The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โพธิญาณ โดย หลวงพ่อชา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-07 19:48:00

โพธิญาณ โดย หลวงพ่อชา

โพธิญาณ โดย หลวงพ่อชา

Keywords: โพธิญาณ หลวงพ่อชา

โพธิญาณ

From: http://www.ajahnchah.org/thai/ajahn-chah-thai-index.php
Download 105 กณั ฑ์ : http://www.watnongpahpong.org/mp3play.php

ทา นเจาคณุ พระโพธญิ าณเถร

ชวี ประวัติพระโพธิญาณเถร (ชา สภุ ทั โท)

MP3 ชีวประวัติพระอาจารยชา

http://www.watnongpahpong.org/mp3/lpchah/prawatlpc.mp3

ชาติภมู ิ

พระโพธิญาณเถร นามเดมิ ชา ชวงโชติ เกิดเมือ่ วนั ศกุ ร ขึ้น ๗ คาํ่ เดอื น ๗ ปม ะเมยี ตรงกับวันท่ี ๑๗ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ณ บา นจิกกอ
หมูท่ี ๙ ต. ธาตุ อ. วารินชาํ ราบ จ. อบุ ลราชธานี บดิ าชอื่ นายมา มารดาชื่อ นางพมิ ชวงโชตมิ ีพนี่ อ งรวมบิดามารดาเดยี วกนั ๑๐ คน

ปฐมศึกษา

สมัยน้นั การศกึ ษายังไมเจริญท่ัวถงึ หลวงพอ จงึ ไดเขา ศึกษา ที่ ร.ร. บา นกอ ต. ธาตุ อ. วารนิ ชําราบ จ. อบุ ลราชธานี เรยี นจบ ชั้น ป. ๑
จึงไดออกจากโรงเรยี น เน่อื งจากหลวงพอ มคี วามสนใจ ทางศาสนา ตัง้ ใจจะบวชเปน สามเณร จงึ ไดข ออนญุ าตจากบดิ ามารดา
เมอ่ื ทา นเห็นดดี วยทา นจงึ นําไปฝากไวท ว่ี ดั

ชีวิตในรมกาสาวพสั ตร

ในขณะนน้ั หลวงพอ มีอายุ ๑๓ ป เมือ่ โยมบิดาไดนําไปฝากกบั ทานเจา อาวาส และไดร บั การฝกหดั อบรมใหรรู ะเบียบการ บรรพชาดแี ลว
จึงอนญุ าตใหบรรพชาเปน สามเณรเมือ่ เดอื นมนี าคม พ.ศ.๒๔๗๔ โดยมีพระครวู จิ ิตรธรรมภาษี(พวง) อดีตเจา อาวาสวัดมณวี นาราม
เปน พระอปุ ชฌาย

เมอื่ บรรพชาเปนสามเณรแลว ก็ไดทองทําวัตรสวดมนต เรียนหนังสอื พืน้ เมือง(ตัวธรรม) และไดศกึ ษานกั ธรรมชั้นตรี
อยปู ฏบิ ัติครบู าอาจารยเ ปน เวลา ๓ พรรษา
เน่อื งจากมคี วามจําเปน บางอยา งจึงไดล าสกิ ขาออกไปทํางานชว ยบดิ ามารดาตามความสามารถของตน
ตงั้ อยูในโอวาทของบดิ ามารดามคี วามเคารพบชู าในพระคณุ ของทา น พยายามประพฤติตนเปนลกู ท่ดี ีของทานเสมอมา

ครนั้ อยูต อมาอีกหลายป ไมวาจะทาํ งานอะไรอยูทไ่ี หนความสนใจในการอุปสมบทเพ่อื ศึกษาธรรม ดูเหมอื นคอยเตอื นใหมคี วามสํานกึ อยูเสมอ
คิดอยากจะบวชเปน พระ ไดป รกึ ษากับบิดามารดา เม่อื ตกลงกนั ดีแลว
บิดาจึงนําไปฝากทว่ี ัดบา นกอใน(ปจจบุ ันเปน ท่ีธรณีสงฆเ พราะรา งมานาน
แลว )และไดอปุ สมบทที่พทั ธสีมาวดั กอ ในต.ธาตุอ.วารนิ ชาํ ราบจ.อุบลราชธานี เมอ่ื วนั ท่ี ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๒ เวลา ๑๓.๕๕ น. โดยมี

ทานพระครูอินทรสารคณุ เปน พระอปุ ช ฌาย

ทานพระครูวิรฬุ สตุ การ เปน พระกรรมวาจาจารย

พระอธิการสวน เปน พระอนุสาวนาจารย

เม่อื อปุ สมบทแลว พรรษาที่ ๑-๒ จําพรรษาอยทู วี่ ัดกอนอก ไดศกึ ษาปริยัตธิ รรม และสอบนักธรรมชนั้ ตรไี ด

ออกศกึ ษาตา งถ่นิ

เมอ่ื สอบนกั ธรรมตรีไดแ ลว เน่อื งจากครบู าอาจารยหายาก ทมี่ อี ยูก็ไมคอ ยชาํ นาญในการสอน จงึ ตง้ั ใจจะไปแสวงหาความรตู างถนิ่
เพราะยังจําภาษติ โบราณสอนไวว า

ออกจากบาน ฮหู ม ทางเทย่ี ว เรียนวิชา หอ นสิมีความฮู

ป พ.ศ. ๒๔๘๒ จงึ ไดยายจากวัดกอนอกไปศึกษาปรยิ ตั ิธรรมที่วดั สวนสวรรค อ. พบิ ลู มงั สาหาร จ. อบุ ลราชธานี และอยทู ี่นี่ ๑ พรรษา
และไดพจิ ารณาเหน็ วา เรามาอยทู ีน่ ีเ่ พื่อศกึ ษากด็ ี พอสมควรแตย ังไมเ ปนทีพ่ อใจนัก ไดท ราบขา ววา ทางสํานัก
ตา งอําเภอมกี ารสอนดีอยหู ลายแหงซึ่งมีมากทั้งคณุ ภาพและ ปริมาณ จงึ ชวนเพอื่ นลาทานเจาอาวาสแจงความประสงคใ หทา น ทราบ

ป พ.ศ. ๒๔๘๕ เดนิ ทางจาก อ. พิบูลมังสาหาร มุงสูสาํ นกั เรยี นวดั หนองหลัก ต. เหลาบก อ.มวงสามสิบ จ. อุบลราชธานี
ไดพักอาศัยอยกู บั ทา นพระครอู รรคธรรมวจิ ารณ ไดถามจากเพ่ือนบรรพชิตก็ทราบวา ทา นสอนดมี คี รสู อนหลายรูปมพี ระภิกษุ

สามเณรมากรปู ดว ยกันสระยะท่ีไปอยเู ปน ฤดูแลง อาหารการฉนั รสู ึกจะอด เพ่ือนท่ีไปดวยกันไมชอบจงึ พดู รบเรา อยากจะพาไปอยสู าํ นักอ่นื
หลวงพอ พูดวา ท้ังๆทีเ่ ราก็ชอบอัธยาศยั ของครอู าจารยทวี่ ดั หนองหลกั แตไ มอยากจะขัดใจเพ่ือน จงึ ตกลงกนั วา
ถา ไปอยูแลวเกดิ ไมพ อใจหรือไมถ กู ใจแลวจะกลับมาอยทู ห่ี นองหลักอีก จึงไดเดนิ ทางไปอยูกับทา นมหาแจง วดั เคง็ ใหญ ต. เคง็ ใหญ อ.
อาํ นาจเจริญ จ. อุบลราชธานี ไดอ ยูจําพรรษาศึกษานักธรรมชน้ั โทและบาลีไวยากรณ
แตตามความรูสกึ เทาทีส่ ังเกตเห็นวา ทา นมไิ ดท ําการสอนเตม็ ที่ ดูเหมอื นจะถอยหลงั ไปดวยซ้าํ ตั้งใจไววา เมือ่ สอบนักธรรมเสร็จ
ไดเ วลาสมควรก็จะลาทานมหาแจงกลับไปอยทู ่ีวดั หนองหลกั เมอ่ื สอบแลว และผลการสอบตอนปลายปป รากฏวา สอบนักธรรมชั้นโทได

ป พ.ศ. ๒๔๘๖ จึงยายจากวัดเคง็ ใหญ มาอยูก บั หลวงพอ พระครูอรรคธรรมวิจารณว ัดหนองหลัก ต. เหลาบก อ.มวงสามสบิ จ. อุบลราชธานี
ต้ังใจศกึ ษาท้ังนกั ธรรมช้นั เอกและเรยี นบาลไี วยากรณซาํ้ อีกทง้ั พอใจในการสอนการเรยี นในสํานักนี้มาก

งดสอบเพือ่ ผบู ังเกิดเกลา

ท้ังๆท่ีปน ี้ (๒๔๘๖) เปนปท ่ีหลวงพอเองเกดิ ความภูมิใจ สนใจในการศกึ ษา มงุ หนา บากบน่ั ขยันเรียนอยา งเตม็ ที่ และไดต ั้งความหวงั ไวว า
เมอื่ ผลการสอบตอนปลายปอ อกมาจะพาใหไดรับความดีใจ

หลังจากออกพรรษา ปวารณาและกาลกฐินผา นไป...กไ็ ดรบั ขา วจากทางบานวา โยมบิดาปว ยหนกั หลวงพอก็เกิดความ ลังเลใจ พะวาพะวง
หว งการศกึ ษาก็หว ง หวงโยมบดิ ากห็ วง แตความหวงผบู งั เกดิ เกลา มีน้ําหนกั มากกวา เพราะมาคิดไดว า โยมบดิ าเปนผมู ีพระคณุ อยา งเหลอื ลน
เรามชี วี ติ และเปน อยู มาไดก ็เพราะทาน สมควรท่ีเราจะแสดงความกตัญใู หป รากฏ เสยี การศึกษายังมเี วลาเรียกกลบั มาได
แตส ิ้นบญุ พอ เราจะขอไดจากที่ไหน...ความกตัญมู พี ลงั มารั้งจติ ใจใหค ดิ กลบั ไปเยี่ยม
โยมพอเพือ่ พยาบาลรักษาทา น...ท้ังๆทวี่ ันสอบนักธรรมก็ใกล เขามาทกุ ที แตยอมเสียสละถา หากโยมพอยังไมห ายปว ย และ
นึกถึงคําสอนของพระพทุ ธองคท ่ีทรงตรัสไวว า ความกตญั กู ตเวที เปน เครอ่ื งหมายของคนดี

ดว ยความสาํ นกึ ดังกลา ว จงึ ไดเ ดินทางกลบั บา น เมอ่ื ถึงแลว ก็ไดเ ขาเย่ยี มดอู าการปวย ท้ังๆทไ่ี ดช วยกันพยาบาลรักษาจนสุดความสามารถ
อาการของโยมพอกม็ ีแตท รงกับทรุด คิดๆดกู เ็ หมือนตอไมทตี่ ายแลว แมใ ครจะใหนาํ้ ใหป ุยถูกตองตามหลกั วิชาการเกษตรสกั เพยี งใด
ก็ไมสามารถทําใหมนั แตกหนอ เจรญิ งอกงามข้นึ มาได

คาํ สัง่ ของพอ

ตามปกตนิ ้ันนับตง้ั แตห ลวงพอไดอ ุปสมบทมา เม่ือมีโอกาสเขา ไปเย่ียมโยมบดิ ามารดา หลงั จากไดพดู คุยเรือ่ งอ่ืนมาพอสมควรแลว
โยมพอ มักจะวกเขาหาเร่อื งความเปน อยูในเพศสมณะ ทานมกั จะปรารภดวยความเปนหว งแกมขอรองวา อยาลาสิกขานะ
อยเู ปนพระไปอยา งน้ีแหละดี สึกออกมามนั ยงุ ยาก ลําบาก หาความสบายไมไ ด ทา นไดยนิ แลว ก็น่งิ มิไดตอบ แตครัง้ นี้ ซงึ่ โยมพอ กาํ ลังปวย
ทา นกไ็ ดพดู เชน นนั้ อีกพรอ มกบั มองหนา คลา ยจะรอฟงคาํ ตอบอยู ทา นจึงบอกโยมพอไปวา ไมสกึ ไมเ สิกหรอกจะสกึ ไปทาํ ไมกัน
รสู กึ วาเปนคําตอบท่ที าํ ใหโยมพอพอใจ หลวงพอมาอยเู ฝา ดแู ลอาการปวยของโยมพอนับเปนเวลา ๑๓ วนั โยมพอ จึงไดถ ึงแกกรรม

ในระยะที่ไดเฝา ดอู าการปว ยของโยมพออยูน้นั เมอ่ื โยมพอไดท ราบวาอกี ๔-๕ วันจะถึงวันสอบนักธรรม
ทานจึงบอกวาถึงเวลาสอบแลว จะไปสอบก็ไปเสีย จะเสยี การเรยี น...แตหลวงพอไดพ จิ ารณาดูอาการปวยของทานแลว ตัง้ ใจวาจะไมไ ป จะอยูให
โยมพออุนใจกอนทที่ านจะจากไป...อีกอยางหน่งึ จะทําใหค นเขาตําหนไิ ดวา เปน คนเหน็ แกตวั ผบู งั เกดิ เกลา กาํ ลังปว ยหนักยังทอดทิง้ ไปได
เลยจะกลายเปน ลกู อกตัญเู ทา นน้ั

หลวงพอเลา วา ในระหวางเฝาดอู าการปว ยของโยมพอ จนกระทั่งทานถงึ แกกรรม ทําใหไ ดพ จิ ารณาถึงธาตุกรรมฐาน
พิจารณาดูอาการท่เี กดิ ดับของสงั ขารทงั้ มวล และเกิดความสงั เวชใจวาอันชวี ติ ยอ มส้นิ ลงแคนห้ี รือ? จะยากดีมจี นกพ็ ากันดิน้ รนไปหาความตาย
อนั เปนจดุ หมายปลายทาง อนั ความแก ความเจบ็ ความตายนั้น เปน สมบัติสากลทท่ี กุ คนจะตองไดร ับ
จะยอมรับหรือไมก ไ็ มเหน็ ใครหนพี นสักราย...

ป พ.ศ.๒๔๘๗ เมือ่ จัดการกับการฌาปนกิจโยมบดิ าเรยี บรอยแลว หลวงพอก็เดินทางกลบั สํานกั วัดหนองหลัก เพื่อตง้ั ใจศึกษาเลาเรยี นตอไป
แตบางวันบางโอกาส ทําใหท า นนกึ ถึงภาพของโยมพอทนี่ อนปว ย รา งซูบผอมออ นเพลยี นกึ ถึงคาํ สงั่ ของโยมพอ
และนึกถึงภาพทท่ี า นมรณะไปตอหนา ยิ่งทาํ ใหเ กิดความลดใจสังเวชใจ ความรูสึกเหลา นีม้ นั ปรากฏเปน ระยะๆ

ในระหวางพรรษาน้ี ขณะท่กี าํ ลงั แปลหนังสอื ธรรมบทจบไปหลายเลม ไดท ราบพทุ ธประวัตสิ าวกประวตั ิจากหนงั สอื เลม น้ันแลวมาพิจารณาดู
การทเ่ี ราเรียนอยูนค้ี รูกพ็ าแปลแตส ่งิ ท่ีเรารู เราเห็นมาแลว เชน เรื่องตนไม ภูเขา ผูหญงิ ผชู าย และสัตวต างๆ สตั วมีปกบาง ไมมีปก บาง สัตว
มีเทาบา ง ซ่งึ ลวนแตเ รา ไดพ บเห็นมาแลวเปนสว นมาก จติ ใจกร็ สู ึกเกิดความเบอ่ื หนา ย จงึ คิดวามใิ ชท างพน ทกุ ข
พระพุทธองคคงจะไมมีพุทธประสงคใ หบวชมาเพอ่ื เรียนอยางเดยี ว และเรากไ็ ดเรียนมาบา งแลว จงึ อยากจะศกึ ษาทางปฏบิ ตั ิดูบา ง
เพือ่ จะไดท ราบวามคี วามแตกตางกนั เพยี งใด แตย ังมองไมเหน็ ครูบาอาจารยผ ูพ อจะเปน ท่ีพึง่ ได จงึ ตดั สนิ ใจจะกลับบา น

พ.ศ.๒๔๘๘ ในระหวา งฤดูแลง จงึ ไดปรกึ ษากบั พระถวลั ย( สา) ญาณจารี เขากราบลาหลวงพอ พระครูอรรคธรรมวิจารณ
เดินทางกลับมาพักอยูวดั กอนอกตามเดิม และในพรรษาน้ันกไ็ ดเปน ครูชวยสอนนักธรรมใหท านอาจารยท วี่ ดั
จึงไดเ ห็นภกิ ษสุ ามเณรท่เี รียนโดยไมคอ ยเคารพในการเรียน ไมเ อาใจใส เรยี นพอเปน พิธี บางรปู นอนนํ้าลายไหล
จงึ ทาํ ใหเ กดิ ความสังเวชใจมากข้ึนตง้ั ใจวาออกพรรษาแลวเราจะตองแสวงหาครูบาอาจารย ดา นวปิ ส นาใหไ ด
เมอ่ื สงนกั เรียนเขาสอบและหลวงพอก็เขา สอบนกั ธรรมเอกดว ย (ผลการสอบปรากฏวาสอบนกั ธรรมเอกได)

ออกปฏบิ ัติธรรม

หลงั จากสอบนกั ธรรมเสรจ็ แลว สระยะนัน้ ไดทราบขา ววาทา นอาจารยมัน่ วดั ปห ลอ อ.เดชอดุ ม จ.อุบลราชธานี เปนผสู อนทางวปิ ส นาธุระ
จึงไดม ุงหนา ไดสวู ัดของทานทนั ที และไดฝากตวั เปน ศษิ ยอ ยปู ฏบิ ัติทดลองดไู ด ๑๐ วนั มีความรสู ึกวา ยังไมใ ชทางตรงแท
ยงั ไมเ ปน ที่พอใจในวธิ นี ั้น จงึ กราบลาทา นกลบั มาพกั อยูวดั นอกอีก

พ.ศ.๒๔๘๙ (พรรษาท่ี๘) ในระหวา งตนป ไดชวน พระถวัลยออกเดินธดุ งคม งุ ไปสูจ งั หวัดสระบรุ ีเปนเพอ่ื นรวมเดนิ ทาง
ไดพกั อยูต ามปาตามเขาไปเรอ่ื ยๆ จนกระทัง่ ไปถึงเขตหมูบ านยางคู
ต.ยางคจู .สระบรุ ีไดพ ักอยูท น่ี ่ันนานพอสมควรพิจารณาเหน็ วา สถานที่ยังไมเ หมาะสมเทาใดนัก ท้ังครูบาอาจารยก ็ยังไมด ี
จึงเดินทางเขา สเู ขตจังหวัดลพบุรีมงุ สูเขาวงกฏ อันเปน สํานกั ของหลวงพอเภา แตก น็ า เสียดายทหี่ ลวงพอเภาทานมรณภาพเสยี แลว
เหลอื แตอาจารยวรรณ ซง่ึ เปน ลกู ศิษยข องหลวงพอ เภาอยดู แู ล ส่งั สอนแทนทานเทาน้นั
แตก ย็ ังดีท่ไี ดอาศยั ศกึ ษาระเบียบขอ ปฏิบตั ทิ ่หี ลวงพอ เภาทานวางไว
และไดอานคติพจนท ีห่ ลวงพอเขียนไวต ามปากถา้ํ และตามทีอ่ ยูอาศัยเพื่อเตือนใจ ทง้ั ไดม โี อกาส ศึกษาพระวินัยจนเปน ที่เขาใจยง่ิ ข้นึ
เปน เหตใุ หม กี ารสงั วรระวัง ไมกลา ฝา ฝนแมแตส กิ ขาบทเล็กๆนอยๆ การศึกษาวนิ ัยนั้นศกึ ษาจากหนงั สอื บาง
และไดร ับคาํ แนะนาํ จากพระอาจารยผูชํานาญทง้ั ปรยิ ตั ิและปฏบิ ัตบิ าง ซ่งึ ทานมาจากประเทศกมั พชู า ทา นวา เขา มาสอบทานพระไตรปฎ กไทย
ทานเลาใหฟงวา ทแ่ี ปลไวใ นหนังสือนวโกวาทนน้ั บางตอนยงั ผดิ พลาด ทา นอาจารยรปู นั้นเกงทางวินัยมาก
จาํ หนงั สือบุพสกิ ขาไดแมน ยําเหมอื นกบั เราจาํ ปฏสิ ังขาโยฯ ทานบอกวา เม่ือเสรจ็ ภารกจิ ในประเทศไทยแลวทานจะเดนิ ทางไปประเทศพมา
เพ่ือศึกษาตอไป ทานเปนพระธุดงคช อบอยูตามปา นา สรรเสริญนาํ้ ใจทา นอยอู ยา งหน่งึ คือ

วนั หน่ึงหลวงพอ ไดศกึ ษาวนิ ัยกบั ทา นอาจารยร ูปนั้นหลายขอ มีอยขู อ หน่งึ ซึง่ ทา นบอกคลาดเคลอื่ นไป ตามปกติหลวงพอ
เมือ่ ไดศ ึกษาวนิ ัยและทํากิจวตั รแลว คร้นั ถงึ กลางคืนทา นจะข้นึ ไปพักเดินจงกรม น่งั สมาธิอยบู นหลงั เขา วนั นัน้ ประมาณ ๔ ทมุ กวา ๆ
ขณะที่กําลงั เดนิ จงกรมอยูไดย ินเสียงกง่ิ ไมใ บไมแ หง ดังกรอบแกรบ ใกลเ ขามาทกุ ทีทา นเขา ใจวา คงจะเปนงูหรอื สตั ว อยางอน่ื ออกหากนิ
แตพ อเสียงนัน้ ดงั ใกลๆเขา มา ทา นจึงมองเห็นอาจารยเขมรรปู น้ัน หลวงพอ จึงถามวา ทานอาจารยม ธี ุระอะไรจงึ ไดมาดกึ ๆดนื่ ๆ ทา นจงึ ตอบวา
ผมบอกวนิ ัยทานผดิ ขอหนง่ึ หลวงพอ จงึ เรียนวา ไมค วรลาํ บากถงึ เพยี งนี้เลย ไฟสอ งทางกไ็ มม ี เอาไวพรงุ น้จี ึงบอกผมใหมก ็ได ทานตอบวา
ไมไ ดๆ เมอื่ ผมบอกผิด ถา ผมตายในคนื นท้ี านจําไปสอนคนอ่ืนผิดๆอกี กจ็ ะเปนบาปเปน กรรมเปลาๆ เมื่อทานบอกเรยี บรอยแลวกก็ ลับลงไป
ดเู ถดิ น้าํ ใจของทา นอาจารยรูปนน้ั ชางประเสรฐิ และมองเห็นประโยชนจ ริงๆ แมจะมคี วามผดิ พลาดเล็กนอยในการบอกสอนกม็ ิไดประมาท
ไมรอใหข า มวันขา มคนื รบี แกไขทนั ทที ันใด จึงเปนตวั อยางทีด่ ีแกเราทงั้ หลาย และนาสรรเสรญิ นํา้ ใจของทานโดยแท

พดู ถงึ การปฏบิ ัตทิ ี่เขาวงกฏในขณะนนั้ รสู ึกวายังไมแยบคาย เทา ใดนัก
หลวงพอ จงึ คดิ จะหาอาจารยผ เู ชี่ยวชาญยิ่งกวานีเ้ พอ่ื ปฏบิ ตั แิ ละคน ควา ตอไป
ทานจงึ นกึ ถงึ ตั้งแตครัง้ ยงั เปน สามเณรอยทู ีว่ ดั กอนอกเคยไดเ ห็นพระกรรมฐานมลี กู ปดแขวนคอสาํ หรบั
ใชภ าวนากันลมื ทานอยากจะไดมาภาวนาทดลองดบู างนึกหาอะไรไมไ ดจ งึ มองไปเหน็ ลกู ตะแบก(ลกู เปอ ยภเู ขา) กลมๆ อยู
บนตนครัน้ จะไปเดด็ เอามาเองกก็ ลัวจะเปน อาบัติวันหนงึ่ มีพวกลิงพากันมาหกั กิง่ ไมและรดู ลกู ตะแบกเหลา น้นั มาคิดวา เขารอ ยเปนพวงคลอ งคอ
แตเราไมมอี ะไรจะรอ ยจงึ ถือเอาวาเวลา ภาวนาจบบทหนึ่งจงึ คอยๆ ปลอยลกู ตะแบกลงกระปอ งทลี ะลูกจนครบรอ ยแปดลกู
ทําอยอู ยางน้ันสามคืนจึงเกิดความรสู กึ วา ทําอยางนี้ไมใชทางเพราะไมตา งอะไรกบั เจกนับลกู หมากขาย ในตลาด จงึ ไดห ยดุ นบั ลกู ตะแบกเสยี

เหตุการณแปลกๆ ในพรรษาท่ี ๘ น้ี ขณะจําพรรษาอยูทว่ี ดั เขาวงกฏ วันหนงึ่ ขณะทข่ี ึ้นไปอยูบ นหลังเขา หลังจากเดินจงกรมและน่งั สมาธแิ ลว
ก็จะพักผอ นตามปกติ กอ นจาํ วตั รจะตอ งสวดมนตไ หวพ ระ แตว ันน้นั เชือ่ ความบรสิ ทุ ธขิ์ องตนเอง จงึ ไมไ ดส วดอะไร ขณะที่กําลงั เคล้ิมจะหลับ
ปรากฏวา เหมอื น มอี ะไรมารัดลาํ คอแนนเขา ๆแทบหายใจไมอ อก ไดแ ตนึกภาวนาพทุ โธๆเรอ่ื ยไป
เปน อยูนานพอสมควรอาการรดั คอนนั้ จึงคอ ยๆ คลายออก พอลมื ตาไดแ ตต ัวยงั กระดิกไมไ ด จึงภาวนาตอ ไป จนพอกระดิกตวั ไดแตย งั ลกุ ไมไ ด
เอามือลบู ตามลาํ ตัวนกึ วา มใิ ชตวั ของเรา ภาวนาจนลกุ นง่ั ไดแลว พอน่งั ไดจ ึงเกดิ ความรูสกึ วา เรอ่ื งการถอื มงคลตนื่ ขาวแบบสลี ัพพตปรามา
ไมใ ช ทางทถ่ี กู ทีค่ วรการปฏิบัตธิ รรมตอ งเร่มิ ตนจากมศี ลี บริสุทธิ์เปนเหตุใหพ จิ ารณาลงสวู า...สตั ว ทัง้ หลายมีกรรม เปน ของๆ
ตนแนช ัดลงไปโดยมิตอ งสงสัยนบั ตั้งแตนน้ั มา หลวงพอ ชามคี วามระวังสาํ รวมดว ยดี มใิ หมีความบกพรองเกิดข้นึ
แมก ระท่ังสิ่งของทไ่ี ดม าโดยไมบ ริสทุ ธต์ิ ามวินัย และปจจยั (เงนิ ทอง) ทา นก็ละหมด
และปฏญิ าณวาจะไมย อมรับต้งั แตวันนน้ั มาจนกระทงั่ ถงึ ทุกวันน้ี

ในระหวา งพรรษานัน้ ไดร ับขา ววา ทา นพระอาจารยม ่นั ภรู ทิ ตฺโต เปน ผูมีคณุ ธรรมสงู ทัง้ ชาํ นาญดา นวปิ สนาธุระมปี ระชาชนเคารพเลื่อมใมาก
ทา นมีสาํ นกั อยทู ่วี ดั ปาหนองผอื นาใน อ.พรรณานิคม จ.กลนครโดยมโี ยมอินทรม รรคทายก เขาวงกฏเลาใหฟง และแนะนาํ ใหไ ปหา
เพราะโยมอินทรเคยปฏบิ ัติรบั ใชท านอาจารยม ั่นมาแลว

พ.ศ.๒๔๙๐ เปนพรรษาท่ี ๙ จาํ พรรษาอยทู ่วี ดั เขาวงกฏ เม่ือออกพรรษาแลวจงึ มาพจิ ารณาดวู า เราเอาลูกเขามาตกระกาํ ลาํ บาก ขามภู ขา มเขามา
พอ แมเขาจะวา เราได (หมายถงึ พระมหาถวลั ย ญาณจารี ตงั้ แตครง้ั ยังเปน พระสามัญ) และเห็นเขาสนใจทอ งหนังสอื
ควรจะสง เขาเขา เรยี นหนังสอื ในกรุงเทพฯ จึงไดตกลงแยกทางกนั ใหพ ระถวัลยเ ขาไปเรียนปรยิ ัติธรรมในกรงุ เทพฯ
สวนหลวงพอ ชาจะเดินทางไปหาทานพระอาจารยมนั่ และมพี ระมาดว ยกัน ๔ รปู เปนพระชาวภาคกลาง ๒ รปู
พากนั เดินทางยอ นกลับมาทีจ่ ังหวัดอุบลฯ พักอยูที่วดั กอนอกชว่ั คราว จงึ พากนั เดนิ ธดุ งคกราํ แดดไปเรอ่ื ยๆ จุดหมายปลายทางคอื
สาํ นกั ทา นพระอาจารยม ่นั ออกเดนิ ทางไปไดพอถึงคนื ที่ ๑๐ จงึ ถึงพระธาตุพนม นมัสการพระธาตุพนมและพักอยูทนี่ ั่นหนง่ึ คนื
แลว ออกเดนิ ทางไปอําเภอนาแกไปแวะนมสั การทา นอาจารยส อนท่ี ภคู อ เพ่อื ศกึ ษาขอ ปฏิบตั ิ
แตเมื่อสังเกตพจิ ารณาดูแลว ยังไมเ ปน ท่พี อใจนักไดพักอยทู ่ภี คู อ สองคนื จงึ เดนิ ทางตอไปแยกกนั เดินทาง เปน ๒ พวกตรงนน้ั
หลวงพอ ชามีความตงั้ ใจวา กอนจะไปถึง ทานพระอาจารยม ัน่ ควรจะแวะสนทนาธรรมและศกึ ษาขอ ปฏิบตั จิ าก
พระอาจารยต า งๆไปกอ นเพ่ือจะไดเ ปรยี บเทียบเทยี บเคยี งกันดู

ดังนน้ั เมอ่ื ไดท ราบวามพี ระอาจารยดานวิปสนาอยทู างทศิ ใดจึงไปนมัสการอยเู สมอ
การกลับจากภูคอนคี้ ณะท่ีไปดว ยกันไดร ับความลาํ บากเหนด็ เหนอ่ื ยมาก จงึ มสี ามเณร ๑ รูป กบั อบุ าสก ๒ คน
เห็นวาตนเองคงจะไปไมไหวจึงลากลบั บา นกอน ยังมเี หลอื แตหลวงพอกับพระอีก ๒ รปู
เดนิ ทางตอไปโดยไมย อมเลิกลม ความต้งั ใจเดิมแมจะลําบากสักปานใดกต็ อ งอดทนหลายวันตอมา จงึ เดินทางถึงสาํ นกั ของทา นพระอาจารยม่ัน
ภูริทตฺโต สํานัก หนองผอื นาในอ.พรรณานคิ มจ.กลนคร วนั แรกพอ ยา งเขา สสู าํ นกั สมองดลู านวัดสะอาดสะอา น
เหน็ กริ ิยามารยาทของเพ่อื นบรรพชิต ก็เปนทน่ี า เลอ่ื มใสและเกิดความพอใจมากกวา ทใ่ี ดๆทีเ่ คยผา นมา
พอถึงตอนเย็นจึงไดเ ขา ไปกราบนมสั การพรอ มศิษยของทานและฟงธรรมรวมกนั ทานพระอาจารยไ ด ซกั ถามเรอ่ื งราวตางๆ เชน เก่ียวกบั อายุ
พรรษา และสาํ นักทเ่ี คยปฏบิ ตั ิมาแลว หลวงพอชาไดกราบเรียนวามาจากสํานักอาจารยเ ภา วดั เขาวงกฏ จ. ลพบุรี
พรอมกบั เอาจดหมายทโ่ี ยมอนิ ทรฝ ากมาถวาย ทานพระอาจารยม่นั ไดพ ูดวา ดี...ทานอาจารยเภากเ็ ปนพระแทอ งคห นง่ึ ในประเทศไทย
ตอ จากนัน้ ทา นก็เทศนใหฟ งโดยปรารภ ถงึ เรือ่ งนกิ ายวา ไมตอ งสงสัยในนกิ ายทั้งสอง ซ่ึงเปน เร่อื งท่หี ลวงพอ สงสัยมากอ นนนั้ แลว

ตอ ไปทานกเ็ ทศน เรอ่ื งสีลนิเทส สมาธนิ ิเทส ปญญานเิ ทส ใหฟงจนเปน ทพ่ี อใจและหายสงสัย และทา นไดอ ธิบายเร่อื ง พละ ๕อิทธบิ าท ๔
ใหฟง ซ่งึ ขณะนั้น ศิษยท ุกคนฟง ดว ยความสนใจมอี าการอนั สงบเสงีย่ ม ทั้งๆท่ีหลวงพอ และเพอ่ื นเดนิ ทางมาดวยความเหนด็ เหนอ่ื ยตลอดวนั
พอไดมาฟงเทศนท า นพระอาจารยมัน่ แลว รสู กึ วา ความเม่ือยลา ไดหายไป จิตใจลงสสู มาธิธรรมดว ยความสงบมคี วามรสู ึกวา ตวั ลอยอยบู นอานะ
นง่ั ฟง อยูจ นกระทง่ั เที่ยงจึงเลิกประชมุ

ในคืนที่ ๒ ไดเ ขา นมัสการฟง เทศนอกี ทา นพระอาจารยม ่ันไดแ สดงปกณิ กะธรรมตา งๆ
จนจติ เราหายความสงสัยมคี วามรสู กึ ซงึ่ เปน การยากท่จี ะบอกคนอน่ื ใหเ ขา ใจได

ในวนั ท่ี ๓ เน่ืองจากความจําเปน บางอยาง จงึ ไดกราบลาทา นพระอาจารยม่ันเดนิ ทางลงมาทางอาํ เภอนาแก และไดแ ยกทาง
กับพระบุญม(ี พระมหาบญุ มี) คงเหลือแตพระเลอ่ื มพอไดเปน เพอ่ื นเดนิ ทาง ไมวาหลวงพอจะเดินจงกรมหรือน่ังสมาธิอยู ณ ที่ใดๆกต็ าม
ปรากฏวาทานพระอาจารยมน่ั คอยตดิ ตามตกั เตือนอยูตลอดเวลา พอเดนิ ทางมาถึงวัดโปรง ครองซงึ่ เปน สํานักของพระอาจารยคําดี
เหน็ พระทานไปอยปู า ชาเกิดความสนใจมาก เพราะมาคิดวา เมอ่ื เปนนักปฏบิ ตั ิจะตอ งแสวงหาความสงบ เชน ปา ชา ซ่งึ เราไมเคยอยมู ากอ นเลย
ถา ไมอยคู งไมรวู ามคี วาม เหมาะสมเพยี งใดเมือ่ คนอนื่ เขาอยูไดเรากต็ อ งอยูไดจ ึงตัดสินใจ จะไปอยปู า ชา
และชวนเอาพอขาวแกวไปเปน เพือ่ นดว ย

ปรากฏการณแปลกคร้ังท่ี ๒ ชวี ติ ครัง้ แรกทเี่ ขา อยปู าชา ดเู หมอื นเปนเหตบุ งั เอญิ ในวนั นัน้ มเี ดก็ ตายในหมบู านเขา
จงึ เอาฝง ไวโยมเลยเอาไมไผท่หี ามเดก็ มานน้ั สบั เปนฟากยกราน เลก็ ๆ พอนง่ั ไดใ กลๆ กบั หลุมฝง ศพ หลวงพอชาเลา วา
ทัง้ ๆทีต่ วั เองก็รูสกึ กลวั เหมอื นกัน แตไลใหพอ ขาวแกวไปปก กลดหางกันประมาณ ๑ เสน เพราะถาอยูใกลกนั มันจะถือเอาเปนท่พี ่งึ คืนแรก
ขณะที่เดนิ จงกรมเกิดความกลวั เกิดความคดิ วา หยุดเถอะพอแลว เขาไปในกลดเถอะ ทั้งๆทย่ี งั ไมด กึ เทา ใด แตก็เกิดความคดิ ข้ึนใหมวา
ไมห ยุด เดนิ ตอ ไป เรามาแสวงหาของจรงิ ไมไ ด มาเลน ...ความคิดชวนหยดุ เขา กลดเพราะกลวั กับความคิด หักหามวา ไมหยุด เดนิ ตอ ไป
ยังไมด ึกมันเกดิ แยง กันอยเู รื่อยๆ ตอ งฝนความรสู กึ อดทน
อดกลัน้ ขม ใจไวอ ยา งนัน้ ...และในคืนแรกนีข้ ณะเดนิ จงกรมอยจู ิตเรม่ิ สงบพอเดนิ ไปถงึ หลมุ ฝง ศพปรากฏวา
เรามองลงไปในหลุมเหน็ องคก าํ เนดิ ของเดก็ ผชู ายชดั เจน ท้ังๆทีเ่ ราไมท ราบวา เขาเอาเดก็ ผชู ายหรอื ผหู ญงิ มาฝงไว
พอถงึ ตอนเชา จงึ ไดถ ามโยมวาเอาเด็กผชู ายหรอื ผหู ญงิ ไปฝง เขาตอบวาเดก็ ผชู าย คนื แรกผานไป ยังไมม ีเหตกุ ารณอ ะไรมากนัก
ความกลัวก็มีไมมาก

วนั ท่ี ๒ ก็มคี นตายอีก คราวนี้เปนผูใหญ เขาพามาเผาหางจากท่ีปก กลดประมาณ ๑๐ วาส คืนนแี้ หละเปนคนื สาํ คญั
หลังจากเดินจงกรมไดเวลาพอสมควร จงึ เขานงั่ สมาธภิ ายในกลด ไดยนิ เสยี งดังกกุ กักทางกองฟอน
เรานึกวาหมามาแยง กนิ ซากศพสักครูหนึง่ เสยี งดังแรงขึ้นและ
ใกลเ ขามาทา นคิดวา หรือจะเปน ควายของชาวบา นเชอื กผูกขาดมาหากินใบไมใ นปา
จิตใจเรมิ่ กลัวเพราะเสียงนนั้ ใกลเ ขามาทุกที...หลวงพอ ไดต้งั ใจแนว แนว าไมว า จะมีอะไรเกดิ ขน้ึ แมต ัวจะตายกไ็ มยอมลืมตาข้นึ มาดู
และจะไมย อมออกจากกลด ถา จะมีอะไรมาทําลายก็ขอใหต ายภายในกลดน้ี พอเสียงนัน้ ใกลเขามาๆก็ปรากฏเปน เสยี งคนเดิน
เดนิ เขา มาขางๆกลดแลว เดนิ ออ มไปทางพอขาวแกว กะประมาณพอไปถึงไดย นิ เสยี งดังอกึ อักๆ
แลว เสียงคนเดนิ นนั้ ก็เดินตรงแนว มาทหี่ ลวงพอชาอกี ใกลเ ขา มาๆมาหยุดอยขู างหนา ประมาณ ๑ เมตร

ตอนนแ้ี หละความกลวั ทงั้ หลายทมี่ ีอยใู นโลกดเู หมือน จะมารวมกันอยูท่นี นั่ หมด ลมื นึกถึงบทสวดมนตที่จะปอ งกัน ลืมหมดทุกสิ่งทุกอยา ง
กลวั มากถึงขนาดน่ังอยขู างๆบาตรกน็ ึกเอาบาตรเปน เพ่ือน แตค วามกลัวไมล ดลงเลย ปรากฏวาเขายัง ยนื อยขู างหนาเรา
ดหี นอยท่เี ขาไมเ ปด กลดเขา มา ในชีวิตต้ังแตเกดิ มาไมเ คยมีความกลัวมากและนานเทาครั้งน้ี เมื่อความกลัว
มนั มมี ากแลว มันกม็ ที ่สี ุดของความกลวั เลยเกดิ ปญ หาถามตวั เอง วา กลวั อะไร? คําตอบกม็ ีขนึ้ วา กลัวตาย ความตายมนั อยูทไ่ี หน?
อยูทีต่ ัวเราเอง เม่อื รูวา อยทู ่ีตัวเรา จะหนีพนมนั ไปไดไหม? ไมพ น เพราะไมว า จะอยทู ่ีไหน เวลาใด คนเดยี วหรอื หลายคน ในท่ีมืดหรือท่ีแจง
ก็ตายไดทงั้ นน้ั หนีไมพนเลย จะกลวั หรือไมกลวั กไ็ มมีทางพน เมอื่ รอู ยา งนค้ี วามกลวั ไมร ูวา หายไปไหน เลยหยดุ กลวั
ดูเหมือนคลา ยกบั เราออกจากทม่ี ืดทสี่ ดุ มาพบแสงสวางน้นั แหละ เม่ือความกลวั หายไปผทู เ่ี ขา มายนื อยหู นา กลดกห็ ายไปดวย
เมอ่ื ความกลวั กับสง่ิ ที่กลวั หายไปไดส กั ครหู นง่ึ เกดิ ลมและฝนตกลงมาอยางหนัก ผา จีวรเปยกหมด

แมจะนง่ั อยูภ ายในกลดกเ็ หมือนนง่ั อยูกลางแจง เลยเกดิ ความสงสารตวั เองวา ตวั เราน้ีเหมอื นลกู ไมม ีพอแมไ มม ีทอ่ี ยูอ าศยั เวลาฝนตก
หนกั เพือ่ นมนุษยเขานอนอยูในบานอยา งสบาย แตเราซิมาน่ังตากฝนอยูอยา งนี้ ผาผอนเปย กหมด คนอืน่ ๆเขาคงไมร หู รอกวา
เรากําลังตกอยใู นภาพเชนน้ี ความวาเหวเกดิ ขึ้นนานพอสมควร เม่อื นกึ ไดก ห็ า มไวดวยปญญา พจิ ารณาอาการอยา งนน้ั ก็สงบลง
พอดีไดเ วลารุง อรณุ จึงลุกจากท่นี งั่ สมาธิ ในระยะทเ่ี กดิ ความกลัวนนั้ รสู ึกปวดปส สาวะ แตพ อกลัวถึงขีดสุดอาการปวดปสสาวะก็หายไป
และเม่ือลกุ จากทจ่ี ึงรูส ึกปวดปสสาวะ และเวลาไปปสสาวะมีเลอื ดออกมาเปน แทง ๆกอ นแลว จงึ มีน้ํา
ปสสาวะออกมาทาํ ใหร ูสึกตกใจนดิ หนึ่งคดิ วา ขางในคงแตกหรือขาด จึงมีเลอื ดออกอยา งนแ้ี ตก น็ ึกไดว าจะทําอยางไรไดในเมอ่ื เรามิไดท าํ
มนั เปนของมนั เองถา ถงึ คราวตายกใ็ หมันตายไปเสยี นกึ สอนตัวเอง ไดอ ยางน้ีก็สบายใจ ความกลัวตายหายไปตั้งแตนน้ั มา
พอไดเวลาบิณฑบาตพอขาวแกว ก็มาถามวา หลวงพอ...หลวงพอ ...เม่ือคืนนมี้ ีอะไรเห็นอะไรไปหาบา ง
?มนั เดนิ มาจากทางอาจารยอ ยูน น่ั แหละมนั แสดงอาการทน่ี ากลัวใสผ ม ผมตองชักมีดออกมาขมู ันมนั จงึ เดินกลบั ไป หลวงพอชาจึงตอบวา
จะมีอะไรเลา...หยดุ พูดดีกวา พอ ขาวแกวก็เลยหยุดถาม หลวงพอคดิ วา ถา ขนื พดู ไป ถาพอ ขาวแกว เกิดกลัวขึน้ มาเดี๋ยวกอ็ ยไู มไดเทา น้นั

เม่อื อยูปา ชา ใกลว ดั ทา นอาจารยคําดไี ด ๗ วัน ก็มีอาการเปน ไข เลยพักรกั ษาตวั อยกู บั อาจารยค าํ ดปี ระมาณ ๑๐ วัน จึง ยา ยลงมาทางบานตอ ง
พกั อยทู ่ีปา ละเมาะบา นตองไดเวลานาน พอสมควร จึงไดเ ดนิ ทางกลบั ไปหาทานอาจารยก นิ รีพักอยู ทนี่ ่ันหลายวัน
จงึ ไดก ราบลาทานอาจารยกินรี ทวี่ ัดปาหนองฮี อ. ปลาปาก จ. นครพนม แลว จงึ เดินทางตอไป...

