46
9. ขน้ั ตอนการบนั ทกึ ไฟลค์ ือขอ้ ใด ข. File → New หรอื Ctrl + N
ก. File → New หรอื Ctrl + X ง. File → Open หรือ Ctrl + N
ค. File → Save หรอื Ctrl + S
ข. File → New
10. ขนั้ ตอนการปิดไฟลภ์ าพในโปรแกรมคือขอ้ ใด ง. File → Close
ก. File → Exit
ค. File → Edit
เอกสารอา้ งองิ
สิทธชิ ัย ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวิชาโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแต่งงานคอมพิวเตอร์กราฟิกดว้ ยโปรแกรมกราฟิก. กรงุ เทพฯ : ซอฟท์เพรส.
ภาคผนวก (ถ้ามี)
47
ใบงานที่ 2 หน่วยที่ 2
รหัสวิชา 20204-2007 ชอื่ วชิ า โปรแกรมกราฟิก ภาคเรียนที่ 1
ชื่อหน่วย ความรู้เบอ้ื งต้นเก่ียวกบั โปรแกรมสร้าง เวลารวม 8 ชั่วโมง
ภาพกราฟิกแบบ Raster
ชื่องาน ความรู้เบอื้ งตน้ เกยี่ วกบั โปรแกรมสรา้ งภาพกราฟิกแบบ Raster จำนวน 4 ช่วั โมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. บอกความหมายคอมพิวเตอร์กราฟิก
2. อธิบายคุณค่าและความสำคัญของงานกราฟกิ
3. อธิบายการนำภาพกราฟิกทใ่ี ช้กับคอมพวิ เตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟล์ภาพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลกั การใช้สแี ละแสงในคอมพวิ เตอร์
6. บอกอุปกรณเ์ สรมิ ที่จำเป็นสามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟิก
7. ประยุกต์ใชค้ อมพิวเตอรก์ ราฟกิ กับงานดา้ นต่างๆ
จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1.บอกความหมายคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ได้
2.อธบิ ายคณุ คา่ และความสำคญั ของงานกราฟิกได้
3.อธิบายการนำภาพกราฟกิ ท่ีใชก้ ับคอมพิวเตอรไ์ ด้
4.จำแนกความแตกตา่ งระหว่างไฟล์ภาพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vectorได้
5.บอกหลกั การใชส้ ีและแสงในคอมพิวเตอร์ได้
6.บอกอปุ กรณ์เสริมที่จำเป็นสามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟิกได้
7.ประยุกตใ์ ช้คอมพวิ เตอร์กราฟกิ กบั งานด้านต่างๆ ได้
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การพ้ืนฐานอคอมพวิ เตอร์กราฟกิ
เครอ่ื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสอื
ลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ใหน้ ักศึกษาแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม เพอ่ื ศึกษาและอภปิ ราย
1.1 อธบิ ายความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกับโปรแกรมสรา้ งภาพกราฟกิ แบบ Raster
1.2 เขยี นรูปพรอ้ มอธบิ ายความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก
2. เขยี นอภิปรายและวิเคราะหใ์ ส่กระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครูผู้สอนเพื่อประเมินผล
48
ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง
ผ้เู รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลกอ่ นใหถ้ ่ถี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพอ่ื ป้องกันความผดิ พลาดกอ่ น
การส่งงาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถ้าม)ี
นกั ศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเน้ือหาให้สอดคล้องกบั ภาพให้ถูกต้อง
การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผเู้ รียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื ร้น
ในการแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง ทันเวลาทกี่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอา้ งองิ
สิทธิชยั ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรียนวิชาโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแตง่ งานคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรุงเทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
49
ใบกิจกรรมท่ี 2 หน่วยที่ 2
รหสั วชิ า 20204-2007 ชือ่ วิชา โปรแกรมกราฟกิ ภาคเรยี นที่ 1
ช่อื หน่วย ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกับโปรแกรมสรา้ ง เวลารวม 8 ชั่วโมง
ภาพกราฟิกแบบ Raster
ชื่องาน ความร้เู บ้ืองต้นเกยี่ วกบั โปรแกรมสรา้ งภาพกราฟิกแบบ Raster จำนวน 4 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. บอกความหมายคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ
2. อธิบายคณุ ค่าและความสำคัญของงานกราฟิก
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟกิ ท่ใี ช้กบั คอมพิวเตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟลภ์ าพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลกั การใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์
6. บอกอุปกรณเ์ สริมที่จำเป็นสามารถนำมาใช้ในงานกราฟกิ
7. ประยกุ ต์ใช้คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ กับงานด้านต่างๆ
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1.บอกความหมายคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ได้
2.อธบิ ายคณุ คา่ และความสำคญั ของงานกราฟกิ ได้
3.อธบิ ายการนำภาพกราฟิกทใ่ี ช้กับคอมพิวเตอรไ์ ด้
4.จำแนกความแตกตา่ งระหว่างไฟล์ภาพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vectorได้
5.บอกหลกั การใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์ได้
6.บอกอุปกรณ์เสริมทจ่ี ำเป็นสามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟิกได้
7.ประยกุ ตใ์ ชค้ อมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้านต่างๆ ได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความร้เู ก่ยี วกับหลักการพื้นฐานอคอมพิวเตอรก์ ราฟิก
เครอ่ื งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สอื
ลำดับกจิ กรรม
1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพ่ือใหห้ าคำตอบ
ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำขอ้ สงสยั ซักถามครูในการเรยี นทุกคร้งั ทเ่ี กดิ ความสับสน และไม่เข้าใจ
2. ผู้มีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสริมสร้างความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง
3. ผู้เรยี นหมั่นทำใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขข้อทีผ่ ดิ ให้ถกู ต้องเสมอ
50
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เกิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมือ่ ไดร้ ับมอบหมายงานมา
การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผเู้ รียนมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถกู ต้อง ทนั เวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นไดถ้ กู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งอิง
สิทธิชยั ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวชิ าโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแตง่ งานคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรงุ เทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
51
ใบปฏบิ ัตงิ านท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2
รหสั วิชา 20204-2007 ช่อื วิชา โปรแกรมกราฟิก ภาคเรยี นที่ 1
ชือ่ หน่วย ความรู้เบือ้ งตน้ เก่ียวกับโปรแกรมสรา้ ง เวลารวม 8 ชั่วโมง
ภาพกราฟกิ แบบ Raster
ชื่องาน ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ยี วกับโปรแกรมสรา้ งภาพกราฟิกแบบ Raster จำนวน 4 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. บอกความหมายคอมพิวเตอร์กราฟกิ
2. อธบิ ายคณุ คา่ และความสำคญั ของงานกราฟกิ
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟิกทีใ่ ชก้ บั คอมพิวเตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟล์ภาพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลกั การใช้สีและแสงในคอมพวิ เตอร์
6. บอกอุปกรณเ์ สริมท่ีจำเป็นสามารถนำมาใช้ในงานกราฟิก
7. ประยกุ ต์ใชค้ อมพวิ เตอร์กราฟิกกบั งานดา้ นต่างๆ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1.บอกความหมายคอมพวิ เตอรก์ ราฟิกได้
2.อธิบายคณุ คา่ และความสำคญั ของงานกราฟิกได้
3.อธิบายการนำภาพกราฟกิ ท่ใี ช้กับคอมพวิ เตอรไ์ ด้
4.จำแนกความแตกตา่ งระหวา่ งไฟลภ์ าพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vectorได้
5.บอกหลักการใช้สแี ละแสงในคอมพวิ เตอรไ์ ด้
6.บอกอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสามารถนำมาใช้ในงานกราฟกิ ได้
7.ประยกุ ตใ์ ช้คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ กบั งานด้านต่างๆ ได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลักการพน้ื ฐานอคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ
เคร่อื งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสอื
ลำดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน
1. ผู้เรยี นคน้ หาขอ้ มูลจากในอินเตอร์เน็ต ตามเร่อื งท่ีไดร้ บั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เมือ่ ผเู้ รียนไดร้ บั ข้อมลู เรียบรอ้ ยแลว้ ให้ผูเ้ รยี น นำขอ้ มูลนั้น มาเรียบเรียงให้เปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจได้ง่าย โดยจัดทำในรปู แบบเลม่ รายงาน
ภาพประกอบ
52
ข้อควรระวัง
ผ้เู รียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ี่ถว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอ่ื ปอ้ งกันความผดิ พลาดก่อน
การส่งงาน
ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนือ้ หาใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพให้
ถูกต้อง
การประเมนิ ผล
1. สังเกตผู้เรียนมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อย่างถูกต้อง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอา้ งองิ
สทิ ธชิ ยั ประสานวงศ์. (2556). แบบเรียนวิชาโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแต่งงานคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ดว้ ยโปรแกรมกราฟกิ . กรุงเทพฯ : ซอฟท์เพรส.
53
ใบมอมหมายงานที่ 2 หน่วยที่ 2
รหสั วชิ า 20204-2007 ชอ่ื วชิ า โปรแกรมกราฟิก ภาคเรยี นที่ 1
ชอ่ื หน่วย ความรู้เบอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั โปรแกรมสร้าง เวลารวม 8 ช่ัวโมง
ภาพกราฟกิ แบบ Raster
ชอ่ื งาน ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกับโปรแกรมสร้างภาพกราฟกิ แบบ Raster จำนวน 4 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. บอกความหมายคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ
2. อธบิ ายคุณคา่ และความสำคญั ของงานกราฟิก
3. อธิบายการนำภาพกราฟิกท่ีใช้กับคอมพิวเตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟลภ์ าพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลกั การใช้สแี ละแสงในคอมพวิ เตอร์
6. บอกอุปกรณเ์ สริมท่ีจำเป็นสามารถนำมาใช้ในงานกราฟกิ
7. ประยุกตใ์ ช้คอมพิวเตอร์กราฟกิ กบั งานด้านตา่ งๆ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1.บอกความหมายคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ได้
2. อธบิ ายคณุ คา่ และความสำคญั ของงานกราฟิกได้
3. อธิบายการนำภาพกราฟกิ ที่ใชก้ บั คอมพวิ เตอร์ได้
4. จำแนกความแตกตา่ งระหวา่ งไฟล์ภาพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vectorได้
5. บอกหลักการใชส้ แี ละแสงในคอมพวิ เตอร์ได้
6. บอกอุปกรณ์เสรมิ ที่จำเป็นสามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟิกได้
7. ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอรก์ ราฟิกกับงานด้านตา่ งๆ ได้
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กยี่ วกบั หลกั การพน้ื ฐานอคอมพิวเตอร์กราฟกิ
เครื่องมือ วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สือ
แนวทางการปฏบิ ตั งิ าน
1. ให้ผู้เรยี นปฏบิ ัติงานตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ตั งิ าน อย่างเครง่ ครดั ตามหัวข้อทไ่ี ด้รับ
มอบหมาย ให้เสร็จสน้ิ ตามระยะเวลาทกี่ ำหนด พร้อมทัง้ การจัดทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย
54
2. ใหผ้ ูเ้ รยี นแบง่ หน้าท่ีกับเพื่อนในกล่มุ ใหช้ ัดเจน และสามารถเขา้ ใจเน้อื หาตามหัวขอ้ ดังกลา่ ว ได้
อย่างถูกต้อง ครบถ้วน
ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง
ผู้เรยี นควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ีถ่ ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพือ่ ปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาให้สอดคล้องกับภาพให้
ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล
1. สังเกตผ้เู รียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ต้อง ทันเวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หัดหลังเรียนไดถ้ ูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอ้างอิง
สทิ ธิชัย ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวิชาโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแต่งงานคอมพิวเตอร์กราฟกิ ดว้ ยโปรแกรมกราฟิก. กรุงเทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
55
แผนการจดั การเรยี นรู้
หน่วยท.่ี .............. 3...................................... จำนวน........8..........ชั่วโมง สัปดาห์ที่.....4-5.......
ชื่อวิชา โปรแกรมกราฟกิ
ชอ่ื หนว่ ย มมุ มองภาพและการตกแต่งภาพด้วย Layer
ชื่อเรอื่ ง มุมมองภาพและการตกแต่งภาพดว้ ย Layer
1. สาระสำคัญ
การแก้ไขภาพการจัดมุมมองภาพเพื่อความแม่นยำในการวางตำแหน่งภาพให้ได้องค์ประกอบภาพ
เหมาะสมตอ้ งวางภาพในรปู แบบการวางแยกแต่ละ Layer “เลเยอร์” ทำใหก้ ารแก้ไขภาพทำไดง้ ่ายไม่สง่ ผลกระทบ
ต่อภาพใน Layer อื่นๆ การลบภาพสามารถลบ Layer ได้ทันที และภาพที่มีลักษณะกลุ่มเดียวกันสามารถรวม
Layer เข้าด้วยกันเมื่อมีการสร้างองค์ประกอบของภาพเหมาะสมแล้ว และการกำหนดความโปร่งใสของภาพเพือ่
เพิม่ ความนุ่มนวลของภาพ
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
สร้างและตกแต่งภาพดว้ ยโปรแกรมกราฟกิ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
1.เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับมุมมองและการยอ่ หรือขยายภาพได้
2.เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับขนั้ ตอนการใช้งาน Layer ได้
3.เพ่ือใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การปรบั สี ปรับแสง และแต่งภาพดว้ ย Layer ได้
4.เพื่อใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับการปรบั ขนาดของภาพได้
3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1.กำหนดมมุ มองและการยอ่ หรอื ขยายภาพได้
2.อธิบายขั้นตอนการใชง้ าน Layer ได้
3.ปรบั สี ปรับแสง และแตง่ ภาพด้วย Layer ได้
4.ปรับขนาดของภาพได้
5.มคี ณุ ธรรมและความซือ่ สตั ย์
4. สาระการเรียนรู้
ภาพกราฟิกมีการวางภาพตอ้ งอาศัยพาเลต Layer จัดรูปแบบภาพและเคร่อื งมือตา่ งๆ เพอ่ื ความสะดวกตอ่
การใช้งาน และสามารถกำหนดรูปแบบของไฟล์ภาพใหเ้ หมาะสม เชน่ ไฟลภ์ าพสำหรับการพมิ พ์ และการเลือก
รูปแบบการพิมพภ์ าพ
56
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ .่ี .....4-5.........)
