The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กฎหมายขนส่ง เล่ม 56 อัพเดท ปี 61

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Matung Business Ks, 2020-02-25 23:05:08

กฎหมายขนส่ง เล่ม 56 อัพเดท ปี 61

กฎหมายขนส่ง เล่ม 56 อัพเดท ปี 61

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

สว่ นท่ี ๑ ยำนพำหนะชนิดรถเดย่ี ว (SINGLE UNIT)

ขอ้ ๕ ยำนพำหนะท่มี ี ๒ เพลำ ๔ ลอ้ ยำง ๔ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒)
ใชย้ ำงเดย่ี ว ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒) ไม่เกนิ ๗,๐๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั
ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไมเ่ กนิ ๙,๕๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๖ ยำนพำหนะท่มี ี ๒ เพลำ ๔ ลอ้ ยำง ๖ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒)
ใชย้ ำงคู่

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนสง่ ผโู้ ดยสำร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำทำ้ ย
(เพลำท่ี ๒) ไม่เกนิ ๑๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่ืน ๆ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒) ไม่เกิน
๑๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไม่เกนิ ๑๕,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๗ ยำนพำหนะท่มี ี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๖ เสน้ ชนิดเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒
และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใชย้ ำงเดย่ี ว

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนส่งผโู้ ดยสำร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำค่ทู ำ้ ย
(เพลำท่ี ๒ และเพลำท่ี ๓) ไมเ่ กนิ ๑๓,๐๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่ืน ๆ ต้องมนี ้ำหนักลงเพลำคู่ทำ้ ย (เพลำที่ ๒ และ
เพลำที่ ๓) ไม่เกนิ ๑๓,๐๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทุกไมเ่ กนิ
๑๘,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๘ ยำนพำหนะท่มี ี ๓ เพลำ ๖ ล้อ ยำง ๘ เสน้ ชนิดเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒
และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) เพลำค่ทู ำ้ ยเพลำใดเพลำหน่ึงใชย้ ำงเดย่ี ว
อกี เพลำหน่ึงใชย้ ำงคู่

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนส่งผู้โดยสำร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำคทู่ ำ้ ย
ไมเ่ กนิ ๑๖,๕๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่นื ๆ ต้องมนี ้ำหนักลงเพลำคู่ทำ้ ยไม่เกนิ ๑๖,๕๐๐ กโิ ลกรมั
หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทุกไม่เกนิ ๒๑,๕๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๙ ยำนพำหนะทม่ี ี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๑๐ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒
และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกิน
๒๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทุกไมเ่ กนิ ๒๕,๐๐๐ กโิ ลกรมั

๙๕

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ขอ้ ๑๐ ยำนพำหนะทม่ี ี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๘ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ (เพลำท่ี ๑
และเพลำท่ี ๒) เป็นเพลำเลย้ี วใชย้ ำงเดย่ี ว และเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๓) ใชย้ ำงคู่

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนส่งผโู้ ดยสำร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำทำ้ ย
(เพลำท่ี ๓) ไมเ่ กนิ ๑๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่นื ๆ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๓) ไม่เกิน
๑๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไม่เกนิ ๒๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๑๑ ยำนพำหนะทม่ี ี ๔ เพลำ ๘ ลอ้ ยำง ๘ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ (เพลำท่ี ๑
และเพลำท่ี ๒) เป็นเพลำเล้ยี ว และเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๓ และเพลำท่ี ๔) เป็นเพลำคู่
(TANDEM AXLE) ใช้ยำงเด่ยี ว ต้องมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกนิ ๑๓,๐๐๐ กโิ ลกรมั
หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทุกไม่เกนิ ๒๓,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๑๒ ยำนพำหนะทม่ี ี ๔ เพลำ ๘ ลอ้ ยำง ๑๒ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ (เพลำท่ี ๑
และเพลำท่ี ๒) เป็นเพลำเล้ยี วใช้ยำงเด่ียว และเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๓ และเพลำท่ี ๔)
เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใชย้ ำงคู่ ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำค่ทู ำ้ ยไม่เกนิ ๒๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั
หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไมเ่ กนิ ๓๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั

สว่ นท่ี ๒ ยำนพำหนะชนดิ รถลำกจงู และรถกง่ึ พ่วง (SEMI - TRAILER)

ขอ้ ๑๓ ตวั รถลำกจูงเม่อื ประกอบกบั ตัวรถก่งึ พ่วง (SEMI - TRAILER) แล้ว
ตอ้ งมนี ้ำหนักลงเพลำหรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทกุ ไม่เกนิ กวำ่ ทก่ี ำหนดไว้
สำหรบั ยำนพำหนะแต่ละประเภทในขอ้ ๕ ขอ้ ๖ ขอ้ ๗ ขอ้ ๘ ขอ้ ๙ ขอ้ ๑๐ ขอ้ ๑๑ และ
ขอ้ ๑๒

ตวั รถกง่ึ พว่ งตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำดงั น้ี
(๑) ชนิดเพลำเดย่ี วใชย้ ำงเดย่ี ว น้ำหนกั ลงเพลำไม่เกนิ ๗,๐๐๐ กโิ ลกรมั
(๒) ชนิดเพลำเดย่ี วใชย้ ำงคู่ น้ำหนกั ลงเพลำไม่เกนิ ๑๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั
(๓) ชนิดเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงเด่ยี ว น้ำหนักลงเพลำรวมไม่เกิน
๑๓,๐๐๐ กโิ ลกรมั
(๔) ชนิดเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ น้ำหนักลงเพลำรวมไม่เกิน
๒๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั
(๕) ชนิดสำมเพลำ (TRIDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ น้ำหนักลงเพลำรวมไม่เกิน
๒๕,๕๐๐ กโิ ลกรมั และระยะหำ่ งระหว่ำงสลกั พว่ ง (KING PIN) กบั ศูนยก์ ลำงของเพลำท่ี ๑
ของตวั รถกง่ึ พว่ งตอ้ งไมน่ ้อยกว่ำ ๘ เมตร

๙๖

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ข้อ ๑๓/๑๕๑ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจูงและรถก่ึงพ่วง (SEMI - TRAILER)
ประเภทตวั รถลำกจูงมี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๑๐ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำที่ ๒ และ
เพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใชย้ ำงคู่ และตวั รถก่ึงพ่วงเป็นชนิดสำมเพลำ
(TRIDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ที่จดทะเบียนรถตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรขนส่งทำงบก
ก่อนวนั ท่ี ๑ มกรำคม ๒๕๕๓ ให้ได้รบั กำรยกเว้นกำรใช้บงั คับข้อกำหนดระยะห่ำง
ระหว่ำงสลกั พ่วง (KING PIN) กบั ศนู ยก์ ลำงของเพลำท่ี ๑ ของตวั รถกง่ึ พ่วง ตอ้ งไม่น้อยกว่ำ
๘ เมตร ตำมประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนกั
น้ำหนักบรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กว่ำที่ได้กำหนด หรอื โดยที่ยำนพำหนะนัน้
อำจทำให้ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบท ในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของ
กรมทำงหลวงชนบท หมวด ๑ ขอ้ ๑๓ (๕) ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๒
ตอนพเิ ศษ ๑๕๑ ง หน้ำ ๙ วนั ท่ี ๒๙ ธนั วำคม ๒๕๔๘

ควำมในขอ้ น้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ มกรำคม ๒๕๕๓ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ สงิ หำคม
๒๕๕๘๕๒

ข้อ ๑๓/๒๕๓ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจูงและรถก่ึงพ่วง (SEMI - TRAILER)
ประเภทตวั รถลำกจูงมี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๑๐ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำที่ ๒ และ
เพลำที่ ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงคู่และตวั รถกง่ึ พ่วงเป็นชนิดสำมเพลำ
(TRIDEM AXLE) ใชย้ ำงค่ทู ไ่ี ดจ้ ดทะเบยี นรถตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรขนสง่ ทำงบกตงั้ แต่
วนั ท่ี ๑ มกรำคม ๒๕๕๓ เป็นตน้ ไป ตวั รถลำกจงู และรถกง่ึ พ่วงตอ้ งมนี ้ำหนกั ยำนพำหนะ
รวมน้ำหนกั บรรทุกไมเ่ กนิ ๕๐,๕๐๐ กโิ ลกรมั

ควำมในขอ้ น้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ มกรำคม ๒๕๕๓ เป็นตน้ ไป

๕๑ ขอ้ ๑๓/๑ เพมิ่ โดยประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนัก
น้ำหนกั บรรทกุ หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กวำ่ ทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำใหท้ ำงหลวงเสยี หำย
เดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

๕๒ ข้อ ๑๓/๑ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้
ยำนพำหนะท่มี นี ้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนัน้
อำจทำให้ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท
(ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘

๕๓ ขอ้ ๑๓/๒ เพมิ่ โดยประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนัก
น้ำหนกั บรรทกุ หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำใหท้ ำงหลวงเสยี หำย
เดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

๙๗

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ข้อ ๑๓/๓๕๔ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจูงและรถก่ึงพ่วง (SEMI - TRAILER)
ประเภทตวั รถลำกจูงมี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๑๐ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำที่ ๒ และ
เพลำที่ ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใชย้ ำงคู่ และตวั รถกง่ึ พ่วงเป็นชนิดสำมเพลำ
(TRIDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ที่จดทะเบียนรถตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรขนส่งทำงบก
ก่อนวันท่ี ๑ มกรำคม ๒๕๕๓ และมีระยะห่ำงระหว่ำงสลักพ่วง (KING PIN) กับ
ศูนย์กลำงของเพลำท่ี ๑ ของตวั รถกง่ึ พ่วง ต่ำกว่ำ ๘ เมตร ตวั รถลำกจูงและรถก่งึ พ่วง
ตอ้ งมนี ้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ดงั น้ี

(๑) ตวั รถลำกจูง และตวั รถกง่ึ พ่วงท่มี รี ะยะห่ำงระหว่ำงสลกั พ่วง (KING PIN)
ตงั้ แต่ ๗ เมตร ขน้ึ ไปแต่ไม่ถงึ ๘ เมตร ต้องมนี ้ำหนักยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุก
ไม่เกนิ ๔๙,๐๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ตวั รถลำกจูง และตวั รถกง่ึ พ่วงทม่ี รี ะยะห่ำงระหว่ำงสลกั พ่วง (KING PIN)
ตงั้ แต่ ๖ เมตร ขน้ึ ไปแต่ไม่ถึง ๗ เมตร ต้องมนี ้ำหนักยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุก
ไม่เกนิ ๔๗,๐๐๐ กโิ ลกรมั

(๓) ตวั รถลำกจงู และตวั รถก่งึ พ่วงทม่ี รี ะยะห่ำงระหว่ำงสลกั พ่วง (KING PIN)
ตงั้ แต่ ๔.๕ เมตร ขน้ึ ไปแต่ไม่ถงึ ๖ เมตร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุก
ไม่เกนิ ๔๕,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ควำมในขอ้ น้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ กนั ยำยน ๒๕๕๘ เป็นตน้ ไป๕๕

ข้อ ๑๓/๔๕๖ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจูงและรถก่ึงพ่วง (SEMI - TRAILER)
ประเภทตวั รถลำกจูงมี ๔ เพลำ ๘ ลอ้ ยำง ๑๒ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ (เพลำท่ี ๑ และเพลำท่ี ๒)
เป็ นเพลำเล้ียวใช้ยำงเด่ียว และเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๓ และเพลำท่ี ๔) เป็ นเพลำคู่
(TANDEM AXLE) ใชย้ ำงคู่ ตวั รถก่งึ พ่วงเป็นชนิดสำมเพลำ (TRIDEM AXLE) ใชย้ ำงค่ตู วั รถ
ลำกจงู และรถกง่ึ พ่วงตอ้ งมนี ้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทกุ ไม่เกนิ ๕๐,๕๐๐ กโิ ลกรมั

ควำมในขอ้ น้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ มกรำคม ๒๕๕๓ เป็นตน้ ไป

๕๔ ขอ้ ๑๓/๓ เพม่ิ โดยประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนัก
น้ำหนกั บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำใหท้ ำงหลวงเสยี หำย
เดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

๕๕ ขอ้ ๑๓/๓ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้
ยำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนัก น้ำหนกั บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำท่ีไดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนัน้
อำจทำให้ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท
(ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘

๕๖ ขอ้ ๑๓/๔ เพมิ่ โดยประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนัก
น้ำหนกั บรรทกุ หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กวำ่ ทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำใหท้ ำงหลวงเสยี หำย
เดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

๙๘

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

สว่ นท่ี ๓ ยำนพำหนะชนดิ รถลำกจงู และรถพ่วง (FULL TRAILER)

ขอ้ ๑๔ ตวั รถลำกจงู ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำหรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนัก
บรรทุกไม่เกนิ กว่ำทก่ี ำหนดไว้ สำหรบั ยำนพำหนะแต่ละประเภทในขอ้ ๕ ขอ้ ๖ ขอ้ ๗ ขอ้ ๘
ขอ้ ๙ ขอ้ ๑๐ ขอ้ ๑๑ และขอ้ ๑๒

ตวั รถพ่วงตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำดงั น้ี
(๑) ชนิดเพลำหน้ำและเพลำทำ้ ยเป็นเพลำเดยี่ วใชย้ ำงเดยี่ ว น้ำหนกั ลงเพลำ
ไม่เกนิ เพลำละ ๗,๐๐๐ กโิ ลกรมั
(๒) ชนิดเพลำหน้ำและเพลำทำ้ ยเป็นเพลำเดย่ี วใชย้ ำงคู่ น้ำหนกั ลงเพลำไม่เกนิ
เพลำละ ๑๑,๐๐๐ กิโลกรมั และระยะห่ำงระหว่ำงศูนย์กลำงเพลำหน้ำกบั ศูนย์กลำง
เพลำหลงั ตอ้ งไมน่ ้อยกว่ำ ๔.๓๐ เมตร
ตัวรถลำกจูงและตัวรถพ่วงตำมวรรคหน่ึงและวรรคสอง (๒) ต้องมีน้ำหนัก
ยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกนิ ๕๐,๕๐๐ กิโลกรมั ทงั้ น้ี นับตงั้ แต่วนั ถัดจำก
วนั ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำเป็นตน้ ไป๕๗

ขอ้ ๑๔/๑๕๘ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจูงและรถพว่ ง (FULL TRAILER) ประเภท
ตัวรถลำกจูงมี ๓ เพลำ ๖ ล้อ ยำง ๑๐ เส้น ชนิดเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒ และเพลำท่ี ๓)
เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ และตวั รถพ่วงมี ๓ เพลำ ๖ ล้อ ยำง ๑๒ เสน้
ชนิดเพลำหน้ำใช้ยำงคู่ เพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒ และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM
AXLE) ใช้ยำงคู่ ตัวรถลำกจูงต้องมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ กิโลกรมั
หรอื มนี ้ำหนักยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทกุ ไมเ่ กนิ ๒๕,๐๐๐ กโิ ลกรมั ตวั รถพ่วงตอ้ งมี
น้ำหนักลงเพลำหน้ำไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ กิโลกรัม หรือมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกิน
๑๘,๐๐๐ กโิ ลกรมั ตัวรถพ่วงเม่อื นำมำต่อพ่วงกบั ตวั รถลำกจูงต้องมรี ะยะห่ำงระหว่ำง
กง่ึ กลำงเพลำค่ทู ำ้ ยของรถลำกจงู ถงึ กง่ึ กลำงเพลำคทู่ ำ้ ยของรถพ่วงไมน่ ้อยกว่ำ ๙.๗๕ เมตร

๕๗ ขอ้ ๑๔ วรรคสำม เพมิ่ โดยประกำศผูอ้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะ
ทม่ี นี ้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ด้กำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๗)
พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๘ ขอ้ ๑๔/๑ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะ
ทม่ี นี ้ำหนกั น้ำหนกั บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๖)
พ.ศ. ๒๕๕๖

๙๙

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ควำมในวรรคหน่ึงให้ใชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึงวนั ท่ี
๓๐ มิถุนำยน พ.ศ. ๒๕๕๗ และตัง้ แต่วนั ที่ ๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
ตวั รถลำกจูงและตวั รถพ่วงตำมวรรคหน่ึง ตอ้ งมนี ้ำหนักยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุก
ไมเ่ กนิ ๕๐,๕๐๐ กโิ ลกรมั

ข้อ ๑๔/๒๕๙ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจูงและรถพ่วง (FULL TRAILER)
ประเภทตวั รถลำกจูงมี ๔ เพลำ ๘ ลอ้ ยำง ๑๒ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ (เพลำท่ี ๑ และเพลำท่ี ๒)
เป็ นเพลำเล้ียวใช้ยำงเด่ียว และเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๓ และเพลำท่ี ๔) เป็ นเพลำคู่
(TANDEM AXLE) ใชย้ ำงคู่ และตวั รถพ่วงมี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๑๒ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ
ใชย้ ำงคู่ เพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒ และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงคู่
ตัวรถลำกจูงต้องมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ กิโลกรมั หรือมีน้ำหนัก
ยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั ตัวรถพ่วงต้องมีน้ำหนัก
ลงเพลำหน้ำไม่เกนิ ๑๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั หรอื มนี ้ำหนักลงเพลำค่ทู ้ำยไม่เกนิ ๑๘,๐๐๐ กโิ ลกรมั
ตวั รถพ่วงเม่อื นำมำต่อพ่วงกบั ตวั รถลำกจงู ตอ้ งมรี ะยะห่ำงระหว่ำงกง่ึ กลำงเพลำค่ทู ำ้ ย
ของรถลำกจงู ถงึ กง่ึ กลำงเพลำคทู่ ำ้ ยของรถพ่วงไมน่ ้อยกว่ำ ๙.๗๕ เมตร

