The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-05-29 06:36:55

แผนการสอนภาษาไทยประวัติวรรณคดี ม.5

ครูอภิชาติ แก้วดำ

เอกสารประกอบการเรียน พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางในแง่มุมต่างๆ เช่น ผู้แต่ง ท านองแต่ง จุดมุ่งหมายในการแต่ง เนื้อหา ตัวอย่างที่ประทับใจ คุณค่า (สมุทรโฆษค าฉันท์,โคลงเบ็ดเตล็ด)


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง จ านวน ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เรื่อง น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางไปใช้ในชีวิตประจ าวัน จ านวน ๒ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๒. สาระส าคัญ การน าวรรณคดีไปใช้ในชีวิตประจ าวันท าให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ช่วยจรรโลงใจ ช่วยธ ารงสังคม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการคิด ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - เห็นคุณค่าของวรรณคดี - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนกลาง ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังตัวอย่างค าประพันธ์บางตอนจากเรื่องโคลงพาลีสอนน้อง ๖.๒. นักเรียนฝึกวิเคราะห์เนื้อหาในแง่การน าไปใช้ในชีวิต ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนแต่ละคนทบทวนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางจากเอกสารประกอบการเรียน และวางแผนวิเคราะห์เนื้อหาในแง่การน าไปใช้ในชีวิต ๖.๔. นักเรียนน าวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางไปใช้ในชีวิตประจ าวัน


ขั้นสรุป ๖.๕. ผู้ปกครองและครูประเมินการน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันของนักเรียน พร้อมกับติชมแก้ไข ๖.๖. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนน าคุณค่าของวรรณคดีไปใช้ในชีวิตจริงได้ชัดเจน มีเหตุผล ยกตัวอย่าง ได้ถูกต้องสอดคล้องกับชีวิต และมีความเป็นไปได้ในการน าไปใช้ หลักมีเหตุผล นักเรียนมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีการด าเนินงานตามแผนมีการประเมิน และปรับปรุงการด าเนินงาน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถแสดงออกด้วยความชื่นชมยินดี เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถน าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนเห็นคุณค่าของวรรณคดีและรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. ตัวอย่างค าประพันธ์บางตอนจากเรื่องโคลงพาลีสอนน้อง ๘.๒. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - น าวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนกลางไปใช้ใน ชีวิตประจ าวันได้ ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนกลาง แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนกลาง ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ P) - กระบวนคิด การน าวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนกลางไปใช้ใน ชีวิตประจ าวันได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - เห็นคุณค่าของ วรรณคดี - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติแก้วด า) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๔ น าวรรณคดีไปใช้ในชีวิต ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) น าคุณค่าจาก วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิต น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้ชัดเจน มีเหตุผล ยกตัวอย่างได้ ถูกต้องสอดคล้อง กับชีวิต และมี ความเป็นไปได้ใน การน าไปใช้ น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้ชัดเจน แต่ยังไม่มีเหตุผล และตัวอย่างที่ น าเสนอไม่ สอดคล้องกับชีวิต น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้แต่ยังไม่ ชัดเจนเท่าที่ควร ไม่ มีการแสดงเหตุผล และการยกตัวอย่าง ไม่สามารถสรุปได้ ว่าน าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ได้ อย่างไร (P) กระบวนการปฏิบัติ มีการวางแผน อย่างเป็นระบบ มีการด าเนินงาน ตามแผนมีการ ประเมินและ ปรับปรุงการด าเนิน งาน มีการวางแผนอย่าง เป็นระบบเป็นส่วน ใหญ่ มีการ ด าเนินงานตามแผน มีการประเมินและ ปรับปรุง การ ด าเนินงานเป็นส่วน ใหญ่ วางแผนไม่ค่อยเป็น ระบบ มีการ ด าเนินงานตามแผน บ้าง มีการประเมิน และปรับปรุงการ ด าเนิน งาน เล็กน้อย ไม่มีการวางแผน ด าเนินงาน สะเปะสะปะ ไม่มีการประเมิน และปรับปรุงการ ด าเนิน งาน (A) เห็นคุณค่าของ วรรณคดี แสดงออกด้วย ความชื่นชมยินดี แสดงออกตาม บทบาทหน้าที่ มี อารมณ์ร่วมมาก แสดงออกตาม บทบาทหน้าที่ มี อารมณ์ร่วมน้อย แสดงออกด้วย ความเบื่อหน่าย (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ พอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง


เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔- ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้ เอกสารประกอบการเรียน น าวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ตัวอย่างการน าวรรณคดีไปใช้ในชีวิตประจ าวัน วรรณคดีในชีวิตประจ าวันของข้าพเจ้า เรื่อง วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ครั้งที่ วัน / เดือน / ปี เนื้อหา น ามาใช้ในชีวิตประจ าวัน ลายเซ็น ผู้เกี่ยวข้อง ๑ ๓ ก.ย. ๕๘ เรื่อง เสือโคค าฉันท์ ( ของ พระมหาราชครู ) - จากเรื่องย่อที่ว่าแม่เสือสาบาน ว่าจะไม่ท าร้ายโคแม่ลูก แต่ตอนหลังผิดค าสาบาน จึงถูกลูกเสือและลูกโคฆ่าตาย ดิฉันพูดแต่ความจริง ไม่ผิดค าพูดกับคุณพ่อและ คุณแม่ ( นางแดง รักดี ) มารดา


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย จ านวน ๘ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง เขียนย่อความเรื่องวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย จ านวน ๓ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ เขียนย่อความเรื่องวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายได้ ๒. สาระส าคัญ การเขียนย่อความเกี่ยวกับเรื่องที่เราก าลังจะศึกษาท าให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆได้ดียิ่งขึ้น ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการเขียน ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีมารยาทและมีนิสัยรักการเขียน - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังเพลงเหมือนไม่เคย ๖.๒. ครูสนทนากับนักเรียนถึงที่มาและช่วยกันสรุปใจความส าคัญจากเพลง ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน ๖.๔. นักเรียนศึกษาเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายจากเอกสารประกอบการเรียน ๖.๕. นักเรียนเขียนย่อความเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ขั้นสรุป ๖.๖. ครูตรวจชิ้นงาน ติ ชม แก้ไขข้อบกพร่อง


๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถเขียนสรุปสาระส าคัญได้ครบถ้วน เรียบเรียงใจความเป็นล าดับ ต่อเนื่อง ใช้ถ้อยค าภาษาของตนเองอย่างกะทัดรัด ชัดเจน หลักมีเหตุผล นักเรียนล าดับความคิดได้ตรงประเด็นมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ชิ้นงานสะอาด เรียบร้อย หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนเรียบเรียงงานเขียนด้วยภาษาของตนเอง ไม่คัดลอกผู้อื่น ชอบการเขียน ส่งงานเขียนตรงเวลาอย่างสม่ าเสมอ แก้ไขและปรับปรุงงานเขียนตามค าแนะน า ของครูอย่างถูกต้อง รักการอ่าน และชอบศึกษาภาษาของนักเขียน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีมารยาทและมีนิสัยรักการเขียน และรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. เพลงเหมือนไม่เคย ๘.๒. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) – ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนปลาย ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนปลาย แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนปลาย ตามสภาพจริง P) - กระบวนการเขียน เขียนย่อความเรื่อง วรรณคดีสมัยอยุธยาตอน ปลาย แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - มีมารยาทและมีนิสัย รักการเขียน - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติแก้วด า ) .........../.............../.................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๕ เขียนย่อความ ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) เนื้อหา (เขียนย่อความ) เขียนสรุปสาระส าคัญ ได้ครบถ้วน เรียบเรียง ใจความเป็นล าดับ ต่อเนื่อง ใช้ถ้อยค า ภาษาของตนเอง อย่าง กะทัดรัด ชัดเจน เขียนสรุปสาระส าคัญ ได้ครบถ้วน เรียบ เรียงใจความเป็น ล าดับต่อเนื่อง แต่ยัง มีข้อบกพร่องในการ ใช้ถ้อยค า เขียนสรุปสาระส าคัญ ได้ครบถ้วน แต่ยังมี ข้อบกพร่องใน การเรียบเรียง ใจความและการใช้ ภาษา เขียนสรุปสาระส าคัญ ไม่ได้ ครูต้องแนะน า ช่วยเหลือจึงสามารถ เขียนสรุปได้ (P) กระบวนการเขียน ล าดับความคิดได้ตรง ประเด็นมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง ชิ้นงานสะอาด เรียบร้อย ล าดับความคิดได้ตรง ประเด็นเป็นส่วนใหญ่ มีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง ชิ้นงาน สะอาด เรียบร้อย เป็นส่วนใหญ่ ล าดับความคิดได้ ค่อนข้างตรงประเด็น แต่ขาดความสัมพันธ์ เชื่อมโยง ชิ้นงาน ค่อนข้างสะอาด เรียบร้อย ล าดับความคิดไม่ตรง ประเด็นขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยง ชิ้นงานไม่ สะอาด ขาดความ เป็นระเบียบ (A) มีมารยาทและมี นิสัยรักการเขียน เรียบเรียงงานเขียนด้วย ภาษาของตนเอง ไม่ คัดลอกผู้อื่น ชอบ การเขียน ส่งงานเขียน ตรงเวลาอย่าง สม่ าเสมอ แก้ไขและ ปรับปรุงงานเขียนตาม ค าแนะน าของครูอย่าง ถูกต้อง รักการอ่าน และชอบศึกษาภาษา ของนักเขียน เรียบเรียงงานเขียน ด้วยภาษาของตนเอง ไม่คัดลอกผู้อื่น ชอบ การเขียน ส่งงาน เขียนตรงเวลาอย่าง สม่ าเสมอ แก้ไขและ ปรับปรุงงานเขียน ตามค าแนะน าของครู อย่างถูกต้อง แต่ยังไม่ พัฒนานิสัยรักการ อ่านและชอบศึกษา ภาษาของนักเขียน เรียบเรียงงานเขียน ด้วยภาษาของตนเอง แต่คัดลอกผู้อื่นบ้าง บางส่วน ชอบ การเขียน ส่งงาน เขียนตรงเวลาอย่าง สม่ าเสมอ แก้ไขและ ปรับปรุงงานเขียน ตามค าแนะน าของครู แต่ยังไม่ถูกเท่าที่ควร ครูต้องแนะน า เพิ่มเติม ไม่มีนิสัยรัก การอ่าน และไม่ ศึกษาภาษาของ นักเขียน ชอบคัดลอกงานเขียน ของผู้อื่น ไม่ค่อยมี ความพยายามใน การเรียบเรียงงาน เขียนด้วยภาษาของ ตนเอง ไม่ค่อยชอบ การเขียน ส่งงาน เขียนไม่ตรงเวลา ไม่ แก้ไขและปรับปรุง งานเขียนของตนเอง ครูต้องควบคุม ดูแล และแนะน าช่วยเหลือ ตลอดเวลา (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมีมารยาท งดงามแบบไทย มี สัมมาคารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณ พอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้


เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้ เอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย เขียนย่อความเรื่อง วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย บทเรียนเรื่อง วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จากหนังสือเรียนสมบูรณ์แบบ ประวัติวรรณคดี ๑ ของเสนีย์ วิลาวรรณ และคณะ หน้า ๑๗๔ ถึงหน้า ๒๒๒ ความว่า วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย [รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจนถึงเสียกรุงศรีอยุธยา ( พ. ศ. ๒๒๗๔ – พ. ศ. ๒๓๑๐ ) ] ลักษณะวรรณคดี เมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กรุงศรีอยุธยาเริ่มระส่ าระสาย เนื่องจากการชิงราชสมบัติ เกิดกบฏและเกิดสงครามกับนครศรีธรรมราชและกัมพูชา จึงท าให้วรรณคดีชะงักงันเป็นเวลาเกือบชั่วครึ่งศตวรรษ ต่อมาได้มีโอกาสรุ่งเรืองขึ้นอีกระยะหนึ่งเมื่อสมเด็จพระจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ครองราชย์สมบัติ ทั้งนี้เพราะ พระมหากษัตริย์พระองค์นี้เอาพระทัยใส่ในการศึกษาเล่าเรียนของกุลบุตรเป็นพิเศษ ผู้ที่จะถวายตัวเข้ารับราชการ จะต้องมีความรู้วิชาสามัญและบวชเรียนในพระพุทธศาสนามาก่อน ทรงสนับสนุนงานวรรณคดีอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังทรงเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา เสด็จไปนมัสการพุทธบาทสระบุรี ท าให้เกิดวรรณคดีเนื่องด้วย พระพุทธบาทหลายเรื่อง การละครในรัชกาลนี้ก็รุ่งเรืองมีทั้งละครนอกและละครใน มีผู้แต่งบทละครไว้เป็นจ านวน มาก รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งมีเวลา ๒๖ ปี มีความเจริญทางวรรณคดีเท่าเทียมยุคทองแห่ง วรรณคดี กวีมีทั้งบรรพชิต ฆราวาส ชายและหญิง เจ้านายและสามัญชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเองก็ ทรงเป็นกวีด้วย ที่เป็นเจ้านาย คือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรและเจ้าฟ้าอภัย ขุนนางได้แก่ หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ที่ เป็นภิกษุได้แก่ พระมหานาควัดท่าทราย กวีหญิง คือ เจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎ วรรณคดีในสมัยนี้มีหลาย ประเภท เช่น กลอนเพลงยาว กลอนบทละคร กลอนกลบท กาพย์ห่อโคลง กาพย์เห่เรือและค าฉันท์ และเป็น ยุคที่วรรณคดีประเภทกาพย์เจริญถึงที่สุด คือ กาพย์เห่เรือและกาพย์ห่อโคลงของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร หนังสือ ประเภทค าหลวงก็มีถึง ๒ เรื่อง คือ นันโทปนันทสูตรค าหลวง และพระมาลัยค าหลวงของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร วรรณคดีและกวีส าคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีดังนี้ ๑. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อครั้งทรงด ารงพระอิสริยยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ๑. โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์


๒. เจ้าฟ้าอภัย ๒. โคลงนิราศ ๓. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ๓. นันโทปนันทสูตรค าหลวง ๖. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๔. พระมาลัยค าหลวง ๗. กาพย์ห่อโคลงนิราศ ๕. กาพย์เห่เรือ ๘. เพลงยาว ๔. เจ้าฟ้าหญิงกุณฑล ๙. อิเหนา ( อิเหนาใหญ่ ) ๕. เจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ ๑๐. อิเหนา (อิเหนาเล็ก ) ๖. พระมหานาควัดท่าทราย ๑๑. บุณโณวาทค าฉันท์ ๑๒. โคลงนิราศพระบาท ๗. หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ๑๓. กลบทศิริวิบุลกิตติ ๘. กวีไม่ปรากฏนาม บทละครนอก ๑ การะเกด ๘. โม่งป่า ๒. คาวี ๙. มณีพิไชย ๓. ไชยทัต ๑๐. สังข์ทอง ๔. พิกุลทอง ๑๑. สังข์ศิลป์ชัย ๕. พิมพ์สวรรค์ ๑๒. สุวรรณศิลป์ ๖. พิณสุริวงศ์ ๑๓. สุวรรณหงส์ ๗. มโนราห์ ๑๔. โสวัต บทละครใน ๑. อุณรุท ๓. อิเหนา ๒. รามเกียรติ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศครองราชย์ระหว่าง พ. ศ. ๒๒๗๕ - พ.ศ. ๒๓๐๑ เมื่อสิ้นรัชกาลของ พระองค์แล้ว เจ้าฟ้าอุทุมพรกรมขุนพรพินิตพระราชโอรสได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อมา เพียงชั่วเวลาเล็กน้อยก็ ทรงเวนราชสมบัติให้เจ้าฟ้าเอกทัศกรมขุนอนุรักษ์มนตรี ซึ่งเป็นพระเชษฐา แล้วเสด็จออกผนวช ในรัชกาลของ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศบ้านเมืองไม่สงบสุข เกิดจลาจลและต้องท าศึกกับพม่าแทบตลอดรัชกาล ข้าราชการก็แตก สามัคคีกัน บ้านเมืองจึงระส่ าระสายในที่สุดกรุงศรีอยุธยาก็เสียแก่พม่า เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นเหตุให้วรรณคดีที่ มีมาแต่ก่อนสูญหายและช ารุดกระจัดกระจายไปเป็นอันมาก


ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และวรรณคดี เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ พ.ศ. ความเคลื่อนไหวทางวรรณคดี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระครองราชสมบัติ ๒๒๕๒ มีการชะลอพระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมก ๒๒๖๙ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศขณะเป็นกรม พระราชวังบวรฯ ทรงพระราชนิพนธ์โคลง ชะลอพระพุทธไสยาสน์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศครองราชสมบัติ ๒๒๗๕ แต่งจินดามณี (ฉบับรัชกาลสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรออกผนวชที่วัดโคกแสง ๒๒๗๘ ๒๒๗๙ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงนิพนธ์นันโทปนันทสูตร ค าหลวง ๒๒๘๐ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงนิพนธ์พระมาลัย ค าหลวง สมเด็จพระเจ้าหัวบรมโกศโปรดให้น าทอง บางสะพานไปประดับมณฑปพระพุทธบาท สระบุรี ๒๒๙๐ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงนิพนธ์กาพย์เห่เรือ และ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จไปนมัสการ พระพุทธบาทสระบุรี ๒๒๙๓ -เจ้าฟ้ากุณฑลทรงนิพนธ์บทละครเรื่องดาหลัง และเจ้าฟ้ามงกุฏทรงนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนา –พระมหานาควัดท่าทรายแต่งบุณโณวาท ค าฉันท์ -หลวงศรีปรีชาแต่งกลบทศิริบุลกิตติ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรและเจ้าฟ้าสังวาลต้อง พระราชอาญาสิ้นพระชนม์ ๒๒๙๘ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศครองราชสมบัติ ๒๓๐๑ กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ๒๓๑๐ วรรณกรรมส าคัญสูญหายไปมาก


๑. โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ ผู้แต่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระนามเดิมว่าเจ้าฟ้าพร เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือและ เป็นพระราชอนุชาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าหัวบรมโกศ ซึ่งด ารงต าแหน่งกรม พระราชวังบวรสถานมงคลในขณะนั้นได้ท าศึกกลางเมืองกับเจ้าฟ้าอภัยและเจ้าฟ้าบรเมศร พระราชโอรสของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เจ้าฟ้าอภัยและเจ้าฟ้าบรเมศร ถูกส าเร็จโทษ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศขึ้น เสวยราชย์ เมื่อ พ.ศ. ๒๒๗๕ เสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๑ ปรากฏหลักฐานในต้นฉบับสมุดไทย เรื่องโคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก ซึ่งได้มาจากกรม เลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรงพระราชนิพนธ์โคลงเรื่องอื่นรวมทั้งหมด ๖ เรื่อง คือ เรื่องโคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก โคลงพาลีสอนน้อง โคลงทศรถสอนพระราม โคลงราชสวัสดิ์ โคลง ราชาณุวรรต และโคลงประดิษฐ์พระร่วง โคลงราชาณุวรรต แต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ ๑๒๘ บท มีเนื้อเรื่องเช่นเดียวกับโคลงราชสวัสดิ์ โคลงประดิษฐ์ พระร่วง แต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ ๕๕ บท มีเนื้อเรื่องคล้ายสุภาษิตพระร่วง ประวัติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงพระราชนิพนธ์โคลงเรื่องนี้ขณะด ารงต าแหน่งพระมหาอุปราชใน รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ซึ่งเป็นพระเชษฐา มูลเหตุที่ทรงพระราชนิพนธ์มีว่าตลิ่งหน้าพระวิหาร พระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมก เมืองอ่างทอง ถูกน้ ากัดเซาะพังเข้าไปมาก พระอธิการเจ้าอาวาสร้องเรียนมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีรับสั่งให้พระราชสงครามเป็นแม่กองรวบรวมประชาชนผู้มีศรัทธา ช่วยกันชะลอ เคลื่อนย้ายพระพุทธรูป สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งเป็นพระมหาอุปราชทรงคัดค้านเกรงพระพุทธรูปจะ ช ารุด แต่ พระราชสงครามกราบทูลยืนยันจะชะลอให้ได้ และขอถวายชีวิตถ้าองค์พระเป็นอันตราย สันนิษฐานว่าโคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก เดิมคงจารึกไว้บนแผ่นศิลา ติดไว้ที่เบื้องพระ ปฤษฎางค์ ของพระพุทธรูปแต่ช ารุดหายไป ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พบส าเนา โคลงพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ในสมุดไทย ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๖๐ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรม พระยาด ารงรา ชานุภาพมีรับสั่งให้จารึกข้อความบนแผ่นศิลาขึ้นใหม่ติดไว้ที่พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ปัจจุบันวัดป่าโมกอยู่ใน เขตอ าเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ท านองแต่ง แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ ๖๙ บท ความมุ่งหมาย เพื่อบันทึกเหตุการณ์มหัศจรรย์ ที่สามารถชะลอพระพุทธรูปองค์มหึมาได้โดยไม่เป็นอันตรายและ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวถึงน้ ากัดเซาะด้านตะวันตกของพระพุทธไสยาสน์ ถึงแม้ทางวัดจะจัดการแก้ไขก็ไม่ได้ผล พระอธิการจึงถวายพระพรรายงานมายังพระเจ้าแผ่นดิน มีพระบรมราชโองการให้พระราชสงคราม จัดการชะลอ พระให้พ้นน้ า พระราชสงครามให้ตะเฆ่รององค์พระ แล้วกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดิน และป่าวร้องให้ ข้าราชการและประชาชนช่วยกันชะลอพระไปยังที่ประดิษฐานใหม่ได้ปลอดภัยเรียบร้อย ต่อจากนั้นกล่าวถึง การสร้างพระวิหารศาลาการเปรียญ พระอุโบสถ พระเจดีย์ เสนาสนะสงฆ์ ตอนสุดท้ายอัญเชิญพระพุทธรูปปาง ต่าง ๆ ให้ทรงอภิบาลพระเจ้าแผ่นดิน