อัฏฐบรขิ ารหมดอายุ

ในพรรษาที่ ๙ น้ี ไดมาจาํ พรรษาอยกู ับทานอาจารยกินรมี าขอพึง่ บารมีปฏิบตั ิธรรมกับทาน
และไดร บั ความสงเคราะหจากทานอาจารยเ ปนอยางดี ทา นอาจารยเ ห็นไตรจวี รเกา ขาด จะใช ตอไปไมไ ด
ทา นจึงไดก รณุ าตัดผา ฝายพน้ื เมืองใหจนครบไตรจีวร หลวงพอ ชาคดิ วา ผา นจี้ ะมเี น้ือหยาบหรือละเอยี ดไมสําคญั
สาํ คญั อยทู ี่ใชไดทนทานก็เปน พอ ในพรรษาน้หี ลวงพอไดมีความขยนั หม่นั เพยี รในการปฏิบัติอยางมากไมม ีความยอ ทอ แตประการใด

คนื วนั หนึง่ หลังจากหลวงพอทาํ ความเพยี รแลว คดิ จะ พกั ผอ นบนกุฏิเล็กๆ พอเอนกายลง ศีรษะถงึ หมอนดว ยการกําหนด ติ
พอเคลิ้มไปเกิดนมิ ติ ขึน้ วา ทา นพระอาจารยมั่น ภรู ทิ ตฺโต ไดมาอยใู กลๆ นาํ ลกู แกว ลกู หนงึ่ มาย่ืนใหแ ลว พูดวา
ชา...เราจะใหลูกแกว ลูกนีแ้ กทานมนั มีรศั มีสวางไสวมาก หลวงพอ ยื่นมอื ขวาไปรับลูกแกว ลูกนั้น รวบกับมือทานพระอาจารยม ่นั แลว ลุกขึ้นนง่ั
พอรสู ึกตวั ก็เหน็ ตวั เองยังกาํ มอื และอยใู นทาน่ังตามปกติมีอาการคิดคน ธรรมะเพอ่ื ความรเู ก่ียวกบั
การปฏบิ ตั ิมีติปลื้มใจตลอดพรรษา

รบกับกิเลส

ในพรรษาท่อี ยกู ับพระอาจารยกนิ รีน้นั ขณะทม่ี คี วามเพยี รปฏบิ ตั ธิ รรมอยางเครงครดั ในวาระหนึ่งไดเกดิ การตอ สูกบั ราคะธรรมอยา งแรง
ไมว า จะเดนิ จงกรมนง่ั สมาธหิ รืออยใู นอิรยิ าบถใด ก็ตาม ปรากฏวา มโี ยนขี องผูหญงิ ชนดิ ตา งๆ ลอยปรากฏเตม็ ไปหมด
เกิดราคะขึน้ จนทาํ ความเพยี รเกือบไมไ ด ตอ งทนตอ สูกับความ
รูสึกและนมิ ิตเหลา นนั้ อยา งลาํ บากยากเยน็ จรงิ ๆมคี วามรนุ แรงพอๆกับความกลวั ท่ีเกิดข้นึ ในคราวที่
ไปอยปู าชานั่นแหละ เดนิ จงกรมไมไ ดเ พราะองคก ําเนดิ ถูกผาเขา กจ็ ะเกดิ การไหวตัว
ตอ งใหท าํ ท่เี ดินจงกรมในปา ทบึ และเดินไดเ ฉพาะในทม่ี ดื ๆ เวลาเดนิ ตองถลกบงข้นึ พันเอวไวจ งึ จะเดนิ จงกรมตอ ไปได
การตอสูก ับกเิ ลสเปนไปอยางทรหดอดทน ไดทําความเพยี รตอ สูกนั อยนู านเปนเวลา ๑๐ วัน
ความรูสกึ และนมิ ติ เหลาน้ันจึงจะสงบลงและหายไป

เมื่อถงึ หนา แลง (ป ๒๔๙๐) หลวงพอจึงกราบลาทา นอาจารยก นิ รี เพือ่ แสวงหาวเิ วกตอไป กอนจากทา นอาจารยกินรไี ดใ หโอวาทวา ทา นชา...
อะไรๆกพ็ อสมควรแลว แตใ หท านระวงั การเทศนนะ ตอจากนน้ั กไ็ ดเ ดนิ ทางไปเรอ่ื ยๆ แสวงหาท่วี เิ วกบาํ เพญ็ สมณธรรมตอ ไป
จนเดนิ ธดุ งคไ ปถงึ บา นโคกยาว จงั หวัดนครพนม ไปพกั อยใู นวัดรา งแหงหน่งึ หา งจากหมบู านประมาณ ๑๐ เสน ในระยะน้จี ิตสงบและเบาใจ
อาการมุงจะเทศนก เ็ ริ่มปรากฏข้นึ มา

เหตุการณแปลกครง้ั ท่ี ๓ เมอื่ ไดป ฏบิ ตั ธิ รรมอยูทว่ี ัดรางแหง นนั้ วันหนง่ึ เขามีงานในหมูบา นมมี หรสพ เปด เครือ่ งขยายเสยี งดังออื้ อึงมาก
ขณะน้ันหลวงพอ กาํ ลังเดินจงกรมอยู เปนเวลาประมาณ ๔ ทมุ เดินไดนานพอสมควรจึงนง่ั สมาธิบนกฏุ ิ ช่วั คราว
ขณะทน่ี ั่งอยูน ัน้ จิตใจเขาสูความสงบ จนมีความรสู กึ วา เสยี งเปน เสยี ง จิตเปน จติ ไมป ะปนกัน ไมมคี วามกงั วลอะไรท้งั ส้นิ
อาการเหลานี้ปรากฏเปน เวลานาน ถา จะอยตู ลอดคืนกไ็ ดจ นจติ เกดิ ความรสู ึกวา เอาละพกั ผอ นเสยี ที จงึ มีการพักผอนตามภาพของสังขาร
พอเอนกายลงศรี ษะยงั ไมถงึ หมอน ดว ยติเตม็ เปย ม จติ มีการนอ มเขาสูมรณตเิ ปน ครัง้ แรก จนกระทัง่ จิตดําเนนิ เขาไปผา นจุดอนั หนง่ึ
ไดปรากฏวารา งกายระเบดิ เปน ผุยผง อาการจติ นั้นทะลเุ ขา สูจ ุดแหงความสงบใสสะอาดอกี ตอไป เมือ่ เวลานาน พอสมควรแลว
จึงมอี าการถอนออกมาเปนปกตธิ รรมดาอกี พักหนึ่ง แลว ก็มอี าการดาํ เนินเขา ไปถึงจดุ อยา งเกา
รา งกายมกี าํ ลังระเบดิ รนุ แรงละเอียดย่ิงกวาครง้ั แรกประมาณ ๓ เทา แลว ก็ทะลเุ ขาสจู ุดนานพอสมควร
จงึ มอี าการถอนออกมาถงึ ปกติจิตธรรมดา แลว กม็ ีอาการนอ มเขาไปผานจุดอยางเกามกี ารระเบดิ อยางรนุ แรงยง่ิ กวา ครงั้ ทส่ี องต้งั ๓ เทา
จนคลายๆกับโลกนีแ้ หลกละเอยี ดไมม อี ะไรเหลอื แลวจึงทะลุเขาสจู ุดมงุ สงบใสสะอาด ท้งั ละเอียดยิ่งข้นึ ถงึ ๓ เทา
แลว มกี ารถอนออกมาอีกเชนเคย จงึ มีความวติ กเกิดขึ้นวา น่ีคอื อะไร? มคี าํ ตอบเกดิ ขน้ึ วา สิ่งนไ้ี มต อ งสงสัย สง่ิ นค้ี อื ของเปนเอง
ตอ จากน้ันมากม็ คี วามเบาใจ...ยากแกก ารทีจ่ ะพดู ใหคนอ่ืนเขาใจได ลักษณะท่ีกลาวมาน้ีเราไมต อง ปรงุ แตงเปนพลงั จติ ท่เี ปน เองของมนั
หลงั จากน้นั การปฏิบัตมิ คี วามรสู ึกเปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ มากทีเดยี ว เมือ่ พกั

อยูทว่ี ดั รางบานโคกยาวไดครบ ๑๙ วนั จงึ เดนิ ธุดงคไ ปตามบา นเลก็ บานนอ ยเร่ือยไป การแสดงธรรมและการแกปญ หาของตนเองและผอู น่ื
รสู ึกวา มคี วามคลองแคลว มาก ไมม ีความสะทกสะทานอะไรเลย

ชนะใจตนยอมพน ภัย

ในระยะเดินธุดงคระยะนี้ นอกจากมีพระเล่ือมเปน เพ่อื นแลวกย็ งั มีเด็กเปนลูกศิษยอ กี ๒ คน เดินตามไปดวยแตเ ปน
เดก็ พกิ าร...คนหนง่ึ หหู นวก อกี คนหน่ึงขาเปเขายงั อตุ สา หรวมเดนิ ทาง ดว ยและทาํ ใหไ ดขอคดิ อนั เปนธรรมะสอนใจอยูหลายอยา ง
คนหนึ่งนน้ั ขาดี ตาดี แตห พู กิ าร อีกคนหดู ี ตาดี แตขาพิการ เวลา
เดนิ ทางคนขาเปเ ดนิ ไปบางครงั้ ขาขา งท่เี ปก็ไปเกีย่ วขา งทด่ี ที าํ ใหห กลม หกลุกบอ ยๆ คนท่ีหูหนวกนั้นเลา
เวลาเราจะพูดดว ยตอ งใชมือใชไมป ระกอบแตพ อมันหันหลังใหก็อยา เรยี กใหเ มอื่ ยปากเลย เพราะเขาไมไ ดยนิ
เมอื่ มคี วามพอใจ...ความพกิ ารนัน้ ไมเปน อุปสรรค ขัดขวางในการเดนิ ทาง...ความพกิ าร แมตวั เขาเองก็ไมต อ งการ
พอ แมของเขากค็ งจะไมป รารถนาอยากใหลกู พิการอยา งน้ัน แตกห็ นกี ฎของกรรมไมพน จริงดังทพี่ ระพุทธองคตรสั วา สัตว
ทงั้ หลายมกี รรมเปนของๆ ตนมีกรรมเปนทายาท มีกรรมเปน แดนเกิดฯลฯ เมือ่ พิจารณาความพกิ ารของเดก็ ที่เปน เพอ่ื นรวมเดนิ ทาง
ยงั กลบั เอามาสอนตนเองวา เดก็ ทั้งสองพิการกายเดนิ ทางได จะเขา รกเขาปา ก็รู แตเราพกิ ารใจ (ใจมกี ิเลส)
จะพาเขา รกเขาปาหรือเปลา ...คนพิการกายอยา งเด็กน้มี ไิ ดเ ปน พิษเปน ภัยแกใคร แตถ าคนพิการใจมากๆ
ยอมสรางความวนุ วายยงุ ยากแกมนษุ ยแ ละสัตว ใหไดรับความเดือดรอ นมากทีเดยี ว

ครน้ั วนั หน่งึ เดินทางไปถึงปา ใกลห มบู านแหง หนึ่ง ซ่ึงอยใู นเขตจงั หวดั นครพนม เปน เวลาค่ําแลว และไดต กลงจะพักในปา แหงนั้น
และไดม องไปเห็นทางเกาซง่ึ คนไมค อ ยใชเดินเปน ทางผา นดงใหญเ ปนลาํ ดับไปถงึ ภูเขา พลันก็นกึ ถงึ คาํ สอนของคนโบราณวา
เขา ปาอยา นอนขวางทางเกา จงึ เกิดความสงสัยอยากจะพสิ ูจนดูวา ทาํ ไมเขาจงึ หา ม...จึงตกลงกับทานเลือ่ มใหหลีกจากทางเขาไปกาง
กลดในปา สวนหลวงพอทานก็กางกลดตรงทางเกาน่ันแหละ ใหเ ด็กสองคนอยูที่ก่ึงกลางระหวางกลดสองหลงั
ครั้นเวลาจาํ วตั รหลังจากนงั่ สมาธพิ อสมควรแลว ตางคนตา งก็พัก แตท าน(หลวงพอ ชา) คดิ วา
ถาเดก็ มองมาไมเหน็ ใครเขาอาจจะกลวั จงึ เลกิ ผามงุ ขึ้นพาดไวท่ีหลังกลดแลวกน็ อนตะแคงขวางทางอยู ใตกลดนน่ั เอง
หันหลงั ไปทางปา หันหนามาทางบา น แตพอกําลงั เตรยี มตัวกาํ หนดลมหายใจเพอ่ื จะหลับ ทันทีน้ันหกู แ็ ววไดย นิ เสยี งใบไมแหง ดงั กรอบแกรบๆ
ซ่ึงเปนอาการกาวเดินอยางชาๆ เปนจงั หวะใกลเขามา...ใกลเขา มาจนไดยนิ เสยี งหายใจ และวาระจติ กบ็ อกตวั เองวา เสอื มาแลว จะเปน สตั ว
อื่นไปไมไ ด เพราะอาการ กาวเดนิ และเสียงหายใจมันบง อยูช ัดๆ เม่อื รูวา เสอื เดินมา...เรากค็ ิดหวงชีวติ อยรู ะยะหนึง่
และพลันจติ กส็ อนตนเองวา อยาหว งชีวติ เลย แมเสอื จะไมท ําลาย เจาก็ตอ งตายอยูแลว
การตายเพ่ือรักษาสจั ธรรมยอ มมีความหมายเราพรอ มแลว...ท่จี ะเปนอาหารของมนั ถาหากเราเคยเปน คกู รรมคเู วรกันมากจ็ งไดใชห น้ีกันเสีย
แตถ า หากเราไมเ คยเปนคเู วรกบั มนั มันคงจะไมทาํ อะไรเราได พรอมกับจติ นอมระลึกถงึ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ เปน ทีพ่ ่ึง
เมอื่ เรายอมและพรอ มแลว ที่จะตาย จติ ใจกร็ ูสึกสบาย ไมม กี ังวล และปรากฏวาเสียงเดนิ ของมนั เงียบไป ไดยินแตเ สยี งหายใจ...
กะประมาณอยหู างจากทาน ๖ เมตร ทา นนอนรอฟงอยสู ักครู เขาใจวา มนั คงจะยนื พจิ ารณาอยวู า ใครเลา ...มานอนขวางทางขาฯ
แตแลว มันคิดอยางไรไมทราบมนั จงึ หันหลังเดนิ กลบั ไป เสียงกรอบแกรบของใบไมแหง ดังหางออกไปๆ จนกระทง่ั เงียบหายไปในปา...

หลวงพอ เลา วา เมือ่ เราทอดอาลยั ในชวี ติ วางมันเสีย ไมเสียดาย ไมก ลวั ตาย ก็ทาํ ใหเ ราเกิดความสบายและเบาใจจรงิ ๆ คืนนนั้ ก็ผานไปจนได
เวลาต่ืนข้ึนบาํ เพญ็ ธรรม หลังจากบณิ ฑบาตมาฉนั แลว กอ็ อกเดินทางตอ ไป...เพราะทา นไดรูแ ลววา ทําไมคนโบราณจงึ สอนไวว า
เขาปา อยานอนขวางทางเกา

หลวงพอ และคณะไดอ อกเดินทางไปถงึ แมน ้าํ สงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนมจนกระท่ังถงึ แมนาํ้ โขงขามไป นมสั การพระพุทธบาทพลสนั ต์ิ
ฝงลาว แลวจึงขา มกลบั มา ยอ นกลบั มาทางอําเภอศรสี งคราม

พักอยบู า นหนองกาในเวลานัน้ บริขาร ไมส มบรู ณเ นื่องจากหา งหมญู าติและขาดผมู ีศรทั ธา บาตรทใ่ี ชอยูน้นั รสู ึกวาเลก็ และมรี ูรวั่ หลายแหง
เกือบใชไมได พระวัดหนองกาจงึ ถวายบาตรขนาดกลางมชี อ งทะลนุ ดิ หนอ ย แตไมมีฝาบาตร จะหาฝาท่ีไหนกไ็ มได
ขณะเดนิ จงกรมอยกู ค็ ดิ ไดวา จะเอาหวายถกั เปน ฝาบาตร จึงใหโ ยมเขาไปหาหวายมาให เกดิ กงั วลในการหา บรขิ าร

คนื วนั หนึง่ ขณะท่ีจดุ ไตกาํ ลงั เอาหวายถกั เปนฝาบาตรอยู จนขไี้ ตหยดลงถูกแขนพองขึน้ รูสึกเจ็บแสบ จงึ เกดิ ความรสู ึก ขึน้ วา
เรามามัวกงั วลในบริขารมากเกนิ ไป จึงไดปลอยวางไว เริ่มทํากรรมฐานตอ ไปไดเวลานานพอสมควรจงึ หยดุ เพ่อื จะพกั ผอ น
แตพอเคลิ้มไปจึงเกดิ สบุ ินนมิ ติ วา สมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา เสดจ็ มาเตือนวา พฺเพอเิ มปริกฺขาราปจฺ กฺขนธฺ านํ ปรวิ าราเยว
บรขิ ารท้ังปวงเปนเพียงเคร่ืองประดบั ขนั ธ ๕ เทา นน้ั พอจบพทุ ธภาษิตนี้เทา น้ันกร็ สู ึกตวั พรอ มท้งั ลกุ ขน้ึ น่ัง ทนั ที
เปนเหตใุ หพ จิ ารณาไดค วามวา การไมร ูจ ักประมาณในการ บริโภคบริขารมคี วามกงั วลในการจดั หายอมเปน การยงุ ยาก
ขาดการปฏิบัตธิ รรมยอมไมไดร ับผลอนั ตนพงึ ปรารถนา

พ.ศ. ๒๔๙๑ (พรรษาที่๑๐) ในระยะตน ปนเี้ องหลวงพอ จงึ ยายจากบานหนองกา เดินทางไปไดระยะไกลพอสมควร จงึ ไดขอ คดิ วา
การคลกุ คลอี ยูรวมกับผูมีปฏิปทาไมเสมอกนั ทําใหเกดิ ความลําบาก จงึ ไดตกลงแยกทางกันกบั พระเลื่อม ตางคนตางไปตามชอบใจ
ทา นเลื่อมนาํ เด็กสองคนนั้นไปสงบานเขา สวนหลวงพอกอ็ อกเดนิ ทางไปคนเดียว จนกระท่งั เดินมาถงึ วัดรางในปา ใกลบ านขานอย
ซง่ึ อยูในเขตอาํ เภอศรีสงคราม นัน่ เอง เหน็ วาเปน ท่ีวเิ วกเหมาะแกก ารบาํ เพญ็ ธรรมจึงไดพักอยทู ว่ี ดั รา งน้นั
บําเพ็ญเพียรไดเ ตม็ ทีม่ กี ารสํารวมอยางดเี พือ่ ใหเ กดิ ความรู มิไดมองหนาผใู สบาตร และผถู วายอาหารเลย
เพียงแตรับทราบวาเปนชายหรือหญิงเทา นั้น เดนิ จงกรมอยูจนเทา เกิดบวมเดินตอไปไมได จงึ พักจากการเดนิ ไดแตน่งั สมาธิอยา งเดยี ว
ใชต บะธรรมระงบั อาพาธเปน เวลา ๓ วัน เทาจงึ หายเจบ็ การเทศนกด็ ี การรบั แขกกด็ ี ทา นก็งดไวเพราะตอ งการความสงบ
สระยะที่ปฏิบัติอยนู น้ั ทง้ั ๆ ทไ่ี ดแยกทางกบั เพื่อนมาเพราะไมอ ยากคลุกคลแี ตก ็เกดิ ความอยากจะไดเพือ่ นทด่ี ีๆ อกี สกั คน จงึ เกดิ คําถามข้นึ วา
คนดนี ะ อยทู ่ไี หน? กม็ ีคําตอบเกิดขน้ึ วา คนดอี ยูท่ีเรานแ่ี หละ ถาเราไมดแี ลว เราจะอยทู ่ไี หนกบั ใครมนั กไ็ มดที ั้งนั้น
จึงไดถ ือเปน คติสอนตนเองมาจนกระทัง่ ทกุ วันนี.้ .. เมือ่ อยูทน่ี ั่นไดค รบ ๑๕ วนั แลวจึงออกเดนิ ทางตอ ไปผานบา นขา ใหญมาถงึ กลางปา
พักผอ นอยูเกดิ กระหายนาํ้ มาก บอน้ําก็ไมม ี จงึ เดนิ ตอไป พอจวนจะถึงแอง น้ําทแี่ หงแลง เกดิ ฝนตกลงมาอยางแรง
นา้ํ ฝนปนดนิ ไหลลงรวมในแอง ดวยความกระหายจึงลวงเอาหมอกรองนาํ้ เดนิ ลงไป เอาหมอกรองจมุ ลงไปในนํ้า
แตเพราะน้าํ ขุน มากจึงไมไหลเขาในหมอกรองเลยไมไดฉ นั นาํ้ จึงอดทนตอความกระหายเดนิ ทาง ตอ ไป...

ผหู มดความโกรธ

เมอื่ หลวงพอ เดินทางมาจนกระทง่ั ถึงวดั ปาซ่ึงตง้ั อยูใ นเขต ปา ชา (เปนที่พักสงฆ) อยูใ นเขตจังหวดั นครพนม
เปน เวลาจวนจะเขาพรรษาอยูแ ลว หลวงพอ จงึ ขอพกั กับหัวหนา สงฆ มนี ามวา หลวงตาปุม ไดสนทนาธรรมกันนานพอสมควร ไดยินหลวงตา
รปู น้ันพูดวา ทานหมดความโกรธแลว จงึ เปน เหตใุ หหลวงพอ นึกแปลกใจ เพราะคําพูดเชนนี้ทา นไมเคยไดยินใครพูดมากอน
จึงคดิ วา พระองคน จี้ ะดแี ตพ ดู หรือวา ดเี หมอื นพดู เราจะตองพสิ ูจนใ หรู จึงตดั สินใจขออยเู พอ่ื การศกึ ษาธรรมะ แตเ น่อื งจากหลวงพอ ไปรปู เดยี ว
ทั้งอฏั ฐบรขิ ารก็เกา เตม็ ที เขาไมร ูตนสายปลายเหตเุ พราะไมมีใครรบั รอง ถึงแมจะขอจําพรรษาอยูดวย ทา นเหลา นั้นกไ็ มยอมเลยตกลงกันวา
จะใหไ ปอยทู ป่ี า ชาคนจนี ซ่ึงอยนู อกเขตวัดไมไ กลนัก หลวงพอกย็ นิ ดีจะไปอยูท ่นี ัน่ แตพ อถึงวันเขา
พรรษาหลวงตาปมุ และคณะจึงอนญุ าตใหจําพรรษาในวดั ได

ตอนหลงั ๆ ไดท ราบวา หลวงตาปุม เกดิ ความลังเลใจ ตัดสนิ ใจไมไดว า จะใหจําพรรษาอยูน อกวดั หรอื ในวัด จงึ ไปปรึกษาทา นอาจารยบ ญุ มา
ไดทราบวา อาจารยบุญมาไดแนะวา พระที่มอี ายุพรรษามาก มารูปเดยี วอยา งน้ีจะใหจ ําพรรษานอกวัดดูจะ ไมเ หมาะ
บางทีทานอาจจะมดี ขี องทา นอยู ควรใหจ ําพรรษาในวัดน่ันแหละ

ดังนน้ั หลวงตาปุมและคณะจึงอนุญาตใหอ ยูจาํ พรรษา ในวัดได แตต อ งทําตามขอกติกาดังน้ี

๑.ไมใหรบั ประเคนของจากโยม เปนแตเพียงคอยรับจากพระรูปอืน่ ทสี่ งให

๒.ไมใ หร ว มสังฆกรรม (อุโบสถ) เปน แตเพียงใหบ อกบริสทุ ธ์ิ

๓.เวลาเขา ทฉี่ นั ใหนัง่ ทา ยแถวของพระตอ กบั สามเณร

หลวงพอยินดที าํ ตามทกุ อยา ง แมทานจะมีพรรษาได ๑๐ พรรษากต็ าม ทา นกลบั ภมู ิใจและเตือนตนเองวา จะน่งั หัวแถวหรอื หางแถวก็ไมแปลก
เหมอื นเพชรนลิ จนิ ดา จะวางไวท่ไี หนก็มีราคาเทา เดิม และจะไดเปนการลดทฏิ ฐิมานะใหน อยลงดวย เมอ่ื ปลงตกเสยี อยา งนี้
จงึ อยูไดด วยความสงบสุข หลวงพอเลาวาเม่ือเราเปนคนพูดนอย คอยฟง คนอื่นเขาพดู แลวนาํ มาพิจารณาดู ไมแ สดงอาการที่ไมเ หมาะ ไมค วร
คอยสังเกตจริยาวตั รของทา นเหลานัน้ ยอ มทาํ ใหได บทเรียนหลายๆอยาง ภิกษสุ ามเณรเหลาน้ันก็คอยสงั เกตความบกพรอ งของหลวงพออยู
เขายงั ไมไ วใจ เพราะเพ่ิงมาอยูร วมกนั เปนพรรษาแรก

เมอื่ การอยจู าํ พรรษาไดผานไปประมาณคร่ึงเดอื น ทัง้ ๆ ทีท่ า นทราบวา ภิกษสุ ามเณรยงั ระแวงสงสยั ในตวั ทานอยู แตหลวงพอ กว็ างเฉยเสยี
มงุ หนาตอการปฏบิ ัติธรรม ทา นนกึ เสยี วา เขาชว ยระวงั รกั ษาความบกพรอ งใหเ รานนั้ ดีแลว
เปรยี บเหมอื นมีคนมาชว ยรกั ษาความสกปรกมใิ หแปดเปอ นจงึ เปนการดีเสียอีก...

ตามปกตหิ ลงั จากฉันเชา เสรจ็ แลว ทานนาํ บรขิ ารกลบั กฏุ ิ เม่ือเกบ็ ไวเ รียบรอยแลว
หลวงพอ มกั จะหลบไปพกั เพอื่ พิจารณาคน หาธรรมในเขตปา ชา ซึ่งเปน สว นหนึง่ ของวดั ตรงกลางปา ชา เขาปลูกศาลาเลก็ ไวหลังหน่งึ
เม่ือมองจากศาลายอ มมองเห็นหลมุ ฝง ศพและฝงเถาถานกระดูกของเพอ่ื นมนษุ ยเ ปนหยอมๆ ทําใหนกึ ถงึ ขอ ธรรมะท่ีเคยพจิ ารณาวา อธวุ ัง เม
ชวี ติ ัง ชีวิตของเราไมย่งั ยืน, ธุวงั เมสมรณงั ความตายของเรายัง่ ยืน,สอนิยะตัง เม ชีวิตัง ชีวิตของเราไมเ ทยี่ ง, นยิ ะตงั เมสมะระณงั
ความตายของเราเทย่ี ง, สักวนั หน่ึงเราก็จะตอ งทบั ถมดนิ เหมอื นคนเหลา น้ัน เราเกดิ มาเพอ่ื ถมดนิ ใหส งู ขึน้ หรอื ? หรือเกิดมาทาํ ไม...

อยตู อ มาวันหนึง่ ขณะที่หลวงพอกําลงั พิจารณาธรรมชาตขิ องตน ไมใ บไม เถาวลั ยตา งๆ อยทู ี่ศาลาเล็กกําลังสบายอารมณ
มกี าตัวหนึ่งบินมาจับก่งิ ไมใกลๆ ศาลา สง เสียงรอ ง กา...กา... ทา นไมสนใจเพราะนกึ วาคงรองไปตามประสาสัตว แตทีไ่ หนได
พอมันรวู าเราไมสนใจมันจึงลืน่ ลงมาจบั ท่ีพื้นตรงหนา เรา หา งกันเพียงประมาณ ๒ เมตร ปากมนั คาบหญาแหง คาบแลววางๆ
พลางรอ งวากวาวๆ...เหมือนมันจะย่ืนหญา แหง ใหพ อเราสนใจมองดู และรบั ทราบในใจวา ออ้ื ...เจามาบอกอะไรเลา...กาก็บินหนไี ป
อยตู อมาประมาณ ๓ วันมีเด็กชายคนหนงึ่ อายุประมาณ ๑๓-๑๔ ป ปวยเปน ไขและตายไป เขาจงึ นํามาเผาในปาชา ไมไ กลจากศาลา
และหลังจากเขาสวดมนตท ําบญุ แลว ได ๓-๔ วัน ขณะทห่ี ลวงพอ กาํ ลงั นัง่ พจิ ารณาธรรมอยกู ม็ กี าบินมาจบั กง่ิ ไมขางศาลาอีก
เมือ่ เราไมสนใจมนั ก็บนิ ลงมาจบั ดินและแสดงอาการเหมือนครง้ั แรก พอหลวงพอ มองดมู ันและรับทราบ
กาตวั นนั้ ก็บินหนีไป...อยตู อ มาอกี ประมาณ ๓ วนั พชี่ ายของเดก็ ท่ีตายไปแลว นน้ั ซึ่งมีอายปุ ระมาณ ๑๕-๑๖
ปเกิดปว ยเปน ไขก ะทนั หันและกต็ ายอกี พวกญาตินํามา เผาในปา ชา น้นั อีก หลังจากทาํ บุญตกั บาตรแลวประมาณ ๓-๔ วัน
ขณะทห่ี ลวงพอนง่ั พกั อยูใ นศาลากลางปา ชา ก็มีกาบินมาเกาะ กงิ่ ไม สงเสียงรองเหมือนเกา เมือ่ ไมส นใจมนั กบ็ ินลงมาจับพนื้
คาบหญา แหง เหมือนจะย่ืนให คาบวางๆพอรบั ทราบวา อะไร กันเลา จะมาบอกอะไรอีก...กาตวั น้นั ก็บนิ หนไี ป หลวงพอ จงึ คดิ วา ๒
ครง้ั กอ นมันทาํ อยา งนมี้ คี นตาย ๒ คน แตคราวนมี้ นั มาทาํ อีก ทําไมจะมคี นตายอกี หรือ อยูตอ มาอกี ๓-๔ วนั
พ่สี าวของเด็กพวกน้นั ซง่ึ มีอายปุ ระมาณ ๑๘-๑๙ ป ปว ยเปน ไขและกไ็ ดต าย ลงอกี และไดน ํามาเผาทปี่ าชา น้ันอีก
ความทุกขเ ปนอันมากดูเหมอื น จะมารวมแผดเผาพอแมแ ละญาติของเด็กพวกนั้นใหเกรียมไหมรองไหจ นแทบจะไมมีน้าํ ตาออกชว่ั ระยะ
เพียงครึ่งเดอื นเขาตอ ง สญู เสียลูกไปตงั้ ๓ คน หลวงพอ ไดม าเห็นภาพของคนเหลา นนั้ ผไู ดร บั ความทกุ ขโศก
ย่งิ ทาํ ใหเ กดิ ธรรมะเตือนตนมิใหประมาท ในการทาํ ความเพยี ร ความทุกขความโศกยอมเกดิ จากของท่ีเรารักเราหวงแหน
ซึ่งเปนความจรงิ ทพี่ ระพทุ ธองคตรสั ไวนานแลวและเปนความจริงเสมอไป
อาศัยศาลากลางปาชา และหลุมฝงศพเปน ทมี่ าแหงธรรมะสอนใจมใิ หประมาทเปน อยางด.ี ..

