แบบฝึกทักษะการอ่านใจความสำคัญ เล่ม 1

แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความสำคัญ
ชดุ ท่ี ๑

อ่านขอ้ ความต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๑-๑๐
นกขุนทองเป็นสัตวท์ น่ี ยิ มเลีย้ งกนั ในหลายประเทศ นอกจากประเทศไทยแลว้ ยังนิยมเล้ียงในประเทศ
อินเดีย อนิ โดนเี ซีย มาเลเซยี ฟลิ ิปปินส์ และพมา่
นกขนุ ทองเปน็ นกทเี่ ล้ียงงา่ ย ทนต่อโรคภยั ไขเ้ จ็บ มีอายยุ นื บางตัวอายถุ งึ ๒๕ ปี ลกู นกขุนทองแรกเกดิ
จนอายุประมาณ ๒-๓ เดอื น ยงั กินอาหารเองไม่ได้ ต้องคอยปอ้ นวนั ละ ๓-๔ มอ้ื อาหารของมัน คือ เน้ือ พริก
ผลไมต้ า่ งๆ ข้าวสกุ และควรให้กนิ นำ้ ทส่ี ะอาดอยู่ตลอดเวลา
นกขนุ ทองเปน็ นกทรี่ ักความสะอาดมาก มนั ชอบอาบน้ำเหมือนคนเรา ฉะนน้ั เจ้าของควรหาภาชนะท่มี ี
ขนาดโตกว่าตวั มันใสน่ ้ำให้มนั อาบในกรง ในการอาบน้ำควรใหอ้ าบในตอนเช้า ขนจะได้แห้ง ถา้ อาบตอนเยน็ ขนอาจ
แห้งไม่ทัน จะทำให้นกไม่สบายได้
นกขุนทองจะหัดพูดเมือ่ อายุได้ ๔-๕ เดือน เราควรสอนให้พดู คำง่าย ๆ ไปก่อน เชน่ ทอง ทองจ๋า แล้วจงึ
สอนคำอืน่ ๆ ตอ่ ไป นกขนุ ทองขยันพูด อาจพูดได้ท้งั วัน แต่จะพดู ไดเ้ ก่งหรอื ไม่อย่ทู ค่ี วามเอาใจใสข่ องคนเลี้ยง
ตอ้ งดูแลสขุ ภาพของมันใหด้ ีและขยนั สอนนกให้พูดด้วย

๑. เรื่องนี้ควรตั้งชอื่ วา่ อย่างไร

ก. นกขนุ ทองทร่ี ัก ข. การอาบน้ำให้นกขุนทอง

ค. การฝกึ พดู ให้นกขนุ ทอง ง. การเลย้ี งนกขุนทอง

๒. นกขุนทองเป็นสัตว์ทีน่ ิยมเลี้ยงกนั หลายประเทศยกเวน้ ประเทศใด

ก. ฝรั่งเศส ข. อนิ เดยี

ค. ไทย ง. พมา่

๓. เหตุผลในข้อใดทีบ่ อกวา่ นกขุนทองมีอายุยนื

ก. นกขนุ ทองชอบอาบน้ำเหมือนคน ข. นกขนุ ทองมีอายุถึง ๒๕ ปี

ค. นกขุนทองเป็นนกเลีย้ งงา่ ย ง. นกขุนทองกนิ อาหารงา่ ย

๔. ในช่วง ๒-๓ เดอื นแรกลูกนกขุนทองทำอะไรได้

ก. พดู ได้ ข. เรียกชอ่ื คนเลีย้ งได้

ค. กินอาหารโดยการป้อนได้ ง. กนิ พริกและอาหารอน่ื ๆ เองได้

๕. ช่วงใดทตี่ อ้ งป้อนอาหารให้นกขุนทอง

ก. แรกเกดิ จนถงึ อายุ ๒-๓ เดอื น ข. เมอ่ื นกกำลงั เลีย้ งลูก

ค. เม่ือนกมีอายุมากแล้ว ง. เมือ่ นกป่วย

๖. ใจความสำคัญของเรื่องน้คี ืออะไร

ก. การฝึกให้นกขุนทองขยันพูด ข. การเล้ยี งนกขุนทองใหม้ ีอายยุ นื

ค. การอาบน้ำใหน้ กขนุ ทองอย่างถูกวิธี ง. การเล้ยี งดแู ลและฝกึ นกขุนทอง

๑

๗. ทำไมต้องอาบน้ำให้นกขุนทองตอนเช้า ข. เพราะขนจะได้แหง้ ในช่วงกลางวนั
ก. เพราะตอนเชา้ อากาศดกี ว่าชว่ งอ่นื ง. เพราะนกขนุ ทองต่ืนเชา้
ค. เพราะเปน็ ธรรมชาติของนกขุนทอง
ข. ใบไมส้ ด
๘. นกขุนทองกินอะไรเป็นอาหาร ง. ข้าวเปลือก
ก. พรกิ
ค. รำข้าว ข. ใช้ท่าทางประกอบคำพูด
ง. ใหน้ กสงั เกตการเคลื่อนไหวของรมิ ฝีปากคน
๙. วธิ ฝี กึ ใหน้ กขุนทองพดู ควรทำอยา่ งไร
ก. ใหพ้ ดู ตามบ่อย ๆ ข. คนเล้ียงอาบให้ในกรง
ค. ใหน้ กดรู ปู ภาพประกอบคำพูด ง. ใช้นำ้ ฉดี เข้าในกรง

๑๐. วธิ อี าบนำ้ ใหน้ กขุนทองควรทำอยา่ งไร
ก. จบั ออกมาอาบขา้ งนอก
ค. ใหอ้ าบเองในกรง

อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนีแ้ ล้วตอบคำถามข้อ ๑๑-๒๐
เมอื่ เวลา ๑๑.๓๐ น. วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ ศาลอาญาไดอ้ ่านคำพิพากษาใหส้ ่งตวั นายโรเจอร์ เกรท
ชาวแคนาดา อายุ ๓๕ ปี ผู้ตอ้ งหาคดยี าเสพติดท่ีแหกคุกเลเฮม รัฐนวิ ออรล์ ีน ประเทศสหรฐั อเมริกา
เม่อื วันท่ี ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๕ กลบั ไปรบั โทษยังประเทศแคนาดา โดยผู้ต้องหารายน้ีไดใ้ ห้การรับสารภาพ
วา่ ได้หลบหนเี ข้าส่ปู ระเทศจีน และพม่า ก่อนท่ีจะเข้ามาถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่ีจงั หวดั เชยี งรายจบั กุม
เมอ่ื วนั ท่ี ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ ที่ผ่านมา

๑๑. นายโรเจอร์ เกรท เป็นคนประเทศใด

ก. องั กฤษ ข. ฝรัง่ เศส

ค. แคนาดา ง. สหรฐั อเมริกา

๑๒. นายโรเจอร์ เกรท เป็นผตู้ อ้ งหาคดีอะไร

ก. ค้ายาเสพติด ข. กอ่ วนิ าศกรรม

ค. ฆา่ คนตาย ง. ชงิ ทรพั ย์

๑๓. นายโรเจอร์ เกรท หลบหนอี อกจากคุกเม่ือใด

ก. ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ ข. ๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๕

ค. ๑๓ เมษายน ๒๕๔๔ ง. ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๕

๑๔. นายโรเจอร์ เกรท ถูกตำรวจไทยจบั กุมเมอ่ื ใด

ก. ๑๓ เมษายน ๒๕๔๔ ข. ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕

ค. ๒๑ มถิ นุ ายน ๒๕๔๕ ง. ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๔๖

๑๕. จากเวลาท่ีผตู้ ้องหาแหกคุกหนีจนถึงเวลาท่ีถกู จบั กุมในประเทศไทยเปน็ ระยะเวลานานเท่าใด

ก. ๕ เดือน ข. ๘ เดอื น

ค. ๙ เดือน ง. ๑ ปี

๒

๑๖. ผูต้ ้องหาถูกกักตวั ไวใ้ นประเทศไทยเปน็ เวลาเท่าใด

ก. ๖ เดือน ข. ๙ เดอื น

ค. ๑ ปี ง. ๒ ปี

๑๗. ผู้ตอ้ งหาตอ้ งกลบั ไปรับโทษทีป่ ระเทศใด

ก. สหรฐั อเมริกา ข. อังกฤษ

ค. แคนาดา ง. พมา่

๑๘. ผตู้ อ้ งหาหลบหนเี ขา้ ประเทศไทยทางภาคใด

ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนอื

ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

๑๙. ผตู้ อ้ งหารายน้ีมคี ดตี ิดตวั ได้แก่ คดีอะไร

ก. คา้ ยาเสพตดิ ข. ลักลอบเขา้ ประเทศ

ค. กอ่ อาชญากรรม ง. ถูกท้ังข้อกและข

๒๐. ผู้รา้ ยท่ีทำความผิดในประเทศหนึ่งแล้วหลบหนไี ปอยู่อีกประเทศหนึ่งเรยี กว่าอะไร

ก. ผู้รา้ ยข้ามแดน ข. ผรู้ า้ ยต่างชาติ

ค. ผ้รู ้ายนอกประเทศ ง. ผู้ร้ายต่างประเทศ

อ่านขอ้ ความต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๒๑-๒๕
นากสองตวั เป็นเพอื่ นกนั เม่ือหาปลาไดก้ ็มาแบ่งกันกิน นากตวั หน่งึ ชอบหาปลาในน้ำลึก อีกตัวหนึ่งชอบหา
กนิ ตามชายฝ่ัง วนั หนึง่ นากท้ังสองช่วยกันจับปลาตะเพียนไดต้ ัวหน่ึง แต่ไมส่ ามารถแบ่งปลากนั ได้เพราะต่างกเ็ ถยี ง
จะเอาทอ่ นขา้ งหวั ไม่ยอมเอาท่อนขา้ งหาง ขณะนนั้ มหี มาจ้ิงจอกเดนิ ผา่ นมาพอดี นากทั้งสองจึงขอใหห้ มาจ้ิงจอก
ชว่ ยตัดสิน หมาจง้ิ จอกตดั สินว่าใหท้ ่อนขา้ งหัวแก่นากน้ำลึก ท่อนขา้ งหางให้นากนำ้ ตื้น ส่วนทอ่ นกลางตัวเปน็ ของ
ผูต้ ัดสนิ เม่อื จบคำพดู หมาจง้ิ จอกก็คาบเอาปลาท่อนกลางเดินหลกี ไป นากสองตัวได้แตม่ องตามพลางนึกในใจว่า
ยอมเสยี เปรยี บให้แกก่ นั ยังดกี ว่าหาผ้อู ่นื มาตัดสนิ

(สุภาษิตของสมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส)

๒๑. นากสองตัวแบง่ อะไรกันไมล่ งตัว ข. ปลาทบั ทิม
ก. ปลาตะเพยี น ง. ปลานิล
ค. ปลาสลดิ
ข. ชะนี
๒๒. ใครเป็นผูช้ ่วยตดั สนิ ความเร่อื งนี้ ง. หมาจิง้ จอก
ก. แพะ
ค. ววั กระทิง ข. ส่วนครบี
ง. ส่วนหวั
๒๓. นากน้ำลกึ ไดป้ ลาสว่ นใด
ก. สว่ นกลางตัว
ค. สว่ นหาง

๓

๒๔. นิทานเรอื่ งนม้ี ีสัตวท์ ั้งหมดก่ชี นิด ข. ๒ ชนดิ
ก. ๑ ชนดิ ง. ๔ ชนิด
ค. ๓ ชนดิ
ข. เขา้ ตามตรอก ออกตามประตู
๒๕. นทิ านเร่อื งนตี้ รงกบั สำนวนไทยวา่ อย่างไร ง. ชา้ ๆ ได้พร้าเลม่ งาม
ก. เสียนอ้ ยเสียยาก เสยี มากเสียงา่ ย
ค. น้ำพงึ่ เรอื เสือพ่ึงป่า

อ่านข้อความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคำถามขอ้ ๒๖-๓๐
แมงปอ่ งเปน็ สัตว์อยู่ในท่ีมืดและชื้น พบได้ทกุ ประเทศทว่ั โลก ในประเทศหนาวแมงปอ่ งจะมีขนาดเล็ก
ประเทศร้อนแมงปอ่ งจะมีขนาดใหญ่ ลกู แมงป่องเมอื่ เกิดมาจะปนี ขนึ้ ไปเกาะบนหลงั แม่ทันที จนมนั โตช่วยตัวเองได้
แลว้ จงึ ลงมาจากหลงั แม่ ในระหวา่ งน้ีมันจะไม่กนิ อาหารเพราะมีอาหารอยู่ในตวั เองแล้ว เม่อื เจริญเตบิ โต
หางจะค่อย ๆ โตขึ้น ที่หางนี้จะมเี หลก็ พษิ สำหรับต่อยศัตรู แมงปอ่ งจะมีมือเปน็ ก้ามใหญ่คลา้ ยปู มันจะจบั เหยื่อดว้ ย
ก้ามใหญ่แล้วจะกระดกหางซง่ึ มีรปู ร่างคล้ายตะขอข้ามหัว ใชเ้ หลก็ พิษแทงเหยื่อทีจ่ บั ได้จนเหย่อื ตายแลว้ จงึ กดั กิน
เปน็ อาหาร แมงป่องเป็นสตั วม์ ีพษิ บางคนเมื่อถูกแมงปอ่ งตอ่ ยอาจแพ้พิษแมงป่องมากจนถึงแก่ความตายได้

๒๖. หางของแมงป่องมีรปู รา่ งคล้ายอะไร

ก. ตะปู ข. ตะขอ

ค. ตะไบ ง. ตะกรอ้

๒๗. เหลก็ พษิ ของแมงปอ่ งอยู่ที่บริเวณใด

ก. หาง ข. หัว

ค. ขา ง. ก้าม

๒๘. “ มือ” ของแมงป่องคืออวัยวะสว่ นใด

ก. หนวด ข. ขา

ค. หาง ง. ก้าม

๒๙. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง

ก. แมงปอ่ งจะมีกา้ มใหญ่คลา้ ยกุ้ง

ข. แมงปอ่ งจะใช้ปากกดั เหย่ือจนตาย

ค. ในประเทศร้อนแมงป่องจะมขี นาดใหญ่

ง. ในประเทศหนาวแมงป่องจะมีขนาดใหญ่

๓๐. ข้อใดกลา่ วผิด

ก. แมงป่องเป็นสตั ว์ทช่ี อบอยู่ในทีม่ ืดและชิ้น

ข. ลูกแมงป่องเม่ือเกิดมาจะปีนข้นึ ไปเกาะทหี่ างของแม่

ค. แมงป่องตอนเล็ก ๆ จะไม่กินอาหาร

ง. บางคนแพ้พิษแมงป่องทำใหถ้ ึงแก่ความตายได้

๔

แบบฝึกทักษะการอา่ นจับใจความสำคญั
ชุดท่ี ๒

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนีแ้ ล้วตอบคำถามข้อ ๑-๑๐
การถนอมอาหารไว้ไมใ่ ห้เสียหรอื บูดเนา่ เรว็ เปน็ ส่ิงท่มี นุษย์คิดค้นวิธีการขึ้นมาต้งั แตส่ มัยโบราณ ถ้าไมห่ าวิธี
รกั ษาอาหารไว้ จลุ ินทรีย์ชนดิ ตา่ ง ๆ จะทำใหอ้ าหารน้ันเปล่ียนสภาพจนกินไม่ได้อีกต่อไป การถนอมอาหารทำได้
หลายวธิ ี เชน่ การทำใหแ้ หง้ การรมควัน การทำให้เค็ม การดอง เปน็ ต้น
วิธีการถนอมอาหารที่กล่าวมาขา้ งตน้ ในปจั จุบนั ก็ยงั คงใช้กันอยู่ แตก่ ็มกี ารคน้ พบความรู้ใหม่ ๆ ที่ใช้ถนอม
อาหารมากขึ้น เช่น การอดั กระป๋อง การทำให้เยน็ จดั และทำให้แห้งในเวลาเดียวกนั นอกจากนี้ยงั มีเทคโนโลยี
นิวเคลียรท์ เี่ รียกวา่ การฉายรังสี คือ เม่ือฉายรงั สผี า่ นอาหารแล้วจุลนิ ทรยี ์ในอาหารก็ตายหมดทนั ที ไมม่ โี อกาส
เตบิ โตอกี เลย แต่การฉายรังสีน้ีในบางประเทศถอื ว่าเป็นการทดลองท่ียังไม่ได้รับการยอมรบั วา่ เปน็ วธิ กี ารปลอดภยั
สว่ นวธิ ีการที่นยิ มกนั มากทส่ี ดุ วิธีหนง่ึ คือการใสส่ ารกันบูดลงในอาหาร แต่การบรโิ ภคสารกันบูดจำนวนมากเปน็ เร่ือง
ไมด่ ตี ่อสุขภาพ
ในอุตสาหกรรมอาหารนัน้ การรักษาอาหารใหม้ ีอณุ หภมู ติ ำ่ อยู่เสมอ จะช่วยถนอมรักษาอาหารไวร้ ะหวา่ ง
เร่ิมผลติ จนกระท่ังอาหารถงึ มือผูบ้ ริโภค โดยอาหารจะถูกเก็บไวใ้ นทเ่ี ยน็ แล้วขนสง่ ดว้ ยรถท่มี ีตูเ้ ก็บความเยน็ แลว้
อาหารจะถกู นำไปวางจำหน่ายในซเู ปอรม์ ารเ์ ก็ต ซ่งึ กเ็ ป็นห้องตดิ เครือ่ งปรับอากาศเหมือนกนั

๑. ในสมยั โบราณเราถนอมอาหารได้ดว้ ยวธิ ีใด

ก. ทำใหแ้ ขง็ ข. ทำให้เค็ม

ค. ทำใหส้ ุก ง. ทำให้สะอาด

๒. ขอ้ ใดไม่ใช่วธิ ีการถนอมอาหารทีค่ ้นพบใหมใ่ นปัจจบุ นั

ก. การทำใหแ้ ห้งและเยน็ จัดในเวลาเดียวกนั

ข. การฉายรงั สฆี ่าจลุ ินทรีย์ในอาหาร

ค. การใส่สารกนั บดู ลงในอาหาร

ง. การดองด้วยเกลือหรือน้ำส้มสายชู

๓. ถา้ จะถนอมอาหารดว้ ยตนเองที่บา้ นนักเรยี นควรเลือกใช้วธิ ีใด

ก. ฉายรังสี ข. อัดกระป๋อง

ค. การดอง ง. ใสส่ ารกันบูด

๔. วิธีใดทีน่ ยิ มกนั มากในการถนอมอาหาร

ก. การใสเ่ กลอื ข. การใสน่ ำ้ ตาล

ค. การใส่ผงชรู ส ง. การใสส่ ารกันบูด

๕. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ ีการถนอมอาหาร

ก. การต้ม ข. การรมควนั

ค. การดอง ง. การอัดกระป๋อง

๕

๖. จลุ ินทรยี จ์ ะหยุดการเจรญิ เตบิ โตเมอื่ ใด

ก. ขาดน้ำ ข. ถกู ความเค็มจดั

ค. ถกู ความเยน็ จดั ง. ถูกทกุ ข้อ

๗. วธิ ีใดทชี่ ว่ ยถนอมอาหารให้สดจนถงึ มอื ผู้บริโภค

ก. การขนส่งที่รวดเร็ว

ข. การรกั ษาความสะอาดอยเู่ สมอ

ค. การรกั ษาอาหารให้มอี ุณหภูมิสูงอยเู่ สมอ

ง. การรกั ษาอาหารให้มีอุณหภูมติ ำ่ อยเู่ สมอ

๘. บางประเทศมีความคิดเห็นอย่างไรเร่ืองการฉายรงั สผี ่านอาหาร

ก. เปน็ การฆ่าเชอ้ื โรคท่ดี ที ส่ี ดุ ซึ่งทกุ ประเทศควรยอมรับ

ข. เปน็ วิธที ห่ี ลายประเทศกำลงั ศึกษาทดลองแตย่ งั ไม่ปรากฏผล

ค. เป็นการทดลองทผ่ี า่ นการยืนยนั ว่าเปน็ วธิ ที ่ีปลอดภัยที่สดุ

ง. เปน็ การทดลองทย่ี งั ไมไ่ ดร้ ับการยอมรับวา่ เป็นวธิ ที ่ีปลอดภยั

๙. การถนอมอาหารหมายความว่าอย่างไร

ก. การเกบ็ รักษาอาหารไมใ่ ห้บูดเสยี เรว็ เพอ่ื ใหเ้ ก็บไว้กินได้นาน ๆ

ข. การเกบ็ รักษาอาหารใหส้ ดใหมอ่ ย่เู สมอ

ค. การดแู ลอาหารไมใ่ ห้มีสง่ิ สกปรกเจือปน

ง. การท่มี นษุ ยเ์ ก็บอาหารไวใ้ นท่ีมิดชดิ

๑๐. ตัวการสำคัญที่ทำให้อาหารเปลีย่ นสภาพไปหรอื เกดิ การเนา่ เสียคอื อะไร

ก. ความร้อน ข. ความเย็น

ค. จลุ นิ ทรีย์ ง. พยาธิ

อ่านข้อความตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคำถามข้อ ๑๑-๑๕
เมือ่ ช็อกโกแลตเลอะเส้ือ เรามีวธิ แี ก้ไขทีส่ ามารถทำไดง้ า่ ยๆ คือ ปล่อยทง้ิ ไวจ้ นชอ็ กโกแลตแขง็ ตัว จากน้นั
ใช้ช้อนหรอื มีดปาดเนยค่อย ๆ แกะชอ็ กโกแลตท่แี ขง็ ตวั แลว้ ออกไป แล้วนำไปซักตามปกติหรอื ใช้เศษผ้าสีขาวรองไว้
ใต้คราบเปื้อน จากน้ันใช้นว้ิ ป้ายน้ำยาขจัดคราบมาถตู รงคราบ แลว้ ล้างออกด้วยนำ้ อนุ่ กจ็ ะออกง่ายข้นึ