ควำมในวรรคหน่ึงใหใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ถดั จำกวนั ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำ
ถงึ วนั ท่ี ๓๐ มถิ ุนำยน พ.ศ. ๒๕๕๗ และตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นตน้ ไป
ตวั รถลำกจงู และตวั รถพ่วงตำมวรรคหน่ึงตอ้ งมนี ้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุก
ไม่เกนิ ๕๐,๕๐๐ กโิ ลกรมั

ใหต้ วั รถลำกจูงและตวั รถพ่วงตำมวรรคหน่ึง เม่อื เดนิ บนสะพำนต้องเว้นระยะห่ำง
จำกรถพ่วง (FULL TRAILER) ทเ่ี ดนิ รถอย่ขู ำ้ งหน้ำไม่น้อยกว่ำ ๒๐๐ เมตร ทงั้ น้ี ใหใ้ ชบ้ งั คบั
ตงั้ แต่วนั ถดั จำกวนั ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำ ถงึ วนั ท่ี ๓๐ มถิ ุนำยน พ.ศ. ๒๕๕๗

ขอ้ ๑๔/๓๖๐ (ยกเลกิ )

๕๙ ขอ้ ๑๔/๒ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง หำ้ มใช้ยำนพำหนะ
ทม่ี นี ้ำหนกั น้ำหนกั บรรทุกหรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กวำ่ ทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๖)
พ.ศ. ๒๕๕๖

๖๐ ขอ้ ๑๔/๓ ยกเลกิ โดยประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนัก
น้ำหนักบรรทุกหรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กวำ่ ทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำใหท้ ำงหลวงเสยี หำย
เดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๖

๑๐๐

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ขอ้ ๑๕ ยำนพำหนะชนิดรถลำกจงู และรถพ่วง (FULL TRAILER) ตอ้ งประกอบดว้ ย
รถลำกจงู ๑ คนั และตวั รถพ่วง ๑ คนั เท่ำนนั้ จะพ่วงยำนพำหนะอน่ื ใดอกี ไมไ่ ด้

หมวด ๒
ขอ้ กำหนดอ่นื

ข้อ ๑๖ ห้ำมมิให้ยำนพำหนะดังต่อไปน้ีเดินบนทำงหลวงชนบทในเขต
ควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท

(๑) ยำนพำหนะท่ีมีลักษณะของเพลำ หรือล้อ หรือยำง แตกต่ำงจำกท่ีได้
กำหนดไวใ้ นหมวด ๑

(๒) ยำนพำหนะทข่ี นสง่ สง่ิ ของจำนวนหน่งึ หน่วยต่อเทย่ี วซง่ึ โดยสภำพของสงิ่ นนั้
ไม่อำจแยกจำกกนั ได้เว้นแต่จะทำลำยหรอื ทำให้เปล่ยี นแปลงรูปทรงหรอื สภำพ เช่น
เคร่ืองจกั รหนัก ชิ้นส่วนโครงสร้ำงคอนกรีต หม้อแปลงไฟฟ้ำขนำดใหญ่ โดยเป็น
กำรขนส่งเฉพำะกำลและยำนพำหนะนัน้ มีน้ำหนักยำนพำหนะรวมน้ำหนักบรรทุก
หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กวำ่ ทก่ี ำหนดไวใ้ นหมวด ๑

(๓) ยำนพำหนะที่ติดตัง้ เคร่ืองจกั ร เคร่ืองกล และมีน้ำหนักยำนพำหนะ
รวมน้ำหนกั บรรทกุ หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทก่ี ำหนดไวใ้ นหมวด ๑

(๔) ยำนพำหนะทโ่ี ดยสภำพมลี กั ษณะเป็นเคร่อื งจกั ร เคร่อื งกล เช่น รถขุด รถตกั
และมนี ้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กวำ่ ทก่ี ำหนดไวใ้ น
หมวด ๑

(๕) ยำนพำหนะชนิดรถลำกจงู และรถกง่ึ พ่วงทป่ี ระกอบดว้ ยรถกง่ึ พ่วงมำกกว่ำ
๑ คนั ขน้ึ ไป

ทัง้ นี้ เว้นแต่จะได้รบั อนุญำตจำกผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบทในเขต
ควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท ในกำรอนุญำตผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท
ในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท มอี ำนำจกำหนดเง่อื นไขและมำตรกำร
ทจ่ี ำเป็นเพอ่ื รกั ษำทำงหลวง

ประกำศ ณ วนั ท่ี ๒๘ ธนั วำคม พ.ศ. ๒๕๔๘
สรุ ชยั ธำรสทิ ธพิ์ งษ์

อธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท
ในฐำนะผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท
ในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวงชนบท

๑๐๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมีน้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กว่ำทไี่ ดก้ ำหนด หรอื โดยทยี่ ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดินบนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผิดชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒๖๑

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมีน้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทไี่ ดก้ ำหนด หรอื โดยทยี่ ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๒๖๒

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมนี ้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทยี่ ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดินบนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕๖๓

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมนี ้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทยี่ ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดินบนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผิดชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๖๖๔

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมีน้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กว่ำทไ่ี ดก้ ำหนด หรอื โดยทยี่ ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดนิ บนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผดิ ชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๖๖๕

๖๑ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๖/ตอนพเิ ศษ ๑๔๐ ง/หน้ำ ๘๕/๒๕ กนั ยำยน ๒๕๕๒
๖๒ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๒๗/ตอนพเิ ศษ ๑๖ ง/หน้ำ ๗๕/๑ กมุ ภำพนั ธ์ ๒๕๕๓
๖๓ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๒๙/ตอนพเิ ศษ ๓๖ ง/หน้ำ ๓๓/๑๗ กมุ ภำพนั ธ์ ๒๕๕๕
๖๔ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๓๐/ตอนพเิ ศษ ๒๑ ง/หน้ำ ๖๐/๑๔ กุมภำพนั ธ์ ๒๕๕๖
๖๕ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๓๐/ตอนพเิ ศษ ๑๙๕ ง/หน้ำ ๓๖/๓๐ ธนั วำคม ๒๕๕๖

๑๐๒

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมีน้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกินกว่ำท่ไี ด้กำหนด หรอื โดยท่ยี ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดินบนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผิดชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๕๗๖๖

ประกำศผู้อำนวยกำรทำงหลวงชนบท เร่อื ง ห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมนี ้ำหนัก น้ำหนัก
บรรทุก หรอื น้ำหนักลงเพลำเกนิ กว่ำท่ไี ด้กำหนด หรอื โดยท่ยี ำนพำหนะนัน้ อำจทำให้
ทำงหลวงเสยี หำยเดินบนทำงหลวงชนบทในเขตควำมรบั ผิดชอบของกรมทำงหลวง
ชนบท (ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘๖๗

๖๖ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๓๑/ตอนพเิ ศษ ๑๔๙ ง/หน้ำ ๑๔/๗ สงิ หำคม ๒๕๕๗
๖๗ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๒/ตอนพเิ ศษ ๘๖ ง/หน้ำ ๑๔/๑๖ เมษำยน ๒๕๕๘

๑๐๓

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ประกำศกรมทำงหลวงชนบท
เรอ่ื ง มำตรฐำนและลกั ษณะของทำงหลวงและงำนทำง
รวมทงั้ กำหนดเขตทำงหลวง ทจ่ี อดรถ ระยะแนวตน้ ไม้

และเสำพำดสำยเกย่ี วกบั ทำงหลวงชนบท
พ.ศ. ๒๕๔๙

อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๒๖ แห่งพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕
อนั เป็นพระรำชบญั ญัติท่มี ีบทบญั ญัติบำงประกำรเกย่ี วกบั กำรจำกดั สทิ ธแิ ละเสรภี ำพ
ของบุคคล ซง่ึ มำตรำ ๒๙ ประกอบกบั มำตรำ ๓๑ มำตรำ ๓๕ มำตรำ ๓๖ มำตรำ ๔๘
และมำตรำ ๔๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้ตำม
บทบญั ญตั แิ ห่งกฎหมำย ประกอบกบั มำตรำ ๖๐ แห่งพระรำชกฤษฎกี ำแกไ้ ขบทบญั ญตั ิ
ให้สอดคล้องกบั กำรโอนอำนำจหน้ำท่ขี องส่วนรำชกำร ให้เป็นไปตำมพระรำชบญั ญัติ
ปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ อธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท
จงึ ออกประกำศไว้ ดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ ๑ ประกำศน้ีเรยี กว่ำ “ประกำศกรมทำงหลวงชนบท เร่อื ง มำตรฐำนและ
ลกั ษณะของทำงหลวงและงำนทำง รวมทงั้ กำหนดเขตทำงหลวง ท่จี อดรถ ระยะแนวต้นไม้
และเสำพำดสำยเกย่ี วกบั ทำงหลวงชนบท พ.ศ. ๒๕๔๙”

ขอ้ ๒๖๘ ประกำศน้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ถดั จำกวนั ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำ
เป็นตน้ ไป

ขอ้ ๓ บรรดำประกำศอ่นื ใดในสว่ นทไ่ี ดก้ ำหนดไวแ้ ลว้ ในประกำศน้ี หรอื ซง่ึ ขดั
หรอื แยง้ กบั ประกำศน้ี ใหใ้ ชป้ ระกำศน้แี ทน

ขอ้ ๔ ใหผ้ อู้ ำนวยกำรสำนกั สำรวจและออกแบบเป็นผรู้ กั ษำกำรตำมประกำศน้ี

๖๘ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๓/ตอนท่ี ๓๕ ง/หน้ำ ๒๑/๓๐ มนี ำคม ๒๕๔๙

๑๐๔

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

หมวด ๑
กำรแบง่ ชนั้ ทำงหลวง

ขอ้ ๕ ทำงหลวงชนบทแบ่งออกเป็น ๔ ชนั้ คอื
(๑) ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๑
(๒) ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๒
(๓) ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๓
(๔) ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๔

หมวด ๒
มำตรฐำนและลกั ษณะของทำงหลวง งำนทำง

และเขตทำงหลวง

ขอ้ ๖ ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๑ ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผิวจรำจรเป็นคอนกรีตเสรมิ เหล็ก หรือรำดยำงแบบแอสฟัลต์
คอนกรตี หรอื เทยี บเทำ่
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถ และน้ำหนกั บรรทุกรวมกนั ไดไ้ มน่ ้อยกวำ่ ๒๕ ตนั
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๔ ช่องทำง และแต่ละช่องทำงกวำ้ งไม่น้อยกว่ำ
๓.๒๕ เมตร
(๔) ทำงเท้ำหรอื ไหล่ทำงทัง้ สองขำ้ ง กว้ำงข้ำงละไม่น้อยกว่ำ ๑.๕๐ เมตร
ในสว่ นทเ่ี ป็นไหล่ทำง ผวิ ไหล่ทำงเป็นคอนกรตี เสรมิ เหลก็ หรอื รำดยำง
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไมน่ ้อยกว่ำ ๒๐.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ไมเ่ กนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘

๑๐๕

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๙) ทำงแยกหวั มุมถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

(๑๐) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

ขอ้ ๗ ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๒ ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลักษณะผิวจรำจรเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือรำดยำงแบบแอสฟัลต์
คอนกรตี หรอื เทยี บเท่ำ
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถ และน้ำหนกั บรรทกุ รวมกนั ไดไ้ ม่น้อยกวำ่ ๒๕ ตนั
(๓) ควำมกวำ้ งผวิ จรำจรไมน่ ้อยกวำ่ ๗.๐๐ เมตร
(๔) ทำงเท้ำหรือไหล่ทำงทงั้ สองขำ้ ง กว้ำงข้ำงละไม่น้อยกว่ำ ๑.๕๐ เมตร
ในสว่ นทเ่ี ป็นไหล่ทำง ผวิ ไหลท่ ำงเป็นคอนกรตี เสรมิ เหลก็ หรอื รำดยำง
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกว่ำ ๒๐.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบไม่เกนิ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนินไม่เกนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘
(๙) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเช่อื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

ขอ้ ๘ ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๓ ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรเป็นคอนกรตี เสรมิ เหลก็ หรอื รำดยำง
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถ และน้ำหนกั บรรทกุ รวมกนั ไดไ้ ม่น้อยกวำ่ ๒๕ ตนั
(๓) ควำมกวำ้ งผวิ จรำจรไม่น้อยกว่ำ ๖.๐๐ เมตร
(๔) ทำงเท้ำหรือไหล่ทำงทงั้ สองข้ำง กว้ำงข้ำงละไม่น้อยกว่ำ ๑.๕๐ เมตร
ในสว่ นทเ่ี ป็นไหลท่ ำง ผวิ ไหล่ทำงเป็นคอนกรตี เสรมิ เหลก็ หรอื รำดยำง
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกว่ำ ๑๕.๐๐ เมตร

๑๐๖

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนินไมเ่ กนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง

(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)

(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๒
(๙) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
ถ้ำมคี วำมจำเป็นทม่ี ำตรฐำนต้องต่ำกว่ำทก่ี ำหนดไวต้ ำม (๓) (๔) (๕) และ (๘)
ใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของอธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท

ขอ้ ๙ ทำงหลวงชนบทชนั้ ท่ี ๔ ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรเป็นลกู รงั หรอื วสั ดอุ ยำ่ งอน่ื ทด่ี กี วำ่
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถ และน้ำหนกั บรรทกุ รวมกนั ไดไ้ มน่ ้อยกว่ำ ๒๕ ตนั
(๓) ควำมกวำ้ งผวิ จรำจรถ้ำเป็นผวิ จรำจรลูกรงั ไม่น้อยกว่ำ ๘.๐๐ เมตร และ
ถ้ำเป็นวสั ดุอย่ำงอน่ื ทด่ี กี ว่ำลกู รงั เชน่ รำดยำง หรอื คอนกรตี ไม่น้อยกวำ่ ๖.๐๐ เมตร
(๔) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไมน่ ้อยกวำ่ ๑๕.๐๐ เมตร
(๕) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบไม่เกนิ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๖) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๗) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนินไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๒
(๘) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

๑๐๗

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๙) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
ถำ้ มคี วำมจำเป็นทม่ี ำตรฐำนต้องต่ำกว่ำทก่ี ำหนดไวต้ ำม (๓) (๔) (๕) และ (๗)
ใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของอธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท

หมวด ๓
มำตรฐำนทจ่ี อดรถ ระยะแนวตน้ ไม้

และเสำพำดสำย

ขอ้ ๑๐ ทำงหลวงชนบท
(๑) ทจ่ี อดรถ ตอ้ งเป็นทซ่ี ง่ึ ทำงรำชกำรกำหนดให้ หรอื ทซ่ี ง่ึ ไมก่ ดี ขวำงทำงจรำจร
แต่ไมใ่ ชท่ ำงโคง้ บนสะพำน เชงิ สะพำน ทำงแยก หรอื ในทค่ี บั ขนั
(๒) ระยะแนวตน้ ไม้ ตอ้ งห่ำงจำกขอบผวิ จรำจรไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๓) เสำพำดสำย ตอ้ งปักห่ำงจำกแนวเขตทำงหลวงเขำ้ มำทำงดำ้ นในไม่น้อยกว่ำ
๐.๕๐ เมตร แต่ไม่เกนิ ๑.๕๐ เมตร หรอื ทซ่ี ง่ึ ทำงรำชกำรกำหนดให้ และสำยตอ้ งพำดสงู
จำกผวิ ดนิ ไม่น้อยกว่ำ ๓.๐๐ เมตร สว่ นทต่ี อ้ งพำดสำยขำ้ มถนนตอ้ งสงู จำกผวิ ทำงไม่น้อยกว่ำ
๕.๕๐ เมตร
ถำ้ มคี วำมจำเป็นทม่ี ำตรฐำนต้องต่ำกวำ่ ทก่ี ำหนดไวต้ ำม (๒) ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจ
ของอธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท

บทเฉพำะกำล

ข้อ ๑๑ ทำงหลวงชนบทท่ีได้ออกแบบก่อสร้ำงไว้เดิม ก่อนปีงบประมำณ
๒๕๔๙ ซง่ึ สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมกนั ไดไ้ ม่น้อยกวำ่ ๒๑ ตนั ใหถ้ อื ว่ำ
เป็นทำงหลวงชนบททม่ี มี ำตรฐำนตำมประกำศน้ี

ประกำศ ณ วนั ท่ี ๒๔ กมุ ภำพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙
สรุ ชยั ธำรสทิ ธพิ์ งษ์

อธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท

๑๐๘

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ประกำศกรมทำงหลวงชนบท
เร่อื ง มำตรฐำนและลกั ษณะของทำงหลวง รวมทงั้ กำหนดเขตทำงหลวง
ทจ่ี อดรถ ระยะแนวตน้ ไม้ และเสำพำดสำยเกย่ี วกบั ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ

พ.ศ. ๒๕๕๐

อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๒๖ แห่งพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕
แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระรำชบัญญัติทำงหลวง (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ อันเป็ น
พระรำชบญั ญตั ทิ ม่ี บี ทบญั ญตั บิ ำงประกำรเกย่ี วกบั กำรจำกดั สทิ ธแิ ละเสรภี ำพของบุคคล
ซง่ึ มำตรำ ๒๙ ประกอบกบั มำตรำ ๓๓ มำตรำ ๓๔ และมำตรำ ๔๑ ของรฐั ธรรมนูญแห่ง
รำชอำณำจกั รไทย บญั ญัตใิ หก้ ระทำได้โดยอำศยั อำนำจตำมบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมำย
อธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบทจงึ ออกประกำศไว้ ดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ ๑ ประกำศน้ีเรยี กว่ำ “ประกำศกรมทำงหลวงชนบท เร่อื ง มำตรฐำนและ
ลกั ษณะของทำงหลวง รวมทัง้ กำหนดเขตทำงหลวง ที่จอดรถ ระยะแนวต้นไม้
และเสำพำดสำยเกย่ี วกบั ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ พ.ศ. ๒๕๕๐”

