The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การศึกษาการจัดการความขัดแย้งในชุมชนผ่านพิธีกรรมการเหยาของกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by balllysa, 2022-06-23 23:08:55

การศึกษาการจัดการความขัดแย้งในชุมชนผ่านพิธีกรรมการเหยาของกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย

การศึกษาการจัดการความขัดแย้งในชุมชนผ่านพิธีกรรมการเหยาของกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย

๑๐๑

3.2 ผลลัพธ์ของการจัดการความขัดแย้งและแนวทางสนับสนุนให้ชุมชนเกิดกระบวนการสร้าง
ความทรงจารว่ มเกยี่ วกับพิธเี หยา

3.2.1 ความสามารถในจัดการปัญหาภายในครอบครัว พบว่าสามารถแบ่งประเภทของ
ปญั หาได้ 4 กลมุ่ ปัญหาใหญ่ๆ คือ ปญั หาเชงิ สขุ ภาพ ปญั หาเชงิ สงั คม ปญั หาเชิงเศรษฐกิจ และปญั หาเชงิ การ
ขดั แยง้ ภายในครอบครวั

ปญั หาเชงิ สุขภาพพบว่า คนป่วยทัง้ 40 คน มีปญั หาด้านสุขภาพมาก่อน กล่าวคือ คนป่วยเหล่าน้ีจะ
เคยผ่านการรบั การรกั ษาจากแพทยแ์ ผนปจั จุบนั มากอ่ น และแพทย์แผนปจั จบุ นั วนิ จิ ฉัยอาการเจบ็ ป่วยของโรค
ไปตามลกั ษณะอาการเจบ็ ป่วยของคนป่วย และทาการรักษาคนป่วยทั้ง 40 คนตามลกั ษณะอาการของแตล่ ะ
โรค ทั้งในลักษณะของการใหค้ าปรึกษา ฉีดยา หรือการให้ยามารับประทานทบ่ี ้านของคนป่วย แต่ปรากฏว่า
อาการเจ็บป่วยของคนป่วยก็ไม่หายขาด คนป่วยจึงตัดสนิ ใจเปล่ยี นมารบั การรกั ษาด้วยพิธกี รรมการเหยาจาก
กลุ่มหมอเหยา ผลการรักษาพบว่า ในจานวน 40 รายที่ผ่านการรกั ษาด้วยพธิ ีกรรมการเหยา มคี นป่วยท่ีหาย
จากอาการเจ็บปว่ ย จานวน 37 คน และไม่หายขาดจากอาการเจบ็ ป่วยจานวน 3 คน

ปัญหาเชิงสังคมในพิธีกรรมเหยา พบว่า มีคนป่วยท่ีมีสาเหตุของการเจ็บป่วยมาจากปัญหาระดับ
ครอบครัวที่เป็นปัญหาเชิงสังคม ผลการรักษาพบว่า ในจานวนคนป่วย จานวน 40 รายที่จัดพิธีกรรมตามท่ี
หมอเหยาแนะนา ปรากกว่าสามารถแกไ้ ขปญั หาเชิงสงั คมผา่ นพิธกี รรมไดส้ าเรจ็ จานวนท้งั 40 ราย

ปัญหาเชงิ เศรษฐกิจในพิธีกรรมเหยา พบว่า มีคนป่วยท่ีมสี าเหตุของการเจ็บป่วยมาจากปัญหาระดับ
ครอบครัวท่ีเป็นปัญหาเชิงเศรษฐกิจ และในพิธีกรรมหมอเหยาแนะนาให้คนป่วยและญาติในพิธีกรรมจัด
พธิ ีกรรมต่างๆ ข้ึนมาโดยหวงั วา่ อาการเจบ็ ปว่ ยของคนป่วยจะหายขาด ผลการรักษาพบวา่ ในจานวนคนปว่ ย
จานวน 22 รายที่จัดพิธีกรรมตามที่ครูบาหมอเหยาแนะนา ปรากกว่าสามารถแก้ไขปัญหาเชิงเศรษฐกิจผ่าน
พิธกี รรมได้สาเร็จจานวน 21 ราย และไม่สามารถแก้ไขปญั หาเชงิ เศรษฐกิจได้สาเรจ็ จานวน 1 ราย

ปญั หาการเชงิ การขัดแยง้ ของสมาชิกภายในครอบครวั ในพธิ กี รรมการเหยา พบวา่ มีคนปว่ ยทีม่ ีสาเหตุ
ของการเจบ็ ป่วยมาจากปัญหาระดับครอบครัวที่เป็นปญั หาเชงิ การขัดแยง้ ของสมาชิกภายในครอบครวั พบว่า
ในจานวนคนป่วย จานวน 29 รายทจ่ี ดั พธิ ีกรรมตามทีห่ มอเหยาแนะนา ปรากกว่าสามารถแก้ไขปญั หาเชิงการ
ขดั แยง้ ของสมาชิกภายในครอบครัวผ่านพิธีกรรมได้สาเร็จจานวน 28 ราย และเปน็ ที่น่าสังเกตว่าปัญหาเชิง
เศรษฐกจิ ท่ีพบในครอบครัว มกั จะนามาสู่ปญั หาเชิงการขัดแย้งของสมาชิกภายในครอบครวั ในเวลาต่อมาด้วย
จากการสมั ภาษณ์ครอบครัวของคนปว่ ยทเี่ คยผ่านการรักษาด้วยพธิ ีกรรมการเหยาบางครอบครวั