๑๑. ผ้เู ขียนขอ้ ความนมี้ ีจุดประสงคใ์ ด ข. แนะนำ
ก. สั่งสอน ง. ตกั เตือน
ค. อธบิ าย
ข. วิธีทำให้ช็อกโกแลตแขง็ ตวั
๑๒. ข้อความนเี้ ป็นเร่อื งเก่ียวกบั อะไร ง. วธิ ซี ักผา้ ใหส้ ะอาด
ก. วิธีขจัดคราบชอ็ กโกแลตบนเสอื้
ค. วิธใี ช้นำ้ ยาขจดั คราบ

๖

๑๓. จากขอ้ ๑๒ วธิ กี ารดังกล่าวสามารถทำไดก้ ี่วธิ ี

ก. วิธีเดยี ว ข. ๒ วธิ ี

ค. ๓ วิธี ง. ๔ วิธี

๑๔. สิ่งใดไมเ่ ก่ยี วข้องกบั เน้ือหาของขอ้ ความนี้

ก. ช้อน ข. นำ้ ยาขจดั คราบ

ค. เศษผ้าสขี าว ง. นำ้ ยาปรบั ผา้ นุ่ม

๑๕. นักเรียนคิดว่าข้อความน้ีมปี ระโยชนต์ อ่ ใครมากทส่ี ดุ

ก. แม่บ้าน ข. พ่อครวั

ค. คุณครู ง. พยาบาล

อา่ นขอ้ ความต่อไปนี้แลว้ ตอบคำถามขอ้ ๑๖-๒๐
ถึงแม้ว่าฉนั จะรักปา่ ชอบเท่ยี วปา่ แต่พูดก็พดู เถอะถา้ จะให้ฉันอยูใ่ นปา่ นาน ๆ ฉันคงอย่ไู มไ่ ด้ นอกจากเขา้
มาเทย่ี วเป็นบางคร้ังบางคราวเท่าน้ัน เพราะในปา่ ไม่มีศูนย์การคา้ ไม่มีโรงภาพยนตร์ และไม่มีร้านอาหารดีๆ
ฉนั จงึ เหน็ ใจเจ้าหนา้ ท่ีของอทุ ยานทกุ คนทต่ี อ้ งทำงานหนักอยา่ งเงียบ ๆ ในป่า เพ่ือรกั ษาป่าไว้ใหฉ้ นั และคนอ่นื ๆ
ไดม้ าเกบ็ เกยี่ วหาความสุข ความสบายใจ จากธรรมชาติอนั แสนสวยงาม

๑๖. ผูเ้ ขยี นมคี วามรู้สึกอย่างไรตอ่ ปา่

ก. เบือ่ ข. กลัว

ค. เกลยี ด ง. ชอบ

๑๗. ผเู้ ขยี นมคี วามรู้สกึ เห็นใจใคร

ก. พรานปา่ ข. เจา้ ของร้านอาหาร

ค. เจ้าหน้าทรี่ กั ษาป่า ง. เจ้าหนา้ ทก่ี ารท่องเท่ยี ว

๑๘. ผู้เขยี นอยากอยู่ในปา่ นาน ๆ หรือไม่เพราะเหตใุ ด

ก. อยากเพราะป่ารม่ รนื่ ข. อยากเพราะเป็นคนชอบธรรมชาติ

ค. ไม่อยากเพราะป่าน่ากลัว ง. ไมอ่ ยากเพราะป่าไม่มีแหล่งบนั เทงิ ใจ

๑๙. ผูเ้ ขยี นไปทำอะไรในป่า

ก. ไปเก็บของปา่ เพ่ือนำไปขาย ข. ไปกินอาหารทป่ี รงุ จากของป่า

ค. ไปเท่ยี วชมธรรมชาติในปา่ ง. นำของไปบริจาคให้เจา้ หน้าทร่ี กั ษาป่า

๒๐. นักเรยี นคิดว่าผ้เู ขียนน่าจะอาศยั อยู่ทใี่ ด

ก. ในป่า ข. ในชนบท

ค. ในเมอื ง ง. ในต่างประเทศ

๗

อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคำถามข้อ ๒๑-๓๐
ทกุ ปีทางโรงเรียนจะให้นักเรียนเลอื กประธานนกั เรียนและรองประธานนักเรียนคนใหม่แทนคนเก่าทจี่ บ
การศึกษา โดยเลอื กจากนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ซ่ึงเป็นชั้นปสี ูงสดุ ของโรงเรียน เพราะมปี ระสบการณ์
ในการทำงานและให้บริการแก่เพ่ือน ๆ และรุน่ น้องได้ ชาตรสี นบั สนนุ ให้ “ธนา” ซ่งึ เป็นหัวหน้าช้ันและ “นิภา”
ลงสมัครแขง่ ขันกบั ห้องอื่น ๆ ด้วย เพ่ือน ๆ ทุกคนตา่ งช่วยกนั เขยี นแผน่ ป้ายโฆษณาหาเสียงใหพ้ วกของตน
ทางโรงเรียนเปิดโอกาสใหผ้ สู้ มคั รหาเสียงเป็นเวลาสองสปั ดาห์ เพื่อใหผ้ สู้ มัครแตล่ ะคนพูดหาเสยี งและแถลงนโยบาย
การทำงานอยา่ งเตม็ ท่ี
สถานทีเ่ ลือกตง้ั ประธานนกั เรียนไดจ้ ดั ข้นึ ในโรงอาหาร พอถงึ ตอนเชา้ วันเลอื กตั้ง เม่ือเคารพธงชาติและสวด
มนต์แล้ว ครใู หญ่ใหน้ ักเรียนที่สมคั รรบั เลือกตั้งออกมาแนะนำตนเองต่อนกั เรยี นทกุ คน ครูใหญไ่ ดช้ ี้แจงให้ทราบถึง
ประโยชนข์ องการมปี ระธานนักเรยี นและวธิ ีการลงคะแนน ตอ่ จากน้ันนักเรียนแต่ละชน้ั ก็ผลัดเปลี่ยนกันมา
ลงคะแนนจนครบ ไม่มีใครนอนหลับทบั สทิ ธิ์ เมื่อการลงคะแนนเสรจ็ เรยี บร้อยแล้ว กรรมการต่างชว่ ยกันนบั คะแนน
ผลปรากฏว่าธนามีคะแนนมากที่สุด จงึ ได้รับตำแหน่งประธานนักเรียน สว่ นคะแนนรองลงมาคือนิภา จงึ ไดร้ บั
ตำแหน่งรองประธานนักเรยี น เพ่ือน ๆ พากันยนิ ดีและมีความเหน็ เป็นเอกฉันทว์ ่าธนาและนิภาเหมาะสมกบั
ตำแหน่งนี้
ธนาและนภิ าออกมากล่าวขอบใจเพื่อนทุกคนทม่ี อบความไวว้ างใจให้เปน็ ตัวแทน ท้งั สองใหส้ ญั ญาต่อท่ี
ประชุมว่าจะทำงานอย่างเต็มความสามารถให้สมกับทีเ่ พื่อน ๆ ไว้วางใจ

๒๑. การเลือกประธานและรองประธานนักเรียนต้องเลือกจากนักเรียนชั้นใด

ก. ป. ๓ ข. ป. ๖

ค. ป. ๒ ง. ป. ๕

๒๒. ผ้สู มคั รมรี ะยะเวลาหาเสียงนานเทา่ ใด

ก. สองสัปดาห์ ข. สามสปั ดาห์

ค. ๑ เดอื น ง. ๒ เดอื น

๒๓. สถานทีใ่ ดจัดให้เปน็ สถานท่ีเลือกตั้งประธานนักเรียน

ก. สนามกฬี า ข. ห้องครใู หญ่

ค. ใตถ้ นุ อาคาร ง. โรงอาหาร

๒๔. ข้อใดตอ้ งทำเปน็ ลำดับแรกในการเลือกตง้ั ประธานนักเรยี น

ก. กาบตั ร ข. เข้าไปในคหู า

ค. รบั บัตรลงคะแนน ง. หยอ่ นบตั รลงกล่อง

๒๕. “นอนหลบั ทับสทิ ธ”ิ์ หมายความว่าอยา่ งไร

ก. ไม่ทำอะไรเลย ข. ไม่รู้จักใชเ้ วลาให้เป็นประโยชน์

ค. นอนหลับขวางทางผู้อืน่ ง. ไม่ใชส้ ิทธ์ขิ องตนที่มีอยู่

๘

๒๖. ทุกคนมคี วามเหน็ เปน็ “เอกฉนั ท”์ หมายความวา่ ทกุ คนมีความเหน็ เป็นอย่างไร

ก. ตรงกัน ข. เฉย ๆ

ค. แตกต่างกัน ง. ขดั แย้งกัน

๒๗. ใครได้รับเลือกตง้ั เปน็ ประธานนกั เรียน

ก. ชาตรี ข. ธนา

ค. อนันต์ ง. อาคม

๒๘. ใครไดร้ บั เลือกต้ังเป็นรองประธานนกั เรยี น

ก. เรณู ข. แกว้ ตา

ค. นิภา ง. สุนยี ์

๒๙. ข้อใดแสดงวา่ นกั เรียนทุกคนรจู้ กั หน้าท่ีของตนเองดี

ก. ไปลงคะแนนเลือกตง้ั ข. ชว่ ยเพ่อื นหาเสียง

ค. เข้าหอ้ งประชมุ พร้อมกัน ง. สนับสนุนผสู้ มัครเลือกตง้ั

๓๐. ขอ้ ใดคือหนา้ ทีข่ องประธานนกั เรียน

ก. ควบคุมไม่ใหน้ ักเรยี นมาสาย ข. จำหนา่ ยเครื่องเขยี นราคาถกู

ค. จัดหาน้ำสะอาดมาใหน้ ักเรียนด่ืม ง. ชว่ ยดา้ นกิจกรรมของนกั เรียน

๙

แบบฝึกทกั ษะการอ่านจับใจความสำคญั
ชดุ ที่ ๓

อ่านคำกลอนตอ่ ไปน้แี ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๑-๑๐

ยายแก่กบั หมอ

ยายแกห่ นึ่ง ตามัว มองไมเ่ หน็ วานเด็กเขน็ หาหมอตา รกั ษาให้

บอกกับหมอ หากรักษา โรคหายไป ก็จะให้ เงินทอง ตามต้องการ

หมอตรวจดู นัยน์ตา รักษาให้ ร่งุ วันใหม่ เอายา มาที่บา้ น

เหน็ ยายแก่ ทรัพย์มาก เหลอื ประมาณ กค็ ดิ พาล ใครไ่ ด้ ในทันใด

คดิ ว่าถา้ ตามืด อยู่เชน่ น้ี ทรพั ย์ที่มี เอาหมดคง ไม่สงสัย

ถา้ ชะลอ โรคไว้ ใหน้ านไป คงหยิบฉวย ตามใจ ไดม้ ากมี

แตน่ นั้ มา ก็เอายา ไม่ถูกโรค มาหยอดโยก โย้เพ่ือ ขนของหนี

วันละสง่ิ จนหมด จงึ ปรานี หยบิ ยาดี มาหยอด ตาให้ยาย

ไมช่ ักชา้ เมื่อไดย้ า ดีมาหยอด ตาเกอื บบอด มืดมัว กก็ ลับหาย

หมอทวงค่า รักษา ตามท่ยี าย เคยบอกไว้ จะมอบ ใหแ้ กต่ น

ยายแกร่ ู้ หมอเฒา่ นีเ้ จ้าเล่ห์ ถา่ ยเท ทรัพย์ส้ิน ยงั หวงั ผล

ไม่ยอมจา่ ย โต้เถียง กนั สองคน จวบจน ฟอ้ งศาล ตดั สินความ

ยายแก่ ให้การ ต่อศาลว่า เม่อื คร้ังตา ดีทรัพย์ มีล้นหลาม

อฉี นั แล เหน็ มนั ครบครนั ตาม เหมือนเม่ือยาม ทสี่ ร้าง สมทรัพย์มา

ครัน้ ตามืด มองไม่ เหน็ อะไร จงึ ไป หาหมอ น้รี ักษา

บัดนี้ยัง ไม่หาย สักทนี่ า เพราะนยั นต์ า ไม่เห็น ทรัพย์ที่มี

ตง้ั แต่ก่อน จะทวง ค่ารกั ษา ตามสญั ญา จะได้ กระไรน่ี

นิทานวา่ เหน็ แก่ได้ เล็กนอ้ ยดี ตดั ประโยชน์ ยงิ่ ใหญท่ ี่ อยูเ่ บื้องปลาย

(นิทานอสี ปคำกลอน ของ ฉลอง ศุภการ)

๑. ยายแกเ่ ปน็ อะไรจึงต้องให้หมอรักษา

ก. ตามวั ข. ตาเจบ็

ค. ตาอักเสบ ง. ตาแดง

๒. ในการรกั ษาครั้งนมี้ ขี ้อตกลงกันอย่างไร

ก. หมอขอดอู าการทเี่ ปน็ ก่อนจงึ จะรักษาให้

ข. หมอขอเกบ็ เงนิ คา่ รักษากอ่ นจงึ จะรกั ษาให้

ค. ยายแก่จะให้เงนิ ทองทัง้ หมดท่ีมอี ยู่ถา้ รกั ษาหาย

ง. ยายแกจ่ ะให้ค่ารักษาตามท่ีหมอต้องการถา้ รักษาหาย

๑๐

๓. หมอทราบได้อย่างไรวา่ ยายแกม่ ที รัพยม์ าก

ก. ชาวบ้านบอก ข. ยายแกบ่ อก

ค. เหน็ ด้วยตาตนเอง ง. ลกู ของยายแก่บอก

๔. หมอทำอยา่ งไรเมื่อรู้ว่ายายแก่มีทรัพย์มาก

ก. ให้ยาไมต่ รงกับโรคแล้วขโมยของทล่ี ะอย่าง

ข. แอบมาขโมยของโดยไมร่ ักษาให้

ค. รบี รักษาเพื่อใหห้ ายเรว็ ๆ

ง. ใชย้ าพิษเพื่อให้ตาย

๕. ใครทำให้ยายแก่หายจากอาการทีเ่ ปน็ อยู่

ก. หายเอง ข. หมอคนเดิม

ค. หมอคนใหม่ ง. ทัง้ หมอคนเดิมและคนใหม่ช่วยกนั

๖. เม่อื ยายแกห่ ายป่วยแลว้ เกิดอะไรข้นึ

ก. สภาพตา่ งๆในบ้านยังเหมือนเดิม

ข. ทรัพยส์ มบตั ิถูกขโมยไปหมด

ค. หมอทร่ี กั ษาหายหนา้ ไป

ง. หมอไม่เอาค่ารักษา

๗. หมอทรี่ กั ษายายแกเ่ ป็นคนอยา่ งไร

ก. โลภมาก ข. ไมซ่ อ่ื สตั ย์

ค. ฉลาดแกมโกง ง. ถูกทกุ ข้อ

๘. ยายแก่เปน็ คนอย่างไร

ก. เห็นแกไ่ ด้ ข. เชอ่ื คนงา่ ย

ค. ฉลาดทันคน ง. ถูกทุกขอ้

๙. เหตุใดยายแกจ่ ึงไมย่ อมให้ค่ารักษาพยาบาลแก่หมอ

ก. เพราะหมอนำทรัพยส์ ินของยายแก่ไปจนหมดแลว้

ข. เพราะหมอเรียกค่ารกั ษาแพงเกนิ ไป

ค. เพราะตาของยายแก่ยงั ไม่หายดี

ง. เพราะยายแก่เป็นคนเจ้าเล่ห์

๑๐. ข้อคิดของเรอ่ื งนตี้ รงกับข้อใดมากท่สี ดุ

ก. หมองตู ายเพราะงู

ข. ตาบอดสอดตาเหน็

ค. ปลาหมอตายเพราะปาก

ง. โลภมากลาภหาย

๑๑

อ่านขอ้ ความตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคำถามข้อ ๑๑-๑๕
ทิฟคอลเจน

สรรพคณุ บรรเทาหวัดทม่ี ีอาการคดั จมูก น้ำมกู ไหล ปวดศรี ษะและเป็นไข้
วธิ ีใช้ ผูใ้ หญร่ ับประทานครง้ั ละ ๒ เมด็ ทุก ๖-๘ ช่วั โมง
คำเตือน ๑. ห้ามใช้ในเดก็ อายุต่ำกวา่ ๑๒ ปี

๒. ห้ามใชย้ าติดต่อกนั นานเกิน ๕ วัน เนอ่ื งจากอาจมีพิษต่อตับได้
๓. ยาน้อี าจทำใหง้ ว่ งซมึ จึงไม่ควรขับขยี่ านยนต์หรือทำงานเก่ียวกับเคร่ืองจกั รกล
๔. ผู้ปว่ ยดว้ ยโรคความดันโลหิตสงู โรคหัวใจโรคเบาหวานให้ปรกึ ษาแพทย์ก่อนใช้

๑๑. ยาชนิดนใี้ ชบ้ รรเทาอาการหลายอยา่ งยกเวน้ อาการอะไร
ก. ปวดศรี ษะ
ข. อาเจยี น
ค. นำ้ มกู ไหล
ง. เปน็ ไข้

๑๒. ยาชนดิ นี้ควรใชก้ บั ใคร
ก. พรอายุ ๗ ปี
ข. พมิ อายุ ๑๐ ปี
ค. แพรวอายุ ๑๕ ปี
ง. พลอยเพ่งิ เกิดได้ ๓ วนั

๑๓. เมอ่ื รบั ประทานยาชนิดน้ีอาจทำให้เกิดอาการอยา่ งไร
ก. ง่วงซึม
ข. หน้ามดื
ค. เวยี นศรี ษะ
ง. คลน่ื ไส้

๑๔. ถ้าใชย้ านตี้ ดิ ตอ่ กนั เกนิ ๕ วันอาจทำใหเ้ ป็นอันตรายต่ออวยั วะใดได้
ก. ปอด
ข. ม้าม
ค. ไต
ง. ตบั

๑๕. ผูป้ ว่ ยโรคใดทีค่ วรปรกึ ษาแพทย์กอ่ นใช้ยานี้
ก. โรคหัวใจ
ข. โรคความดนั โลหติ ตำ่
ค. โรคไต
ง. ขอ้ ก และ ข

๑๒

อ่านขอ้ ความต่อไปนีแ้ ล้วตอบคำถามข้อ ๑๖-๒๒
ปลาเสือตอเปน็ ปลาพน้ื เมืองไทยอกี ชนดิ หนง่ึ ท่ีถูกนำมาเล้ยี ง เป็นปลาสวยงามและได้รับความนยิ มมาก
โดยเฉพาะต่างประเทศ และจากปริมาณทีห่ าได้ตามธรรมชาติมีจำนวนไม่มาก จึงทำให้ปลาเสอื ตอเปน็ ปลาสวยงามที่
มีราคาแพง
ปลาเสือตอเปน็ ปลาน้ำจืดท่มี ีทรวดทรงของลำตัวป้อมสนั้ ลำตัวแบนขา้ ง แนวสันหลงั โคง้ นูน ทอ้ งแบนเรยี บ
ลำตัวมีสีเหลอื งนวลแกมชมพู และมแี ถบสีดำพาดเฉียงกับลำตัวอยา่ งนอ้ ย ๖ แถบ เคยพบว่าปลาเสือตอมีขนาดใหญ่
ทีส่ ดุ วดั ไดถ้ งึ ๔๐ เซนติเมตร
ในอดตี พบวา่ ปลาเสือตอมีชุกชมุ มากในบริเวณแมน่ ้ำเจา้ พระยา นับต้ังแต่อยธุ ยาถึงปากน้ำโพ นครสวรรค์
และเลยไปถงึ บงึ บอระเพด็ แต่ปจั จบุ นั นเ้ี ปน็ ท่นี ่าเสยี ดายว่าเราจะพบปลาเสือตอไดน้ ้อยมาก เพราะแหลง่ ท่ีอยู่อาศยั
ของมันถกู ทำลาย แต่กย็ งั สามารถพบเห็นไดใ้ นล่มุ แม่นำ้ โขงเขตจังหวัดหนองคาย นครพนม และอุบลราชธานี
ซึง่ ชาวอีสานเรยี กปลาชนิดน้ีวา่ “ปลาลาด” ดังน้ันปลาเสือตอจึงเปน็ ปลาอกี ชนิดหน่งึ ทส่ี มควรชว่ ยกนั อนรุ ักษไ์ ว้
เพอื่ ให้อยู่คู่กบั คนไทยต่อไป

