The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือ เพื่อนที่ปรึกษา YC เล่ม 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by praphat.pn, 2022-07-25 09:08:25

คู่มือ เพื่อนที่ปรึกษา YC เล่ม 3

คู่มือ เพื่อนที่ปรึกษา YC เล่ม 3

1

2

เอกสาร

“คู่มอื สำหรับนักเรียนเพอ่ื นทปี่ รกึ ษา
(YC : Youth Counselor)”

3

คำนำ

วยั รุ่น เป็นวัยก้าวย่างระหว่างรอยต่อความเป็นเด็กและความเป็นผู้ใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลง
ทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ส่งผลให้การตัดสินใจตลอดจนการควบคุมอารมณ์ออกมาใน
ลักษณะของการทำตามอารมณ์หรือทำตามเพื่อน โดยขาดการไตร่ตรองและยั้งคิดเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบัน
ปัญหาของวัยรุ่นในสังคมไทยมีความรุนแรงและทวีความซับซ้อนเพ่ิมมากข้ึน สาเหตุสำคัญมาจากปัญหา
ครอบครวั สภาพแวดล้อมใกล้ตัวที่ชักจูงไปในทางไม่ดี และการใช้ความรุนแรงในสังคม และเมือ่ วัยรุ่น
มีปัญหามักเลือกท่ีจะปรึกษาเพ่ือนท่ีไว้วางใจได้เป็นส่วนใหญ่ เพราะมีความม่ันใจว่าการปรึกษา
ขอคำแนะนำจากเพ่ือนน้ัน จะเปน็ ประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาของตนเองได้

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักถึงความจำเป็นท่ีจะต้องสร้าง
ภูมิคุ้มกันและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนให้ได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ สามารถ
ดำรงชีวิตด้วยวิถีแห่งปัญญาอย่างมีคุณค่าต่อตนเอง และปลอดภัยจากภาวะวิกฤตดังกล่าวข้างต้น
และเพ่ือให้การดำเนินงานแนะแนวในสถานศึกษามีความเข้มแข็ง และความพร้อมในการดูแล
ช่วยเหลือนักเรียน จึงได้จัดทำเอกสารการจัดกิจกรรมนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา จำนวน 3 เล่ม
ประกอบด้วย 1. “คู่มือครู : แนวทางการจัดกิจกรรมนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC : Youth Counselor)”
2.“คู่มือการฝึกอบรมนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC : Youth Counselor)” และ 3. “คู่มือสำหรับนักเรียน
เพ่ือนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor)” โดยเอกสารน้ีเป็นเอกสารลำดับท่ี 3 ท้ังน้ีเพื่อเป็นแนวทาง
ในการพัฒนานักเรยี นเพื่อนท่ีปรกึ ษา (YC) ในสถานศกึ ษา ประกอบดว้ ย

หนว่ ยที่ 1 : เรามาร้จู กั นักเรยี นเพอ่ื นทป่ี รกึ ษา (YC) กันเถอะ
หน่วยที่ 2 : นกั เรยี นเพ่อื นทป่ี รกึ ษา (YC) ทำงานอะไรบา้ ง
หนว่ ยท่ี 3 : นกั เรียนเพ่อื นที่ปรึกษา (YC) กับการให้การปรกึ ษา
หน่วยที่ 4 : เรามาดตู วั อย่างการใหก้ ารปรึกษากันนะ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ คณาจารย์
จากมหาวทิ ยาลัย คณะท่ีปรึกษาและคณะทำงานทุกท่าน ท่ีได้ร่วมจดั ทำเอกสารการจัดกิจกรรมนักเรียน
เพอื่ นท่ีปรึกษา ทั้ง 3 เลม่ ให้สำเรจ็ ลลุ ่วงด้วยดี มคี วามสมบูรณ์ในเน้ือหาและรูปเล่ม หวงั เป็นอย่างย่ิงว่า
คู่มือสำหรับนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจนำไปพัฒนานักเรียน
ให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเพ่ือการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและทำประโยชน์ ให้กับสังคม
และประเทศชาติต่อไป

(นายอมั พร พนิ ะสา)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

เมษายน 2564

4

สารบญั

เร่ือง หน้า
บทนำ
หน่วยท่ี 1 6
เรามารู้จักนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) กนั เถอะ 6
7
หลกั การสำคญั ……………………………………………………………………………………………. 7
วัตถปุ ระสงค์............................................................................................................ 9
ความหมายนักเรยี นเพ่ือนที่ปรกึ ษา (YC)………………………………………………………… 10
ความจำเป็นท่ีต้องมนี ักเรียนเพ่อื นทีป่ รกึ ษา (YC)…………..………………………………. 10
บทบาทหน้าท่ีของนักเรยี นเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) ..................................................... 11
คณุ ลกั ษณะของนักเรียนเพอ่ื นทีป่ รึกษา (YC)………….…………….………………………… 11
คณุ สมบัติของนักเรยี นเพอ่ื นท่ีปรกึ ษา (YC)…………………………….……………………….
จรรยาบรรณของนกั เรยี นเพือ่ นท่ีปรกึ ษา (YC)…………………………….………………….. 11
สิง่ ที่ควรปฏิบัติและไม่ควรปฏิบัตใิ นการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีของนกั เรยี นเพอื่ นทป่ี รกึ ษา 12
(YC)................................................................................................................... ...... 12
ปัจจัยทชี่ ่วยสง่ เสริมให้นักเรียนเพือ่ นท่ีปรกึ ษา (YC) ทำงานใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ….....
สรปุ ……………………………………………………………………………………………………..……

หน่วยท่ี 2 13
นักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) : ทำงานอะไรบ้าง………………………………..…….………………… 13
16
การให้การปรกึ ษาและบันทึกการให้การปรกึ ษา……….……………………………….……… 21
การเขียนโครงการ……………………………………………………………………………………….. 23
การจดั ทำปฏิทินการปฏบิ ัติงานโครงการ................................................................. 25
การจัดทำวาระการประชุมและการเขียนรายงานการประชุม……………………….……. 27
การประชมุ กลุ่มเพื่อปรึกษาปัญหารายกรณี (Case Conference)…………………….. 32
ทำเนยี บนักเรียนเพอ่ื นทปี่ รกึ ษา YC)…………………………………………….................…. 33
ทำเนียบภาคีเครือข่าย.............................................................................................
การรายงานผลการดำเนนิ งาน.................................................................................

5

หน่วยท่ี 3 34
นกั เรียนเพอื่ นที่ปรกึ ษา (YC) : กบั การใหก้ ารปรึกษา……………..……………..…..............…… 34
37
ขั้นตอนการให้การปรึกษาของนักเรยี นเพื่อนทปี่ รึกษา (YC)……………..………………..
ทกั ษะการให้การปรึกษาของนักเรยี นเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC)…………………..…………….

หนว่ ยที่ 4 56
เรามาดูตวั อยา่ งการให้การปรกึ ษากนั นะ……………………………...................…..……………… 56
59
ตัวอย่าง สถานการณ์ดา้ นการเรียน...........……………………………………………………… 61
ตวั อย่าง สถานการณ์ด้านการเรียนต่อ………………………………………......……………… 67
ตวั อยา่ ง สถานการณด์ ้านครกู ับนักเรียน……………….………………………….....………… 70
ตวั อยา่ ง สถานการณด์ ้านความรกั ……………………………………………......……………… 72
ตัวอย่าง สถานการณด์ ้านครอบครวั …………………………………………......……………… 75
ตวั อยา่ ง สถานการณ์ดา้ นการปรบั ตวั ………………………………………….......…………… 77
ตวั อยา่ ง สถานการณ์ดา้ นตงั้ ครรภ์ไมพ่ ร้อม……………………………………......….……… 80
ตวั อยา่ ง สถานการณด์ ้านซมึ เศรา้ …………………………………….……………......………… 82
ตัวอย่าง สถานการณ์การถูกเพ่ือนบลู ล่ี………..…………………….....…..................…… 85
ตัวอย่าง สถานการณก์ ารถูกบูลลี่ปมด้อย………………….......……………………………… 88
ตัวอย่าง สถานการณ์การถกู บูลลี่ทางสอื่ ออนไลน์…………….....…….……………………
ตัวอย่าง สถานการณ์ด้านเสพกญั ชา...............……………………………….....……………

6

หน่วยท่ี 1
เรามารู้จกั นักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) กันเถอะ

นักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) มีความสำคัญมาก เพราะนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC)
เป็นบุคคลที่โรงเรียนพิจารณาคัดสรรว่าเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ สามารถคิดวิเคราะห์ มีจิตอาสา
ในการรับฟัง ให้การปรกึ ษาหารือ และได้รับการพัฒนาให้มคี วามรู้ ความสามารถในการให้การปรึกษา
เบอ้ื งต้น และปฏบิ ัติหน้าที่ให้การปรึกษา โดยการดูแลช้ีแนะอย่างใกล้ชิดของครูแนะแนว ซ่งึ มบี ทบาท
สำคัญในการพัฒนาความเข้มแข็งของระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน

1. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้มีนโยบาย
ส่งเสริม ให้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในทุกโรงเรียน มีภาคีเครือข่ายภาคนักเรียนท่ีจะเสริม
ความเข้มแข็งให้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน หรือท่ีเรียกอีกอย่างหน่ึงว่า “เพื่อนที่ปรึกษา (YC)”
หรือ YC ย่อมาจาก Youth Counselor เดิมช่ือว่ายุวชนแนะแนว โดยมีความเช่ือในเร่ืองของ
ธรรมชาตวิ ัยรนุ่ ท่วี ่า เพ่ือนอายรุ ุ่นราวคราวเดยี วกันมีอะไร ๆ คลา้ ยกนั

2. วยั ใกล้เคียงกันสามารถ สรา้ งสมั พันธภาพได้ดกี วา่ วัยต่างกันมาก
3. เดก็ มีเวลาอย่ดู ว้ ยกันมากกวา่ ครู
4. ความเห็นอกเหน็ ใจของเด็กท่มี ตี ่อกนั
5. เด็กบางคนมีลักษณะที่ให้การช่วยเหลือเพื่อนอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่ได้รับการฝึกฝน หรือให้
ความรู้
การให้การปรึกษาสำหรับเพ่ือนเป็นวธิ กี ารหนึ่งในการชว่ ยเหลอื เพอื่ นด้วยกนั เอง โดยการรับ
ฟัง สนับสนุน ให้กำลงั ใจในการแก้ไขปัญหา ให้ข้อมูลท่ีจำเป็นแก่เพ่ือน เสนอแนะแหล่งช่วยเหลืออ่ืน ๆ
ท่ีเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ รวมท้ังการส่งต่อเพื่อนไปขอรับความช่วยเหลือจากนักเรียน เพื่อนท่ี
ปรึกษา ครู อาจารย์ หรือผ้เู ชยี่ วชาญเฉพาะด้าน
เอกสารเล่มนี้จัดทำข้ึนเพ่ือเป็นคู่มือสำหรับนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) และแนวทาง
ในการดำเนินงานสำหรับนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ได้ใช้ประกอบในการให้การปรึกษา
และช่วยเหลือเพื่อนให้เกดิ ประสทิ ธิภาพ และประสทิ ธิผลในการดำเนนิ งานต่อไป

หลกั การสำคญั
หลักการสำคัญที่เป็นเจตนารมณ์ในการส่งเสริม ให้นักเรียนทำหน้าที่เป็นนักเรียนเพื่อนที่

ปรึกษา (YC) มดี งั นี้
1. การใช้หลักจิตวิทยาของกลุ่มเพ่ือน (Peer Psychology/Peer to Peer-P2P) เป็น

พื้นฐานในการสร้างสัมพันธภาพ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะบุคคลมีสถานภาพแตกต่างกัน

7

เช่น พ้ืนเพ วัย วิถีชีวิตประจำวนั และมีกิจกรรมร่วมกันจะสนิทสนม คุ้นเคย ไวว้ างใจ สามารถสือ่ สาร
กันได้อย่างเปิดเผย เข้าใจซึง่ กนั และกันไดง้ ่าย

2. การให้การปรึกษาโดยเพื่อน (Peer Counseling) มุ่งให้นักเรียนท่ีมีสัมพันธภาพท่ีดี
กับเพื่อน ได้มีบทบาทสำคัญในการมีส่วนร่วมในกระบวนการแนะแนว ให้การปรึกษาเพ่ือนนักเรียน
ด้วยกัน และการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน โดยการชี้แนะของครูแนะแนว

3. นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) คือนักเรียนที่โรงเรียนพิจารณาคัดสรรว่าเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์
สามารถคิดวิเคราะห์ มีจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้อ่ืน รับฟังให้การปรึกษาหารือ และได้รับการพัฒนาให้มี
ความรู้ ความสามารถในการให้การปรึกษาเบื้องต้น และปฏิบัติหน้าท่ีให้การปรึกษา โดยการดูแล
ชแี้ นะอยา่ งใกล้ชิดของครแู นะแนว

วตั ถุประสงค์
1. นักเรียนมีความรู้เบื้องตน้ เก่ียวกับการให้การปรกึ ษา หลักการ จุดมุ่งหมาย กระบวนการใน

การใหก้ ารปรึกษา
2. นกั เรยี นมคี วามสามารถในการใชท้ กั ษะตา่ ง ๆ ในการให้การปรกึ ษา
3. นักเรียนมีความรู้สึกที่ดีต่อการเป็นผู้ให้การปรึกษา เห็นประโยชน์และคุณค่าของ

การเปน็ นักเรยี นทีป่ รึกษา

ความหมายนกั เรียนเพื่อนทปี่ รกึ ษา (YC)
นักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) หรือท่ีรู้จักกันว่า YC คือ เยาวชนหรือนักเรียนที่ได้รับการ

พิจารณาคดั สรรจากบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน ว่าเป็นผูม้ ีคุณลกั ษณะเหมาะสมในการให้การ
ปรึกษาท้ังด้านเจตคติที่มีต่อการให้การปรึกษา ด้านทักษะการให้การปรึกษา ด้านความรู้การให้การ
ปรึกษา ซึ่งเกิดจากได้รับการฝึกฝนพัฒนา นิเทศติดตามจากครูแนะแนวหรือผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
จนเกิดสมรรถนะการให้การปรึกษาแก่เพ่ือน สามารถใช้ทักษะที่ได้รับการฝึกฝน สนับสนุน สร้างความ
กระจ่างในปัญหาแก่เพื่อนในวัยเดียวกันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ซึ่งบุคคลดังกล่าวมิใช่นักให้การ
ปรึกษาวชิ าชีพ นกั เรียนเพอ่ื นทปี่ รึกษา (YC) จึงประกอบดว้ ย

1. แกนนํานักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ทำหน้าที่ให้การปรึกษาเพื่อนในห้องเรียนหรือ
เพื่อนในวัยเดียวกัน บันทึกข้อมูลการให้การปรึกษา รายงานผลการช่วยเหลือสามารถถ่ายทอดให้
ความรู้ท่ีเกิดจากการปฏิบัติงาน ประสานงาน แลกเปลี่ยนทัศนะ ประชุมการปฏิบัติงานแก่นักเรียน
เพื่อนที่ปรึกษา (YC) ประจำห้องเรียน ดำเนินกิจกรรมเชิงรุกท่ีส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนภายใน
โรงเรยี นรจู้ ัก เหน็ คุณค่าและความสำคัญของกิจกรรมนกั เรยี นเพ่อื นทปี่ รกึ ษา (YC) ในโรงเรียน

2. นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ประจําห้องเรียน เป็นตัวแทนนักเรียนท่ีได้รับการคัดสรร
ทําหน้าที่บริการให้การปรึกษาเพื่อนในห้องเรียน หรือเพ่ือนในวัยเดียวกัน บันทึกข้อมูลการให้
การปรึกษา รายงานผลการช่วยเหลือประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลการดําเนินงาน นักเรียนเพ่ือน

8

ที่ปรึกษา (YC) ดําเนินกิจกรรมขับเคลื่อน โครงการนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษาในโรงเรียนร่วมกับครู
ที่ปรึกษา ครูแนะแนว แกนนํานักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) และ
หน่วยงานต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง

การทำหน้าที่ของแกนนำนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) และนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC)
ประจำหอ้ งเรยี น มีภาระหน้าท่ี ดังน้ี

1. แกนนำนกั เรยี นเพ่ือนทป่ี รึกษา (YC) มหี นา้ ท่ีดังน้ี
1.1 ทำหนา้ ท่ใี ห้การปรึกษาเพื่อนในโรงเรยี นในปัญหาต่าง ๆ โดยจัดให้การปรึกษาหลาย

ชอ่ งทาง ตวั อยา่ งเช่น
1.1.1 การใหก้ ารปรกึ ษาเปน็ รายบุคคลที่หอ้ งให้การปรึกษา
1.1.2 การให้การปรึกษาผ่านช่องทาง Social media เช่น Facebook , Line

เป็นตน้
1.1.3 การให้การปรึกษาทางโทรศัพท์
1.14 การให้การปรกึ ษาทางชอ่ งทางอนื่ ๆ

1.2 นิเทศและติดตามการทำหน้าท่ีของนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ประจำห้องเรียน
โดยนัดหมายประชุมประจำเดือนอย่างน้อยเดือนละ 1 คร้งั เพอ่ื ช่วยเหลือนกั เรียนเพอื่ นท่ีปรึกษา (YC)
ประจำหอ้ งเรยี นให้สามารถทำหน้าท่ีไดม้ ีประสทิ ธภิ าพ

