The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-06-06 05:32:43

แผนการจัดการเรียนรู้สังคม ม.6

ครูธีระศักดิ์

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 33101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จ านวน 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จ านวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ครูผู้สอน นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์ การก าหนดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรอง การใช้แผนการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐชยา ถนิมกาญจน์) รองผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอน เพราะเป็นเอกสาร หลักสูตร ที่ใช้ในการบริหารงานของครูผู้สอนให้ตรงตามนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา กำหนดไว้ในแผนหลักคุณภาพ การศึกษา สนองจุดประสงค์และคำอธิบายรายวิชาของหลักสูตร ในการบริหารงานวิชาการถือว่า “แผนจัดการเรียนรู้” เป็นเอกสารทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของครู เพราะในแผนจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย ๑. การกำหนดเวลาเรียน กำหนดการสอน กำหนดการสอบ ๒. สาระสำคัญของเนื้อหาวิชาที่เรียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๔. กิจกรรมการเรียนการสอน ๕. สื่อและอุปกรณ์ ๖. การวัดผลประเมินผล การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นการสร้างผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานที่แสดงถึงความชำนาญใน การสอนของครู เพราะครูใช้ศาสตร์ทุกสาขาอาชีพของครู เช่นการออกแบบ การสอน การจัดการ และการ ประเมินผล ในการจัดทำแผนจัดการเรียนรู้นั้นจะทำให้เกิดความมั่นใจในการสอนได้ตรงจุดประสงค์การเรียนรู้ เพิ่ม ประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบสูงขึ้น ทั้งยังเป็นข้อมูลในการนิเทศติดตามตรวจสอบและ ปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างมีระบบและครบวงจร ยังผลให้คุณภาพการศึกษาโดยรวมพัฒนาไปอย่างมีทิศทาง บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์ ครูผู้สอน


สารบัญ เรื่อง หน้า กำหนดการใช้แผน คำนำ วิเคราะห์หลักสูตร ▪ คำอธิบายรายวิชา ▪ ตารางวิเคราะห์รายวิชา ▪ โครงสร้างรายวิชา วิเคราะห์ผู้เรียน ▪ ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ ▪ แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล/ความถนัด/ความสนใจ การวัดผลประเมินผล แผนการจัดการเรียนรู้ ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 พระพุทธศาสนาเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยและวิธีการ แก้ปัญหา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ความสำคัญของพระพุทธศาสนา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 พุทธประวัติและชาดก ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 ศาสนิกชนตัวอย่าง ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 พระรัตนตรัย : พระสงฆ์ ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 ทุกข์ (จิต-เจตสิก) ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 ธรรมที่ควรบรรลุ ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 ธรรมที่ควรเจริญ ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 มงคล 38 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 พระไตรปิฎก ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 พุทธศาสนสุภาษิต ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 คำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 หน้าที่ชาวพุทธ


เรื่อง หน้า ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 มารยาทชาวพุทธ ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 ศาสนพิธี ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 การบริหารจิตตามหลักสติปัฏฐาน ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 ความสำคัญของการบริหารจิต ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 การเจริญปัญญา ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาสังคมไทย ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 พระพุทธศาสนากับการพัฒนาแบบยั่งยืน ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 ค่านิยม จริยธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 การขจัดความ ขัดแย้งเพื่อการอยู่รวมกันอย่างสันติสุข ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27 หลักธรรมทาง ศาสนากับการพัฒนาสังคม


ค ำอธิบำยรำยวิชำ รายวิชา สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่1 รหัสวิชา ส 33101 เวลา 40 ชั ่วโมง/ปี ศึกษา วิเคราะห์ พระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของเหตุ ปัจจัยกับวิธีการแก้ปัญหา พระพุทธศาสนาสอนการฝึกตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพแก่ บุคคล สังคม และโลก พระพุทธประวัติด้านการ บริหารและการธ ารงรักษาศาสนา เป็นมนุษย์ผู้ฝึกตน ได้อย่างสูงสุดในการตรัสรู้ การก่อตั้ง วิธีการสอน และการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา (พระอานนท์ พระปฏาจาราเถรี นางจูฬสุภัททา นายสุมนมาลาการ) ศาสนิกชน ตัวอย่าง (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทโท) พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ. ปยุตโต) ท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ) ชาดก (มหาชนกชาดก) วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา พระรัตนตรัย หลักธรรมในกรอบ อริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุกข์ (จิต – เจตสิก) สมุทัย (ปฏิจจสมุปบาท นิวรณ์ 5 อุปาทาน 4) นิโรธ (นิพพาน) มรรค (อธิปไตย 3 สาราณียธรรม 6 ทศพิธราชธรรม 10 วิปัสสนาญาณ 9 มงคล 38 (ความ เพียรเผากิเลส ประพฤติพรหมจรรย์ เห็นอริยสัจ บรรลุนิพพาน)) พุทธศาสนสุภาษิต (พระราชาเป็น ประมุขของประชาชน สติเป็นเครื่องตื่นในโลก สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง) คุณค่าและ ความส าคัญของพระไตรปิฎก ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีต่อสมาชิกในครอบครัวและคน รอบข้าง ปฏิบัติตนเป็นพุทธมามกะ ปฏิบัติตนตามศาสนพิธี พิธีกรรม วิเคราะห์หลักธรรม คติธรรมที่ เกี่ยวเนื่องกับวันส าคัญทางพระพุทธศาสนา สวดมนต์ แผ่เมตตา และบริหารจิตและเจริญปัญญาตาม หลักสติปัฏฐาน พัฒนาการเรียนรู้ด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ 10 วิธี สัมมนาและเสนอ แนวทาง ธ ารงรักษาศาสนาที่ตนนับถืออันส่งผลถึงการพัฒนาตน พัฒนาชาติ และโลก โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ สถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติ และกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถน าไปปฏิบัติในการด าเนินชีวิต น าไปแก้ปัญหา และพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และโลก มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการท างาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สมารถด าเนินชีวิต อยู่ร่วมกันได้ อย่างสันติสุข ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.4-6/2 ม.4-6/9 ม.4-6/10 ม.4-6/13 ม.4-6/14 ม.4-6/15 ม.4-6/18 ม.4-6/19 ม.4-6/20 ม.4-6/22 ส 1.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 รวม 14 ตัวชี้วัด


โครงสร้ำงรำยวิชำ พระพุทธศาสนา ม.6 ล าดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั ่วโมง) น ้าหนัก คะแนน 1 ประวัติและความส าคัญ ของพระพุทธศาสนา ส 1.1 ม. 4-6/9 ม. 4-6/10 พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษาที่ เน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยกับวิธีการ แก้ปัญหา เพื่อการพัฒนาตน ได้ถูกต้อง พระพุทธศาสนาสอนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพแก่บุคคล สังคม และโลก 5 2 พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอย่าง และชาดก ส 1.1 ม. 4-6/2 ม. 4-6/14 พระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ผู้ฝึกตนได้อย่างสูงสุด ตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง ทรงก่อตั้ง และเผยแผ่ พระพุทธศาสนา และมีวิธีการสอนหลากหลาย วิธี การศึกษาประวัติสาวก ชาดก และศาสนิกชนตัวอย่างท าให้ได้แบบอย่างและข้อคิดที่ดี เพื่อการด าเนินชีวิต 6 3 หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา ส 1.1 ม. 4-6/13 หลักธรรมในกรอบอริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เป็นหลักส าคัญในการ ด าเนินชีวิตที่น าไปสู่ความพ้นทุกข์หรือหมด ปัญหา เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองไป ในทางที่ดีงาม 8 4 พุทธศาสนสุภาษิต ค าศัพท์ทาง พระพุทธศาสนาและ พระไตรปิฎก ส 1.1 ม. 4-6/13 ม. 4-6/15 พระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์ที่บันทึกหลักธรรมค า สอนของพระพุทธศาสนา พระไตรปิฎกมีการ สังคายนาสืบทอดกันมาหลายครั้ง จึงเป็นคัมภีร์ ที่เชื่อถือได้อีกทั้งยังมีพุทธศาสนสุภาษิตปรากฏ อยู่เป็นจ านวนมาก ผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติตาม สามารถน าไปเป็นแนวทางในการด าเนินชีวิต ได้ดี 3 5 หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ ส 1.2 ม. 4-6/1 ม. 4/6-3 ชาวพุทธทุกคนพึงปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี ต่อสาวก สมาชิกในครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และโลก แสดงตนเป็นพุทธมามกะ เป็นการยอมรับว่าตนเป็นชาวพุทธมี พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง 4


โครงสร้ำงรำยวิชำ พระพุทธศาสนา ม. 6(ต่อ) ล าดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั ่วโมง) น ้าหนัก คะแนน 6 วันส าคัญทาง พระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ส 1.2 ม. 4-6/2 ม. 4/6-4 การปฏิบัติตนตามศาสนพิธี พิธีกรรม หลักธรรม ที่เกี่ยวเนื่องในวันส าคัญและเทศกาลส าคัญของ พระพุทธศาสนาย่อมท าให้เกิดความสุขสงบและ เข้าถึงพระรัตนตรัย 4 7 การบริหารจิตและการ เจริญปัญญา ส 1.1 ม. 4-6/19 ม. 4-6/20 การสวดมนต์ แผ่เมตตา การบริหารจิตตามหลัก สติปัฏฐานอย่างสม ่าเสมอ และการใช้วิธีคิดแบบ โยนิโสมนสิการ ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาจิตและ การคิดอย่างถูกต้องและยังส่งผลต่อการพัฒนา คุณภาพชีวิตไปในทางที่ดีงาม 4 8 พระพุทธศาสนากับ การแก้ปัญหาและ การพัฒนา ส 1.1 ม. 4-6/22 การจัดกิจกรรมศาสนสัมพันธ์มีความส าคัญต่อ การแก้ปัญหาในแต่ละสังคมและพัฒนาสังคม ให้ดีขึ้น 3 9 หลักธรรมทางศาสนา กับการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข ส 1.1 ม. 4-6/18 ค่านิยมและจริยธรรมเป็นสิ่งเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ของทุกศาสนา ซึ่งมีความเชื่อเป็น ของตนเอง มีผลต่อการร่วมมือกันในการขจัด ความขัดแย้งเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 3