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นตอนการจดั การเรียนรู้ หรือกิจกรรมครู ข้ันตอนการเรยี นรู้ หรอื กจิ กรรมผู้เรียน
5.1 ข้ันนำเข้าส่บู ทเรยี น
1. ครูชี้แจงให้นักศึกษาทราบถึงแนวทางใน 1. นกั เรยี นรับฟังคำช้ีแจงจากครผู ู้สอนและซกั ถาม
การปฏิบัติตน เกี่ยวกับการเรียนการสอนการ เพอ่ื ความเข้าใจ และรบั ฟงั การอบรมคณุ ลกั ษณะทพี่ ึง
ประเมนิ ผล การเรยี น และได้อบรมคุณลกั ษณะที่ พึง ประสงค์เรื่อง ความมวี ินยั การแตง่ กาย การตรงตอ่ -
ประสงค์ คือ เรื่องความ มีวินัย โดยเฉพาะการแตง่ - เวลา และการใชเ้ วลาให้เป็นประโยชน์
กาย การตรงต่อเวลา กฎระเบียบการใช้ห้องปฏิบัติ
การ การรักษาความสะอาดภายในห้อง 2. นกั เรยี นยกมือเพื่อแสดงความคดิ เห็น และ
สอบถามเม่ือไมเ่ ข้าใจ
2. ครูสอบถามนกั เรยี นในชั้น เรียนเรื่องความรู้
เบื้องต้นเกี่ยวกับมุมมองภาพและการตกแต่งภาพ
ดว้ ย Layer
5.2 ขน้ั สอน 3. นกั เรียนฟงั ครูอธิบายและจดบนั ทึกเนอ้ื หาหลัก
3. ครูอธิบายความรูเ้ บือ้ งตน้ เกย่ี วกับมมุ มอง ท่ีสำคญั
ภาพและการตกแต่งภาพด้วย Layer 4. นักเรียนชว่ ยกันอธิบายและซักถามขอ้ สงสัย
เพ่อื ความเข้าใจ
4. ครใู ห้นกั เรยี นอธิบายมุมมองภาพและการ
ตกแต่งภาพดว้ ย Layer 5. นักเรยี นฟงั ครูสรปุ แล้วจดบันทึกสว่ นทสี่ ำคัญ
เพิ่มเติม
5. ครูผู้สอนทำการสรุปเน้ือหา
6. นักเรียนฟังครูอธิบายและจด บันทกึ เน้ือหา
หลักทส่ี ำคญั
7. นกั เรียนชว่ ยกันอธิบายเนือ้ หา และทดลองการ
เข้าส่โู ปรแกรม บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพอ่ื ให้เหน็
5.3 ขนั้ สรปุ ภาพทเี่ ปน็ ความจรงิ
6. ครแู จกใบงานใหก้ บั นกั เรยี น
เพอ่ื ทำการฝกึ ปฏิบัตบิ น เครื่องคอมพิวเตอรเ์ พ่อื 9. นักเรียนนำใบงานไปฝกึ ปฏบิ ตั บิ นเครอื่ ง
ฝึก ทกั ษะ คอมพวิ เตอรใ์ นห้องปฏบิ ตั ิการ
7. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบประเมนิ ท้ายบทประจำ 10. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดจาก แบบประเมนิ
หนว่ ย และส่งแบบฝกึ หัดตามเวลาท่ีกำหนด ทา้ ยบทของหนงั สอื เรียนและส่งครูตามเวลาท่ี
กำหนด
8. ครปู ระเมินผลการเรยี นของนกั เรยี น และนำ 11. นักเรยี นนำผลการประเมนิ มาร่วมเฉลยพร้อมกัน
ผลการประเมินคนื ใหก้ บั นกั เรียนพร้อมเฉลยร่วมกบั กบั ครผู ู้สอน
นักเรียน
57
6. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
6.1 หนังสือเรียน
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝกึ หัด
6.4 แบบฝึกปฏบิ ตั ิ
6.5 แบบทดสอบหลังเรยี น
6.7 คอมพวิ เตอร์
6.8 เคร่ืองฉายโปรเจค็ เตอร์
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
7.1 หลักฐานความรู้
ใบงาน แบบฝกึ หดั การค้นคว้าข้อมลู ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เปน็ ระเบยี บ ถูกต้อง
7.2 หลกั ฐานการปฏิบัตงิ าน
ใบงาน แบบฝึกหัด รปู เลม่ รายงานการคน้ คว้าข้อมลู ทไ่ี ดร้ ับการเรยี บเรยี ง สวยงาม เปน็ ระเบียบ ถกู ตอ้ ง
พร้อมทงั้ เอกสารประกอบการนำเสนองานหน้าช้ันเรียนของผเู้ รยี น และภาพประกอบ
8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
8.1 เครอื่ งมือประเมิน
1. ใบงาน
2. แบบฝึกหัด
3. แบบประเมินผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
เครอื่ งมอื การประเมิน วธิ ีวัดและประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน
แบบฝึกหดั ตรวจแบบฝกึ หัด ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป
ถูก 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ตรวจแบบฝกึ ปฏิบตั ิ ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไมถ่ ูก 0 คะแนน
58
แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขึน้ ไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม ถกู 1 คะแนน
จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ไมถ่ กู 0 คะแนน ได้คะแนน
ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้าม)ี
1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพือ่ หาเทคนคิ วิธกี าร หรือหลกั การงา่ ยเพ่ือใหห้ าคำตอบได้อย่าง
ถกู ตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟงั หลกั การ เทคนคิ วธิ กี ารทค่ี รูผ้สู อนสรุปในขณะท่ีทำการสอน และนำข้อสงสยั
ซกั ถามครใู นการเรียนทุกครั้งทีเ่ กดิ ความสับสน และไม่เข้าใจ
2. ผู้มกี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอ่ื เสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง
3. ผูเ้ รยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขขอ้ ท่ผี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกับความ
จำเปน็ ในการนำไปประยกุ ต์ใชใ้ ห้เกิดขึ้นโดยตนเองใหไ้ ด้เพ่อื เกิดความรคู้ วามเข้าใจอย่างแทจ้ ริงไม่ใช่เกิดจากการ
ท่องจำ
10. เอกสารอา้ งอิง
สิทธิชยั ประสานวงศ์. (2556). แบบเรียนวชิ าโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแตง่ งานคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรงุ เทพฯ : ซอฟท์เพรส.
59
ใบความรู้ท่ี 3 หนว่ ยที่ 3
รหัสวิชา 20204-2007 ชอ่ื วิชา โปรแกรมกราฟกิ ภาคเรยี นท่ี 1
ชื่อหน่วย มมุ มองภาพและการตกแตง่ ภาพด้วย Layer เวลารวม 8 ชั่วโมง
ชื่อเรือ่ ง มุมมองภาพและการตกแตง่ ภาพดว้ ย Layer เวลา 4 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1.เพ่อื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับมมุ มองและการย่อหรือขยายภาพได้
2.เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั ข้ันตอนการใช้งาน Layer ได้
3.เพอ่ื ให้มีความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั การปรับสี ปรับแสง และแตง่ ภาพดว้ ย Layer ได้
4.เพื่อใหม้ คี วามรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การปรบั ขนาดของภาพได้
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. กำหนดมุมมองและการย่อหรอื ขยายภาพได้
2.อธบิ ายขัน้ ตอนการใช้งาน Layer ได้
3.ปรับสี ปรับแสง และแตง่ ภาพดว้ ย Layer ได้
4.ปรับขนาดของภาพได้
5.มคี ุณธรรมและความซ่อื สตั ย์
สมรรถนะรายหน่วย
สรา้ งและตกแตง่ ภาพด้วยโปรแกรมกราฟิก
60
หนว่ ยท่ี 3 มมุ มองภาพและการตกแต่งภาพด้วย Layer
3.1 การกำหนดมมุ มองและการย่อหรอื ขยายภาพ
คำสัง่ การยอ่ ภาพและขยายภาพดว้ ยเครอ่ื งมือ การเปดิ พาเลตขน้ึ มากำหนดขนาดการแสดงภาพ
และเลอื กจดุ ท่ีตอ้ งการแสดงไดไ้ ม่ตอ้ งเปลย่ี นเครื่องมือบ่อยๆ
3.1.1 การย่อหรอื การขยายภาพ คือ คำส่ังสำหรบั การขยายไฟล์ภาพ เพอื่ ดูรายละเอียดของ
ภาพที่เปดิ ใช้งานให้ชัดเจนมากยิ่งขนึ้ เช่น การยอ่ ภาพและขยายภาพดว้ ยเมนู View และการใช้เครอ่ื งมอื
Zoom Tool ขนั้ ตอนดังน้ี
3.1.1.1 การย่อและขยายรปู ภาพดว้ ยเมนู View มี 2 วธิ ี ดงั น้ี
1) การยอ่ ภาพจากเมนคู ำส่ัง เชน่ คลกิ ท่เี มนู View → Zoom out หรอื
เรียก
ใช้คีย์ลัด เช่น กดป่มุ Ctrl + – ทแ่ี ปน้ พมิ พ์ ถา้ กดซ้ำอีกภาพจะมีขนาดเล็กลงไปอกี
2) การขยายรปู ภาพจากเมนูคำสง่ั เชน่ คลิกทเี่ มนู View →Zoom In หรอื เรยี ก
ใชค้ ีย์ลดั เชน่ กดปุ่ม Ctrl + + + ทแี่ ป้นพิมพ์ ถา้ กดซำ้ อีกภาพจะมีขนาดใหญข่ ึน้ อกี
3.1.1.2 การย่อภาพและขยายภาพดว้ ยเคร่ืองมอื (Zoom Tool) คือ การย่อและ
ขยายภาพ โดยคลิกเครือ่ งมือ แล้วกำหนดคุณสมบัติเคร่อื งมือในออปชันบาร์
วธิ กี ารยอ่ และขยายภาพด้วยเครื่องมือ Zoom Tool ดังนี้
1) คลิกเครื่องมอื รูปเมาสพ์ อยเตอร์จะเปล่ียนแปลงไปเป็นรูปแวน่ ขยาย
และเครือ่ งมือมเี ครอ่ื งหมาย + จากนัน้ คลิกท่รี ปู ภาพทต่ี ้องการขยาย
2) การย่อขนาดภาพโดยกดปมุ่ Alt ท่แี ปน้ พิมพ์รูปเมาสพ์ อยเตอร์เปลย่ี นเป็น
รูปแว่นขยาย เมาสม์ ีเครอ่ื งหมาย – จากน้ันคลิกภาพที่ตอ้ งการย่อขนาด
การขยายภาพด้วยเครอื่ งมือ ไดแ้ ล้วยังสามารถใช้คำส่ังอื่นๆ เช่น คยี ์ลดั
ขยายภาพเป็นขนาด 100 % ได้งา่ ยๆ โดยการกดป่มุ Ctrl + Alt + 0 หรอื ย่อขนาดภาพใหเ้ ตม็
จอภาพพอดโี ดยกดปุ่ม Ctrl + 0
การยอ่ ภาพหรือการขยายภาพท่ีนยิ มอีกวธิ หี นึ่ง คือ การใชพ้ าเลต Navigator การขยายภาพ
โดยคลกิ เรยี กใชไ้ ด้จากเมนู คลกิ Window → Navigator คอื การเปิดพาเลตขึ้นมากำหนดขนาดการ
แสดงภาพ และเลอื กจุดทตี่ อ้ งการแสดงไดไ้ มต่ ้องเปลยี่ นเครอ่ื งมือบอ่ ยๆ
3.1.2 การเลื่อนดูภาพด้วยเคร่อื งมอื (Hand Tool) คอื การเล่อื นดภู าพในส่วนต่างๆ
โดยคลิกท่ีเครือ่ งมือ แล้วคลิกเมาส์ค้างท่ภี าพ แลว้ ดึงเมาสเ์ ล่อื นดทู ีละส่วนของภาพ
ในตำแหน่งทตี่ อ้ งการ
เม่อื นำเมาส์วางที่ภาพ โดยเมาส์จะเปน็ รปู มอื ซึ่งสามารถใชเ้ มาส์นคี้ ลิกเลื่อนดูภาพตาม
ตำแหน่งที่คลกิ เมาส์ลงไป (โดยวธิ กี ารดึงเมาสเ์ ล่ือนภาพมา ณ จดุ ท่ีตอ้ งการดูภาพ) เครือ่ งมือดังกลา่ วจะ
ใชไ้ ด้กต็ อ่ เมือ่ ขยายรูปภาพนน้ั ๆ ให้มีขนาดใหญก่ ว่าหน้าต่างโปรแกรมจงึ จะสามารถ
เล่ือนดภู าพสว่ นอื่นๆ ได้
61
3.2 การตกแต่งภาพด้วยพาเลต Layer
พาเลต Layer คือ การลำดับภาพ การตกแตง่ ภาพสามารถใช้คำสัง่ ตกแต่งแกไ้ ขภาพบางสว่ นของ
ภาพได้ เช่น คำสง่ั ในการแก้ไขภาพ ปรับแต่งภาพ ลบภาพ สามารถทำได้โดยไมส่ ่งผลกระทบกบั สว่ นอืน่ ๆ
ของภาพ โดยอาศยั การทำงานของพาเลต Layer ทสี่ ามารถควบคุมภาพแยกเป็นส่วนๆ และสามารถสรา้ ง
ภาพทม่ี ีการวางซอ้ นทับกนั
