แนวทางการเสริมริสร้า ร้ งความผูกพัน พั ของข้า ข้ ราชการพลเรือ รื นสามัญ มั EMPLOYEE ENGAGEMENT GUIDELINE จัดจัทำ โดย สำ นักงาน ก.พ.
คำ นำ "บุคลากรภาครัฐรั"ถือเป็นปัจจัยจัสำ คัญที่สุดสุในการขับขัเคลื่อนยุทธศาสตร์ชร์าติและการพัฒพันาประเทศให้ปห้ระสบ ผลสำ เร็จร็รัฐรับาลเห็นห็ความสำ คัญดังกล่าว จึงจึได้กำ หนดแผนแม่บม่ทภายใต้ยุทธศาสตร์ชร์าติ ประเด็นการบริกริาร ประชาชนและประสิทสิธิภธิาพภาครัฐรั (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนย่อย่ยการสร้าร้งและพัฒพันาบุคลากรภาครัฐรั (ฉบับบัแก้ไขเพิ่มพิ่เติม) มีเมีป้าป้หมายสำ คัญในการสร้าร้งและพัฒพันาบุคลากรภาครัฐรัให้มีห้คมีวามพร้อร้มทั้งทั้ความรู้ ความสามารถ กรอบความคิด และทัศนคติในการขับขัเคลื่อนภารกิจยุทธศาสตร์ชร์าติให้ปห้ระสบความสำ เร็จร็ โดยกำ หนดให้ “ดัชนีความผูกพันพัของบุคลากรภาครัฐรั” เป็นหนึ่งในตัวชี้วั ชี้ ดวัความสำ เร็จร็และกำ หนด ค่าเป้าป้หมาย คือ ให้มีห้ดัมี ดัชนีความผูกผูพันพัเพิ่มพิ่ขึ้นขึ้ ไม่น้ม่ น้อยกว่าว่ร้อร้ยละ 5 ภายในปี 2570 และเพิ่มพิ่ขึ้นขึ้อย่าย่งต่อเนื่อง ไปจนถึงปี 2580 แนวทางฉบับบันี้ประกอบด้วย กลยุทธ์กธ์ารยกระดับ ปัจจัยจัที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพัเครื่อรื่งมือมืตรวจสอบ ความคิดเห็นห็แบบสั้นสั้ (Pulse Survey) และ แนวปฏิบัติบั ติที่ดีจากองค์กรทั้งทั้ ในและต่างประเทศ ซึ่งซึ่ส่วส่นราชการสามารถพิจพิารณานำ ไปใช้ตช้าม ความเหมาะสมกับบริบริทของแต่ละส่วส่นราชการ และประการสำ คัญ การยกระดับความผูกผูพันพัเป็น สิ่งสิ่ที่เกี่ยวข้อข้งกับประสบการณ์ในการทำ งานของ ทุกทุคนในองค์กร ทั้งทั้ผู้บผู้ ริหริาร หัวหัหน้างาน หน่วยงานการเจ้าจ้หน้าที่ และตัวข้าข้ราชการ ซึ่งซึ่ทุกทุคน สามารถศึกษาแนวทางฉบับบันี้และนำ ไปปรับรัใช้ไช้ด้ ต่อไป ปี 2565 พัฒพันาเครื่อรื่งมือมืการวัดวัดัชนีความผูกผูพันพั สำ รวจความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมั และจัดจัทำ รายงานผลการสำ รวจความผูกผูพันพัทั้งทั้ผล ในภาพรวมและรายส่วส่นราชการ กำ หนดแผนการสำ รวจความผูกผูพันพัแบบปีเว้นว้ ปี เพื่อพื่ ให้ส่ห้วส่นราชการได้มีช่มีวช่งเวลาที่สามารถนำ ผล การสำ รวจความผูกผูพันพั ไปใช้เช้ป็นประกอบ การวางแผนและดำ เนินการบริหริารทรัพรัยากรบุคคล ในส่วส่นราชการ ปี 2566 จัดจัทำ “แนวทางการส่งส่เสริมริ ความผูกพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมั ” คณะรัฐรัมนตรีใรีนการประชุมเมื่อมื่วันวัที่ 3 ธันธัวาคม 2562 มีมมีติมอบหมายให้สำห้สำนักงาน ก.พ. เป็นหน่วยงานเจ้าจ้ภาพ ในการขับขัเคลื่อนเป้าป้หมายของแผนย่อย่ยดังกล่าว ซึ่งซึ่สำ นักงาน ก.พ. ได้ดำ เนินการ ดังนี้ EMPLOYEE ENGAGEMENT สำ นักงาน ก.พ. สิงสิหาคม 2566 เพื่อพื่ ให้ส่ห้วส่นราชการได้นำ ไปใช้ปช้ระโยชน์ในการบริหริาร ทรัพรัยากรบุคคลเพื่อพื่ยกระดับความผูกผูพันพั ของส่วส่นราชการ
01 บทนำ 1) หลักการ และวัตวัถุปถุระสงค์ 2)นิยนิามความผูกผูพันพั 3)ความสำ คัญของความผูกผูพันพั 4)ปัจจัยจัที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพั สารบัญ บั 02 แนวปฏิบัติบั ติใน องค์กรต่าง ๆ 1) สถานการณ์รณ์าชการไทย 2) แนวปฏิบัติบั ติจากภาคราชการไทย 3) แนวปฏิบัติบั ติจากภาคเอกชน 4) แนวปฏิบัติบั ติจากต่างประเทศ 03 แนวทางดำ เนินนิการ 04 เครื่อรื่งมือมืตรวจสอบ ความคิดเห็นห็แบบสั้นสั้ 1) Pulse Survey 3 ปัจจัยจั ได้แด้ก่ ตัวงาน สุขสุภาพและ ความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี และ สภาพแวดล้อมเชิงชิบวก 2) วิธีวิอื่ธีอื่น ๆ 05 อ้างอิง คำ นำ ประเด็นด็ตรวจสอบสภาพ ปัจจุบันบั แนวทางดำ เนินนิการ กลยุทธ์ใธ์นการยกระดับดั ปัจจัยจั ที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพัของ ข้าข้ราชการพลเรือรืน 8 ด้าด้น
บทนำ หลักการ และวัตวัถุป ถุ ระสงค์ ของแนวทาง นิยามความผูก ผู พันพั ความสำ คัญของความผูก ผู พันพั ปัจจัยจั ในงานที่ส่ง ส่ ผลต่อ ความผูก ผู พันพั 1. 2. 3. 4. 01
แนวทางการเสริมริสร้าร้งความผูกผูพันพัเป็นข้อข้เสนอแนะในการบริหริาร ทรัพรัยากรบุคคลให้ส่ห้วส่นราชการในการยกระดับความผูกผูพันพัของ ข้าข้ราชการในส่วส่นราชการโดยมีรมีายละเอียด ดังนี้ หลักการ การนำ แนวทางไปใช้ ควรคำ นึงถึงความต้องการของบุคลากรในองค์กรที่มีคมีวามหลากหลาย และความเหมาะสมกับบริบริทขององค์กร ควรดำ เนินการอย่าย่งเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อพื่ ให้เห้กิดผลอย่าย่งเป็น รูปธรรมและยั่งยั่ยืนยื ควรสร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มกับบุคลากรทุกทุระดับเนื่องจากเป็นเรื่อรื่งที่ เกี่ยวข้อข้งกับทุกทุส่วส่นในองค์กร การเสริมริสร้าร้งความผูกผูพันพัที่มีปมีระสิทสิธิภธิาพจะส่งส่ผลต่อพฤติกรรม การทำ งานของบุคลากรในการขับขัเคลื่อนภารกิจยุทธศาสตร์ชร์าติ และองค์กรให้ปห้ระสบความสำ เร็จร็อันส่งส่ผลต่อประโยชน์สุขสุของ ประชาชนและสังสัคม บทนำ 2 วัตวัถุปถุระสงค์ เพื่อพื่ ให้ส่ห้วส่นราชการ 1. มีแมีนวทางและตัวอย่าย่งแนวปฏิบัติบั ติที่ดี ในการบริหริารทรัพรัยากรบุคคลที่สามารถ นำ ไปใช้ปช้ระโยชน์ได้ ด้ 2. ใช้เช้ป็นแนวทางในการสร้าร้งระบบนิเวศ ในการทำ งาน (Ecosystem) ที่ส่งส่เสริมริ ให้ บุคลากรในองค์กรสามารถปฏิบัติบั ติงานได้ อย่าย่งมีปมีระสิทสิธิภธิาพ 3. มีเมีครื่อรื่งมือมื ในการตรวจสอบระดับ ความคิดเห็นห็ของบุคลากรในองค์กร ที่เป็นปัจจุบันบัและสามารถนำ ผลมาใช้ไช้ด้ อย่าย่งทันการณ์ Diverse Systematic Cooperative Goal-driven
"ความมุ่งมุ่มั่นมั่ความภาคภูมิภูใมิจ และความรู้สึรู้กสึเป็นป็ส่วส่นหนึ่งนึ่กับงาน องค์กร และระบบราชการ ซึ่งซึ่วัดวั ได้จากการแสดงออกถึงความพยายามและความกระตือรือรืร้นร้ ในงาน ความรู้สึรู้กสึมีส่มีวส่นร่วร่มกับเป้าป้หมายของหน่วน่ยงานและมุ่งมุ่มั่นมั่ที่จะขับขัเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเลุป้าป้หมาย รวมถึงความมุ่งมุ่มั่นมั่ตั้งใจที่จะทำ งานในระบบราชการเพื่อพื่ประโยชน์ส่น์วส่นรวมและประชาชน" นิยามความผูกพัน พั What is employee engagement? ความผูกผูพันพัต่อองค์กรสามารถใช้ทำช้ ทำนายอัตราการเข้าข้ออกจากงานของ สมาชิกชิ ในองค์กรได้ดีด้กดีว่าว่การศึกษาเรื่อรื่งความพึงพึพอใจในงาน และหากสมาชิกชิ ในองค์กรไม่มีม่คมีวามผูกผูพันพัต่อองค์กรแล้ว จะก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นป็ ปัญปัหาสำ คัญได้ - Steer (1977) และ Angle and Perry (1981) การที่สมาชิกชิขาดความผูกผูพันพักับองค์กรจะส่งส่ผลกระทบต่อ องค์กรในแง่ลบ โดยเฉพาะอย่าย่งยิ่งยิ่จะก่อให้เห้กิดการละเลย เพิกพิเฉยต่อการปฏิบัติบั ติหน้าน้ที่ และนำ ไปสู่กสู่ ารลาออกจาก องค์กรในที่สุดสุ - Whitey and Cooper (1989) ความผูกผูพันพัต่อองค์กรสามารถส่งส่ผลที่ตามมาในแง่ที่เป็นประโยชน์ ต่อองค์กร คือ สมาชิกชิจะมีคมีวามทุ่มทุ่เททำ งานเพื่อพื่องค์กรมากขึ้นขึ้ อาจเป็นพฤติกรรมที่นอกเหนือนืจากบทบาทที่รับรัผิดผิชอบโดยตรง (Extra role behavior) ซึ่งซึ่เขายินยิดีที่จะกระทำ โดยมิไมิด้หวังวั ผลตอบแทนจากองค์กร - Smith and others (1983) มีแมีนวโน้มน้ที่จะอยู่กัยู่ กับองค์กรนานกว่าว่ เชื่อชื่มั่นมั่และยอมรับรัในเป้าป้หมายและค่านิยนิมขององค์กร เต็มใจที่จะทำ งานอย่าย่งเต็มความสามารถเพื่อพื่ ให้บห้รรลุ ตามเป้าป้หมายขององค์กร มีคมีวามทุ่มทุ่เททำ งานเพื่อพื่องค์กรแม้จม้ะนอกเหนือนืจาก บทบาทที่รับรัผิดผิชอบโดยตรง (Extra role behavior) โดยมิไมิด้หด้วังวัผลตอบแทนจากองค์กร มาทำ งานอย่าย่งสม่ำ เสมอ มีแมีนวโน้มน้ของการมีสุมีขสุภาพกายและจิตจิที่ดีกดีว่าว่ ลาออกจากองค์กร มีพมีฤติกรรมที่เป็นปัญหาสำ คัญ ละเลยเพิกพิเฉยต่อการปฏิบัติบั ติหน้าน้ที่ เฉื่อยชาในการปฏิบัติบั ติงาน ทำ งานผิดผิพลาดจนเกิดอุบัติบั ติเหตุ ส่งส่ผลเสียสีต่อสุขสุภาพจิตจิและสุขสุภาพ กายของพนักนังาน WWHHYY DDOO WWEE CCAARREE AABBOOUUTT EENNGGAAGGEEMMEENNTT 3
โดยจากกรอบแนวคิดข้าข้งต้น สำ นักนังาน ก.พ. ได้นำด้นำมาแบ่งบ่ เป็นป็ ประเด็นด็พัฒพันาข้อข้คำ ถาม ในการสำ รวจความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืน และจัดจัเป็นป็กลุ่มลุ่ปัจจัยจั ในงานที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพั 10 ด้าด้น ในปี2565 การพัฒพันาแบบสำ รวจความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมัสำ นักนังาน ก.พ. ได้นำด้นำแนวคิด “Employee Experience” มาใช้เช้ป็นแนวทางในการระบุระบบนิเนิวศในการทำ งาน โดยคำ นึงนึถึงบุคลากรเป็นศูนย์กย์ลาง (Employee-centric Approach) EMPLOYEE EXPERIENCE ด้าด้นตัวงาน (My Work) ด้าด้นทีมงาน (My Team) ด้าด้นหัวหัหน้าน้งาน (My Supervisor) ด้าด้นผู้บผู้ ริหริาร (My Senior Executive) ด้าด้นองค์กร (My Agency) ด้าด้นโอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา (Growth Opportunity) ด้าด้นสภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก (Positive Workplace) ด้าด้นสุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี (Health and Wellbeing) ด้าด้นความมั่นมั่คงในอาชีพชี (Job Security) และ ด้าด้นการทำ งานในช่วช่งการแพร่รร่ะบาดของ COVID-19 (COVID-19 Related Experience) ปัจจัย จั ที่ส่ง ส่ ผลต่อความผูกพัน พั 4
02 แนวทางดำ เนินนิการ ตัวงาน สุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี สภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก โอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา ผู้บผู้ ริหริาร หัวหัหน้าน้งาน องค์กร ทีมงาน กลยุทธ์ใธ์นการยกระดับดั ปัจจัยจัที่ส่งส่ผลต่อ ความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืน 8 ด้าด้น 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.
