The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือประกอบโครงการพัฒนา-ทักษะการทำงานเป็นทีม - พนิดา.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ninggiiz, 2022-10-16 05:11:57

คู่มือประกอบโครงการพัฒนา-ทักษะการทำงานเป็นทีม - พนิดา.

คู่มือประกอบโครงการพัฒนา-ทักษะการทำงานเป็นทีม - พนิดา.

51

โปรดวจิ ารณ์อุปสรรคและการเอาชนะอปุ สรรคในการพฒั นา
ทักษะการทำงานเป็นทมี (Teamwork Skills) ที่สรุปข้างล่างนี้
วา่ ทำใหเ้ ข้าใจในความหมายที่ครอบคลมุ และชดั เจนแล้วหรือไม่

ควรปรบั หรอื เพมิ่ เติม
อะไรอีกหรือไม่

จากทัศนะของ Flint and Hearn (2015), Williams (2017) และ Windsor (2021) สรุป
ได้ว่า อปุ สรรคและวธิ ีการเอาชนะเพื่อการพฒั นาทักษะการทำงานเป็นทีมมีดังน้ี

1) การมีเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน (Unclear Goals) เมื่อสมาชิกในทีมไม่มีความมั่นใจใน
เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ตั้งแตแ่ รก การทำงานเป็นทมี ทีป่ ระสบความสำเรจ็ กเ็ ปน็ ไปได้ยาก ดังน้นั ไม่
ว่าองค์กรใดก็ตามควรกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนเพื่อให้การทำงานเป็นทีมมี
เป้าหมายและสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

2) การถอดใจในการทำงาน (Demotivation) จากบทบาทหน้าที่ไม่ชัดเจน (Unclear
Role) และความเบื่อหน่ายในการทำงาน (Collaboration Burnout) การทำงานที่มีภาระหน้าที่มาก
ขึ้น จำเป็นต้องพัฒนาตนเองในการทำงานอยู่เสมอ หรือมีความท้าทายใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น อาจทำให้
เกิดความคับข้องใจในการทำงาน เบื่อหน่าย เหนื่อยหน่ายในการทำงานร่วมกัน ดังนั้น การจัดการ
ระบบการทำงานทช่ี ัดเจนของตนเองตามหน้าทเ่ี ปน็ ส่ิงสำคัญ มองเป้าหมายการทำงาน หาขอ้ บกพร่อง
และร่วมมือกันแก้ไข รู้จักให้สร้างขวัญกำลังใจกันและกันในทีม มีกิจกรรมร่วมกันเพื่อครายความตึง
เครยี ดและเป็นการเตมิ พลงั ใหส้ มาชิกในทมี

3) การสื่อสารไม่ดี (Poor Communication) หรือการรับรู้ได้ไม่ดี ไม่มีการส่งสาร (Badly
Perceived, Not Delivering) การสอื่ สารประชาสัมพันธ์ข้อมูลขา่ วสารในทีมเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ
มากหากสื่อสารไม่ดี ไม่ครบถ้วนก็อาจทำให้เกิดความเสียหายในการทำงานเป็นทีมได้ ดังนั้น สมาชิก
ในทีม หรือผู้นำจำเป็นต้องวางแผนในการติดต่อสื่อสารให้ชัดเจน และเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันสมาชิกในทีมก็ควรให้ความสนใจ
และให้ความร่วมมือกับองค์กร ไม่เย่อหยิ่ง (Arrogance) ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานที่ลำบากขาดการ
สื่อสาร ควรมีส่วนร่วมให้มากขึ้น (High Engagement) เพราะการมีส่วนร่วมที่ดีคือกุญแจแห่ง
ความสำเรจ็ ในทมี

4) วัฒนธรรมองค์กร (Company Culture) สิ่งแวดล้อมในการทำงานมีผลต่อการทำงาน
เป็นทีมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการบริหาร การเป็นผู้นำที่ขาดการสนับสนุนหรือขากวิสัยทัศน์
อาจสง่ ผลใหก้ ารทำงานรว่ มกนั น้อยลง หรือการเลอื กปฏิบตั ิ (Discrimination) ของสมาชิกในทมี อาจ
ส่งผลต่อการทำงานที่ไม่ราบรื่น ดังนั้น การทำงานเป็นทีมไม่ควรเลือกปฏบิ ัตแิ ละให้ตระหนักอยู่เสมอ
ว่าทุกคนเท่าเทียมกันเสมอ ให้คุณค่ากับความคิดเห็นของทุกคน ให้การสนับสนุนคนในทีมหรือใน
องคก์ รอย่เู สมอ และเป็นผ้นู ำทด่ี ีในการบรหิ ารจัดการทมี หรือองคก์ ร

5) ขาดความโปร่งใส (Lack of Transparency) ซึ่งเป็นบรรทัดฐานที่ดีในการทำงานเป็น
ทีม หากสมาชิกในทีมหรือผู้นำไม่โปร่งใสจะส่งผลให้ การกำกับดูแลทีมได้ไม่ ดี (Poor Team
Governance) ซึ่งส่งผลให้การทำงานร่วมกัน การตัดสินใจ การสื่อสาร การแสดงความคิดเห็นในทีม

52

ไม่มีผลต่อเป้าหมายในการทำงาน และเกิดปัญหาตามมาหรืออาจทำให้การทำงานไม่บรรลุเป้าหมาย
ตามวัตถุประสงค์ของทีม ดังนั้น ความโปร่งในการบริหารทีมหรือการทำงานเป็นส่ิงที่สำคัญมาก ผู้นำ
ด้านต่างๆควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงาน รู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งในการทำงานและการ
ตัดสินใจ จัดการปญั หาอย่างโปร่งใส

6) ไม่แบ่งปันข้อมูล (Not Sharing Information) สมาชิกในทีมแต่ละคนมีความสามารถ
แตกต่างกัน หากไม่รู้จักแบ่งปันตวามรู้หรือทักษะที่มีเฉพาะตนก็อาจส่งผลให้การทำงานเป็นทีมไม่มี
ประสิทธิภาพหรือประสบความสำเร็จได้ยาก แต่หากสมาชิกในทีมแบ่งปันความรู้และทักษะที่มีความ
เชี่ยวชาญเฉพาะตนให้สมาชิกในทมี ได้มีส่วนร่วม กจ็ ะสง่ ผลให้การทำงานบรรลุเป้าหมายไดเ้ ปน็ อย่างดี

7) ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน (Not Going in the Same Direction) ทำให้การทำงานไร้
ทิศทาง ไร้เป้าหมาย ทำงานตามใจตนเอง ดังนั้น ทีมจำเป็นต้องรู้เป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะมุ่งไปใน
ทิศทางใด มีวิสัยทัศน์ รู้วัตถุประสงค์ จะเป็นตัวกำหนดในทุกคนในทีมไปในทิศทางเดียวกัน การปรับ
พฤตกิ รรมในทีมใหม้ ที ิศทางเดียวกนั เป็นส่ิงจำเป็นต่อการสรา้ งทมี ท่ยี อดเย่ียมได้

จากนานาทัศนะเกี่ยวกับอุปสรรคและวิธีการเอาชนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็น
ทมี (Teamwork Skills) ดงั กลา่ วข้างตน้ ทา่ นเหน็ ว่ามแี นวคดิ (Concepts) ที่สำคญั อะไรบ้าง ท่ที ำให้
เข้าใจในความสำคัญนั้นได้อย่างกระชับและชัดเจน โปรดระบุแนวคิดหรือองค์ประกอบนั้นในภาพที่
แสดงข้างลา่ ง

53

Flint, M. & Hearn, E. V. (2015 October 28). Ten common team challenges and how to
overcome them. Retrieved August 4, 2021 from
https://www.oreilly.com/library/view/leading-teams/9781292083117/

Williams, E. (2017, September 26). What are some obstacles to effective teamwork?
Retrieved August 5, 2021 from https://bizfluent.com/list-6869511-obstacles-
effective-teamwork-.html

Windsor, G. (2021, March 15). How to overcome 3 challenges to team collaboration.
Retrieved August 4, 2021 from https://www.brightwork.com/blog/how-to-
overcome-3-challenges-to-team-collaboration

54

(ปกของค่มู ือแต่ละชดุ )

ค่มู ือประกอบโครงการพฒั นาเพอ่ื การเรยี นรู้ของครู

55

วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรู้

หลงั จากการศกึ ษาคู่มือชุดนี้แลว้ ท่านมีพฒั นาการดา้ นพุทธิพสิ ยั (Cognitive Domain) ซึ่ง
เป็นจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตาม The Revised
Taxonomy (2001) ของ Benjamin S. Bloom โดยจาํ แนกพฤตกิ รรมในขอบเขตนี้ออกเป็น 6 ระดับ
เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก หรือจากทักษะการคิดขั้นต่ำกว่าไปหาทักษะการคิด
ขั้นสูงกว่า ดังนี้ คือ ความจำ (Remembering) ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้
(Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating)
ดังน้ี

1. บอกคณุ สมบัติ จบั คู่ เขยี นลำดบั อธบิ าย บรรยาย ขดี เสน้ ใต้ จำแนก หรือระบุ
ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรปุ ความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกตา่ ง หรือ
เรียบเรียงข้อเสนอแนะเพ่ือการพฒั นาทกั ษะการทำงานเปน็ ทีม

3. แกป้ ัญหา สาธิต ทำนาย เชอ่ื มโยง ความสมั พันธ์ เปลี่ยนแปลง คำนวณ หรือปรับปรุง
ข้อเสนอแนะเพื่อการพฒั นาทักษะการทำงานเป็นทีมได้

4. แยกแยะ จดั ประเภท จำแนกใหเ้ ห็นความแตกตา่ ง หรอื บอกเหตุผล ขอ้ เสนอแนะเพื่อ
การพฒั นาทักษะการทำงานเปน็ ทีมได้

5. วดั ผล เปรียบเทียบ ตีคา่ ลงความเหน็ วิจารณ์ ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการ
ทำงานเป็นทีมได้

6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สรา้ ง ประดษิ ฐ์ หรือวางหลักการข้อเสนอแนะเพ่ือการ
พฒั นาทกั ษะการทำงานเป็นทีมได้

คำชแ้ี จง
1. โปรดศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมท่ี
นำมากล่าวถึงแตล่ ะทัศนะ
2. หลังจากการศึกษาเนื้อหาโปรดทบทวนความเข้าใจจากคำถามท้ายเนื้อหาของแต่ละ
ทัศนะ
3. ศึกษารายละเอียดของความสำคญั ทเ่ี ป็นตน้ ฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” เวบ็ ไซต์ท่ี
นำเสนอไวท้ า้ ยเน้ือหาของแตล่ ะทัศนะ

56

Quigley (2013) นักเขียนที่มีประสบการณ์ในโรงเรียนมากว่า 15 ปีและเป็นผู้จัดการ
สนบั สนุนครูและเป็นผู้นำโรงเรียนในด้านเอกสารงานวิจยั ของ EEF ไดก้ ล่าวถึงกลยทุ ธ์การทำงานเป็น
ทีม 10 ขอ้ คอื

1. 'การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด และ 'การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิดสองคู่' (‘Think-pair-
share’ and ‘Think-pair-square’)

เพื่อให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นและรับขอ้ เสนอแนะทันทีจากเพื่อน ส่วนการ แบ่งปัน
ความคิดสองค'ู่ เพ่มิ สัมผัสของรสชาตทิ ่ีเพิ่มเขา้ มา ซ่ึงเก่ยี วขอ้ งกับการเชอื่ มโยงสองค่เู ข้าดว้ ยกัน

2. สโนว์บอลหรอื วธิ ีจก๊ิ ซอว์ (Snowballing and Jigsaw)
กจิ กรรม "สโนวบ์ อล" คล้ายกับแนวทาง "สองคู่" ทีก่ ลา่ วถงึ ใน "เพื่อนคคู่ ิดสองค"ู่ เป็นอีกวิธี
หนึ่งที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพมากในการต่อยอดแนวคิดโดยเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ และขยายกลุ่ม
อย่างมโี ครงสร้าง
3. การโตว้ าที (ใช้กฎเกณฑ์ท่ีชัดเจน) (Debating (Using Clear Rules)
เป็นกิจกรรมที่ต้องทำงานร่วมกนั เปน็ ทีม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสนอ หรือฝ่ายค้าน แม้กระทั่งผู้
สงั เกตการณ์ก็ยังตอ้ งฝกึ การทำงานเปน็ ทีม
4. ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ จ า ก โ ค ร ง ง า น / ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ จ า ก ป ั ญ ห า (Project Based
Learning/Problem Based Learning)
David Didau แนะนำอย่างจริงจังว่าครูหรือนักเรียนที่ร่วมมือกันค้นหาปัญหาเฉพาะท่ี
โดยเฉพาะ สิ่งนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่องาน เห็นได้ชัดว่าในวิชาคณิตศาสตร์ การเรียนรู้จากปัญหาที่
แท้จริงอาจเป็นวิธีกลางในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยวิธีการทำงานร่วมกัน แต่ในสาขา
วิทยาศาสตร์หรือปรัชญา ทางเลือกในการจัดการปัญหาทางจริยธรรมและวิทยาศาสตร์นั้นมีมากมาย
ไม่มีที่สิ้นสุด มีการวิพากษ์วิจารณแ์ นวทางน้ี - นักเรียนต้องดิ้นรนกบั 'ภาระทางปัญญา' โดยไม่มีพื้นที่
ความจำในการทำงานเพียงพออีกต่อไป ตามหลักการแล้ว วิธีการเรียนรู้นี้เป็นไปตามคำแนะนำ
โดยตรงคุณภาพสูงบางส่วน และตัวอย่างการทำงานนำโดยครู เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนมีรูปแบบที่มี
ประสทิ ธิภาพและพน้ื ทีค่ วามจำในการทำงานดังกลา่ วก่อนหน้าน้ีบางส่วน
5. การนำเสนอแบบกลุ่ม (Group Presentations)
ชื่อกลยุทธ์นี้คือ 'คำถาม คำถาม คำถาม' เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างและทำ
แบบจำลองวัฒนธรรมของการสอบถามโดยถามคำถามนักเรียนเกย่ี วกบั หวั ข้อท่ีกำหนด แทนท่ีจะบอก
คำตอบตามหลักการสอน จากนั้นช่วยกำหนดรูปแบบการค้นคว้า ครูนำด้วยการถาม 'คำถามใหญ่';
จากนั้นต่อโดยกลุ่ม (ได้รับวัสดุ เช่น หนังสือ นิตยสาร บทความ ไอแพด แล็ปท็อป หรือการเข้าถึง

57

ห้องสมุดหรือห้องไอซีที เป็นต้น) ที่ต้องซักถามคำถาม และสร้างชุดคำถามย่อยขึ้นมาเอง เกี่ยวกับ
คำถาม/หัวข้อใหญ่ จากนั้นพวกเขาจึงหาแหล่งท่ีมาและค้นคว้าข้อมูลสำคญั ก่อนที่จะยอมรับคำตอบ
สำหรับคำถามที่พวกเขาตั้งขึ้นเองในที่สุด สิ่งสำคัญในการนำเสนอคือให้เวลานักเรียนมากพอที่จะ
นำเสนอให้คุ้มค่า ตลอดจนการจัดสรรบทบาทที่ชัดเจน การนำเสนอคุณภาพสูงต้องใช้เวลาในการ
วางแผน ค้นคว้า และดำเนนิ การ

6. ประดษิ ฐก์ ารแสดงผลงาน (Devise the Display)
ผลงานอาจไม่มีคุณค่าในอนาคต อาจจะเปน็ แค่ขยะชิน้ หนง่ึ แต่พบวา่ การเรียนรู้ท่ีมีค่าที่สุด
จรงิ ๆ แลว้ คอื ระหว่างข้ันตอนแนวคิดการออกแบบ ซึง่ สามารถแสดงแนวคิดการออกแบบกับนักเรียน
เริ่มต้นทีละคนก่อนที่จะให้กลุ่มตัดสินใจร่วมกันในการออกแบบ และยังได้เรียนรู้ทักษะอันมีค่า
มากมายทีเ่ กีย่ วข้องกับการทำงานเป็นทีม ความเห็นอกเห็น
7. บทวจิ ารณ์ในแกลลอรี่ (Gallery Critique)
ในระหว่างกระบวนการร่าง/หลัก หรือเป็นงานสรปุ กลยทุ ธน์ ี้มีโปรโตคอลเฉพาะท่ีนักเรียน
ควรปฏิบัติตาม ผลงานของทั้งกลุ่มควรแสดงในรูปแบบแกลเลอรี่ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งคาดหวังให้
นักเรยี นทำการพจิ ารณาแบบเงียบ ๆ กอ่ น (การจดบันทึกเพ่ือไตร่ตรองก็มีประโยชน์เช่นกัน) นักเรียน
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงาน– โน้ตโพสต์อิทเหมาะสำหรับขั้นตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปคือการอภิปราย
กลุ่มเกี่ยวกับ 'สิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็น' โดยเฉพาะอย่างยิง่ มีการสนับสนุนการโต้วาทีและการอภิปราย
- แนน่ อนว่าความคิดเห็นควรเปน็ ไปในทางทด่ี ีและสร้างสรรค์ ขนั้ ตอนตอ่ ไปสำหรบั การอภปิ รายคือพูด
ถึง 'สิ่งที่พวกเขาชอบ' เป็นการประเมินงาน ขั้นตอนสุดท้ายให้ครูสังเคราะห์ความคิดเห็นและแสดง
ความคิดเห็น ก่อนทำให้แน่ใจว่านักเรียนจดบนั ทึกและไตร่ตรองข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์สำหรับการ
ปรับปรุง
8. เสวนาแบบโสคราติช (Socratic Talk)
สิ่งสำคัญคือเช่นเดียวกับกฎการโต้วาทีข้างต้น มีโครงสร้างที่ชัดเจนและถูกกำหนดไว้แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ 'วงกลมโสคราติช (Socratic Circles) ' ที่ฝังการเสนอแนะและการอภิปรายไว้
อย่างราบรื่น ต้องใช้ทักษะบางอย่างในการสอนนักเรียนให้พูดในลักษณะนี้ แต่เมื่อสอนแล้วมัน
สามารถกลายเป็นเครื่องมือสำคัญได้ จากประสบการณ์ของผม ข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดอ่อนที่สุด
บางส่วนได้เกิดขึ้นจากกลยุทธน์ ี้ และทกั ษะการฟังท่ีได้รับการส่งเสรมิ เป็นส่งิ สำคัญยิ่งและมีผลกระทบ
เชิงบวกอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังทำให้สามารถคาดหวังให้นักเรียนทุกคนมีบทบาทและ
ข้อเสนอแนะท่ีมีคณุ ภาพได้
9. กล่มุ สามกล่มุ พูดคยุ (Talking Triads)
อีกหนง่ึ กลยทุ ธ์ง่าย ๆ แตม่ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู เป็นกลยุทธ์ทที่ ำให้ผคู้ นสำรวจหัวข้อท่ีเลอื ก แต่
ด้วยการวิเคราะห์แนวคิดและมุมมองที่เข้มงวด กลุ่มสามกลุ่มประกอบด้วยผู้พูด ผู้ถาม และผู้บันทึก/
นักวิเคราะห์ คุณสามารถเตรียมคำถาม หรือให้ผู้ถามและนักวิเคราะห์เตรียมคำถามในขณะที่ผู้พูด
เตรียมหรือไตร่ตรองคำตอบที่เป็นไปได้ ซึ่งสามารถทำได้ในด้านหน้าของชั้นเรียนเป็นแกลเลอรี หรือ
คุณสามารถให้ทั้ง 3 กลุ่ม ทำงานพร้อมกันได้ หากพวกเขาทำงานพร้อมกัน การเพิ่มส่วนเพิ่มเติมที่ดี
คือการท่ีคณุ ยกมอื ถดั จากกลุ่มใดกลุ่มหน่งึ ในสามกลมุ่ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้กลุ่มอื่น ๆ หยุดและฟัง
ในขณะท่ีกลมุ่ กล่มุ นัน้ ดำเนินตอ่ ไป ทำใหเ้ กดิ โอกาสในการฟงั ทีม่ คี ณุ ภาพ

