงานดว ยเกยี จครา นเอาแตสบาย แกจ นตายขอทํานายวา ไมเจริญ
ใบความรู
กจิ กรรมระหวางเดินทางสํารวจ
ในการเดินทางสํารวจน้ัน ระหวางทางคณะเดินทางสํารวจจะตองปฏิบัติกิจกรรมใหสําเร็จ
บรรลุวัตถุประสงคและปลอดภัย เชน สเก็ตภาพสถานท่ีสําคัญระหวางทาง สเก็ตภาพภูมิประเทศ
สาํ รวจอาชพี ของประชาชน สะกดรอย คาดคะเน เปนตน
เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน
สนุ ัขจิ้งจอกกับฝงู เหลอื บ
เมนตวั หนึ่งเดนิ ผา นมาเหน็ สนุ ขั จิ้งจอกบาดเจบ็ ติดอยใู นซอกหนิ รมิ ลาํ ธารมีเหลอื บฝงู ใหญ
ตอมดดู เลอื ดของมัน เมนเวทนาจึงเอย วา "ขา จะไลพ วกเหลือบเหลา นัน้ ใหดีไหม” สุนขั จ้ิงจอกสา ย
หนาแลว วา"ขอบใจเพือ่ นเอยถาทานไลเ หลือบฝูงนี้ไปฝงู ใหมท ห่ี วิ โซกจ็ ะมาตอมดดู เลือดขาอีก แตฝ ูง
นม้ี ันอมิ่ แลว มนั ก็อยเู ฉยๆขา จงึ ไมเ จบ็ ปวดมากนัก"
เรื่องนีส้ อนใหร ูวา เมอื่ สิน้ คนที่ไดผลประโยชนจากเรา ก็อาจมีคนใหมๆ ทหี่ วงั ผล ประโยชนจ ากเรา
เขามาในชวี ิตอกี จนได
54 คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญ(เครื่องหมายลกู เสอื ชัน้ พเิ ศษ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 2
หนวยที่ 3 การเดินทางสาํ รวจ เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 11 การรวบรวมขอมลู และการรายงาน
1.จุดประสงคการเรยี นรู
สามารถรวบรวมขอ มูลระหวางการเดนิ ทางสาํ รวจและเขียนรายงานการเดินทางสาํ รวจได
2. เนื้อหา
การรวบรวมขอ มูลระหวางการเดินทางสํารวจและการรายงานการเดินทางสาํ รวจ
3. ส่อื การเรียนรู
3.1แผนภมู เิ พลง
3.2ใบความรู
3.3เรอ่ื งท่เี ปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมครัง้ ที่ 1
1) พธิ ีเปดประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคการเรียนรู
(1) ผกู ํากับลกู เสือและลูกเสือรว มกันสนทนาถงึ การเดินทางสํารวจ โดยใหล กู เสือได
แลกเปลย่ี นประสบการณท ผี่ า นมา
(2) ผูก าํ กบั ลกู เสือแนะนาํ ใหล กู เสอื รจู ักวธิ ีการเก็บรวบรวมขอ มลู ตาง ๆ ทพ่ี บเห็นใน
ระหวา งการเดนิ ทางสํารวจ
(3) ผกู าํ กับลกู เสือแบง หมลู กู เสอื เพอื่ วางแผนกาํ หนดรปู แบบสมุดบนั ทกึ ไวสําหรบั
เกบ็ ขอมูลในการเดินทางสํารวจ
(4)ผูกาํ กับลูกเสือใหห มลู กู เสือนาํ เสนอรูปแบบสมดุ บันทึก โดยผกู ํากบั ลกู เสอื ให
คาํ แนะนาํ เพม่ิ เตมิ จนครบทุกหมหู มลู ูกเสือปรับปรุงสมุดบนั ทึกของตนเองตามความ
เหมาะสม
4) ผกู าํ กับลกู เสอื เลา เรอื่ งทเี่ ปน ประโยชน
5) พิธีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชักธง เลิก)
4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2
1) พธิ ีเปดประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
คูม อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวิต ชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 2 55
(1) ผกู าํ กับลกู เสือและลกู เสอื รว มกันทบทวนถึงเรื่องการออกแบบสมุดบนั ทกึ
ขอ มูลในการประชมุ กองครั้งท่ีผานมา
(2) ผูกํากบั ลกู เสืออธบิ ายถงึ การเก็บรวบรวมขอ มูลและนําไปสูก ารเขียนรายงาน
การเดินทางสํารวจ
(3) ผกู ํากบั ลกู เสือมอบหมายใหห มลู กู เสอื วางแผนกําหนดรูปแบบวธิ กี ารเขียน
รายงาน หลังการเดนิ ทางสาํ รวจ
(4) ผูกํากบั ลกู เสอื ใหห มลู กู เสอื นําเสนอรปู แบบวิธกี ารเขียนรายงาน โดยผกู าํ กับ
ลกู เสอื ใหค ําแนะนาํ เพ่ิมเตมิ จนครบทุกหมู หมูลกู เสือปรับปรุงแบบแสดงรายงานการเดนิ ทางสํารวจ
ตามความเหมาะสม
4) ผกู ํากบั ลูกเสอื เลาเรื่องทเ่ี ปน ประโยชน
5) พิธีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
ลกู เสือสามารถเก็บรวบรวมขอ มลู ระหวา งการเดินทางและเขยี นรายงานการสาํ รวจได
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมที่ 11
เพลง
สามัคครี วมใจ
สามัคคีรว มใจ เร็วไวชว ยกนั ทําการงานดว ยความสําราญเริงใจ
มาชว ยกนั ซเิ รว็ ไว จะไดเ สร็จทันใดใครๆก็พากนั ยกยอ ง
เงาะหรือแงะ
เงาะหรอื แงะมันแปลกดีแฮะนีแ่ งะหรอื เงาะ
กลม ๆ แลว มีขนดวย (ซา้ํ ) โอแมค นสวยนเี่ งาะหรือแงะ
56 คมู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 2
ใบความรู
การรวบรวมขอมลู และการรายงาน
ในการเดนิ ทางสาํ รวจนัน้ คณะเดินทางสาํ รวจควรมสี มดุ บนั ทึกในการเดนิ ทางสาํ รวจ เพอื่ เก็บ
ไวเปนหลักฐานในการสอบวิชาการเดินทางสํารวจตอไป และเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลที่ไดจากการ
เดินทางสํารวจมาศึกษาหาความรู และจัดทาํ รายงาน
การทําแบบรายงานการสํารวจ
ลูกเสอื ควรจะมีการบันทกึ สง่ิ ตาง ๆ ลงในสมุดบนั ทกึ เหมอื น ๆ กนั ดว ยการกระทําดังนี้คอื
1. แบบฟอรมรายงานจะตองบอกใหทราบถึง วัน เดือน ป ท่ีกําลังกระทํากิจกรรมเดินทาง
สาํ รวจ
2. เวลา แสดงรายละเอยี ดวา เวลาเทาไหรข องวนั นั้น ๆ ใชบ อกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง
3. รายงานอยางละเอียดโดยเฉพาะอยางยงิ่ รายการทสี่ าํ คัญๆ
4. บอกระยะทางเปนกิโลเมตร บอกตําแหนงท่ีต้ังของสถานที่ตาง ๆ หรือจะบอกระยะหาง
จากจุดหนง่ึ ไปยงั อกี จดุ หนง่ึ กไ็ ด
5. ตอ งมแี ผนทส่ี งั เขป ทาํ อยา งประณตี และสะอาดเรยี บรอย ซ่งึ ลูกเสือจะตองเขียนสัญลักษณ
แทนส่งิ ตาง ๆ ใหถูกตอง เชน ถนน ทางรถไฟ แมนํา้ สะพาน เปนตน
แบบแสดงรายงาการเดนิ ทางสํารวจ
วัน เดือน ป เวลา รายการ ระยะทาง
คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 57
เรื่องเลาท่เี ปนประโยชน
กวางปา กบั พวงองุน
กวางปาวิ่งไปในเพิงองุนเพื่อซอนตัวจากการตามลาของนายพราน “ขอใหขาซอนตัวดวยเถิด
นะองุน"กวางปากลาวอยางนอบนอม องุนก็อนุญาตเม่ือพรานตามมาถึงบริเวณน้ันแตไมพบกวางปา
ก็จึง ว่ิงไปอีกทางหน่ึงกวางปาเห็นวาปลอดภัยแลวจึงกัดพวงองุนอยางเอร็ดอรอย"เจากินขาทําไม
เพอ่ื นเอย "ตัวองนุ ถามอยางนอยใจ กวางปาจึงวา" ถาขาไมกินเจา ก็มีคนอื่นมากินเจาอยูดีนั่นแหละ"
ขณะที่กัดกินพวงองุนเอง พรานอีกคนหน่ึงผานมาเห็นวามีบางส่ิงเคล่ือนไหวอยูใตเพิงองุนจึงเล็งธนูยิง
ใสก วางปาทันที
เรอื่ งน้สี อนใหรูวา คนไมร บู ญุ คณุ คนมักประสบความหายนะ
สนุ ัขจ้งิ จอกในดงหนาม
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งชอบไปขโมยลูกไกและแมไก ของชาวบานมากินเปนประจําวันหน่ึงพวก
ชาวบานใหพรานดักซุมรอเลนงานสุนัขจ้ิงจอก แตสุนัขจิ้งจอกเห็นเขากอนจึงรีบวิ่งหนี ออกจาก
หมูบานโดยเร็วพรานยังคงไลลาตามมาติดๆ สุนัขจิ้งจอกจึงกระโดด เขาไปซอนตัวในดงหนามที่ชาย
ปาหนามอันแหลมคมทิ่มตําสุนัขจ้ิงจอกจนเจ็บปวดไปทั้งตัว มันตัดพอดงหนามวา "ทําไมตองทําราย
เราดวย ในเมื่อเราไมเคยทํารายเจา"ดงหนามจึงตอบวา ลูกไกและแมไกก็ไมเคยทํารายสุนัขจ้ิงจอก
เชน กันและการท่กี ระโดดเขา มากท็ าํ ใหก่งิ กา นของดงหนามหักรานไปไมน อย
เรอื่ งนีส้ อนใหรวู า กอนจะตําหนิวาใคร ควรยอนดตู นเสียกอ นวา เคยทาํ ผิด เชนนัน้ มากอ นหรือไม
58 คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญ(เครอื่ งหมายลูกเสอื ช้นั พเิ ศษ) ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 2
หนว ยท่ี 4 การแสดงออกทางศลิ ปะ เวลา 3 ช่วั โมง
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 12 การแสดงออกทางศลิ ปะ
1. จดุ ประสงคการเรียนรู
1.1 เพ่อื ใหล ูกเสอื มีการพัฒนา ในเร่ืองการรูจกั คณุ คา ของศลิ ปะ
1.2 เพอื่ ใหล กู เสอื มีสว นรว ม ในงานศลิ ปะประเภทตา งๆ
2. เนอื้ หา
การแสดงออกทางดานศลิ ปะ
3. สื่อการเรียนรู
3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 อปุ กรณประกอบการแสดงออกทางดานศลิ ปะ
3.3 ใบความรู
3.4 เรื่องที่เปนประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 กจิ กรรมคร้งั ท่ี 1
1) พิธีเปด ประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู
(1) ผกู ํากับลกู เสือและลกู เสอื สนทนารวมกนั เกีย่ วกับงานศิลปะ และแลกเปลย่ี น
ประสบการณใ นการทาํ งานดานศลิ ปะ
(2) ผกู าํ กับลกู เสอื ใหข อ มูลเกีย่ วกบั งานศลิ ปะตามขอบขายที่การลกู เสอื กาํ หนด
(3) ผูกํากบั ลกู เสอื และลูกเสอื รว มกัน แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั โอกาสที่ลูกเสอื จะ
ไดแ สดงออกทางดานศิลปะที่เหมาะสมหรือ การเขารวมกจิ กรรมศลิ ปะดานตางๆ
(4) ผูกาํ กบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว มกนั สรปุ ถงึ องคความรูทไ่ี ดร ับจากการศกึ ษาเรอ่ื ง
ศิลปะ
4) ผกู าํ กับลกู เสอื เลา เรอ่ื งที่เปนประโยชน
5) พธิ ีปดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลิก)
4.2 กิจกรรมครง้ั ท่ี 2
1) พธิ เี ปด ประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบน่ิงตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู
(1) ผูกาํ กบั ลูกเสอื และลูกเสอื รว มกนั สนทนา และทบทวนเกี่ยวกบั เรอื่ งศลิ ปะในสปั ดาห
ท่ผี า นมา
คูมอื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 59
(2) ผกู ํากับลกู เสือมอบหมายลูกเสอื รวมกนั วเิ คราะห ความสนใจทางดานศิลปะ ของ
ตนเอง และหมลู ูกเสือ แลว เลือกแสดงออกดานศิลปะทตี่ นเอง และหมูลูกเสือสนใจหรอื ถนดั
(3) ลกู เสือนําเสนอแนวทางการแสดงออกของตนเอง และของหมู ใหกองลูกเสอื
ไดร บั ทราบ และใหขอ เสนอแนะ
(4) ผูก าํ กบั ลกู เสือมอบหมายใหลกู เสอื วางแผนฝก ซอม เพื่อจดั การแสดงในช่วั โมง
สัปดาหต อไปโอกาสทเ่ี หมาะสม
