The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-05-29 04:04:54

แผนการจัดการเรียนรู้แนะแนว ม.4

ครูอังคณา แก้วเล็ก

บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนพนมศึกษา อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ พิเศษ / 2566 วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................... เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา สิ่งที่แนบมาด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชากิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื่องด้วยข้าพเจ้า นางสาวอังคณา แก้วเล็ก ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนพนมศึกษา ได้รับมอบหมาย ให้ปฏิบัติหน้าที่การสอนตามคำสั่งที่ 129/๒๕๖6 เรื่องมอบหมายงานสอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖6 ซึ่งทางกลุ่มบริหารวิชาการได้มอบหมายให้ครูทุกคน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้อย่างน้อยคนละ ๑ รายวิชา นั้น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสายการสอนประจำกลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมแนะแนว) ได้จัดทำแผน การจัดการเรียนรู้ในรายวิชากิจกรรมแนะแนว ก31101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้แผน การจัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ ลงชื่อ (นางสาวอังคณา แก้วเล็ก) ครูผู้ช่วย ลงชื่อ ลงชื่อ (นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี) (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ............................................................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ (นางสาวณัฐชยา ถนิมกาญจน์) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นผู้อำนวยการ อนุมัติ ไม่อนุมัติ................................................................................................................. ............ ........... ลงชื่อ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา กิจกรรมแนะแนว รหัสวิชา ๒๓๑๐๑ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน ๒๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖6 การกำหนดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรอง การใช้แผนการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ลงชื่อ................................................ (นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี) หัวหน้ากลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน .................................................................................... .................................................................................... .................................................................................... .................................................................................... .................................................................................... . ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐชยา ถนิมกาญจน์) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นผู้อำนวยการ ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ก


คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ วิชากิจกรรมแนะแนว รหัสวิชา ก 31100 กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามหลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๕๖ โดยยึดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นทักษะกระบวนการกลุ่ม การทำงานเป็นทีม ยึดผู้เรียน เป็นสำคัญ และใช้กระบวนการสอนที่หลากหลาย เน้นการปฏิบัติจริง แผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดทำขึ้น ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 6 แผน ใช้เวลา ๒๐ ชั่วโมง ใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา ๒๕66 ในแต่ละแผนการเรียนรู้ประกอบด้วยมาตรฐานการเรียนรู้สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระ การเรียนรู้ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการจัดการเรียนรู้และการวัดผลประเมินผล อังคณา แก้วเล็ก ครูผู้สอน ข


สารบัญ เรื่อง หน้า การกำหนดการใช้แผนการจัดก ารเรียนรู้ ก คำนำ ข สารบัญ ค วิเคราะห์หลักสูตร 6 คำอธิบายรายวิชา 6 โครงสร้างรายวิชา 7 วิเคราะห์ผู้เรียน 9 ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 9 แบบวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล 11 แผนการจัดการเรียนรู้ 18 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ฉันพัฒนาได้ 19 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ ฉันพัฒนาได้ 19 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ ฉันกับคนรอบข้าง 31 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง เรียนรู้อย่างเข้าใจ 43 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรียนอะไรในหลักสูตร 43 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง อาชี พ 57 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 อาชีพของฉัน 57 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง เครียดภัยใกล้ตัว 76 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เครียด...ภัยใกล้ตัว 76 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การฟังอย่างเข้าใจ 92 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่องการฟังอย่างเข้าใจ 92 ภาคผนวก ค


ทำไมต้องจัดกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมแนะแนวเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนานักเรียนที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้รู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและ ผู้อื่น สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งในด้านการศึกษาและอาชีพ ส่วนตัว และสังคม อีกทั้งพัฒนานักเรียนให้มีทักษะชีวิต สามารถปรับตนและดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม เป็น ประโยชน์และเป็นสุข การจัดกิจกรรมแนะแนว มีขอบข่ายการจัดกิจกรรม 3 ด้าน คือ ด้านการศึกษา ด้านอาชีพ และด้าน ส่วนตัวและสังคม ซึ่งการจัดกิจกรรมแต่ละด้านจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ดังนี้ ๑. ด้านการศึกษา ส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มตามศักยภาพ รู้จัก แสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่ เรียน มีวิธีการเรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างเหมาะสม ๒. ด้านอาชีพ ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักตนเองในทุกด้าน รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพ อย่าง หลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามที่ ตนเองมีความถนัด และสนใจ ๓. ด้านส่วนตัวและสังคม ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าของตนเองและ ผู้อื่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีทักษะชีวิต และสามารถปรับตัว ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นประโยชน์ และมีความสุข ดังนั้น การจัดกิจกรรมแนะแนวจึงจำเป็นต้องจัดให้กับนักเรียนทุกคนอย่างต่อเนื่อง ในทุกระดับชั้น และมีการดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เรียนรู้อะไรในกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมแนะแนวเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา อาชีพ ส่วนตัวและ สังคม เพื่อพัฒนานักเรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์สังคม และเสริมสร้างนักเรียน ให้มีสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยกำหนดสาระสำคัญในการแนะแนว ดังนี้ ๑. การรู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ๑.๑ การรู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเอง ประกอบด้วย การยอมรับ และ เห็นคุณค่า ในรูปลักษณ์ของตนเอง ความภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง การเห็นคุณค่าในความสามารถ ของ ตนเองที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น การยอมรับคุณลักษณะของตนเอง การรู้จักและเข้าใจค่านิยมในการดำเนิน ชีวิต ของตน การรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าในตนเองและพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายชีวิต ๑ ๑.๒ การรู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในผู้อื่น ประกอบด้วย การเห็นคุณค่าของ บุคคลอื่น และสิ่งต่างๆ ที่มีส่วนเกื้อกูลต่อชีวิตตน ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสิ่งรอบตัว การ ยอมรับความ แตกต่างระหว่างบุคคล ความเข้าใจเรื่องความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ความสำคัญ ของคนใน ครอบครัวที่มีส่วนเกื้อกูลต่อชีวิตตน ตลอดจนความสำคัญและคุณค่าของความเป็นชาติไทยที่เกื้อกูล ต่อชีวิต ๒. การวางแผนด้านการศึกษา อาชีพ และสังคม ๒.๑ การคิดวิเคราะห์ตัดสินใจแก้ปัญหา และวางแผนด้านการศึกษา ประกอบด้วย การเรียนรู้คุณค่าของการเรียน และคุณค่ารายวิชาในหลักสูตร การสำรวจจุดเด่น จุดด้อย และ ระดับ ความสามารถทางการเรียน การพัฒนาทักษะการเรียนที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาการเรียนและการ แก้ไข 1


ปัญหาอุปสรรคในการเรียน ตลอดจนการเรียนรู้โลกกว้างการศึกษาต่อและการวางแผนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ทางการเรียน ๒.๒ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหา และวางแผนด้านอาชีพ ประกอบด้วย การเรียนรู้ คุณค่าของการประกอบอาชีพสุจริต คุณค่าและความสัมพันธ์ของอาชีพต่างๆในสังคม ความสนใจ และ บุคลิกภาพทางอาชีพของตน การวางแผนเข้าสู่อาชีพที่สอดคล้องกับความสนใจ บุคลิกภาพ และ ความสามารถ ของตนเอง การรู้จักอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน การวางแผนพัฒนาตน เพื่อ ความสำเร็จในการประกอบอาชีพ ค่านิยมในงานอาชีพ และการวางแผนเข้าสู่อาชีพเป้าหมายในอนาคต ๒.๓ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหา และวางแผนด้านชีวิตและสังคม ประกอบด้วย การรู้จัก เข้าใจและยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต การฝึกทักษะการแก้ไขปัญหา การแก้ปัญหาที่ เกิดขึ้นในชีวิต ของตนเอง การร่วมคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาในโรงเรียน ตลอดจนการร่วมคิดวิเคราะห์และ แก้ปัญหาใน ชุมชน และสังคม ๓. การปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม และมีความสุข ๓.๑ ทักษะการจัดการกับอารมณ์และความเครียด ประกอบด้วย การรู้เท่าทัน อารมณ์ด้าน บวก และลบที่เกิดขึ้นทั้งของตนเองและผู้อื่น การจัดการอารมณ์และการแสดงออกอย่างเหมาะสม การฝึกคิด ทางบวกในสถานการณ์ที่เป็นทุกข์หรือไม่พึงพอใจ การจัดการกับความเครียด การจัดลำดับ ความสำคัญของ ปัญหา และการมองปัญหาอย่างรอบด้าน ๓.๒ ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธภาพ ประกอบด้วยความสำคัญของการ สื่อสารแบบ ใช้ภาษาและท่าทาง การสื่อสารสองทางเพื่อสร้างสัมพันธภาพและการนำไปใช้การปฏิเสธและ การยืนยันการ ปฏิเสธในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการหรือเป็นภัยต่อชีวิต การฟังทั้งเนื้อหาและความรู้สึก การแสดงออกอย่าง เหมาะสม (Assertive Behavior) และการสื่อสารเพื่อสร้างสัมพันธภาพตามแนวคิด TA (Transactional Analysis) ๓.๓ ทักษะการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมและปลอดภัยในเรื่องเพศ ประกอบด้วย การเรียนรู้ ความแตกต่างทางเพศและการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างอย่างกัลยาณมิตร โอกาสเสี่ยงทางเพศ และการ หลีกเลี่ยงผลกระทบของการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พร้อมและไม่ปลอดภัย การรู้เท่าทันอารมณ์ความคิด ๒ และ ความรู้สึกของเพศตรงข้าม ผลกระทบของการมีคู่รักต่อการดำเนินชีวิต การปฏิบัติตนทางเพศอย่าง เหมาะสม การจัดการกับปัญหาที่เกิดจากความรักอย่างเหมาะสม และการวางแผนการใช้ชีวิตครอบครัวใน อนาคตอย่าง อบอุ่นและเป็นสุข ๓.๔ ทักษะการดำรงชีวิตอย่างเป็นประโยชน์และปลอดภัย ประกอบด้วยการ เรียนรู้เรื่อง คุณค่าแท้คุณค่าเทียมของสิ่งต่างๆ การเลือกบริโภค และอุปโภคอย่างพอเพียง หนทางแห่งความ เสื่อมและ ผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม การปฏิบัติตนตามแบบของคนสู้ชีวิต การบริหารการเงินและเวลา อย่างเกิด ประโยชน์สูงสุด การปฏิบัติตนเพื่อให้ปลอดภัยจากภัยสังคม ตลอดจนการวางแผนพัฒนาตนเพื่อการ ดำเนิน ชีวิตอย่างเป็นสุขและเป็นประโยชน์ คุณภาพผู้เรียน จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ • ยอมรับและเห็นคุณค่าในรูปลักษณ์ของตนเองและพัฒนาตนอย่างเต็มศักยภาพ ภาคภูมิใจใน ความสามารถของตนเอง เห็นคุณค่าในการกระทำของตนเองที่เป็น ประโยชน์ต่อผู้อื่น และพัฒนาตนอย่าง ต่อเนื่อง 2