3.2.1 วธิ ีการเรียกใช้พาเลต Layer มวี ธิ กี ารเรียกใช้จากเมนู Window แลว้ เลอื กพาเลต
Layer ขัน้ ตอนดงั นี้
1. คลิกท่เี มนู Window → Layer หรอื กดปุม่ F7
2. คลกิ เลือกพาเลต Layer
3.2.2 สว่ นประกอบของพาเลต Layer การสรา้ งภาพนนั้ จำเปน็ ต้องอาศยั ความรู้เกย่ี วกับ
การใช้พาเลต Layer เช่น การใส่ Effects การสรา้ ง Layer Mask และการซอ่ น Layer เพื่อดูผลลัพธ์
ในลกั ษณะต่างๆ โดยสว่ นประกอบของ Layer ที่สำคญั
3.2.3 พาเลต Layer คอื ลำดับขน้ั ตอนการวางภาพแบบหนังสือซ้อนทบั กนั จำนวนหลายๆ เลม่
โดยวตั ถุทอี่ ยู่ด้านบนสุดจะบังทับวัตถุที่อยูด่ า้ นล่าง และถ้าหากวัตถทุ อี่ ยู่ด้านบนสุดมกี ารเจาะทะลผุ า่ นจะ
สามารถมองเห็นวัตถุท่อี ยูด่ ้านล่างท่ีมกี ารวางซอ้ นทบั กันหลายๆ ภาพ การวางภาพไม่ควรอยใู่ น Layer
เดยี วกนั เพื่อสะดวกในการแกไ้ ขภาพ เช่น การลบภาพ และการกำหนดความโปร่งใสของภาพการวางภาพ
แบบมีลำดบั ก่อนหลงั การใสส่ ีเส้น และการใส่ Effects
3.2.4 การจัดการเบอ้ื งต้นกบั Layer คอื การจดั การเบอ้ื งต้นในการสรา้ ง Layer ใหม่เพอื่
ใชร้ ะบายสี การปรับแต่งคา่ อื่นๆ ทไี่ ม่ต้องการให้เปลย่ี นแปลงภาพใน Layer เดมิ และการลบ Layer ท่ไี ม่
ต้องการ ดงั น้ี
3.2.4.1 การสร้าง Layer ใหม่ คือ คลิกที่ Create a new Layer
3.2.1.2 การสรา้ ง Layer ใหม่ คือ คลิกเมนู Layer→ New → Layer หรือ
ปมุ่
Shift + Ctrl + N ซ่งึ สามารถกำหนดออปชันเพ่ิมเติมให้ Layer ใหมท่ ่ีสร้างได้ ข้ันตอนดังน้ี
1. คลิกเมนู Layer→New → Layer หรือกดปมุ่ Shift + Ctrl + N
เพอื่ เปดิ หน้าตา่ ง New Layer
2. ต้ังชื่อให้ Layer ที่สร้างขึ้น
3. คลิกเลอื กสขี อง Layer เพอื่ แยกกล่มุ หรือประเภทของ Layer ทีท่ ำงาน
4. ได้ Layer ใหม่ ทีม่ ีชอ่ื และสี Layer ตามท่ีกำหนด Layer ท่สี รา้ งแลว้
ตอ้ งการเปลี่ยนชือ่ Layer ใหม่ในภายหลัง คือ การดับเบลิ คลิก
บนชื่อ Layer เดมิ แล้วสามารถตงั้ ชอื่ ให้ Layer ใหมไ่ ดท้ ันทกี ารตั้งชื่อทำเพื่อสะดวกในการคน้ หา Layer
ในภายหลงั
62
3.2.1.3 การสร้างสำเนา Duplicate Layer คือ การคัดลอก Layer เพมิ่ จาก Layer เดมิ
การตกแต่งภาพบางคร้งั จำเปน็ ต้องนำภาพใน Layer เดิมมาทดลองปรับแตง่ แกไ้ ขก่อน เพอื่ ปอ้ งกนั ความ
เสียหายของภาพตน้ ฉบับซ่ึงเราเรียกวิธีการนว้ี า่ การการสร้างสำเนา Layer
3.2.1.4 การลบ Delete layer คือ การลบ Layer ท่ไี ม่ตอ้ งการ ดังนี้
1) การลบแบบถามซำ้ การลบด้วยวธิ นี ้ีคำสง่ั จะถามซำ้ อีกคร้งั เพื่อ
ความแนใ่ จก่อนลบทิ้ง การลบ Layer โดยการแดรกเมาสม์ าวางทปี่ มุ่ การลบผใู้ ช้สามารถเลอื ก
Layer แล้วแดรกเมาสไ์ ปวางท่ีปุม่ Delete layer ได้ทันที โดยคำส่ังจะไม่ถามซำ้ ว่าต้องการลบ
หรือไมท่ ำใหภ้ าพนนั้ ลบไปทันที
2) การลบ Layer แบบรวดเรว็ เมอื่ ตอ้ งการลบ Layer แบบรวดเร็วนน้ั
ผู้ใช้สามารถคลิกเลือก Layer แล้วกดปุ่ม Delete บนแปน้ พิมพ์
3.2.1.5 การสลับลำดับ Layer ดว้ ยคำสงั่ Layer Order คือ สลับตำแหนง่ วางภาพใน
Layer เพอื่ เปล่ยี นลำดบั การซอ้ นทบั ภาพ โดยคลกิ เมาส์เลอื ก Layer ท่ีตอ้ งการสลับแลว้ สงั เกตเมาส์จะ
เปลี่ยนเป็นรูปมอื แล้วแดรกเมาส์ไปวาง ณ ตำแหนง่ ทตี่ ้องการวางภาพ เช่น การนำภาพ Layer 2 วาง
ไว้ดา้ นบนของ Layer 4 ให้สงั เกตเสน้ ทบึ เป็นสีนำ้ เงินท่ีเกดิ ขนึ้ ซงึ่ จะเป็นจดุ ท่สี ามารถปลอ่ ยเมาส์วางภาพ
ณ ตำแหน่งทต่ี อ้ งการวาง
3.2.1.6 การรวม Layer ดว้ ยคำส่งั Merge Layer คอื การรวมภาพแต่ละภาพใน Layer
ภาพทต่ี กแตง่ เรยี บร้อย หรอื Layer ภาพท่ีมีรูปแบบใกล้เคียงกนั สามารถรวมภาพนนั้ ใหเ้ ปน็ Layer
เดยี วกนั ได้ เพื่อลดจำนวน Layer ของภาพ ดงั น้ี
1) รวม Layer ด้วยคำส่ัง Merge Down คือ การรวม Layer ภาพทอี่ ยู่
ดา้ นบนกับ Layer ด้านลา่ ง คลกิ เลือก Layer 3 แลว้ คลกิ ขวา เลือกคำสั่ง Merge Down (คลกิ
Layer1→ Merge Down)
2) การรวม Layer ต่างๆ ทไ่ี ม่ได้ซ่อนด้วยคำสั่ง Merge Visible คือ การรวม
Layer ท้งั หมดยกเว้น Layer ทซ่ี ่อน คลกิ เมนู Layer →เลือก Merge Visible หรือกดปมุ่
Shift + Ctrl + E
3) การรวม Layer ท่เี ลือก คอื การเลือก Layer ภาพทต่ี กแต่งเรียบร้อยแลว้
ท่ีต้องการรวม โดยการคลิกแดรกเมาสเ์ ลอื ก Layer ก่อนแล้วจึงกดปุ่ม Ctrl + E เพอ่ื รวม Layer
เพื่อเปน็ ภาพเดียวกนั
4) การรวม Layer ทั้งหมดเป็น Layer ใหม่ คอื การรวม Layer ทั้งหมดแลว้
สรา้ งเป็น Layer ใหม่ โดยเลือก Layer อยู่บนสุด กดปุ่ม Ctrl + Alt + Shift + E เพื่อรวม
Layer ทง้ั หมดเป็น Layer ใหม่ ภาพทร่ี วม Layer ใหมอ่ ยู่ด้านบนสุด การคัดลอกภาพใน Layer ไปใช้
งานกับภาพอืน่ ๆ จะทำไดง้ า่ ยสามารถคัดลอกไปวางในภาพใหมไ่ ดท้ ง้ั หมด แตถ่ า้ ไมม่ กี ารรวมLayer ต้อง
คัดลอกภาพทงั้ หมดมาวางในภาพอน่ื จำนวนครั้งมาก ถงึ จะไดภ้ าพครบทกุ ภาพ
63
3.3 การปรับสี ปรับแสง และแตง่ ภาพดว้ ย Layer
การกำหนดความโปรง่ ใสของภาพในพาเลต กำหนดความโปร่งใสเฉพาะภาพ แต่ Effectsไม่มีการ
เปลยี่ นแปลง เช่น Effects คอื เส้นขอบยงั คงเดิมไมม่ กี ารเปลยี่ นแปลง
3.3.1 การกำหนดความโปร่งใสด้วยคำส่งั Opacity ของภาพ คอื การกำหนดความโปร่งใสของ
ภาพในพาเลต Layer สามารถทำได้ 2 แบบ คือ การกำหนดคา่ Opacity และกำหนดค่า Fill ใน Layer
โดยการลดค่า Opacity ทำใหภ้ าพ และ Effects ใน Layer ดูโปรง่ ใสแตถ่ ้ากำหนดคา่ Fill จะทำใหภ้ าพใน
Layer โปร่งใส แต่ Effects จะยงั คงค่าเหมือนเดิม
การกำหนดคา่ Opacity คอื ภาพทั้งหมดมีความโปร่งใส โดยตอ้ งเลอื ก Layer ภาพก่อนแล้ว
คลิกเมาสก์ ำหนดค่า Opacity เปน็ 50 % ลกั ษณะภาพ และ Effects จะเบลอ
การกำหนดค่า Fill คือ กำหนดความโปร่งใสเฉพาะภาพ แต่ Effectsไมม่ กี ารเปล่ยี นแปลง เชน่
Effects คือ เส้นขอบยังคงเดมิ ไม่มกี ารเปลย่ี นแปลง
ตัวอยา่ ง การลดค่า Fill ลดลง 0 % ภาพใน Layer จะถูกปรับจางหายไป แต่ Effects คอื
เสน้ ขอบยังคงเดิม
3.3.2 การผสมสี Layer ดว้ ยคำสัง่ Layer Blend Mode คือ การผสมสีระหว่าง Layer โดย
วธิ ีการผสมสภี าพใน Layer ปจั จุบนั เข้ากบั Layer ดา้ นล่าง ทำใหภ้ าพเป็นสีพเิ ศษ เพ่ือใชส้ รา้ ง Effectsหรอื
เปล่ียนมมุ มองของภาพในลกั ษณะตา่ งๆ ได้ ภาพทั้งหมดในแตล่ ะLayer ไม่มกี ารเปล่ยี นแปลงแตอ่ ย่างใดการ
ผสมสีแบบ Layer มโี หมดใหเ้ ลอื กหลายรูปแบบสามารถเลอื กใชต้ ามความเหมาะสม ดังน้ี
3.3.2.1 กลุ่มการผสมสีใหม้ ดื ลง คอื การผสมสีของ Layer กลุ่มนจี้ ะใชว้ ธิ เี ปรียบเทยี บความ
สวา่ งของพนื้ สที ้งั สองแล้วแสดงสว่ นของสที ีม่ ีความเขม้ กว่าของภาพใน Layer บน และส่วนที่มืดกว่าของ
ภาพใน Layer ลา่ ง กลมุ่ การผสมสีใหม้ ืดลง ดังนี้
1) Darken คอื การเปรยี บเทียบความสวา่ งของพืน้ ทสี่ ที ้งั สอง Layer แลว้ แสดงสว่ นของ
สที ่ีสว่างกวา่ ของภาพ Layer ดา้ นบน แต่ไม่มีผลกบั สว่ นทม่ี ดื กว่า
2) Multiply คือ การผสมสีระหวา่ ง Layer ท้งั สองเหมือนกับการซอ้ นฟลิ ์มสไลด์ 2 แผ่น
ทีฉ่ ายบนโปรเจคเตอร์
3) Color Burn คอื การผสมสใี น Layer ท้ังสอง โดยการเพม่ิ ค่าของความเข้มของ
Layer บนเมอื่ ผสมกันผลลัพธ์ของภาพจะมืดลง
4) Linear Burn คอื การผสมสี Layer ทงั้ สอง ลดค่าความสว่างลงผลลพั ธ์ที่ได้ภาพ
จะมดื ลงแต่จะไมม่ ีผลกับสีขาวบน Layer
5) Darker color คอื การเทยี บสีในแตล่ ะ Layer ทน่ี ำมาผสมกนั แลว้ นำสีไปผสมกับสี
พน้ื ฐานและแสดงคา่ ต่ำสุดของสอี อกมา
การผสมสีในกลมุ่ มืดลง คือ การนำภาพจำนวน 2 ภาพ ผสมสรี ะหว่างกันและวางใน Layer ต่างกัน
3.3.2.2 การผสมสีใหส้ วา่ งข้นึ คอื การผสมสีของ Layer ภาพมีความสว่างเพม่ิ ขึ้น
ซึ่งคำสั่งในการผสมสกี ลุ่มดังกล่าว ดังนี้
1) Lighten คือ การเทียบสีในแตล่ ะพาเลตของแตล่ ะ Layer การนำภาพ
64
นำมาผสมแลว้ เลือกสสี วา่ งกว่ามาแสดง แต่ไม่มผี ลกบั ส่วนที่สวา่ งอย่แู ล้ว
2) Screen คือ การผสมสภี าพใน Layer ทัง้ สองเหมือนการถ่ายภาพ 2 ภาพ
บนเฟรมเดยี วกันซ่ึงจะทำให้สวา่ งขึน้
3) Color Dodge คือ การผสมสีและปรับสีภาพให้สวา่ งเพม่ิ มากขน้ึ
โดยขึ้นอยกู่ บั คา่ สีใน Layer บน (จะให้ผลตรงกันขา้ มกับ Color Burn)
4) Linear Dodge คอื การผสมสีและปรบั ภาพใหส้ วา่ งขน้ึ โดยขึ้นอยูก่ บั
ค่าสีใน Layer บนสำหรับในส่วนทีส่ ว่างอยู่แล้วก็จะสว่างมากยงิ่ ข้ึน
5) Lighter Color คอื การผสมสแี ละปรบั สีของภาพใหส้ ว่างข้นึ เกิดจาก
การเปรยี บเทยี บคา่ ของแชนเนลสีมาผสมกบั สีหลักบนภาพ และนำคา่ สีทีม่ ากท่ีสุดมาแสดงแต่จะไมม่ ผี ลกบั
ภาพส่วนท่ีสว่างอยแู่ ล้วและทำให้บางสีหายไป
3.3.2.3 การผสมสี Layer โดยการเปรียบเทยี บสี คอื การผสมสีของ Layer นำค่า
ของสีทัง้ สอง Layer มาหกั ลบกนั ให้ผลลพั ธ์ภาพทีม่ ืดลงหรือสว่างขึน้ โดยจะขน้ึ กับสขี องภาพใน Layer
บน และ Layer ล่างเกิดภาพสีสวยสด แปลกตา และน่าสนใจ ประกอบดว้ ยคำสง่ั ดงั น้ี
1) Overlay คือ วธิ กี ารผสมผสานสีแบบ Multiply และสกรีน เข้าด้วยกนั โดย
ภาพจะมืดหรือสวา่ ง ขน้ึ อย่กู บั สใี น Layer ลา่ ง
2) Soft Light คอื การฉายภาพ Layer บนซ้อน Layer ล่างดว้ ยแสงไฟ
ออ่ นๆ ซง่ึ จะทำให้ภาพสวา่ งและกลมกลนื กนั
3) Hard Light คือ การฉายภาพ Layer บนซ้อน Layer ลา่ งด้วยแสงไฟ
แรงๆ โดยจะให้ผลเหมือนการทำไฮไลท์บนภาพ
4) Vivid light คอื การผสมสภี าพให้มีลักษณะคลา้ ยกบั คลั เลอร์ เบลอ และคัล
เลอร์ ดรอปหากภาพมีความสว่างมากกวา่ สีเทา 50% จะลดความสวา่ งลง แต่ถา้ ภาพมคี วามมดื มากกวา่ สี