โครงสร้ำงแผนฯ พระพุทธศาสนา ม. 6 เวลา 40 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัด การเรียนรู้ วิธีสอน/กระบวนการจดั การเรียนรู้ ทกัษะการคิด เวลา (ชั ่วโมง) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ประวัติและความส าคัญ ของพระพุทธศาสนา 1. พระพุทธศาสนาเป็น ศาสตร์แห่ง การศึกษา - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการเรียงล าดับ 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4. ทักษะการสรุปลงความเห็น 1-2 2. พระพุทธศาสนาเน้น ความสัมพันธ์ของ เหตุปัจจัยและวิธีการ แก้ปัญหา - วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการเรียงล าดับ 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4. ทักษะการสรุปลงความเห็น 1 3. ความส าคัญของ พระพุทธศาสนา - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการเรียงล าดับ 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4. ทักษะการสรุปลงความเห็น 1-2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอย่าง และชาดก 1. พุทธประวัติและชาดก - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการจัดระเบียบ 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 2. ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคการต่อ เรื่องราว (Jigsaw) 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการจัดระเบียบ 3. ทักษะการสรุปอ้างอิง 4. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 3. ศาสนิกชนตัวอย่าง - วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการจัดระเบียบ 3. ทักษะการสรุปอ้างอิง 4. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา 1. พระรัตนตรัย : พระสงฆ์ - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความ ตระหนัก 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 1 2. ทุกข์ (จิต-เจตสิก) - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างเจตคติ 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1 3. สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิด 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 4. ธรรมที่ควรบรรลุ - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคโต๊ะกลม 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 1 5. ธรรมที่ควรเจริญ - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 1-2


3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 6. มงคล 38 - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1


โครงสร้ำงแผนฯ พระพุทธศาสนา ม. 6 (ต่อ) หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัด การเรียนรู้ วิธีสอน / กระบวนการจัด การเรียนรู้ ทกัษะการคิด เวลา (ชั ่วโมง) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พุทธศาสนสุภาษิต ค าศัพท์ทาง พระพุทธศาสนา และ พระไตรปิฎก 1. พระไตรปิฎก - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคเล่าเรื่อง รอบวง 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการท าให้กระจ่าง 3. ทักษะการสรุปอ้างอิง 1 2. พุทธศาสนสุภาษิต - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1 3. ค าศัพท์ทาง พระพุทธศาสนา - วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสรุปลงความเห็น 3. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 หน้าที่ชาวพุทธและ มารยาทชาวพุทธ 1. หน้าที่ชาวพุทธ - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 2. มารยาทชาวพุทธ - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 วันส าคัญทาง พระพุทธศาสนาและ ศาสนพิธี 1. วันส าคัญทาง พระพุทธศาสนา - วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) 1. ทักษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการสร้างความรู้ 3. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 1-2 2. ศาสนพิธี - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา - ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การบริหารจิตและ การเจริญปัญญา 1. การบริหารจิตตาม หลักสติปัฏฐาน - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ 1. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 2. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1 2. ความส าคัญของ การบริหารจิต - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก 1. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 2. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1 3. การเจริญปัญญา - วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา 1. ทักษะกระบวนการคิด อย่างมีวิจารณญาณ 2. วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ 3. ทักษะการหาแบบแผน 1-2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 พระพุทธศาสนากับการ แก้ปัญหาและการพัฒนา 1. พระพุทธศาสนา กับการแก้ปัญหา สังคมไทย - วิธีสอนแบบแก้ปัญหา 1. ทักษะการรวบรวมข้อมูล 2. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 3. ทักษะการคิดแก้ปัญหา 1 2. พระพุทธศาสนา กับการพัฒนา แบบยั่งยืน - วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) 1. ทักษะการรวบรวมข้อมูล 2. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 1-2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 หลักธรรมทางศาสนากับ การอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุข 1. ค่านิยม จริยธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างเจตคติ - ทักษะกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 1 2. การขจัดความ ขัดแย้งเพื่อการอยู่ รวมกันอย่างสันติสุข - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคเล่าเรื่อง รอบวง - ทักษะกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 1 3. หลักธรรมทาง ศาสนากับการ พัฒนาสังคม - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคการต่อ เรื่องราว (Jigsaw) - ทักษะกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 1


การวัดผลประเมินผล การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ / รายวิชา ในแต่ละตัวชี้วัดชั้นปี ซึ่งสถานศึกษา วิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด การประเมินสาระการเรียนรู้รายวิชา ให้ตัดสินผลการประเมินเป็นระดับ ผลการเรียน ๘ ระดับ ดังนี้ คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ ระดับผลการเรียน “๔” หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม คะแนน ๗๕ – ๗๙ ระดับผลการเรียน “๓.๕” หมายถึง ผลการเรียนดีมาก คะแนน ๗๐ – ๗๔ ระดับผลการเรียน “๓” หมายถึง ผลการเรียนดี คะแนน ๖๕ – ๖๙ ระดับผลการเรียน “๒.๕” หมายถึง ผลการเรียนค่อนข้างดี คะแนน ๖๐ – ๖๔ ระดับผลการเรียน “๒” หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง คะแนน ๕๕ – ๕๙ ระดับผลการเรียน “๑.๕” หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ คะแนน ๕๐ – ๕๔ ระดับผลการเรียน “๑” หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำ คะแนน ๐ - ๔๙ ระดับผลการเรียน “๐” หมายถึง ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์การประเมิน ในกรณีที่ไม่สามารถให้ระดับผลการเรียนเป็น ๘ ระดับได้ให้ใช้ตัวอักษร ระบุเงื่อนไขของผลการเรียน ดังนี้ “มส” หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาไม่ถึงร้อย ละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแต่ละรายวิชา และไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการ วัดผลปลายภาคเรียน “ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผู้เรียนไม่มีข้อมูลการเรียน รายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่ง งานที่มอบหมายให้ทำ ซึ่งงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินผลการเรียน หรือมี เหตุสุดวิสัยที่ทำให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มีคุณภาพดี เลิศอยู่เสมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ แต่ยังมีข้อบกพร่องบาง ประการ ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หรือถ้ามี ผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลายประการ


แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทูี่1 พระพุทธศาสนาเป็ นศาสตร์แห่งการศึกษา เวลา 1-2 ชั ่วโมง 1. สาระสา คญั/ความคิดรวบยอด พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษามุ่งการฝึกอบรมตนให้พัฒนางอกงามด้านกาย ศีล และจิตใจ ซึ่งมี กระบวนการพัฒนาตนอย่างเป็นระบบ 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.4-6/9 วิเคราะห์พระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยกับวิธีการ แก้ปัญหาหรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือตามที่ก าหนด 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายความหมายของการศึกษาในฐานะเป็นศาสตร์แห่งการศึกษาได้ 2) วิเคราะห์การพัฒนาตนตามกระบวนการศึกษาได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา 3.2 สาระการเรียนร้ทู้องถิน่ (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการเรียงล าดับ 3) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4) ทักษะการสรุปลงความเห็น 4.2 ความสามารถในการใช้ทกัษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน


6. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบธรรมสากจัฉา นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย และท าสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ง ประวตัิและความสา คญัของพระพทุธศาสนา ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน สื่อการเรียนรู้ : ตัวอย่างข่าว ครูน าข่าวบุคคลในอาชีพต่างๆ ที่มีการพัฒนาตนในด้านกาย ศีล และ จิตใจ ตามหลักพระพุทธศาสนา มาให้นักเรียนวิเคราะห์การกระท าที่ สอดคล้องกับการพัฒนาตน จากนั้นให้นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด นักเรียนมีการกระท าที่แสดงว่า ได้พัฒนาตน อย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่าง (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสอน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ม.6 2. หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3. ใบงานที่ 1.1 – 1.4 4. ห้องสมุด 5. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ ขั้นที่ 1 แสวงหาความรู้ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันแสวงหาความรู้ เรื่อง พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่ง การศึกษา ในหัวข้อ การพัฒนาตนให้งอกงาม 4 ด้าน บุรพภาค ของการศึกษา และกระบวนการศึกษา โดยศึกษาความรู้ จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และ แหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษา ลงในแบบบันทึกการอ่าน 2. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ 2 ค้นพบความรู้/สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ 1. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 3 คู่ ให้แต่ละคู่ช่วยกันท าใบงาน ดังนี้ - คู่ที่ 1 ท าใบงานที่ 1.1 เรื่อง การพัฒนาตนให้งอกงาม - คู่ที่ 2 ท าใบงานที่ 1.2 เรื่อง บุรพภาคแห่งการศึกษา - คู่ที่ 3 ท าใบงานที่ 1.3 เรื่อง กระบวนการศึกษา 2. นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้ตามหัวข้อ ที่ได้รับ และจากผลงานในใบงานที่คู่ของตนรับผิดชอบ จากนั้น ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยค าตอบในใบงานที่ 1.1 - 1.3 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด การพฒันาตนให้เจริญงอกงามนัน้จะต้อง พัฒนาในด้านใด (พัฒนากาย ศีล จิตใจ และปัญญา) คา ถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า การพฒันาคนให้เจริญงอกงาม นัน้จะต้องเริ่มต้นพฒันาด้านใดเป็นเบื้องต้น จงอธิบายเหตุผล (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน)


