1
2 บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ
3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ เวลา 15 ชั่วโมง เรื่อง แหล่งน้ำ เวลา 2 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………………………… ปีพ.ศ……………… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัด ว 3.2 ป.5/1 เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และระบุปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ ประโยชน์ได้จากข้อมูลที่รวบรวมได้ 2. สาระสำคัญ โลกมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่มีทั้งแหล่งน้ำผิวดิน เช่น ทะเล มหาสมุทร บึง แม่น้ำ และแหล่งน้ำใต้ดิน เช่น น้ำในดิน และน้ำบาดาล น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็ม ประมาณร้อยละ 97.5 ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่น ๆ และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจืด ถ้าเรียงลำดับ ปริมาณน้ำจืดจากมากไปน้อยจะอยู่ที่ ธารน้ำแข็ง และพืดน้ำแข็ง น้ำใต้ดิน ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวและน้ำแข็งใต้ ดิน ทะเลสาบ ความชื้นในดิน ความชื้นในบรรยากาศ บึง แม่น้ำ และน้ำในสิ่งมีชีวิต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ๑. ระบุปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จากข้อมูลที่รวบรวมได้ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล (P) เจตคติ (Attitude) 3. รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) (20 นาที)
4 1) ครูดำเนินการทดสอบก่อนเรียน โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบความ พร้อม และพื้นฐานของนักเรียน 2) ครูให้นักเรียนดูวิดีโอ เกี่ยวกับการสัญจรทางน้ำ ในสมัยอดีต อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=U2CPDfHNFAc 3) ครูถามคำถามนักเรียนจากวิดีโอ ดังนี้ 1. จากวิดีโอนักเรียนสังเกตอะไรเกี่ยวกับการคมนาคมทางน้ำในอดีตบ้าง (แนวคำตอบ: ใน อดีตใช้เรือในการสัญจรเดินทางไปยังที่ต่างๆ) 2. นอกจากใช้น้ำในการคมนาคมแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในแง่ใดอีก (แนวคำตอบ: ใช้ในการค้า ขายสินค้าระหว่างประเทศและยังใช้เป็นที่อยู่อาศัยเพราะจะมีคนบางกลุ่มที่จะสร้างบ้านเรือนเป็นแพลอยน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถือว่าคนสมัยก่อนใช้น้ำทั้งในการอุปโภคและบริโภค) 3. ในคลิปวิดีโอ นักเรียนรู้จักแหล่งน้ำที่สำคัญอะไรบ้าง (แนวคำตอบ: แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำ เจ้าพระยา) 4) ครูใช้คำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนว่า “นักเรียนทราบหรือไม่ว่า แหล่งน้ำที่สิ่งมีชีวิตได้ใช้ ประโยชน์นี้มาจากไหนและยังมีแหล่งน้ำอื่นๆ อีกหรือไม่บนโลกนี้” ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (40 นาที) 5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน 6) ครูแจกอุปกรณ์ ได้แก่ กระดาษบรูฟ กลุ่มละ 1 แผ่น สีกลุ่มละ 1 กล่อง และตัวอย่างแผนที่โลก แบบแผ่น 1 อัน 7) ครูชี้แจงกิจกรรม แหล่งน้ำบนโลก โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ครูให้นักเรียนวาดแผนที่โลก พร้อมระบายสีให้สวยงาม 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาแหล่งน้ำบนโลก โดยการตอบคำถาม ต่อไปนี้ - สัดส่วนของพื้นน้ำต่อพื้นดินของในโลกมีสัดส่วนเท่าใด - แหล่งน้ำส่วนใหญ่บนพื้นโลกมีลักษณะอย่างไร - ประชากรบนโลกใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำบนพื้นโลก อย่างไร 8) นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน ครูและเพื่อนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการทำกิจกรรม และชี้แจงให้นักเรียนเตรียมอุปกรณ์มาเรียนในชั่วโมงถัดไป
5 ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (๒0 นาที) 9) ให้นักเรียนจับคู่ และนำอุปกรณ์ที่เตรียมมา ดังนี้ - แก้วน้ำ 4 ใบ - น้ำเปล่า - กระดาษ 4 แผ่น - ปากกา 10) นักเรียนเทน้ำใส่แก้วตามสัดส่วนของน้ำ และเขียนระบุ ได้ผลลัพธ์ดังนี้ 97.5 % 1.75 % 0.74 % 0.01 % 2.5% ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (10 นาที) 11) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรม สรุปความรู้วิทยาศาสตร์ ป.5 ดังนี้ โลกมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำต่าง ๆ น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็ม ประมาณ ร้อยละ97.5 ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่น ๆ และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจืด น้ำจืดแบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท คือน้ำจืดที่ใช้ไม่ได้ร้อยละ 1.75 และน้ำจืดที่ใช้ได้ร้อยละ 0.75 และเมื่อนำน้ำที่ใช้ได้มา แบ่งก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือน้ำที่ใช้ได้ไม่ทันทีร้อยละ 0.74 และน้ำที่ใช้ได้ทันทีร้อยละ 0.01 ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) (10 นาที) 12) ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างแหล่งน้ำที่พบเจอในชีวิตประจำวัน ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) (๒0 นาที) 13) ครูให้นักเรียนทดสอบกิจกรรมแบ่งสัดส่วนน้ำจากแก้วทั้ง 4 ใบเป็นรายบุคคล
6 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. แบบทดสอบก่อนเรียน นักเรียนทดสอบ ครูจัดเตรียม 3. วิดีโอ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 4. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม และ ผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน ครูจัดทำ วัสดุอุปกรณ์ 1. กระดาษ 2. ปากกาเคมี, สี 3. แก้วน้ำ 4 ใบ 4. น้ำเปล่า 5. กระดาษ 4 แผ่น 6. แผนที่โลก แหล่งเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินความรู้ (K) แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม/ ใบงาน ตรวจแบบทดสอบ/ ใบกิจกรรม/ใบงาน -นักเรียนกลุ่มปกติผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป -นักเรียนกลุ่มบกพร่อง ทางการเรียนรู้ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้น ไป ๒.ประเมินการนำเสนอ (P) แบบประเมินการนำเสนอ สังเกตการนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ ๓.ประเมินทดสอบการทำ กิจกรรม แบบบันทึกคะแนน สังเกตการทำ กิจกรรม ปฏิบัติถูกต้องทั้งหมด เท่ากับ 5 คะแนน ปฏิบัติผิด 2 จุด เท่ากับ 3 คะแนน
7 กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 4. ประเมินเจตคติ (A) แบบบันทึกสังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………