4) ผูก ํากับลกู เสือเลา เรื่องท่เี ปนประโยชน
5) พธิ ปี ดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชักธง เลิก)
4.3 กจิ กรรมครั้งที่ 3
1) พธิ ีเปด ประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
(1) ผูก ํากบั ลกู เสอื ใหล ูกเสอื นาํ เสนองานการแสดงออกดา นศลิ ปะทไ่ี ดน ัดหมายไวใ น
สัปดาหทผ่ี า นมา ใหก องลูกเสือไดร ับชม
(2) ผูกาํ กบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว มกนั แสดงความชน่ื ชมถงึ การแสดงออกดา นศลิ ปะ
ของลูกเสอื แตล ะคนและของหมลู กู เสือแตล ะหมู
(3) ผกู ํากบั ลูกเสอื มอบหมายใหล กู เสอื วางแผนฝก ซอ ม และพฒั นาใหดียง่ิ ข้นึ เพื่อ
จดั การแสดงตอ ไปโอกาสที่เหมาะสม
4) ผูก ํากับลกู เสอื เลาเรือ่ งท่เี ปน ประโยชน
5) พิธีปด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลิก)
ขอเสนอแนะ
โอกาสการจดั การแสดงทางดา นศลิ ปะทเี่ หมาะสมไดแก วนั สาํ คัญตา งๆ เชน วันเดก็ วนั สาํ คัญ
ทางดา นศาสนา ชาติ พระมหากษัตริย วันสําคญั ทางลกู เสือ และการอยูคายพกั แรม
5. การประเมนิ ผล
5.1 ลกู เสือสามารถแสดงออกทางศลิ ปะไดอยา งนอ ยคนละ 1 อยาง
5.2สามารถบอกคุณคา ของทางศิลปะตอ ตนเอง ชมุ ชน และนําไปใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั ได
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 12
เพลง
มารองเพลงกัน
60 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 2
มารอ งเพลงกันเถิดนะจะ มาเรามารองรําทําเพลง
ฟงเสียงเพลงแลว ช่นื ใจ ฟงเสยี งเพลงแลว ชืน่ ใจ
เกียรติศกั ดลิ์ ูกเสอื ไทย
ลูกเสือ ลกู เสือ ไวศกั ด์ิซลิ ูกผชู าย ลูกเสอื ลกู เสอื ไวลายซิลูกเสอื ไทย
รกั เกยี รตวิ นิ ยั แข็งแรงและอดทน เราจะบาํ เพญ็ ตนใหเ ปนประโยชนตอผอู ื่น
ชางโชคดี
ชา งโชคดวี นั น้มี าพบเธอ (ซ้าํ ) ฉนั ดีใจจริงนะเออมาพบเธอฉันสุขใจ
เธอน้นั อยสู บายดหี รือไร (ซํา้ ) มารองราํ เพลนิ ฤทยั ใหห วั ใจสุขสําราญ
ตบมือไปกนั ใหพรอ มเพรยี ง (ซา้ํ ) ยกมือไว สา ยหวั เอยี ง ใหพ รอ มเพรยี งตามกัน
แลว หมุนกลบั ปรบั ตวั เสียใหท นั (ซา้ํ ) มือเทา เอวซอยเทา พลนั ใหพ รอมกันเถดิ เอย
เกม
กระรอกแยงรงั
วิธเี ลน
1. แบงลูกเสือออกเปนหมู หมูละ 3 คน แตละหมูให 2 คนจับมือกัน (รัง) อีกคนหน่ึงเขาไปยืน
ระหวา งกลาง (ใหเ ปนกระรอก)
2. จัดใหแตละหมูหางกันประมาณ 2 –3 เมตร วางใหเปนรูปวงกลม ใหกระรอกตัวท่ีไมมีรังมา
ยืนตรงกลาง
3. ผูกํากบั ลกู เสอื ใหสัญญาณเร่มิ เลน โดยการเปานกหวีด เมื่อไดยินสัญญาณใหก ระรอกในแตล ะ
รังวง่ิ เปลยี่ นรงั กัน ตัวท่ีไมม ีรังตองคอยวิ่งแยง รงั ตัวอน่ื ถาแยง ไดใ หเขาไปอยูแทน ตัวที่เขารังไมไดก็คอย
แยงรังของตัวอน่ื ตอไป
กระซิบขา ว
วิธีเลน
1. ใหลูกเสือเขาแถวเปน 2 แถว หรอื มากกวานั้น แตล ะคนหางกนั 2 หลา
2. การเร่ิมเลน ใหค นแรก(คนทา ยสุด)กระซบิ คนที่อยขู างหนา แลว ตอไปเรอื่ ยๆ
จนถงึ คนหัวแถว
3. เม่อื แถวใดทําเสร็จกอน และรายงานขาวไดถกู ตองทสี่ ดุ เปน “ผูช นะ”
การกระซิบหา มตะโกนดงั ๆ
จบั คูต ามสงั่
คูม อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 2 61
วิธเี ลน
1. ใหล กู เสอื เขา แถวเปนวงกลม
2. สัง่ ใหล กู เสือเดินเปนวงกลม ตบมือพรอมเทา เม่อื ไดยนิ คําส่งั ใหจับ “3” ใหทุกคนวิง่ เขา
หากนั จบั เปน กลมุ ๆ ละ 3 คน คนใดจับไมไดหรือจบั ชาใหค ดั ออกมานอกวง การสัง่ จะส่งั เทาไรกไ็ ด
เชน 4, 5, 2 ฯลฯ เมอื่ เห็นวา ลูกเสอื สนุกสนานพอสมควรกย็ ุติการเลนได
ใบความรู
การแสดงออกทางศลิ ปะ
เพ่ือใหมกี ารพฒั นาในเรอื่ งการรูจกั คุณคา ของศลิ ปะ โดยมสี วนรวมอยางจรงิ จงั ในงานศลิ ปะ
ประเภทตา งๆ ทลี่ กู เสอื สนใจเปน พิเศษ
คาํ วา “ศลิ ปะ” (The Arts) มคี วามหมายกวา งมาก และอาจคลุมถึงกจิ กรรมทางวัฒนธรรม
(Cultural activity) แทบทกุ อยาง
ศลิ ปะอาจแบง ออกเปน 5 กลุมคือ
1. ศลิ ปทางการแสดง เชน ดนตรี ละคร การฟอนรํา วพิ ธิ ทัศนา หุนกระบอก การแสดงกล
การพูดในท่สี าธารณะ การโตว าที ฯลฯ
2. ทัศนศลิ ป (Visual Arts) เชน การวาดภาพลายเสน (Drawing) การวาดภาพระบายสี
(Painting) การปนและการทาํ แบบจาํ ลอง (Sculpture & Modelling) การออกแบบแฟชั่น (Fashion
Design) ฯลฯ
3. การชาง (Crafts) เชน การพมิ พภ าพดวยวิธสี กรีน (Screen Printing) เครื่องปน ดนิ เผา
การลงยา การทําเคร่อื งเขนิ การทาํ เคร่ืองถม การแกะสลักไม การชา งหนงั การทอ การชางโลหะ
การจกั สาน การเขา เลมหนงั สอื ฯลฯ
4. ศลิ ปะทางอักษรศาสตร (Literary Arts) เชน นวนิยาย บทรอ ยกรอง การหนังสือพมิ พ
ชีวประวตั ิ ความเรียง ฯลฯ
5. ศลิ ปะการวจิ ารณ (Criticism) เชน ดนตรี ละคร ภาพยนตร โทรทัศน นทิ รรศการศลิ ปะ
สถาปต ยกรรม ฯลฯ
มาตรฐานเครอ่ื งหมายลูกเสอื ชั้นพิเศษ
แสดงความกาวหนาในการปฏิบัตงิ านทางศลิ ปะ โดยกระทาํ เรือ่ งหนึ่งเร่อื งใดตอไปนี้ใหเปน
ผลสําเรจ็
1. เสนอผลงาน 3 ชิ้น ซ่งึ แสดงความกา วหนา (เชน ภาพวาดระบายสี การปน งานเขยี น
การถายภาพ ฯลฯ)
2. แสดงหรอื มสี วนในการแสดงทางศิลปะ ภายในของลูกเสอื หรือช้นั เรยี น 3 ครัง้ (เชน
ดนตรี ละคร การพดู ในท่ีประชุม ฯลฯ)
62 คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 2
3. ไปดกู ารแสดงหรือนิทรรศการอยางนอย 3 คร้ัง หรืออานหนงั สอื ในทางศลิ ปะอยา ง
นอ ย 3 เลม ตามคําแนะนําของกรรมการสอบ และตอมากรรมการสอบผไู ดทาํ การ
สัมภาษณเ ห็นวามีความรูในทางศิลปะกวางขวางยิง่ ขนึ้ พอสมควร
หมายเหตุ ลกู เสอื สามญั รุนใหญที่มีความสามารถในทางศิลปะอยเู ดิม ควรพยายามผา นการทดสอบ
ตามขอ 1 หรือขอ 2
เรื่องเลา ทีเ่ ปนประโยชน
คุณคาของ “ลมหายใจ”
ทุกวันน้เี รามชี วี ติ อยไู ดกเ็ พราะอาศยั ลมหายใจแตล มหายใจยังมีคุณคาอ่นื ท่เี รามักมองขามก็
คอื ลมหายใจน้นั เปน เพอื่ นเตือนใจเราได
เวลาโกรธใครสกั คน ลองหายใจเขา ลึก ๆแลวผอนออกมาชา ๆ สกั 5 เที่ยวความอดั อัน้ เกบ็
กดอยากระบายโทสะจะลดลงไปมากสตทิ เี่ กอื บจะหลุดไปกลับคนื มาอยางรวดเร็ว ลมหายใจจงึ เปนยา
สลายความโกรธชั้นดี หรอื จะใชส ลายความกลวั ก็ได สลายความเครียดก็ย่งิ ดีเขา ไปใหญ
รางกายกับจิตใจน้นั มคี วามสัมพนั ธกนั อยา งใกลชดิ เวลาเกดิ โทสะหัวใจจะเตน เรว็ ลมหายใจ
ถีก่ ระช้ันเรยี กวาใจมผี ลตอกาย ขณะเดียวกนั กายก็มีผลตอ ใจดว ยลองหายใจเร็ว ๆ ส้นั ๆ สกั พกั จะ
รสู ึกเครียดคนทีห่ ายใจตืน้ และถีจ่ ะเปน คนหงดุ หงดิ งา ย ตรงกนั ขามการหายใจเขาลกึ ๆ และหายใจ
ออกยาว ๆ ใจจะเบาคลาย
ถา เรารตู วั จับความรูสึกของตัวเองทันรบี เอาลมหายใจมาใชใ หเ ปนประโยชนด ว ยการกําหนด
ลมหายใจเขา ออกลกึ ๆความรูสึกโปรง โลงจะเขามาแทนทค่ี วามเรา รอ นวนุ วายใจ
นอกจากน้ียงั พบอกี วาในลมหายใจน้ันมที รพั ยล ํา้ คา ทใี่ ชเทา ไรกไ็ มม วี นั หมด คือความสุขสงบ
การหายใจเขา ออกชา ๆเปนบันไดเบ้ืองตน สูความสงบถาจะใหไดผ ลดยี ่ิงข้ึนก็เอาใจไปจดจออยูท่ลี ม
หายใจดวยยิ่งจิตใจแนบชิดสนิทกับลมหายใจมากเทาไร ก็ย่งิ ดีมากเทา นน้ั หรือจะนบั ดว ยกไ็ ด เชน
หายใจเขา นบั 1 หายใจออกนบั 1จากนนั้ หายใจเขานบั 2 หายใจออกนบั 2 เรยี งไปจนถงึ 5 หรือ
ตอ ไปถงึ 10 ก็ได
เรอ่ื งนีส้ อนใหรวู า คนเรามักแสวงหาความสุขนอกตวั หารไู มว าในลมหายใจน้นั มีท้ังสติทัง้ ความ
ผอ นคลายและความสขุ สงบขอสาํ คัญคอื เราตองใสใจกบั ลมหายใจของเราใหม ากกวา นี้ แทนที่
จะละเลยจนลมื ตัวบอย ๆ วา เรากําลงั หายใจอย.ู
กบกับสงิ โต
กบตัวหน่ึงกระโดดเลนนํ้าฝน และหาเหย่ืออยูที่เชิงเขาแหงหน่ึงดวยความสุขใจ ในขณะน้ันก็
มีสิงโตตัวหนึ่งเดินมาพบเขาพรอมกับไลกบใหไปอยูท่ีอ่ืน มิฉะนั้น จะฆาเสียใหตาย ฝายกบนั้นตกใจ
มากไดออ นวอนขอใหสิงโตอนุญาตใหตนอยใู นถิ่นน้ตี อไปเถิด เพราะที่นต้ี นไดอยูต ัง้ แตเ กดิ แลว และก็
คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 2 63
มีอาหารอุดมสมบูรณดวย แตสิงโตไมยอม เมื่อกบเห็นวาจะพูดอยางไรสิงโตก็ไมยอมฟงท้ังน้ัน จึง
บอกกับสิงโตวา “เอาละ เมื่อทานไมยอมใหอยูก็ไมเปนไร แตกอนจะจากไปขอชมความงามรอบภูเขา
นี้สกั หนง่ึ รอบเถดิ ” สงิ โตกอ็ นุญาต แลวกบก็พดู ตอ ไปวา
“เอาอยางนี้ดไี หม เรามาว่งิ แขง ขันกนั ในวนั พรงุ นีใ้ หร อบภูเขานี้ หากใครชนะผูนั้นก็จะไดอยูที่
ภเู ขานีต้ อไป หากใครแพผนู ั้นตอ งจากภเู ขานี้ไป”
สิงโตไดยินกบพูดดังน้ันก็หัวเราะ พรอมกับพูดวา “ไดซิ อยามาทาแขงใหเสียเวลาเลย
อยางไรเสยี ทา นก็ตอ งแพแนๆ ”
ฝายกบเมื่อไดตกลงนัดหมายเวลาและสถานที่กับสิงโตเรียบรอยแลว ก็กลับไปเรียกประชุม
กบทัง้ หลาย วางแผนท่ีจะเอาชนะสิงโตใหได
วันรงุ ขึ้นกบกบั สงิ โตกไ็ ปยังท่ีนดั หมาย สงิ โตพดู ขน้ึ กอนวา “กบโวย เร่ิมแขงขันแลว หรอื ยงั ”
แลวสงิ โตกไ็ ดย ินเสยี งกบตอบวา “เริ่มแขง ขันไดเ ลย เดยี๋ วนี้แหละ”
เมื่อสงิ โตวิ่งไปไดส ักครูกเ็ หน่อื ย กค็ ิดวาจะหยุดนอนหลับซกั พกั หนงึ่ กว็ งิ่ ไปทันกบ ถมเถไป
วา แลว สงิ โตกน็ อนหลับไปพกั ใหญๆ พอตนื่ ข้นึ มากร็ ีบว่ิงไปอยา งรวดเรว็ ทนั ที พอวิง่ ไปไดสกั ครหู นง่ึ
สงิ โตตะโกนวา “กบโวย ขา ชนะแลว ”
พอสน้ิ เสยี งของสงิ โต กไ็ ดยนิ เสยี งกบรอ งตะโกนอยูขางหนา วา “ขาอยูท ่ีนี่ ทา นยังตามขาไม
ทันหรอก”
สงิ โตพอไดย ินดงั นั้นกต็ กใจว่ิงอยางสดุ แรงเกิดเพอื่ เอาชนะกบใหไ ด พอสงิ โตวิ่งไปไดส ักครู
ใหญๆ กค็ ดิ วา ตนตอ งวิง่ เลยกบมามาแลว จึงตะโกนออกไปวา “กบโวย ฉนั ชนะแลว”
