The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-05-29 06:36:55

แผนการสอนภาษาไทยประวัติวรรณคดี ม.5

ครูอภิชาติ แก้วดำ

๓๒. โคลงก าสรวลสันนิษฐานว่าศรีปราชญ์ไม่ได้แต่งเพราะ ก. ส านวนเก่ากว่าสมัยศรีปราชญ์ ข. ไม่ได้ระบุว่าศรีปราชญ์เป็นผู้แต่งในบทน า ค. ไม่ได้กล่าวถึงความทุกข์ร้อนที่ต้องจากนาง ง. อารมณ์ที่แต่งไม่เหมือนผลงานของศรีปราชญ์ จ. ไม่ปรากฏว่ามีการเดินทางไปถึงนครศรีธรรมราชในบทกวี ๓๓. ถ้าต้องการความน่าเกรงขามแก่พิธีกรรมควรอ่านบทวรรณกรรมเรื่องใด ก. ลิลิตพระลอ ข. ลิลิตยวนพ่าย ค. โคลงทวาทศมาส ง. โคลงก าสรวล จ. ลิลิตโองการแช่งน้ า ๓๔. โคลงทวาทศมาสมีอิทธิพลต่อค่านิยมของสังคมไทยในเรื่องใด ก. การท าบุญ ข. การไหว้ผีไหว้เจ้า ค. การไหว้บรรพบุรุษ ง. การท าพิธีในวันลอยกระทง จ. การท าพิธีกรรมในแต่ละเดือน ใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบค าถามข้อ ๓๕ - ๓๖ "โฉมแม่จกกฝากฟ้า เกรงอินทร หยอกนา อินทรท่านเทอดโฉมเอา สู่ฟ้า โฉมแม่จกกฝากดิน ดินท่าน แล้วแฮ ดินฤาขดดเจ้าหล้า สู่ส สองส " ๓๕. วรรณคดียุคหลังนิยมเลียนแบบโคลงบทนี้ เรียกว่าบทอะไร ก. บทสั่งนาง ข. บทฝากฟ้า ค. บทฝากดิน ง. บทฝากนาง จ. บทจากนาง ๓๖. โคลงบทนี้ให้อารมณ์ใด ก. สงสัย ข. เกรงกลัว ค. หวาดกลัว ง. ไม่ไว้วางใจ จ. หวาดระแวง


๓๗. โคลงก าสรวลให้อารมณ์ใดแก่ผู้อ่านมากที่สุด ก. โกรธแค้น ข. ยินดีปรีดา ค. ห่วงหาอาลัย ง. รื่นรมย์โสมนัส จ. เจ็บปวดรวดร้าว ๓๘. โคลงหริภุญชัยกล่าวถึงการเดินทางจากที่ใดไปยังที่ใด ก. เชียงใหม่ไปแพร่ ข. เชียงใหม่ไปพิจิตร ค. เชียงใหม่ไปล าพูน ง. เชียงใหม่ไปพิษณุโลก จ. เชียงใหม่ไปนครสวรรค์ ๓๙. การที่พระลอไม่ฟังค าทัดทานจากพระมารดาและไม่เชื่อผลการเสี่ยงน้ าท านาย เดินทางไปพบพระเพื่อน พระแพง ท าให้เกิดอะไรขึ้น ก. พระมเหสีประชวร ข. เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดคิด ค. ปู่เจ้าสมิงพรายยอมถอนเสน่ห์ ง. พระมารดาสวรรคตเพราะเสียพระทัย จ. ทราบความจริงว่าพระเพื่อนพระแพงไม่ได้รักพระองค์เลย ๔๐. ถ้าต้องการทราบว่าเดือนอ้ายในสมัยอยุธยามีประเพณีอะไร ต้องศึกษาจากวรรณคดีเรื่องใด ก. โคลงก าสรวล ข. โคลงหริภุญชัย ค. โคลงทวาทศมาส ง. ลิลิตวนพ่าย จ. มหาชาติค าหลวง ๔๑. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของค าหลวง ก. ใช้สวดเข้าท านองหลวง ข. ใช้สวดในงานพระราชพิธีทั่วไป ค. แต่งด้วย โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ง. ผู้แต่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินหรือเจ้านายชั้นสูง จ. เป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม


๔๒. สภาพบ้านเมืองในปัจจุบันเหมาะสมกับการใช้ลิลิตโองการแช่งน้ าสวดในพิธีต่างๆหรือไม่ เพราะ เหตุใด ก. ไม่เหมาะสม เพราะบ้านเมืองของเราสงบไม่มีศัตรูรุกราน ข. ไม่เหมาะสม เพราะปัจจุบันอยู่ในยุคเทคโนโลยี ไม่ค่อยมีใครเชื่อค าสาปแช่ง ค. เหมาะสมเพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ และสิ่งลึกลับอยู่มาก ง. ไม่เหมาะสมเพราะปัจจุบันไทยเราเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว จ. เหมาะสม เพราะท าให้คนเกรงกลัวต่อค าสาปแช่งไม่กล้าท าผิด ซึ่งในปัจจุบันมีคนท าผิดมาก เพราะไม่ น าลิลิตโองการแช่งน้ าไปใช้


เฉลย แบบทดสอบ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น [สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ ถึงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ( พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๒๐๗๒ ) ] ๑. วรรณคดีเรื่องใดมีอิทธิพลโดยตรงต่อการปกครองของไทยในสมัยโบราณ ลิลิตโองการแช่งน้ า ๒. ชาดก เป็นวรรณกรรมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสอนอะไร ธรรมของพระโพธิสัตว์ ๓. มหาชาติค าหลวง มีประโยชน์ต่อชีวิตประชาชนอย่างไร ใช้สวดในวันนักขัตฤกษ์และใช้สอนเรื่องทานบารมีในการอบรมขัดเกลาจิตใจ ๔. ชาดกเรื่องพระเวสสันดรได้ชื่อว่ามหาชาติเพราะเหตุใด เป็นเรื่องของพระโพธิสัตว์ที่บ าเพ็ญบารมีสูงสุด ๕. ค าประพันธ์ประเภทฉันท์ ปรากฏในหนังสือใดเป็นครั้งแรก มหาชาติค าหลวง ๖. ยวนพ่ายเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ประวัติศาสตร์ตอนสงครามระหว่างสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กับพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์เชียงใหม่ ๗. หนังสือที่เรียกว่า มหากาพย์ มีลักษณะส าคัญอย่างไร แสดงถึงวีรกรรมของกษัตริย์ ๘. เหตุใดกวีสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจึงแต่งลิลิตยวนพ่ายขึ้น เพื่อแสดงความยินดีที่ไทยอยุธยามีชัยชนะต่อไทยเชียงใหม่ ซึ่งในขณะนั้นเป็นศัตรูที่เข้มแข็งมาก ๙. สารสยามภาคพร้อง กลกานท นี้ฤา คือคู่มาลาสวรรค์ ช่อช้อย เบญญาพิศาลแสดง เดอมเกียรติ พระฤา คือคู่ไหมแส้งร้อย กึ่งกลาง ข้อความนี้เป็นตอนหนึ่งในวรรณคดี ซึ่งทั้งเล่มใช้ท านองแต่งเป็นค าประพันธ์ชนิดใด ลิลิตดั้น ๑๐. เหตุใดคนไทยในหลายๆสมัยจึงรักและยกย่องลิลิตพระลอ จนรักษาไว้เป็นมรดกแก่คนไทยใน สมัยปัจจุบัน เพราะกวีใช้ลีลาของร่ายและโคลงมาแต่งได้สอดคล้องกับความรู้สึกในท้องเรื่อง และเป็นแบบอย่างที่ดี ส าหรับกวีรุ่นหลัง ๑๑. หนังสือเรื่องใดเป็นยอดของลิลิตตามมติของวรรณคดีสโมสร พระลอ ๑๒. เพราะเหตุผลข้อใดเป็นส าคัญ จึงสันนิษฐานว่าโคลงก าสรวลแต่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เพราะใช้ค าประพันธ์และภาษาเก่าถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ๑๓. โคลงหริภุญชัย ใช้ค าภาษาใดมากเป็นพิเศษ ไทยเหนือ


๑๔. วรรณคดีเรื่องลิลิตยวนพ่ายแต่งขึ้นเพื่อจุดประสงค์ใด เทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ ๑๕. เนื้อเรื่องของมหาชาติค าหลวง เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อใด การบ าเพ็ญทานบารมีของพระโพธิสัตว์พระชาติสุดท้าย ๑๖. เพราะเหตุใดลิลิตยวนพ่ายจึงมีลักษณะเป็นมหากาพย์ แสดงปรัชญาและสดุดีวีรกรรมของบรรพชน ๑๗. "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤาพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ" โคลงบทนี้เป็นที่รู้จักกันเพราะมีลักษณะเด่นตามข้อใด แต่งถูกหลักฉันทลักษณ์และใช้เป็นแบบอย่างค าประพันธ์ในจินดามณี ๑๘. โคลงทวาทศมาสเป็นวรรณคดีนิราศที่มีความแปลกใหม่ในเรื่องใด เป็นนิราศที่คร่ าครวญความรักโดยใช้ฤดูกาลมาพรรณนา ๑๙. ค าประพันธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสมัยอยุธยาตอนต้น คือข้อใด ลิลิต ๒๐. เพราะเหตุใดลิลิตพระลอจึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านจนมาถึงทุกวันนี้ สร้างความสะเทือนอารมณ์ได้ทั้งเรื่อง ๒๑. สมัยโบราณวรรณคดีลิลิตโองการแช่งน้ ามีอิทธิพลด้านใด การปกครอง ๒๒. มหาชาติค าหลวงมีอิทธิพลต่อพุทธศาสนิกชนในเรื่องใดมากที่สุด มีความเชื่อเกี่ยวกับพระศรีอาริย์ ๒๓ วรรณคดีเรื่องใดได้รับอิทธิพลมาจากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ลิลิตพระลอ ๒๔. ลิลิตโองการแช่งน้ าได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของชาติใด ขอมและพราหมณ์ ๒๕. มหาชาติค าหลวงถือว่าเป็นวรรณคดีที่มีลักษณะการจบเรื่องแบบใด มีความสุข ๒๖. บทใดของโคลงก าสรวลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ฝากนาง ใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบค าถามข้อ ๒๗ - ๒๘ "ร้อยท้าวรวมรีบเข้า มาทูล ท่านนา ถวายประทุมทองเป็น ปิ่นเกล้า ส ภารพ่อพยงสูรย โสภิต มอญแลยวนพ่ายเข้า ข่ายบร"


๒๗. ค าที่ขีดเส้นใต้หมายถึงใคร พระบรมไตรโลกนาถ ๒๘. น้ าเสียงของโคลงบทนี้มีลักษณะอย่างไร ยอเกียรติ ๒๙. โวหารจากลิลิตพระลอในข้อใดให้มโนภาพชัดเจนที่สุด เสียงโหยเสียงไห้มี่ เรือนหลวง ๓๐. ลักษณะเด่นที่โคลงหริภุญชัยแตกต่างจากวรรณคดีอยุธยาตอนต้นเรื่องอื่นคืออะไร เป็นโคลงภาษาเหนือ ๓๑. โคลงหริภุญชัยได้กล่าวถึงพระพุทธรูปส าคัญองค์หนึ่งซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตน ศาสดาราม กรุงเทพฯ พระพุทธรูปองค์นั้นคือ พระแก้วมรกต ๓๒. โคลงก าสรวลสันนิษฐานว่าศรีปราชญ์ไม่ได้แต่งเพราะ ส านวนเก่ากว่าสมัยศรีปราชญ์ ๓๓. ถ้าต้องการความน่าเกรงขามแก่พิธีกรรมควรอ่านบทวรรณกรรมเรื่องใด ลิลิตโองการแช่งน้ า ๓๔. โคลงทวาทศมาสมีอิทธิพลต่อค่านิยมของสังคมไทยในเรื่องใด การท าพิธีกรรมในแต่ละเดือน ใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบค าถามข้อ ๓๕ - ๓๖ "โฉมแม่จกกฝากฟ้า เกรงอินทร หยอกนา อินทรท่านเทอดโฉมเอา สู่ฟ้า โฉมแม่จกกฝากดิน ดินท่าน แล้วแฮ ดินฤาขดดเจ้าหล้า สู่ส สองส " ๓๕. วรรณคดียุคหลังนิยมเลียนแบบโคลงบทนี้ เรียกว่าบทอะไร บทฝากนาง ๓๖. โคลงบทนี้ให้อารมณ์ใด ไม่ไว้วางใจ ๓๗. โคลงก าสรวลให้อารมณ์ใดแก่ผู้อ่านมากที่สุด ห่วงหาอาลัย ๓๘. โคลงหริภุญชัยกล่าวถึงการเดินทางจากที่ใดไปยังที่ใด เชียงใหม่ไปล าพูน ๓๙. การที่พระลอไม่ฟังค าทัดทานจากพระมารดาและไม่เชื่อผลการเสี่ยงน้ าท านาย เดินทางไปพบ พระเพื่อนพระแพง ท าให้เกิดอะไรขึ้น เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดคิด ๔๐. ถ้าต้องการทราบว่าเดือนอ้ายในสมัยอยุธยามีประเพณีอะไร ต้องศึกษาจากวรรณคดีเรื่องใด โคลงทวาทศมาส


๔๑. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของค าหลวง ใช้สวดในงานพระราชพิธีทั่วไป ๔๒. สภาพบ้านเมืองในปัจจุบันเหมาะสมกับการใช้ลิลิตโองการแช่งน้ าสวดในพิธีต่างๆหรือไม่ เพราะ เหตุใด ไม่เหมาะสมเพราะปัจจุบันไทยเราเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่..................................................................................................................................................................... ...... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น จ านวน ๘ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นในแง่มุมต่างๆ จ านวน ๓ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นในแง่มุมต่างๆได้ ๒. สาระส าคัญ การพูดวิเคราะห์วรรณคดีในแง่มุมต่างๆท าให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในวรรณคดีได้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้นและ เป็นแนวทางในการน าไปใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นในแง่มุมต่างๆ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการพูด การฟังและดู ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีมารยาทในการพูด การฟังและการดู - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังเพลงพระลอตามไก่ ๖.๒. นักเรียนฝึกวิเคราะห์เนื้อหาจากเพลงในแง่มุมต่างๆ ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม วางแผนในการพูดวิเคราะห์ ทบทวนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นจาก เอกสารประกอบการเรียน ๖.๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดวิเคราะห์ โดยมีครู เพื่อนๆแต่ละกลุ่ม และกลุ่มตัวเองเป็นผู้ประเมิน ขั้นสรุป ๖.๕. ครูและนักเรียนร่วมกัน แก้ไข ติชม


๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถพูดวิเคราะห์ถูกต้องตรงประเด็นตามข้อเท็จจริงทุกแง่ทุกมุม สร้างสรรค์ มีคุณค่า หลักมีเหตุผล นักเรียนล าดับความคิดได้ตรงประเด็นมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง และมีบุคลิกภาพที่ดีมาก หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนตั้งใจพูด เตรียมการพูดดีมาก มีความพร้อมในการพูด เมื่อผู้อื่นพูด ก็ ตั้งใจฟังและดูดีมาก ไม่รบกวนผู้อื่น เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยสมัยอยุธยาตอนต้นในแง่มุมต่างๆ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีมารยาทในการพูด การฟังและการดู และรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. เพลงพระลอตามไก่ ๘.๒. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๘. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) -


๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น ในแง่มุมต่างๆ พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนต้นในแง่มุม ต่างๆได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ P) - กระบวนการพูด การฟัง และดู พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนต้นในแง่มุม ต่างๆได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - มีมารยาทใน การพูด การฟังและดู - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๓ พูดวิเคราะห์วรรณคดี ประเด็น การประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (k) เนื้อหา (พูดวิเคราะห์) พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริงทุกแง่ ทุกมุมสร้างสรรค์ มี คุณค่า พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริงเป็นส่วน ใหญ่ พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริง พอสมควร พูดวิเคราะห์ไม่ ถูกต้องไม่ตรง ประเด็นตาม ข้อเท็จจริง (P) กระบวนการพูด ล าดับความคิดได้ ตรงประเด็นมี ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง และมี บุคลิกภาพที่ดีมาก ล าดับความคิดได้ ตรงประเด็นเป็น ส่วนใหญ่ มี ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง และมี บุคลิกภาพที่ดี ล าดับความคิดได้ ค่อนข้างตรง ประเด็น แต่ขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยง และมี ข้อบกพร่องเรื่อง บุคลิกภาพเล็กน้อย ล าดับความคิดไม่ ตรงประเด็นขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงและ บกพร่องเรื่อง บุคลิกภาพมาก (A) มีมารยาทในการ พูด การฟังและการ ดู ตั้งใจพูด เตรียมการพูดดี มาก มีความพร้อม ในการพูด เมื่อผู้อื่น พูด ก็ตั้งใจฟังและดู ดีมาก ไม่รบกวน ผู้อื่น ตั้งใจพูด เตรียมการพูดดี แต่ ยังไม่มีความพร้อม ในการพูดเท่าที่ควร เมื่อผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจ ฟังและดูดี ไม่ รบกวนผู้อื่น เตรียมการพูดมาไม่ ดีเท่าที่ควร เมื่อ ผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจฟัง และดูพอใช้ แต่ไม่ ต่อเนื่อง ไม่เตรียมการพูด ไม่สนใจกิจกรรม การพูดเมื่อผู้อื่นพูด ก็ไม่ตั้งใจฟังและดู ครูต้องตักเตือน และควบคุม พฤติกรรม (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ พอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................... .............. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น จ านวน ๘ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นไปใช้ในชีวิตประจ าวัน จ านวน ๒ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๒. สาระส าคัญ การน าวรรณคดีไปใช้ในชีวิตประจ าวันท าให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ช่วยจรรโลงใจ ช่วยธ ารงสังคม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - น าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการคิด ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - เห็นคุณค่าของวรรณคดี - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังเพลงลาวเจริญศรี ๖.๒. นักเรียนฝึกวิเคราะห์เนื้อหาจากเพลงในแง่การน าไปใช้ในชีวิต ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนแต่ละคนทบทวนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นจากเอกสารประกอบการเรียน และวางแผนวิเคราะห์เนื้อหาในแง่การน าไปใช้ในชีวิต ๖.๔. นักเรียนน าวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ๖.๕. ผู้ปกครองและครูประเมินการน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันของนักเรียน


ขั้นสรุป ๖.๖. ครูแก้ไข ติชม ๖.๗. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนน าคุณค่าของวรรณคดีไปใช้ในชีวิตจริงได้ชัดเจน มีเหตุผล ยกตัวอย่าง ได้ถูกต้องสอดคล้องกับชีวิต และมีความเป็นไปได้ในการน าไปใช้ หลักมีเหตุผล นักเรียนมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีการด าเนินงานตามแผนมีการประเมิน และปรับปรุงการด าเนินงาน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถแสดงออกด้วยความชื่นชมยินดี เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถน าวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนเห็นคุณค่าของวรรณคดี และรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. เพลงลาเจริญศรี ๘.๒. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) -


๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - น าวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนต้นไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ได้ ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนต้น แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนต้น ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ P) - กระบวนคิด การน าวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนต้นไปใช้ใน ชีวิตประจ าวันได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - เห็นคุณค่าของ วรรณคดี - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๓ น าวรรณคดีไปใช้ในชีวิต ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) น าคุณค่าจาก วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิต น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้ชัดเจน มีเหตุผล ยกตัวอย่างได้ ถูกต้องสอดคล้อง กับชีวิต และมี ความเป็นไปได้ใน การน าไปใช้ น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ในชีวิต จริงได้ชัดเจน แต่ยัง ไม่มีเหตุผล และ ตัวอย่างที่น าเสนอไม่ สอดคล้องกับชีวิต น าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ใน ชีวิตจริงได้แต่ยังไม่ ชัดเจนเท่าที่ควร ไม่มีการแสดง เหตุผล และการ ยกตัวอย่าง ไม่สามารถสรุปได้ ว่าน าคุณค่าของ วรรณคดีไปใช้ได้ อย่างไร (P) กระบวนการปฏิบัติ มีการวางแผน อย่างเป็นระบบ มีการด าเนินงาน ตามแผนมีการ ประเมินและ ปรับปรุงการด าเนิน งาน มีการวางแผนอย่าง เป็นระบบเป็นส่วน ใหญ่ มีการ ด าเนินงานตามแผน มีการประเมินและ ปรับปรุง การ ด าเนินงานเป็นส่วน ใหญ่ วางแผนไม่ค่อยเป็น ระบบ มีการ ด าเนินงานตาม แผนบ้าง มีการ ประเมินและ ปรับปรุงการด าเนิน งานเล็กน้อย ไม่มีการวางแผน ด าเนินงาน สะเปะสะปะ ไม่มีการประเมิน และปรับปรุงการ ด าเนิน งาน (A) เห็นคุณค่าของ วรรณคดี แสดงออกด้วย ความชื่นชมยินดี แสดงออกตาม บทบาทหน้าที่ มี อารมณ์ร่วมมาก แสดงออกตาม บทบาทหน้าที่ มี อารมณ์ร่วมน้อย แสดงออกด้วย ความเบื่อหน่าย (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มี สัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มี สัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ พอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงาม แบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มี พระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ -๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่..................................................................................................................................................................... ...... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................... .............. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง จ านวน ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง เขียนย่อความเรื่องวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง จ านวน ๔ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ เขียนย่อความเรื่องวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางได้ ๒. สาระส าคัญ การเขียนย่อความเกี่ยวกับเรื่องที่เราก าลังจะศึกษาท าให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆได้ดียิ่งขึ้น ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการเขียน ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีมารยาทและมีนิสัยรักการเขียน - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนกลาง ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังเพลงก าสรวลศรีปราชญ์ ๖.๒. นักเรียนช่วยกันสรุปใจความส าคัญจากเพลง ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน ๖.๔. นักเรียนศึกษาเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางจากเอกสารประกอบการเรียน ๖.๕. นักเรียนเขียนย่อความเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ขั้นสรุป ๖.๖ ครูตรวจชิ้นงาน ติ ชม แก้ไขข้อบกพร่อง


๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถเขียนสรุปสาระส าคัญได้ครบถ้วน เรียบเรียงใจความเป็นล าดับ ต่อเนื่อง ใช้ถ้อยค าภาษาของตนเองอย่างกะทัดรัด ชัดเจน หลักมีเหตุผล นักเรียนล าดับความคิดได้ตรงประเด็นมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ชิ้นงานสะอาด เรียบร้อย หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนเรียบเรียงงานเขียนด้วยภาษาของตนเอง ไม่คัดลอกผู้อื่น ชอบการเขียน ส่งงานเขียนตรงเวลาอย่างสม่ าเสมอ แก้ไขและปรับปรุงงานเขียนตามค าแนะน า ของครูอย่างถูกต้อง รักการอ่าน และชอบศึกษาภาษาของนักเขียน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีมารยาทและมีนิสัยรักการเขียน และรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. เพลงก าสรวลศรีปราชญ์ ๘.๒. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) – ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนกลาง ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนกลาง แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนกลาง ตามสภาพจริง P) - กระบวนการเขียน เขียนย่อความเรื่อง วรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนกลาง แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - มีมารยาทและมีนิสัย รักการเขียน - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๔ เขียนย่อความ ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) เนื้อหา (เขียนย่อ ความ) เขียนสรุปสาระส าคัญได้ ครบถ้วน เรียบเรียง ใจความเป็นล าดับ ต่อเนื่อง ใช้ถ้อยค า ภาษาของตนเองอย่าง กะทัดรัด ชัดเจน เขียนสรุปสาระส าคัญได้ ครบถ้วน เรียบเรียง ใจความเป็นล าดับ ต่อเนื่อง แต่ยังมี ข้อบกพร่องในการใช้ ถ้อยค า เขียนสรุปสาระส าคัญ ได้ครบถ้วน แต่ยังมี ข้อบกพร่องในการ เรียบเรียงใจความและ การใช้ภาษา เขียนสรุปสาระส าคัญ ไม่ได้ ครูต้องแนะน า ช่วยเหลือจึงสามารถ เขียนสรุปได้ (P) กระบวนการ เขียน ล าดับความคิดได้ตรง ประเด็นมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ชิ้นงานสะอาด เรียบร้อย ล าดับความคิดได้ตรง ประเด็นเป็นส่วนใหญ่ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยง กันอย่างต่อเนื่อง ชิ้นงาน สะอาด เรียบร้อย เป็น ส่วนใหญ่ ล าดับความคิดได้ ค่อนข้างตรงประเด็น แต่ขาดความสัมพันธ์ เชื่อมโยง ชิ้นงาน ค่อนข้างสะอาด เรียบร้อย ล าดับความคิดไม่ตรง ประเด็น ขาด ความสัมพันธ์เชื่อมโยง ชิ้นงานไม่สะอาด ขาด ความเป็นระเบียบ (A) มีมารยาท และมีนิสัยรัก การเขียน เรียบเรียงงานเขียนด้วย ภาษาของตนเอง ไม่ คัดลอกผู้อื่น ชอบการ เขียน ส่งงานเขียนตรง เวลาอย่างสม่ าเสมอ แก้ไขและปรับปรุงงาน เขียนตามค าแนะน าของ ครูอย่างถูกต้อง รักการ อ่าน และชอบศึกษา ภาษาของนักเขียน เรียบเรียงงานเขียนด้วย ภาษาของตนเอง ไม่ คัดลอกผู้อื่น ชอบ การ เขียน ส่งงานเขียนตรง เวลาอย่างสม่ าเสมอ แก้ไขและปรับปรุงงาน เขียนตามค าแนะน าของ ครูอย่างถูกต้อง แต่ยังไม่ พัฒนานิสัยรักการอ่าน และชอบศึกษาภาษา ของนักเขียน เรียบเรียงงานเขียน ด้วยภาษาของตนเอง แต่คัดลอกผู้อื่นบ้าง บางส่วน ชอบ การ เขียน ส่งงานเขียนตรง เวลาอย่างสม่ าเสมอ แก้ไขและปรับปรุงงาน เขียนตามค าแนะน า ของครูแต่ยังไม่ถูก เท่าที่ควร ครูต้อง แนะน าเพิ่มเติม ไม่มี นิสัยรักการอ่าน และ ไม่ศึกษาภาษาของ นักเขียน ชอบคัดลอกงานเขียน ของผู้อื่น ไม่ค่อยมีความ พยายามใน การเรียบ เรียงงานเขียนด้วยภาษา ของตนเอง ไม่ค่อยชอบ การเขียน ส่งงานเขียนไม่ ตรงเวลา ไม่แก้ไขและ ปรับปรุงงานเขียนของ ตนเอง ครูต้องควบคุม ดูแลและแนะน า ช่วยเหลือตลอดเวลา (A) รักความเป็น ไทย แต่งกายและมีมารยาท งดงามแบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญูกตเวทีต่อ ผู้มีพระคุณ ดีมาก แต่งกายและมีมารยาท งดงามแบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญูกตเวทีต่อ ผู้มีพระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณ พอใช้ แต่งกายและมีมารยาท งดงามแบบไทย มีสัมมา คารวะ กตัญญูกตเวทีต่อ ผู้มีพระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง


เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้


เอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง เขียนย่อความ เรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง บทเรียนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง จากหนังสือเรียนสมบูรณ์แบบ ประวัติวรรณคดี ๑ ของเสนีย์ วิลาวรรณ และคณะ หน้า ๑๑๑ ถึงหน้า ๑๖๑ ความว่า วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง [รัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. ๒๑๖๓ – ๒๒๓๑) ] ก่อนยุคทองแห่งวรรณคดี เมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระเจ้าบรมไตรโลกนาถแล้ว สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ เสวยราชย์ต่อมาเป็นเวลา ถึง ๔๐ ปี (พ.ศ. ๒๐๓๒ – ๒๐๗๒) บ้านเมืองสงบสุขและศิลปกรรมเจริญมาก สันนิษฐานว่าวรรณคดีส าคัญบาง เรื่องเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ หลังจากนั้นวรรณคดีได้ว่างเว้นไปเป็นเวลานานเกือบร้อยปีเนื่องจากบ้านเมืองไม่ปกติสุข ต้องท าสงครามกับพม่า เริ่มแต่รัชกาลสมเด็จพระไชยราชาธิราชจนเสียกรุงแก่พม่าในรัชกาลสมเด็จพระมหินทราธิ ราช ถึงแม้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกู้เอกราชได้ก็ต้องท าสงครามขับเคี่ยวกับพม่าและเขมรตลอดรัชกาล นอกจากนี้เมื่อสิ้นรัชสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถก็เกิดความไม่สงบสุขภายใน พระราชโอรสของสมเด็จ พระเอกาทศรถ คือพระศรีศิลป์ทรงชิงราชสมบัติปลงพระชนม์ เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์แล้วขึ้นเสวยราชย์ ทรงพระ นามว่า สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม กษัตริย์พระองค์นี้เคยผนวชมาก่อน ได้สมณศักดิ์เป็นที่พระพิมลธรรม จึงเอา พระทัยใส่ในพระพุทธศาสนา และทรงพระราชนิพนธ์กาพย์มหาชาติ นับเป็นวรรณคดีเรื่องแรกในสมัยอยุธยา ตอนกลาง เมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมแล้วบ้านเมืองก็เกิดความวุ่นวายภายในอีก สมเด็จพระเจ้า ปราสาททองทรงชิงราชสมบัติจากพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แล้วทรงปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ ต่อมาในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจมีส่วนกระทบวรรณคดีของชาติ กล่าวคือพระเจ้า เธอฝ่ายในพระองค์หนึ่งสิ้นพระชนม์ เชื่อกันว่าต้องคุณจึงเกิดท าลายต าราไสยศาสตร์ เพราะเกรงจะต้องโทษ เป็น เหตุให้วรรณคดีส าคัญ ๆ พลอยสูญสลายไปด้วย ยุคทองแห่งวรรณคดี รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้รับยกย่องว่าเป็นยุคทองแห่งวรรณคดี เพราะมีนักปราชญ์ราช กวีและวรรณคดีเกิดขึ้นมากมายในเวลาเพียงรัชกาลเดียวนี้ นับตั้งแต่องค์ประมุขของประเทศ คือสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช จนถึงบุคคลชั้นผู้น้อยทั้งชายหญิง เช่น นายประตู ต่างพากันสนใจวรรณคดีและสามารถ สร้างสรรค์วรรณคดีส าคัญหลายเรื่อง ราชส านักของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นที่ประชุมกวีและนักปราชญ์ โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์อุปถัมภ์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสวยราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๒๑๙๙ ถึง พ.ศ. ๒๒๓๑ พระองค์ทรงพระปรีชา สามารถในการปกครอง และทรงปราดเปรื่องในการกวี กรุงศรีอยุธยาจึงมีความเจริญรุ่งเรืองอีกช่วงเวลาหนึ่ง มีการท าสงครามรบชนะเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๕ ต่อจากนั้นบ้านเมืองก็สงบตลอดรัชกาล ทรงมีเวลา ทะนุบ ารุงบ้านเมือง ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมให้เจริญก้าวหน้า ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศได้มีชนชาติ ต่างศาสนาเข้ามาค้าขาย และเผยแผ่ศาสนามากเป็นพิเศษ เช่น ฮอลันดา อังกฤษ และฝรั่งเศส สมเด็จพระ นารายณ์มหาราชทรงส่งราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ของฝรั่งเศส และทรงแต่งตั้งชาว กรีกผู้หนึ่งเป็นเจ้าพระยาวิชาเยนทร์มีต าแหน่งที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน ทรงสนพระทัยความเจริญอย่างยุโรป เช่น


โปรดให้ใช้ประปาที่พระราชวังลพบุรี คณะสอนศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกชาวฝรั่งเศสก็ได้รับพระราชทาน เสรีภาพและพระบรมราชานุเคราะห์ให้ได้เผยแผ่ศาสนาคริสต์อย่างกว้างขวาง โดยตั้งโรงพยาบาลรักษาคนไข้ และตั้งโรงเรียนสอนหนังสือแก่เด็กไทยควบคู่กับศาสนาคริสต์ ความเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศสดังกล่าวมีส่วนท าให้คน ไทยตื่นตัว กระตือรือร้นหันมาสนใจศึกษาหนังสือไทยและพุทธศาสนาของตนเองมากขึ้น หนังสือเรียนเล่มแรกคือ จินดามณี ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ กล่าวโดยสรุปแล้วการที่รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นยุคทองแห่งวรรณคดี มีสาเหตุดังนี้ ๑. ความเจริญของบ้านเมือง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ และทรงชุบเลี้ยงข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่าง ๆ เช่น นักรบ นักการทูต และสถาปนิก ทั้งคน ไทยและชาวต่างประเทศ เมื่อบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า สมบูรณ์พูนสุข ประกอบกับความสนพระทัยในทาง วรรณคดีเป็นพิเศษของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วรรณคดีก็เจริญอย่างยิ่งขึ้นไปด้วย ๒. ความตื่นตัวของคนไทย ในรัชกาลนี้ชาวยุโรปเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์เป็นอันมาก คนไทยจึงตื่นตัว หันมาสนใจศึกษาภาษาและศาสนาของตนเอง กวีและวรรณคดีที่ส าคัญก่อนยุคทองแห่งวรรณคดี สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ๑. กาพย์มหาชาติ กวีและวรรณคดีที่ส าคัญในยุคทองแห่งวรรณคดี พระมหาราชครู ๒. เสือโคค าฉันท์ ๓. สมุทรโฆษค าฉันท์ (ตอนต้น) สมเด็จพระนารายมหาราช ๔. สมุทรโฆษค าฉันท์ (ต่อจากของพระมหาราชครู) ๖. โคลงทศรถสอนพระราม ๕. โคลงพาลีสอนน้อง ๗. โคลงราชสวัสดิ์ พระโหราธิบดี ๘. จินดามณี ๙. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา (ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ) ศรีปราชญ์ ๑๐. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ๑๑. โคลงเบ็ดเตล็ด พระศรีมโหสถ ๑๒. กาพย์ห่อโคลง ๑๔. โคลงอักษรสาม ๑๓. โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ๑๕. โคลงนิราศนครสวรรค์ ขุนเทพกวี ๑๖. ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง กวีไม่ปรากฏนาม ๑๗. ราชาพิลาปค าฉันท์


ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และวรรณคดี เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ พ.ศ. ความเคลื่อนไหวทางวรรณคดี สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมขึ้นครองราชย์ ๒๑๖๓ สร้างมณฑปพระพุทธบาท สระบุรี ๒๑๖๗ ๒๑๗๐ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงพระราชนิพนธ์ กาพย์มหาชาติ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเสด็จสวรรคต ๒๑๗๑ -สมเด็จพระเจ้าปราสาททองขึ้นครองราชย์ -พระเจ้าลูกเธอฝ่ายในสิ้นพระชนม์ พบเนื้อใน พระศพเผาไม่ไหม้ เชื่อกันว่าต้องคุณ มีการ ท าลายต าราไสยศาสตร์เพราะเกรงต้องโทษ ๒๑๗๓ วรรณคดีส าคัญ ๆ อาจถูกท าลายไปพร้อมกับ ต าราไสยศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าปราสาททองเสด็จสวรรคต ๒๑๙๘ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชขึ้นครองราชย์ ๒๑๙๙ พระมหาราชครูแต่งเสือโคค าฉันท์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีพระชนมายุครบ เบญจเพส ๒๑๙๙ -พระมหาราชครูแต่งสมุทรโฆษค าฉันท์ (ตอนต้น) -สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงพระราช นิพนธ์สมุทรโฆษค าฉันท์ ต่อจาก พระมหาราชครู -สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงพระราช นิพนธ์ โคลงพาลีสอนน้อง โคลงทศรถสอน พระราม โคลงราชสวัสดิ์


เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ พ.ศ. ความเคลื่อนไหวทางวรรณคดี ๒๒๐๐ ภิกษุชาวเชียงใหม่แต่งปัญญาสชาดก สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จประพาสเมือง นครสวรรค์ทางชลมารค ๒๒๐๑ พระศรีมโหสถแต่งโคลงนิราศนครสวรรค์ ได้ช้างเผือกมาจากเมืองนครสวรรค พระราชทาน นามว่า เจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์ ๒๒๐๓ ขุนเทพกวีแต่งฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง (สันนิษฐาน) รบชนะเชียงใหม่ได้พระพุทธสิหิงค์ลงมา ประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยา ๒๒๐๕ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างเมือง ลพบุรีขึ้นใหม่ ๒๒๐๘- ๒๒๐๙ พระศรีมโหสถแต่งโคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช ฟอลคอน ฝรั่งชาติกรีก เข้ามาเมืองไทย ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ๒๒๑๘ คณะสอนศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอน หนังสือแก่เด็กไทย พระโหราธิบดีแต่งจินดามณี สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้รวบรวม จดหมายเหตุต่าง ๆ รวมถึงพระราชพงศาวดาร ของพระโหราธิบดี ๒๒๒๓ -พระโหราธิบดีแต่งพระราชพงศาวดาร กรุงศรีอยุธยา -ศรีปราชญ์แต่งอนิรุทธ์ค าฉันท์และโคลง เบ็ดเตล็ด -พระศรีมโหสถแต่งกาพย์ห่อโคลงและโคลง อักษรสาม ๑. กาพย์มหาชาติ ผู้แต่ง สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทรงพระนามเดิมว่า พระศรีศิลป์ เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถ ก่อนได้ราชสมบัติผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ๘ พรรษาได้สมณศักดิ์เป็นพระพิมลธรรม มีสมัครพรรคพวกมาก แย่งราช สมบัติแล้วปลงพระชนม์เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ ซึ่งเป็นพระอนุชาต่างพระมารดาได้ปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ. ๒๑๖๓ อยู่ในราชสมบัติ ๘ ปี สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมใฝ่พระทัยในพระพุทธศาสนา รับสั่งให้ค้นหารอยพระพุทธบาทจนพบที่ไหล่เขา เขตเมืองสระบุรี และโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างมณฑปสวมรอยพระพุทธบาทนั้นไว้ นอกจากนี้ยังได้ทรงพระราชนิพนธ์ กาพย์มหาชาติ ประวัติ พระราชพงศาวดารยืนยันว่าสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงพระราชนิพนธ์ “มหาชาติค าหลวง” เมื่อ จ.ศ. ๙๘๙ พ.ศ. ๒๑๗๐ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาด ารงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า หมายถึง กาพย์ มหาชาติ แต่ต้นฉบับที่เหลือตกทอดมาไม่ครบทุกกัณฑ์ พระราชนิพนธ์ที่เหลืออยู่ตามพระมติของสมเด็จฯกรม พระยาด ารงราชานุภาพ ได้แก่ กัณฑ์กุมารบรรพ มีต้นฉบับเป็นตัวเขียน ณ วันแรม ๑๐ ค่ า เดือน ๗ พ.ศ. ๒๓๒๕ ก่อนพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงประกอบพิธีปราบดาภิเษก นอกจากนี้ยังมี สักบรรพอีกกัณฑ์หนึ่งซึ่งอาจเป็นพระราชนิพนธ์ที่เหลืออยู่ของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเช่นกัน


ท านองแต่ง แต่งเป็นร่ายยาว มีคาถาบาลีแทรกเป็นตอน ๆ เพื่อให้ฟังเรื่องติดต่อกันได้สะดวก ความมุ่งหมาย ใช้เทศน์ให้อุบาสกอุบาสิกาฟัง เรื่องย่อ เช่นเดียวกับมหาชาติค าหลวง ตัวอย่างข้อความบางตอน พระเวสสันดรทรงร าพึงในพระทัยตอนชูชกเฆี่ยนตีสองกุมาร โอ้แสนสงสารพระลูกเอย กระไรเลยอนาถา ทั้งพราหมณ์เฒ่าก็ไม่เมตตาตีกระหน่ า นี่เนื้อแกล้งให้เราชอก ช้ าแตกฉานในมกุฏทานบารมี เหมือนชายชาติเสื่อมศรีริษยา มาตีกั้นสกัดปลาที่หน้าไซ บรรดาจะได้พระ โพธิญาณ เพราะพระปิยบุตรทานบารมี ทชีไม่ช่วยชูถนอม ข้อความตอนนี้กว่าถึงส านวน ตีปลาหน้าไซ เช่นเดียวกับสุภาษิตพระร่วง กาพย์มหาชาติมีท านองแต่งต่างกับมหาชาติค าหลวง คือ ใช้ค าประพันธ์ประเภทร่ายยาวอย่างเดียว และ วิธีแปลจากภาษาบาลีแตกต่างกันคือ มหาชาติค าหลวงยกคาถาบาลีมาวรรคหนึ่งแล้วแปลเป็นภาษาไทยวรรคหนึ่ง สลับกันไป แต่กาพย์มหาชาติยกคาถาไว้ตอนหนึ่งแล้วจึงแปลเป็นภาษาไทยให้เนื้อความติดต่อกันยาว ๆ เพื่อฟัง เข้าใจได้สะดวกขึ้น ถ้อยค าส านวนที่ใช้เรียบเรียงกาพย์มหาชาติเป็นภาษาง่าย ๆ ไม่สู้มีศัพท์โบราณ แต่อย่างไรก็ ดี กาพย์มหาชาติยังมีเนื้อความยืดยาวเกินไป ไม่อาจเทศน์ให้จบภายใน ๑ วันได้ จึงเป็นการขัดกับความเชื่อ ของผู้ฟัง ซึ่งเชื่อว่าจะต้องฟังเทศน์มหาชาติให้จบใน ๑ วัน จึงจะได้อานิสงส์แรง เกิดทันศาสนาพระศรีอาริย์ เป็นเหตุให้กาพย์มหาชาติเสื่อมความนิยมไป ต่อมาจึงมีการแต่งมหาชาติส าหรับเทศน์ให้จบใน ๑ วันขึ้นใหม่อีก หลายส านวนตามที่เรียกกันว่า “มหาชาติกลอนเทศน์” ๒. เสือโคค าฉันท์ ผู้แต่ง พระมหาราชครู สันนิษฐานว่ามีเชื้อสายพราหมณ์เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรแด่สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช อาจด ารงต าแหน่งพระมหาราชครูฝ่ายลูกขุน ณ ศาลหลวง หรือ พระมหาราชครูพราหมณ์ปุโรหิต อย่างใดอย่างหนึ่ง มีบางท่านสันนิษฐานว่าเป็นคนเดียวกับพระโหราธิบดีชาวเมืองพิจิตร ผู้แต่งจินดามณี เนื่องจากได้เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงเรียกกันว่า “พระมหาราชครู” แต่ตามความจริง ต าแหน่งพระมหาราชครูกับโหราธิบดีเป็นคนละต าแหน่งดังปรากฏในกฎมณเฑียรบาล พระมหาราชครูที่แต่ง สมุทรโฆษค าฉันท์ตอนต้นและแต่งเสือโคค าฉันท์กับพระโหราธิบดีที่แต่งจินดามณี จึงน่าจะต่างคนกัน ประวัติ สันนิษฐานว่าแต่งก่อนสมุทรโฆษค าฉันท์ โดยน าเค้าเรื่องมาจากปัญญาสชาดก เรื่อง พหลคาวีชาดก ปัญญาสชาดกเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระประวัติของพระโพธิสัตว์ ภิกษุชาวเชียงใหม่แต่งไว้เป็นภาษาบาลี มี ๕๐ เรื่อง ประมาณ พ.ศ. ๒๒๐๐ ท านองแต่ง แต่งด้วยค าฉันท์และกาพย์ แต่มีจ านวนฉันท์และกาพย์น้อยชนิดกว่า สมุทรโฆษค าฉันท์ ตอนท้าย เป็นโคลงสี่สุภาพ ความมุ่งหมาย เพื่อสอนคติธรรม เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวสรรเสริญคุณเทวดา กษัตริย์ และพระรัตนตรัย แล้วด าเนินเรื่องว่า เสือแม่ลูกอ่อนและโค แม่ลูกอ่อนอาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง วันหนึ่งแม่เสือออกไปหาอาหาร ลูกโคสงสารจึงบอกแม่ให้นมแก่ลูกเสือ ลูกเสือและลูกโคจึงเริ่มรักกันอย่างพี่น้อง แม่เสือสาบานว่าจะไม่ท าร้ายโคแม่ลูก แต่แม่เสือไม่รักษาค าสัตย์กินแม่ โคเสีย ลูกเสือและลูกโคจึงช่วยกันประหารแม่เสือ แล้วชวนกันไปหากินจนพบพระฤๅษี พระฤๅษีเมตตาชุบให้เป็น คน ลูกเสือเป็นพี่ได้ชื่อว่า พหลวิชัย ลูกโคเป็นน้องชื่อ คาวี พระฤๅษีอวยพรและมอบพระขรรค์วิเศษให้ ทั้งสอง


