~ 45 ~ ชั่วโมงที่ 3-4 กิจกรรมจรวดกระดาษของใครบินได้นานที่สุด กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ให้นักเรียนศึกษาจุดประสงค์ของกิจกรรมและด าเนินกิจกรรมจากหนังสือเรียน โดยก่อนเริ่ม กิจกรรม ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็นดังต่อไปนี้ กิจกรรมนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร (ให้ท ากิจกรรมร่อนจรวดและวิเคราะห์การใช้กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์) การท ากิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (สืบค้นว่าจรวดแบบใดน่าจะร่อนในอากาศได้ นาน พับจรวด ตกลงกติกา การจับเวลาและบันทึกเวลาในการเคลื่อนที่ของจรวดและหา ค่าเฉลี่ย จากนั่นจัดกลุ่มจรวดตามเวลาเฉลี่ยการร่อน สรุปเกี่ยวกับลักษณะของจรวดที่ ร่อนในอากาศได้นานที่สุด) ข้อควรระวังในการด าเนินกิจกรมนี้มีหรือไม่อย่างไร (ระวังน้ าร้อนลวกมือ) ส ารวจค้นหา (Explore) 2. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มและเริ่มท ากิจกรรม ครูสังเกตุการท างานของนักเรียนย้ าให้นักเรียนอ่านและ ปฏิบัติตามขั้นตอนโดยละเอียด อธิบายความรู้ (Explain) 3. ให้นักเรียนน าเสนอผลการท ากิจกรรม 4. ให้นักเรียนตอบค าถามท้ายกิจกรรมและอภิปรายร่วมกันว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการใดบ้างใน ขั้นตอนใด
~ 46 ~ ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจการตอบค าถามท้ายกิจกรรม 2. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการท ากิจกรรม เรื่อง กิจกรรมน้ าสีเคลื่อนที่อย่างไร 3. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการท ากิจกรรม เรื่อง กิจกรรมจรวดกระดาษของใครบินได้นาน ที่สุด 4. ครูประเมินนักเรียนจากการท ากิจกรรมกลุ่ม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายกลุ่ม 5. ครูประเมินนักเรียนจากการสืบค้นข้อมูล และการตอบค าถามในชั้นเรียนโดยใช้แบบสังเกต พฤติกรรมการท างานรายบุคคล 7. . การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถวิเคราะห์และอธิบายกระบวนการท างานของ นักวิทยาศาสตร์ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การวิเคราะห์ผล เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 5) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 6) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด
~ 4 9. เกณฑ์การประเมิน สิ่งที่ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์และอธิบาย กระบวนการท างานของนักวิทยาศาสตร์ได้ นักเรียนสามารถ 3. ยกตัวอย่างสิ่งที่เป็น วิทยาศาสตร์ 4. ยกตัวอย่างการใช้ประ จากวิทยาศาสตร์ใน ชีวิตประจ าวัน ตรวจสมุด ด้านทักษะ (P) - นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ - ตรวจใบงานที่ 1.2 เรื่อ กระบวนการท างานของ นักวิทยาศาสตร์ สังเกตความสามารถด้าน ทักษะกระบวนการ วิทยาศาสตร์ สังเกตพฤติกรรมการท าง เป็นกลุ่ม ด้านคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ (A) - นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของ วิทยาศาสตร์โดยอธิบายความส าคัญ และความหมายของวิทยาศาสตร์ สังเกตความรับผิดชอบ ใ เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการ ท างาน
7 ~ เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล โยชน์ แบบทดสอบ หลังเรียนโดยใช้ Kahoot ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 สมุด ง - เฉลยใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ท างาน อย่างไร ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 น แบบประเมินความ สามารถด้านทักษะกระ บวนการวิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์ในระดับดี (ช่วงคะแนน 7-9) งาน แบบสังเกตพฤติกรรมการ ท างานเป็นกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ในระดับดี(ช่วงคะแนน 11-15) ใฝ่ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ผ่าน หมายถึง สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการท างาน ปรับปรุง หมายถึง ไม่สนใจใฝ่รู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการ ท างาน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี (ช่วงคะแนน 19-27 )
~ 48 ~ แบบบันทึกผลจากการสังเกตด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ค าชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 7 - 9 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 4 - 6 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 - 3 ปรับปรุง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม สรุป ทักษะการคิด วิเคราะห์ ทักษะการจัด กระท าและสื่อ ความหมายข้อมูล ทักษะการอภิปราย ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
~ 49 ~ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง บันทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ............... เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ท างาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่ก าหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานส าเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
~ 50 ~ 1. ผลการสอนระดับชั้น ม.1 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก .................................................................................. 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………........................................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิด เป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ................................. ได้แก่ .......................................................................................................................................................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...…….............................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิด เป็นร้อยละ........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ............................. ได้แก่ ........................................................................................................................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้……………………….............................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ ........................................................................................................................................................................... 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .................................................................................................................................................... 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง .............................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) วันที่......../.................../................. ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม กับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ................................................................ ลงชื่อ....................................................... (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม กับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ................................................................ ลงชื่อ................................................ (นางณัฐิญา คาโส)