แตแลว กไ็ ดยนิ เสียงกบตอบทางหนาสิงโตอีกวา “ทา นจะชนะขาไดอ ยา งไร เม่ือทานยังว่ิงอยู
ขา งหลงั ขา ”
สิงโตพอไดยนิ ดังนนั้ ก็ตกใจสุดขีด รีบกระโดดออกว่งิ ไปอยางรวดเรว็ อกี ครั้ง ว่ิงไปไดส ักพกั
หน่ึงกต็ ะโกนออกไปใหมวา “กบโวย ขาชนะเจาแนๆ คราวน”้ี
แลว สิงโตกไ็ ดย ินเสียงกบตอบอยูขางหนาวา “ทานยงั วงิ่ อยขู า งหลังขา ทานจะชนะได
อยา งไร”
สิงโตหมดแรงวิ่งตอ ไปแลว คดิ วาเราแพก บแลว ถาขืนอยตู อไปเราตอ งไดร บั ความอับอาย
จากบรรดาสรรพสตั วท ้งั หลายแนๆ วา วง่ิ แขงขนั แพกบแลว สิงโตกไ็ ปแอบเสยี ทใี่ นปาตรงเชิงภเู ขา
น่นั เอง และแลว สงิ โตกไ็ ดย นิ เสยี งกบพดู ข้นึ วา
“ทานแพข าแลว แตข า จะไมไลทา นจากภเู ขาน้หี รอก ขอใหท า นทาํ ใจใหส บาย และจงอยูต อ
ทน่ี ตี่ อ ไปเถดิ ”
สิงโตพอไดยนิ เสียงกบพดู ดังนั้นย่ิงใหรูสกึ อบั อายมาก จงึ รบี ว่ิงหนีออกจากภเู ขาแหงนัน้ ไป
และไมกลบั มาที่ภูเขานัน้ อีกเลย
เรอ่ื งนส้ี อนใหรูว า เมื่อเปน ใหญเปนโตแลวอยาเที่ยววางอํานาจ และอยาเที่ยวไปทาทายแขงขันกับ
ผูที่มีกําลังนอยกวาถาชนะก็ไมเปนส่ิงท่ีนาภาคภูมิใจ แตเมื่อแพจะไดรับความอับอายการแขงขันนั้น
64 คูม ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวติ ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 2
อยานึกวาตนมีอะไรหลายอยางเหนือกวาคูตอสูมากจะชนะเสมอไปอาจจะพายแพดวยความ
รูเทา ไมถ งึ การณก ็เปนได
ความมรี ะเบยี บวินยั
คณุ แมข องชัยยทุ ธเลาวา การจัดดอกไมเ ขาแจกันนน้ั จะทาํ ใหด อกไมท ่อี ยูในแจกันดสู วยงาม
เหมาะสมท่จี ะนาํ มาบชู าพระ เปน ของขวญั กํานัลอนั มคี ุณคา ตรงขา มกบั ดอกไมป ระเภทเดียวกนั
แตเหลือท้งิ จากการจดั เขาแจกนั ก็หาคามิได และจะถูกกวาดลงถังขยะไปในที่สดุ คุณแมจ งึ ถามชัย
ยุทธวา “ลกู คิดจะเลอื กทาํ ตนแบบไหน เปน แบบดอกไมใ นแจกัน หรือนอกแจกัน” ชยั ยทุ ธตอบวา
“ผมอยากเปนดอกไมในแจกนั ครบั เพราะผมอยากเปน คนท่ีมีคณุ คา”คณุ แมจงึ ชน่ื ชมชยั ยุทธท่ีรจู กั คดิ
อยางมีเหตุผล
เรื่องนส้ี อนใหร ูวา เราควรทําตัวใหม คี ุณคาเหมือนดอกไมในแจกัน เพราะจะไดรับการยกยอ ง
วา เปนคนดี
คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2 65
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รนุ ใหญ(เครอ่ื งหมายลกู เสือชั้นพิเศษ) ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 2
หนวยท่ี 5 สมรรถภาพทางกาย เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 13 ลูกเสอื ไทยกายสมารท
1.จดุ ประสงคการเรียนรู
ตระหนกั รถู งึ สถานการณสุขภาพของตนเองในเรือ่ งความอวน โดยใชด ัชนีมวลกายเปน
ตวั ช้ีวดั และมแี นวทางในการดแู ลตนเอง
2. เน้ือหา
ความตระหนักถึงสถานการณสขุ ภาพของตนเองในเรอื่ งความอว น และการปฏบิ ัตติ นใหมี
ดชั นีมวลกายตามเกณฑส ขุ ภาพ จะชว ยใหมสี ุขภาพดีแข็งแรง
3. สอ่ื การเรียนรู
3.1 เกม
3.2 ใบความรเู รอ่ื ง อยา งไรเรยี กวาอว น, เร่อื ง พลงั งานทไี่ ดจ ากอาหาร และพลงั งานทใ่ี ชใน
กจิ กรรมตา ง ๆ
3.3 เรอ่ื งเลาท่เี ปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1
1) พิธีเปดประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) ผูกํากบั ลกู เสอื นาํ สนทนาดว ยคาํ ถาม “ลกู เสือคดิ วา ตนเองอว นหรือไม เพราะ
อะไร” สมุ ใหลกู เสอื ตอบ 2 – 3 คนแลว นาํ เขาสกู ิจกรรม
(2) ลูกเสือช่ังน้าํ หนักวัดสวนสงู คํานวณหาคา ดัชนีมวลกาย โดยศกึ ษาจากใบความรู
เรอ่ื งอยา งไรเรยี กวาอวน
(3) หมลู ูกเสอื นัง่ ลอ มวง สมาชิกแตล ะคนผลัดกันพูดคยุ แลกเปลีย่ นในประเด็น
- คาดชั นีมวลกายที่ไดข องตนเองตรงกับที่คิดไวต อนแรกหรือไม เพราะอะไร
- ทบทวนการปฏิบัตติ นแลวมีปจจยั อะไรที่ทาํ ใหคาดัชนีมวลกายออกมาเชนนี้
(ต่าํ กวา เกณฑ อยูใ นเกณฑ สงู กวาเกณฑ)
- ตัง้ ใจจะปรบั พฤติกรรม หรอื ปฏบิ ตั ติ น อยางไรบาง
(4) รวมกอง ผูกาํ กบั ลูกเสอื เพม่ิ เตมิ เร่อื งการรับประทานอาหาร และการออกกาํ ลัง
กาย เพอื่ ควบคุมดชั นีมวลกายใหอยใู นคา ปกติ และนัดแนะการติดตามผลการปฏบิ ตั ติ น ใน
อีก 3 เดือน
66 คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 2
4) ผูกํากบั ลกู เสอื เลาเรอื่ งทเี่ ปน ประโยชน
5) พิธปี ดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธง เลิก)
4.2 กจิ กรรมคร้ังท่ี 2 ( 3 เดือน หลังกจิ กรรมคร้ังท่ี 1)
1) พิธีเปดประชมุ กอง(ชกั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคการเรยี นรู
(1) ผูก ํากับลกู เสือใหล กู เสอื ช่งั นํ้าหนกั วดั สว นสูง คํานวณหาคา ดัชนมี วลกาย เทียบ
กับเกณฑ และคา เดิมในครง้ั กอ น
(2) หมูลกู เสือนงั่ ลอมวง ใหส มาชิกแตละคนผลดั กนั พดู คยุ แลกเปลยี่ นในประเดน็
- คา ดชั นมี วลกายเปน ไปตามทค่ี าดไวห รอื ไม
- ทบทวนการปฏิบตั ติ นแลว มปี จจยั อะไรท่ีทําใหค า ดชั นีมวลกายออกมาเชน น้ี
(เปนหรือไมเ ปนตามท่ีคาดไว)
- การปรบั พฤติกรรม หรอื ปฏบิ ตั ติ น ใน 3 เดือนทผี่ า นมามผี ลตอสขุ ภาพ
อยางไรบา ง
(3) รวมกอง ผกู ํากบั ลูกเสอื นาํ อภปิ ราย และสรปุ ในประเดน็ “ไดข อคิดอะไรจาก
กิจกรรม และจะนําไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจาํ วนั อยา งไร”
4) ผกู ํากับลกู เสอื เลา เร่ืองท่ีเปนประโยชน
5) พธิ ีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธง เลิก)
5. การประเมินผล
5.1 ลกู เสือมีพฤติกรรมการใฝรใู สใ จปฏบิ ัตติ ามคาํ สงั่ ผูกํากบั ลกู เสอื รับฟง ความคดิ เหน็
เสนอความคดิ เห็น การเปนผนู าํ ผูตามทดี่ ี
5.2 ลกู เสือประเมนิ สขุ ภาพตัวเองโดยใชดัชนีมวลกายเปนตวั ชว้ี ัด และปรบั ปรุงตนเองเพ่ือ
การพฒั นาสุขภาพใหไดม าตรฐานสภาวะโภชนาการ
6. องคป ระกอบทักษะชวี ติ สําคญั ทเ่ี กิดจากกิจกรรม
คอื ความคดิ วเิ คราะห ความคิดสรางสรรค และความตระหนกั ถงึ สถานการสุขภาพของ
ตนเองในเร่ืองความอว นและมแี นวทางในการดูแลตนเอง
คมู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 2 67
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมที่ 13
เกม
เกมแขง ขันยนื กระโดดไกล
ผูกํากับลูกเสือใหลูกเสือแตละหมูแขงขันยืนกระโดดไกล โดยใหลูกเสือแตละหมูยืนอยูที่เสน
เริ่มตน เม่ือไดสัญญาณจากผูกํากับลูกเสือใหลูกเสือทุกคนในหมูกระโดดไปขางหนาใหไดระยะไกล
ที่สุด และเมื่อเทาถึงพื้นใหยืนอยูกับท่ี ผูกํากับลูกเสือมอบหมายใหลูกเสือหน่ึงนายวัดระยะกระโดด
ของลกู เสอื แตหมู แลวรวมระยะกระโดดของหมู วาไดร ะยะเทา ใด หมูใ ดไดร ะยะมากที่สุด เปนหมชู นะ
เกมแขงขันมา โรมัน
ผูกํากับลูกเสือใหหมูลูกเสือเลือกสมาชิกที่ตัวใหญแข็งแรง 3 คน ยืนเรียงกันคนกลางเปนมา
อีกสองคนยืนดานขางเปนรถ คนกลางใชมือสองขางโอบเอวของคนดานขางท้ังสองไว สองคน
ดา นขางประสานมอื ตนเองไวข า งหลัง และเลือกสมาชิกตัวเล็กสุดเปนคนบังคับ โดยขึ้นไปยืนบนมือที่
ประสานกันไวข องคนท่ยี ืนท้งั สองขา ง ใชม ือเกาะบา คนกลางไวใหแนน
เมื่อไดยินสัญญาณใหท้ัง 3 คน ออกว่ิงพรอมกันจากจุดเร่ิมตน ไปใหถึงเสนชัย หมูใดไปถึง
กอ นเปน ผูชนะ
ใบความรู
อยา งไรเรยี กวาอว น
ความอวน คอื ภาวะทีร่ า งกายมนี ้าํ หนกั เกนิ ปกติ และมีการสะสมไขมันมากเกนิ ความ
ตอ งการของรา งกาย
เราจะรูไดอ ยา งไรวา เปน โรคอวน
วิธีทีน่ ยิ มใช คอื การคาํ นวณหาคา ดชั นีมวลกาย โดยมสี ตู รดงั น้ี
ดชั นมี วลกาย= นา้ํ หนกั ตวั เปน กโิ ลกรัม หารดว ย (สว นสงู เปน เมตร ยกกาํ ลงั สอง)
การแปลผล
< 20 นน. นอ ยกวา ปกติ
20 – 24.9 นน. ปกติ
25 – 29.9 นน. มากกวาปกติ
30 – 39.9 โรคอวน
> 40 โรคอว นข้นั รนุ แรง
ตัวอยา ง นายหมู หนัก 60 กิโลกรัม สงู 1 เมตร 50 เซนติเมตร
ดัชนมี วลกาย = 60 = 26.66 กิโลกรัมตอ ตารางเมตร
(1.5)2
แสดงวา นายหมูเรม่ิ มนี าํ้ หนักมากกวาปกตแิ ลว
68 คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวิต ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 2
คาที่นอยกวา 20 กิโลกรัมตอตารางเมตร ถือวาผอมไป ควรตองปรับปรุงภาวะโภชนาการให
สมดุลย และเพียงพอตอการเจริญเติบโตของรางกาย เพราะลูกเสือสามัญรุนใหญอยูในวัยที่รางกาย
กําลงั เติบโตและสูงข้นึ อยา งรวดเรว็ การกินอาหารท่ีสมดุลยครบ 5 หมู และเพียงพอตอความตองการ
จึงเปนเรื่องทส่ี าํ คัญตอ สขุ ภาพในระยะยาว
ความอวนเปน ปญ หาตอ สขุ ภาพอยางไร
- เด็กอวนมีโอกาสเปนโรคเชนเดียวกับผูใหญอวน เพราะความอวนมีผลตอการทํางานของ
ฮอรโมนหลายชนิด เชนอินซูลิน ซึ่งทําใหเกิดโรคเบาหวาน และยังทําใหเสี่ยงตอโรคอื่นๆ เชน
โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสงู กรดยรู ิกในเลือดสงู เปน ตน
- เดก็ อว นจะเปน หนุม เปน สาวเร็วข้ึน แตห ยุดเติบโตเรว็ เชน กัน ในระยะแรกจงึ ดูวา โตเร็วกวา
เดก็ อนื่ แตระยะทา ยกลบั ตวั เตย้ี กวา เดก็ ทไ่ี มอ ว น นอกจากน้กี ารรับน้ําหนกั ทมี่ ากเกินไป มผี ลทาํ ให
โครงสรางของกระดูกและขอ ผดิ ปกตโิ ดยเฉพาะกระดกู ขาซ่งึ ทําหนา ที่รับน้าํ หนัก เชน ปวดขอสะโพก
ปวดเขา ขาโกง ฯลฯ
- ปญ หาทางระบบหายใจ เนอ่ื งจากผนงั ลาํ ตวั หนาทาํ ใหปอดขยายตวั ไดน อย และชอ งทาง
เดนิ หายใจแคบลงจากความอวน ทําใหม อี าการหายใจติดขดั ในชว งนอนหลับ กรนเสียงดงั
- ผิวหนงั ของเดก็ อว นบรเิ วณรอยพับ เชน ซอกคอ หลังคอ รักแร ใตร าวนมและขอพบั จะ
มสี ีคล้ํา ซงึ่ ลักษณะทผี่ วิ หนงั นี้จะดขี ้ึนเมอ่ื มกี ารลดนํ้าหนกั ลง
- ปญ หาจิตใจ เดก็ อว นมักขาดความมนั่ ใจ ในรูปรางและบุคลิกภาพของตนเอง ถูกเพอ่ื นลอ