ในพรรษาทอี่ ยวู ดั ปาแหง น้ี จติ ใจรูสึกมคี วามหนกั แนน และเขม แข็งพอสมควร การทาํ ความเพยี รกเ็ ปน ไปอยางสมํา่ เสมอ
และการเคารพตอ กฎกตกิ าทีต่ ัง้ ไวก ม็ ไิ ดบกพรองมีความสาํ รวม สระวงั อยมู ไิ ดป ระมาท พระพุทธองคตรัสวา ศลี จะรไู ดเ พราะ อยรู วมกันนานๆ
ดังน้นั ของสิ่งใดทีเ่ ห็นวา ไมถูกตอ งตามพระวนิ ยั หรือรบั ประเคนแตไมไ ดองคแหงการประเคน หลวงพอก็ไมฉนั
จะพิจารณาฉันเฉพาะสง่ิ ทเ่ี หน็ วา ถูกตอ งตามพระวินยั เทานัน้

ในพรรษาน้นั หลวงพอทาํ ความเพยี รหนกั ยิ่งขนึ้ แมฝน จะตกกย็ ังเดนิ จงกรมอยู เพ่ือคนหาทางพน ทกุ ขม ีเวลาจําวดั นอย ทส่ี ุด
วันหนึ่งเกดิ สุบินนิมติ วา ไดออกไปในท่ีแหงหนึง่ ไปพบคนแกแ ละปวย รองครวญครางมคี นพยงุ ตัวใหล ุกขนึ้ นัง่
หลวงพอพจิ ารณาดแู ลว ก็เดินผา นไป จงึ ไปพบคนเจ็บหนกั จวนจะตาย มรี า งกายซูบผอม

จะหายใจแตล ะครั้งทําใหมองเห็นกระดกู ซีโ่ ครงไลก นั เปนแถวๆ ทาํ ใหเ กิดความสังเวชจงึ เดินเลยไป จงึ ไปพบ
คนตายนอนหงายอา ปากยิ่งทําใหเกดิ ความลดใจมาก เมอ่ื รูสึกตวั ก็ยังจําภาพในฝน นน้ั ไดด อี ยู จึงคดิ หาทางพนทกุ ข
รสู ึกเบ่ือหนา ยตอชีวติ คิดอยากจะปลกี ตัวขึ้นไปอยบู นยอดเขาประมาณ ๗ วัน ๑๕ วนั จึงจะลงมาบณิ ฑบาต แตมีปญหาเร่อื งน้าํ ดม่ื จะตอง
ดมื่ ทกุ วัน จงึ นึกถึงกบในฤดแู ลงมันอยใู นรอู าศัยน้ําเยย่ี วมนั เองมนั ก็มชี วี ติ อยไู ด เมอื่ คดิ ไดด งั นน้ั จึงตกลงจะฉนั นาํ้ ปสสาวะของ ตวั เอง
จงึ ทาํ การทดลองดูกอน วนั นั้นหลังจากฉนั อาหารแลว จงึ ด่มื น้าํ บริสทุ ธ์ิจนอมิ่ อยไู ดป ระมาณ ๓ ชัว่ โมง
รูส ึกปวดปส สาวะเวลาปส สาวะออกมาจึงเอาแกวมารอง ไวเ สรจ็ แลว จึงเทหนาฝาออก นิดหน่ึง จึงยกขึ้นดม่ื รูส ึกวา มีรส เคม็ ทนี ้ีอยไู ดประมาณ
๒ ชว่ั โมง กป็ วดปสสาวะอีก เวลาปสสาวะออกก็เอาแกว มารองเสรจ็ แลว ก็ด่มื เขา ไปอีก คราวนี้อยูไดประมาณ ๑ ชว่ั โมง กป็ วดปส สาวะอกี
เวลาถายปส สาวะก็เอาแกวมารองไวเ สร็จแลวก็ด่มื เขาไปอกี ไดป ระมาณ ๒๐ นาทกี ็ปวดปส สาวะ และกท็ ําอยา งเกา ดืม่ เขา ไปอีก คราวนอี้ ยไู ด
๑๕ นาทีก็ปวดอีกถายออกมาแลวดื่มเขา ไปอีกและอยไู ดป ระมาณ ๕ นาที ปวดปส สาวะ
และถา ยออกมาหาอะไรรองแลว ดม่ื เขา ไปคราวนก้ี ะวาพอตกถงึ กระเพาะกไ็ หลออกเปน ปส สาวะ เลยมสี ขี าวๆ จึงไดเ กิดความรูส ึกวา
นํ้าปสสาวะเปนเศษของน้ําแลว จะอาศัยดืม่ อีกไมไ ด จึงทอดอาลยั ในการท่ีจะหานา้ํ ดม่ื เชน วิธนี น้ั

นอกจากน้นั ยังหดั ปลงผมดว ยตนเอง เลยเปน นิสยั มาจนทกุ วันนี้ และเปนแบบอยางใหศิษยท ้ังหลายไดทาํ ตาม
เมอื่ คดิ วาไมอาจไปอยูบ นยอดเขาไดกค็ ดิ หาวิธใี หม โดยทําการอดอาหารคอื ฉันวนั เวนวนั ลบั กนั ไป ทาํ อยปู ระมาณ ๑๕ วนั
และในระหวางนี้ทําใหร า งกายรอนผดิ ปกตเิ หมือนถูกไฟเผามอี าการทรุ นทุรายแทบจะทนไมไ หว จติ ใจกไ็ มสงบ จึงนกึ ไดวา มใิ ชทาง...ทำให
นึกถึง อปณณกปฏปิ ทา คอื ขอปฏบิ ตั ไิ มผดิ ไดแก โภชะเนมตั ตัญุตา รูจักประมาณในการฉนั อาหารพอสมควร ไมม าก ไมนอ ย สํารวม
อินทรียต ืน่ ขนึ้ ทาํ ความเพยี รไมเกยี จคราน และเม่ือนึกได จงึ หยุดวธิ ีทรมานน้ันเสยี
กลบั ฉนั อาหารเปนปกตวิ นั ละครัง้ ดงั่ เดมิ บําเพ็ญสมณธรรมไดจติ ใจก็

สงบดเี วลาเขาสมาธิ สามารถถอดรูปรางโดยมองเห็นรูปรางของตนอกี รางหน่งึ นัง่ อยูข า งหนา ดว ยความชัดเจน
มิไดง ว งนอนปราศจากนิวรณท กุ อยา ง รสู กึ วา การปฏิบตั ิกส็ ะดวกดีจิตใจสงบเยน็ ...เมอื่ ออกพรรษาแลว
หลวงตาปมุ ชวนขา มไปตัง้ สํานักกรรมฐานอยทู างฝง ประเทศลาว หลวงพอไมเหน็ ดดี ว ย จึงไมย อมไป พอจวนจะสนิ้ ปห ลวงตาจึง
พาลกู วัดยา ยหนไี ปจากวัดน้ันไดประมาณ ๗ วนั หลวงพอก็ไดย ายจากท่ีน่ันไปเชน กัน

พ.ศ.๒๔๙๒ (พรรษาท ี่๑๑) เมอ่ื ออกจากวัดปาอําเภอศรีสงครามแลว หลวงพอกเ็ ดนิ ทาง ข้ึนสูภ ลู ังกาซงึ่ อยูในเขต
อ.บา นแพงจ.นครพนมไดไปพักสนทนาธรรมกบั อาจารยวัน เปนเวลา ๓ วัน จึงไดเ ดินธดุ งคไปเรอื่ ยๆ
นานพอสมควรจงึ ไดล งจากภูลังกามากราบทานอาจารยก ินรี วดั ปาหนองฮี อีกทีหนง่ึ ทานอาจารยก ินรีไดเตือนตวิ า
ทานชา...เอาละ การเท่ียวธุดงคก็พอสมควรแลว ควรจะหาทอี่ ยูเปน หลักแหลง ท่ีราบๆ หลวงพอ จงึ เรียนทานวา กระผมจะกลับบาน
ทานอาจารยก ินรจี ึงพูดวา จะกลบั บา น คิดถงึ ใคร ถาคิดถงึ ผูใด ผูน ้ันจะใหโทษแกเ รานะ
หลวงพอชาจึงไดกราบลาทา นอาจารยกินรีเดินทางตอมาเปน เวลาหลายวนั จนกระท่ังไดมาถงึ บา นปาตาว ต.คําเตย อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร
(แตส มยั น้นั ข้นึ กบั จ.อบุ ลฯ) ไดพักอยูทป่ี าไมไ กลจากบา นเทา ใดนกั ไดม ีโอกาส
เทศนส ่งั สอนประชาชนแนะแนวทางแหง การปฏบิ ัติธรรมแกคนในถิ่นนน้ั จนเกดิ ความเลอ่ื มใสพอสมควร และไดพกั อยเู ปนเวลา ๒ เดอื น
จงึ ไดลาญาติโยมเดินทางลงมาทางใตก อ นจะจากมาโยมไดมอบเด็กคนหนึง่ เปนศษิ ย เม่อื เดนิ ทางมาอาํ เภอวารินฯ
แลว หลวงพอจงึ ใหเด็กชายทองดีผเู ปน ศิษย บรรพชาเปนสามเณรทีว่ ดั วารนิ ทราราม เมอื่ หลวงพอเดินทางมาถึงบานเกิดแลว
จงึ ไดไปพักอยทู ป่ี า ชาบา นกอ เปนเวลา ๗ วัน มโี อกาส ไดเ ทศนใหญาติโยมฟง พอรแู นวทางบา งเปนบางคนแลว หลวงพอ จงึ ไดออกเดนิ ทางไป
อ. กันทรลักษ จ. ศรีสะเกษและได พักอยูในปาใกลบา นสวนกลวยและในพรรษาท่ี ๑๑ น้กี ไ็ ดจ าํ พรรษา อยทู บี่ านสวนกลวย
(ปจจบุ ันสถานที่นน้ั เขาสรางเปนวัดแลว) และในพรรษานีไ้ ดเ กดิ เหตกุ ารณอนั เปนบรุ พนิมิตดงั ตอไปนี้...

๑.คนื วันหน่ึงเม่ือหลวงพอเดนิ จงกรม นัง่ สมาธเิ ปน เวลา พอสมควรแลวจงึ พกั ผอ นจาํ วัด ไดเกิดสุบินนิมติ ไปวา ... มีคนเอาไขมาถวายหนึง่ ฟอง
พอหลวงพอ รับแลว จงึ โยนไปขางหนา ไขฟ องน้ันแตกเกดิ เปน ลกู ไกสองตัววง่ิ เขามาหาจงึ ยน่ื มอื ทง้ั สอง ออกไปรับขางละตัว
พอถกู มอื กก็ ลายเปน เดก็ ชายสองคน พรอ มกับไดยินเสียงบอกวา คนอยูท างขวามือช่ือ บุญธรรม คนท่อี ยูทางซา ยมือชอ่ื บญุ ธง
ปรากฏวา หลวงพอไดเล้ียงเด็กสองคนนั้นไวกาํ ลงั เติบโตนารักวิง่ เลน ไดแ ลว ตอ มาเดก็ ชายบญุ ธงปวยเปนโรคบิด
อยางแรงพยายามรกั ษาจนสุดความสามารถ แตก็ไมหายจนกระทง่ั เดก็ นน้ั ไดตายอยูใ นมือ และไดย ินเสยี งบอกวาบญุ ธงตายแลว

เหลอื แตบุญธรรมคนเดียว จึงรสู กึ ตัวต่ืนขนึ้ จงึ เกิดคําถามวา นี่คืออะไร? มคี าํ ตอบปรากฏขนึ้ วา นี่คอื สภาวธรรมทเี่ ปนเอง
จงึ ไดหายความสงสัย

๒.ในคืนตอ มากม็ อี าการอยา งเดียวกนั พอเคลมิ้ จะหลับไปก็เกดิ สุบินวา หลวงพอชาไดตัง้ ครรภ รูสกึ วา ไปมาลําบากเหมือน
คนมีครรภจริงๆแตก็มีความรสู กึ ในสบุ นิ น้นั วา ตวั เองกย็ ังเปน พระอยู เมอ่ื ครรภแกเตม็ ท่คี รรภจะคลอดจงึ มคี นมานมิ นตไ ปบณิ ฑบาต
พอไปถงึ ท่ีทีเ่ ขานมิ นตม องไปรอบๆ บรเิ วณเหน็ ลําธาร กระทอ มไมไผขัดแตะกลางทุงนาและเห็นพระอยูบนเรอื น ๓ รปู
ไมท ราบวา มาจากไหน...โยมเขาพากนั ถวายอาหารบณิ ฑบาตพระ ๓ รปู นั้น
ฉันอยขู างบนแตห ลวงพอ ชาปรากฏวา ทองแกจ วนจะคลอดเขาจงึ ใหฉนั อยขู า งลางพอพวกพระฉันจงั หัน
ทา นหลวงพอชากค็ ลอดเด็กพอดแี ละเปน เด็กชาย มขี นนมุ นม่ิ บนฝามอื และฝา เทา มอี าการ ยมิ้ แยมแจม ใส ทองปรากฏวาแฟบลง
นึกวา ตัวเองคลอดจริงๆ จงึ เอามือคลําดูแตกไ็ มมีสง่ิ เปรอะเปอนใดๆ ทําใหนกึ ถงึ พระพุทธองค ทที่ รงประสูตจิ ากครรภพระมารดา
คงจะไมเ ปรอะเปอ นมลทนิ ใดๆ เชน กนั และเวลาฉันจงั หนั พวกโยมพจิ ารณากนั วา ทานคลอดบตุ รใหมจะเอาอะไรใหฉ นั เขาจึงเอาปลาหมอปง
๓ ตัวใหฉัน รสู กึ วาเหนือ่ ยออนไมอ ยากฉัน แตกอ็ ดใจฉนั ไปเพื่อฉลองศรัทธา เขา เพราะมันไมม รี ส ชาติอะไร
กอนจะฉันจงึ สงเดก็ ใหโยมอุมไว พอฉนั เสร็จเขาจงึ สงเดก็ คนื มาให พอถึงมือรับไวเ ด็กพลัดตกหลน จากมอื แลวจงึ รูส กึ ตัวต่นื ขึ้น เกิดคาํ ถามวา
นค่ี อื อะไร? มคี ําตอบวา น่ีคอื ภาวะทเ่ี ปน เองท้งั น้ัน เลยหมดความสงสัย

๓.คนื ทส่ี ามตอมาก็อยใู นอาการดังกลา วนนั่ แหละพอพกั ผอนเคลิ้มหลบั ไปก็เกิดสบุ นิ วา ไดร บั นมิ นตใ หข ึน้ ไปยอดเขากบั สามเณรรปู หน่งึ
ทางขึ้นเขานั้นเปนทางเวยี นขึ้นไปเหมอื นกนหอย วนั นั้นเปน วันเพ็ญ และภูเขาก็สงู มากพอข้ึนไปถึงแลว รสู ึกวา เปนทรี่ มร่นื ดีมีมานปูพื้นและกนั้
เพดานสวยงามมากจน
หาทเ่ี ปรยี บไมไ ด แตเ วลาจะฉันเขาก็นมิ นตล งมาทีถ่ ้าํ ขา งภเู ขามโี ยมแม
(แมพ มิ โยมมารดา) และนา มีพรอ มญาติโยมเปนบริวารจาํ นวนมากไปถวาย อาหาร อาหารทถ่ี วายน้ันโยมแมไดแ ตงและผลไมอ ื่นๆ
สวนนามไี ดไ กยา ง เปดยา งมาถวาย หลวงพอ จึงทกั ข้ึนวา โยมมอี ยเู ห็นจะมคี วามสขุ นะ ไดไ กย า งเปดยางมาถวายพระ โยมมกี ็ย้ิมแยม แจมใสดี
เมื่อฉนั อาหารเสร็จแลวไดเ ทศนใหเขาฟง นานพอสมควร เมอื่ เทศนจบจงึ รูส กึ ตวั ตนื่ ขึ้น

พ.ศ.๒๔๙๓ (พรรษาที๑่ ๒) ในระหวางตน ปไ ดรับจดหมายจากพระมหาบุญมี ซงึ่ เคยเปน เพอื่ นปฏิบตั ิมาดว ยกนั
แจง ขาวเร่อื งการปฏิบตั ิธรรมของหลวงพอวัดปากนาํ้ ภาษเี จริญธนบรุ ี จงึ ไดเ ดนิ ทางลงไป และไดพ ักอยูกับพระมหาบญุ มที ีว่ ัดปากนํา้ ๗
วันไดม โี อกาส นมัสการหลวงพอเจาอาวาสไดส ังเกตและพิจารณา ดแู ลวเห็นวาเปนไปเพอื่ รักษาโรคภัยบางอยา ง ยังไมถูกนสิ ยั
จงึ ไดเ ดนิ ทางออกไปพักอยูที่วดั ใหญ จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา และไดป ฏบิ ตั ิธรรมอยรู ว มกับพระอาจารยฉ ลวย และหลวงตาแปลก
และท่ีบริเวณใกลๆวดั มีสถานท่ลี ําธารและกระทอ มไมไผและสิ่งอนื่ ๆ เหมือนดงั ภาพที่ปรากฏในคราวฝน เห็นอยูท บี่ านสวนกลว ยจริงๆ
ไดจําพรรษาอยูทีว่ ดั นัน้ ๒ พรรษา การปฏิบตั ิธรรมรวมกนั นัน้ เปนไปโดยความสะดวกและสามคั คเี ปน อยางดี

รกั ษาโรคดว ยธรรมโอสถครั้งท่ี ๒ ในป พ.ศ.๒๔๙๔ น่นั เอง หลวงพอปว ยเปน โรคเกยี่ วกบั ทอ งมีอาการบวมขน้ึ ทางดานซา ย
รูสึกเจ็บปวดทท่ี องมาก และผมกบั โรคหืดทเ่ี คยเปน อยแู ลว ก็ซํา้ เตมิ อีก หลวงพอ ชาพิจารณาวา อนั ตัวเรานี้ก็อยูหางไกล ญาตพิ นี่ อง
ขา วของเงินทองก็ไมมี เม่ือปวยขน้ึ มาคร้ันจะไปรกั ษาทโี่ รงพยาบาลก็ขาดเงนิ ทอง จะเปน การทําความยุงยากแกค นอืน่
อยากระน้ันเลยเราจะรกั ษาดว ยธรรมโอสถโดยยึดเอาพระธรรมเปนทีพ่ ง่ึ ถามันจะหายก็หาย
ถา หากมันทนไมไ ดก ใ็ หม ันตายไปเสีย...จงึ ทอดธุระในสงั ขารของตนโดยการอดอาหารไมย อมฉันจะดม่ื
เพยี งแตนา้ํ นดิ ๆหนอ ยๆ เทาน้นั ...ทง้ั ไมย อมหลับนอน จงึ ไดแ ตเ ดินจงกรมและน่งั สมาธลิ บั กันไป เวลารงุ เชาเพอ่ื นๆเขาไปบณิ ฑบาต
หลวงพอ ก็เดนิ จงกรม พอเพ่ือนกลับมาก็ขึน้ กุฏิ นง่ั สมาธิตอไปมอี าการออ นเพลยี ทางรา งกาย แตกาํ ลงั ใจดีมาก ไมย อ ทอ ตอสิ่งท้ังปวง
หลวงพอ เคยพูดเตอื นวา การอดอาหารนัน้ สระวังใหดี...บางทจี ะทําใหเ ราหลง เพราะจิตคดิ ไปมองดูเพ่ือนๆ
เขาฉันอาหารนนั้ เปน การยุงยากมภี าระมากจรงิ ๆ เลยคดิ วา เปน การลาํ บากแกต วั เองอาจจะไมย อมฉันอาหารเลย เปนทางให ตายไดงา ยๆเสยี ดวย
เม่อื หลวงพออดอาหารมาไดค รบ ๘ วัน ทานอาจารยฉ ลวยจึงขอรองใหก ลบั ฉนั ดังเดมิ โรคในกายปรากฏวา หายไป
ทั้งโรคทอ งและโรคหืดไมเปน อีก หลวงพอ จงึ กลับฉัน อาหารตามเดมิ และไดใหคําแนะนําไวว า เมอื่ อดอาหารหลายวนั เวลากลบั ฉนั
สิ่งที่ควรระวงั กค็ อื อยาเพ่ิงฉนั มากในวนั แรก ถา ฉนั มากอาจตายได
ควรฉนั วนั ละนอยและเพิม่ ขนึ้ ไปทกุ วนั จนเปน ปกตใิ นระยะทจี่ ําพรรษาอยทู ว่ี ัดใหญนั้นหลวงพอมิได

แสดงธรรมตอ ใครอนื่ มแี ตอบรมตวั เองโดยการปฏบิ ัติและพิจารณาเตอื นตนอยตู ลอดเวลา เม่อื ออกพรรษาแลว ไดเ ดินทางไปพักอยูเกาะสชี ัง
เพ่อื หาความสงบเปน เวลาหน่งึ เดอื น และถือคติเตอื นตนเองวา ชาวเกาะเขาไดอาศยั พ้นื ดินทมี่ ีนา้ํ ทะเลลอมรอบ ที่ท่เี ขาอาศัย
อยไู ดต อ งพน นาํ้ จงึ จะเปน ท่พี ง่ึ ได เกาะสีชังเปน ทพ่ี ่ึงทางนอก ของสวนรางกาย เรามาอาศัยอยทู ่เี กาะนี้คอื ท่ีพ่งึ ทางในซ่งึ เปนทอี่ ันนาํ้
คอื กิเลสตณั หาทวมไมถึง แมเ ราจะอยบู นเกาะสชี งั แตก ย็ ังคนหาเกาะภายในอกี ตอไป ผทู ีท่ านไดพบ และอาศัยเกาะอยูไดนน้ั ทานยอ มอยูเปนสขุ
ตา งจากคนที่ลอยคออยูในทะเล คือความทุกขซ ่งึ มีหวงั จมนา้ํ ตาย ทะเลภายนอกมีฉลามและสตั ว รายอ่ืนๆ แตทะเลภายในยง่ิ รายกวา นนั้ หลายเทา
เม่ือไดธรรมะจากทะเล และเกาะสีชังพอสมควร ซึง่ เปน เวลาหนึง่ เดอื นแลว จงึ ออกจากเกาะสีชงั เดินทางกลบั วดั ใหญ จ.อยธุ ยา
และพกั อยูท ีว่ ดั ใหญเ ปนเวลานานพอสมควรจงึ ไดเ ดนิ ทางกลบั มาบา น และไดมาพกั ที่ปาชา บา นกอตามเคยมโี อกาส
เทศนโปรดโยมแมและพีช่ าย(ผูใหญล า) และญาตพิ ี่นองหลายคน จนเปน เหตใุ หงดทาํ ปาณาติบาต และเชอ่ื มั่นในพระรัตนตรัยยง่ิ ขึ้น
พกั อยทู ีป่ าชา บานกอเปน เวลา ๑๕ วนั จงึ เดินทางตอ ไป

พ.ศ.๒๔๙๕ (เปนพรรษาที่๑๔) ในระหวา งตนปน้ี หลวงพอ จงึ ไดเ ดินธุดงคข ้ึนไปจนถึงบานปาตาว อ. เลิงนกทา จ.ยโสธร
ซ่งึ เปนสถานทีเ่ คยอยูม ากอน คราวน้ไี มไปอยูท่ีเกา ไปอยูจําพรรษาในปาหา งจากหมูบาน ๒ กิโลเมตร ซง่ึ ปจ จุบนั เปนที่พักสงฆบ าํ เพญ็ ธรรม
หลวงพอไดมีโอกาส เทศนสั่งสอนประชาชนจนเต็มความสามารถ ทําใหเ ขาเขา ใจในหลักคําสอน ในศาสนาดยี ง่ิ ขน้ึ
และเกดิ ความเลอ่ื มใสการรบั แขกและการพบปะสนทนาธรรมมมี ากและบอยคร้งั ย่งิ ขึ้น

สถานทพ่ี ักแหงน้ันเรยี กวา วดั ถํ้าหินแตก เปน ลานหินดาด ทางดา นทศิ เหนือของท่พี กั น้ันเปน แองนํ้ามีปลาชุมทางทศิ ตะวนั ออก
ของแองน้ําเปนคันหินสูงนิดหนอย
ตอ จากคันหนิ ไปทางดานทศิ ตะวันตกเปนทล่ี าดลงไปเวลาน้ําลนแองกไ็ หลไปตามทลี่ าดลงสเู บื้องลา งโดยมาก
มพี วกปลาดกุ พยายามตะเกยี กตะกายขนึ้ มาตามนํ้า บางตวั ก็ขามคันหินไปถงึ แองน้ํา บางตัวก็ขามไปไมร อดจงึ นอนอยูบนคนั หิน
หลวงพอ เคยสังเกตเห็นตอนเชา ๆทา นจะเดนิ ไปดู เมื่อเหน็ ปลานอนอยบู นคนั ดินจึงจับมันปลอยลงไปในแอง น้าํ
แลวจึงกลบั มาเอาบาตรไปบิณฑบาต

ยอมอดเพื่อใหชวี ติ สตั ว

เชาวันหนึง่ กอ นจะออกบิณฑบาต หลวงพอ จึงเดินไปดปู ลาเพ่ือชว ยชวี ติ มันทุกเชา แตวนั นัน้ ไมท ราบใครเอาเบ็ดมาตกไวตามรมิ แองนาํ้
เหน็ เบ็ดทกุ คนั มปี ลาตดิ อยู หลวงพอ จงึ ราํ พึงวา เพราะมันกินเหยอื่ เขา ไป เหยอื่ น้ันมเี บ็ดดวยปลาจึงติดเบ็ดสมองดปู ลาตดิ เบ็ดสงสารก็สงสาร
แตช ว ยมันไมได เพราะเบด็ มีเจา ของ ทา นจงึ มองเหน็ ดวยความลดใจ เพราะความหิวแทๆ เจา จงึ หลงกินเหยือ่ ท่เี ขาลอ ไว ดิ้นเทา ไรๆกไ็ มห ลุด
เปน กรรมของเจา เองเพราะความไมพ จิ ารณาเปนเหตใุ หเตือนตนวา
ฉันอาหารไมพ ิจารณาจะเปนเหมอื นปลากินเหยอื่ ยอ มติดเบ็ด...ไดเวลาจึงกลบั ออกไปเทีย่ วภกิ ขาจาร
คร้นั กลับจากบณิ ฑบาตเห็นอาหารพิเศษสมองดูเหน็ ตม ปลาดุกตวั โตๆทง้ั นั้น หลวงพอ นกึ รทู ันทวี า ตองเปน ปลาตดิ เบด็ ที่เราเหน็ น้ันแนๆ
บางทอี าจจะเปน พวกที่เราเคยชวยชีวติ เอามนั ลงนาํ้ ก็ได
ความจรงิ กอ็ ยูใ กลๆแอง นาํ้ นี้เทานัน้ ...และโดยปกตแิ ลวอาหารจะฉันก็ไมคอ ยจะมอี ยแู ลว
แตหลวงพอเกดิ ความรงั เกยี จข้นึ มาถึงเขาจะเอามาประเคนก็รับวางไวตรงหนา ไมยอมฉนั ถึงแมจะอดอาหารมานานก็ตาม
เพราะทา นคดิ วาถาเราฉันของเขาในวนั นี้ วนั ตอๆไปปลาในแองนํ้าน้นั ก็จะถกู ฆาหมด เพราะเขาจะทําเปนอาหารนํามาถวายเรา
ปลาตวั ใดท่ีอตุ สาหตะเกยี กตะกายข้นึ มาพบแองนํา้ แลว กย็ ังจะตอ งพากนั มาตายกลายเปน อาหารของเราไปหมด ดังนัน้ หลวงพอจงึ ไมยอมฉนั
จึงสง ใหพระทองดซี ง่ึ น่งั อยขู า งๆ พระทองดเี ห็นหลวงพอ ไมฉ นั กไ็ มยอมฉันเหมอื นกันมีอะไรที่ไปบิณฑบาตไดมาก็แบงกันฉันตามมีตามได
สวนโยมท่ีเขาตม ปลามาถวายนง่ั สงั เกตอยตู ้ังนานเมอ่ื เหน็ พระไมฉนั จงึ เรยี นถามวา ทานอาจารยไ มฉนั ตมปลาหรือครับ
...หลวงพอจึงตอบวาสงสารมัน เทาน้เี อง ทาํ เอาโยมผูน าํ มาถวายถึงกบั นิ่งอง้ึ ...แลว จงึ พดู วา ถาเปนผมหิวอยา งนค้ี งอดไมไดแนๆ
ต้งั แตน ั้นมาปลาในแอง นํ้านน้ั จึงไมถกู รบกวนพวกโยมก็พากนั เขาใจวาปลาของวดั ...

ทา นท้ังหลายลองนึกดเู ถิดวา หลวงพอมีจติ ประกอบดวยเมตตามากแคไ หน ถาเปนเราแลว จะทนความหิวไดหรือเปลายังไมแน...
สว นหลวงพอทา นทนหวิ เพอื่ เหน็ แกชวี ติ เพอ่ื นรวมวดั ถานึกรงั เกยี จหรอื รู วาเขาฆา มาเฉพาะ (อุททสิ ะมังสะ) แบบน้ีทา นจะไมยอมฉนั เลย...
ถา เปนเราๆทา นๆปลาทง้ั หลายในแองนํ้า น้ันอาจจะสญู พนั ธใุ นระยะอนั นั้นก็อาจเปน ได

ดังน้นั เมอ่ื หลวงพอมาอยูวัดหนองปาพงน้ี ทา นจงึ หาม ไมใ หนาํ สัตว มีชวี ิตมาทําปาณาติบาตในวดั เปนเดด็ ขาด
ถึงแมว ดั เปนสาํ นกั สาขาของทา นกถ็ อื ปฏิบัติแบบเดยี วกนั

พ.ศ.๒๔๙๖ ซึ่งนับเปน ปที่ ๒ ทีห่ ลวงพอ ไดอยปู าใกลบ านปา ตาวมีพระภกิ ษสุ ามเณรอยู ๙ รปู เฉพาะศิษยท เ่ี ปนคน
ทางอาํ เภอวารนิ ชาํ ราบมีพระเท่ยี ง (อาจารยเท่ยี งวดั เกา นอย) กบั พระหนู (หนู ขวญั นู) ไดอยปู ฏิบตั ิธรรมรว มพระเณรอน่ื ๆ

เมอ่ื มพี ระเณรอยดู วยกันหลายรูปหลวงพอจึงคิดวา ควร จะปลกี ตัวไปอยูแ ตล าํ พังคนเดียว เพ่อื ใหไดรับความสงบยิ่งข้ึน
จึงตกลงใหพระเณรอยจู าํ พรรษาท่วี ดั ถํ้าหนิ แตก สวนหลวงพอเองข้ึนไปจําพรรษาอยภู กู อย ซงึ่ บรเิ วณน้ันหลงั จากหลวงพอไดจาก
ภกู อยไปหลายป จึงมีผูคน พบรอยพระพุทธบาทและเปน ที่ สักการบชู าของพทุ ธศาสนิกชนอยูเดีย๋ วนี้ ภูกอยน้ีอยูหางจาก ถํ้าหินแตกประมาณ ๓
กโิ ลเมตร ทาํ ใหไ ดรับความสุขมาก พอถงึ วันอโุ บสถสวดพระปาฏโิ มกข หลวงพอก็ลงมารวมทาํ สังฆกรรม ท่ีวดั ถาํ้ หินแตก
และไดใ หโ อวาทเตอื นติพระภกิ ษสุ ามเณรมไิ ดขาด บางโอกาส ไดเทศนใ หโยมฟง พอสมควรแลว กลับไปที่พักภูกอยตามเดิม

รกั ษาโรคดวยธรรมโอสถครงั้ ท่ี ๓ ในระหวางพรรษานี้หลวงพอปวยเปน โรคเกย่ี วกบั ฟนเหงอื กบวมทั้งขา งบนและขางลา ง รูส กึ บวมมาก
โรคปวดฟนนม้ี รี ส ชาติเปน อยางไรนนั้ ใครเคยเปน แลวไมอยากเปน อกี แตกห็ นีไมพนจงึ ตองจํายอม...ขนาดพวกเราปวดซเี่ ดียวสองซ่ี
กย็ ังทรมานไมนอยเลย หลวงพอ ทา นหายา มารกั ษาตามมตี ามได โดยใชต บะธรรมและขนั ติธรรมเปนทต่ี ั้ง พรอมท้ังพิจารณาวา พยาธิง
ธัมโมมหิ พยาธิง อะนะ ตโี ต เรามีความเจ็บไขเ ปน ธรรมดา หนีความเจ็บไขไ ปไมพน รูเทา ทนั สภาวธรรมนั้นๆมคี วามอดทนอดกลน้ั
แยกโรคทางกายกบั โรค ทางใจออกเปนคนละสว น เมอ่ื กายปว ยก็ปวยไปไมย อมใหใจ ปวยดว ย
แตถ ายอมใหใ จปว ยดวยกเ็ ลยกลายเปน ปว ยดวยโรค สองชน้ั ความทุกขเปน สองชัน้ เชน เดียวกนั โรคปวดฟน มนั ทรมานหลวงพอ มาก
กวาจะสงบลงไดตอ งใชเ วลาถงึ ๗ วนั

หลวงพอไดเลาใหฟ งวา พดู ถึงการสังวรระวงั เรอื่ งศีลแลว เมอื่ คราวออกปฏบิ ัตไิ ปคนเดียวอยูรปู เดยี ว ยง่ิ มีความหวาดกลัว ตอ อาบตั ิมาก
ออกปฏบิ ตั ิคร้งั แรกมีเขม็ เลม เดียวทงั้ คดๆเสียดว ย ตอ งคอยระวงั รกั ษากลัวมันจะหกั เพราะถาหกั แลว ไมร ูจะไปขอใคร ญาติพ่นี องก็ไมมี
ดา ยสาํ หรบั เยบ็ ก็เอาเสนไหมสําหรบั จงู ผี ขวั้นเปน เสน แลว หอรวมกนั ไวกับเขม็ เมือ่ ผา เกา ขาดไปบางกไ็ มย อมขอ
เวลาเดนิ ธดุ งคผ า นวัดตา งๆตามชนบท ไมม ีผา สาํ หรับปะ จึงไปชกั บังสุกลุ เอาผา เช็ดเทาตามศาลาวดั ปะบงจวี รท่ขี าดเสร็จแลว กเ็ ดนิ ธุดงคต อ ไป
และไดเตือนตนเองวา ถาไมมีใครเขาถวายดว ยศรัทธา เธอกอ็ ยาไดขอเขา เปน พระธุดงคน ใี่ หม นั เปลอื ยกายดซู ิ
เธอเกิดมาครงั้ แรกกม็ ไิ ดน ุงอะไรมใิ ชหรอื เปนเหตใุ หพ อใจในบริขาร ท่มี ีและเปนการหา มความทะเยอทะยานอยากในบรขิ ารใหมไดดีมาก
พดู ถงึ อาหารบิณฑบาตนบั วา มีหลายๆ ครั้ง เวลาออกบิณฑบาตไดแตข าวเปลา ๆ ทานก็สอนตนเองวาดแี ลว...ไดข า วฉันเปลาๆ
กย็ งั ดกี วามิไดฉ ัน ดูแตส ุนัขนนั่ ซมิ นั กินขาวเปลาๆมันยังอวนและแขง็ แรงดแี กลองเกดิ เปน หมาสักชาตดิ ซู ทิ าํ ใหฉ ันขา วเปลาๆ
ดวยความพอใจและมีกําลงั ปฏิบัติธรรมตอไป...

พูดถึงเรื่องอาพาธแลว หลวงพอ เลาวา ไดเ คยผา นความลาํ บากมามากคร้ังหน่ึงเม่ืออยใู นเขต สกลนคร นครพนม ปวยเปน ไขมาหลายวัน
อยคู นเดยี วกลางภเู ขาอาการหนักพอดู ลุกไมขน้ึ ตลอดวันดวยความออ นเพลยี จึงมอ ยหลบั ไป
พอรสู ึกตวั กเ็ ปนเวลาเยน็ มากตะวันจวนจะตกดินกาํ ลังนอนลมื ตาอยู ไดยินอเี กง มนั รอ งจงึ ตั้งปญหาถามตวั เองวา พวกอีเกงและสตั ว
ปามันปว ยเปน ไหม? คําตอบเกดิ ขนึ้ วา มนั ปวยเปนเหมือนกนั เพราะพวกมันเปนสังขาร
ท่ีตองปรงุ แตงเชนเดียวกบั เรานีแ่ หละมันมยี ากินหรอื เปลา ? มนั กค็ งหากินยอดไมใบไมตามมีตามไดมหี มอฉดี ยาใหมันไหม?
เปลา...ไมมีเลย...แตก็ยงั มอี เี กง และสัตว เหลืออยูสืบพนั ธุกนั เปน จาํ นวนมากมิใชห รือ? คําตอบเกดิ ขึน้ วา
ใชแลว...ถูกแลว ...พอไดข อคดิ เทานท้ี าํ ใหมกี าํ ลังใจดีขึ้นมาก จงึ พยายามลกุ นงั่ จนได
และไดพ ยายามทาํ ความเพยี รตอไปจนกระท่งั ไขไดท เุ ลาลงเร่อื ยๆ หลวงพอพูดใหฟ ง วา เปน ไขหนักอยูคนเดยี วกลางภูเขาไมต ายหรอก
ถาไมถ ึงท่ตี าย แมจ ะไมม หี มอรกั ษาก็ตามแตว า มนั หายนานหนอยเทา น้ันเอง

พ.ศ.๒๔๙๗ ในระหวา งปลายเดอื น ๓ โยมมารดา (แมพ ิม) ของหลวงพอ พรอมท้งั พ่ชี าย(ผูใหญล า ) และญาตโิ ยมอกี ๕
คนไดเดนิ ทางขึ้นไปพบหลวงพอ เพื่อนมัสการนมิ นตใ หกลบั ลงมาโปรดญาติโยมในถน่ิ กาํ เนิด หลวงพอ พิจารณาเหน็ เปนโอกาส
อนั เหมาะแลวจงึ รับนิมนต และตกลงใหโยมมารดาและคณะทไ่ี ปนั้น ข้ึนรถโดยสารลงมากอ น สว นหลวงพอพรอ มดว ยพระเชอ้ื พระหนู
พระเลื่อน สามเณรออ ด พรอมดวยพอ กี พอ ไต บานปาตาว เดนิ ธุดงคล งมาเรอ่ื ยๆ หยดุ พักเปนระยะๆ ตามทางเปนเวลา ๕ คืน

กําเนดิ วัด

วันนน้ั เวลาตะวนั บา ย คณะของหลวงพอ ไดเ ดินทางมาถงึ ชายดงปาพงแหง น้ซี ่งึ เปนวันจนั ทร ขนึ้ ๔ คา่ํ เดอื น ๔ ปม ะเส็ง ตรงกับวันท่ี
๘มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๗ ซึง่ เปน นิมติ เคร่ืองหมาย ครง้ั สําคญั ทจ่ี ะเปล่ียนแปลงปาทีน่ า กลวั ใหเ ปนปา ทนี่ า ชม รื่นรมยไ ปดว ยรสแหงสัทธรรม

เชาวันที่ ๙มีนาคม ๒๔๙๗ จึงไดพากันเขา สํารวจ สถานท่พี กั ในดงปาน้ี
โยมไดถ ากจอมปลวกถางตน ไมเ ล็กๆออกจดั ที่พักใหใกลตน มะมว งใหญหลายตน ซึ่งอยูขางโบสถด า นทิศใตปจ จบุ นั นี้
ตอ มามญี าตโิ ยมชาวบา นกอและบา นกลางผูเลื่อมใส จงึ ชวยกันปลกู กฏุ ิเลก็ ๆใหอ าศัยกนั ตอ ไป

บงั เกดิ นมิ ติ

เมื่อหลวงพอและคณะไดเขา มาอยใู นดงปาพงได ๑๐ วนั วันนน้ั เปนวันเพ็ญ เดือน ๔ เวลาน้ันประมาณทุมกวา ๆ
ญาติโยมมาฟง ธรรมไมม ากเทาใดนัก เกดิ บรุ พนิมติ มแี สงสวา งพงุ ปราด ไปขา งหนาเปนทางยาว
แลว หดตวั มาดบั วูบลงทม่ี มุ วดั ดานทิศตะวนั ออกเฉยี งใตน ่ันเอง ทําใหญ าติโยมทเี่ ห็นดวยตาเกิดอศั จรรยขนพองยองเกลา ตา งก็พูดไมอ อก

เมือ่ ไดม าอยทู ปี่ าพงแลว หลวงพอ ทานถือหลกั คําสอน ของพระพทุ ธองคท ตี่ รสั วา ทาํ ตนใหตง้ั อยใู นคุณอนั สมควรเสยี กอน
แลว จึงสอนคนอน่ื ทีหลัง จึงจักไมเปน บณั ฑิตสกปรกดงั น้ันไมวา กจิ วตั รใดๆเชน กวาดวดั จดั ทฉี่ นั ลางบาตร ตกั นา้ํ หามนา้ํ ทําวัตร สวดมนต
เดินจงกรม นง่ั สมาธิ วนั พระ ถือเนสชั ชกิ ไมนอนตลอดคืน หลวงพอ ชาลงมอื ทาํ เปนตัวอยา ง ของศิษย โดยถอื หลกั ทีว่ า
สอนคนดว ยการทาํ ใหดู ทําเหมอื นพดู พูดเหมือนทํา ดังนนั้ จึงมีศิษยและญาตโิ ยมเกดิ ความเคารพยําเกรง
และเลื่อมใสในปฏปิ ทาที่หลวงพอดําเนินอยู เมอื่ เทศนกช็ ีแ้ จงถงึ หลักความจรงิ ทจ่ี ะนําไปทาํ ตามใหเ กดิ ประโยชนไ ด
หลวงพอและศษิ ยรนุ แรกทีเ่ ขามาอยตู องตอ สูกับไขป า ขณะนนั้ ยงั ชกุ ชุมมากเพราะเปน ปาทึบ ยามพระเณรปวยจะหายารักษาก็ยาก ตอ งตม
บอระเพ็ดใหฉนั กพ็ อทเุ ลาลงบาง เนื่องจากโยมผอู ุปฏฐากยงั ไมคอ ยเขา ใจในการอปุ ถัมภ ทง้ั หลวงพอ กไ็ มยอมออกปากขอจากใครๆ
แมจะพดู เลียบเคยี งก็ไมท าํ ปลอยใหผูมาพบเหน็ ดว ยตา พจิ ารณาแลว เกิดความเล่ือมใสเอาเอง พูดถึงอาหารการฉันกร็ สู กึ จะฝด เคือง

เมอ่ื หลวงพอ ไดม าอยูทป่ี าพงแลว เดือนแรกผานไป และในเดือนตอมาคณุ แมพ มิ ชว งโชติ โยมมารดาของหลวงพอ พรอมดว ยโยมผหู ญิงอีก ๓
คน ไดม าบวชเปนชี อยปู ระพฤตปิ ฏบิ ัติธรรม พวกญาติโยมจึงปลูกกระทอมใหอยอู าศัย...โยม แมพ ิมจึงเปน ชีคนแรกของวัดหนองปา พง
และมแี มชอี ยูติดตอกนั มาจนถึงปจ จบุ ันนีเ้ ปน จํานวนมาก

ป พ.ศ.๒๕๐๐ ซงึ่ ชาวพุทธถือวา เปน ปท่สี ําคญั มกี ารทําบุญทงั้ สว นวตั ถทุ าน และธรรมทานมีการบวชตนเองและบวชลกู หลานเปน ภิกษสุ ามเณร
และบวชเปน ชีและตาปะขาวเปน จาํ นวนมากมีการประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนาเปน พิเศษ
ทางวัดหนองปาพงหลวงพอก็อนุญาตใหม กี ารบวชเชนกันมบี วชเปน สามเณร ๒ รปู บวชเปนตาปะขาว ๗๐ บวชเปนชี ๑๗๘ คน รวมเปน
๒๕๐ คน