แนวทางดำ เนินนิการเพื่อพื่เสริมริสร้าร้งความผูกพันพั เป้าป้หมาย ตัวชี้วัชี้ดวั ค่าเป้าป้หมาย 2566 - 2570 2571 - 2575 2576 - 2580 บุคลากรภาครัฐรัยึดยึค่านิยนิมในการทำ งาน เพื่อพื่ประชาชนยึดยึหลักคุณคุธรรม จริยริธรรม มีจิมีตจิสำ นึกนึมีคมีวามสามารถสูงสูมุ่งมุ่มั่นมั่ และเป็นป็มือมือาชีพชี ดัชดันีคนีวามผูกผูพันพัของ บุคลากรภาครัฐรั (ร้อร้ยละภายในปี 2570/2575/2580) เพิ่มพิ่ขึ้นขึ้ ไม่น้ม่อน้ยกว่าว่ 5 เพิ่มพิ่ขึ้นขึ้ ไม่น้ม่อน้ยกว่าว่ 10 เพิ่มพิ่ขึ้นขึ้ ไม่น้ม่อน้ยกว่าว่ 15 จากผลการสำ รวจความผูกผูพันพั ในภาพรวมของข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมั ปี 2565 มีคมีะแนนดัชนีความผูกผูพันพั 78.70 ซึ่งซึ่น้อยกว่าว่ค่าเป้าป้หมายตามที่กำ หนดเป็นตัวชี้วั ชี้ ดวัความสำ เร็จร็ในการสร้าร้งและพัฒพันาบุคลากรภาครัฐรั ตามแผนแม่บม่ทภายใต้ยุทธศาสตร์ชร์าติ ประเด็นการบริกริารประชาชนและประสิทสิธิภธิาพภาครัฐรัซึ่งซึ่กำ หนดให้ดัห้ ดัชนี ความผูกผูพันพัของบุคลากรภาครัฐรัมีคมีะแนนร้อร้ยละ 80 ภายในปี 2565 อีกทั้งทั้ ในปี 2566 แผนแม่บม่ทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชร์าติ (ฉบับบัแก้ไขเพิ่มพิ่เติม) ได้มีกมีารปรับรั ปรุงค่าเป้าป้หมายของตัวชี้วั ชี้ ดวัดังกล่าวให้มีห้ดัมี ดัชนีความผูกผูพันพั เพิ่มพิ่ขึ้นขึ้ ไม่น้ม่ น้อยกว่าว่ร้อร้ยละ 5 ภายในปี 2570 และเพิ่มพิ่ขึ้นขึ้อย่าย่งต่อเนื่องไปจนถึงปี 2580 ร้อร้ยละ 60.48 ไม่เม่คยคิดถึงการลาออกหรือรืโอนย้าย้ยออกจาก หน่วยงาน ร้อร้ยละ 69.21 ไม่มีม่คมีวามคิดที่จะลาออกจากระบบราชการ นอกจากนี้ เมื่อมื่พิจพิารณาเฉพาะข้อข้คำ ถามเกี่ยวกับการลาออกหรือรื โอนย้าย้ยหน่วยงานในช่วช่ง 1 ปีที่ผ่าผ่นมา พบว่าว่ สะท้อนให้เห้ห็นห็ว่าว่ยังยัมีข้มีาข้ราชการอีกจำ นวนถึง เกือบร้อร้ยละ 40 ที่อาจจะคิดถึงการออกจากหน่วยงาน และอีกประมาณร้อร้ยละ 30 ที่อาจจะคิดถึง การออกจากระบบราชการ กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 1 การยกระดับปัจจัยจัด้านตัวงาน (My Work) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 2 การยกระดับปัจจัยจัด้านสุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดี (Health and Wellbeing) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 3 การยกระดับปัจจัยจัด้านสภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก (Positive Workplace) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 4 การยกระดับปัจจัยจัด้านโอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา (Growth Opportunity) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 5 การยกระดับปัจจัยจัด้านผู้บผู้ ริหริาร (My Senior Executive) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 6 การยกระดับปัจจัยจัด้านหัวหัหน้างาน (My Supervisor) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 7 การยกระดับปัจจัยจัด้านองค์กร (My Agency) กลยุทธ์ที่ธ์ ที่ 8 การยกระดับปัจจัยจัด้านทีมงาน (My Team) เป้าป้หมายและตัวชี้วัชี้ดวัของแผนย่อย่ย การสร้าร้งและพัฒพันาบุคลากรภาครัฐรั (ฉบับบัแก้ไขเพิ่มพิ่เติม) สำ นักงาน ก.พ. ตระหนักถึงความสำ คัญของการรักรัษา “คน” ไว้ใว้นองค์กร โดยเชื่อชื่ว่าว่การที่บุคลากรในองค์กรมี ความผูกผูพันพัสูงสูจะนำ ไปสู่กสู่ ารเพิ่มพิ่ขีดขีความสามารถขององค์กร และประสิทสิธิภธิาพประสิทสิธิผธิลของภาครัฐรั ในการส่งส่มอบบริกริารสาธารณะ จึงจึได้จัดจัทำ แนวทางการเสริมริสร้าร้งความผูกผูพันพั โดยเสนอเป็นกลยุทธ์ ในการยกระดับปัจจัยจัที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืน 8 ด้าน ดังนี้ 6
กลยุทธ์ที่ธ์ ที่1 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านตัวงาน (My Work) ประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง "ท่านทำ แล้วหรือรืยังยั " สื่อสื่สารความสำ คัญของงาน มอบหมายงานโดยคำ นึงนึถึง ความสามารถและความสนใจของ บุคลากร เปิดปิกว้าว้งให้แห้สดงความคิดเห็นห็ เน้นน้การวัดวัผลสัมสัฤทธิ์งธิ์านเป็นป็หลัก โดยให้อิห้ อิสระในการทำ งาน มีกมีารหมุนเวียวีนงานที่เป็นป็ระบบ จัดจั ให้มีห้กิมี กิจกรรมที่สร้าร้งความเข้าข้ใจเกี่ยวกับ ภารกิจของหน่วน่ยงาน มีกมีระบวนการสรรหาและคัดเลือกคนเข้าข้มา ทำ งานในองค์กรโดยคำ นึงนึถึงความเหมาะสม จัดจั ให้มีห้กิมี กิจกรรม/ช่อช่งทาง/เวทีที่เปิดปิ โอกาสให้ บุคลากรได้นำด้นำเสนอโครงการต่อผู้บผู้ ริหริาร ระดับดัต่าง ๆ สร้าร้งสภาพแวดล้อมในการทำ งานที่ส่งส่เสริมริ การปฏิบัติบั ติงานที่คล่องตัวและยืดยืหยุ่นยุ่ สำ หรับรัผู้บผู้ ริหริาร/หัวหัหน้าน้งาน สำ หรับรัการเจ้าจ้หน้าน้ที่ ปัจจัยจัด้านตัวงาน หมายถึง การได้ใช้ทัช้ ทักษะและความสามารถ ในการทำ งานอย่าย่งมีปมีระสิทสิธิภธิาพ ความหมายและคุณคุค่าของงาน อิสระในการทำ งาน ความสอดคล้องระหว่าว่งลักษณะงานที่ทำ กับ ความสามารถ ทักษะ ความรู้ และเป้าป้หมายในอาชีพชีของบุคลากร รวมทั้งทั้ความสอดคล้องระหว่าว่งงานที่ได้รับรัมอบหมายกับภารกิจ ของหน่วยงาน และภารกิจของภาครัฐรั 7
แนวทางการดำ เนินนิการ : ตัวงาน (My Work) 1) สื่อสื่สารความสำ คัญของงาน ตระหนักถึงความหมายและคุณคุค่าของงาน เข้าข้ใจถึงความสอดคล้องระหว่าว่งงานกับภารกิจของหน่วยงาน และภารกิจของภาครัฐรั ได้ใช้คช้วามรู้ ทักษะ และความสามารถในการทำ งานอย่าย่งเต็ม ประสิทสิธิภธิาพ ได้รับรัมอบหมายงานที่มีคมีวามสอดคล้องกับความรู้ ทักษะ ความสามารถ และเป้าป้หมายในอาชีพชี มีอิมี อิสระในการทำ งาน เป้าหมาย : ผู้ปฏิบัติบั ติงาน ผู้บผู้ ริหริาร มีกมีารมอบนโยบายต้นปีงบประมาณ ประชุม พบปะบุคลากรในหน่วยงานรายสำ นัก/กอง พบปะ ข้าข้ราชการบรรจุใหม่ใม่นช่วช่งปฐมนิเทศ หัวหัหน้างานสร้าร้งความเข้าข้ใจแก่ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน 2) มอบหมายงานโดยคำ นึงนึถึงความสามารถและ ความสนใจของบุคลากร เปิดโอกาสให้บุห้บุคลากรนำ เสนอความคิดสร้าร้งสรรค์ หรือรืนวัตวักรรมที่สนับสนุนภารกิจ โดยจัดจั ให้มีห้ มี กิจกรรม/ช่อช่งทาง/เวทีที่เปิดโอกาสให้บุห้บุคลากรได้ นำ เสนอโครงการต่อผู้บผู้ ริหริารระดับต่าง ๆ เพื่อพื่ ให้ คำ แนะนำ การสนับสนุน และการผลักดันให้เห้กิด การดำ เนินงานโครงการจริงริจนสามารถประสบ ความสำ เร็จร็ได้อย่าย่งเป็นรูปธรรมโดยไม่คัม่ คัดค้านหรือรื ตำ หนิ อันส่งส่เสริมริ ให้บุห้บุคลากรกล้าแสดงความคิดเห็นห็ ในสภาพแวดล้อมที่รู้สึรู้กสึ ปลอดภัย มอบหมายงานอย่าย่งเหมาะสมและเป็นธรรม สร้าร้งความเข้าข้ใจถึงความสอดคล้องของงานกับ เป้าป้หมายองค์กร (Position ของผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน ในภาพใหญ่) และผลกระทบ (Impact) ของงาน ต่อความสำ เร็จร็ขององค์กรและประเทศชาติ เพื่อพื่ ให้ ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานได้ตระหนักถึงคุณคุค่าของงาน โดยควรมี การสื่อสื่สารตั้งตั้แต่การมอบหมายงานและสม่ำ เสมอ ผ่าผ่นช่อช่งทางต่าง ๆ ทั้งทั้อย่าย่งเป็นทางการและไม่เม่ ป็น ทางการ โดยมีตัมี ตัวอย่าย่งการดำ เนินการ ดังนี้ 3) เปิดปิกว้าว้งให้แสดงความคิดเห็น 8 เกี่ยวกับเป้าป้หมาย ความสำ คัญของงาน และผลลัพธ์ ที่คาดหวังวัอย่าย่งเป็นรูปธรรม โดยควรดำ เนินการ ตั้งตั้แต่ช่วช่งการมอบหมายงาน องค์กรสื่อสื่สารความเคลื่อนไหวขององค์กร อย่าย่งสม่ำ เสมอ เพื่อพื่ ให้บุห้บุคลากรรู้ทิรู้ ทิศทางขององค์กร และสามารถเชื่อชื่มโยงภารกิจของตนกับภารกิจของ องค์กรได้ โดยสื่อสื่สารผ่าผ่นช่อช่งทางต่าง ๆ เช่นช่ สื่อสื่เสียสีงหรือรืบทความรายสัปสัดาห์ เป็นต้น โดยคำ นึงถึงความสามารถและความสนใจของ ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน อันส่งส่ผลต่อความรู้สึรู้กสึเชิงชิบวก เพราะหากคนเราต้องทำ งานที่ไม่ถม่นัดหรือรื เบื่อบื่หน่าย อาจส่งส่ผลต่อประสิทสิธิภธิาพที่ลดลง ทั้งทั้นี้ แม้ใม้นการมอบหมายงานหัวหัหน้างานจะถือเป็น ผู้มีผู้ บมีทบาทสำ คัญ แต่ผู้บัผู้ งบัคับบัญบัชาเหนือขึ้นขึ้ ไป ก็ควรให้คำห้ คำแนะนำ และการเจ้าจ้หน้าที่ก็ควรมีกมีลไก ในการส่งส่เสริมริ ให้หัห้วหัหน้างานมีทัมี ทักษะในเรื่อรื่งนี้ด้วย เช่นช่การฝึกอบรมพัฒพันา คำ นึงถึงการมอบหมายงานที่มีคมีวามหลากหลาย อันเป็นการพัฒพันาและส่งส่เสริมริเส้นส้ทาง ความก้าวหน้าของผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน
งานสนุกนุ จังจัเลย เราทำ งานนี้ไป ทำ ไมนะ? เบื่อบื่จังจัอยาก ย้าย้ยงานแล้ว ดีใจจังจั! งานสำ เร็จร็แล้ว แนวทางการดำ เนินนิการ : ตัวงาน (My Work) ผู้บผู้ ริหริาร ให้ทิห้ ทิศทางและนโยบาย และให้ข้ห้อข้แนะนำ แก่การเจ้าจ้หน้าที่ในกระบวนการคัดเลือกคนที่ สามารถสะท้อนคุณคุลักษณะที่องค์กรต้องการได้ อย่าย่งเหมาะสม การเจ้าจ้หน้าที่ วิเวิคราะห์ภห์ารกิจขององค์กรและกำ หนด คุณคุลักษณะของคนที่จะเข้าข้มาในองค์กรได้ อย่าย่งเหมาะสมกับช่วช่งเวลานั้นนั้ มีกมีระบวนการและเครื่อรื่งมือมื ในการสรรหา/ คัดเลือกคนโดยคำ นึงถึงความเหมาะสม ทั้งทั้ด้านความรู้ ความสามารถ และทัศนคติ ที่สอดคล้องกับลักษณะงานและวัฒวันธรรม ขององค์กร ผู้บผู้ ริหริาร/หัวหัหน้างาน ให้อิห้ อิสระผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน ในการออกแบบกระบวนการทำ งาน ให้อำห้ อำนาจ การตัดสินสิ ใจแก่ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานในบางกระบวนงาน ลดขั้นขั้ตอนที่ไม่จำม่จำเป็น นำ รูปแบบการปฏิบัติบั ติ ราชการที่รองรับรัชีวิชีตวิและการทำ งานวิถีวิ ถีใหม่มม่าใช้ โดยพิจพิารณาถึงภารกิจและลักษณะงาน โดยมี การติดตามและให้คำห้ คำแนะนำ เป็นระยะ ที่สำ คัญคือ การมีคมีวามไว้เว้นื้อเชื่อชื่ ใจ (Trust) และทัศนคติ ที่เปิดกว้าว้ง การเจ้าจ้หน้าที่ จัดจัสภาพแวดล้อมและสิ่งสิ่อำ นวย ความสะดวก เช่นช่ ให้มีห้กมีารลงเวลาปฏิบัติบั ติงาน แบบออนไลน์ จัดจัพื้นพื้ที่สำ หรับรัการทำ งานร่วร่มกัน (Co-Working Space) เป็นต้น เน้นการวัดวัผลสัมสัฤทธิ์ขธิ์องการทำ งานเป็นหลัก โดยมีกมีระบวนงานที่เอื้อต่อการทำ งานที่ถูกถูต้อง รวดเร็วร็คล่องตัว และลดการใช้ทช้รัพรัยากร ตัวอย่าย่ง อาทิ ผู้บผู้ ริหริาร มีกมีารสร้าร้งทัศนคติเชิงชิบวกต่อ การหมุนเวียวีนงานในองค์กร และกำ หนด นโยบายที่ชัดชัเจนในเรื่อรื่งนี้ การเจ้าจ้หน้าที่ มีกมีลไกการสอบถามความต้องการ หมุนเวียวีนงานของข้าข้ราชการ โดยเฉพาะ กรณีที่มีปัมี ปัญหาควรสนองตอบอย่าย่ง ทันท่วงที ปรับรั ปรุงฐานข้อข้มูลกำ ลังคนให้เห้ป็นปัจจุบันบั เพื่อพื่นำ มาจัดจัทำ ข้อข้มูลประกอบการพิจพิารณา เช่นช่การศึกษาประสบการณ์ทำ งาน ความสามารถพิเพิศษ เป็นต้น มีการเตรียรีมความพร้อร้มของบุคลากร ก่อนการหมุนเวียวีนงาน รวมถึงให้คำห้ คำ ปรึกรึษา แก่ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานได้ หัวหัหน้างาน สอนงานผู้ที่ผู้ ที่ เข้าข้มาใหม่ใม่นทีม สร้าร้ง KM ที่ดีในทีมเพื่อพื่ ให้คห้นที่หมุนเวียวีน มาใหม่ไม่ด้ศึกษาเรียรีนรู้ รวมทั้งทั้มีกมีารสื่อสื่สารกับ ผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชาอย่าย่งสม่ำ เสมอ โดยเฉพาะ ในกรณีผู้ที่ผู้ ที่ไม่มีม่คมีวามสุขสุในงานปัจจุบันบั คำ นึงถึงความเหมาะสมทั้งทั้ความรู้ ความสามารถ และทัศนคติที่สอดคล้องกับลักษณะงาน รวมทั้งทั้ ความต้องการ และทางก้าวหน้าในอาชีพชีของบุคลากร ประกอบกันด้วย โดยมีตัมี ตัวอย่าย่ง การดำ เนินการ อาทิ 6) ออกแบบกระบวนงานและสร้าร้ง สภาพแวดล้อมที่ส่งส่เสริมริการปฏิบัติบั ติงาน ที่คล่องตัวและยืดยืหยุ่นยุ่ 4) มีกมีารหมุนเวียวีนงานที่เป็นป็ระบบ 5) ให้ความสำ คัญกับการสรรหาคนเข้าข้สู่ องค์กร 9
แบบประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง HAVE YOU DONE THIS ? ผู้บผู้ ริหริาร กองการ เจ้าจ้หน้าน้ที่ ปัจจัยจัด้านสุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี หมายถึง การส่งส่เสริมริสุขสุภาพ และความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีของข้าข้ราชการในประเด็นต่าง ๆ ทั้งทั้ทางด้านร่าร่งกาย และจิตจิ ใจ ประกอบด้วย นโยบายการส่งส่เสริมริสุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดี ของบุคลากร ความปลอดภัยและสุขสุภาวะอนามัยมั ในสถานที่ทำ งาน ความสมดุลดุระหว่าว่งชีวิชีตวิและการทำ งาน มีกมีารอธิบธิายให้ข้ห้าข้ราชการใหม่เม่ข้าข้ใจถึงความสำ คัญของการมี สุขสุภาพกาย สุขสุภายจิตจิที่ดี และสื่อสื่สารเกี่ยวกับการจัดจัสรร สวัสวัดิกดิารที่ส่งส่เสริมริสุขสุภาวะที่ดี มีกมีารจัดจับริกริารให้คำห้ คำ ปรึกรึษาเกี่ยวกับความเครียรีด มีกมีารจัดจั ให้กห้ารมีสุมีขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีขดีองข้าข้ราชการ เป็นยุทธศาสตร์ขร์องส่วส่นราชการ มีกมีารอนุญนุาตให้ทำห้ ทำงานนอกสถานที่ตั้งตั้หรือรืมีกมีารกำ หนด ช่วช่งเวลาทำ งานแบบยืดยืหยุ่นยุ่สำ หรับรับุคลากร ผู้บผู้ ริหริารเป็นแบบอย่าย่งในการเข้าข้ร่วร่มกิจกรรมส่งส่เสริมริสุขสุภาพ เช่นช่การเดินดิ -วิ่งวิ่หรือรืกิจกรรมกีฬาของส่วส่นราชการ มีกมีารสร้าร้งแรงจูงใจ (Incentive) เช่นช่รางวัลวัหรือรืสิทสิธิ ประโยชน์ต่น์ ต่าง ๆ เพื่อพื่ ให้ข้ห้าข้ราชการรักรัษาสุขสุภาพมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ มีกมีารสำ รวจภาระงานของข้าข้ราชการ (workload) อย่าย่งสม่ำ เสมอ กลยุทธ์ที่ธ์ ที่2 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านสุขสุภาพและความเป็น ป็ อยู่ที่ ยู่ ที่ ดี (Health and Wellbeing) 10
