ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนพนมศึกษา วิชา ประวัติศาสตร์ รหัส ส ๓๑๑o๓
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนพนมศึกษา ที่ พิเศษ/2566 วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา สิ่งที่แนบมาด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เนื่องด้วยข้าพเจ้านางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร ตำแหน่ง ครู โรงเรียนพนมศึกษา ได้รับ มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่การสอนตามคำสั่งที่ 120/2566 เรื่องมอบหมายงานสอน ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566 ซึ่งทางกลุ่มบริหารงานวิชาการได้มอบหมายให้ครูทุกคน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ อย่างน้อยคนละ 1 รายวิชานั้น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสายการสอนประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ในรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้ แผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ ลงชื่อ ......................................... (นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร) ครูผู้สอน ลงชื่อ ......................................... ลงชื่อ ......................................... (นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์) (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นผู้อำนวยการ อนุมัติ ไม่อนุมัติ .................................................................................................................. ............... ลงชื่อ ......................................... (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส31103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 การกำหนดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรอง การใช้แผนการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
คำนำ กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนที่มีความพร้อมการใช้หลักสูตรในปีการศึกษา 2552 และใช้ในโรงเรียน ทั่วไปในปีการศึกษา 2553 เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดการเรียนการสอน และเพื่อให้กระบวน การนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ หลักสูตรระดับชั้นเรียน รหัสวิชา ส 31103 รายวิชา ประวัติศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ข้าพเจ้าจัดทำขึ้น ข้าพเจ้าได้วิเคราะห์ตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพื่อ จัดทำหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีกิจกรรมการ เรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร ตำแหน่ง ครู โรงเรียนพนมศึกษา
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชาประวัติศาสตร์ ส 31103 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการ เปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ที่มีต่อการศึกษาทางประวัติศาสตร์ ประเด็นสำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ความเป็นมา ของชาติไทยสมัยก่อนอาณาจักรสุโขทัยจนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ความสำคัญของสถาบัน พระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย ปัจจัยที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทยซึ่งมีผลต่อ สังคมไทยในยุคปัจจุบัน โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจตระหนักในความสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย เกิดความรักความภาคภูมิใจและธำรงความเป็นไทย มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มุ่งมั่นในการทำงาน ตัวชี้วัด ส 4.1 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2 ส. 4.3 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2 รวม 4 ตัวชี้วัด
โครงสร้างรายวิชา ประวัติศาสตร์ รายวิชาประวัติศาสตร์ ส 31103 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 0.5 หน่วยกิต ลำดับที่ ชื่อหน่วยการเรียน มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง ) น้ำหนัก คะแนน 1 เวลา และยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์ ไทย ส 4.1 ม. 4- 6/1 การกำหนดเวลา ยุคสมัย การนับ และ เทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย ทำ ให้สามารถศึกษาและเรียงลำดับ เหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ได้ รวมทั้งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงจากอดีต สู่ปัจจุบัน และคาดการณ์ในอนาคตเข้า ด้วยกันได้ 6 2 การสร้างองค์ความรู้ ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์ไทย ส 4.1 ม. 4- 6/2 การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์อย่างเป็นระบบ ย่อมทำ ให้ผลการศึกษานั้นมีคุณค่าและเป็นที่ ยอมรับในวงวิชาการ 6 3 วิเคราะห์ประเด็น สำคัญทาง ประวัติศาสตร์ไทย ส 4.3 ม. 4- 6/1 ม. 4-6/2 การศึกษาประเด็นทางประวัติศาสตร์ ไทยนอกจากฝึกกระบวนการวิเคราะห์ แล้ว ยังทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์ และตระหนักถึง ความสำคัญของสถาบัน พระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย 12 4 ผลงานของบุคคล สำคัญในการ สร้างสรรค์ ชาติไทย ส 4.3 ม. 4- 6 /4 บุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์ วัฒนธรรมไทยและประวัติศาสตร์ไทย มี ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ชาว ไทยทุกคนควรศึกษาผลงานและยกย่อง ท่าน และนำไปเป็นแบบอย่างในการ ปฏิบัติตน 8
ลำดับที่ ชื่อหน่วยการเรียน มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง ) น้ำหนัก คะแนน 5 การสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาไทย ส 4.3 ม. 4- 6 /3 ม. 4-6 /5 วิถีการดำรงชีวิตและภูมิปัญญาของคน ไทยในแต่ละยุคสมัย มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ซึ่งมีผลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย และวัฒนธรรมไทย จึงมีความจำเป็นที่ ชาวไทย จะต้องร่วมมือกันอนุรักษ์ภูมิ ปัญญาและวัฒนธรรมไทย 8
ตารางโครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ ส 31103 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 0.5 หน่วยกิต หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัด การเรียนรู้ วิธีสอน / กระบวนการจัด การเรียนรู้ ทักษะการคิด เวลา (ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เวลา และยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ไทย 1. เวลาและศักราช วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3 2. ประวัติศาสตร์ ใกล้ตัว วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสืบค้น 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3.ทักษะการคิดอย่าง มีวิจารณญาณ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การสร้างองค์ความรู้ ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์ไทย 1. วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1. ทักษะการคิด วิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดอย่าง มีวิจารณญาณ 3 2. การสร้างองค์ ความรู้ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์ ไทย วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วิเคราะห์ประเด็น สำคัญทาง ประวัติศาสตร์ไทย 1. ประวัติศาสตร์ ไทย ก่อนการ ปฏิรูป การ ปกครองใน สมัยรัชกาลที่ 5 วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3 2. ปฏิรูปการ ปกครองในสมัย รัชกาลที่ 5 วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3 3. การ เปลี่ยนแปลง การปกครอง พ.ศ. 2475 วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2. ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3.ทักษะการคิดอย่าง มีวิจารณญาณ 3
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัด การเรียนรู้ วิธีสอน / กระบวนการจัด การเรียนรู้ ทักษะการคิด เวลา (ชั่วโมง 4. สังคมไทยหลัง การ เปลี่ยนแปลงการ ปกครอง พ.ศ. 2475 วิธีสอนโดยใช้กระบวนการ ทางประวัติศาสตร์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ผลงานของบุคคล สำคัญในการ สร้างสรรค์ ชาติไทย 1. ผลงานของ บุคคล สำคัญใน การ สร้างสรรค์ ชาติไทย (1) วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 3 2. ผลงานของ บุคคล สำคัญใน การ สร้างสรรค์ ชาติไทย (2) วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, กระบวนการคิดวิเคราะห์ 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาไทย 1. การสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาไทย (1) วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ : เทคนิคร่วมกัน คิด 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 4 2. การสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาไทย (2) วิธีการสอนโดยเน้น กระบวนการ: กระบวนการ สร้างความตระหนัก , กระบวนการกลุ่ม 1.ทักษะการคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะการคิด วิเคราะห์ 4
โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อนำไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความสามารถของนักเรียน 2. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส31103 ภาคเรียนที่ 1/2566 ชื่อผู้สอน นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพื้นฐานที่ใช้ในการเรียนวิชานี้ ระดับคุณภาพของ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน GPA ของกลุ่ม จำนวนคน ร้อยละ ปรับปรุง ต่ำกว่า 2.00 23 17.29 พอใช้ 2.00 – 2.50 30 22.56 ดี สูงกว่า 2.50 80 60.15
แนวทางการจัดกิจกรรม ผลสัมฤทธิ์ ทางการ เรียน ร้อยละ กิจกรรมแก้ไขหรือพัฒนา ในแผนการเรียนรู้ จำนวน เครื่องมือ/ เดิม เป้าหมาย วิธีการประเมิน ดี 60.15 80.00 1. กิจกรรมการเรียนการสอนดำเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ในชั้น เรียน 2. ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ดำเนินการ เฉลยแบบฝึกหัดตามสมควร 3. ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ช่วยเหลือ เพื่อนในเรียน การทำแบบฝึกต่าง ๆ เป็น ผู้อธิบาย (ผู้ช่วยครู) สอนเพื่อนกลุ่มอ่อน ที่ยังไม่เข้าใจ 4. ให้แบบฝึกพิเศษเพิ่มเติม 5. ทำชิ้นงานเพิ่มเติ่ม 1. แบบฝึกหัดท้าย บท 2. แบบบันทึกการ เก็บคะแนน 3. แบบบันทึกหลัง การสอน 4. แผนการจัดการ เรียนรู้ 5. ชิ้นงาน พอใช้ 22.56 20 1. กิจกรรมการเรียนการสอนดำเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่นๆในชั้น เรียน มีการทดลอง ใบงาน แบบฝึกหัด 2. ให้นักเรียนกลุ่มนี้จับคู่ประกบตัวต่อ ตัวกับนักเรียนกลุ่มเก่ง 3. ให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากสื่อการ เรียนรู้ในสถานที่ต่างๆ 4. นักเรียนกลุ่มเก่งนำความรู้ที่ได้จาก การทำแบฝึกหัดพิเศษเพิ่มเติมมาสอน ต่อนักเรียนที่อยู่กลุ่มพอใช้ 1. แบบฝึกหัดท้าย บท 2. แบบบันทึกการ เก็บคะแนน 3. แบบบันทึกหลัง การสอน 4. แผนการจัดการ เรียนรู้ 5. ชิ้นงาน ปรับปรุง 17.29 0 1. กิจกรรมการเรียนการสอนดำเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติม แบบฝึกคู่ขนาน 2. ให้นักเรียนกลุ่มนี้จับคู่ประกบตัวต่อ ตัวกับนักเรียนกลุ่มเก่งและปานกลาง 3. จัดสอนซ่อมเสริมในเนื้อหาที่ไม่ผ่าน เกณฑ์การประเมิน หรือยังไม่เข้าใจแก่ นักเรียนกลุ่มนี้ 1. แบบฝึกคู่ขนาน 2. แบบบันทึกการ เก็บคะแนน 3. แบบบันทึกหลัง การสอน 4. แผนการจัดการ เรียนรู้ 5. ชิ้นงาน
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกฤษฎิ์ กลับชัย 2 นายคฑาวุธ บริสุทธิ์ 3 นายคณาพงษ์ มูสิเเดง 4 นายชนม์พรรษ์ เรืองไชย 5 นายธนภูมิ จันทวงศ์ 6 นายธาวิน เพชรเจริญ 7 นายนนทพัทธ์ ส่งมา 8 นายนัทธพงศ์ เจริญรูป 9 นายพีรพัฒน์ แก้วเพชร 10 นายรัฐศาสตร์ เพชรโชติ 11 นายสรรเพชร โสขะ 12 นายอนันดา ละออเอี่ยม 13 นางสาวกัญญ์วรา แก้วมีศรี 14 นางสาวกัญญาพัชร ทรัพย์ประเทือง 15 นางสาวกันต์ฤทัย คชไกร 16 นางสาวจุฑามาศ ทองสัมฤทธิ์ 17 นางสาวฐานิตา ศรีคงแก้ว 18 นางสาวทศวรรณ คุณวิจิตร 19 นางสาวธนพร นวลขาว 20 นางสาวธนัญชนก สาคร 21 นางสาวธัญชนก ทวีรัตน์ 22 นางสาวธัญวรัตม์ วงศ์พัฒน์เสวก 23 นางสาวธิดาทิพย์ สุทธิมาศ 24 นางสาวนภเกตน์ สายควนเกย 25 นางสาวนัฐชา สงทอง 26 นางสาวนันทวัน สุราวุธ