ตัวอย่างข้อความบางตอน บรรยายการชะลอพระพุทธรูป เชือกใหญ่ใส่รอกร้อย เรียงกระสัน กว้านช่อชะลอผันขัน ยึดยื้อ ลวดหนังรั้งพัลวัน พวนเพิ่ม โห่โหมประโคมอึงอื้อ ลากเล้าประโคมไป โคลงเรื่องนี้บรรยายความได้ละเอียดลออ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี สถาปัตยกรรม และประติมากรรม และแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนาของประชาชน ๒. โคลงนิราศ ผู้แต่ง เจ้าฟ้าอภัย พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เมื่อพระราชบิดาเสด็จสวรรคต พระองค์ได้ ราชสมบัติ แต่ถูกเจ้าฟ้าพร พระเจ้าอา ซึ่งด ารงต าแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลส าเร็จโทษ พร้อมกับ เจ้าฟ้าบรเมศร พระอนุชา เมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๕ ประวัติโคลงนิราศนี้พระยาตรังคภูมิบาล ในรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์รวบรวมไว้ในหนังสือชื่อ โคลง กวีโบราณ ท านองแต่ง แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ มีเหลืออยู่เพียง ๒๕ บท ความมุ่งหมาย เพื่อบรรยายความรู้สึกที่ต้องจากนางไปลพบุรี เรื่องย่อ กล่าวถึงการจากกรุงศรีอยุธยาไปลพบุรี ชมลพบุรี แล้วเดินทางไปทุ่งสมอคอน และวังวารี มีการ ร าพันถึงหญิงคนรักตลอด จบลงตอนบวงสรวงเทพารักษ์ ตัวอย่างข้อความบางตอน ชมเมืองลพบุรี นพบุรีบุเรศเจ้า กรุงอยุท-ธยาแฮ นารายณ์พิศณุภุช สืบสร้าง เรียมร่ าก็ร่ าสุด แรงพี่ แล้วแฮ เมืองก็ร้างเจ้าร้าง พี่ร้างมานอน โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัยแม้จะมีเหลืออยู่น้อยบท แต่เท่าที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่ามีความไพเราะในลักษณะของ นิราศให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ว่าเมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแล้ว เมืองลพบุรีไม่ได้เป็นเมือง หลวงที่ ๒ ของกรุงศรีอยุธยาอีกต่อไป ๓. นันโทปนันทสูตรค าหลวง ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ประสูติเมื่อ พ.ศ. ๒๒๕๘ พระมารดาคือพระพันวัสสาใหญ่กรมหลวงอภัยนุชิต ทรงกรมเป็นกรมขุนเสนาพิทักษ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๒๗๖ และด ารงต าแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อ พ.ศ. ๒๒๘๔ ทิวงคตเมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๘ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเคยผนวชที่วัดโคกแสง ๒ พรรษา ระหว่างนั้นได้ทรงนิพนธ์ค าหลวงสองเรื่อง เมื่อลา ผนวชและได้สถาปนาเป็นพระมหาอุปราชแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศโปรดเกล้า ฯให้เป็นแม่กองปฏิสังขรณ์ พระพุทธรูป ปูชนียสถาน และเสด็จไปพระพุทธบาทสระบุรีเนือง ๆ จึงเกิดวรณคดีกาพย์เห่เรือ และกาพย์ห่อ โคลง ในบั้นปลายของพระชนม์ชีพต้องพระราชอาญาเฆี่ยนถึงทิวงคต เนื่องจากมีเรื่องชู้สาวกับเจ้าฟ้านิ่มและเจ้า


ฟ้าสังวาล พระสนมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ความสัมพันธ์ของพระองค์กับเจ้าฟ้าทั้งสอง ท านองจะ แทรกอยู่ในพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือ เรื่องต่าง ๆ และเพลงยาว ประวัติเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ทรงนิพนธ์ขณะผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดโคกแสง ทรงใช้พระฉายาว่าสิริปาโล เมื่อ พ.ศ. ๒๒๗๙ ทรงได้เค้าเรื่องจากนันโทปนันทสูตรในคัมภีร์ทีฆนิกายสีลขันธ์ซึ่งพระมหาพุทธสิริเถระเรียบเรียงไว้ เป็นภาษาบาลี ท านองแต่ง ใช้ร่ายยาวแทรกคาถาบาลี ตอนท้ายเป็นโคลงสี่สุภาพ ความมุ่งหมาย เพื่อแสดงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกับมหาชาติค าหลวง เรื่องย่อ เริ่มต้นนมัสการพระรัตนตรัย กล่าวนามผู้แต่งแล้วด าเนินความว่า เมื่อครั้งพระพุทธองค์ประทับ ณ เชตวันมหาวิหาร อนาถบิณฑิกเศรษฐี มีศรัทธานิมนต์พระพุทธเจ้าและสาวกไปรับบิณฑบาต ก่อนถึงก าหนด พระพุทธเจ้าทรงมีพระประสงค์จะทรมานพระยานาคนันโทปนันท์ให้ตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิจึงน าพระสงฆ์สาวก ๕๐๐ รูป เหาะข้ามวิมานพระยานาคไป พระยานาคโกรธมากจึงพาบริวารไปยังเขาพระสุเมรุ นิมิตกายใหญ่แผ่พังพาน คลุมฟ้าดินไว้ให้มืด พระสาวกเหล่านั้นรับอาสาปราบ แต่พระพุทธองค์ตรัสอนุญาตแก่พระโมคคัลลาน์ พระโมคคัลลาน์ต่อฤทธิ์กับพระยานาคจนสามมารถคุมตัวมาเฝ้าพระพุทธเจ้าและยอมสมาทานศีล ๕ แล้วพระ พุทธองค์ทรงน าพระสงฆ์สาวกไปรับบิณฑบาตที่บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐีตามที่ทรงรับนิมนต์ไว้ ตอนจบบอกนามผู้แต่งอีกครั้งหนึ่ง ตัวอย่างข้อความบางตอน พระยานาคกล่าวบริภาษพระพุทธองค์ แม้ในกาลวันนั้น อันว่านนโทปนนทนาคราช กล่าวค าวิปลาสนานา กอปรด้วยมฤจฉาทฤษฏีเปนวจีลามก ยิ่งนักก นันโทปนันทสูตรค าหลวงมีท านองแต่งคล้ายมหาชาติค าหลวง คือแทรกคาถาบาลีไว้ แล้วบรรยายความ เป็นภาษาไทย ใช้ค าแผลงไพเราะ ใช้ศัพท์เขมร และสันสกฤตแผลงมาก คล้ายลิลิตยวนพ่าย แต่มีผู้รู้จักน้อยกว่า มหาชาติค าหลวง ๔. พระมาลัยค าหลวง ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ประวัติ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๒๘๐ ทรงได้เค้าเรื่องมาจากมาลัยสูตรภาษาบาลีซึ่ง สันนิษฐานว่าน่าจะแต่งขึ้นในพม่ามากกว่าในลังกาตามที่เข้าใจกัน ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ ต่อมา พระภิกษุชาวเชียงใหม่ชื่อพุทธวิลาสขยายความใหม่ ให้ชื่อว่า ฎีกามาลัย ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ เรื่องพระมาลัยนี้เดิมใช้สวดในพิธีแต่งงาน ต่อมาใช้สวดในงานศพ ท านองแต่ง ใช้ร่ายสุภาพ บางตอนคล้ายกาพย์ยานี มีคาถาบาลีสั้น ๆ แทรกอยู่หน้าบท ตอนท้ายเป็นโคลงสี่ สุภาพ ความมุ่งหมาย เพื่อสั่งสอนความประพฤติและให้เกิดอานิสงส์ได้พบพระศรีอาริยเมตไตรย เรื่องย่อ เริ่มต้นนมัสการพระรัตนตรัย แล้วกล่าวถึงพระมาลัย พระเถระอรหันต์องค์หนึ่งมีฤทธิ์มากเคยไปโปรด สัตว์นรก และเทศน์สั่งสอนปวงชนให้ลีกเลี่ยงภัยนรก วันหนึ่งพระมาลัยรับถวายดอกบัวจากชายเข็ญใจ แล้วน าไป บูชาพระเจดีย์จุฬามณี ณ ดาวดึงส์สวรรค์ พระมาลัยได้มีปุจฉาถามข้อสงสัยแก่พระอินทร์ ถึงเรื่องการบ าเพ็ญ กุศล ต่อมาพระศรีอาริยเมตไตรยได้ตรัสสนทนาด้วย ทรงไต่ถามสภาพความเป็นไปในโลกมนุษย์ พระศรีอาริย์ ฯ ทรงเทศน์ให้ฟังว่าพระองค์จะเสด็จลงมาประกาศศาสนาเมื่อศาสนาของพระสมณ โคดมสิ้นสุด ๕,๐๐๐ ปีแล้ว