1.3 จัดรายการเสียงตามสายเก่ียวกับเร่ืองที่วัยรุ่นสนใจ ได้แก่ การคบเพื่อนต่างเพศ
การดแู ลสขุ ภาพ เคล็ดลบั ในการเรียน การสมคั รคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ ฯลฯ

1.4 ช่วยครูแนะแนว หรือครูที่รับผิดชอบกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC)
ในการจดั อบรมนกั เรียนเพอ่ื นท่ปี รกึ ษา (YC) ในหลักสตู รทกั ษะการให้การปรกึ ษาเบอ้ื งตน้

1.5 ช่วยครูแนะแนว หรือครูท่ีรับผิดชอบกิจกรรมนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) สรุป
ข้อมูลผลการให้การปรึกษาเพ่ือนในห้องเรียนของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ประจำห้องเรียน เพื่อ
นำข้อมูลที่ได้รายงานต่อผู้บริหาร และส่งต่อฝ่ายกิจการนักเรียนของโรงเรียนเพ่ือนำไปพัฒนานักเรียน
ตอ่ ไป

2. นักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ประจำห้องเรียน มีหน้าทด่ี ังน้ี
2.1 ทำหน้าที่ให้การปรึกษาเพ่ือนในห้องเรียนท่ีมีปัญหา แล้วบันทึกการให้การปรึกษา

ลงในสมุดบนั ทกึ
2.2 ให้การปรึกษา โดยประสานกับครทู ีป่ รึกษาในการดแู ลชว่ ยเหลอื เพ่ือน และนกั เรยี นเพอื่ น

ทป่ี รกึ ษา (YC) ประจำห้องเรยี น
2.3 นำสมุดบันทึกให้การปรึกษาส่งและรับคืนจากครูที่ปรึกษาตามนัดหมาย และนำ

สมดุ กลับมาเพือ่ ปฏบิ ัตหิ นา้ ทตี่ อ่
กรณีที่นักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนได้ก็สามารถส่งต่อ

ใหก้ ับครทู ปี่ รกึ ษาหรือครแู นะแนวได้ ดงั กรณีตอ่ ไปนี้

9

2.3.1 นักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) ประจำห้องเรียนทำหน้าท่ีช่วยเหลือเพื่อน ๆ ท่ี
มีปญั หาหากเป็นปัญหาที่มีความยงุ่ ยาก จะสง่ ตอ่ ใหค้ รูทป่ี รึกษาดำเนนิ การ

2.3.2 หากครูที่ปรึกษาไม่สามารถช่วยเหลือดูแลได้ จะส่งต่อให้ครูแนะแนวของ
โรงเรียนโดยใช้แบบฟอร์มการส่งต่อ

ความจำเปน็ ท่ีต้องมนี ักเรยี นเพอื่ นที่ปรกึ ษา (YC)
1. การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคโลกไร้พรมแดน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมอื ง การปกครอง

สังคมและวัฒนธรรม ทำให้วัยรุ่นขาดวิจารณญาณในการเลือกรับสื่อ และถูกครอบงำความคิด
และรับวัฒนธรรมจากต่างชาติจากส่ือที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
ได้แก่

1.1 วัยรุ่นใช้เทคโนโลยีในการส่ือสารทั้งรับและส่งข้อมูลผ่าน Line Facebook Application
ต่าง ๆ ไมไ่ ด้รับการดแู ลการเขา้ ถงึ สื่อตา่ ง ๆ ทำใหเ้ กิดปัญหาตามมา

1.2 ส่ือและข้อมูลที่ถูกส่งมาขาดการกล่ันกรอง ทำให้ข้อมูลบางเร่ืองเป็นเท็จเม่ือวัยรุ่น
เขา้ ถึงข้อมูลเหล่าน้ันทำใหเ้ กดิ ความคดิ คลอ้ ยตามหรือถูกครอบงำ จงึ เกิดปัญหาทางสงั คม

2. การสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ให้ได้รับการพัฒนา
เต็มตามศักยภาพ สามารถดำรงชีวิตด้วยวิถีแห่งปัญญาอย่างมีคุณค่าต่อตนเองและสังคม โดยการเปิด
โอกาสให้วัยรุ่นได้รับความรู้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ให้มีทักษะชีวิตและมีแนวทางในการ
แก้ไขปัญหาในเบอื้ งตน้ อยา่ งเหมาะสม ซง่ึ อาจจะจัดในรูปแบบกิจกรรมนกั เรียนเพอื่ นทีป่ รกึ ษา (YC)

3. ข้อจำกัดด้านบุคคลของครูแนะแนว /ครูท่ีปรึกษา และผู้ปกครองมีช่องว่างระหว่างวัย
กับวัยรุ่นและเยาวชน ปัญหาของวัยรุ่นและเยาวชนที่เกิดข้ึนจึงไม่สามารถเข้าถึงได้ ส่งผลให้วัยรุ่นเดิน
ไปในทางที่ผิด เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อวัยรุ่นมีปัญหาการท่ีครูและผู้ปกครอง
จะเข้าไปพูดคุย ในบางครั้งพูดคนละภาษาหรือเนื่องจากมีความแตกต่างระหว่างวัยทำให้วัยรุ่นไม่
กล้าเข้ามาพูดคุยด้วย จึงส่งผลให้ครูแนะแนวหรือผู้ปกครองไม่สามารถเข้าถึงปัญหาต่าง ๆ และให้
ความช่วยเหลือกับวยั รุ่นในเวลาและสถานการณ์คับขนั ได้

4. คนในวัยเดียวกันจะเข้าใจและสื่อสารด้วยภาษาเดียวกัน หากมีกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน
เพื่อนที่ปรึกษา (YC) ท่ีมีความรู้การใช้หลักจิตวิทยาของกลุ่มเพ่ือน เป็นพื้นฐานในการสร้าง
สัมพันธภาพและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะทำให้ผู้ท่ีประสบปัญหา เข้าใจปัญหา ลดความวิตก
กังวล เหน็ แนวทางในการแก้ไขปัญหาของตนเองและแลกเปล่ียนประสบการณ์กนั

5. เพื่อนมีความสำคัญและมีบทบาทช่วยดูแลเพ่ือนให้มีพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ นักเรียน
เพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ดูแลเพื่อนร่วมกับครูและผู้ปกครอง เป็นการขยายการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ได้อย่างทวั่ ถงึ

6. ร่วมกันขับเคล่ือนตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ช่วยป้องกันและบรรเทาระดับ
ความรนุ แรงของปัญหาท่ีอาจเกดิ ข้ึนในวยั รุ่น ได้แก่

10

6.1 เปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดร้ ่วมขับเคลอ่ื นระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น ร่วมกับคณะครู
เพอื่ ให้มคี วามรู้และแนวทางการดำเนนิ งานเปน็ ไปในทิศทางเดยี วกัน

6.2 การป้องกันปัญหาของนักเรียนไม่ได้เป็นบทบาทหน้าท่ีของครูและผู้ปกครอง
นักเรียน เพื่อนที่ปรึกษา (YC) เป็นบุคคลท่ีมีความสำคัญในการดูแล ช่วยเหลือเพ่ือนท่ีมีปัญหาและอยู่ใน
กลมุ่ เสย่ี งทีค่ วรไดร้ บั การดูแล แนะนำ

6.3 นักเรียนท่ีร่วมขับเคลื่อนระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเกิดความภูมิใจในตนเอง
และเหน็ คุณคา่ ของตนเอง

6.4 ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนมีจิตอาสา ช่วยเหลือผู้อ่ืนด้วยความเต็มใจ และเห็ น
ความสำคัญของการชว่ ยเหลือผู้อ่นื

บทบาทหนา้ ทข่ี องนักเรียนเพื่อนทป่ี รกึ ษา (YC)
นักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) มีบทบาทในการช่วยเหลือผู้อื่นที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตน

ท่ีประสบกับความวิตกกังวล หรือความยุ่งยากใจให้เข้าใจปัญหาให้ชัดเจน และพัฒนาแนวทาง
ในการแก้ไขปัญหา ได้แลกเปล่ียนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เป็นตัวแบบให้เพ่ือน ช่วยให้เพ่ือน
เกิดการเปล่ียนแปลงและพัฒนาตนเอง และยังเป็นการช่วยส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนด้วยกัน
อีกดว้ ย

นักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) ควรไดร้ ับการฝึกอบรมทักษะการให้การปรกึ ษา เพื่อทำหน้าที่
ช่วยเหลือผู้อ่ืนท่ีอยู่ในวัยเดียวกัน สามารถแลกเปล่ียนค่านิยม ประสบการณ์ และวิถีการดำเนินชีวิต
ให้กับผู้รับการปรึกษา งานท่ีทำเป็นงานขั้นพ้ืนฐานมีข้อจำกัดด้วยทักษะเฉพาะท่ีได้รับการฝึกอบรม
และอยู่ภายใต้การนิเทศของผู้เช่ียวชาญวิชาชีพด้านการให้การปรึกษา ปัญหาที่ให้การช่วยเหลือ
เปน็ ปญั หาทว่ั ๆ ไปที่ไมใ่ ชป่ ัญหารนุ แรงทตี่ ้องได้รบั การชว่ ยเหลือจากผู้เช่ียวชาญ

นักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) เป็นเสมือนสะพานเชื่อมโยงระหว่างเพ่ือนกับผู้ท่ีให้ความ
ช่วยเหลือท่ีผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพด้านการให้การปรึกษา โดยท่ัวไปนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ควรเป็น
สมาชิกในชุมชนเดยี วกนั กับเพ่ือนผ้มู าขอรับการปรกึ ษา

คณุ ลักษณะของนักเรียนเพื่อนทป่ี รกึ ษา (YC)
1. ร้จู ักและยอมรับตนเอง
2. เปน็ ผรู้ บั ฟังทดี่ ี
3. อดทน ใจเยน็
4. จริงใจและตัง้ ใจช่วยเหลือผู้อน่ื
5. มีทา่ ทีเปน็ มิตรและมองโลกในแงด่ ี
6. ไวต่อความรสู้ กึ ของผู้อน่ื และช่างสังเกต
7. ใช้คำพดู ได้เหมาะสม

11

คุณสมบัตขิ องนกั เรยี นเพื่อนทปี่ รึกษา (YC)
1. เป็นผมู้ ีจติ อาสา
2. สามารถให้การปรึกษา และแนะแนวท้งั แก่ตนเอง และผู้อื่นได้อยา่ งเหมาะสม
3. สามารถหาแนวทางในการชว่ ยเหลือผ้อู น่ื ในเบ้ืองตน้ ได้
4. มที กั ษะในการสื่อสารอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
5. ไดร้ บั การฝึกทักษะท่ีจำเป็น เพอ่ื สามารถใหค้ วามชว่ ยเหลือเพื่อนได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ

จรรยาบรรณของนกั เรียนเพื่อนทีป่ รึกษา (YC)
1. เคารพในศักดิ์ศรีของเพื่อนผู้มารบั การปรกึ ษา
2. เก็บรกั ษาความลับของเพือ่ นผ้มู ารบั การปรึกษา
3. ยอมรับความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ไม่มีอคติ
4. ยุตกิ ารให้การปรึกษาที่อยเู่ หนือความสามารถของตนและส่งต่อไปยังบุคคลอน่ื ท่ี

เหมาะสม
5. พฒั นาตนเองให้ทนั ต่อวถิ ชี วี ติ ิใหม่

สิ่งที่ควรปฏิบัตแิ ละไม่ควรปฏิบัตใิ นการปฏบิ ตั หิ น้าทขี่ องนกั เรียนเพือ่ นที่ปรกึ ษา (YC)

สง่ิ ท่ีควรปฏบิ ัติ ส่ิงทีไ่ ม่ควรปฏิบัติ

- มีพฤติกรรมท่ีเป็นแบบอย่างที่ดีกับเพื่อนทุก ๆ ด้าน - พบปัญหาในลักษณะเดียวกับตนเอง ใช้วิธีการ

รู้จกั และยอมรับตนเอง แก้ไขปัญหาด้วยแนวทางทตี่ นเองเคยปฏบิ ตั ิทันที

- พัฒนาตนเองด้านความรู้ ความสามารถในการ - ปัญหาที่เกินกำลังความสามารถของนักเรียน

ให้การปรึกษา หลักจิตวิทยา สร้างความเช่ือม่ัน เพอื่ นที่ปรึกษา (YC) ควรรีบตดั สนิ ใจ และแนะนำ

ให้กับผู้มาขอรับการปรึกษา ทำงานด้วยความ เพ่ือนในการแกไ้ ขปญั หาทันที

อดทน

สิ่งที่ควรปฏิบตั ิ ส่ิงที่ไม่ควรปฏบิ ัติ

- มี พ ฤติ กรรม ที่ เป็ น มิ ต ร ม องโลก ใน แง่ดี - มองปัญหาของผู้อื่นเป็นเร่ืองตลกและนำมาเล่า
เห็นปัญหาของเพ่ือนที่เกิดขึ้นน้ัน ย่อมมีสาเหตุจูง ให้เพอ่ื นท่มี ีลกั ษณะปัญหาคล้ายกันฟงั
ใจทำให้เกิดปัญหาน้ัน ๆ ไม่ซ้ำเติมหรือ กระตุ้น
ให้ ผู้ ม าขอรั บ การป รึ ก ษ า รู้ สึ ก ท้ อแ ท้ ใจ ที่ จ ะห า
แนวทางในการแก้ไขปัญหาของตนเองด้วย คำพูดท่ี
เหมาะสม

12

สงิ่ ทค่ี วรปฏิบตั ิ สงิ่ ทไ่ี ม่ควรปฏบิ ัติ

- ช่วยเหลือผู้อ่ืนด้วยความเต็มใจ เต็มกำลัง
ความสามารถของตนเอง บนพ้ืนฐานความรู้
ทไี่ ดร้ ับการอบรมและศึกษาค้นคว้าอย่างเหมาะสม
- สร้างเครอื ขา่ ยเพ่ือนท่ีปรึกษา ให้นักเรียน เพอื่ น
ท่ปี รึกษา (YC) เหน็ คุณคา่ ของการชว่ ยเหลอื ผู้อ่นื

ปัจจยั ที่ชว่ ยส่งเสริมให้นกั เรยี นเพ่อื นทป่ี รึกษา (YC) ทำงานใหม้ ีประสิทธภิ าพ
นอกจากการดำเนินงานของนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) แล้ว ปัจจัยสำคัญท่ีจะช่วยเพิ่ม

ประสิทธภิ าพของการแก้ปัญหาแบบเพ่ือนช่วยเพื่อนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเห็นได้ชัด สามารถช่วยเหลือ
นักเรียนที่มีปัญหาได้อย่างรวดเร็วและท่ัวถึง ส่งผลให้นักเรียนท่ีประสบปัญหาได้รับความช่วยเหลือ
และดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุขน้ัน ยังคงต้องอาศัยปัจจัยท่ีจะช่วยส่งเสริม
ให้ นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ผู้บริหาร ครูแนะ
แนว ครูท่ีปรึกษา เครือข่ายผูป้ กครอง

สรุป
ในการจัดกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) สามารถจัดได้ในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีเป็น

การส่งเสริมให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการให้ความช่วยเหลือเพ่ือน และได้มีโอกาส
แลกเปล่ียนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้นักเรียนรัก เห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในตนเอง สามารถใช้
ศักยภาพที่มีอยู่ ปฏิบตั ิหน้าทข่ี องนกั เรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ไดอ้ ยา่ งดี ในการดำเนินงานจำเป็นต้อง
ได้รับการสนับสนุนจากสถานศึกษา และเครือข่ายผู้ปกครอง จะสามารถทำให้การให้ความช่วยเหลือ
เพอื่ นประสบความสำเรจ็ ไดด้ ีข้ึน

13

หน่วยท่ี 2
นักเรียนเพอื่ นที่ปรกึ ษา (YC) : ทำงานอะไรบ้าง

“นักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC)” มีหน้าท่ีรับฟังและให้การปรึกษาระหว่างเพ่ือนนักเรียน
ด้วยกัน ทุกเร่ือง เช่น ปัญหาการเรียน ความเครียดหรือวิตกกังวล หรือปัญหาครอบครัว ฯลฯ ซึ่ง
ขอ้ มลู จากการให้การปรึกษาจะถูกเกบ็ ไว้เป็นความลับ ภายใต้การดแู ลของครูแนะแนว

เพื่อให้เห็นแนวทางการดำเนินงานกิจกรรมนกั เรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) สำหรับในเนื้อหานี้
จะนำเสนอกระบวนการปฏบิ ัตงิ านของนกั เรยี นเพ่ือนท่ีปรึกษา ซ่ึงประกอบดว้ ย

1. การให้บริการปรึกษาและบนั ทกึ การให้การปรึกษา
2. การเขยี นโครงการ
3. การจัดทำปฏิทินการปฏบิ ตั งิ าน
4. การจดั ทำวาระการประชุม / การเขียนรายงานการประชมุ
5. การประชุมกลมุ่ เพื่อปรึกษาปัญหารายกรณี (Case Conference)
6. การจัดทำทำเนียบนกั เรยี นเพ่ือนท่ปี รกึ ษา (YC)
7. การจัดทำทำเนยี บภาคเี ครอื ขา่ ย

การให้การปรึกษาและบันทึกการใหก้ ารปรกึ ษา
การให้การปรึกษาเป็นภารกิจหลักของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา ซึ่งจะมีหน้าท่ีรับฟังและ

ให้การปรึกษาระหว่างเพื่อนนักเรียนด้วยกันทุกเรื่อง เช่น ปัญหาการเรียน ความเครียดหรือวิตกกังวล
หรือปัญหาครอบครัว ฯลฯ ซึ่งข้อมูลจากการให้การปรึกษาจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ ภายใต้การดูแล
ของครูแนะแนว และในการให้การปรึกษาน้ัน นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) จะต้องผ่านการคัดเลือก
และได้รับการอบรมฝึกปฏิบัติในเร่ืองกระบวนการและทักษะในการปรึกษามาเป็นอย่างดี จนสามารถ
ทำหน้าทเี่ ป็นเพอื่ นท่ีปรกึ ษาได้

และหลังการให้การปรึกษา จะต้องมีการบันทึกการให้การปรึกษา ซ่ึงเป็นส่ิงที่จำเป็น
สำหรับการให้การปรึกษา นอกจากจะช่วยให้นักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) สามารถสรุปงานของ
ตนเองท่ีได้ทำไปแลว ยังเป็นการการสื่อสารอีกทางหน่ึงที่ทำให้เกดิ ความเข้าใจตรงกันระหวา่ งผู้ให้และ
ผู้รับการปรึกษา และก่อนที่จะบันทึก นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) จะต้องทราบจุดมุงหมายของ
การบันทึก จัดรวบรวมและลำดับเร่ืองราวของเรื่องที่ปรึกษา รวมทั้งบันทึกสรุปเรื่องราวและข้อตกลง
ต่าง ๆ ท้ังน้ีอาจจดั รปู แบบของการบันทกึ แต่ละรายการตามความเหมาะสมได้

14

ตวั อย่าง
แบบบันทกึ การให้การปรึกษา

วนั ท่ี.........เดือน...................................พ.ศ. .............
เริม่ ให้การปรึกษา เวลา....................น. ยตุ ิเวลา........................น.

