The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบสรุปกิจกรรมการทดลอง20กิจกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Orathai Khamphakhen, 2024-01-21 00:47:14

แบบสรุปกิจกรรมการทดลอง20กิจกรรม

แบบสรุปกิจกรรมการทดลอง20กิจกรรม

ก คำนำ รายงานสรุปกิจกรรมการทดลองในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ของเด็กปฐมวัย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ ปีการศึกษา 2566 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 ได้จัดทำ กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย จำนวน 20 กิจกรรม การจัดทำ กิจกรรม ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ จึงได้จัดทำรายงานผลการสรุป กิจกรรมการทดลอง กิจกรรม พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานอ้างอิง มีภาพการทำกิจกรรม เพื่อจะได้ใช้ประกอบการ ประเมิน เพื่อขอรับตรา “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” ต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานสรุป 20 กิจกรรมการทดลองเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจได้อย่างดี คณะผู้จัดทำ โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์


ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข กิจกรรมที่ 1 หมุดลอยน้ำ 1 กิจกรรมที่ 2 ไหลแรงไหลค่อย 4 กิจกรรมที่ 3 วัสดุ 7 กิจกรรมที่ 4 เรือบรรทุก 10 กิจกรรมที่ 5 แสงเลี้ยวเบน 13 กิจกรรมที่ 6 สร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง 16 กิจกรรมที่ 7 สนุกกับฟองสบู่ 19 กิจกรรมที่ 8 ฟองสบู่รูปสี่เหลี่ยมและทรงกลม 23 กิจกรรมที่ 9 ไฟฟ้าสถิต 26 กิจกรรมที่ 10 งูเต้นระบำ 29 กิจกรรมที่ 11 การจัดหมวดหมู่ 32 กิจกรรมที่ 12 หลอดดำน้ำ 35 กิจกรรมที่ 13 ทอร์นาโดในขวด 38 กิจกรรมที่ 14 พับหรือตัดก็ทับกันสนิท 41 กิจกรรมที่ 15 เครื่องกรองน้ำ 44 กิจกรรมที่ 16 ความหลากหลายของเมล็ดพันธุ์ 47 กิจกรรมที่ 17 น้ำ ทราย และน้ำมัน 50 กิจกรรมที่ 18 ความลับของสีดำ 53 กิจกรรมที่ 19 ตัวทำละลาย 56 กิจกรรมที่ 20 ความร้อนเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง 59 รายชื่อนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1-3 62


1 กิจกรรมที่ 1 หมุดลอยน้ำ รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 1 หมุดลอยน้ำ จุดประสงค์ เด็กสามารถบอกวิธีทำให้หมุดและคลิปหนีบกระดาษลอยน้ำได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. หมุด 2. คลิปหนีบกระดาษ 3. กะละมัง 4. น้ำ 5. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู: เด็กๆเคยเห็นแมงมุมหรือแมลงเล็กๆที่สามารถเดินบนผิวน้ำได้ไหมคะ เด็ก: เคยค่ะ/เคยครับ ครู: ทำไมแมงมุมหรือแมลงเล็กๆถึงเดินบนผิวน้ำได้ เด็ก: ไม่ทราบค่ะ/ไม่ทราบครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