ขั้นที่ 3 วิเคราะห์และประเมินค่าความรู้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันท าใบงานที่ 1.4 เรื่อง การพัฒนาตน ของเกียรติ 2. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน กลุ่ม ละ 1 ข้อ และให้กลุ่มอื่นที่มีผลงานแตกต่างกันออกไปได้น าเสนอ เพิ่มเติม โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ 4 พิสูจน์ความร้หูรอืปฏิบตัิ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการปฏิบัติตนในการท ากิจกรรม ที่สอดคล้องกับการพัฒนาตนให้งอกงาม ตามองค์- ประกอบที่ เรียกว่า “บุรพภาคแห่งการศึกษา” และกระบวนการศึกษา 2. นักเรียนแต่ละคนปฏิบัติตนตามแผนที่ก าหนดและบันทึกผลการ ปฏิบัติต่อครูผู้สอน หรือผลัดกันน าเสนอผลการปฏิบัติที่หน้าชั้น เรียน ตามความเหมาะสม 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด องค์ประกอบส าคัญในการสนับสนุนการ พัฒนาตน ได้แก่อะไร (องค์ประกอบภายใน คือ คิดเป็น คิดถูก มีเหตุผล และองค์ประกอบภายนอก คือ การรับการถ่ายทอดจากสภาพแวดล้อมทาง สังคมที่ดี) คา ถามกระตุ้นความคิด การดา เนินการในการพฒันาตนของนักเรียน ส่งผลดีต่อตนเอง และสังคมอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบ (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสรุป สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : — ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความหมายของการศึกษาในฐานะของ พระพุทธศาสนา บุรพภาคของการศึกษา และกระบวนการศึกษา 7. การวดัและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.2 ใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.3 ใบงานที่ 1.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.4 ใบงานที่ 1.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการน าเสนอผลงาน แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ม.6 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม - สุชีพ ปุญญานุภาพ. (2551). คณุลกัษณะพิเศษแห่งพระพทุธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย. 3) ตัวอย่างข่าวเกี่ยวกับบุคคลในอาชีพต่างๆ ที่มีการพัฒนาในด้านกาย จิต ศีล ตามหลักของพระพุทธศาสนา 4) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง การพัฒนาตนให้งอกงาม 5) ใบงานที่ 1.2 เรื่อง บุรพภาคแห่งการศึกษา 6) ใบงานที่ 1.3 เรื่อง กระบวนการศึกษา 7) ใบงานที่ 1.4 เรื่อง การพัฒนาตนของเกียรติ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.pitsaporn.ob.tc/p3.html - http://www.oknation.net/blog/Atata/2011/06/07/entry-1


ตัวอย่ำงข่ำวเกี่ยวกับบคุคลในอำชีพต่ำงๆ ที่มีกำรพฒันำในด้ำนกำย จิต ศีล ตำมหลักของพระพุทธศำสนำ นักธุรกิจเพชรพนัล้าน “ชูชยัชยัฤทธิเลิศ” มุ่งหน้าหาธรรม ลด ละ กิเลส เมื่อไม่นานมานี้เจ้าแม่วงการเพชร เจ้าของแบรนด์ “เซ็นต์โทรเพต์ไดมอนด์” และดีไซเนอร์คนเก่งอย่าง อ้อย-อัจฉราวดี วงศ์ สกล ได้โบกมือลาธุรกิจค้าเพชร เพื่อหันหน้าสู่ธรรมะแบบเต็มตัว หลายคนที่ยังห่างไกลจากธรรมะอาจสงสัยว่า การศึกษาธรรมะแท้จริง แล้วสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ขนาดนี้เชียวหรือ วันนี้ WhO? มีข้อมูลมาสนับสนุนในกรณีธรรมะเปลี่ยนชีวิตได้จริง เมื่อ ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจม พีส บาย ชูชัย จ ากัด นักธุรกิจเพชรพันล้าน ได้เดินหน้าสู่พระธรรมด้วยการปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นกับ หลวงพ่อพิชัย สุธมฺมสุชาโต ศูนย์ ปฏิบัติธรรม เมืองอริยะ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยถามว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจ ท าให้เขาต้องเดินหน้าปฏิบัติธรรมอย่าง จริงจังเช่นนี้ เพื่อหาค าตอบเรา จึงได้ติดตามคุณชูชัยไปปฏิบัติธรรมที่เมืองอริยะเป็นครั้งที่สอง หนังสือธรรมะคือจุดเริ่มต้น สิ่งที่ได้เห็นแทบไม่น่าเชื่อ เจ้าของร้านเพชรพันล้านจะมานั่งปฏิบัติธรรม สนทนาธรรม ได้ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ แล้วก่อน รับประทานอาหารเช้า ยังได้เห็นคุณชูชัยและญาติธรรม กล่าวขอบคุณอาหารว่า “อาหารที่กินไม่ได้ ต้องการน ามาบ ารุงบ าเรอให้ สวยงาม แต่เป็นการเอื้อให้ร่างกายเราอยู่ได้ อย่าไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้” พอรับประทานอาหารเสร็จยังได้เห็นเขาเดินไปล้างจาน ด้วยตนเอง เสร็จภาระกิจในช่วงเช้า คุณชูชัย มีสีหน้าที่เอิบอิ่มไปด้วยบุญ ได้เดินมาทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมเล่าถึงที่มาของการ ปฏิบัติธรรมให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเลยเป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะ เช่น ธรรมะให้สติ ให้มีความสุข รวมทั้งหนังสือแนวปรัชญาชีวิต “อยู่อย่างสง่า" ของ ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ เพราะท าธุรกิจไม่มีที่ปรึกษา หนังสือเหล่านี้เหมือนเป็นเพื่อนแล้วสอนให้เป็นคนอดทน หลายปีที่ผ่านมาได้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อ าเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี แต่ได้อะไรไม่มาก กระทั่งปีที่ผ่านมาท างานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนมีน้องชื่อแหม่มเป็นเซลล์ที่ติดต่อกันเป็นประจ า ชวนให้ไปปฏิบัติธรรมกับ หลวงพ่อพิชัย หลายครั้งที่เจอแหม่มก็จะพูดเชิงบ่นว่า อยากจะพาไปปฏิบัติธรรมเหลือเกิน และทนค ารบเร้าไม่ไหวเลยรับปากไปว่า ขอจัดงานเพชรใหญ่ในชีวิตให้เสร็จเสียก่อนแล้วจะไป (เขาท าน ้าเสียงดูอ่อนล้าเต็มที) นัง่สมาธิให้สติเบา สบาย ครั้งแรกที่ตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม เขากลัวจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน แต่น้องแหม่มต่อรองอยู่วันเดียวก็ได้แต่ขอให้ลองสนทนาธรรม กับหลวงพ่อพิชัยสัก 4 ชั่วโมง อาจได้ข้อคิดดีๆ จากนั้นได้เริ่มปฏิบัติธรรมวันแรกนอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีความกังวลต้องตื่นตีห้าครึ่ง แต่ที่แปลกอดนอนตลอดคืนกลับไม่รู้สึกอ่อนเพลีย และมีความรู้สึกจิตใจเบา สบาย รู้ทันทีว่าชีวิตที่อยู่ต่อไปจะต้องท าอย่างไร และที่นี่ จะไม่เดินจงกรม แต่สอนให้นั่งสมาธิเพื่อให้มีสติ ต่อมาเขาได้มีโอกาสสนทนาธรรม และได้ถามหลวงพ่อถึงปัญหาคาใจว่า ท าไมศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ถึงมีที่พักอย่างดีมีทั้งแอร์ เครื่องท าน ้าอุ่น ทุกอย่างกระจ่างเมื่อหลวงพ่ออธิบายให้ฟังว่า “เพราะมนุษย์มันยังติดยึดกิเลสกันเยอะ ยังติดสุขอยู่ ถ้ามาแล้วเห็นความ ล าบากกันก็จะไม่อยากมา” พอคุณชูชัยได้ค าตอบจากหลวงพ่อแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่า นี่คงเป็นกุศโลบายเพื่อให้คนอยากเดินทางมา ปฏิบัติธรรมนั่นเอง


ตัวอย่ำงข่ำวเกี่ยวกับบคุคลในอำชีพต่ำงๆ ที่มีกำรพฒันำในด้ำนกำย จิต ศีล ตำมหลักของพระพุทธศำสนำ กรรม !...ลิขิตชีวิต ระหว่างที่คุณชูชัยสนทนาธรรม ยังได้มีค าถามหลวงพ่ออีกว่า คนเราท าบุญได้บุญจริงหรือไม่ ค าตอบที่ได้เขาถึงความกระจ่าง และเข้าใจ โดยหลวงพ่อบอกว่าได้บุญจริงแท้แน่นอน เราอยากรู้ว่าชาตินี้ที่เราเกิดมา บางคนแขนด้วน ตาบอด ยากจนแสนเข็ญ ท่าน บอกว่าอยากรู้ก็ให้พึงสังวรระลึกเอาเลยว่า “เพราะชาติที่แล้วท าอะไรไว้บ้าง ชาตินี้ควรจะต้องรู้ว่าอะไรที่ต้องท า แต่ถ้าชาตินี้ไม่สร้าง บุญเพิ่ม จะเห็นว่าบางคนอยู่ดีๆ กลับไม่มีแผ่นดินอยู่ก็มี” (เขายิ้มแล้วบอกว่าหลวงพ่อพูดให้ฟังแบบนี้จริงๆ) หลวงพ่อยังให้ข้อคิดอีกว่า ลาภยศสรรเสริญได้มาจากจิตที่บริสุทธิ์ ต่างยังแสวงหา และต่างยังยึดติด “เราก็ตกใจเลยถามหลวง พ่อว่า ก าลังเปิดร้านให้ครบ 10 สาขา ตรงนี้ผิดไหม หลวงพ่อบอกว่า จริงๆ เป็นไปได้อยากให้ละวาง แต่ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ สิ่งที่ท าต้อง ยกเหนือใจแล้วต้องมีสติ ไม่หวั่นไหวกับจิตที่ส าเร็จหรือไม่ส าเร็จ แต่ต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ว่าสิ่งที่ท าไม่ได้ท าเพื่อตนเอง แต่ถ้าท าไปเพื่อ ทานภาวนา ก็จะได้บุญกุศลแถมได้อานิสงส์ในการภาวนานี้ดีถ้าน าเงินนั้นมาต่อยอดบุญด้วยการท าทานท ากุศล แต่จิตต้องพึงมี สติปัญญารักษาใจตลอดเวลา” นี่เป็นการปฏิบัติธรรมที่ท าให้เขาเข้าใจชีวิตมากขึ้น และการนั่งสมาธิได้กลายเป็นกิจวัตรประจ าวันไป แล้ว โดยคุณชูชัยบอกว่า “ชีวิตในวันนี้ต้องนั่งสมาธิประมาณ 15 นาที หรือ 20 นาที ต่อวันเพื่อตัดกิเลส แล้วการนั่งสมาธิมีหลายแบบ โดยหลวงพ่อท่านจะสอนให้เพ่งไปที่ลมหายใจ เพ่งไปที่รูป เพ่งไปที่ศีล ที่ส าคัญใจเราอย่าวอกแวก ถ้าเรานั่งได้ก็จะท าให้เรามีสติ ตราบใดที่เรามีสติก็จะท าให้เราเริ่มรู้ว่า อะไรถูกต้อง อะไรผิด อะไรปล่อยวาง อะไรละได้ อะไรละไม่ได้” “บาปกรรม” ลบล้างไม่ได้ ไม่โทษใคร ไม่โกรธใคร ให้อภัย นี่คืออภัยทาน ที่เป็นบุญสูงสุด คุณชูชัย บอกว่า “ถ้าคนเราคิดได้แบบนี้ก็จะไม่เกลียด ไม่โกรธ ท าให้เข้าใจชีวิต เพราะหลวงพ่อยังสอนว่า จงท าดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน ถ้าคิดว่าจะเด่นก็ต้องยอมรับตรง จุดนั้นให้ได้ที่ส าคัญต้องรู้จักการให้อภัย ความกังวลอยู่ที่ไหน ความทุกข์อยู่ที่นั่น แค่คิด 10 นาทีว่ามีใครมาว่า เราก็ทุกข์ไป 10 นาที ยิ่งคิดนาน 10 ชั่วโมง เราก็ทุกข์ไปถึง 10 ชั่วโมงเหมือนกัน มีเพื่อนบางคนยืมเงินไปเป็นล้านบาทไม่ยอมให้ ถ้าเป็นสมัยก่อนจะไม่ยอม แต่วันนี้ธรรมะสอนให้เราเป็นผู้ให้ ไม่คิดพยาบาท คิดเพียงว่าเงินที่เพื่อนไม่ให้ ชาติที่แล้วเราอาจไปยืมแล้วไม่คืนเขา เราคิดเท่านี้ก็ท า ให้เราสบายใจ ทุกวันยังต้องแผ่เมตตาให้กับสัตว์โลก ให้เทวดาฟ้าดินที่ปกป้องตัวเรา ให้คุณบิดามารดาที่ดูแลเรา ให้ครูบาอาจารย์ที่สั่ง สอนเรา ให้เพื่อนฝูง ให้สัตว์เลี้ยง และให้ญาติพี่น้อง ไม่ลืมที่จะต้องให้เจ้ากรรมนายเวรตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน ทั้งที่ระลึกได้และระลึก ไม่ได้ ถ้ามีอะไรที่เบียดเบียนกันก็ขอให้อโหสิ แล้วยังต้องแผ่ให้เทพพราหมณ์ 16 ชั้นฟ้า 16 ชั้นดิน เราก็จะเกิดความสุข และหลวงพ่อ ยังบอกว่าบาปที่ทุกคนท ามา ไม่มีทางล้างออกได้ นอกจากบุญเท่านั้น” นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของ “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” ที่ใช้ธรรมะหยุดความ อยาก แปรเปลี่ยนเป็นผู้ให้ เพียงเท่านี้ใจก็เป็นสุข ที่มา : http://www.oknation.net/blog/sutku/2008/10/28/entry-1 สืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554