ผู้ใดจะได้เกิดในศาสนาของพระองค์ จะต้องท าบุญด้วยการฟังเทศน์มหาชาติคาถาพันให้จบเป็นต้น เมื่อสิ้น ศาสนาของพระสมณโคดมแล้วจะเกิดกลียุค อายุคนจะสั้นเพียง ๕-๑๐ ปี และคนไม่ละอายต่อบาป เมื่อสิ้นยุค เข็ญแล้วจะเกิดความอุดมสมบูรณ์พูนสุขทั่วไประยะนี้พระองค์จะลงมาตรัสให้ปวงชนตั้งอยู่ในคุณงามความดี พระ มาลัยได้น าเรื่องราวที่พระศรีอาริย์ ฯ ทรงเทศน์ลงมาบอกเล่าแก่ชาวชมพูทวีปอีกต่อหนึ่ง ตัวอย่างข้อความบางตอน ความสมบูรณ์พูนสุขและศีลธรรมของปวงชนสมัยพระศรีอาริย์ อีกธัญโภชนสาลี ตกปถพีเมล็ดเดียว งอกขึ้นเขียวชอ่ า แตกพันล าหลายหน่อ เนื่องเป็นกอถึงพัน ต้นหนึ่งนั้นพันรวง ได้เมล็ดตวงธัญญัน สองทะนานพันพูนเพ็ญ พระมาลัยค าลวง มีท านองแต่งคล้ายกาพย์มหาชาติ คือ มีบทบาลีน้อยกว่านันโทปนันทสูตรค าหลวง ใช้ถ้อยค าส านวนง่ายราบเรียบชัดเจนกว่านันโทปนันทสูตรค าหลวง เรื่องพระมาลัยเป็นที่ติดใจแพร่หลายกันมาช้า นาน เช่น น าไปสวดในงานแต่งงานและงานศพ วาดภาพไว้ตามวัดและหล่อรูปพระมาลัยไว้ก็มี ส่วนตอนที่ เกี่ยวกับพระศรีอาริย์ยิ่งฝังแน่นอยู่ในความเชื่อมั่นของพุทธศาสนิกชน เพราะคล้ายกับเป็นการปลอบใจให้คนเรามี ความหวังในอนาคต ตั้งมั่นในคุณงามความดี เมื่อเนื้อเรื่องเป็นที่นิยมกันแพร่หลายอยู่แล้ว ประกอบกับมีการ บรรยาย และใช้ถ้อยค าอันไพเราะ หนังสือพระมาลัยค าหลวงจึงเป็นวรรณคดีที่ส าคัญเรื่องหนึ่ง ๕. กาพย์เห่เรือ ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ประวัติ กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรนี้เป็นกาพย์เห่เรือส านวนเก่าที่สุดที่เหลืออยู่จนทุกวันนี้ กาพย์เห่เรือ บทนี้ไม่ได้ใช้เห่เรือหลวงมาก่อน เพราะเดิมการเห่เรือหลวงไม่ใช้บทเห่ที่มีเนื้อความเป็นเรื่องราว ใช้แต่บทเห่ที่เป็น แต่ เพียงท านอง กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรและของรัชกาลที่ ๒ เริ่มใช้เป็นบทเห่เรือหลวงในรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท านองแต่ง แต่งเป็นกาพย์เห่ ซึ่งประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี โคลงสี่สุภาพใช้เป็นบทน าส่วน การพรรณนาความใช้กาพย์ยานี ความมุ่งหมาย ใช้เห่เรือพระที่นั่ง เมื่อเสด็จทางชลมารคจากกรุงศรีอยุธยาถึงท่าเจ้าสนุก เพื่อไปนมัสการพระ พุทธบาทสระบุรี เนื้อเรื่อง กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรมี ๓ ตอน ตอนที่ ๑ กล่าวชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เรือพระที่นั่งกิ่งสมรรถไชย ไกรสรมุข สุวรรณหงส์ เรือหัวสัตว์ต่างๆ เช่น ครุฑ คชสีห์ นาค มังกร เลียงผา และอินทรี เป็นต้น ต่อจากนั้น ชมปลา ชมไม้ ชม นกชนิดต่างๆ บนสองฝั่งน้ า พบสิ่งใดก็น าไปพัวพันกับความรักความอาลัยที่มีต่อนาง ตอนที่ ๒ เป็นเรื่องกากี กล่าวถึงพญาครุฑ ท าชู้กับนางกากี อุ้มนางไปสมสู่ยังวิมานฉิมพลี ตอนที่ ๓ เป็นเห่สังวาสและเห่ครวญ ตัวอย่างข้อความบางตอน พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มีความดีเด่นทั้งในด้านฉันทลักษณ์และการพรรณนาความ ลักษณะ กาพย์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรมีสัมผัสในรับกันเป็นคู่ ๆ มีความไพเราะยิ่งนัก เป็นแบบฉบับแห่งกาพย์ยานี


เช่นเดียวกับกลอนของสุนทรภู่ ซึ่งเป็นแบบฉบับของกลอนตลาด การแต่งกาพย์เห่เรือในสมัยต่อมา ส่วนมาก มักเลียนแบบกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทั้งสิ้น เช่น กาพย์เห่เรือของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ในพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกของรัชกาลที่ ๖ กาพย์เห่เรือของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กาพย์เห่เรือของพระ ราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณในพระราชพิธีเปิดสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ และกาพย์เห่เรือในงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ กระบวนความพรรณนาในกาพย์เห่เรือก็จัดเป็นเลิศ ใช้ถ้อยค ากะทัดรัด เกิดจินตนาการ สามารถ เชื่อมโยงสิ่งที่พบเห็นไปสู่ความรักอาลัยที่มีต่อนางได้อย่างแนบเนียน ล าดับการพรรณนาก็สอดคล้องกับกาลเทศะ เริ่มต้นชมกระบวนเรือในตอนเช้า ครั้นสายชมปลา เวลาบ่ายชมไม้ ใกล้ค่ าชมนก ตกลางคืนเป็นบทเห่กากี เห่ สังวาส จบลงด้วยบทเห่ครวญ นอกจากนี้กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ยังให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ธรรมชาติของพรรณไม้และสัตว์ ตลอดจนการแต่งกายของหญิงไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ๖. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ประวัติ พระนิพนธ์เรื่องนี้ ได้ชื่อว่ากาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เพราะทรงบรรยายธรรมชาติตามทาง เสด็จตั้งแต่ท่าเจ้าสนุกจนถึงธารทองแดง ซึ่งเป็นธารน้ าเล็ก ๆ สายหนึ่งใกล้พระพุทธบาทสระบุรีอันเป็นที่ตั้งพระ ต าหนักธารเกษม มาตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ท านองแต่ง กาพย์ห่อโคลงใช้กาพย์ยานี และโคลงสี่สุภาพ แต่งสลับกัน ใจความในกาพย์และโคลงคู่หนึ่ง ๆ อย่าง เดียวกัน ความมุ่งหมาย เพื่อพรรณนาธรรมชาติตามรายทางเสด็จทางสถลมารคจากท่าเจ้าสนุก ถึงธารทองแดง เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวถึงกระบวนเสด็จว่าประกอบด้วยช้าง เครื่องสูง จตุรงคเสนา เหล่านักสนมกรมชะแม่ และ นางห้าม แล้วชมสัตว์ต่าง ๆ ทั้งสี่เท้า สองเท้า เลื้อยคลาน สัตว์ปีก สัตว์น้ า และไม้สกุลต่าง ๆ ตัวอย่างข้อความบางตอน ชมไม้ เพกาต้นตุมกา โยทกากรรณิการ์ ชุมกาแลสาบกา ต้นมะกากาจับนอน เพกาตุมกาต้น กาลา โยทกากรรณิการ์ ถี่ถ้อง ชุมกาและสาบกา กาสู่ ต้นมะกาการ้อง จับไม้กาหลง กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของไม้และสัตว์ต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยเฉพาะสัตว์แล้วกล่าวถึงลักษณะสภาพความเป็นอยู่ไว้ชัดเจน แม้แต่เสียงร้องของสัตว์นั้น ๆ หลายชนิด ก็ มิได้เว้นที่จะกล่าวไว้ กาพย์ห่อโคลงเรื่องนี้เป็นท านองนิราศ คือ พรรณนาสิ่งที่ได้พบเห็นขณะเดินทางจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีบทพรรณนาถึงนาง ซึ่งโดยเสด็จด้วยไว้เล็กน้อย วรรณคดีเรื่องนี้นอกจากจะให้ความรู้ด้านธรรมชาติของพืชและสัตว์แล้ว ยังให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนพยุ หยาตราทางสถลมารค และการแต่งกายของหญิงในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย


๗. กาพย์ห่อโคลงนิราศ ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ประวัติ บางท่านเรียกพระนิพนธ์เรื่องนี้ว่า กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ตามข้อความที่ว่า พระเจ้าเกล้านรนาถ เสด็จยุรยาตรคลาศคลาไคล ธารโศกเรียมโศกใจ ด้วยไกลน้องหมองอารมณ์ บางท่านก็เรียกว่า กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาท แต่ไม่มีข้อความกล่าวเกี่ยวกับพระพุทธบาทเลย ท านองแต่ง ใช้กาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพสลับกัน แบบกาพย์ห่อโคลง และเป็นท านองนิราศ ความมุ่งหมาย เพื่อร าพันถึงหญิงที่รัก เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวถึงความงามของนาง ที่ต้องจากกันแล้วร าพึงร าพันเป็นโมง ยาม วัน เดือน ฤดู ปี และ บอกชนิดของสัตว์ตามจักรราศีประจ าปี ต่อจากนั้นพรรณนาขบวนแห่ สาวสนม ไม้ นก และปลา กล่าวถึง บุคคลในวรรณคดีเรื่องอื่นในไตรดายุค เช่น พระรามจากนางสีดา พระอนิรุทธ์จากนางอุษา แต่ได้พบกันอีก ส่วนตนเองซึ่งอยู่ในกลียุคจากนางแล้วเมื่อใดจึงจะได้กลับมาอยู่ร่วมกัน ตัวอย่างข้อความบางตอน ร าพึงนางตามโมง โมงช้าแล้วเจ้าพี่ เจ้าถ้วนถี่ดีการเรือน หญิงใดไม่มีเหมือน ใช้สอยดีพี่เคยชม โมงหนึ่งคนึงเจ้าเร่ง สติเฟือน เจ้าถ้วนถี่การเรือน สั่งชี้ หญิงใดไม่มีเหมือน นางเนตร รู้นพครบการผี้ ช่วยต้องใจชม กาพย์ห่อโคลงเรื่องนี้มีลักษณะเป็นนิราศที่ไพเราะจับใจ และจัดเป็นนิราศกาพย์ห่อโคลงเรื่องแรกแต่ ไม่ได้กล่าวว่าจากนางไปที่ใด ผ่านต าบลใดบ้าง ร าพึงร าพันเป็นเวลาเช่นเดียวกับโคลงทวาทศมาส แต่ เจ้าฟ้า ธรรมธิเบศรทรงเปลี่ยนกระบวนพรรณนาให้ผิดแผกออกไป โคลงทวาทศมาสร าพันความเป็นเดือนๆ แต่กาพย์ ห่อโคลงนี้ขยายเป็น โมง ยาม วัน เดือน ปี และความตอนท้ายได้เพิ่มเติมบท ชมไม้ ชมนก นอกจากนี้ นิราศเรื่องนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับประเพณี การแต่งกายและกิริยามารยาทอันงามของสตรี ความเป็นอยู่ตลอดจน งานเทศกาลต่าง ๆ ของคนไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในการทรงนิพนธ์กาพย์ห่อโคลงนี้ เจ้าฟ้าธรรมธิ เบศรทรงสมมุติการจากนางขึ้น ความจริงไม่ได้จากนางไปไหน เป็นแบบอย่างให้มีการแต่งกวีนิพนธ์ท านองนี้ ต่อมา ดังข้อความตอนจบว่า จบเสร็จคร่ าครวญกาพย์ บทพิลาปถึงสาวศรี แต่งตามประเวณี ใช่เมียรักจักจากจริง ๘. เพลงยาว ประวัติ ค าประพันธ์ประเภทกลอนที่ปรากฏหลักฐานเหลืออยู่แน่นอนมีอายุเก่าเพียงรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ โดยเฉพาะกลอนเพลงยาวที่สันนิษฐานว่าเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเหลืออยู่เพียง ๔-๕ เรื่อง กลอนเป็นค าประพันธ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใดยังไม่มีหลักฐานชัดเจน มหาชาติค าหลวงซึ่งแต่งในสมัยสมเด็จ พระบรมไตรโลกนาถ ใช้ค าประพันธ์หลายชนิดแต่ไม่มีกลอน หนังสือจินดามณีในสมัยสมเด็จ พระนารายณ์ มหาราช ตอนที่อธิบายถึงการแต่งค าประพันธ์ชนิดต่างๆ ก็ไม่ได้กล่าวถึงกลอน ค ากลอนที่ปรากฏในหนังสือจินดา