2 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการวางหมุดและคลิปหนีบกระดาษบนน้ำใน กะละมังและอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการนำหมุดและคลิปหนีบกระดาษมาวางที่น้ำและสังเกตเห็นว่ามีหมุดและคลิปหนีบ กระดาษบางส่วนได้จมน้ำและมีบางส่วนที่ลอยน้ำ พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : กลุ่มไหนที่หมุดลอยน้ำได้มากบ้างคะ เด็ก : กลุ่มหนู ใส่น้ำเยอะๆ คะ เด็ก: กลุ่มหนูวางเบาๆ ก็ลอยได้ค่ะ 3.2 เด็กทดลองวางหมุดจนครบตามที่ร่วมกันกำหนดไว้ 3.3 ครูให้เด็กให้กลุ่มที่วางหมุดได้มากที่สุดเล่าให้เพื่อนฟัง โดยใช้คำถามดังนี้ ครู : หนูทำอย่างไรหมุดจึงลอยน้ำได้มากที่สุดค่ะ เด็ก: ใส่น้ำเยอะ วางเบาๆ น้ำมีรอยบุ๋ม และหมุดลอยได้ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองน้ำการเกิดหมุดลอยน้ำ ดังนี้ - หมุดสามารถลอยบนน้ำได้เพราะมีขนาดเบาและต้องวางด้วยความระมัดระวัง - เมื่อเราเห็นหมุดลอยน้ำเราจะสังเกตเห็นเนินน้ำได้อย่างชัดเจน ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า รอยบุ๋มที่เด็กๆ เห็น คือ แรงตึงผิว และแรงตึงผิวของน้ำสามารถรองรับวัตถุที่มีขนาด เบาได้เป็นบางชนิดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความระมัดระวังในการวางวัตถุของพวกเราด้วย 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


3 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้เรียนรู้ว่าเมื่อเกิดเนินน้ำขึ้น เด็กๆสามารถเอาวัตถุที่มีน้ำหนักน้อย มาลอยทำให้วัตถุนั้นลอย ได้โยต้องมีสมาธิและเทคนิคในการวาง เมื่อเด็กๆสามารถวางหมุดและคลิปได้ทำให้สนุกสนาน ตื่นเต้น ซึ่งเด็กๆ ช่วยกันสรุปว่าเด็กจะทำให้หมุดและคลิปลอยได้ จะต้องมีสมาธิ น้ำต้องนิ่ง วางหมุดและคลิปจากขอบกะละมัง อย่างเบามือ พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการเกิดเนินน้ำที่สามารถทำให้หมุดลอยน้ำได้ และการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดใน ชีวิตประจำวันที่พบเห็น - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลการทดลองร่วมกัน 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับหกลุ่มรู้จักการรอคอยและเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำกิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


4 กิจกรรมที่ 2 ไหลแรงไหลค่อย รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 2 ไหลแรงไหลค่อย จุดประสงค์ เพื่อให้เด็กรู้จักการเกิดแรงดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ 1. ขวดน้ำ 2. หมุด 3. สีน้ำหรือสีผสมอาหาร 4. น้ำ 5. เทปใส 6. ปากกาเมจิก 7. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นน้ำที่หล่นจากข้างบนลงสู่ข้างล่างที่ไหนบ้างคะ เด็ก: ตอนฝนตกค่ะ ครู : เด็กๆทราบมั๊ยคะว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เด็ก : ไม่ทราบค่ะ/ครับ ครู : เพราะเกิดมาจากแรงโน้มถ่วงของโลกค่ะ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


5 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการนำขวดน้ำมาทำการเจาะรูที่ขวด 2 รู โดย แต้มจุดที่จะเจาะด้วยปากกาเมจิกและนำหมุดมาเจาะรูปิดรูไว้ด้วยเทปใส และนำสีผสมน้ำเทน้ำใส่ขวดน้ำและ อธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการเจาะรูขวดน้ำ 2 รู บนล่างและทำการนำหมุดมาเจาะรูนำเทปใสปิดไว้แล้วเติมน้ำ ลงในขวดให้เต็ม ทำการแกะเทปใสที่ขวดออก และสังเกตการไหลของน้ำ พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : เด็กๆสังเกตเห็นการไหลของน้ำหรือไม่ว่ารูไหนน้ำไหลแรงกว่ากันคะ เด็ก : เห็นน้ำรูข้างบนขวดไหลไม่แรงเลยค่ะ เด็ก : น้ำรูข้างล่างขวดของผมไหลพุ่งออกจากขวดแรงมากครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองไหลแรงไหลค่อย ดังนี้ - การไหลของน้ำทั้ง 2 รู รูข้างล่างจะไหลแรงกว่าเพราะว่า มีแรงดันน้ำ ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่รูข้างล่างน้ำไหลแรงกว่าข้างบนเพราะ ข้างล่างจะมีแรงดันน้ำที่เยอะกว่า ข้างบนจึงทำให้รูข้างล่างมีน้ำที่ไหลแรงและพุ่งออกจากขวดไกลกว่ารูข้างบน 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


