The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบฝึกทักษะการอ่านใจความสำคัญ เล่ม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khanitta0336, 2022-07-17 04:59:30

แบบฝึกทักษะการอ่านใจความสำคัญ เล่ม 1

แบบฝึกทักษะการอ่านใจความสำคัญ เล่ม 1

แบบฝึกทกั ษะการอ่านจบั ใจความสำคญั
ชุดท่ี ๑๑

อา่ นขอ้ ความต่อไปนี้แลว้ ตอบคาํ ถามขอ้ ๑ - ๑๐
กําเนิดทศกัณฐ์

นนทกเป็นยักษ์ มีหนา้ ที่ลา้ งเท้าใหพ้ วกเทวดาท่ีมาเข้าเฝา้ พระอิศวรท่ีบันไดเชิงเขาไกรลาส บรรดาเทวดา
ทั้งหลายเมือ่ จะเข้าเฝา้ พระอิศวรก็ชอบหยอกเย้านนทกดว้ ยการตบหัว ลูบหน้า ถอนผม นานเขา้ ผมบนศีรษะของ
นนทกก็ลา้ นเกลย้ี ง

นนทกโกรธพวกเทวดามากจึงไปเขา้ เฝา้ พระอิศวรและขอพรใหน้ ้วิ ของตนเปน็ เพชร จะช้ใี ครกข็ อใหต้ าย
พระอศิ วรมีพระเมตตาต่อนนทกก็ประทานพรให้ นนทกดีใจจงึ กลบั มาทําหน้าทอ่ี ย่างเดมิ เมื่อเทวดามาเขา้ เฝ้า
พระอิศวรก็จับหวั นนทกเล่นเหมือนเช่นเคย นนทกจงึ ชี้นว้ิ ไปท่ีเทวดา พวกเทวดาถูกนวิ้ เพชรของนนทกชต้ี ่างก็ล้ม
ตายลงเกลือ่ นกลาด พระอินทรจ์ งึ ไปเข้าเฝ้าพระอิศวรเพอ่ื แจ้งเหตใุ หท้ ราบ พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์ไปปราบ
นนทก พระนารายณ์แปลงกายเป็นนางเทพอัปสร เม่ือนนทกเห็นนางเทพอัปสรกห็ ลงรัก

นางเทพอปั สรบอกนนทกวา่ ตนเป็นนางราํ ของพระอศิ วร หากนนทกรำท่าต่าง ๆ ตามได้ นางจะรับไมตรี
แหง่ ความรัก นนทกดใี จจึงรําตามจนถึงท่าราํ ทเ่ี รียกว่า “ทา่ นาคามว้ นหางวง” ซงึ่ ตอ้ งใช้นว้ิ ช้ีทข่ี าของตนเอง นนทก
จึงขาหักลง นางอัปสรจึงกลายเปน็ พระนารายณ์และฆ่านนทก ก่อนตายนนทกกลา่ วว่า พระนารายณ์ มีสี่กร
สว่ นนนทกมีสองมอื จะสู้พระนารายณ์ได้อยา่ งไร พระนารายณ์จึงตรสั วา่ ชาติหน้าขอให้นนทกไปเกิดเป็นทศกัณฐ์
มีสบิ เศียร สิบพักตร์ ย่สี บิ กร ส่วนพระนารายณ์กจ็ ะอวตารมากาํ เนิดเปน็ มนษุ ย์ ทําสงครามขบั เคย่ี วกนั

๑. นนทกมีหนา้ ท่ีทาํ อะไร

ก. ทาํ ความสะอาดวัง ข. ลา้ งเท้าเทวดา

ค. เฝ้าประตู ง. ทำอาหาร

๒. มหี ลายวิธที ่ีเหลา่ เทวดาใชแ้ กลง้ นนทก ยกเวน้ ข้อใด

ก. ดงึ หู ข. ถอนผม

ค. ลูบหนา้ ง. ตบหัว

๓. เทวดาทัง้ หลายมาเข้าเฝ้าใคร

ก. พระอินทร์ ข. พระพรหม

ค. พระอิศวร ง. พระนารายณ์

๔. พระอศิ วรประทับอยทู่ ่ใี ด

ก. เขาสรุ กานต์ ข. เขาหิมาลยั

ค. เขาพระสเุ มรุ ง. เขาไกรลาส

๕. นนทกขอส่งิ ใดจากพระอศิ วร

ก. แหวนเพชร ข. สรอ้ ยเพชร

ค. น้วิ เพชร ง. ไมเ้ ท้าเพชร

๕๑

๖. สงิ่ ที่นนทกขอจากพระอศิ วรมีฤทธว์ิ เิ ศษอยา่ งไร

ก. ช้คี นตายแล้วใหฟ้ น้ื ได้

ข. ชไ้ี ปทใี่ ครคนนั้นตาย

ค. ทาํ ใหต้ นเองมีฤทธ์แิ ก่กลา้

ง. ทําใหต้ นเองมีอายุยืนยาว

๗. ใครไปแจ้งเหตกุ ารณ์ท่เี กิดขึ้นให้พระอิศวรทราบ

ก. พระพรหม ข. พระนารายณ์

ค. นนทก ง. พระอินทร์

๘. พระนารายณ์แปลงกายเป็นใคร

ก. นางเทพอัปสร ข. นางแกว้ อัปสร

ค. นางเทพกริยา ง. นางอัปสรมณี

๙. ทา่ รำใดทที่ ําใหน้ นทกเสียทีแก่พระนารายณ์

ก. ท่าวิหคเหินลม ข. ทา่ ภมู รเี ริงระบํา

ค. ทา่ นาคามว้ นหางวง ง. ท่ากนิ รเี ลน่ น้ำ

๑๐. ขอ้ ใดกลา่ วผิด

ก. พระนารายณม์ สี ่ีกร

ข. ทศกณั ฐม์ ียส่ี บิ พักตร์

ค. นนทกไปเกดิ เปน็ ทศกัณฐ์

ง. พระนารายณ์ไปเกดิ เปน็ มนุษย์

อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนี้แล้วตอบคาํ ถามข้อ ๑๑ - ๑๕
“นำ้ แข็ง” ถูกนําเขา้ จากสงิ คโปร์มาที่เมืองไทยครง้ั แรกในสมัยรัชกาลท่ี ๔ โดยใช้ขเี้ ลื่อยกลบนำ้ แขง็

เพื่อถนอมความเย็น พระมหากษัตรยิ แ์ ละชนชั้นสงู เทา่ นน้ั ที่ได้สมั ผสั มนั จนถึงสมัยรชั กาลที่ ๕ จึงมโี รงน้ำแขง็ แหง่
แรกเกิดขึ้น ช่อื วา่ “น้ำแข็งสยาม” หรอื “โรงนำ้ แขง็ นายเลิศ” ชาวบา้ นธรรมดาจึงได้สมั ผัสนำ้ แขง็ กบั เขาด้วย

๑๑. นำ้ แข็งในสมยั ก่อนนาํ เข้ามาจากประเทศใด

ก. สิงคโปร์ ข. มาเลเซยี

ค. จีน ง. อังกฤษ

๑๒. น้ำแข็งเขา้ มาในไทยครงั้ แรกสมัยรชั กาลใด

ก. รัชกาลท่ี ๑ ข. รชั กาลที่ ๒

ค. รัชกาลท่ี ๓ ง. รชั กาลท่ี ๔

๑๓. โรงนำ้ แขง็ แห่งแรกของไทยเกิดข้นึ ในสมัยรชั กาลใด

ก. รชั กาลท่ี ๓ ข. รชั กาลที่ ๔

ค. รัชกาลท่ี ๕ ง. รัชกาลที่ ๖

๕๒

๑๔. จากข้อความ มีการใชส้ ิ่งใดเพ่ือถนอมความเย็นของน้ำแขง็

ก. ขฝ้ี ุ่น ข. ขีเ้ กลอื

ค. ขผี้ ้ึง ง. ข้เี ลือ่ ย

๑๕. “น้ำแขง็ สยาม” มชี ื่อเรียกอีกชอื่ หน่งึ วา่ อะไร

ก. โรงน้ำแขง็ นายเลศิ ข. โรงน้ำแข็งนายล้วน

ค. โรงน้ำแข็งนายลาภ ง. โรงนำ้ แขง็ นายลอ้ ม

อ่านข้อความตอ่ ไปน้แี ล้วตอบคําถามขอ้ ๑๖ - ๒๐
ละครราํ สมัยโบราณนน้ั มีอยู่ ๓ อย่างคือ ละครชาตรี ละครใน และละครนอก ละครชาตรเี ป็นละครรําผสม
โนราของทางภาคใต้ สว่ นละครนอกหรอื ละครอยา่ งชาวบ้านไมม่ แี บบแผนในกระบวนละครมากนัก ส่วนใหญ่จะมี
บทสนกุ สนานตลกเฮฮาอยเู่ กือบตลอดเร่ือง และประเภทสุดท้าย คอื ละครในหรือละครนางใน ซ่งึ ว่ากนั ว่าเริ่มมีข้ึน
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีแบบแผน กระบวนทา่ รําเคร่งครัด เพราะเป็นการแสดงในราชสํานัก