เทา 50% จะเพิ่มความสวา่ งข้ึน
5) Linear Light คือ มีลกั ษณะเหมือนกบั การใช้ Linear Burn และ Linear
Dodge โดยปรับภาพสว่ นที่สว่างอยแู่ ลว้ ให้สวา่ งข้ึน และปรับภาพสว่ นท่ีมดื อย่แู ล้วให้มืดขึน้ ทำให้ภาพมสี เี ข้ม
ขึน้
6) Pin Light คือ การผสม Layer ให้ดูกลมกลนื กันทั้งสอง Layer ถ้าภาพใน
Layer บนสอี อ่ นกวา่ สเี ทา 50% ก็จะถูกแทนที่ด้วยสีของ Layer ล่างแทน
7) Hard Mix คือ การผสม Layer ใหก้ ลมกลนื กนั โดยการเพิม่ ค่าสีแดง สีเขียว
และสีน้ำเงนิ ผสมกับสีหลักบนภาพในสว่ นท่ีเข้ม และแทนท่ีสีท่อี ยดู่ ้านล่างสำหรับส่วนท่ีเปน็ สีอ่อนจะแทนที่
ดว้ ยสีขาวแทน
3.3.2.4 การผสมสตี ามองค์ประกอบโมเดลสี คอื การผสมสีของ Layer โดยการนำค่าของ
สีทั้งสองมาหกั ลบกันตามคา่ ของโมเดลสี ทำให้ภาพออกมาในลักษณะดังนี้
1) Difference คอื การเทยี บสีและนำคา่ ของสมี าลบกนั ทำให้ภาพบางส่วน
กลายเปน็ สตี รงข้าม คอื สว่ นท่ีมดื จะปรับให้สวา่ ง สว่ นท่ีสว่างจะปรบั ใหม้ ืดลง
65
2) Exclusion คอื คล้ายกับการผสมสีด้วยโหมด Difference โดยจะปรับส่วน
ท่สี วา่ งใหเ้ ป็นสตี รงข้าม แต่จะไม่มผี ลกบั สีสว่ นท่ีมืด
3) Subtract คอื การนำขอ้ มลู ของสีมาหักลบกัน โดยดจู ากสีเลขฐานในภาพ 8
บิต และ 16 บติ ทำให้ภาพบางสว่ นมืดและบางสว่ นสวา่ ง
4) Divide คือ การนำข้อมูลของสแี ต่ละค่ามาหารกนั จากสีพ้ืนฐานทผี่ สมกนั
3.3.2.5 การผสมสใี นกลุ่มสีความสดและความสว่าง คือ การผสมสีที่มีความสด ทำให้
ภาพออกมาในลักษณะดงั นี้
1) Hue คอื การผสมสีระหว่าง Layer ทัง้ สอง โดยการสรา้ งความสว่าง
และสร้างความอ่ิมสี ซ่งึ ทำใหภ้ าพเป็นสีเข้มขึ้น
2) Saturation คอื การผสมสีระหว่างภาพใน Layer ทง้ั สอง
โดยการสร้างความสว่าง สร้างคา่ สี และความอิม่ ตัวของสี เพอื่ ทำให้ภาพด้านลา่ งมีความอิม่ ตัวของสแี ต่ไม่มี
ผลกบั สว่ นท่ีเป็นสเี ทาในภาพล่าง
3) Color คอื การผสมสีภาพของ Layer ต่างๆ ที่ทำให้กลมกลนื กัน
คล้ายๆ กับโหมดสี Hue โดยการผสมสขี องทั้งสองจะรกั ษาความอมิ่ ตัวของสีส่วนท่เี ปน็ สีเทาในภาพ
4) Luminosity คอื การผสมสีภาพของ Layer โดยการนำคา่ และ
ความอิม่ ตวั ของสี Layer ภาพท่ีอยูด่ ้านล่างมาเป็นฐานและเพม่ิ ความสว่างในสีท่ผี สมกนั มีผลกับภาพดา้ นบน
ทำใหภ้ าพดกู ลมกลืนกัน
3.3.2.6 เทคนิคการปรับสภี าพ คอื การปรบั สภี าพถา่ ยงา่ ยๆ โดยการนำสพี ืน้ สีต่างๆ มา
ย้อมผสมลงไปกบั สภี าพใน Layer เดมิ ทำให้ได้ภาพถ่ายมสี ีสนั แปลกตาและโดดเดน่ ขัน้ ตอนดงั น้ี
1. เปดิ ไฟลภ์ าพ 1 ภาพ
2. เพ่มิ Layer แล้วเลือกเครือ่ งมือ เทสแี ดงลงไป
3. เลอื กโหมดสี Color Burn
4. ผลลัพธภ์ าพหลังจากเลอื กโหมดสี Color Burn
3.3.3 ตกแตง่ Layer ด้วยคำสั่ง Layer Style คือ คณุ สมบัติทีก่ ำหนดไวก้ ับ Layer
เพอื่ ตกแต่งภาพใน Layer ให้มลี ักษณะพิเศษ เช่น การทำแสงเงาให้วัตถุ ทำให้พื้นผวิ ใหน้ นู ขนึ้ หรอื ทำแสง
ฟุ้งออกมาจากภาพ ดังน้ี
3.3.3.1 วิธีกำหนด style Layer คอื การกำหนด style ให้ Layer
1. เลอื กคำสั่ง Layer → Layer Style → เลอื กชือ่ style
2. คลกิ จากปุ่ม Add a Layer style
3. เลือกคำสั่ง Window → Styles แลว้ เลอื กชุด style
4. การสร้าง Layer style น้ันสามารถเลอื ก Effects ต้องการแลว้ บนั ทกึ เป็น
style
สำเรจ็ รปู เพ่ือนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือเลือก style สำเร็จรูปท่ีโปรแกรมกำหนดไว้ให้ เช่น Effects ของ
ขอ้ ความ ปมุ่ กดเว็บเพจ และขอบภาพ วธิ ีการกำหนด style Layer ดงั นี้
66
3.3.3.2 การเลอื ก Layer style คือ การกำหนด Layer ที่ตอ้ งการแล้วเลือก style ดงั นี้
1. คลิกเลือก Layer ท่ีตอ้ งการกำหนด style (หาก Layer ที่เลอื กเป็น Layer
Background ดับเบิลคลกิ เปลี่ยนเป็น Layer 0 ก่อนใช้คำสง่ั น้ี
2. คลกิ ปุ่ม แลว้ เลอื ก Effectsท่ีตอ้ งการใช้งาน
3. เลอื ก Option และกำหนดคา่ การทำต่างๆ ของ Effects
4. คลกิ ปุ่ม
3.4 ขนาดของภาพและขนาดของไฟล์
กอ่ นนำภาพมาใชง้ านตอ้ งมคี วามเข้าใจเกยี่ วกับขนาดของภาพ หรอื อตั ราส่วนของภาพในแต่
ละภาพเช่น กวา้ ง X สูง (Width X Height)ขนาดไฟลภ์ าพคอื ความจขุ องภาพทีจ่ ัดเก็บลงในดิสก์ ซ่ึงตอ้ งมี
ความร้ทู ง้ั การจัดขนาดของภาพและขนาดของไฟล์ เพ่อื นำภาพไปใชง้ านใหเ้ หมาะสมกับงาน เช่น การนำภาพ
ไปพิมพ์ทรี่ ้านพมิ พภ์ าพตอ้ งใช้ขนาดเท่าไหร่ ความละเอียดของภาพก่ี Pixels นำภาพไปใช้บนเวบ็ เพจขนาด
ของภาพควรกำหนดขนาดเท่าไหร่ การนำภาพใช้งานให้ตรงวตั ถุประสงค์มากทสี่ ุด โดยการปรับขนาด ตัด
หรือลดพน้ื ที่ทีไ่ มต่ ้องการออก เปน็ ต้น
3.4.1 การปรบั ขนาดของภาพ คือ การปรบั ขนาดของภาพทง้ั การยอ่ และการขยาย และเปล่ียน
คา่ ความละเอยี ดของภาพ ซ่งึ ขนาดของภาพท่เี ป็น “ความกว้าง ความสูง” หรอื “Width Height
เรยี กว่า Image size การกำหนดความกว้างและความสูง โดยเลือกหนว่ ยนับเปน็ น้ิว เซนติเมตร หรอื Pixels
เพ่อื ใหไ้ ดข้ นาดของภาพท่ีเหมาะสมสำหรบั การนำไปใชง้ าน เช่น ใช้แสดงในหน้าเวบ็ เพจ นำไปใช้ในเอกสาร
ทวั่ ไป สง่ ไปกบั อีเมล์ หรอื นำภาพพมิ พ์ลงกระดาษ เป็นตน้ ขน้ั ตอนดงั นี้
1. คลกิ เมนคู ำสั่ง Image → Image Size
2. เลอื กออปชันตา่ งๆ สำหรบั ปรบั ขนาดของภาพดังน้ี
Scale Styles ปรับสัดส่วนของ Layer styleให้เปน็ ไปตามขนาดของภาพ
Constrain Proportions ให้รกั ษาสัดสว่ นเดมิ ของภาพไว้ คือ เมื่อกำหนดความกว้าง
หรอื ความสูงคา่ ใดคา่ หนง่ึ อีกค่าจะถูกปรับตามโดยอัตโนมตั ิ สัดสว่ นภาพจะสมดลุ กนั
Resample Image กำหนดใหเ้ ป็นการปรับแบบเพิ่มหรอื ลดจำนวน Pixels โดยตอ้ งระบุ
วธิ ีคำนวณของโปรแกรม ซง่ึ แต่ละวธิ ีจะใหผ้ ลท่ีต่างกนั ดังนี้
Nearest Neighbor การทำงานไดเ้ รว็ ทีส่ ุด แต่ใหภ้ าพดอ้ ยที่สุด เหมาะกับภาพท่ีมี
ความคมชัด เชน่ ภาพวาด
Bilinear ทำงานไดเ้ ร็วและใหภ้ าพดปี านกลาง
Bicubic ใหภ้ าพทีด่ ีที่สุด เหมาะสำหรับภาพทวั่ ไปโดยเฉพาะภาพถา่ ย
Bicubic Smoother เหมาะสำหรับการขยายภาพ
Bicubic Sharper เหมาะสำหรบั การยอ่ และขยายภาพ
3. กำหนดความกวา้ งหรอื ความสงู และเลือกหน่วยวดั ภาพ ดังตัวอยา่ งนไ้ี ด้เลือกเป็น
Pixels แลว้ คลิกปมุ่ OK จะได้ผลลัพธ์ของภาพใหม่ในขนาดทกี่ ำหนด
67
3.4.2 ขนาดภาพสำหรบั งานสิ่งพิมพ์ ภาพกราฟกิ ปกหนังสือ ขนาด 16.5 x19 ซม กำหนดไฟล์
ภาพที่ Document Size เปน็ หน่วยวัด cm หรือ in ตามขนาดจริงของหนงั สอื โดยกำหนดพน้ื ทส่ี ำหรบั
ตดั ตกดว้ ย เช่น กำหนดขนาดภาพเป็น width 18 และ height 23 การกำหนด Resolution กำหนดค่า
300 pixels/inch ซงึ่ เป็นคา่ ทีใ่ ช้สำหรบั งานส่ิงพมิ พ์
3.4.3 ขนาดภาพสำหรับนำไปพมิ พ์ การถ่ายภาพจากกล้องดจิ ิตอล เม่ือถ่ายภาพแล้วนำภาพ
เหลา่ นน้ั ไปทรี่ ้านพมิ พ์ภาพตามปกติและเลอื กขนาดท่ีกำหนดได้ แต่ถ้าตอ้ งการภาพใหม้ คี ุณภาพสูงตอ้ ง
คำนงึ ถึงภาพทีถ่ ่ายมาน้นั พิมพ์ภาพไดข้ นาดสูงสุดเทา่ ไหร่ ถา้ กำหนดสดั ส่วนของภาพไม่ตรงกบั ขนาดกระดาษ
แลว้ จะเลือกตัดส่วนใดของภาพออกมรี ายละเอยี ดดังน้ี
3.4.3.1 อัตราสว่ น (หรือสัดส่วน) ของภาพ คือ การถ่ายภาพจากกล้องดจิ ิตอลแบบคอม
แพค็ มีอัตราความกว้างเปน็ 4 ต่อ 3 เช่น ภาพขนาด 3269 X 2448 Pixels (กลอ้ งระดบั 8 ล้าน Pixels)
เป็นต้น กลอ้ งดจิ ิตอลระดบั สงู ข้ึนไปทเ่ี รียกวา่ DSLR จะถา่ ยภาพในอตั ราส่วน 3 ต่อ 2 เช่น ภาพขนาด
3888 X 2592 Pixels สำหรบั กระดาษมาตรฐานทใ่ี ชพ้ มิ พภ์ าพออกทางเครือ่ งพมิ พม์ หี ลายสดั สว่ น เช่น การ
พมิ พ์แบบ 4 X 6 น้วิ (สัดส่วน 3 ต่อ 2) และ 8 X 10 นิ้ว (สัดส่วน 4 ต่อ 5) เป็นตน้ ดังน้นั การพมิ พภ์ าพ
ออกมาอาจมีผลใหภ้ าพบรเิ วณข้างๆ ถูกตัดออกไป หากส่งภาพทไี่ ม่ไดป้ รบั แต่งมาก่อนทางร้านจะตัดภาพให้
เหลือตามสัดสว่ นท่ตี อ้ งการ ซึง่ การตดั ภาพอาจไมต่ รงตามความตอ้ งการ เช่น ต้องการตัดภาพบรเิ วณ
ด้านซา้ ยออก หรอื ต้องการทำใหร้ ูปเล็ก เปน็ ต้น เมอื่ มีความต้องการภาพให้เหมาะสมตอ้ งใช้โปรแกรมแตง่
ภาพก่อน เชน่ โปรแกรม Adobe Photoshop ตัดแตง่ ภาพใหไ้ ด้ขนาดแล้วบนั ทกึ ขอ้ มูลไปพมิ พท์ ีร่ า้ นตอ่ ไป
3.4.3.2 จำนวน Pixels กบั ขนาดของภาพ คอื ภาพถ่ายจากกลอ้ งดิจิตอลจะมีจำนวน
Pixels ต่างกนั ขนึ้ อยกู่ ับคณุ สมบัติของกลอ้ งท่ถี ่ายภาพ เมอ่ื นำภาพไปพิมพท์ ีร่ า้ นต้องพจิ ารณาจำนวน Pixels
ของภาพท่พี มิ พ์ในขนาดใดบา้ งจึงจะมคี ณุ ภาพดีที่สุด ภาพที่มีจำนวน Pixels ของภาพสูงสามารถพิมพภ์ าพ
ได้ขนาดใหญ่และมคี วามคมชัดมาก
3.4.4 ตดั ขอบภาพ Crop คือ การตัดภาพเลอื กเฉพาะสว่ นด้วยเครอื่ งมือ Crop หาก
ภาพมีขนาดใหญเ่ กนิ ไป หรือมีความตอ้ งการนำภาพมาใช้เพยี งบางสว่ น โดยการเลือกตัดขอบภาพในสว่ นที่
ไมต่ อ้ งการออก ด้วยเครื่องมือดังกล่าว ข้นั ตอนดังน้ี
1. คลกิ เคร่ืองมอื
2. คลิกเมาสล์ ากคลมุ พนื้ ทสี่ ว่ นที่ตอ้ งการ
3. ปรบั ขนาดสัดส่วนใหเ้ หมาะสมแลว้ กด Enter เพอื่ ยืนยันตัดภาพ หรอื กด ESC เพือ่
ยกเลิกการเลอื ก
4. ภาพท่ถี ูกตัดขอบนอก
1
68
แบบฝกึ หดั /เฉลย
ตอนที่ 1 จงเลือกคําตอบทีถ่ ูกตอ้ งทส่ี ุดเพียงข้อเดยี ว
คำสงั่ จงทำเคร่อื งหมายกากบาท () หน้าขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ งมากท่สี ดุ เพยี งข้อเดยี ว
1. ขอ้ ใดคือขน้ั ตอนการขยายภาพดว้ ยเมนคู าส่งั
ก. View → Zoom ข. Ctrl + –.
ค. View → Zoom In ง. Ctrl + t.