• ตระหนักถึงคุณค่าและเข้าใจความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างตนกับบุคคลอื่นและ สิ่งต่างๆ ที่มีส่วน เกื้อกูลต่อชีวิตตน ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล และปฏิบัติตนต่อผู้อื่น บนพื้นฐานการยอมรับ เห็น คุณค่าและเป็นกัลยาณมิตร • เห็นคุณค่าของการเรียน และคุณค่ารายวิชาในหลักสูตร รู้จุดเด่น จุดด้อย และระดับ ความสามารถ ทางการเรียน พัฒนาจุดเด่นและแก้ไขจุดด้อยที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการ เรียน มีทักษะการเรียนที่มี ประสิทธิภาพ รู้โลกกว้างการศึกษาต่อ และมีการวางแผนเพื่อ มุ่งสู่เป้าหมายทางการเรียน • รู้คุณค่าของอาชีพสุจริต และเข้าใจความสัมพันธ์ของอาชีพต่างๆในสังคม รู้ความสนใจใน อาชีพของ ตน สามารถวางแผนเข้าสู่อาชีพที่สอดคล้องกับความสนใจ บุคลิกภาพ และ ความสามารถของตนเอง • รู้จัก เข้าใจและยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต มีทักษะการแก้ไขปัญหา สามารถ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในชีวิตของตนเอง มีส่วนร่วมในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาใน โรงเรียน ตลอดจนในชุมชนที่ตนอาศัย • รู้เท่าทันอารมณ์ด้านบวกและลบที่เกิดขึ้นทั้งของตนเองและผู้อื่น สามารถจัดการกับ อารมณ์และ แสดงออกอย่างเหมาะสม รู้จักคิดทางบวกในสถานการณ์ที่เป็นทุกข์หรือไม่ พึงพอใจ ๓ • สามารถสื่อสารเพื่อสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น ได้อย่างเหมาะสมทั้งการใช้ภาษา ท่าทาง และการ สื่อสารสองทาง มีทักษะการปฏิเสธและการยืนยันการปฏิเสธในสถานการณ์ที่ไม่ ต้องการหรือเป็นภัยต่อชีวิต • เข้าใจและยอมรับความแตกต่างทางเพศสามารถอยู่ร่วมกันอย่างกัลยาณมิตร รู้จัก ประเมินและ หลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยงทางเพศ รู้ผลกระทบของการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พร้อม และไม่ปลอดภัย รู้เท่าทันอารมณ์ ความคิดและความรู้สึกของเพศตรงข้าม ตลอดจน สามารถปฏิบัติตนทางเพศอย่างเหมาะสมและปลอดภัย • รู้จักเลือกบริโภคและอุปโภคอย่างพอเพียงด้วยการตระหนักรู้ถึงคุณค่าแท้คุณค่าเทียม ของสิ่งต่างๆ รู้หนทางแห่งความเสื่อมและผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ปฏิบัติตน เพื่อชีวิตที่ดีงาม ปลอดภัยจาก อบายมุข และดำรงชีวิตตามแบบของคนสู้ชีวิตเมื่อเผชิญ กับอุปสรรคหรือความทุกข์ จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ • ยอมรับคุณลักษณะของตนเอง และพัฒนาปรับปรุงตนเองอย่างเหมาะสม รู้จักและ เข้าใจค่านิยมใน การดำเนินชีวิตของตน มีแนวทางพัฒนาตนให้สอดคล้องกับค่านิยมและ เป็นประโยชน์ รู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่า ในตนเองและพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายชีวิต • รู้และเข้าใจความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ สามารถปฏิบัติตนในการอยู่ ร่วมกับผู้อื่นอย่าง เข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของคนในครอบครัวที่มีส่วนเกื้อกูลต่อ ชีวิตตน ปฏิบัติตนต่อคนในครอบครัวด้วย ความรู้สึกเห็นคุณค่าและกตัญญู ตระหนักใน ความสำคัญและคุณค่าของความเป็นชาติไทยที่ก่อเกิดและเกื้อกูล ต่อชีวิต สามารถปฏิบัติตนอย่างคนรู้คุณแผ่นดิน • เห็นคุณค่าของการเรียน และคุณค่ารายวิชาในหลักสูตร รู้จุดเด่น จุดด้อย และระดับ ความสามารถ ทางการเรียน พัฒนาจุดเด่นและแก้ไขจุดด้อยที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการ เรียน มีทักษะการเรียนที่มี ประสิทธิภาพ รู้โลกกว้างการศึกษาต่อ และมีการวางแผนเพื่อ มุ่งสู่เป้าหมายทางการเรียน • รู้จักอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน มีแนวทางพัฒนาตนเพื่อ ความสำเร็จใน การประกอบอาชีพ รู้ค่านิยมในงานอาชีพ และสามารถวางแผนเข้าสู่ อาชีพเป้าหมายในอนาคต • รู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเอง มีทักษะการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีและเป็นระบบ ส่วนร่วมในการ คิดวิเคราะห์แก้ปัญหาในชุมชนและสังคมตามศักยภาพของตน • รู้วิธีการจัดการกับความเครียด สามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหา รู้จักมองปัญหา อย่างรอบ ด้านเพื่อการจัดการกับปัญหาและความเครียดที่เกิดขึ้นกับตนเอง ๔ 3


• รู้จักฟังผู้อื่นอย่างเข้าใจทั้งเนื้อหาและความรู้สึก รู้จักพฤติกรรมการแสดงออกอย่าง เหมาะสม (Assertive Behavior) ตลอดจนรู้จักเลือกรูปแบบการสื่อสารตามแนวคิด TA (Transactional Analysis) เพื่อ สร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม • รู้ผลกระทบของการมีคู่รักที่มีต่อการดำเนินชีวิตและปฏิบัติตนในการมีคู่รักอย่าง เหมาะสม รู้จัก จัดการกับปัญหาที่เกิดจากความรักอย่างเหมาะสม และมีการวาง แผนการใช้ชีวิตครอบครัวในอนาคตเพื่อสร้าง ครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นสุข • รู้จักบริหารการเงินและเวลาอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด สามารถปฏิบัติตนเพื่อให้ปลอดภัยจากภัยใน สังคม มีการวางแผนพัฒนาตนเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุขและเป็นประโยชน์ 4


กรอบสาระการแนะแนวและวัตถุประสงค์กิจกรรมแนะแนว หลักสูตรกิจกรรมแนะแนวระดับชั้น ม.๑-ม.๖ สาระการแนะแนว วัตถุประสงค์กิจกรรมแนะแนว (มาตรฐาน) ๑. การรู้จักเข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและ ผู้อื่น ๑.๑ ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าในตนเองและ พัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ ๑.๒ ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าของผู้อื่นและ ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสม ๒. การวางแผนด้านการศึกษา อาชีพ และสังคม ๒.๑ ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจแก้ปัญหา และวางแผนด้านการศึกษา ๒.๒ นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ แก้ปัญหา และวางแผนด้านอาชีพ ๒.๓ นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหา และวางแผนด้านชีวิตและสังคม ๓. การปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม และมีความสุข ๓.๑ นักเรียนมีทักษะการจัดการกับอารมณ์และ ความเครียด ๓.๒ นักเรียนมีทักษะการสื่อสารและสร้าง สัมพันธภาพ ๓.๓ นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม และปลอดภัยในเรื่องเพศ ๓.๔ นักเรียนมีทักษะการดำรงชีวิตอย่างเป็น ประโยชน์และปลอดภัย 5


คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ก 31101 รายวิชากิจกรรมแนะแนว กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต กิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ พัฒนาการของนักเรียนระดับชั้น ม. 4 และวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ตอบสนองตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร แกนกลาง ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งในด้านการศึกษาและอาชีพ ส่วนตัวและสังคม อีกทั้งพัฒนา ผู้เรียนให้มีทักษะชีวิตสามารถปรับตนและดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสมเป็นประโยชน์และเป็นสุข โดยมีเป้าหมาย ในการป้องกัน ช่วยเหลือส่ง เสริมพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับจุดหมายของหลักสูตร ซึ่งมีขอบข่ายสาระสำคัญ 3 ด้าน คือ 1) การแนะแนวการศึกษา เป็นการแนะแนวที่เน้นให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนได้เต็มศักยภาพ รู้จัก แสวงหาความรู้จากแหล่งต่างๆ สามารถปรับตัวด้านการเรียน มีแนวทางในการศึกษาต่อ และมีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่ เรียน 2) การแนะแนวอาชีพ เป็นการแนะแนวที่เน้นให้ผู้เรียนรู้จักตนเองและโลกของงานอาชีพอย่าง หลากหลาย มีแนวทางในการเลือกอาชีพตามความถนัด ความสนใจและความสามารถของตน 3) การแนะแนว ด้านชีวิตและสังคม เป็นการแนะแนวที่เน้นให้ผู้เรียนเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่นมี แนวทางในการปฏิบัติตน เพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นบนพื้นฐานของความแตกต่างระหว่างบุคคล สามารถปรับตัวให้ ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างเป็นสุขในระดับชั้น ม.4 ภาคเรียนที่ 1 เน้นให้ผู้เรียนตระหนัก ยอมรับตนเอง สามารถพัฒนาและปรับปรุงตนได้อย่างเหมาะสม เข้าใจความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ สามารถ ปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเข้าใจ เห็นคุณค่าของการเรียน คุณค่าของรายวิชาในหลักสูตรเเละ พัฒนาการทางการเรียนที่มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองมีฝึกทักษะการเเก้ปัญหาอย่างถูก วิธี ตลอดจนสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. นักเรียนตระหนัก ยอมรับคุณลักษณะของตนเองสามารถพัฒนาและปรับปรุงตนเองได้อย่าง เหมาะสม 2. นักเรียนเข้าใจความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ และสามารถปฏิบัติตน ในการอยู่ร่วมกับ ผู้อื่นอย่างเข้าใจ 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของการเรียน คุณค่าของรายวิชาในหลักสูตรและพัฒนาทักษะการเรียนที่มี ประสิทธิภาพ 4. นักเรียนรู้ข้อมูลอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และวางแผนพัฒนาตนเพื่อ เตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ 5. นักเรียนรู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเอง และฝึกทักษะการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี 6. นักเรียนรู้จักและเห็นความสำคัญ ของการฟังทั้งเนื้อหาและความรู้สึก สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ อย่างเหมาะสม รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้ 6


โครงสร้างการสอนรายวิชากิจกรรมแนะแนว รายวิชา กิจกรรมแนะแนว รหัส ก 31101 กลุ่ม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖6 เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต หน่วย ที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด/ ผลการ เรียนรู้ เนื้อหาสาระ/หัวข้อที่ สอน เวลา (ชม.) น้ำหนัก (คะแนน) 1 หน่วยที่ 1 ฉันพัฒนาได้ 1 2 ปฐมนิเทศ 1 ฉันพัฒนาได้ 3 20 ฉันกับคนรอบข้าง 3 2 หน่วยที่ 2 เรียนรู้อย่างเข้าใจ 3 เรียนอะไรในหลักสูตร 3 15 3 หน่วยที่ 3 อาชีพ 4 อาชีพของฉัน 4 30 4 หน่วยที่ 4 เครียด...ภัยใกล้ตัว 5 เครียดภัยใกล้ตัว 2 15 5 หน่วยที่ 5 การฟังอย่างเข้าใจ 6 การฟังอย่างเข้าใจ 4 20 รวม 20 100 สอบกลางภาค - - สอบปลายภาค - - ตลอดภาคเรียน 20 100 7


2. รูปแบบวิธีการจัดการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การศึกษาเปรียบเทียบ การสำรวจและวิเคราะห์ ตนเอง การทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา การทำกิจกรรมกลุ่ม การอภิปรายแลกเปลี่ยน การระดมสมอง การนำเสนอ กระบวนการแก้ปัญหา บทบาทสมมุติ การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติจริง 3. การวัดผลประเมินผล การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน เป็นการประเมินเมื่อสิ้นภาคเรียน ครูผู้จัดกิจกรรมต้องตรวจสอบ เวลาการเข้าร่วมกิจกรรมและประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมตัดสินผลการประเมินเป็น “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” ดังนี้ ผ่าน หมายถึง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ปฎิบัติกิจกรรมและมีผลงาน คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้มีเวลาเรียนไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่านการปฎิบัติกิจกรรม ผลงาน คุณลักษณะไม่ เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด เกณฑ์การประเมิน ปลายภาค ผ่าน ไม่ผ่าน ข้อ 1. การเข้าห้องเรียนและการมีส่วนร่วมในกิจกรรม 1.1 ผู้เรียนมีเวลาเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมร้อยละ 80 ขึ้นไป 1.2 ผู้เรียนมีเวลาเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าร้อยละ 80 ข้อ 2. การทำและส่งใบกิจกรรม 2.1 ผู้เรียนทำและส่งใบกิจกรรมครบถ้วน ร้อยละ 60 2.2 ผู้เรียนทำและส่งใบกิจกรรมไม่ครบตามกำหนด * ผู้เรียนมีผลการประเมินตามเกณฑ์ข้อที่ 1 และ ข้อที่ 2 เป็น “ผ่าน” ผลการประเมินปลายภาค คือ “ผ่าน” (ผ) * ผู้เรียนมีผลการประเมินตามเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้อ เป็น “ไม่ผ่าน” ผลการประเมินปลายภาค คือ “ไม่ผ่าน” (มผ) 8


โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อนำไปออกแบบการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความสามารถของผู้เรียน ๒. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รายวิชา กิจกรรมแนะแนว รหัสวิชา 31101 ภาคเรียนที่ 1/๒๕66 ชื่อผู้สอน นางสาวอังคณา แก้วเล็ก สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพื้นฐานของผู้เรียน ระดับคุณภาพของ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการประเมิน จำนวนคน ร้อยละ ผ่าน สูงกว่า 6๐ คะแนน ไม่ผ่าน ต่ำกว่า 6๐ คะแนน แนวทางการจัดกิจกรรม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ กิจกรรมแก้ไขหรือ พัฒนา ใบแผนการ เรียนรู้ จำนวน เครื่องมือ/ วิธีการ ประเมิน เดิม เป้าหมาย ผ่าน 100 100 ไม่ผ่าน 0 0 9


แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง ๑ เลขที่ ชื่อ-สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายกฤษฎิ์ กลับชัย / 2 นายคฑาวุธ บริสุทธิ์ / 3 นายคณาพงษ์ มูสิเเดง / 4 นายชนม์พรรษ์ เรืองไชย / 5 นายธนภูมิ จันทวงศ์ / 6 นายธาวิน เพชรเจริญ / 7 นายนนทพัทธ์ ส่งมา / 8 นายนัทธพงศ์ เจริญรูป / 9 นายพีรพัฒน์ แก้วเพชร / 10 นายรัฐศาสตร์ เพชรโชติ / 11 นายสรรเพชร โสขะ / 12 นายอนันดา ลออเอี่ยม / 13 นางสาวกัญญ์วรา แก้วมีศรี / 14 นางสาวกัญญาพัชร ทรัพย์ประเทือง / 15 นางสาวกันต์ฤทัย คชไกร / 16 นางสาวจุฑามาศ ทองสัมฤทธิ์ / 17 นางสาวฐานิตา ศรีคงแก้ว / 18 นางสาวทศวรรณ คุณวิจิตร / 19 นางสาวธนพร นวลขาว / 20 นางสาวธนัญชนก สาคร / 21 นางสาวธัญชนก ทวีรัตน์ / 22 นางสาวธัญวรัตม์ วงศ์พัฒน์เสวก / 23 นางสาวธิดาทิพย์ สุทธิมาศ / 24 นางสาวนภเกตน์ สายควนเกย / 25 นางสาวนัฐชา สงทอง / 26 นางสาวนันทวัน สุราวุธ / 27 นางสาวนารีรัตน์ มั่งมี / 28 นางสาวปิยพร จันทร์นคร / 29 นางสาวพรพิมล พัฒน์ชู / 30 นางสาวพิมพกานต์ แดงเนื่อง 31 นางสาวมณีรัตน์ บัวมณี 32 นางสาวมนิตา สวนแก้ว 10


เลขที่ ชื่อ-สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผ่าน 33 นางสาวมัฐติมา สุวรรณวิเชียร / 34 นางสาวมินทร์ธาดา ประจวบบุญ / 35 นางสาววราภรณ์ เจียมบุษย์ / 36 นางสาวศิริมา - / 37 นางสาวสิริวิมล เมฆใหม่ / 38 นางสาวสุชานาถ รอดเจริญ / 39 นางสาวอลิชา ลออเอี่ยม / 40 นางสาวอัจฉรา แซ่หลี / 11


แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 2 เลขที่ ชื่อ-สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายกิตติพงษ์ ชูทุ่งยอ / 2 นายเกริกเกียรติ บัวเเก้ว / 3 นายขจรเกียรติ บูรพงค์ / 4 นายขวัญชัย ท่าชี / 5 นายจตุรพร หีดจินดา / 6 นายจรัญ คงช่วย / 7 นายชนะพล หล่อพันธ์ / 8 นายณัฏฐบดินทร์ ทิพย์เดช / 9 นายณัฐพัฒน์ รุ่งสกุล / 11 นายณัฐวุฒิ เข็มทอง / 12 นายธนกฤต จันทร์เมฆ / 13 นายธนวัฒน์ สุภลักษณ์ / 14 นายบัญญวัต มะโร / 15 นายปกรณ์เกียรติ ลิ้มเจริญ / 16 นายพิรสันต์ รามสุวรรณ์ / 17 นายรังสิมันตุ์ คงประเสริฐ / 18 นายวรวัฒน์ เวชรินทร์ / 19 นายวรากร สุดนาค / 20 นายสิทธิพร เพ็ชรชู / 21 นายอนุพงศ์ สิทธิเเดง / 22 นางสาวกชกร คงไล่ / 230 นางสาวจิราภรณ์ เดชพิชัย / 24 นางสาวณัฐริยา สุวรรณวิเชียร / 25 นางสาวณิชนันทน์ สุวรรณ์สอาด / 26 นางสาวตรีชฎา สมบัติแก้ว / 27 นางสาวธนนันท์ แสงทองย้อย / 28 นางสาวธนพร ด่านเจริญชัย / 29 นางสาวนภัสนันท์ แก้วนวล / 30 นางสาวเพชรรดา โภคา / 31 นางสาวฟ้าใส คงเนียม / 32 นางสาวรวิสรา คงเรือง / 33 นางสาววราภรณ์ จันทร์ทอง / 12


เลขที่ ชื่อ -สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่า น ไม่ผ่าน 3 4 นางสาวศิริเสาวภา สาริพัฒน์ / 3 5 นางสาวโศภิษฐา คุณวิจิตร / 3 6 นางสาวอมรรัตน์ สังข์ทอง / 1 3


แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 3 เลขที่ ชื่อ-สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายทัชวฤทธิ์ ทองเสน / 2 นายธนโชติ รองเมือง / 3 นายนัฐพงษ์ ศรีรักษา / 4 นายพศวัต หีตทิม / 5 นายภูมิรพี เมืองพร้อม / 6 นายศุภกิจ ซุยจินา / 7 นางสาวกนกพร สุดเส้ง / 8 นางสาวขนิษฐา ปาละคเชนทร์ / 9 นางสาวขวัญภิรมย์ ชินโคตร / 10 นางสาวจันทกานต์ ประจิน / 11 นางสาวจิราพร แก้วมิตร / 12 นางสาวชนัญธิดา ไมตรีจิตต์ / 13 นางสาวชนิษฐา ประกอบแก้ว / 14 นางสาวณัฐณิชา บุญฤทธิ์ / 15 นางสาวณัฐธิดา วิชิต / 16 นางสาวณิชนันทน์ พันธ์เจริญ / 17 นางสาวณิชาภรณ์ เกตุขาว / 18 นางสาวธิดารัตน์ มุสิกวาที / 19 นางสาวบัณฑิตา อินทรชิต / 20 นางสาวปริยาภัทร คงคุ้ม / 21 นางสาวปวริศา คุ้มเอียด / 22 นางสาวมณีวรรณ สาริพัฒน์ / 23 นางสาวรัชนี หนูจันทร์ / 24 นางสาววรัทญา หัตถาผล / 25 นางสาวเวียรยา จันทร์สวี / 26 นางสาวสิรภัทร บัวทอง / 27 นางสาวสิรภัทร หนูเยาว์ / 28 นางสาวสุรัญชนา ชูพรหม / 29 นางสาวอนันตญา มังกรรัตน์ / 30 นางสาวอัฉราวรรณ หนูจันทร์ / 14


แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 4 เลขที่ ชื่อ-สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 นายกฤตเมธ ศุภลักษณ์ / 2 นายกฤษฏา อะโน / 3 นายเกียรติกำพล ปรีชา / 4 นายคชภัค แช่มไล่ / 5 นายจักรพงศ์ ผุดบ่อน้อย / 6 นายจิณณพัฒน์ กองกุล / 7 นายจิรายุ สุขขี / 8 นายฐาปณพงศ์ เวชศาสตร์ / 9 นายฐิรวัฒณ์ รัตนชัย / 10 นายณัฐกฤต วิชิต / 11 นายณัฐวุฒิ ทิพย์สุวรรณ / 12 นายณัธพงษ์ เพชรชู / 13 นายธนพล เผือกภูมิ / 14 นายธรรมรัตน์ เเสงตาขุน / 15 นายนเรนทร์ฤทธิ์ อุดมศรี / 16 นายพีรภัทร จันทร์พรึก / 17 นายพีรวัฒน์ นพรัตน์ / 18 นายภูษิตย์ ชัยเจริญ / 19 นายรัชชานนท์ บุญร่ม / 20 นายรัชชานนท์ ประเสริฐศิลป์ / 21 นายวรากรณ์ นวลขาว / 22 นายวีรภัทร หนำคอก / 23 นายศิววงศ์ ทิพย์เดช / 24 นายศุภโชค ศรีรอดภัย / 25 นายสราวุฒิ นาคเกษม / 26 นายอดิศร แย้มแก้ว / 27 นายอมรวิชช์ ชบากาญจน์ / 28 นายอรรถพล อนุภักดิ์ / 29 นางสาวธัญวรรณ ประเสริฐ / 30 นางสาวปุณยาพร ล่องแป้น / 31 นางสาวพิมพ์ชนก สุวรรณรัตน์ / 15


เลขที่ ชื่อ-สกุล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผ่าน 32 นางสาวมณีนาจ ทองญวน / 33 นางสาววรพิชชา ศรีชัย / 34 นางสาวศิริวิมล วิชิต / 35 นางสาวศิริวิมล วิชิต / 16


แผนการจัดการเรียนรู้


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รายวิชากิจกรรมแนะแนว รหัสวิชา ก๒๓๑๐2 มัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้1 เรื่อง ฉันพัฒนาได้ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖6 แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ฉันพัฒนาได้ เวลา 4 ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้(สาระการแนะแนว) สาระการแนะแนวที่ 1 การรู้จักเข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและ ผู้อื่น ข้อ ๑.๑ ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าในตนเองและ พัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ ข้อ 1.2 ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าของผู้อื่นและ ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสม ตัวชี้วัด (ผลการเรียนรู้) ผลการเรียนรู้ที่ 1 นักเรียนตระหนัก ยอมรับคุณลักษณะของตนเองสามารถพัฒนาและ ปรับปรุงตนเองได้อย่างเหมาะสม ผลการเรียนรู้ที่ 2 นักเรียนเข้าใจความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ และสามารถ ปฏิบัติตน ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเข้าใจ ๒. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด บุคคลต่างมีลักษณะส่วนตนที่หลากหลาย การรู้จักและยอมรับคุณลักษณะของตนทั้งข้อดี และข้อบกพร่อง จะช่วยให้นักเรียนสามารถพัฒนาข้อดีและปรับปรุงข้อบกพร่องของตนเองได้ ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 คุณลักษณะข้อดีและข้อบกพร่องของตนเอง 3.2 วิธีการพัฒนาและปรับปรุงตนเอง ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ความรู้(K) บอกคุณลักษณะข้อดีและข้อบกพร่องของตน 2.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) บอกวิธีการพัฒนาและปรับปรุงข้อบกพร่องของตนเองได้ 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม/ความรับผิดชอบในการส่งงาน ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๕.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๕.๒ ความสามารถในการคิด ๕.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 19