เป้าหมาย : ส่วส่นราชการสามารถสร้าร้งวัฒวันธรรมการทำ งาน ที่ให้คห้วามสำ คัญแก่การมีสุมีขสุภาวะที่ดีของข้าข้ราชการ ผ่าผ่นการแสดงออกและการบริหริารงานส่วส่นราชการของผู้บผู้ ริหริาร ผู้บริหริารเป็นป็แบบอย่าย่งในการเข้าข้ร่วร่มกิจกรรมส่งส่เสริมริสุขสุภาพเชิงชิรุก (Preventive Healthcare) เช่นช่การเดิน-วิ่งวิ่หรือรืกิจกรรมกีฬาของส่วส่นราชการ วิธีวิกธีารนี้เป็นการสร้าร้ง วัฒวันธรรมองค์กรที่เห็นห็ความสำ คัญของสุขสุภาพ และการดูแดูลรักรัษาสุขสุภาพก่อนการเกิด โรคเรื้อรื้รังรัเช่นช่ โรคเบาหวาน หรือรื โรคหัวหัใจ นอกจากนี้ยังยัเป็นการลดช่อช่งว่าว่งความสัมสัพันพัธ์ ระหว่าว่งผู้บผู้ ริหริารกับข้าข้ราชการทุกทุระดับอีกด้วย Management practices can improve worker well-being and also benefit employers แนวทางการดำ เนินนิการ : ด้านสุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี (Health and Wellbeing) มีกมีารจัดจั ให้การมีสุมีขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดีของข้าข้ราชการเป็นป็ยุทธศาสตร์ขร์องส่วส่นราชการ การที่ข้าข้ราชการมีสุมีขสุภาพที่ไม่ดีม่ ดีทำ ให้ปห้ระสิทสิธิภธิาพของงานลดลง ไม่ว่ม่าว่จะเป็นจากความเครียรีด ที่เกิดจากภาระงานที่หนักเกินไป หรือรืค่าใช้จ่ช้าจ่ยที่เกิดขึ้นขึ้จาก "presenteeism" (การมาทำ งานและ ปฏิบัติบั ติงาน แต่ไม่มีม่ผมีลิตภาพ - ซึ่งซึ่มักมัเกิดจากการป่วป่ยหรือรืความเครียรีด) และกระบวนการสรรหา ที่เกิดขึ้นขึ้เมื่อมื่ส่วส่นราชการสูญสูเสียสีกำ ลังคนจากการเจ็บจ็ ป่วป่ย ดังนั้นนั้การกำ หนดประเด็นนี้ให้เห้ป็น ยุทธศาสตร์ขร์องส่วส่นราชการเป็นก้าวแรกของการให้คห้วามสำ คัญแก่คุณคุภาพชีวิชีตวิของข้าข้ราชการ รวมถึงสื่อสื่สารให้เห้กิดความตระหนักรู้แรู้ละเข้าข้ใจไปถึงระดับอำ นวยการอีกด้วย การให้ความสำ คัญกับเวลาของข้าข้ราชการ (Stability of workers’ schedules) เช่นช่ มีกมีารอนุญาตให้ทำ งานนอกสถานที่ตั้ง หรือรืมีกมีารกำ หนดช่วช่งเวลาทำ งานแบบยืดยืหยุ่นยุ่ สำ หรับรับุคลากร ความยืดยืหยุ่นยุ่ ในการทำ งานมีคมีวามสำ คัญต่อสุขสุภาพกายและใจของ ข้าข้ราชการ สามารถลดความเครียรีดจากการเดินทางที่ลำ บากหรือรืการเดินทางไกล และทำ ให้ ข้าข้ราชการสามารถบริหริารจัดจัการเวลาของตนเองและดูแดูลครอบครัวรัด้วย นอกจากนี้ผู้บผู้ ริหริาร ยังยัสามารถลดความเครียรีดของข้าข้ราชการด้วยการให้คห้วามสำ คัญของเวลา เช่นช่ ไม่ยม่กเลิก นัดหมายอย่าย่งกระชั้นชั้ชิดชิหรือรืลดการประชุมที่ไม่จำม่จำเป็น มีกมีารสร้าร้งแรงจูงใจ (Incentive) เช่นช่รางวัลวัหรือรืสิทสิธิปธิระโยชน์ต่าง ๆ เพื่อพื่ ให้ข้าข้ราชการ รักรัษาสุขสุภาพมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้โดยผู้บผู้ ริหริารอาจมีนมี โยบายให้ส่ห้วส่นราชการสนับสนุน การสร้าร้งแรงจูงใจเพื่อพื่การรักรัษาสุขสุภาพ เช่นช่การมีรมีางวัลวั ประเภท gift voucher สำ หรับรั การบริกริารด้านสุขสุภาพ โรงแรมที่พักพั ในต่างจังจัหวัดวัหรือรืสมาชิกชิฟิตฟิเนส เพื่อพื่ ให้พห้นักงาน รักรัษาสุขสุภาพกายและใจมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ 11
เป้าป้หมาย : ข้าข้ราชการมีสุมีขสุภาพกายและใจที่ดี ตลอดจนกองการเจ้าจ้หน้าน้ที่มีแมีนวทางในการส่งส่เสริมริสุขสุภาพ และความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีขดีองข้าข้ราชการ มีกมีารอธิบธิายให้ข้าข้ราชการใหม่เม่ข้าข้ใจถึงความสำ คัญของการมีสุมีขสุภาพกาย สุขสุภายจิตจิที่ดี และสื่อสื่สารเกี่ยวกับการจัดจัสรรสวัสวัดิการที่ส่งส่เสริมริสุขสุภาวะที่ดี (Onboarding) กองการเจ้าจ้หน้าที่สามารถส่งส่เสริมริการดูแดูลสุขสุภาพ ผ่าผ่นกิจกรรมต่าง ๆ เช่นช่การปฐมนิเทศข้าข้ราชการใหม่ การจัดจักิจกรรมบัดบัดี้ กับพี่ ๆ ในที่ทำ งานซึ่งซึ่เป็นวิธีวิที่ธี ที่ มีปมีระสิทสิธิภธิาพและสามารถนำ ไปใช้ไช้ด้ทั่วทั่ ไป ในการช่วช่ยเหลือพนักงานใหม่ใม่นการเรียรีนรู้แรู้ละปฏิบัติบั ติามธรรมเนียมทางสังสัคม ในที่ทำ งาน นอกจากนี้ยังยัสามารถหาความต้องการในการสนับสนุนด้านอารมณ์ และสุขสุภาพจิตจิของข้าข้ราชการใหม่ร่ม่วร่มกับการฝึกอบรมงานในช่วช่งเริ่มริ่ต้น มีกมีารสำ รวจภาระงาน (workload) ของข้าข้ราชการอย่าย่งสม่ำ เสมอ การสำ รวจข้อข้มูล ที่เป็นปัจจุบันบัทำ ให้ส่ห้วส่นราชการสามารถเก็บข้อข้มูลที่เป็นปัจจุบันบัเกี่ยวกับสภาพปัญหา และความต้องการด้านสุขสุภาพของพนักงานได้ และทำ ให้กห้องการเจ้าจ้หน้าที่สามารถ จัดจักิจกรรมหรือรืจัดจัสรรสวัสวัดิการได้ตรงกับความต้องการของข้าข้ราชการอีกด้วย I want to be healthy! มีกมีารจัดจับริกริารให้คำ ปรึกรึษาเกี่ยวกับความเครียรีด โดยกองการเจ้าจ้หน้าที่อาจมี การจัดจั session ร่วร่มกับนักจิตจิวิทวิยาให้แห้ก่ข้าข้ราชการ และสร้าร้งค่านิยม ความปลอดภัยในเชิงชิจิตจิวิทวิยา (PSYCHOLOGICAL SAFETY) คือ ความปลอดภัยทางใจ หรือรืความรู้สึรู้กสึ ปลอดภัยในที่ทํางาน ซึ่งซึ่ทำ ให้ข้ห้าข้ราชการ กล้าที่จะทําสิ่งสิ่ใหม่ มีคมีวามเชื่อชื่ ใจในทีม มีคมีวามเคารพซึ่งซึ่กันและกัน รู้สึรู้กสึสบาย ที่จะเป็นตัวของตัวเอง รู้สึรู้กสึ ปลอดภัยที่จะยอมรับรัความผิดผิพลาดที่เกิดขึ้นขึ้และ ตอบสนองต่อความผิดผิพลาดอย่าย่งสร้าร้งสรรค์ Taking care of your employees' health in the workplace is not only beneficial to them; it also creates an effective and efficient working environment that benefits the business. 12
ปัจจัยจัด้านสภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก หมายถึง สภาพแวดล้อมการทำ งาน ที่ส่งส่เสริมริประสิทสิธิภธิาพการทำ งานและการพัฒพันางานเพื่อพื่ตอบเป้าป้หมายของหน่วยงาน และภาครัฐรัในประเด็นต่าง ๆ ประกอบด้วย วัฒวันธรรมองค์กร การยอมรับรัและชื่นชื่ชมบุคลากร จากผลงาน ค่าตอบแทนและสวัสวัดิการที่สมเหตุสตุมผล สภาพแวดล้อมการทำ งาน ที่สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มและการปฏิบัติบั ติที่เป็นธรรม การยอมรับรัความแตกต่างหลากหลาย และการมีทมีรัพรัยากรที่สนับสนุนการทำ งานที่มีปมีระสิทสิธิภธิาพ แบบประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง HAVE YOU DONE THIS ? ผู้บผู้ ริหริาร กองการ เจ้าจ้หน้าน้ที่ มีกมีารจัดจัทำ แผน/กลยุทธ์กธ์ารดูแดูลข้าข้ราชการตั้งตั้แต่ แรกเริ่มริ่บรรจุ (Onboarding) มีกมีารเปิดโอกาสให้ข้ห้าข้ราชการสามารถพูดคุยคุ (Open communication) เกี่ยวกับสภาพการทำ งาน และชีวิชีตวิความเป็นอยู่ มีกมีารชื่นชื่ชมหรือรืให้กห้ารยอมรับรัเมื่อมื่ข้าข้ราชการปฏิบัติบั ติงาน อย่าย่งมีปมีระสิทสิธิภธิาพหรือรืทำ ประโยชน์แน์ก่องค์กร (Recognition) มีกมีารสร้าร้งพื้นพื้ที่แบ่งบ่ ปันความรู้เรู้พื่อพื่การพัฒพันาตนเอง (Facilitate opportunity for development) มีกมีารจัดจัสรรสวัสวัดิกดิารเพื่อพื่สร้าร้งสถานที่ทำ งาน อย่าย่งเหมาะสม เช่นช่อุปกรณ์อิณ์ อิเล็กทรอนิกนิส์ที่ส์ ที่ จำ เป็น ห้อห้งทำ งานที่ผ่อผ่นคลาย (comfortable work environment) มีวัมีฒวันธรรมองค์กรที่เสริมริสร้าร้งความสัมสัพันพัธ์ที่ธ์ ที่ ดีต่ดี ต่อ กันและกัน ไม่เม่ลือกปฏิบัติบั ติต่อข้าข้ราชการ มีกมีารเก็บข้อข้มูลที่เกี่ยวข้อข้งกับการสร้าร้ง สภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวกอย่าย่งสม่ำ เสมอ กลยุทธ์ที่ธ์ ที่3 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านสภาพแวดล้อม การทำ งานเชิงชิบวก (Positive Workplace) 13
เป้าหมาย : มีวัมีฒวันธรรมองค์กรที่สนับสนุน การขับขัเคลื่อนงานและสร้าร้งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีกมีารยอมรับรัและชื่นชื่ชมบุคลากรจากผลงาน มีสมีภาพแวดล้อม การทำ งานที่สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มและการปฏิบัติบั ติที่เป็นธรรม มีกมีารยอมรับรัความแตกต่างหลากหลาย และมีทมีรัพรัยากร ที่สนับสนุนการทำ งานที่มีปมีระสิทสิธิภธิาพ ผู้บผู้ ริหริารมีบมีทบาทสำ คัญในการสร้าร้งทัศนคติเชิงชิบวกในสถานที่ทำ งานตั้งตั้แต่ มีกมีารจัดจัทำ แผน/กลยุทธ์กธ์ารดูแดูลข้าข้ราชการตั้งแต่แรกเริ่มริ่บรรจุ (Onboarding): มีกมีารเปิดโอกาสให้ข้าข้ราชการสามารถพูดคุยคุ (Open communication) เกี่ยวกับสภาพการทำ งานและชีวิชีตวิความเป็นป็อยู่: ยู่ผู้บผู้ ริหริารต้องสร้าร้งสภาพแวดล้อม การทำ งานที่มีคมีวามเป็นกันเอง และเปิดโอกาสให้ข้ห้าข้ราชการสามารถพูดคุยคุถึง ความต้องการและความคาดหวังวัที่มีต่มี ต่อสถานที่ทำ งาน เพื่อพื่นำ ไปสู่กสู่ ารปรับรัรูปแบบ การทำ งานและที่ทำ งานให้สห้อดคล้องกับการทำ งานและการใช้ชีช้วิชีตวิของข้าข้ราชการ ให้รห้างวัลวัและการยอมรับรัชื่นชื่ชมบุคลากรในสังสักัดที่มีผมีลงานยอดเยี่ย ยี่ ม มีกมีารชื่นชื่ชมหรือรื ให้การยอมรับรัเมื่อมื่ข้าข้ราชการปฏิบัติบั ติงานอย่าย่งมีปมีระสิทสิธิภธิาพหรือรื ทำ ประโยชน์แก่องค์กร (Recognition): Happiness in the workplace increases productivity by 12% แนวทางการดำ เนินนิการ : ด้านสภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก (Positive Workplace) 14 แรกบรรจุโดยการวางแผนกลยุทธ์สำธ์สำหรับรัข้าข้ราชการแรกบรรจุ ได้แก่ การสร้าร้งความรู้สึรู้กสึเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร การต้อนรับรัอย่าย่งอบอุ่น และการจัดจัทำ เป้าป้หมายการสร้าร้งสภาพแวดล้อมเชิงชิบวก (Milestone) กองการเจ้าจ้หน้าที่ (HR) มีบมีทบาทในการจัดจัยุทธศาสตร์กร์ารบริหริารงานบุคคล เนื่องจาก HR คือบุคคลที่ใกล้ชิดชิกับข้าข้ราชการ และการจัดจัทำ วงจรชีวิชีตวิของ ข้าข้ราชการ (Life cycle) จะช่วช่ยทำ ให้ส่ห้วส่นราชการเข้าข้ใจความต้องการของ ข้าข้ราชการมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ (จากผลการสำ รวจของนิตยสาร Fast company (สหรัฐรัอเมริกริา)) อย่าย่งเหมาะสม เพื่อพื่ ให้ข้ห้าข้ราชการเกิดความรู้สึรู้กสึเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร ได้รับรัเกียรติจากผู้บผู้ ริหริาร ซึ่งซึ่เป็นการสร้าร้งการรับรัรู้เรู้ชิงชิบวกต่อที่ทำ งาน การจัดจักิจกรรมบุคลากรดีเด่นประจำ ไตรมาสโดยพิจพิารณาจากความสำ เร็จร็ ให้คห้วามสำ คัญกับการให้ Feedback อย่าย่งต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม อาทิ ในการปฏิบัติบั ติงานเชิงชิประจักจัษ์เพื่อพื่ทำ ให้บุห้บุคลากรมีคมีวามต้องการที่จะปฏิบัติบั ติงาน ให้เห้กิดผลสำ เร็จร็อย่าย่งจริงริจังจัและเกิดความภาคภูมิภูใมิจในผลสำ เร็จร็ที่เกิดขึ้นขึ้ รูปแบบ 1 ต่อ 1 (โดยเฉพาะหากเป็นเชิงชิลบ) เปิดโอกาสให้บุห้บุคลากรสามารถให้ ข้อข้คิดเห็นห็ต่อผู้บผู้ ริหริารในการบริหริารงานได้ นอกจากนี้กองการเจ้าจ้หน้าที่ยังยัสามารถ ใช้โช้ซเชียชีลมีเมีดีย เช่นช่ Facebook ในการแสดงออกถึงความชื่นชื่ชมแก่ข้าข้ราชการ ที่ทำ ประโยชน์แก่องค์กรและสังสัคม
HR professionals' most important responsibilities is to create and maintain a positive workplace culture มีกมีารสร้าร้งพื้นพื้ที่แบ่งบ่ ปันความรู้เรู้พื่อพื่การพัฒพันาตนเอง (Facilitate opportunity for development): การให้โห้อกาสได้เรียรีนรู้หรู้รือรืพัฒพันาทักษะโดยไม่จำม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้อข้ง กับงาน สามารถช่วช่ยให้ข้ห้าข้ราชการได้พัฒพันาตนเองและเกิดการแบ่งบ่ ปันองค์ความรู้ โดย HR มีบมีทบาทสำ คัญในการอำ นวยความสะดวก เช่นช่การจัดจัพื้นพื้ที่ให้ไห้ด้แบ่งบ่ ปันความรู้ ตลอดจนประชาสัมสัพันพัธ์ช่ธ์อช่งทางการเรียรีนรู้ต่รู้ ต่าง ๆ มีกมีารจัดจัสรรสวัสวัดิการเพื่อพื่สร้าร้งสถานที่ทำ งานอย่าย่งเหมาะสม (Comfortable work environment): มีกมีารสำ รวจความเพียพีงพอและความพร้อร้มใช้งช้านของอุปกรณ์ที่จำ เป็น ในการปฏิบัติบั ติงาน ทั้งทั้ด้านปริมริาณ คุณคุภาพ และความทันสมัยมัพร้อร้มทั้งทั้การจัดจัทำ แผนการทดแทนอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่าย่งเป็นระบบ เพื่อพื่ ให้สห้อดคล้องกับภาระงานและ งบประมาณที่มีอมียู่ขยู่องส่วส่นราชการ นอกจากนี้ HR สามารถจัดจัตั้งตั้คณะทำ งาน เพื่อพื่การพัฒพันาเชิงชิกายภาพของที่ทำ งานให้มีห้คมีวามสะดวกและผ่อผ่นคลาย เช่นช่ Co-working space การมีพื้มีพื้นพื้ที่พักพัพร้อร้มขนมและเครื่อรื่งดื่มฟรี หรือรืการอนุญาตให้มีห้วัมีนวัที่ผ่อผ่นปรน กฎระเบียบีบต่าง ๆ มีกมีารเก็บข้อข้มูลที่เกี่ยวข้อข้งกับการสร้าร้งสภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก อย่าย่งสม่ำ เสมอ: การสำ รวจและเก็บข้อข้มูลเป็นสิ่งสิ่สำ คัญในการนำ ความคิดเห็นห็และ ความคาดหวังวัที่ข้าข้ราชการมีต่มี ต่อสถานที่ทำ งาน โดยการเก็บข้อข้มูลที่เป็นปัจจุบันบัจะช่วช่ยให้ HR ห้ สามารถออกแบบนโยบายที่เกี่ยวข้อข้งกับการปรับรั ปรุงสถานที่ทำ งาน ตลอดจนรูปแบบ การทำ งานได้อย่าย่งทันการณ์ มีวัมีฒวันธรรมองค์กรที่เสริมริสร้าร้งความสัมสัพันพัธ์ที่ธ์ ที่ ดีต่อกันและกัน (Encourage collaboration): ผู้บผู้ ริหริารเป็นแบบอย่าย่งและเน้นย้ำ ความสำ คัญของวัฒวันธรรม องค์กรที่เน้นการทำ งานเป็นทีมและความร่วร่มมือมืร่วร่มใจ เพื่อพื่ลดความขัดขัแย้งย้ ในที่ทำ งาน มีกมีารสื่อสื่สารวัฒวันธรรมดังกล่าวอย่าย่งสม่ำ เสมอ และเน้นวิธีวิกธีารทำ งาน บนพื้นพื้ฐานวัฒวันธรรมนั้นนั้ ไม่เม่ลือกปฏิบัติบั ติต่อข้าข้ราชการ (Non-discrimination): ผู้บผู้ ริหริารวางกรอบแนวคิด เกี่ยวกับการไม่เม่ลือกปฏิบัติบั ติ (Framework) เพื่อพื่ ให้เห้ป็นมาตรฐานในองค์กร และลดช่อช่งว่าว่ง ที่เกิดจากการสื่อสื่สาร นอกจากนี้ผู้บผู้ ริหริารยังยัสามารถลดการเลือกปฏิบัติบั ติในองค์รได้ ด้วยการเข้าข้ร่วร่มกิจกรรมหรือรืชมรมต่าง ๆ ที่ข้าข้ราชการจัดจัขึ้นขึ้เพื่อพื่ ให้เห้กิดภาพลักษณ์ ในการเป็นผู้บผู้ ริหริารที่เข้าข้ถึงได้และเป็นธรรม (Fairness) 15