ใบงำนที่1.1 เรื่อง การพัฒนาตนให้งอกงาม ค าชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ แสดงการพัฒนาตนหรือการฝึกอบรมตนให้งอกงามตามหลักพระพุทธศาสนา การพัฒนาตน หรือการฝึ กอบรมตน พัฒนากาย พัฒนาศีล พัฒนา ปัญญา พฒันาจิตใจ ควบคุมกาย ควบคุม วาจา ด้านความ ดีงาม ด้านความ แข็งแกร่ง ด้าน ความสุข


ใบงำนที่1.1 เรื่อง การพัฒนาตนให้งอกงาม เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ แสดงการพัฒนาตนหรือการฝึกอบรมตนให้งอกงามตามหลักพระพุทธศาสนา (ตัวอย่าง) (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) การพัฒนาตน หรือการฝึ กอบรมตน พัฒนากาย พัฒนาศีล พัฒนา ปัญญา พฒันาจิตใจ ควบคุมกาย ควบคุม วาจา ด้านความ ดีงาม ด้านความ แข็งแกร่ง ด้าน ความสุข เพิ่มความรู้ ให้ตนเอง เรียนรู้ศิลปวิทยาที่ดี ขวนขวายใคร่เรียนรู้ สิ่งต่างๆ อยู่เสมอ รู้จัก วินิจฉัย รู้จักใช้ปัญญา แก้ไขปัญหาชีวิต รู้จักคิด รักษาสุขภาพ ร่างกายให้แข็งแรง มีความเป็นอยู่ ถูกสุขลักษณะ ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม อย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์ ไม่ท าร้ายข่มเหงผู้อื่น ไม่พูดเท็จ ไม่พูดค าหยาบ ไม่พูดส่อเสียด เมตตา เอื้อเฟื้อ กรุณา กตัญญู ช่วยเหลือ ผู้อื่น สัมมาคารวะ จิตใจเด็ดเดี่ยว ต่อเป้าหมาย มีสติ มีวิริยะ มีสมาธิ มีขันติ มีสัจจะ ไม่เครียด สงบ ปลอดโปร่ง ร่าเริง เบิกบาน จิตใจสดชื่น


ใบงำนที่1.2 เรื่อง บุรพภาคแห่งการศึกษา ค าชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ อธิบายบุรพภาคแห่งการศึกษาหรือองค์ประกอบที่สนับสนุนการพัฒนาตน องค์ประกอบภายนอก ที่สนับสนุนการพัฒนาตนเอง บุรพภาคแห่งการศึกษา (องค์ประกอบสนับสนุนการพัฒนาตน) องค์ประกอบภายใน ที่สนับสนุนการพัฒนาตนเอง


ใบงำนที่1.2 เรื่อง บุรพภาคแห่งการศึกษา เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ อธิบายบุรพภาคแห่งการศึกษาหรือองค์ประกอบที่สนับสนุนการพัฒนาตน (ตัวอย่าง) (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) พ่อแม่ รู้จักคิด รู้จักใช้เหตุผล ใช้ความคิดอย่างถูกวิธี คิดเป็น ได้รับการถ่ายทอด สั ่งสอน อบรม องค์ประกอบภายนอก ที่สนับสนุนการพัฒนาตนเอง บุรพภาคแห่งการศึกษา (องค์ประกอบสนับสนุนการพัฒนาตน) องค์ประกอบภายใน ที่สนับสนุนการพัฒนาตนเอง ครู อาจารย์ เพื่อน สื่อมวลชน วัฒนธรรม ที่ดีงาม ท าให้เกิดผล คือ - ได้รับข่าวสารความรู้ที่ถูกต้อง - ให้ทัศนคติที่ดีงาม โยนิโสมนสิการ สภาพแวดล้อมทางสังคมที่ดี “ปรโตโฆสะ”


ใบงำนที่1.3 เรื่อง กระบวนการศึกษา ค าชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ แสดงกระบวนการศึกษาตามขั้นตอนไตรสิกขาตามหัวข้อที่ก าหนด กระบวนการศึกษา ตามขั้นตอน ไตรสิกขา การฝึ กฝนอบรม ด้านความประพฤติ การฝึ กฝนอบรม ด้านจิตใจ การฝึ กฝนอบรม ด้านปัญญา


ใบงำนที่1.3 เรื่อง กระบวนการศึกษา เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ แสดงกระบวนการศึกษาตามขั้นตอนไตรสิกขาตามหัวข้อที่ก าหนด (ตัวอย่าง) (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) กระบวนการศึกษา ตามขั้นตอน ไตรสิกขา การฝึ กฝนอบรม ด้านความประพฤติ การฝึ กฝนอบรม ด้านจิตใจ การฝึ กฝนอบรม ด้านปัญญา รู้เท่าทันโลกและชีวิต เกิดความรู้ความเข้าใจ ตามความเป็นจริง ละเว้นประพฤติผิดในกาม ละเว้นการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดค าหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ละเว้นการฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ละเว้นการลักทรัพย์ รู้ความเป็นไปตามเหตุปัจจัย ที่น ามาใช้ในการแก้ไขปัญหา ท าจิตใจให้บริสุทธิ์ มีจิตใจผ่องใส จิตเป็นสมาธิ จิตใจดีงาม ว่องไว ปลอดโปร่ง และเป็นสุข จิตใจเข้มแข็ง


ใบงำนที่1.4 เรื่อง การพัฒนาตนของเกียรติ ค าชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบค าถาม ค าถาม 1. เกียรติได้พัฒนาตนให้เจริญงอกงามตามหลักของพระพุทธศาสนาอย่างไร 2. องค์ประกอบส าคัญที่ท าให้เกียรติสามารถพัฒนาตนได้ดี คืออะไร 3. เกียรติได้ฝึกตนเองตามกระบวนการศึกษาอย่างไร เกียรติเป็นพุทธบุตรอาสาของวัดปัญญานันทาราม ทุกวันอาทิตย์เขาจะไปวัดช่วยบริการและแนะน าข้อมูล ต่างๆ ให้แก่ผู้ที่มาวัดครั้งแรกที่ไม่รู้วิธีการปฏิบัติตนในการร่วมกิจกรรมในงานท าบุญ ฟังธรรมที่ลานหินโค้ง เกียรติ จะแสดงความมีน ้าใจช่วยเหลือทุกคนที่เขาช่วยได้ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะเหนื่อย แต่เขาก็มีความเข้มแข็ง อดทน พฤติกรรมของเกียรติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชาวพุทธทั่วไป การไปวัดอย่างสม ่าเสมอทุกวันอาทิตย์นั้น นอกจากเกียรติ จะได้ช่วยกิจกรรมของวัดแล้ว เขายังได้สนทนาธรรมกับผู้รู้ทั้งหลาย และได้ฟังธรรม ซึ่งท าให้ได้ข้อคิดส าคัญ เกียรติ จะรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล เมื่อมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นเขาก็สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง มีเพื่อนหลายคนได้ถามเขาว่า ท าไมเขาจึงสามารถฝึกฝนควบคุมตนเองทั้งด้านกาย วาจา และใจ ได้อย่างมั่นคง เกียรติก็จะแนะน าขั้นตอนของการ ปฏิบัติของไตรสิกขา เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนบ้าง