2. ขอ้ ใดคอื เมนคู าส่งั ในการปรบั ขนาดภาพ ข. Edit
ก. Image
ค. File ค. Zoom
3. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเก่ยี วกบั พาเลต Layer
ก. ใชเ้ รียงขอ้ มลู ข. ช่วยในการแกไ้ ขภาพใหถ้ กู ตอ้ ง
ค. ลาดบั ขน้ั ตอนการทางาน ง. ตวั ชว่ ยในการแกไ้ ขภาพ
4. ขอ้ ดขี องการออกแบบภาพโดยใชพ้ าเลต Layer คอื ขอ้ ใด
ก. สามารถลดขน้ั ตอนการทางานไดด้ ี
ข. สามารถบนั ทึกขน้ั ตอนการทางานที่ผา่ น ๆ มาทกุ ขนั้ ตอน
ค. สามารถออกแบบงานทีม่ คี วามซบั ซอ้ นไดแ้ ละเลอื กทางานเฉพาะสว่ นทตี่ อ้ งการ
ง. สามารถเรยี กใชภ้ าพหรอื ขน้ั ตอนทล่ี บนากลบั คนื มาใหม่ โดยคงสภาพเดิม
5. วธิ ีการเรยี กใชพ้ าเลต Layer คือขอ้ ใด
ก. Window → Layer ข. Ctrl + F7.
ค. Selection → Layer ง. Image → Layer
6. การสรา้ งสาเนา Layer ทเี่ ลอื ก คือขอ้ ใด
ก. ข. Ctrl + J.
ค. Del Layer ง.
7. ขอ้ ใดไม่ใช่คาส่งั ในกลมุ่ การรวม Layer
ก. Merge Layer ข. Merge Visible
ค. Flatten Image ง. Merge Visibull
8. ขอ้ ใดเป็นการกาหนดความโปรง่ ใสของภาพในพาเลต Layer
ก. กาหนดค่า Opacity และ Fill
ข. กาหนดคา่ Layer และ Add New Layer
ค. เพิม่ ตวั เลขค่า Opacityto และ Fill
ง. ไม่มขี อ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง
69
9. ขอ้ ใดคือเคร่อื งมือสาหรบั การตดั ขอบภาพ
ก. Cut ข. Ctrl + X.
ค. Crop ง. Slice
10. การปรบั ขนาดของภาพและขนาดของไฟลข์ อ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง
ก. การปรบั ขนาดทงั้ การย่อและการขยาย เปลยี่ นคา่ ความละเอียดของภาพ
ข. การปรบั ขนาดโดยการขยาย เปล่ียนค่าความละเอยี ดของภาพ
ค. การปรบั ขนาดโดยการยอ่ เปลี่ยนค่าความละเอียดของภาพ
ง. การปรบั ขนาดโดยการย่อ เพ่ิมคา่ ความละเอยี ดของภาพ
เอกสารอ้างอิง
สิทธิชยั ประสานวงศ์. (2556). แบบเรียนวชิ าโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแตง่ งานคอมพวิ เตอร์กราฟิกด้วยโปรแกรมกราฟกิ . กรงุ เทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
ภาคผนวก (ถ้ามี)
70
ใบงานที่ 3 หน่วยที่ 3
รหสั วิชา 20204-2007 ช่อื วิชา โปรแกรมกราฟกิ ภาคเรยี นที่ 1
ช่อื หน่วย มุมมองภาพและการตกแตง่ ภาพด้วย Layer เวลารวม 8 ช่ัวโมง
ชอ่ื งาน มมุ มองภาพและการตกแตง่ ภาพด้วย Layer จำนวน 4 ชัว่ โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. บอกความหมายคอมพวิ เตอร์กราฟิก
2. อธิบายคุณคา่ และความสำคัญของงานกราฟกิ
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟกิ ทใ่ี ชก้ ับคอมพิวเตอร์
4. จำแนกความแตกตา่ งระหว่างไฟลภ์ าพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลกั การใช้สีและแสงในคอมพวิ เตอร์
6. บอกอปุ กรณเ์ สรมิ ที่จำเปน็ สามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟิก
7. ประยุกตใ์ ช้คอมพิวเตอร์กราฟกิ กบั งานด้านตา่ งๆ
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1.บอกความหมายคอมพิวเตอร์กราฟิกได้
2. อธบิ ายคณุ ค่าและความสำคญั ของงานกราฟิกได้
3.อธบิ ายการนำภาพกราฟิกทใ่ี ชก้ ับคอมพิวเตอร์ได้
4.จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟล์ภาพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vectorได้
5.บอกหลักการใชส้ ีและแสงในคอมพิวเตอร์ได้
6.บอกอุปกรณเ์ สริมท่ีจำเปน็ สามารถนำมาใช้ในงานกราฟิกได้
7.ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอรก์ ราฟิกกับงานดา้ นตา่ งๆ ได้
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรูเ้ กยี่ วกับหลกั การพื้นฐานอคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ
เครอ่ื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื
ลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ใหน้ ักศึกษาแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม เพ่อื ศึกษาและอภปิ ราย
1.1 อธบิ ายมมุ มองภาพและการตกแตง่ ภาพดว้ ย Layer
1.2 เขียนรูปพร้อมอธบิ ายความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ยี วกบั คอมพิวเตอรก์ ราฟิก
2. เขยี นอภปิ รายและวเิ คราะห์ใสก่ ระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครผู ู้สอนเพอ่ื ประเมนิ ผล
ภาพประกอบ
71
ข้อควรระวัง
ผ้เู รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนใหถ้ ี่ถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่ือป้องกนั ความผิดพลาดก่อน
การส่งงาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถ้าม)ี
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนื้อหาให้สอดคล้องกับภาพให้ถูกตอ้ ง
การประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑ์การประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สังเกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้
ในการแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหัดหลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอ้างอิง
สทิ ธชิ ัย ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวิชาโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแตง่ งานคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟกิ . กรงุ เทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
72
ใบกจิ กรรมที่ 3 หน่วยท่ี 3
รหสั วชิ า 20204-2007 ช่อื วชิ า โปรแกรมกราฟกิ ภาคเรียนท่ี 1
ชอ่ื หนว่ ย มุมมองภาพและการตกแต่งภาพดว้ ย Layer เวลารวม 8 ช่ัวโมง
ชอื่ งาน มุมมองภาพและการตกแตง่ ภาพด้วย Layer จำนวน 4 ช่วั โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. บอกความหมายคอมพิวเตอร์กราฟกิ
2. อธบิ ายคณุ ค่าและความสำคญั ของงานกราฟกิ
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟกิ ท่ีใชก้ บั คอมพวิ เตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟล์ภาพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลักการใช้สแี ละแสงในคอมพิวเตอร์
6. บอกอปุ กรณเ์ สรมิ ที่จำเป็นสามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟิก
7. ประยกุ ตใ์ ช้คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานดา้ นตา่ งๆ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1.บอกความหมายคอมพวิ เตอรก์ ราฟิกได้
2. อธิบายคุณคา่ และความสำคญั ของงานกราฟกิ ได้
3.อธิบายการนำภาพกราฟกิ ทใ่ี ชก้ ับคอมพวิ เตอรไ์ ด้
4.จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟลภ์ าพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vectorได้
5.บอกหลักการใชส้ แี ละแสงในคอมพิวเตอร์ได้
6.บอกอปุ กรณเ์ สรมิ ทีจ่ ำเป็นสามารถนำมาใช้ในงานกราฟิกได้
7.ประยกุ ต์ใช้คอมพิวเตอร์กราฟกิ กับงานด้านต่างๆ ได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความร้เู กย่ี วกบั หลกั การพน้ื ฐานอคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ
เครอ่ื งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสอื
ลำดบั กิจกรรม
1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการงา่ ยเพ่ือใหห้ าคำตอบ
ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำขอ้ สงสัยซกั ถามครูในการเรียนทุกครัง้ ทเ่ี กดิ ความสบั สน และไมเ่ ขา้ ใจ
2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่ือเสริมสรา้ งความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ รงิ
3. ผู้เรยี นหม่นั ทำใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ท่ผี ิดให้ถูกต้องเสมอ
73
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เกิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมือ่ ไดร้ ับมอบหมายงานมา
การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินให้ชัดเจน)
1. สงั เกตผเู้ รียนมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถกู ต้อง ทนั เวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งอิง
สิทธิชัย ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวชิ าโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแตง่ งานคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรงุ เทพฯ : ซอฟท์เพรส.
74
ใบปฏบิ ัตงิ านที่ 3 หน่วยท่ี 3
รหสั วิชา 20204-2007 ชือ่ วชิ า โปรแกรมกราฟิก ภาคเรียนท่ี 1
ช่อื หนว่ ย มุมมองภาพและการตกแต่งภาพดว้ ย Layer เวลารวม 8 ช่ัวโมง
ชื่องาน มุมมองภาพและการตกแต่งภาพดว้ ย Layer จำนวน 4 ชัว่ โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. บอกความหมายคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ
2. อธบิ ายคุณคา่ และความสำคัญของงานกราฟกิ
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟิกท่ใี ชก้ บั คอมพิวเตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟลภ์ าพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลักการใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์
6. บอกอปุ กรณ์เสรมิ ท่ีจำเป็นสามารถนำมาใช้ในงานกราฟกิ
7. ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอร์กราฟิกกบั งานดา้ นตา่ งๆ
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ได้
2. อธบิ ายคุณคา่ และความสำคญั ของงานกราฟิกได้
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟกิ ที่ใช้กบั คอมพวิ เตอรไ์ ด้
4. จำแนกความแตกต่างระหวา่ งไฟล์ภาพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vectorได้
5. บอกหลกั การใช้สแี ละแสงในคอมพิวเตอร์ได้
6. บอกอุปกรณเ์ สริมทจี่ ำเปน็ สามารถนำมาใช้ในงานกราฟกิ ได้
7. ประยกุ ตใ์ ชค้ อมพิวเตอรก์ ราฟิกกบั งานดา้ นต่างๆ ได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรู้เกยี่ วกับหลกั การพนื้ ฐานอคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก
เครอื่ งมือ วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื
ลำดับข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน
1. ผเู้ รยี นค้นหาข้อมูลจากในอินเตอรเ์ นต็ ตามเร่ืองท่ีไดร้ บั มอบหมายมาจาครูผู้สอน
2. เมอื่ ผเู้ รียนได้รับขอ้ มูลเรยี บรอ้ ยแล้ว ให้ผู้เรยี น นำข้อมูลน้ัน มาเรยี บเรยี งใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเขา้ ใจไดง้ า่ ย โดยจดั ทำในรูปแบบเลม่ รายงาน
ภาพประกอบ
75
ข้อควรระวัง
ผ้เู รียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ี่ถว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอ่ื ปอ้ งกันความผดิ พลาดก่อน
การส่งงาน
ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนือ้ หาใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพให้
ถูกต้อง
การประเมนิ ผล
1. สังเกตผู้เรียนมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อย่างถูกต้อง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอา้ งองิ
สทิ ธชิ ยั ประสานวงศ์. (2556). แบบเรียนวิชาโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแต่งงานคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ดว้ ยโปรแกรมกราฟกิ . กรุงเทพฯ : ซอฟท์เพรส.
76
ใบมอมหมายงานท่ี 3 หนว่ ยที่ 3
รหสั วชิ า 20204-2007 ช่ือวิชา โปรแกรมกราฟกิ ภาคเรยี นที่ 1
ชื่อหน่วย มุมมองภาพและการตกแต่งภาพดว้ ย Layer เวลารวม 8 ชั่วโมง
ชอื่ งาน มุมมองภาพและการตกแตง่ ภาพดว้ ย Layer จำนวน 4 ชวั่ โมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงค์ท่ัวไป
1. บอกความหมายคอมพวิ เตอร์กราฟิก
2. อธบิ ายคุณค่าและความสำคญั ของงานกราฟิก
3. อธบิ ายการนำภาพกราฟิกท่ใี ชก้ ับคอมพวิ เตอร์
4. จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟลภ์ าพกราฟกิ แบบ Raster และแบบ Vector
5. บอกหลกั การใช้สแี ละแสงในคอมพิวเตอร์
6. บอกอปุ กรณเ์ สริมที่จำเปน็ สามารถนำมาใช้ในงานกราฟิก
7. ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ กบั งานดา้ นตา่ งๆ
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1.บอกความหมายคอมพิวเตอร์กราฟกิ ได้
2. อธบิ ายคุณคา่ และความสำคญั ของงานกราฟิกได้
3.อธบิ ายการนำภาพกราฟิกท่ใี ช้กับคอมพิวเตอร์ได้
4.จำแนกความแตกต่างระหว่างไฟล์ภาพกราฟิกแบบ Raster และแบบ Vectorได้
5.บอกหลักการใชส้ แี ละแสงในคอมพวิ เตอรไ์ ด้
6.บอกอปุ กรณเ์ สรมิ ทจ่ี ำเป็นสามารถนำมาใชใ้ นงานกราฟกิ ได้
7.ประยกุ ตใ์ ช้คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานดา้ นตา่ งๆ ได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการพ้ืนฐานอคอมพิวเตอร์กราฟกิ
เคร่ืองมือ วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื
แนวทางการปฏิบตั งิ าน
1. ให้ผู้เรียนปฏิบัตงิ านตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ตั งิ าน อยา่ งเคร่งครดั ตามหวั ขอ้ ทไี่ ดร้ บั
มอบหมาย ให้เสร็จสน้ิ ตามระยะเวลาที่กำหนด พรอ้ มท้งั การจัดทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถูกตอ้ ง ครบถว้ น เป็นระเบยี บเรียบร้อย
77
2. ใหผ้ ูเ้ รยี นแบง่ หน้าท่ีกับเพื่อนในกล่มุ ใหช้ ัดเจน และสามารถเขา้ ใจเน้อื หาตามหัวขอ้ ดังกลา่ ว ได้
อย่างถูกต้อง ครบถ้วน
ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง
ผู้เรยี นควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ีถ่ ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพือ่ ปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้
ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล
1. สังเกตผ้เู รียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ต้อง ทันเวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หัดหลังเรียนไดถ้ ูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอ้างอิง
สทิ ธิชัย ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวิชาโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแต่งงานคอมพิวเตอร์กราฟกิ ดว้ ยโปรแกรมกราฟิก. กรุงเทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
78
แผนการจัดการเรยี นรู้
หนว่ ยท.่ี .............. 4...................................... จำนวน........8..........ชั่วโมง สัปดาห์ที่.....6-7.......