ป พ.ศ.๒๕๐๑ มีประชาชนสนใจการฟงเทศนฟง ธรรม และการปฏิบตั ิธรรมมจี าํ นวนเพ่ิมขึ้นมญี าตโิ ยมชาวบานเกา นอ ย ต.ธาตุ
ซงึ่ เคยมาฟง ธรรม ปฏบิ ัติธรรมท่ีหนองปา พงมานิมนตห ลวงพอใหไ ปพักอยทู ี่ปา ละเมาะใกลกับปาชา
และหลวงพอไดไ ปพกั อยูสอบรมธรรมะแกผูส นใจในถิ่นน้ันไดจาํ พรรษาอยูทป่ี าแหงน้ัน และนบั วาเปนสาขาแรกของวดั หนองปา พง
และในปตอ มาก็ไดจ ัดสงลกู ศิษยไ ปอยปู ระจําจนถึงทุกวันน้ี

และในปตอๆมา ก็มญี าติโยมผูเ ล่ือมใสสนใจในการปฏบิ ัตมิ านมิ นตห ลวงพอไปรับอาหารบิณฑบาตและอบรมธรรมะเพิ่มจาํ นวนมากข้ึนๆ เชน
นิมนตไ ปทางบานกลางใหญ อ.เขอื่ งในบาง นมิ นตไ ปเยย่ี มทางชาวไรภ ูดนิ แดง อ.กันทรลกั ษ จ.ศรีสะเกษบาง
นมิ นตไปทางบานหนองเดนิ่ หนองไฮบาง ซึ่งตอ มาก็ไดมลี กู ศิษยของหลวงพอ ไปอยูแ ละเปน สาขาที่ ๒-๓-๔ ของหนองปา พง

ประมาณเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ มญี าติโยมอําเภออาํ นาจเจริญมานมิ นตหลวงพอ ขนึ้ ไปฉนั ภัตตาหาร
และอบรมธรรมะที่วดั ตน บกเต้ีย(ปากทางเขาถ้าํ แสงเพชร) โดยมอี าจารยโสม พักอยูทน่ี ่นั และเขานมิ นตห ลวงพอเขาไปดูถํ้าแสงเพชร
(ถา ภูขาม) ขอนมิ นตใหทา นพิจารณาจัดเปนทป่ี ฏบิ ตั ธิ รรม แตห ลวงพอ ก็ยังมไิ ดต กลงใจ ยังเฉยๆอยู

คร้ันเมือ่ ออกพรรษา รบั กฐนิ แลว เมือ่ วนั ท่ี ๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๑ หลวงพอรบั นมิ นตข องโยมชาวจงั หวดั อดุ รฯ เดนิ ทางไปจังหวดั อุดรฯ
พกั ทว่ี ัดปา หนองตสุ ระยะทพ่ี ักอยทู น่ี นั่ หลวงพอ ไดพาไปกราบนมัสการทานพระอาจารยม หาบวั วดั ปาบานตาด
และทานพระอาจารยขาววดั ถ้ํากลองเพล และไดเ ดินทางไปเยยี่ มทานเจาคณุ เจา คณะจงั หวัดหนองคาย ทานเจาคุณพาไปเยย่ี ม วดั โศรกปาหลวง
นครเวยี งจนั ทน และไปเยยี่ มวัดเนนิ พระเนาว ซ่งึ ลว นแตเปนสาํ นักปฏบิ ตั ธิ รรมทั้งนน้ั แลว พักอยูวดั ศรีสะเกษ
กับทานเจา คณะจงั หวัดแลว เดนิ ทางกลบั มาถงึ อุดร และแวะเยย่ี มภูเพ็ก แลวเดนิ ทางมาถึงบานตองแวะกราบนมสั การทา นอาจารยก ินรี
ทีว่ ัดกนั ตศิลาวาส และกราบลาทา นอาจารยกินรี ลงมาถงึ อาํ เภออาํ นาจเจริญ หลวงพอ พาแวะไปเยีย่ ม อาจารยโสมท่ีวัดตนบกเตย้ี
วนั น้ันเปน วันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๑ พักอยูหน่งึ คนื

ฉะนั้นจึงพอถือไดว า วนั ท่ี ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๑ เปน วนั บกุ เบกิ เรม่ิ ตน แหงการสรางวดั ถาํ้ แสงเพชร
และไดไ ปพกั อยตู รงถ้ําท่ีมีรปู พระพุทธองคแ ละปญ จวคั คยี  (เขาเรียกกนั วา ถ้ําพระใหญ และเร่ิมปรับปรุงตรงน้นั พอเปนท่ีพกั ไดส ะดวก)

หลวงพอ ปรารภวา มาอยถู ้ําแสงเพชรนีส้ บายใจดมี าก สมองไปทางไหนจิตใจเบิกบานคลายกับ เปนสถานทีเ่ คยอยมู ากอน นัง่ สมาธิสงบดี
ถาไมค ิดอยากพักผอ นจะนง่ั สมาธิอยูตลอดคืนก็ได วัดน้มี พี ้นื ที่ ๑,๐๐๐ ไร เปนสาขาที่ ๕ ของวัดหนองปาพง

พ.ศ.๒๕๑๒ ในระยะเดือนเมษายนของปน ี้ ญาติโยมบา นสวนกลว ยไดม านมิ นตหลวงพอไปอบรมธรรมะและรับไทยทาน
เขาไดจ ัดที่พักไวใ นปา โดยปลกู กุฏไิ ว ๒ หลงั เมอ่ื ไดไ ปถึงแลว ญาตโิ ยมจงึ กราบเรียนขอใหหลวงพอ อุปการะเปน สาขาของทาน (เปน สาขาท่ี
๖) ไดจ ดั สง ลูกศษิ ยไ ปอยปู ระจาํ

เมอื่ วันท่ี ๒มกราคม พ.ศ.๒๕๑๓ หลวงพอไดร ับนิมนตจ ากคณุ แมบ ุญโฮม ศริ ิขันธ และญาติโยมทางอาํ เภอมวงฯ
ใหไปรว มงานทําบญุ รอยวันถงึ หลวงตาอุย (บิดาของแมบญุ โฮม) อาศยั ทญ่ี าติโยมเคยมาฟงเทศนแ ละมาถอื ศลี ปฏิบัติธรรมอยกู ับหลวงพอบอ ยๆ
และเปนเวลาหลายปมาแลว จงึ พิจารณาสถานทอ่ี นั เหมาะสมพอจะจัดเปน ทพ่ี กั ได จึงตกลงจดั ทีพ่ กั ให ณ ปาบา นราง
ดงหมากพริกอยหู างจากอาํ เภอมว งสามสบิ ๒ กม. และหลวงพอ ชา กับผูติดตามไดไปพกั ในดงแหง นน้ั และตอมากไ็ ดกลายเปน วัดปา
วิเวกธรรมชาน สาขาที่ ๗ หลวงพอ ไดส งลกู ศษิ ยไปอยูเปน ประจํา

สาขาวนโพธญิ าณ ในระยะเดยี วกับทช่ี าวอําเภอมวงสามบิ มีความประสงคอยากใหหลวงพออนุญาตใหต ้ังสาขาขึน้ ในเขตอําเภอนนั่ เอง
ญาตโิ ยมทางอาํ เภอพิบูลมังสาหาร เขื่อนโดมนอ ยซ่งึ มีพอใบ พอลา พอ ลอื
ไดม าปรารภนิมนตห ลวงพอไปชมปา หนาเข่ือนเหน็ วาเปน สถานท่ีเหมาะดีแกการปฏิบัตธิ รรม เปน ระหวา งที่นายปรชี า คชพลายุกต
นายอําเภอพบิ ลู มงั สาหารในสมัยน้ันไดไปเยีย่ มหลวงพอ ท่ีวดั ปาพงบอ ยครงั้ บางครัง้ กไ็ ดสนทนา
กับหลวงพอ ทาํ ใหเ กดิ ความซาบซงึ้ และเลื่อมใส เมอื่ ไดทราบวาหลวงพอ ไปเยีย่ มปาทางดานหนา เขอื่ น ก็ยนิ ดสี นบั สนุนในการ
จดั ปรับปรงุ ปาใหเ ปน ท่บี ําเพ็ญธรรม นายอาํ เภอและคณุ นายไดล ะทรพั ยส รา งกฏุ ถิ าวรไว ๑ หลัง และเปนกําลังในการสรา ง
ศาลาการเปรียญทีว่ ดั เขือ่ นแมแตน ายวเิ ชยี รสีมันตรผูวา ราชการ จังหวดั ในสมัยนั้นก็ใหก ารสนับสนุนอยางเตม็ ที่ ในระหวา งเดือนกรกฎาคม
๒๕๑๓ เม่อื หลวงพอ ไปเยย่ี มปา หนา เข่อื นอีก ญาตโิ ยม ขอรองหลวงพอวา พระพุทธบาททห่ี อพระบาท วดั ถา้ํ พระ
อยูในระดบั ใตพ ื้นนํ้าถานํ้าทว มจะเสยี หายจมอยูในนา้ํ เสียดายปชู นียวตั ถุสาํ คญั ขอใหพาอญั เชญิ รอยพระพทุ ธบาทขนึ้ ไปเกบ็ ไว ณ ทนี่ ํา้ ทวม
ไมถ ึง หลวงพอ จงึ พาญาติโยมอญั เชิญออกจากหอพระบาทเดมิ ไปเกบ็ ไวบนหวั หนิ (โขดหนิ ) ทส่ี ูงกวาระดบั น้าํ และตอ มาชาวบา น
และวดั หนองเม็ก โดยการนาํ ของเจาคณะผูปกครองมาเอาไปรกั ษาไวที่วดั หนองเมก็ ต.ฝางคํา อ.พบิ ลู ฯ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เมอ่ื ออก

พรรษาแลวในวันแรม ๖ คํา่ เดอื น ๑๑ หลวงพอ จงึ สง ทา นอาจารยส ี กับสามเณร ๓-๔ รูป ไปอยูและตอ มาอีกประมาณ ๓ เดือนกวา
หลวงพอจึงสงอาจารยเรืองฤทธ์ิไปอยดู วย และเมอื่ ออกพรรษา ป ๒๕๑๔ ทานอาจารยส กี ลบั วัดปา พง
คงเหลืออาจารยเรืองฤทธ์ิปกครองพระเณรอยเู ปนประจาํ มาจนถึงปจ จุบันนี้ สาขาที่ ๘ นค้ี ร้ังแรกเรารกู นั ในนามสาํ นักวนอทุ ยาน
ครนั้ เมือ่ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจา อยูหัวรัชกาลปจ จบุ ัน หลวงพอ ไดรบั พระราชทานเปน พระราชาคณะนามวา
พระโพธิญาณเถร เลยเปลย่ี นชือ่ สาขานใี้ หมว า สาํ นักสงฆวนโพธญิ าณรูส กึ วาเปน สาขาทหี่ ลวงพอ ใหการสงเคราะหเปนพิเศษ
และสาขานมี้ เี นอ้ื ทป่ี ระมาณ ๒,๐๐๐ ไรเศษ จงึ เปนอนั ไดท ราบกนั วาในป พ.ศ.๒๕๑๓ น้ีหลวงพอไดอ นญุ าตใหจัดตง้ั สาขาที่ ๗ คือ
วดั ปา วิเวกธรรมชาน และสาขาที่ ๘ คอื วดั ปาวนโพธญิ าณข้นึ ในปเดยี วกนั ...

เมอื่ หลวงพอ ไดมาอยูเปน ท่พี ่ึงทางใจของศิษย และญาติโยมผใู ครตอการปฏบิ ัตธิ รรมทั้งหลาย เร่ิมแตป ๒๔๙๗ เปน ตน มาจนกระทั่งถงึ ป พ.ศ.
๒๕๑๓มศี ษิ ยและญาตโิ ยมบางคนกราบเรียน เรื่องการขออนุญาตตั้ง (สราง) วดั เมอื่ กอนน้นั หลวงพอ มักพูดวา
ไมตอ งขอสรางวดั เรากส็ รา งกต็ ัง้ มานานแลว แตเ พอื่ ใหถูกตองตามกฎระเบยี บ หลวงพอ จงึ อนญุ าตใหม กี ารขอสรา งวัดขึน้
และเม่ือไดรบั อนญุ าตใหส รางวัดเรียบรอยแลว จึงไดร ับตราต้ังดังนี้

๑)เปน เจาอาวาสวดั หนองปาพง เมื่อวนั ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๑๖

๒)ไดร บั พระราชทานเปน พระราชาคณะมีนามวา พระโพธญิ าณเถร เม่ือวนั ที่ ๕ ธนั วาคม ๒๕๑๖

๓)เมื่อปลายเดอื นมกราคม ป๒๕๑๗ ไดรับหนังสือใหเ ขา ไปอบรมเปนพระอุปชฌาย และไดร ับตราตงั้ พระอปุ ช ฌาจารย เม่อื วันที่ ๔
กมุ ภาพนั ธ ๒๕๑๗

หลวงพอ ไดใ ชขนั ติธรรมอดทนตอ สูกับความลาํ บากมานานพอสมควร ไดผ า นทง้ั คนผหู วังดแี ละหวงั ไมด ีมามากตอ มาก
แตดว ยนํา้ ใจทีม่ ุง ประโยชนต อ เพ่ือนมนษุ ย และหวงั เจรญิ รอยตามยุคลบาทของพระสัมมาสมั พทุ ธเจา โดยเรยี นและปฏบิ ัตดิ ว ยตนเอง
แลว จึงนาํ ไปสอนคนอนื่ ตอ ไป มิไดห วงั เพยี งเอาตวั รอดแตผ เู ดยี ว
ฉะน้นั หลวงพอจึงไดย อมเสียละความสขุ สวนตนอตุ สา หแ นะนาํ สง่ั สอนศิษยและผูใ ครในธรรมใหไดร บั ความซาบซึง้ ใจ ซ่ึงทาน
ทงั้ หลายผทู ีไ่ ดม ากราบ และไดฟง โอวาทของหลวงพอ ยอ มกอ ใหเ กดิ ศรัทธาเลอื่ มใสเสมอมา

โยมมารดามรณะ

หลงั จากหลวงพอชาและคณะไดเ ขา มาอยูทดี่ งปาพงนเ้ี ดอื นกวา คุณแมพิม ชว งโชติ ซึ่งเปนโยมมารดาของทา นก็
ไดเ ขามาบวชเปนชอี ยปู ฏิบตั ิธรรมตามอยางพระลกู ชาย พรอ มทัง้ มีโยมผหู ญิงบวชตามอกี ๓ คน ยงั ผลใหคุณแมพิมไดรบั รส แหง ธรรม
ทําใหจ ิตใจเยอื กเยน็ เปนที่พึง่ แกตนทําใหตรีเหลาอืน่ ผูหวังความสงบไดเ ขา บวชชเี พิ่มจํานวนมากข้นึ เรอ่ื ยๆ โยมแมช ี ไดสรางความดี
ท้ังทเ่ี ปนสวนอามิสบชู า และปฏบิ ตั บิ ูชาตามกาํ ลังความสามารถ ไดโอกาส
อปุ ถัมภบาํ รงุ พระภิกษุสามเณรท้ังในยามปกติและคราวอาพาธเสมอมา

หลวงพอเองก็ไดท าํ การบาํ รงุ โยมมารดาตามสมควรแกหนาทีอ่ นั บตุ รทดี่ ีจะพึงกระทําแกผ ูบงั เกิดเกลา คอยเอาใจใส ทั้งอาหารกาย
และอาหารใจมไิ ดเพกิ เฉย คร้นั หลายปผ านๆไป หนีความผพุ งั ไปไมพ น...ดงั นน้ั เม่อื คราวทีโ่ ยมปวย หลวงพอ และญาติ
ตลอดทั้งบรรดาแมชีกไ็ ดเ อาใจใสพ ยาบาลรักษาตามความสามารถ หลวงพอก็หาโอกาส เขา ไปเยยี่ มและใหต ทิ างธรรมอยูบ อยๆ
ผลสุดทายแมช ีพิมกไ็ ดทอดท้งิ รา งกายอันแกหงอ มไปเมอ่ื วันท่ี ๑๗ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๑๗

กาํ หนดงานฌาปนกิจศพโยมแมใ นระยะวันมาฆบูชา ซ่งึ ตรงกับวนั ที่ ๒๕มนี าคม พ.ศ.๒๕๑๘ และในงานนี้ไดอนุญาตใหกลุ บุตร
กุลธดิ าบวชเปนสามเณร ๑๐๕ รปู บวชเปนชี ๗๒ คน เพ่อื ถวายเปน พุทธบูชา...

จาริกสูตางประเทศ ครัง้ ที๑่

นับเปนเวลา ๒๓ ปกวา ที่หลวงพอ ชาไดอ าศัยวดั บานหนองปา พง เปน หลกั ชัยในการประกาศสจั ธรรมอนั นาํ สันติสขุ มาสมู วลมนษุ ย
ไดมีภกิ ษุสามเณร และประชาชน เดนิ ทางมา ฝากตัวเปน ลูกศษิ ย เพอื่ อบรมการปฏิบตั ิธรรม เพมิ่ จาํ นวนมากข้นึ เรอื่ ยๆ
จนกระท่ังไดขยายสาํ นกั สาขาแยกออกไป ในตางอําเภอและตางจังหวดั ซ่ึงในปจ จบุ นั นมี้ อี ยูประมาณ ๘๒ สาขา
และมชี าวตา งประเทศเกดิ ความเลอ่ื มใสมาขอบวชเปนศิษยเ พื่ออยปู ฏบิ ัตธิ รรม เพม่ิ จํานวนมากขึ้น
จนกระทง่ั หลวงพอ ไดอนญุ าตใหจัดต้งั สํานกั สาขา สําหรบั ชาวตา งประเทศขนึ้ เปน สวนหนงึ่ ตางหากมีช่ือเรยี กวา วดั ปานานาชาติ เปนสาขาที่
๑๙ ของวดั หนองปา พง ต้ังอยูในเขตตาํ บลบุง หวาย อําเภอวารินชําราบ จงั หวัดอบุ ลราชธานี

ในป พ.ศ.๒๕๑๙ อาจารยสเุ มโธ ไดเดินทางไปเยยี่ มโยมมารดาทสี่ หรัฐอเมริกา ขากลบั เดินทางมาแวะประเทศองั กฤษ
พกั ที่สํานักธรรมประทีปแฮมปสะเตท กรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ ไดมเี จา หนาทีข่ องสํานักนน้ั มาสนทนาธรรมจนเกิดศรทั ธาเลื่อมใส
เขาถามถงึ สํานกั ทเ่ี ปนครูบาอาจารย นิมนตใ หทานอยจู าํ พรรษาท่อี งั กฤษ อาจารยสเุ มโธ
จึงไดบ อกวาเปนลกู ศษิ ยของหลวงพอ ชาแหงวดั หนองปาพง อ. วารนิ ชาํ ราบ จ. อบุ ลราชธานี (ประเทศไทย)
ถาตอ งการอยากใหอยใู นประเทศองั กฤษ กใ็ หไ ปตกลงขอจากหลวงพอ ชาเสยี กอน ตอจากนนั้ อาจารยสุเมโธ จงึ ไดเดนิ ทางกลับมาประเทศไทย

จึงเปน เหตใุ หชาวสังฆทรสั ตแ หงประเทศองั กฤษ ไดต ดิ ตอ ขอนมิ นตหลวงพอชาและอาจารยส เุ มโธ ใหเ ดนิ ทางไปประกาศ สัจธรรม
และเพือ่ ประดิษฐานหลักปฏิบัตไิ วใ นภาคพน้ื ตะวนั ตก ใหเจรญิ รุงเรืองโชติชว งชชั วาล ตามสมควรแกกาลและฐานะท่จี ะพึงมีพึงเปน ได

ดังนน้ั เม่ือวนั ท่ี ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ซึ่งเปนปท ี่ หลวงพอ ไดม ีอายุ ๕๙ ป พรรษา ๓๘ หลวงพอไดออกเดนิ ทางจากวดั หนองปา พง
สูกรุงเทพฯ เมอื่ วนั ท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ข้ึนเคร่อื งบนิ ออกจากดอนเมือง

วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ขณะทเ่ี ครือ่ งบิน บนิ มงุ สเู มืองการาจปี ระเทศปากีสถานหลวงพอ ไดบ นั ทกึ ไวว าเหตุการณ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในการเดนิ ทาง
ในวันที่ ๖ ในขณะท่ีบินอยู เคร่ืองบิน ไดเ กิดอุบตั เิ หตยุ างระเบดิ ๑ เสน บนอากาศ พนักงานการบิน จงึ ไดป ระกาศ
ใหผ โู ดยสารเตรยี มตัวรัดเข็มขัดมีฟนปลอมกต็ องถอดออก แมก ระทงั่ แวนตาหรือรองเทา เครื่องบรขิ ารทุกอยา ง ตองเตรยี มพรอ มหมด
ผโู ดยสารทกุ คนเมอื่ เกบ็ บรขิ ารทุกอยางหมดแลว ตางคนก็ตางเงยี บคงคิดวา คงเปนวาระสดุ ทายของ พวกเราทุกคนเสยี แลว...

ขณะนน้ั เรากไ็ ดค ดิ วา เปน ครง้ั แรกท่เี ราไดเ ดนิ ทางมาเมอื งนอกเพอื่ สรางประโยชนแ กพ ระศาสนา จะเปนผูมบี ุญอยา งนเ้ี ทียวหรือ...?
เมือ่ ระลึกไดเชน นแ้ี ลว ต้งั สตั ยอ ธษิ ฐานสมอบชวี ิตใหพ ระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ
แลว กก็ าํ หนดจติ รวมลงในสถานท่คี วรอันหนง่ึ ...แลว กไ็ ดรบั ความสงบ เยอื กเยน็
ดูคลายกบั ไมม ีอะไรเกิดข้ึน...พักในทีต่ รงนน้ั จนกระทงั่ เครอ่ื งบนิ ไดล ดระดบั ลงมาถงึ แผน ดนิ ดวยความปลอดภยั

เมอ่ื หลวงพอกลบั ถงึ ประเทศไทยแลว มคี นเรยี นถามหลวงพอ วา เม่อื เครอ่ื งบนิ เอยี งวูบๆเชนน้ันเจา หนาท่ีเขาบอก
ใหเ ตรยี มตัวแลว หลวงพอทาํ อยา งไร? หลวงพอตอบวา คขู าข้ึนนั่งสสมาธิ หลับตา ตั้งจติ รวมลงผอนลมเขา ออก
เพงๆไปทล่ี อเคร่อื งบินจนกระทั่งเครอื่ งบนิ มีการทรงตวั เมอ่ื เครอื่ งบินลงจอดเรยี บรอยแลว จงึ ลมื ตา หลวงพอ เลา วา ...ทางหอบังคบั การบินไดส ง
เฮลคิ อปเตอรข ้ึนคมุ กนั ความปลอดภยั ทางพน้ื ดินกม็ รี ถดับเพลงิ เตรยี มพรอมคอยดบั ถามกี ารเกิดเพลิงไหม
แตก ็นา แปลกใจทเี่ ครอื่ งบินลงสูนามดว ยความปลอดภยั และเรยี บรอย

วนั ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ซ่ึงนบั วา วันแรกทห่ี ลวงพอ ไดออกบณิ ฑบาต ท่ีบานเศรษฐผี นู ี้เขาไดถวายอปุ ฏ ฐากเปนอยา งดี เขาชอบฟงธรรม
สนทนาธรรม และนั่งสมาธิดว ย นับวา เมอ่ื มาอยู องั กฤษพึ่งจะไดออกบิณฑบาตเปน ครงั้ แรก หลวงพอไดแ สดงธรรม
และอบรมกรรมฐานใหญาติโยมผสู นใจ ซ่ึงมาประชมุ กนั อยูทีบ่ า นเศรษฐผี นู น้ั และพักอยูใ นบริเวณบานเศรษฐีซอร ๓ วันจงึ ไดก ลบั ลอนดอน

โยมฟรีดาผอู ุปฏ ฐากธรรมประทปี ไดเอารถมานิมนตไ ปชมมหาวิทยาลัยออ็ กซฟอรด ซ่ึงเปน มหาวิทยาลัยทีม่ ีชอื่ เสียง
คนรูจักดีและไดไปชมสถานทีต่ า งๆพอสมควร

วนั ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ไดม ีพระญ่ปี ุนมาพกั ดว ยกนั อยูทว่ี ดั ธรรมประทปี หลวงพอ ไดสนทนากนั ตอนหน่งึ หลวงพอ จงึ ถามวา
รกั ษาศลี เทาไหร? เขาจงึ ตอบวา การกระทํา ซ่ึงติใหสมบูรณอ ยเู ทานนั้ เรยี กวา การปฏิบตั ขิ องเรา และใหอ ยูในปจจุบันไมม ีตนไมมีปลาย
เปนอยทู ง้ั กลางวันและกลางคืน เขาบอก หลวงพอวา เขาเปน คนญี่ปุน ไดกระทําการปฏิบัตลิ ทั ธิเฉ็นจาธิเบต

วันท่ี ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ออกบิณฑบาตในลอนดอน ครั้งแรก
หลวงพอไดเขยี นไวใ นสมดุ บันทกึ วา...วนั นี้เปน วนั แรกทไี่ ดออกบณิ ฑบาตในกรุงลอนดอนพรอ มดว ยพระสเุ มโธ ๑ พระเขมธัมโม ชาวองั กฤษ
๑ และสามเณรชินทตั โต ๑ ซ่ึงเปนสญั ชาตฝิ ร่งั เศส พระโพธิญาณเถรเปนหวั หนา

ออกบณิ ฑบาตวนั แรกไดขาวพออิ่ม ผลแอปเปล ๒ ใบ กลว ยหอม ๑ ใบ ม ๑ ใบ แตงกวาส๑ ลกู แครร อต ๒ หวั ขนม ๒ กอน

ดีใจซึ่งไดอ าหารวนั น้ี เพราะเราเขา ใจวา เปน อาหารพระพอ คอื เปนมูลของพระพทุ ธเจานนั่ เอง และเปนอาหารที่เกิดจากการ บิณฑบาตได
เมอื งนยี้ ังไมเ คยมีพระบณิ ฑบาตเลย เพราะเขามคี วามอายกันเปน สวนมาก แตต รงกนั ขามกับเราๆ เห็นวา คําทว่ี าอายน้ี เราเหน็ วาอายตอ บาป
อายตอความผดิ เทา นน้ั ซ่ึงเปนความหมายของพระองคน ี้ เปน ความเห็นของเราเอง จะถูกหรือผิดก็ขออภยั จากนักปราชญทงั้ หลายดวย
และวนั เดยี วกนั นัน้ โยมของเขมธมั โม ท้งั ผัวเมียไดถ วายอาหารดวย ไดข อฟงเทศนแ ละฝก กรรมฐานเปน พิเศษอยางเปนท่ีพอใจ

หนังสอื พมิ พไดสะกดรอยไปขา งหลงั แลวถา ยรูปเปน สระยะๆ ในระหวางการเท่ยี วบิณฑบาต เพราะเปน ของแปลกๆ
ประชาชนชาวเมืองลอนดอนยนื ดูกนั เปนแถวๆ ทัง้ เดก็ และผใู หญ

เยน็ วนั หนึง่ มหี ญงิ คนหนง่ึ มาทวี่ ัดธรรมประทปี ถามปญหาวา คนตายแลว ไปอยทู ่ไี หน? และวญิ ญาณไปอยอู ยางไร?
หลวงพอจงึ พดู วา...ปญหาอยา งน้พี ระพทุ ธเจา ไมทรงใหตอบ เพราะเรื่องอยา งน้มี ใิ ชเหตุ (จาํ เปน )
ขณะนนั้ หลวงพอ นง่ั อยบู นธรรมานมเี ทียนจดุ ไว ๒ เลม หลวงพอ จึงถามวา โยมมองเหน็ เทยี นนี้ไหม? เขาตอบวา เหน็ หลวงพอ จงึ ถามวา
เห็นไฟน่ไี หม? เขากต็ อบวา เหน็ ทนั ใดนนั้ หลวงพอจงึ เอาปากเปาลมใหเทยี นเลมหน่ึงดับแลว ถามวา เปลวของไฟนห้ี ายไปทศิ ไหน?
เขาตอบวา ไมรู รูแตวา เปลวไฟดบั ไปเทา นนั้ หลวงพอจึงถามอีกวา แกป ญ หาอยา งนพ้ี อใจไหม? เขาตอบวา ยงั ไมพ อใจ ในคาํ ตอบน้ี
หลวงพอ จงึ พูดวา ถา อยา งนัน้ เรากไ็ มพอใจในคําถามของโยมเหมือนกนั เทานนั้ เอง กเิ ลสของเขากพ็ ุงขน้ึ เขาทําตาถลึงขน้ึ
สะบดั หนา แลวก็หมดเวลาพอด.ี ..

การพกั อยูท ี่วัดธรรมประทีปลอนดอนนนั้ ทท่ี าํ ประจาํ คอื ตอนเชา ออกบิณฑบาต ตอนบา ยถงึ เย็นแสดงธรรมสอบรมกรรมฐานใหญาติโยมทีม่ า
และตอบปญหาท่เี ขาถามเปน ประจํา แมไปที่เมอื งอน่ื ๆ กป็ ฏบิ ัติอยางน้อี ยเู ปน ประจาํ แลวแตเวลาและโอกาส

ในขณะทหี่ ลวงพอ ไปประกาศสจั ธรรมอยูในประเทศองั กฤษ ไดมีฝรงั่ คนหนึ่ง เรยี นถามทา นวา ชีวิตของพระเปน อยางไร?
ทําไมชาวบานถงึ ไดเลย้ี งดูโดยทพี่ ระไมไ ดทำอะไร?

หลวงพอจงึ ตอบแบบใหเ ขาตอ งขบคดิ ปญหาของตัวเองวา ถงึ บอกใหก ไ็ มร ูหรอกมนั เหมอื นกับนกทอ่ี ยากรูเร่ืองของปลา ในนํ้า
ถึงปลาจะบอกความจรงิ วา อยใู นนํา้ น้ันเปน อยา งไร นกกไ็ มม ที างที่จะรูไ ด ตราบใดที่นกยังไมไดเ ปน ปลา

คาํ พูดทซี่ งึ้ ใจ จับใจของหลวงพอ มันเขาไปตดิ อยูก บั ใจของคนเหลา นนั้ อกี นาน ดงั น้ันเมื่อหลวงพอกลบั สูเมอื งไทยแลว ในระหวางพรรษาป
๒๕๒๐ นนั้ เอง หลวงพอจึงไดรบั หนงั สอื จาก คณะผูจ ัดทําภาพยนตรเพือ่ การศึกษาของสถานวี ิทยุ และโทรทศั น บี.บ.ี ซี. กรุงลอนดอน
ตดิ ตอเขามาถายทําภาพยนตร ในเรื่องทีเ่ กยี่ วกับพระพทุ ธศาสนา โดยเฉพาะวดั หนองปาพง
ตอนทายของหนงั สอื ตดิ ตอฉบบั น้นั มขี อความอยูประโยคหนึ่งทเ่ี ขาพดู เนน วา หวังวา ทานอาจารย คงจะเปน ปลาที่เห็นประโยชน (เก้ือกูล)
แกนก

ดังน้นั เมอื่ ประมาณตนเดือนตลุ าคมของปน ั้นเอง คณะของเขาจงึ ไดเ ดินทางเขามาเพื่อทาํ ภาพยนตรดังกลา วซึง่ เปน เรือ่ งราวสารคดเี กยี่ วกับชวี ติ
และกจิ วตั ร ประจาํ วัน และขอวตั รปฏิบตั ิท้ังปวงของพระปา อนั มีนามวา พระกรรมฐานโดยตรง หลงั จากนั้นไมนานภาพยนตรสารคดี
เพ่ือการศกึ ษาเรอ่ื งนน้ั กไ็ ดกระจายออกไปคอนโลก

ในคราวออกไปประกาศสัจธรรมสภู าคพนื้ ตะวันตกของหลวงพอ ครงั้ นี้ นอกจากท่ีประเทศองั กฤษแลวในระหวางวันท่ี ๓๐ พฤษภาคม ถงึ วนั ท่ี
๘ มิถุนายน ๒๕๒๐ น้ัน หลวงพอ ยงั ไดแ ผเ มตตาไปถึงชาวปารีสประเทศฝรงั่ เศสอกี ดว ย ชว ยให คนของประเทศน้นั
และผูพึ่งยายเขาไปอยูรวม เขาไดด ม่ื ดา่ํ ในรส แหง พระสทั ธรรม อันพรง่ั พรูออกจากโอษฐของหลวงพอเปนเวลา ต้งั ๙ วัน หลวงพอพูดใหฟงวา
เปนทีเ่ กิดความสังเวชนา สงสาร ชาวลาว เขมร ญวน อพยพเหลาน้นั บา นแตกสาแหรกขาด เปน คนพลดั ถนิ่ เหนิ หา งดนิ แดนมาตภุ มู ิส
เพราะไฟกเิ ลสทค่ี นเรากอ ขึ้นทาํ ลายกนั คนทเี่ คยรํา่ รวยอยดู สี บายมากลบั กลายเปนคนจนขัดนพลดั จากบา นเกิดเมืองนอนมผี วิ พรรณหมองคลํา้
นา้ํ ตานองหนา ความพลดั พรากจากของที่รักทพี่ อใจมันก็ เปน ทุกข คนตาดเี ทาน้นั จึงจะมองเหน็ ธรรม สวนคนตาบอด (ตาใน)
ยอ มมองไมเหน็ ธรรมเลย

ตอนหน่ึงทานไดใ หโ อวาท เปนการปลอบใจ ของผพู ลัดถ่นิ เหลา นัน้ วา เลกิ คดิ เสยี อยา ไปคดิ ถึงมนั เรื่องทีผ่ านไปแลวมนั ก็ผา นไปแลว
เหมือนวนั วาน อยาไปเกบ็ เอามาเปนหนามทิม่ แทงตวั เองอีกเลย ใหถือวา เราเกิดใหมแลว บานของเรานน้ั อยทู ีไ่ หนเลา อยทู ่นี ่ตี รงนี้แหละ
ญาตมิ ติ รของเราก็อยมู ที ่ีนี่แลว ท่เี ราจากมามันไมใ ชบา นของเรา
ถา เปน บานของเราจริงเราก็ตอ งอยไู ดซ ิ...อยาไปคิดอะไรมากจะลําบากตวั เองเปลาๆ
จงอุตสา หท ํามาหาเลีย้ งชพี โดยสจุ ริตดาํ รงชวี ิตสรางความดีตอ ไป ใหม คี วามสามคั คีเออื้ เฟอ ชวยเหลือกันมีเมตตาอารตี อ กัน จะอยูทไี่ หน
ก็ไมมีใครอยไู ดน านเทา ไหรห รอก เดยี๋ วเราก็พากันจากมนั ไปหมดนนั่ แหละ

ธรรมโอสถของหลวงพอ คงจะเปน ดงั่ ทิพยว ารชี าํ ระลางจิตที่เศราหมองระทมทกุ ขมาแรมป พอไดร างซาความเรารอ นลงไดบาง
คงจะเปน ผาสาํ ลแี ผน นอ ยๆ คอยซับนา้ํ ตาในยามทุกขไ ดบ า ง คงจะทําใหเ ขาเหลานนั้ พอมที างมองเห็นเข็มทศิ ชที้ างใหเ ขาเหลา นั้น
ไมค ิดสนั้ เกนิ ไปกระมงั ...

เมื่อกลบั คนื สวู ดั พระธรรมประทีป กรุงลอนดอนแลว หลวงพอก็ไดประกาศธรรม และทําศาสนกิจประจําดังเชนวนั กอ นๆ จนกระท่งั ถงึ วันท่ี
๑๔ กรกฎาคม ๒๕๒๐ หลวงพอ ไดเขยี นไวใ นสมดุ บนั ทกึ วา

ตอนกลางคืนวันที่ ๑๔ พลอากาศโทชู พรอ มดวยคุณนาย สุภาพและคณุ ทองนอ ย ซึ่งเปนคนของไทยอินเตอร ไดไปรวมกับพวกทํากรรมฐาน
และไดร ว มในการเปด สาขาท่ี ๑ (ภาคพืน้ ยุโรป) นีด้ ว ย และในวันท่ี ๑๕ กไ็ ดช ว ยบรกิ ารใหความสะดวกทุกอยา งบนเครอ่ื งบนิ ตลอดตน ทาง
ถึงปลายทางดวย ทั้งตอนไปกใ็ หความสะดวก และตอนกลับก็ใหค วามสะดวก

เราไดเ ดินทางไปเมอื งนอก และเมอื งในนอก และเมอื งในใน และเมอื งนอกนอก รวมเปน ๔ เมอื งดวยกนั
และภาษาท่ีตอ งใชในเมืองท้ังหลายเหลา นคี้ อื นิรตุ ติภาษาจงึ เกดิ ประโยชนเ ทาทีค่ วร ภาษาทง้ั หลายเหลา นี้
ไมม คี รูสอนเปน ภาษาท่ตี อ งเรยี นดว ยตนเองเทานนั้ เมื่อพบกับเหตุการณ ภาษาทัง้ หลายเหลา น้จี งึ จะปรากฏขึ้นเฉพาะ
ฉะนนั้ พระพุทธเจา พระองคท รงแตกฉานในภาษาทง้ั ปวง และไดเ หน็ ชนชาวยโุ รปนี้ เปนดอกบัว ๔ เหลา จรงิ ๆ เรามคี วามรูสึกอยา งนัน้

เราเปน พระอยแู ตในปามานมนาน นึกวาไปเมืองนอกจะมคี วามตนื่ เตน กเ็ ปลา พระพุทธเจาตามควบคมุ เราอยทู กุ อิริยาบถ
มิหนําซ้าํ ยงั ไมเกิดปญ ญาอกี ดวย เหมือนบัวในน้าํ ไมยอมใหน ้ําทวม ฉนั นน้ั พจิ ารณาตรงกันขามเร่อื ยไป

ไดเทยี่ วไปดใู นมหาวิทยาลยั ตา งๆแลว จงึ คดิ วา มนษุ ยศาสตรทัง้ หลายมันยิ่งเหน็ ไดช ัดวามแี ตศ าสตรที่ไมมคี มทงั้ น้ัน
ไมส ามารถจะตัดทกุ ขไ ดมแี ตกอ ใหเ กิดทกุ ขศ าสตร ท้ังหลายเหลานัน้ เราเห็นวา ถาไมม าขนึ้ ตอ พุทธศาสตร แลว มันจะไปไมรอดทั้งนนั้
เม่ือเราน่งั อยูบนเครอ่ื งบนิ มคี วามรสู กึ แปลกหลายอยาง และไดว ิตกไปถงึ คาํ ท่ที านวา สู
ท้งั หลายจงมาดโู ลกนอ้ี ันตระการดจุ ราชรถทีค่ นเขลายอ มหมกอยู แตผูรูหาขอ งอยไู ม อนั นก้ี ช็ ดั เจนย่งิ ข้นึ และคําทท่ี านตรสั ไววา
เมอื่ ยงั ไมร ูการประพฤตแิ ละประเพณีของชนในกลมุ ท้ังหลายเหลานน้ั เราอยา ไปถอื ตวั ในที่น้ัน อนั น้กี ็ชดั เจนข้ึนถงึ ที่สุด

ยานทน่ี าํ ประชาชนทั้งหลายไปสจู ดุ ประสงค กเ็ ปนยานอยา งหยาบๆ เพราะเปน ยานทน่ี ําคนทมี่ ที ุกขใ นท่ีน้ี
ไปสูทุกขใ นทน่ี น้ั อีกสวนไปเวียนมาอยูอยา งนไ้ี มร ูจบ และรูสกึ ขึน้ วาเรามาเมืองนอกได เพราะอะไรเปนเหต?ุ เพราะอะไรๆ เรา
กไ็ มไดศ กึ ษาและมาไดโดยสะดวกทกุ อยา งมีผูบริการทง้ั นนั้ เมื่อคิดๆดกู แ็ ปลกและรสู กึ ขบขันมากๆ
(เขยี นบนเครอ่ื งบนิ กําลังบนิ บนอากาศสูงสุดสองหมนื่ ฟุต)

ความรูสกึ ในเหตกุ ารณ ท่ไี ดไ ปเมอื งนอกในคราวนี้ ก็นาขบขนั เหมอื นกนั เพราะเราเห็นวา อยเู มืองไทยมานานแลว
คลา ยๆกบั พญาลิงใหคนหยอกเลนมาหลายปแลว ลองไปเปนอาจารยกบในเมอื งนอกดูสกั เวลาหนง่ึ มันจะเปน อยา งไร เพราะภาษาเขาเราไมร ู
ก็ตอ งเปน อาจารยกบอยา งแนนอน และกเ็ ปน ไปตามความคิดอยา งนัน้ กบมันไมร ภู าษาของมนษุ ย
แตพอมนั รองข้ึนแลว คนชอบไปหามนั จงั เลย

เลยเปนคนใบ สอนคนบา ไปอีกเสยี แลว ก็ดีเหมอื นกนั ปริญญาของพระพทุ ธเจา นนั้ ไมต องไปเรยี นไปสอนกบั เขาหรอก
ฉะน้นั พระใบเ ลยเปนเหตุใหไดต ั้งสาขา ๒ แหง คือกรุงลอนดอน และฝรง่ั เศส เพือ่ ใหคนบาศกึ ษากข็ บขันดีเหมอื นกนั ฯ...