ขอ้ ๒๖๙ ประกำศน้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ถดั จำกวนั ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำ
เป็นตน้ ไป

ขอ้ ๓ บรรดำประกำศอ่นื ใดในส่วนทไ่ี ดก้ ำหนดไวแ้ ลว้ ในประกำศน้ี หรอื ซง่ึ ขดั
หรอื แยง้ กบั ประกำศน้ี ใหใ้ ชป้ ระกำศน้แี ทน

ขอ้ ๔ ใหผ้ อู้ ำนวยกำรสำนักสง่ เสรมิ กำรพฒั นำทำงหลวงทอ้ งถนิ่ เป็นผรู้ กั ษำกำร
ตำมประกำศน้ี

ขอ้ ๕ ใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ใชม้ ำตรฐำนและลกั ษณะของทำงหลวง
รวมทงั้ กำหนดเขตทำงหลวง ที่จอดรถ ระยะแนวต้นไม้ และเสำพำดสำย เกี่ยวกบั
ทำงหลวงท้องถ่ิน ในกำรออกแบบ กำกับ ตรวจตรำ และอำนวยควำมปลอดภัย
ตำมประกำศน้ี

๖๙ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๒๔/ตอนพเิ ศษ ๑๕๘ ง/หน้ำ ๑๑/๑๘ ตุลำคม ๒๕๕๐

๑๐๙

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

หมวด ๑
กำรแบง่ ชนั้ ทำงหลวง

ขอ้ ๖ ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ในเขตเมอื งและในเขตชมุ ชน แบ่งออกเป็น ๕ ชนั้ คอื
(๑) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ พเิ ศษ
(๒) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๑
(๓) ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๒
(๔) ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๓
(๕) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๔

ขอ้ ๗ ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ นอกเขตเมอื งและนอกเขตชมุ ชน แบ่งออกเป็น ๗ ชนั้ คอื
(๑) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ พเิ ศษ
(๒) ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๑
(๓) ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๒
(๔) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๓
(๕) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๔
(๖) ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๕
(๗) ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๖

หมวด ๒
มำตรฐำนและลกั ษณะของทำงหลวง
รวมทงั้ เขตทำงหลวงของทำงหลวงทอ้ งถนิ่

ขอ้ ๘ ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ พเิ ศษ ในเขตเมอื งและในเขตชุมชน ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถิ่นกำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๓ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กวำ้ งช่องทำงละไมน่ ้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร
(๔) ทำงเทำ้ หรอื ไหลท่ ำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไม่น้อยกวำ่ ๒.๕๐ เมตร
(๕) มที ำงระบำยน้ำ
(๖) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกว่ำ ๔๕.๐๐ เมตร

๑๑๐

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๗) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)
(ก) ทำงรำบ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง

(๘) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(๙) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)

(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนินไม่เกนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘
(๑๐) ทำงแยกหวั มุมถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเช่อื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร
(๑๑) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

ขอ้ ๙ ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๑ ในเขตเมอื งและในเขตชมุ ชน ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถและน้ำหนกั ลงเพลำของรถไดไ้ ม่น้อยกวำ่ น้ำหนกั ตำม
ประกำศทผ่ี ูอ้ ำนวยกำรทำงหลวงทอ้ งถิน่ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๒ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กวำ้ งไมน่ ้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร
(๔) ทำงเทำ้ หรอื ไหลท่ ำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไมน่ ้อยกว่ำ ๒.๐๐ เมตร
(๕) มที ำงระบำยน้ำ
(๖) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไมน่ ้อยกว่ำ ๓๐.๐๐ เมตร
(๗) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๘) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(๙) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนินไม่เกนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘
(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

๑๑๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ขอ้ ๑๐ ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๒ ในเขตเมอื งและในเขตชมุ ชน ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถ่นิ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๒ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กว้ำงไมน่ ้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร
(๔) ทำงเทำ้ หรอื ไหล่ทำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไมน่ ้อยกว่ำ ๑.๕๐ เมตร
(๕) มที ำงระบำยน้ำ
(๖) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกว่ำ ๑๖.๐๐ เมตร
(๗) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๘) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(๙) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘
(๑๐) ทำงแยกหวั มุมถนนซ่งึ เกดิ จำกกำรเช่อื มหรือตดั กนั ของถนน ให้ขอบ
ผิวจรำจรดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร
(๑๑) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

ขอ้ ๑๑ ทำงหลวงทอ้ งถน่ิ ชนั้ ท่ี ๓ ในเขตเมอื งและในเขตชมุ ชน ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถน่ิ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๑ ชอ่ งทำงต่อทศิ ทำง แต่ละช่องทำงกวำ้ งไมน่ ้อยกว่ำ
๓ เมตร
(๔) ทำงเทำ้ หรอื ไหลท่ ำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไมน่ ้อยกว่ำ ๑.๐๐ เมตร

๑๑๒

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๕) มที ำงระบำยน้ำ
(๖) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไมน่ ้อยกวำ่ ๘.๐๐ เมตร
(๗) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๖๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๕๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๓๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๘) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(๙) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT) ตำมสภำพพน้ื ทแ่ี ต่ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๒
(๑๐) ทำงแยกหวั มุมถนนซ่งึ เกดิ จำกกำรเช่อื มหรือตัดกนั ของถนน ให้ขอบ
ผวิ จรำจรดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร
(๑๑) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

ขอ้ ๑๒ ทำงหลวงทอ้ งถนิ่ ชนั้ ท่ี ๔ ในเขตเมอื งและในเขตชมุ ชน ตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถน่ิ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องจรำจรไม่น้อยกวำ่ ๑ ชอ่ งทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำงกวำ้ งไมเ่ กนิ
๓ เมตร
(๔) ควรมที ำงระบำยน้ำ
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ตำมควำมเหมำะสม
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๕๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๔๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๓๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT) ตำมสภำพพน้ื ทแ่ี ต่ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๕
(๙) ทำงแยกหวั มุมถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

๑๑๓

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ข้อ ๑๓ ทำงหลวงท้องถิ่นชัน้ พิเศษ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศทผ่ี อู้ ำนวยกำรทำงหลวงท้องถ่ินกำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๓ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กวำ้ งไม่น้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร
(๔) ไหล่ทำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไม่น้อยกว่ำ ๒.๕๐ เมตร
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกวำ่ ๔๕.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๑๐๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘
(๙) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

ข้อ ๑๔ ทำงหลวงท้องถ่ินชัน้ ท่ี ๑ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถและน้ำหนกั ลงเพลำของรถไดไ้ ม่น้อยกวำ่ น้ำหนกั ตำม
ประกำศทผี่ ูอ้ ำนวยกำรทำงหลวงทอ้ งถิน่ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๒ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กวำ้ งไม่น้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร

๑๑๔

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๔) ไหล่ทำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไม่น้อยกว่ำ ๒.๐๐ เมตร
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไมน่ ้อยกว่ำ ๓๐.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๑๐๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘
(๙) ทำงแยกหวั มุมถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

ข้อ ๑๕ ทำงหลวงท้องถ่ินชัน้ ท่ี ๒ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรับน้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถน่ิ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๒ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กว้ำงไมน่ ้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร
(๔) ไหล่ทำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไม่น้อยกวำ่ ๒ เมตร
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกว่ำ ๒๕.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐

๑๑๕

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘

(๙) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

ข้อ ๑๖ ทำงหลวงท้องถิ่นชัน้ ท่ี ๓ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถน่ิ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๑ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กว้ำงไม่น้อยกวำ่ ๓.๒๕ เมตร
(๔) ไหลท่ ำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไม่น้อยกว่ำ ๑.๕๐ เมตร
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไม่น้อยกวำ่ ๑๕.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนนิ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๗๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๖
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘
(๙) ทำงแยกหวั มุมถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

๑๑๖

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ข้อ ๑๗ ทำงหลวงท้องถ่ินชัน้ ท่ี ๔ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นคอนกรตี หรอื แอสฟัลต์
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถและน้ำหนกั ลงเพลำของรถไดไ้ ม่น้อยกว่ำน้ำหนกั ตำม
ประกำศทผี่ ูอ้ ำนวยกำรทำงหลวงทอ้ งถิน่ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๑ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กวำ้ งไม่น้อยกว่ำ ๓.๐๐ เมตร
(๔) ไหล่ทำงทงั้ สองขำ้ ง กวำ้ งขำ้ งละไมน่ ้อยกว่ำ ๑.๐๐ เมตร
(๕) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ไมน่ ้อยกว่ำ ๑๐.๐๐ เมตร
(๖) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๘๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๖๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๕๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๗) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๘) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘
(ค) ทำงเขำไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๒
(๙) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร
(๑๐) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดง่ิ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

ข้อ ๑๘ ทำงหลวงท้องถิ่นชัน้ ท่ี ๕ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นลกู รงั
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนกั รถและน้ำหนกั ลงเพลำของรถไดไ้ ม่น้อยกวำ่ น้ำหนกั ตำม
ประกำศทผ่ี ู้อำนวยกำรทำงหลวงทอ้ งถิน่ กำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องทำงจรำจรไม่น้อยกว่ำ ๑ ช่องทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำง
กว้ำงไม่น้อยกว่ำ ๓.๐๐ เมตร

๑๑๗

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๔) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ตำมควำมเหมำะสม
(๕) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๖๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๕๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๓๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๖) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๗) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๘
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๒
(๘) ทำงแยกหวั มมุ ถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๙) ช่องลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

ข้อ ๑๙ ทำงหลวงท้องถิ่นชัน้ ท่ี ๖ นอกเขตเมืองและนอกเขตชุมชน
ตอ้ งประกอบดว้ ย

(๑) ลกั ษณะผวิ จรำจรแนะนำเป็นลกู รงั
(๒) สำมำรถรบั น้ำหนักรถและน้ำหนักลงเพลำของรถได้ไม่น้อยกว่ำน้ำหนัก
ตำมประกำศท่ผี ู้อำนวยกำรทำงหลวงท้องถิ่นกำหนด ตำมมำตรำ ๖๑ แห่งพระรำชบญั ญัติ
ทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ช่องจรำจรไม่น้อยกวำ่ ๑ ชอ่ งทำงต่อทศิ ทำง และแต่ละช่องทำงกวำ้ งไม่เกนิ
๓.๐๐ เมตร
(๔) เขตทำงหลวง (RIGHT OF WAY) ตำมควำมเหมำะสม
(๕) ควำมเรว็ ทใ่ี ชใ้ นกำรออกแบบ (DESIGN SPEED)

(ก) ทำงรำบ ๖๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ข) ทำงเนิน ๕๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(ค) ทำงเขำ ๓๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
(๖) กำรยกระดบั ของถนนบนทำงโคง้ (SUPER ELEVATION) ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๑๐
(๗) ควำมลำดชนั ของถนน (GRADIENT)
(ก) ทำงรำบไม่เกนิ รอ้ ยละ ๔
(ข) ทำงเนนิ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๘
(ค) ทำงเขำไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๒

๑๑๘

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๘) ทำงแยกหวั มุมถนนซง่ึ เกดิ จำกกำรเชอ่ื มหรอื ตดั กนั ของถนน ใหข้ อบผวิ จรำจร
ดำ้ นในมรี ศั มคี วำมโคง้ ไม่น้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร

(๙) ชอ่ งลอดของถนน ตอ้ งมรี ะยะลอดในแนวดงิ่ ไม่น้อยกว่ำ ๕.๐๐ เมตร

หมวด ๓
มำตรฐำนทจ่ี อดรถ ระยะแนวตน้ ไม้
และเสำพำดสำยของทำงหลวงทอ้ งถน่ิ

ขอ้ ๑๙ มำตรฐำนทจ่ี อดรถ ระยะแนวตน้ ไมแ้ ละเสำพำดสำยของทำงหลวงทอ้ งถน่ิ
(๑) ทจ่ี อดรถ ตอ้ งเป็นทซ่ี ง่ึ ทำงรำชกำรกำหนดให้ หรอื ทซ่ี ง่ึ ไมก่ ดี ขวำงทำงจรำจร
แต่ไม่ใช่ทำงโคง้ บนสะพำน เชงิ สะพำน ทำงแยก หรอื ในทค่ี บั ขนั
(๒) ระยะแนวต้นไม้ หำกเป็นทำงหลวงท้องถ่ินในเขตเมืองและในเขตชุมชน
ตอ้ งห่ำงจำกขอบผวิ จรำจรไมน่ ้อยกวำ่ ๐.๕๐ เมตร หำกเป็นทำงหลวงทอ้ งถน่ิ นอกเขตเมอื ง
และนอกเขตชมุ ชน ตอ้ งหำ่ งจำกขอบผวิ จรำจรไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๐๐ เมตร
(๓) เสำพำดสำย ตอ้ งปักหำ่ งจำกแนวเขตทำงหลวงเขำ้ มำทำงดำ้ นในไมน่ ้อยกว่ำ
๐.๕๐ เมตร แต่ไม่เกนิ ๑.๕๐ เมตร หรอื ท่ซี ง่ึ ทำงรำชกำรกำหนดให้ และสำยต้องพำด
สงู จำกผวิ ดินไม่น้อยกว่ำ ๓.๐๐ เมตร ส่วนท่ตี ้องพำดสำยข้ำมถนนต้องสูงจำกผวิ ทำง
ไม่น้อยกว่ำ ๕.๕๐ เมตร

ประกำศ ณ วนั ท่ี ๒๘ กนั ยำยน พ.ศ. ๒๕๕๐
ระพนิ ทร์ จำรดุ ุล

อธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท

๑๑๙

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท
เรอ่ื ง กำรขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบท

พ.ศ. ๒๕๕๓

เพ่อื ใหก้ ำรดำเนินกำรขออนุญำตสรำ้ งทำง ถนน หรอื สงิ่ อ่นื ใดในเขตทำงหลวง
ชนบทเพ่อื เป็นทำงเขำ้ ออกทำงหลวง กำรขออนุญำตระบำยน้ำลงในเขตทำงหลวงชนบท
กำรขออนุญำตติดตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนทีใ่ นเขตทำงหลวงชนบท และกำรขออนุญำต
ปักเสำ พำดสำย วำงท่อ ในเขตทำงหลวงชนบทตำมกฎหมำยทำงหลวง เป็นไปด้วย
ควำมเรยี บรอ้ ย ปลอดภยั ไม่เป็นปัญหำอุปสรรคแกง่ ำนทำงและกำรจรำจร และเป็นไปใน
แนวทำงเดยี วกนั

อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๓๗ แห่งพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕
และมำตรำ ๓๙/๑ มำตรำ ๔๗ และมำตรำ ๔๘ แห่งพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบญั ญัติทำงหลวง (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ อธิบดี
กรมทำงหลวงชนบทในฐำนะผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบทจงึ ออกประกำศไว้ ดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ ๑ ประกำศน้เี รยี กว่ำ “ประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท เรอ่ื ง กำรขออนุญำต
กระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบท พ.ศ. ๒๕๕๓”

ขอ้ ๒๗๐ ประกำศน้ีให้ใชบ้ งั คบั เม่อื ครบกำหนดหกสบิ วนั นับตงั้ แต่วนั ประกำศ
ในรำชกจิ จำนุเบกษำเป็นตน้ ไป

ขอ้ ๓ ใหย้ กเลกิ
(๑) ประกำศกรมทำงหลวงชนบท เร่อื ง กำรขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขต
ทำงหลวงชนบทของกรมทำงหลวงชนบท ลงวนั ท่ี ๒๑ กรกฎำคม ๒๕๔๗
(๒) ประกำศกรมทำงหลวงชนบท เร่ือง กำรขออนุญำตติดตัง้ ป้ำยแนะนำ
ลงวนั ท่ี ๒๕ มถิ ุนำยน ๒๕๕๐

ขอ้ ๔ กำรขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบทตอ้ งเป็นไปตำม
หลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขดงั น้ี

(๑) กำรขออนุญำตกระทำกำรตำมมำตรำ ๓๗ ต้องเป็นไปตำมหลกั เกณฑต์ ำม
เอกสำร ล.๑ และเงอ่ื นไข ตำมเอกสำร ง.๑ แนบทำ้ ยประกำศน้ี

๗๐ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๒๗/ตอนพเิ ศษ ๑๑๓ ง/หน้ำ ๔๖/๒๘ กนั ยำยน ๒๕๕๓

๑๒๐

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(๒) กำรขออนุญำตกระทำกำรตำมมำตรำ ๓๙/๑ ต้องเป็นไปตำมหลกั เกณฑ์
ตำมเอกสำร ล.๒ และเง่อื นไข ตำมเอกสำร ง.๒ แนบทำ้ ยประกำศน้ี

(๓) กำรขออนุญำตกระทำกำรตำมมำตรำ ๔๗ ต้องเป็นไปตำมหลกั เกณฑ์
ตำมเอกสำร ล.๓ และเง่อื นไข ตำมเอกสำร ง.๓ แนบทำ้ ยประกำศน้ี

(๔) กำรขออนุญำตกระทำกำรตำมมำตรำ ๔๘ ต้องเป็นไปตำมหลักเกณฑ์
ตำมเอกสำร ล.๔ และเง่อื นไข ตำมเอกสำร ง.๔ แนบทำ้ ยประกำศน้ี

กำรขออนุญำตกระทำกำรตำม (๑) ให้ใชแ้ บบคำขอตำมแบบ ข.๑ หรอื กำรขอ
อนุญำตกระทำกำรตำม (๒) และ (๓) ใหใ้ ชแ้ บบคำขอตำมแบบ ข.๒ และกำรขออนุญำต
กระทำกำรตำม (๔) ใหใ้ ชแ้ บบคำขอตำมแบบ ข.๓ แนบทำ้ ยประกำศน้ี

ประกำศ ณ วนั ท่ี ๒๐ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๕๓
วชิ ำญ คุณำกลู สวสั ดิ์

อธบิ ดกี รมทำงหลวงชนบท
ในฐำนะผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท

๑๒๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(แบบ ข.๑)

แบบคำขออนุญำตทำทำงเชอ่ื มเขำ้ - ออกในเขตทำงหลวงชนบท

เขยี นท่ี ........................................................
วนั ท่ี ............. เดอื น ............... พ.ศ. ...........