6 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและค้นพบว่ามีอากาศเข้าไปแทนที่น้ำในขวดได้น้ำมีแรงดัน น้ำจะไหลจากรู ด้านล่างใกล้กันขวดซึ่งลึกไหลพุ่งแรงกว่าน้ำจากรูด้านบนใกล้ปากขวดเสมอ พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการเกิดการไหลของน้ำ และการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น เด็กสนทนาชักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำกิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการ ทดลอง


7 กิจกรรมที่ 3 วัสดุ รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 3 วัสดุ จุดประสงค์ เพื่อให้เด็กรู้จักการเกิดแรงดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ 1. แก้วพลาสติก 2. หลอดดูด 3. แก้วสแตนเลส 4. ของเล่นไม้ 5. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆแก้วใส่น้ำพลาสติกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือไม่ เด็ก: นำกลับมาใช้ได้ค่ะ ครู : เด็กๆนำแก้วพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้แบบใดบ้างคะ เด็ก : ผมนำมาทำเป็นกระถางดอกไม้ครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


8 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการนำวัสดุต่างๆที่ทำจาก พลาสติก สแตนเลส และไม้ มาให้เด็กๆแยกประเภทว่าประเภทใดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และประเภทใดที่ไม่สามารถนำกลับมา ใช้ใหม่ได้และอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการนำเอาวัสดุที่แยกว่าวัสดุแบบใดบ้างที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และไม่สามารถ นำกลับมาใช้ใหม่ได้พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : เด็กๆ สังเกตแก้วพลาสติกกับหลอดดูดพลาสติกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือไม่คะ เด็ก: ไม่ได้ครับ เพราะเป็นขยะ เด็ก : ได้ครับสามารถนำมาทำเป็นกระถางต้นไม้ได้และนำหลอดมาทำเป็นดอกไม้พลาสติกได้ ค่ะ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองวัสดุ ดังนี้ - การนำวัสดุมาแยกว่าวัสดุแบบใดที่สามรถกลับมาใช้งานได้และวัสดุแบบใดที่ไม่สามารถนำ กลับมาใช้งานได้ ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า วัสดุที่ทำจากพลาสติก ใช้เวลาในการย่อยสลาย450 ปีไม่ว่าจะเป็นขวด แก้ว จาน ชาม และอีกสารพัดวัสดุที่ทำจากพลาสติก จึงมีการทำแก้วสแตนเลสหรือวัสดุที่มีความทนทานต่อการใช้งาน 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


9 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองแยกวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ได้เรียนรู้วัสดุต่างๆ เช่น แก้วและหลอดดูดที่ทำจาก พลาสติก แก้วที่ทำจากสแตนเลส และของเล่นที่ทำจากไม้ เด็กๆได้รู้ว่าวัสดุแบบใดที่ใช้เวลาในการย่อยสลายนาน ที่สุด พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กสามารถอธิบายได้ว่าวัสดุแบบใดที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้และวัสดุแบบใดที่ไม่สามารถนำ กลับมาใช้ใหม่ได้ และเด็กๆได้เรียนรู้การนำพลาสติกมารีไซเคิลในรูปแบบต่างๆ เช่นแก้วพลาสติกมา ทำเป็นกระถางดอกไม้ และนำหลอดดูดมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำกิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


10 กิจกรรมที่ 4 เรือบรรทุก รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 4 เรือบรรทุก จุดประสงค์ เด็กได้ทราบว่าเรือรูปร่างลักษณะแบบใดที่สามารถลอยน้ำได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. กะละมัง 3. ดินน้ำมัน 4. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นเรือที่ลอยอยู่บนน้ำไหมคะ เด็ก: เคยค่ะ/ครับ ครู : เด็กๆคิดว่าดินน้ำมันถ้าปั้นเป็นรูปร่างเหมือนเรือลอยหรือจะจมคะ เด็ก : จมค่ะ/ ลอยครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