สถานท.่ี ....................................................

การใหก้ ารปรึกษาครงั้ ท่ี ………………

1. ผู้ขอรบั การปรึกษา ชอ่ื ...................................... (นามสมมติ/รหัส)

• เพศ ชาย หญิง

• อายุ……….....ปี ศกึ ษาอยู่ช้ัน..............................

2. ให้การปรกึ ษาเรอื่ ง..............................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

3. สาเหตุ/ความตอ้ งการท่ีมาขอรับคำปรึกษ

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................

4. ปญั หาทพ่ี บ

........................................................................................................................................................ ........

................................................................................................................................................................

5. ผลกระทบที่เกิดจากปญั หาดังกล่าว

................................................................................................................................................................

.......................................................................................................................................... ......................

6. แนวทางการช่วยเหลือ

................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................

................................................................................................................ ................................................

ใหข้ อ้ มูลความรู้ (ระบเุ ปน็ ข้อๆ)

.......................................................................................................................................................

…………..………………………………………………………………………………………………………………………….

…………..………………………………………………………………………………………………………………………….

15

แนะนำแหลง่ สง่ ต่อ (ระบุวา่ เปน็ ใคร).................................................................................

……………………………………………………………..………………………………………………………………………

7. การประเมินผลการให้การปรกึ ษา (โดยการถามและการสังเกตผรู้ บั บรกิ าร)

7.1 ความทุกข์/ความคับข้องใจ ลดลงมาก ลดลงบา้ ง เท่าเดิม

7.2 ทางออกของปัญหา มีทางออกชัดเจนแลว้ พอได้แนวทาง ยังไมพ่ บแนวทาง

7.3 กำลังใจทจี่ ะเผชิญกับปัญหา เพมิ่ มากข้นึ เพิม่ ข้ึนบ้าง เท่าเดิม

7.4 ความรู้สึกพอใจท่ไี ดร้ ับการปรึกษา มาก ปานกลาง น้อย

7.5 อน่ื ๆ........................................................................................................................................

8. การนดั หมายครัง้ ต่อไป วันท.่ี ..........เดือน...................พ.ศ.................. สถานท.่ี ..................................

ลงชอ่ื ................................................ผู้ให้การปรกึ ษา
(................................................)

9. ความคิดเห็นของครูแนะแนว
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................... ............................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………

ลงช่ือ.......................................................ครูแนะแนว
(......................................................)

10. การติดตามผลหลงั ขอรับการปรกึ ษา วันท.่ี ..................................... ดา้ น........................................

ดขี ึน้ มาก ดีข้นึ เล็กนอ้ ย เหมอื นเดมิ หนกั กวา่ เดมิ

16

การเขียนโครงการ
กิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC: Youth Counselor) เป็นกลไกสำคัญของระบบ

การดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีส่วนสำคัญและเป็นความร่วมมือกันในการดูแลและช่วยเหลือเพื่อน
นักเรียนท่ีประสบปัญหาต่าง ๆ ท้ังในด้านการเรียนและปัญหาชีวิตส่วนตัว โดยใช้เทคนิคการให้
การปรึกษาและกระบวนการด้านการแนะแนวเป็นฐานความรู้เพื่อการปฏิบัติงาน ด้วยการดูแลชี้แนะ
อย่างใกล้ชิดจากครูแนะแนว ดังนั้นการเขียนโครงการจึงควรมีการเช่ือมโยงโครงการนักเรียนเพื่อน
ที่ปรึกษา (YC) กับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอย่างเหมาะสมสอดคล้องกัน
และควรมีการแสดงถึงข้อมูลการดำเนินงานของนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) ประกอบด้วย คำสั่ง
บันทึกการปฏิบัติงาน แบบรายงานผลการปฏิบัติงาน และเอกสารหลักฐานในส่วนของเครื่องมือท่ีใช้
ในการดำเนินงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง

โครงการนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) เป็นโครงการเพ่ือช่วยส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไข
พฤติกรรมของนักเรียนตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการและ
คณะทำงานนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) เพื่อให้นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ที่เป็นคณะทำงาน
เป็นผู้คอยดูแลช่วยเหลือนักเรียนคนอ่ืน ๆ ในโรงเรียนที่มีความทุกข์และไม่สบายใจ นักเรียนเพ่ือนท่ี
ปรึกษา (YC) จะเป็นผู้รับฟังปัญหาและคอยให้กำลังใจ รวมทั้งให้การปรึกษาเบื้องต้นแก่เพ่ือนนักเรียน
ทมี่ าขอรับการปรกึ ษา เพราะในสภาพปัจจุบันพบว่าปัญหาท่ีเกิดข้ึนกับนักเรียน นกั เรียนมักจะปรกึ ษา
เพื่อนหรือหาหนทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง และเนื่องจากเพ่ือนเป็นผู้ที่เข้าใจ เข้าถึง ได้รับความ
ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ดังนั้นนักเรียนที่เป็นคณะทำงานจึงควรได้รับการฝึกทักษะที่จำเป็นเพื่อ
สามารถให้ความช่วยเหลือเพื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภา ยใต้การสนับสนุนส่งเสริมจาก
ผูบ้ รหิ าร ครู และผู้ปกครอง ก็จะสามารถทำใหก้ ารชว่ ยเหลอื เพอื่ นประสบผลสำเร็จไดด้ ยี งิ่ ข้ึน

17

ตัวอยา่ ง

โครงการกิจกรรมนกั เรยี นเพอ่ื นที่ปรกึ ษา (YC)

หลกั การและเหตุผล
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมและสภาพแวดล้อม ท่ี

เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกท้ังมีส่ือและวัฒนธรรมจากต่างชาติเผยแพร่เข้ามาในประเทศมากขึ้น
อย่างต่อเนื่อง และทวีความหลากหลายไปมากกว่าแต่ก่อนส่งผลต่อสังคมไทย ทำให้วัยรุ่นถูกครอบงำ จน
บางคร้ังก่อให้เกิดปัญหาตามมา บางปัญหาเป็นปัญหาท่ีผู้ใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ วัยรุ่นจึงหลงไป
ในทางที่ผิด สาเหตุมาจากการตัดสินใจหุนหันพลันแล่น และไม่มีที่ปรึกษาที่จะคอยแนะนำ
ช่วยเหลือ จนในท่ีสดุ ก็ต้องแก้ปัญหาเองโดยลำพังด้วยวิธีการแก้ปญั หาที่ไม่ถกู ต้อง วัยรุ่นจงึ ต้องการผทู้ ่ีจะ
คอยรับฟัง ดูแล คอยเป็นกำลังใจใหใ้ นยามที่ท้อแท้และส้ินหวงั ซ่ึงบคุ คลนั้นก็คือเพ่ือนนักเรยี นดว้ ยกันเอง
เน่ืองจากเป็นผู้ท่ีอยู่ใกล้ชิด เข้าถึง และเข้าใจเพื่อนนักเรียนด้วยกันเองมากท่ีสุด จึงเป็นที่มาของโครงการ
นกั เรยี นเพือ่ นท่ปี รกึ ษา (YC : Youth Counselor)

นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) จึงมีบทบาทสำคัญในการให้การปรึกษาเบื้องต้นแก่เพื่อน
นักเรียนที่มาขอรับการปรึกษา ซึ่งจะเป็นวิธีหนึ่งในการช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนด้วยการรับฟัง
ปัญหา ให้กำลังใจและให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เพื่อนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไข
ร่วมกันได้ แต่หากปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อนและความรุนแรง นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC)
ต้องเสนอแนะบุคคลที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือแหล่งช่วยเหลืออื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง
นั้นโดยตรง โดยการดำเนินงานดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล และการสนับสนุนจาก
ผู้บริหาร ผู้ปกครอง ครูแนะแนวหรือครูที่ปรึกษา ดังนั้น นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ควรที่จะ
ได้รับการฝึกทักษะที่จำเป็นอย่างถูกต้อง และการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหา
ที่เกิดขั้นในโรงเรียนได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งเป็นเป็นการเสริมสร้างให้ระบบดูแลช่วยเหลือใน
โรงเรียนมีความเข้มแข็งต่อไป

วัตถุประสงค์
1. เพื่อพฒั นาทกั ษะในการให้การปรึกษา
2. เพอ่ื สร้างเครือข่ายนักเรยี นเพ่อื นทีป่ รึกษา (YC)
2. เพ่อื ชว่ ยสง่ เสริม ป้องกนั แก้ไข พฤติกรรมของนักเรียน
3. เพ่อื สง่ เสริมและพฒั นาให้นักเรียนมจี ติ อาสา
4. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมที ักษะในการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกนั ในสงั คมอย่างมีความสุข

18

เปา้ หมาย
1. นกั เรยี นเกดิ ทักษะในการปรึกษา สามารถชว่ ยเหลอื เพ่ือนนกั เรียนได้
2. มีเครอื ข่ายนกั เรียนเพอื่ นท่ีปรึกษา (YC : Youth Counselor)
3. ลดปญั หาของเพอื่ นนักเรยี นในด้านต่างๆ

กิจกรรมและขัน้ ตอนการดำเนินงาน
1. ประธานนักเรียนเพือ่ นท่ีปรึกษา (YC) เสนอโครงการเพื่อขออนมุ ัติ โดยครูแนะแนว หรือ

ครูทป่ี รกึ ษาจะตรวจสอบความถกู ตอ้ งรายละเอยี ดโครงการในเบื้องตน้
2. ครูแนะแนว หรือครูทีป่ รึกษา นำเสนอผู้บริหารโรงเรยี น
3. โรงเรยี นแต่งตง้ั คณะกรรมการดำเนินงาน
4. คณะกรรมการดำเนินงานจดั ประชุมเพ่ือวางแผนและกำหนดแนวทางการดำเนินงาน
5. ดำเนินงานตามกิจกรรม ดงั นี้
5.1 คดั เลอื กนักเรยี นและรวบรวมจัดต้ังเป็นกลมุ่ นกั เรียนเพื่อนทปี่ รึกษา (YC)
5.2 สร้างเครือขา่ ยนักเรยี นเพือ่ นทปี่ รึกษา
5.3 ให้การปรึกษา คำแนะนำ และความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ แก่นักเรียนที่มาขอรับ

การปรกึ ษา
6. ตดิ ตามและประเมินผล
7. สรุปและรายงานผลการดำเนินงาน

ปฏิทนิ การปฏบิ ตั งิ านโครงการ

ระยะเวลาดำเนินงาน

กจิ กรรม พ.ศ........... พ.ศ............ ผูร้ บั ผดิ ชอบ

ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ีค. เม.ย. พ.ค. ม.ิย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.

1. เสนอโครงการ ประธาน หรอื นักเรียน

แกนนำ YC

2. ตรวจสอบความถกู ต้อง ครูแนะแนว/ครทู ป่ี รกึ ษา

และนำเสนอผู้บรหิ ารโรงเรียน และผบู้ ริหารโรงเรียน

3. แต่งตง้ั คณะกรรมการ ผบู้ ริหารโรงเรยี น

ดำเนนิ งาน

4. ประชุมเพอ่ื วางแผนและ คณะกรรมการ

กำหนดแนวทางการดำเนิน ดำเนินงาน

งาน

19

ระยะเวลาดำเนนิ งาน

กจิ กรรม พ.ศ........... พ.ศ............ ผรู้ บั ผิดชอบ

ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.

5. ดำเนนิ งานตามกจิ กรรม ครูแนะแนว ครูทป่ี รกึ ษา

- คดั เลือกนกั เรยี นและ และนักเรยี นแกนนำ YC

รวบรวมจดั ต้ังเปน็ กลุม่

นักเรยี นเพือ่ นที่ปรึกษา

- สร้างเครือขา่ ยนกั เรยี น

เพอ่ื นทปี่ รกึ ษา (YC)

- ใหก้ ารปรกึ ษา คำแนะนำ

และความชว่ ยเหลือในเรื่อง

ต่าง ๆ แก่นกั เรียนทมี่ าขอรบั

การปรกึ ษา

6. ติดตามและประเมินผล ครูแนะแนว ครทู ่ีปรึกษา

และนักเรยี นแกนนำ YC

7. สรุปและรายงานผลการ ครูแนะแนว ครูทป่ี รึกษา

ดำเนนิ งาน และนกั เรยี นแกนนำ YC

งบประมาณ

แหล่งงบประมาณ จากเงินอุดหนุนการจดั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (ค่าใช้จา่ ยรายหวั )

รายการ งบประมาณ ตอบแทน หมวดรายจา่ ย น้ำมนั
ใช้สอย วสั ดุ -
-
1. เสนอโครงการ - - -- -
-
2. พจิ ารณาและนำเสนอผู้อำนวยการโรงเรยี น - - --
-
3. แต่งตั้งคณะกรรมการ - - -- -
-
4. ประชมุ เพื่อวางแผนและกำหนดแนวทางการ - - --

ดำเนินงาน

5. ดำเนนิ งานตามกิจกรรม

- คัดเลือกนักเรียนและรวบรวมจัดตั้งเป็นกลุ่ม 1,000 - 1,000 -
นักเรยี น 1,000 - 1,000 -
1,000 - 1,000 -
เพอ่ื นท่ีปรกึ ษา

- สรา้ งเครือข่ายนกั เรียนเพื่อนที่ปรกึ ษา (YC)

- ให้การปรึกษา คำแนะนำและความช่วยเหลือ

ในเร่อื งต่าง ๆ แกน่ ักเรียนทีม่ าขอรบั การปรึกษา

20

รายการ งบประมาณ ตอบแทน หมวดรายจา่ ย น้ำมนั
ใช้สอย วสั ดุ -
6. ติดตามและประเมินผล -
7. สรุปและรายงานผลการดำเนินงาน - - -- -

รวมงบประมาณ - - --

3,000 - 3,000 -

การตดิ ตามและประเมินผล เครื่องมอื ท่ีใช้วัด
และประเมินผล
ตัวบง่ ชส้ี ภาพความสำเร็จ วิธกี ารวดั และประเมินผล คำสั่งแต่งต้ังคณ ะกรรมการ
ดำเนินงาน
1. สามารถจัดตั้งกลุ่มและสร้าง สัมภาษณ์นักเรียน
เครือข่ายนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา โครงการ/กจิ กรรม
(YC)
2. มีการส่งเสริมป้องกัน แก้ไข สัมภาษณ์นักเรียน แบบบนั ทกึ การให้การปรึกษา
ป รั บ เป ล่ี ย น พ ฤ ติ ก ร รม ข อ ง
นักเรียน แบ บ รายงาน ผลการให้ การ
3. นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) สัมภาษณ์นักเรียน ปรกึ ษา
มีจิตอาสาพร้อมที่จะช่วยเหลือ
เพอื่ นนักเรยี น
4. นักเรียนเพ่ือนท่ีปรกึ ษา (YC) มี สมั ภาษณ์นกั เรียน
ทักษะในการดำรงชีวิตและอยู่ใน
สังคมอยา่ งมคี วามสขุ

ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั
โรงเรียนมีกลุ่มนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) และเครือข่ายที่มีความเข้มแข็ง มีทักษะในการ

ให้การปรึกษา สามารถช่วยเหลือครูแนะแนวในการส่งเสริม ป้องกัน แก้ไข และลดปัญหาของเพื่อน
นกั เรียน รวมทั้งนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) และนักเรียนท่ีได้รับการปรึกษา สามารถมีทักษะใน
การดำรงชวี ติ และอย่ใู นสงั คมอยา่ งมีความสุข

ลงช่ือ).......................................ผ้เู สนอโครงการ (ลงช่อื ).......................................ผเู้ สนอโครงการ
(……………….…………………) (……………….…………………)
ครแู นะแนว/ครูทปี่ รึกษา
ประธานนักเรยี นเพื่อนท่ปี รึกษา (YC)

21

(ลงชอ่ื )..................................ผเู้ หน็ ชอบโครงการ (ลงชอื่ ).....................................ผอู้ นุมัตโิ ครงการ

(……………….…………………) (……………….…………………)

รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ กิจการนักเรียน ผ้อู ำนวยการโรงเรียน

การจัดทำปฏทิ นิ การปฏิบัตงิ านโครงการ
การดำเนินกจิ กรรมนักเรยี นเพอ่ื นท่ปี รึกษา (YC) ของแต่ละสถานศึกษา ขน้ึ อยู่กับบริบทของ

สถานศึกษานั้น ๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือให้เกิดการพัฒนาและการขับเคล่ือนการดำเนินงานกิจกรรม
นกั เรยี นเพอื่ นทปี่ รึกษา (YC) ในสถานศกึ ษาให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

ตวั อยา่ งที่ 1

ตวั อยา่ ง
ปฏทิ ินการปฏิบตั ิงานกจิ กรรมนักเรียนเพอื่ นทีป่ รึกษา (YC)

ตามกระบวนการ PDCA

การดำเนินงาน พ.ศ........... พ.ศ...............

ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.

1. ขัน้ เตรยี มการ (P)

- เขยี นโครงการ

- ขออนุมัติ

- ป ร ะ ชุ ม

วางแผน การ

ดำเนินงาน

2. ข้ัน ดำเนิ น การ

(D)

- กิ จกรรม เช่ น

เสี ยงตามสายพ่ี ส อ น

นอ้ ง ธนาคารความดี

เยาวชนรุ่นใหม่ รู้ทัน

รู้เลี่ยง ไม่เส่ียงเอดส์

เป็นต้น

22

การดำเนินงาน พ.ศ........... พ.ศ...............

ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.

3. ขั้นประเมินผล

(C)

- การประเมินผล

- สรุปรายงาน

4. ขั้นปรับปรุงและ

พฒั นา (A)

- นำผลการ

ประเมินไป

ป รั บ ป รุ ง แ ล ะ

พัฒนา

ตวั อยา่ งที่ 2
กิจกรรมนักเรยี นเพื่อนที่ปรึกษา มีการดำเนินงานดังนี้
1. การรับสมคั รสมาชกิ และพัฒนาศกั ยภาพนักเรียนเพื่อนท่ีปรกึ ษา (YC)
2. การปฏบิ ัตงิ านการให้การปรึกษา
3. การจัดกจิ กรรมเสริมสร้างทักษะการใหก้ ารปรึกษา
4. การประสานงานเครอื ขา่ ย
5. การเช่ือมโยงโครงการนักเรียนเพ่ือนท่ปี รกึ ษา (YC) กบั ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ตัวอยา่ ง
การดำเนินกิจกรรมนกั เรียนเพ่อื นทีป่ รกึ ษา (YC) ในโรงเรยี น

ระยะเวลาดำเนนิ งาน

การดำเนินงาน พ.ศ............. พ.ศ........... ผู้รบั ผิดชอบ

พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค.

1 . ก า ร รั บ ส มั ค ร ครแู นะแนว /

ส ม า ชิ ก แ ล ะ พั ฒ น า ค รู ท่ี ป รึ ก ษ า

ศักยภ าพ นั กเรียน และ นักเรียน

เพอื่ นทีป่ รึกษา แกนนำ YC

23

ระยะเวลาดำเนนิ งาน

การดำเนินงาน พ.ศ............. พ.ศ........... ผ้รู บั ผิดชอบ

พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค.

2. การปฏิบัติงาน ครูแนะแนว /

การ ให้การปรึกษา ค รู ท่ี ป รึ ก ษ า

และนักเรียนแกน

นำ YC

3. การจัดกิจกรรม ครแู นะแนว /

เสริมสร้างทักษะการ ค รู ที่ ป รึ ก ษ า

ใก้การปรึกษา และนักเรียนแกน

นำ YC

4. การประสานงาน ครแู นะแนว /

เครอื ขา่ ย ค รู ท่ี ป รึ ก ษ า

และนักเรียนแกน

นำ YC

5 . ก า ร เชื่ อ ม โย ง ครูแนะแนว /

โค รงก ารนั กเรี ย น ค รู ที่ ป รึ ก ษ า

เพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) และนักเรียนแกน

กั บ ร ะ บ บ ดู แ ล นำ YC

ช่วยเหลือนักเรียน

การทำวาระการประชุมและรายงานการประชุม
วาระการประชุม เป็นการจัดรวมเรื่องท่ีจะเสนอต่อที่ประชุม เป็นหมวดหมู่ เพ่ือสะดวกต่อ

การประชมุ
รายงานการประชุม คือ การบันทึกความคิดเห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมและมติ

ของที่ประชุมไว้เป็นหลักฐาน ดังน้ัน เม่ือมีการประชุม จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายเลขานุการท่ีจะต้อง
รบั ผิดชอบจัดทำรายงานการประชุม ปัญหาของการเขียนรายงานการประชุมท่ีพบบ่อยคือ ไม่รู้วิธีการ
ดำเนินการการประชุมท่ีถูกต้อง ไม่รู้จะจดอย่างไร ไม่เข้าใจประเด็นของเร่ือง ผู้จดบันทึกการประชุม
จะต้องร้วู ิธคี ิดก่อนเขียน รู้ลำดบั ความคดิ รู้โครงสร้างความคดิ รอู้ งค์ประกอบเน้ือหา จะทำให้เขียนได้
เขา้ ใจง่าย ไมส่ บั สนวกวน

24

ตวั อย่าง

การทำวาระการประชุม/การรายงานการประชมุ
บันทกึ การประชุมคณะกรรมการนกั เรียนเพอื่ นทปี่ รึกษา (YC)

ครั้งท.ี่ ....../.........
เม่ือวันท่ี………..เดือน........................พ.ศ.............. เวลา................น.

สถานทปี่ ระชุม..........................................
--------------------------------------

1. ประธานการประชุม
รองผู้อำนวยการฝา่ ยกิจการนักเรียน................................................(หรือผ้ไู ดร้ ับมอบหมาย)

2. จำนวนผมู้ าประชมุ …………. คน
3. จำนวนผู้ไม่มาประชุม

-
4. ผู้เขา้ รว่ มประชุม

1. ……………………………………… ครูแนะแนว
2. ……………………………………… ครูทีป่ รกึ ษากจิ กรรมนกั เรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC
3. ……………………………………… ประธานนักเรียนเพ่ือนทปี่ รกึ ษา YC มธั ยมศึกษา
ตอนต้น
4. ……………………………………… รองประธานนักเรียนเพ่ือนทป่ี รึกษา YC มัธยมศกึ ษา
ตอนตน้
5. ……………………………………… ประธานนักเรียนเพื่อนท่ปี รึกษา YC มัธยมศกึ ษาตอน
ปลาย
6. ……………………………………… รองประธานนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา YC มัธยมศึกษาตอน
ปลาย
7. ……………………………………… นักเรยี นแกนนำเพ่ือนท่ปี รกึ ษา YC มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
8. ……………………………………… นกั เรยี นแกนนำเพื่อนท่ีปรึกษา YC มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
9. ……………………………………… นกั เรียนแกนนำเพื่อนที่ปรึกษา YC มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
10. ………………………………….…. นักเรียนแกนนำเพื่อนท่ปี รึกษา YC มัธยมศึกษาปีที่ 4
11. …………………………………….. นักเรยี นแกนนำเพ่ือนทีป่ รกึ ษา YC มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
12. …………………………………….. นักเรยี นแกนนำเพื่อนทีป่ รึกษา YC มธั ยมศึกษาปที ี่ 6
5. สาระสำคัญของการประชุม

เร่ิมประชมุ เวลา…………..น.

25

เมื่อที่ประชมุ พรอ้ มแล้ว ประธานกล่าวเปิดประชมุ /กล่าวขอบคุณ คุณครูท่ปี รึกษากิจกรรม
นกั เรียนเพื่อนที่ปรกึ ษา (YC) ทัง้ 2 ทา่ น ทใี่ หเ้ กียรติเข้าร่วมประชุม และดำเนินการตามระเบียบวาระ
การประชมุ ตอ่ ไป

ระเบียบวาระที่ 1 เร่อื งประธานแจ้งใหท้ ราบ
เม่ือวันท่ี....... เดือน.....................พ.ศ............ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มาเยี่ยมชม

สำนักงานแนะแนว และห้องกิจกรรมนักเรียนเพื่อนท่ปี รึกษา (YC) พร้อมทั้งให้กำลังใจ คณะกรรมการ
นักเรยี นเพอื่ นที่ปรึกษา (YC)

ระเบียบวาระท่ี 2 รบั รองรายงานการประชมุ

ระเบียบวาระท่ี 3 เรื่องสบื เน่ือง
ระเบยี บวาระที่ 4 -
ระเบยี บวาระที่ 5 เรอ่ื งแจ้งเพอ่ื ทราบ
-
เรอื่ งเสนอเพอ่ื พจิ ารณา
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..

ระเบียบวาระที่ 6 เรอ่ื งอ่ืน ๆ (ถา้ มี)

การประชุมกล่มุ เพือ่ ปรกึ ษาปญั หารายกรณี (Case Conference)
คำว่า Conference คือ การประชมุ เพื่อปรึกษาหารือกันอย่างเป็นทางการ เป็นการปรึกษา

ร่วมกัน โดยมกี ารแลกเปลย่ี นข้อคดิ ความเหน็ หรือทัศนะต่อกัน โดยมวี ัตถุประสงคเ์ พอื่ ปรกึ ษา/การตดั สนิ ใจ
กำหนดนโยบาย กำหนดวิธีแก้ไขปัญหา หรือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในเร่ืองที่กำหนดไว้ การประชุมแบบ
นน้ี ิยมใช้กนั มาก

การป ระชุม กลุ่ม เพื่ อป รึกษ าปั ญ ห ารายกรณี (Case Conference) ใน โรงเรียน
เป็นการประชุมปรึกษาหารือ เพ่ือรวบรวมความคดิ เห็น ของผู้ที่เกี่ยวขอ้ งหรือกลุ่มคนที่มาร่วมประชุม
กัน อาจประกอบด้วย ครูแนะแนว ครูที่ปรึกษา นักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) นักจิตเวช นักสังคม
สงเคราะห์ นักกฎหมาย ฯลฯ สมาชิกท่ีร่วมประชุมในกรณีต่าง ๆ อาจมีจำนวนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ

26

เรื่องนั้นๆจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายใด ในการประชุมกลุ่มเพื่อปรึกษารายกรณี ไม่ใช่เป็นการตัดสินปัญหา
แตจ่ ะเปน็ การระดมพลังสมองเพ่อื หาทางออกหรือแก้ปัญหาร่วมกัน

ตวั อย่าง

การประชมุ กลุ่มเพ่ือปรึกษาปญั หารายกรณี (Case Conference)

สำหรับนกั เรียนเพ่อื นทป่ี รึกษา (YC)

****************

ด้วยขณะน้ีได้เกิดปัญหาของนักเรียนในเร่ืองการเรียนและการทะเลาะวิวาท ดังน้ัน เพ่ือให้

การแก้ไขปัญหาดังกล่าวดำเนินไปอย่างถูกต้อง จึงได้มีการประชุมกลุ่มเพ่ือปรึกษาหารือปัญหาราย

กรณขี องนักเรยี นขนึ้

ผ้เู ข้าประชุม

จำนวนทั้งส้นิ 5 คน ประกอบด้วย

- ตวั แทนผบู้ รหิ ารโรงเรยี น : รองผู้อำนวยการกลุม่ กจิ กรรมนกั เรียน ประธานกรรมการ

- ตวั แทนครู : ครทู ่ีปรกึ ษาประจำช้นั ของนกั เรยี น 2 คน กรรมการ

- นักเรียนเพ่ือนท่ปี รกึ ษา (YC) 1 คน กรรมการ

- ครแู นะแนว กรรมการและ

เลขานกุ าร

สถานท่ีในการประชมุ

หอ้ งประชุมของโรงเรยี น

วันทจี่ ัดประชมุ

วนั ท่ี 19 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ช่ัวโมง 30 นาที

เริ่มการประชมุ เวลาประมาณ 09:30 -11:00 น.

สรปุ ผลการประชมุ โดยสังเขป คอื

1. ปัญหาของนกั เรยี น

ผลจากการสอบถามความคิดเห็นของครูท่ีเก่ียวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ปกครอง และตัวนักเรียน

สรุปรายละเอยี ด ดังน้ี

1.1 ปัญหาพฤติกรรม : การทะเลาะวิวาทในโรงเรียน

1.2 ปัญหาดา้ นการเรียน

2. สาเหตขุ องปัญหา

2.1 ปัญหาพฤติกรรม : การทะเลาะวิวาทในโรงเรียน เริ่มจากการรับฟังข้อมูลท่ีไม่ถูกต้อง

จงึ เกดิ ความเขา้ ใจผิด ประกอบกบั การทา้ ทายของทงั้ สองฝา่ ย

2.2 ปัญหาด้านการเรียน นักเรียนมีผลการเรียนเฉล่ียต่ำกว่าเกณฑ์ และไม่สามารถแก้ไข

ผลการเรียนไดภ้ ายในระยะเวลาทกี่ ำหนด สง่ ผลให้มีผลการเรียนเฉลีย่ ต่ำกวา่ เกณฑ์ เกิน 1 ปกี ารศกึ ษา

27

3. ผลการประชุมกลุ่มเพ่ือปรึกษาหารือรายกรณี สรุปได้ว่าการแก้ไขปัญหาของนักเรียน
ต้องดำเนนิ การทีละปัญหา โดยมีขอ้ สรุปดังนี้

3.1 ปัญหาพฤติกรรม : การทะเลาะวิวาทในโรงเรียน ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา
ตามกฎระเบียบและแนวปฏิบัติท่ีทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ เป็นไปตามข้อตกลงการมอบตัวนักเรียน
ตั้งแต่การรับนักเรียนเข้ามาเรยี นในสถานศึกษา ท้ังนี้ เพื่อให้การดูแลช่วยเหลอื นักเรียนทุกคนมีความเท่า
เทียมกนั สอดคล้องและดำเนนิ ตามระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนในโรงเรยี น

3.2 ปัญหาด้านการเรียน ให้โอกาสนักเรียนได้มีเวลาและสิทธิ์ในการแก้ตัวและสอบ
ประเมินผลในรายวิชาท่ีค้างอยู่ให้เรียบร้อยเสร็จสิ้น ภายในเวลาท่ีกำหนดไว้ (หน่ึงสัปดาห์) หลังจาก
นนั้ ให้ดำเนนิ การตามระเบียบวดั ผลประเมนิ ผลของโรงเรียนต่อไป

4. ข้อเสนอแนะจากการประชุม
การดำเนินการใด ๆ ก็ตามในการแก้ไขปัญหารายกรณี ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนต้องมีข้อมูล
พ้ืนฐาน เพ่ือประกอบการพิจารณาในการแก้ไขปัญหาของนักเรียนในแต่ละด้าน รวมทั้งต้องพิจารณา
ทางเลือกท่ีหลากหลายและเหมาะสมที่สุดกับการแก้ไขปัญหาของนักเรียน โดยเม่ือพิจารณาในท่ี
ประชุมแล้ว การเลือกวิธีแก้ไขปัญหาเป็นหน้าที่ของนักเรียนและผู้ปกครองท่ีจะต้องช่วยกันตัดสินใจ
เลือกแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยครูและผู้ท่ีเกี่ยวข้องสามารถเข้าไปมีบทบาทในการให้ความ
ชว่ ยเหลอื ตามความเหมาะสม
การประชมุ กลุ่มเพอ่ื ปรกึ ษาปัญหารายกรณี (Case Conference) ครัง้ น้ี เสร็จสิ้นด้วยดี โดย
มีการตัดสินใจของผู้ปกครองและตัวนักเรียนท่ีได้เลือกแนวทางท่ีคิดว่าดีท่ีสุดสำหรับทุกฝ่าย
โดยเฉพาะเพ่ือตัวของนักเรยี นเอง

ทำเนียบนกั เรยี นเพือ่ นทปี่ รึกษา (YC)
การจัดทำทำเนียบนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ก็เหมือนกับการจัดทำทำเนียบขององค์กร

หรือหน่วยงานอื่น ๆ ท่ัวไป ท่ีต้องมีการจัดทำเป็นโครงสร้างตามหน้าที่ท่ีชัดเจน ระบุตำแหน่งหน้าท่ี
ของกิจกรรม และมรี ปู ภาพของผู้ปฏิบตั หิ นา้ ทด่ี งั กลา่ ว

28

ตวั อยา่ ง

ทำเนียบนักเรียนเพ่อื นทปี่ รกึ ษา (YC)
รายชอ่ื คณะกรรมการนักเรยี นเพ่ือนทีป่ รกึ ษา (YC)

ประธานนักเรยี น
เพ่ือนทปี่ รึกษา (YC)

รองประธานนักเรยี น
เพื่อนทีป่ รึกษา (YC)

เหรัญญกิ ประชาสัมพนั ธ์ เลขานกุ าร

นกั เรยี นเพ่ือนทีป่ รึกษา (YC)
ทุกระดับช้ัน

ครแู นะแนว ครูทป่ี รึกษา

29

ตัวอยา่ ง

คำสงั่ แต่งตัง้ คณะกรรมการนักเรยี นเพ่ือนท่ปี รกึ ษา (YC)

คำสง่ั โรงเรียน.................................................

ท่ี ......../……….

เร่อื ง แต่งตั้งคณะกรรมการนักเรยี นเพื่อนท่ปี รึกษา (YC : Youth Counselor)

ประจำปีการศกึ ษา...........