เร่อื ง ขออนุญำตทำทำงเช่อื มเขำ้ - ออกในเขตทำงหลวงชนบท

เรยี น ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท

สง่ิ ทส่ี ง่ มำดว้ ย ๑. แบบแปลนทำงเชอ่ื ม แบบแปลนทำงเชอ่ื มชวั่ ครำว ใบอนุญำตกอ่ สรำ้ งอำคำร

๒. สำเนำบตั รประชำชน สำเนำทะเบยี นบำ้ น

๓. สำเนำโฉนดทดี่ นิ หนงั สอื ยนิ ยอมจำกผรู้ บั จำนอง

๔. หนงั สอื มอบอำนำจ หนงั สอื รบั รองของสำนกั ทะเบยี นหำ้ งหนุ้ สว่ น บรษิ ทั กรมพฒั นำธุรกจิ กำรคำ้

-๑- -๒-

ขำ้ พเจำ้ ........................................................................... โดย ..................................................

-๓-

ตำแหน่ง .............................................. สำนกั งำนเลขท/่ี บำ้ นเลขท่ี .................. ถนน ..................................
ตำบล/แขวง ......................................... อำเภอ/เขต ........................................ จงั หวดั ..............................
โทรศพั ทห์ มำยเลข ............................................................................................ มคี วำมประสงคข์ ออนุญำต

ทำทำงเช่อื มเขำ้ - ออกในเขตทำงหลวงชนบท ตำมมำตรำ ๓๗ แหง่ พระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง
พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเง่อื นไขตำมเอกสำร ง.๑

ทำทำงเช่ือมเข้ำ - ออกในเขตทำงหลวงชนบทเป็ นกำรชัว่ ครำว ตำมมำตรำ ๓๗ แห่ง
พระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเง่อื นไขตำมเอกสำร ง.๑

ถนนสำย ......................................................................................................................................................
ระหว่ำง กม. ท่ี ................................................................ ถงึ กม. ท่ี ...........................................................
เพ่อื .............................................................................................................................................................

จงึ เรยี นมำเพ่อื โปรดพจิ ำรณำ

(ลงชอ่ื ) ............................................... ผขู้ ออนุญำต
( ................................................ )

ตำแหน่ง .........................................................
วนั ท่ี .............................................................

หมำยเหตุ ๑. “ขำ้ พเจำ้ ” หมำยถงึ บุคคลทวั่ ไปหรอื ส่วนรำชกำรหรอื รฐั วสิ ำหกจิ ท่ขี ออนุญำต
๒. “โดย” หมำยถงึ ช่อื - นำมสกุล ของผรู้ บั มอบอำนำจ หรอื ผแู้ ทนนิตบิ คุ คล แลว้ แตก่ รณี
๓. “ตำแหน่ง” หมำยถงึ หุน้ ส่วนผูจ้ ดั กำรหรอื กรรมกำรผูจ้ ดั กำรใหญ่ หวั หน้ำส่วนรำชกำรหรอื

รฐั วสิ ำหกจิ ทข่ี ออนุญำต

๑๒๒

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(แบบ ข.๒)

แบบคำขออนุญำตระบำยน้ำและตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนทใ่ี นเขตทำงหลวงชนบท

เขยี นท่ี ........................................................
วนั ท่ี ............. เดอื น ............... พ.ศ. ..........

เร่อื ง ขออนุญำตกระทำกำรในเขตทำงหลวงชนบท

เรยี น ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท

สงิ่ ทส่ี ่งมำดว้ ย ๑. แบบแปลนทำงระบำยน้ำ

แบบแปลนป้ำยและแผนทส่ี ำหรบั แสดงเสน้ ทำงหลวง และทต่ี งั้ ของป้ำย

๒. สำเนำบตั รประชำชน สำเนำทะเบยี นบำ้ น

๓. สำเนำโฉนดทดี่ นิ หนงั สอื ยนิ ยอมจำกผรู้ บั จำนอง

๔. หนงั สอื มอบอำนำจ หนงั สอื รบั รองของสำนกั ทะเบยี นหำ้ งหนุ้ สว่ น บรษิ ทั กรมพฒั นำธรุ กจิ กำรคำ้

-๑- -๒-

ขำ้ พเจำ้ ........................................................................... โดย ..................................................

-๓-

ตำแหน่ง .............................................. สำนกั งำนเลขท/่ี บำ้ นเลขท่ี .................. ถนน ..................................
ตำบล/แขวง ......................................... อำเภอ/เขต ........................................ จงั หวดั ..............................
โทรศพั ทห์ มำยเลข ............................................................................................ มคี วำมประสงคข์ ออนุญำต

ระบำยน้ำลงในเขตทำงหลวงชนบท ตำมมำตรำ ๓๙/๑ แหง่ พระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕
แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเง่อื นไขตำมเอกสำร ง.๒

ตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนทใ่ี นเขตทำงหลวงชนบท ตำมมำตรำ ๔๗ แหง่ พระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง
พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเง่อื นไข
ตำมเอกสำร ง.๓

ถนนสำย ......................................................................................................................................................
ระหวำ่ ง กม. ท่ี ................................................................ ถงึ กม. ท่ี ...........................................................

จงึ เรยี นมำเพ่อื โปรดพจิ ำรณำ

(ลงช่อื ) ............................................... ผขู้ ออนุญำต
( ................................................ )

ตำแหน่ง .........................................................
วนั ท่ี .............................................................

หมำยเหตุ ๑. “ขำ้ พเจำ้ ” หมำยถงึ บคุ คลทวั่ ไปหรอื ส่วนรำชกำรหรอื รฐั วสิ ำหกจิ ทข่ี ออนุญำต
๒. “โดย” หมำยถงึ ช่อื - นำมสกุล ของผรู้ บั มอบอำนำจ หรอื ผแู้ ทนนิตบิ คุ คล แลว้ แต่กรณี
๓. “ตำแหน่ง” หมำยถงึ หุน้ ส่วนผู้จดั กำรหรอื กรรมกำรผูจ้ ดั กำรใหญ่ หัวหน้ำส่วนรำชกำรหรอื

รฐั วสิ ำหกจิ ทข่ี ออนุญำต

๑๒๓

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(แบบ ข.๓)

แบบคำขออนุญำตปักเสำ พำดสำย วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบท
(เฉพำะหน่วยงำนของรฐั ทใ่ี หบ้ รกิ ำรกจิ กำรอนั เป็นสำธำรณูปโภค)

เขยี นท่ี ........................................................
วนั ท่ี ............. เดอื น ............... พ.ศ. ..........

เร่อื ง ขออนุญำตปักเสำ พำดสำย วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบท

เรยี น ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงชนบท

สงิ่ ทส่ี ง่ มำดว้ ย ๑. แบบแปลนกำรปักเสำ พำดสำย แบบแปลนกำรวำงทอ่

๒. สำเนำบตั รขำ้ รำชกำร

๓. หนงั สอื มอบอำนำจ

-๑- -๒-

ขำ้ พเจำ้ ........................................................................... โดย ..................................................

-๓-

ตำแหน่ง .............................................. สำนกั งำนเลขท่ี .................................. ถนน ..................................
ตำบล/แขวง ......................................... อำเภอ/เขต ........................................ จงั หวดั ..............................
โทรศพั ทห์ มำยเลข ............................................................................................ มคี วำมประสงคข์ ออนุญำต

ปักเสำ พำดสำย ในเขตทำงหลวงชนบท โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเงอ่ื นไขตำมเอกสำร ง.๔
วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบท โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเงอ่ื นไขตำมเอกสำร ง.๔
ตำมมำตรำ ๔๘ แหง่ พระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระรำชบญั ญตั ทิ ำงหลวง (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยจะปฏบิ ตั ติ ำมเง่อื นไขตำมเอกสำร ง.๔

ถนนสำย ......................................................................................................................................................
ระหวำ่ ง กม. ท่ี ................................................................ ถงึ กม. ท่ี ...........................................................

จงึ เรยี นมำเพ่อื โปรดพจิ ำรณำ

(ลงชอ่ื ) ............................................... ผขู้ ออนุญำต
( ................................................ )

ตำแหน่ง .........................................................
วนั ท่ี .............................................................

หมำยเหตุ ๑. “ขำ้ พเจำ้ ” หมำยถงึ สว่ นรำชกำรหรอื รฐั วสิ ำหกจิ ทข่ี ออนุญำต
๒. “โดย” หมำยถงึ ช่อื – นำมสกุล ของผมู้ อี ำนำจลงนำมแทน
๓. “ตำแหน่ง” หมำยถงึ หวั หน้ำส่วนรำชกำรหรอื รฐั วสิ ำหกจิ ทข่ี ออนุญำต

๑๒๔

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ล.๑)

หลกั เกณฑก์ ำรขออนุญำตทำทำงเช่อื มเขำ้ - ออก ในเขตทำงหลวงชนบท

๑. คณุ สมบตั ขิ องผยู้ ่นื คำขออนุญำต
ต้องเป็นเจ้ำของในท่ีดินท่ีประสงค์จะสร้ำงทำงเข้ำ - ออกในเขตทำงหลวงชนบท หำกเป็น

นิติบุคคลใหผ้ ทู้ ม่ี อี ำนำจลงนำมแทนนติ บิ ุคคลเป็นผยู้ ่นื คำขอ

๒. หลกั ฐำนประกอบกำรขออนุญำต
๒.๑ แบบฟอรม์ คำขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบท (ตำมแบบ ข.๑)
๒.๒ แบบแปลนและแผนผงั ที่ตัง้ ที่ดินที่แสดงตำแหน่งอำคำรกับทำงเช่ือมเขำ้ - ออกใน

เขตทำงหลวงชนบทตำมแบบมำตรฐำนทำงเขำ้ - ออกทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดไว้ จำนวน ๔ ชดุ
๒.๓ กรณีทำงเช่อื มทข่ี ออนุญำตมรี ศั มเี ล้ยี วปำกทำงเขำ้ - ออก ล้ำเขำ้ ไปในทด่ี ินผอู้ ่นื จะตอ้ งให้

เจำ้ ของทด่ี นิ นนั้ แสดงควำมยนิ ยอมเป็นลำยลกั ษณ์อกั ษร
๒.๔ สำเนำใบอนุญำตก่อสรำ้ งอำคำรพรอ้ มแบบแปลนแผนผงั ประกอบกำรขออนุญำต จำนวน ๑ ชดุ
๒.๕ สำเนำบตั รประชำชน หรอื สำเนำทะเบยี นบำ้ นของผขู้ ออนุญำต จำนวน ๓ ฉบบั
๒.๖ สำเนำโฉนดที่ดิน จำนวน ๓ ฉบบั (กรณีที่ทด่ี ินตดิ จำนองจะต้องมหี นังสอื ยนิ ยอมจำก

ผู้รบั จำนอง)
๒.๗ หนงั สอื มอบอำนำจในกรณีทมี่ อบอำนำจใหผ้ ูอ้ ่นื ทำกำรขออนุญำตแทน ตดิ อำกรแสตมป์

๑๐ บำท
๒.๘ กรณีเป็นนิตบิ ุคคลจะต้องมหี นังสอื ทล่ี งนำมโดยกรรมกำรผมู้ อี ำนำจพรอ้ มตรำประทบั ของ

นิตบิ ุคคลนัน้ ๆ และต้องมีหนังสือรบั รองของสำนักงำนทะเบียนห้ำงหุ้นส่วน บรษิ ัท กรมพฒั นำธุรกจิ กำรค้ำ
กระทรวงพำณิชย์ ระบุชอ่ื กรรมกำรผมู้ อี ำนำจลงช่อื แทนนติ บิ คุ คล

๓. กำรตรวจสอบสถำนท่ี
เจำ้ หน้ำทจี่ ะนดั หมำยกบั ผูข้ ออนุญำตเพ่ือทำกำรตรวจสอบสถำนทที่ ขี่ ออนุญำตทำทำงเช่อื ม

เข้ำ - ออกในเขตทำงหลวงชนบทก่อนท่จี ะอนุญำต และเม่ือได้รบั อนุญำตให้ทำทำงเช่ือมเขำ้ - ออกแล้ว
ผู้ขออนุญำตจงึ จะสำมำรถทำทำงเชอ่ื มเขำ้ - ออกในเขตทำงหลวงชนบทไดโ้ ดยตอ้ งทำตำมเงอ่ื นไขทก่ี ำหนด

๔. สถำนทย่ี ่นื คำขออนุญำต
ผขู้ ออนุญำตสำมำรถขอรบั แบบคำขออนุญำตฯ ขอตรวจดแู บบมำตรฐำนทำงเขำ้ ออก หลกั เกณฑ์

หรอื เง่อื นไขไดท้ ส่ี ำนกั งำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั หรอื ทส่ี ำนักบำรงุ ทำง กรมทำงหลวงชนบท หรอื ท่ี
web site / www.ddr.go.th และย่ืนแบบคำขออนุญำตได้ท่สี ำนักงำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทุกจงั หวดั หรอื ท่ี
สำนักบำรงุ ทำง กรมทำงหลวงชนบท เลขที่ ๙ ถนนพหลโยธนิ แขวงอนุสำวรยี ์ เขตบำงเขน กทม. ๑๐๒๐๐
โทร. ๐ - ๒๕๕๑ - ๕๐๐๐

๑๒๕

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ง.๑)

เงอ่ื นไขกำรอนุญำตทำทำงเช่อื มเขำ้ - ออก ในเขตทำงหลวงชนบท

๑. กอ่ นทผ่ี ูไ้ ดร้ บั อนุญำตจะลงมอื กระทำกำรก่อสรำ้ ง ต้องแจง้ เป็นหนังสอื ใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวง
ชนบททรำบล่วงหน้ำไมน่ ้อยกวำ่ ๗ วนั

๒. เมอ่ื ไดร้ บั อนุญำตแล้ว จะดำเนนิ กำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยใน ....... วนั เม่อื ครบกำหนดแล้ว ปรำกฏว่ำ
ผไู้ ดร้ บั อนุญำตยงั ไมท่ ำกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ เน่อื งจำกผู้ไดร้ บั อนุญำตละทง้ิ งำนหรอื หลกี เลย่ี งไมท่ ำตำมแบบท่กี ำหนด
หรอื มเี หตุผลท่ไี ม่ควรให้ต่อเวลำทำกำรอีกต่อไป ผู้ได้รบั อนุญำตยินยอมให้กรมทำงหลวงชนบทเพิกถอน
กำรอนุญำต โดยไมเ่ รยี กรอ้ งค่ำเสยี หำยใด ๆ ทงั้ สน้ิ

๓. ผู้ได้รบั อนุญำตจะทำกำรก่อสร้ำงตำมแบบและรำยละเอียดประกอบแบบไม่ว่ำจะเป็นแบบ
ขออนุญำตสรำ้ งทำง ถนนหรอื ส่ิงอ่นื ใดในเขตทำงหลวงเพ่ือเป็นทำงเขำ้ - ออก หรอื แบบมำตรฐำนทำงเช่อื ม
ชวั่ ครำวเขำ้ - ออกทำงหลวงชนบททไ่ี ดก้ ำหนดไว้

๔. ผไู้ ด้รบั อนุญำตยนิ ยอมใหก้ รมทำงหลวงชนบท มสี ทิ ธทิ จ่ี ะออกแบบ เปลย่ี นแปลง แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ
แบบใหเ้ หมำะสมกบั สภำพควำมเปล่ยี นแปลงของทำง หรอื เพ่อื ควำมปลอดภยั แก่ผู้ใชท้ ำงหรอื เพ่อื บำรุงรกั ษำ
ประกำรใดกไ็ ด้ และหำกมกี ำรแกไ้ ขเป็นหน้ำทข่ี องผไู้ ดร้ บั อนุญำตทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมโดยออกคำ่ ใชจ้ ำ่ ยเองทงั้ สน้ิ

๕. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะหำวสั ดุมำดำเนินกำรก่อสรำ้ งตำมแบบ และรำยละเอยี ดทก่ี รมทำงหลวงชนบท
อนุญำต จะไมใ่ ชว้ สั ดุในเขตทำงของกรมทำงหลวงชนบท

๖. ผูไ้ ดร้ บั อนุญำตต้องตดิ ตงั้ ป้ำยจรำจรตลอดจนเคร่อื งหมำยควบคุมกำรจรำจรอ่นื ๆ ในระหว่ำง
กำรก่อสร้ำงตำมมำตรฐำนทำงหลวง และแนวทำงปฏิบัติของคณะกรรมกำรป้องกันอุบตั ิภัยแห่งชำติ
หำกจำเป็นต้องทำกำรก่อสร้ำงในเวลำกลำงคนื หรอื ส่วนของงำนก่อสร้ำงหรอื วสั ดุอุปกรณ์ของงำนก่อสร้ำง
อำจเป็นอนั ตรำยต่อผใู้ ชท้ ำงในเวลำกลำงคนื ผูไ้ ดร้ บั อนุญำตจะต้องจดั ใหม้ ไี ฟฟ้ำแสงสว่ำงอย่ำงเพยี งพอและ
ป้ำยจรำจรทต่ี ดิ ตงั้ ตอ้ งเป็นชนิดสะทอ้ นแสง (Reflective) ดว้ ย

