พระอาจารยอำนาจโอภาโส : บรรยายธรรม ณ ศูนยป์ ฏิบัติการ การบินไทย สวุ รรณภมู ิ วันท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๒
เกิดข้ึนแ ลว้ กม็ สี ตเิ ข้ามารวู้ า่ กำลงั คิดอ ยู่ หลังจากน้ันส ่ิงตา่ งๆก็จางดับไป ขอค วามเมตตาพ ระ
อาจารยช์ ่วยแ นะนำ การป ฏบิ ตั ดิ ว้ ยค ่ะว า่ ถูกตอ้ งไหม อย่างไร
หลวงพ่อ : กเ็ ป็นอ ย่างง้ันอ ยแู่ ลว้ ธรรมชาติมนั ก็ตอ้ ง.. มนั ก็เผลอค ดิ แลว้ ก็ดับไป เผลอ
คดิ แล้วกด็ บั ไป คือในระหว่างความฝ ัน กับค วามคิดเนี่ย หรอื ค วามตาย หรอื ก ารไปเกิดใหม่
เนย่ี โยม มนั ทำงานจ ากจ ติ ประเภทเดยี วกนั น ะ ชื่อว่า “จิตส งั ขาร” ตอนฝนั เนย่ี จติ สังขาร
ทำงาน ตอนค ดิ เนีย่ จติ ส ังขารทำงาน ตอนต ายแลว้ จิตสังขารก ท็ ำงาน หรอื วา่ ร่างกายส ลาย
ไปแลว้ เพราะวา่ ค ำว ่าจติ สังขาร สังขารแปลว า่ “การผ สม” เวลาฝนั มันผสมม าจากความจำ
เอาหน่วยความจำผ สม ผสมกับค วามจำและเวทนา เห็นไหม เนยี่ ผสม เอาความจำก บั เวทนา
ผสมก ัน ประมวล มกี ารประมวลดว้ ยน ะ ประมวลดว้ ยทิฐิหรือท ศั นคติ เห็นไหม และกก็ ลายเปน็
เนื้อเรอ่ื งของค วามฝัน และก ม็ ีอกี สิง่ ห นึง่ ท่ีเข้าไปรบั รคู้ วามฝ นั เรียกวา่ วญิ ญาณ คือธรรมชาติ
ของก ารร ับรู้น ะ อยา่ งเน้ยี และก ็ ๔ ตวั นี้ ทำงานอยู่ เห็นภาพนะ ในฝนั ม ันก็เลย สามารถ
ท่ีจะแบบถงึ ห ลบั ตาอ ยู่ ก็ สามารถเห็นภูเขา เหน็ ผู้คนมากมาย ไดย้ นิ เสียง ได้กล่ินยงั มีเลยน ะ
ไดก้ ลิน่ ในสงิ่ ท่ีฝนั ได้กลนิ่ ดอกไม้ ไดก้ ล่ินหอมๆไดก้ ล่นิ เหม็นน่ากลัวกแ็ ลว้ แต่ เน่ยี กระบวนการ
ที่ทำงาน
เวลาท ี่เผลอค ดิ หรือน ่งั ตงั้ ใจคดิ กเ็หมือนกนั เวลาคดิ ถา้ ตง้ั ใจคดิ โยมก ็ตอ้ งไปดึงเอา
ความจำม าคิดอยู่ด ี นึกออกไหม เพียงแตม่ นั ตัง้ ใจไปด งึ เอาค วามจำนมี้ าคิด อย่างนี้ แลว้ มาผ สม
กบั เวทนา แลว้ ก ลายเปน็ ความคดิ แล้วกม็ วี ญิ ญาณเข้าไปรองรบั ไอ้ต อนเผลอค ิดก เ็ หมอื นกัน
มนั ไมไ่ ด้ต ัง้ ใจ แต่วา่ ไอ้ค วามจำเกา่ ๆ มนั โผล่ข ึ้นม า แลว้ มันก็เอามาคดิ ส ะเปะสะปะไปเรื่อยๆ