อายจนไมก ลา ไปไหน และอาจเกดิ ปญหาการเขา กลุมกบั เพอ่ื นตามมา
เรมิ่ อว นแลวจะทาํ อยา งไร
1. กินอาหารใหครบ 5 หมู และครบ 3 ม้ือ โดยมีสูตรวา ผักครึ่งหนึ่งและอยางอ่ืนครึ่งหน่ึง
ไมควรอดอาหาร เพราะเมื่อเกิดความหิวจะทําใหกินมากขึ้น ลดอาหารประเภท แปง นํ้าตาล และ
ไขมัน ที่สําคัญคือกินอาหารเปนเวลา ไมกินจุบจิบ งดเคร่ืองด่ืมที่มีน้ําตาลผสมอยู ควรดื่มน้ําสะอาด
แทน ปริมาณอาหารที่กินตอวันเมื่อคํานวณพลังงานท่ีไดควรอยูระหวาง 1,200 – 1,500 แคลอร่ี ไมควร
เกนิ กวา น้ี โดยสามารถคาํ นวณปรมิ าณพลงั งานที่ไดจากอาหาร จากตารางพลังงานจากอาหาร
2. ออกกําลังกายใหสม่ําเสมอ เชน เดิน ว่ิง ข่ีจักรยาน กระโดดเชือก วายนํ้า เปนตน เพ่ือ
เผาผลาญพลงั งานและดงึ ไขมันทีส่ ะสมอยูในรางกายออกโดยสามารถคํานวณพลังงานท่ีใชไปได จาก
ตารางพลงั งานทใ่ี ชในการออกกําลังกายซง่ึ ทางการแพทย คําวา แคลอรี มักใชใ นความหมายถึง "กิโล
แคลอรี"
ผอู อกกาํ ลังกายควรมีหลักปฏบิ ัตเิ พ่ือความพอเหมาะพอดี คือ
- ความหนักของการออกกําลังกาย ผูออกกําลังกายมีความจําเปนจะตองทราบวาควรออก
กาํ ลังกายเทาใด จึงจะไมเ ปนอนั ตราย ตอรางกายและไดผลดีท่ีสุดโดยปกติเราจะใชอัตราการเตนของ
หวั ใจเปนตัววัดความหนักของงานถาเปนการออกกําลังกายเพ่ือสุขภาพอัตราการเตนของหัวใจของผู
ออกกําลังกายควรอยูในอัตรา 70–80 % ของอัตราการเตนของหัวใจสูงสุด โดยอัตราการเตนของ
คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทักษะชีวิต ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 69
หัวใจสูงสุดมีสูตรในการคํานวณดังตอไปน้ีชีพจรสูงสุด = (220 – อายุป) X (0.7 - 0.8) ตัวอยาง “ตาย
อายุ 30 ป อัตราการเตนของหวั ใจสูงสดุ ในการออกกําลงั กาย คือ133 – 152 ครัง้ / นาท”ี
- ความนานของการออกกําลังกาย ในการออกกําลังกายเพื่อสุขภาพแตละครั้ง โดยทั่วๆ ไป
ควรใชเวลาอยางนอย 20 –30 นาที โดยใหอัตราการเตนของหัวใจคงที่ (ตามการคํานวณ) ไป
ตลอดเวลานัน้
- ความบอ ยของการออกกําลงั กาย ความเหมาะสมในการออกกําลังกายในหนงึ่ สัปดาหน นั้
ควรออกกาํ ลงั กายไมน อยกวา 3 วนั และไมเกิน 6 วนั และควรมีวันพกั ผอนสัปดาหล ะไมน อยกวา 1 วัน
3. สรางแรงจูงใจ เชน ชื่นชมและใหกําลังใจตนเองทุกวนั ท่ปี ฏบิ ัตติ นไดต ามเทต่ี ้งั ใจไว หา
เพื่อนออกกาํ ลงั กายรว มกนั แขวนชุดสวยๆ หลอๆ ที่เคยใสไ ดเพ่อื กระตนุ ใหเ กิดความพยายามมากขนึ้
พลงั งานที่ไดจ ากอาหาร และพลงั งานทีใ่ ชในกจิ กรรมตา ง ๆ
พลงั งานท่ีไดจ ากอาหาร
อาหาร แคลอร่ี อาหาร แคลอรี่
สม 1 ผล 40 ขาวตมมดั 1 คู 320
ตม ยํากงุ 50 ถวั่ ดําตม นํา้ ตาล 1 ถวย 340
ผัดผักบงุ จนี ครึ่งถวย 75 ขา วสวย 1 จาน 350
แกงจืดผกั กาดขาว 1 ถว ย 110 แกงกระหรไ่ี ก 1 ถว ย 365
สม ตาํ 1 จาน 120 กวยจับ๊ 1 ชาม 400
ไขล กู เขย 1 ฟอง 160 ผดั ซีอว้ิ ไสไ ข 440
นมจืด 1 กลอง 160 ขาวขาหมู 450
กลว ยไขเ ช่ือม 2 ลูก 180 ขา วหมูแดง 500
ขาวสวย 1 ถว ย 230 ขาวมนั ไก 600
ขา วตมทรงเครอื่ ง 1 ถวย 230 หอยทอดใสไ ข 650
ลอดชอ งน้ํากระทิ 1 ถวย 290 ผดั ไทย 1 จาน 800
70 คมู ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวิต ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
พลงั งานทใี่ ชใ นกิจกรรมตางๆ
กจิ กรรมในเวลา 1 ชวั่ โมง แคลอร่ีทใ่ี ช กิจกรรมในเวลา 1 ชวั่ โมง แคลอรที่ ใ่ี ช
350
นอนหลับ 75 วอลเลย บอล, เลนเพ่อื สนกุ 415
450
ลงนอน (ไมหลับ) 85 ข่จี ักรยานดว ยความเรว็ 14.4 515
กม./ชม. 600
นัง่ ดูโทรทัศน 600
นั่งทํางานใชส มอง 107 เทนนสิ , เลนเพอื่ สนุก 600
เย็บผา
รีดผา 110 เล่อื ยไม 640
เดินบนทางราบดว ยความเรว็ 660
3.2 กม./ชม. 115 วายนํ้าดวยความเรว็ 2.00 กม./ชม. 660
เดินลงบันได 150 วอลเลย บอล, แขงขัน 660
ซักผาดวยมอื 180 เทนนสิ , แขง ขนั 700
ข่ีจักรยานดวยความเรว็ 8.8
กม./ชม. 214 เดินขนึ้ บนั ไดด วยความเรว็ 825
3.2 กม./ชม.
ทําสวน 850
240 วิ่งบนทางราบดว ยความเร็ว 8.8 กม./ชม.
เดินบนทางราบดวยความเรว็ 970
4.8 กม./ชม. 240 ข่จี กั รยานดวยความเรว็ 20.0
เดนิ บนทางราบดว ยความเรว็ กม./ชม. 1,390
5.6 กม./ชม.
วา ยน้าํ ดว ยความเร็ว 250 กรรเชยี งเรอื ดวยความเร็ว 5.6
1.12 กม./ชม. กม./ชม.
กรรเชยี งเรือดวยความเรว็ 4.0
กม./ชม. 260 วายนํ้าดวยความเร็ว 2.56
เดินบนทางราบดว ยความเรว็ กม./ชม.
6.4 กม./ชม.
300 วิ่งบนทางราบดวยความเรว็
12.8 กม./ชม.
300 วายน้ําดวยความเร็ว 3.00 กม./
ชม.
300 กรรเชยี งเรอื ดว ยความเร็ว
17.6 กม./ชม.
350 วง่ิ บนทางราบดวยความเรว็
18.2 กม./ชม.
คูมือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 2 71
เรื่องเลา ทเี่ ปนประโยชน
นายพลกบั เด็ก
คร้ังหนึ่งมีนายพลทหารมาตองการที่จะขามแมน้ําเขาไมแนใจวาแมน้ําน้ันลึกขนาดไหนและ
ไมแนใจวามาของเขาจะขามจะสามารถขามแมนํ้านี้ไปไดเขาจึงมองไปรอบๆเพ่ือขอความชวยเหลือ
มีเด็กชายตัวเล็กๆคนหน่ึงอยูในละแวกนั้น นายพลจึงพูดกับเด็กชายวา “ เจาคิดวามาของขา
จะสามารถพาขาขามแมนํ้าไปฝงโนนไดไหม?” เด็กชายมองมาของนายพลและก็คิดอยูครูหนึ่งแลว
พยักหนาบอกอยางเช่ือมั่นวา “ได”
นายพลจงึ กระตนุ มาใหขามแมนํ้าไปเมื่อไปถึงกลางแมนํ้าจึงพบวาแมน้ําน้ันลึกมากและทั้งตัว
เขาและมากําลังจะจมนา้ํ เขาโกรธเดก็ มากจงึ ตะโกนบอกวาเดก็ จะตองถูกลงโทษ
เด็กชายตกใจจึงตอบกลับมาดวยความไรเดียงสาวา “ก็ผมเคยเห็นเปดขามแมนํ้าอยูทุกวัน
ในเมือ่ มา มขี ายาวกวาเปด ต้งั เยอะ ผมจงึ คิดวาตอ งขามแมนํา้ ไดแน ๆ”
เร่ืองนส้ี อนใหร วู า ควรขอคาํ แนะนําจากผทู ี่รจู ริงในเร่อื งนั้นๆ
ความหมายของ HB และ 2B บนดินสอ
ดนิ สอดํา ทใ่ี ชโ ดยทั่วไปนนั้ ไสดนิ สอทําดว ยถานกราไฟต ผสมกบั ดนิ ชนดิ หน่ึงความแข็งหรือ
ออ นของไสน นั้ ขน้ึ อยูกับความมากนอยของดนิ ทใี่ ชผสมดินสอออนมากขนาด 6B จะมีดินผสมอยูเปน
สว นนอ ย แตถ าดินสอขนาด 6H จะมีดินผสมอยูมากท่ีสุดตัว B และ H มาจากคําวา Black และ Hard
ซงึ่ บง บอกถึงความแขง็ แรงของไสแ ละความเขม ของไส
ดนิ สอทใี่ ชใ นการวาดเขยี นมกั จะใชด ินสอทม่ี ีจํานวน B กาํ กบั ซึง่ อาจเรม่ิ ต้ังแต HB, 2B ไป
จนถึง 6B ดนิ สอท่ีมคี วามเขมนอ ย ๆ อาจใชในการรางภาพและใชด นิ สอทม่ี จี าํ นวน B มากในการแร
เงาแตโ ดยปกตผิ วู าดจะไดร บั การแนะนาํ ใหใ ชดนิ สอทม่ี ีจํานวน B มากท่สี ดุ คอื ดาํ ท่ีสุดเพยี งแทงเดยี ว
ใชท้ังรางภาพและแรเงาเหตผุ ลคอื ไมตองส้นิ เปลอื งและวุนวายอยูกบั การกะความเขมของดนิ สอแตจ ะ
สอนใหฝกควบคุมนา้ํ หนักมอื และกะระยะนํา้ หนกั เขมใหส ัมพันธก ับนา้ํ หนักมอื โดยใชดนิ สอดาํ
แทง เดยี ว
ท่ีมา 108 ซองคาํ ถาม
เรอ่ื งน้สี อนใหร วู า การเลือกใชสิ่งทีเ่ หมาะสมกบั งาน จะทําใหง านมคี ุณภาพและสน้ิ เปลืองนอย
72 คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวิต ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 2
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รนุ ใหญ(เคร่ืองหมายลกู เสือชั้นพเิ ศษ) ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
หนว ยที่ 5 สมรรถภาพทางกาย เวลา 1 ชวั่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 14 ภยั สังคม
1.จุดประสงคการเรยี นรู
มแี นวทางในการแกป ญ หาเมื่อเผชิญภัยสังคมในรปู แบบตา ง ๆ
2. เนื้อหา
ภัยสังคมเกดิ ข้นึ ไดห ลากหลายรปู แบบ และไมท นั ต้ังตวั การไดฝ ก คดิ หาทางออกในเวลาปกติจะชว ย
ใหล ูกเสอื ไดนาํ ประสบการณการแกป ญหาไปใชได เมอื่ ตองเผชญิ เหตุการณต า ง ๆ
3. สือ่ การเรียนรู
3.1 เกม
3.2 บัตรคาํ
3.3 เรอื่ งทเ่ี ปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พธิ เี ปด ประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
1) ผูกาํ กับลูกเสือแจกบตั รคาํ ใหลูกเสอื หมูล ะ 1 ใบ ใหส มาชิกรวมกันอภิปรายแสดง
ความคิดเห็นเพอ่ื หาคาํ ตอบวา “หากลูกเสอื ตกอยูในสถานการณเ ชนนนั้ จะแกปญหาอยางไร” และ
นาํ เสนอในกองลกู เสอื ในรูปแบบบทบาทสมมตุ ิ
- ถกู จเี้ อาโทรศัพทมอื ถอื
- ถกู ถํ้ามองเวลาอาบน้าํ
- ถูกขมขรู ีดไถเงิน
- ถกู ลวนลามทางเพศ
2) รวมกอง นําเสนอผลการอภปิ รายทลี ะหมู ในรปู แบบบทบาทสมมุติ ผกู าํ กับลกู เสือนํา
อภปิ รายใหห มูอ ่ืน ๆ รว มแสดงความคิดเหน็
3) ผูก ํากบั ลกู เสอื นาํ อภปิ รายสรปุ แนวทางแกปญ หาเม่อื เผชิญภยั สังคมในรปู แบบตา งๆ
(1. อยาเก็บเรอ่ื งเปน ความลบั ตองแจงใหครู ผปู กครอง หรอื ผูใหญท่ีไวใ จทราบเพอ่ื ชว ยแกป ญหา
2.ไมทาํ ใหเกิดอันตรายตอตนเอง 3. ปอ งกันไวดกี วาตามแกไข)
4.4 ผกู ํากบั ลกู เสือเลาเรื่องท่เี ปน ประโยชน
4.5 พิธปี ดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธง เลิก)
คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวติ ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 2 73
5. การประเมนิ ผล
สงั เกต การมสี วนรวมในการทํากจิ กรรม การแสดงออก และการใหค วามคดิ เหน็ ในหมูและใน
กองลกู เสอื
6.องคประกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคิดสรา งสรรค การตดั สินใจและแกไขปญ หา
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 14
เกม
แขง ก้งิ กอื
1. จัดลกู เสือนั่งเปนรปู แถวตอนหมู
2. ลูกเสอื ทน่ี ่งั อยขู า งหลงั ใชขาทงั้ สองขา งเก่ยี วเอวคนขางหนา (ตลอดทั้งแถว)
3. เมอ่ื ผกู ํากับลูกเสอื ใหสญั ญาณเร่มิ ใหท ง้ั หมดเคลือ่ นไปขางหนา โดยใชม ือยกตัวไปพรอ ม
