รายงานปฎิบัติการสอน นางสาวปัทมาวดี แซ่ล้อ ดศ.621เลขที่16

รายงาน
การฝึกปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา ๒

(Teaching Internship 2)

นางสาวปทั มาวดี แซล่ ้อ
รหสั นกั ศึกษา 6210473116 สาขาการศึกษา วชิ าเอกดนตรศี กึ ษา

โรงเรยี นเทศบาลวัดขจรรงั สรรค์
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

รายงาน
การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศึกษา ๒

(Teaching Internship 2)

นางสาวปทั มาวดี แซล่ ้อ

คณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลัยราชภฏั ภเู กต็

นางสาวปทั มาวดี แซล่ อ้
เกดิ เมอื่ วนั ที่ ๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๓๒ อายุ ๓๒ ปี
ภมู ลิ าเนา ๑๓๐/๑๐ ถนนสรุ พันธ์ ตาบลท่าราบ
อาเภอเมอื ง จงั หวดั เพชรบุรี ๗๖๐๐๐

ประวัติการศึกษา

ระดับมัธยมต้น หาดใหญ่วทิ ยาลัย ๒ ตาบลบ้านพรุ
อาเภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา
ระดับมธั ยมปลาย วทิ ยาลัยนาฏศลิ ป์พทั ลงุ
ตาบลลาปา อาเภอเมอื ง จงั หวดั พัทลุง
ระดบั ปริญญาตรี ชัน้ ปีท่ี ๓ สาขาการศึกษา
วิชาเอกดนตรศี ึกษา คณะครุศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฎั ภเู กต็

ตดิ ตอ่

เบอร์ตดิ ต่อ 0829784493
ไลน์ pt03102532
เฟสบกุ๊ Pattamavadee Sae

ก

คานา

การฝึกปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 2(Professional Practicum 2)
เป็นรายวิชาท่ีมีความสาคัญสาหรับนักศึกษาวิชาชีพเป็นอย่างมาก ทั้งนี้มีจุดประสงค์เพ่ือศึกษางานในหน้าที่ครู
การศึกษาผู้เรียนและเพื่อเป็นการเตรยี มความพรอ้ มให้กับผู้เรยี นก่อนออกไปฝึกประสบการณ์วชิ าชีพและประกอบ
วิชาชีพครูต่อไปในภายภาคหน้า เนื้อหาในรายงานการศึกษางานในหน้าท่ีครูประจาช้ันและการศึกษาผู้เรียน
ประกอบด้วย ข้อมูลนักศึกษาฝึกปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน 2 การนาประสบการณ์วิชาชีพครูท่ีได้จากการฝึก
ปฏบิ ตั ิการสอนในภาคเรียนที่ผ่านมา สังเคราะห์และ นามาใช้ในการปรับปรุง การจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ที่ยึด
ผู้เรียนเป็นสาคัญให้มีคุณภาพมากขึ้น พัฒนาการจัด กระบวนการเรยี นรู้ การเลือกใช้ การผลิตส่ือและนวัตกรรมท่ี
สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคนิคและ ยุทธวิธีใน การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
การบนั ทกึ และรายงานผลการจัดการเรียนรู้ การนา ผลการวิจัยในช้นั เรียนมาพัฒนาผู้เรียนอย่างตอ่ เนื่อง ตลอดจน
การสัมมนาทางการศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ท่ีได้เข้ามาสังเกตการณ์สอน และอนาคตในวันข้างหน้าได้เป็นครู
และได้ร้เู กยี่ วหนา้ ที่ตา่ ง ๆ เก่ยี วกบั โรงเรียน

การฝึกปฏบิ ัติวิชาชีพครรู ะหว่างเรยี น 2 (Professional Practicum 2) ในสถานศึกษาในคร้งั นี้สาเร็จลุล่วง
ไปด้วยดี จากความร่วมมือของผู้เก่ียวข้องหลายฝ่าย ผู้บริหาร ผู้อานวยการโรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์
ครูพี่เลี้ยง ตลอดจนคณะคุณครู ผู้บริหาร และบุคลากรโรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์ทุกท่านท่ีให้คาแนะนา
คาปรึกษา ช่วยเหลือและตักเตือนข้อบกพร่องผิดพลาดต่าง ๆ จึงขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
และผูจ้ ัดทาหวังวา่ เนือ้ หาในรายงานเล่มนที้ ีไ่ ดเ้ รียบเรยี งมาจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผูส้ นใจมากยงิ่ ข้ึน

นางสาวปทั มาวดี แซ่ล้อ
ผูจ้ ดั ทา

สารบัญ ข

หัวเรือ่ ง หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
รายงานการฝึกปฎิบตั ิการจัดการเรียนรู้ ๑

ผลการปฎบิ ัตงิ าน ๔-๓๔
ผลการปฎบิ ัตงิ านครทู ่ีปรึกษา
รายงานการฝกึ ปฎบิ ตั ิการเรียนการสอน ๓๕
แผนการจดั การเรียนรู้ ๓๖
สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ัด ๓๗
สาระสาตัญ ๗๔
จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๘๑
สมรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
ชิ้นงาน/ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นรู้
สือ่ /แหลง่ เรียนรู้
การวัดและการประเมนิ ผล
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั เรเรยี นรู้
การวิเคราะห์จุดแข็ง และขอ้ ควรปรบั ปรุง่ ในการจัดการเรียนการสอน
บนั ทกึ การนิเทศ
ภาคผนวก ก.
ภาคผนวก ข.
ภาคผนวก ค.

1

ผลการปฎิบตั ิงาน

รายวชิ าทสี่ อน ระดบั ช้นั จานวนนกั เรยี น
(ชื่อ/รหัสวิชา/ชวั่ โมง)

ศลิ ปะ (สาระนาฎศิลป)์ /ศ๑๑๑๐๑/๒ชม. ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ๒๙

ศิลปะ(สาระดนตร)ี /ศ๑๒๑๐๑/๒ชม. ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ๔๑

ศิลปะ(สาระดนตรี)/ศ๑๓๑๐๑/๒ชม. ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ๕๑

ผลการปฎิบัติงานครทู ่ปี รกึ ษา / ผูช้ ่วยครูทปี่ รึกษา / ภาระงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย

นกั เรียนระดับชัน้ จานวนนักเรยี น

ประถมศึกษาปที ่ี ๕

- สงั เกตการณ์โฮมรูม 24 คน

- ตรวจความสะอาดของห้องเรยี น

รายงานการฝึกปฎิบตั กิ ารจัดการเรยี นการสอน

วนั /เดือน/ปี กจิ กรรมการฝึกปฎบิ ตั ิการจัดการเรยี นรู้ ลายมือช่ือ

๑ ธนั วาคม ๖๔ - รว่ มปฐมนิเทศการสฃั เกตการณ์สอน ๒ ร่วมกับ ผอู้ านวยการ และ

หวั หน้าฝ่ายวิชาการ

- พบครูพีเ่ ลีย้ ง

- จัดตารางเรียน

- เรียนรู้เรอ่ื งการเขียนแผนการสอน

๒ ธันวาคม ๖๔ - ชว่ ยครูพเ่ี ลี้ยงทาสื่อการสอน

- เขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้
- ช่วยครูพเ่ี ลี้ยงจดั ทาเอกสาร

๓ ธันวาคม ๖๔ - ชว่ ยครพู เี่ ลี้ยงจดั เตรียมอุปกรณเ์ ครอ่ื งดนตรีใหพ้ ร้อมใชง้ าน(ทาความ

สะอาดเคร่ืองดนตร)ี

- ชว่ ยครูพี่เลยี้ งจดั เก็บเอกสาร

๗ ธนั วาคม ๖๔ - ชว่ ยครพู ่ีเลี้ยงพิมพเ์ อกสาร

-ประชุม PLC ร่วมกับครพู ่เี ลย้ี งวชิ าสงั คม

๘ ธันวาคม ๖๔ - ชว่ ยครูพเ่ี ลี้ยงจัดทาสอื่ การเรียนการสอน

- ทาเอกสารสภาพท่วั ไปของสถานศกึ ษา

2

๙ ธันวาคม 64 - เขียนแผนการสอน
- ชว่ ยครูพี่เลย้ี งจดั เตรยี มอุปกรณเ์ ครือ่ งดนตรีใหพ้ ร้อมใชง้ าน(เทยี บเสยี ง
๑๓ ธนั วาคม เคร่ืองดนตร)ี
64 - ชว่ ยครพู เ่ี ลี้ยงจดั เตรยี มอุปกรณ์เครอื่ งดนตรใี หพ้ รอ้ มใช้งาน(เทยี บเสียง
เครอ่ื งดนตร)ี
๑๔ ธันวาคม - ปฎิบตั ิการสอนวิชาศลิ ปะ สาระดนตรี ๑ คาบ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑
64 - ปฎิบตั ิการสอนวชิ าปฎบิ ตั ิดนตรเี พิม่ เติม ๓ คาบ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
- เขียนแผนการสอน
๑๕ ธนั วาคม - ช่วยครพู เ่ี ลย้ี งทาเอกสาร
64 - เขียนเอกสารใบงานแตล่ ะแผนการสอน
๑๖ ธันวาคม - ปฎบิ ัตกิ ารสอน ๑ คาบ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒/๒
64 - ปฎิบตั กิ ารสอนวชิ าปฎบิ ตั ิดนตรเี พ่ิมเติม ๑ คาบ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕
- โฮมรมู (ผชู้ ว่ ยครูท่ปี รกึ ษา) ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕
๑๗ ธนั วาคม - ปฎบิ ัตกิ ารสอน ๑ คาบ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓/๑
64 - ปฎิบตั ิการสอนวชิ าปฎิบัติดนตรีเพม่ิ เตมิ ๑ คาบ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔
๒๐ ธันวาคม - โฮมรูม(ผู้ชว่ ยครูท่ีปรกึ ษา) ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕
64 - ปฎิบัติการสอน ๑ คาบ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓/๒
- ปฎิบตั ิการสอนวชิ าปฎิบัติดนตรเี พมิ่ เติม ๑ คาบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖
๒๑ ธนั วาคม - ตรวจเวรประจาวันชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕
64 - โฮมรมู (ผชู้ ว่ ยครูท่ปี รึกษา) ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕
- ปฎิบตั ิการสอน ๑ คาบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒/๑
- ตรวจเวรประจาวนั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕
- โฮมรมู (ผ้ชู ่วยครูทีป่ รึกษา) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
- ปฎิบัติการสอนวชิ าศลิ ปะ สาระดนตรี ๑ คาบ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑
- ปฎิบัติการสอนวชิ าปฎิบัติดนตรีเพมิ่ เตมิ ๓ คาบ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑
- ตรวจเวรประจาวันชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕
- โฮมรูม(ผชู้ ว่ ยครทู ปี่ รกึ ษา) ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
- สงั เกตการณส์ อนวิชาศิลปะ (สาระศิลปะ) ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒/๒
- ประชุม PLC ร่วมกบั ครพู ่ีเลีย้ ง (หมวดศลิ ปะ) และครูหมวด
- ตรวจเวรประจาวนั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕

3

๒๒ ธนั วาคม 64

ลาปว่ ย

๒๓ ธนั วาคม 64 - โฮมรมู (ผู้ช่วยครทู ่ีปรึกษา) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
- สงั เกตการณ์สอนวชิ าศิลปะ (สาระศลิ ปะ) ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓/
๒
- ตรวจเวรประจาวันชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕

๒๔ ธนั วาคม 64 สอนชดเก็บชั่วโมงทลี่ าปว่ ย
- โฮมรูม(ผูช้ ว่ ยครูท่ีปรึกษา) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕
- ตรวจเวรประจาวนั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕

ปัทมาวดี แซ่ล้อ ลงชือ่ ....................................................
(นางสาวไหมฟาง พรายอินทร)์
ลงชอื่ ....................................................... ครพู ่ีเลีย้ ง
(นางสาวปัทมาวดี แซ่ลอ้ )

นกั ศกึ ษาฝกึ ปฎบิ ัติวชิ าชพี ครรู ะหวา่ งเรียน

4

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑

กลุม่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (นาฏศิลป์) รายวชิ านาฏศลิ ป์

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๒ปีการศึกษา๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เคลื่อนไหวพน้ื ฐาน จานวน ๒ ชว่ั โมง

เรอ่ื ง การเคลือ่ นไหวร่างกายเลียนแบบคน เวลาเรยี น ๑ ชวั่ โมง

ผูส้ อน นางสาวปทั มาวดี แซ่ล้อ โรงเรียนเทศบาลวดั ขจรรงั สรรค์

สอนวนั ท่ี ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑

************************************************************************************
สาระนาฏศิลป์

มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 3.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์

วพิ ากษ์วิจารณค์ ุณคา่ นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอสิ ระ ช่ืนชม และ

ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั
ตัวชวี้ ัด มฐ.ศ 3.1 ป.1/1 เลียนแบบการเคลื่อนไหว

สาระสาคญั
การเคลอ่ื นไหวร่างกายเลยี นแบบคนจะชว่ ยฝกึ จินตนาการและการใช้อวัยวะต่าง ๆ ให้เกดิ ความคล่องแคล่ว

นอกจากนย้ี งั ทาใหผ้ ู้เลียนแบบและผู้ชมเกดิ ความรูส้ ึกสนกุ สนานกบั การแสดงท่าทางเลยี นแบบดังกลา่ วไดเ้ ป็นอย่างดี

สาระการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

การเคลือ่ นไหวรา่ งกายเลยี นแบบคน
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/การบวนการคดิ (P)

ความสามารถในการคดิ
ด้านคณุ ลกั ษณะอังพงึ ประสงค์ (A)

ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏิบัตหิ น้าทีก่ ารงาน

จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ่ตู ัวช้ีวัด

1. อธิบายประโยชนข์ องการเคลอื่ นไหวรา่ งกายเลียนแบบคน
2. แสดงการเคล่ือนไหวร่างกายเลยี นแบบคน
3. ชนื่ ชมการเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบคน

5

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1. สมรรถนะการจดั การตนเอง
2. สมรรถนะการคิดขนั้ สูง
3. สมรรถนะการรวมพลงั ทางานเปน็ ทมี
4. สมรรถนะการสื่อสาร
5. สมรรถนะพลเมอื งท่เี ขม้ แข็ง

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มงุ่ ม่ันในการทางาน

ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
- แผนภาพความคดิ ประโยชนข์ องการเคล่ือนไหวร่างกายเลยี นแบบคน

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูคดั เลือกผแู้ ทนนกั เรยี นจานวน 3 คน ออกมาแสดงการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายเลยี นแบบคนตามหวั ข้อท่ี

กาหนดใหต้ อ่ ไปนี้
- คนรอ้ งเพลง
- ตารวจจราจร
- คนแก่
เมื่อผู้แทนนักเรียนแสดงการเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบคนเสร็จแล้วให้นักเรียนร่วมกันทาย

โดยครูใช้คาถาม ดงั นี้
- ผ้แู ทนนกั เรียนคนท่ี 1 แสดงการเคลื่อนไหวร่างกายเลยี นแบบอะไร
(ตวั อย่างคาตอบ คนรอ้ งเพลง)
- ผแู้ ทนนกั เรียนคนที่ 2 แสดงการเคลือ่ นไหวร่างกายเลยี นแบบอะไร
(ตัวอยา่ งคาตอบ ตารวจจราจร)
- ผู้แทนนกั เรยี นคนที่ 3 แสดงการเคลือ่ นไหวร่างกายเลียนแบบอะไร
(ตวั อย่างคาตอบ คนแก)่

2. ให้นกั เรยี นรว่ มกันศกึ ษาเกย่ี วกบั การเคลอ่ื นไหวร่างกายเลียนแบบคน แลว้ ครใู ช้คาถามเพ่ือใหน้ ักเรียน
รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นดงั น้ี

- การเคลอ่ื นไหวร่างกายเลยี นแบบคนมกี ี่ลักษณะ อะไรบา้ ง
(ตัวอย่างคาตอบ มี 3 ลักษณะ ได้แก่ เลียนแบบกิริยาท่าทาง เลียนแบบคนอาชีพต่าง ๆ
และเลยี นแบบคนวัยต่าง ๆ)

6

- การเคลอื่ นไหวรา่ งกายเลยี นแบบกริ ยิ าทา่ ทางของคนมอี ะไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ เดนิ นัง่ ดดี เปียโน เตะฟุตบอล ร้องเพลง ขับรถ)

- การเคล่อื นไหวรา่ งกายเลยี นแบบคนอาชีพตา่ ง ๆ มีอะไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ ทหาร พยาบาล ตารวจจราจร คณุ ครู ชาวนา)

- การเคลื่อนไหวรา่ งกายเลียนแบบคนวัยตา่ ง ๆ ได้แก่วัยใดบา้ ง
(ตัวอยา่ งคาตอบ วยั เดก็ วยั รนุ่ วัยชรา)

3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กันแล้วให้นักเรียนเล่นเกมบัตรคาแสนกล โดยมี
ขนั้ ตอนการเล่นดงั น้ี

- ครแู จกบตั รคาตอ่ ไปน้ีให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ กลมุ่ ละ 1 ชดุ

รอ้ งเพลง ตารวจจราจร คนแก่

คนเตะฟุตบอล ชาวนา เด็กทารก

ว่ายน้า ครู วัยรนุ่

อาหาร คนขับรถ ทาอาหาร

- ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบคนตามลักษณะท่ีกาหนดให้ในบัตรคา โดยใช้
วิธกี ารเพื่อนสอนเพือ่ น เมื่อเจอปญั หาก็ร่วมกันแกไ้ ขจนทุกคนสามารถทาได้ถกู ต้อง

- ให้แต่ละกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบคนตามบัตรคากลุ่มละ 1 บัตรคา
ไมซ่ า้ กันทีละบัตรคา และสลับกันทีละกลุ่ม โดยกลุ่มอื่นเปน็ คนทาย กลุ่มใดยกมือก่อนได้ตอบก่อน โดยชูบัตรคาที่เป็น
คาตอบขน้ึ และแสดงการเคลอื่ นไหวร่างกายเลียนแบบคนท่านั้นเหมือนกนั ทงั้ กลมุ่

- ถ้ากลุ่มแรกท่ีตอบน้ันตอบได้ถูกต้องจะได้ 2 คะแนน แต่ถ้าตอบผิด กลุ่มอื่นที่ยังไม่ตอบจะมีสิทธิ์
ตอบ แตไ่ ด้ 1 คะแนน

- เมอื่ เลน่ จนครบ 12 คาแลว้ กลมุ่ ใดได้คะแนนมากท่ีสุด เป็นฝา่ ยชนะและต้องแสดงการเคลือ่ นไหว
เลยี นแบบคนในลักษณะตา่ ง ๆ ท้ัง 12 ลักษณะใหเ้ พื่อนกลุ่มอืน่ ดพู ร้อมท้งั ประเมินการแสดงการเคลื่อนไหวร่างกาย
เลยี นแบบคนดงั กลา่ วว่าเหมอื นหรอื ไม่ ถา้ ไม่เหมือนใหร้ ่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเพ่อื หาแนวทางแกไ้ ขปญั หาต่าง ๆ
ให้ดขี น้ึ

4. ให้นักเรียนแต่ละคนเลือกอาชีพมา 1 อาชีพ แล้วฝึกซ้อมการเคล่ือนไหวร่างกายเลียนแบบอ าชีพ
ดังกล่าวจนสามารถทาได้เหมือน จากนั้นครูให้นักเรียนออกมาแสดงให้เพอ่ื นดู พร้อมท้ังบอกเหตุผลว่า เพราะ
เหตุใดจงึ เลือกทจ่ี ะแสดงการเคล่ือนไหวรา่ งกายเลียนแบบคนอาชีพดังกล่าว

7

5. ครูและนักเรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับประโยชน์ของการเคล่ือนไหวร่างกายเลียนแบบคน โดยครูใช้
คาถามดังน้ี

- การเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบคนมีประโยชน์อย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็นการฝึกความคิด
สร้างสรรค์ ฝึกการจินตนาการท่ีดี ฝึกใช้อวัยวะต่าง ๆ ให้คล่องแคล่ว เกิดความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ เป็น
การสร้างสรรค์สมั พันธภาพที่ดกี บั เพอื่ นๆ)

จากน้ันครูนาคาตอบที่ได้มาเขยี นสรปุ ลงในแผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตัวอย่างตอ่ ไปน้ี

6. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
- การเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบคนจะช่วยฝึกจินตนาการและการใช้อวัยวะต่าง ๆ ให้เกิด

ความคล่องแคล่ว นอกจากน้ียังทาให้ผู้เลียนแบบและผู้ชมเกิดความร้สู ึกสนุกสนานกบั การแสดงท่าทางเลียนแบบ
ดงั กลา่ วได้เป็นอยา่ งดี

7. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังน้ี
- การฝกึ การเคล่อื นไหวรา่ งกายเลยี นแบบคนมีประโยชน์ต่อจิตใจอยา่ งไร

ส่อื การเรียนร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้
1. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ
2. บัตรคาส่ังใบงาน

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล
การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การสังเกตพฤติกรรม/กระบวนการเรียนรู้
การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องนักเรยี น

8

2. เคร่อื งมอื
ตารางการประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
ตารางสังเกตพฤติกรรม/กระบวนการเรยี นรู้
ตารางการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องนักเรยี น

3. เกณฑ์การวดั และประเมินผลกิจกรรม

การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
การประเมนิ กจิ กรรมน้ีให้ผ้สู อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

เร่อื ง เลียนแบบการเคลอ่ื นไหว
ตารางการประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics)เรื่อง เลียนแบบการเคลื่อนไหว

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

เลียนแบบการเคลื่อนไหว เลยี นแบบการ เลียนแบบการ เลียนแบบการ เลียนแบบการ

เคลอ่ื นไหวไดส้ มั พนั ธ์ เคลอ่ื นไหวได้ เคลื่อนไหวไดส้ มั พนั ธ์กับ เคล่ือนไหวได้