27 นางสาวนารีรัตน์ มั่งมี 28 นางสาวปิยพร จันทร์นคร 29 นางสาวพรพิมล พัฒน์ชู 30 นางสาวพิมพกานต์ แดงเนื่อง 31 นางสาวมณีรัตน์ บัวมณี 32 นางสาวมนิตา สวนแก้ว 33 นางสาวมัฐติมา สุวรรณวิเชียร 34 นางสาวมินทร์ธาดา ประจวบบุญ 35 นางสาววราภรณ์ เจียมบุษย์ 36 นางสาวศิริมา - 37 นางสาวสิริวิมล เมฆใหม่ 38 นางสาวสุชานาถ รอดเจริญ 39 นางสาวอลิชา ละออเอี่ยม 40 นางสาวอัจฉรา แซ่หลี ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 2 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกิตติพงษ์ ชูทุ่งยอ 2 นายเกริกเกียรติ บัวเเก้ว 3 นายขจรเกียรติ บูรพงค์ 4 นายขวัญชัย ท่าชี 5 นายจตุรพร หีดจินดา 6 นายจรัญ คงช่วย 7 นายชนะพล หล่อพันธ์ 8 นายณัฏฐบดินทร์ ทิพย์เดช 9 นายณัฐพัฒน์ รุ่งสกุล 10 นายณัฐวุฒิ เข็มทอง 11 นายธนกฤต จันทร์เมฆ 12 นายธนวัฒน์ สุภลักษณ์ 13 นายบัญญวัต มะโร 14 นายปกรณ์เกียรติ ลิ้มเจริญ 15 นายพิรสันต์ รามสุวรรณ์ 16 นายรังสิมันตุ์ คงประเสริฐ 17 นายวรวัฒน์ เวชรินทร์ 18 นายวรากร สุดนาค 19 นายวัลชนะ เเสงศรี 20 นายสิทธิพร เพ็ชรชู 21 นายอนุพงศ์ สิทธิเเดง 22 นางสาวกชกร คงไล่ 23 นางสาวกชกร ช่วยหนู 24 นางสาวจิราภรณ์ เดชพิชัย 25 นางสาวจุฑารัตน์ เเพทย์รัตน์ 26 นางสาวณัฐริยา สุวรรณวิเชียร 27 นางสาวณิชนันทน์ สุวรรณ์สอาด 28 นางสาวตรีชฎา สมบัติแก้ว 29 นางสาวธนนันท์ แสงทองย้อย 30 นางสาวธนพร ด่านเจริญชัย
31 นางสาวนภัสนันท์ แก้วนวล 32 นางสาวเพชรรดา โภคา 33 นางสาวฟ้าใส คงเนียม 34 นางสาวรวิสรา คงเรือง 35 นางสาววราภรณ์ จันทร์ทอง 36 นางสาวศิริเสาวภา สาริพัฒน์ 37 นางสาวโศภิษฐา คุณวิจิตร 38 นางสาวอมรรัตน์ สังข์ทอง ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 3 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายณัฐวุฒิ ทิพย์สุวรรณ 2 นายทัชวฤทธิ์ ทองเสน 3 นายธนโชติ รองเมือง 4 นายนัฐพงษ์ ศรีรักษา 5 นายพศวัต หีตทิม 6 นายภูมิรพี เมืองพร้อม 7 นายศุภกิจ ซุยจินา 8 นายอรรถพร แต่งนวล 9 นางสาวกนกพร สุดเส้ง 10 นางสาวขนิษฐา ปาละคเชนทร์ 11 นางสาวขวัญภิรมย์ ชินโคตร 12 นางสาวจันทกานต์ ประจิน 13 นางสาวจิราพร แก้วมิตร 14 นางสาวชนัญธิดา ไมตรีจิตต์ 15 นางสาวชนิษฐา ประกอบแก้ว 16 นางสาวณัฐณิชา บุญฤทธิ์ 17 นางสาวณัฐธิดา วิชิต 18 นางสาวณิชนันทน์ พันธ์เจริญ 19 นางสาวณิชาภรณ์ เกตุขาว 20 นางสาวธิดารัตน์ มุสิกวาที 21 นางสาวบัณฑิตา อินทรชิต 22 นางสาวปริยาภัทร คงคุ้ม 23 นางสาวปวริศา คุ้มเอียด 24 นางสาวพิชช์สินี ปรีชา 25 นางสาวมณีวรรณ สาริพัฒน์ 26 นางสาวรัชนี หนูจันทร์ 27 นางสาววรัทญา หัตถาผล 28 นางสาวเวียรยา จันทร์สวี 29 นางสาวศศิการ ฉิมสวัสดิ์ 30 นางสาวสิรภัทร บัวทอง
31 นางสาวสิรภัทร หนูเยาว์ 32 นางสาวสุรัญชนา ชูพรหม 33 นางสาวอนันตญา มังกรรัตน์ 34 นางสาวอัฉราวรรณ หนูจันทร์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 4 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกฤตเมธ ศุภลักษณ์ 2 นายกฤษฏา อะโน 3 นายเกียรติกำพล ปรีชา 4 นายคชภัค แช่มไล่ 5 นายจักรพงศ์ ผุดบ่อน้อย 6 นายจิณณพัฒน์ กองกุล 7 นายจิรายุ สุขขี 8 นายฐาปณพงศ์ เวชศาสตร์ 9 นายฐิรวัฒณ์ รัตนชัย 10 นายณัฐกฤต วิชิต 11 นายณัธพงษ์ เพชรชู 12 นายธนพล เผือกภูมิ 13 นายธรรมรัตน์ เเสงตาขุน 14 นายนราทิป ขุนทิพย์กรรณ 15 นายนเรนทร์ฤทธิ์ อุดมศรี 16 นายพีรภัทร จันทร์พรึก 17 นายพีรวัฒน์ นพรัตน์ 18 นายภูษิตย์ ชัยเจริญ 19 นายรัชชานนท์ บุญร่ม 20 นายรัชชานนท์ ประเสริฐศิลป์ 21 นายวรากรณ์ นวลขาว 22 นายวีรภัทร หนำคอก 23 นายศิววงศ์ ทิพย์เดช 24 นายศุภโชค ศรีรอดภัย 25 นายสราวุฒิ นาคเกษม 26 นายอดิศร แย้มแก้ว 27 นายอมรวิชช์ ชะบากาญจน์ 28 นายอรรถพล อนุภักดิ์ 29 นางสาวธัญวรรณ ประเสริฐ 30 นางสาวปุณยาพร ล่องแป้น
31 นางสาวพิมพ์ชนก สุวรรณรัตน์ 32 นางสาวมณีนาจ ทองญวน 33 นางสาววรพิชชา ศรีชัย 34 นางสาวศิริวิมล วิชิต 35 นางสาวสุพิชชา จรูญรักษ์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา
การวัดผลและประเมินผล การวัดผลการเรียนรู้ 1. การวัดผลระหว่างเรียน 50 คะแนน 2. การวัดผลกลางภาคเรียน 20 คะแนน 3. การวัดผลปลายภาคเรียน 30 คะแนน 4. รวมการวัดผลตลอดภาคเรียน 100 คะแนน การประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินผล การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 4 ดีเยี่ยม 80 – 100 3.5 ดีมาก 75 – 79 3 ดี 70 – 74 2.5 ค่อนข้างดี 65 – 69 2 น่าพอใช้ 60 – 64 1.5 พอใช้ 55 – 59 1 ผ่าน 50 – 54 0 ต่ำกว่าเกณฑ์ 0 – 49 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มี คุณภาพดีเลิศอยู่เสมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มี คุณภาพเป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มี คุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ยังมีข้อบกพร่องบาง ประการ ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หรือถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้องได้รับการปรับปรุง แก้ไขหลายประการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย เรื่อง เวลาและศักราช เวลาที่ใช้สอน 3 ชั่วโมง ครูผู้สอนชื่อ นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร โรงเรียนพนมศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. สาระสำคัญ เวลาและศักราช มีความสำคัญในการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในหลักฐานประวัติศาสตร์ เพราะทำให้สามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ได้ถูกต้อง มาตรฐานการเรียนรู้ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถ ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ม.4-6/1 ตระหนักถึงความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลง ของมนุษยชาติ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความส าคัญของเวลา (K) 2. จำแนกยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย (P) 3. เห็นความสำคัญในการศึกษาข้อมูลทางด้านเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดสร้างสรรค์ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา - กระบวนการสืบค้นข้อมูล 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการทำงานกลุ่ม - กระบวนการปฏิบัติ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย - ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎระเบียบ กติกาที่ตกลงกันในห้องเรียน 2. ใฝ่เรียนรู้ - ผู้เรียนตั้งใจเรียน เพียรพยายาม ในการเรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน - ตั้งใจและพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมาย สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย 2. ตัวอย่างเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของสังคมมนุษย์ที่มีปรากฏในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ 3. ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เวลาในชีวิตประจำวัน 2. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ 1) - นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ครูเสนอภาพเกี่ยวกับเวลาด้วย Power point เช่น ดอกทานตะวัน นาฬิกา พระจันทร์ข้างขึ้น ข้างแรม พระอาทิตย์ ฆ้อง-กลอง เป็นต้น ครูตั้งคำถามให้นักเรียนคิดว่า - รูปภาพเกี่ยวข้องกับเรื่องใด (เวลา ) - รู้ได้อย่างไรว่าเป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับเวลา ( ดอกทานตะวันหันตามแสงอาทิตย์ ) - หากไม่มีตัวบอกเวลาจะเกิดอะไรขึ้น หรือเกิดผลอย่างไร ( ลำดับก่อน-หลังไม่ได้ ) ขั้นสอน 3. ครูซักถามนักเรียนเกี่ยวกับคำบอกเวลาในภาษาไทย โดยสุ่มเรียกนักเรียนให้บอกคนละ 1 คำ เช่น สายัณห์ คิมหันต์วสันต์ฤดูฝน เป็นต้น และให้นักเรียนอธิบายเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับเวลาอย่างไร
4. นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง เวลาในชีวิตประจำวัน (บูรณาการกับวิชาภาษาไทย ) และนำ เรียงความที่กลุ่มสาระภาษาไทยช่วยตรวจแล้วมาติดป้ายนิเทศในชั้นเรียนให้นักเรียนผู้อื่นได้อ่านและชื่นชม ขั้นสรุปบทเรียน 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปถึงความสำคัญของเวลา ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ 2) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับศักราชต่างๆ โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4 กลุ่ม เลือกบัตรคำศักราช กลุ่มละ 1 บัตรคำ แล้วสุ่มเรียกนักเรียนในแต่ละกลุ่มอธิบายความเป็นมาของศักราชคนละ 1 ประโยค และเขียนบนกระดาน ขั้นสอน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง การนับและเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย จากหนังสือเรียน โดยครูตั้งคำถามให้นักเรียนคิดในประเด็นต่อไปนี้ - ศักราชในประวัติศาสตร์ไทยมีที่มาแตกต่างกันอย่างไร - ศักราชในประวัติศาสตร์ไทยที่เป็นของคนไทยโดยเฉพาะคือศักราชใด เกิดขึ้นในสมัยใด - การเทียบศักราชมีประโยชน์อย่างไร 3. ครูอธิบายเพิ่มเติม และยกตัวอย่างการบันทึกศักราชในประวัติศาสตร์ไทย และวิธีเทียบกับศักราชที่ เกี่ยวข้อง อธิบายและซักถามจนนักเรียนเข้าใจ แล้วให้นักเรียนทำใบงานที่ 1.2 เรื่อง การเทียบศักราชใน ประวัติศาสตร์ไทย ขั้นสรุปบทเรียน 4. ตัวแทนแต่ละกลุ่มรับบัตรคำเกี่ยวกับยุคสมัยทางประวัติศาสตร์จากครู สมาชิกในแต่ละกลุ่ม ปรึกษาหารือ และแสดงความคิดร่วมกันจนเป็นข้อสรุปของกลุ่ม 5. ครูสุ่มเรียกตัวแทนของกลุ่มนำบัตรคำเหล่านั้นมาเรียงลำดับ และอธิบายเหตุผลที่เรียงลำดับเช่นนั้น ให้เพื่อนกลุ่มอื่นฟัง ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ 3) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำภาพเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยมาให้นักเรียนศึกษา แล้วให้บอกว่าเป็นเหตุการณ์อะไร ตรงกับเวลา หรือยุคสมัยใด เช่น ภาพสงครามยุทธหัตถี ภาพการเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้น
ขั้นสอน 2. นักเรียนค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง ยุคสมัยในประวัติศาสตร์ไทย จากหนังสือเรียนหรือแหล่ง การเรียนรู้อื่นๆ โดยครูตั้งประเด็นคำถามให้นักเรียนคิดหาคำตอบว่า - หลักเกณฑ์ในการแบ่งยุคประวัติศาสตร์ไทย คืออะไร - การแบ่งยุคสมัยในประวัติศาสตร์ไทยมีกี่ยุค อะไรบ้าง - ทำไมจึงต้องมีการแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ย่อยลงไปอีกทั้งที่มียุคสมัยหลักอยู่แล้ว - ยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทยแตกต่างกับยุคสมัยในประวัติศาสตร์สากลหรือไม่ อย่างไร 3. ครูสุ่มเรียกตัวแทนกลุ่มออกมาสรุปการแบ่งยุคประวัติศาสตร์ไทย ครูอธิบายเพิ่มเติมและเปิด โอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น ขั้นสรุปบทเรียน 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การแบ่งยุคประวัติศาสตร์ไทย สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. Power point 3. บัตรคำศักราช 4. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เวลาในชีวิตประจำวัน 5. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 ห่วง 3 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ ใช้เวลาในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ ทำงานเหมาะกับเวลาความคุ้มค่าในอุปกรณ์การเรียน หลักมีเหตุผล การอธิบายโดยการใช้หลักการทางสังคม การแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางสังคม หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การมีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ การทำงานเป็นหมู่คณะ การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ อธิบายความหมายและจำแนกชนิด ลักษณะของแผนที่ เงื่อนไขคุณธรรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ซื่อสัตย์ มุ่งมั่นในการทำงาน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.1 แบบประเมินใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.2 แบบประเมินใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เวลาในชีวิตประจำวัน คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนเรียงความเกี่ยวกับเวลาในชีวิตประจำวัน
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เวลาในชีวิตประจำวัน คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนเรียงความเกี่ยวกับเวลาในชีวิตประจำวัน (เฉลยตามคำตอบของนักเรียน และอยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) เฉลย