ใบงำนที่1.4 เรื่อง การพัฒนาตนของเกียรติ เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบค าถาม ค าถาม 1. เกียรติได้พัฒนาตนให้เจริญงอกงามตามหลักของพระพุทธศาสนาอย่างไร เกียรติได้พัฒนากาย โดยมีการปรับตนเองเข้ากับสิ่งแวดล้อมในวัดปัญญานันทารามอย่างถูกต้อง เขามีพฤติกรรมที่แสดงถึง การควบคุมกาย วาจา ใจ มีการพัฒนาจิตใจให้มีความเข้มแข็งอดทน เขาจะมีความสุขใจเสมอ นอกจากนั้นเขายังได้เพิ่มพูนความรู้ จากการสนทนาธรรมและฟังธรรมให้เกิดปัญญา 2. องค์ประกอบส าคัญที่ท าให้เกียรติสามารถพัฒนาตนได้ดี คืออะไร 1) องค์ประกอบภายนอก คือ เกียรติได้รับการถ่ายทอดอบรมให้ความรู้จากการฟังธรรมและสนทนาธรรมทุกอาทิตย์ จัดเป็นสภาพแวดล้อมภายนอกที่ดี 2) องค์ประกอบภายใน คือ เกียรติรู้จักคิดอย่างถูกวิธี และมีเหตุผล สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ถูกต้อง 3. เกียรติได้ฝึกตนเองตามกระบวนการศึกษาอย่างไร เกียรติได้ปฏิบัติตนตามขั้นตอนของไตรสิกขา คือ 1) การฝึกฝนอบรมด้านความประพฤติ 2) การฝึกฝนอบรมด้านจิตใจ 3) การฝึกฝนอบรมด้านปัญญา เกียรติเป็นพุทธบุตรอาสาของวัดปัญญานันทาราม ทุกวันอาทิตย์เขาจะไปวัดช่วยบริการและแนะน าข้อมูล ต่างๆ ให้แก่ผู้ที่มาวัดครั้งแรกที่ไม่รู้วิธีการปฏิบัติตนในการร่วมกิจกรรมในงานท าบุญ ฟังธรรมที่ลานหินโค้ง เกียรติ จะแสดงความมีน ้าใจช่วยเหลือทุกคนที่เขาช่วยได้ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะเหนื่อย แต่เขาก็มีความเข้มแข็ง อดทน พฤติกรรมของเกียรติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชาวพุทธทั่วไป การไปวัดอย่างสม ่าเสมอทุกวันอาทิตย์นั้น นอกจากเกียรติ จะได้ช่วยกิจกรรมของวัดแล้ว เขายังได้สนทนาธรรมกับผู้รู้ทั้งหลาย และได้ฟังธรรม ซึ่งท าให้ได้ข้อคิดส าคัญ เกียรติ จะรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล เมื่อมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นเขาก็สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง มีเพื่อนหลายคนได้ถามเขาว่า ท าไมเขาจึงสามารถฝึกฝนควบคุมตนเองทั้งด้านกาย วาจา และใจ ได้อย่างมั่นคง เกียรติก็จะแนะน าขั้นตอนของการ ปฏิบัติของไตรสิกขา เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนบ้าง


แบบประเมิน การน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดัสินคณุภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต ่ากว่า 10 ปรับปรุง


แบบสงัเกตพฤติกรรม การท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน การแสดง ความ คิดเหน็ การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน ้าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดัสินคณุภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต ่ากว่า 10 ปรับปรุง


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รกัชาติศาสน์ กษตัริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมาย ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการท ากิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน ชุมชน และสังคม 1.4 เป็นผู้น าหรือเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้อง ความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราชกรณีย กิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสตัย์สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระท าความผิด ท าตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอย่าง ที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รบัผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน และรับผิดชอบในการท างาน ปฏิบัติ เป็นปกติวิสัยและเป็นแบบอย่างที่ดี 4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ท าให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่น กระท าผิดพลาด


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์(ต่อ) ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.5 วางแผนการเรียน การท างานและการใช้ชีวิตประจ าวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั ่นในการท างาน 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 6.2 ตั้งใจและรับผิดชอบในการท างานให้ส าเร็จ 6.3 ปรับปรุงและพัฒนาการท างานอย่างรอบคอบ 6.4 ทุ่มเท ท างาน อดทน ไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค 6.5 พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการท างานให้ส าเร็จ 6.6 ชื่นชมผลงานความส าเร็จด้วยความภาคภูมิใจ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท างาน 8.2 อาสาท างาน ช่วยคิด ช่วยท า แบ่งปันสิ่งของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ พร้อมช่วยแก้ปัญหา 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน


แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทูี่2 พระพุทธศาสนาเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย และวิธีการแก้ปัญหา เวลา 1 ชั ่วโมง 1. สาระสา คญั/ความคิดรวบยอด พระพุทธศาสนาเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยกับวิธีการแก้ปัญหา เพื่อการพัฒนาตนได้ถูกต้อง 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.4-6/9 วิเคราะห์พระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยกับวิธีการ แก้ปัญหาหรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือตามที่ก าหนด 2.3 จุดประสงค์การเรียนรู้ - วิเคราะห์พระพุทธศาสนาที่เน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยและวิธีการแก้ปัญหา 3. สาระการเรียนรู้ 3.2 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - พระพุทธศาสนาเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยกับวิธีการแก้ปัญหา 3.2 สาระการเรียนร้ทู้องถิน่ (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการเรียงล าดับ 3) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4) ทักษะการสรุปลงความเห็น 4.2 ความสามารถในการใช้ทกัษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน


6. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย และท าสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ สื่อการเรียนรู้ : ตัวอย่างข่าว 1. ครูน าข่าวเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่มีการแก้ปัญหาทั้งที่ถูกวิธีและไม่ถูก วิธี มาเล่าให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า ข่าวใดมีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ 2. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด นักเรียนเคยเห็นเหตุการณ์ใดที่มีการ แก้ปัญหาอย่างถูกต้องเหมาะสมบ้าง จงอธิบายแสดงเหตุผล (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 2 ส ารวจค้นหา สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ม.6 2. หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยและวิธีการ แก้ปัญหา จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ที่ได้ลงในแบบบันทึกการอ่าน จากนั้น นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด ทา ไมฤดูร้อนจึงมีไฟป่าเกิดขึ้น (เพราะอากาศร้อน แห้งแล้ง ต้นไม้แห้ง เมื่อมี ลมพัดแรงจึงท าให้ต้นไม้เกิดการเสียดสีกัน ลุกไหม้จนเกิดเป็นไฟป่า) ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ สื่อการเรียนรู้ : ใบงานที่ 2.1 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มน าความรู้ที่ได้ศึกษามาผลัดกันอธิบายประเด็นส าคัญ 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันท าใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ของเหตุ ปัจจัย จากนั้นครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยค าตอบในใบงานที่ 2.1 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด ถ้านักเรียนขยันหมั ่นเพียรในการศึกษา เล่าเรยีน นักเรียนคิดว่าจะเกิดผลอย่างไรบ้าง (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ สื่อการเรียนรู้ : ใบงานที่ 2.2 ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาข่าว หรือข้อมูลของบุคคล ที่มีการกระท าที่แสดงว่า ปฏิบัติตนตามหลักของพระพุทธศาสนาที่เน้น ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยและใช้วิธีแก้ปัญหาตามแนวพระพุทธศาสนา แล้วน ามาวิเคราะห์และตอบค าถามตามที่ก าหนดให้ในใบงานที่ 2.2 เรื่อง ช่วยกนัวิเคราะห์(กิจกรรมนอกห้องเรียน) จากนั้นให้นักเรียนตอบค าถาม กระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด ถ้านักเรียนเห็นคนข้างบ้านก่อไฟเผาขยะ ควันไฟลอยปกคลุมทั้งหมู่บ้าน นักเรียน ควรปฏิบตัิตนอย่างไร (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน)


ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล สื่อการเรียนรู้ : ใบงานที่ 2.2 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งผลงานในใบงานที่ 2.2 ต่อครูผู้สอน 2. ครูคัดเลือกผลงานที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่ก าหนดน าไป จัดป้ายนิเทศแสดงผลงานของนักเรียนที่หน้าชั้นเรียน 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด การที่คนเราเข้าใจเหตุปัจจยัของสิ่งทงั้หลาย ตามความเป็นจริง มีผลดีอย่างไร (เป็นคนมีเหตุผล ใจกว้าง ไม่ยึดมั ่นถือมั ่น และ แก้ปัญหาได้) 7. การวดัและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.2 ใบงานที่ 2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ม.6 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม - สุชีพ ปุญญานุภาพ. (2551). คณุลกัษณะพิเศษแห่งพระพทุธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย. 3) ตัวอย่างข่าวเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่มีการแก้ปัญหาที่ถูกวิธีและไม่ถูกวิธี 4) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย 5) ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ช่วยกันวิเคราะห์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.phrabuddhasasana.com/ans/index.php?option=com... - http://www.oknation.net/blog/print.php?id=434141


