พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส
พระอาจารยอ ำนาจ โอภาโส
บรรยายธรรมเร่อื ง “ความจ ริงไมมีใครทุกข”
ณ ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ าร การบนิ ไทย สวุ รรณภมู ิ เม่ือวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
www.phasornkaew.org 1 ผาซ อ นแ กว
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส
กอ นเร่มิ การบร รยายธรรม พระอาจารยอ ำนาจ ไดใหผรู วมฟงการบรรยายชม DVD เร่อื ง
“ความจริงไม่มีใครทุกข์” โดยใน DVD มเี นอื้ หาดังนี้ (คลกิ ที่น่ี เพื่อชม VDO ออนไลน)
....................................................................................................................................................
“ความจ ริงไมมีใครท กุ ข”
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส
“ความทุกขมาจากไหน..?”
คนสวนใหญไมร ูที่มาของความทกุ ข จงึ ค ดิ ว าทกุ ขม าจากผูอ่นื กระทำ บางคนก็คิดวา
ทกุ ขมาจากเราทำเอง
“ทุกขม าจากความไมร ู ตามความเปน จริง”
“ชวี ิตคืออะไร..?”
หากเรารูวาชีวิตคืออ ะไร..? เราจ ะปฏบิ ัตติ อชวี ติ อย า งถกู วธิ ี ความจรงิ ในธรรมชาติของ
จกั รวาล มีแคร ปู และนาม เพราะรูปคอื ม วลสารต า งๆ ทห่ี มุนรอบตัวเองในที่วา ง จึงเกดิ สนาม
พลังข องนามธรรม อยรู อบรปู ธรรมนน้ั สมมตุ เิรยี กว า “จติ ” คอื ธ รรมชาตแิ หงก ารรับรู
เพราะธาตตุ า งๆ ทีร วมตวั อยดู ว ยกันไมค งท ่ี ความรับรทู ี่เกดิ ข ้นึ ในชอ งว า ง รสู ึก
ถึงการจะแตกสลาย จงึ เกิดค วามตองการท จ่ี ะเตมิ เต็ม (โลภะ) เกิดค วามรสู ึกขัดขวาง (โทสะ)
เกดิ ความไมร ูทแ่ี ฝงตัวม า (โมหะ)
เมอ่ื มนั มากอ ตัวกนั เขา เปน โครงสรางข องร หสั ดเี อ็นเอ ท่ีจะสมานตัวใหทรงตวั อยไู ด จึง
พยายามท จี ะรักษาส ถานภาพนน้ั ดว ยก ารแสวงหาสิ่งที่จะมาเติมเต็ม แกปญ หาความพรองของ
ธาตุส่ี เกิดส ภาวะก ารดน้ิ รนข องนามธรรม ซึ่งเปน ปญหาพ น้ื ฐานของสิ่งมีชวี ิตทั้งหลายในโลกนี้
ผาซอนแ กว 2
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนยป์ ฏิบตั กิ าร การบนิ ไทย สวุ รรณภูมิ วนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
สงิ่ ทง้ั หลายไมมอี ยดู ว ยต ัวของม ันเอง ไมม ีความคงท่อี ยูอ ยา งเดิม แมแตขณะเดียว จงึ
เปน ส ภาวะทีพ่ รอ มจ ะกอ ใหเกดิ ท ุกขแ กผ ไู มรเู ทาทนั
(ปฏิจจสมุปบาท)
ส่ิงตา งไมมตี ัวตนดวยตนเอง อาศยั เหตปุ จจยั เกดิ ข้นึ (อวชิ ชา)
เพราะความไมรตู ามความเปน จรงิ จงึ เกิดความคดิ ปรงุ แตง (สงั ขาร)
เพราะเกิดความคิดปรงุ แตง จงึ รบั รถู งึ ความรูส ึก (วิญญาณ)
เพราะการรบั รูถงึ ความคดิ นนั้ จึงสงผลถึงอารมณและบคุ ลิกภาพ (นามรูป)
บุคลกิ ภาพนัน้ สง ตอใหเ ครอ่ื งมอื การรบั รูท ำงาน (สฬายตนะ)
เพราะการรบั รูทำงาน จงึ เกดิ การกระทบระหวา งภายในภายนอก (ผัสสะ)
เพราะการกระทบ จึงทำใหเ กดิ อารมณส ุข-ทกุ ข และเฉยๆ (เวทนา)
อารมณทสี่ ุขก็อยากได อารมณท่ีทุกขก็อยากผลักไส (ตณั หา)
เพราะความอยาก จงึ เขา ไปยดึ กับสง่ิ ที่ตองการ (อปุ าทาน)
เพราะยดึ กบั สง่ิ ที่ตอ งการ จงึ ลงมือกอ พฤติกรรม (ภพ)
เม่ือกอ พฤติกรรมดหี รอื เลว จึงเกิดคำวา “เราดีหรือเลว” ขึน้ ในใจ (ชาต)ิ
แตส ง่ิ เหลา นั้นก็เสอ่ื มสลายไปตามเหตุปจ จัย (ชรา มรณะ)
แตเ พราะความไมรกู ห็ ลงปรงุ แตง แสวงหาส่ิงเหลา นัน้ วนเวียนซำ้ แลว ซำ้ เลา (อวิชชา
สังขาร วญิ ญาณ นามรปู สฬายตนะ ผสั สะ เวทนา ตณั หา อปุ าทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ)
๑๒ อาการแหง ท ุกข ท่คี นสว นใหญย ังยึดต ดิ ยังหาท างออกไมพบ และประสบกบั
ปญ หาเพมิ่ ข้ึน ความไมเ ขาใจเหต ปุ จั จยั ทเี่ปนองคประกอบในสายใยของธรรมชาติ
หากเขา ใจ ปฏจิ จสมปุ บาท จะไมส งสยั ตอ อดตี ปจ จบุ นั อนาคต วา เรามหี รอื ไมอ ยา งไร
เพราะส งิ่ ต างๆ อาศัยส งิ่ อนื ๆ เกดิ ข้นึ จงึ ค งท่ีอยไู มไ ด เรียกวา “ทุกขลกั ษณะ” แตไ มม ี
ผูทกุ ข (ความส ขุ ม อี ยกู อนแ ลว )
3 ผาซ อ นแ กว
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส
การเคลื่อนไหวในกระแสของธรรมชาติน้ัน มคี วามสมั พนั ธ สงผลกร ะทบต อกนั อ ยาง
ละเอียดซบั ซอ น ดวยปจ จยั อ นั ห ลากหลาย กระทบกระทัง่ เชื่อมตอ กันเปน แพรัศมี สูผลอัน
หลากหลาย
“ผลอันหลากหลาย เกดิ จากเหตปุ จจัยอนั หลากหลาย” พทุ ธพจน
เมือ่ มสี ตติ ามสงั เกตการทำงานของกายและใจ จะสามารถใชเหตปุ จจยั อยา งถูกวิธี
(วสิ ุทธิ ๗)
เพราะไมม ใี ครหนีผัสสะทางอายตนะตางๆ ได เม่อื เกิดการกระทบรเู ทาทนั ใจก็ปกติ
เรียกวา “สีลวสิ ุทธิ”
จิตจึงตั้งมน่ั ไมถ กู ครอบงำดวยอกศุ ลเรยี กวา “จติ ตวิสทุ ธ”ิ
จงึ เกิดความเหน็ ถกู ของรปู นามตามความเปนจริง เรียกวา “ทฏิ ฐวิ ิสุทธิ”
และเหน็ ปจจยั ของรูปและนาม จนหายสงสยั เรยี กวา “กงั ขาวิตรณวิสุทธ”ิ
สามารถเลอื กมุมมองอยา งถกู วธิ ี ของสง่ิ ทเ่ี กิดข้ึนกบั รูปและนาม เรียกวา
“มัคคามคั คญาณทสั สนวิสุทธ”ิ
เห็นลกั ษณะความเกิดดบั ในขนั ธ ๕ ยอมรบั ความเปนจริงดว ยใจเปน กลาง เรียกวา
“ปฏปิ ทาญาณทัสสวสิ ทุ ธ”ิ
จติ จึงไมป นเปอนดวยตัณหา และการหลงคดิ ปรุงแตง ทวนเขา สูก ระแสธรรมชาติเดมิ ท่ี
บริสทุ ธิ์ ซงึ่ มอี ยูกอ นแลว คือความสขุ หรอื พระนพิ พาน เรยี กวา “ญาณทัสสนวิสุทธ”ิ
เพราะสงิ่ ต า งๆ อาศัยเหตปุ จ จัยเกดิ ข ึน้ หากผขู าดปญ ญาไมร ู กห็ ลงผดิ สรางเหตปุ จ จยั
แหงความท กุ ข
(ไดใ นสงิ่ ท่ีไมควรได คอื ทกุ ขใ จ - เสียในส่งิ ทไ่ี มค วรเสยี คอื สนั ติสขุ )
หากผมู ีสตปิ ญญารู จงึ เลือกสรา งเหตุปจจัยแหงความสขุ
........................................................................................
ผาซอนแ กว 4
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏิบตั ิการ การบนิ ไทย สุวรรณภูมิ วนั ท่ี ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
หลวงพ่อ : เอา ...เป็นยงั ไง ดูกนั หลบั ไหม พอเห็นร่องรอยอะไร เข้าใจบ้างไหม เม่อื กนี๊ ี้ ท่ี
เราดดู ีวีดี (DVD) เรียกวา่ หากเราเข้าใจว า่ ชีวิตคอื อ ะไร เห็นไหม เราจ ะปฏบิ ตั ติ ่อช ีวติ อยา่ งถกู วิธี
ทีน้เี ราไม่เข้าใจ เราเกดิ ม าในยุคร อยตอ่ ของ Instant มันเกดิ ม าแบบคนสำเรจ็ รปู ชงละลายหมด
ทกุ อยา่ ง คอื เกดิ ม ากพ็ บส่ิงท ีม่ ีเครื่องมือม าพรอ้ มบริบูรณ์ รวมถงึ มโี ลกของสมมตุ เิตม็ ไปหมด
ดารดาษอ ยู่ข ้างหน้า ความจ ริงเนี่ยโยม สัจจะนะม อี ยู่ ๒ อยา่ งนะ มี “ปรมัตถส จั จะ” คอื ความ
จรงิ ท เ่ี ปน็ ความจ ริงแท้ กับค วามจรงิ ส มมตุ *ิ แต่พ วกเราพอเกดิ มาปั๊ป เราเจอแ ต่ค วามจรงิ
ในโลกข องส มมุติ เลยถกู บ ังอ ยู่ เปรียบเทยี บวา่ ความจริงแทน้ ะ อยา่ งเชน่ เวลาคนคนหนึ่ง คดิ
ไม่ดีอ ารมณ์จะตอ้ งไม่ดี อนั นีเ้ปน็ ก ฎของค วามจรงิ แท้ ไม่ว่า คนคนน นั้ จ ะอย่ใู นฐ านะท างสังคม
มีตำแหน่งทส่ี ูงส่งส ักป านใดก แ็ ลว้ แตใ่นโลกข องส มมุติ แ ตก่ ไ็ ม่ส ามารถทจ่ี ะเปล่ยี นค วามจรงิ แท้
อนั นีไ้ ปได้ คอื ถา้ สง่ิ น ้ีมี สิ่งน ้ีจะตอ้ งม ี คอื ถ้าค ดิ ไมด่ ีแล้วจะต อ้ งอ ารมณ์ไมด่ ี หรือไปพ ดู ไม่ดีก บั
พอ่ แม่ จะต อ้ งรสู้ ึกไมด่ ใี นภายหลงั รู้สกึ ว่าเราพดู ไม่ดี หรือรู้สกึ เสียใจในภ ายหลงั จะเป็นอ ย่าง
อนื่ ไปไมไ่ ด้ นอกจากเป็นอ ยา่ งน เ้ี ท่าน้ัน
กฎน ี้ครอบคลุมท ั้งจ กั รวาลนะ กฎท ่ีถ้าสงิ่ น ม้ี ี ส่งิ นจ้ี ะตอ้ งม ี จะเปน็ อ ย่างอนื่ ไปไม่ได้ จะ
ต้องเป็นอยา่ งน เ้ี ทา่ น้นั เนย่ี เขาเรียกวา่ ความจริงในโลกของ ปรมัตถสัจจะ ส่วนความจริงในโลก
ของสมมุติ ทบ่ี อกวา่ คนน ี้แต่งต ัวดี ฐานะด ี นา่ จะม ีความส ุขท้ังชาติ มนั เป็นแ คค่ ำสมมตุ โิ ยม มัน
เปน็ ไปไม่ไดห้ รอกท จ่ี ะมีความสขุ ท้ังชาตจิ ากโลกของสมมตุ ิ ตราบใดทย่ี งั คดิ ไม่ดี อารมณ์กไ็มด่ ี
ถึงจะมคี นยนื รอให้ช ่อด อกมะลอิ ยขู่ ้างทาง มีคนกรด๊ี สง่ ชอ่ ดอกไมใ ห้เต็มไปหมด แต่ถ า้ เผลอค ดิ
ไม่ดี อารมณก์ ต็ ้องไมด่ ี แตถ่ ้าคิดดี อารมณ์กต็ อ้ งดี มคี วามส ุขจะเป็นอ ยา่ งอ ื่นไปไม่ไดเ้หมือนกนั
นะ ไมว่ า่ จ ะอ ยู่ในอ าภรณ์อะไรก็แล้วแต่ นตี่ อ้ งเขา้ ใจความจรงิ ๒ สว่ นก ่อนจะได้ไมห่ ลงทางมา
ด.ู ..ทนี ี้เราเกิดมา เรากค็ ดิ วา่ ไอส้ ่ิงทรี่ ับรู้ รู้สกึ เนย่ี มนั เป็นเรา ไม่ใช่ห รอกนะ จติ ไมใ่ ช่เรา จิตไม่ได้
มีม าก่อน เมื่อกข๊ี นึ้ ต้นแ ล้ว ในจ ักรวาลมันมีแค่ รปู และนาม นามเดิมข องมันคือส เปซ (Space)
คือที่วา่ งในจักรวาลท ั้งหมด รูปก ค็ อื ม วลสารตา่ งๆที่ มนั ไหลเวียนเปลย่ี นแปลง ผสานตัวจากส ิ่ง
หนง่ึ ไปสู่อ ีกสิ่งหนง่ึ เปล่ียนส ถานภาพไปเรื่อย ไม่มีความค งท่ี เพราะธาตุต้งั แต่ม วลอนภุ าคเน่ีย
มนั ไหลเวียนผ สม ม ันก ็ตอ้ งก อ่ เกิดเป็นอ ีกป ฏกิ ิริยาห น่งึ เหมือนแสงตะวันเน่ีย ทมี่ ันฉ ายกระทบ
ธาตุต่างๆ เช่นฉ ายก ระทบธาตนุ ้ำ มันกต็ ้องร ะเหยเปล่ยี นแปลงเปน็ ไอ มนั จะคงท่อี ย่ไู ม่ได้ห รอก
นำ้ เม่อื ถกู แสงอ าทิตย์ เพราะแสงอ าทติ ย์มันก ็ไม่ค งที่ มวลธาตุก็เหมอื นก นั ท่ีมันเกาะ
* สมมตุ สิ จั จะ : (ผูเรียบเรยี ง) 5 ผาซ อ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
กลุ่มรวมตวั กนั อยู่ท ้งั หมดในจ ักรวาล มันกต็ ้องไหลเวียนเปล่ียนแปลงไปอยา่ งนี้ ไม่มีความคงท่ี
สกั ข ณะเลย เมือ่ ส ิ่งเหล่าน้ีมันม าถักทอก อ่ ตวั ก นั ตอนท่ีภเู ขาไฟระเบิดดนั เอาม วลก๊าซต่างๆ ข้นึ
มาจากใต้ไปผวิ โลก ไปถกู ม หาสมุทรท ก่ี ำลังมีเกลียวคล่นื ป ะทุไหวรนุ แรง ถูกรงั สีอลุ ตร้าไวโอเลต
แสงอ าทิตย์ สายลม ธาตทุ งั้ ๔ เน่ียก ำลงั เคลอ่ื นไหว รนุ แรงถักทอต อ่ ตัวกนั เหมือนแดนส นธยา
เนอะ มวลอ นภุ าคต า่ งๆ กม็ ารอ้ ยเรยี งเป็นร หสั ข องดเี อน็ เอ (DNA) ไอ้ช ่องว่างเล็กๆ เน่ียโยม
มนั เลยเกิดการก ระทบ และเกดิ ก ารเข้าไปร บั รู้ถ งึ ความรสู้ ึกของม วลอนภุ าคตา่ งๆ เช่น ค วาม
ร้อน มันก ร็ บั รถู้ งึ ความรอ้ น พวกท ่เี ป็นก ระแสพลังงานตอ่ เชอ่ื มกัน เหมอื นกบั กระแสพลังงาน
ไฟฟา้ อ ย่างน้ี ถ้าเยน็ ม ันก็รบั ร้ถู งึ ความเย็น ไอก้ ารรบั รเู้นย่ี มันไม่ใช่เราร บั รู้น ะโยม พอเกดิ การ
รบั ร้เู สร็จ เวลาท ี่ธาตุใดธ าตหุ น่ึง มันจะบกพร่องแตกสลาย มนั จะพ ยายามเขยอื้ นตวั ไป ไปปรบั
สมดุล อย่างเชน่ ถา้ ขาดแ สงแดด ขาดค วามอ บอุ่น ธาตุน้ี ทร่ี วมตวั เปน็ ร หัสน ี้ จะพยายามเคลื่อน
ตวั ไปทมี่ ีแสง เพ่ือเติมแสงสว่างค วามอ บอ่นุ เข้ามา หรือไปเติมธ าตุน้ำ หรือไปเติมม วลธ าตุก๊าซ
ต่างๆปฏิกริ ยิ าเคมตี า่ งๆเข้ามา ทเี่ รา เหน็ ธ าตนุ ้ำเน่ีย ธาตุนำ้ เปน็ แ รงเหน่ียวนำของตัวโมเลกุล
๒ ตัว คำว า่ เหนย่ี วนำโมเลกลุ มนั ก็แสดงส ถานภาพให้เห็นแ ลว้ ว า่ มนั พยายามด ึงดูดเอาส ิง่ ตา่ งๆ
เข้ามาเพ่อื จะมาป รับส มดุล น่ีคอื ล ักษณะของธ าตนุ ้ำ ฉะนัน้ ไอร้ หสั ต่างๆ มนั ก็เรม่ิ ก ่อตวั มาเปน็
เซลล์ เซลลต์ ่างๆ กพ็ ยายาม copy ตวั อ อกม าจากสตั วเ์ ซลล์เดยี ว เปน็ ๒ เซลล์ ชอ่ งวา่ งใน
ระหวา่ งเซลลเ์ดียวท่มี นั รบั รู้ข ึ้น เลยพ ัฒนาจากเซลล์ทไ่ีวต่อแ สง เน่ียมันเกดิ การรบั แ สง และ
สรา้ งเซลลป์ ระสาทตาข นึ้ เกิดก ารร ับภาพ เราสมมุติช่ือขนึ้ เรยี กวา่ “จกั ขุวญิ ญาณ” วิญญาณ
ไมไ่ ดม้ ีม ากอ่ นเหน็ ไหม จักขวุ ญิ าญาณไม่ไดม้ ีมาก่อนในโลกน ี้ ไมใ่ ช่จ ักรวาลเกิดขึน้ ก ม็ ีดวงตาเลย
เซลลท์ ไ่ี หนมันจ ะไปสรา้ งด วงตาไดเ้ลย โยม มันต ้องมกี ารพัฒนาการ เหน็ ไหม จะเกดิ จติ การรบั รู้
ต่างๆ เปลยี่ นช ือ่ ไป เราเป็นช าวพทุ ธเน่ียไมใ่ ชไ่ดย้ นิ ว ญิ ญาณปั๊ปเปน็ เรื่องภูตผี ปศี าจ ดูหนังผี
จนฝ งั หัวน ะ ไมส่ ามารถเขา้ ใจความเปน็ จริงได้ หรอื ค ดิ เอาเองว่า ตายแลว้ วญิ ญาณ ออกจากร่าง
ไปเกิดเป็นนู่นเปน็ นี่ น่กี ค็ ดิ เอาเองนะ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นก ไ็ มเ่ คยส อนแ บบนั้น เราสรุปเอาจ าก
การดูหนงั ผ เี ปน็ ตัวอยา่ ง ไมไ่ ด้ฟ ังคำส อนท ถี่ กู ต้อง เอาห นังผีเป็นส รณะ เชือ่ ตามหนงั ผที ุกอยา่ ง
พอตายแลว้ ว ญิ ญาณอ อกจากรา่ งไปเกดิ เปน็ นู่นเปน็ น่ี วญิ ญาณมาหลอกหลอนผ ู้คนต ่างๆ เนย่ี
เขาเรียกวา่ ย ึดถอื หนงั ผเี ปน็ สรณะ ไมไ่ ด้ย ึดถือธ รรมะ หรอื ความจริงเปน็ ส รณะ เนี่ยคำว่า “จติ ”
เหน็ ไหมโยม เกิดขนึ้ แบบนนี้ ะ
“จิต” แปลว่า ธรรมชาติของก ารร ับรู้ ถา้ หากไม่มีมวลสารต่างๆ ไม่มีธาตุตา่ งๆ ไม่มีแสง
ตา่ งๆ ให้ม ันรบั รู้ มันจะไปร ับรอู้ ะไรได้อ ยา่ งไร หรอื ม นั จะม ีตัวตนข้ึนมาได้อ ย่างไร เห็นไหมโยม
ผาซ อ นแกว 6
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏิบัติการ การบินไทย สุวรรณภูมิ วันที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
มนั อาศัยร ปู ธรรมเกิดขน้ึ แล้วม นั เขา้ ไปร ับรู้ค วามรู้สกึ ในร ปู ธรรมเหล่านัน้ เช่น รสู้ กึ ถ งึ ความรอ้ น
ช่องว่างน ่ันแหละโยม ช่องวา่ งต ง้ั แตม่ วลดเี อน็ เอ (DNA) ช่องวา่ ง ๑ ใน ๑,๐๐๐,๐๐๐ มิล* ทม่ี ัน
ถกั ทอต่อเนอ่ื งกลายเป็นกระแสไฟฟา้ หรือก ระแสพ ลังงาน หรอื สนามพ ลงั งานข้ึนม า แล้วรบั รู้
ถึงความร อ้ น รับรู้แ ล้วก็ รสู้ กึ รู้สกึ เรยี กวา่ “เวทนา” ถา้ ร้อนมากๆมันไม่ส มดลุ ก ับสิง่ ท มี่ ีส ภาพ
เดมิ อ ยู่ กเ็ กดิ ความท กุ ข์ เยน็ ม ากๆ ไม่ส มดลุ ก บั ส ภาพเดมิ ทมี่ ีอยู่ มันก ็ เกิดความทุกข์ เรยี กว่า
“ทกุ ขเวทนา” แต่ถ ้าส มดลุ พอดีก เ็รียกว่า “สขุ เวทนา” เวทนานกี้ ็ไม่ไดม้ ีมากอ่ น ถา้ ไม่มีผสั สะ
เกดิ ขนึ้ จ ะมีเวทนาไปไดอ้ ยา่ งไร พวกเราลองดสู ปิ ัจจุบนั เรากม็ ขี อ้ มลู เอาไวท้ ำงานวจิ ยั อยู่แ ล้ว
การป ฏบิ ตั ิธรรมเปน็ การส ังเกตข อ้ มลู ท่ีเกดิ ข้ึนต รงปัจจุบนั ข ณะ ทน่ี ่งั อยู่อ ากาศเยน็ ๆอย่างน้ีใคร
เย็น อากาศมนั เยน็ มากระทบก บั ช อ่ งวา่ ง เขา้ ไปในมวลโมเลกุลเนย่ี ไอค วามเยน็ กร็ ะเหยมาผา่ น
ช่องวา่ ง เลยรู้สกึ เยน็ รู้สกึ เยน็ ก เ็กดิ ค วามสุขท่มี ันพอดีๆ ถ้าเขาเปดิ แอรห์ นาวกว่านี่ละ เอาสกั
๑๙ องศาได้ไหม ก็บอกวา่ ไม่คอ่ ยส บายมนั หนาวเกนิ ไป เรยี กวา่ ทกุขเ์ นีย่ เห็นไหม หรือถา้ เขา
เปิด ๓๐ องศา เรียกวา่ ร อ้ น เกินไป เรียกวา่ ท กุ ข์ หรอื พอดี พอดี เรยี กว่าส ุขเกิดจ ากผัสสะ แต่
ไมม่ ีใครน ะโยมมันเข้าไปพอดกี ับธ าตุ ที่ม นั สมดลุ กนั อย่างนเ้ี รียกว่า เวทนา เหน็ ไหมไมม่ ีมากอ่ น
สักต ัวหนึ่ง นก่ี ็เปน็ อ าการข องจ ติ น ะ
จิตท ี่รับรู้ จิตทร่ี ้สู กึ แตไ่มใ่ ชเ่รานะ เขาหรอื เราน ะเรียกจ นคุ้นเคยเรยี กวา่ จิต เปน็ ตวั เป็น
ตน ถา้ เราแ ปลว่าธรรมชาติแห่งก ารร บั รู้ นา่ จะเข้าใจง่ายขึ้นหน่อย จะได้เปลยี่ นไอส้ ญั ญาวิปลาส
ท่ีค ลาดเคลื่อนขา้ งใน จำเอาไว้ผ ดิ ไปจ ำเรอ่ื งจิตปัป๊ วญิ ญาณ จิตของเรา เปน็ ภตู ผปี ีศาจ ออกจาก
รา่ งไปเกิดใหม่อ ยา่ งนู้น อย่างนี้ เนยี่ ม ันจำไว้ฝ งั หัว ตอ้ งลบ ลบข้อมูลเก่าๆออก “สัญญาวิปลาส”
ทำให้เกดิ การค ิดผดิ เห็นผิด ตามม า เรยี กวา่ “จติ วิปลาส” “ทฏิ ฐวิ ปิ ลาส” “วิปลาส” แปลว ่า
คลาดเคลอ่ื นน ะโยม ไม่ได้แ ปลว ่าบ ้า มนั คลาดเคลื่อนจากความจริงไปหมดแล้ว รับรู้แ ล้ว รสู้ กึ
เกดิ อะไรตามม า
การบ ันทกึ ข อ้ มลู เอาไว้ เพอื่ จะใช้ในก ารตดั สนิ ใจในคร้ังต่อๆ ไป การบันทกึ ขอ้ มลู
เรียกวา่ ความจำ มชี ื่อเรียกว่า “สญั ญาข ันธ”์ หรอื กองแหง่ ความจำ เห็นไหม เราเลยมคี วาม
จำเตม็ ไปหมด เรียกวา่ เรามีความจำนะ จริงๆ ไม่ใช่เราหรอก จติ ม ันเลยบนั ทึกข้อมลู หลงั จากที่
มนั ร ับรไู้ ด้ รู้สกึ ได้ จำได้ เหน็ ไหมปฏิกิริยาท ำการ ทำงานของมัน จำได้ จำอะไร จำวา่ ส่ิงนี้ ถ้า
เข้าไปใกล้ม คี วามส ุข สง่ิ น้ถี ้าเข้าไปใกล้ม ีความท กุ ข์ ส่ิงนอ้ี ันตราย ส่งิ นี้ม ีประโยชน์ ส่งิ น้ีมีคุณ คือ
* มิลลเิ มตร Millimeter : (ผเู รียบเรยี ง) 7 ผาซอนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
รูปต า่ งๆที่เขา้ ไปก ระทบ รูปน้ีอันตราย รูปน้ีมปี ระโยชน์ รปู นม้ี ีคณุ รปู น้สี บาย สถานทน่ี ี้สบาย
สถานท นี่ ี้ม ีโทษ นึกออกไหม สตั วท์ ุกชนิดจ ะต้องบ นั ทกึ ขอ้ มลู ไวน้ ะโยม เพือ่ จะรกั ษาสถานภาพ
การทรงตัวไว้ ใหป้ ลอดภัย หรอื ให้อ ยู่ได้ในชั่วขณะหนึ่ง เนี่ยเกดิ การบันทึกขอ้ มลู ทีน้ีการบันทกึ
ขอ้ มูล ในเมือ่ ม ันมีเครือ่ งมอื ในการรบั รูเ้ ยอะ การบนั ทกึ ขอ้ มลู ม นั ก เ็ลยเยอะต ามไปใชไ่ หม อยา่ ง
ทเ่ี ราได้ล ูกตาม าเน่ีย เรยี กวา่ ม นษุ ย์สมบัติ มีล ูกตาแ ล้ว ทำให้ส ามารถเหน็ สิ่งต่างๆ เต็มไปหมด
เห็นด อกไมห้ ลากหลาย แ ล้วบ นั ทึกข ้อมลู จ ำไว้ต ามท่เี ขาสมมตุ ขิ ้ึนมานะ ดอกนีช้ ือ่ ดอกกุหลาบ
ดอกน ีช้ อ่ื ด อกบัว ดอกนีช้ ่อื ด อกหญา้ ดอกบัวม ีคา่ ก ว่า ดอกหญา้ ตำ่ ตอ้ ย จริงห รือเปล่า? ไม่
จริงเหน็ ไหม สัญญาม นั ไปให้ค่า เสอ้ื ผ้าน ี้สงู ส่ง เสอื้ ผ้าน ้ตี ำ่ ต้อย จรงิ หรอื เปลา่ ? ไม่จ ริงโลก
สมมุติ แตบ่ ันทึกเอาไว้แ บบค ลาดเคล่อื นไปห มดแล้ว ไมเ่ หน็ ความเสมอภาคของมัน ไม่ว่าจะ
เป็นด อกบวั หรือดอกหญา้ น ะโยม มนั ก็ นงั่ อ ยใู่นห้องโถงจักรวาลเดยี วกัน อาศยั ธาตุ ๔ อาศัย
แสงตะวันเดยี วกนั อยดู่ ว้ ยกันอ ย่างเสมอภาคนะ อยา่ งเสมอภาคในค วามเป็นธ าตุ ๔ ซง่ึ ไมม่ ีใคร
เปน็ เจา้ ของ
ไม่มสี ิ่งใดสูงส่ง-ต่ำต้อยสูงส่ง-ต้ำต ่อย เกดิ จากความคิดเน่ียแ หละ เปน็ ท ่ีมาของสงคราม
สงครามในท ัศนคตทิ ี่ผ ดิ พ ลาด มาบดบงั ศาสนาพทุ ธ หรือธรรมชาติเดมิ ข องจิตเนี่ยมันคือส นั ติสุข
ซ่งึ ม ีค วามเปน็ กลางอยู่ก ่อน ความไม่เปน็ กลางม ันมาทหี ลัง โลกของความปรุงแต่ง จงึ ทำให้เกิด
ความท ุกข์ใจ ในสง่ิ ท ่ีไม่ค วรทกุ ข์ ในส ิ่งท ไ่ี ม่ค วรไดร้ ับความท ุกข์เลย เพราะธรรมชาติของใจมนั มี
ความส ุขอยู่ก อ่ น เมื่อกี๊ในท้ายเร่อื ง ในส ว่ นท้ายบ อกว่า ความสขุ มีอ ยู่ก ่อนแล้ว คอื ธ รรมชาติเดิม
ของใจโยมล องคดิ สิ ธรรมชาติเดิมข องใจมนั ปกติอ ยกู่ ่อนไหม หรอื ว่ามันโกรธมาก่อน มนั ปกติ
มาก ่อนต ่างหาก ความโกรธมาทีหลัง ความไม่สบายใจมาทีหลงั เห็นไหม ความเกลียดมาทหี ลัง
ความช งั มาทหี ลงั ความอิจฉาม าทีหลัง มาทีหลงั หมดเลย เกิดจากความปรงุ แตง่ ความไม่ร เู้ ห็น
ไหม ทเี่ ข้าไปยดึ หวงแหนก ับไอ้ร า่ งกาย จติ ใจคดิ ว่าเปน็ ของเรา เลยอยากให้ม นั มีความสุขเนยี่
เรียกว่า คดิ ผดิ ห ลงผิด แล้วจ ำเอาไวผ้ ิด เห็นไหมโยม ความจำทง้ั หลายแหลง่ ท ีเ่ก็บข้อมลู ไว้ จรงิ ๆ