มณี หมายถึงการส่งสัมผัสในค าประพันธ์ ไม่ได้หมายถึงค าประพันธ์ชนิดหนึ่งอย่างปัจจุบัน เพลงยาวพบที่พระที่ นั่งจันทรพิศาลลพบุรีซึ่งแต่งด้วยกลอนก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นอกจากนี้มีเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ กลอนในความหมายที่ว่าค าประพันธ์ชนิดหนึ่ง เริ่มแพร่หลายในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เช่น เพลงยาวพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร บทละครในเรื่องดาหลังและอิเหนา บทละครนอกเรื่องต่างๆ ๑๔ เรื่องและกลอนกลบบทศิริวิบุลกิตติตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ ท านองแต่ง แต่งด้วยกลอนเพลง คือขึ้นต้นด้วยวรรคที่ ๒ ของค ากลอน ความมุ่งหมาย เพื่อแสดงความรักระหว่างชายและหญิง เรื่องย่อ แสดงความรักที่มีต่อนาง ร าพึงความต่ าต้อยของตนที่อาจเอื้อมใฝ่ปองนางซึ่งสูงศักดิ์กว่าเปรียบตนเอง เป็นกระต่าย เปรียบนางเป็นดวงจันทร์ ตัวอย่างข้อความบางตอน ปางพี่มาดสมานสุมาลย์สมร ดังหมายดวงหมายเดือนดารากร อันลอยพื้นอ าพรโพยมพราย แม้นพี่เหิรเดินในเวหาศ ถึงจะมาดก็ไม่เสียซึ่งแรงหมาย มิได้ชมก็พอได้ด าเนินชาย เมียงหมายรัศมีพิมานมอง นี่สุดหมายที่จะมาดสุมาลย์สมาน สุดหาญที่จะเหิรเวหาศห้อง สุดคิดที่จะเข้าเคียงประคอง สุดสนองใจสนิทเสน่ห์กัน โอ้แต่นี้นับทวีแต่เทวศ จะต้องนองชลเนตรกันแสงศัลย์ จะแลลับเหมือนหนึ่งดังเดือนตะวัน เหมือนเลี้ยวเหลี่ยมสัตตภัณฑ์ยุคนธร เพลงยาวบทนี้ใช้ถ้อยค าส านวนไพเราะเพราะพริ้งด้วยสัมผัสอักษร บางตอนคล้ายกลบทเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ทรงแทรกอารมณ์กวีไว้ตลอด จึงท าให้เพลงยาวของพระองค์ท่านอ่อนหวานซาบซึ้ง มีผู้สันนิฐานว่าเจ้าฟ้า ธรรมธิเบศรทรงนิพนธ์เพลงยาวขึ้น เพื่อแสดงความรักที่มีต่อเจ้าฟ้านิ่มและเจ้าฟ้าสังวาล ๙. ดาหลังและอิเหนา ผู้แต่ง เจ้าฟ้ากุณฑล พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงนิพนธ์เรื่องดาหลัง เจ้าฟ้า มงกุฎพระราชธิดาพระองค์เล็ก ทรงนิพนธ์เรื่องอิเหนา เจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์เป็นพระกนิษฐภคินีต่างพระมารดา กับเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ประวัติ เรื่องอิเหนาเดิมเป็นพงศาวดารชวา อิเหนาเป็นวีรกษัตริย์ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นมหาราชพระองค์หนึ่งมี พระชนม์ชีพอยู่ราว พ.ศ. ๑๘๐๐ ต่อมาได้มีการเล่าต่อเติม และเพิ่มอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ ท านองนิทานและน าไป แต่งเป็นร้อยกรองส าหรับเล่นละครและหนังใหญ่ พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลาภพฤฒิยากร ทรงนิพนธ์ไว้ในค าน าบทละครเรื่องดาหลัง พระราช นิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ ว่าเรื่องอิเหนาได้แพร่มาทางสุมาตราและมลายู จนเข้าสู่เมืองไทย โดยหญิงชาวมลายูเชื้อ สายพวกเชลยจากเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นข้าหลวงของเจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎได้เล่าเรื่องอิเหนาถวายเจ้าฟ้าทั้ง สอง ทรงพอพระทัย จึงทรงนิพนธ์เป็นบทละครขึ้นองค์ละฉบับ เจ้าฟ้ากุณฑลทรงนิพนธ์เรื่องดาหลัง แต่นิยมเรียก กันทั่วไปว่าอิเหนาใหญ่ ส่วนของเจ้าฟ้ามงกุฎทรงนิพนธ์เรื่องอิเหนาและนิยมเรียกว่าอิเหนาเล็ก ซึ่งสันนิษฐานว่า เรียกตามผู้ทรงนิพนธ์ คือ เจ้าฟ้าพระองค์ใหญ่ และเจ้าฟ้าพระองค์เล็ก


บทละครทั้งสองนี้ช ารุดเสียหายเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราชโปรดเกล้า ฯ ให้ช าระซ่อมแซมจนสมบรูณ์ ตามที่เรียกกันว่าพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องดาหลัง และ บทละครเรื่องอิเหนาในรัชกาลที่ ๑ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง อิเหนาขึ้นอีกโดยทรงน าบทละครเรื่องอิเหนาพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ มาเป็นแบบฉบับ บทละครเรื่องดาหลังและเรื่องอิเหนาของเจ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎที่เหลือจากถูกท าลาย และ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้า ฯ ให้แต่งซ่อมแซมขึ้นใหม่เพียงใดไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่พอสันนิฐานได้ว่าอิเหนาของเจ้าฟ้ามงกุฎมีอยู่เพียงตอนสึกชี ดังปรากฏข้อความในตอนจบของบทละครอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ ที่ว่า เสด็จเถลิงจักรพรรดิพิมานอาสน์ ทรงพระราชนิพนธ์อักษรศรี ต่อเรื่องอิเหนาแต่สึกชี โดยคดีบริบูรณ์นิทานกาล ท านองแต่งและความมุ่งหมาย ดาหลังและอิเหนาพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้ากุณฑล และเจ้าฟ้ามงกุฎแต่งด้วยกลอน บทละคร เพื่อใช้เป็นบทละครใน ๑๐, บุณโณวาทค าฉันท์ ผู้แต่ง พระมหานาค จ าพรรษา ณ วัดท่าทราย กรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ประวัติ ฉันท์เรื่องนี้ได้ชื่อว่า บุณโณวาท เพราะบรรยายถึงพระพุทธบาท ซึ่งมีเรื่องปรากฏอยู่ในปุณโณวาทสูตร พระมหานาคแต่งบุณโณวาทค าฉันท์ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเสด็จไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแขวงสระบุรี ท านองแต่ง แต่งด้วยฉันท์และกาพย์ ความมุ่งหมาย เพื่อพรรณนาความรู้สึก และสิ่งที่ได้พบเห็นในโอกาสที่ได้ไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีระหว่าง ที่มีการสมโภชครั้งส าคัญในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เรื่องย่อ เริ่มต้นบูชาพระรัตนตรัยและเทพเจ้าทั้งสามของพราหมณ์ แล้วเท้าความถึงเรื่องตอนท้ายของปุณโณวาท สูตร ที่ว่าพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดสัจจพันธดาบสจนส าเร็จอรหันต์ แล้วรับสั่งให้สัจจพันธเถระช่วยเทศน์สั่งสอน ประชาชน ณ ต าบลสุณาปรันตคาม พระสัจจพันธเถระได้กราบทูลให้พระพุทธองค์ทรงเหยียบรอยพระบาทไว้บน แผ่นหินไว้เป็นที่บูชา พระพุทธองค์ทรงอนุโลมตาม ต่อจากนั้นกล่าวถึงกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาทรงสร้างมณฑป สวมรอยพระพุทธบาท ความวิจิตรตระการของมณฑปสิ่งก่อสร้างตลอดจนธรรมชาติในบริเวณนั้น พรรณนา กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคแห่งกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ท่าวาสุกรีถึงท่าเจ้าสนุก กระบวน พยุหยา ตราทางสถลมารคจากท่าเจ้าสนุกถึงพระพุทธบาท พิธีสมโภชพระพุทธบาท มหรสพต่างๆ มีละครใน เป็นต้น การเสด็จประพาสป่าชมธรรมชาติ จบลงตอนเสด็จนิวัติสู่พระนคร ตัวอย่างข้อความบางตอน ชมมณฑป ใบโพสุวรรณห้อย รยาบย้อยบรุงรัง ลมพัดกระดึงดัง เสนาะศัพทอลเวง เสียงดุจสังคีต อันดึงดีดประโคมเพลง เพียงเทพบรรเลง รเรื่อยจับระบ าถวาย พ่างพื้นที่ฐานบัตร เปนครุฑอัดอุราผาย กรกุมสุกรีกราย จะกระหยับเผยอบิน


การเล่นละครในเรื่องอิเหนา ฝ่ายฟ้อนละครใน บริรักษจักรี โรงริมคิรีมี กลลับบแลชาย ล้วนสรรสกรรจ์นาง อรอ่อนลอออาย ใครยลบอยากวาย จิตจงมเมอฝัน ร้องเรื่องระเด่นโดย บุษบาตุนาหงัน พักพาคุหาบรร- พตร่วมฤดีโลม ชมมหรสพสมโภชพระพุทธบาท โขนหนังรดับช่อง รทาหุ่นและรามัญ ร าเล่นบเปนฉัน ทิจะสุนทราแล เหล่าหกคเมนเมิล จรลิ่วลลานแด ยกบาทกลับแปร ศิระลงก็เสียวสยอน ไต่ลวดและกุมหาง มยุรย่างพเนจร แล่นเล่นบอาทร ดุจเหาะจะเหิรหาว บุณโณวาทค าฉันท์เป็นหนังสือประเภทฉันท์เรื่องเดียวที่เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และ เป็นฉันท์ที่แต่งอย่างประณีต ดีเด่นทั้งในกระบวนใช้ถ้อยค าส านวน และกระบวนพรรณนาความ ให้ความแจ่มก ระจ่างในด้านสถาปัตยกรรม โบราณคดี ธรรมชาติของพรรณไม้และสัตว์ ชีวิตความเป็นอยู่ และความเลื่อมใสใน พระพุทธศาสนาของประชาชน ตลอดจนมหรสพในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายอย่างดียิ่ง ๑๑. โคลงนิราศพระบาท ผู้แต่ง พระมหานาค วัดท่าทราย ประวัติ โคลงนิราศเรื่องนี้ พระยาตรังคภูมิบาล ในรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รวบรวมไว้ในหนังสือ ชื่อ โคลงกวีโบราณ แต่เนื้อเรื่องไม่สมบูรณ์ขาดไปทั้งตอนต้นและตอนท้าย ท านองแต่ง แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ ท านองนิราศ ความมุ่งหมาย เพื่อพรรณนาความรู้สึกและสิ่งที่ได้พบเห็นในโอกาสจากกรุงศรีอยุธยาไปพระพุทธบาทสระบุรี เรื่องย่อ กล่าวถึงการออกเดินทางจากกรุงศรีอยุธยา ผ่านหัวรอ วัดตองปุ เพนียดคล้องช้าง ชนบท บ้านกระทุ่ม หนองคนที นางผา บางโขมด แม่ลา จบลงที่ต าบลท้ายพิกุล (ใกล้พระพุทธบาทสระบุรี) ตลอดเรื่องแทรกบท ครวญถึงนางไว้ด้วยตามแบบฉบับการแต่งนิราศ ตัวอย่างข้อความ ชมความงามของนางเปรียบศรสามเล่มของพระราม สามเล่มราเมศไท้ สังหร แม่ก็ทรงสามศร เปรียบท้าว ท่านผลาญอสุรมรณ์ ลาญชีพ เจ้าก็ผลาญชายอกร้าว มอดม้วยดูเสมอ โคลงนิราศพระบาทของพระมหานาค วัดท่าทราย มีท านองแต่งดีเยี่ยมเรื่องหนึ่งในบรรดาโคลง นิราศด้วยกัน ใช้ถ้อยค าส านวนราบเรียบเข้าใจง่าย รสซาบซึ้งตรึงใจ แสดงความคิดแยบคาย ในตอนเปรียบ


