The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รำเดี่ยวรำคู่_compressed (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รำเดี่ยวรำคู่_compressed (1)

รำเดี่ยวรำคู่_compressed (1)

ผลงานการแสดง "รำ เดี่ยว รำ คู่" ปีการศึกษา ๒๕๖๗ โดย นักนัศึกษาชั้นชั้ ปีที่ ๓ สาขาวิชานาฏยศิลป์ศึกษา หลักลัสูตรครุศาสตรบัณบัฑิตฑิ คณะมนุษนุยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยลัราชภัฏภับ้าบ้นสมเด็จ ด็ เจ้าจ้พระยา ในวันที่ ๑๙-๒๐ มีนมีาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นต้ ไป ณ โรงละครโรงละครศรีสุริยวงศ์ อาคาร ๑๕๐ ปี มหาบุรุบุ รุษรัตโนดม (ช่วช่ง บุนบุนาค) สำ นักนัศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยลัราชภัฏภั บ้าบ้นสมเด็จ ด็ เจ้าจ้พระยา


สาขาวิชานาฏยศิลป์ศึกษา หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต คณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มีหน้าที่หลักในการผลิต บัณฑิตวิชาชีพครูด้านนาฏศิลป์ โดยจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนานักศึกษา การ วิจัยการทำ นุบำ รุงศิลปวัฒนธรรมและการบริการทางวิชาการแก่สังคม มุ่งเน้นการ พัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นไปตามหลักสูตรสอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุรุ สภากำ หนด โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะด้านการจัดการเรียนการสอน และด้าน ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติทางนาฏยศิลป์ศึกษา สำ หรับการประกอบวิชาชีพ ครูนาฏยศิลป์ รายวิชา รำ เดี่ยวรำ คู่ ๒๑๙๓๓๐๑ Solo and Double Dance หน่วยกิต ๓(๒-๒-๕) นักศึกษาสามารถอธิบายประวัติความเป็นมาของรำ เดี่ยวรำ คู่ และองค์ ประกอบการแสดง มีการปฏิบัติรำ เดี่ยวและรำ คู่ ได้แก่ ชุดฉุยฉายเบญกาย ฉุยฉาย พราหมณ์ มโนราห์บูชายัญพระลอชมสวน พระรามตามกวาง ปู่เจ้าเรียกไก่และพลาย บัวเกี้ยวนางตานี มีการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้นาฏยศิลป์ การแสดงผล สัมฤทธิ์ทางการศึกษา รำ เดี่ยว รำ คู่ ครั้งที่ ๑ ต่อหน้าสาธารณชน ด้วยเหตุนี้ สาขาวิชานาฏยศิลป์ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์จึงจัด โครงการพัฒนาหลักสูตรเพื่อความเป็นเลิศตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพระดับสากล : กิจกรรมส่งเสริมและยกระดับศักยภาพทักษะการรำ ขั้นสูง “การแสดงผลสัมฤทธิ์ ทางการศึกษารำ เดี่ยว รำ คู่ ครั้งที่ ๒” เพื่อให้นักศึกษาเกิดกระบวนการเรียนรู้ในการ รับการถ่ายทอดท่ารำ ขั้นสูงจากผู้เชียวชาญ และส่งเสริมศักยภาพด้านการรำ เดี่ยวรำ คู่ ในการแสดงโขน ละครไทย ทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ จากบุคคล ภายนอก นำ ไปสู่การยกระดับให้ศาสตร์วิชาเป็นที่ยอมรับในการจัดการเรียนการสอน และการประกอบอาชีพได้อย่างทัดเทียม เป็นมาตรฐาน นักศึกษาสาขาวิชานาฏยศิลป์ศึกษา ขอกราบขอบพระคุณ คณะกรรมการและ ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน อาจารย์ที่ปรึกษาประจำ ชุดการแสดง และ อาจารย์รณกฤต เพชรเกลี้ยง อาจารย์ผู้ควบคุมรายวิชา ที่เสียสละเวลาอันมีคำ ในการให้คำ ปรึกษาคำ แนะนำ ตลอดจนให้ความอนุเคราะห์ชี้แนะแนวทางการพัฒนาความเป็นนักศึกษาสาย ครูนาฏศิลป์นั้น สำ เร็จลุล่วงไปด้วยดีและพร้อมแสดงผลสัมฤทธิ์อย่างสมบูรณ์ คำ นำ


กำ หนดการ โครงการพัฒนาหลักลัสูตรเพื่อความเป็นเลิศลิตามเกณฑ์มฑ์าตรฐานคุณคุภาพระดับดัสากล กิจกิกรรมพัฒนาศักยภาพทักทัษะการรำ ขั้นขั้สูง “การแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษารำ เดี่ยว รำ คู่ ครั้งที่ ๒” วันที่ ๑๙-๒๐ พฤษภาคมพ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นต้ ไป ณ โรงละครโรงละครศรีสุริยวงศ์ อาคาร ๑๕๐ ปี มหาบุรุบุ รุษรัตโนดม (ช่วช่ง บุนบุนาค) สำ นักนัศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยลัราชภัฏภับ้าบ้นสมเด็จเจ้าพระยา วันอังคาร ที่ ๑๙ เดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ๐๘.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. ลงทะเบียน ๐๘.๓๐ – ๐๙.๐๐ น. พิธีเปิด ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. การแสดงชุดที่ ๑ – ๙ ๑.ฉุยฉายกิ่งกิ่ไม้เงินงิทอง ๒.ลงสรงพระอินทร์ ๓.เชิดฉิ่งฉิ่เบญกาย ๔.ฉุยฉายเบญกายแปลง ๕.กริชสุหรานากง ๖.อุณากรรณแต่งตัว ๗.ฉุยฉายชาละวัน ๘.ฉุยฉายนางมณี ๙.ฉุยฉายโกมินทร์ ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. พักรับประทานอาหารกลางวัน ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. การแสดงชุดที่ ๑๐-๑๘ ๑๐.มโนราห์บูห์ชายัญ ๑๑.ฉุยฉายผีเสื้อสมุทร(แปลง) ๑๒.สำ มนักขาตระเวนไพร ๑๓.พระลอเข้าข้สวน ๑๔.พราหมณ์เณ์กศสุริยงชมดง ๑๕.สกุนตลาชมสวน ๑๖.ยี่สุ่นทรง้เครื่อง ๑๗.บุษฐาทรงเครื่อง ๑๘ปันหยีแต่งต่ตัว ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. แจกซีเรียลคีย์แย์ก่ผู้ก่ผู้ชผู้ม ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ร่วมถ่าถ่ยภาพและมอบของที่ระลึกแก่ผู้ก่ผู้ชผู้ม ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ประชุม จัดเตรียมอุปกรณ์และสถานที่ สำ หรับแสดงในวันที่ ๒๐ มีนาคม


กำ หนดการ โครงการพัฒนาหลักลัสูตรเพื่อความเป็นเลิศลิตามเกณฑ์มฑ์าตรฐานคุณคุภาพระดับดัสากล กิจกิกรรมพัฒนาศักยภาพทักทัษะการรำ ขั้นขั้สูง “การแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษารำ เดี่ยว รำ คู่ ครั้งที่ ๒” วันที่ ๑๙-๒๐ พฤษภาคมพ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นต้ ไป ณ โรงละครโรงละครศรีสุริยวงศ์ อาคาร ๑๕๐ ปี มหาบุรุบุ รุษรัตโนดม (ช่วช่ง บุนบุนาค) สำ นักนัศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยลัราชภัฏภับ้าบ้นสมเด็จเจ้าพระยา วันพุธ ที่ ๒๐ เดือดืน มีนมีาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ๐๘.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. ลงทะเบียน ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. การแสดงชุดชุที่ ๑๙-๑๗ ๑๙.พระคเณศประทานพร ๒๐.ฉุยฉุฉายพรหามณ์ ๒๑.ฉุยฉุฉายศูรปนักนัขา ๒๒.บุษบาชมศาล ๒๓.กลมอรชุนชุ๒๔.วิยะดาทรงเครื่อง ๒๕.พลายบัวเกี้ย กี้ วนางตานี ๒๖.ลงสรงสุหร่าย ๒๗.คันคัธมาลีแลีต่งต่ตัวตั ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. พักรับประทานอาหารกลางวัน ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. การแสดงชุดชุที่ ๒๘-๓๗ ๒๘.นางจันทร์แต่งต่ตัวตั ๒๘.พลายชุมชุแต่งต่ตัวตั ๓๐.ฉุยฉุฉายวันทอง ๓๑.ฉุยฉุฉายมังมัตรา ๓๒.พลายบัวเกี้ย กี้ วนางตานี ๓๓.ปู่เจ้าเรียกไก่ ๓๔.ฉุยฉุฉายพราหมณ์เณ์ล็กล็ /โต ๓๕.ฉุยฉุฉายยอพระกลิ่นลิ่ ๓๖.เชิดชิฉิ่งฉิ่ศุภลักลัษณ์ ๓๗.ฉุยฉุฉายหลวิชัยชัคาวี ๑๖.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. แจกซีเซีรียลคีย์คีแย์ก่ผู้ก่ผู้ชผู้ม ๑๗.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. ร่วมถ่าถ่ยภาพและมอบของที่ร ที่ ะลึกลึแก่ผู้ก่ผู้ชผู้ม ๑๘.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ประชุมชุจัดเตรียมอุปกรณ์แณ์ละสถานที่ สำ หรับแสดงในวันที่ ๒๐ มีนมีาคม