กลยุทธ์ที่ธ์ ที่4 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านโอกาสในการเรียรีนรู้ และพัฒพันา (Growth Opportunity) ประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง "ท่านทำ แล้วหรือรืยังยั " สำ หรับรัผู้บัผู้ งบัคับบัญบัชา สำ หรับรัการเจ้าจ้หน้าน้ที่ ปัจปัจัยจัด้านโอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา หมายถึง โอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา การรับรัรู้ และโอกาสในการเติบโตในเส้นส้ทางอาชีพชีของข้าข้ราชการ สื่อสื่สารเกี่ยวกับเส้นส้ทางความก้าวหน้าน้ ของผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา ส่งส่เสริมริ ให้มีห้กมีารพัฒพันาอย่าย่งต่อเนื่อนื่ง และช่วช่ยขจัดจัอุปสรรค ส่งส่เสริมริการจัดจัการความรู้ และ การแบ่งบ่ ปันความรู้ ส่งส่เสริมริการจัดจัการความรู้ (Knowledge Management) และการแบ่งบ่ ปันความรู้ (Knowledge Sharing) สร้าร้งการรับรัรู้เรู้กี่ยวกับเส้นส้ทาง ความก้าวหน้าน้ในอาชีพชี ให้บุห้บุคลากร ในองค์กรตั้งตั้แต่แรกเข้าข้ ดำ เนินนิการเกี่ยวกับความก้าวหน้าน้ ส่งส่เสริมริ ให้มีห้กมีารพัฒพันา 16 เช่นช่การเลื่อนระดับดั ให้บุห้บุคลากร ได้อด้ย่าย่งรวดเร็วร็ตามความรู้ ความสามารถ และความคาดหวังวั ของบุคคล เช่นช่การหมุนเวียวีนงาน การฝึกอบรม หลักสูตสูรต่าง ๆ (Training) เป็นต้น อย่าย่งต่อเนื่อนื่ง
หาความจำ เป็น พัฒนา นำ ไปใช้ ผู้บัผู้ งบัคับบัญบัชา ให้กห้ารสนับสนุน แนะนำ ให้โห้อกาสอย่าย่งทั่วทั่ถึง ช่วช่ยขจัดจัอุปสรรค ในการพัฒพันา มีกมีารมอบหมายงานที่ท้าทาย หลากหลาย มอบหมายให้เห้ข้าข้ร่วร่ม ประชุมสัมสัมนาในเวทีต่าง ๆ มีกมีารสื่อสื่สารถึงเป้าป้หมายในการนำ องค์ความรู้จรู้าก การพัฒพันาไปใช้ใช้นงานอย่าย่งไร และควรนำ ผลการประเมินมิการปฏิบัติบั ติราชการ ให้มีห้คมีวามรู้รรู้อบด้าน มีทัมี ทักษะที่จำ เป็นต่อการปฏิบัติบั ติงานในปัจจุบันบัและอนาคต มีภมีาวะ ผู้นำผู้ นำ (Leadership Skills) และการมี Mindset ที่เหมาะสม เพื่อพื่ ให้พห้ร้อร้มสำ หรับรั การปฏิบัติบั ติงาน และการเติบโตก้าวหน้าในสายอาชีพชี แนวทางการดำ เนินนิการ : ด้านโอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา (Growth Opportunity) เป้าป้หมาย : บุคลากรในองค์กร รับรัรู้ถึรู้ ถึงเส้นส้ทางความก้าวหน้า และสามารถเติบโตในอาชีพชี ด้วยความสามารถอย่าย่งเท่าเทียม มีโมีอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันาตนเอง สื่อสื่สารเส้นส้ทางความก้าวหน้าในอาชีพชี ให้บุุห้บุุคลากรในทุกทุประเภทและระดับ ตำ แหน่งรับรัรู้ และสามารถมองเห็นห็เส้นส้ทางการเติบโตของตนเอง รู้เรู้ป้าป้หมาย ในอาชีพชีและพัฒพันาตนเองไปตามเส้นส้ทางไปสู่เสู่ ป้าป้หมายนั้นนั้ โดยสร้าร้งความเข้าข้ใจ ให้แห้ก่บุคลากรตั้งตั้แต่แรกเข้าข้เพื่อพื่ ให้เห้ขามีเมีป้าป้หมายและรู้เรู้ส้นส้ทางไปสู่เสู่ ป้าป้หมายนั้นนั้ รวมทั้งทั้สนับสนุนให้บุห้บุคลากรมีกมีารทบทวนเป้าป้หมายการทำ งานของตนเอง มีกมีระบวนการที่เหมาะสมและเป็นธรรม อันส่งส่เสริมริ ให้บุห้บุคลากรสามารถเติบโต 1) สร้าร้งความรับรัรู้เรู้กี่ยวกับเส้นส้ทางความก้าวหน้าน้และการเติบโตในอาชีพชี 2) ส่งส่เสริมริ ให้มีกมีารพัฒพันาอย่าย่งต่อเนื่อนื่ง 17 ในอาชีพชี ได้ตามความรู้ครู้วามสามารถ และความคาดหวังวัของบุคคล อย่าย่งสม่ำ เสมอ เพื่อพื่ ให้มีห้กมีารพัฒพันาที่ส่งส่เสริมริการเติบโตก้าวหน้าของตน การเจ้าจ้หน้าที่ มีกมีารวิเวิคราะห์คห์วามจำ เป็นในการพัฒพันา มีแมีผนการพัฒพันา จัดจัสรร งบประมาณ และจัดจักิจกรรมการพัฒพันารูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งทั้ ประเมินมิผลการดำ เนินกิจกรรมด้วย จัดจัทำ กรอบการพัฒพันาบุคลากร (Training Roadmap) และจัดจัหา หลักสูตสูรฝึกอบรมตามกรอบฯ ซึ่งซึ่อาจจัดจั โดยส่วส่นราชการ หรือรื ส่งส่ข้าข้ราชการ ไปพัฒพันาที่หน่วยงานภายนอก จัดจั ให้มีห้เมีวทีแสดงความสามารถของบุคลากร เป็นการพัฒพันาทักษะที่ เป็นจุดแข็งข็สร้าร้งความภาคภูมิภูใมิจในผลงาน และสร้าร้งการเป็นที่ยอมรับรั ในองค์กร เช่นช่กิจกรรมประกวดการสร้าร้งสรรค์นวัตวักรรม การมอบหมายให้นำห้ นำเสนอในที่ประชุม เป็นต้น การหมุนเวียวีนงาน (Job Rotation) ซึ่งซึ่ควรคำ นึงถึงเส้นส้ทาง การเติบโตและความสนใจ ความถนัด และระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย โดยควรมีช่มีอช่งทางให้บุห้บุคลากรได้แจ้งจ้ความประสงค์ในการหมุนเวียวีนงาน การให้ข้ห้าข้ราชการไปปฏิบัติบั ติงานที่หน่วยงานอื่น (Secondment) มาใช้ใช้นการให้ feedback ประเมินมิจุดเด่นและจุดที่ควรพัฒพันาแก่ผู้ใผู้ต้บังบัคับ บัญบัชาประกอบด้วย
แนวทางการดำ เนินนิการ : ด้านโอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา (Growth Opportunity) กิจกรรม Story Telling โดยผู้เผู้ชี่ย ชี่ วชาญหรือรืผู้ที่ผู้ ที่ มีปมีระสบการณ์สูงสูในองค์กร เพื่อพื่เป็นการดึง องค์ความรู้ใรู้นเชิงชิประสบการณ์จากตัวคน (Tacit Knowledge) มาถ่ายทอดให้คห้นในองค์กร ได้เรียรีนรู้ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียรีนรู้ เช่นช่ ให้ผู้ห้ที่ผู้ ที่ไปศึกษาดูงดูานหรือรืฝึกอบรมได้กลับมาแบ่งบ่ ปันองค์ความรู้ ให้คห้นในองค์กร แลกเปลี่ยนเรียรีนรู้รรู้ะหว่าว่งกลุ่มลุ่หัวหัหน้างาน จัดจั ให้มีห้ช่มีวช่งเวลาในการปฏิบัติบั ติงานให้ บุคลากรในองค์กรได้แลกเปลี่ยนเรียรีนรู้ร่รู้วร่มกันอย่าย่งไม่เม่ ป็นทางการ เพื่อพื่ทำ ให้บุห้บุคลากรที่ไม่กม่ล้า แสดงออกในที่สาธารณะได้มีโมีอกาสแลกเปลี่ยนเรียรีนรู้ร่รู้วร่มกับบุคลากรอื่น ๆ จัดจัทำ ฐานข้อข้มูลเกี่ยวกับองค์ความรู้ที่รู้ ที่ ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานสามารถเข้าข้ถึงได้ จัดจัสภาพแวดล้อมที่ส่งส่เสริมริ ให้เห้กิดการแลกเปลี่ยนเรียรีนรู้ เช่นช่พื้นพื้ที่สำ หรับรัการทำ งานร่วร่มกัน (Co-Working Space) พื้นพื้ที่ Talking Corner เพื่อพื่เปิดโอกาสให้บุห้บุคลากรได้พบปะ แลกเปลี่ยนแนวคิด และวิธีวิกธีารปฏิบัติบั ติงานได้ในช่วช่งระยะเวลาสั้นสั้ๆ หรือรืในช่วช่งเวลากลางวันวั เป็นต้น โดยใช้รูช้รูปแบบต่าง ๆ อาทิ ทำ อย่าย่งไรให้เรารักรัการเรียรีนรู้ ? ฝึกตัวเองให้เห้ปิดรับรัพร้อร้มเรียรีนรู้แรู้ละปรับรัตัว - พาตัวเองไปอยู่ท่ยู่ ท่ามกลาง คนที่หมั่นมั่พัฒพันาตน - หารูปรูแบบการเรียรีนรู้ที่รู้ที่ เหมาะสมกับตน LEARNING : เริ่มริ่ที่ตัวเรา เริ่มริ่จากสิ่งสิ่ที่เราสนใจ ผู้บังบัคับบัญบัชา : สื่อสื่สาร 3 ประเด็นหลัก เขาควรรู้อรู้ะไร ควรทำ อะไรได้ มีช่มีอช่งทางการพัฒพันาอย่าย่งไรบ้าบ้ง ให้ช่ห้วช่ยขจัดจัอุปสรรคอย่าย่งไร พัฒพันาในเรื่อรื่งนี้เ นี้ พื่อพื่นำ มาใช้ปช้ระโยชน์อน์ย่าย่งไรในงาน Growth Growth Growth Mindset Mindset Mindset 3) ส่งส่เสริมริการจัดจัการความรู้ (Knowledge Management) รวมทั้งการแบ่งบ่ ปันปัความรู้ (Knowledge Sharing) 18
กลยุทธ์ที่ธ์ ที่5 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านผู้บผู้ ริหริาร (My Senior Executive) ประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง "ท่านทำ แล้วหรือรืยังยั " สำ หรับรัผู้บผู้ ริหริาร สำ หรับรัการเจ้าจ้หน้าน้ที่ ปัจปัจัยจัด้านผู้บผู้ ริหริาร หมายถึง ความสามารถ ในการบริหริารเพื่อพื่ขับขัเคลื่อนองค์กรและปรับรัเปลี่ยน สู่อสู่ นาคต การสร้าร้งแรงจูงใจและความมุ่งมุ่มั่นมั่ การส่งส่เสริมริคุณคุธรรมจริยริธรรมในการทำ งาน รวมทั้งทั้การส่งส่เสริมริการเพิ่มพิ่ขีดขีความสามารถ ของคนในหน่วน่ยงาน มีกมีลไกการเตรียรีมความพร้อร้ม ด้าด้นการบริหริารงาน และพัฒพันาภาวะ ผู้นำผู้ นำของบุคลากรตั้งตั้แต่แรก เริ่มริ่ของเส้นส้ทางอาชีพชี การสร้าร้งช่อช่งทางการสื่อสื่สาร ระหว่าว่งบุคลากรกับผู้บผู้ ริหริาร กำ หนดวิสัวิยสัทัศน์ นโยบาย เป้าป้หมาย แผนการดำ เนินนิงานขององค์กร ริเริริ่มริ่สร้าร้งสรรค์ ในการพัฒพันางานเพื่อพื่ขับขัเคลื่อนภารกิจที่ ตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยใช้ข้ช้อข้มูลและเทคโนโลยีดิยีจิดิทัจิ ทัล สื่อสื่สาร เพื่อพื่ถ่ายทอดเป้าป้หมายและแนวทาง การทำ งาน สร้าร้งความร่วร่มมือมืร่วร่มใจทั้งทั้ภายใน และภายนอกหน่วน่ยงาน เปิดกว้าว้งและยอมรับรั ความแตกต่าง ประพฤติปฏิบัติบั ตินและส่งส่เสริมริผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา ปฏิบัติบั ติงานโดยมุ่งมุ่ผลสัมสัฤทธิ์บธิ์นฐานของวินัวิยนั คุณคุธรรม และมาตรฐานทางจริยริธรรม รับรัผิดผิชอบในบทบาทหน้าน้ที่ กล้าตัดสินสิ ใจ โดยยึดยึ ประโยชน์ขน์องส่วส่นรวม ส่งส่เสริมริการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันาทั้งทั้ตนเองและ ผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา เพื่อพื่ ให้เห้กิดการพัฒพันา คุณคุภาพงานและคุณคุภาพชีวิชีตวิ มีกมีระบวนการสรรหาและคัดเลือก คนเข้าข้สู่ตำสู่ ตำแหน่งน่อย่าย่งเหมาะสม เป็นธรรม 19
เป้าหมาย : ผู้บริหริารเป็นป็แบบอย่าย่งที่ดีและสามารถ... แนวทางการดำ เนินนิการ : ด้านผู้บผู้ ริหริาร (My Senior Executive) - มีคมีวามสามารถในการขับขัเคลื่อนองค์กรและปรับรัเปลี่ยนสู่อสู่ นาคต - สื่อสื่สาร สร้าร้งแรงจูงใจและความมุ่งมุ่มั่นมั่ ให้คห้นในองค์กร - มีคุมีณคุธรรมจริยริธรรม และบริหริารงานอย่าย่งเป็นธรรม - ส่งส่เสริมริการเพิ่มพิ่ขีดขีความสามารถของคนในองค์กร ผู้บริหริาร ถือเป็นผู้ที่ผู้ ที่ สำ คัญต่อการขับขัเคลื่อน (Actor) ปัจจัยจัอื่น ๆ ให้ส่ห้งส่ผลต่อระดับความผูกผูพันพัของ ข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมัเนื่องจากเป็นป็ผู้กำ หนดทิศทางและกลยุทธ์ใธ์นการขับขัเคลื่อนภารกิจและ การดูแดูลคนในองค์กร รวมถึงมีบมีทบาทสำ คัญในการสร้าร้งสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศในการทำ งาน ที่เอื้อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติบั ติงานได้อย่าย่งเต็มศักยภาพ จึงจึเป็นปัจจัยจัที่ควรให้คห้วามสำ คัญอย่าย่งยิ่งยิ่ 1) มีกมีลไกการเตรียรีมความพร้อร้มและพัฒพันา บุคลากรเพื่อพื่ ให้พร้อร้มขึ้นขึ้สู่ตำสู่ ตำแหน่งน่สำ คัญ มีแมีผนสร้าร้งความต่อเนื่องในการปฏิบัติบั ติราชการ (Succession Plan) เพื่อพื่คัดเลือกและ จัดจัเตรียรีม “ผู้มีผู้ ศัมี ศักยภาพที่จะทดแทนตำ แหน่ง (Successor)” ในตำ แหน่งสำ คัญ โดยมี ขั้นขั้ตอน คือ มีกมีารพัฒพันาเพื่อพื่เตรียรีมความพร้อร้มในการขึ้นขึ้สู่ ตำ แหน่งในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ มีกมีารเตรียรีมผู้นำผู้ นำ ในระดับต่าง ๆ - การฝึกอบรมในหลักสูตสูรนักบริหริารระดับต่าง ๆ เช่นช่นักบริหริารระดับสูงสูนักบริหริารระดับกลาง นักบริหริารระดับต้น หลักสูตสูรผู้นำผู้ นำคลื่นลูกลูใหม่ ในราชการไทย เป็นต้น เพื่อพื่ส่งส่เสริมริ ให้มีห้คมีวามรู้ ทักษะ สมรรถนะที่จำ เป็น 20 1) เลือกตำ แหน่งเป้าป้หมาย 2) กำ หนดเกณฑ์คัดเลือกผู้มีผู้ ศัมี ศักยภาพ 3) คัดเลือก Successor และจัดจัทำ บัญบัชี 4) จัดจัทำ แผนพัฒพันาผู้มีผู้ ศัมี ศักยภาพ และ 5) ติดตามประเมินมิผล ตัวอย่าย่งการดำ เนินการ อาทิ (Leadership Pipeline) โดยคัดสรรและ สร้าร้งกลุ่มลุ่คนที่มีศัมี ศักยภาพ (Talent pool) ในทุกทุระดับ ตั้งตั้แต่ระดับผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติหัวหัหน้างาน ผู้อำผู้ อำนวยการ ไปจนถึงผู้บผู้ ริหริารระดับสูงสู เพื่อพื่ ให้เห้กิดความต่อเนื่องในการสรรหาคนที่ เหมาะสมเข้าข้สู่ตำสู่ ตำแหน่ง
แนวทางการดำ เนินนิการ : ด้านผู้บผู้ ริหริาร (My Senior Executive) 3) สร้าร้งช่อช่งทางการสื่อสื่สารระหว่าว่ง บุคลากรกับผู้บผู้ ริหริาร 2) มีกมีารสรรหาและคัดเลือกคนที่มี ความเหมาะสมกับตำ แหน่งน่ผู้บผู้ ริหริารระดับสูงสู อย่าย่งเป็นป็ธรรม ผู้บผู้ ริหริารสื่อสื่สารทิศทางและเป้าป้หมายของ มีกมีารสื่อสื่สารทั้งทั้สองทาง โดยผู้บผู้ ริหริารเปิดใจรับรั ฟังฟั สนับสนุนการมีส่มีวส่นร่วร่มและการแสดงความคิดเห็นห็ ในองค์กร อันเป็นการสร้าร้งความเข้าข้ใจ สร้าร้งแรงจูงใจ และสัมสัพันพัธ์ภธ์าพในองค์กร โดยมีตัมี ตัวอย่าย่ง อาทิ - การมอบหมายงานที่ท้าทายและหลากหลาย เพื่อพื่ส่งส่เสริมริการพัฒพันาศักยภาพและสร้าร้งผลงาน ที่สร้าร้งการยอมรับรัให้แห้ก่ผู้นั้ผู้ นั้นั้ - การหมุนเวียวีนงาน เพื่อพื่ ให้มีห้คมีวามรู้รรู้อบในงาน อันช่วช่ยส่งส่เสริมริ ให้สห้ามารถบริหริารงานได้อย่าย่ง เข้าข้ใจภาพรวมและบริบริทแวดล้อมของงานได้ดี - การมี Coach หรือรื Mentor ที่ช่วช่ยสอนงาน และให้คำห้ คำ ปรึกรึษา โดยเฉพาะในช่วช่งการก้าวขึ้นขึ้สู่ ตำ แหน่งที่สูงสูขึ้นขึ้ซึ่งซึ่มีกมีารปรับรัเปลี่ยนบทบาท การทำ งาน กำ หนดนโยบายและทิศทางในการสรรหาและ คัดเลือกบุคลากรในตำ แหน่งต่าง ๆ อย่าย่งเหมาะสม โดยมีกมีารวิเวิคราะห์คุห์ณคุลักษณะสำ คัญ ของตำ แหน่ง ในแต่ละช่วช่งเวลา มีฐมีานข้อข้มูลบุคลากรที่ถูกถูต้อง เป็นปัจจุบันบั โดยมีข้มีอข้มูลสำ คัญสำ หรับรัการพิจพิารณาคนเข้าข้สู่ ตำ แหน่ง เช่นช่ผลงานสำ คัญ ประวัติวั ติการรับรัราชการ เป็นต้น เพื่อพื่เป็นข้อข้มูลสำ หรับรัผู้ตัผู้ ตัดสินสิ ใจคัดเลือก คนที่เหมาะสมเข้าข้สู่ตำสู่ ตำแหน่งนั้นนั้ 21 ลดช่อช่งว่าว่งระหว่าว่งฝ่ายบริหริารกับผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติ องค์กรตั้งตั้แต่เริ่มริ่ต้นปีงบประมาณ และ สม่ำ เสมอ ผ่าผ่นช่อช่งทางที่หลากหลาย เช่นช่ การประชุมมอบนโยบาย การประชุมรายเดือน การประชุมระหว่าว่งผู้บผู้ ริหริารกับพนักงาน อย่าย่งไม่เม่ ป็นทางการ การใช้ช่ช้อช่งทางออนไลน์ เป็นต้น สำ รวจความคาดหวังวัหรือรืความคิดเห็นห็ เช่นช่ ในการจัดจัเลี้ยงโอกาสต่าง ๆ ผู้บผู้ ริหริาร นั่งนั่ร่วร่มโต๊ะกับบุคลากร อันทำ ให้บุห้บุคลากรรู้สึรู้กสึว่าว่ ตนเองก็เป็นบุคคลสำ คัญคนหนึ่งขององค์กร ที่ผู้บผู้ ริหริารให้คห้วามเป็นกันเอง สามารถเข้าข้ถึง และพูดคุยคุได้ จากบุคลากร โดยไม่ต้ม่ ต้องลงชื่อชื่ซึ่งซึ่จะทำ ให้ ผู้บผู้ ริหริารหรือรืผู้เผู้กี่ยวข้อข้งรับรัทราบได้ว่าว่มีปมีระเด็น หรือรืเรื่อรื่งอะไรที่ต้องปรับรั ปรุง และมีปมีระเด็น หรือรืเรื่อรื่งอะไรที่ดีอยู่แยู่ล้วซึ่งซึ่องค์กรจะต้อง รักรัษาไว้