58

10. การสรา้ งแบบจำลองผ้เู ชีย่ วชาญ (Mastery Modelling)
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับรูปแบบของการประเมินรายทางจากนักเรียน โดยที่ครูให้ชุดแบบจำลอง
ทั้งแบบจำลองที่เป็นแบบอย่างและแบบจำลองที่สมบูรณ์น้อยกว่า รวมถึงแบบจำลองบางส่วนที่มี
ข้อผิดพลาดทั่วไปที่นักเรียนน่าจะระบุได้ นักเรียนต้องทำการประเมินที่สำคัญของแบบจำลองเหล่าน้ี
เป็นกลุ่มและระบุการประเมินสรุปของแบบจำลองก่อน จากนั้นจึงคิดค้นและนำเสนอ 'แบบจำลอง
ความเช่ียวชาญ' ทเ่ี ปน็ แบบจำลองเชิงประกอบของงาน กลยุทธน์ ใ้ี ชไ้ ด้กับแทบทกุ วชิ า โดยหวั เรอื่ งอาจ
เป็นบทความ งานศิลปะ หรือปัญหาทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอนี้ควรมีการเน้นอย่างชัดเจนที่
ขั้นตอนที่นำไปสู่การสร้าง 'แบบจำลองการเรียนรู้' ในระหว่างการตอบรับ ซึ่งจะเป็นการเปิดเผย
กระบวนการทจ่ี ำเป็นสำหรับการเรียนรู้สำหรับท้งั ช้ันเรียน

โปรดทบทวน - ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Quigley มสี าระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………….......................
…………………………………………………………………………………………….......................

หมายเหตุ ศกึ ษาจากตน้ ฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดูได้จากเว็บไซต์ข้างลา่ งนี้

https://www.theconfidentteacher.com/2013/01/top-ten-group-work-strategies/

Weimer (2014) เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณด้านการสอนและการเรียนรู้ที่ Penn State
Berks และได้รับรางวัล Milton S. Eisenhower จาก Penn State สำหรับการสอนที่โดดเด่นในปี
2548 Weimer ได้ปรึกษากับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่า 600 เกี่ยวกับประเด็นการสอนและ
กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมระดับชาติและการประชุมระดับภูมิภาคเป็นประจำ. ได้กล่าวถึง
ข้อเสนอแนะในการทำงานเป็นกลุ่มไว้ 10 ขอ้ ดงั น้ี

1. เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีม (Emphasize the Importance of
Teamwork)

ก่อนที่กลุ่มจะถูกสรา้ งข้ึนและมีการมอบหมายงาน ครคู วรช้แี จงใหช้ ัดเจนว่าเหตุใดการบ้าน
นี้จึงทำเป็นกลุ่ม นักเรียนยังคงรายงานข้อมูลแบบสำรวจที่ครูใช้กลุ่มเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ต้องสอน

59

หรือมีงานเยอะเกนิ ไปที่ต้องใหค้ ะแนน ส่วนมากเราใชก้ ารทำงานเปน็ กล่มุ เพราะนายจ้างในหลายสาขา
ต้องการพนักงานที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นที่พวกเขาไม่รู้จัก อาจไม่ชอบ มีมุมมองที่แตกต่างกัน
และมีทกั ษะและความสามารถทแี่ ตกตา่ งกัน

2. สอนทักษะการทำงานเปน็ ทีม (Teach Teamwork Skills) นักเรียนส่วนใหญไ่ มไ่ ดม้ า
ทำงานเป็นกลุ่มเพราะรู้ว่าจะทำงานเป็นกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการแจก
เอกสาร แหล่งข้อมูลออนไลน์ หรือการอภิปรายในชั้นเรียน ครูจำเป็นต้องพูดคุยเกี่ยวกับความ
รับผิดชอบท่ีสมาชิกมีต่อกลุ่ม (เช่นว่าบางครั้งเป้าหมายและลำดับความสำคัญของแต่ละคนต้องถูกละ
ทิ้งเพื่อตามเป้าหมายของกลุ่ม) และเกี่ยวกับสิทธิ์สมาชิกทีจ่ ะคาดหวังจากกลุม่ ของพวกเขา นักเรียน
ต้องการกลยุทธ์ในการจัดการกับสมาชกิ ทีไ่ ม่ได้มีส่วนร่วมอย่างยตุ ธิ รรม ต้องการแนวคิดเก่ียวกับการ
แก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสรา้ งสรรค์ และต้องการคำแนะนำเกย่ี วกบั การบรหิ ารเวลา

3. ใช้การฝึกสร้างทีมเพื่อสร้างกลุ่มที่เหนียวแน่น (Use Team-building Exercises
to Build Cohesive Group) สมาชิกต้องการโอกาสในการทำความรู้จักกัน และพวกเขาควรได้รับ
การสนับสนนุ ใหพ้ ดู คยุ เกีย่ วกับวธิ ที ่ีพวกเขาตอ้ งการทำงานรว่ มกนั

4. พิ จ า ร ณ า ก า ร จ ั ด ก ล ุ ่ ม อ ย ่ า ง ร อ บ ค อ บ ( Thoughtfully Consider Group
Formation) นักเรียนส่วนใหญ่ชอบที่จะจัดต้ังกลุ่มของตนเอง และในการศึกษาบางกลุ่มกลุ่มเหลา่ นี้
จะมีประสิทธิภาพมากกว่า ในการวิจัยอื่นๆ นักเรียนในกลุ่มเหล่านี้ “สนุก” กับประสบการณ์การ
ทำงานร่วมกัน แต่ก็ไม่ได้ทำใหเ้ กดิ ผลงานอะไรมากมาย ในบริบทของทางอาชีพสว่ นใหญ่ ผู้คนไม่ได้มี
โอกาสเลือกคนที่จะร่วมทำโครงการกบั พวกเขา หากเป้าหมายคือให้นักเรยี นเรียนรู้วธิ ที ำงานร่วมกับ
ผู้อื่นที่พวกเขาไม่รู้จัก ครูควรจัดตั้งกลุ่ม มีหลายวิธีที่สามารถตั้งกลุ่มได้และมีเกณฑ์หลายอย่างท่ี
สามารถใช้ในการประกอบกลุ่มได้ ควรจัดตั้งกลุ่มในลักษณะที่ส่งเสริมเป้าหมายการเรียนรู้ของ
กิจกรรมกลมุ่

5. ทำให้ภาระงานมีความสมเหตุสมผลและเป้าหมายชัดเจน (Make the Workload
Reasonable and the Goals Clear) ใช่ งานอาจมีขนาดใหญ่กว่าที่บุคคลคนเดียวสามารถทำได้
แต่นักเรียนที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานกลุ่มมากอาจมีปัญหากับงานใหญ่และซับซ้อน เป้าหมาย
และวัตถุประสงค์ของครูควรมีความชัดเจน นักเรียนไม่ควรใช้เวลามากในการพยายามคิดว่าควรทำ
อะไร

6. พจิ ารณาบทบาทสำหรับสมาชิกกลุ่ม (Consider Roles for Group Members)
งานวิจัยบางเล่มไม่แนะนำให้กำหนดบทบาท แต่บางเล่มก็มีการแนะนำให้ทำ บทบาท
สามารถเกิดขึ้นได้เองเมื่อสมาชิกเห็นว่ามีความต้องการหน้าที่ใดในกลุ่มและพวกเขาจะก้าวขึ้นมารับ
เพอื่ เติมเตม็ บทบาทเหลา่ นัน้ อย่างไรกต็ าม สิง่ นไ้ี ม่ได้เกิดขน้ึ เสมอไปเมื่อนกั เรียนยังใหม่ตอ่ การทำงาน
กลุม่ ครสู ามารถตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั บทบาทที่จำเปน็ และแนะนำพวกเขาให้เขา้ กลุ่มโดยให้กลุ่มตัดสินใจ
ว่าใครทำอะไร ครูสามารถมอบหมายบทบาทได้ แต่ควรตระหนักว่าการมอบหมายบทบาทไม่ได้
รับประกนั ว่านักเรียนจะรับบทบาทเหล่าน้ัน บทบาทท่ไี ด้รบั มอบหมายสามารถคงเดิมหรือหมุนเวียน
ได้

60

7. จัดสรรเวลาเรียนสำหรับการประชุม (Provide Some Class Time for Meetings)
เปน็ เรือ่ งยากมากสำหรับนกั เรียนในการจัดตารางเวลา สว่ นหนงึ่ ของสง่ิ ทพี่ วกเขาต้องได้รับ
การสอนเกี่ยวกับงานกลุ่มคือความสำคัญของการมาประชุมพร้อมวาระ ความคาดหวังบางอย่าง
เก่ียวกบั สงิ่ ท่ตี อ้ งทำใหเ้ สรจ็ ตอ้ งรดู้ ้วยว่างานจำนวนมากสามารถทำได้ในระยะเวลาอันส้นั โดยที่กลุ่ม
รู้ว่าตอ้ งทำอะไรต่อไป การทำงานออนไลน์ก็เปน็ ทางเลือกหน่ึงเช่นกัน แตก่ ารทีส่ ามารถประชุมกันใน
ชน้ั เรยี นได้ในเวลาส้นั ๆ ทำใหก้ ล่มุ มีโอกาสพบปะและจดั ระเบียบสำหรบั งานในขน้ั ตอนต่อไป
8. ขอรายงานชั่วคราวและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกระบวนการของกลุ่ม (Request
Interim Reports and Group Process Feedback) งานแรกของกลุ่มควรเป็นการสร้างไทม์ไลน์
สงิ่ ที่พวกเขาคาดหวงั ว่าจะทำไดเ้ มือ่ ไร ไทมไ์ ลนน์ นั้ จะเป็นแนวทางในการขอรายงานความคืบหน้าของ
ผสู้ อน และรายงานควรมีหลักฐานสนับสนนุ นกั เรียนควรรายงานเปน็ รายบุคคลวา่ กลุม่ ทำงานร่วมกัน
ได้ดีเพียงใด รวมถึงการมีส่วนร่วมในกลุ่มด้วย ถามนักเรียนว่าพวกเขาจะช่วยอะไรได้อีกบ้างที่จะทำ
ให้กลมุ่ ทำงานมีประสทิ ธภิ าพมากขึน้
9. กำหนดให้สมาชิกแต่ละคนติดตามผลงานของพวกเขา (Require Individual
Members to Keep Track of their Contributions) การส่งโครงการในขั้นสุดท้ายควรมีการ
แนบรายงานจากสมาชิกทุกคนทีร่ ะบุถึงการมีส่วนร่วมในโครงการ หากสมาชิกสองคนรายงานว่ามีส่วน
ในสงิ่ เดยี วกัน ครจู ะยดึ นักเรียนท่ีมีหลักฐานสนบั สนุนสง่ิ ทนี่ กั เรียนอ้างว่าได้ทำ
10. รวมการประเมินโดยเพื่อนในกระบวนการประเมินผล ( Include Peer
Assessment in the Evaluation Process) ชิ้นงานที่นักเรียนได้ทำสำเร็จ สามารถตรวจสอบได้
ด้วยการประเมนิ โดยเพื่อนที่สมาชิกให้คะแนนหรือจัดอันดับ (หรือท้ังสองอย่าง) ผลงานของผู้อ่ืน การ
ประเมินโดยเพื่อนร่วมงานในเชิงรูปแบบตั้งแต่ช่วงต้นของกระบวนการสามารถช่วยสมาชิกแก้ไขสิ่งที่
กลุ่มอาจระบวุ ่าเป็นปญั หาท่ีพวกเขาประสบไดใ้ นข้นั ตอนน้ี

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Weimer มีสาระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลกิ ” ดไู ดจ้ ากเว็บไซต์ข้างล่างน้ี

https://www.facultyfocus.com/articles /articles/effective-teaching-strategies/10-
recommendations-improving-group-work/

61

Ciston (2015) ผู้อำนวยการ ผ้นู ำ สมาชิกอาวโุ ส ของ Foundry's User Program สำเร็จ
การศึกษาระดับปริญญาเอกจากแผนกวิศวกรรมเคมีและชีวภาพที่มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น และ
วทิ ยาศาสตรบณั ฑติ จากแผนกวิศวกรรมเคมที ีส่ ถาบันเทคโนโลยีอลิ ลนิ อยส์

ได้ให้ทัศนะข้อเสนอแนะใหน้ กั เรียนมีส่วนรว่ มและเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำงานเป็น
ทีมโดยใหโ้ อกาสในการพัฒนาคณุ ลกั ษณะของทีมที่มีประสทิ ธภิ าพ โดยใช้แนวทาง 5 ขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้

1. สร้างความสำเร็จด้วยการสร้างทีมที่ชาญฉลาด (Enabling Success through
Smart Team Formation)

ใช้โปรแกรม CATME Team Maker ออนไลน์ฟรี (http://info.catme.org/(ลิงก์
ภายนอก)) เพื่อสร้างทีมนักเรียน 4 คน ป้อนข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการ ระดับความมุ่งมัน่ สไตล์ความ
เป็นผู้นำ และอื่นๆ ฉันตั้งค่ากำหนดสำหรับการจัดกลุ่ม (กำหนดการที่คล้ายกัน ระดับความมุ่งมั่นท่ี
คล้ายกัน สไตล์ความเป็นผู้นำเสริม ฯลฯ) และโปรแกรมจะสุ่มสร้างและจัดอันดับทีมทั้งหมด 20 ชุด
จากนั้นจึงเลือกชุดที่เหมาะกับเกณฑ์ สำหรับฉันมันได้ผลอย่างน่าพิศวง ช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์เชิง
สง่ เสริม โดยช่วยให้ทีมนักเรยี นมเี วลาทำงานแบบเหน็ หนา้ กนั ในโครงการของพวกเขา

2. การกำหนดโครงการทีท่ ้าทายและหลากหลายมิติ (Assigning a Challenging and
Multidimensional Project)

โครงการหลักของทีมสำหรับ CBE 185 เป็นข้อเสนอ 10 หน้าสำหรับ P3 ของสำนักงาน
คุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (The US Environmental Protection Agency's P3) การ
แข่งขันการวิจัยและการออกแบบอย่างยั่งยืนของนักเรียน (http://www.epa.gov/p3/(ลิงก์
ภายนอก)). นักเรียนยังต้องนำเสนอด้วยวาจาเกี่ยวกับข้อเสนอเป็นเวลา 12 นาที และบางคร้ัง
จำเป็นต้องสร้างรายการสำหรับผู้ชมทั่วไป เช่น อินโฟกราฟิกหรือบล็อกโพสต์ในหัวข้อ ทีมนักศึกษา
จะมาช่วยกันในหัวข้อข้อเสนอและพัฒนาผ่านร่างและผลงานหลายฉบับตลอดภาคการศึกษา งานนี้
ต้องการนักศึกษาวิศวกรรม ซึ่งยังคงพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และการโต้แย้งท่ี
โน้มน้าวใจ โครงการเชน่ นีส้ ง่ เสริมการพ่งึ พาอาศัยกันในเชงิ บวกและความรบั ผิดชอบของแต่ละบุคคล
และกลุ่ม เนื่องจากนักเรียนเป็นเจ้าของความคิดและพัฒนาในงานหรือบทบาทเสริม เช่น ผู้อำนวย
ความสะดวก ผู้ระดมความคิด ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้รับชม และผู้เชี่ยวชาญด้าน
การออกแบบ

3. การฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม (Coaching Teamwork Skills)
คุณลักษณะสำคัญของทีมที่มีประสิทธิภาพ แง่มุมของทักษะที่ศาสตราจารย์ Smith จัด
กลมุ่ ทักษะการทำงานเป็นทีมมีอิทธิพลต่อทีม คอื การส่ือสาร ความเปน็ ผนู้ ำ และบางครั้งการจัดการ