๑๖. ขอ้ ความนนี้ ่าจะนำมาจากหนงั สอื เร่ืองใด

ก. ปลาพื้นเมืองของไทย ข. ปลาน้ำเค็มของไทย

ค. สัตว์สงวนของไทย ง. สตั ว์โลกน่ารัก

๑๗. เหตุใดปลาเสอื ตอจงึ มรี าคาแพง

ก. เพราะปลาเสือตอสวยงามมาก ข. เพราะตา่ งประเทศต้องการ

ค. เพราะเพาะพันธ์ยุ าก ง. เพราะหายาก

๑๘. ในอดีตพบว่าปลาเสือตอชกุ ชมุ มากในแมน่ ำ้ ใด

ก. แมน่ ำ้ โขง ข. แม่นำ้ ท่าจนี

ค. แมน่ ำ้ เจา้ พระยา ง. แมน่ ้ำปา่ สัก

๑๙. ชาวอสี านเรยี กปลาเสือตอวา่ อยา่ งไร

ก. ปลาคงั ข. ปลาลาด

ค. ปลาบกึ ง. ปลาสร้อย

๒๐. ในปัจจบุ ันยังสามารถพบเหน็ ปลาเสอื ตอได้ในบริเวณจังหวดั ใด

ก. สิงห์บุรี ข. เชียงใหม่

ค. หนองคาย ง. นครศรธี รรมราช

๒๑. ทำไมในปจั จบุ ันเราจงึ พบปลาเสือตอน้อยลงมาก

ก. เพราะแหล่งทอ่ี ยู่อาศัยของมันถกู ทำลาย

ข. เพราะเป็นอาหารของปลาตัวท่ีใหญ่กว่า

ค. เพราะถูกคนจับไปขายตา่ งประเทศ

ง. เพราะถูกคนจับไปเปน็ อาหาร

๑๓

๒๒. เหตุใดเราจึงควรอนรุ ักษ์ปลาชนิดนไี้ ว้
ก. เพราะมชี ุกชมุ ในแม่นำ้ เจ้าพระยา ข. เพราะเป็นปลาสวยงามที่หายาก
ค. เพราะเปน็ ทีต่ ้องการของต่างประเทศ ง. เพราะมีราคาแพง

อา่ นคำกลอนตอ่ ไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๒๓-๒๕
เม่ือปัญญาปรากฏแกด่ วงจิต
เหมอื นอาทิตย์อุทัยทองส่องท่ัวหลา้
ที่มืดมนกส็ วา่ งกระจ่างตา
แก้ปญั หาคับขันได้ทันที

๒๓. คำกลอนนี้จัดเป็นคำประพันธช์ นิดใด ข. กลอนแปด
ก. กลอนหก ง. โคลงสส่ี ุภาพ
ค. กาพย์ยานี ๑๑
ข. ดวงตา
๒๔. “ปัญญา” เปรยี บได้กับอะไร ง. ดวงอาทิตย์
ก. จติ ใจ
ค. ความสว่าง ข. ความชว่ั
ง. ความรู้
๒๕. คำกลอนข้างต้นเปน็ เรือ่ งเกย่ี วกบั อะไร
ก. ความรัก
ค. ความดี

อา่ นข้อความตอ่ ไปนแี้ ล้วตอบคำถามขอ้ ๒๖-๓๐
วิทยุของในหลวง

พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงสนพระทยั ดา้ นวิทยสุ อื่ สารและการกระจายเสยี งมาต้งั แตท่ รงพระเยาว์
ทรงต้งั สถานวี ทิ ยุ อ.ส. (อกั ษรย่อของพระที่นั่งอมั พรสถาน ซ่งึ เปน็ สถานท่ีทใ่ี ชอ้ อกอากาศครง้ั แรก) ในปี พ.ศ.
๒๔๙๕ เพอ่ื เป็นสือ่ ในการประชาสมั พันธข์ า่ วสารกบั ประชาชนในโอกาสสำคัญ หรอื เกิดเหตุการณ์ทสี่ ำคัญตา่ งๆข้ึน
เชน่ การเกิดโรคโปลโิ อระบาด ในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ อหวิ าตกโรค ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑

เมอ่ื เกดิ วาตภยั ท่ีแหลมตะลมุ พกุ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ทรงใช้สถานีวทิ ยุ อ.ส. เปน็ สื่อกลางในการชว่ ยเหลือ
ผ้ปู ระสบเคราะห์กรรมจนเปน็ บอ่ เกดิ ของมลู นิธริ าชประชานุเคราะห์

(จากเพื่อเพื่อนรักฉบบั ที่ ๙๘)

๒๖. “สถานวี ทิ ยุ อ.ส.” เปน็ ชอ่ื ยอ่ มาจากอะไร
ก. องค์กรวิทยุสื่อสารแห่งประเทศไทย
ข. องคก์ รวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
ค. พระทีน่ ่ังอนันตสมาคม
ง. พระที่นัง่ อัมพรสถาน

๑๔

๒๗. สถานที่ทใี่ ชอ้ อกอากาศครั้งแรกของสถานวี ทิ ยุ อ.ส. คอื ทใ่ี ด

ก. พระที่น่ังอัมพรสถาน ข. พระท่ีน่ังอนนั ตสมาคม

ค. พระท่นี ง่ั วมิ านเมฆ ง. พระที่นั่งดสุ ิตมหาปราสาท

๒๘. สถานีวิทยุ อ.ส. มคี วามเก่ยี วข้องกับเหตุการณท์ ส่ี ำคญั ต่อไปน้ยี กเว้นข้อใด

ก. โรคโปลโิ อระบาด ข. อหิวาตกโรคระบาด

ค. สนามิถล่ม ๖ จงั หวดั ของไทย ง. วาตภัยท่แี หลมตะลมุ พุก

๒๙. สถานวี ทิ ยุ อ.ส. เปน็ จดุ กำเนิดของมูลนธิ ิใดในเวลาตอ่ มา

ก. มูลนิธริ ามาธิบดี ข. มลู นิธริ าชประชานุเคราะห์

ค. มลู นธิ สิ ายใจไทย ง. มูลนธิ ิราชสดุ า

๓๐. สถานีวิทยุ อ.ส. ไดก้ ระจายเสยี งเพอื่ ประชาสมั พนั ธ์ขา่ วสารมาแล้วกปี่ ี (ถงึ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ก. ๖๕ ปี ข. ๖๖ ปี

ค. ๖๗ ปี ง. ๖๘ ปี

๑๕

แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจบั ใจความสำคัญ
ชุดที่ ๔

อ่านข้อความต่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถามขอ้ ๑-๑๐
ไอต้ นุ่

ไอ้ตนุ่ เป็นบทประพนั ธ์รอ้ ยแก้วประเภทเรอ่ื งสั้น ผู้แตง่ คอื รัชนี ศรไี พรวรรณ ได้เขยี นเรือ่ งนล้ี งในหนังสอื วัน
เด็กเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ และในหนงั สอื สง่ เสริมการอ่านเรื่อง “รวมเรอ่ื งชน่ื ใจ” ของกรมวิชาการ
กระทรวงศกึ ษาธิการไอต้ ่นุ เป็นเรือ่ งราวเกยี่ วกบั ความรกั ความผูกพนั ระหวา่ งเด็กชายคนู หนึ่งกับสนุ ขั ของเขา สุนขั
จัดเปน็ สตั วเ์ ล้ยี งทซี่ ือ่ สตั ย์ รกั เจา้ ของ และเป็นเพื่อนท่ีดที ี่สดุ เราอาจจะรสู้ ึกโกรธแคน้ หรอื เศรา้ เสียใจเมื่อมีอนั ตอ้ ง
สญู เสยี มนั ไป

“ไอ้ตนุ่ ” เป็นสุนัขพนั ธ์ุไทยสีนวลของทัด มันถูกรถชนตายและรถคนั ทช่ี นได้ขบั หนไี ป ทัดเสียใจมากและได้
นำไอต้ นุ่ ไปฝังไว้ในไร่แลว้ นง่ั คอยรถคันท่ชี นไอ้ตุ่นว่าจะกลับมาอีกหรอื ไม่ ทดั นัง่ คอยจนค่ำกไ็ ม่มวี แี่ ววของรถคนั นน้ั
แม่ของทดั เมื่อเหน็ ว่าค่ำแลว้ ลกู ยังไม่กลับบา้ นก็ได้ออกตามหา เมือ่ รู้เรือ่ งท้งั หมดกป็ ลอบใจทัดและบอกวา่ จะหาสนุ ัข
ตวั ใหม่มาให้ ทดั บอกกับแมว่ ่าอยากจบั คนท่ีขับรถชนไอ้ตุน่ มาถามว่า ถา้ เขาเปน็ เจา้ ของสุนัข และสนุ ัขของเขา
ถูกรถชน เขาจะเสยี ใจไหม ก่อนนอนทัดภาวนาขอให้ได้พบเจา้ ของรถคันนน้ั

วันรงุ่ ขึน้ ทดั ได้ไปเฝ้าคอยรถคันนั้นอกี รถผ่านหน้าเขาไปหลายคัน จนกระทัง่ คนั ท่เี ฝา้ คอยกแ็ ล่นเข้ามา
ชา้ ๆ และจอดอยู่ตรงหน้า เจ้าของรถได้เปิดประตลู งมาขอโทษทดั ด้วยความเป็นมติ รและเลา่ ถงึ ความจำเป็นว่าต้อง
พายา่ ทป่ี ่วยหนกั ไปสง่ โรงพยาบาลทกี่ รงุ เทพฯ ทำให้ไม่ไดม้ าขอโทษต้ังแต่เม่ือวาน ทัดไดฟ้ ังเหตุผลกห็ ายโกรธ
จากนน้ั เจา้ ของรถกแ็ นะนำตัวว่าชื่อมรุต อยากเป็นเพ่ือนกบั ทดั และบอกวา่ จะหาลูกสุนัขตัวใหมม่ าให้ ทดั หายโกรธ
และยินดเี ปน็ เพือ่ นกบั มรุต ทัดบอกวา่ จะเรยี กลกู สุนัขตัวใหมว่ า่ ไอต้ นุ่ อกี

๑. ไอต้ นุ่ เปน็ บทประพันธ์ประเภทใด

ก. นิทาน ข. เรือ่ งสนั้

ค. บทละคร ง. นวนิยาย

๒. ใครเป็นผแู้ ต่งเรอื่ งไอ้ตุ่น

ก. รชั นี ศรีไพรวรรณ ข. ฐะปะนีย์ นาครทรรพ

ค. รสคนธ์ อศิ รเสนา ง. ฉลอง ศุภการ

๓. เรอ่ื งไอ้ตุ่น ผู้เขยี นเคยเขยี นลงในหนงั สือเล่มใด

ก. การ์ตนู หนจู ำ ข. เจาะโลกมหัศจรรย์

ค. หนังสอื วันเด็กปี ๒๕๑๓ ง. หนงั สอื นิทานสำหรับเด็ก

๔. เรือ่ งไอต้ ุ่นเคยลงในหนงั สือส่งเสรมิ การอา่ นเรื่องใด

ก. รวมเร่ืองคนรกั สุนัข ข. รวมเรือ่ งชีวติ สัตว์

ค. รวมเร่อื งบนั เทงิ ง. รวมเรื่องชนื่ ใจ

๑๖

๕. ไอต้ ่นุ เปน็ สนุ ขั พนั ธุ์ใด

ก. พนั ธุฝ์ รง่ั สดี ำ ข. พนั ธุ์ฝรง่ั สขี าว

ค. พันธ์ไุ ทยสีนวล ง. พนั ธุไ์ ทย สีน้ำตาล

๖. ทัดนำ ไอ้ตุน่ ไปฝังไว้ที่ใด

ก. ในนา ข. ในไร่

ค. รมิ รว้ั ข. ใตถ้ นุ บ้าน

๗. ทำไมคนขับรถชนได้ตุ่นแลว้ จึงรีบขับรถหนีไป

ก. เพราะกลัวความผิด ข. เพราะรบี ไปเทยี่ ว

ค. เพราะไมส่ นใจวา่ จะชนอะไร ง. เพราะรบี พาย่าไปสง่ โรงพยาบาล

๘. ทดั เป็นเดก็ อย่างไร

ก. มเี หตุผล ข. ซกุ ซน

ค. เห็นแกต่ วั ง. เอาแต่ใจตนเอง

๙. กรณีของทัดกบั มรตุ สน้ิ สุดลงอย่างไร

ก. มรตุ ขอโทษ ข. มรตุ ใหเ้ งนิ ชดใช้

ค. มรตุ กบั ทัดตกลงเปน็ เพื่อนกัน ง. มรตุ นำลกู สุนขั ตวั ใหมม่ าให้

๑๐. เรอ่ื งไอต้ ุน่ จบลงตรงกับข้อใด

ก. ความพยายามอยู่ท่ีไหนความสำเร็จอยู่ทีน่ น่ั

ข. ความสภุ าพอ่อนโยนชนะความแคน้

ค. ความดชี นะความช่ัว

ง. ธรรมะชนะอธรรม

อา่ นคำกลอนต่อไปนแี้ ล้วตอบคำถามขอ้ ๑๑-๑๕

เรามีทางชวี ิต เราต้องคิดใหง้ ดงาม

อนาคตป้นั ไดต้ าม ทว่ี ิเคราะหเ์ ห็นเหมาะสม

อยากดตี ้องทำดี ชีวติ น้ีจะร่ืนรมย์

ทำช่วั ใครชนื่ ชม เรง่ สรา้ งทางชวี ิตเอย

๑๑. คำกลอนน้ีจดั เปน็ คำประพนั ธ์ประเภทใด ข. โคลงส่สี ภุ าพ
ก. กาพยย์ านี ง. กลอนแปด
ค. กลอนดอกสรอ้ ย
ข. ชแี้ จง
๑๒. คำกลอนนี้จัดอยู่ในลักษณะใด ง. ตกั เตือน
ก. วา่ กลา่ ว
ค. ส่งั สอน

๑๗

๑๓. คำกลอนขา้ งต้นต้องการเนน้ ในเร่อื งใดมากที่สุด

ก. ทำดีได้ดี ทำช่วั ได้ช่วั ข. การช่วยกนั ทำมาหากิน

ค. การวเิ คราะห์การกระทำของตนเอง ง. การวางแนวทางชีวติ ของแตล่ ะคน

๑๔. คำว่า“ ปั้น” ในที่นีม้ ีความหมายตรงกับข้อใด

ก. กำหนด ข. ทำนาย

ค. แสดง ง. พจิ ารณา

๑๕. ข้อใดสอดคล้องกับคำกลอนขา้ งตน้ มากทีส่ ดุ

ก. ชวี ิตแลว้ แตฟ่ ้าลิขติ ข. ฉันเลอื กเดนิ ตามทางฉนั เอง

ค. พระพรหมคือผู้ลขิ ิตชวี ิต ง. ทำดีแต่อยา่ เด่นจะเป็นภัยง

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนี้แลว้ ตอบคำถามข้อ ๑๖-๒๐
วันนฉ้ี ันตื่นนอนเวลา ๖.๐๐ น. หลงั จากทำกิจวัตรในบ้านเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ กเ็ ดินไปโรงเรียน ถึงโรงเรียน
เวลา ๗.๔๕ น. เรยี นหนังสือเหมอื นทุกวนั คณุ ครสู งั่ การบา้ นเลข ๓ ขอ้ หนา้ ๑๖ ภาษาไทย ๑๐ ข้อ หน้า ๑๓๒ นัด
ใหส้ ่งพรุ่งนี้ ฉันกลบั ถงึ บ้านเวลา ๑๕.๓๐ น. ระหว่างทางกลับบ้านฉันช่วยพาคนตาบอดข้ามถนน ฉนั รสู้ ึกภมู ิใจมาก
ทุกวันในตอนเยน็ ฉันจะช่วยแมก่ วาดบา้ น ถูบา้ นแล้วจงึ ทำการบา้ น ฉนั เข้านอนเวลา ๒๑.๐๐ น.

๑๖. ขอ้ ความนีเ้ ปน็ การเขยี นในลกั ษณะใด ข. บันทึกส่วนตัว
ก. รายงาน ง. บันทึกความรู้
ค. คำชแ้ี จง
ข. ๑ วชิ า
๑๗. วันน้ีมกี ารบา้ นกวี่ ิชา ง. ๓ วชิ า
ก. ไมม่ เี ลย
ค. ๒ วิชา ข. พาเด็กท่หี ลงทางกลับบ้าน
ง. พาคนตาบอดข้ามถนน
๑๘. ฉันรู้สึกภมู ใิ จในเรื่องอะไร
ก. พาคนเจบ็ ส่งโรงพยาบาล ข. รดน้ำตน้ ไม้
ค. พาคนร้ายส่งตำรวจ ง. ล้างจาน

๑๙. งานบ้านชนิดใดท่ฉี ันทำเป็นประจำ ข. คุณครูมารับ
ก. กวาดบา้ นและถูบ้าน ง. เดนิ ไปเอง
ค. ซกั ผ้ารีดผ้า

๒๐. ฉันไปโรงเรยี นอย่างไร
ก. ไปรถโรงเรยี น
ค. แม่ไปสง่

๑๘

อา่ นข้อความต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามข้อ ๒๑-๓๐

กหุ ลาบทัวร์นำท่านเทย่ี วทวั่ ไทย ๓ โปรแกรมพิเศษ
ให้ประทับอยู่ในความทรงจำตลอดไป

ทะเลสวยท่กี ระบี่
ท่องทะเลกระบ่ีไปกับสายการบินพริ าบแอร์ ซงึ่ จะพาท่านไปสมั ผสั มนตเ์ สน่หแ์ ห่งทะเลใต้ท่เี กาะทับ เกาะ
ปอดะ สสุ านหอยและหาดนพรัตน์ธารา พรอ้ มเลือกพกั ผ่อนอยา่ งสบาย ๓ วนั ๒ คืน ณ โรงแรมช้ันนำในราคา
เริม่ ตน้ เพยี งทา่ นละ ๕,๙๙๙ บาท (เดก็ ๕,๓๓๓ บาท) ภายใน ๑ มถิ นุ ายน - ๓๑ ตลุ าคม ๒๕๖๓ เทา่ นั้น

มนต์เสนห่ แ์ ห่งดินแดนลา้ นนา
นมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ชมการแสดงโชว์ชา้ งแฟนตาซี พบนครใต้พภิ พ เวียงกุมกาม สมั ผสั วถิ ีชีวติ
ชาวเขาเผา่ อาข่าและลซี อ ทัวรว์ ัฒนธรรมและหตั ถกรรมพ้นื บา้ น เลอื กพกั ผอ่ นอยา่ งสบาย ๓ วนั ๒ คนื ณ โรงแรม
ปางสวนแก้ว ในราคาเรม่ิ ตน้ เพยี งท่านละ ๔,๓๐๐ บาท (เด็ก ๓,๙๙๙ บาท) ภายใน ๑ มถิ ุนายน - ๕ ธนั วาคม
๒๕๖๓

อสี านพาเพลนิ
ชมภาพเขียนโบราณท่ีอทุ ยานผาแตม้ พบแมน่ ้ำสองสี ทิวทศั นด์ ที ่ีโขงเจียม เพลนิ ใจในนำ้ ตกตาดโตน ชม
การหาปลาริมแม่นำ้ โขง สมั ผัสวิถีชวี ติ อย่างใกลช้ ิดของประเทศเพื่อนบา้ น ในราคาเรมิ่ ตน้ เพียงท่านละ ๒,๘๘๘ บาท
(เดก็ ๒,๕๕๕ บาท) ภายใน ๑ สงิ หาคม - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓

๒๑. จงั หวัดใดทไี่ มไ่ ด้กล่าวถงึ ในโฆษณาน้ี

ก. ชลบรุ ี ข. กระบี่

ค. เชียงใหม่ ง. อุบลราชธาปี

๒๒. ถ้านกั เรียนต้องการไปเล่นน้ำทะเลควรเดนิ ทางไปจังหวัดใด

ก. เชยี งใหม่ ข. หนองคาย

ค. ลำปาง ง. กระบ่ี

๒๓. ถ้านักเรียนตอ้ งการไปชมนครใต้พิภพ ควรเดินทางไปจังหวดั ใด

ก. กระบ่ี ข. เพชรบรุ ี

ค. เชยี งใหม่ ง. ชลบรุ ี

๒๔. ถา้ มีเงนิ เพยี ง ๓,๐๐๐ บาท ควรจะเดนิ ทางไปเทยี่ วที่จังหวัดใด

ก. รอ้ ยเอ็ด ข. กระบ่ี

ค. เชยี งใหม่ ง. อุบลราชธานี

๑๙

๒๕. สถานทีท่ ่องเท่ยี วใดอยใู่ นจังหวัดกระบ่ี

ก. พระธาตดุ อยสเุ ทพ ข. โขงเจยี ม

ค. สสุ านหอย ง. ผาแตม้

๒๖. “เด็ก” หมายถงึ ผ้ทู ่ีมีอายุเท่าใด

ก. ตำ่ กว่า ๑๕ ปี ข. ต่ำกวา่ ๑๒ ปี

ค. ต่ำกว่า ๙ ปี ง. ต่ำกว่า ๗ ปี

๒๗. เดือนใดทไี่ ม่มกี ารบริการพาไปเทย่ี วในโปรแกรมทัวร์ “อีสานพาเพลิน”