ผลงานการแสดง "รำ เดี่ยว รำ คู่" ปีการศึกษา ๒๕๖๗ วันที่ ๑๙ มีนมีาคม ๒๕๖๗ ๑.ฉุยฉุฉายกิ่งกิ่ไม้เงินงิทอง ๒.ลงสรงพระอินทร์ ๓.เชิดชิฉิ่งฉิ่เบญกาย ๔.ฉุยฉุฉายเบญกายแปลง ๕.กริชสุหรานากง ๖.อุณากรรณแต่งต่ตัวตั ๗.ฉุยฉุฉายชาละวัน ๘.ฉุยฉุฉายนางมณี ๙.ฉุยฉุฉายโกมินมิทร์ ๑๐.มโนราห์บูห์ชบูายัญยั ๑๑.ฉุยฉุฉายผีเผีสื้อสมุทมุร(แปลง) ๑๒.สำ มนักนัขาตระเวนไพร ๑๓.พระลอเข้าข้สวน ๑๔.พราหมณ์เณ์กศสุริยงชมดง ๑๕.สกุนกุตลาชมสวน ๑๖.ยี่สุ่ ยี่สุ่นทรง้เครื่อง ๑๗.บุษบุ ฐาทรงเครื่อง ๑๘ปันหยีแยีต่งต่ตัวตั


การแสดงชุดชุนี้เ นี้ป็นการแสดงเบิกบิ โรง ละครหลวงที่สื ที่ สืบทอดมาจากละครหลวงในพระบาทสมเด็จด็ พระจอมเกล้าล้ เจ้าจ้อยู่หัยู่วหัเจ้าจ้จอมมารดาสายและเจ้าจ้จอมละหม้าม้ยในรัชกาลที่ 5 ซึ่ง ซึ่ เคยเป็นละคร หลวงรุ่นเล็กล็ ในรัชกาล 4 ท่าท่นได้นำด้นำมาถ่าถ่ยทอดให้กัห้บกัสำ นักนัละครวังสวนกุหกุลาบ คุณคุครูลมุลมุยมะ คุปคุต์ และคุณคุครูเฉลย ศูขะวนิชนิ ได้จด้ดจำ และนำ มาถ่าถ่ยทอด และบรรจุหลักลัสูตรนาฏศิลป์ไทยใน ระดับดัชั้นชั้สูงปีที่ 2 กระบวนท่าท่รำ มีคมีวามงดงามตามรูปแบบละครหลวง ประกอบบทขับขัร้องซึ่ง ซึ่ เป็น บทพระราชนิพนินธ์ในพระบาทสมเด็จด็พระจอมเกล้าล้ เจ้าจ้อยู่หัยู่วหั (รัชกาลที่4ที่ ) แห่งห่กรุงรัตนโกสินทร์ บทขับขัร้องใช้ทำช้ทำนองฉุยฉุฉาย 1 คำ (บท) และแม่ศม่รี 2 บท ไม่มีม่ร้มีร้องทวนบท เป็นการร้องที่เ ที่ รียกกันกั ในหมู่นมู่าฏศิลป์ไทยว่าฉุยฉุฉายพวง เนื้อ นื้ เพลง ฉุยฉุฉายกิ่งกิ่ไม้เงินงิทอง ฉุยฉุฉายเอย สองนางเนื้อ นื้ เหลือลืงย่าย่งเยื้อ ยื้ งกรีดกราย ห่มห่ผ้าผ้หน้าน้ปักชาย ผันผัผายมาเบิกโรง มือมืถือถืกิ่งกิ่ไม้เงินงิทอง เป็นของสง่าง่อ่าโถง ได้ฤด้กษ์งามยามโมง จะชักโยงคนมาดู การฟ้อนละครใน มิใมิห้ผู้ห้ ผู้ใดมาเล่นล่สู้ ล้วล้นอร่ามงามตรู เชิดชูพระเกียกีรติเติอย สองแม่เอย แม่งม่ามหนักนัหนา เหมือมืนหนึ่ง นึ่ เทพธิดา ลงมากรายถวายกร รำ เต้นต้ เล่นล่ดูดีดูดียิ่งยิ่กว่ามีมมีาแต่ก่ต่อก่น เว้นแต่ท้ต่าท้ยไม่งม่อน ไม่เหมือมืนละครนอกเอย สองแม่เอย แม่งม่ามแม่งม่อน ยิ่งยิ่แมนแขนอ่อน อ้อนแอ้นประหนึ่ง นึ่ วาด ไหล่เหลี่ย ลี่ มเสงี่ย งี่ มองค์ คิ้วคิ้เป็นวงผิวผิสะอาด ดังดันางในไกรลาศ ร่อนลงมารำ เอย ชุดการแสดงที่ 1 ฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง ถ่าถ่ยทอดท่าท่รำ โดย อาจารย์กย์ชมล พิชญพรเดชา แสดงโดย นางสาวณัฐฐา ฉิมเฉิด นางสาวปนัดดา ไชยคีนี


รำ พระเกียกีรติรติถลงสรง อยู่ในการแสดงละครรำ เรื่องพระเกียกีรติรติถ บทพระราชนิพนินธ์ในพระบาท สมเด็จด็พระมงกุฎกุเกล้าล้ เจ้าอยู่หัยู่วหัเนื้อ นื้ เรื่องกล่าล่วถึงถึพระเกียกีรติรติถพระราชโอรสของพระเกียกีรติรติาชและนาง อรินทา แห่งห่ เมือมืงเกียกีรติวติดี เมื่อ มื่ รู้ว่าพระบิดบิาทรงพระประชวรหนักนัจึงเกิดกิความกลุ้มลุ้ ใจ จึงได้นึด้กนึถึงถึพระ อาจารย์ฤย์ษีมาช่วช่ย จนได้ทด้ราบสาเหตุว่ตุ ว่าพระบิดบิาทรงพระประชวรเพราะเหตุว่ตุ ว่าครั้งหนึ่ง นึ่ เคยสาบาลกับกัภีมภีา สูร ราชาแห่งห่ เมือมืงบาดาล ว่าจะถวายบุตบุรให้ตห้ามความต้อต้งการของยักยัษ์เพื่อให้ตห้นนั้นนั้รอดชีวิชีวิต แต่ พระเกียกีรติรติาชกลับลั ปล่อล่ยให้นห้านวันจนเกิดกิอาการประชวร ขณะนั้นนั้พระเกียกีรติรติถพระมีอมีายุไยุด้ ๒๐ ปี ด้วด้ย ความกตัญตัญูต่ญูอต่พระราชบิดบิา จึงได้ทำด้ทำตามคำ สาบาล ภีมภีาสูรอสุราก็เก็ลี้ย ลี้ งดูใดูนฐานะบุตบุรบุญบุธรรม แต่งต่ตั้งตั้ เป็นอุปราช ครั้นเวลาต่อต่มาเกิดกิความริษยาต่อต่พระเกียกีรติรติถ ด้วด้ยมีวิมีวิชาเวทมนตร์ ของวิเศษมาก ภีมภีาสูรจึง ได้มีด้อุมีอุบายเพื่อเข่นข่ฆ่าฆ่ด้วด้ยการให้อห้อกไปสู้รบกับกัพญายักยัษ์ เมื่อ มื่ พระเกียกีรติรติถรับบัญบัชา จึงได้เข้าข้ที่ล ที่ งสรง แต่งต่องค์ทค์รงเครื่อง พร้อมด้วด้ยของวิเศษประจำ กาย เสด็จด็ออกไปทำ สงคราม การแสดงชุดชุรำ พระเกียกีรติรติถลงสรง ดร.ไพโรจน์ ทองคำ สุก ราชบัณบัฑิตฑิสาขาวิชานาฏกรรมไทย ได้นำด้นำ มาจากบทละครรำ เรื่องพระเกียกีรติรติถ ซึ่ง ซึ่ เป็นลายพระหัตหัถ์ขถ์องรัชกาลที่ ๖ โดยจัดแสดงเป็นชุดชุรำ เดี่ย ดี่ ว และประดิษดิฐ์ท่าท่รำ บทการแสดง ชุดชุรำ พระเกียกีรติรติถลงสรง -ปี่พาทย์บย์รรเลงเพลงเสมอ- -ร้องเพลงลงสรงโทน- * จึงเข้าข้ที่ สรงสนาน สำ ราญกาย ขัดขัฉวี พรรณราย ผุดผุผ่อผ่ง ทรงสุคนธ์ ปนกลิ่นลิ่ผกากรอง ผัดผัพักตร์ อล่อล่งฉ่อฉ่ง ดังดัจันทรา สอดทรง สนับนัเพลา เพราเพริศ ภูษภูา สีประเสริฐ เลขา ฉลององค์ เอี่ยมโอ่ โศภา ผ้าผ้ทิพทิคาดรัด ถนัดนัดี -ร้องเพลงชมตลาดทรงสังวาล เพ็ชร์รัตน์ จำ รัสดวง ตาบทิพทิทับทัทรวง สลับลัศรี ทองกร มรกฎ เขียขีวขจี ธำ มรงค์ มณี ทับทัทิมทิพราย ทรงประคำ สำ คัญคัของอาจารย์ ทรงมงกุฎกุสูรกานต์ เฉิดฉิฉาย กรกุมกุศรสิทธิ์ ฤทธิ์ขจาย ** เยื้อ ยื้ งกราย มาขึ้น ขึ้ รถทรง -ปี่พาทย์บย์รรเลงเพลงบาทสกุณีกุ-ณี *สะกดตามลายพระหัตหัถ์ พระบาทสมเด็จด็พระมงกุฎกุเกล้าล้ เจ้าอยู่หัยู่วหัทั้งทั้หมด ** ในบทพระราชนินนิธ์ใช้ “กุมกุกร ศรสิทธิ์ ฤทธิ์ขจาย” ชุดการแสดงที่ 2 รำ พระเกียรติรถลงสร ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดการแสดง : ดร.ไพโรจน์ ทองคำ สุก ผู้แผู้สดง : นายณัฐนันท์ มีแสง