11 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการปั้นดินน้ำมันในรูปร่างลักษณะต่างๆเพื่อ สาธิตให้เด็กๆสังเกตว่ารูปร่างดินน้ำมันแบบใดสามารถลอยน้ำได้บ้างและอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการปั้นดินน้ำมันเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ เช่น ปั้นเป็นถ้วยทรงกลม และปั้นเป็น สี่เหลี่ยมลักษณะเหมือนเรือ นำมาลอยน้ำในกะละมัง พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : เด็กๆ สังเกตเห็นมั๊ยคะว่าปั้นดินน้ำมันลักษณะแบบใดจึงจะสามารถลอยน้ำได้ เด็ก: ปั้นเป็นถ้วยกลมๆลอยได้ไม่นานก็จมค่ะ เด็ก : ปั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนเรือสามารถลอยน้ำได้ครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองเรือบรรทุก ดังนี้ - การปั้นดินน้ำมันรูปร่างลักษณะทรงกลมจะจมน้ำ แต่ถ้าเปลี่ยนรูปร่างให้คล้ายเรือจะ ลอยนำได้ ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่ปั้นดินน้ำมันในรูปร่างลักษณะคล้ายเรือ น้ำหนักของดินน้ำมันจะกระจายออก ตามพื้นที่ที่กว้างขึ้นของรูปทรงเรือ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


12 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและค้นพบว่าการปั้นดินน้ำมันในรูปร่างลักษณะต่างๆแบบใดบ้างที่สามารถลอยน้ำ ได้ดีและได้นาน เรือต้องม้องแบนราบไปกับพื้นน้ำและมีขอบเรือน้ำเข้าไปในเรือไม่ได้ พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบาย และการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


13 กิจกรรมที่ 5 แสงเลี้ยวเบน รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 5 แสงเลี้ยวเบน จุดประสงค์ เด็กได้ทราบว่าเรือรูปร่างลักษณะแบบใดที่สามารถลอยน้ำได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. แก้วพลาสติก 2 ใบ 3. น้ำมัน 4. หลอดดูด 5. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆแสงคืออะไรคะ เด็ก: แสงจากหลอดไฟครับ เด็ก : แสงจากพระอาทิตย์ค่ะ ครู : เด็กๆรู้จักแสงเลี้ยวเบนมั๊ยคะ เด็ก: ไม่รู้ค่ะ/ครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


14 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการนำแก้วพลาสติก 2 ใบ มาเทน้ำแก้วที่ 1 ใส่ น้ำเปล่า แก้วที่ 2 ใส่น้ำเปล่าและน้ำมัน และอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการเทน้ำเปล่าใส่ทั้ง2แก้ว โดยแก้วที่1 เทน้ำเปล่า แก้วที่ 2 เทน้ำเปล่าและน้ำมันลง ไปจากนั้นรอให้มันมันและน้ำแยกเป็นชั้นน้ำหลอดวางลงไปในแก้วน้ำทั้งแก้ว 3.2 สังเกตเห็นว่าแก้วที่1 ที่ใส่เพียงน้ำเปล่าหลอดดูดมีการเลี้ยวเบนเพียงเล็กน้อย แต่แก้วที่ 2 ที่ใส่ น้ำมันและน้ำเปล่ามีการเลี้ยวเบนของหลอดดุดอย่างชัดเจน หลังการทดลองพร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : เด็กๆ สังเกตเห็นมั๊ยคะว่าหลอดดูดแก้วที่ 1 กับแก้วที่ 2 แก้วที่หลอดดุเลี้ยวเบนมากกว่า กัน เด็ก: แก้วที่ 2 ค่ะ/ครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองแสงเลี้ยวเบน ดังนี้ - แก้วที่ 1 ใส่น้ำเปล่าการเลี้ยวเบนของหลอดดูดมีการเลี้ยวเบนเล็กน้อย แก้วที่ 2 ใส่ น้ำเปล่าและน้ำมันมีการเลี้ยวเบนของหลอดดูดมากกว่าแก้วที่ 1 ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า แก้วที่ 2 ที่ใส่น้ำเปล่าและน้ำมันหลอดดูดมีลักษณะขาดออกจากกัน เพราะว่าการหัก เหของแสงและมีการเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางเช่นน้ำและน้ำมมัน ทำให้แสงเคลื่อนที่ไปทิศทางอื่นๆตาของเราจึง มองเห็นวัตถุเปลี่ยนรูปร่างไป 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