~ 51 ~ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สารรอบตัว
~ 52 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 รายวิชา ว 21101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ สารรอบตัว เรื่อง สมบัติของสาร 4 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ว 2.1 ม.1/1 อธิบายสมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ โดยใช้หลักฐาน เชิงประจักษ์ที่ได้จากการสังเกตและ การทดสอบ และใช้สารสนเทศที่ได้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งจัดกลุ่มธาตุ เป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ 2. สาระส าคัญ ธาตุแต่ละชนิดมีสมบัติเฉพาะตัวและมีสมบัติทางกายภาพบางประการเหมือนกันและบาง ประการต่างกัน ซึ่งสามารถน ามาจัดกลุ่มธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ธาตุโลหะมีจุดเดือด จุด หลอมเหลวสูง มีผิวมันวาว น าความร้อนน าไฟฟ้า ดึงเป็นเส้น หรือตีเป็นแผ่นบาง ๆ ได้ และมีความ หนาแน่นทั้งสูงและต่ า ธาตุอโลหะ มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ า มีผิวไม่มันวาว ไม่น าความร้อน ไม่น า ไฟฟ้า เปราะแตกหักง่าย และมีความหนาแน่นต่ า ธาตุกึ่งโลหะมีสมบัติ บางประการเหมือนโลหะ และ สมบัติบางประการเหมือนอโลหะ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายสมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะได้(K) 2. นักเรียนสามารถออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองสมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุได้ (P) 3. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความรับผิดชอบ (A)
~ 53 ~ 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) ธาตุแต่ละชนิดมีสมบัติเฉพาะตัวและมีสมบัติ ทางกายภาพบางประการเหมือนกันและบาง ประการต่างกัน ซึ่งสามารถน ามาจัดกลุ่มธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ธาตุโลหะมีจุดเดือด จุด หลอมเหลวสูง มีผิวมันวาว น าความร้อนน าไฟฟ้า ดึงเป็นเส้น หรือตีเป็นแผ่นบาง ๆ ได้ และมีความ หนาแน่นทั้งสูงและต่ า ธาตุอโลหะ มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ า มีผิวไม่มันวาว ไม่น าความร้อน ไม่น า ไฟฟ้า เปราะแตกหักง่าย และมีความหนาแน่นต่ า ธาตุกึ่งโลหะมีสมบัติ บางประการเหมือนโลหะ และ สมบัติบางประการเหมือนอโลหะ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต 2. ทักษะการทดลอง 3. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายามคิด แก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็นตัว อย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 4. มีความพอเพียง เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5.สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ความสามารถในการแก้ปัญหา
~ 54 ~ 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามค าถามนักเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น – หน่วยพื้นฐานของทองเรียกว่าอะไร – ทองมีองค์ประกอบของหน่วยพื้นฐานกี่ชนิด – นักวิทยาศาสตร์มีสัญลักษณ์ใดที่ใช้เป็นตัวแทนของทองหรือไม่ 2. นักเรียนร่วมกันตอบค าถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับค าตอบของค าถาม เพื่อเชื่อมโยง ไปสู่การเรียนรู้เรื่อง สมบัติของโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับภาระงาน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ธาตุ เป็นสารบริสุทธิ์ที่ไม่สามารถแยกสลายเป็นสารอื่นได้อีกโดยวิธีการทางเคมี ธาตุมี 3 กลุ่ม คือ โลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา (Exploration) 1. ให้นักเรียนศึกษาสมบัติของโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ จากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า สสารต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวประกอบด้วยหน่วยพื้นฐานเล็ก ๆ จ านวนมากที่มีสมบัติเฉพาะตัว นักวิทยาศาสตร์เรียกหน่วยพื้นฐานนี้ว่า ธาตุ ในสมัยก่อนที่ยังมีการ ค้นพบธาตุเพียงไม่กี่ชนิด นักวิทยาศาสตร์จะใช้สัญลักษณ์รูปภาพแทนธาตุแต่ละธาตุ แต่เมื่อมีการค้นพบ ธาตุจ านวนมากขึ้นจึงได้เปลี่ยนมาใช้สมบัติของธาตุเป็นเกณฑ์ในการจัดหมวดหมู่ในรูปของตารางธาตุ แทน ในการจัดธาตุต่าง ๆ ลงในตารางธาตุ นักวิทยาศาสตร์ใช้สมบัติความเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ของธาตุในการจัดหมวดหมู่ ซึ่งโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะมีสมบัติแตกต่างกันออกไป 2. ครูเตรียมอุปกรณ์การทดลอง เรื่อง สมบัติของธาตุ ดังนี้ ตะปูเหล็ก ก ามะถัน กระดาษทราย สายไฟ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ 3. แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5–6 คน ปฏิบัติกิจกรรม สังเกตสมบัติบางประการของธาตุ ตามขั้นตอน ทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ทักษะการสังเกต ดังนี้ - ใช้กระดาษทรายขัดผิวธาตุ แล้วสังเกตความมันวาว - ให้นักเรียนต่อวงจรไฟฟ้า ดังภาพ แล้วสังเกตความสว่างของหลอดไฟ
~ 55 ~ 4. นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม 5. ครูคอยแนะน าช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบ ๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาสให้ นักเรียนทุกคนซักถามเมื่อมีปัญหา ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนในแต่ละกลุ่ม น าเสนอผลการทดลองของกลุ่มตนเอง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง โดยครูใช้ค าถามดังนี้ - เมื่อใช้กระดาษขัดผิวตะปูเหล็ก ผิวของตะปูเหล็กมีลักษณะอย่างไร (แนวค าตอบ มีผิวมันวาว) - เมื่อใช้กระดาษขัดผิวก ามะถัน ก ามะถันมีลักษณะอย่างไร (แนวค าตอบ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง) - เมื่อน าตะปูเหล็ก ไปต่อกับวงจรไฟฟ้า หลอดไฟสว่างหรือไม่ (แนวค าตอบ หลอดไฟสว่าง) - เมื่อน าก ามะถัน ไปต่อกับวงจรไฟฟ้า หลอดไฟสว่างหรือไม่ (แนวค าตอบ หลอดไฟไม่สว่าง) - ธาตุ 2 ชนิดจัดอยู่ในกลุ่มใด เพราะเหตุใด (แนวค าตอบ ตะปูเหล็กจัดเป็นธาตุโลหะ เนื่องจากผิว ของตะปูเหล็กมีความมันวาว และเมื่อน าไปต่อกับวงจรไฟฟ้าพบว่า ตัวธาตุน าไฟฟ้าได้ท าให้ หลอดไฟสว่าง ในทางกลับกันผิวของก ามะถันไม่มันวาว และไม่น าไฟฟ้าจึงจัดเป็นธาตุอโลหะ) - ธาตุโลหะและธาตุอโลหะมีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แนวค าตอบ ธาตุโลหะจะมีผิว เป็นมันวาว น าไฟฟ้าและความร้อนได้ดี มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง ในทางกลับกันธาตุอโลหะ จะมีสมบัติตรงข้าม) - สมบัติของธาตุโลหะสามารถน ามาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง จงยกตัวอย่าง (แนวค าตอบ ธาตุ โลหะน าไฟฟ้าได้ดี จึงนิยมน ามาท าสายไฟ เช่น ทองแดง นอกจากนี้โลหะมีสมบัติในการน า ความร้อนได้ดี เช่น อะลูมิเนียมนิยมน ามาท าเป็นภาชนะหุงต้มอาหาร เป็นต้น) - จากการปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง สามารถสรุปผลการทดลองได้อย่างไร (ธาตุแต่ละชนิดมี สมบัติเฉพาะตัวและมีสมบัติ ทางกายภาพบางประการเหมือนกันและบางประการต่างกัน ซึ่ง