ก. มถิ นุ ายน ข. กนั ยายน

ค. ตุลาคม ง. ธันวาคม

๒๘. “ประเทศเพือ่ นบา้ น” หมายถงึ ประเทศใด

ก. เวียดนาม ข. สงิ คโปร์

ค. จนี ง. ลาว

๒๙. “แม่น้ำสองส”ี อยู่ทใ่ี ด

ก. สงขลา ข. นครราชสมี า

ค. อบุ ลราชธานี ง. เชยี งใหม่

๓๐. บริษัทนำเท่ยี วนม้ี ีช่อื วา่ อะไร

ก. สาลิกาทัวร์ ข. กุหลาบทวั ร์

ค. ลา้ นนาทัวร์ ง. ยม้ิ ละไมทัวร์

๒๐

แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความสำคญั
ชดุ ท่ี ๕

อา่ นข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคาํ ถามขอ้ ๑ - ๑๒

จิงโจ้ไม้
นักวิทยาศาสตร์สนั นษิ ฐานว่า จงิ โจ้ไมห้ รอื จงิ โจต้ น้ ไม้ เป็นต้นกาํ เนดิ ของจิงโจท้ ่เี ราเห็นอยูใ่ นปัจจุบนั ใน
โลกน้ีมีจิงโจ้ไม้ อยู่เพียง ๒ แห่ง คือ ในปา่ ดิบชนื้ ของประเทศออสเตรเลยี กับประเทศปาปวั นิวกนิ ี จงิ โจ้ไม้ตัวเลก็ สุด
ใหญก่ วา่ แมวตวั โต ๆ หนอ่ ยหนึ่ง ส่วนตัวโตนั้นกจ็ ะโตกว่าสุนัขตัวใหญๆ่ จงิ โจ้ไม้มีโครงสรา้ งร่างกายเพื่อการ
ดํารงชวี ติ อยูบ่ นต้นไมแ้ ท้ ๆ ที่เดียว จะเห็นได้จากขาอนั แข็งแกรง่ สาํ หรบั กระโดดไปมาระหวา่ งกงิ่ ไม้และนานๆ ครัง้ ก็
จะเห็นมนั กระโดดลงมาจากต้นไม้ด้วยความสูง ถึง ๖๐ ฟุต มนั มอี งุ้ เทา้ หนาและหยาบ ช่วยในการลงสู่พ้ืนและยัง
ช่วยใหก้ ารจับยึดไม่ลืน่ ได้ง่าย และกรงเล็บแขง็ แรงทีโ่ คง้ งอนนน้ั กเ็ ปน็ ตวั ยึดเกาะท่มี นั่ คง สว่ นหางยาว ๆ ไม่สามารถ
ม้วนพนั กิ่งไมเ้ หมือนลิงได้ แต่จะช่วยในการทรงตัว
จิงโจไ้ ม้สว่ นใหญ่จะมีขนสนี ำ้ ตาล เทา และออกแดง ๆ แต่เม่ือไม่นานมาน้มี ีการคน้ พบพันธุใ์ หม่สีดํา ขาว มี
ลักษณะพิเศษ คือ มันอย่บู นพ้ืนดนิ แต่ถา้ อยากขน้ึ ต้นไมก้ ส็ ามารถปีนขึน้ ไปได้สบายมาก เวลาปีนข้ึนก็จะข้ึนแบบ
ธรรมดา แตเ่ วลาลงมันจะไมใ่ ชห้ ัวลงก่อน แต่จะปนี ถอยหลังลงมา
ชวี ติ ในแต่ละวันบนตน้ ไม้จิงโจ้ไมจ้ ะงีบเลก็ งีบน้อยได้ทง้ั วนั มันไม่มรี ังหรือที่นอนเฉพาะ แตจ่ ะไต่ไปไตม่ า
และหลับไดต้ ามก่งิ ไม้ โดยเฉพาะกิง่ ไม้ท่ีขึน้ เป็นง่ามจะเปน็ ที่นอนทีส่ บายท่สี ดุ นอกจากจะชอบนอนแล้วจงิ โจไ้ ม้ก็
ชอบกินดว้ ย โดยเฉพาะใบไม้สด ๆ ซง่ึ เปน็ อาหารหลัก หรือบางคราวก็กินเปลอื กไมห้ รือไม่ก็ลูกไมด้ ้วย
ลูกจงิ โจไ้ มจ้ ะอยู่ในกระเป๋าหนา้ ท้องของแม่เช่นเดียวกับจงิ โจ้ ลกู จิงโจ้ไมไ้ มเ่ รยี กแกงการู แตเ่ รยี กว่า โจอี้
เม่อื แรกเกดิ โจอีจ้ ะมีตวั ยาวเพียงน้วิ เดียว (๒.๕ ซม.) โจอมี้ กั เป็นลูกโทนจงึ ไม่มี ใครมาแยง่ ท่หี รือแบ่งนมแม่กนิ มันจึง
โตวนั โตคืนในกระเปา๋ หนา้ ทอ้ งอันอบอนุ่ หลายเดือนผ่านไป โจอ้ีจะเริ่มคลานออกมา จากกระเป๋าหาใบไมอ้ ร่อย ๆ
กนิ แต่เมื่อจะนอนหรือพบภัยใด ๆ ก็จะรบี กลบั ลงกระเปา๋ ตามเดมิ ต่อมาไม่นานก็ได้เวลาพอสมควร ท่โี จอจ้ี ะเลย้ี งดู
ตวั เองในป่ากว้างได้ แตก่ ย็ ังอย่ใู กล้ ๆ แม่อกี สกั หนึ่งปีจึงจะแยกตัวออกมาอยูต่ ามลําพัง

๑. ถ่นิ ทอี่ ยู่อาศัยของจิงโจ้ไม้อยูท่ ใ่ี ด ข. ออสเตรเลีย
ก. ปาปวั นวิ กินี ง. ถูกทง้ั ข้อ ก และ ข
ค. นิวซแี ลนด์
ข. ในปา่ เบญจพรรณ
๒. จิงโจไ้ มส้ ว่ นใหญ่จะอาศยั อยูท่ ใ่ี ด ง. ในปา่ ดบิ แลง้
ก. ในปา่ ดิบชน้ื
ค. ในปา่ ชายเลน ๒๑

๓. จงิ โจไ้ มส้ ามารถกระโดดได้ด้วยความสูงเท่าไร

ก. ๔๐ ฟตุ ข. ๕๐ ฟุต

ค. ๖๐ ฟุต ง. ๗๐ ฟตุ

๔. หางของจงิ โจ้ไม้มปี ระโยชน์อยา่ งไร

ก. ชว่ ยยึดเกาะกบั ตน้ ไม้ ข. ช่วยในการทรงตัว

ค. ชว่ ยใหก้ ารจบั ยดึ ไมล่ ่นื ง. ช่วยไลแ่ มลงทมี่ ารบกวน

๕. จงิ โจ้ไม้สว่ นใหญจ่ ะมีขนสีอะไร

ก. ดํา ขาว ข. ดํา แดง

ค. นำ้ ตาล เทา ง. แดง ดาํ

๖. ขอ้ ใดคือลักษณะพเิ ศษของจิงโจไ้ ม้พนั ธใ์ุ หม่

ก. อยูแ่ ต่บนต้นไม้ ข. มสี ดี ํา ขาว

ค. ชอบอยเู่ ฉพาะบนพนื้ ดิน ง. ปีนตน้ ไมไ้ ด้อย่างรวดเร็ว

๗. ในแตล่ ะวันจิงโจ้ไมจ้ ะทําอะไร

ก. นอน ข. หาอาหาร

ค. กนิ อาหาร ง. นอนและกินอาหาร

๘. อาหารหลักของจิงโจ้ไม้คืออะไร

ก. ใบไม้สด ๆ ข. ผลไมต้ า่ ง ๆ

ค. เปลอื กไม้ ง. หญ้า

๙. เราเรยี กลกู จงิ โจไ้ ม้ว่าอย่างไร

ก. โจโจ้ ข. โจอี้

ค. แกงโก้ ง. แกงการู

๑๐. เมอื่ แรกเกดิ จิงโจ้ไม้มีความยาวเท่าไร

ก. ๒.๕ ฟุต ข. ๒.๕ นวิ้

ค. ๒.๕ เซนติเมตร ง. ๒.๕ เมตร

๑๑. “ลกู โทน” หมายความวา่ อยา่ งไร

ก. มพี คี่ นเดยี ว ข. มีนอ้ งคนเดยี ว

ค. มที ง้ั พ่ีและน้อง ง. เปน็ ลูกคนเดยี ว

๑๒. เมอ่ื ลกู จิงโจโ้ ตไดห้ ลายเดือนแลว้ มนั ก็จะออกมาหากนิ นอกกระเป๋าหนา้ ท้องแม่ และเปน็ เวลาอกี นาน

เทา่ ไรมนั จึงจะแยก ไปอยู่ตามลาํ พงั ได้

ก. ๑ ปี ข. ๑ ปี ๖ เดอื น

ค. ๒ ปี ง. ๒ ปี ๖ เดอื น

๒๒

อา่ นข้อความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคําถามข้อ ๑๓ - ๒๐
ประเพณลี อยกระทงของไทยเปน็ ประเพณปี ระจาํ ชาติ มีการจัดงานนใ้ี นทุกภาค โดยเฉพาะในภาคเหนือจะ
รว่ มกันจัดใหเ้ ป็นประเพณีใหญ่โตและสวยงามมาก พอถึงคืนวนั เพ็ญเดอื น ๑๒ หรือคนื ยเ่ี ปง็ ตามคาํ กลา่ วของชาว
เหนอื นั้น คนหนมุ่ สาวจะทาํ กระทงด้วยใบตองและหยวกกล้วยเปน็ รปู ดอกบวั มดี อกไม้ ธูป เทยี น ใส่ไวใ้ นกระทง
ประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งแตส่ มยั โบราณ คือสมยั สโุ ขทัย ซ่งึ ไดร้ เิ ริม่ ประเพณีนี้ขึ้นมาตามความเชอื่ ท่ีวา่ ลอยกระทง
เพอ่ื ขจัดปดั เป่าเคราะหต์ ่างๆ บางคนเชอ่ื วา่ เปน็ การแสดงความกตญั ญูกตเวทีต่อแม่น้ำทเี่ ราใชป้ ระโยชน์มากมายใน
ขณะนี้
ในปจั จุบนั ประเพณีลอยกระทงกย็ งั คงมีอยู่ และไดม้ กี ารรณรงค์ใหใ้ ช้ “วสั ดจุ ากธรรมชาติ” สําหรับทาํ
กระทง เพ่ือไม่ใหน้ ำ้ ในแหล่งน้ำเนา่ เสยี หรือมขี ยะตกค้างอยู่ในแหลง่ นำ้ มาก อันเนอื่ งมาจากวสั ดุทีใ่ ชท้ ํากระทงไม่
ย่อยสลาย

๑๓. ขอ้ ความนี้มีการกลา่ วถงึ การจัดประเพณลี อยกระทงของภาคใด

ก. ภาคอีสาน ข. ภาคกลาง

ค. ภาคใต้ ง. ภาคเหนือ

๑๔. “คนื ยี่เป็ง” ตรงกับวันใด

ก. ขึน้ ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ข. ขนึ้ ๑๕ ค่ำ เดอื น ๖

ค. ขึน้ ๑๕ ค่ำ เดอื น ๑๒ ง. แรม ๑ คำ่ เดอื น ๑๒

๑๕. กระทงทน่ี าํ มาลอยในวนั ลอยกระทงนิยมทาํ เปน็ รปู อะไร

ก. ดอกมะลิ ข. ดอกบวั

ค. ดอกชบา ง. ดอกกหุ ลาบ

๑๖. ประเพณลี อยกระทงมีมาตงั้ แตส่ มยั ใด

ก. สุโขทยั ข. อยุธยา

ค. ธนบรุ ี ง. รัตนโกสนิ ทร์

๑๗. สงิ่ ใดไมค่ วรใสล่ งไปในกระทง

ก. ธูป ข. เงนิ

ค. เทยี น ง. ดอกไมส้ ด

๑๘. ประเพณีลอยกระทงจัดข้ึนเพอ่ื อะไร

ก. เพ่ือจะไดช้ ําระลา้ งจติ ใจให้สะอาด ข. เพื่อจะไดช้ ่วยขจัดโรคร้ายตา่ งๆ

ค. เพอื่ แสดงความกตัญญูต่อแม่น้ำ ง. เพ่ือเด็ก ๆ จะไดเ้ กดิ ความสนุกสนาน

๑๙. ขอ้ ใดไม่ใช่วัสดุธรรมชาตทิ ีน่ ํามาทํากระทง

ก. ใบตอง ข. โฟม

ค. ไม้กลัด ง. หยวกกล้วย

๒๓

๒๐. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่ได้จากประเพณีการลอยกระทง
ก. ทาํ ใหไ้ ดจ้ ุดพลุฉลองในวนั จัดงาน ข. ทําให้มีรายได้จากการขายกระทง
ค. ทําให้ได้ฝกึ ฝีมือในการทาํ กระทง ง. ทําให้ไดช้ ่วยรักษาประเพณีอันดีงามของไทย

อ่านขอ้ ความต่อไปนี้แลว้ ตอบคําถามขอ้ ๒๑ - ๓๐
เดือนสดุ ทา้ ยแห่งปผี ่านไปแลว้ เหมอื นสัญญาณบอกเตือนอีกครั้งว่าทกุ ส่ิงทุกอยา่ งย่อมมีการเปลีย่ นแปลง
ดชู า่ งรวดเร็ว เหมือนลกู ศรทยี่ ิ่งแหวกไปในอากาศ กาลเวลายอ่ มกลนื กินทุกอย่างรวมทง้ั ตัวมันเองด้วย
ลมหนาวพัดจากเมอื งไกลมาเย่ยี มเยอื นเหมือนเพ่ือนสนิท ถ้าจะวิจารณ์กันไปในแง่หนึง่ เขาดนู า่ รักนา่ ใคร่
กว่าหนา้ อืน่ ๆ ด้วยซำ้ โดยเฉพาะสําหรับคนเมืองป่าคอนกรตี ท่ีอยแู่ บบตัวใครตวั มนั เจ้าลมหนาวช่วยบรรเทา
ปญั หาให้เบาบางจางลง เชน่ อารมณ์ร้อน ๆ คงจะผอ่ นเยน็ ตามอากาศได้บ้าง
ในสายตาของฉนั เจ้าลมหนาวดูจะเปน็ เพ่ือนผู้นา่ นับถือ หรือเพื่อนทแี่ สนดีจากแดนไกล เพราะนาน ๆ ที
กว่าเขาจะมา มาทีไรก็ใช่วา่ จะมาแรงถึงไหนนักกเ็ ปล่า แถมมาประเด๋ยี วประด๋าว ไมย่ อมอยู่นานซะด้วย เราจงึ น่าจะ
ฉวยโอกาสตสี นทิ ชดิ เชอื้ และขอบคุณเพอ่ื นผูเ้ ออ้ื เฟื้อด้วยความจริงใจ

๒๑. ใจความสาํ คัญของข้อความน้ี คืออะไร

ก. ลมหนาว ข. เดือนสดุ ทา้ ย

ค. ชวี ติ ของคนในเมอื ง ง. เพ่ือนสนทิ ท่ีแสนดี

๒๒. “เดอื นสดุ ท้ายแหง่ ปี” หมายถงึ เดือนอะไร

ก. เดอื นธันวาคม ข. เดือนมกราคม

ค. เดอื นเมษายน ง. เดือนพฤศจกิ ายน

๒๓. “ดชู า่ งรวดเร็วเหมือนลกู ศรทีย่ ่ิงแหวกไปในอากาศ” หมายถึงอะไร

ก. อุณหภมู ขิ องเมืองไทย ข. การเปลยี่ นแปลง

ค. ลมหนาว ง. ฤดกู าล

๒๔. “เพื่อนสนิท” ในเร่ืองนี้หมายถงึ อะไร

ก. ลมวา่ ว ข. ลมพายุ

ค. ลมฝน ง. ลมหนาว

๒๕. ชวี ติ ของคนเมืองปา่ คอนกรีตเปน็ อย่างไร

ก. อยู่อยา่ งสบาย ๆ ข. อยแู่ บบดนิ้ รนต่อสู้

ค. อยู่แบบตวั ใครตัวมนั ง. อยู่แบบพึ่งพาอาศยั กนั

๒๖. คําวา่ “คนเมอื งป่าคอนกรีต” หมายถึงใคร

ก. คนชนบท ข. คนบนดอย

ค. คนทีอ่ ยู่ตา่ งประเทศ ง. คนในเมอื งหลวง

๒๔

๒๗. “ลมหนาว” เปรยี บเหมอื นกับใคร

ก. เพือ่ นท่ีแสนดี ข. เงาตามตวั

ค. คชู่ ีวิต ง. ทาสรบั ใช้

๒๘. “ประเดย๋ี วประดา๋ ว” มีลักษณะอย่างไร

ก. การอยู่ถาวร ข. การอยชู่ ่ัวครู่

ค. การอยู่นานๆ ง. การอยู่แบบประจํา

๒๙. ผู้เขยี นมคี วามรู้สกึ อยา่ งไรต่อลมหนาว

ก. โกรธ ข. ไมพ่ อใจ

ค. ชอบ ง. เย็นสบาย

๓๐. ลมหนาวใหป้ ระโยชน์อยา่ งไรแก่คนเมืองปา่ คอนกรตี

ก. ช่วยให้อากาศเยน็ ลง ข. ชว่ ยให้อารมณเ์ ยน็ ลง

ค. ชว่ ยทําให้นอนหลบั สบาย ง. ช่วยใหเ้ ส้อื ผา้ ไมส่ กปรก

๒๕

แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจับใจความสำคัญ
ชดุ ที่ ๖

อ่านข้อความต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาํ ถามข้อ ๑ - ๑๐
สัตว์รบั รู้ได้อย่างไร

แมงมุมมปี ระสาทสัมผสั ไวมากเกนิ กว่าทีเ่ ราคิด บางครัง้ มันออกไปเทยี่ วทีอ่ ื่นพักหนึ่ง พอกลับมาถงึ บ้านมนั
จะรีบไปที่ใจกลางใยของมนั แล้วใช้ขากระตุก ๆ สองสามที ความรู้สึกของมนั จะบอกมนั ได้วา่ ถา้ ใยส่ันแบบนแ้ี ปลวา่
มีเหยือ่ แต่ถ้าสั่นแบบน้ี แปลว่าไมม่ ี

แม่สงิ โตตวั นค้ี ่อย ๆ เลยี ลูกน้อยอยา่ งปราณี ลูกน้อยกด็ ูอบอนุ่ พึงพอใจที่แม่ของมันทําอยา่ งน้ี การเลยี แบบ
น้ถี ือวา่ เป็นการทาํ ความสะอาดให้ลูกสิงโตไปในตัวด้วย สตั ว์หลายชนิดกใ็ ชว้ ธิ ีสมั ผัสแบบนเี้ หมือนกัน เชน่ สนุ ขั เป็น
ตน้

การสัมผัสซงึ่ กันและกันทําให้รู้สึกมคี วามสขุ หรือเกดิ ความเพลดิ เพลินไดไ้ มว่ า่ กับสัตว์หรอื กับมนษุ ย์ เชน่
แม่โอบกอดลกู น้อย พ่อลบู ผมลูกเบา ๆ เปน็ ตน้ แพทยอ์ ธิบายวา่ การโอบกอดอย่างสม่ำเสมอมคี วามจาํ เป็นอย่างย่งิ
สําหรับทารกตวั น้อย เวลาท่ีลูกน้อยไมส่ บาย ถา้ แมก่ อดไว้ อ้มุ อยูใ่ นมือ ลูกน้อยกค็ ่อยๆ เงยี บเสยี งรอ้ งไปได้
เหมือนกัน

ปลายจมกู ของตัวตนุ่ มีขนเสน้ เล็ก ๆ ช่วยทาํ ให้มนั ได้กล่นิ ส่ิงต่าง ๆ ไวยงิ่ ขนึ้ สว่ นใตผ้ วิ หนังในจมูกของมนั
ก็ยังมปี ลายประสาทห่อหุ้มเส้นขนทุกเส้นไว้ด้วย ด้วยเหตุนเ้ี องเพยี งการเคล่ือนไหวท่ีเบาทส่ี ดุ ตวั ต่นุ ก็ได้กลิ่นทันที