62

ความขัดแย้งและการตัดสินใจก็อยู่ในอันดับต้น ๆ เพื่อเพิ่มทักษะการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ฉัน
ได้ขยายโอกาสมากมายสำหรับการสร้างทักษะการทำงานเป็นทีมตลอดภาคการศึกษาโดยใช้การ
บรรยายแบบย่อและแบบฝึกหัดในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงผลตอบรับเชิงสร้างสรรค์ (การผสานและการ
เปรียบเทียบลักษณะของข้อเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์และแบบบ่อนทำลาย ตามด้วยการพิจารณา
ทบทวนงานเขียนแบบร่างโดยเพื่อน) และการฟังอย่างกระตือรือร้น (แบบทดสอบและการอภิปราย
เกย่ี วกับนสิ ยั การฟงั เชิงรุก 5 ประการทีแ่ ต่ละคนต้องการปรบั ปรงุ ตามดว้ ยการรายงานและการแสดง
เจตจำนงตอ่ กล่มุ ของตน

4. ให้เวลาสำหรับการประมวลผลแบบกลุ่ม ( Building in time for group
processing)

ผ่านไปครึ่งทางของโครงงาน มีการหยุดพักจากการบรรยายเพื่อให้ทีมทำการประมวลผล
แบบกลุม่ นกั เรียนจดั อนั ดับทีมของตนให้เป็นหนงึ่ ใน 4 ประเภททมี ของ Smith:

- ทมี จอมปลอมทำงานได้ต่ำกวา่ ระดับเฉลยี่ ของสมาชกิ
- ทีมท่มี ีศกั ยภาพพยายามให้เหนอื ระดบั สมาชกิ ทว่ั ไปเล็กนอ้ ย
- ทีมจริงมีทักษะเสริม มุ่งมั่นเพื่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย วิธีการร่วมกัน มีความ

รับผดิ ชอบซง่ึ กนั และกัน
- ทีมงานที่มีประสิทธิภาพสูงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตและประสบความสำเร็จส่วน

บคุ คลของกนั และกัน
(นักเรียนมักจะหัวเราะเมื่อรู้ว่าพวกเขาอาจไม่ใช่ทีมที่มีประสิทธิภาพสูง) กลุ่มต่างๆ จะ
ไตร่ตรองจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา และวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงหรือการดำเนินการ
แกไ้ ขเพือ่ ใหโ้ ครงการเดนิ หน้าตอ่ ไป
เป็นเรื่องที่น่าพอใจอย่างยิ่งที่ได้ชมนักเรียนฝึกฝนทักษะการทำงานเป็นทีมในช่วงปิดเทอม
ใน CBE 185 ฉันหวังว่าพวกเขาจะถ่ายทอดและสร้างทักษะเหล่านี้ในหลักสูตรระดับบนและในที่
ทำงาน
คุณใช้เทคนิคอะไรในด้านวิศวกรรม STEM หรือห้องเรียนประเภทอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการ
เรยี นรขู้ องนักเรยี นในดา้ นกระบวนการทำงานเปน็ ทีม

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพ่ือการพฒั นาทกั ษะการทำงานเปน็ ทีมจากทศั นะ
ของ Ciston มสี าระสำคัญอะไร
…………………………………………………………………………………………….......................
........................................................................................................... ....................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดูได้จากเวบ็ ไซต์ข้างล่างนี้

https://www.brightwork.com/blog/how-to-overcome-3-challenges-to-team-collaboration

63

Hinn (2017) เป็นทั้งโค้ช ครู และนักเขียนตามบล็อกต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ได้
กล่าวถึง 3 วธิ ีท่ีสำคญั ในการสอนเด็กดว้ ยการทำงานเป็นทีม ดงั นี้

1. สอนบทเรียนผ่านการเลน่ เกมทแี่ สนสนุก (Teach the Lesson inside a Fun Play
Game)

ตวั อย่างเชน่ เมอื่ เลน่ ตามผู้นำ เดก็ ๆ จะตอ้ งจบั ตาดูว่าใครจะได้เป็นผนู้ ำ วิธีแก้ไขข้อพิพาท
และกฎอย่างเป็นทางการของเกมคืออะไรเมื่อถึงคราวของเด็กแตล่ ะคนต้องรับบทบาทน้ัน ในระหว่าง
การตัดสินใจเฉพาะเกมเหล่านี้ เด็ก ๆ จะถูกท้าทายให้เรียนรู้ทักษะชีวิตในทีมโดยทั่วไป เช่น การ
ควบคุมทางอารมณต์ นเอง การเจรจาตอ่ รอง การแกป้ ัญหา การประนีประนอม และความอดทน

2. ให้เด็กมีส่วนร่วมในทีมกีฬากับโค้ชที่ดี (Engage the Child in a Team Sport
with a Good Coach)

อีกวิธีในการสอนบทเรียนการทำงานเป็นทีมในกิจกรรมที่น่าสนใจและสนุกสนานคือผ่าน
กีฬาแบบทีม จากข้อมูลของ Psych Central กีฬาประเภททีมให้บทเรียนทักษะการเข้าสังคมที่น่าท่ึง
มากมาย รวมถึงการเรียนรู้ที่จะแข่งขันกับสิ่งที่ดีที่สุดของตนเองกับเพื่อนร่วมทีมหรือคู่แข่ง แต่สิ่ง
สำคญั คือตอ้ งมีโคช้ ท่ดี ี ผนู้ ำท่ีเข้าใจความสมดุลทลี่ ะเอยี ดอ่อนระหว่างการสร้างและทำลายความม่ันใจ
ของเด็ก และความสามารถในการสรา้ งความผูกพันทางสังคมกบั เพ่ือนในทมี

โค้ชที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับความหลงใหลและความมั่นใจส่วนตัว เน้นย้ำถึงความ
สามัคคขี องทีมเหนอื “ความเป็นดาวเด่น” ของแต่ละคน และสร้างการมุ่งเน้นท่ีความกา้ วหนา้ มากกว่า
ความสมบูรณ์แบบจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนต่อผู้เล่นแต่ละคนที่จะคงอยู่ตลอดชีวิต
ของเด็กแตล่ ะคน

3. แนะนำกิจกรรมสนุก ๆ แบบทีมอื่น ๆ (Introduce other Fun Team-based
Activities)

ไม่ใชว่ ่าเดก็ ทุกคนจะสนุกหรือเก่งในกีฬาประเภททีม ตัวอย่างเช่น ถา้ เดก็ เกบ็ ตัวและรักการ
อา่ นหนังสอื คุณจะสอนพวกเขาเกย่ี วกบั การทำงานเปน็ ทมี ได้อยา่ งไร?

ข่าวดีก็คือมีหลายวิธีในการสื่อความหมาย ไม่จำเป็นต้องเล่นกีฬาเป็นทีม! กิจกรรมที่ทำ
เป็นทมี ใด ๆ ก็สามารถสร้างความม่ันใจและทักษะทางสังคมใหก้ ับเดก็ ได้เปน็ อยา่ งดี ไม่วา่ พวกเขาจะมี
ความแนวโนม้ ทางกฬี าหรือไมก่ ็ตาม

สุดท้าย กิจกรรมที่ไม่ใช่กีฬาที่ยอดเยี่ยมอีกกิจกรรมหนึ่งที่สามารถถ่ายทอดบทเรียนการ
ทำงานเป็นทีมได้คือการชมภาพยนตร์หรืออ่านหนังสือเกี่ยวกับสถานการณ์แบบทีม ภาพยนตร์หรือ
หนงั สือเก่ียวกับทีมกีฬาหรือคณะนักร้องประสานเสยี งเปน็ ทางเลือกที่ดี เน่ืองจากมักแสดงสถานการณ์

64

ทั่วไปในทีม เช่น ความขัดแย้งและการแก้ปัญหา การเจรจาต่อรองและการประนีประนอม การ
สนับสนุนผู้อ่อนแอกว่า ตลอดจนความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งในทีม การสลับบทบาทผู้นำ และบทเรียน
อนั มคี า่ อ่ืนๆ

หากคุณเป็นพ่อแม่ คุณสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสในการสนทนาในครอบครัวท่ี
น่าสนใจได้ เช่น ค่ำคืนของการดูหนังหรือกลุ่มอ่านหนังสือทุกสัปดาห์ ที่สมาชิกครอบครัวแต่ละคนจะ
แบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้และวิธีที่พวกเขาวางแผนจะประยุกต์ใช้บทเรียนเหล่านั้นในชีวิตของพวก
เขาเอง

ขอ้ คดิ ส่งท้าย (Final thoughts)
สามตัวเลือกนี้มีไว้เพือ่ สอนเดก็ ๆ ถึงความสำคัญและคุณค่าของการทำงานเป็นทีมแสดงให้
เห็นว่าไมใ่ ชก่ ิจกรรมเฉพาะท่ีมีความสำคัญมากเท่ากับการให้คำปรึกษาและการสร้างแบบจำลองท่ีคุณ
และผู้ใหญ่ที่มุ่งม่นั คนอนื่ ๆ สามารถมอบใหก้ ับเดก็ ๆ ได้
เมื่อคุณสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้แบบเป็นทีมในแต่ละวัน เด็กๆ จะซึมซับบทเรียน
มากมายเก่ียวกบั วิธีการปฏิบัติตนในสถานการณ์แบบทีม สว่ นใหญ่โดยท่ีไมร่ ดู้ ว้ ยซำ้ ว่ากำลังเรียนรอู้ ยู่
ในชีวิตช่วงหลัง เด็กๆ จะมองย้อนกลับไปถึงประสบการณก์ ่อนหนา้ น้ี และอาจตระหนักได้
ว่าการอบคุกกี้ในวันหยุด การดูหนังกับครอบครัว ลีกฟุตบอลสมัยมัธยมต้น หรือเกมเก้าอี้ดนตรีใน
ชว่ งแรกนั้นมคี วามสำคญั ต่อความมนั่ ใจทางสงั คมและทักษะความเป็นผนู้ ำของพวกเขาเพยี งใด

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Hinn มสี าระสำคัญอะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศกึ ษาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” ดูได้จากเวบ็ ไซตข์ ้างล่างน้ี

https://www.crisisprevention.com/Blog/ways-to-teach-kids-the-importance-of-teamwork

65

Smith (2019) หัวหน้าฝ่ายการเสริมสร้างศักยภาพของสถาบันสุขภาพ และเป็นที่ปรึกษา
อาวุธโสด้านโควิด-19 ได้กล่าวว่า ทีมงานสามารถให้ความแข็งแกร่งร่วมกันและคงอำนาจให้กับธุรกจิ
หรือองค์กรของคุณ ไม่ว่าคุณจะจัดการพนักงานหรืออาสาสมัคร ทีมที่แข็งแกร่งสามารถช่วยให้กลุ่ม
ของคณุ มีประสิทธผิ ลมากขน้ึ และสรา้ งสภาพแวดล้อมทีเ่ ป็นมิตรและเปดิ กวา้ งมากขึน้ ด้วยการปลูกฝงั
นิสัยการทำงานเป็นทีมในเชิงบวก คุณสามารถสร้างกลุ่มที่ทรงพลังที่สามารถจัดการกับปัญหาที่ยาก
ท่ีสุดได้

1. สง่ เสรมิ การสอ่ื สาร (Encouragement of Communication)
ลักษณะที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของทีมที่ดีคือการสื่อสารแบบเปิดเผย สมาชิกในทีมแต่ละ
คนต้องสามารถสื่อสารกับคนอื่นๆ ในกลุ่มเพื่อรับทราบข้อมูลอัปเดต คำถาม แนวคิด และความ
คิดเหน็ ทว่ั ไปของโครงการ ทีมงานท่ีส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิด ทำใหท้ กุ คนสามารถแบ่งปันความคิด
และความคดิ เห็นโดยไม่ตอ้ งกลัว
2. เคารพต่อสมาชิกในทมี (Respect for Team Members)
เพื่อให้ทีมเป็นสถานที่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับสมาชิกทุกคน แต่ละคนต้อง
เคารพผู้อื่น สมาชิกควรเคารพสมาชิกคนอื่นในทุกแง่มุม แม้ว่าพวกเขาอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ :
ความคิด ความสามารถในการสื่อสาร ภูมิหลัง ศาสนา รูปแบบการทำงาน และประเพณีวัฒนธรรม
เน่อื งจากทีมที่ยอดเย่ียมต้องการการสื่อสารแบบเปิดเผย ความเคารพสามารถสรา้ งความไว้วางใจที่จะ
ยอมใหส้ มาชกิ มีความเสย่ี ง
3. ทำงานรว่ มกันระหวา่ งสมาชกิ ในทีม (Collaboration among Team Members)
การทำงานเป็นทีมจำเปน็ ต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธภิ าพ แตล่ ะคนต้องค้นหา
ว่าทักษะและพรสวรรค์ของเธอเหมาะสมกับทักษะของสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ อย่างไร เพื่อให้ทีม
ทำงานได้ ทุกคนต้องเข้าใจว่าบทบาทของพวกเขาคืออะไรและจะใช้บทบาทนั้นอย่างไรเพื่อให้ทีม
ประสบความสำเร็จ บทบาทอาจง่ายพอ ๆ กับการสนับสนุนและขวัญกำลังใจ ทั้งนี้ขึ้นอยูก่ ับทีม ทีมที่
ทำงานได้ดีจะใช้ชดุ ทักษะเสรมิ ของแต่ละคน สมาชกิ แตล่ ะคนในทีมควรเข้าใจว่าการมีสว่ นร่วมของทุก
คนในโครงการมีผลเทา่ เทยี มกนั
4. แก้ปัญหาและการจัดการความขัดแย้ง (Problem Solving and Conflict
Management)
ทีมที่มีประสิทธิภาพต้องพัฒนากลยุทธ์ในการแก้ปัญหาและการจัดการความขัดแย้งของ
ตนเอง กลยุทธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละทีมตามสถานการณ์และสมาชิกแต่ละคน แต่ละทีมต้องหา

66

วิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด เมื่อสมาชิกในทีมของคุณสามารถฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันได้ ทีมก็จะ
สามารถทำงานได้อยา่ งราบรื่นแม้ในชว่ งเวลาที่ยากลำบาก

5. ภารกจิ และเปา้ หมายรว่ มกัน (Shared Missions and Common Goals)
ภารกิจรว่ มกันสามารถช่วยให้กลุ่มคนทำงานรว่ มกนั และสรา้ งความกระตือรือร้นได้ เม่ือทุก
คนใช้ความสามารถของตนเองเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน ผลที่ได้ย่อมยิ่งใหญ่กว่าความพยายามของ
บุคคลเพียงคนเดียว ในทีมที่เข้มแข็ง ผลประโยชน์ของเป้าหมายร่วมกันมาก่อนความชอบและความ
สนใจของสมาชิกแต่ละคน เป้าหมายยังช่วยให้การดำเนินงานราบรื่น ทีมสามารถแก้ไขปัญหาและ
ความขดั แย้งโดยกำหนดสง่ิ ท่ีดีที่สุดสำหรับทีมและเปา้ หมายสุดท้าย

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Smith มสี าระสำคัญอะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดูได้จากเว็บไซต์ข้างลา่ งน้ี

https://smallbusiness.chron.com/characteristics-good-teamwork-habits-20848.html

Dunne (2019) ผู้บริหารการตลาดของ Timeday กล่าวว่า ความเป็นผู้นำร่วมกันคือ
ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นระหว่างพนักงานและผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชามีคุณค่า
เท่ากันและทำงานร่วมกันอย่างใกลช้ ิด กล่าวถึง 8 เคล็ดลับในการสร้างความร่วมมือในทีมของคุณ (8
Tips for Building Collaboration in Your Teams) ดังนี้

1. ตระหนักว่าระบบไซโล (ทำงานตัวใครตัวมัน) สามารถทำลายธรุ กิจของคณุ ได้
(Realise that Silos Can Kill your Business.)