วนั ท่ี ๑๙ ก.ค. ๒๕๒๐ เดนิ ทางกลบั จากกรงุ ลอนดอน สปู ระเทศไทย

การจาริกไปตางประเทศครง้ั ที่ ๒

ในการจาริกครั้งที่ ๒ นีเ้ นื่องจากหลวงพอ ไดบ นั ทึกไว ในสมุดเหมือนครง้ั แรกทา นคงพจิ ารณาเห็นวาคร้ังทห่ี นึ่งบันทึกไวข า ง
นอกเพ่อื ผอู ่ืนไดทราบผลงานจินตนาการบางอยา งของทาน เหมือนกบั เปดไฟใหมีแสงสวางหนาบา น เพ่อื เปนประโยชนแก คนทวั่ ไป
ท่ใี ครในการเดินทาง...

แตการไปครั้งที่สองของทานน้ี หลวงพอบนั ทึกไวขา งในมากกวา ผรู วบรวมจึงไมส ามารถทจ่ี ะนํามาเสนออยางละเอยี ดแกผูอ า นได
จึงมีเพยี งยอ ๆ เปรยี บเหมอื นหลวงพอ ไดเ ปด ไฟสวาง ในหอ งนอน แตแ สงสะทอ นซ่งึ สอ งออกมา กท็ ําใหผอู ยูขา งนอก
ไดรับแสงสวางสอ งทางเดนิ แหง ชวี ิตของเขาเหลา นนั้ ตามสมควรแกฐานะภาวะของตน

ดงั นนั้ จึงมชี าวสังฆทรสั ต แหง ประเทศอังกฤษ ไดตดิ ตอขอนมิ นตหลวงพอ ชา สุภทั โท ใหจาริกไปเผยแพรธรรมะทีน่ ั่นเปน ครัง้ ท่ี ๒ ในป
๒๕๒๒ หลวงพอ จึงไดออกเดนิ ทางไปตามคาํ นิมนตของเขา พรอมกบั พระปภากโรอีกคร้ังหน่ึง เมอ่ื วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๒๒ นน้ั เอง
เมอ่ื เดนิ ทางถึงประเทศอังกฤษแลว ก็ได ใหการอบรมกรรมฐาน
แสดงธรรมและสนทนาธรรมกับผูมาพบเปน จํานวนมากขน้ึ กวา การไปครั้งแรกหลายเทา นอกจากนัน้ ทานยงั ไดไปดสู ถานทีท่ ี่เขาถวาย
เพ่ือจัดต้งั เปน สํานกั ถาวรข้ึน ในที่แหงใหมน้เี ปน ธรรมชาตนิ ารืน่ รมยใ จ เหมาะสมแกก ารปฏบิ ัติธรรมอยา งยง่ิ เพราะบริเวณกวางขวางดี
รสู กึ วา ไมคบั แคบเหมือน แฮมปสะเตท ซึ่งตั้งอยูใ นใจกลางเมอื งลอนดอน ไมเพยี งพอแกจํานวนคนผูใครตอการปฏิบัตธิ รรม
สว นสถานทีแ่ หงใหมน้เี ปน ปาธรรมชาติของเมอื งหนาวมที ะเลสาบอยใู กลๆ มีตกึ เกา หลังใหญอ ยหู ลังหน่งึ ใชเปนที่พกั พาอาศยั
และประกาศสจั ธรรมของพระภกิ ษุสามเณรซึง่ ลวนเปนชาวตะวันตก ผูไดร ับการบรรพชาอปุ สมบท ไปจากวัดหนองปาพง
จึงเปนอันกลา วไดว า พระสงฆผ ูเปนลกู ศษิ ย ของหลวงพอ คณะนัน้ ไดเ ขา มาอยอู าศยั ท่แี หงใหมนเ้ี พ่อื ปฏบิ ัตธิ รรม และประกาศสจั ธรรมเรื่อยมา
คณะกรรมการของธรรมประทีป เปนเพยี งผอู ปุ ถัมภต ามสมควรแกฐ านะเทาน้ัน ปจ จบุ นั นไ้ี ดร บั ความสนใจจากชาวไทยและชาวตา งประเทศ
ใหการสนบั สนนุ เพ่มิ มากขึ้นเร่ือยๆ นบั วาทา นสุเมโธและคณะลกู ศิษย ซงึ่ เดนิ ทางไปปฏิบตั ิหนา ที่
ในนามหลวงพอ ชาแหงวดั หนองปาพงไดถา ยทอดหลกั ปฏบิ ตั ธิ รรม ใหดํารงอยใู นภาคพ้นื ตะวนั ตกนน้ั ไดอ ยางดยี ง่ิ

เมอื่ หลวงพอ ไดพ ักอยูทซ่ี สั เซค็ พอเปน ทอี่ นุ ใจแกบรรดาสานุศษิ ยแ ลวจึงกลบั มาพักท่ีแฮมปส ะเตทระยะหนงึ่ เพอื่ เตรยี มตัว
ออกเดนิ ทางไปสหรัฐอเมริกา

จาริกสูอ เมรกิ า

หลวงพอชาออกเดนิ ทางสูส หรัฐอเมริกามที า นปภากโร เปนปจ ฉาสมณะ ไดไปพักท่ีสาํ นกั กรรมฐานของนายแจค ผเู ปนศษิ ยฝร่งั
ซงึ่ เคยมาบวชอยทู ว่ี ดั หนองปาพง หลวงพอไดพกั อยู ทีส่ าํ นกั นั้นเปน เวลาเกา วัน ทานไดอบรมขอ ปฏบิ ัตกิ รรมฐานแก
ชนชาวอเมริกนั เปน จาํ นวนมาก ทาํ ใหเขาเหลา นั้นไดร บั ปต สิ ขุ เกดิ ความสนใจในหลกั ปฏบิ ตั ิตามแนวหลวงพอ สั่งสอน
แลวจงึ ออกจากแมซาชเู ทเดนิ ทางไปเมืองซีแอต เติ้ล ซง่ึ เปน บานเกดิ เมืองนอนของทานปภากโร ภิกขุ ออกจากซีแอตเต้ิลแลวเดนิ ทางเขา สูชิคาโก
แลว กเ็ ดินทางไปสูป ระเทศแคนาดา จากนัน้ กไ็ ดย อ นกลับมาทแ่ี มซาชเู ท แลวเดินทางตอไปทน่ี ครนวิ ยอรค
แตล ะสถานท่ที ่หี ลวงพอไดไปเยยี่ มนน้ั ๆ
ทา นกไ็ ดแ นะนําหลักปฏิบัติธรรมไดสนทนาธรรมและตอบปญหาแกผ ทู ่ีสนใจจนเปนท่ีซาบซง้ึ ตรึงใจของเขาเหลา นน้ั

เมือ่ หลวงพอกลบั จากสหรัฐคนื สอู งั กฤษแลว พักที่ แฮมปสะเตททานไดอยูดแู ล
การเคลือ่ นยายบรขิ ารของพระสงฆสานศุ ษิ ยเพอ่ื เดนิ ทางไปสถานท่แี หงใหม ซง่ึ เปน ทีต่ ง้ั สาํ นักดังทก่ี ลาวมาแลว นนั้
ตอ จากนน้ั ทานก็ไดเ ดินทางไปเยี่ยมบา นของ มิสเตอรซอร เศรษฐชี าวพมาอยูทโี่ อค เกน็ โฮลท ไดร ว มสังฆกรรมบวชนาคกับทานมหาสยี าดอว
ซง่ึ เปนพระเถระพมา เปน อุปช ฌาย ใหก ารอปุ สมบทกลุ บตุ ร

ตอมาหลวงพอกไ็ ดร บั นิมนตใ หเดินทางไปยังสกอ ตแลนดพกั อยูท่ีน้ันสองคืน มีผสู นใจในการปฏิบัติธรรม
ซึ่งเคยมาฝก ภาวนาธรรมกบั ทานสเุ มโธก็มีอยูไมน อ ยและมผี สู นใจคิดอยากจะใหต งั้ สาํ นกั สาขาของหลวงพอข้ึนอกี ท่นี ่นั
สักหนง่ึ แหง แตทานยังพจิ ารณาอยวู าจะมีความเหมาะสมเพียงใดหรือไม

การเดนิ ทางไปประกาศสัจธรรมในตา งประเทศของ หลวงพอ ชา สภุ ทั โท ท้งั สองครัง้ นน้ี น้ั
จึงถอื ไดว าหลวงพอ ไดนําหลกั ปฏบิ ตั ธิ รรมทางพระพทุ ธศาสนา ไปเผยแพรยังตางประเทศ ในนามของคณะสงฆแ ละปวงชนชาวไทย
ใหเปนทีร่ จู กั ของชนชาวตะวนั ตก เพอ่ื จะไดดาํ รงคงอยใู นภาคพื้นสวนนน้ั ตลอดช่ัวกาลนาน

หลวงพอ ไดเดินทางกลับคืนสูประเทศไทย เพื่อกลบั มาเปน รม โพธิ์รม ไทรของสานุศษิ ย และพทุ ธศาสนกิ ชนเมอ่ื วนั ที่ ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๒๒

หลวงพอ อาพาธ

สงั ขารรางกายของหลวงพอ ก็เกิดกอ มาจากดิน นํ้า ลม ไฟ ซึ่งมีใจครอง เหมือนเราๆทานๆนี่แหละ เม่ือสังขารผานมานานวัน
ยิง่ ใชง านมากความทรดุ โทรมกเ็ รว็ ขึ้นกวาปกติ สมัยขาพเจา มาอยูกับทา นปแ รกๆ เคยนงั่ สนทนาธรรมกบั หลวงพอต้ังแตส องทุม จนกระท่ังถึงตี
๓ ตี ๔ บางโอกาส เคยเห็นทานนงั่ สนทนาธรรม กบั ญาติโยม ผสู นใจในธรรมซึ่งเดนิ ทางมาจากถ่ินไกล จนกระทั่งถึงรงุ เชา ก็มีหลายๆคร้ัง
ชีวติ ของทา นเกิดมาเพอ่ื ผูอน่ื สมองเหน็ ประโยชนเ กอ้ื กลู แกหมมู นษุ ยผ ูมาสู แมจะออ นเพลียเม่อื ยลาสักปานใด
ทา นก็ไมแสดงออกถงึ ความออนแอใหเ หน็ เพราะอาศยั ความเมตตาเปน ท่ตี ั้ง แมล ูกศิษยจ ะอยใู นสํานักสาขาใดๆ จะไกลหรอื ใกลก ็ตาม
ทานยงั อตุ สาหเดนิ ทางไปใหกําลงั ใจและแนะนาํ การปฏบิ ัตสิ นับสนุนอยา งทว่ั ถึงแตส ังขารรางกายทกุ อยางก็มี ความ แก เจ็บ ตาย
ไปเปน ธรรมดา

ดงั นน้ั ในป ๒๕๒๐ ถงึ แมค วามผิดปกติของรางกายจะปรากฏขึ้นบาง แตเ พราะหลวงพอมงุ ประโยชนเ พอื่ สวนรวม
ทานก็ยังอดทนสูไดเดนิ ทางไปประกาศสัจธรรมในตา งประเทศถึงสองครั้ง เปนการนําธรรมโอสถจากดนิ แดนภาคตะวันออก
ไปสงเคราะหชาวตะวนั ตก ใหไ ดร บั ประโยชนอ ยางดียิง่ นคี่ อื พลงั แหงเมตตาธรรม ซงึ่ มปี ระจําอยใู นหทยั ของทา น

หลวงพอเริม่ อาพาธ และเริม่ มีอาการปรากฏขึ้นทลี ะนอยๆ จนกระท่งั ไดร ับการผา ตัดทางสมอง แตก เ็ ปนทีน่ ายนิ ดที ่ีไดมคี ณะแพทยห ลายทาน
หลายโรงพยาบาลไดถวายการรกั ษาจนสดุ ความสามารถ ซึ่งบรรดาคณะศษิ ยท ง้ั หลายขอขอบพระคณุ ไว ณ ที่นี้ และตามหนังสือรายงานแพทย
ซึง่ นายแพทยจ รัส สวุ รรณเวลา และนายแพทยสพุ ัฒน โอเจริญ แหงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ จ.กรุงเทพฯ ไดบนั ทกึ ไวว า

หลวงพอชาอายุ ๖๔ ป แข็งแรงเปนปกติดี จนเริม่ มอี าการครง้ั แรกเมอ่ื พ.ศ.๒๕๒๐ ขณะเดนิ ทางไปประเทศอังกฤษ ดว ยรสู ึกโงนเงน
การทรงตวั ไมคอ ยดี ไมเ ทาซึง่ ใชถืออยเู ปน ประจํา อยูแ ลว รสู กึ วา จาํ เปน ตอ งใชมอี าการหนกั บริเวณตนคอดว ย

ต้ังแตน ้ันมา อาการโงนเงนทรงตวั ไมค อยดี ก็เปน มาตลอด บางระยะก็เปนมาก บางระยะกน็ อ ย
พ.ศ.๒๕๒๓มอี าการคลื่นไสมกั เปน ตอนดึกๆมนี อยครงั้ ทีเ่ กดิ อาเจียนดว ย อาการโงนเงนยงั เปน เชนเดิม ไมเคยถงึ กบั ลม

พ.ศ.๒๕๒๔ ราวเดือนกรกฎาคม เรมิ่ มีอาการความจาํ ไมดี อาการโงนเงนทรงตวั ไมดี ก็ทรดุ ลง มีอาการเม่อื ย
และออนเพลียดว ยมอี าการหนักตงึ ตน คอ แตเมื่อฉันยาหมอ สมนุ ไพร อาการหนกั ตน คอนหี้ ายไป ตอนนต้ี รวจพบวาเปน เบาหวานดว ย
นายแพทยส ุเทพ และแพทยหญิงประภา วงศแพทย ไดจ ดั ยาถวาย สวนอาการอืน่ ยงั คงอยู จนถงึ กลางเดอื นกันยายน รูส ึกออ นเพลยี มากขน้ึ
และเบ่ืออาหาร นายแพทยอ ทุ ัย เจนพานชิ ย ไดตรวจคลน่ื ไฟฟาหัวใจให พบวาปกติดี

อาการทรุดมากขนึ้ ในวนั ที๑่ ๔ตลุ าคม๒๕๒๔จึงเดนิ ทางไปกรุงเทพฯ เขาโรงพยาบาลสาํ โรง ขณะน้นั ยังเดนิ เองได แตตอ งชว ยพยงุ บา ง
ไดต รวจเอกซเรยคอมพิวเตอรซาํ้ พบวา ชอ งภายในสมองขนาดเลก็ ลงกวา ครง้ั แรกจนถงึ กลางเดือนมิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๒๕
เม่ือเดินทางกลับไปยังจงั หวดั อบุ ลราชธานียงั มีอาการทรงตวั ไมค อยดี เดินตอ งพยงุ และเดินไกลๆไมได ผูดแู ลสังเกตวา ขาขา งซายยกไมคอ ยถนัด
สูขา งขวาไมไ ด ความจาํ และการพูดบางวนั ดีพอสมควร บางวนั เลอะเลือน บางระยะรสู กึ เพลียและ

ไมอยากพดู หรอื ทาํ สง่ิ ใดอาการเปน มากขึ้นในระยะ๓สปั ดาหห ลงั นี้ บางวนั เพลีย และพูดไมม เี สียง เดินไดเ พยี งระยะไมก ่ีกาว
ตองใชร ถนัง่ เข็นไปในบรเิ วณวัดวนั ละสองครั้ง อาหารฉนั ไดนอยลง

เมอื่ ป ๒๕๒๕ อาการของหลวงพอทรดุ ลง ศษิ ยจงึ อาราธนาใหหลวงพอ เขารบั การรักษาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ
พระบาทสมเดจ็ พระเจาอยูหัวฯ โปรดเกลาโปรดกระหมอ ม รับหลวงพอไวใ นพระบรมราชานุเคราะห ไดอ ยูในหองชุดพเิ ศษ ทตี่ ึกจงกลณี
อยูโรงพยาบาลนาน ๕ เดอื น มศี าสตราจารย นายแพทยจ รสั สวุ รรณเวลา ในขณะนน้ั เปนผอู าํ นวยการ
โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณเปนหัวหนา คณะแพทยถ วายการรกั ษา เม่อื อยูจ นอาการทรงและพน ระยะอนั ตรายแลวแพทยใหพยากรณโ รควา จะคอยๆ
ทรดุ ลงคณะสงฆเ หน็ พองตองกันวา ควรจะนมิ นต หลวงพอ กลบั วัดหนองปา พงทางกองทัพอากาศไดจัดเครื่องบินเที่ยวบนิ พิเศษถวาย

กอนหนาน้นั ทางวัดไดจ ัดสรางกุฏิหลังใหมไวค อยทา ดวยพระราชทรพั ยของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูห ัวฯ ท่โี ปรดเกลา
โปรดกระหมอมพระราชทานใหสวนหนง่ึ คณะศษิ ยทีเ่ คยอุปฏ ฐากสมาํ่ เสมอโดยตลอด ไดรว มสมทบโดยเสดจ็ พระราชกุศลดว ยอกี สวนหน่งึ
ไดอ อกแบบใหคลายไอซียู ในบริเวณปา ของวดั สรางเปนตึกช้นั เดียว หลังเล็ก จัดใหม ีท่ที างที่สะดวกกับการถวายการ อุปฏ ฐาก
และมเี ครอื่ งมอื แพทยทจ่ี ําเปนตองใช จงึ เอือ้ อาํ นวยใหถวายการดูแลไดใ กลเ คยี งกบั เมอ่ื อยูในโรงพยาบาล มแี พทยจ ากโรงพยาบาลสรรพสิทธ์ิ
ประสงคม าถวายตรวจอาการเปน ประจาํ ทุกวนั บุรุษพยาบาลเปลีย่ นเวรกนั มาเฝา
คณะพยาบาลเออ้ื เฟอ ใหความสะดวกเตม็ ทีแ่ ละพระอาจารยเลี่ยม ิตธมโฺ ม
จดั เวรพระสงฆศิษยหลวงพอทงั้ ในวัดหนองปา พงและตามสาขาตางๆ ใหเ ขา เวรวนั ละ ๒ ผลัดๆละ ๔ องค และสามเณรอีก ๑ รปู มิไดขาด
จนมีผูกลาว วา มหาเศรษฐกี ็มิอาจจะจางบุรุษพยาบาลไดถ งึ วันละ ๑๐ คน หรือผูมบี ุตร ๑๒ คน
เมอื่ ปวยก็ไมแนใจวาจะไดล กู มาดแู ลอยา งดเี ทา หลวงพอ ทั้งน้เี พราะหลวงพอ เปนผูเปย มดวยเมตตา เปน ทรี่ กั และเคารพของบรรดาศิษย
พระที่เขา เวรปฏบิ ตั ิหลวงพอนั้นตา ง ถวายแรงกาย แรงใจ และอทุ ิศเวลาใหห ลวงพอเปน ปฏบิ ัตบิ ูชา ตอผูมพี ระคณุ ย่ิงกวา บดิ าบังเกดิ เกลา
คณะชีกผ็ ลดั เวรกันมาประกอบอาหารเหลวตามทโี่ ภชนากรแนะใหท ุกวันมิไดขาดเลย
เม่อื ถงึ ระยะท่ีหลวงพอ มอี าการสําลักบอยข้ึนขณะใหอ าหารทางปาก แพทยเหน็ สมควรใหเปลยี่ นใหท างสายยางลงกระเพาะเพ่อื ปอ งกัน
โรคปอดบวมแทรกจากการสําลกั อาหารหรือเสมหะ พระอุปฏฐาก กเ็ รยี นวธิ ใี สสายยางจนชาํ นาญมกี ารซอ มใสต นเองกอน
ดว ยความหวงั ที่จะลดความระคายเคอื งตอเนือ้ เยอื่ ในหลอดคอ
และหลอดอาหารของหลวงพอในการใสแ ตละครง้ั ใหเหลอื นอ ยที่สุดเทาทีจ่ ะทาํ ได นอกจากน้ที านยังเรยี นวธิ ตี รวจเลอื ด ตรวจปส สาวะ
เพือ่ ดรู ะดบั น้ําตาลเพอ่ื บันทึกและรายงานตอแพทยแ ละปรับขนาดยา ตามสง่ั ไดถกู ตองแมห ลวงพอจะอาพาธนานนบั ปแ ตผิวพรรณกด็ ูผองใส
และไมเคยมแี ผลกดทบั อยา งผูปวยเรือ้ รังสวนใหญ

มผี กู ลาววาการทห่ี ลวงพออยเู ปน ขวัญใหลูกศษิ ยห ลายปนน้ั มผี ลใหพ ระสงฆเจรญิ ในธรรมและสามคั คี รว มแรง รวมใจ
เรง ปฏบิ ัตบิ ชู าแดห ลวงพอ ทําใหเ กิดมีสาขาตา งๆเพม่ิ ขึ้นท้งั ในและนอกประเทศ นอกจากน้ยี ังมกี ารรวบรวมเทปเทศนาของหลวงพอ
ถอดความออกมาเปน หนังสือแจกญาตโิ ยมไดมากมายหลายเรอ่ื ง ยังผลใหฆราวาส ผสู นใจในคาํ สอนของหลวงพอ มงุ ปฏบิ ตั ิธรรมมากข้นึ

มคี นเปนหมูคณะมากราบเยย่ี มหลวงพอ เปน ประจําทกุ วนั จนตอ งกาํ หนดเวลาเยี่ยมในภาคเชาและเยน็ เพอื่ มิใหเ ปนการรบกวน
หลวงพอมากเกินไป พระอปุ ฏฐากจะเขน็ รถออกมาใหญาติโยมไดก ราบตามเวลาทก่ี าํ หนด
รถเข็นนี้เปนรถท่ีสงั่ ประกอบพเิ ศษจากประเทศอังกฤษมีการวดั สดั สว นของหลวงพอ สง ใหเ ขา (ทาํ นองเดียวกับการวดั ตวั ตัดเส้อื )
จึงใชไดดมี ีท่ีพยงุ คอ แขนขาในสัดสว นท่เี หมาะเจาะ ผทู ไ่ี มเคยมากราบเย่ียมอาจเขาใจผิดวาหลวงพอทา นน่งั ไดเ อง และไมไดเปนอมั พาต

สําหรับโอสถท่ีใชเปนประจาํ สวนใหญเ บกิ ไดจ าก โรงพยาบาลสรรพสิทธิป์ ระสงค โอสถพิเศษท่ีไมม ีในจ.อบุ ลฯ
กส็ ง่ั มาท่โี รงพยาบาลจฬุ าลงกรณซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจาอยูห วั พระราชทานใหอยใู นพระบรมราชานเุ คราะหเสมอมา

ตั้งแตป ๒๕๓๐ คณะพระสงฆท ั้งวดั ปานานาชาติ ซ่ึงเปน ชาวตา งประเทศ มาเย่ียมถวายสักการะหลวงพอ ทุกวนั
พระเปนประจํามอี บุ าสกอุบาสกิ าโดยสาร รถสองแถวมาดวยเสมอ พากันมาสวดมนตบ ทสาํ คัญๆ เชน วปิ สนาภมู ิ และโพชฌงค เปนตน
ถวายหลวงพอ เปน ภาพทีป่ ระทับใจแกผมู าพบเห็นเปน อยา งยิ่ง ตอมาเมอื่ มคี ณะผปู ฏิบัติธรรมจากกรุงเทพฯมา กม็ กี ารสวดทําวัตร
ถวายหลวงพอ ดวยเปน ครงั้ คราว

ระยะตอ มา หลวงพอ อาการหนักเปนพกั ๆ มกั จะเปน ระยะ ทอ่ี ากาศเปล่ียนแปลงราวเดือนตลุ าคม-พฤศจิกายน
หลวงพอ ตอ งเขารบั การรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธปิ์ ระสงคตองเจาะคอเมอื่ เมษายน ๒๕๓๑ เพ่อื ใหด ูดเสมหะไดง ายขน้ึ

อาการของหลวงพอ ทรดุ ลงชา ๆ ตามวัยและสงั ขารทเ่ี สอื่ มลงไป
เหมือนกบั หลวงพอสาธติ ใหศ ษิ ยเ ห็นภัยในวัฏสงสารเหน็ ความเสื่อมไปสน้ิ ไปของสังขารวา เรามคี วามแก ความเจ็บไขเ ปนธรรมดา
ไมมใี ครจะลวงพนความแก ความเจ็บไขไ ปได พระอุปฏฐากเลา วา แมหลวงพอจะไมไ ดแ สดงธรรมเทศนา แตก ไ็ ดเรียนธรรมจากหลวงพอ เสมอ

เน่อื งจากหลวงพอไปเขาไอซยี ู ของโรงพยาบาล สรรพสิทธป์ิ ระสงคอยบู อยๆ
จึงมีผูป รารภใหคณะศษิ ยรวมสมทบทนุ สรางตึกไอซีย.ู ใหแ กโรงพยาบาล
ขณะนกี้ ็ยังดําเนินการสรางอยูยังไมแ ลวเสรจ็ เขาใจวา ยงั ขาดงบทจ่ี ะซ้ืออปุ กรณอ กี

มกราคม ๒๕๓๕ หลวงพอ หอบมากจงึ ตองเขา โรงพยาบาลอีก แพทยวินิจฉัยวา หวั ใจวาย ตอมามีอาการไตวายแทรกดวย
แพทยใหการรักษาเตม็ ท่ีอาการไมดขี น้ึ คนื วันท่ี ๑๕ มกราคม หลงั จากที่ทราบวาอาการของหลวงพอทรุดลงเรื่อยๆ
คณะสงฆเ หน็ สมควรนิมนตห ลวงพอกลับวัด เชาวนั ท่ี ๑๖ มกราคม เวลา ๕.๒๐ น. หลวงพอ กล็ ะสังขารไปอยา งสงบ จากไปอยา ง
ครผู ูยิ่งใหญในวนั ครู

ระยะนน้ั เปน ระยะทก่ี ารกอสรา งในวัดสวนใหญส าํ เรจ็ แลว และพระสงฆต า งชาตกิ าํ ลงั อบรมกรรมฐานกันทีว่ ัดปาวนโพธญิ าณ
มีพระอาจารยส เุ มโธศษิ ยฝ รงั่ องคแ รกของหลวงพอ เปน ผอู บรมธรรมอยู สว นพระสงฆไ ทยกเ็ ตรยี มจะประชมุ กนั ในเวลาอนั ใกลก นั นัน้
ศษิ ยจ ึงตา งเตรยี มพรอ มทีจ่ ะมาชุมนมุ กันทีว่ ัดหนองปาพง อยแู ลว เมอื่ ทราบขาวหลวงพอจึงมากนั อยา งพรอ มเพรยี งกันมากราบ
สกั การะรางของหลวงพอ ทท่ี อดลงสอนศษิ ยเ ปนคร้งั สุดทาย และตางพากนั ปฏบิ ตั ิบชู าหลวงพอ อยา งเขมแข็ง

ธรรมปฏิสนั ถาร

นาํ ธรรมะมาฝาก

อาตมาดใี จทโ่ี ยมไดมาเยี่ยมพระลกู ชาย และพกั อยูท ว่ี ดั หนองปาพง อกี ไมก ีว่ นั ก็จะกลบั ไปแลว เลยถอื โอกาสมาแสดงความดใี จ
แตกไ็ มม ีอะไรจะฝาก วัตถุสง่ิ ของอะไรท่ีประเทศฝรงั่ เศสนน้ั ก็มมี ากมายอยูแ ลว แตธ รรมะทจี่ ะบาํ รุงจิตใจของเราใหสงบระงบั
ดูเหมือนจะไมค อ ยมเี ทา ไร
อาตมาไปสังเกตการณแ ลว เหน็ มแี ตเร่ืองที่จะทําใหเ ราวุนวายยงุ ยากลาํ บากตลอดกาลตลอดเวลา เจริญไปดว ยวัตถหุ ลายอยางเปนกามารมณ
มรี ปู มเี สียง มีกลน่ิ มรี ส มโี ผฏฐพั พะ ธรรมารมณเปน ที่ย่ัวยวนของบคุ คลทไี่ มร จู ักธรรม ใหม ีความวนุ วายมาก
ฉะนนั้ จงึ จะขอฝากธรรมะเพือ่ ไปปฏบิ ตั ิทีป่ ระเทศฝรง่ั เศส เมอื่ จากวัดหนองปา พงและวดั ปานานาชาติไปแลว
สภาวะทตี่ ัดปญ หาและความยุงยากของชีวติ
ธรรมะนเ้ี ปน สภาวะอนั หน่งึ ซงึ่ จะตดั ปญหาความยุงยากลําบากในใจของมนุษยทัง้ หลายใหนอยลง จนกระทงั่ หมดไป สภาวะอันนเ้ี รียกวาธรรม
เราควรจะศกึ ษา เอาไปศกึ ษาในชีวติ ประจําวันและประจาํ ชวี ิต เม่อื มอี ารมณอ นั ใดมากระทบกระทง่ั เกดิ ขนึ้ จะไดแ กป ญหามันได
เพราะปญหานี้มีทุกคน ไมเ ฉพาะวา เมอื งไทยหรอื เมืองนอก มนั มีทุกแหง ถาคนไมรจู กั แกปญ หาแลว กม็ คี วามทกุ ขค วามเดอื ดรอนเปน ธรรมดา
เม่อื ปญ หาเกดิ ข้ึนมาแลว หนทางที่จะแกไขมันกค็ ือปญญา สรางปญญา อบรมปญญา คอื ทาํ ปญ ญาใหเกิดขน้ึ ในจิตใจของเรา
สาํ หรับขอ ประพฤติปฏบิ ัตินัน้ ก็ไมมีอะไรมากอน่ื ไกล อยใู นตวั ของเราน่ีเอง มีกายกบั ใจ คนเมอื งนอกก็เหมอื นกนั คนเมอื งไทยก็เหมือนกนั
มกี ายกบั ใจเทา นัน้ ทวี่ นุ วาย เปนผวู ุนวาย ฉะนนั้ ผูสงบระงับตอ งมกี ายกบั ใจสงบ

ความเปนจริงน้ัน ใจของเรามันเปน ปกตอิ ยู เปรยี บเหมอื นนํา้ ฝน เปนน้ําสะอาด มคี วามใสสะอาดบริสทุ ธิเ์ ปน ปกติ
ถา หากเราเอาสีเขียวใสเขาไป เอาสีเหลอื งใสเ ขาไป น้ํากจ็ ะกลายเปนสเี ขยี ว สีเหลืองไป จิตเรานกี้ ็เหมือนกนั เม่อื ไปถูกอารมณทชี่ อบใจ ใจก็ดี
ใจก็สบายเมอ่ื ถกู อารมณไ มช อบใจแลว ใจน้ันก็ขนุ มวั ไมส บาย เหมือนกันกับนํา้ ท่ถี ูกสีเขียว กเ็ ขียวไป ถกู สเี หลือง กเ็ หลอื งไป
เปลย่ี นสไี ปเรอ่ื ย

ความเปนจริงน้นั น้ําที่มนั เขียว มันเหลือง ปกตขิ องมันกเ็ ปน นาํ้ ใสสะอาดบรสิ ทุ ธิ์ คอื นา้ํ ฝน ปกตขิ องจติ เรานีก้ เ็ หมอื นกนั เปน จติ ทีใ่ สสะอาด
เปนจติ ท่ีมปี กตไิ มวุนวาย ท่ีจะวนุ วายนน้ั เพราะมนั เปน ไปกบั อารมณ มันหลงอารมณ พดู ใหเ หน็ ชัด
อยางขณะน้ีเราน่งั อยูในปา มีความสงบเหมอื นกันกบั ใบไม ใบไมน้นั ถาไมม ีลมพดั มนั กน็ ิง่ สงบระงบั อยู ถา มลี มมาพัด
ใบมนั ก็กวดั แกวงไปตามลม

จิตใจนก้ี เ็ หมือนกนั ถา อารมณม าถกู มันก็กวัดแกวงไปตามอารมณ ย่งิ มันไมร ูเรื่องธรรมะแลว กย็ ิ่งปลอยไปตามอารมณข องเจา ของไป
อารมณสุขกป็ ลอยตามไป อารมณท กุ ขก ป็ ลอ ยตามไปวนุ วายไปเรื่อยๆ จนชาวมนุษยทัง้ หลายเกดิ เปน โรคประสาทเพราะไมร ูเ รื่อง
ปลอยไปตามอารมณ ไมร ูจักตามรกั ษาจติ ของเจา ของ จติ ของเรานเ้ี มื่อไมม ใี ครตามรักษา มันกเ็ หมอื นคนๆหนง่ึ ท่ปี ราศจากพอแมท จ่ี ะดูแล
เปน คนอนาถา คนอนาถาน้ันเปนคนทีข่ าดทีพ่ ่ึง คนที่ขาดทพี่ ่ึงก็เปนทุกข จติ นก้ี เ็ หมือนกนั ถาหากขาดการอบรมบม นิสัย
ทําความเห็นใหถ กู ตอ งแลว จิตนก้ี ล็ าํ บากมาก

กรรมฐานเปน การทําจิตใหส งบ

ในทางพทุ ธศาสนา การทําจติ ใหส งบระงบั น้ี ทานเรียกวา การทํากรรมฐาน ฐาน คอื เปนทีต่ ัง้ กรรม
คือการงานท่ีเราจะตองทําขน้ึ ใหมีกายเราเปนสวนหนึ่ง จติ เราเปน อกี สวนหนึ่ง มสี องอยา งเทา นั้นแหละ กายนี้เปน สภาวธรรม
เปนรปู ธรรมทเี่ รามองเห็นไดด ว ยตาของเรา จิตเปนสภาวธรรมอันหนึ่ง เปนนามธรรมซ่งึ ไมม ีรูป มองดวยตาไมได แตเ ปนของมีอยู
ตามภาษาสามัญก็เรียกวา กายกับใจ กายเรามองเห็นไดดวยตาเน้อื จติ มองเห็นไดดว ยตาใน คอื ตาใจ มีอยูสองอยา งเทา นั้น มันวุนวายกนั

ฉะนน้ั การฝก จติ ท่ีจะฝากโยมวนั น้ี ก็คือเรอ่ื งกรรมฐาน ใหไ ปฝกจติ เอาจิตพิจารณากาย จิตนี้คืออะไร? จิตมันกไ็ มคอื อะไร มนั ถูกสมมติวา คอื
ความรูส กึ ผูทรี่ สู กึ อารมณ ผูท ่รี ับรอู ารมณทง้ั หลายในท่ีน้เี รยี กวาจิต ใครเปน ผรู บั รู ผูรับรูนน้ั ถูกเขาเรียกวา "จิต" รับรอู ารมณท ่สี ขุ บา ง
อารมณท ี่ทกุ ขบ า ง อารมณด ใี จบาง อารมณเ สยี ใจบาง ใครมภี าวะที่จะรับรูอารมณเ หลา นี้ ทา นเรยี กวาจิต

อยา งเชน อาตมาพดู ใหฟง ขณะนี้ จติ เรายังมี จติ รบั รวู า พดู อะไรอยา งไร มนั เขา ไปทางหู รูว าพดู อะไร เปนอยา งไร กร็ จู ัก
ผูรบั รนู ี้เรียกวา จติ จิตเปนผรู ับรอู ารมณ

จติ ไมมีตัวจิตไมมีตน จิตไมม รี ปู จติ เปนผูร บั รูอารมณเ ทา นัน้ ไมใ ชอ ื่น ถาหากวา เราสั่งสอนจติ อันนีใ้ หม คี วามเหน็ ทถี่ กู ตองดแี ลว
จติ นกี้ จ็ ะไมมปี ญ หา จิตก็จะสบาย จิตกเ็ ปนจติ อารมณกเ็ ปนอารมณอารมณไ มเ ปนจติ จติ ไมเ ปน อารมณ เราพิจารณาจิตกับอารมณนใี้ หเห็นชดั
จิตเปนผรู บั รูอารมณท ่จี รเขามา จิตกบั อารมณส องอยางนมี้ ากระทบกนั เขา ก็เกดิ ความรสู กึ ทางจติ ดีบาง ชว่ั บา ง รอ นบาง เยน็ บาง สารพดั อยาง
ทีนี้เมอื่ เราไมมปี ญญาแกไข ปญหาทง้ั หลายเหลานีก้ ท็ าํ จติ ของเราใหย ุง

ลมหายใจเปน มงกฏุ กรรมฐาน

การทาํ จติ ข องเราใหมรี ากฐาน คือ กรรมฐาน เอาลมหายใจเขา ออกเปน รากฐาน เรยี กวา อานาปานสติ
ทนี ้จี ะยกเอาลมเปน กรรมฐานเปนอารมณ การทํากรรมฐา นมีหลายอยา งมากมาย มันก็ยากลําบากเอาลมน้ีเปน กรรมฐานดกี วา
เพราะวาลมหายใจนีเ้ ปน มงกุฏกรรมฐานมาแตค ร้ังดึกดาํ บรรพม าแลว พอเรามีโอกาสดีๆ เราเขา ไปนงั่ สมาธเิ อามือขวาทับมอื ซา ย
เอาขาขวาทบั ขาซาย ต้งั กายใหตรง แลวกน็ กึ ในจติ ของเราวา บัดน้ี เราจะวางภาระทกุ ส่งิ ทกุ อยางใหห มดไป ไมเอาอะไรมาเปนเครอ่ื งกังวล
ปลอ ย... ปลอ ยใหห มด แมจ ะมธี ุระอะไรอยมู ากมายกป็ ลอ ย ปลอ ยทิง้ ในเวลานน้ั สอนจติ ของเราวา จะกาํ หนดตามลมอันน้ี
ใหม คี วามรสู กึ อยูแตอ ารมณอ นั เดียว แลวก็หายใจเขา หายใจออก

 การกําหนดลมหายใจน้นั อยา ใหม ันยาว อยา ใหมันสัน้ อยาใหมันคอ ย อยา ใหมนั แรง ใหมนั พอดๆี
 สติ คอื ความระลึกได สมั ปชญั ญะ คือความรูตัวอนั เกิดจากจิตนนั้ ใหรูวาลมออก ใหร วู า ลมเขา สบาย ไมต อ งนึกอะไร