ตัวอย่ำงข่ำวเกี่ยวกับปัญหำต่ำงๆ ที่มีกำรแก้ปัญหำที่ถกูวิธีและไม่ถกูวิธี สึนามิถล่มญี่ปุ่น 10เมตร หลงัแผ่นดินไหว8.9ริกเตอร์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มีนาคม ส านักข่าวเอพี (AP) รายงานว่า เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น สร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่วงกว้างโดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.46 น. ตามเวลา ท้องถิ่น แผ่นดินไหวความรุนแรงถึง 8.9 ริกเตอร์ ได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนก่อนที่จะเกิดสึนามิลูกใหญ่สูงกว่า 6 เมตร ขึ้นในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา กวาดเอารถยนต์และบ้านเรือนหลายหลังกลืนหายลงทะเลพร้อมกับเกลียวคลื่น ตามด้วยอาฟเตอร์- ช็อก ความรุนแรง 7.4 ริกเตอร์อีกครั้ง และล่าสุดคลื่นสึนามิสูงกว่า 10 เมตร ระดับน ้าทะเลยกตัวสูงขึ้นขนาด ชั้น 2 ของอาคาร หลังจากเกิดสึนามิครั้งใหญ่ประมาณ 30 นาทีต่อมา สร้างความเสียหายมหาศาล ส่วนรายงานผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังมีผู้สูญหายจ านวนมาก ส าหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีศูนย์กลางห่างจากชายฝั่งของเกาะฮอนชู 150 กิโลเมตร ไปทาง ตะวันออกของเกาะญี่ปุ่น และเกิดความเสียหายอย่างหนักที่เมืองมิยากิ มีไฟไหม้อาคาร และตึกหลายแห่ง โตเกียวทาวเวอร์สูง 333 เมตร เอียงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟใต้ดิน ขณะที่ทางการได้มีการสั่งปิดสนามบินนาริตะแล้ว ขณะที่ในเมืองชิบะ ล่าสุดมีรายงานว่า โรงกลั่นน ้ามันในเมืองชิบะเกิดระเบิดขึ้นแล้ว หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ โดยทางการ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ แต่ยืนยันว่ายังไม่พบการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือพื้นที่ใกล้เคียง จึงไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า รถไฟขบวนหนึ่งหายไปและขาดการติดต่อบริเวณจุดที่เกิดสึนามิ ซึ่งยัง ไม่ทราบจ านวนผู้โดยสารบนรถไฟขบวนดังกล่าว ด้านนายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ในครั้งนี้ว่า ยังไม่อาจ ประเมิน หรือยืนยันความเสียหายจากเหตุดังกล่าวได้อย่างชัดเจน แต่ความเสียหายรุนแรงมากสุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ รัฐบาลญี่ปุ่น ยังได้ยืนยันถึงความกังวลของประชาชน และนานาชาติ หลังจากเกิดเพลิงไหม้ ที่คลังน ้ามันใกล้ๆ กรุงโตเกียว ว่า ไม่มีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล และก าลังจะส่งทหารเข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมถึงเตือนระวังอาฟเตอร์ช็อกที่จะ ตามมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการเตือนประชาชนชายฝั่งในเกาะกวม, ฟิลิปปินส์, เกาะมาร์แชล, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, นาอูรู, ไมโครนีเชีย, ฮาวาย, ไต้หวัน, รัสเซีย, เกาะมาเรียน่า ให้เฝ้าระวังคลื่นสึนามิด้วย เช่นเดียวกับที่ ชายฝั่งฮาวาย ออสเตรเลีย รวมถึงอเมริกาใต้ และชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับคลื่นที่จะไปถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า คลื่นสึนามิลูกแรกได้พัดถึงหมู่เกาะคูริล ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซียแล้ว ท าให้รัสเซียต้องเร่งอพยพประชาชนกว่า 1 หมื่นคน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ส่วนฟิลิปปินส์ เจอสึนามิขนาดย่อม 4 ลูก ภายใน 1 ชั่วโมง แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย ทางฝั่งประเทศไทย นอ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผอ.ศูนย์เตือนภัย ให้สัมภาษณ์ทางเนชั่นทีวีว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดห่างชายฝั่ง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5,560 กิโลเมตร และประเทศไทยต้องเฝ้าระวัง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร อย่าตื่นตระหนก ส่วนนายธานี ทองภักดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า มีคนไทยในอยู่ในเมืองมิยากิพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวราว 300 คน และมีคนไทยในญี่ปุ่นราว 50,000 คน ทั้งนี้หากญาติต้องการขอความช่วยเหลือสามารถสอบถามที่กรมกงสุล หมายเลข 02-575- 1046-9 นอกเวลาราชการ 02-643-5000 หรือ เบอร์สถานทูตญี่ปุ่นในโตเกียว (81-3) 3441-1386 และ สถานทูตญี่ปุ่นในโอซากา (81-6) 6262-9226 ขณะที่นายบุรินทร์ เวชบันเทิง ผู้อ านวยการส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ ว่าจากการประเมิน เบื้องต้น คาดว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบด้าน จ.นราธิวาส ในเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (12 มีนาคม) นั่นเอง แต่ความรุนแรงไม่เทียบเท่าญี่ปุ่น ที่มีความสูงคลื่นประมาณกว่า 7 เมตร ส่วนชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็อาจได้รับผลกระทบ จากคลื่นสึนามิเช่นกัน ที่มา : http://www.tamsabye.com/index.php?name=news&file=readnews&id=129 สืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554


ตัวอย่ำงข่ำวเกี่ยวกับปัญหำต่ำงๆ ที่มีกำรแก้ปัญหำที่ถกูวิธีและไม่ถกูวิธี ดารา ศิลปิน นักร้อง นักแสดงไทย ร่วมใจระดมทนุช่วยเหลือคนญปีุ่่นประสบภยัพิบตัิ Mthainews : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นที่ลานหน้าห้าง สยามพารากอน ซึ่งน าโดย วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ ระดมคนในวงการบันเทิงไทยร่วมกันจัดท า เสื้อ Nippon 2011 ออกขายในราคา 300 บาท จ ากัดซื้อได้คนละไม่เกิน 5 ตัว เพื่อสมทบทุนผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้เสื้อดังกล่าวมีจ านวน 3,000 ตัวเท่านั้น โดยมีประชาชนคนไทยและชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นจ านวนมากจนแถวเข้าคิว ยาวเหยียด บางรายมารอตั้งแต่เช้า ซึ่งมีการเปิดขายเสื้อในเวลา 12.00 น. และขายหมดภายในเวลา 30 นาที ต่อมาเหล่าคนในวงการบันเทิงก็ได้ช่วยกันถือกล่องรับบริจาคออกระดมทุนช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นทั้งทางรถไฟฟ้า BTS และ รถไฟฟ้า MRT ขณะเดียวกัน ผู้ค้าหลายรายได้น าสินค้ามาขายเพื่อน ารายได้สมทบทุนในครั้งนี้ด้วย อาทิ หมูทอดเจ๊จง คริสปี้ครีม หนังสือเซ็นได อย่างไรก็ตาม งาน Nippon 2011 ยังคงมีคนในวงการบันเทิงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาขายสินค้าตลอดทั้งวัน ซึ่งในช่วงเย็นจะมีศิลปินจากหลายค่ายมาเปิดมินิคอนเสิร์ตอีกด้วย ที่มา : http://news.mthai.com/headline-news/106868.html สืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554


ตัวอย่ำงข่ำวเกี่ยวกับปัญหำต่ำงๆ ที่มีกำรแก้ปัญหำที่ถกูวิธีและไม่ถกูวิธี ม.4 ซดยาพิษ ฆ่าตัวประชดความจน สลดนักเรียน ม.4 โรงเรียนดังเมืองกาญจน์คิดสั้น ซดยาพิษประชดชะตาชีวิต เหตุพ่อป่วยเป็นอัมพาตนอนพะงาบ แม่ต้องหา เงินล าพัง เหนื่อยสายตัวแทบขาด คิดมากจนเครียด เรียนไม่ทันเพื่อน เลือกทางผิดซดยาพิษหนีปัญหา ทิ้งจดหมายลาตาย ขอโทษแม่อ้าง สงสารไม่อยากเห็นแม่เหนื่อย อยากหยุดเรียนออกมาช่วยท างาน ด้านแม่หนุ่มน้อยใจสลาย น ้าตาไหลนองแทบขาดใจ เผยเหนื่อยแค่ไหนก็ ยอมท าเพื่อลูก วอนให้เป็นกรณีตัวอย่าง จี้รัฐช่วยเหลือคนจน หนุ่ม ม.4 คิดสั้นซดยาพิษประชดโชคชะตาดับอนาถครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่20 พ.ค. พ.ต.ท.ถวิล ระเบียบแหวน สวส.สภ.ส ารอง อ าเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีได้รับแจ้งเหตุมีคนกินยาตาย ที่บ้านเลขที่27/1 หมู่ 8 ต าบลพังตรุจึงรีบไปสอบสวน พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ท่าม่วง ที่เกิดเหตุภายในห้องนอนพบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายณัฐวุฒิหรือป๋ อง ฉุยเนย อายุ16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีนอนหงายสวมกางเกงชั้นในสีน ้าตาลเพียงตัวเดียวสภาพศพ น ้าลายฟูมปาก ที่ข้างตัวของผู้ตายพบขวดยาฆ่าหญ้าในนาข้าว ยี่ห้อสตินเล่อร์1 ขวดซึ่งมีน ้ายาเหลือเพียงครึ่งขวดวางอยู่ และที่หัว เตียงนอนพบจดหมายลาตายทิ้งไว้1 ฉบับตรวจสอบภายในห้องนอนและตามร่างกายของผู้ตายไม่พบร่องรอยบาดแผลการถูกท าร้าย และภายในห้องนอนไม่พบร่องรอยการถูกรื้อค้น จึงมอบศพน าส่ง รพ.ท่าม่วง ท าการชันสูตร พลิกศพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเนื้อความในจดหมายลาตาย ที่นายณัฐวุฒิเขียนถึงแม่ พบว่าเป็นการกล่าวตัดพ้อในโชคชะตา และขอโทษแม่ ระบุว่าสาเหตุที่ต้องท าอย่างนี้เพราะหลังจากที่ตัวเองสอบเข้าโรงเรียนใหม่ เรียนไปก็ไม่รู้เรื่องจนเกิดอาการเครียด ไม่สามารถเรียนทันเพื่อนได้เนื่องจากสงสารเห็นพ่อซึ่งล้มป่วยเป็นอัมพาตนอนอยู่กับบ้านมานานถึง 4 ปีขณะที่แม่ต้องท างาน อย่างหนักเพื่อส่งเสียให้ตัวเองเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้านนางล้วน ฉุยเนย อายุ47 ปีแม่ของผู้ตายร ่าไห้ปิ่มขาดใจ กล่าวทั้งน ้าตาว่า ก่อนหน้าที่นายณัฐวุฒิบุตรชายจะกินยาตาย 2 วัน ลูกชายมาบ่นให้ฟังว่าเบื่อหน่ายที่เรียนไม่ทันเพื่อน ไม่อยากเรียนแล้วอยากออกมาช่วยงานแม่ เพราะเห็นแม่เหนื่อยมากท างาน คนเดียวหาเลี้ยงครอบครัวรวมทั้งต้องดูแลนายสุชิน ฉุยเนย อายุ51 ปีบิดาที่นอนป่วยเป็นอัมพาต แถม ต้องหาเงินส่งเสียให้ตัวเอง เรียนอีก ซึ่งตนได้ให้ก าลังใจลูก บอกว่าไม่เป็นไร หากเรียนไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้หยุดพักไปปีหนึ่งก็ได้ส่วนเรื่องการเล่าเรียนไม่ต้องเป็น ห่วงเพราะตนเองยอมเหน็ดเหนื่อยเพราะอยากเห็นลูกมีอนาคต ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะมาคิดสั้นก่อเหตุดังกล่าว "เช้าวันนี้ป้าไปปลุกให้ลูกชายตื่นนอนเพื่ออาบน ้าไปโรงเรียน เคาะเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงขานรับจึงได้เปิดประตูเข้าไปและพบว่า ลูกชายกินยาตายเสียแล้ว ส่วนสาเหตุที่ลูกกินยาตายในครั้งนี้น่าจะเกิดจากอาการเครียดและคิดมาก ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/24165 สืบค้นเมื่อวันที่5 ตุลาคม 2554


ใบงำนที่2.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย ค าชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบค าถาม ค าถาม 1. การกระท าของชัชสอดคล้องกับหลักของพระพุทธศาสนาในเรื่องความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยอย่างไร 2. การกระท าของชัชแสดงถึงคุณลักษณะที่ดีของชัชอย่างไร จงอธิบายเหตุผล 3. ชัชสามารถแก้ปัญหาของตนเองในเรื่องใดได้อย่างถูกวิธี กรณีศึกษาที่ 1 ชัชเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชัชตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะออกไปหางานท า ชัชอยากมีรายได้เป็นของ ตนเอง แต่แม่ของชัชต้องการให้ชัชเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้จบระดับปริญญาตรีเป็นอย่างต ่า ซึ่งจะท าให้มี ความรู้พื้นฐานดีพอส าหรับการประกอบอาชีพให้ก้าวหน้ามั่นคง แต่ถ้ามีความรู้เพียงจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ย่อมมี ความรู้น้อย การไปท างานก็ได้รับค่าตอบแทนต ่า ชัชบอกกับแม่ว่า ชัชเกรงว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้ และถ้าจะเรียนต่อก็อยากเรียนในสาขานิติศาสตร์บัณฑิต เพราะเขาต้องการมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายซึ่งจะเป็น ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ แม่บอกกับชัชว่าให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไปก่อน ถ้าสอบไม่ได้ แม่จะส่งให้ เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะพ่อแม่มีรายได้เพียงพอต่อการส่งชัชเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนได้ ในที่สุด ชัชก็ตัดสินใจสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา


ค าถาม ดอกแก้วควรใช้วิธีการแก้ปัญหาตามหลักพุทธศาสนาอย่างไร กรณีศึกษาที่ 2 หมู่บ้านรักถิ่นเป็นหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยและชาวต่างชาติชอบไปเที่ยวตลาดน ้า วันอาทิตย์ เพื่อซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิตจากสวนผลไม้และมีสิ่งของเครื่องใช้ประเภทเครื่องจักสานจ านวนมากท ารายได้ ให้แก่ชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงท าอาหารประเภทต่างๆ มาขายให้แก่นักท่องเที่ยวอีก ด้วย ดอกแก้วก็เป็นคนหนึ่งที่ท าขนมตาลไปขายในตลาดน ้าวันอาทิตย์ ขนมตาลของดอกแก้วขายดีมากและไม่พอ ขาย ดังนั้นดอกแก้วจึงขึ้นราคาขนมตาลจากถุงละ 20 บาท เป็น 30 บาท ท าให้เธอได้ก าไรมากขึ้น วันอาทิตย์ต่อมาดอกแก้วขายขนมตาลไม่หมด เหลือเป็นจ านวนมาก เธอจึงเก็บใส่ตู้เย็นไว้ แล้วน าไปขาย ให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านของเธอจนหมด ต่อมาดอกแก้วเอาขนมตาลไปขายที่ตลาดน ้าเช่นเคย แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยซื้อขนมตาลของดอกแก้ว วันรุ่งขึ้นเธอก็เอาไปขายในหมู่บ้านอีกแต่ก็ไม่มีใครซื้อขนมตาลของเธอ ดอกแก้วต้องขาดทุนในการขายขนม ดอกแก้วกลุ้มใจมาก


ใบงำนที่2.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบค าถาม ค าถาม 1. การกระท าของชัชสอดคล้องกับหลักของพระพุทธศาสนาในเรื่องความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยอย่างไร ชัชเป็นคนใช้เหตุผลในการตัดสินใจ เมื่อแม่อธิบายเหตุผลที่แม่ต้องการให้ชัชเรียนต่อระดับอุดมศึกษา ซึ่งมีความแตกต่างกับ ความตั้งใจของชัชในตอนแรก เมื่อเหตุผลของแม่ถูกต้องเหมาะสมกว่าชัช ชัชก็ตัดสินใจท าตามความคิดของแม่ 2. การกระท าของชัชแสดงถึงคุณลักษณะที่ดีของชัชอย่างไร จงอธิบายเหตุผล เป็นคนใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นที่มีเหตุผลที่ดีกว่าของตน เป็นคนไม่ยึดมั ่นถือมั ่น เมื่อมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ก็ไม่ยึดถือความคิดเห็นของตนเป็นส่วนใหญ่ 3. ชัชสามารถแก้ปัญหาของตนเองในเรื่องใดได้อย่างถูกวิธี ชัชสามารถแก้ปัญหาเรื่อง การวางแผนอาชีพของตนในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ถูกวิธี โดยตัดสินใจเรียนต่อแทนที่จะหางานท า กรณีศึกษาที่ 1 ชัชเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชัชตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะออกไปหางานท า ชัชอยากมีรายได้เป็นของ ตนเอง แต่แม่ของชัชต้องการให้ชัชเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้จบระดับปริญญาตรีเป็นอย่างต ่า ซึ่งจะท าให้มี ความรู้พื้นฐานดีพอส าหรับการประกอบอาชีพให้ก้าวหน้ามั่นคง แต่ถ้ามีความรู้เพียงจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ย่อมมี ความรู้น้อย การไปท างานก็ได้รับค่าตอบแทนต ่า ชัชบอกกับแม่ว่า ชัชเกรงว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้ และถ้าจะเรียนต่อก็อยากเรียนในสาขานิติศาสตร์บัณฑิต เพราะเขาต้องการมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายซึ่งจะเป็น ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ แม่บอกกับชัชว่าให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไปก่อน ถ้าสอบไม่ได้ แม่จะส่งให้ เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะพ่อแม่มีรายได้เพียงพอต่อการส่งชัชเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนได้ ในที่สุด ชัชก็ตัดสินใจสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา


ค าถาม ดอกแก้วควรใช้วิธีการแก้ปัญหาตามหลักพุทธศาสนาอย่างไร 1. ต้องใช้ปัญญา 1) ต้องรู้ว่าปัญหาคืออะไร เช่น ปัญหา คือ ขายขนมตาลไม่ได้ ต้องขาดทุน 2) เข้าใจสาเหตุว่า เกิดจากอะไร เมื่อสืบสาวไปแล้วจะรู้ว่า สาเหตุเกิดจากขายขนมตาลราคาแพง 3) เข้าใจเป้าหมายว่า ปัญหาการขายขนมตาลขาดทุนนั้น แก้ไขได้ 4) เข้าใจขั้นตอนของการแก้ปัญหา คือ ต้องเขียนป้ายติดราคาขนมให้นักท่องเที่ยวรู้ และจูงใจให้มาซื้อและให้นักท่องเที่ยว ชิมขนมตาลว่า รสอร่อย และไม่น าของเหลือมาขายต่อในวันรุ่งขึ้น เพราะรสของขนมจะไม่อร่อย ท าให้ผู้ซื้อไม่ประทับใจ 2. กรรม (การลงมือกระท า) ดอกแก้วต้องลงมือท าตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ 3. วิริยะ (ความเพียร) ดอกแก้วต้องมีจิตใจเข้มแข็ง มีความอดทน ถ้าการท าขนมตาลขายในวันแรกยังขายไม่หมด ก็ต้องพยายาม หาวิธีจูงใจผู้ซื้อเพิ่มขึ้น เช่น มีการแถมขนมแก่ผู้ซื้อ หรือพูดจาเชิญชวนให้ผู้ซื้อเห็นว่า ขนมตาลของดอกแก้วมีคุณภาพดี สะอาด ถูกสุขอนามัย ดอกแก้วต้องใช้ความพยายามหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะประสบผลส าเร็จ กรณีศึกษาที่ 2 หมู่บ้านรักถิ่นเป็นหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยและชาวต่างชาติชอบไปเที่ยวตลาดน ้า วันอาทิตย์ เพื่อซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิตจากสวนผลไม้และมีสิ่งของเครื่องใช้ประเภทเครื่องจักสานจ านวนมากท ารายได้ ให้แก่ชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงท าอาหารประเภทต่างๆ มาขายให้แก่นักท่องเที่ยวอีก ด้วย ดอกแก้วก็เป็นคนหนึ่งที่ท าขนมตาลไปขายในตลาดน ้าวันอาทิตย์ ขนมตาลของดอกแก้วขายดีมากและไม่พอ ขาย ดังนั้นดอกแก้วจึงขึ้นราคาขนมตาลจากถุงละ 20 บาท เป็น 30 บาท ท าให้เธอได้ก าไรมากขึ้น วันอาทิตย์ต่อมาดอกแก้วขายขนมตาลไม่หมด เหลือเป็นจ านวนมาก เธอจึงเก็บใส่ตู้เย็นไว้ แล้วน าไปขาย ให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านของเธอจนหมด ต่อมาดอกแก้วเอาขนมตาลไปขายที่ตลาดน ้าเช่นเคย แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยซื้อขนมตาลของดอกแก้ว วันรุ่งขึ้นเธอก็เอาไปขายในหมู่บ้านอีกแต่ก็ไม่มีใครซื้อขนมตาลของเธอ ดอกแก้วต้องขาดทุนในการขายขนม ดอกแก้วกลุ้มใจมาก


ใบงำนที่2.2 เรื่อง ช่วยกันวิเคราะห์ ค าชี้แจง ให้นักเรียนน าข่าว/ข้อมูลของบุคคลที่แสดงว่ามีการกระท าที่สอดคล้องกับหลักของพระพุทธศาสนาที่เน้น ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย และใช้วิธีการแก้ปัญหาตามแนวพุทธศาสนาแล้วน ามาวิเคราะห์ และตอบค าถาม ที่ก าหนด ข่าว/ข้อมูลที่ 1 ค าถาม 1. บุคคลใดมีการกระท าที่สอดคล้องกันกับความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย ยกตัวอย่างการกระท า 2. การปฏิบัติของบุคคลดังกล่าว มีผลส าคัญอย่างไร จงยกตัวอย่าง 3. นักเรียนคิดว่า จะน าแบบอย่างการกระท าไปประยุกต์ปฏิบัติได้อย่างไรบ้าง และผลที่คาดว่าจะได้รับเป็นอย่างไร เรื่อง.......................................................... (สาระส าคัญ) ที่มา............................................................