8 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ เวลา 15 ชั่วโมง เรื่อง แหล่งน้ำ:2 เวลา 1 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………………………… ปี พ.ศ……………… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัด ว 3.2 ป.5/1 เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และระบุปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ ประโยชน์ได้จากข้อมูลที่รวบรวมได้ 2. สาระสำคัญ โลกมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่มีทั้งแหล่งน้ำผิวดิน เช่น ทะเล มหาสมุทร บึง แม่น้ำ และแหล่งน้ำใต้ดิน เช่น น้ำในดิน และน้ำบาดาล น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็ม ประมาณร้อยละ 97.5 ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่น ๆ และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจืด ถ้าเรียงลำดับ ปริมาณน้ำจืดจากมากไปน้อยจะอยู่ที่ ธารน้ำแข็ง และพืดน้ำแข็ง น้ำใต้ดิน ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวและน้ำแข็งใต้ ดิน ทะเลสาบ ความชื้นในดิน ความชื้นในบรรยากาศ บึง แม่น้ำ และน้ำในสิ่งมีชีวิต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ๑. ระบุปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จากข้อมูลที่รวบรวมได้ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล (P) เจตคติ (Attitude) 3. รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) (5 นาที) 1) ครูทบทวนเกี่ยวกับการทำกิจกรรม เรื่อง แหล่งน้ำบนโลก
9 ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (30 นาที) 2) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 4 กลุ่ม แบบคละความสามารถเพื่อศึกษาเกี่ยวกับ แหล่งน้ำผิวดิน และแหล่งน้ำใต้ดิน โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. ครูแบ่งฐานการเรียนรู้ออกเป็น 4 ฐาน ได้แก่ ฐานที่ 1 และ 2 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งน้ำผิว ดิน ฐานที่ 3 และ 4 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งน้ำใต้ดิน 2. ครูให้นักเรียนกลุ่มที่ 1 – 4 เข้าประจำฐานตามหมายเลขเพื่อศึกษาข้อมูลของแหล่งน้ำต่างๆ บนโลก โดยกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ศึกษาเกี่ยวกับแหล่งน้ำผิวดิน กลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 4 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ แหล่งน้ำใต้ดิน โดยให้เวลาฐานละ 10 นาที 3. เมื่อหมดเวลาครูจะให้สัญญานโดยการเป่านกหวีดเพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนฐาน โดยให้นักเรียน แต่ละกลุ่มเข้าฐานสลับกันโดย กลุ่มที่ 1 สลับกับกลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ 2 สลับกับกลุ่มที่ 4 3) เมื่อแต่ละกลุ่มเข้าฐานจนครบทุกฐาน ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดทำแผนผังความคิดสรุปความรู้ เกี่ยวกับ แหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดิน ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (10 นาที) 4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรม สรุปความรู้วิทยาศาสตร์ ป.5 ดังนี้ 1. น้ำ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดทั้งในด้าน การอุปโภคและบริโภค น้ำบนโลกปกคลุมพื้นที่ 3 ใน 4 ส่วนของพื้นผิวโลกทั้งหมดซึ่งสามารถพบแหล่งน้ำได้ ทุกหนทุกแห่งบนโลก 2. น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็ม ประมาณร้อยละ 97.5 ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำ อื่นๆ และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจืด 3. ถ้าเรียงลำดับปริมาณน้ำจืดจากมากไปน้อยจะอยู่ที่ ธารน้ำแข็ง และพืดน้ำแข็ง น้ำใต้ดิน ชั้นดิน เยือกแข็งคงตัวและน้ำแข็งใต้ดิน ทะเลสาบ ความชื้นในดิน ความชื้นในบรรยากาศ บึง แม่น้ำ และน้ำใน สิ่งมีชีวิต 13) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับปริมาณน้ำในแหล่งต่างๆ บน โลก ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) (5 นาที) 5) ครูใช้คำถามเพื่อขยายความเข้าใจของนักเรียน ดังนี้ 1. นักเรียนคิดว่า น้ำมีความสำคัญต่อมนุษย์หรือไม่ อย่างไร 2. ในชีวิตประจำวันของนักเรียนตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน นักเรียนใช้น้ำทำกิจกรรมใดบ้าง 6) ครูให้นักเรียนดูวิดีโอ ทะเลน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายเร็วกว่าที่คาด
10 อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=nd0IrBPe3Cw จากนั้นครูตั้งคำถามว่า “หากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย จะส่งผลกระทบต่อระดับน้ำทะเลและสิ่งมีชีวิตบน โลกอย่างไร” (แนวคำตอบ: มีผลทำให้ระดับน้ำทะเลมีระดับสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตคือ สัตว์ที่อยู่ บริเวณขั้วโลกอาจสูญพันธุ์ได้และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงทำให้บริเวณชายฝั่งและมหาสมุทรถูกน้ำทะเลกลืนลง ไป น้ำท่วมบริเวณพื้นที่ชายฝั่งได้) ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) (10 นาที) 7) นักเรียนทำใบงานเรื่อง ปริมาณน้ำในแหล่งต่างๆ 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. ใบงานเรื่อง ปริมาณน้ำในแหล่งต่างๆ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 3. ใบความรู้เรื่อง แหล่งน้ำบนดินและแหล่ง น้ำใต้ดิน นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 4. วิดีโอ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 5. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม และ ผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน ครูจัดทำ วัสดุอุปกรณ์ - แหล่งเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
11 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินความรู้ (K) แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม/ ใบงาน ตรวจแบบทดสอบ/ ใบกิจกรรม/ใบงาน -นักเรียนกลุ่มปกติผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป -นักเรียนกลุ่มบกพร่อง ทางการเรียนรู้ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้น ไป 2. ประเมินแผนผังความคิด (P) แผนผังที่นักเรียนจัดทำ ตรวจแผนผัง ความคิด -นักเรียนแต่ละกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป ๓. ประเมินเจตคติ (A) แบบบันทึกสังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………
12
13 ใบความรู้เรื่อง แหล่งน้ำผิวดิน
14 ใบความรู้เรื่อง แหล่งน้ำผิวดิน
15 ใบความรู้เรื่อง แหล่งน้ำใต้ดิน
16 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ เวลา 15 ชั่วโมง เรื่อง การประหยัดและอนุรักษ์น้ำ เวลา 2 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………………………… ปี พ.ศ……………… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัด ว 3.2 ป.5/2 ตระหนักถึงคุณค่าของน้ำโดยน้ำเสนอแนวทางการใช้น้ำอย่างประหยัดและการ อนุรักษ์น้ำ 2. สาระสำคัญ น้ำจืดที่มนุษย์น้ำมาใช้ได้มีปริมาณน้อยมากจึงควรใช้น้ำอย่างประหยัดและร่วมกันอนุรักษ์น้ำ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ๑. ตระหนักถึงคุณค่าของน้ำโดยน้ำเสนอแนวทางการใช้น้ำอย่างประหยัดและการอนุรักษ์น้ำ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. ร่วมรณรงค์และมีส่วนร่วมในการการอนุรักษ์น้ำ (P) เจตคติ (Attitude) 3. รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) (10 นาที) 1) ครูให้นักเรียนดูวิดีโอเพลง “น้ำคือชีวิต”