ท้งั ใหจ งั หวะดงั ๆ
กตกิ า หมใู ดถึงเสนชยั กอนหมนู น้ั ชนะ (แถวไมข าดจากกนั )
ขอจํากัด ไมควรเลน บรเิ วณพืน้ ดนิ ลว น ๆ มีหนิ กรวด ทราย และควรถอดรองเทา
บัตรคาํ ถกู ถ้าํ มองเวลาอาบน้ํา
ถูกจี้เอาโทรศพั ทมือถือ
ถกู ลวนลามทางเพศ ถกู ขม ขรู ีดไถเงนิ
74 คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2
เรอ่ื งเลาที่เปนประโยชน
คณุ จะเปน นกอินทรีหรือ ลกู ไก
แมนกอินทรีตัวหน่ึงมีลูกนอย 2 ตัว อาศัยอยูในรังบนหนาผาแหงหน่ึง มันเฝาฟูมฟกลูกทั้ง
สองอยางดีอยูมาวันหน่ึงมีพายุแรงมาก ไดพัดเอาลูกนกอินทรีตัวนองตกลงไปยังพื้นดินเบื้องลาง
เดชะบญุ ทตี่ รงน้ันมีกองฟางรองรับอยู
ในบริเวณนั้แมไกกับลูกฝูงหน่ึงอาศัยอยู แมไกไดฟูมฟกลูกนกอินทรีหมือนกับลูก ๆของ
ตัวเองจนเติบใหญสอนใหเดินแบบไก หากินแบบไกและก็รองแบบไกจนนกอินทรีผูนองเขาใจวา
ตนเองน้ันคอื ไกจ ริงๆ
สวนแมนกอินทรีก็หัดใหลูกนกผูพ่ีบินอยูบนฟานองที่อยูดานลางเห็นพี่บินอยูจึงวิ่งไปบอกแม
ไกวา “แมๆดูนกบนนั้นบินสิครับ ชางสงางามจริง ๆ ผมอยากบินไดแบบน้ันจัง” แมไกไดตอบนก
อินทรีผนู องวา “ลกู เอยเปนไปไมไดหลอกขางบนนั้นคือพญานก เปนนกอินทรีผูสงางามแตเราเปนไก
เราทาํ แบบเขาไมไดห รอกลูก” ลกู นกอนิ ทรผี นู อ งก็รบั คาํ และอยูก บั แมไกส บื ตอ ไป
เร่ืองน้ีสอนใหรูวา วันนี้เราอาจเปนลูกนกอินทรีท่ีอาศัยอยูกับฝูงไกก็ไดเม่ือเราทําอะไรบางส่ิง
บางอยา งที่ย่ิงใหญอาจมีเสยี งทักจากบุคคลรอบขา งวา “เปนไปไมไ ดทาํ ไมได” แตถ าเราไมตัดสินใจลง
มอื ทาํ และแสดงศักยภาพอยางเตม็ ท่ีแลวจะรอู ยา งไรวา เราไมใ ชพญานกอนิ ทรี
คูม อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 2 75
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รนุ ใหญ(เคร่ืองหมายลกู เสอื ช้นั พเิ ศษ) ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 2
หนวยท่ี 5 สมรรถภาพทางกาย เวลา 2 ชั่วโมง
แผนการจัดกิจกรรมที่ 15 เส่ยี ง ไมเ ส่ยี งรไู ดอ ยางไร
1. จุดประสงคการเรียนรู
สามารถประเมินความเส่ยี งทางเพศในสถานการณต า ง ๆ ได
2. เน้ือหา
สถานการณตา งๆในชวี ติ ประจําวันอาจนําไปสอู ันตรายทไ่ี มค าดคิด โดยเฉพาะภยั ทางเพศ
ความสามารถในการประเมนิ สถานการณเสยี่ งจะนําไปสกู ารรเู ทาทันและระมัดระวงั ตนเองมากขนึ้
3. สอื่ การเรียนรู
3.1 แผนภูมเิ พลง, เกม
3.2 กระดาษปรูฟ ปากกาหวั สกั หลาด
3.3 เรอ่ื งเลาท่มี ปี ระโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 กจิ กรรมครง้ั ที่ 1
1) พธิ เี ปดประชมุ กอง(ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู
(1) หมลู กู เสือนง่ั ลอมวง วางกระดาษปรฟู ปากกาหัวสักหลาด ไวกลางวงแจกหิน
กอนเล็กๆ ใหค นละ 10 กอน
(2) ใหลกู เสอื ระดมสมองคดิ สถานการณท ีเ่ สี่ยงตอ ภัยทางเพศใหไ ดม ากทีส่ ุด ในเวลา
5 นาที เขียนลงกระดาษปรฟู เรยี งลําดบั บรรทดั ละ 1 ขอ
(3) นายหมูอานสถานการณทีละขอ ใหสมาชิกอภิปรายวาทําไมจึงเสี่ยง จนครบทุก
ขอ
(4) ลูกเสือแตละคนใหคะแนนความเสี่ยง โดยวางกอนหินของตนลงบนกระดาษตรง
หัวขอ ท่เี ลอื ก ใหน ํ้าหนักความเสยี่ งตามจํานวนกอ นหิน แตล ะคนวางไดแ ค 10 กอ น
(5) นายหมูนับจํานวนกอนหิน จัดลําดับสถานการณที่มีกอนหินมากสุดลงมานอยสุด
จาํ นวน 5 ขอ นาํ ผลท่ีไดร ายงานในกองลกู เสอื ทลี ะหมู
(6) ผูกํากับลูกเสือรวบรวมสถานการณท่ีทุกหมูรายงาน นําอภิปราย และเพ่ิมเติม
ดังน้ี
- รูไดอยางไรวาสถานการณใดเปนสถานการณเส่ียงทางเพศ (จากสถิติ
และจากการไดยินหรือรับรูมาวา มักจะเกิดเหตุการณที่เปนภัยทางเพศในสถานการณเหลานี้
บอ ย ๆ)
76 คูม ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 2
- ผูก ํากบั ลกู เสืออธิบายวาส่ิงท่ีเรากําลังทําอยูน้ีเรียกวา“เกณฑประเมินความ
เส่ียงทางเพศ” ซ่ึงก็คือ สถานการณท่ีมักเกิดอันตรายหรือความเสี่ยงในเรื่องเพศ ซ่ึงแตละ
สถานการณยังมคี วามเส่ียงมากนอ ยตา งกัน เราจะมาดกู นั ในคร้งั ตอ ไป
4) ผูกาํ กับลกู เสือเลาเรื่องทเี่ ปน ประโยชน
5) พธิ ีปดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลกิ )
4.2 กจิ กรรมครง้ั ท่ี 2
1) พิธเี ปดประชมุ กอง (ชกั ธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) เขยี นสถานการณเ สยี่ งทางเพศท่รี วบรวมจากการรายงานในครง้ั กอน และเกณฑ
ประเมนิ ความเส่ยี งทมี่ ผี ทู ําไว 5 ขอ ลงกระดาษปรฟู ชดุ ละ 1 แผน
(2) ผกู ํากับลกู เสอื นาํ อภิปราย และเพิม่ เติม ดงั นี้
- ใหกองลกู เสือรวมกนั เปรยี บเทยี บสถานการณเสี่ยงทเ่ี ขยี นบนกระดาษ
ปรฟู กับเกณฑป ระเมินความเสี่ยงในเรื่องเพศทีเ่ คยมผี ูเ ชีย่ วชาญทําไว 5 ขอ วา เหมอื นหรอื
ตา งกันอยางไร (1.การอยดู วยกนั ลาํ พงั สองตอสองในท่ีลับตา 2. มกี ารสัมผสั ถูกเนอื้ ตองตวั
3. หญงิ แตง กายลอ แหลม 4. ดสู ่งิ ย่ัวยุ เชน หนงั สอื /วดิ โี อโป ฯลฯ 5.มกี ารใชส รุ าหรือยาเสพตดิ )
และลกู เสอื ตองการปรับลดหรือเพม่ิ เติมเกณฑขอใดบาง
- ผกู าํ กับลูกเสอื ดําเนนิ การปรับลด/เพมิ่ เติม ตามผลการอภปิ ราย และ
สรุปวา นค่ี ือเกณฑประเมินความเส่ยี งตามขอ สรุปของกองลูกเสือ
(3) ผกู าํ กบั ลกู เสืออธิบายขนั้ ตอนในการประเมินความเสี่ยง 3ข้นั ตอนคือ
- วเิ คราะหขอ มลู สถานการณท เี่ ปน อยูวา เปน อยางไร
- เทียบกบั เกณฑประเมินความเส่ยี ง
- ถา เทียบแลวเขา เกณฑวาเสี่ยงใหเอาตนเองออกจากสถานการณ โดยการ
ปฏิเสธ / ปลีกตัวหรือเดินหนีออกจากเหตุการณ หรือ ขอความชวยเหลือถาออกจากสถานการณ
ไมได(ยกตัวอยางเชน การมีเพศสัมพันธไมคาดคิด มักเกิดในสถานการณที่ชายหญิงอยูดวยกัน
ลําพังในท่ีลับตา โดยอาจมีการดื่มสุรา การสัมผัสถูกเนื้อตองตัว เปนปจจัยเสริมยั่วยุอารมณเพศ
ซ่ึงมักเปนเพศสัมพันธท่ีไมปลอดภัย ไมไดมีการปองกัน ทําใหเกิดปญหาตามมา เชนติดเช้ือเอดส
ต้ังครรภ ฯลฯ ดังนั้นเมื่อวิเคราะหไดวา การอยูดวยกันลําพังในที่ลับตา เขาเกณฑประเมินความ
เสย่ี ง จึงควรหลกี เลยี่ งนาํ ตัวออกจากเหตกุ ารณต้ังแตแรก เพอ่ื ปอ งกนั ปญ หาทอ่ี าจเกิดตามมา)
(4) ผกู าํ กับลูกเสือและลกู เสือรว มกนั ทบทวนข้นั ตอนการประเมนิ ความเสีย่ ง
(5) ผกู ํากับลกู เสือและลกู เสือรว มกนั สรุปขอ คิดที่ได และการนาํ ไปใชใ น
ชีวติ ประจาํ วนั
4) ผูก าํ กับลกู เสอื เลา เร่อื งทเี่ ปนประโยชน
5) พิธีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลิก)
คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวติ ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 2 77
5. การประเมินผล
สังเกตการมสี ว นรว มในการทํากิจกรรม การแสดงออก และการใหความคดิ เหน็ ในหมู และใน
กองลูกเสือ
6. องคประกอบทักษะชวี ติ สําคญั ทเี่ กดิ จากกจิ กรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคดิ สรา งสรรค ตระหนักรถู งึ สถานการณเสย่ี งทางเพศทีอ่ าจ
เกิดข้นึ ไดในสถานการณต าง ๆ การตัดสนิ ใจและแกไขปญ หา
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 15
เพลง
ลูกเสอื คอื อะไร
ลูกเสอื นั้นคอื อะไร ลกู เสือมดี อี ยา งไร
มาพวกเราเรว็ ไว รบี เขา ไปใหเห็นดวยตา
กิจกรรมลูกเสอื ชวยเหลอื ผคู น ความอดทนนั้นตดิ ตามมา
ฝก การสงั เกตจดจาํ รวมทํารว มพฒั นา
เราแสนสขุ อรุ า เมอ่ื ไดม าเขา เปน ลูกเสือ
เกม
ชนไก
ลูกเสอื ทกุ คนเขาแถวเปน วงกลม แตล ะคนประสานมอื ของตัวเองแลว นั่งยองๆลงไป สอดแขน
ไวใตขอพับเขา หนีบแขนทั้งสองขางไว เมื่อไดรับสัญญาณจากผูกํากับลูกเสือใหลูกเสือแตละคนใช
บริเวณไหลกระแทกกับลูกเสือคนอื่นใหลมลง หากลูกเสือคนใดถูกกระแทกลมลงใหออกจากการเลน
เกม จนเหลอื ลูกเสือคนสดุ ทา ยถือเปน ผชู นะ
เรื่องทเี่ ปนประโยชน
หนนู ากบั หนูเมอื ง
ครั้งหน่ึงหนูนาชวนหนูเมืองมาเยี่ยมท่ีบาน มันเตรียมของกินมากมาย ไมวาจะเปนเนยแข็ง
ขาวโอต ผลไม และอ่ืน ๆ หลังจากท่ีกินอาหารกันเสร็จแลว หนูเมืองก็บอกวา “เพ่ือนรัก ขาอยากจะ
ถามสักหนอยวา ทําไมถึงยอมทนใชชีวิตลําบาก อด ๆ อยาก ๆ อยูอยางนี้ ท้ังที่เจาสามารถไปหากินใน
เมอื งกบั ขาไดอยางสะดวกสบาย” หนูนาจึงตดั สนิ ใจยา ยตามไปทนั ที
เม่ือไปถึง หนูเมืองพาเพื่อนไปที่หองเก็บอาหาร ท้ังสองยิ้มราและมุงหมายจะกินใหเอร็ดอรอย
แตทันใดนั้นเอง ประตูก็เปดออกและมีชายสองคนเดินเขามาพรอมกับหมาตัวโต พวกมันเห็นดังน้ันจึง
78 คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ิต ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2
รีบวิ่งหนีไปซอนตัวดวยความกลัว หนูนาเอยข้ึนวา “นี่นะรึเพ่ือนเอย สภาพชีวิตสุขสบายท่ีวา แตถาเรา
ตองอยูดวยความหวาดกลัวอยางนี้ละก็ ขาขอกลับไปใชชีวิตอยูที่กระทอมโกโรโกโสท่ีบานนอกดีกวาอยู
ในเมอื งที่เต็มไปดว ยอนั ตรายและความวุนวายเชน นี้”
เร่ืองน้ีสอนใหรูวา การมีชีวิตที่สงบสุขแตยากจน ยังดีกวาท่ีจะมีชีวิตที่ร่ํารวยแตเต็มไปดวยความ
หวาดกลัว และเผชญิ ปญหาตา ง ๆ โดยไมม คี วามสขุ
เนกอนิ ทรกี บั อีกา
นกอินทรีตัวหน่ึงคอยจองตะปบลูกแกะอยูบนยอดผาสูง เมื่อไดโอกาสเหมาะ มันก็โฉบเอา
ลูกแกะขึ้นไปดวยองุ เลบ็ อันแข็งแกรง แลว บนิ กลับสรู ังบนยอดผาสงู
อีกาซึ่งอยูบริเวณน้ันเห็นการกระทําของนกอินทรีมาโดยตลอด ก็คิดจะเอาอยางบาง จึงบิน
ถลาตรงไปตะปบลกู แกะทกี่ ินหญา อยูเพ่อื จับตัวมนั บินขน้ึ แตองุ เลบ็ ของมันกลับจิกแนนเขา ไปในเนื้อ
ลูกแกะ ไมวาจะพยายามสลัดออกอยางไรก็ไมหลุด เม่ือคนเลี้ยงแกะเห็นเขา ก็รองทักวา “โอโห!