กลยุทธ์ที่ธ์ ที่6 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านหัวหน้า น้ งาน (My Supervisor) ประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง "ท่านทำ แล้วหรือรืยังยั " สำ หรับรัหัวหัหน้าน้งาน สำ หรับรัการเจ้าจ้หน้าน้ที่ ปัจจัยจัด้านหัวหน้างาน หมายถึง ความสามารถของหัวหัหน้างานในการบริหริารทีมงาน การให้โห้อกาสบุคลากรในการใช้ทัช้ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ การเปิดกว้าว้งและยอมรับรัความแตกต่าง การสนับสนุนการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันาของผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา การโค้ชและการสอนงาน การให้ข้ห้อข้มูลป้อป้นกลับ ที่เป็นประโยชน์ มีคมีวามโปร่งร่ ใสและเป็นธรรม บริหริารทีมงานให้สห้ามารถสร้าร้งผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ เป็นไปตาม เป้าป้หมาย โดยมีกมีารกำ หนดเป้าป้หมาย มอบหมายงาน ติดตามงาน พัฒพันางาน และประเมินมิผลงาน อย่าย่งเหมาะสม โปร่งร่ ใส และเป็นธรรม และสื่อสื่สาร เพื่อพื่สร้าร้งความเข้าข้ใจอย่าย่งสม่ำ เสมอ สามารถตัดสินสิ ใจและรับรัมือมืกับปัญหาที่เกิดขึ้นขึ้ ได้ อย่าย่งเหมาะสม มีกมีารสอนงาน (Coaching)/ ให้ข้ห้อข้มูลป้อป้นกลับ (Feedback) ทั้งทั้เชิงชิบวกและเชิงชิลบอย่าย่ง สม่ำ เสมอ ให้โห้อกาสบุคลากรในการใช้ทัช้ ทักษะ ความรู้ ความสามารถอย่าย่งเต็มที่ เปิดกว้าว้งและยอมรับรั ความแตกต่าง สนับนัสนุนนุการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันาของผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา และช่วช่ยขจัดจัอุปสรรค มีกมีลไกการเตรียรีมความพร้อร้ม ด้าด้นการบริหริารงาน และพัฒพันา ภาวะผู้นำผู้ นำของบุคลากรตั้งตั้แต่ แรกเริ่มริ่ของเส้นส้ทางอาชีพชี ส่งส่เสริมริ ให้มีห้รมีะบบการสอนงาน (Coaching) และการให้ข้ห้อข้มูล ป้อป้นกลับ (Feedback) ในองค์กร 22
แนวทางการดำ เนินนิการ : หัวหน้าน้งาน (My Supervisor) บริหริารทีมให้สห้ามารถสร้าร้งผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ เป็นไปตามเป้าป้หมาย ด้วยความโปร่งร่ ใสเป็นธรรม มีกมีารสื่อสื่สารเพื่อพื่สร้าร้งความเข้าข้ใจในงานได้อย่าย่งเหมาะสม มีทัมี ทักษะในการสอนงาน (Coaching) และการให้ข้ห้อข้มูลป้อป้นกลับ (Feedback) ให้โห้อกาสบุคลากรในการใช้คช้วามสามารถ เปิดกว้าว้งและยอมรับรัความแตกต่าง สนับสนุนการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันาของผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา เป้าป้หมาย : หัวหน้าน้งาน หัวหน้างาน ถือเป็นผู้ที่ผู้ ที่ สำ คัญต่อการขับขัเคลื่อน (Actor) ปัจจัยจัอื่น ๆ ให้ส่ห้งส่ผลต่อระดับความผูกผูพันพัของ ข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมัเนื่องจากเป็นป็ผู้กำ กับดูแดูลการทำ งานที่ใกล้ชิดชิที่สุดสุกับผู้ปฏิบัติบั ติงานในแต่ละวันวั ของการทำ งานตั้งแต่แรกเข้าข้ของบุคลากร จึงจึเป็นปัจจัยจัที่ควรให้คห้วามสำ คัญในการเสริมริสร้าร้ง ความผูกผูพันพัเป็นอย่าย่งยิ่งยิ่ 1) มีกมีลไกการเตรียรีมความพร้อร้มและ พัฒพันาภาวะผู้นำ (Leadership Skills) ของบุคลากรทุกทุระดับ ความสามารถในการบริหริารงานและบริหริารคน อาทิ การกำ หนดทิศทาง เป้าป้หมาย วิธีวิกธีารทำ งาน การมอบหมายงาน การติดตามงาน การประเมินมิ ผลงานและให้รห้างวัลวัอย่าย่งเป็นธรรม การส่งส่เสริมริ การพัฒพันาและความก้าวหน้าของผู้ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชา และโดยเฉพาะความสามารถในการตัดสินสิ ใจ โดยมี ตัวอย่าย่งการดำ เนินการ อาทิ จัดจัทำ Training Roadmap ของ การพัฒพันาบุคลากรในองค์กร โดยเน้นทั้งทั้ Soft Skill และ Hard Skill เพื่อพื่ ให้หัห้วหัหน้างาน มีคมีวามชำ นาญในเทคนิคที่จำ เป็นสำ หรับรั การยกระดับความสามารถในการปฏิบัติบั ติงาน ของทีมงาน และส่งส่เสริมริบรรยากาศ มอบหมายบทบาทการเป็นหัวหัหน้างานในทีม ขนาดเล็ก ก่อนที่จะรับรัผิดผิชอบภาระงาน สนับสนุนงบประมาณที่เพียพีงพอต่อการพัฒพันา บุคลากร มีกมีารหมุนเวียวีนงานเพื่อพื่ ให้มีห้คมีวามรู้รรู้อบในงาน อันช่วช่ยส่งส่เสริมริ ให้สห้ามารถบริหริารงานได้อย่าย่ง เข้าข้ใจภาพรวมและบริบริทแวดล้อมของงานได้ดี 23 การทำ งานภายในทีม ที่มากขึ้นขึ้เพื่อพื่ ให้ไห้ด้ฝึกฝนและเตรียรีม ความพร้อร้มก่อนเข้าข้สู่ตำสู่ ตำแหน่งสำ คัญ
แนวทางการดำ เนินนิการ : หัวหน้าน้งาน (My Supervisor) 2) ส่งส่เสริมริ ให้บุคลากรระดับหัวหน้าน้งานมี ทักษะการสอนงาน (Coaching) และให้ ข้อข้มูลป้อป้นกลับ (Feedback) การสอนงาน เป็นกระบวนการพัฒพันาบุคลากรทั้งทั้ ใน ด้านความรู้ ทักษะ และทัศนคติ ให้สห้ามารถปฏิบัติบั ติงาน ได้บรรลุเลุป้าป้หมาย โดยต้องอาศัยทักษะที่หลากหลาย โดยเฉพาะ ทักษะการฟังฟัและทำ ความเข้าข้ใจ และทักษะ การตั้งตั้คำ ถามเชิงชิบวก ทักษะการให้ Feedback ถือเป็นทักษะสำ คัญในการสอนงาน องค์กรควรส่งส่ เสริมริ ให้หัห้วหัหน้างานมีกมีารสอนงาน โดยมีตัมี ตัวอย่าย่งการ ดำ เนินการ อาทิ ฝึกฝนการให้ Feedback ภายในทีม เพื่อพื่ ให้ เกิดทักษะการให้ Feedback ที่นำ ไปสู่ การพัฒพันาได้ ศึกษาวิธีวิกธีารสอนงานจากแบบอย่าย่งที่ดี และ ปฏิบัติบั ติามเมื่อมื่ต้องเป็นหัวหัหน้างาน พัฒพันาทักษะการสอนงานและการให้ Feedback ให้แห้ก่บุคลากรระดับหัวหัหน้างาน ในรูปแบบต่าง ๆ เช่นช่การฝึกอบรม การเรียรีนรู้ แบบออนไลน์ เป็นต้น เพื่อพื่ ให้พห้ร้อร้มในการนำ ตนเองและทีมงานในการขับขัเคลื่อนภารกิจของ องค์กร กำ หนดให้มีห้พี่มีเ พี่ ลี้ยงสอนงานสำ หรับรับุคลากร แรกบรรจุทุกทุคน โดยการเจ้าจ้หน้าที่มีกมีารสื่อสื่สารที่ ต่อเนื่องกับพี่เ พี่ ลี้ยง ตั้งตั้แต่แรกที่มีกมีารมอบหมาย หน้าที่ ระหว่าว่งทาง และเมื่อมื่พ้นพ้ระยะเวลาทดลอง ปฏิบัติบั ติราชการ เพื่อพื่ติดตามประเมินมิผล รวมถึง ร่วร่มกันขจัดจัอุปสรรคที่บุคลากรแรกบรรจุ ต้องเผชิญชิ - การ Feedback เชิงชิบวก อาจมีกมีารนำ เทคโนโลยีมยีาใช้ เช่นช่แอปพลิเคชันชัที่คนในทีม สามารถให้คห้ะแนนผู้อื่ผู้ อื่นเมื่อมื่มีสมีถานการณ์ที่ บุคคลนั้นนั้ปฏิบัติบั ติงานได้ผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ ดี โดยผู้ใผู้ห้ คะแนนต้องระบุถึงสถานการณ์ดังกล่าวด้วย เป็นต้น อันเป็นการฝึกการให้ Feedback เชิงชิบวก หรือรืการชื่นชื่ชมผู้อื่ผู้ อื่นที่ส่งส่เสริมริ ให้ บุคคลที่ได้รับรั Feedback เชิงชิบวกนั้นนั้มี พฤติกรรมทำ ซ้ำ และพัฒพันาต่อยอดในสิ่งสิ่ที่ทำ แล้วได้ผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ ดี - การ Feedback เชิงชิลบ ควรดำ เนินการ อย่าย่งเป็นส่วส่นตัว ไม่ใม่ช่สช่าธารณะ ควรนำ ข้อข้เท็จจริงริของสถานการณ์นั้นนั้มาพูดคุยคุ ทั้งทั้การกระทำ และผลลัพธ์เธ์ชิงชิลบจากสิ่งสิ่ที่บุคคล ดำ เนินการไป ไม่ใม่ช้คำช้ คำคุณคุลักษณะในเชิงชิตัดสินสิ เช่นช่ทำ ได้ไม่ดีม่ ดีแต่ควรอธิบธิายไปว่าว่ผลลัพธ์ เชิงชิลบนั้นนั้คืออะไร เกิดผลกระทบอย่าย่งไร และ ที่สำ คัญ ควรร่วร่มกันหาทางแก้ไขและ ข้อข้เสนอแนะสำ หรับรัสถานการณ์เดิมใน ครั้งรั้ถัดไป เพื่อพื่ ให้เห้กิดการพัฒพันา หนังสือสืฉบับบันี้เขียขีนกระชับชั ตรงประเด็นดีมากเลย น้องลองไปศึกษาเรื่อรื่งนี้ดูนดูะ พี่ว่ พี่ าว่มีปมีระโยชน์ในงานของเรา ง ไม่สม่บายไปหาหมอหรือรืยังยั านที่มอบไปติดขัดขัอะไรรึเรึปล่า มีอมีะไรที่พี่ช่ พี่ วช่ยได้มั้ยมั้ครับรั 24
กลยุทธ์ที่ธ์ ที่7 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านองค์กร (My Agency) ประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง "ท่านทำ แล้วหรือรืยังยั " สำ หรับรัผู้บผู้ ริหริาร สำ หรับรัการเจ้าจ้หน้าน้ที่ ปัจจัยจัด้านองค์กร หมายถึง ความสำ เร็จร็ของหน่วยงานในการบรรลุ เป้าป้หมายและพันพัธกิจของหน่วยงาน ความสำ เร็จร็ของหน่วยงานในการบรรลุ เป้าป้หมายการเป็นภาครัฐรัของประชาชนเพื่อพื่ประชาชนและส่วส่นรวม การเป็นภาครัฐรัดิจิทัจิ ทัลและรัฐรับาลเปิด ความโปร่งร่ ใสเป็นธรรม การรักรัษา มาตรฐานจริยริธรรมและความเป็นมือมือาชีพชีการให้คห้วามสำ คัญกับการเพิ่มพิ่ ขีดขีความสามารถของบุคลากร และการทำ งานของผู้รัผู้ บรัผิดผิชอบงาน ด้านการบริหริารทรัพรัยากรบุคคลของหน่วยงาน มีกมีารกำ หนดเป้าป้หมายความสำ เร็จร็และ จัดจัลำ ดับดัความสำ คัญของภารกิจงาน ขององค์กร ปรับรัเปลี่ยนกระบวนงานโดยใช้เช้ทคโนโลยี ดิจิดิทัจิ ทัลและข้อข้มูลสารสนเทศอย่าย่งเหมาะสม ปรับรั ปรุงรุการสื่อสื่สารภายในองค์กร ตระหนักนัถึงความสำ คัญและบทบาท ของตน (HR) ในองค์กร และปฏิบัติบั ติงาน โดยยึดยึคนเป็นศูนย์กย์ลาง สนับนัสนุนนุการเพิ่มพิ่ขีดขีความสามารถของ บุคลากรในองค์กร กำ หนดให้มีห้รมีะบบงานที่มีมมีาตรฐาน โปร่งร่ ใส ชัดชัเจน มีขั้มีนขั้ตอนที่เหมาะสม ส่งส่เสริมริ ให้บุห้บุคลากรมีศัมี ศักยภาพและทัศนคติที่ดี ต่อการปฏิบัติบั ติงานในองค์กร สนับนัสนุนนุทรัพรัยากร โครงสร้าร้งพื้นพื้ฐาน และ เทคโนโลยีที่ยี ที่ พร้อร้มและส่งส่เสริมริการปฏิบัติบั ติงาน ส่งส่เสริมริภาพลักษณ์ที่ณ์ ที่ ดีขดีององค์กร มีกมีารสื่อสื่สาร สร้าร้งแรงจูงใจ และสร้าร้งการมี ส่วส่นร่วร่มภายในองค์กร 25
แนวทางการดำ เนินนิการ : องค์กร (My Agency) เป็นที่ยอมรับรัของสังสัคมเกี่ยวกับการเป็นองค์กรที่สามารถบรรลุเลุป้าป้หมายและ พันพัธกิจขององค์กร การเป็นภาครัฐรัของประชาชน และมีกมีารปรับรัเปลี่ยนสู่ การเป็นภาครัฐรัดิจิทัจิ ทัลและรัฐรับาลเปิด (Digital and Open Government) มีคมีวามโปร่งร่ ใส รักรัษามาตรฐานจริยริธรรมและ ความเป็นมือมือาชีพชี ให้คห้วามสำ คัญกับการเพิ่มพิ่ขีดขีความสามารถของบุคลากร มีผู้มีรัผู้ บรัผิดผิชอบงานด้านการบริหริารทรัพรัยากรบุคคลขององค์กรที่ปฏิบัติบั ติงาน ได้อย่าย่งมีปมีระสิทสิธิภธิาพ เป้าหมาย : องค์กร 1) มีกมีารกำ หนดเป้าป้หมายความสำ เร็จร็และ จัดจัลำ ดับความสำ คัญของภารกิจงานของ องค์กร จัดจัทำ คู่มืคู่อมืปฏิบัติบั ติงานหรือรืกระบวนการ ขั้นขั้ตอน การปฏิบัติบั ติงานที่เป็นมาตรฐาน โดยมีกมีารเผยแพร่ ให้บุห้บุคลากรในองค์กรสามารถศึกษาได้ นำ เทคโนโลยีดิยี ดิจิทัจิ ทัลมาใช้เช้พื่อพื่ ให้กห้ารปฏิบัติบั ติงาน มีคมีวามถูกถูต้อง รวดเร็วร็ ประหยัดยัลดขั้นขั้ตอน หรือรื อำ นวยความสะดวกในการปฏิบัติบั ติงานมากขึ้นขึ้ รวมทั้งทั้เกิดความโปร่งร่ ใสในการดำ เนินงานต่าง ๆ โดยมีตัมี ตัวอย่าย่งการดำ เนินการ อาทิ วิเวิคราะห์ภห์ารกิจขององค์กรควบคู่ไคู่ปกับ ตัวอย่าย่งการดำ เนินการ อาทิ มีรมีะบบคุ้มคุ้ครองข้าข้ราชการในกรณีต่าง ๆ เพื่อพื่ สร้าร้งความเชื่อชื่มั่นมั่ ให้แห้ก่ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน เช่นช่ ให้มีห้ มี หน่วยงานให้คำห้ คำ ปรึกรึษากรณีที่ถูกถูฟ้อฟ้งร้อร้งจาก การปฏิบัติบั ติงานตามกฎหมาย และระเบียบีบที่ เกี่ยวข้อข้ง มีกมีารดำ เนินการสอบสวนข้อข้เท็จจริงริ กรณีที่มีข้มีาข้ราชการร้อร้งเรียรีนหรือรืถูกถูกลั่นลั่แกล้ง เป็นต้น 2) มีรมีะบบงานที่มีมมีาตรฐาน โปร่งร่ ใส ชัดชัเจน มีขั้มีนขั้ตอนที่เหมาะสม 4) สนับนัสนุนนุทรัพรัยากร โครงสร้าร้งพื้นพื้ฐาน และเทคโนโลยีที่ยี ที่ พร้อร้มและส่งส่เสริมริ การปฏิบัติบั ติงาน ให้คห้วามสำ คัญกับการพัฒพันาบุคลากรในรูปแบบ ต่าง ๆ และการสรรหาคัดเลือกคนที่มีคมีวามสามารถ และความเหมาะสมเข้าข้สู่ตำสู่ ตำแหน่ง โดยเฉพาะ ตำ แหน่งสำ คัญในการขับขัเคลื่อนภารกิจองค์กร 3) ส่งส่เสริมริ ให้บุคลากรมีศัมี ศักยภาพและ ทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติบั ติงานในองค์กร ผู้บผู้ ริหริารควรมีกมีารกำ หนดทิศทาง และสร้าร้ง การมีส่มีวส่นร่วร่มของบุคลากรในองค์กร รวมทั้งทั้ สื่อสื่สารให้คห้นในองค์กรมองภาพเป้าป้หมายเดียวกัน จัดจักิจกรรมที่ส่งส่เสริมริและบ่มบ่เพาะให้บุห้บุคลากรได้ ร่วร่มกันทำ ประโยชน์เพื่อพื่สังสัคมและผู้อื่ผู้ อื่นใน โอกาสสำ คัญ เพื่อพื่ปลูกลูฝังจิตจิสำ นึกของการทำ เพื่อพื่ส่วส่นรวม เช่นช่การเข้าข้ร่วร่มงานจิตจิอาสา 26 ในโอกาสสำ คัญต่าง ๆ ของประเทศ เป็นต้น การสำ รวจความต้องการ/ความจำ เป็น ในการใช้งช้านทรัพรัยากรต่าง ๆ เพื่อพื่การปฏิบัติบั ติงานอย่าย่งสม่ำ เสมอ สนับสนุนงบประมาณในการลงทุนทุสำ หรับรั สิ่งสิ่จำ เป็นในการปฏิบัติบั ติงาน