3.2.2 การธารงทุนทางวัฒนธรรมภายในชมุ ชนทอ้ งถิ่น พบว่า รูปแบบการรักษาของหมอ
เหยา จะจดั พิธีกรรมในลกั ษณะตา่ งๆ ได้แก่ จัดพธิ กี รรมเหยาสอ่ งจานวน 19 ครอบครัว จัดพธิ กี รรมเหยาเอา
ขวัญจานวน ๑๘ ครอบครัว จดั พิธีกรรมเหยาปัวจานวน ๑๕ ครอบครัว จัดพิธีกรรมใหห้ ลานสมมาเจา้ โคตร
จานวน ๑ ครอบครวั จดั พธิ ีกรรมให้ลูกสาวสมมาจานวน ๑ ครอบครวั จดั พิธกี รรมสมมาเจา้ โคตรจานวน ๒๖
ครอบครัว จัดพิธีกรรมเหยารับขวัญจานวน ๑ ครอบครัว จัดพิธีกรรมถวายบังสุกุลที่วัดจานวน ๑ ครอบครัว
จัดพิธไี หว้ผนี าจานวน ๑ ครอบครัว จัดพิธีกรรมเหยาคุมผอี อกจานวน ๒ ครอบครวั จดั พธิ ีกรรมขอสมมาผีเจ้า
โคตรฝ่ายสามจี านวน ๒ ครอบครัว ซึ่งการจัดพิธีกรรมทงั้ ในสว่ นที่เป็นรูปแบบการรกั ษาสว่ นพิธกี รรมของหมอ
เหยาและลักษณะการทาบุญในทางพทุ ธศาสนาท่ีไดร้ ับคาแนะนาเพ่ิมเติมจากกลุม่ หมอลาเหยานั้น สะทอ้ นให้
เห็นถึงภาพของการธารงทุนทางวัฒนธรรมภายในชมุ ชนไดอ้ ย่างชดั เจน

3.2.3 การสรา้ งเครือข่ายของประชากรในกลุ่ม พบว่ามีการสรา้ งเครอื ข่ายทางสังคมคมของ
กล่มุ หมอเหยาและกลุม่ คนปว่ ยที่เคยผา่ นการรกั ษาด้วยพิธีกรรมการเหยา จากรายละเอยี ดของเครือข่ายทาง
สังคมของกลมุ่ หมอเหยาในเขตพน้ื ที่จังหวดั นครพนมและมุกดาหาร จากเงือ่ นไขด้านประวตั ิศาสตร์ความทรงจา

๑๐๒

การมีบรรพบุรุษมาจากกลุ่มเดียวกัน พบว่า กลุ่มหมอเหยาทั้งสองพื้นท่ีต่างล้วนมีบรรพบุรุษกลุ่มเดียวกันท่ี
อพยพมาก่อตง้ั ชมุ ชนในเขตพื้นท่ีท้ัง 2 จังหวดั ทาใหเ้ กิดการสร้างเครือข่ายทางสงั คมข้นึ มา

3.2.4 การอนุรักษภ์ มู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น พบวา่ ในพิธกี รรมลาผฟี ้า พบว่า ในพิธีกรรมการเหยา นอกจาก
จะสามารถจัดการปัญหาระดับครอบครัวให้ประสบความสาเร็จผ่านพีกรรมการเหยาได้แล้ว ในพิธีกรรมยัง
สะท้อนภาพของการอนุรักษภ์ มู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ผา่ นพิธีกรรมใน 9 ลักษณะด้วยกนั ไดแ้ ก่ 1. การยกตวั อย่างการ
ขบั ลาประเภทต่างๆ ในพธิ ีกรรม 2. การพูดผญาภาษิตของชาวผู้ไทยผ่านพิธกี รรม 3. การเปา่ แคนและการเลน่
ดนตรีผ้ไู ทยในฐานะเคร่ืองดนตรีทอ้ งถิ่น 4.การนุ่งถือของกลมุ่ หมอเหยาและคนป่วยในพิธีกรรม 5. การจัดพิธี
กรรมการสมมาเจ้าโคตร 6. การเล้ียงผีไร่ผีนาผีบ้านผีเรือน 7. การลงข่วงผีหมอเหยาแบบโบราณ 8. การ
ประกอบอาหารพืน้ เมืองในงานลงขว่ ง 9.วาดฟอ้ นแบบผไู้ ทยโบราณอสี านในงานลงขว่ ง

4. อภิปรายผลการวจิ ัย
งานวจิ ัย “การศกึ ษาการจดั การความขัดแย้งในชมุ ชนผา่ นพธิ ีกรรมการเหยาของกล่มุ ชาตพิ ันธุ์

ผู้ไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย” ในคร้ังน้ีผู้วิจัยจะอภิปรายผลการวิจัยในประเด็นที่สาคัญ
ต่อไปน้ี

พิธีกรรมการเหยาชาวผู้ไทยในพืน้ ท่ีจังหวัดนครพนมและจังหวัดมุกดาหาร เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดมา
จากบรรพบุรุษ ของชาวผู้ไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบันซ่ึงใช้ในการรักษาผู้ป่วยโดยมีความเชื่อว่าผู้ป่วยได้
ประพฤตผิ ิดจารีต ประเพณี หรือจากการกระทาของผีร้ายต่างๆ และบุคคลทจ่ี ะมาคอยรักษาอาการปว่ ยเหลา่ นี้
ได้คือหมอเหยา นน่ั เอง และในพิธเี หยาได้มีการส่ังสอนคุณธรรมจรยิ ธรรมให้กบั ผูป้ ว่ ย โดยผปู้ ระกอบพธิ จี ะรอ้ ง
เปน็ ท่วงทานอง ทั้งเรว็ และชา้ โดยมีหมอแคนเป็นผู้เป่าแคนคลอไปตลอดระยะเวลาการเรยี กขวัญ มีรูปแบบ
เหมือนการรักษา ด้วยตนตรีบาบัด ในสมัยปัจจุบันโดยมีจดุ ประสงค์เพื่อรักษาอาการเจ็บปว่ ยทางจิต เยียวยา
รักษาจิตใจและเรียกขวัญกาลังใจให้กลับคืนมาสู่ตัวของผู้ป่วย เม่ือขวัญกลับมา ผู้ป่วยจะมีจิตใ จเข้มแข็ง
รา่ งกายกจ็ ะกลับมามีเร่ียวแรงดีข้ึน และพร้อมที่จะตอ่ สู้กับโรคภัยไข้เจ็บตอ่ ไป ซ่ึงเป็นกลวธิ ีการใช้ภาษาเพ่ือ
สร้างขวญั และกาลงั ใจให้แก่ผปู้ ่วย สร้างความสัมพันธ์อันดขี องคนในชุมชน และยงั ทาให้คนในชุมชนยึดมั่นใน
ศลี ธรรมไมป่ ระพฤตผิ ิด จารีตประเพณอี นั ดีงาม