นี่มันนกอะไรกัน” ลูกชายผูซ่ึงเห็นเหตุการณโดยตลอดกลาวข้ึนวา “พอ ที่ขาเห็นอยูเม่ือครูนี้ มัน
แสดงทาทางราวกับเปน นกอนิ ทรี แตต อนนี้ขาวามันคงเขา ใจแลว ละ วาตนเองเปนเพียงอกี าเทาน้นั ”
เร่อื งน้ีสอนใหร วู า 1. คนโงเขลามักคดิ ทําในส่ิงท่ีเกินความสามารถของตน
2. คนฉลาดรูวา จะใชความสามารถทมี่ ีอยขู องตนใหเกดิ ประโยชน ไดอยา งไร
คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 2 79
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรนุ ใหญ(เคร่อื งหมายลูกเสอื ช้นั พิเศษ) ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 2
หนว ยท่ี 5 สมรรถภาพทางกาย เวลา 2 ชั่วโมง
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 16 อยา งน้ตี องปฏเิ สธ
1. จดุ ประสงคการเรียนรู
สามารถปฏิเสธการชวนของเพอ่ื น ทช่ี วนไปทาํ กจิ กรรมเสีย่ งตาง ๆ โดยเพอื่ นไมโกรธ
2. เน้อื หา
ทักษะปฏเิ สธ เปนการสื่อสารที่จาํ เปน สําหรบั ใชป ฏเิ สธเพ่อื นที่ชวนไปทาํ กิจกรรมท่ี เส่ยี ง
ตา งๆโดยเพือ่ นไมโกรธ เพราะการปฏิเสธไมสําเร็จมักเกดิ จากกลัวเพอ่ื นจะโกรธ
3. สอ่ื การเรยี นรู
3.1 แผนภูมเิ พลง, เกม
3.2 กระดาษแผน เลก็ กระดาษปรูฟ ปากกา ปากกาสักหลาด
3.3 ใบความรู เรอื่ ง ทกั ษะการปฏเิ สธ
3.4 เรื่องท่ีเปนประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 กจิ กรรมครง้ั ท่ี 1
1) พธิ เี ปด ประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กิจกรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู
(1) หมูลูกเสอื น่งั ลอมวง ระดมสมองวา เคยถกู ชวนไปทาํ อะไรบาง ในชวี ติ ประจาํ วนั
ใหเขียนลงกระดาษแผนเลก็ แผน ละ 1 กจิ กรรม เขยี นใหไดมากท่ีสดุ ในเวลา 3 นาที
(2) นํากจิ กรรมทเ่ี ขยี นไวม าจดั แยกประเภทเปน 3 ประเภท คอื ทาํ ได ไมควรทาํ
และไมแ นใ จ ตามความเหน็ ของหมลู กู เสือ
(3) เลอื กกิจกรรมท่ีไมควรทํา หมลู ะ 1 อยา ง ใหแ ตละหมูเลนบทบาทสมมุติ ปฏิเสธ
การชวนโดยเพือ่ นไมโกรธ นาํ เสนอในกองลูกเสอื
(4) ลูกเสอื แตล ะหมูเ ลน บทบาทสมมตุ ิ เมอ่ื แตล ะหมเู ลน จบ ผูกาํ กบั ลูกเสือใหก อง
ลกู เสือโหวตวา ลูกเสอื หมูนจี้ ะ “ปฏเิ สธไดส ําเร็จหรือไม” จนครบทุกหมู
(5) ผูกาํ กับลกู เสอื แจกใบความรูเ รือ่ ง “ทักษะการปฏเิ สธ” ใหแตล ะหมูไปศกึ ษา
4) ผกู ํากบั ลกู เสือเลาเร่อื งทีม่ ปี ระโยชน
5) พิธปี ดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธง เลิก)
4.2 กจิ กรรมครัง้ ที่ 2
1) พธิ เี ปด ประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
80 คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2
3) กิจกรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
(1) ผกู าํ กับลกู เสือใหลกู เสอื รวมกันทบทวนใบความรเู ร่ือง “ทักษะการปฏเิ สธ” โดยผู
กาํ กับลกู เสอื ชว ยเพิม่ เติม และอธิบายขอ สงสัย
(2) ผกู าํ กบั ลกู เสือมอบหมายใหแตละหมเู ลน บทบาทสมมติ ปฏิเสธการชวนใน
สถานการณเดิม แตใชข ้ันตอนการปฏเิ สธตามใบความรู แลวนาํ เสนอในกองลกู เสือ
(3) ลูกเสอื แตล ะหมเู ลนบทบาทสมมติ หลงั การนาํ เสนอของแตละหมู ผกู าํ กบั ลูกเสือ
ใหก องลกู เสอื รว มกนั ประเมนิ วา “ครบข้ันตอนทกั ษะการปฏิเสธหรอื ไม” ถาไมครบ ขาดข้นั ตอนใด
(4) ผกู ํากับลกู เสือและลูกเสอื รวมกนั สรุปขั้นตอน “ทกั ษะการปฏเิ สธ” และเพ่ิมเตมิ
เรื่องการหาทางออกเม่อื ถกู เซา ซ้ี
4) ผูกาํ กับลกู เสือเลาเรอื่ งทีม่ ีประโยชน
5) พิธีปด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธง เลิก)
5. การประเมนิ ผล
สงั เกต การมสี ว นรวมในการทํากิจกรรม การแสดงออก การแสดงความคดิ เหน็ และประเมนิ
ความถูกตอ งของขั้นตอนการทาํ ทกั ษะปฏิเสธ
6. องคป ระกอบทักษะชวี ติ ท่ไี ดจากกิจกรรม
คือ ความคดิ วเิ คราะห ความคิดสรา งสรรคการตดั สนิ ใจ การสรา งสัมพนั ธภาพและการสื่อสาร
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 16
เพลง
บริการ
บริการ บริการ งานท่ีพวกเราทํา เปนประจาํ เราทําไปไมเคยคดิ รวนเร
ปดกวาดเราทําทุกอยาง สะอาดทุกทางทีผ่ า น หนา ทท่ี กุ ๆ สถาน เราน้นั บริการทวั่ ไป
เกม
ทิศอะไร
วิธเี ลน
1) ใหแตล ะหมูเ ขา แถวตอนยืนหางกนั ประมาณ 1 ศอก ทุกคนเตรียมหนั ไปตามทศิ ที่ผูส่งั
2) เมือ่ ไดย ินผสู ง่ั เรยี กชอื่ ทศิ ใดทกุ คนตอ งหนั ไปทางทศิ นน้ั ๆ เชน “ทศิ เหนอื ” ทุกคนตองหนั ไป
ทางทศิ เหนอื ใครหนั ผิดตองออกจากการเลน ผูสั่งจะเรยี กชอื่ ทศิ ซ้ํากนั ก็ได หรือเปลย่ี นชอ่ื ทศิ ใดกไ็ ด
3) หลงั จากการเลิกเลนแลว หมูใดมคี นเหลอื มากกวาหมอู ่ืนเปนหมูชนะ ใหห มูอ ื่นกลาวคํา
ชมเชย (เยล) ให ผกู าํ กบั ลกู เสอื อธบิ ายถงึ ประโยชนของเกม
คูมือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 2 81
ใบความรู
ทักษะการปฏิเสธ
การปฏเิ สธเปน สทิ ธสิ ว นบุคคลท่ที ุกคนควรเคารพและยอมรับการปฏิเสธจะสาํ เรจ็ ไดน น้ั
ผปู ฏิเสธตองมีความต้งั ใจชดั เจนทีจ่ ะปฏเิ สธ
ขน้ั ตอนการปฏเิ สธ
1) อางความรสู ึกประกอบเหตผุ ล เพราะความรูสึกโตแยง ไดย ากกวาการใชเหตุผล
2) ปฏเิ สธชัดเจน
3) ถามความเหน็ เปน การรักษาน้ําใจผชู วน ขน้ั ตอนนี้จะชวยใหเ พอื่ นมีความรสู กึ ท่ดี ี และไมโกรธ
4) ขอบคณุ เมอื่ เขายอมรับ
ถา ผูชวนต๊ือไมเลิก
โดยการ เซาซ้ี, สบประมาท, ยกเหตผุ ลหวานลอม, ปลอบหรอื รบั รองวาไมมปี ญหา หรอื
แมก ระทง่ั ขม ขู ฯลฯ ไมควรหวน่ั ไหว ควรหาทางออกดวยวธิ ีใดวธิ หี นงึ่ ตอไปนี้
1) ปฏิเสธซํ้า แลว รีบขอตวั ออกจากเหตกุ ารณไป
2) ผดั ผอน แลว รบี ขอตวั ออกจากเหตุการณไป
3) ตอรองหาทางเลือกอ่ืนท่ียอมรับไดทงั้ สองฝาย
จดุ ออนที่ทําใหม กั ปฏิเสธไมสําเรจ็
1) ปากบอกปฏิเสธ แตใ จไมป ฏเิ สธแทจ ริง เลยใจออ นปฏิเสธไมสาํ เร็จ
2) ใชเ หตผุ ลเปน ขอ อา ง ผชู วนเลยเอาเหตุผลอ่ืนมาหกั ลางทําใหป ฏเิ สธไมส ําเรจ็
3) ไมออกจากสถานการณ อยูใ หเขาตือ๊ ไปเรอ่ื ย ๆ กเ็ ลยปฏเิ สธไมสาํ เรจ็ จนได
4) เกรงใจโดยเฉพาะกบั ผอู าวุโสสงู กวา เลยทาํ ใหไ มรักษาสิทธใิ นการปฏเิ สธของตนเอง
ตวั อยางประโยคคาํ พูด
สถานการณ: เพ่ือนชวนลองสูบบหุ รี่
ขัน้ ตอน ตวั อยา งประโยคคาํ พดู
อา งความรสู ึกประกอบเหตผุ ล เราไมช อบ รสู กึ วามนั เปน สงิ่ ท่ไี มด ี
ปฏิเสธชัดเจน ขอไมล อง
ถามความเหน็ เปนการรกั ษานา้ํ ใจผชู วน นะเพอ่ื น
ขอบคณุ เมื่อเขายอมรบั ขอบคณุ ทเี่ ขา ใจเรา
ถาผชู วนตื๊อไมเ ลิก เลอื กวธิ ใี ดวธิ หี นง่ึ ตอไปน้ี
ปฏเิ สธซ้าํ แลว รบี ขอตวั ออกจากเหตุการณ ไมล ะ ขอตวั กอ นนะเพือ่ น (รบี เดนิ จากไป)
ผดั ผอ น แลวรบี ขอตวั ออกจากเหตุการณ เอาไวชวนเรอื่ งอื่นแลวกนั ขอตัวนะเพอ่ื น
(รบี เดนิ จากไป)
ตอ รองหาทางเลือกอืน่ ทยี่ อมรับไดท งั้ สองฝา ย เรามาหาอะไรทําอยา งอื่นกันดกี วา ไปกิน
ไอศครมี กนั ดไี หมเพ่อื น
82 คูมือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
เรื่องที่เปนประโยชน
พรานใหมผ ูก ลา หาญ
พรานใหมค นหนึ่งมกั จะเขา ไปถามพวกคนตัดไมวาเหน็ หมูปา บางไหม บริเวณใดมกี วางมี
เนอื้ บา งเเตพวกคนตดั ไมก ็ยังไมเ คยเห็นพรานใหมผูน ี้ลาสัตวใดไดสกั ตัว
วนั หนงึ่ พรานใหมเ ขาปา มาเเตเชา พลางถามคนตดั ไมว า "พช่ี าย เหน็ รอยเทา สิงโตที่ไหนบาง
ชว ยบอกดว ยเถดิ "คนตดั ไมก ็บอกวา เห็นอยไู มไกลนกั ตนยนิ ดจี ะพาไปลา ถึง หนาปากถ้าํ สงิ โตเลย
ทีเดยี วเม่อื ไดย ินเชนน้ันพรานใหมกถ็ ึงกบั สา ยหนา ปฏเิ สธเปน พลั วัน วาตนเพยี งอยากเห็นรอยเทา
สงิ โตเทา น้ัน มไิ ดอ ยากลาสิงโต
เรอื่ งนี้สอนใหรูวา พวกทขี่ ้ขี ลาด มกั เเสดงวากลาหาญเมอ่ื ภัยยังไมมาถึง
มากับหมาปา
หมาปา เดินมาพบมาท่ีกลางทางจึงเอยข้ึนวา"พี่มาเอย ขาเพ่ิงผานไรขาวโอตมาเมื่อครูนี้ เห็น
ขาวโอตออกรวงงาม นากินเปนยิ่งนัก เเตขาไมไดกินมันสักคําเพราะคิดจะเก็บไวใหทานกิน ทานมา
กับขาสิ ขา จะพาไป"มา ไดฟงดงั นั้นกห็ ัวเราะเบาๆ เเลววา"ขาขอบใจนะ ทเ่ี จาบอกเร่ืองไรขาวโอต เเต
ขา ไมไ ดขอบใจ ท่ีเจา ไมก ินขา วโอต เพราะขารูดวี า ขาวโอต ไมใ ชอ าหาร ของหมาปา อยางเจา "
เร่ืองนสี้ อนใหร วู า หากใหดว ยความไมจ ริงใจ ไมท ําใหผ ูรับเกดิ ความซาบซ้ึง
คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 2 83
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญ(เคร่ืองหมายลูกเสอื ชัน้ พิเศษ) ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2
หนวยท่ี 5 สมรรถภาพทางกาย เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 17 ความรุนแรง
1. จุดประสงคก ารเรยี นรู
ตระหนักถงึ อทิ ธิพลของสอ่ื คา นยิ ม และพฤตกิ รรมตา ง ๆ ทีน่ ําไปสคู วามรนุ แรง
2. เนือ้ หา
เดก็ ทม่ี ีนสิ ยั ชอบใชหรอื นิยมความรนุ แรง เปนเพราะไดร บั ประสบการณใ นเรอ่ื งความรนุ แรง
บมเพาะและปลูกฝง เปน เวลายาวนาน จนชินชาเห็นความรุนแรงเปนเรือ่ งปกติ ไมรูส กึ วาเปน สง่ิ ผดิ
ไมยงั ยง้ั ช่ังใจ และกระทาํ ความรนุ แรงโดยเลียนแบบพฤติกรรมจากส่ือตา ง ๆ รวมทงั้ คานยิ มและ
พฤตกิ รรมที่มใี นกลุมเพือ่ น ลวนมอี ิทธิพลชักนาํ ไปสูค วามรนุ แรงได ความตระหนกั ในเร่ืองน้จี ะชว ย
ใหห ลกี เล่ียงการรับสอ่ื ตา ง ๆ รวมท้ังคานยิ มและพฤตกิ รรมทีไ่ มเ หมาะสม
3. สือ่ การเรียนรู
3.1 เกม
3.2 บัตรคํา สถานการณความรุนแรง 4 ชดุ
3.3 ใบความรู
3.4 เร่ืองท่เี ปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กิจกรรมครั้งที่ 1
1) พธิ ีเปดประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
(1) ผูกํากับลกู เสือนําสนทนาดวยคาํ ถาม “ในชีวิตประจําวันลกู เสือเคยพบพฤตกิ รรม
อะไรบา งท่คี ิดวาเปนความรนุ แรง” ใหลกู เสือเลาประสบการณ 1 – 2 คน แลวนําเขา สู
กจิ กรรม
(2) ผกู ํากับลกู เสือใหล ูกเสอื นั่งตามหมูของตนเอง แจกชุดบตั รคาํ ใหหมลู ะ 1 ชุด
(3) นายหมอู า นบัตรคําทลี ะใบพรอ มอภปิ รายและหาขอสรุปเพ่ือรายงานในกลมุ ใหญ
ในประเด็นตอ ไปน้ี และสง ตวั แทนรายงาน
- สถานการณในบตั รคาํ มแี นวโนมจะเกิดอะไรตามมาไดบ าง