แล้วเอาไว้เพ่อื การต ดั สนิ ใจในการใช้ชีวิต จะได้แ ก้ปัญหา หรือไม่ไปส ู่ท ี่อนั ตราย ความคดิ น้ีเลย
ชอื่ วา่ สังขารข ันธ์ รวมกนั เป็นเทา่ ไหร่ ๕ กอง เรยี กวา่ ขันธ์ ๕ โยมจำไว้น ะ
“ขนั ธ”์ แปลวา่ ก องน ะ ไม่ไดแ้ ปลว่าอ ะไรท ่ีมันลึกลบั ห รอก อย่างเราช อบม องวา่
ศาสนาเป็นเร่อื งของค วามศักดิ์สทิ ธิ์ หรือ เปน็ เรื่องล กึ ลบั ท่ไีกลเกนิ จากค วามเข้าใจ เป็นเร่ือง
ผาซ อ นแ กว 8
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏิบตั กิ าร การบนิ ไทย สุวรรณภมู ิ วนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
ของพ ระ ไมใ่ ชห่ รอกโยม เปน็ เรื่องข อง ธรรมชาติ กองแหง่ รปู เห็นไหม ก็คือ เอาม วลสารต่างๆ
มาก องรวมเข้า ๑ กอง เรยี กว่ารูปข นั ธ์อ ยา่ งนี้ เราไดย้ นิ แ ตว่ า่ อยูใ่นห นงั สือบ าลี เห็นแตพ่ ระท่าน
เทศน์ เราค งคิดวา่ ไม่เก่ยี วกบั เราหรอก จริงๆ ไม่ใช่ห รอก ทกุ คนนะมขี นั ธ์ ๕ หมด แต่วา่ ไม่รู้จกั
เลยใช้ผ ดิ วิธี หรอื ไม่เข้าใจเลยเขา้ ไปย ดึ ม่ัน ถือมนั่ อย่างผดิ วิธี จึงกอ่ ค วามท ุกข์แบบไร้เดียงสา
อยา่ งไม่ค วรจ ะต อ้ งท กุ ขเ์ ลยมาสรปุ เรื่องข ันธ์ ๕ นดิ น งึ กอ่ นน ะ
“รูปขนั ธ์ กองแ ห่งร ูป” คอื ก ารเจริญสติ ตามดูกายในก ายก็เพอื่ จะเห็นการทำงานของ
กายท ี่ประกอบก ันเปน็ กองแ ห่งร ูปน ัน่ เองโยม ว่าข้างในมันม ีอะไร ตามดูกายในกาย เห็นไหม มี
คำว า่ ตามด ูกายในกายน ะ ไม่ใชต่ ามดกู ายนะ ตามดูก ายในก าย คืออยา่ งน ้ี ในกายมอี ะไรบา้ ง ก็มี
ธาตตุ ่างๆที่มันไหลเวยี นเปล่ยี นแปลงเคลอ่ื นไหวอยูต่ ลอดเวลา ไม่ค งท่ี ถ้าพวกเราเปน็ คนร นุ่ ใหม่
หนอ่ ยก็น่าจะเขา้ ใจง่ายข้ึน กองแ ห่งร ูปประกอบไปด ว้ ยกลุ่มก๊าซต่างๆ เนย่ี คารบ์ อนไดออกไซด์
ไฮโดรเจน แ คลเซยี ม ธาตเุ หล็กในก ระดกู ธาตุเหล็กในเลือด คารบ์ อนอะไรต่างๆ ตรงไหน
เรียกวา่ เราโยม เป็นธ าตุเหล็กเหรอ เป็นธ าตสุ งั กะสี ยูเรเนยี ม เรซาเนียมท ี่ไหน ทอ่ี ยู่เป็นหน่งึ
กองเข้ามาเนยี่ ม หาศาล เป็นกองธาตทุ ง้ั น้นั เหน็ ไหมโยม เนี่ยเขาเรยี กว่ากองแหง่ รปู ถ้าดูแ ล้วจะ
หาเราไม่เจอนะ เพราะว่าเราคงไมใ่ ช่ธ าตุเหล็ก ไมใ่ ช่ส งั กะสี ไมใ่ ช่แ คลเซียมแน่นอน แต่เพราะวา่
มากองรวมกนั แ ล้วกห็ ลงผิด มองเป็นกลุ่มเป็นกอ้ น มองเปน็ อัตตา มองเปน็ อ ตั ตาต วั ตน ทั้งๆท่ี
จรงิ ๆ แลว้ คำว่า“อนัตตา ไมใ่ชต วั ตน” เพราะวา่ มนั ต ้องอาศยั ส ง่ิ อ ื่นเปน็ ปจั จยั ประกอบกนั
เข้า ไม่ไดม้ ีตวั ตนด ้วยต นเอง ถา้ ไม่มีสง่ิ น ้ี จะมีสิง่ น้ีได้อ ย่างไร ใชไ่ หม มนั แคป่ ระกอบป ระชมุ กนั
ชวั่ ขณะ แลว้ ท ี่มันรวมตวั อยดู่ ้วยกัน มันค งทไี่ หม ไมม่ ีความคงท่ี มแี ตค่ วามแปรปรวน ทกุ ขณะ
เพราะวา่ ม ันอย่ใู นกฎเดยี วกับจ ักรวาล ถ้าอาศยั ธ าตุขา้ งนอก อาศัยแสงแดดขา้ งนอก ข้างนอก
แปรปรวน ข้างในก ็ต้องแ ปรปรวน
ถ้าอ าศยั สายลมข ้างนอก ข้างนอกแ ปรปรวน ข้างในก็ต้องแปรปรวน ถา้ ข้างนอกไม่
คงท่ี ข้างในก ็ตอ้ งไมค่ งทโ่ี ยม แต่เพราะค วามไมร่ ู้ ท่ีไร้เดยี งสาน ี้แหละ มันไปอยากใหค้ งท่ี อยาก
ให้ม นั เหมือนเดมิ เวลาไดส้ งิ่ ตา่ งๆ หรอื ผ ัสสะส ิง่ ตา่ งๆ ขน้ึ มาแล้ว ความไรเ้ ดียงสานี้อยากให้ม นั
เหมอื นเดมิ อยากให้ม นั ถาวร อยากให้ม นั คงที่ เลยก่อทุกข์ใจแ บบไร้เดียงสา ถึงบอกวา่ ความ
จรงิ ไม่มีใครทุกขน์ ะ เม่อื ก๊ีเราด ดู ีวีดี (DVD) จ่วั หวั ว ่า ความจรงิ ไมม่ ใี ครท ุกข์ และคนส ่วนใหญ่ก ็
ไม่ร ู้ว่าท ุกขน์ ี้มาจ ากไหน กค็ ิดวา่ ปรากฏการณแ์ ห่งความไมค่ งท ่ีนี้เขาเป็นผ ้กู ระทำ เขาทำให้เรา
9 ผาซอนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ทุกข์ ไม่ใชห่ รอกโยม ความไม่ค งทม่ี นั มีของม ันอยูแ่ ลว้ ไม่มใี ครอ ยู่ในน้ัน นค่ี อื ความไร้เดยี งสา
นะ แลว้ ก็ต อ้ งไปจดั การคนอื่นว า่ ถ้าเธอเปลยี่ นแปลง ตายแน่ ฉนั จะตอ้ งฆ่าเธอท้ิง ทุกอยา่ ง
กต็ ้องเปลี่ยนแปลงโยม หรอื ห าเร่ืองเจบ็ ตวั หรือว่าเสียใจ เดีย๋ วน้ีคนๆ น้นั ไมเ่หมือนเดมิ เขา
เปล่ียนแปลงไปแลว้ รู้สึกเสียใจเข้าใจคำว า่ เสียใจไหม หมื โอ๋...เขา้ ใจคำว่าเสียใจไหม
โยม : เข้าใจครับ
หลวงพอ่ : เข้าใจว่ายังไง
โยม : เสยี ใจค ือค วามรสู้ ึก สภาวะของค วามรสู้ กึ ท ม่ี นั มีสภาวะ ซงึ่ เขา้ ไปรู้ว่า ส่งิ นี้อารมณ์
น้ี ผัสสะน ี้ คือสง่ิ ท ไี่ปเรยี กว า่ ความเสยี ใจ มันคือส งิ่ ที่เกิดข้ึน เปน็ เพยี งส ภาวการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ครบั
หลวงพ่อ
หลวงพอ่ : โยมดใู หด้ ๆี นะ เราไม่เขา้ ใจคำหลายๆ คำท่ีเราใช้ก นั เลย เราเคยได้ยนิ บางที
พวกน กั ปราชญห์ รือผู้ใหญ่ เขามักจะบอกว่า “เสียอ ะไรก็เสยี น ะ อย่าเสยี ใจ” เราก็น ึกวา่ มนั คง
เป็นแ คค่ ำปลอบใจทีไ่ พเราะ แต่ม นั เป็นความจรงิ น ะโยม ใจม นั คือค วามเปน็ กลาง เหน็ ไหมโยม
ดูให้ด นี ะ ใจมันคือความเปน็ กลาง ซงึ่ ม ีอยกู่ อ่ น จรงิ ไหม ใจปกติ ใจเปน็ กลางอยู่ก ่อน ถึงเรียกวา่
ใจ เวลาท ีเ่ ขาท ำอะไรอยา่ งน ้ี เขาต ้องเรียกวา่ ต รงน้ี เนยี่ คอื ใจ ถ้าเขาเอาดา้ ยไป เขาบอก ตรงน้ี
เปน็ ใจดา้ ย ตรงนใี้จคอื อ ยู่ต รงกลาง คำว า่ “ใจ” แปลว ่าตรงกลาง เวลาคนอ น่ื เปล่ียนแปลง เรา
บอกวา่ เน่ยี เดย๋ี วนี้คนน นั้ ไม่เหมอื นเดมิ ฉันเสยี ใจ เสียอะไร เสยี ความเป็นกลางโดยไปป รงุ แตง่
ไมช่ อบ เห็นไหมโยม
เสียค วามเปน็ กลางไปป รงุ แตง่ ค วามไมช่ อบขน้ึ มา เรยี กว่าเสยี ใจ เหน็ ภาพไหม ถา้
โยมเขา้ ใจว่า ใจค อื ธรรมชาตขิ องค วามเปน็ กลาง ความปรงุ แต่งไม่ชอบม าทีหลัง ไม่น า่ จะต้อง
ไปสญู เสยี ไอ้ค วามเปน็ กลางน ้ีไปเลย ในเม่ือท กุ สง่ิ ทกุ อยา่ งมนั ไมค่ งที่ มันตอ้ งเปลี่ยนแปลง
แลว้ ทำไมจะตอ้ งไปป รงุ แต่งไมช่ อบ ว่าเขาไม่เหมือนเดมิ
ในเมือ่ กฎข องความไม่เหมือนเดมิ กฎข องความไมค่ งทม่ี ันมีอยตู่ ลอดเวลา ถ า้ เขา้ ใจช ีวติ
ผาซ อ นแ กว 10
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏบิ ัตกิ าร การบนิ ไทย สุวรรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
เราจ ะสามารถใช้ก ฎก ตกิ าข องชวี ิต หรอื ธ รรมชาติอ ย่างถ กู วิธี ไม่ห าเร่อื งทุกขใ์ จ ในสง่ิ ท ไี่ ม่
ควรจำเปน็ ต ้องท กุ ขเ์ลย ไมห่ าเร่อื งเสยี ใจ ในส ง่ิ ท ่ไี ม่จ ำเป็นต้องค วรส ูญเสยี ไปเลย คอื ค วาม
ปกติ หรือ ความเป็นกลางห รอื สนั ติสุขท่ีมอี ยู่ก อ่ น หรือค วามส ุขท ีม่ อี ยู่ก ่อน โยมเห็นไหม ถ้า
โยมแ สวงหาความส ขุ จะไม่เจอนะ จะไม่เจอความสขุ ถ้ารอคอยค วามสขุ กไ็ม่เจอนะโยม ความสุข
นีไ้ม่ต ้องร อคอย ความสุขน ไี้ ม่ต ้องแ สวงหา ความสขุ น้ีมอี ยูแ่ ลว้ แตว่ า่ มันถกู บงั มันถูกบดบัง ไป
ด้วยค วามปรุงแต่ง ซง่ึ น ำเอาค วามทกุ ข์เขา้ มาโยม ปรุงแต่งร้ายใจก็เศรา้ หมอง ใจเศร้าหมองอยู่
ก่อนห รือ เหน็ ไหม ใจไมไ่ ดเ้ศรา้ หมองอ ยู่ก ่อน ใจเศรา้ หมองเพราะวา่ ปรงุ แต่งต า่ งหาก ถา้ หากวา่
เราเจริญส ตเิ ขา้ ใจตรงนโ้ียม จะพบว ่าความสขุ น ัน้ ไม่ต อ้ งรอคอย ไมไ่ ดอ้ ย่ไู กลเกนิ เอื้อม และไมไ่ ด้
อยทู่ ี่จุดหมายดว้ ยแตอ่ ยตู่ รงป จั จุบันต่างหาก ปัจจบุ นั ของใจท ป่ี กติอยกู่ อ่ น
เมอ่ื ไหร่เผลอมจี ิตใจเศรา้ หมอง รู้เลยว า่ อันนี้ขาดสติแ ล้ว ความทกุ ข์มนั เลน่ งานต อน
ขาดสติ เผลอไปปรุงแตง่ แ ลว้ เอาความปรุงแตง่ ม าบงั ใจ แลว้ ก็เขา้ ไปยดึ ก ับเน้ือเรอื่ งท ปี่ รุงแตง่
โยมเหน็ ไหม ปรุงแต่งวา่ เขาผ ิดเราไมช่ อบ กเ็ กดิ ความเศร้าห มองใจสิ มีอยทู่ ไ่ี หนละ่ เปล่ยี นแปลง
ไปตามเหตปุ ัจจยั เสอื่ มไปตามเหตปุ ัจจยั แต่ละขณะ ในการม ีปัญญาที่เรียกว่า วปิ ัสสนา “ว”ิ
แปลว ่า “วเิ ศษ” “ป สั สน า” คือ “การเห็น” การเห็นอ ันวเิ ศษ คอื ก ารเห็นความจ รงิ มนั
สามารถช ่วยชีวติ หรอื ว่าช ว่ ยจติ ใจ ใหม้ ีความสุขหรือ ออกมาจากทุกข์ได้ คอื การเห็นอ นั
วิเศษน ะโยม ไม่ไดไ้ปเหน็ อะไรท่ีไหน สลบั ซบั ซ้อนเลย แต่ว่าทศั นคตทิ ี่วางไว้ม ันผ ิดพลาด จาก
สัญญาทวี่ ิปลาส เห็นไหม จิตวปิ ลาส ท ฏิ ฐิวปิ ลาส เห็นผดิ ค ิดผิด มนั คลาดเคลือ่ นไปห มดเห็น
ไหม หลวงพอ่ สุม่ ต วั อย่างจ ากก ารตอบของโอ๋ เราจะเหน็ ภาพเลยว่า สว่ นใหญ่เราเปน็ ช าวพุทธท่ี
คลาดเคล่อื นจากค วามเป็นจรงิ ในห ลายๆ เร่ืองเลย คำว่าจิตใจเราก็ไม่รู้ วา่ คอื อ ะไร มาจากไหน
แลว้ ค ิดวา่ ของเราห รือค ำว่าเสยี ใจ เหน็ ไหม เราย ังไม่ร ู้วา่ เสียอะไรไปเลย คอื เสียความเป็นกลาง
ไปไง เสียค วามปกติ เสียส ันติสขุ แ ต่ด ง้ั เดิมไปเนี่ยค อื ใจ ธรรมชาติใจเดิม พุทธเจ้าทา่ น คน้ พบส่งิ
เหลา่ นน้ี ะ ที่ท า่ นตรสั รู้ ทา่ นบ อกวา่ ส่ิงนีม้ อี ย่แู ลว้ (ท่านไม่ได้ส ร้างมันขนึ้ มา) กฎกตกิ ามอี ย่แู ลว้
ทา่ นก็ร่างม ันขึน้ ม ามีอยู่แ ล้วท่านกไ็ปเห็นแล้วชี้ว่า เธอจ งดสู ิ มันท ำงานอย่างนี้ในธ รรมชาติ ถา้
ดูแล้วใช้ม ันเข้าใจอย่างถูกวิธี เห็นไหมโยม เพราะว่าสงิ่ ทบ่ี ิ๊ว(Build) ขน้ึ ม าท้งั หลายแหล่น ะ มัน
ต้องเส่ือมสลาย มนั ต อ้ งพังแนน่ อน เพราะวา่ มันไม่ได้เป็นส ่งิ ท่มี อี ย่กู ่อน อาศยั ปัจจยั อ น่ื เกิดขน้ึ
มนั จ ะคงที่ถาวรไปไดย้ ังไงโยม ธรรมชาติเดมิ ต่างหาก ท่ีไมไ่ ด้ถ ูกบิ๊วขนึ้ ม าต่างหาก ซ่งึ มนั ตอ้ ง
เปน็ อ ย่างน้นั เหน็ ไหม นพิ พานถึงม ีอมตะ มีความเป็นอมตะ มคี วามเป็นอ มตะรส มีรสชาติทเี่ปน็
11 ผาซ อนแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
อมตะ หรือม รี สชาตทิ เี่ปน็ ส นั ติสุขม ีสันตลิ ักษณะ เพราะมันเป็นกลางอยูก่ อ่ น ความไม่เปน็ กลาง
มาทหี ลัง จะพ บวา่
ความส ุขมนั ไม่ได้ไกลเกินเอ้อื มน ะ มีอยู่ต ลอดเวลาถา้ เขา้ ใจ เหน็ ไหม เพราะฉะน้ันการ
เก็บข้อมูลอ ยา่ งถกู วิธี คือก ารเจริญสตกิ ับช ีวติ ประจำวันเนีย่ แ หละโยม ตามดูกายในก ายวา่ มนั
ทำงานอ ยา่ งไรเปน็ การต ามเกบ็ ข้อมูล แลว้ กท็ ำงานวิจยั เลยมีช ื่อวา่ “สตสิ ัมโพชฌงค”์ “ธรรม
วิจยะสัมโพชฌงค”์ เป็นการทำงานวจิ ยั จะวิจยั ไม่ได้เดด็ ขาด ถ้าย งั ไมม ีข้อมูล แลว้ ขอ้ มูลน ้ีคน
อน่ื สง่ ม าให้ อย่าเชื่อนะ อย่าเชื่อเพราะเช่อื ไมไ่ ด้ จนกวา่ จะเก็บข้อมลู ด้วยตนเอง พทุ ธเจ้าจึง
ตรัสว่า เม่อื ไหรท่ ีเ่ ราสังเกตก ระบวนการแบบน้ี ว่าเพราะส่ิงนม้ี ีสิ่งน ถ้ี ึงมี เหน็ ในใจแบบนนี้ ะ คิด
แบบนี้ อารมณถ์ งึ เปน็ อ ย่างน้ีนะ เชน่ ค ิดไมด่ ีอ ารมณถ์ งึ ไม่ดี คิดดีอารมณถ์ ึงดีมคี วามสขุ อย่าง
น้คี วามคดิ กไ็ มไ่ ด้ม ีตวั ตน เพราะวา่ มคี วามจ ำแบบน้ีจึงม ีค วามคิดแ บบนี้ ความจำก ไ็ ม่ไดม้ ีตวั ตน
เพราะไปรบั รู้ส ิง่ แวดลอ้ มแ บบนี้มา หรอื ข อ้ มลู แ บบนมี้ า ถงึ ไดเ้กิดความจำ-การรับรู้ กไ็ มไ่ ดม้ ี
ตัวตน ถ้าไมม่ หี ู ไมม่ ีเสียงจ ะเกิดการร บั เสยี งไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ไม่มีลนิ้ พ ่อครวั ท้งั หลาย ก็คงไม่มี
งานเพราะไมม่ ลี ้นิ ในการร ับร ส โยมเหน็ ไหม มนั ทำงานคู่ก ันอย่างนี้ ไม่มีอะไรสักอยา่ งท ่มี ีตัวตน
แบบน้ี จะเปน็ การเข้าใจอย่างถูกวิธกี ่อนน ะ นเ่ี ริ่มเก็บขอ้ มูลแล้วก็ทำงานวิจัย
พทุ ธเจา้ ทา่ นจ งึ ตรสั ว่า ถ้าเก็บขอ้ มลู ส งั เกตแล้วทำงานวิจยั แบบนี้ไมเ่กิน ๗ ปี จะตอ้ ง
มีปัญญาป ระจกั ษ์หรอื เข้าถึงส ภาวะ หรอื เขา้ ใจ ธรรมะระดับสงู ข ้นั ใดข้ันห นึ่งแ นน่ อน โยมล อง
คิดสิ วา่ ถ ้าต ามเกบ็ ข้อมูล อยา่ งน ้ี ๗ ปจี ะไดอ้ ะไรขึน้ ม า ขอ้ มลู คงเยอะน ะ งานวิจยั คงจะแม่นยำ
คงจะไม่ต ้องเขา้ ไปถ ามใครอ ย่างท ่ีทา่ นบ อกเหมือนกนั วา่ ถ า้ เข้าใจอยา่ งน้ีเหตุนีม้ ผี ลน ีถ้ งึ มี จะไม่
ต้องไปเชื่อใครอ ีกตอ่ ไป โยมกม็ ันป ระจักษ์ด้วยต ัวเองไง น่ีเรยี กว่าปฏบิ ตั ิธรรมนะ “ปฏิ” แปล
วา่ “เข้าไปป ระจักษ”์ “บตั ิ” แปลว ่า “สิง่ ท ่ีเกดิ ขนึ้ ” ขา้ งหน้าข องก ายแ ละใจตรงป จั จบุ ัน ซ่งึ
มหี ลกั ฐานรองรบั คือค ำพดู คนอ น่ื โยม มันไมม่ ีหลักฐานรองรับน ะ อย่างบอกว่าเน่ีย กรรมมนั ก ็
คือ เธอเนีย่ เธอกำลังเสวยกรรมอ ยตู่ อนน้ี มีกรรมม ากเลย อยา่ เชื่อนะ ตอ้ งดูด้วยต ัวเอง
ถ้าหากว่าเรามีเจตนาดเี นีย่ เรยี กว่ากรรมด ีโยม ก็ตอ้ งอารมณด์ ีมีความสขุ ถ้าเราม เี จตนา
ไมด่ ี อารมณก์ ต็ ้องไมด่ ี นค่ี อื ก รรม กรรมคือเจตนา เปน็ ทตี่ ้งั ข องเวทนา ไม่ต ้องไปเชอ่ื ใครแล้วทีน้ี
วา่ เราม กี รรม หรือเสวยก รรมอะไรอ ยู่ กเ็ หน็ อย่ตู ่อหน้า ใช่ไหม ถ้าคิดด ีอารมณ์ก็ต ้องดี เนยี่ เสวย
ผาซ อ นแ กว 12
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ย์ปฏบิ ัติการ การบินไทย สวุ รรณภมู ิ วนั ที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
ผลข องกรรม ดว้ ยการมีเจตนาฝ่ายด ี กรรมถ ึงเรยี กวา่ เจตนา นถ่ี ้าคนฉลาดท ำย ังไง หมื ...จะไป
หาเรอื่ งคิดไมด่ ีทำอ ะไร หรือเอาความจำในอดตี ท ผี่ า่ นไปแล้ว ตามวุฒภิ าวะ ตามวัยท ี่ไร้เดียงสา
ท่ีอาจจะผดิ พลาดไปบ้าง จะเอากลบั ม าค ิดท ำอะไรโยม เน่ีย เรยี กวา่ ไม่สมควรต้องได้ร บั ทุกข์
แบบนนั้ เลย หรือไม่สมควรไปต กนรกเลย ไมม่ เีหตุตอ้ งส มควรเลย แต่เพราะข าดปญั ญาแทๆ้
เลยนะ กระโจนล งไปในส ่งิ ทไ่ี มค่ วรกระโจนล งไปเลยโยม เอาเรือ่ งทเ่ีศรา้ หมอง ท่ีผิดพ ลาด
ในอดตี จากค วามไมร่ ู้ ในวัยอ นั ไร้เดยี งสา ตามวฒุ ิภาวะ อย่างเชน่ เด็กๆอาจจะเลน่ กันก ระเซา้
เย้าแหย่ก ัน แกล้งก ัน หรือม ีความรักหวานแหวว หรอื อะไรก็เแล้วแ ต่ มันกผ็ ่านไปต ามว ัยเวลา
ของว ุฒิภาวะ ในช ว่ งน ้นั ๆแตไ่ม่ใช่เรานะโยม มันคอื เหตปุ จั จยั ทเ่ี กิดด ับไปต ามเหตุปัจจัยในอดีต
ของเหตปุ จั จยั เหลา่ นั้นๆ เอง
เพราะฉะนนั้ ค วามไมร่ ู้เน่ยี จึงมคี วามวา่ ความไม่รใู้ นอดตี ความไมร่ ู้ในอนาคต ไมร่ ู้ว่า
อดีตเน่ีย เปน็ แค่เหตปุ ัจจัยของข นั ธ์ ๕ ไมใ่ ช่เรานะโยม ขนั ธ์ ๕ ในอดีต คือความจำในอดีต
ความรสู้ ึกในอดตี นึกออกไหม เวทนาในอดีต ไม่ใช่เรา เกดิ ดับไปตามผ สั สะ ของอดีตนนั้ ๆไม่มี
เราอ ยู่ในน น้ั แตค่ วามไมร่ ู้ก ็ไปควา้ เอาค วามจำน น้ั เอาก ลบั มาคดิ ใหม่ เปน็ เรื่องไม่ดี แล้วก็ เสวย
อารมณเ์ ศร้าหมองตัวใหมน่ ะโยม ไม่ใช่ท กุ ขต์ ัวเกา่ นะ เอาความจำในอดตี ม าสร้างท ุกขเวทนา
ตัวใหมอ่ ยา่ งไร้เดยี งสาเหน็ ไหม ถา้ โยมเขา้ ใจ กรรมนะ ไม่ต อ้ งไปใหใ้ครแก้ก รรมให้ห รอกโยม เรา
ก็ฉ ลาดข น้ึ ม าส ิ จะไปค ิดถึงเรอ่ื งท เ่ี ศร้าหมองท ำอะไร ในเม่ือมนั ค นละเหตุปจั จัย คนละวาระก ัน
แล้ว ตอนนัน้ เรายงั เด็ก แล้วสถานการณ์ ผสั สะมันเป็นอ ยา่ งนัน้ ก็ปรุงแตง่ ตอบโต้ส ถานการณ์
หรือแอคช่ัน (Action) ไปต ามสถานการณ์ อย่างนั้น แต่ไมค่ วรจะเอาก ลับนำมาคดิ ใหม่ ให้ม นั
เศร้าหมอง วา่ ม เี ราในอดตี ไม่มเีราในอดตี นะ มีแต่เหตปุ ัจจยั ทีเ่ กิดด บั เชน่ การรบั ร้ทู างเสียงก็
เกดิ ดบั ไปแล้ว อย่างน้ี รบั รแู้ ลว้ เกดิ ความรสู้ กึ เรยี กว่าเวทนา ก็ดบั ไปแล้วอ ยา่ งนี้ แต่ค วามไม่รู้
นะ นฉี่ ลาดข ึ้นแ ล้วนะ มันจะส ามารถ ทีจ่ ะต้องไม่ไปเสวยอารมณของกรรมเก่า พทุ ธเจา้ จึงสอน
อยา่ งน ้ีนะ วิธลี ะกรรมเก่า อยา่ ไปคดิ ถงึ อยา่ พดู ถงึ นกึ ออกไหม บางทีเราเอาเร่อื งท ถ่ี ูกทำรา้ ย
ในอดีต หรือเขาว่าเราในอดีตม าพดู รสู้ กึ ไหมโยม ความโกรธจะเกดิ ขนึ้ ใหม่ โดยทเี่ อาอ าหาร
เกา่ มาค ยุ้ เขย่ี เอามาดมื่ กนิ น่ีอ ันน้ไีร้เดียงสาเกินไปจ รงิ ไหม แล้วยิ่งพดู ร ู้สกึ ไหมวา่ ยงิ่ อิน (In)
ยิ่งอนิ อารมณต์ ัวใหม่ก ็เกดิ ขนึ้ เป็นความเศรา้ หมอง ไม่ใช่อ ารมณเ์ก่านะโยม อารมณ์น ี่เกิดขนึ้
สดๆรอ้ นๆโดยก ารทไี่ ปเอาอ ารมณ์เก่าทเ่ี ศร้าหมอง มาขบเค้ยี วเป็นอ าหารว่าง ไมใ่ ช่อ าหารว่าง
ท่เี หมาะสมนะ อาหารว่างท ่ีเหมาะสมกค็ ือก ารร ะลึกถงึ สิ่งทด่ี ี เรยี กว่าอนสุ ติ ๑๐ ไง เอาส่งิ ที่
13 ผาซ อนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ดๆี มาระลึกถงึ ด ีกวา่ นฉ่ี ลาดอ ย่างนีเ้ ห็นไหมโยม ว่า พระพุทธเจ้าจ งึ ตรัสว า่ “ ศาสนาหรือค ำ
สอนของท า่ นเนยี่ ถาไมสามารถช่วยค นใหพ้ ้นทุกข์ในปัจจุบันได้ คำส อนห รอื ศ าสนาน ้ี จะ
ไมม่ ปี ระโยชนต์ อ่ ม นษุ ยชาติเลยโยม” แตค่ ำส อนน้ีส ามารถช่วยคนให้พ น้ ทกุ ขใ์ นปจั จุบนั หรอื
แกป้ ัญหาในปจั จุบนั ได้จ รงิ หรือม ีของขวญั แ ห่งความสุขในปัจจบุ นั ได้จ รงิ จึงมปี ระโยชน์ ไมใ่ ช่
ศาสนาท ่ีมคี ำสอน ลอยอยใู่นอากาศข องช าติหน้านะ หรือเบอ้ื งหลงั ความตายนะโยม มันเกดิ ขึน้
ตรงป จั จุบนั ต า่ งหาก แล้วใชม้ ันอย่างถูกวิธี คือก ฎกตกิ าข องความจริงทีต่ อ้ งเขา้ ใจ การเข้าใจขันธ์
๕ นี่ เปน็ พน้ื ฐานข องช วี ติ นะ เพราะวา่ อยกู่ บั เราตลอดเวลา เหน็ การทำงานข องกายแ ละใจ แต่
ใจ ก็ไม่ใช่เราน ะ เข้าใจไหม โอ๋ ทไี่ ม่ใช่เราเพราะว่า มนั อาศยั เหตปุ ัจจยั เกิดขน้ึ จะเปน็ เราไปได้
อยา่ งไร
โยม : ครบั
หลวงพ่อ : “เรา” เกิดจ ากค วามคดิ เหน็ ไหมโยม จิตมันคดิ ว่าคำวา่ “ใจเรา” ขึ้นมาเนีย่
พวกท ี่ดูจติ จะเฉลียวใจทัน จิตม ันค ิดค ำว่า“เรา” อ้าว...ไมใ่ ช่เราสกั หนอ่ ย น่ีมนั อ าการของจติ ค ดิ
พอเห็นม ันก ็ดบั เหน็ ไหมโยม จิตกม็ ีความเกิดดับ ไม่ได้เป็นดวงเดยี วด ว้ ยน ะ ไมใ่ ช่ว า่ ดวงในอดตี
นัน้ เปน็ เราน ะโยม ดวงในอดีต กด็ บั ไปตามเหตุป ัจจยั ข องอดตี นึกออกไหม ถ้าโยมเขา้ ใจวา่ จติ
คือธรรมชาตแิ หง่ ก ารรู้ โยมจะเหน็ ว่าม ันเกดิ ด ับอ ย่ตู ลอดเวลา ทกุ ๆขณะ ทุกๆ ขณะ แล้วบางที
ก็ไม่ส ามารถ ทำงานซ อ้ นๆกันได้ด ว้ ยน ะ อยา่ งเชน่ ถา้ หากว่าโยมท อ่ ง พ ุทโธๆ ๆๆอยา่ งนใี้ นใจ
มนั ก ็จ ะไม่ส ามารถ จะไปพ ดู ค ำอืน่ ไดว้ ่า เขาว า่ เรา เขาอจิ ฉาเรา พูดไม่ได้ห รอกโยม เพราะวา่
เราก ำลังไปท่องพุทโธอ ยู่ น่กี เ็ ป็นอุบายนะ อุบายในการท ำสมถะเพื่อให้ใจสงบ เพ่อื ยตุ ิบทบาท
ของต วั อ ื่นลงไปเห็นภาพไหม นเ่ี พราะฉะนัน้ การทำสมถะ หรือ ทำสมาธิ ทำไปเพ่อื อะไรก็รู้ ทำ
อย่างไรก ็รู้ ทำแ ลว้ ไดอ้ ะไรกร็ ู้ แต่ไมใ่ ช่เรานะโยม มันเปน็ การเปลีย่ นเหตุปัจจัย
ถา้ เหตนุ ม้ี ีผลนี้ก ม็ ี ถ้าเหตนุ ดี้ ับ ผลน ี้ก ด็ บั นกึ ภาพออกไหม ถ้าไปเผลอคดิ เรื่องพ ยาบาท
เรื่องไม่ดี ความเศร้าหมอง ความโกรธก ต็ ามมา ความเศรา้ ใจความทุกข์ใจก็ตามม า ถ้าเราเปล่ียน
เหตไุ ปท่องพุทโธๆเห็นไหม เหตนุ ด้ี ับ เหตเุกา่ ด บั ค ือเหตขุ องความหลงคิดเร่อื งไมด่ ีดบั อารมณ์
ทเ่ี ศรา้ หมองกด็ บั ไปด ว้ ยส โิยม แตไ่มม่ ีใครท ่องพุทโธได้ต ลอดเวลาต่างหาก เรากเ็ ลยต ้องเอามา
เรียนรใู้ หม่ คอื ปรับพ้ืนฐานเสรจ็ ป๊บั เป็นส มถะได้ความส งบแ ลว้ เอามาสังเกตกระบวนการการ
ผาซ อ นแกว 14