15 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและค้นพบว่าการปั้นดินน้ำมันในรูปร่างลักษณะต่างๆแบบใดบ้างที่สามารถลอยน้ำ ได้ดีและได้นาน เรือต้องม้องแบนราบไปกับพื้นน้ำและมีขอบเรือน้ำเข้าไปในเรือไม่ได้ พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กๆได้เรียนรู้สมบัติพื้นฐานของแสงเช่น แสงสามารถเลี้ยวเบนได้ เมื่อใส่หลอดดูดลงในแก้วน้ำเราจะ เห็นรอยหักของหลอดดูตระหว่างของน้ำกับอากาศและสังเกตความแตกต่างของแก้วแต่ละขนาดมีการ หักเหของ แสงไม่เท่ากัน 2. ด้านสังคม - เด็กอธิบายการหักเหของแสงได้ และการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการ ทดลอง


16 กิจกรรมที่ 6 สร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 6 สร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง จุดประสงค์ เด็กได้ทราบว่าเรือรูปร่างลักษณะแบบใดที่สามารถลอยน้ำได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. แก้วพลาสติก 2 ใบ 3. หลอดดูดหรือช้อน 4. ใบงานสำหรับบันทึก ผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นแว่นขยายไหมคะ เด็ก: เคยค่ะ/ครับ ครู : เวลาเราเอาแว่นขยายไปส่องภาพภาพจะใหญ่หรือจะเล็กลงค่ะ เด็ก : ใหญ่ขึ้นค่ะ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


17 ครู : เด็กๆทราบไหมคะว่าทำไมแว่นขยายถึงขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นได้ เด็ก : ไม่ทราบค่ะ/ครับ ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการนำแก้วพลาสติกทั้ง 2 ใบมาเทน้ำใส่ และ นำหลอดมาวางลงในแก้วทั้ง2 ใบ และอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการทดลองโดยเทน้ำลงแก้วพลาสติกทั้ง2 ใบ จากนั้นนำหลอดดูดหรือช้อนมาวางลง ในแก้วและสังเกตเห็นว่าหลอดและช้อนมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น หลังการทดลองพร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : เด็กๆ สังเกตเห็นหลอดหรือไม่ว่าหลอดที่อยู่ด้านบนกับหลอดที่อยู่ในน้ำขนาดของหลอดดูดมีขนาด เท่ากันหรือไม่ เด็ก: ไม่เท่ากันค่ะ หลอดที่อยู่ในน้ำมีขนาดใหญ่กว่าค่ะ เด็ก : หลอที่อยู่ในน้ำใหญ่กว่าครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองสร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง ดังนี้ - การที่นำน้ำที่ใส่ลงไปในแก้วแล้วนำหลอดวางลงไปสังเกตเห็นว่าหลอดดูดมีขนาดที่ใหญ่ ว่าหลอดดูดที่อยู่ด้านบนที่ไม่ได้จุ่มน้ำ ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่หลอดมีการขยายใหญ่มากขึ้นจาการที่นำหลอดไปจุ่มน้ำจะเหมือนกับการที่เรา นำแว่นขยายไปส่องภาพนั้นเกิดจากการที่มีเลนส์นูนซึ่งมีสมบัติการรวมแสงขยายภาพขนาดเล็กให้เกิดภาพขนาด ใหญ่ขึ้น 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