กับหัวขอ้ ท่กี าหนดและ สมั พันธ์กับหัวข้อที่ หวั ขอ้ ท่กี าหนดตามท่ีครู สัมพันธก์ บั หวั ข้อท่ี

แตกตา่ งจากท่ีครู กาหนดและแตกตา่ ง ยกตัวอย่างแตม่ กี าร กาหนดตามที่ครู

ยกตวั อย่าง มีการ จากทีค่ รยู กตวั อย่าง ดดั แปลงให้แตกตา่ ง ยกตัวอยา่ ง

เชอื่ มโยงให้เหน็ ถงึ แตเ่ ชอ่ื มโยงให้เหน็

ความสัมพันธ์กบั ตนเอง เฉพาะตนเอง

และผู้อื่น

9

เกณฑ์การประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของนกั เรยี น

คุณลักษณะ เกณฑก์ ารประเมนิ

อันพงึ ประสงค์ ดมี าก ดี ผา่ น ไม่ผ่าน

มีวนิ ัย มคี วามรับผิดชอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มีความรบั ผดิ ชอบ ไมม่ คี วามรับผิดชอบ
ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง
ปฏิบัติตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ของครอบครวั
ของครอบครวั โรงเรยี นสังคม
โรงเรยี นสงั คมและ ของครอบครัว ของครอบครวั
เป็นแบบอย่างท่ีดี โรงเรียนสงั คม โรงเรียนสังคมเปน็
คร้ังคราว

แกบ่ ุคคลทั่วไป

ใฝ่เรียนรู้ ขยนั เอาใจใส่ตอ่ การ ขยันเอาใจใส่ต่อการ ขยันเอาใจใสต่ ่อการ ไม่ขยนั ไมเ่ อาใจใส่

เรยี น รู้จักศึกษาหา เรยี น รู้จักศกึ ษาหา เรียน รู้จกั ศึกษาหา ต่อการเรียน ไม่รจู้ กั

ความรจู้ ากแหล่ง ความรจู้ ากแหลง่ ความรู้จากแหลง่ ศึกษาหาความรูจ้ าก

เรียนรู้ตา่ งๆทัง้ ใน เรียนรู้ตา่ งๆทง้ั ใน เรียนรตู้ ่างๆทั้งใน แหล่งเรียนร้ตู ่างๆ

โรงเรยี นและนอก และนอกโรงเรียน โรงเรยี นและนอก ท้ังในโรงเรยี นและ

โรงเรยี นอย่าง โรงเรียนเปน็ คร้ัง นอกโรงเรียน

สม่าเสมอ คราว

มงุ่ มน้ั ในการทางาน ตัง้ ใจรบั ผิดชอบใน ตั้งใจรบั ผดิ ชอบใน ตัง้ ใจรับผดิ ชอบใน ไมต่ ้งั ใจปฎบิ ตั งิ าน

การปฏบิ ัติงานท่ี การปฏบิ ตั งิ านท่ี การปฏบิ ตั ิงานที่ หน้าที่และไม่ขยันใน

ไดร้ บั มอบหมายจน ไดร้ ับมอบหมายจน ได้รับมอบหมายจน การทางาน

สาเรจ็ ก่อนเวลาและ สาเรจ็ กอ่ นเวลา สาเรจ็

เปน็ แบบอย่างที่ดีได้

มีจติ สาธาระณะ ชว่ ยเหลอื งานครู ช่วยเหลอื งานครู ชว่ ยเหลอื งานครู ไม่ช่วยเหลอื งานครู

และเพอ่ื นใน และเพื่อนใน และเพ่อื นใน และเพือ่ นใน

หอ้ งเรยี นทกุ คร้ังดี หอ้ งเรียนอยใู่ น ห้องเรยี นเป็นครั้ง หอ้ งเรยี น

มาก เกณฑ์ดี คราว

10

11

12

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ รายวิชานาฏศลิ ป์
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (นาฏศลิ ป์)

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เคลื่อนไหวพื้นฐาน จานวน ๒ ชั่วโมง

เรอื่ ง การเคล่ือนไหวรา่ งกายเลียนแบบธรรมชาติ เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง

ผู้สอน นางสาวปทั มาวดี แซล่ ้อ โรงเรยี นเทศบาลวดั ขจรรังสรรค์

สอนวนั ท่ี ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑

****************************************************************************

สาระนาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์
มาตรฐานการเรียนรู้ วพิ ากษว์ จิ ารณ์คุณคา่ นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคิดอย่างอสิ ระ ชน่ื ชม และ
ประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวัน
ตวั ช้วี ัด
มฐ.ศ 3.1 ป.1/1 เลยี นแบบการเคลอ่ื นไหว

สาระสาคญั
การเคลือ่ นไหวร่างกายเลยี นแบบธรรมชาติ จะชว่ ยฝึกจินตนาการและการใช้อวยั วะตา่ ง ๆ ให้เกดิ ความ

คลอ่ งแคล่ว นอกจากนย้ี ังทาใหผ้ ู้เลยี นแบบและผู้ชมเกดิ ความรูส้ กึ สนกุ สนานกบั การแสดงท่าทางเลยี นแบบ
ธรรมชาตไิ ดเ้ ป็นอยา่ งดี

สาระการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

การเคลอื่ นไหวร่างกายเลยี นแบบธรรมชาติ
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ/การบวนการคดิ (P)

การจาแนก การปฏบิ ตั ิ/การสาธิต การสรปุ ความรู้ การจดั ระบบความคิดเปน็ แผนภาพ

ดา้ นคุณลักษณะอังพงึ ประสงค์ (A)
ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ วั ช้ีวดั
1. อธิบายประโยชน์ของการเคลื่อนไหวร่างกายเลยี นแบบธรรมชาติ

2. แสดงการเคลอ่ื นไหวร่างกายเลียนแบบธรรมชาติ
3. ชน่ื ชมการเคล่อื นไหวร่างกายเลียนแบบธรรมชาติ

13

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
 1. สมรรถนะการจดั การตนเอง
 2. สมรรถนะการคดิ ข้ันสงู
 3. สมรรถนะการรวมพลงั ทางานเป็นทีม
 4. สมรรถนะการสื่อสาร
 5. สมรรถนะพลเมืองที่เขม้ แข็ง

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
- แผนภาพความคดิ ประโยชนข์ องการเคลือ่ นไหวร่างกายเลียนแบบธรรมชาติ

คาถามท้าทาย
- การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายเลียนแบบธรรมชาติมปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกายอยา่ งไร

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครคู ัดเลือกผแู้ ทนนักเรยี นจานวน 4 คน แล้วให้ผู้แทนนกั เรยี นแสดงทา่ ทางตอ่ ไปน้ีคนละ 1 ทา่ เพ่ือให้

เพอ่ื น ๆ ทายว่าคอื ทา่ อะไร
- การเดนิ
- การกระโดด
- การว่งิ
- การหยบิ จบั สงิ่ ของ

เมื่อผู้แทนนักเรียนแสดงทา่ ทางดังกลา่ วแลว้ ครใู ชค้ าถามเพ่ือให้นักเรยี นร่วมกันทาย ดังน้ี
- ผแู้ ทนนักเรียนคนที่ 1 แสดงท่าอะไร (ตวั อยา่ งคาตอบ การเดิน)
- ผ้แู ทนนักเรียนคนที่ 2 แสดงทา่ อะไร (ตวั อย่างคาตอบ การกระโดด)
- ผแู้ ทนนกั เรยี นคนที่ 3 แสดงท่าอะไร (ตวั อย่างคาตอบ การว่ิง)
- ผูแ้ ทนนักเรยี นคนท่ี 4 แสดงทา่ อะไร (ตัวอย่างคาตอบ การหยบิ จับส่ิงของ)
จากน้ันครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่าการแสดงท่าทางท้ังหมดที่ผู้แท นนักเรียนแสดงล้วนเป็น

การเคล่อื นไหวพ้นื ฐานที่มนุษย์ทกุ คนตอ้ งแสดงออกในการดาเนินชวี ติ ประจาวัน
2. ครูนาบัตรคา การเคลื่อนไหวรา่ งกายเลยี นแบบธรรมชาติ แลว้ พานกั เรยี นอ่านจานวน 1 รอบ

จากน้นั ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ธรรมชาติท่สี ามารถเลยี นแบบได้ แล้วครูนาขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าเขยี น
ลงบนกระดาน ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี

14

- การเลยี นแบบลมพดั
- การเลียนแบบฝนตก
- การเลียนแบบต้นไมถ้ ูกโคน่
- การเลยี นแบบฟา้ ผา่
- การเลียนแบบน้าตก
จากนน้ั ใหน้ กั เรียนเล่นเกมเลียนแบบหรรษา โดยมีขัน้ ตอนการเลน่ เกม ดังน้ี
- ให้นกั เรยี นรว่ มกนั ร้องเพลงทนี่ ักเรยี นชอบไปเร่อื ย ๆ โดยจะมลี กู ปิงปองถกู โยนลงกลางวงลกู ปงิ ปอง
หยดุ ท่ีใครให้คนนนั้ แสดงท่าทางเลียนแบบธรรมชาตทิ ี่ครูกาหนดให้
- นักเรียนท่ีเหลอื รว่ มกันทายว่าเพอ่ื นแสดงทา่ ทางเลยี นแบบอะไร
- ถา้ นกั เรียนทแ่ี สดงท่าทางแสดงไม่เหมอื นใหเ้ พอ่ื น ๆ ให้คาแนะนาวา่ ควรแสดงทา่ ทางอย่างไร
จากน้ันครคู ดั เลอื กผูแ้ ทนนักเรยี นทีแ่ สดงท่าทางเลียนแบบธรรมชาตติ ามเงื่อนไขได้เหมอื นทส่ี ดุ ออกมาแสดง
ให้เพือ่ น ๆ ดูอกี ครงั้
3. ให้นักเรยี นแบ่งกลุม่ ออกเป็นกลุ่มละ 3 คน แล้วให้แต่ละกลมุ่ เลอื กส่ิงทีต่ อ้ งการเลยี นแบบมากลมุ่ ละ 1
อย่าง จากนั้นทาการฝึกซอ้ มจนทุกคนในกลุ่มสามารถแสดงท่าทางเลียนแบบธรรมชาติได้เหมือน แล้วให้ แต่ละ
กลุ่มออกมาแสดงท่าทางเลียนแบบธรรมชาติให้เพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ดู แล้วประเมินผลการแสดงท่าทางเลียนแบบของ
เพ่ือนกลุ่มนั้น หากเพือ่ นทาได้ดีให้กลา่ วคาช่นื ชม แตถ่ า้ เพื่อนยงั แสดงไมเ่ หมอื นให้เพ่ือนบอกแนวทางแกไ้ ขพร้อมทั้ง
สาธติ การแสดงทา่ ทางเลยี นแบบธรรมชาตทิ า่ นนั้ ใหเ้ พื่อนดูจนสามารถนาไปปรบั ปรุงแก้ไขไดถ้ กู ต้อง
4. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ของการเคลื่อนไหวร่างกายเลียนแบบ
ธรรมชาติ โดยครใู ชค้ าถามดังน้ี
- การเคลอื่ นไหวรา่ งกายเลียนแบบธรรมชาตมิ ีประโยชน์ต่อรา่ งกายอยา่ งไร

