สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื เน่ืองจำกพระรำชบญั ญตั ิ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๗๗ วรรคสอง ใหอ้ อกกฎกระทรวงกำหนดวธิ ลี ำกรถ
หรอื จงู รถ และกำรมเี คร่อื งหมำยเพอ่ื ควำมปลอดภยั จงึ จำเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
๔๙๕
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๘ (พ.ศ. ๒๕๒๒)
ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒๙๕
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ และมำตรำ ๑๔๔ วรรคสอง แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ รฐั มนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยออกกฎกระทรวงไว้
ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ เม่อื ผขู้ บั ขไ่ี ดร้ บั หนังสอื สงั่ ตำมมำตรำ ๑๔๓ แห่งพระรำชบญั ญตั จิ รำจร
ทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ใหเ้ จำ้ ของรถหรอื ผู้ขบั ขซ่ี ่อมหรอื แกไ้ ขรถให้อย่ใู นสภำพตำมท่สี งั่
แล้วนำรถพร้อมหนังสอื สงั่ ให้เจ้ำพนักงำนจรำจรในเขตท้องท่ีซ่งึ ได้ออกหนังสอื สงั่ นัน้
ตรวจรบั รอง
ขอ้ ๒ เม่อื เจำ้ พนักงำนจรำจรตำมขอ้ ๑ ไดร้ บั รถพรอ้ มหนังสอื สงั่ แลว้ ให้ปฏบิ ตั ิ
ดงั ต่อไปน้ี
(๑) ในกรณีทเ่ี ป็นกำรตรวจรบั รองท่ไี ม่ต้องใช้เคร่อื งมือทดสอบให้ดำเนินกำร
ตรวจทนั ที เม่อื ตรวจแลว้ เหน็ ว่ำถูกตอ้ งตำมหนังสอื สัง่ ให้รบั รองโดยสลกั หลงั หนงั สอื สงั่
นนั้ ว่ำ “ตรวจแลว้ เรยี บรอ้ ย” พรอ้ มกบั ลงลำยมอื ชอ่ื และวนั เดอื นปีทต่ี รวจ
(๒)๙๖ ในกรณีทเ่ี ป็นกำรตรวจรบั รองรถทต่ี อ้ งใชเ้ คร่อื งมอื ทดสอบ ใหเ้ จำ้ พนักงำน
จรำจรรบี ส่งรถพรอ้ มหนังสอื สงั่ ใหผ้ ู้ซ่งึ ผู้บญั ชำกำรตำรวจแห่งชำตแิ ต่งตงั้ ตรวจรบั รอง
เมอ่ื ผตู้ รวจรบั รองรถไดต้ รวจแลว้ เหน็ วำ่ ถูกตอ้ งตำมหนงั สอื สงั่ กใ็ หป้ ฏบิ ตั ติ ำม (๑)
วิธีกำรตรวจรับรองรถตำม (๒) ให้เป็ นไปตำมประกำศกระทรวง
ทรพั ยำกรธรรมชำติและสง่ิ แวดล้อม เก่ยี วกบั มำตรฐำนกำรควบคุมมลพิษจำกยำนพำหนะ
ซง่ึ ออกตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรสง่ เสรมิ และรกั ษำคณุ ภำพสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชำติ
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๓๐ พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๒๒
พลเอก เลก็ แนวมำลี
รฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงมหำดไทย
๙๕ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๙๖/ตอนท่ี ๙๕/ฉบบั พเิ ศษ หน้ำ ๒๔/๑๔ มถิ ุนำยน ๒๕๒๒
๙๖ ขอ้ ๒ (๒) แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๘ (พ.ศ. ๒๕๔๖) ออกตำมควำมใน
พระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
๔๙๖
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื เน่ืองจำกพระรำชบญั ญตั ิ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๑๔๔ วรรคสอง กำหนดให้กำรตรวจรบั รองรถ
ทเ่ี จำ้ ของหรอื ผขู้ บั ขไ่ี ดซ้ ่อมหรอื แกไ้ ขตำมคำสงั่ เจำ้ พนกั งำนจรำจรหรอื พนกั งำนเจำ้ หน้ำท่ี
ซง่ึ สงั่ ตำมมำตรำ ๑๔๓ ต้องเป็นไปตำมวธิ กี ำรทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง จงึ จำเป็นต้อง
ออกกฎกระทรวงน้ี
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๘ (พ.ศ. ๒๕๔๖) ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก
พ.ศ. ๒๕๒๒๙๗
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยทไ่ี ดม้ กี ำรออกกฎกระทรวง