17 อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=778SaKgWv40 2) ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนคิดว่า น้ำมีความสำคัญต่อมนุษย์อย่างไร” (แนวคำตอบ: ตอบ ตามความคิดของนักเรียน) 3) ครูถามนักเรียนต่อว่า “เนื่องจากแหล่งน้ำจืดบนโลกมีปริมาณน้อย นักเรียนมี แนวทางอย่างไรในการประหยัดและอนุรักษ์น้ำ” ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (๕0 นาที) 4) ครูให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน โดยให้นักเรียนวิเคราะห์ประเด็น “ปัญหาเกี่ยวกับ ทรัพยากรน้ำ” ซึ่งมีประเด็น ดังนี้ 1. ปัญหาเกี่ยวกับทรพยากรน้ำในประเทศ คืออะไร 2. ปัญหาเกี่ยวกับทรพยากรน้ำในท้องถิ่นของนักเรียน คืออะไร 3. สาเหตุของปัญหาเกิดจากอะไร 4. ในฐานะที่นักเรียนเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ในท้องถิ่น/ชุมชน นักเรียนมีแนวทางในการ ประหยัดและอนุรักษ์น้ำอย่างไร ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (30 นาที) 5) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ “ปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ” ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (10 นาที) 6) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายความรู้เกี่ยวกับการประหยัดและอนุรักษ์น้ำ โดยใช้คำถาม ต่อไปนี้ 1. ทรัพยากรน้ำมีความสำคัญอย่างไร (แนวคำตอบ: น้ำ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความ จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดทั้งในด้านการอุปโภคและบริโภค ประชากรไม่สามารถขาดน้ำได้ ในขณะน้ำที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีปริมาณลดน้อยลงและเสื่อมคุณภาพลง) 2. ปัญหาทรัพยากรน้ำที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากสิ่งใด (แนวคำตอบ: ตอบตาม แนวคิดของตนเอง เช่น การเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำโดยขาดการดูแล
18 เช่น การเติบโตของโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำจากการปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ การใช้น้ำ อย่างฟุ่มเฟือย) 3. วิธีการประหยัดและอนุรักษ์น้ำ มีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ: ตอบตามแนวคิดของตนเอง เช่น การ ปลูกป่า การพัฒนาแหล่งน้ำ การสงวนน้ำไว้ใช้ การใช้น้ำอย่างประหยัด การป้องกันการเกิดมลพิษของน้ำและ การนำน้ำที่ใช้แล้วกลับไปใช้ใหม่) ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) (10 นาที) 7) ครูให้นักเรียนดูคลิปวิดีโอ “เยาวชนคนรักษ์น้ำ” อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=YMlr0iB8u-4 8) ครูถามนักเรียนว่า “จากวิดีโอคลิป ทำไมเยาวชนจึงควรเป็นส่วนสำคัญในการประหยัดและอนุรักษ์ น้ำ” (แนวคำตอบ: ตอบตามความคิดของนักเรียน) 9) ครูให้นักเรียนเขียนวิธีการประหยัดและอนุรักษ์น้ำ โดยแจกกระดาษโน้ต (โพสอิท) ให้นักเรียนคน ละ 1 แผ่น เมื่อเขียนเสร็จแล้วให้นักเรียนนำไปติดที่บอร์ดหน้าห้องเรียน ซึ่งจะได้วิธีการประหยัดและอนุรักษ์ น้ำ ที่หลากหลายตามความคิดของนักเรียน ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) (10 นาที) 10) นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การประหยัดและอนุรักษ์น้ำ 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. ใบงาน เรื่อง การประหยัดและอนุรักษ์ น้ำ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 3. PowerPoint สรุปความรู้วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 4. เพลง “น้ำคือชีวิต” นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม
19 ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 5. วิดีโอเรื่อง “เยาวชนคนรักษ์น้ำ” นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 6. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม และ ผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน ครูจัดทำ วัสดุอุปกรณ์ กระดาษโน้ต แหล่งเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินความรู้ (K) แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม/ ใบงาน ตรวจแบบทดสอบ/ ใบกิจกรรม/ใบงาน -นักเรียนกลุ่มปกติผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป -นักเรียนกลุ่มบกพร่อง ทางการเรียนรู้ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้น ไป 2. ประเมินการนำเสนอ (P) แบบประเมินการนำเสนอ ประเมินการ นำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ ๓. ประเมินเจตคติ (A) แบบบันทึกสังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………
20 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง การประหยัดและอนุรักษ์น้ำ
21 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ เวลา 15 ชั่วโมง เรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………………………… ปี พ.ศ……………… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัด ว 3.2 ป.5/4 เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง จากแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ ไอน้ำในอากาศจะควบแน่นเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ โดยมีละอองลอย เช่น เกลือ ฝุ่นละออง ละอองเรณู ของดอกไม้เป็นอนุภาคแกนกลาง เมื่อละอองน้ำจำนวนมากเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยู่สูงจากพื้นดินมาก เรียกว่า เมฆ แต่ละอองน้ำที่เกาะกลุ่มรวมกันอยู่ใกล้พื้นดิน เรียกว่า หมอก ส่วนไอน้ำที่ควบแน่นเป็นละอองน้ำเกาะอยู่ บนพื้นผิววัตถุใกล้พื้นดิน เรียกว่า น้ำค้าง ถ้าอุณหภูมิใกล้พื้นดินต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง น้ำค้างก็จะกลายเป็น น้ำค้างแข็ง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ๑. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง จากแบบจำลองได้ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. ทักษะการกำหนดตัวแปร การตั้งสมมติฐานและทักษะการทดลอง (P) เจตคติ (Attitude) 3. รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) (10 นาที) 1) ครูถามนักเรียนว่า “สภาพอากาศในแต่ละวันเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร” (แนวคำตอบ: แตกต่างกัน เพราะ สภาพอากาศรอบๆ ตัวเราในแต่ละวันเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น บางวัน
22 ท้องฟ้าใส บางวันฟ้าครึ้มมีเมฆมากฝนตก หรือการมีหมอกและน้ำค้างช่วงเช้า อากาศร้อนช่วงกลางวัน เป็นต้น) 2) ครูให้นักเรียนดูภาพ หมอก และน้ำค้างแข็ง และตั้งคำถามเกี่ยวกับภาพ ดังนี้ 1. ภาพที่เกิดคือปรากฏการณ์ใด (แนวคำตอบ: การเกิดหมอกและน้ำค้างแข็ง) 2. จากภาพ ปรากฏการณ์ต่างๆ เกิดได้อย่างไร (แนวคำตอบ: ตอบตาม แนวความคิดของนักเรียน) 3. ปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศที่เกิดขึ้นแต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ: ตอบตามแนวความคิดของนักเรียน) ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (๕0 นาที) 3) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน 4) ครูชี้แจงกิจกรรมการทดลอง แบบจำลองการเกิดเมฆและหมอก โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตวงน้ำร้อนลงในบีกเกอร์ 2 ใบ ใบละ 100 มิลลิลิตร 2. จุดธูปแล้วดับไฟ จ่อลงไปในบีกเกอร์ทั้ง 2 ใบ 3. ใช้กระจกนาฬิกาปิดปากบีกเกอร์ รอจนควันธูปเต็มบีกเกอร์ 4. จุ่มธูปลงไปในน้ำและเอาธูปออก สังเกตในบีกเกอร์และบันทึกผล 5. วางน้ำแข็งบนกระจกนาฬิกาของบีกเกอร์ 1 ใบ สังเกตและบักทึกผล 5) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทดลอง โดยครูใช้คำถามว่า “ลักษณะของเมฆและ หมอกแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร” (แนวคำตอบ: แตกต่างกัน เพราะเมฆจะลอยอยู่สูงจากพื้นดินมาก และมีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนสีขาว ส่วนหมอกจะลอยอยู่ใกล้พื้นดินและมีลักษณะคล้ายควันสีขาว) 6) นักเรียนทำใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง แบบจำลองการเกิดเมฆและหมอก ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (60 นาที) 7) ครูให้นักเรียนศึกษาใบงาน เรื่อง ลักษณะของเมฆชนิดต่างๆ แล้วพานักเรียนออกไปสำรวจ เมฆบริเวณโรงเรียนแล้วถามนักเรียนว่า “เมฆ บริเวณโรงเรียนเป็นเมฆชนิดใดและมีลักษณะอย่างไร” และมีการศึกษาโดยใช้สื่อประกอบ คือกล้องส่องเมฆ