ประวัติคติวามเป็นมา เชิดชิฉิ่งฉิ่เป็นเพลงหน้าน้พาทย์ใย์ช้สำช้ สำหรับการเหาะไปในอากาศของผู้มีผู้ขมีองอิทธิฤทธิ์เชิดชิฉิ่งฉิ่ เบญกายเป็นการแสดงชุดชุหนึ่ง นึ่ ที่อ ที่ ยู่ในโขนเรื่องรามเกียกีรติ์ตติ์อนนางลอยหลังลัจากเบญกายได้รัด้ รับ พระราชบรรหารจากทศกัณกัฐ์จึงเหาะไปในอากาศจนมาถึงถึเหมติรัติรันนางเบญกายจึงได้แด้ ปลงกาย เป็นนางสีดาทำ ตายลอยน้ำ ไปยังยัพลับลัพลาของพระรามตามอุบายทศกัณกัฐ์ เพื่อให้พห้ระราม ถอยทัพทักลับลั ไป บทร้องและทำ นองเพลง เชิดชิฉิ่งฉิ่เบญกาย เมื่อ มื่ นั้นนั้เบญกายรับราชบรรหาร ออกจากปราสาทรัฐชัชชัวาล เหาะข้าข้มชลธาร ผ่าผ่นมา ครั้นถึงถึเหมหิรัหิรัญบรรพต เลื่อ ลื่ นรถลงจากเวหา หยุดยุยืนยือยู่ยัยู่งยัฝั่งคงคา กัลกัยาจำ แลงแปลงอินทรีย์ ชุดชุการแสดงที่ 3 เชิดชิฉิ่งฉิ่เบญกาย ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ ดร.รัจนา พวงประยงค์ ผู้แผู้สดง นางสาวประนิดนิา สีประภัยภั


ประวัติคติวามเป็นมา ฉุยฉุฉายเบญจกายเป็นการแสดงชุดชุหนึ่ง นึ่ ของการแสดงโขน เรื่องรามเกียกีรติ์ชุติ์ดชุนางลอย ซึ่งเป็นบทบาทของนางเบญจกายที่ท ที่ ศกัณกัฐ์ออกอุบายให้ แปลงกายเป็นนางสีดาทำ ตาย ลอยน้ำ ไปยังยัหน้าน้พลับลัพลาของพระราม เมื่อ มื่ พระรามเห็นห็แล้วล้ก็คิก็ดคิว่านางสีดาตายแล้วล้จะได้ ยกทัพทักลับลันางเบญจกายจำ ใจรับอาสาออกไปดูนางสีดายังยัสวนขวัญ แล้วล้กลับลัมาแปลง ร่างเป็นนางสีดา เมื่อ มื่ แปลงกายแล้วล้ก็มก็ารำ ฉุยฉุฉายเบญจกายอวดความงามว่าแปลงกายได้ เหมือมืนนางสีดา บทร้องฉุยฉุฉายเบญจกายแปลง ฉุยฉุฉาย ฉุยฉุฉายเอย เข้าข้ ไปเผ้าผ้ เจ้าก็กก็รีดกราย เยื้อ ยื้ งย่าย่งเจ้าช่าช่งแปลงกาย ให้ลห้ ะเมียมีดละม้าม้ยสีดานงลักลัษณ์ ถึงถึพระรามเห็นห็ทรามวัย จะฉงนพระทัยทั ให้อห้ ะเหลื่อ ลื่ อะหลักลั งามนักนัเอย ใครเห็นห็พิมพ์พักตร์ก็จก็ะรักจะใคร่ หลับลัก็จก็ะฝันครั้นตื่น ตื่ ก็จก็ะคิดคิอยากจะเห็นห็อีกสักนิดนิหนึ่ง นึ่ ให้ชื่ห้น ชื่ ใจ งามคมดุจดุคมศรชัยชัถูกถูนอกทะลุใลุนให้เจ็บอุรา เพลงแม่ศม่รี แม่ศม่รีเอย แม่ศม่รีรากษสี แม่แม่ ปลงอินทรีย์ เป็นแม่ศม่รีสีดา ทศพักตร์มลักลัเห็นห็จะตื่น ตื่ เต้นต้ ในวิญญาณ์ เหมือมืนล้อล้ เล่นล่ ให้เป็นบ้าบ้ระอาเจ้าแม่ศม่รีเอย อรชรเอย อรชรอ้อนแอ้น เอวขาแขนแมน แม้นม้ เหมือมืนกินกิรี ระทวยนวยนาฏ วิลาสจรลี ขึ้น ขึ้ ปราสาทมณี เฝ้าพระปิตุลตุาเอย ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงเร็ว ลา ชุดการแสดงที่ 4 ฉุยฉายเบญกายแปลง ผู้แผู้สดง นางสาวณัฐพร บัวนัง ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์สุย์สุดาพร นิ่มนิ่ขำ


ประวัติคติวามเป็นมา รำ กริชสุหรานากง เป็นการแสดงรำ เดี่ย ดี่ ว ของตัวตัละคร ระเด่นด่สุหรานากง จากละครในเรื่อง อิเหนา ตอน ท้าท้วดาหาบวงสรวง บทพระราชนิพนินธ์ในพระบาทสมเด็จด็พระพุทธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลั รัชกาลที่ ๔ ระเด่นด่สุหรานากง เป็นโอรสของท้าท้วสิงหัดหัส่าหรี กษัตริย์อย์งค์หค์นึ่ง นึ่ แห่งห่วงศ์เทวัญ หลังลั จากอิเหนาชนะศึกกะหมังมักุหกุนิงนิแล้วล้ท้าท้วดาหาได้ชด้วนให้พห้ระญาติแติละกษัตริย์ต่ย์าต่งเมือมืงที่ม ที่ าช่วช่ยรบ อยู่ในพิธีใช้บช้นที่เ ที่ ขาวิลิศลิมาหรา ในพิธีใช้บช้น ท้าท้วดาหาชวนทำ การสักการะเทวา ด้วด้ยการขับขัรำ แก้คำก้คำ ที่ไที่ ด้บด้วงสรวงไว้ อิเหนา เป็นพระเชษฐาจึงจึต้อต้งรำ ก่อก่น แต่ด้ต่วด้ยความอายนางบุษบุบาจึงจึให้สุห้ สุหรานา กงขับขัรำ ก่อก่นเป็นคนแรก สุหรานากงเข้าข้ ใจในท่าท่ทางของอิเหนาจึงจึลุกลุขึ้น ขึ้ แล้วล้ร่ายรำ บทร้องและทำ นองเพลง รำ กริชสุหรานากง -ปี่พาทย์ทำ เพลงฝรั่งรำ เท้าท้- -ร้องเพลงฝรั่งรำ เท้าท้- ยอกรประนมเหนือเกศ ไหว้ไทเทเวศร์รังสรรค์ ศักดิ์สิทธิ์ฤทธิไกรใครจะทัน ซึ่งรับพลีกรรมบำ บวง องค์อค์สัญแดหวาวราฤทธิ์ สิงสถิตอยู่ในไศลหลวง เชิญดูขับรำ ทั้งทั้ปวง ซึ่งได้บด้วงสรวงถวายเอย -กลองแขกทำ เพลงสะหม่าชุดการแสดงที่ 5 รำ กริชสุหรานากง ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์สุย์สุชาดา ศรีสุระ แสดงโดย นางสาวปาจรีย์ วังคูณ


ประวัติความเป็นมา ผู้สผู้ร้างสรรค์ผค์ลงานได้แด้นวคิดคิมาจากรรรณคดีเดีรื่องอิเหนา บทพระราชนิพนินธ์ในพระบาทสมเด็จด็ พระพุทธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลัรัชกาลที่ 6 และเล็งล็เห็นห็ว่าในเรื่องอิเหนามีเมีหตุกตุารณ์ ที่ก ที่ ล่าล่วถึงถึองค์ ปะตาระกาหลาบันบัดาลให้ลห้มพายุหยุอบไปในป่า ทำ ให้นห้างต้อต้งพลัดลัพรากจากอิเหนา และบันบัดาลนาง บุษบุบาให้กห้ลายร่างเป็นชาย ชื่อ ชื่ ว่า "มิสมิาอุณากรรณ"โดยประทานกริชให้เป็นอาวุธคู่กคู่าย อุณากรรณ จึงเที่ย ที่ วร่อนเร่พเนจรไปในป่พร้อมพระพี่เลี้ย ลี้ งทั้งทั้สองจนพบกับกัท้าท้วประมอตันตัและได้รัด้ รับ อุณากรรณเป็นพระราชโอรสพร้อมทั้งทั้พระราชทานอาภรณ์แณ์ละเครื่องทรงอย่าย่งกษัตริย์แย์ละขึ้น ขึ้ เฝ้า ท้าท้วประมอตันนั้นนั้มีคมีวามเหมาะสม ในการนำ มาสร้างสรรค์เค์ป็นการรำ แต่งต่ตัวตั ได้ จึงออกแบบโดยนำ เอาแนวคิดคิของการแสดงละครรำ เรื่องอิเหนา โดยออกแบบการแต่งต่กายแบบอย่าย่งชวา ทำ เพลงประกอบการแสดงให้มีห้สำมี สำเนียนีงเป็นอย่าย่งสัญชาติอิติอินโดนีเนีชียชีตามชาติขติองตัวตัละครและที่ม ที่ า ของวรรณกรรม และออกแบบลีลลีาของตัวตัละครให้มีห้ทั้มีงทั้จริตกิริกิริยาผู้ชผู้ายและผู้หผู้ญิงญิในตัวตัคน เดียดีวกันกัตามบทพระราชนิพนินธ์ ด้วด้ยกระบวนท่าท่รำ ที่ง ที่ ดงามผสมผสานระหว่างนาฎศิลป์ไทยและ นาฏศิลป์ชวา นำ มาสู่การสร้างสรรค์ผค์ลงานนาฎยศิลป์ไทยทางขวา ชุดชุ"อุณากรรณแต่งต่ตัวตั " ชุดการแสดงที่ 6 อุณากรรณแต่งตัว ถ่ายทอดท่ารำ โดย : อาจารย์รณกฤต เพชรเกลี้ยง แสดงโดย นางสาวปิยะมาศ แก้วจันทร์ นางสาวสรัลพร สุนทรวิภวิาต นางสาวดารินริทร์ แสงศรี


