“ถูกละ ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเราเมื่อความเกี่ยวข้องมีอยู่ จึงไปสำนัก
อาจารย์ แต่บัดนี้ความเกี่ยวข้องเธอตัดได้แล้ว เธอห้ามตนด้วยตนเอง
บรรลุพระอรหัตแล้ว”
ดังนี้แล้ว ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า
“บุรุษผู้ข้ามอกุศลวิตกด้วยหิริได้ น้อยคนจะมีในโลก
บุคคลใดกำจัดความหลับ ตื่นอยู่
เหมือนม้าดีหลบแส้ไม่ให้ถูกตน
บุคคลนั้นหาได้ยาก
ท่านทั้งหลายจงมีความเพียร มีความสลดใจ
เหมือนม้าดีถูกเขาตีด้วยแส้แล้ว มีความบากบั่น ฉะนั้น
ท่านทั้งหลายเป็นผู้ประกอบด้วยศรัทธา ศีล วิริยะ สมาธิ
และด้วยคุณเครื่องวินิจฉัยธรรม มีวิชชาและจรณะถึงพร้อม
มีสติมั่นคง จักละทุกข์อันมีประมาณไม่น้อยนี้ได้”
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติ-
ผล เป็นต้น ดังนี้แล
166
à µ× Í ¹ µ ¹ ´é Ç Â µ ¹
à¸Í¨§µÑ¡àµ×͹µ¹´éǵ¹
¨§¾Ô¨ÒóҴٵ¹¹éѹ´éǵ¹
ÀÔ¡ÉØ à¸Í¹Ñé¹ÁÕÊµÔ »¡¤Ãͧµ¹ä´éáÅéÇ
¨Ñ¡ÍÂèÙʺÒÂ
µ¹áËÅÐ à»ç¹¹Ò¶Ð¢Í§µ¹
µ¹áËÅÐ à»ç¹¤µÔ¢Í§µ¹
à¾ÃÒЩйéѹ à¸Í¨§Ê§Ç¹µ¹
ãËéàËÁ×͹ÍÂèÒ§¾èͤéÒÁéÒ Ê§Ç¹ÁéÒµÑÇà¨ÃÔ ©Ð¹Ñé¹
~ ÀÔ¡¢ØÇÃä ~
¾Ãйѧ¤Å ¡Ù¯à¶ÃÐ
มนุษย์เข็ญใจผู้หนึ่งทำการรับจ้างผู้อื่นเลี้ยงชีพ ภิกษุรูปหนึ่ง
เห็นเขานุ่งผ้าท่อนเก่า แบกไถ เดินไปอยู่ จึงพูดอย่างนี้ว่า
“ก็เธอบวชจะไม่ประเสริฐกว่าการเป็นอยู่อย่างนี้หรือ”
เขาตอบว่า
“ใครจักให้กระผมผู้เป็นอยู่อย่างนี้บวชเล่าขอรับ”
“หากเธอจักบวช ฉันก็จักให้เธอบวช”
“ดีละขอรับ ถ้าท่านจักให้กระผมบวช “
กระผมก็จักบวช”
ครั้งนั้น พระเถระนำเขาไปสู่พระเชตวัน เจ้าผู้ไม่มีหิริ หมดยางอาย
ให้อาบน้ำ ให้บวช แล้วให้เขาเก็บไถพร้อม
กับผ้าท่อนเก่าที่เขานุ่งไว้ที่กิ่งไม้ใกล้ เจ้าอยากจะนุ่งห่มผ้าขี้ริ้วผืนนี้
บริเวณนั้น เมื่อบวชแล้ว เขาได้ปรากฏชื่อ สึกไปทำการรับจ้างเลี้ยงชีพหรือ
ว่า นังคลกูฏเถระ
”
พระนังคลกูฏเถระนั้นอาศัยลาภสักกา
ระซึ่งเกิดขึ้นเพื่อพระพุทธเจ้าทั้งหลายเลี้ยง
ชีพอยู่ ต่อมาเกิดความกระสันขึ้น เมื่อไม่อาจบรรเทาได้ จึงตกลงใจว่า
“บัดนี้จักไม่นุ่งห่มผ้ากาสายะทั้งหลายที่เขาให้ด้วยศรัทธา ไปล่ะ”
ดังนี้แล้ว ก็ไปยังโคนต้นไม้ ให้โอวาทตนเองว่า
“เจ้าผู้ไม่มีหิริ หมดยางอาย เจ้าอยากจะนุ่งห่มผ้าขี้ริ้วผืนนี้ สึกไปทำการ
รับจ้างเลี้ยงชีพหรือ” Audio 23
เมื่อท่านโอวาทตนอยู่อย่างนั้นแล จิตได้คลายกระสัน
แล้ว ท่านจึงกลับมา โดยกาลล่วงไป ๒-๓ วัน ก็กระสันขึ้นอีก
169