------------------------------------

ด้วยโรงเรียน..................................จะได้จัดกิจกรรมนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC : Youth

Counselor) ซง่ึ เปน็ การทำงานภายใต้ระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน และได้กำหนดให้กจิ กรรมนกั เรยี น

เพื่อนที่ปรึกษาเป็นภารกิจหนึ่งในการดำเนินงานแนะแนว ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนานักเรียน

ให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แล้ว

ท่ีสำคัญยังเป็นการพัฒนาให้นักเรียนมีทักษะและกระบวนการในดา้ นการให้การปรึกษา ซ่งึ จะสามารถ

นำไปใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ ไดเ้ ป็นอย่างดี

เพ่ือให้การพัฒนากิจกรรมนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ในโรงเรียน ได้ดำเนินไปอย่าง

ต่อเนื่อง และเกิดประสิทธภิ าพ เป็นการร่วมพัฒนาเพือ่ ให้นักเรยี นมีจิตอาสา ทำประโยชนใ์ ห้กับสงั คม

ต่อไป โรงเรียน......................................จึงได้แต่งต้ังคณะกรรมการนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC :

Youth Counselor) รายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี

1. คณะกรรมการอำนวยการ

มีหน้าที่ให้การปรึกษาหารือ แนะนำ และอำนวยความสะดวกให้กับคณะกรรมการฝ่ายต่าง

ๆประกอบด้วย

1.1 ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรมการ

1.2 รองผอู้ ำนวยโรงเรยี น รองประธานกรรมการ

1.3 หัวหน้ากลุ่มกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น กรรมการ

1.4 หวั หน้าระดบั ช้นั กรรมการ

1.5 ครูแนะแนว กรรมการ

2. คณะกรรมการดำเนินงาน

มีหน้าที่ อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม ดูแลความเรียบร้อยนักเรียน จัดเตรียม

สถานที่ อปุ กรณ์ ประกอบด้วย

2.1 ครแู นะแนวหรือครูทีป่ รึกษานกั เรียน YC3 ประธานกรรมการ

2.2 ประธานนกั เรยี นเพอ่ื นท่ีปรึกษา YC รองประธานกรรมการ

2.3 นกั เรยี นแกนนำเพื่อนทีป่ รกึ ษา YC มัธยมศึกษาตอนต้น กรรมการ

2.4 นกั เรยี นแกนนำเพื่อนทป่ี รกึ ษา YC มัธยมศึกษาตอนปลาย กรรมการ

30

2.5 รองประธานนกั เรียนเพือ่ นท่ปี รึกษา YC มธั ยมศึกษาตอนปลาย กรรมการ
เลขานกุ าร

2.6 รองประธานนักเรยี นเพื่อนทีป่ รึกษา YC มัธยมศกึ ษาตอนตน้ กรรมการและ
ผู้ช่วยเลขานกุ าร

3. แกนนำนกั เรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
มีหน้าท่ี ให้การปรึกษาเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ปฏิบัติหน้าท่ีเวรประจำวันห้องที่ห้องให้การ

ปรึกษา ประกอบด้วย
3.1 ประธานนักเรียนเพอื่ นที่ปรึกษา YC ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ประธานกรรมการ
3.2 รองประธานนกั เรียนเพื่อนทป่ี รึกษา YC ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 รองประธาน

กรรมการ
3.3 นกั เรยี นแกนนำเพื่อนท่ีปรกึ ษา YC ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 กรรมการ
3.4 นักเรียนแกนนำเพื่อนที่ปรึกษา YC ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 กรรมการ
3.5 นักเรียนแกนนำเพื่อนท่ีปรกึ ษา YC ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 กรรมการ
3.6 ประธานนกั เรยี นเพ่ือนที่ปรึกษา YC ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 กรรมการและ
เลขานกุ าร
3.7 ประธานนักเรียนเพือ่ นที่ปรกึ ษา YC ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 กรรมการและ
ผู้ชว่ ยเลขานุการ

4.แกนนำนกั เรียนเพอื่ นที่ปรกึ ษา (YC) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
มีหน้าที่ ให้การปรึกษาเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ปฏิบัติหน้าที่เวรประจำวันห้องที่ห้องให้การ

ปรึกษา ประกอบดว้ ย
4.1 ประธานนกั เรยี นเพื่อนที่ปรกึ ษา YC ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ประธานกรรมการ
4.2 รองประธานนักเรยี นเพ่ือนทปี่ รกึ ษา YC ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 รองประธาน

กรรมการ
4.3 นกั เรียนแกนนำเพื่อนท่ีปรกึ ษา YC ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 กรรมการ
4.4 นกั เรียนแกนนำเพ่ือนท่ีปรึกษา YC ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 กรรมการ
4.5 นกั เรยี นแกนนำเพื่อนท่ีปรึกษา YC ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 กรรมการ
4.6 ประธานนกั เรียนเพ่อื นท่ีปรกึ ษา YC ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 กรรมการและ
เลขานุการ
4.7 ประธานนักเรียนเพอื่ นท่ีปรึกษา YC ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 กรรมการและ
ผู้ชว่ ยเลขานุการ

31

5.คณะกรรมการนกั เรยี นเพ่อื นท่ีปรึกษา (YC) ระดบั ชน้ั
มีหน้าที่ ให้การปรึกษาเพื่อนนักเรียนในห้องเรียน ในกรณีพบปัญหาท่ีมีความซับซ้อน

ไม่สามารถช่วยเหลือก็จะส่งต่อให้กับแกนนำนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา ครูแนะแนวหรือครูท่ีปรึกษา
ประกอบด้วย

5.1 ตัวแทนแกนนำนักเรยี นเพื่อนท่ีปรึกษาระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกห้องเรียน
กรรมการ

5.2 ตวั แทนแกนนำนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษาระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ทุกห้องเรียน
กรรมการ

5.3 ตวั แทนแกนนำนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ทุกห้องเรียน
กรรมการ

5.4 ตัวแทนแกนนำนักเรยี นเพ่ือนทป่ี รึกษาระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ทุกห้องเรียน
กรรมการ

5.5 ตวั แทนแกนนำนักเรียนเพื่อนทป่ี รึกษาระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ทุกห้องเรียน
กรรมการ

5.6ตวั แทนแกนนำนักเรียนเพื่อนทปี่ รึกษาระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ทกุ ห้องเรียน
กรรมการ

ขอให้คณะกรรมการทุกฝ่ายท่ีได้รับแต่งตัง้ ปฏิบัติหน้าที่และประสานงานตามหน้าท่ีท่ีได้รับ
มอบหมาย ตลอดจนปรึกษาหารือ แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดข้ึนอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้บัง
เกิดผลดีกบั สถานศึกษาต่อไป

ทงั้ นี้ ต้ังแต่บัดนเี้ ปน็ ตน้ ไป

สงั่ ณ วันท่ี...........เดือน.........................พ.ศ...........

(.......................................................)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียน....................

32

ทำเนียบภาคเี ครอื ข่าย
การจัดทำเนียบภาคีเครือข่าย เป็นการจัดทำทำเนียบภาคีเครือข่ายของกิจกรรมนักเรียน

เพ่ือนที่ปรกึ ษา (YC) ของสถานศึกษา ซ่ึงภาคีเครือข่ายดังกล่าวมีส่วนสำคัญย่ิงในการสนับสนุนให้เกิด
ความสำเร็จในการดำเนินงาน/ดำเนนิ กิจกรรมนกั เรียนเพอื่ นที่ปรึกษา (YC) ของสถานศึกษาดังกลา่ ว

ตวั อยา่ ง

ทำเนยี บภาคเี ครอื ข่าย
แผนภาพกระบวนการมสี ่วนร่วมของภาคีเครอื ข่ายทุกภาคส่วนทเ่ี กย่ี วข้อง

สหวชิ าชีพ ประกอบดว้ ย แพทย์ / พยาบาล เครือข่ายผู้ปกครอง / เครือข่ายต่อต้าน
นักจติ วิทยา / นักกจิ กรรมบำบัด / นกั สังคม ความรุนแรงในเด็กและสตรี / เครือข่าย
สงเคราะห์ / นกั ดนตรบี ำบดั / นกั จติ เวช / ครูแนะแนว/ เครือข่ายนักเรียนเพื่อน
นักกายภาพบำบดั / นกั กฎหมาย / ผใู้ ห้ ท่ีปรกึ ษาภายในและภายนอกโรงเรยี น
การปรกึ ษา ฯลฯ

นกั เรยี นเพื่อนท่ีปรึกษา
(YC : Youth Counselor)

โรงพยาบาล / สถานตี ำรวจ / สถานีอนามัย / ผู้อำนวยการโรงเรียน / รองผู้อำนวยการ /
เทศบาล / วัด / องค์การบริหารส่วนจังหวัด / ครปู ระจำวชิ า / ครแู นะแนว / ครทู ป่ี รึกษา /
องค์การบริหารส่วนตำบล / มหาวิทยาลัย / ครูประจำช้ัน / หัวหน้าระดบั ชนั้ / หัวหน้า
ชมรม / องค์กรภาครัฐ เอกชน / สถาบัน งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน /
ฝึกอบรมวิชาชีพ / ศูนย์บำบัดยาเสพติด / นักเรียนแกนนำ YC ระดับช้ัน ม.1 – ม.6 /
สถาบันจิตวิทยาเดก็ และวยั รุ่น / ศนู ย์พงึ่ ได้ สภานักเรียน / ชมรม TO BE NUMBER ONE /
โรงพยาบาลศนู ย์ประจำจงั หวัดหรอื อำเภอ ฯลฯ ชุมนมุ ทางวชิ าการ

33

การรายงานผลการดำเนินงาน
เมื่อส้ินสุดการทำงานแต่ละภาคเรียน นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) จะต้องมีการสรุปรายงาน

ผลการดำเนนิ งาน นำเสนอต่อครูแนะแนว หรือครูทป่ี รกึ ษากจิ กรรมนกั เรยี นเพ่อื นที่ปรึกษา (YC)

ตัวอยา่ ง

แบบรายงานผลการดำเนนิ งานของนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC)
ประจำภาคเรยี นท.ี่ ......./25......

ชอื่ นกั เรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC)…………………………………..……………………………ชั้น...................
1. จำนวนนักเรียนท่ีให้การปรกึ ษา ……………………….คน
2. จำนวนนักเรียนท่ีสามารถชว่ ยเหลอื ได.้ ................คน
3. จำนวนนกั เรียนทต่ี อ้ งส่งตอ่ ครูแนะแนว / ครทู ่ีเกย่ี วข้อง................คน
4. ปัญหาทีน่ กั เรียนมาขอรับการปรกึ ษามากทีส่ ดุ 3 อันดบั แรก ได้แก่

4.1 อนั ดบั ที่ 1 ...............คน
ปัญหาเร่ือง....................................................................................................................
......................................................................................................................................

4.2 อันดบั ที่ 2 ................คน
ปญั หาเร่อื ง.....................................................................................................................
.......................................................................................................................................

4.3 อนั ดบั ท่ี 3 ................คน
ปัญหาเรื่อง......................................................................................................................
........................................................................................................................................

5. สงิ่ ที่เปน็ ปญั หาในการให้การปรกึ ษาและต้องการความช่วยเหลอื จากครูแนะแนว ได้แก่
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................... ผ้รู ายงาน
(...................................................)
นักเรียนเพอื่ นท่ปี รึกษา (YC)

34

หน่วยที่ 3
นักเรยี นเพ่อื นที่ปรึกษา (YC) : กบั การใหก้ ารปรกึ ษา

การให้การปรึกษามีความแตกต่างจากการให้คำแนะนำ ซ่ึงการให้การปรึกษามีหลักการ
ข้ันตอน ทักษะ และจุดมุ่งหมายที่จะช่วยให้ผู้มาขอรับการปรึกษาสามารถหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ของตนเอง

การให้การปรึกษา : การให้คำแนะนำแตกตา่ งกันอยา่ งไร

ให้การปรึกษา ใหก้ ารแนะนำ

ผรู้ บั การปรึกษา ผรู้ บั การแนะนำ
สามารถหาวิธีการ แนวทาง การแก้ไขปญั หา ทำตามวิธกี ารทผ่ี ู้แนะนำชแี้ นะให้
ได้ด้วยตนเอง ภายใต้การให้การปรกึ ษาจาก แต่ไม่ได้คดิ หาวิธีการแก้ไขปญั หาดว้ ย

นักเรยี นเพื่อนทีป่ รึกษา (YC) ตนเอง

ขน้ั ตอนการให้การปรกึ ษาของนักเรยี นเพอื่ นท่ีปรึกษา (YC)
ข้นั ตอนการให้การปรกึ ษาแก่ผมู้ ารับการปรึกษา มี 5 ขัน้ ตอน ดงั น้ี
1. ขั้นสรา้ งสัมพันธภาพ
การเริ่มต้นพบกันคร้ังแรกของนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา(YC) และเพื่อนผู้ขอรับการปรึกษา

เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการเร่ิมต้นพบกันท่ีเป็นไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง จะช่วยให้เพ่ือนเกิด
ความรู้สึกประทับใจและไว้วางใจ พร้อมท่ีจะเปิดเผยเร่ืองราวของตนเอง และร่วมมือในการปรึกษา
ทำให้การใหก้ ารปรึกษาบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้ง่ายขึ้น

วัตถปุ ระสงค์
1. เพื่อลดความประหม่าและวติ กกงั วลของเพ่ือนผรู้ บั การปรึกษา
2. สร้างความรู้สึกคุ้นเคย และเป็นกันเองระหว่างนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) และเพื่อน
ผู้รับ
การปรกึ ษา
3. สร้างความเข้าใจที่ถกู ตอ้ งเกี่ยวกับการใหก้ ารปรึกษา

35

4. ให้เพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาเกิดความม่ันใจต่อการให้การปรึกษา และไว้วางใจนักเรียน
เพอ่ื นทีป่ รึกษา (YC)

แนวทางปฏิบัติ
1. ยิ้มแย้มแจ่มใส
2. ลุกขึน้ ตอ้ นรับ หรือเดนิ ไปรบั
3. เชิญให้น่ังเป็นการผ่อนคลาย (พยายามทำให้ดูเป็นธรรมชาติ เพราะถ้ามากไป ผู้มาขอรับการ
ปรึกษาจะเกดิ ความเกร็งและจะกลายเปน็ เร่ืองยากไป)
4. แนะนำรายละเอียดของตัวเองสั้น ๆ เช่น ช่ือจริง ชื่อเล่น ช้ันที่กำลังศึกษา ส่ิงที่ชอบเป็น
ตน้
5. พูดคุยเร่ืองท่ัวไป เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ กิจกรรมท่ีกำลังเป็นท่ีนิยม การเรียน ในชั้น
เรยี น เปน็ ต้น
6. ใหเ้ พอ่ื นผู้ขอรบั การปรึกษาเล่าสาเหตุทม่ี าขอรับการปรกึ ษา
7. แจ้งขอบข่าย ลักษณะ กระบวนการให้การปรึกษาเพ่ือน ตลอดจนบทบาทของนักเรียน
เพ่ือนทป่ี รึกษา (YC) และเพอ่ื นผขู้ อรบั การปรกึ ษาตามความเหมาะสม
8. เนน้ เร่ืองการรักษาความลบั
9. ฟงั และใส่ใจเพอื่ นผู้ขอรบั การปรึกษา
2. ข้นั สำรวจและทำความเข้าใจปัญหา
สำรวจทำความเข้าใจปัญหา ผลกระทบที่เกิดข้ึน ความต้องการและกำหนดเป้าหมายท่ีเป็น
จริง เป็นขน้ั ตอนที่สำคัญ และอาจตอ้ งใช้เวลาค่อนข้างมาก เนื่องจากเพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาสว่ นใหญ่
จะมี ความสับสนทางอารมณ์ หรอื มีการรับรู้ท่ีบิดเบือนจากความเป็นจริง เชน่ อคติ เข้าข้างตนเอง หรือ
ใช้ กลไกปอ้ งกนั ตนเองสงู ในบางกรณจี งึ อาจต้องใชเ้ วลาเพอ่ื ดำเนินการในขน้ั ตอนน้ีมากกวา่ 1 ครั้ง
วัตถปุ ระสงค์
1. คน้ หาปัญหาที่แท้จริง รวมทัง้ สำรวจสถานการณ์ของปัญหา
2. หาสาเหตขุ องปัญหา
3. ให้เพื่อนผู้ขอรับการปรึกษาตระหนักรู้ เข้าใจถึงปัญหาและสาเหตุท่ีแท้จริง และข้อมูลเป็น
ปจั จบุ ัน รวมทงั้ ผลกระทบที่เกดิ ข้ึน
4. ใหเ้ พอ่ื นผู้ขอรับการปรกึ ษารคู้ วามต้องการและตั้งเป้าหมายท่สี ามารถทำไดจ้ รงิ
5. สรา้ งความหวงั และความมนั่ ใจในการแก้ไขปัญหา
แนวทางการปฏบิ ัติ
1. กระตุ้นให้เพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาได้เล่าระบายความรู้สึกและเรื่องราวของตนเอง ผลกระทบ
ที่ไดร้ บั ในปัจจุบนั และในอนาคตจากปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ
2. ใหเ้ พือ่ นผู้ขอรับการปรึกษากำหนดเปา้ หมายทเี่ ป็นไปได้ทั้งในระยะส้ันและระยะยาว
3. ใช้เทคนคิ เงยี บ ฟัง สังเกต และใส่ใจเพื่อนผู้รับการปรึกษา