แนวทางการดำ เนินนิการ : องค์กร (My Agency) 27 มีทัมี ทัศคติที่ดีในการดูแดูลคน เข้าข้ใจผู้อื่ผู้ อื่น มีจมีรรยาบรรณ ในอาชีพชีเช่นช่รับรั ฟังฟั ปัญหาโดยไม่ตัม่ ตัดสินสิและให้ ความช่วช่ยเหลืออย่าย่งเต็มความสามารถ ดูแดูลคนในองค์กรโดยสร้าร้งความสมดุลดุระหว่าว่ง ความต้องการ ของฝ่ายนโยบายและบุคลากร ในองค์กร ให้เห้กิดความรู้ win-win และไม่สม่ร้าร้ง ความขัดขัแย้งย้ ในองค์กร บริหริารความหลากหลายด้วยความเป็นธรรมและ ยุติธรรม ไม่เม่ลือกปฏิบัติบั ติ มีคมีวามรู้ใรู้นงาน สามารถเป็นที่ปรึกรึษาได้โดยเฉพาะ เกี่ยวกับการเติบโตก้าวหน้าของคนในองค์กร พร้อร้มเรียรีนรู้เรู้พื่อพื่รับรัมือมืกับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ Digital Transformation 7) HR มีคมีวามเข้มข้แข็งข็ตระหนักนัถึง ความสำ คัญและบทบาทของตนในองค์กร และปฏิบัติบั ติงานโดยยึดยึ "คน"เป็นป็ศูนย์กย์ลาง 6) มีกมีารสื่อสื่สาร สร้าร้งแรงจูงใจ และ สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มภายในองค์กร 5) ส่งส่เสริมริภาพลักษณ์ที่ณ์ ที่ ดีขององค์กร รู้จุรู้จุดเด่นขององค์กรก่อนดึงสิ่งสิ่นั้นนั้มาสื่อสื่สาร ต่อบุคคลอื่น สร้าร้งความประทับใจให้บุห้บุคคคลภายนอกตั้งตั้แต่ แรกเริ่มริ่ที่มีกมีารปฏิสัมสัพันพัธ์กัธ์ กับองค์กร เช่นช่ บุคลากรยิ้มยิ้แย้มย้แจ่มจ่ ใสให้ การต้อนรับรัคนที่มา สมัคมัรงาน แสดงการให้คห้วามช่วช่ยเหลือผู้รัผู้ บรั บริกริารอย่าย่งเต็มที่ ด้วยความเต็มใจ เป็นต้น สื่อสื่สารผลงานต่าง ๆ ขององค์กรอย่าย่งสม่ำ เสมอ นโยบาย ความเคลื่อนไหว ผลงานที่หน่วยงาน บรรลุเลุป้าป้หมาย ยกย่อย่งชมเชยผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน สอบถามความคิดเกี่ยวกับการปรับรัเปลี่ยน มีกมีารสื่อสื่สารภายในองค์กรอย่าย่งทั่วทั่ถึง รวดเร็วร็และ เข้าข้ถึงได้ง่าย ผ่าผ่นช่อช่งทางต่าง ๆ นอกเหนือจาก ช่อช่งทางที่เป็นทางการ ทั้งทั้การสื่อสื่สารทางเดียวและ สองทาง เช่นช่ Line การประชุมสำ นัก/กอง การใช้ intranet เป็นต้น เพื่อพื่สร้าร้งความเข้าข้ใจ การรับรัรู้ สร้าร้งแรงจูงใจ และการมีส่มีวส่นร่วร่มในเรื่อรื่งต่าง ๆ อาทิ โดยรวมถึงการจัดจัหรือรืเข้าข้ร่วร่มกิจกรรมเพื่อพื่สังสัคม และส่วส่นรวม ผ่าผ่นช่อช่งทางสื่อสื่สารในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อพื่สร้าร้งภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อชื่ถือให้กัห้ กับ องค์กร โดยกำ หนดช่อช่งทางที่เหมาะสมกับ วัตวัถุปถุระสงค์ อาทิ มี Website ใช้เช้พื่อพื่สื่อสื่สารข่าข่ว ทั่วทั่ ไป มีข้มีอข้มูลเกี่ยวกับองค์กร บทบาท ภารกิจ ผลงาน และองค์ความรู้ต่รู้ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อข้งของ ส่วส่นราชการ โดยข้อข้มูลมีคมีวามอัพเดท มีคมีวามเคลื่อนไหวอยู่เยู่สมอ มี Facebook ใช้เช้พื่อพื่ สื่อสื่สารข่าข่วกิจกรรมเป็นสื่อสื่ที่เข้าข้ถึงสังสัคมได้อย่าย่ง รวดเร็วร็สามารถโต้ตอบคุยคุผ่าผ่นโปรแกรมได้ มีกมีารอัพเดตข้อข้มูลได้อย่าย่งต่อเนื่อง เป็นต้น สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มใน Social Media และสร้าร้งความโปร่งร่ ใส และแสดงการเปิด รับรั ฟังฟัความคิดเห็นห็ ในองค์กร
กลยุทธ์ที่ธ์ ที่8 การยกระดับปัจปัจัยจัด้านทีมงาน (My Team) ประเมินมิตนเองก่อนศึกษาแนวทาง "ท่านทำ แล้วหรือรืยังยั " สำ หรับรัผู้บผู้ ริหริาร/หัวหัหน้างาน สำ หรับรัการเจ้า จ้ หน้าที่ บริหริารงานในทีมอย่าย่งเป็นธรรม เปิดกว้าว้ง ยอมรับรั ความแตกต่าง กล้าตัดสินสิ ใจ สื่อสื่สารอย่าย่งจริงริใจและทั่วทั่ถึง รวมทั้งทั้เหมาะสมกับ บุคลากรในทีมที่มีคมีวามหลากหลาย ส่งส่เสริมริ ให้มีห้กมีารพัฒพันาตนเองอย่าย่งต่อเนื่อนื่ง และมีกมีารสอนงาน สร้าร้งแรงจูงใจและทัศนคติที่ดีต่ดี ต่อภาระงาน และการทำ งานร่วร่มกัน กำ หนด/สนับนัสนุนนุให้มีห้กมีารจัดจักิจกรรมหรือรื สภาพแวดล้อมในการทำ งานที่เสริมริสร้าร้ง ความสัมสัพันพัธ์ จัดจั ให้มีห้กิมี กิจกรรม/การพัฒพันาความรู้ ทักษะ และ ทัศนคติที่จำ เป็นต่อการปฏิบัติบั ติงานร่วร่มกัน จัดจักิจกรรมที่เสริมริสร้าร้งความสัมสัพันพัธ์อัธ์ อันดี และทัศนคติเชิงชิบวกของคนในองค์กร จัดจัสภาพแวดล้อมที่ส่งส่เสริมริ ให้เห้กิด ความสัมสัพันพัธ์ขธ์องคนในองค์กร เช่นช่ มีสมีถานที่ปฏิบัติบั ติงานร่วร่มกัน (Co-Working Space) ปัจจัยจัด้านทีมงาน หมายถึง ความสามารถของทีมงานในการทำ งานและการปรับรัตัว เพื่อพื่พร้อร้มรับรัการเปลี่ยนแปลง และความสัมสัพันพัธ์ขธ์องทีม บรรยากาศการทำ งานที่มี การสนับสนุนช่วช่ยเหลือซึ่งซึ่กันและกัน 28
แนวทางการดำ เนินนิการ : ทีมงาน (My Team) มีคมีวามสามารถในการทำ งานและการปรับรัตัวเพื่อพื่พร้อร้มรับรั การเปลี่ยนแปลง มีสมีภาพแวดล้อมและบรรยากาศการทำ งานเชิงชิบวกอันเสริมริสร้าร้ง สัมสัพันพัธภาพที่ดี เป้าป้หมาย : ทีมงาน มีกมีารกำ หนดเป้าป้หมายร่วร่มกัน วางแผนการทำ งาน และวิธีวิทำธี ทำงาน มอบหมายผู้รัผู้ บรัผิดผิชอบ หัวหัหน้างานสอนงาน ให้ feedback ทั้งทั้เชิงชิบวก และเชิงชิลบเกี่ยวกับผลลัพธ์ขธ์องงานอย่าย่งสม่ำ เสมอ เพื่อพื่ ให้เห้กิดการขับขัเคลื่อนงานอย่าย่งราบรื่นรื่และเกิด การพัฒพันางาน หัวหัหน้างานส่งส่เสริมริ ให้บุห้บุคลากรในทีมมีกมีารพัฒพันา ตนเองอย่าย่งต่อเนื่อง ให้คำห้ คำแนะนำ เกี่ยวกับ มีกมีารพัฒพันาความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่จำ เป็น ต่อการปฏิบัติบั ติงานอย่าย่งต่อเนื่อง เพื่อพื่ ให้พห้ร้อร้ม ในการปฏิบัติบั ติงาน นำ ตนเองและทีมงาน ในการขับขัเคลื่อนภารกิจขององค์กร 1) หัวหน้าน้งานมีกมีารบริหริารงานในทีม อย่าย่งเป็นป็ธรรม เปิดปิกว้าว้ง ยอมรับรั ความแตกต่าง กล้าตัดสินสิ ใจ 3) ส่งส่เสริมริ ให้บุคลากรมีกมีารพัฒพันาตนเอง อย่าย่งต่อเนื่อนื่ง 2) มีกมีารสื่อสื่สารในทีมที่ตรงไปตรงมาและ ทั่วถึง มีกมีารสื่อสื่สารในทีมที่ทั่วทั่ถึง และเหมาะสมกับ ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานที่มีคมีวามหลากหลาย โดยทำ ความเข้าข้ใจ ธรรมชาติของคนในทีม เช่นช่การประชุมอย่าย่งไม่เม่ ป็น ทางการเพื่อพื่เปิดโอกาสให้ทีห้ ทีมได้คุ้นคุ้เคยและสะท้อน ความคิดเห็นห็การใช้เช้ทคโนโลยีต่ยี ต่าง ๆ ในการสื่อสื่สาร ที่สม่ำ เสมอ เป็นต้น มีอมีะไรให้เราช่วช่ยมั้ยมั้จ๊ะจ๊? 29 ทีมเราเก่งจังจัทุกทุคนช่วช่ยกัน ทำ งานให้สำ เร็จร็ตามเป้าหมายได้ กำ หนดกติกาการทำ งานร่วร่มกันของทีม เพื่อพื่ ให้ทห้ราบ ถึงผลกระทบของงานของแต่ละคนต่อความสำ เร็จร็ ของทีม และสร้าร้งความเข้าข้ใจแก่คนในทีมอย่าย่งชัดชัเจน ติดตามงาน และประเมินมิผลตามผลงานจริงริ เพื่อพื่ป้อป้งกันไม่ใม่ห้เห้กิดความรู้สึรู้กสึ ไม่เม่ ป็นธรรมหรือรื การถูกถูเลือกปฏิบัติบั ติอันส่งส่ผลต่อบรรยากาศ การทำ งานของทีม กล้าตัดสินสิ ใจเมื่อมื่มีปมีระเด็นปัญหา ความขัดขัแย้งย้หรือรื ความเห็นห็ที่ไม่สม่อดคล้องภายในทีมโดยไม่ปม่ล่อยให้ เป็นปัญหาเรื้อรื้รังรัอันก่อให้เห้กิดความไม่พึม่งพึพอใจของ คนทำ งาน เปิดกว้าว้ง รับรั ฟังฟัสร้าร้งความเข้าข้ใจและยอมรับรั ความแตกต่าง มองเห็นห็คุณคุค่าและความสามารถ ของคนต่อการทำ งานของทีม อย่าย่งเหมาะสม องค์ความรู้ที่รู้ ที่ จำ เป็นในการปฏิบัติบั ติงาน แนะนำ ช่อช่งทาง การเรียรีนรู้ที่รู้ ที่ สามารถเข้าข้ถึงได้ ช่วช่ยขจัดจัอุปสรรค ในการพัฒพันา
ส่งส่เสริมริการจัดจักิจกรรมเสริมริสร้าร้งความสัมสัพันพัธ์ีธ์เช่นช่กิจกรรมกีฬาสี การอวยพรวันวัเกิดสมาชิกชิ ในทีม การสัมสัมนาของหน่วยงาน งานปีใหม่ เป็นต้น จัดจั ให้มีสมีถานที่ปฏิบัติบั ติงานร่วร่มกัน (Co-Working Space) หรือรื บริเริวณพักพัเบรก ในสถานที่ทำ งาน เพื่อพื่สนับสนุนพื้นพื้ที่ที่คนในองค์กร ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นห็ร่วร่มกันนอกเหนือจากโต๊ะทำ งาน 5) มีกิมี กิจกรรมและสภาพแวดล้อม การทำ งานที่เสริมริสร้าร้งสัมสัพันพัธภาพที่ดี 4) สร้าร้งแรงจูงใจและทัศนคติเชิงชิบวกใน การทำ งานของทีม สร้าร้งความมีส่มีวส่นร่วร่มในงาน อันส่งส่ผลต่อความสุขสุและพฤติกรรม เชิงชิบวกในการปฏิบัติบั ติงาน เช่นช่สอบถามแสดงความคิดเห็นห็ ในงาน มีเมีวทีให้แห้สดงความคิดเห็นห็เป็นต้น มีกมีารชื่นชื่ชมความสำ เร็จร็ของทีม เพื่อพื่เป็นแรงผลักดันให้ทีห้ ทีมพัฒพันา ผลงานอย่าย่งต่อเนื่อง ใส่ใส่จความเป็นป็อยู่ขยู่องคนในทีม แสดงความห่วห่งใย ให้คห้วามช่วช่ยเหลือ และเอื้ออาทรต่อกัน รับรั ฟังฟัความคิดเห็นที่แตกต่างโดยไม่ตัม่ ตัดสินสิหรือรืแสดงความคิดเห็นห็ ในเชิงชิลบ การเสนอทางเลือกรูปแบบการทำ งานแบบทีมหรือรื โครงการ ซึ่งซึ่ต้องอาศัยความร่วร่มมือมืร่วร่มใจกันจากหลายหน่วยงานเพื่อพื่ขับขัเคลื่อน ภารกิจพิเพิศษ เช่นช่ตั้งตั้ทีมออกแบบโรงอาหารใหม่ เป็นต้น แนวทางการดำ เนินนิการ : ทีมงาน (My Team) สร้าร้งบรรยากาศของความเป็นป็ทีมในหน่วยงาน เช่นช่ ผู้บผู้ ริหริารให้คห้วามเป็นกันเองกับผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน ร่วร่มโต๊ะกับผู้ใผู้ต้บังบัคับ บัญบัชาในงานเลี้ยง มีกมีารทักทายสอบถามสารทุกทุข์สุข์ขสุดิบเป็นประจำ ให้กห้ารต้อนรับรัและแนะนำ เกี่ยวกับการทำ งานเมื่อมื่มีน้มี น้องใหม่เม่ข้าข้มาในทีม การไปเยี่ย ยี่ มเยียยีนผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานในสถานที่ห่าห่งไกลเพื่อพื่รับรั ฟังฟั ปัญหาและ แสดงความเอาใจใส่สส่ภาพความเป็นอยู่ ทำ ให้ผู้ห้ ปผู้ ฏิบัติบั ติงานไม่รู้ม่รู้สึรู้กสึ โดดเดี่ยว การทำ ให้ผู้ห้ ใผู้ต้บังบัคับบัญบัชาสามารถเข้าข้ถึงได้ง่าย เป็นต้น 30
สรุปแนวทางที่สำ คัญ ข้าข้ราชการบรรจุใหม่มีม่พี่มีเ พี่ ลี้ยงสอนงาน โดยการเจ้าจ้หน้าที่ มีกมีารติดตามเป็นระยะ เสริมริทักษะการสอนงานให้แห้ก่หัวหัหน้างานใหม่ ยกย่อย่งชมเชยผู้ที่ผู้ ที่ มีผมีลงานโดดเด่น เพื่อพื่สร้าร้งแรงจูงใจ และการยอมรับรั ข้อข้แนะนำ ในการเสริมริสร้าร้ง ความผูกผู พันพัฟังฟัความต้องการของคนในองค์กร สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มและลงมือมืทำ ไม่มีม่สูมีตสูรสำ เร็จร็ สร้าร้งความเชื่อชื่มั่นมั่ ในกระบวนการว่าว่แต่ละคนจะสามารถ เติบโตได้โดยใช้คช้วามสามารถและพิสูพิจสูน์ด้วยผลงาน ผู้ที่ผู้ ที่ ขึ้นขึ้สู่ตำสู่ ตำแหน่งสำ คัญเป็นผู้ที่ผู้ ที่ เหมาะสมและได้รับรั การยอมรับรั โดยมีกมีารหมุนเวียวีนงานอย่าย่งเป็นระบบ ในเรื่อรื่งที่จำ เป็นต่อการปฏิบัติบั ติงานทั้งทั้ปัจจุบันบัและอนาคต โดยรวมถึงการพัฒพันาภาวะผู้นำผู้ นำของคนในทุกทุระดับ กำหนดและสื่อสื่สารนโยบายเกี่ยวกับเวลางานที่ชัดชัเจน ส่งส่เสริมริบุคลากรจัดจัการตารางเวลาการทำ งานและชีวิชีตวิ ส่วส่นตัวอย่าย่งเหมาะสม ตั้งตั้เป้าป้หมายและจัดจัลำ ดับ กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งทั้เรื่อรื่งงานและชีวิชีตวิส่วส่นตัว เรียรีนรู้ การต่อรองและการขอความช่วช่ยเหลือจากผู้อื่ผู้ อื่น จัดจักิจกรรมที่สนับสนุนความสัมสัพันพัธ์ขธ์องบุคลากรและ ครอบครัวรั จัดจักิจกรรม สถานที่และอุปกรณ์ ที่สร้าร้งเสริมริสุขสุภาพ ประเมินมิระดับความเครียรีดหรือรืภาวะ Burn Out และจัดจั กิจกรรมเสริมริสร้าร้งความรู้เรู้กี่ยวกับการดูแดูลสุขสุภาพจิตจิ จัดจักิจกรรมให้คห้วามรู้เรู้กี่ยวกับการบริหริารจัดจัการเงิน ตั้งตั้แต่แรกบรรจุและต่อเนื่องจนถึงวัยวัก่อนเกษียณ จัดจัสวัสวัดิการเพิ่มพิ่เติมนอกเหนือจากที่กฎหมายกำ หนด โดยสอบถามความต้องการของบุคคลากรอย่าย่ง สม่ำ เสมอ เสริมริทักษะที่สามารถประกอบอาชีพชีภายหลังเกษียณ อายุราชการ สร้าร้งสมดุลดุระหว่าว่งชีวิชีตวิการทำ งานกับส่วส่นตัว ดูแดูลสุขสุภาพกาย ใจ และความเป็นอยู่ มีกมีารนำ เทคโนโลยีดิยี ดิจิทัจิ ทัลมาใช้อช้ย่าย่งเหมาะสม นำ รูปแบบ การทำ งานตามแนวทางการปฏิบัติบั ติราชการที่รองรับรัชีวิชีตวิและ การทำ งานวิถีวิ ถีใหม่มม่าใช้ ปรับรักระบวนงานโดยลดขั้นขั้ตอน ที่ไม่จำม่จำเป็น ลดลำ ดับสายบังบัคับบัญบัชา ให้อิห้ อิสระแก่ ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงานมากขึ้นขึ้มีคู่มี คู่มืคู่อมืการปฏิบัติบั ติงาน โดยนำ มาเป็นพื้นพื้ฐานของการทำ งาน ผู้บผู้ ริหริารทำ เป็น แบบอย่าย่ง และผ่าผ่นกิจกรรมเสริมริสร้าร้งความสัมสัพันพัธ์ อันสร้าร้งบรรยากาศการทำ งานที่คนในองค์กรเปิดใจกว้าว้ง ยอมรับรัความแตกต่าง พร้อร้มรับรั ฟังฟั ศึกษาผลการสำ รวจความผูกผูพันพั โดยอาจรวมถึงพื้นพื้ที่ การทำ งานร่วร่มกัน (Co–Working Space) 1. เพิ่มพิ่ ประสิทสิธิภธิาพการสื่อสื่สารในองค์กรและสร้าร้ง การมีส่มีวส่นร่วร่ม สื่อสื่สารอย่าย่งทั่วทั่ถึง ช่อช่งทางหลากหลาย สม่ำ เสมอ เพื่อพื่สร้าร้ง ความเข้าข้ใจ แรงจูงใจและทัศนคติที่ดี 2. ส่งส่เสริมริ ให้มีรมีะบบการสอนงาน และการให้ Feedback ทั้งเชิงชิบวกและลบ 3. เสริมริสร้าร้งความสมดุลดุระหว่าว่งชีวิชีตวิกับการทำ งาน และความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี เพื่อพื่สร้าร้งสุขสุในการทำ งาน 4. มีเมีส้นส้ทางก้าวหน้าน้ในสายอาชีพชีที่ชัดชัเจน และ การเติบโตด้วยระบบคุณคุธรรม 5. ส่งส่เสริมริ โอกาสในการพัฒพันาอย่าย่งต่อเนื่อนื่ง 6. พัฒพันากระบวนงานให้ยืดยืหยุ่นยุ่คล่องตัว เน้นน้การวัดวัผลสัมสัฤทธิ์ขธิ์องงาน 7. มีวัมีฒวันธรรมองค์กรที่สนับนัสนุนนุการขับขัเคลื่อน ภารกิจและสร้าร้งความเป็นป็อันหนึ่งนึ่อันเดียว 8. ส่งส่เสริมริ ให้มีสมีภาพแวดล้อม ทรัพรัยากร และ สิ่งสิ่อำ นวยความสะดวกที่สนับนัสนุนนุการปฏิบัติบั ติงาน 31
บทบาท/ หน้า น้ ที่ของใคร? EMPLOYEE EMPLOYEE EXPERIENCE EXPERIENCE MY JOURNEY MY JOURNEY เปิดใจกว้าว้ง พูดคำ สร้าร้งสรรค์ กระตือรือรืร้นร้มุ่งมุ่สู่ผสู่ ลลัพธ์ พร้อร้มปรับรัเปลี่ยนและเรียรีนรู้ ดูแดูลคนด้วยความเข้าข้ใจ ยึดยึ "คน"เป็นศูนย์กย์ลาง สู่คสู่ วามเป็น Positive Work Place ส่งส่เสริมริการเติบโตความก้าวหน้าของคนให้ มี Career Path ที่ชัดชัเจน แม่นม่ยำ ในหลักการ เปิดกว้าว้ง รับรั ฟังฟัพร้อร้มช่วช่ยเหลือ พัฒพันาตนเองและคนในองค์กร สื่อสื่สารอย่าย่งทั่วทั่ถึงและสม่ำ เสมอ สอนงานและให้ feedback (+/-) สื่อสื่สารอย่าย่งเข้าข้ใจ มีคุมีณคุธรรม กล้าตัดสินสิ ใจ นำ ทีมสู่คสู่ วามสำ เร็จร็ เปิดใจกว้าว้ง ให้โห้อกาส สื่อสื่สารอย่าย่งเข้าข้ใจ มีคุมีณคุธรรม กล้าตัดสินสิ ใจ นำ องค์กรสู่กสู่ ารปรับรัเปลี่ยน ส่งส่เสริมริการเรียรีนรู้อรู้ย่าย่งต่อเนื่อง ผู้บผู้ ริหริารระดับสูงสู ... สร้าร้ง TRUST หัวหน้าน้งาน ... พัฒพันาคน พัฒพันางาน หน่วน่ยงานการเจ้าจ้หน้าน้ที่ ... ดูแดูลคนด้วยใจ ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน ... เริ่มริ่ที่ตัวเรา เปิดใจกว้าว้ง รับรั ฟังฟั 32 GROWTH MINDSET