2. สร้างกลยุทธ์การทำงานร่วมกันเกี่ยวกับองค์ประกอบของมนุษย์ของคุณ (Build your
Collaboration Strategy around the Human Element)

3. ใช้ความร่วมมือเป็นกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงองค์กร (Use Collaboration as an
Organisational Change Strategy)

67

4. ทำใหก้ ารกำหนดวสิ ยั ทัศน์เปน็ หน้าที่ของทมี (Make Visioning a Team Sport)
5. ใชค้ วามหลากหลายในการแกป้ ัญหา (Utilise Diversity in Problem-solving)
6. ชว่ ยให้ผคู้ นพฒั นาความสมั พันธ์ (Help People Develop Relationships)
7. เน้นสร้างความไว้วางใจ (Focus on Building Trust)
8. ระวงั ภาษากายของคุณ (Watch your Body Language)

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Dunne มีสาระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลกิ ” ดไู ด้จากเวบ็ ไซต์ข้างล่างน้ี

https://www.tameday.com/develop-collaborative-
leadership/?fbclid=IwAR2ZnOFFpAThsVksZKtgsxUXmjOD0klMcngYeF5nqobqXgxT
Q1Iuqpg_YIQ

Kiser (2019) คุณครูประถมศึกษา จบการศึกษาในระดับปริญญาเอก (Second grade
teacher; Ed.D. in Educational Leadership & Policy Analysis) กล่าวถึงวธิ ีจัดนักเรยี นให้ทำงาน
เป็นกลุ่มไว้ว่า การทำงานเป็นกลุ่มของนักเรียนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นกลยุทธ์การสอนที่มี
ประสิทธิภาพและประสิทธผิ ลสำหรับทุกห้องเรียน มีประโยชนม์ ากมายและนักเรยี นมสี ่วนร่วมในการ
เรยี นรู้ในระดบั ท่สี ูงขึ้น นกั เรยี นได้เรยี นรูว้ ธิ จี ดั การกับปัญหาท่ีซับซ้อนมากกว่าท่ีตนเองจะทำได้ พวก
เขาได้สัมผัสกับความคิดของผู้อื่นในการแก้ปัญหาและผสมผสานความรู้และทักษะเข้าด้วยกัน
นักเรยี นเหน็ คณุ คา่ ในการทำงานเปน็ ทมี และแบ่งปันมมุ มองทแี่ ตกต่างกัน

โลกต้องการให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา สิ่งที่
นักเรียนส่วนใหญ่จำเป็นต้องรู้ในการประกอบอาชีพคือการทำงานเป็นกลุ่มหรือร่วมกับผู้อื่น
นอกจากน้ียังมขี อ้ ดีสำหรบั ท้ังกลุ่มที่ได้รับมอบหมายจากครูและนักเรียน ครูมักจะมีความเป็นอิสระใน
หอ้ งเรียน แต่การมสี ว่ นรว่ มของนักเรยี นในการสรา้ งกลุ่มทำให้พวกเขาพัฒนาความรู้สึกเป็นเจ้าของ

68

กลุ่มท่ีได้รบั มอบหมายจากครู (Teacher-Assigned Groups)
ครูมอบหมายนักเรียนให้กบั กลุ่มเฉพาะตามเหตุผลต่างๆ มากมาย จุดประสงคเ์ หล่านี้อาจ
รวมถึงระดับการอ่านหรือทักษะ ความสนใจ และเหตุผลอื่นๆ มากมาย ครูมอบหมายบทบาทและ
ความรับผิดชอบ และมอบหมายงานที่แตกต่างกันให้กับเด็กทุกคน เช่น ผู้รักษาเวลา ผู้บันทึก ผู้พูด
และนักวาดภาพประกอบ บทบาทต้องมคี วามหมายและพ่ึงพาอาศัยกัน นีเ่ ป็นวธิ ที ีม่ ีประสิทธิภาพใน
การรับผิดชอบซึ่งกันและกันและเพิม่ ผลผลิต อยา่ งไรกต็ าม การรวมเวลาเพ่ือเติมพลังหลังจากทำงาน
กลุ่มกเ็ ป็นส่งิ สำคญั เช่นกนั เนอ่ื งจากนกั เรียนบางคนชอบทำงานอิสระ
เมื่อกำหนดกลุ่ม จำเป็นต้องสร้างความหลากหลายในกลุม่ เป็นระยะๆ ครูหางานและเวลา
ในการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อความเพลิดเพลิน ครูมอบหมายงานที่เหนือความสามารถของนักเรียน
และไมส่ ามารถเขา้ ใจได้ด้วยตนเอง นักเรียนมุ่งเน้นไปทห่ี วั ขอ้ ทีเ่ ก่ียวข้องและข้อมลู ในสถานการณ์จริง
การมอบหมายงานและความคาดหวังต้องมีความเฉพาะเจาะจงและเปน็ ระเบียบ ครถู ามคำถามท่ีควร
ทำให้เกิดการตอบสนองท่ีหลากหลาย
ในช่วงเวลาของการสอนออนไลน์ในด้านการศึกษา มีช่วงการเรียนรู้และความท้าทาย
มากมาย การใช้กลุ่มออนไลน์เปน็ แนวคิดที่ดแี ละส่งเสรมิ การมีส่วนร่วมและความเข่ือมโยงในระดบั ท่ี
สูงขึ้นเช่นเดียวกับการเรียนรู้แบบตัวต่อตัว ครูอาจใช้ผู้จัดกลุ่มดิจิทัลเพื่อกำหนดกลุ่มให้กับ
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ออนไลน์ ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของผู้จัดงานดิจิทัลสำหรับนักเรียน ได้แก่
Random Student Generator, Class Dojo, Random Group Maker และ Team Shake (Techie
Teacher, 2018) การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มทางออนไลน์จะแตกต่างกัน แต่อาจเป็นประโยชน์เม่ือ
นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Zoom และ Google Meet จะ
ชว่ ยปรบั ปรุงประสบการณ์และทำให้การเรียนรู้มีสว่ นร่วมมากข้ึน โดยทีน่ กั เรยี นจะมองเห็นและได้ยิน
กนั และกัน
กลุม่ ทนี่ กั เรยี นเลอื กเอง (Student-Chosen Groups)
เมื่อนักเรียนมีอิสระและทางเลือกในห้องเรียน พวกเขาจะมีส่วนร่วมและสนใจงาน
มอบหมายมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักเรียนมีความพึงพอใจมากขึ้นในขณะที่ทำงานที่ได้รับ
มอบหมายที่สนุกสนานสำหรับพวกเขา พวกเขารู้ถึงความคาดหวังและสามารถใส่ความคิดและ
ประสบการณ์ของตนเองลงในกระบวนการเรียนรู้ นักเรียนมีพลังในกระบวนการเรียนรู้ และมีเพียง
ท้องฟ้าเท่านั้นท่เี ปน็ ขอ้ จำกดั !
อีกวิธีหนึ่งในการจัดกลุ่มนักเรียนคือให้พวกเขาพัฒนาคำถามเกี่ยวกับการประเมินหรือ
คำถามที่ต้องการคำตอบ ตามธรรมเนียมเดิมครูมักจะถามคำถามกับนักเรียน ระดับการเรียนรู้ใน
สภาพแวดล้อมประเภทนี้มปี ระสทิ ธิภาพ แต่จะเข้าถงึ ระดับการมีส่วนร่วมและการคงไว้ซึ่งความรู้ทีส่ งู
กวา่ มากเมอ่ื นักเรียนมีความเกยี่ วขอ้ งโดยตรงกับการถามคำถาม
ระดับการอา่ น (Reading Levels)
น่ีเป็นวิธีทั่วไปในการจัดกลุ่มนักเรียนในห้องเรียนระดับประถมศึกษาและมีประโยชน์
มากมาย กลมุ่ ประเภทนมี้ คี วามแตกตา่ งกนั และให้นักเรียนได้เรียนรจู้ ากกนั และกัน นกั เรยี นสามารถ
จัดอยู่ในกลุ่มความสามารถที่ทุกคนมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากัน หรืออาจจัดอยู่ในกลุ่มที่มีผู้อ่าน
ระดับสงู หนง่ึ คน ผูอ้ ่านปานกลางสองคน และผอู้ า่ นระดับลา่ งหน่ึงคน กลมุ่ ทง้ั สองประเภทมีข้อดีและ

69

ช่วยใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจอย่างลึกซ้ึงยง่ิ ขึ้นถึงส่ิงที่กำลังศกึ ษาอยู่ เมื่อพวกเขาได้ยินทักษะการอ่าน
และฝกึ ฝนซ่ึงกนั และกนั พวกเขาจะได้เรยี นร้คู ำศัพท์ สำนวน และความเข้าใจมากข้ึน

ทกั ษะทางคณติ ศาสตร์และโครงงาน (Math Skills & Projects)
การทำงานเป็นกลุ่มเพ่ือศึกษาทักษะคณิตศาสตร์และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ตามโครงงาน
ช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลดความวิตกกังวลทางคณิตศาสตร์ และฝึกฝน
ทักษะการเรียนรู้ทางสังคมและอารมณ์ ครูอำนวยความสะดวกในการฝึกทักษะด้วยปัญหาทาง
คณิตศาสตร์ที่หลากหลาย และทำให้การเรียนรู้มีส่วนร่วมและจัดการได้มากขึ้น นักเรียนเรียนรู้จาก
กันและกนั และจะเกบ็ ขอ้ มูลไวเ้ ม่ือมีส่วนร่วมและช่วยเหลอื ในการแก้ปัญหา
ความสนใจ (Interests)
นักเรียนยังสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่มตามความสนใจของพวกเขา การจัดกลุ่ม
ประเภทน้อี าจเปน็ ทางวิชาการ อาชีวศกึ ษา เกย่ี วกบั กีฬา หรือความสนใจรว่ มกนั อื่นๆ นกั เรียนพูดคุย
กับผู้อื่น เพิ่มทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ ใช้การแก้ไขข้อขัดแย้ง และดำเนินการเทคนิคการแก้ปัญหาใน
สภาพแวดล้อมประเภทนี้ พวกเขาอาจพบเพื่อนใหม่และไม่รู้สึกว่าถูกประเมินเพราะมีบางอย่างที่
เหมือนกนั การจัดกลุม่ ประเภทนส้ี ่งเสรมิ การเรียนรู้ การสื่อสาร และแรงจงู ใจอย่างกระตือรือร้น งาน
กล่มุ ถูกจัดรปู แบบให้เหมาะสมกบั หลักสตู รของนักเรียน ดงั นน้ั จึงมอบประสบการณเ์ ฉพาะสำหรับการ
คิดเชิงวิพากษ์และการรวบรวมแนวคิดในรูปแบบทีม การทำงานเป็นกลุ่มช่วยให้นักเรียนเห็นคุณค่า
ของความหลากหลาย มีความอดทนมากขึ้น และได้สัมผัสกับประสบการณ์อื่นๆ ที่หลากหลายซึ่งการ
ทำงานอย่างอิสระไม่ได้มีให้ ทุกโอกาสในการทำงานเป็นกลุ่มจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ใหก้ ับนักเรยี น
และครูในทุกหอ้ งเรยี น

โปรดทบทวน - ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Kiser มีสาระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศกึ ษาจากต้นฉบบั ภาษาอังกฤษ โปรด “คลิก” ดไู ด้จากเวบ็ ไซต์ข้างล่างนี้

https://www.teachhub.com/classroom-management/2019/09/30-ways-to-arrange-
students-for-group-work/

70

Belbin (2021) นักวิจัยและที่ปรึกษาด้านการจัดการชาวอังกฤษที่รู้จักกันเป็นอย่างดีใน
การทำงานด้านทีมผู้บริหาร เขาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญและเพื่อนกิตติมศักดิ์ของ Henley
Management College ในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ

ให้ความเห็นถึง วิธีพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม: 5 เคล็ดลับง่ายๆ (How to Improve
Teamwork Skills: 5 Simple Tricks) ว่า เราทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมในที่
ทำงานและคุณค่าของการสื่อสารที่ดี แต่บางครั้งเราก็พลาดเคล็ดลับหนึ่งหรือสองข้อเมื่อต้องระบุ
สื่อสาร และปรับปรุงทักษะการทำงานเป็นทีมของเรา ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ 5 ข้อในการทำให้
ตวั เองเปน็ สมาชกิ ในทมี ทมี่ ปี ระสิทธิภาพยิง่ ขน้ึ และมนั เรมิ่ ตน้ กับคณุ

1. คน้ หาจุดแขง็ ของคุณ (Discover your Strengths)
การทำงานเป็นทมี ที่ดีเรมิ่ ตน้ ดว้ ยการทำความเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังนำมาช่วยทมี งาม เม่อื เรา
ทำงานเต็มกำลัง จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม ประสิทธิภาพการทำงาน และความเป็นอยู่ที่ดี รายงาน
ส่วนบุคคลของ Belbin สามารถระบุจุดแข็งเหล่านั้นได้ บางทีคุณอาจมีความละเอียดรอบคอบและ
ทำงานที่ต้องใช้ความใกล้ชิดได้ดี หรือบางทีคุณอาจจะเก่งในการพบปะผู้คนใหม่ๆ และสร้าง
ความสัมพันธ์? ผลักดันให้ทันกำหนดเวลา? เราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าการตั้งค่าบทบาทในทีมของคุณ –
การมีส่วนร่วมที่คณุ สร้างให้กบั ทีมท่ีเป็นไปโดยธรรมชาติท่ีสดุ รายงานของคณุ จะให้ข้อเสนอแนะโดย
ละเอียดเกี่ยวกับการผสมผสานบทบาทในทีมของคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณได้รับทราบถึงการมีส่วน
รว่ มของพฤติกรรมของคณุ ในท่ที ำงาน
2. ค้นหาสิง่ ทค่ี นอน่ื คิด (Find out What Others Think)
หากคุณเป็นส่วนหนึ่งของทีม คุณควรถามผู้อื่นเกี่ยวกับทักษะของคุณด้วย เราอาจมี
ความคิดเฉพาะเจาะจงวา่ เราต้องการพบเห็นอย่างไรหรืองานประเภทใดทเี่ ราตอ้ งการทำ แต่นน่ั อาจไม่
ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละวันในสภาพแวดล้อมการทำงาน บางทีคุณอาจมีความสามารถที่ซ่อน
เร้นทีค่ นอนื่ เหน็ ? การปรบั ปรงุ มาจากการเรยี นรู้ และเราเรยี นรโู้ ดยการขอความเห็นจากผู้อน่ื ถ้าเรา
ไม่ทำเช่นนั้น เรามีความเสี่ยงที่จะเอาความเห็นของเราเองว่าเป็นที่ตั้ง – และนั่นอาจนำเราไปสู่
เส้นทางที่ผิด ในกระบวนการของ Belbin คุณจะสามารถขอให้เพื่อนร่วมงานได้ถึง 6 คน (หรือ
ผู้จัดการ หรือผู้ที่ทำงานใหก้ ับคณุ ) เพื่อทำการประเมินผู้สังเกตการณ์ (Observer Assessments) ซึ่ง
เปน็ แบบสอบถามง่าย ๆ ทใี่ ห้บรบิ ทที่กวา้ งข้ึนเกย่ี วกบั พฤตกิ รรมของคณุ และช่วยให้คุณวัดผลไดว้ ่าจะ
ค้าพบจุดแข็งของคุณอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร เราจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ
หากทกั ษะการทำงานเปน็ ทมี ของคุณแตกตา่ งไปจากท่ีคุณคิดเล็กน้อย และทำอย่างไรจึงจะแน่ใจได้ว่า
คณุ กำลงั ม่งุ หน้าไปในทศิ ทางทถี่ กู ตอ้ ง

71

3. เรยี นร้ทู ่ีจะชน่ื ชมผลงานทงั้ หมด (Learn to All Appreciate All Contributions)
เมื่อเราคุ้นเคยกับการทำงานในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เราจะเพิกเฉย ลดค่า หรือแม้แต่
ปฏิเสธแนวทางอื่นและวิธีการทำสิ่งต่างๆ ได้โดยไม่ต้องคิด หากคุณเป็นคนที่ชอบระบบและกิจวัตร
การรับรู้คณุ ค่าของการเปลยี่ นแปลงท่ีต้องการแบ่งปนั ความคดิ อาจเปน็ เร่ืองที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ใน
ฐานะคนท่ีชอบให้มมุ มองกว้าง ๆ อาจเปน็ เรอื่ งยากท่จี ะแยกแยะวา่ สถานการณ์ใดต้องการผู้เช่ียวชาญ
เฉพาะด้าน เมื่อคุณเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของทีมในทีมของคุณ (รายงานทีมของ Belbin เป็น
จุดเริ่มต้นที่ดี) คุณจะรู้สึกมีความเคารพครั้งใหม่ต่อการมีส่วนร่วมท่ีผูอ้ ื่นทำ และรู้ว่าเหตุใดแนวทางที่
แตกต่าง (เราเรียกว่าความหลากหลายทางพฤติกรรม) จึงสำคัญมากที่จะทำให้ทีมทำงานอย่างมี
ประสิทธิภาพ
4. ชีแ้ จงบทบาทและความรบั ผิดชอบ (Clarify Roles and Responsibilities)
ทีมที่ดีมีเป้าหมายร่วมกัน วัตถุประสงค์ร่วมกัน และวัตถุประสงค์นั้นมาพร้อมกับการ
ทำงาน เมื่อคุณเข้าใจว่าใครเหมาะสมที่สุดกับงานประเภทใด การรู้ว่าจะขอความช่วยเหลือจากที่ใด
ได้งา่ ยขึน้ สำหรบั หวั หน้าทีมการมอบหมายงานตามจุดแข็งจะกลายเป็นเรอ่ื งตรงไปตรงมามากข้นึ ซ่ึง
หมายถึงการมีส่วนร่วมมากขึ้น รายละเอียดงานของเราอาจดูนิ่งและเป็นทางการ แต่การทำความ
เข้าใจบทบาทของทีมของ Belbin (Belbin Team Roles) (และรูปแบบการทำงานที่เกี่ยวข้อง)
สามารถช่วยในการจัดประเภทงานอย่างไม่เป็นทางการมากขึ้น โดยอ้างอิงถึงพฤติกรรมที่จำเป็น
ตัวอย่างเช่น เอกสารพร้อมสำหรับการตรวจทาน จำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์หาความสามารถใน
การเจรญิ เตบิ โต (ขอบเขตงานของ Monitor Evaluator) หรือผ่านจุดน้ันและพร้อมสำหรับการพิสูจน์
อักษรหรือไม่ (ในกรณีนี้จะต้องใช้ Completer Finisher touch)? เนื่องจากเราทุกคนมีจุดแข็งใน
บทบาททีมจำนวนมาก จึงอาจเป็นไปได้ว่างานนั้นถูกกำหนดให้กับบุคคลคนเดียวกันในทั้งสองกรณี
แต่มีทิศทางว่าต้องใช้แนวทางใดในขณะนั้น การกำหนดกรอบงานและความรับผิดชอบในเงื่ อนไข
เหล่านี้สามารถชว่ ยในการสื่อสาร และปอ้ งกันการทำงานที่ไม่จำเปน็ และความยุ่งยาก
5. พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาดและเฉลิมฉลองความสำเร็จของคุณ (Talk about
What’s Going Wrong and Celebrate your Successes)
ทีมที่มปี ระสิทธภิ าพจะแกป้ ญั หาไดด้ ีเมื่อมีสิ่งผดิ ปกติและเม่อื ส่ิงต่างๆ ไปในทางทถ่ี ูกต้องจะ
ถือว่าเป็นโอกาส แม้ว่าเราจะเข้าใจจุดแข็งของเราและกำลังทำงานเพื่อปลูกฝังสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด
ปัญหาก็เกิดขึ้นเหมือนเดิม มีความเข้าใจผิด ความขัดแย้งการก้าวกา่ ยเรื่องงาน การโต้เถียงวา่ ควรใช้
แนวทางใด เมื่อเราเข้าใจมุมมองของกันและกัน เราสามารถเริ่มลดทอนความเป็นบุคคลและขจัด
ความขัดแย้งได้ เราสามารถปรับใชผ้ ้ชู ี้ขาดทีเ่ ข้มงวดหรือผู้ท่มี ีมมุ มองที่กวา้ งขึน้ เพื่อชว่ ยช้ีส่งิ ต่าง ๆ ไป
ในทิศทางใหม่ การเฉลิมฉลองความสำเร็จกส็ ำคัญไม่แพก้ ัน นี่ไม่ใชแ่ คก่ รณขี องการตบหลังตวั เอง แต่
เปน็ การยอมรบั แนวทางปฏิบตั ิที่ช่วยให้ชนะและฝังแนวคิดของการทำงานเปน็ ทีมทีร่ อบคอบและใส่ใจ
ในวฒั นธรรมองคก์ ร