18 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและได้ค้นพบว่าวัสดุอุปกรณ์รอบๆตัวสามารถนำมาทำเป็นภาพขยายได้โดยที่มี เพียงแก้วน้ำหรือขวดน้ำเพียงนำน้ำมาใส่แล้วนำสิ่งของที่อยู่รอบๆตัวเช่น หลอด ช้อน หรือภาพที่เป็นกระดาษต่างๆ มาวางลงไปในน้ำหรือว่าข้างๆขวดน้ำก็จะเกิดภาพขยายได้ พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กๆได้รู้จักเกี่ยวกับคุณสมบัติของเลนส์นูนมีลักษณะตรงกลางหนากว่าส่วนขอบ ทำหน้าที่รวมแสง หรือลู่แสงให้เข้ามารวมกันที่จุดจุดหนึ่งเรียกว่า จุดรวมแสง หรือ จุดโฟกัส เมื่อลำแสงผ่านขนานเข้าหา เลนส์จะทำให้รังสีพุ่งเข้าหากัน และไปตัดกันจริงที่จุดโฟกัสจริง 2. ด้านสังคม - เด็กพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการ ทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูดอภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


19 กิจกรรมที่ 7 สนุกกับฟองสบู่ รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 7 สนุกกับฟองสบู่ จุดประสงค์ เพื่อให้เด็กรู้จักฟองสบู่ที่เกิดจากากรเป่าลมผ่านหลอดดูดลงในสารละลายน้ำสบู่ได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. แก้วพลาสติก 3. หลอดดูด 4. น้ำยาล้างจาน 5. ใบงานสำหรับบันทึกผลการ ทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู: เด็กๆรู้จักฟองสบู่หรือไม่ ฟองสบู่เกิดได้อย่างไรคะ เด็ก : ในฟองสบู่มีน้ำยาล้าง แล้วก็น้ำครับ เด็ก : ฟองสบู่เกิดจากเราเป่าลมลงไปค่ะ ครู : เด็ก ๆ เคยเล่นฟองสบู่หรือไม่ เคยเล่นจากที่ไหน เด็ก : เคยเล่นค่ะ เด็ก : เคยเอายาสระผมไปตีเป็นฟองตอนอาบน้ำครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


20 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตนำน้ำเทใส่ในแก้วพลาสติกจากนั้นทำการเท น้ำยาล้างจานลงไป ใช้หลอดเป่าลมให้เกิดฟองสบู่และอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการทดลองโดยเทน้ำลงแก้วพลาสติกและเทน้ำยาล้างจานลงไปในแก้วพลาสติกทำ การนำหลอดดูดมาวางลงในแก้วพลาสติกแล้วทำการเป่าลมเข้าไปเกิดเป็นฟองสบู่ หลังการทดลองพร้อมใช้คำถาม ดังนี้ ครู: กลุ่มไหนที่เป่าฟองสบู่ได้ใหญ่ที่สุดคะ เด็ก: กลุ่มหนูค่ะ เด็ก: กลุ่มผมครับ เป่าได้ลูกใหญ่แล้วก็ได้หลายลูกด้วยครับ ครู : เด็ก ๆ รู้ไหมคะว่าทำไมฟองสบู่ถึงมีขนาดใหญ่ได้ เด็ก : เพราะผมเป่าแรง ๆ ครับ เด็ก : กลุ่มหนูช่วยกันเป่า เลยได้อันใหญ่ค่ะ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองสนุกกับฟองสบู่ ดังนี้ - การที่นำน้ำและน้ำยาล้างจานมาผสมกันและนำหลอดดูดมาเป่าลมจนเกิดเป็นฟองสบู่ ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