๕.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๖.๑ รักชาติ ๖.๒ ซื่อสัตย์สุจริต ๖.๓ มีวินัย ๖.๔ ใฝ่ความรู้ ๖.๕ อยู่อย่างพอเพียง ๖.๖ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖.๗ รักความเป็นไทย ๖.๘ มีจิตสาธารณะ 7. ชิ้นงาน / ภาระงาน 7.1 ใบงานเรื่อง นี่แหละตัวฉัน 7.2 ใบงานเรื่อง แม้นความดีเพียงเล็กน้อยก็ต้องทำ 7.3 ใบงานเรื่อง บันได 5 ขั้นของชีวิต 8. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ชั่วโมงที่ 1 8.1 ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 7 - 9 คน แต่ละกลุ่มนั่งเป็นวงกลม ครูแจกกระดาษคนละ แผ่นนักเรียนเขียนชื่อมุมบนขวา และพับกระดาษเป็น 2 ส่วน ด้านซ้ายเขียนข้อดี ด้านขวาเขียนข้อบกพร่อง จากนั้นให้สำรวจและเขียนข้อดีและข้อบกพร่องของตนเองบนกระดาษ ภายใน 2 นาที แล้วติดกระดาษไว้ ด้านหลังของตน จากนั้นให้นักเรียนนั่งหันไปทางซ้ายมือ แล้วเขียนข้อดีและข้อบกพร่องบนกระดาษของเพื่อนที่ นั่งอยู่ข้างหน้าตนเอง คนละ 1 ข้อ 8.2 ให้นักเรียน พิจารณาข้อดี ข้อบกพร่อง สุ่มสอบถามความรู้สึกนักเรียนกลุ่มละ 1 คน ถึง ข้อดีและข้อบกพร่อง 8.3 ดำเนินกิจกรรมเทียน โดยครูจุดเทียนไข ให้นักเรียนดูประมาณ 1 นาทีแล้วดับเทียนไข และหักเทียนไข ต่อด้วยการจุดเทียนที่หักขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้นักเรียนพิจารณาประมาณ 1 นาที 8.4 ครูตั้งคำถามว่า “นักเรียนได้ข้อคิดอะไรบ้าง จากกิจกรรมที่ให้ดู“ ให้นักเรียนเขียนลง ในสมุด ประมาณ 5 บรรทัด จากนั้นให้อ่านให้เพื่อนฟัง และครูเลือกตัวอย่างที่สรุปได้ความหมายครบถ้วน อ่านให้นักเรียนทั้งห้องฟัง แล้วครูสรุปดังนี้ “คุณค่าของเทียนไข คือ การให้แสงสว่าง ไม่ว่าเทียนไขนั้นจะ เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์อย่างไรแต่เมื่อถูกจุดขึ้นก็ให้แสงสว่าง ให้คุณค่าเหมือนกัน เปรียบเหมือนคนเรา ไม่ว่าจะ มีรูปร่างหน้าตา การศึกษา หรือฐานะความเป็นอยู่แตกต่างกันอย่างไร สิ่งที่สำคัญคือการได้ให้ประโยชน์ต่อ สังคมคนทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อบกพร่องในตนเองและก็สามารถปรับปรุงข้อด้อยและพัฒนาข้อดีเหล่านั้น เพื่อ การดำเนินชีวิตที่ดีต่อไปในสังคม” 8.5 ครูแจกใบงานเรื่อง นี่แหล่ะตัวฉัน ให้นักเรียนทำ และให้ออกมารายงานหน้าชั้นเรียน 8.6 ครูสรุปจากสิ่งที่นักเรียนออกมารายงานหน้าชั้น กล่าวได้ว่า ทุกคนมีความตั้งใจที่ดีอยู่ใน หัวใจซึ่งสิ่งนี้คือพื้นฐานที่สำคัญในการใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต คนเราทุก คนมีทั้งข้อดีและข้อบกพร่องในตนเอง เราต้องเข้าใจในตัวตนทั้ง 2 ด้าน และพัฒนาข้อดีและปรับปรุง ข้อบกพร่องเพื่อให้มีชีวิตที่ดีบนวิถีทางที่ถูกต้อง ชั่วโมงที่ 2 8.7 ทบทวนกิจกรรมที่ผ่านมา แม้นักเรียนจะมีความแตกต่างกันอย่างไรแต่คุณค่าสิ่งที่สำคัญ คือการทำตัวให้มีประโยชน์เหมือนเทียน แม้จะเป็นเทียนที่สมบูรณ์หรือเทียนที่หักก็ยังให้แสงสว่างได้เสมอ 8.8 ครูดำเนินกิจกรรมแม้นความดีเพียงเล็กน้อย...ก็ต้องทำโดยให้นักเรียนนั่งตัวตรง สงบนิ่ง แล้วหลับตา ครูเปิดเพลง เดินตามพ่อ ให้นักเรียนฟังจนจบเนื้อเพลง 20


8.9 นักเรียนร่วมกันอภิปราย/แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อเพลง ซึ่งเป็นการตั้งปณิธานจะ ทำความดีแม้เพียงเล็กน้อยหากเทียบกับพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 8.10 ครูให้นักเรียนทบทวนตนเองว่าได้ทำความดีอะไรบ้างส่งผลดีต่อตนเองและคนรอบข้าง และสังคมอย่างไรบ้าง แจกใบงานให้นักเรียนเรื่อง “แม้ทำความดีเพียงน้อยนิด ก็ต้องทำ” โดยยกตัวอย่างตาม ตารางข้างล่าง ความดีที่ฉันทำ ประโยชน์ที่ได้รับ ตัวเอง พ่อแม่ ประเทศชาติ/สังคม กรอกน้ำใส่ตู้เย็น ช่วยรดน้ำต้นไม้ 8.11 ครูและนักเรียนอภิปรายสรุปผลของการทำความดีแม้เพียงเล็กน้อย (แนวทางการสรุป คือ การทำความดีแม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังสังคมส่วนรวม แม้เราเป็นเพียงคนเล็กๆ แต่ก็ สามารถมีส่วนร่วมในการทำให้สังคมและประเทศชาติพัฒนาและมีความมั่นคง ประเทศชาติมั่นคง เจริญรุ่งเรือง ก็ส่งผลย้อนกลับมายังคนในชาติซึ่งก็รวมถึงตัวเราด้วย ดั่งสุภาษิตที่กล่าวว่า “อย่าเห็นเป็นความดีเล็กน้อยแล้ว ไม่ทำ อย่าเห็นเป็นความชั่วเล็กน้อยแล้วทำ”) ชั่วโมงที่ 3 8.12 ครูดำเนินกิจกรรมฉันพัฒนาได้ โดยครูอ่านบทกวี “หิ่งห้อย” “เป็นดาวนั้นก็สวยดีอยู่หรอก แต่เป็นหินดินหมอกแต้มสีสัน หิ่งห้อยสิคือแสงแห่งชีวัน ที่กรองกลั่นสีสันจากวิญญาณ หากเธอเลือกเป็นหิ่งห้อย แทนดาวลอยสูงศักดิ์อรรคฐาน เธอมีสิทธิมีความหวังอหังการ มีสิทธิผ่านที่มืดซึ่งขาดดาว” 8.13 ทบทวนกิจกรรมในชั่วโมงที่ผ่านมา ว่าแม้กิจกรรมที่เราคิดว่าเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ ใน ชีวิตประจำวันก็ล้วนมีคุณค่าและมีความสำคัญ ส่งผลยิ่งใหญ่อย่างที่เราคาดไม่ถึง ดังนั้นทุกคนควรตั้งใจทำ หน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดอันจะทำให้สังคมโดยรวมมีความสุขต่อเนื่องกันไป 8.14 ให้นักเรียนทำใบงาน บันได 5 ขั้นของชีวิต วิเคราะห์ความสามารถของตนเองในแต่ละ ช่วงอายุ พร้อมทั้งทบทวนความรู้สึกที่เกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงพัฒนาตนเองในแต่ละช่วงวัยของชีวิต 8.15 ให้นักเรียนวิเคราะห์ความต้องการของตนเองในปัจจุบัน ว่ามีสิ่งใดที่อยากทำมากที่สุด และวางแผนปฏิบัติตนเพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ 8.16 นักเรียนช่วยกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรม/นำเสนอใบความรู้ เรื่อง การ พัฒนาตนเองโดยใช้หลัก 4 Self 8.17 ครูเพิ่มเติมข้อคิดที่นักเรียนช่วยกันสรุป เพิ่มเติมให้ครบถ้วน รอบด้านสมบูรณ์มาก ยิ่งขึ้น “สิ่งที่เราไม่เคยรู้ ไม่ใช่ว่าเราจะรู้ไม่ได้ และสิ่งที่เราไม่เคยทำใช่ว่าเราจะทำไม่ได้ เพราะชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ” 21


9. สื่อการสอน/ใบความรู้/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 บทกวี/เพลงที่แสดงถึงการเห็นคุณค่าในตนเอง เช่น เพลงเดินตามพ่อ 9.2 ปากกาเขียน White Board 9.3 เทียนไข 9.4 ไม้ขีด 9.5 เอกสาร เรื่องเทคนิคการพัฒนาตน (เอกสารอ่านเพิ่มเติมสำหรับครู) ๑0. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการประเมิน 10.1.1 สังเกตการปฏิบัติกิจกรรม 10.1.2 ตรวจใบงาน 10.2 เกณฑ์การประเมิน 10.2.1 สังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์ ข้อความบ่งชี้ ผ่าน มีความตั้งใจร่วมกิจกรรมให้ความร่วมมือกับกลุ่มในการอภิปรายแสดงความ คิดเห็นและส่งงานตามที่กำหนด ไม่ผ่าน ไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่ม หรือขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 10.2.2 ตรวจใบงาน เกณฑ์ ข้อความบ่งชี้ ผ่าน บอกขั้นตอนการพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ ไม่ผ่าน ไม่สามารถบอกขั้นตอนการพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ 22


บันทึกหลังสอนแผนการจัดกิจกรรมที่ ๑ ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม. 4/...... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ตามแผนการจัดการเรียนรู้เนื่องจาก.................................................................................... ๒. สรุปผลการเรียนการสอน ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๓. ปัญหา อุปสรรค กิจกรรมการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรม ไม่ทันตามเวลาที่กำหนด มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ............................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ควรนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปปรับปรุง เรื่อง............................................................................... แนวทางการแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ อื่น ๆ ลงชื่อ..............................................ผู้สอน (นางสาวอังคณา แก้วเล็ก) ความคิดเห็นหัวหน้ากลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะ ........................................................................................ ลงชื่อ............................................ (นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี ) ความคิดเห็นของหัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ .................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงาน วิชาการ .................................................................................... .................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางผกา สามารถ ) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา .................................................................................... .................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางผกา สามารถ ) 23


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมแนะแนวฉันพัฒนาได้ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุลนักเรียน...............................................................................................ชั้น ม.4/..........เลขที่........... ใบงานเรื่อง นี่แหละตัวฉัน คำชี้แจง ให้นักเรียนสำรวจตนเองว่ามี ข้อดี และข้อบกพร่อง อย่างไรบ้าง พร้อมกับวิเคราะห์ว่าคุณสมบัติ เหล่านั้น มีส่วนส่งเสริม หรือสร้างปัญหาแก่นักเรียนอย่างไร (เวลา 30 นาที) โดยเขียนลงในตาราง ข้อดีของฉัน ส่งเสริมชีวิตฉัน ดังนี้ ข้อบกพร่องของฉัน เป็นอุปสรรคในชีวิตฉัน ดังนี้ ข้อสรุปที่ได้จากกิจกรรม .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................... .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. 24


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมแนะแนวฉันพัฒนาได้ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุล...........................................................................................................ชั้น ม.4/..........เลขที่........... ใบงานเรื่อง แม้นความดีเพียงเล็กน้อยก็ต้องทำ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนการกระทำในชีวิตประจำวันของนักเรียน 10 กิจกรรม ลงในตาราง จากนั้น วิเคราะห์ถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อตนเอง และผู้อื่น และสรุปสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ ความดีที่ฉันทำ ประโยชน์ที่ได้รับ ตัวเอง พ่อแม่ ประเทศชาติ/สังคม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 สรุป จากกิจกรรมข้างต้น นักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรบ้าง ...................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….............................................. ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 25


เอกสารประกอบกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรม ฉันพัฒนาได้ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เอกสารเพิ่มเติมสำหรับครู “เรื่อง เทคนิคการพัฒนาตน” ความหมายของการพัฒนาตน การพัฒนาตน ตรงกับภาษาอังกฤษว่า self-development แต่ยังมีคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับ คำว่าการพัฒนาตน และมักใช้แทนกันบ่อยๆ ได้แก่ การปรับปรุงตน (self-improvement) การบริหารตน (self-management) และการปรับตน (self-modification) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมาะสม เพื่อสนองความต้องการและเป้าหมายของตนเอง หรือเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่สังคมคาดหวัง ความหมายที่ 1 การพัฒนาตนคือการที่บุคคลพยายามที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนด้วยตนเองให้ดีขึ้น กว่าเดิม เหมาะสมกว่าเดิม ทำให้สามารถดำเนินกิจกรรม แสดงพฤติกรรม เพื่อสนองความต้องการ แรงจูงใจ หรือเป้าหมายที่ตนตั้งไว้ ความหมายที่ 2 การพัฒนาตนคือการพัฒนาศักยภาพของตนด้วยตนเองให้ดีขึ้นทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม เพื่อให้ตนเป็นสมาชิกที่มีประสิทธิภาพของสังคม เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ตลอดจนเพื่อการดำรงชีวิต อย่างสันติสุขของตน แนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาตน บุคคลที่จะพัฒนาตนเองได้จะต้องเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงตัวเอง โดยมี ความเชื่อหรือแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาตนที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้การพัฒนาตนเองประสบ ความสำเร็จ แนวคิดที่สำคัญมีดังนี้ 1. มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่มีคุณค่าอยู่ในตัวเอง ทำให้สามารถฝึกหัดและพัฒนาตนได้ใน เกือบทุกเรื่อง 2. ไม่มีบุคคลใดที่มีความสมบูรณ์พร้อมทุกด้าน จนไม่จำเป็นต้องพัฒนาในเรื่องใดๆ 3. แม้บุคคลจะเป็นผู้ที่รู้จักตนเองได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนตนเองได้ในบางเรื่อง ยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้อื่นในการพัฒนาตน การควบคุมความคิด ความรู้สึก และการกระทำของ ตนเอง มีความสำคัญเท่ากับการควบคุมสิ่งแวดล้อมภายนอก 4. อุปสรรคสำคัญของการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง คือ การที่บุคคลมีความคิดติดยึด ไม่ ยอมปรับเปลี่ยนวิธีคิด และการกระทำ จึงไม่ยอมสร้างนิสัยใหม่ หรือฝึกทักษะใหม่ๆที่จำเป็นต่อตนเอง 5. การปรับปรุงและพัฒนาตนเองสามารถดำเนินการได้ทุกเวลาและอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบ ปัญหาหรือข้อบกพร่องเกี่ยวกับตนเอง ความสำคัญของการพัฒนาตน บุคคลล้วนต้องการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ หรืออย่างน้อยก็ต้องการมีชีวิตที่เป็นสุขในสังคม ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและความต้องการของตนเอง พัฒนาตนเองได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นในสังคมโลก การพัฒนาตนจึงมีความสำคัญดังนี้ 27


ก. ความสำคัญต่อตนเอง จำแนกได้ดังนี้ 1. เป็นการเตรียมตนให้พร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรับกับสถานการณ์ทั้งหลายได้ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อ ตนเอง 2. เป็นการปรับปรุงสิ่งที่บกพร่อง และพัฒนาพฤติกรรมให้เหมาะสม ขจัดคุณลักษณะที่ไม่ต้องการ ออกจากตัวเอง และเสริมสร้างคุณลักษณะที่สังคมต้องการ 3. เป็นการวางแนวทางให้ตนเองสามารถพัฒนาไปสู่เป้าหมายในชีวิตได้อย่างมั่นใจ 4. ส่งเสริมความรู้สึกในคุณค่าแห่งตนสูงให้ขึ้น มีความเข้าใจตนเอง สามารถทำหน้าที่ตามบทบาท ของตนได้เต็มศักยภาพ ข. ความสำคัญต่อบุคคลอื่น เนื่องจากบุคคลย่อมต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน การพัฒนาในบุคคลหนึ่งย่อมส่งผลต่อบุคคลอื่น ด้วย การปรับปรุงและพัฒนาตนเองจึงเป็นการเตรียมตนให้เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีของผู้อื่น ทั้งบุคคลในครอบครัว และเพื่อนในที่ทำงาน สามารถเป็นตัวอย่างหรือเป็นที่อ้างอิงให้เกิดการพัฒนาในคนอื่นๆ ต่อไป เป็น ประโยชน์ร่วมกันทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานและการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในชุมชน ที่จะส่งผลให้ชุมชนมี ความเข้มแข็งและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ค. ความสำคัญต่อสังคมโดยรวม ภารกิจที่แต่ละหน่วยงานในสังคมต้องรับผิดชอบ ล้วนต้องอาศัยทรัพยากรบุคคลเป็น ผู้ปฏิบัติงาน การที่ผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนได้พัฒนาและปรับปรุงตนเองให้ทันต่อพัฒนาการของรูปแบบการ ทำงานหรือเทคโนโลยีการพัฒนาเทคนิควิธี หรือวิธีคิดและทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการ ทำงานและคุณภาพของผลผลิต ทำให้หน่วยงานนั้นสามารถแข่งขันในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพกับสังคม อื่นได้สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ (ที่มา ผศ.วินัย เพชรช่วย http://www.novabizz.com/NovaAce/Learning/Self_Development.htm) 28


ใบความรู้กิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรม ฉันพัฒนาได้ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ใบความรู้ เรื่องเทคนิคการพัฒนาตนตนเองด้วยหลัก 4 Self ในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี การสื่อสาร สภาพเศรษฐกิจ และข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่มีการส่งถ่ายถึงกันและกันเร็วขึ้น และจากการ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เองจึงเป็นเสมือนพลังผลักดันให้คนแต่ละคนต่างต้องตระหนักถึง ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง อันทำให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอเพื่อให้ตนมีความพร้อม รับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้ที่พัฒนาตนเองย่อมเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้รับความก้าวหน้าในสาย อาชีพ ได้รับคำยกย่อง สรรเสริญมากกว่าผู้ที่อยู่ไปวัน ๆ โดยไม่สนใจที่จะพัฒนาความรู้และความสามารถของ ตนเอง ดังนั้นหากมีความต้องการที่จะประสบผลสำเร็จในชีวิต การเริ่มต้นที่จะพัฒนาตนเองโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ต้องตระหนักอยู่เสมอว่า “ชีวิตเรา เราเป็นผู้เลือกที่จะลิขิตหรือเลือกเส้นทาง ในการดำเนินชีวิตเอง” อย่าปล่อยให้ผู้อื่นมาเป็นผู้มีอิทธิพลและชี้นำการดำเนินชีวิตของตัวเรา การพัฒนาตนเองให้พบกับความสำเร็จในชีวิตนั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความมุ่งมั่นของตัวเอง หลักปฏิบัติตนอย่างง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยแนวคิดของ 4 Self ดังต่อไปนี้ Self Awareness 1. ตระหนักรู้ในความต้องการของตนเอง (Self Awareness) มีขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ตระหนักในเป้าหมายของชีวิต เริ่มต้นค้นหาว่าส่วนลึก ๆ แล้วต้องการอะไรกันแน่ เป็นการตระหนักในเป้าหมายที่อยากจะมีและอยากจะเป็นในอนาคตข้างหน้า เช่น บางคนอยากมีความสุข บาง คนอยากจะประสบความสำเร็จในการทำงาน บางคนอยากมีร้านเล็ก ๆ เป็นของตนเอง เป็นต้น และเมื่อ ตระหนักรู้แล้วว่าเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการจะไปนั้นคืออะไร ขั้นตอนที่ 2 ควรสำรวจต้นเหตุ คือสำรวจตนเองลึกลงไปอีกว่าต้นเหตุที่จะทำให้ฝันหรือเป้าหมายเกิด ขึ้นมาได้นั้นคืออะไร เช่น อยากมีความสุข แล้วความสุขจะเกิดขึ้นจากอะไร เป็นต้น ขั้นตอนที่ 3 สำรวจหาแนวทาง เมื่อตระหนักรู้ว่าอะไรคือเหตุผลลึก ๆ ของเป้าหมายที่กำหนดขึ้นแล้ว ขั้นตอนถัดไปก็คือคุณควรคิดไตร่ตรองดูว่าจะทำอย่างไรให้ฝันนั้นเป็นจริง เช่น หากคุณคิดว่าการเรียนต่อ ปริญญาตรี อันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจในส่วนลึก ๆ ของคุณเองและคนรอบข้าง ขั้นตอนที่ 4 สำรวจความพร้อม เพื่อสำรวจว่าตนเองว่าคุณมีความพร้อมในเรื่องเวลา และ งบประมาณมากน้อยแค่ไหน.....หากคุณคิดว่าคุณพร้อมแล้ว คุณก็ควรเริ่มคิดต่อไปว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างใน การเรียนต่อระดับปริญญาตรีให้ได้ นั่นก็คือการตรวจสอบมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมและติดต่อมหาวิทยาลัยเพื่อ เข้ารับการทดสอบต่อไป Self Discipline 2. ตระหนักรู้หนทางสู่ความสำเร็จ (Self Discipline) หรือ Self แห่งความมีวินัย Self ตัวนี้จะ บอกคุณว่าหนทางของความสำเร็จในเป้าหมายที่กำหนดขึ้น ไม่ใช่เป็นหนทางของถนนเรียบ แต่เป็นหนทาง ของถนนที่ขรุขระซึ่งคุณเองจะต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เหมือนกับการขึ้นภูเขาที่คุณจะต้อง ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปเพื่อให้ไปถึงยอดเขา และการขึ้นไปสู่ยอดเขาให้ได้นั้น คุณอาจจะต้องพบเจอกับหน้าผาที่สูงชัน 29