กำหนดกำรตรวจรบั รองรถในกรณีทต่ี ้องใชเ้ คร่อื งมอื ทดสอบตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยจรำจร
ทำงบกไว้แล้ว แต่ยังไม่สอดคล้องกับหลกั เกณฑ์กำรกำหนดค่ำมำตรฐำนและวิธกี ำร
ตรวจวดั มลพิษจำกยำนพำหนะตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสริมและรกั ษำคุณภำพ
สง่ิ แวดล้อมแห่งชำติ สมควรปรบั ปรุงวธิ กี ำรตรวจรบั รองรถตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยจรำจร
ทำงบกให้สอดคล้องกับกฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสรมิ และรักษำคุณภำพส่ิงแวดล้อม
แห่งชำติ จงึ จำเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
๙๗ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๒๐/ตอนท่ี ๔๒ ก/หน้ำ ๓/๑๖ พฤษภำคม ๒๕๔๖
๔๙๗
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๕)
ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒๙๘
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ และมำตรำ ๕๖ วรรคสอง แห่งพระรำชบญั ญัติ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ รฐั มนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยออกกฎกระทรวงไว้
ดงั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตำมควำมใน
พระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
ขอ้ ๒ ให้กำหนดลกั ษณะของเคร่อื งหมำยหรอื สญั ญำณท่ีผู้ขบั ข่ตี ้องแสดง
ในกรณีทจ่ี ำเป็นตอ้ งจอดรถอย่ใู นทำงเดนิ รถเน่อื งจำกเคร่อื งยนตรห์ รอื เคร่อื งอปุ กรณ์ของรถ
ขดั ขอ้ งไว้ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) เคร่อื งหมำยทำดว้ ยแผ่นโลหะรูปสำมเหลย่ี มดำ้ นเท่ำ ยำวไม่ต่ำกวำ่ ดำ้ นละ
๕๐ เซนตเิ มตร ติดดว้ ยแถบสะทอ้ นแสง พน้ื สขี ำว ขอบสแี ดง กวำ้ ง ๕ เซนติเมตร มรี ูป
สเ่ี หลย่ี มผนื ผำ้ สดี ำ กวำ้ ง ๘ เซนตเิ มตร ยำว ๒๕ เซนตเิ มตร หวั ทำ้ ยมน อย่บู นพน้ื สขี ำว
ในแนวดงิ่ พรอ้ มขำตงั้
(๒) เครอ่ื งหมำยทำดว้ ยแผ่นโลหะรปู สำมเหลย่ี มดำ้ นเท่ำ ยำวไมต่ ่ำกว่ำดำ้ นละ
๔๕ เซนตเิ มตร ตดิ ดว้ ยแถบสะทอ้ นแสง พน้ื สขี ำว ขอบสแี ดง กวำ้ ง ๔ เซนตเิ มตร มรี ปู
สเ่ี หลย่ี มผนื ผำ้ สดี ำ กวำ้ ง ๘ เซนตเิ มตร ยำว ๑๕ เซนตเิ มตร หวั ทำ้ ยมน อย่บู นพน้ื สขี ำว
ในแนวดงิ่ พรอ้ มขำตงั้
(๓) สญั ญำณเป็นไฟสญั ญำณกระพรบิ สเี หลอื งอำพนั หรอื สขี ำวติดอยู่หน้ำรถ
ทงั้ ดำ้ นซำ้ ยและดำ้ นขวำ และไฟสญั ญำณกระพรบิ สแี ดงหรอื สเี หลอื งอำพนั ตดิ อย่ทู ำ้ ยรถ
ทงั้ ดำ้ นซำ้ ยและดำ้ นขวำ
ขอ้ ๓ รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสำร รถลำกจูง หรอื รถพ่วง ใหใ้ ช้เคร่อื งหมำย
ตำมขอ้ ๒ (๑)
ขอ้ ๔ รถยนตรอ์ ่นื นอกจำกทร่ี ะบุไวใ้ นขอ้ ๓ ใหใ้ ชเ้ คร่อื งหมำยตำมขอ้ ๒ (๒)
ขอ้ ๕ ในเขตกรุงเทพมหำนคร เขตเมืองพัทยำ หรือเขตเทศบำล ให้แสดง
๙๘ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๙๙/ตอนท่ี ๙/ฉบบั พเิ ศษ หน้ำ ๘/๒๕ มกรำคม ๒๕๒๕
๔๙๘
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
เคร่อื งหมำยตำมขอ้ ๒ (๑) หรอื (๒) แลว้ แต่กรณี โดยใหฐ้ ำนของรปู สำมเหลย่ี มขนำนกบั พน้ื
ไวท้ งั้ ดำ้ นหน้ำและดำ้ นหลงั ของรถหรอื แสดงสญั ญำณตำมขอ้ ๒ (๓)
ข้อ ๖ นอกเขตตำมข้อ ๕ ให้แสดงเคร่ืองหมำยตำมข้อ ๒ (๑) หรือ (๒)
แลว้ แต่กรณี โดยใหฐ้ ำนของรูปสำมเหลย่ี มขนำนกบั พน้ื ไวท้ งั้ ดำ้ นหน้ำและดำ้ นหลงั ของรถ
หำ่ งจำกรถไม่ต่ำกว่ำ ๕๐ เมตร
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๔ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๒๕
