The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอนวิชา ธรรมนิเทศ รหัส 000 262 สอนโดย ดร.อดุลย์ หลานวงค์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ธรรมนิเทศ

เอกสารประกอบการสอนวิชา ธรรมนิเทศ รหัส 000 262 สอนโดย ดร.อดุลย์ หลานวงค์

Keywords: ธรรมนิเทศ

๑. อธิบายความเป็ นมาของการอภิปรายได้
๒. บอกความหมายและความสาคญั ของการอภปิ รายได้
๓. บอกองค์ประกอบของการอภิปรายในแต่ละส่วนได้
๔. บอกจดุ ม่งุ หมายของการอภิปรายได้
๕. จาแนกประเภทของการอภปิ รายได้
๖. สามารถอภปิ รายตามหลกั พทุ ธศาสนาได้
๗. บอกประโยชน์ของการอภิปรายได้

๑. ความเป็ นมา ความหมาย ความสาคญั ของการอภปิ ราย
๒. องค์ประกอบของการอภิปราย
๓. จุดม่งุ หมายของการอภิปราย
๔. จดั ประเภทของการอภปิ ราย
๕. หลกั ของการอภปิ ราย
๖. ประโยชน์ของการอภปิ ราย

การอภิปราย หมายถึง การท่ีบุคคลรวมกลุ่มร่ วมกัน
แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องใดเร่ืองหน่ึง รวมไปถึงการพดู ให้ความรู้
ข้อมูลใหม่ด้วย การอภิปรายท่ีได้ยินกันบ่อยปั จจุบัน เช่น
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การอภิปรายเกี่ยวกับปัญหา
เศรษฐกิจ การอภิปรายเรื่องวิกฤติวฒั นธรรมในยุคโลกาภิวตั น์
เป็ นตน้

๑. ความสาคญั ด้านการศึกษา
๒. ความสาคญั ด้านสังคม
๓. ความสาคญั การเมอื งการปกครอง
๔. ความสาคญั เศรษฐกจิ
๕. ความสาคญั ศาสนา

๑. ผู้จัดการอภปิ ราย
๒. หัวข้อทจ่ี ะอภิปราย
๓. ผู้อภปิ ราย
๔. ผู้ดาเนินการอภิปราย
๕. กลุ่มผู้ฟังการอภปิ ราย

๑. การอภิปรายแบบกลุ่ม
๒. การอภิปรายในทชี่ ุมชน
๓. การอภิปรายแบบโต้วาที
๔. การอภปิ รายแบบโต๊ะกลม
๕. การอภิปรายแบบสัมมนา

ได้แก่
๑. จติ วจิ ารณ์

คือ การวจิ ารณ์ดว้ ยจิตนึกคิดของตนเองเป็นหลกั
๒. อรรถวจิ ารณ์

คือ การวจิ ารณ์ดว้ ยการตีความหมายเป็นหลกั
๓. วพิ ากษ์วจิ ารณ์

คือ การวจิ ารณ์ดว้ ยคาพิพากษาตดั สินเป็นหลกั

๑. หลกั ธรรมวจิ ัย
๒. หลกั ธรรมวจิ ารณ์
๓. หลกั ธรรมวภิ าค
๔. หลกั ธรรมาธิปไตย

๑. เอกงั สพยากรณยี ปัญหา
๒. ปฏปิ ุจฉาพยากรณยี ปัญหา
๓. วภิ ัชชพยากรณยี ปัญหา
๔. ฐปนียปัญหา

๑. ปัญหาหรือเร่ืองทน่ี ามาอภปิ ราย
๒. แนวทางของการจัดการอภิปราย
๓. การคดั สรรค์ผู้ทอ่ี ภิปราย
๔. กระบวนการแก้ปัญหาของการอภิปราย
๕. ผู้ดาเนินการอภปิ ราย
๖. การกล่าวสรุปอภปิ ราย

๑. ประโยชน์ด้านการศึกษา
๒. ประโยชน์ด้านธุรกจิ
๓. ประโยชน์ด้านการเมอื งการปกครอง
๔. ประโยชน์ด้านการศาสนา



๑. บอกความเป็ นมาของการใช้ส่อื เพ่อื การเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้
๒. บอกความหมายของส่อื การเรียนการสอนทางพระพุทธศาสนาได้
๓. บอกประโยชน์และคุณค่าของส่อื การเรียนการสอนได้
๔. บอกการจัดประเภทของส่อื การเรียนการสอนได้
๕. อธิบายการจดั ประเภทของส่อื การเรียนการสอนได้
๖. อธิบายพฒั นาการของการเขยี นเชงิ พทุ ธในแต่ละช่วงเวลาได้
๗. บอกลักษณะและประเภทของส่อื การเรียนการสอนได้
๘. บอกหลักและประเภทของส่อื การเรียนการสอนได้
๙.อธิบายหลกั การใช้ส่อื การเรียนการสอนได้