๑๖. ละครชนิดใดมบี ทสนุกสนานตลกเฮฮาอยตู่ ลอดเรื่อง

ก. ละครใน ข. ละครนอก

ค. ละครรอ้ ง ง. ละครชาตรี

๑๗. ละครในเรมิ่ มีขึ้นในสมยั ใด

ก. กรงุ สุโขทัยตอนต้น

ข. กรุงสโุ ขทัยตอนปลาย

ค. กรุงศรอี ยุธยาตอนปลาย

ง. กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น

๑๘. ละครรําสมัยโบราณมีอยู่หลายอย่าง ยกเวน้ ข้อใด

ก. ละครใน ข. ละครนอก

ค. ละครชาตรี ง. ละครเพลง

๑๙. ละครชนิดใดใชเ้ ล่นผสมกบั รําโนราของทางภาคใต้

ก. ละครใน ข. ละครนอก

ค. ละครชาตรี ง. ละครรอ้ ง

๒๐ ละครชนิดใดสามารถใช้แสดงเพอื่ อวดศลิ ปวฒั นธรรมของแกช่ าวตา่ งประเทศได้

ก. ละครเพลง ข. ละครใน

ค. ละครร้อง ง. ละครชาตรี

๕๓

อ่านข้อความตอ่ ไปน้ีแลว้ ตอบคําถามข้อ ๒๑ - ๓๐
“ตาํ หนกั ทะเลชบุ ศร” หรือ “พระที่น่ังไกรสรสีหราช” ตั้งอยทู่ ่ีตาํ บลทะเลชุบศร จงั หวัดลพบรุ ี อยูห่ ่างจาก
ตวั เมอื งไปประมาณ ๔ กโิ ลเมตร ตวั ตําหนักเปน็ ตึกก่อดว้ ยอฐิ ถอื ปนู สรา้ งใกลข้ อบทะเลชุบศร โดยทาํ เขือ่ นศลิ ายืน่
ลงไปในทะเล ถมดินราบ พ้นื เรยี บ แลว้ ปลกู ตาํ หนักข้ึนบนลานดินนี้ ต่อจากเข่ือนศิลาออกไปเป็นทลี่ ุ่ม เข้าใจวา่ คงจะ
เป็นสระน้ำ มอี ย่หู ลายสระดว้ ยกัน ในระหว่างสระเหล่านี้มีทอ่ ศิลาเช่ือมติดต่อกนั สามารถจะระบายนำ้ จากสระหน่งึ
ไปยังอีกสระหน่ึงไดใ้ นฤดแู ล้ง เมื่อนำ้ ในทะเลชุบศรแห้ง สระเหล่าน้ี จะยังคงขังนำ้ ไวท้ ําให้อากาศในบรเิ วณ
พระตําหนักทะเลชุบศรเย็นอยเู่ สมอ ดว้ ยเหตุน้ีจงึ มชี อื่ เรียกกันเป็นสามัญว่า “พระท่นี งั่ เย็น”
ในสมัยอยธุ ยา สมเด็จพระนารายณม์ หาราชเสด็จไปประทับทพี่ ระตําหนกั น้ีในฤดรู ้อนเป็นนิจ และในคราว
เสดจ็ ประพาสป่า เช่น ไปล้อมชา้ งเถ่อื น กเ็ สดจ็ มาประทับแรมที่พระตําหนักนี้ สว่ นในหน้านำ้ กไ็ ดเ้ สดจ็ ไปประทับที่
พระตําหนักนเ้ี หมือนกนั พวกฝรั่งเศสทเ่ี ข้ามากบั ราชทูตพรรณนาไว้ว่า มีตําหนกั เจา้ นายทตี่ ามเสดจ็ และบ้าน
ขา้ ราชการตัง้ เรยี งรายกันไปตามฝัง่ ทะเลชบุ ศรเป็นอนั มาก หนา้ ตําหนกั และหน้าบา้ นพักข้าราชการก็มีเรอื จอดอยู่ทกุ
แห่ง เรือเหลา่ นใ้ี ช้เปน็ พาหนะไปมาถึงกนั ไดจ้ นตลอดหน้าน้ำ สมเดจ็ พระนารายณ์ฯ โปรดแล่นเรือใบพร้อมด้วยขา้
ราชบรพิ ารไปในทะเล ทะเลชบุ ศรเนือง ๆ นับวา่ ทะเลชุบศรในสมัยนนั้ เปน็ ทคี่ รึกครื้นรน่ื รมยอ์ ย่างย่ิง

๒๑. “ตาํ หนกั ทะเลชบุ ศร” มีช่อื เรยี กอีกอย่างหนง่ึ วา่ อะไร

ก. อุทยานลมเย็น ข. ปราสาทเย็น

ค. ตาํ หนกั เย็น ง. พระทน่ี ั่งเย็น

๒๒. ตาํ หนกั ทะเลชุบศร ตั้งอยใู่ นจังหวัดใด

ก. อยุธยา ข. อ่างทอง

ค. ลพบรุ ี ง. สิงหบ์ ุรี

๒๓. สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จไปประทบั ท่ีตําหนกั ทะเลชบุ ศรในช่วงฤดูใด

ก. ฤดฝู น ข. ฤดูร้อน

ค. ฤดหู นาว ง. ถกู ทุกขอ้

๒๔. กีฬาใดท่ีนิยมเลน่ ในทะเลชบุ ศร

ก. แล่นเรอื ใบ ข. วา่ ยน้ำ

ค. สกีนำ้ ง. แขง่ เรือ

๒๕. “ชา้ งเถ่ือน” มีความหมายว่าอยา่ งไร

ก. ชา้ งบ้าน ข. ชา้ งปา่

ค. ช้างตวั ผู้ ง. ช้างเกเร

๒๖. ชาตใิ ดทเ่ี ขา้ มาเจริญสัมพันธไมตรีทางการทตู กับไทยในสมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช

ก. โปรตเุ กส ข. องั กฤษ

ค. ฝรั่งเศส ง. เยอรมนี

๕๔

๒๗. ขา้ ราชการทมี่ ีบ้านพักอยู่บรเิ วณตําหนักทะเลชบุ ศร เดินทางไปหากันโดยใชพ้ าหนะใด

ก. เกวยี น ข. รถ

ค. ม้า ง. เรือ

๒๘. ชอื่ เรยี กเป็นทางการของ “ตาํ หนักทะเลชบุ ศร” คือข้อใด

ก. พระที่นั่งเยน็ ข. พระทนี่ ัง่ สีหบัญชร

ค. พระท่ีนั่งไกรสรสีหราช ง. พระท่นี ั่งไอศวรรย์ทพิ ยอาสน์

๒๙. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกีย่ วกบั “ตําหนักทะเลชุบศร”

ก. มีลักษณะเปน็ ตึกก่อดว้ ยอิฐหรือปนู

ข. สร้างขึน้ ในสมัยสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช

ค. ในฤดูรอ้ นอากาศบรเิ วณตําหนักทะเลชบุ ศรจะรอ้ นมาก

ง. ในระหว่างสระน้ำแต่ละสระจะมีทอ่ ศลิ าเชื่อมตดิ ต่อกนั เพ่ือระบายน้ำจากสระหนึ่ง

ไปยังอกี สระหนึ่ง

๓๐. เพราะเหตุใดตาํ หนักทะเลชบุ ศรจึงมีอากาศเย็นอยูเ่ สมอ

ก. ตาํ หนกั ต้ังอยู่ในทิศทางท่ีลมพดั ผา่ นตลอดปี

ข. ในตําหนกั มีการตดิ เครื่องปรบั อากาศ

ค. บรเิ วณตําหนกั มสี ระนำ้ หลายสระ

ง. ถูกทกุ ข้อ

๕๕

แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ
ชุดท่ี ๑๒

อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามขอ้ ๑-๑๒
บทเรียนของหนสู นี ้ำตาล

เม่อื แมข่ องหนูสนี ้ำตาลอุ้มมนั ขน้ึ เตียง เอาผ้าห่มห่มให้มนั และบอกใหเ้ จา้ หนสู ีน้ำตาลนอนหลบั มันกท็ ำทา่
กระเงา้ กระงอดเหมอื นอยา่ งที่เด็ก ๆ ทำเมื่อแม่บอกใหเ้ ข้านอน

“ทำไมนะ ทำไมแมถ่ ึงไม่ยอมให้ฉันไปหาเนยแขง็ กินในห้องเกบ็ อาหาร” หนสู ีน้ำตาลพูด “ฉนั ได้กลน่ิ เนย
แขง็ ตดิ หนวดของแมม่ าทกุ ๆ ครงั้ ที่แม่กลบั บา้ น”

“ลกู นอนหลบั เสยี เถอะ” แม่หนูพดู มนั ร้ดู วี ่าหอ้ งเก็บอาหารไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัย เพราะพอ่ หนูประสบ
อุบตั ิเหตใุ นห้องนั้น และมันต้องสญู เสยี พ่อหนูไป

“ขอฉนั ไปกับแม่ได้ไหมจะ๊ ” หนสู นี ำ้ ตาลรบเร้า
“ไปไม่ได้หรอกลูก” แมห่ นูตอบ “ลำพังตัวแม่กแ็ ทบจะเอาตัวไม่รอดอยแู่ ลว้ กอ่ นทแ่ี มวสีทองจะมาอยใู่ น
บา้ นนก้ี ม็ กี ับดักหนูอยู่ทุกหนทุกแห่ง ยงิ่ ตอนนีด้ ้วยแล้ว มีเจ้าแมวสที องมาอยู่ แม่ย่ิงต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว ลูกนอน
หลบั เสยี เถอะ แลว้ แม่จะเอาเนยแข็งมาใหล้ กู กนิ สำหรับอาหารม้ือเช้า”
“สงสัยเหลอื เกนิ วา่ กบั ดักหนูมีรปู รา่ งอย่างไร ถ้าฉันมัวแตเ่ ก็บตัวอยูใ่ นบ้านตลอดเวลา ฉันกจ็ ะไมไ่ ด้เรียนรู้
อะไรเลย ทำไมแมต่ ้องห้ามฉันไมใ่ ห้ไปห้องเก็บอาหารดว้ ยนะ” เจ้าหนสู นี ้ำตาลนอนคิดอยู่ตลอดคืน มันลุกข้นึ
จากท่นี อน มองไปภายนอกบ้านที่เงยี บสงัดและมืด แล้วหนูสีนำ้ ตาลก็วงิ่ ออกไปจากบา้ น มนั ว่งิ เข้าไปในหอ้ งเกบ็
อาหาร “ทนี่ ี่ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว” หนสู ีนำ้ ตาลคดิ “ฉันได้กล่นิ อาหารแล้ว”
หนสู นี ้ำตาลเห็นราวไม้ท่ีจะปีนขนึ้ ไปได้อย่างสบาย มนั วิ่งไปบนถงั ย่ิงเข้าไปใกล้ก็ยิง่ ไดก้ ลน่ิ หอมน่ากิน
“รู้แล้ว ... เนยแขง็ อยู่ไดก้ ล่องใบนน้ั นน่ั เอง” หนูคิดพลางกระโดดไปบนกล่อง
“ฉันจะกนิ เนยแข็งให้อิ่มแปล้ที่เดียว”
“เออดีจรงิ ๆ” หนรู อ้ งเมื่อมันพบรรู อบ ๆ กล่องใบน้ัน “ใครนะช่างใจดกี บั ฉนั จรงิ ๆ เจาะรูไวใ้ หฉ้ ันลอดเขา้
ไปแทะเนยแข็งได้เลย” หนสู ีนำ้ ตาลดใี จมาก
มเี สียงดงั กุกกัก แลว้ หนูสนี ำ้ ตาลก็รสู้ กึ วา่ มอี ะไรมาดึงหางมันไว้ มนั หงายหลังตงึ แต่มันรีบลกุ ขึน้ ว่ิงกลับไป
บา้ นทนั ที หนูสนี ำ้ ตาลว่งิ เข้าบ้าน มันตกใจกลวั สุดขดี
กอ่ นทีห่ นูสีนำ้ ตาลจะคดิ ได้ว่าอะไรเป็นอะไร แม่ของมันก็ว่งิ เขา้ มาชนมนั ล้มลง สองแมล่ ูกกอดกัน แน่นเนอื้
ตวั ส่ัน
“เกดิ อะไรข้ึนน่ะแม่ แมว หรอื กับดักหนู” หนูสีนำ้ ตาลถาม
“ทัง้ สองอย่าง” แมห่ นูตอบ “แมเ่ หน็ ลกู ขณะทล่ี กู กำลงั เอาหัวลอดเข้าไปในกบั ดักหนู แม่ดึงหางลกู ไว้
และเพ่ือจะช่วยลกู ไม่ให้ถูกแมวสที องตะครบุ แมป่ ล่อยใหม้ ันไล่จับแม่ และมันเกือบจะจบั แมไ่ ด้ โชคดหี นีรอดมาได”้
หนูสนี ้ำตาลไมพ่ ูดอะไรเลย มันคลานไปนอนอย่างเงียบ ๆ ใจก็สำนกึ ผิดทีเ่ กือบทำใหแ้ ม่ถูกแมวจับได้ มนั รู้
แล้ววา่ เพราะอะไรแมจ่ ึงหา้ มไมใ่ หไ้ ปที่ห้องเกบ็ อาหาร มันจึงควรที่จะเชอื่ ฟังคำสัง่ สอนของแมไ่ มด่ อื้ รัน้ อีก

(จากนิทานสตั วโ์ ลก)

