.
แอปพลิเคชันส่ังอาหารด้วยโปรแกรม Appsheet
Food ordering app with Appsheet
แอปพลิเคชนั
เลม่ ไลน์กลุ่ม
นายชยั นันท์ บิดร รหสั นักเรียน 6122040092
นางสาวณัฐพร บุญเลศิ รหัสนักเรียน 6122040094
นางสาวภณั ฑริ า อนิ ทรงิ รหสั นกั เรียน 6122040103
โครงการนี้เปน็ ส่วนหน่งึ ของรายวชิ าโครงการ รหสั วชิ า (2204-8501)
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563
สาขาวิชาเทคโนโลยธี ุรกิจดิจทิ ัล
วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง
โครงการ แอปพลเิ คชนั ส่งั อาหารด้วย AppSheet
สาขาวชิ า
(Food ordering app with Appsheet)
เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
ผู้รบั ผิดชอบโครงการ 1. นายชยั นันท์ บิดร รหัสนกั เรียน 6122040092
2. นางสาวณฐั พร บญุ เลิศ รหสั นกั เรยี น 6122040094
3. นางสาวภัณฑริ า อินทริง รหัสนักเรยี น 6122040103
อาจารยท์ ปี่ รึกษา นายปรชี า คางงูเหลือม
นายวิกร รตั นาธนบดี
ปีการศกึ ษา 2563
บทคดั ยอ่
การจดั ทาโครงการครง้ั นม้ี วี ตั ถปุ ระสงค์เพือ่ สรา้ งแอปพลิเคชันส่ังอาหารด้วย AppSheet เพ่ือ
ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้าถึงแอปพลิเคชันท่ีช่วยในการรับออเดอร์และการจัดลาดับคิวได้
ง่ายข้ึนโดยท่ีไม่เสียค่าใช้จ่าย และ ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อแอปพลิเคชันสั่งอาหารด้วย
AppSheet ผ่านโครงการวิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล โดยมีกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้เก็บ
ประเมินผล คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพห้อง 1/1 ห้อง 1/2 ห้อง 1/3 ห้อง 2/3 และ
ห้อง 2/4 สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง จานวน 183 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการ
ประเมินผล คือ แอปพลิเคชันส่ังอาหารด้วย AppSheet และแบบสอบถามความพึงพอใจของ
นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อ
แอปพลิเคชนั สั่งอาหารดว้ ย AppSheet สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ คอื ค่าเฉล่ีย (x̅) และ ส่วนเบ่ียงเบน
มาตฐาน (S.D Standard Deviation)
ผลท่ีได้รับจากแบบสอบถามความพึงพอใจ ที่มีต่อโครงการแอปพลิเคชันส่ังอาหารด้วย
AppSheet อยู่ในระดับดี )x̅=4.14, S.D.=0.85 (แบ่งเป็นท้ังหมด 3 ด้านดังนี้ ด้านการออกแบบแอป
พลิ-เคชันอยู่ในระดับดี )x̅=4.14, S.D.=0.82( ด้านการทางานของแอปพลิเคชันอยู่ในระดับดี
)x̅=4.13, S.D.=0.87( และดา้ นความง่ายต่อการใช้แอปพลิเคชนั อยูใ่ นระดบั ดี) x̅=3.80, S.D. =0.85 (
ตามลาดับ
คาสาคัญ : แอปพลเิ คชัน/ เทคโนโลยี/ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เนต็ / โปรแกรม/ AppSheet
กิตตกิ รรมประกาศ
โครงการน้ีสาเร็จได้ด้วยดี เนื่องจากอาจารย์วิกร รัตนาธนบดี ครูที่ปรึกษาโครงการ และ อาจารย์
ปรีชา คางงูเหลือม ครูผู้สอนวิชาโครงการท่ีได้ให้คาเสนอแนะแนวคิดตลอดจนแก้ไข ข้อบกพร่องต่าง
ๆ มาโดยตลอดจนโครงการเล่มน้เี สร็จสมบูรณ์ ผศู้ ึกษาจงึ ขอกราบขอบพระคุณเปน็ อย่างสูง
โครงการแอปพลิเคชันสั่งอาหารด้วย AppSheet จึงจัดทาแอปพลิเคชันสั่งอาหาร ด้วยโปรแกรม
App Sheet เพ่อื ช่วยใหผ้ ูป้ ระกอบการรายยอ่ ยไดเ้ ข้าถงึ แอปพลิเคชันท่ีช่วยในการรับออเดอร์และการ
จดั ลาดบั ควิ ได้ง่ายข้ึนโดยทไ่ี ม่เสียค่าใช้จา่ ย
สดุ ทา้ ยนีข้ อขอบพระคณุ อาจารย์ท่ีปรึกษาและเพ่ือนนักศึกษาที่ช่วยให้คาแนะนาดี ๆ เกี่ยวกับการ
โครงการชิ้นน้ี และขอขอบคุณน้อง ๆ ท่ีได้ให้ความร่วมมือในการทาแบบสอบถาม แอปพลิเคชันสั่ง
อาหารดว้ ย AppSheet จนทาใหโ้ ครงการน้สี าเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี
คณะผ้จู ดั ทา
บทที่ 1
บทนำ
บทท่ี 1
บทนำ
1.1 ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญของโครงกำร
ในปัจจบุ ันคนไทยชน่ื ชอบการบรโิ ภคกาแฟและน้าหวานมากข้ึน ส่งผลให้ธุรกิจร้านกาแฟมีจ้านวนเพิ่มข้ึน
ตามไปด้วย จึงท้าให้เกิดเป็นผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยมากมาย หากร้านกาแฟร้านใดมีท้าเลและ
การส่งเสริมการขายทด่ี จี ะท้าใหม้ ลี ูกค้าเพ่ิมข้ึน จนในบางคร้ังไม่สามารถรองรับลูกค้ามาก ๆ ในเวลาเดียวกันได้
ทั้งหมด ส่งผลให้เกิดความล่าช้า ความไม่สะดวกแก่ท้ังตัวผู้ประกอบการและผู้ซ้ือ ท้าให้ร้านกาแฟท่ีเป็น
ผู้ประกอบการรายใหญ่หันมาใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการใช้ ระบบในการจัดล้าดับคิว
ในการสั่งอาหาร ซึ่งท้าให้สามารถรับมือกับลูกค้ามาก ๆ ในเวลาเดียวกันได้ แต่ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการ
ขนาดเล็กกลับมองว่า การน้าแอปพลิเคชันเข้ามาใช้งานนั้นมีขั้นตอนยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายที่สูง
อาจจะส่งผลให้ขาดรายได้จากผู้ซื้อประจ้าได้
ปัจจุบันมีการน้าเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการระบบต่าง ๆ ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น
ซึ่งการพัฒนาแอปพลิเคชันสามารถท้าได้รวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน โดยการใช้แอปพลิเคชันหนึ่ง