21 ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า ฟองสบู่ที่เราเห็นนั้นเกิดจากการที่เรานำน้ำและสารที่ทำให้เกิดฟองเมื่อสบู่ผสมเข้า กับน้ำจะทำให้แรงตึงผิวของน้ำหมดพลังลงทำให้เกิดความเหนียวยืดหยุ่น พอเราเป่าอากาศเข้าไปชั้นฟิล์มบางๆของ น้ำสบู่มันก็จะค่อยๆขยายขึ้นห่อหุ้มอากาศไว้ข้างในทำให้เกิดฟองสบู่ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กได้เรียนรู้ว่าฟองสบู่เกิดจากการเป่าลมผ่านหลอดดูดลงในสารละลาย โดยใช้น้ำยาล้างจาน เมื่อเด็กๆ เป่าน้ำที่ ละลายกับน้ำยาล้างจาน จะเกิดฟองขนาดเล็ก จับตัวกันหนาแน่นมากขึ้น กิจกรรมนี้ทำให้เด็กเรียนรู้การ ทำตาม ข้อตกลงและการระมัดระวังเวลาเป่าหลอด เรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่ม พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการเกิดฟองสบู่ และการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น เด็ก สนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


22 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง


23 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 8 ฟองสบู่รูปสี่เหลี่ยมและทรงกลม จุดประสงค์ เด็กสามารถเล่นฟองสบู่ได้หลากหลายรูปทรง วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. แก้วพลาสติก 3. ลวดดัดรูปทรงสี่เหลี่ยมและทรงกลม 4. น้ำยาล้างจาน 5. ใบ งานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเป่าฟองสบู่ที่มีมารถเป็นรูปทรงอื่นๆหรือไม่คะ เด็ก : ไม่เคยค่ะ/ครับ ครู : ถ้านำลวดมาดัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและทรงกลมฟองสบู่จะเป็นรูปทรงแบบใด เด็ก : รูปทรงตามลวดค่ะ เด็ก : รูปวงกลมครับ กิจกรรมที่ 8 ฟองสบู่รูปสี่เหลี่ยมและทรงกลม ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


24 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตนำน้ำเทใส่ในแก้วพลาสติกจากนั้นทำการเท น้ำยาล้างจานลงไป ใช้ลวดดัดทรงสี่เหลี่ยมและทรงกลมจุ่มลงไปในแก้วพลาสติกและเป่าลมผ่านลวดดัดรูปทรง ต่างๆและอธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการทดลองโดยเทน้ำลงแก้วพลาสติกและเทน้ำยาล้างจานลงไปในแก้วพลาสติก จากนั้นนำลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมและทรงกลมจุ่มลงไปในแก้วและทำการเป่าลมผ่านลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมและทรงกลม หลังการทดลองพร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู: กลุ่มไหนเป่าลมผ่านลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมและทรงกลมเกิดฟองสบู่ขึ้นมีรูปลักษณะแบบ ใดบ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูเป่าแล้วเป็นฟองสบู่วงกลมค่ะ เด็ก: กลุ่มผมเป่าลมผ่านลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมฟองสบู่เป็นรูปวงกลมครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองฟองสบู่รูปสี่เหลี่ยมและทรงกลม ดังนี้ - การที่นำน้ำและน้ำยาล้างจานมาผสมกันและนำลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมและทรงกลมมาจุ่ม และเป่าลมผ่านลวดดัดเกิดฟองสบู่เป็นรูปทรงกลมทั้ง 2 แบบ เมื่อเป่าผ่านลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมฟองสบู่มีลักษณะเป็น รูปทรงกลมเหมือนกับลวดดัดทรงกลม ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า รูปทรงของฟองสบู่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปร่างของลวด ฟองสบู่จะเป็นทรงกลมเสมอ เนื่องจากพื้นผิวของฟองสบู่จะเป็นชั้นของเหลวบางๆ ซึ่งมีแรงตึงผิวให้ฟองสบู่คงรูปอยู่ได้ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