จึงลาพระฤๅษีเดินทางไปเมืองมคธ พระคาวีได้ฆ่ายักษ์ที่คอยท าร้ายชาวเมืองนั้นตาย ได้นางสุรสุดาราชธิดาท้าว มคธ แต่พระคาวีถวายแก่พระพหลวิไชยแล้วเดินทางต่อไป ต่างฝ่ายต่างเสี่ยงบัวไว้องค์ละดอก เมื่อไปถึงเมืองร้าง แห่งหนึ่งพบกลองใหญ่ใบหนึ่งตีไม่ดัง ผ่าดูพบนางจันทรผู้มีผมหอม ธิดาท้าวมัททราชและนางแก้วเกสร แห่งเมือง รมยนคร ได้ทราบความจากนางว่านกอินทรีใหญ่คู่หนึ่งมากินชาวเมืองตลอดจนพระชนกชนนี นางรอดชีวิตได้ เพราะกลองใบนั้น พระคาวีปราบนกอินทรีด้วย พระขรรค์วิเศษและได้นางจันทรเป็นชายา วันหนึ่งนางจันทรลงสรงในแม่น้ า ใส่ผมหอมในผอบแล้วลอยน้ าไป ท้าวยศภูมิผู้ครองเมืองพัทธวิไสยเก็บ ได้หลงใหลผมหอมนั้นมาก นางทาสีอาสาไปน านางมาถวาย โดยออกอุบายลวงถามความลับเกี่ยวกับพระขรรค์ จากนางจันทร ครั้นทราบว่าพระคาวีทรงถอดพระชนม์ไว้ในพระขรรค์ จึงน าพระขรรค์ไปเผาไฟ พระคาวีสลบไป แล้วนางทาสีพานางจันทรไปถวายท้าวยศภูมิ แต่ไม่อาจเข้าใกล้นางได้เพราะนางร้อนดังไฟ ด้วยอ านาจความรัก ภักดีที่นางมีต่อพระคาวี เมื่อพระพหลวิไชยเห็นบัวอธิษฐานเหี่ยวลงเป็นลางร้ายจึงตามหาจนพบร่างพระคาวี และพบพระขรรค์ใน กองไฟ น ามาช าระล้างแล้ววางลงบนองค์พระคาวี พระคาวีฟื้นขึ้น แล้วพากันออกตามหานางจันทรจนถึงเมือง ท้าวยศภูมิ พระพหลวิไชยแปลงเป็นพระฤๅษีอาสาชุบท้าวยศภูมิให้เป็นหนุ่มแล้วฆ่าเสียเอาพระคาวีออกมาอ้าง แทนว่าชุบตัวเป็นหนุ่มได้ส าเร็จ พระคาวีได้อภิเษกกับนางจันทร และครองเมืองพัทธวิไสยสืบต่อมา ตัวอย่างข้อความบางตอน ลูกเสือลูกโคช่วยกันประหารแม่เสือ บัดนั้นลูกพยัคฆ์ ใส่กลท ารัก แม่เข้าไปหา เคล้าคลึงเคลียชม ตระบัดโกรธา แหงนกัดกรรฐา คอขาดบัดใจ นางจันทรกล่าวถึงความเป็นมาของนางแก่พระคาวี ตัวข้าพระเจ้า พระชนกเกิดเกล้า รักยิ่งชีวัน ชีวาตมองค์ สมเด็จจอมธรรม์ จึงไว้ในครรภ์ เภรีราชา เสือโคค าฉันท์เป็นหนังสือประเภทฉันท์เรื่องแรกที่จบสมบูรณ์ ชนิดของฉันท์ที่ใช้แต่งมีไม่มากและไม่ เคร่งครัดในแผนบังคับนัก นอกจากนี้มีกาพย์ชนิดต่าง ๆ แต่งปนอยู่ด้วย ถ้อยค าส านวนเข้าใจง่ายกว่าสมุทรโฆษ ค าฉันท์ เรื่องเสือโคค าฉันท์นี้ ได้ต้นเค้ามาจากปัญญาสชาดก แต่ไม่ได้กล่าวถึงการกลับชาติของบุคคลในเรื่อง อย่างชาดกทั่วไป เรื่องเสือโคค าฉันท์เป็นที่นิยมแพร่หลายในเวลาต่อมา กวีตอนปลายกรุงศรีอยุธยาน าไปแต่งเป็น บทละครนอกให้ชื่อว่าคาวี ในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บท ละครนอก เรื่องคาวี ตามเค้าเรื่องเสือโคค าฉันท์นี้ขึ้นอีก ชาดกเรื่องนี้ให้คติธรรมเกี่ยวกับการรักษาสัตย์ ๓. สมุทรโฆษค าฉันท์ ผู้แต่ง พระมหาราชครู สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส ประวัติ สมุทรโฆษค าฉันท์เกิดขึ้นโดยพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนารายมหาราช รับสั่งให้พระมหาราชครู แต่งขึ้นเพื่อใช้เล่นหนังใหญ่ ในคราวเฉลิมพระชนมพรรษาครบเบญจเพส แต่แต่งไม่จบ พระมหาราชครูถึงแก่ อนิจกรรมเสียก่อน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงพระราชนิพนธ์ต่อแต่ก็ไม่จบอีก เรื่องนี้จึงค้างอยู่ ต่อมากรม พระปรมานุชิตชิโนรสทรงนิพนธ์ต่อจนเสร็จ ท านองแต่ง แต่งด้วยฉันท์และกาพย์


ความมุ่งหมาย พระราชประสงค์เดิมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่รับสั่งให้พระมหาราชครูแต่ง สมุทรโฆษ ค าฉันท์เพื่อใช้เล่นหนังใหญ่ เมื่อครั้งฉลองพระชนมายุครบเบญจเพส การที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแต่ง เพราะทรงเสียดายที่หนังสือซึ่งเริ่มต้นแต่งได้ดีแล้วต้องค้างอยู่ ส่วนกรมพระปรมานุชิตชิโนรสแต่งให้จบก็เพราะ เหตุผลที่ว่า “โดยมุมานะหทัย อดสูดูไขษย กวีฤาแล้งแหล่งสยาม” เรื่องย่อ พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระสมุทรโฆษ โอรสท้าวพินทุทัตกับนางเทพธิดาแห่งเมืองพรหมบุรีมี พระชายาทรงพระนามว่า สุรสุดา พระสมุทรโฆษตรัสลาพระบิดาพระมารดาและพระชายาเสด็จประพาสป่าเพื่อ คล้องช้าง ขณะพระสมุทรโฆษประทับใต้ต้นโพธิ์ได้ตรัสสดุดีขอพรเทพารักษ์แล้วบรรทมหลับไป เทพารักษ์ทรง พระเมตตาพาอุ้มไปสมนางพินทุมดี พระราชธิดาท้าวสีหนรคุปต์กับนางกนกพดีแห่งรมยบุรี จนสว่างจึงทรงน า กลับไปไว้ที่เดิม พระสมุทรโฆษกับนางพินทุมดีครวญถึงกัน พอท้าวสีหนรคุปต์ทรงประกาศพิธีสยุมพรนางพินทุมดี พระสมุทรโฆษจึงเสด็จมายังเมืองรมยบุรี พระสมุทรโฆษทรงประลองศรมีชัยในพิธีสยุมพรได้อภิเษกกับนางพินทุ มดี วันหนึ่งพระสมุทรโฆษเสด็จประพาสสวน ทรงเมตตาพยาบาลรณาภิมุขซึ่งถูกรุณบุตรพิทยาธรอีกตนหนึ่ง ท าร้ายบาดเจ็บเพราะแย่งนางนารีผลกันและถูกชิงนางไป รณาภิมุขถวายพระขรรค์วิเศษเป็นการตอบแทน พระสมุทรโฆษทรงใช้พระขรรค์นั้นพานางพินทุมดีเสด็จประพาสป่าหิมพานต์ ต่อมาพิทยาธรอีกตนหนึ่งลัก พระ ขรรค์ไป พระสมุทรโฆษทรงพานางพินทุมดีเสด็จพระด าเนินโดยพระบาทกลับเมืองทรงข้ามแม่น้ าใหญ่โดยเกาะ ขอนไม้ไปและเกิดพลัดกันกลางแม่น้ า นางพินทุมดีทรงขึ้นฝั่งได้ นางเมขลาและพระอินทร์ช่วยให้ พระสมุทรโฆษ ขึ้นฝั่ง และบังคับให้พิทยาธรน าพระขรรค์วิเศษมาคืน พระสมุทรทรงตามหานางพินทุมดีจนพบ ทั้งสองพระองค์ได้ เสด็จกลับเมืองและได้รับเวนราชสมบัติ ตัวอย่างข้อความบางตอน ประวัติการแต่งต่อ โดยมุมานะหฤทัย อดสูดูไขษย กวีฤาแล้งแหล่งสยาม สมุทรโฆษค าฉันท์ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสร ในรัชกาลที่๖ว่าเป็นยอดของค าประพันธ์ประเภท ฉันท์นอกจากความไพเราะและลีลาอันเหมาะสมของฉันท์แต่ละบทแล้วยังประกอบด้วยรสวรรณคดีครบถ้วน สมุทรโฆษค าฉันท์มีประวัติความเป็นมาน่าอัศจรรย์ ต้องใช้กวีต่อเนื่องถึง๓ท่าน ๓แผ่นดินตั้งแต่กรุงศรี อยุธยามาเสร็จลงในสมัยรัตนโกสินทร์ กวีทั้งสามไม่ได้แต่งพร้อมกันแต่สามารถรักษาระดับรสกวีนิพนธ์ไว้ได้เท่า เทียมกันและกลมกลืนกันสนิท ๔. โคลงพาลีสอนน้อง ผู้แต่ง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ท านองแต่ง เป็นโคลงสี่สุภาพ ความมุ่งหมาย เพื่อใช้เรื่องรามเกียรติ์เปรียบเทียบในการอบรมสั่งสอนข้าราชการ เรื่องย่อ เริ่มเรื่องว่าพาลีเจ้าเมืองขีดขิน เมื่อใกล้จะถึงแก่ความตายด้วยศรของพระราม ก็เกิดส านึกผิดใน ความประพฤติที่แล้วมาของตน ได้เรียกสุครีพน้องร่วมมารดาและองคตลูกชายมาสั่งสอนข้อปฏิบัติตนในการที่จะ รับราชการอยู่กับพระราม


ตัวอย่างข้อความบางตอน ไม่ยักยอกของหลวง หนึ่งของกองโกศไว้ ในคลัง อย่าคิดปิดแสวงหวัง อาจเอื้อม เอาออกนอกคลังรัง แรงโทษ อย่าได้มีใจเงื้อม เงื่อนร้ายสลายคุณ โคลงพาลีสอนน้อง แสดงค่านิยมของสังคมไทยในการรับราชการในเวลานั้น และแสดงอิทธิพลเรื่อง รามเกียรติ์ที่มีต่อสังคมไทยอีกด้วย ๕. โคลงทศรถสอนพระราม ผู้แต่ง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ท านองแต่ง เป็นโคลงสี่สุภาพ ความมุ่งหมาย เพื่อแสดงพระราชจริยวัตรของผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวถึง ท้าวทศรถตรัสเรียกพระรามมาพระราชทานโอวาท เมื่อจะทรงมอบบ้านเมืองให้ครอง มี สาระส าคัญเกี่ยวกับความเมตตากรุณา อกุศลมูล ได้แก่โทสะ โลภะ โมหะ ตลอดจนอหิงสาและขันติ ตัวอย่างข้อความบางตอน อกุศลมูล ครองภพลบโลกล้ า ศุภผล ระงับดับกังวลกล โกรธเกรี้ยว โลภอวิชชาผจญ มนทโมหะ ก าจัดสลัดสละเลี้ยว อย่าได้ประมูลมา โคลงเรื่องนี้แสดงให้เห็นความนิยมเรื่องรามเกียรติ์เหมือนโคลงพาลีสอนน้อง ๖. โคลงราชสวัสดิ์ ผู้แต่ง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ท านองแต่ง แต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ มีทั้งหมด ๖๓ บท ความมุ่งหมาย เพื่อใช้เป็นหลักปฎิบัติตนของข้าราชการผู้ใหญ่ เรื่องย่อ มีใจความสอนข้อประพฤติปฏิบัติแก่ข้าราชการ ตัวอย่างข้อความบางตอน ไม่อาจเอื้อมนั่งนอนบนเพราะราชอาสน์และพระแท่นประทับ เตียงตั่งตั้งไว้อย่า เถลิงกาย แท่งทองผ่องพรรณราย เพริศแพร้ว ขององค์พงศ์สุทธสาย กษิรโลก อย่านั่งจังไรแล้ว เสนียดร้ายรังแสดง โคลงราชสวัสดิ์มีเนื้อความคล้ายกับโคลงพาลีสอนน้อง แต่ละเอียดพิสดารกว่า มีส่วนดีในด้านคติธรรม สอนความประพฤติ และแสดงให้เห็นความนิยมรับราชการของสังคมไทยซึ่งมีมาแต่โบราณ โคลงพาลีสอนน้อง โคลงทศรถสอนพระราม และโคลงราชสวัสดิ์ ใช้ค าศัพท์และโวหารใหม่กว่า สมุทรโฆษค าฉันท์และอนิรุทธ์ค าฉันท์ ซึ่งแต่งในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีผู้สันนิษฐานว่าโคลงสุภาษิต