ปจั จุบนั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนแปลงเจริญก้าวหน้า การแพทยไ์ ด้รบั การพัฒนา
อย่างมากทาให้ความเช่ือและผู้สืบทอดในพิธีหมอเหยาลดน้อยลง และถูกละเลยในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทาให้
เยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจในพิธีหมอเหยาซ่ึงเสี่ยงต่อการสูญหายหากไม่ได้รับ การส่งเสริมและรักษาอย่าง
เร่งด่วน ถึงแมม้ ีการแพทยแ์ ผนใหม่ที่สามารถวนิ จิ ฉัยโรคได้ถกู ต้อง แต่โรคบางโรคหรืออาการบางอย่างรกั ษาไม่
หาย ผ้ปู ่วยท่ีไม่มีที่พ่ึงจงึ จาเปน็ ต้องพ่งึ พิธีกรรม อย่างน้อยจะทาให้จิตใจผู้ป่วยดีข้ึน จึงจัดเปน็ พิธีกรรมท่ีสรา้ ง
ขวัญและกาลังใจกับผู้ป่วยเป็นหลกั เมื่อผปู้ ่วยอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตหรือผู้ป่วยหายจากโรคและอาการ
เจ็บป่วย กจ็ ะทาพิธีการเหยาตามความเชื่อของชาวผู้ไทยในเขตจงั หวดั นครพนมและเขตจงั หวัดมุกดาหาร

การรักษาผู้เจ็บป่วยด้วยการเรียกขวัญให้กลับคืนมา ซ่ึงผู้ทาพิธีเรียกว่า “หมอเหยา” ทาหน้าที่เป็น

ตวั แทน “สอ่ื สารระหวา่ งผู้ป่วยกับผที ่มี าเขา้ สิงผู้ปว่ ย จนทาให้เกิดอาการผิดปกติเช่น ซึมเศรา้ เหม่อลอย และ

เจ็บปวดตามรา่ งกาย อาการ เหล่านเี้ ชื่อว่าเกิดจากการกระทาของผีซึ่งเปน็ เหตุให้ขวัญหนีออกจากรา่ งกายไป

ดงั นั้น เพื่อขวัญของผู้ป่วยให้กลบั คืนเข้าสรู่ ่างกายหมอเหยาจะใช้บทร้องเพ่ือเรียกขวัญให้กลับมาโดยเริ่มต้น

จากการกล่าวอญั เชิญเทวดา ผีฟ้า พญาแถน และผีบรรพบุรุษให้ลงมาเขา้ ร่างของหมอเหยาแล้วใชผ้ ้ชู ่วยหมอ

เหยาเปน็ ล่ามคอยซกั ถามสาเหตุของความเจ็บป่วย หรืออาการที่ผิดปกติ ในขณะรกั ษาผูเ้ จบ็ ปว่ ยนั้นหมอเหยา

๑๐๓

จะขับลาเพ่ือปลอบประโลมใจผ้ปู ่วย บทร้องเหล่านี้จะมีเนื้อหาที่แสดงถึงความรัก ความห่วงใยที่ มีต่อผูป้ ่วย
มีการสอบถามถึงความตอ้ งการของผที ่ีเข้าสิงและสาเหตขุ องความเจ็บปว่ ย รวมทง้ั ขอขมาลาโทษแทนผู้ป่วยที่
ได้ล่วงเกนิ ผี ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนารวมถึงความอุดมสมบรู ณ์ของขา้ วปลาอาหารในท้องถ่นิ ซึ่ง เป็นท่ีอยู่
ของผู้ปว่ ย และชักชวนขวญั ทหี่ นีไปใหก้ ลบั คืนมาสู่รา่ งของผปู้ ่วย ซ่ึงจะมีขัน้ ตอนการประกอบพธิ ีกรรมและการ
เสี่ยงทายท่สี ะท้อนวิถชี วี ิตวัฒนธรรมประเพณี และมีการส่งั สอนคุณธรรมจริยธรรมใหก้ ับ ผ้ปู ว่ ย โดยผู้ประกอบ
พิธจี ะร้องเป็นท่วงทานองทั้งเร็ว และช้า โดยมีหมอแคนเป็นผู้เป่าแคนคลอไปตลอด ระยะเวลาการเรียกขวัญ
มีรปู แบบเหมอื นการรกั ษาด้วยดนตรีบาบดั ในสมัยปัจจุบนั โดยมจี ุดประสงคเ์ พื่อ รักษาอาการเจ็บป่วยทางจิต
การเหยา คือ การเยียวยารักษาจิตใจและเรียกขวัญกาลังใจให้กลับคืนมาสู่ตัวของ ผู้ป่วย เม่ือขวัญกลับมา
ผปู้ ่วยจะมีจิตใจเข้มแข็ง ร่างกายกจ็ ะกลบั มามีเรย่ี วแรงดีข้ึน และพร้อมท่ีจะต่อสูก้ บั โรคภัยไข้เจ็บต่อไป ดงั นั้น
การเรยี กขวญั เพื่อรักษาโรคของหมอเหยาจงึ จดั เปน็ กลวิธีการใชภ้ าษาเพือ่ สร้าง ขวญั และกาลังใจให้แกผ่ ู้ป่วย