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏิบตั กิ าร การบินไทย สุวรรณภูมิ วันที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
ทำงานของม นั ว ่า พ อห ยดุ ท อ่ งพ ทุ โธเดีย๋ วมันก ค็ ดิ ใหม่ ใชไ่ หมโยม ไอค้ วามคิดท่ีดับไปเม่ือกน๊ี ้ี
อาจจะคิดเรอ่ื งอน่ื ทไ่ีมไ่ ด้ต ง้ั ใจ มันกจ็ ะล อยม าใหม่ ความคดิ น้ีบังคบั ไมไ่ ด้เพราะอะไร เพราะถ้า
มนั ม ีหน่วยของค วามจำอยู่ เดยี๋ วค วามคดิ กต็ อ้ งเอาความจำมาทำงาน เหมือนเราเปดิ โนต้ บ ุค๊
(Notebook) ไวต้ ลอดเวลา โดยดึงเอา เปดิ เอาห นว่ ยโปรแกรมข องความจำ ใหม้ ันเคล่อื นไหว
ผ่านจ อไปเรื่อยอยา่ งน้เี น่ีย ร่างกายเหมือนกันโยม มนั จำเป็นจ ะต้องเปิดไว้ต ลอดเวลา เพือ่ อะไร
ถ้าหากวา่ ไฟไหมน้ ่ี จะไดเ้ห็นไหม ถา้ เสียงฟ้าถ ลม่ ทลาย จะไดย้ นิ ไหม โยมไม่เปดิ ไมไ่ ดจ้ รงิ ไหม
ไมส่ ามารถจ ะป ดิ เครอื่ งร ับรู้ ก็ต้องเปิดไวต้ ลอดเวลา มันเลยต อ้ งบ นั ทึกข้อมูลตลอดเวลา แล้วก็
รบั รู้แ ลว้ แล้วกต็ อ้ งค ิดอ ยู่เรอื่ ยๆ แวบ้ ๆ แว้บๆ ตามข้อมูลท ่ีเข้ามา เกดิ การตัดสินใจในแตล่ ะ
ขณะ แตล่ ะข ณะ เรียกวา่ “ความคดิ ” เพอ่ื ใหเ้กิดความปลอดภยั แกช่ วี ติ รา่ งกาย
เพราะฉะน้นั พ อจติ มนั เผลอค ิดน ะโยมอย่าไปตกใจน ะว่าเราป ฏิบัติจะตอ้ งน ่งิ ม ่ันคงถาวร
ไม่ใช่ เห็นค วามคิดท ี่กำลงั ท ำงาน เปน็ ส ง่ิ ถ ูกร ้ทู ีนี้ ทแี รกเราป รบั พ น้ื ฐาน เป็นสมถะกอ่ น โยมแ ม่
จะไปเขา้ คอร์สแ ล้วต้งั หลักใหด้ นี ะ เราทำสมถะ ทำไปเพ่อื อะไร ทำไปเพอื่ เคลยี รพ์ ืน้ ท่ี โต๊ะเน่ยี
เหน็ ไหม มแี จกนั ดอกไม้ มยี า่ มมนี าฬิกา มแี กว้ มีไมค์ มีเครื่องบนั ทึกเสยี งอย่างน้ี ถ้าหากว่าขน
ตาห ลวงพอ่ หลน่ ไปเสน้ น ึงจะเหน็ ไหมเน่ยี เหน็ ไหมโยม ไม่เหน็ หรอกเนอะ ก็โตะ๊ ม ันรกข นาดนี้
เนอะ ถ้าร กมากกว่าน ีจ้ ะเห็นไหม ย่ิงไมเ่ หน็ เลย จติ ใจพวกเรากเ็หมอื นกนั ถา้ หากวา่ ท ง้ั วนั เน่ีย
มันเผลอค ดิ วบั ๆ เต็มไปหมด เด๋ยี วค นน้นั โทรศัพท์เข้ามา เดยี๋ วคนน ้ีเดนิ เข้ามาถาม เดีย๋ วคนนี้
เดนิ ม าส ัง่ งาน อะไรก็ไมร่ มู้ ันปนไปห มด โยมจะไม่ส ามารถเหน็ การทำงานมนั ได้อ ย่างล ะเอียด
เพราะว่าม นั เยอะเกินไป พอเรามาทำสมถะ นึกออกไหม พอเราม าทอ่ งพ ทุ โธของตา่ งๆ ในจิตใจ
เรามนั ถ ูกย ตุ ิบทบาทอ อกไป ความคดิ ถกู ย ุติบทบาทอ อกไป ความคิดท่ีไมช่ อบหรือชอบกแ็ ลว้ แต่
ความคดิ ท ี่ชอบ กช็ อื่ ว่า “กามฉันทะนวิ รณ”์ ทไ่ี ม่ชอบทค่ี ดิ ไม่ดี ชื่อว่า “พยาบาทน วิ รณ”์ หรือ
ความฟงุ้ ซ่านไปในอดีต หรือความฟ งุ้ ซา่ นไปในอ นาคต มันจ ะยตุ บิ ทบาทช ่ัวขณะ จติ ใจกจ็ ะส งบ
อยู่เดย๋ี วน งึ โยม เหน็ ม ยั้ แล้วพอห ยุดท ่องพ ุทโธหรอื หยดุ ด ลู มหายใจ หยุดดูทอ้ งพองยบุ หยุด
สนใจต วั อืน่ เมอ่ื ไหร่ ความสงบทไี่ด้ม าแลว้ น้ี มนั อ าจจะมคี วามคิดบางๆ ล อยผา่ นม า ความคิดที่
ไมม่ ี แล้วกม็ ขี นึ้ ม า โยมเหน็ มยั้ มีแล้วค งอ ยูก่ บั ทมี่ ั้ย ไม่อ ยกู่ บั ท่ี มันส ลายไปอ ยา่ งน้ี เนี่ยเรียกว่า
วิปัสสนา ทำส มถะเพือ่ จะเป็นบ าทฐาน คือท ำให้เกดิ ความสงบ สเปซ (space) ข้นึ มาชวั่ ขณะ
เพ่อื จะเหน็ ส ง่ิ ท เี่ กดิ ขึ้นใหม่อ ยา่ งละเอยี ดท นั ขนตาห ลน่ ไปห นึ่งเสน้ เห็นละ ลอยม าบางๆ เห็น
เลย ถ้าอ ยา่ งนโ้ียมไมเ่ หน็ แน่นอน เพราะว่ามนั รกไปห มด นึกออกม้ัย เราก็เลยท ำไปเพื่ออะไร
15 ผาซ อ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ทำไปเพ่อื ยุติบทบาทข องอ กศุ ลไปซะ ทมี่ ันรกรุงรงั ช่วั ขณะออกไปก่อน จะได้เหน็ ปรากฏการณ์
ของจ ติ จะได้เรยี นรกู้ ับม นั ชดั งา่ ยข้ึนมาห นอ่ ยอ ย่างน้ี
พอเผลอค ิดก ็รแู้ ล้วน ะทนี เ้ีนาะ เพราะว่าใจมนั ส งบนิดน ึงล ะ จะเหน็ ว่าความคิดทไี่ม่มี
แลว้ กม็ ี มแี ลว้ ไม่อ ยกู่ ับท่ี มีแล้วกห็ ายไป แสดงวา่ ปญั ญาจะเริ่มท ำงานแลว้ โยม เร่มิ ทำงานวจิ ยั
แสดงวา่ ธรรมชาตเิ ดมิ ของม นั ไม่ได้ม ีอะไรมาก่อน เป็นความว ่าง ความมปี รากฏขึน้ มาทีหลงั
ความคิดมาทหี ลงั ความคดิ ไมไ่ ดม้ ีมาก่อน เหน็ ม ย้ั โยม เกดิ ขึ้นบนค วามวา่ ง แลว้ ก็หายไปบน
ความว า่ ง ทีน้ีความว่างในศาสนาพทุ ธ วางจ ากต วั ตน เพราะวา่ มนั เป็นเหตุปัจจัย ว่างด้วย
ปัญญานะ ไมใ่ ชว่ ่าม นั ว่างไปท้งั หมดในจกั รวาลนะโยม มันมีแต่ม ันไมม่ ี มันมแี สงแดด มนั มสี าย
ลม มันมีลมหายใจ มีทุกอยา่ ง แตไ่ม่มใี ครเป็นเจา้ ของสิง่ เหลา่ นั้น เรยี กว่ามีแ ตไ่มม่ ี ไมใ่ ช่ว ่าวา่ ง
จากแ สงแดดน ะโยม... แตไ่มม่ ีใครเปน็ เจา้ ของ มคี วามอบอุน่ ข้างใน มีสายน้ำภายใน มีลมหายใจ
ท่ไี หลเข้าไหลอ อก แตล่ มนีไ้ ม่ใช่ข องเรา มีแตไ่มม่ ี มีโดยก ระบวนการเหตปุ จั จยั แตไ่มม่ ใี ครเป็น
เจา้ ของ หรอื ไม่ใชต่ ัวตนข องใคร ไมม่ ใี ครสามารถครอบครองส่ิงเหล่าน้ีได้ ไม่มีใครครอบครอง
แสงแดดเอาไว้ได้ นึกออกม ยั้ ลมหายใจเขา้ ไปแลว้ จะครอบครองเกบ็ ไว้ โดยจะไม่ห ายใจออก
เปน็ ไปไมไ่ ด้ ใช่ม ั้ยโยม
ดังนน้ั ก ารร บั แ ละก ารให้ การดดู ซบั แ ละการแบ่งปัน เกดิ ขึน้ ตลอดเวลาในช ีวติ เรา
สามารถจ ะมคี วามส ุขจากการร ับและการให้ โดยเหตเุง่อื นไขตวั น้ีดว้ ยความเสมอภาค ดว้ ย
ความเสมอภาคก ันในธาตุ ๔ ด้วยม ีความเสมอภาคกนั ในจติ เดมิ แท้ หลวงพ่อเคยบอกพดู ถึง
ความเมตตา หรือความออ่ นนอ้ ม หรอื ค วามส ุขเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ทเี่กิดข้นึ ในช วี ติ ประจำวัน จาก
การร ับและก ารให้ เอือ้ เฟอ้ื ซ ่ึงก นั แ ละกนั ในแตล่ ะวนั ในธ าตุ ๔ ซ่ึงไมม่ ใี ครเป็นเจา้ ของ ขณะ
เดียวกันก ็ต้องเผชญิ หน้ากบั ค วามเปลี่ยนแปลงอ ันไม่ค งที่ ความไมค่ งที่อนั ช ่ือวา่ ทกุ ขล ักษณะนะ
โยม กจ็ ะเกดิ ความร กั ความเคารพและค วามเมตตา...โยม ตอ่ ค วามไม่ค งที่ทกุ ชนิด เผชญิ หนา้
ต่อความไมค่ งท่ีอนั น้ี ด้วยความเข้าใจเขานะโยม ว่าเขาต้องเผชิญหนา้ กับความไมค่ งท่ี และเขา
รับมือไมไ่ หว และเขาอ่อนแอเกนิ ไป บางทเี ขาก ต็ อ้ งแสดงความก้าวรา้ ว แสดงความเหน็ แก่ตัว
แสดงค วามทรุ นทรุ ายอ อกมา ถา้ เราเข้มแข็งกว่า ใช่ม ยั้ โยม เรากเ็ข้าใจสิวา่ เขาอ่อนแอช ว่ั ขณะ
เพราะเขารับมอื ต อ่ ท ุกขล กั ษณะไม่ไหวท ีม่ นั กำลงั มีความไม่ค งที่ เจอเสยี งกระทบหทู ร่ี นุ แรง เขา
รบั มือไมไ่ หว เขากด็ น้ิ อ อกมา ใช่ม ้ัย แสดงอาการด้นิ รนออกมา อยากพน้ ไปจากภาวะน้ี ชอื่ วา่
ผาซอ นแ กว 16
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏบิ ตั ิการ การบนิ ไทย สวุ รรณภูมิ วนั ที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
“วภิ วตัณหา” หรอื อยากไดภ้ าวะทีด่ ีกวา่ น ้ี ชอ่ื วา่ “ภวตณั หา” เหน็ มัย้ โยม ไม่มีใครอยู่ในน ้นั น ะ
มนั คอื ก ารร บั มอื ตอ่ ท ุกขต์ ่อส มุทยั แตถ่ ้าเขา้ ใจว่า ภาวะไม่ค งที่น้ีเกิดขนึ้ อ ย่างเสมอภาคกับทกุ
ชวี ิต ไมว่ า่ ท กุ สรรพสตั วก์ ็แลว้ แต่น ะ มดมันกต็ อ้ งพยายามเดนิ ห าอาหาร แบกนำ้ ตาลทรี่ ่วงจาก
กาแฟของเราท ี่ทำหลน่ ไปเม็ดส องเม็ด แบกก ลบั เข้าไปให้ค รอบครัวม ันกนิ อยา่ งน้ี เพราะว่าม ัน
ต้องเผชญิ หน้าก บั ความไม่ค งท่ใีนธรรมชาติ แลว้ กต็ ้องแ สวงหาส ่งิ เตมิ เต็มเรยี กว่า “ตัณหา”
เป็นปรากฏการณข์ องธรรมชาตินะ ถา้ เข้าใจแบบนี้ โยมจ ะเกดิ ค วามเมตตา จรงิ ม้ัย
เมตตาตอ่ ทุกขล กั ษณะท เ่ี ขากำลงั เผชิญหน้าอยู่ แลว้ ก็เคารพต่อค วามเข้มแขง็ ตอ่ ท กุ ข
ลักษณะของทกุ ช ีวิต คนในค รอบครัวเรากเ็หมือนกนั นะ ใช่ม ย้ั ไม่ว่าจะเปน็ พ อ่ แม่เรา พ่ีน้อง
เรา มใีครบา้ งท ่ีไมเ่จอสง่ิ แ บบน้ี เขาต้องเจอก ับความไม่ค งท่ี ใช่ม ั้ย ดังนน้ั ภาวะของความดิน้ รน
ท่จี ะพ ้นจากความไม่ค งท่ี หรอื แสวงหาภ าวะท่ีดีกวา่ น ้ี สมบรู ณก์ ว่าน ้ี หรือ “ภวตัณหา” จ งึ
เกดิ ขน้ึ ต ลอดเวลาน ะ สำหรับช ีวิตท ่ียงั ไมเ่ ขา้ ใจความจรงิ ของท กุ ขท์ ไ่ี มม่ ใี ครทุกข์
เม่ือกีด ูดวี ีดี (DVD) นะ จวั่ หัวว่า ความทกุ ข์มีแ ตไ่ม่มีใครท กุ ข์ หรอื ไมม่ ใี ครอยใู่ นความ
ไมค่ งทข่ี องจกั รวาลเหล่านนั้ โยมนึกออกม ย้ั มันเป็นแ คม่ วลธาตุ แต่ค วามไมร่ ู้ไง มันเขา้ ไปยึดว่า
ตรงนเี้ปน็ เรา เหน็ ม ั้ย เขา้ ไปย ึดกระแสของค วามไม่ค งท่นี ้วี ่าเรา จติ ใจเรา ร่างกายเรา ใช่ท ไ่ี หน
ถ้าเขา้ ใจแบบน้ี เห็นม ย้ั โยมจะอ ยูอ่ ยา่ งม คี วามสขุ หรืออ ยู่อ ย่างสรา้ งสรรค์ อยู่อ ย่างเออ้ื เฟือ้
แบ่งปัน อยู่ด ้วยค วามเคารพ อยอู่ ย่างม ีความเมตตา อยู่อ ยา่ งใช้ว ินาทีแห่งขันธ์ ๕ เอ้ือ เกอ้ื กลู
ใหม้ ันเกดิ ว บิ ากในฝ่ายกศุ ลแ ก่ข นั ธ์ เข้าใจคำว ่ากุศลวิบากแกข่ ันธ์มย้ั คือ โยมม ีขันธ์ ๕ มาแลว้
เนีย่ ไมม่ ใี ครห ้ามค วามคดิ ได้น ะ มนั จ ะต อ้ งค ิดแ น่นอน ไมม่ ใี ครหา้ มความจ ำได้ ทุกครั้งทรี่ บั รู้
มันจ ะต ้องจำ เพ่ือเอาไว้ต ัดสินใจในแตล่ ะขณะข า้ งหน้าตอ่ ๆไป ตามข อ้ มลู ที่ต้องรับเข้าไปอย่าง
นี้ การที่อำนวยก ุศลวิบากแ กข่ ันธ์ก ็ค ือ แทนท่จี ะม คี วามคิด แ ลว้ ไปคิดเรอ่ื งไมด่ ีให้ม ันเจบ็ ตัว
คิดเรือ่ งดๆี ไมด่ กี วา่ เหรอ จะได้ร ้สู ึกท่ดี ี จำเรอื่ งด ๆี ไม่ด ีกว่าเหรอ จะไดร้ ู้สึกท ด่ี ี อันน้ีเปน็
สัมมาท ฏิ ฐเิบ้อื งตน้ น ะโยม คือค วามเหน็ ถ กู เบื้องตน้ ท่ีจะใช้ข นั ธ์ ๕ อยา่ งถ กู วิธี ไมท่ ำตัวเอง
เหมือนเป็นศัตรกู ับตวั เอง อยู่ๆ กห็ าเรอ่ื งท กุ ขใ์ จใหต้ วั เอง ทำอ ยา่ งกบั ตัวเองเปน็ ศตั รตู อ่
ตวั เอง เกลยี ดม ันหรือไง ถงึ ตอ้ งใหม้ นั ทุกข์ใจซำ้ แ ลว้ ซ ้ำเลา่ โดยก ารโยนความคดิ ท ไ่ีมด่ ีใส่
ไป เอาค วามจ ำท่ไี มด่ ีมาคิด ทง้ั ท รี่ ักต วั เองนะโยม แต่ท ำก ับตวั เองเหมอื นเปน็ ศตั รู ถา้ เขา้ ใจ
แบบนี้นะ ในส ัมมาทฎิ ฐิเบือ้ งต้นเน่ยี มันจะด ูแลส งิ่ ท่ีมีอ ย่อู ยา่ งเข้าใจ และใช้ส ่ิงนี้อยา่ งเอื้อเฟ้อื
17 ผาซอนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
แบง่ ปัน แทนท่ีจะร อเป็นผรู้ ับค วามสุข ลุกข้นึ ม าเปน็ ผ ้ใู ห้ค วามสุขแทน แทนท่จี ะรอวา่ เม่ือไหร่
ใครจะยมิ้ ใหเ้รา เมื่อไหรใ่ครจ ะพดู ดๆี ก ับเรา ทำไมเราไม่ล ุกขึ้นมาเปน็ ผ ู้ย ม้ิ ให้ก อ่ น ลุกข้ึนมาเปน็
ผพู้ ดู ดๆี ให้ก อ่ น โยม มันยากม ย้ั ไมไ่ ดย้ ากเลยนะ เหน็ มั้ยเน่ีย เป็นการใช้ข นั ธ์ ๕ อย่างอำนวย
กุศลวิบากแกข่ นั ธ์ ท้ังต ่อต วั เราแ ละตอ่ ผ ู้อื่น แล้วก็จะเปน็ ของขวัญของกนั และก นั ในช่วงของ
การเดินท างในสังสารวฏั ทตี่ ้องเผชญิ กับท กุ ขล กั ษณะร ว่ มกนั
เวลาเราแ ผเ่ มตตา ถึงม ีคำว ่าเพื่อนร ว่ มทุกขไ์ ง ให้ก ับเพอื่ นร่วมทกุ ข์ เกิดแกเ่จ็บตาย
ด้วยกันทงั้ หมดท้ังสนิ้ รกั ษาต นให้พ ้นจากทกุ ข์ภ ยั ทง้ั สิน้ เทอญ เอาตัวใหร้ อดๆ ไปเถอะน ะ ภาวะ
ของค วามไมค่ งท่ีมีอ ยู่ต ลอดเวลา ไม่ร วู้ า่ จะฝ่าฟันไปไดห้ รือเปลา่ กับสง่ิ ทีไ่ มค่ าดคดิ ในความไม่
คงท่ี เด๋ยี วหกู ม็ าก ระทบเสยี ง เดยี๋ วภ าพไมด่ ีกม็ าป รากฏ เด๋ียวอปุ สรรคขดั ขวางก็เกิดขึ้นขา้ งหน้า
ทำไงจ ะเอาตวั รอดไปไดใ้นแตล่ ะช ีวิต เห็นม ั้ยโยม มันมคี วามเมตตาแบบนน้ี ะ แต่ถ า้ เขา้ ใจและ
จิตใจแข็งก ว่าอ ยา่ งนี้ กจ็ ะเกิดแ สงสว่างแ หง่ ความแบง่ ปันในความเขา้ ใจ อยู่ด ้วยกนั ด้วยเปน็
ของขวัญในแต่ละขณะ ยมิ้ ให้แ กก่ นั ตัง้ แตค่ นในบา้ น ไปถึงคนในท ที่ ำงาน เพราะมนั ไมไ่ ดย้ าก
อะไรในก ารทีจ่ ะให้ เพราะวา่ ความสุขม นั มีอยกู่ ่อนแ ล้ว ไมไ่ ด้ล งทนุ มนั ข ึ้นม าหรอกเนาะเพยี งแต่
เขา้ ใจแ ละใช้ม นั อ ยา่ งคุ้มคา่ นะ รวมถงึ ปรากฏการณข์ องธรรมชาติรอบตวั นะ หลวงพ่อบางที
อยทู่ ว่ี ัดน ะ มองไปท ่เี ฉลียงห นา้ ประตู เห็นแ สงแดดม นั ลอดผา่ นก ง่ิ ไม้ล งมาที่พื้น เปน็ กระแจะๆ
สวา่ ง มนั อ ศั จรรย์นะ แคแ่ สงแดดน ่กี อ็ ศั จรรย์แลว้ ชวี ติ ทีม่ ีข นั ธ์ ๕ มาทรี่ ับรู้ ท่ีเหน็ แสงแดด
ผิวกายท ่ีถูกแสงแดด ทำไมจ ะตอ้ งไปกลัวม ัน มนั เป็นของขวัญตรงป ัจจบุ ันขณะ ทแ่ี สนจ ะงดงาม
ก็เดนิ ออกไปหาแสงแดดก ไ็ ดน้ ะโยม หรือมองเห็นก ่ิงไม้ท ี่มนั เป็นกลาง มีธาตุ ๔ เหมอื นกนั เหน็
ใบไมด้ ้วยใจท่ีเปน็ กลาง มีธาตุ ๔ เหมือนกนั ทเี่ขากำลงั บรรณาการลมหายใจ ไหลเข้าไหลอ อก
แบง่ ปนั ซ ึง่ กันแ ละก ัน ในส วน เราก เ็ปน็ ส่วนหนึง่ ของสวนเนาะเรากเ็ ปน็ ส วนเหมอื นกนั เพราะ
เรากห็ ายใจให้ใบไม้เหมอื นกนั ใบไม้ก ห็ ายใจให้เรา เราเป็นหน่งึ เดียวกันในส วน ในอ ทุ ยานแ หง่
การแบง่ ปนั ตงั้ แต่ธ าตุ ๔ ไปจ นถึงห นว่ ยของค วามคดิ ค วามรู้สกึ ตา่ งๆ ทแ่ี บ่งปนั แชร์ (Share)
กันอ ยู่ต ลอดเวลาอ ยา่ งนี้
หลวงพอ่ ก ำลังพดู ถงึ คำว่าของขวญั ข องกนั และกัน ซ่ึงไม่ใช่จ ินตนาการ ไมใ่ ช่ส ่งิ ทม่ี องโลก
ในแ ง่ดี หรอื สรา้ งขน้ึ ม า แตค่ ือโลกแ หง่ ความเป็นจริงต่างหาก แล้วจะอยู่อ ยา่ งมคี วามสขุ นะ
ความส ขุ ท ่ีไม่ค วรส ญู เสยี คอื ค วามส ุขทม่ี ีสนั ตสิ ขุ มีความเป็นกลาง มีความเสมอภาค หรือมีความ
ผาซ อ นแ กว 18
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏบิ ัตกิ าร การบินไทย สุวรรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
เปน็ หน่ึงเดยี วกันอยู่แ ล้ว หนง่ึ เดียวกันต ้งั แตต่ รงไหน โยมดสู ิ ธาตุ ๔ เห็นมัย้ ไหลเวยี นเป็นหนึง่
เดยี วกนั จากส ถานที่หนึง่ จากภาวะหนึ่งไปส ู่ภ าวะหนึ่งตลอดเวลา ไม่มใี ครอยู่น น่ั มีแ ตค่ วาม
หนึง่ เดียวของค วามเปลยี่ นแปลงอ ย่างน ้ขี องธาตุ ๔ ถ้าเอาร า่ งกายโยมทเ่ี สยี ชีวติ แลว้ ไปโยน
เม่ือวานหลวงพอ่ ไป รพ.พระมงกุฎฯ ไมร่ ู้ม ีคนเสยี ชีวติ นอนอยู่ข ้างลา่ ง เขาเอาผา้ คลุมไว้ จรงิ ๆ
อยากจะไปดูหนา้ เขานะ วา่ เขาเป็นใคร หนา้ ตาอ ย่างไร เพราะจริงๆไมม่ ีใครไงโยม แตค่ นอ าจจะ
กลวั นะ แต่ม องไปแ ล้วมนั ไมม่ ีใคร มันเป็นธ าตุ ๔ ที่ถูกย ืมใช้ช ัว่ คราว แลว้ ก็คนื ไป ถา้ หากวา่ เรา
เอาไปโยนใต้ต น้ กุหลาบ มันก ค็ งจะออกเป็นดอกกหุ ลาบ ไปโยนใต้ต น้ มะมว่ งก็คงจะเปล่ยี น
เป็นล กู มะมว่ ง แล้วถ ้าเอาลูกมะมว่ งน ั้นมาใหแ้ มค่ นห นง่ึ กนิ มนั กค็ งจะเปน็ น ำ้ นมของแม่ ถ้าลูก
กนิ น ำ้ นมข องแ ม่ มันก ็คงจะเปลย่ี นเป็นพลังงานในตัวลกู คนใหม่อ กี ไม่มใี ครในค วามไหลเวยี น
สัมพันธ์ท่เี ป็นหนง่ึ เดียวกนั ในกระบวนการธรรมชาติ ในท กุ ๆ มวลอนภุ าค โยม อันน้ีแคพ่ ูดใน
สว่ นย่อยๆ นะ เปน็ การสมุ่ ตวั อยา่ ง ในส ่วนมห ภาคใหญ่ ก็เปน็ แ บบเดียวกัน อยู่ในจ งั หวะและ
ท่วงทำนองเดยี วกัน อนั นเ้ี ป็นปัญญาเหน็ ม้ัย ศาสนาพุทธเปน็ ศ าสนาของปัญญาชน เปน็ ศาสนา
ของผ้รู ู้ ทำให้เกิดต ัวผ ูร้ ู้ ผู้ร้คู อื ผ ทู้ ่ีเห็นความจรงิ หรือเขา้ ใจความจรงิ ตามค วามเป็นจริง โยม ไมไ่ ด้
มีอะไรมากกวา่ น ้นั นะ
เดี๋ยวเราม าเรียนเรอ่ื งเครอ่ื งมือห นอ่ ยน ะ วา่ ทำไงจงึ จะพัฒนาตัวน ้ีข้นึ มา เพ่อื ใชใ้นช ีวติ
ประจำวนั ไดอ้ ย่างเทา่ ทัน บางทเี ราเข้าใจแ ลว้ แตบ่ างทีก็ไม่ส ามารถนำมาใช้ท ันนะ เหมือน
เข้าใจแ ต่ท ำไม่ได้ ก็ต อ้ งพ ฒั นาให้ม ันแขง็ แรง การพ ฒั นาให้ก ล้ามเน้ือแ ขง็ แรงก็ต้องม กี าร
บรหิ าร เหมือนกับก ารที่เราต ้องการให.้ ..ร้สู ึกว่า ขาเราอ่อนแรง เราก็ไปเขา้ ห้องฟติ เนส ไปว่งิ
บนลู่ รูส้ ึกวา่ แ ขนเราไมค่ ่อยมแี รง เรากไ็ปซือ้ เวท (Weight) เลก็ ๆ มายก พ อเหมาะพอดกี บั
กำลังข องเรา สว่ นไหนไมแ่ ข็งแรงเรากบ็ รหิ ารส ่วนน ั้นข ้นึ มา กล้ามเน้อื แต่ละสว่ นไมไ่ ด้ม มี าก อ่ น
กล้ามเน้อื แ ห่งสติ กล้ามเนอ้ื แหง่ ป ัญญาก ็เช่นเดยี วกนั ไมม่ ีมากอ่ นน ะโยม สตไิ ม่ได้ม ีมาก่อน สติ
เปน็ อ นตั ตาเชน่ เดยี วกนั ไม่ไดม้ ีมาก ่อน ถ้าเหตุม ี ถึงจะม ี เหมือนกับกลา้ มเนือ้ ทัว่ ๆ ไป ดงั น้นั
การบ ริหารก ล้ามเน้ือส ติ ตอ้ งเรมิ่ ตน้ น ะ เพื่อจะได้เรียกใช้อ ย่างทนั ทว่ งที ฝกึ กับชวี ติ ประจำวนั
อย่างม ีรปู แบบกับแ บบฟ รีสไตล์ สองอ ย่าง เหมอื นเราออกกำลงั กายในห้องฟติ เนส กบั เรา
ออกกำลงั กายก ับรดนำ้ ต ้นไม้ กบั การเดินข น้ึ บนั ไดบา้ น กบั ก ารล้างหอ้ งนำ้ ให้ม นั สมั พันธก์ นั
ไมใ่ ช่ว ่าเราจะเอาเฉพาะเวลาออกกำลังกายในหอ้ งฟติ เนส พอบอกวา่ ไปรดน้ำต น้ ไม้ห นอ่ ย บอก
ไม่เอา เมื่อย ขี้เกียจเดนิ เดี๋ยวรอไปเดนิ บ นลู่ด ีกวา่ อนั น้ีไรเ้ ดยี งสาไปม ้ัยโยม นึกออกม ย้ั ว ่า พอ
19 ผาซ อนแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
จะใหอ้ อกกำลงั กายแ บบเดินรดนำ้ ต้นไม้ ไมเ่ อา ฉนั จ ะต ้องร อแ บบออกกำลังกายเฉพาะในห้อง
ฟิตเนส แล้วกเ็ ดินบนล ู่เทา่ นนั้ เดินไปเดินม า อยา่ งนไี้ ร้เดยี งสานะ หรือบอกใหไ้ปกม้ ๆ เงยๆ
บอกไมเ่ อาเด๋ียวจะไปก ้มๆเงยๆท่ีห้องฟ ิตเนส ถา้ ลา้ งห้องน้ำไม่เอา เดย๋ี วป วดหลัง
หลวงพอ่ เลยบอกวา่ การเจริญสตกิ เ็หมือนกนั นะ ตอ้ งใช้ท ้งั สองอย่าง ทั้งรูปแบบนยิ ม
กบั ธรรมช าตินิยม กบั ช ีวิตประจำวนั ให้ม ันสอดคลอ้ งกนั มาด แู บบรปู แบบน ิยมน ิดหนอ่ ย เพื่อ
เข้าใจ แลว้ จะได้ใช้กับในฟ รสี ไตลห์ รือธรรมช าตินยิ มได้ จะได้ใช้ด แู ลจ ติ ใจห รือเข้าใจความจริง
แลว้ ใช้ม นั ได้อ ยา่ งถูกวธิ ี เพราะวา่ สติเน่ียมผี ลลพั ธเ์ปน็ การอารกั ขาจติ ..โยม หลวงพ่อบอกแ ลว้
วา่ ความส ุขม ีอยกู่ ่อนแ ล้ว คือค วามปกตทิ เ่ี ป็นกลาง จิตน่แี หละโยม ท่ีคอยทำหนา้ ท่ีดูแลรักษา
ความป กติทเ่ีปน็ กลาง นี่หน้าท่ีห รอื ผ ลลัพธ์ของส ติเลยน ะ เราจ งึ เหน็ วา่ อ้อ...ทำไมสตถิ ึงเปน็
ทางส ายเอกหรอื เป็นทางส ายเดียว ทน่ี ำเขา้ ไปสคู่ วามด บั ทกุ ข์ หรือค วามบ รสิ ุทธิข์ องก าย
และใจ ทำให้เข้าถงึ อริยมรรค หรอื ท ำใหเ้ข้าถงึ พ ระนิพพาน ก็เพราะว่าจ ติ นม้ี ีหน้าท่ีอารกั ขา
จิตทีป่ กตอิ ยแู่ ล้วน ีเ่ อง ความไม่ปกตมิ าทหี ลัง
เอ้า...ดูเรอื่ งสตนิ ิดหน่อยน ะ องค์ประกอบท ที่ ำใหเ้ กิดสตมิ ีอ ยู่ ๔ อย่าง ผลลพั ธม์ นั คอื
การอารกั ขาจ ิตนะ ถ้าหากผ ลลพั ธค์ อื ก ารอารักขาจติ หนา้ ที่ของมนั ก็ต้องค อยสอดส่อง คอย
สอดส่องดูแลจ ติ ใจไว้ส ิ ไมง่ ั้นมันจะอารักขาไดอ้ ยา่ งไร โยมเห็นมยั้ หน้าท่ีมนั ค ือการคอยส อดสอ่ ง
คอยด แู ล คอยต ามดูก ารท ำงานของจ ิตใจ ถา้ มนั ค อยต ามด กู ารทำงานข องจติ ใจ มนั ก็ไมค่ วร
จะตอ้ งเหมอ่ ลอยไปท่ไี หน เพราะถ้ามนั เหมอ่ ลอย ก็แสดงว่ามนั ละทิ้งหน้าท่ี สตเิ ลยมีความไม่
เหมอ่ ลอย ไมล่ ่องลอยเป็นลักษณะ เหน็ ม ยั้ โยม งา่ ยจะตาย คนขาดสติดงู ่ายมยั้ ดงู ่าย ก็ตอ้ ง
น่งั เหมอ่ ๆลอยๆหนา้ ต อ้ งเบลอๆ คนมคี วามทกุ ข์ดงู า่ ยมั้ย เพราะคนม ีค วามทุกข์คือคนข าดสติ