แลว้ ก ลายเป็นเวทนา แล้วกม็ วี ญิ ญาณเข้าไปร องรบั ตอนต ายก เ็ หมือนกนั คือร่างกายธาตุ ๔ มนั
สลายแ ล้ว ไอ้น ่ีมันท ำงานด้วยต วั เองได้ไงโยม ใชไ่ หม แตถ่ ้าขาดสติ นกึ ออกไหม ไปเผลอค ิด
เร่อื งไมด่ ี ก็จะไปอ บายภมู ิ หรอื ถ ้าคดิ เร่ืองด ี กจ็ ะไปส ูส่ ุขค ติ แตถ่ ้าเหน็ วา่ จ ิตคิดแ ลว้ ไม่เอา
วาง ก็จะไปพ ระนพิ พาน แตถ่ า้ มนั ฝ ึกต ง้ั แตย่ งั ไม่ตาย แล้วเข้าใจขบวนการนอ้ี ยแู่ ล้วน ะ ก็จะ
เห็นทั้งหมด เปน แคข่ บวนการธรรมชาติ ไม่มอี ะไรไปม ากกวา่ นี้แล้วนะโยม (หวั เราะ) มันจะมี
อะไรไปมากกว่าข นั ธ์ ๕ ไปไดย้ ังไง ลองถ ามด ูซิ ใช่ไหมโยม มันก ็ทำงานร่วมกันเป็นแ กง๊ อยแู่ ค่
เนย้ี ถา้ เข้าใจแลว้ ทัง้ หมดน้ี อยใู่นกฎของไตรลกั ษณ์ เพราะว่า ไอ้จ ติ ส ังขารที่เอามาฝ นั เอามาคดิ
มันก ไ็มม่ ตี วั ตน มนั ก ็ต ้องผสมด ้วยค วามจำไง ตอ้ งเขา้ ใจคำว า่ ไม่มตี ัวตนน ะ หรือวา่ ไมใ่ ช่ต ัวตน
51 ผาซอ นแกว
พระอาจารยอำนาจโอภาโส
เพราะว่าม นั ต ้องอาศยั ปจั จยั อ นื่ เกดิ ขึน้ ไมม่ ีตัวตนด้วยตนเองอยา่ งน้ี เข้ามุมมองอยา่ งนจ้ี ะเห็น
ความเปน อ นัตตา เข้าใจอนัตตางา่ ยขึน้
............................................................
ขออนุโมทนาแด..ผู รวมถอดไฟลเ สยี งทุกทาน
๑. คณุ ปอ (ธ รวรรณ เจียรกุล)
๒. คุณหญิง (ว ราภรณ์ เณรยอด)
๓. คณุ น้ำ (สิริอาภา ทองสงู )
๔. คุณเหมยี ว (สชุ าดา ล้ิมพรภักดี)
๕. คุณย ้ยุ (อมั พร ประเสริฐศรีชะนะ)
๖. คุณเอ้ือย (จิตรลดา คมคาย)
๗. คณุ โอ๋ (ศวิ าพร ขวญั รกั ษ)์
๘. คุณฉิน (ณัฐทยา ขวญั รกั ษ์)
๙. คณุ เต (ธนยั ธนกิจอุดมชยั )
คุณจัน (จนั ทนา ตง้ั ทรงวุฒ)ิ คณุ แ อน (พมิ พใ จ ปุญญะปัญญา) : ร วบรวม ตรวจท าน
คณุ พอไกอู (ธานี ชินชูศ กั ด์)ิ : พสิ จู นอ ักษร, จัดรูปเลม PDF สำหรับเผยแพรบนเวบ็
* เนอื่ งจากไฟลเสียงมขี นาดยาว จึงแ บงใหอ าสาสมัครไดร ว มบญุ ถอดเสียงคนละ ๑๕ นาทคี รับ : (พอ ไกอ ู)
ผาซ อ นแกว 52