สามเรื่องนี้ไม่ใช่ พระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่น่าจะเป็นพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวบรมโกศ เพราะใช้ถ้อยค าภาษาและลีลาการประพันธ์ คล้ายเรื่องโคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก นอกจากนี้ยังมีข้อสนับสนุนที่ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีพระราชนิยมกวดขันการศึกษาอบรมแก่ กุลบุตรที่จะเข้ารับราชการเป็นพิเศษ ๗.จินดามณี ผู้แต่ง พระโหราธิบดี แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๒๑๕ พระโหราธิบดี รับราชการในหน้าที่โหรหลวงอยู่ที่กรุงศรีอยุธยารัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต านานศรีปราชญ์ที่พระยาปริยัติธรรมธาดาแต่ง กล่าวว่าพระโหราธิบดีเป็นบิดาของศรีปราชญ์ สันนิษฐานว่าอาจ ถึงแก่กรรมก่อน พ.ศ. ๒๒๒๓ ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชรับสั่งให้รวบรวมช าระจดมายเหตุ ซึ่งท่านแต่ง ไว้เข้ากับฉบับอื่นๆ เรียกชื่อต่อมาว่า พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ ข้อความในหนังสือจินดามณี กล่าวถึงพระโหราธิบดีว่าเดิมอยู่สุโขทัย อีกตอนหนึ่งกล่าวว่าเป็นชาวโอฆบุรี (พิจิตร) สันนิษฐานว่าเดิมอยู่สุโขทัยแล้วย้ายมาอยู่พิจิตร ประวัติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ ทรงอธิบายไว้ในบันทึกสมาคมวรรณคดีปีที่ ๑ เล่ม ๕ พ.ศ. ๒๔๗๕ มีใจความว่า ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พวกบาทหลวงฝรั่งเศสก าลังเข้ามาเผย แผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่กรุงศรีอยุธยา และตั้งโรงเรียนสอนหนังสือแก่เด็กไทยด้วย เหตุการณ์ ดังกล่าวเป็นเหตุให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงพระราชดาริที่จะบ ารุงการศึกษาส าหรับเด็กไทยให้รุ่งเรืองขึ้น เพื่อมิให้คนไทยหันไปเข้ารีตและนิยมอย่างฝรั่ง จึงมีรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งจินดามณีเพื่อคนไทยจะได้มี แบบเรียนหนังสือไทยของตนเองและรู้วิชาการอย่างไทย ๆ หนังสือจินดามณีเดิมคงมี ๕ เล่ม ดังปรากฏ ข้อความในกลบทศิริวิบุลกิตติ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ว่า มีค าไทย ใส่ประกอบ สอบต ารา มหาคัมภีร์ อสีติ ธาตุ ราชฤกษ์ เบิกพยากรณ์ ผ่อนเข้าหมด จดหาผล ชนหญิงชาย หมายเป็นแบบ แอบเข้าอรรถ จัดเข้าสิ้น จินดามณี มีเสร็จสุด สมุดเล่มหนึ่ง ถึงเล่มสอง ต้องเล่มสาม ตามเล่มสี่ มีเล่มห้า ท านองแต่ง แต่งเป็นร้อยแก้ว บางตอนเป็นค าประพันธ์ประเภทต่างๆ เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวประณามพระรัตนตรัย และพระสรัสวดี แล้วกล่าวถึงอักษรศัพท์ ค านมัสการ ค าที่ใช้ ส ศ ษ ค าที่ใช้ไม้ม้วน ไม้มลาย ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ อักษรสามหมู่ การผันอักษร เครื่องหมายต่าง ๆ เช่น วรรณยุกต์ ทัณฑฆาต นฤคหิต ตอนต่อไปอธิบายวิธีแต่งค าประพันธ์พร้อมด้วยตัวอย่างจากหนังสืออื่นๆ และ ที่แต่งขึ้นเอง ตัวอย่างจากหนังสือต่าง ๆ เช่น โคลงแช่งน้ าพระพัฒน์ มหาชาติค าหลวง ลิลิตพระลอ ค าพากย์ เรื่องรามเกียรติ์ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงหนังสือเรื่องอื่น เช่น ค าสวรสมุทร (ก าสรวลศรีปราชญ์) สมุทรโฆษ ราชาพิลาป และบอกชื่อและประวัติผู้แต่ง ตัวอย่างข้อความบางตอน บอกชื่อและประวัติผู้แต่ง จินดามุณี พระโหราธิบดี เดอมอยู่เมืองสุโขทัย แต่งถวายแต่ครั้งสมเด็จพระนารายณ์เป็นเจ้าลพบุรีย จินดามณีเป็นหนังสือสอนอ่านและต าราแต่งค าประพันธ์ภาษาไทยเล่มแรก ส านวนภาษาที่ใช้เข้าใจได้ ยากมีค าอธิบายเพียงสั้น ๆ แต่ก็นับว่ามีความส าคัญต่อการศึกษาภาษาไทยเป็นเวลาช้านาน ได้ใช้เป็นหนังสือเรียน มาจนถึงต้นรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ถึงแม้ต่อมาจะได้มีหนังสือเรียนภาษาไทยอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น จินดามณีสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ประถมกกา จินดามณีของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวง วงศาธิ


ราชสนิท ปฐมมาลาในรัชกาลที่ ๓ และมูลบทบรรพกิจในรัชกาลที่ ๕ ล้วนได้แนวคิดในการแต่งจากจินดามณี ของพระโหราธิบดีทั้งสิ้น จินดามณีเป็นหลักฐานเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางอักษรสตร์และประวัติวรรณคดีของไทย จินดามณีบาง ฉบับกล่าวถึงพ่อขุนรามค าแหงมหาราชทรงประดิษฐ์อักษรไทยเมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๖ การแต่งจินดามณี เมื่อ พ.ศ. ๒๒๑๕ ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รูปวรรณยุกต์ตรีกับจัตวาและค าประพันธ์ประเภทกลอน ยังไม่ ปรากฏในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นอกจากนี้ยังยืนยันสมัยที่แต่งวรรณคดีส าคัญ คือ ลิลิตพระลอ และก าสรวลศรีปราชญ์ว่าน่าจะแต่งก่อนสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และช่วยรักษาวรรณคดีสมัยอยุธยาบาง เรื่องซึ่งต้นฉบับสูญหายไปแล้ว เช่น ค าพากย์เรื่องรามเกียรติ์ ๘.พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา (ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ) ผู้แต่ง พระโหราธิบดี ประวัติ พระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์) เมื่อครั้งเป็นหลวงประเสริฐอักษรนิติ ได้ต้นฉบับพงศาวดาร กรุงศรีอยุธยา เป็นสมุดไทย ตัวเขียนกล่าวถึงสมัยอยุธยา มาจากบ้านราษฎรแห่งหนึ่งที่จังวัดเพชรบุรี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ ได้น าขึ้นถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ จึงทรงเรียกพงศาวดารนี้ว่า พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ไปพบ พงศาวดารฉบับนี้เรียบเรียง เมื่อ จ.ศ. ๑๐๔๒ ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มาราช ท านองแต่ง แต่งเป็นร้อยแก้ว ล าดับศักราชและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายบันทึกปูมโหร ความมุ่งมาย เรียบเรียงโดยพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อรวบรวมจดหมายเหตุของ พระโหราธิบดี จดหมายเหตุในที่ต่าง ๆ และพระราชพงศาวดารเข้าด้วยกันตามล าดับศักราช เรื่องย่อ เริ่มต้นเป็นบานแผนก บอกปีที่เรียบเรียง ผู้รับสั่งให้เรียบเรียง ตลอดจนความมุ่งหมายแล้วกล่าวถึง เหตุการณ์ตั้งแต่ จุลศักราช ๖๘๖ ชวดศก แรกสถาปนาพระพุทธเจ้าพแนงเชิง ซึ่งเป็นปีที่สร้างพระพุทธรูป วัดพ นัญเชิง การสร้างกรุงศรีอยุธยา จนถึง จุลศักราช ๙๖๖ มะโรงศก วัน (๕ ฯ๖ ๒ ค่ า) เสด็จพยุห ยาตราจาก ป่าโมกโดยทางชลมารค และฟันไม้ข่มนามต าบลเอกราช ตั้งทัพไชยต าบลพระหล่อ วันนั้นเป็นวันอนุ แลเป็นวัน สงกรานต์ พระเสาร์ไปราศีธนูเป็นองศาหนึ่ง ครั้งนั้นครั้นเสด็จพระราชด าเนินถึงเมืองหลวงต าบลทุ่งดอนแก้ว ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพไปตีพม่า และสวรรคตที่เมืองห้างหลวง ตัวอย่างข้อความบางตอน การแต่งหนังสือมหาชาติค าหลวง ในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ศักราช ๘๔๔ ขานศก ท่านให้เล่นการมหรสพ ๑๕ วัน ฉลองพระศรีรัตนมหาธาตุ แล้วจึง พระ ราชนิพนธ์พระมหาชาติค าหลวงจบบริบูรณ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า พระราชพงศาวดารชุดนี้ คงจะมี ๒ เล่ม แต่ฉบับที่ได้มานี้จบเพียงรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ อักษรนิติ เป็นหลักฐานส าคัญทางประวัติศาสตร์ ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเหตุการณ์สมัยกรุงศรีอยุธยามากกว่า พงศาวดารฉบับอื่น เช่นเดียวกับศิลาจารึกของพ่อขุนรามค าแหงมหาราชให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเหตุการณ์สมัย กรุงสุโขทัย


๙. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ผู้แต่ง ศรีปราชญ์ ต านานศรีปราชญ์ ซึ่งพระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์) แต่งไว้กล่าวว่าศรีปราชญ์เป็นบุตร พระโหราธิบดี ข้าราชการต าแหน่งโหรในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ศรีปราชญ์ได้ถวายตัวเข้ารับราชการใน รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาศรีปราชญ์มีเรื่องวิวาทกับนางสนมเป็นการผิดกฎมนเทียรบาล แต่เนื่อง ด้วยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับค าไว้กับบิดาของศรีปราชญ์ว่าจะไม่ลงโทษประหารศรีปราชญ์จึงเพียงแต่ ถูกเนรเทศไปอยู่นครศรีธรรมราช ที่นครศรีธรรมราชนี้ศรีปราชญ์มีเรื่องชู้สาวกับภรรยาเจ้าเมืองจึงถูกเจ้าเมืองประหารชีวิต เมื่อสมเด็จ พระนารายณ์มหาราชคลายพระพิโรธ โปรดให้หาศรีปราชญ์เข้าไปกรุงศรีอยุธยา ทรงทราบว่าเจ้าเมือง นครศรีธรรมราชประหารชีวิตศรีปราชญ์โดยพลการ จึงมีรับสั่งให้ส าเร็จโทษเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช แต่อย่างไรก็ดีชีวประวัติของศรีปราชญ์ยังไม่เป็นที่ยุติ เพราะไม่ตรงกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ จาก หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏว่าเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชคนใดถูกลงพระราชอาญาประหารชีวิตแต่ใน รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีการตั้งพระยารามเดโชไปเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช แทนเจ้าเมืองคนเดิม ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมประมาณ พ.ศ. ๒๒๒๖ มีบางท่านให้ความเห็นว่า ศรีปราชญ์เป็นราชทินนาม อาจมีศรีปราชญ์ หลายคนก็ได้ ศรีปราชญ์ที่แต่งโคลงก าสรวลเป็นคนละคนกับที่แต่งอนิรุทธ์ค าฉันท์ หนังสือค าให้การของชาวกรุงเก่า และค าให้การของขุนหลวงหาวัด (สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร) กล่าวว่าศรีปราชญ์เกิดและเสียชีวิตในรัชกาลสมเด็จ พระพุทธเจ้าเสือ ประวัติ การที่ศรีปราชญ์แต่งอนิรุทธ์ค าฉันท์ มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันมาก บางท่านว่าแต่งเพื่อแข่งขันกับสมุทรโฆษ ค าฉันท์ บางท่านว่าเพื่อพิสูจน์ความสามารถในการแต่งฉันท์ เพราะถูกสบประมาทว่าแต่งได้แต่โคลง ท านองแต่ง แต่งด้วยฉันท์ และกาพย์ นอกจากนี้ยังมีร่ายสุภาพแทรกอยู่ด้วย ความมุ่งหมาย แต่งด้วยอารมณ์กวี และเป็นไปตามความนิยมที่น าเรื่องเกี่ยวกับศาสนา มาแต่งเป็นค าประพันธ์ เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวถึงพระนารายณ์อวตารเป็นพระกฤษณะแห่งเมืองทวาราวดี พระกฤษณะมีพระนัดดา คือ พระอนิรุทธ์ ซึ่งเชี่ยวชาญในการรบมากและมีสิริรูปงดงาม วันหนึ่งพระอนิรุทธ์ทูลลาพระอัยกายกกองทัพไปล่าสัตว์ ได้ประทับแรมใต้ต้นไทรใหญ่ ก่อนบรรทมได้กล่าวสดุดีพระไทรเทพารักษ์ขอให้ช่วยปกป้องภัยอันตราย พระไทร เมตตาร่ายมนต์สะกดพาไปอุ้มสมนางอุษาธิดาท้าวพานาสูรแห่งโสนินคร พอใกล้รุ่ง พระไทรพาพระอนิรุทธ์ไปไว้ใน ป่าดังเดิม ครั้นตื่นบรรทมพระอนิรุทธ์เศร้าโศกพระทัยแล้วยกทัพกลับเมือง นางอุษาให้นางพิจิตรเลขาพระพี่เลี้ยง วาดภาพเทพและกษัตริย์ทั่วสามภพ พอถึงรูปพระอนิรุทธ์นางก็จ าได้ว่าคือองค์ที่เสด็จมาหานาง พระพี่เลี้ยงจึงเหาะ มาสะกดพาพระอนิรุทธ์น าไปยังโสนินคร ความทราบถึงท้าว พานาสูรผู้บิดาของนาง จึงสั่งให้ทหารมาล้อมจับ พระอนิรุทธ์และแผลงศรมัดพระอนิรุทธ์ไว้ ขณะนั้น พระนารทฤๅษีพระสหายของพระกฤษณะเหาะผ่านมาพบ จึง น าความไปแจ้งพระกฤษณะ พระกฤษณะยกกองทัพมาปราบ ท้าวพานาสูรไปทูลขอให้พระอิศวรเสด็จมาช่วยทัพ หน้าของพระอิศวรแพ้แก่พระกฤษณะ พระกฤษณะจะประหารแต่อากาศภาคห้ามไว้เกรงโลกจะพินาศ ตอนหนึ่ง พระอิศวรจะผลาญศัตรูด้วย พระเนตรที่สาม ฤๅษีและวิทยาธรห้ามไว้ เกรงโลกจะเป็นอันตราย พระอิศวรทรง ถอนทัพกลับ ท้าวพานาสูรเกิดขัตติยมานะออกรบเองเกือบถูกพระกฤษณะประหาร พระศิวะขอชีวิตไว้ พระกฤษณะตัดแขนหนึ่งพันแขนของท้าวพานาสูรออกเหลือเพียงสองแขน และให้เป็นนายทวาร พระอนิรุทธ์และ นางอุษาได้อยู่ร่วมกันเป็นสุขต่อมา