~ 56 ~ สามารถน ามาจัดกลุ่มธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ธาตุโลหะมีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง มีผิวมันวาว น าความร้อนน าไฟฟ้า ดึงเป็นเส้น หรือตีเป็นแผ่นบาง ๆ ได้ และมีความหนาแน่นทั้ง สูงและต่ า ธาตุอโลหะ มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ า มีผิวไม่มันวาว ไม่น าความร้อน ไม่น าไฟฟ้า เปราะแตกหักง่าย และมีความหนาแน่นต่ า ธาตุกึ่งโลหะมีสมบัติ บางประการเหมือนโลหะ และ สมบัติบางประการเหมือนอโลหะ ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูให้นักเรียนสืบค้นการใช้ประโยชน์จากธาตุ บันทึกลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - ใบกิจกรรมกสมบัติของธาตุ - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายถึงสมบัติของธาตุแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน ตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การทดลอง วิเคราะห์ผลการทดลองเรื่องสมบัติของธาตุ เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
~ 57 ~ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. สื่อ Power Point เรื่องการสมบัติของธาตุ 2. ใบกิจกรรมเรื่องสมบัติของธาตุ 3. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 สสวท. 4. อุปกรณ์การทดลองเรื่องสมบัติของธาตุ แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
~ 5 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถอธิบาย หลักการแยกสารผสมได้ ใช้ใบกิจกรรมเรื่องการแยกสาร ผสม ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถออกแบบและ ปฏิบัติกิจกรรมการทดลองการ แยกสารผสมได้ สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมการ ทดลองการแยกสารผสม ทางด้านกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ (A) นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมี ความรับผิดชอบ 1.สังเกตการใฝ่รู้ มีความ รับผิดชอบมุ่งมั่นในการท างาน กลุ่ม 2.สังเกตพฤติกรรมการแสดง ความคิดเห็น การตอบค าถาม
8 ~ เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ใบกิจกรรมเรื่องการแยก สารผสม 4 คะแนน อธิบายหลักการแยกสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป 3 คะแนน อธิบายหลักการแยกสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 70-79 2 คะแนน อธิบายหลักการแยกสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 60-69 1 คะแนน อธิบายหลักการแยกสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 50-59 0 คะแนน อธิบายหลักการแยกสารผสมได้ถูกต้องน้อยกว่าร้อยละ 50 แบบประเมินทักษะ กระบวนการวิทยาศาสตร์ 3 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองการแยกสารผสมตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 2 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองการแยกสารผสมตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองการแยกสารผสมตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้คลาดเคลื่อน แบบประเมินพฤติกรรม รายกลุ่ม ผ่าน หมายถึง ให้ความร่วมมือ สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการท างาน กลุ่ม ปรับปรุง หมายถึง ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่สนใจใฝ่รู้ไม่รับผิดชอบ และไม่ มุ่งมั่นในการท างานกลุ่ม
~ 59 ~ ใบงาน สมบัติของธาตุ ค าชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาสมบัติของธาตุจากตาราง แล้วตอบค าถาม ตารางแสดงสมบัติบางประการของธาตุที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ความดัน 1บรรยากาศ ธาตุ ลักษณะภายนอก ความแข็งหรือ ความเหนียว การน าไฟฟ้า จุด หลอมเหลว ( 0C) จุดเดือด ( 0C) โบรอน ของแข็งสีด า แข็งและเปราะ ไม่น า 2,030 3,900 โบรมีน ของเหลวสีแดงส้ม - ไม่น า -7 59 เหล็ก ของแข็งสีเงิน มันวาว แข็งและเปราะ น า 1,535 2,750 ปรอท ของเหลวสีเงิน มันวาว - น า -39 357 ซิลิคอน ของแข็งสีเงิน มันวาว แข็งและเปราะ น าเล็กน้อย 1,410 2,680 ไฮโดรเจน แก๊ส ไม่มีสี - ไม่น า -259 -253 โซเดียม ของแข็งสีเงิน มันวาว อ่อนและเหนียว น า 98 892 คลอรีน แก๊ส สีเขียวตองอ่อน - ไม่น า -1 -35 แมกนีเซียม ของแข็งสีเงิน มันวาว อ่อนและเหนียว น า 650 117 ออกซิเจน แก๊ส ไม่มีสี - ไม่น า -219 -183 1. ธาตุที่จัดเป็นโลหะ ได้แก่ 2. ธาตุที่จัดเป็นอโลหะ ได้แก่ 3. ธาตุที่จัดเป็นกึ่งโลหะ ได้แก่ 4. ธาตุที่มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ าที่สุด ได้แก่ 5. จากตาราง ซิลิคอนควรเป็นโลหะ อโลหะ หรือกึ่งโลหะ เพราะเหตุใด 6. ธาตุกึ่งโลหะมีคุณสมบัติใดบ้างที่คล้ายโลหะ และสมบัติใดบ้างที่คล้ายอโลหะ
~ 60 ~ ใบงานที่สมบัติของธาตุ ค าชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาสมบัติของธาตุจากตาราง แล้วตอบค าถาม ตารางแสดงสมบัติบางประการของธาตุที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ความดัน 1 บรรยากาศ ธาตุ ลักษณะภายนอก ความแข็งหรือ ความเหนียว การน า ไฟฟ้า จุด หลอมเหลว ( 0C) จุดเดือด ( 0C) โบรอน ของแข็งสีด า แข็งและเปราะ ไม่น า 2,030 3,900 โบรมีน ของเหลวสีแดงส้ม - ไม่น า -7 59 เหล็ก ของแข็งสีเงิน มันวาว แข็งและเปราะ น า 1,535 2,750 ปรอท ของเหลวสีเงิน มันวาว - น า -39 357 ซิลิคอน ของแข็งสีเงิน มันวาว แข็งและเปราะ น า เล็กน้อย 1,410 2,680 ไฮโดรเจน แก๊ส ไม่มีสี - ไม่น า -259 -253 โซเดียม ของแข็งสีเงิน มันวาว อ่อนและเหนียว น า 98 892 คลอรีน แก๊ส สีเขียวตองอ่อน - ไม่น า -1 -35 แมกนีเซียม ของแข็งสีเงิน มันวาว อ่อนและเหนียว น า 650 117 ออกซิเจน แก๊ส ไม่มีสี - ไม่น า -219 -183 1. ธาตุที่จัดเป็นโลหะ ได้แก่ เหล็ก ปรอท โซเดียม แมกนีเซียม 2. ธาตุที่จัดเป็นอโลหะ ได้แก่ โบรมีน ไฮโดรเจน คลอรีน ออกซิเจน 3. ธาตุที่จัดเป็นกึ่งโลหะ ได้แก่ โบรอน ซิลิคอน 4. ธาตุที่มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ าที่สุด ได้แก่ ไฮโดรเจน 5. จากตาราง ซิลิคอนควรเป็นโลหะ อโลหะ หรือกึ่งโลหะ เพราะเหตุใด กึ่งโลหะ เพราะมีคุณสมบัติ การน าไฟฟ้า และจุดเดือด-จุดหลอมเหลวสูง เหมือนโลหะ แต่มีความแข็งและเปราะเหมือนอโลหะ 6. ธาตุกึ่งโลหะมีคุณสมบัติใดบ้างที่คล้ายโลหะ และสมบัติใดบ้างที่คล้ายอโลหะ มีสมบัติการน าไฟฟ้า จุดเดือด-จุดหลอมเหลวสูงคล้ายโลหะ และสมบัติด้านความแข็งหรือความเหนียวคล้ายอโลหะ