ชอื่ วิชา โปรแกรมกราฟกิ
ชือ่ หน่วย การสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการจดั การไฟล์
ชือ่ เร่อื ง การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์
1. สาระสำคญั
การสรา้ งภาพถา่ ยใหม้ ีความแปลกตาสามารถทำไดห้ ลายวิธี เช่น การแตง่ เพิ่มหรอื ตดั สว่ นทีไ่ ม่ต้องการออก
จากภาพโดยการสร้างขอบเขตพื้นที่ก่อนแล้วตกแต่งแก้ไขภาพเพื่อให้ง่ายสะดวกและไม่มีผลเสียต่อภาพอื่นๆ
ภายนอกขอบเขตพนื้ ท่ี การตัดตอ่ ภาพ การเคล่อื นยา้ ยภาพ เพ่ือนำภาพมารวมกนั เป็นภาพเดียวกัน ซึ่งภาพที่นำมา
วางรวมกันลกั ษณะสมี ีความแตกต่างกันแต่ตอ้ งการให้สีแต่ละภาพมกี ารผสมกลมกลืนกนั โดยใชค้ ำส่ังแก้ไขช่วงสีไม่
ต่อเนอ่ื งของภาพแก้ไขภาพให้มลี กั ษณะสเี หมือนภาพเดยี วกัน
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
สรา้ งขอบเขตพนื้ ที่และการจดั การไฟลด์ ว้ ยโปรแกรมกราฟิก
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการจดั การไฟลไ์ ด้
2. เพ่ือใหม้ คี วามรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับขนั้ ตอนการตดั ภาพ ได้
3. เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั การปรับรูปทรงภาพได้
4. เพือ่ ใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การแกไ้ ขช่วงสีไมต่ ่อเน่อื งของภาพได้
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1.สร้างขอบเขตพน้ื ท่ี (Selection)ได้
2.ตัดภาพได้
3.คัดลอกภาพได้
4.ปรับรูปทรงภาพด้วยคำสั่ง Transform ได้
5.สร้างขอบเขตพน้ื ทด่ี ้วย Layer Mask ได้
6.แกไ้ ขชว่ งสไี มต่ อ่ เน่อื งของภาพได้
7.มีความรบั ผดิ ชอบต่องานท่ีได้รบั มอบหมาย
4. สาระการเรียนรู้
การจดั การไฟลภ์ าพใหม้ ีความหลากหลาย โดยอาศยั การตดั ภาพ การคดั ลอกภาพเพิ่มบางสว่ นหรอื ลด
บางสว่ นของภาพ หนา้ ต่างโปรแกรมแบง่ เคร่อื งมอื เป็นหมวดหม่ทู าใหส้ ะดวกต่อการใชง้ านการแบง่ พนื้ ทก่ี าร
ทางานใหส้ ะดวกขนึ้ และนาวิธีการสรา้ งขอบเขตพนื้ การจดั การไฟลภ์ าพใหส้ วยงาม
79
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท.ี่ .....6-7.........)
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้ันตอนการจดั การเรยี นรู้ หรือกิจกรรมครู ขั้นตอนการเรยี นรู้ หรอื กจิ กรรมผู้เรียน
5.1 ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครูชี้แจงให้นักศึกษาทราบถึงแนวทางใน 1. นกั เรยี นรับฟังคำช้ีแจงจากครผู ู้สอนและซกั ถาม
การปฏิบัติตน เกี่ยวกับการเรียนการสอนการ เพอ่ื ความเข้าใจ และรบั ฟงั การอบรมคณุ ลกั ษณะทพี่ ึง
ประเมนิ ผล การเรียน และไดอ้ บรมคณุ ลักษณะที่ พึง ประสงค์เรื่อง ความมวี ินยั การแตง่ กาย การตรงตอ่ -
ประสงค์ คือ เรื่องความ มีวินัย โดยเฉพาะการแตง่ - เวลา และการใชเ้ วลาให้เป็นประโยชน์
กาย การตรงต่อเวลา กฎระเบียบการใช้ห้องปฏิบัติ
การ การรกั ษาความสะอาดภายในห้อง 2. นักเรยี นยกมือเพื่อแสดงความคดิ เห็น และ
สอบถามเม่ือไมเ่ ข้าใจ
2. ครูสอบถามนักเรยี นในชนั้ เรยี นเรอื่ งความรู้
เบื้องต้นเกีย่ วกบั การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่
(Selection) และการจดั การไฟล์
5.2 ขนั้ สอน 3. นักเรยี นฟงั ครูอธิบายและจดบนั ทึกเนอ้ื หาหลัก
3. ครูอธิบายความร้เู บอื้ งต้นเกีย่ วกับการ ที่สำคัญ
สรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การ 4. นักเรียนชว่ ยกันอธิบายและซักถามขอ้ สงสัย
ไฟล์ 4. ครูให้นักเรียนอธบิ ายการสรา้ งขอบเขต เพื่อความเข้าใจ
พนื้ ท่ี (Selection) และการจดั การไฟล์
5. นักเรยี นฟงั ครูสรปุ แล้วจดบันทึกสว่ นทสี่ ำคัญ
5. ครูผสู้ อนทำการสรุปเนื้อหา เพิ่มเติม
5.3 ข้นั สรปุ 6. นกั เรียนฟังครูอธิบายและจด บันทกึ เน้ือหา
6. ครแู จกใบงานใหก้ บั นักเรียน หลกั ที่สำคญั
เพ่อื ทำการฝึกปฏบิ ัติบน เครอื่ งคอมพิวเตอร์เพ่ือ
7. นกั เรียนชว่ ยกันอธิบายเนือ้ หา และทดลองการ
ฝึก ทกั ษะ เข้าสโู่ ปรแกรม บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพอ่ื ให้เหน็
7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบประเมินท้ายบทประจำ ภาพทเ่ี ปน็ ความจรงิ
หน่วย และส่งแบบฝึกหัดตามเวลาท่ีกำหนด 9. นกั เรียนนำใบงานไปฝกึ ปฏบิ ตั บิ นเครอื่ ง
8. ครูประเมินผลการเรยี นของนักเรยี น และนำ คอมพิวเตอรใ์ นห้องปฏบิ ตั ิการ
ผลการประเมินคนื ใหก้ ับนกั เรียนพรอ้ มเฉลยรว่ มกับ 10. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดจาก แบบประเมนิ
นักเรียน ทา้ ยบทของหนงั สอื เรียนและส่งครูตามเวลาท่ี
กำหนด
11. นกั เรยี นนำผลการประเมนิ มาร่วมเฉลยพร้อมกัน
กับครผู สู้ อน
80
6. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
6.1 หนังสือเรียน
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝกึ หัด
6.4 แบบฝึกปฏบิ ตั ิ
6.5 แบบทดสอบหลงั เรยี น
6.7 คอมพวิ เตอร์
6.8 เคร่ืองฉายโปรเจ็คเตอร์
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
7.1 หลักฐานความรู้
ใบงาน แบบฝกึ หดั การค้นคว้าข้อมลู ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เปน็ ระเบยี บ ถูกต้อง
7.2 หลักฐานการปฏบิ ัติงาน
ใบงาน แบบฝึกหดั รปู เลม่ รายงานการคน้ คว้าข้อมลู ทไ่ี ดร้ ับการเรยี บเรยี ง สวยงาม เปน็ ระเบียบ ถกู ตอ้ ง
พร้อมทงั้ เอกสารประกอบการนำเสนองานหน้าช้ันเรียนของผเู้ รยี น และภาพประกอบ
8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
8.1 เครอื่ งมือประเมนิ
1. ใบงาน
2. แบบฝึกหัด
3. แบบประเมินผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
เครอื่ งมือการประเมิน วธิ ีวัดและประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน
แบบฝึกหดั ตรวจแบบฝกึ หัด ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป
ถูก 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ตรวจแบบฝกึ ปฏิบตั ิ ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไมถ่ ูก 0 คะแนน
81
แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขึน้ ไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม ถกู 1 คะแนน
จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ไมถ่ กู 0 คะแนน ได้คะแนน
ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้าม)ี
1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพือ่ หาเทคนคิ วิธกี าร หรือหลกั การงา่ ยเพ่ือใหห้ าคำตอบได้อย่าง
ถกู ตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟงั หลกั การ เทคนคิ วธิ กี ารทค่ี รูผ้สู อนสรุปในขณะท่ีทำการสอน และนำข้อสงสยั
ซกั ถามครใู นการเรียนทุกครั้งทีเ่ กดิ ความสับสน และไม่เข้าใจ
2. ผู้มกี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอ่ื เสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง
3. ผูเ้ รยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขขอ้ ท่ผี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกับความ
จำเปน็ ในการนำไปประยกุ ต์ใชใ้ ห้เกิดขึ้นโดยตนเองใหไ้ ด้เพ่อื เกิดความรคู้ วามเข้าใจอย่างแทจ้ ริงไม่ใช่เกิดจากการ
ท่องจำ
10. เอกสารอา้ งอิง
สิทธิชยั ประสานวงศ์. (2556). แบบเรียนวชิ าโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแตง่ งานคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรงุ เทพฯ : ซอฟท์เพรส.
82
ใบความรู้ที่ 4 หน่วยที่ 4
รหสั วชิ า 20204-2007 ชอ่ื วชิ า โปรแกรมกราฟกิ ภาคเรียนท่ี 1
ช่ือหนว่ ย การสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการ เวลารวม 8 ชั่วโมง
จดั การไฟล์
ชอ่ื เรื่อง การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์ เวลา 4 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพอ่ื ใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั การสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการ
จดั การไฟลไ์ ด้
2. เพอื่ ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั ขนั้ ตอนการตัดภาพ ได้
3. เพ่ือให้มีความร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกับการปรับรปู ทรงภาพได้
4. เพอ่ื ให้มีความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับการแกไ้ ขช่วงสีไมต่ อ่ เนือ่ งของภาพได้
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. สรา้ งขอบเขตพ้ืนท่ี (Selection)ได้
2.ตดั ภาพได้
3.คดั ลอกภาพได้
4.ปรับรปู ทรงภาพดว้ ยคำสง่ั Transform ได้
5.สรา้ งขอบเขตพืน้ ทด่ี ้วย Layer Mask ได้
6.แก้ไขช่วงสีไม่ตอ่ เน่อื งของภาพได้
7.มคี วามรบั ผดิ ชอบต่องานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
สมรรถนะรายหนว่ ย
สรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ีและการจดั การไฟลด์ ว้ ยโปรแกรมกราฟิก
83
หน่วยที่ 4 การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์
4.1 การสร้างขอบเขตพ้ืนท่ี (Selection)
การสรา้ ง Selection “ขอบเขตพ้นื ที่” สามารถทำไดห้ ลากหลายวธิ ี เช่น การใชเ้ คร่ืองมือ
พ้นื ฐานต่างๆ เพือ่ กำหนดขอบเขตพื้นท่ี เชน่ กลุม่ เครือ่ งมือ Marquee Too เปน็ กลมุ่ เครื่องมือท่ีทำงาน
แตกต่างกันขน้ึ อยกู่ ับลักษณะของภาพที่ตอ้ งการปรับเปล่ียน การแก้ไขขอบเขตพ้ืนที่ที่เลือกของภาพ ท่ี
ตอ้ งการลบและกลุ่มเครือ่ งมอื Lasso Too คอื กลมุ่ เครอื่ งมอื เลือกขอบเขตพน้ื ทแี่ ละการกำหนดค่า
ออปชันบารม์ ีความเหมอื นกับกลุ่มเครอ่ื งมอื พน้ื ฐาน
4.1.1 การสรา้ งขอบเขตพ้นื ทดี่ ้วยเครือ่ งมือกลุม่ Marquee Too คือ การสร้างภาพขอบเขต
พื้นท่ีดว้ ยเคร่อื งมือพนื้ ฐาน โดยการคลิกเครือ่ งมือพ้ืนฐานแล้วเลือกรปู แบบ เชน่ เลอื กวงกลม เหลี่ยม
เสน้ แนวนอนและเสน้ แนวตั้ง รปู แบบการเรียกใช้งานเหมอื นกัน ดงั นี้
4.1.1.1 การใช้เคร่อื งมอื Rectangular Marquee Tool คอื การสรา้ ง
ขอบเขตพ้ืนที่รปู แบบสีเ่ หลีย่ มลักษณะการใช้งานดังนี้
1. คลกิ เลอื กเครอ่ื งมือ
2. กำหนดคา่ Option Bar เพื่อเลอื กขอบเขตพืน้ ที่
4.1.1.2 การเลอื กพน้ื ท่ี การเพมิ่ ลด และรวมขอบเขตพน้ื ท่ี คือ การกำหนดค่าใน
ออปชันบารก์ ่อนการสรา้ งขอบเขตพื้นที่เพ่อื สร้างขอบเขตพ้ืนทีใ่ นลักษณะรูปแบบต่างๆ ดังน้ี
New การเลือกขอบเขตพื้นท่ใี หม่
Add to ขอบเขตพน้ื ท่กี ารรวมพื้นท่ซี ้อนกนั หลายชนิ้ ใหเ้ ปน็ ชิน้ เดยี วกัน
Subtract from ขอบเขตพืน้ ทต่ี ัดส่วนท่ซี อ้ นทับกันออก
Intersect with ขอบเขตพ้ืนทีต่ ัดรูปทรงและเกบ็ เฉพาะสว่ นทซี่ อ้ นทับกันไว้
การเลือกขอบเขตพื้นที่ในลักษณะต่างๆ นน้ั ขน้ึ อยู่กบั ความต้องการของผ้ใู ช้กำหนดค่า เพอ่ื ให้
ได้ภาพลกั ษณ์ใหม่ๆ เกิดข้ึนมา โดยการกำหนดคา่ ออปชนั การเลือกขอบเขตพ้ืน ตัวอยา่ ง
4.1.1.3 การทำภาพขอบฟุ้งดวั ยคำส่ัง Feather คอื การทำภาพใหเ้ กดิ ความฟ้งุ
เพ่อื เพิม่ ความนมุ่ นวลต้งั แต่ 1 ขน้ึ ไปท่ชี ่อง Feather ซง่ึ ถา้ ตวั เลขมากเกิดความฟงุ้ เบลอมาก โดยตอ้ ง
ใสค่ ่าตวั เลขความฟุง้ ก่อนแลว้ เลือกขอบเขตพน้ื ท่ี คือ คลกิ เลือกเครอ่ื งมือ และกำหนดค่า
การเลอื กขอบเขตพืน้ ท่มี รี ปู แบบการเลือก 3 รปู แบบ ดงั นี้
Normal การเลอื กพ้ืนทีแ่ บบท่วั ไป
Constrained Aspect Ration กำหนดอตั ราความกวา้ งและความสูง