๕๖

๑. อาหารของหนสู นี ้ำตาลในเรอื่ งคืออะไร

ก. ขนมปัง ข. ขนมเคก้

ค. นมสด ง. เนยแข็ง

๒. แมห่ นรู ูด้ วี า่ สถานทีใ่ ดไมป่ ลอดภัย

ก. หอ้ งเก็บอาหาร ข. ห้องน่งั เล่น

ค. หลงั คาบ้าน ง. บา้ นของมนั เอง

๓. พ่อของหนสู นี ำ้ ตาลตายที่ไหน

ก. หอ้ งนอน ข. ในสวน

ค. ห้องเกบ็ อาหาร ง. บนท้องถนน

๔. แมห่ นกู ลวั ใคร

ก. เจ้าของบา้ น ข. แมวสที อง

ค. แมวดำ ง. พอ่ หนู

๕. หนสู นี ้ำตาลแอบวิง่ ไปท่หี ้องเก็บอาหารในเวลาใด

ก. กลางคืน ข. เช้าตรู่

ค. ตอนบา่ ย ง. ตอนเยน็

๖. กล่องทีม่ รี รู อบ ๆ กล่อง ท่ีหนูสีน้ำตาลพบในหอ้ งเกบ็ ของคืออะไร

ก. ต้เู ยน็ ข. ตู้เกบ็ ขา้ ว

ค. กลอ่ งใส่อาหาร ง. กบั ดักหนู

๗. ใครเปน็ ผู้ช่วยชีวติ หนสู นี ้ำตาล

ก. พ่อหนู ข. แม่หนู

ค. ตัวมันเอง ง. แมวสที อง

๘. ผู้ทีช่ ่วยชวี ติ หนูสีนำ้ ตาลช่วยมนั อยา่ งไร

ก. ดงึ หู ข. ดึงขา

ค. ดงึ หาง ง. ดึงหัว

๙. หนสู ีน้ำตาลไปหอ้ งเก็บอาหารกับใคร

ก. เพือ่ น ข. ไปคนเดียว

ค. แม่หนู ง. แมวสที อง

๑๐. นิทานเร่อื งนไี้ ม่ได้กล่าวถึงใคร

ก. สนุ ัขสดี ำ ข. แมวสที อง

ค. พ่อหนู ง. แมห่ นู

๕๗

๑๑. เพราะเหตใุ ดแมห่ นูจึงหา้ มหนูสนี ้ำตาลไปทห่ี ้องเก็บอาหาร
ก. กลวั หนูสีนำ้ ตาลจะไปกินอาหารจนหมด
ข. กลัวหนูสีนำ้ ตาลจะไปทำของเสียหาย
ค. กลัวหนูสนี ำ้ ตาลจะไปทำเลอะเทอะ
ง. กลวั หนูสนี ำ้ ตาลจะไดร้ ับอันตราย

๑๒. หนูสีนำ้ ตาลได้รบั บทเรยี นอะไร
ก. คำเตอื นของแม่ไม่เปน็ ความจริง
ข. ห้องเก็บอาหารคือท่ีที่ปลอดภัยทีส่ ดุ
ค. ห้องเก็บอาหารคือที่ทอ่ี ันตรายทส่ี ดุ
ง. ไมม่ อี าหารสำหรบั หนูอย่ทู ี่หอ้ งเก็บอาหาร

อ่านข้อความตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคำถามขอ้ ๑๓-๑๕
แก๊สน้ำตา เป็นอาวุธเคมชี นิดหนง่ึ มีลกั ษณะเปน็ ฝุน่ ผง มักนำมาใช้ในการสลายการชมุ นุมของฝูงชนจำนวน
มาก เมื่อโดนแกส๊ นำ้ ตาจะทำให้มอี าการนำ้ ตาไหล แสบตา ลืมตาไม่ขึน้ ทำให้ต้องกะพรบิ ตาบ่อย ๆ หรอื ถงึ กับมอง
ไม่เห็นช่ัวคราว และยงั ทำใหเ้ กดิ แผลทีก่ ระจกตาหากถูกกระแทกโดยตรง นอกจากนย้ี งั ทำให้แสบจมูก น้ำมกู ไหล ไอ
และหายใจลำบากอีกดว้ ย การปอ้ งกันแก๊สนำ้ ตาทำไดโ้ ดยใสแ่ วน่ ป้องกันที่มเี ลนสก์ ันแตก และหน้ากากป้องกนั แกส๊
น้ำตา

๑๓. หัวขอ้ ใดไม่มกี ารกล่าวถงึ ในข้อความน้ี
ก. ลักษณะของแก๊สน้ำตา
ข. อาการเมื่อโดนแก๊สน้ำตา
ค. การปอ้ งกันแกส๊ น้ำตา
ง. การปฏบิ ตั ิตนเมอ่ื โดนแกส๊ นำ้ ตา

๑๔. ข้อใดไมใ่ ช่ฤทธขิ์ องแก๊สนำ้ ตา
ก. ทำให้ตาบอดสนิท
ข. ทำให้น้ำตาไหล
ค. ทำให้แสบจมกู
ง. ทำให้หายใจลำบาก

๑๕. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง
ก. แกส๊ นำ้ ตาเปน็ แกส๊ พิษชนิดทมี่ ใี นธรรมชาติ
ข. แก๊สนำ้ ตาเป็นอาวธุ ท่ีมักใช้ในการทำศึกสงคราม
ค. การป้องกันแก๊สนำ้ ตาทำได้โดยใสห่ น้ากากป้องกนั
ง. หากถกู แกส๊ นำ้ ตาเข้าที่ตาโดยตรงจะทำใหต้ าบอดสนทิ

๕๘

อา่ นขอ้ ความต่อไปน้ีแล้วตอบคำถามขอ้ ๑๖-๒๐
ไดโนเสารจ์ ดั เปน็ สัตว์ท่มี ขี นาดใหญ่และแข็งแรงมาก เป็นท่ีเกรงกลัวของสตั ว์อื่น ๆ มีการสนั นษิ ฐานกนั ว่า
ทไ่ี ดโนเสารส์ ญู พนั ธุไ์ ปจากโลกเปน็ เพราะสภาพดินฟ้าอากาศเปลีย่ นแปลงมาก อากาศหนาวจัด แม่นำ้ แห้ง
พชื และสัตว์ท่ีเคยเป็นอาหารของไดโนเสาร์ต้องตายไป ทำให้ไดโนเสาร์หาอาหารลำบาก ประกอบกับเกดิ ภเู ขาไฟ
ระเบดิ ปล่อยหินลาวาไหลลงมาทำให้พชื และสตั ว์อ่นื ๆ รวมท้ังไดโนเสาร์ลม้ ตายมาก ขณะเดยี วกันไข่ของไดโนเสาร์ก็
ถกู สัตว์อ่นื ขโมยกินอีกดว้ ย ไดโนเสาร์ซง่ึ ตวั โตมากและต้องการอาหารจำนวนมากจงึ ไม่อาจทนอยูไ่ ด้ มันจงึ ล้มตาย
และสูญพันธไ์ุ ปในที่สุด

๑๖. ขอ้ ใดคือสาเหตสุ ำคญั ทีท่ ำให้ไดโนเสาร์ลม้ ตายและสูญพันธไ์ุ ป

ก. ไฟไหมป้ า่ ข. ไมม่ ีอาหารกนิ

ค. เกิดโรคระบาด ง. สะเกด็ ดาวชนโลก

๑๗. ทำไมสตั ว์อน่ื ๆ จึงกลัวไดโนเสาร์

ก. เพราะไดโนเสาร์ตวั ใหญ่และแขง็ แรงมาก

ข. เพราะไดโนเสาร์สามารถวง่ิ และเดินได้เรว็ มาก

ค. เพราะไดโนเสารห์ าอาหารและกนิ อาหารเก่งมาก

ง. เพราะไดโนเสารส์ ามารถส่งเสียงร้องได้ดงั มาก

๑๘. คำว่า “สนั นษิ ฐาน” แปลวา่ อะไร

ก. ลงมอื พสิ ูจน์ ข. คาดคะเน

ค. สรุปขอ้ มูล ง. หาหลักฐาน

๑๙. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง

ก. ไดโนเสารต์ ายเพราะถูกลาวาภูเขาไฟ

ข. ไดโนเสารก์ นิ พชื และสัตว์เปน็ อาหาร

ค. ไดโนเสารเ์ ปน็ สัตวท์ มี่ ีขนาดใหญ่

ง. ไดโนเสารอ์ อกลูกเป็นตัว

๒๐. นกั เรียนคดิ วา่ ไดโนเสาร์มีจริงหรือไม่เพราะเหตุใด

ก. ไม่จริง เพราะไม่มีใครเคยเห็นไดโนเสาร์

ข. ไมจ่ รงิ เพราะไมน่ า่ จะมีสัตว์ตวั ใหญข่ นาดน้ี

ค. มจี ริง เพราะมกี ารขุดพบซากกระดกู ไดโนเสาร์

ง. มจี ริง เพราะมีการสร้างภาพยนตร์เกยี่ วกบั ไดโนเสาร์

๕๙

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปน้ีแลว้ ตอบคำถามข้อ ๒๑-๓๐
ลงุ เยอ้ื พูดเบา ๆ ว่า “เขาโชคดีกวา่ พวกเรา ไปสบายแล้ว ไปเย็นเสยี ด้วย”
ความตายของเด็กสะเทอื นใจกว่าของผู้ใหญ่
พอ่ แม่ของเด็กที่ถึงฆาตจะร้องห่มรอ้ งไหเ้ จยี นใจจะขาดรอนตามไป เกลอื กหน้าเปียกนำ้ ตาอยู่กับศพทอี่ ่อน
เปียกเยน็ ชดื
ชาวบา้ นที่มุงดูอยู่แน่นขนัดจะค่อย ๆ ถอยออกมา เดนิ หม่นหมองจากไปทลี ะคน ๆ จนเหลอื แต่ญาติสนทิ
มิตรสหายของครอบครัวผูท้ กุ ขโ์ ศกเทา่ น้ัน เฝ้าผลัดกนั ปลอบประโลม บางคนกร็ อ้ งไหด้ ว้ ยอยา่ งสุดกลัน้ ความสงั เวช
ใจ
ลงุ เยือ้ ก็ไมว่ ายจะเสยี นำ้ ตาด้วย มือของแกท่ีไม่สามารถจะเหนี่ยวรั้งชวี ติ น้อย ๆ นน้ั ไวไ้ ด้ เออื้ มออกไปทำ
หน้าทป่ี ลอบโยนผ้เู ปน็ พ่อแม่ของเด็ก

(จากเร่ืองอยู่กับก๋งของหยกบูรพา)

๒๑. ผ้ตู ายน่าจะเสียชวี ติ เพราะเหตใุ ด

ก. ถกู รถชน ข. จมน้ำ

ค. ถกู ไฟคลอก ง. เปน็ ไข้ปา่

๒๒. ผูต้ ายนา่ จะอายุประมาณเท่าไร

ก. ๔๐ ปี ข. ๓๐ ปี

ค. ๒๐ ปี ง. ๑๐ ปี

๒๓. “เขาโชคดกี วา่ พวกเราไปสบายแลว้ ” คำว่า “เขา” ในที่น้หี มายถึงใคร

ก. ผู้ตาย ข. ลุงเยอื้

ค. แมข่ องผ้ตู าย ง. พอ่ ของผู้ตาย

๒๔. จากข้อ ๒๓ “พวกเรา” ในท่ีนี้หมายถึงใคร

ก. ผตู้ าย ข. ลุงเยือ้

ค. คนทยี่ ังไม่ตาย ง. พอ่ แม่ของผตู้ าย

๒๕. จากเหตุการณ์ในเรื่อง ใครทเ่ี จบ็ ปวดทกุ ข์ทรมานใจมากทสี่ ุด

ก. พ่อแมข่ องผู้ตาย ข. ผตู้ าย

ค. ลงุ เยอื้ ง. ชาวบ้าน

๒๖. เหตุใดความตายของเดก็ จงึ สะเทือนใจกวา่ ความตายของผู้ใหญ่

ก. เพราะสภาพศพน่ากลวั กว่า

ข. เพราะเด็กยังมีอนาคตอีกยาวไกล

ค. เพราะเด็กน่าเอน็ ดูกว่าผู้ใหญ่

ง. เพราะเด็กทนความเจบ็ ปวดไดน้ ้อยกวา่

๖๐

๒๗. ญาตสิ นิทเฝ้าผลดั กันปลอบประโลมใคร

ก. เดก็ ข. ลุงเย้ือ

ค. ชาวบ้าน ง. พ่อแม่ของผ้ตู าย

๒๘. “ ถึงฆาต” หมายความวา่ อยา่ งไร

ก. เกิดอบุ ตั เิ หตุ ข. ถงึ เวลา

ค. ตาย ง. หยุด

๒๙. ทำไมชาวบา้ นท่ีมามุงดจู ึงรอ้ งไห้

ก. เพราะรสู้ ึกหดหเู ศร้าใจ

ข. เพราะอึดอัดใจท่ชี ่วยเด็กไม่ได้

ค. เพราะไมร่ ้จู ะปลอบพอ่ แม่ของผตู้ ายอย่างไร

ง. เพราะกลวั วา่ จะเกิดเหตุการณ์แบบน้กี ับลูกของตน

๓๐. เพราะเหตใุ ดชาวบา้ นทมี่ ุงดใู นตอนแรกจงึ พากันสลายตวั ไป

ก. เพราะดจู นแน่ใจแล้วว่าเกิดเหตกุ ารณจ์ ริง

ข. เพราะพ่อแมข่ องผูต้ ายไม่ให้กลบั

ค. เพราะกลวั จะหยดุ ร้องไหไ้ ม่ได้

ง. เพราะไมร่ ูจ้ ะช่วยอย่างไรดี

๖๑

แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจับใจความสำคัญ
ชดุ ท่ี ๑๓

อา่ นข้อความตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคําถามข้อ ๑ - ๑๐
บรรดาปลาน้ำจืดทัง้ หมด ปลาช่อนจัดเปน็ ปลาทค่ี นไทยนยิ มบรโิ ภคมากที่สดุ เป็นอันดบั หนงึ่ พบอยู่ในแหลง่
นำ้ ทว่ั ทุกภาค นอกจากน้ยี ังพบในจีน อนิ เดีย ศรลี งั กา ฟลิ ิปปินส์ อนิ โดนีเซีย เขมร เวยี ดนาม และลาว
ปลาชอ่ นมีนสิ ัยก้าวร้าว ชอบกัดทาํ รา้ ยและกนิ ปลาเล็กปลานอ้ ยเป็นอาหาร เรยี กวา่ เปน็ ปลานกั เลงประจํา
ลํานำ้ ก็วา่ ได้ ปลาชอ่ นมีอวยั วะพเิ ศษชว่ ยในการหายใจจากอากาศเหนอื ผวิ น้ำโดยตรง โดยไมต่ ้องกรองอากาศผ่าน
ชอ่ งเหงอื ก เปน็ ความพิเศษกว่าปลาอื่นๆ ดงั น้นั ปลาช่อนจึงสามารถอยู่ในแหล่งนำ้ สกปรก
และคับแคบได้ ปลาชอ่ นสามารถไถลตัวไปตามพน้ื เพ่ือโยกยา้ ยถนิ่ หากิน เราจึงพบปลาช่อนซกุ ตัวอยู่ตามทอ้ งร่อง
และเรือกสวนไรน่ า แม้ในยามน้ำแหง้ ปลาช่อนก็สามารถอยู่ในโคลนได้เปน็ เดอื น เชน่ เดยี วกับกบ เรียกวา่ “ปลาช่อน
จําศลี ”
ปลาชอ่ นตัวผลู้ าํ ตวั จะส้ันและเพรยี วบางกว่าตวั เมยี สว่ นหวั จะกวา้ งกว่าลาํ ตัวอยา่ งเหน็ ได้ชดั และโคนหาง
จะใหญ่กวา่ ตวั เมยี ย่างเข้าหน้าฝน ปลาช่อนตามแหล่งน้ำในวยั เจริญพันธจุ์ ะกดั หญ้าชายน้ำมาทําแอง่ วางไข่ แม่ปลา
ขนาด ๑ กโิ ลกรัมสามารถวางใจได้ คร้งั ละ ๔๐,๐๐๐ ฟอง ไขจ่ ะฟกั เปน็ ลกู ปลาช่อนตัวแดงภายในเวลา ๒๔ - ๓๖
ช่ัวโมง
ธรรมชาติสรา้ งใหป้ ลาชอ่ นตัวผู้หวงลูกตวั เองมากกวา่ ตวั เมีย ต่างจากสตั ว์หลายชนดิ ช่วงท่ีรอฟักไขต่ วั ผูจ้ ะ
ทาํ หนา้ ทดี่ แู ลไข่และตวั อ่อนจนกว่าลกู ปลาจะเรม่ิ ช่วยเหลอื ตนเองในการออกหากินได้ ส่วนแมป่ ลาชอ่ นก็ออกหากนิ
ไปตามวิถชี วี ติ สัตว์นำ้ เพ่ือทาํ หนา้ ท่ีแม่พนั ธ์ุออกลูกออกหลานใหม้ นษุ ย์ไดม้ ีปลาบรโิ ภคตลอดปี

(ชีวติ กบั ธSSUBาติ จากหนังสือพิมพเ์ ดลินิวส์)

๑. คนไทยนิยมบรโิ ภคปลานำ้ จดื ชนดิ ใดมากเปน็ อนั ดับหนง่ึ

ก. ปลาหมอ ข. ปลาดกุ

ค. ปลาสลิด ง. ปลาชอ่ น

๒. ปลาช่อนพบไดใ้ นหลายประเทศ ยกเวน้ ประเทศใด

ก. ญีป่ ุ่น ข. อนิ เดยี

ค. เขมร ง. จีน

๓. ข้อใดคือสมญานามของปลาช่อน

ก. ปลาเกเร ข. ปลาจิกโก้

ค. ปลานกั เลง ง. ปลาอนั ธพาล

๔. ในหน้าแล้ง ปลาช่อนจะมีสภาพความเป็นอยคู่ ลา้ ยสัตว์ชนิดใด

ก. นก ข. กบ

ค. เต่า ง. จระเข้

๖๒

๕. ปลาช่อนจะวางไขใ่ นฤดูใด

ก. ฤดฝู น ข. ฤดรู อ้ น

ค. ฤดหู นาว ง. ทกุ ฤดู

๖. ปลาช่อนใชส้ งิ่ ใดมาทําแอง่ วางไข่

ก. ใบไม้แห้ง ข. กง่ิ ไม้แหง้

ค. เศษวสั ดุที่ลอยนำ้ ง. หญา้ ตามชายนำ้

๗. ไขป่ ลาช่อนจะฟักเปน็ ตัวภายในเวลาเทา่ ใด

ก. ๑๐ - ๑๒ ช่ัวโมง

ข. ๑๒ - ๒๔ ชว่ั โมง

ค. ๒๔ - ๓๖ ช่ัวโมง

ง. ๓๖ - ๔๘ ชว่ั โมง

๘. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง

ก. ปลาตัวผจู้ ะมีโคนหางเล็กกว่าตวั เมยี

ข. ในยามหนา้ แลง้ ปลาช่อนสามารถอย่ใู นโคลนไดน้ านเปน็ เดอื น

ค. แม่ปลาจะทําหน้าทด่ี แู ลไข่และตวั อ่อนจนกว่าลูกปลาจะชว่ ยเหลือตวั เองได้

ง. แมป่ ลาขนาด ๑ กโิ ลกรัม สามารถวางไขไ่ ด้ครั้งละ ๔๐๐,๐๐๐ ฟอง

๙. ปลาช่อนมีความพิเศษกวา่ ปลาอน่ื ๆ ในเรื่องใด

ก. อวัยวะช่วยในการมองเหน็ ข. อวัยวะชว่ ยในการซอ่ นตวั

ค. อวยั วะชว่ ยในการหายใจ ง. อวยั วะช่วยในการวา่ ยนำ้

๑๐. นักเรยี นคดิ ว่าปลาชอ่ นมีรูปร่างหน้าตาคลา้ ยสัตวช์ นิดใด

ก. งู ข. เตา่

ค. กบ ง. จระเข้

อ่านข้อความต่อไปนีแ้ ลว้ ตอบคําถามข้อ ๑๑ - ๑๕
งูเป็นสตั วเ์ ลือ้ ยคลาน บางชนิดมีพษิ ร้ายแรง สามารถทําให้คนทีถ่ ูกกดั ตายไดใ้ นเวลา ๒๔ ชัว่ โมง
แต่ในทางตรงข้าม พษิ ร้ายของงูก็เป็นเซรุ่มช่วยชวี ติ มนุษย์ได้ งูมหี ลายรอ้ ยชนิด ส่วนใหญจ่ ะอาศัยอยูบ่ นบก
แต่กม็ ีงูบางชนิดอาศัยอยู่ในน้ำ เจ้างทู วี่ า่ นี้ คอื “งูอนิ โดแปซิฟิก” ซงึ่ เป็นงูท่ีวา่ ยน้ำไดเ้ ร็วทีส่ ุดในโลก คอื วา่ ยได้เรว็ ถงึ
๑๖ กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง
งทู ม่ี ีขนาดเล็กทส่ี ุดในโลก คือ “งเู ส้นด้าย” มคี วามยาว ๑๐๘ มลิ ลิเมตร ลําตวั ใหญก่ ว่าเสน้ ด้ายนิดเดียว
ถงึ แม้ตวั ของมันจะเลก็ แตม่ ันก็สามารถกลืนสัตวท์ ่ีมีตวั โตกว่ามันไดถ้ งึ ๔ เท่า ท่ีทําเช่นน้ันได้เพราะขากรรไกรของงู
จะขยายตวั ได้เปน็ พิเศษนน้ั เอง

๑๑. “พษิ ง”ู สามารถนาํ มาทําอะไรได้ ข. อาหาร
ก. ยาใส่แผล ง. เซรุ่ม
ค. ยาพษิ

๖๓

๑๒. งชู นดิ ใดว่ายนำ้ ได้เรว็ ทสี่ ดุ ในโลก

ก. งูอนิ โดแปซิฟกิ ข. งปู ลอ้ งทอง

ค. งูเสน้ ดา้ ย ง. งเู หลือม

๑๓. งสู ว่ นใหญจ่ ะอาศัยอยู่ทไ่ี หน

ก. ในน้ำ ข. บนต้นไม้

ค. บนบก ง. บนหลงั คา

๑๔. งชู นิดใดมีขนาดเล็กท่สี ุดในโลก

ก. งูเส้นเอน็ ข. งเู สน้ ดา้ ย

ค. งเู ข็ม ง. งเู ชือก

๑๕. งที่มีขนาดเลก็ น้ันสามารถกลนื สตั วท์ ี่ตวั โตกว่ามนั ได้ก่ีเทา่

ก. ๑ เท่า ข. ๒ เท่า

ค. ๓ เทา่ ง. ๔ เท่า

อา่ นข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคาํ ถามขอ้ ๑๖ - ๒๕
โลกของตุ๊กตา

แตก่ ่อนต๊กุ ตาไม่ได้มีไว้แคเ่ ด็กเล่นเท่านัน้ แต่ยงั นํามาใชใ้ นพิธกี รรมตา่ ง ๆ อีกด้วย เช่น ตุ๊กตาท่ีปนั้ ด้วยดิน
เหนยี วซึง่ เรยี กกันวา่ “ตุ๊กตาเสยี กบาล” โดยนาํ ไปใส่กระทงรวมกบั เคร่ืองเซ่นคาวหวาน วางไวต้ ามทางสามแพรง่
หรือรมิ ทางเดนิ เพ่ือบชู าภตู ผี หรือเจ้าที่เจ้าทางเพ่ือให้เกดิ สิรมิ งคล