พลเอก สทิ ธิ จริ โรจน์
รฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
๔๙๙
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื เน่ืองจำกกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั ิจรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
ไดก้ ำหนดลกั ษณะของเคร่อื งหมำยและเง่อื นไขในกำรแสดงเคร่อื งหมำยของรถในกรณีท่ี
จำเป็นตอ้ งจอดอย่ใู นทำงเดนิ รถเน่ืองจำกเคร่อื งยนตรห์ รอื เครอ่ื งอปุ กรณ์ของรถขดั ขอ้ งไว้
ยงั ไม่เหมำะสมกบั สภำพกำรจรำจร สมควรปรบั ปรุงให้เหมำะสมยง่ิ ขน้ึ จงึ จำเป็นต้อง
ออกกฎกระทรวงน้ี
๕๐๐
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๓๔)
ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒๙๙
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ และมำตรำ ๕๙ วรรคส่ี แหง่ พระรำชบญั ญตั ิ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยคณะรกั ษำควำมสงบเรยี บรอ้ ยแห่งชำติ
ฉบบั ท่ี ๓๙ ลงวนั ท่ี ๒๘ กุมภำพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๓๔ รฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ เจำ้ ของรถหรอื ผขู้ บั ขต่ี อ้ งชำระค่ำใชจ้ ำ่ ยในกรณที เ่ี จำ้ พนกั งำนจรำจรหรอื
พนกั งำนเจำ้ หน้ำทไ่ี ดเ้ คล่อื นยำ้ ยรถของตนในอตั รำ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) รถบรรทกุ ตงั้ แต่ ๑๐ ลอ้ ขน้ึ ไป
คนั ละ ๑,๐๐๐ บำท
(๒) รถบรรทุก ๔ ลอ้ และ ๖ ลอ้
คนั ละ ๗๐๐ บำท
(๓) รถอน่ื นอกจำกทร่ี ะบไุ วใ้ น (๑) และ (๒)
คนั ละ ๕๐๐ บำท
ขอ้ ๒ เจำ้ ของรถหรอื ผู้ขบั ขต่ี ้องชำระค่ำใช้จ่ำยในกรณีท่เี จ้ำพนักงำนจรำจร
หรอื พนักงำนเจำ้ หน้ำท่ไี ด้ใชเ้ คร่อื งมอื บงั คบั รถของตนไม่ให้เคล่อื นย้ำยในอตั รำ คนั ละ
๕๐๐ บำท แต่ถ้ำเจ้ำของหรอื ผู้ขบั ขไ่ี ด้ชำระค่ำใช้จ่ำยในกำรเคล่อื นยำ้ ยตำมขอ้ ๑ แลว้
ใหไ้ ดร้ บั ยกเวน้ ไม่ตอ้ งชำระค่ำใชจ้ ่ำยในกรณีทร่ี ถถูกใชเ้ คร่อื งมอื บงั คบั ไม่ใหเ้ คล่อื นยำ้ ย
ตำมควำมในขอ้ น้อี กี
ข้อ ๓ เจ้ำของรถหรือผู้ขับข่ีต้องชำระค่ำใช้จ่ำยในกำรดูแลรักษำรถท่ี
ถกู เคลอ่ื นยำ้ ยมำในระหวำ่ งทอ่ี ยใู่ นควำมครอบครองของเจำ้ พนกั งำนจรำจรหรอื พนกั งำน
เจำ้ หน้ำทใ่ี นอตั รำ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) รถบรรทกุ ตงั้ แต่ ๑๐ ลอ้ ขน้ึ ไป
วนั ละ ๕๐๐ บำท
(๒) รถบรรทกุ ๔ ลอ้ และ ๖ ลอ้
วนั ละ ๓๐๐ บำท
๙๙ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๐๘/ตอนท่ี ๘๒/หน้ำ ๒๐๖/๗ พฤษภำคม ๒๕๓๔
๕๐๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
(๓) รถอน่ื นอกจำกทร่ี ะบไุ วใ้ น (๑) และ (๒)
วนั ละ ๒๐๐ บำท
ขอ้ ๔ กำรนับเวลำตำมขอ้ ๓ ให้ถือว่ำย่สี บิ สช่ี วั่ โมงเป็นหน่ึงวนั เศษของวนั
ใหน้ บั เป็นหน่งึ วนั
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๕ มนี ำคม พ.ศ. ๒๕๓๔
พลเอก สนุ ทร คงสมพงษ์
ประธำนสภำรกั ษำควำมสงบเรยี บรอ้ ยแหง่ ชำติ
ปฏบิ ตั หิ น้ำทน่ี ำยกรฐั มนตรี
รกั ษำกำรรฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงมหำดไทย
๕๐๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๓๕)
ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒๑๐๐
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ แห่งพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
และมำตรำ ๑๒๒ วรรคสำม แห่งพระรำชบญั ญัตจิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่งึ แกไ้ ข
เพ่ิมเติมโดยพระรำชบญั ญัติจรำจรทำงบก (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ รฐั มนตรีว่ำกำร
กระทรวงมหำดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ ในกฎกระทรวงน้ี
“หมวกนิรภยั ” หมำยควำมว่ำ หมวกทจ่ี ดั ทำขน้ึ โดยเฉพำะเพ่อื ป้องกนั อนั ตรำย
ในขณะขบั ขแ่ี ละโดยสำรรถจกั รยำนยนต์
“หมวกนิรภยั แบบปิดเตม็ หน้ำ” หมำยควำมว่ำ หมวกนิรภยั ทเ่ี ปลอื กหมวกเป็น
รปู ทรงกลมปิดดำ้ นขำ้ ง ดำ้ นหลงั ขำกรรไกร และคำง ในกรณที ม่ี บี งั ลม บงั ลมตอ้ งทำจำก
วสั ดโุ ปร่งใสและไมม่ สี ี
“หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ” หมำยควำมว่ำ หมวกนิรภัยท่ีเปลือกหมวกเป็น
รปู ทรงกลม ปิดดำ้ นขำ้ งและด้ำนหลงั เสมอแนวขำกรรไกรและต้นคอด้ำนหลงั ดำ้ นหน้ำ
เปิดเหนือค้วิ ลงมำตลอดถึงปลำยคำง ในกรณีท่มี บี งั ลม บงั ลมต้องทำจำกวสั ดุโปร่งใส
และไมม่ สี ี
“หมวกนิรภยั แบบครงึ่ ใบ” หมำยควำมว่ำ หมวกนิรภยั ทเี่ ปลอื กหมวกเป็นรูป
ครงึ่ ทรงกลมปิดด้ำนขำ้ งและดำ้ นหลงั เสมอระดบั หู ในกรณีท่มี บี งั ลม บงั ลมต้องทำจำก
วสั ดโุ ปร่งใสและไม่มสี ี
ขอ้ ๒ หมวกนิรภยั ใหใ้ ชไ้ ด้ ๓ แบบ คอื หมวกนริ ภยั แบบปิดเตม็ หน้ำ หมวกนิรภยั
แบบเตม็ ใบและหมวกนิรภยั แบบครง่ึ ใบ
ในกรณีทไ่ี ดม้ กี ำรกำหนดมำตรฐำนผลติ ภัณฑอ์ ุตสำหกรรมสำหรบั หมวกนิรภยั
แบบใดไวต้ ำมกฎหมำยว่ำดว้ ยมำตรฐำนผลติ ภณั ฑอ์ ุตสำหกรรมแล้ว หมวกนริ ภยั ทจ่ี ะใช้
ตอ้ งเป็นไปตำมมำตรฐำนผลติ ภณั ฑอ์ ุตสำหกรรม
๑๐๐ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๐๙/ตอนท่ี ๙๖/หน้ำ ๑๓/๑๔ กนั ยำยน ๒๕๓๕
๕๐๓
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
ขอ้ ๓ ในขณะขบั ขห่ี รอื โดยสำรรถจกั รยำนยนต์ ผขู้ บั ขแ่ี ละคนโดยสำรตอ้ งสวม
หมวกนิรภยั โดยจะตอ้ งรดั คำงดว้ ยสำยรดั คำงหรอื เขม็ ขดั รดั คำงใหแ้ น่นพอทจ่ี ะป้องกนั
มใิ หห้ มวกนิรภยั หลดุ จำกศรี ษะไดห้ ำกเกดิ อบุ ตั เิ หตุ
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๓๑ สงิ หำคม พ.ศ. ๒๕๓๕
พลตำรวจเอก เภำ สำรสนิ
รฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
๕๐๔
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ โดยท่ีเป็นกำรสมควร
กำหนดใหผ้ ูข้ บั ขร่ี ถจกั รยำนยนต์และคนโดยสำรรถจกั รยำนยนตส์ วมหมวกในขณะขบั ข่ี
และโดยสำรรถจกั รยำนยนต์ และโดยท่มี ำตรำ ๑๒๒ วรรคสำม แห่งพระรำชบญั ญัติ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๒๒ ไดบ้ ญั ญตั ใิ หล้ กั ษณะและวธิ กี ำรใชห้ มวกเพ่ือป้องกนั อนั ตรำยเป็นไปตำมท่ี
กำหนดในกฎกระทรวง จงึ จำเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
๕๐๕
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๖ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒๑๐๑
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ แห่งพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญัติจรำจรทำงบก (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕
รฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงมหำดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ กำรทดสอบผู้ขบั ขว่ี ่ำเมำสุรำหรอื ไม่ ให้ตรวจวดั ปรมิ ำณแอลกอฮอล์
ในเลอื ดของผขู้ บั ขโ่ี ดยใชว้ ธิ กี ำรตำมลำดบั ดงั ต่อไปน้ี
(๑) ตรวจวดั ลมหำยใจด้วยเคร่อื งมอื และอุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นกำรตรวจหรอื ทดสอบ
ให้ใช้เคร่ืองตรวดวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด โดยวิธีเป่ ำ ลมหำยใจ (BREATH
ANALYZER TEST) และอำ่ นคำ่ ของแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดเป็นมลิ ลกิ รมั เปอรเ์ ซน็ ต์