หมอเหยาส่วนใหญ่ในแตล่ ะพน้ื ที่จะมหี มอเหยาไดห้ ลายคน ด้วยการศึกษาสืบ ทอด จากหมอเหยาคน
เก่า จะมีหมอเหยาอาวุโสท่ีสุดเป็นแม่หมอซ่ึงจะเป็นผู้นาในการประกอบพิธีกรรมร่วมกัน และในช่วงเดือน
กุมภาพนั ธ์-เมษายน จะมปี ระเพณี บญุ เล้ยี งผีหมอ หรอื เลีย้ งหมอเหยาผหี มอ พธิ ีกรรมนจี้ ัดข้นึ เปน็ ประจาทกุ ปี
เม่ือย่างเข้าสู่ฤดูแลง้ ห้วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน โดยจะมีหมอเหยา ซึ่งเปรียบเสมือนแม่หมอที่นับถอื ผแี ละ
เป็นคนท่ีสามารถประกอบพิธีส่ือสารกับผีบรรพบุรุษตามความเช่ือมารวมตัวกันเพื่อทาพิธีไหว้ครูถวาย
เครื่องเซ่นไหวด้ อกไม้ธูปเทียน อาหารคาวหวาน เป็นการแสดงออกถึงความเคารพศรัทธาผีบรรพบุรุษไปถึงผี
สางเทวดาผีบ้านผีเรือนท่ีปกปักรักษาหมู่บ้าน จากนั้นจะมีการร่วมกันจัดกิจกรรมร่ืนเริงร้องราทาเพลง
ด้วยดนตรีอีสานพื้นบ้านมีกลอง พิณ แคน เป็นต้น ซ่ึงถือเป็นการบูชา ผีสางเทวดา ผีบรรพบุรุษ ให้มีความ
สนกุ สนานรนื่ เรงิ และไดม้ ารับเครอื่ งไหวบ้ ชู าจะสง่ ผลให้คนในหมบู่ า้ นมีความร่มเย็นเป็นสขุ ปราศจากโรคภยั ไข้
เจบ็ อีกท้งั ทาให้มีความอดุ มสมบูรณ์ ฝนตกตอ้ งตามฤดกู าลทานา ได้ผลผลิตงอกงามตามความเช่ือไม่เกดิ ปญั หา
ภยั แลง้ หมอเหยาแต่ละคนจะรา่ ยราแสดงออกท่าทางที่แตกต่าง กันไป เหมือนเป็นร่างทรง ทีเ่ ชื่อกันวา่ ส่วน
หน่ึงผีบรรพบุรุษจะมาประทับร่างหมอเหยาเพ่ือร่วมกิจกรรม หลังมีการทาพิธีไหว้ครูถวายเครื่องเซ่นไหว้
ประกอบพธิ ีของบรรดาหมอเหยา นอกจากมกี ิจกรรมรื่นเริง ยังมีพิธเี ส่ียงทายทานายทายทักเก่ยี วกบั เรื่องของ
ฝนฟา้ อากาศ มกี ารต้งั ดาบ และตั้งไข่ หากการกระทาใดเป็นท่พี อใจของผี บรรพบุรษจะสามารถตง้ั ได้ รวมไป
ถงึ ในอดตี เช่ือกนั วา่ การเส่ียงทายสามารถทานายว่าบุคคล หรือญาติพ่ีน้อง ลูกหลานเจ็บปว่ ยแบบไม่มีสาเหตุ
เกิดจากอะไร ซึง่ อาจจะมกี ารกระทาทผี่ ิดจารีตประเพณี ทาใหผ้ ีบรรพบุรษุ ไม่พอใจจนเกิดเจ็บปว่ ย จึงต้องมี
การทาพิธขี อขมาบอกกล่าว และถวายเครือ่ งบูชาเช่นไหวจ้ ึงจะหายเปน็ ปกติ

พิธีเหยารักษาผู้ป่วยโดยหมอเหยา อาจเป็นเร่ืองงมงายเหลวไหลในสายตาของคนยุคปัจจุ บัน
ทมี่ ี ความคิดในเรอ่ื งการใช้เหตุผลแบบวิทยาศาสตร์ แต่อยา่ งไรก็ตาม พิธีกรรมน้ีกใ็ ชว่ ่าจะเปน็ สิ่งไร้เหตุผลเสีย
ท่ีเดียว พิธีกรรมทมี่ นุษย์กาหนดข้ึนน้ัน ล้วนเชื่อโยงกับวิถีชีวิตของพวกเขา หมอเหยายังเปรียบเสมือนผู้ดูแล

๑๐๔

จารีตแหง่ ชมชน นอกจากนั้นยังสรา้ งความสัมพันธ์อันดีของคนในชุมชน ด้วยการยึดโยงบรรพบุรุษและความ
เชือ่ เรื่องผี ไว้ให้คนในชมุ ชนยดึ มั่นในศีลธรรมขนบธรรมเนยี มประเพณอี นั ดีงาม

5. ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะในการวิจัยครง้ั ตอ่ ไป การศกึ ษาเกย่ี วกับการจัดการความขัดแย้งผ่านพิธกี รรมการเหยา