อ านาจความงามของนางกับศรสามเล่มของพระราม ซึ่งพระยาตรังภูมิบาลเลียนอย่างในโคลงดั้นนิราศตามเสด็จล า น้ าน้อย ๑๒.กลบทศิริวิบุลกิตติ ผู้แต่ง หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) กรมพระยาด ารงราชานุภาพ ทรงสันนิฐานไว้ว่าหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) รับราชการในต าแหน่งโหรของ พระมหาอุปราช ซึ่งอาจเป็นเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร บทไหว้ครูตอนนี้มีว่า พระบัณฑูรพูนบันเทิงพระทัยกวี ตั้งยศแสงแต่งยศศรีหลวงปรีชา พินิจดูภูวนาถได้ให้ศักดิ์แสง ตามท านองต้องต าแหน่งเป็นโหรหา พระบัณฑูร หมายถึงพระมหาอุปราช ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายมีพระมหาอุปราชหลายองค์ ในที่นี้น่าจะ ได้แก่ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ประวัติ วรรณคดีเรื่องนี้นับเป็นหนังสือกลอนกลบทเรื่องแรก ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่แต่งเป็นเรื่องยาว และ เหลืออยู่บริบูรณ์ ท านองแต่ง แต่งเป็นกลอนกลบท ความมุ่งหมาย เพื่อเป็นอานิสงส์ให้ส าเร็จอรหันต์ เรื่องย่อ ด าเนินตามปัญญาสชาดกว่า ท้าวยศกิตติแห่งนครจัมปาก มีพระมเหสีทรงพระนามว่า นางสิริมดี เมื่อ ทรงพระครรภ์ทรงพระสุบินว่าดาบสเหาะน าแก้วมาให้ โหรท านายว่าจะได้พระโอรส แต่พระสวามีจะต้องพลัด พรากจากเมือง ต่อมาท้าวพาลราชยกทัพมาล้อมเมืองจัมปาก ท้าวยศกิตติทรงเชื่อมั่นในผลแห่งธรรมจึงหลบหนี ออกจากเมืองพร้อมด้วยมเหสีแล้วผนวชเป็นดาบสอยู่ที่เขาวิบุลบรรพต พรานป่าซึ่งท้าวยศกิตติทรงช่วยชีวิตน า กองทัพของท้าวพาลราชมาจับท้าวยศกิตติไปขังไว้ในเมืองหลายปี นางสิริมดีประสูติพระราชโอรสทรงพระนามว่า ศิริวิบุลกิตติ เมื่อพระกุมารทรงพระเจริญวัยได้ทูลลาพระมารดาไปช่วย พระบิดาโดยทรงยอมรับโทษประหาร แทนพระบิดา ท้าวพาลราชรับสั่งให้ลงโทษด้วยวิธีต่างๆ พระศิริวิบุลกิตติก็มิได้ทรงเป็นอันตราย ท้าวพาลราชจึง ตั้งใจจะประหารด้วยตัวเอง แต่ถูกธรณีสูบเสียก่อน พระศิริวิบุลกิตติจึงได้ราชสมบัติของพระบิดาคืนมา รับสั่งให้ ไปรับพระมารดากลับเข้าเมือง แต่พระมารดาสิ้นพระชนม์เสียก่อน พระศิริวิบุลกิตติถวายพระเพลิงศพพระมารดา แล้วได้เสวยราชย์เป็นสุขสืบมา จบลงด้วยการกลับชาติของบุคคลในเรื่องตามอย่างชาดก ข้อความตั้งแต่พระศิริ วิบุลกิตติทรงทราบว่า พระมารดาสิ้นพระชนม์จนจบเรื่องไม่ได้แต่งเป็นกลบท ตัวอย่างข้อความบางตอน กลบทกบเต้นต่อยหอย ตอนไหว้ครูและบอกนามและต าแหน่งราชการของผู้แต่ง ข้าชื่อเซ่งเขียนชื่อซ้องจองนามหมาย ล้ าไว้ชื่อลือว่าชายไว้ศักดิ์ศรี พระบัณฑูรภูลบันเทิงพระไทยเทวี ตั้งยศแสงแต่งยศศรีหลวงปรีชา พินิจดูภูวนารถได้ให้ศักดิ์แสง ตามธรรมนองต้องต าแหน่งเป็นโหรหา แจ้งซึ่งอรรถจัดซึ่งองค์ชาดกมา ยกคาถังยังคาถาชักบาฬี กลบทศิริวิบุลกิตติเป็นกลอนกลบทเรื่องแรกที่แต่งเป็นเรื่องราว แสดงความสามารถของผู้แต่งเป็น อย่างมาก ถึงแม้จะมีการแต่งกลอนกลบทในภายหลังก็ด าเนินตามท่วงท านองที่หลวงศรีปรีชาวางไว้ วรรณคดี เรื่องนี้แสดงถึงความนิยมในการน าเรื่องในชาดกมาแต่งเป็นบทร้อยกรอง และความเจริญแพร่หลายของค าประพันธ์ ประเภทกลอน


๑๓. บทละครนอก ประวัติ ละครเป็นมหรสพอย่างหนึ่งของคนไทยมาแต่โบราณ เริ่มมีขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานในจดหมายเหตุ ของลาลูแบร์ ชาวฝรั่งเศสซึ่งเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวว่าในสมัยนั้นมี การเล่นละครกันแล้ว ละครคงได้แบบอย่างมาจากอินเดียเป็นส่วนใหญ่ เพราะละครพม่าก็ดี ละครชวาก็ดี ซึ่งดัดแปลงมาจาก อินเดีย มีลักษณะคล้ายละครไทย แต่ละครเล่นเฉพาะในงานมงคล ส่วนหนัง โขนและระบ าใช้เล่นในงานศพด้วย ละครไทยแต่เดิมมี ๓ อย่าง คือ ละครชาตรี ละครนอก และละครใน ๑. ละครชาตรี เป็นละครดั้งเดิม มักแสดงเรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์ที่ต้องจากบ้านเมือง หรือจากนาง ต้องต่อสู้กับ ยักษ์จนได้ชัยชนะ ชั้นเดิมมีตัวละครน้อยตัว คือ ตัวพระหรือนายโรง ตัวนาง ตัวตลกหรือม้า และพวกยักษ์ การ ขับร้องเหมือนละครนอกแต่เพิ่มลูกคู่รับ และใช้ไม้ตะขาบหรือกรับตีเข้าจังหวะเพื่อเพิ่มความครึกครื้น แต่ละ ชาตรีในชั้นต้นไม่มีบทละครประจ า อาศัยการร้องร าตามความสามารถของตัวละครเป็นส าคัญ เนื่องจากละคร ชาตรีของทางภาคใต้นิยมเล่นเรื่องมโนห์ราจึงเรียกละครนี้ว่า มโนห์รา หรือโนรา ๒. ละครนอก คือ ละครที่มีได้ทั่วไป ใช้ตัวละครเป็นชายล้วน การเล่นเน้นความสนุกขบขัน และมีแทรกบท ตลกคะนองไว้ด้วย เล่นเรื่องต่างๆ ได้ทุกเรื่อง เว้นแต่เรื่องที่สงวนไว้ส าหรับบทละครใน ๓. ละครใน คือเรื่องที่เป็นของหลวงโดยเฉพาะ ใช้ตัวละครเป็นหญิงล้วน มุ่งความงามของกระบวนการร า ความไพเราะของบทร้องและดนตรี และความคมคายของบทเจรจา เรื่องที่แสดงมีแต่เรื่องรามเกียรติ์ อุณรุท และ อิเหนา ข้อก าหนดที่ห้ามบุคคลทั่วไปมีละครใน เพิ่งยกเลิกไปโดยประกาศของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ การละครทั้งละครในและละครนอกรุ่งเรืองมาก ละครในที่มี ชื่อเสียง คืออิเหนาใหญ่ของเจ้าฟ้ากุลฑล และอิเหนาเล็กของเจ้าฟ้ามงกุฎ ส าหรับละครนอก หลังจากเสียกรุง ศรีอยุธยาแล้วยังเหลืออยู่ ๑๔ เรื่อง ทุกเรื่องเหลือไม่เต็มครบฉบับ ที่มาของเรื่องละครเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจาก นิบาตชาดก ปัญญาสชาดก และนิทานพื้นเมือง บทละครนอก ๑๔ เรื่อง สันนิษฐานว่ามีมาแล้วในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ การะเกด คาวี ไชยทัต พิกุลทอง พิมสวรรค์ พิณสุริวงศ์ มโนห์รา โม่งป่า มณีพิชัย สังข์ทอง สังข์ศิลป์ชัย สุวรรณศิลป์ สุวรรณหงส์ โสวัต ท านองแต่ง แต่งด้วยกลอนบทละคร แต่ไม่สู้เคร่งครัดในข้อบังคับของกลอน บทละครนอกสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่เน้นคุณค่าทางวรรณคดีมากนัก แต่อย่างไรก็ดี บทละครเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาในด้านต่างๆ เช่น การปกครองระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ กฎหมาย จารีตนครบาล ความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ความเชื่อในไสยศาสตร์ การแต่งงาน การแต่งกาย และอาหารการกิน เป็นต้น