วธิ กี ำรตรวจหรอื ทดสอบ ใหป้ ฏบิ ตั ติ ำมวธิ กี ำรตรวจสอบของเคร่อื งตรวจ
แต่ละชนิด
(๒) ตรวจวดั จำกปัสสำวะ
(๓) ตรวจวดั จำกเลอื ด
กำรตรวจวัดตำม (๒) หรือ (๓) ให้ใช้ในกรณีท่ีไม่สำมำรถทดสอบตำม (๑)
ไดเ้ ท่ำนนั้
ขอ้ ๒ กรณีทต่ี อ้ งทดสอบโดยวธิ ตี รวจวดั จำกเลอื ดตำมขอ้ ๑ (๓) ใหส้ ง่ ตวั ผขู้ บั ข่ี
ไปยงั โรงพยำบำลทใ่ี กลท้ ่สี ุด และทำกำรเจำะเลอื ดภำยใต้กำรกำกบั ดูแลของผู้ประกอบ
วชิ ำชพี เวชกรรมตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยวชิ ำชพี เวชกรรม
ขอ้ ๓ ถำ้ มปี รมิ ำณแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดดงั ต่อไปน้ี ใหถ้ อื วำ่ เมำสรุ ำ
(๑)๑๐๒ กรณีตรวจวดั จำกเลอื ด เกนิ ๕๐ มลิ ลกิ รมั เปอร์เซน็ ต์ เว้นแต่ผูข้ บั ขใ่ี น
กรณี ดงั ต่อไปน้ี มปี รมิ ำณแอลกอฮอลใ์ นเลอื ด เกนิ ๒๐ มลิ ลกิ รมั เปอรเ์ ซน็ ต์
(ก) ผขู้ บั ขซ่ี ง่ึ มอี ำยตุ ่ำกว่ำยส่ี บิ ปีบรบิ รู ณ์
๑๐๑ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๑/ตอนท่ี ๕๔ ก/หน้ำ ๕๖/๘ ธนั วำคม ๒๕๓๗
๑๐๒ ขอ้ ๓ (๑) แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๖๐) ออกตำมควำมใน
พระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
๕๐๖
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
(ข) ผขู้ บั ขซ่ี ง่ึ ไดร้ บั ใบอนุญำตขบั รถชวั่ ครำวตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยรถยนต์
(ค) ผขู้ บั ขซ่ี ง่ึ มใี บอนุญำตขบั ขส่ี ำหรบั รถประเภทอน่ื ทใ่ี ชแ้ ทนกนั ไมไ่ ด้
(ง) ผูข้ บั ขซ่ี ่งึ ไม่มีใบอนุญำตขบั ข่ี หรอื อยู่ระหว่ำงถูกพกั ใช้หรอื เพิกถอน
ใบอนุญำตขบั ข่ี
(๒) กรณีตรวจวดั จำกลมหำยใจหรอื ปัสสำวะ ใหเ้ ทยี บปรมิ ำณแอลกอฮอลโ์ ดย
ใชป้ รมิ ำณแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดเป็นเกณฑม์ ำตรฐำนดงั น้ี
(ก) กรณีตรวจวดั จำกลมหำยใจใหใ้ ชค้ ่ำสมั ประสทิ ธใิ์ นกำรแปลงค่ำเท่ำกบั
๒,๐๐๐
(ข) กรณีตรวจวดั จำกปัสสำวะ ใหใ้ ชค้ ่ำสมั ประสทิ ธใิ์ นกำรแปลงค่ำเท่ำกบั
เศษ ๑ สว่ น ๑.๓
ใหใ้ ช้ ณ วนั ท่ี ๑๕ พฤศจกิ ำยน พ.ศ. ๒๕๓๗
พลเอก ชวลติ ยงใจยุทธ
รฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงมหำดไทย
๕๐๗
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ เน่ืองจำกมำตรำ ๑๔๒
แห่งพระรำชบญั ญัตจิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่งึ แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยพระรำชบญั ญัติ
จรำจรทำงบก (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ กำหนดให้กำรทดสอบผู้ขบั ขว่ี ่ำเมำสุรำหรอื ไม่
ให้เป็ นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรท่ีกำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออก
กฎกระทรวงน้ี
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๖๐) ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก
พ.ศ. ๒๕๒๒๑๐๓
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยท่กี ำรขบั รถในขณะ
เมำสุรำหรอื ของเมำอย่ำงอ่นื เป็นสำเหตุหลกั ประกำรหน่ึงทก่ี ่อใหเ้ กดิ อุบตั ิเหตุทำงถนน
เน่ืองจำกปรมิ ำณแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดมผี ลทำใหป้ ระสทิ ธภิ ำพในกำรควบคุมยำนพำหนะ
ลดลงอย่ำงมนี ัยสำคญั ซง่ึ ผู้ขบั ขท่ี ่มี อี ำยุน้อยหรอื มปี ระสบกำรณ์ในกำรขบั ขไ่ี ม่เพยี งพอ
แมจ้ ะมปี รมิ ำณแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดเพยี งเลก็ น้อยกม็ ผี ลทำใหค้ วำมสำมำรถในกำรควบคุม