๗. ผู้ได้รบั อนุญำต จะต้องยินยอมให้เจ้ำหน้ำที่กรมทำงหลวงชนบทเขำ้ ตรวจสอบกำรทำงำน
ได้ตลอดเวลำเพ่อื เป็นกำรป้องกนั ควำมเสยี หำยทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ต่อทำงหลวง

๘. เจำ้ หน้ำทกี่ รมทำงหลวงชนบท มอี ำนำจสงั ่ ใหห้ ยุดกำรทำกำรก่อสรำ้ งในกรณีท่ีกำรก่อสรำ้ งนัน้
จะทำควำมเสยี หำยใหแ้ ก่ทำงหลวงหรอื เป็นอนั ตรำยต่อผใู้ ชท้ ำง

๙. ผไู้ ด้รบั อนุญำตจะต้องรบั ผดิ ชอบ และชดใชค้ ่ำเสยี หำยอนั เกดิ จำกกำรก่อสรำ้ งทำงเช่อื มทม่ี ตี ่อ
ทำงหลวงหรอื ผใู้ ชท้ ำง

๑๒๖

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๒-

๑๐. ในระหว่ำงกำรใชส้ ถำนทีท่ ีไ่ ด้รบั อนุญำต ผูไ้ ด้รบั อนุญำตจะต้องคว บคุมกำรใชส้ ถำนท่ี
ใหม้ คี วำมเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย และมกี ำรรกั ษำควำมสะอำดสถำนทแ่ี ละเม่อื ครบกำหนดกำรไดร้ บั อนุญำตจะตอ้ ง
ดำเนินกำรทำควำมสะอำด เก็บเศษวสั ดุอุปกรณ์ อนั เกิดจำกกจิ กรรมที่ใช้สถำนทใี่ หเ้ รยี บรอ้ ย และแจ้งให้
กรมทำงหลวงชนบทตรวจสอบจนเป็นทพ่ี อใจ

๑๑. ในกรณีทก่ี ำรขออนุญำตต้องทำกำรขดุ รอ้ื ผวิ จรำจร ทำงเทำ้ หรอื ส่วนอ่นื ใดในโครงสรำ้ งถนน
ผไู้ ด้รบั อนุญำตตอ้ งซ่อมแซมใหอ้ ยู่ในสภำพเดมิ ตำมมำตรฐำนและวธิ กี ำรทกี่ รมทำงหลวงชนบทกำหนดและ
ต้องรบั ผดิ ชอบควำมชำรดุ เสยี หำยทเ่ี กดิ ขน้ึ ภำยในเวลำ ๒ ปี

๑๒. เม่อื กรมทำงหลวงต้องสรำ้ งหรอื ขยำยทำงหลวง หรอื ซ่อมแซมบำรุงทำงหลวง ถำ้ ตอ้ งรอ้ื ถอน
เคล่อื นยำ้ ยสง่ิ ทไ่ี ดร้ บั อนุญำตเป็นภำระของผไู้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งดำเนินกำรภำยในกำหนดทไ่ี ดร้ บั แจง้ และหำกเกดิ
ควำมเสยี หำยตอ่ ทรพั ย์สนิ ของผไู้ ดร้ บั อนุญำต ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะไมเ่ รยี กรอ้ งค่ำเสยี หำยใด ๆ จำกกรมทำงหลวง
ชนบท

๑๓. เม่อื ผูไ้ ด้รบั อนุญำตได้รบั แจง้ เป็นหนงั สอื จำกกรมทำงหลวงชนบท หรอื ผซู้ ่งึ ไดร้ บั มอบหมำยให้
รอ้ื ยำ้ ยทำงเช่อื มเขำ้ - ออก ทไ่ี ด้รบั อนุญำตใหพ้ ้นเขตกำรก่อสรำ้ งทำงภำยในระยะเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบท
กำหนด ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะทำกำรรอ้ื ยำ้ ยทนั ที และใหแ้ ล้วเสรจ็ ภำยในกำหนดเวลำทไ่ี ด้รบั แจง้ โดยผขู้ ออนุญำต
จะเป็นผู้จดั หำสถำนท่จี ดั เก็บและเสียค่ำใช้จ่ำยเองทงั้ ส้ิน ถ้ำหำกผู้ได้รบั อนุญำตรอ้ื ย้ำยไม่ทนั กำหนดเวลำและ
เกดิ ควำมเสียหำยขน้ึ กบั กรมทำงหลวงชนบท ไม่ว่ำกรณีใด ๆ กต็ ำมผู้ได้รบั อนุญำตยนิ ยอมชดใช้ค่ำเสียหำย
ใหแ้ กก่ รมทำงหลวงชนบททงั้ สน้ิ

๑๔. ในกรณีทก่ี ำรก่อสรำ้ งตำมคำขอน้ีจำเป็นจะตอ้ งตดั กง่ิ ไมใ้ นเขตทำง ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะตอ้ งไดร้ ับ
อนุญำตจำกกรมทำงหลวงชนบทก่อน และกรมทำงหลวงชนบทมสี ทิ ธทิ จ่ี ะกำหนดเง่อื นไขประกำรใดกไ็ ด้

๑๕. ผู้ได้รบั อนุญำตจะซ่อมแซมส่วนท่ชี ำรุดเสยี หำยให้อยู่ในสภำพเดิม ใหไ้ ด้มำตรฐำนไม่ต่ำกว่ำ
มำตรฐำนงำนก่อสรำ้ งเดมิ ของสง่ิ กอ่ สรำ้ งนนั้

๑๖. หำกเกดิ ควำมเสยี หำยแก่ถนนหรอื ทรพั ยส์ ินของกรมทำงหลวงชนบทขน้ึ ในภำยหลงั จำกผไู้ ด้รบั
อนุญำตไดด้ ำเนินกำรตำมทไ่ี ดร้ บั อนุญำตแลว้ โดยควำมเสยี หำยนนั้ เกดิ จำกกำรทำทำงเช่อื มเขำ้ - ออกทไ่ี ด้รบั
อนุญำตผไู้ ด้รบั อนุญำตจะซ่อมแซมจดั หำใหม่ใหด้ เี ช่นเดมิ ตำมทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดภำยในระยะเวลำ
๑๕ วนั หลงั จำกไดร้ บั แจง้ หรอื ตำมระยะเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดในกรณีเรง่ ดว่ น

๑๗. ผไู้ ด้รบั อนุญำตกระทำผดิ เง่อื นไขขอ้ หน่ึงขอ้ ใด ผู้ได้รบั อนุญำตยนิ ยอมใหก้ รมทำงหลวงชนบท
เพกิ ถอนกำรอนุญำตได้

๑๒๗

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ล.๒)

หลกั เกณฑก์ ำรขออนุญำตระบำยน้ำลงในเขตทำงหลวงชนบท

๑. คณุ สมบตั ขิ องผยู้ ่นื คำขออนุญำต
ต้องเป็นเจำ้ ของในท่ดี นิ ท่ปี ระสงค์จะระบำยน้ำลงในเขตทำงหลวงชนบท หำกเป็นนิตบิ ุคคลให้

ผทู้ ม่ี อี ำนำจลงนำมแทนนิตบิ ุคคลเป็นผยู้ ่นื คำขอ

๒. หลกั ฐำนประกอบกำรขออนุญำต
๒.๑ แบบฟอรม์ คำขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบท (ตำมแบบ ข. ๒)
๒.๒ แบบแปลนแผนผงั พรอ้ มรปู ตดั แสดงกำรเดนิ ทอ่ น้ำทง้ิ ภำยในทด่ี นิ ของผูข้ ออนุญำตจนกระทงั่

มำบรรจบทอ่ ระบำยน้ำทำงหลวงหรอื ทำงระบำยน้ำทำงหลวง จำนวน ๔ ชดุ
๒.๓ แสดงระบบกำรจดั น้ำเสยี ใหไ้ ดค้ ุณภำพน้ำทง้ิ ตำมประเภทอำคำร ท่ีระบุไวต้ ำมกฎกระทรวง

ฉบับท่ี ๔๔ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญัติควบคุมอำคำร พ.ศ. ๒๕๒๒ หรอื ตำมประกำศ
กระทรวงวทิ ยำศำสตร์เทคโนโลยแี ละสง่ิ แวดล้อม ฉบบั ที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๙) เร่อื ง กำหนดมำตรฐำนควบคุม
กำรระบำยน้ำทง้ิ จำกแหลง่ กำเนิดประเภทโรงงำนอตุ สำหกรรม และนิคมอตุ สำหกรรม หรอื ตำมประกำศกระทรวง
ทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เร่อื ง กำหนดมำตรฐำนควบคุมกำรระบำยน้ำทง้ิ จำกทด่ี นิ จดั สรร ลงวนั ท่ี ๗
พฤศจกิ ำยน ๒๕๔๘ ซง่ึ มสี ถำบนั ทำงรำชกำร หรอื วศิ วกรทไ่ี ดร้ บั อนุญำตประกอบวชิ ำชพี วศิ วกรรมควบคมุ รบั รอง

๒.๔ สำเนำบตั รประชำชน หรอื สำเนำทะเบยี นบำ้ นของผขู้ ออนุญำต จำนวน ๓ ฉบบั
๒.๕ สำเนำโฉนดที่ดิน จำนวน ๓ ฉบบั (กรณีท่ที ี่ดินติดจำนองจะต้องมหี นังสือยนิ ยอมจำก
ผู้รบั จำนอง)
๒.๖ หนงั สอื มอบอำนำจในกรณีทมี่ อบอำนำจใหผ้ ูอ้ ่นื ทำกำรขออนุญำตแทน ตดิ อำกรแสตมป์
๑๐ บำท
๒.๗ กรณีเป็นนิตบิ ุคคลจะตอ้ งมหี นังสอื ทลี่ งนำมโดยกรรมกำรผูม้ อี ำนำจพรอ้ มตรำประทบั ของ
นิตบิ ุคคลนัน้ ๆ และต้องมหี นังสอื รบั รองของสำนักงำนทะเบียนห้ำงหุ้นส่วน บรษิ ัท กรมพฒั นำธุรกจิ กำรค้ำ
กระทรวงพำณชิ ย์ ระบุชอ่ื กรรมกำรผมู้ อี ำนำจลงช่อื แทนนิตบิ ุคคล

๓. กำรตรวจสอบสถำนท่ี
เจำ้ หน้ำทจ่ี ะนัดหมำยกบั ผขู้ ออนุญำตเพ่อื ทำกำรตรวจสอบสถำนทท่ี ข่ี ออนุญำตทำทำงระบำยน้ำ

ในเขตทำงหลวงชนบทกอ่ นทจ่ี ะอนุญำต และเม่อื ไดร้ บั อนุญำตใหท้ ำทำงระบำยน้ำแลว้ ผขู้ ออนุญำตจงึ จะสำมำรถ
ทำทำงระบำยน้ำในเขตทำงหลวงชนบทได้ โดยตอ้ งทำตำมเงอ่ื นไขทก่ี ำหนด

๔. สถำนทย่ี ่นื คำขออนุญำต
ผูข้ ออนุญำตสำมำรถขอรบั แบบคำขออนุญำตฯ และย่ืนแบบคำขออนุญำตฯ ได้ทสี่ ำนักงำน

ทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั หรอื ทส่ี ำนกั บำรงุ ทำง กรมทำงหลวงชนบท หรอื ท่ี web site / www.ddr.go.th
และย่นื แบบคำขออนุญำตไดท้ ส่ี ำนกั งำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั หรอื ทส่ี ำนักบำรงุ ทำง กรมทำงหลวง
ชนบท เลขท่ี ๙ ถนนพหลโยธนิ แขวงอนุสำวรยี ์ เขตบำงเขน กทม. ๑๐๒๐๐ โทร. ๐ - ๒๕๕๑ - ๕๐๐๐

๑๒๘

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ง.๒)

เงอ่ื นไขกำรอนุญำตระบำยน้ำลงในเขตทำงหลวงชนบท

๑. กำรขออนุญำตระบำยน้ำลงในเขตทำงหลวงชนบท จะขออนุญำตไดเ้ ฉพำะบรเิ วณทท่ี อ่ ระบำยน้ำ
หรอื ครู ะบำยน้ำของกรมทำงหลวงชนบทมคี วำมจหุ รอื มคี วำมสำมำรถเพยี งพอทจ่ี ะรบั ปรมิ ำณน้ำดงั กล่ำวได้

๒. ก่อนทผ่ี ไู้ ด้รบั อนุญำตจะลงมอื กระทำกำรก่อสรำ้ ง ตอ้ งแจง้ เป็นหนงั สอื ใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวง
ชนบททรำบลว่ งหน้ำไมน่ ้อยกวำ่ ๗ วนั

๓. เม่อื ไดร้ บั อนุญำตแลว้ จะดำเนินกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยใน ....... วนั เม่อื ครบกำหนดแลว้ ปรำกฏว่ำ
ผไู้ ดร้ บั อนุญำตยงั ไมท่ ำกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ เน่อื งจำกผไู้ ด้รบั อนุญำตละทง้ิ งำนหรอื หลกี เลย่ี งไมท่ ำตำมแบบทก่ี ำหนด
หรือมเี หตุผลท่ไี ม่ควรให้ต่อเวลำทำกำรอกี ต่อไป ผู้ได้รบั อนุญำตยินยอมให้กรมทำงหลวงชนบทเพิกถอน
กำรอนุญำต โดยไมเ่ รยี กรอ้ งค่ำเสยี หำยใด ๆ ทงั้ สน้ิ

๔. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะทำกำรก่อสรำ้ งตำมแบบและรำยละเอยี ดทไ่ี ดก้ ำหนดไว้
๕. ผู้ได้รบั อนุญำตยนิ ยอมให้กรมทำงหลวงชนบท มสี ิทธทิ จ่ี ะออกแบบ เปล่ยี นแปลง แก้ไขเพิม่ เตมิ แบบ
ให้เหมำะสมกับสภำพควำมเปล่ียนแปลงของทำง หรอื เพ่ือควำมปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทำงหรอื เพ่ือบำรุงรกั ษำ
ประกำรใดกไ็ ด้ และหำกมกี ำรแกไ้ ขเป็นหน้ำทข่ี องผไู้ ดร้ บั อนุญำตทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ัตติ ำมโดยออกค่ำใชจ้ ำ่ ยเองทงั้ สน้ิ
๖. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะหำวสั ดุมำดำเนินกำรก่อสรำ้ งตำมแบบ และรำยละเอยี ดทก่ี รมทำงหลวงชนบท
อนุญำต จะไมใ่ ชว้ สั ดุในเขตทำงหลวงของกรมทำงหลวงชนบท
๗. ผูไ้ ด้รบั อนุญำตต้องตดิ ตงั้ ป้ำยจรำจรตลอดจนเคร่อื งหมำยควบคุมกำรจรำจรอ่นื ๆ ในระหว่ำง
กำรก่อสร้ำงตำมมำตรฐำนทำงหลวง และแนวทำงปฏิบัติของคณะกรรมกำรป้องกนั อุบัติภัยแห่งชำติ
หำกจำเป็นต้องทำกำรก่อสรำ้ งในเวลำกลำงคืน หรอื ส่วนของงำนก่อสรำ้ งหรอื วสั ดุอุปกรณ์ของงำนก่อสร้ำง
อำจเป็นอนั ตรำยต่อผใู้ ชท้ ำงในเวลำกลำงคนื ผูไ้ ดร้ บั อนุญำตจะตอ้ งจดั ใหม้ ไี ฟฟ้ำแสงสว่ำงอย่ำงเพยี งพอและ
ป้ำยจรำจรทต่ี ดิ ตงั้ ตอ้ งเป็นชนิดสะทอ้ นแสง (Reflective) ดว้ ย
๘. ผู้ได้รบั อนุญำต จะต้องยินยอมให้เจ้ำหน้ำท่ีกรมทำงหลวงชนบทเข้ำตรวจสอบกำรทำงำน
ไดต้ ลอดเวลำเพ่อื เป็นกำรป้องกนั ควำมเสยี หำยทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ต่อทำงหลวง
๙. เจำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบท มอี ำนำจสงั่ ใหห้ ยุดกำรทำกำรก่อสรำ้ งในกรณีทกี่ ำรก่อสรำ้ งนัน้
จะทำควำมเสยี หำยใหแ้ ก่ทำงหลวงหรอื เป็นอนั ตรำยต่อผใู้ ชท้ ำง
๑๐. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบ และชดใชค้ ่ำเสยี หำยอนั เกดิ จำกกำรกอ่ สรำ้ งทำงระบำยน้ำทม่ี ี
ต่อทำงหลวงหรอื ผใู้ ชท้ ำง
๑๑. ในระหว่ำงกำรใช้สถำนที่ทไ่ี ด้รบั อนุญำต ผูไ้ ด้รบั อนุญำตจะต้องควบคุมกำรใชส้ ถำนท่ีให้มี
ควำมเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย และมกี ำรรกั ษำควำมสะอำดสถำนทแ่ี ละเม่อื ครบกำหนดกำรได้รบั อนุญำตจะตอ้ ง
ดำเนินกำรทำควำมสะอำด เกบ็ เศษวสั ดุอุปกรณ์ อนั เกิดจำกกิจกรรมท่ใี ช้สถำนที่ใหเ้ รยี บร้อย และแจง้ ให้
กรมทำงหลวงชนบทตรวจสอบจนเป็นทพ่ี อใจ พรอ้ มทงั้ จดั ทำแบบตำมทไ่ี ดก้ ่อสรำ้ งจรงิ (Asbuilt Plan) จำนวน
๒ ชดุ มอบใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบททร่ี บั ผดิ ชอบทำงหลวงนนั้ ดว้ ย