72

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Belbin มสี าระสำคัญอะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากตน้ ฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดไู ด้จากเว็บไซต์ข้างลา่ งน้ี

https://www.belbin.com/resources/blogs/how-to-improve-teamwork-skills

Meyer (n.d.) บรรณาธิการของ University of people The Education Revolution
กล่าวถึงวิธีพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม ว่า การทำงานเป็นทีมต้องมีการทำงาน ผู้คนมีมุมมอง
ทักษะ และภูมิหลังที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อรวมกลุ่มเข้าด้วยกัน ย่อมต้องมีความตึงเครียดบ้างใน
บางครั้ง อย่างไรก็ตามมีวิธีพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม แนวคิด 9 ข้อในการปรับปรุงการทำงาน
เป็นทีมมดี งั นี้

1. รเู้ ปา้ หมายของคณุ (Know Your Goal)
คนในทมี กำลงั ทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ในเวลาเดียวกนั แตล่ ะคนอาจมีเป้าหมาย
ท่เี ลก็ กวา่ ของตัวเองที่ต้องไปให้ถึง ทุกคนควรทราบเป้าหมายและสงิ่ ที่พวกเขารบั ผิดชอบ ด้วยวิธีนี้จะ
ไมม่ ีอะไรถูกมองขา้ ม
2. ชแ้ี จงบทบาทของคุณ (Clarify Your Roles)
ภายในทีม ทุกคนควรเข้าใจความรับผิดชอบของตนด้วย คุณสามารถช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้
เกิดการกา้ วเกนิ ขอบเขตได้ดว้ ยการทำความเขา้ ใจ
3. ทศั นคติเชิงบวก (Positive Mindset)
ทุกสง่ิ ท่ีคณุ ทำขึน้ อยู่กบั ความคิดของคุณ หากคุณสามารถช่วยสง่ เสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อ
อาทรและเอ้ือเฟื้อได้ คณุ กส็ ามารถชว่ ยสง่ เสริมความคดิ เชงิ บวกได้ เมอ่ื มปี ัญหาเกิดข้นึ ผคู้ นควรรู้สึกมี
พลังในการแกป้ ญั หา ความคิดเชงิ บวกยังหมายความวา่ ผู้คนรู้สกึ สามารถจดั การกบั ส่ิงท่เี ข้ามาได้
4. บรหิ ารเวลาอย่างมีประสทิ ธิภาพ (Manage Time Efficiently)

73

ในทีม งานของคนหนึ่งอาจต้องพึ่งพาอีกงานหนึ่ง ดังนั้นการฝึกบริหารเวลาอยา่ งเหมาะสม
และส่อื สารเร่อื งกำหนดเวลาจึงเปน็ ส่ิงสำคัญ

5. มคี วามกระตอื รือรน้ ร่วมกนั (Share Enthusiasm)
ทกุ คนรสู้ ึกดีข้ึนเม่ือได้รับผลตอบรบั เชิงบวก เปน็ สงิ่ สำคัญมากท่จี ะเฉลิมฉลองให้กันและกัน
และแบ่งปนั ความกระตือรือรน้
6. ออกกำลังกายด้วยกนั (Exercise Together)
อีกวิธีหนึ่งในการสร้างการทำงานเป็นทีมนอกห้องประชุมหรือห้องเรียนคือกิจกรรม
ภายนอก การออกกำลังกายเป็นเพียงแนวคิดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม การออกกำลัง
กายชว่ ยฝกึ ทศั นคตเิ ชงิ บวกและต้องมีแรงจงู ใจเชน่ เดยี วกับการทำงาน
7. สรา้ งกฎและวัตถุประสงคข์ องทมี (Establish Team Rules and Purpose)
ผู้คนควรแบ่งปันความคิดเห็นและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาในทีม ยังคงต้องมีกฎเกณฑ์
บางประการ ในฐานะผูจ้ ดั การหรือผนู้ ำ คณุ ตอ้ งสร้างส่งิ เหล่าน้ีและแบ่งปนั กับทีม
8. อย่าบ่น (Do Not Complain)
การบ่นเป็นการสูญเสียพลังงาน บ่อยครั้งการบ่นเป็นเพียงปัญหาที่มีทางแก้ไขอยู่แล้ว
แทนท่ีจะบน่ เก่ยี วกบั เรือ่ งน้ี คณุ สามารถทำงานรว่ มกนั เพือ่ แกป้ ญั หาได้
9. อยา่ ทะเลาะเพราะเครดิต (Do Not Fight Over Credit)
ให้เครดติ เมอ่ื สมควรและเฉลมิ ฉลองชัยชนะท้งั หมด แม้วา่ จะรู้สกึ เลก็ นอ้ ยกต็ าม

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Meyer มสี าระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลกิ ” ดไู ดจ้ ากเว็บไซตข์ ้างลา่ งน้ี

https://www.uopeople.edu/blog/how-to-improve-teamwork-skills/

74

Sessoms (n.d.) นักเขียนทุนและที่ปรึกษาไม่แสวงหาผลกำไร เขียนเกี่ยวกับปัญหาที่ไม่
แสวงหากำไร ธุรกิจขนาดเล็ก และการเงินส่วนบุคคล อาสาทนายเด็กที่ได้รับการแต่งตั้งจากศาล มี
พื้นฐานด้านบริการสังคมและเขียนเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่อครอบครัว Sessoms สำเร็จการศึกษา
ระดับปริญญาตรีศิลปะศาสตร์ สาขาศิลปศาสตร์ ได้กล่าวถึง กิจกรรมที่ฝึกทักษะการทำงานเป็นที ม
ว่า การทำงานเป็นทีม เหมอื นกับทุกความสัมพนั ธ์ เกดิ ข้ึนจากความไวว้ างใจ การทำงานร่วมกันที่เป็น
จุดเด่นของการทำงานเป็นทีมครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับโครงการพิเศษ ทุกวันนี้ การ
ทำงานร่วมกันเป็นมาตรฐานในสถานที่ทำงานหลายแห่ง และการทำงานเป็นทีมเป็นวิธีที่ได้รับความ
นิยมในการดำเนินงาน การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพถือเป็นความท้าทายสำหรับผู้จัดการหลายคนท่ี
ต้องคน้ หาวิธที ่จี ะช่วยให้พนักงานก้าวข้ามสัญชาตญาณของการเปน็ ปัจเจกนยิ มและเรียนรู้ที่จะทำงาน
เป็นทีมที่ทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน กิจกรรมการทำงานเป็นทีมช่วยให้พนักงานได้ฝึกฝน
ทักษะท่ีจะทำใหพ้ วกเขาเป็นทมี ที่มปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ

1. ละลายพฤติกรรม (Icebreakers)
กจิ กรรมละลายพฤตกิ รรมให้ความสนุกในขณะทีส่ มาชิกในทีมทำความร้จู กั กนั มนั ยังทำให้
สมาชิกในทมี รูส้ กึ ผ่อนคลายมากข้ึน "สองความจริงและหน่ึงคำโกหก" เปน็ กิจกรรมสนุก ๆ ที่สามารถ
ปัดเป่าความคิดที่พนักงานมีต่อกันและกัน ให้สมาชิกในทีมแต่ละคนเขียนข้อความจริงสองข้อความ
จริงและข้อความเท็จเก่ียวกบั ตัวเขาเองหนึง่ ข้อความ ใหส้ มาชกิ ในทมี คุยกันประมาณ 15 นาทีเพ่ือทำ
ความรู้จักกัน ให้สมาชิกนั่งเป็นวงกลมและอ่านออกเสียงข้อความของพวกเขาให้กลุ่มฟัง สมาชิกใน
ทีมโหวตในสิง่ ทีพ่ วกเขาเชอื่ ว่าไมเ่ ป็นความจรงิ
2. ไวว้ างใจ (Trust)
ความไว้วางใจในหมู่สมาชิกในทีมมีความสำคัญต่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
"Trust Walk" เป็นการปิดตาสมาชิกซึ่งถูกนำทางผ่านทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยเห็นสมาชิกในทีม
สมาชิกในทีมไม่สามารถพูดคุยกันได้ ผู้อำนวยความสะดวกอาจส่งเสียงตลอดกิจกรรมเพื่อทำให้
สมาชิกที่ปิดตาวางใจผูท้ ี่พาเขาเดิน หลังจากเสร็จสิ้นช่วงแรกแลว้ ให้เปลี่ยนผู้พาเดินและสมาชิกที่ได้
ปดิ ตาแล้วทำกิจกรรมซำ้
3. ความรว่ มมอื (Collaboration)
กิจกรรม "นับเลข" สง่ เสรมิ การทำงานรว่ มกันโดยให้สมาชิกหลับตาพร้อมนับจำนวนเฉพาะ
สมาชิกคนหนึ่งเริ่มนับตามด้วยสมาชิกอีกคนที่ตะโกนหมายเลขถัดไป สิ่งนี้จะดำเนินต่อไป สมาชิกที
ละคนโดยไมม่ ีการสนทนาและหลบั ตา จนกว่าจะถงึ จำนวนสุดท้ายหรือจนกว่าสมาชิกมากกว่าหน่ึงคน
พยายามทจ่ี ะตะโกนตัวเลขตัวเดียวกันพร้อมกนั จากน้นั จะตอ้ งเร่มิ ต้นใหม่

75

4. การแกป้ ญั หา (Problem Solving)
สร้างปัญหาในที่ทำงานที่ทีมงานต้องแก้ไขร่วมกันภายในเวลาทีก่ ำหนด กิจกรรมนี้ช่วยให้
ทีมพัฒนาทักษะการสื่อสารและการบริหารเวลา ออกแบบปัญหาให้ตรงกับการดำเนินงานทั่วไปใน
ธุรกิจของคุณ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจการพิมพ์อาจมีปัญหาในการสั่งซื้อที่สำคัญเนื่องจากอุปกรณ์ไม่
ทำงาน ทำกิจกรรมให้เสร็จสิ้นโดยให้ทีมอภปิ รายเกี่ยวกับกระบวนการ แนวทางแก้ไข และด้านอื่นๆ
ของการทำงานเปน็ ทีม
5. การสนบั สนนุ และการยอมรับ (Support and Recognition)
พิธีการมอบรางวัลดังกล่าวเปิดโอกาสให้พนักงานได้ตระหนักถึงจุดแข็งและการมีส่วนร่วม
ของสมาชิกในทีม เขียนชื่อสมาชิกแต่ละคนลงในกระดาษแล้วใส่ชื่อทั้งหมดลงในภาชนะ ให้สมาชิก
แต่ละคนเขียนช่ือและเตรียมคำกล่าวส้นั ๆ เกี่ยวกบั บุคคลนั้น จัดใหม้ กี ารจบั ช่ือและพิธีในการประชุม
ที่แตกต่างกันหรือดำเนินการทั้งสองอย่างในการประชุมเดียวกันโดยให้เวลาผู้เข้าร่วมอภิปรายและ
เตรียมการนำเสนอเล็กน้อย "สร้างสมาชิกในทีมที่สมบูรณ์แบบ" เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการยกย่องท่ี
ต้องการให้ทีมทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมาชิกในทีมที่สมบูรณ์แบบโดยใช้จุดแข็งจากสมาชิกแต่ละคน
ให้สมาชกิ เขียนชอ่ื และจดุ แขง็ ของสมาชิกลงบนแผ่นกระดาษ ติดกระดาษไว้บนกระดานและอธิบายว่า
ทำไมถึงเลือกบคุ คลน้ี

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Sessoms มสี าระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศกึ ษาจากต้นฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดูได้จากเว็บไซตข์ ้างลา่ งนี้

https://smallbusiness.chron.com/activities-practice-teamwork-skills-24346.html

Williams (n.d.) ประธานและเจ้าของ เบธ วิลเลียมส์ นำประสบการณ์ด้านการขาย
การตลาด การจัดการ และการพัฒนามนุษย์/องค์กรมามากกว่า 25 ปีมาสู่บทบาทของเธอในฐานะ
ประธาน Forward Focus กล่าวถึง เคล็ดลับเจ็ดประการในการสร้างสภาพแวดล้อมที่รวบรวม
คุณลักษณะเหล่านี้ของความเป็นผู้นำในการทำงานร่วมกันภายในองค์กรของคุณ (Seven Tips to

76

Build an Environment that Embodies these Characteristics of Collaborative Leadership
within your Organization)

1. สรา้ งสะพานแหง่ ความไวว้ างใจ (Build a Bridge of Trust)
หากปราศจากความไวว้ างใจ แนวทางความเปน็ ผู้นำแบบรว่ มมือกนั จะลม้ เหลว น่ีเป็นพ้ืนท่ี
แรกที่ผู้นำต้องเป็นผู้นำ ความไว้วางใจเป็นถนนสองทางและคนที่ได้รับความไว้วางใจมักจะไว้วางใจ
ส่งเสริมใหผ้ ูน้ ำของคุณไว้วางใจในคนของพวกเขา
ผู้นำก็สามารถพฒั นาความไว้วางใจได้ แมแ้ ต่ในองค์กรที่อยู่ห่างไกลจากทั่วโลก การส่ือสาร
เปน็ กุญแจสำคัญและผนู้ ำจำเปน็ ที่จะตอ้ งเขา้ ใจ :
ผคู้ นทีม่ วี ฒั นธรรมตา่ งกนั สอ่ื สารกันอยา่ งไร
ว่ามคี า่ นิยมทางวฒั นธรรมตา่ งกนั
วา่ รปู แบบการส่ือสารทม่ี ปี ระสิทธภิ าพตอ้ งได้รับการพัฒนา
องค์กรต้องยอมรับมาตรฐานการส่ือสาร เช่น วิธีการสือ่ สารทีย่ อมรับได้ และวิธีดำเนนิ การ
ประชุม วิธีแกไ้ ขข้อขัดแย้ง และกระบวนการตัดสินใจ
2. ส่งเสริมให้มีการใช้จุดมุ่งหมายร่วมกัน (Encourage the Adoption of a Shared
Purpose)
มีความท้าทายมากมายที่ผู้นำต้องเผชิญในทุกวันนี้ รวมถึงความท้าทายขององค์กรชั้นนำท่ี
รวมพนักงานหลากหลายวัย ความท้าทายเหล่านี้มีรากฐานมาจากความแตกต่างระหว่างค่านิยมรุ่น
ตา่ งๆ ซง่ึ สามารถพัฒนาไปสปู่ ญั หาความสมั พนั ธใ์ นทที่ ำงาน
ผู้นำไม่นำโดยใช้คำสั่งและการควบคุม แต่พวกเขาสนับสนุนการนำค่านิยมและวิสัยทัศน์
ร่วมกันมาใช้เป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ผู้นำการทำงานร่วมกันสื่อสารวิสัยทัศน์ในอนาคตผ่าน
ความมุ่งมั่น หลงใหลในคุณค่าและพันธกิจขององค์กร และความหลงใหลนั้นแผ่กระจายไปทั่ว
โครงสรา้ งองค์กร
3. พัฒนาความหลากหลาย (Develop Diversity)
ความเป็นผูน้ ำในการทำงานรว่ มกันสนบั สนุนให้ทกุ คนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และทีมที่
หลากหลายจะสร้างแนวทางแกไ้ ขปัญหาที่มีความหมายและมีผลยาวนานขึ้น องค์กรที่ทำงานร่วมกนั
จะได้รับประโยชน์จากมุมมอง ทักษะ ประสบการณ์ และแนวคิดต่างๆ จากบุคคลที่ทำงานเพื่อบรรลุ
เปา้ หมายร่วมกนั
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาความหลากหลายไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ องค์กรต้องหาโอกาสเพ่ือ
สร้างความหลากหลาย และผู้นำและผู้จัดการต้องสนับสนุนให้พนักงานที่หลากหลายทำงานร่วมกัน
อย่างมีประสิทธภิ าพ การลดความตงึ เครียดในความหลากหลายจะช่วยพัฒนาความเข้าใจและส่งเสริม
การรวมกลุ่ม
4. ยอมรบั และส่งเสริมความคดิ ริเรม่ิ (Accept and Encourage Initiative)
ผู้นำแสดงความคิดริเริ่ม และส่งเสริมความเป็นเจ้าของปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาคือ
การส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่ม ยอมรับว่าผู้คนควรใช้ความเสี่ยงทีส่ ามารถคำนวณได้ ส่งเสริมความคิด
สร้างสรรค์และพัฒนาตนเอง ผู้คนต้องการทำให้งานของพวกเขาง่ายที่สุด ยอมรับว่าจำเป็นต้องเสี่ยง
เพือ่ ขับเคลื่อนการเปลยี่ นแปลงใหด้ ีขึ้น