Fixed Size การกำหนดขนาดการเลอื กไวแ้ น่นอน
หรือขั้นตอนการปฏบิ ตั กิ ารสร้างภาพขอบฟงุ้ จากเมนู ข้ันตอนดังนี้
1. คลิกเลือกขอบเขตพืน้ ที่ของภาพกอ่ น
2. คลิกเมนู Select → Modify → Feather→กำหนดค่าความฟุ้ง 20
pixels
84
3. คลกิ เมนู Select → Inverse
4. ลบเสน้ ขอบเขตพ้นื ทท่ี เ่ี ลือก โดยกดปมุ่ Ctrl + X หรือ คลิกเมนูคำส่งั
Edit → Cut
4.1.2 การสร้างขอบเขตพ้นื ที่ดว้ ยกลมุ่ เครอื่ งมือ Lasso Tool คอื กลุม่ เครอ่ื งมือท่ีทำงาน
แตกตา่ งกนั ข้ึนอย่กู ับลกั ษณะของภาพท่ตี ้องการแก้ไขรูปแบบการสร้างขอบเขตพ้ืนทเ่ี ลือกภาพน้นั โดย
การกำหนดค่าออปชนั บาร์เหมือนกบั กลุ่มเครอ่ื งมือพน้ื ฐาน วิธีการเรยี กใช้เครอ่ื งมือดงั กล่าว
4.1.2.1 การใชเ้ ครอ่ื งมอื Lasso Tool คือ การสรา้ งขอบเขตพื้นที่
โดยใช้เครื่องมือ Lasso Tool เพื่อเลือกขอบเขตพน้ื ที่ภาพแบบอสิ ระ คลิกทเ่ี คร่ืองมอื คลกิ
เมาส์ค้างไว้แลว้ ลากไปตำแหน่งตา่ งๆ ที่ต้องการเมื่อถึงจดุ สิน้ สุดปลอ่ ยเมาส์
4.1.2.2 การใชเ้ ครื่องมอื Polygonal Lasso Tool คือ การเลอื กขอบเขตพนื้ ที่
และหยดุ การเลอื กภาพไดเ้ ป็นจุดๆ โดยคลิกเมาส์ซ้าย ณ จดุ ทตี่ ้องการเปลย่ี นทิศทางการเคลื่อนท่ีแล้ว
ดับเบลิ คลกิ เมาส์ ณ จดุ เรม่ิ ตน้ เพ่ือสิ้นสุดการเลอื ก
4.1.2.3 การใช้เครื่องมอื Magic Wand Tool คือ การสรา้ งขอบเขตพ้นื ท่ี
ยดึ ตามสีทใี่ กล้เคยี งกนั ของภาพ โดยการคลิก ณ จุดสใี ดสหี นง่ึ แล้วลากเมาสไ์ ปตามสนี ั้น เคร่ืองมือยดึ ตาม
สที ใ่ี กลเ้ คียงกบั สีแรกท่ีลากเมาส์ผ่านโดยไม่ต้องคลิกเมาสแ์ ต่ถ้ามีการลากเมาส์ผา่ นตำแหนง่ สีท่ีไม่
ใกลเ้ คยี งกับสีแรก แต่ต้องการส่วนของสีนัน้ ด้วยให้คลิกเมาส์ เพ่อื เปน็ การยอมรบั สีใหม่ แล้วคลกิ ณ จดุ
แรกที่มาบรรจบกันอกี ครั้งเพื่อสน้ิ สุดการเลือก
4.1.3 การสลับด้านขอบเขตพ้นื ท่ี คือ การสรา้ งขอบเขตพื้นที่ท่เี ลือกแลว้ สลบั ด้านขอบเขต
พน้ื ทเี่ ป็นภายนอกขอบเขตพ้นื ท่ี สำหรบั ภาพบางประเภทที่จำเป็นตอ้ งสร้างขอบเขตพืน้ ทใ่ี นส่วนท่ไี ม่
ต้องการออกหรือเพอื่ ตดั ภาพภายนอกออก เชน่ การเลือกภาพโดยการสร้างขอบเขตพื้นทเ่ี ป็นวงกลม
แลว้ สลับด้านขอบเขตพ้ืนทเี่ พื่อลบภาพภายนอกขอบเขตพน้ื ทอี่ อก ขั้นตอนดังน้ี
1. เลอื กขอบเขตพนื้ ที่
2. กดปมุ่ Shift + Ctrl + I หรือคลิกเมนู Select → Inverse
3. ถา้ ต้องการลบกดป่มุ Ctrl + X หรอื คลกิ เมนู Edit → Cut
4.1.4 การสรา้ งขอบเขตพน้ื ท่ีด้วยคำส่ัง Color Range คอื การสร้างขอบเขตพ้นื ที่ท่มี ีค่าสีเหมือนกนั
หรือใกลเ้ คียงกนั และสามารถเลอื กซ้ำๆ ได้ เพอ่ื เก็บรายละเอียดของภาพท่ีเลอื กขน้ั ตอนดังน้ี
1. คลกิ เลอื กเมนู Select → Color Range
2. จะปรากฏหน้าตา่ ง Color Range ซงึ่ มีส่วนประกอบ
85
3. คลกิ เลอื กตำแหน่งภาพท่ีต้องการแล้วสังเกตจดุ สีบรเิ วณดงั กล่าวจะเปลีย่ นเป็นสีเทา
4. แลว้ คลิกปุ่ม OK ปรากฏภาพทเ่ี ลือกมีขอบเขตพื้นท่รี อบๆ พ้นื ที่ทเี่ ลอื ก
4.1.5 ปรบั แตง่ ลักษณะของขอบเขตพื้นที่ ดว้ ยคำสั่ง Modify คือ การปรับแต่งขอบเขตพ้ืนท่ี และ
สามารถปรบั แต่งรูปแบบการเลอื ก โดยการเรียกใช้คำสง่ั กลุม่ เมนคู ำสง่ั Modify เรียกใชจ้ ากเมนูคำส่งั
Selection → Modify → แล้วเลือกรปู แบบปรับแตง่
4.1.5.1 Border คอื การเพม่ิ ความหนาใหข้ อบเขตพ้นื ท่ี โดยกำหนดค่ากอ่ นแลว้
ปรากฏขอบเขตพน้ื ท่ีเปน็ เสน้ คู่
4.1.5.2 Smooth คอื การสร้างเส้นขอบเขตพ้นื ท่ใี หด้ นู มุ่ นวลหรือมคี วาม
โคง้ มน
4.1.5.3 Contract คอื การลดขนาดขอบเขตพนื้ ที่ โดยลดขอบเขตพ้นื ที่
ทกุ ดา้ นเท่าๆ กนั
4.2 การตัดภาพ
การตัดภาพ คือ การประยุกตใ์ ชเ้ ครอ่ื งมอื การสร้างขอบเขตพื้นท่รี ว่ มกับคำส่งั ตดั ภาพเพอ่ื จะคลั
ลอกภาพไปยังไฟล์อน่ื ๆ หรือย้ายตำแหน่งภาพไปยังสว่ นตา่ งๆ ในไฟล์เดมิ ข้ันตอนดงั นี้
1. เปิดไฟล์ภาพที่ต้องการ
2. คลิกเคร่ืองมอื แล้วสรา้ งขอบเขตพน้ื ท่ี และคลกิ เมนู Edit → Cut หรือคลกิ
เครื่องมือ (Move Tool) แลว้ ลากไปยังตำแหนง่ ทตี่ อ้ งการวาง
หรอื การเคลื่อนยา้ ยภาพไปยังไฟลภ์ าพอื่นๆ ขนั้ ตอนดังน้ี
1. เปิดไฟล์ภาพท่ตี อ้ งการ
2. คลิกเครือ่ งมอื แล้วสร้างขอบเขตพ้นื ที่
3. คลิกเครื่องมอื (Move Tool) แลว้ ลากไปยังไฟล์ภาพใหมท่ ตี่ ้องการวาง
4. โปรแกรมเปิดไฟลภ์ าพอ่นื ขึน้ มาเพ่ือให้วางภาพในตำแหน่งที่ต้องการวาง
4.3 การคัดลอกภาพ
การคดั ลอกภาพ คอื การสรา้ งสำเนาของภาพขนึ้ มาหลายๆ ภาพ โดยภาพท่ีทำสำเนาอาจจะ
วางไวใ้ นไฟล์เดียวกันหรือจะสร้างเป็นไฟลใ์ หม่ ขน้ั ตอนดงั น้ี
4.3.1 การคัดลอกภาพไว้ในไฟลเ์ ดียวกนั
1. เปดิ ไฟลภ์ าพที่ต้องการ
2. คลิกเครือ่ งมือ หรอื จะสรา้ งขอบเขตพน้ื ท่ีภาพในรปู แบบเครื่องมอื อน่ื ๆ ตาม
ต้องการ โดยกดปุม่ Alt ทีแ่ ปน้ พิมพค์ ้างไว้ แล้วคลิกเครอื่ งมอื ลากเมาสไ์ ปยังตำแหน่งที่
ต้องการแลว้ ปล่อยเมาสจ์ ะไดส้ ำเนาภาพ
4.3.2 การคัดลอกภาพไปยงั ไฟล์ใหม่
1. เปิดไฟล์ภาพทตี่ อ้ งการ
2. คลกิ เคร่อื งมือ แลว้ กำหนดค่า Feather เปน็ 5 pixels แลว้ เลอื กขอบเขต
พ้นื ทีต่ ามต้องการ แล้วคลิกทเ่ี มนู Edit → Copy เพ่อื คดั ลอก
86
3. คลกิ สรา้ งไฟลภ์ าพขนึ้ ใหม่ โดยคลกิ เมนู File → New จะปรากฏหนา้ ต่างการ
กำหนดขนาดไฟล์ภาพใหม่ โดยขนาดภาพท่ีปรากฏนนั้ มขี นาดเทา่ กับภาพท่ีคดั ลอกไวก้ ่อนหนา้ นั้นดงั
ภาพ
4. คลิกป่มุ OK แลว้ คลกิ เมนู Edit → Paste เพอ่ื วางภาพท่ีคดั ลอก ดงั ภาพ
4.4 การปรับรปู ทรงภาพดว้ ยคำสั่ง Transform
การปรบั รูปทรงภาพในรูปแบบลักษณะตา่ งๆ เช่น เลือกจากเมนู คลกิ เมนู Edit
→Transform ข้ันตอนดงั น้ี
1. เปดิ ไฟล์ภาพ
2. คลิกเมนู Select → All หรือกดปุ่ม Ctrl + A เพอ่ื สรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ภี าพทัง้ หมด
แล้วคลกิ ที่เมนู Edit → Transform
Again เริม่ ทำใหม่ก่อนหน้าน้ี 1 ครงั้
Scale การปรบั รูปทรงภาพแบบแนวตงั้ แนวนอนหรอื แนวทแยง
Rotate การหมนุ ภาพ
Skew การปรบั รปู ทรงภาพในลักษณะบดิ เอน
Distort การปรบั รูปทรงภาพในลักษณะบดิ เบอื น
Perspective การปรบั รปู ทรงในลกั ษณะแบบมมี ิติคงรปู เหมือนจริง
Rotate 180° การหมนุ แบบ 180 องศา
Rotate 90° CW การหมุน 90 องศาตามเขม็ นาฬกิ า
Rotate 90° CCW การหมุน 90 องศาทวนเขม็ นาฬกิ า
Rotate 180° CCW การหมุน 180 องศาทวนเข็มนาฬิกา
Flip Horizontal การกลบั ด้านภาพจากซา้ ยไปขวาหรือขวาไปซ้าย
Flip Vertical การกลับดา้ นภาพจากบนลงลา่ งหรอื จากล่างข้นึ บน
ตวั อย่าง การปรบั รปู ทรงภาพในเมนตู ่างๆ ดงั นี้
Scale คือ การปรับรปู ทรงภาพแบบแนวต้งั แนวนอนหรอื แนวทแยง
การปรบั ภาพแบบ Rotate คือ การปรบั รูปทรงภาพแบบแนวตงั้ แนวนอนหรือแนว
Skew คอื การปรบั รูปทรงภาพในลักษณะบิดเอน
87
การปรบั ภาพแบบ Distort คอื การปรับรปู ทรงภาพในลกั ษณะบดิ เบือน
การปรับภาพแบบ Perspective คอื การปรับรปู ทรงลกั ษณะแบบมมี ิติคงรูปเหมือนจริง
โดยคลิกเมาส์ปรบั ดา้ นใดด้านหนงึ่ แต่อีกด้านหนึ่งของภาพจะมกี ารปรบั ภาพในลกั ษณะ
การปรบั ภาพแบบ Rotate 180° คอื การหมนุ ภาพแบบ 180 องศา
การปรบั ภาพแบบ Rotate 90° CW คอื การหมุน 90 องศาตามเขม็ นาฬิกา
การปรบั ภาพแบบ Rotate 90° CCW คือ การหมนุ แบบ 90 องศา โดยหมนุ ภาพทวนเข็ม
การปรับภาพแบบ Flip Horizontal คือ การกลบั ดา้ นภาพจากซา้ ยไปขวาหรือจากขวาไปซา้ ย
การปรบั ภาพแบบ Flip Vertical คือ การกลบั ด้านภาพจากบนลงล่างหรือล่างขึน้ บน
4.5 สร้างขอบเขตพื้นท่ีด้วยคำส่งั Layer Mask
4.5.1 Layer Mask คือ การสรา้ งขอบเขตพ้ืนที่ ท่สี ามารถปรับแตง่ ขอบเขตพื้นที่ใน Layer
Mask มลี กั ษณะเหมอื นกับการเจาะหรอื ตัด Layer ให้เป็นรู โดยการเจาะหรือตดั ทำได้ดว้ ยการระบายสี
ดำใน Layer Mask เพื่อซอ่ นพ้นื ที่บริเวณนนั้ และใชส้ ีขาวระบายลงไป เพอ่ื กำหนดให้พ้นื ทีบ่ รเิ วณนนั้
สามารถแสดงได้ตามปกติ ขน้ั ตอนดงั น้ี
1. นำภาพวาง 2 ภาพบนพาเลต Layer 1 และ Layer 2
2. คลิกเลือก Layer 2 แลว้ คลิกปุ่ม Add layer mask
3. คลกิ เลอื กเครอ่ื งมือ Brush Tool กำหนดคา่ Option Bar ใหเ้ หมาะสม
4. กำหนดสี Foreground เปน็ สดี ำ ระบายสีทบั สว่ นท่ีตอ้ งการซอ่ นบนภาพ Layer Mask
(Layer 2) สังเกตว่าสว่ นทรี่ ะบายด้วยสีดำจะหายไป ถ้าตอ้ งการใหก้ ลับคนื มาใหร้ ะบายดว้ ยสขี าว
4.5.2 ซอ่ นขอบเขตภาพดว้ ยคำสงั่ Clipping Mask คือ การซอ่ นพน้ื ที่บางสว่ น
Layer ภาพทเ่ี ลือกให้มีขอบเขตเทา่ กับภาพใน Layer ทอ่ี ยดู่ า้ นลา่ งจากการสรา้ ง Clipping Mask
โดยไมเ่ ป็นตอ้ งตดั ภาพทิง้ จริงๆ ขนั้ ตอนดังน้ี
1. สรา้ งกรอบภาพทตี่ อ้ งการไว้ด้านลา่ งของภาพ
2.สรา้ ง Layerใหม่และนำภาพมาวางบนสุด
3.กดปุ่ม Alt ค้างไว้แล้วคลกิ เมาสร์ ะหวา่ ง Layer (Layer1 และ Shape 1) เพ่อื สรา้ ง
Clipping Mask (เมาส์คลิกระหวา่ งเส้นแบง่ Layer สังเกตเมาสจ์ ะเปลี่ยนแปลงเปน็ สัญลกั ษณ์
แล้วคลิกเมาส์ )
4. เม่ือคลิกเมาส์ภาพของ Layer บนจะเทา่ กบั ภาพใน Layer ลา่ งทนั ที
1
4.6 แกไ้ ขชว่ งสไี ม่ต่อเนอื่ งของภาพ
กรณที ่ีมีการนำภาพถา่ ยตา่ งๆ มาเรยี งต่อกันหลายๆ ภาพรวมกนั เปน็ ภาพเดยี วกัน โดยใชง้ าน
คำส่งั Photo merge ภาพท่นี ำมาวางมคี วามสวา่ ง และมสี ีที่แตกตา่ งกันมากจนการไลโ่ ทนสีไม่สมบูรณ์
ผใู้ ช้สามารถเปดิ คำส่ัง Auto Blend Layer เพือ่ ไล่โทนสีระหว่างภาพทั้งหมดให้มคี วามกลมกลืนกัน
ขน้ั ตอนดังน้ี
1. ลกั ษณะของภาพแบบ Panorama ทีเ่ รยี งต่อกันเรียบร้อยแลว้ แตว่ ่าสีของแต่ละภาพมี
ความ
88
แตกตา่ งกนั มาก
2. กดปุ่ม Shift แล้วคลกิ เลอื ก Layer ภาพทั้งหมด
3. คลิกเมนู Edit → Auto Blend Layer ออปชัน Panorama จะถูกเลอื กไวใ้ ห้
โดยอัตโนมัติ
4. คลกิ Seamless Tones and Colors แล้วทค่ี ลิกปมุ่ OK
2 5.ลกั ษณะของผลลพั ธท์ ีก่ ารไล่โทนสที ำไดส้ มบูรณ์ขึ้น 3
แบบฝึกหัด/เฉลย
ตอนที่ 1 คำชแี้ จง จงตอบคาถามต่อไปนใี้ หไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์
1. เคร่อื งมอื สรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ีกลมุ่ Marquee Too จำนวน 3 เครอ่ื งมือ มีอะไรบ้าง
ตอบ 1. เครือ่ งมอื รแี ทงควิ ล่า มาคว่ี ทลู (Rectangular Marquee Tool)
2. เครื่องมอื เอลเลปตคิ อน มาคว่ี ทูล (Elliptical Marquee Tool)
3. ซิงเกิล้ โรว์ มาคว่ี ทูล (Single Row Marquee Tool)
4. ซงิ เกล้ิ คอลมั น์ มาควี่ ทูล (Single Column Marquee Tool)
2. การสลบั ดา้ นขอบเขตพ้นื ท่ีมขี นั้ ตอนอยา่ งไร
ตอบ การสลับด้านขอบเขตพ้ืนทม่ี ขี ้ันตอนการทำดังน้ี
1. เลอื กขอบเขตพน้ื ท่ี
2. กดปุ่ม Shift + Ctrl + I หรือคลกิ เมนู Select → Inverse
3. ถา้ ตอ้ งการลบให้กดปุ่ม Ctrl + X หรือคลกิ เมนู Edit → Cut
3. การตดั ภาพมขี น้ั ตอนอย่างไร
ตอบ การประยกุ ต์ใชเ้ ครื่องมือการสรา้ งขอบเขตพ้นื รว่ มกับคำส่ังคัด (Cut) เพื่อนำภาพท่ีตดั ออกไป
จดั การในรูปแบบอน่ื ๆ ซงึ่ มขี น้ั ตอนดังน้ี
1. เปิดไฟลร์ ปู ภาพทตี่ ้องการ
2. คลกิ ที่เคร่ืองมือ แล้วสร้างขอบเขตพนื้ ท่ี แล้วคลกิ เมนู Edit →Cut หรอื
3. คลกิ เครอื่ งมอื (Move Tool) แลว้ ลากไปยงั ตำแหน่งที่ตอ้ งการวาง
4. รูปแบบลกั ษณะตา่ ง ๆ ที่กำหนดให้มีการปรับรูปทรงของภาพอย่างไร
4.1 Again เร่มิ ทำใหม่ก่อนหนา้ น้ี 1 ครง้ั