ในคร้ังนี้ ไม่อาจครอบคลมุ แนวคดิ และวิธีคดิ ในพิธีกรรมการเหยาของชาวผุ้ไทยในเขตจังหวัดอื่นๆ ในภูมภิ าค
อีสาน เพราะการรักษาพยาบาลด้วยพิธีกรรมการเหยาของชาวผไู้ ทยในแต่ละพ้ืนท่ี ต่างกม็ ีเอกลักษณเ์ ฉพาะ
พ้ืนที่ของตนเอง ผู้วิจัยจึงเห็นว่าควรจะศึกษาเพ่ิมเติมในหลายประเด็น ได้แก่ 1) ควรจะศึกษาแนวคิดการ
จดั การความขัดแยง้ ในพิธีกรรมการเหยา ในเขตจังหวัดต่างๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพ่ิมเตมิ เพอ่ื ที่จะ
ได้เห็นว่าในท้องท่ีต่างๆ นั้น พิธีกรรมดังกล่าว มีความเหมือนและความแตกต่างกันอย่างไร 2)ควรจะนา
แนวคิดทางสังคมศาสตร์อื่นๆ มาใช้ประกอบการศกึ ษาพธิ กี รรมการเหยา เพ่อื ให้เหน็ ถึงมมุ มองท่แี ตกต่างออกไป
จากแนวคิดเรอื่ งการจดั การความขัดแยง้

๑๐๕

บรรณานกุ รม

กฤตยา แสวงเจรญิ . (๒๕๒๗). หมอลาผฟี า้ : ผู้รกั ษาพื้นบ้าน. วทิ ยานพิ นธ์วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขา
จิตวทิ ยาคลินกิ มหาวิทยาลัยมหิดล.

กาญจนา แก้วเทพ และสมสุข หินวมิ าน. (๒๕๕๑). สายธารแห่งนักคดิ เศรษฐศาสตร์การเมือง
กับส่ือสารการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : ภาพพิมพ์

กุสมุ า ชูศิลป์ และคณะ. (๒๕๓๒). รายงานการวิจัยเรือ่ งสภาพและปัญหาการแพทย์แผนโบราณและกลวิธี
การพัฒนาในงานสาธารณสขุ มลู ฐาน. ขอนแกน่ : มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ .

เกรียงไกร ผาสตุ ะ . (๒๕๕๘). การควบคมุ ทางสังคมของกล่มุ หมอลาผฟี า้ ในการจัดการปญั หาระดบั
ครอบครวั

ในสังคมภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ประเทศไทย. วทิ ยานิพนธ์ ปรัชญาดษุ ฏบี ัณฑติ . ขอนแกน่ :
มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ .
โกมาตร จงึ เสถยี รทรพั ย์และคณะ. (๒๕๔๗). ชาติพันธุ์กับการแพทย.์ กรงุ เทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสริ ินธร.
______ . (๒๕๔๑). การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพและการรกั ษาพยาบาล: ประเดน็ ท่ีควร พิจารณา. ใน: ระบบ
ความรพู้ ้ืนบ้านปจั จุบัน: การวิจัยและพฒั นา. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
โกวิทย์ ไกยสทิ ธ์ิ และคณะ. (๒๕๒๕). ประเพณลี งขว่ งผฟี ้าบา้ นบงึ พระ ตาบลท่าลาดขาว
อาเภอ โชคชัย จงั หวดั นครราชสีมา. ภาคนพิ นธ์ วิทยาลยั ครูนครราชสมี า.
คณะกรรมการบญั ญตั ศิ พั ท์ภาษาไทยแห่งราชบณั ฑติ ยสถาน. (๒๕๒๔). พจนานุกรมศัพทส์ งั คมวทิ ยา องั กฤษ-
ไทย ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน.
ใครทอง สิงห์คามา. (๒๕๒๘). การบูชาผีของชาวบา้ นกง่ิ อาเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร. ภาคนิพนธ์
วทิ ยาลัยครสู กลนคร.
โครงการตารา สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย กระทรวงสาธารณสขุ . รวมบทคดั ย่องานวจิ ยั
การแพทยแ์ ผนไทยและทิศทางการวจิ ัยในอนาคตถาบันการแพทยแ์ ผนไทย ,๒๕๔๓
ฉลาดชาย รมติ านนท์. (๒๕๒๗). ประเพณกี ารทรงผเี จ้านายและบทบาททางสังคม : ศกึ ษาใน
กรณจี ังหวดั เชียงใหม่. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่.
ชอบ ดีสวนโคก. (๒๕๔๖). เจา้ โคตร: การระงบั ความขัดแย้งในวัฒนธรรมอีสาน. ขอนแก่น:
สานักศิลปวฒั นธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ชาย โพธิสิตา. (๒๕๔๗). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ. นครปฐม : สถาบันวิจัยประชากรและ
สังคม มหาวิทยาลัยมหดิ ล.
ชยั ยนต์ เพาพาน. (๒๕๓๓). การลาผีฟ้าในเขตอาเภอบรบอื จงั หวัดมหาสารคาม. ปรญิ ญา
นพิ นธ์ ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒมหาสารคาม.
ดารณี อ่อนชมจนั ทร.์ (๒๕๕๕). ภมู ปิ ญั ญาการแพทย์พน้ื บ้านอีสาน. นนทบรุ ี : กลุม่ งานการแพทยพ์ น้ื บา้ น
ไทย
กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ .
เตมิ วภิ าคยพ์ จนกิจ. (๒๕๔๐). ประวัตศิ าสตรอ์ ีสาน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์.
ปรชี า อยุ ตระกลู และคนอน่ื ๆ. (๒๕๓๑). รายงานการดาเนินงานวจิ ัย : บทบาทหมอพื้นบ้าน

๑๐๖

ในสงั คม ชนบทอสี าน. สถาบนั วจิ ัยและพฒั นา มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ .
ปรชี า อยุ ตระกลู . (๒๕๓๓). ปาฐกถานา“เร่อื งความไม่เปน็ ธรรมและความขดั แยง้ : แผน่ ดิน