พัฒนาอีกแอปพลิเคชันหนึ่งขึ้นมาใช้งาน เช่น โปรแกรม App sheet, App Inventor และ Flutter
ซึ่งจากปัญหาท่ีได้กล่าวมาในข้ันต้น ผู้พัฒนาจึงใช้โปรแกรมท่ีได้ยกตัวอย่างมาในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่
เข้ามาจัดการในเร่ืองของการจัดล้าดับคิวส่ังอาหาร เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยท่ีไม่มีรายได้มากนัก
ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีไดง้ ่ายย่ิงขนึ้
ดังนั้นผู้จัดท้าได้ตระหนักถึงปัญหาของการรองรับลูกค้าจ้านวนมากในเวลาเดียวกัน จึงจัดท้า
แอปพลิเคชันสั่งอาหาร ด้วยโปรแกรม App Sheet เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้าถึง
แอปพลิเคชันท่ีช่วยในการรับออเดอร์และการจัดลา้ ดับคิวได้ง่ายข้ึนโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
1.2 วัตถุประสงคข์ องโครงกำร
ในการทา้ โครงการในครง้ั น้ี ผจู้ ัดท้าได้ต้ังวตั ถปุ ระสงค์ไวด้ ังน้ี
1.2.1 เพอ่ื สรา้ งแอปพลิเคชันในการส่ังอาหารด้วยโปรแกรม App Sheet
1.2.2 เพื่ออ้านวยความสะดวกใหแ้ กน่ กั เรยี น นกั ศึกษาในการสั่งอาหารดว้ ย App Sheet
1.2.3 เพ่ือสา้ รวจความพงึ พอใจนกั เรยี น นกั ศกึ ษาในการใชแ้ อปพลเิ คชนั ส่งั อาหารด้วย
App Sheet อย่ใู นระดับดี
2
1.3 ขอบเขตของโครงกำร
โครงการคร้ังน้ี มีขอบเขตดังน้ี
1.3.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
1.3.1.1 ประชากร คือ นกั เรียนนกั ศึกษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ แผนกวิชาเทคโนโลยี
ธุรกิจดิจทิ ลั จ้านวน 310 คน
1.3.1.2 กล่มุ ตัวอย่าง คือ นักเรียนนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ แผนกวิชาเทคโนโลยี
ธุรกิจดจิ ทิ ลั ห้อง ปวช.1/1 ปวช.1/2 ปวช.1/3 ปวช.2/3 ปวช.2/4 จ้านวน 183 คน โดยวิธกี ารสมุ่ อยา่ งงา่ ย
1.3.2 ขอบเขตชิ้นงาน
1.3.2.1 ด้านฮารด์ แวร์
1.3.2.1.1 คอมพิวเตอรพ์ กพา ACER Aspire 5,CPU Intel Core i5-7200U,
RAM 4 GB
1.3.2.1.2 คอมพิวเตอรพ์ กพา ASUS X453S, CPU Intel inside Core,
RAM 4 GB
1.3.2.1.3 โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A30 Android Version 10
1.3.2.1.4 โทรศัพทม์ ือถอื iPhone 6 Plus iOS Version 12.4.7
1.3.2.2 ด้านซอฟตแ์ วร์
1.3.2.2.1 ใช้โปรแกรม App Sheet ในการสรา้ งรูปแบบแอปพลเิ คชนั
1.3.2.2.2 ใช้ระบบปฏิบตั ิการ Windows 10
1.4 ข้ันตอนวิธีกำรจดั ทำโครงกำร
1.4.1 ประชุมสมาชิกในกลุ่มเพอ่ื ศกึ ษาหัวขอ้ เรือ่ งท่ีสนใจในการทา้ โครงการ
1.4.2 นา้ เสนอข้อโครงการตอ่ อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาโครงการ
1.4.3 วางแผนการจัดทา้ โครงการ โดยเขยี นแบบร่างโครงการ
1.4.4 จดั ท้าการออกแบบเน้ือหาของส่ือท่ีจะน้าเสนอ
1.4.5 ทา้ การสรา้ งหน้าแอปพลเิ คชนั โดยใชโ้ ปรแกรม App Sheet
1.4.6 ท้าการตรวจสอบความเสถยี รของแอปพลเิ คชนั
1.4.7 นา้ มาทดลองใชแ้ ละสรุปผล
3
1.5 ผลทค่ี ำดวำ่ จะไดร้ ับ
โครงการน้ี มีผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั ดังน้ี
1.7.1 ไดแ้ อปพลเิ คชนั สั่งอาหารด้วยโปรแกรม App Sheet
1.7.2 ไดอ้ ้านวยความสะดวกในการสั่งอาหารดว้ ย App Sheet
1.7.3 ไดค้ วามพงึ พอใจในการใชแ้ อปพลเิ คชนั สง่ั อาหารด้วยโปรแกรม App Sheet อย่ใู นระดบั ดี
1.6 คำจำกัดควำม
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรมท่ีอ้านวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ที่ออกแบบมาส้าหรับ
Mobile (โมบาย) Tablet (แท็บเล็ต) หรืออุปกรณเ์ คลื่อนท่ี ท่ีเรารู้จักกัน ซึ่งในแต่ละระบบปฏิบัติการจะมี
ผู้พัฒนาแอพพลิเคช่ันข้ึนมามากมายเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ซ่ึงจะมีให้ดาวน์โหลดทั้งฟรี
และจ่ายเงนิ ท้งั ในดา้ นการศกึ ษา ด้านการส่ือสารหรือแม้แตด่ ้านความบันเทิงตา่ ง ๆ
แอปพลิเคชันอาหาร หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบเพื่อตอบสนองให้ผู้ใช้บริการ
สามารถทา้ กิจกรรมรับส่งอาหาร ผา่ นโทรศัพทม์ อื ถอื เช่น LINE MAN และ Food panda
เทคโนโลยี หมายถึง เทคโนโลยีเป็นการน้าเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์
ส่ิงของต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนทีเ่ ปน็ ข้อแตกต่างอยา่ งหนึง่ ของเทคโนโลยี กับวิทยาศาสตร์ คือ
เทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับปัจจัย ทางเศรษฐกิจเป็นสินค้ามีการซ้ือขาย ส่วนความรู้ทางวิทยาศาสตร์
เป็นสมบัติส่วนรวมของ ชาวโลกมีการเผยแพรโ่ ดยไม่มกี ารซอ้ื ขายแต่อย่างใดกล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยี
สมยั ใหมเ่ กิดขนึ้ โดยมีความรทู้ างวทิ ยาศาสตรเ์ ป็นฐานรองรบั
การส่ังอาหาร หมายถึง การส่ังรายการท่ีอยู่หน้าร้าน โดยระบุท้ังราคาและรูปภาพอาหาร
เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้กับผู้ซื้อ ปัจจุบันร้านค้าออนไลน์เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตใน
สังคม ทา้ ใหเ้ กิดธุรกิจออนไลนม์ ากข้ึนมากมาย เช่น Grab LINEMAN และ Food panda
โปรแกรม App Sheet หมายถึง โซลูชันด้านการผลิตทางธุรกิจให้การแสดงเน้ือหาการจดบันทึก