คนม ีความท กุ ข์ก็ต้องห นา้ เบลอๆโยมคดิ วา่ ค นหนา้ เบลอๆกำลงั มคี วามสุขมัย้ เบลอๆเหมอ่ ๆ
เศร้าหมอง หมองหมน่ ลอ่ งลอย ปล่อยใหค้ วามปรุงแต่งฝ่ายไม่ดีมันเขา้ มาครอบงำแ ล้วก็ทกุ ขใ์ จ
เน่ยี ข าดสติ สตเิลยม ีความไม่ล อ่ งลอยเปน็ ล กั ษณะ เพราะถ้าลอยไป มนั กจ็ ะไปเผลอคว้าเอา
ความจ ำที่เศรา้ ในอดีต อารมณใ์นอดตี ความก ังวลถ งึ ตวั ตนในอนาคตเขา้ มาคดิ มนั ก ็เศรา้ หมอง
สิ หรือห ลงค ดิ เรอื่ งทไ่ีม่ดี เขาว่าเราอะไรกแ็ ลว้ แต่น ะ ข้อแรกของส ตไิ ม่ไดย้ ากอ ะไรนะ คอื ความ
ไมเ่หมอ่ ไมเ่ผลอ ไมล่ อ่ งลอย
ข้อท่ี ๒ ของส ติ มที ตี่ ้ังจ ะไดไ้มล่ อย เวลาเรามาสมัครงานทก่ี ารบนิ ไทยใหมๆ่ มาสอบ
ผาซอนแกว 20
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ย์ปฏิบัติการ การบนิ ไทย สวุ รรณภมู ิ วันท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
สัมภาษณน์ ะ เราเตรยี มตงั้ สติ กายอ ย่ไู หน อยทู่ ่าไหน ทรงผมเป็นย งั ไง ลกู ตาเปน็ ย งั ไง ใจเผลอ
คดิ อะไร หูกระทบเสยี ง เขาถามม าวา่ อ ะไร เราเตรยี มพรอ้ มทุกขณะอยา่ งตืน่ ตวั อยไู่ ปส กั พักเรา
เริ่มไม่ต ืน่ ตวั แลว้ เราเร่ิมไมเ่ตรยี มพรอ้ มแลว้ เราไมต่ อ้ งตง้ั สติก ไ็ ด้ เพราะว่ามันผา่ นนาทีวกิ ฤต
ไปแล้ว จรงิ ๆ นะโยม ยงั มีนาทวี ิกฤตรออยขู่ ้างหนา้ อีกเยอะ อกี มากมาย ไม่ร วู้ ่าเสียงแ บบไหน
จะมากระทบหู ไมร่ วู้ า่ ค ำนนิ ทา คำสรรเสรญิ ความขัดแย้ง หรือคำส ั่งท่ีไร้อ ะไรต ่างๆจะเขา้ มา
เม่อื ไหรก่ ไ็ มม่ ใี ครรู้ได้ ดงั นั้น การต้ังสตเิ ห็นไหมโยม ขอ้ ท สี่ อง มีทตี่ ้งั เราจำไว้น ะ ตอนทีเ่ รา
มาสอบสัมภาษณ์ เราก ต็ ้ังสติ นเี่ รากต็ งั้ สติ ดทู กี่ าย เรากร็ ้นู ะว่าเวลามาสอบส มั ภาษณ์หรอื มา
สมคั รงานท ีไ่ หน เรากร็ ู้สกึ ขาอยู่ไหน หัวเข่าอย่ไู หน ปลายเทา้ อยู่ไหน เด๋ยี วนี้เราไมร่ ู้แ ล้ว หวั เข่า
อยู่น ่ี ปลายข าไปอยู่น ู่น นเี่ ห็นม้ยั เราก็ทำดูส ิตรงป ัจจุบนั เนีย่ ตอนเน๊ยี หัวเขา่ อยไู่ หน ปลายเทา้
อยู่ท ไี่ หน มืออ ย่ตู รงไหน คอตงั้ ต รงไหน ตรงหรือเอียง นกึ วา่ กำลังมีสายตาข อง...ไม่ใช่ส ายตา
ของผจู้ ดั การท่สี อบส มั ภาษณ์นะ.. มีสายตาของพ ญายมหรอื มจั จุราชมองอ ย่วู ่า เดี๋ยวจะรอเก็บ
ไอ้ร ายน ีล้ งนรกด กี วา่ เพราะว่าขาดสตไิด้ท แี่ ล้ว เดยี๋ วส ่งปัญหาไปนดิ น งึ ม ันต้องห ลุดแน่นอน
พอมนั หลุดท ำช่วั ป ๊ับเสร็จเรา กำลงั ดูวา่ ถ กู สายตาบางอย่างจอ้ งอยู่น ะโยม จ้องมองการผิดพ ลาด
ของเรา หรือถ ้าหากวา่ ม ีศัตรเู จ้ากรรมนายเวรจ ริง มนั จะเลน่ งานเราต อนไหน ตอนเรามสี ติม ัน
เลน่ งานเราไม่ไดแ้ นน่ อนโยม มันต้องร อเล่นงานต อนเราข าดสติเทา่ นั้น
ภาษาไทยเราถึงมีคำวา่ “ผซี ้ำด้ำพ ลอย” ค อื ต อนทขี่ าดสตแิ ลว้ หลวงพอ่ เคยเจอนะ
ขับรถอ อกมาจากม หาวทิ ยาลยั มหดิ ล หลวงพ่ออ ยทู่ มี่ หิดล สมยั กอ่ นบวช ขบั รถออกมากำลังจะ
ข้ึนส ะพานบ รมร าชชนนี มรี ถคันน ึงถ ูกต ำรวจเรียก อยู่ต นี สะพาน แกโกรธมากเลย แ กหัวฝดั ห ัว
เหวยี่ งเถียงก ับตำรวจ ขาดสติ พอต ำรวจปลอ่ ยปับ๊ แกก เ็ ขา้ รถป ดิ ประตตู ้มู แกไม่ม องอะไรท ัง้ สิ้น
เลย แกเหยียบคนั เร่งอ อกพรวดไปท ันทเีลยน ะโยม มาชนร ถหลวงพอ่ ตูม แกลงมาแกกว็ า ทำไม
ซวยอ ย่างน้ี ซวยซ ำ้ ซ้อน ซวยซ ้ำสอง เพราะอะไร หอื ก็เพราะขาดสติไมใ่ ช่เหรอโยม ปญั หา
เลก็ ม นั ก็เป็นปญั หาใหญต่ ่อไปเรอื่ ยๆ เห็นมัย้ คำว ่าผซี ำ้ ดำ้ พ ลอยของชาวบ้าน แปลวา่ ม นั ถกู
ซ้ำเติมไป ความท ่ีขาดสตแิ ละถ า้ หากวา่ มนั มสี ิ่งหนึ่ง ที่มนั ไม่ชอบเราอยู่ มันก็ตอ้ งร อจ งั หวะนี้นะ
โยม อนั นี้ขาดสติถ ้าส่งน ี้ไปม ันมองไม่เห็นแ น่ มนั ตอ้ งตูมแน่นอน ตงั้ สตใิ หเ้ปน็ น ะ อยา่ ประมาท
นะ อย่าป ระมาทนะ มาล องต้ังกนั ด ู เท้าก ระทบพนื้ อยู่ร ู้สกึ กระพริบตาอ ยู่ก ็รูส้ ึก เนี่ยรไู้ป
เพอ่ื อะไรโยม ให้ต วั ร ู้ม นั ม ที ี่อยู่ เวลาต ัวไมร่ ทู้ ำงานจะไดเ้ห็น ไมไ่ ด้ม ีอะไรม ากกว่าน ี้น ะ ให้ต วั
รู้ม ีทอ่ี าศยั ซ ะ ถา้ ต วั ไม่รูเ้ขา้ มาจะได้เห็น คนสว่ นใหญ่โยม ไมม่ ีตวั รู้ ท่ีอาศัยอยู่ต รงนเ้ี ลย มีแต่
21 ผาซ อ นแ กว
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส
ตวั ไม่รู้ทท่ี ำงานต ลอด เช่นไมร่ ู้ก ็แลว้ เผลอคิดไปเรือ่ ยๆและก ็ไม่รกู้ ำลงั เผลอค ดิ อ ยู่ เผลอคิดไม่ดี
ก็ไม่รวู้ ่าเผลอค ิดไมด่ ี เผลอค ดิ วา่ เขาวา่ เราแลว้ กท็ ุกข์ใจ และก็คิดว่าเขาในเนื้อหาข องความคิดน่ี
เปน็ ค นท ำให้เราท ุกข.์ .โยม น่ีไม่ให้ค วามเป็นธรรมนะ จริงๆแล้วไอ้ค วามไม่รูน้ ะท่ีเผลอค ดิ เข้ามา
เนี่ย มันท ำใหท้ ุกข์ต่างหาก ไมใ่ ชเ่ขานะโยม ไม่ใช่ต วั ละครในความคิดทำใหท้ ุกข์ เน้ือเรื่องทเี่ผลอ
คดิ อย่างข าดสติต ่างหากทำใหท้ ุกข์..โยม อนั นัน้ ไม่ต ้องไปแ ก้ปัญหาจากคนอ ่นื เหน็ ม ยั้ ถา้ โยมไป
แก้ปญั หาแ บบอยา่ ว า่ ช ้ันนะ หา้ มเด็ดขาดไมม่ ีทางหรอก ลับหลงั กห็ า้ มว่านะ ไม่มที างหรอกโยม
แตม่ นั เผลอคิดว่าเขาวา่ เราแลว้ ไมค่ ดิ ต่อ ไมค่ ิดไม่เอามาเป็นเร่อื งค ดิ ม นั จะทกุ ขใ์ จได้อ ยา่ งไง
บังคับขา้ งนอกไม่ได้ โยมดแู ลจ ิตใจด ีกวา่ เนี่ยสติมนั ท ำหน้าที่แบบนนี้ ะ ฉะนน้ั การทม่ี ี
ท่ตี ง้ั แล้วค อยเหน็ ไว้ เผลอคิดป บ๊ั ร ู้ เผลอคดิ ป บ๊ั รู้ ถา้ รวู า คดิ แลวจ ะเป็นทุกข์ แลว้ จะไปคดิ ต ่อ
ทำอ ะไร ค ำส อนของพ ระพุทธเจา้ สามารถชว่ ยใหพ้ น้ ทกุ ข์ ในปจั จบุ นั ข ณะตรงนนี้ ะโยม ช่วยให้
พ้นทกุ ขใ์ นปจั จบุ ันตอนน้ี ไม่มีใครทำใหเ้ราทุกขใ์ จไดน้ ะ ถ้าเราไม่คดิ ไม่มีใครผ ลกั เราให้ต กนรก
ได้น ะ ถ้าเราไมผ่ ลกั ต ัวเราเอง ส่วนใหญพ่ วกเราชอบผ ลักต ัวเองมากกวา่ นะ อยา่ งเช่น คิดเร่ือง
ไม่ดี คดิ วา่ เขาว ่าเรา คิดวา่ เขาท ำเรา คิดค ำว า่ เขาข้ึนมา ไมม่ ีเขาอยู่ในน ี้นะโยม มมี ั้ย มีเขาอยู่ใน
เราม ย้ั ทางโน้น ไมม่ นี ะ มแี ต่ค วามคิด ว่าเขาอย่างนนู้ เขาอยา่ งนใี้ นใจ
ถ้าโยมเหน็ ว่า น่คี ือค วามคดิ ไมใ่ ช่ข องจ รงิ นี่มสี ตเิ ห็น เหน็ จิตแ ค่ห ยุดค ดิ ไอ้ต วั น้ีกห็ าย
แลว้ ไอ้ค วามท กุ ข์ใจก็หาย น่ีเรยี กว่าอำนวยกศุ ลว ิบากแก่ข นั ธ์ ให้ข ันธ์ ๕ มันมีความสขุ ด กี ว่า
ไปหาเร่อื งเศรา้ หมองท ำอะไร ในเมือ่ โลกน มี้ นั บังคับไม่ได้ และความไม่รู้ ก็มากมายมหาศาล ที่
ถกั ทอเน้ือหาความปรงุ แตง่ ท ไี่ ร้เดียงสาก เ็ ตม็ ไปหมด โยมวา่ จรงิ มั้ย...ทางโนน้ ถ้าหากว่าโยม
เกลียดค นท ่ีสับสนแ ละหลงผดิ น ่ี หลวงพอ่ ว่าโยมคงสับสนม ากกว่าใครๆ นะ (หวั เราะ) เพราะ
ว่าความส บั สนหลงผิดม ันม อี ยู่ท ่วั ไป แตถ่ ้าเราบอก เราเกลียดพวกน้ีมากเลย เห็นแก่ตวั เกลียด
คนเห็นแกต่ วั เกลียดค นส ับสน เกลียดค นห ลงผดิ แสดงว่า คงจะสบั สนมากกว่าคนอนื่ เขาเยอะ
เลย เพราะโลกน ้มี แี ตค่ วามไมร่ ู้ท ่ีถักทอเปน็ ก ระแส ถา้ รแู้ ลว้ แล้วเขา้ ใจขบวนการแบบนี้ หรือ
เวลาค ิดว่าเขาว่าเราเนยี่ ไมม่ เี ราอยใู่นเขานะโยม มีเราอยูใ่นเขามยั้ ไมม่ ี ไมม่ ีเราอ ย่ใู นเขา ไมม่ ี
เขาอ ยใู่ นเรา เห็นความจริงแ บบนีต้ า่ งหาก ถึงจะเอาตวั รอด นี่ตงั้ สตเิปน็ แ ลว้ เห็นก ารทำงานของ
ใจ รู้จักว า่ นม่ี นั แ ค่ต ัวค วามคิด เห็นจ ิตคดิ ไม่ใช่เราคิด ไมใ่ ช่เราน ะ มนั คดิ ค ำว่าเราข ึ้นมา ดตู รงนี้
ใหเ้ป็นนะโยม ถา้ ด ูตรงนีเ้ป็นจ ะพบค วามสขุ ม หาศาลแลว้ จะเกิดพัฒนาการ
ผาซอนแกว 22
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏิบตั ิการ การบินไทย สวุ รรณภมู ิ วนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
มีคนถ ามเมื่อก้ีนี้ว่า จะรู้ไดอ้ ยา่ งไรว า่ การปฏบิ ัตขิ องเรากา้ วหนา้ รู้ไดง้่ายๆ จากการที่
ความท กุ ขม์ ันน้อยลง ความฉลาดในการเขา้ ใจกลไกของความทุกข์มากขึน้ และความทกุ ขไ์ ม่
สามารถจ ะก่อตัวได รแู้ ลว้ ว า่ หนท างนี้เปน็ หนทางอนั ประเสริฐ เปน็ ห นทางทีพ่ าไปให้พ ้นทุกข์
ได้จ รงิ เวลาก ราบพระกราบได้อ ย่างส นทิ ใจ กราบขอบพ ระคุณในความซ าบซง้ึ ต่อพ ระธรรมคำ
สง่ั สอนถา้ ไม่ไดเ้จอค ำส่งั สอนอ ยา่ งนี้ ชีวติ ค งจะห ลงด่งิ เหว ผิดพลาดไปอ กี เรื่อยๆและกก็ ่อทกุ ข์
ใส่ต วั แบบไรเ้ ดยี งสา น่ีพบแลว้ ว า่ ความออกจากทุกข์ ทางออกจากทกุ ข์อยตู่ รงนี้น ี่เอง น่ีโยมจ ะ
ซาบซ้งึ ว ่าถา้ ไมม่ ีคำส อนแบบนเี้ กิดข้นึ ในโลก ชวี ติ เราห รือชีวิตผ้อู ืน่ ท อี่ ยรู่ ว่ มๆ กนั คงจะว า้ เหว่
ขนาดไหน นจ่ี ะเกิดค วามซาบซึ้งแ ละเกิดความเมตตาต ่อกันแ ละกันนะ ด้วยความเคารพ ไม่ได้
กราบไปตามประเพณีแลว้ นะโยม มนั ก ราบอยา่ งความซาบซงึ้ ความซาบซ้งึ แบบน้ี
นเี่ พราะก ารมีสติเหน็ ม ย้ั พอเผลอค ดิ ไมด่ ไี ม่เอา ผลลัพธ์เป็นย ังไงล่ะ ก็อารักขาจติ ท ป่ี กติ
อยู่แ ลว้ น ่ีโยม เห็นม ้ยั ข้อท ่ี ๓ ของสติมีผลลัพธเ์ปน็ การอ ารักขาจ ิตทีป่ กตอิ ยกู่ ่อน โดยก ารมี
ตวั ท ่สี องม ีหนา้ ท่ีเหน็ เหน็ การท ำงานของกายและใจ ถา้ เผลอค ดิ อ ย่างน้ี ผลเปน็ อ ยา่ งน ้ี เริ่มจำได้
แล้ว จำได้ จำไดอ้ ยา่ งถ ูกต้องแ มน่ ยำไม่ใชเ่ปน็ ส ญั ญาวิปลาส จำได้ว ่าม นั ไมใ่ ช่ต ัวตนเป็นอน ัตต
สัญญา เห็นวา่ ไม่ใช่ต ัวตน หรือจ ำว า่ สง่ิ นไ้ีม่ค งที่ จะห้ามใหค้ งที่เป็นไปไมไ่ ด้ เปน็ การจำท ีถ่ ูกตอ้ ง
ทำให้ สตเิ กิด ช่อื วา่ “ถริ สญั ญา” จำส ภาวะได้ อยา่ งนี้เป็น “สัญญาขนั ธ”์ สัญญาขันธ์ไมม่ ีมา
ก่อนไมใ่ ช่ต ัวตน อย่างน เี้ ป็น “สงั ขารข ันธ”์ เป็นค วามคิด คือค วามคดิ เกดิ กร็ ู้เป็นค วามคิด จำได้
นะโยม จำไดว้ ่ามนั เปน็ ค วามคดิ ไมใ่ ชเ่รา แต่เพราะวา่ เคยเห็นถกู มาก่อนไง นึกออกม้ยั นี่สตจิ ะ
เกิดขึ้นเนอื งๆ แลว้ ตัวต่นื ตวั ร ้จู ะทำงานแบบก ระปร้กี ระเปร่า กระฉบั กระเฉง แบบอัตโนมตั ิ
ท้ังวนั เผลอค ดิ ท่ีไมด่ ปี ับ๊ ร ู้ อกศุ ลจ ะครอบงำใจไมไ่ ด้ กเ็ ลยเกิดความรู้สกึ ตวั ตามมา ถ้าม สี ตแิ ลว้
เกดิ ส ัมปชัญญะ และก เ็ กิดค วามเพียรอย่างถ กู วิธีตามมา ทำงานร่วมงาน ๓ ตัว ในสตปิ ฏั ฐาน
๔ ถ้าโยมได้ส ามตวั น ไี้ ปก บั ช วี ติ ประจำวัน รบั ประกันวา่ จ ะต้องมคี วามสขุ แ ละความทกุ ข์จะ
ครอบงำใจไมค่ อ่ ยได้ อาจจะไม่ค่อยไดไ้ปกอ่ นน ะ จนถึงไมไ่ ด้เลย
อ้าวมาด ูเร่อื งส ัมปชัญญะนิดหนอ่ ย ความร ู้สึกตัวม ันตามหลังตวั ส ตมิ า คือถา้ ส ตเิ หน็ การ
ทำงานข องใจ ถา้ หลงค ดิ รวู้ า่ หลงค ดิ นะโยมช่อื ว่า “ อสมั โมหะสัมปชญั ญะ” รูส้ กึ ตัวว า่ กำลังหลง
แต่ค นส่วนใหญ่ไมค่ อ่ ยร สู้ ึกตวั น ะ กำลงั หลงอ ยู่ แต่เมื่อไหรโ่ยมรูส้ ึกตวั วา่ ห ลง มันจะห ายป๊ับไป
ทนั ที เรยี กว่า ผรู้ ู้ ผู้ต ื่น มันต ่ืนตรงนน้ี ะ มีใครเคยน อนหลบั ฝันก ลางคืนมั้ย (เคย) เคยฝนั รา้ ย
23 ผาซอ นแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
มย้ั ตืน่ เช้ามาม ันห ายไปมัย้ (หาย) เพราะมันไม่ใช่ข องจรงิ เคยคิดรา้ ยมยั้ (เคย) เพราะรูส้ กึ ว่า
นกี่ ำลังเผลอคิดร้าย ตน่ื กห็ ายเหมอื นกนั ไม่ใช่ข องจรงิ เห็นมัย้ โยม เรียกว่า ผูร้ ู้ ผตู้ นื่ ผเู้บกิ บาน
น่ีเพราะเหน็ จิตค ิดรา้ ยมนั เหมอื นกับความฝนั รา้ ยท่สี ร้างม นั ขนึ้ มา จากภาพมายาไม่ใช่ข องจริง
ตื่นปับ๊ ไมเ่ อา เห็นม้ัยโยม มนั กต็ ื่นเบิกบานส ิ น่ีเป็นผ ตู้ ่นื ต่นื จิตกต็ นื่ บางคนตื่นอ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง
เพราะวา่ ความเผลอพ อจะไหวตวั ปุบ๊ ท ำงานไมไ่ ด้ จิตมันไวขนาดนี้ แว้บ แวบ้ เหน็ ม ้ัยโยม น่ี
ความร สู้ ึกตัวเลยตามมาจากการทม่ี ีสตนิ ะ เพราะสติมนั ร ะลกึ ร ู้อ ย่ทู ่ีกายและใจนะ ถา้ ใจหลง
เม่ือไหรค่ วามร ้สู ึกตวั จ ะเข้าไปท ำหน้าทเ่ีป็นป ัญญา เหน็ วา่ ไม่มีประโยชน์ คดิ ไม่ดีมปี ระโยชน์
มั้ย มมี ้ยั โยมทางโนน้ คิดไมด่ ี มีประโยชน์ม้ยั ไม่มปี ระโยชน์ และจะคิดต ่อมัย้ เหม่อม ปี ระโยชน์
มยั้ ? มปี ระโยชนม์ ้ยั ..เหม่อ ไม่มีประโยชน์แลว้ ค วรจะเหม่อม ัย้ ? ไม่ค วรแ ลว้ ถ้าท ำมั้ย? งงมากเลย
นะ ไม่ค วรแตก่ ย็ ังท ำอยู่ โกรธม ีประโยชน์ม้ยั ? แลว้ ทำม ้ัย? ทำอกี แล้วด้วย (หัวเราะ) หลวงพ่อ
บอกแ ล้วม ัย้ โยมวา่ ท่ีเราเข้าใจแ ตท่ ำไมไ่ ด้ เพราะอะไร ตวั ก ำลังม นั ยังไม่พ อ ร้วู า่ ไมด่ แี ตเ่อา
ไม่อยู่ เพราะความค นุ้ เคย นเี่ ราถึงตอ้ งม าพัฒนาบรหิ ารกลา้ มเนอ้ื เข้าหอ้ งฟ ิตเนสนะ บรหิ าร
กลา้ มเน้ือสติในร ูปแบบบา้ ง ในแ บบฟ รีสไตล์ธรรมชาตินยิ มบ ้าง
อ้าวม าดูนะ สัมปชญั ญะเลยท ำหนา้ ท่ี ๔ ตวั เหมอื นกัน อย่างท่หี ลวงพอ่ เชค็ จากโยมเน่ีย
คิดไม่ดไี มม่ ีประโยชน์ เห็นม ้ัย ถ้าสตมิ นั เข้าไปร ะลึกทใ่ี จแลว้ สมั ปชัญญะมันทำหน้าที่เห็นว่า คดิ
ไม่ดีป ั๊บ สมั ปชญั ญะจะทำหนา้ ทต่ี ัดสินว ่าไม่มีประโยชน์ นน่ั คือป ญั ญาโยม ไม่มีประโยชน์ดังนนั้
มนั ต อ้ งมอี ะไรตวั น งึ การฝกึ บางทีเราก ็ต ้องฝ กึ ความอดทนบ ้างนะ คดิ ไม่ดไีมเ่ อาดีกว่า มนั ไม่มี
ประโยชน์ จะค ิดต อ่ มันจะหยุดท ันทอี ยา่ งน โ้ี ยม แต่ถ า้ เราไมเ่ คยฝกึ เราเคยฝ กึ แต่จ ะตามใจคดิ
คดิ ไม่ดจี ะต้องพูดไมด่ ที กุ คร้ัง แลว้ ผ ลก ลบั มารู้สึกย ังไง ร้สู ึกยังไง? รสู้ กึ วา่ ไมด่ ี..โยม เหน็ มยั้ ถา้
ทำอยา่ งน แ้ี ลว้ เหตุน้ีม ีผ ลน จ้ี ะตอ้ งม ี ไม่มใี ครในโลกน ท้ี ่ีพูดไมด่ ีแลว้ ส บายใจ ไมม่ ีหรอกนะ ไมว่ ่า
จะพ ูดไมด่ กี บั ใครกแ็ ล้วแต่ ถึงเราจะเป็นฝ ่ายถ กู แต่พ ดู ไม่ดอี อกไปจะต ้องไมส่ บายใจอย่ดู ี
นกี่ ารท ่ีมสี ัมปชัญญะ มกี ารรูส้ กึ ตัวเนีย่ และกบั การมีสตทิ จ่ี ำได้ว ่า ถ้าพูดไม่ดตี อ้ ง
รสู้ กึ ไม่ดใี นภายหลัง จะไมป่ ระมาทดว้ ย เหน็ ม ้ัยส ติเลยท ำหนา้ ท่ี หรอื อินทรียม์ คี วามเป็นใหญ่
กำจดั พวกค วามประมาท สมั ปชญั ญะร ู้สกึ ตวั ข ้ึนม าเน่ีย ไม่มีป ระโยชน์ ไม่เอานะ จะมกี ำลงั
แบบนี้น ะ ตอ้ งฝกึ ถ้าไม่เคยฝกึ จะไม่ได้น ะ คอื ถ า้ ฝ ึกตามใจต ัวเอง มันเหมอื นเลีย้ งลกู สิงโตเล็กๆ
ในหวั ใจ หลวงพอ่ จ ะบอกว่าเลีย้ งลกู อ สุรกายก ็ไมก่ ลา้ พูด เพราะว่ามันจะเหมือนจรงิ มากไป
ผาซอนแ กว 24
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ย์ปฏบิ ัตกิ าร การบินไทย สุวรรณภูมิ วันท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
หน่อย (หวั เราะ) มันจะค่อยๆ โตขน้ึ น ะโยม นึกออกมย้ั ถ้าหากวา่ เราเคยต ามใจ อยากพูดไมด่ ี
ก็ตอ้ งพดู ท กุ ครงั้ อ ยา่ งนี้น ะ ต่อไปพ อค ิดป บั๊ จ ะพุ่งพรวดออกไปอ ยา่ งน้นั เลย ใช่ม ั้ยโยม แตถ่ ้าโยม
บอกไมเ่ อา ไมม่ ปี ระโยชน์มันจะหายไป ต่อไปพ อเผลอป ๊ับไมเ่ อา มันจ ะออ่ นกำลัง มันจะทำงาน
ไม่ได้ นี่มันท ำอ ย่างไรให้เกิดค วามเพียร ความเพยี รตวั นี้ไม่ได้เดนิ นาน ยนื นาน นัง่ นาน หรือ
เพียรไปอยู่ป่า อยู่ถ ำ้ นะ ความเพยี รปดิ กั้นอ กศุ ลต วั ใหม่ เพราะถ้าอกุศลจะยา่ งมา ไมเ่ อามนั ก ็
ทำงานไม่ได้ส โิ ยม ไม่ต อ้ งม าเสียใจภายหลงั พูดไมด่ ีไปไดอ้ ยา่ งไร เหน็ ม้ยั ช วี ิตจะเร่ิมมคี วามสขุ
กลบั ไปบ้านต อนเย็นกม็ ีความส ขุ พร่งุ นี้เชา้ กม็ คี วามสุข เพราะไม่มไี อ้ต ัวทตี่ ามม าว่า วนั น้ีพดู
ไมด่ ีมาอกี แลว้ ไปท ะเลาะกบั เขามาอ กี แลว้ ไปเถยี งเขามาอกี แลว้ ไม่มีตัวน ้ีเหน็ มั้ยโยม ก็มคี วาม
สุขสิ เพราะง้ันคนป ฏิบตั เิ จรญิ สตมิ ันเลยสวยว นั สวยคนื นะ สวยผุดผอ่ ง ขนึ้ มาเร่ือยๆเพราะว่า
ไอ้ค วามเศรา้ หมองน่ี เมฆหมอกแหง่ อ กศุ ลนไี่มม่ าปกปดิ ใจ และมันก ไ็ ม่ฉ ายผา่ นสหี น้าแ ววตา
ออกมา ถามว ่าเวลาห นา้ บง้ึ นี่ มนั ห น้าบ้งึ ก อ่ นแล้วคอ่ ยโกรธ หรอื ว่าโกรธแลว้ ถ ึงหน้าบึ้ง อันไหน
มาก อ่ น...หา โกรธแลว้ กห็ นา้ บง้ึ คดิ ไม่ด ีแล้วถ งึ หน้าบ้งึ ใช่ม ั้ยโยม เหน็ มย้ั ถ า้ โยมม ีสติ เหน็ ค ดิ ไมด่ ี
ปบั๊ ไมเ่ อา หน้าจ ะบ ง้ึ ไปได้อ ยา่ งไร
หลวงพอ่ ไม่ไดม้ าแกลง้ หยอดค ำห วานนะ ว่าปฏิบตั ิแลว้ จะส วยวันสวยคืน เพราะถ้า
เห็นอ ย่างนี้ แล้วไมท่ ำ หนา้ มันจะบึง้ ไปได้ไงล่ะ และถา้ หากว่าวันนี้หน้าไมบ่ ึง้ พรงุ่ น้ีหน้าไม่
บึ้ง มนั น ่าจะส วยขึน้ ม ั้ย สวยข้ึนเหน็ มั้ย อกศุ ล กศุ ลธ รรม ที่มนั เข้ามาใหเ้กิดความสุขความ
อ่ิมเอิบ สายตาก็จะเริ่มมปี ระกาย มีประกายสดใส มองอ ะไรก็เร่มิ มีความส ขุ มากข้นึ คนุ้ เคย
กบั การท ่ีมีจ ติ ปกติและมีความส ุขเบิกบาน เวลาม คี วามไม่เบกิ บาน ความข ุน่ มวั เศร้าหมองมา
มันจ ะเหมือนกับกำลงั ปว่ ย เหมือนกบั ก ำลังไมส่ บาย กำลังเปน็ โรค เปน็ โรคจติ (หวั เราะ) เป็น
โรคทางจติ ใจนะ เห็นม ย้ั โยม...มนั จะไม่เอา เฮย้ ..อยๆู่ ไปป่วยทำอะไร อยู่ๆ จะเปน็ โรคจติ ท ำ
อะไร ในเมอ่ื จ ิตมนั ปกตอิ ยกู่ อ่ น เหน็ ม ้ยั ไอ้ค วามคุ้นเคยต ่อฝ า่ ยกุศลมันก จ็ ะทำงานต่อเน่ือง
และไปพบกบั ค วามสุขทส่ี ูงข้นึ พฒั นาไปสู่ค วามสุขทปี่ ระณีตเรอื งรองเพ่มิ ขึ้นอย่างนี้ นีห่ นา้ ท่ี
ของส ติและส ัมปชญั ญะ กบั ค วามเพียร เพียรปิดกั้นอ กศุ ลตัวใหม่ เพียรแบบนน้ี ะโยม ไมต่ อ้ ง
ไปอยู่ถ ำ้ อยู่ปา่ อยู่เขา อดอาหาร อยปู่ ่าช้าอะไรห รอก อยู่ก ับชีวิตประจำวนั น่ีแหละ เผลอค ิด
ไมด่ ีป ั๊บไมเ่ อา หรอื จ ะไปเผลอค ดิ เร่ืองอ ดีต ควรคิดม ย้ั เรื่องอดตี ทเี่ศรา้ หมอง ไม่ค วร ตวั สติกับ
สมั มาวายามะท ำหน้าทที่ ำลายอกศุ ลเก่าดว้ ย อยา่ งเราเคยคิดไม่ดจี ะต อ้ งพดู เรือ่ งไมด่ ี ไมเ่ อา นี่
นิสยั ท ่ไี มด่ ีเก่าๆจะห ายไปด้วยน ะ จะกลายเปน็ ค นน า่ รกั เพราะวา่ ไมม่ ีเรอื่ งท ่ีไม่ดีจะพดู มาแล้ว
25 ผาซ อ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
เพราะวา่ พอจะพ ูดปั๊บไมเ่ อาโยมเหน็ ม ัย้ มันสามารถท ำลายอกศุ ลเก่า ทำลายนสิ ัยเกา่ เพราะว่า
มสี ติ แต่ถ า้ ค นขาดสตลิ ะ่ รู้สึกม ั้ยว่า ตงั้ แต่เกิดม าตัง้ แต่เลก็ ๆเปน็ ค นขบี้ ่น ขห้ี งดุ หงิด ขีโ้ มโห อายุ
มากขึ้นก ย็ ังไม่เปลี่ยน จนถงึ อายวุ ัยชรา กไ็ ม่เปล่ียนน ะบางคนใชไ่ หม เป็นท่ีรักใครข่ องลกู หลาน
ม้ยั อ ยา่ งน ัน้ เราอ ยากเป็นค นแ ก่แ บบน้ันไหม
ตอนน้ีเร่ิมแ กห่ รือยงั หา? โอ.้ .รกั ษาศลี สมบรู ณ์ข้อแลว้ ไมโ่กหกพระ เปน็ ค นดนี ะ อย่าง
น้อยก ็มคี วามด ีข้อห นึ่ง ทีร่ ักษาศีล
นโ่ี ยมเหน็ มย้ั การปฏิบัตนิ ่ีมันสนุกน ะ แล้วม ันก็เรยี บง่าย แลว้ ก็มขี องขวญั เห็นไดจ้ รงิ
ไม่ใช่ภ าพมายา ว่าม ันจะเป็นข องขวัญในบ ัน้ ปลายตอนต ายแล้วจะได้ข ึ้นสวรรค์ ไม่ใช่ห รอก มัน
มคี วามสุขในปจั จุบันนลี้ ่ะโยม...ตา่ งหาก แล้วค วามสุขแ บบน้ี ก็ไมใ่ ช่ค วามส ุขทหี่ าย ากอะไร แต่
ไอ้ค วามท ุกข์ตา่ งหากทไ่ีม่ค วรจ ะต้องไดม้ า และความส ุขแบบนต้ี า่ งหาก ทไ่ีม่ค วรจะต ้องส ญู