77

5. เป็นผู้แบ่งปันข้อมูล ไม่ใช่ผู้เก็บข้อมูล (Be Information Sharers, not
Information Hoarders)

การนำทีมให้เป็นองกรณ์ที่ดีด้วยการแบ่งปันข้อมูลในทุกตำแหน่งหน้าที่ขององค์กร จะทำ
ให้การเปลี่ยนแปลงและตัดสินใจไดด้ ีขึน้ ข้อมูลไม่ใช่อำนาจอกี ต่อไป แต่เป็นเครื่องมือของผู้นำทีส่ ร้าง
แรงบนั ดาลใจ เม่ือเกดิ การแบง่ ปันขอ้ มลู ก็จะสรา้ งความไว้วางใจ การเปิดกว้าง และความซื่อสัตย์

6. สรา้ งความโปรง่ ใสในการตดั สินใจ (Create Transparency in Decision-making)
ความเป็นผู้นำในการทำงานรว่ มกันจำเปน็ ต้องมกี ารแบ่งปันข้อมูลและความรับผดิ ชอบ สิ่ง
นี้ช่วยให้บุคลากรขององค์กรมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ การตัดสินใจร่วมกันนำไปสู่ความ
มุ่งมั่นในการทำงาน เสียเวลาในการจัดการความขัดแยง้ น้อยลงและมีพลังในการทำงานมากข้ึน ความ
โปรง่ ใสในการตัดสินใจนำไปสู่การเห็นดว้ ยและการยอมรบั รวมถงึ ความรับผดิ ชอบต่อประสิทธิผลของ
การแก้ปัญหา
7. เข้าใจว่าความขัดแย้งสามารถสร้างสรรค์ได้ (Understand that Conflict Can
be Constructive)
ความหลากหลายจะนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จงสร้างสภาพแวดล้อมท่ี
ยอมรบั ความขัดแย้งเชิงสร้างสรรค์ซึ่งเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการตัดสินใจ ความขัดแย้งน้ีต้องได้รับ
การจัดการ และจากน้นั จะนำไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซ้ึงยิ่งข้ึนอย่างหลีกเลย่ี งไม่ได้เมื่อมีการค้นหาและให้
ข้อเสนอแนะ ความขัดแย้งเชิงสร้างสรรค์จะช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการ
แก้ปญั หา

โปรดทบทวน – ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะ
ของ Williams มสี าระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดูได้จากเว็บไซตข์ ้างล่างนี้

https://www.forwardfocusinc.com/inspire-leaders/7-ways-to-build-collaborative-
leadership/?fbclid=IwAR1QdErLB0u7HUhoZCEJjWy5q1FffSD_akps2kS7lvmFHBYqDC5CaoPith8

78

โปรดวิจารณข์ อ้ เสนอแนะเพ่ือการพัฒนาทกั ษะการทำงานเป็นทมี
(Teamwork Skills) ทสี่ รุปขา้ งล่างน้วี า่ ทำใหเ้ ข้าใจในความหมาย
ทค่ี รอบคลมุ และชัดเจนแล้วหรอื ไม่ ควรปรับหรือเพมิ่ เติมอะไรอีกหรือไม่

จ า ก ท ั ศ น ะ ข อ ง Quigley (2013), Weimer (2014), Ciston (2015), Hinn (2017),
Dunne (2 0 1 9 ) , Smith (2 0 1 9 ) , Kiser (2019), Belbin (2021), Meyer (n.d.), Sessoms
(n.d) และ Williams (n.d.) ดังกล่าวข้างต้น สามารถระบุข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาทักษะการ
ทำงานเป็นทีม ดังแสดงในตารางขา้ งล่าง

ตารางแสดงข้อเสนอแนะเพือ่ พัฒนาทักษะการทำงานเปน็ ทีม

ขอ้ เสนอแนะเพือ่ พัฒนาทักษะ Williams
การทำงานเปน็ ทีม Dunne
Smith
Meyer
Quigley
Ciston
The Belbin Team
Sessoms
Weimer
Kiser
Hinn

1. อยา่ บ่น (Do Not √ √ √√
Complain)
√ √ √
2. ละลายพฤตกิ รรม √
(Icebreakers)

3. กลมุ่ สามกล่มุ พูดคุย √
(Talking Triads) √

4. ทัศนคติเชงิ บวก √
(Positive Mindset) √

5. เสวนาแบบโสคราติช
(Socratic Talk)

6. วจิ ารณ์ในแกลลอร่ี
(Gallery Critique)

7. ออกกำลงั กายด้วยกัน
(Exercise Together)

8. พฒั นาความ
หลากหลาย (Develop
Diversity)

9. นำเสนอแบบกลุ่ม
(Group
Presentations)

10. กระตอื รอื รน้ รว่ มกนั
(Share Enthusiasm)

79

ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาทกั ษะ Williams
การทำงานเปน็ ทมี Dunne
Smith
Meyer
Quigley
Ciston
The Belbin Team
Sessoms
Weimer
Kiser
Hinn

11. เน้นสร้างความไว้วางใจ

(Focus on building √ √ √

trust)

12. ค้นหาจดุ แข็งของ

ตวั เอง (Discover √

self-Strengths)

13. สโนวบ์ อล และ วธิ จี ๊ิก

ซอว์ (Snowballing √

and Jigsaw)

14. คน้ หาส่ิงทีค่ นอน่ื คิด

(Find out What √

Others Think)

15. สร้างแบบจำลอง

ผู้เชย่ี วชาญ (Mastery √

Modelling)

16. เคารพต่อสมาชิกในทมี

(Respect for Team √

Members)

17. ฝกึ ทักษะการทำงาน

เปน็ ทีม (Coaching √ √√√

Teamwork Skills)

18. สร้างกฎและ

วัตถุประสงค์ของทมี √ √√ √ √
(Establish Team

Rules and Purpose)

19. สรา้ งความโปร่งใสใน

การตัดสินใจ (Create √
Transparency in

Decision-making)

20. เรียนรทู้ ี่จะชนื่ ชม

ผลงานทัง้ หมด (Learn √
to All Appreciate

All Contributions)

21. พิจารณาการจดั กลุม่

อยา่ งรอบคอบ

(Thoughtfully √

Consider Group

Formation)

22. เน้นยำ้ ถึงความสำคัญ

ของการทำงานเปน็ ทีม √√ √

(Emphasize the

80

ข้อเสนอแนะเพ่อื พฒั นาทักษะ Williams
การทำงานเปน็ ทมี Dunne
Smith
Meyer
Quigley
Ciston
The Belbin Team
Sessoms
Weimer
Kiser
Hinn

Importance of

Teamwork)

23. เปน็ ผแู้ บง่ ปันข้อมูล

ไม่ใช่ผู้เกบ็ ข้อมูล (Be

Information √
Sharers, not

Information

Hoarders)

24. ยอมรบั และสง่ เสริม

ความคิดริเร่ิม (Accept √ √
and Encourage

Initiative)

25. เขา้ ใจว่าความขัดแยง้

สามารถสรา้ งสรรค์ได้

(Understand that √

Conflict Can be

Constructive)

26. ตระหนกั วา่ ระบบไซโล

(ทำงานตัวใครตวั มนั )

สามารถทำลายธุรกจิ √
ของคณุ ได้ (Realise

that silos can kill

your business)

27. สร้างกลยุทธ์การ

ทำงานร่วมกันโดย

คำนงึ ถึงองคป์ ระกอบ

ของมนุษย์ (Build √√

collaboration

strategy around the

human element)

28. ส่งเสรมิ การสื่อสาร

(Encouragement of √√ √

Communication)

29. ชีแ้ จงบทบาทและ

ความรบั ผิดชอบ √ √√
(Clarify Roles and

Responsibilities)

30. บรหิ ารเวลาอยา่ งมี

ประสิทธิภาพ √√
(Manage Time

Efficiently)

81

ข้อเสนอแนะเพอ่ื พฒั นาทักษะ Williams
การทำงานเปน็ ทีม Dunne
Smith
Meyer
Quigley
Ciston
The Belbin Team
Sessoms
Weimer
Kiser
Hinn

31. สร้างความสำเรจ็ ด้วย √√ √
การสร้างทีมที่ชาญ √ √
ฉลาด (Enabling √ √
Success through √
Smart Team
Formation) √ √

32. เรียนรแู้ บบเพอ่ื นค่คู ดิ
และแบบเพือ่ นคคู่ ิด
สองคู่ (Think-pair-
share and Think-
pair-square)

33. กำหนดโครงการทที่ ้า
ทายและหลากหลาย
มติ ิ (Assigning a
Challenging and
Multidimensional
Project)

34. ให้เวลาสำหรบั การ
ประมวลผลแบบกลุ่ม
(Building in time for
group processing)

35. ฝกึ สร้างทีมเพือ่ สร้าง
กลมุ่ ท่ีเหนยี วแนน่
(Use Team-building
Exercises to Build
Cohesive Group)

36. ให้สมาชกิ แต่ละคน
ติดตามผลงานของพวก
เขา (Require
Individual Members
to Keep Track of
their Contributions)

37. ประเมนิ โดยเพื่อนใน
กระบวนการ
ประเมินผล (Include
Peer Assessment in
the Evaluation
Process)

38. ยอมรบั และส่งเสริม
ความคิดริเริม่ (Accept

82

ข้อเสนอแนะเพ่อื พฒั นาทกั ษะ Williams
การทำงานเป็นทมี Dunne
Smith
Meyer
Quigley
Ciston
The Belbin Team
Sessoms
Weimer
Kiser
Hinn

and Encourage

Initiative)

39. ใช้ความร่วมมอื เปน็ กล

ยทุ ธ์การเปล่ียนแปลง

องคก์ ร (Use √√ √√ √
collaboration as an √

organizational √

change strategy) √

40. ช่วยให้ผู้คนพัฒนา

ความสัมพันธ์ (Help √
people develop

relationships)

41. ทำใหก้ ารกำหนด

วิสัยทศั นเ์ ป็นหน้าท่ี

ของทีม (Make √ √√ √

visioning a team

sport)

42. แก้ปัญหาและการ

จดั การความขดั แย้ง

(Problem Solving √√√ √

and Conflict

Management)

43. ใช้ความหลากหลายใน

การแกป้ ญั หา (Utilise √√√ √
diversity in

problem-solving)

44. เรยี นรู้จากโครงงาน/

การเรยี นร้จู ากปัญหา

(Project Based √√√ √

Learning/Problem

Based Learning)

83

จ า ก น า น า ท ั ศ น ะ เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ข ้ อ เ ส น อ แ น ะ เ พ ื ่ อ ก า ร พ ั ฒ น า ท ั ก ษ ะ ก า ร ท ำ ง า น เ ป ็ น ที ม
(Teamwork Skills) ดังกล่าวข้างต้น ท่านเห็นว่ามีแนวคิด (Concepts) ที่สำคัญอะไรบ้าง ที่ทำให้
เข้าใจในความสำคัญนั้นได้อย่างกระชับและชัดเจน โปรดระบุแนวคิดหรือองค์ประกอบนั้นในภาพที่
แสดงข้างล่าง

Belbin, M. (2021, March 24). How to improve teamwork skills. Retrieved August 6,
2021 from https://www.belbin.com/resources/blogs/how-to-improve-
teamwork-skills

Ciston, S. (2015, May 15). Building teamwork process skills in students. Retrieved
August 6, 2021 from https://teaching.berkeley.edu/news/building-teamwork-
process-skills-students

Dunne, C. (2019). 8 Ways you can develop collaborative leadership. Retrieved
August 13, 2021 from https://www.tameday.com/develop-collaborative-
leadership/?fbclid=IwAR2ZnOFFpAThsVksZKtgsxUXmjOD0klMcngYeF5nqobq
XgxTQ1Iuqpg_YIQ

84

Hinn, A. (2017, March 30). 3 Ways to teach kids the importance of teamwork.
Retrieved August 9, 2021 from https://www.crisisprevention.com
/Blog/Teamwork

Kiser, S. (2019, September 27). Ways to arrange students for group work. Retrieved
August 9, 2021 from https://www.teachhub.com/classroom-
management/2019/09/30-ways-to-arrange-students-for-group-work/

Meyer, M. (n.d.). How to improve teamwork skills. Retrieved August 6, 2021 from
https://www.uopeople.edu/blog/how-to-improve-teamwork-skills/

Quigley, A. (2013, January 12). Top 10 group work strategies. Retrieved August 6, 2021
from https://www.theconfidentteacher.com/2013/01/top-ten-group-work-
strategies/

Sessoms, G. (n.d.). Activities that practice teamwork skills. Retrieved August r 6, 2021
from https://smallbusiness.chron.com/activities-practice-teamwork-skills-
24346.html

Smith, E. (2019, February 4). What are the characteristics of good teamwork habits?
Retrieved August 1, 2021 from http://smallbusiness.chron.com/
characteristics-good-teamwork-habits-20848.html

Weimer, M. (2014, September 12). 10 Recommendations for improving group work.
Retrieved August 9, 2021 from https://www.facultyfocus.com/articles
/articles/effective-teaching-strategies/10-recommendations-improving-group-
work/

Williams, B. (n.d.). 7 Ways to build collaborative leadership. Retrieved August 13,
2021 from https://www.forwardfocusinc.com/inspire-leaders/7-ways-to-
build-collaborative-
leadership/?fbclid=IwAR1QdErLB0u7HUhoZCEJjWy5q1FffSD_akps2kS7lvmFH
BYqDC5CaoPith8

85

(ปกของค่มู ือแตล่ ะชดุ )

ค่มู ือประกอบโครงการพฒั นาเพอ่ื การเรยี นรู้ของครู

86

วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้

หลงั จากการศกึ ษาคมู่ ือชุดนี้แลว้ ทา่ นมพี ฒั นาการด้านพุทธิพสิ ัย (Cognitive Domain) ซึ่ง
เป็นจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตาม The Revised
Taxonomy (2001) ของ Benjamin S. Bloom โดยจําแนกพฤตกิ รรมในขอบเขตนี้ออกเปน็ 6 ระดับ
เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก หรือจากทักษะการคิดขั้นต่ำกว่าไปหาทักษะการคิด
ขั้นสูงกว่า ดังนี้ คือ ความจำ (Remembering) ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้
(Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating)
ดงั น้ี

1. บอกคณุ สมบตั ิ จบั คู่ เขียนลำดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเสน้ ใต้ จำแนก หรือระบุข้ันตอน
เพ่ือการพัฒนาทกั ษะการทำงานเปน็ ทีมได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือ
เรียบเรยี งข้นั ตอนเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเปน็ ทีม

3. แก้ปัญหา สาธิต ทำนาย เชื่อมโยง ความสัมพันธ์ เปลี่ยนแปลง คำนวณ หรือปรับปรุง
ขั้นตอนเพ่อื การพัฒนาทกั ษะการทำงานเป็นทีมได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จำแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผล ขั้นตอนเพื่อการ
พฒั นาทักษะการทำงานเป็นทีมได้

5. วัดผล เปรียบเทียบ ตีค่า ลงความเห็น วิจารณ์ ขั้นตอนเพื่อการพัฒนาทักษะการ
ทำงานเป็นทีมได้

6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการขั้นตอนเพื่อการ
พฒั นาทักษะการทำงานเป็นทมี ได้

คำชแ้ี จง
1. โปรดศกึ ษาเน้ือหาเก่ียวกับขั้นตอนเพ่อื การพัฒนาทกั ษะการทำงานเป็นทีมที่นำมา
กลา่ วถึงแต่ละทศั นะ
2. หลังจากการศึกษาเนื้อหาโปรดทบทวนความเข้าใจจากคำถามท้ายเนื้อหาของแต่ละ
ทศั นะ
3. ศึกษารายละเอียดของความสำคญั ทีเ่ ป็นตน้ ฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” เว็บไซต์ที่
นำเสนอไวท้ ้ายเนื้อหาของแต่ละทัศนะ

87

Cardinal (2015) ชาวออสเตรเลีย เป็นที่เชี่ยวชาญในการปรับปรุงผลลัพธ์ทางธุรกิจโดย
การพัฒนาบุคคล ทมี และองคก์ ร ไดก้ ลา่ วถงึ 5 ขน้ั ตอนการทำงานเปน็ ทมี อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ดงั น้ี