ตัวอย่างข้อความบางตอน นางอุษาเห็นรูปพระอนิรุทธ์ที่นางพิจิตรเลขาพระพี่เลี้ยงวาดถวาย จึงวาดนแน่งโฉม อนิรุทธราชา นางเอาขดานมา บันทับทรวงก็ไห้โหย อ้านี้และรูปท้าว อันมาชมมาชายโชย จ านองกระอืดโอย ทุกขทรวงรลวงกาม ศรีปราชญ์ได้เค้าเรื่องในการแต่งอนิรุทธ์ค าฉันท์มาจากคัมภีร์วิษณุปุราณะ หรือเรื่องหริวงศ์ ซึ่งเป็น ภาคผนวกของมหากาพย์ภารตะ ทั้งสองเรื่องต่างเป็นคติฝ่ายพราหมณ์ แตกต่างจากสมุทรโฆษค าฉันท์ซึ่งเป็นเรื่อง ในชาดกพุทธศาสนา แต่ตอนต้นด าเนินเรื่องคล้ายสมุทรโฆษค าฉันท์ คือ ตอนลานาง ล่าสัตว์ เทวดาอุ้มสม และพระ พี่เลี้ยงวาดรูปเทพและกษัตริย์ และมีบางตอนเลียนแบบลิลิตพระลอ เช่น บทชมโฉมพระอนิรุทธ์ อนิรุทธ์ค าฉันท์ พรรณนาความคล้ายคลึงกันหลาย ๆ แห่ง ลีลาการแต่งและการด าเนินเรื่องรวดเร็วแสดง ลักษณะความเป็นผู้มีอารมณ์ร้อนของผู้แต่ง อนิรุทธ์ค าฉันท์ของศรีปราชญ์มีล าดับเรื่องผิดแปลกออกไปจากเรื่องอื่น ๆ คือ ไม่มีประณามบท (บทไหว้ครู) ในตอนต้น แต่ไปขอพรให้ตนเองในตอนท้าย และยังได้ใช้ร่ายสุภาพแทรกในฉันท์เรื่องนี้ด้วยนับว่า แตกต่างกับวรรณคดีที่แต่งเป็นฉันท์เรื่องอื่น ๆ แสดงว่าศรีปราชญ์เป็นกวีที่มีความคิดอิสระ แต่อย่างไรก็ดีคืออนิรุทธ์ค าฉันท์ ก็ได้รับยกย่องว่าแต่งดี มีรสวรรณคดีหลายหลาก โวหารค่อนข้างโลดโผน ลีลาฉับไวเป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงน าเค้าเรื่องนี้มาทรง พระราชนิพนธ์เป็นบทละครเรื่องอุณรุท ๑๐. โคลงเบ็ดเตล็ด ผู้แต่ง ศรีปราชญ์ ประวัติ โคลงเบ็ดเตล็ดของศรีปราชญ์มีอยู่ในโคลงกวีโบราณ ซึ่งพระยาตรังคภูมิบาลในรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุง รัตนโกสินทร์รวบรวมไว้และมีปรากฏในต านานศรีปราชญ์ของพระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์) ท านองแต่ง เป็นโคลงสี่สุภาพ ตัวอย่างโคลงบางบทของศรีปราชญ์ ตอบโต้มหาราชเชียงใหม่ เกี่ยวกับต าแหน่งที่ได้รับพระราชทาน รังศรีพระเจ้าฮื่อ ปางใด (มหาราชเชียงใหม่) ฮือเมื่อพระเสด็จไป ป่าแก้ว (ศรีปราชญ์) รังศรีบ่สดใส สักหยาด (มหาราชเชียงใหม่) ด าแต่นอกในแผ้ว ผ่องเนื้อนพคุณ (ศรีปราชญ์) ประชันโคลงกับมหาราชเชียงใหม่ หน้าพระที่นั่ง เรียมไห้ชลเนตรถ้วม ถึงพรหม พาหมู่สัตว์จ่อมจม ชีพม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงแฮ อักนิฐมหาพรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง (ศรีปราชญ์)


ตอบโต้นายประตูเกี่ยวกับแหวนพระราชทาน แหวนนี้ท่านได้แต่ ใดมา (นายประตู) เจ้าพิภพโลกา ท่านให้ (ศรีปราชญ์) ท าชอบสิ่งใดนา วานบอก (นายประตู) เราถวายกาพย์โคลงไท้ ท่านให้รางวัล (ศรีปราชญ์) ตอบโต้พระสนม หะหายกระต่ายเต้น ชมแข สูงส่งสุดตาแล สู่ฟ้า ระดูฤดีแด สัตว์สู่ กันนา อย่าว่าเราเจ้าข้า อยู่พื้นเดียวกัน (ศรีปราชญ์) โคลงอธิษฐาน ศรีปราชญ์กล่าวเมื่อถูกประหารที่นครศรีธรรมราช ธรณีภพนี้เพ่ง ทิพญาณ หนึ่งรา เราก็ลูกอาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง โคลงต่าง ๆ ที่ยกมาพอเป็นตัวอย่าง ส่วนมากศรีปราชญ์แต่งขึ้นในทันทีทันใด ท านองกลอนสดแต่มีคารม กล้า คมคาย สมควรแก่ความเป็นปฏิภาณกวีในยุคทองแห่งวรรณคดี ๑๑. กาพย์ห่อโคลง ผู้แต่ง พระศรีมโหสถ รับราชการในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปรากฏในบานแผนกโคลงนิราศนครสวรรค์ ฉบับสมุด ไทยในหอสมุดแห่งชาติว่า เดิมชื่อ เรื่อง เป็นบุตรพระครูมเหธร นอกจากกาพย์ห่อโคลง พระศรีมโหสถยังแต่งโคลงเฉลิมพระ เกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โคลงอักษรสาม และโคลงนิราศนครสวรรค์ ประวัติวิธีแต่งกาพย์ห่อโคลงปรากฏอยู่ในหนังสือจินดามณี แต่ไม่อาจทราบได้ว่าผู้ใดได้แต่งกาพย์ห่อโคลงเป็นเรื่องราวไว้ ก่อนหน้านั้นบ้าง ท านองแต่ง แต่งด้วยกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพสลับกัน ข้อความในกาพย์และโคลงคู่หนึ่ง ๆ ใกล้เคียงกัน ความมุ่งหมาย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า พระศรีมโหสถแต่งกาพย์ห่อ โคลงขึ้นในงานสมโภชช้างเผือกในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เรื่องย่อ กล่าวถึงชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี การรื่นเริงของชาวอยุธยา เมื่อมีมหรสพหนุ่มสาวพากัน แต่งตัวสวยงามออกเที่ยวเตร่และเกี้ยวพาราสีกัน ตัวอย่างข้อความบางตอน ค าฝ่ายชาย โต้ตอบฝ่ายหญิง เรียมฤๅคือบันทัด ช่างชาญดัดขัดเกลาขยัน ทอดเขียนเรียนพระธรรม ใช่สันเคียวเบี้ยวบิดงอ ใจเรียมเทียมดุจด้วย บันทัด คนช่างเกลาเหลาขัด รอบรู้ ทอดเขียนรเมียนอัถ ธรรเมศ ใช่อันสันเคียวคู้ คดค้อมคมหนา


ถ้อยค าส านวนที่ใช้แต่งกาพย์ห่อโคลง เข้าใจง่าย มีความเปรียบเทียบลึกซึ้งคมคาย เป็นค าเกี้ยวพาราสี โต้ตอบกันระหว่างหญิงชายที่สุภาพนุ่มนวล วรรณคดีเรื่องนี้แสดงถึงความสมบรูณ์พูนสุขของบ้านเมือง การเล่น มหรสพ ตลอดจนการแต่งกายและประเพณีต่าง ๆ และเป็นกาพย์ห่อโคลงที่แต่งเป็นเรื่องเป็นราวเรื่องแรกที่เป็น แบบอย่างสืบต่อมา ๑๒. โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้แต่ง พระศรีมโหสถ ท านองแต่ง แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ เป็นโคลงทั้งหมด ๗๘ บท ความมุ่งหมาย เพื่อสรรเสริญพระบารมีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เรื่องย่อ เริ่มต้นขอประทานพรจากพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามของพราหมณ์ ต่อจากนั้นกล่าวถึงการได้ช้างเผือกพังจาก กาญจนบุรี ได้เชียงใหม่ และพระพุทธสิหิงค์ เมืองต่าง ๆ มาอ่อนน้อมขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ความวิจิตรงดงามของ พระนครลพบุรี การเสด็จประพาสป่า พรรณนาธรรมชาติ พระราชพิธีคชกรรม พิธีเบิกโขลนทวาร การเสด็จนิวัติสู่ พระนคร ตอนสุดท้ายขอประทานพรจากทวยเทพให้อภิบาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตัวอย่างข้อความบางตอน การประปาที่พระราชวังลพบุรี มีสินธุสายสีตซึ้ง ชลใส เติมแต่เศขรใน ซอกชั้น พุพวยหลั่งลงไหล เซงซ่าน วางท่อทางด้นดั้น สู่ท้องวังเวียน โคลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีลักษณะดีเด่นในการใช้ค าง่าย ๆ ไพเราะนิ่มนวล การบรรยายละเอียดแจ่มแจ้ง กล่าวถึงความรุ่งเรืองของพระนครลพบุรี และเหตุการณ์หลายประการซึ่งมิได้ปรากฏใน หนังสือพระราชพงศาวดาร จึงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดี โคลงเรื่องนี้เป็นแบบอย่างให้กวีรุ่นหลังแต่งโคลง เฉลิม พระเกียรติพระมหากษัตริย์ท านองเดียวกันอีกหลายเรื่อง เช่น นายสวนมหาดเล็ก แต่งโคลงเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาตรังคภูมิบาล แต่งโคลงดั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ หล้านภาลัย เป็นต้น ๑๓. โคลงอักษรสาม ผู้แต่ง พระศรีมโหสถ ประวัติโคลงเรื่องนี้เหลืออยู่เพียง ๒๙ บท เดิมคงมีมากกว่านี้ เพราะเนื้อเรื่องขาดตอนไปไม่ติดต่อกันการที่ใช้ชื่อว่า อักษร สาม เนื่องจากใช้ค าที่มีวรรณยุกต์ ๓ รูปคือสามัญ เอก และโท โคลงบทนี้บางทีเรียกว่า โคลงอักษรสามหมู่ โคลงตรีเพชร ประดับ หรือโคลงตรีพิธประดับ ท านองแต่ง แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ ท านองกลบท ความมุ่งหมาย เพื่อแสดงการผันค าที่ใช้รูปวรรณยุกต์ สามัญ เอก โท ท านองบทสอนอ่าน เรื่องย่อ เนื้อเรื่องไม่ติดต่อกัน ตอนต้นเกี่ยวกับการรบ ต่อมาเปลี่ยนเป็นชมไม้ชมนก