4.2 Scaleการปรับรปู ทรงภาพแบบแนวตัง้ แนวนอนหรอื แนวทแยง
4.3 Rotateการหมุนภาพ
4.4 Skewการปรับรปู ทรงภาพในลักษณะบิดเอน
4.5Distort การปรับรปู ทรงภาพในลักษณะบิดเบอื
4.6 Perspectiveการปรบั รูปทรงในลักษณะแบบมมี ติ ิคงรปู เหมือนจรงิ
4.7 Rotate 180oการหมุนแบบ 180 องศา
4.8 Rotate 90o CWการหมนุ แบบ 180 องศา
89
4.9 Flip Horizontal การกลับดา้ นภาพจากซ้ายไปขวาหรอื จากขวาไปซ้าย
4.10 Flip Vertical การกลับดา้ นภาพจากบนลงลา่ งหรอื จากล่างข้นึ บน
ตอนท่ี 2 จงเลือกคําตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว
คำสงั่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท () หนา้ ข้อท่ถี ูกต้องมากทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว
1. การสรา้ งขอบเขตพืน้ ที่ (Selection) ภาพหมายถึงขอ้ ใด
ก. การปรบั ขนาดของภาพถา่ ย ข. การระบุตำแหนง่ ภาพ
ค. การเลือกพน้ื ท่ีที่ตอ้ งการจากภาพ ง. การคัดลอกขอ้ มลู ท่ตี ้องการ
2. การสรา้ งขอบเขตพ้ืนทภี่ าพด้วยเครอื่ งมอื พืน้ ฐานคือขอ้ ใด
ก. Single Tool ข. Rectangular Marquee Tool
ค. Rectan Tool ง. Elliptl Marquee Tool
3. ขอ้ ใดคือการสลบั ด้านขอบเขตพื้นทีภ่ าพเพ่ือตัดภาพหรือเพ่อื เลือกภาพ
ก. Cut ข. Ctrl + X.
ค. Selection ง. Inverse
4. การตดั ภาพสว่ นท่ีซ้อนทับกนั ออกคอื ข้อใด
ก. Add to Selection ข. Subtract from Selection
ค. Intersect With Selection ง. New Selection
5. การตดั รูปภาพเพอ่ื คัดลอกภาพใช้คำสั่งข้อใด
ก. คลกิ เมนู Edit → เลือก Cut ข. คลกิ เมนู Edit → เลอื ก Past
ค. คลกิ เมนู Edit → เลอื ก Move ง. คลกิ เมนู Edit → เลอื ก Vat
ใช้ตัวเลอื กต่อไปน้ตี อบคำถามข้อ 6–7
ก. Skew ข. Distort
ค. Scale ง. Rotate
6. ขอ้ ใดคอื คำสง่ั การปรับรปู ทรงภาพแบบแนวตง้ั แนวนอนหรือแนวทแยง
ข. Distort
7. ข้อใดคือคำสั่งการหมนุ ภาพ
ก. Skew
8. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเก่ียวกับคำสงั่ Layer Mask
ก. สร้างขอบเขตพืน้ ที่ มีลักษณะเหมอื นกับการเจาะทะลุ การระบายสีขาวเพือ่ ซ่อนพื้นทีบ่ รเิ วณนั้น
และระบายสดี ำเพือ่ แสดงผลตามปกติ
ข. สรา้ งขอบเขตพืน้ ที่ มีลักษณะเหมือนกับการเจาะทะลุ การระบายสีดำเพื่อซอ่ นพื้นทีบ่ รเิ วณนน้ั
และระบายสีขาวเพ่ือแสดงผลตามปกติ
ค. ปรับแต่งขอบเขตพนื้ ทใ่ี นการลบภาพ และการซอ่ นภาพ การปดิ บงั ภาพ
ง. ปรับแตง่ ขอบเขตพืน้ ท่ีในการคดั ลอกภาพ และการซ่อนภาพ การปิดบงั ภาพ
9. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเก่ยี วกบั คำสง่ั Clipping Mask
90
ก. Clipping Mask การซ่อนพื้นที่บางส่วนของ Layer ที่เลือกให้มีขอบเขตเท่ากับภาพใน Layer ที่
อยู่ ดา้ นบน
ข. Clipping Mask การซ่อนพื้นที่บางส่วนของ Layer ที่เลือกให้มีขอบเขตเท่ากับภาพใน Layer ที่
อยู่ ดา้ นล่าง
ค. Clipping Mask การแสดงพนื้ ท่บี างสว่ นของ Layer ทเ่ี ลอื กใหม้ ขี อบเขตเท่ากบั ภาพ
ง. Clipping Mask การแสดงพื้นที่บางส่วนของ Layer ที่เลือกให้มีขอบเขตเท่ากับภาพใน Layer
ทอ่ี ยดู่ า้ นบน
10. การแกไ้ ขช่วงสีไมต่ อ่ เนอื่ งของภาพใชค้ ำสั่งขอ้ ใด
ก. Auto–Blend Layer ข. Panorame& Fill
ค. Seamless Tones ง. Opacity Fill
เอกสารอ้างอิง
สทิ ธชิ ยั ประสานวงศ์. (2556). แบบเรยี นวิชาโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สร้าง
และตกแต่งงานคอมพวิ เตอร์กราฟิกด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรุงเทพฯ : ซอฟท์เพรส.
ภาคผนวก (ถ้ามี)
91
ใบงานท่ี 4 หน่วยที่ 4
รหสั วชิ า 20204-2007 ชอื่ วิชา โปรแกรมกราฟิก ภาคเรยี นท่ี 1
ชือ่ หนว่ ย การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการ เวลารวม 8 ชั่วโมง
จดั การไฟล์
ชือ่ งาน การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์ จำนวน 4 ช่วั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงค์ท่ัวไป
1.เพื่อใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับการสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการ
จดั การไฟลไ์ ด้
2.เพอ่ื ให้มคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับขั้นตอนการตดั ภาพ ได้
3.เพอื่ ใหม้ ีความร้คู วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การปรับรปู ทรงภาพได้
4.เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั การแก้ไขช่วงสีไม่ต่อเน่ืองของภาพได้
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1.สรา้ งขอบเขตพน้ื ท่ี (Selection)ได้
2.ตดั ภาพได้
3. คัดลอกภาพได้
4.ปรับรูปทรงภาพด้วยคำส่ัง Transform ได้
5.สร้างขอบเขตพนื้ ที่ด้วย Layer Mask ได้
6.แก้ไขช่วงสไี มต่ อ่ เน่อื งของภาพได้
7.มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ งานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
สมรรถนะรายหน่วย
สรา้ งขอบเขตพนื้ ท่แี ละการจดั การไฟลด์ ว้ ยโปรแกรมกราฟิก
เครอื่ งมือ วัสดุ – อุปกรณ์
1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื
ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน
1. ใหน้ ักศกึ ษาแบ่งกล่มุ ตามความเหมาะสม เพื่อศึกษาและอภปิ ราย
1.1 อธิบายการสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์
1.2 เขยี นรูปพร้อมอธบิ ายความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก
2. เขยี นอภิปรายและวิเคราะห์ใส่กระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครผู ู้สอนเพือ่ ประเมนิ ผล
ภาพประกอบ
92
ข้อควรระวัง
ผ้เู รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนใหถ้ ี่ถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่ือปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การส่งงาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถ้าม)ี
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาให้สอดคล้องกับภาพให้ถูกตอ้ ง
การประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑ์การประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สังเกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้
ในการแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดหลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ
เอกสารอ้างอิง
สทิ ธชิ ัย ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวิชาโปรแกรมกราฟกิ Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแตง่ งานคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟกิ . กรงุ เทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
93
ใบกจิ กรรมที่ 4 หน่วยที่ 4
รหัสวชิ า 20204-2007 ชื่อวิชา โปรแกรมกราฟิก ภาคเรียนที่ 1
ชอ่ื หน่วย การสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการ เวลารวม 8 ชั่วโมง
จดั การไฟล์
ช่อื งาน การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์ จำนวน 4 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. เพ่อื ใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการ
จดั การไฟลไ์ ด้
2. เพือ่ ให้มีความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกับข้ันตอนการตัดภาพ ได้
3. เพือ่ ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การปรบั รปู ทรงภาพได้
4. เพ่ือให้มีความร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั การแกไ้ ขชว่ งสีไม่ตอ่ เนื่องของภาพได้
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1.สร้างขอบเขตพ้ืนท่ี (Selection)ได้
2. ตัดภาพได้
3.คัดลอกภาพได้
4.ปรบั รูปทรงภาพดว้ ยคำสง่ั Transform ได้
5.สรา้ งขอบเขตพ้ืนทด่ี ้วย Layer Mask ได้
6.แก้ไขช่วงสไี ม่ต่อเนอ่ื งของภาพได้
7.มคี วามรบั ผดิ ชอบต่องานที่ได้รบั มอบหมาย
สมรรถนะรายหน่วย
สรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ีและการจดั การไฟลด์ ว้ ยโปรแกรมกราฟิก
เครอ่ื งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ
ลำดับกิจกรรม
1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการงา่ ยเพื่อใหห้ าคำตอบ
ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสัยซักถามครใู นการเรียนทุกคร้ังทเี่ กิดความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ
2. ผ้มู กี ารทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่อื เสรมิ สร้างความเข้าใจอยา่ งแท้จริง
3. ผ้เู รียนหม่นั ทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแก้ไขข้อทผ่ี ิดให้ถูกตอ้ งเสมอ
94
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เกิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมือ่ ไดร้ ับมอบหมายงานมา
การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผเู้ รียนมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถกู ต้อง ทนั เวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นไดถ้ กู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งอิง
สิทธิชยั ประสานวงศ.์ (2556). แบบเรยี นวชิ าโปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6 สรา้ ง
และตกแตง่ งานคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก. กรงุ เทพฯ : ซอฟทเ์ พรส.
95
ใบปฏบิ ัติงานที่ 4 หนว่ ยที่ 4
รหัสวิชา 20204-2007 ชอ่ื วิชา โปรแกรมกราฟิก ภาคเรียนท่ี 1
ช่อื หน่วย การสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการ เวลารวม 8 ชั่วโมง
จดั การไฟล์
ชอื่ งาน การสรา้ งขอบเขตพนื้ ที่ (Selection) และการจดั การไฟล์ จำนวน 4 ช่วั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1.เพื่อใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับการสรา้ งขอบเขตพนื้ ท่ี (Selection) และการ
จดั การไฟลไ์ ด้
2.เพอื่ ให้มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั ข้นั ตอนการตดั ภาพ ได้
3.เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับการปรับรปู ทรงภาพได้
4.เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การแก้ไขชว่ งสีไมต่ อ่ เนอ่ื งของภาพได้
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1.สร้างขอบเขตพน้ื ที่ (Selection)ได้
2. ตัดภาพได้
5.คดั ลอกภาพได้
6.ปรบั รปู ทรงภาพดว้ ยคำสั่ง Transform ได้
7.สร้างขอบเขตพื้นทดี่ ว้ ย Layer Mask ได้
8.แกไ้ ขชว่ งสไี มต่ อ่ เน่อื งของภาพได้
9.มีความรับผดิ ชอบตอ่ งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
สมรรถนะรายหน่วย
สร้างขอบเขตพืน้ ทแี่ ละการจดั การไฟลด์ ว้ ยโปรแกรมกราฟกิ
เครื่องมือ วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครื่องคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ
ลำดบั ขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน
1. ผู้เรียนค้นหาข้อมลู จากในอนิ เตอรเ์ นต็ ตามเรอ่ื งที่ไดร้ ับมอบหมายมาจาครผู ้สู อน
2. เม่ือผเู้ รยี นไดร้ บั ขอ้ มูลเรียบรอ้ ยแลว้ ให้ผูเ้ รยี น นำขอ้ มูลน้ัน มาเรยี บเรียงให้เปน็ ระเบียบ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจได้ง่าย โดยจัดทำในรปู แบบเลม่ รายงาน
ภาพประกอบ