แบบทดสอบ (วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย) ๑. ข้อใดเป็นงานพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรซึ่งมีผู้นิยมเป็นแบบฉบับมากที่สุด ก. เพลงยาว ข. กาพย์เห่เรือ ค. กาพย์ห่อโคลงนิราศ ง. กาพย์เห่เรือเรื่องกากี จ. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๒. บุณโณวาทค าฉันท์มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก. พระพุทธประวัติ ข. ต านานลอยกระทง ค. ต านานพระพุทธบาท ง. โอวาทของพระปุณณะ จ. พระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ๓. เรื่องใดเป็นกลอนกลบทเล่มแรก ก. ดาหลัง ข. ศิริวิบุลกิตติ ค. เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ง. เพลงยาวของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร จ. เพลงยาวของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ๔. บทละครที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันเป็นหลักฐานแสดงว่าละครในสมัยกรุงศรีอยุธยามีแพร่หลายในรัชกาลใด ก. สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ข. สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ค. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ง. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ จ. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๕. วรรณคดีเรื่องใดมีคติทางศาสนาต่างกับพระพุทธศาสนา ก. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ข. มหาชาติค าหลวง ค. กลบทศิริวิบุลกิตติ ง. สมุทรโฆษค าฉันท์ จ. นันโทปนันทสูตรค าหลวง ๖. วรรณคดีเรื่องใดพรรณนาธรรมชาติของพืชและสัตว์ได้ถูกต้องและละเอียดลออที่สุด ก. ลิลิตพระลอ ข. มหาชาติค าหลวง ค. บุณโณวาทค าฉันท์


ง. กาพย์ห่อโคลงนิราศ จ. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๗. ค าประพันธ์ประเภทกลอนเริ่มปรากฏแพร่หลายในสมัยใด ก. สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ ข. สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ค. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ง. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๘. วรรณกรรมเรื่องใดให้ความกระจ่างในด้านศิลปกรรม มหรสพ และสภาพทั่วไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลายมากที่สุด ก. อิเหนาเล็ก ข. ศิริวิบุลกิตติ ค. บุณโณวาทค าฉันท์ ง. กาพย์ห่อโคลงนิราศ จ. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๙. กวีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสมัยอยุธยาตอนปลายคือใคร ก. เจ้าฟ้าอภัย ข. หลวงศรีปรีชา ค. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ง. พระมหานาควัดท่าทราย จ. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๑๐. ค าประพันธ์ประเภทใดเป็นที่นิยมมากที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ก. โคลง ข. ฉันท์ ค. กาพย์ ง. กลอน จ. กลบท ๑๑. วรรณคดีเรื่องใดที่สะท้อนให้เห็นว่าคนในสมัยอยุธยามีความช านาญด้านการช่างวิศวกรรม ก. ปุณโณวาทค าฉันท์ ข. กลบทศิริวิบุลกิตติ ค. พระมาลัยค าหลวง ง. นันโทปนันสูตรค าหลวง จ. โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ ๑๒. วรรณคดีเรื่องใดที่เป็นต้นเค้าของการกรวดน้ าแผ่ส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ก. กลบทศิริวิบุลกิตติ ข. พระมาลัยค าหลวง


ค. บุณโณวาทค าฉันท์ ง. โคลงนิราศพระบาท จ. นันโทปนันสูตรค าหลวง ๑๓. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีลักษณะแตกต่าง จากกาพย์เห่เรือตามข้อใด ก. การวางรูปแบบ และการบังคับเอกโท ข. การวางรูปแบบ และการบังคับสัมผัส ค. การวางรูปแบบ และก าหนดจ านวนบท ง. การวางรูปแบบ และการก าหนดจ านวนค า จ. การวางรูปแบบ และการแบ่งวรรคการอ่าน ๑๔. กาพย์ห่อโคลงนิราศมีลักษณะแตกต่างจากนิราศเรื่องอื่น ๆ ตามข้อใด ก. ไม่กล่าวชมความงามนางอันเป็นที่รัก ข. คร่ าครวญถึงนางอันเป็นที่รักเมื่อผ่านสถานที่ต่าง ๆ ค. ชมธรรมชาติล้วน ๆ โดยไม่ได้ร าพันถึงนางอันเป็นที่รัก ง. คร่ าครวญถึงสาเหตุที่ต้องตามเสด็จไปธารโศก จ. ร าพันความรักที่มีต่อนางเป็นเวลา วัน เดือน ปี และฤดูกาล ๑๕.” วรรณคดีมีส่วนช่วยสร้างสรรค์งาน ศิลปกรรม” นักเรียนเห็นด้วยกับข้อความนี้หรือไม่เพราะเหตุใด ก. เห็นด้วย เพราะวรรณคดีเป็นเรื่องเพ้อฝัน ข. เห็นด้วย เพราะจิตรกรน าความคิดจากเรื่องในวรรณคดีไปสร้างงานศิลปะ ค. ไม่เห็นด้วย เพราะศิลปะกับวรรณคดีไม่เกี่ยวข้องกัน ง. ไม่เห็นด้วย เพราะวรรณคดีมีรูปแบบที่ชัดเจนแต่ศิลปะเป็นเรื่องที่จินตนาการ จ. ไม่แน่ใจ เพราะวรรณคดีกับศิลปะแยกออกจากกันไม่ได้ ๑๖. จบเสร็จคร่ าครวญกาพย์ บทพิลาปถึงสาวศรี แต่งตามประเวณี ใช่เมียรักจักจากจริง ค าประพันธ์บทนี้กล่าวในลักษณะใด ก. หลอกให้เชื่อ ข. บอกให้ทราบ ค. แจ้งวัตถุประสงค์ ง. ขอร้องให้ท าตาม จ. สรุปเรื่องที่เล่ามา ๑๗. พระมาลัยไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่ออะไร ก. เทศนาโปรดเทวดา ข. สนทนากับพระอินทร์ ค. บูชาพระเจดีย์จุฬามณี ง. ตามหาญาติที่ได้ตายไป


จ. สนทนากับพระศรีอริยเมตไตรย ๑๘. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีความรู้พิเศษเรื่องใดแฝงอยู่ ก. การขับร้องฟ้อนร า ข. วิธีการแสดงละคร ค. การแต่งกายชายหญิง ง. อาชีพหลักของคนสมัยนั้น จ. ลักษณะชีวิตชาวกรุงศรีอยุธยา ๑๙. กลบทศิริวิบุลกิตติได้เค้าโครงเรื่องจากข้อใด ก. มหาชาดก ข. จุฬชาดก ค. ปัญญาสชาดก ง. ทศชาดก จ. วิบุลกิตติชาดก ๒๐. ข้อใดจัดเป็นบทละครใน ก. คาวี ข. อิเหนา ค. สังข์ทอง ง. การะเกด จ. สังข์ศิลป์ชัย ๒๑. วรรณคดีที่แต่งโดยอาศัยเค้าโครงจากวรรณคดีชวาคือเรื่องใด ก. อิเหนา ข. โม่งป่า ค. โสวัต ง. พิกุลทอง จ. มโนราห์ ๒๒. ท่วงท านองแต่งวรรณคดีเรื่องใดที่มีการเล่นอักษรและวรรณยุกต์คล้ายกลบทในกลบทศิริวิบุลกิตติ ก. กาพย์ห่อโคลง ข. โคลงราชสวัสดิ์ ค. โคลงอักษรสาม ง. โคลงพาลีสอนน้อง จ. โคลงทศรถสอนพระราม ๒๓. พระมาลัยค าหลวงมีอิทธิพลต่อความเชื่อของชาวพุทธในเรื่องใด ก. สวรรค์ – นรก ข. โลกพระอินทร์ ค. การเวียนว่ายตายเกิด ง. การบูชาเจดีย์จุฬามณี


จ. โลกพระศรีอริยเมตไตรย ใช้บทประพันธ์ต่อไปนี้ตอบค าถามข้อ ๒๔ - ๒๕ “ ฝ่ายฟ้อนละครใน บริรักษจักรี โรงริมคิรีมี กลลับบ่แลชาย ล้วนสรรสกรรจ์นาง อรอ่อนลอออาย ใครยลบ่อยากวาย จิตเพ้อมะเมอฝัน ” ๒๔. ค่านิยมใดที่เด่นชัดที่สุดในบทประพันธ์นี้ ก. การสร้างโรงละครริมเขา ข. ละครในตัวละครเป็นหญิงล้วน ค. หญิงสาวที่แสดงละครในต้องสวย ง. ละครในเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์ จ. ละครในแสดงเฉพาะพระพักตร์เท่านั้น ๒๕. ข้อใดสัมพันธ์กับบทประพันธ์ข้างต้น ก. อิเหนา ข. มณีพิไชย ค. พิกุลทอง ง. สังข์ทอง จ. สุวรรณหงส์ ๒๖. “ พยาลิไทนิพนธ์ไตรภูมิพระร่วง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถนิพนธ์มหาชาติค าหลวง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชนิพนธ์โคลงพาลีสอนน้อง” ข้อความนี้แสดงถึงลักษณะเด่นด้านใดของพระมหากษัตริย์ไทย ก. การรบ ข. การศึกษา ค. การศาสนา ง. การประพันธ์ จ. การปกครอง ๒๗. อะไรคือสาเหตุส าคัญที่ท าให้วรรณคดีไทยไม่ต่อเนื่องกันต้องเว้นว่างเป็นช่วง ๆ ก. สงคราม ข. ภัยธรรมชาติ ค. คนอพยพบ่อย ง. นักปราชญ์มีน้อย จ. แต่งวรรณคดีเป็นงานที่ไม่มีค่าตอบแทน


เฉลย แบบทดสอบ (วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย) (รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจนถึงเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๒๗๕ - ๒๓๑๐) ๑. ข้อใดเป็นงานพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรซึ่งมีผู้นิยมเป็นแบบฉบับมากที่สุด กาพย์เห่เรือ ๒. บุณโณวาทค าฉันท์มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร ต านานพระพุทธบาท ๓. เรื่องใดเป็นกลอนกลบทเล่มแรก ศิริวิบุลกิตติ ๔. บทละครที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันเป็นหลักฐานแสดงว่าละครในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีแพร่หลายใน รัชกาลใด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๕. วรรณคดีเรื่องใดมีคติทางศาสนาต่างกับพระพุทธศาสนา อนิรุทธ์ค าฉันท์ ๖. วรรณคดีเรื่องใดพรรณนาธรรมชาติของพืชและสัตว์ได้ถูกต้องและละเอียดลออที่สุด กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๗. ค าประพันธ์ประเภทกลอนเริ่มปรากฏแพร่หลายในสมัยใด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๘. วรรณกรรมเรื่องใดให้ความกระจ่างในด้านศิลปกรรม มหรสพ และสภาพทั่วไปในสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนปลายมากที่สุด บุณโณวาทค าฉันท์ ๙. กวีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสมัยอยุธยาตอนปลายคือใคร เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ๑๐. ค าประพันธ์ประเภทใดเป็นที่นิยมมากที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย กาพย์ ๑๑. วรรณคดีเรื่องใดที่สะท้อนให้เห็นว่าคนในสมัยอยุธยามีความช านาญด้านการช่างวิศวกรรม โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ ๑๒. วรรณคดีเรื่องใดที่เป็นต้นเค้าของการกรวดน้ าแผ่ส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พระมาลัยค าหลวง ๑๓. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีลักษณะแตกต่างจากกาพย์เห่เรือตามข้อใด การวางรูปแบบ และก าหนดจ านวนบท ๑๔. กาพย์ห่อโคลงนิราศมีลักษณะแตกต่างจากนิราศเรื่องอื่น ๆ ตามข้อใด ร าพันความรักที่มีต่อนางเป็นเวลา วัน เดือน ปี และฤดูกาล ๑๕.” วรรณคดีมีส่วนช่วยสร้างสรรค์งานศิลปกรรม” นักเรียนเห็นด้วยกับข้อความนี้ หรือไม่ เพราะเหตุใด เห็นด้วย เพราะจิตรกรน าความคิดจากเรื่องในวรรณคดีไปสร้างงานศิลปะ