23 ชั่วโมงที่ ๓ ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (30 นาที) 8) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน (กลุ่มเดิมจากชั่วโมงที่แล้ว) 9) ครูชี้แจงกิจกรรมการทดลอง แบบจำลองการเกิดน้ำค้างและน้ำค้างแข็ง โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ใส่น้ำแข็งลงในแก้วใบที่ 1 จนเต็มแก้ว จากนั้นตั้งแก้วไว้สักครูแล้วสังเกตบริเวณด้าน นอกของแก้ว บันทึกผล 2. ใส่น้ำแข็งลงในแก้วใบที่ 2 จนเกือบเต็มแก้ว จากนั้นใส่เกลือ 2 – 3 ช้อนโต๊ะ คนน้ำแข็ง และเกลือให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้ 3 – 5 นาที สังเกตบริเวณด้านนอกของแก้ว บันทึกผล 10) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทดลอง โดยครูใช้คำถามว่า “กระบวนการเกิด น้ำค้างและน้ำค้างแข็งแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร” (แนวคำตอบ: แตกต่างกัน ไอน้ำที่ควบแน่นเป็นหยด น้ำเกาะอยู่บนวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ พื้นโลก เรียกว่า น้ำค้าง ถ้าอุณหภูมิใกล้พื้นดินต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง น้ำค้างก็ จะแข็งตัวกลายเป็นน้ำค้างแข็ง) 11) นักเรียนทำใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง แบบจำลองการเกิดน้ำค้างและน้ำค้างแข็ง ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (15 นาที) 12) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรม ดังนี้ 1. เมฆ (Clouds) เกิดจาก การที่น้ำบนผิวโลกได้รับความร้อนจากแสงแดดจะเกิดการระเหย กลายเป็นไอน้ำลอยตัวขึ้นไปอยู่ในอากาศ ไอน้ำเกิดการควบแน่น ลอยอยู่ในระดับสูงกลายเป็นเมฆ 2. ชนิดของเมฆตามลักษณะมีอยู่ 4 กลุ่ม ได้แก่ 2.1.เซอร์รัส เป็นเมฆชั้นสูง เป็นเส้นเรียงสวยสีขาวเหมือนปุยขนนก พบได้ในวันที่ฟ้า โปร่ง 2.2.คิวมูโลนิมบัส เป็นเมฆฝน ที่ก่อตัวในแนวตั้ง และมักมียอดเป็นรูปทั่ง 2.3.คิวมูลัส มีลักษณะเป็นก้อนกระจุกคล้ายภูเขา หากด้านล่างมีสีดำคล้ำ คาดว่าฝนจะ ตก พบได้ในวันที่อากาศร้อน 2.4.สตราตัส มีลักษณะเป็นชั้น ๆ แผ่นสีเทาบางๆ มักไม่ก่อให้เกิดฝน 3. หมอก (Fog) เกิดจาก การที่น้ำบนผิวโลกได้รับความร้อนจากแสงแดดจะเกิดการระเหย กลายเป็นไอน้ำลอยตัวขึ้นไปอยู่ในอากาศ ไอน้ำในอากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้ำเล็กๆ ลอยใน ระดับต่ำ เรียกว่า หมอก 4. น้ำค้าง (Dew) เกิดจาก ไอน้ำที่ควบแน่นเป็นหยดน้ำเกาะอยู่บนวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ พื้นโลก และเกาะลงบนพื้นผิวของวัตถุ โดยที่อุณหภูมิของอากาศซึ่งอยู่รอบๆ ลดต่ำลงกว่าจุดน้ำค้าง 5. น้ำค้างแข็ง (Frost) เป็นปรากฏการณ์ที่ไอน้ำที่อยู่ใกล้พื้นผิว มีอุณหภูมิลดลงจนถึงจุด เยือกแข็ง คือต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ทำให้ไอน้ำหรือน้ำค้างนั้นกลายเป็นน้ำแข็งเล็ก ๆ เกาะตามยอด หญ้า ใบไม้ดอกไม้ เป็นต้น 13) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้างและน้ำค้างแข็ง
24 ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) (5 นาที) 14) ครูใช้คำถามเพื่อขยายความเข้าใจของนักเรียน ดังนี้ 1. นักเรียนคิดว่าหมอกมีผลดีหรือผลเสียกับสิ่งมีชีวิตมากกว่ากัน เพราะเหตุใด (แนว คำตอบ: นักเรียนตอบตามความคิดของนักเรียน) 2. นักเรียนคิดว่า เพราะเหตุใดในบางพื้นที่เกิดน้ำค้างและบางพื้นที่เกิดน้ำค้างแข็ง (แนว คำตอบ: เนื่องจากอุณหภูมิอากาศใกล้พื้นดินแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ถ้าอุณหภูมิอากาศใกล้พื้นดินต่ำกว่า จุดเยือกแข็งจะทำให้น้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็งได้) ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) (10 นาที) 15) นักเรียนทำใบงานเรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ 1 และ 2 16) นักเรียนทำใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง แบบจำลองการเกิดเมฆและหมอกและ แบบจำลองการเกิดน้ำค้างและน้ำค้างแข็ง 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. ใบงานเรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ 1 และ 2 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 3. PowerPoint สรุปความรู้วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 4. ใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง แบบจำลองการเกิดเมฆและหมอกและ แบบจำลองการเกิดน้ำค้างและน้ำค้าง แข็ง นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 5. ใบความรู้เรื่อง ลักษณะของเมฆ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 6. กล้องส่องเมฆ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 7. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม และ ผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน ครูจัดทำ วัสดุอุปกรณ์ 1. แก้ว 2. เกลือ 3. น้ำแข็ง 4. บีกเกอร์ 2 ใบ ใบละ 100 มิลลิลิตร
25 5. ธูป 6. กระจกนาฬิกา 7. อุปกรณ์การทดลองต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินความรู้ (K) แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม/ ใบงาน ตรวจแบบทดสอบ/ ใบกิจกรรม/ใบงาน -นักเรียนกลุ่มปกติผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป -นักเรียนกลุ่มบกพร่อง ทางการเรียนรู้ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้น ไป 2. ประเมินการทดลอง (P) แบบประเมินการทดลอง ประเมินการทดลอง ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ ๓. ประเมินเจตคติ (A) แบบบันทึกสังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………
26 ใบงานเรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ CLOUD เมฆ เกิดจาก…………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………… ลักษณะของเมฆ……………………………………………………………… …………………………………………………………………………………….. FOG หมอก เกิดจาก…………………………………………………………..…… ……………………………………………………………………………………… ลักษณะของหมอก…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… DEW น้ำค้าง เกิดจาก…………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………….. ลักษณะของน้ำค้าง………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………….. FROST น้ำค้างแข็ง เกิดจาก………………………………………………………… …………………………………………………………………………………….. ลักษณะของน้ำค้างแข็ง…………………………………………………… …………………………………………………………………………….……… RAIN ฝน เกิดจาก…………………………………………………………………… …………………………………………………………………………..……….. ลักษณะของฝน……………………………………………………………… …………………………………………………………………………………….. SNOW หิมะ เกิดจาก……………………………………………………………….… ……………………………………………………………………………………… ลักษณะของหิมะ……………………………………………………………… …………………………………………………………………………………….. HAIL ลูกเห็บ เกิดจาก………………………………………………………….…… ……………………………………………………………………………………… ลักษณะของลูกเห็บ………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………..