~ 61 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 รายวิชา ว21101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ สารรอบตัว เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี 2 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด . ว 2.1 ม. 1/2 วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสี ที่มีต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ว 2.1 ม. 1/3 ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี โดยเสนอ แนวทางการใช้ธาตุอย่างปลอดภัย คุ้มค่า 2. สาระส าคัญ ธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ที่สามารถแผ่รังสีได้ จัดเป็นธาตุกัมมันตรังสี ธาตุมีทั้ง ประโยชน์และโทษ การใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี ควรค านึงถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุกัมมันตรังสี ที่มีต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมได้ (K) 2. นักเรียนสามารถออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมเรื่องธาตุกัมมันตรังสีได้(P) 3. นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ ธาตุกัมมันตรังสี โดยเสนอ แนวทางการใช้ธาตุอย่าง ปลอดภัย คุ้มค่า (A)
~ 62 ~ 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) ธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ที่สามารถแผ่รังสีได้ จัดเป็นธาตุกัมมันตรังสี ธาตุมีทั้งประโยชน์และ โทษ การใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี ควรค านึงถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต 2. ทักษะการทดลอง 3. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายาม คิดแก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็น ตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 4. มีความพอเพียง เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5.สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
~ 63 ~ 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี โดยเปิดวีดีทัศน์ เรื่อง ผลกระทบนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ (แหล่งที่มา https://www.youtube.com/watch?v=TIHc2v-zoec) จากนั้นครูตั้งค าถามจากวีดีทัศน์ ดังนี้ - ครูถามนักเรียนว่า จากข่าวผลกระทบนิวเคลียร์ฟุกุชิมะเกิดการั่วไหลของสารใด (แนว ค าตอบ สารกัมมันตรังสี) - ครูถามนักเรียนว่า สารกัมมันตรังสีส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร (แนวค าตอบ พิจารณา ตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น ท าให้เกิดการกลายพันธุ์เป็น ต้น) 2. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนคิดว่า ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารกัมมันตรังสีมีลักษณะ อย่างไร จึง ท าให้เกิดผลกระทบต่าง ๆ ต่อสิ่งมีชีวิต (แนวค าตอบ พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดย ให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น ธาตุอาจมีการแผ่กระจายของรังสี เป็นต้น) ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน ปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง เรื่องธาตุกัมมันตรังสี 2. ครูจัดเตรียมชุดแบบจ าลองนิวเคลียสของอะตอม 3 นิวเคลียส ได้แก่ 1) นิวเคลียสขนาดใหญ่ที่มีจ านวนโปรตอนเท่ากับอิเล็กตรอน ครูจัดเตรียมโดยปั้นดิน น้ ามันสีเขียวเป็นก้อนกลม 6 ลูก แต่ละลูกแทนเป็นโปรตอน 1 อนุภาค และปั้นดินน้ ามันสีส้ม 6 ลูก แต่ ละลูกแทนเป็นนิวตรอน 1 อนุภาค จากนั้นน าก้อนดินน้ ามันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกันจนเกินไป) 2) นิวเคลียสที่มีจ านวนโปรตอนมากกว่านิวตรอน โดยครูปั้นดินน้ ามันสีเขียวเป็นก้อน กลม 3 ลูก และปั้นดินน้ ามันสีส้ม 2 ลูก จากนั้นน าก้อนดินน้ ามันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกันจนเกินไป) 3) นิวเคลียสที่มีจ านวนนิวตรอนมากกว่าโปรตอน โดยครูปั้นดินน้ ามันสีเขียวเป็นก้อน กลม 2 ลูก และปั้นดินน้ ามันสีส้ม 3 ลูก จากนั้นน าก้อนดินน้ ามันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกันจนเกินไป)
~ 64 ~ 4) นิวเคลียสขนาดปานกลางที่ได้รับพลังงานกระตุ้น โดยครูปั้นดินน้ ามันสีเขียวเป็น ก้อนกลม 2 ลูก และปั้นดินน้ ามันสีส้ม 3 ลูก จากนั้นน าก้อนดินน้ ามันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกัน จนเกินไป) แล้ววางบนเครื่องเขย่าสารโดยใช้ความเร็วในการเขย่าน้อยที่สุด 3. ครูน าเสนอนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีให้นักเรียนดู แล้วดึงก้อนดินน้ ามันสีเขียวและสี เหลืองสี สีละ 2 ก้อนออกจากแบบจ าลองนิวเคลียสขนาดใหญ่ จากนั้นครูตั้งค าถามนักเรียนว่า นิวเคลียสที่ครูเตรียมทั้ง 4 นิวเคลียส ซึ่งเป็นนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี จะมีการแผ่รังสีชนิดใด ออกมา เพราะเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 คน ออกมารับใบงาน เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี จากนั้นครูให้ นักเรียนศึกษาค าชี้แจงในใบงาน สืบค้นเกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 แล้ว ตอบค าถามในใบงานที่เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี 5. ขณะที่นักเรียนท าปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ครูดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด คอยตอบค าถาม และแนะน าให้นักเรียนพยายามสังเกต คิดวิเคราะห์ว่าจะได้ผลการทดลองเป็นอย่างไร ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนในแต่ละกลุ่ม น าเสนอผลการท ากิจกรรมของกลุ่มตนเอง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวค าถาม ต่อไปนี้ - ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร (แนวค าตอบ ธาตุกัมมันตรังสี คือ ธาตุที่มีเลขอะตอมสูงกว่า 83 ซึ่งสามารถแผ่รังสีได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนิวเคลียสภายในอะตอมของธาตุไม่เสถียร จึงต้องมีการ เปลี่ยนแปลงไปเป็นธาตุที่มีความเสถียรมากขึ้นโดยการสลายตัวแล้วปล่อยอนุภาคภายในนิวเคลียส) - กัมมันตภาพรังสีมีกี่ประเภท อะไรบ้าง (แนวค าตอบ มี 3 ประเภท ได้แก่ อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา) - อนุภาคแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีลักษณะอย่างไร(แนวค าตอบ อนุภาค แอลฟา เกิดจากนิวเคลียสไม่เสถียร แล้วปล่อยอนุภาคที่มีโปรตอนและนิวตรอนออกมาอย่างละ 2 อนุภาค อนุภาคบีตาเกิดจากนิวเคลียสมีจ านวนอนุภาคโปรตอนและอนุภาคนิวตรอนแตกต่างกัน ท าให้มี การสลายอนุภาคโปรตอนหรือนิวตรอนส่วนเกินแล้วแผ่รังสีบีตาออกมา รังสีแกมมาเกิดจากนิวเคลียส ได้รับพลังงานกระตุ้นสูงท าให้ปลอดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) - ความสามารถในการทะลุทะลวงของรังสีแต่ละประเภทเป็นอย่างไร (แนวค าตอบ อนุภาค แอลฟามีอ านาจทะลุทะลวงต่ า ไม่สามารถทะลุผ่านแผ่นกระดาษบาง ๆ ได้ อนุภาคบีตาสามารถทะลุ