เดียวกนั แตเ่ สมอื นอย่คู นละโลก” รายงานการประชมุ วิชาการสังคมวทิ ยาภมู ภิ าค
ภาคอสี าน. วนั เสารท์ ี่ ๔ กนั ยายน ๒๕๓๓ ณ โรงแรมพลู แมนราชาออคิด จังหวัด
ขอนแกน่ .
ทิพยส์ ุดา สหพรรณนาพานิชย.์ (๒๕๔๕). บทบาทสตรีชาวผูไ้ ทยในพิธีกรรมเหยา ตาบลป่าไร่ อาเภอดอน
ตาล
จงั หวดั มกุ ดาหาร. การศกึ ษาคน้ ควา้ อสิ ระ (ศศ.ม. ไทยคดศี ึกษา). มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม.
ผานติ บญุ ญานสุ ทิ ธิ์ และคนอืน่ ๆ.( ๒๕๒๕). พธิ กี รรมชาวบ้านลาด ตาบลกุดนา้ ใส อาเภอ
จตั รุ สั จงั หวดั ชยั ภมู ิ. นครราชสีมา: ภาคนพิ นธ์ วทิ ยาลัยครูนครราชสมี า.
พนั ใจ นครชยั . (๒๕๓๘) .พธิ กี รรมเหยาของชาวผ้ไู ทย ตาบลโนนยาง อาเภอหนองสงู จังหวดั มกุ ดาหาร .

วทิ ยานิพนธ์ (ศศ.ม. ไทยคดีศกึ ษา เน้นมนษุ ยศาสตร)์ มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั
มหาสารคาม.
มานพ มานะแซม. (๒๕๔๑). การศึกษาเชิงปรชั ญาเร่อื งคติความเช่ือเรือ่ งการฟ้อนผีใน
ภาคเหนือ. วทิ ยานพิ นธ์ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าปรัชญา มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่.
มานะชาติ คล่องด.ี (๒๕๕๒). การศึกษารูปแบบการสร้างเครือข่ายความเขม้ แขง็ ทางสงั คมด้วยพิธีกรรม
เหยา
ของชาวผูไ้ ทย จังหวัดมกุ ดาหาร. วิทยานิพนธศ์ ิลปศาสตรม์ หาบัณฑติ . มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั
มหาสารคาม.
มารโิ กะ กาโตะ. (๒๕๓๘). การรักษาพยาบาลแบบพน้ื บ้าน : กรณีศกึ ษาหมอลาผฟี า้ บา้ น
หนองใหญ่ อาเภอแวงนอ้ ย จังหวัดขอนแกน่ . วทิ ยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต
สาขาวชิ าสงั คม วิทยาการพฒั นา มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ .
มาลี สิทธเิ กรียงไกร. (๒๕๓๘). หมอเหยา : ผูร้ ักษาพ้ืนบ้านในชมุ ชนชาวผูไ้ ทย. วทิ ยานิพนธ์ สังคมศาสตร์
มหาบัณฑติ . กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหดิ ล.
ยงศักดิ์ ตนั ตปิ ิฎก. (๒๕๔๖) .เครือข่ายหมอพน้ื บา้ นกับการเปิดพ้ืนท่ีทางสังคมในระบบสขุ ภาพ
ไทย. นนทบรุ ี : สถาบนั วิจัยระบบสาธารณสุข.
ยศ สันตสมบัต.ิ (๒๕๕๑). อานาจ พ้นื ที่ และอัตลกั ษณท์ างชาติพนั ธุ์: การเมอื งวฒั นธรรมของ
รฐั ชาติในสงั คมไทย . เอกสารวชิ าการลาดบั ที่ ๖๗. กรงุ เทพฯ : ศูนยม์ านุษยวทิ ยาสริ นิ ทร
(องค์การมหาชน).
ยง่ิ ยง เทาประเสรฐิ . (๒๕๔๖). วถิ ีการดแู ลรักษาสขุ ภาพในระบบการแพทยพ์ ้นื บา้ นแบบ
ล้านนา. พิมพ์ครง้ั ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ: สานักงานกองทนุ สนบั สนุนการวจิ ยั (สกว.ภาค)
วทิ ยาลัยการแพทย์พน้ื บา้ น สถาบนั ราชภฏั เชียงราย.
ยุพา วิสุทธโิ กศล และคณะ. (๒๕๒๓). “ผู้ป่วยจติ เวชกับการรกั ษาพ้ืนบา้ น,” สมาคม
จติ แพทย์ แห่งประเทศไทย. ๑ : ๒๕๒๕-๓๒ ; มีนาคม ๒๕๒๓.
ยุวดี ตปนยี ากร. (๒๕๒๒). วิวัฒนาการของการแพทย์ไทยตั้งแตส่ มัยเร่ิมตน้ จนถงึ สิ้นสุดรชั กาล
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั . วิทยานพิ นธอ์ กั ษรศาสตรม์ หาบณั ฑติ .
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ศรีศักร วัลลโิ ภดม. (๒๕๒๒). “การถอื ผใี นเมืองไทย” ศลิ ปวฒั นธรรม. ๕(๔) : ๗-๑๗ : กมุ ภาพนั ธ์.

๑๐๗

สมศักด์ิ ศรีสันติสุข. (๒๕๔๘). ระเบียบวิธวี ิจัยทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การศึกษาเชิงปริมาณและเชิง
คุณภาพ. ขอนแกน่ : คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ .

______ . (๒๕๕๑). หลกั การวิเคราะห์ขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ. พมิ พค์ รงั้ ท่ี๓. ขอนแกน่ : คณะมนุษยศาสตร์
และ

สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น.
______ . (๒๕๕๒). สังคมวิทยาสขุ ภาพ. พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๒. ขอนแก่น : คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
______ . (๒๕๕๑). สงั คมวิทยาชนบทแนวคดิ ทางทฤษฎแี ละแนวโนม้ ในสังคม. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑ กรุงเทพฯ:เอก็

เปอรเ์ นท.
สรุ ชัย ชินบตุ ร. (๒๕๕๓). การศึกษารูปแบบการสร้างเครอื ขา่ ยความเขม้ แข็งทางสังคมด้วยพธิ ีกรรมเหยา
ของ

ชาวผูไ้ ทย จังหวดั มกุ ดาหาร. วทิ ยานพิ นธอ์ กั ษรศาสตร์มหาบณั ฑิต. กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั .
สรุ ิยา สมทุ คปุ ติ์ และคณะ. (๒๕๔๐). วิธคี ดิ ของคนไทย : พธิ กี รรม “ข่วงผีฟอ้ น” ของลาวข้าวเจ้าจังหวัด
นครราชสมี า. นครราชสมี า: มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยสี รุ นาร.ี
สุรัตน์ วรางค์รตั น์. (๒๕๒๔). การศึกษาเชิงเปรียบเทยี บประเพณีวัฒนธรรมชาวภไู ทและชาวโซ่. สกลนคร:
คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ วิทยาลัยครสู กลนคร.
สุรัตน์ จงดา. (๒๕๔๑). ฟอ้ นผีฟา้ นางเทียม การฟ้อนราในพิธีกรรมและความเช่ือของชาวอีสาน.
วิทยานิพนธ์
ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ . จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
สุวิทย์ ธรี ศาศวตั . (๒๕๔๙). รายงานการวจิ ยั ประวตั ิศาสตรอ์ ีสาน ๒๓๒๒-๒๔๘๘. ภาควิชา ประวัติศาสตร์
และ
โบราณคดี คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ .
สัญชัย ด้วงบุ้ง. (๒๕๕๐). ดนตรีพธิ กี รรม ของชาวผไู้ ทในตาบลโนนยาง อาเภอหนองสงู จงั หวัดมกุ ดาหาร.
วิทยานพิ นธศ์ ิลปศาสตรมหาบณั ฑติ . กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์
อนันต์ มีชยั . (๒๕๕๑). พธิ ีเหยา กรณีดนตรที ใ่ี ชบ้ รรเลงประกอบพธิ ีเหยาเพ่ือรักษาอาการเจ็บปว่ ยของชาว
ผู้
ไทย หม่บู า้ นหนองเมก็ ตาบลป่าไร่ อาเภอดอนตาล จังหวดั มุกดาหาร. ปรญิ ญานพิ นธ์ ศิลปกรรม
ศาสตร์มหาบันณฑิต. กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.
อลงกรณ์ อิทธิผล. (๒๕๕๗). วัจนกรรมคาเรยี กขวญั ในพิธีกรรมรักษาโรคของหมอเหยาชาวผู้ไทย .
วทิ ยานพิ นธ์ปรัชญาดุษฏบี ณั ฑิต. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์.

๑๐๘

ภาคผนวก

๑๐๙

ภาคผนวก ก
ภาพประกอบการลงพ้นื ที่ภาคสนามเพอ่ื เกบ็ ขอ้ มลู ในสองพนื้ ท่ี

๑๑๐

กาบกลว้ ยนามาทากระธงและเคร่อื งประกอบพิธกี รรมการเหยา
ที่มาของภาพถ่าย : บันทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เมอื่ เดือน ธันวาคม 2560

นาใบขนุนมาทากรวยตามจานวนอายขุ องผ้ปู ่วย
ทีม่ าของภาพถา่ ย : บันทึกข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เม่ือเดอื น ธันวาคม 2560

๑๑๑

ญาติๆชว่ ยกันทากระธงและเครอ่ื งประกอบพิธกี รรมการเหยา
ที่มาของภาพถ่าย : บันทกึ ขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

ญาตๆิ ชว่ ยกนั ทากระธงและเคร่อื งประกอบพิธีกรรมการเหยา
ทม่ี าของภาพถา่ ย : บันทึกข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เม่ือเดือน ธันวาคม 2560

๑๑๒

หลักทงุ หรือ หลักธง ตามอายุของคนปว่ ย
ทม่ี าของภาพถ่าย : บันทึกขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เมอ่ื เดือน ธันวาคม 2560

ทากระทง ๙ ห้อง
ท่มี าของภาพถ่าย : บันทึกขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมื่อเดอื น ธันวาคม 2560

๑๑๓

ขนั หมากเบง็ ใช้เป็นเคร่ืองประกอบพธิ ีกรรมการเหยาภาพจาก
ที่มาของภาพถา่ ย : บันทึกขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เม่ือเดือน ธันวาคม 2560

ดอกจาปา หรือ ดอกลลี าวดที ีใ่ ชใ้ นการประกอบพกี รรมการเหยา
ทม่ี าของภาพถ่าย : บันทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมือ่ เดอื น ธันวาคม 2560

๑๑๔

เงินลาด ใชใ้ นการประกอบพิธเี หยา
ทม่ี าของภาพถา่ ย : บันทึกข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

ส่ิงของที่ใชร้ บั ขวญั ผู้ปว่ ย
ที่มาของภาพถ่าย : บนั ทกึ ข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เม่ือเดอื น ธันวาคม 2560

๑๑๕

ฝ้ายสืบชะตา
ท่มี าของภาพถ่าย : บนั ทึกข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมอ่ื เดือน ธันวาคม 2560

เตรยี มส่ิงของในการประกอบพิธกี ารเหยา
ที่มาของภาพถา่ ย : บันทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

๑๑๖

ญาติๆคนป่วยช่วยกนั ทากระธง ๙ หอ้ ง
ทีม่ าของภาพถา่ ย : บนั ทึกข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เม่ือเดือน ธันวาคม 2560

ญาตๆิ คนปว่ ยชว่ ยกันทากระธง ๙ ห้อง
ที่มาของภาพถา่ ย : บนั ทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมื่อเดือน ธันวาคม 2560

๑๑๗

ภายในกระทง ๙ หอ้ ง
ที่มาของภาพถ่าย : บนั ทกึ ข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เม่ือเดอื น ธันวาคม 2560