เสริมสร้าง Engagement โดยคำ นึงถึง ความต้องการของคนต่าง GEN* GEN Z GEN Y GEN X BOOMER 4.64 % อายุไม่เม่กิน 26 ปี ร้อร้ยละของข้าข้ราชการคำ นวณจากฐานข้อข้มูลข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมั (ข้อข้มูล ณ วันวัที่ 30 กันยายน 2564) การแบ่งบ่ช่วช่งอายุ (Generation) อ้างอิงจาก “Age Range by Generation” โดย Beresford Research อายุ 27 - 42 ปี อายุ 43 - 58 ปี อายุ 59 ปีขึ้ปีนขึ้ไป 5.15 % 43.62 % 46.59 % Workforce จัดจัสวัสวัดิการหรือรืการพัฒพันาคุณคุภาพชีวิชีตวิที่หลากหลายตามความต้องการที่แตกต่าง เช่นช่ Gen Z และ Gen Y สนใจหลักสูตสูรพัฒพันาทักษะเพื่อพื่การทำ งาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยีใยีหม่ ๆ Gen X สนใจสวัสวัดิกดิารเกี่ยวกับการดูแดูลสุขสุภาพ เป็นต้น ส่งส่เสริมริการให้เกียรติ เคารพซึ่งซึ่กันและกัน ทำ ความเข้าข้ใจกันผ่าผ่นกิจกรรมเสริมริสัมสัพันพัธ์รธ์ะหว่าว่ง Gen การทำ งานร่วร่มกันระหว่าว่งหลากหลาย Gen เพื่อพื่แลกเปลี่ยนเรียรีนรู้จุรู้ จุดเด่นด่ของกันและกัน เช่นช่ Gen Z เก่งด้าด้นเทคโนโลยี ขณะที่ Gen X มีปมีระสบการณ์ใณ์นงานมาก เป็นต้น มอบหมายงานโดยคำ นึงนึถึงลักษณะเด่นของแต่ละ Gen เช่นช่ Gen Z ควรมอบหมายงานโดยคำ นึงนึ ถึงความสมดุลดุระหว่าว่งงานที่ท้าทายกับผลตอบแทน Gen Y ควรเปิดโอกาสให้ไห้ด้ทำด้ ทำเรื่อรื่งใหม่ ๆ เนื่อนื่งจากหากเริ่มริ่เบื่อบื่อาจเปลี่ยนงานได้ง่ด้ ง่าย เป็นต้น วิธีวิกธีารสื่อสื่สารที่เหมาะสมกับคนแต่ละ Gen เช่นช่ Gen Z Gen Y ควรสื่อสื่สารอย่าย่งตรงประเด็นด็ กระชับชัเข้าข้ถึงง่าย 33
เสริมสร้าง Engagement โดยคำ นึงถึง ความต้องการของคนต่าง GEN* GEN Z GEN Y GEN X มองหางานที่เติมเต็มความสุขสุเป็นหลักมากกว่าว่เงินเดือน แต่ยังยัต้องการเติบโตในงานพร้อร้มกับ การมีสมีมดุลดุชีวิชีตวิที่ดี ไม่ยึม่ดยึติดกับงานประจำ เพียพีงอย่าย่งเดียว พร้อร้มรับรัมือมืกับความเสี่ย สี่ ง ไม่กม่ลัวการเปลี่ยนงาน ให้คห้วามสำ คัญกับเงินเดือนและสวัสวัดิการ ระดับเจ้าจ้หน้าที่ เพิ่งพิ่จบการศึกษาและเข้าข้มาใหม่ใม่นองค์กร ยังยัไม่มีม่ภมีาระทางบ้าบ้นมากนัก เปิดกว้าว้ง ทางความคิด เป็นตัวของตัวเอง สนใจเทคโนโลยี ถนัดการใช้โช้ซเชียชีลมีเมีดีย ติดตามเทรนด์ งานที่สนุกและท้าทาย เรียรีนรู้สิ่รู้งสิ่ใหม่ ๆ องค์กรที่ให้อิห้ อิสระทางความคิด ยืดยืหยุ่นยุ่เรื่อรื่งเวลา และใช้เช้ทคโนโลยี ช่วช่ยในการทำ งาน ทำ งานในตำ แหน่งระดับกลาง เติบโตมากับเทคโนโลยี มีไมีลฟ์สฟ์ ไตล์ที่อิสระ พอสมควร เริ่มริ่ต้องรับรัผิดผิชอบครอบครัวรัชอบความชัดชัเจน เปิดรับรั ความคิดเห็นห็ที่ตรงไปตรงมา กล้าแสดงความคิดเห็นห็กล้าร้อร้งขอในสิ่งสิ่ที่ คิดว่าว่ตนสมควรได้รับรั มองหาสวัสวัดิการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเงินเดือน งานที่มี career path ชัดชัเจน มีโมีอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องการเป็นที่ ยอมรับรัในองค์กร ให้คห้วามสำ คัญกับการทำ งาน ที่ยืดยืหยุ่นยุ่เรื่อรื่งเวลา/สถานที่ มักมัทำ งานตำ แหน่งผู้บผู้ ริหริาร ประสบการณ์ทำ งานมาก เติบโตมากับการเลี้ยงดูที่ดูที่ มีกมีฎ ระเบียบีบชัดชัเจน มองหาความมั่นมั่คงในการทำ งาน ทำ งานเพื่อพื่อนาคตในวัยวัเกษียณและ ดูแดูลคนในครอบครัวรั ให้คห้วามสำ คัญกับชีวิชีตวิส่วส่นตัว แบ่งบ่เวลาการทำ งานที่ชัดชัเจน ชอบงานด้านบริหริารและ ทำ งานเป็นทีม มีรูมีรูปแบบการทำ งานที่เป็นขั้นขั้เป็นตอน อยากทำ งานในองค์กรที่มีชื่มีชื่อชื่เสียสีง ให้คห้วามสำ คัญต่อหลักการทำ งาน เคร่งร่ครัดรั ในแบบแผน ประสบการณ์มาก ชีวิชีตวิทุ่มทุ่เทให้กัห้ กับการทำ งาน มีคมีวามอดทนสูงสู เห็นห็คุณคุค่าต่อการทำ งาน อย่าย่งทุ่มทุ่เท BOOMER *สรุปรุข้อข้มูลจากผลสำ รวจตลาดแรงงานของแมนพาวเวอร์กร์รุ๊ปรุ๊ (อ้างในhttps://www.marketingoops.com/reports/generations-inworkplace-gen-x-gen-y-gen-z-employees/) และผลสำ รวจ Laws of Attraction ของ JobsDB (อ้างใน https://th.jobsdb.com/th-th/cms/employer/laws-of-attraction/inspiration/different-gen/) 34
Key Point !!! เราดูแดูลเขาเต็มที่หรือรืยังยั ? ที่คิดว่าว่ทำ ไปแล้วได้ผด้ลเป็นยังยัไง ตรงตามความต้องการของเขาไหม ? เรากำ หนดนโยบายโดยมี คนในองค์กรเป็นศูนย์กย์ลางไหม ? ได้ทำ งานที่ใช่ มีคุมีณคุภาพชีวิชีตวิดี มีสมีมดุลดุ ได้เติบโตก้าวหน้าน้ อยู่ใยู่นองค์กรที่ ทันสมัยมั ตั้งคำ ถามกับตัวเอง ? เราสื่อสื่สาร/สอนงานเขา เพียพีงพอหรือรืยังยันะ? เราดูแดูลเขาดีแดีค่ไหน? เราเปิดใจกว้าว้ง รับรั ฟังฟัเขาแล้วมั้ยมั้ ? เราเปิดใจและพยายาม มากพอรึยัรึงยั ? ผู้บริหริาร การเจ้าจ้หน้าน้ที่ ผู้ปฏิบัติบั ติงาน หัวหน้าน้งาน งานที่ชอบ ท้าทาย มีคุมีณคุค่า เรียรีนรู้สิ่รู้งสิ่ใหม่ ตำ แหน่งสูงสูขึ้นขึ้ ปรับรัเปลี่ยน มีทิมี ทิศทาง เป็นธรรม กายดี จิตจิดี กินอยู่ดียู่ ดี ได้พัฒพันา ระบบงานยืดยืหยุ่นยุ่ มีเมีวลา เก่งขึ้นขึ้ สังสัคมดี WFH HOW TO ? HOW TO ? HOW TO ? We love our We love our We love our Agency Agency มีตัมี ตัวตน 35
ท่านมีปมีระสบการณ์ทำณ์ ทำงานแบบไหน ? อยู่ที่ยู่ ที่ นี่ไนี่ ม่มีม่คมีวามสุขสุเลย งานที่ทำ ก็ไม่รู้ม่ทำรู้ทำ ไปทำ ไม สังสัคมไม่น่ม่าน่อยู่ พึ่งพึ่พาใครไม่ไม่ด้ เหมือมืนองค์กรไม่แม่คร์คร์นเลย ระบบงานล้าสมัยมัความโปร่งร่ ใสไม่มีม่ มีอยู่ไยู่ ปก็ไม่ก้ม่ ก้าวหน้าน้ หรือรืเราจะออกไปที่อื่นดีนดีะ ! งานเยอะจังจัเลย มีแมีต่คนอยากได้นั่ด้นนั่นี่ ปวดหัวหัไปหมดแล้ว จะพึ่งพึ่ใครได้บ้ด้าบ้งเนี่ยนี่ ! ตื่นเต้นจังจั มาทำ งานวันวัแรก ที่นี่จะต้อนรับรัเราไหมนะ กังวลจังจั ไม่มีม่ ใมีครสอนงาน หรือรืแนะนำ อะไรเลยเหรอ เราต้องทำ อะไรยังยัไง บ้าบ้งเนี่ย งานนี้วุ่นวุ่วายมาก ทำ ไปแล้วได้ อะไรนะ ขั้นขั้ตอนก็มาก ไม่ทัม่ ทันสมัยมั บางอย่าย่งไม่ make sense เลย เหนื่อยและเครียรีดจังจั ชีวิชีตวิมีแมีต่งาน ไม่มีม่เมีวลาไปทำ อะไรเลย สุขสุภาพก็แย่ลย่ง หัวหัหน้าจะรู้ไรู้หมนะ นำ เสนอไอเดียใหม่ ๆ ไปไม่เม่คยชื่นชื่ชม มี แต่โดนด่า คราวหน้าไม่กม่ล้าพูดแล้ว เดี๋ยวหัวหัหน้าอารมณ์ขึ้นขึ้อีก อยู่ที่ยู่ ที่ นี่มานานละ เหมือมืนอยู่กัยู่ กับที่ ไม่ไม่ด้เรียรีนรู้อรู้ะไรใหม่ ไม่เม่คยได้ feedback จากงานที่ทำ ไม่ไม่ด้รับรัโอกาสอะไรเลย ... MY JOURNEY MY JOURNEY QUIT STAY 36 หมด PASSION PASSION!
วันวันี้นำ เสนอไอเดีย ได้รับรัคำ แนะนำ และชื่นชื่ชม เยอะเลย ภูมิภูใมิจจังจั ท่านมีปมีระสบการณ์ทำณ์ ทำงานแบบไหน ? ตื่นเต้นจังจั มาทำ งานวันวัแรก ที่นี่จะต้อนรับรัเราไหมนะ อุ่นใจแล้ว มีหัมีวหัหน้าสอน งานด้วย งานนี้สนุกมาก น่าสนใจ มีปมีระโยชน์กับส่วส่นรวม แถมยังยัให้มีห้ มีWFH ด้วย พวกเราเป็นทีมที่เยี่ย ยี่ มมาก เราช่วช่ยกัน เราทำ ได้ เย็นย็นี้ไปแฮ้งเอ้าท์ หรือรืไปออกกำ ลังกายดีนะ ได้เรียรีนรู้อรู้ะไรใหม่ ๆ เยอะเลย รู้สึรู้กสึเราเก่งขึ้นขึ้ ทำ งานที่นี่มี นี่ คมีวามสุขสุจังจังานมีคุมีณคุค่า สังสัคมดี มีแมีต่คนเก่ง และช่วช่ยเหลือกัน องค์กรใส่ใส่จความเป็นอยู่ ระบบงานทันสมัยมั มองเห็นห็ทางก้าวหน้าน้ด้วด้ย อยากทำ งานที่นี่ต นี่ ลอดไปเลย ทำ งานกับเราเป็นป็ยังยัไงบ้าบ้ง ? มีคมีวามสุขสุดีมั้ดียมั้ ? ต้องการให้ช่ห้วช่ยอะไรรึเรึปล่า ? MY JOURNEY MY JOURNEY
03 เครื่อ รื่ งมือ มื ตรวจสอบ ความคิดเห็น ห็ แบบสั้น สั้ (Pulse Survey) แบบสำ รวจความคิดเห็นห็ของบุคลากรแบบสั้นสั้ (Employee Pulse Survey) ตัวงาน (My Work) สุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี (Health and Wellbeing) สภาพแวดล้อมในการทำ งานเชิงชิบวก (Positive Workplace) วิธีวิกธีารอื่น ๆ
เครื่อรื่งมือมืตรวจสอบความคิดเห็นของคนในองค์กร (EMPLOYEE PULSE SURVEY) ประเด็น แบบสำ รวจ Employee Engagement แบบสำ รวจ Pulse Survey ผู้ดำผู้ ดำเนินการ สำ นักงาน ก.พ. ส่วส่นราชการ ความถี่ ปีเว้นว้ ปี ดำ เนินการได้สม่ำ เสมอ หรือรื เมื่อมื่ต้องการข้อข้มูลในเรื่อรื่งนั้นนั้ ความเฉพาะ เจาะจง มีหมีลายประเด็นโดยครอบคลุมลุ Employee Experience หรือรื Journey ของบุคลากรในการทำ งาน เฉพาะประเด็นที่ต้องการทำ ความเข้าข้ใจ ความยาว แบบสำ รวจยาว มีข้มีอข้คำ ถามจำ นวนมาก แบบสำ รวจสั้นสั้มีข้มีอข้คำ ถามจำ นวนไม่มม่าก ประโยชน์ เป็นเครื่อรื่งมือมืวัดวั ประสิทสิธิผธิลของ องค์กรในการบริหริารทรัพรัยากร บุคคล ซึ่งซึ่เกี่ยวข้อข้งกับประสบการณ์ ในการทำ งานที่บุคลากรได้รับรัจึงจึทำ ให้ ได้ข้อข้มูลที่หลากหลายมิติมิ ติ เป็นข้อข้มูลที่ใช้ปช้ระกอบ ได้ข้อข้มูลเกี่ยวกับความคิดเห็นห็สภาพปัญหา ความท้าทาย และความต้องการของบุคลากร ในองค์กรที่เป็นปัจจุบันบัและสามารถนำ มาใช้ ในการแก้ไขปัญหาได้อย่าย่งรวดเร็วร็ ช่วช่ยให้บุห้บุคลากรในองค์กรเกิดความรู้สึรู้กสึว่าว่ ได้รับรั การดูแดูลจากองค์กร และได้รับรัการช่วช่ยเหลือ ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่าย่งทันท่วงที ช่วช่ยสร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่มของบุคลากร ในการวัดวัความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมั สำ นักนังาน ก.พ. จะดำ เนินนิการแบบปีเว้นว้ ปีเพื่อพื่ ให้ ส่วส่นราชการได้มีด้ โมีอกาสนำ ผลการสำ รวจ แต่ละครั้งรั้ไป ใช้ปช้ระกอบการวางแผนและดำ เนินนิการเกี่ยวกับ การบริหริารทรัพรัยากรบุคคล โดยผลการสำ รวจในปี ถัดไปจะสะท้อนประสิทสิธิผธิลของการบริหริารทรัพรัยากร บุคคลของส่วส่นราชการที่ได้มีด้กมีารพัฒพันาให้สห้อดคล้อง กับความต้องการของข้าข้ราชการและบริบริทของ ส่วส่นราชการ กล่าวคือ การวัดวัความผูกผูพันพัของ ข้าข้ราชการเปรียรีบเสมือมืนการวัดวัผลสัมสัฤทธิ์ขธิ์อง การบริหริารทรัพรัยากรบุคคลของส่วส่นราชการ อย่าย่งไรก็ตาม ในระหว่าว่งปีงบประมาณ ส่วส่นราชการ ควรมีกมีารตรวจสอบความคิดเห็นห็ของข้าข้ราชการ โดยอาจใช้แช้บบสำ รวจแบบสั้นสั้ (Pulse Survey) สำ รวจแบบเฉพาะกลุ่มลุ่หรือรืเฉพาะเรื่อรื่ง เพื่อพื่ ให้ไห้ด้มด้า ซึ่งซึ่ข้อข้มูลในประเด็นด็ที่ต้องการอย่าย่งรวดเร็วร็และเป็น ปัจจุบันบัซึ่งซึ่หากประเด็นด็ดังดักล่าวกำ ลังเผชิญชิกับ ในส่วส่นที่ 3 สำ นักงาน ก.พ. จึงจึได้นำ เสนอ Pulse Survey เกี่ยวกับความคิดเห็นห็ของข้าข้ราชการต่อปัจจัยจั ในงาน ที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพั 3 ด้าน โดยพิจพิารณาจากผลสำ รวจความผูกผูพันพั ในภาพรวมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในส่วส่นของปัจจัยจัที่ส่งส่ผลต่อความผูกผูพันพัมากที่สุดสุคือ ด้านตัวงาน และปัจจัยจัที่ควรปรับรั ปรุง ซึ่งซึ่มีคมีะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุดสุ 2 ด้าน คือ 1) ด้านสุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดี และ 2) ด้านสภาพแวดล้อม ในการทำ งานเชิงชิบวก ดังนี้ ปัญหา จะได้สามารถจัดจัการกับ 39 ปัญหานั้นนั้ ได้อย่าย่งทันท่วงที ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ขององค์กร การคาดการณ์ เกี่ยวกับการสูญสูเสียสีบุคลากรของ องค์กร
ไม่เม่ห็นห็ด้วยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 1 คะแนน ไม่เม่ห็นห็ด้วด้ย = 2 คะแนน เฉย ๆ = 3 คะแนน เห็นห็ด้วด้ย = 4 คะแนน เห็นห็ด้วด้ยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 5 คะแนน ทางเลือกในการยกระดับ : การมอบหมายงาน การหมุนเวียวีนงาน การสรรหาคนเข้าข้สู่งสู่ าน แบบสำ รวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ ตัวงาน (MY WORK) โจทย์ : โอกาสในการใช้คช้วามรู้ครู้วามสามารถอย่าย่งเต็มที่ ? ลักษณะงานตรงกับความรู้ครู้วามสามารถและเป้าป้หมายในอาชีพชี ? 1. ฉันมีโมีอกาสได้ใช้คช้วามรู้ ทักษะ และความสามารถของ ฉันอย่าย่งเต็มที่ในการทำ งาน 2. ฉันมีโมีอกาสได้รับรัผิดผิชอบงานที่มีคมีวามท้าทาย 3. งานที่ฉันรับรัผิดผิชอบมีคมีวามหลากหลาย ระดับความคิดเห็น และคะแนน 4. ฉันมีคมีวามรู้ ทักษะ และความสามารถเหมาะสมกับงาน ที่ทำ 5. ฉันคิดว่าว่มีงมีานอื่นในหน่วยงานที่ฉันสนใจไปทำ และ เรียรีนรู้มรู้ากกว่าว่งานในปัจจุบันบั * คะแนน ข้อข้ที่มี * ในการคำ นวณให้กห้ลับคะแนนจาก 5 เป็น 1 จาก 4 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 และ จาก 1 เป็น 5 คะแนน ชุดที่ 1 แบบสำ รวจความคิดเห็นห็ของบุคลากรในองค์กรเกี่ยวกับ "ตัวงาน (MY WORK)" ได้พัฒพันาขึ้นขึ้ โดยแบ่งบ่เป็น 3 ชุด ในประเด็นย่อย่ยที่เกี่ยวข้อข้ง ได้แก่ ชุดที่ 1 ความรู้ครู้วามสามารถและความสนใจในงาน ชุดที่ 2 อิสระ ในการทำ งาน และ ชุดที่ 3 ความหมายและคุณคุค่าของงาน เพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจบุคลากรในองค์กรเฉพาะเรื่อรื่งที่ เป็นจุดเน้น (FOCUS) ในการแก้ปัญหา อย่าย่งไรก็ตาม อาจสำ รวจโดยรวมข้อข้คำ ถามทั้งทั้ 3 ชุดเข้าข้ด้วยกัน เพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจความคิดเห็นห็เกี่ยวกับงานในภาพรวมได้ 6. หากไม่มีม่ โมีอกาสได้เปลี่ยนไปทำ งานอื่นใน 1 ปีนี้ ฉันอาจมองหางานใหม่ใม่นหน่วยงานอื่น* 40
ไม่เม่ห็นห็ด้วยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 1 คะแนน ไม่เม่ห็นห็ด้วด้ย = 2 คะแนน เฉย ๆ = 3 คะแนน เห็นห็ด้วด้ย = 4 คะแนน เห็นห็ด้วด้ยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 5 คะแนน โจทย์ : ความหมายและคุณคุค่าของงาน ? ระดับความคิดเห็น และคะแนน 4. ฉันรู้ว่รู้าว่ความสำ เร็จร็ในงานของฉันจะส่งส่ผลต่อใคร และอะไร (Impact) 3. ฉันรู้ขรู้อบเขตงานของฉัน รู้ว่รู้าว่ต้องใช้สิ่ช้งสิ่ใดบ้าบ้งเพื่อพื่ ให้ งานสำ เร็จร็รวมถึงเห็นห็ที่มาและผลลัพธ์ขธ์องงานที่ฉัน รับรัผิดผิชอบ 6. ฉันภูมิภูใมิจในผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติบั ติงานของฉัน 5. ฉันรู้ว่รู้าว่งานที่ฉันทำ มีส่มีวส่นช่วช่ยให้หห้น่วยงานบรรลุ เป้าป้หมายและพันพัธกิจขององค์กร 2. ฉันรู้ว่รู้าว่เป้าป้หมายหรือรืผลผลิตของงานที่ฉันรับรัผิดผิชอบ คือสิ่งสิ่ใด 1. งานของฉัน ทำ ให้ฉัห้ ฉันรู้สึรู้กสึมีคุมีณคุค่า ทางเลือกในการยกระดับ : การออกแบบกระบวนงาน เน้นการวัดวัผลสัมสัฤทธิ์ขธิ์องงาน 2. ฉันมีโมีอกาสได้ใช้คช้วามคิดสร้าร้งสรรค์ในการทำ งานที่ รับรัผิดผิชอบ 1. ฉันมีอิมี อิสระในการทำ งาน ทั้งทั้การควบคุมคุเวลา วิธีวิกธีาร และ เครื่อรื่งมือมืที่ใช้ใช้นการทำ งาน 3. ฉันมีโมีอกาส/มีส่มีวส่นร่วร่มในการแสดงความคิดเห็นห็ ที่ส่งส่ผลต่อความสำ เร็จร็ของงาน โจทย์ : อิสระ/โอกาสในการตัดสินสิ ใจในการทำ งาน ? คะแนน ชุดที่ 2 ชุดที่ 3 ทางเลือกในการยกระดับ : การสื่อสื่สารอย่าย่งสม่ำ เสมอ แบบสำ รวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ ตัวงาน (MY WORK) คะแนน 41