๑๒๙

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๒-

๑๒. ในกรณีทก่ี ำรขออนุญำตตอ้ งทำกำรขดุ รอื้ ผวิ จรำจร ทำงเทำ้ หรอื ส่วนอ่นื ใดในโครงสรำ้ งถนน
ผูไ้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งซอ่ มแซมใหอ้ ยใู่ นสภำพเดมิ ตำมมำตรฐำนและวธิ กี ำรทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนด และตอ้ ง
รบั ผดิ ชอบควำมชำรดุ เสยี หำยทเ่ี กดิ ขน้ึ ภำยในเวลำ ๒ ปี

๑๓. เม่อื กรมทำงหลวงชนบทตอ้ งสรำ้ งหรอื ขยำยทำงหลวง หรือซ่อมแซมบำรงุ ทำงหลวง ถ้ำตอ้ ง
รอ้ื ถอน เคล่อื นยำ้ ยสงิ่ ทไ่ี ดร้ บั อนุญำต เป็นภำระของผไู้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งดำเนินกำรภำยในกำหนดทไ่ี ดร้ บั แจง้ และ
หำกเกดิ ควำมเสยี หำยต่อทรพั ย์สินของผู้ได้รบั อนุญำต ผูไ้ ด้รบั อนุญำตจะไม่เรยี กร้องค่ำเสยี หำยใด ๆ จำก
กรมทำงหลวงชนบท

๑๔. เม่อื ผไู้ ด้รบั อนุญำตได้รบั แจง้ เป็นหนังสอื จำกกรมทำงหลวงชนบท หรอื ผซู้ ง่ึ ไดร้ บั มอบหมำยให้
รอ้ื ยำ้ ยทำงระบำยน้ำทไ่ี ดร้ บั อนุญำตใหพ้ น้ เขตกำรกอ่ สรำ้ งทำงภำยในเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนด ผไู้ ดร้ บั
อนุญำตจะทำกำรรอ้ื ยำ้ ยทนั ที และใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยในกำหนดเวลำทไ่ี ดร้ บั แจง้ โดยจะเป็นผู้จดั หำสถำนทจ่ี ดั เกบ็
และเสยี ค่ำใชจ้ ำ่ ยเองทงั้ สน้ิ ถำ้ หำกผไู้ ดร้ บั อนุญำตรอ้ื ย้ำยไม่ทนั ภำยในกำหนดระยะเวลำและเกดิ ควำมเสยี หำย
ขน้ึ กบั กรมทำงหลวงชนบท ไม่ว่ำกรณีใด ๆ กต็ ำมผไู้ ด้รบั อนุญำตยนิ ยอมชดใชค้ ่ำเสยี หำยใหแ้ ก่กรมทำงหลวง
ชนบท

๑๕. ในกรณีทก่ี ำรก่อสรำ้ งตำมคำขอน้ีจำเป็นจะต้องตดั กงิ่ ไมใ้ นเขตทำงผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะต้องได้รบั
อนุญำตจำกกรมทำงหลวงชนบทก่อน และกรมทำงหลวงชนบทมสี ทิ ธทิ จ่ี ะกำหนดเง่อื นไขประกำรใดกไ็ ด้

๑๖. ผู้ได้รบั อนุญำตจะซ่อมแซมส่วนท่ชี ำรุดเสยี หำยใหอ้ ยู่ในสภำพเดิม ใหไ้ ด้มำตรฐำนไม่ต่ำกว่ำ
มำตรฐำนงำนก่อสรำ้ งเดมิ ของสงิ่ ก่อสรำ้ งนนั้

๑๗. หำกเกดิ ควำมเสยี หำยแก่ถนนหรอื ทรพั ยส์ นิ ของกรมทำงหลวงชนบทขน้ึ ในภำยหลงั จำกผไู้ ดร้ บั
อนุญำตได้ดำเนนิ กำรตำมทไ่ี ด้รบั อนุญำตแล้ว โดยควำมเสยี หำยนนั้ เกดิ จำกเหตุอนั มำจำกทำงระบำยน้ำทไ่ี ดร้ บั
อนุญำตผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะซ่อมแซม จดั หำใหม่ใหด้ เี ช่นเดมิ ตำมทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดภำยในระยะเวลำ
๑๕ วนั หลงั จำกไดร้ บั แจง้ หรอื ตำมระยะเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดในกรณีเรง่ ดว่ น

๑๘. ให้ก่อสร้ำงบ่อพักไขมนั ในท่ดี ินของผู้ขออนุญำตบรเิ วณรมิ เขตทำงของกรมทำงหลวงชนบท
กอ่ นเช่อื มทอ่ ระบำยน้ำลงสทู่ ำงระบำยน้ำในเขตทำงของกรมทำงหลวงชนบท และใหผ้ ู้ขออนุญำตจดั ทำประตูน้ำ
สำหรบั เปิดปิดเพอ่ื ควบคมุ กำรระบำยน้ำไวด้ ว้ ย ในกรณีทน่ี ้ำระบำยออกมำสกปรกจะสำมำรถปิดกนั้ น้ำดงั กลำ่ วไวไ้ ด้

๑๙. น้ำทร่ี ะบำยออกมำจะตอ้ งเป็นน้ำทผ่ี ่ำนระบบบำบดั น้ำเสยี จนมคี ุณภำพตำมมำตรฐำนคุณภำพ
น้ำทง้ิ ทก่ี ำหนดไว้ตำมกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๔ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตำมควำมในพระรำชบญั ญตั คิ วบคุมอำคำร
พ.ศ. ๒๕๒๒ หรอื ตำมประกำศกระทรวงวทิ ยำศำสตรเ์ ทคโนโลยี และสง่ิ แวดลอ้ ม ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๙) เร่อื ง
กำหนดมำตรฐำนควบคุมกำรระบำยน้ำท้ิงจำกแหล่งกำเนิดประเภทโรงงำนอุตสำหกรรมและนิคมอุตสำหกรรม
หรอื ประกำศกระทรวงทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เร่อื ง กำหนดมำตรฐำนควบคุมกำรระบำยน้ำทง้ิ จำก
ทด่ี นิ จดั สรร (พ.ศ. ๒๕๔๘) หำ้ มระบำยน้ำเน่ำสกปรกลงสูท่ ำงระบำยน้ำในเขตทำงของกรมทำงหลวงชนบท

๑๓๐

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๓-

๒๐. ผู้ได้รบั อนุญำตจะต้องดูแลทำงระบำยน้ำในเขตทำงของกรมทำงหลวงชนบทให้น้ำท่รี ะบำย
ออกมำสำมำรถไหลผำ่ นลงสู่คลองสำธำรณะไดไ้ มใ่ หเ้ กดิ น้ำทว่ มขงั มผี ลกระทบต่อโครงสรำ้ งทำงหลวง และควำม
เสยี หำยของผอู้ น่ื ในกรณีทม่ี ปี ัญหำผไู้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งรบั ผดิ ชอบแกไ้ ขเปลย่ี นแปลงเพม่ิ เตมิ ตำมทก่ี รมทำงหลวง
ชนบทกำหนด โดยผไู้ ดร้ บั อนุญำตเป็นผจู้ ำ่ ยค่ำใชจ้ ำ่ ยเองทงั้ สน้ิ

๒๑. ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุญำตจะตอ้ งยนิ ยอมใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบทเขำ้ ตรวจสอบกำรระบำยน้ำและ
ยนิ ยอมปฏบิ ตั ติ ำมคำสงั่ หรอื คำแนะนำของเจำ้ หน้ำทท่ี กุ ประกำร

๒๒. หำกปรำกฏหรอื พบว่ำผไู้ ดร้ บั อนุญำตไมป่ ฏบิ ตั ติ ำมเง่อื นไขขอ้ หน่งึ ขอ้ ใดหรอื น้ำทป่ี ล่อยออกมำ
มผี ลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม กรมทำงหลวงชนบทจะเพิกถอนกำรอนุญำตทนั ที โดยผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะเรยี กรอ้ ง
ค่ำเสยี หำยใด ๆ จำกกรมทำงหลวงชนบทไม่ได้ และจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบต่อควำมเสยี หำยดงั กล่ำวทเ่ี กดิ ขน้ึ

๑๓๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ล.๓)

หลกั เกณฑก์ ำรขออนุญำตตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนท่ี ในเขตทำงหลวงชนบท

๑. คณุ สมบตั ขิ องผยู้ ่นื คำขออนุญำต
บคุ คลทวั่ ไป หรอื หำกเป็นนิตบิ ุคคลใหผ้ ทู้ ม่ี อี ำนำจลงนำมแทนนติ บิ คุ คลเป็นผยู้ ่นื คำขอ

๒. หลกั ฐำนประกอบกำรขออนุญำต
๒.๑ แบบฟอรม์ คำขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบท (ตำมแบบ ข.๒)
๒.๒ แบบแปลนแผนท่สี งั เขปมำตรำส่วนไม่น้อยกว่ำ ๑ : ๕๐๐ แสดงเส้นทำงหลวง ท่ตี งั้ ของ

สถำนทท่ี ข่ี ออนุญำต และตำแหน่งของป้ำยทไ่ี ด้รบั อนุญำตทม่ี อี ยู่เดมิ ภำยในรศั มี ๒๐๐ เมตร จำกตำแหน่งทจ่ี ะ
ขออนุญำตตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำ จำนวน ๔ ชดุ

๒.๓ รูปแบบของป้ำย ขนำด ขอ้ ควำม หรือสัญลักษณ์ในป้ำย จำนวน ๔ ชุด (ในกรณีของ
ป้ำยประชำสมั พนั ธ์แหล่งท่องเท่ยี วจะต้องแนบสำเนำใบอนุญำตของผูป้ ระกอบวชิ ำชพี วศิ วกรควบคุม รวมทงั้
รำยกำรดำเนนิ กำรควำมมนั่ คงแขง็ แรงมำประกอบกำรพจิ ำรณำดว้ ย)

๒.๔ สำเนำบตั รประชำชน หรอื สำเนำทะเบยี นบำ้ นของผขู้ ออนุญำต จำนวน ๓ ฉบบั
๒.๕ หนงั สอื มอบอำนำจในกรณีทม่ี อบอำนำจใหผ้ ูอ้ ่นื ทำกำรขออนุญำตแทน ตดิ อำกรแสตมป์
๑๐ บำท
๒.๖ กรณีเป็นนิตบิ ุคคลจะต้องมหี นงั สอื ทล่ี งนำมโดยกรรมกำรผมู้ อี ำนำจพรอ้ มตรำประทบั ของ
นิตบิ ุคคลนัน้ ๆ และต้องมีหนังสอื รบั รองของสำนักงำนทะเบียนห้ำงหุ้นส่วน บรษิ ัท กรมพฒั นำธุรกจิ กำรค้ำ
กระทรวงพำณชิ ย์ ระบชุ ่อื กรรมกำรผมู้ อี ำนำจลงช่อื แทนนิตบิ ุคคล

๓. กำรตรวจสอบสถำนท่ี
เจำ้ หน้ำทจ่ี ะนัดหมำยกบั ผขู้ ออนุญำตเพ่อื ทำกำรตรวจสอบสถำนทข่ี ออนุญำตตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำ

สถำนที่ในเขตทำงหลวงชนบทก่อนที่จะอนุญำต และเม่ือได้รบั อนุญำตให้ติดตัง้ ป้ำยแนะนำสถำนที่แล้ว
ผู้ขออนุญำตจงึ จะสำมำรถตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนท่ี ในเขตทำงหลวงชนบทได้ โดยตอ้ งทำตำมเง่อื นไขทก่ี ำหนด

๔. สถำนทย่ี ่นื คำขออนุญำต
ผขู้ ออนุญำตสำมำรถขอรบั แบบคำขออนุญำตฯ ไดท้ ส่ี ำนกั งำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั

หรอื ท่สี ำนักบำรุงทำง กรมทำงหลวงชนบท หรอื ท่ี web site / www.ddr.go.th และย่นื แบบคำขออนุญำตได้ท่ี
สำนกั งำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั หรอื ทส่ี ำนกั บำรงุ ทำง กรมทำงหลวงชนบท เลขท่ี ๙ ถนนพหลโยธนิ
แขวงอนุสำวรยี ์ เขตบำงเขน กทม. ๑๐๒๐๐ โทร. ๐ - ๒๕๕๑ - ๕๐๐๐

๑๓๒

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ง.๓)

เงอ่ื นไขกำรอนุญำตตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนท่ี ในเขตทำงหลวงชนบท

ก. จะอนุญำตใหป้ ลูกสรำ้ งไดเ้ ฉพำะป้ำยแนะนำสถำนท่ี

ข. ประเภทของสถำนท่ี
สถำนท่รี ำชกำร หรอื สถำนทเ่ี อกชน หรอื สถำนท่ที ส่ี ำคญั อ่นื ๆ ท่มี ีประชำชนเดนิ ทำงมำตดิ ต่อ

จำนวนมำก แตม่ ใิ ชก่ ำรเดนิ ทำงมำเป็นประจำ ซง่ึ ผใู้ ชท้ ำงอำจหลงทำงหรอื เขำ้ ออกบรเิ วณนนั้ ไมค่ ลอ่ งตวั อนั เป็น
สำเหตุทำใหเ้ กดิ กำรจรำจรตดิ ขดั หรอื เกดิ อุบตั ิเหตุได้ อำทเิ ช่น สถำนทร่ี ำชกำรต่ำง ๆ สนำมกฬี ำ ศนู ย์กำรค้ำ
ตลำดนดั ขนำดใหญ่ สถำนทจ่ี ำหน่ำยสินคำ้ หน่ึงตำบลหน่ึงผลติ ภณั ฑ์ (OTOP) สถำนทพ่ี กั แรม แหล่งทอ่ งเทย่ี ว
สวนสำธำรณะ สถำนศกึ ษำ โรงพยำบำล ศำสนสถำนทกุ ศำสนำ นิคมอุตสำหกรรม มูลนิธแิ ละองคก์ รกำรกุศล
หมบู่ ำ้ นจดั สรร คอนโดมเิ นียม สำนกั งำนพรรคกำรเมอื ง

ค. มำตรฐำนและกำรตดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนท่ี
๒.๑ ป้ำยแนะนำสถำนท่ี เป็นกำรติดตงั้ เพ่ือให้ผู้ใช้ทำงเดินทำงไปยงั จุดหมำยปลำยทำงของ

สถำนทไ่ี ดถ้ ูกตอ้ ง รวดเรว็ มี ๓ ประเภท คอื
ก) ป้ำยบอกจดุ หมำยปลำยทำง
ข) ป้ำยชท้ี ำง
ค) ป้ำยประชำสมั พนั ธแ์ หลง่ ทอ่ งเทย่ี ว

๒.๒ หำ้ มมใิ หต้ ดิ ตงั้ ป้ำยแนะนำสถำนทบ่ี รเิ วณทำงแยกทำงหลวง ซง่ึ กรมทำงหลวงชนบทไดต้ ดิ ตงั้
ป้ำยแนะนำตำมมำตรฐำนไวแ้ ลว้

๒.๓ รำยละเอยี ดกำรใช้ กำรตดิ ตงั้ และมำตรฐำนรปู แบบของป้ำยแนะนำสถำนท่ี มดี งั ตอ่ ไปน้ี
๒.๓.๑ ป้ำยบอกจดุ หมำยปลำยทำง

๑๓๓

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๒-

ตวั หนงั สอื ไทยสดี ำ สงู ๒๐ ซม.
ตวั หนงั สอื องั กฤษสดี ำ สงู ๑๐ ซม.
ลกู ศรบอกทศิ ทำง สดี ำ ยำว ๔๐ ซม.
พน้ื สขี ำว สะทอ้ นแสง
กรอบสดี ำ หนำ ๒ ซม.

ขำ้ งทำง
ป้ำยตดิ ตงั้ ขำ้ งทำง พน้ื สขี ำว
อกั ษรและสญั ลกั ษณ์ สดี ำ

หมำยเหตุ รูปแบบกำรติดตงั้ ใหเ้ ป็นไปตำมแบบมำตรฐำน
กำรตดิ ตงั้ ป้ำยจรำจรแบบป้ำยเดย่ี ว แบบเลขท่ี ทช-๓-๑๐๘(๑)/๔๖
หรอื ทม่ี กี ำรแกไ้ ขลำ่ สุด

ตวั หนงั สอื ไทยสขี ำว สงู ๒๐ ซม.
ตวั หนงั สอื องั กฤษสขี ำว สงู ๑๐ ซม.
ลกู ศรบอกทศิ ทำง สขี ำว ยำว ๔๐ ซม.
พน้ื สเี ขยี ว
กรอบสขี ำว หนำ ๒ ซม.