๑. ความหมายและความสาคญั ของส่ือการเรียนการสอนได้
๒. ประโยชน์และคุณค่าของส่ือการเรียนการสอน
๓. การจดั ประเภทของส่ือการเรียนการสอน
๔. หลักการใช้ส่ือการเรียนการสอนเพ่อื การเผยแผ่

ส่ือการเรี ยนการสอนเป็ นตัวกลางซ่ึงมี ความสาคัญ
ในกระบวนการเรียนการสอนมีหน้าท่เี ป็ นตวั นาความต้องการของครู
ไปสู่ตัวนักเรียนอย่ างถูกต้ องและรวดเร็ว เป็ นผลให้ นักเรียน
เปล่ียนแปลงพฤติกรรมไปตามจุดมุ่งหมายการเรียนการสอนได้
อย่างถกู ต้องเหมาะสม

ส่ือการสอนได้ นาไปใช้ ในการเรี ยนการสอนตลอด
และยังได้รับการพฒั นาไปตาการเปล่ียนแปลงทางวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ซ่ึงก้าวหน้าไปไม่หยุดยัง้ นักการศึกษาเรียกช่ือการสอน
ด้วยช่ือต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์การสอน โสตทัศนูปกรณ์ เทคโนโลยี
การศกึ ษา ส่ือการเรียนการสอน ส่อื การศกึ ษา เป็ นต้น

๑. เพมิ่ ความน่าสนใจในบทเรียน
๒. ช่วยให้ผ้เู รียนมีความสนใจและมีส่วนร่วมในการเรียน
๓. ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้ง่าย รวดเร็ว ชัดเจน
๔. ช่วยให้ผู้เรียนเกดิ ความประทบั ใจในบทเรียน
๕. ช่วยให้ผู้เรียนเกดิ ความคิดในการแก้ปัญหา
๖. ช่วยให้ผู้เรียนแก้ข้อจากดั ในด้านต่างๆ
๗. ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
๘. ช่วยส่งเสริมประสบการณ์แก่ผ้เู รียน
๙. ช่วยเพมิ่ ความมน่ั ใจให้แก่ผู้สอน

๑. ช่วยเพ่มิ บรรยากาศและความน่าสนใจในบทเรียน
๒. ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สอน ในการเตรียมเนือ้ หา
๓. ช่วยกระตุ้นผู้สอนให้มคี วามต่นื ตวั ตลอดเวลา

๑. ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
๒. ช่วยเร้าความสนใจของผู้เรียน
๓. ช่วยสร้างความเข้าใจท่ตี รงกัน
๔. ช่วยส่งเสริมมนุษย์สมั พนั ธ์
๕. ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ตามความสนใจ
๖. เปิ ดโอกาสให้ผ้เู รียนสามารถ ศึกษา ค้นคว้า ในส่งิ ท่เี รียน
๗. ใช้เป็ นตวั แทนของผู้สอน
๘. สร้างความม่ันใจให้แก่ผ้สู อน
๙. ทาให้การสอนทนั สมัยอย่เู สมอ

๑. ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สอน ในการเตรียมเนือ้ หาการสอน
๒. สร้างความสนุกสนานในการสอน
๓. สร้างแรงผลักดนั ให้แก่ผู้สอน
๔. สร้างความเช่อื ม่นั ในการสอน
๕. ช่วยสร้างประสบการณ์ในการสอนอย่างมปี ระสิทธิภาพ

๑. สร้างความสนใจให้กบั ผู้เรียน
๒. ผู้เรียนเข้าใจในเนือ้ หาต่างๆ ได้ง่ายขนึ้
๓. ลดปัญหาความแตกต่างให้กบั ผู้เรียน
๔. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนมากขนึ้
๕. ช่วยสร้างประสบการณ์เรียนรู้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

๑. ส่งเสริมการค้นคว้าด้านการเรียนรู้ด้วยตนเอง
๒. เปิ ดโอกาสทางการศึกษาเพ่มิ มากขนึ้
๓. สร้างแหล่งวชิ าการให้กบั ชุมชน

๑. ตามลักษณะการใช้งาน
๒. ตามลักษณะทางกายภาพ
๓. ตามลักษณะของทรัพยากร

๑. ประเภทเคร่ืองฉาย
๒. ประเภทไม่ใช่เคร่ืองฉาย
๓. ประเภทเคร่ืองเสียง

๑. ส่ือประเภทของวัสดทุ ่ใี ช้
๑.๑ ส่ือประเภทท่ตี ้องใช้อุปกรณ์
๑.๒ ส่ือประเภทท่ไี ม่ต้องใช้อุปกรณ์