(ตัวอย่างคาตอบ ทาใหอ้ วยั วะต่าง ๆ ไดฝ้ กึ การใช้งานได้อย่างคลอ่ งแคลว่ )
- การเคล่อื นไหวรา่ งกายเลียนแบบธรรมชาติมปี ระโยชนต์ ่อจติ ใจอยา่ งไร

(ตวั อยา่ งคาตอบ ทาให้สนกุ สนาน เพลิดเพลิน)
- การเคลอ่ื นไหวร่างกายเลยี นแบบธรรมชาติมีประโยชน์ด้านสติปญั ญาอยา่ งไร

(ตวั อยา่ งคาตอบ เปน็ การฝึกความคดิ สรา้ งสรรค์และจินตนาการท่ดี ี)
- การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายเลยี นแบบธรรมชาติมีประโยชนด์ ้านสงั คมอย่างไร

(ตัวอยา่ งคาตอบ ทาให้เรามสี มั พันธภาพท่ดี ีกับเพื่อน ๆ ทีฝ่ ึกการเลยี นแบบด้วยกนั )
จากน้นั ครูนาขอ้ มูลที่ไดม้ าเขยี นสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี

15

5. ให้นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี
- การเคล่ือนไหวร่างกายเลียนแบบธรรมชาติ จะช่วยฝึกจินตนาการและการใช้อวยั วะต่าง ๆ ให้เกิด

ความคล่องแคล่ว นอกจากนี้ยงั ทาให้ผู้เลียนแบบและผู้ชม เกิดความรู้สึกสนกุ สนานกับการแสดงท่าทางเลียนแบบ
ธรรมชาติไดเ้ ป็นอย่างดี

6. ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- การเคลือ่ นไหวรา่ งกายเลียนแบบธรรมชาตมิ ีประโยชน์ต่อรา่ งกายอยา่ งไร

สื่อการเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้
1. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ

2. บัตรคา
3. เกมแป้งเลียนแบบหรรษา
4. เพลงประกอบการเล่นเกม

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วธิ ีการวดั และประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม

2. เครอื่ งมอื
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่

3. เกณฑ์การประเมนิ

3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น

ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น

3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม

คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก

คะแนน 7-8 ระดบั ดี

คะแนน 5-6 ระดบั ผา่ น

คะแนน 0-4 ระดบั ไมผ่ ่าน

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมนิ กิจกรรมนใี้ หผ้ ู้สอนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

เรือ่ ง เลียนแบบการเคล่ือนไหว

16

ตารางการประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
เรอื่ ง เลียนแบบการเคลอ่ื นไหว

เกณฑก์ ารประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

เลยี นแบบการเคลอ่ื นไหว เลยี นแบบการเคล่อื นไหว เลียนแบบการ เลยี นแบบการ เลยี นแบบการ

ไดส้ ัมพันธ์กบั หวั ข้อที่ เคล่ือนไหวได้สมั พนั ธ์ เคลือ่ นไหวได้ เคลอื่ นไหวได้สมั พันธก์ บั

กาหนดและแตกตา่ งจาก กับหัวข้อท่กี าหนดและ สัมพนั ธก์ บั หัวข้อ หวั ข้อท่ีกาหนดตามที่ครู

ทคี่ รยู กตัวอยา่ ง มกี าร แตกต่างจากท่ีครู ท่ีกาหนดตามทีค่ รู ยกตวั อยา่ ง

เช่อื มโยงใหเ้ ห็นถงึ ยกตัวอยา่ งแต่ ยกตวั อย่างแต่มี

ความสมั พันธ์กบั ตนเอง เชือ่ มโยงให้เห็นเฉพาะ การดดั แปลงให้

และผ้อู ่นื ตนเอง แตกตา่ ง

17

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของนกั เรียน

คุณลักษณะ เกณฑก์ ารประเมนิ

อนั พงึ ประสงค์ ดีมาก ดี ผา่ น ไมผ่ ่าน

มวี นิ ยั มคี วามรบั ผิดชอบปฏิบัติ มคี วามรับผดิ ชอบ มคี วามรบั ผิดชอบ ไม่มีความรับผิดชอบ
ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง
ตามข้อตกลงของ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ของครอบครวั
โรงเรยี นสังคม
ครอบครัวโรงเรียนสงั คม ของครอบครัว ของครอบครัว
และเป็นแบบอย่างทีด่ ี โรงเรยี นสังคม โรงเรียนสงั คมเป็น
คร้ังคราว
แกบ่ ุคคลทว่ั ไป

ใฝเ่ รียนรู้ ขยันเอาใจใสต่ ่อการ ขยนั เอาใจใส่ต่อการ ขยนั เอาใจใส่ต่อการ ไมข่ ยันไม่เอาใจใส่ต่อ

เรยี น รูจ้ กั ศกึ ษาหา เรียน รู้จักศกึ ษาหา เรียน รจู้ ักศึกษาหา การเรยี น ไม่รจู้ กั

ความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ ความรู้จากแหลง่ ความรจู้ ากแหล่ง ศกึ ษาหาความรู้จาก

ต่างๆทง้ั ในโรงเรียนและ เรยี นรู้ตา่ งๆทัง้ ในและ เรียนรตู้ ่างๆทั้งใน แหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆทั้ง

นอกโรงเรียนอย่าง นอกโรงเรียน โรงเรยี นและนอก ในโรงเรียนและนอก

สม่าเสมอ โรงเรยี นเป็นครง้ั โรงเรียน

คราว

มุ่งม้นั ในการทางาน ตง้ั ใจรบั ผดิ ชอบในการ ตงั้ ใจรบั ผดิ ชอบในการ ตง้ั ใจรบั ผดิ ชอบใน ไมต่ ง้ั ใจปฎบิ ัตงิ าน

ปฏบิ ัตงิ านทไ่ี ดร้ บั ปฏิบตั งิ านทไ่ี ด้รบั การปฏบิ ัตงิ านท่ี หน้าทแี่ ละไมข่ ยันใน

มอบหมายจนสาเรจ็ กอ่ น มอบหมายจนสาเรจ็ ไดร้ ับมอบหมายจน การทางาน

เวลาและเปน็ แบบอย่าง ก่อนเวลา สาเร็จ

ทด่ี ีได้

มจี ิตสาธาระณะ ช่วยเหลืองานครูและ ชว่ ยเหลอื งานครแู ละ ชว่ ยเหลอื งานครู ไมช่ ว่ ยเหลืองานครู

เพอื่ นในหอ้ งเรียนทกุ เพอื่ นในหอ้ งเรยี นอยู่ และเพื่อนใน และเพือ่ นในหอ้ งเรียน

ครั้งดีมาก ในเกณฑด์ ี ห้องเรยี นเปน็ ครั้ง

คราว

18

19

20

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ (ดนตร)ี รายวชิ าศลิ ปะ(ดนตร)ี

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๔ บทเพลงสร้างสรรค์ จานวน ๑ ช่ัวโมง

เรื่อง เพลงปลุกใจ: เพลงเราสู้ เวลาเรยี น ๑ ช่ัวโมง

ผูส้ อน นางสาวปัทมาวดี แซ่ลอ้ โรงเรยี นเทศบาลวัดขจรรงั สรรค์

สอนวันท่ี ๑๔ และ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๒/๑และ๒/๒

****************************************************************************

สาระดนตรี

มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์

วิพากษว์ ิจารณค์ ุณค่าดนตรี ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ช่นื ชม

และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

ตัวช้ีวัด มฐ.ศ 2.1 ป.2/5 บอกความหมายและความสาคัญของเพลงทีไ่ ดย้ นิ

สาระสาคญั

บทเพลงแตล่ ะบทเพลงมีความหมายและความสาคญั ต่อผฟู้ ังแตกตา่ งกนั ไป บางเพลงเม่ือได้ฟงั จะให้

ความรู้สกึ ผอ่ นคลาย มีข้อคดิ ท่นี าไปใช้ได้ ขดั เกลาจิตใจ ปลกุ ใจและสรา้ งความสุขใหท้ ง้ั ผู้รอ้ งและผ้ฟู ัง ดงั น้ันการฟัง

เพลงจึงเปน็ วธิ ีจรรโลงใจให้มนษุ ยม์ ีจติ ใจงดงามขน้ึ

สาระการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)
เพลงปลุกใจ : เพลงเราสู้

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ/การบวนการคดิ (P)

การใหเ้ หตุผล การสรปุ ความรู้ การจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ การปฏิบัติ / การสาธติ
ด้านคณุ ลักษณะองั พึงประสงค์ (A)

ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน รกั ความเป็นไทย รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวช้ีวดั

1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของเพลงปลกุ ใจ

2. ร้องเพลงปลกุ ใจ

3. ชืน่ ชมและเห็นความสาคญั ของเพลงปลุกใจ

21

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

1. ครนู าภาพขา่ วการประท้วงท่ีเกิดขึ้นในสังคมไทยมาใหน้ กั เรยี นดูแล้วใชค้ าถามเพื่อใหน้ กั เรยี น

ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้

ภาพที่นักเรยี นดเู ปน็ ภาพเหตกุ ารณใ์ ด

(ตัวอยา่ งคาตอบ ภาพการเดินขบวนประทว้ ง)

นักเรยี นรู้สกึ อย่างไรตอ่ เหตุการณ์ในภาพ

(ตวั อย่างคาตอบ ไม่ชอบ เบอ่ื หนา่ ย)

เราควรให้บุคคลในภาพฟงั เพลงประเภทใด

(ตัวอย่างคาตอบ เพลงปลุกใจ)

เพราะเหตุใดจึงควรใหบ้ ุคคลในภาพฟังเพลงประเภทนี้

(ตัวอย่างคาตอบ จะไดร้ ู้สึกรกั และหวงแหนประเทศไทยมากขึน้ )

2. ครูและนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับความสาคญั ของบทเพลงท่ีมผี ลตอ่ มนษุ ย์ โดยครใู ช้

คาถาม ดงั น้ี

นักเรียนชอบฟังเพลงประเภทใด

(ตัวอยา่ งคาตอบ เพลงลกู ทุ่ง)

เมือ่ ได้ฟงั เพลงเหลา่ นนั้ แล้วนกั เรยี นได้รับผลดีอยา่ งไร

(ตัวอย่างคาตอบ ร้สู ึกสนกุ สนาน เพลิดเพลนิ ผอ่ นคลาย แล้วได้แง่คิดในการดาเนนิ ชวี ิต)

นอกจากเพลงประเภททน่ี ักเรยี นชอบแล้วนักเรียนรู้จักบทเพลงประเภทใดบ้าง

(ตัวอยา่ งคาตอบ เพลงปลุกใจ เพลงไทยเดิม เพลงไทยสากล เพลงสากล เพลงหมอลา)