เสยี ไปเลย เพราะม นั มีอยแู่ ล้ว ไมต่ ้องส รา้ งขึ้นดว้ ยเนอะ อันนี้เปน็ ของขวัญทพ่ี วกเราสมควรจะ
ไดร้ บั เรียกวา่ ได้รับในสิง่ ทส่ี มควรจะได้รับ หรือค วามสุขทไี่ มค่ วรจะต้องส ูญเสยี ไป
มใี ครจะคยุ อะไรเบาๆ สลับบ ้างไหม หลวงพ่อพูดถึงเรื่องสติ ทที่ ำหนา้ ทรี่ ่วมกัน ๓ ตัว
สติส ัมปชญั ญะและความเพียร เปน็ การทำงานของส ตปิ ัฏฐาน ๔ สติปฏั ฐาน ๔ จะมหี ัวข้อ
เหมือนกันท กุ อ ัน คือ มีความเพียร มีส ติ มีสัมปชญั ญะ ตามดูกายในกาย ตามดูก ายในก ายแล้ว
เห็นอะไร หรอื ต ามด ใู จในใจแล้วเห็นอ ะไรก็แล้วแต่ ทม่ี นั เผลอปรงุ ไมด่ ีไมเ่ อา มีความเพยี รตาม
ดูกายในกาย เวทนาในเวทนา จติ ในจ ิต ธรรมในธ รรม กำจัดอวชิ ชาและโทมนัส คอื ไอค้ วาม
ปรงุ แตง่ ดรี ้ายอ อกไปซะ เพราะมันไม่ไดม้ ีอยู่ก ่อน เหน็ ม ้ยั ! เลยใช้ก ายตามก ารดกู าย หรือดู
เวทนา หรือจ ิต หรอื ธ รรมเนย่ี เปน็ ท ่อี าศยั ให้ต ัวรไู้ ด้ร ู้ เพ่อื ว ่าเวลาตวั ไมร่ ู้ม ันปรงุ แต่งความไม่
ดขี ้ึนม าจ ะได้ไมเ่ อา เหน็ ม ยั้ โยม จะได้ไม่เปน็ ท่ีอาศยั ของตัณหา คือความอยากท ไ่ี ร้สาระ บางที
รา่ งกายหรอื จ ติ ใจมันไม่ค งท่ี เมือ่ ไรเราอยากใหม้ ันค งท่ี มนั จะเกดิ ความอ ยากท ่ไี ร้เดยี งสา แล้ว
ทำให้จ ิตใจรอ้ นรมุ่ ทุกขก์ ระวนกระวาย กระสับกระสา่ ยจากความอยาก มันเป็นการสรา้ งทกุ ข์
ซ้อนท กุ ข์อีกตัวข้นึ มาอย่างไร้เดยี งสา เพราะว่าร่างกายเราไม่ค งที่อยแู่ ล้ว
อยา่ งคนปว่ ยเน่ีย ร่างกายมนั ไม่ค งท่ี แตถ่ ้าหากวา่ อยากหายป่วย ไมช่ อบความป ่วย
ผาซอนแ กว 26
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนยป์ ฏบิ ตั กิ าร การบนิ ไทย สวุ รรณภูมิ วนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
อยากพน้ จ ากค วามปว่ ย จะเกิดค วามท ุกข์ใจอ กี ตวั หนง่ึ ข้นึ มา ซ่งึ ไมส่ มควรได้รบั ค วามทุกขใ์ จ
แบบน้ีเลย เหน็ ไหมโยม แต่เพราะร่างกายมันไม่ค งท่ี ก็รกั ษาความไม่ค งทขี่ องมันไป ตามเหตุ
ปัจจยั อ ยา่ งเชน่ มันข าดธาตรุ ้อน ขาดธ าตุเยน็ ก็ทิ้งม นั ไปซะตามเหตุป ัจจยั แต่ไม่จ ำเป็นตอ้ ง
ไปอยากใหม้ นั คงทน่ี ะโยม มันเปน็ ไปไม่ได้ หรอื ส ง่ิ รอบข้าง แกว้ กาแฟแตกอ ยา่ งน ี้ ของมนั แ ตก
ได้ บอกม ันไมน่ ่าแ ตก ไม่อ ยากให้ม ันแตก จะทกุ ข์ใจเห็นไหม เรยี กวา่ ทุกขใ์ จอยา่ งไร้เดยี งสา ไป
สรา้ งตณั หากับภาวะของค วามไม่ค งทข่ี ึ้นมา อยากใหม้ นั คงที่ อยากใหม้ นั สมบรู ณแ์ บบ อยากให้
ทุกอย่างเหมือนเดิม “ทำไม? คนคนนี้เขาไมเ่หมือนเดมิ เลย” แล้วกห็ าเรอื่ งทุกขใ์ จ ไรเ้ ดยี งสามัย้
ในเมื่อท ุกอยา่ งต้องไม่ค งที่ ถา้ โยมเข้าใจแบบนนี้ ะ จะมคี วามสขุ มากเลยน ะ
ถึงแม้วา่ จ ะม ีคนร กั ทเ่ี ปล่ยี นใจน ะ กย็ งั มีความสขุ อยู่ เพราะอะไรรูม้ ย้ั โยมด ู ถา้ โยมเข้าใจ
กฎของธรรมชาตอิ ยา่ งจริงๆเลยนะ ว่าทุกชวี ติ เนย่ี มีธ าตุ ๔ ซึ่งไมค่ งที่ แลว้ ทุกชวี ิตก็ปรารถนา
สภาวะท ี่มันส มบรู ณข์ ึน้ ม าในร า่ งกาย อยากใหม้ นั ดี เรยี กวา่ ตณั หา เห็นมย้ั ตณั หานกี่ ็ทำใหเ้ กดิ
ภาวะตัณหา วา่ อ ยากไดภ้ าวะท ม่ี นั ด กี วา่ น ้ี ทมี่ ันสมบูรณก์ วา่ น้ี ทม่ี คี วามสุขมากกว่าน้ี
นะ! อะไรกแ็ ลว้ แต่น ะโยม ที่มนั เอ้อื ที่จะให้ช ่องทางใหร้ า่ งกายหรือจติ ใจเนยี่ ม คี วาม
สขุ ทุกคนพ ร้อมจะเปล่ยี นใจ ไม่ว่าจะเป็นบ รวิ ารลกู น้อง คนใกล้ช ดิ เพอื่ นฝูงกแ็ ลว้ แต่ เหน็ ไหม
โยม ถ้าโยมเขา้ ใจแบบนี้ ถ้าหากม อี ะไรเปลยี่ นแปลงเกิดขนึ้ โยมยอมรับไปเลยว ่า เขาอ่อนแอ
ตอ่ ทุกข์ แลว้ เขากต็ ้องการภาวะท ่ดี กี ว่าน ี้ มนั เปน็ เรอ่ื งธ รรมดา ทเี่ขาจ ะต้องเปลี่ยนใจ เพียง
แตว่ า่ ถา้ ต รงน้ี มคี วามสุขให้ม ากกว่า เขาคงไม่เปล่ยี นไปไหนห รอก บางทีเราก ็เผลอ รดน้ำตน้ ไม้
ดว้ ยน้ำร้อนไปบ้างเป็นครง้ั คราว มันเลยตาย ไม่ใชเ่ขาทำหรอกน ะ เพราะความไมเ่ ข้าใจ ถา้ เขา้ ใจ
นะโยม จะใชช้ วี ิตอ ย่รู ว่ มกันอยา่ งม ีความสุข เปน็ ของขวัญของกันและก ัน เปน็ แสงสว่างของกัน
และก นั
ทห่ี ลวงพอ่ พ ดู เนยี่ เป็นเพียงแคค่ ำห วานภ าพลวงตา หรือสามารถทำได้จ ริง “หนูน้อย
ทำได้จ รงิ ไหม?” ทำไดจ้ ริงน ะ ท่วี า่ เป็นของขวญั ของก นั แ ละกัน เป็นแสงสวา่ งของกนั และก ัน
ทำได้จ ริงไมใ่ ช่แ คภ่ าษาทไี่ พเราะหรือภาพลวงตา จติ ใจน่ีมนั รักอะไร “หนนู ้อย” จติ ใจรักอะไร
โยม : รกั สง่ิ ท ด่ี งี ามทจี่ ะเขา้ มาค่ะ
27 ผาซอนแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
หลวงพอ่ : รักสิง่ ทด่ี งี าม เหน็ มยั้ โยม มีจิตด วงไหนบ ้างท่ไี ม่ร ักส่งิ ด ีงาม จติ ท่อี ยใู่นสุนัข
มนั ร กั สงิ่ ด งี ามไหม มนั รกั ค นดไีหม มนั ร ักเจ้าของท่ีดีไหม แน่นอน เห็นมัย้ โยม ไม่มีจติ ดวงไหนที่
ไมร่ ักสิ่งท่ีดีงาม ถา้ เราอ ยากใหค้ นทีอ่ ยูก่ ับเราเขามีความสขุ เราทำส งิ่ แบบนน้ั หรือเปล่า
ท่ีเมอื่ กีห ลวงพอ่ บ อก เอาน ำ้ รดต น้ ไม้ หรอื เราเอานำ้ เยน็ เอานำ้ ท ่มี นั ศกั ด์สิ ิทธิที่ชุ่มชืน่
ฉ่ำเยน็ อะไรก นั แน่ จิตทกุ ด วงมันรักค วามด งี าม เราร ดนำ้ ต้นไมต้ น้ น น้ั ด ้วยค วามดีงามหรือเปล่า
ล่ะ บอกว่า “ต้นไมท้ ำไมมันเห่ียว” เราดซู วิ ่าเราเอานำ้ อะไรไปรดทกุ วนั น้ี ใชม่ ั้ย เราร ักอะไรอ กี
‘จติ ’ นอกจากรักค วามด งี าม ทอี่ ยู่ท กุ วันนี้ ในโลกน้ี ตอ้ งการอะไร หรืออ ยากจะอยตู่ อ่ ไปไหน
ก็แลว้ แต่ ต้องการอ ะไร
โยม : ตอ้ งการความสขุ ค ่ะ
หลวงพอ่ : ต้องการค วามสุข เหน็ มั้ยโยม มีจิตดวงไหนบา้ งท่ีไม่ต ้องการความส ุข ใน
สัตว์ ในห มา ในแ มว ในนก ในผ เี สื้อ เห็นม ้ัยโยม ต้องการความสุข ดูซิ ทนี เ้ี ราอ ยดู่ ว้ ยกันโดย
ใหส้ ง่ิ แบบนหี้ รือเปลา่ ธรรมชาติข องจ ิตท่ีอยใู่ นตัวอีกฝ า่ ยหนึง่ ไม่ใช่เขานะโยม มนั เปน็ ธรรมชาติ
ของก ารร บั รู้ ซงึ่ ม นั ต้องการค วามสขุ แล้วม ันก็ต้องการความดี แล้วการอยู่ด ้วยกนั เราใหส้ ่ิง
แบบนนั้ ล งไปหรือเปลา่ เราให้ค วามสขุ ลงไปหรอื เปล่า เราให้ค วามดลี งไปห รอื เปลา่ แตเ่รากลับ
มาร อ้ งขอวา่ ทำไมไมใ่ห้ส ่งิ แ บบนั้นก บั เรา หรือว่าท ำไมเขาไม่เหมอื นเดิม ถา้ เราให้ส ิ่งเหล่าน้ัน
รับประกนั โยม จิตทุกด วงม นั ร ักความส ขุ และรักความดี ใช่ม ั้ย เพยี งแต่ว ่าความไมเ่ ข้าใจ บางที
เรากลับมาอ ย่ฝู ่ายย ืนร อคอยค วามส ขุ มานั่งร อคอยค วามดี หลวงพ่อถงึ บอกวา่ ทำไมเราไม่
ลุกขึน้ เป็นฝ ่ายให้เสียเอง แล้วเรากม็ ีความส ขุ ต รงน้นั เราไม่เหน็ หรือว่า ถ้าสิง่ น ้ีมีส ่ิงนี้ก็ตอ้ งม ี ใน
เมอ่ื ส ง่ิ น ั้นๆไดร้ บั ความส ขุ แลว้ สงิ่ น น้ั จ ะด้นิ รนไปห าความทกุ ข์ไดอ้ ยา่ งไร โยม! นึกออกไหม และ
ถ้าเราเขา้ ใจกว่า ฉลาดก วา่ จะต ้องไปก ลวั อะไร กับอะไรอ่ะกบั ความเปลี่ยนแปลงห รือความไม่
แน่นอน เพราะว่าถ ้าหากวา่ ใหส้ งิ่ ทเ่ีป็นความสขุ ให้ส งิ่ ที่เปน็ ความดี แต่ถ ามว่า ให้ส ิ่งท ี่เป็นความ
ดีมนั ดจี ริงหรือเปลา่ หรือเป็นเพยี งแค่ก ารลงทุน ดูให้ด นี ะ เราลงทนุ อย่หู รอื เปล่า แล้วเรากำลงั
รอผ ลลพั ธ์ตอบแทนอยเู่ หรือเปล่า เรารอกำไรด ว้ ยห รอื เปลา่ ถงึ ได้ม านอ้ ยอกน ้อยใจวา่ ท ำดีไม่
ไดด้ ี
เพราะวา่ ม ันเปน็ การล งทนุ ท ่ีรอคอยผลก ำไรหรอื เปลา่ มันไมใ่ ช่ค วามสขุ ของการให้ค วาม
ผาซอ นแ กว 28
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏบิ ตั ิการ การบินไทย สุวรรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
ดจี ริงๆถ้าด ีจรงิ ๆโยมมันก ต็ อ้ งไม่ร อคอยนะ ไมต่ ้องรอคอยผ ลกำไร ไม่ต ้องร อคอยผ ลตอบแทน
หลวงพ่อยงั ไม่เคยเหน็ ด อกไม้ท ีไ่ หน วงิ่ ไปหาน กเลย มีแต่น กก ับผ ีเสอ้ื มนั หาด อกไม้เจอเสมอ
เพราะว่าม ันมลี ะอองเกสรท ห่ี อมหวาน โบยบนิ ไป แล้วมนั ป ระกาศศักยภาพของตวั ม ันเอง ของ
คุณค่าในตัวม ันเองอ อกมาโดยไม่ต อ้ งอ อกไปวิ่งหาใคร แล้วก็ไม่ต ้องไปอ ้อนวอนว า่ ขอให้ใคร
กลับมาหาด ว้ ยน ะ ถ้าหากว่าเรามคี ุณคา่ อ ยูใ่นต ัวนะโยม
การใชช้ วี ิตมนั เปน็ ศลิ ปะมากนะ การทีใ่ ช้ธ รรมะ หรือ กฎของความจริงมาใช้กบั ช วี ติ มนั
มคี วามล ะเอียดออ่ นทุกแงม่ ุม ความเข้าใจธรรมะ ทำให้ช วี ติ ไมไ่ ดอ้ ยูอ่ ยา่ งแหง้ แล้ง แตก่ ลับอยู่
อย่างม ีสุนทรีย ทง้ั ในก ารเป็นของขวญั ข องก นั และกนั ในก ารที่จะมีความส ุขมคี วามเบกิ บานมี
ปญั ญา ไมไ่ ด้ส ร้างภ าพลวงตาของก ารเป็นค นดมี ีเมตตา แตม่ ันเขา้ ใจแล้วเลยม เี มตตาจ ริงๆ ข้นึ
มา แลว้ กเ็ ลยม คี วามสุขจ รงิ ๆขึ้นมาด ้วย ไมไ่ ด้ส รา้ งภาพมายาวา่ ฉนั จะเป็นค นม คี วามส ขุ นะโยม
เพราะค วามส ขุ น ีไ้ ม่ต ้องร อคอย ความส ุขม ีอยูแ่ ลว้ เนอะ เป็นของขวัญเนอะ
แล้วก ารอ ยูร่ ่วมกนั หลวงพ่อว า่ มนั ควรทะนุถนอมค วามสขุ แบบนด้ี ว้ ยน ะ ความสขุ ท ่ี
เข้มแขง็ หรือม ติ รภาพทเ่ี ขม้ แข็ง มันเกดิ จ ากความระมัดระวงั ด้วยค วามดแู ลเอาใจใส่ซ ึ่งกันและ
ทะนุถนอมส ง่ิ เหลา่ นน้ั แตส่ ว่ นใหญพ่ วกเราจะคบกันสักพกั หน่ึง รู้จกั กนั สักพกั หนง่ึ เรามกั จะ
ขา้ มเส้นเสมอ เข้าไปก้าวกา่ ย ชวี ิตข องแตล่ ะคนเน่ยี มีอสิ รภาพในต ัวเขา มีศกั ยภาพ มีศักด์ศิ รี
ไมม่ ีใครบ ังคบั ใครไดห้ รอกโยม บางทีเขาอาจจะเสแสร้งไปย อมๆนะ แตไ่ม่มใี ครเขายอมใครจ ริง
หรอก เพราะท กุ ชีวติ ม ีอ ิสรภาพในต วั เองอยู่แ ล้ว มีศักด์ศิ รใี นตวั เองอยู่แ ล้ว
ฉะน้ันการท ่ีจะไม่ข า้ มเส้นเขา้ ไปก้าวก่าย ม คี วามระมัดระวงั ในม ติ รภาพ จะทำให้
มติ รภาพน ้นั เข้มแข็งแ ละยง่ั ยืน ถ้าเราไม่เปลี่ยนน ้ำทพิ ย์อ ันศ กั ด์สิ ิทธิ์ทคี่ อยรดอ ย่เู สมอๆนะ ด้วย
ความรสู้ ึกท ่ดี ี ความเอาใจใส่ หรือค วามดี หรือค วามสุขอย่างจรงิ ๆ พรอ้ มท่จี ะเป็นผ ใู้ ห้ มันจะ
เป็นข องขวัญข องกนั แ ละกัน และกแ็ บ่งปนั ค วามเขา้ ใจ ถา้ เราเขม้ แขง็ กวา่ คือเข้าใจชวี ติ มากกวา่
และเข้าใจท กุ ลักษณะชวี ิตทกี่ ำลังประสบอ ยู่ และเราสามารถจดั การกบั ทกุ ขต์ ัวน ี้เป็น เราจะ
ไม่โอดครวญกบั ตวั น ี้นะโยม ไม่โอดครวญก บั ค วามไม่ค งทปี่ รากฏนะ ยอมรบั ด้วยใจที่ตัง้ มนั่
เปน็ กลาง แตเ่วลาทใี่ ครเขารบั มือไม่ไหว เราพ ร้อมทจี่ ะยน่ื มือเขา้ ไปแบง่ เบาภ าระ หรือแบง่ ปนั
ของขวญั แ หง่ แ สงสวา่ งแ ห่งความเขา้ ใจ
29 ผาซ อนแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ถา้ ม ีคนๆ หน่งึ แบบนเ้ี กดิ ขน้ึ ในบ้าน มันจ ะเป็นข องขวญั แหง่ บา้ น ถา้ คนค นน ้ีเกดิ ขึ้นใน
สงั คมก จ็ ะเปน็ ของขวญั แ ห่งสงั คมน ้ัน ชมุ ชนน ัน้ โยมว า่ จรงิ ม้ัย แล้วในบ ้านเราต อนน้ลี ะ ไม่ม ั้ย?
มมี ้ยั ? “ม”ี ใครล ่ะ? เราเองนะ อมื ..สุดยอด
หลวงพอ่ เคยเหน็ ป ลาก รายๆอยเู่หมือนกัน ทีแรกนึกว า่ ทอดมนั ทแี่ ท้ป ลาก รายดว้ ย ฮึๆ
(เสียงห วั เราะ) คุยข ำๆ นดิ หน่อยน ะ คิดอ ยา่ งน้ถี กู แ ล้วนะ อย่าไปร อให้ค นอ ่นื เป็นผ ใู้ ห้ แลว้ ก็
รอคอยความส ุขจากผ อู้ ืน่ ลกุ ข้ึนม าเปน็ แ สงสวา่ ง ลุกขนึ้ มาเป็นแรงบันดาลใจ ลกุ ข้ึนมาทำความ
เข้าใจก บั ชีวิต อยากใหล้ ูกเป็นค นดตี อ้ งท ำตัวอย่างใหเ้ขาเหน็ ว่า ความดีมันเกิดขน้ึ ได้อ ยา่ งไร
ความเขา้ ใจเกิดจากอะไร ไมใ่ ช่อ ยากให้เขาเปน็ ค นดี แล้วม าทกุ ขใ์ จอยู่น ะ ควรจะเร่มิ ต้นจ าก
ตวั เองน ะ เปน็ แ สงสว่างเปน็ แ รงบนั ดาลใจ หรือเป็นก ำลังใจ เปน็ ความเข้าใจทฉ่ี ายฉานออก
มาจากค วามเข้าใจจริงๆ ซ่งึ ก ไ็มไ่ ดย้ ากอ ะไร ไม่ไดย้ ากอะไรเพราะวา่ อะไร หืม! เพราะสามารถ
สงั เกตได้ต ลอดเวลาในปจั จบุ นั ข องการท ำงานของใจ ที่มหี ลกั ฐานรองรับ เผลอคิดไมด่ ีปับ๊ ไมเ่ อา
นะโยม
โยมจำคยี เ์ วริ ด์ (Keyword) หวั ข้อหวั ใจไวเ้ลยนะว ่า ความทกุ ข์หรอื ความเศรา้ ห มองใจ
ไมไ่ ดม้ ีอยู่ก ่อน เปน็ การไดใ้นส่งิ ทไี่ ม่ค วรได้ ถา้ เกิดความเศรา้ หมองเกดิ ขึ้น และให้จ ำไว้ว า่
เมอื่ ไรท่ีเราเสยี ใจ เปน็ การเสยี ในสง่ิ ทไี่ ม่ค วรเสยี ใจทมี่ ีปกตมิ ีความส ขุ มอี ยู่ก ่อน ไม่ค วรจะตอ้ ง
สญู เสยี ไปเลย เวลาไปค ิดเปรยี บเทยี บจ ำไวน้ ะ จริงๆแล้วความสขุ เน่ีย เปน็ ความสุขทีไ่ มม่ อี ะไร
เปรยี บ เข้าใจใช่ม ย้ั โยม เปน็ ผ้ใู หญ่เข้าใจเนอะ ความสุขท่ีไม่มอี ะไรเปรยี บเลย พวกเราเน่ียมีความ
สุขท ไ่ีม่มอี ะไรเปรียบเลย แตเ่มอ่ื ไรไปเปรยี บเทยี บจะม ีความทุกข์ ถ้าไมเ่ปรยี บจ ะไมม่ ีความทุกข์
หรอกโยม จริงม ้ัย โยมล องคดิ ดใู หด้ สี ิ
บางทีเราเผลอไปเปรยี บเทียบ มันเลยม คี วามท กุ ข์ มันนา่ จะม คี วามสขุ ม ากกว่าน้ีไม่ไป
เปรียบกบั สิง่ อ น่ื ไปเปรียบกบั อ ะไรสกั อ ยา่ งหนึ่งน ะ ไปเปรียบว่า “ถ้าทำอย่างน ้ีมันน ่าจะมคี วาม
สขุ กว่าน ้มี ย้ั ?” เนยี่ ..ไปเปรยี บเอา มนั กเ็ ลยส ญู เสยี ไอ้ค วามส ุขท ไ่ีม่มีอะไรเปรียบไปซะ นึกออก
ม้ัย! ถา้ ไม่ไปเปรียบกบั อ ะไรมีความส ขุ กวา่ ใช่ม ยั้ ? ไมเ่ชอื่ โยมไปดกู ระจกสิ สวยไมม่ ีอะไรเปรียบ
เลย เอาบานเลก็ ๆ หน่อยน ะ อยา่ ให้ค นอืน่ เข้ามาอ ย่ใู นกระจกเรานะ ไปเปรยี บกบั เขานะ เห็น
มย้ั ? อาจจะไม่สบายใจ แต่ถ ้าเราด แู ลว้ กย็ อมรบั นะ
ผาซอ นแกว 30
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏบิ ัตกิ าร การบินไทย สุวรรณภมู ิ วนั ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
คำว่า ‘ยอมรบั ’ เนีย่ ไม่มีใครมาแ ทนทโี่ยมได้ หรอื โยมไปแทนทใี่ครไม่ได้ โยมว่าจรงิ ม้ยั
จะไปขอแลกค วามสขุ กบั ใคร ความท กุ ขก์ บั ใคร หรอื ถ้าเราคดิ ว่าเรามีความทุกข์ แลว้ คดิ วา่ ค น
อนื่ มีความสขุ ก ว่า โยมล องไปขอแ ลกก บั เขาด ซู ิ หลวงพอ่ วา่ โยมกไ็ ม่อ ยากแลกห รอก โยมกพ็ อใจ
กบั อัตภาพท่ีโยมได้รับจ ากส ่งิ แวดลอ้ ม จากคนร อบข้าง จากแมแ่ บบน้ี จากพนี่ ้องแ บบนี้ จาก
เพอื่ นแ บบน้ี จากก ารมีลกู แบบนี้ จะไปขอแ ลกกบั คนอน่ื ว ่า ฉนั ขอจะไปอยู่ก ับครอบครัวน ้ี ไปข อ
เปน็ แ ม่ข องค นๆนัน้ ไดม้ ย้ั หรอื ไปขอเป็นภรรยาข องคนๆนน้ั โดยท่เี ราไม่ร สู้ ึกน ะโยม มนั เปน็ ไป
ไม่ได้ห รอก เนย่ี ค วามสขุ ทไี่ มม่ ีอะไรเปรียบ ถ้าเรายอมรับแ ลว้ เราเคารพในบทบาทส ง่ิ แวดลอ้ ม
ทีเ่กดิ ข้ึนท ำให้ได้ห ลอ่ หลอมการเรียนรแู้ บบนข้ี ึ้นมา ซ่ึงพอเหมาะพอควรแก่เหตุปจั จยั อ ันน้ี ไม่มี
เหตปุ ัจจยั อน่ื จะม าแทนทเี่หตปุ จั จัยตรงนไ้ีด้ ในแ ต่ละขณะ ในแต่ละว นิ าทีของปรากฏการณ์
โยมวา่ จรงิ ไหม? จะเอาโยมไปแ ทนที่ๆ ขั้วโลกเหนือ เอาคนข ้ัวโลกเหนือมาอย่ใู นก รงุ เทพฯ ได้
มย้ั ? ไม่ได้ห รอกโยม มนั พ อเหมาะพอควรแก่เหตปุ ัจจัยในแ ตล่ ะข ณะ จะเอาไปแ ทนที่ป ลาโลมา
ได้ม ัย้ ปลาพะยูน “ไมไ่ ด”้ ถ้ามองแ บบนีน้ ะ มันจ ะเกิดความพอ ความพ ึงพอ ความรสู้ ึกพอ และ
ความเคารพอ ย่างซาบซึง้ ต ่อปรากฏการณ์ ทกี่ ำลงั ถกั ทอโอบล้อม โอบกอดอ ยู่ร อบๆ ตัวเรา ใช้
แตล่ ะขณะอ ย่างการเป็นของขวัญด ้วยรอยยม้ิ ด ้วยค วามเขา้ ใจ อยา่ งตอ้ นรับ เพราะมันพ อเหมาะ
พอดกี ับบ ทเรยี นของเหตปุ จั จัยในแตล่ ะขณะ
หลวงพ่อพูดท ้ังหมดน ่ี เปน็ ธ รรมะกบั ช วี ิตประจำวันนะ เพ่อื ให้เราต้อนรับข องขวญั รอบๆ
ตวั ให้เป็น และทำตัวเปน็ ของขวัญ ถา้ หากว่าเราเข้าใจแลว้ ว ่า จติ ทกุ ๆ ดวงมธี รรมชาติตอ้ งการ
ความส ขุ ต้องการค วามดี เราลกุ ขนึ้ ม าตอบส ิ่งเหล่านั้น และเราจ ะไดส้ ่ิงเหลา่ น้นั ต อบแทน มา
โดยไม่ต ้องร้องขอหรือร อคอย เพราะวา่ ขณะท ท่ี ำไปก็มีความสุขอยู่แ ลว้ เพราะว่าอะไร กรรมมี
จริงมย้ั เพราะวา่ เจตนาดกี ม็ ีความส ุขแล้วโยม ไม่ต อ้ งไปรอนะ หลวงพอ่ ว่า บางทีนะมันสูญเสยี
ตรงนไ้ี ปนะ จรงิ ๆ เราได้รบั โชค หรอื ได้รับส ทิ ธแิ ห่งความสุขโดยส มบูรณแ์ บบอ ยู่แ ล้วโยม เรา
เนย่ี ! ท้ิงส ทิ ธขิ องเราไป ดใูห้ด นี ะ
อย่างเช่น เมือ่ เรามีเจตนาดี ทำด แี ล้วเราก็ม คี วามสขุ แต่เราทิง้ ส ทิ ธิน้ีไปทำอะไร ไป
รอคอยเขาว า่ เม่ือไหรเ่ขาจะชมเรา? เมือ่ ไหร่เขาจะตอบแทนเรา? เมื่อไหร่เขาจะมสี ำนึกใน
บุญคณุ อ ยา่ งน ้ี? เห็นม ย้ั โยม? มนั ทง้ิ ส ิทธิทไ่ี ดร้ ับไป ไปหาสทิ ธทิ ีไ่ ร้สาระอะไรก็ไมร่ ้?ู นา่ เสียดาย
พระพทุ ธเจ้าจ งึ ตรสั วา่ เวลาใดท ี่ท ำดี ช่อื วา่ ฤ กษ์ดี ชอื่ ว่าม งคลด ี ช่อื วา่ เช้าด ี อรณุ ดี ชอื่ ว่าม ี
31 ผาซอ นแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
สทิ ธโิ ชค เหน็ มยั้ โยม? หลวงพอ่ เนน้ คำว่าสิทธโิ ชค สทิ ธิโชคทงั้ ห ลายแหล่จ ะหลั่งไหลตามกนั มา
คอื มสี ทิ ธิในโชคน ัน้ โดยส มบรู ณ์ โดยไมม่ ีใครมาแ ยง่ ไปไดน้ ั่นเองโยม? ก็ค อื ท ำด แี ลว้ ก็ต้องรสู้ ึก
ดีสิ แต่เราท ิง้ สิทธติ ัวน ้ีดว้ ยก ารอะไร? (ไปร ้องขอสทิ ธิทเ่ีราไม่ค วรจะไปร ้องขอเลย) เม่ือไหร่จ ะ
ชมฉ นั ส ักทีนงึ ? เมอ่ื ไหร่จ ะมคี นเยนิ ยอส รรเสรญิ ? เม่อื ไหร่จ ะมคี นร วู้ า่ ฉ นั เปน็ คนดี? ทำไมตอ้ ง
รอด้วย? ในเมอื่ ส ิทธินีม้ นั สมบูรณ์อยใู่ นตัวม ันเองแล้วใชม่ ้ยั โยม? สิทธทิ จ่ี ะไดร้ บั ค วามสุขจาก
การทำดี มันก ส็ มบูรณ์อยใู่นต วั มันเองแ ลว้ ทีนเ้ี ราก็ทง้ิ ในสทิ ธอิ นั นี้ เสยี ในส่ิงทไี่มค่ วรเสยี คือ
ความส ขุ อันน้ี ไปแ สวงหาสทิ ธิท ไ่ีม่มีอยูจ่ ริง นกึ ออกม้ยั ? ไมจ่ ำเป็นตอ้ งม ีคนร ู้ ก็มคี วามสุขใชม่ ยั้
หนูนอ้ ย? อ้าว...ใครมีปัญหาในก ารป ฏิบตั ิ? ใครไมเ่ ขา้ ใจมมุ ไหน?
โยม : มีม้ยั ครับ? ง้นั เดยี๋ วผมขอค ุยกับหลวงพ่อน ิดนงึ นะค รบั หลวงพอ่ ครับพอดที ่ี
หลวงพอ่ เทศนต์ อนต้น เขา้ ใจแลว้ ท ่ีหลวงพอ่ ถ ามต อนต้นช่วั โมงวา่ ความเสยี ใจค อื เข้าใจว่า มนั
คอื เสยี จากค วามเปน็ ปกตขิ องใจใช่ม ย้ั ค รับ?
หลวงพอ่ : โยมก ็คดิ ส ิว า่ ใจแปลว า่ ความเป็นกลาง ต้องเขา้ ใจก่อน ใจคอื ค วามเปน็ กลาง
เราเสียค วามเปน็ กลาง เพราะเราไปป รุงแต่งความรา้ ยข นึ้ ม า ปรงุ แตง่ ความไม่พอใจ เรากเ็ ลย
สญู เสียค วามป กติท่ีเป็นกลางไป เรยี กวา่ เสียใจ ก็ค ือใจไปเศร้าหมอง เสยี ความปกติ ไปเอาความ
โกรธ ไปเอาความไม่พอใจใชม่ ้ยั ข ้ึนมาอยา่ งน?ี้ ซึง่ ไมม่ ีอยู่ก ่อน ถ้าเขา้ ใจนะวา่ ความไมพ่ อใจ
ความโกรธ เกลยี ดทภี่ าษาชาวบ้านช าวพุทธเรยี กวา่ “ก เิ ลส” เนีย่ ไมม่ ีอยกู่ ่อนโยม ไมม่ ีอยู่ก ่อน
มาทหี ลังจ ากความไมร่ ู้ จากความไมร่ ู้น ะ ไมใ่ ช่ค นไม่รนู้ ะ ไมใ่ ช่ค นโง่ ความไม่รู้ก ็คือสภาวะหน่งึ
เหมือนกนั ไมใ่ ชม่ ใีครอยูใ่นน ัน้ เหมอื นกนั ? ช่ือว่าอวชิ ชาคือค วามไม่รู้
โยม : คอื ต้นเหตทุ ใี่ นดวี ีดี (DVD) ตวั แรกเลยที่เป็นอวิชชา ตัวนนั้ ค อื ส ่งิ ทท่ี ำให้ม ันมวี งจร
ทั้งหลายเกิดข้ึนม า อันน้นั ใช่ม ัย้ ครับค อื อ วชิ ชา?