27 ใบงานเรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ 2 คำตอบ ข้อ ข้อความ 1 ละอองน้ำที่เกาะอยู่บนพื้นผิววัตถุ หรือใบไม้ตามพื้นดิน คือ หมอก แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 2 หมอก จัดเป็นหยาดน้ำฟ้า แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 3 การเกิดฝนมีกระบวนการเหมือนการเกิดหยดน้ำบนฝาหม้อหุงข้าว แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 4 ฝนมีสถานะเดียว คือ ของเหลว แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 5 หยาดน้ำฟ้าทุกชนิดมีลักษณะเป็นของเหลว แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 6 ลูกเห็บเกิดจากหยดน้ำเปลี่ยนเป็นของแข็ง แล้วถูกพัดวนซ้ำไปซ้ำมาในเมฆ กลายเป็นก้อนน้ำแข็ง แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 7 เมื่อน้ำได้รับความร้อนจะเกิดการระเหยเป็นไอน้ำเล็ก ๆ แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 8 หมอกเกิดจากไอน้ำในอากาศระเหิดกลับเป็นผลึกน้ำแข็งจากนั้นรวมตัวกันตกลง สู่พื้น แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 9 น้ำค้างแข็งมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าแม่คะนิ้ง แก้ไข………………………………………………………………………………………………………… 10 น้ำค้างมองเห็นเป็นละอองน้ำที่เกาะอยู่ตามใบไม้ ใบหญ้าบริเวณใกล้พื้นดิน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีฝนตก แก้ไข…………………………………………………………………………………………………………
28 ใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง แบบจำลองการเกิดเมฆและหมอก
29 ใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง แบบจำลองการเกิดน้ำค้างและน้ำค้างแข็ง
30 ใบความรู้เรื่อง ลักษณะของเมฆ
31 ใบความรู้เรื่อง ลักษณะของเมฆ
32 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ เวลา 15 ชั่วโมง เรื่อง ฝน หิมะ และลูกเห็บ เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………………………… ปี พ.ศ……………… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัด ว 3.2 ป.5/5 เปรียบเทียบกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ 2. สาระสำคัญ ฝน หิมะ ลูกเห็บ เป็นหยาดน้ำฟ้าซึ่งเป็นน้ำที่มีสถานะต่าง ๆ ที่ตกจากฟ้าถึงพื้นดิน ฝนเกิดจาก ละอองน้ำในเมฆที่รวมตัวกันจนอากาศไม่สามารถพยุงไว้ได้จึงตกลงมา หิมะเกิดจากไอน้ำในอากาศระเหิดกลับ เป็นผลึกน้ำแข็ง รวมตัวกันจนมีน้ำหนักมากขึ้นจนเกินกว่าอากาศจะพยุงไว้จึงตกลงมาลูกเห็บเกิดจากหยดน้ำที่ เปลี่ยนสถานะเป็นน้ำแข็ง แล้วถูกพายุพัดวนซ้ำไปซ้ำมาในเมฆฝนฟ้าคะนองที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในระดับสูงจน เป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ขึ้นแล้วตกลงมา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ๑. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. ทักษะการกำหนดตัวแปร การตั้งสมมติฐานและทักษะการทดลอง (P) เจตคติ (Attitude) 3. รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
33 ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) (10 นาที) 1) ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับการเกิด เมฆ หมอก น้ำค้างและน้ำค้างแข็ง 2) ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม รุ้งกินน้ำ โดยให้นักเรียนนำน้ำฉีดเป็นฝอยไปบริเวณที่มีแสงแดด แล้วให้ นักเรียนสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น (เกิดแถบสีของรุ้งกินน้ำ) 3) ครูถามนักเรียนเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้ 1. นักเรียนจะสังเกตเห็นรุ้งกินน้ำ เวลาใด (แนวคำตอบ: ช่วงเวลาหลังฝนตก) 2. นักเรียนทราบไหมว่า ฝน เกิดขึ้นได้อย่างไร และนอกจากฝนยังมีปรากฏการณ์ใดบ้างที่มี ลักษณะคล้ายฝน (แนวคำตอบ: ตอบตามแนวความคิดของนักเรียน) ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (๕0 นาที) 4) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน 5) ครูชี้แจงกิจกรรมการทดลอง การเกิดหยาดน้ำฟ้า โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตัดขวดพลาสติกตามขวางเป็น 2 ส่วน 2. เทน้ำอุ่นลงในขวดพลาสติกส่วนล่าง จากนั้นหยดสีผสมอาหารลงในน้ำอุ่น 3. ใส่น้ำแข็งลงในขวดพลาสติกด้านบน นำมาวางซ้อนบนขวดพลาสติกด้านล่าง 4. ตั้งทิ้งไว้สักพัก สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและบันทึกผล 6) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทดลอง 7) นักเรียนทำใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง การเกิดหยาดน้ำฟ้า ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (60 นาที) 8) จากกิจกรรมการทดลองชั่วโมงเรียนที่แล้ว ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง เรื่องการ เกิดหยาดน้ำฟ้า หน้าชั้นเรียน พร้อมร่วมกันตอบคำถาม โดยให้นักเรียนที่รับฟังการนำเสนอสามารถถามคำถาม เกี่ยวกับ เรื่อง การเกิดหยาดน้ำฟ้า จากกลุ่มที่นำเสนอได้กลุ่มละ 1 คำถาม ส่วนนักเรียนที่นำเสนอก็สามารถ ถามคำถามนักเรียนที่รับฟังได้กลุ่มละ 1 คำถาม เพื่อรับคะแนนคำถามละ 5 คะแนน ชั่วโมงที่ 3 ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (15 นาที) 9) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรม โดยใช้คำถาม ดังนี้ 1. หยาดน้ำฟ้า คืออะไร (แนวคำตอบ: หยาดน้ำฟ้า (Precipitation) เป็นชื่อเรียกรวมของ หยดน้ำและน้ำแข็ง ที่เกิดจาการควบแน่นของไอน้ำแล้วตกลงมาสู่พื้น เช่น ฝน ลูกเห็บ หิมะ เป็นต้น) 2. ฝน หิมะและลูกเห็บ เกิดจากอะไร (แนวคำตอบ: ฝน เกิดจากละอองน้ำในเมฆที่รวมตัวกัน จนอากาศไม่สามารถพยุงไว้ได้จึงตกลงมา/ หิมะ เกิดจากไอน้ำในอากาศระเหิดกลับเป็นผลึกน้ำแข็งรวมตัวกัน จนมีน้ำหนักมากขึ้นจนเกินกว่าอากาศจะพยุงไว้จึงตกลงมา/ ลูกเห็บ เกิดจากหยดน้ำที่เปลี่ยนสถานะเป็น น้ำแข็งแล้วถูกพายุพัดวนซ้ำไปซ้ำมาในเมฆฝนฟ้าคะนองที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในระดับสูงจนเป็นก้อนน้ำแข็ง ขนาดใหญ่ขึ้นแล้วตกลงมา)