รูปแบบและเวิร์กโฟลว์ส้าหรับสถานการณ์ทางธุรกิจท่ีเรียบง่าย App Sheet จะใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในแผ่น
ตารางท้าการใน Google, สมาร์ทการด์ และแสดงในแบบโตต้ อบผ่านแอปพลเิ คชัน
บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎที เี่ กี่ยวขอ้ ง
บทท่ี 2
เอกสารและทฤษฎีทีเ่ กย่ี วข้อง
เพอื่ เป็นแนวทางในการจัดทาโครงการคร้ังน้ี
คณะผ้จู ดั ทาได้ศึกษาเอกสารและทฤษฎีท่ีเกีย่ วข้อง ๆ ดงั นี้
2.1 แอปพลิเคชนั พลเิ คชัน (Application)
2.2 เทคโนโลยี (Technology)
2.3 ระบบเครอื ขา่ ยอินเทอร์เน็ต (Internet networking)
2.4 โปรแกรม (Program)
2.5 AppSheet (Web Application)
2.1 แอปพลิเคชนั พลเิ คชนั (Application)
2.1.1 แอปพลิเคชันพลิเคชัน (Application) ในปัจจุบัน ผู้คนมากมายต่างให้ความสนใจและใช้งาน
สง่ิ ที่เรยี กว่า แอปพลิเคชนั พลเิ คชนั กนั อยา่ งแพรห่ ลาย แอปพลเิ คชนั พลิเคชัน คอื ซอฟแวรป์ ระเภทหน่ึงที่
สามารถกระทาการบางอย่างได้ตามความต้องการ แอปพลิเคชันพลิเคชันสาหรับใช้งานบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก เรียกว่า เดสก์ท็อป แอปพลิเคชันพลิเคชัน (Desktop Application) ส่วนแอป
พลิเคชนั พลเิ คชันท่ีทางานบนเคร่ืองอปุ กรณ์พกพาท้งั หลาย เรียกว่า แอปพลิเคชันพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
(Mobile Application) เม่อื รนั แอปพลิเคชันพลิเคชัน โดยจะทางานอยภู่ ายใต้ระบบปฏิบัติการตลอดเวลา
จนกวา่ จะทาการปิดไป ภายในเวลาเดียวกัน อาจมีหลายแอปพลิเคชันพลิเคชันที่กาลังทางานพร้อมกันใน
ระบบปฏิบัติการ เรียกกระบวนการน้ีว่า การทางานของแอปพลิเคชันหลาย ๆ แอปพลิเคชันพร้อมกัน
(Multitasking) แอปพลิเคชันพลิเคชันเล็ก ๆ ท่ีสามารถโหลดมาใช้งานได้ง่าย โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อย
หรือไม่เสียค่าใช้จ่าย แอปพลิเคชันพลิเคชันจานวนหน่ึงถูกออกแบบมาสาหรับใช้งานบนอุปกรณ์พกพา
รวมถึงทีวบี างรุ่น คือโปรแกรมที่อานวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ที่ออกแบบมาสาหรับ สมาร์ทโฟนและ
แท็บเล็ต (Tablet) ซึ่งในแต่ละระบบปฏิบัติการจะมีผู้พัฒนาแอปพลิเคชันพลิเคชันข้ึนมามากมายเพ่ือให้
ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งจะมีให้ดาวน์โหลดทั้งฟรีและจ่ายเงิน ท้ังในด้านการศึกษา ด้าน
องคก์ ร ส่อื สารหรอื แมแ้ ต่ดา้ นความบันเทิงตา่ ง ๆ เปน็ ตน้
2.1.2 แอปพลิเคชันพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (Mobile Application) ประกอบข้ึนด้วยคาสองคา คือ
Mobile กบั Application มี ความหมายดังนี้ Mobile คอื อปุ กรณส์ อ่ื สารทีใ่ ชใ้ นการพกพา ซ่ึงนอกจากจะ
ใช้งานได้ตามพื้นฐานของ สมาร์ทโฟนแล้ว ยังทางานได้เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเป็น
5
อปุ กรณท์ ีพ่ กพาไดจ้ งึ มี คุณสมบัติเด่น คือ ขนาดเล็กน้าหนักเบาใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ปัจจุบันมักใช้ทา
หน้าทไ่ี ด้หลายอยา่ ง ในการติดตอ่ แลกเปล่ยี นขา่ วสารกับคอมพิวเตอร์
2.1.3 เว็บ แอปพลเิ คชนั พลเิ คชัน (Web Application) คอื แอปพลิเคชันพลิเคชัน (Application) ท่ี
ถูกเขียนข้ึนมาเพ่ือเป็น เบราว์เซอร์ (Browser) สาหรับการใช้งาน เว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งถูกปรับแต่งให้
แสดงผลแตส่ ว่ นทจี่ าเป็น เพ่ือเป็นการลดทรัพยากรในการประมวลผล ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทาให้
โหลดหนา้ เว็บไซตไ์ ดเ้ รว็ ขน้ึ อกี ท้ังผใู้ ช้งานยงั สามารถใช้งานผ่าน อนิ เทอร์เน็ต ในความเรว็ ต่าได้
ภาพที่ 2.1 แสดง Application (แอปพลเิ คชันพลเิ คชัน)
2.2 เทคโนโลยี (Technology)
2.2.1 เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งท่ีมนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทางานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น
อุปกรณ์ เคร่อื งมอื เคร่ืองจกั ร วสั ดุ หรือ แมก้ ระทั่งท่ีไม่ได้เป็นสิ่งของท่ีจับต้องได้ เช่น กระบวนการต่าง ๆ
เทคโนโลยี เปน็ การประยกุ ตน์ าเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติแก่
มวลมนุษยก์ ลา่ วคือเทคโนโลยเี ปน็ การนาเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใชใ้ นการประดิษฐ์ส่ิงของต่าง ๆ ให้
เกดิ ประโยชน์สูงสุดส่วนที่เป็นข้อแตกต่างอย่างหน่ึงของเทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์คือเทคโนโลยีจะข้ึนอยู่
กับปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นสินค้ามีการซ้ือขาย ส่วนความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นสมบัติส่วนรวมของ
ชาวโลกมีการเผยแพร่โดยไม่มีการซ้ือขายแต่อย่างใดกล่าวโดยสรุปคือเทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นโดยมี
ความรทู้ างวิทยาศาสตรเ์ ปน็ ฐานรองรบั ลกั ษณะของเทคโนโลยสี ามารถจาแนกออกไดเ้ ป็น 4 ลักษณะ คือ
6
2.2.2 เทคโนโลยีในลักษณะของกระบวนการ (process) หมายถึง เปน็ การใชอ้ ยา่ งเป็นระบบของ
วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์หรือความรตู้ า่ ง ๆ ท่ไี ดร้ วบรวมไว้ เพือ่ นาไปสผู่ ลในทางปฏิบตั ิ โดยเชื่อว่าเป็น