ตัวอย่างข้อความบางตอน ชมไม้ชมนก เขาขันคูคู่คู้ เคียงสอง เยื้องย่างนางยูงทอง ท่องท้อง ทิวทุ้งทุ่งทุงมอง มัจฉพราศ เทาเท่าเท้าย่างหย้อง เลียบลิ้มริมธาร หนังสือเรื่องนี้มุ่งแสดงศิลปะการใช้ค ามากกว่าเนื้อเรื่อง การแต่งถูกแบบแผนบังคับ ได้ใจความกะทัดรัด และมีความไพเราะพอสมควร ๑๔. โคลงนิราศนครสวรรค์ ผู้แต่ง พระศรีมโหสถ ประวัติ แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๑ ในโอกาสโดยเสด็จสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเสด็จพระราชด าเนินโดย กระบวนพยุหหยาตราทางชลมารคไปเมืองนครสวรรค์เพื่อรับช้างเผือก ซึ่งต่อมาระวางเป็นเจ้าพระยาบรมคเชนทร ฉัททันต์ ท านองแต่ง บทแรกเป็นร่ายสุภาพ ต่อจากนั้นเป็นโคลงสี่สุภาพ จ านวน ๖๙ บท เรื่องย่อ เริ่มต้นกล่าวชมปราสาทราชวัง และกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ต่อจากนั้นพรรณนาสถานที่ต่าง ๆ ตามเส้นทางการเดินทาง เช่น เพนียดคล้องช้าง วัดพระงาม ไชโย บ้านแป้ง เมืองอินทรบุรี จบลงตอน กล่าวถึงเขาสรรพยา ตัวอย่างข้อความบางตอน กล่าวถึงการเสด็จประพาสเมืองนครสวรรค์ เสด็จแถลงยศเจ้าแผ่น ธรนินทร แล้วค่อยคละโดยสินธุ์ คล่าวคล้าย โดยเสด็จปิ่นภูมินทร ยูรยาตร ยังนครสวรรคผ้าย ยาตรเต้าตามชล โคลงนิราศนครสวรรค์มีความไพเราะในเชิงพรรณนาสถานที่และธรรมชาติระหว่างทาง ขาดบทคร่ าครวญ ถึงหญิงที่รัก มีบทอาลัยถึงที่อยู่พอเป็นสังเขป โคลงนิราศเรื่องนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับปราสาทราชวังสมัยกรุงศรี อยุธยา กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตลอดจนสภาพชีวิตของประชาชน ภูมิสถานบ้านเรือน และธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ระหว่างสองฝั่งแม่น้ าเจ้าพระยาในสมัยนั้น ๑๕. ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง ผู้แต่ง ขุนเทพกวี เป็นชาวสุโขทัย รับราชการในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประวัติ ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ยังเหลืออยู่มี ๒ ฉบับ ปรากฏหลักฐานว่าฉบับหนึ่งเป็นของ ขุนเทพกวี สันนิษฐานว่าแต่งในคราวสมโภชเจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์ ช้างเผือกคู่พระบารมีในรัชกาลสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช อีกฉบับหนึ่งไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง ท านองแต่ง แต่งด้วยฉันท์และกาพย์ ความมุ่งหมาย ใช้ขับในพระราชพิธีสมโภชช้างหลวง


เรื่องย่อ ฉบับของขุนเทพกวีเริ่มต้นกล่าวสรรเสริญพระไพร พระกรรมบดี และเทพเจ้าในลัทธิพราหมณ์ มี พระพรหม พระนารายณ์ พระอิศวร และพระพิฆเนศวร เป็นต้น เพื่อขอพรให้มีความปลอดภัย ต่อจากนั้นสดุดี ขอช้างอันมีมงคลลักษณะ แล้วกล่าวถึงการเตรียมกิจพิธีคล้องช้าง ตอนท้ายกล่าวสรรเสริญพระอิศวรอีกครั้งหนึ่ง ฉบับที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง เริ่มต้นกล่าวสรรเสริญและขอพรพระไพร และพระกรรมบดี แล้วกล่าวปลอบ ขวัญช้างป่ามิให้อาลัยคร่ าครวญถึงชีวิตในป่าที่เคยอยู่ ควรตั้งใจไปรับต าแหน่งช้างหลวงเพราะการได้ไปอยู่ในนคร หลวงย่อมมีเกียรติยศและสุขสบายยิ่ง ตอนท้ายกล่าวลาพระไพร และบอกที่มาของบทสดุดีว่าถอดความจากภาษา เขมร ตัวอย่างข้อความบางตอน บทกล่อมช้างในฉบับที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง อ้าพ่ออย่าโศรกอย่าทุกขเลย แลอย่าเศร้าอย่าโศกา อย่าไห้พิลาปจิตรอา ดุรเลยจงฟังยิน ฉันท์ของขุนเทพกวีนับเป็นฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างที่เก่าที่สุด เป็นต้นต ารับการแต่งบทกล่อมช้างและ บทสังเวยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในภายหลัง ใช้ค าเขมรปนอยู่มากจึงเข้าใจความหมายได้ยาก ส่วนฉบับที่ไม่ปรากฏผู้ แต่งใช้ถ้อยค าเข้าใจง่าย มีความไพเราะสมเป็นบทกล่อมขวัญ ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างในระยะต่อมาล้วนเดินตามแบบอย่างฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างของขุนเทพกวี เช่นของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร ) ท่าน ผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างแสดงถึงบทบาทส าคัญของช้างในอดีต ความสามารถเชี่ยวชาญในการจับช้าง และฝึกช้าง ตลอดจนต้นก าเนิดพิธีกรรมเกี่ยวกับช้าง ซึ่งเขมรรับมาจากพราหมณ์ และถ่ายทอดให้แก่ไทยอีกต่อ หนึ่ง ๑๖. ราชาพิลาปค าฉันท์ ผู้แต่ง ไม่ปรากฏ ประวัติค าฉันท์เรื่องนี้ได้ชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า นิราศสีดา สันนิษฐานว่า เป็นนิราศค าฉันท์เรื่องแรก แต่งในสมัย กรุงศรีอยุธยา ก่อนหนังสือจินดามณีของพระโหราธิบดี เพราะปรากฏว่าพระโหราธิบดี น าข้อความบางตอนจาก เรื่องนี้เป็นตัวอย่างการแต่งกาพย์ฉบัง ต้นฉบับตัวเขียนเหลืออยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เคยลงพิมพ์ ในหนังสือวชิรญาณวิเศษเพียงครั้งเดียว ท านองแต่ง แต่งเป็นฉันท์และกาพย์ ความมุ่งหมาย เพื่อแสดงความคร่ าครวญของพระรามที่มีต่อนางสีดา ซึ่งถูกทศกัณฐ์ลักพาไป เรื่องย่อ จับตอนตั้งแต่พระรามพระลักษมณ์เสด็จตามหานางสีดา ระหว่างทางพระรามทรงคร่ าครวญถึงนางและ แสดงความสงสัยว่าเทพองค์ใดเป็นผู้ลักนางไป ทรงขอร้องหมู่นกและเนื้อให้ช่วยน าข่าวคราวของนางมาแจ้งแก่ พระองค์ต่อมาทรงพบนกยางกับนกยูงสนทนากันถึงกษัตริย์ผู้หนึ่งซึ่งได้ลอบลักคู่ของผู้อื่นไป นกยูงกล่าวต าหนิสามี ผู้ทอดทิ้งนางจนต้องเกิดเหตุร้าย พระรามกริ้วและทรงด าริจะประหารนกทั้งสองด้วยพระแสงศร แต่ก็ทรงได้พระ สติหักห้ามพระทัยไว้ได้เพราะทรงเกรงจะเป็นเวรเป็นภัยต่อกัน แล้วเสด็จต่อไปตามทางที่นกทั้งสองทูลแนะถวาย ระหว่างทางทรงพบลิงที่รับฝากผ้าของนางสีดาไว้ พระลักษมณ์ทรงประหารยักษ์ตนหนึ่งซึ่งร่ายมนต์บันดาลให้ป่า มืดครื้มไปทั่ว ต่อมาทั้งสองพระองค์ทรงพบนกซึ่งถวายแหวนของนางสีดา และทูลเล่าเรื่องที่ตนเข้าขัดขวาง


ทศกัณฐ์ขณะน านางไป จนต้องบาดเจ็บสาหัส พระรามทรงโศกเศร้าหนักเมื่อทรงทราบข่าวของนางสีดา เมื่อทรง แผลงศรเผาร่างของนกแล้ว สองพระองค์เสด็จต่อไปจนได้มาประทับแรมที่ร่มไม้แห่งหนึ่ง ความจบลงเพียงนี้ ตัวอย่างข้อความบางตอน ข้อความเริ่มเรื่อง จักร่ าปางเมื่อนรา นเรศนิรา นิราศสีดาดวงมาลย์ ราชาพิลาปค าฉันท์ เป็นฉันท์เรื่องแรกที่มีลักษณะเป็นนิราศ ใช้ถ้อยค าและลีลาของฉันท์ไพเราะประณีต บรรจงบางตอนแต่งเป็นกลบท ใช้ศัพท์และส านวนแปลก ๆ พระโหราธิบดีสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชน า ตอนหนึ่งไปเป็นตัวอย่างการแต่งกาพย์ฉบังในหนังสือจินดามณี


แบบทดสอบ (วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง) ๑. ข้อใดเป็นสาเหตุส าคัญที่สุด ที่ท าให้เกิดยุคทองแห่งวรรณคดีสมัยอยุธยา ก. เพราะเป็นสมัยที่ฝรั่งเศสต้องการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในเมืองไทยท าให้คนไทยตื่นตัว แล้วหันมาสร้าง อารยธรรมของชาติ ข. เพราะนักปราชญ์ราชบัณฑิตมีเวลาแต่งกวีนิพนธ์เนื่องจากบ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น และว่างจาก สงคราม ค. เพราะมีผู้ได้มีโอกาสศึกษาวิชาของต่างประเทศจึงพากันสร้างสรรค์วรรณคดีไทยให้ทัดเทียมของ ต่างประเทศ ง. เพราะคนไทยทั่ว ๆ ไปในสมัยนั้นศึกษาวิชาการชั้นสูง ถึงแม้จะไม่แพร่หลายนักก็ตาม จึงสามารถสร้าง งานกวีได้ดี จ. เพราะสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงส่งเสริมทะนุบ ารุงการแต่งวรรณกรรมอย่างจริงจัง ๒. แบบเรียนเล่มแรกของไทย เกิดขึ้นเพราะเหตุใดเป็นส าคัญ ก. เพราะแบบเรียนเดิมใช้อักษรขอม ข. เพราะมีการส่งเสริมการศึกษาภาษาไทยเป็นพิเศษ ค. เพราะบาทหลวงในศาสนาคริสต์แต่งแบบเรียนไทยไม่ดีพอ ง. เพราะมีการตั้งโรงเรียนส าหรับประชาชนขึ้นต่างหากจากส านักวัด จ. เพราะผู้แต่งมีหน้าที่ถวายพระอักษรแก่เจ้านายในราชวงศ์จึงจ าเป็นต้องสร้างแบบเรียนขึ้นเอง ๓. ฉันท์เรื่องใดได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นฉันท์ยอดเยี่ยม ก. สามัคคีเภทค าฉันท์ ข. บุณโณวาทค าฉันท์ ค. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ง. เสือโคค าฉันท์ จ. สมุทรโฆษค าฉันท์ ๔. เหตุใดสมุทรโฆษค าฉันท์ จึงมีประวัติการแต่งแปลกกว่าเรื่องอื่น ก. เพราะเป็นวรรณคดีเรื่องแรกที่น าเรื่องในชาดกมาแต่ง ข. เพราะแต่งขึ้นเพื่อใช้เล่นหนัง แต่ปรากฏว่าไม่เคยใช้เล่นเลย ค. เพราะเป็นวรรณคดีไทยเรื่องแรกที่ใช้นิทานสันสกฤตมาแต่งเป็นค าฉันท์ ง. เพราะสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีพระราชประสงค์ที่จะฉลองพระชนมายุ ๒๕ พรรษาจึงโปรดให้ พระมหาราชครูเขียนเรื่องขึ้นเพื่อใช้เล่นหนัง จ. เพราะมีผู้แต่งสามคน เริ่มแต่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่มาจบ บริบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ๕. พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติมีความส าคัญอย่างไร ก. มีความถูกต้องเชื่อถือได้ ข. มีใจความละเอียดพิสดาร


ค. มีความสมบูรณ์ไม่ช ารุดขาดหาย ง. มีต้นฉบับเดิมตั้งแต่สมัยที่แต่งเหลืออยู่ จ. กล่าวถึงการท ายุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ๖. ข้อความต่อไปนี้อยู่ในวรรณคดีเรื่องใด “ เรียมฤาคือบรรทัด ช่างชาญดัดขัดเกลาขยัน ทอดเขียนเรียนพระธรรม์ ใช่สันเคียวเบี้ยวบิดงอ ” ก. จินดามณี ข. เสือโคค าฉันท์ ค. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ง. มหาชาติค าหลวง จ. กาพย์ห่อโคลงของศรีมโหสถ ๗. วรรณคดีเรื่องใดเป็นหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย ก. จินดามณี ข. เสือโคค าฉันท์ ค. สมุทรโฆษค าฉันท์ ง. โคลงพาลีสอนน้อง จ. โคลงทศรถสอนพระราม ๘. วรรณคดีเรื่องใดที่อธิบายถึงพิธีคชกรรมซึ่งใช้มาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก. เสือโคค าฉันท์ ข. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ค. สมุทรโฆษค าฉันท์ ง. ราชาพิลาปค าฉันท์ จ. ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง ๙. ข้อใดเป็นลักษณะของโคลงอักษรสาม ก. ใช้สระ ๓ เสียง คือ อะ อา และอิ ข. ใช้พยัญชนะ ๓ ตัว คือ ส, ศ, และษ ค. ใช้วรรณยุกต์ ๓ รูป คือ สามัญ เอก และโท ง. ใช้พยัญชนะตัวเดียวกันทั้งวรรค จ. ใช้พยัญชนะต้นตัวเดียวกันครั้งละ ๓ ค า ๑๐. กวีท่านใดที่ได้รับยกย่องว่าเป็นปฏิภาณกวีในยุคทองแห่งวรรณคดี ก. ขุนเทพกวี ข. ศรีปราชญ์ ค. พระศรีมโหสถ ง. พระโหราธิบดี จ. พระมหาราชครู


๑๑. วรรณคดีเรื่องใดที่แสดงให้เห็นว่าการเล่นหนังใหญ่ในสมัยอยุธยาไม่จ ากัดเฉพาะเรื่องรามเกียรติ์ ก. อนิรุทธ์ค าฉันท์ ข. เสือโคค าฉันท์ ค. สมุทรโฆษค าฉันท์ ง. ราชาพิลาปค าฉันท์ จ. ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง ๑๒. โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีลักษณะเหมือนกับลิลิตยวนพ่ายในเรื่องใด ก. กล่าวถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ข. กล่าวถึงการมีสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ค. กล่าวถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ง. กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ จ. กล่าวถึงความรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวรรณคดี ๑๓. “ เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ค ากล่าวนี้ได้รับ อิทธิพลจากวรรณคดีเรื่องใด ก. จินดามณี ข. เสือโคค าฉันท์ ค. สมุทรโฆษค าฉันท์ ง. โคลงพาลีสอนน้อง จ. โคลงทศรถสอนพระราม ๑๔. โคลงราชสวัสดิ์แสดงค่านิยมของสังคมไทยในเรื่องใด ก. ความเชื่อถือโชคลาง ข. ความนิยมรับราชการ ค. ความเชื่อในกรรมเก่า ง. ความเป็นอยู่ของสังคมไทย จ. ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ๑๕. ข้าราชการในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชปฏิบัติตามหลักการที่ปรากฏในโคลงเรื่องใด ก. โคลงราชสวัสดิ์ ข. โคลงหริภุญชัย ค. โคลงทวาทศมาส ง. โคลงพาลีสอนน้อง จ. โคลงทศรถสอนพระราม ๑๖. อารมณ์ที่เด่นที่สุดที่ผู้อ่านได้รับในวรรณคดีเรื่องราชาพิลาปค าฉันท์คืออะไร ก. คร่ าครวญ ข. โกรธแค้น ค. พ่อแง่แม่งอน ง. รักใคร่กลมเกลียว จ. น้อยอกน้อยใจ


ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบค าถามข้อ ๑๗ - ๑๘ “ ธรณีภพนี้เพ่ง ทิพญาณ หนึ่งรา เราก็ลูกอาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง ” ๑๗. ผู้แต่งก าลังอยู่ในอารมณ์ใด ก. อาลัย ข. โศกเศร้า ค. โกรธแค้น ง. พยาบาท จ. หวาดกลัว ๑๘. ค าพูดใดแสดงว่าผู้แต่งเป็นคนมีใจนักเลง ก. ธรณีภพนี้เพ่ง ทิพญาณ หนึ่งรา ข. เราก็ลูกอาจารย์ หนึ่งบ้าง ค. เราผิดท่านประหาร เราชอบ ง. เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คือสนอง จ. ไม่มีข้อใดถูก ๑๙. โคลงเบ็ดเตล็ดต่างจากโคลงเรื่องอื่น ๆ ในลักษณะใด ก. ใช้เวลาแต่งนานที่สุด ข. รวมโคลงจากหลาย ๆคน ค. ศรีปราชญ์พูดแล้วคนอื่นช่วยเขียน ง. ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อความสนุกสนาน จ. สมเด็จพระนารายณ์ฯทรงแต่งเองในบางบท ๒๐. โคลงนิราศนครสวรรค์คล้ายคลึงกับวรรณคดีเรื่องใดสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ก. ลิลิตยวนพ่าย ข. โคลงหริภุญชัย ค. โคลงทวาทศมาส ง. มหาชาติค าหลวง จ. ลิลิตโองการแช่งน้ า ๒๑. การที่พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา (ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ) บันทึกประวัติศาสตร์กรุงศรี อยุธยา ตามล าดับศักราช และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงว่าผู้แต่งได้รับอิทธิพลจากแนวความคิดจากเรื่อง อะไร ก. ประเพณีสิบสองเดือน ที่ล าดับว่าเดือนต่าง ๆ มีพิธีกรรมส าคัญอะไรเกิดขึ้น ข. การท าบันทึกของโหร เพราะโหรเวลาท านายต้องบันทึกไว้ตามล าดับ ค. การนับวันเดือนปีของศาสนาพราหมณ์ที่ถือเอาการโคจรของดวงดาวเป็นส าคัญ


ง. การขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ เพราะหากการล าดับการขึ้นครองราชย์สลับกันเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะ ไม่ต่อเนื่องกัน จ. การตั้งราชวงศ์ เพราะแต่ราชวงศ์มีเหตุการณ์ส าคัญบันทึกไว้อยู่แล้ว ผู้แต่งจึงไม่ต้องมาล าดับ เหตุการณ์ใหม่ ๒๒. “ เขาขันคูคู่คู้ เคียงสอง เยื้องย่องนางยูงทอง ท่องท้อง ทิวทุ้งทุ่งทุงทอง มัจฉพราศ เทาเท่าเท้าย่างหย้อง เลียบลิ้มริมธาร ” โคลงบทนี้มีชื่อเฉพาะเรียกว่าอย่างไร ก. โคลงสี่สุภาพ ข. โคลงตรีพิธประดับ ค. โคลงผันวรรณยุกต์ ง. โคลงกลบทวิบุลกิตติ จ. โคลงดั้นสดุดีพระเกียรติ


เฉลย แบบทดสอบ [วรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง (รัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ถึง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พ.ศ. ๒๑๖๓ - ๒๒๓๑)] ๑. ข้อใดเป็นสาเหตุส าคัญที่สุด ที่ท าให้เกิดยุคทองแห่งวรรณคดีสมัยอยุธยา เพราะนักปราชญ์ราชบัณฑิตมีเวลาแต่งกวีนิพนธ์เนื่องจากบ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น และว่างจาก สงคราม ๒. แบบเรียนเล่มแรกของไทย เกิดขึ้นเพราะเหตุใดเป็นส าคัญ เพราะมีการส่งเสริมการศึกษาภาษาไทยเป็นพิเศษ ๓. ฉันท์เรื่องใดได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นฉันท์ยอดเยี่ยม สมุทรโฆษค าฉันท์ ๔. เหตุใดสมุทรโฆษค าฉันท์ จึงมีประวัติการแต่งแปลกกว่าเรื่องอื่น เพราะมีผู้แต่งสามคน เริ่มแต่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่มาจบ บริบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ๕. พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ มีความส าคัญอย่างไร มีความสมบูรณ์ไม่ช ารุดขาดหาย ๖. ข้อความต่อไปนี้อยู่ในวรรณคดีเรื่องใด “ เรียมฤาคือบรรทัด ช่างชาญดัดขัดเกลาขยัน ทอดเขียนเรียนพระธรรม์ ใช่สันเคียวเบี้ยวบิดงอ ” กาพย์ห่อโคลงของศรีมโหสถ ๗. วรรณคดีเรื่องใดเป็นหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย จินดามณี ๘. วรรณคดีเรื่องใดที่อธิบายถึงพิธีคชกรรมซึ่งใช้มาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง ๙. ข้อใดเป็นลักษณะของโคลงอักษรสาม ใช้วรรณยุกต์ ๓ รูป คือ สามัญ เอก และโท ๑๐. กวีท่านใดที่ได้รับยกย่องว่าเป็นปฏิภาณกวีในยุคทองแห่งวรรณคดี ศรีปราชญ์ ๑๑. วรรณคดีเรื่องใดที่แสดงให้เห็นว่าการเล่นหนังใหญ่ในสมัยอยุธยาไม่จ ากัดเฉพาะเรื่องรามเกียรติ์ สมุทรโฆษค าฉันท์ ๑๒. โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีลักษณะเหมือนกับลิลิตยวนพ่ายในเรื่องใด กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ ๑๓. “ เสียชีพ อย่าเสียสัตย์ ” ค ากล่าวนี้ได้รับอิทธิพลจากวรรณคดีเรื่องใด เสือโคค าฉันท์ ๑๔. โคลงราชสวัสดิ์แสดงค่านิยมของสังคมไทยในเรื่องใด ความนิยมรับราชการ


๑๕. ข้าราชการในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชปฏิบัติตามหลักการที่ปรากฏในเรื่องใด โคลงราชสวัสดิ์ ๑๖. อารมณ์ที่เด่นที่สุดที่ผู้อ่านได้รับในวรรณคดีเรื่องราชาพิลาปค าฉันท์คืออะไร คร่ าครวญ ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบค าถามข้อ ๑๗ - ๑๘ “ ธรณีภพนี้เพ่ง ทิพญาณ หนึ่งรา เราก็ลูกอาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง ” ๑๗. ผู้แต่งก าลังอยู่ในอารมณ์ใด โกรธแค้น ๑๘. ค าพูดใดแสดงว่าผู้แต่งเป็นคนมีใจนักเลง เราผิดท่านประหาร เราชอบ ๑๙. โคลงเบ็ดเตล็ดต่างจากโคลงเรื่องอื่น ๆ ในลักษณะใด รวมโคลงจากหลาย ๆคน ๒๐. โคลงนิราศนครสวรรค์คล้ายคลึงกับวรรณคดีเรื่องใดสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น โคลงหริภุญชัย ๒๑. การที่พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา( ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ ) บันทึกประวัติศาสตร์ กรุงศรีอยุธยา ตามล าดับศักราช และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงว่า ผู้แต่งได้รับอิทธิพลจากแนว ความคิดเรื่องอะไร การท าบันทึกของโหร เพราะโหรเวลาท านายต้องบันทึกไว้ตามล าดับ ๒๒. “ เขาขันคูคู่คู้ เคียงสอง เยื้องย่องนางยูงทอง ท่องท้อง ทิวทุ้งทุ่งทุงทอง มัจฉพราศ เทาเท่าเท้าย่างหย้อง เลียบลิ้มริมธาร ” โคลงบทนี้มีชื่อเฉพาะเรียกว่าอย่างไร โคลงตรีพิธประดับ


บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/....... สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้..........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้........................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่........................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้.......................................................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ....................ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่....................................................................................................................... .................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับเวลา นักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนไม่สนใจเรียน อื่นๆ........................................................................................................................ ................................ ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง.................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน........................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ.............................................................................................................. ...................... ลงชื่อ............................................................ผู้สอน ( นายอภิชาติ แก้วด า ) ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ...................................................... (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ...................................................................................... ...................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชา ประวัติวรรณคดี ๑ รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง จ านวน ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ เรื่อง พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางในแง่มุมต่างๆ จ านวน ๔ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. ผลการเรียนรู้ พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางในแง่มุมต่างๆได้ ๒. สาระส าคัญ การพูดวิเคราะห์วรรณคดีในแง่มุมต่างๆท าให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในวรรณคดีได้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้นและเป็น แนวทางในการน าไปใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางในแง่มุมต่างๆ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการพูด การฟังและดู ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีมารยาทในการพูด การฟังและการดู - รักความเป็นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม - วรรณคดีและวรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนกลาง ๕.๒. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นน า ๖.๑. นักเรียนฟังตัวอย่างค าประพันธ์ที่เป็นคติสอนใจจากเรื่องเสือโคค าฉันท์ ๖.๒. นักเรียนฝึกวิเคราะห์เนื้อหาในแง่มุมต่างๆ ขั้นสอน ๖.๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม วางแผนในการพูดวิเคราะห์ ทบทวนเรื่องวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง จากเอกสารประกอบการเรียน ๖.๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดวิเคราะห์


ขั้นสรุป ๖.๕. ครู เพื่อนๆแต่ละกลุ่ม และกลุ่มตัวเองเป็นผู้ประเมิน พร้อมกับติชมแก้ไข ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถพูดวิเคราะห์ถูกต้องตรงประเด็นตามข้อเท็จจริงทุกแง่ทุกมุม สร้างสรรค์ มีคุณค่า หลักมีเหตุผล นักเรียนล าดับความคิดได้ตรงประเด็นมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง และมีบุคลิกภาพที่ดีมาก หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนตั้งใจพูด เตรียมการพูดดีมาก มีความพร้อมในการพูด เมื่อผู้อื่นพูด ก็ ตั้งใจฟังและดูดีมาก ไม่รบกวนผู้อื่น เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางในแง่มุมต่างๆ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีมารยาทในการพูด การฟังและการดูและรักความเป็นไทย ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) ๘.๑. เอกสารประกอบการเรียนวิชาประวัติวรรณคดี ๑ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ วรรณคดีสมัยอยุธยา ตอนกลางในแง่มุมต่างๆ พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนกลางในแง่มุม ต่างๆได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ P) - กระบวนการพูด การฟัง และดู พูดวิเคราะห์วรรณคดีสมัย อยุธยาตอนกลางในแง่มุม ต่างๆได้ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ (A) - มีมารยาทใน การพูด การฟังและดู - รักความเป็นไทย สังเกต แบบประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นายอภิชาติแก้วด า ) .........../.............../..................


เกณฑ์การประเมิน หน่วยที่ ๔ พูดวิเคราะห์วรรณคดี ประเด็นการ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ (K) เนื้อหา (พูดวิเคราะห์) พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริงทุกแง่ทุก มุมสร้างสรรค์ มี คุณค่า พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริงเป็นส่วน ใหญ่ พูดวิเคราะห์ถูกต้อง ตรงประเด็นตาม ข้อเท็จจริง พอสมควร พูดวิเคราะห์ไม่ ถูกต้องไม่ตรง ประเด็นตาม ข้อเท็จจริง (P) กระบวนการพูด ล าดับความคิดได้ ตรงประเด็นมี ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง และมี บุคลิกภาพที่ดีมาก ล าดับความคิดได้ ตรงประเด็นเป็น ส่วนใหญ่ มี ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันอย่าง ต่อเนื่อง และมี บุคลิกภาพที่ดี ล าดับความคิดได้ ค่อนข้างตรง ประเด็น แต่ขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยง และมี ข้อบกพร่องเรื่อง บุคลิกภาพเล็กน้อย ล าดับความคิดไม่ ตรงประเด็นขาด ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงและ บกพร่องเรื่อง บุคลิกภาพมาก (A) มีมารยาทในการพูด การฟังและการดู ตั้งใจพูด เตรียมการ พูดดีมาก มีความ พร้อมในการพูด เมื่อผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจ ฟังและดูดีมาก ไม่ รบกวนผู้อื่น ตั้งใจพูด เตรียมการ พูดดี แต่ยังไม่มี ความพร้อมในการ พูดเท่าที่ควร เมื่อ ผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจฟัง และดูดี ไม่รบกวน ผู้อื่น เตรียมการพูดมาไม่ ดีเท่าที่ควร เมื่อ ผู้อื่นพูด ก็ตั้งใจฟัง และดูพอใช้ แต่ไม่ ต่อเนื่อง ไม่เตรียมการพูด ไม่ สนใจกิจกรรมการ พูดเมื่อผู้อื่นพูด ก็ไม่ ตั้งใจฟังและดู ครู ต้องตักเตือนและ ควบคุมพฤติกรรม (A) รักความเป็นไทย แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ดีมาก แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ดี แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ พอใช้ แต่งกายและมี มารยาทงดงามแบบ ไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้ มีพระคุณ ยังต้อง ปรับปรุงบ้าง เกณฑ์การตัดสิน / ระดับคุณภาพ คะแนน ๑๔ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ – ๑๓ หมายถึง ดี คะแนน ๘ – ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๔ – ๗ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ผ่านระดับ พอใช้


Click to View FlipBook Version