34 3. ฝน หิมะและลูกเห็บ แตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ: ลักษณะการเกิดที่เกิดจากการ เปลี่ยนสถานะ เช่น ฝนเกิดจากการรวมตัวหรือการควบแน่นของละอองน้ำ หิมะ เกิดจากไอน้ำในอากาศระเหิด กลับ ส่วนลูกเห็บ เกิดจากหยดน้ำที่เปลี่ยนสถานะเป็นน้ำแข็ง และลักษณะของฝน ที่เป็นของเหลว หิมะเป็น ของแข็งและลูกเห็บที่เป็นของแข็งที่แข็งกว่าหิมะ) 10) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับหยาดน้ำฟ้า คือ ฝน หิมะและ ลูกเห็บ ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) (25 นาที) 11) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน โดยเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมการทดลอง จากนั้นเปิด วิดีโอเรื่อง “นักท่องเที่ยวแห่ถ่ายภาพลูกเห็บตกที่เชียงใหม่” อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=dez7Dxw0Lf4 12) นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากพายุลูกเห็บตกและวิธีป้องกันอันตรายที่ อาจเกิดขึ้นจากพายุลูกเห็บ ให้ได้มากที่สุด 13) นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอประเด็นที่แต่ละกลุ่มวิเคราะห์ จากนั้นครูและ นักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากพายุลูกเห็บตกและวิธีป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จากพายุลูกเห็บ 14) ครูใช้คำถามเพื่อขยายความเข้าใจของนักเรียน (ตอบลงในสมุดวิทยาศาสตร์) ดังนี้ 1. น้ำมีประโยชน์และโทษต่อสิ่งมีชีวิต อย่างไร 2. หากประเทศไทยมีหิมะเกิดขึ้นและตกเป็นจำนวนมาก นักเรียนคิดว่าจะก่อให้เกิดผลดีหรือ ผลเสีย อย่างไร (แนวคำตอบ: นักเรียนตอบตามความคิดของนักเรียน) 3. นักเรียนคิดว่าการเกิดลูกเห็บมีผลต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร อย่างไร (แนวคำตอบ: นักเรียนตอบ ตามความคิดของนักเรียน) ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) (20 นาที) 15) นักเรียนทำใบงานเรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ 1 และ 2 (ส่วนที่เหลือจาก ชั่วโมงที่แล้ว) 16) นักเรียนทำแผนผังความคิด (Mind Mapping) เรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ และตกแต่งให้สวยงาม
35 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. ใบงานเรื่อง เมฆ หมอก น้ำค้าง ฝน หิมะ และลูกเห็บ 1 และ 2 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 3. PowerPoint สรุปความรู้วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 4. ใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง การเกิด หยาดน้ำฟ้า นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 5. วิดีโอเรื่อง “นักท่องเที่ยวแห่ถ่ายภาพ ลูกเห็บตกที่เชียงใหม่” นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 6. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม และ ผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน ครูจัดทำ วัสดุอุปกรณ์ 1. ขวดพลาสติก 2. สีผสมอาหาร 3. อุปกรณ์การทดลองต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินความรู้ (K) แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม/ ใบงาน ตรวจแบบทดสอบ/ ใบกิจกรรม/ใบงาน -นักเรียนกลุ่มปกติผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป -นักเรียนกลุ่มบกพร่อง ทางการเรียนรู้ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้น ไป 2. ประเมินการทดลอง (P) แบบประเมินการทดลอง ประเมินการทดลอง ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
36 กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 3. ประเมินการนำเสนอ (P) แบบประเมินการนำเสนอ ประเมินการ นำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 4. ประเมินแผนผังความคิด (P) แผนผังที่นักเรียนจัดทำ ตรวจแผนผัง ความคิด -นักเรียนแต่ละกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป 5. ประเมินเจตคติ (A) แบบบันทึกสังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………
37 ใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง การเกิดหยาดน้ำฟ้า
38 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ เวลา 15 ชั่วโมง เรื่อง วัฏจักรน้ำ เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………………………… ปี พ.ศ……………… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัด ว 3.2 ป.5/3 สร้างแบบจำลองที่อธิบายการหมุนเวียนของน้ำในวัฏจักรน้ำ 2. สาระสำคัญ วัฏจักรน้ำ เป็นการหมุนเวียนของน้ำที่มีแบบรูปซ้ำเดิม และต่อเนื่องระหว่างน้ำในบรรยากาศ น้ำผิว ดิน และน้ำใต้ดิน โดยพฤติกรรมการดำรงชีวิตของพืชและสัตว์ส่งผลต่อวัฏจักรน้ำ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายความรู้เกี่ยวกับวัฏจักรน้ำได้ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการหมุนเวียนของน้ำในวัฏจักรน้ำได้ (P) เจตคติ (Attitude) 3. รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) (10 นาที) 1) ครูทบทวนความรู้เรื่อง แหล่งน้ำต่างๆบนโลก โดยใช้คำถามต่อไปนี้ 1. แหล่งน้ำต่างๆ บนโลกมีกี่แหล่งอะไรบ้าง (แนวคำตอบ: 3 แหล่ง คือ แหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำใต้ดินและแหล่งน้ำบรรยากาศ) 2. นักเรียนทราบหรือไม่ว่าปริมาณพื้นดินต่อพื้นน้ำในโลกมีสัดส่วนเท่าใด (แนวคำตอบ: ปริมาณพื้นดินต่อพื้นน้ำเท่ากับ 1 : 3 )
39 2) ครูถามนักเรียนเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนว่า “นักเรียนคิดว่า ปริมาณน้ำบนโลกใบนี้ทำไมถึงมีปริมาณ เยอะ และนักเรียนคิดว่าน้ำมีวันหมดจากโลกหรือไม่” (แนวคำตอบ: ตอบตามความคิดของนักเรียน) ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (50 นาที) 3) ครูให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน 4) ครูชี้แจงกิจกรรมการทดลอง วัฏจักรน้ำ ดังนี้ 1. ใส่ดินเหนียวลงในกล่องพลาสติกตรงกลางโดยปั้นให้คล้ายภูเขา 2. .