ยำนพำหนะลดลงได้ สมควรกำหนดปรมิ ำณแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดใหเ้ หมำะสำหรบั ผู้ขบั ข่ี
ดงั กล่ำว เพ่อื เป็นกำรป้องกนั อุบตั เิ หตุทำงถนนจำกผขู้ บั ขย่ี ำนพำหนะทเ่ี มำสรุ ำหรอื ของ
เมำอย่ำงอน่ื จงึ จำเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
๑๐๓ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๓๔/ตอนท่ี ๕๙ ก/หน้ำ ๑/๓๑ พฤษภำคม ๒๕๖๐
๕๐๘
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
กำหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ำรทดสอบสภำพของรถ
ทอ่ี ำจทำใหเ้ สอ่ื มเสยี สขุ ภำพอนำมยั
พ.ศ. ๒๕๔๖๑๐๔
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ และมำตรำ ๖ วรรคสำม แห่งพระรำชบญั ญัติ
จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ อนั เป็นพระรำชบญั ญตั ทิ ม่ี บี ทบญั ญตั บิ ำงประกำรเก่ยี วกบั
กำรจำกดั สทิ ธแิ ละเสรภี ำพของบคุ คล ซง่ึ มำตรำ ๒๙ ประกอบกบั มำตรำ ๓๑ มำตรำ ๓๖
และมำตรำ ๔๘ ของรฐั ธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย บญั ญตั ใิ หก้ ระทำไดโ้ ดยอำศยั อำนำจ
ตำมบทบญั ญัติแห่งกฎหมำย รฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงมหำดไทยออกกฎกระทรวงไว้
ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ สภำพของรถท่ีอำจทำให้เส่อื มเสยี สุขภำพอนำมยั แก่ผู้ใช้ คนโดยสำร
หรอื ประชำชน ไดแ้ ก่ รถทก่ี ่อใหเ้ กดิ มลพษิ เกนิ กว่ำค่ำมำตรฐำนกำรควบคุมมลพษิ จำก
ยำนพำหนะตำมประกำศกระทรวงทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เกย่ี วกบั มำตรฐำน
กำรควบคุมมลพิษจำกยำนพำหนะ ซง่ึ ออกตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยกำรส่งเสรมิ และรกั ษำ
คณุ ภำพสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชำติ
ขอ้ ๒ วธิ กี ำรทดสอบสภำพของรถตำมขอ้ ๑ ใหเ้ ป็นไปตำมประกำศกระทรวง
ทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม เก่ยี วกบั มำตรฐำนกำรควบคุมมลพษิ จำกยำนพำหนะ
ซง่ึ ออกตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยกำรสง่ เสรมิ และรกั ษำคุณภำพสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชำติ
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๒๗ มนี ำคม พ.ศ. ๒๕๔๖
วนั มหู ะมดั นอร์ มะทำ
รฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
๑๐๔ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๐/ตอนท่ี ๔๒ ก/หน้ำ ๑/๑๖ พฤษภำคม ๒๕๔๖
๕๐๙
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยทต่ี ำมกฎหมำยว่ำดว้ ย
จรำจรทำงบกไดบ้ ญั ญตั ใิ หม้ กี ำรออกกฎกระทรวงกำหนดสภำพของรถและวธิ กี ำรทดสอบ
สภำพของรถทอ่ี ำจทำใหเ้ สอ่ื มเสยี สุขภำพอนำมยั แก่ผใู้ ช้ คนโดยสำร หรอื ประชำชน และ
ตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยกำรสง่ เสรมิ และรกั ษำคุณภำพสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชำตไิ ดก้ ำหนดค่ำมำตรฐำน
และวิธกี ำรตรวจวดั มลพิษจำกยำนพำหนะไว้แล้ว สมควรกำหนดให้สภำพของรถและ
วธิ กี ำรทดสอบสภำพของรถท่อี ำจทำให้เส่อื มเสยี สุขภำพอนำมยั ตำมกฎหมำยว่ำด้วย
จรำจรทำงบกเป็นไปตำมหลกั เกณฑ์ท่อี อกตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสรมิ และรกั ษำ
คุณภำพสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชำตเิ พอ่ื ใหม้ มี ำตรฐำนเดยี วกนั จงึ จำเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
๕๑๐
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