กระบวนการที่เช่อื ถือไดแ้ ละนาไปสู่การแกป้ ัญหาต่าง ๆ
2.2.3 เทคโนโลยใี นลักษณะของผลผลติ (product) หมายถึง วัสดแุ ละอปุ กรณ์ท่เี ปน็ ผลมาจากการ
ใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี
2.2.4 เทคโนโลยีในลักษณะผสมของกระบวนการและผลผลิต (process and product) เช่นระบบ
คอมพิวเตอร์ซึ่งมีการทางานเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวเครื่องกับโปรแก รมเทคโนโลยีชีวภาพประโยชน์ที่
สาคัญที่สุดของเทคโนโลยีชีวภาพในอนาคต คือ การพัฒนาพันธุ์พืชและสัตว์เพ่ือเพ่ิมผลผลิตอาหารเล้ียง
ชาวโลกการปฏิวตั ทิ างเทคโนโลยชี ีวภาพทก่ี าลังจะเกิดข้ึนจะมีความสาคัญต่อมนุษย์ชาติไม่น้อยไปกว่าการ
ปฏิวัติทางเทคโนโลยีสารสนเทศในขณะท่ีประเทศไทยกาลังซวนเซอันเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจ หลายคน
หันมาคิดได้ว่า ต้องหาทางต้ังตัวใหม่ ผลิตสินค้าและเปิดบริการใหม่ ๆ แทนท่ีจะอาศัยวัตถุดิบและค่าแรง
ราคาถูก ซ่ึงเคยเป็นข้อได้เปรียบของไทยแนวทางใหม่คงต้องเป็นการใช้สมอง ใช้ความสามารถที่มีอยู่บ้าง
มาเพิ่มพูนและผสมผสาน กับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อผลิตสินค้า หรือ เสนอบริการที่สามารถ แข่งขันใน
ตลาดโลกได้
ประโยชน์ของเทคโนโลยี
ช่วยคุณภาพชีวิตของมนุษย์ แถมยังช่วยพัฒนาระบบอารายธรรมโดยทางอ้อมอีกด้วยเร่ืองราวจากการ
เร่ิมต้นเทคโนโลยี ยาวนานจนตอนนี้ทาให้มนุษย์แทบไม่สามารถแยกจากเทคโนโลยีไปได้แล้ว ช่วยให้
มนษุ ย์มีความสะดวกสบายข้ึน ทันสมยั และชว่ ยประหยดั เวลา
บทบาทหนา้ ทีข่ องเทคโนโลยี
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาให้มีการพัฒนาคิดค้นส่ิงอานวยความสะดวกสบาย
ต่อการดารงชวี ิตเปน็ อนั มาก เทคโนโลยไี ดเ้ ข้ามาเสริมปัจจัยพน้ื ฐานการดารงชีวติ ได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยี
ทาให้การสร้างท่ีพักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของมนุษย์มากข้ึน เทคโนโลยีทาให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจานวนมากมี
ราคาถูกลง สินคา้ ไดค้ ุณภาพ เทคโนโลยีทาให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกัน
ทาใหป้ ระชากรในโลกตดิ ต่อรับฟังขา่ วสารกนั ได้ตลอดเวลา
วิวฒั นาการเทคโนโลยี (Evolution of Technology)
เทคโนโลยี มีการเปล่ียนแปลงหรือพัฒนาเม่ือเวลาผ่านไปข้ันตอนการเปลี่ยนแปลงข้ึนอยู่กับกระบวนการ
ทางวิวัฒนาการ (Evolution) ของระบบหรือเครื่องมือน้ัน ๆ ดังน้ันคาว่าวิวัฒนาการของเทคโนโลยี
7
(Evolution of Technology) จึงหมายถึง ความเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนในระบบหรือเครื่องมือที่เกิดขึ้น
อยา่ งซับซอ้ นและมกี ารเปลีย่ นแปลงตามลาดบั อย่างต่อเนื่องอันมีสาเหตมุ าจากปจั จยั ต่าง ๆ
ภาพที่ 2.2 แสดงภาพเทคโนโลยี
2.3 ระบบเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ (Internet networking)
เนอ่ื งจากระบบมีการใชง้ านรว่ มกับเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ จงึ ตอ้ งมีการอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง
กับเครือ่ งขา่ ยอินเทอร์เนต็ ดังตอ่ ไปน้ี
เครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ หมายถงึ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทีเ่ ช่ือมต่อกัน เป็นจานวนมากครอบคลุมไปท่ัว
โลกโดยอาศัยโครงสรา้ งระบบสอ่ื สารโทรคมนาคม เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้
งานหลากหลายรูปแบบ อินเทอร์เนต็ เป็นทั้งเครือข่ายของคอมพวิ เตอร์ และเครือข่ายของเครือข่าย เพราะ
อนิ เทอรเ์ น็ตประกอบด้วย เครอื ขา่ ยยอ่ ยเป็นจานวนมากต่อเช่อื มเข้าด้วยกัน ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน จน
เป็นสังคมเครอื ข่ายขนาดใหญ่ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะ ที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ ทาให้การเข้าสู่
เครือข่ายเป็นไปได้อย่างเสรี ภายใต้กฎเกณฑ์บางประการท่ีกาหนดข้ึน เพ่ือไม่ให้เกิดความสับสน และ
วุ่นวายจากการเชอื่ มต่อจากเครือข่ายทั่วโลก
ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตหลายคน อาจเข้าสู่อินเทอร์เน็ตโดยผ่านทางระบบเครือข่ายของสานักงาน
บริษัท หรือ สถานศึกษาของตน ซึ่งตามปกติแล้วหากเป็นหน่วยงาน หรือสานักงานใหญ่ ๆ จะต่อ
คอมพิวเตอร์เปน็ ระบบภายในองค์กร แลน (LAN) ซ่งึ มกั จะเชือ่ มต่อกบั ผใู้ ห้บริการ ไอเอสพี (ISP) ผ่านสาย
นาสัญญาณความเร็วสูง (High-Speed Leased Line) แทนที่จะเชื่อมต่อผ่าน โมเดม (Modem) แต่ถ้า
หากว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในวง แลน (LAN) ท่ีไม่โตมากนักก็อาจใช้เช่ือมต่อผ่านโมเดมก็ได้ เพราะจะทา
8
ให้ลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อระบบ แต่อาจจะมีปัญหาในเร่ืองของความเร็วในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ตบ้าง
เลก็ น้อย
เม่ือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงเครือข่าย ท่ัวโลกให้สามารถติดต่อถึงกันได้หมดจนกลายเป็น
เครือข่ายของโลก ดังน้ันจึงมีผู้ใช้งานบนเครือข่ายนี้จานวนมาก การใช้งานเหล่าน้ีเป็นส่ิงท่ีกาลังได้รับการ