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนเทียบศักราชตามที่กำหนดให้ถูกต้อง เวลาที่ปรากฏในศิลาจารึกว่า “ 1205 ศก ปีมะแม พ่อขุนรามค าแหง หาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทยนี ้” เป็นศักราชใด เทียบเป็นพุทธศักราชใด ศักราช 712 ขาลศก วัน 6 ฯ 5 ค ่า เวลารุ่งแล้ว 3 นาฬิกา 9 บาท แรกสถาปนา พระนครศรีอยุธยา” เป็นศักราชใด เทียบเป็นพุทธศักราชใด “ข้าพระพุทธเจ้ากับนายริดรักใคร่เปนชู้กัน บิดามารดาข้าพระพุทธเจ้าหารู้ไม่ ครั้นต่อมา ประมาณเดือน 4 ปีชวดฉศก....” เป็นศักราชใด เทียบได้กับพุทธศักราชใด พ.ศ....(2407)...................... . “สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงวางระเบียบราชการในพระไอยการต าแหน่งนาพลเรือน ออกใน............1239” ช่องว่างควรเติมศักราชใด เทียบได้กับพุทธศักราช ใด
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนเทียบศักราชตามที่กำหนดให้ถูกต้อง เวลาที่ปรากฏในศิลาจารึกว่า “ 1205 ศก ปีมะแม พ่อขุนรามค าแหง หาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทยนี ้” เป็นศักราชใด มหาศักราช เทียบเป็นพุทธศักราชใด พ.ศ.1826 ศักราช 712 ขาลศก วัน 6 ฯ 5 ค ่า เวลารุ่งแล้ว 3 นาฬิกา 9 บาท แรกสถาปนา พระนครศรีอยุธยา” เป็นศักราชใด จุลศักราช เทียบเป็นพุทธศักราชใด พ.ศ.1893 “ข้าพระพุทธเจ้ากับนายริดรักใคร่เป็นชู้กัน บิดามารดาข้าพระพุทธเจ้าหารู้ไม่ ครั้นต่อมา ประมาณเดือน 4 ปีชวดฉศก....” เป็นศักราชใด จุลศักราช เทียบได้กับพุทธศักราชใด พ.ศ. 2407 “สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงวางระเบียบราชการในพระไอยการต าแหน่งนาพลเรือน ออกใน............1239” ช่องว่างควรเติมศักราชใด มหาศักราช เทียบได้กับพุทธศักราชใด พ.ศ.1860 เฉลย
แบบบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม......./……… สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก................................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่านการ ประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ................................................................ ได้แก่ ........................................................................................................................................................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่านการ ประเมินคิดเป็นร้อยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................................................ ได้แก่ ....................................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้……………………….............................................พบว่านักเรียน ผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.................ได้แก่.............................. ..................................................................................................................................................................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่นๆ ............................................................................................................................................................................................. ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ....................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ............................................................................................................................... ไม่มี ข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร) ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………….…………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย เรื่อง ประวัติศาสตร์ใกล้ตัว เวลาที่ใช้สอน 3 ชั่วโมง ครูผู้สอนชื่อ นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร โรงเรียนพนมศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. สาระสำคัญ หลักฐานในประวัติศาสตร์ไทยมีที่มาจากหลายแหล่ง ทำให้การบันทึกเวลาในแต่ละยุคสมัยมีความ แตกต่างกัน มาตรฐานการเรียนรู้ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถ ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ม.4-6/1 ตระหนักถึงความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลง ของมนุษยชาติ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบาย และยกตัวอย่างเวลาและยุคสมัยที่ปรากฏในหลักฐานประวัติศาสตร์ไทย (K) 2. วิเคราะห์ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทยที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของ มนุษยชาติได้(P) 3. เห็นความสำคัญในการศึกษาข้อมูลทางยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดสร้างสรรค์ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา - กระบวนการสืบค้นข้อมูล 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการทำงานกลุ่ม - กระบวนการปฏิบัติ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย - ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎระเบียบ กติกาที่ตกลงกันในห้องเรียน 2. ใฝ่เรียนรู้ - ผู้เรียนตั้งใจเรียน เพียรพยายาม ในการเรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน - ตั้งใจและพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมาย สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ตัวอย่างเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของสังคมมนุษย์ที่มีปรากฏในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ 2. ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง บันทึกประวัติศาสตร์ 2. ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผังมโนทัศน์เวลาและยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทย ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ครูนำภาพเกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยมาให้นักเรียนดู เช่น ขวานหิน หม้อสามขา หลัก ศิลาจารึก เป็นต้น จากนั้นตั้งคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น เป็นหลักฐานเกี่ยวกับอะไร มี ความสำคัญอย่างไร และอยู่ในสมัยใด ขั้นสอน 3. ครูนำนักเรียนไปศึกษานอกห้องเรียน ใช้ห้องสมุดโรงเรียน 4. ครูแจกใบงานที่ 2.1 เรื่อง บันทึกประวัติศาสตร์ ให้นักเรียนสืบค้นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ นักเรียนสนใจหรืออยากรู้จากหนังสือประวัติศาสตร์ในห้องสมุด โดยใช้หลัก 6 W1H ในการ ค้นคว้าแล้วสรุปย่อ ลงในกระดาษที่แจกให้ (กระดาษขนาด 5 x 8) โดยมีข้อความครบถ้วน บอกแหล่งที่มาของข้อมูลถูกต้องตาม หลักการอ้างอิง