- เรยี งลาํ ดับความรนุ แรงของสถานการณใ นบตั รคําตามความเห็นของหมู
จากรุนแรงมากทส่ี ุดไปหารนุ แรงนอ ยท่ีสุด
(4) ตวั แทนหมรู ายงานทีละหมจู นครบ
84 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2
(5) ผูกํากบั ลกู เสอื ชว ยเพิม่ เตมิ “ความรนุ แรงมีไดหลายระดบั ตัง้ แตน อ ยทีส่ ดุ คือ
ความรุนแรงในจนิ ตนาการเชน เกม การตนู ความรุนแรงทางใจ เชน การนอกใจ ความรุนแรง
ทางคาํ พดู เชน ดุ ดา วา ความรุนแรงทางกายซง่ึ รุนแรงท่สี ดุ เชน การทํารายรางกาย”
(6) ผูก าํ กับลกู เสือนาํ อภิปรายในกอง และสรปุ ในประเด็น “สรุปความหมายของ
ความรุนแรงตามความเขา ใจของลกู เสือ” และ “ไดขอ คดิ อะไรบางจากกจิ กรรมน”้ี
4) ผกู ํากบั ลกู เสอื เลาเรอ่ื งที่เปน ประโยชน
5) พิธปี ดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธง เลิก)
4.2 กจิ กรรมครงั้ ท่ี 2
1) พธิ เี ปดประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) หมลู ูกเสือนง่ั ลอมวง ผูกาํ กับลูกเสอื แจกใบความรูเรอื่ ง “ความรนุ แรง” ใหรวมกนั
อภิปรายประเด็นตอไปน้ี และสงตวั แทนรายงานในกองลกู เสอื
หมูที่ 1 เหตุใดบางคนจงึ มนี สิ ัยชอบใชค วามรนุ แรง มีปจ จยั อะไรที่ทาํ ใหเปนเชน นน้ั
หมูท ่ี 2 จากคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ คิดวา ลูกเสือควรมที าทตี อการใชค วามรุนแรง
อยา งไร
หมทู ่ี 3 และ 4 ทานคดิ วา ในโรงเรยี นมปี ญ หาความรนุ แรงอะไรบา ง ในฐานะลกู เสอื
สามัญรนุ ใหญ จะลดปญ หาความรุนแรงในโรงเรยี นอยางไร
(2) ตวั แทนหมลู ูกเสือรายงานทลี ะประเดน็ ผูกาํ กับลกู เสอื นําอภิปราย เพิม่ เตมิ และ
สรปุ
(3) ผูกํากับลกู เสอื ขอใหก องลูกเสือรว มกนั หาแนวทางปฏบิ ัตเิ พอ่ื แกไ ขปญ หาความ
รุนแรงในโรงเรียนใหเปน รปู ธรรมในโอกาสตอไป
4) ผูก ํากบั ลกู เสอื เลา เร่ืองทเี่ ปนประโยชน
5) พิธปี ด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
สงั เกตการมสี ว นรว มการทาํ กิจกรรม การแสดงออก การแสดงความคดิ เหน็ อยางสรา งสรรค
เพ่ือลดปญ หาความรุนแรงในโรงเรียน
6. องคป ระกอบทักษะชวี ติ สาํ คัญทเี่ กดิ จากกิจกรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคิดสรา งสรรค ตระหนักถงึ สาเหตขุ องปญ หาความรุนแรงใน
โรงเรียน รวมทั้งตระหนกั วา ตนเองควรมสี ว นรวมในการปอ งกนั และแกไข
คมู ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 2 85
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมท่ี 17
เกม
กระซบิ ขา ว
1. แบง ลูกเสือออกเปน 4 แถวเทา ๆ กนั
2. ใหแตล ะแถวน่งั เปน แถวตอน คนหนาหา งจากจุดท่ีกาํ หนดไวประมาณ 1 เมตร
3.เมอ่ื ไดยนิ สัญญาณ คนแรกรบี ว่ิงไปอา นขอ ความในกระดานท่ผี ูกาํ กับลูกเสือเขยี นเตรียมไว
จนจําได แลววง่ิ กลับมากระซบิ คนทีส่ อง คนท่สี องกระซิบตอๆ ไปจนถึงคนสุดทา ยรีบวง่ิ มาเขยี น
หรือบอกกับผกู าํ กับลูกเสือ
4. แถวใดสง ขา วไดเรว็ และถูกตองทส่ี ดุ เปนผชู นะ
แขงเรอื
1. หมูล กู เสอื ยนื เขา แถวตอน หา งกันประมาณ 1 เมตร
2. คนแรกเอามือเทา สะเอว คนตอ ๆ ไป เอามอื จบั ทเี่ อวของคนขา งหนา แลวนั่งยอง ๆ
3. การเคล่ือนท่ีใหก าวไปทลี ะเทา หรือจะกระโดดไปพรอ ม ๆ กนั กไ็ ด แตม ือตองไมห ลดุ จากกัน
4. เมอื่ ไดย นิ สัญญาณใหแตล ะแถวเคลื่อนที่ไปขางหนายงั จดุ หมาย
5. แถวใดถึงจดุ หมายกอ นเปน ผูชนะ
บัตรคาํ
บัตรคาํ ...หมทู ่ี 1
นกเลา เรอื่ งสว นตวั ของตายใหจ มุ ฟง
โดยบอกใหเกบ็ เปนความลับ จมุ นาํ เร่ืองของตายไป
เลาตอ จนรกู นั ทง้ั หอ ง
มดปากแหวง และเพดานโหวแตก าํ เนดิ
แมจ ะผาตดั แกไขแลว แตก ย็ ังพดู ไมชัด
ถูกเพือ่ นลอเลยี นอยเู สมอ ๆ
วชิ ยั อยูกับลงุ ข้ีเหลา เวลาลุงเมาเหลา มักจะโมโหรา ย
ทบุ ตแี ละทาํ โทษวชิ ัยอยา งรุนแรง เปน ประจาํ
86 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 2
เอกชอบเลนเกมท่มี ีความรนุ แรงมากๆ
และตดิ เกมออนไลนอยา งมาก มกั หนีเรียน
ไปเลน เกมบอ ย ๆ
บัตรคาํ ...หมูที่ 2
หนง่ึ กับสองเปนฝาแฝดกัน ชอบดหู นงั และ
เลน เกมบูลางผลาญท้งั คู เขามปี นเดก็ เลน
คนละกระบอกเอาไวเ ลน ไลยงิ กนั
มะลิมีพอ แมท่ที ะเลาะตบตี
ทาํ รา ยรา งกายกนั ใหเห็นเปน ประจํา
หนุม พนนั กบั เพอ่ื นในกลุมวาจะหลอก
ใหน อยรักแลว หกั อกใหดู
ขาวดัง!!...พอแมชาวเกาหลคี หู น่งึ ถูกตํารวจจับขอหาละเลย
ลูกอายุ 3 เดือนจนขาดอาหารเสียชวี ติ เพราะทงั้ คูตดิ เกมจน
ไมส นใจลูก ปอ นนมใหแควันละครั้งเดียว
คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 2 87
บตั รคํา...หมูที่ 3
โตขึ้นวฒุ ิอยากเปนหวั หนาแกง อันธพาล
เพราะเคยเห็นพอ ถูกซอ ม จะไดปกปองพอได
กองไมอ ยากมาโรงเรียน
เพราะถกู เด็กโตกวา ขม ขูรีดไถเงนิ
นารถี กู แซวอยูเ สมอเวลาเดินผา น
วินมอเตอรไซคปากซอยเขาบา น
เธอไดแตก ม หนา กมตารบี เดนิ ใหเร็วท่ีสดุ
อวนแอบขโมยมือถอื เพอื่ นไปขาย
เพอื่ เอาเงินไปเลน เกม
88 คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2
บัตรคาํ ...หมทู ี่ 4
เสรีเลี้ยงปลากดั เขาชอบดเู วลามนั ตอ สูก นั
ถา ตวั ไหนแพ เขากจ็ ะปลอ ยใหมันตาย ไมเลย้ี งมนั อกี ตอไป
วาดอิจฉานาํ้ ทม่ี ีกระโปรงสวย ๆ ใส
จงึ แอบเอากรรไกรไปตดั ขาดเปน รวิ้ ๆ โดยนํ้าไมร ู
มนสั ชอบไปเขา กลุม กบั เด็กทโี่ ตกวา เขาหดั ดืม่ เหลา สบู บหุ ร่ี
ออกเทย่ี วกลางคนื และพูดจาหยาบคาย ตามคนในกลุม
เพราะมนั ทาํ ใหเขาดู “แมน” ขึน้
สมจับไดวาผูช ายทย่ี ืนขา งหลงั
แอบถา ยรูปใตกระโปรงเธอ ขณะขึน้ บนั ไดเลอื่ น
คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2 89
ใบความรู
ความรุนแรง
ความรุนแรง หมายถงึ การทาํ ใหเ กิดความเสียหายตอ ชีวติ และทรพั ยส นิ คาํ วา ชวี ิตน้ีหมาย
รวมถึงท้ังรา งกาย จติ ใจ และศกั ยภาพหรอื ความสามารถทมี่ อี ยู
ระดับของความรุนแรง มีไดห ลายระดบั ตั้งแตนอยที่สดุ คอื ความรนุ แรงในจนิ ตนาการเชน
เกม การตนู ภาพยนต ความรนุ แรงทางใจ เชน การนอกใจ การทาํ รา ยจติ ใจดวยคาํ พูดหรอื การ
กระทํา ความรุนแรงทางคําพดู เชน การดุ ดา วา การลอปมดอยใหอับอาย ความรนุ แรงทางกาย
ซง่ึ รุนแรงที่สดุ เชน การทาํ รา ยรา งกาย การทอดทิง้ เดก็ ท่ีชวยเหลือตนเองไมไ ด
ความขดั แยง กับความรนุ แรง
ความขัดแยง เปน เร่อื งธรรมชาติของคนทอี่ ยรู ว มกนั ในสงั คม ซึง่ มีความคดิ เหน็ ทีแ่ ตกตางกนั ได
การแลกเปลยี่ นและยอมรบั ความคิดเหน็ ท่แี ตกตาง จงึ เปนรากฐานสาํ คัญของการสรา งองคค วามรใู หมๆ
อยางตอ เนือ่ ง จัดเปน การแกไขความขัดแยงแบบสรางสรรค
ความรุนแรงไมใชเรื่องธรรมชาติ และไมใชความขัดแยง แตมีการใชความรุนแรงมาแกไข
ความขดั แยง ดว ยอารมณแ ละความคิดความเช่ือที่ไมถ กู ตอ ง ทาํ ใหเกดิ ความขัดแยงทีม่ ากขึน้ กวาเดมิ
พึงระลึกเสมอวา ความขดั แยงสามารถแกไ ขได โดยไมต อ งใชค วามรนุ แรง
ความรุนแรงในโรงเรยี น
เด็กยอมมีการแกลงและหยอกลอกันเปนเร่ืองธรรมดา แตตองมีขอบเขตระหวางความสนุก
และความทกุ ขข องผูอื่น และเรยี นรูท จ่ี ะควบคมุ ตนเองใหม พี ฤตกิ รรมทเี่ หมาะสมกบั เพ่อื น
การสาํ รวจปญ หาความรนุ แรงในโรงเรยี น โดยการสุมทั่วประเทศ กบั เด็กประถมศกึ ษาปท ่ี 4
ถึงมัธยมศึกษาปท่ี 3 จาํ นวน 3,047 คน ในป 2549 พบวา เดก็ 40% ถูกรงั แกถึงเดอื นละ 2-3 ครงั้
การรงั แกกนั เกดิ มากทสี่ ุดในช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 4 และลดลงตามระดบั ชั้นทสี่ งู ข้ึน พฤตกิ รรมทพ่ี บ
ไดแ ก การลอ เลียน ทาํ รายจิตใจดว ยวาจา เหยยี ดหยามเช้ือชาติ ผวิ พรรณ และการคกุ คามทางเพศ
บางแหงยงั พบวยั รุน อนั ธพาลหรือคนเมา รดี ไถเงนิ หรือใชวาจาทไี่ มเ หมาะสมกบั เด็กอีกดวย
การสํารวจนสี้ ะทอ นวา ความรนุ แรงในโรงเรยี นเปน เรอื่ งเรงดว นท่ีตอ งแกไ ข เพราะเดก็ ทีถ่ กู
กระทาํ ความรุนแรงตงั้ แตชว งตน ของชีวติ จะเติบโตดว ยความไมม นั่ คง เปนผใู หญทไ่ี มสมบูรณและสง่ิ
สําคัญที่สดุ คอื อาจทําใหเ ด็กคนนัน้ กลายเปน ผกู ระทําความรนุ แรงเสยี เอง
ทําไมเด็กบางคนจึงนิยมใชค วามรนุ แรง
เด็กทีไ่ ดร บั ประสบการณค วามรนุ แรง บม เพาะและปลกู ฝงเปนเวลายาวนานจนชินชา จนเห็น
ความรุนแรงเปนเร่ืองปกติ ไมรูสึกวาเปนสิ่งผิด ไมยับยั้งชั่งใจ ไมควบคุมตัวเอง ปลอยใหอารมณ
รุนแรงชักนําใหกระทําความรุนแรง โดยเลียนแบบพฤติกรรมตามประสบการณท่ีมี ตัวอยาง
ประสบการณค วามรนุ แรงในเดก็ ไดแก
90 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2
เด็กในครอบครัวแตกแยกทพ่ี อ แมทะเลาะทาํ รายรา งกายกันใหเด็กเหน็ เปน ประจํา
เด็กทีถ่ กู ทอดท้งิ ไดรับการเลย้ี งดูไมเ หมาะสม ขาดแคลน ถกู ทํารา ยรา งกาย ทําโทษรนุ แรง
เปนประจาํ จะรูสึกวา ตนเองไมเ ปนทตี่ องการขาดความรัก รกั คนอ่นื ไมเปน ไมผ ูกพันกับใคร
เด็กทีไ่ ดเห็น รับรู เร่อื งราวการใชค วามรนุ แรงจากตัวอยา งในสงั คม เกม การตูนและสื่อตา งๆ
อยูเปน ประจาํ เชน ภาพยนตร ละครโทรทัศน ขาวหนังสือพิมพ ขา วโทรทศั น เกมกด เกมวดิ โี อ
เกมออนไลน หนงั สือการต ูนญี่ปนุ
เด็กท่ีมีพ้ืนฐานอารมณไมมั่นคง ออนไหวงาย อาจถูกชักจูง และเลียนแบบกลุมเพื่อนที่มี
พฤตกิ รรมรุนแรง เพ่ือตอ งการการยอมรับในกลมุ เพอ่ื น
เด็กที่มีพ้ืนฐานอารมณรุนแรง ไดรับการเลี้ยงดูแบบปลอย ตามใจ ทําอะไรตามอารมณและ
สงิ่ เรา ทเ่ี ขา มา โดยไมเคยฝก การควบคุมตนเอง ไมยับยัง้ ช่งั ใจ อาจกอ ความรุนแรงโดยไมยงั้ คดิ ได
การดื่มสุราและแสพสารเสพตดิ ทําใหข าดความยบั ยง้ั ชง่ั ใจ และนําไปสูก ารใชค วามรนุ แรงได
เด็กท่ีถูกเพื่อนแกลง รังแก ลอเลียน เกิดความรูสึกโกรธ อับอายและเก็บกดเปนเวลานาน
อาจระเบิดอารมณโกรธแคนออกมา เปนการกระทําความรุนแรงตอคนอ่ืนไดหรือใชความรุนแรงเพ่ือ
ปกปองตนเอง
การแอบถายคลปิ เรื่องสวนตวั ของผอู ืน่ แลว ไปเปดเผย ประจาน หรอื ใชข ม ขูเ พ่ือทรัพยส นิ
การนินทา การใสร าย ทําใหผ ูอืน่ เส่ือมเสียช่อื เสียง
สอื่ กบั ความรนุ แรง
ครวั เรอื นไทยมีโทรทศั น รอ ยละ 96 โทรทศั นจึงเปนส่ือทีม่ ีอิทธิพลสูงมากในการชีน้ ําความคิด