กฎกระทรวง
กำหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ำรตรวจสอบผขู้ บั ข่ี
ซง่ึ ไดเ้ สพยำเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๑ เฉพำะแอมเฟตำมนี หรอื เมทแอมเฟตำมนี
พ.ศ. ๒๕๔๘๑๐๕
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ แห่งพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒
และมำตรำ ๔๓ ทวิ วรรคส่ี แห่งพระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ
โดยพระรำชบญั ญัติจรำจรทำงบก (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๔๒ อนั เป็นพระรำชบญั ญัตทิ ่มี ี
บทบญั ญัติบำงประกำรเก่ยี วกบั กำรจำกดั สทิ ธิและเสรภี ำพของบุคคล ซ่ึงมำตรำ ๒๙
ประกอบกบั มำตรำ ๓๑ มำตรำ ๓๖ และมำตรำ ๔๘ ของรฐั ธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย
บญั ญัติให้กระทำได้โดยอำศยั อำนำจตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำย รฐั มนตรีว่ำกำร
กระทรวงมหำดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ให้เจ้ำพนักงำนจรำจร พนักงำนสอบสวน พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ี หรือ
ผตู้ รวจกำร จดั ใหม้ กี ำรตรวจสอบผขู้ บั ขร่ี ถบำงประเภทตำมทผ่ี บู้ ญั ชำกำรตำรวจแห่งชำติ
ประกำศกำหนดในรำชกจิ จำนุเบกษำว่ำไดเ้ สพยำเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๑ เฉพำะ
แอมเฟตำมนี หรอื เมทแอมเฟตำมนี หรอื ไม่ โดยตรวจจำกปัสสำวะของผขู้ บั ขด่ี ้วยวธิ กี ำร
ตำมลำดบั ดงั ต่อไปน้ี
(๑) กำรตรวจสอบเบอ้ื งตน้ ใหใ้ ชว้ ธิ กี ำรทดสอบปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกดิ สี (Color Test)
หรือกำรทดสอบปฏิกิริยำภูมิคุ้มกนั วิทยำ (Immunoassays) โดยปฏิบัติตำมขนั้ ตอน
ในขอ้ ๒ และขอ้ ๓
(๒) กำรตรวจยนื ยนั ผล ใหใ้ ชว้ ธิ กี ำรตรวจสำรเสพตดิ โดยแยกสำรผสมออกจำกกนั
(Chromatography) เพอ่ื ยนื ยนั ผลกำรตรวจพสิ จู น์ตำม (๑)
เพอ่ื ใหก้ ำรทดสอบตำม (๑) เป็นไปโดยถกู ตอ้ งและเหมำะสมตำมหลกั วชิ ำกำรแพทย์
ยง่ิ ขน้ึ ให้ผู้มคี วำมรคู้ วำมชำนำญจำกหน่วยงำนหน่ึงหน่วยงำนใดตำมท่รี ะบุไวใ้ นขอ้ ๔
ปฏบิ ตั หิ น้ำทร่ี ่วมกบั เจำ้ พนกั งำนจรำจร พนกั งำนสอบสวน พนกั งำนเจำ้ หน้ำท่ี หรอื ผตู้ รวจกำร
ดว้ ยทุกครงั้
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนซ่ึงมีเหตุอนั ควรท่ีไม่อำจรอบุคคลตำมข้อ ๔ เข้ำร่วม
ปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้ เจ้ำพนักงำนจรำจร พนักงำนสอบสวน พนักงำนเจำ้ หน้ำท่ี หรอื ผตู้ รวจกำร
๑๐๕ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๒/ตอนท่ี ๙๒ ก/หน้ำ ๑/๑๐ ตุลำคม ๒๕๔๘
๕๑๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
จะดำเนินกำรตำม (๑) โดยไม่รอบุคคลดังกล่ำวก็ได้ แต่ต้องบันทึกเหตุท่ีไม่อำจรอ
บคุ คลดงั กล่ำวไวด้ ว้ ย
ข้อ ๒ วิธีกำรทดสอบปฏิกิริยำกำรเกิดสี (Color Test) หรือกำรทดสอบ
ปฏกิ ริ ยิ ำภมู คิ มุ้ กนั วทิ ยำ (Immunoassays) เพอ่ื ตรวจคดั กรองปรมิ ำณสำรเสพตดิ ซง่ึ เป็น
กำรทดสอบหรอื กำรตรวจสอบตำมขอ้ ๑ ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั น้ี
(๑) อุปกรณ์สำหรบั เก็บปัสสำวะให้ใช้ขวดแก้วหรือขวดพลำสติกปำกกว้ำง
พร้อมฝำปิดขนำดบรรจุขวดประมำณ ๖๐ มลิ ลลิ ติ ร โดยขวดทน่ี ำมำใชต้ อ้ งสะอำด แห้ง
และมฉี ลำกและกระดำษกำว เพ่อื ใชส้ ำหรบั ปิดผนกึ ขวดเกบ็ ปัสสำวะดว้ ย
(๒) วธิ กี ำรในกำรเกบ็ ปัสสำวะใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั น้ี
(ก) จดั ให้มีกำรควบคุมกำรถ่ำยปัสสำวะของผู้รบั กำรตรวจทุกครงั้ ทงั้ น้ี