ไมตอ งคดิ ไปโนน ไมต อ งคดิ ไปน่ี ในเวลา

ปจจุบนั นี้ เรามหี นาท่ที จ่ี ะกําหนดลมหายใจเขา ลมหายใจออกอยางเดยี ว ไมม ีหนาที่ท่จี ะไปคดิ อยางอ่ืนใหมสี ตคิ วามระลึกไดตามเขา ไป
และสัมปชัญญะความรตู วั วา บัดน้ี เราหายใจอยู เม่อื ลมเขา ไป ตนลมอยูปลายจมกู กลางลมอยหู ทัยปลายลมอยูสะดอื เมอ่ื หายใจออก
ตน ลมอยูสะดอื กลางลมอยูหทยั ปลายลมอยูจมูก ใหร สู กึ อยา งน้ี

 หายใจเขา :- ๑. จมูก ๒. หทยั ๓. สะดอื
 หายใจออก :- ๑. สะดือ ๒. หทยั ๓. จมู

กาํ หนดอยสู ามอยางนี้ หายความกงั วลหมด ไมตอ งคดิ เรอ่ื งอื่นกาํ หนดเขาไปใหร ูตน ลม กลางลม ปลายลม สมา่ํ เสมอ
แลวตอ น้ันไปจติ ของเราจะมีความรูสกึ ตนลม กลางลม ปลายลม ตลอดเวลา

เมอื่ ทําไปเชนนี้ จิตอันควรแกก ารงานก็จะเกิดขนึ้ กายก็ควรแกการงาน การขบเม่อื ยทง้ั หลายจะคอยๆหายไปเร่ือยๆ กายกจ็ ะเบาขึน้
จติ กจ็ ะรวมเขา ลมหายใจกจ็ ะละเอียดเขา นอยลงๆ เราทาํ แบบน้ีเรื่อยๆ จนกวาจติ มนั จะสงบระงับลงเปนหนึ่ง

การทาํ จติ ใหสงบเปน "หน่ึง"

เปน "หนึ่ง" คือ จิตมันจะฝกใฝอ ยกู ับลม ไมแ ยกไปท่ีอื่นไมว ุน วาย ตนลมก็รจู กั กลางลมกร็ จู ัก ปลายลมก็รจู กั เมื่อจติ สงบระงบั แลว
เราจะรูอยแู ตตน ลม ปลายลมกไ็ ด ไมตอ งตามลงไป เอาแตปลายจมกู วามันออก มันเขา จิตเปน หนงึ่ อยกู ับลมหายใจเขาออกอันเดียวตลอดไป

การทําจติ เชน น้ี เรยี กวาทาํ จิตใหส งบ ทาํ จติ ใหเกิดปญ ญา อันนเ้ี ปน เบ้อื งตน เปนรากฐานของกรรมฐาน ใหพ ยายามทําทุกวนั ทุกวนั
จะอยทู ่ีไหนกไ็ ด จะอยบู านก็ได จะอยใู นรถก็ได อยูในเรือก็ได นัง่ อยกู ็ได นอนอยูก ็ได ใหเ รามสี ตสิ มั ปชญั ญะควบคมุ อยตู ลอดกาลตลอดเวลา
อนั นเี้ รียกวาการภาวนา

อิริยาบถของการภาวนา

การภาวนาน้ี ทาํ ไดใ นอริ ยิ าบถ ทง้ั นีไ่ มใ ชวา จะนง่ั อยา งเดยี ว จะยนื ก็ได จะนอนกไ็ ด จะเดนิ กไ็ ด ขอแตใ หเรามีสติ กําหนดอยเู สมอวา
บัดน้จี ิตใจของเราอยูใ นลักษณะอยา งไร มีอารมณอ ันใดอยจู ติ เปนสุขไหม จติ เปนทกุ ขไ หม จติ วุนวายไหม จิตสงบไหม ใหเรารูเหน็ อยางน้ี
หมายความวา ใหร ูจกั ความรับผิดชอบของจติ อยูตลอดเวลา นเ้ี รยี กวา การทาํ จติ ของเราใหสงบ

เมอื่ จติ สงบกเ็ กิดปญ ญา

เมื่อจิตสงบแลว ปญญามนั จะเกิด ปญญามนั จะรู ปญ ญามันจะเห็น เอาจติ ทส่ี งบพิจารณารา งกายของเรา ตงั้ แตศ ีรษะลงไปหาปลายเทา
ต้ังแตปลายเทาขนึ้ มาหาศีรษะ พิจารณากลบั ไปกลับมาอยูเ รือ่ ย ใหเห็นเกสา โลมา นะขา ทนั ตา ตะโจ เปนกรรมฐาน
ใหเ หน็ วา รปู รา งกายทง้ั หลายน้ี มีดิน มนี ้าํ มลี ม มไี ฟ กลมุ ทง้ั สก่ี ลมุ น้ี ทานเรียกวา กรรมฐาน เรียกวา ธาตุ ธาตดุ นิ ธาตนุ ํ้า ธาตุไฟ ธาตุลม
มาประชุมกนั เขา เรยี กวา มนษุ ย เรยี กวาสตั ว

พิจารณากายของเราอนั ประกอบดว ยธาตุ

พระบรมศาสดาของเราทา นทรงสอนวา อนั นส้ี ักแตวาธาตุเทานนั้ อวยั วะรางกายของเรา ส่งิ ทข่ี นแข็ง เปน ธาตุดนิ
สิ่งท่มี ันเหลวไหลเวยี นไปในรา งกาย ทา นเรยี กวา ธาตนุ ้าํ ลมพดั ขึ้นเบอื้ งบนลงเบือ้ งตํา่ ทานเรียกวา ธาตลุ ม ความรอ นอบอุนในรา งกาย
ทานเรยี กวาธาตุไฟ คนคนหน่ึง เมื่อแยกออกแลว มสี ีอ่ ยา ง น้ีเทา น้นั คือ มีดนิ น้ํา ลม ไฟ สัตวไ มมี มนุษยไมม ี ไทยไมมฝี รัง่ ไมม ี
เขมรไมม ีญวนไมมี ลาวไมม ี ไมมใี คร มีดนิ มีนาํ้ มไี ฟ มลี ม เทาน้นั ท่เี ปนอยูแลว สมมติวาเปน บคุ คลเปน สัตวข ้ึนมา

ชวี ติ รางกาย เปน อนิจจัง

ความเปนจรงิ ไมม อี ะไร ดินก็ดี น้าํ ก็ดี ลมก็ดี ไฟก็ดี ท่ีประกอบกนั เรยี กวามนษุ ยน ้ี เปนไปดว ยอนิจจงั ทกุ ขงั อนัตตา คอื เปนของไมแนน อน
เปน ของไมย ่งั ยืน เปนของหมุนเวียนเปลี่ยนไปแปรไป อยอู ยางน้ี ไมยัง่ ยืนอยูกับท่ี แมแ ตว ารา งกายของเราก็ไมแนไ มนอน
เคล่อื นไหวไปมาอยูเสมอ เปลีย่ นไป ผมก็เปล่ยี นไป ขนก็เปล่ียนไป หนงั กเ็ ปล่ียนไป สารพัดอยา งมันเปล่ียนไป เปลีย่ นไป เปล่ียนไปหมด

จิตใจของเราน้กี ็เหมือนกัน มันกไ็ มใชต ัว ไมใ ชตน ไมใ ชเราไมใ ชเ ขา ทค่ี ดิ ไปสารพดั อยา ง มนั ไมแนนอน บาทีคดิ ฆา ตวั ตายเลยกไ็ ด
บางทีคดิ สุขก็ได บางทีคดิ ทุกขก็ได ถา เราไมม ีปญญา เราก็ไปเชื่อจติ อนั น้ี มันก็โกหกเราเรอื่ ยไป เปนทกุ ขบ าง เปน สุขบาง สลบั ซบั ซ อนกันไป

จิตและกายเปนอนจิ จงั ทุกขัง อนตั ตา

จิตนี้มันก็เปน ของไมแ นน อน กายนก้ี ็เปนของไมแ นนอน รวมแลวเปน อนจิ จัง รวมแลว เปน ทกุ ขัง รวมแลวเปนอนัตตา สิ่งทงั้ หลายเหลา น้ี
พระบรมครขู องเราทานวา ไมใชส ตั ว ไมใ ชบ ุคคล ไมใชต วั ไมใชตน ไมใ ชเ รา ไมใชเ ขา เรียกวา ธาตุ คอื ดิน น้ํา ลม ไฟ เทา นน้ั เอง

เอาจติ ของเราพจิ ารณาลงไปใหมันเหน็ ชดั เมื่อมนั เหน็ ชดั แลวอุปาทานทีถ่ ือวา เราสวยบาง เรางามบาง เราดบี า ง เราชัว่ บาง เรามบี า ง
เราอะไรๆหลายอยา ง มันกถ็ อนไป ถอนไปเห็นสภาวะอนั เดยี วกัน เห็นมนษุ ยส ตั วท ้ังหลายเปน อนั เดยี วกัน เหน็ ไทยเปนอนั เดยี วกนั กับฝรง่ั
เหน็ ฝร่ังเปน อันเดยี วกันกับไทย เม่อื จติ เราเหน็ เชนน้ี มนั กถ็ อนอปุ าทานความยดึ ม่นั ออกจากจิตใจของเรา

เมื่อจติ เหน็ ธรรม โลภ โกรธ หลง กล็ ดนอยลง

เม่อื พิจารณาเห็นอนจิ จัง ทกุ ขัง อนตั ตา แลว มนั ก็นา สังเวชถอนอปุ าทานออกแลว ไมไดไปยดึ วาเปน ตัว วาเปนตน วา เปน เรา วา เปน เขา
จติ ใจเห็นเชนนี้ มันก็เกิดนิพพทิ า ความเบ่ือหนาย คลายความกาํ หนัด คอื เห็นวามนั เปน ของไมเที่ยง เปนทุกข เปน อนัตตา
แลว จิตใจของเราก็หยดุ จิตใจเราก็เปน ธรรมะ ราคะกด็ ี โทสะก็ดี โมหะก็ดี มนั กล็ ดนอยถอยลงไปทกุ ทๆี ผลท่สี ดุ เหลือแตธรรม
คือจิตนเ้ี ปนอยเู ทานนั้ น้ีเรียกวา การทํากรรมฐาน

หนทางท่ีถูกตอ งทคี่ วรพิจารณา

ฉะนั้น จงึ ขอฝากโยมเอาไปพิจารณา เอาไปศึกษาประจาํ วันประจาํ ชวี ิต เอาไวเปน มรดกตดิ ตัวสบื ไป โยมเอาไปพิจารณาแลว ใจก็จะสบาย
ใจก็จะไมว ุน วาย ใจก็จะสงบระงับ กายวุนวายกช็ างมัน ใจไมว นุ วาย เขาวุนวายในโลก เราไมว นุ วาย ถึงความวุนวายในเมอื งนอกมากมาย
เรากไ็ มว ุนวาย เพราะจติ เราเห็นแลว เปนธรรมะแลว อนั น้ีเปนหนทางทดี่ ี ท่ถี ูกตอ ง ฉะนัน้ จงจาํ คําสอนนี้ไวตอๆไป

ธรรมะกับธรรมชาติ

Audio : http://www.dhammatarn.com/fungdham/sound/cha/046b.wma

บางครงั้ ตนผลไม อยางตนมะมวงเปน ดอกออกมาแลว บางทีถูกลมพัด มันกห็ ลนลง แตย งั เปน ดอกอยา งน้ันก็มี
บางชอเปนลูกเลก็ ๆลมกม็ าพดั ไป หลนท้งิ ไปกม็ ี บางชอ ยงั ไมไดเ ปนลูก เปน ดอกเทานนั้ ก็หกั ไปก็มี
คนเรากเ็ หมอื นกนั บางคนตายตงั้ แตอ ยใู นทอง บางคนคลอดจากทองอยไู ดส องวัน ตายไปก็มี หรอื อายเุ พยี งเดอื นสองเดอื น สามเดอื น
ยงั ไมท นั โต ตายไปกม็ ีบางคนพอเปนหนุม เปน สาวตายไปกม็ ี บางคนก็แกเฒาแลว จึงตายก็มี
เมื่อนึกถงึ คนแลว ก็นึกถึงผลไม ก็เห็นความไมแ นน อน แมนกั บวชเรากเ็ หมือนกัน บางทยี งั ไมท ันไดบวชเลย ยังเปนเพียงผาขาวอยู
ก็พาผา ขาวว่งิ หนไี ปกม็ บี างคนโกนผมเทาน้นั ยงั ไมไดบวชขาวดวยซาํ้ กห็ นีไปกอนแลว กม็ ี บางคนกอ็ ยไู ดส ามสเี่ ดอื นก็หนไี ป
บางคนอยถู ึงบวชเปน เณรเปน พระ ไดพ รรษาสองพรรษาก็สกึ ไปกม็ ี หรือสี่หาพรรษาแลวกส็ กึ ไปก็มี เหมือนกับผลไมเ อาแนน อนไมไ ด
ดอกไมผ ลไมถกู ลมพัดตกลงไปเลยไมไ ดสุก จิตใจคนเรากเ็ หมือนกนั พอถกู อารมณม าพดั ไป ดงึ ไป กต็ กไปเหมอื นกับผลไม

พระพุทธเจาทา นกท็ รงเหน็ เหมือนกนั เห็นสภาพธรรมชาติของผลไม ใบไม แลวก็นึกถงึ สภาวะของพระเณรซ่งึ เปน บริษัท
บริวารของทานกเ็ หมือนกนั มนั เปน ของมนั อยูอยา งน้ัน ยอ มจะเปลย่ี นเปนอยางอนื่ ไมไ ด ฉะนั้นผปู ฏิบัติถามีปญ ญา
พจิ ารณาดอู ยกู ็ไมจ าํ เปน ทีจ่ ะตอ งมคี รอู าจารยแ นะนาํ พราํ่ สอนมากมาย

พระพทุ ธเจาของเรา ทีจ่ ะทรงผนวชในพระชาตทิ เ่ี ปน พระชนกกุมารนั้น
ทา นก็ไมไดศกึ ษาอะไรมากมายทา นไปทรงเหน็ ตน มะมวงในสวนอุทยานเทา นัน้ คือวนั หนึง่ พระชนกกมุ ารไดเสดจ็ ไปชมสวนอทุ ยานกับ
พวกอํามาตยทัง้ หลาย ไดท รงเหน็ ตนมะมว งตนหนงึ่ กําลังออกผลงามๆมากมาย ก็ต้ังพระทยั ไวว า ตอนกลับจะแวะเสวยมะมวงน้ัน

แตเ มื่อพระชนกกมุ ารเสดจ็ ผานไปแลว พวกอํามาตยก็พากนั เกบ็ ผลมะมว งตามใจชอบ ฟาดดวยกระบองบา ง แสบ าง เพ่ือใหกงิ่ หกั ใบขาด
จะไดเกบ็ ผลมะมวงมากิน

พอตอนเย็น พระชนกกุมารเสด็จกลบั กจ็ ะทรงเก็บมะมวง เพ่ือจะลองเสวยวา จะมีรสอรอ ยเพยี งใด แตก็ไมมมี ะมว งเหลอื เลยสักผล
มีแตต น มะมวงที่ก่งิ กานหกั หอ ยเกะกะ ใบกข็ าดว่ิน เมอ่ื ไตถาม กท็ รงทราบวาพวกอาํ มาตยเหลา น้นั ไดใ ชกระบอง
ใชแ สฟ าดตน มะมวงนั้นอยา งไมป รานี เพื่อทีจ่ ะเอาผลของมันมาบรโิ ภคฉะนน้ั ใบของมนั จึงขาดกระจัดกระจาย กง่ิ ของมนั ก็หัก หอยระเกะระกะ

เม่ือพระองคท รงมองมะมวงสักตน หนึง่ ทีอ่ ยูใกลๆกัน กท็ รงเห็นมะมวงตน นน้ั ยังมกี ่ิงกา นแขง็ แรง ใบดกสมบรู ณ มองดนู ารม เยน็ จึงทรงดาํ รวิ า
เหตุใดจึงเปน เชน นนั้ ? กท็ รงไดคาํ ตอบวา เพราะมะมว งตนน้ันมนั ไมม ีผล คนก็ไมตองการมัน ไมขวางปามัน ใบของมันก็ ไมหลน รว ง
ก่งิ ของมนั กไ็ มหัก

พอพระองคท รงเขาพระทัยในเหตุเทา นั้น กพ็ ิจารณามาตลอดทางทเี่ สด็จกลบั ทรงราํ พงึ วา ท่ีทรงมคี วามทกุ ขย ากลาํ บาก
กเ็ พราะเปน พระมหากษัตริย ตองทรงหวงใยราษฎร ตองคอยปองกนั แผนดนิ จากขาศึกศตั รู ท่คี อยจะมาโจมตตี รงนัน้ ตรงนี้อยูวนุ วาย
แมจะนอนกไ็ มเปน สุข บรรทมแลว ก็ยังทรงฝน ถงึ อกี แลวก็ทรงนึกถงึ ตน มะมว งที่ไมมีผลตน น้นั ที่มใี บสดดูรมเยน็ แลว ทรงดาํ รวิ า
จะทําอยางมะมว งตน น้นั จะไมดีกวาหรือ?

พอถงึ พระราชวัง กท็ รงพจิ ารณาอยูแตในเรอ่ื งนี้ในทส่ี ุดก็ตดั สนิ พระทัยออกทรงผนวช โดยอาศัยตนมะมวงน้นั แหละ เปน บทเรียนสอนพระทยั
ทรงเปรียบเทยี บพระองคเ องกบั มะมวงตน น้ัน แลวเห็นวาถาไมพวั พันอยใู นเพศฆราวาส ก็จะไดเปน ผไู ปคนเดยี ว ไมตองกงั วลั ทุกขร อน
เปนผูม อี สิ ระ จึงออกผนวช

หลงั จากทรงผนวชแลว ถามผี ใู ดทลู ถามวา ใครเปนอาจารยของทาน? พระองคก็จะทรงตอบวา "ตนมะมว ง" ใครเปนอปุ ช ฌายข องทา น?
พระองคก็ทรงตอบวา "ตนมะมวง" พระองคไ มตองการคําพร่าํ สอนอะไรมากมาย เพยี งแตทรงเห็นตนมะมว งนนั้ เทานั้น
ก็ทรงนอ มเขา ไปในพระทัย เปนโอปนยิกธรรม สละราชสมบัตทิ รงเปน ผทู ม่ี ักนอ ย สนั โดษ อยใู นความสงบผอ งใส

นค้ี ือในสมัยทพ่ี ระองค (พระพทุ ธเจา) ทรงเปนพระโพธสิ ัตว ก็ไดทรงบําเพญ็ ธรรมเชน นมี้ าโดยตลอดอันทจี่ รงิ
ทกุ ส่งิ ทกุ อยางในโลกน้ีมันเตรียมพรอมท่ีจะสอนเราอยเู สมอ ถาเราทาํ ปญ ญาใหเกดิ นดิ เดยี วเทานนั้ ก็จะรูแจงแทงตลอดในโลก

ตนไมเ ครอื เขาเถาวลั ยเ หลาน้ัน มันแสดงลักษณะอาการตามความจริงตามธรรมชาตอิ ยอู ยา งนัน้ อยแู ลว ถา มปี ญญาเทา นนั้ ก็ไมต อ งไปถามใคร
ไมต อ งไปศึกษาที่ไหน ดเู อาท่มี นั เปน อยูต ามธรรมชาตเิ ทานั้น ก็ตรสั รธู รรมไดแ ลว เหมือนอยา งพระชนกกุมาร

ถา เรามีปญ ญา ถาเราสังวร สํารวม ดูอยู รูอ ยเู ห็นอยตู ามธรรมชาตอิ นั นนั้ มันก็ปลงอนจิ จัง ทกุ ขังอนัตตาไดเทา นั้น เชน วา
ตนไมท ุกตน ท่ีเราเหน็ อยบู นพืน้ ปฐพนี ี้ มันกเ็ ปน ไปในแนวเดยี วกัน เปน ไปในแนวอนิจจังทุกขงั อนัตตา ไมเปนของแนน อนถาวรสกั อยา ง
มนั เหมอื นกนั หมด มีเกดิ ข้ึนแลวในเบอื้ งตน แปรไปในทามกลาง ผลทสี่ ดุ กด็ บั ไปอยา งน้ี

เม่ือเราเหน็ ตนไมเปน อยางนนั้ แลว ก็นอมเขามาถงึ ตัวสัตว ตัวบคุ คล
ตัวเราหรือบุคคลอื่นกเ็ หมือนกนั มีความเกดิ ข้ึนเปนเบอ้ื งตน ในทามกลางกแ็ ปรไป เปล่ียนไป ผลทสี่ ุดกส็ ลายไป น่คี อื ธรรมะ

ตนไมท ุกตน ก็เปนตนไมตนเดยี วกัน เพราะวามันเหมอื นกนั โดยอาการท่มี ันเกดิ ข้ึนมาแลว มันกต็ ง้ั อยู ตั้งอยแู ลว ก็แปรไป แลว มนั ก็เปลยี่ นไป
หายไป เส่ือมไปดบั สนิ้ ไปเปนธรรมดา

มนุษยเราทัง้ หลายก็เหมอื นกัน ถา เปน ผูมสี ตอิ ยรู ูอ ยู ศกึ ษาดว ยปญ ญา ดว ยสตสิ ัมปชญั ญะ ก็จะเห็นธรรมอันแทจรงิ คอื เหน็ มนุษยเราน้ี
เกดิ ข้นึ มาเปน เบื้องตน เกิดขึ้นมาแลว กต็ ั้งอยู เมอ่ื ต้งั อยูแลวก็แปรไปแลว กเ็ ปลี่ยนไป สลายไป ถึงที่สดุ แลว กจ็ บ ทกุ คนเปนอยูอยา งน้ี ฉะนั้น
คนทกุ คนในสากลโลกน้ี กเ็ ปน อันเดยี วกนั ถา เราเหน็ คนคนเดยี วชัดเจนแลว กเ็ หมือนกับเหน็ คนท้ังโลก มนั ก็เปน ของมนั อยอู ยางนน้ั

ทกุ สง่ิ สารพัดน้เี ปนธรรมะ สง่ิ ท่เี รามองไมเหน็ ดว ยตา คอื ใจของเราน้ี เม่อื ความคดิ เกิดขึ้นมา ความคดิ นั้นกต็ งั้ อยู เม่อื ตงั้ อยูแลวกแ็ ปรไป
เมอ่ื แปรไปแลว ก็ดบั สญู ไปเทา นั้น น้เี รยี กวา "นามธรรม" สกั แตว า ความรสู กึ เกดิ ขึน้ มา แลว มันก็ดบั ไป นี่คือความจรงิ ที่มันเปน อยอู ยา งนน้ั
ลว นเปนอริยสัจจธรรมท้ังน้ัน ถาเราไมมองดูตรงนี้ เราก็ไมเหน็

ฉะนั้น ถา เรามปี ญ ญา เราก็จะไดฟ งธรรมของพระพุทธเจา

พระพทุ ธเจาอยูทต่ี รงไหน?

พระพทุ ธเจา อยทู พี่ ระธรรม

พระธรรมอยทู ตี่ รงไหน?

พระธรรมอยทู พ่ี ระพทุ ธเจา อยตู รงนแี้ หละ

พระสงฆอยูท ี่ตรงไหน?

พระสงฆอยูทพ่ี ระธรรม

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ กอ็ ยูในใจของเราแตเ ราตอ งมองใหชัดเจน บางคนเกบ็ เอาความไปโดยผวิ เผิน แลวอทุ านวา "โอ! พระพทุ ธ
พระธรรมพระสงฆ อยใู นใจของฉนั " แตป ฏิปทาน้ันไมเ หมาะไมส มควร มนั กไ็ มเขา กันกบั การท่จี ะอทุ านเชน นั้น
เพราะใจของผทู ี่อทุ านเชน นน้ั จะตอ งเปน ใจท่รี ธู รรมะ

ถา เราตรงไปท่ีจุดเดียวกันอยา งนี้ ก็จะเหน็ วา ความจริงในโลกนม้ี ีอยู นามธรรม คอื ความรูส กึ นกึ คิดเปน ของไมแ นน อน
มคี วามโกรธเกิดข้ึนมาแลว ความโกรธตง้ั อยแู ลว ความโกรธกแ็ ปรไป เมอ่ื ความโกรธแปรไปแลว ความโกรธกส็ ลายไป

เมอ่ื ความสขุ เกดิ ข้นึ มาแลว ความสุขนนั้ ก็ตั้งอยูเมอ่ื ความสขุ ต้งั อยูแลว ความสขุ ก็แปรไป เม่ือความสุขแปรไปแลว ความสขุ มนั กส็ ลายไปหมด
กไ็ มมีอะไร มันเปน ของมนั อยูอยา งนท้ี กุ กาลเวลา ท้ังของภายในคอื นามรูปน้ีก็เปน อยูอ ยางนี้ ท้งั ของภายนอก คอื ตนไม ภเู ขา
เถาวลั ยเหลา น้ีมันกเ็ ปนของมนั อยอู ยางนี้ นเ่ี รยี กวาสจั จธรรม

ถา ใครเห็นธรรมชาติกเ็ หน็ ธรรมะ ถา ใครเห็นธรรมะกเ็ ห็นธรรมชาติ ถาผูใดเหน็ ธรรมชาติ เหน็ ธรรมะผนู ้ันกเ็ ปนผูรูจ ักธรรมะน่นั เอง
ไมใ ชอยไู กล

ฉะนนั้ ถาเรามสี ติ ความระลกึ ได มีสมั ปชัญญะความรูตวั อยูทกุ อริ ยิ าบถ การยนื เดิน น่ัง นอน ผูร ทู งั้ หลายก็พรอมที่จะเกดิ ขึน้ มา ใหร ู
ใหเ ห็นธรรมะตามเปนจรงิ ทุกกาลเวลา

พระพทุ ธเจา ของเรานน้ั ทานยงั ไมตาย แตคนมักเขา ใจวา ทา นตายไปแลว นิพพานไปแลว ความเปน จริงแลว
พระพทุ ธเจา ที่แทจ รงิ นนั้ ทา นไมน พิ พาน ทา นไมตายทานยังอยู ทานยังชว ยมนุษย ผปู ฏบิ ัตดิ ี ปฏบิ ัติชอบอยทู ุกเวลา

พระพุทธเจานั้นก็คอื ธรรมะน่นั เอง ใครทําดตี อ งไดด ีอยูว นั หน่ึง ใครทาํ ช่วั มนั ก็ไดชัว่ นี่เรียกวา พระธรรมพระธรรมนน้ั แหละเรียกวา
พระพทุ ธเจา และกธ็ รรมะน่แี หละทท่ี าํ ใหพระพทุ ธเจาของเรา เปนพระพทุ ธเจา

ฉะนน้ั พระองคจงึ ตรสั วา "ผูใดเห็นธรรม ผูน ั้นเห็นเรา" แสดงวาพระพทุ ธเจา กค็ ือพระธรรม และพระธรรมก็คอื พระพทุ ธเจา
ธรรมะที่พระพุทธเจาตรสั รนู น้ั เปน ธรรมะที่มีอยปู ระจําโลก ไมสญู หาย เหมอื นกบั นาํ้ ทม่ี อี ยูใ นพ้นื แผนดนิ
ผขู ุดบอ ลงไปใหถึงนํ้าก็จะเหน็ น้ําไมใชวาผนู นั้ ไปแตงไปทาํ ใหน้ํามีขึ้น บุรษุ น้ันลงกาํ ลงั ขดุ บอ เทา นนั้ ใหลกึ ลงไปใหถ งึ นํ้า นํ้าก็มอี ยแู ลว

อนั นี้ ฉนั ใดกฉ็ ันนนั้ พระพุทธเจาของเรากเ็ หมือนกนั ทานไมไดไ ปแตง ธรรมะ ทานไมไ ดบ ญั ญัตธิ รรมะ บัญญตั ิก็บัญญัติสิ่งท่มี นั มีอยแู ลว
ธรรมะคอื ความจริงที่มีอยแู ลว ทานพจิ ารณาเหน็ ธรรมะ ทานเขาไปรูธรรม คือรูความจรงิ อนั น้นั
ฉะน้นั จงึ เรยี กวาพระพุทธเจา ของเราทานตรัสรูธ รรม และการตรัสรูธรรมนีเ่ องจึงทาํ ใหท านไดรับพระนามวา พระพทุ ธเจา

เมื่อพระองคทรงอบุ ตั ขิ นึ้ ในโลก พระองคกท็ รงเปนเพยี ง "เจาชายสทิ ธตั ถะ" ตอเมอื่ ตรัสรูธรรมแลว จงึ ไดทรงเปน "พระพุทธเจา "
บุคคลทัง้ หลายกเ็ หมือนกนั ผใู ดสามารถตรสั รธู รรมได ผนู ้นั ก็เปน พทุ ธะ

ดงั นัน้ พระพทุ ธเจา จงึ ยงั มีอยู ยงั เมตตากรุณาสัตวทั้งหลาย ยังชว ยมนุษยสัตวท้งั หลายอยู ถา มนษุ ยผูใดมีความประพฤตปิ ฏิบัตดิ ี จงรกั ภกั ดี
พระพุทธเจา ตอ พระธรรม ผนู นั้ กจ็ ะมีคุณงามความดอี ยตู ลอดทกุ วนั ฉะนน้ั ถาเรามีปญ ญา ก็จะเห็นไดวา เราไมไ ดอ ยหู างพระพุทธเจาเลย
เดี๋ยวน้ีเรากย็ งั นง่ั อยตู อ หนา พระพุทธเจาเราเขาใจธรรมะเมอ่ื ใด เราก็เหน็ พระพทุ ธเจาเมอื่ น้นั
ผใู ดทีต่ ัง้ ใจประพฤติปฏิบตั ธิ รรมอยอู ยางสม่ําเสมอแลว ไมว า จะน่งั ยนื เดิน อยู ณ ทใี่ ด ผนู ัน้ ยอมไดฟ งธรรมของพระพทุ ธเจาอยูตลอดเวลา

ในการปฏบิ ตั ิธรรมน้นั พระพทุ ธเจา ทรงสอนใหอ ยูในท่ีสงบ สาํ รวมอินทรยี  ตา หู จมกู ลน้ิ กาย จติ นีเ้ ปนหลักไว
เพราะสิง่ ทัง้ หลายเกดิ ข้ึนที่ตรงน้ี ไมเกดิ ทีอ่ ื่นความดีท้ังหลายเกิดข้นึ ทีน่ ่ี ความช่ัวทง้ั หลายเกดิ ข้ึนที่น่ี
พระพุทธเจาจึงใหส งั วรสํารวมใหร ูจักเหตทุ ี่มนั เกิดขนึ้

ความจรงิ พระพทุ ธเจา ทานทรงบอกทรงสอนไวหมดทกุ อยา งแลว เรอ่ื งศีลกด็ ี สมาธิก็ดี
ปญญากด็ ตี ลอดจนขอ ประพฤตปิ ฏบิ ัติทกุ ประการก็ทรงพราํ่ สอนไวหมดทุกอยาง เราไมตองไปคิด
ไปบญั ญัตอิ ะไรอีกแลว เพยี งใหท าํ ตามในสิ่งทีท่ านทรงสอนไวเ ทา น้ัน นับวาพวกเราเปน ผูม บี ุญ มโี ชคอยา งยง่ิ
ท่ไี ดมาพบหนทางทท่ี า นทรงแนะทรงบอกไวแ ลว คลายกับวาพระพทุ ธเจา ทานทรงสรา งสวนผลไมที่อดุ มสมบูรณพรอมไวใ หเรา
แลว กเ็ ชญิ ใหพวกเราท้ังหลายไปกินผลไมในสวนนั้น โดยที่เราไมตองออกแรงทาํ อะไรในสวนนนั้ เลย เชนเดียวกบั คําสอนในทางธรรม
ท่ีพระองคทรงสอนหมดแลว ยังขาดแตบุคคลทจี่ ะมศี รัทธาเขา ไปประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ ทา นั้น

ฉะนนั้ พวกเราทัง้ หลายจึงเปนผูท มี่ โี ชคมบี ญุ มากเพราะเม่อื มองไปท่ีสตั วท งั้ หลายแลว จะเหน็ วาสัตวท ง้ั หลายเหลา น้นั เชน ววั ควาย หมู หมา
เปนตน เปนสตั วท อี่ าภัพมาก เพราะไมม โี อกาสทจ่ี ะเรยี นธรรม ไมมโี อกาสท่ีจะปฏิบัตธิ รรม ไมมีโอกาสที่จะรธู รรม
ฉะนั้นก็หมดโอกาสท่จี ะพนทกุ ข จึงเรยี กวา เปนสัตวท่อี าภพั เปน สตั วทต่ี องเสวยกรรมอยู

ดวยเหตนุ ้ี มนุษยท งั้ หลายจึงไมควรทาํ ตวั ใหเปนมนษุ ยท อี่ าภพั คือไมมขี อ ประพฤติ ไมม ขี อปฏบิ ตั ิ อยา ใหเ ปนคนอาภัพ คือ
คนหมดหวงั จากมรรค ผลนิพพาน หมดหวังจากคณุ งามความดี อยาไปคิดวา เราหมดหวงั เสยี แลว ถา คดิ อยา งนัน้
จะเปน คนอาภัพเหมอื นสัตวเ ดรัจฉานทั้งหลาย คือไมอยูใ นขายของพระพทุ ธเจา

ฉะน้ัน เมอ่ื มนษุ ยเ ปนผมู บี ุญวาสนาบารมีเชน น้ีแลว จึงควรทีจ่ ะปรับปรงุ ความรู ความเขา ใจ ความเห็นของตนใหอยใู นธรรม จะไดรธู รรม
เหน็ ธรรม ในชาติกาํ เนิดทเ่ี ปน มนุษยน ี้ ใหสมกับทเี่ กิดมาเปนสัตวท ี่ควรตรัสรธู รรมได

ถาหากเราคิดไมถ กู ไมไ ดป ระพฤติปฏิบัติ มนั กจ็ ะกลับไปเปนสตั วเดรจั ฉาน เปนสตั วน รก เปนเปรต เปนอสุรกาย เปน ยักษ เปน ผี
เปน สารพัดอยา ง มนั จะเปน ไปไดอ ยา งไร? กข็ อใหมองดูในจติ ของเราเอง เมื่อความโกรธเกดิ ขึน้ มันเปน อยา งไร? นนั่ แหละ!