ใส่ดินทรายลงกล่องทางซ้ายและใส่น้ำลงลงไปจนเกือบเต็มกล่อง 3. วางกล่องพลาสติกใบเล็กไว้บนดินเหนียวแล้วใช้ถุงพลาสติกปิดกล่องใบใหญ่ให้สนิทใช้ยางรัดให้ แน่น 4. วางน้ำแข็งใบถุงพลาสติกให้ตรงกับกล่องใบเล็ก นำไปตั้งกลางแดดจัดๆ ประมาณ 30 นาที คอยเติมน้ำแข็งไปเรื่อยๆ จนสังเกตเห็นน้ำหยดลงในกล่องใบเล็ก 5. ทำใบบันทึกผลการทดลอง วัฏจักรน้ำ ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) (60 นาที) ๕) ให้นักเรียนวาดภาพวัฏจักรของน้ำ พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับวัฏรจักรน้ำ คนละ 2 ข้อ ชั่วโมงที่ 3 ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (15 นาที) 6) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายความรู้เกี่ยวกับ วัฏจักรน้ำ ดังนี้ 1. วัฏจักรน้ำ เป็นการหมุนเวียนของน้ำที่มีรูปแบบซ้ำเดิม และต่อเนื่องระหว่างน้ำใน บรรยากาศ น้ำผิวดิน และน้ำใต้ดิน โดยพฤติกรรมการดำรงชีวิตของพืชและสัตว์ส่งผลต่อวัฏจักรน้ำ 2. วัฏจักรน้ำ มีกระบวนการเกิดโดยเริ่มต้นจากน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น ทะเล มหาสมุทร แม่น้ำ ลำคลองหนอง บึง ทะเลสาบจากการคายน้ำของพืช จากการขับถ่ายของเสียของสิ่งมีชีวิต และจาก กิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ระเหยขึ้นไปในบรรยากาศ กระทบความเย็นควบแน่นเป็น ละอองน้ำเล็ก ๆ เป็นก้อนเมฆ ตกลงมาเป็นฝนหรือลูกเห็บสู่พื้นดินไหลลงสู่แหล่งน้ำต่าง ๆ หมุนเวียนอยู่เช่นนี้ เรื่อยไป 3. ตัวการที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำ ได้แก่ ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดการ ระเหยของน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ กลายเป็นไอน้ำขึ้นสู่บรรยากาศ กระแสลม ช่วยทำให้น้ำระเหยกลายเป็นไอ ได้เร็วขึ้น มนุษย์และสัตว์ ขับถ่ายของเสียออกมาในรูปของเหงื่อ ปัสสาวะ และลมหายใจออกกลายเป็นไอน้ำสู่ บรรยากาศ พืช รากต้นไม้เปรียบเหมือนฟองน้ำ มีความสามารถในการดูดน้ำจากดินจำนวนมากขึ้นไปเก็บไว้ใน ส่วนต่าง ๆ ทั้งยอด กิ่ง ใบ ดอก ผล และลำต้น แล้วคายน้ำสู่บรรยากาศ ไอเหล่านี้จะควบแน่นและรวมกันเป็น เมฆและตกลงมาเป็นฝนต่อไป ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) (15 นาที) 7) ครูให้นักเรียนดูวิดีโอ เรื่อง เตือนปี 62 ภัยแล้งหนักสุดในรอบ 30 ปี เหตุเอลนีโญมาเร็ว ฝนทิ้ง ช่วง น้ำในเขื่อนเริ่มน้อย
40 อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=8O-upDd2az 8) ครูถามคำถาม เกี่ยวกับวิดีโอ ดังนี้ 1. ภัยแล้งที่เกิดมีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์ใด “แนวคำตอบ: ปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งทำให้ฝน ไม่ตกตามฤดูกาล” 2. นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใด ในฤดูร้อนที่มีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องมายังพื้นน้ำมาก น้ำมี อุณหภูมิสูงและเกิดการระเหยสู่ชั้นบรรยากาศแต่ทำไมจึงไม่มีฝนตก “แนวคำตอบ: เป็นผลจากปรากฏการณ์ เอลนีโญทำให้ไม่มีความชื้นหรือความเย็นบนชั้นบรรยากาศทำให้ไอน้ำที่ระเหยขึ้นไปไม่สามารถรวมตัวและเกิด การควบแน่นลงจนกลั่นตัวมาเป็นหยดน้ำหรือฝนได้” 3. นักเรียนคิดว่า การตัดไม้ทำงานป่าส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในวัฏจักรน้ำหรือไม่ “แนว คำตอบ: ส่งผลกระทบ เพราะการตัดไม้ทำงายป่าจะทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เป็นสาเหตุของภาวะเรือน กระจกและภาวะโลกร้อน ส่งผลในความชื้นในบรรยากาศน้อยทำให้ไอน้ำไม่สามารถรวมตัวเป็นเมฆและกลั่นตัว เป็นฝนได้” ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) (30 นาที) 9) การทำใบงาน เรื่อง วัฏจักรน้ำ 10) การทำใบบันทึกกิจกรรม วัฏจักรน้ำ 11) นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง แหล่งน้ำ และลมฟ้าอากาศ 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. ใบงาน เรื่อง วัฏจักรน้ำ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 3. PowerPoint สรุปความรู้วิทยาศาสตร์ ป.5 นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 4. ใบบันทึกผลการทดลอง วัฏจักรน้ำ นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม
41 ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 5. วิดีโอเรื่อง “เตือนปี 62 ภัยแล้งหนักสุด ในรอบ 30 ปี เหตุเอลนีโญมาเร็ว ฝนทิ้ง ช่วง น้ำในเขื่อนเริ่มน้อย” นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 6. แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ นักเรียนทดสอบ ครูจัดเตรียม 7. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม และ ผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน ครูจัดทำ วัสดุอุปกรณ์ 1. ดินเหนียว 2. ดินทราย 3. กล่องพลาสติกใบเล็กและกล่องใบใหญ่ 4. น้ำแข็ง 5. ถุงพลาสติก 6. น้ำแข็ง 7. ยางรัด 8. อุปกรณ์การทดลองต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินความรู้ (K) แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม/ ใบงาน ตรวจแบบทดสอบ/ ใบกิจกรรม/ใบงาน -นักเรียนกลุ่มปกติผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป -นักเรียนกลุ่มบกพร่อง ทางการเรียนรู้ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้น ไป 2. ประเมินการทดลอง (P) แบบประเมินการทดลอง ประเมินการทดลอง ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
42 กิจกรรม-พฤติกรรมที่ ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ใน การประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๓. ประเมินเจตคติ (A) แบบบันทึกสังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่างเรียน สังเกตพฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………
43 ใบบันทึกผลการทดลอง เรื่อง วัฏจักรน้ำ
44 ใบงาน เรื่อง วัฏจักรน้ำ
45 แบบทดสอบ บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ
46 แบบทดสอบ บทที่ 1 วัฏจักรน้ำ วิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ชื่อ-สกุล..........................................................................ชั้น...................เลขที่................ คะแนน คำสั่ง : ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียง 1 ตัวเลือก สังเกตภาพ แล้วตอบคำถามข้อ 1 – 2 1. ข้อใดเป็นแหล่งน้ำผิวดิน (ว 3.2 ป.5/1) ก. A และ B ข. A และ C ค. B และ C ง. B และ D 2. แหล่งน้ำ C มีปริมาณน้ำมากที่สุด แหล่งน้ำนี้น่าจะเป็นแหล่งใด (ว 3.2 ป.5/1) ก. บึง ข. คลอง ค. ทะเล ง. บ่อน้ำบาดาล 3. แหล่งน้ำข้อใดมีปริมาณน้ำมากที่สุด (ว 3.2 ป.5/1) ก. บึง ข. น้ำใต้ดิน ค. แม่น้ำ ง. มหาสมุทร 4. การกระทำข้อใดส่งผลกระทบต่อน้ำในคลอง (ว 3.2 ป.5/2) ก. กำจัดผักตบชวาในคลอง ข. ปลูกพืชคลุมดินริมคลอง ค. ติดตั้งกังหันบำบัดน้ำในคลอง ง. เทน้ำทิ้งจากการซักผ้าลงในคลอง 5. ข้อใดแสดงว่าน้ำในแหล่งน้ำนั้นเป็นน้ำเสีย (ว 3.2 ป.5/2) ก. มีสีดำขุ่นและมีกลิ่น ข. มีปลาและกุ้งขนาดเล็กอาศัยอยู่ ค. มีพืชน้ำประเภทสาหร่ายเป็นจำนวนมาก ง. เกษตรกรใช้น้ำจากแหล่งน้ำนั้นในการทำนา 6. เมฆและหิมะ เกิดจากกระบวนการข้อใดตามลำดับ (ว 3.2 ป.5/4-5) ก. การหลอมเหลว การควบแน่น ข. การควบแน่น การระเหิดกลับ ค. การควบแน่น การหลอมเหลว ง. การกลายเป็นไอ การหลอมเหลว 7. สิ่งใดที่เกิดจากไอน้ำควบแน่นเป็นละอองน้ำหรือผลึกน้ำแข็งเกาะอยู่บนพื้นผิววัตถุใกล้พื้นดินในบริเวณที่มี อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (ว 3.2 ป.5/4-5)