ก้อนหินที่ขวางทางคุณอยู่ และเมื่อคุณมีเป้าหมายที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขานั้นให้ได้คุณจะต้องมีวินัยในตนเองว่า คุณจะต้องทำให้ได้เพื่อไปสู่ชัยชนะที่วาดฝันไว้ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาและอุปสรรคใด ๆ ก็ตาม ซึ่ง Self ตัวนี้จะ เป็นพลังผลักดันให้คุณสร้างวินัยในการปฏิบัติตนให้ไปสู่ความฝันที่กำหนดขึ้น ไม่ย่อท้อหรือหวั่นไหวไปซะก่อน กับปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายของตนเอง เช่น หากคุณได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อปริญญาตรี แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าคุณจะต้องเจอะเจอกับปัญหาสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ไม่อาจแบ่งสรรให้กับการเรียนได้ ปัญหาเรื่องแฟนหรือคนในครอบครัวไม่ชอบใจที่คุณไม่ให้เวลากับพวกเขา ปัญหางบประมาณมีจำกัด ปัญหา เหล่านี้จะส่งผลให้คุณคิดไปเองว่าตนเรียนไม่ไหวอย่างแน่นอน นั่นก็คือคุณพยายามหาเหตุผลสนับสนุนว่าคุณ ไม่สามารถเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้ เป็นต้น แต่หากคุณมี Self แห่งวินัยในตนเองแล้วล่ะก็ Self ตัวนี้จะ เป็นพลังผลักดันให้คุณสร้างวินัยในการปฏิบัติตนให้ฟันฝ่าปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการจัดสรรเวลาให้เหมาะสม และการบังคับตนเองให้มีวินัยพอที่จะปฏิบัติตนตามเวลาที่กำหนดขึ้น SelfI Improvement 3. ตระหนักรู้หนทางแห่งการพัฒนาตนเอง (Self Improvement) Self ที่สามนี้จะเป็นเสมือนตัว จุดประกายให้คุณมีความรู้และความสามารถในการสานฝันที่กำหนดขึ้นให้เป็นจริงได้ Self ตัวนี้จะทำให้คุณ เริ่มถามตนเองว่าคุณจะต้องพัฒนาตนเองในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้คุณมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้เป้าหมายของ ตนเองบรรลุผลสำเร็จ หากคุณมีหัวใจพร้อมที่จะพัฒนาแล้วนั้น ย่อมจะทำให้คุณมีแรงอึด มีพลังพอที่จะ ปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ ไม่คิดย่อท้อหรือหมดหวังที่จะเห็นผลสำเร็จของความฝันนั้น ๆ ของคุณ เอง เช่น หากคุณมีโอกาสเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ซึ่งคุณพบว่ามีความรู้ในวิชาที่เรียนไม่เท่ากับเพื่อน ๆ คนอื่นแล้วล่ะก็ ความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นกับคุณต่อไปนั้นมีอยู่สองด้าน นั่นก็คือ ด้านหนึ่งเป็นความรู้สึกทางลบคือ คุณจะเริ่มรู้สึกเบื่อ เซ็ง ไม่ชอบในสิ่งที่คุณเองได้เลือกไปแล้ว และความรู้สึกอีกด้านหนึ่งเป็นความรู้สึกใน ทางบวก ซึ่งคุณเองต้องพยายามบอกตนเองเสมอว่าคุณจะต้องพัฒนาความรู้ที่ยังขาดหายไปให้มีมากขึ้นให้จง ได้ ความรู้สึกในทางบวกนี้จะเป็นพลังผลักดันให้คุณหาหนทางและวิธีการต่าง ๆ นา ๆ ที่จะปรับปรุงตนเองให้มี ความรู้ และความสามารถมากยิ่งขึ้นต่อไป Self Evaluation 4. ตระหนักรู้ระดับขั้นของการไปสู่ความความสำเร็จ (Self Evaluation) Self ตัวนี้จะทำให้คุณ เริ่มประเมินผลการปฏิบัติตนของตัวคุณว่าประสบความสำเร็จไปมากน้อยแค่ไหนบ้าง ซึ่งคุณเองจะต้อง ประเมินผลตนเองเป็นระยะอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ ทั้งนี้คำถามหลัก ๆ ที่คุณจะต้องประเมินตนเอง นั่นก็คือ คุณยังสามารถทำเป้าหมายที่กำหนดขึ้นให้เป็นจริงได้นั้นตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดขึ้นไว้แล้วได้หรือไม่ .......คุณมี ความรู้และความสามารถเพียงพอหรือยัง............คุณจะต้องทำอย่างไรบ้างในการทำให้คุณมีความรู้และ ความสามารถเพิ่มมากขึ้นในอันที่จะทำให้เป้าหมายของคุณบรรลุผลสำเร็จ.....ทั้งนี้การประเมินตนเองนั้น คุณควรกำหนดขึ้นเป็นระยะ ๆ เช่น ทุกครึ่งภาคเรียนทุกภาคเรียน เป็นต้น เช่น คุณสามารถประเมินความรู้ ของคุณว่าเมื่อได้ผ่านการสอบวัดผลในแต่ละครั้ง คุณรู้อะไรเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ความรู้อะไรบ้างที่คุณอยากจะรู้ และยังไม่รู้และคุณจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้คุณมีความรู้เพิ่มขึ้นในสิ่งที่ตนเองยังไม่รู้เป็นต้น สรุป การพัฒนาตนเองให้ประสบผลสำเร็จนั้นไม่ยาก ขอเพียงแต่ว่าคุณจะต้องมีความมุ่งมั่นและ ตั้งใจจริงที่จะบริหารตนเอง ( Self) ด้วยการตระหนักรู้ในความคาดหวังของตนเอง การสร้างวินัยในการ ปฏิบัติตนตามเงื่อนไขของเวลาที่กำหนด การปรับปรุงความรู้ความสามารถของตนเองอยู่เสมอ และ สุดท้ายนั่นก็คือการประเมินผลสำเร็จในเป้าหมายที่ตัวคุณเป็นผู้ลิขิตขึ้นเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ที่มา : http://www.hrcenter.co.th 30


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รายวิชากิจกรรมแนะแนว รหัสวิชา ก31101 มัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้1 เรื่อง ฉันพัฒนาได้ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖6 แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ฉันและคนรอบข้าง เวลา 3 ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้(สาระการแนะแนว) สาระการแนะแนวที่ 1 การรู้จักเข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและ ผู้อื่น ข้อ ๑.๑ ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าในตนเองและ พัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ ข้อ 1.2 ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ เห็นคุณค่าของผู้อื่นและ ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสม ตัวชี้วัด (ผลการเรียนรู้) ผลการเรียนรู้ที่ 1 นักเรียนตระหนัก ยอมรับคุณลักษณะของตนเองสามารถพัฒนาและ ปรับปรุงตนเองได้อย่างเหมาะสม ผลการเรียนรู้ที่ 2 นักเรียนเข้าใจความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ และสามารถ ปฏิบัติตน ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเข้าใจ ๒. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด มนุษย์มีความต้องการพื้นฐานทางจิตใจที่เหมือนกันได้แก่ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย ความรัก การยอมรับ การมีส่วนร่วมตลอดจนการเห็นคุณค่าในตนเอง การตระหนักและเข้าใจความต้องการพื้นฐาน ทางจิตใจเหล่านี้ จะทำให้นักเรียนสามารถปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ 3.2 แนวทางการปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเข้าใจ ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๔.๑ ความรู้(K) นักเรียนสามารถบอกความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ ๔.๒ ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) นักเรียนสามารถอธิบายแนวทางการปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเข้าใจ 4.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ความตรงต่อเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม /การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม/ความรับผิดชอบ ในการส่งใบกิจกรรม 31


๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๕.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๕.๒ ความสามารถในการคิด ๕.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๖.๑ รักชาติ ๖.๒ ซื่อสัตย์สุจริต ๖.๓ มีวินัย ๖.๔ ใฝ่ความรู้ ๖.๕ อยู่อย่างพอเพียง ๖.๖ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖.๗ รักความเป็นไทย ๖.๘ มีจิตสาธารณะ 7. ชิ้นงาน / ภาระงาน 7.1 ใบงานการปฏิบัติต่อคนรอบข้าง 7.2 ใบงานเรื่อง สิ่งที่ฉันปรารถนา 7.3 ใบงานเรื่อง วิเคราะห์ความต้องการ 7.4 ใบงานเรื่อง สิ่งที่ฉันต้องการจากผู้อื่น 8. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ชั่วโมงที่ 1 8.1 ครูตั้งคำถามให้นักเรียนทุกคนช่วยกันตอบ ว่า ” หากมีแก้วสารพัดนึกที่ให้นักเรียนขออะไรก็ได้3 อย่าง นักเรียนจะขออะไร” 8.2 แจกใบงานเรื่อง สิ่งที่ฉันปรารถนา ให้นักเรียนทำ 8.3 แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5-6 คน ให้ร่วมกันวิเคราะห์และสรุปสิ่งที่แต่ละคนต้องการตามที่เขียน ในใบงาน โดยแยกเป็นความต้องการทางด้านร่างกาย และความต้องการทางด้านจิตใจ ทำลงในใบงานเรื่อง วิเคราะห์ความต้องการ และตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน 8.4 แจกใบความรู้เรื่องความต้องการขั้นพื้นฐาน 5 ขั้น ของมาสโลว์ให้นักเรียนศึกษาและครูอธิบาย เพิ่มเติม ประกอบตัวอย่างความต้องการที่นักเรียนแต่ละกลุ่มรายงาน 8.5 ให้นักเรียนทำกิจกรรม” โอมเพี๊ยง เสี่ยงดวง” โดยครูนำรูปภาพสิ่งของต่างๆ ที่นักเรียนต้องการ มาแทนของจริง (เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า เสื้อผ้า คอมพิวเตอร์ รองเท้า นาฬิกา ฯลฯ) ให้นักเรียนดู และ นำไปคว่ำไว้บนโต๊ะหน้าห้อง 8.6 ครูให้นักเรียนออกมาหยิบแผ่นภาพที่คว่ำอยู่คนละ 1 ชิ้น แล้วกลับไปนั่งที่ โดยมีกติกาว่านักเรียน ดูได้แต่ห้ามไม่ให้เพื่อนๆ เห็นว่าตนเองได้ภาพอะไร 8.7 ครูให้นักเรียนทบทวนตนเองว่าต้องการของมีอยู่หรือไม่หากไม่ต้องการให้นำของ(รูปภาพ) ไปแลก กับเพื่อนๆ โดยมีกติกาว่า แต่ละฝ่ายไม่เปิดเผยของว่าคืออะไร และเมื่อมีผู้เดินไปขอแลก ทุกคนห้ามห้าม ปฏิเสธและเมื่อแลกแล้วไม่พอใจ ก็ให้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ นักเรียนมีโอกาส แลกเปลี่ยนได้ คนละ 3 ครั้ง ในเวลา 5 นาที 32


8.8 เริ่มกิจกรรมครูจับเวลา เมื่อครบเวลา 5 นาทีแล้วให้นักเรียนดูของที่อยู่กับตนเอง สุ่มตัวอย่าง นักเรียนบอกเล่าความรู้สึก ในประเด็นต่อไปนี้ว่า - พอใจ หรือไม่พอใจ เพราะเหตุใด - เมื่อเพื่อนมาขอแลกของในกรณีที่ตนมีของที่ชอบอยู่ในมือ รู้สึกอย่างไรที่ปฏิเสธไม่ได้ - เหตุใดจึงนำของที่ตนรู้สึกไม่พอใจไปแลกเปลี่ยนกับคนอื่นๆ - สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม ” โอมเพี๊ยง เสี่ยงดวง” (ข้อเสนอแนะแนวทางการตั้งประเด็นสนทนา ครูควรใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความต้องการ ของตนเอง และของคนอื่น ที่อาจตรงกับตนเองหรือไม่ตรงก็ได้ให้นักเรียนได้ตระหนักในพฤติกรรมของตนเอง ว่าเหตุใดจึงให้สิ่งที่ตนเองไม่ต้องการ หรือเห็นคุณค่าน้อยแก่คนอื่น และเหตุใดจึงเสียดาย หรือไม่พอใจที่ต้อง ให้สิ่งที่ตนเองเห็นคุณค่ามากแก่คนอื่น) 8.9 แจกใบความรู้เรื่อง สิ่งที่มอบให้ให้นักเรียนศึกษาและอภิปรายร่วมกัน 8.10 ครูและนักเรียนสรุปสิ่งที่เรียนรู้จากกิจกรรม ชั่วโมงที่ 2 8.11 ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในชั่วโมงที่ผ่านมา 8.12 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน 8.13 ครูแจกซองชิ้นส่วนสี่เหลี่ยมจตุรัสให้นักเรียน คนละ 1 ซอง (ในแต่ละซองบรรจุชิ้นส่วน สี่เหลี่ยมจตุรัส 3 ชิ้น และชิ้นส่วนนี้หากนำมาต่อกันจนครบทุกคนในกลุ่มจะได้รูป สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 5 รูป) และแจ้งกติกาการเล่น ดังนี้ 1. ให้นักเรียนแต่ละคน นำชิ้นส่วนกระดาษมาต่อให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสให้ได้คนละ 1 รูป และให้มีขนาดเดียวกันกับของเพื่อนในกลุ่ม 2. กติกาการเล่น คือห้ามพูดคุยหรือส่งสัญญาณต่างๆ 3. สมาชิกในกลุ่มสามารถให้ชิ้นส่วนของตนเองแก่ผู้อื่นได้ แต่ห้ามขอหรือหยิบชิ้นส่วน ของเพื่อน 4. ห้ามวางชิ้นส่วนตรงกลางวง หากต้องการจะให้ชิ้นส่วนแก่ใคร ให้ยื่นให้คนนั้น โดยตรง 8.14 ให้เวลานักเรียนทำงานในกลุ่มประมาณ 10 นาที เพื่อให้ทุกกลุ่มทำงานให้สำเร็จ 8.15 เมื่อนักเรียนต่อรูปได้ครบทุกกลุ่ม ครูถามนักเรียนว่าการที่คนในกลุ่มต่อสี่เหลี่ยมได้ครบทุกคน เกิดจากปัจจัยอะไร มีอะไรเป็นอุปสรรค ในการถามครูใช้คำถามนำ เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ตระหนักว่าแต่ละคน ต่างก็มีความต้องการ(ต้องการให้ตนเองทำให้สำเร็จ ต้องการชิ้นส่วนมาเติมเต็ม) แต่เมื่อใดก็ตามที่เราหันเห ความสนใจต่อความต้องการของตนเองไปสนใจผู้อื่นบ้าง เราก็จะรู้ว่าเราสามารถให้สิ่งที่คนอื่นต้องการได้ 8.16 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า การอยู่ร่วมกันในสังคม คนทุกคนมีความแตกต่างกัน แต่ละคน เปรียบเหมือนชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน ที่จะรับชิ้นส่วนจากคนอื่นมาเติมเต็มให้แก่ตนเองได้และตัวเราเองก็สามารถ มีคุณสมบัติบางอย่างที่เติมเต็มให้แก่คนอื่นได้ ชั่วโมงที่ 3 8.17 ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในครั้งที่ผ่านมา 8.18 แจกใบงานเรื่อง สิ่งที่ฉันต้องการจากผู้อื่น ให้นักเรียนทำ 8.19 ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ต้องการมากที่สุด คนละ 1 คำตอบ มาเขียนบนกระดาน จากนั้นครูชวนให้นักเรียนคิดและอภิปรายในประเด็นเหล่านี้ 33


- สิ่งที่แต่ละคนต้องการ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร (ประเด็นที่เหมือนคือความต้องการทาง จิตใจ ประเด็นที่ต่าง อาจเป็นเรื่องของวัตถุ) - สิ่งที่นักเรียนต้องการจากผู้อื่น นั้นนักเรียนจะได้มาอย่างไร - ไม่ได้ตามที่คาดหวัง นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร และจะทำอย่างไร - จากการที่ทุกๆ คนในห้องมีความต้องการคล้ายๆ กัน(ทางจิตใจ) นักเรียนคิดเรื่องนี้อย่างไร 8.20 แจกใบงานเรื่อง การปฏิบัติต่อคนรอบข้าง ให้นักเรียนทำ และสุ่มตัวอย่าง อ่านความตั้งใจที่เขียน ในใบงาน 8.21 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม (แนวการสรุป : ทุกคนต่างมีความต้องการ ทางด้านร่างกายและจิตใจที่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นในการอยู่ร่วมกันคนเราควรตระหนักถึงการช่วยเหลือเกื้อกูล กัน แบ่งปันความรักและรู้สึกที่ดีให้แก่กัน นักเรียนควรรู้จักสังเกต ใส่ใจผู้อื่นว่าเขาต้องการอะไร เพราะ บางครั้งเราอาจละเลยและไปทำร้ายผู้อื่นด้วยการกระทำและคำพูด ในขณะเดียวกันหากตัวเราต้องการให้ผู้อื่น ปฏิบัติต่อเราอย่าไร เราควรจะสื่อสารให้เขาทราบ อย่าคิดว่าผู้อื่นจะต้องรู้และเข้าใจเราเสมอไป) 9. สื่อการสอน/ใบความรู้/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ใบความรู้เรื่อง ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์5 ขั้นของมาสโลว์ 9.2 รูปภาพสิ่งของ 9.3 ใบความรู้ เรื่องสิ่งที่มอบให้ 9.4 ซองบรรจุชิ้นส่วนสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซองละ3 ชิ้น จำนวนเท่านักเรียนในห้อง (ดูเพิ่มเติมจาก เอกสารแนบท้าย) ๑0. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการประเมิน 10.1.1 สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรม 10.1.2 ตรวจใบงาน 10.2 เกณฑ์การประเมิน 10.2.1 สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรม เกณฑ์ ข้อความบ่งชี้ ผ่าน มีความตั้งใจร่วมกิจกรรมให้ความร่วมมือกับกลุ่มในการอภิปรายแสดงความ คิดเห็นและส่งงานตามกำหนด ไม่ผ่าน ไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่ม หรือขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 10.2.2 ตรวจใบงาน เกณฑ์ ข้อความบ่งชี้ ผ่าน สามารถบอกแนวปฏิบัติกับคนรอบข้างที่มีความต้องการพื้นฐานทั้งทางร่างกาย และจิตใจ เพื่อให้นักเรียนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขและเป็นประโยชน์ได้ อย่างน้อย 1 ข้อ ไม่ผ่าน ไม่สามารถบอกได้ 34


บันทึกหลังสอนแผนการจัดกิจกรรมที่ 2 ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม. 4/...... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ตามแผนการจัดการเรียนรู้เนื่องจาก.................................................................................... ๒. สรุปผลการเรียนการสอน ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๓. ปัญหา อุปสรรค กิจกรรมการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรม ไม่ทันตามเวลาที่กำหนด มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ............................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ควรนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปปรับปรุง เรื่อง............................................................................... แนวทางการแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ อื่น ๆ ลงชื่อ..............................................ผู้สอน (นางสาวอังคณา แก้วเล็ก) ความคิดเห็นหัวหน้ากลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะ ........................................................................................ ลงชื่อ............................................ (นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี ) ความคิดเห็นของหัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ .................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงาน วิชาการ .................................................................................... .................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางผกา สามารถ ) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา .................................................................................... .................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางผกา สามารถ ) 35


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุล...................................................................................ชั้น ม.4/............................เลขที่………… ใบงานเรื่อง สิ่งที่ฉันปรารถนา คำแนะนำ “ถ้ามีแก้ววิเศษ ขอพรได้ 3 ข้อ ที่มีความสุขที่สุดในชีวิตนักเรียนจะขออะไรบ้าง 1 2 3 36


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุล.............................................................................ชั้น ม.4/............................เลขที่………… กลุ่มที่ …………………………………………………………. ใบงานเรื่อง วิเคราะห์ความต้องการ ความต้องการทางด้านร่างกาย ความต้องการทางด้านจิตใจ 37


ใบความรู้กิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรม ฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ใบความรู้เรื่อง ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์5 ขั้นของมาสโลว์ (Maslow’s basic needs) มาสโลว์นักมานุษยวิทยา ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความต้องการของมนุษย์ว่า ความต้องการของ มนุษย์ เป็นไปตามลำดับขั้น 5 ขั้น และความต้องการของมนุษย์นั้นจะเป็นตัวกระตุ้น หรือเป็นแรงจูงใจให้ มนุษย์แสดงพฤติกรรมต่างๆ ออกมา เพื่อสนองตอบต่อความต้องการนั้นๆ ดังนั้น ถ้าเรามีความเข้าใจเรื่องความ ต้องการของมนุษย์แล้ว เราจะสามารถเข้าใจพื้นฐานพฤติกรรมของมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมาสโลว์ได้ลำดับ ขั้นความต้องการพื้นฐานแบ่งเป็น 5 ลำดับขั้นได้ดังนี้ ขั้นที่ 1 ความต้องการทางร่างกาย (Physiological Needs) เป็นระดับความต้องการปัจจัย พื้นฐานของมนุษย์ได้แก่ ปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัย (Safety Needs) เช่น ปลอดภัยจาก อุบัติเหตุ การบาดเจ็บ การเจ็บป่วย เศรษฐกิจตกต่ำ การถูกข่มขู่จากบุคคลอื่น และการถูกโจรกรรม ทรัพย์สิน เป็นต้น ขั้นที่ 3 ความต้องการทางสังคม (Social Needs) ได้แก่ ความต้องการการยอมรับเข้าเป็นสมาชิก การให้ความรัก (love and belonging) เป็นต้น ขั้นที่ 4 ความต้องการการยอมรับนับถือ และเห็นว่าตนเองมีคุณค่าต่อสังคม (Esteem Needs) มาสโลว์ ได้ให้ความหมายไว้ 2 ประการคือ ประการที่ 1 ความต้องการการยกย่องนับถือ ประการที่ 2 ความต้องการที่เกี่ยวกับการมีชื่อเสียง ขั้นที่ 5 ความต้องการความสำเร็จ (Actualization Needs) เป็นความต้องการระดับสูงสุดของ มนุษย์เป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะให้บุคคลอื่นยอมรับนับถือตนเอง รวมกับความต้องการและ ความสำเร็จของตนเอง ซึ่งมาสโลว์ เรียกว่า ความต้องการความเจริญก้าวหน้า (Growth Needs) มาสโลว์ ได้กล่าวเน้นว่า ความต้องการต่าง ๆ เหล่านี้ต้องเกิดตามลำดับขั้น ถ้าขั้นที่ 1 ไม่ได้ รับ การตอบสนองความต้องการในลำดับขั้นที่ 2-5 ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ การตอบสนองที่ได้รับในแต่ละขั้นไม่ จำเป็น ต้องได้รับทั้ง 100% แต่ต้องได้รับบ้าง เพื่อจะได้เป็นบันไดนำไปสู่การพัฒนาความต้องการในระดับที่ สูงขึ้นในลำดับขั้นต่อไป 38


ใบความรู้กิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ใบความรู้ สิ่งที่มอบให้ ท่ามกลางสายลมเย็นในฤดูหนาว เด็กชายยากจนคนหนึ่งขายหนังสือพิมพ์อยู่ตามถนน วันนั้นอากาศหนาวกว่าทุกๆ วัน ผู้คนต่างเร่งรีบกลับบ้าน ไม่มีใครซื้อหนังสือพิมพ์เลย เด็กชาย ทั้งหิวและหนาวเหน็บจนแทบจะแข็งไปทั้งตัว แต่เขาต้องอดทนเร่ขายหนังสือพิมพ์ต่อไป เพราะ น้องชายตัวเล็กๆก าลังรออาหารอยู่ที่บ้าน อากาศหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าก็พากันปิดร้าน เพราะไม่มีลูกค้า เด็กน้อยคิดถึงพ่อแม่ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ คิดถึงน ้าอุ่นๆสักอึก และเตาไฟอุ่นๆเพื่อคลายหนาว แต่เมื่อนึกถึงดวงตาของน้องตัวเล็กๆผุดขึ้นมา เขาก็หักใจเดิน ขายหนังสือพิมพ์ต่อไป อย่างน้อย....ขายได้อีกสักเล่มก็ยังดี ขณะนั้นเองชายที่เดินผ่านมาเรียก ให้เด็กชายหยุด แล้วล้วงกระเป๋ าเอาเงินจ านวนเท่าหนังสือพิมพ์ออกมายื่นให้ พร้อมรวบมือ เล็กๆของเด็กชายไว้ในอุ้งมือ “ดูสิ....มือเย็นเฉียบเลย อากาศหนาวๆอย่างนี้เหนื่อยแย่เลย เสียดายที่ช่วยอะไรหนูไม่ได้มาก” มือของชายใจดีแสนอบอุ่น เด็กชายตอบกลับไปว่า “ขอบคุณครับคุณน้า ตอนนี้ผมไม่หนาวแล้วละ แค่คุณน้าช่วยให้มือผมอุ่น พูดเพราะๆกับผม ก็เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ส าหรับผมแล้วครับ” ส่งิทเี่รียกว่า”ความรกั” ไม่ใช่ส่งิทใี่หญ่โตมโหฬารเกินกว่าจะเข้าใจ แค่เพียงการจับมือคนอื่นด้วยจิตใจ ทอี่บอ่นุการตงั้ใจฟังทกุข์รอ้นของคนอนื่ ไม่มีอะไรทแี่ย่ไปกว่า การคิดว่าตวัเองไม่มีอะไรมากมายทจี่ะแบ่งปัน จึงไม่เคยมอบส่งิใดใหใ้ครเลย (ดัดแปลงจาก vitamin story หน้า 102-104) 39