36

4. ใช้การทวนซ้ำ สะท้อนกลบั สรปุ ให้กำลงั ใจ และแสดงความเห็นอกเหน็ ใจ
3. ข้นั หาแนวทางการแก้ไขปัญหา
แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ัน เพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาต้องเป็นผู้เลือกวิธีแก้ไขปัญหาด้วย
ตนเอง จะช่วยให้เพื่อนผู้ขอรับการปรึกษาเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง ดังนั้นนักเรียนเพื่อนที่
ปรึกษา (YC) ไม่มีหน้าที่แนะนำ แต่ควรสนับสนุนให้เพื่อนผู้ขอรับการปรึกษา คิดหาแนวทาง
การแก้ไขปัญหาด้วยตนเองให้มากที่สุด ควรพูดเสริมข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ ท่ีเป็นข้อมูลให้ผู้รับการ
ปรกึ ษาไดต้ ดั สินใจเลอื กวธิ ที ่ีดี เหมาะสมที่สดุ และสามารถปฏิบัติไดจ้ ริง
วตั ถุประสงค์
1. ให้เพอ่ื นผู้ขอรบั การปรึกษามีแนวทางแก้ไขปญั หาทเ่ี หมาะสม สามารถปฏิบตั ไิ ดจ้ รงิ
2. หาขอ้ ดี ข้อเสียของแนวทางการแกไ้ ขปัญหา
3. ผู้ขอรบั การปรึกษาจะเปน็ ผู้ตดั สนิ ใจเลือกแนวทางท่ีเหมาะสม
แนวทางปฏิบัติ
1. กระต้นุ ใหเ้ พื่อนผู้ขอรบั การปรึกษาคิดวิธแี ก้ไขปัญหาหลายๆ วิธี
2. เสนอแนะวิธีแก้ไขปญั หาเพม่ิ เตมิ
3. ให้เพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาบอกข้อดีข้อเสียของวิธีการแก้ไขปัญหาแต่ละวิธีท่ีคิดได้
รวมทงั้ ทน่ี กั เรียนเพื่อนทปี่ รึกษา (YC) ช่วยคิด
4. ให้เพื่อนผู้ขอรับการปรกึ ษาเปรยี บเทยี บวิธกี ารแกไ้ ขปัญหาและเลือกวิธที เี่ หมาะสม
5. ใหข้ ้อมลู ชี้แจงผลทต่ี ามมาจากวธิ ีแกไ้ ขปัญหาแตล่ ะวธิ ีเพิ่มเตมิ
6. ให้เพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาสรุปวิธีแก้ไขแต่ละวิธี พร้อมทั้งข้อดีข้อเสีย
4. ขั้นวางแผนเพื่อนำไปสู่การปฏบิ ัติ
แผนการปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหาท่ีเพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาได้ตัดสินใจเลอื กไว้ในข้ันท่ี 3
เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การให้การปรึกษามีคุณค่า และจะเป็นประโยชน์มากขึ้นถ้ามีการทำข้อตกลง
กับนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา (YC) ว่าจะปฏิบัติตามแผน เพราะจะช่วยให้เพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาจะ
เกิด ความตั้งใจและพร้อมท่ีจะลงมือปฏิบัติตาม ดังนั้นโอกาสที่เพื่อนผู้ขอรับการปรึกษาจะจัดการกับ
ปญั หาไดส้ ำเร็จกจ็ ะเป็นจรงิ ไดม้ ากยง่ิ ข้นึ
วัตถุประสงค์
1. กำหนดข้ันตอนและรายละเอียดของการปฏิบัติ เพ่ือให้เป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหา
ทีเ่ พื่อนผู้ขอรบั การปรึกษาเลอื กไว้
2. กำหนดระยะเวลาทจี่ ะใช้ในการแกไ้ ขปญั หา
3. กำหนดแนวทางการประเมนิ ผลการแก้ไขปญั หา
4. สร้างความมน่ั ใจในการแก้ไขปัญหา
แนวทางปฏบิ ัติ
1. กระตุน้ เพื่อนผู้ขอรบั การปรึกษา กำหนดข้นั ตอนและรายละเอยี ดในการแก้ไขปญั หา

37

2. ให้กำลงั ใจเพ่ือนผู้ขอรบั การปรึกษาและให้ข้อมูลย้อนกลับ
3. ชกั ชวนให้ทำขอ้ ตกลงว่าจะปฏบิ ัตติ ามแผนท่ีได้กำหนดไว้
5. ข้นั ยุติการให้การปรึกษา
เม่ือการให้การปรึกษาเพื่อน ดำเนินไปจนหมดเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละครั้ง ในแต่ละราย
หรือเพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษามีท่าทีต่อต้านหรือไม่ร่วมมือในการปรึกษา นักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC)
ก็จะยุติการให้การปรึกษา ซ่ึงจะต้องดำเนินการด้วยความอบอุ่น เป็นมิตร และแสดงความพร้อมท่ีจะ
ให้ความชว่ ยเหลือในโอกาสต่อไป
วตั ถุประสงค์
1. ยตุ ิการใหก้ ารปรึกษาเพอื่ นในแตล่ ะครั้ง หรือแต่ละราย
2. ให้กำลังใจและความมน่ั ใจแก่เพ่ือนผู้ขอรบั การปรึกษา
แนวทางปฏิบตั ิ
1. ส่งสัญ ญ าณ ว่าห มดเวลา โดยบ อกจำน วน เวลาที่ เห ลือตาม ที่ ได้ กำห น ด ไว้
เมอ่ื เหลือเวลาประมาณ 5-10 นาที
2. สรปุ ปญั หา สาเหตุ วิธีแก้ไข
3. เปดิ โอกาสให้เพอ่ื นผู้ขอรบั การปรึกษานดั หมายกำหนดการให้การปรึกษาในครั้งต่อไป
4. ในกรณีที่ต้องส่งตัวเพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาไปยังนักเรียนเพ่ือนท่ีปรึกษา (YC) คนอ่ืน
ต่อไป นักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) ควรจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของเพ่ือนผู้
ขอรับการปรึกษา
5. ให้กำลังใจและแสดงความมั่นใจว่าเพ่ือนผู้ขอรับการปรึกษาจะสามารถจัดการกับปัญหา
ได้

ทักษะการให้การปรึกษาของนักเรียนเพือ่ นทปี่ รกึ ษา
นักเรียนเพื่อท่ีปรึกษา (YC) จำเป็นท่ีจะต้องเรียนรู้ทักษะในการปรึกษา และฝึกปฏิบัติจน

เกิดความชำนาญในระดับหน่ึง จึงจะสามารถให้การช่วยเหลือเพ่ือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ
การให้การปรึกษาเป็นท้ังศาสตร์ และศิลป์ ท่ีนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC) จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้
และฝึกปฏิบัติ จนเกิดความคล่องตัวในการให้การปรึกษา เพราะทักษะต่างๆไม่ใช่การคาดคะเน แต่
เป็นส่ิงทนี่ ักเรยี นเพื่อนทีป่ รึกษา (YC) จำเปน็ ตอ้ งใช้เพ่ือให้เหมาะสมกับสถานการณ์

38

ทักษะการให้การปรึกษา ที่ใชก้ ารพชิ ิตปญั หาและใชใ้ นการใหก้ ารปรึกษา มีดงั นี้
1. ทักษะการใสใ่ จ (Attending Skill)

การใส่ใจเป็นพฤติกรรมของผู้ให้การปรึกษาท่ีแสดงออกด้วยภาษาพูดหรือภาษาท่าทางที่บ่งบอก
ถึงความกระตือรือร้นท่ีจะช่วยเหลือผู้รับการปรึกษา โดยการแสดงความสนใจ การเห็นความสำคัญ
และการให้เกียรติเพ่ือช่วยให้ผู้รับการปรึกษาเกิดความอบอุ่นใจและไม่รู้สึกห่างเหิน โดยมีวัตถุประสงค์
เพ่ือ

1.1 แสดงความสนใจเห็นความสำคญั และใหเ้ กยี รติผรู้ ับการปรึกษา
1.2 เป็นการแสดงความกระตอื รือร้นท่ีจะใหค้ วามช่วยเหลือ
1.3 เพ่ิมความอบอนุ่ ใจใหผ้ ้รู บั การปรึกษา
การใส่ใจ สามารถแสดงออกด้วยภาษาพูดและภาษาท่าทาง ซึ่งภาษาท่าทาง ประกอบด้วย
การประสานสายตาและการแสดงออก ดังนี้
1. ประสานสายตากับผู้รับการปรึกษา แต่ไม่ควรจ้องมองมากเกินไป เพราะจะทำให้ผู้รับ
การปรึกษารสู้ กึ อึดอดั ได้
2. การแสดงออกทางสีหนา้ ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหวและระยะห่าง
2.1 การแสดงออกทางสหี น้าท่อี บอุ่นเป็นมิตรและสอดรบั กบั เรื่องราวของผรู้ บั การปรกึ ษา
2.2 การน่งั ทมี่ ีระยะห่างพอสมควร และแสดงความตง้ั ใจและใสใ่ จ
2.3 การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางท่ีมีความสอดคล้องกับเร่ืองราวของผู้รับการ
ปรกึ ษา
แนวทางปฏิบัติ
1. ขณะฟังควรประสานสายตากับผู้รับการปรึกษา และอาจผงกศีรษะรับคำตาม
ความเหมาะสม
2. ตอบรับส้ัน ๆ หลังจากผู้รับการปรึกษาพูดจบเช่น “ครับ ค่ะ อืม” หรือพูดซ้ำประโยคท่ี
ผู้รับการปรึกษากลา่ วไว้
3. ใชค้ ำพูดท่ีสมั พนั ธ์กบั คำพดู ของผู้รบั การปรึกษาโดยไม่ขัดจังหวะ น่ังในท่าทที ผี่ ่อนคลาย

2. ทักษะการฟงั (Listening Skill)
การฟังเป็นหัวใจของการให้การปรึกษา เป็นทักษะพ้ืนฐานสำคัญในการรับข้อมูลของ

ผู้รับการปรึกษา การให้การปรึกษาจะต้องใช้ทักษะการฟังอย่างมาก เพ่ือจะได้เข้าใจเนื้อเร่ือง
ความรู้สึก ทัศนคติ ค่านิยมของผู้รับการปรึกษา ส่งผลให้กระบวนการให้การปรึกษาบรรลุผลสำเร็จ
โดยมีวัตถปุ ระสงค์ เพือ่

1. เปน็ การช่วยให้ผ้ใู ห้การปรึกษาเขา้ ใจเน้ือหาและความรู้สึกของผู้รบั การปรึกษา
2. เป็นการแสดงความสนใจต่อผู้รับการปรึกษาให้ปรากฏว่า “เรากำลังตั้งใจฟังเธอ
พูดอยู่” ซึ่งจะเปน็ การกระตุ้นให้ผู้ขอรับการปรึกษาพดู ตอ่ ไป

39

3. เปน็ การแสดงวา่ ผู้ให้การปรึกษาเห็นความสำคญั และให้เกียรติผ้รู ับการปรึกษาว่า “สิ่งทเ่ี ธอ
พูดเปน็ เร่ืองสำคัญมาก เรากำลังต้ังใจฟังเธออยู่”

4. เป็นการแสดงตัวอยา่ งรูปแบบของพฤติกรรมท่ีพงึ ปรารถนาให้แกผ่ รู้ ับการปรกึ ษา เป็น
การแสดงใหเ้ หน็ ทักษะการมีสัมพันธภาพกับผู้อ่ืนดว้ ยการฟงั

แนวทางปฏิบัติ
1. ผูใ้ ห้การปรกึ ษาตอ้ งให้ความสำคญั ในสง่ิ ท่ผี ้รู ับการปรกึ ษาพดู ไม่ใช่สง่ิ ท่ีผู้ให้การปรกึ ษาคิดจะ
พูด ความสนใจตอ้ งอยู่ทผี่ ู้รับการปรึกษาเท่าน้นั ซงึ่ ไม่ใช่เร่ืองงา่ ยเพราะโดยธรรมชาติมนษุ ย์มักคิดวา่ ตนเอง
เป็นบุคคลสำคัญกว่าผู้อื่นและผู้พูดมักไม่ได้พูดตรงไปตรงมา อาจมีการบิดเบือนหรือมีปัญหาทาง
อารมณ์เข้ามาเกี่ยวพัน ทำให้ผู้ฟังอาจจับใจความสำคัญและความรู้สึกของผู้พูดไม่ได้ครบถ้วนทุก
ประการถา้ ไมส่ นใจฟงั อย่างแทจ้ รงิ
2. คำพูดและสีหน้าท่าทาง ตลอดจนการกระทำของผู้ให้การปรึกษาเป็นเครื่องส่ือความหมาย
วา่ ผ้ใู หก้ ารปรึกษาสนใจและรับฟังผู้ขอรับการปรกึ ษา โดยกระทำดังตอ่ ไปน้ีคือ

2.1 การประสานสายตากับผู้ขอรับการปรึกษา โดยไม่จ้องมากเกินไปจนผู้ขอรับการ
ปรึกษาเกดิ ความเคอะเขนิ หรือมองอย่างไม่ไว้วางใจ

2.2 การพยักหนา้ การยม้ิ รบั เปน็ เคร่ืองแสดงวา่ “เราพรอ้ มทจ่ี ะฟังเธอพูด”
2.3 การมาพบผู้รับการปรกึ ษาตรงเวลานัดหมาย แสดงว่าผู้ให้การปรึกษาสนใจผรู้ ับการ
ปรึกษา
2.4 คำพูดของผู้ให้การปรึกษา เช่น “พูดตอ่ ไปซิครับ” “แลว้ ยงั ไงอีกครบั ” แสดงวา่ ผูใ้ ห้
การปรกึ ษากำลงั ตั้งใจฟังโดยไมส่ อดแทรกการตัง้ คำถามหรือ เปลย่ี นประเดน็
3. การฟังอย่างเข้าใจทั้งเนื้อหาและความรู้สึกของผู้รับการปรึกษา ซ่ึงผู้ให้การปรึกษาต้อง
ต้ังใจฟังเพราะผู้รับการปรึกษากำลังวุ่นวายใจ เน่ืองจากมีปัญหาหรือมีเรื่องต้องตัดสินใจ กับท้ังผู้รับ
การปรกึ ษาบางคน มีทักษะการพูดไม่ดี ถ้าไมต่ ง้ั ใจฟังจะสับสน
ตวั อยา่ ง
ผู้รับการปรึกษา: พอ่ กบั แม่เอาแต่สง่ั ๆ ให้ทำอยา่ งนน้ั อยา่ งนี้ ไมท่ ำก็บ่น ๆ ๆ
ผใู้ ห้การปรกึ ษา : ดรมี กำลังรู้สกึ ว่าพอ่ กบั แม่บังคบั ดรีม
ผรู้ บั การปรึกษา: ใช่ ๆ เปน็ แบบน้ีมาตลอด
ผ้ใู ห้การปรึกษา : ดรีมต้องการจะบอกวา่ ดรมี สามารถทำอะไรได้ดว้ ยตนเอง

3. ทกั ษะการถาม (Question Skill)
การถามเป็นการให้ผู้รับการปรึกษาได้เล่าเรื่องราวที่ต้องการปรึกษา รวมทั้งความรู้สึก

นึกคดิ ตลอดจนความเชือ่ ของผ้รู บั การปรกึ ษา การถามแบง่ เป็นการถามเปดิ และการถามปดิ
การถามเปิด เม่ือต้องการให้ผู้รับการปรึกษาได้พูด เล่าความรู้สึกหรือเร่ืองราวของเขา

อย่างอิสระ มักจะลงทา้ ยประโยคดว้ ย “อะไร อย่างไร”

40

การถามปิด เมื่อต้องการคำตอบส้ันและเฉพาะเจาะจง มักจะลงท้ายประโยคด้วย “ไหม”
“เหรอ” “หรือไม”่ “หรอื ยัง” “รเึ ปลา่ ”

การถามมีวตั ถุประสงค์ เพือ่
1. ให้โอกาสผู้รบั การปรึกษาไดบ้ อกถึงความรู้สกึ และเร่ืองราวต่าง ๆ ท่ีตอ้ งการจะปรึกษา
2. ให้ผู้รบั การปรกึ ษาได้สำรวจและคิดถึงเรอ่ื งราวของตัวเองเพอ่ื เข้าใจตวั เองมากขน้ึ
3. ใหไ้ ด้ข้อมลู แนวทางแก้ไขปญั หา และแผนการแกไ้ ขปัญหา
แนวทางปฏบิ ัติ
1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการถามว่าต้องการขอ้ มูลแบบใดจากผู้รับการปรกึ ษา โดยท่ัวไป
แล้วผู้ให้การปรึกษาควรใช้คำถามแบบเปิด เพ่ือให้ผู้รับการปรึกษาได้ตอบตามที่ต้องการอย่างเต็มที่
และไมร่ ู้สกึ วา่ ถกู ซกั ถามมากเกินไปจากการถามคำถามแบบปดิ
2. สังเกตและฟังอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นสรุป/ทวนซ้ำประเด็นที่ต้องการข้อมูล
และรายละเอยี ดกอ่ นแลว้ จงึ ตั้งคำถาม
3. เมื่อถามแล้วให้ฟังคำตอบของผู้รับการปรึกษาอย่างใส่ใจ เพื่อรวบรวมข้อมูลของผู้รับการ
ปรึกษาไว้
4. ไม่ควรถามบ่อยเกินไปเพราะอาจทำให้ผู้รับการปรึกษารำคาญ และต่อต้านการให้การ
ปรกึ ษาได้
5. หลีกเล่ียงการถามด้วยคำถามปลายปิด และคำถามที่ข้ึนต้นด้วยคำว่า “ทำไม” เพราะ
มักจะทำให้ผู้รับการปรึกษารู้สกึ ว่าตนเองผดิ และคิดหาคำตอบท่ีเหมือนเปน็ การแก้ตวั

ตัวอยา่ ง

การถามปิด การถามเปดิ
“วนั นี้เราคยุ กนั เรอ่ื งเรียนของนนุ่ กอ่ นดีไหม” “วนั น้นี นุ่ อยากคยุ เร่ืองอะไร”
“หลงั จากคุยกนั ครง้ั กอ่ น นุ่นไดท้ ำ…แล้วหรอื ยัง” “หลังจากคยุ กันวันก่อน นุ่นทำอะไรไปบา้ งแลว้ ”
“นุ่นไมช่ อบเขาเหรอ” “นนุ่ รูส้ กึ อย่างไรกับเขา”
“นนุ่ ไมต่ อ้ งการใหเ้ ขาทำแบบนนั้ ใช่ไหม” “นุน่ ต้องการใหเ้ ขาทำอยา่ งไร”

4. ทกั ษะการเงียบ (Silence Skill)
การเงียบเป็นช่วงระยะเวลาระหว่างการปรึกษาท่ีไม่มีการส่ือสารด้วยวาจา ระหว่าง

ผู้ให้การปรึกษากับผู้รับการปรึกษา แต่ยังคงมีการส่ือสารทางอารมณ์และความรู้สึกอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์
เพอ่ื

1. ให้ผรู้ บั การปรกึ ษาได้คิดทบทวนเร่อื งราวของตัวเองและทำความเข้าใจในส่งิ ทเี่ ขาพดู หรอื รู้สกึ
2. ใหผ้ ้รู บั การปรึกษาไดห้ ยุดพักหลังจากแสดงอารมณโ์ กรธ เสียใจ เช่น กำมอื แนน่ รอ้ งไห้ ฯลฯ

41

3. แสดงความใส่ใจ ร่วมรับรู้และเข้าใจในอารมณ์ความรู้สึกของผู้รับการปรึกษาที่เกิดข้ึน
ในขณะนัน้

แนวทางปฏิบัติ
1. เม่อื ผ้รู ับการปรึกษาน่ิงเงียบผ้ใู ห้การปรึกษาควรประเมนิ วา่ เงียบเพราะสาเหตุใด เช่น

1.1 เศรา้ สะเทือนใจจนพูดต่อไปไม่ได้
1.2 เหน่อื ยจากการร้องไห้หรอื ระบายความรสู้ ึกทรี่ ุนแรง
1.3 คดิ ทบทวนเร่ืองราวของตวั เอง
1.4 จบประเด็นหรือเร่ืองราวนั้น ๆ แล้ว หรือกำลังคิดถึงเรื่องที่จะพูดต่อไป ซ่ึงเหตุผลดังกล่าว
เป็นการเงียบท่ีจะเป็นประโยชน์ต่อการให้การปรึกษา ดังนั้นผู้ให้การปรึกษาไม่ควรรบกวนความเงียบนั้น ควรอ
จนกระท่ังผู้รับการปรึกษาพร้อมท่ีจะพูดต่อไป ซ่ึงอาจใช้เวลาในการรอคอย 5-10 วินาที หากผู้รับการปรึกษา
เงยี บนานพอสมควรแล้วและไม่พูดตอ่ ผู้ให้การปรึกษาอาจจะ

1.4.1 พดู ใหก้ ำลงั ใจหรอื แสดงความเขา้ ใจ เหน็ ใจ เชน่ “เราเข้าใจความรูส้ ึกของเธอนะ”
1.4.2 สะท้อนเนื้อหาและความรู้สึกของผู้รับการปรึกษาเกี่ยวกับสิ่งท่ีกำลังพูดถึง
ก่อนทีจ่ ะมกี ารเงยี บเกิดขึน้ เช่น “เธอนอ้ ยใจและก็ผิดหวังทพ่ี อ่ ทำอย่างนน้ั ”
1.4.3 ถามถึงความหมายของการเงียบ โดยสรุปเน้ือหาท่ีพูดถึงก่อนท่ีผู้รับการปรึกษา
จะเงยี บไป เชน่ “พอเราคยุ กนั ถงึ เรื่อง…..เธอก็เงียบไป ฉนั ไมแ่ นใ่ จว่าท่เี ธอเงยี บไปน่ี มันหมายถงึ อะไร”
1.4.4 ถามถึงความรู้สึกของผู้รับการปรึกษาในขณะท่ีเงียบ โดยสรุปเนื้อหาที่พูดถึง
ก่อนที่ผรู้ ับการปรึกษาจะเงียบไป เช่น “เม่ือกเ้ี ราพูดกันถึงเรอื่ ง ….. แล้วเธอก็เงียบไป ตอนน้ีเธอกำลังรู้สึก
อยา่ งไรอยู่หรือ”
1.4.5 หากผู้ให้การปรึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ผู้รับการปรึกษาเงียบไปนาน
น้ันอาจมีสาเหตุมาจาก
1.5 ต่อต้านการมาพบผู้ให้การปรึกษาเพราะถูกบังคับให้มา ผู้ให้การปรึกษาควรแสดง
ความเข้าใจเห็นใจและพูดถึงความต้ังใจความใส่ใจและเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้รับการปรึกษา รวมท้ัง
หลักการวิธีการและประโยชน์ของการให้การปรึกษา เพื่อช่วยให้ผู้ขอรับการปรึกษาเกิดทัศนคติที่ดีต่อ
การถูกเชิญมาพบและประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากการรับการปรึกษา เช่น “เราคิดว่าเราเข้าใจความรู้สึก
ของเธอที่อยู่ ๆ เราก็ขอให้เธอมาพบ..ที่ให้เธอมาพบก็เพราะว่าเราได้รับทราบเกี่ยวกับ…..(เรื่องราวของผู้รับ
การปรึกษา).......เราเป็นห่วงและคิดว่าถ้าได้คุยกันแล้ว เราอาจจะช่วยกันหาแนวทางที่จัดการ
กับ…..(ปญั หาของผู้รับการปรกึ ษา) ….ไดจ้ งึ ไดม้ าพบเธอ”
1.6 ประหม่าหรือหวาดกลัวต่อการถูกเรียกพบ ผู้ให้การปรึกษาควรชวนพูดคุยเร่ืองทั่วไป
และแสดงท่าทางที่อบอนุ่ เปน็ มิตร เพอื่ สร้างความเปน็ กันเองใหผ้ รู้ บั การปรึกษารูส้ ึกผ่อนคลาย เช่น

“นง่ั ก่อนซิคะ กินข้าวแล้วหรือยงั (กรณีทีน่ ัดพบตอนพกั เทย่ี ง)”
“วันน้ีเรียนวชิ าอะไรบ้าง”

42

2. ไม่ควรพูดเพ่ือลดความรู้สึกอึดอัดของผู้ให้การปรึกษา ท่ีทนให้มีการเงียบเกิดข้ึนในระหว่าง
การสนทนาไม่ได้ ให้อดทนต่อความเงียบและใช้การเงียบให้เป็นประโยชน์ในการให้การปรึกษา เพราะการ
ฟังผู้รับการปรึกษาอย่างสงบ หรือน่ังอยู่กับเขาเงียบ ๆ เมื่อผู้รับการปรึกษามีสภาพอารมณ์ท่ีรุนแรง เช่น โกรธ
มาก เสยี ใจมาก รอ้ งไห้ เป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงอารมณอ์ ย่างเตม็ ท่ี โดยไมม่ กี ารรบกวนและยงั เป็นการ
แสดงว่าผู้ให้การปรึกษาเข้าใจความรู้สึกของเขา จะเป็นผลดีกับการให้การปรึกษามากกว่าการ
ปลอบโยนหรือซกั ถามความรู้สึกในขณะนัน้
ตัวอย่าง

ผู้รับการปรกึ ษา : ตน้ ไมแ่ นใ่ จวา่ ตน้ จะมโี อกาสตอบแทนบุญคุณของแม่ไหม…เพราะ….
ผู้ให้การปรึกษา : (เงยี บ)…….
ผู้รับการปรึกษา : …หมอบอกว่า….แม่…แม…่ แม่..อาจจะ…(นำ้ ตาไหล)
ผู้ใหก้ ารปรึกษา : (เงียบ)…..........…(สง่ กระดาษซับน้ำตาให้ )….
ผู้รับการปรึกษา : แม.่ ..แมอ่ าจจะ…อยกู่ บั พวกเรา…ได้ไมน่ าน…(ร้องไห้)
ผูใ้ ห้การปรกึ ษา : (เงยี บ)….. เรารบั รแู้ ละเขา้ ใจความรู้สึกของต้นนะ.......ตน้ สามารถอยกู่ บั

ความรู้สึกน้ไี ดน้ ะ แต่ขอใหร้ บั ร้ไู ว้วา่ เราจะอยขู่ ้าง ๆ ต้นเสมอ

5. ทกั ษะการทวนซ้ำ (Paraphrasing Skill)
การทวนซ้ำเป็นการที่ผู้ให้การปรึกษาพูดซ้ำในเร่ืองท่ีผู้รับการปรึกษาบอกอีกครั้งหน่ึง

โดยคงสาระสำคัญของเนื้อหาหรือความรู้สึกไว้ตามเดิมและใช้คำพูดน้อยลง แต่ไม่ใช่การทวนซ้ำ
ตลอดเวลา โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื

1. แสดงถึงความใสใ่ จ ความเขา้ ใจของผรู้ บั การปรึกษา
2. ให้ผูร้ ับการปรึกษาเปดิ เผยตัวเองมากข้นึ
3. ย้ำให้ผู้รับการปรึกษาเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพูดได้ชัดเจนย่ิงขึ้น จากการฟังสิ่งที่ตัวเองพูด
อกี คร้ัง
4. ตรวจสอบความเข้าใจให้ตรงกันระหว่างผู้ให้การปรึกษาและผู้รับการปรึกษา ในสิ่งที่
ผู้รับการปรึกษากำลังพูดถึง
แนวทางปฏิบัติ
1. ทวนซำ้ คำพดู ท้งั หมดของผูร้ บั การปรกึ ษา โดยเปล่ยี นเฉพาะสรรพนาม
2. ทวนซ้ำเฉพาะประเด็นสำคัญ
3. ไมค่ วรทวนซำ้ บอ่ ย ๆ และไมเ่ พ่ิมเตมิ ความคดิ เห็นของผู้ให้การปรกึ ษาลงไป
4. สังเกตการตอบสนองของผู้รับการปรึกษา ถ้าทวนซ้ำได้ถูกต้องผู้รับการปรึกษาจะพยัก
หน้าตอบรับ พูดหรือขยายความต่อ แต่ถ้าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากผู้รับการปรึกษา ควรใช้ทักษะ
การถามเปิดตอ่ เพือ่ ใหไ้ ด้ขอ้ มลู ที่ถกู ตอ้ ง

43

ตวั อย่าง
ผูร้ บั การปรึกษา : ฉันก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตของตัวเองต่อไปอย่างไรดี บางครั้ง
อยากจะออกไปหางานทำให้ได้ประสบการณ์ก่อน ขณะเดียวกันกค็ ิดว่า...
น่าจะเรยี นใหจ้ บ ๆ ไปแต่..กไ็ ม่แน่ใจว่าจะเรยี นจบไหม
กรณีที่ 1 ทวนซ้ำท้ังหมดเปลย่ี นเฉพาะสรรพนาม
ผ้ใู ห้การปรึกษา : เธอไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดีระห ว่างออกไปทำงานเพ่ื อหา
ประสบการณก์ ับการเรยี นต่อจนจบ แตก่ ็ไมแ่ น่ใจว่าจะเรียนจบไหม
กรณีท่ี 2 ทวนซำ้ โดยสรปุ แต่คงสาระสำคัญไว้
ผู้ให้การปรึกษา : เธอตัดสินใจไมไ่ ดว้ ่าทางเลอื ก 2 ทางน้ัน ทางไหนเหมาะกบั ตัวเธอมากทส่ี ุด

6. ทกั ษะการให้กำลังใจ (Encouragement Skill)
การให้กำลังใจเป็นการแสดงความสนใจ เข้าใจในสิ่งที่ผู้รับการปรึกษาพูดและสนับสนุนให้

เขาพูดต่อไป โดยใชค้ ำพูดหรือทา่ ทาง มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่
1. กระตุ้นให้ผู้รับการปรึกษากระตือรือร้นและม่ันใจในตนเอง รวมท้ังตระหนักถึง

ความสามารถและคุณคา่ ในตัวเอง
2. กระตนุ้ ให้ผ้รู ับการปรึกษากล้าท่ีจะคดิ และทำในสง่ิ ที่ไมเ่ คยคิดหรือทำมาก่อน
แนวทางปฏบิ ัติ
เมื่อผู้รับการปรึกษาเสนอความคิดหรือแนวทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องเหมาะสม หรือผู้รับ

การปรึกษามีความพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาตนเอง แต่ยังลังเลใจ ผู้ให้การปรึกษาก็อาจใช้
การให้กำลังใจ โดยใช้แนวทางต่อไปน้ี

1. มองหนา้ สบตา ยมิ้ ผงกศรี ษะตอบรับส้ัน ๆ
2. ทวนซำ้ คำสำคญั ๆ ท่ผี ู้รับการปรกึ ษาพูดถึง รวมทง้ั ย้ิมมองหน้าสบตาผูร้ ับการปรึกษา
3. ใช้คำพูดกระตุ้นให้ผู้รับการปรึกษาเกิดความมั่นใจ มีความหวังและกำลังใจท่ีจะคิดหรือ
ทำในส่ิงท่ถี ูกต้องเหมาะสมและเปน็ จรงิ ได้
4. ไมค่ วรสร้างความหวังและการปลอบใจที่ไมอ่ าจเปน็ จรงิ ได้
ตวั อยา่ ง
“น้อยคนนักจะคิดไดอ้ ยา่ งเธอ เราเชอื่ ว่าเธอจะสามารถจดั การกบั เรอื่ งยุ่ง ๆ นไี้ ด้อยา่ งแนน่ อน”
“ทำต่อไปเถอะแม้ผลจะออกมาไม่ดอี ยา่ งท่ีหวังท้งั หมด แต่ทกุ อย่างก็คลค่ี ลายไปมากแลว้ ”

7. ทักษะการสรปุ ความ (Summarizing Skill)
การสรุปความเป็นการรวบรวมใจความสำคัญทั้งหมดของความคิด อารมณ์ ความรู้สึก

ของผู้รับการปรึกษาที่เกิดขึ้นในระหว่างให้การปรึกษาจบหรือเริ่มการให้การปรึกษาแต่ละคร้ัง โดยใช้
คำพูดส้นั ๆ ให้ได้ใจความสำคญั ท้งั หมด มีวัตถปุ ระสงค์ เพ่อื

44

1. ย้ำประเด็นสำคัญใหม้ คี วามชัดเจนในกรณีที่มีการพดู คยุ กนั หลายประเด็น
2. เพื่อใหผ้ ้รู ับการปรกึ ษาเขา้ ใจเรอ่ื งราวและความรสู้ ึกของตวั เอง
3. เพอ่ื ให้การใหก้ ารปรกึ ษาแตล่ ะครงั้ มีความต่อเนอื่ งกนั
4. ช่วยให้ผู้รับการปรึกษาและผู้ให้การปรึกษาเข้าใจเร่ืองราวท่ีกำลังสนทนาได้อย่างถูกต้อง
ตรงกันและได้ใจความที่ชัดเจน
แนวทางปฏบิ ัติ
1. ผู้รบั การปรึกษาพูดถงึ ประเด็นปัญหาต่าง ๆ หลายประเดน็ ผู้ให้การปรกึ ษาอาจสรปุ แต่ละประเดน็
กอ่ นที่ผู้รบั การปรกึ ษาจะเรม่ิ ประเดน็ ต่อไป
2. ให้ผู้รับการปรึกษาเป็นผู้สรุปโดยมีผู้ให้การปรึกษาช่วยเสริมในส่วนสำคัญท่ีผู้รับการปรึกษา
มิได้กลา่ วถงึ หรือขาดหายไป
3. สรปุ กอ่ นจบและเรมิ่ การให้การปรึกษาในแต่ละคร้งั ในกรณีท่มี ีการปรึกษาหลายคร้ัง
4. สรุปครง้ั สดุ ทา้ ยก่อนยตุ ิการใหก้ ารปรึกษา
ตวั อย่างท่ี 1 ผใู้ ห้การปรกึ ษาสรปุ
ผใู้ ห้การปรึกษา : จากท่ีเราคุยกนั มาเธอกังวลเรอื่ ง…............….เพราะ............................…

และเธออยาก (ต้องการ) ให้……....................… เรากำลังช่วยกันคิด
วิธีการเพื่อให้เป็นไปอย่างท่ีเธอต้องการ เพิ่งจะคิดได้วิธีเดียวเองคือ
..................... แต่เวลาที่เราจะพูดคุยกันหมดแล้ว ง้นั เราจะขอใหเ้ ธอมา
พบเราอกี ในวัน…....เวลา...............…… เพ่ือทเ่ี ราจะไดม้ าช่วยกนั คิดหา
วธิ กี ารอ่ืน ๆ ตอ่ ไป
ตัวอยา่ งที่ 2 ผูใ้ ห้การปรกึ ษาขอใหผ้ ู้รับการปรึกษาสรุป
ผู้ให้การปรึกษา : ก่อนท่ีจะหมดเวลาคุยกันในวันนี้ เธอพอจะสรุปได้ไหมว่าเราได้คุยอะไร
กันไปบา้ ง

8. ทักษะการใหข้ อ้ มลู และคำแนะนำ (Giving Information and Advising Skill)
การให้ข้อมูล เป็นการสื่อสารทางวาจาเกี่ยวกับข้อมูลหรือรายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็นแก่

ผู้รับการปรึกษา ส่วนการให้คำแนะนำเป็นการชี้แนะแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาให้แก่
ผู้รบั การปรึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ

1. ให้ความรู้ ข้อมูล และรายละเอยี ดต่าง ๆ ที่จำเป็นแก่ผ้รู บั การปรกึ ษา
3. ใหผ้ ู้รับการปรกึ ษาเข้าใจปญั หาของตนเอง
4. ใหผ้ รู้ ับการปรกึ ษามขี ้อมลู ประกอบการตัดสินใจ
5. ใหผ้ รู้ ับการปรึกษามที างเลอื กและแนวทางปฏิบตั ิที่เขาอาจจะนึกไม่ถึง

45

แนวทางปฏบิ ัติ
การให้ข้อมูล
1. ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ ูกต้อง ครบถว้ น และใช้ภาษาง่าย ๆ
2. ตรวจสอบความรู้เดิมในเร่ืองที่จะให้ข้อมูลกับผู้รับการปรึกษาก่อน เพ่ือให้ข้อมูลนั้น
มีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผล
3. หลังจากให้ข้อมูลแล้ว ควรตรวจสอบว่าผู้ขอรับการปรึกษา เข้าใจถูกต้องหรือไม่ โดยให้
ผรู้ บั การปรึกษาทวนซ้ำ
การให้คำแนะนำ ให้คำแนะนำเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ
และจำเป็นสำหรับผู้รับการปรึกษา และให้โอกาสผ้รู ับการปรึกษาพิจารณาว่าคำแนะนำนั้นเหมาะสม
กับตนเอง สามารถนำไปปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ หรอื ไม่ หรืออาจถามความคดิ เห็น ความรสู้ กึ ทม่ี ีตอ่ คำแนะนำนนั้
ตวั อย่าง
1. “ก่อนท่ีจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเร่ือง.....................................เราอยากทราบว่าเธอ
เข้าใจเก่ยี วกับเรื่องนว้ี า่ อยา่ งไรบ้าง”
2. “ในส่วนไหนของเร่ือง........................ทเี่ ธอคดิ ว่ายงั ไม่รูแ้ ละตอ้ งการรายละเอียดเพมิ่ ”
3. “สำหรับแนวทางที่จะจัดการเร่ือง........................เราคิดว่าควรจะ............................เธอ
คิดว่าอยา่ งไร”
ขอ้ ควรระวงั
การให้คำแนะนำ มีข้อเสียอยู่หลายประการ เช่น หากผู้รับการปรึกษาไม่ชอบก็จะปฏิเสธ
และมีทัศนคติทางลบต่อการให้การปรึกษา หรือถ้าผู้รับการปรึกษาได้รับคำแนะนำแล้วนำไปปฏิบัติ
และไม่ได้รับผลก็จะโทษผู้ให้การปรึกษา หากได้รับผลดีผู้รับการปรึกษาก็จะมาใหม่อีกเป็นการสร้าง
ความรู้สึกผูกพันและพึ่งพิง ผู้ให้การปรึกษาต้องตระหนักไว้เสมอว่าผู้รับการปรึกษาจะต้องเป็น
ผู้ตัดสินใจเลือกเอง

9. ทักษะการชผี้ ลที่ตามมา (Pointing Outcome Skill)
การชี้ผลที่ตามมา เป็นการเน้นให้ผู้รับการปรึกษาได้เห็นผลท่ีอาจตามมาจากการคิด

การตัดสินใจ การวางแผนและการปฏิบัติของเขาเอง ทั้งในทางลบและทางบวก ผลที่ตามมาน้ีอาจ
เป็นได้ทั้งเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นในใจเขา หรือเหตุการณ์ภายนอกซึ่งทำให้พฤติกรรมท่ีเป็นปัญหาคงอยู่
รุนแรงขึ้นหรือลดลง การชี้ผลที่ตามมาทำได้ 2 ทางคือการชี้ผลท่ีตามมาในทางบวกเป็นการช้ีให้
ผู้รับการปรึกษาเห็นข้อดีและประโยชน์ท่ีจะได้รับ เป็นการสนับสนุนให้ผู้รับการปรึกษากล้าตัดสินใจ
หรือปฏิบัติตามแผนท่ีได้วางไว้ และการชี้ผลท่ีตามมาในทางลบเป็นการบอกถึงผลท่ีไม่ดีหรือโทษที่
อาจจะตามมาจากการตดั สนิ ใจหรือการปฏิบตั โิ ดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือ

1. ให้ผู้รับการปรึกษารับรู้ถึงผลดีและผลเสียของการคิด การตัดสินใจ การวางแผนและ
การปฏิบตั ขิ องเขาเองทัง้ ในทางลบและทางบวก

46

2. ใหผ้ ้รู ับการปรึกษาตัดสินใจไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ
แนวทางปฏิบัติ
ให้ผู้รับการปรึกษานึกถึงผลดีหรือผลเสียท่ีจะตามมา จากการตัดสินใจหรือการปฏิบัติของ
ตนเองหรือผู้ให้การปรึกษาเป็นผู้ช้ีผลท่ีตามมา หากผู้รับการปรึกษาไม่สามารถช้ีผลที่ตามมาด้วยตนเอง
ได้
ตัวอยา่ ง
ผู้รับการปรึกษา : “เราไม่เรียนแล้ว เราเบ่ือ.... เบื่อทุกอย่างเลย...... เราจะไปจากทุกคน

ไปตามทางของเรา แล้วเราก็จะไม่ติดต่อกับใครเลย และก็ไม่ไปที่บ้าน
ด้วย เธอคอยดนู ะ”
กรณีท่ี 1 ผู้รับการปรึกษาชผ้ี ลท่ตี ามมา
ผ้ใู ห้การปรึกษา : “ถ้าเธอทำอยา่ งที่บอก เธอคิดว่าพอ่ กบั แมเ่ ธอจะมคี วามร้สู ึกอย่างไร”
กรณที ่ี 2 ผูใ้ หก้ ารปรกึ ษาชผี้ ลทต่ี ามมา
ผู้ให้การปรึกษา : “ถา้ เธอทำอยา่ งท่ีบอก พอ่ กับแม่เธอคงจะรสู ึกผิดหวังและเสยี ใจมาก”

ในการให้การปรึกษานั้น ผู้ให้การปรึกษาควรเลือกใช้ทักษะการให้การปรึกษาท่ีเหมาะสม
กบั ลักษณะปัญหา และควรใช้ทกั ษะให้หลากหลาย ไม่ใช้ทกั ษะใดทักษะหน่ึงบ่อยเกนิ ไป

47

ทม่ี า : มัลลวีร์ อดุลวฒั นศริ ิ.(2554). เทคนิคการให้การปรึกษา : การนำไปใช.้ ขอนแก่น: คลังนานา
วิทยา.

48

ทักษะการให้การปรกึ ษาเพมิ่ เติม
เพื่อให้การให้การปรึกษามีความสมบูรณ์มากย่ิงข้ึน ซึ่งมีอีกมากมายที่นักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา

สามารถนำมาใช้ในการให้การปรึกษา 9 ทักษะ ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ในท่ีน้ีขอเสนอทักษะเพิ่มเติม
3 ทกั ษะ ดงั น้ี

1. ทักษะการนำ (Leading Skill)
การนำเป็นการที่ผู้ให้การปรึกษาพูดนำผู้รับการปรึกษาไปในทิศทางที่ผู้ให้การปรึกษาคิดว่า

จะทำใหผ้ ูร้ ับการปรึกษาไดป้ ระโยชน์สูงสุด ในการมาขอรบั การปรกึ ษาโดยมวี ตั ถุประสงค์ เพ่อื
1. กระตนุ้ ใหผ้ ูร้ ับการปรกึ ษากลา้ ทจ่ี ะพูดคุยมากขน้ึ
2. เปดิ ประเด็นปัญหาของผ้รู ับการปรกึ ษา
3. ใหผ้ รู้ บั การปรึกษาเลือกประเดน็ ปัญหาที่ต้องการปรึกษา
4. กระตนุ้ ใหผ้ ู้รบั การปรกึ ษาสำรวจปญั หาและนำเสนอความร้สู ึกของตวั เองมากขึ้น
แนวทางปฏบิ ตั ิ
1. กำหนดวัตถุประสงค์ของทักษะการนำให้ชัดเจนว่าต้องการนำ โดยให้อิสระแก่ผู้รับการ

ปรึกษา ในการพูดถึงเร่ืองใดเร่ืองหนึ่งตามท่ีเขาต้องการ หรือต้องการนำในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
เฉพาะเจาะจง

2. ใช้ประโยคบอกเล่า เพือ่ กระตุ้นให้ผูร้ บั การปรกึ ษาพดู
3. ใช้ประโยคคำถาม เพื่อให้ผู้รับการปรึกษาแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นหรือรายละเอียดอ่ืน ๆ
เพ่ิมเติม
ตวั อย่าง
1. การนำดว้ ยการใชป้ ระโยคบอกเลา่

“น๊กุ จะเริ่มต้นเล่าสาเหตุของการทนี่ ุ๊กมาพบเราในตอนนไี้ ด้เลยนะ”
“ขอรายละเอยี ดเกีย่ วกบั เร่ือง……….เพิ่มเตมิ อีกสกั หน่อยซิ”
“เมือ่ กีน้ ๊กุ พูดว่า……”
“ลองยกตัวอยา่ งการกระทำของแมท่ ี่ทำใหน้ ุ๊กรู้สึกเสียใจสกั 1-2 ตัวอย่างซิคะ”
2. การนำดว้ ยการถาม
“วนั นี้นุ๊กอยากคยุ เรอื่ งอะไรคะ”
“เราจะเรมิ่ ที่เรอื่ งไหนก่อนดี”
“มีอะไรอกี ไหมทนี่ กุ๊ อยากพดู ถึง”
“นุ๊กบอกว่ามีเรื่องกังวลอยู่หลายเรื่องแล้วเรื่องไหนที่นุ๊กกังวลมากที่สุด และอยาก
พูดถึงก่อนเป็นอนั ดบั แรก”

49

2. ทกั ษะการสะทอ้ นกลับ (Reflection Skill)
การสะท้อนกลับ เป็นการบอกความเข้าใจของผู้ให้การปรึกษาท่ีมีต่อสิ่งท่ีผู้รับการปรึกษา

รู้สึกรับรู้หรือสนใจที่เป็นปัจจุบันขณะให้การปรึกษา การสะท้อนกลับจะรวมความรู้สึกและเน้ือหาท่ี
ผู้รับการปรึกษาพูดถึง หรือส่ิงท่ีผู้ให้การปรึกษาสังเกตเห็นจากกริยาท่าทางของผู้รบั การปรึกษาโดยใช้
คำพดู ของผ้ใู ห้การปรึกษาทชี่ ดั เจนเข้าใจไดง้ ่าย โดยมีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือ

1. กระตุ้นให้ผู้รับการปรึกษาแสดงความรู้สึกและเปิดเผยเรื่องราวของตนเองให้มากข้ึนหรือ
ชัดเจนข้นึ

2. ใหผ้ ู้รับการปรกึ ษาเขา้ ใจปัญหา รวมท้ังสาเหตุและผลกระทบทีเ่ กิดขนึ้ ตลอดจนเข้าใจ ความรสู้ ึก
ของตนเองมากขน้ึ

3. แสดงความสนใจและเขา้ ใจความรู้สกึ และเรื่องราวของผู้รบั การปรกึ ษา
แนวทางปฏิบตั ิ
1. สังเกตพฤติกรรมของผู้รับการปรึกษาขณะให้การปรึกษา เช่น ลักษณะคำพูด น้ำเสียง สีหน้า
ทา่ ทาง
2. จับประเดน็ สำคัญของสิ่งทีผ่ ้รู ับการปรึกษาพดู
3. รวมความรสู้ กึ และเน้อื หาที่ผู้รับการปรกึ ษาแสดงออกและพดู ถึงเข้าด้วยกัน แล้วใช้คำพูด
ทช่ี ัดเจน เข้าใจได้ง่าย โดยพดู ออกไปทันทีเพ่ือสะท้อนสิ่งที่ผู้รบั การปรึกษากำลงั รสู้ ึกหรือรบั รู้ โดยอาจ
พูดความรู้สึกก่อนแล้วตามด้วยเนื้อหา หรือเร่ิมด้วยเน้ือหาก่อนแล้วตามด้วยความรู้สึก ในการสะท้อน
ความรู้สึกผูใ้ ห้การปรึกษาควรหลกี เลี่ยงทีจ่ ะใช้คำว่า “รสู้ ึก” บอ่ ย ๆ
ตัวอยา่ ง
ผ้รู ับการปรึกษา : พอ่ กบั แม่ทะเลาะกันตลอด เราไมร่ ู้ว่าเมื่อไหร่ครอบครัวของเราจะอยู่กัน

อย่าง สงบสขุ แบบครอบครวั อื่นเขาบา้ ง
กรณีท่ี 1 สะท้อนความรู้สึกกอ่ น
ผ้ใู ห้การปรึกษา : เธอไมม่ ีความสขุ ทต่ี อ้ งอยู่ในท่ามกลางความขดั แย้งของพ่อแม่
กรณที ี่ 2 สะท้อนเนื้อหากอ่ น
ผใู้ ห้การปรกึ ษา : การทพ่ี อ่ แมไ่ ม่ปรองดองกนั ทำให้เธอไม่มีความสขุ

3. ทักษะการทำให้กระจา่ ง (Clarifying Skill)
การทำให้กระจ่าง เป็นการช่วยให้ผู้ให้การปรึกษาช่วยให้ผู้รับการปรึกษากระจ่างแจ้งใน

สิ่งท่ีเขากล่าวถึงโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ
1. เพ่ือผู้ให้การปรึกษาและผู้รับการปรึกษากระจ่างแจ้งในเรื่องราว สภาพการณ์ และ

ความรสู้ ึกของผู้รับการปรึกษา
2. เพือ่ ชว่ ยให้ผู้รับการปรกึ ษา เพมิ่ เตมิ ขยายความยิ่งข้นึ

50

แนวทางปฏบิ ัติ
ผู้ให้การปรึกษายึดหลักปฏิบัติการใช้ทักษะการทำให้กระจ่างดังต่อไปนี้ คือ ในกรณีท่ี
ผูร้ ับการปรึกษา พูดด้วยถ้อยคำสบั สน เรื่องราววกวนสลับซับซ้อน ผู้ให้การปรึกษาควรใช้ทักษะการ
ทำให้กระจ่าง
ตวั อยา่ ง
ผใู้ ห้การปรึกษา : ท่ีสมศักดิ์บอกว่าไม่ชอบบรรยากาศในห้องเรียน ช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่าไม่

ชอบอย่างไร
ผู้ให้การปรึกษา : จอยบอกว่าเพื่อนไม่เข้าใจในส่ิงท่ีจอยทำ จอยช่วยบอกได้ไหมว่าจอยต้อง

การใหเ้ พอื่ นเข้าใจอย่างไร
ผ้ใู ห้การปรกึ ษา : ทต่ี ุก๊ บอกว่าแมบ่ ังคับทุกเรื่อง ช่วยเล่าให้ฟงั ไดไ้ หมว่าอะไรบา้ งทแ่ี มบ่ งั คบั ตุ๊ก

ตวั อยา่ งการให้การปรกึ ษาท่ีแสดงขน้ั ตอนและทักษะการให้การปรกึ ษา
สถานการณ์ : ณ ห้องเรียนแห่งหน่ึง กลุ่มนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษาสังเกตเพื่อนช่ือ

กิจ (นามสมุมติ) มี พฤติกรรมเปลี่ยนไป คือมาเรียนสาย ขาดเรียนบ่อย ไม่ส่งงาน นักเรียนเพื่อนที่
ปรกึ ษาจึงเข้าไปพดู คยุ ถามไถว่ า่ เพอื่ นคนนม้ี ปี ัญหาอะไรที่พอจะชว่ ยเหลือได้

ขน้ั สรา้ งสัมพนั ธภาพ

ผ้ใู ห้ & ผูร้ ับการปรกึ ษา บทสนทนา ทกั ษะที่ใช้

นักเรียนเพ่ือนท่ปี รึกษา (YC) : กิจ เราขอนั่งใกล้ ๆ เก้าอ้ีตัวน้ีได้ม๊ัย (ย้ิม ชี้ที่ ทกั ษะการใส่ใจ
เกา้ อ)้ี

กิจ : ได้ ๆ……..เพ่อื น วา่ ไงเหรอ มอี ะไรเหรอแก
นกั เรียนเพื่อนทป่ี รึกษา (YC) : อ๋อ เราขอน่ังด้วยคนนะและเราอยากคุยกับ ทักษะการใส่ใจและ

เธอด้วยล่ะ เป็นยังไงบ้าง เราเห็นเธอเงียบ ๆ การถาม
ซมึ ๆ ช่วงน้ีสบายดีหรอื เปล่า

กจิ : ไมค่ อ่ ยสบายเทา่ ไหรแ่ ก

นักเรยี นเพื่อนทปี่ รึกษา (YC) ทว่ี า่ ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เปน็ ยังไงเหรอ ทั ก ษ ะ ก า ร ท ำ ให้
กระจา่ ง

กิจ : (เงียบ สักคร)ู่


Click to View FlipBook Version