~ 65 ~ ผ่านแผ่นกระดาษบาง ๆ ได้ แต่ไม่สามารถทะลุผ่านแผนอะลูมิเนียมหนา 2 มิลลิเมตรได้ รังสีแกมมา สามารถทะลุทะลวงผ่านแผ่นกระดาษและแผ่นอะลูมิเนียมหนา 2 มิลลิเมตรได้ แต่ไม่สามารถทะลุผ่าน แท่งตะกั่วหนา 10 เซนติเมตรได้) ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูอฺธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสี ทั้งความหมาย ประโยชน์และโทษของธาตุกัมมันตรังสี 2. ครูให้นักเรียนไปสืบค้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับกับประโยชน์และโทษในด้านต่างๆ ของธาตุกัมมันตรังสี 3. ให้นักเรียนท าใบงานเรื่องธาตุกัมมันตรังสี ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - ใบกิจกรรมธาตุกัมมันรังสี - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายผลการใช้ธาตุกัมมันตรังสี ที่มีต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมอย่างเหมาะสมและถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน ตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การทดลอง วิเคราะห์ผลการท ากิจกรรมเรื่องการธาตุกัมมันตรังสี เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
~ 66 ~ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. สื่อ Power Point เรื่องธาตุกัมมันตรังสี 2. ใบกิจกรรมเรื่องธาตุกัมมันตรังสี 3. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 สสวท 4. อุปกรณ์การท ากิจกรรมเรื่องธาตุกัมมันตรังสี แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
~ 6 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์ผล จากการใช้ธาตุกัมมันตรังสี ที่มี ต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมได้ ใช้ใบกิจกรรมเรื่องธาตุ กัมมันตรังสี การตอบค าถามในชั้นเรียน ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถออกแบบและ ปฏิบัติกิจกรรมธาตุกัมมัน ตรังสีได้ สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมธาตุ กัมมันตรังสีทางด้าน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ (A) นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมี ความรับผิดชอบ นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของ การใช้ ธาตุกัมมันตรังสี โดย เสนอ แนวทางการใช้ธาตุอย่าง ปลอดภัย คุ้มค่า 1.สังเกตการใฝ่รู้ มีความ รับผิดชอบมุ่งมั่นในการท างาน กลุ่ม 2.สังเกตพฤติกรรมการแสดง ความคิดเห็น การตอบค าถาม
7 ~ เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ใบกิจกรรมเรื่องธาตุ กัมมันตรังสี ผ่านเกณฑ์ 60 เปอร์เซ็นขึ้นไป แบบประเมินทักษะ กระบวนการวิทยาศาสตร์ 3 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมธาตุกัมมันตรังสีตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 2 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมธาตุกัมมันตรังสีตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมธาตุกัมมันตรังสีตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้คลาดเคลื่อน แบบประเมินพฤติกรรม รายกลุ่ม ผ่าน หมายถึง ให้ความร่วมมือ สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นใน การท างานกลุ่ม ปรับปรุง หมายถึง ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่สนใจใฝ่รู้ไม่รับผิดชอบ และไม่มุ่งมั่นในการท างานกลุ่ม
~ 68 ~ ใบงาน ธาตุกัมมันตรังสี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค าถามต่อไปนี้ 1. ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร 2. ธาตุกัมมันตรังสีสามารถแผ่รังสีได้กี่ประเภท อะไรบ้าง 3. รังสีแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร 4. เราใช้ประโยชน์จากกัมมันตรังสีในด้านใดบ้าง อธิบายพอสังเขป 5. กัมมันตภาพรังสีมีโทษต่อร่างกายอย่างไร จงยกตัวอย่าง
~ 69 ~ ใบงานที่ ธาตุกัมมันตรังสี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค าถามต่อไปนี้ 1. ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร ธาตุกัมมันตรังสี คือ ธาตุที่สามารถแผ่รังสีได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนิวเคลียสภายใน อะตอมของธาตุไม่เสถียร จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นธาตุที่มีความเสถียรมากขึ้นโดย การสลายตัวแล้วปล่อยอนุภาคภายในนิวเคลียส 2. ธาตุกัมมันตรังสีสามารถแผ่รังสีได้กี่ประเภท อะไรบ้าง 3 ประเภท ได้แก่ อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา 3. รังสีแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร อนุภาคแอลฟาเกิดจากอนุภาคโปรตอนและอนุภาคนิวตรอนหลุดมาจากนิวเคลียส อย่างละ 2 อนุภาค อนุภาคบีตาลบเกิดจากนิวเคลียสมีนิวตรอนมากกว่าโปรตอน อนุภาค บีตาบวกเกิดจากนิวเคลียสมีโปรตอนมากกว่านิวตรอน และรังสีแกรมมาเกิดจากนิวเคลียส มีพลังงานสูงท าให้ไม่เสถียร 4. เราใช้ประโยชน์จากกัมมันตรังสีในด้านใดบ้าง อธิบายพอสังเขป 1) ด้านการแพทย์ ใช้ Co-60 ท าลายเซลล์มะเร็งและยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ใช้ I-131 ตรวจความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ 2) ด้านการเกษตร ใช้ -ray ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอาหาร ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในเมล็ดพันธุ์พืช 3) ด้านอุตสาหกรรม ใช้ U-235 เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ในอุตสาหกรรม ผลิตเครื่องบินและยานอวกาศ ใช้ผลิตรังสีเอ็กซ์ (x-ray) 4) ด้านธรณีวิทยาใช้ค านวณหาอายุของวัตถุโบราณ อายุหิน หรือซากฟอสซิลต่างๆ ซึ่ง ค านวณหาได้จากครึ่งชีวิตของคาร์บอน -14 (C-14) ที่อยู่ในวัตถุนั้นๆ 5. กัมมันตภาพรังสีมีโทษต่อร่างกายอย่างไร จงยกตัวอย่าง (ตัวอย่าง) ถ้าร่างกายได้รับโทษจะท าให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายถูกท าลายได้ ซึ่งเป็น สาเหตุของโรคมะเร็งและความผิดปกติทางพันธุกรรม