เจ้าหอยกาบยักษ์จะเกาะแน่นน่งิ อยูใ่ ต้ทะเล แล้วเปดิ ปากของมันออกกวา้ งทีส่ ุดเทา่ ท่จี ะทาํ ได้ จนกวา่ จะมี
ปลาอะไรสักตวั หนึ่งหลุดเข้าไปในปากของมนั มันก็จะจดั การงับไว้แน่นเลยทีเดียว พอกินเหยอื่ เสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้
นน่ั แหละจงึ จะถือว่าภารกจิ ล่าเหยอ่ื เสร็จสน้ิ ลง

(จาก เพื่อเพอ่ื นรัก ฉบบั ท่ี ๒๐)

๑. แมงมุมรู้ได้อยา่ งไรว่ามเี หย่ือมาตดิ ท่ีเส้นใยหรือไม่

ก. ดมกลิ่น ข. เลียตามเส้นใย

ค. ใชห้ นวดคลําหา ง. สงั เกตการสน่ั ของเสน้ ใย

๒. สงิ โตเลยี ลูกน้อยเพื่ออะไร

ก. นับจํานวน ข. ทาํ ความสะอาด

ค. ทาํ สญั ลกั ษณ์ ง. ถกู ทุกขอ้

๓. สตั ว์ชนดิ ใดทีใ่ ชว้ ธิ สี ัมผสั ลกู นอ้ ยเหมือนสิงโต

ก. สนุ ัข ข. ช้าง

ค. ไก่ ง. ปลา

๒๖

๔. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลท่ีทารกไดร้ ับจากการสัมผสั ของพ่อแม่

ก. รูส้ กึ มคี วามสขุ ข. รสู้ กึ ปลอดภัย

ค. รู้สกึ อึดอดั ง. รสู้ กึ อบอ่นุ

๕. ตัวตนุ่ มปี ระสาทสัมผัสใดไวท่สี ุด

ก. การได้กลิ่น ข. การได้ยิน

ค. การมองเห็น ง. การรบั รู้รสชาติ

๖. หอยกาบยักษห์ าเหยอ่ื ดว้ ยวธิ ใี ด

ก. พ่นพิษใสเ่ หยอ่ื ข. ใชห้ นวดตวัดเขา้ ปาก

ค. พ่นนำ้ หมกึ ใส่เหยอ่ื ง. เปดิ ปากให้กว้างท่ีสุด

๗. หอยกาบยกั ษ์อาศยั อยูท่ ี่ใด

ก. ในแม่น้ำ ข. ใตท้ ะเล

ค. ตามซอกหนิ ง. บนชายหาด

๘. สัตวต์ ัวใดมจี ํานวนขามากทสี่ ุด

ก. สนุ ขั ข. ตัวตุน่

ค. แมงมุม ง. สงิ โต

๙. สัตว์ชนดิ ใดไมไ่ ด้กล่าวถึงในข้อความนี้

ก. สงิ โต ข. หมคี วาย

ค. แมงมมุ ง. หอยกาบยักษ์

๑๐. จากขอ้ ความน้ี กลา่ วถึงสัตวอ์ ะไรบ้าง

ก. หอยกาบยักษ์ หมี เสอื ข. แมงมุม แมลงวัน ตัวตุ่น

ค. ตัวตนุ่ สิงโต หมี ง. ตวั ตนุ่ สงิ โต แมงมุม

อา่ นข้อความตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคําถามข้อ ๑๑ - ๒๐
เด็กเล็ก ๆ ๓ คนที่อาศยั อยู่กับพอ่ แม่ในเรือนหลงั ทวี่ ่าน้ี กม็ ีเด็กชายคูนผเู้ ป็นพี่ท่พี อจะร้อู ะไรไดบ้ า้ ง ส่วน
เด็กหญงิ ผูเ้ ป็นน้อง ๒ คน ยงั ไมช่ อบนงุ่ ซิ่นกันนกั นอกจากจะมีงานบุญ ผู้พ่อจึงจะจบั ใหน้ ุ่งซ่ินแลว้ จงู แขนไปกบั
เพื่อนดว้ ยความดใี จ คนื ไหนมีลมฝนค่อนขา้ งแรง เด็กชายคูนมักจะถามพ่อวา่ ทําไมไมเ่ ปล่ยี นหลังคากบั ฝ่าใบตอง
สด ๆ เสียบ้าง เมือ่ พ่อบอกวา่ ยงั ไม่มเี วลา เด็กชายคนู จะได้แตพ่ ยักคออยูห่ งึก ๆ ถ้าถามอีกว่าโคน่ มะพรา้ วตน้ นท้ี งิ้
เสยี ดีไหมพ่อ แมจ่ ะพูดขึ้นกอ่ นว่า ถา้ ลูกกนิ ข้าวหลามไม่ใส่กะทิได้ก็จะตัดท้ิงเด๋ยี วนี้ แลว้ คูนจะพดู ไปเรื่องอน่ื ทันที
เพราะขนมที่คูนกับน้องๆ ได้กินจนนอนลูบพงุ ก็มีเพยี งข้าวหลามอย่างเดียว ขนมลกู อมหวาน ๆ รา้ นเจก๊ อ่นู ้ัน คูนก็
ไม่เคยสนใจ บางวันคนแกว (ญวน) หาบของมาขาย คนู จะแบมือขอตังค์พอ่ ซื้อกระโพกญป่ี ุ่น (ประทัด) ทีละ ๒ - ๓
ดอก ถ้าพ่อบอกไมม่ ีสตางค์น้อย (เงินย่อย) คนู ก็จะยืนดูพวกแกวหาบของไปจนลบั ตา แต่คูนไม่รู้หรอกวา่ คนแกว
พวกนมี้ าจากไหน และจะไปทางไหน

๒๗

๑๑. ครอบครัวน้ีมสี มาชิกทง้ั หมดกี่คน

ก. ๒ คน ข. ๓ คน

ค. ๔ คน ง. ๕ คน

๑๒. “ซ่นิ ” คืออะไร

ก. กางเกงช้ันใน ข. กระโปรง

ค. ผ้านุ่ง ง. กางเกง

๑๓. เพราะเหตใุ ดน้องของคูนจึงไมช่ อบนงุ่ ซน่ิ

ก. เพราะขเ้ี กยี จซัก ข. เพราะยังเดก็ อยู่

ค. เพราะนงั่ ไมเ่ ป็น ง. เพราะนุง่ แล้วทําให้เล่นไม่ถนดั

๑๔. ทําไมพ่อจงึ ยงั ไมเ่ ปล่ียนหลงั คา

ก. ไมม่ ีเวลา ข. ไมม่ เี งนิ

ค. ไม่มีคนช่วย ง. ไม่มีแรง

๑๕. น้องของคนู จะนุ่งซน่ิ ในโอกาสใด

ก. ไปโรงเรยี น ข. ไปบา้ นเพ่ือน

ค. ไปวดั ง. ไปเท่ียว

๑๖. เหตใุ ดพอ่ จึงไม่โค่นต้นมะพร้าวทงิ้

ก. เพราะพอ่ ชอบต้นไม้ ข. เพราะมันยังมปี ระโยชนอ์ ยู่

ค. เพราะไม่มีคนช่วยโคน่ ง. เพราะไม่มเี วลา

๑๗. “คนแกว” คือคนชาติใด

ก. เวียดนาม ข. พมา่

ค. ลาว ง. เขมร

๑๘. ขนมทค่ี นู และน้อง ๆ กนิ มเี พียงอย่างเดยี วคืออะไร

ก. ทองหยิบ ข. ทองมว้ น

ค. ข้าวเมา่ ง. ข้าวหลาม

๑๙. “กินจนนอนลบู พุง” มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด นาย

ก. ปวดทอ้ ง ข. อม่ิ แปล้

ค. เพลยี ง. จกุ

๒๐. เวลาท่ีเหน็ คนแกวหาบของมาขาย คูนมักจะขอเงินพ่อไปซ้ืออะไร

ก. ประทดั ข. ลูกอม

ค. สม้ ตํา ง. ไก่ย่าง

๒๘

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนแี้ ล้วตอบคาํ ถามขอ้ ๒๑ - ๓๐
ปลาเงนิ ปลาทองเป็นปลาชนดิ หน่งึ ท่นี ิยมเล้ียงกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากหาง่าย ราคาถูก และเลย้ี งไม่
ยาก มอี ายยุ าวประมาณ ๑ ปี ความจรงิ แล้วปลาเงนิ ปลาทองมีชอ่ื วา่ “ปลาทอง” คาํ เดียว แตค่ นไทยเราเรยี กโดย
เพมิ่ คําว่าปลาเงินเข้าไปข้างหนา้ ซงึ่ ก็ไม่แปลกเพราะปลาชนดิ น้มี ีหลากสี เชน่ สีเหลือง สสี ้มแดง สีเงิน สดี ํา เป็นตน้
กวา่ ๑,๓๐๐ ปมี าแล้ว พระในพระพุทธศาสนาบนแผ่นดนิ ใหญข่ องจีนปล่อยปลาป่าสีทองชนดิ หนึ่งลงบอ่
เพอ่ื หวังจะได้บุญ เจา้ ปลาปา่ สที องชนิดนัน้ นับเปน็ บรรพบุรุษของปลาทองในปจั จุบนั คนจนี เลีย้ งปลาทองมานาน
มากแล้ว ซึ่งมีการกล่าวถงึ ตั้งแตส่ มยั ราชวงศถ์ งั กวา่ พันปีมาแล้ว ชาวจนี เพาะพันธุป์ ลาทองจนมีรปู ร่างและสีสนั ท่ี
แปลกประหลาด ราวปี ค.ศ. ๑๖๐๐ การเล้ยี งปลาทองกเ็ ร่ิมแพร่หลายไปทั่วเมืองจีน ไม่ไดเ้ ลี้ยงกนั เฉพาะคนในวง
สังคม ช้นั สงู เท่านั้น
ปลาทองเปน็ ปลาเล้ียงทีน่ ยิ มแพร่หลายไปทวั่ โลก ถ่นิ กําเนิดอยใู่ นเอเชยี ตะวันออก มีอยูห่ ลายชนดิ
ชนิดดง้ั เดมิ มสี ีสันและรูปรา่ งคล้ายปลาคารพ์ ชอบอาศยั อยู่ตามลาํ ธารบริเวณนำ้ ตื้นในป่า ปลาทองมีอยู่นับร้อยชนดิ
บางแห่งกล่าววา่ มีถึง ๑๒๕ ชนิด ปลาทองมีลักษณะพเิ ศษตรงที่จะเพิ่มชนดิ พนั ธ์ุอยเู่ สมอ ลูกท่ีเกดิ มาจะมสี ีเหมอื น
พอ่ แมเ่ พยี งส่วนหน่งึ เท่านัน้ ส่วนที่เหลือจะมีรปู ร่างและสีสันแตกต่างจากพ่อแม่
ปลาทองที่เห็นตามตู้ปลา ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทองท่ีผสมพันธุ์กันมาแลว้ ปลาทองจากปา่ คือ ปลาทีม่ ี
รูปรา่ งเป็นปลาธรรมดาเหมือนปลาแกม้ ช้ำและปลาคาร์พ การนาํ ปลาจากป่ามาเล้ยี งในบอ่ มีสว่ นอยา่ งมากทจ่ี ะทํา
ให้รปู ร่างหนา้ ตาของปลาเปลี่ยนไป และเปล่ียนไปอยา่ งรวดเรว็ ด้วย

๒๑. เพราะเหตุใดจึงมีผูน้ ยิ มเลย้ี งปลาทองกนั อยา่ งแพรห่ ลาย

ก. เปน็ ปลาพนั ธ์หุ ายาก ข. เชอ่ื วา่ เลย้ี งแลว้ จะใหโ้ ชคลาภ

ค. หาง่าย ราคาถกู เล้ียงไม่ยาก ง. มีสสี ันสวยงามแม้วา่ ราคาจะแพง

๒๒. ชนชาตใิ ดเรียกปลาชนิดน้ีวา่ “ปลาเงินปลาทอง”

ก. จนี ข. ไทย

ค. ลาว ง. พม่า

๒๓. บรรพบุรษุ ของปลาทองในปัจจบุ ัน คอื ปลาในขอ้ ใด

ก. ปลาปา่ สที องท่ีพระของจนี ซ้ือมาเล้ียง

ข. ปลาปา่ สที องท่ีพระของจนี นํามาปล่อยในบ่อ

ค. ปลาคาร์พท่ีพระของจนี นํามาปลอ่ ยในบ่อ

ง. ปลาคาร์พที่พระของจีนนํามาปล่อยในลาํ ธาร

๒๔. ปลาทองชนดิ ดั้งเดมิ มักชอบอาศยั อยู่ในบรเิ วณใด

ก. น้ำต้ืนชายฝั่งทะเล ข. น้ำลกึ ชายฝ่งั ทะเล

ค. น้ำลึกตามลาํ คลอง ง. นำ้ ต้นื ตามลาํ ธาร

๒๙

๒๕. ถา้ นกั เรียนต้องการจะเลี้ยงปลาทอง ควรไปหาซื้อท่ใี ด

ก. สวนลุมพนิ ี ข. สวนจตจุ กั ร

ค. สวนหลวง ร.๙ ง. สวนสตั วด์ ุสิต

๒๖. ปลาทองมีลกั ษณะแตกต่างจากปลาชนิดอื่นอยา่ งไร

ก. มอี ายยุ นื นาน ข. สามารถผสมข้ามพันธไ์ุ ด้

ค. อย่ไู ด้ท้ังในนำ้ จืดและนำ้ เค็ม ง. มกั เพิ่มชนดิ พนั ธุ์อยเู่ สมอ

๒๗. ปลาทองมอี ายยุ าวประมาณกีป่ ี

ก. ๑ ปี ข. ๒ ปี

ค. ๓ ปี ง. ๔ ปี

๒๘. ปลาทองจากป่ามีลักษณะอย่างไร

ก. มสี ีทองเท่าน้ัน ข. มีสีเข้มกว่าปัจจุบัน

ค. มรี ปู รา่ งคล้ายปลาคาร์พ ง. รูปร่างใหญ่โตกว่าในปจั จบุ ัน

๒๙. ข้อใดไมใ่ ช่สีของปลาทอง

ก. สดี ำ ข. สเี หลอื ง

ค. สีเงิน ง. สชี มพู

๓๐. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง

ก. ปลาทองมีประมาณ ๑๒๕ ชนิด

ข. ปลาทองมักมรี ปู รา่ งสีสนั ไมต่ า่ งจากพ่อแม่

ค. ปลาทองทนี่ ำจากป่ามาเลีย้ งในบ่อมักมรี ปู ร่างคงเดิม

ง. ในสมยั ราชวงศ์ถังนิยมเลี้ยงปลาทองเฉพาะคนในวงสังคมช้นั สงู

๓๐

แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคญั
ชุดที่ ๗

อา่ นข้อความตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคำถามขอ้ ๑-๗
นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาของญี่ป่นุ มเี ครอ่ื งแบบนักเรยี นเหมอื นเมืองไทย แต่ทีแ่ ปลกกว่าคอื นักเรียนทุกคน

สวมหมวก สขี องหมวกต่างกัน บางโรงเรียนสวมหมวกสีเหลือง บางโรงเรียนสวมหมวกสแี ดง นักเรียนส่วนใหญเ่ ดนิ
มาโรงเรียนเอง บางคนก็มีคุณแม่เดนิ มาสง่ ตามส่แี ยกใกล้บริเวณโรงเรียนมผี ปู้ กครองอาสาสมัครถือธงมาด้วยเพ่ือ
ช่วยดูแลนกั เรยี นข้ามถนน บางแห่งจะมีเจา้ หน้าที่ของโรงเรียนทำหนา้ ท่ี ผู้ปกครองบางท่านก็มาชว่ ยงานในห้องสมดุ
สำหรับนักเรยี นมธั ยมก็ไปโรงเรียนเอง นักเรยี นทุกคนต้ังใจเรยี น ฟังครูและเพ่ือนอธิบายและอภปิ รายโดยท่วั กัน
ครูญป่ี ุน่ เลา่ ใหฟ้ ังวา่ เดก็ ๆ เข้าใจดวี า่ ถา้ ไม่ตงั้ ใจเรียนจะไม่มีโอกาสที่จะมงี านทำดี ๆ มรี ายไดส้ ูง ๆ ในอนาคต จึงไม่
มีใครคุยหรือเลน่ ในห้องเรียนขณะเรียนหนังสอื เลย ก่อนโรงเรยี นเลกิ นกั เรยี นจะชว่ ยกนั ทำความสะอาดโรงเรยี น
ไม่เฉพาะแคใ่ นห้องเรยี นเทา่ น้ัน แต่จะทำความสะอาดทุกแห่งในบริเวณโรงเรียน แม้แตบ่ รเิ วณท่ีเป็นของสว่ นกลาง
เชน่ โถงบันได สนามหอ้ งรบั แขก เปน็ ตน้

๑. ขอ้ ความที่อ่านน้เี ป็นเรื่องเกี่ยวกบั ประเทศใด

ก. ไทย ข. จีน

ค. เกาหลี ง. ญ่ีป่นุ

๒. นกั เรยี นในเร่อื งนสี้ วมเคร่ืองแบบนกั เรยี นตา่ งจากนักเรยี นไทยอย่างไร

ก. นกั เรยี นทกุ คนสวมหมวก ข. นักเรียนทุกคนสวมถงุ เท้า

ค. นกั เรียนชายทกุ คนสวมกางเกง ง. นักเรยี นหญงิ ทกุ คนสวมกระโปรง

๓. นกั เรยี นสว่ นใหญ่มาโรงเรยี นกนั อย่างไร

ก. มีรถรับ-สง่ ของโรงเรยี น ข. คณุ ครูมารบั ที่บ้าน

ค. เดนิ มาโรงเรยี นเอง ง. ผูป้ กครองมาส่ง

๔. ใครมาช่วยดูแลนักเรียนขา้ มถนนตามสแ่ี ยกใกล้บรเิ วณโรงเรียน

ก. คุณครู ข. ผู้ปกครอง

ค. ตำรวจ ง. พนักงานรกั ษาความปลอดภัย

๕. ผปู้ กครองบางทา่ นมาช่วยงานอะไรในโรงเรยี น

ก. งานประดิษฐ์ตา่ ง ๆ ข. งานสอนนกั เรยี น

ค. งานหอ้ งสมุด ง. งานจดั สวน

๖. นกั เรียนในเรือ่ งนต้ี ง้ั ใจเรยี นเพราะเหตุใด

ก. กลวั ไมม่ งี านทำ ข. กลัวไม่มีเพ่ือน

ค. พ่อแมบ่ ังคบั ง. คณุ ครบู งั คับ

๓๑

๗. กอ่ นโรงเรยี นเลิก นกั เรียนจะชว่ ยกันทำสิง่ ใด ข. ล้างห้องน้ำ
ก. ทำการบา้ น ง. ทำความสะอาดโรงเรียน
ค. ยกเก้าอ้ไี ว้บนโตะ๊

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๘-๑๐
การดูแลและทำความสะอาดใบหน้า เพื่อใหเ้ กิดผลดีกับใบหนา้ ควรลา้ งหน้าด้วยสบู่ทไ่ี ม่ไดผ้ สมสแี ละตวั ยา
ใด ๆ กลนิ่ ไมห่ อมจดั นัก โดยใชฟ้ องจากสบู่ทฟี่ อกกับมือลูบไลเ้ บา ๆ บนใบหนา้ ทีเ่ ปียกนำ้ แล้วล้างออกดว้ ยนำ้ เปลา่
ใหส้ ะอาด และควรบำรงุ ผิวด้วยการรบั ประทานอาหารให้ครบส่วนทงั้ เนือ้ สตั ว์ ไข่ นม ผัก แป้ง และไขมัน

๘. ข้อความนีจ้ ัดอย่ใู นข้อความประเภทใด

ก. โฆษณา ข. แนะนำ

ค. ตกั เตือน ง. ประกาศ

๙. สบชู่ นดิ ใดท่ใี ชล้ า้ งหนา้ ดีที่สดุ

ก. สบ่ทู ่ีมรี าคาแพง ข. สบทู่ ี่มีกลน่ิ หอม

ค. สบู่ท่ีไม่ไดผ้ สมสีและตัวยา ง. สบู่ท่นี ำเข้ามาจากตา่ งประเทศ

๑๐. สงิ่ ทดี่ ที สี่ ดุ ในการบำรงุ ผิวคือข้อใด

ก. การใชส้ บู่ทีม่ ีราคาแพงลบู ไลเ้ บา ๆ บนใบหน้า

ข. การรบั ประทานอาหารให้ครบท้ัง ๕ หมู่

ค. การด่มื น้ำหวานอย่างนอ้ ยวันละ ๘ แก้ว

ง. การนอนหลบั พักผอ่ นให้มาก ๆ

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนีแ้ ล้วตอบคำถามข้อ ๑๑-๑๕
“พ่อถือขวานออกไปไหนจ๊ะแม”่ นดิ ถามแม่ขณะทีก่ ำลังชว่ ยแมจ่ ดั โตะ๊ อาหาร
“ออกไปที่สวนจะ้ เม่ือคืนฝนตกหนกั ” แมต่ อบ
“ทำไมพ่อต้องเอาขวานไปดว้ ยล่ะจ๊ะ” หนูน้อยอายุ ๗ ขวบยงั สงสัย
“ตน้ มะขามหวานต้นใหญ่ถกู ฟา้ ผ่า ถ้าเอาไว้มนั ก็ไมอ่ อกฝักอีก พ่อเขาก็เลยจะไปโคน่ มนั ท้ิง”

๑๑. ในบทสนทนาผถู้ ามมีความสัมพนั ธ์อย่างไรกบั ผตู้ อบ

ก. เปน็ น้อง ข. เปน็ พ่อ

ค. เปน็ แม่ ง. เปน็ ลกู

๑๒. เหตุการณใ์ นตอนนเี้ ป็นเวลาใด

ก. เวลากลางคืน ข. เวลาเชา้ มืด

ค. เวลาเชา้ ง. เวลาสาย

๓๒

๑๓. พอ่ ไปไหน ข. สวน
ก. นา ง. โรงพยาบาล
ค. ตลาด
ข. ไวป้ ้องกันตวั
๑๔. พอ่ ถอื ขวานไปทำไม ง. ตัดฟืน
ก. โค่นต้นไม้
ค. ฟนั หญา้ ข. ตน้ มะมว่ ง
ง. ต้นขนนุ
๑๕. ต้นไมช้ นิดใดถกู ฟา้ ผ่า
ก. ตน้ ทเุ รียน
ค. ต้นมะขาม

อา่ นขอ้ ความต่อไปนแี้ ล้วตอบคำถามขอ้ ๑๖-๓๐
กว่าจะเป็นเมลด็ ข้าวหุงกนิ

เวลาทนี่ งั่ รถออกไปตามชนบท มกั พบพืน้ ทส่ี องขา้ งทางเป็นสเี ขียวโลง่ กวา้ งไกลสุดตา สเี ขียวที่เห็นคือตน้
ข้าวในนา ซงึ่ มองดูคลา้ ยตน้ หญา้ ท่จี รงิ ขา้ วก็เปน็ พืชในตระกลู เดียวกับหญา้

มนษุ ย์สมัยโบราณรู้จกั นำขา้ วมาบรโิ ภคและววิ ฒั นาการเรื่อยมาจนข้าวกลายเปน็ อาหารหลกั ของคนไทยทุก
วันน้ี ข้าวมที วั่ ไปในภูมิภาคเอเชยี เช่น กมั พชู า ลาว เวยี ดนาม จีน ญี่ปุ่น เปน็ ต้น คนเอเชยี สว่ นใหญ่บริโภคข้าว
นอกจากน้ี ภูมภิ าคอ่ืน ๆ เช่น ประเทศในยุโรปก็มีการปลกู ข้าวเช่นกัน แตไ่ ม่มากเท่าในทวีปเอเชยี ในประเทศไทย
ปลกู ขา้ วมากบรเิ วณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง เชน่ สุพรรณบุรี ราชบรุ ี เพชรบรุ ี อยุธยา
สระบุรี ฯลฯ และอีกหลายจังหวัดในภาคใต้

การปลูกข้าวไม่ง่ายเหมือนปลูกต้นไม้ชนิดอ่นื ชาวนาต้องเตรยี มพนื้ ท่ี ปรับเน้ือดินดว้ ยการไถ ใชแ้ รงงาน
ควายเข้าช่วย การไถครงั้ แรกเรยี ก “ไถดะ” เพ่ือทำลายวัชพืชในนา ทิ้งชว่ งไว้หนึ่งสปั ดาหก์ ็จะไถเปน็ คร้ังท่ีสองเรียก
“ไถแปร” ไถคร้ังทีส่ ามเรียก “ไถคราด” เพอ่ื เกีย่ วเอาวชั พืชใหส้ น้ิ ซากจะไดไ้ ม่เบยี ดเบียนตน้ ข้าวแล้วปรบั พนื้ ทีใ่ ห้ได้
ระดบั เสมอกนั พืน้ ที่ปลกู ข้าวมกั เปน็ ทล่ี ุ่ม มีน้ำอย่างเพียงพอ ชาวนาใชน้ ำ้ ฝนปลกู ข้าวถา้ ปริมาณนำ้ ฝนนอ้ ย ขา้ วก็มี
จำนวนน้อยลง บางทีชาวนาก็ใช้นำ้ จากเข่ือน เชน่ ชาวนาภาคกลางใช้นำ้ จากเขื่อนเจา้ พระยา ถ้านำ้ ในเข่ือนมีน้อย
ชาวนาก็เดือดร้อน ขา้ วนอกจากจะปลูกตามพ้นื ท่รี าบแลว้ ยังปลกู บริเวณเชิงเขาดว้ ย โดยมักปลูกเป็นขนั้ บนั ได

วธิ ีการปลูกข้าวก็คือ เม่ือเตรยี มพื้นที่แล้วก็เอาเมล็ดขา้ วหว่านลงไปแลว้ ไถกลบ คือไถใหด้ ินปิดทบั เมลด็ พันธ์ุ
ขา้ วทห่ี วา่ นลงไป พอเติบโตเป็นตน้ กลา้ อายุได้ ๒๕-๓๐ วัน กเ็ อาไปปักดำในนา วธิ ีนเ้ี รียกการทำ “นาดำ” ส่วนท่ี
เรียกวา่ “นาหวา่ น” คอื นำเมล็ดท่งี อกหรือเมล็ดแหง้ ไปหวา่ นลงในนาเลย ไม่ต้องใช้ต้นกล้าปลกู แตผ่ ลผลติ ที่ได้จะ
น้อยกว่าการทำนาดำ ซ่ึงมีวิธกี ารเตรยี มเนื้อดินทด่ี ีกวา่

หลงั จากตน้ ขา้ วโตเต็มท่ี รวงข้าวเป็นสีเหลอื งสุก ชาวนาจะใชเ้ คยี วเกบ็ เกยี่ วข้าวแลว้ นำไปตากไว้ ๓-๕ วนั
จากนั้นจงึ ขนมาท่ีลานนวด การนวดคือการทำใหเ้ มลด็ ขา้ วทีล่ ีบและเศษฟางขา้ วหลุดออก ให้เหลือเฉพาะเมลด็
ขา้ วเปลอื กท่ตี ้องการ อาจใชแ้ รงงานสตั ว์ เช่น วัว ควาย สว่ นการนวดแบบฟาดกำข้าวเป็นวิธที ี่ชาวนาในภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉยี งเหนือนิยมใชค้ อื นำรวงข้าวผกู มดั ตดิ กบั ทอ่ นไมย้ าว แล้วฟาดลงไปบนพื้นท่ีมีแผ่นรองรับ

๓๓

ขา้ วเปลอื กที่หลดุ ออกมา จากนน้ั นำเมล็ดข้าวท่ีไดม้ าทำความสะอาดโดยวิธสี าดข้าว คอื ใช้พลัว่ สาดเมล็ดข้าวขน้ึ ไป
ในอากาศ เพ่ือให้ลมพัดเอาส่งิ เจอื ปนออกไป เมลด็ ขา้ วทด่ี จี ะตกลงสู่พืน้ หรอื ใช้กระดังฝดั เพ่ือแยกเมล็ดข้าวดีกบั
สง่ิ เจือปนทงิ้ วิธนี ใี้ ชก้ บั ข้าวที่มีปริมาณน้อย วิธสี ุดท้ายคือ ใช้เคร่อื งสีฝดั เป็นเครื่องมือท่นุ แรงที่มีประสทิ ธิภาพ
ข้าวเปลอื กทไ่ี ดจ้ ะกองไวเ้ ปน็ รปู สามเหลี่ยม เพื่อให้ความชนื้ ค่อย ๆ ลดลง แลว้ นำไปเกบ็ ในยงุ้ ฉางเพื่อบรโิ ภคและ
ขายใหแ้ กผ่ ู้มาซ้ือต่อไป

กวา่ จะเป็นขา้ วสวยรอ้ น ๆ ให้เรารบั ประทานนน้ั ไม่งา่ ยเลย ชาวนาต้องใชห้ ลงั สู้ฟา้ หน้าสดู้ ิน ก้ม ๆ เงย ๆ
ปลกู ขา้ ว เกบ็ เกยี่ วข้าว นวดข้าว ตามขั้นตอน ชาวนาที่มีเงินมักซ้ือเครื่องทุ่นแรง เชน่ รถแทรกเตอร์ไวช้ ว่ ยทำนา
แทนควาย ทำให้มผี ลผลติ เพิ่มมากขึน้

๑๖. ขา้ วเปน็ พืชอยใู่ นตระกูลเดียวกับพืชชนิดใด

ก. ปาล์ม ข. มะพร้าว

ค. กล้วย ง. หญ้า

๑๗. ประชากรสว่ นใหญใ่ นภมู ิภาคใดทร่ี ับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก

ก. แอฟริกา ข. อเมรกิ า

ค. เอเชีย ง. ยโุ รป

๑๘. นกั เรียนคดิ วา่ ภาคใดของไทยท่ีมีการปลูกขา้ วน้อยท่ีสุด

ก. ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ข. ภาคตะวันออก

ค. ภาคกลาง ง. ภาคเหนอื

๑๙. ก่อนท่จี ะปลกู ขา้ วชาวนาตอ้ งไถปรับเนื้อดินถึงกีค่ รั้ง

ก. ๑ ครง้ั ข. ๒ คร้งั

ค. ๓ ครัง้ ง. ๔ ครัง้

๒๐. การไถครง้ั แรกเพื่อทำลายวัชพชื ในนาเรียกว่าอย่างไร

ก. ไถนา ข. ไถดะ

ค. ไถแปร ง. ไถคราด

๒๑. การปลกู ข้าวบริเวณเชงิ เขามกั จะปลกู เป็นแบบใด

ก. วงกลม ข. สามเหลี่ยม

ค. สีเ่ หล่ียมผืนผา้ ง. ขั้นบนั ได

๒๒. ต้นกล้าตอ้ งมีอายุประมาณเท่าใดจึงนำไปปักดำในนาได้

ก. ๑๐-๑๕ วัน ข. ๑๕-๒๐ วัน

ค. ๒๕-๓๐ วัน ง. ๓๐-๓๕ วนั

๒๓. ขอ้ ใดไม่เก่ียวข้องกับการทำนาหว่าน

ก. ตน้ กลา้ ข. น้ำฝน

ค. ควาย ง. เมล็ดขา้ ว

๓๔

๒๔. เขือ่ นเจา้ พระยามีความสำคญั ตอ่ ชาวนาทางภาคใด

ก. ภาคอสี าน ข. ภาคเหนอื

ค. ภาคใต้ ง. ภาคกลาง

๒๕. หลังจากเกี่ยวข้าวเสรจ็ แลว้ ข้นั ตอนต่อไปคือการทำอะไร

ก. สาดขา้ ว ข. ฝัดขา้ ว

ค. นวดขา้ ว ง. กำขา้ ว

๒๖. การทำใหเ้ มล็ดขา้ วทลี่ ีบและฟางข้าวหลุดออกมาให้เหลอื แต่เมล็ดขา้ วเปลอื กท่ตี อ้ งการเรยี กวา่ อะไร

ก. การสาดขา้ ว ข. การนวดขา้ ว

ค. การตากข้าว ง. การหว่านขา้ ว

๒๗. ชาวนาในภาคเหนอื และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือนยิ มใชก้ ารนวดขา้ วแบบใด

ก. การฟาดกำข้าว ข. การเต้นกำรำเคียว

ค. การย่ำข้าว ง. การสงฟาง

๒๘. “หลังส้ฟู ้า หนา้ สู้ดิน” หมายถงึ ใคร

ก. ครู ข. แมค่ า้

ค. ตำรวจ ง. ชาวนา

๒๙. สถานที่ทเ่ี กบ็ ข้าวเปลือกเราเรยี กวา่ อะไร

ก. กุ้งฉาง ข. โกดัง

ค. หอ้ งพัก ง. กระท่อม

๓๐. “ควายเหลก็ ” หมายถึงอะไร

ก. รถแทรกเตอร์ ข. รถบรรทกุ

ค. รถกระบะ ง. รถมอเตอร์ไซค์

๓๕

แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความสำคญั
ชุดที่ ๘

อา่ นขอ้ ความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคำถามข้อ ๑-๕
หากมคี ำถามว่า ประชาชนไปหาหลวงพ่อคูณทำไม ในความเหน็ ของผมคือไปหาท่านเพราะมที ุกข์ร้อนด้วย
เรือ่ งจิปาถะและหวงั พ่ึงใบบุญของหลวงพอ่ หวังพง่ึ ในความขลงั ของหลวงพ่อ ให้ชว่ ยปลดเปล้ืองทุกข์ สว่ นคนท่ีไม่มี
ทกุ ข์ก็ไปหาหลวงพอ่ เพ่ือให้ท่านเสกเป่าเพ่ือจะได้มีโชคลาภเพิม่ พนู ย่งิ ขึ้น หลวงพ่อจึงกลายเป็นจติ แพทย์ไปโดย
ปรยิ าย

๑. ผู้กลา่ วขอ้ ความนี้มีความรู้สึกตรงกับข้อใดมากที่สดุ

ก. ประทับใจ ข. ช่นื ชม

ค. ดีใจ ง. ศรัทธา

๒. “เรื่องจปิ าถะ” หมายความวา่ อยา่ งไร

ก. เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

ข. เรือ่ งท่วั ๆ ไปทุกเรื่อง

ค. เรือ่ งท่มี ีสาระ

ง. เรื่องครอบครวั

๓. “หวังพง่ึ ใบบญุ ” หมายความวา่ อยา่ งไร

ก. หวังทจี่ ะได้รบั บุญจากท่าน

ข. หวงั จะได้ร่วมทำบุญกบั ท่าน

ค. หวังให้บุญบารมขี องท่านปกป้อง

ง. หวงั ขอแบ่งปนั ส่วนบุญจากท่าน

๔. การใหห้ ลวงพอ่ คูณเสกเปา่ เชอ่ื ว่าจะทำให้เป็นอย่างไร

ก. มีเงนิ ข. มีโชคลาภ

ค. มอี ำนาจ ง. มสี ขุ ภาพแขง็ แรง

๕. ข้อใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง

ก. หลวงพอ่ คณู เป็นจิตแพทย์ทา่ นหนง่ึ

ข. หลวงพ่อคูณเปน็ ผทู้ ่มี คี นเคารพนับถือมาก

ค. คนทีไ่ ปหาหลวงพ่อมีท้งั คนท่ที กุ ข์และไม่ทุกข์

ง. หลวงพ่อคณู เปน็ ทพ่ี ึ่งทางใจของใครหลายคน

๓๖

อ่านคำกลอนตอ่ ไปนแี้ ล้วตอบคำถามข้อ ๖-๘
ขดั เอย๋ ขดั ข้อง

ที่หมายปองก็ไมเ่ ปน็ เช่นคดิ หวัง
อยา่ ท้อจิตย่อหย่อนอ่อนกำลงั
ควรคิดตงั้ หน้าใหม่ใจเย็นเยน็
หาลู่ทางแก้ไขให้ม่ันเหมาะ

คงจำเพาะพบวธิ ีชี้ใหเ้ ห็น
เหมอื นเมฆนอ้ ยคลอ้ ยเคลอ่ื นผา่ นเดอื นเพ็ญ

เดือนจะเดน่ เวหานา่ ชมเอย

(ดอกสร้อยรอ้ ยใจ ของ ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ )

๖. ผู้ประพันธ์คำกลอนน้ีต้องการใหข้ ้อคิดในเรอื่ งใดมากท่สี ุด

ก. การประสบความสำเรจ็ ข. การทำใจใหเ้ ยน็ สบาย

ค. การแก้ไขปญั หาด้วยวธิ ีตา่ งๆ ง. การไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

๗. คำกลอนน้ีสอดคลอ้ งกบั สำนวนในข้อใดมากท่ีสดุ

ก. ความพยายามอยู่ท่ีไหน ความสำเร็จอยทู่ น่ี น่ั

ข. คบคนใหด้ ูหนา้ ซื้อผ้าให้ดูเน้ือ

ค. แพ้เปน็ พระ ชนะเป็นมาร

ง. ทำดไี ด้ดี ทำชว่ั ไดช้ ว่ั

๘. คำกลอนนเ้ี ปรยี บอุปสรรคเหมือนกับสงิ่ ใด

ก. เดอื น ข. เมฆ

ค. เวหา ง. พระจนั ทร์

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปน้แี ล้วตอบคำถามข้อ ๙-๑๐
เม่ือมองเปลวเทยี นแล้วชวนใหค้ ดิ ถงึ ชีวิตของคนเรา บางคร้ังก็รุง่ โรจน์ บางคร้งั ก็อับเฉา คราวใดทลี่ มสงบ
แสงเทียนลุกจา้ เปรยี บเสมือนชีวิตที่โชตชิ ว่ งไมม่ อี ปุ สรรคใด ๆ มาขัดขวาง จะไปทางไหนก็มีคนยกยอ่ งนับถือ
มีเกียรติมีศักด์ิศรี

๙. ขอ้ ความนก้ี ล่าวถึงเรื่องอะไร ค. ชีวิต ง. เกียรติยศ
ก. เทยี น ข.แสงเทียน ค. ยกตัวอย่าง ง. เปรยี บเทยี บ

๑๐. ผู้เขียนใชล้ ีลาการเขยี นแบบใด
ก. เทศนา ข. บรรยาย

๓๗

อ่านขอ้ ความต่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถามข้อ ๑๑-๒๐
เจา้ แหง่ ความเรว็

สิง่ มีชีวติ ท่อี ย่บู นพนื้ ดินติดอนั ดับว่ิงได้เร็วที่สดุ ในอาณาจักรสตั ว์ คอื มา้ และเสือแผว้ (เสอื ชตี ้า) ม้าสามารถ
ควบไปขา้ งหน้าไดเ้ ร็วถึง ๙๐ กิโลเมตรต่อชว่ั โมง สว่ นเสอื ชตี า้ น้นั เรง่ ความเร็วสูงสดุ ได้ถึง ๑๒๖ กิโลเมตรต่อช่วั โมง
แตอ่ ย่าเพงิ่ ตื่นเตน้ ไปเพราะความเร็วที่วา่ นย้ี ังหา่ งช้ันกนั เยอะ เมือ่ เทียบกับความเร็วในการบนิ ของนกหลายชนดิ
ขนาดนกตัวเลก็ ๆ อยา่ งนกกระจอก กบ็ นิ ได้เรว็ ถึง ๙๐ กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง แล้วนอกจากนีย้ ังมนี กพิราบท่ีบนิ ได้เรว็
๑๑๗ กิโลเมตรต่อชัว่ โมง และนกเป็ดนำ้ ซง่ึ บินเร็วเท่ากับความเรว็ ของเสือชตี ้าคือ ๑๒๖ กิโลเมตรต่อชวั่ โมง

นกท่ไี ด้ชื่อว่าบนิ เร็วทส่ี ุดในโลกของนก คือ นกสวิฟต์ ซ่ึงเป็นนกตวั เลก็ ๆ ทม่ี ีรปู ร่างคล้ายนกนางแอน่ มัน
บนิ ฝ่าอากาศด้วยความเร็วชนดิ จับตามองแทบไมท่ ัน เพราะมันสามารถเรง่ ความเรว็ ขณะท่ีบนิ ได้กวา่ ๑๙๐ กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง ซึ่งแน่นอนมันจงึ ได้ชอ่ื ว่า “สิง่ มชี ีวติ ท่เี คล่ือนที่เร็วที่สดุ ในโลก”

ทางด้านสถติ บิ นิ ทนที่สดุ ในโลกในหมแู่ มลงตอ้ งยกใหผ้ เี ส้ือจักรพรรดิ ซึ่งบินรวดเดยี วไกลถึง ๑,๐๐๐
กโิ ลเมตร โดยไมแ่ วะกนิ อาหารเลย ส่วนพวกนกนนั้ นักวทิ ยาศาสตรบ์ นั ทึกไดบ้ ่อยครั้งวา่ มีนกหลายชนิดทบี่ นิ ได้ไกล
ถึง ๖๕๐ กิโลเมตรใน ๒๔ ช่วั โมงโดยไมต่ อ้ งหยุดพักเช่นกนั

(เจาะโลกมหัศจรรย์)

๑๑. สง่ิ มชี วี ิตในข้อใดทต่ี ดิ อนั ดับวง่ิ ไดเ้ รว็ ที่สุดในอาณาจักรสตั ว์

ก. เสือดำ ข. เสอื โครง่

ค. เสอื ดาว ง. เสอื แผ้ว

๑๒. สตั วช์ นิดใดสามารถวิ่งได้เร็วถงึ ๙๐ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง

ก. กระต่าย ข. อูฐ

ค. มา้ ง. ลิง

๑๓. นกชนดิ ใดที่บนิ ได้เรว็ เทา่ กับความเร็วในการว่งิ ของม้า

ก. นกพริ าบ ข. นกสวิฟต์

ค. นกเป็ดนำ้ ง. นกกระจอก

๑๔. นกเป็ดน้ำบนิ ไดเ้ ร็วเทา่ กับสัตว์ชนิดใด

ก. เสอื แผ้ว ข. นกสวิฟต์

ค. ม้า ง. นกกระจอก

๑๕. นกพิราบบินได้เร็วเทา่ ไร

ก. ๑๙๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ข. ๑๒๖ กิโลเมตรต่อชว่ั โมง

ค. ๑๑๗ กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง ง. ๙๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง

๑๖. นกสวฟิ ต์มีรูปรา่ งคลา้ ยนกอะไร

ก. นกกางเขน ข. นกเปด็ น้ำ

ค. นกกระจอก ง. นกนางแอน่

๓๘

๑๗. สตั วช์ นดิ ใดทไ่ี ด้ช่ือว่าเป็น “สงิ่ มีชวี ิตที่เคล่ือนท่ีเรว็ ท่สี ดุ ในโลก”

ก. นกสวิฟต์ ข. เสอื ชีตา้

ค. สงิ โต ง. มา้

๑๘. แมลงชนิดใดท่ีสามารถบินไดไ้ กลถึง ๑,๐๐๐ กิโลเมตรโดยไมแ่ วะกินอาหารเลย

ก. นางพญาผงึ้ ข. ผเี สื้อจักรพรรดิ

ค. แมลงวัน ง. แมลงปอ

๑๙. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง

ก. นกสวฟิ ตบ์ นิ ช้ากวา่ นกพิราบ ข. นกกระจอกบินเรว็ กวา่ นกสวิฟต์

ค. นกเปด็ นำ้ บนิ ชา้ กวา่ นกพิราบ ง. เสือชตี ้าวิ่งเรว็ กว่าม้า

๒๐. ขอ้ ใดกลา่ วผิด

ก. นกกระจอกบนิ ได้เรว็ นอ้ ยกว่านกทุกชนดิ ที่กล่าวในข้อความน้ี

ข. นกเปด็ น้ำและนกพริ าบบินได้เรว็ เท่า ๆ กัน

ค. นกกระจอกบินได้เร็วเทา่ กับความเรว็ ในการวิ่งของม้า

ง. นกสวิฟตบ์ นิ ไดเ้ ร็วถึง ๑๐๐ กิโลเมตรต่อช่ัวโมง

อ่านขอ้ ความต่อไปนี้แลว้ ตอบคำถามข้อ ๒๑-๒๕
ท่านเจา้ อาวาสบอกวา่ กรมฯ จะทำการฟ้นื ฟูโครงการปลาหน้าวัดดว้ ยการยดึ ประเพณที ่วี ่าคนไทยจะไม่จบั
สตั ว์น้ำในวัดเพราะเปน็ เขตอภยั ทาน ดังนั้นจึงเปน็ การช่วย0สง่ เสริมอนรุ ักษ์พนั ธ์ุปลาในแหลง่ น้ำธรรมชาติ ทำใหป้ ลา
มโี อกาสแพร่พนั ธต์ุ ่อไปได้ โดยมรี องผ้วู า่ ราชการจงั หวดั เป็นประธานปล่อยปลาท่วี ดั โสภาราม อ. เมือง จ. ปทมุ ธานี
ในเรว็ ๆ นี้

๒๑. “กรมฯ” ในทนี่ ี้นา่ จะหมายถงึ กรมอะไร

ก. กรมประมง ข. กรมปศุสัตว์

ค. กรมป่าไม้ ง. กรมศุลกากร

๒๒. “เขตอภยั ทาน” หมายความวา่ อยา่ งไร

ก. เขตปลอดอาวธุ ข. เขตบังคับทำความดี

ค. เขตปลอดการทำรา้ ย ง. เขตหวงห้ามของวดั

๒๓. เพราะเหตใุ ดจึงมีการจดั โครงการปลาหน้าวัดขึน้

ก. เพ่อื หารายไดเ้ ข้าวดั ข. เพอ่ื อนุรักษ์พนั ธุ์ปลา

ค. เพ่อื ขายพนั ธปุ์ ลาที่หายาก ง. เพ่ือใหค้ นมาทำบญุ ทว่ี ัดมาก ๆ

๒๔. โครงการปลาหน้าวัดใชห้ ลกั แนวคดิ ใดในการฟืน้ ฟูโครงการ

ก. คนไทยไม่ฆ่าสัตว์ ข. คนไทยชอบอนุรักษ์

ค. คนไทยไมน่ ิยมกนิ สตั ว์น้ำ ง. คนไทยไมจ่ บั สัตว์น้ำในวัด

๓๙

๒๕. งานนจ้ี ัดขนึ้ ท่จี ังหวัดใด ข. นนทบรุ ี
ก. ปทุมธานี ง. สพุ รรณบุรี
ค. กรงุ เทพฯ

อา่ นคำกลอนตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคำถามข้อ ๒๖-๓๐

พระสมุทรสดุ ลกึ ล้น คณนา

สายดงิ่ ทิง้ ทอดมา หยัง่ ได้

เขาสงู อาจวดั วา กำหนด

จิตมนษุ ยน์ ี้ไซร้ ยากแทห้ ยั่งถงึ

๒๖. คำกลอนนีจ้ ดั เปน็ คำประพันธป์ ระเภทใด

ก. กลอนแปด ข. กลอนสกั วา

ค. โคลงสสี่ ุภาพ ง. กาพย์ยานี ๑๑

๒๗. สิ่งใดวดั ได้ยากท่ีสดุ

ก. ภเู ขา ข. ทะเล

ค. สายดิ่ง ง. จิตใจคน

๒๘. คำกลอนนก้ี ลา่ วในลักษณะใด

ก. แนะนำ ข. สงั่ สอน

ค. ชแี้ จง ง. บอกกลา่ ว

๒๙. ผเู้ ขียนเปรียบเทียบทะเลกับจติ ใจของคนในด้านใด

ก. ความลกึ ข. ความกวา้ ง

ค. ความสวยงาม ง. ความแปรปรวน

๓๐. ใจความสำคัญทไี่ ดจ้ ากคำกลอนนี้คือข้อใด

ก. จติ ใจคนสูงกวา่ ภูเขา ข. จิตใจคนกวา้ งใหญ่เหมอื นทะเล

ค. จติ ใจคนลกึ ล้ำจนไม่อาจหยงั่ ถงึ ง. จิตใจคนสามารถวัดไดด้ ว้ ยสายด่งิ

๔๐

แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจบั ใจความสำคญั
ชุดท่ี ๙

อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามข้อ ๑-๕
การทำบตั รประชาชนผู้มีสัญชาติไทยทุกคนทม่ี ีอายคุ รบ ๗ ปีบรบิ รู ณ์ ตอ้ งแจ้งตอ่ นายทะเบยี นทอ้ งถ่นิ
เพอ่ื ขอมบี ัตรประชาชน ผทู้ มี่ ีอายคุ รบทำบัตรต้องไปย่ืนขอทำบัตรภายใน ๖๐ วนั นับตง้ั แตอ่ ายุครบ ๗ ปบี รบิ ูรณ์
ผใู้ ดฝ่าฝนื ไม่ขอทำบัตรประชาชน มโี ทษปรบั ไมเ่ กิน ๑๐๐ บาท บัตรประชาชนใช้ได้ ๘ ปี และกรณีบัตรหมดอายุชื่อ
เปล่ียนช่ือ สกุล บัตรหาย ถกู ทำลาย หรอื ชำรดุ ต้องขอทำบัตรใหม่ภายใน ๖๐ วัน ผู้ใดฝ่าฝนื จะมโี ทษปรับไมเ่ กนิ
๑๐๐ บาท

๑. บคุ คลในขอ้ ใดตอ้ งไปยื่นขอทำบตั รประชาชน

ก. แดงมอี ายุครบ ๗ ปีบรบิ รู ณใ์ นปีนี้

ข. ดำมีอายุ ๔ ปี ๘ เดือน

ค. เดน่ มอี ายคุ รบ ๒ ปีบรบิ รู ณ์

ง. เด่ียวเพงิ่ เกดิ มาได้ ๓ วัน

๒. บัตรประชาชนมอี ายกุ ่ปี ี

ก. ๕ ปี ข. ๖ ปี

ค. ๗ ปี ง. ๘ ปี

๓. ถา้ บัตรประชาชนหมดอายุต้องขอทำบัตรใหม่ภายในกวี่ นั

ก. ๓๐ วนั ข. ๔๕ วัน

ค. ๖๐ วนั ง. ๙๐ วนั

๔. ถ้าเราฝ่าฝนื ไม่ไปทำบัตรประชาชนจะโดนปรับเปน็ เงนิ เทา่ ไร

ก. ไม่เกิน ๕๐ บาท

ข. ไม่เกิน ๑๐๐ บาท

ค. ไมเ่ กิน ๑๕๐ บาท

ง. ไมเ่ กิน ๒๐๐ บาท

๕. ถา้ บตั รประชาชนหายต้องขอทำบัตรใหมภ่ ายในกว่ี นั

ก. ๗ วนั ข. ๓๐ วัน

ค. ๔๕ วนั ง. ๖๐ วนั

๔๑

อา่ นข้อความตอ่ ไปน้แี ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๖-๑๐
คนในสมยั โบราณมีความกลวั ฟ้าร้องฟา้ แลบกนั มาก และมีความเชอ่ื ต่างกัน เช่น ชาวกรีกและชาวโรมนั
โบราณเชอ่ื วา่ ฟา้ ร้องเปน็ เสยี งแหง่ ความโกรธของ “ซีอสุ ” หรอื อีกช่อื หน่ึงคือ “จูปเี ตอร”์ ซ่ึงเปน็ ราชาแห่งเทพเจ้าทั้ง
ปวง ชาวนอร์เวยโ์ บราณเชื่อว่าฟา้ ร้องฟา้ แลบเกิดขึน้ เม่ือ “เทพเจา้ ทอร”์ ผเู้ ปน็ เทพเจ้าแหง่ สายฟ้าแกว่งคอ้ นทีท่ รง
อำนาจ สว่ นของไทยเราเชื่อว่า ฟ้าแลบคือแสงลกู แกว้ วิเศษท่ี “นางเมขลา” นางฟา้ บนสวรรค์แกว่งลอ่ “รามสูร”
ซงึ่ เป็นยักษเ์ กเรที่ชอบไปรังแกเหล่านางฟา้ และเสียงฟา้ ร้องเปรีย้ ง ๆ นน้ั เกิดจากการทีร่ ามสรู ขวา้ งขวานวเิ ศษ
ออกไป แต่นางเมขลาก็ไมไ่ ด้รับอันตรายใด ๆ เพราะมีลกู แก้ววิเศษป้องกันตวั

๖. ขอ้ ความน้คี วรใหช้ ื่อเรื่องว่าอะไร
ก. สาเหตุการเกดิ ฟ้าร้องฟ้าแลบ
ข. ความเช่ือเกย่ี วกบั ฟ้าร้องฟ้าแลบ
ค. ผลทีเ่ กดิ จากฟา้ รอ้ งฟา้ แลบ
ง. เทพเจา้ แห่งฟ้ารอ้ งฟ้าแลบ

๗. “ราชาแหง่ เทพเจ้าท้ังปวง” หมายถงึ ใคร
ก. ซอี ุส ข. จูปีเตอร์
ค. ทอร์ ง. ข้อกและข

๘. “ทอร์” เปน็ เทพเจ้าอะไร
ก. เทพเจา้ แหง่ มหาสมทุ ร
ข. เทพเจ้าแหง่ ขนุ เขา
ค. เทพเจา้ แหง่ สายฟา้
ง. เทพเจา้ แห่งพืชพรรณ

๙. คนไทยโบราณมคี วามเชื่อว่า “เสยี งฟา้ รอ้ ง” คือเสยี งของอะไร
ก. เสียงคำรามของเทพเจา้
ข. เสยี งขวา้ งขวานของรามสรู
ค. เสียงโยนแกว้ วิเศษของนางเมขลา
ง. เสียงแกว่งค้อนของเทพเจ้า

๑๐. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้องเก่ียวกบั รามสรู
ก. เป็นยกั ษ์เกเร
ข. ชอบแกลง้ เหลา่ นางฟ้า
ค. มขี วานวเิ ศษเป็นอาวธุ
ง. หลงรกั นางเมขลา

๔๒

อา่ นข้อความตอ่ ไปนี้แล้วตอบคำถามขอ้ ๑๑-๒๐
ในสมัยกอ่ นคนไทยนิยมบรโิ ภคหมากกนั แทบทกุ ครัวเรือน นอกจากจะเปน็ ทีน่ ิยมของคนไทยแลว้
ประชาชนในประเทศอื่นบรเิ วณเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กน็ ยิ มกนิ หมากเช่นกัน เพราะในหมาก
มีสารเสพติดเมื่อกินแล้วทำให้ร้สู ึกสบายใจ จนถึงสมยั จอมพลป. พบิ ูลสงคราม มนี โยบายห้ามประชาชนกินหมาก
เพราะเหน็ วา่ การกินหมากเป็นวัฒนธรรมที่ล้าสมัยไมน่ า่ ดู ดว้ ยเหตนุ จ้ี ึงเปน็ ผลทำใหค้ นรุ่นใหม่ไม่กนิ หมาก
หมากเปน็ พชื ยนื ต้นตระกูลเดียวกบั ปาล์ม เจรญิ เตบิ โตไดด้ ีในเขตร้อนชื้นและเขตอบอนุ่ ส่วนที่มปี ระโยชน์
มากทสี่ ุดก็คือ “ผล” มีสรรพคุณเปน็ สมนุ ไพรชว่ ยสมานแผล ทำให้แผลหายเรว็ ทำใหเ้ ลอื ดหยดุ ไหล เหงอื กและฟนั
แขง็ แรง รกั ษาอาการท้องเดิน กำจัดหนอง ใชเ้ ป็นยาถ่ายพยาธใิ นสตั ว์ ใชก้ นิ และใช้ในการทำอุตสาหกรรม เชน่
ทำสียอ้ มแห อวน ใชส้ กดั สารทำยาฟอกหนังส่วนอ่นื ๆ ทมี่ ีประโยชนเ์ ชน่ กนั คือ “ราก” มีสรรพคุณเปน็ สมนุ ไพร คือ
นำรากมาต้มกนิ รักษาโรคบดิ แกอ้ าการปากเปื่อย ใชข้ ับปสั สาวะ “ใบ” ใช้ทำพดั ปลอกมีด หรือนำมาต้มเปน็ ยาขับ
พิษและทาแก้คนั ส่วน “ลำต้น” ใช้ทำเสา สะพาน และเฟอร์นิเจอร์
ปจั จุบันการปลกู หมากในประเทศไทยมนี ้อยลง เพราะหมากมีความสำคญั ในชวี ิตของคนไทยนอ้ ยลง
ส่วนใหญ่จะปลกู เพ่ือเปน็ สินค้าสง่ ออกไปขายยงั ต่างประเทศ หมากจึงเปน็ พืชเศรษฐกิจท่ีทำรายได้ใหป้ ระเทศชาติได้
ปลี ะไมน่ ้อย

๑๑. หมากมมี ากในทวีปอะไร

ก. ทวปี อเมรกิ า ข. ทวีปออสเตรเลยี

ค. ทวีปยโุ รป ง. ทวีปเอเชีย

๑๒. หมากเป็นพืชตระกูลเดยี วกบั พืชหลายชนิดยกเวน้ ชนดิ ใด

ก. ตาล ข. ปาล์ม

ค. ออ้ ย ง. มะพรา้ ว

๑๓. นายกรฐั มนตรที ่านใดทหี่ ้ามประชาชนกนิ หมาก

ก. จอมพลสฤษดิ์ชนะรัชต์ ข. จอมพลป. พิบลู สงคราม

ค. พระยามโนปกรณ์นติ ิธาดา ง. พนั เอกพระยาพหลพลพยหุ เสนา

๑๔. ส่วนใดของหมากมีประโยชน์มากทสี่ ุด

ก. ผล ข. ใบ

ค. ราก ง. ลำต้น

๑๕. เพราะเหตใุ ดผู้ที่กินหมากแล้วจงึ รู้สึกสบายใจ

ก. หมากมีรสหวานอร่อย ข. หมากมสี ารชว่ ยให้ผอ่ นคลาย

ค. หมากช่วยชะลอความแก่ ง. หมากชว่ ยใหร้ ่างกายแข็งแรง

๑๖. ปลอกมดี ทำมาจากสว่ นใดของหมาก

ก. ลำตน้ ข. ราก

ค. ใบ ง. ผล

๔๓

๑๗. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องรากหมาก

ก. ใชเ้ ปน็ ยาขบั ปสั สาวะ

ข. ใช้เปน็ ยาแกค้ ัน

ค. ใชเ้ ปน็ ยาถ่ายพยาธิในสตั ว์

ง. ใชเ้ ปน็ ยารกั ษาอาการท้องเดนิ

๑๘. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชนท์ ไ่ี ด้จากลำตน้ หมาก

ก. ใชท้ ำเสา ข. ใช้ทำสะพาน

ค. ใช้ทำเฟอรน์ เิ จอร์ ง. ใช้ทำสยี ้อมแหหรืออวน

๑๙. ทำไมเราจึงจัดใหห้ มากเปน็ พชื สมนุ ไพรได้

ก. เพราะหมากเป็นพชื ท่หี ายาก

ข. เพราะหมากเป็นพชื ท่คี นแก่ชอบกนิ

ค. เพราะหมากเปน็ พืชท่ใี ชเ้ ป็นเครือ่ งยาได้

ง. เพราะหมากเป็นพืชท่ีนำมาใชป้ ระโยชน์ไดท้ ุกส่วน

๒๐. เพราะเหตุใดในปัจจบุ นั จึงจดั วา่ หมากเป็นพชื เศรษฐกจิ ของไทย

ก. หมากเปน็ สนิ คา้ ส่งออกของไทย

ข. ไทยสง่ั หมากมาจากต่างประเทศ

ค. หมากมีราคาแพงและหายาก

ง. ประชาชนหันมานิยมรบั ประทานหมากกนั มากขน้ึ

อา่ นข้อความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคำถามขอ้ ๒๑-๒๖
ไอโอดนี เป็นธาตชุ นิดหนึ่งพบไดใ้ นอาหารทะเล เช่น ปลาทู ปลากระบอก และเกลือทะเล ในพน้ื ที่ทห่ี า่ งไกล
ทะเลจะไม่ค่อยพบอาหารทมี่ ีไอโอดนี จงึ ทำให้ประชาชนในแถบภาคเหนือและภาคอีสานเปน็ โรคขาดสารไอโอดีนกัน
มาก ไอโอดนี เปน็ ส่วนประกอบของฮอร์โมนในตอ่ มไทรอยด์ ซ่งึ มหี น้าทีค่ วบคุมการเผาผลาญของพลังงานในร่างกาย
อนั ตรายของการขาดสารไอโอดนี มตี ัง้ แต่ทำใหส้ มรรถภาพการทำงานของอวยั วะและสภาพจิตใจด้อยลง ถ้าขาดมาก
จะเกดิ อาการคอพอกโตผดิ ปกติ รา่ งกายแคระแกรน็ ไมส่ วยงามเสยี บุคลิกภาพ และท่ีสำคัญถา้ ขาดไอโอดีนอย่าง
รนุ แรงกส็ ามารถทำให้เป็นโรคปญั ญาอ่อนหรือท่ีทางภาคเหนือเรียกวา่ โรค “เอ๋อ” ได้ วิธีการป้องกนั ง่าย ๆ ทำได้โดย
การกนิ อาหารทะเลทุกวัน เช่น ปลาทู หรอื กนิ อาหารที่เสริมธาตไุ อโอดีน

๒๑. ธาตไุ อโอดีนพบมากในอาหารชนิดใด

ก. ขา้ ว ข. ผลไม้

ค. นม ง. อาหารทะเล

๒๒. คนทางภาคใดที่พบว่าเป็นโรคขาดสารไอโอดนี กันมาก

ก. ภาคใต้ ข. ภาคอีสาน

ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวนั ออก

๔๔

๒๓. ถา้ ขาดไอโอดนี จะทำให้ร่างกายเป็นอยา่ งไร

ก. ร่างกายใหญโ่ ตผิดปกติ ข. ไอและจามบ่อย

ค. เป็นโรคคอพอก ง. สมองเส่อื ม

๒๔. “เออ๋ ” คือชอ่ื ท่ีคนทางภาคเหนือใชเ้ รียกโรคอะไร

ก. โรคปญั ญาอ่อน ข. โรคคอพอก

ค. โรคขาดไอโอดนี ง. โรคร่างกายแคระแกร็น

๒๕. ต่อมไทรอยด์มหี น้าท่ีอะไร

ก. ดกั จับเชอื้ โรคท่เี ขา้ สู่รา่ งกายผา่ นทางลำคอ

ข. ควบคมุ การเผาผลาญของพลงั งานในร่างกาย

ค. ชว่ ยควบคมุ ระบบขับถา่ ยใหเ้ ป็นปกติ

ง. ถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

๒๖. อาหารชนดิ ใดชว่ ยปอ้ งกันไม่ให้เกดิ โรคคอพอกได้

ก. ปลาชอ่ น ข. ปลาสลดิ

ค. ปลาดกุ ง. ปลาทู

อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๒๗-๓๐
คณะกรรมการอาหารและยาไดอ้ อกสำรวจและเกบ็ ตัวอย่างผกั สดชนดิ ตา่ ง ๆ ในท้องตลาดกรงุ เทพฯ
มาให้กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ตรวจวิเคราะห์ พบว่ายงั มีการใชส้ ารฟอร์มาลนิ ซง่ึ เป็นสารกนั เนา่ ท่ใี ช้ฉีดศพ
นำมาชบุ ผักสดให้มสี ีเขียวและชะลอการเนา่ เสยี โดยเฉพาะผกั ยอดนยิ ม เชน่ คะน้า ผักกาดขาว ถั่วฝกั ยาว แตงกวา
หน่อไม้ชะอม ถ้าร่างกายได้รับสารนีเ้ ขา้ ไปในปรมิ าณมากจะเกิดอาการปวดทอ้ งอยา่ งรนุ แรง คลืน่ ไส้ อาเจยี น
ปสั สาวะไม่ออก ดังนนั้ ก่อนซ้ือผักควรพิจารณาใหร้ อบคอบยิง่ ขน้ึ