กล่าวถึงกันทั่วไปเพราะการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทาให้โลกไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
สามารถส่ือสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตท่ีจะ กล่าวต่อไปน้ีเป็นเพียง
ตัวอย่างทแี่ พร่หลายและใช้กนั มากเท่านนั้ ยังมีการประยุกต์งานอ่นื ท่ไี ด้รบั การพฒั นาขน้ึ มาใหม่ตลอดเวลา
1) ไปรษณียอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์
2) การโอนย้ายแฟ้มขอ้ มูลระหวา่ งกนั
3) การใชค้ อมพิวเตอร์ในที่ห่างไกล
4) การเรียกค้นขอ้ มลู ขา่ วสาร
5) การอา่ นจากกลุ่มข่าว
6) การสนทนาบนเครือข่าย
7) การบริการสถานีวทิ ยุและโทรทศั นบ์ นเครอื ข่าย
8) การบรกิ ารบนอินเทอร์เนต็
ภาพที่ 2.3 แสดงภาพระบบเครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ต
9
2.4 โปรแกรม (Program)
2.4.1 โปรแกรม (Program) โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หมายถึง คาสั่งหรือชุดคาส่ัง ที่เขียนขึ้นมาเพื่อ
ส่งั ให้เครอ่ื ง คอมพิวเตอร์ทางานตามท่ีเราต้องการ เราจะให้คอมพิวเตอร์ทาอะไรก็เขียนเป็นคาส่ัง ซ่ึงต้อง
สั่งเป็น ข้ันตอนและแต่ละขนั้ ตอนต้องทาอย่างละเอียดและครบถ้วน ซึ่งจะเกิดเป็นงานชิ้นหน่ึงขึ้นมา มีช่ือ
เรยี กวา่ โปรแกรม
2.4.2 ประเภทซอฟตแ์ วร์
2.4.2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
2.4.2.2 ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ (Application Software)
2.4.3 ภาษาโปรแกรมมิ่ง (Programming Language) หมายถึง ภาษาใด ๆ ที่ถูกออกแบบ
โครงสร้างข้ึนมา เพื่อใช้ในการเขียนคาส่ังหรือ ชุดคาส่ัง ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษท่ีมนุษย์เข้าใจ
ประกอบด้วยโครงสร้างของภาษา สทรัคเชอะ(Structure) รูปแบบไวยากรณ์ ซินแทคช(Syntax) และ
คาศัพท์ต่าง ๆ เพ่ือสั่งให้เครื่อง คอมพิวเตอร์ทางานตามที่เราต้องการ ในงานเขียนโปรแกรมจะต้องมีการ
เตรียมงานเก่ียวกับการเขียน โปแกรมอย่างเป็นข้ันตอน เรียกขั้นตอนเหล่านี้ว่า ข้ันตอนการพัฒนา
โปรแกรม
2.4.4 ขนั้ ตอนการพฒั นาโปรแกรม
2.4.4.1 การวิเคราะหป์ ัญหา การวเิ คราะหป์ ัญหา ประกอบดว้ ยขัน้ ตอนตา่ ง ๆ ดงั น้ี
1) กาหนดวัตถุประสงค์ของงาน เพื่อพิจารณาว่าโปรแกรมต้องทาการ ประมวลผล
อะไรบา้ ง
2) พิจารณาข้อมูลนาเข้า เพ่ือให้ทราบว่าจะต้องนาข้อมูลอะไรเข้าคอมพิวเตอร์
ข้อมูลมีคณุ สมบตั เิ ป็นอย่างไร ตลอดจนถงึ ลกั ษณะและรปู แบบของข้อมลู ทจี่ ะนาเขา้
3) พจิ ารณาการประมวลผล ใหท้ ราบว่าโปรแกรมมีขั้นตอนการประมวลผลอย่างไร
มเี ง่ือนไปการประมวลผลอะไรบา้ ง
2.4.5 การออกแบบโปรแกรม การออกแบบข้ันตอนการทางานของโปรแกรมเป็นข้ันตอนที่ใช้เป็น
แนวทางในการลงรหัสโปรแกรม ผู้ออกแบบขั้นตอนการทางานของโปรแกรมอาจใช้เครื่องมือต่าง ๆ ช่วย
ในการออกแบบ อาทเิ ช่น คาส่งั ลาลอง หรอื ผังงานการออกแบบโปรแกรมนั้นไม่ต้องพะวงกับรูปแบบคาส่ัง
ภาษาคอมพวิ เตอร์ แต่ใหม้ ่งุ ความสนใจไปท่ีลาดบั ขั้นตอนในการประมวลผลของโปรแกรมเทา่ นั้น
10
2.4.6 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ การเขียนโปรแกรมเป็นการนาเอาผลลัพธ์ของการ
ออกแบบโปรแกรม มาเปลี่ยนเป็น โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหน่ึง ผู้เขียนโปรแกรม
จะต้องให้ความสนใจต่อรูปแบบคาส่ัง และกฎเกณฑ์ของภาษาท่ีใช้เพ่ือให้การประมวลผลเป็นไปตาม
ผลลัพธ์ที่ได้ออกแบบไว้ นอกจากน้ัน ผู้เขียนโปรแกรมควรแทรกคาอธิบายการทางานต่างๆ ลงใน
โปรแกรมเพ่ือให้โปรแกรมนั้นมีความ กระจ่างชัดและง่ายต่อการตรวจสอบและโปรแกรมนี้ยังใช้เป็นส่วน
หน่งึ ของเอกสารประกอบ
2.4.7 การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม การทดสอบโปรแกรมเป็นการนาโปรแกรมที่ลงรหัสแล้วเข้า
คอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบรูปแบบกฎเกณฑ์ของภาษา และผลการทางานของโปรแกรมน้ัน ถ้าพบว่ายัง
ไม่ถกู ก็แกไ้ ขใหถ้ กู ต้องต่อไป ขั้นตอนการทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม อาจแบ่งได้เปน็ 3 ข้นั
2.4.7.1 สร้างแฟ้มเก็บโปรแกรมซ่ึงส่วนใหญ่นิยมนาโปรแกรมเข้าผ่านทางแป้นพิมพ์ โดยใช้
โปรแกรมประมวลคา
2.4.7.2 ใชต้ ัวแปลภาษาคอมพวิ เตอรแ์ ปลโปรแกรมทสี่ ร้างขนึ้ เป็นภาษาเคร่ือง โดย ระหว่าง
การแปลจะมกี ารตรวจสอบความถกู ต้องของรปู แบบและกฎเกณฑ์ในการใช้ภาษา ถ้าคาสั่งใด มีรูปแบบไม่
ถูกตอ้ งก็จะแสดงข้อผิดพลาดออกมาเพ่อื ใหผ้ ้เู ขยี นนาไปแกไ้ ขต่อไป ถา้ ไมม่ ีข้อผิดพลาด เราจะได้โปรแกรม
ภาษาเครือ่ งที่สามารถใหค้ อมพิวเตอรป์ ระมวลผลได้
2.4.7.3 ตรวจสอบความถูกต้องของการประมวลผลของโปรแกรม โปรแกรมท่ีถูกต้อง ตาม
รูปแบบและกฎเกณฑ์ของภาษา แต่อาจให้ผลลัพธ์ของการประมวลผลไม่ถูกต้องก็ได้ ดังนั้นผู้เขียน
โปรแกรมจาเป็นตอ้ งตรวจสอบวา่ โปรแกรมประมวลผลถกู ต้องตามต้องการหรือไม่ วิธีการหนึ่งก็คือ สมมติ
ข้อมูลตัวแทนจากข้อมูลจริงนาไปให้โปรแกรมประมวลผลแล้วตรวจสอบผลลัพธ์ว่าถูกต้อง หรือไม่ ถ้า
พบวา่ ไม่ถูกตอ้ งกต็ ้องดาเนนิ การแก้ไขโปรแกรมต่อไป การสมมติข้อมูลตัวแทนเพื่อการ ทดสอบเป็นส่ิงที่มี
ความสาคัญเป็นอย่างมาก ลักษณะของข้อมูลตัวแทนที่ดีควรจะสมมติท้ังข้อมูลท่ี ถูกต้องและข้อมูลที่