~ 70 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 รายวิชา ว 21101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ สารรอบตัว เรื่อง สมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม 4 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของ การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด . ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัด อุณหภูมิ เขียนกราฟ แปลความหมายข้อมูลจากกราฟ หรือสารสนเทศ ว 2.1 ม.1/5 อธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม ว 2.1 ม.1/6 ใช้เครื่องมือเพื่อวัดมวลและปริมาตรของสารบริสุทธิ์และสารผสม 2. สาระส าคัญ สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็นค่าเฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลวคงที่ แต่ สารผสมมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีความหนาแน่น หรือมวลต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรคงที่ เป็นค่าเฉพาะของ สารนั้น ณ สถานะและอุณหภูมิหนึ่ง แต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่คงที่ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของ สารที่ผสมอยู่ด้วยกัน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่นของสาร บริสุทธิ์และสารผสมได้(K) 2. นักเรียนสามารถออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง โดยการวัดอุณหภูมิ เขียนกราฟ แปล ความหมายข้อมูลจากกราฟ หรือสารสนเทศได้(P) 3. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความรับผิดชอบ (A)
~ 71 ~ 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็น ค่าเฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลวคงที่ แต่ สารผสมมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีความหนาแน่น หรือมวลต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรคงที่ เป็นค่าเฉพาะของ สารนั้น ณ สถานะและอุณหภูมิหนึ่ง แต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่คงที่ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของ สารที่ผสมอยู่ด้วยกัน ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต 2. ทักษะการทดลอง 3. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายามคิด แก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็นตัว อย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 4. มีความพอเพียง เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5.สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการแก้ปัญหา
~ 72 ~ 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์ สารผสม ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูน าแก้วมา 2 ใบ โดยใบหนึ่งใส่น้ าเกลือ และอีกใบหนึ่งใส่น้ าธรรมดา จากนั้นครูหย่อน ลูกปัด ลงในแก้วที่มีน้ าเกลือและน้ าธรรมดา จากนั้นครูให้นักเรียนเปรียบเทียบผลที่เกิดขึ้น เพื่อให้ นักเรียนเห็นถึงความแตกต่างของสารบริสุทธิ์กับสารผสม ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล หรือศึกษาจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 ว่าเพราะเหตุใด ลูกปัดจึงจมในน้ าเกลือ แต่กลับลอยในน้ าธรรมดา เพื่อเกริ่นน าให้เรียนรู้จักความหนาแน่นจ าเพาะของ สาร ซึ่งเป็นสมบัติทางกายภาพ 2. ครูเกริ่นน าว่าสารบริสุทธิ์และสารผสมมีสมบัติทางกายภาพ เช่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น เป็นต้น ที่แตกต่างกัน 3. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง สมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสมในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาอธิบายผลจากการสืบค้นข้อมูลหน้าชั้นเรียน 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย และเพิ่มเติมความรู้ให้กับนักเรียนว่า เพราะเหตุใดลูกปัดจึง ลอยในน้ าทะเล แต่กลับจมในน้ าธรรมดา (แนวค าตอบ เพราะ น้ าเกลือ เป็นสารผสม ที่ความหนาแน่น มากกว่าน้ าธรรมดาซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ จึงเป็นเหตุลูกปัดลอยในน้ าได้) 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม ได้ข้อสรุปดังนี้สารบริสุทธิ์แต่ละ ชนิดมีความหนาแน่น หรือมวลต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรคงที่ เป็นค่าเฉพาะของสารนั้น ณ สถานะและ อุณหภูมิหนึ่ง แต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่คงที่ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหนาแน่นจ าเพาะของสาร
~ 73 ~ ชั่วโมงที่ 2 จุดเดือดจุดหลอมเหลว ของสารบริสุทธิ์และสารผสม ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา (Exploration) 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ศึกษากิจกรรม การตรวจสอบสารบริสุทธิ์และ สารละลาย ในตอนที่ 1 จากนั้นครูอธิบายขั้นตอนการทดลองในตอนที่ 1 ตามหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มท ากิจกรรมตอนที่ 1 เรื่อง การหาจุดเดือดของเอทานอล และ สารละลายกลีเซอรอลในเอทาน แล้วบันทึกผลลงสมุดบันทึก 3. ให้นักเรียนศึกษากิจกรรม การตรวจสอบสารบริสุทธิ์และสารละลาย ในตอนที่ 2 จากนั้น ครูอธิบายขั้นตอนการทดลองในตอนที่ 2 อย่างละเอียด ตามหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ 4. ครูให้นักเรียนท ากิจกรรมตอนที่ 2 เรื่อง การหาจุดหลอมเหลวของแนฟทาลีน และ สารละลายกรดเบนโซอิคในแนฟทาลีน แล้วบันทึกผลลงในสมุดบันทึก ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาน าเสนอผลจากกิจกรรมการตรวจสอบสาร บริสุทธิ์และสารละลาย ทั้งในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรมการตรวจสอบสารบริสุทธิ์และสารละลาย 3. ครูและนักเรียนร่วมกันตอบค าถามท้ายกิจกรรม แล้วบันทึกลงในสมุดบันทึก 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม ได้ข้อสรุปดังนี้ สารบริสุทธิ์ ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สารบริสุทธิ์แต่ละ ชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็นค่าเฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลวคงที่ แต่สารผสมมีจุดเดือด และจุดหลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดเดือดจุดหลอมเหลว โดยยกตัวอย่างสารที่เป็นสารบริสุทธิ์ และสารผสม เพื่อเปรียบเทียบกัน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - ใบกิจกรรมเรื่องสมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม
~ 74 ~ 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายและเปรียบเทียบสมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้อย่าง เหมาะสมและถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน ตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การทดลอง วิเคราะห์ผลการทดลองเรื่องสมบัติของสารบริสุทธิ์และสาร ผสม เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. สื่อ Power Point เรื่องสมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม 2. ใบกิจกรรมเรื่องสมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม 3. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 สสวท 4. อุปกรณ์การทดลองเรื่องสมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
~ 7 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถอธิบายและ เปรียบเทียบจุดเดือด จุด หลอมเหลว ความหนาแน่น ของสารบริสุทธิ์และสารผสม ได้ ใช้ใบกิจกรรมเรื่องสมบัติของ สารบริสุทธิ์และสารผสม ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถออกแบบและ ปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง สมบัติของ สารบริสุทธิ์และ สารผสมได้ สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมการ ทดลองสมบัติของ สารบริสุทธิ์ และสารผสมทางด้าน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