ถ้าเราฟังเพลงประจาจะกอ่ ใหเ้ กิดผลดตี ่อตนเองอยา่ งไร

(ตัวอย่างคาตอบ เพลงช่วย ขัดเกลาจิตใจ ผ่อนคลายความเครียด มขี อ้ คิดที่นาไปปรบั

ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ มคี วามสขุ )

จากนนั้ ครอู ธบิ ายเกยี่ วกับความสาคญั และประโยชนข์ องบทเพลงประเภทต่างๆ ให้นักเรยี นฟังเพม่ิ เตมิ จน

ทุกคนสามารถเข้าใจได้ตรงกัน

3. ครูนาบัตรคา เพลงปลกุ ใจ มาตดิ ไว้บนกระดานแลว้ ใชค้ าถามเพือ่ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั
แสดงความคิดเหน็ ดังน้ี

นักเรยี นรจู้ กั เพลงปลุกใจหรอื ไม่

(รูจ้ ัก / ไมร่ ้จู ัก)

เพลงปลุกใจมลี กั ษณะจงั หวะอยา่ งไร

(ตวั อยา่ งคาตอบ มจี งั หวะคึกคักเร้าใจ)

เม่ือฟังเพลงปลกุ ใจแลว้ ผฟู้ ังจะรู้สึกอยา่ งไร

(ตัวอยา่ งคาตอบ ฮึกเหมิ รักและหวงแหนชาติบา้ นเมือง)

นกั เรียนรจู้ ักเพลงปลุกใจใดบา้ ง

(ตวั อยา่ งคาตอบ เพลงเราสู้ สยามานสุ ติ ต่ืนเถดิ ชาวไทย)

22

เพลงปลุกใจของชาตไิ ทยมคี วามสาคญั ตอ่ คนไทยอย่างไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ทาใหค้ นไทยเกิดความรูส้ ึกรักชาตบิ ้านเมือง มคี วามฮกึ เหิม กอ่ ใหเ้ กิดความ
สามคั คี ในชาตไิ ทย)
จากนัน้ ครนู าข้อมลู ทไ่ี ดม้ าเขยี นสรุปเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี

คกึ คกั

จงั หวะ เรา้ ใจ
เราสู้
รกั ใครป่ รองดอง มีความสามคั คี

กอ่ ใหเ้ กิดความรูส้ กึ เพลงปลุก ต่นื เถิดชาวไทย สยามานสุ ติ
ฮึกเหมิ รกั ชาติ ใจ ตวั อยา่ งเพลง

4. ครนู าแผนภมู ิเพลงเราส้มู าติดไว้บนกระดานแลว้ ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนตอ่ ไปน้ี
พานักเรยี นอ่านเนอ้ื ร้องเพลงเราสู้ทลี ะท่อนจนจบเพลงและทกุ คนสามารถอ่านไดค้ ล่อง
พานกั เรียนรอ้ งเพลงเราสทู้ ีละท่อน จนทุกคนสามารถรอ้ งได้ถูกตอ้ ง
พานกั เรียนปรบมือประกอบจังหวะร้องเพลงเราสู้จานวน 2 รอบ
ใช้เคร่อื งดนตรอี ่นื ประกอบจงั หวะ เช่น กลอง
ให้นกั เรยี นร้องเพลงเราสูพ้ รอ้ มกัน จานวน 1 รอบ
ครูคอยดูแลและแนะนาอยา่ งใกล้ชดิ

5. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสมแลว้ รว่ มกันฝกึ รอ้ งเพลงเราสู้จนทกุ คนในกลุ่มร้องไดถ้ ูกตอ้ ง
พรอ้ มเพรียงกนั จากนั้นใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ออกมาร้องเพลงเราสู้ใหค้ รแู ละเพอื่ นกล่มุ อ่นื ๆ ฟังพรอ้ มทั้งนาเสนอ
รายละเอยี ดเกยี่ วกับเพลงเราสู้ตามหวั ข้อตอ่ ไปนท้ี ีละกลมุ่ จนครบทุกกล่มุ

ชอ่ื เพลง
ความหมายของเพลง
ความสาคญั ของเพลงที่มีต่อมนษุ ย์
จงั หวะของเพลง
ความรสู้ ึกท่มี ตี ่อเพลง

23

6. ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี การฟงั เพลงทาให้ผฟู้ งั รูส้ กึ ผ่อนคลาย มีความสขุ ไดร้ ับการ
ขดั เกลาจติ ใจ สามารถนาข้อคิดที่ไดจ้ ากเพลงไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั นอกจากนี้การฟังเพลง

ประเภทเพลงปลกุ ใจจะทาให้คนไทยเกิดความรู้สึกรกั และหวงแหนในความเป็นชาตไิ ทยและอยกู่ ันดว้ ยความสามัคคี
สงบสุข

7. ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดงั นี้
เพลงปลุกใจจะช่วยส่งเสรมิ ให้เกดิ คุณธรรมใดข้ึนในใจของมนษุ ย์
สอ่ื การเรยี นรู้

1. ภาพขา่ ว
2. บตั รคา

3. แผนภูมิเพลงเราสู้
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล

1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม

2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ

3. เกณฑ์การประเมนิ

การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมินกจิ กรรมนีใ้ ห้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

เรอ่ื ง เพลงปลกุ ใจ : เพลงเราสู้

ตารางการประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics)
เร่อื ง เพลงปลุกใจ : เพลงเราสู้

เกณฑ์การประเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32

เพลงปลกุ ใจ : เพลงเราสู้ ปฎบิ ตั ิตามหัวขอ้ ทไี่ ด้รับ ปฎิบัตติ ามหัวข้อท่ี ปฎบิ ัติตามหัวขอ้ ปฎิบัตติ ามหวั ข้อทไี่ ดร้ บั

มอบหมายและสามารถ ได้รบั มอบหมายได้ ที่ได้รบั มอบหมาย มอบหมายไดบ้ างสว่ น

ช่วยเหลอื ผอู้ ่ืนดว้ ย แต่ยงั ไมส่ มบูรณ์

24

เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องนักเรยี น

คุณลกั ษณะ เกณฑก์ ารประเมิน

อันพงึ ประสงค์ ดีมาก ดี ผา่ น ไมผ่ ่าน

มวี ินยั มคี วามรับผดิ ชอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีความรบั ผิดชอบ ไมม่ คี วามรบั ผิดชอบ
ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง
ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ปฏิบัติตามข้อตกลง ของครอบครวั
ของครอบครัว โรงเรยี นสงั คม
โรงเรียนสังคมและ ของครอบครัว ของครอบครัว
เปน็ แบบอย่างทีด่ ี โรงเรยี นสังคม โรงเรยี นสังคมเปน็
คร้งั คราว

แกบ่ ุคคลทวั่ ไป

ใฝ่เรียนรู้ ขยนั เอาใจใส่ตอ่ การ ขยนั เอาใจใส่ต่อการ ขยันเอาใจใสต่ ่อการ ไม่ขยนั ไมเ่ อาใจใส่

เรียน รจู้ ักศึกษาหา เรยี น รู้จักศึกษาหา เรยี น รู้จักศกึ ษาหา ต่อการเรยี น ไม่รจู้ ัก

ความรู้จากแหล่ง ความรู้จากแหลง่ ความรจู้ ากแหลง่ ศึกษาหาความร้จู าก

เรยี นรตู้ า่ งๆทง้ั ใน เรยี นรตู้ า่ งๆทั้งใน เรียนรูต้ า่ งๆทั้งใน แหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ

โรงเรยี นและนอก และนอกโรงเรียน โรงเรียนและนอก ทั้งในโรงเรยี นและ

โรงเรียนอย่าง โรงเรยี นเป็นคร้ัง นอกโรงเรียน

สมา่ เสมอ คราว

มงุ่ ม้ันในการทางาน ตั้งใจรับผดิ ชอบใน ต้งั ใจรบั ผดิ ชอบใน ตง้ั ใจรับผดิ ชอบใน ไม่ต้ังใจปฎิบัตงิ าน

การปฏิบตั งิ านท่ี การปฏิบตั งิ านท่ี การปฏบิ ัตงิ านท่ี หนา้ ที่และไมข่ ยันใน

ได้รบั มอบหมายจน ไดร้ บั มอบหมายจน ไดร้ บั มอบหมายจน การทางาน

สาเร็จก่อนเวลาและ สาเร็จกอ่ นเวลา สาเร็จ

เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ไี ด้

มีจติ สาธาระณะ ชว่ ยเหลืองานครู ชว่ ยเหลอื งานครู ชว่ ยเหลอื งานครู ไม่ชว่ ยเหลืองานครู

และเพ่ือนใน และเพอื่ นใน และเพือ่ นใน และเพือ่ นใน

ห้องเรียนทุกครงั้ ดี ห้องเรียนอยู่ใน ห้องเรียนเปน็ ครัง้ หอ้ งเรยี น

มาก เกณฑด์ ี คราว

25

26

27

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ (ดนตรี) รายวิชาศลิ ปะ(ดนตร)ี

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา๒๕๖๔

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ลกั ษณะและเสียงของเครือ่ งดนตรี จานวน ๑ ชว่ั โมง

เรือ่ ง รูปรา่ งลกั ษณะและเสยี งของเครอื่ งดนตรีไทย เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง

ผูส้ อน นางสาวปัทมาวดี แซล่ ้อ โรงเรยี นเทศบาลวดั ขจรรงั สรรค์

สอนวนั ที่ 15 และ 16 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ประถมศึกษาปีท่ี๓/๑และ๓/๒

****************************************************************************

สาระดนตรี

มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์

วพิ ากษว์ ิจารณค์ ณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดต่อดนตรีอยา่ งอสิ ระ ชน่ื ชม และ

ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

ตวั ชีว้ ัด มฐ.ศ 2.1 ป.3/1 ระบุรปู ร่างลกั ษณะของเครือ่ งดนตรที ี่เห็นและได้ยินใน
ชีวิตประจาวัน

สาระสาคญั
เคร่อื งดนตรไี ทยแต่ละชนิดมีรปู รา่ งลักษณะและเสียงทแี่ ตกตา่ งกัน เมื่อนามาบรรเลงรว่ มกนั จะทาให้เกดิ

ความไพเราะ

สาระการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)

เครอ่ื งดนตรไี ทย
รปู รา่ งลักษณะและเสียงของเครอื่ งดนตรไี ทย
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/การบวนการคดิ (P)

การจาแนก การปฏิบัต/ิ การสาธิต การสรุปความรู้ การจัดระบบความคดิ เป็นแผนภาพ
ด้านคุณลักษณะอังพึงประสงค์ (A)

ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สู่ตัวช้ีวดั

1. ระบุรปู ร่างลกั ษณะและเสียงของเครอื่ งดนตรีไทย

2. จาแนกลกั ษณะและเสียงของเคร่อื งดนตรีไทยแตล่ ะชนิด
3. ชืน่ ชมในเครื่องดนตรีไทยทแี่ สดงถงึ ความเปน็ ไทย