ผิดพลาด เพ่ือทดสอบว่าโปรแกรมท่ีพัฒนาขึ้นสามารถครอบคลุมการปฏิบัติงานใน เงื่อนไขต่าง ๆ ได้
ครบถ้วน นอกจากนี้อาจตรวจสอบการทางานของโปรแกรมด้วยการสมมติตัวเองเป็น คอมพิวเตอร์ทีจะ
ประมวลผล แล้วทาตามคาส่ังทีละคาสั่งของโปรแกรมนั้น ๆ วิธีการน้ีอาจทาได้ยาก ถ้าโปรแกรมมีขนาด
ใหญ่ หรือมกี ารประมวลผลทีซ่ บั ซ้อน
2.4.8 การทาเอกสารประกอบโปรแกรม การทาเอกสารประกอบโปรแกรมเป็นงานที่สาคัญของการ
พฒั นาโปรแกรม เอกสาร ประกอบโปรแกรมช่วยใหผ้ ้ใู ชโ้ ปรแกรมเข้าใจวัตถุประสงค์ ข้อมูลท่ีจะต้องใช้กับ
โปรแกรม ตลอดจนผลลัพธ์ที่จะได้จากโปรแกรม การทาโปรแกรมทุกโปรแกรมจึงควรต้องทาเอกสาร
11
กากับ เพ่ือใช้สาหรับการอ้างอิงเมื่อจะใช้งานโปรแกรมและเม่ือต้องการแก้ไขปรับปรุงโปรแกรม เอกสาร
ประกอบโปรแกรมทจ่ี ัดทา ควรประกอบด้วยหัวข้อต่อไปน้ี
2.4.8.1 วตั ถุประสงค์
2.4.8.2 ประเภทและชนดิ ของคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นโปรแกรม
2.4.8.3 วิธกี ารใชโ้ ปรแกรม
2.4.8.4 แนวคดิ เก่ียวกับการออกแบบโปรแกรม
2.4.8.5 รายละเอยี ดโปรแกรม
2.4.8.6 ข้อมูลตัวแทนท่ใี ชท้ ดสอบ
2.4.8.7 ผลลัพธข์ องการทดสอบ
2.4.9 การบารุงรักษาโปรแกรม เมื่อโปรแกรมผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว และถูก
นามาให้ผใู้ ชไ้ ดใ้ ช้งาน ในช่วงแรก ผู้ใชอ้ าจจะยังไม่ค้นุ เคยก็อาจทาให้เกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ดังนั้นจึงต้องมีผู้
คอยควบคมุ ดูแลและคอยตรวจสอบการทางาน การบารงุ รักษาโปรแกรมจึงเป็นขั้นตอนท่ีผู้เขียนโปรแกรม
ต้องคอยเฝ้าดูและหา ข้อผิดพลาดของโปรแกรมในระหว่างท่ีผู้ใช้ใช้งานโปรแกรม และปรับปรุงโปรแกรม
เม่ือเกิดข้อผิดพลาดขน้ึ หรอื ในการใชง้ านโปรแกรมไปนาน ๆ ผู้ใชอ้ าจต้องการเปล่ียนแปลงการทางานของ
ระบบงานเดิม เพื่อให้เหมาะกับเหตุการณ์ นักเขียนโปรแกรมก็จะต้องคอยปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมตาม
ความต้องการของผู้ใช้ที่เปล่ียนแปลงไป การพัฒนาโปรแกรมจะดาเนินการตามขั้นตอน แต่ละข้ันตอน
สามารถย้อนกลับไปทาในข้ันตอนก่อนหน้านี้ได้ เม่ือเกิดความผิดพลาด หรือพัฒนาโปรแกรมไม่ครบถ้วน
หรือไม่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ในทุกข้ันตอน ซึ่งการดาเนินการต่าง ๆ ของขั้นตอน เราจะต้องมี
การดาเนินการทาเอกสารประกอบโปรแกรมควบคู่กับการดาเนินการพัฒนาโปรแกรมตลอด เมื่อเกิดการ
แก้ไขเพิ่มเติม หรือเปล่ียนแปลงอะไรก็ตามในโปรแกรมจะต้องทาการแก้ไขปรับปรุงโปรแกรมในอนาคต
สาหรับผู้พัฒนาท่ีจะต้องมาดูแลการใช้งานโปรแกรม และเม่ือพัฒนาโปรแกรมเสร็จแล้วก็ จะต้อง
ดาเนินการทาเอกสารประกอบการใช้งานใหก้ ับผใู้ ช้ เพือ่ ทีจ่ ะสามารถใชโ้ ปรแกรมได้ครบถ้วน และถกู ตอ้ ง
12
ภาพที่ 2.4 แสดง โปรแกรม (Program)
2.5 App Sheet (Web Application)
2.5.1 App Sheet คือ App Sheet เป็นโซลูชันด้านการผลิตทางธุรกิจให้การแสดงเนื้อหาการจด
บันทึกรูปแบบและเวิร์กโฟลว์สาหรับสถานการณ์ทางธุรกิจที่เรียบง่าย App Sheet จะใช้ข้อมูลท่ีมีอยู่ใน
สเปรดชีต Google ชีต, Excel และสเปรดชตี สมารท์ การ์ดและแสดงในแบบโตต้ อบผา่ นแอปพลิเคชัน
ภาพที่ 2.5 แสดง App Sheet
13
2.5.2 วิธีลงทะเบียนเขา้ ใช้ App Sheet
2.5.2.1 Login ก่อนโดยเข้าไปที่ Website ของตัว App Sheet เพ่ือจัดการสร้าง Appเม่ือ
กดที่ Login จะมีใหเ้ ลอื กว่าจะให้ Login โดยใชอ้ ะไร ในตัวอย่างนจี้ ะเลือกใชเ้ ปน็ ของ Google
ภาพที่ 2.6 แสดงการ Login เข้าใช้แอปพลิเคชัน
2.5.2.2 เมอื่ Login เข้ามาแล้วเราจะเร่ิมทาการสรา้ ง Application ของเราโดยจะ สรา้ งเอง
ทง้ั หมดเลยก็ได้หรือจะเอา Application ทีร่ ะบบหรือคนอื่นทาไวม้ าแกไ้ ขก็ได้
ภาพท่ี 2.7 แสดงการLogin เขา้ มาแล้วเราจะเริ่มทาการสร้าง Application
14
2.5.2.3 เม่อื กด Make a new app จะมหี นา้ ตา่ งข้ึนมาให้เลือก
Start with your own data: สรา้ งเองใหม่ทง้ั หมด
Start with an idea: แสดงตัวอยา่ ง application ตามความต้องการ ของเรา
Start with a simple app: copy simple application ของทาง App Sheet
ภาพที่ 2.8 แสดงหน้าต่างขึ้นมาให้เลือก
2.5.2.4 เมื่อเลือก Start with your own data แล้วจะเข้ามาที่หน้าน้ีเพื่อต้ังช่ือและ เลือก
ประเภทให้ Application จากนัน้ กด Next step : choose your data เพื่อเลือกทีเ่ ก็บขอ้ มูล
ภาพที่ 2.9 แสดงทีเ่ กบ็ ข้อมูล
15
2.5.2.5 เม่ือ Next step : choose your data แล้วจะสามารถเลือกที่เก็บข้อมูลได้ โดยจะ
ดงึ ข้อมลู จาก Google Drive ของ Gmail ทใ่ี ช้ login กบั App Sheet
ภาพที่ 2.10 แสดงการดงึ ขอ้ มลู จาก Google Drive ของ Gmail ท่ใี ช้ login กบั App Sheet
2.5.2.6 กรณีทไี่ ฟลท์ ี่ใช้เกบ็ ขอ้ มลู มี Table กบั Columns ที่ App Sheet จะสรา้ ง ขึ้นมาให้
เองโดยอตั โนมตั โิ ดยข้อมลู ชือ่ Table และ Columns จะเหมือนกันกับที่เราต้งั ไวใ้ นไฟล์ทใ่ี ช้ เก็บขอ้ มูล
ภาพท่ี 2.11 แสดงข้อมูล Table กบั Columns ที่ App Sheet จะสร้างข้นึ มาใหเ้ องโดยอัตโนมตั ิ
16
2.5.2.7 กรณีจะเพิ่ม Table และ Columns ต้องให้ข้อมูลเหมือนกันทั้งหมดทั้งช่ือ Table
และ ชื่อ Columns เพราะถ้าไม่เหมือนกันจะเกดิ Error ได้