หลวงพ่อ : ความไมร่ ู้เนย่ี อวชิ ชาม ีอยู่ ๘ ตัวน ะโยม ถ้าโยมจะมีตัวรู้ โยมกต็ ้องรจู้ กั ว่า ตวั
ไม่รู้ม ันม หี น้าตาอ ย่างไงบ้าง? (ตวั ไม่รูม้ อี ยู่ ๘ หนา้ ตา ต้องร จู้ กั ) เรยี กว่ามนั โผล่มา จะได้ร จู้ กั วา่
อ้อ...ไอ้น หี น้าตาต วั น เี้ รียกวา่ ตวั ไมร่ ู้ เราไมร่ จู้ ัก เรานึกว่า เราไม่รู้จกั อวิชชากแ็ ลว้ กัน พอตัวไม่รู้
โผล่ข ้นึ ม า กน็ กึ วา่ ไอต้ ัวน้ีเป็นต วั ดี เป็นตวั ว เิ ศษ อย่าวา่ แตต่ อ้ นรับขับสู้ พามันเข้ามาสูห่ ้องหับ
ผาซ อ นแ กว 32
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ย์ปฏิบัติการ การบนิ ไทย สวุ รรณภูมิ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
หวั ใจ ดแู ลมันอ ยา่ งดี ทีไ่ หนได้? กำลังต ้อนรับอวชิ ชา ให้อ วชิ ชาเข้ามาครอบครองพนื้ ทีจ่ ิตใจ เลย
ต้องรู้จักมันบ้างกด็ เีหมอื นกันเนาะอวชิ ชา ๘ ตัว
ตวั ท่ี ๑. เรียนก ันไหวม ย้ั ? พร้อมจ ะฟังห รอื เปลา่ ? กลัววา่ เหนื่อยเกนิ ม้ยั ? (ไม่เหน่อื ยนะ) คอแหง้
หรอื ยงั ? เดี๋ยวหลวงพ่อด ม่ื นำ้ แ ทนให้ เพ่อื เปน็ กำลงั ใจให้พ วกเรา
โยม : พรอ้ มจ ะฟังต่อแ ลว้ ค รับ พรอ้ มแ ลว้ ครับ
หลวงพ่อ : คนส ่วนใหญน่ ะ Concentrate (ตงั้ อกตัง้ ใจ) ไดไ้ม่เกนิ ๔๕ นาทีหรอก สักพัก
ก็จ ะเร่ิมล า้ แ ลว้ เวลาล ้าหลวงพอ่ ก ็ต้องเปลยี่ นเอาเร่อื งขำๆ สบายๆ ใจ มาเล่าแ บง่ ปนั บ า้ งนะ
เปลีย่ นบ รรยากาศก อ่ นจ ะไปคยุ อ วิชชา ๘ ตวั เปล่ียนบ รรยากาศทพ่ี วกเราสนใจกอ่ น เอาเร่ือง
ตกหลุมร กั มย้ั ? เอา Fall in love นะ เดยี๋ วดูหนา้ ก ่อน อ้าว...หนูคนน ี้ออกมาร อ้ งเพลง I’ll al-
ways love you ของ วิทนยี ์ฮสุ ตนั ด ว้ ย ประกอบฉากหน่อย เพลง The Bodyguard เดี๋ยว
ให้หาค นรอ้ ง ร้องเพลงนไี้ดม้ ย้ั ? รอ้ งเพลงอะไรไดล้ ะ่ ...? อา้ ว..มาฟังเรือ่ งตกหลุมรกั เราจะได้ใช้
ความรกั อย่างถ กู วิธี
ไอ้ก ารต กหลมุ รักน ่ี มนั มีอ งคป์ ระกอบป ระหลาดนะ มีอยู่ ๕ องคป์ ระกอบ ที่ทำงาน
รว่ มกันอ ย่างข ัดแยง้ อ้าว...น่าจะกลมกลนื กลบั ข ดั แย้ง เนี่ยเวลาคนๆ นงึ ตกหลมุ รักเนีย่ มัน
เหมอื นยาเสพตดิ ชนิดห นงึ่ มันยง่ิ กวา่ การอพั (up)หรือการไฮ(high)ดว้ ยยาเสพตดิ จากภายนอก
คนบางคนเวลาส ูญเสยี ส ิ่งน ้ีไป จ งึ ย อมฆ่าตัวตายก็ย อม เหมอื นคนต ดิ ยา คือถา้ ไมไ่ ด้เสพยาน้ี
แลว้ อยไู่ มไ่ ด้แ ล้วในโลก ไปฆ า่ ตวั ตาย หรอื ต้องไปอ อ้ นวอนให้อ กี ฝ่ายน งึ กลบั มา เพราะวา่ ถา้
ไม่ได้เสพยานฉ้ี นั ตายแน่ หรือต้องไปฆ่าอ ีกฝ า่ ยหนึ่งทิ้งในนามของความรักก ็ม นี ะ เพราะว่าถา้
ไม่ใหค้ วามส ขุ ฉ นั เธอสมควรตาย อยา่ ไปให้ค วามสขุ คนอ่นื น ะ ตอ้ งให้ฉ ันค นเดยี วเท่าน้นั ดนู ะ
วา่ ไอ้พ ิษของ Fall in love หรือต กหลมุ ร ัก มันประหลาดพ ิสดาร พวกสรรพสัตว์ไมม่ ีนะโยม มี
มย้ั ? ผเี ส้อื ท่ีม นั ฆ่าตัวตาย มมี ยั้ ? เน่ยี ..มนุษย์เนีย่ ม นั ไปสรา้ งโลกใหม่ข ้นึ มาหลากหลาย ท่ีสตั ว์
ไมส่ ามารถจ ะสรา้ งได้ โลกข องส วรรคก์ ็ดี โลกของนรกก็ดี โลกข องภูตผปี ศี าจกด็ ี มีผมี ย้ั โยม? ผี
ของส ตั ว์ม ีมัย้ ? ผยี ุงม มี ยั้ ? (ไมม่ ีนะ) ไม่มีผียงุ มาหลอกเราใช่ม ยั้ ? หรอื ว่าเวลางูไปกนิ เขยี ด ถกู ผี
เขยี ดมาห ลอก แลว้ งวู ง่ิ แจ้นเขา้ ป ่าม ีม้ยั ? หรอื ว่าสิงโตกนิ ควาย แล้วถูกผีควายม าหลอก สิงโตก็
33 ผาซ อนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ขวญั หนีดฝี ่อ กลัวผ ีควาย ไม่กล้ากินค วายอีกต ่อไป (ไมม่ ีใช่ม ้ยั โยม?)
แต่ม นุษยป์ ระหลาดม ย้ั โยม? มนั มาสรา้ งผไี ดด้ ้วย ฮึ! ผที ะเลยังมีเลยใช่ม ัย้ ? ร้จู กั ผที ะเล
ม้ัยต รงนี้ รจู้ ักม ้ยั ? ไม่เคยเจอผที ะเลเหรอ? เคยดูม ้ัย? ได้ด ูไทท านคิ มย้ั ? ไทท านิคได้ด ูม ั้ยตรงนี้?
ไททานคิ นโ่ียม มันเปน็ เรอ่ื งข องผ ีทะเลนะ ส่วนแ ม่น าคพ ระโขนงเนีย่ เป็นผ นี า ถ้าโยมเขา้ ใจเร่อื ง
ขนั ธ์ ๕ นะ โยมจะห ายสงสัยเรอื่ งผี ผไีม่ไดม้ ีมาก่อนในจักรวาลนน้ี ะ หลวงพอ่ บอกว่า พวกผีแมลง
ผคี วาย ผอี ะไรต า่ งๆถงึ ไม่มี มแี ตพ่ วกม นุษยท์ มี่ าสรา้ งผ ีขึน้ มาได้ เพราะว า่ ความเขา้ ไปยึดใน
ขนั ธ์ ๕ เนี่ย มนั เขม้ ขน้ ร นุ แรงก วา่ อยา่ งเชน่ พวกควายเวลาท ม่ี นั ข้ามลำธารน้ำเพือ่ ทจ่ี ะไปห า
หญ้ากนิ มฝี ูง มลี กู มเี มยี ไป ถ้าจระเขไ้ปก ินล กู เมยี มัน มนั ก ็เดินข ึ้นฝ่งั เดินไปห าหญา้ กนิ ต่อ มัน
ไมเ่ คยเอาขาม าน ่งั เกยเข่าห อ้ ย แล้วกน็ ัง่ ร้องไหร้ ำพึงรำพันถึงจระเข้ ไม่เคย หลวงพ่อไม่เคยเหน็
ไอ้ค วามย ึดมนั่ กับความปรุงแตง่ เน่ยี มันไมค่ ่อยม ีความรุนแรง มนษุ ยใ์ช้ข ันธ์ ๕ แล้วเขา้ ไปผูกพัน
กบั ข ันธ์ ๕ ชือ่ อ ปุ าทานขนั ธ์ ๕ ดผู ีใหด้ ีนะ เอาผีแ มน่ าคก่อน ผที อ้ งนาเดย๋ี วจ ะไปส ู่ผ ที ะเล
ผีแ มน่ าคเห็นมัย้ ? เพราะมีตาไปรบั ร ู้เรือ่ งพ มี่ าก ไปรับรวู้ า่ พ่มี ากใส่ร อ้ งเท้าช้าเพราะวา่
อะไร? เพราะว่าอ ะไรถึงใส่ร ้องเทา้ ชา้ ใชไ้ปซือ้ ก ๋วยเตีย๋ ว? พี่มากข า กว่าจะใส่ร ้องเท้าเสรจ็ ห ลาย
คู่ แมน่ าคก็เลยเสยี ใจ นอ้ ยใจ ทร่ี ้องไหเ้พราะเหตุนี้แหละ (หวั เราะ) ไปซ ้อื กว๋ ยเต๋ียวยังไม่ก ลับม า
อกี ใสร่ องเทา้ ก็ยงั ไมเ่สร็จซ กั กะท ีนึง (ดนี ะ..หนูคนนชี้ ่วยเป็นลูกคู่แ ก้งว่ ง) โยมดใู ห้ด ีน ะ มีลูกตา
ไปรบั รูเ้รียกวา่ “วญิ ญาณ” เกดิ ค วามรู้สึกเรียกวา่ “เวทนา” เกิดค วามจ ำเรยี กว่า“สญั ญา”
เกดิ ความคิดเรียกว่า “สงั ขาร” มรี า่ งกาย ๕ ตวั พอร า่ งกายดับไป แตกสลายไปตามเหตุ
ปัจจยั ของก าลเวลา แต่ต อนนน้ั ม ีความรู้สึก มคี วามรู้สกึ เจบ็ ปวด ตอนท่ีจะอ อกลูก มคี วามคิด
คิดถงึ พ ่ีมาก ห่วงใย มเี วทนา มคี วามรู้สึก มีการร ับรู้ แลว้ กเ็อาเร่อื งพ ีม่ ากม าจ ำ มีสญั ญา พอ
ตายป ป๊ั ไอก้ ระบวนการพ วกนย้ี งั ไมห่ ยุดทำงาน ทหี่ ลวงพอ่ บอกวา่ จติ มนั ทำงานด ้วยตัวเอง
หลังจากทีร่ ปู ข ันธแ์ ตกสลาย เพราะว่ามนั ส ามารถดึงเอาห นว่ ยความจำมาคดิ ใหม่ แลว้ ร ู้สกึ
ใหม่ไดเ้ห็นมยั้ โยม? แลว้ ก็เอาค วามจ ำเร่ืองพม่ี ากม าคิด กเ็กดิ อ ารมณ์ท เ่ี ศรา้ หมอง “เวทนา”
ความจำเรยี กว่า“สญั ญา” ความคิดเรียกว่า “สังขาร” และเกิด“วิญญาณ” แปลวา่ ร ับรู้
เข้าไปร ับรู้อ ารมณน์ ้ัน เกดิ ๔ ตวั นข้ี ึน้ มา..โยม ท ีท่ ำงานดว้ ยต ัวเองได้ เห็นม ัย้ ? แต่เราไมเ่ ข้าใจ
เรากเ็รยี กส ่งิ น ้นั ว่าผ ี จริงๆคอื กระบวนการธ รรมชาตซิ ่งึ ไม่ Permanent ไมถ่ าวร ผแี ม่น าค
ถาวรม ยั้ ? ยงั มอี ยู่ม ัย้ ? หมอผปี ลุกไดม้ ย้ั ? (ไม่ได)้ ใครปลกุ ได?้ (ผ้กู ำกบั ภาพยนตร์เท่าน้นั ) โยม
ผาซ อ นแ กว 34
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏบิ ัติการ การบนิ ไทย สุวรรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
เห็นภาพมั้ย ? เนี่ยคือผ ีนา
อา้ ว...มาดผู ที ะเลตอ่ กรณขี องคณุ โรสก บั คุณแจค๊ ในเรือไททานคิ เห็นมั้ย? ดสู ิคุณโรส
ตอนท่ีเขาเลา่ เรอ่ื งไทท านคิ ใช่ส ัญญาข ันธม์ ั้ยค วามจำ? ใช่เวทนามย้ั ม คี วามสขุ ตอนทเ่ี ต้นรำ? ใช่
ม้ยั นึกถึงเวทนา? แล้วเอามาคดิ เรียกวา่ ส งั ขาร คิดถึงไหน? (คิดถงึ เรือไทท านคิ ท ่ลี ่มไป) เห็น
มย้ั วญิ ญาณก ารร ับรู้ ๔ ตัวน ะโยม? แลว้ เขากต็ ดั ภาพแชป ไป เหน็ ม ั้ย? ตัดภาพตอนที่คณุ โรส
ตาย แลว้ กเ็ ขา้ ไปแ พลนภ าพไปท ี่เรอื ไททานคิ เห็นฟลอรเ์ต้นรำในเรอื ใช่ม ้ยั ? เนยี่ คอื ส ญั ญาขนั ธ์
เวทนาข นั ธ์ สงั ขารข นั ธค์ ือค วามคดิ และว ิญญาณเรยี กว่าผีทะเล แลว้ พวกเราจะเป็นผอี ะไร? (ผี
อากาศ) หายส งสัยม ย้ั ? ถา้ พวกเราด ูตวั เองทุกวนั เราจะหายสงสัย หายสงสยั ว่าตายแ ลว้ จะไป
เป็นอ ะไร? เพราะเหตอุ ะไร? ถ้าเหตนุ มี้ ี ผลนั้นมี เราจำเรือ่ งอะไรไว้ล ่ะ? ถ้าอ ะไรทเี่ศรา้ หมอง?
ลบล้างอ อกไปนะโยม อยา่ ไปส นใจ อยา่ ไปคดิ ถึงม นั อย่าไปเอามาพูด ไม่ง้นั เดีย๋ วจ ะก ลายเป็น
ผีสบั สนน ะ แตถ่ ้าฉลาดโยมเหน็ ม ้ัย? ถ้ายงั ต้องเดนิ ท างในสังสารวฏั แตถ่ ้าฉ ลาดก ว่าน ้นั กค็ ือ
เหน็ ว่าน่ีเปน็ แคก่ ระบวนการข ันธ์ ๕ “วาง” ไมย่ ดึ ถือข นั ธ์ ๕ กระบวนการไม่ย ึดถอื ข นั ธ์ ๕
เรียกว่าไป “นพิ พาน”
นิพพานค ือก ารว างความคดิ ปรุงแตง่ เหล่าน้ี บุคคลท ่ปี รงุ แต่งฝ า่ ยดชี ื่อวา่ “ป ุญญาภิ
สังขาร” จำเรื่องท ี่ดีเอามาค ิด รู้สึกดมี ั้ย? (ดโี ยม) ยิง่ ถ้าไม่มีรา่ งกายด ้วยนะ รา่ งกายมันตอ้ ง
มาเมื่อย มาป วด มามนึ มาช า เมือ่ ร ่างกายน ไี้ ม่มีดว้ ย เอาค วามจำท ด่ี ี เอาค วามคดิ ท ดี่ มี า ไอ้
ความส ขุ เวทนาจะเรอื งรองกวา ห ลายเท่า เพราะม ันไม่ถ ูกบดบังด ้วยทุกเวทนาจากร ่างกาย ก็
เลยเกดิ ส่ิงมชี ีวิตแ บบหนึ่งขนึ้ ในจกั รวาลเรยี กวา่ “เทวดา” ซงึ่ เอาค วามจ ำท ดี่ มี าคดิ เนย่ี โยม
คิดส ิว ่า คนท ่ีทำความดีในโลกน ี้มปี ริมาณค วามดีทีก่ ระทำล งไปเทา่ กนั ม ัย้ ? (ไม่เท่า) บางคน
เสียสละม าก บางคนเสียสละน้อย บางคนเสียสละเยอะ แลว้ กม็ ีความส ขุ ม ากกว่า กับอ ีก
แบบห น่งึ บางคนทมุ เทอ ยา่ งน มี้ ีความส ขุ มากกวา่ โยมเห็นมัย้ ? มันก็เลยม ีสวรรคห์ ลายแบบ
หลายชัน้ ขึ้นม า ตามอณุ หภมู ิค วามสขุ เหน็ มั้ย? แต่ไมไ ด้ม ตี ัวตนนะ เทวดาไมไ่ ด้ม ีต วั ตน
เหตุน้มี ี ผลน ้ีจงึ ม ี แตถ่ ้าไม่เอา กค็ ือวาง กค็ อื ไปพระนพิ พาน
ส่วนน รกล่ะ? ก็คอื เอาความจำเร่ืองทไ่ี ม่ดีมาคิดช ือ่ วา่ “อปุญญาภิสงั ขาร” ที่สร้างขึ้นมา
ในฝ า่ ยไมด่ ี ท่ีเศรา้ หมองข้นึ ม า เหน็ ภาพห รือยงั ? ที่นี้กด็ พู วกเราสิ เราจ ะไปเปน็ ผ แี บบไหน? จะ
35 ผาซอนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ไปเปน็ ผสี บั สน หรือจ ะไปเป็นนางฟา้ เทวดา หรอื จ ะไปพ ระนิพพาน จะไปเปน็ พ รหม ถา้ หากว่า
เราสนใจแ บบน้ี ได้แ ตข่ ่มๆใจไว้ ใหม้ นั สงบนง่ิ อ ยา่ งน้ี พอตายไปภาวะแบบน้ีก็ตกคา้ งอยู่ด ีแหละ
โยม มันเปน็ การป รุงแตง่ ของก ารกดข ม่ เอาไว้ กเ็ ลยเกิดพรหมข้นึ ในจ กั รวาลน้ี ไมม่ ีมาก่อน สิง่
เหลา่ นไ้ี มไ่ ดม้ ีมาก อ่ นท งั้ สนิ้ รวมถึงเทวดาในแต่ละช้นั หรือว่าแต่ละภูมภิ าค แต่ละประเทศ
แต่ละศาสนาเลยไม่เหมือนกันเหน็ มั้ย? นางฟ้าเทวดาข องไทยเหมอื นกับข องฝรงั่ มัย้ ? เหมอื นกัน
มั้ยสวรรคโ์ยม? (ไม่เหมอื น) เหน็ ม ้ยั ? เพราะอะไร? ถา้ โยมเขา้ ใจเรอ่ื งข องขันธ์ ๕ ก็คือการหอบหว้ิ
เอาส ัญญาข นั ธไ์ ปไงโยม เขาหอบห้ิวเอาความจำแบบนึงไปจริงมั้ย? มีใครไปจำแ ทนเขาได้ม ยั้ ?
เราจ ะจำแทนเขาไดม้ ้ัย? รู้สึกแทนได้ม ั้ย? (ไมไ่ ด้เดด็ ขาดโยม) ถา้ โยมไมม่ ีสงิ่ นน้ั ไมไ่ ด้ท ำส ่งิ น ัน้
ไม่ส ามารถจ ะเอามาจำได้
อยา่ งเช่น ถ้าเราไม่เคยฆ า่ ค นเนย่ี เราจะเอาค วามจำเรอ่ื งฆา่ คน แลว้ ก็มคี วามเจบ็ ปวด
จากก ารฆ่าค นมาค ิดไดม้ ยั้ ? (เป็นไปไมไ่ ดโ้ยม..มันจ ะมไี ปได้อ ย่างไง?) แต่ถ ้าอกี คนนงึ เคยท ำ
อยา่ งนี้เปน็ ตน้ นะ อาจจะเผลอเอาความจำนน้ั มา แต่ถ า้ เขาฉลาดกว่านน้ั เขากอ็ าจจะต ้องม ี
กำลงั ม ากกว่า ท่ีจะไม่ถ ลำเขา้ ไปในความคิดในอดตี ท ผ่ี ิดพลาดไป หรืออาศยั ความคดิ ตัวใหม่
หรือความรสู้ กึ ต ัวใหม่ ทเ่ี ปน็ ป จั จุบนั เสวยอารมณ์แทนโดยไมเ่ผลอ ไม่เผลอถ ลำไปคว้าอ ดีต
เร่ืองที่เศร้าหมอง เปรียบเทียบเหมอื นองคลุ มี าลท่ีฆ่าคนมาเป็นพันๆ ค น นกึ ออกม้ยั ทำไมเขา
ไมต่ กนรก? (กเ็ พราะเขาฉลาด เขาเขา้ ใจ เขาก็ไมถ่ ลำไปค ิดเร่ืองอดตี ส ิ) ให้ม ันเศรา้ หมองไปทำ
อะไร? ตอนนนั้ ไม่รู้ ถกู อ าจารย์อกี คนหนงึ่ ส อนมาว่า ให้ไปฆา่ คน จะได้ช ว่ ยเหลอื คนให้พ น้ ทกุ ข์
เปน็ ไปไดม้ ้ยั ? เนี่ยเหน็ พ วกเน่ียตาดำๆ ทุกข์ทรมานท ำงานกันล ำบาก อยากให้เขาพ้นทกุ ข์ เลย
ฆา่ ส ักพ นั คน เราจ ะได้ๆบุญเยอะๆดมี ้ัย? ไม่ดีเหรอ? ไม่เมตตาสงสารพ วกน้ีบา้ งเลยเหรอ? ทุกข์
จะตายน ะเนี่ย (หัวเราะ)
เนย่ี เขาถูกสอนม าผดิ เขาก ท็ ำผดิ พอเขาเขา้ ใจเขาก็ไมท่ ำอย่างนน้ั แล้วเขาก็ไมก่ ลบั ไป
คิดเรอื่ งแบบนัน้ อ ีกแล้วเหน็ ม ้ยั เขาม ีจิตใจทเ่ี ขม้ แขง็ อย่กู บั ปัจจบุ นั ก็เสวยอารมณข์ องความสขุ
น่ี ได้เป็นพระอรหนั ตด์ ว้ ย ถึงฆ า่ คนม าตง้ั เป็นพนั คน
พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่าคำสอนของท่านถ้าไม่ส ามารถช่วยคนให้พ ้นทุกข์ในปัจจุบันได้
คำส อนนน้ั จะไมม่ ีประโยชน์ นี่กรณศี กึ ษาน ะ จะเหน็ แล้วจะเขา้ ใจ ง้นั การทเี่ ป็นเทวดาของฝรงั่
ผาซ อ นแ กว 36
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏบิ ตั กิ าร การบินไทย สวุ รรณภูมิ วันท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
ของไทย ของจนี ของแ ขก ของเกาหลี ไมเ่หมือนกันเพราะเหตวุ ่าหอบหิ้วเอาส ญั ญาขันธท์ ไ่ี ม่
เหมอื นกันไปตา่ งหาก เขาเหน็ ภาพข องอาคารแบบเรอเนซ องส์ (Renaissance) อาคารแ บบ
โกธคิ (Gothic) อาคารแบบบาร อ็ ก (Baroque) อะไรของเขา ใชไ่ หมโยม เขาก็เลยหอบหิว้ เอา
สัญญาแ บบนัน้ ไปวา่ ม นั สวย หรอื พ อใจกบั ชดุ แ บบเจ้าสาว ชดุ ขาวบานสะพรั่งอะไรอ ยา่ งน้ี ของ
เราก็ชอบชุดไทยชอบอ ะไรแหลมๆทองๆวับๆแว้บๆอยา่ งนี้ ชอบสายสะพาย
เคยเห็นเขาประกวดน างสาวไทยกนั เหน็ ภาพมย้ั งัน้ สวรรคข์ องไทย ของจ นี ของฝรัง่
ของแ ขก เลยไม่เหมอื นกันด ้วยเหตุน้ี ไมไ่ ดม้ ีตัวตนน ะ มนั แคก่ ระบวนการข องขันธ์ ๕ ที่ยัง
ทำงานสืบทอดต ่อโดยการไม่ต ้องใชร้ ปู แลว้ เหมอื นความฝ นั น ่ะ เวลาโยมฝ นั โยมกไ็ม่ต ้อง
ใช้ต าเหน็ รูปแล้ว เอาความจ ำนีแ่ หละม าป ะติดปะตอ่ ม าส ะเปะสะปะด้วยพ ลังงานกระแสไฟฟา้
แล้วกเ็หน็ ภาพน ั้น ได้ยนิ เสียงน ้ันขึน้ ม า เหมือนกนั อยา่ งน้ีจะหายส งสัยรวมถึงการปฏิบตั ดิ ว้ ย
การปฏิบตั ิในป ลายทาง ก ็จ ะไปว างไอ้ค วามฝ ันเนย่ี คอื “สังขารนมิ ิต” คอื จติ ไปคิดข น้ึ มาเปน็
เนอื้ เร่อื งไมใ่ ช่ข องจรงิ ถ้าว างสังขารน มิ ติ กจ็ ะไปเห็นพ ระนิพพาน ซึง่ ไมม่ ีนิมิตชอ่ื ว่า “อนมิ ติ ต
วโิ มกข์” หรอื ไม่มีการปรุงแตง่ ชือ่ วา่ “วสิ ังขาร” แล้วโยม ท้ังหมดเปน็ ส ูตรข องธรรมชาติ
ไมไ่ ดม้ อี ะไรน อกเหนือจ ากธ รรมชาติ แลว้ กไ็ม่ไดม้ อี ะไรท ถ่ี ูกโมเมช ่นั ขึ้นม าวา่ มีผสู้ รา้ งม ีผู้
ดลบันดาล ไมม่ ี โยม ไม่มใี ครอยใู่นนน้ั ต ่างหาก น่ีคอื ความเปน็ จรงิ อา้ ว..ผา่ นไปแล้ว ไปผ ีนา
ไปผีทะเล ท่วี ่าจะเทศนเ์ รอ่ื งความรัก พอเห็นภาพไหมระหว่างความรกั ของแม่น าคกบั คณุ แ จค๊
คุณโรส หรือพ วกเราทตี่ กหลมุ รัก ถ้าใช้ไม่เปน็ น ะ เดยี๋ วก ต็ อ้ งไปวนเวยี นอยอู่ ยา่ งน้นั เป็นผ ผี ูกพัน
ผีส ับสน แต่จ ริงๆ ใชใ้ห้ถ กู วิธีนะก ใ็ชไ้ ด้ แถมเรือ่ งความรกั หนอ่ ยแลว้ กนั ไหนๆ พดู เกริน่ ไปแ ลว้
มอี งค์ประกอบอยู่ ๕ อย่าง เคยตกหลุมร ักไหมหนนู ้อยข้างหนา้ ...เคย ตกมากีร่ อบ เดย๋ี วก่อน..