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรม ฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุล....................................................................................ชั้น ม.4/............................เลขที่………… ใบงานเรื่อง สิ่งที่ฉันต้องการจากผู้อื่น คำแนะนำ ให้นักเรียนเขียนความต้องการของนักเรียนให้ได้มากที่สุด ลงในตาราง บุคคลรอบข้าง สิ่งที่นักเรียนต้องการจะได้รับจากคนรอบข้าง ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ บิดา มารดา พี่ น้อง ญาติผู้ใหญ่ ครู เพื่อน ……….…………. …….……………. 40


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุล.....................................................................................ชั้น ม.4/............................เลขที่………… ใบงานเรื่อง การปฏิบัติต่อคนรอบข้าง คำแนะนำ ให้นักเรียนบอกแนวปฏิบัติกับคนรอบข้างอย่างไรจนเป็นกิจนิสัยเพื่อความเหมาะสมเป็นประโยชน์ และเป็นความสุขที่ยั่งยืน คนละอย่างน้อย 3 ข้อ สิ่งท ี่ฉนัต ้ งัใจจะปฏิบตัิต่อผอู้ื่นเพ ื่อการอยรู่ ่วมกนัอยา่งเป็ นสุข 1……………………………………. 2……………………………………. 3…………………………………….. 41


เอกสารแนบท้าย กิจกรรมสี่เหลี่ยมจัตุรัส 1. ตัดกระดาษแข็งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 6 นิ้ว จำนวน 5 ชิ้น 2. ตัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสออกเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ตามแบบ (ชิ้น A ต้องมีขนาดเดียวกัน ) 3. นำชิ้นส่วนมาผสม โดยใส่ซอง ดังนี้ ซองที่ 1 AAAC ซองที่ 2 DF ซองที่ 3 IHE ซองที่ 4 AJ ซองที่ 5 GBFC หมายเหตุ อุปกรณ์ชุดนี้ ใช้สำหรับนักเรียน 1 กลุ่ม ที่มีจำนวนสมาชิก 5 คน และให้เพิ่มตามจำนวนกลุ่มใน ชั้นเรียน A A A A C D F I H E G B F C J 3 นิ้ว 3 นิ้ว 3 นิ้ว 3 นิ้ว 6 นิ้ว 3 นิ้ว 6 นิ้ว 3 นิ้ว 3 นิ้ว 42


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รายวิชากิจกรรมแนะแนว รหัสวิชา ก31101 มัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้2 เรื่อง เรียนรู้อย่างเข้าใจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖๕ แผนการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เรียนรู้อย่างเข้าใจ เวลา 3 ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้(สาระการแนะแนว) สาระการแนะแนวที่ 2 การวางแผนด้านการศึกษา อาชีพ ชีวิตและสังคม ข้อ 2.1 นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ตัดสินใจแก้ปัญหา และวางแผนด้าน การศึกษา ผลการเรียนรู้ที่ 3 นักเรียนเห็นคุณค่าของการเรียน คุณค่าของรายวิชาในหลักสูตรและ พัฒนาทักษะการเรียนที่มีประสิทธิภาพ ๒. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด การตระหนักในคุณค่าของการเรียน และคุณค่าของรายวิชาตามหลักสูตร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ การดำรงชีวิต จะทำให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะ และความสามารถทางการเรียนให้มี ประสิทธิภาพเพื่อความสำเร็จทางการเรียน ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 หลักสูตร การวัดและประเมินผล 3.2 คุณค่าของการเรียน คุณค่ารายวิชาตามหลักสูตร 3.3 วิธีการปฏิบัติตนเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนที่มีประสิทธิภาพ 3.4 วิธีการแสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ความรู้(K) 4.1.1 รู้หลักสูตร การวัดและประเมินผล 4.1.2 คุณค่าของการเรียน คุณค่ารายวิชาตามหลักสูตร 4.1.3 วิธีการปฏิบัติตนเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนที่มีประสิทธิภาพ 4.1.4 วิธีการแสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 4.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 4.2.1 อธิบายหลักสูตร การวัดและประเมินผล 4.2.2 อธิบายคุณค่าของการเรียน คุณค่ารายวิชาตามหลักสูตร 4.2.3 บอกวิธีการปฏิบัติตนเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนที่มีประสิทธิภาพ 4.2.4 บอกวิธีการแสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 43


4.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ความตรงต่อเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม /การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม/ความรับผิดชอบ ในการส่งใบกิจกรรม ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๕.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๕.๒ ความสามารถในการคิด ๕.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๖.๑ รักชาติ ๖.๒ ซื่อสัตย์สุจริต ๖.๓ มีวินัย ๖.๔ ใฝ่ความรู้ ๖.๕ อยู่อย่างพอเพียง ๖.๖ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖.๗ รักความเป็นไทย ๖.๘ มีจิตสาธารณะ 7. ชิ้นงาน / ภาระงาน 7.1 ใบงานเรื่อง แบบสำรวจสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร 7.2 ใบงานเรื่อง วิชานี้เพื่อเธอ 7.3 ใบงานเรื่อง วิชาที่ฉันเรียนในชั้น ม.4 8. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ชั่วโมงที่ 1 8.1 ครูนำสนทนาเปรียบเทียบเรื่องชีวิตการเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นกับมัธยมศึกษาตอนปลาย (แนวทางในการสนทนา : จุดหมายของหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นการศึกษาเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ และทักษะในวิชาสามัญเฉพาะด้าน สามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง ชุมชน และประเทศได้ตาม ความเหมาะสม การศึกษาในระดับนี้จึงเป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะความรู้เฉพาะด้าน ตามแผนการเรียน ที่นักเรียนเลือกเรียน) 8.2 ครูอธิบายเรื่องจุดมุ่งหมาย คุณลักษณะ สมรรถนะ และโครงสร้างหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ประกอบสื่อ PowerPoint และให้นักเรียนซักถาม ชั่วโมงที่ 2 8.3 ครูทบทวนการเรียนรู้ในชั่วโมงที่ผ่านมา 8.4 แจกใบงานเรื่อง แบบสำรวจสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร ให้นักเรียนประเมินตนเองและสรุปผลการประเมิน 8.5 ให้นักเรียนนำเสนอและอภิปรายแสดงความคิดเห็นต่อผลการประเมินเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 44


8.6 ให้ผู้เรียนร่วมกันคิดวิธีการพัฒนาตนเองเพื่อให้สอดคล้องตามสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ตามหลักสูตร ชั่วโมงที่ 3 8.7 ครูทบทวนการเรียนรู้ในชั่วโมงที่ผ่านมา 8.8 ครูอธิบายเรื่องการวัดและการประเมินผล และเกณฑ์การจบหลักสูตร ประกอบสื่อ PowerPoint เรื่องโครงสร้างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 8.9 แจกใบงานเรื่อง วิชานี้เพื่อเธอ ให้นักเรียนทำ 8.10 ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ คุณค่าของการเรียน ในรายวิชาต่างๆ ที่นำไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน 8.11 ครูอธิบาย เรื่อง การสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ประกอบสื่อ PowerPoint เรื่อง การสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยระบบ TCAS 8.12 แจกใบงานเรื่อง วิชาที่ฉันเรียนในชั้น ม.4 ให้นักเรียนทำ (ครูเก็บใบงานนี้ไว้สำหรับใช้ใน กิจกรรมของภาคเรียนที่ 2) 8.13 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม 9. สื่อการสอน/ใบความรู้/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อ PowerPoint เรื่อง โครงสร้างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 9.2 สื่อ PowerPoint เรื่อง การสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยระบบ TCAS ๑0. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการประเมิน 10.1.1 สังเกตการปฏิบัติกิจกรรม 10.1.2 ตรวจใบงานกระดาษคำตอบแบบทดสอบความถนัดทางการเรียน 10.2 เกณฑ์การประเมิน 10.2.1 สังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์ ข้อความบ่งชี้ ผ่าน มีความตั้งใจร่วมกิจกรรม ให้ความร่วมมือกับกลุ่มในการอภิปรายแสดงความ คิดเห็น และส่งงานตามกำหนด ไม่ผ่าน ไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่ม ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 10.2.2 ตรวจใบงาน เกณฑ์ ข้อความบ่งชี้ ผ่าน อธิบายหลักสูตร การวัดผลประเมินผล และคุณค่าของการเรียน ไม่ผ่าน ไม่สามารถอธิบายหลักสูตร การวัดผลประเมินผล และคุณค่าของการเรียน 45


บันทึกหลังสอนแผนการจัดกิจกรรมที่ 3 ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม. 4/...... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ตามแผนการจัดการเรียนรู้เนื่องจาก.................................................................................... ๒. สรุปผลการเรียนการสอน ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๓. ปัญหา อุปสรรค กิจกรรมการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรม ไม่ทันตามเวลาที่กำหนด มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ............................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ควรนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปปรับปรุง เรื่อง............................................................................... แนวทางการแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ อื่น ๆ ลงชื่อ..............................................ผู้สอน (นางสาวอังคณา แก้วเล็ก) ความคิดเห็นหัวหน้ากลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะ ........................................................................................ ลงชื่อ............................................ (นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี ) ความคิดเห็นของหัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ .................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงาน วิชาการ .................................................................................... .................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางผกา สามารถ ) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา .................................................................................... .................................................................................... ลงชื่อ ............................................. (นางผกา สามารถ ) 46


ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมเรียนรู้อย่างเข้าใจ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชื่อ-สกุลนักเรียน...............................................................................................ชั้น ม.4/..........เลขที่........... ใบงานเรื่อง แบบสำรวจสมรรถนะและคุณลักษณะ ตามจุดหมายของหลักสูตร พัฒนาโดยศูนย์พัฒนาเครือข่ายกิจกรรมแนะแนว สพม. 2 (โรงเรียนสตรีวิทยา ๒) ให้นักเรียนพิจารณาว่า ที่ผ่านมานักเรียน เคยทำ สิ่งต่อไปนี้บ่อยครั้งเพียงใด ข้อที่ ข้อความ ทำเป็น ประจำ (5) ทำ บ่อย ครั้ง (4) ทำ บาง ครั้ง (3) ทำ น้อย ครั้ง (2) ไม่ เคย ทำ (1) รวม คะแนน 1 ถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก หรือความรู้ให้ผู้อื่นเข้าใจ ………. 2 แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น 3 เจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ 4 เลือกรับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง 5 เลือกใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น 6 จำแนก แยกแยะองค์ประกอบของวัตถุสิ่งของ เรื่องราว หรือ เหตุการณ์ต่าง ๆ ทีเกี่ยวข้องกับชีวิตและสังคม ………. 7 หลอมรวมความคิดจากสิ่งที่อ่านหรือเรียนรู้มาจนเกิดสิ่งใหม่ที่เป็น ประโยชน์ 8 คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ จากสิ่งที่มีอยู่เดิม 9 คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ก่อนการตัดสินใจแก้ไขปัญหา 10 คิดอย่างเป็นระบบและมีขั้นตอนก่อนทำสิ่งใด 11 เข้าใจที่มาของการเกิดปัญหา และการเปลี่ยนแปลงต่างๆในชีวิต ………. 12 ไตร่ตรอง ค้นหาสิ่งที่เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ความไม่สบายใจ 13 ใช้เหตุผล คุณธรรม และข้อมูลในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ 14 แสวงหาความรู้ มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา 15 ตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตน ผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม 16 พัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ………. 17 สร้างความสัมพันธ์ ในการทำงาน และอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น 18 จัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 19 ปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม 20 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบในทางไม่ดี ต่อตนเองและผู้อื่น 21 รู้จักเลือก และใช้เทคโนโลยี ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ………. 22 ก้าวทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม 23 ใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ 24 ใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง เหมาะสม มีคุณธรรม 25 ใช้เทคโนโลยีในการทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 26 รักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย 27 ศรัทธาและยึดมั่นในหลักศาสนาที่ตนนับถือ 47


Click to View FlipBook Version