๒๗. เราเรียกสารกนั เน่าทใี่ ชฉ้ ีดศพว่าอย่างไร

ก. เฟรนเซียม ข. ฟอรม์ าลิน

ค. ฟอสฟอรสั ง. ฟอรม์ าลดีไฮด์

๒๘. ผักชนดิ ใดท่ีพบว่ามีการปนเปอ้ื นของสารฟอร์มาลนิ

ก. ผกั กาดขาว ข. ถ่ัวงอก

ค. ดอกแค ง. กระถนิ

๒๙. ผักทน่ี ำมาชบุ สารฟอรม์ าลินจะมีลกั ษณะอยา่ งไร

ก. กรอบและมรี สหวานขนึ้ ข. เก็บได้เป็นเดือน

ค. มสี เี ขยี วและเนา่ ช้า ง. อวบและสดช่ืน

๓๐. ถา้ รา่ งกายได้รับสารฟอร์มาลินในปรมิ าณมากจะเกิดอาการอยา่ งไร

ก. ปวดศีรษะมาก ข. ท้องเสียอย่างรุนแรง

ค. เลอื ดออกตามผวิ หนัง ง. คล่ืนไส้ อาเจียน ปัสสาวะไม่ออก

๔๕

แบบฝกึ ทักษะการอา่ นจบั ใจความสำคัญ
ชดุ ท่ี ๑๐

อา่ นข้อความต่อไปนแ้ี ล้วตอบคําถามขอ้ ๑ - ๑๐
วนั หนงึ่ จวนจะถงึ เวลาหยดุ พกั กลางวัน เปน็ เวลาทเ่ี พื่อนคนนัน้ ต่นื อยู่ วาทเี อากระดาษมาพบั เปน็ รูปซอง

จดหมาย แลว้ เอาธนบตั รฉบับละหา้ สบิ บาทใส่ซองไวใ้ นโต๊ะ วาทีแกลง้ อ่านหนงั สือและทําเปน็ ลมื ซองธนบตั ร
พอออดบอกเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันดังข้ึน วาทีทําเปน็ เดินออกไปกบั เพื่อนๆ แตเ่ ขาย้อนกลบั เข้ามาซ่อน
อยหู่ ลงั ตู้หนังสอื คอยอยู่สักครู่เพือ่ นคนน้นั กย็ ่องเข้ามา มองซ้ายมองขวาอย่างมีพริ ธุ วาทยี ืนแขม่วท้อง กลนั้ หายใจ
ด้วยความตนื่ เตน้ เพ่ือนคนนั้นเดินมาที่โต๊ะของวาทีและกม้ ลงหยิบซองใส่ธนบัตรขน้ึ มา วาทีจึงกระโจนออกจากที่
ซ่อน รวบตวั เพ่อื นคนน้นั ไว้ เขาดิน้ รนและต่อสเู้ ตม็ กาํ ลัง แต่วาทีแข็งแรงกว่าจึงผลักเพอื่ นคนน้ันล้มลง วาทีตะคอก
ถามเพอื่ นวา่ นายมาหยบิ เงนิ ของฉันทําไม แล้วขูว่ า่ ถ้าไม่พูดความจริงจะไปฟ้องครูใหญ่ เพอ่ื นคนนนั้ ถกู ข่หู นกั เข้าก็
รอ้ งไห้พลางเลา่ ว่า เขาชอบกินลกู กวาดชนดิ หนง่ึ มาก ถา้ วันไหนไม่ไดก้ นิ จะมีอาการทรุ นทุรายเหมอื นใจจะขาด
เงินค่าอาหารท่ีพ่อแม่ใหม้ ากไ็ มพ่ อซื้อ เขาจงึ ต้องขโมยเงินและสิ่งของของเพ่ือนไปขาย เพื่อใหไ้ ด้เงนิ ไปซ้ือลูกกวาด
แลว้ เขากส็ ่งลกู กวาดใหว้ าทีเม็ดหนงึ่ วาทีรบั มาดูก็เห็นเปน็ ลูกกวาดสีธรรมดาไมม่ ีอะไรน่าสงสัย จงึ เกบ็ ใส่กระเปา๋ เสือ้
ไว้ แล้วบอกเพอื่ นใหลิกขโมยและใหม้ าเรยี นทุกวัน มิฉะน้นั จะบอกครใู หญ่ใหท้ ำโทษ เพื่อนคนนน้ั รับคาํ วาทีจึง
ปลอ่ ยเขาไป แต่คอยมองไม่ให้คลาดสายตา

๑. ข้อความนี้เป็นเรื่องเกย่ี วกับอะไร ข. การถกู ข่มขู่
ก. อันตรายของลกู กวาด ง. การถูกครูใหญท่ าํ โทษ
ค. แผนการจบั ขโมย
ข. เวลาพักกลางวัน
๒. เหตกุ ารณ์ในเรือ่ งนี้เกดิ ขึน้ เวลาใด ง. เวลาเปลยี่ นชั่วโมงเรียน
ก. เวลาเชา้
ค. เวลาเลกิ เรยี น ข. แอบอยหู่ ้องข้างๆ
ง. ยืนหลบอย่ขู ้างประตู
๓. วาทอี ยูท่ ่ีใดเม่ือเพ่ือนชายเดนิ เข้ามาในห้อง
ก. ซอ่ นอยู่หลงั ตหู้ นังสอื ข. วาทีพูดขเู่ พือ่ นคนน้ัน
ค. หมอบอยู่ใต้โตะ๊ ง. เพือ่ นชายคนนั้นย่องเข้ามาในหอ้ ง

๔. เหตุการณใ์ ดเป็นตอนทต่ี นื่ เตน้ ที่สดุ ข. เกดิ ความตกใจ
ก. วาทยี ่องกลบั เขา้ มาในห้อง ง. เกดิ ความวิตกกงั วล
ค. วาทีกระโดดรวบตวั เพ่ือนคนนั้น

๕. วาทแี ขมว่ ทอ้ งกลน้ั ลมหายใจเพราะเหตุใด
ก. เกิดความตืน่ เต้น
ค. เกดิ ความเศร้าใจ

๔๖

๖. เมือ่ วาทพี ดู ขู่ เพื่อนชายร้องไหท้ าํ ไม

ก. กลวั วาที ข. กลวั พ่อแม่

ค. กลวั ครูใหญ่ ง. กลัวครูประจําช้ัน

๗. “วนั ไหนไมไ่ ด้กนิ มีอาการทุรนทุรายเหมือนใจจะขาด” ขอ้ ความนีเ้ ปน็ อาการของคนประเภทใด

ก. คนท่จี รงิ จงั ต่อชีวติ ข. คนทตี่ ิดยาเสพตดิ

ค. คนท่เี อาแตใ่ จตนเอง ง. คนท่มี ีอารมณ์รนุ แรง

๘. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ต้องเกี่ยวกบั เพื่อนชายของวาที

ก. เขาชอบกนิ ลูกกวาดชนดิ หนึ่งมาก ข. เขามักขาดเรยี นเปน็ ประจํา

ค. เขากลวั ถกู ครใู หญท่ ําโทษ ง. เขาเพ่งิ เริ่มขโมยเงินเพอื่ นคร้ังแรก

๙. “มพี ิรุธ” หมายความว่าอย่างไร

ก. มคี วามกงั วล ข. มีอาการเกร็งตัว

ค. มีความผดิ ปกติ ง. มีความสงสัย

๑๐. “ลูกกวาดชนิดหนึง่ ” ในที่นมี้ ลี ักษณะเป็นอย่างไร

ก. มีสธี รรมดา ข. มสี ีสวยงาม น่ากิน

ค. รสชาตหิ วานอร่อย ง. มกี ลนิ่ หอมชวนกนิ

อา่ นข้อความต่อไปนีแ้ ล้วตอบคําถามข้อ ๑๑ - ๑๗
ทุกวันนคี้ รอบครัวของแม่เป็นครอบครัวใหญ่ ดว้ ยมีครอบครวั อื่นมารวมอยู่ด้วย ครอบครัวทมี่ ารวมกนั น้ี

ล้วนเป็นญาติพีน่ อ้ งกนั มสี ายสัมพนั ธส์ บื มาจากสกุลเดิมก็มี สืบมาจากการเกี่ยวดองทางแตง่ งานตา่ งวงศ์กนั ก็มี
แต่โดยรวมแลว้ กเ็ ปน็ ญาติพี่น้องร่วมพ้องพงศ์พนั ธุ์ ทกุ คนในครอบครวั สุขกส็ ุขร่วมกนั ทุกข์ก็ต้องทุกข์ด้วยกัน
เปรยี บเหมอื นอย่ใู นเรือลาํ เดยี วกนั ต้องร่วมหัวจมทา้ ยใหเ้ ป็นน้ำหน่ึงใจเดียว จะแบ่งแยกแตกกันหาได้ไม่ เพราะจะ
ทําใหเ้ รอื ลํานนั้ ขวางลําแลว้ ควำ่ อบั ปางลง

๑๑. ครอบครัวจะอยู่กนั อย่างมคี วามสุขไดต้ ้องอาศัยคุณธรรมข้อใด

ก. ความประหยดั ข. ความสามคั คี

ค. ความขยนั หม่ันเพยี ร ง. ความสภุ าพอ่อนน้อม

๑๒. บา้ นเปรยี บเสมือนกบั สิง่ ใด

ก. เชือก ข. โซ่

ค. บ่วง ง. เรือ

๑๓. คําว่า “ร่วมหัวจมทา้ ย” มคี วามหมายว่าอย่างไร

ก. ชว่ ยเหลอื เม่อื ผูอ้ ่นื เดือดร้อน ข. ช่วยกนั กินช่วยกันใช้

ค. ร่วมทกุ ข์ร่วมสุข ง. ตัวใครตวั มนั

๔๗

๑๔. เร่อื งทีอ่ า่ นนีต้ ้องการเนน้ เกี่ยวกับเรื่องใด

ก. การมญี าติพีน่ ้องมาก ข. หลักของการอยรู่ ่วมกนั

ค. สายสมั พันธข์ องพน่ี ้อง ง. ความเปน็ มาของครอบครวั

๑๕. “ แม”่ อย่ใู นฐานะใดของครอบครัว

ก. ประมุขของบ้าน ข. แม่บา้ นทมี่ าทำความสะอาด

ค.ผู้มาอาศัยคนหนง่ึ ง. ญาติคนหน่ึงของเจ้าของบ้าน

๑๖. คนในครอบครวั มีความสัมพันธก์ นั อยา่ งไร

ก. เปน็ คนมาจากจังหวัดเดยี วกนั ข.เปน็ ท้งั ญาตแิ ละไมใ่ ชญ่ าติ

ค. เปน็ ญาติพน่ี ้องกนั ทุกคน ง. ถูกทุกข้อ

๑๗. “จะทำให้เรือนน้ั ขวางลำแล้วควำ่ อับปางลง” ขอ้ ความนหี้ มายความว่าอย่างไร

ก. พายุเปน็ ภัยสำหรับชวี ติ และทรพั ย์สิน

ข. เรือจะอบั ปางลงเม่ือถูกพายกุ ลางทะเล

ค. เรอื ท่ขี วางลำกลางพายุทกุ ลำจะอับปางลง

ง. เมือ่ เกิดความแตกแยกจะทำให้ครอบครวั ไม่อาจดำรงอย่ไู ด้

อา่ นข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามขอ้ ๑๘-๒๐
การสร้างอาคารสมยั นี้ คงจะเป็นเกยี รตสิ ำหรบั ผ้สู รา้ งคนเดียว แต่เรอ่ื งโบราณสถานนน้ั เป็นเกียรตขิ องชาติ
อฐิ เก่า ๆ ก้อนเดียวมีคา่ ควรที่เราจะชว่ ยกันรักษา ถ้าขาดสุโขทยั อยธุ ยา และกรงุ เทพฯ แล้วประเทศไทยก็ไมม่ ี
ความหมาย

(พระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ภมู ิพลอดลุ ยเดชรชั กาลท่ี ๙)

๑๘. พระบรมราโชวาทตอนนี้กลา่ วเน้นในเรอื่ งใด

ก. เมืองหลวงของไทย ข. การเหน็ คุณคา่ ของโบราณสถาน

ค. วัตถุเก่าๆ ในสมัยโบราณ ง. การก่อสรา้ งอาคารในสมัยปัจจุบนั

๑๙. ขอ้ ใดกลา่ วสอดคลอ้ งกบั พระบรมราโชวาทตอนนม้ี ากทสี่ ุด

ก. คนไทยควรชว่ ยกนั ดูแลรักษาโบราณสถานของชาติ

ข. สถาปนกิ ในสมยั กรงุ ศรีอยุธยามคี วามสามารถมาก

ค. คนไทยย้ายเมอื งหลวงมาหลายสมยั แล้ว

ง. อดตี และปัจจบุ ันสาํ คญั กวา่ อนาคต

๒๐. ข้อใดไมใ่ ช่โบราณสถาน

ก. โบสถ์ ข. พระปรางค์

ค. ปราสาท ง. พระพุทธรูป

๔๘

อ่านข้อความตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคาํ ถามขอ้ ๒๑ - ๓๐
เอดส์

เอดส์เปน็ โรคตดิ ต่อร้ายแรงท่เี กิดจากเช้ือไวรสั ชนดิ หนงึ่ เปน็ กลมุ่ อาการท่เี กดิ จากระบบภมู ิตา้ นทานของ
ร่างกายบกพร่องหรือเสียไป เมื่อเชือ้ เอดส์เข้าสู่ร่างกาย มนั จะเข้าไปทําลายเมด็ เลอื ดขาว ทําใหร้ า่ งกายไม่มีภูมิ
ต้านทานโรคเลย มีผลทําให้ผู้ปว่ ยเกิดโรคแทรกซ้อนหรือโรคตดิ เชือ้ ซึ่งอาจทําให้เสยี ชีวิตได้

เช้ือเอดส์อาศยั และขยายตวั ในเซลลข์ องคน เปน็ เซลลท์ บี่ อบบาง ไม่สามารถมีชวี ิตอยู่ภายนอกรา่ งกายได้
นาน เช้อื เอดส์พบมากในเลอื ดของผู้ปว่ ยเช้ือเอดส์ นอกจากน้ยี งั พบในปริมาณท่ีน้อยมากในน้ำตา นำ้ ลาย นำ้ นม
นำ้ ครำ่ นำ้ เลี้ยงสมอง และไขสันหลัง

มหี ลกั ฐานวา่ โรคเอดส์ระบาดข้นึ ก่อนในทวีปแอฟริกา ตอ่ มากแ็ พร่กระจายไปทว่ั ทุกทวปี ในระยะแรก ๆ
ผู้ช่วยจะมอี าการเบ่ืออาหาร น้ำหนกั ลดอย่างรวดเร็ว ท้องเสียเรือรง้ั ต่อมน้ำเหลอื งโต แต่ผู้ท่ีมีอาการเหล่านกี้ ็มไิ ด้
หมายความว่าจะเป็นโรคเอดสเ์ สมอไป เพราะโรคอืน่ ๆ ก็อาจมอี าการเหลา่ นไ้ี ด้

โรคเอดสต์ ิดต่อได้ ๓ ทาง คอื ทางเพศสัมพนั ธ์ ทางเลอื ด และจากแมไ่ ปยังทารกในครรภ์ ดงั น้ันโรคเอดส์
จะไม่ตดิ ตอ่ โดยการรับประทานอาหารรว่ มกัน ทํางานหอ้ งเดียวกนั ใชห้ อ้ งน้ำหอ้ งเดยี วกัน หรือนงั่ ชดิ กัน

๒๑. โรคเอดสเ์ กดิ จากเช้ือโรคชนดิ ใด

ก. เชือ้ รา ข. เชื้อไวรัส

ค. เช้อื พยาธิ ง. เชื้อแบคทเี รีย

๒๒. เชอื้ เอดสเ์ มอื่ เขา้ สู่รา่ งกายของมนษุ ย์แลว้ จะเข้าไปทําลายสว่ นใดของรา่ งกาย

ก. ตบั ข. ปอด

ค. หวั ใจ ง. เม็ดเลือดขาว

๒๓. โรคเอดส์พบครง้ั แรกที่ใด

ก. ทวปี ยุโรป ข. ทวปี เอเชีย

ค. ทวีปแอฟริกา ง. ทวีปออสเตรเลีย

๒๔. โรคเอดส์เป็นโรคท่ีตดิ ตอ่ กันทางใดมากท่สี ดุ

ก. ทางเลือด ข. ทางน้ำลาย

ค. ทางผิวหนัง ง. ทางลมหายใจ

๒๕. เพราะเหตุใดจึงกลา่ วว่าเอดสเ์ ปน็ โรคที่ร้ายแรง

ก. เพราะเป็นโรคทม่ี ักพบในเดก็ เล็ก

ข. เพราะเปน็ โรคทไ่ี ม่มีการแสดงอาการใด ๆ

ค. เพราะเป็นโรคทแ่ี พร่เชื้อไปสูผ่ ู้อนื่ ไดง้ า่ ย

ง. เพราะเปน็ โรคที่ทําให้ร่างกายไม่มีภูมติ ้านทานโรคอ่ืนๆ

๒๖. ผ้ปู ่วยโรคเอดสม์ กั จะเสียชีวิตดว้ ยโรคอะไร

ก. โรคเลอื ด ข. โรคแทรกซ้อน

ค. โรคภมู ิแพ้ ง. โรคมะเรง็

๔๙

๒๗. ขอ้ ใดเปน็ พฤติกรรมท่เี ส่ียงตอ่ การติดโรคเอดสจ์ ากผปู้ ่วย

ก. ใชห้ ้องนำ้ ร่วมกนั ข. ทาํ งานท่เี ดยี วกนั

ค. ใชเ้ ขม็ ฉีดยาร่วมกนั ง. รบั ประทานอาหารรว่ มกนั

๒๘. การติดเชื้อโรคต่าง ๆ จะเกดิ ขึ้นเม่ือใด

ก. เม่อื รา่ งกายมภี ูมิค้มุ กนั บกพรอ่ ง ข. เมือ่ รา่ งกายมภี ูมติ ้านทานโรค

ค. เมอ่ื รา่ งกายมีเช้อื แบคทีเรยี ง. เมื่อรา่ งกายมีอาการเบื่ออาหาร

๒๙. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง

ก. โรคเอดสเ์ กิดจากการอพยพยา้ ยถน่ิ ของมนุษย์

ข. ผู้ป่วยโรคเอดสท์ กุ รายจะเสยี ชีวติ ภายใน ๖ เดือน

ค. เช้อื เอดส์เปน็ เซลลท์ ่บี อบบาง ไม่สามารถมชี ีวิตอย่ภู ายนอกร่างกายไดน้ าน

ง. ผปู้ ว่ ยทเ่ี บื่ออาหาร น้ำหนักลด ต่อมนำ้ เหลอื งโต มักปว่ ยเป็นโรคเอดสท์ ง้ั สน้ิ

๓๐. นกั เรียนคดิ ว่าเรื่อง “เอดส์” ที่ได้อา่ นนีม้ ีประโยชนอ์ ย่างไร

ก. ทาํ ให้ทราบแหล่งทม่ี าของโรค และวิธปี ้องกันไม่ใหต้ ดิ เช้ือ

ข. ทาํ ใหร้ จู้ ักสังเกตอาการของโรค และวิธีดูแลตัวเองในเบื้องต้น

ค. ทําใหท้ ราบวิธีปอ้ งกัน และรูจ้ ักหลีกเล่ยี งการพบปะพูดคุยกบั ผ้ปู ว่ ยโรคเอดส์

ง. ทาํ ให้มคี วามเข้าใจเรื่องโรคเอดสท์ ี่ถูกต้อง จะไดไ้ ม่ตื่นกลัวจนเกนิ เหตุ

๕๐