ขน้ั ตอนที่ 1: สร้างความเปน็ ผนู้ ำ (Establish Leadership)
หากพนักงานของคุณเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณ พวกเขาจะทำงานได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพแมใ้ นเวลาท่คี ุณไม่อยู่ ก่อนทค่ี ุณจะเร่ิมสร้างทีมได้ คณุ ตอ้ งพฒั นาทักษะความเป็นผู้นำท่ี
เหมาะสมเสียก่อน นี่ไม่ได้หมายถึงการยืนยันว่ายังมีอำนาจ แต่พยายามส่งเสริมความไว้วางใจผ่าน
ความซ่อื สัตยแ์ ละความโปร่งใส โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในองค์กรขนาดใหญ่ ผู้จดั การไม่สามารถไปได้ทุกที่
ในคราวเดียว แตถ่ ้าพนกั งานของคณุ เชือ่ คำตัดสินของคุณ พวกเขาจะทำงานได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพแม้
ในขณะท่คี ณุ ไมไ่ ดอ้ ยูใ่ กลๆ้
ขั้นตอนที่ 2: สร้างความสัมพันธ์กับพนักงานแต่ละคนของ คุณ (Establish
Relationships with Each of your Employees)
พยายามเรียนรู้เกี่ยวกับสมาชิกแต่ละคนในทีมของคุณให้มากยิ่งขึ้น ชุดทักษะ แรงจูงใจท่ี
พวกเขาชอบและไม่ชอบ ความรู้นี้ประเมินค่าไม่ได้สำหรับผู้นำ เนื่องจากช่วยให้พวกเขาจับคู่ความ
เชี่ยวชาญและความสามารถของพนักงานแต่ละคนกับปัญหาเฉพาะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการ
ทำงานและความพึงพอใจในงาน
นอกจากนี้ พยายามให้พนักงานของคุณมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจหากเป็นไปได้
แทนที่จะมอบหมายงาน ให้มอบโครงการปลายเปิดให้กับทีมของคุณและอนุญาตให้พวกเขากำหนด
แนวทางแก้ไขท่ีดที ส่ี ุด ซงึ่ จะเป็นการกระตุ้นให้ร่วมมือและพฒั นาทกั ษะการแกป้ ัญหา
ขั้นตอนท่ี 3: สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานของคุณ (Build Relationships
between your Employees)
เมื่อทีมของคุณเริ่มใหค้ วามร่วมมือมากข้ึน ให้ตรวจสอบวิธีท่ีพวกเขาทำงานร่วมกนั และทำ
ตามขั้นตอนต่าง ๆ เพ่ือปรับปรุงการสื่อสาร ความร่วมมือ และความไว้วางใจระหว่างทีม หากมีข้อ
ขัดแย้งใด ๆ ให้พยายามแก้ไขอย่างเป็นกันเอง ฟังทั้งสองฝ่ายของการโต้แย้งและทำหน้าที่เป็นคน
กลาง วิธีหนึ่งในการทำเช่นนี้คือการระดมความคิดถึงวิธีแก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยให้พนักงานของคุณมี
ศักยภาพ และอาจนำไปส่แู นวทางแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ
ข้นั ตอนท่ี 4: ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม (Foster Teamwork)
เมื่อคุณสร้างความสัมพันธ์กับและระหว่างพนักงานของคุณแล้ว ก็ถึงเวลาช่วยให้พวกเขา
ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้ทีมของคุณแบ่งปันข้อมูล ทั้งระหว่างกันเองและ
ภายในองค์กรในวงกว้าง พยายามสื่อสารกับทีมของคุณมากขึ้น สิ่งนี้เป็นมากกว่าแค่การจัดประชุม

88

และรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น การเปิดรับข้อเสนอแนะและข้อกังวล การสอบถามเกี่ยวกับงานของสมาชิก
ในทีมแต่ละคนและให้ความช่วยเหลือในกรณีที่จำเป็น และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อสื่อสารกับทีมของ
คณุ อยา่ งชัดเจนและตรงไปตรงมา

ขัน้ ตอนที่ 5: ต้ังกฎพ้นื ฐานสำหรบั ทมี (Set Ground Rules for the Team)
สุดท้าย คุณสามารถเริ่มต้นสร้างทีมของคุณอย่างเป็นทางการผ่านการสร้างค่านิยมและ
เป้าหมายของทีม ตลอดจนประเมินประสิทธิภาพของทีมควบคู่ไปกับประสิทธิภาพของแต่ละบุคคล
อย่าลมื ใหท้ ีมของคณุ มสี ่วนร่วมในขั้นตอนน้ี เพอ่ื ให้พวกเขารู้ว่าอะไรจำเปน็ และเหน็ ดว้ ยไปกบั มัน
การสร้างทีมเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบที่สำคัญท่ีสุดที่ผู้จัดการมี ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้
ในเวลาอันสั้นแล้วลืมไป เป็นกระบวนการออร์แกนิกที่ดำเนินอยู่ซึ่งคุณจะต้องอำนวยความสะดวก
และให้คำแนะนำ เมื่อกระบวนการนี้คลี่คลาย สมาชิกในทีมของคุณจะเริ่มไว้วางใจและสนับสนุนซ่ึง
กันและกัน และแบ่งปันชุดทักษะและความพยายามของพวกเขา เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายขององค์กร
ของคุณไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น

โปรดทบทวน - ขั้นตอนเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะของ
Cardinal มสี าระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………….......................
…………………………………………………………………………………………….......................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบบั ภาษาอังกฤษ โปรด “คลิก” ดูไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ข้างล่างนี้

https://www.huffpost.com/entry/5-steps-to-building-an-effective-team_b_7132406

89

Mugavin (2017) เป็นท่ปี รกึ ษาอาวุโสของ FlashPoint เขาได้ทำงานรว่ มกับองค์กรชั้นนำ
ระดับโลกที่ติดอันดับ Fortune 1000 เพื่อปรับปรุงความเป็นผู้นำและประสิทธิภาพการจัดการ ได้
กล่าวถงึ 5 ข้ันตอนในการสรา้ งทมี ทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: ทำความเข้าใจวัตถุประสงค์ของการสร้างทีมของคุณ (Understand the
Purpose of Forming Your Team)

ทุกๆ ทีมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน หรือมีเป้าหมายสุดท้ายเหมือนกัน ทีม
ผู้บริหารจัดการองค์กร ในขณะที่ทีมผลิตภัณฑ์ใหม่อาจพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้วทำผลิตภัณฑ์
ถัดไป ตรวจสอบวัตถปุ ระสงค์ของทมี และถามตัวเองวา่ หน้าท่หี ลกั ของทีมคอื อะไร

ขั้นตอนท่ี 2: ตรวจสอบลักษณะและส่วนประกอบของทีมของคุณ (Examine the
Characteristics and Components of Your Team)

ทีมอาจมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับที่อาจมีจุดประสงค์ต่างกัน ทบทวน
ภาพลักษณ์ของทีมเพื่อหาคุณลักษณะที่อาจส่งผลต่อการทำงานเป็นทีม ทีมของคุณมีลักษณะ
ดังต่อไปนหี้ รอื ไม?่

- ทีมเป็นการผสมผสานระหว่างสมาชิกเสมอื น/ระยะไกล หรอื อยูใ่ นทเี่ ดียวกนั ท่เี ดยี ว?
- ทมี ถาวรหรือชั่วคราว? (คณะกรรมการอาจเป็นแบบถาวรแม้วา่ สมาชกิ จะเปล่ียน แต่

คณะกรรมการอาจรวมกล่มุ และยุบตามโครงการ)
- สร้างทีมระยะสัน้ หรอื ระยะยาว?
- ระดบั ประสบการณ์ในหมู่สมาชกิ คอื อะไร?
- มสี มาชกิ ใหม่ไมถ่ ูกกับสมาชกิ ทีด่ ำรงตำแหนง่ นานในทีมนห้ี รือไม่?

ขั้นตอนท่ี 3: ประเมินระดับการโต้ตอบที่ทีมของคุณต้องการ (Assess the Degree of
Interaction Your Team Requires)

“การพึ่งพาอาศัยกัน” คือวิธีที่สมาชิกในทีมที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันเพื่อทำงานร่วมกันอย่าง
เหนียวแน่น ลองนึกภาพความแตกต่างระหว่างทีมศัลยกรรมกับแผนกเรียกเก็บเงินของโรงพยาบาล
ทีมเหล่านีพ้ ึง่ พาซ่ึงกันและกันแตกตา่ งกันมากเพ่ือให้ได้ผลลพั ธ์ทีป่ ระสบความสำเรจ็ ถามตัวเองว่าทมี
ของคณุ ม:ี

- การพึ่งพาอาศยั กนั ต่ำ
- การพึ่งพาอาศยั กันปานกลาง
- การพ่ึงพาอาศยั กันสงู

90

ขั้นตอนท่ี 4: ทบทวนสิ่งที่องค์กรกำลังดำเนินการเพื่อสนับสนุนการทำงานเป็นทีม
(Review What the Organization Is Doing to Support Teamwork)

องค์กรที่มีประสิทธิภาพใช้ประโยชน์จากทีมโดยให้การสนับสนุนที่ลดหลั่นกันไปผ่าน
องค์กร ประเมินความมุ่งมั่นขององค์กรของคุณในการพัฒนาทีมและถามว่าพวกเขาจัดเตรียมส่ิง
ต่อไปน้ีหรือไม่ :

- มีการสนับสนุนจากหัวหน้าอาวุโส
- ระบบและการสนบั สนนุ โครงสร้าง
- การสนับสนนุ การพฒั นา
ขั้นตอนท่ี 5: ตรวจสอบสิ่งที่คุณกำลังทำในฐานะผู้นำเพื่อสนับสนุนการทำงานเป็นทีม
(Examine What You as A Leader Are Doing to Support Teamwork)
การทำงานเป็นทีมเป็น “ความได้เปรียบในการแข่งขันขั้นสูงสุด” และในฐานะผู้นำ คุณ
สามารถสนับสนุนทีมที่มีประสิทธิภาพสูงได้โดยมุ่งมั่นที่จะ สร้างทักษะในการทำงานร่วมกัน เป็น
ทมี ถามตวั เองว่าคณุ สามารถเสริมประสทิ ธภิ าพของทีมดว้ ยการกระทำเหลา่ น้ไี ด้หรือไม่:
- สรา้ งความสามารถทางเทคนิคของทมี
- เปดิ ช่องทางการสื่อสาร
- เลอื กสมาชกิ ในทมี ที่เหมาะสมและตรวจสอบให้แนใ่ จวา่ ทีมของฉันมีขนาดท่ีเหมาะสม
- สรา้ งทักษะสมาชกิ ในทีม—ดว้ ยการประเมนิ การเสอ่ื มถอยดา้ นทักษะ และ/หรือการ

ฝกึ สอน
- กำหนดเปา้ หมายท่ชี ัดเจน (อยา่ งมีไหวพริบและเปน็ ไปได้)
- ชีแ้ จงบทบาทของแตล่ ะคนในการบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน
- ร่วมสนบั สนนุ ทั้งในและนอกทมี
- ส่งเสรมิ ความสนทิ สนมและความร่วมมือ—ด้วยการถอยทีม
- สง่ เสรมิ ความขัดแย้งทด่ี ตี อ่ การทำงานและแกไ้ ขข้อขดั แย้ง
- แบบจำลองความรบั ผิดชอบ สร้างพันธมติ รความรับผดิ ชอบ
- สือ่ สารความสำเร็จของทมี ใหผ้ ้คู นรับรู้

โปรดทบทวน – ขั้นตอนเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะของ
Mugavin มีสาระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” ดไู ดจ้ ากเวบ็ ไซต์ข้างลา่ งน้ี

https://www.flashpointleadership.com/blog/5-steps-for-building-an-effective-team

91

Wehbe (2020) ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียและการตลาดดิจิทัลในฝรั่งเศส กล่าวถึง 5
ขนั้ ตอน การสรา้ งการทำงานเปน็ ทีมที่มีประสิทธภิ าพ ดังน้ี

ข้นั ตอนที่ 1 รู้ถงึ ทักษะตา่ ง ๆ ท่ีคณุ มโี ดยมอบหมายงานทเี่ หมาะสมสำหรับพนักงานแต่
ละคนตามลำดบั (Acknowledge the Different Skills You Have by Assigning a Suitable
Task for each Employee Accordingly) การคำนึงถึงเป้าหมายที่คุณต้องการบรรลุจะช่วยให้
คณุ ใช้พรสวรรคท์ ี่มีอยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อทำการจ้างงาน พยายามเฟ้นหาความสามารถและประสบการณ์ที่
หลากหลายเ ส ม อ ( When Hiring, Always Try to Accommodate a Broad Range of
Performances and Experiences) ด้วยการสร้างความหลากหลายในกลุ่มพนักงานที่ได้รับเลือก
สำหรบั โครงการ คุณมโี อกาสทีจ่ ะมองเห็นเป้าหมายและปัญหาของคุณจากหลายมุม

ขัน้ ตอนท่ี 3 อยา่ เปน็ ทำตวั เปน็ เจา้ นาย! (Don’t be a Boss) ให้พนักงานของคุณเข้าถึง
และมสี ิทธใิ นส่ิงทพ่ี วกเขาต้องการเพ่อื ขยายขอบเขตให้ไกล การทำงานร่วมกนั และสนับสนุนซ่งึ กนั และ
กันจะชว่ ยใหค้ ณุ บรรลเุ ป้าหมายได้เรว็ ขึน้

ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบความคืบหน้าโดยติดตามทีมของคุณอย่างสม่ำเสมอ (Verify
Progress by Monitoring your Team Regularly) ตรวจสอบว่าพวกเขาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง
แต่ให้โอกาสพวกเขาทำด้วยตัวเองเสมอ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและมี
ความรับผดิ ชอบตอ่ เวลามากข้ึน

ขั้นตอนที่ 5 ความกตัญญูกตเวทีเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ
มิตรภาพ และความเคารพระหว่างพนักงานเสมอ (Gratitude is Always a Key Element for
Building Trust, Friendship, and Respect between the Employees) การขอบคุณพวก
เขาจะกระตนุ้ ความรบั ผดิ ชอบใหมด่ ว้ ยความพยายามอยา่ งต่อเน่ืองท่จี ะทำสิ่งตา่ ง ๆ ให้ดขี ้ึนในอนาคต

โปรดทบทวน – ขน้ั ตอนเพอื่ การพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทศั นะของ
Wehbe มีสาระสำคัญอะไร
…………………………………………………………………………………………….......................
............................................................................................................................. ..
...............................................................................................................................
หมายเหตุ ศึกษาจากตน้ ฉบบั ภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” ดูไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ข้างลา่ งน้ี

https://www.potential.com/articles/teamwork/?fbclid=IwAR2F-
1baCyTmOJRRylCwWwLdBCB7M_XGWj26ybx9RuDqKZwFJmBRlWcek_k

92

Nikolova (2021) เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ School of Slavonic
and East European Studies, University College London และที่ปรึกษา/หัวหน้าทีมที่ Asian
Infrastructure Investment Bank ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการประเมินช่องว่างทางเพศในการเข้าถึงน้ำ
และโครงสร้างพน้ื ฐานในเอเชยี กลา่ วถงึ 7 ขน้ั ตอนง่าย ๆ เพื่อการทำงานเป็นทีมทีป่ ระสบความสำเร็จ
(7 easy Steps for Successful Teamwork) ดงั น้ี

ขั้นตอนที่ 1 กำหนดเป้าหมายทีมและองค์กรที่ชัดเจน (Set Clear Team and
Organizational Goals)

กำหนดการทำงานเป็นทีม ว่าเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนด้วยวตั ถุประสงค์ร่วมกัน เป้าหมาย
ร่วมกันนี้คือสิ่งที่รวมให้ทีมเป็นอันหนึ่งอันเดียวและกระตุ้นให้พวกเขาให้หาวิธีใหม่ ๆ ในการทำงาน
ร่วมกัน เพื่อให้บุคคลและทีมมีประสิทธิภาพ ต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ตั้งแต่ต้นและสื่อสารอย่าง
สม่ำเสมอเพ่ือให้ทีมมงุ่ สู่เสน้ ทางสู่ความสำเร็จ

ขนั้ ตอนที่ 2 ทำงานตามจุดแข็งของแต่ละคน (Play to Individual Strengths)
การทำความเข้าใจจุดแข็งของแต่ละบุคคลและบทบาทที่พวกเขาทำภายในภารกิจของทีม
จะช่วยใหท้ มี เป็นเลิศ จากการศึกษาทจ่ี ัดทำโดย Gallup บริษัทตา่ ง ๆ ท่ีมกี ารจัดการตามจุดแข็งของ
บุคคล (เชน่ ทำการทดสอบจุดแข็งและกำหนดให้พนักงานอยู่ในบทบาททสี่ ามารถทำได้) เพิ่มผลกำไร
ขึ้นร้อยละ 14-29 คนชอบทำในสิ่งที่ตนถนัดและจะมีแรงจูงใจมากขึ้นหากพวกเขารู้สึกว่าพวกเขา
กำลังทุม่ เททำงานอยา่ งเต็มท่ีเพ่ือให้บรรลเุ ปา้ หมายโดยรวม
ขนั้ ตอนท่ี 3 ความหลากหลายคือข้อได้เปรยี บ (Diversity is an Advantage)
ทีมที่หลากหลายซึ่งมีผู้คนจากภูมิหลังและทักษะที่แตกต่างกันมักจะมีประสิทธภิ าพในการ
แก้ปัญหามากกว่า การศึกษาที่ดำเนินการโดย Cloverpop พบว่าทีมที่หลากหลายตัดสินใจได้ดีขึ้น
ร้อยละ 87 ขนาดทีมก็สำคัญ ควรประมาณ 4 ถึง 9 คน ต้องใหญ่พอที่จะทำงานให้เสร็จ แต่เล็ก
พอที่จะไม่เทอะทะและยอมรับการคิดแบบกล่มุ
ขน้ั ตอนท่ี 4 นำโดยทำเป็นตัวอยา่ ง (Lead by Example)
วิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมการทำงานเป็นทีมคือการฝึกฝนสิ่งที่คุณสั่งสอน ผู้นำที่ยิ่งใหญ่
เป็นผู้นำโดยเป็นแบบอย่างและสามารถสร้างแนวทางปฏิบัติของทีมที่ดีขึ้นด้วยการปฏิบัติให้เป็น
บรรทัดฐานทางวัฒนธรรม จากข้อมูลของ Gallup ผู้จัดการมีส่วนอย่างน้อยร้อยละ 70 ของความ
แปรผันในคะแนนความผูกพันของพนักงานในหน่วยธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าพฤติกรรมและทัศนคติที่
สง่ ออกมาจากระดบั บนของบรษิ ัทจะฝังอยใู่ นระดบั ตา่ งๆ และในท่สี ดุ ก็จะมีผลทว่ั ทั้งองค์กร
ขัน้ ตอนที่ 5 เรียนรู้ท่จี ะฟัง (Learn to Listen)

93

ดังคำกล่าวที่ว่า การสื่อสารเป็นการสื่อสารสองทาง เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของความรู้
และความคิดที่ดี จำเป็นที่ทีมของคุณต้องได้รับการยอมรับ การรับฟังทีมของคุณไม่เพียงแต่ช่วยให้
พวกเขารู้สึกว่าความคิดของพวกเขามีค่าควรแก่การแบ่งปัน แต่ยังสามารถเพิ่มความสัมพันธ์ส่วนตัว
กับองค์กรและบทบาทของพวกเขาได้ การศึกษาที่ดำเนินการโดย Atlassian พบว่าเมื่อมีการ
สนบั สนุนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ความเคารพซ่งึ กันและกนั และการเปดิ กวา้ งในระดบั ส่วนตัว
สมาชกิ ในทมี มีแนวโนม้ ทีจ่ ะแสดงถความสขุ ทางอารมณท์ ส่ี งู ข้ึนร้อยละ 80