“บทขับขัร้องลงสรงอุณากรรณ" (แต่งต่กายแบบชวา) ธำ มรงค์ บุญบุราช" ประพันธ์บท / บรรจุเพลง - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงแขกอะหวัง นำ 1 เที่ย ที่ ว - อุณากรรณ พร้อมด้วด้ยเกนประจินดา และเกนประหลาหงันงัรำ ออกร้องเพลงแขกอะหวังเมื่อ มื่ นั้นนั้มิสมิา อุณากรรณ เรื่องศรี ชวนสอง พี่เลี้ย ลี้ ง จรลี ยังยัมันมั ดีที่ปที่ ระเส บันบัอากง - ร้องเพลงลงสรงแขก - แล้วล้จึง ชำ ระ สระสนาน วารุณ หอมหวาน ธารสรง ทรงอุหรับ จับกลิ่นลิ่บุษบุบง สนับนัเพลา เครือบุหบุรง รงทอง - สร้อย - (ยะมิโมินตุรตุง โนตุรตุงเว้ เห่เห้ ยะมิโมินตุรตุง อะเคะปะปิง ปะปังมะนิลนิา) ภูษภูา เขียขีวตอง ผ่อผ่งฉาย ฉลององค์ ปักลาย ผกาผอง ปันดิง ลวดลาย เรื่องรอง ปั้นเหน่งน่แก้วก้กรอง ทองพราย - สร้อย - (โกมิโมิยละมา โย้ล่ย้ ล่ะมาเว้ เหเห้ โกมิโมิยละมา คิดี คิปะดีมานี มานีมนีา) ตาบทิศทิทับทัทรวง ดวงกุดั่กุนดั่สังวาลวัลย์ มุกมุดา ห้าห้สาย พาทุรัทุรัด ตรัสเก็จก็เพชรราย ทองกร นาคกลาย ลายรูจี - สร้อย - (ยะมิโมินตุรตุง โนตุรตุงเว้ เพ่เห้ ยะมิโมินตุรตุง อะเคะปะปัง ปะปังมะนีลนีข) ธำ มรงค์ แก้วก้ เก้าก้วาววับ ตาบทับทัพันโพก เกศี ห้อห้ยผ้าผ้ช่าช่ โบะ อย่าย่งดี กุมกุกริช ฤทธี เหรัญ - สร้อย - (โกมิโมิยละมา โย้ล่ย้ ล่ะมาเว้ เหมี โกมิโมิยละมา ลิตีลิปตีะตี มาปี มานีมนีา) - ร้องเพลงร่ายแขก - (เกนประจินดา เอาม้าม้ผ้าผ้ออกให้อุห้ อุณากรรณทรง) งามองค์ อุณากรรณ เรืองศรี สาหรี ดั่งดั่เทวา กระยาหงันงั ละรี ยังยัที่ ประเสบันบัขึ้น ขึ้ เฝ้า ประมอตันตัทันทั ใด - ปีพาทย์ทำย์ทำเพลงเสมอชวา -


ชุดชุการแสดงที่ 7 ฉุยฉุฉายชาละวัน ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์สุย์สุดจิตต์ พันธ์สัธ์ สังข์ ผู้แผู้สดง นายประสิทธิ์ ประกาศพิภาค ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุฉุยฉุฉายชาละวัน เป็นการแสดงชุดชุหนึ่ง นึ่ ในละครนอกเรื่องไกรทอง ที่ก ที่ ล่าล่วถึงถึ พญาชาละวันที่มี ที่ นิมีสันิ สัยดุร้ดุร้ายและไม่รัม่ รักษาศีล มีเมีมียมีเป็นจระเข้สข้าวสองตน คือคืวิมาลา และเลื่อ ลื่ มลาย วรรณ อาศัยอยู่ในถ้ำ ทองใต้บต้าดาล ภายในถ้ำ มีลูมีกลูแก้วก้วิเศษที่ส ที่ ามารถทำ ให้จห้ระเข้กข้ลายเป็นมนุษนุย์เย์มื่อ มื่ เวลาอยู่ในถ้ำ พญาชาละวันเมื่อ มื่ เข้าข้ ไปอยู่ในถ้ำ จึงจึเป็นชายหนุ่มนุ่รูปงามคล้าล้ยดั่งดั่เทพบุตบุร และเป็นการ รำ อวดโฉมของตัวตัละครพญาชาละวัน บทร้องและทำ นองเพลง ฉุยฉุฉายชาละวัน ปี่พาทย์ทำ เพลงรัว ร้องฉุยฉาย ฉุยฉายเอย คืนสู่ถ้ำมณีทั้งอินทรีย์ก็กลับกลาย งานเฉิดเลิศโฉมชาย ยิ่งพิศยิ่งคล้ายดั่งดั่เทพบุตร ทั้งทั้เกศทั้งกรดูอ่อนระทวย วงพักตร์สุดสวยสวยกว่ามวลมนุษย์ (รับ) ฉุยฉายเอย จะไปไหนนิดเจ้าจ้ก็กรีดกราย เยื้องย่างวาดกรกราย ไปหาโฉมฉายวิมาลานงนุช ตะเภาทองจอมขวัญเลื่อมลายวรรณกัลยา ดวงจิตจิเสน่หายอดชีวาเป็นที่สุด (รับ) ร้องแม่ศรี แม่ศม่รีเอย แม่ศม่รีชาละวัน งามเลิศเฉิดฉันผิวพรรณผ่องผุด หญิงเห็นห็หญิงทักว่าเลิศลักษณ์กณ์ว่ามนุษย์ รูปสำ รวยสวยสุดงานประดุจเทวัญ (รับ) แม่ศม่รีเอยแม่ศรีกุมภีร์ เยื้องย่างจรลีไปสู่ที่แท่นสุวรรณ ดวงจิตจิคนึงหาวิมาลาเลื่อมลายวรรณ ตะเภาทองจอมขวัญจิตจิ ประหวั่นถึงเอย (รับ) ปี่พาทย์ทำ เพลงเร็ว-ลา


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุฉุยฉุฉายนางมณี อยู่ในการแสดงละครนอกเรื่อ แก้วก้หน้าน้ม้าม้ตอน เสี่ยงว่าว ถึงถึพบรัก ซึ่งกรมศิลปากรได้ปด้รับปรุงบทขึ้น ขึ้ ใหม่จม่ากบทพระราชนิพนินธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงภูวภูเนตรนรินทร์ฤทธิ์กล่าล่วถึงถึนางแก้วก้หน้าน้ม้าม้ที่แ ที่ ปลงกายเป็นหญิงญิงามมาดักดัรอ พระปิ่นทองซึ่งการแสดงชุดชุนี้แ นี้ สดงให้เห็นห็ถึงถึลีลลีาการแต่งต่กายในรูปแบบของละครนอกที่ง ที่ ดงาม บทร้องฉุยฉุฉายนางมณี -ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงรัวร้องฉุยฉุฉาย ฉุยฉุฉายเอย รูปม้าม้กลับลัหายกลายเป็นนางมณี อรชรอ้อนแอ้นงามแม้นม้กินกิรี ตามพรพระมุนีมุนีทั้งทั้เพ่งทั้งทั้พิศ ท่วท่งทาพาไปช่าช่งไว้จริต ใครได้ใกล้ชิล้ดชิชอบติดติ ใจเอย -ร้องแม่ศม่รี- แม่ศม่รีเอยแม่ศม่รีพโนมัยมันุ่งนุ่ผ้าผ้ผืนผื ใหม่ห่ม่มห่สไบสีตอง แต่งต่องค์นค์งลักลัษณ์ผัณ์ดผัพักตร์ผุดผุผ่อผ่ง ไปเฝ้าพระปิ่นทองที่ใที่ นบุรีบุรีเอย -เพลงเร็ว/ลาชุดการแสดงที่ 8 ฉุยฉายนางมณี ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจาร์ย ดร.คมสันฐ หัวหัเมืองลาด แสดงโดย นางสาวนุชษบา เสนน้ำ เที่ยง