47 ก. เมฆ ข. หมอก ค. น้ำค้าง ง. น้ำค้างแข็ง 8. ข้อใดคือความหมายของการควบแน่น (ว 3.2 ป.5/3) ก. น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ข. น้ำกลายเป็นไอน้ำ ค. ไอน้ำกลายเป็นน้ำ ง. ไอน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง 9. การเกิดเมฆ หมอก ฝน เกี่ยวข้องกับข้อใด (ว 3.2 ป.5/4-5) ก. การควบแน่น ข. การระเหย ค. การระเหิด ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. 10 ข้อใดที่ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง ก. น้ำค้าง ข. เมฆ ค. หมอก ง. น้ำค้างแข็ง 11. สิ่งใดมีผลต่อการเกิดวัฏจักรน้ำ (ว 3.2 ป.5/3) ก. ดวงอาทิตย์ ข. ดวงจันทร์ ค. ดวงดาว ง. ก้อนเมฆ 12. น้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ เมื่อได้รับความร้อน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร (ว 3.2 ป.5/3) ก. หลอมเหลว ข. ควบแน่น ค. ระเหย ง. ระเหิด 13. จากแผนภาพ C คือข้อใด (ว 3.2 ป.5/4-5) น้ำ ไอน้ำ C ก. ละอองน้ำ ข. เมฆ ค. หมอก ง. น้ำค้าง 14. จากข้อ 13. A และ B คือข้อใดตามลำดับ (ว 3.2 ป.5/3) ก. ระเหย ระเหิด ข. หลอมเหลว ระเหย ค. ควบแน่น ระเหย ง. ระเหย ควบแน่น 15. ปรากฏการณ์ใดแสดงว่าในอากาศมีไอน้ำ (ว 3.2 ป.5/3) ก. การที่แก้วที่ใส่น้ำแข็งมีหยดน้ำเกาะอยู่ข้างผิวแก้ว ข. การออกกำลังกายแล้วมีน้ำมาเกาะที่ผิวหนัง ค. การเกิดลูกเห็บตกลงมาพร้อมกันกับฝน ง. การต้มน้ำจนเดือดเป็นไอ A B
48 บทที่ 2 วัฏจักรการปรากฏของดาว
49 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฏจักร บทที่ 2 วัฏจักรการปรากฏของดาว เวลา 9 ชั่วโมง เรื่อง ดาวเคราะห์กับดาวฤกษ์ เวลา 1 ชั่วโมง สอนวันที่........................... เดือน……………………………………… ปี พ.ศ…………………..… ************************************************************************************************** 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (พื้นฐาน) ผลการเรียนรู้ (หลักสูตรท้องถิ่น ถ้ามี) สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ ตัวชี้วัด ว 3.1 ป.5/1 เปรียบเทียบความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ ดาวเคราะห์เป็นวัตถุขนาดใหญ่ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ โดยไม่มีวัตถุอื่นที่มีวงโคจรอยู่ในบริเวณเดียวกัน ดาวฤกษ์เป็นทรงกลมพลาสมา หรือกลุ่มแก๊สร้อนที่แผ่พลังงานความร้อนและพลังงานแสงออกไปในอวกาศ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายลักษณะของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ได้ (K) ทักษะกระบวนการ (Practice) 2. สืบสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของดาวเคราะห์ และลักษณะของดาวฤกษ์ อย่างรวมพลัง ด้วยความ มุ่งมั่นและตั้งใจได้ (P) เจตคติ (Attitude) 3. มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ (A) 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนดูวีดิทัศน์ดาวบนท้องฟ้า แล้วร่วมกันสนทนาทบทวนประสบการณ์เดิม และร่วมกัน ตอบคำถาม ดังนี้ 1.1 นักเรียนจะมองเห็นดาวได้ในเวลาใด (กลางคืน) 1.2 ดาวที่นักเรียนเห็นมีลักษณะอย่างไร ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) • • • • • • • • • • • • • • • • •
50 (ดาวที่เห็นบางดวงมีแสงระยิบระยับ บางดวงมีแสงนิ่ง) 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน (หรือจะแบ่งกลุ่มด้วยวิธีการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้) โดยแต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรม ตามขั้นตอน ดังนี้ 2.1 ทบทวนบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่มว่าต้องทำหน้าที่อย่างไรบ้างในการดำเนินการด้วย กระบวนการทำงานกลุ่ม เช่น หัวหน้ากลุ่ม มีหน้าที่ ......................... ผู้จดบันทึก มีหน้าที่......................... ผู้ เสนอรายงาน มีหน้าที่ ............ อื่น ๆ ......................... 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอย่างรวมพลังศึกษา วางแผน และสืบสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของ ดาวเคราะห์ และลักษณะของดาวฤกษ์ จากเอกสาร หนังสือ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่หลากหลาย 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาค้นคว้าในรูปผังกราฟิกแบบต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของ ข้อมูล และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 5. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการสืบสอบข้อมูลหน้าชั้นเรียน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษา สืบสอบมาร่วมกันวิเคราะห์ อภิปราย เปรียบเทียบ เพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีความรู้อย่างเข้าใจและมีทักษะ โดยร่วมกันตอบคำถาม ดังนี้ 6.1 ดาวเคราะห์มีลักษณะอย่างไร (ดาวเคราะห์เป็นวัตถุขนาดใหญ่ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ โดยไม่มีวัตถุอื่นที่มีวงโคจรอยู่ใน บริเวณเดียวกัน) 6.2 ดาวฤกษ์มีลักษณะอย่างไร (ดาวฤกษ์เป็นทรงกลมพลาสมา หรือกลุ่มแก๊สร้อนที่แผ่พลังงานความร้อนและพลังงานแสงออกไป ในอวกาศ) จากนั้นฝึกนักเรียนถามคำถามที่สงสัยด้วยการถามเพื่อน โดยไม่จำเป็นต้องถามครูอย่างเดียว 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับ ดาวเคราะห์กับดาวฤกษ์ว่า ดาวเคราะห์เป็นวัตถุขนาดใหญ่ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ โดยไม่มีวัตถุอื่นที่มีวงโคจรอยู่ ในบริเวณเดียวกัน ดาวฤกษ์เป็นทรงกลมพลาสมา หรือกลุ่มแก๊สร้อนที่แผ่พลังงานความร้อนและ พลังงานแสงออกไปในอวกาศ 5. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ลำดับที่ รายการ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา 1. วีดิทัศน์ดาวบนท้องฟ้า นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดเตรียม 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) นักเรียนศึกษาหาความรู้ ครูจัดหา ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) (Gathering) • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •