The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krumunphysmath, 2019-04-09 04:09:27

thaimathsci62

thaimathsci62

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นมัธยมวิทยา

เป้าหมายการจดั การศกึ ษาระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน

เป้าหมายและกระบวนการพฒั นา

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ระดบั ชนั้ ระดับช้นั ระดับชัน้ ผลลัพธ์ เครอ่ื งมือ
ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
สาระที่ ๑ การอ่าน ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ - อ่านออกเสยี งบทร้อย -แบบประเมนิ
มาตรฐาน ท ๑.๑ ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและ แก้วและบทร้อยกรอง -แบบทดสอบ
บทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และ เปน็ ทานองเสนาะได้
ใช้กระบวนการอ่าน ๒. อธบิ ายความหมายของคา บทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง
สร้างความรู้และ ประโยค และสานวนจากเรอ่ื งที่ บทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง - อธิบายความหมาย
ความคิดเพอื่ นาไปใช้ อา่ น ๒. อธบิ ายความหมายของคา โดยตรงและความหมาย
ตัดสินใจ ๓. อ่านเร่อื งสัน้ ๆ ตามเวลาที่ ๒. อธบิ ายความหมายของคา โดยนัยของคา ประโยค
แกป้ ญั หาในการ กาหนดและตอบคาถามจากเรอื่ งท่ี ประโยคและข้อความทเี่ ป็นการ ประโยคและขอ้ ความทีเ่ ปน็ โวหาร ขอ้ ความสานวนโวหาร
ดาเนนิ ชวี ิตและมนี ิสยั อ่าน บรรยาย และการ ๓. อา่ นเร่ืองส้นั ๆ อยา่ งหลากหลาย จากเรือ่ งท่ีอา่ น
รักการอ่าน ๔. แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น - เข้าใจคาแนะนา
จากเร่ืองท่อี า่ น พรรณนา โดยจบั เวลาแล้วถามเก่ยี วกับเรื่องท่ี คาอธบิ ายในคมู่ อื ตา่ งๆ
๕. คาดคะเนเหตุการณ์จากเรือ่ งท่ี - สามารถแยกแยะ
อ่านโดยระบเุ หตผุ ลประกอบ ๓. อธิบายความหมายโดยนัย จาก อา่ น ข้อคดิ เห็นและข้อเทจ็ จรงิ
๖. สรปุ ความรู้และข้อคิดจากเรอื่ ง เรอ่ื งท่อี า่ นอย่างหลากหลาย - จบั ใจความสาคญั ของ
ทีอ่ ่าน ๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ จาก เร่ืองท่อี า่ นและนาความรู้
๗. อา่ นหนงั สอื ทีม่ คี ณุ ค่าตามความ ๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ เรอ่ื งท่อี ่าน ความคดิ จากเรอ่ื งท่อี า่ น
สนใจอยา่ งสมา่ เสมอและแสดง จากเรือ่ งที่อา่ น ไปตดั สนิ ใจแก้ปัญหาใน
ความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรอ่ื งที่อา่ น ๕. วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็น ๕. อธิบายการนาความรูแ้ ละความคดิ การดาเนนิ ชวี ติ ได้- มี
๘. มมี ารยาทในการอา่ น เกีย่ วกับเร่อื งท่อี ่านเพือ่ นาไปใช้ จากเร่อื งทอี่ า่ นไปตดั สินใจแก้ปัญหา
ในการดาเนินชีวติ ในการดาเนนิ ชวี ติ มารยาทและมีนสิ ยั รักการ
๖. อา่ นงานเขียนเชงิ อธิบาย คาสัง่ ๖. อ่านงานเขยี นเชิงอธบิ าย คาส่ัง อ่าน และเหน็ คณุ คา่ สิง่ ที่
ขอ้ แนะนา และปฏบิ ัตติ าม ขอ้ แนะนา และปฏิบัติตาม อ่าน
๗. อา่ นหนังสือทมี่ คี ณุ คา่ ตามความ ๗. อธิบายความหมายของขอ้ มูล
สนใจอยา่ งสมา่ เสมอและแสดงความ จากการอ่านแผนผัง แผนท่ี แผนภมู ิ
คดิ เห็นเกยี่ วกับเรื่องทอ่ี า่ น และกราฟ
๘. มีมารยาทในการอา่ น ๘. อ่านหนงั สือตามความสนใจ และ
อธบิ ายคณุ คา่ ท่ไี ดร้ ับ

๙. มมี ารยาทในการอ่าน

เปา้ หมายและกระบวนการพฒั นา

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด ระดบั ชั้น ระดับช้นั ระดบั ชั้น ผลลัพธ์ เครอ่ื งมอื

ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ประถมศึกษาปีที่ ๖

สาระท่ี ๒การเขียน ๑. คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัด ๑. คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด ๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ - มที ักษะในการคัดลายมือ -แบบประเมนิ
และครึ่งบรรทดั ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ -แบบทดสอบ
มาตรฐาน ท ๒.๑ใช้ และครงึ่ บรรทดั บรรทัด และคร่งึ บรรทัด
กระบวนการเขียน ๒. เขยี นสอื่ สารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. เขยี นสือ่ สารโดยใช้คาได้ถกู ต้อง
เขียนสื่อสาร เขียน ชดั เจน และเหมาะสม ๒. เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ คร่งึ บรรทดั เขียนสะกด
เรียงความ ยอ่ ความ
ชดั เจน และเหมาะสม ถูกตอ้ งชดั เจน และเหมาะสม คา

๓. เขียนแผนภาพโครงเรื่องและ ๓. เขียนแผนภาพโครงเร่อื งและ - แต่งประโยคและเขียน
แผนภาพความคิดเพือ่ ใชพ้ ัฒนางาน ๓. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและ
แผนภาพความคดิ เพื่อใช้พฒั นางาน แผนภาพความคดิ เพ่อื ใชพ้ ฒั นา ขอ้ ความ ตลอดจนเขียน
เขียน
และเขียนเรื่องราวใน เขียน ๔. เขียนยอ่ ความจากเร่ืองที่อ่าน งานเขยี น ส่อื สารโดยใช้ถอ้ ยคา
รูปแบบต่างๆ เขียน ๔. เขยี นยอ่ ความจากเรือ่ งสน้ั ๆ ๕. เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและ
รายงานขอ้ มลู ๕. เขยี นจดหมายถงึ เพ่ือนและบดิ า ญาติ ๔. เขยี นเรียงความ ชดั เจนเหมาะสม
สารสนเทศและ มารดา ๖. เขียนแสดงความรู้สกึ และความ
รายงานการศึกษา ๖. เขยี นบันทกึ และเขียนรายงาน คดิ เห็นได้ตรงตามเจตนา ๕. เขยี นยอ่ ความจากเรอ่ื งทีอ่ า่ น - สามารถ ใชแ้ ผนภาพ
คน้ ควา้ อยา่ งมี จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ๗. กรอกแบบรายการตา่ งๆ
ประสิทธิภาพ ๗. เขยี นเร่อื งตามจินตนาการ ๘. เขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ ๖. เขยี นจดหมายสว่ นตัว โครงเรอื่ งและแผนภาพ
๘. มีมารยาทในการเขยี น
๗. กรอกแบบรายการต่างๆ ความคิดเพ่ือพัฒนางาน

๘. เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการและ เขยี น

สร้างสรรค์ - สามารถเขียนเรียงความ

๙. มมี ารยาทในการเขยี น ยอ่ ความ จดหมายสว่ นตวั

๙. มมี ารยาทในการเขยี น กรอกแบบรายการตา่ งๆได้

-สามารถ เขยี นแสดง

ความรสู้ กึ และความ

คดิ เห็น

- สามารถเขยี นเรื่องตาม

จนิ ตนาการอยา่ ง

สร้างสรรคไ์ ด้

- มีมารยาทในการเขยี น

เปา้ หมายและกระบวนการพัฒนา

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ระดับชน้ั ระดบั ชั้น ระดับช้นั ผลลัพธ์ เครอ่ื งมือ

ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖

สาระท่ี ๓ การฟัง ๑. จาแนกขอ้ เท็จจรงิ และ ๑. พดู แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ ๑. พดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจ - สามารถพูดแสดงความรู้ -แบบประเมิน
และความรู้สกึ จากเร่อื งท่ฟี งั และดู จดุ ประสงค์ของเรือ่ งท่ฟี ังและดู ความคดิ เก่ียวกบั เรื่องท่ี -แบบทดสอบ
การดู และการพูด ข้อคิดเห็นจากเรอื่ งทีฟ่ ังและดู ๒. ตง้ั คาถามและตอบคาถามเชิง ๒. ตง้ั คาถามและตอบคาถามเชิง ฟงั และดไู ด้
มาตรฐานท ๓.๑ ๒. พูดสรุปความจากการฟงั และดู เหตผุ ลจากเรอ่ื งท่ีฟงั และดู - สามารถเลา่ เร่อื งย่อหรอื
สามารถเลือกฟังและดู ๓. พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ เหตผุ ล จากเรื่องทฟ่ี ังและดู สรุปจากเรือ่ งทฟี่ งั และดู
และความรู้สึกเก่ียวกับเร่อื งทีฟ่ ัง ๓. วเิ คราะห์ความนา่ เชอ่ื ถือจากเรอ่ื ง ๓. วเิ คราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถอื จาก ได้
อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และดู ทฟ่ี งั และดูอย่างมีเหตุผล - สามารถตงั้ คาถาม
การฟังและดูส่อื โฆษณาอยา่ งมี ตอบคาถามจากเร่ืองที่ฟัง
๔. พูดรายงานเร่ืองหรอื ประเดน็ ท่ี เหตุผล และดไู ด้
และพดู แสดงความรู้ ๔. ตงั้ คาถามและตอบคาถามเชิง ศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู และ ๔. พูดรายงานเรอื่ งหรือประเดน็ ที่ - ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื
เหตผุ ลจากเรื่องทฟ่ี ังและดู จากการฟังและดูโฆษณา
ความคิด และ ๕. รายงานเรอ่ื งหรอื ประเด็นท่ี การสนทนา ศึกษาคน้ คว้าจากการฟัง การดู อยา่ งมเี หตผุ ล
ความรู้สึกในโอกาส ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟงั การดู - สามารถพดู ตามลาดับ
ตา่ งๆ อยา่ งมี และการสนทนา ๕. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการ และการสนทนา ข้ันตอนเรอื่ งตา่ งๆ อยา่ ง
พูด ๕. พดู โน้มน้าวอยา่ งมีเหตผุ ล ชดั เจน
- สามารถพูดรายงานหรือ
วจิ ารณญาณและ ๖. มมี ารยาทในการฟงั การดู และ และนา่ เชือ่ ถอื ประเด็นคน้ ควา้ จาก
การฟัง การดู การ
สร้างสรรค์ การพดู ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และ สนทนา และพดู โน้มน้าว
ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล
การพดู - มมี ารยาทในการดูและ
พูด

มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั ระดบั ช้นั เป้าหมายและกระบวนการพฒั นา ระดับช้ัน ผลลพั ธ์ เครอ่ื งมอื
ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ประถมศึกษาปที ี่ ๖
สาระท่ี ๔ หลกั การ ระดับชนั้ -สะกดคาและเขา้ ใจ -แบบประเมิน
ใช้ภาษาไทย ๑. สะกดคาและบอกความหมาย ประถมศึกษาปีที่ ๕ ๑. วิเคราะห์ชนดิ และหน้าที่ของคา ความหมายของคา -แบบทดสอบ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ของคาในบริบทตา่ งๆ ในประโยค สานวน คาพงั เพยและ
เขา้ ใจธรรมชาติของ ๒. ระบชุ นดิ และหนา้ ทีข่ องคาใน ๑. ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ีของคาใน ๒. ใชค้ าไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ สุภาษติ
ภาษาและหลกั ประโยค ประโยค และบคุ คล - รู้และเขา้ ใจ ชนิดและ
ภาษาไทย การ ๓ ใช้พจนานกุ รมค้นหาความหมาย ๒. จาแนกสว่ นประกอบของประโยค ๓. รวบรวมและบอกความหมาย หน้าท่ีของคาในประโยค
เปลี่ยนแปลงของ ของคา ๓. เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐาน ของ คาภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ ชนิดของประโยค
ภาษาและพลงั ของ ๔. แต่งประโยคได้ถกู ตอ้ งตามหลกั กับภาษาถน่ิ ในภาษาไทย และคาภาษาต่างประเทศ
ภาษา ภูมิปัญญา ภาษา ๔. ใชค้ าราชาศัพท์ ๔. ระบลุ ักษณะของประโยค ในภาษาไทย
ทางภาษา และรักษา ๕. แต่งบทรอ้ ยกรองและคาขวัญ ๕. บอกคาภาษาตา่ งประเทศใน ๕. แต่งบทร้อยกรอง - สามารถใชค้ าราชาศพั ท์
ภาษาไทยไวเ้ ป็น ๖. บอกความหมายของสานวน ภาษาไทย ๖. วเิ คราะห์และเปรียบเทยี บ และคาสภุ าพไดอ้ ยา่ ง
สมบตั ิของชาติ ๗. เปรยี บเทยี บภาษาไทย ๖. แต่งบทร้อยกรอง สานวนทเ่ี ป็นคาพังเพย และสุภาษติ เหมาะสม
มาตรฐานกบั ภาษาถ่นิ ได้ ๗. ใช้สานวนไดถ้ กู ตอ้ ง - สามารถแต่งประโยค
แตง่ บทร้อยกรอง
ประเภทกลอนสี่
กลอนสุภาพ และกาพย์
ยานไี ด้

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ระดับชัน้ เปา้ หมายและกระบวนการพัฒนา ระดับชัน้ ผลลพั ธ์ เครื่องมือ
ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ประถมศึกษาปีที่ ๖
สาระท่ี ๕ วรรณคดี ระดบั ชน้ั - เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ -แบบประเมิน
และวรรณกรรม ๑. ระบขุ ้อคิดจากนิทานพ้นื บา้ น ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ๑. แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี วรรณคดีและวรรณกรรม -แบบทดสอบ
มาตรฐาน ท ๕.๑ หรือนิทานคติธรรม หรอื วรรณกรรมทอี่ า่ น ที่อ่าน
เขา้ ใจและแสดง ๒. อธิบายขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อ ๑. สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรอื ๒. เล่านทิ านพื้นบา้ นท้องถ่นิ ตนเอง - สามารถเล่านิทาน
ความคิดเห็นวจิ ารณ์ นาไปใช้ในชีวติ จริง วรรณกรรมทอ่ี า่ น และนทิ านพืน้ บา้ นของทอ้ งถ่ินอน่ื พืน้ บา้ น รอ้ งเพลง
วรรณคดีและ ๓. รอ้ งเพลงพืน้ บา้ น ๒. ระบุความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการอา่ น ๓. อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดี พน้ื บา้ นของท้องถนิ่ ได้
วรรณกรรมไทย ๔. ท่องจาบทอาขยานตามที่ วรรณคดแี ละวรรณกรรมทีส่ ามารถ และวรรณกรรมท่อี ่านและนาไป - นาขอ้ คดิ เหน็ จากเรือ่ งท่ี
อยา่ งเห็นคุณคา่ และ กาหนด และบทร้อยกรองทีม่ ี นาไปใช้ในชวี ติ จริง ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง อ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ น คณุ คา่ ตามความสนใจ ๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ ๔. ทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนด จริง และทอ่ งจาบท
ชีวติ จริง วรรณกรรม และบทร้อยกรองทม่ี ีคณุ คา่ ตาม อาขยานตามทก่ี าหนดได้
๔. ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนด ความสนใจ
และบทรอ้ ยกรองท่มี ีคณุ ค่าตามความ
สนใจ

โรงเรยี นมธั ยมวทิ ยา
เปา้ หมายการจัดการศึกษาระดับการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ระดับช้ัน เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ระดบั ชน้ั ผลลพั ธ์ เคร่ืองมือ
มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓
สาระที่ ๑ การอา่ น ระดับชนั้ - อ่านออกเสียงบทรอ้ ย -แบบประเมิน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและ มัธยมศึกษาปีท๒ี่ ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและ แก้วและบทร้อยกรอง -แบบทดสอบ
ใชก้ ระบวนการอ่าน บทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม บทรอ้ ยกรองเปน็ ทานองเสนาะได้ เปน็ ทานองเสนาะได้
สร้างความรู้และ กับเรอ่ื งที่อา่ น ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และ ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง
ความคิดเพือ่ นาไปใช้ ๒.จับใจความสาคญั จากเร่อื งทอี่ ่าน บทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง ๒.เขา้ ใจความหมายโดยตรงและ - เขา้ ใจความหมาย
ตดั สินใจ ๓. ระบุเหตแุ ละผลและขอ้ เท็จจรงิ ๒. จบั ใจความสาคญั สรุปความ และ ความหมายโดยนัย โดยตรงและความหมาย
แกป้ ัญหาในการ กับขอ้ คดิ เห็นจากเร่อื งทอี่ า่ น อธิบายรายละเอยี ดจากเรือ่ งท่อี ่าน ๓. จบั ใจความสาคญั และ โดยนัย
ดาเนนิ ชวี ิตและมีนสิ ัย ๔. ระบุและอธบิ ายคาเปรยี บเทียบ ๓. เขียนผงั ความคิดเพ่อื แสดงความ รายละเอยี ดของสิ่งที่อ่านแสดง - จบั ใจความสาคญั และ
รักการอ่าน และคาท่ีมหี ลายความหมายใน เขา้ ใจในบทเรียนตา่ งๆ ท่ีอ่าน ความคิดเห็นและข้อโตแ้ ยง้ เกีย่ วกบั รายละเอยี ดของส่ิงทอี่ า่ น
(ม.๓/๑-๑๐) บริบทต่างๆ จากการอ่าน ๔. อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และ เรื่องทอ่ี า่ น และเขยี นกรอบแนวคดิ - แสดงความคดิ เหน็ และ
๕. ตีความคายากในเอกสาร ข้อโตแ้ ยง้ เกยี่ วกบั เร่ืองทอ่ี ่าน ผงั ความคิด ยอ่ ความเขยี นรายงาน ข้อโตแ้ ยง้ เกย่ี วกับเรื่องท่ี
วชิ าการ โดยพิจารณาจากบรบิ ท ๕. วเิ คราะห์และจาแนกข้อเทจ็ จรงิ จาก สิง่ ที่อ่านได้ วเิ คราะห์ วิจารณ์ อ่านและเขียนกรอบ
๖. ระบุข้อสงั เกตและความสมเหตุ ขอ้ มูลสนบั สนนุ และข้อคิดเหน็ จาก อย่างมเี หตผุ ล แนวคิด ผงั ความคดิ ยอ่
สมผลของงานเขยี นประเภทชกั จงู บทความท่อี า่ น ๔.ลาดับความอย่างมขี ัน้ ตอนและ ความ
โน้มน้าวใจ ๖. ระบุขอ้ สงั เกตการชวนเชอ่ื การ ความเป็นไปไดข้ องเรือ่ งทอ่ี ่าน เขยี นรายงานจากสิง่ ที่
๗. ปฏิบัตติ ามคูม่ ือแนะนาวิธีการใช้ โน้มน้าว หรอื ความสมเหตุสมผลของ รวมท้งั ประเมินความถกู ต้องของ อ่านได้
งาน ของเคร่ืองมอื หรือเครือ่ งใช้ใน งานเขียน ขอ้ มูลทีใ่ ช้สนับสนนุ จากเรอ่ื งทอี่ า่ น - วเิ คราะหว์ จิ ารณอ์ ยา่ งมี
ระดับทย่ี ากขึน้ ๗. อา่ นหนงั สือ บทความ หรือคา เหตผุ ลลาดับความอยา่ ง
๘. วเิ คราะห์คุณค่าที่ได้รบั จากการ ประพันธ์อยา่ งหลากหลาย และ มขี น้ั ตอนและความ
อ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อ ประเมนิ คุณค่าหรอื แนวคิดท่ไี ดจ้ าก เปน็ ไปได้ของเร่อื งทีอ่ า่ น
นาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ติ การอา่ น เพื่อนาไปใชแ้ กป้ ัญหาใน รวมท้งั ประเมนิ ความ
๙. มีมารยาทในการอ่าน ชวี ิต ถูกต้องของข้อมลู ทใี่ ช้
๘. มมี ารยาทในการอ่าน สนบั สนุนจากเรอื่ งที่อา่ น

สาระท่ี ๒ การเขียน ๑. คดั ลายมอื ตวั บรรจงครึง่ บรรทัด ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงครึง่ บรรทัด ๑.เขยี นสอื่ สารดว้ ยลายมือทอี่ ่าน - เขียนสอ่ื สารดว้ ย -แบบทดสอบ
งา่ ยชดั เจนใชถ้ ้อยคาได้ ถกู ตอ้ ง ลายมอื ทีอ่ ่านง่ายชดั เจน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ๒. เขยี นสือ่ สารโดยใช้ถ้อยคา ๒. เขียนบรรยายและพรรณนา เหมาะสมตามระดับภาษา
ถูกต้องชดั เจน เหมาะสม และ - ใชถ้ ้อยคาไดถ้ กู ตอ้ ง
ใชก้ ระบวนการเขียน สละสลวย ๓. เขยี นเรยี งความ ๒.เขียน คาขวัญ คาคม คา เหมาะสมตามระดบั
เขียนสือ่ สาร เขียน อวยพรในโอกาสต่างๆ โฆษณา ภาษา
เรยี งความ ยอ่ ความ ๓. เขยี นบรรยายประสบการณ์โดย ๔. เขยี นย่อความ คตพิ จน์ ชีวประวตั ิ อัตชีวประวตั ิ
และเขียนเรอ่ื งราวใน ระบสุ าระสาคญั และรายละเอยี ด และประสบการณต์ ่างๆ - เขยี นคาขวญั คาคม
รปู แบบตา่ งๆเขยี น สนบั สนนุ ๕. เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ คาอวยพรในโอกาส
รายงานข้อมลู ๓.เขียนย่อความ จดหมายกจิ ธุระ ตา่ งๆ โฆษณา คติพจน์
สารสนเทศและ ๔. เขียนเรียงความ ๖. เขยี นจดหมายกจิ ธุระ แบบกรอกสมัครงาน เขยี นวิเคราะห์ สนุ ทรพจน์ ชีวประวัติ
รายงานการศกึ ษา วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ความคดิ อัตชวี ประวตั ิและ
คน้ ควา้ อย่างมี ๕. เขยี นยอ่ ความจากเร่ืองทอ่ี า่ น ๗. เขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง หรือโตแ้ ยง้ อยา่ งมีเหตผุ ลตลอดจน ประสบการณ์ต่างๆ
ประสิทธภิ าพ ความรู้ ความคิดเหน็ หรอื โต้แย้ง
๖. เขียนแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับ ในเร่ืองที่อา่ นอยา่ งมเี หตุผล ๔.เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้า - เขยี นย่อความ
สาระจากสอ่ื ทไ่ี ด้รบั และเขียนโครงงาน จดหมายกจิ ธรุ ะ แบบ
๘. มีมารยาทในการเขยี น กรอกสมัครงาน
๗. เขยี นจดหมายส่วนตวั และ
จดหมาย กจิ ธรุ ะ

๘. เขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า - เขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์
และโครงงาน และแสดงความรู้
ความคิดหรือโต้แยง้
๙. มมี ารยาทในการเขียน อย่างมีเหตผุ ล - เขยี น
รายงานการศึกษา
ค้นควา้ และเขียน
โครงงาน

สาระที่ ๓ การฟงั ๑. พูดสรปุ ใจความสาคญั ของเรอื่ ง ๑. พดู สรปุ ใจความสาคญั ของเรอ่ื งที่ ๑.พูดแสดงความคิดเหน็ วเิ คราะห์ - พดู แสดงความคิดเห็น -แบบประเมิน
การดูและการพูด ท่ีฟังและดู ฟังและดู -แบบทดสอบ
วจิ ารณ์ ประเมนิ ส่ิงทไ่ี ดจ้ ากการฟงั วิเคราะห์ วิจารณ์
๒. วเิ คราะหข์ ้อเท็จจริง ขอ้ คดิ เห็น
มาตรฐาน ท ๓.๑ ๒. เลา่ เร่อื งย่อจากเรือ่ งทฟ่ี ังและดู และความน่าเช่ือถือของข่าวสารจาก และดนู าขอ้ คิดไปประยุกตใ์ ช้ใน ประเมนิ สง่ิ ท่ไี ด้จากการ
ส่ือตา่ งๆ
สามารถเลอื กฟงั ๓. พูดแสดงความคิดเห็นอย่าง ชวี ติ ประจาวัน ฟังและดู นาขอ้ คดิ ไป
๓. วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรอื่ งท่ีฟงั
และดูอย่างมี สร้างสรรคเ์ ก่ียวกับเรอ่ื งที่ฟังและดู และดอู ยา่ งมีเหตผุ ลเพื่อนาข้อคิดมา ๒.พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นทไี่ ด้ ประยกุ ตใ์ ช้ใน
จากการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งเปน็ ชีวติ ประจาวัน
วจิ ารณญาณ และพดู
แสดงความรู้ ๔. ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของส่ือ ระบบ มีศิลปะในการพดู - พูดรายงานเรื่องหรือ

ความคิด และ ทีม่ ีเนือ้ หาโน้มน้าวใจ ประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินชีวติ ๓. พดู ในโอกาสตา่ งๆ ได้ตรงตาม ประเด็นท่ีไดจ้ าก
ความรูส้ กึ ในโอกาส ๕. พดู รายงานเร่อื งหรือประเด็นท่ี วตั ถุประสงค์ และพูดโน้มน้าวอยา่ ง การศึกษาค้นคว้าอยา่ ง
ต่างๆ อย่างมี ศกึ ษาค้นคว้าจากการฟัง การดู ๔. พูดในโอกาสตา่ งๆ ได้ตรงตาม มเี หตผุ ลน่าเชื่อถอื รวมทั้งมีมารยาท เป็นระบบ
วิจารณญาณและ และการสนทนา วตั ถปุ ระสงค์ ในการฟงั ดู และพดู
สรา้ งสรรค์ ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และ - มศี ิลปะในการพูด พูด
การพดู ๕. พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ี ในโอกาสต่างๆ ได้ตรง
สาระท่ี ๔ หลักการ ศึกษาค้นควา้ ตามวัตถุประสงค์และพดู
ใชภ้ าษาไทย ๑. อธิบายลกั ษณะของเสยี งใน โน้มนา้ วอย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ท ๔.๑ ภาษาไทย ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และ นา่ เชื่อถือ
เข้าใจธรรมชาติของ ๒. สรา้ งคาในภาษาไทย การพูด
ภาษาและหลัก ๓. วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าท่ขี องคา
ภาษาไทยการ ในประโยค - มมี ารยาทในการฟังดู
เปลย่ี นแปลงของ ๔. วิเคราะห์ความแตกต่างของ และพดู
ภาษาและพลงั ของ ภาษาพูดและภาษาเขียน
ภาษา ๕. แตง่ บทร้อยกรอง ๑. สรา้ งคาในภาษาไทย ๑. เขา้ ใจและใชค้ าราชาศัพท์ คา - เขา้ ใจและใชค้ าราชา -แบบประเมิน
ภมู ิปัญญาทางภาษา ๖. จาแนกและใชส้ านวนท่ีเปน็ คา
และรักษาภาษาไทย พงั เพยและสุภาษติ ๒. วิเคราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามญั บาลสี ันสกฤต คาภาษาต่างประเทศ ศัพท์ คาบาลีสนั สกฤต -แบบทดสอบ
ไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ประโยครวม และประโยคซ้อน อน่ื ๆ คาทับศพั ท์ คาภาษาต่างประเทศ

๓. แต่งบทร้อยกรอง และศพั ท์บัญญตั ใิ นภาษาไทย อื่นๆ คาทับศพั ท์ และ

๒. วเิ คราะห์ความแตกต่างในภาษา ศัพทบ์ ญั ญัติในภาษาไทย
พดู ภาษาเขียน
๔. ใชค้ าราชาศพั ท์ - วเิ คราะหค์ วามแตกต่าง
โครงสรา้ งของประโยครวม ในภาษาพดู ภาษาเขยี น
๕. รวบรวมและอธิบายความหมาย ประโยคซ้อน ลักษณะภาษาทเ่ี ป็น
ของ คาภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน ทางการ ก่งึ ทางการและไมเ่ ป็น เขา้ ใจโครงสรา้ งของ
ภาษาไทย ประโยครวม ประโยค
ซอ้ น
ทางการ

๓. แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอน เขา้ ใจลกั ษณะภาษาที่
สภุ าพ กาพย์ และโคลงส่ีสุภาพ เป็นทางการ กงึ่ ทางการ
และไมเ่ ปน็ ทางการ

- แต่งบทรอ้ ยกรอง
ประเภทกลอนสภุ าพ
กาพย์ และโคลงส่ีสุภาพ

สาระที่๕ วรรณคดี ๑. สรุปเนือ้ หาวรรณคดแี ละ ๑. สรุปเน้อื หาวรรณคดีและ ๑.สรปุ เน้อื หาวรรณคดแี ละ - สามารถสรุปเน้อื หา -แบบทดสอบ
และวรรณกรรม วรรณกรรมท่ีอ่าน วรรณกรรมทีอ่ า่ นในระดับที่ยากขนึ้ วรรณกรรมทอี่ ่าน วรรณคดีและวรรณกรรม
ที่อ่านได้
มาตรฐาน ท ๕.๑ ๒. วเิ คราะหว์ รรณคดแี ละ ๒. วิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดี ๒. วเิ คราะหต์ วั ละครสาคญั วถิ ีชีวติ
วรรณกรรม ทอี่ ่านพรอ้ มยก วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่น ไทยและคณุ คา่ ท่ไี ดร้ บั จากวรรณคดี - สามารถวิเคราะห์ตวั
เข้าใจและแสดงความ เหตผุ ลประกอบ ที่อ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ วรรณกรรมและบทอาขยานพรอ้ ม ละครสาคัญ วถิ ชี ีวติ ไทย
คดิ เห็น และคณุ ค่าท่ีได้รบั จาก
๓. อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและ ๓. อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละ ทง้ั สรปุ ความรู้ขอ้ คิดเพอื่ นาไป วรรณคดวี รรณกรรมและ
วจิ ารณ์วรรณคดแี ละ วรรณกรรมท่อี า่ น วรรณกรรมท่อี า่ น ประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ บทอาขยานพร้อมทัง้
วรรณกรรมไทยอยา่ ง สรปุ ความร้ขู อ้ คิดเพือ่
เหน็ คณุ ค่าและนามา ๔. สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการ ๔. สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการ นาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ
ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ อ่านเพือ่ ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ อ่าน ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ จรงิ
จรงิ
๕. ทอ่ งจาบทอาขยานตามที่ ๕. ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่กี าหนด
กาหนดและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณคา่ และบทรอ้ ยกรองท่มี คี ุณคา่ ตามความ
ตามความสนใจ สนใจ

โรงเรียนมธั ยมวทิ ยา

เป้ าหมายการจัดการศึกษาระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน

เป้ าหมายและกระบวนการพฒั นา

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ผลลพั ธ์ เครื่องมอื

มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ มธั ยมศึกษาปี ท่ี๕ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๖

สาระท่ี ๑ การอ่าน ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ผเู้ รียนสามารถอา่ นออกเสียงบทร้อย แบบประเมิน
แกว้ ประเภทบทความ ความเรียง ทกั ษะการอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ประเภทบทความ และความ ประเภทนวนิยายและบนั เทิง ประเภทสารคดีบทร้อยกรอง บนั เทิงคดีและสารคดีบทร้อยกรอง
ประเภท กาพย์ กลอนโคลง ร่าย ลิลิต
ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้าง เรียง บทร้อยกรองประเภท คดีบทร้อยกรองประเภท ร่าย ประเภท ฉนั ท์ เป็นทานอง และฉนั ท์ เป็นทานองเสนาะได้
ถูกตอ้ งและเขา้ ใจ
ความรู้และความคิดเพือ่ กาพย์ กลอนโคลง เป็นทานอง และลิลิต เป็นทานองเสนาะได้ เสนาะไดถ้ ูกตอ้ งและเขา้ ใจ
ผเู้ รียนตีความ แปลความ และขยาย -แบบประเมิน
นาไปใชต้ ดั สินใจ เสนาะไดถ้ ูกตอ้ งและเขา้ ใจ ถูกตอ้ งและเขา้ ใจ ความวเิ คราะห์และวจิ ารณ์ แสดง ทกั ษะการอ่าน
ความคิดเห็นโตแ้ ยง้ กบั เรื่องท่ีอ่าน -แบบทดสอบ
แกป้ ัญหาในการดาเนิน และเสนอความคิดใหม่ในดา้ นอยา่ งมี
เหตุผล คาดคะเนเหตุการณ์ประเมินค่า
ชีวติ และมีนิสัยรักการอ่าน ๒.ตีความ แปลความ และขยาย ๒.คาดคะเนเหตุการณ์ประเมิน ๓.ตอบคาถามจากการอา่ น เพื่อนาความรู้ ความคิดไปใชต้ ดั สินใจ
แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ ตอบ
ความวเิ คราะห์และวจิ ารณ์ คา่ เพือ่ นาความรู้ ความคิดไป เขียนกรอบแนวคิดผงั ความคิด คาถามจากการอ่าน เขียนกรอบ
แนวคิดผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ
แสดงความคิดเห็นโตแ้ ยง้ กบั ใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหาในการ บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน และรายงานสังเคราะห์ความรู้จากการ
อา่ น มาพฒั นาตน พฒั นาการเรียน
เรื่องที่อา่ น และเสนอความคิด ดาเนินชีวติ สังเคราะห์ความรู้จากการอ่าน และพฒั นาความรู้ทางอาชีพ

ใหมใ่ นดา้ นอยา่ งมีเหตุผลและ มาพฒั นาตน พฒั นาการเรียน

มีมารยาทในการอา่ น และพฒั นาความรู้ทางอาชีพ

เป้ าหมายและกระบวนการพฒั นา

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ผลลพั ธ์ เครื่องมอื

สาระที่ ๒ การเขียน มธั ยมศึกษาปี ที่ ๔ มธั ยมศึกษาปี ที่๕ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖ ผเู้ รียนสามารถเขียนส่ือสารใน -แบบประเมิน
มาตรฐาน ท ๒.๑ รูปแบบต่างๆไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ ทกั ษะการเขียน
ใชก้ ระบวนการเขียนเขียน ๑. เขียนสื่อสารในรูปแบบ ๑. เขียนส่ือสารในรูปแบบ ๑. เขียนสื่อสารในรูปแบบ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มูล -แบบทดสอบ
ส่ือสาร เขียนเรียงความ และสาระสาคญั ชดั เจน
ยอ่ ความ และเขียน อธิบาย บรรยาย พรรณนา ได้ แสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โนม้ ประกาศ จดหมายกิจธุระ -แบบประเมิน
เรื่องราวในรูปแบบตา่ งๆ ผเู้ รียนเขียนเรียงความ และยอ่ ความ ทกั ษะการเขียน
เขียนรายงานขอ้ มูล ตรงตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ นา้ วเชิญชวนได้ ตรงตาม โครงการและรายงานการ จากส่ือที่มีรูปแบบ และเน้ือหา -แบบประเมิน
สารสนเทศและรายงาน หลากหลายได้ ทกั ษะการเขียน
การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมี ภาษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มูล วตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษา ดาเนินโครงการ และรายงาน ผเู้ รียนสามารถผลิตงานเขียนของ
ประสิทธิภาพ ตนเองในรูปแบบต่างๆ การเขียนใน -แบบประเมิน
และสาระสาคญั ชดั เจน เรียบเรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มลู และ การประชุมได้ ตรงตาม รูปแบบตา่ งๆ ประเมินงานเขียนของ ทกั ษะการเขียน
ผอู้ ่ืน เพ่ือพฒั นางานเขียนของตนได้ -แบบทดสอบ
สาระสาคญั ชดั เจน วตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบ ผเู้ รียนสามารถบนั ทึกการศึกษา
คน้ ควา้ เพื่อนาไปพฒั นาตนเองอยา่ ง
เรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มูล และ สม่าเสมอเขียนรายงานการศึกษา
คน้ ควา้ ตามหลกั การเขียนเชิงวชิ าการ
สาระสาคญั ชดั เจน และใชข้ อ้ มูลสารสนเทศอา้ งอิงอยา่ ง
ถูกตอ้ งและมีมารยาทในการเขียน
๒. ยอ่ ความจากกวนี ิพนธ์ และ ๒. ยอ่ ความจากนวนิยายเร่ือง ๒. ยอ่ ความจากสารคดี

วรรณคดีได้ และเขียน ส้นั และวรรณกรรมพ้ืนบา้ นได้ บทความทางวชิ าการไดแ้ ละ

เรียงความได้ และเขียนเรียงความได้ เขียนเรียงความได้

๓. ผลิตงานเขียนของตนเอง ๓. ผลิตงานเขียนบนั เทิงคดี ๓. ผลิตงานเขียนสารคดีของ

ในรูปแบบต่างๆ ประเมินงาน ของตนเอง ในรูปแบบต่างๆ ตนเอง ในรูปแบบตา่ งๆ

เขียนของผอู้ ื่น เพือ่ พฒั นางาน ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน ประเมินงานเขียนของผอู้ ื่น

เขียนของตนเองได้ เพอื่ พฒั นางานเขียนของตนได้ เพื่อพฒั นางานเขียนของตนได้

๔. บนั ทึกการศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื ๔. เขียนรายงานการศึกษา ๔.เขียนรายงานการศึกษา

นาไปพฒั นาตนเองอยา่ ง คน้ ควา้ เร่ืองท่ีสนใจตาม คน้ ควา้ ตามหลกั การเขียนเชิง

สม่าเสมอ หลกั การเขียนเชิงวชิ าการได้ วชิ าการ และใชข้ อ้ มลู

สารสนเทศอา้ งอิงอยา่ งถูกตอ้ ง

และมีมารยาทในการเขียน

เป้ าหมายและกระบวนการพฒั นา

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ผลลพั ธ์ เครื่องมือ

มธั ยมศึกษาปี ที่ ๔ มธั ยมศึกษาปี ที่๕ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๖

สาระท่ี ๓ การฟัง การดู ๑. มีวจิ ารณญาณในการเลือก ๒. วเิ คราะห์ แนวคิด การใช้ ๓. ประเมินเรื่องที่ฟังและดู แลว้ ผเู้ รียนวจิ ารณญาณในการฟังและดู -แบบประเมิน

และการพดู เรื่องที่ฟังและดู สรุปแนวคิด ภาษา และความน่าเช่ือถือจาก กาหนดแนวทางนาไป สรุปแนวคิด และแสดงความคิดเห็น ทกั ษะการเขียน

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถ และแสดงความคิดเห็นจาก เร่ืองที่ฟังและดู อยา่ งมีเหตุผล ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ วเิ คราะห์ แนวคิด การใชภ้ าษา และ -แบบทดสอบ

เลือกฟังและดูอยา่ งมี เร่ืองท่ีฟังและดูอยา่ งมีมารยาท ความน่าเช่ือถือประเมินและกาหนด

วจิ ารณญาณ และพดู แนวทางจากเร่ืองท่ีฟัง และดูนาไป

แสดงความรู้ ความคิด ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ ได้

และความรู้สึกในโอกาส ๒. พดู ในโอกาสต่างๆ ดว้ ย ๒. พดู แสดงทรรศนะ และ ๒. พดู โนม้ นา้ วใจ และเสนอ ผเู้ รียนสามารถพดู ในโอกาสตา่ งๆ ได้ -แบบประเมิน

ต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ ภาษาถูกตอ้ งเหมาะสมอยา่ งมี โตแ้ ยง้ ดว้ ยภาษาถูกตอ้ ง แนวคิดใหมด่ ว้ ยภาษาถูกตอ้ ง ดว้ ยภาษาถูกตอ้ งเหมาะสมอยา่ งและมี ทกั ษะการพดู

และสร้างสรรค์ มารยาท เหมาะสมอยา่ งมีมารยาท เหมาะสมอยา่ งมีมารยาท มารยาท -แบบทดสอบ

สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ ๑. อธิบายธรรมชาติของภาษา ๑.วเิ คราะห์หลกั การสร้างคา ๑.วเิ คราะห์อิทธิพลของ ผเู้ รียนเขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและ -แบบทดสอบ

ภาษาไทยมาตรฐาน ท พลงั ของภาษา และลกั ษณะ ในภาษาไทย และใชค้ าและ ภาษาต่างประเทศและภาษาถ่ิน หลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ

๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของ ของภาษาได้ กลุ่มคาสร้างประโยคตรงตาม วเิ คราะห์และประเมินการใช้ ภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญา

ภาษาและหลกั ภาษาไทย วตั ถุประสงคใ์ ชภ้ าษา ภาษาจากส่ือสิ่งพิมพแ์ ละสื่อ ทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็น
การเปลี่ยนแปลงของ
เหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ อิเลก็ ทรอนิกส์ได้ สมบตั ิของชาติ

ภาษาและพลงั ของภาษา และบุคคล รวมท้งั คาราชา

ภูมิปัญญาทางภาษา และ ศพั ทไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม

รักษาภาษาไทยไวเ้ ป็น แตง่ บทร้อยกรองกาพย์ กลอน แตง่ บทร้อยกรองโคลง ร่าย แต่งบทร้อยกรองฉนั ทไ์ ด้ แตง่ บทร้อยกรองกาพย์ โคลง ร่าย -แบบประเมิน

สมบตั ิของชาติ และฉนั ทไ์ ด้ และลิลิตได้ และฉนั ทไ์ ด้ ชิ้นงาน

เป้ าหมายและกระบวนการพฒั นา

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ระดบั ช้นั ผลลพั ธ์ เคร่ืองมือ
มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔
สาระที่ ๕ วรรณคดีและ มธั ยมศึกษาปี ที่๕ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖ ผเู้ รียนเขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น -แบบทดสอบ
วรรณกรรม วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดี วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย -แบบประเมิน
มาตรฐาน ท ๕.๑ และวรรณกรรมตามหลกั การ วเิ คราะห์ลกั ษณะเด่นของ วเิ คราะห์และประเมินคุณค่า อยา่ งเห็นคุณค่าและนามาประยกุ ตใ์ ช้ ชิ้นงาน
เขา้ ใจและแสดงความ วจิ ารณ์เบ้ืองตน้ ทอ่ งจาและ ในชีวติ จริงได้
คิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดี บอกคุณคา่ บทอาขยานตามที่ วรรณคดีเช่ือมโยงกบั การ ดา้ นวรรณศิลป์ ของวรรณคดี
และวรรณกรรมไทยอยา่ ง กาหนดและบทร้อยกรองที่มี
เห็นคุณคา่ และนามา คุณคา่ เรียนรู้ทางประวตั ิศาสตร์และ และวรรณกรรมในฐานะที่เป็น
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
วถิ ีชีวติ ของสงั คมในอดีต มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ

สังเคราะห์ขอ้ คิดจากวรรณคดี รวบรวมวรรณกรรมพ้นื บา้ น

และวรรณกรรมเพอ่ื นาไป และอธิบายภูมิปัญญาทางภาษา

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง

ลงชื่อ...........................................................
(นายพรี ะพนั ธ์ ตนั วงศ)์

หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

โรงเรียนมัธยมวทิ ยา
เปา้ หมายการจดั การศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน

มาตรฐาน / ตัวชวี้ ดั เปา้ หมายและกระบวนการพัฒนา ผลลพั ธ์ เคร่อื งมอื
แบบทดสอบ
ประถมศึกษาปที ่ี 1 ประถมศกึ ษาปีที่ 2 ประถมศึกษาปที ี่ 3

สารระที่ 1 จานวน 1. บอกจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ 1. บอกจานวนของสิง่ ตา่ งๆ 1. อา่ นและเขยี นตวั เลข นักเรยี นเข้าใจการบวก ลบคณู
และพีชคณติ แสดงส่ิงต่างๆ ตามจานวน แสดงส่งิ ตา่ งๆตามจานวนท่ี ฮนิ ดอู ารบกิ ตัวเลขไทย และหาร จานวนเต็มและเศษสว่ น
มาตรฐาน ค 1.1 เข้า ที่กาหนดอา่ นและเขียนตัวเลข กาหนดอา่ นและเขยี นตัวเลข และตัวหนังสอื แสดง
ใจความหลากหลาย ฮินดูอารบิกตวั เลขไทยแสดง ฮินดอู ารบิกตัวเลขไทย จานวนนับไม่เกิน100,000
ของการแสดงจานวน จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100 ตวั หนังสอื แสดงจานวนนับ และ0
ระบบจานวนการเนนิ และ0 ไม่เกิน1,000และ0
การของจานวนผลที่ 2. เปรียบเทยี บจานวนนบั ไม่ 2. เปรยี บเทียบและ
เกิดขึน้ จากการเนินการ 2. เปรยี บเทยี บจานวนนบั ไม่ เกิน1,000และ 0โดยใช้ เรียงลาดบั จานวนนบั ไม่
สมบตั ขิ องการ เกิน100และ 0โดยใช้ เครื่องหมาย=, ≠ , > , < เกิน100,000จาก
ดาเนนิ การ และ เครื่องหมาย=,≠,>,< 3. เรียงลาดบั จานวนนบั ไม่ สถานการณต์ ่างๆ
นาไปใช้ 3. เรยี งลาดับจานวนนับไม่ เกนิ 1,000และ0 ตัง้ แต3่ 3. บอกอ่านและเขียน
เกนิ 100และ 0ตั้งแต่3ถงึ ถึง5 เศษสว่ นแสดงปริมาณสิ่ง
5จานวน จานวนจากสถานการณ์ ตา่ งๆและแสดงสิง่ ต่างๆ
ต่างๆ ตามเศษสว่ นทีก่ าหนด
4.หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าใน 4. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่า 4. เปรยี บเทียบเศษส่วนท่ี
ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดง ตัวเศษเทา่ กันโดยทีต่ ัวเศษ
บวกและประโยคสญั ลักษณ์ การบวกและประโยค น้อยกว่าหรอื เท่ากับตัว
แสดง สัญลักษณ์แสดงการลบของ

การลบของจานวนนับไมเ่ กนิ จานวนนบั ไม่เกนิ 1,000และ ส่วน

100และ0 0

5. แสดงวิธหี าคาตอบของ 5. หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ 5. หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่
โจทย์ปญั หาการบวกและ
โจทย์ปญั หาการลบของ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดง ในประโยคสญั ลกั ษณ์
จานวนนบั ไม่เกนิ
100และ 0 การคูณของจานวน1หลกั สิบ แสดงการบวกและประโยค

จานวนไมเ่ กนิ 2หลัก สัญลกั ษณแ์ สดง

6. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ การลบของจานวนนับไม่

ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดง เกิน100,000 และ0

การหารที่ตวั ตั้งไม่เกนิ 2หลกั 6. หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่า

ตวั หาร1หลกั โดยท่ผี ลหารมี ในประโยคสญั ลกั ษณ์

1หลกั ทง้ั หารลงตัวและหาร แสดงการคณู ของจานวน1

ไมล่ งตัว หลักกับจานวนไมเ่ กนิ 4

7. หาผลลพั ธ์การบวกลบ หลักและจานวน2

คูณหารระคนของจานวนนับ หลักกับจานวน2 หลัก

ไมเ่ กนิ 1,000และ0 7. หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่า

8. แสดงวิธีหาคาตอบของ ในประโยคสัญลักษณ์

โจทยป์ ญั หา2ขั้นตอนของ แสดงการหารที่ตวั ตงั้ ไม่

จานวนนับไมเ่ กิน1,000และ เกิน4 หลกั ตวั หาร

0 1หลัก

8. หาผลลพั ธ์การบวกลบ

คูณหารระคนของ

จานวนนับไมเ่ กิน100,000

และ0

9. แสดงวิธีหาคาตอบของ

โจทย์ปัญหา2 ขั้นตอนของ

จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000
และ0

10. หาผลบวกของ
เศษส่วนท่ีมตี ัวส่วนเทา่ กัน
และผลบวกไม่เกนิ 1และ
หาผลลบของเศษส่วนที่มี
ตัวสว่ นเทา่ กนั
11. แสดงวิธหี าคาตอบ
- ของโจทยป์ ญั หาการบวก
เศษส่วนทม่ี ีตวั สว่ นเทา่ กนั
และผลบวกไมเ่ กิน
12และโจทย์ปัญหาการลบ
เศษส่วนที่มีตัวส่วนเทา่ กัน

มาตรฐาน ค 1.2เขา้ ใจ 1. ระบจุ านวนทีห่ ายไปใน 1. ระบจุ านวนทหี่ ายไปใน นักเรยี นเขา้ ใจจานวนที่ลดลงและ แบบทดสอบ
และวิเคราะห์รูปแบบ แบบรปู ของจานวนทีเ่ พมิ่ ข้นึ แบบรปู ของจานวนที่ เพมิ่ ขึ้นของรูปเรขาคณิต
ความสัมพนั ธฟ์ งั กช์ ัน หรือลดลงทลี ะ1และทีละ10 เพมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลงทีละ
ลาดบั และอนุกรมและ และระบรุ ปู ท่ีหายไปในแบบ เท่าๆ กัน
นาไปใช้ รปู ซ้าของรูปเรขาคณิตและรปู
อื่นๆท่ีสมาชกิ ในแตล่ ะชดุ ที่ซ้า
มี2รูป

โรงเรยี นมัธยมวทิ ยา
เป้าหมายการจัดการศึกษาระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน

มาตรฐาน / ตัวชวี้ ัด เป้าหมายและกระบวนการพฒั นา ผลลัพธ์ เคร่อื งมือ

ประถมศึกษาปที ่ี 1 ประถมศึกษาปีท่ี 2 ประถมศึกษาปีท่ี 3

สาระท่ี 2 การวดั 1.วัดและเปรียบเทยี บความ 1. แสดงวธิ หี าคาตอบของ 1. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ นกั เรียนเข้าใจเรื่องหนว่ ยวัดความ แบบทดสอบ
โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเวลาทมี่ ี โจทยป์ ญั หาเก่ียวกับเงนิ ยาวและ ปรมิ าตร
และเรขาคณติ ยาวเปน็ เซนตเิ มตรเป็นเมตร

มาตรฐานค2.1 เข้าใจ หน่วยเด่ียวและเปน็ หน่วย 2. แสดงวิธหี าคาตอบของ

พื้นฐานเกย่ี วกับการ 2. วดั และเปรยี บเทยี บ เดยี วกัน โจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั เวลา

วัดวดั และคาดคะเน นา้ หนักเป็นกิโลกรมั เปน็ ขีด 2. วดั และเปรยี บเทียบความ และระยะเวลา

ขนาดของส่ิงท่ีองการ ยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร 3. เลือกใชเ้ ครอื่ งวัดความ

วดั และนาไปใช้ 3. แสดงวิธหี าคาตอบของ ยาวทเี่ หมาะสมวดั และ

โจทยป์ ัญหาการบวกการลบ บอกความยาวของสิง่ ตา่ งๆ

เกี่ยวกบั ความยาวท่มี หี นว่ ย เป็นเซนตเิ มตรและ

เปน็ เมตรและเซนตเิ มตร มิลลเิ มตรเมตรและ

4. วัดและเปรยี บเทียบ เซนติเมตร

น้าหนักเป็นกิโลกรมั และ 4. คาดคะเนความยาวเปน็

กรัมกิโลกรัมและขีด เมตรและเป็นเซนติเมตร

5. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ 5. เปรยี บเทียบความยาว

โจทย์ปัญหาการบวกการลบ ระหวา่ งเซนติเมตรกับ

เกยี่ วกบั นา้ หนักทีม่ หี นว่ ย มิลลิเมตรเมตรกับ

เป็นกิโลกรัมและกรัม เซนติเมตรกิโลเมตรกับ

กิโลกรัมและขีด เมตรจากสถานการณต์ า่ งๆ

6. วัดและเปรียบเทียบ 6. แสดงวธิ หี าคาตอบของ
ปริมาตรและความจุเป็นลติ ร โจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ความ

ยาวที่มหี นว่ ยเป็น
เซนติเมตรและมิลลเิ มตร
เมตรและเซนตเิ มตร
กโิ ลเมตรและเมตร
7. เลอื กใช้เครอ่ื งชัง่ ท่ี
เหมาะสมวดั และบอก
น้าหนักเปน็ กโิ ลกรัมและ
ขดี กิโลกรัมและกรมั
8. คาดคะเนน้าหนักเป็น
กโิ ลกรมั และเป็นขีด
9. เปรียบเทยี บนา้ หนัก
ระหว่างกโิ ลกรัมกับกรัม
เมตรกิ ตนั กับกิโลกรัมจาก
สถานการณต์ า่ งๆ
10. แสดงวิธหี าคาตอบ
ของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั
นา้ หนกั ที่มหี น่วยเป็น
กิโลกรัมกบั กรัมเมตริกตนั
กบั กิโลกรมั
11. เลือกใช้เครอ่ื งตวงท่ี
เหมาะสมวัดและ
เปรียบเทียบปรมิ าตรความ
จุเป็นลิตรและมิลลิลติ ร
12. คาดคะเนปรมิ าตร

และความจุเปน็ ลติ ร

13. แสดงวิธีหาคาตอบ
ของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั
ปรมิ าตรและความจทุ ม่ี ี
หน่วยเปน็ ลิตรและ
มลิ ลิลติ ร

มาตรฐานค2.2 1. จาแนกและบอกลกั ษณะ 1. ระบรุ ปู เรขาคณิตสอง นกั เรียนจาแนกและบอกลักษณะ แบบทดสอบ
เขา้ ใจและวิเคราะห์รูป 1. จาแนกรูปสามเหล่ยี มรู ของรปู หลายเหล่ยี มและ มิติท่มี ีแกนสมมาตร และ รูปเรขาคณิตสองมติ ไิ ด้
เรขาคณติ สมบัติของ สเ่ี หลย่ี มวงกลม วงรี ทรง วงกลม จานวนแกนสมมาตร
รูปเรขาคณิตความ สเี่ หลี่ยมมมุ ฉากทรงกลม
สมั พนั ธ์ระหว่างรปู ทรงกระบอกและกรวย
เรขาคณิตและทฤษฎี
บททางเรขาคณติ และ
นาไปใช้

โรงเรยี นมธั ยมวิทยา
เป้าหมายการจดั การศกึ ษาระดบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน

มาตรฐาน / ตวั ชีว้ ดั เปา้ หมายและกระบวนการพฒั นา ผลลัพธ์ เคร่ืองมือ

ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ประถมศึกษาปที ่ี 2 ประถมศึกษาปีท่ี 3

สาระที่ 3สถิตแิ ละ 1. ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ิ 1. ใช้ข้อมูลจากแผนภมู ิ 1. เขียนแผนภูมริ ูปภาพ นกั เรียนเขา้ ใจเรื่องแผนภูมริ ูปภาพ แบบทดสอบ
ความนา่ จะเปน็ รปู ภาพในการหาคาตอบ รปู ภาพในการหาคาตอบ และใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมิ
มาตรฐานค3.1เข้าใจ ของโจทยป์ ัญหาเม่อื กาหนด ของโจทยป์ ัญหาเมอ่ื กาหนด รูปภาพในการหาคาตอบ
กระบวนการทางสถิติ รปู 1รูปแทน1หนว่ ย รูป1รปู แทน2หน่วย5หน่วย ของโจทย์ปัญหา
และใชค้ วามร้ทู างสถติ ิ หรือ10หนว่ ย 2. เขียนตารางทางเดียว
ในการแก้ปัญหา จากขอ้ มูลทเ่ี ปน็ จานวนนับ
และใช้ข้อมูลจากตาราง
ทางเดยี วในการหาคาตอบ
ของโจทย์ปัญหา

ลงชื่อ................................................................

(นางสุวรรณา วีเกต)
หวั หนา้ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์

โรงเรียนมธั ยมวิทยา
เป้าหมายการจัดการศกึ ษาระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน

มาตรฐาน / ตัวชีว้ ดั เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ผลลัพธ์ เครือ่ งมือ
แบบทดสอบ
ประถมศึกษาปีท่ี 4 ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ประถมศกึ ษาปีที่ 6

สาระท่ี 1 จานวนและ 1. อา่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดู 1. เขยี นเศษส่วนทมี่ ตี ัวสว่ น 1. เปรยี บเทียบเรยี งลาดบั นักเรยี นเขา้ ใจเรอื่ งทศนิยม และ
พชี คณติ อารบิกตัวเลขไทยและ เป็นตวั ประกอบของ10 หรือ เศษส่วนและจานวนคละ ห.ร.ม. ค.ร.น.
มาตรฐานค 1.1 เข้า ตวั หนังสือแสดงจานวนนบั ที่ 100 หรอื 1,000 ในรูป จากสถานการณต์ ่างๆ
ใจความหลากหลาย มากกว่า100,000 ทศนิยม 2. เขียนอตั ราส่วนแสดง
ของการแสดงจานวน 2. เปรียบเทียบและ 2. แสดงวิธหี าคาตอบของ การเปรียบเทียบปริมาณ2
ระบบจานวนการ เรียงลาดับจานวนนบั ท่ี โจทยป์ ญั หาโดยใช้ ปรมิ าณจากขอ้ ความหรือ
ดาเนินการของจานวน มากกวา่ 100,000 จาก บญั ญัตไิ ตรยางศ์ สถานการณ์
ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการ สถานการณ์ตา่ งๆ 3. หาผลบวกผลลบของ โดยทปี่ รมิ าณแตล่ ะ
ดาเนินการสมบตั ิของ 3. บอกอา่ นและเขยี นเศษสว่ น เศษสว่ นและจานวนคละ ปรมิ าณเป็นจานวนนบั
การดาเนินการและ จานวนคละแสดงปรมิ าณสง่ิ 4. หาผลคูณผลหารของ 3. หาอตั ราสว่ นทเ่ี ทา่ กบั
นาไปใช้ ต่างๆและแสดงสิง่ ตา่ งๆตาม เศษส่วนและจานวนคละ อตั ราส่วนทก่ี าหนดให้
เศษสว่ นจานวนคละท่ีกาหนด 5. แสดงวิธหี าคาตอบของ 4. หาห.ร.ม. ของจานวน
4. เปรยี บเทยี บเรียงลาดบั โจทยป์ ัญหาการบวกการลบ นบั ไม่เกิน 3 จานวน
เศษสว่ นและจานวนคละทีต่ วั การคณู การหารเศษสว่ น 2 5. หาค.ร.น. ของจานวน
สว่ นตวั หนึ่งเปน็ พหคุ ูณของอีก ข้ันตอน นบั ไม่เกิน 3 จานวน
ตัวหนง่ึ 6. หาผลคูณของทศนิยมท่ี 6. แสดงวิธีหาคาตอบของ
5. อา่ นและเขียนทศนิยมไม่ ผลคณู เปน็ ทศนยิ มไม่เกนิ 3 โจทย์ปญั หาโดยใชค้ วามรู้
เกิน 3 ตาแหนง่ แสดงปริมาณ ตาแหนง่ เก่ยี วกับห.ร.ม. และค.ร.น.
ของสิง่ ตา่ งๆและแสดงส่ิง 7. หาผลหารทีต่ ัวต้ังเปน็ 7. หาผลลพั ธข์ องการบวก

ตา่ งๆตามทศนยิ มทก่ี าหนด จานวนนับหรือทศนิยมไม่ ลบคณู หารระคน
6. เปรียบเทยี บและ เกิน 3 ตาแหนง่ และตัวหาร ของเศษสว่ นและจานวน
เรียงลาดบั ทศนยิ มไม่เกนิ 3 เป็นจานวนนบั ผลหารเปน็ คละ
ตาแหนง่ จากสถานการณ์ ทศนิยมไมเ่ กนิ 3 ตาแหน่ง 8. แสดงวธิ หี าคาตอบของ
ต่างๆ โจทย์ปัญหาเศษส่วน
7. ประมาณผลลพั ธข์ องการ 8. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ และจานวนคละ 2 - 3
บวกการลบการคณู การหาร โจทยป์ ญั หาการบวกการลบ ขนั้ ตอน
จากสถานการณ์ต่างๆอยา่ ง การคณู การหารทศนยิ ม 2 9. หาผลหารของทศนิยมที่
สมเหตุสมผล ขนั้ ตอน ตวั หารและผลหาร
8. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าใน 9. แสดงวิธหี าคาตอบของ เปน็ ทศนิยมไม่เกิน 3
ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการ โจทย์ปัญหาร้อยละไม่เกนิ 2 ตาแหน่ง
บวกและประโยคสัญลกั ษณ์ ข้นั ตอน 10. แสดงวธิ ีหาคาตอบ
แสดงการลบของจานวนนับท่ี ของโจทย์ปัญหาการบวก
มากกว่า 100,000และ 0 การลบการคูณการหาร
9. หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าใน ทศนิยม 3 ขน้ั ตอน
ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการ 11. แสดงวธิ หี าคาตอบ
คูณของจานวนหลายหลกั 2 ของโจทยป์ ญั หาอัตราส่วน
จานวนทมี่ ีผลคูณไมเ่ กนิ 6 12. แสดงวิธีหาคาตอบ
หลกั และประโยคสญั ลักษณ์ ของโจทย์ปัญหารอ้ ยละ2 -
แสดงการหารทีต่ ัวตั้งไมเ่ กนิ 6 3 ขัน้ ตอน
หลกั ตัวหารไมเ่ กิน 2 หลัก
10. หาผลลพั ธก์ ารบวกลบคูณ
หารระคนของจานวนนบั และ
0
11. แสดงวิธหี าคาตอบของ
โจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอนของ

จานวนนบั ทม่ี ากกว่า 1. แสดงวธิ คี ดิ และหา
100,000 และ 0 คาตอบของปญั หาเกยี่ วกับ
12. สร้างโจทยป์ ัญหา 2 แบบรูป
ข้ันตอนของจานวนนบั และ 0
พร้อมท้งั หาคาตอบ นักเรยี นเขา้ ใจเรื่องแบบรปู แบบทดสอบ
13. หาผลบวกผลลบของ
เศษส่วนและจานวนคละทตี่ ัว
ส่วนตวั หน่งึ เปน็ พหุคูณของอกี
ตวั หนง่ึ
14. แสดงวิธหี าคาตอบของ
โจทยป์ ญั หาการบวกและ
โจทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ น
และจานวนคละทตี่ ัวสว่ นตวั
หน่ึงเป็นพหุคูณของอกี ตวั หนง่ึ
15. หาผลบวกผลลบของ
ทศนยิ มไมเ่ กิน3 ตาแหนง่
16. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ
โจทยป์ ญั หาการบวกการลบ 2
ขัน้ ตอนของทศนยิ มไมเ่ กนิ 3
ตาแหนง่

มาตรฐานค 1.2 เข้าใจ
และวิเคราะห์แบบรปู
ความสมั พันธ์ฟงั ก์ชนั
ลาดับและอนกุ รมและ
นาไปใช้

มาตรฐาน / ตัวชว้ี ดั เปา้ หมายและกระบวนการพฒั นา ผลลัพธ์ เครอื่ งมอื
แบบทดสอบ
ประถมศึกษาปีท่ี 4 ประถมศึกษาปที ี่ 5 ประถมศึกษาปีท่ี 6

สาระท่ี 2 การวดั และ 1. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ 1. แสดงวธิ หี าคาตอบของ 1. แสดงวธิ หี าคาตอบของ นกั เรยี นเข้าใจเรอื่ งพนื้ ทร่ี ูป
เรขาคณติ โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เวลา โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับความ โจทย์ปัญหาเกีย่ วกับ เรขาคณติ และปริมาตร
มาตรฐานค 2.1 2. วัดและสร้างมุมโดยใชโ้ พร ยาวทมี่ กี ารเปลีย่ นหน่วย ปริมาตรของรูปเรขาคณิต
เขา้ ใจพน้ื ฐานเก่ียวกบั แทรกเตอร์ และเขียนในรูปทศนยิ ม สามมิติทปี่ ระกอบ
การวัดวดั และคาด 3. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ 2. แสดงวิธีหาคาตอบของ ด้วยทรงสเี่ หลยี่ มมุมฉาก
คะเนขนาดของส่ิงท่ี โจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาว โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับนา้ หนัก 2. แสดงวธิ หี าคาตอบของ
ตอ้ งการวดั และ รอบรปู และพ้นื ที่ของรูป ทีม่ ีการเปลย่ี นหน่วยและ โจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ความ
นาไปใช้ สเี่ หลย่ี มมุมฉาก เขยี นในรปู ทศนยิ ม ยาวรอบรูปและพน้ื ท่ีของ
3. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ รปู หลายเหลีย่ ม
โจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั 3. แสดงวิธีหาคาตอบของ
ปรมิ าตรของทรงสเี่ หลี่ยมมมุ โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับความ
ฉากและความจขุ องภาชนะ ยาวรอบรูปและพนื้ ที่ของ
ทรงส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก วงกลม
4. แสดงวธิ ีหาคาตอบของ
โจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั ความ
ยาวรอบรูปของรูปส่ีเหลีย่ ม
และพ้ืนทขี่ องรูปส่ีเหลี่ยม
ด้านขนานและรูปสเี่ หล่ียม
ขนมเปียกปนู

มาตรฐานค 2.2 1. จาแนกชนิดของมุมบอกช่อื 1. สรา้ งเส้นตรงหรือส่วน 1. จาแนกรปู สามเหลยี่ ม นกั เรยี นเข้าใจเร่ืองการวัดความยาว
โดยพิจารณาจากสมบัติ ของรูปเรขาคณติ และมุม
เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ปู มมุ สว่ นประกอบของมมุ และ ของเส้นตรงใหข้ นานกบั ของรปู
2. สร้างรปู สามเหลย่ี มเมือ่
เรขาคณิตสมบตั ขิ อง เขียนสญั ลกั ษณแ์ สดงมุม เส้นตรงหรือส่วนของ กาหนดความยาวของด้าน
และขนาดของมุม
รปู เรขาคณิต 2. สร้างรปู สี่เหล่ยี มมมุ ฉาก เส้นตรงที่กาหนดให้ 3. บอกลักษณะของรูป
เรขาคณติ สามมติ ชิ นดิ
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง เมื่อกาหนดความยาวของดา้ น 2. จาแนกรูปสีเ่ หล่ียมโดย ตา่ งๆ
4. ระบุรปู เรขาคณิตสาม
รปู เรขาคณิตและ พจิ ารณาจากสมบัติของรูป มติ ิท่ีประกอบจากรปู คลี่
และระบุรูปคลข่ี องรูป
ทฤษฎบี ททาง 3. สรา้ งรูปสเ่ี หลีย่ มชนิด เรขาคณิตสามมติ ิ

เรขาคณติ และนาไปใช้ ตา่ งๆเมือ่ กาหนดความยาว

ของด้านและขนาดของมมุ

หรอื

เมื่อกาหนดความยาวของ

เสน้ ทแยงมมุ

4. บอกลกั ษณะของปรซิ ึม

โรงเรยี นมธั ยมวิทยา
เป้าหมายการจัดการศกึ ษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน

มาตรฐาน / ตวั ชว้ี ดั เปา้ หมายและกระบวนการพัฒนา ผลลัพธ์ เครอ่ื งมือ

ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ประถมศึกษาปีที่ 5 ประถมศกึ ษาปที ี่ 6

สาระท่ี 3สถติ ิและ 1. ใช้ข้อมูลจากแผนภมู ิแท่ง 1. ใชข้ ้อมลู จากกราฟเสน้ ใน 1. ใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมริ ปู นักเรยี นเขา้ ใจเรื่องกราฟและแผนภูมิ แบบทดสอบ
การหาคาตอบของโจทย์ วงกลมในการหาคาตอบ
ความนา่ จะเป็น ตารางสองทางในการหา ปญั หา ของโจทย์ปญั หา
2. เขยี นแผนภมู แิ ท่งจาก
มาตรฐานค 3.1 เข้าใจ คาตอบของโจทย์ปัญหา ขอ้ มลู ท่เี ปน็ จานวนนบั

กระบวนการทางสถติ ิ

และใชค้ วามรทู้ างสถติ ิ

ในการแกป้ ัญหา

ลงชอ่ื ................................................................

(นางสวุ รรณา วีเกต)
หัวหน้ากลุ่มสาระคณติ ศาสตร์

โรงเรยี นมัธยมวิทยา

เปา้ หมายการจดั การศึกษาระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ผลลัพธ์ เคร่ืองมอื
ค 1.1 เขา้ ใจความ นักเรียนเขา้ ใจเรอ่ื งระบบจานวนจริง - ขอ้ สอบ /
หลากหลายของการ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวนตรรกยะ และเลขยกกาลัง แบบทดสอบ
แสดงจานวน ระบบ ใบงาน / ชิน้ งาน
จานวนการดาเนินการ 1. เขา้ ใจจานวนตรรกยะและ 1. เขา้ ใจและใช้สมบัตขิ อง นักเรยี นเข้าใจการแยกตัวประกอบ
ของจานวน ผลของ แบและพหุนาม ข้อสอบ /แบบทดสอบ
การดาเนินการ สมบัติ ความสมั พันธข์ องจานวน เลขยกกาลังทีม่ ีเลขชกี้ าลัง ใบงาน / ช้นิ งาน
ของการดาเนินการ
และนาไปใช้ ตรรกยะ และใช้สมบตั ขิ อง เปน็ จานวนเตม็ บวกในการ

ค 1.2 เข้าใจและ จานวนตรรกยะในการ แก้ไขปญั หาคณิตศาสตร์
วิเคราะห์แบบรปู
ความสมั พันธ์ ฟังกช์ นั แกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์และ และปญั หาในชวี ิตจรงิ
ลาดับและอนกุ รม
และนาไปใช้ ปัญหาในชีวติ จริง 2. เขา้ ใจจานวนจริงและ

2. เขา้ ใจและใช้สมบัติของเลข ความสัมพนั ธข์ องจานวน

ยกกาลังที่มเี ลขช้ีกาลังเปน็ จรงิ และใชส้ มบตั ขิ อง

จานวนเต็มบวกในการแก้ไข จานวนจริงในการแก้ปญั หา

ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหา คณิตศาสตรแ์ ละปัญหาใน

ในชวี ติ จรงิ ชีวติ จริง

3. เขา้ ใจและประยุกต์ใช้

อตั ราสว่ น สัดสว่ นและรอ้ ยละ

ในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์

และปญั หาในชีวติ จริง

1. เขา้ ใจหลักการดาเนนิ การ 1. เข้าใจและใช้การ

ของพหุนามและใช้พหุนาม แยกตวั ประกอบของพหุ

ในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์ นามทีม่ ีดีกรีสงู กว่าสองใน

2. เข้าใจและใชก้ ารแยกตัว การแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์

ประกอบของพหุนามดีกรี 2. เข้าใจและใชค้ วามรู้

มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ผลลัพธ์ เคร่ืองมอื

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

สองในการแก้ปัญหา เกีย่ วกบั ฟงั กช์ ันกาลงั

คณติ ศาสตร์ สองในการแกป้ ัญหา

คณติ ศาสตร์

ค 1.3 ใชน้ ิพจน์ สมการ 1. เข้าใจและใช้สมบัติของ 1. เขา้ ใจและใช้สมบัติ นกั เรยี นเข้าใจเรอื่ งกราฟและ - ข้อสอบ / แบบทดสอบ
และอสมการ อธิบาย การเทา่ กันและสมบัติ ของการไมเ่ ทา่ กัน เพอื่ สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียวและ ใบงาน / ชิ้นงาน
ความสมั พันธห์ รอื ชว่ ย จานวน เพื่อวเิ คราะหแ์ ละ วิเคราะห์และแกป้ ัญหา สองตวั แปร
แกป้ ญั หาที่กาหนดให้ แกป้ ัญหาโดยใช้สมการเชิง โดยใชอ้ สมการเชิงเสน้
เสน้ ตวั แปรเดยี ว ตัวแปรเดียว
2. เข้าใจและใชค้ วามรู้ 2. ประยุกต์ใช้สมการ
เกีย่ วกบั กราฟในการ กาลงั สองตัวแปรเดยี วใน
แกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละ การแกป้ ญั หา
ปัญหาในชีวิตจรงิ คณติ ศาสตร์
3. เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ 3. ประยุกตใ์ ช้ระบบ
เก่ยี วกับความสัมพันธ์เชงิ สมการเชิงเส้นสองตวั
เสน้ ในการแก้ปัญหา แปรในการแก้ปญั หา
คณิตศาสตรแ์ ละปัญหาใน คณติ ศาสตร์
ชวี ติ จรงิ

มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด เปา้ หมายและกระบวนการพฒั นา ผลลัพธ์ เครื่องมอื

ค 2.1 เขา้ ใจพนื้ ฐาน ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 - ขอ้ สอบ / แบบทดสอบ
เกี่ยวกบั การวัด วดั และ ใบงาน / ชิ้นงาน
คาดคะเนขนาดของสิ่งท่ี 1. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้เรื่อง 1. ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้เร่อื ง นกั เรียนเข้าใจการหาพน้ื ท่ี
ตอ้ งการวัด และนาไปใช้
พน้ื ที่ผิวของปรซิ มึ และ พ้ืนทผ่ี ิวของพรี ะมดิ กรวย และปริมาตรของรูปทรง

ทรงกระบอกในการ และทรงกลม ในการ เรขาคณิต

แก้ปญั หาในชีวิตจรงิ แกป้ ญั หาในชีวติ จริง

2. ประยุกต์ใชค้ วามรูเ้ รอ่ื ง 2. ประยุกตใ์ ช้ความรู้เรือ่ ง

ปริมาตรของปรซิ มึ และ ปรมิ าตรของพรี ะมิด กรวย

ทรงกระบอกในการ และทรงกลม ในการ

แกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์และ แก้ปัญหาคณิตศาสตร์และ

ปัญหาในชวี ติ จริง ปัญหาในชวี ติ จริง

ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์ 1. ใช้ความรู้ทางเรขาคณิต 1. ใชค้ วามรู้ทางเรขาคณติ 1.เขา้ ใจและใช้สมบัติของ นักเรยี นเข้าใจเรอ่ื งการ - ขอ้ สอบ / แบบทดสอบ
รปู เรขาคณิต สมบัตริ ปู และเครอื่ งมือ เชน่ วงเวียน และเครื่องมอื เช่น วงเวยี น รปู สามเหลีย่ มทีค่ ล้ายกนั แปลงทางเรขาคณิตโดยใช้ ใบงาน / ชน้ิ งาน
เรขาคณิต ความสมั พนั ธ์ และสนั ตรง รวมท้ัง และสนั ตรง รวมท้ัง ในการแกป้ ัญหา โปรแกรม GSP และ
ระหวา่ งรูปเรขาคณติ และ โปรแกรม GSP หรอื โปรแกรม GSP หรือ คณิตศาสตรล์ ะปัญหาใน ตรโี กณมติ เิ บื้องตน้
ทฤษฏีทางเรขาคณติ และ โปรแกรมพลวตั อ่นื ๆ เพือ่ โปรแกรมพลวตั อน่ื ๆ เพ่อื ชวี ติ จริง
นาไปใช้ สรา้ งรูปเรขาคณิต ตลอดจน สรา้ งรปู เรขาคณติ ตลอดจน 2. เข้าใจและใช้ความรู้
นาความรูเ้ กีย่ วกับการสร้าง นาความร้เู ก่ียวกับการสร้าง เกีย่ วกบั อัตราสว่ น
นไ้ี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ น้ไี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ตรีโกณมิติ ในการ
แก้ปัญหาในชีวิตจริง แกป้ ญั หาในชีวิตจริง แก้ปญั หาคณิตศาสตร์
ชีวิตจรงิ 2. นาความรเู้ ก่ยี วกบั สมบตั ิ ละปัญหาในชีวิตจรงิ
2.เขา้ ใจความรู้ทาง ของเสน้ ขนานและรูป
เรขาคณิตในการวิเคราะห์ สามเหลย่ี มไปใชใ้ นการ

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด เป้าหมายและกระบวนการพฒั นา ผลลัพธ์ เครือ่ งมือ

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

ความสัมพันธร์ ะหวา่ งรูป แกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์ 3. เข้าใจและใชท้ ฤษฏี

เรขาคณติ สองมติ แิ ละสาม 3. เขา้ ใจและใช้ความรู้ เกี่ยวกบั วงกลมในการ

มิติ เกีย่ วกบั การแปลงทาง แกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์

เรขาคณติ ในการแก้ปัญหา

คณิตศาสตรแ์ ละปัญหาใน

ชวี ิตจรงิ

4. เข้าใจและใช้สมบัตขิ อง

รปู สามเหลย่ี มท่เี ท่ากนั ทกุ

ประการในการแกป้ ญั หา

คณติ ศาสตร์และปญั หาใน

ชวี ิตจรงิ

5. เข้าใจและใช้ทฤษฏบี ทพที า-

โกรัสและบทกลบั ในการ

แก้ปัญหาคณิตศาสตร์และ

ปัญหาในชีวิตจริง

ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการ 1. เขา้ ใจและใช้ความรูท้ าง 1. เข้าใจและใช้ความรทู้ าง 1. เขา้ ใจและใช้ความรทู้ าง นักเรียนเขา้ ใจเรอ่ื งสถิติ
ทางสถิติ และใช้ความรู้ สถิตใิ นการนาเสนอขอ้ มลู สถติ ิในการนาเสนอขอ้ มูล สถติ ใิ นการนาเสนอและ เบื้องต้น
ทางสถิตใิ นการแกป้ ัญหา และแปลความหมายขอ้ มลู และวิเคราะห์ข้อมูลจาก วเิ คราะห์ขอ้ มูลจาก

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ผลลพั ธ์ เครือ่ งมอื
- ข้อสอบ / แบบทดสอบ
ค 3.2 เขา้ ใจ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ใบงาน / ช้นิ งาน
หลกั การนับเบือ้ งตน้ รวมทั้งนาสถิติไปใช้ใน
ความน่าจะเปน็ และ ชีวติ จรงิ โดยใช้ แผนภาพจุด แผนภาพ แผนภาพกลอ่ ง และแปลความหมายผลลพั ธ์ นักเรยี นเข้าใจเรือ่ งการ
นาไปใช้ เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม ทดลองสมุ่ ของเหตกุ ารณ์
ตน้ -ใบ ฮสิ โทแกรม และ รวมทง้ั นาสถติ ิไปใช้ในชวี ิตจริงโดยใช้ เพ่อื หาความน่าจะเปน็

คา่ กลางของขอ้ มูล และ เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม

แปลความหมายผลลัพธ์

และแปลความหมาย

ผลลัพธ์ รวมทง้ั นาสถติ ิ

ไปใช้ในชีวติ จริงโดยใช้

เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม 1. เขา้ ใจเก่ียวกบั การทดลองสุม่ และนาผลที่

ไดไ้ ปหาความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์

ลงช่อื ................................................................

(นางสวุ รรณา วเี กต)
หวั หนา้ กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์

โรงเรยี นมธั ยมวทิ ยา
เปา้ หมายการจัดการศกึ ษาระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน

มาตรฐาน / ตวั ชีว้ ดั เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ผลลัพธ์ เคร่อื งมือ

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6

สาระท่ี 1 จานวนและ 1. เข้าใจและใชค้ วามรู้ 1. เข้าใจความหมายและใช้ นักเรยี นเข้าใจเร่ืองเซตตรรกศาสตร์ แบบทดสอบ
เกี่ยวกับเซตและตรรกศาสตร์ สมบตั เิ กย่ี วกับการบวกการ และ สมบตั ขิ องจานวนจริง
พีชคณิต เบือ้ งต้น ในการส่ือสาร และ คณู การเทา่ กันและการไม่
มาตรฐานค 1.1 เขา้ ส่ือความหมายทางณติ ศาสตร์ เทา่ กันของจานวนจริงในรปู
กรณฑ์และจานวนจรงิ ในรปู
ใจความหลากหลาย เลขยกกาลงั ท่ีมเี ลขชีก้ าลงั
เป็นจานวนตรรกยะ
ของการแสดงจานวน

ระบบจานวนการ

ดาเนนิ การของจานวน

ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการ

ดาเนนิ การสมบัติของ

การดาเนินการและ

นาไปใช้

มาตรฐาน ค 1.2เขา้ ใจ 1ใช้ฟงั กช์ ันและกราฟของ นักเรียนเขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ปู แบบ แบบทดสอบ
และวิเคราะห์รูปแบบ ฟังก์ชันอธิบายสถานการณท์ ี่ ความสมั พันธฟ์ งั ก์ชนั ลาดับและ
ความสมั พันธ์ฟงั กช์ นั กาหนด อนุกรม
ลาดบั และอนุกรมและ 2เข้าใจและนาความรู้
นาไปใช้ เกย่ี วกับลาดับและอนกุ รม
ไปใช้

โรงเรยี นมธั ยมวทิ ยา
เปา้ หมายการจดั การศึกษาระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน

มาตรฐาน / ตัวชว้ี ัด เป้าหมายและกระบวนการพัฒนา ผลลพั ธ์ เคร่ืองมือ
แบบทดสอบ
มาตรฐาน 1.3ใช้ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
นิพจน์สมการและ
อสมการอธิบาย 1.เข้าใจและใชค้ วามรู้ นกั เรยี นเขา้ ใจเรอื่ งดอกเบยี้
ความสัมพนั ธห์ รอื เกย่ี วกบั ดอกเบี้ยและมูลคา่ และมูลคา่ ของเงนิ
ช่วยแกป้ ัญหาที่ ของเงินในการแกป้ ญั หา
กาหนดให้
1 เขา้ ใจและใช้ความร้ทู าง นักเรียนเข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ แบบทดสอบ
สาระท่ี 3 สถติ แิ ละ สถิตใิ นการนาเสนอข้อมลู
ความน่าจะเป็น และแปลความหมายของ
มาตรฐานค 3.1 ค่าสถติ ิเพอ่ื ประกอบการ
เข้าใจกระบวนการ ตัดสนิ ใจ
ทางสถิติและใชค้ วาม
รู้ทางสถิตใิ นการ
แก้ปญั หา

โรงเรียนมัธยมวิทยา
เปา้ หมายการจดั การศึกษาระดบั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน

มาตรฐาน / ตวั ชี้วัด เปา้ หมายและกระบวนการพัฒนา ผลลัพธ์ เครอื่ งมอื
แบบทดสอบ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6

มาตรฐาน ค 3.2 1. เขา้ ใจและใชห้ ลักการบวก นักเรยี นเขา้ ใจการเรียงสับเปลยี่ น
เขา้ ใจหลักการนบั และการคณู การเรยี งสับเปล่ยี น การจดั หมแู่ ละความน่าจะเปน็
เบ้ืองต้น ความน่าจะ และการจดั หมู่ ในการแกป้ ญั หา
เป็น และนาไปใช้
2. หาความนาจะเป็นและนา
ความรูเ้ กี่ยวกบั ความนาจะ
เปน็ ไปใช้

ลงชอื่ .........................................................

(นางสวุ รรณา วีเกต)
หัวหนา้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์

กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์

โรงเรียนมธั ยมวทิ ยา

เป้ าหมายการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั เป้ าหมายและการพฒั นา ผลลพั ธ์ เครื่องมือ

วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ป.1

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้ในเรื่องพชื และสัตวท์ ี่อาศยั ใน -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต

มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบ บริเวณตา่ งๆได้ นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

นิเวศ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงไมม่ ีชีวติ กบั ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

ส่ิงมีชีวติ และความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมีชีวติ กบั สิ่ง -ชิ้นงาน/ผลงาน

มีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลงั งาน

การเปล่ียนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมาย

ของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีตอ่

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มแนวทางใน

การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ข

ปัญหาสิ่งแวดลอ้ มรวมท้งั นาํ ความรู้ไปใช้

ประโยชน์

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้ สามารถบรรยายลกั ษณะและบอก -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต

มาตรฐาน ว 1.2เขา้ ใจสมบตั ิของส่ิงมีชีวติ หน่วย หนา้ ท่ีของส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษยส์ ัตวแ์ ละพืช นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

พ้ืนฐานของสิ่งมีชีวติ การลาํ เลียงสารเขา้ ได้ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

และออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง หรือนวตั กรรมได้ -ชิ้นงาน/ผลงาน

และหนา้ ที่ของระบบตา่ ง ๆของสตั วแ์ ละมนุษยท์ ี่

ทาํ งานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง

และหนา้ ท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชท่ีทาํ งาน

สมั พนั ธ์กนั รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ นกั เรียนมาความรู้สามารถระบุชนิดของวสั ดุและจดั -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร กลุ่มวสั ดุตามสมบตั ิท่ีสังเกตได้ นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

สมบตั ิของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหนี่ยว -ชิ้นงาน/ผลงาน

ระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการ

เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย

และการเกิดปฏิกิริยาเคมี

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ นกั เรียนมาความรู้สามารถระบุการเกิดเสียงและทิศ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การ ทางการเคลื่อนที่ของเสียงได้ นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

เปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งานปฏิสัมพนั ธ์ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานใชีวติ ประจาํ -ชิ้นงาน/ผลงาน

วนั ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั

เสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้ ารวมท้งั นาํ ความรู้

ไปใชป้ ระโยชน์

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ นกั เรียนมาความรู้สามารถระบุดาวท่ีปรากฏบน -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ ทอ้ งฟ้ าในเวลากลางวนั และกลางคืน นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

กระบวนการเกิด และววิ ฒั นาการของเอกภพ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้งั -ชิ้นงาน/ผลงาน
ปฏิสัมพนั ธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลตอ่ ส่ิงมีชีวติ
และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ นกั เรียนมาความรู้สามารถอธิบายลกั ษณะภายนอก -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต
ของหินท่ีปรากฎได้
สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบและ
ความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
เปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก ธรณีพิบตั ิ
ภยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้ าอากาศและ -ชิ้นงาน/ผลงาน
ภูมิอากาศโลก รวมท้งั ผลต่อส่ิงมีชีวติ และ
ส่ิงแวดลอ้ ม

โรงเรียนมธั ยมวทิ ยา
เป้ าหมายการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั เป้ าหมายและการพฒั นา ผลลพั ธ์ เครื่องมือ

วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ป.2

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมาความรู้วา่ พชื ตอ้ งการแสงและนา้ํ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต

มาตรฐาน ว 1.2เขา้ ใจสมบตั ิของส่ิงมีชีวติ หน่วย นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

พ้ืนฐานของส่ิงมีชีวติ การลาํ เลียงสารเขา้ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

และออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง -ชิ้นงาน/ผลงาน

และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆของสตั วแ์ ละมนุษยท์ ่ี

ทาํ งานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง

และหนา้ ท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ีทาํ งาน

สมั พนั ธ์กนั รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมาความรู้สามารถเปรียบเทียบลกั ษณะของ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต

มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสาํ คญั สิ่งมีชีวติ และส่ิงไมม่ ีชีวติ ได้ นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสาร ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

พนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมท่ีมีผล -ชิ้นงาน/ผลงาน

ตอ่ ส่ิงมีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและ

ววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวติ รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใช้

ประโยชน์

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ นกั เรียนมีความรู้ในเรื่องวสั ดุสามารถใชว้ สั ดุตา่ งๆได้ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร อยา่ งถูกตอ้ ง นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึ กหดั
องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
สมบตั ิของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหนี่ยว นกั เรียนมีความรู้สามารถบอกถึงแนวการเคล่ือนท่ี -ชิ้นงาน/ผลงาน
ระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการ ของแสง -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ
เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบสงั เกต
และการเกิดปฏิกิริยาเคมี นกั เรียนมีความรู้เร่ืองดินและหิน ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -แบบฝึ กหดั
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ -กิจกรรมการทดลอง
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -ชิ้นงาน/ผลงาน
เปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งานปฏิสัมพนั ธ์ นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้
ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานใน ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -แบบสงั เกต
ชีวติ ประจาํ วนั ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่ -แบบฝึ กหดั
เก่ียวขอ้ งกบั เสียง แสง และคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้ า -กิจกรรมการทดลอง
รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ -ชิ้นงาน/ผลงาน
สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบและ
ความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก ธรณีพบิ ตั ิ

ภยั กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้ าอากาศและ
ภมู ิอากาศโลก รวมท้งั ผลต่อสิ่งมีชีวติ และ
สิ่งแวดลอ้ ม

โรงเรียนมธั ยมวทิ ยา
เป้ าหมายการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั เป้ าหมายและการพฒั นา ผลลพั ธ์ เคร่ืองมือ
วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ป.3
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้ในเร่ืองการดาํ ลงชีวติ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต
มาตรฐาน ว 1.2เขา้ ใจสมบตั ิของสิ่งมีชีวติ หน่วย
พ้นื ฐานของสิ่งมีชีวติ การลาํ เลียงสารเขา้ นกั เรียนมีความรู้ในเร่ืองการเปลี่ยนแปลงของวสั ดุ นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั
และออกจากเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง เมื่อทาํ ใหร้ ้อนข้ึนหรือทาํ ใหเ้ ยน็ ลง
และหนา้ ท่ีของระบบตา่ ง ๆของสัตวแ์ ละมนุษยท์ ี่ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
ทาํ งานสัมพนั ธ์กนั ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง
และหนา้ ที่ของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชท่ีทาํ งาน -ชิ้นงาน/ผลงาน
สมั พนั ธ์กนั รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร
องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั
สมบตั ิของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหน่ียว
ระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
เปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
-ชิ้นงาน/ผลงาน

และการเกิดปฏิกิริยาเคมี

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ นกั เรียนมีความรู้ในเรื่องแรงท่ีมีผลแตก่ ารเคล่ือนที่ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงใน ของวตั ถุ
ชีวติ ประจาํ วนั ผลของแรงที่กระทาํ ตอ่ วตั ถุ นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั
ลกั ษณะการเคลื่อนท่ีแบบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมท้งั นกั เรียนมีความรู้ในเรื่องการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ า
นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
นกั เรียนมีความรู้ในเรื่องสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ การข้ึนและตกของดวงอาทิตยก์ ารเกิดกลางวนั -ชิ้นงาน/ผลงาน
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การ กลางคืนและการกาํ หนดทิศ
เปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งานปฏิสัมพนั ธ์ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต
ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานใน
ชีวติ ประจาํ วนั ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ท่ี นาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั
เกี่ยวขอ้ งกบั เสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้ า
รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ -ชิ้นงาน/ผลงาน
กระบวนการเกิด และววิ ฒั นาการของเอกภพ
กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้งั -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสังเกต
ปฏิสมั พนั ธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อสิ่งมีชีวติ
และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั

ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง

-ชิ้นงาน/ผลงาน

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ นกั เรียนมีความรู้ในเร่ืองอากาศและความสาํ คญั ของ -นกั เรียนมีความรู้ สามารถ -แบบสงั เกต
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบและ อากาศ
ความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการ นาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปปรับใช้ -แบบฝึกหดั
เปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก ธรณีพบิ ตั ิ
ภยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้ าอากาศและ ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ -กิจกรรมการทดลอง
ภมู ิอากาศโลก รวมท้งั ผลตอ่ สิ่งมีชีวติ และ
สิ่งแวดลอ้ ม -ชิ้นงาน/ผลงาน

โรงเรียนมธั ยมวทิ ยา

เป้ าหมายการจดั การศึกษาระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

มาตราฐาน/ตวั ช้ีวดั เป้ าหมายและกระบวนการพฒั นา ผลลพั ธ์ เครื่องมือ
ช้นั ป. 4

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในการลาํ เลียง - นกั เรียนนาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไป - แบบทดสอบ
สารเขา้ และออกจากเซลล์ท้งั ในมนุษย์ สตั ว์ ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ - แบบประเมินการทาํ งาน
มาตรฐาน ว ๑.๒ เขา้ ใจสมบตั ิของส่ิงมีชีวติ และพืช
หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวติ การลาํ เลียงสารเขา้ - นกั เรียนจบแตล่ ะช่วงช้นั ได้ กลุ่มและรายบุคล
และออกจากเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง ตามเป้ าหมายที่วางไว้ - กิจกรรมการทดลอง
และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆของสตั วแ์ ละมนุษยท์ ี่ - แบบประเมินการเขียน
ทาํ งานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง
และหนา้ ท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทาํ งาน รายงาน
สมั พนั ธ์กนั รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจหลกั ของพนั ธุ - นกั เรียนนาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไป - แบบทดสอบ
มาตรฐาน ว ๑.๓ เขา้ ใจกระบวนการและ วศิ วกรรมข้นั ตน้ ในเรื่องของการถ่ายทอด ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ - แบบประเมินการทาํ งาน
ความสาํ คญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทาง ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสารพนั ธุกรรม
พนั ธุกรรมสารพนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทาง - นกั เรียนจบแตล่ ะช่วงช้นั ได้ กลุ่มและรายบุคล
ตามเป้ าหมายที่วางไว้ - กิจกรรมการทดลอง

พนั ธุกรรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวติ ความหลากหลาย แบบประเมินการเขียนรายงาน

ทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวติ รวมท้งั

นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจธรรมชาติของ - นกั เรียนนาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไป - แบบทดสอบ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร สสาร ท้งั ๓ สถานะ ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ - แบบประเมินการทาํ งาน

องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง - นกั เรียนจบแต่ละช่วงช้นั ได้ กลุ่มและรายบุคล

สมบตั ิของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหน่ียว ตามเป้ าหมายที่วางไว้ - กิจกรรมการทดลอง

ระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการ แบบประเมินการเขียนรายงาน

เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย

และการเกิดปฏิกิริยาเคมี

โรงเรียนมธั ยมวทิ ยา

เป้ าหมายการจดั การศึกษาระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

มาตราฐาน/ตวั ช้ีวดั เป้ าหมายและกระบวนการพฒั นา ผลลพั ธ์ เครื่องมือ
ช้นั ป. 5

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในระบบนิเวศ - นกั เรียนนาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไป - แบบทดสอบ
ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ - แบบประเมินการทาํ งาน
มาตรฐาน ว ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของ ท้งั ในเร่ืองของสิ่งมีชีวติ ท่ีเหมาะสมกบั การ
- นกั เรียนจบแตล่ ะช่วงช้นั ได้ กลุ่มและรายบุคล
ระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งไมม่ ีชีวติ ดาํ รงชีวติ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งมีชีวติ ตามเป้ าหมายท่ีวางไว้ - กิจกรรมการทดลอง
- แบบประเมินการเขียน
กบั ส่ิงมีชีวติ และความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสิ่งมีชีวติ กบั ส่ิงไมม่ ีชีวติ เพ่ือประโยชน์ต่อการ -
รายงาน
กบั ส่ิงมีชีวติ ต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอด ดาํ รงชีวติ ตระหนกั ในคุณค่าของ

พลงั งาน การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีตอ่ การดาํ รงชีวติ ของ

ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่ ส่ิงมีชีวติ โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา

มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มแนวทาง สิ่งแวดลอ้ ม

ในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ข

ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มรวมท้งั นาํ ความรู้ไปใช้

ประโยชน์

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ นกั เรียนมีความรู้สามารถอธิบายลกั ษณะ - นกั เรียนนาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไป - แบบทดสอบ
ทางพนั ธุกรรมท่ีมีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
มาตรฐาน ว ๑.๓ เขา้ ใจกระบวนการและ ของพชื สตั วแ์ ละมนุษยไ์ ด้ ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ - แบบประเมินการทาํ งาน
ความสาํ คญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทาง
พนั ธุกรรมสารพนั ธุกรรม การเปล่ียนแปลงทาง - นกั เรียนจบแต่ละช่วงช้นั ได้ กลุ่มและรายบุคล
พนั ธุกรรมท่ีมีผลตอ่ ส่ิงมีชีวติ ความหลากหลาย
ทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของสิ่งมีชีวติ รวมท้งั ตามเป้ าหมายท่ีวางไว้ - กิจกรรมการทดลอง
นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
แบบประเมินการเขียนรายงาน


Click to View FlipBook Version