28

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น

ครูให้นกั เรยี นเลา่ ประสบการณ์เกย่ี วกับเครื่องดนตรไี ทย โดยครใู ชค้ าถามดงั น้ี
 นักเรยี นรจู้ กั เคร่อื งดนตรีไทยอะไรบ้าง
(ตัวอย่างคาตอบ ซออู้)
 เครื่องดนตรีที่รู้จกั มีลักษณะอยา่ งไร
(ตัวอยา่ งคาตอบ มีกะโหลก มคี ันซอ)
 เครื่องดนตรที ี่รู้จกั มเี สยี งอย่างไร
(ตัวอยา่ งคาตอบ เสียงทมุ้ )
 นกั เรยี นเลน่ เครือ่ งดนตรีชนิดนไ้ี ดห้ รือไม่
(ตัวอย่างคาตอบ ได้/ไม่ได้)

ข้นั สอน
๑. ครูนาภาพเคร่ืองดนตรีไทย เช่น ซอสามสาย จะเข้ ระนาด และขลุ่ย แสดงให้นักเรียนดูแล้ว

รว่ มกันตอบคาถาม โดยครูใช้คาถาม ดังนี้
 เครื่องดนตรใี นภาพมีอะไรบ้าง
(ตัวอยา่ งคาตอบ ซอสามสาย จะเข้ ระนาด และขลยุ่ )
 เครื่องดนตรีประเภทดดี คอื อะไร
(ตัวอยา่ งคาตอบ จะเข)้
 เครื่องดนตรปี ระเภทสีคอื อะไร
(ตัวอย่างคาตอบ ซอสามสาย)
 เครอ่ื งดนตรปี ระเภทตคี อื อะไร
(ตัวอยา่ งคาตอบ ระนาด)
 เครือ่ งดนตรปี ระเภทเป่าคอื อะไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ขลยุ่ )

๒. ให้นักเรียนร่วมกันศึกษารูปร่างลักษณะและเสียงของเคร่ืองดนตรีไทยชนิดต่างๆ และให้นักเรียน
รว่ มกนั ตอบคาถาม โดยครูใชค้ าถาม ดังน้ี

 เครอ่ื งดนตรไี ทยมกี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง
(4 ประเภท ไดแ้ ก่ เครื่องดดี เคร่ืองสี เคร่ืองตเี คร่ืองเป่า)
 เครื่องดนตรีแตล่ ะชนิดมีรูปร่างลกั ษณะและเสียงแตกตา่ งกันหรอื ไม่
(แตกตา่ งกนั )
 เคร่อื งดนตรีไทยมรี ูปร่างลักษณะสวยงามหรือไม่
(ตัวอยา่ งคาตอบ สวยงาม)
 เม่อื นาเครือ่ งดนตรีไทยแตล่ ะชนดิ มาบรรเลงร่วมกันจะเกิดความไพเราะหรือไม่
(ตวั อยา่ งคาตอบ ไพเราะ)

29

๓. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับรูปร่างลักษณะและเสียงของเคร่ืองดนตรีต่างๆ โดย
ครูใช้คาถามดังน้ี

 ถา้ นกั เรยี นเห็นปล้องไม้ไผ่ยาวๆ เรยี วเลก็ นกั เรยี นจะนาไปทาเครอื่ งดนตรีชนิดใด
(ตวั อย่างคาตอบ ขลยุ่ )
 เม่ือนกั เรียนได้ยินเสียงดังตุม้ ตมุ้ นักเรียนคิดวา่ เป็นเครอื่ งดนตรชี นิดใด
(ตัวอยา่ งคาตอบ กลอง)
 ถ้านักเรียนได้ฟังเพลงไทยท่ีมีจังหวะ ทานองช้า นุ่มนวล นักเรียนคิดว่าบทเพลงน้ันใช้
เครอ่ื งดนตรีใดบรรเลงบ้าง
(ตวั อย่างคาตอบ ซออู้ ระนาด จะเข้ ฉงิ่ และฆอ้ งวง)
 ถา้ นากะลามะพรา้ วหลายๆ ลูกมาวางเรยี งกันเปน็ วงกลม จะมีลกั ษณะคล้ายกับเครือ่ งดนตรี
ชนิดใด
(ตัวอยา่ งคาตอบ ฆอ้ งวง)

๔. ครูนาบัตรภาพเครอ่ื งดนตรีไทยมาติดบนกระดาน

จากน้ันแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ร่วมกันศึกษารูปร่างลักษณะและเสียงของเครื่องดนตรีท่ีกาหนดให้
โดยใหต้ ัวแทนกลุ่มที่ 1 และกลุ่มท่ี 2 จับสลากชนดิ ของเคร่อื งดนตรกี ลุ่มละ 5 ชนิด แลว้ ให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทน
กลุ่มละ 2 – 3 คน ออกมาอภิปรายเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะและเสียงของเครื่องดนตรีไทยที่ได้ไป หน้าช้ันเรียน
พร้อมทั้งเปิดโอกาสใหเ้ พ่อื นรว่ มกันซกั ถามขอ้ สงสยั โดยครูเปน็ ผตู้ รวจสอบหรือแนะนาเพม่ิ เตมิ
ขนั้ สรุป

ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อสรุปความรู้เกี่ยวกับรูปร่างลักษณะและเสียงของเคร่ือง
ดนตรีไทย โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี

 ระนาดมรี ูปรา่ งลกั ษณะและเสียงอยา่ งไร
(ตวั อย่างคาตอบ ลักษณะเปน็ ราง มเี สยี งกงั วาน แขง็ แกร่ง)
 ฉง่ิ มีรูปรา่ งลักษณะและเสยี งอยา่ งไร

30

(ตวั อย่างคาตอบ ลกั ษณะปากกลม มี 2 ฝา มเี สียงดงั ฉิ่งและฉบั )
 ซอดว้ งมรี ูปรา่ งลักษณะและเสยี งอย่างไร
(ตวั อย่างคาตอบ ลักษณะคล้ายเครอื่ งดกั สัตว์ มเี สียงแหลมสูง)
 ซอสามสายมรี ปู ร่างลกั ษณะและเสยี งอยา่ งไร
(ตัวอยา่ งคาตอบ ลักษณะมสี ามสาย มีเสียงนมุ่ นวลไพเราะ)
 ซออ้มู ีรปู ร่างลกั ษณะและเสียงอย่างไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ลกั ษณะคลา้ ยซอจนี มีเสียงทุ้มนุม่ นวล)
 จะเข้มีรปู รา่ งลกั ษณะและเสียงอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ลักษณะคลา้ ยจระเข้ มีเสียงไพเราะ อ่อนหวาน)
 ขลยุ่ มรี ูปร่างลกั ษณะและเสยี งอยา่ งไร
(ตัวอย่างคาตอบ ลักษณะเป็นปลอ้ งยาว มรี ู 7 รู มีเสียงโปร่งใส)
 กลองทดั มีรูปรา่ งลักษณะและเสยี งอย่างไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ลกั ษณะใหญป่ ่องตรงกลาง มีเสียงดังตมุ้ – ตอ้ ม)
 กลองแขกมีรปู ร่างลักษณะและเสยี งอย่างไร
(ตัวอย่างคาตอบ ลักษณะทรงกระบอก มเี สียงดงั ติงโจะ๊ และทมั่ จ๊ะ)
 ฆ้องวงมรี ปู รา่ งลักษณะและเสยี งอยา่ งไร
(ตัวอย่างคาตอบ มีลักษณะเป็นวง มีลูกฆอ้ งคล้ายถ้วยกลม มเี สียงสงู กังวาน)
จากนั้นครูนาคาตอบที่ได้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดานและให้นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความ
ถกู ต้อง ดงั ตวั อย่างต่อไปนี้

 เสียงดงั ฉ่ิงและ
ฉบั

 เสียงตงิ โจ๊ะ และท่มั จ๊ะ

31

ให้นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ดังน้ี เคร่ืองดนตรีไทยแต่ละชนิดมีรูปร่างลักษณะและเสียงท่ี

แตกตา่ งกัน เมอื่ นามาบรรเลงร่วมกนั จะทาให้เกิดความไพเราะ นักเรยี นทาใบงานท่ี 1

สอื่ การเรยี นรู้

1. บตั รภาพเครื่องดนตรีไทย

2. ภาพเครอ่ื งดนตรไี ทย

3. ใบงานที่ 1

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล

1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม

1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

1.3 ตรวจใบงานท่ี 1

2. เครือ่ งมือ

2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม

2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่

๒.๓ ใบงานที่ 1

3. เกณฑ์การประเมนิ

การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

การประเมนิ กิจกรรมนใี้ ห้ผู้สอนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

เรื่อง รูปร่างลกั ษณะและเสียงของเคร่อื งดนตรไี ทย

ตารางการประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) เรื่อง รูปร่างลักษณะและเสยี งของเครื่องดนตรีไทย

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

รูปร่างลกั ษณะและเสยี ง สามารถแยกเคร่อื งดนตรี สามารถแยกเครอ่ื ง สามารถแยก สามารถแยกเคร่ือง

ของเครอ่ื งดนตรีไทย แตล่ ะประเภทพรอ้ มทั้ง ดนตรีแตล่ ะประเภท เคร่ืองดนตรแี ต่ละ ดนตรีแตล่ ะประเภท

บอกลักษณะเด่นของ พรอ้ มทั้งบอกลักษณะ ประเภทพรอ้ มทง้ั พร้อมท้งั บอกลกั ษณะ

เครอ่ื งดนตรนี นั้ ๆ ได้ เดน่ ของเคร่อื งดนตรี บอกลกั ษณะเดน่ เด่นของเครอื่ งดนตรีนั้น

และสามารถช่วยเหลอื น้นั ๆ ได้ ของเครื่องดนตรี ๆ ไดแ้ ค่บางชิ้น

ผู้อน่ื ได้ นั้น ๆ ไดบ้ า้ ง

32

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องนกั เรยี น

คุณลกั ษณะ เกณฑก์ ารประเมิน

อันพงึ ประสงค์ ดีมาก ดี ผ่าน ไมผ่ ่าน

มวี นิ ัย มีความรับผดิ ชอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีความรับผิดชอบ ไมม่ ีความรบั ผดิ ชอบ
ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง
ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ของครอบครวั
ของครอบครวั โรงเรียนสงั คม
โรงเรียนสงั คมและ ของครอบครัว ของครอบครวั
เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี โรงเรียนสังคม โรงเรียนสงั คมเปน็
คร้ังคราว

แก่บุคคลทว่ั ไป

ใฝ่เรยี นรู้ ขยันเอาใจใส่ตอ่ การ ขยันเอาใจใสต่ อ่ การ ขยันเอาใจใสต่ อ่ การ ไมข่ ยันไมเ่ อาใจใส่

เรียน ร้จู กั ศกึ ษาหา เรยี น รู้จักศกึ ษาหา เรยี น รจู้ ักศกึ ษาหา ตอ่ การเรยี น ไม่รจู้ ัก

ความร้จู ากแหล่ง ความรู้จากแหล่ง ความร้จู ากแหล่ง ศึกษาหาความร้จู าก

เรยี นร้ตู ่างๆท้งั ใน เรียนร้ตู ่างๆท้งั ใน เรยี นรตู้ ่างๆท้ังใน แหล่งเรียนรตู้ ่างๆ

โรงเรียนและนอก และนอกโรงเรียน โรงเรยี นและนอก ท้งั ในโรงเรยี นและ

โรงเรียนอยา่ ง โรงเรยี นเป็นครงั้ นอกโรงเรียน

สมา่ เสมอ คราว

ม่งุ มน้ั ในการทางาน ตง้ั ใจรับผดิ ชอบใน ต้งั ใจรบั ผดิ ชอบใน ตงั้ ใจรบั ผดิ ชอบใน ไมต่ งั้ ใจปฎิบัตงิ าน

การปฏิบัตงิ านท่ี การปฏิบตั ิงานท่ี การปฏิบตั งิ านท่ี หน้าทีแ่ ละไมข่ ยันใน

ไดร้ บั มอบหมายจน ได้รบั มอบหมายจน ได้รับมอบหมายจน การทางาน

สาเร็จก่อนเวลาและ สาเร็จกอ่ นเวลา สาเรจ็

เป็นแบบอย่างทด่ี ไี ด้

มจี ติ สาธาระณะ ชว่ ยเหลอื งานครู ช่วยเหลืองานครู ช่วยเหลอื งานครู ไมช่ ว่ ยเหลืองานครู

และเพ่อื นใน และเพื่อนใน และเพ่ือนใน และเพื่อนใน

ห้องเรียนทกุ คร้ังดี หอ้ งเรียนอยใู่ น หอ้ งเรยี นเป็นครั้ง ห้องเรียน

มาก เกณฑด์ ี คราว

33

34

35

วิเคราะห์ จดุ แขง็ /ข้อควรปรับปรงุ ในการจัดการเรียนการสอน

จุดแขง็
- เขา้ ใจเนอ้ื หาทีท่ าการสอน
- มีความม่นั ใจในตนเอง
- มีความรับผิดชอบในหน้าท่ี
- มคี วามรเู้ กยี่ วกับเทคโนโลยแี ละสามารถนามาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในการเรียนการสอน
ข้อควรปรับปรุง
- ขาดประสบการณ์กระบวนการในการจัดการเรยี นการสอนสาหรับเดก็ ช้ันประถมศึกษาชั้นปที ่ี ๑ – ๓
- ขาดประสบการณ์จิตวิทยาที่ใช้ในช้ันเรียน

ปัทมาวดี แซ่ลอ้
ลงช่ือ...........................................

(นางสาวปทั มาวดี แซ่ลอ้ )
วันท่ี 23 ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๖๔

36

บนั ทึกการนเิ ทศนกั ศึกษาฝกึ ปฎบิ ตั วิ ิชาชีพระหวา่ งเรียน ๒

วนั ท่ี ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๔ อาจารย์ประภัสนนั ท์ เพง่ กิจ อาจารยน์ ิเทศได้เดนิ ทางมาเยยี่ ม
นกั ศกึ ษาทโี่ รงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์ รบั ฟงั นกั ศึกษาฝึกปฎบิ ตั ิวิชาชีพระหว่างเรียน ๒ ถงึ ปญั หาท่เี กิดขน้ึ และ
ใหค้ าแนะนาในการปฎบิ ตั ิตนเมอ่ื อยใู่ นสถานศึกษาพรอ้ มท้ังรับฟงั ประสบการณืท่ีนกั ศึกษาไดร้ ับตลอดการ
ปฎิบตั ิงานในสถานศกึ ษา

ปทั มาวดี แซ่ลอ้
ลงช่อื ...........................................

(นางสาวปทั มาวดี แซ่ลอ้ )
วันที่ 2๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๔

37

ภาคผนวก ก.

ตารางการประเมนิ ตามสภาพจริง
ตารางประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องนักเรียน

ตารางสังเกตพฤติกรรม/กระบวนการเรยี นรู้

38

แบบบนั ทึกคะแนนการปฏิบัตกิ จิ กรรม

เรื่อง การเคลอ่ื นไหวเลียนแบบคน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ รายวิชาศิลปะ ( นาฏศลิ ป์ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

คาชี้แจง บนั ทกึ คะแนนการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยทาเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ ง

ท่ี ชอื่ - สกุล แบบทดสอบเรือ่ งการการ รวม สรุปผลการประเมิน

เคลื่อนไหวเลยี นแบบคน
(เตม็ 5 คะแนน)

5 4 3 2 1 5 ดมี าก ดี ปานกลาง ผา่ น ไมผ่ า่ น

1 ด.ช.ศักดนัย วรรยาต √ 5√

2 ด.ช.ภคนิ กร แจง้ ไข √ 4√

3 ด.ช.ณัฐพงศ์ คงสวัสดิ์ √ 5√

4 ด.ช.ชาญชยั สวุ รรณรตั น์ √ 5√

5 ด.ช.นพรัตน์ ทองทพย์ √ 5√

6 ด.ช.ณฎั ฐากร ชูศรี √ 4√

7 ด.ช.อนันตชัย คงเอียด √ 5√

8 ด.ช.ชาญชยั แซต่ ้น √ 5√

9 ด.ช.อัครพล กาจกลา้ √3 √

10 ด.ช.ปกเกลา้ ภิญโญประการ √3 √

11 ด.ช.ธนวชั ร์ อนิ ทวงษ์ √ 5√

12 ด.ช.นนทวัฒน์ ลาฝอย √ 5√

13 ด.ช.วันชนะ กิจรุ่งวัฒนา √ 5√

14 ด.ช.ภูมินทร์สวุ รรณศรี √ 5√

15 ด.ช.ธนภทั ร หนูขา √ 4√

16 ด.ช.สทุ ธวัฒน์ อินทรัตน์ √ 5√

17 ด.ช.กนั ตภณ พรมตา √3 √

18 ด.ช.ธนาดุล ลาชโรจน์ √ 5√

19 ด.ช.ภวู ดล บญุ พิศ √ 5√

20 ด.ช.อาชวนิ อาศนะ √3 √

21 ด.ช.ศตวรรษ โชติรสเวศิน √3 √

22 ด.ช.เจสรตุ ตันติพงษ์พิสทุ ธิ์ √ 5√

23 ด.ช.ธนาวตั น์ หลกั ศลิ า √ 5√

24 ด.ญ.เบญญาภา คนโต √ 5√

39

แบบทดสอบเรื่องการการ สรุปผล
การประเมนิ
ที่ ชอ่ื - สกุล เคลื่อนไหวเลียนแบบคน รวม ดี ปานกลาง พอใช้ ไม่ผ่าน
(เต็ม 5 คะแนน)
√
5 4 3 2 1 5 ดมี าก √

25 อนนั ตญา สขุ เยาว์ √ 5√

26 อรปรยี า ทองเกียว √ 5√

27 ด.ญ.เมตตา วรรทมาต √ 4

28 ด.ญ.เบญญภา วงศแ์ สงวฒั นา √ 3

29 ด.ญ.อรสิ รา ภกั แดงพนั ธ์ √ 5√

30 ด.ญ.พชิ ญา จนั ทรพ์ รม √ 5√

เกณฑ์การประเมนิ คะแนนการปฏบิ ัติกิจกรรม
คะแนน 5 หมายถงึ ดีมาก
คะแนน 4 หมายถึง ดี
คะแนน 3 หมายถงึ ปานกลาง
คะแนน 2 หมายถงึ ผา่ น
คะแนน 1 หมายถึง ไมผ่ า่ น

ปทั มาวดี แซล่ อ้
ลงชอื่ ………………............……………ผ้สู อน

( นางสาวปทั มาวดี แซล่ ้อ )
ตาแหนง่ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครรู ะหว่างเรยี น2

วนั ท่ี ๑๓ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

40

ตารางการวดั และประเมินผลคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

เรอื่ ง การเคลอื่ นไหวเลยี นแบบคน

กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ รายวิชาศิลปะ ( นาฏศลิ ป์ ) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1

เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มัน่ ใน มีจติ สรุปผลการประเมิน
การทางาน สาธารณะ

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ดมี าก ดี พอใช้

1 ด.ช.ศักดนัย วรรยาต √√ √ √√

2 ด.ช.ภคินกร แจ้งไข √√ √√ √

3 ด.ช.ณฐั พงศ์ คงสวัสดิ์ √ √ √ √ √

4 ด.ช.ชาญชยั สุวรรณรตั น์ √√ √ √ √

5 ด.ช.นพรัตน์ ทองทพย์ √√√ √ √

6 ด.ช.ณฎั ฐากร ชูศรี √ √√ √√

7 ด.ช.อนันตชัย คงเอยี ด √ √ √ √ √

8 ด.ช.ชาญชัย แซ่ต้น √√√√ √

9 ด.ช.อคั รพล กาจกล้า √√ √ √ √

10 ด.ช.ปกเกลา้ ภญิ โญประการ √ √ √√ √

11 ด.ช.ธนวชั ร์ อนิ ทวงษ์ √√ √√ √

12 ด.ช.นนทวัฒน์ ลาฝอย √ √ √ √ √

13 ด.ช.วันชนะ กจิ ร่งุ วัฒนา √ √√ √√

14 ด.ช.ภูมนิ ทรส์ วุ รรณศรี √ √ √ √ √

15 ด.ช.ธนภัทร หนูขา √√√√ √

16 ด.ช.สทุ ธวัฒน์ อินทรัตน์ √ √√ √ √

17 ด.ช.กันตภณ พรมตา √√√√ √

18 ด.ช.ธนาดุล ลาชโรจน์ √ √ √ √ √

19 ด.ช.ภวู ดล บญุ พิศ √√√√ √

20 ด.ช.อาชวนิ อาศนะ √√√√ √

21 ด.ช.ศตวรรษ โชตริ สเวศิน √ √√ √ √

22 ด.ช.เจสรุต ตันตพิ งษ์พสิ ุทธิ์ √ √√ √ √

23 ด.ช.ธนาวตั น์ หลกั ศลิ า √√ √ √ √

24 ด.ญ.เบญญาภา คนโต √ √ √ √√

41

เลขที่ ชอ่ื -สกลุ มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันใน มีจติ สรปุ ผลการประเมนิ
การทางาน สาธารณะ
25 อนนั ตญา สุขเยาว์ 321 321 321 32 1 ดมี าก ดี พอใช้
26 อรปรยี า ทองเกียว √ √ √ √
27 ด.ญ.เมตตา วรรทมาต √ √ √
28 ด.ญ.เบญญภา วงศ์แสงวฒั นา √ √ √ √ √
29 ด.ญ.อริสรา ภกั แดงพนั ธ์ √ √ √ √
30 ด.ญ.พชิ ญา จนั ทรพ์ รม √ √ √
√ √ √ √
เกณฑ์การประเมินคะแนน √ √ √ √
คะแนน 1 - 4 หมายถึง พอใช้ √ √
คะแนน 5 - 8 หมายถงึ ดี √
คะแนน 9 - 12 หมายถึง ดีมาก