ปีนขนึ้ ม าร ยึ งั ต อนนี้ ปีนข้ึนม าแล้วนะ ไมใ่ ชอ่ ยกู่ ้นหลมุ นะ ตกม าก ่ีรอบ.. ๓ รอบ โอ้โห หนูค นน ้ี
อาจจะห ลายร อบก วา่
โยม : ตอนน้ีต กหลมุ ร กั ต วั เองค่ะ
หลวงพ่อ : ออ๋ ...รักต ัวเองอ ยู่ คนเน่ยี ...พวกเราต้องระวังน ะ การเดินทางในส งั สารวฏั
มาถึงช ่วงอายุประมาณนี้ การเดินท างในสงั สารวัฏบางคนก ็ตอ้ งการแรงบนั ดาลใจ ตอ้ งการ
แสงสว่างน ำทาง ตอ้ งการเพื่อนร ่วมเดนิ ทาง บางทีควา้ ไมเ่ปน็ มนั กลบั ไปสร้างหลุมดำห รอื หลุม
37 ผาซ อ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
อ่นื ข นึ้ ม าแ ทน พระพุทธเจ้าทา่ นสอนไว้น ะ วิธีเลอื กเพอื่ นร่วมเดินทางอ ยา่ งถ กู วธิ ี เลอื กคนท ี่
มีเหตุมีผลเสมอกนั ถ้าเขาม ีเหตุผล ถ้าเขาเชอื่ ในผลของกรรม เขาจะไมก่ ล้าทำชว่ั ไม่วา่ เขาอยู่
ลบั หลงั เราเขาก ็ไมก่ ลา้ ทำ เราไม่ต อ้ งไปห่วงห รอกวา่ เขาหายไป ๗ วนั เขาจะไปทำช่ัวเพราะเขา
กลัว เขากลัวผลข องความช ัว่ ท ี่ท ำล งไป เพราะเขาจะต อ้ งมาจ ำเร่อื งท ไ่ี มด่ ี แล้วต้องมาร ู้สกึ ที่ไม่ดี
นา่ สงสาร ไม่ใชว่ า่ เขาช่ัว เขาอ ่อนแอ แลว้ เขาทนต ่ออำนาจฝ่ายต ่ำไม่ไหว แต่ถ า้ เราเลอื กค นถ ูก
ตั้งแตท่ ีแรก ว่าถ้าเขามีความเช่ืออ ย่างมเี หตผุ ลแ บบนี้วา่ มศี รทั ธาเสมอกนั
“ศรัทธา” แปลว ่า ความเชอ่ื อ ยา่ งมีเหตผุ ลก ำจดั ค วามงมงาย ถา้ เขาไม่เป็นคนงมงาย
เขาเปน็ คนมเีหตุผล เขาจ ะไมก่ ลา้ ทำชว่ั เพราะเขาจะต้องมีหริ ิโอตตัปปะ กลัว..กลัวผลข องความ
ช่ัว ละอาย ถ้าทำไปแ ล้วจะตอ้ งร บั ผ ลเอง ถงึ ไม่มใี ครเห็น จรงิ ไหมโยม ถึงไม่มใี ครเห็นทำไมด่ ีก็
ต้องร ้สู กึ ไมด่ ี เม่อื ท ำความจำไมด่ ีเอาไวไ้ม่คุม้ คา่ ก นั ทำไม่ดีไปแ ค่ ๕ นาที ตอ้ งจำไปทง้ั ชาติ ใคร
อยากล งทนุ แ บบน้บี ้าง ไม่ค ุม้ กันใชไ่ หมโยม หรือถ ้าเกิดพ ลาดไปตอนตายด ันไปค วา้ เอาค วามจำ
ไมด่ ที ี่ทำไป ๕ นาทมี าคิด ไปต กนรกเป็นห มื่นปคี ุ้มคา่ ไหม การลงทุน ไมค่ ้มุ เหน็ ไหม ดังน้นั การ
ลงทุนม ีความเส่ยี งควรพ ิจารณาทกุ ครั้งก ่อนการล งทนุ นะ เน่ียถ้าเราเลอื กค นท ถี่ กู โยมเหน็ ไหม
เนี่ยม นั จ ะเป็นแสงสว่างเป็นเพอื่ นร ่วมเดินทางอยา่ งถ ูกวธิ ี
ขอ้ ท ่ี ๑ เลือกคนท ่ีมีเหตุมผี ลมศี รัทธาเสมอกนั แล้วถามตัวเรากอ่ นป จั จบุ ันเราเป็น
คนมเี หตมุ ผี ลอ ย่างถกู วิธดี ว้ ยไหม เรามีความละอายใจด้วยร ึเปล่าโยม ก่อนอยากจะได้ส ง่ิ
แบบนัน้ เราล ่ะมคี ณุ สมบตั ิเพียงพอไหม เราอยากได้ด อกไมท้ องคำม าวางบนชวี ติ เรา แต่ต ัวเรา
เป็นภ าชนะพ านท องคำ หรอื เราเป็นแ คจ่ านสังกะสีสำหรับใสอ่ าหารสุนขั นึกออกไหม เรา
ต้องป ระมาณต วั เราก อ่ น ใช่ไหม ถา้ ตัวเราทำตัวเรามีคุณค่าเปน็ ภ าชนะทงี่ ดงาม หลวงพอ่ กล้า
รบั ประกันนะ ไม่มีใครกลา้ เอาอาหารสุนัขม าใส่ในพ านทองคำแ นน่ อน ใชไ่ หมโยม บางทเี รา
ฝนั ใฝ่อยากไดแ้ ตส่ ่งิ ทีด่ ี แตต่ ัวเราไมเ่ตรยี มพรอ้ มท่ีจะเปน็ ภ าชนะทจ่ี ะรองรับสิ่งท่ีดี งัน้ การมี
ศรัทธาเสมอกนั เริม่ ต้นจ ากตัวเองม เี หตมุ ีผลขึน้ ม าก อ่ น แตถ่ า้ เราเปน็ ค นงมงายไขวค่ ว้าแตเ่รื่องที่
ไรส้ าระอยา่ หวงั ว า่ จะไปเจอส ง่ิ ทด่ี ีงามไปไดอ้ ยา่ งไรเนอะ เรม่ิ ตน้ ให้ถ ูกวธิ ีจากตัวตน จากความ
ประพฤตขิ องตัวเอง
ข้อท่ี ๒ เลือกค นท มี่ คี วามประพฤติเสมอกนั เราไม่โกหกเขาก็ไม่โกหก แต่ถ า้ เรา
ผาซ อ นแ กว 38
พระอาจารยอ ำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนยป์ ฏบิ ัตกิ าร การบินไทย สวุ รรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
โกหกแ ล้วเราอ ยากไดค้ นไม่โกหกมันกไ็ มค่ อ่ ยจ ะย ุตธิ รรมนะ ถึงเรมิ่ ต้นจากต ัวเองนะ การม ีศีล
เสมอกัน เราไม่เบียดเบียนส ตั ว์ เราจ ะเจอคนป ระเภทเดียวกนั ถา้ เราส ามารถคกุ เขา่ ตอ่ ส ุนขั
ข้างทาง คนท ีห่ วิ โหยได้ เราก ็คงไดค้ นทเ่ีขาดูแลเราอยา่ งด ีเหมอื นกัน ถ้าเราเหน็ ผู้ชายค นห นง่ึ ท่ี
สามารถค กุ เข่าใหก้ ับลูกหมาจ รจัดใหอ้ าหารกินไดโ้ดยท ่ีเขาไมร่ ังแกมนั เขามเี มตตาต่อม นั เขาก็
คงจะเมตตาต่อเรา เพราะเราก ็สวยก วา่ ล ูกสนุ ขั ต ้ังเยอะจ รงิ ไหม ใช่ร ึเปลา่ โยม ยงั สวยกว่าลูกสนุ ขั
มั้ย? นา่ รักก ว่าม้ยั ? ไม่คอ่ ยมั่นใจเหรอ? (เสยี งหลวงพ่อหวั เราะ) หลวงพ่อกำลงั เปรยี บเทยี บอยา่ ง
นี้จรงิ ๆ นะ แล้วโยมมองคน โยมก ็มองออกอ ยู่แ ล้วถา้ เขามคี วามเมตตาอ ย่างนี้ เขาก็ต อ้ งเมตตา
ตอ่ ตวั เราใช่ไหม มคี วามประพฤตแิ บบนี้ เขาก็ต้องม ีความประพฤติต่อต ัวเรา แต่ถ ้าก ับพอ่ แม่เขา
เขายังไมม่ คี วามกตญั ญแู ล้วก ับเราเป็นใครรึ หรือกบั สรรพสัตวต์ วั เล็กตวั น อ้ ย เขายังร งั แกมันได้
อยา่ งส นุกสนาน แลว้ เราละ่ เขาจะไมม่ ีความสุขจากการท่เี ห็นเราทกุ ขท์ รมานรึ ถ้าเขาพงึ พอใจ
กบั การเห็นค วามท ุกข์ของค นอ ื่นเปน็ เรอื่ งสนกุ นะ ก็เลอื กให้ถ กู สินะ อยา่ งเวลาเขามาเลา่ ว ่า
เขาไปเบยี ดเบียนใครมาแล้วเขาส ะใจ อยา่ ไปคบเลยนะ มันก็ต้องม ีค วามสุขท ่ไี ดเ้บียดเบียนเรา
เหมอื นกนั แหละน่า เลือกให้เปน็ แลว้ ก บั ต ัวเอง ก็เหมอื นกันให้ม ันมคี ุณคา่ สมสว่ นกัน ขอ้ ที่ ๒
ข้อท ี่ ๓ การเสยี สละ เรยี กว่าม ีจาคะเสมอกัน ใช่ไหม? ถ้าเขาเสยี สละว ตั ถุสิ่งของ
ภายนอกเพื่อประโยชน์ข องส ว่ นรวมได้ เขาก็คงสละอารมณ์เล็กๆ นอ้ ยๆ จากความหงดุ หงิด
รำคาญห รือจ ากก ารทเ่ี รากระเง้ากระงอด เขาก ค็ งใหอ้ ภัยเสียสละได้เหมอื นกนั ถา้ ขา้ งนอกเขา
ยังไม่เคยเสยี สละให้ใคร อย่าห วงั เลยอารมณน์ ามธรรมทีเ่ ขาคิดวา่ เป็นเขา เขาจะสละได้ คง
เปน็ ไปไมไ่ ดห้ รอก กค็ งจะต อ้ งม เีรอื่ งท ะเลาะเบาะแว้งระหองระแหงกันทกุ วัน มนั ส ละอารมณ์
ออกไมเ่ปน็ เอาเร่อื งไปซะท ุกอยา่ ง อะไรอ ย่างน ้ี อะไรก ระทบปบ๊ั ต ้องเอาเร่อื ง อะไรกระทบปบ๊ั
ต้องเอาเรือ่ ง เพราะไม่เคยส ละเห็นไหม เลือกให้เป็น เลอื กคนท ่มี ีจาคะส ละเสมอกัน ตัวเราก็
ต้องฝกึ น ะ ฝึกก ารเสยี สละ มาสละอารมณฝ์ า่ ยต ่ำให้ได้ แต่ถ า้ วัตถุภายนอกแบบนสี้ ละไม่ได้ โยม
อยา่ หวังนะว่าจะม าสละอ ารมณ์ภายในไดใ้ชม่ ัย้ แม้แต่ค วามอาฆาตพยาบาทก ค็ งส ละไม่ได้เช่น
เดียวกัน
ข้อที่ ๔ มปี ญั ญาเสมอกนั คยุ ก ันร ู้เรื่อง ในเรอ่ื งข องความเป็นจรงิ เหมือนทหี่ ลวงพ่อ
คยุ ๆ อย่างนี้ เออฟ ังแล้วเขา้ ใจแลว้ กค็ ยุ ก นั กับคนในบ ้านอ ยา่ งนจ้ี ะมีค วามสขุ นะ คยุ กนั
เรือ่ งความไมค่ งท่ีในกฎข องธ รรมชาติ ความเปน็ ทุกข์ จะมองกนั ด ว้ ยค วามเห็นอกเหน็ ใจ แ ละ
39 ผาซอ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ความเคารพในค วามเข้มแข็ง ความเมตตาตอ่ ท ุกข์ที่ทกุ คนก ำลังประสบอยู่ในบา้ น..โยม มนั
จะห นั หน้าเข้าหากนั อ ย่างมคี วามสขุ น ะ จะเห็นอกเหน็ ใจดูแลเอือ้ เฟื้อซ ึ่งกนั และกันปัญญามนั
เสมอกัน มันไม่ใช่ว ่าฉ ันจ ะต้องเอาชนะเธอใหไ้ด้ มันเบยี ดเบยี นกันอย่างไร้เดียงสา ไมม่ ีความ
เป็นเพือ่ นร่วมทกุ ขใ์นความเหน็ อกเห็นใจ แลว้ ไปเอาชนะระรานกันในเรื่องทไ่ี มม่ ีป ระโยชนอ์ ะไร
ข้นึ มาเลยเห็นไหม ๔ ขอ้ ในการเลอื ก ส่วนก รณีของค นท่ีจะไปตกหลุมเนี่ย อันท ่ี ๑ มนั มีความ
เสยี สละด ้วยนะโยม มนั เป็นแรงบนั ดาลใจท ใ่ี หญห่ ลวง ซ่งึ ชวี ิตคนเราแ ตล่ ะคนบ างทไี มเ่ คย เกิด
มาไม่เคยเจอใครมาเสียสละอะไรให้แ ก่เราอย่างมากมาย เวลาทใ่ี ครสักคนห นึ่งมาเสยี สละใหแ้ ก่
เราย อมลำบากตรากตรำในห นา้ ทก่ี ารงานท ง้ั ห ลายแหล่ ลุยนำ้ ขา้ มทะเลข ับเคร่อื งบนิ มาหาตาม
หนา้ ท่ีบ งั เอิญมาเจอกนั พอดที ี่ส นามบนิ ถ้าคนใดค นหนึ่งนะโยมม าเสียสละใหม้ ากๆ เนยี่ จิตใจ
ดวงนัน้ น ะ่ ทีม่ นั ร กั ความด เี นีย่ มนั จะเร่ิมรักความดขี องการเสียสละอ นั นน้ั และก ารเสียสละ
อันนัน้ นำความส ขุ ม าให้ จิตใจก เ็ รมิ่ รักความส ขุ จากการทเี่ ขาเสยี สละนำความสุขมาให้ เหน็ เขา
หาของอย่างยากลำบากม าให้ ทุ่มเทอย่างย ากลำบากเพอื่ ท ำให้เรามคี วามสขุ มนั รักความส ขุ
แล้วกร็ กั ค วามด ี
อันที่ ๑ มีการเสยี สละ มันท ำให้เกดิ ค วามศรทั ธา ความเช่อื อย่างมีเหตุผลว่าคนๆ น ด้ี ูแล
เรา ไมท่ ำให้เราเจ็บปวดเดือดรอ้ น นำค วามสขุ มาให้ ให้ค วามหว่ งใยให้ค วามปลอดภยั ง้ันเรา
คลอ้ งแขนเราค ลอ้ งแขนเอาค วามป ลอดภัยไป เราไมไ่ ด้ค ลอ้ งแขนเอาอ ันตรายไป ไมว่ า่ คนๆนนั้
จะหน้าตาย ังไงเราก ็มีความภ มู ิใจ เพราะอะไรเหมือนอย่างที่บอก เรารกั ต วั เอง เขากร็ กั ตัวเรา ไป
ดว้ ยกนั ด ีไหมอ ยา่ งนี้ มนั ร กั ส ง่ิ เดยี วกัน เราร ักตัวเรา เขากร็ ักตวั เรา เราหว่ งใยตวั เรา เขาก็ห่วงใย
ตวั เรา โอ้..มันนา่ จะแสนวิเศษน ะ เห็นไหมโยม..เนีย่ มนั เลยต ามมาดว้ ยศ รัทธา คือความเช่อื ยา่ ง
มเีหตุผลว ่าส ิง่ น ้เี ป็นส่งิ ที่ปลอดภัยเรยี กว่าศรัทธา
ศรัทธาม ันเลยเป็นห งิ้ ข น้ึ ม าในห วั ใจ ห้งิ แหง่ ศรัทธาเวลามองเขา้ ไปในก ารกระทำทด่ี ีของ
เขาเกดิ ความส ุขอ นั เรืองรอง เกดิ ความเช่ือมั่นแ ละความปลอดภัย ไม่ใช่เขาหายไป ๗ วัน เน่ยี ไป
ทำช่วั ท ี่ไหน ถ้ามนั ม ีศรทั ธาน ะโยม ม นั ไม่ห วาดระแวงหรอก มันเชือ่ มัน่ อยูเ่สมอในความดแี ละ
มองไปมองม ากเ็จอแตค่ วามสขุ จากความดี เห็นไหมมีศ รทั ธา มีปีติ แล้วเวลาทใี่ ครท ำความดใี ห้
เราม ากๆรูว้ ่าเขาตอ้ งอดนอนต ี ๑ ตี ๒ เพอื่ จะทำบางสิง่ บางอย่างช่วยเหลือหน้าทกี่ ารงานของ
เรา ภาระเล็กๆ นอ้ ยๆ เพ่ือให้ล ลุ ว่ งไป แล้วตี ๕ เขาก ต็ อ้ งร บี ไปท ำงานท่ีอ่นื ต ่อ ถา้ เราร้เู ข้าเรา
ผาซ อ นแกว 40
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนยป์ ฏิบตั กิ าร การบนิ ไทย สวุ รรณภมู ิ วนั ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
จะร ู้สึกโอ้โห เขาเสียสละเพื่อเราต้งั เยอะ เราจะรู้สึกวา่ เรานี่มีค วามส ำนกึ ผิดว่าทำใหเ้ขาตอ้ ง
ลำบากต รากตรำเพราะเรา
เป็นอกี ต วั นะโยมทป่ี ระหลาดเขา้ มา คือความสำนึกผิด ร้สู ึกว่าเราย งั ไมไ่ ด้ท ำดีๆ ให้เขา
มากเพยี งพอเลย แลว้ ก ารทเี่ขาร ักเราเขาต้องลำบากตรากตรำมากมาย รู้สึกสำนึกผิดเนี่ยแต่เรา
กย็ ังโหยหาส่งิ ท่ีเขาจะทำใหใ้หม่น ะโยม มนั เลยข ัดแย้งแบบนน้ี ะ รสู้ ึกสำนกึ ผิดแ ต่ก ย็ ังอยากได้
อีก มีอ ีกไหมอ ย่างนี้ อยา่ งเธออ ย่างน้มี ีอีกไหม ร้สู กึ ไมค่ อ่ ยดเี ลยแต่ว่าช อบ ชอบท่จี ะให้ใครทำดๆี
ให้เห็นไหม มีเสียสละ มีปีติ มศี รทั ธา มคี วามส ำนกึ ผิด แล้วก็มีความโหยหา เมอ่ื ได้รบั ความดแู ล
เอาใจใส่จ ิตก็จ ะหวนคิดถงึ แ บบนน้ั บ อ่ ยๆ อยู่ในทที่ ำงานมคี นอ ่นื เบยี ดเบยี นเชอื ดเฉือนค ดิ ถงึ คน
รักมแี ต่ค วามห ่วงใย มแี ตค่ ำปลอบโยน มีแตส่ ่ิงท่ดี มี าให้ คิดส ิโยมมันก็เรมิ่ ห วนคดิ ถึงสง่ิ เหล่านี้
สิ จิตม นั ก็เรม่ิ ไปไหนไม่ร อด มันก เ็รียกวา่ ตกหลมุ แ ล้วทนี เ้ี หน็ ไหม อยู่ท ี่ทำงานก็คดิ ถงึ อยา่ งนี้
แล้วเคยทำงานหนกั ตรากตรำเหงือ่ ไหลไคลย ้อยลำบาก เขาส่งทชิ ชู่ให้แ ผน่ ห นึง่ เปน็ ย ังไง มันจะ
เป็นท ิชชู่ศ ักดส์ิ ิทธ์ิใช่ไหมโยม เพราะมนั น ำเอาความหว่ งใยใช่ม ย้ั ถ้าเขาไมส่ ง่ ทิชชู่น นั้ ให้ ไปซื้อ
ที่ศ ูนยก์ ารคา้ ม าหนง่ึ กุรสุ ม ันจะศักดิส์ ิทธไ์ิ หม ไม่ เพราะมนั ไมม่ คี วามหว่ งใยอยใู่ นน้นั โยมไม่เห็น
เหรอ ถา้ เขาสง่ ดอกไม้ม าให้ด อกห นึง่ มันจ ะเปน็ ด อกไมท้ ง่ี ดงามใช่ไหม ซึ่งในต ลาดไปซ ้อื มาก่ี
กรุ ุสม นั ก ไ็มง่ ามเทา่ ไอ้ด อกน ั้น เพราะมนั เต็มไปดว้ ยค วามปรารถนาดีใช่ไหมโยม
ความห ว่ งใยห รอื มติ รไมตรหี รือค วามค ดิ ถงึ มันกจ็ ะก ลายเป็นด อกไม้ศ ักด์ิสิทธ์ิ ผลไม้
ละ่ หอื ..ใช่ไหมโยม แอปเปิ้ลส กั ล กู น งึ หรือส ้มทถี่ ูกดูแลอ ย่างด ี หรอื องุ่นส กั เมด็ นงึ เหน็ ไหม มนั
จะกลายเปน็ ผลไมท้ ่ีห วานหอมพเิ ศษข นึ้ มา เนยี่ ก ารอพั (up) การไฮ (high) มันถกู ยกระดบั ข ึน้
จากอ ารมณแ์ บบน้ีโยม ซึง่ มันใสเ่อาค วามหว่ งใยความรักและค วามปรารถนาดีได้ ซ่งึ ไมส่ ามารถ
ซ้อื ได้ต ามซ ุปเปอร์มาร์เกต็ (super market) ท ชิ ชูก่ ่ีกุรสุ ก็มตี งั ค์ซือ้ ดอกไมซ้ กั ปากคลองต ลาด
เท่าไหรก่ ม็ ตี ังค์ซ ือ้ ผลไม้ม ากมายกม็ ีตงั คซ์ ื้อ แตถ่ ้าไมม่ ีส่งิ นน้ั โยม มันจะแ ห้งเปน็ เศษกระดาษ
เลยนึกออกไหม กุหลาบม หาศาลก เ็หมอื นกับเศษกระดาษท แี่ หง้ ตายซาก ทิชชู่เปน็ ก ุรสุ มนั ก็คง
ไมไ่ ด้ใหค้ วามห ่วงใยอ ะไรขน้ึ ม าในช วี ติ เรา ถึงจ ะมที ชิ ช่ไู ว้ม ากมายจรงิ ไหมโยม เนย่ี มนั คอื ก าร
ตกหลุมร กั แล้วกถ็ กู เทดิ ค ่าส ง่ิ น น้ั อัพข้นึ ม าไฮ ข้นึ ม า ไมว่ ่าโยมจะไปน ง่ั ท่ีไหน ใต้ต ้นไมก้ ็จะเปน็
ใต้ต น้ ไมท้ ี่เปน็ วิมาน ดอกหญา้ ก็จะงดงามดารดาษ ดวงดาวก็จะกลายเปน็ อะไรละ่ เพดาน
ทป่ี ระดบั ดว้ ยอัญมณีหลากหลาย ถา้ ส ูญเสียสิง่ นี้ไปเมื่อไหร่เห็นไหม จิตใจมันจะแ หง้ ซ ดี เซยี ว
41 ผาซ อ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
เพราะมันเคยเสวยอารมณ์ทถ่ี ูกอัพ ถูกไฮ ขน้ึ มาจากการให้ค ุณคา่ หรอื จากความด ูแลเอาใจใส่
จากค วามเมตตาหรอื ค วามดี มนั ไมม่ ีสิ่งนัน้ อ กี แล้วมนั ก็แหง้ สโิ ยม บางคนเลยอ ยู่ไมไ่ ด้ อยู่ไม่ได้ก ็
หนีห าวธิ ีอ ืน่ ทีจ่ ะอัพ(up) ข้นึ ม า กไ็ปอะไร ยาเสพตดิ ไปก ินเหลา้ บ ้าง หรือไปตอบสนองตัณหา
แต่ย งั ไงมนั ก ็ไมม่ อี ารมณ์ที่มนั เปย่ี มท่วมท้น เทา่ กับอารมณ์ของความรกั จ ากค วามจริงใจจาก
ความห ่วงใยอย่างแท้จรงิ
เนย่ี ก ารต กหลมุ ร ัก พวกนี้จะตอ้ งไปคา้ งเต่งิ อยู่บ นส วรรค์ช นั้ นงึ เนอะ เปน็ เทวดาชัน้ น งึ
ช้นั ป รนมิ ม ิตว สวัตตี เป็นท ีอ่ ยขู่ องพ วกทพ่ี อใจกบั ค วามสขุ ท ไี่ ดร้ ับ จ ากเคยอยเู่ คยท ำความดี
ในโลก อยู่ก ับคนท ่ดี ีๆ ในโลก จะไม่อ ยากไปนิพพาน พวกนมี้ ชี ่อื ชนั้ นี้ว ่า “เทวบตุ รมาร” เป็น
มารอ กี ชนิดห นง่ึ เหมือนบ างทเีราพอใจกับค วามสขุ รู้สึกไหมเรายงั ไม่อ ยากไปน ิพพาน เรายงั
หว่ งใยความส ุขกับค นรกั อยากจะอยใู่ กลช้ ิดยงั ไมอ่ ยากจะวางสิ่งเหล่าน้มี ันเสยี ดาย เสียดาย
สวนดอกไมท้ ่ีอตุ ส่าห์ปลกู ไว้ด ารดาษบ านสะพรง่ั แล้วเดินห ันหลงั ให้ส วนดอกไม้น ้ีโดยไม่เหลยี ว
กลับมาม องเลยม ันทำใจไม่ได้ห รอกโยม เขาจึงม ีชอื่ ว่าเทวบตุ รมาร ตอนท่พี ระพุทธเจา้ จะตรสั รู้
เทวบตุ รมารน ้ีจะมาป รากฏตัววา่ ไม่เสียดายหรอื จะไปนิพพานเน่ีย ไม่เสยี ดายความสุขท ี่ส ร้าง
สมม ามากมายเหลา่ นเี้หรอ บรวิ าร คนร กั คนเอาใจใสค่ นดูแล กามคณุ ทรพั ยส์ มบัติ หรอื ความ
สุขทางกามคณุ ๕ อันท ว่ มทน้ Fall in love เปน็ แบบนน้ี ะต ้องระวงั นะ ใช้ให้เปน็ น ะ อย่าใช้ให้
เป็นแ บบยาเสพตดิ ใชเ้ป็นแรงบันดาลใจในฝา่ ยดี
เด๋ียวรออ า่ นหนังสือน ะ เรอื่ ง “อยกู่ ับมาร” มารคอื “เทวบตุ รมาร” มารคอื
“อภิสงั ขารมาร” ทห่ี ลงค ิดป รุงแต่ง มาบ งั ความเปน็ จริง ความเปน็ จรงิ คือค วามป กติ เป็นกลาง
ออกไปน อกเรอื่ งแตก่ ็ไม่น อกเห็นไหม ออกไปน อกแล้วก็เข้ามาข้างใน เรื่องไม่พ ้นเรอื่ งขันธ์ ๕
เหน็ ไหมโยม ไมพ่ น้ เร่อื งข นั ธ์ ๕ หรอก ถา้ เข้าใจเร่ืองขนั ธ์ ๕ จะใชม้ ันอย่างถกู วิธี ถงึ เร่อื งความ
รกั นีก่ อ็ ยวู่ นเวยี นเรอื่ งข ันธ์ ๕ ไมไ่ ด้ห นไี ปจากไหน แลว้ ความรักเนี่ยมันป ระหลาดท วี่ ่า มนั ไม่
เหมือนกบั ห ลุมดำน ะ หลุมร ักเนย่ี ไม่เหมือนหลมุ ดำ หลมุ ดำมนั ดูดเอาไดแ้ คม่ วลสารในจกั รวาล
ไป แต่ห ลุมร กั ม ันดดู เอาขนั ธ์ ๕ ท้งั หมด โยมว่าจ รงิ ไหม หนนู อ้ ย ๓ ครงั้ ตกหลุมรกั ม า ๓ ครั้ง
มนั ด ูดเอาขนั ธ์ ๕ ไปหมดไหมตอนนนั้ ดใูหด้ นี ะ
อันที่ ๑ มันด ูดเอาส งั ขารข ันธ์ “ความคิดถงึ ” ใชไ่ หมโยม อนั ท่ี ๒ มันดูดเอาสญั ญาขันธ์
ผาซ อนแกว 42
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ย์ปฏบิ ัตกิ าร การบินไทย สุวรรณภูมิ วันท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
“ความทรงจำ” จำแตเ่ร่ืองเขาอะ่ ใชไ่ หม จำเสียง จำหน้า จำกิรยิ าท่าทาง จำช่อดอกไม้ในว ัน
วาเลนไทน์ (Valentine’s day) ซง่ึ ต อนน้ีไมม่ แี ล้วเนอะ ดูดอะไรอ ีก “เวทนาความรู้สกึ ต่างๆ”
วิญญาณ “การร บั รคู้ อยส อดสอ่ ง” คอยส ายตามองเห็นไหม ทีเ่ หลอื รปู ขนั ธ์ดดู เอาไปไหม..หมื
มีใครเคยสญู เสยี รปู ขันธใ์ ห้ค วามร กั บา้ งไหม รสู้ กึ ไหมว ่ามนั เปน็ ช่อดอกไม้ช น้ิ สุดท้าย ทีว่ างอยู่
หนา้ เทวาลัยแห่งศ รัทธา เอาไว้ว างไว้หน้าวหิ ารแหง่ ศรทั ธากค็ ือ เราศรทั ธาในความดีอนั น้ัน
รา่ งกายม นั เป็นแคข่ องขวัญเหมอื นด อกไมช้ ้ินหนึ่ง ท เ่ี อาไปว างไว้หนา้ วหิ ารแหง่ ศรัทธา โดยไม่
เสยี ดายใช่ไหมโยม มีใครเสียดายไหมเวลามคี วามรกั ไม่เคยเสียดายรา่ งกาย ไมเ่ คยเสียดายสงิ่
ตา่ งๆ ที่เป็นรูปขันธท์ หี่ ามาท ้ังหมด ไม่วา่ จะเปน็ ขนมหวาน ดอกไม้ พวงมาลยั หรอื เสอื้ ผา้ หรอื
อะไรท ัง้ หลายแหล่ท่เีอ้ืออาทรเปน็ ของขวญั ซ ึง่ กันและก นั ดีไหม
ร้สู ึกวา่ เทศนเ์ ร่ืองส ตไิ มค่ อ่ ยมีคนฟังนะ มีแต่ข าดสตเิ วลาฟงั เทศน์เรื่องความรักนี่มี
สติกนั ม ากเลย สาวๆ กลุ่มเนย่ี หลวงพอ่ เทศนเ์ รือ่ งสตนิ ะน ัง่ ... พอเทศน์เรือ่ งความรักต น่ื ตวั มี
สตใินการฟ งั ใช้ให้เปน็ น ะ ใช้ใหเ้ป็นจะมปี ระโยชน์ ใช้อ ยา่ งเขา้ ใจดว้ ย แตจ่ ะเข้าใจที่หลวงพอ่
เล่าน ่ีเพราะอะไรร ู้ไหม มันเปน็ การเขา้ ไปส ังเกต โยม เวลาคนท ต่ี กหลุมรกั ใหมๆ่ จะสบั สน มนั
สังเกตสภาวธ รรมไมอ่ อกว ่ามตี ัวอะไรบา้ ง ทำไมชว่ งน้ีเราสบั สนจ ัง เราหวนคดิ แตเ่ร่ืองแบบนี้ เรา
หวนคิดแ ต่เรอ่ื งแบบนี้ ถ้าโยมมองอ อกจะเห็นว่ามนั เกดิ อะไรข น้ึ ถึงไปค ดิ ถึงเรือ่ งแบบนัน้ กเ็ วลา
อารมณม์ ันถูกอพั (Up) ถูกไฮ (High) ขึ้นม านมี่ ันเกดิ อะไรข ้นึ ทำไมอารมณ์มันร ู้สกึ อารมณ์มนั
เรืองรองมันวูบๆ วาบๆ หรืออ ะไรม นั ด ูวิจติ รต ระการตาสวยงามไปหมดใชไ่ หม? หรือทำไมจติ
มันห วนไปคดิ ถึงนะ อ้อม ันไปคดิ ถึงก ารเสียสละ คดิ ถึงความดี คดิ ถึงความสขุ ทไ่ี ด้รบั จากผ สั สะ
เท่านเ้ีอง โยมทำงานวิจยั แ บบนเี้ นอะแลว้ จะใช้ม นั เปน็ ประโยชน์ ใช้แ บบไม่ต กหลุม จนไปพบก บั
หลุมลกึ ไปถึงห ลมุ นรก พูดง่ายๆ แ บบไปผ ูกพนั หว่ งใยวา่ ถ้าไมม่ ีส่งิ นี้ตายแน่ เนยี่ มนั เลยม คี วาม
ทกุ ขอ์ กี ต ัวหนงึ่ ท ่ีเกิดขึน้ อ ย่างป ระหลาด ความท กุ ข์อันนีช้ อื่ ว ่า “ความทกุ ข์ท่เี กิดจ ากความสุข”
นึกออกไหม
ซึ่งจ รงิ ๆ ส มัยกอ่ นก อ่ นท ่เี ราจะต กหลุมร กั เน่ีย เราอ ยคู่ นเดยี วได้ เราก ็เดนิ ช ้อปปงิ้
(shopping) คนเดียว กินข า้ วค นเดียว อยู่ค นเดยี วก็ม ีความสขุ ด ี พอเราไปม คี วามรกั เม่อื ไหร่
แล้วส ่งิ นั้นหายไป จะก ลบั กลายเป็นความท กุ ข์ที่อย่คู นเดียว...อา้ ว เนีย่ เขาเรยี กวา่ ความทกุ ข์
ท่เี กิดจ ากก ารส ญู เสียส งิ่ ท ่ีเปน็ ความสุขไป เราไปใหค้ า่ แ ลว้ จติ ใจก็ไปแ ปะไว้ข ้างนอก เขาถงึ
43 ผาซ อ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
เรยี กว่าใจลอยใจแตกไงโยม มนั ไปแปะอย่ขู า้ งนอกแล้วม นั พร้อมตกแ ตกกระจายอยเู่ สมอ มนั
ไมม่ าร วมอยู่ข ้างใน เมอ่ื กอ่ นเราอยูค่ นเดยี ว เราร กั ตัวเองอย่างน ้ี ดแู ลตัวเองม นั อยูก่ บั ต ัวเองเห็น
ไหมโยม จะห าอาหาร จะเดินด สู วนดอกไม้ จะทำอ ะไรมนั ดูแลตวั เองอ ยู่ พอเราไปฝ ากค วามสขุ
ไว้ก บั ข ้างนอก พอส ิง่ ข ้างนอกม ันพ ลดั พรากเมื่อไหร่มนั ก็เกดิ ก ารล ้มพังครืนลงไปส ิ ง้นั ค วามรกั
ไม่ได้ท ำอ ยา่ งน้นั น ะ ไมไ่ ดไ้ปย นื พิงกับอกี ฝ า่ ยห นง่ึ พับ อีกฝ่ายก ต็ อ้ งล ม้ พ งั ทลายไปด ว้ ย อันนน้ั
เป็นความล ม้ ละลายทางค วามรกั ไมใ่ ช่ค วามรกั จรงิ
พิธกี ร : มคี ำถ ามฝากมาตรงนส้ี องสามคำถ ามจะมีคล้ายๆกนั นะครับ ถามเรอ่ื งของจิต
และว ญิ ญาณนะค รบั ห ลวงพ่อ ว า่ มีความเหมือนห รือต่างกนั ยังไงครับ
หลวงพอ่ : อะไรน ะ?