ประวัติความเป็นมา ฉุยฉุฉายโกมินมิทร์ เป็นการแสดงรำ เดี่ยดี่วของโกมินมิทร์ ตัวตัเอกในละครนอกเรื่อง โกมินมิทร์ บทละครที่ปที่ระพันธ์ขึ้นขึ้ ใหม่ โดยนายเสรี หวังในธรรม เนื้อนื้เรื่องกล่าล่วถึงถึ โกมินมิทร์ เป็นโอรสคนสุดท้อท้งของกษัตริย์โย์กสุธรรมแห่งห่ เมือมืงกุสิกุสินคร มีพมีระ เชษฐาคนโต คือคื โกเมศ คนรองชื่อชื่ โกมล โกมินมิทร์เป็น กุมกุารที่ฟ้ที่ ฟ้าส่งลงมาเกิดกิเพื่อปราบอธรรมจึงมีฤมีทธิ์มาก ทั้งทั้ยังยัมีอมีาวุธ วิเศษติดติกายมาแต่กำต่กำเนิดนิคือคืผ้าผ้แพรสีแดงและกำ ไลหยก การรำ ฉุยฉุฉายโกมินมิทร์เป็นการรำ อวดฝีมือมืของตัวตัละครกระบวนท่าท่รำ เป็นไปตามรูปแบบของนาฏยศิลป์ไทย มีลีมีลลีาแสดงถึงถึความทะนง กล้าล้แกร่ง ห้าห้วหาญ หากยังยัคงความเป็นเด็กด็อยู่แยู่ละมีลีมีลลีาพิเศษในการใช้อุช้ อุปกรณ์ ผู้ปผู้ระพันธ์บทร้อง คือคือาจารย์กัย์ญกัจนปกรณ์ แสดงหาญ คีตคีศิลปินอาวุโส ผู้ช่ผู้วช่ยหัวหัหน้าน้กลุ่มลุ่ดุริดุริยางค์ไค์ทย สำ นักนัการ สังคีตคีบรรจุ ทำ นองเพลงโดยอาจารย์ไย์ชยยะ ทางมีศมีรี ผู้เชี่ยชี่วชาญดนตรีไทย สำ นักนัการสังคีตคี ประดิษดิฐ์ท่าท่รำ โดย ดร.พัชรา บัวบัทอง นาฏศิลปินอาวุโส สำ นักนัการสังคีตคีและ ถ่าถ่ยทอดท่าท่รำ โดย ดร.พัชรา บัวบัทอง บทร้องและทำ นองเพลง - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงรัว - - ร้องเพลงฉุยฉุฉาย - กุมกุาราเอย ฟ้าส่งลงมาเป็นบุตบุราโกสุธรรม น่าน่รักน่าน่ชมทั้งทั้คมขำ ฤทธิ์ล้ำ กำ ลังลัแต่งต่ยังยัเล็กล็ กำ ไลหยกกรขวาทั้งทั้ผ้าผ้แพรแดง เหาะเหิรหิเหิมหิแหงแกร่งเกินกิเด็กด็ - รับ - โกมินมิทร์เอย ยินยิชื่อชื่คราใดให้ไหวหวาด กะโตหนนาคามาทำ อำ นาจ ยังยัเข็ดข็ขยาดไม่กม่ล้าล้ต่อต่กร เชือชืดเนื้อนื้เถือถืหนังนัเพื่อยังยัคุณคุธรรม ให้โลกสุขล้ำ สโมสร - รับ - - ร้องเพลงแม่ศม่รี - ศิษย์สุย์สุเมธเอย ศิษย์สุย์สุเมธฤาษี ผิดผิพ้องน้อน้งพี่ โกเมศโกมล มิเมิคยกลัวลั ใคร หน้าน้ ไหนสักหน ยอมแต่หต่น้าน้มล ธนูทนูองน้อน้งเอย - รับ - กตัญตัญูเญูอย กตัญตัญูแญูผ่นผ่ดินดิ ศึกทั่วทั่ธรณินณิทร์ หาได้พด้รั่นหวั่นกลัวลั ถึงถึเด็กด็เล็กล็อยู่ เจ้ารู้ดีชั่ดีวชั่ สมนามสมตัวตั โกมินมิทร์เจ้าเอย - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงเร็วกุมกุารคะนอง - ชุดการแสดงที่ 9 ฉุยฉายโกมินทร์ ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่ารำ ดร.พัชรา บัวทอง ผู้แผู้สดง นางสาวกัญญาวีร์ ไตรวิทยาคุณ


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุมโนห์รห์าบูชบูายัญยัเป็นการรำ เดี่ยวประกอบด้วด้ยบทละครชาตรี เรื่อง พระสุธน มโนห์รห์า ตอน มโนห์รห์าบูมบูชายัญยักล่งล่ถึงถึนางมโนห์รห์าถูกถูปุโปุรหิตหิผู้ริผู้ ริษยาใส่ร้าย แกล้งล้ เท็จท็ทูลทูท้าท้ว อาทิตทิย์วย์งศ์ว่าเป็นกาลกินีกิ นีควรจัดให้มีห้พิมี พิธีบูชบูาชายัญยัเพื่อสะเดาะเคราะห์ให์ห้บ้ห้าบ้นเมือมืงเป็นสุข ในขณะ นั้นนั้บระสุธนายกทัพทั ไปปราบข้าข้ศึกจึงไม่มีม่ ใมีครสามารถช่วช่ยเหลือลืนางมโนห์รห์าได้ นางจึงบอกอุบายทูลทู ขอปีกหางและนำ มาสวมใส่แล้วล้ร่ายรำ ตามแบบกันกัรี ให้ทห้อดพระเนตรเป็นครั้งสุดท้าท้ย ก่อก่นที่จ ที่ ะบินบิ หนีกนีลันลั ไปยังยัเขาไกรลาศ ลักลัษณะท่าท่รำ มโนห์รห์าบูชบูายัญยัเป็นท่าท่รำ เฉพาะที่มี ที่ ลัมีกลัษณะของมนุษนุย์แย์ละ กินกิรีผสมกันกัเน้นน้การใช้อช้วัยวะร่างกายทุกทุส่วนที่มี ที่ ทั้มีงทั้ความนุ่มนุ่นวลและคล่อล่งแคล่วล่ ทำ นองเพลง มโนห์รห์าบูชบูายัญยั - ปีพาทย์ทำย์ทำเพลงแขกบูชบูายัญยั- ชุดการแสดงที่ 10 มโนราห์บูห์บูชายัญ ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ ผู้ช่ผู้วช่ยศาสตราจารย์ ดร.จินตนา อนุวัตน์ แสดงโดย นางสาวเอกนรี พึ่งจำ นงค์


ประวัติคติวามเป็นมา รำ ฉุยฉุฉายนางผีเผีสื้อสมุทมุรแปลง เป็นการแสดงที่ส ที่ ร้างสรรค์ขึ้ค์น ขึ้ เพื่อแทรกอยู่ในการแสดงละคร เรื่องพระอภัยภัมณี ตอนเพลงปี่พิศวาส และเพลงปี่พิฆาต พ.ศ.๒๕๕๖ ณ โรงละครแห่งห่ชาติ โรงละครแห่งห่ชาติภติาคตะวันตก จ.สุพรรณบุรีบุรีและโรงละครแห่งห่ชาติภติาคตะวันออกเฉียฉีงเหนือนื จ.นครราชสีมา ในการแสดงรายการนาฏกรรมสังคีตคีหรือการแสดงเข้าข้รอบ เนื้อ นื้ เรื่องกล่าล่วถึงถึนางผีเผีสื้อสมุทมุร ได้ยิด้นยิเสียงปี่ของพระอภัยภัมณีที่ณีมี ที่ คมีวามไพเราะก็ขึ้ก็น ขึ้ จากท้อท้งทะเล เมื่อ มื่ เห็นห็รูปโฉมงดงาม ได้เกิดกิความพิศวาสจึงลักลัพาลงไปในถ้ำ แล้วล้แปลงกายเป็นสาวงามอยู่กัยู่บกั พระอภัยภัมณีฉัณีนฉัสามีภมีรรยา กระทั่งทั่ ให้กำห้กำเนิดนิพระโอรส ชื่อ ชื่ ว่า สินสมุทมุร ลักลัษณะเหมือมืนพระอภัยภัมณี และนางผีเผีสื้อสมุทมุร อีกทั้งทั้มีพมีละกำ ลังลัมาก แม้จม้ ะมีอมีายุเยุพียง ๘ ปี แต่สิต่ สินสมุทมุรก็สก็ามารถเปิดแผ่นผ่ หินหิที่ปิที่ ปิดปากถ้ำ แล้วล้หนีอนีอกไปเที่ย ที่ วเล่นล่ ในทะเลได้ นางผีเผีสื้อสมุทมุรมีกิมีจกิวัตรที่ต้ ที่ อต้งทำ เป็นประจำ คือคืการออกหาผลไม้ป่ม้ป่ามาถวายพระอภัยภัมณี ทุกทุครั้ง จะต้อต้งแปลงกายเป็นนางยักยัษ์โดยไม่ให้พห้ระอภัยภัมณีรู้ณีรู้เห็นห็และออกเดินดิทางด้วด้ยความจำ ใจที่ต้ ที่ อต้ง จากกันกั ประพันธ์บท โดย นางสาววันทนีย์นี ย์ม่วม่งบุญบุ(ผู้ชำผู้ชำนาญการด้าด้นนาฏศิลป์ไทย สำ นักนัการสังคีตคี กรมศิลปากร) ชุดการแสดงที่ 11 ฉุยฉายผีเสื้อสมุทร (แปลง) ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์รัย์ รัตนา พวงประยงค์ ผู้แผู้สดง นางสาวทัตพิชา อยู่แยู่ฉ่ง