ปทั มาวดี แซ่ลอ้
ลงชอ่ื …………………......…………ผูส้ อน

( นางสาวปัทมาวดี แซ่ลอ้ )
ตาแหนง่ นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครรู ะหว่างเรยี น2

วันที่ ๑๓ เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

42

ตารางการสังเกตพฤติกรรม/กระบวนการเรยี นรู้

เร่อื ง การเคลอ่ื นไหวเลียนแบบคน

กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ รายวิชาศลิ ปะ ( นาฏศิลป์ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1

เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ ทกั ษะในการ ทกั ษะการ ทักษะการ ทกั ษะการสรา้ ง สรุปผลการประเมิน
รบั และส่งสาร แลกเปลย่ี น ทางาน สมั พันธภาพที่ดี
เรยี นร้กู บั ผอู้ ืน่ ร่วมกับผ้อู ่ืน ร่วมกบั ผู้อน่ื

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ดมี าก ดี พอใช้

1 ด.ช.ศักดนยั วรรยาต √ √√√ √

2 ด.ช.ภคินกร แจง้ ไข √ √ √ √ √

3 ด.ช.ณัฐพงศ์ คงสวสั ดิ์ √ √ √ √ √

4 ด.ช.ชาญชัย สวุ รรณรัตน์ √ √ √√ √

5 ด.ช.นพรตั น์ ทองทพย์ √√ √√ √

6 ด.ช.ณฎั ฐากร ชูศรี √√ √ √ √

7 ด.ช.อนันตชัย คงเอยี ด √ √ √ √ √

8 ด.ช.ชาญชัย แซต่ ้น √ √√ √ √

9 ด.ช.อัครพล กาจกล้า √ √ √√ √

10 ด.ช.ปกเกลา้ ภญิ โญประการ √ √ √ √ √

11 ด.ช.ธนวัชร์ อนิ ทวงษ์ √ √ √ √ √

12 ด.ช.นนทวฒั น์ ลาฝอย √ √√ √ √

13 ด.ช.วันชนะ กจิ รุ่งวัฒนา √√ √ √√

14 ด.ช.ภูมนิ ทรส์ ุวรรณศรี √ √ √ √√

15 ด.ช.ธนภทั ร หนูขา √ √ √ √ √

16 ด.ช.สุทธวัฒน์ อินทรตั น์ √√ √ √ √

17 ด.ช.กนั ตภณ พรมตา √ √ √ √√

18 ด.ช.ธนาดุล ลาชโรจน์ √ √√ √√

19 ด.ช.ภวู ดล บุญพศิ √√√√ √

20 ด.ช.อาชวนิ อาศนะ √ √ √ √ √

21 ด.ช.ศตวรรษ โชตริ สเวศิน √ √ √ √ √

22 ด.ช.เจสรตุ ตันติพงษ์พสิ ุทธิ์ √√ √ √ √

23 ด.ช.ธนาวตั น์ หลกั ศลิ า √ √ √√ √

24 ด.ญ.เบญญาภา คนโต √ √√ √ √

43

เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ ทักษะในการ ทกั ษะการ ทักษะการ ทักษะการสร้าง สรปุ ผลการประเมิน
รับและสง่ สาร แลกเปลย่ี น ทางาน สัมพนั ธภาพทด่ี ี
เรียนรู้กับผอู้ ื่น รว่ มกับผู้อน่ื รว่ มกับผู้อื่น

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ดีมาก ดี พอใช้

25 อนนั ตญา สขุ เยาว์ √ √ √ √ √

26 อรปรยี า ทองเกียว √√√√ √

27 ด.ญ.เมตตา วรรทมาต √ √ √ √ √

28 ด.ญ.เบญญภา วงศแ์ สงวฒั นา √ √ √ √ √

29 ด.ญ.อรสิ รา ภกั แดงพนั ธ์ √ √ √ √ √

30 ด.ญ.พชิ ญา จนั ทรพ์ รม √ √ √ √ √

ตารางสังเกตพฤตกิ รรม/กระบวนการเรยี นรู้ /เกณฑก์ ารประเมนิ พฤตกิ รรม/กระบวนการเรยี นรู้

ระดบั คะแนนการ ดมี าก ดี พอใช้

ประเมิน (3) (2) (1)

ทกั ษะในการรบั และสง่ ผู้เรียนมกี ารรับและส่งสารระหว่าง ผเู้ รียนมกี ารรบั และสง่ ศาลระหว่าง ผเู้ รยี นมกี ารรับและสง่ ศาล
สาร ระหว่างผสู้ อนกบั ผเู้ รียนและ
ผู้สอนกบั ผู้เรียนและระหวา่ งผเู้ รยี นกบั ผู้สอนและผ้เู รยี นบ้างในบางครง้ั และ ระหว่างผู้เรยี นกับผู้เรยี นนอ้ ยคร้งั

ผูเ้ รียนอย่างตอ่ เน่ือง ระหว่างผเู้ รียนกบั ผู้เรียนในบางครง้ั

ทกั ษะการแลกเปล่ียน ผเู้ รียนมกี ารแลกเปล่ยี นเรยี นร้กู บั ผเู้ รียนมกี ารแลกเปล่ียนเรียนรูก้ ับ ผเู้ รียนมกี ารแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั

เรียนรูก้ บั ผอู้ ่ืน ผู้สอนและผเู้ รยี นด้วยกันอยู่ ผู้สอนและผเู้ รยี นด้วยกันอย่บู างคร้ัง ผู้สอนและผเู้ รียนดว้ ยกันนอ้ ยคร้งั

ตลอดเวลา

ทักษะการทางาน ผูเ้ รียนสามารถทางานร่วมกับผอู้ ืน่ ได้ ผเู้ รียนสามารถทางานร่วมกับผอู้ ื่นได้ ผู้เรยี นสามารถทางานรว่ มกับ

ร่วมกบั ผอู้ ื่น ตลอดทกุ กิจกรรมการเรียนรู้ ในบางกิจกรรมการเรียนรู้ ผอู้ ่ืนได้นอ้ ยครงั้

ทกั ษะการสร้าง ผเู้ รยี นมกี ารสรา้ งสัมพนั ธภาพที่ดี ผู้เรยี นมกี ารสรา้ งสัมพันธภาพทด่ี ีใน ผ้เู รียนมีการสร้างสมั พนั ธภาพทดี่ ี

สัมพนั ธภาพทีด่ รี ว่ มกับผอู้ ่นื ร่วมกบั ผอู้ นื่ อยตู่ ลอดเวลาการเรียนรู้ บางครงั้ และบางกิจกรรมการเรียนรู้ รว่ มกับผอู้ ่ืนน้อยครง้ั

เกณฑ์การประเมินคะแนน

คะแนน 1 - 4 หมายถึง พอใช้

คะแนน 5 - 8 หมายถึง ดี

คะแนน 9 - 12 หมายถึง ดีมาก

ปัทมาวดี แซ่ล้อ

ลงช่อื …………………......…………ผู้สอน

( นางสาวปัทมาวดี แซล่ ้อ )

ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครูระหวา่ งเรยี น2

วนั ที่ ๑๓ เดอื น ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

44

แบบบันทึกคะแนนการปฏิบัติกิจกรรม

เรอ่ื ง การเคลื่อนไหวเลยี นแบบธรรมชาติ

กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ รายวิชาศลิ ปะ ( นาฏศลิ ป์ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2

ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1

คาชแ้ี จง บนั ทึกคะแนนการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล โดยทาเคร่อื งหมาย √ ลงในช่อง

แบบทดสอบเรื่อง

ท่ี ช่อื - สกุล การเคล่ือนไหวเลียนแบบ รวม สรปุ ผลการประเมนิ
ธรรมชาติ

(เต็ม 5 คะแนน)

5 4 3 2 1 5 ดีมาก ดี ปานกลาง ผา่ น ไม่ผา่ น

1 ด.ช.ศกั ดนยั วรรยาต √ 5√

2 ด.ช.ภคนิ กร แจ้งไข √ 4√

3 ด.ช.ณฐั พงศ์ คงสวัสดิ์ √ 5√

4 ด.ช.ชาญชัย สุวรรณรตั น์ √ 5√

5 ด.ช.นพรตั น์ ทองทพย์ √ 5√

6 ด.ช.ณัฎฐากร ชศู รี √ 4√

7 ด.ช.อนันตชยั คงเอียด √ 5√

8 ด.ช.ชาญชัย แซต่ ้น √ 5√

9 ด.ช.อัครพล กาจกลา้ √ √

10 ด.ช.ปกเกล้า ภญิ โญประการ √ √

11 ด.ช.ธนวชั ร์ อินทวงษ์ √ 5√

12 ด.ช.นนทวฒั น์ ลาฝอย √ 5√

13 ด.ช.วนั ชนะ กิจรุง่ วฒั นา √ 5√

14 ด.ช.ภูมินทร์สวุ รรณศรี √ 5√

15 ด.ช.ธนภทั ร หนูขา √ 4√

16 ด.ช.สุทธวัฒน์ อินทรัตน์ √ 5√

17 ด.ช.กันตภณ พรมตา √ √

18 ด.ช.ธนาดลุ ลาชโรจน์ √ 5√

19 ด.ช.ภูวดล บญุ พศิ √ 5√

20 ด.ช.อาชวนิ อาศนะ √ √

21 ด.ช.ศตวรรษ โชติรสเวศิน √ √

22 ด.ช.เจสรตุ ตันติพงษพ์ สิ ุทธิ์ √ 5√

23 ด.ช.ธนาวัตน์ หลกั ศิลา √ 5√

45

แบบทดสอบเร่ือง

ที่ ชอ่ื - สกุล การเคลือ่ นไหวเลียนแบบ รวม สรปุ ผล
ธรรมชาติ การประเมิน

(เตม็ 5 คะแนน) ดี ปานกลาง พอใช้ ไม่ผ่าน

5 4 3 21 5 ดมี าก √
√
24 ด.ญ.เบญญาภา คนโต √ 5 √
√ √
25 ด.ญ.อนนั ตญา สขุ เยาว์ √ 4
√
26 ด.ญ.อรปรียา ทองเกียว √ 5 √

27 ด.ญ.เมตตา วรรทมาต √ 4

28 ด.ญ.เบญญภา วงศแ์ สงวฒั นา √ 3

29 ด.ญ.อรสิ รา ภกั แดงพนั ธ์ √ 5

30 ด.ญ.พชิ ญา จนั ทรพ์ รม √ 5

เกณฑก์ ารประเมินคะแนนการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
คะแนน 5 หมายถึง ดมี าก
คะแนน 4 หมายถึง ดี
คะแนน 3 หมายถึง ปานกลาง
คะแนน 2 หมายถงึ ผา่ น
คะแนน 1 หมายถงึ ไม่ผา่ น

ปทั มาวดี แซ่ลอ้
ลงชือ่ …………………......…………ผสู้ อน

( นางสาวปทั มาวดี แซ่ล้อ )
ตาแหนง่ นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครรู ะหว่างเรยี น2

วันท่ี ๒๐ เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๔