ขั้นสรุปบทเรียน 5. ครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาเล่าเรื่องที่สืบค้นและอธิบายให้เพื่อนฟัง ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียน เข้าใจ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ 2-3) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความคิดของนักเรียน จงบอกความแตกต่างระหว่างยุคสำริดกับยุคเหล็ก (ยุคสำริดมีอายุระหว่าง 4,000-2,000 ปี มาแล้ว มนุษย์รู้จักนำโลหะสำริดที่มีส่วนผสมของทองแดงกับดีบุกหรือ ตะกั่ว แล้วนำมาทำเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ และเครื่องประดับ) ขั้นสอน 2. นักเรียนสรุปความรู้ลงในใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผังมโนทัศน์เวลาและยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทย ด้วยผังกราฟิกแบบ Branching diagrams โดยสรุปให้เห็นองค์ประกอบของเวลาและยุคสมัยของ ประวัติศาสตร์ในภาพรวม จำแนกข้อมูลและเปรียบเทียบข้อมูล 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการสืบค้นเวลาและยุคสมัยใน หลักฐานประวัติศาสตร์ไทย และนำเสนอแผนการดำเนินกิจกรรมในรูปแบบของการจัดป้ายนิเทศ ขั้นสรุปบทเรียน 4. นักเรียนนำเสนอผลงานโดยครูช่วยชี้แนะเพิ่มเติม 5. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง บันทึกประวัติศาสตร์ 3. ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผังมโนทัศน์เวลาและยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทย 4. ห้องสมุด และห้องคอมพิวเตอร์
การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 ห่วง 3 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ ใช้เวลาในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ ทำงานเหมาะกับเวลาความคุ้มค่าในอุปกรณ์การเรียน หลักมีเหตุผล การอธิบายโดยการใช้หลักการทางสังคม การแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางสังคม หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การมีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ การทำงานเป็นหมู่คณะ การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ อธิบายความหมายและจำแนกชนิด ลักษณะของแผนที่ เงื่อนไขคุณธรรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ซื่อสัตย์ มุ่งมั่นในการทำงาน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 2.2 ใบงานที่ 2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนร่วมกันจัดป้ายนิเทศเรื่อง เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ไทย แบบประเมินป้ายนิเทศเรื่อง เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ใบงานที่ 2.1 เรื่อง บันทึกประวัติศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนสืบค้นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ด้วย 6 W1H เรื่อง
ใบงานที่ 2.1 เรื่อง บันทึกประวัติศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนสืบค้นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ด้วย 6 W1H เรื่อง (เฉลยตามคำตอบของนักเรียน และอยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) เฉลย
ใบงานที่ 2.2 ผังมโนทัศน์เวลาและยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนสรุปความรู้เรื่อง เวลาและยุคสมัยในประวัติศาสตร์ ลงในผังกราฟิกแบบ Branching diagrams เวลาในประวัติศาสตร์ ยุคสมัยประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย
ใบงานที่ 2.2 ผังมโนทัศน์เวลาและยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนสรุปความรู้เรื่อง เวลาและยุคสมัยในประวัติศาสตร์ ลงในผังกราฟิกแบบ Branching diagrams เวลาในประวัติศาสตร์ ยุคสมัยประวัติศาสตร์ ศาสนศักราช สถาปนาศักราช สมัยก่อน ประวัติศาสตร์ สมัย ประวัติศาสตร์ พุทธศักราช คริสต์ศักราช ฮิจเราะห์ศักราช มหาศักราช จุลศักราช รัตนโกสินทร์ศก ยุคหิน ยุคโลหะ สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินท ร์ เฉลย ประวัติศาสตร์ไทย
แบบบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม......./……… สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก................................................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่านการ ประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ................................................................ ได้แก่ ........................................................................................................................................................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่านการ ประเมินคิดเป็นร้อยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................................................ ได้แก่ ....................................................................................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยใช้……………………….............................................พบว่านักเรียน ผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.................ได้แก่.............................. ..................................................................................................................................................................................................... ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่นๆ ............................................................................................................................................................................................. ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ....................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ............................................................................................................................... ไม่มี ข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร) ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………….…………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ เวลาที่ใช้สอน 3 ชั่วโมง ครูผู้สอนชื่อ นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร โรงเรียนพนมศึกษา .............................................................................................................................................................................. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด วัฒนธรรมไทยเป็นรากฐานและความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่งเป็นผลงานของบุคคลสำคัญใน ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ม.4-6/2 สร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์อย่างเป็นระบบ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายขั้นตอนการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ได้ (K) 2. วิเคราะห์เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์ได้ (P) 3. เห็นความสำคัญในการศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้(A) สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ โดยนำเสนอตัวอย่างทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน 2. คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อการศึกษาทางประวัติศาสตร์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดสร้างสรรค์ - ทักษะการคิดวิเคราะห์
ความสามารถในการแก้ปัญหา - กระบวนการสืบค้นข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการทำงานกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. รักความเป็นไทย 3. มีจิตสาธารณะ กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนโดยใช้กระบวนการทางประวัติศาสตร์) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ 1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ครูนำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องร่องรอยพญานาคบนหลังคารถ ครูตั้งคำถามให้นักเรียน วิเคราะห์ว่า - ข่าวนี้มีข้อสงสัยในเรื่องใด (พญานาคมีจริงหรือไม่) - จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพญานาค (หาหลักฐาน) - แหล่งข้อมูลที่ควรไปสืบค้น (ห้องสมุด คำบอกเล่า) - แหล่งข้อมูลมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน (ต้องวิเคราะห์ สังเคราะห์) ขั้นสอน 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม คละความสามารถ แล้วให้นักเรียนแบ่งหน้าที่กันภายในกลุ่ม โดยจะมี ประธานกลุ่ม เลขากลุ่ม ผู้บันทึก และผู้ร่วมกิจกรรม 4. ตัวแทนกลุ่มรับแถบข้อความ กลุ่มละ 1 ข้อความ จากครูผู้สอน แล้วนำกลับมาอภิปรายและปรึกษา หารือกันในกลุ่ม จนเข้าใจตรงกัน แล้วทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง เจาะประวัติศาสตร์ โดยครูตั้งประเด็นให้วิเคราะห์ ดังนี้ - ทำไมจึงต้องตั้งชื่อเรื่องหรือประเด็นที่จะศึกษา และควรตั้งชื่อเรื่องอย่างไร (กำหนดขอบเขตของเรื่อง) - หลักฐานที่จะนำมาใช้ในการศึกษามีกี่ประเภท อะไรบ้าง ( รวบรวมหลักฐาน ) - จะรู้ได้อย่างไรว่าหลักฐานนั้นมีความน่าเชื่อถือได้ ( ประเมินค่า ) - ทำอย่างไรจึงจะทราบเนื้อความหรือเรื่องราวจากหลักฐาน ( ตีความ ) - ข้อมูลมีจำนวนมากจะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ในการศึกษา (วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล)
5. นักเรียนสลายกลุ่มเดิม สร้างกลุ่มใหม่โดยรวมสมาชิกที่ไม่ซ้ำกับกลุ่มเดิม เล่าเรื่องที่ตนเอง รับผิดชอบให้เพื่อนในกลุ่มใหม่ฟัง ซักถามข้อสงสัยจนได้ข้อสรุปร่วมกัน ขั้นสรุป 6. ครูสุ่มเรียกตัวแทนกลุ่มออกมาอธิบายเรื่องที่ตนรับผิดชอบจนครบทุกกลุ่ม แล้วเปิดโอกาสให้เพื่อน ซักถามข้อสงสัย โดยมีครูช่วยเติมความรู้ ชั่วโมงที่ 2 1. ครูนำเสนอภาพเกี่ยวกับหลักฐานประวัติศาสตร์ผ่าน Power point เช่น ศิลาจารึก ซากเรือ โบราณ แผนที่ โครงกระดูกมนุษย์ ขวานหิน เป็นต้น ให้นักเรียนสังเกตและจำแนกกลุ่มหลักฐาน ประวัติศาสตร์ลงในใบงานที่ 1.2 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 2. ครูสุ่มเรียกนักเรียนอธิบายเหตุผลในการจัดกลุ่มหลักฐานทางประวัติศาสตร์ 3. นักเรียนศึกษาเรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จากหนังสือเรียนเกี่ยวกับหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ไทยกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์สากล 4. ครูเฉลยคำตอบในใบงานที่ 1.2 และอธิบายเพิ่มเติมเรื่อง ความแตกต่างของหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ไทยกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์สากล ชั่วโมงที่ 3 1. นักเรียนกลุ่มเดิมรับใบงานที่ 1.3 เรื่อง กรณีศึกษาประวัติศาสตร์ไทย แล้วนำไปปรึกษาหารือ อภิปรายร่วมกันในกลุ่ม โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ทั้ง 5 ขั้นตอน 2. ครูสังเกตการทำงานของนักเรียน แล้วครูให้คำแนะนำและให้กำลังใจในการทำงาน 3. ครูสุ่มเรียกตัวแทนกลุ่มออกมาอธิบายกรณีศึกษาประวัติศาสตร์ไทยโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ ให้เพื่อนฟัง ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย แล้วครูช่วยเสริมความรู้ การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 ห่วง 3 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ ใช้เวลาในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ ทำงานเหมาะกับเวลาความคุ้มค่าในอุปกรณ์การเรียน หลักมีเหตุผล การอธิบายโดยการใช้หลักการทางสังคม การแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางสังคม หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การมีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ การทำงานเป็นหมู่คณะ การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ อธิบายขั้นตอนการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ได้ เงื่อนไขคุณธรรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ซื่อสัตย์ มุ่งมั่นในการทำงาน
การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 1.2 ใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 1.3 ใบงานที่ 1.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. ภาพข่าว 3. แถบข้อความ 4. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เจาะประวัติศาสตร์ 5. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 6. ใบงานที่ 1.3 เรื่อง กรณีศึกษาประวัติศาสตร์ไทย แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. ศูนย์วิชาสังคมศึกษา
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เจาะประวัติศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง 1. ทำไมจึงต้องตั้งชื่อเรื่องหรือประเด็นที่จะศึกษา 2. การตั้งชื่อเรื่องมีหลักเกณฑ์อย่างไร 3. หลักฐานประเภทใดบ้างที่จะนำมาใช้ในการศึกษา 4. จะรู้ได้อย่างไรว่าหลักฐานนั้นมีความน่าเชื่อถือได้ 5. เพื่อให้ทราบเนื้อความหรือเรื่องราวจากหลักฐาน ควรทำอย่างไร
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เจาะประวัติศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง 1. ทำไมจึงต้องตั้งชื่อเรื่องหรือประเด็นที่จะศึกษา เพื่อกำหนดประเด็นในการศึกษาให้แคบลง 2. การตั้งชื่อเรื่องมีหลักเกณฑ์อย่างไร กำหนดช่วงเวลาประกอบเหตุการณ์ ความเจริญ-ความเสื่อมของอาณาจักร หรือตัวบุคคล ในช่วงเวลาหนึ่ง ตรงกับขั้นตอนประวัติศาสตร์ในเรื่อง การกำหนดขอบเขตของเรื่อง 3. หลักฐานประเภทใดบ้างที่จะนำมาใช้ในการศึกษา ทั้งหลักฐานชั้นต้น(ปฐมภูมิ) หลักฐานชั้นรอง(ทุติยภูมิ) หลักฐานที่ไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร (หลักฐานทางโบราณคดี) หลักฐานลายลักษณ์อักษร อยู่ในขั้นตอน ( รวบรวมหลักฐาน ) ของ กระบวนการทางประวัติศาสตร์ 4. จะรู้ได้อย่างไรว่าหลักฐานนั้นมีความน่าเชื่อถือได้ การค้นคว้าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ดีควรใช้หลักฐานรอบด้าน โดยประเมินค่าภายนอก (เอกสารจริงหรือปลอม) และการประเมินค่าภายใน (เนื้อหาสาระที่ปรากฏเกี่ยวกับบุคคล เหตุการณ์ สถานที่ ภาษา) หลักฐานที่แท้จริงจะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 5. เพื่อให้ทราบเนื้อความหรือเรื่องราวจากหลักฐาน ควรทำอย่างไร เมื่อทราบว่าหลักฐานเป็นของแท้ก็นำหลักฐานนั้นมาศึกษาอย่างละเอียด จัดหมวดหมู่ เป็นเรื่อง ประเด็น มองหาความสัมพันธ์ของประเด็นต่างๆ ตรงกับขั้นตอนใดในกระบวนการทาง ประวัติศาสตร์ (การตีความหลักฐาน ) เฉลย
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนดูภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กำหนดให้ แล้วบอกชื่อและจำแนก กลุ่มหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ และสรุปความรู้ที่ได้ รูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3 รูปที่ 4 รูปที่ 5 รูปที่ 6 รูปที่ 7 รูปที่ 8 รูปที่ 9
การสรุปความรู้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จำแนกกลุ่มหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนดูภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กำหนดให้ แล้วบอกชื่อและจำแนก กลุ่มหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ และสรุปความรู้ที่ได้ รูปที่ 1 ซากเรือโบราณ รูปที่ 2 โครงกระดูก ถ ้าผีแมน รูปที่ 3 แผนที่แม่น ้าเจ้าพระยา รูปที่ 4 หลักศิลาจารึก รูปที่ 5 สมุดภาพไตรภูมิ รูปที่ 6 พระบฎ รูปที่ 7 สมุดข่อย รูปที่ 8 แผนที่อยุธยา รูปที่ 9 แบบฝึกอ่านหนังสือไทย เฉลย
หลักฐานรูปที่ 1-9 สามารถจำแนกประเภทได้ ดังนี้ - หลักฐานไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร ได้แก่ รูปที่ 1 3 6 - หลักฐานลายลักษณ์อักษร ได้แก่ รูปที่ 2 4 5 7 8 9 1. เกณฑ์ในการแบ่งหลักฐานรูปที่ 1-9 ออกเป็นกลุ่ม คือ ตัวอักษร 2. เหตุผลที่เรียกหลักฐานที่ไม่ใช่ลายลักษณ์อักษรว่า หลักฐานทางโบราณคดี เพราะไม่ปรากฏ หลักฐานที่เป็นตัวอักษร แต่เป็นหลักฐานที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ 3. รูปที่ 3 และรูปที่ 5 เป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพราะมีการเขียนคำอธิบายไว้บน ภาพ จำแนกกลุ่มหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การสรุปความรู้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ใบงานที่ 1.3 เรื่อง กรณีศึกษาประวัติศาสตร์ไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษาทางประวัติศาสตร์ แล้วสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยวิธีการ ทางประวัติศาสตร์ 1. ควรตั้งปัญหาว่าอะไร 2. มีหลักฐานใดบ้างที่นำมาใช้ในการศึกษา 3. การวิเคราะห์และประเมินคุณค่าข้อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ผลเป็นอย่างไร พระยาตากสิน เข้ามารับราชการในกรุงศรีอยุธยาได้ตัดสินใจหนีออกจากกรุงศรีอยุธยาด้วยเหตุผลที่ว่า “ขืนสู้รบพม่าต่อไปไร้ประโยชน์ พระนครศรีอยุธยาคงไม่พ้นเสียแก่พม่าเพราะความอ่อนแอของผู้บัญชาการ” พระยาตากรวบรวมสมัครพรรคพวกได้ประมาณ 500 คนในเดือนยี่ ขึ ้น 4 ค ่า พ.ศ. 2309 เวลาค ่าก็ยกออก จาก ค่ายวัดพิชัยตีหกค่ายพม่าไปทางทิศตะวันออก มีข้าราชการที่ออกไปด้วย คือ พระเชียงเงิน พระพรหมเสนา หลวง พิชัยอาสา หลวงราชเสน่หา และขุนอภัยภักดี เป็นต้น พม่าไล่ติดตามไปทนัที่บ้านโพธิ์สงัหาร เกิดรบพุ่งกับพม่า ล้มตายแตกพ่ายไป พระยาตากจึงไปหยุดตั ้งค่ายที่บ้านพรานนก แขวงเมืองนครนายก ได้รบกับกองทัพพม่าอีกหลาย ครั ้งจึงได้ชัยชนะ และมีคนไทยที่หลบหนีพม่าเมื่อได้ทราบข่าวพระยาตากได้ชัยชนะต่อพม่าก็พากันมาเข้าด้วยเป็นอัน มาก พระยาตากจึงเดินทางต่อไปยังสระบุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง ไปตั ้งตัวได้ที่จันทบุรี”