ภาพที่ 2.12 แสดงการเพม่ิ Table และ Columns ข้อมลู ต้องเหมือนกนั ทง้ั หมด
2.5.2.8 ถ้าเราต้องการแก้ไขที่อยู่ของที่เก็บข้อมูลเพียงเล่ือน Scroll mouse ลงมาจะ เจอ
กบั การจดั การกบั ท่เี กบ็ ขอ้ มูลโดยเราสามารถแก้ท่ีเก็บข้อมลู ได้
Source Path : ไฟล์ที่เกบ็ ข้อมลู
Worksheet Name/Qualifier : เลือกชที ที่อย่ใู นไฟล์ทใ่ี ชเ้ ก็บขอ้ มลู
ภาพท่ี 2.13 แสดงความต้องการแก้ไขที่อยู่ของท่ีเก็บขอ้ มูล
17
2.5.3 ตวั อยา่ งการเพ่ิม Table และ Columns ใน App Sheet
2.5.3.1 กดที่ Add New Table
ภาพท่ี 2.14 แสดงการกด Add New Table
2.5.3.2 ต่อไปเลือกว่าจะเลือกเก็บข้อมูลไว้ที่เดิมหรือไม่ถ้าต้องการจะเปลี่ยนท่ีเก็บ ข้อมูลให้
เลือก New Data Source
ภาพท่ี 2.15 แสดงการเลือกท่ีเกบ็ ข้อมูล
18
2.5.3.3 เลือกไฟล์ทีต่ ้องการบันทึกข้อมูลแล้วเลือก Sheet ที่ตอ้ งการจะเก็บข้อมลู
จากนน้ั ก็จะมกี ารใหก้ าหนดสิทธิส์ าหรบั ผู้ใชม้ ีกาหนดเสรจ็ แลว้ กก็ ด Add This Table เพ่ือทาการสรา้ ง
Table (หากมี Error ก็เพราะวา่ ใน Table ทพี่ งึ่ สร้างน้ีไม่มี Columns เราต้องสร้างไว้ก่อนอยา่
ปลอ่ ยให้ Table วา่ ง)
ภาพที่ 2.16 แสดงการเลือกไฟลท์ ีต่ ้องการบันทกึ ขอ้ มลู
2.5.3.4 ทาการเพ่ิม Columns ใหก้ บั Sheet2 เพื่อไมใ่ ห้ Table มนั วา่ งเม่อื ทาเสร็จแลว้
Error จะหายไป
ภาพที่ 2.17 แสดงการเพิ่ม Columns ให้กบั Sheet2
19
2.5.3.5 ชอ่ื Table สามารถเปลย่ี นไดแ้ ต่ช่อื Columns ถา้ จะเปลยี่ นต้องเปลยี่ นท้งั สองท่คี อื
ที่ Appsheet และไฟล์ทเี่ ก็บขอ้ มูลใหเ้ หมือนกันเสร็จแล้วกด Regenerate
ภาพท่ี 2.18 แสดงไฟล์ที่เก็บขอ้ มูล
2.5.3.6 การเพ่มิ Columns โดยอนั ดับแรกใหเ้ ลอื ก Table ที่ตอ้ งการจะเพม่ิ Columns
จากนั้นกดท่ี Virtual Columns เพ่ือเปน็ การสร้าง จากนน้ั ตง้ั ช่อื Columns หลงั จากน้นั กด OK เพอ่ื
ยืนยนั การสร้าง
ภาพท่ี 2.19 แสดงการเพ่ิม Columns
20
2.5.3.7 การสร้าง Columns อกี วธิ ีหน่ึงคือสร้างในไฟลท์ ่ใี ช้เกบ็ ข้อมูลก่อนแลว้ ค่อยมา
Regenerate ในตวั ของ Appsheet ซึ่งวิธนี ้ีจะสะดวกและง่าย อนั ดับแรกสรา้ ง Columns รอไวท้ ่ี
Sheet2 จากน้ันเขา้ ไปที่ Appsheet
ภาพที่ 2.20 แสดงการสร้าง Columns รอไว้ที่ Sheet2
2.5.3.8 ทาการกด Regenerate Columns ทเี่ ราสรา้ งไว้ก็จะมาโดยอัตโนมัติ
ภาพท่ี 2.21 แสดง Columns ทเี่ ราสร้างไว้ก็จะมาโดยอตั โนมัติ
21
2.5.3.9 การกาหนดสทิ ธ์ใิ ห้กับผใู้ ช้จากในภาพจะไมส่ ามารถเพิม่ หรือลบข้อมลู ได้เลย เราจะ
ทาการใหส้ ิทธิ์กับผใู้ ช้โดยเลอื กได้เลย Updates : สามารถแกไ้ ขข้อมลู ได้ Adds : สามารถเพม่ิ ขอ้ มูลได้
Deletes : สามารถลบข้อมูลได้ Read-Only : อนุญาตให้ดูขอ้ มลู ได้อย่างเดยี วไม่สามารถแกไ้ ข เพมิ่ หรือ
ลบได้
ภาพท่ี 2.22 แสดงการกาหนดสิทธิใ์ ห้กับผู้ใช้
2.5.3.10 เม่ือทาการใหส้ ิทธเิ รียบร้อยแลว้ ตัว Application ดา้ นขวามือจะมีปุ่มให้ สามารถ
เพิม่ ข้อมลู ได้
ภาพที่ 2.23 แสดงปุ่มให้สามารถเพิ่มขอ้ มูลได้
22
2.5.3.11 เม่อื กดปมุ่ เพ่ิมข้อมูลแล้วกจ็ ะมหี นา้ ฟอรม์ ขึ้นมาใหก้ รอกขอ้ มูลโดยข้อมลู ท่ี จะให้
กรอกนนั้ จะเหมือนกันกับ Columns ถา้ ข้อมูลใน Columns เปน็ อยา่ งไรข้อมลู ที่จะกรอกใน ฟอร์มก็จะ
เปน็ อย่างน้นั
ภาพท่ี 2.24 แสดงหน้าฟอร์มข้นึ มาให้กรอกข้อมลู
2.5.4 การบันทกึ ขอ้ มูลลงในไฟล์ท่ีใช้เกบ็ ขอ้ มูล
2.5.4.1 การบันทึกในเว็ปไซต์ของ Appsheet ท่ีเราใชต้ งั้ คา่ ตวั Application ไดเ้ ลย
โดยทาการกดปุ่มเพ่ิมข้อมลู
ภาพท่ี 2.25 แสดงการบันทึกในเว็บไซตข์ อง Appsheet
23
2.5.4.2 เมื่อกดปุ่มเพิ่มข้อมูลแลว้ จะมแี บบฟอร์มขน้ึ มา โดยการกรอกข้อมลู ของแต่ละ
Columns จะเปน็ ไปตาม Columns ท่ีไดต้ ั้งไว้
ภาพที่ 2.26 แสดงแบบฟอร์ม
2.5.5 การบนั ทึกข้อมลู โดยใชโ้ ทรศัพท์
2.5.5.1 โหลด Application ทีม่ ีชือ่ ว่า AppSheet มาก่อน มีทง้ั Android และ Ios
ภาพท่ี 2.27 แสดงแอพพลเิ คชน่ั AppSheet
24
2.5.5.2 เมื่อตดิ ตง้ั AppSheet เสร็จแลว้ ใหท้ าการ Login โดยใช้ G-mail เดียวกันกบั
ทีใ่ ชใ้ นเว็บไซต์ AppSheet
ภาพท่ี 2.28 แสดงการ Login AppSheet
2.5.5.3 เม่อื ทาการ Login เขา้ มาแลว้ จะเจอกับหน้า App Gallery ซงึ่ จะมี Application
ทงั้ หมดทเ่ี ราทาเอาไว้
ภาพท่ี 2.29 แสดงหน้า App Gallery
25
2.5.5.4 กดเข้ามาท่ี Application ที่เราเลือกคือ Example เมอ่ื เข้ามาแล้วกส็ ามารถ กดเพม่ิ
ข้อมลู ได้เหมือนกบั ท่ีทาในเว็บไซตเ์ ลยแต่แบบนจ้ี ะสะดวกกวา่
ภาพที่ 2.30 แสดง Example สามารถกดเพม่ิ ข้อมลู ได้
2.5.5.5 ทาการเพ่ิมข้อมลู ลงไปในไฟล์ทีเ่ กบ็ ขอ้ มลู
ภาพที่ 2.31 แสดงการเพ่ิมข้อมูล
26
2.5.5.6 เมอ่ื ทาการบันทึกข้อมลู เสร็จแล้วข้อมูลในไฟลเ์ ก็บขอ้ มลู จะมาแสดงทีห่ น้าแรกซึ่งเรา
สามารถกาหนดไดว้ า่ จะให้แสดง
ภาพท่ี 2.32 แสดงการบนั ทึกข้อมลู เสรจ็ แลว้
2.5.5.7 เม่อื ต้องการเซ็กข้อมูลทท่ี าการเพม่ิ เข้าไปสามารถเช็คไดโ้ ดยเขา้ ไปที่ Google Drive
ของ Gmail ที่ใช้ Login กบั Appsheet เข้าดไู ฟล์ทเ่ี ก็บข้อมูลแล้วข้อมูลท่ีเราเพิ่มไป บนั ทกึ เขา้ มาก็ถือว่า
Application ใชง้ านได้แล้ว
ภาพท่ี 2.33 เชก็ ข้อมูลที่ทาการเพิ่มเข้าไปแล้ว
บทท่ี 3
วธิ ีการดาเนนิ การ
บทท3่ี