ความเช่ือ และคา นยิ มของสงั คม ขา วสารทางโทรทศั นเ ปน "ขา วรา ย" ถึง รอ ยละ71 ในขณะทเี่ รอื่ งดๆี
ที่ชวนใหมคี วามหวัง มเี พยี งรอ ยละ 12 ทาํ นอง “ขา วรา ยฟรขี าวดตี องจา ง”
- เดก็ ไทยทอี่ ายตุ ํ่ากวา 5 ป ชมภาพความรนุ แรง เชน ตีกนั ฆา กนั ทัง้ จากขาวและละครหรือ
โฆษณาวันละ 501 ครัง้
- เด็กสว นใหญใ ชเวลาเรียนหนงั สอื ในโรงเรียนปล ะ 900 - 1, 000 ชั่วโมง แตใชเ วลาดู
โทรทศั น ปล ะ 1,000 - 1,200 ชวั่ โมง
ส่ือจึงเปนแหลงเรียนรูและสงเสริมความรุนแรงในเด็กและเยาวชนที่สําคัญท่ีสุด เพราะเด็ก
และเยาวชนยังขาดประสบการณ และวิจารณญาณในการเลือกรับส่ือ รวมท้ังความสามารถในการ
วิเคราะหแยกแยะเน้ือหาสาระที่สื่อนําเสนออยางมีเหตุผล นอกจากน้ียังไมมีความรูความเขาใจ
เกยี่ วกับความเปน มาและเบอ้ื งหลังของส่อื จงึ ยอมรับส่ิงที่ส่อื เสนอโดยไมมีขอสงสยั และคดิ เองวาส่ิงท่ี
ส่ือเสนอน้ันถูกตองเหมาะสมสื่อจึงมีผลตอความคิดและพฤติกรรมของผูท่ีไมรูเทาทัน ทําให
เกิดผลกระทบตอ สขุ ภาพ ทัง้ ดานรา งกาย จิตใจ สังคม และจิตวญิ ญาณ
คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 2 91
การแกปญ หาความรุนแรงในโรงเรยี น
ครอบครวั เปน จดุ เรม่ิ ตน ของการแกปญหาตา ง ๆ เพราะอยใู กลชดิ กบั เด็กมากทส่ี ดุ
พอ แมจําเปน ตอ งเรียนรู และเขา ใจความตอ งการของลกู ในแตล ะชวงวยั เพือ่ รบั รถู งึ อารมณ
และความเปลย่ี นแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั ลูก
ใหเวลาทํากิจกรรม ใชเวลาวางอยูกับลูก เชน ทําอาหารหรือเลนกีฬา เพ่ือชวยสราง
บรรยากาศของครอบครัวมีสุขแสดงออกถึงความรักความอบอุน ใหการอบรมและสรางวินัยใหกับลูก
อยางเหมาะสมเพอื่ ลกู จะไมตองพึ่งพาสิ่งเราภายนอก เชน เพ่ือน เกม หรือสื่ออ่ืนๆอันจะซึมซับให
เกิดความรุนแรงตามมา
การกระทาํ ท่เี ปน ความรุนแรงมกั มจี ดุ เร่มิ ตนมาตงั้ แตว ยั เดก็ เล็ก การปลูกฝง ใหม จี ติ ใจ
ออนโยน มีเมตตาตอ สตั ว เปน วธิ หี น่ึงทชี่ ว ยลดปญ หาความรุนแรงลงได
วางตวั เปน แบบอยา งที่ดีใหก ับลูกไมม่ัวสมุ สง่ิ เสพตดิ หรือหมกมนุ อบายมุข
แกไขความขดั แยงในครอบครัวอยา งสนั ติ ไมท ะเลาะดาทอหรือตบตกี นั เพราะเม่อื ลูกรับรู
เปนประจําจนเห็นเปนเรื่องธรรมดาก็จะลอกเลยี นแบบพฤติกรรมรนุ แรงดงั กลาว
ไมลงโทษหรอื ใชว ธิ ที ีร่ นุ แรงแบบไรเหตผุ ล ควรใชวธิ กี ารพดู คุย แลกเปล่ียนตงั้ กตกิ ารวมกนั
กับลกู แทน
ไมต ามใจลกู มากเกนิ ไป จะทาํ ใหเ ด็กเปน คนเอาแตใจตนเอง ขน้ี อ ยใจ ทําใหปญหาเลก็ ๆ
กลายเปนเร่ืองใหญโต
ใหค าํ ปรกึ ษา หรือเปดโอกาสใหลูกไดร ะบายความทกุ ขท อี่ ยใู นใจ ใหก ําลงั ใจกับลูกเมอ่ื ลกู
ทาํ ผิด เมอ่ื เกิดปญหาลกู จะไดกลาบอก เพือ่ ชว ยกนั หาทางออก
สอนลกู เสมอวา ไมควรเอาปมดอ ยของเพอื่ นมาลอเลียน เพราะจะทาํ ใหเ พอื่ นเสยี ใจ
ตรงกันขามควรเหน็ ใจและเปนกําลงั ใจใหก ับเพือ่ น
โรงเรียน มบี ทบาทสําคญั ในการแกปญ หา โดยเฉพาะ “คร”ู ผูเ ปนพอ แมคนทีส่ อง ท่สี ําคญั
กค็ อื ครอบครวั ตองมสี วนรว มกบั โรงเรียน
ตอ งใหความรกั ความเขา ใจตอเดก็ ๆ ทุกคน อยางเทาเทยี มกนั ไมเลอื กปฏบิ ตั ิ
มคี วามรูค วามเขา ใจตอเดก็ ในแตละชว งวัยที่แตกตา งกัน
รจู ักเดก็ เปน รายบคุ คล ใหความชว ยเหลือในเรื่องทจี่ ําเปน ประสานความรว มมือกบั ผปู กครอง
ในการปอ งกนั และแกปญหาความรุนแรงทเ่ี กดิ กบั เดก็
เปดใจกวาง รบั ฟงความคดิ ของเดก็ ใหเ ด็กมสี ว นรว มในการแกไ ขปญ หา
ไมใ ชค วามรนุ แรงตอ เด็กทงั้ ในประเด็น “วธิ กี าร” และ “สาเหต”ุ ของ การลงโทษ
สอดสอ งดูแลเด็กภายในโรงเรียนตามจดุ ตา งๆ และเดินตรวจตราตามรอบโรงเรยี น เพื่อ
ปองกนั และลดปญ หาแด็กรังแกกัน
92 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
นกั เรยี นเปนผมู ีบทบาทสูงสุดในการแกปญ หา เพราะทัง้ ครอบครวั และโรงเรยี นตอ งยึด
นกั เรียนเปน ศนู ยก ลาง ในการนาํ มาตรการทกุ อยา งมาใชต องเกิดประโยชนส งู สดุ แกน กั เรียน
ตระหนกั ถงึ ผลเสยี ของการแกลง และหยอกลอ กนั จนเกนิ ขอบเขตและมวี ธิ กี ารสื่อสารเพอ่ื
แกไขปญ หา
รจู กั เอาใจเขามาใสใ จเรา ไมทําในสง่ิ ทแี่ มตัวเราเองก็ไมช อบ เชนไมล อ จุดออนและปมดอ ย
ของเพ่อื น ไมแกลงเพ่อื น หรอื เลน จนเกนิ ขอบเขตของความสนกุ สนาน
รูจ ักเลอื กรับสอ่ื ทเ่ี หมาะสม ไมก ระตุน ความรุนแรง
รเู ทาทันและหลกี เล่ียงคา นยิ มและพฤตกิ รรมทีน่ าํ ไปสูความรนุ แรง
หากทกุ ฝา ยรว มมือกัน สรา งความเขาใจกับอารมณค วามตอ งการและการเปล่ียนแปลงของ
เดก็ ความรนุ แรงท่อี าจจะเกดิ ขึน้ กจ็ ะคอยๆ ลดลงและหายไปในทส่ี ดุ ...
เรื่องทีเ่ ปนประโยชน
ไกฟากับสุนขั จิง้ จอกเจา เลห
สุนัขจ้ิงจอกเจาเลห ต วั หนง่ึ เดินผานมาเหน็ ไกฟาเกาะอยูบนกิง่ ไม สูงขางทางมันอยากจะกิน
ไกฟ า เปนยิ่งนกั จึงคดิ หาอุบายเเลว เอยขน้ึ วา "ไกฟ า เอย ทา นชา งเปน สัตวท ง่ี ดงามนกั ปกของทา นมี
สสี ัน สดใสหลายสปี ากก็งดงามไมเหมือนใคร อยากรูจังวา ถาทาน หลบั ตาเเลว ยังจะงามอยหู รอื ไม"
ไกฟา ไดฟ ง คาํ ยกยอก็หลงเคลบิ เคลม้ิ รีบหลบั ตาอวดทนั ทสี นุ ขั จ้งิ จอกก็รบี ฉวยโอกาสนั้นกระโดดงบั
ตวั ไกฟ า ไวไดเ มอ่ื ไกฟา พลาดทา เเตก็ยังมีสติ จงึ เอยขนึ้ วา "จิง้ จอกเอย กอนตายขาอยากฟงเสยี งอัน
ไพเราะของทา น อกี คร้งั ไดไหม"สนุ ัขจ้งิ จอกไดฟ งคาํ ปอ ยอก็หลงกล รีบอา ปากเหาคาํ ราม ไกฟาจึงรีบ
บินหนีจากไปทนั ที
เรอ่ื งน้ีสอนใหร ูวาคํายกยอปอปน ทาํ ใหค นหลงเคลบิ เคลม้ิ จนไมร ะวงั ตนไดเสมอ
ลกู ชาวนากบั มรดก
เม่ือผูเปนพอตายเเลว ลูกชาวนาทั้งสองก็ชวนกันไปขุดหา สมบัติในสวนองุนเพราะพอไดส่ัง
เสียไวกอ นตายวา ทรัพยสมบตั ิ ของพออยใู นสวนองุน “นอ งไปขดุ ตรงนน้ั นะ พ่ีจะขุดตรงนี"้
ลูกชาวนาชวยกันขุดดินตามท่ีตางๆไปจนทั่วสวนก็ยังไมพบ สมบัติที่คิดวาพอจะฝงไวเเต
สวนองุนที่ถูกขุดถูกพรวนดินจนท่ัวน้ันก็กลับยิ่งเจริญงอกงาม ดีจนลูกชาวนาสองพี่นองสามารถขาย
องุนจนไดเงินทองมากมายท้ังสองจึงเพ่ิงตระหนักไดวาทรัพยสมบัติที่พอทิ้งไวใหเปนมรดก นั้นที่เเท
คอื สิ่งใด
เรื่องนส้ี อนใหร ูวา ความขยันพากเพยี รสามารถกอใหเ กดิ ทรพั ย
คมู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 93
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญรุนใหญ(เครื่องหมายลูกเสอื ชัน้ พิเศษ) ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2
หนวยท่ี 6 บริการ เวลา 2 ชั่วโมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 18 การปฐมพยาบาล
1. จดุ ประสงคก ารเรียนรู
สามารถบอกความหมายของการปฐมพยาบาลและการปฏบิ ตั ติ นเมอ่ื เกิดเหตุฉกุ เฉินได
2. เน้ือหา
2.1 ความหมายของคําวาปฐมพยาบาล
2.2 หลกั ทวั่ ไปของการปฐมพยาบาล
2.3 ขอควรระมัดระวงั ในการปฐมพยาบาล
2.4 วิธกี ารชว ยเหลือผูที่เกิดอาการชอค
2.5 วิธีการในการปฐมพยาบาลบาดแผลท่ัวไป
2.6 วิธีการปฏบิ ตั ติ นเมอ่ื เกดิ ภัยธรรมชาติตาง ๆ
3. สื่อการเรียนรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 ใบงาน เรอ่ื ง หลักการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน
3.3 ใบงาน เรอื่ ง การปฐมพยาบาลบาดแผลทว่ั ไปและอาการชอ ค
3.4 ใบงาน เรือ่ ง การปฏบิ ัตติ นเมื่อเกดิ ภยั ธรรมชาติ
3.5 ใบความรู เร่อื ง การปฐมพยาบาลและการปฏบิ ตั ติ นเมอ่ื เกดิ เหตฉุ ุกเฉนิ
3.6 เรื่องที่เปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมคร้ังท่ี 1
1) พิธีเปดประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
(1) ผกู ํากับลกู เสือและลกู เสอื สนทนา และแลกเปลย่ี นประสบการณใ นการปฐม
พยาบาลชว ยเหลอื ผอู ่ืน
(2) ผกู าํ กบั ลกู เสือแบง ลกู เสอื ออกเปน 3 กลุม โดยการรวมหมลู ูกเสอื พรอ มแจก
ใบงานใหก ลุมลกู เสือศึกษาคนควา ดังนี้
กลมุ ที่ 1 เร่อื ง ความหมายของคาํ วา ปฐมพยาบาล
กลมุ ที่ 2 เรือ่ ง หลกั ท่ัวไปของการปฐมพยาบาล
กลุม ที่ 3 เร่อื ง ขอ ควรระมดั ระวังในการปฐมพยาบาล
94 คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 2
(3) ผูกํากบั ลกู เสือ ใหลกู เสอื แตละกลุมนาํ เสนอผลงานท่ีไดจ ากการศกึ ษาคนควา ใน
ทป่ี ระประชุมใหญ โดยผกู าํ กบั ลูกเสอื เพมิ่ เตมิ ในสวนท่ีไมส มบูรณ
(4) ผูก าํ กับลกู เสือและลกู เสือรวมกันสรุปถงึ องคค วามรทู ่ีไดร ับจากการศกึ ษาคน ควา
มา
4) ผูกาํ กบั ลกู เสอื เลา เรอื่ งท่ีเปน ประโยชน
5) พิธีปด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธง เลกิ )
4.2 กจิ กรรมครง้ั ที่ 2
1) พธิ เี ปดประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กิจกรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู
(1) ผกู ํากบั ลกู เสือช้แี จงขนั้ ตอนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในแตล ะฐาน พรอมท้งั แบง
ลูกเสือ ออกเปน 3 กลมุ โดยการรวมหมูลูกเสือ
(2) จดั ฐานการเรยี น 3 ฐาน ดงั น้ี
ฐานที่ 1 เร่อื ง วิธกี ารชวยเหลอื ผทู ่เี กิดอาการชอ ค
ฐานท่ี 2 เรอ่ื ง วธิ ีการในการปฐมพยาบาลบาดแผลทว่ั ไป
ฐานที่ 3 เร่อื งวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเมอ่ื เกดิ ภัยธรรมชาตติ า ง ๆ
(3) จดั ลูกเสอื เขา ประจําฐาน โดยมรี องผูกาํ กบั ลกู เสอื เปนผูสาธติ และใหล กู เสือฝก
ปฏบิ ัติ
(4) ใหลูกเสอื เวียนฐานกจิ กรรม จนครบทัง้ 3 ฐาน
(5) ผูกาํ กับลกู เสือและลูกเสือรว มกันสรุปความรูและทกั ษะทไี่ ดจากการฝกปฏบิ ตั ิ
4) ผกู ํากบั ลกู เสอื เลาเรอ่ื งท่เี ปน ประโยชน
5) พธิ ปี ด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชกั ธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
5.1 สงั เกตพฤตกิ รรมจากการทํางานกลมุ
5.2 ตรวจความสําเรจ็ จากใบงานท่มี อบหมาย
5.3 สงั เกตจากการมีสว นรว มในการอภปิ ราย
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 18
เพลง
ไกที่บานฉัน
คูมอื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 95