ไม่เม่ห็นห็ด้วยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 1 คะแนน ไม่เม่ห็นห็ด้วด้ย = 2 คะแนน เฉย ๆ = 3 คะแนน เห็นห็ด้วด้ย = 4 คะแนน เห็นห็ด้วด้ยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 5 คะแนน แบบสำ รวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (HEALTH AND WELLBEING) นโยบายและการดำ เนินการส่งส่เสริมริสุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดีของบุคลากร ที่สอดคล้องกับความต้องการ ? 1. ฉันรับรัรู้ถึรู้ ถึงนโยบายและการดำ เนินการส่งส่เสริมริสุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีของหน่วยงานฉัน 2. หน่วยงานของฉันมีกมีารรับรั ฟังฟัความคิดเห็นห็ /ความต้องการของบุคลากรในสังสักัดเกี่ยวกับ การจัดจัสวัสวัดิการเพิ่มพิ่เติมหรือรืการพัฒพันาคุณคุภาพชีวิชีตวิการทำ งาน 3. สวัสวัดิการเพิ่มพิ่เติมต่าง ๆ ที่หน่วยงานของฉันจัดจั ให้ ส่วส่นใหญ่ตญ่รงตามความต้องการและ ส่งส่เสริมริความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีของฉัน เช่นช่การกู้ยืกู้มยืเงิน สวัสวัดิการรถรับรั -ส่งส่สวัสวัดิการบ้าบ้นพักพัเป็นต้น 5. หน่วยงานของฉันมีกมีารจัดจักิจกรรมการส่งส่เสริมริสุขสุภาพจิตจิที่ช่วช่ยให้ฉัห้ ฉันมีสุมีขสุภาพจิตจิที่ดี พร้อร้มสำ หรับรัการปฏิบัติบั ติงาน เช่นช่การให้คห้วามรู้เรู้กี่ยวกับการพัฒพันาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา (AQ) การจัดจัการความเครียรีด การบริหริารเวลา เป็นต้น ระดับความคิดเห็นและคะแนน คะแนน แบบสำ รวจความคิดเห็นห็ของบุคลากรในองค์กรเกี่ยวกับ "สุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดี (HEALTH AND WELLBEING)" ได้พัฒพันาขึ้นขึ้ โดยแบ่งบ่เป็น 3 ชุด ในประเด็นย่อย่ยที่เกี่ยวข้อข้ง ได้แก่ ชุดที่ 1 นโยบายการส่งส่เสริมริ สุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีของบุคลากร ชุดที่ 2 ความปลอดภัยและสุขสุอนามัยมั ในสถานที่ทำ งาน และ ชุดที่ 3 ความสมดุลดุระหว่าว่งชีวิชีตวิและการทำ งาน เพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจบุคลากรในองค์กรเฉพาะเรื่อรื่งที่เป็นจุดเน้น (FOCUS) ในการแก้ปัญหา อย่าย่งไรก็ตามอาจสำ รวจโดยรวมข้อข้คำ ถามทั้งทั้ 3 ชุดเข้าข้ด้วยกันเพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจ ความคิดเห็นห็เกี่ยวกับสุขสุภาพและความเป็นอยู่ที่ยู่ ที่ ดีของบุคลากรในภาพรวมได้ ชุดที่ 1 4. หน่วยงานของฉันมีกมีารจัดจักิจกรรมการส่งส่เสริมริสุขสุภาพกายที่ช่วช่ยให้ฉัห้ ฉันมีสุมีขสุภาพกายที่ดี เช่นช่ การให้คห้วามรู้เรู้กี่ยวกับออฟฟิศฟิซินซิ โดรม เป็นต้น 6. ฉันรู้ว่รู้าว่หากเกิดความเครียรีดหรือรืปัญหาทั้งทั้จากการทำ งานและชีวิชีตวิส่วส่นตัวที่ส่งส่ผลกระทบ ต่อการทำ งาน ฉันจะสามารถขอความช่วช่ยเหลือจากใครได้ในองค์กร สร้าร้งช่อช่งทางการสื่อสื่สารที่เข้าข้ถึงคนในองค์กรอย่าย่งสม่ำ เสมอ สอบถามความต้องการของคนในองค์กรอย่าย่งทั่วทั่ถึง จัดจัสวัสวัดิกดิาร/กิจกรรม ที่สอดคล้องกับความต้องการของ คนในองค์กร ทางเลือกในการยกระดับดั : 42
แบบสำ รวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (HEALTH AND WELLBEING) 1. สภาพแวดล้อมในสถานที่ทำ งานของฉัน เช่นช่แสงสว่าว่ง เสียสีงรบกวน อุณหภูมิภูมิ และ/หรือรืสาธารณูปโภค ส่งส่เสริมริ ให้ฉัห้ ฉันมีคมีวามสะดวกสบาย และปฏิบัติบั ติงานได้ อย่าย่งเต็มประสิทสิธิภธิาพ 2. ฉันรู้สึรู้กสึ ปลอดภัยในชีวิชีตวิและทรัพรัย์สิย์นสิระหว่าว่งการปฏิบัติบั ติงานในสถานที่ทำ งาน 1. ปริมริาณงานที่ฉันได้รับรัมอบหมายมีคมีวามเหมาะสม ไม่มม่ากหรือรืน้อยเกินไป 2. ฉันมีคมีวามสมดุลดุระหว่าว่งชีวิชีตวิการงานและชีวิชีตวิส่วส่นตัว 3. ฉันรู้สึรู้กสึมีคมีวามสุขสุในการทำ งาน ไม่เม่ห็นห็ด้วยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 1 คะแนน ไม่เม่ห็นห็ด้วด้ย = 2 คะแนน เฉย ๆ = 3 คะแนน เห็นห็ด้วด้ย = 4 คะแนน เห็นห็ด้วด้ยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 5 คะแนน ระดับความคิดเห็นและคะแนน การมีคมีวามสมดุลดุระหว่าว่งชีวิชีตวิและการทำ งาน ? ความปลอดภัยและสุขสุลักษณะในสถานที่ทำ งาน ? คะแนน คะแนน ชุดที่ 2 ชุดที่ 3 จัดจัสภาพแวดล้อมให้มีห้สุมีขสุลักษณะที่ดีและปลอดภัย แสดงถึงความใส่ใส่จเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำ งานของบุคลากร อาทิ มีช่มีอช่งทางให้บุห้บุคลากรแจ้งจ้ผู้เผู้กี่ยวข้อข้งเมื่อมื่ประสบปัญหาเกี่ยวกับ ความปลอดภัยในสถานที่ทำ งาน ทางเลือกในการยกระดับ : จัดจัลำ ดับความสำ คัญของงาน และมอบหมายงานอย่าย่งเหมาะสม ติดตามงาน สอบถามความก้าวหน้าหรือรืปัญหาในงาน และให้กห้ารสนับสนุน อย่าย่งเหมาะสม สอบถามความรู้สึรู้กสึของคนในองค์กรอย่าย่งสม่ำ เสมอ ทางเลือกในการยกระดับ : 43
ไม่เม่ห็นห็ด้วยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 1 คะแนน ไม่เม่ห็นห็ด้วด้ย = 2 คะแนน เฉย ๆ = 3 คะแนน เห็นห็ด้วด้ย = 4 คะแนน เห็นห็ด้วด้ยอย่าย่งยิ่งยิ่ = 5 คะแนน 1. คนที่ทำ งานได้ดีในหน่วยงานของฉันได้รับรัการยอมรับรัและชื่นชื่ชม อย่าย่งเหมาะสม 2. ฉันได้รับรัการยอมรับรัและชื่นชื่ชมจากการทำ งาน (Recognize) ตามที่ฉันคาดหวังวัไว้ แบบสำ รวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ สภาพแวดล้อมการทำ งานเชิงชิบวก (Positive Workplace) ระดับความคิดเห็นและคะแนน การยอมรับรัและชื่นชื่ชมบุคลากรจากผลงาน ? คะแนน ทางเลือก ในการยกระดับ : แบบสำ รวจความคิดเห็นห็ของบุคลากรในองค์กรเกี่ยวกับ "สภาพแวดล้อมเชิงชิบวก (POSITIVE WORKPLACE)" ได้พัฒพันาขึ้นขึ้ โดยแบ่งบ่เป็น 3 ชุด ในประเด็นย่อย่ยที่เกี่ยวข้อข้ง ได้แก่ ชุดที่ 1 การยอมรับรัและชื่นชื่ชมบุคลากรจาก ผลงาน ชุดที่ 2 สภาพแวดล้อมที่สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่ม และชุดที่ 3 ทรัพรัยากรที่สนับสนุนการปฏิบัติบั ติงาน เพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจบุคลากรในองค์กรเฉพาะเรื่อรื่งที่เป็นจุดเน้น (FOCUS) ในการแก้ปัญหา อย่าย่งไรก็ตาม อาจสำ รวจโดยรวมข้อข้คำ ถามทั้งทั้ 3 ชุด เข้าข้ด้วยกันเพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจความคิดเห็นห็เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ในการทำ งานเชิงชิบวกในภาพรวมได้ 4. หน่วยงานของฉันมีพื้มีพื้นพื้ที่สำ หรับรัการทำ งานร่วร่มกัน (CoWorking Space) หรือรืสถานที่พักพัเบรกที่ทำ ให้ฉัห้ ฉันมีโมีอกาสได้ พบปะพูดคุยคุกับคนในองค์กร 1. หน่วยงานของฉันมีกมีารจัดจักิจกรรมอย่าย่งสม่ำ เสมอ ที่ช่วช่ย ส่งส่เสริมริความสัมสัพันพัธ์ขธ์องฉันกับคนในองค์กร 2. ฉันกับคนในหน่วยงานมีคมีวามสามัคมัคี พร้อร้มร่วร่มแรงร่วร่มใจ ปฏิบัติบั ติงานตามภารกิจให้สำห้สำเร็จร็ลุล่ลุล่วง สภาพแวดล้อมการทำ งานที่สร้าร้งการมีส่มีวส่นร่วร่ม การปฏิบัติบั ติที่เป็นป็ธรรม และ ยอมรับรัความแตกต่างหลากหลาย ? 3. ฉันรู้สึรู้กสึ ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นห็ที่แตกต่างใน หน่วยงานของฉัน คะแนน ชุดที่ 1 ชุดที่ 2 1. ฉันสามารถเข้าข้ถึงข้อข้มูลที่จำ เป็นต้องใช้ใช้นการปฏิบัติบั ติงาน 3. อุปกรณ์ IT ที่หน่วยงานจัดจั ให้ มีคมีวามเหมาะสมและเพียพีงพอ สำ หรับรัการปฏิบัติบั ติงานของฉัน 2. วัสวัดุอุดุ อุปกรณ์สำ นักงานที่หน่วยงานจัดจั ให้ มีคมีวามเหมาะสมและ เพียพีงพอสำ หรับรัการปฏิบัติบั ติงานของฉัน การมีทมีรัพรัยากรที่สนับสนุนการทำ งานที่มีปมีระสิทสิธิภธิาพ ? คะแนน ชุดที่ 3 ทางเลือก ในการยกระดับ : ทางเลือก ในการยกระดับ : 44 ชื่นชื่ชมผู้ที่ผู้ ที่ ทำ งาน ได้ผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ ดี Feedback เชิงชิบวก จัดจักิจกรรมเสริมริ สัมสัพันพัธภาพ มีช่มีอช่งทางรับรั ฟังฟั ความต้องการ ของคนในองค์กร ตรวจสอบความ พร้อร้มของ ทรัพรัยากรต่าง ๆ ที่จำ เป็นต่อการ ทำ งาน
ส่วส่นราชการสามารถใช้วิช้ธีวิกธีารอื่นในการเก็บข้อข้มูลเพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจบุคลากรในองค์กรเกี่ยวกับความผูกผูพันพั ของบุคลากรได้ เช่นช่ การประเมินมิภาวะหมดไฟจากการทำ งาน (Burn out) ภาวะ Burn out จะส่งส่ผลต่อประสิทสิธิภธิาพการทำ งานที่ลดลง และระดับความผูกผูพันพัของคน ต่อองค์กร ดังนั้นนั้การประเมินมิภาวะ Burn out จะช่วช่ยให้อห้งค์กรรู้สรู้ถานการณ์ ปัจจุบันบัและสามารถแก้ไขได้ทัน การแปลผลคะแนนจากแบบสำ รวจ ค่าเฉลี่ย 1.00 - 2.33 หมายถึง มีรมีะดับความคิดเห็นห็ระดับต่ำ ข้อข้แนะนำ มีกมีารดำ เนินการน้อยกว่าว่ความต้องการของบุคลากร จึงจึควรให้คห้วามสำ คัญหรือรื เร่งร่ดำ เนินการเพื่อพื่แก้ไขปัญหา/สร้าร้งความเข้าข้ใจ/ยกระดับความคิดเห็นห็ ในปัจจัยจันี้ ก่อนที่จะส่งส่ผลให้คห้วามผูกผูพันพัของข้าข้ราชการลดลงไป ค่าเฉลี่ย 3.68 - 5.00 หมายถึง มีรมีะดับความคิดเห็นห็ระดับสูงสู ข้อข้แนะนำ สามารถดำ เนินการในเรื่อรื่งนี้ได้ดี และควรดำ เนินการอย่าย่งต่อเนื่องและพัฒพันาให้ดีห้ ดีขึ้นขึ้ ไป เพื่อพื่รักรัษาและยกระดับความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการจนเป็นองค์กรต้นแบบที่ดีได้ ค่าเฉลี่ย 2.34 - 3.67 หมายถึง มีรมีะดับความคิดเห็นห็ระดับปานกลาง ข้อข้แนะนำ มีกมีารดำ เนินการแล้ว แต่ยังยัตอบสนองความต้องการของบุคลากรได้บางส่วส่น จึงจึควร ส่งส่เสริมริ ให้มีห้กมีารดำ เนินการเพิ่มพิ่เติม เพื่อพื่ยกระดับความคิดเห็นห็ ในปัจจัยจันี้ ก่อนที่จะส่งส่ผลให้ ความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการจะลดลง วิธีวิกธีารอื่นในการตรวจสอบความคิดเห็นของบุคลากร การสำ รวจแบบเช็คช็อินรายวันวั (Daily Pulse Survey) เป็นเครื่อรื่งมือมืการสื่อสื่สารระหว่าว่งบุคลากร ในเรื่อรื่งสั้นสั้ๆ โดยใช้คำช้ คำถามข้อข้เดียวแต่บ่อบ่ยครั้งรั้ ให้ไห้ด้มาซึ่งซึ่ feedback จากบุคลากรที่เป็นปัจจุบันบัจึงจึมี ความรวดเร็วร็และแม่นม่ยำ กว่าว่การสอบถามประจำ ปี ซึ่งซึ่ส่วส่นราชการหรือรืหัวหัหน้างานสามารถนำ ข้อข้มูลมาใช้ ในการแก้ไขปัญหาการหมดไฟ (Burn out) ได้อย่าย่งทันการณ์ เช่นช่การสอบถามความรู้สึรู้กสึของบุคลากร ในแต่ละวันวัการสอบถามถึงความเครียรีดหรือรืความหนักใจในการทำ งาน เป็นต้น การสอบถามลักษณะนี้ อาจนำ เทคโนโลยีดิยี ดิจิทัจิ ทัลมาใช้ใช้นการทำ Daily Pulse Survey ผ่าผ่นแอพพลิเคชั่นชั่ต่าง ๆ ได้ การสัมสัภาษณ์บุคลากรที่ออกจากองค์กร (Exit Interview) เพื่อพื่ค้นหาและ ประเมินมิจุดแข็งข็และจุดที่องค์กรควรต้องปรับรั ปรุงในการดูแดูลคนในองค์กร เช่นช่ เหตุผตุลที่ลาออก/โอนย้าย้ย อะไรในงานใหม่ที่ม่ ที่ให้ตัห้ ตัดสินสิ ใจ ลาออก ส่วส่นที่ชอบ/ ไม่ชม่อบที่สุดสุในงานนี้ กิจกรรมหรือรืเหตุกตุารณ์ใดที่ทำ ให้รู้ห้รู้สึรู้กสึ ประทับใจหรือรืมี ความสุขสุในช่วช่งที่อยู่ใยู่นองค์กร องค์กรควรเร่งร่ ปรับรั ปรุงประเด็นใดในการดูแดูล คนในองค์กร เป็นต้น โดยควรขอให้ผู้ห้ตผู้ อบยกตัวอย่าย่งเพิ่มพิ่เติมเพื่อพื่ทำ ความเข้าข้ใจ สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ชัดชัเจนยิ่งยิ่ขึ้นขึ้นอกจากนี้ ควรเปิดโอกาสให้เห้ขาได้ซักซัถาม หรือรืแสดงความคิดเห็นห็อื่นเพิ่มพิ่เติมด้วย Q: วันนี้คุณรู้สึกอย่างไร ? 45
04 แนวปฏิบัติ บั ติ ในองค์กรต่าง ๆ 1. สถานการณ์รณ์าชการไทย 2. แนวปฏิบัติบั ติจากภาคราชการไทย - สำ นักงานคณะกรรมการนโยบาย ที่ดินแห่งห่ชาติ (สคทช.) - กรมการขนส่งส่ทางบก - กรมการปกครอง 3. แนวปฏิบัติบั ติจากภาคเอกชนไทย - บริษัริ ษัท ฟู้ดฟู้แพชชั่นชั่จำ กัด - บริษัริ ษัท แมคไทย จำ กัด - เครือรืโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล 4. แนวปฏิบัติบั ติจากต่างประเทศ - Google - Mastercard Asia
ปัจจัยจัที่มีคมีะแนนเฉลี่ยสูงสูสุดสุ 3 ลำ ดับแรก คือ ด้านความมั่นมั่คงในอาชีพชีด้านทีมงาน และด้านตัวงาน ตามลำ ดับ ในขณะที่ปัจจัยจัที่มีคมีะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุดสุ 3 ลำ ดับแรก คือ ด้านสุขสุภาพและความเป็นป็อยู่ที่ยู่ ที่ ดี ด้านสภาพแวดล้อมในการทำ งานเชิงชิบวก และด้านโอกาสในการเรียรีนรู้แรู้ละพัฒพันา อย่าย่งไรก็ตามเมื่อมื่วิเวิคราะห์คห์วามเป็นเหตุเตุป็น ผลของปัจจัยจั ในงานที่ส่งส่ผลต่อดัชนีความผูกผูพันพัของข้าข้ราชการพลเรือรืนสามัญมัด้วย การวิเวิคราะห์สห์ถิติถดถอยพหุคูหุณคู (Multiple Regression Analysis) พบว่าว่ ปัจจัยจั ที่ส่งส่ผลต่อความผูกพันพัฯ มากที่สุดสุ 3 ลำ ดับแรก คือ ด้านตัวงาน ด้านความมั่นมั่คงใน อาชีพชีและ ด้านองค์กร สถานการณ์ราชการไทย ภาพรวมของ ข้าข้ราชการพลเรือรืน สามัญมัมีคมีะแนนความ ผูกผูพันพัเฉลี่ยคิดเป็น 78.70 กลุ่มลุ่ข้าข้ราชการที่มี อายุราชการมาก คือ ตั้งแต่ 31 ปีขึ้ปีนขึ้ไป มีคมีะแนน ความผูกผูพันพัสูงสูที่สุดสุ อายุราชการ 1-5 ปี มี คะแนนความผูกผูพันพั น้อน้ยที่สุดสุ กลุ่มลุ่กำ ลังคนคุณคุภาพ คะแนนความผูกผูพันพัเฉลี่ย น้อน้ยกว่าว่คะแนนความผูกผูพันพั ในภาพรวม (76.15) กลุ่มลุ่ช่วช่งอายุที่มีคมีะแนนความผูกผูพันพัมากที่สุดสุคือ กลุ่มลุ่ Boomer ส่วส่นกลุ่มลุ่ที่มีคมีะแนนความผูกผูพันพัน้อยที่สุดสุคือ กลุ่มลุ่ Gen Z 47