วิธีการดาเนนิ งานโครงการ
การดาเนินโครงการ “แอปพลิเคชนั ส่งั อาหารดว้ ยโปรแกรม Appsheet” มีรายละเอยี ด ใน
การดาเนนิ งานโครงการ ดงั น้ี
3.1 การศึกษาข้อมลู เบื้องต้น
3.2 ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง
3.3 ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน
3.4 เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
3.5 ขน้ั ตอนการดาเนินการและเกบ็ รวบรวมข้อมูล
3.6 พจิ ารณาจากคะแนนตามเกณฑ์
3.7 สถติ ทิ ี่ใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู
3.1 การศึกษาขอ้ มลู เบ้ืองต้น
3.1.1 การสรา้ งแอปพลเิ คชนั
3.1.2 โปรแกรม AppSheet
3.1.3 ประวัตคิ วามเปน็ มา
3.2 ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง
3.2.1 ประชากร คอื นักเรยี นนักศกึ ษาระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี แผนกวิชาเทคโนโลยธี ุรกจิ
ดิจทิ ลั วทิ ยาลยั เทคนคิ ระยอง จานวน 310 คน
3.2.2 กล่มุ ตวั อยา่ ง คือ นกั เรียนนักศึกษาระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี แผนกวชิ าเทคโนโลยี
ธรุ กจิ ดิจิทลั วทิ ยาลัยเทคนิคระยอง ห้อง ปวช.1/1 ปวช.1/2 ปวช.1/3 ปวช.2/3 ปวช.2/4 จานวน
183 คน
28
ภาพที่3.1 แสดงตัวอยา่ งภาพของเครซี่และมอร์แกน
29
3.3 ขั้นตอนการดาเนนิ งาน
3.3.1 การออกแบบผังงาน
3.3.1.1 การดาเนนิ งาน
ภาพที่3.2 ภาพแสดงการออกแบบผงั งานการดาเนนิ งาน
30
3.3.1.2 การเนนิ งาน
ภาพท่ี3.3 ภาพแสดงการออกแบบผงั งานการดาเนินงาน ตอ่
31
3.3.1.1 แอปพลิเคชัน(ลูกคา้ )
ภาพท่ี3.4 ภาพแสดงการออกแบบผังงาน แอปพลิเคชนั ลกู คา้
32
3.3.1.1 แอปพลิเคชัน(แมค่ า้ )
ภาพที่3.5 ภาพแสดงการออกแบบผงั งาน แอปพลิเคชนั แม่คา้
33
3.3.2 ขนั้ ตอนการสร้างชิ้นงาน
3.3.1.1 ศึกษาหาขอ้ มูลเกี่ยวกบั การสร้างแอปพลิเคชันสั่งอาหารและธุรกิจรา้ นคาเฟ่
ภาพท่ี 3.6 แสดงการศึกษาเก่ียวกับการสรา้ งแอปส่งั อาหาร
3.3.1.2 วางแผนการทาแอปพลิเคชัน
1. ศกึ ข้อมูลเก่ยี วกับแปพลิเคชนั 2. ตัดตอ่ ปกแอป 3.เร่มิ ตน้ ทาแอปพลิเคชันโดยAppSheet
ภาพที่ 3.7 แสดงการวางแผนการทาแอปพลิเคชนั
34
3.3.1.3 ออกแบบหน้าปกแอปพลิเคชัน
ภาพที่ 3.8 แสดงการออกแบบหนา้ ปกแอปพลิเคชนั
3.3.1.3 สร้างแอปพลิเคชนั ในโปรแกรม AppSheet
1) ขนั้ ตอนที่ 1 เข้าหน้าเวบ็ AppSheetเพอื่ ลงชอ่ื เขา้ ใชง้ าน
ภาพที่ 3.9 แสดงหนา้ เวบ็ AppSheet
35
2) ขน้ั ตอนที่ 2 ไปที่ Google Sheet เพ่อื กาหนด Data
ภาพท่ี 3.10 แสดงหน้าเว็บการลงช่ือเข้าใชง้ าน
3) ขน้ั ตอนท่ี 3 ไปท่ี Make a new app เลอื ก Start with your own data
ภาพที่ 3.11 แสดงการกดเลือก Start with your own data
36
4) ขน้ั ตอนที่ 4 ตัง้ ช่อื แอปพลเิ คชนั เลือกหมวดแอปพลเิ คชนั แลว้ กด Choose
your data
ภาพที่ 3.12 แสดงการต้ังชื่อแอปพลิเคชัน หมวดแอปพลิเคชัน และการเลือก data
5) ขนั้ ตอนท่ี 5 กดเลือก Data จะมฐี านขอ้ มลู มาจาก Appsheet
ภาพท่ี 3.13 แสดงการกดเลอื ก Data
37
ภาพท่ี 3.14 ฐานข้อมูลจาก Google Sheet
6) ขั้นตอนที่ User Settings เพ่ือทาระบบล็อกอนิ
ภาพท่ี 3.15 สรา้ งระบบลอ็ กอิน
38
7) ขนั้ ตอนท่ี 7 กาหนดการทางานของ User Settings
ภาพที่ 3.16 กาหนดการทางาน
8) ขน้ั ตอนท่ี 8 เลือกแถบเครื่องมือ Data > Slicer > New Slicer เพ่อื ทา
การลงิ ก์เช่อื มโยงกับ User Settings
ภาพที่ 3.17 กาหนดการเชอื่ มโยงระหวา่ งกัน
39
9) ขัน้ ท่ี 9 เลือกแถบเคร่ืองมือ Ux > Optons > General เลือก Starting
view ปรับคา่ เปน็ User Settings เพื่อให้เป็นเริ่มตน้ แอปพลิเคชัน
ภาพที่ 3.18 กาหนดจดุ เรม่ิ ต้นของโปรแกรม
10) ขั้นตอนที่ 10 เลือกแถบเครอ่ื งมือ Data > Columns เพื่อกาหนดการ
ทางาน
\
ภาพท่ี 3.19 กาหนดการทางาน
40
11) ข้ันตอนท่ี 11 เลือก Data > ข้อมูลลูกค้า > View source จะลิงก์ไปท่ี
GoogleSheet เลอื ก เครอื่ งมือ > โปรแกรมแก้ไขสครปิ ต์
ภาพท่ี 3.20 สรา้ งการทางานการส่งข้อมูล
12) ขนั้ ตอนที่ 12สรา้ งการสง่ ขอ้ มูลใหก้ บั GoogleSheet
ภาพท่ี 3.21 กาหนดการสง่ ข้อมูล
41
13) ขัน้ ตอนที่ 13 เลอื ก การทาใหใ้ ช้งานได้>การทาใหใ้ ชง้ านไดร้ ายการใหม่
ภาพท่ี 3.22 นาไปใชง้ าน
14) ขั้นตอนท่ี 15 คดั ลอก ในสว่ นของ URL
ภาพท่ี 3.23 คดั ลอก URL ไปใช้งาน
42
15) ขน้ั ตอนท่ี 15 กลับมาท่ี App Sheet เลือกแถบเคร่อื งมือ
Behavior>Workflow ของ Rule name
ภาพท่ี 3.24 สร้างการส่งขอ้ มลู เข้าไลน์
16) ขั้นตอนที่ 16 เลอื ก New Workflow Rule ตั้งชื่อในส่วน
ภาพที่ 3.25 สรา้ งการส่งขอ้ มลู
43
17) ขน้ั ตอนท่ี 17 เลอื ก When this happens เลือกข้อมูลที่ต้องการส่งข้อมูล
ในส่วนของ Targer data ตง้ั คา่ Update event การทางานในการสง่ ขอ้ มลู
ภาพที่ 3.26 กาหนดปลายทางทจ่ี ะส่ง
18) ขั้นตอนท่ี 18 เลือก Run thesis tasks>+Add Task เลือก Task
category เป็น Call a webhook เอาลิงกท์ ่ไี ดจ้ าก URL มาใสใ่ นชอ่ ง URL
ภาพท่ี 3.27 กาหนดปลายทางที่จะส่ง
44
19) ข้นั ตอนที่ 19 สร้างรายการอาหารท่ี Columns> อาหาร
ภาพท่ี 3.28 เพิม่ รายการอาหารของลกู ค้า
20) ขั้นตอนท่ี 20 เลือก Ux New View เพื่อกาหนดการทางานของ Primary
Views
ภาพที่ 3.29 กาหนดหนา้ ตาของไอคอนปมุ่ การทางาน