๒. ส่ือประเภทอุปกรณ์
๓. ส่ือประเภทเทคนิคและวิธีการ

๑. คน
๒. วสั ดุ
๓. อาคารสถานท่ี
๔. เคร่ืองมือเคร่ืองใช้
๕. กจิ กรรม
๖. ธรรมชาติ

๑. ประสบการณ์ตรง
๒. ประสบการณ์ประสบการณ์จาลอง
๓. ประสบการณ์นาฏการหรือการแสดง
๔. การสาธิต
๕. การศกึ ษานอกสถานท่ี
๖. ส่อื นิทรรศการ
๗. ส่อื โทรทศั น์
๘. ส่อื ภาพยนตร์
๙. ส่อื เสียง
๑๐. ส่อื ทศั นสัญลกั ษณ์
๑๑. ส่อื วจนสัญลักษณ์

๑.การเรียนรู้ด้วยการกระทาโดยตรง
๒.การเรียนรู้ด้วยภาพ
๓.การเรียนรู้ด้วยสัญลักษณ์

๑. ส่ือประเภทวัสดุ
๒. ส่ือประเภทแปล่งทรัพยากรในชุมชน
๓. ส่ือวสั ดกุ ารอ่าน
๔. การศึกษานอกสถานท่ี
๕. ส่ือประสม

๑. ส่ือส่งิ พมิ พ์
๒. ภาพและภาพชุด
๓. แผนท่ี
๔. แผนภมู ิ
๕. ป้ ายนิเทศ
๖. หนังสือแผ่นเดยี ว
๗. หนังสือพมิ พ์หรือนิตยสาร

๑. เคร่ืองบนั ทกึ เสียง
๒. สไลด์
๓. ภาพยนตร์
๔. เทปโทรทศั น์

ส่งิ แวดล้อมในชุมนุมอาจแบ่งออกได้เป็ น ๒ ส่วนใหญ่ ๆ คอื

๑. ส่งิ แวดล้อมท่เี กดิ ขึน้ โดยธรรมชาติ ได้แก่ อากาศ แม่นา้ ลาคลอง
ทะเลสาบ มหาสมุทร พืน้ ดนิ แร่ธาตุ ภเู ขา ป่ าไม้และสตั ว์อ่นื ๆ
เป็ นต้น

๒. ส่งิ แวดล้อมท่มี นุษย์สร้างขนึ้ ได้แก่ บ้านเรือน โรงเรียน ถนน
รถยนต์ เข่ือนเกบ็ นา้ ตลอด จนขนบธรรมเนียม ประเพณี
วฒั นธรรม ระบบเศรษฐกจิ และสังคมด้วย

หมายถึง เอกสาร วัสดุ หรือเนือ้ หาสาระท่ีใช้
เ พ่ื อ ก า ร อ่ า น แ ล ะ ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า ทุ ก รู ป แ บ บ
ทุกสาขาวิชา ซ่ึงผู้สอนได้จัดหามา และจัดเก็บรวบรวม
เอาไว้เพ่อื ใช้ในการเรียนการสอน

คือ การนาผ้เู รียนออกไปศกึ ษานอกสถานท่อี าจแบ่งได้ ๒ ประเภท

๑.การสารวจ

ผ้ ูสอนอาจนําผ้ ูเรี ยนไปสํารวจจํานวนสิ่งที่มีชีวิตท่ีอาจพบได้ ในระบบ
นิเวศที่มีลกั ษณะต่างๆ กัน การนําผู้เรียนออกไปผู้สอนจะต้องเตรียมคําถามท่ี
อาจเกิดจากสิ่งที่ผ้เู รียนอยากรู้เองเพือ่ เป็นแนวทางในการสํารวจ

๒.การแสวงหาคาตอบ

การศึกษานอกสถานที่โดยวิธีนีเ้ป็ นการเสริมบทเรียนท่ีได้เรียนในชนั้ ให้
สมบูรณ์ย่ิงขึน้ และเป็ นการออกไปทัศนศึกษาเพ่ือแสวงหาคําตอบอย่างหน่ึง
อย่างใดโดยเฉพาะเช่น นกกางเขนกินอะไรเป็ นอาหาร นกกระจาบทํารังได้
อยา่ งไร หรือมดสามารถเดินทางไปยงั แหล่งอาหารได้อย่างไร เป็นต้น

ส่ือประสม หมายถึง ส่ือหลายแบบ (Multimedia)
เป็ นเทคโนโลยีท่ีช่วยให้คอมพิวเตอร์ สามารถผสมผสาน
ระหว่างข้อความ ข้อมูล ตัวเลข ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว

และเสียง ตลอดจนระบบโต้ตอบกับผู้ใช้ (Interactive) มา
ผสมผสานเข้าด้วยกนั

๑. ช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ทเี ป็ นรูปธรรม
๒. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้ส่ือ
๓. เลือกสรรส่ือท่ตี รงกบั เนือ้ หาการสอน
๔. ส่ือมคี วามสอดคล้องกับวตั ถุประสงค์
๕. ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียน
๖. ได้รับการรับรองประสทิ ธิภาพ

๑. เลือกใช้ส่ือท่ตี รงกบั เนือ้ หาการสอน
๒. เลือกใช้ส่ือท่มี เี นือ้ หาถกู ต้อง
๓. เลือกใช้ส่ือท่เี หมาะสมกับวยั ของผู้เรียน
๔. เลือกใช้ส่ือท่สี ะดวกต่อการสอน
๕. เลือกใช้ส่ือท่แี ปลกใหม่อย่เู สมอ

๑. เตรียมตัวของผู้สอน
๒. เตรียมสถานท่แี ละส่งิ แวดล้อม
๓. เตรียมตวั ของผู้เรียน
๔. เตรียมอุปกรณ์
๕. ขัน้ ตดิ ตามผล
๖. ขัน้ ตอนการสอน

๑. การนาเข้าสู่บทเรียนในการนาเสนอส่ือ
๒. การพฒั นาความเข้าใจในการใช้ส่ือ
๓. การตาเนินการสอน
๔. โอกาสในการใช้ส่ือการสอน
๕. การประเมนิ ผล

๑. ตรงกับเนือ้ หาท่สี อน
๒. ใช้ส่ือท่มี ีเนือ้ หาเหมาะสมกบั วยั ของผู้เรียน
๓. ตรงกับความรู้ ความเข้าใจของผู้สอนเป็ นอย่างดี

๑. การยกอทุ าหรณ์และนิทาน ๖. การใช้อุบายในตวั บุคคล
๒. การเปรียบเทียบ ๗. รู้จักจังหวะและโอกาส
๓. การใช้อุปกรณ์ประกอบ ๘. การยดื หยุ่นในวิธีการสอน
๔. การแสดงตัวอย่าง ๙. การให้รางวลั และการลงโทษ
๕. การใช้ภาษา ๑๐. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า



รหัสและชื่อวชิ า : ๐๐๐๒๖๒ ธรรมนิเทศ (Dhamma Communication)
จานวนหน่วยกติ : ๒ หน่วยกติ (๒-๐-๔)
หลกั สูตร : พุทธศาสตรบรั ฑิต หมวดวชิ าศึกษาทว่ั ไป

จุดมุ่งหมายและวตั ถุประสงค์

 หลกั การและวธิ ีการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา
 ศิลปะการเขยี นบทความ
 การพูดในทช่ี ุมชน
 การพฒั นาบุคลกิ ภาพเกยี่ วกบั การพดู
 การเทศนา การแสดงปาฐกถาธรรม การอภิปราย
 วธิ ีใช้ส่ือประกอบการบรรยาย

แผนการสอนและการประเมินผล

 สัปดาห์ท่ี ๑ ทดสอบก่อนเรียน / แนะนาแผนการสอน

 อธิบาย / ยกตัวอย่าง

แผนการสอนและการประเมินผล

 สัปดาห์ที่ ๒ บทท่ี ๑ ธรรมนิเทศ
 บรรยาย / อภปิ ราย / นาเสนอหน้าช้ันเรียน

แผนการสอนและการประเมนิ ผล

 สัปดาห์ที่ ๓
 บทท่ี ๒ หลกั การและวธิ ีการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา
 บรรยาย / ฝึ กทักษะการเขยี น / นาเสนอหน้าช้ันเรียน

แผนการสอนและการประเมินผล

 สัปดาห์ท่ี ๔-๕
 บทที่ ๓ การเขยี นเพอ่ื การเผยแผ่
 บรรยาย / ฝึ กทักษะการเขียน / นาเสนอหน้าช้ันเรียน

แผนการสอนและการประเมินผล

 สัปดาห์ท่ี ๖-๗
 บทท่ี ๔ การพูดและการพฒั นาบุคลกิ ภาพในการพูด
 บรรยาย / ฝึ กทกั ษะการพูด / นาเสนอหน้าช้ันเรียน

แผนการสอนและการประเมนิ ผล

 สัปดาห์ที่ ๘
 สอบกลางภาค

แผนการสอนและการประเมินผล

 สัปดาห์ที่ ๙
 บทท่ี ๕ การเทศน์
 บรรยาย / ฝึ กทกั ษะการเทศน์ / นาเสนอหน้าช้ันเรียน


Click to View FlipBook Version