ข่าว/ข้อมูลที่ 2 ค าถาม 1. บุคคลใดที่ใช้วิธีการแก้ปัญหาตามแนวพระพุทธศาสนา 2. บุคคลในข้อ 1 ปฏิบัติตนตามองค์ประกอบของการแก้ปัญหาอย่างไร จงยกตัวอย่าง 3. บุคคลในข้อ 1 ได้รับผลจากการแก้ปัญหาอย่างไร จงยกตัวอย่าง เรื่อง.......................................................... (สาระส าคัญ) ที่มา............................................................


ใบงำนที่2.2 เรื่อง ช่วยกันวิเคราะห์ เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนน าข่าว/ข้อมูลของบุคคลที่แสดงว่ามีการกระท าที่สอดคล้องกับหลักของพระพุทธศาสนาที่เน้น ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย และใช้วิธีการแก้ปัญหาตามแนวพุทธศาสนาแล้วน ามาวิเคราะห์ และตอบค าถาม ที่ก าหนด ข่าว/ข้อมูลที่ 1 ค าถาม 1. บุคคลใดมีการกระท าที่สอดคล้องกันกับความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย ยกตัวอย่างการกระท า 2. การปฏิบัติของบุคคลดังกล่าว มีผลส าคัญอย่างไร จงยกตัวอย่าง 3. นักเรียนคิดว่า จะน าแบบอย่างการกระท าไปประยุกต์ปฏิบัติได้อย่างไรบ้าง และผลที่คาดว่าจะได้รับเป็นอย่างไร (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) เรื่อง.......................................................... (สาระส าคัญ) ที่มา............................................................


ข่าว/ข้อมูลที่ 2 ค าถาม 1. บุคคลใดที่ใช้วิธีการแก้ปัญหาตามแนวพระพุทธศาสนา 2. บุคคลในข้อ 1 ปฏิบัติตนตามองค์ประกอบของการแก้ปัญหาอย่างไร จงยกตัวอย่าง 3. บุคคลในข้อ 1 ได้รับผลจากการแก้ปัญหาอย่างไร จงยกตัวอย่าง (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) เรื่อง.......................................................... (สาระส าคัญ) ที่มา............................................................


แบบสงัเกตพฤติกรรม การท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความ ร่วมมือกัน ทา กิจกรรม การแสดง ความ คิดเหน็ การรับฟัง ความ คิดเหน็ การตั้งใจ ท างาน การแก้ไข ปัญหา/หรือ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดัสินคณุภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต ่ากว่า 10 ปรับปรุง


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รกัชาติศาสน์ กษตัริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมาย ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการท ากิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน ชุมชน และสังคม 1.4 เป็นผู้น าหรือเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้อง ความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราชกรณีย กิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสตัย์สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระท าความผิด ท าตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอย่าง ที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รบัผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน และรับผิดชอบในการท างาน ปฏิบัติ เป็นปกติวิสัยและเป็นแบบอย่างที่ดี 4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ท าให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่น กระท าผิดพลาด


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์(ต่อ) ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.5 วางแผนการเรียน การท างานและการใช้ชีวิตประจ าวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั ่นในการท างาน 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 6.2 ตั้งใจและรับผิดชอบในการท างานให้ส าเร็จ 6.3 ปรับปรุงและพัฒนาการท างานอย่างรอบคอบ 6.4 ทุ่มเท ท างาน อดทน ไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค 6.5 พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการท างานให้ส าเร็จ 6.6 ชื่นชมผลงานความส าเร็จด้วยความภาคภูมิใจ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท างาน 8.2 อาสาท างาน ช่วยคิด ช่วยท า แบ่งปันสิ่งของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ พร้อมช่วยแก้ปัญหา 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน


แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทูี่3 ความส าคัญของพระพุทธศาสนา เวลา 1-2 ชั ่วโมง 1. สาระสา คญั/ความคิดรวบยอด พระพุทธศาสนาสอนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพแก่บุคคล สังคม และโลก 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.4-6/10 วิเคราะห์พระพุทธศาสนาในการฝึกตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพบุคคล สังคม และ โลก หรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือตามที่ก าหนด 2.4 จุดประสงค์การเรียนรู้ - วิเคราะห์ความส าคัญของพระพุทธศาสนาที่มุ่งฝึกตนไม่ให้ประมาท และมุ่งประโยชน์สุขและสันติภาพของ บุคคล สังคม และโลก 3. สาระการเรียนรู้ 3.3 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) พระพุทธศาสนาฝึกตนไม่ให้ประมาท 2) พระพุทธศาสนามุ่งประโยชน์สุขและสันติภาพแก่บุคคล สังคม และโลก 3.2 สาระการเรียนร้ทู้องถิน่ (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการเรียงล าดับ 3) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4) ทักษะการสรุปลงความเห็น 4.2 ความสามารถในการใช้ทกัษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน


6. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยการจดัการเรียนร้แูบบวฏัจกัรการเรียนรู้(4 MAT) นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย และท าสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง ขั้นที่ 1 สร้างคณุค่าและประสบการณ์ของสิ่งที่เรียน (พัฒนาสมองซีกขวา) สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : — 1. นักเรียนผลัดกันเล่าความประทับใจในการกระท าของบุคคลต่างๆ ที่ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาที่แสดงถึงความ ไม่ ประมาท หรือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 2. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด นักเรียนเคยมีการกระท าที่แสดงว่า ประมาท อย่างไร จงยกตัวอย่าง (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ประสบการณ์(พัฒนาสมองซีกซ้าย) สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : — 1. ครูให้นักเรียนแสดงเหตุผลว่า เพราะเหตุใดนักเรียนจึงประทับใจ การกระท าของบุคคลที่นักเรียนยกตัวอย่างในขั้นที่ 1 2. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด ความประมาทส่งผลต่อการท างานอย่างไร (การท างานไม่ประสบความส าเร็จ หรือผลงาน ไม่ดี ไม่ถูกต้อง) ขั้นที่ 3 ปรบัประสบการณ์เป็ นความคิดรวบยอด (พัฒนาสมองซีกขวา) สื่อการเรียนรู้ : ตัวอย่างข้อความ 1. ครูน าข้อความเกี่ยวกับค าสอนของพระพุทธศาสนาในเรื่อง ความไม่ประมาทและการสร้างประโยชน์สุขและสันติภาพ แก่ชาวโลก มาให้นักเรียนอ่าน 2. นักเรียนช่วยกันสรุปข้อคิดจากข้อความที่อ่านเป็นความคิดรวบยอด ที่แสดงถึงความส าคัญของพระพุทธศาสนา 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด พระพุทธศาสนามีความส าคัญอย่างไร (เป็นหลักในการปฏิบัติตนให้ด าเนินชีวิตไป ในทิศทางที่ถูกต้อง ส่งผลต่อความสุขสงบในชีวิต หรือนักเรียนอาจตอบเป็นอย่างอื่น โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 พฒันาความคิดรวบยอด (พัฒนาสมองซีกซ้าย) สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ม.6 2. หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3. ห้องสมุด 4. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 1. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกัน ศึกษาความรู้เรื่อง ความส าคัญของพระพุทธศาสนา ในหัวข้อ ต่อไปนี้ - พระพุทธศาสนาฝึกคนไม่ให้ประมาท คา ถามกระตุ้นความคิด ผู้ครองเรือนจะมีความสุขได้นั้น จะต้อง ปฏิบตัิตนอย่างไร (ขยันหาทรัพย์ด้วยความสุจริต รู้จักใช้จ่ายทรัพย์ ไม่เป็นหนี้ มีความประพฤติสุจริต)


- พระพุทธศาสนามุ่งประโยชน์สุขและสันติภาพแก่บุคคล สังคม และโลก โดยให้นักเรียนศึกษาความรู้จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้า เพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ ที่ได้จากการศึกษาลงในแบบบันทึกการอ่าน 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายประเด็นส าคัญของเรื่องที่ได้ศึกษา ค้นคว้า 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ 5 ลงมือปฏิบตัิจากกรอบความคิดที่กา หนด (พัฒนาสมองซีกซ้าย) สื่อการเรียนรู้ : ใบงานที่ 3.1 1. สมาชิกในแต่ละกลุ่มช่วยกันท าใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความส าคัญ ของพระพุทธศาสนา 2. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยค าตอบในใบงานที่ 3.1 3. นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด คา ถามกระตุ้นความคิด นักเรียนมีวิธีการปฏิบตัิตนตามหลกัธรรม ของพระพุทธศาสนาอย่างไร ที่จะส่งผลต่อ ความสงบสุขของสังคม และโลก (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 6 สร้างชิ้นงานที่สะท้อนความเป็ นตนเอง (พัฒนาสมองซีกขวา) สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : — ขั้นที่ 7 วิเคราะห์คณุค่าและการประยุกต์ใช้(พัฒนาสมองซีกซ้าย) สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : — สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมในผลงาน บทความเชิงวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติและความส าคัญของพระพุทธศาสนา และพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพตามเกณฑ์ • ครมูอบหมายให้นักเรียนน าความร้ทูี่ได้ศึกษาเรื่อง ประวตัิและความสา คญัของพระพทุธศาสนา มาเขียนเป็นบทความ เชิงวิเคราะห์เรื่อง ประวตัิและความสา คญัของพระพทุธศาสนา โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่ก าหนด ดังนี้ 1) การวิเคราะห์พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา 2) การวิเคราะห์พระพุทธศาสนาเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยและวิธีการแก้ปัญหา 3) การวิเคราะห์พระพุทธศาสนาฝึกตนไม่ให้ประมาท 4) การวิเคราะห์พระพุทธศาสนามุ่งประโยชน์สุขและสันติภาพแก่บุคคล สังคมและโลก


Click to View FlipBook Version