พธิ ีกร : จิตก ับว ิญญาณค รบั
หลวงพ่อ : จริงๆ วญิ ญาณมันถกู เปล่ียนช ือ่ ไป จรงิ ๆ จิตมนั เปน็ ธ รรมชาติรบั รู้ พอมา
เป็นว ิญญาณมันถ กู เปล่ยี นช ่ือไปตามเซลลป์ ระสาทตา่ งๆ อยา่ งเช่นเปลี่ยนช่ือเป็นการรบั เสียง
เรียกวา่ โสตว ิญญาณ แต่ไอ้ธ รรมชาติ Original ของจติ เนย่ี ท ีเ่ ป็นธ รรมชาติกลางๆ เหมอื น
กระแสไฟฟา้ ท เ่ี ปน็ กลางๆ ทมี่ าจากเขื่อนม าจากอะไรก็แล้วแต่ แลว้ ก็มาเดินสายอยู่ อยา่ งน ้ีมัน
เปน็ ธ รรมชาตเิปน็ กลางๆไปเสียบปลกั๊ เป็นเครอื่ งเสียงเนย่ี น ะ แลว้ ก็กลายเป็นการรับเสยี งอ ยา่ ง
น้ี เอาไปเสยี บปลั๊กทีวี กก็ ลายเป็นภ าพอยา่ งน้ี จรงิ ๆ พลงั งานของจิตเปน็ พ ลังงานกลางๆ ที่
เป็นแ ค่ธ รรมชาตขิ องก ารรับรู้ เม่อื ไปเปล่ียนช ่องของเครื่องมือ ก็จะเปลีย่ นช ือ่ ไปต ามน้ัน กจ็ ะมี
ชอ่ื ว่า จักขุวญิ ญาณ โสตวิญญาณ ชวิ หาว ญิ ญาณ ฆานวญิ ญาณ อะไรตา่ งๆเป็นไปตามเครือ่ งมอื
หรอื สถานการณอ์ ันน้นั มนั ต่างกนั แคต่ รงนเี้ อง แต่ม ันเป็นตวั เดยี วกนั เปลี่ยนช่ือไปต ามก ารรบั รู้
เท่าน้ันเอง ถ้าเราเขา้ ใจอย่างน ้ีนะจ ะไม่ส งสยั งั้นไอก้ ารทเ่ี ราปฏบิ ตั ดิ ูจิตเนยี่ มนั ถ งึ คอยสังเกตท ่ี
ตัวจิต เพราะว ่าไมไ่ ด้ไปสนใจทหี่ ู มนั ร ับเสียงเสร็จป ับ๊ ม นั ตอ้ งส ่งอารมณ์มาท่ีจิตในก ารรับรู้อ กี
ทีหน่งึ มนั เหน็ ภาพม นั ก็ต้องส ง่ อ ารมณ์มาที่จิตในการรบั ร ู้อยู่ด ี นึกออกไหม แตถ่ า้ เราข าดสติ
ถลำไปต ามภาพถ ลำไปต ามเสียงเม่อื ไหร่กจ็ ะห ลงผดิ ค ิดว่าม นั เป็นต ัวตน นึกออกไหม แตพ่ อ
มันสง่ ม าท ่ีน่ีป๊บั พอม นั ปรุงแบบใดแบบหนง่ึ กร็ ู้ว่าอนั นจี้ ติ เร่ิมคดิ ป รงุ แต่งแล้วเริม่ เปล่ยี นไปอ กี
ผาซ อ นแ กว 44
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศนู ยป์ ฏิบตั กิ าร การบินไทย สุวรรณภมู ิ วนั ท่ี ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๒
ตวั แลว้ เปลย่ี นไปท ำงานอีกห นา้ ทห่ี นง่ึ พวกน ้เี ขาเรยี กอาการของจติ มีภาษาหรอื ภาษาเรยี กวา่
“เจตสิก” คอื ส่ิงท ที่ ำงานรว่ มกบั จ ติ พัฒนาจากไอ้จ ิตมาเป็นเจตสกิ อยา่ งน้ี เปน็ การทำงานหรอื
เปน็ อ าการ เราเลยไมค่ ่อยเหน็ ต วั จติ เดมิ แท้ นึกออกไหม ที่ไมม่ ีสภาวะป นเปอ้ื นเราเห็นแต่ต อนท่ี
มนั ท ำงานเป็นการรบั รู้แ ลว้ ห รือเปน็ ความคดิ อย่างนี้
พอค ดิ เรยี กวา่ “สงั ขาร” อย่างน ้ี พอส งั ขารมันค ิดก ็มี “เวทนา” เขา้ ไปรบั รูร้ องรบั
อารมณ์ แต่ท ง้ั หมดเนีย่ เราจะเห็นจิตส งั ขารทค่ี ดิ เน่ีย แสดงความเกดิ ดบั ให้ด ูก่อนอยา่ งเช่น คิด
ไมด่ ีอ ารมณไ์ม่ดีก็ดบั ไป คิดด อี ารมณด์ ีกด็ บั ไป หรือคดิ ในแง่พ อใจเกิดราคะกด็ บั ไป คิดในแง่
ไมพ่ อใจเกิดโทสะกด็ ับไป มันเอาตวั น ้มี าเปน็ งานวจิ ยั กอ่ นว า่ จ ิตเนีย่ มันท ำงานเกิดด ับ เกิดด บั
เกดิ ด บั จนปัญญาม นั ส รุปว่าไอ้น ่ีไมม่ ตี วั ตนน ่ี เปน็ ของเกิดดบั พอมันไม่สนใจไอ้จ ิตสังขารหรือ
สงั ขารน ิมติ ตวั น้ี มันกจ็ ะเขา้ ไปเหน็ จ ิตเดมิ แ ท้ ทเี่ ปน็ ตวั ห นา้ ท่ีรับรเู้นี่ย ซึง่ ไม่ได้ม ชี อื่ นึกออก
ไหม ไมม่ เีปลือกแ ต่วา่ มีการเกดิ ด ับเหมอื นกัน แตว่ ่าไมม่ ีชอื่ อย่างน้ีเค้าเรียกจติ เดิมแ ทท้ ีเ่ กดิ ดับ
วา่ ไมไ่ ดม้ ตี วั ตน หรอื ไม่มีเราอยใู่ นน ้นั มนั เป็นกระบวนการเหมือนกันนะ ซึง่ จะตอ้ งม กี ำลังของ
ปญั ญาท่ีเรยี กวา่ “วิปัสสนา” เนี่ยล ะ
พิธกี ร : ครบั ขอบพ ระคณุ ครบั ห ลวงพ่อ มีคำถ ามหนึง่ เร่ืองของสติปฏั ฐาน ๔ ถามว่าถ้า
เลือกปฏบิ ัติเพยี งข ้อใดขอ้ ห นง่ึ จะสามารถทจี่ ะหลุดพ้นไดไ้หมครับ หรือวา่ จะต้องป ฏบิ ตั ทิ ง้ั ๔
ข้อ
หลวงพอ่ : คือม นั เหมอื นกับว ่า ชวี ิตเนยี่ ม นั มีขนั ธ์ ๕ อยเู่น่ียโยม คือม ันม ีการรับรทู้ าง
ตา มคี วามรสู้ กึ เรยี กว่าเวทนา มีการจำม ีการคดิ เน่ยี เราจะเลือกส นใจแต่ต วั ใดต วั ห นง่ึ เนีย่
มันเหมือนเราป ฏิบตั ติ ่อเครอ่ื งมือท มี่ ีอยเู่ นี่ย ยากจนข ้นแค้นไปหน่อย จรงิ ๆ แลว้ มันทำงาน
ตลอดเวลาท ุกๆ ตัว ทำไมเราจ ะไม่สนใจอย่างเช่นเราจ ะด เู วทนาก็แล้วแต่ อย่างเช่นจะด ูเฉพาะ
ตอนเม่ือยต อนปวดอยา่ งน ้ี ทำไมเราไม่ยอมดูตัวอน่ื ไปดว้ ย เหมือนกับวา่ เราข เ้ี กยี จเรยี นน ะ่ เรา
จะเอาเฉพาะค นท ป่ี รากฏเท่านั้นถึงจ ะสนใจเทา่ นน้ั แลว้ ก็ทอดท ิง้ ตวั อนื่ ท้ังทีท่ ุกต ัวเนยี่ มันแ สดง
ลกั ษณะเหมอื นกนั ห มด คือล กั ษณะของค วามเกดิ ด บั แ ละไมใ่ ช่ต วั ตน นกึ ออกไหม ง้ันคนท ีเ่ ปิด
ทัศนะก วา้ งห นอ่ ยห ลวงพ่อเปรยี บเทียบเหมือนจอมยทุ ธ์ทมี่ ีกระบี่ในใจอะ่ คอื มนั ไม่ต อ้ งร อว า่
เดย๋ี วม ีปัญหาป ั๊บ เดย๋ี วเราคอ่ ยก ลบั ไปเอาหอกท บี่ ้านมาส ้นู กึ ออกไหมโยม เด๋ยี วไปต้ังตัวท่ีบา้ น
45 ผาซ อ นแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ไปสวดมนตห์ น้าห ง้ิ พ ระกอ่ นเพ่อื จะสู้ก เิ ลส มันย ืดเย้ือชกั ชา้ ไป ทำไมเราไม่ส ามารถใช้อ ปุ กรณ์
ทุกอยา่ งเน่ยี ในก ารเจริญส ติ แลว้ ก็ส ามารถใช้กับทุกขณะกับชีวิตประจำวนั โดยจะต อ้ งไปรอ
แค่ต วั เดยี วเท่านน้ั เองหรอื อย่างน้ีเป็นต้นน ะ งั้นการเจรญิ สตปิ ฏั ฐาน ๔ เนี่ย ถ้าฉ ลาดทกุ ตัวมนั
ทำงานอ ยแู่ ล้ว และทกุ ต ัวมันก ็เอ้อื ซ ึง่ ก ันแ ละกันอ ยู่แ ล้ว คือมนั อาศัยก นั และก ันเกิดข้นึ อย่าง
เวทนาเน่ยี โยมถ ้ามนั ไม่มีผัสสะท างกายม นั จะม ีเวทนาไปไดอ้ ย่างไร นกึ ออกไหม งัน้ การดูก าย
มันก ็จะเห็นเวทนาไปด ว้ ยอ ยู่ด เีนอะ
อยา่ งเช่นเทา้ กระทบพื้นกด็ ี ผวิ กายถ ูกอ ากาศกด็ ี เราจะร ้สู ึกอยู่ด ถี งึ เวทนาวา่ ส ุขหรือทกุ ข์
หรือว่าเฉยๆ นึกออกไหม เมอื่ ม เี วทนาปรากฏขนึ้ ทางใดทางหนงึ่ หรอื ผัสสะเกิดขึ้นท างใดทาง
หนงึ่ มนั ก ็จะต้องความเกดิ ปรงุ แต่งอ ย่ดู โียม ความคิดนะค ือค ิดช อบห รอื ค ิดไมช่ อบ หรือคิดถงึ
รูปท ่เี คยผ สั สะม าอ ย่างน ้ี มนั จะท ำงานกนั เปน็ กระบวนการอยดู่ ี แต่เราจ ะไปรอตัวหนง่ึ แบบ
ไร้เดียงสา หลวงพ่อว ่ามันแห้งแล้งไปน ดิ น งึ อยา่ งเชน่ จิตคิดอยา่ งนี้ จิตค ิดป ั๊บก ็ต้องมอี ารมณ์
เกิดข้นึ ผ สมอ ยูแ่ ลว้ อยา่ งเช่นค ดิ ไม่ดอี ารมณ์กต็ ้องไม่ดเี หน็ ไหม ก็เห็นเวทนาไปด ว้ ยอ ยูด่ ี งั้นไอ้
สง่ิ ที่คิดนั้นก ็เขา้ ไปเน่อื งอยูก่ บั อยา่ งเช่น คดิ ถงึ ร ปู อ ยากได้รปู อยา่ งนี้เห็นไหม มนั ก็เหมือนกบั มี
รปู เข้าไปผ สมอ ยู่ด ี แล้วม ันกอ็ าศยั รปู เกดิ ขึน้ ถ งึ ไดม้ ีจิตตวั นี้ จติ ต วั นกี้ ไ็ ม่มีตวั ตนเหมอื นกนั อยา่ ง
นี้ มันกอ็ ิงอ าศัยก นั อ ยู่ด ีละ โยม เพราะวา่ ไมม่ ีตัวใดต วั หนึง่ ทท่ี ำงานแบบโดดๆ คือเวทนาก็ไมไ่ ด้
มตี ัวตน
ตามด กู ายในกาย ตามด ูเวทนาในเวทนา แปลวา่ ในเวทนาน้นั ก็อาศยั สิง่ อนื่ เกิดข้ึนค อื
ผัสสะ ตามด ูจติ ในจ ติ เหน็ ไหม อาการของจ ติ ท ค่ี ดิ เปน็ โทสะเปน็ ร าคะหรือเปน็ โมหะ ก็ตอ้ งอ าศัย
สิ่งอ นื่ เกดิ ขึ้นคือความจำใชไ่ หม ความจำในร ูป ในรส ในกลนิ่ ในเสยี ง หรอื ความจ ำเร่อื งท ีผ่ า่ นมา
ถงึ จะนำมาค ิดได้ เมื่อคดิ แล้วกต็ ้องเกิดเปน็ เวทนาอีกต ัวหนึ่งขน้ึ ม า เชน่ คดิ ไมด่ ีก็เกดิ ท กุ ขเวทนา
อารมณ์ไม่ดี คิดด ีกจ็ ะเกิดสุขเวทนาฟๆู ฟอ่ งๆ ขน้ึ มาอ ย่างนเี้ ปน็ ต้นเนอะ หรือในธ รรมานุปสั ส
นาส ตปิ ฏั ฐานอย่างน ี้ม ันจะเปน็ ศ นู ย์รวมของส ติปัฏฐาน ๔ ทุกต วั คอื อนั ท ี่ ๑ เป็นการเห็นการ
ทำงานของข นั ธ์ ๕ เหน็ ไหมนค่ี รอบคลมุ ห มดแล้ว หลวงพอ่ ถึงบรรยายรวมๆเรือ่ งข ันธ์ ๕ เพราะ
ขนั ธ์ ๕ เนี่ยโยมส ามารถน ำไปแ จกแจงเป็นกาย เวทนา จติ ธรรม ได้ แตข่ ันธ์ ๕ เนยี่ เปน็ ศ ูนยร์ วม
เปน็ ศ นู ยร์ วมท ่ีพระพทุ ธเจา้ บอกว่าก จิ ต ่อทกุ ข์ให้ร ู้ และวา่ โดยย อ่ อปุ าทานขันธ์ ๕ เป็นทกุ ข์ กจิ
ต่อทุกข์ใหร้ คู้ ือร้จู ักส ภาวะของขันธ์ ๕ นน่ั แหละคอื ส ตปิ ฏั ฐาน ๔ โยม รู้จักสภาวะของขนั ธ์ ๕
ผาซอนแกว 46
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏิบตั ิการ การบินไทย สวุ รรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
น่นั แหละค ือวิปสั สนา
หลวงพอ่ กเ็ลยว่าโดยองคร์ วมทเ่ี ปน็ เร่อื งของข นั ธ์ ๕ เพราะมนั ครอบคลมุ ถ ึงเรอื่ งการ
เจรญิ ส ตปิ ัฏฐาน ๔ ในธ รรมมานปุ ัสสน าสติปฏั ฐานอยา่ งน้ี รูปขนั ธ์ปรากฏก็รวู้ า่ นี่รปู ข ันธ์ อย่าง
เชน่ เวทนาปรากฏกร็ ูว้ า่ เวทนา สัญญาป รากฏก็ร้วู ่าน่สี ัญญา แต่ค นส ว่ นใหญ่ค วามจำเกิดขึ้นก็
ไมร่ ู้วา่ น คี่ วามจำ อย่างเชน่ จ ำผ ิดวา่ เขาว่าเรา ก็ไม่ร วู้ า่ น่ีเป็นเพยี งแค่ค วามจำ ไม่ได้ม ีเขาจริงอยู่
ในความจ ำอนั นี้ หรอื มีเราอ ยู่จริงในความคดิ อ นั น้ี เปน็ แคส่ ังขารขนั ธ์ อันนี้เขาเรียกว่ารูจ้ ัก
สภาวะ รจู้ ักล กั ษณะกค็ อื ว่าม ันไม่ได้ม ีตัวตนม าก่อน มันอาศัยส ิ่งอน่ื เกดิ ขนึ้ เปน็ การเห็นลักษณะ
แล้วม ันก ไ็ ม่ค งที่มันเกิดด บั เห็นไหม อนั นเี้ขาเรียกวา่ เปน็ การตามร ูใ้นส ตปิ ัฏฐาน ๔ นะ
พระพทุ ธเจา้ จึงสอนใหด้ กู ายในกาย เกดิ ข้นึ เพราะอะไรก็ร้หู รือ เวทนาในเวทนาเกดิ ขึ้น
เพราะอะไรก ร็ ู้ ดับไปเพราะเหตอุ ะไรก ร็ ู้ จติ ในจติ เกิดจ ากอะไรก็รู้ ดับเพราะเหตอุ ะไรก็รู้ แล้ว
สงิ่ เหล่านีม้ ีอยู่เพ่ือรู้ไว้เท่านนั้ คือเพอื่ เอาไวเ้ป็นเครื่องเจริญปัญญา ตัวรูใ้หส้ กั แต่วา่ รดู้ ว้ ย
ใจเปน็ กลาง ถ้าเหน็ แบบนม้ี นั ก จ็ ะละไอค้ วามป รุงแตง่ โทมนสั เรียกว่าละอ ภชิ ฌาและโทมนัส
ในโลกอ อกเสียได้ คือในร ปู น าม หรือไมเ่ปน็ ท ่ีอาศัยข องตณั หากค็ ือละต วั ส มุทยั ไม่เป็นท ีอ่ าศัย
ของท ฏิ ฐิ กล็ ะส ักกายท ิฏฐไิปด ว้ ยโยม ทง้ั ไมย่ ดึ ถอื อะไรในโลกก็ล ะอปุ าทานขันธ์ ๕ อีกเห็นไหม
สติปฏั ฐาน ๔ นเ้ี ลยเป็นท างที่จะไปสู่พ ระนิพพาน เพราะเปน็ การละวางอุปาทานขนั ธ์ ๕ หรือ
ตัณหา คอื ส มุทัย หรอื ล ะท ฏิ ฐิ กค็ อื ล ะสักก ายท ฏิ ฐิในสงั โยชน์ ๑๐ ตงั้ แต่ต วั แ รกไปเลย เนอะ
แตม่ นั ต อ้ งเห็นค วามจรงิ ไง วา่ ไอ้น ี่เปน็ ก ระบวนการเหตุปจั จยั ท ัง้ สน้ิ
พิธีกร : ครบั กช็ ัดเจนนะครบั ว า่ ดูตวั ไหนก็ได้ เพราะทุกสง่ิ ทงั้ ๔ เนย่ี เกิดขนึ้ อยแู่ ลว้ ม ี
อยู่แ ลว้ มคี ำถ ามอกี ๒ คำถ ามครับ เรือ่ งค นทมี่ ีเป้าหมายจะปฏบิ ตั ิธ รรมจนพ้นทกุ ข์ทางใจ ควร
แตง่ งานห รือไมค่ ะฝากถ ามมานะครบั
หลวงพ่อ : แคค่ ิดน ่กี ท็ กุ ข์แ ล้วม ัง้ ยงั ไม่ไดแ้ ต่งเลย แคค่ ดิ จ ะแตง่ น กี่ เ็ ร่ิมท กุ ข์ (หลวงพ่อ
หัวเราะ) มนั อยูท่ ีค่ ทู่ ่ีเลอื กอ่ะโยม ทหี่ ลวงพอ่ บ อกอ่ะคือถ ้าเป็นเคร่อื งสนบั ส ุนนเปน็ กำลัง เปน็
แสงสว่าง ไม่ไดเ้ป็นภาระ ต้องตกลงก นั ใหด้ กี ่อนนะ ก ่อนจ ะแ ต่งงานว่าเรามเี ป้าหมายที่จะ
พน้ ทุกข์ไปพระนิพพาน ถ้าเขามเี ป้าหมายเหมอื นกนั แ ละใช้ช ว่ งเวลาที่อยดู่ ้วยกนั ในโลก ใชช้ ีวิต
ร่วมกนั เป็นการแ บง่ ปนั ก ารเรียนรู้ บางเร่ืองท ีเ่ รายังอาลยั อาวรณ์ หรือว่ายงั ไม่ช ัดเจน หรือยงั
47 ผาซอนแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
รสู้ กึ ว่ายังต อ้ งการเรยี นรเู้ พิ่มข้ึนอยา่ งเชน่ ในความรสู้ กึ ของความร กั อะไรอ ยา่ งน้ี เรายังร ู้สกึ ย งั
อยากร ้สู กึ เข้าใจมนั อกี น ิดน งึ ไมไ่ ดว้ า่ คา้ งเต่ิงแ บบไมเ่ ขา้ ใจ แลว้ ก็ยังโหยหาอยู่ ถา้ เขา้ ใจมันแลว้
มันท ำงานอ ย่างน น้ี ีเ่ อง ไม่มีอะไรไปม ากกวา่ น แี้ ล้ว มันเรยี กว่า ใจหายสงสยั เรยี กวา่ อาศัยกนั
และก ันเรียนรไู้ ปอย่างน ี้ได้ แตไ่ม่ใช่ว ่าไปยดึ ซ ่งึ กันแ ละกนั แลว้ ไปกนั ไมร่ อดท ้ังคู่ อยา่ งนี้กไ็ มค่ วร
ต้องตกลงก ันซะก ่อน ตกลงก นั ไดจ้ ริงๆ นะ วา่ เราจ ะอยู่เรามเี ปา้ หมายที่จะไปน พิ พานนะ เธอมี
เป้าหมายอ ย่างน ั้นเหมือนกนั มาแบง่ ปนั ก ารเรียนรรู้ ่วมกันเปน็ เพอื่ น เป็นเพื่อนก นั ในร ะหวา่ ง
เดนิ ทาง มปี ญั หาอะไรเราป รึกษากัน มีความไม่เขา้ ใจเราปรกึ ษากนั หรอื แบ่งปันความสขุ ์ ความ
ทุกข์ หรอื ก ารเรียนร้บู างเร่อื ง กแ็ ล้วกนั เนอะ
หลวงพ่อ : หรอื การแ บง่ ปันค วามส ขุ ความทุกข์ หรอื การเรียนรู้บ างเรื่องแล้วกนั นะ
อย่างเช่นความร ัก ความห อมหวาน ของค วามรักอนั อบอวล มุมใดม ุมห นง่ึ เข้าใจแลว้ แ ค่น้นั ก .็ ..
แต่ถ า้ ย งั ไมเ่รยี น บางทีมันก็...ก็ไมแ่ ล้วใจ กแ็ ลว้ แต่ก ำลงั ของแ ตล่ ะคนน ะ หลวงพอ่ ไมส่ ามารถจะ
ไปชว่ ยยนื ยนั ได้ว า่ มนั ค วรหรอื ไมค่ วร มันต ้อง...มันต้องใช้ด ลุ พนิ ิจว จิ ารณญาณ ของการลงทนุ
เพราะการล งทนุ มคี วามเส่ยี ง (หวั เราะ)
โยม : ครับ กเ็ หมือนทห่ี ลวงพอ่ บรรยายไปในเร่อื งของความรัก ก็คงใช้ห ลักการนนั้
แลว้ อ ีกค ำถามหนง่ึ ค รับ หลวงพ่อ ในเรื่องของ... เห็นถามวา่ กลัวอนาคตแ ละก ลัวตายจะแกไ้ ข
อย่างไรคะ
หลวงพอ่ : คนก ลัวต ายเน่ีย เพราะกลัวก ารสญู เสียผสั สะในกามคุณ ๕ กลวั ว า่ จะไมไ่ ด้
เห็นค นท ่ีรักอกี กลัวจะไม่ไดก้ นิ อาหารท่ีอร่อย ทเี่คยก ินมา กลัวจะไมไ่ ด้เห็นสวนดอกไมท้ ี่ป ลูกไว้
หนา้ บ้าน มนั ก ลัวก ารสูญเสยี ผ สั สะ ในก ามคุณ ๕ ทั้งหลายแหล่ มันคดิ วา่ ถ้าไม่มีร่างกายน้ีแลว้
กค็ งจะไม่ไดส้ ง่ิ เหลา่ นอ้ี ีกแลว้ ห รือไม่ไดส้ วมกอด โอบกอดผ ัสสะ ไม่ได้ผ สั สะ ไม่ได้เห็นท างลกู ตา
ทางห ู ทางจ มูก ทางลน้ิ ทางกาย สง่ิ เหล่าน้ีเป็นตน้ กลัวส ่งิ เหลา่ น้ี กลัวการสูญเสยี ก็ไปด ูว่า ไอ้
สิง่ ทเ่ี รากลวั การส ญู เสยี เน่ีย มนั มีคุณคา่ อ ยูจ่ รงิ หรือเปลา่ หรอื มีใครบ ้างในโลกน ี้ ทีเ่ ก็บส่งิ เหลา่ น้ี
ไว้ได้ต ลอดกาล ไม่มหี รอก มนั ม ีแ ต่ค วามไม่ค งท่ี เป็นการยึดกบั ความไมค่ งที่ ทีเ่ จ็บปวด และกลวั
การไมค่ งท่ี ซ่ึงม นั เปน็ ความผิดป กตนิ ะ (หัวเราะ) เพราะกฎของธรรมชาติมันค ือค วามไม่ค งที่ คือ
ความเปล่ยี นแปลง ซึง่ จ ะตอ้ งต อ้ นรบั ม ันนะ และกต็ อ้ งยอมรับค วามจริงว่า มีใครอ ยู่ในน นั้ การ
ผาซ อ นแกว 48
พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนยป์ ฏิบัติการ การบินไทย สุวรรณภมู ิ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
ไปสรา้ งท ศั นะแบบน้ี มนั เปน็ ทกุ ข์ซ ้อนทุกข์ คือค วามไมค่ งท่ี มันก็มอี ย่แู ลว้ แล้วไปอยากให้ม ัน
คงที่ อยากให้ม ันไมเ่ปลยี่ นแปลงเนย่ี โอโ้ห มันหาเรอ่ื งท กุ ข์ใจ แบบ..แบบไร้เดียงสา ต้อง..ต้อง
เผชญิ หนา้ ก ับค วามจริงนะ ยอมรบั ค วามจ รงิ และในสง่ิ ท่เี ขา้ ไปผูกพนั ท้งั ห ลายแหล่น ่ี ไม่ว่าจะ
กลับมา อีกก ่ภี พก่ชี าติ อกี ก ค่ี ร้ัง มันก ไ็ม่ค งทเี่ หมอื นเดิม ไม่มีวนั จบส้ิน
ถา้ ย งั พึงพอใจส่งิ น ีอ้ ยู่ คอื ไมร่ จู้ กั โทษข องมนั เพราะมนั คอื ความเสอ่ื ม คือความเปลีย่ น
แปลง คือค วามไมค่ งท่ี ซ่ึงไปฝากความห วงั ไว้ไม่ได้เลย กับความไม่ค งที่ อยา่ งลน้ิ ก ระทบล ้ิน
อยา่ งเนี้ย มนั ก็สลายทันทที นั ใด จะไปฝ ากความห วงั ไว้ ชอบแบบนอ้ี ีก มนั ต้องไปเจอความไม่
คงที่อกี ความไม่ค งท่ี แม้แตร่ า่ งกายธาตุ ๔ เนี่ย เปลี่ยนแปลงต ลอดเวลาอยู่แ ล้ว กลบั ม าอกี ก ็
ตอ้ งเจบ็ ปว่ ย เจ็บไข้ไดป้ ่วย ตอ่ ควิ โรงพยาบาล ตอกบัตร รถตดิ เจอเสียงท ่ไี มค่ าดคิด ซำ้ แล้วซ ้ำ
เล่า แล้วกไ็ มไ่ ดจ้ ากสิ่งเหลา่ นน้ี ะ ไอ้ค วามไดน้ ะ มนั เปน็ การห ลงเทดิ คา่ ช่อื อ ุปาทาน คดิ ว่ามันม ี
ค่า มันไม่ได้ม คี ่าอยจู่ รงิ หรอก มันเปน็ ความว ิปลาส วิปลาสมีอ ยู่ ๔ ตวั
อย่างเชน่ ว ปิ ลาสว า่ มันงาม ท่จี รงิ มันไมไ่ ด้งามห รอกนะ ไม่เชื่อโยมล องเปลยี่ นไปอ ยูก่ บั
พวกลงิ ชิมแปนซดี ู แยง่ ต ัวผกู้ นั ไอ้ต ัวเมียม นั แย่งต วั ผูก้ นั ให้เราไปแย่งด ้วยเอาไหม หรือ กอรลิ ล ่า
ตวั ผู้ ตวั เมยี ม ันช อบ เห็นไหมมันไมไ่ ด้งามจริงหรอกโยม หรือช้างน้ำ ปลาพะยนู สงิ โตทะเล สุนัข
จิง้ จอก หอยทาก ตวั อ ะไรก ็แล้วแตท่ ่ีมันห ลงเทดิ คา่ ซ่งึ กันและกัน งาม แล้วก็เข้าไปคลอเคลยี
เผลอเพลิน เผลอเพลินอยู่ช ว่ั ขณะ มนุษยใ์ ช้ค ำว่าเพลิดเพลิน ทจี่ ริงมันเผลอเพลนิ โยม เผลอ
เพลินจ รงิ ๆ ถ้าโยมเหน็ สตั ว์ เราจ ะรวู้ ่ามนั เผลอเพลนิ ไปช วั่ ขณะ หลวงพ่อเคยอ ยู่ทีม่ หดิ ลเน่ยี ตวั
ตะกวดแถวน นั้ น ะเยอะม าก มนั เดนิ อ อกม าจากพุทธมณฑล บางทีมันก ็เดินอ อกมาป้วนเป้ียนจบี
กนั อะไรอ ยา่ งนี้ เสพกาม คลอเคลยี พวั พันก ันไป เหน็ แลว้ มันกแ็ คค่ วามเผลอเพลินโยม ของ
ความไมร่ ู้เนีย่ แล้วมนั กไ็ปเทิดค่าเนยี่ วา่ ไอร้ า่ งกายของตัวตะกวดต วั ผู้ ตัวเมียเนยี่ สวย สำหรับ
เราน ี่ สวยไหม ไมส่ วยเหรอ ของเราต ้องจระเขเ้นอะ ใหญๆ่ ห น่อย (หวั เราะ) ตะกวดม นั ตัวเลก็ ไป
เห็นไหมโยมว า่ มนั ไปเทิดค า่ ว ่าสิง่ น ้นั สวย ข้างในนะ มนั เป็นธ าตุ ๔ เหมอื นกัน ขา้ งนอกมนั แค่
ปกป ดิ ไว้ช ่ัวขณะ ข้างในมนั เป็นธาตุ ๔ อย่างเสมอภาคก นั แต่เหน็ อยา่ งนี้นะโยม มันไม่เห็นอะไร
จะม อี ะไรงามจ รงิ เลย มนั เป็นแคธ่ าตุ ๔ บางทีเราไปไปเทดิ ค ่า จดุ น นู้ จ ดุ น ี้ข้ึนมา เลก็ ๆ นอ้ ยๆ
เรียกว่าไปสนใจแต่ละส่วนเลก็ ๆ ขึน้ มา ผ้หู ญิงกจ็ ะเอาก ระจกมาดูลกู กะตาเนอะ (หวั เราะ) ไป
เทิดคา่ แตล่ ะส ว่ นม ันขึน้ ม า..อมื สว่ นอื่นๆก็เชน่ เดียวกนั เนอะ ในตวั ทก่ี ลวั ตายเนี่ย เพราะวา่ มนั
49 ผาซอนแ กว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
ไปวิปลาส
อนั ท่ี ๑ กค็ อื นึกว ่าม ันงาม นึกว า่ สิง่ ทไ่ี ดม้ ามนั งาม จริงมันคือธ าตุ ๔ ท่ีแปลงร่าง ก็
เลยช่อื ว่ามหาภ ูตรปู เป็นภ ตู เปน็ ธ าตุ ๔ ทแี่ ปลงร่าง เป็นส่งิ ตา่ งๆ ซงึ่ ข้างในแ ล้ว เป็นธาตุ ๔
เหมอื นกนั เป็นแ คเ่ปลือกท ขี่ ้นึ มาบังอยู่ช ว่ั ขณะ แล้วสลายคืนสธู่ าตุ ๔
อนั ที่ ๒ ทว่ี ปิ ลาสนะ วปิ ลาสว่าเปน็ ส ิง่ ท่งีาม นกึ วา่ เป็นสภุ ะ จรงิ ๆ มันเป็นอ สภุ ะ
คือส ิ่งท่ีไมไ่ ดง้ามอ ยู่จรงิ อนั ที่ ๒ คือ คดิ ว่าส่งิ ท ่ีไดม้ าน ้ัน มันจะม่ันคง แต่จ ริงๆ แลว้ มันม ีแต่
ความเปลย่ี นแปลง มันไมม่ ีความอยกู่ บั ที่ มนั เปล่ยี นแปลงอยตู่ ลอดเวลา จะบอกว่าจะให้ค น
นี้เหมือนเดิม หลวงพ่อเห็นห ลายค นนะ ไมว่ า่ จะเป็นค นสวย คนหล่อในทีวที ผี่ า่ นๆ ไปนะ โอ้
โห พอถงึ เวลา “โห...เดยี๋ วนเี้ ปลย่ี นไปถ งึ ขนาดน้ีเลยเชียวหรอื เน่ยี ” ช่วั ขณะหน่งึ มนั แค่เป็น
ปรากฏการณท์ ี่เกดิ ข้นึ ช ว่ั ขณะ แลว้ มนั ก ็ส ลายไปๆมนั มีความเปล่ียนแปลง อย่าไปคิดวา่ ม ันจะ
ไมเ่ปล่ียนแปลง เปลี่ยนแปลงแ น่นอน
อนั ท่ี ๓ คิดวา่ ม นั จะไดค้ วามส ุข ไม่มีความสุขห รอก มีแตค่ วามไมค่ งท่ี เรียกวา่ ทุกข
ลักษณะ ทุกขลักษณะคือค วามไม่ค งทข่ี องทุกส รรพสงิ่ มนั จะค งทถี่ าวร เปน็ ไปไม่ได้ ความไม่
คงที่ ชอ่ื วา่ ทุกขลกั ษณะน ะ ไม่ใช่ท กุ ขเวทนาน ะ ไมใ่ ช่ว า่ เมอื่ ยว า่ ปวดนะโยม คำวา่ ทุกข์ ทุกขใ์น
อริยสัจเนย่ี หรอื ท ุกขใ์นไตรลกั ษณเ์น่ยี ทุกข งั เน่ยี แปลว ่า“ทกุ ขล กั ษณะ”ทมี่ นั ไม่สามารถ
คงจะท ่ีอยไู่ ด้ หรือท รงตวั ด้วยต วั เองไมไ่ ด้ เพราะว่าอ าศยั ส ิง่ อน่ื ประกอบขึ้น มันเลยท รงตัว
ดว้ ยต ัวเองอยู่ไม่ได้ นกึ ออกไหม ไม่ว่าอะไรก แ็ ลว้ แต่ รสที่สมั ผัสล น้ิ อย่างน้ี มนั ไมส่ ามารถทรงตวั
อยไู่ ด้ เพราะวา่ ม นั อ าศัยเหตปุ ัจจยั ประกอบก นั เข้า แลว้ มันก ็เลยไมม่ ีตัวตนด ว้ ย คือเปน็ อนัตตา
แต่ก ็วิปลาสค ิดวา่ มนั เป็นอตั ตา คดิ ว่าม ันเป็นของตวั ตน จริงม ันไม่ใช่ข องตวั ตน เพราะมันอาศยั
ปัจจัยอ นื่ ประกอบก นั เขา้ เห็นมย้ั มันเลยไม่มีตัวตนด ว้ ยต นเอง มองภาพแ บบนน้ี ะ มันกจ็ ะละไอ้
ความรูส้ กึ ข องก ารท เ่ี ข้าไปย ึด การเข้าไปอยาก การเข้าไปเสยี ดาย หรอื วา่ การกลัวตาย กลวั อะไร
ตา่ งๆข้นึ ม าเนี่ย กลวั สูญเสยี ส ง่ิ น้ี จริงๆมันส ูญเสยี อ ยู่ท ุกขณะอยแู่ ล้วนะโยม จากความสลายไป
ทุกขณะๆของมนั
โยม : ครับ ก็ต่อไปก ค็ งจะเปน็ คำถ ามสุดทา้ ยน ะค รบั เพราะวา่ กจ็ วนเวลาแล้ว ก็พอดี
เปน็ ค ำถามเรอ่ื งข องส ภาวะ ถามมาว า่ ในขณะที่เรานอนหลับ และมีความรสู้ ึกวา่ มีความคิด
ผาซอ นแกว 50