เมอ่ื ความหลงเกดิ ขน้ึ แลว มนั เปน อยางไร?น่นั แหละ!
เม่ือความโลภเกิดขน้ึ แลว มนั เปน อยางไร?นน่ั แหละ!
สภาวะท้ังหลายเหลา นแี้ หละ มนั เปน ภพ แลว กเ็ ปนชาติ เปน ความเกดิ ทเ่ี ปน ไปตามสภาวะแหง จิตของตน

สองหนา ของสจั จธรรม

ในชวี ิตของเรามีทางเลอื กอยูสองทาง คอื คลอยตามไปกับโลก หรอื พยายามปฏบิ ัตใิ หอ ยเู หนอื โลก
พระพุทธเจา นน้ั ทานทรงปฏิบัติจนพระองคเ องทรงพน โลก ดวยการตรสั รสู ัมมาสมั โพธิญาณ ในทาํ นองเดยี วกนั ปญ ญากม็ สี อง คือปญญาโลกีย
กบั ปญญาโลกุตตระ หากเราไมภ าวนาฝกปฏบิ ัติอบรมตนเอง ถึงจะมปี ญญาปานใด ก็เปนเพยี งปญญาโลกีย เปน โลกยี วสิ ยั
จะหลดุ พน โลกไปไมได เพราะโลกียวสิ ัยนน้ั มนั เวียนไปตามโลก เม่ือเวียนคลอยไปตามโลก จิตกเ็ ปน โลกคิดอยแู ตจะหามาใสต วั อยไู มเปน สขุ
หาไมร ูจ กั พอ วชิ าโลกียเ ลยกลายเปน อวิชชา หาใชวิชชาความรแู จงไม มันจงึ เรียนไมจบสักที เพราะมวั ไปตามลาภ ตามยศ ตามสรรเสริญ
ตามสุข พาใจใหตดิ ขอ งเปน กเิ ลสกองใหญ

เมื่อไดม าก็หึงก็หวง เห็นแกต ัว สูดว ยกําปนไมได กค็ ิดสรางเครือ่ งจักรเครอ่ื งยนต เครื่องกลเคร่อื งไก
สรางศาสตราวุธสรางลูกระเบดิ ขวางใสกนั น่ีคอื โลกยี  มนั ไมห ยุดสักที เรียนไปกเ็ พือ่ จะเอาโลก จะครองโลก ไดอ ะไรกห็ วงอยูนัน่ แลว
นคี่ อื โลกียวสิ ัย เรยี นไปแลว กจ็ บไมได

มาฝก ทางโลกุตตระ โลกตุ ตระนีอ้ ยไู ดยาก ผูใ ดหวงั มรรค หวงั ผล หวงั นพิ พาน จงึ จะทนอยูได จงทาํ ตนใหเปนคนมกั นอ ย สันโดษ กินนอย
นอนนอย พดู นอ ย ทาํ ใหม ันหมดโลกีย

ถาเช้อื โลกยี ไมหมด มนั ก็ยาก มันยุง ไมห ยุดสักที แมมาบวชแลว กย็ ังคอยดงึ ใหอ อกไป มันมาคอยใหค วามรูค วามเหน็
มันมาคอยปรงุ คอยแตง ความรอู ยนู ่นั แลว ทําใหใ จติดของอยใู นกามคุณทงั้ หา คอื รปู เสียง กลนิ่ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ
อารมณข องใจเปน กาม คือความใคร ในความสขุ ความทกุ ข ความดี ความชว่ั สารพัดอยาง มีแตกามทงั้ น้นั

คนไมร จู ักกว็ า จะทําสง่ิ ในโลกน้ใี หม ันเสรจ็ ใหม ันแลว เหมอื นคนทม่ี าเปนรฐั มนตรีใหม กค็ ิดวา ตนตองทาํ ได
บริหารไดแ ลว ก็เอาอะไรๆท่ีคนเกาทาํ ไวอ อกไปเสยี เอาวิธบี ริหารของตนเขา มาใชแ ทน กเ็ ลยตองไดหามกันออก
หามกันเขาอยูอ ยา งนัน้ ไมไดเ รือ่ งสักที ทว่ี าจะทําใหเสรจ็ มนั กไ็ มเ สร็จ เพราะจะทาํ ใหถูกใจคนทุกคนนัน้ มันทาํ ไมไ ดห รอก

คนหนึง่ ชอบนอ ย คนหนึ่งชอบมาก คนหนง่ึ ชอบสน้ั คนหนง่ึ ชอบยาว คนหน่ึงชอบเคม็ คนหนง่ึ ชอบเผด็ จะใหเหมอื นกนั นั้นไมมใี นโลก

คนอยคู รองโลก ครองบา น ครองเมือง ทําทุกอยางกอ็ ยากใหมนั สําเร็จ แตไ มมที างสาํ เรจ็ หรอก เรอ่ื งของโลกมันจบไมเ ปน
ถา ทาํ ตามโลกแลวจบได พระพุทธเจา ทา นก็คงทรงทําแลว เพราะทา นครองโลกอยูกอ น แตนี่มันทาํ ไมได

ในเรือ่ งของกาม คอื รปู เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ นั้น รูปอะไรกไ็ มจับใจเทารปู ผูหญิง ผูหญงิ รปู รางบาดตา ก็ชวนมองอยแู ลว
ยงิ่ เดินซอกแซก ๆก็ยง่ิ มองเพลิน

เสยี งอะไรมาจับใจเทาเสยี งผูหญงิ เปนไมม ี มันบาดถึงหวั ใจ กลน่ิ ก็เหมือนกนั กล่ินอะไรกไ็ มเ หมอื นกลิ่นผหู ญงิ
ตดิ กลิ่นอื่นก็ไมเ ทา กบั ตดิ กลิน่ ผูหญงิ มันเปน อยา งนั้น

รสอะไรกไ็ มเ หมือน รสขาว รสแกง รสสารพัดก็ไมเทยี บเทา รสผูหญงิ หลงติดเขาไปแลว ถอนไดยาก เพราะมนั เปน กามโผฏฐัพพะกเ็ ชน กนั
จบั ตอ งอะไรก็ไมท าํ ใหมึนเมาปน ปว น จนหัวชนกัน เหมือนกบั จบั ตองผูห ญิง

ฉะน้ัน เมอ่ื ลกู ทาวพญาทไี่ ปเรียนวชิ ากบั อาจารยต ักศิลาจนจบแลวจะลาอาจารยก ลบั บา น อาจารยจ ึงสอนวา เวทยม นตก ลมายาอะไรๆกส็ อนให
บอกใหจ นหมดแลว เมอื่ กลบั ไปครองบานครองเมอื งแลว มีอะไรมากไ็ มตองกลวั จะสไู ดหมดทั้งน้ัน จะมสี ัตวป ระเภทใดมาก็ไมตองกลัว
ไมว าจะเปน สัตวม ฟี น อยใู นปาก หรือมีเขาอยบู นหวั มงี วง มงี า กค็ มุ กันไดท้ังสนิ้ แตไมรบั รองอยูแ ตเฉพาะสัตวจําพวกหน่ึง
ทเ่ี ขาไมไดอยูบนหวั แตหากไปอยทู ี่หนาอก สตั วช นดิ นี้ไมม มี นตช นดิ ใดจะคุมกันไดมีแตจะตอ งคุมกนั ตวั เอง รูจ ักไหม สัตวท่ีมเี ขาอยหู นาอก
นัน่ แหละทานจงึ ใหร ักษาตวั เอาเอง

ธรรมารมณท ่เี กดิ ขึน้ กับใจแลว ทําใหอยากไดเงนิ อยากไดทอง อยากไดสิง่ อยากไดข อง ธรรมารมณอ ยา งนน้ั ไมพ อใหลมตาย
แตถา เปน ธรรมารมณท ่ชี ุมดว ยนํ้ากามเกดิ ข้นึ แลว มนั ทาํ ใหล ืมพอ ลืมแม แมพอแมเลยี้ งมา
กห็ นีจากไปไดโดยไมตองคาํ นงึ ถึงพอเกดิ ขน้ึ แลวรัง้ ไมอยู สอนก็ไมฟ ง

รปู หน่งึ เสียงหน่ึง กลิ่นหนึ่ง รสหนึง่ โผฏฐัพพะหนึ่งธรรมารมณห นึ่ง เปน บวง เปน บว งของพญามาร พญามารแปลวา ผูใ หรายตอเรา
บว งแปลวาเคร่อื งผกู พัน บว งของพญามารเปรียบไดกบั แรวของนายพราน นายพรานท่ีเปนเจา ของแรว น่ันแหละคือพญามาร
เชอื กเปนบวงเครือ่ งผูกของนายพราน

สัตวท้ังหลายเมื่อไปตดิ บว งเขา แลวลาํ บาก มนั ผูกไว ดงึ ไวร อจนเจาของแรว มา เหมือนกบั นกไปตดิ แรว เขา
แรว มนั รัดถกู คอดิ้นไปไหนกไ็ มห ลดุ ด้ินปด ไปปดมาอยา งน้ันแหละ มนั ผูกไวคอยนายพรานเจา ของแรว
ครัน้ เจา ของมาเหน็ ก็จบเร่ืองน้นั แหละพญามาร นกกลัวมาก สัตวท ้ังหลายกลัวมาก เพราะหนไี ปไหนไมพน

บวงกเ็ ชนกัน รปู เสียง กล่ิน รส โผฏฐัพพะ ธรรมา-รมณเปน บวงผกู เอาไว เมื่อเราติดในรูป เสียง กลิน่ รส โผฏฐพั พะ ธรรมารมณ
ก็เหมือนกับปลากินเบ็ด รอใหเจา ของเบ็ดมา ด้นิ ไปไหนก็ไมหลดุ อันท่จี ริงแลว มนั ย่ิงกวา ปลากินเบ็ดตองเปรยี บไดก บั กบกินเบด็
เพราะกบกินเบ็ดนน้ั มนั กนิ ลงไปถงึ ไสถงึ พงุ แตปลากนิ เบด็ กก็ นิ อยูแคปาก

คนตดิ ในรูป ในเสยี ง ในกล่นิ ในรส ก็เหมอื นกัน แบบคนติดเหลา ถาตบั ยงั ไมแข็ง ไมเลกิ ตดิ ตอนแรกๆกย็ งั ไมร ูจักเรอื่ ง
ก็หลงเพลดิ เพลินไปเรอ่ื ยๆ จนเกดิ โรครายขนึ้ นน่ั แหละ เปนทกุ ข

เหมอื นบรุ ษุ ผูห น่ึงหวิ นา้ํ จัด เพราะเดนิ ทางมาไกล มาขอกนิ น้าํ เจาของน้าํ กบ็ อกวา น้าํ นจี่ ะกินกไ็ ด สีมันกด็ ี กล่ินมนั กด็ รี สมันก็ดี
แตวากนิ เขา ไปแลว มนั เมานะ บอกใหรูเสยี กอน เมาจนตาย หรือเจ็บเจียนตายน่นั แหละ แตบ ุรุษผูหิวนํา้ กไ็ มฟง
เพราะหิวมากเหมือนคนไขหลังผา ตัดท่ถี ูกหมอบังคับใหอดนํา้ ก็รอ งขอนํ้ากิน

คนหิวในกามกเ็ หมอื นกนั หวิ ในรูป ในเสยี ง ในกล่นิ ในรส ลว นของเปนพษิ พระพุทธเจา ไดบ อกไวว า รปู เสียง กลนิ่ รส โผฏฐพั พะ
ธรรมารมณนั้น มันเปนพษิ เปนบวง กไ็ มฟ ง กนั เหมือนกับบุรษุ หิวนา้ํ ผูน้ัน ที่ไมย อมฟงคําเตอื นเพราะความหวิ กระหายมนั มีมาก
ถงึ จะตองทุกขย ากลาํ บากเพียงใด ก็ขอใหไ ดกนิ น้าํ เถอะ เมอื่ ไดกินไดด ่ืมแลว มันจะเมาจนตาย หรอื เจยี นตายกช็ างมัน จับจอกนาํ้ ไดก็ดมื่ เอาๆ
เหมอื นกบั คนหวิ ในกามก็กินรูป กนิ เสียง กินกลน่ิ กนิ รส กนิ โผฏฐพั พะ กนิ ธรรมารมณ รูสกึ อรอ ยมาก ก็กินเอาๆหยดุ ไมได กินจนตาย
ตายคากาม

อยางนที้ า นเรยี กวาตดิ โลกียวสิ ยั ปญญาโลกียก แ็ สวงหารปู เสียง กล่นิ รส โผฏฐพั พะ ธรรมารมณ
ถึงปญญาจะดสี ักปานใดก็ยงั เปนปญ ญาโลกียอ ยูนน่ั เอง สุขปานใดกแ็ คสุขโลกียม ันไมสขุ เหมือนโลกุตตระ คอื มนั ไมพนโลก

การฝกทางโลกตุ ตระ คอื ทาํ ใหม ันหมดอุปาทาน ปฏบิ ตั ิใหห มดอปุ าทาน ใหพจิ ารณารางกายนีแ่ หละ พจิ ารณาซ้ําแลวซ้ําอีก ใหมันเบื่อ
ใหม ันหนาย จนเกิดนพิ พทิ า ซงึ่ เกดิ ไดย ากมนั จงึ เปน ของยาก ถาเรายงั ไมเหน็ กย็ งิ่ ดมู นั ยาก

เราทงั้ หลายพากันมาบวช เรียน เขียน อา น มาปฏบิ ัติภาวนา กพ็ ยายามต้งั ใจของตวั เอง แตก็ทาํ ไดย าก
กําหนดขอ ประพฤติปฏิบตั ิไวอ ยา งน้อี ยา งนนั้ แลว ก็ทําไดเ พียงวนั หนึ่งสองวนั หรอื แคสองช่ัวโมง สามชว่ั โมง กล็ มื เสียแลว
พอระลึกข้นึ ไดกจ็ บั มนั ตง้ั ไวอ กี กไ็ ดเ พียงช่ัวคราว พอรูป เสียงกล่นิ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ ผา นมา ก็พงั ไปเสียอกี แลว พอนึกไดกจ็ บั ตั้งอีก
ปฏบิ ตั อิ ีก น่ีเรามกั เปนเสยี อยางนี้ เพราะสรา งทาํ นบไวไ มดี ปฏิบตั ไิ มทนั เปน ไมท ันเห็น มันก็เปนอยอู ยา งน้นั มนั จงึ เปนโลกตุ ตระไมได
ถาเปนโลกตุ ตระได มันพนไปจากสง่ิ ทั้งหลายน่ีแลว มันก็สงบเทานนั้ เอง

ท่ไี มสงบทุกวันนี้ ก็เพราะของเกามันมากวนอยูไมห ยดุ มนั ตามมาพวั พัน เพราะมนั ติดตวั เคยชินเสยี แลว จะแสวงหาทางออกทางไหน
มนั ก็คอยมาผกู ไวด งึ ไว ไมใ หล ืมทเ่ี กา ของมันเราจึงเอาของเกา มาใช มาชม มาอยู มากินกนั อยอู ยางน้ัน

ผหู ญงิ กม็ ีผชู ายเปนอุปสรรค ผชู ายกม็ ีผูห ญิงเปน อปุ สรรคมันพอปานกัน ถา ผชู ายอยกู บั ผูชายดว ยกนั มันกไ็ มมีอะไร
หรอื ผหู ญงิ อยูกับผูห ญงิ ดวยกัน มนั ก็อยางนัน้ แหละ แตพอผชู ายไปเห็นผหู ญงิ เขา หัวใจมนั เตนต๊ิกตกั๊ ๆ ผหู ญิงเห็นผชู ายเขา กเ็ หมือนกัน
หัวใจเตน ติ๊กต๊กั ๆ เพราะมันดงึ ดดู ซง่ึ กันและกนั

น่ีก็เพราะไมเ หน็ โทษของมนั หากไมเ หน็ โทษแลว กล็ ะไมไ ด ตองเห็นโทษในกาม และเห็นประโยชนในการละกามแลว จึงจะทําได
หากปฏบิ ตั ยิ ังไมพ น แตพ ยายามอดทนปฏบิ ตั ติ อ ไปกเ็ รียกวา ทาํ ไดในเพียงระดับของศีลธรรม แตถา ปฏบิ ตั ไิ ดเห็นชดั แลวจะไมตองอดทนเลย
ที่มนั ยาก มันลาํ บาก กเ็ พราะยังไมเ หน็

ในทางโลกนน้ั ส่งิ ใดสิ่งหนง่ึ ทเี่ ราทําไว ถา จวนเสรจ็ เรยี บรอ ยเราก็สบาย ถายงั ไมเสรจ็ กเ็ ปนหวงผูกพนั น่คี อื โลกียมนั ผกู พันตามไปอยูเ รื่อย
วา จะทําใหห มดน้นั มนั หมดไมเ ปนหรอก เหมอื นกนั กับพอ คา พบใครก็วา ถาหมดหนห้ี มดสินแลว จะบวช เมือ่ ไรมันจะหมดเปน
เพราะพอหมดหนีเ้ กา กก็ มู าใหมอ ีก พอ คา ก็ไมม ีวนั หมดหน้ีหมดสนิ เมอื่ กไู มห ยุด แลว จะหมดไดอยา งไร นีแ่ หละปญญาโลกีย

การปฏิบตั ิของเรานก่ี ใ็ หเ ฝาดูจิตใจไว ขอวตั รขอ ใดมันหยอ น พอเห็น พอรสู ึก ก็ใหต้งั ขึ้นใหม ถา มันหยอนอกี ผมู ีสติกต็ อ งจับมันตั้งข้นึ อีก
สว นผูไมมสี ตกิ จ็ ะปลอยไปเลย ผูม สี ติก็ดึงขน้ึ มา ทําอยอู ยา งนั้นแหละ เรียกวา ทําไมร จู กั แลว เพราะวามนั เปนโลกีย
มันจึงดึงไปดงึ มาอยูน ั่นแหละ

การมาบวชนั้นเปน ของยาก จะตอ งต้ังอกต้งั ใจ เปนผมู ศี รัทธา ปฏิบัติไปจนมันรู มันเหน็ ตามความเปน จรงิ มันจงึ จะเบอ่ื เบอ่ื นัน้ ไมใชช งั
ตอ งเบ่ือท้งั รกั ทงั้ ชัง เบอื่ ทัง้ สุขท้งั ทุกขค ือเหน็ ทุกอยางไมเ ปน แกนสารนัน่ เอง

ธรรมะของพระพทุ ธเจานนั้ ซบั ซอน ไมเหน็ ไดโดยงาย ถาไมมีปญญาแลว เห็นไมไ ด เหมอื นเราไดไมม าทอ นหน่งึ เปนไมท อนใหญ
แตความเปน จรงิ ไมท อนนอ ยก็แทรกอยูใ นไมทอนใหญน้ันแหละ หรอื ไดไ มทอนนอ ยมา ไมท อ นใหญม ันกแ็ ทรกอยูในนั้นดว ย

โดยมากคนเราเห็นไมทอ นใหญ ก็เห็นแตวา มนั ใหญเ พราะคิดวานอ ยจะไมมี ไดไมทอนนอ ยกเ็ ห็นแตม ันนอ ย เพราะคิดวาใหญไ มม ี
มันไมมองไปขา งหนา ไมมองไปขา งหลังเม่อื สุขกน็ ึกวา จะมีแตส ขุ เมือ่ ทุกขก ็นกึ วา จะมแี ตทุกข ไมเ ห็นวาทุกขอยทู ีไ่ หน สุขก็อยทู นี่ ั่น
สขุ อยูท ไ่ี หน ทุกขก็อยทู ีน่ ั่น ไมเ หน็ วา ใหญอยูทีไ่ หน นอ ยก็อยูทีน่ ัน่ นอยอยูท ีไ่ หน ใหญกอ็ ยูทน่ี ั่น ใหคดิ เหน็ อยางนัน้

คนเราไมร ูจกั คิดยอ นหนา ยอ นหลงั เห็นแตห นา เดยี วไปเลยจงึ ไมจบสักที ทกุ อยางมนั ตองเหน็ สองหนา มีความสขุ เกดิ ข้ึนมาก็อยา ลืมทกุ ข
ทกุ ขเกดิ ข้ึนมา ก็อยา ลมื สุข มันเก่ียวเน่อื งซงึ่ กนั และกนั เชนวา อาหารน้นั เปนคุณแกมนุษยแ กส ัตวท ัง้ หลาย เปนประโยชนแ กรา งกาย
อยา งนเี้ ปน ตน แตความเปน จริงอาหารเปนโทษกม็ เี หมือนกัน มใิ ชม ันจะใหคุณแตอยางเดยี ว มันใหโทษดวยกม็ ี เม่อื ใดเราเห็นคุณ
กต็ องเห็นโทษของมันดวย เห็นโทษก็ตอ งเหน็ คณุ ดว ย เมอ่ื ใดมีความชังก็ใหนกึ ถึงความรกั คดิ ไดอยา งนี้จะทําใหจ ติ ใจของเรา ไมซวนเซไปมา

ไดอานหนงั สือของเซ็นที่พวกเซ็นเขาแตง พวกเซน็ เปนพวกมุงปฏบิ ัติ เขาไมใ ครส อนกนั เปนคาํ พดู นัก
เปน ตน วาพระเซน็ รูปหนง่ึ น่ังหาวนอนขณะภาวนา อาจารยก ็ถอื ไมม าฟาดเขา ท่ีกลางหลัง ลูกศษิ ยทถ่ี กู ตีกพ็ ูดวา "ขอบคุณครบั "
เซน็ เขาสอนกันอยางน้ัน สอนใหเรียนรดู ว ยการกระทํา

วนั หน่ึงพระเซน็ นง่ั ประชุมกนั ธงทปี่ กอยูขา งนอกก็โบกปลวิ อยไู ปมา พระเซน็ สององคกเ็ กิดปญหาข้ึนวา ทําไมธงจงึ โบกปลิวไปมา
องคห น่ึงวาเพราะมลี ม อีกองคก็วา เพราะมีธงตา งหาก ตางก็โตเ ถียงโดยยดึ ความคดิ เห็นของตน อาจารยก็เลยตัดสนิ วา มีความเห็นผิดดวยกนั ทง้ั คู
เพราะความจริงแลว ธงก็ไมมี ลมกไ็ มม ี

นตี่ อ งปฏบิ ัตใิ หไ ดอ ยางนี้ อยาใหม ลี ม อยาใหมธี ง ถา มธี งก็ตอ งมลี ม ถามีลมกต็ องมีธง มนั ก็เลยจบกันไมไดสักที นาเอาเร่ืองนี้มาพิจารณา
วางใหม นั วางจากลม วา งจากธง ความเกิดไมม ี ความแกไมม ี ความเจ็บตายไมมี มนั วาง ท่เี ราเขา ใจวาธงเขา ใจวา ลมน้นั
มันเปนแตค วามรูส กึ ท่ีสมมตขิ ึน้ มาเทานนั้ ความจรงิ มันไมม ี นาจะเอาไปฝก ใจของเรา

ในความวางน้นั มัจจุราชตามไมทนั ความเกิด ความแกค วามเจ็บ ความตาย ตามไมท ัน มนั หมดเรอ่ื ง

ถาไปเหน็ วา มีธงอยู ก็ตอ งมลี มมาพดั ถามลี มอยู กต็ องไปพดั ธง มนั ไมจ บสกั ที เพราะความเห็นผดิ แตถาเปน สมั มาทิฐิความเหน็ ชอบแลว
ลมกไ็ มม ี ธงกไ็ มม ี ก็เลยหมดหมดเรา หมดเขา หมดความเกิด ความแก ความเจ็บ ความตาย หมดทุกอยา ง

ถาเปนโลกยี วิสัย กส็ อนกนั ไมจบ ไมแ ลว สักที เราฟง ก็วา มันยาก เพราะมันเปน ปญญาโลกยี  หากเราพิจารณาได เรากม็ ปี ญญามาก
พระพุทธเจาของเรากเ็ หมอื นกัน เมือ่ ตอนที่ทานครองโลกอยู ทานก็มปี ญ ญาโลกีย ตอ เม่อื ทานมปี ญญามากเขา ทา นจงึ ดบั โลกยี ได เปน โลกตุ ตระ
เปนผูเลิศในโลก ไมม ีใครเหมอื นทาน

ถา เราทําความคิดไวในใจใหไ ดด งั น้ี เห็นรปู กว็ ารปู ไมม ีไดย นิ เสียงก็วาเสยี งไมม ี ไดกล่ินกว็ ากลิน่ ไมมี ลิ้มรสกว็ ารสไมม ีมนั ก็หมด
ทเ่ี ปน รปู นน้ั กเ็ พียงความรูสึก ไดยนิ เสยี งกส็ ักแตว า ความรูสึกที่มกี ลน่ิ ก็สักแตวา มกี ลน่ิ
เปนเพียงความรสู ึกรสกเ็ ปน แตเพยี งความรูส ึกแลว กห็ ายไป ตามความเปน จรงิ กไ็ มม ี

รูป เสยี ง กล่นิ รส โผฏฐพั พะ ธรรมารมณ นเ้ี ปน โลกียถา เปนโลกตุ ตระแลว รูปไมม ี เสยี งไมม ี กลน่ิ ไมม ี รสไมมี โผฏฐัพพะไมมี
ธรรมารมณไ มม ี เปน แตค วามรูสึกเกิดขึ้นเทาน้นั แลวก็หายไปไมมอี ะไร เม่ือไมม อี ะไร ตัวเรากไ็ มมี ตวั เขากไ็ มมี

เม่อื ตวั เราไมมี ของเรากไ็ มม ี ตัวเขาไมม ี ของเขาไมม คี วามดบั ทกุ ขน ั้นเปนไปในทํานองน้ี คือไมม ีใครจะไปรับเอาทกุ ข แลว ใครจะเปน ทุกข
ไมมีใครไปรบั เอาสขุ แลว ใครจะเปน สขุ

นี่พอทกุ ขเขา กเ็ รียกวา เราทุกข เพราะเราไปเปน เจาของมนั ก็ทกุ ข สุขเกิดข้นึ มา เรากไ็ ปเปน เจาของสุข มันกส็ ขุ ก็เลยยดึ มัน่ ถือมนั่
อันนัน้ แหละ เปน ตวั เปน ตน เปน เรา เปน เขาขนึ้ มาเดี๋ยวนนั้ มันกเ็ ลยเปน เร่อื งเปน ราวไปอีก ไมจ บ

การทีพ่ วกเราทั้งหลายออกจากบา นมาสูปา กค็ ือมาสงบอารมณ หนีออกมาเพือ่ สู ไมใ ชหนมี าเพือ่ หนี ไมใ ชเพราะแพเราจึงมา
คนท่ีอยูในปา แลว กไ็ ปตดิ ปา คนอยูในเมือง แลวกไ็ ปติดเมอื งนัน้ เรียกวา คนหลงปา คนหลงเมือง

พระพุทธเจา ทา นวา ออกมาอยูป า เพอื่ กายวิเวก จติ วิเวกอุปธิวเิ วกตา งหาก ไมใ ชใ หมาตดิ ปา มาเพือ่ ฝก
เพอ่ื เพาะปญ ญามาเพาะใหเชอ้ื ปญ ญามนั มีข้นึ อยูใ นทวี่ นุ วาย เช้ือปญญามนั เกดิ ขน้ึ ยาก จงึ มาเพาะอยใู นปา เทา นนั้ เอง
เพาะเพ่อื จะกลับไปตอ สูในเมือง

เราหนรี ปู หนเี สียง หนีกลิน่ หนีรส หนีโผฏฐพั พะ หนธี รรมารมณ มาอยา งน้ี ไมใ ชหนีเพื่อจะแพส ่งิ ทั้งหลายเหลานีห้ นีมาเพอื่ ฝก
หรือมาเพาะใหป ญ ญาเกดิ แลวจะกลับไปรบกับมัน จะกลบั ไปตอ สูกบั มันดวยปญญา

ไมใชเขาไปอยใู นปา แลว ไมมรี ูป เสยี ง กล่ิน รส แลวกส็ บาย ไมใ ชอยา งน้นั แตตองการจะมาฝก เพาะเช้อื ปญ ญาใหเ กดิ ขน้ึ ในปา ในท่ีสงบ
เมอ่ื สงบแลว ปญญาจะเกดิ

เมื่อใครค รวญพิจารณาแลว ก็จะเห็นวา รูป เสียง กลิน่ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณน้ัน เปน ปฏปิ กษตอ เรา ก็เพราะเราโงเ รายังไมม ปี ญญา
แตค วามเปนจริงแลว ส่งิ เหลานคี้ อื ครูสอนเราอยา งดี

เมื่ออยูในปาแลว อยา ไปยดึ ปา อยา มอี ปุ าทานในปา เรามานเี้ พื่อมาทาํ ใหป ญ ญาเกดิ ถา ยงั ไมมีปญ ญา กจ็ ะเห็นวา รูป เสียง กล่ิน รส โผฏฐัพพะ
ธรรมารมณ น้นั เปน ปฏิปก ษกบั เราเปนขา ศึกของเรา

ถา ปญ ญาเกิดข้ึนแลว รปู เสียง กล่นิ รส โผฏฐพั พะธรรมารมณ นั้น ไมใชข าศึก แตเ ปน สภาวะท่ใี หความรคู วามเหน็ แกเราอยางแจง ชัด
เมือ่ สามารถกลับความเห็นอยางนี้ แสดงวาปญญาไดเกิดขึ้นแลว

ยกตัวอยา งงายๆอยา งไกปา เราก็รูก นั ทกุ คนวา ไกป า นัน้ เปน อยา งไร สตั วในโลกน้ที จี่ ะกลัวมนุษยย งิ่ ไปกวา ไกปา น้นั ไมม แี ลว
เมอ่ื มาอยูใ นปา นคี้ รง้ั แรก กเ็ คยสอนไกป า เคยเฝาดูมัน แลวก็ไดความรจู ากไกป าหลายอยาง

คร้ังแรกมนั มาเพยี งตวั เดียว เดนิ ผานมา เรากเ็ ดินจงกรมอยใู นปา มนั จะเขา มาใกล กไ็ มมองมนั มนั จะทําอะไรกไ็ มม องมนั
ไมทาํ กิริยาอนั ใดกระทบกระท่งั มนั เลย ตอไปกล็ องหยุดมองดมู ัน พอสายตาเราไปถูกมันเขา มันว่ิงหนเี ลย
แตพอเราไมมองมนั ก็คุยเขยี่ อาหารกินตามเร่อื งของมัน แตพ อมองเมอื่ ไร กว็ งิ่ หนีเมื่อนน้ั

นานเขาสกั หนอ ย มนั คงเห็นความสงบของเรา จติ ใจของมนั กเ็ ลยวา ง แตพ อหวา นขา วใหเ ทา น้นั ไกมนั กห็ นเี ลย
กช็ า งมนั ก็หวา นทง้ิ ไวอ ยางนน้ั แหละ เดีย๋ วมันกก็ ลับมาทีต่ รงนน้ั อกี แตยังไมกลา กินขา วทหี่ วา นไวใ ห มนั ไมรูจ กั นึกวาเราจะไปฆา ไปแกงมนั
เรากไ็ มวา อะไร กินก็ชาง ไมก ินก็ชาง ไมส นใจกับมนั

ไมชา มนั กไ็ ปคยุ เขย่ี หากินตรงน้ัน มันคงเรมิ่ มคี วามรสู ึกของมันแลว วันตอมามันก็มาตรงน้ันอีก มันกไ็ ดกนิ ขา วอกี พอขา วหมด
ก็หวานไวใหอีก มนั กว็ ่งิ หนีอกี แตเมื่อทาํ ซํา้ อยอู ยา งนเี้ ร่ือยๆ ตอนหลงั มนั ก็เพียงแตเดนิ หนีไปไมไกล แลวกก็ ลับมากนิ ขาวทหี่ วานใหน ัน้
นก่ี ็ไดเ รอ่ื งแลว

ตอนแรก ไกมนั เห็นขาวสารเปน ขาศกึ เพราะมนั ไมร จู กั เพราะมนั ดไู มช ดั มนั จึงว่ิงหนเี ร่ือยไป ตอ มามนั เชื่องเขา จึงกลบั มาดตู ามความเปน จริง
กเ็ หน็ วา น่ขี า วสารนี่ ไมใชข าศึกไมม อี นั ตราย มันก็มากินจนตลอดทุกวนั นี้ นีเ่ รยี กวา เรากไ็ ดค วามรจู ากมนั

เราออกมาอยใู นปา กน็ ึกวา รปู เสียง กลน่ิ รส โผฏ-ฐพั พะ ธรรมารมณ ในบา นเปน ขา ศึกตอ เรา จรงิ อยู เมอ่ื เรายงั ไมร ู มนั กเ็ ปนขาศกึ จริงๆ
แตถาเรารตู ามความเปน จรงิ ของมนั แลว ก็เหมอื นไกรจู ักขา วสารวา เปนขาวสาร ไมใชขา ศกึ ขา ศกึ กห็ ายไป

เรากับรูป เสียง กล่นิ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ กเ็ หมือนกันฉันนนั้ มนั ไมใ ชขาศึกของเราหรอก แตเ พราะเราคดิ ผิด เห็นผิด พจิ ารณาผิด
จงึ วา มันเปน ขาศกึ ถาพจิ ารณาถูกแลว ก็ไมใ ชข าศึก แตกลับเปนสิง่ ทีใ่ หความรู ใหว ชิ า ใหค วามฉลาดแกเ ราตา งหาก

แตถาไมร ู ก็คิดวาเปนขา ศึก เหมอื นกันกบั ไกท ี่เห็นขาวสารเปนขาศึกมนั นน่ั แหละ ถาเหน็ ขา วสารเปนขา วสารแลวขาศึกมนั ก็หายไป
พอเปนอยางนีก้ เ็ รียกวา ไกมนั เกดิ วปิ ส สนาแลว เพราะมนั รูตามเปนจรงิ มนั จึงเชือ่ ง ไมก ลวั ไมต ่นื เตน

เราน้ีกเ็ หมือนกันฉันนนั้ รปู เสียง กลิน่ รส โผฏฐัพพะธรรมารมณ เปนเครอื่ งใหเ ราตรัสรธู รรมะ เปนที่ใหขอคิดแกผ ูปฏิบัติทงั้ หลาย
ถา เราเหน็ ชดั ตามเปนจรงิ แลว กจ็ ะเปน อยางนนั้ ถาไมเ ห็นชดั กจ็ ะเปน ขา ศกึ ตอ เราตลอดไป แลว เรากจ็ ะหนีไปอยปู าเร่ือยๆ

อยานกึ วาเรามาอยปู า แลว ก็สบายแลว อยาคดิ อยา งนั้นอยาเอาอยา งน้นั อยาเอาความสงบแคนน้ั วา เราไมค อ ยไดเหน็ รูป ไมไ ดยินเสยี ง
ไมไ ดก ลน่ิ ไมไดรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณแลว เรากอ็ ยูสบายแลว อยาคิดเพยี งแคนัน้ ใหคดิ วา เรามาเพือ่ เพาะเชอื้ ปญญาใหเ กิดขนึ้
เมอื่ มปี ญญารูตามเปน จริงแลว ก็ไมลมุ ๆดอนๆ ไมต า่ํ ๆสงู ๆ

พอถกู อารมณดกี เ็ ปน อยางหนึ่ง ถูกอารมณร า ยก็เปนอยา งหน่ึง ถูกอารมณทช่ี อบใจกเ็ ปน อยา งหนึ่ง ถูกอารมณทไี่ มชอบใจก็เปน อยางหนึง่
ถาเปนอยา งน้กี ็แสดงวามนั ยงั เปนขาศกึ อยู ถา หมดขาศกึ แลวมันจะเสมอกัน ไมลุมๆดอนๆ ไมต า่ํ ๆสูงๆ รูเรื่องของโลกวา มันอยางนัน้ เอง
เปน โลกธรรม โลกธรรมเลยเปลยี่ นเปน มรรค โลกธรรมมแี ปดอยาง มรรคก็มแี ปดอยา ง โลกธรรมอยทู ไี่ หน มรรคกอ็ ยูทน่ี ่นั ถารูแจงเมือ่ ใด
โลกธรรมเลยกลายเปนมรรคแปด ถายงั ไมรู มันกย็ งั เปนโลกธรรม

เมอื่ สมั มาทิฐเิ กิดขน้ึ ก็เปน ดงั นี้ มนั พน ทุกขอยูทต่ี รงนไี้ มใ ชพ น ทุกขโดยวิ่งไปท่ีตรงไหน ฉะนน้ั อยาพรวดพราด การภาวนาตองคอ ยๆทํา
การทาํ ความสงบตองคอยๆทาํ มนั จะสงบไปบางกเ็ อา มนั จะไมสงบไปบางก็เอาเรือ่ งจติ มันเปน อยางนน้ั เราก็อยูของเราไปเรื่อยๆ

บางคร้งั ปญ ญามนั ก็ไมเกดิ กเ็ คยเปน เหมือนกัน เมือ่ ไมม ปี ญญา จะไปคิดใหป ญ ญามันเกดิ มนั กไ็ มเกิด มันเฉยๆอยอู ยางน้นั กเ็ ลยมาคิดใหม
เราจะพิจารณาสง่ิ ทไ่ี มมี มันกไ็ มไ ด เมื่อไมม ีเร่อื งอะไรกไ็ มตองไปแกมนั ไมมปี ญ หาก็ไมต อ งไปแกมนั ไมต องไปคน มนั
อยไู ปเฉยๆธรรมดาๆอยางนน้ั แหละแตต อ งอยดู วยความมสี ติสมั ปชญั ญะ อยดู วยปญญา ไมใชอ ยเู พลินไปตามอารมณ
อยดู ว ยความระมัดระวงั ปฏิบัติของเราไปเรอ่ื ยๆ ถา มเี รื่องอะไรมา ก็พจิ ารณา ถาไมมกี แ็ ลว ไป

ไดไปเหน็ แมงมมุ เปน ตัวอยา ง แมงมุมทาํ รังของมันเหมอื นขา ย มันสานขายไปขึงไวต ามชอ งตางๆ
เราไปนงั่ พิจารณาดมู นั ทาํ ขายขึงไวเหมอื นจอหนงั เสร็จแลว มันก็เก็บตวั มันเองเงยี บอยตู รงกลางขาย ไมวิ่งไปไหน พอมแี มลงวนั หรอื แมลงอืน่ ๆ
บนิ ผานขายของมัน พอถูกขา ยเทานั้น ขา ยกส็ ะเทอื น พอขา ยสะเทือนปุบ มนั กว็ งิ่ ออกจากรังทนั ที ไปจับตัวแมลงไวเปน อาหาร

เสรจ็ แลว มันกเ็ กบ็ ไวท ีก่ ลางตาขา ยตามเดิม ไมว าจะมีผึ้งหรอื แมลงอนื่ ใดมาถูกขา ยของมนั พอขา ยสะเทอื น มนั ก็วิง่ ออกมาจับแมลงนัน้
แลว ก็กลบั ไปเกาะนิ่งอยทู ตี่ รงกลางขาย ไมใ หใ ครเหน็ ทุกทไี ป

พอไดเ ห็นแมงมมุ ทําอยา งน้นั เรากม็ ปี ญญาแลว อายตนะทง้ั หก คือ ตา หู จมูก ลน้ิ กาย ใจ น้ี ใจอยตู รงกลาง ตา หู จมกู ล้ิน กาย
แผพ ังพานออกไป อารมณนั้นเหมือนแมลงตา งๆพอรปู มากม็ าถึงตา เสียงมาก็มาถงึ หู กล่นิ มากม็ าถงึ จมูก รสมาก็มาถงึ ลน้ิ
โผฏฐพั พะมาก็มาถงึ กาย ใจเปนผรู จู กั มันก็สะเทอื นถงึ ใจ เทานกี้ ็เกิดปญญาแลว

เราจะอยดู ว ยการเก็บตวั ไว เหมือนแมงมุม ท่ีเก็บตวั ไวใ นขายของมัน ไมต อ งไปไหน พอแมลงตา งๆมนั ผานขา ย ก็ทาํ ใหส ะเทือนถึงตวั รูสึกได
ก็ออกไปจบั แมลงไวแลวกก็ ลบั ไปอยทู เี่ ดมิ

ไมแตกตางอะไรกบั ใจของเราเลย อยตู รงนี้ ใหอ ยดู ว ยสตสิ มั ปชญั ญะ อยดู ว ยความระมัดระวงั อยดู วยปญ ญา อยดู วยความคิดถกู ตอง
เราอยตู รงนี้ เม่อื ไมม ีอะไร เราก็อยเู ฉยๆแตไ มใชอยดู วยความไมป ระมาท

ถงึ เราจะไมเ ดินจงกรม ไมนัง่ สมาธิ ไมอ ะไรก็ชา งเถดิ แตเ ราอยูดวยสติสมั ปชญั ญะ อยูดว ยความระมดั ระวัง
อยดู วยปญญาไมใชอ ยูดวยความประมาท น่เี ปนส่ิงสําคญั ไมใ ชเราจะน่ังตลอดวนั ตลอดคืน เอาแตพ อกําลังของเรา
ตามสมควรแกร า งกายของเรา

แตเ ร่อื งจิตน้ี เปน ของสําคัญมาก ใหรูอายตนะวา มันสง สา ยเขา มาเปนอยา งไร ใหร จู ักส่งิ ทัง้ หลายเหลาน้ี เหมอื นแมงมุมทพี่ อขายสะเทือน
มนั ก็วงิ่ ไปจับเอาตวั แมลงไดท นั ที

ฉะนน้ั เมอ่ื อารมณม ากระทบอายตนะ มันกม็ าถึงจติ ทนั ที เม่ือไปจบั ผา นทกุ ข ก็ใหเ ห็นมันโดยความเปน อนิจจงั ทกุ ขงั อนัตตา
แลว จะเอามนั ไปไวท ี่ไหนละ อนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา เหลา นี้กเ็ อาไปไวเ ปนอาหารของจิตของเรา ถาทําไดอ ยา งนี้ มนั ก็หมดเทานั้นแหละ

จติ ทมี่ ีอนจิ จงั ทกุ ขัง อนัตตา เปนอาหาร เปน จิตท่ีกําหนดรู เมื่อรวู าอันน้นั เปนอนจิ จัง มันกไ็ มเท่ยี ง ทกุ ขงั เปนทุกข อนตั ตา กไ็ มใชเราแลว
ดมู นั ใหชัด มนั ไมเ ที่ยง มันเปน ทกุ ข มนั ไมเปนแกน สาร จะเอามันไปทาํ ไม มนั ไมใชตวั ไมใชตน ไมใชของเรา จะไปเอาอะไรกับมนั
มนั ก็หมดตรงน้ี

ดแู มงมมุ แลว ก็นอมเขา มาหาจิตของเรา มนั กเ็ หมอื นกนั เทานน้ั ถาจติ เหน็ อนจิ จงั ทุกขัง อนตั ตา มนั กว็ าง ไมเ ปน เจาของสุข
ไมเ ปน เจา ของทุกขอ กี แลว ถาเหน็ ชดั ไดอยางนีม้ ันกไ็ ดความเทานั้นแหละ จะทําอะไรๆอยกู ส็ บาย ไมตอ งการอะไรอีกแลว
มีแตการภาวนาจะเจรญิ ยิ่งขึ้นเทา นน้ั

ถาทาํ อยา งนอี้ ยดู ว ยความระมัดระวงั กเ็ ปนการทเ่ี ราจะพนจากวัฏสงสารได ทีเ่ รายงั ไมพ นจากวัฏสงสาร ก็เพราะยงั ปรารถนาอะไรๆอยูท้ังนัน้
การไมทาํ ผิด ไมทาํ บาปนน้ั มนั อยูใ นระดับศลี ธรรม เวลาสวดมนตกว็ า ขออยาใหพลัดพรากจากของท่ีรักท่ชี อบใจ
อยา งนมี้ นั เปน ธรรมของเด็กนอย เปนธรรมของคนทีย่ ังปลอยอะไรไมได นค่ี ือความปรารถนาของคน ปรารถนาใหอ ายุยืน
ปรารถนาไมอ ยากตาย ปรารถนาไมอ ยากเปน โรค ปรารถนาไมอยากอยา งนัน้ อยา งนี้ นีแ่ หละความปรารถนาของคน

"ยมั ปจฉงั นะ ละภะติ ตัมป ทกุ ขัง" ความปรารถนาส่งิ ใดไมไดส่งิ นัน้ นัน่ ก็เปนทกุ ข น่แี หละมันสบั หวั เขา ไปอกี มนั เปนเรื่องปรารถนาทัง้ นน้ั
ไมว าใครก็ปรารถนาอยา งน้ันทกุ คน ไมเ หน็ มีใครอยากหมด อยากจนจริงๆสักคน

การปฏบิ ัตธิ รรมเปนสิ่งละเอยี ด ผูมีกริ ยิ านุม นวลสาํ รวมปฏบิ ตั ิไมเปลีย่ นแปลง สมาํ่ เสมออยเู รื่อย นนั่ แหละจึงจะรจู ัก
มันจะเกิดอะไรก็ชางมันเถิด ขอแตใ หม นั่ คงแนวแนเ อาไวอยา ซวนเซ หวนั่ ไหว