ขัน้ ตอนที่ 6 ทำความร้จู ักกนั (Get to Know Each Other)
ทีมที่มีความเชื่อมโยงในระดับบุคคลสามารถปลดล็อกศักยภาพในการทำงานร่วมกันได้
รอ้ ยละ 50 ของการเปล่ยี นแปลงเชงิ บวกในรูปแบบการสื่อสารภายในสถานที่ทำงานสามารถทำให้เกิด
การมีปฏิสัมพนั ธท์ างสงั คมนอกท่ที ำงาน แบบฝึกหัดและกจิ กรรมการสร้างทีมสามารถช่วยสร้างความ
ไวว้ างใจระหวา่ งสมาชิกและเปดิ โอกาสให้พวกเขาทำงานรว่ มกันได้สำเร็จมากขน้ึ ส่งเสรมิ ให้แต่ละคน
พักดื่มกาแฟและจัดกิจกรรมที่สร้างชั่วโมงแห่งความสุข วางแผนกิจกรรมและละลายพฤติกรรมเป็น
ระยะเพ่อื ให้ทีมของคุณมโี อกาสทำความรู้จักกันในระดับท่ีลึกซ้งึ ยิง่ ขน้ึ
ขัน้ ตอนท่ี 7 ใช้เครือ่ งมอื การทำงานรว่ มกนั (Use Collaboration Tools)
เครื่องมือการทำงานร่วมกันแบบดิจิทัล เช่น อินทราเน็ต (Intranet) เป็นองค์ประกอบ
สำคัญของการทำงานเป็นทีมทั้งในและนอกสำนักงาน ในขณะที่เราปรับให้เข้ากับวธิ ีการทำงานแบบ
ผสมผสานมากขึ้น เครื่องมือในการทำงานร่วมกันได้กลายเป็นเส้นใยที่ทำให้ทีมเชื่อมต่อกันและเปิด
โอกาสใหม่ๆ สำหรับวิธีการทำงานที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น อินทราเน็ตของ Happeo นำเสนอโซลูชันแบบมี
พลวัตและการออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและทำให้การ
ทำงานรว่ มกนั ในทีท่ ำงานเปน็ เรือ่ งงา่ ยทัว่ ทัง้ บรษิ ัท
สิง่ หนึ่งทผ่ี ู้นำมกั จะไตร่ตรองคือประสิทธิภาพและความสมั พันธข์ องทีม ตัวบง่ ชี้
ประสิทธภิ าพแสดงให้เห็นวา่ ทีมท่มี ปี ระสทิ ธิผลมักจะทำได้ดกี ว่าคนที่ทำงานเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะ
อยา่ งยิ่งในสถานการณท์ ่ีมีความกดดนั สูงหรือเม่ือจำเป็นต้องมที กั ษะที่หลากหลาย

โปรดทบทวน – ขั้นตอนเพื่อการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมจากทัศนะของ
Nikolova มีสาระสำคัญอะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ ศึกษาจากตน้ ฉบบั ภาษาอังกฤษ โปรด “คลิก” ดูไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ข้างลา่ งนี้

https://www.happeo.com/blog/how-to-improve-
teamwork?fbclid=IwAR0iDhnyYBgIEZou4scif2rksSKiQsh1vTjCgC7xSkc0X1V8OGXv
8BtdkXk

94

โปรดวจิ ารณ์ข้นั ตอนเพือ่ พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม (Steps to
Improve Teamwork Skills) ทส่ี รุปข้างลา่ งนี้วา่ ทำให้เขา้ ใจในความหมาย

ทคี่ รอบคลุมและชดั เจนแล้วหรือไม่ ควรปรบั หรือเพม่ิ เติมอะไรอีกหรอื ไม่

จากทัศนะของ Cardinal (2015), Mugavin (2017), Wehbe (2020) และ Fronzek
(2021) ดังกล่าวข้างต้น เห็นได้ว่า แต่ละแหล่งอ้างอิงได้กล่าวถึงขั้นตอนเพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน
เป็นทมี (Steps to Improve Teamwork Skills) ทน่ี า่ สนใจ ดังน้ี

Cardinal (2015) กล่าวถึง 5 ขนั้ ตอน คอื
1) สร้างความเปน็ ผู้นำ (Establish Leadership)
2) สร้างความสัมพันธ์กับพนักงานแต่ละคนของคุณ (Establish Relationships with

Each of your Employees)
3) สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานของคุณ (Build Relationships between your

Employees)
4) ส่งเสริมการทำงานเปน็ ทีม (Foster Teamwork)
5) ต้งั กฎพ้นื ฐานสำหรับทมี (Set Ground Rules for the Team)
Mugavin (2017) กลา่ วถึง 5 ขน้ั ตอน คอื
1) ทำความเข้าใจวตั ถุประสงคข์ องการสร้างทีมของคุณ (Understand the Purpose of

Forming Your Team)ชักชวนบุคลากรในองค์กรของคุณให้มสี ่วนร่วม (Engage your
Organization’s Employees)
2) ตรวจสอบลักษณะและส่วนประกอบของทีมของคุณ (Examine the Characteristics
and Components of Your Team)
3) ประเมินระดับการโต้ตอบที่ทมี ของคุณต้องการ (Assess the Degree of Interaction
Your Team Requires)
4) ทบทวนสิ่งที่องค์กรกำลังดำเนินการเพื่อสนับสนุนการทำงานเป็นทีม (Review What
the Organization Is Doing to Support Teamwork)
5) ตรวจสอบสิ่งที่คุณกำลังทำในฐานะผู้นำเพื่อสนับสนุนการทำงานเป็นทีม (Examine
What You as A Leader Are Doing to Support Teamwork)
Wehbe (2020) กลา่ วถึง 5 ข้ันตอน คือ
1) รู้ถึงทักษะต่าง ๆ ที่คุณมีโดยมอบหมายงานที่เหมาะสมสำหรับพนักงานแต่ละคน
ต า ม ล ำ ด ั บ ( Acknowledge the Different Skills You Have by Assigning a
Suitable Task for each Employee Accordingly)
2) เมือ่ ทำการจา้ งงาน พยายามเฟน้ หาความสามารถและประสบการณ์ท่หี ลากหลายเสมอ
(When Hiring, Always Try to Accommodate a Broad Range of Performances
and Experiences)
3) อย่าเปน็ ทำตวั เปน็ เจ้านาย! (Don’t be a Boss)

95

4) ตรวจสอบความคืบหน้าโดยติดตามทีมของคุณอย่างสม่ำเสมอ (Verify Progress by
Monitoring your Team Regularly)

5) ความกตัญญูกตเวทีเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ มิตรภาพ และ
ความเคารพระหว่างพนักงานเสมอ (Gratitude is Always a Key Element for
Building Trust, Friendship, and Respect between the Employees)

Nikolova (2021) กล่าวถึง 7 ข้ันตอน คอื
1) กำหนดเป้าหมายทีมและองค์กรที่ชัดเจน (Set Clear Team and Organizational

Goals) ใช้การกำหนดคำถามทจ่ี ุดประกายความคดิ (Formulating the Questions)
2) ทำงานตามจดุ แข็งของแตล่ ะคน (Play to Individual Strengths)
3) ความหลากหลายคือขอ้ ได้เปรียบ (Diversity is an Advantage)
4) นำโดยทำเปน็ ตวั อย่าง (Lead by Example)
5) เรียนรู้ทจ่ี ะฟงั (Learn to Listen)
6) ทำความรจู้ กั กัน (Get to Know Each Other)
7) ใชเ้ ครือ่ งมือการทำงานร่วมกนั (Use Collaboration Tools)

จากนานาทัศนะเกี่ยวกับข้ันตอนเพือ่ พัฒนาทกั ษะการทำงานเปน็ ทมี (Steps to Improve
Teamwork Skills) ดังกล่าวข้างต้น ท่านเห็นว่ามีแนวคิด (Concepts) ที่สำคัญอะไรบ้าง ที่ทำให้
เข้าใจในความสำคัญนั้นได้อย่างกระชับและชัดเจน โปรดระบุแนวคิดหรือองค์ประกอบนั้นในภาพที่
แสดงขา้ งล่าง

96

Cardinal, R. (2015, June 23). 5 Steps to building an effective team. Retrieved August
18, 2021 from https://www.huffpost.com/entry/5-steps-to-building-an-
effective-team_b_7132406

Mugavin, B. (2017, March 16). 5 Steps to building effective teams. Retrieved August
18, 2021 from https://www.flashpointleadership.com/blog/5-steps-for-
building-an-effective-team

Nikolova, E. (2021, May 27). 7 Easy steps for successful teamwork. Retrieved August
18, 2021 from https://www.happeo.com/blog/how-to-improve-
teamwork?fbclid=IwAR0iDhnyYBgIEZou4scif2rksSKiQsh1vTjCgC7xSkc0X1V8OG
Xv8BtdkXk

Wehbe, S. (2020, November 8). Teamwork – Effective team work in the age of
remote Work. Retrieved August 18, 2021 from
https://www.potential.com/articles/teamwork/?fbclid=IwAR2F-
1baCyTmOJRRylCwWwLdBCB7M_XGWj26ybx9RuDqKZwFJmBRlWcek_k

97

98

วัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้

หลังจากการศกึ ษาคู่มือชุดน้แี ล้ว ทา่ นมีพัฒนาการดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive Domain) ซ่ึง
เป็นจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตาม The Revised
Taxonomy (2001) ของ Benjamin S. Bloom โดยจําแนกพฤตกิ รรมในขอบเขตน้ีออกเปน็ 6 ระดับ
เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก หรือจากทักษะการคิดขั้นต่ำกว่าไปหาทักษะการคิด
ขั้นสูงกว่า ดังนี้ คือ ความจำ (Remembering) ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้
(Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating)
ดงั น้ี

1. บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลำดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จำแนก หรือระบุการ
ประเมินทักษะการทำงานเปน็ ทีมได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือ
เรียบเรยี งการประเมินทักษะการทำงานเปน็ ทีม

3. แก้ปัญหา สาธิต ทำนาย เชื่อมโยง ความสัมพันธ์ เปลี่ยนแปลง คำนวณ หรือปรับปรุง
การประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ ทมี ได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จำแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผล การประเมิน
ทักษะการทำงานเปน็ ทมี ได้

5. วดั ผล เปรยี บเทยี บ ตคี ่า ลงความเห็น วจิ ารณ์ การประเมนิ ทักษะการทำงานเปน็ ทีมได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการของการประเมิน

ทกั ษะการทำงานเป็นทมี ได้

คำชแี้ จง
1. โปรดศึกษาเน้อื หาเกยี่ วกับการประเมินทกั ษะการทำงานเป็นทีมท่นี ำมากลา่ วถึงแต่ละ
ทศั นะ
2. หลังจากการศึกษาเนื้อหาโปรดทบทวนความเข้าใจจากคำถามท้ายเนื้อหาของแต่ละ
ทัศนะ
3. ศึกษารายละเอียดของความสำคัญท่ีเปน็ ตน้ ฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” เวบ็ ไซต์ท่ี
นำเสนอไวท้ า้ ยเนอื้ หาของแต่ละทศั นะ

99

Kuras and Moran (1997) Tom Kuras มีประสบการณ์มากกว่า 12 ปีในการช่วยเหลือ
ด้านการผลิต การบริการ และองค์กรการศึกษาเพื่อพัฒนากลยุทธ์การปรับปรุงตามทีม เขามี MS ใน
การจดั การจากมหาวิทยาลยั Antioch และเปน็ ประธานของ World Class Connections และ John
W. Moran, ปริญญาเอก เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Change Healthcare, Inc. ซึ่ง
เช่ียวชาญในการให้คำปรกึ ษาทางคลินกิ และธรุ กิจในการดูแลสุขภาพ เขาเปน็ Fellow ของ ASQC

อธิบายในแบบสอบถามว่า ตอบคำถามแต่ละข้อโดยป้อนหมายเลขด้านล่างที่อธิบายทีม
ปัจจบุ นั ของคณุ ได้ดีที่สดุ โดยหมายเลข 4 - อยา่ งแน่นอน 3 - จริงมาก 2- บางครั้ง 1-ไม่เคยเลย

1. ในฐานะสมาชกิ ในทีม ฉันมงุ่ มน่ั ทีจ่ ะเปลีย่ นแปลง
2. ฉันเข้าใจวตั ถปุ ระสงค์ของทีมอยา่ งชดั เจน
3. หัวหน้าทีมมกี ระบวนการแบง่ ปันขอ้ มูลกบั สมาชิกในทีมทุกคน
4. ทมี งานของเรามสี มาชิกที่มีความสามารถเหมาะสมทีจ่ ะประสบความสำเร็จ
5. ในฐานะสมาชิกในทีม ฉันเข้าใจว่างานของเราส่งผลต่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าของแผนก

ของเราอยา่ งไร
6. ทีมงานของเราได้รับการยอมรับในความสำเรจ็
7. สมาชิกในทีมแสดงแนวคิดและแสดงความคดิ เห็นอย่างเปิดเผย
8. สมาชกิ ในทมี มชี ่องทางในการดูความคืบหนา้ ไปสู่เป้าหมายทส่ี ำคัญ
9. สมาชิกในทมี ของฉนั ตอ้ งการอยใู่ นทีม
10. ฉนั อยากอยูใ่ นทมี
11. ทมี งานของเราสามารถตัดสินใจอย่างรอบคอบซ่งึ สมาชิกในทีมทุกคนสนับสนุน
12. ทมี ของเราสามารถมกี ารประชมุ ทีม่ ปี ระสิทธผิ ลโดยปราศจากอิทธิพลของหวั หนา้ ทีม
13. สมาชกิ ในทมี ของเราไว้วางใจและเคารพซ่งึ กนั และกัน
14. สมาชกิ ในทมี แสดงความไมเ่ ห็นดว้ ยอยา่ งสรา้ งสรรค์
15. สมาชกิ ในทีมเต็มใจรบั หน้าท่ใี หม่
16. สมาชกิ ในทีมปฏิบัตติ ามการตัดสินใจและรายการดำเนินการ
17. ทีมงานของเราได้กำหนดกฎเกณฑ์พื้นฐานและแนวทางปฏิบัติสำหรับผลงานและ

พฤติกรรมของทมี
18. สมาชิกในทีมได้รบั การสนับสนนุ ให้แสดงความคิดเห็นท่ีแตกต่างกัน
19. ทีมงานของเราให้เวลากับการประเมินว่าพวกเขาทำงานเป็นกลุ่มได้อย่างมี

ประสิทธิภาพเพยี งใด

100

20. สมาชกิ ในทมี ของเรามคี วามรับผิดชอบตอ่ หน้าท่แี ละการมอบหมายงานของตน

โปรดทบทวน - การประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ ทีมจากทศั นะของ Kuras and
Moran มีสาระสำคญั อะไร ?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………….......................
…………………………………………………………………………………………….......................

หมายเหตุ ศึกษาจากต้นฉบบั ภาษาองั กฤษ โปรด “คลกิ ” ดูไดจ้ ากเว็บไซตข์ ้างล่างนี้

http://www.phf.org/pmqi/20-Questions-To-Ask-Your-Teams.pdf

Lencioni (2002) อธิบายในแบบสอบถามว่า ใช้มาตราส่วนด้านล่างเพื่อระบุว่าคำชี้แจง
แตล่ ะข้อว่านำไปใชก้ ับทีมของคุณอย่างไร สง่ิ สำคัญคือต้องประเมินข้อความอย่างตรงไปตรงมาและไม่
ตอ้ งคดิ มากกบั คำตอบของคณุ หมายเลข 3= ปกติ 2= บางครัง้ 1= นานๆครง้ั

1. ทมี มคี วามกระตือรือร้นและไมส่ รา้ งกำแพงในการอภิปรายประเดน็ ตา่ งๆ
2. สมาชิกในทมี กระตุ้นใหแ้ กไ้ ขขอ้ บกพร่องหรือพฤตกิ รรมทีไ่ ม่ก่อผลของกันและกัน
3. สมาชิกในทีมรูว้ ่าเพ่ือนร่วมงานของพวกเขากำลังทำอะไรและมสี ว่ นช่วยเหลือส่วนรวม

ของทีมอย่างไร
4. สมาชกิ ในทมี ขอโทษซง่ึ กนั และกันอยา่ งรวดเร็วและจริงใจ เมือ่ พวกเขาพูดหรือทำอะไร

ทไ่ี มเ่ หมาะสมหรอื อาจสร้างความเสียหายให้กบั ทมี
5. สมาชกิ ในทีมเต็มใจเสยี สละ (เชน่ งบประมาณ ความถนดั การนบั จำนวนคน) ในแผนก

หรอื สาขาทีเ่ ช่ียวชาญเพ่ือประโยชน์ของทีม
6. สมาชกิ ในทมี ยอมรับจดุ อ่อนและขอ้ ผดิ พลาดอย่างเปิดเผย
7. การประชมุ ทมี น้ันนา่ สนใจไม่นา่ เบอ่ื
8. สมาชิกในทีมออกจากการประชุมโดยมั่นใจว่าเพื่อนร่วมงานของพวกเขามุ่งมั่นอย่าง

เต็มทต่ี ่อการตัดสินใจทีต่ กลงกันไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไมเ่ ห็นดว้ ยในตอนแรกก็ตาม
9. ขวญั กำลังใจไดร้ บั ผลกระทบอยา่ งมากจากความล้มเหลวในการบรรลุเปา้ หมายของทมี


Click to View FlipBook Version