5 ~ เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ใบกิจกรรมเรื่องสมบัติ ของสารบริสุทธิ์และสาร ผสม 4 คะแนน อธิบายและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลว ความ หนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป 3 คะแนน อธิบายและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลว ความ หนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 70-79 2 คะแนน อธิบายและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลว ความ หนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 60-69 1 คะแนน อธิบายและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลว ความ หนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ถูกต้องร้อยละ 50-59 0 คะแนน อธิบายและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลว ความ หนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ถูกต้องน้อยกว่าร้อยละ 50 แบบประเมินทักษะ กระบวนการ วิทยาศาสตร์ 3 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองสมบัติของสาร บริสุทธิ์และสารผสมตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 2 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองสมบัติของสาร บริสุทธิ์และสารผสมตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง บางส่วน 1 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการทดลองสมบัติของ สาร บริสุทธิ์และสารผสมตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ คลาดเคลื่อน
~ 7 ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ (A) นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมี ความรับผิดชอบ 1.สังเกตการใฝ่รู้ มีความ รับผิดชอบมุ่งมั่นในการท างาน กลุ่ม 2.สังเกตพฤติกรรมการแสดง ความคิดเห็น การตอบค าถาม
6 ~ แบบประเมินพฤติกรรม รายกลุ่ม ผ่าน หมายถึง ให้ความร่วมมือ สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการ ท างานกลุ่ม ปรับปรุง หมายถึง ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่สนใจใฝ่รู้ไม่รับผิดชอบ และไม่มุ่งมั่นในการท างานกลุ่ม
~ 77 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 รายวิชา ว 21101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ สารรอบตัว เรื่อง การจ าแนกสารบริสุทธิ์ 2 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของ การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด . ว 2.1 ม.1/7 อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โดยใช้แบบจ าลองและสารสนเทศ 2. สาระส าคัญ สารบริสุทธิ์แบ่งออกเป็นธาตุและสารประกอบ ธาตุประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่ยังแสดง สมบัติของธาตุนั้นเรียกว่า อะตอม ธาตุแต่ละชนิดประกอบด้วยอะตอมเพียงชนิดเดียวและไม่สามารถ แยกสลายเป็นสารอื่นได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาตุเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ธาตุ สารประกอบเกิดจากอะตอม ของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปรวมตัวกันทางเคมีในอัตราส่วนคงที่ มีสมบัติแตกต่างจากธาตุที่เป็น องค์ประกอบ สามารถแยกเป็นธาตุได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาตุและสารประกอบสามารถเขียนแทนได้ด้วย สูตรเคมี 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบได้(K) 2. นักเรียนสามารถออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการจ าแนกสารบริสุทธิ์ได้(P) 3. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความรับผิดชอบ (A) 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) สารบริสุทธิ์แบ่งออกเป็นธาตุและสารประกอบ ธาตุประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่ยัง แสดงสมบัติของธาตุนั้นเรียกว่า อะตอม ธาตุแต่ละชนิดประกอบด้วยอะตอมเพียงชนิดเดียวและไม่ สามารถแยกสลายเป็นสารอื่นได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาตุเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ธาตุ สารประกอบเกิดจาก อะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปรวมตัวกันทางเคมีในอัตราส่วนคงที่ มีสมบัติแตกต่างจากธาตุที่เป็น
~ 78 ~ องค์ประกอบ สามารถแยกเป็นธาตุได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาตุและสารประกอบสามารถเขียนแทนได้ด้วย สูตรเคมี ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต 2. ทักษะการทดลอง 3. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายาม คิดแก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็น ตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 4. มีความพอเพียง เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ความสามารถในการแก้ปัญหา
~ 79 ~ 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1.ครูถามค าถามทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน ดังนี้ - สารบริสุทธิ์ คืออะไร (แนวค าตอบ สารบริสุทธิ์ คือ สารที่มีองค์ประกอบเพียงชนิดเดียว มี สมบัติเฉพาะทางกายภาพ และสมบัติทางเคมี) - เพราะเหตุใด ธาตุจึงจัดเป็นสารบริสุทธิ์(แนวค าตอบ เพราะธาตุประกอบด้วยอะตอมเพียง ชนิดเดียว ไม่สามารถแยกหรือสลายออกเป็นสารอื่นได้) ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน ปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง เรื่อง สารประกอบ 2. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง สารประกอบ ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ครูให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมการทดลองตามวิธีการแยกสารผสมที่นักเรียนวางแผนไว้ บันทึกผลการทดลองลงในสมุดบันทึก วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 3. ขณะที่นักเรียนท าปฏิบัติกิจกรรม ครูดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด คอยตอบค าถามและแนะน า ให้นักเรียนพยายามสังเกต คิดวิเคราะห์ว่าจะได้ผลการทดลองเป็นอย่างไร ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนในแต่ละกลุ่ม น าเสนอผลการทดลองของกลุ่มตนเอง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง โดยครูใช้ ค าถามดังนี้ - สารประกอบ คืออะไร (แนวค าตอบ สารประกอบ คือ สารบริสุทธิ์ที่เกิดจากอะตอมของ ธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกันทางเคมี) - อัตราส่วนโดยมวลของธาตุที่รวมกันเป็นสารประกอบเป็นอย่างไร (แนวค าตอบ อัตราส่วนโดยมวลคงที่) - สมบัติของสารประกอบเปลี่ยนแปลงไปจากสมบัติของธาตุที่เป็นองค์ประกอบเดิมหรือไม่ (แนวค าตอบ สมบัติของสารประกอบเปลี่ยนแปลงไปจากสมบัติของธาตุที่เป็น องค์ประกอบเดิม) - สารประกอบชนิดใดที่สามารถใช้สูตรโมเลกุลได้ (แนวค าตอบ สารประกอบที่มีธาตุ อโลหะเป็นองค์ประกอบเท่านั้น) ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูถามนักเรียนว่า นอกจากตัวอย่างแบบจ าลองโมเลกุลของสารประกอบที่ครูน าเสนอแล้ว นักเรียนคิดว่า มีสารใดรอบตัวนักเรียนที่เป็นสารประกอบอีกบ้าง (แนวค าตอบ ตัวอย่างเช่น ผงชูรส น้ า แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น)