บทร้องและทำ นองเพลง -ปี่พาทย์ทำย์ทำนองรัวร้องฉุยฉุฉาย ผีเผีสื้อสมุทมุรเอย แปลงเป็นมนุษนุย์ ดูประดุจเทพธิดา หน้าน้บึ้งบึ้ขึงขึร้าย กลับลักลายโสภา ทั้งทั้ปาก คอ คิ้วคิ้ตา ยั่วยั่อุราเมื่อ มื่ ชายชม ท่าท่ทีมีทีจมีริต จะเข้าข้ชิตชิพระอภัยภั ให้ทห้รงหลงใหลคลั่งลั่ ไคล้สล้นิทนิสนม -ปี่พาทย์รัย์ รับนวลละอองเอย ผิวผิพรรณผุดผุผ่อผ่งอล่อล่งฉ่อฉ่งดังทองทา พักตร์พริ้มยิ้มยิ้ละมัยมักระหยิ่มยิ่ ใจไคลคลา รีบเร่งไปหาพระเอกเจ้าผู้เป่าปี่ เสียงต้อต้ยตะลิดลิ ให้จิห้ จิตไหวหวั่น เจียนจะบาดชีวัชีวัน เจียวหนอพ่อมณี -ปี่พาทย์รัย์ รับ- -ร้องแม่ศม่รี- แม่ศม่รีผีเผีสื้อสวย ลีลลีาศนาดนวยกระชุ่มชุ่กระชวยระรวยระรื่น วันนี้จนี้ะมีคู่มีคู่ได้อด้ยู่ยยู่งยืนยื แสนฉอุ่มชุ่มชุ่ชื่น ชื่ ทุกทุค่ำ คืนคื ในถ้ำ เอย -ปี่พาทย์รัย์ รับสมฤดีอีผีเผีสื้อ จะอิงแอบแนบเนื้อนื้ชาติเติชื้อชื้กษัตรา ด้วด้ยจิตพิศวาท มุ่งมุ่มาตรปราถนา พระอภัยภัราชา เป็นของข้าข้คราวนี้เนี้อย -ปี่พาทย์รัย์ รับ- -ปี่พาทย์ทำย์ทำนองเพลงเร็ว-ลา-


ประวัติคติวามเป็นมา นางสำ มนักนัขาเป็นลูกลูของท้าท้วลัสลัเตียตีนกับกันางรัชฎา ซึ่งสำ มนักนัขาเป็นน้อน้งของพญายักยัษ์ทศกัณกัฑ์ นางสำ มนักนัขามีสมีามีชื่มีอ ชื่ ชิวชิหา ซึ่งถูกถูทศกัณกัฑ์ขฑ์ว้างจักรไปตัดตัลิ้นลิ้และเสียชีวิชีวิตลงด้วด้ยความเข้าข้ ใจผิดผิ นางสำ มนักนัขาเสียใจเป็นอย่าย่งมาก นางร้อนลุ่มลุ่กลุ้มลุ้ ใจไม่เป็นอันกินกิอันนอน นางจึงคิดคิหาคู่คคู่รองใหม่ นางสำ มนักนัขาจึงลาพญายักยัษ์ทศกัณกัฑ์อฑ์อกไปเที่ย ที่ วตามชนบทในป่า วันหนึ่ง นึ่ นางสำ มนักนัขาได้พด้บพระ รามก็เก็กิดกิความหลงรักปราถนาอยากจะได้พด้ระรามเป็นสามี การแสดงชุดที่ 12 สำ มนักขาตระเวนไพร ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์ธย์รรมนูญ แรงไม่ลม่ด ผู้แผู้สดง นายชนาธิปธิล้อศรีเมือง


บทร้องและทำ นองเพลงการแสดงชุดชุสำ มนักนัขาตระเวนไพร - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงวา - (สำ มนักนัขานั่งนั่เตียตีง) - ร้องเพลงสมิงมิทองมอญ - มาจะกล่าล่ว บทไป ถึง นวลนาง สำ มนักนัขา นอนอยู่ ร่มไม้ ไพรพนา อสุรา เร้าร้อน ทั่วทั่กาย ลุกลุนั่งนั่ตาจ้อง มองเขม่นม่ เห็นห็แสง สุริยันยัตะวันฉาย จึงรีบ บทขจร กรกราย มุ่งมุ่หมาย ไปยังยัอรัญวา - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงกราวใน - เชิดชิ– - ร้องเพลงแขกต่อต่ยหม้อม้– ครั้นถึง ฝากฝั่ง สาคร บท(ท)จร ตามแถว แนวป่า เที่ย ที่ วเสาะ ซุ่มซุ่แสวง ทุกทุแห่งห่มา จนถึง โคธา วารี - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงฉิ่งฉิ่– (พระรามเดินดิออกมา) (นางสำ มนักนัขาเดินดิมาเจอพระราม) - ร้องเพลงต้นต้วรเชษฐ์ – พินิจนิพิศทั่วทั่ทั้งทั้องค์ มีคมีวาม พิศวง สงสัย จะว่าเป็น พระอิศวร ทรงชัยชั ก็ไม่มีม่ มีสังวาลย์ นาคี จะว่าพระ นารายณ์ ฤทธิรอน ก็ไม่เห็นห็พระกร เป็นสี่ จะว่าท้าท้ว ธาดา ธิบดี เหตุใตุด ไม่มีม่ มีสี่พักตร์ แม้นม้จะว่า องค์ท้ค์าท้ว สหัสหันัยนัน์ ใยจึงไม่ ทรงมี วิเชียชีรจักร จะว่าพระ สุริยา วรารักษ์ ใยไม่ชัม่กชัรถจาก ฝากเมฆา ครั้นจะว่า เป็นองค์ พระจันทร ก็ผิดผิที่ ไม่จม่ร อยู่เวหา ชะรอยเป็น จักรพรรดิ กษัตรา ทิ้งทิ้สมบัติบั ติพลัดลัมา เป็นชีไชีพร - ร้องเพลงร่าย – ยิ่งยิ่พิศ ยิ่งยิ่พิศ วาสกลุ้มลุ้รสรัก รึงรุม ดังดัเพลิงลิไหม้ สุดจะ ระงับงับังบัคับคั ใจ ก็ร่ายเวท แปลงไป ในทันทัที - ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงรัว –


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุพระลอเข้าข้สวน อยู่ในการแสดงละครพันทาง เรื่องพระลอ บทพระนิพนธ์ในพระเจ้า บวมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงนิพนธ์ขึ้น ขึ้ จากกลอนลิลิลิตลิพระลอของเก่าก่ ที่ปราชญ์ไญ์ด้แด้ต่งต่ขึ้น ขึ้ ในสมัยกรุงศรีอยุธยุยาตอนต้นต้ก่อก่นรัชสมัยสมเด็จด็พระนารายณ์มณ์หาราช ซึ่ง ซึ่ เดิมดิเป็น นิทานพื้นเมืองทางภาคพายัพยัเขตล้าล้นนาไทย ละครเรื่องพระลอ จัดเป็นยอดละครพันทาง หลังลัจากปู่เจ้าสมิงพรายใช้ให้ไก่แก่ก้วก้มาล่อล่พระลอไปจนใกล้ถึล้งถึเมืองสรองแล้วล้ ไก่แก่ก้วก้ก็หก็ายไป พระ ลอจึงปลอมเป็นพราหมณ์ นายแก้วก้นายขวัญ ก็เก็ปลี่ย ลี่ นชื่อ ชื่ ใหม่เป็นนายราม นายรัต ให้มั ห้คคุเคุทศก์นำ ก์นำทาง เข้าข้มาจนถึงถึอุทยานของเมืองสรอง นายแก้วก้นายขวัญได้พด้บนางรื่น นางโรย ซึ่ง ซึ่ มาคอยดักดัพบอยู่ก่ยู่อก่น ต่าต่งต้อต้งอัธยาศัยกันกัและกันกัจึงเกิดกิความรักขึ้น ขึ้ เมื่อ มื่ สองพี่เลี้ย ลี้ งได้เข้าข้ เฝ้าพระลอแล้วล้จึงทูลเชิญชิเสด็จด็ ให้ เข้าข้ ไปในวังเพื่อพบกับกัสองพระธิดา ชุดการแสดงที่ 13 พระลอเข้าสวน ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ : อาจารย์พิย์ พิมพ์รัตน์ นะวะศิริ ผู้แผู้สดง : นายนัทธพงค์ โถคำ นาม


บทร้อง เพลงลาวกระแซ เมื่อ มื่ นั้นนั้พระลอดิลดิกเลิศลิเฉิดฉิฉวี ปลอมเพศแปลงนาเป็นพราหมณ์ชีณ์ ชีเหมือมืนมุนีมุศนีรีเกตุ์ทตุ์รงเวทมนต์ นายแก้วก้นายขวัญนั้นนั้เปลี่ย ลี่ นนาม ชื่อ ชื่ นายรามนายรัตไม่ขัม่ดขัสน มัคมัคุมคุเทศก์นำก์นำเสด็จด็จรดล ผ่าผ่นสถลมารคเข้าข้อุทยาน เพลงเสมอลาว เพลงลาวชมดง การะเกดเหมือมืนเกศแก้วก้ เกศา มะลุลีลุเลีหมือมืนบุปบุผาแม่เกี้ย กี้ วเกล้าล้ (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย นางแย้มย้ เหมือมืนแก้มก้แม่แม่ย้มย้ เย้าย้ ใบโบกเหมือมืนเจ้าจวักกรม (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย คณานกแมกไม้เรียงรัน ร้องเรื่อยรับขวัญเหมือมืนเสียงสมร (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย เห็นห็ โนรีสาลิกลิาใคร่ว่าวอน ฝากอักษรถวายน้อน้งสองพธู (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย ถึงถึสระบัวบัยั่วยั่ยอพระลอรัก ใคร่เก็บก็ ฝักหักหัดอกออกอดสู (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย ผองภมรว่อนเฝ้าเค้าค้ เรณู เหมือมืนเย้ยย้ภูธภูระเหอยู่เอองค์ (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย คะนึงนึนางพลางเสด็จด็ลีลลีา แอบร่มพฤกษาสูงระหง (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย สุคนธรสหอมหวนลำ ดวลดง เหมือมืนจะส่งกลิ่นลิ่ถวายราชา (สร้อย) คู่อ่คู่ อ่อนท้าท้วเขือขือะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือผืพี่ปองสมเอย


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงรำ เดี่ยวมาตรฐานชุดชุเกศสุริยงชมดง อยู่ในละครนอกเรื่อง สุวรรณหงส์ ตอนเดินป่า กล่าล่วถึงถึพระพี่เลี้ย ลี้ งของนางเกศสุริยงเกิดกิความวิตกกังกัวลและเกรงกลัวลั ความผิดผิที่ไที่ ม่ปม่กป้องเจ้านายของพวกตนตามที่พ ที่ ญายักยัษ์สั่งไว้จึงคิดคิหาทางกำ จัดผู้บุผู้กบุรุก เผื่อ ผื่ ไม่ให้นำห้นำความเดือดร้อนมาให้พห้วกตนจึงวางกับกั ดักไว้ที่ห ที่ น้าน้ต่าต่งเมื่อ มื่ พระสุวรรณหงส์ ปรากฏพระองค์ขึ้ค์น ขึ้ ที่ห ที่ น้าน้ต่าต่งหอกพยนต์ก็ต์ลั่ก็นลั่เสียบพระอุรา(อก)ทันทัที พระสุวรรณหงส์ได้ รับความบาดเจ็บแต่ก็ต่สก็ามารถหนีขึ้นีน ขึ้ เรือกลับลัมาสิ้นพระชนม์ที่ม์พ ที่ ระนครของตน แต่ก่ต่อก่นจะ สิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้าท้ยพระองค์ก็ค์ส่ก็ ส่งสาบานว่าจะขอล้าล้งแค้นค้นางเกศสุริยงทุกทุ ๆชาติไติป ด้วด้ยเหตุที่ตุพ ที่ ระองค์ไค์ม่ทม่ราบว่าใครเป็นคนคิดคิร้ายต่อต่พระองค์พค์ระสุวรรณหงส์ดิ้นดิ้ ทุรทุนทุรทุายและสิ้นพระชนม์ด้ม์วด้ยความเจ็บปวด ในขณะเดียวกันกัถึงถึแม้ว่ม้ว่านางเกศสุริยงจะไป ธิดาของพญายักยัษ์ผู้โหดร้ายแต่นต่างก็มีก็จิมีจิตใจดีและอ่อนโยน ยังยัเฝ้าคอยพระสุวรรณหงส์ อยู่เป็นเวลาหลายวันแต่ก็ต่ ไก็ม่พม่บว่าพระองค์จค์ะเสด็จมานางจึงมองออกไปนอกหน้าน้ต่าต่งแล้วล้ ก็ต้ก็อต้งแปลกใจที่พ ที่ บรอยเลือลืดได้จึด้ จึงเกิดกิความสงสัยแล้วล้ตามรอยเลือลืดไปจน จนถึงถึป่า นาง จึงออกเดินทางตามรอยเลือลืดของพระสุวรรณหงส์เข้าข้ ไปในป่าและหมดสติอติยู่ในป่า เมื่อ มื่ พระอินทร์ทรงทราบเรื่องก็เก็กิดกิความสงสารจึงเสด็จลงมาแปลงกายให้นห้างเกศสุริยงเป็น พราหมณ์หณ์นุ่มนุ่ เพื่อความปลอดภัยภัและความสะดวกสบายในระหว่างการเดินดิทางซึ่ง ซึ่ ใน ระหว่างเดินทางอยู่ในป่าพราหมณ์เณ์กศสุริยงก็ชก็ม พันธุ์ไม้ไปแล้วล้ ในใจก็คิก็ดคิถึงถึแล้วล้ สุวรรณหงส์ผู้เป็นสวามี ชุดการแสดงที่ 14 พรหามณ์เณ์กศสุริยงชมดง พราหมณ์เณ์กศสุริยงชมดง ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์พิย์ พิมลดา คุริวงศ์ ผู้แผู้สดง นางสาวประกายพร ยอดเสน


บทร้อง -ปีพาทย์ทำย์ทำเพลงรัว- -ร้องเพลงมอญแปลงเมื่อ มื่ นั้นนั้ โฉมเจ้าพราหมณ์สีณ์ สีใส เห็นห็ โกสีย์เย์หาะกลับลัลับลั ไป ให้เปลี่ย ลี่ วปล่าล่วเศร้าในวิญญาณฯ -สร้อยเจ้าพราหมณ์แณ์ ปลงจำ แลงกาย เยี้ย ยี้ งยาตร์กรายมาในป่า ใคร่คะนึงนึถึงถึภัสภัดา พ่อคู่ชีคู่วชีาของน้อน้งเอย ชื่น ชื่ ใจเอยฯ -พากย์ชย์มดงสุริยงแปลงองค์เค์ป็นพราหมณ์ จุลเจิมเฉลิมลิงาม เดินตามพนัสนัแนวดงฯ ไม้ใหญ่ยญ่างยูงยูสูงระหง ปรางปริงปรูปรง คันคัทรงส่งกลิ่นลิ่ฝืนฝางฯ ไทรย้อย้ยห้อห้ยระย้าย้ขานาง ชมพลางเดินพลาง มาข้าข้งธาราวารีฯ เดินพลางคะนึงนึถึงถึสามี กำ สลดโศกี เทวีครวญคร่ำ ร่ำ โศกาฯ


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุศกุนกุตลาชมสวน เป็นการแสดงรำ เดี่ย ดี่ วในบทชมสวนของนาง ศกุนกุตลา เนื้อ นื้ ความการแสดงตอนนี้ก นี้ ล่าล่วถึงถึนางศกุนกุตลากำ ลังลัเที่ย ที่ วชม สวนรุกขชาติ บริเวณ ใกล้อล้าศรมของพระกันกัวะดาบส ด้วด้ยอารมณ์เณ์บิกบิบาน ใจ บทร้องบรรยายถึงถึ ความงดงาม และกลิ่นลิ่หอมของดอกไม้นม้านาพันธุ์ และความร่มรื่นเย็นย็สบาย ของสถานที่นั้ ที่ นนั้ บทร้องและทำ นองเพลง ปี่พาทย์บย์รรเลงเพลง เร็ว-ลา ร้องเพลงลมพัดชายเขา เมื่อ มื่ เอ่ยเมื่อ มื่ นั้นนั้ ยุพยุเยาว์นารีสีใส พาชมบุปบุผาพนาไพร อรทัยทัเรื่อยร้องรำ พรรณเอย รื่นรื่นชื่น ชื่ กลิ่นลิ่กรรณิกณิาร์ หอมชื่น ชื่ ทาษาเกษมสันต์ รื่นรื่นสารภีปภีระคนกันกั กลิ่นลิ่สุครรณเย็นย็รื่นชื่น ชื่ ใจเอย เรื่อยเรื่อยลมพัดมาอ่อนอ่อน โชยกลิ่นลิ่เกสรเข้าข้มาใกล้ เรื่อยเรื่อยรสรักเย้าย้ฤทัยทั พาให้ปห้ลื้ม ลื้ เปรมปรีดาเอย ปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงฉิ่งฉิ่


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุ“ยี่สุ่ ยี่สุ่น ทรงเครื่อง “ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ด้ค์าด้นนาฏศิลป์ไทยของ ดร.ไพโรจน์ ทองคำ สุก ราชบัณบัฑิตฑิ ซึ่งเป็นผู้ปผู้ระพันธ์บทเเละประดิษฐ์ท่าท่รำ โดยมีอมีาจารย์ สุชีพชีเพ็ชรคล้าล้ย ดุริยางคศิลปินอาวุโส สำ นักนัการสังคีตคีเป็นผู้บผู้รรจุเพลง โดยนำ บทบาท ของนางยี่สุ่ ยี่สุ่นในการแสดงละครนอกเรื่อง ลักลัษณวงศ์ ที่ด ที่ ร.ไพโรจน์ ทองคำ สุก เคยแสดง ณ โรงละครแห่งห่ชาติมติาเป็นแรงบันบัดาลใจในการสร้างสรรค์ผค์ลงาน โดยกล่าล่วถึงถึนางยี่สุ่ ยี่สุ่น พระธิดาของท้าท้วกรดสุริยกาลกับกัพระนางมณีอัณีอัมพร เเห่งห่ เมือมืง ยุบยุล รู้เรื่องว่าพระลักลัษณวงศ์รับเจ้าพราหมณ์มณ์าอยู่เป็นข้าข้รับใช้ พระลักลัษณวงศ์ก็ไก็ม่เคย สนใจใยดีกับกันางเลย นางจึงคิดคิจะไปพบพระลักลัษณวงศ์เพื่อกำ จัดเจ้าพราหมณ์ ให้นห้าง สนมจัดการเตรียมเครื่องหอมประทินทิผิวผิจากนั่นนั่นางยี่สุ่ ยี่สุ่นก็เก็ข้าข้ชำ ระสระสรง ทาเครื่องหอม เพื่อให้พห้ระลักลัษณวงศ์หวนกลับลัมาหลงรักนางเหมือมืนเช่นช่ เคย เเล้วล้จึงเสด็จด็ขึ้น ขึ้ เฝ้า พระลักลัษณวงศ์ ชุดการแสดงที่ 16 ยี่สุ่นทรงเครื่อง ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ ดร. ไพโรจน์ ทองคำ สุก เเสดงโดย อริสรา เหมาะประมาณ