เพ่อื ป้องกนั มใิ หม้ กี ำรกระทำใด ๆ ทท่ี ำใหป้ ัสสำวะนนั้ เกดิ กำรเจอื จำงหรอื สบั เปลย่ี นตวั อยำ่ ง
(ข) บนั ทกึ หมำยเลขประจำขวด ช่อื นำมสกุล อำยุ ทอ่ี ย่ขู องผรู้ บั กำรตรวจ
และวนั เวลำ ทท่ี ำกำรเกบ็ ปัสสำวะบนฉลำกปิดขวดเกบ็ ปัสสำวะ
(ค) มอบขวดให้แก่ผู้รับกำรตรวจนำไปถ่ำยปัสสำวะจำนวนประมำณ
๓๐ มลิ ลลิ ติ ร หรอื คร่งึ ขวด และใหผ้ รู้ บั กำรตรวจลงลำยมอื ช่อื กำกบั บนฉลำกปิดขวดเกบ็
ปัสสำวะ
(๓) กำรทดสอบปฏิกิริยำกำรเกิดสี (Color Test) หรือกำรทดสอบปฏิกิรยิ ำ
ภูมิคุ้มกันวิทยำ (Immunoassays) ตำมข้อ ๑ (๑) ให้ถือปฏิบัติตำมคำแนะนำในคู่มือ
วธิ กี ำรตรวจสอบของเคร่อื งมอื แต่ละชนดิ
ขอ้ ๓ เจ้ำหน้ำท่ขี องรฐั ผูท้ ำกำรทดสอบตำมขอ้ ๑ (๑) จะต้องเป็นผู้มคี วำมรู้
ควำมชำนำญหรอื ผ่ำนกำรอบรมในเร่อื งกำรตรวจหรอื ทดสอบสำรเสพตดิ จำกหน่วยงำน
ในขอ้ ๔ มำแลว้
เม่ือปรำกฏผลกำรทดสอบในเบ้ืองต้นตำมข้อ ๑ (๑) ว่ำอำจมีสำรเสพติด
ใหเ้ จำ้ หน้ำทข่ี องรฐั ผทู้ ำกำรทดสอบปิดขวดเกบ็ ปัสสำวะทเ่ี หลอื ของผรู้ บั กำรตรวจใหส้ นิท
พร้อมทงั้ ผนึกทบั ปำกขวดด้วยแถบกำวโดยมลี ำยมอื ช่อื ของเจ้ำหน้ำท่ขี องรฐั ผู้ทำกำร
ทดสอบและผูร้ บั กำรตรวจกำกบั ไว้ แลว้ ใหร้ บี จดั สง่ ขวดเกบ็ ปัสสำวะดงั กล่ำวในสภำพ
แช่เย็นไปยังหน่วยงำนใดหน่วยงำนหน่ึงตำมข้อ ๔ โดยเรว็ เพ่ือตรวจยนื ยันผลและ
ควำมถูกตอ้ งโดยใชว้ ธิ กี ำรตำมขอ้ ๑ (๒)
๕๑๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
ขอ้ ๔ ให้หน่วยงำนใดหน่วยงำนหน่ึงดงั ต่อไปน้ี มีอำนำจตรวจยนื ยนั ผลและ
ควำมถูกตอ้ งว่ำตวั อย่ำงปัสสำวะของผขู้ บั ขม่ี ยี ำเสพตดิ ใหโ้ ทษตำมขอ้ ๑ (๒) หรอื ไม่
(๑) สถำบนั นิตเิ วชวทิ ยำ กองพสิ จู น์หลกั ฐำน หรอื กองกำกบั กำรวทิ ยำกำรเขต
สำนกั งำนตำรวจแห่งชำติ
(๒) สำนกั งำนคณะกรรมกำรป้องกนั และปรำบปรำมยำเสพตดิ
(๓) โรงพยำบำลของรฐั หรือสำนักยำและวตั ถุเสพติดหรอื ศูนย์วิทยำศำสตร์
กำรแพทยข์ องกรมวทิ ยำศำสตรก์ ำรแพทย์ กระทรวงสำธำรณสขุ
(๔) หน่วยงำนอ่นื ของรัฐหรอื สถำบนั อ่นื ท่รี ฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
ประกำศกำหนดในรำชกจิ จำนุเบกษำ ทงั้ น้ี โดยควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรป้องกนั
และปรำบปรำมยำเสพตดิ
ขอ้ ๕ ถ้ำผลกำรตรวจสอบตำมขอ้ ๑ (๑) ปรำกฏว่ำมปี รมิ ำณของสำรเสพติด
ตงั้ แต่ ๑ ไมโครกรมั ต่อมลิ ลลิ ติ รขน้ึ ไป และผลกำรตรวจยนื ยนั ตำมขอ้ ๑ (๒) ปรำกฏว่ำ
มชี นิดของสำรเสพตดิ ตำมขอ้ ๑ ในปัสสำวะของผูร้ บั กำรตรวจ ใหถ้ อื ว่ำผูร้ บั กำรตรวจ
เป็นผูเ้ สพยำเสพตดิ ใหโ้ ทษดงั กล่ำว
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๘ กนั ยำยน พ.ศ. ๒๕๔๘
พลอำกำศเอก คงศกั ดิ์ วนั ทนำ
รฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงมหำดไทย
๕๑๓
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ โดยท่ีเป็นกำรสมควร
กำหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ำรตรวจสอบผขู้ บั ขว่ี ่ำไดเ้ สพยำเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๑
เฉพำะแอมเฟตำมนี หรอื เมทแอมเฟตำมนี หรอื ไม่ และโดยทม่ี ำตรำ ๔๓ ทวิ วรรคส่ี แห่ง
พระรำชบญั ญตั จิ รำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั จิ รำจร
ทำงบก (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนดใหก้ ำรกำหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ำรตรวจสอบ
ในเร่อื งดงั กลำ่ วตอ้ งกำหนดโดยกฎกระทรวง จงึ จำเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
๕๑๔