การฝกใจ

บทนํา

ชวี ติ คนในสมัยของทา นอาจารยมัน่ และทานอาจารยเสารน ัน้ สบายกวาในสมัยนี้มาก ไมมีความวุนวายมากเหมือนอยา งทกุ วนั น
ส้ี มยั โนนพระไมตองมายุง เกี่ยวกบั พิธรี ตี องตางๆ เหมือนอยา งเดยี๋ วนี้ทานอาศยั อยูตามปา ไมไดอ ยูเปนที่หรอก ธุดงคไปโนน ธุดงคไ ปนีเ่ รอ่ื ยไป
ทานใชเ วลาของทานปฏบิ ตั ภิ าวนาอยา งเตม็ ท่ี
สมัยโนน พระทานไมไ ดมขี า วของฟุมเฟอยมากมายอยางที่มกี ันทกุ วนั นี้หรอก เพราะมันยงั ไมมอี ะไรมากอยา งเดย๋ี วน้ี กระบอกน้ํากท็ ําเอา
กระโถนก็ทาํ เอา ทําเอาจากไมไ ผน น่ั แหละ

ความสันโดษของพระปา

ชาวบานกน็ านๆจึงจะมาหาสกั ที ความจรงิ พระทานก็ไมไดตอ งการอะไร ทา นสันโดษกบั สิง่ ที่ทา นมี ทา นอยไู ป
ปฏิบตั ภิ าวนาไปหายใจเปนกรรมฐานอยนู ัน่ แหละ
พระทานก็ไดร ับความลําบากมากอยูเหมอื นกัน ในการทอ่ี ยตู ามปา ตามเขาอยา งนนั้ ถา องคใดเปน ไขป า ไขมาลาเรยี
ไปถามหาขอยาอาจารยก ็จะบอกวา "ไมต อ งฉันยาหรอก เรงปฏิบัติภาวนาเขาเถอะ"

ความจริงสมัยนัน้ กไ็ มมหี ยูกยามากอยา งสมัยน้ี มแี ตสมุนไพรรากไมท ่ขี นึ้ อยตู ามปา พระตองอยอู ยางอดอยางทนเหลอื หลาย
ในสมัยนัน้ เจบ็ ไขเ ล็กๆนอ ยๆ ทา นกป็ ลอ ยมนั ไป เด๋ียวนีส้ ิเจ็บปวยอะไรนิดหนอ ยกว็ ิง่ ไปโรงพยาบาลแลว

บางทกี ต็ องเดินบณิ ฑบาตตง้ั หา กิโล พอฟา สางกต็ องรบี ออกจากวัดแลว กวา จะกลับก็โนน สิบโมงสิบเอ็ดโมงโนน
แลว กไ็ มใชบิณฑบาตไดอะไรมากมาย บางทีกไ็ ดขา วเหนยี วสักกอน เกลอื สกั หนอย พรกิ สักนิด เทานัน้ เอง
ไดอะไรมาฉนั กับขา วหรอื ไมกช็ างทา นไมค ิด เพราะมนั เปนอยา งนัน้ เอง ไมม อี งคใดกลาบนหิวหรอื เพลยี ทานไมบ น เฝาแตร ะมัดระวังตน

ทานปฏบิ ตั ิอยูในปาอยางอดทน อนั ตรายก็มีรอบดาน สตั วดรุ า ยกม็ ีอยหู ลายในปา นัน้ ความยากลาํ บากกาย
ลาํ บากใจในการอยูธดุ งคก ม็ ีอยหู ลายแทๆ แตท า นกม็ คี วามอดความทนเปนเลิศ เพราะส่งิ แวดลอ มสมยั น้นั บังคบั ใหเ ปนอยางนนั้

การภาวนาของทานนักปฏิบัตสิ มยั น้ี

มาสมยั น้ันสง่ิ แวดลอมบังคับเราไปในทางตรงขา มกับสมยั โนน ไปไหนเรากเ็ ดินไป ตอ มาก็นงั่ เกวยี นแลว ก็นงั่ รถยนต
แตความทะยานอยากมันก็เพิม่ ข้นึ เร่ือยๆ เดย๋ี วนีถ้ า ไมใชร ถปรับอากาศ กจ็ ะไมย อมน่งั ดจู ะไปเอาไมไ ดเทยี วแหละ ถา รถนน้ั ไมป รับอากาศ
คณุ ธรรมในเร่อื งความอดทนมนั คอ ยออ นลงๆ การปฏบิ ัตภิ าวนาก็ยอหยอนลงไปมากเด๋ียวนเี้ ราจงึ เหน็ นักปฏิบัติภาวนาชอบทาํ ตามความเห็น
ความตองการของตวั เอง

เม่ือผูเฒา ผแู กพ ดู ถึงเรื่องเกาๆแตค รง้ั กอน คนเดีย๋ วนฟี้ ง เหมือนวาเปนนิทานนยิ าย ฟงไปเฉยๆแตไ มเ ขาใจเลยแหละ เพราะมนั เขา ไมถ ึง
พระภกิ ษทุ ี่บวชในสมัยกอนน้ันจะตองอยูกบั พระอปุ ช ฌายอ ยางนอ ยหาป น่ีเปนระเบียบท่ีถือกนั มา และตองพยายามหลกี เลย่ี งการพูดคุย
อยา ปลอ ยตวั เท่ียวพูดคุยมากเกินไป อยา อา นหนังสือ แตใ หอานใจของตัวเอง

พจิ ารณาอา นใจและดใู จตวั เอง

ดูวดั หนองปาพงเปน ตวั อยา ง ทุกวนั นี้มพี วกทจ่ี บจากมหาวิทยาลัยมาบวชกันมาก ตอ งคอยหามไมใหเ อาเวลาไปอา นหนงั สอื ธรรมะ
เพราะคนพวกนี้ชอบอานหนงั สอื แลว ก็ไดอานหนงั สือมามากแลว แตโอกาสท่ีจะอานใจของตวั เองนะหายากมาก
ฉะนัน้ ระหวางท่มี าบวชสามเดือนน้ี ก็ตอ งขอใหปดหนงั สอื ปดตํารับตาํ ราตางๆใหหมดในระหวางที่บวชนี้นะ
เปนโอกาสวิเศษแลว ท่ีจะไดอ า นใจของตัวเอง

การตามดูใจของตวั เองน่ี นา สนใจมาก ใจท่ยี ังไมไ ดฝก มันกค็ อยว่ิงไปตามนสิ ัยเคยชินที่ยังไมไดฝ ก ไมไ ดอบรม
มันเตน คกึ คกั ไปตามเรื่องตามราว ตามความคะนอง เพราะมนั ยงั ไมเคยถกู ฝก ดงั น้ันจงฝก ใจของตวั เอง
การปฏิบัติภาวนาในทางพทุ ธศาสนาก็คอื การปฏิบัตเิ รื่องใจ ฝก จติ ฝกใจของตัว ฝก อบรมจติ ของตวั เองนแี่ หละเร่ืองน้ีสาํ คญั มาก
การฝกใจเปน หลักสําคัญ พุทธศาสนาเปน ศาสนาของใจ มนั มเี ทาน้ี ผทู ฝี่ ก ปฏิบัติทางจิต คือผปู ฏิบตั ิธรรมในทางพุทธศาสนา

การฝก ใจ

ใจของเรานี่มันอยใู นกรง ยิ่งกวา นน้ั มนั ยงั มเี สอื ทีก่ ําลงั อาละวาดอยใู นกรงนน้ั ดว ย ใจทีม่ ันเอาแตใจของเราน้ี
ถา หากมันไมไดอะไรตามท่ีมันตอ งการแลว มนั ก็อาละวาด เราจะตอ งอบรมใจดวยการปฏิบตั ภิ าวนา ดว ยสมาธิ นแี้ หละทีเ่ ราเรียกวา
"การฝกใจ"

พื้นฐานของการปฏบิ ตั ิธรรม

ในเบ้อื งตน ของการฝก ปฏิบตั ธิ รรม จะตองมศี ีลเปน พนื้ ฐานหรอื รากฐาน ศลี นเ้ี ปนสงิ่ อบรมกาย วาจา
ซง่ึ บางทีก็จะเกิดการวนุ วายขึ้นในใจเหมือนกนั เม่ือเราพยายามจะบงั คบั ใจไมใ หท าํ ตามความอยาก

กินนอ ย นอนนอ ย พดู นอย นิสยั ความเคยชินอยา งโลกๆ ลดมันลง อยายอมตามความอยาก อยา ยอมตามความตดิ ของตน หยดุ เปน ทาสมนั เสยี
พยายามตอ สเู อาชนะอวชิ ชาใหไดด ว ยการบังคบั ตวั เองเสมอ นเ้ี รยี กวาศลี

เม่อื พยายามบังคบั จติ ของตวั เองนน้ั จติ มันก็จะดิ้นรนตอสูมันจะรสู กึ ถูกจาํ กัด ถูกขม ขี่ เม่ือมันไมไ ดทําตามที่มันอยาก
มนั กจ็ ะกระวนกระวายด้ินรน ทีนี้เหน็ ทุกขชดั ละ

เห็นทุกขทําใหเ กิดปญญา

"ทุกข" เปน ขอแรกของอรยิ สจั จ คนท้ังหลายพากันเกลียดกลวั ทุกข อยากหนที ุกข ไมอยากใหมที กุ ขเ ลย ความจรงิ
ทกุ ขนแี่ หละจะทาํ ใหเ ราฉลาดขึ้นละ ทําใหเ กิดปญญา ทาํ ใหเรารูจกั พิจารณาทุกข สขุ น่นั สิมนั จะปดหูปด ตาเรา มนั จะทําใหไ มร ูจกั อด
ไมร ูจกั ทน ความสขุ สบายทง้ั หลายจะทาํ ใหเ ราประมาท

กิเลสสองตัวนีท้ ุกขเ ห็นไดงา ย ดงั นน้ั เราจึงตองเอาทุกขน แี่ หละมาพจิ ารณา แลวพยายามทาํ ความดับทุกขใหได
แตก อ นจะปฏิบัตภิ าวนาก็ตอ งรจู กั เสยี กอนวา ทกุ ขคืออะไร

ตอนแรกเราจะตองฝก ใจของเราอยางนี้ เราอาจยังไมเ ขาใจวา มันเปน อยางไร ทาํ ไป ทาํ ไปกอ น
ฉะนน้ั เม่อื ครอู าจารยบอกใหท ําอยา งใดกท็ ําตามไปกอน แลวกจ็ ะคอ ยมคี วามอดทนอดกล้นั ขึน้ เองไมวา จะเปนอยางไรใหอ ดทนอดกลั้นไวก อน
เพราะมนั เปนอยางน้นั เองอยา งเชนเมอื่ เรม่ิ ฝกนง่ั สมาธิ เราก็ตอ งการความสงบทเี ดยี วแตกจ็ ะไมไ ดความสงบ เพราะมนั ยังไมเ คยทําสมาธิมากอ น
ใจกบ็ อกวา"จะนง่ั อยา งนแี้ หละจนกวา จะไดความสงบ"

อยา ทอดทิง้ จิต

แตพอความสงบไมเ กดิ กเ็ ปน ทุกข ก็เลยลุกขึ้น วงิ่ หนเี ลย การปฏิบตั ิอยางน้ีไมเปน "การพัฒนาจติ " แตม นั เปน การ
"ทอดทงิ้ จติ "ไมค วรจะปลอยใจไปตามอารมณ ควรท่จี ะฝก ฝนอบรมตนเองตามคําสง่ั สอนของพระพุทธเจา ขีเ้ กียจกช็ าง ขยันกช็ า ง
ใหปฏบิ ตั ิมันไปเรอื่ ยๆ ลองคิดดูซิ ทาํ อยางนจี้ ะไมด กี วาหรือ การปลอ ยใจตามอารมณนั้นจะไมม วี นั ถงึ ธรรมของพระพทุ ธเจา

เมือ่ เราปฏิบัติธรรม ไมวา อารมณใดจะเกดิ ขนึ้ กช็ า งมัน แตใ หปฏบิ ัติไปเร่ือยๆ ปฏิบตั ใิ หสมา่ํ เสมอ
การตามใจตัวเองไมใ ชแนวทางของพระพุทธเจา ถาเราปฏบิ ัตธิ รรมตามความคดิ ความเหน็ ของเรา เราจะไมม วี ันรูแจง วาอันใดผดิ อันใดถูก
จะไมม วี นั รูจ ักใจของตวั เองและไมม ีวนั รจู ักตวั เอง ดงั น้นั ถาปฏบิ ัติธรรมตามแนวทางของตนเองแลวยอมเปน การเสยี เวลามากทีส่ ดุ
แตก ารปฏบิ ตั ิตามแนวทางของพระพุทธเจาแลว ยอ มเปนหนทางตรงทส่ี ุด

การพัฒนาจิต

ขอใหจ าํ ไววา ถงึ จะขเ้ี กียจก็ใหพยายามปฏิบตั ไิ ป ขยันก็ใหป ฏบิ ัติไป ทุกเวลาและทกุ หนทุกแหง น่จี ึงจะเรยี กวา "การพัฒนาจิต"
ถาหากปฏบิ ัตติ ามความคดิ ความเห็นของตนเองแลว กจ็ ะเกดิ ความคดิ ความสงสยั ไปมากมาย มนั จะพาใหคดิ ไปวา "เราไมม ีบญุ
เราไมมวี าสนาปฏบิ ตั ธิ รรมก็นานนักหนาแลว ยงั ไมร ู ยงั ไมเ หน็ ธรรมเลยสกั ที" การปฏิบัติธรรมอยา งน้ีไมเ รียกวาเปน "การพฒั นาจติ "
แตเ ปน "การพฒั นาความหายนะของจติ "

ถา เมื่อใดที่ปฏิบัตธิ รรมไปแลว มคี วามรสู กึ อยา งนีว้ า ยงั ไมร อู ะไร ยงั ไมเหน็ อะไร ยงั ไมม อี ะไรใหมๆเกิดขน้ึ บา งเลย น่กี เ็ พราะที่ปฏบิ ตั มิ ามนั ผิด
ไมไดป ฏิบัตติ ามคาํ สอนของพระพุทธเจา

สิน้ สงสัยดวยการปฏิบตั ิท่ีถูกตอง

พระพุทธเจา ทรงสอนวา "อานนท ปฏบิ ตั ใิ หม าก ทําใหมากแลว จะสน้ิ สงสยั " ความสงสยั จะไมมีวนั สิ้นไปได ดว ยการคิด ดวยทฤษฎี
ดวยการคาดคะเน หรอื ดว ยการถกเถยี งกนั หรือจะอยเู ฉยๆไมปฏบิ ตั ิภาวนาเลย ความสงสัยก็หายไปไมไดอีกเหมอื นกนั
กเิ ลสจะหายสนิ้ ไปไดก็ดวยการพฒั นาทางจติ ซึง่ จะเกิดไดก ็ดวยการปฏิบตั ิที่ถกู ตองเทาน้ัน

การปฏิบัติทางจิตที่พระพุทธเจา ทรงสอนน้ัน ตรงกันขา มกบั หนทางของโลกอยา งสิน้ เชิง คําสัง่ สอนของพระองคม าจากพระทยั อนั บรสิ ทุ ธิ์
ทไ่ี มข อ งเก่ยี วกับกิเลสอาสวะทงั้ หลาย นี่คอื แนวทางของพระพุทธเจาและสาวกของพระองค

เม่ือเราปฏิบตั ิธรรม เราตองทาํ ใจของเราใหเปนธรรม ไมใ ชเ อาธรรมะมาตามใจเรา ถาปฏิบตั อิ ยา งนี้ ทุกขก ็จะเกดิ ขน้ึ
แตไ มมีใครสกั คนหรอกทีจ่ ะพนจากทกุ ขไปได พอเรมิ่ ปฏบิ ัติ ทกุ ขก อ็ ยตู รงนั้นแลว หนา ที่ของผปู ฏบิ ตั นิ ัน้ จะตอ งมสี ติ สํารวม และสนั โดษ
สิง่ เหลา นีจ้ ะทําใหเ ราหยุด คือเลิกนสิ ยั ความเคยชนิ ท่ีเคยทาํ มาแตเ กากอ นทาํ ไมถงึ ตอ งทาํ อยา งนี้ ถา ไมทําอยางน้ี
ไมฝ ก ฝนอบรมใจตนเองแลวมันกจ็ ะคกึ คะนอง วุน วายไปตามธรรมชาตขิ องมัน

ธรรมชาตขิ องจิตฝก ไดเสมอ

ธรรมชาติของใจนมี้ นั ฝก กนั ได เอามาใชป ระโยชนได เปรยี บไดก บั ตนไมในปา ถา เราปลอ ยท้ิงไวต ามธรรมชาตขิ องมนั
เรากจ็ ะเอามนั มาสรา งบา นไมได จะเอามาทําแผน กระดานกไ็ มไ ด หรอื ทาํ อะไรอยา งอื่นทีจ่ ะใชส รางบานกไ็ มได
แตถ าชา งไมผ านมาตองการไมไ ปสรา งบา น เขาก็จะมองหาตน ไมใ นปา นแ้ี ละตัดตน ไมใ นปา นเี้ อาไปใชป ระโยชน
ไมช า เขาก็สรา งบา นเสรจ็ เรียบรอ ย

การปฏบิ ัตภิ าวนาและการพฒั นาจติ กค็ ลายกันอยา งนี้ ก็ตองเอาใจทยี่ งั ไมไ ดฝก เหมอื นไมใ นปานี่แหละ มาฝก มนั จนมนั ละเอียดประณตี ขึน้ รูขน้ึ
และวอ งไวขนึ้ ทุกอยางมนั เปน ไปตามภาวะธรรมชาตขิ องมัน เม่อื เรารูจกั ธรรมชาติ เขาใจธรรมชาติ เราก็เปลยี่ นมันได ทงิ้ มนั ก็ได
ปลอยมนั ไปกไ็ ด แลวเราก็จะไมทุกขอกี ตอ ไป

จติ ยึดม่ันมันก็สบั สนวนุ วาย

ธรรมชาตขิ องใจเรามนั กอ็ ยางน้ัน เม่ือใดทเี่ กาะเกยี่ วผูกพนั ยดึ มน่ั ถือม่นั ก็จะเกดิ ความวนุ วายสับสน
เด๋ยี วมันกจ็ ะวงิ่ วุนไปโนน ไปน่พี อมันวุนวายสับสนมากๆเขา เรากค็ ิดวา คงจะฝกอบรมมันไมไ ดแ ลว แลวกเ็ ปนทุกข
นก่ี เ็ พราะไมเ ขา ใจวา มันตอ งเปน ของมนั อยา งน้ันเองความคดิ ความรูสกึ มันจะวิ่งไปวิ่งมาอยูอยา งนี้ แมเราจะพยายามฝก ปฏบิ ัติ
พยายามใหมันสงบ มันก็เปนของมนั อยอู ยางน้นั มันจะเปน อยางอื่นไปไมไ ด
เม่อื เราตดิ ตามพจิ ารณาดธู รรมชาตขิ องใจอยูบอ ยๆกจ็ ะคอ ยๆเขาใจวา ธรรมชาติของใจมนั เปน ของมนั อยูอยา งน้นั มนั จะเปนอยา งอนื่ ไปไมไ ด

ปลอ ยวางไดจติ ใจกส็ งบ

ถาเราเหน็ อนั นช้ี ัด เราก็จะทิ้งความคดิ ความรูส กึ อยางน้ันได ทีน้กี ็ไมต องคิดน่นั คิดนีอ่ ีก คอยแตบ อกตวั เองไวอ ยา งเดียววา
"มันเปน ของมันอยางนั้นเอง" พอเขา ใจไดชัด เหน็ แจง อยางนแ้ี ลว ทนี ้ีกจ็ ะปลอ ยอะไรๆไดท ง้ั หมด กไ็ มใ ชวาความคิดความรสู กึ มันจะหายไป
มนั ก็ยงั อยูน น่ั แหละ แตม นั หมดอาํ นาจเสยี แลว

เปรียบกเ็ หมอื นกบั เด็กท่ีชอบซน เลนสนุก ทาํ ใหร าํ คาญ จนเราตองดเุ อา ตีเอา แตเ รากต็ อ งเขาใจวา ธรรมชาติของเด็กกเ็ ปนอยา งนนั้ เอง
พอรูอยางนี้ เราก็ปลอ ยใหเด็กเลน ไปตามเรอ่ื งของเขาความเดือดรอ นรําคาญของเราก็หมดไป มันหมดไปไดอยา งไร
ก็เพราะเรายอมรับธรรมชาตขิ องเด็ก ความรสู ึกของเราเปล่ยี น และเรายอมรบั ธรรมชาติของสิ่งทัง้ หลาย เราปลอ ยวาง
จติ ของเราก็มีความสงบเยือกเย็น นีเ่ รามคี วามเขา ใจอนั ถูกตอ งแลว เปน สัมมาทฏิ ฐิ

ถายงั ไมมคี วามเขาใจทถ่ี กู ตอง ยังเปนมจิ ฉาทิฏฐอิ ยู แมจ ะไปอยูในถาํ้ ลึกมืดสกั เทา ใด ใจมันกย็ ังยุง เหยงิ อยู ใจจะสงบไดกด็ วยความเห็นที่ถูกตอ ง
เปน สมั มาทฏิ ฐเิ ทา น้นั ทีน้กี ห็ มดปญหาจะตอ งแกเพราะไมมีปญ หาอะไรเกดิ ข้ึน น่ีมันเปน อยา งนี้ เราไมช อบมัน เราปลอยวางมนั
เม่ือใดที่มีความรูสกึ เกาะเกยี่ วยึดม่นั ถอื ม่ันเกดิ ข้ึน เราปลอ ยวางทนั ที เพราะรูแ ลว วา ความรสู กึ อยางนนั้ มนั ไมไ ดเ กดิ ขึน้ มาเพ่ือจะกวนเรา
แมบางทีเราอาจจะคดิ อยา งน้ัน แตค วามเปนจริงความรูส ึกนนั้ เปนของมันอยา งนั้นเอง

ถา เราปลอยวางมนั เสีย รปู ก็เปนสักแตวารปู เสียงก็สักแตวา เสียง กลิ่นก็สกั แตว า กลนิ่ รสก็สักแตวา รส โผฏฐัพพะก็สกั แตวา โผฏฐพั พะ
ธรรมารมณก ็สกั แตวาธรรมารมณ เปรียบเหมอื นนาํ้ มนั กบั น้าํ ทา ถาเราเอาทงั้ สองอยา งน้เี ทใสข วดเดยี วกัน มนั กไ็ มป นกัน
เพราะธรรมชาตมิ ันตา งกนั เหมือนกบั ท่คี นฉลาดกต็ างกบั คนโง พระพุทธเจา ก็ทรงอยกู ับรปู เสียง กลน่ิ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ
แตพระองคทรงเปนพระอรหันต พระองคจงึ ทรงเหน็ สงิ่ เหลาน้ีเปน เพียงส่งิ "สกั วา " เทานัน้

ใจก็สกั วาใจ ความคิดก็สักวา ความคดิ

พระองคท รงปลอยวางมนั ไปเรอื่ ยๆ ตง้ั แตท รงเขาพระทัยแลววา ใจกส็ กั วา ใจ ความคดิ กส็ กั วา ความคิด พระองคไ มทรงเอามนั มาปนกัน
ใจกส็ กั วา ใจ ความคิดความรสู กึ กส็ ักวา ความคดิ ความรสู ึกปลอยใหมันปนเพียงสง่ิ "สักวา " รูปกส็ ักวา รปู
เสยี งก็สักวาเสยี งความคิดกส็ กั วาความคดิ จะตองไปยดึ มน่ั ถอื มน่ั ทําไม ถา คิดไดร สู กึ ไดอ ยางนี้เรากจ็ ะแยกกนั ได ความคิดความรูสกึ (อารมณ)
อยูทางหน่ึงใจก็อยูอ กี ทางหนงึ่ เหมอื นกับนา้ํ มนั กบั นํ้าทา อยูในขวดเดียวกนั แตมนั แยกกนั อยู

พระพุทธเจาและพระอรหันตสาวกของพระองค ก็อยูรวมกบั ปุถชุ นคนธรรมดาทไ่ี มไดรธู รรม ทา นไมไ ดเพียงอยูรว มเทาน้ัน
แตท า นยงั สอนคนเหลานั้น ทง้ั คนฉลาด คนโง ใหรจู ักวธิ ีทจี่ ะศกึ ษาธรรมปฏิบตั ิธรรมและรูแจงในธรรม
ทานสอนไดเพราะทา นไดปฏิบัติมาเองทานรวู ามันเปนเรอื่ งของใจเทานั้น เหมือนอยา งท่ไี ดพดู มานีแ่ หละ

ดังน้ันการปฏิบัติภาวนานี้อยาไปสงสยั มันเลย เราหนจี ากบานมาบวช ไมใ ชเพอื่ หนีมาอยกู ับความหลงหรอื อยกู บั ความขลาดความกลวั
แตหนมี าเพ่ือฝกอบรมตัวเอง เพ่ือเปน นายตวั เอง ชนะตวั เองถา เราเขา ใจไดอ ยางน้ี เราก็จะปฏบิ ตั ิธรรมได ธรรมะจะแจม ชัดขึน้ ในใจของเรา

ธรรมะมีอยทู ุกหนทกุ แหง

ผูท ีเ่ ขา ใจธรรมะก็เขาใจตัวเอง ใครเขา ใจตวั เองก็เขา ใจธรรมะทกุ วนั นก้ี ็เหลือแตเปลือกของธรรมะเทา นัน้
ความเปน จริงแลว ธรรมะมีอยูทกุ หนทุกแหง ไมจ าํ เปนท่จี ะตอ งหนไี ปไหน ถาจะหนีกใ็ หห นีดวยความฉลาด ดวยปญ ญา
หนีดวยความชาํ นชิ าํ นาญ อยา หนดี วยความโง ถาเราตอ งการความสงบกใ็ หสงบดวยความฉลาด ดว ยปญ ญาเทานนั้ กพ็ อ

เมื่อใดท่ีเราเห็นธรรมะ นัน่ กเ็ ปนสัมมาปฏิปทาแลว กิเลสกส็ กั แตวากเิ ลส ใจก็สักแตวา ใจ เม่อื ใดที่เราท้ิงได
ปลอยวางไดแ ยกไดเมื่อน้นั มนั ก็เปนเพียงส่ิงสกั วา เปนเพียงอยา งนีอ้ ยา งนนั้ สาํ หรับเราเทานนั้ เอง เมอ่ื เราเห็นถูกแลว กจ็ ะมแี ตความปลอดโปรง
ความเปนอิสระตลอดเวลา

พระพุทธองคตรัสวา "ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลายทานอยายึดมนั่ ในธรรม" ธรรมะคืออะไร คอื ทกุ สิง่ ทกุ อยา ง
ไมมีอะไรทไ่ี มใชธรรมะความรักความเกลยี ดกเ็ ปนธรรมะ ความสขุ ความทกุ ขก เ็ ปน ธรรมะความชอบความไมช อบก็เปนธรรมะ
ไมว า จะเปน ส่งิ เลก็ นอยแคไหนกเ็ ปนธรรมะ

ปฏิบตั ิเพื่อละ อยาปฏิบัติเพอื่ สะสม

เมอ่ื เราปฏิบัตธิ รรมเราเขาใจอันน้ี เรากป็ ลอยวางได ดงั นน้ั กต็ รงกับคําสอนของพระพทุ ธเจา ทว่ี า ไมใ หยึดมัน่ ถอื มั่นในสง่ิ ใด
ทกุ อยางทีเ่ กดิ ขนึ้ ในใจเรา ในจิตเรา ในรางกายของเรา มีแตความแปรเปลีย่ นไปทง้ั นัน้
พระพทุ ธองคจ งึ ทรงสอนไมใหยดึ มนั่ ถือม่นั พระองคทรงสอนพระสาวกของพระองคใหปฏิบตั เิ พ่ือละ เพือ่ ถอนไมใ หป ฏบิ ตั ิเพอ่ื สะสม

ถาเราทําตามคาํ สอนของพระองค เรากถ็ ูกเทา นัน้ แหละ เราอยใู นทางทถ่ี ูกแลว แตบางทกี ็ยงั มคี วามวุนวายเหมือนกนั
ไมใชคาํ สอนของพระองคท ําใหวนุ วาย กิเลสของเรานน้ั แหละทีม่ นั ทําใหว นุ วาย มันมาบังคับความเขา ใจอนั ถกู ตองเสีย ก็เลยทาํ ใหเราวุนวาย

ความจริงการปฏบิ ตั ติ ามคําสอนของพระพุทธเจา นน้ั ไมม อี ะไรลาํ บาก ไมมอี ะไรยงุ ยาก
การปฏิบัตติ ามทางของพระองคไ มม ีทกุ ขเพราะทางของพระองคคือ "ปลอ ยวาง" ใหห มดทุกสง่ิ ทุกอยาง

จุดหมายสูงสุดของการปฏบิ ตั ภิ าวนานั้น ทานทรงสอนให"ปลอ ยวาง" อยาแบกถืออะไรใหม ันหนัก ทิ้งมันเสีย ความดกี ็ทง้ิ ความถกู ตองกท็ ิง้
คาํ วาทงิ้ หรอื ปลอยวางไมใ ชไมต อ งปฏิบัติ แตห มายความวา ใหปฏิบตั ิ "การละ" "การปลอยวาง" นน่ั แหละ

จงอยูกับปจจบุ นั อยาจมอยกู บั อดตี

พระองคทรงสอนใหพจิ ารณาธรรมทั้งหลาย ท่กี ายทใ่ี จของเราธรรมะไมไ ดอยไู กลท่ไี หน อยูทต่ี รงน้ี
อยูท่ีกายท่ีใจของเรานแี่ หละดังน้ันนักปฏบิ ัตติ องปฏบิ ตั อิ ยา งเขมแข็ง เอาจรงิ เอาจงั ใหใ จมนั ผอ งใสข้ึน สวา งขนึ้ ใหม นั เปน ใจอิสระ
ทําความดีอะไรแลวก็ปลอยมันไป อยา ไปยึดไว หรอื งดเวน การทาํ ชว่ั ไดแ ลว กป็ ลอยมันไป พระพุทธเจา ทรงสอนใหอ ยกู ับปจจุบันนี้
ท่ีนแี้ ละเดย๋ี วนี้ ไมใ ชอ ยกู ับอดีตหรืออนาคต

คําสอนทีเ่ ขา ใจผิดกันมาก แลวก็ถกเถียงกนั มากทีส่ ดุ ตามความคิดเหน็ ของตนก็คอื เร่ือง "การปลอ ยวาง" หรือ "การทํางานดวยจติ วาง"
นแ่ี หละ การพดู อยางน้ีเรียกวา พูด "ภาษาธรรม" เมื่อเอามาคดิ เปน ภาษาโลกมนั กเ็ ลยยงุ แลว ก็ตีความหมายวา อยางน้ัน
ทาํ อะไรก็ไดต ามใจชอบละซิ

ความจริงมันหมายความอยางน้ี อปุ มาเหมือนวา เราแบกกอนหินหนักอยกู อ นหนงึ่ แบกไปก็รสู ึกหนัก
แตก ็ไมร จู ะทาํ อยา งไรกบั มันก็ไดแ ตแ บกอยอู ยา งน้นั แหละ พอมีใครบอกวา ใหโ ยนมนั ท้ิงเสยี ซิ กม็ าคดิ อีกแหละวา
"เอ...ถาเราโยนมนั ทิง้ ไปแลว เราก็ไมม ีอะไรเหลือนะซ"ิ ก็เลยแบกอยูน ัน่ แหละ ไมยอมท้ิง

ประโยชนข องการปลอยวาง

ถา จะมีใครบอกวา โยนทง้ิ ไปเถอะ แลว จะดอี ยางน้นั เปน ประโยชนอยางนี้ เรากย็ งั ไมยอมโยนทง้ิ อยูนน่ั แหละ
เพราะกลวั แตว าจะไมม อี ะไรเหลือ ก็เลยแบกกอนหนิ หนักไว จนเหนอ่ื ยออนเพลียเต็มที จนแบกไมไ หวแลวก็เลยปลอ ยมนั ตกลง
ตอนทปี่ ลอ ยมนั ตกลงนแี้ หละกจ็ ะเกิดความรูเร่ืองการปลอยวางขนึ้ มาเลย เราจะรสู กึ เบาสบาย
แลว กร็ ไู ดด ว ยตัวเองวา การแบกกอ นหินนั้นมนั หนกั เพียงใดแตตอนทเ่ี ราแบกอยนู ั้นเราไมรหู รอกวา การปลอ ยวางมปี ระโยชนเ พียงใด

ดังน้ันถามีใครมาบอกใหป ลอ ยวาง คนที่ยงั มดื อยูก็ไมร ไู มเ ขาใจหรอก กจ็ ะหลบั หูหลับตาแบกกอ นหินกอนน้ันอยา งไมยอมปลอย
จนกระทง่ั มนั หนักจนเหลือทจี่ ะทนนนั่ แหละ ถงึ จะยอมปลอ ย แลวกจ็ ะรสู ึกไดดวยตวั เอง
วา มนั เบามนั สบายแคไ หนที่ปลอ ยมนั ไปไดต อ มาเราอาจจะไปแบกอะไรอีกก็ได แตตอนนี้เราพอรแู ลววา ผลของการแบกน้นั เปน อยา งไร
เรากจ็ ะปลอ ยมนั ไดโ ดยงา ยขึน้ ความเขา ใจในความไรป ระโยชนของการแบกหาม และความเบาสบายของการปลอ ยวางน่ีแหละ
คือตัวอยางที่แสดงถงึ การรจู ักตวั เอง

ความยดึ มนั่ ถอื มน่ั ในตัวของเราก็เหมือนกอ นหนิ หนักกอนนน้ั พอคิดวา จะปลอ ย "ตวั เรา" กเ็ กดิ ความกลัววา ปลอยไปแลว ก็จะไมม อี ะไรเหลอื
เหมือนกับที่ไมย อมปลอยกอนหินกอ นนั้น แตในที่สุดเมอ่ื ปลอยมันไปได เรากจ็ ะรูสึกเองถึงความเบาสบายในการที่ไมไดย ดึ มนั่ ถอื ม่นั

การฝกใจตองไมยดึ มั่นถอื มน่ั

ในการฝกใจนี้ เราตองไมย ึดมน่ั ทั้งสรรเสริญ ท้งั นนิ ทา ความตอ งการแตสรรเสรญิ และไมตองการนนิ ทานัน้
เปนวิถีทางของโลกแตแ นวทางของพระพุทธเจา ใหรบั สรรเสริญตามเหตตุ ามปจจัยของมัน
และก็ใหร ับนินทาตามเหตตุ ามปจจยั ของมนั เหมือนกนั เหมือนอยางกบั การเล้ยี งเด็ก บางทีถาเราไมดเุ ด็กตลอดเวลา
มนั กด็ เี หมอื นกนั ผูใหญบางคนดมุ ากเกินไป ผใู หญท ่ีฉลาดยอมรูจกั วา เมือ่ ใดควรดเุ ม่อื ใดควรชม

ใจของเรากเ็ หมอื นกัน ใชปญญาเรยี นรูจ ักใจ ใชความฉลาดรักษาใจไว แลวเราก็จะเปนคนฉลาดที่รจู ักฝกใจ
เมอื่ ฝกบอยๆมนั ก็จะสามารถกําจัดทกุ ขได ความทกุ ขเกดิ ข้นึ ทใ่ี จนเ่ี อง มันทาํ ใหใ จสบั สนมืดมวั มันเกดิ ขึ้นท่นี ม่ี นั ก็ตายท่ีน่ี

ถา ยึดม่นั เขา เรากถ็ ูกกัด

เรือ่ งของใจมันเปนอยางน้ี บางทกี ค็ ิดดี บางทีก็คดิ ช่ัว ใจมันหลอกลวง เปน มายา จงอยาไวใจมนั แตจ งมองเขา ไปที่ใจ
มองใหเห็นความเปน อยอู ยางน้นั ของมนั ยอมรบั มันทั้งน้ัน ทั้งใจดีใจช่วั เพราะมันเปน ของมันอยางน้ัน ถา เราไมไปยดึ ถือมัน
มนั ก็เปน ของมนั อยแู คนัน้ แตถาเราไปยดึ มันเขา เราก็จะถกู มนั กดั เอา แลว เรากเ็ ปน ทกุ ข ถา ใจเปน สมั มาทฏิ ฐแิ ลวกจ็ ะมีแตความสงบ
จะเปน สมาธิ จะมีความฉลาด ไมวา จะนง่ั หรอื จะนอน กจ็ ะมีแตความสงบ ไมวา จะไปไหน ทาํ อะไรก็จะมแี ตค วามสงบ

วนั นที้ าน (ภกิ ษชุ าวตะวันตก) ไดพ าลกู ศษิ ยม าฟง ธรรม ทา นอาจจะเขาใจบาง ไมเขา ใจบาง ผมไดพ ดู เร่ืองการปฏิบตั ิเพื่อใหท านเขา ใจไดง าย
ทา นจะคิดวา ถกู หรอื ไมก็ตาม กข็ อใหทานลองนาํ ไปพจิ ารณาดู ผมในฐานะอาจารยอ งคห นง่ึ
กอ็ ยูใ นฐานะคลา ยๆกันผมเองก็อยากฟงธรรมเหมอื นกนั เพราะไมว าผมจะไปทีไ่ หน ก็ตองไปแสดงธรรมใหผูอน่ื ฟง
แตต ัวเองไมไดม ีโอกาสฟงเลย คราวน้กี ด็ ทู านพอใจในการฟง ธรรมอยู เวลาผา นไปเรว็
เม่ือทา นนั่งฟง อยา งเงียบๆเพราะทานกาํ ลังกระหายธรรมะ ทานจึงตอ งการฟง

เมอ่ื กอนน้ี การแสดงธรรมกเ็ ปนความเพลิดเพลนิ อยา งหนง่ึ แตต อมาความเพลิดเพลนิ กค็ อ ยหายไป รสู กึ เหนือ่ ยและเบื่อ กก็ ลบั อยากเปน ผูฟงบา ง
เพราะเมอื่ ฟงธรรมจากครูอาจารยน ้นั มนั เขา ใจงา ยและมกี าํ ลงั ใจ แตเมอ่ื เราแกข นึ้
มคี วามหวิ กระหายในธรรมะรสชาติของมันก็ย่ิงเอรด็ อรอ ยมากขึ้น

การเปนครูอาจารยของผอู ืน่ นัน้ จะตองเปน ตวั อยา งแกพ ระภิกษุอ่ืนๆ เปน ตวั อยา งแกลูกศิษย
เปนตัวอยางแกท ุกคนฉะน้นั อยาลืมตนเองแลว กอ็ ยาคดิ ถงึ ตนเอง ถาความคดิ อยางนัน้ เกิดข้ึน รีบกําจัดมันเเสยี
ถาทาํ ไดอยางนี้กจ็ ะเปน ผทู รี่ จู กั ตวั เอง

ใหร สู ึกตัวทวั่ พรอมอยูตลอดเวลา

วธิ ีปฏบิ ตั ิธรรมมีมากมายเปน ลา นๆวิธี พูดเรื่องการภาวนาไมมที ่ีจบ สงิ่ ที่จะทาํ ใหเ กดิ ความสงสยั มมี ากมายหลายอยา ง
แตใ หกวาดมันออกไปเรือ่ ยๆ แลว จะไมเ หลือความสงสัย เมือ่ เรามีความเขา ใจถูกตอ งเชนนี้ ไมวา จะนงั่ หรือจะเดนิ ก็มีแตค วามสงบ
ความสบายไมว า จะปฏิบตั ิภาวนาท่ไี หน ใหมีความรูส กึ ตัวท่ัวพรอม อยา ถอื วา จะปฏิบัติภาวนาแตเฉพาะขณะนั่งหรอื เดินเทา นั้น
ทุกส่งิ ทกุ อยางทุกหนทุกแหงเปน การปฏิบัตไิ ดท งั้ น้ัน


Click to View FlipBook Version