~ 80 ~ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสารประกอบที่อยู่รอบตัวนักเรียน แล้วบันทึก ผลการสืบค้นลงในใบงาน เรื่อง สารประกอบ ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - ใบกิจกรรมสารประกอบ - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายความสัมพันธ์ของอะตอม ธาตุ สารประกอบได้อย่าง เหมาะสมและถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน ตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การทดลอง วิเคราะห์ผลการท ากิจกรรมเรื่องสารประกออบ เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. สื่อ Power Point เรื่องสารประกอบ 2. ใบกิจกรรมเรื่องสารประกอบ 3. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 สสวท 4. อุปกรณ์การทดลองเรื่องสารประกอบ แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
~ 8 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถอธิบาย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง อะตอม ธาตุ และสารประกอบ ได้ ใช้ใบกิจกรรมเรื่องสารประกอบ ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถออกแบบและ ปฏิบัติกิจกรรมการจ าแนกสาร บริสุทธิ์ได้ สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมการ จ าแนกสารบริสุทธิ์ทางด้าน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1 ~ เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ใบกิจกรรมเรื่อง สารประกอบ 4 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบได้ถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป 3 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบได้ถูกต้องร้อยละ 70-79 2 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบได้ถูกต้องร้อยละ 60-69 1 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบได้ถูกต้องร้อยละ 50-59 0 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบได้ถูกต้องน้อยกว่าร้อยละ 50 แบบประเมินทักษะ กระบวนการวิทยาศาสตร์ 3 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการจ าแนกสารบริสุทธิ์ ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 2 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการจ าแนกสารบริสุทธิ์ ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมการจ าแนกสารบริสุทธิ์ ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้คลาดเคลื่อน
~ 8 ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ (A) นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมี ความรับผิดชอบ 1.สังเกตการใฝ่รู้ มีความ รับผิดชอบมุ่งมั่นในการท างาน กลุ่ม 2.สังเกตพฤติกรรมการแสดง ความคิดเห็น การตอบค าถาม
2 ~ แบบประเมินพฤติกรรม รายกลุ่ม ผ่าน หมายถึง ให้ความร่วมมือ สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นใน การท างานกลุ่ม ปรับปรุง หมายถึง ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่สนใจใฝ่รู้ไม่รับผิดชอบ และไม่มุ่งมั่นในการท างานกลุ่ม
~ 83 ~ ใบงาน เรื่อง สารประกอบ ตอนที่ 1 ค าชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบ แล้วบันทึกผลการสืบค้นลงในใบงาน รูปโมเดลสารประกอบ ชื่อสารประกอบ สมบัติของ สารประกอบ สมบัติของธาตุที่เป็น องค์ประกอบ โซเดียมไฮดรอกไซด์ กรด โซเดียมคลอไรด์ ค าถามหลังกิจกรรม 1. สารประกอบ คืออะไร ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... 2. สารประกอบมีสมบัติเหมือนกับธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารประกอบนั้นหรือไม่ ............................................................................................................................. ...................................... Na Cl Mn O K O C H Na O H
~ 84 ~ ตอนที่ 2 ค าชี้แจง จงเขียนชื่อและสูตรโมเลกุลของสารประกอบรอบตัวของนักเรียนมาอย่างน้อย 5 ชนิด พร้อม กับระบุประโยชน์และโทษของสารประกอบชนิดนั้น ชื่อสารประกอบ สูตรโมเลกุล ประโยชน์/โทษของ สารประกอบ NH2CONH2 N,H,C,O H2SO4 H,S,O Hl Na2B4O7 ·10H2O CO2 C,O C5H8NO4Na
~ 85 ~ เฉล ย ใบงาน เรื่อง สารประกอบ ตอนที่ 1 ค าชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบ แล้วบันทึกผลการสืบค้นลงในใบงานตอนที่ 1 รูปโมเดลสารประกอบ ชื่อสารประกอบ สมบัติของ สารประกอบ สมบัติของธาตุที่เป็น องค์ประกอบ โซเดียมไฮดรอกไซด์ กรดคาร์บอนิก โพแทสเซียมเปอร์- แมงกาเนต โซเดียมคลอไรด์ ค าถามหลังกิจกรรม 1. สารประกอบ คืออะไร สารประกอบ คือ สารบริสุทธิ์ที่เกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกันทางเคมี โดยมีอัตราส่วนโดยมวลคงที่ 2. สารประกอบมีสมบัติเหมือนกับธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารประกอบนั้นหรือไม่ สารประกอบมีสมบัติแตกต่างกับธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารประกอบนั้น เนื่องจากมีการสร้าง พันธะระหว่างอะตอมท าให้กลายเป็นโมเลกุลใหม่ Na Cl Mn O K O C H Na O H
~ 86 ~ ตอนที่ 2 ค าชี้แจง จงเขียนชื่อและสูตรโมเลกุลของสารประกอบรอบตัวของนักเรียนมาอย่างน้อย 5 ชนิด พร้อม กับระบุประโยชน์และโทษของสารประกอบชนิดนั้น ชื่อสารประกอบ สูตรโมเลกุล ประโยชน์/โทษของสารประกอบ ตัวอย่างค าตอบ แคลเซียมไฮดรอกไซด์ Ca(OH)2 ประโยชน์ 1. ใช้แก้ดินเปรี้ยว 2. ใช้ท ายาลดกรดในกระเพาะอาหาร โทษ 1. เมื่ออยู่ในรูปสารละลายจะมีฤทธิ์ เป็นเบส กัดกร่อนผิวหนัง ก่อให้เกิด การระคายเคือง
~ 87 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 รายวิชา ว 21101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ สารรอบตัว เรื่อง โครงสร้างอะตอม 2 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของ การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด . ว 2.1 ม.1/8 อธิบายโครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน โดย ใช้แบบจ าลอง 2. สาระส าคัญ อะตอมประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน โปรตอนมีประจุไฟฟ้าบวก ธาตุชนิด เดียวกันมีจ านวนโปรตอนเท่ากันและเป็นค่าเฉพาะของธาตุนั้น นิวตรอนเป็นกลางทางไฟฟ้า ส่วน อิเล็กตรอนมีประจุไฟฟ้าลบ เมื่ออะตอมมีจ านวนโปรตอนเท่ากับจ านวนอิเล็กตรอน จะเป็นกลาง ทาง ไฟฟ้า โปรตอนและนิวตรอนรวมกันตรงกลางอะตอมเรียกว่า นิวเคลียส ส่วนอิเล็กตรอนเคลื่อนที่อยู่ใน ที่ว่างรอบนิวเคลียส 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายโครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน โดยใช้ แบบจ าลองได้(K) 2. นักเรียนสามารถออกแบบและปฏิบัติกิจกรรมเรื่องโครงสร้างอะตอมได้(P) 3. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความรับผิดชอบ (A)