แขวนสูงแบบย่นื (OVERHANG)
ป้ำยแขวนสงู พน้ื สเี ขยี ว
อกั ษรและสญั ลกั ษณ์ สขี ำว

หมำยเหตุ รูปแบบกำรติดตงั้ ให้เป็นไปตำมแบบมำตรฐำน
กำรตดิ ตงั้ ป้ำยโครงกำรแบบย่นื (ชนดิ ฐำนแผ)่ แบบเลขท่ี ทช-๓-๑๑๗(๑)/๔๖
หรอื กำรตดิ ตงั้ ป้ำยโครงกำรแบบย่นื (ชนดิ ฐำนเสำเขม็ ) แบบเลขท่ี ทช-๓-๑๑๗(๒)/๔๖
หรอื ทม่ี กี ำรแกไ้ ขลำ่ สดุ

๑๓๔

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๓-

(๒) กำรติดตงั้ ให้ตดิ ตงั้ บนทำงหลวงในระยะ ๒๕ ถึง ๑๕๐ เมตร ก่อนถึงทำงแยก
สำธำรณะหรอื ทำงเช่อื มไปสู่สถำนทด่ี งั กล่ำว

๒.๓.๒ ป้ำยชท้ี ำง
(๑) ป้ำยชท้ี ำง ตอ้ งมลี กั ษณะขนำดและรปู รำ่ ง และสขี องป้ำย ดงั ต่อไปน้ี

พน้ื ป้ำยสขี ำว
ตวั อกั ษรและสญั ลกั ษณ์ สดี ำ

๑๓๕

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๔-

(๒) กำรตดิ ตงั้ ป้ำยชที้ ำงใหต้ ดิ ตงั้ ตรงปำกทำงเช่อื มทเี่ ขำ้ สู่สถำนทสี่ ำคญั ดงั กล่ำว
โดยใหก้ ำรจรำจรทงั้ สองทศิ ทำงสำมำรถมองเหน็ ได้ ทงั้ น้ี สำมำรถระบุระยะทำงจำกทำงแยกถงึ สถำนทด่ี งั กล่ำว
เป็นกโิ ลเมตร หรอื เมตร

(๓) ห้ำมติดตงั้ ป้ำยช้ที ำงท่ีเกำะกลำง เม่อื เหน็ ว่ำจำเป็นใหต้ ิดตงั้ ป้ำยช้ที ำงเสรมิ
ป้ำยบอกจดุ หมำยปลำยทำงได้

๒.๓.๓ ป้ำยประชำสมั พนั ธแ์ หลง่ ทอ่ งเทย่ี ว
(๑) ลกั ษณะของป้ำยประชำสมั พนั ธแ์ หล่งทอ่ งเทย่ี ว ตอ้ งเป็นกระดำนป้ำย (Bill board)

สรำ้ งขนำนกบั เขตทำงหลวง เพ่อื กำรโฆษณำประชำสมั พนั ธ์สถำนทท่ี ่องเทย่ี วต่ำง ๆ ในบรเิ วณท่ใี กล้เคยี งกบั
ตำแหน่งทต่ี ดิ ตงั้ ป้ำยน้ี ผใู้ ชท้ ำงจะต้องจอดรถเพ่อื อ่ำนป้ำยประชำสมั พนั ธแ์ หล่งทอ่ งเทย่ี ว ดงั นนั้ จึงจำเป็นตอ้ ง
สรำ้ งทจ่ี อดรถแยกออกมำจำกคนั ทำงปกติ

(๒) ตำแหน่งของป้ำยประชำสมั พนั ธแ์ หลง่ ทอ่ งเทย่ี ว จะตอ้ งอยกู่ อ่ นหรอื หลังทำงแยก
ทำงหลวงตำ่ ง ๆ หรอื บรเิ วณทพ่ี กั รมิ ทำงของกรมทำงหลวงชนบท

๑๓๖

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๕-

หมำยเหตุ ขนำดและรปู แบบกำรตดิ ตงั้ หมำยเหตุ กำรออกแบบและควบคุมกำรตดิ ตงั้
ใหเ้ ป็นไปตำมแบบมำตรฐำน จะตอ้ งเป็นผไู้ ดร้ บั อนุญำตใหเ้ ป็น
กำรตดิ ตงั้ ป้ำยจรำจรแบบป้ำยเดย่ี ว ผปู้ ระกอบวชิ ำชพี วศิ วกรควบคุม
แบบเลขท่ี ทช-๓-๑๐๘(๑)/๔๖ ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยวชิ ำชพี วศิ วกรรม
หรอื ทม่ี กี ำรแกไ้ ขลำ่ สุด

ง. ขอ้ กำหนด
๑. ก่อนที่ผู้ได้รับอนุญำตจะลงมือกระทำกำรก่อสร้ำง ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้ำหน้ำท่ี

กรมทำงหลวงชนบททรำบล่วงหน้ำไมน่ ้อยกวำ่ ๗ วนั
๒. เม่อื ไดร้ บั อนุญำตแลว้ จะดำเนินกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยใน ....... วนั เม่อื ครบกำหนดแลว้ ปรำกฏวำ่

ผไู้ ดร้ บั อนุญำตยงั ไมท่ ำกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ เน่อื งจำกผไู้ ดร้ บั อนุญำตละทง้ิ งำนหรอื หลกี เลย่ี งไมท่ ำตำมแบบทก่ี ำหนด
หรอื มเี หตุผลทไ่ี ม่ควรใหต้ ่อเวลำทำกำรอกี ต่อไป ผู้ได้รบั อนุญำตจะยนิ ยอมให้กรมทำงหลวงชนบทเพิกถอน
กำรอนุญำต โดยไมเ่ รยี กเกบ็ คำ่ เสยี หำยใด ๆ ทงั้ สน้ิ

๓. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะทำกำรกอ่ สรำ้ งตำมแบบและรำยละเอยี ดทไ่ี ดก้ ำหนดไว้

๑๓๗

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๖-

๔. ผู้ได้รบั อนุญำตยินยอมให้กรมทำงหลวงชนบท มีสิทธทิ ่ีจะออกแบบ เปล่ียนแปลง แก้ไข
เพ่ิมเติมแบบ ให้เหมำะสมกับสภำพควำมเปลี่ยนแปลงของทำง หรอื เพ่ือควำมปลอดภยั แก่ผู้ใช้ทำงหรือ
เพ่ือบำรงุ รกั ษำประกำรใดกไ็ ด้ และหำกมกี ำรใหแ้ กไ้ ขน้เี ป็นหน้ำทข่ี องผไู้ ดร้ บั อนุญำตทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมโดยออก
คำ่ ใชจ้ ำ่ ยเองทงั้ สน้ิ

๕. ผู้ได้รบั อนุญำตจะหำวสั ดุมำดำเนินกำรก่อสรำ้ งตำมแบบ และรำยละเอยี ดท่ีกรมทำงหลวง
ชนบทอนุญำต จะไมใ่ ชว้ สั ดใุ นเขตทำงของกรมทำงหลวงชนบท

๖. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งตดิ ตงั้ ป้ำยจรำจรตลอดจนเคร่อื งหมำยควบคุมกำรจรำจรอ่นื ๆ ในระหว่ำง
กำรก่อสร้ำงตำมมำตรฐำนทำงหลวง และแนวทำงปฏิบตั ิของคณะกรรมกำรป้องกนั อุบตั ิภัยแห่งชำติ
หำกจำเป็นต้องทำกำรก่อสรำ้ งในเวลำกลำงคืน หรอื ส่วนของงำนก่อสร้ำงหรอื วสั ดุอุปกรณ์ของงำนก่อสร้ำง
อำจเป็ นอันตรำยต่อผู้ใช้ทำงในเวลำกลำงคืน ผู้ได้รบั อนุญำตจะต้องจดั ให้มีไฟฟ้ ำแสงสว่ำงอย่ำงเพียงพอและ
ป้ำยจรำจรทต่ี ดิ ตงั้ ตอ้ งเป็นชนิดสะทอ้ นแสง (Reflective) ดว้ ย

๗. ผู้ได้รบั อนุญำต จะต้องยินยอมให้เจำ้ หน้ำท่ีกรมทำงหลวงชนบทเข้ำตรวจสอบกำรทำงำน
ไดต้ ลอดเวลำเพ่อื เป็นกำรป้องกนั ควำมเสยี หำยทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ตอ่ ทำงหลวง

๘. เจำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบท มอี ำนำจสงั่ ใหห้ ยดุ กำรทำกำรก่อสรำ้ งในกรณีทก่ี ำรก่อสรำ้ งนนั้
จะทำควำมเสยี หำยใหแ้ กท่ ำงหลวงหรอื เป็นอนั ตรำยตอ่ ผใู้ ชท้ ำง

๙. ผู้ได้รบั อนุญำตจะต้องรบั ผดิ ชอบ และชดใช้ค่ำเสียหำยอนั เกิดจำกกำรก่อสร้ำงป้ำยแนะนำ
สถำนทด่ี งั กล่ำวทม่ี ตี ่อทำงหลวงหรอื ผใู้ ชท้ ำง

๑๐. ในระหว่ำงกำรใชส้ ถำนทท่ี ่ไี ดร้ บั อนุญำต ผู้ได้รบั อนุญำตจะต้องควบคุมกำรใชส้ ถำนทใ่ี ห้มี
ควำมเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย และมกี ำรรกั ษำควำมสะอำดสถำนท่แี ละเม่อื ครบกำหนดกำรได้รบั อนุญำตจะต้อง
ดำเนินกำรทำควำมสะอำด เก็บขยะทงั้ หมด อนั เกิดจำกกิจกรรมที่ใช้สถำนที่ให้เรยี บร้อย และแจ้งให้
กรมทำงหลวงชนบทตรวจสอบจนเป็นทพ่ี อใจ พรอ้ มทงั้ จดั ทำแบบตำมทไ่ี ด้ก่อสรำ้ งจรงิ (Asbuilt Plan) จำนวน
๒ ชดุ มอบใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบททร่ี บั ผดิ ชอบทำงหลวงนนั้ ดว้ ย

๑๑. ในกรณีทก่ี ำรขออนุญำตตอ้ งทำกำรขดุ รอ้ื ผวิ จรำจร ทำงเทำ้ หรอื ส่วนอน่ื ใดในโครงสรำ้ งถนน
ผไู้ ด้รบั อนุญำตตอ้ งซ่อมแซมใหอ้ ยู่ในสภำพเดมิ ตำมมำตรฐำนและวธิ กี ำรทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดและ
ต้องรบั ผดิ ชอบควำมชำรดุ เสยี หำยทเ่ี กดิ ขน้ึ ภำยในเวลำ ๒ ปี

๑๒. เม่อื กรมทำงหลวงชนบทตอ้ งสรำ้ งหรอื ขยำยทำงหลวง หรอื ซอ่ มแซมบำรงุ ทำงหลวง ถำ้ ตอ้ ง
รอ้ื ถอนเคล่อื นย้ำยสง่ิ ทไ่ี ดร้ บั อนุญำตเป็นภำระของผไู้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งดำเนนิ กำรภำยในกำหนดทไ่ี ดร้ บั แจง้ และ
หำกเกดิ ควำมเสียหำยต่อทรพั ย์สินของผู้ได้รบั อนุญำต ผูไ้ ด้รบั อนุญำตจะไม่เรยี กรอ้ งค่ำเสียหำยใด ๆ จำก
กรมทำงหลวงชนบท

๑๓๘

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๗-

๑๓. เม่อื ผไู้ ด้รบั อนุญำตได้รบั แจง้ เป็นหนงั สอื จำกกรมทำงหลวงชนบท หรอื ผซู้ ง่ึ ไดร้ บั มอบหมำย
ใหร้ อ้ื ยำ้ ยป้ำยแนะนำสถำนทท่ี ไ่ี ดร้ บั อนุญำตใหพ้ น้ เขตกำรกอ่ สรำ้ งทำงภำยในเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนด
ผไู้ ด้รบั อนุญำตจะทำกำรรอ้ื ยำ้ ยทนั ที และใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยในกำหนดเวลำทไ่ี ด้รบั แจง้ โดยผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะเป็น
ผูจ้ ดั หำสถำนทจ่ี ดั เกบ็ และเสยี ค่ำใชจ้ ่ำยเองทงั้ สิน้ ถ้ำหำกผูไ้ ดร้ บั อนุญำตรอื้ ย้ำยไม่ทนั กำหนดเวลำและเกดิ
ควำมเสยี หำยขน้ึ กบั กรมทำงหลวงชนบท ไม่ว่ำกรณีใด ๆ กต็ ำม ผไู้ ดร้ บั อนุญำตยนิ ยอมชดใชค้ ่ำเสยี หำยใหแ้ ก่
กรมทำงหลวงชนบท

๑๔. ในกรณีท่กี ำรก่อสรำ้ งตำมคำขอน้ีจำเป็นจะต้องตดั ก่ิงไมใ้ นเขตทำงผู้ได้รบั อนุญำตจะต้อง
ไดร้ บั อนุญำตจำกกรมทำงหลวงชนบทก่อน และกรมทำงหลวงชนบทมสี ทิ ธทิ จ่ี ะกำหนดเงอ่ื นไขประกำรใดกไ็ ด้

๑๕. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะซ่อมแซมส่วนทช่ี ำรดุ เสยี หำยใหอ้ ยู่ในสภำพเดมิ ใหไ้ ด้มำตรฐำนไมต่ ่ำกว่ำ
มำตรฐำนงำนก่อสรำ้ งเดมิ ของสง่ิ ก่อสรำ้ งนนั้

๑๖. หำกเกิดควำมเสยี หำยแก่ถนนหรอื ทรพั ย์สนิ ของกรมทำงหลวงชนบทขน้ึ ในภำยหลงั จำก
ผู้ไดร้ บั อนุญำตไดด้ ำเนินกำรตำมท่ไี ด้รบั อนุญำตแลว้ โดยควำมเสยี หำยนัน้ เกดิ จำกเหตุอนั มำจำกป้ ำยแนะนำ
สถำนทท่ี ไ่ี ด้รบั อนุญำตผูไ้ ด้รบั อนุญำตจะซ่อมแซม จดั หำใหมใ่ ห้ดเี ช่นเดิม ตำมทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนด
ภำยในเวลำ ๑๕ วนั หลงั จำกไดร้ บั แจง้ หรอื ตำมระยะเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดในกรณเี รง่ ด่วน

๑๗. กรมทำงหลวงชนบทจะเป็นผพู้ จิ ำรณำกำหนดประเภทและมำตรฐำนของป้ำยรวมทงั้ ตำแหน่ง
ตดิ ตงั้ ป้ำยทเ่ี หมำะสม

๑๘. เม่ือป้ำยเกิดกำรชำรุดเสียหำยไม่ว่ำกรณีใด ๆ ผู้ได้รบั อนุญำตจะต้องเป็นผู้ดำเนินกำร
ซอ่ มแซมหรอื ตดิ ตงั้ ทดแทนใหม่ โดยผไู้ ดร้ บั อนุญำตหรอื เจำ้ ของป้ำยจะตอ้ งออกค่ำใชจ้ ำ่ ยทงั้ หมด

๑๙. ผู้ได้รบั อนุญำตหรือเจ้ำของสถำนที่ จะต้องเสียค่ำใช้เขตทำงหลวงสำหรบั กำรติดตัง้
ป้ำยแนะนำตำมอตั รำทก่ี ำหนดไวใ้ นกฎกระทรวง

๒๐. ถ้ำผไู้ ด้รบั อนุญำตกระทำผดิ เง่อื นไขขอ้ หน่ึงขอ้ ใด ผไู้ ด้รบั อนุญำตยินยอมใหก้ รมทำงหลวง
ชนบทเพกิ ถอนกำรอนุญำต

๑๓๙

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ล.๔)

หลกั เกณฑก์ ำรขออนุญำตปักเสำ พำดสำย วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบท

๑. คณุ สมบตั ขิ องผยู้ ่นื คำขออนุญำต
ตอ้ งเป็นหน่วยงำนของรฐั ทใ่ี หบ้ รกิ ำรกจิ กำรอนั เป็นสำธำรณูปโภค โดยใหผ้ ทู้ ม่ี อี ำนำจลงนำมแทน

หน่วยงำนของรฐั เป็นผลู้ งนำมในคำขอ

๒. หลกั ฐำนประกอบกำรขออนุญำต ดงั ตอ่ ไปน้ี
๒.๑ แบบฟอรม์ คำขออนุญำตกระทำกำรใด ๆ ในเขตทำงหลวงชนบท (ตำมแบบ ข.๓)
๒.๒ แบบแปลนแผนทพ่ี อสงั เขปแสดงเสน้ ทำง จำนวน ๔ ชดุ
๒.๓ สำเนำบตั รขำ้ รำชกำรของผยู้ ่นื ขออนุญำต จำนวน ๓ ฉบบั
๒.๔ หนังสอื มอบอำนำจในกรณีทมี่ อบอำนำจใหผ้ อู้ ่นื ทำกำรขออนุญำตแทน ตดิ อำกรแสตมป์

๑๐ บำท

๓. กำรตรวจสอบสถำนท่ี
เจำ้ หน้ำทจ่ี ะนัดหมำยกบั ผขู้ ออนุญำตเพ่อื ทำกำรตรวจสอบสถำนทท่ี ข่ี ออนุญำตปักเสำ พำดสำย

วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบทก่อนทจ่ี ะอนุญำต และเม่อื ไดร้ บั อนุญำตใหป้ ักเสำ พำดสำย วำงทอ่ ในเขตทำงหลวง
ชนบทแลว้ ผขู้ ออนุญำตจงึ จะสำมำรถปักเสำ พำดสำย วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบทไดโ้ ดยตอ้ งทำตำมเงอ่ื นไขท่ี
กำหนด

๔. สถำนทย่ี ่นื คำขออนุญำต
ผขู้ ออนุญำตสำมำรถขอรบั แบบคำขออนุญำตฯ ไดท้ ส่ี ำนกั งำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั

หรอื ทส่ี ำนักบำรุงทำง กรมทำงหลวงชนบท หรอื ท่ี web site / www.ddr.go.th และย่นื แบบคำขออนุญำตได้ท่ี
สำนกั งำนทำงหลวงชนบทจงั หวดั ทกุ จงั หวดั หรอื ทส่ี ำนกั บำรงุ ทำง กรมทำงหลวงชนบท เลขท่ี ๙ ถนนพหลโยธนิ
แขวงอนุสำวรยี ์ เขตบำงเขน กทม. ๑๐๒๐๐ โทร. ๐ - ๒๕๕๑ - ๕๐๐๐

๑๔๐

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

(เอกสำร ง.๔)

เงอ่ื นไขกำรอนุญำตใหป้ ักเสำ พำดสำย วำงทอ่ ในเขตทำงหลวงชนบท

๑. กอ่ นทผ่ี ไู้ ด้รบั อนุญำตจะลงมอื กระทำกำรก่อสรำ้ ง ตอ้ งแจง้ เป็นหนังสอื ใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวง
ชนบททรำบล่วงหน้ำไมน่ ้อยกวำ่ ๗ วนั

๒. เม่อื ไดร้ บั อนุญำตแลว้ จะดำเนินกำรใหแ้ ล้วเสรจ็ ภำยใน ....... วนั เม่อื ครบกำหนดแลว้ ปรำกฏว่ำ
ผูไ้ ดร้ บั อนุญำตยงั ไมท่ ำกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ เน่อื งจำกผไู้ ดร้ บั อนุญำตละทง้ิ งำนหรอื หลกี เลย่ี งไมท่ ำตำมแบบทก่ี ำหนด
หรอื มเี หตุผลทไ่ี ม่ควรให้ต่อเวลำทำกำรอกี ต่อไป ผู้ได้รบั อนุญำตจะยินยอมให้กรมทำงหลวงชนบทเพิกถอน
กำรอนุญำต โดยไมเ่ รยี กเกบ็ ค่ำเสยี หำยใด ๆ ทงั้ สน้ิ

๓. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะทำกำรกอ่ สรำ้ งตำมแบบและรำยละเอยี ดทไ่ี ดก้ ำหนดไว้
๔. ผไู้ ด้รบั อนุญำตยนิ ยอมใหก้ รมทำงหลวงชนบท มสี ทิ ธทิ จ่ี ะออกแบบ เปล่ียนแปลง แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ
แบบใหเ้ หมำะสมกบั สภำพควำมเปลย่ี นแปลงของทำง หรอื เพ่อื ควำมปลอดภยั แก่ผูใ้ ชท้ ำงหรอื เพ่อื บำรุงรกั ษำ
ประกำรใดกไ็ ด้ และหำกมกี ำรใหแ้ ก้ไขเป็นหน้ำทข่ี องผไู้ ด้รับอนุญำตท่จี ะต้องปฏิบตั ิตำมโดยออกค่ำใช้จำ่ ยเอง
ทงั้ สน้ิ
๕. ผไู้ ด้รบั อนุญำตจะหำวสั ดุมำดำเนินกำรก่อสรำ้ งตำมแบบ และรำยละเอยี ดทก่ี รมทำงหลวงชนบท
อนุญำต จะไมใ่ ชว้ สั ดุในเขตทำงของกรมทำงหลวงชนบท
๖. ผู้ได้รบั อนุญำตต้องตดิ ตงั้ ป้ำยจรำจรตลอดจนเคร่อื งหมำยควบคุมกำรจรำจรอ่นื ๆ ในระหว่ำง
กำรก่อสร้ำงตำมมำตรฐำนทำงหลวง และแนวทำงปฏิบตั ิของคณะกรรมกำรป้องกันอุบัติภัย แห่งชำติ
หำกจำเป็นต้องทำกำรก่อสรำ้ งในเวลำกลำงคืน หรอื ส่วนของงำนก่อสร้ำงหรอื วสั ดุอุปกรณ์ของงำนก่อสรำ้ ง
อำจเป็ นอันตรำยต่อผู้ใช้ทำงในเวลำกลำงคืน ผู้ได้รบั อนุญำตจะต้องจดั ให้มีไฟฟ้ ำแสงสว่ำงอย่ำงเพียงพอและ
ป้ำยจรำจรทต่ี ดิ ตงั้ ตอ้ งเป็นชนดิ สะทอ้ นแสง (Reflective) ดว้ ย
๗. ผู้ได้รบั อนุญำต จะต้องยินยอมให้เจ้ำหน้ำท่กี รมทำงหลวงชนบทเขำ้ ตรวจสอบกำรทำงำนได้
ตลอดเวลำเพ่อื เป็นกำรป้องกนั ควำมเสยี หำยทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ตอ่ ทำงหลวง
๘. ใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบท มอี ำนำจสงั่ ใหห้ ยดุ กำรทำกำรกอ่ สรำ้ งในกรณีทก่ี ำรกอ่ สรำ้ งนนั้
จะทำควำมเสยี หำยใหแ้ ก่ทำงหลวงหรอื เป็นอนั ตรำยต่อผใู้ ชท้ ำง
๙. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบ และชดใชค้ ่ำเสยี หำยอนั เกดิ จำกกำรปักเสำ พำดสำยหรอื วำงท่อ
ทม่ี ตี ่อทำงหลวงหรอื ผใู้ ชท้ ำง
๑๐. ในระหว่ำงกำรใชส้ ถำนทที่ ไี่ ดร้ บั อนุญำต ผูไ้ ดร้ บั อนุญำตจะต้องควบคุมกำรใชส้ ถำนทใี่ หม้ ี
ควำมเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย และมกี ำรรกั ษำควำมสะอำดสถำนทแ่ี ละเม่อื ครบกำหนดกำรขออนุญำตจะต้อง
ดำเนินกำรทำควำมสะอำด เก็บเศษวสั ดุอุปกรณ์ อนั เกิดจำกกจิ กรรมท่ีใชส้ ถำนที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย และแจง้ ให้
กรมทำงหลวงชนบทตรวจสอบจนเป็นทพ่ี อใจ พรอ้ มทงั้ จดั ทำแบบตำมทไ่ี ด้ก่อสรำ้ งจรงิ (Asbuilt Plan) จำนวน
๒ ชดุ มอบใหเ้ จำ้ หน้ำทก่ี รมทำงหลวงชนบททร่ี บั ผดิ ชอบทำงหลวงนนั้ ดว้ ย

๑๔๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

-๒-

๑๑. ในกรณีทก่ี ำรขออนุญำตต้องทำกำรขดุ รอ้ื ผวิ จรำจร ทำงเทำ้ หรอื ส่วนอ่นื ใดในโครงสรำ้ งถนน
ผูไ้ ด้รบั อนุญำตตอ้ งซอ่ มแซมใหอ้ ยู่ในสภำพเดมิ ตำมมำตรฐำนและวธิ กี ำรทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดและตอ้ ง
รบั ผดิ ชอบควำมชำรดุ เสยี หำยทเ่ี กดิ ขน้ึ ภำยในเวลำ ๒ ปี

๑๒. เม่อื กรมทำงหลวงชนบทตอ้ งสรำ้ งหรอื ขยำยทำงหลวง หรอื ซ่อมแซมบำรงุ ทำงหลวง ถ้ำต้อง
รอ้ื ถอนเคล่อื นยำ้ ยสงิ่ ทไ่ี ดร้ บั อนุญำตเป็นภำระของผไู้ ดร้ บั อนุญำตตอ้ งดำเนินกำรภำยในกำหนดทไ่ี ด้รบั แจง้ และ
หำกเกิดควำมเสยี หำยต่อทรพั ย์สินของผูไ้ ด้รบั อนุญำต ผู้ได้รบั อนุญำตจะไม่เรยี กรอ้ งค่ำเสียหำยใด ๆ จำก
กรมทำงหลวงชนบท

๑๓. เม่อื ผไู้ ดร้ บั อนุญำตได้รบั แจง้ เป็นหนงั สอื จำกกรมทำงหลวงชนบท หรอื ผซู้ ่งึ ไดร้ บั มอบหมำยให้
รอ้ื ย้ำยเสำ สำย หรอื ท่อทไ่ี ด้รบั อนุญำตให้พ้นเขตกำรก่อสร้ำงทำงภำยในเวลำท่กี รมทำงหลวงชนบทกำหนด
ผไู้ ดร้ บั จะทำกำรรอ้ื ย้ำยทนั ที และใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยในกำหนดเวลำทไ่ี ด้รบั แจง้ โดยผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะเป็นผจู้ ดั หำ
สถำนทจ่ี ดั เกบ็ และเสยี ค่ำใชจ้ ำ่ ยเองทงั้ สน้ิ ถำ้ หำกผไู้ ดร้ บั อนุญำตรอ้ื ยำ้ ยไมท่ นั กำหนดเวลำและเกดิ ควำมเสยี หำย
ขน้ึ กบั กรมทำงหลวงชนบท ไมว่ ่ำกรณีใด ๆ กต็ ำม ผูข้ ออนุญำตยินยอมชดใชค้ ่ำเสยี หำยให้แก่กรมทำงหลวง
ชนบท

๑๔. ในกรณีทก่ี ำรก่อสรำ้ งตำมคำขอน้ีจำเป็นจะต้องตดั กง่ิ ไมใ้ นเขตทำงผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะต้องได้รบั
อนุญำตจำกกรมทำงหลวงชนบทก่อน และกรมทำงหลวงชนบทมสี ทิ ธทิ จ่ี ะกำหนดเงอ่ื นไขประกำรใดกไ็ ด้

๑๕. ผูไ้ ด้รบั อนุญำตจะซ่อมแซมส่วนทช่ี ำรุดเสยี หำยใหอ้ ยู่ในสภำพเดมิ ให้ได้มำตรฐำนไม่ต่ำกว่ำ
มำตรฐำนงำนก่อสรำ้ งเดมิ ของสง่ิ ก่อสรำ้ งนนั้

๑๖. หำกเกดิ ควำมเสยี หำยแก่ถนนหรอื ทรพั ยส์ นิ ของกรมทำงหลวงชนบทขน้ึ ในภำยหลงั จำกผไู้ ดร้ บั
อนุญำตได้ดำเนินกำรตำมทไ่ี ด้รบั อนุญำตแล้ว โดยควำมเสยี หำยนั้นเกดิ จำกเหตุอนั มำจำกเสำ สำย หรอื ท่อ
ทไ่ี ดร้ บั อนุญำตผู้ได้รบั อนุญำตจะซ่อมแซม จดั หำใหม่ให้ดเี ช่นเดมิ ตำมท่กี รมทำงหลวงชนบทกำหนด ภำยใน
ระยะเวลำ ๑๕ วนั หลงั จำกไดร้ บั แจง้ หรอื ตำมระยะเวลำทก่ี รมทำงหลวงชนบทกำหนดในกรณีเรง่ ดว่ น

๑๗. เสำพำดสำย ตอ้ งปักหำ่ งจำกแนวเขตทำงหลวงเขำ้ มำทำงดำ้ นในไมน่ ้อยกวำ่ ๐.๕๐ เมตร แต่ไมเ่ กนิ
๑.๕๐ เมตร หรอื ท่ซี ่งึ ทำงรำชกำรกำหนดให้ และสำยต้องพำดสูงจำกผวิ ดนิ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓.๐๐ เมตร ส่วนท่ตี ้อง
พำดสำยขำ้ มถนนตอ้ งสงู จำกผวิ ทำงไมน่ ้อยกวำ่ ๕.๕๐ เมตร

๑๘. ผไู้ ดร้ บั อนุญำตจะตอ้ งเสยี คำ่ ใชเ้ ขตทำงตำมอตั รำทก่ี ำหนดไวใ้ นกฎกระทรวง
๑๙. ถำ้ ผไู้ ดร้ บั อนุญำตกระทำผดิ เงอ่ื นไขขอ้ หน่งึ ขอ้ ใด ผไู้ ดร้ บั อนุญำตยนิ ยอมใหก้ รมทำงหลวงชนบท
เพกิ ถอนกำรอนุญำต

๑๔๒

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ประกำศผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงพเิ ศษ
ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงแผน่ ดนิ และ
ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงสมั ปทำน
เร่อื ง หำ้ มใชย้ ำนพำหนะทม่ี นี ้ำหนกั น้ำหนกั บรรทกุ
หรอื น้ำหนกั ลงเพลำเกนิ กวำ่ ทไ่ี ดก้ ำหนด
หรอื โดยทย่ี ำนพำหนะนนั้ อำจทำใหท้ ำงหลวงเสยี หำย
เดนิ บนทำงหลวงพเิ ศษ ทำงหลวงแผ่นดนิ และทำงหลวงสมั ปทำน๗๑

ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงพเิ ศษ ผอู้ ำนวยกำรทำงหลวงแผ่นดนิ และผูอ้ ำนวยกำร
ทำงหลวงสมั ปทำน โดยอนุมตั อิ ธบิ ดกี รมทำงหลวง อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖๑
แห่งพระรำชบญั ญัติทำงหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกำศห้ำมใช้ยำนพำหนะท่ีมีน้ำหนัก
น้ำหนกั บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำ เกนิ กว่ำทีไ่ ดก้ ำหนด หรอื โดยทยี่ ำนพำหนะนัน้
อำจทำให้ทำงหลวงเสยี หำย เดนิ บนทำงหลวงพิเศษ ทำงหลวงแผ่นดนิ และทำงหลวง
สมั ปทำนตำมขอ้ กำหนด ดงั ต่อไปน้ี

หมวด ๑

ขอ้ กำหนดน้ำหนกั น้ำหนกั บรรทุก หรอื น้ำหนกั ลงเพลำ ของยำนพำหนะทใ่ี ชเ้ ดนิ บน
๑. ทำงหลวงสมั ปทำน
๒. ทำงยกระดบั บนทำงหลวงแผน่ ดนิ หมำยเลข ๓๑ ตอนดอนเมอื ง - ทำงหลวง
หมำยเลข ๑ (อนุสรณ์สถำนแห่งชำติ) สำยดินแดง - บรรจบทำงหลวงหมำยเลข ๑
(อนุสรณ์สถำนแหง่ ชำต)ิ
๓. ทำงยกระดบั บนทำงหลวงแผน่ ดนิ หมำยเลข ๑ ตอนอนุสรณ์สถำนแห่งชำติ -
รงั สติ สำยกรุงเทพมหำนคร - แมส่ ำย (เขตแดน)

สว่ นท่ี ๑ ยำนพำหนะชนิดรถเดย่ี ว (SINGLE UNIT)

ขอ้ ๑ ยำนพำหนะทม่ี ี ๒ เพลำ ๔ ลอ้ ยำง ๔ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒)
ใชย้ ำงเดย่ี ว ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒) ไม่เกนิ ๖,๘๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนัก
ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไมเ่ กนิ ๘,๕๐๐ กโิ ลกรมั

๗๑ รำชกจิ จำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๒/ตอนพเิ ศษ ๑๕๐ ง/หน้ำ ๑๙/๒๘ ธนั วำคม ๒๕๔๘

๑๔๓

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ถนน

ขอ้ ๒ ยำนพำหนะทม่ี ี ๒ เพลำ ๔ ลอ้ ยำง ๖ เสน้ ชนิดเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒)
ใชย้ ำงคู่

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนสง่ ผโู้ ดยสำร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำทำ้ ย
(เพลำท่ี ๒) ไมเ่ กนิ ๙,๑๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่ืน ๆ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒) ไม่เกิน
๙,๑๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทุกไม่เกนิ ๑๒,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๓ ยำนพำหนะทม่ี ี ๓ เพลำ ๖ ล้อ ยำง ๖ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒
และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใชย้ ำงเดย่ี ว

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนส่งผโู้ ดยสำร ต้องมนี ้ำหนักลงเพลำคทู่ ำ้ ย
(เพลำท่ี ๒ และเพลำท่ี ๓) ไม่เกนิ ๑๒,๒๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่นื ๆ ต้องมนี ้ำหนกั ลงเพลำค่ทู ำ้ ย (เพลำท่ี ๒ และเพลำท่ี ๓)
ไมเ่ กนิ ๑๒,๒๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนักยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทุกไมเ่ กนิ ๑๕,๓๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๔ ยำนพำหนะทม่ี ี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๘ เสน้ ชนิดเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๒
และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) เพลำค่ทู ำ้ ยเพลำใดเพลำหน่ึงใชย้ ำงเดย่ี ว
อกี เพลำหน่ึงใชย้ ำงคู่

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนส่งผู้โดยสำร ต้องมนี ้ำหนกั ลงเพลำคทู่ ำ้ ย
ไม่เกนิ ๑๔,๓๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่ืน ๆ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกิน ๑๔,๓๐๐
กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไมเ่ กนิ ๑๘,๓๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๕ ยำนพำหนะทม่ี ี ๓ เพลำ ๖ ลอ้ ยำง ๑๐ เสน้ ชนิดเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๒
และเพลำท่ี ๓) เป็นเพลำคู่ (TANDEM AXLE) ใช้ยำงคู่ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำคู่ท้ำยไม่เกิน
๑๖,๔๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไมเ่ กนิ ๒๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั

ขอ้ ๖ ยำนพำหนะทม่ี ี ๓ เพลำ ๖ ล้อ ยำง ๘ เสน้ ชนิดเพลำหน้ำ (เพลำท่ี ๑
และเพลำท่ี ๒) เป็นเพลำเลย้ี วใชย้ ำงเดย่ี ว และเพลำทำ้ ย (เพลำท่ี ๓) ใชย้ ำงคู่

(๑) ยำนพำหนะประเภททใ่ี ชส้ ำหรบั ขนส่งผโู้ ดยสำร ตอ้ งมนี ้ำหนกั ลงเพลำทำ้ ย
(เพลำท่ี ๓) ไมเ่ กนิ ๙,๑๐๐ กโิ ลกรมั

(๒) ยำนพำหนะชนิดอ่นื ๆ ต้องมีน้ำหนักลงเพลำท้ำย (เพลำท่ี ๓) ไม่เกิน
๙,๑๐๐ กโิ ลกรมั หรอื น้ำหนกั ยำนพำหนะรวมน้ำหนกั บรรทกุ ไมเ่ กนิ ๑๔,๐๐๐ กโิ ลกรมั

๑๔๔


Click to View FlipBook Version