๑๖. จบเสร็จคร่ าครวญกาพย์ บทพิลาปถึงสาวศรี แต่งตามประเวณี ใช่เมียรักจักจากจริง ค าประพันธ์บทนี้กล่าวในลักษณะใด บอกให้ทราบ ๑๗. พระมาลัยไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่ออะไร บูชาพระเจดีย์จุฬามณี ๑๘. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง มีความรู้พิเศษเรื่องใดแฝงอยู่ การแต่งกายชายหญิง ๑๙. กลบทศิริวิบุลกิตติได้เค้าโครงเรื่องจากข้อใด ปัญญาสชาดก ๒๐. ข้อใดจัดเป็นบทละครใน อิเหนา ๒๑. วรรณคดีที่แต่งโดยอาศัยเค้าโครงจากวรรณคดีชวาคือเรื่องใด อิเหนา ๒๒. ท่วงท านองแต่งวรรณคดีเรื่องใดที่มีการเล่นอักษรและวรรณยุกต์คล้ายกลบทในกลบทศิริวิบุลกิตติ โคลงอักษรสาม ๒๓. พระมาลัยค าหลวงมีอิทธิพลต่อความเชื่อของชาวพุทธในเรื่องใด โลกพระศรีอริยเมตไตรย ใช้บทประพันธ์ต่อไปนี้ตอบค าถามข้อ ๒๔ - ๒๕ “ ฝ่ายฟ้อนละครใน บริรักษจักรี โรงริมคิรีมี กลลับบ่แลชาย ล้วนสรรสกรรจ์นาง อรอ่อนลอออาย ใครยลบ่อยากวาย จิตเพ้อมะเมอฝัน ” ๒๔. ค่านิยมใดที่เด่นชัดที่สุดในบทประพันธ์นี้ ละครในตัวละครเป็นหญิงล้วน ๒๕. ข้อใดสัมพันธ์กับบทประพันธ์ข้างต้น อิเหนา ๒๖. “พยาลิไทนิพนธ์ไตรภูมิพระร่วง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถนิพนธ์มหาชาติค าหลวง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช นิพนธ์โคลงพาลีสอนน้อง” ข้อความนี้แสดงถึงลักษณะเด่นด้านใดของพระมหากษัตริย์ไทย การประพันธ์ ๒๗. อะไรคือสาเหตุส าคัญที่ท าให้วรรณคดีไทยไม่ต่อเนื่องกันต้องเว้นว่างเป็นช่วง ๆ สงคราม


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย จ านวน ๘ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายในแง่มุมต่างๆ จ านวน ๓ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายในแง่มุมต่างๆได้ ๒. สาระส าคัญ การพูดวิเคราะห์วรรณคดีในแง่มุมต่างๆท าให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในวรรณคดีได้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้นและเป็น แนวทางในการน าไปใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายในแง่มุมต่างๆ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการพูด การฟังและดู ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีมารยาทในการพูด การฟังและการดู - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังบทประพันธ์บางตอนจากเรื่องกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ๖.๒. นักเรียนฝึกวิเคราะห์เนื้อหาของบทประพันธ์ในแง่มุมต่างๆ ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม วางแผนในการพูดวิเคราะห์ ทบทวนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จากเอกสารประกอบการเรียน ๖.๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดวิเคราะห์


ขั้นสรุป ๖.๕. ครู เพื่อนๆแต่ละกลุ่ม และกลุ่มตัวเองเป็นผู้ประเมิน พร้อมกับติชมแก้ไขข้อบกพร่อง ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถพูดวิเคราะห์ถูกต้องตรงประเด็นตามข้อเท็จจริงทุกแง่ทุกมุม สร้างสรรค์ มีคุณค่า หลักมีเหตุผล นักเรียนล าดับความคิดได้ตรงประเด็นมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง และมีบุคลิกภาพที่ดีมาก หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนตั้งใจพูด เตรียมการพูดดีมาก มีความพร้อมในการพูด เมื่อผู้อื่นพูด ก็ ตั้งใจฟังและดูดีมาก ไม่รบกวนผู้อื่น เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายในแง่มุมต่างๆ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีมารยาทในการพูด การฟังและการดู และรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอน ปลายในแง่มุมต่างๆ พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนปลายในแง่มุม ต่างๆได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ P) - กระบวนการพูด การฟัง และดู พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนปลายในแง่มุม ต่างๆได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - มีมารยาทใน การพูด การฟังและดู - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติแก้วด า) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๕ พูดวิเคราะห์วรรณคดี ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) เนื้อหา (พูดวิเคราะห์) พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริงทุกแง่ทุก มุมสร้างสรรค์ มี คุณค่า พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริงเป็นส่วน ใหญ่ พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริง พอสมควร พูดวิเคราะห์ไม่ ถูกต้องไม่ตรง ประเด็นตาม ข้อเท็จจริง (p) กระบวนการพูด ล าดับความคิดได้ ตรงประเด็นมี ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง และมี บุคลิกภาพที่ดีมาก ล าดับความคิดได้ ตรงประเด็นเป็น ส่วนใหญ่ มี ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง และมี บุคลิกภาพที่ดี ล าดับความคิดได้ ค่อนข้างตรง ประเด็น แต่ขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยง และมี ข้อบกพร่องเรื่อง บุคลิกภาพเล็กน้อย ล าดับความคิดไม่ ตรงประเด็นขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงและ บกพร่องเรื่อง บุคลิกภาพมาก (A) มีมารยาทในการพูด การฟังและการดู ตั้งใจพูด เตรียมการ พูดดีมาก มีความ พร้อมในการพูด เมื่อผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจ ฟังและดูดีมาก ไม่ รบกวนผู้อื่น ตั้งใจพูด เตรียมการ พูดดี แต่ยังไม่มี ความพร้อมในการ พูดเท่าที่ควร เมื่อ ผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจฟัง และดูดี ไม่รบกวน ผู้อื่น เตรียมการพูดมาไม่ ดีเท่าที่ควร เมื่อ ผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจฟัง และดูพอใช้ แต่ไม่ ต่อเนื่อง ไม่เตรียมการพูด ไม่ สนใจกิจกรรมการ พูดเมื่อผู้อื่นพูด ก็ไม่ ตั้งใจฟังและดู ครู ต้องตักเตือนและ ควบคุมพฤติกรรม (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ พอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้


เอกสารประกอบการเรียน พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในแง่มุมต่างๆ เช่น ผู้แต่ง ท านองแต่ง จุดมุ่งหมายในการแต่ง เนื้อหา ตัวอย่างที่ประทับใจ คุณค่า (พระมาลัยค าหลวง,กาพย์เห่เรือ)


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย จ านวน ๘ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายไปใช้ในชีวิตประจ าวัน จ านวน ๒ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๒. สาระส าคัญ การน าวรรณคดีไปใช้ในชีวิตประจ าวันท าให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ช่วยจรรโลงใจ ช่วยธ ารงสังคม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการคิด ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - เห็นคุณค่าของวรรณคดี - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังตัวอย่างค าประพันธ์บางตอนจากเรื่องกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ๖.๒. นักเรียนฝึกวิเคราะห์เนื้อหาจากบทประพันธ์ในแง่การน าไปใช้ในชีวิต ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนแต่ละคนทบทวนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายจากเอกสารประกอบการเรียน และวางแผนวิเคราะห์เนื้อหาในแง่การน าไปใช้ในชีวิต ๖.๔. นักเรียนน าวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายไปใช้ในชีวิตประจ าวัน


ขั้นสรุป ๖.๕. ผู้ปกครองและครูประเมินการน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันของนักเรียน พร้อมกับติชมแก้ไขข้อบกพร่อง ๖.๖. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนน าคุณค่าของวรรณคดีไปใช้ในชีวิตจริงได้ชัดเจน มีเหตุผล ยกตัวอย่าง ได้ถูกต้องสอดคล้องกับชีวิต และมีความเป็นไปได้ในการน าไปใช้ หลักมีเหตุผล นักเรียนมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีการด าเนินงานตามแผนมีการประเมิน และปรับปรุงการด าเนินงาน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถแสดงออกด้วยความชื่นชมยินดี เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถน าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนเห็นคุณค่าของวรรณคดี และรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. ตัวอย่างค าประพันธ์บางตอนจากเรื่องกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ๘.๒. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - น าวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนปลายไปใช้ใน ชีวิตประจ าวันได้ ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนปลาย แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนปลาย ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ P) - กระบวนคิด การน าวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนปลายไปใช้ใน ชีวิตประจ าวันได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - เห็นคุณค่าของ วรรณคดี - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติแก้วด า ) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๕ น าวรรณคดีไปใช้ในชีวิต ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) น าคุณค่าจาก วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิต น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้ชัดเจน มีเหตุผล ยกตัวอย่างได้ ถูกต้องสอดคล้อง กับชีวิต และมี ความเป็นไปได้ใน การน าไปใช้ น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ในชีวิต จริงได้ชัดเจน แต่ยัง ไม่มีเหตุผล และ ตัวอย่างที่น าเสนอไม่ สอดคล้องกับชีวิต น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้แต่ยังไม่ ชัดเจนเท่าที่ควร ไม่มีการแสดง เหตุผล และการ ยกตัวอย่าง ไม่สามารถสรุปได้ ว่าน าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ได้ อย่างไร (P) กระบวนการปฏิบัติ มีการวางแผน อย่างเป็นระบบ มีการด าเนินงาน ตามแผนมีการ ประเมินและ ปรับปรุงการ ด าเนินงาน มีการวางแผนอย่าง เป็นระบบเป็นส่วน ใหญ่ มีการ ด าเนินงานตามแผน มีการประเมินและ ปรับปรุง การ ด าเนินงานเป็นส่วน ใหญ่ วางแผนไม่ค่อยเป็น ระบบ มีการ ด าเนินงานตาม แผนบ้าง มีการ ประเมินและ ปรับปรุงการด าเนิน งานเล็กน้อย ไม่มีการวางแผน ด าเนินงาน สะเปะสะปะ ไม่มีการประเมิน และปรับปรุงการ ด าเนิน งาน (A) เห็นคุณค่าของ วรรณคดี แสดงออกด้วย ความชื่นชมยินดี แสดงออกตาม บทบาทหน้าที่ มี อารมณ์ร่วมมาก แสดงออกตาม บทบาทหน้าที่ มี อารมณ์ร่วมน้อย แสดงออกด้วย ความเบื่อหน่าย (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณดี แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณพอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้


เอกสารประกอบการเรียน น าวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายไปใช้ในชีวิตประจ าวัน


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


Click to View FlipBook Version