เมื่อก่อนยังไม่มีพลาสตกิ แบบปจั จุบนั น้ี ตกุ๊ ตาจงึ ทําด้วยไมแ้ กะสลกั และดินเผา มีขนสตั ว์ติดแทนเส้นผม
ตุ๊กตาของชาวอียิปต์โบราณท่ีคน้ พบนั้น มีรปู ร่างหน้าตาแบบดไู ม่ออกวา่ เปน็ ตุ๊กตา ต่อมาชาติจนี ไดเ้ ร่มิ ทําตุ๊กตาด้วย
ผา้ ใบหนา้ ทาํ ดว้ ยกระดาษอดั เขยี นหนา้ ตา จมกู ปาก แบบคนจริงๆ ท้ังยงั ใส่เส้ือผา้ สวยงามอีกดว้ ย ในขณะท่ีชาติ
อ่นื ๆ ยังทาํ ตุ๊กตาด้วยไมแ้ ข็ง ๆ ทั้งตัว ต่อมาแตล่ ะชาติไดม้ ีการพฒั นาการทําตุ๊กตาข้นึ เร่ือย ๆ โดยต๊กุ ตาทางทวีป
ยโุ รปเร่มิ ทาํ แขนขาขยับได้ รวมทั้งมีการทาํ เครอ่ื งเรือนและของใช้ให้ตุ๊กตาอีกด้วย จนถงึ ปัจจุบันทพ่ี ลาสติกไดเ้ ข้ามา
มบี ทบาทต่อการทําตุ๊กตาเป็นอยา่ งมาก รวมทัง้ มกี ารประดิษฐต์ ุ๊กตาใหใ้ กล้เคียงกบั มนุษย์มากขนึ้ ทุกที เชน่ ขยบั ปิด
เปิดตาได้ ส่งเสียงพดู ได้ เป็นต้น

ญป่ี นุ่ จดั เปน็ ประเทศท่ีมีการทําต๊กุ ตาตา่ ง ๆ มากมาย และใหค้ วามสําคัญแกต่ กุ๊ ตามาก จนมเี ทศกาลต๊กุ ตา
ชือ่ “เทศกาล ฮนิ ามัตสรึ ิ” โดยเดก็ หญงิ จะนําตุ๊กตาของตนออกมาแลกเปลย่ี นกนั เชยชมในเทศกาลน้ี

ตุ๊กตาของไทยกเ็ ชน่ กัน มกี ารพฒั นาขึ้นเรื่อย ๆ เชน่ การทําตุ๊กตาผ้าแตง่ ชุดละครราํ ชุดโขน หรอื ต๊กุ ตาชาว
วัง ซึง่ เคยสง่ เข้าประกวดไดร้ บั รางวลั ตุ๊กตานานาชาติมาแลว้ และปัจจุบนั นี้ตกุ๊ ตาของไทยไดม้ ีการทาํ รปู แบบใหด้ เู ปน็
สากลขึ้น เช่น ตุ๊กตาของศูนย์ศลิ ปาชพี ซ่ึงนาํ ไปแสดงที่ต่างประเทศน้นั เนน้ รปู แบบใหเ้ ห็นเครือ่ งประดบั โดยมกี าร
แสดงท่าทางและการแต่งตัวให้ตกุ๊ ตาอย่างวิจติ รดว้ ยเคร่ืองทอง เพชร พลอย และปกี แมลงทับให้ดมู ีค่ามรี าคา เปน็ ท่ี
นา่ ตื่นตาตื่นใจแกผ่ ู้พบเห็นจนกลายเปน็ สินคา้ ออกอยา่ งหน่ึงของไทยเลยทีเดยี ว

(จาก เพ่ือเพ่ือนรัก ฉบับท่ี ๒๗)

๖๔

๑๖. โดยทั่วไปตักตาไดท้ ําอะไร

ก. ประดบั บา้ น ข. ให้เดก็ เลน่

ค. ให้คนทกุ คนเลน่ ง. ใช้ประกอบพธิ ีกรรม

๑๗. “ตุ๊กตาเสยี กบาล” ทาํ มาจากอะไร

ก. ดนิ เหนยี ว ข. เศษผ้า

ค. ไม้ ง. กระดาษ

๑๘. การนาํ ตุ๊กตาเสยี กบาลใส่กระทงรวมกับเครื่องเซน่ วางไวต้ ามทางสามแพร่ง ทําเพื่ออะไร

ก. เพอื่ ให้ผู้ที่พบเหน็ เก็บไปบูชา

ข. เพอ่ื ใหเ้ ด็กเก็บไปเล่นเป็นของเลน่

ค. เพอ่ื นาํ ไปประกอบพธิ ีทางศาสนา

ง. เพอ่ื เซ่นไหว้เจา้ ทเ่ี จ้าทางให้เกดิ สิริมงคล

๑๙. ในสมัยกอ่ นตกุ๊ ตาทาํ มาจากวสั ดอุ ะไร

ก. ผ้า หิน และขนสัตว์

ข. ดินเผา กระดาษ และเสน้ ผม

ค. ไม้แกะสลกั ดินเผา และขนสัตว์

ง. ไมแ้ กะสลัก หิน และเสน้ ผม

๒๐. ชาตใิ ดเปน็ ผู้รเิ ริม่ ทําตุก๊ ตาด้วยผ้า

ก. ไทย ข. จีน

ค. ญป่ี ุน่ ง. อยี ปิ ต์

๒๑. ในปจั จุบนั ต๊กุ ตาทาํ มาจากวัสดุอะไรเป็นส่วนใหญ่

ก. ผา้ ข. ไม้

ค. ดนิ เหนยี ว ง. พลาสตกิ

๒๒. ประเทศใดให้ความสําคัญแก่ตุ๊กตามากทส่ี ดุ

ก. ญ่ปี ุ่น ข. เกาหลี

ค. อียิปต์ ง. จีน

๒๓. เทศกาลอะไรท่เี ด็กผหู้ ญิงจะนําต๊กุ ตาของตนออกมาแลกเปลย่ี นกนั เชยชม

ก. เทศกาลฮานาบชิ ิ ข. เทศกาลฮาราจงุ กุ

ค. เทศกาลฮินามัตสึริ ง. เทศกาลฮนิ ามารุ

๒๔. ตกุ๊ ตาอะไรทีเ่ คยได้รับรางวลั ตุ๊กตานานาชาติ

ก. ตกุ๊ ตาจนี ข. ตุก๊ ตาญีป่ นุ่

ค. ตกุ๊ ตาอยี ปิ ต์ ง. ตุ๊กตาไทย

๖๕

๒๕. ตกุ๊ ตาไทยใหป้ ระโยชน์แก่ประเทศชาตอิ ย่างไร
ก. ส่งไปขายเป็นสนิ ค้าออกของประเทศ
ข. ทาํ ให้รเู้ ร่ืองประวัตศิ าสตร์ชาติไทย
ค. ทาํ ใหค้ นไทยรจู้ ักการแตง่ กายสมยั กอ่ น
ง. ทําใหค้ นไทยมงี านทํา

อ่านคํากลอนตอ่ ไปนแ้ี ล้วตอบคําถามขอ้ ๒๖ - ๓๐

การรอครูในห้องเรียนต้องเงยี บเสยี ง มใิ ช่เพียงแกลง้ ทาํ เงียบเม่ือครูสอน

เตรยี มตวั เรยี นเตรียมตําราเตรยี มอปกรณ์ ไมห่ าวนอนหรือง่วงหลบั กับโตะ๊ พลัน

เปล่ยี นชั่วโมงนงั่ รอครทู ่านมาสอน อยา่ ตะลอนหยอกเย้าคยุ กันลั่น

วิง่ โครมครามตึงต้ังไมห่ า้ มกนั ทําเช่นนั้นขาดระเบียบไม่น่าดู

๒๖. คาํ กลอนนม้ี งุ่ สอนคุณธรรมในข้อใด

ก. ความยุติธรรม ข. ความมรี ะเบยี บ

ค. ความกตัญญู ง. ความมนี ำ้ ใจ

๒๗. คํากลอนนม้ี ุ่งสอนเรอื่ งอะไร

ก. การดําเนนิ ชวี ิตในโรงเรยี น ข. มารยาทในการเดนิ แถว

ค. มารยาทในห้องเรียน ง. วิธกี ารเรยี นหนังสอื

๒๘. คาํ ว่า “ตะลอน” นา่ จะหมายถึงข้อใด

ก. ง่วงนอน ข. น่งั เงียบ

ค. กระซิบ ง. ลุกจากท่ี

๒๙. สง่ิ ใดที่นักเรียนควรปฏบิ ตั ขิ ณะทก่ี ําลงั รอครูมาสอน

ก. คยุ กนั ข. นอนหลบั

ค. เดนิ เล่นไปมา ง. เตรียมหนังสอื และเครอ่ื งเขียนให้พร้อม

๓๐. นักเรยี นควรปฏิบัติตามคําสอนข้างบนหรือไม่ เพราะเหตุใด

ก. ควร เพราะถ้าไม่ทาํ ตามจะถูกครูตี

ข. ควร เพราะเราต้องเคารพเชอ่ื ฟงั ครู

ค. ไมค่ วร เพราะการกระทําเหล่านเ้ี ปน็ สทิ ธ์ิของเรา

ง. ไมค่ วร เพราะถา้ ครไู ม่อยเู่ ราก็ไม่ตอ้ งเรยี บร้อย

๖๖

แบบฝกึ ทักษะการอา่ นจบั ใจความสำคัญ
ชดุ ท่ี ๑๔

อ่านขอ้ ความต่อไปนี้แล้วตอบคําถามขอ้ ๑ - ๒๐
ปลาหมึก ชาวทะเลเรยี ก “หมึก” เป็นสัตวท์ ะเลที่ไม่มกี ระดูกสนั หลังที่มขี นาดใหญ่ เปน็ คนละพวกกับปลา
ซ่ึงมีกระดกู สันหลงั ถึงแมจ้ ะวา่ ยนำ้ ไดด้ ีกต็ าม ในทางชีววทิ ยาจดั ไวใ้ นกลุ่มเดียวกับพวกหอย
ปลาหมกึ มีรปู ร่างกลมยาวหรือเป็นถงุ แบ่งเป็นสว่ นหวั และลําตวั ไมม่ ีเปลอื กหมุ้ ภายนอก ส่วนหัวมีตาขนาด
ใหญ่ มีรยางคร์ อบปาก ๔ - ๕ คู่ เรียกกันวา่ หนวด บนหนวดมีป่มุ ดดู เรยี งเป็นแถว หนวดมหี นา้ ที่จบั เหยอื่ ป้อนเข้า
ปากและช่วยในการผสมพันธุ์ ภายในปากมเี ขี้ยว ๒ อัน คือ เข้ียวบนและเขย้ี วลา่ ง มลี ักษณะคล้ายปากนกแกว้
นอกจากนมี้ ีฟันบด เปน็ ฟันซีเ่ ลก็ ๆ อยตู่ ิดกนั เปน็ แผง ทล่ี าํ ตวั มักจะมีครีบติดอยู่ดว้ ย ด้านข้างตามตวั มจี ุดสี จดุ สีน้ี
ขยายใหใ้ หญห่ รือหดเลก็ ลงได้โดยการควบคมุ ของระบบประสาท เม่ือจดุ สีขยายใหญจ่ ะมีสแี ดงปนม่วง เม่ือหดตวั จะ
ทําใหส้ จี างลง ฉะนั้น ปลาหมึกจงึ เปลี่ยนสีของลําตวั ได้ตามสภาพ สงิ่ แวดล้อมหรอื ในช่วงทมี่ กี ารผสมพนั ธุ์ ภายในตัว
มโี ครงสรา้ งที่เป็นของแขง็ เรยี กวา่ “กระดองหมึก” มีลักษณะแตกต่างกนั ไป
เช่น ในปลาหมกึ กล้วย มีลกั ษณะเปน็ แผ่นสีขาวใส เป็นสารประกอบของพวกไคตนิ เรียกว่า เพนเซลล์ สว่ นในหมึก
กระดอง มลี กั ษณะเป็นแผน่ แขง็ สขี าวขุ่น เปน็ สารประกอบของพวกหินปูน เรยี กว่า “ลิน้ ทะเล”
ระหว่างหวั กบั ลาํ ตัวของปลาหมึกมชี อ่ งใหน้ ้ำเข้าสภู่ ายในตัว มที ่อนาํ ออกเรยี กวา่ ไซฟอน อยู่ทางด้านล่าง
ของตัว ท่อนี้หันไปไดต้ ามทิศทางทตี่ ้องการ การขับนำ้ ออกจากช่องตวั อย่างแรง เปน็ วิธีการทท่ี าํ ใหต้ วั เคล่ือนท่ีไปได้
อยา่ งรวดเร็ว ปลาหมกึ หายใจโดยใชเ้ หงือกท่ีอยภู่ ายในลาํ ตัวทําหน้าทแ่ี ลกเปลี่ยนแกส๊ ทีล่ ะลาย อยใู่ นน้ำ นอกจากน้ี
ภายในตวั มที ่อทางเดนิ อาหาร ระบบขับถา่ ย และระบบสืบพนั ธ์ุ ที่ส่วนปลายสุดของท่อทางเดนิ อาหารมถี งุ บรรจนุ ำ้ สี
ดําตดิ อยู่ เรียกว่า “ถุงหมึก” ซงึ่ พร้อมทีจ่ ะพ่นออกทาง ท่อนำ้ ออกเม่ือถูกรบกวนหรือมีศัตรู จงึ เปน็ กําเนิดของชื่อท่ี
เรียกกัน
ปลาหมกึ เคลื่อนที่ได้รวดเร็วและว่องไว จงึ สามารถจบั สตั วข์ นาดเลก็ เช่น หอยสองฝา ปู กุ้ง เคย ปลาขนาด
เลก็ และปลาหมึกด้วยกนั เองเปน็ อาหาร ในการสบื พนั ธ์ุ ปลาหมึกมีอวัยวะสืบพนั ธ์ุทเ่ี จริญดี มีเพศแยกเปน็ เพศผู้
และเพศเมยี ในการผสมพนั ธ์ุเพศผจู้ ะใชห้ นวดอนั หนง่ึ นําถุงเช้ือไปสอดลงในชอ่ งตัวของเพศเมยี เม่ือไข่ได้รบั การ
ผสมแล้ว ตวั เมียกจ็ ะนําสายไข่ไปติดตามพ้นื ทะเลหรอื ตามสาหร่าย ตัวอ่อนจะเจริญอยภู่ ายในไข่จนมีลกั ษณะเกอื บ
สมบูรณ์ก็จะเจาะเปลือกไข่ออกมา ชว่ งแรกของปลาหมึกวัยออ่ น จะดํารงสภาพเป็นแพลงก์ตอนล่องลอยอยู่ ระยะ
ต่อมาจะเรมิ่ จมตัวลงสรู่ ะดับลึก ระยะเวลาการฟักตัวออกไข่ และการเจรญิ เตบิ โตขึน้ อยู่กับชนิดของปลาหมึก
ปลาหมกึ เปน็ อาหารทีม่ รี สดี ราคาไมแ่ พงนกั และมีบริโภค ตลอดปี ปลาหมกึ สดนยิ มนํามาประกอบอาหาร
หรอื บางชนดิ นํามาตากแหง้ เก็บไว้รับประทานไดน้ านวนั

(สารานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน เลม่ ที่ ๑๘)

๖๗

๑. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง

ก. ปลาหมกึ เปน็ สตั ว์ประเภทเดียวกบั ปลา

ข. ปลาหมกึ เป็นสตั วท์ ่ีไมม่ ีกระดกู สนั หลัง

ค. ปลาหมึกเป็นสัตว์ขนาดเล็กท่ีมีกระดูกสันหลงั

ง. ปลาหมกึ เป็นสตั ว์น้ำทอี่ ยู่ในน้ำจืดและนำ้ เค็ม

๒. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะรูปร่างของปลาหมึก

ก. วงรียาวใหญ่

ข. มถี งุ หมึกและมหี นวด

ค. มเี ปลือกหมุ้ และจดุ สี

ง. กลมยาวหรอื เป็นถงุ

๓. ปลาหมกึ ใช้สิ่งใดในการจับเหยือ่

ก. หนวด ข. เขี้ยว

ค. จดุ สี ง. ถุงหมึก

๔. ในทางชวี วิทยาจัดปลาหมึกไวอ้ ยู่ในกลมุ่ เดียวกับสัตว์ชนดิ ใด

ก. โลมา ข. มา้ น้ำ

ค. หอย ง. เต่า

๕. สิ่งใดทําหนา้ ทเี่ ปรียบเสมือนขาของปลาหมึก

ก. หนวด ข. ครบี

ค. เขีย้ ว ง. กระดอง

๖. ปลาหมึกหายใจด้วยอะไร

ก. ปอด ข. ปาก

ค. หนวด ง. เหงือก

๗. “ล้ินทะเล” หมายถงึ อะไรของปลาหมึก

ก. กระดกู สนั หลัง ข. กระดอง

ค. หนวด ง. ลน้ิ

๘. ถุงหมึกมไี ว้เพือ่ อะไร

ก. ผสมพนั ธุ ข. ยอ่ ยอาหาร

ค. พน่ หมกึ ใส่ศัตรู ง. ขบั ถ่ายของเสยี

๙. ถุงหมกึ อย่ตู รงส่วนใดของปลาหมึก

ก. กระดอง ข. ปลายครีบ

ค. หวั กับลาํ ตัว ง. ปลายทอ่ ทางเดนิ อาหาร

๑๐. สิ่งใดท่ชี ่วยใหป้ ลาหมึกเคล่อื นที่ได้อย่างรวดเร็ว

ก. ทอ่ น้ำออก ข . กระดองหมกึ

ค. ปลายหนวด ง. ครีบ

๖๘

๑๑. สงิ่ ใดทม่ี ีส่วนช่วยในการผสมพันธขุ์ องปลาหมกึ

ก. จดุ สี ข. หนวด

ค. กระดอง ง. ถงุ หมึก

๑๒. สิ่งใดทที่ าํ หนา้ ท่แี ลกเปล่ียนแกส๊ ทอี่ ยู่ในน้ำ

ก. ถุงหมกึ ข. จดุ สี

ค. เหงือก ง. ป่มุ ดดู

๑๓. ส่วนที่มีลกั ษณะเปน็ แผน่ แข็งสีขาวใส เรยี กว่าอะไร

ก. เพนเซลล์ ข. กากหนิ

ค. หินปนู ง. ไคติน

๑๔. ข้อใดกล่าวเกีย่ วกับจุดสีของปลาหมึกไม่ถูกตอ้ ง

ก. เปลย่ี นสไี ดต้ ามสภาพแวดลอ้ ม

ข. เปลย่ี นสีไปตามช่วงอายุ

ค. เปล่ยี นสไี ดใ้ นชว่ งทีม่ ีการผสมพันธุ์

ง. สามารถขยายใหใ้ หญข่ ึน้ หรือหดเล็กลงได้

๑๕. ขอ้ ใดมคี วามสัมพันธก์ นั มากท่ีสดุ

ก. จดุ สี - ซอ่ นตวั ข. ปอด - หายใจ

ค. ครีบ - จบั อาหาร ง. หนวด - สืบพนั ธุ์

๑๖. ปลาหมึกขยายพนั ธอ์ุ ย่างไร

ก. แบง่ ตัว ข. ออกลูกเปน็ สาย

ค. ออกลูกเป็นไข่ ง. ออกลูกเปน็ ตัว

๑๗. ข้อใดไมเ่ ปน็ ความจริง

ก. ปลาหมกึ บางชนิดมีหนวด ๕ คู่ บางชนิดมีหนวด ๔ คู่

ข. ปลาหมกึ มที ้ังเพศผู้และเพศเมยี อยู่ในตัวเดียวกนั

ค. เหงอื กของปลาหมกึ อยู่ภายในลาํ ตัว

ง. ปลาหมึกกนิ ปลาหมึกด้วยกัน

๑๘. ข้อใดเปน็ ความจรงิ

ก. หนงั ของปลาหมึกคือเปลือกของปลาหมึก

ข. ในปลาหมึกกลว้ ยมีโครงสร้างภายในตัวเป็นของแข็งสีขาวขุ่น

ค. จดุ สที ่อี ยูต่ ามตัวปลาหมึกเมือ่ หดเลก็ ลงสจี ะเข้มเปน็ สีแดง - ปนม่วง

ง. เข้ียวของปลาหมึกมลี กั ษณะเหมือนปากนกแก้ว

๑๙. ปลาหมึกนิยมนําไปทําส่งิ ใดเพื่อให้สามารถเก็บไว้บรโิ ภคได้นานๆ

ก. ดองเค็ม ข. หมักกบั รําข้าว

ค. ตากแหง้ ง. รมควนั

๖๙

๒๐. ขอ้ ความน้ีไมไ่ ด้กล่าวถงึ ปลาหมึกในดา้ นใด ข. ประโยชน์
ก. นิสัยใจคอ ง. รปู รา่ งลกั ษณะ
ค. การสืบพันธ์ุ

อา่ นข้อความตอ่ ไปน้แี ลว้ ตอบคําถามขอ้ ๒๑ - ๒๕
๓๐ มกราคม ๒๕๖๐ วันนีฉ้ ันต่ืนเช้าเปน็ พิเศษ เพราะจะได้ไปเท่ียวจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา ซง่ึ เป็นการไป
เทีย่ วโดยเรอื ครง้ั แรกในชวี ิตของฉนั ฉันรู้สกึ ตื่นเตน้ มาก บรรยากาศสองขา้ งทางเต็มไปดว้ ยความรม่ รนื่ บา้ นเรอื น
ริมน้ำสรา้ งง่าย ๆ แตน่ ่าอยู่ น้ำในแมน่ ้ำเจ้าพระยาใสสะอาด เดก็ ๆ ว่ายนำ้ เลน่ กันอย่างสนกุ สนาน การเดินทางไป
ไหนมาไหนกใ็ ชเ้ รอื พายไป ไม่ต้องเจอปญั หารถติด ฉันเพลิดเพลินกบั ธรรมชาตริ ิมนำ้ ไดไ้ ม่นาน ฉันกพ็ บน้ำที่มีสีดาํ
สนทิ และมีกลน่ิ เหม็นมาก มคั คเุ ทศก์บอกวา่ บรเิ วณนี้เป็นโรงงานอุตสาหกรรม ซ่ึงปล่อยน้ำเสียลงคลองทําให้นำ้ เน่า
เหม็น ฉันรสู้ กึ เสยี ดายนำ้ ใส ๆ และบรรยากาศดี ๆ จงั เลย

๒๑. ขอ้ ความน้เี ป็นงานเขยี นประเภทใด ข. เรียงความ
ก. จดหมาย ง. บันทกึ ประจาํ วัน
ค. บนั ทึกชว่ ยจํา
ข. รถไฟ
๒๒. ฉันเดนิ ทางไปเทีย่ วโดยพาหนะใด ง. เครื่องบิน
ก. เรอื
ค. รถยนต์ ข. อยุธยา
ง. นครนายก
๒๓. ฉันไปเทย่ี วทจี่ งั หวดั ใด
ก. ลพบุรี ข. วงั
ค. อ่างทอง ง. บางปะกง

๒๔. จงั หวัดทีฉ่ นั ไปเท่ยี วตั้งอยบู่ นลุ่มนำ้ ใด ข. โรงงานอตุ สาหกรรม
ก. ปงิ ง. การทาํ สวนดอกไม้
ค. เจ้าพระยา

๒๕. นำ้ เน่าเสยี เกิดมาจากตน้ เหตใุ ด
ก. โรงงานบําบัดน้ำเสยี
ค. การทาํ นาของชาวนา

อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนี้แล้วตอบคาํ ถามขอ้ ๒๖ - ๓๐
หอยตะเภามีตน้ กาํ เนิดบริเวณชายหาดปากเมง อาํ เภอ สิเกา จงั หวดั ตรงั มานานนบั ร้อยปี เป็นหอยสองฝา
ขนาดใหญ่ เปลอื กมสี เี ขียวเหลอื งหรือเขียวคล้ำ รูปรา่ งเปน็ รูปสามเหล่ยี ม ท้ายงอนขน้ึ คล้ายทา้ ยเรอื สําเภา ชาวบ้าน
จงึ เรยี กวา่ “หอยท้ายสาํ เภา” หรือเรียกส้นั ๆ ว่า “หอยทา้ ยเภา” จนเพย้ี นมาเปน็ “หอยตะเภา” ชาวบ้านจะเก็บ
หอยตะเภามารับประทานเพราะมโี ปรตนี สูง เนื้อนิ่ม มรี สชาติอร่อย และปรงุ เป็นอาหารได้หลายอยา่ ง เช่น เผา ลวก
ยาํ ผดั เป็นตน้

๗๐

๒๖. “หอยตะเภา” มีรูปร่างลักษณะเป็นอยา่ งไร ข. เป็นหลอดกลม
ก. เปน็ รูปสามเหล่ยี ม ง. เปน็ ทรงกลม
ค. เป็นเส้นยาว
ข. ภาคตะวันออก
๒๗. หอยตะเภาพบได้ทางภาคใด ง. ภาคใต้
ก. ภาคกลาง
ค. ภาคเหนือ ข. ๑๐๐ ปี
ง. ๒๐ ปี
๒๘. หอยตะเภามีมานานเทา่ ใด
ก. ๒๐๐ ปี ข. วิตามิน
ค. ๕๐ ปี ง. เกลอื แร่

๒๙. หอยตะเภาให้สารอาหารชนิดใดมากทสี่ ุด
ก. ไขมัน
ค. โปรตนี

๓๐. ข้อใดไม่เกย่ี วข้องกบั หอยตะเภา
ก. ต้นกาํ เนิดอยู่ทจี่ ังหวดั ตรัง
ข. มีเปลือกแขง็ ทรงเจดีย์
ค. นาํ มาเผา ลวก ยํา แกง ได้
ง. มเี น้อื นมิ่ รสชาติอร่อย

๗๑

แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจับใจความสำคัญ
ชดุ ที่ ๑๕

อ่านข้อความต่อไปนแ้ี ล้วตอบคาํ ถามขอ้ ๑ - ๑๐
แดร็กคลู า่ ใตท้ ะเล

เพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินชือ่ เสียงของเจ้าคา้ งคาวผีดูดเลือด ที่ช่ือ “แดร็กคูลา่ ” กนั มาบ้างแลว้ แตใ่ ครจะคดิ
วา่ ใตท้ อ้ งทะเลน้นั ก็มีแดร็กคูลา่ เหมอื นกนั มันคือ “ปลาไหลทะเล” เหตุที่ได้รับการขนานนามเชน่ นน้ั ก็เพราะวา่
มนั หากนิ ด้วยวธิ แี ตกตา่ งจากปลาอนื่ ๆ นนั่ คือมันใชก้ ารดดู เลือดแทนการจบั กิน

ปลาไหลทะเลมีรูปร่างคล้ายปลาไหลนำ้ จดื แตม่ เี มือกและรูปร่างกลมใหญ่กว่า และสว่ นที่แตกตา่ งออกไป
อีกโดยส้นิ เชงิ กค็ ือ ปาก ปากของปลาไหลทะเลมลี ักษณะกลม เมอื่ มองจากดา้ นตรง ตรงขอบปากจะมเี สน้ ใยเหนียว
คล้ายขนแปรงเต็มไปดว้ ย สารที่เหนยี วหนึบภายในปากเต็มไปดว้ ยพื้นท่แี หลมคมเหมือนเขย้ี วอย่ถู งึ ๑๒๕ เขีย้ ว
ฟันหรือเขีย้ วนี่แหละที่มันใชพ้ ิฆาตเหย่อื

ปลาไหลทะเลจะอยรู่ วมกนั เป็นกลุ่มบนพ้ืนใตท้ ะเลที่มลี ักษณะปนโคลนโดยอาศัยอยู่ในรู หรือยดึ ตวั ติดกบั
พชื ใต้น้ำ เม่ือมีเหยื่อผ่านมามันกจ็ ะโผลห่ วั ออกจากที่อยูแ่ ละใช้ปากทม่ี ีลกั ษณะกลมเต็มไปดว้ ยใยเหนยี วน้ันดูดหนัง
หรอื เกลด็ ของเหยื่อจากน้นั เขี้ยวอันมากมายในปากจะทําหน้าทกี่ ดั และดูดเลือดขณะท่ีดูดเลอื ดมันจะปลอ่ ยสารชนดิ
หนงึ่ ออกจากปากใสใ่ นแผลของเหย่อื เพ่ือไมใ่ ห้เลือดแขง็ ตัว โดยท่เี หยอ่ื ไมส่ ามารถสะบดั ใหห้ ลดุ พ้นออกจากปากมัน
ได้ ถ้าเลอื ดในตวั เหยือ่ ไม่แห้งหรอื มันไม่อ่ิมเสยี ก่อน ปากของปลาไหลทะเลมพี ลังดูดสงู มาก บางทจี่ ะเหน็ ว่าปลาทถี่ ูก
จบั ขึ้นมาจากทะเลนน้ั จะมปี ลาไหลทะเลเกาะติดขน้ึ มาด้วย ขนาดทีน่ ําข้ึนมาจากน้ำมันกย็ ังไมย่ อมปลอ่ ยเหยอ่ื งา่ ย ๆ
ปลาทม่ี ันชอบเกาะดูดเลอื ดก็มี ปลากระเบน ปลาแซลมอน ปลาคอ็ ด ปลาเทรา้ ท์ แมแ้ ต่ปลาฉลามมนั ก็ไม่เลือก
ถา้ เกดิ มันหวิ ขน้ึ มา

ปลาไหลทะเลเม่ือโตเตม็ ทจ่ี ะมขี นาดประมาณ ๔๐ - ๖๐ เซนติเมตร เม่ือถงึ ฤดูวางไข่ ปลาไหลทะเลตวั เมีย
จะมไี ขอ่ ยเู่ ต็มท้อง ถ้านํามาผา่ ดูจะเห็นไขม่ ากกวา่ ๕๐,๐๐๐ ฟองขึ้นไป ซึ่งถา้ หากไข่เปน็ ตัวเม่อื ใดกไ็ ม่ตอ้ งสงสยั เลย
วา่ ปลาต่างๆ ในทะเลจะมีอันตรายสกั เพยี งใด แต่ไข่ของปลาไหลทะเลจะโตข้ึนเป็นตัวครบตามจํานวนกห็ าไม่
เพราะไขส่ ว่ นหนึ่งกเ็ ปน็ อาหารของปลาอน่ื ๆ เชน่ กัน

มีการค้นพบวา่ ปลาไหลทะเลมอี ยใู่ นโลกถึง ๔๐๐ ลา้ นปี มาแลว้ และตลอดเวลาทผ่ี า่ นมา เจ้าแดร็กคูลา่
ใต้ทะเลกไ็ มเ่ คยเปล่ยี นแปลงรูปร่างเลยจนกระทง่ั ทุกวันนี้

(จาก เพื่อเพ่ือนรัก ฉบบั ท่ี ๒๗)

๑. สตั วช์ นดิ ใดได้รับสมญาว่า “แดรก็ คูล่าใตท้ ะเล”

ก. ปลงิ ทะเล ข. ปลาฉลาม

ค. ปลากระเบน ง. ปลาไหลทะเล

๗๒

๒. เหตใุ ดสัตว์ชนดิ นจี้ ึงได้ช่อื วา่ “แดร็กคลู ่า”

ก. ดูดเลอื ดแทนการจับกนิ ข. หากนิ ในที่มดื ๆ

ค. จบั ปลาโดยใช้เหยอื่ ลอ่ ง. จบั ปลาเก่งมาก

๓. ปลาไหลน้ำจืดและปลาไหลทะเลมีอวัยวะใดที่แตกต่างกัน

ก. หวั ข. ตา

ค. ปาก ง. หาง

๔. สิ่งใดทปี่ ลาไหลทะเลใช้ฆ่าเหย่ือ

ก. ปาก ข. ฟัน

ค. หาง ง. ลิ้น

๕. เหตใุ ดเลือดของเหยอ่ื ทถ่ี กู ดดู จึงไม่แข็งตัว

ก. ปลาไหลจะปล่อยสารชนิดหนึง่ ใส่แผลเหยือ่

ข. ท่ปี ากของปลาไหลมีใยเหนียวกันไมใ่ หเ้ ลือดแขง็ ตวั

ค. ปกติเลอื ดของสตั ว์ทะเลจะไม่แขง็ ตวั

ง. ปลาไหลจะกินเหยื่อหมดก่อน

๖. จากข้อความ ปลาไหลทะเลนา่ จะชอบดดู เลือดปลาชนิดใด

ก. ปลาฉลาม ปลากะพง

ข. ปลากระบอก ปลาเทรา้ ท์

ค. ปลาแซลมอน ปลากระเบน

ง. ปลาคอ็ ด ปลาทู

๗. ปลาไหลทะเลมีลักษณะการอยู่อาศยั เป็นอย่างไร

ก. อยูร่ วมกนั เป็นกลุ่ม ข. อยูบ่ นพืน้ ใต้ทะเลที่ปนโคลน

ค. อยใู่ นรูหรือยึดตัวตดิ กับพืชใตน้ ำ้ ง. ถกู ทกุ ขอ้

๘. ปลาไหลทะเลเมอ่ื โตเต็มที่จะมขี นาดเท่าไร

ก. ๒๐ - ๔๐ เซนติเมตร ข. ๔๐ - ๖๐ เซนตเิ มตร

ค. ๖๐ - ๘๐ เซนตเิ มตร ง. ๘๐ - ๑๐๐ เซนติเมตร

๙. ไขท่ ีอ่ ยู่ในท้องปลาไหลทะเลตัวเมยี จะมปี ระมาณก่ฟี อง

ก. ๔๐,๐๐๐ ฟอง ข. ๕๐,๐๐๐ ฟอง

ค. ๖๐,๐๐๐ ฟอง ง. ๗๐,๐๐๐ ฟอง

๑๐. ปลาไหลทะเลมีอยใู่ นโลกกี่ปมี าแลว้

ก. ๑,๐๐๐ ล้านปี ข. ๕๐๐ ลา้ นปี

ค. ๔๐๐ ล้านปี ง. ๑๐๐ ลา้ นปี

๗๓

อา่ นขอ้ ความต่อไปนีแ้ ลว้ ตอบคาํ ถามขอ้ ๑๑ - ๒๐
นาบวั

บัว เปน็ ดอกไมม้ ีอยทู่ ่ัวไปในหลายประเทศ ไมม่ ีใครรู้ถึงถิน่ กําเนิด แต่มีผพู้ บเมล็ดบวั ท่ีอายุ ๓,๐๐๐ -
๕,๐๐๐ ปีมาแลว้ ในประเทศจีน