(เพลง เสมอ) (ร้องร่าย ) ชำ ระรด น้ำปรุง จรงค์รื่ค์ รื่ น หอมชุ่มชุ่ชื่น ชื่ ซาบสร้าง ทั่วทั่นาสา ลูบลูไล้ ขัดขัสีทั้งทั้กายยา ขมิ้นมิ้ทา เหลือลืงปรั่งดังดัพิณจันทร์ (เพลงรับ) ชโลมแล้วล้ชโลมอีก ไม่ขัม่ดขัสน ถูเถูวียนวน ไปจนน้ำหมดขันขั ซอกเล็บล็ซอกน้อน้ย ครรลวัลย์ เกษมสันต์ หรรษา ดำ เนินมา (เพลงรับ) (เพลงชมตลาด) แล้วล้วนั่งนั่ลง พักพักต์วต์าดคิ้วคิ้ ไม่ขี้ม่ริ้ ขี้ ริ้ว ไม่ขี้ม่ริ้ ขี้ ริ้วเลยเรา งามหนักหนา ไม่ขี้ม่ริ้ ขี้ ริ้ว ไม่ขี้ม่ริ้ ขี้ ริ้วเลยเรา งามหนักหนา บรรจงจักษ์ ผู้สผู้ร้าง มีราคา สไบสอด สไบสอดจินดา ทับทิมไพล สไบสอด สไบสอดจินดา ทับทิมไพล ทองซ้อซ้นแก้วก้แวววับสง่าง่ เมือง สอิ้งเพชร สอิ้งเพชรอุไรเรือง สามสาย สอิ้งเพชร สอิ้งเพชรอุไรเรือง สามสาย งดงาม เปล่งล่ ปลั่งลั่พรรณรายณ์ เยื้อ ยื้ งกลาย เยื้อ ยื้ งกลายขึ้น ขึ้ เฝ้า องค์ภูค์มิภูนมิทร์ เยื้อ ยื้ งกลาย เยื้อ ยื้ งกลายขึ้น ขึ้ เฝ้า องค์ภูค์ มิภูนทร์ แล้วล้วร้องเรียก สาวสนม กำ นันมา ชะช้าช้กันกัอยู่ใย มาเร็วรี จะเตรียมร่ม กั้นกั้กางเสียชาตินี้ ติ จระลี ออกจากตำ หนักนาง (เพลงเร็ว)


ประวัติคติวามเป็นมา การรำ บุษบุบาทรงเครื่อง เป็นการรำ บทแต่งต่องค์ทค์รงเครื่องของนางบุษบุบาจาก ละครใน เรื่องอิเหนา ตอน อิเหนาเข้าข้ เฝ้าท้าท้วดาหา บทพระราชนิพนินธ์ในพระบาท สมเด็จพระพุทธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลัการแสดงกล่าล่วถึงถึขณะที่อิ ที่ อิเหนาเข้าข้ เฝ้าท้าท้วดาหาหลังลั รบชนะศึกกระหมังมักุหกุนิงนิท้าท้วดาหารับสั่งให้นห้างบุษบุบาออกมาไหว้อิเหนาที่ม ที่ าช่วช่ยทำ สงครามและในฐานะของพระญาติ การแสดงชุดชุบุษบุบาทรงเครื่อง จัดอยู่ในรูปแบบการลงสรงทรงเครื่องตัวตันางซึ่ง กระบวนท่าท่รำ มีคมีวามงามของเครื่องแต่งต่กาย การลงสรงอาบน้ำ แต่งต่หน้าน้แต่งต่ตัวตั การทรงเครื่องตัวตัละคร การแสดงชุดชุบุษบุบาทรงเครื่อง อาจารย์กย์รรณิกณิาร์ วีโรทัยทัผู้เชี่ย ชี่ วชาญด้าด้นนาฏย ศิลป์ไทย ละครนาง สถาบันบับัณบัฑิตฑิพัฒนศิลป์ ได้ถ่ด้าถ่ยทอดท่าท่รำ ให้แห้ก่อก่าจารย์ศย์รีเวียง จิ๋วพัฒนกุลกุทำ นองเพลง เริ่มด้วด้ยปี่พาทย์ทำย์ทำเพลงต้นต้ เข้าข้ม่าม่นตามด้วด้ยบทร้องเพลง ชมตลาดและจบลงด้วด้ยปี่พาทย์ทำย์ทำ เพลงเร็ว-ลา การแต่งต่กายของการแสดงชุดชุบุษบุบา ทรงเครื่อง คือคืสวมรัดเกล้าล้ยอด ยืนยืเครื่องตัวตันาง สีแดงขลิบลิเขียขีวผ้าผ้ซับในของผ้าผ้ห่มห่ นางเป็นสีทับทัทิมทิตามคำ ร้อง ชุดการแสดงที่ 17 บุษบาทรงเครื่อง ถ่าถ่ยทอดท่าท่รำ โดย : อาจารย์ศรีเวียง จิ๋วพัฒนกุล แสดงโดย นางสาวมาลิษา งอยผาลา


บทร้องและทำ นองเพลง - ปี่พาทย์ทำ เพลงต้นเข้าข้ม่าน - - ร้องเพลงชมตลาด - ขึ้นบนเตียงทองในห้อห้งสรง สำ อางองค์ขัดสีวารีสนาน ทรงเครื่องน้ำ ดอกไม้ใส่พาน สุคนธารหอมประทิ่นกลิ่นกาย ทรงปรัตผัดพักตร์ปลั่งลั่เปล่ง ดั่งดั่ดวงจันทร์วันเพ็ญพูลฉาย ภูษายกพื้นตองทองพราย เข็มขัดสายประจำ ยามงามพลอย สไบทรงสอดซับสีทับทิม เพริดพริ้มริมขลิบครุยห้อห้ย สังวาลวรรณคั่นจินดาดุนลอย ทรงสร้อยอย่างนอกดอกลำ ดวน ทองกรแก้วกุดั่นบรรจง ธำ มรงค์นพรัตน์จัดถ้วถ้น ใส่มงกุฎประดับทับทิมล้วน แล้วล้ลงจากปราสาทสวนเสด็จมา - ปี่พาทย์รับ - - ปี่พาทย์ทำ เพลงเร็ว - ลา –


ประวัติคติวามเป็นมา การแสดงชุดชุปันหยีแยีต่งต่ตัวตัเป็นบท ลงสรงทรงเครื่องของตัวตัปันหยี (อิเหนา) ในละครใน เรื่องอิเหนาตอนประสันตาต่อต่นก กล่าล่วถึงถึอิเหนาปลอมตัวตัเป็นโจรป่าและเปลี่ย ลี่ นนามใหม่ว่ม่ ว่า มิสมิาระ ปันหยี วันหนึ่ง นึ่ ประสันตาพี่เลี้ย ลี้ งของสอิเหนาชวนบ่าบ่วไพร่ออกไปต่อต่นก จนล่วล่งล้าล้ เข้าข้ ไปถึงถึค่าค่ยพัก ของระตูบุตูศบุสิหนา ทำ ให้เกิดกิเหตุทตุะเลาะวิวาทกับกั ไพร่พลของระตูบุตูศบุสิหนาและเกิดกิการรบสู้กันกัขึ้น ขึ้ ก่อก่น ออกรบนี้มี นี้ กมีารราลงสรงโทนของปันหยี เป็นศิลปะการรำ แต่งต่องค์ทค์รงเครื่องอันงดงามตาม แบบแผนที่จ ที่ ารึกไว้ในตำ รำ พิชัยชัสงคราม เป็นการรำ อวดฝีมือมืของผู้แผู้สดงมีท่มีาท่รำ ที่ส ที่ ง่าง่งามและ นุ่มนุ่นวล ตามแบบละครใน การแสดงชุดชุนี้เ นี้ป็นบทพระราชนิพนินธ์ในพระบาทสมเด็จด็พระพุทธเลิศลิหล้าล้ นภาลัยลัรัชกาลที่ 2 ทำ นองเพลงและท่าท่รำ ถูกถูนำ มาสร้างสรรค์ขึ้ค์น ขึ้ ใหม่โดยอาจารย์มย์นตรี ตราโมทและท่าท่นผู้หผู้ญิงญิ แผ้วผ้สนิทนิวงศ์เสนีย์นี ย์ซึ่งได้ถ่ด้าถ่ยทอดท่าท่รำ ให้แห้ก่อก่าจารย์ศิย์ ศิริวัฒน์ ดิษยนันนัท์แท์ละได้ถ่ด้าถ่ยทอดต่อต่มายังยั อาจารย์นย์งลักลัษณ์ เทพหัสหั ดิน ชุดการแสดงที่ 18 ปันหยีแต่งต่ตัว ผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์ กนกเลขา พูนสวัสดิ์ ผู้แผู้สดง นางสาวนิจจารีย์ คุณแพง


บทร้อง - ปีพาทย์ทำย์ทำเพลง ต้นต้ เข้าข้ม่าม่น- - ร่ายเมื่อ มื่ นั้นนั้ มิสมิาระปันหยี่สุ ยี่สุกาหรา สระสรงทรงเครื่องมุรมุธา ตามตำ รารณรงค์ยค์งยุทยุธ -ลงสรงโทนบรรจงทรงสอดสนับนัเพลา ภูษภูานุ่งนุ่หน่วน่งเนาไม่เลื่อ ลื่ นหลุดลุ ฉลององค์เค์กราะสุวรรณกันกัอาวุธ เจียระบาดผาดผุดผุพรรณราย ตาบทิศทิทับทัทรวงดวงกุดั่กุนดั่ คาดเข็มข็ขัดขัรัดมันมักระสันสาย สังวาลประดับทับทัทิมทิพราย ทองกรจำ หลักลัลายลงยา ธำ มรงค์ค่ค์าค่ เมือมืงเรืองระยับยั ตาดพับพันโพกเกศา แต่งต่ เป็นเช่นช่ชาวอรัญวา กุมกุกริชฤทธาสำ หรับมือมืฯ -ร่ายมาทรงอาชาม้าม้ที่นั่ ที่ งนั่ ให้คห้ลายเคลื่อ ลื่ นพลขันขัธ์บันบัลือลื พระหัตหัถ์หถ์น่วน่งเหนี่ย นี่ วรั่งสายถือถื โห่สห่นั่นนั่อึงอื้อยกไป ๆ -เชิดชิ-


Click to View FlipBook Version