โปรยข้าวแดง ขา้ วดา ตาเมย่ี ง ลงไปในกระทง ๙ หอ้ ง ตามอายุของคนป่วย
ทีม่ าของภาพถา่ ย : บนั ทกึ ข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมื่อเดือน ธันวาคม 2560

๑๑๘

จัดเตรียมเครื่องประกอบพิธีกรรมการเหยา
ทีม่ าของภาพถา่ ย : บันทึกขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมอ่ื เดือน ธันวาคม 2560

กระทง ๙ หอ้ ง , โลงศพจาลอง
กระทง ๙ ห้อง

ท่มี าของภาพถ่าย : บันทึกขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เมื่อเดอื น ธันวาคม 2560

๑๑๙

โลงศพจาลอง
ท่มี าของภาพถ่าย : บนั ทึกขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณูนคร เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

คายเหยา
ทมี่ าของภาพถ่าย : บันทึกข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เม่อื เดอื น ธันวาคม 2560

๑๒๐

ทาพธิ เี สีย่ งทายโดยใชไ้ ข่มาตั้งตอ่ กนั เป็นชั้นๆ
ทม่ี าของภาพถา่ ย : บนั ทกึ ข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอเรณนู คร เมื่อเดือน ธันวาคม 2560

เคร่อื งคายในพธิ ีกรรมเหยา
ที่มาของภาพถ่าย : บนั ทึกข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมื่อเดอื น ธันวาคม 2560

๑๒๑

เครอ่ื งคายในพิธีกรรมเหยา
ทม่ี าของภาพถา่ ย : บันทกึ ข้อมูลภาคสนามในเขตอาเภอหนองสูง เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

เรอื จาลองทใ่ี ช้ในพธิ เี หยา
ทีม่ าของภาพถ่าย : บนั ทึกขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสูง เม่อื เดอื น ธันวาคม 2560

๑๒๒

เรอื จาลองทใี่ ช้ในพิธเี หยา
ท่มี าของภาพถ่าย : บนั ทึกข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมือ่ เดือน ธันวาคม 2560

หมอเหยาพรอ้ มหมอแคนกาลงั ทาพิธี
ที่มาของภาพถา่ ย : บันทึกข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสูง เมอื่ เดอื น ธันวาคม 2560

๑๒๓

หมอเหยาพรอ้ มหมอแคนกาลงั ทาพิธี
ที่มาของภาพถา่ ย : บันทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมอื่ เดอื น ธันวาคม 2560

หมอเหยากาลังทาการรักษา
ที่มาของภาพถ่าย : บันทกึ ข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมื่อเดอื น ธันวาคม 2560

๑๒๔

หมอเหยากาลงั ทาการรกั ษา
ทมี่ าของภาพถา่ ย : บันทกึ ขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมื่อเดอื น ธันวาคม 2560

กระทงใสเ่ คราะห์
ที่มาของภาพถ่าย : บนั ทกึ ขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอหนองสูง เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

๑๒๕

ภาคผนวก ข
ภาพผู้วจิ ยั และผูช้ ว่ ยนกั วจิ ยั ขณะอยูใ่ นสนามวิจัย

๑๒๖

ภาพผู้วิจยั และผูช้ ว่ ยนกั วิจัยขณะสมั ภาษณ์หมอเหยา
ทม่ี าของภาพถ่าย : บนั ทกึ ข้อมลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

ภาพผู้วจิ ยั และผชู้ ว่ ยนักวจิ ยั ขณะสัมภาษณห์ มอเหยา
ทีม่ าของภาพถา่ ย : บันทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสูง เม่อื เดือน ธันวาคม 2560

๑๒๗

ภาพผู้วิจยั และผ้ชู ว่ ยนกั วิจยั ขณะสมั ภาษณห์ มอเหยา
ที่มาของภาพถา่ ย : บนั ทึกขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสูง เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

ภาพผูว้ ิจยั และผู้ช่วยนกั วิจยั ขณะสัมภาษณห์ มอเหยา
ที่มาของภาพถ่าย : บันทกึ ขอ้ มลู ภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมอ่ื เดือน ธันวาคม 2560

๑๒๘

ภาพผู้วจิ ยั และผู้ช่วยนักวิจยั ขณะสัมภาษณห์ มอเหยา
ทม่ี าของภาพถ่าย : บันทกึ ขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2560

ภาพผ้วู จิ ัยและผ้ชู ว่ ยนกั วจิ ัยในพ้ืนทสี่ นามวิจยั จังหวดั มกุ ดาหาร
ทม่ี าของภาพถ่าย : บันทกึ ขอ้ มูลภาคสนามในเขตอาเภอหนองสงู เมอ่ื เดือน ธันวาคม 2560

๑๒๙

ประวตั ผิ ู้วิจยั

ชื่อ - สกุล อาจารย์ ดร.เกรียงไกร ผาสตุ ะ

วัน - เดือน - ปีเกดิ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524
สถานท่เี กิด อาเภอมญั จาครี ี จงั หวัดขอนแกน่
ประวัติการศึกษา มัธยมศกึ ษา โรงเรยี นมธั ยมโพนเพ็ก จงั หวดั ขอนแก่น

โรงเรยี นมญั จาศึกษา จังหวัดขอนแกน่
ปรญิ ญาตรี (ปี พ.ศ. 2543-2546) ภาควชิ าประวัติศาสตร์ คณะ

มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั หาสารคาม

ปรญิ ญาโท (รางวัลวทิ ยานพิ นธด์ เี ดน่ ) (ปี พ.ศ. 2549-2550)
ภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ปรญิ ญาเอก สาขาสงั คมวทิ ยา (ปพี .ศ. 2552-2558)

ภาควชิ าสังคมวทิ ยา และมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตรแ์ ละ
สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่

อาชพี อาจารยป์ ระจาสาขาสังคมศกึ ษา คณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลัยนครพนม สานกั งานคณะกรรมกรการอุดมศกึ ษา


Click to View FlipBook Version