ในเมอื งไทยดอกบัวมีตลอดท้งั ปี เราใชด้ อกบวั บชู าพระ หรือแสดงความเคารพสิ่งท่ีนับถือ ใช้ดอกบัวใน
งานบญุ งานเทศกาล งานประเพณี นอกจากนสี้ ว่ นอ่ืน ๆ ของดอกบัวยังใชป้ ระโยชน์ไดม้ าก เชน่ เมล็ดใช้
รบั ประทานได้ โดยนาํ ไปประกอบอาหาร คาว-หวาน เมล็ดบวั มรี สชาติอร่อยและมคี ุณคา่ ทางอาหารสูง ใบนําไปใช้
ห่ออาหาร เชน่ หอ่ ขา้ ว เป็นตน้ ชาวจีนนิยมนาํ รากบวั ไปต้มกินแกร้ ้อนใน ในปจั จุบนั มีผนู้ ิยมรบั ประทานเมล็ดบวั
มากขึน้ ท้ังในและนอกประเทศ บวั จึงเป็นพชื เศรษฐกจิ ท่สี ําคัญ เกษตรกรจึงหนั มาทํานาบัวเพอ่ื เสริมรายไดใ้ ห้แก่
ครอบครวั

การทํานาบวั ใชเ้ นื้อทป่ี ระมาณ ๑-๕ ไร่ พื้นท่ีเปน็ ดินเหนียว มีแหลง่ นำ้ เพยี งพอหรือเปน็ แหล่งท่ีน้ำทว่ มขัง
ทั้งปี บัวทป่ี ลกู ในบา้ นเรามหี ลายชนิด เช่น บวั หลวง บัวผัน (บวั เผ่อื น) บัวฝรงั่ จงกลนี บวั สาย บัวขอบกระด้ง
(บัววกิ ตอเรยี ) สว่ นปทมุ (ปัทมา) ปุณฑรกิ (บุณฑรกิ ) บวั หลวงจีนชมพู บวั หลวงจีนขาว (บวั ปกั กิ่งขาว) สัตตบงกช
(บัวฉัตรชมพู) และสตั ตบุษย์ (บวั ฉัตรขาว) จดั อยูใ่ นประเภทบวั หลวงทั้งสิ้น

การปลกู บัวมีอย่สู องลักษณะคือ ปลูกเพอ่ื ตดั ดอก มักปลูกบวั หลวงพนั ธ์ุปุณฑรกิ สตั ตบงกช สัตตบษุ ย์
ใช้เวลาปลกู เพยี ง ๓ - ๔ เดือน บวั กจ็ ะใหด้ อกนานถึง ๖ เดอื น อีกลักษณะคือปลูกเพ่ือเก็บเมลด็ นิยมปลูกพันธ์ปุ ทุม
เพราะมเี มลด็ มาก และฝักใหญ่กว่าพันธุอ์ ่นื ๆ

(“ดอกสะแบง” คอลมั นห์ ลงั สู้ฟา้ หน้าสดู้ ิน จากหนงั สือพิมพไ์ ทยรัฐ)

๑๑. การปลกู พืชชนิดใดบ้างท่ีเรยี กวา่ “ทาํ นา”

ก. ข้าว ข. บัว

ค. ถัว่ ง. ถกู ทง้ั ข้อ ก และ ข

๑๒. ประเทศใดที่มผี ู้พบเมลด็ บัวทมี่ ีอายุ ๓,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ ปี

ก. จนี ข. ญีป่ ุ่น

ค. อินเดยี ง. เนปาล

๑๓. คนใชด้ อกบัวทําประโยชนห์ ลายอยา่ ง ยกเวน้ ข้อใด

ก. บชู าพระ ข. ใชใ้ นงานบุญ

ค. ใชเ้ ย่ียมผปู้ ว่ ย ง. ใชแ้ สดงความเคารพสิ่งที่นับถือ

๑๔ เมล็ดบัวมีประโยชนอ์ ย่างไร

ก. ใช้หอ่ อาหาร ข. ใชป้ ระกอบอาหาร

ค. ใช้เลี้ยงสตั ว์ ง. ใชก้ นิ แก้ร้อนใน

๗๔

๑๕. สว่ นใดของบวั ท่นี าํ มาตม้ กินแกร้ ้อนในได้

ก. ใบ ข. ดอก

ค. ราก ง. เมล็ด

๑๖. บวั ขึ้นไดด้ ใี นดินประเภทใด

ก. ดินทราย ข. ดินเหนียว

ค. ดินร่วน ง. ดนิ ร่วนปนทราย

๑๗. ในการปลกู บวั จะใชเ้ นือ้ ที่ประมาณเทา่ ใด

ก. ๑ ไร่ ข. ๓ ไร่

ค. ๕ ไร่ ง. ถกู ทุกข้อ

๑๘. เพราะเหตุใดเกษตรกรจงึ หันมาปลูกบวั มากขึ้น

ก. มผี นู้ ยิ มรับประทานเมลด็ บัวมากขนึ้ ข. ใชเ้ งินทนุ ในการปลูกไม่มาก

ค. รัฐบาลให้การสง่ เสริม ง. บัวเป็นพชื ปลูกงา่ ย

๑๙. “บัวหลวงพันธส์ุ ัตตบุษย์” ปลูกไวเ้ พื่อจดุ ประสงคใ์ ด

ก. เพ่ือใชใ้ บ ข. เพื่อเกบ็ เมลด็

ค. เพือ่ ตัดดอก ง. เพื่อใช้ราก

๒๐. บัวพันธ์ุใดมเี มลด็ มากและฝักใหญ่กว่าพนั ธอุ์ ่นื

ก. บณุ ฑริก ข. สัตตบงกช

ค. บัวสาย ง. ปัทมา

อ่านข้อความตอ่ ไปนี้แลว้ ตอบคาํ ถามขอ้ ๒๑ - ๓๐
เมอ่ื พระรามออกเดินป่ามีพระลกั ษณซ์ ่งึ เป็นพระอนชุ าและนางสีดาซ่ึงเปน็ พระมเหสีออกติดตามไปดว้ ย
นางสํามนกั ขาซง่ึ เป็นน้องของทศกัณฐ์ เจ้ากรุงลงกา มาพบพระรามก็หลงรกั จึงขอถวายตัวแตพ่ ระรามปฏเิ สธ
นางสํามนักขาจึงทุบตีนางสดี าดว้ ยความหงึ หวง พระลักษณ์เข้าช่วยนางสดี าและทําร้ายนางสํามนักขาไดร้ บั บาดเจบ็
นางสาํ มนักขาจึงไปฟ้องทศกัณฐ์และพูดถึงความงามของนางสดี า ทศกัณฐ์ได้ฟังกห็ ลงรักนางสีดาจงึ ทําอุบาย
จะลักพานางสีดา โดยใหม้ ารีศซึง่ เป็นน้องอีกคนของทศกัณฐ์ แปลงกายเปน็ กวางทองเดนิ ผา่ นที่พักของสีดา
นางสดี าเหน็ กวางทองกอ็ ยากได้ จึงใหพ้ ระรามตามจับกวางทอง พระรามออกตามจบั กวางทองเขา้ ไปในปา่
ลกึ เมอ่ื รู้วา่ เปน็ กวางทองแปลงจงึ ใช้ศรยิงกวางทอง กวางทองกลายรา่ งเปน็ ยักษ์และแกล้งร้องเป็นเสยี งพระรามให้
พระลกั ษณช์ ่วย นางสีดาไดย้ ินกเ็ ขา้ ใจวา่ พระรามได้รับอันตรายจึงให้พระลักษณอ์ อกไปช่วย
ฝ่ายทศกัณฐซ์ งึ่ ซุ่มดนู างสดี าเห็นพระลักษณ์ออกไปแลว้ จึงแปลงกายเปน็ ฤๅษีไปหานางสีดา นางสีดาเห็นว่า
เป็นฤๅษี จงึ นิมนต์เขา้ ไปในศาลา ทศกณั ฐ์พูดจาขอความรักนางสดี า นางสีดาโกรธจงึ ต่อว่า ทศกัณฐจ์ งึ กลายรา่ งเป็น
ยกั ษ์และอมุ้ นางสีดาไปยังกรุงลงกา เหตนุ ้จี งึ กลายเป็นสงครามระหว่าง พระรามกบั ทศกัณฐ์

๗๕

๒๑. นางสํามนักขาเปน็ ใคร

ก. มเหสขี องพระเหสีของพระลักษณ์ ข. มเหสขี องทศกัณฐ์

ค. นอ้ งของนางสดี า ง. น้องของทศกัณฑ์

๒๒. นางสํามนกั ขามีความรสู้ กึ อย่างไรต่อพระราม

ก. เคยี ดแคน้ ข. เกลียด

ค. รกั ง. โกรธ

๒๓. ทําไมนางสํามนักขาจึงทุบตนี างสดี า

ก. หึงหวงพระลกั ษณ์ ข. หึงหวงพระราม

ค. อิจฉาในความงาม ง. ถกู นางสีดาทาํ ร้ายก่อน

๒๔. ใครชว่ ยนางสดี าให้รอดพ้นจากการถูกนางสาํ มนกั ขาทาํ ร้าย

ก. พระลักษณ์ ข. ทศกัณฐ์

ค. พระราม ง. ฤๅษี

๒๕. พระรามทาํ อยา่ งไรเม่ือนางสาํ มนกั ขามาขอความรัก

ก. ขอคดิ กอ่ น ข. เดนิ หนี

ค. ปฏเิ สธ ง. ตอบรับ

๒๖. นางสํามนักขาพูดถึงนางสีดาใหท้ ศกัณฐฟ์ งั ถึงเร่ืองอะไร

ก. ความฉลาด ข. ความงาม

ค. ความรู้ ง. ความเกง่

๒๗. ใครแปลงกายเป็นกวางทอง

ก. มารีศ ข. นนทก

ค. พเิ ภก ง. ไมยราพ

๒๘. ทศกัณฐท์ ําอยา่ งไรจึงได้พดู คุยกับนางสดี า

ก. แปลงเป็นเดก็ ข. แปลงเป็นขอทาน

ค. แปลงเปน็ คนชรา ง. แปลงเป็นฤๅษี

๒๙. อาวธุ ประจาํ กายของพระรามคืออะไร

ก. มดี ข. ศร

ค. ดาบ ง. กรชิ

๓๐. สงครามระหว่างพระรามกับทศกณั ฐ์เกิดขน้ึ จากสาเหตุใด

ก. พระรามตามจับกวางทอง

ข. นางสํามนักขาไปฟอ้ งทศกัณฐ์

ค. พระลกั ษณท์ าํ ร้ายนางสาํ มนกั ขา

ง. ทศกัณฐ์อ้มุ นางสีดาไปกรุงลงกา

๗๖


Click to View FlipBook Version