25 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปทรงของฟองสบู่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปร่างของลวดดัดรูปสี่เหลี่ยมและทรงกลม ฟองสบู่ จะเป็นทรงกลมเสมอ กิจกรรมนี้ทำให้เด็กเรียนรู้ทำตามข้อตกลงและการระมัดระวังเวลาทดลอง เรียนรู้การทำงาน เป็นกลุ่ม พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการเกิดรูปทรงของฟองสบู่ และ เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการ นำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูดอภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


26 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 9 ไฟฟ้าสถิต จุดประสงค์ เพื่อให้เด็กบอกวิธีทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. ลูกโป่ง 2.กระดาษสีต่างๆ 3. ผ้า 4. ใบงานสำหรับบันทึกผลการ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นไฟฟ้าสถิตหรือไม่คะ เด็ก : ไม่เคย ค่ะ/ครับ ครู : ไฟฟ้าสถิตสามารถเกิดขึ้นได้ เช่นเด็กๆเคยสังเกตเวลาหวีผมมั๊ยคะว่าเส้นผมจะติดขึ้นมา พร้อมกับหวี เด็ก : เคยค่ะ/ครับ กิจกรรมที่ 9 ไฟฟ้าสถิต ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


27 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตทำการฉีกกระดาษสีเป็นชิ้นเล็กๆและเป่า ลูกโป่งนำผ้ามาลูบที่ลูกโป่งสักพักจากนั้นถือลูกโป่งให้อยู่ข้างบนเศษกระดาษและสังเกตการเกิดไฟฟ้าสถิต 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการทดลองนำกระดาษสีมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นเป่าลูกโป่งนำลูกโป่งไปถูกับผ้า แล้วถือลูกโป่งให้อยู่ข้างบนกระดาษและสังเกตว่าเกิดไฟฟ้าสถิตที่ตัวกระดาษและลูกโป่ง ลูกโป่งดูดกระดาษ หลัง การทดลองพร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู: กลุ่มไหนที่ทำให้ลูกโป่งดูดกระดาษเล็กขึ้นมาได้เยอะบ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูลูกโป่งดูดเศษกระดาษนิดเดียวคะ เด็ก: กลุ่มผมลูกโป่งดูดเศษกระดาษขึ้นมาเยอะมากครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองไฟฟ้าสถิต ดังนี้ - การนำเอาเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ จากนั้นเป่าลูกโป่งนำลูกโป่งไปถูกับผ้าแล้วถือลูกโป่ง ให้อยู่ข้างบนกระดาษและสังเกตว่าเกิดไฟฟ้าสถิตโดยลูกโป่งจะดูดเศษกระดาษชิ้นเล็กๆมาติดที่ลูกโป่ง ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่ลูกโป่งไปถูกับผ้าแล้วลูกโป่งดูดเศษกระดาษเล็กๆขึ้นมาได้เพราะเมื่อเรานำของ 2 สิ่งมาถูกันจะเกิดไฟฟ้าสถิต เป็นการถ่ายโอนไฟฟ้าจากวัตถุชิ้นหนึ่งไปยังวัตถุอีกชิ้นหนึ่งเมื่อเอาไปโดนกระดาษ เศษก็จะติดขึ้นมา 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


28 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่า เมื่อวัสดุบางชนิดมีการเสียดสีกันจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ เช่นถูโลกโป่งกับผ้า เมื่อ เรา นำวัสดุที่มีไฟฟ้าสถิติไปใกล้วัตถุที่เล็ก เบา บาง จะเกิดการดึงดูด เช่น เม็ดโฟม เส้นผม ส่วนวัตถุที่ใหญ่และ หนาจะ ไม่สามารถดึงดูดได้ เช่น กรรไกร ปากกาเมจิก พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 1. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการเกิดไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นได้ด้วยการเอาผ้าถูกับลูกโป่ง ลูกโป่งจะดูดผมเพื่อนตั้งขึ้นมาการ ทดลองนี้ได้ผลดีในวันที่อากาศแห้งการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น เด็ก สนทนา ซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และ สรุปผลทดลองร่วมกัน 2. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 3. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


29 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 10 งูเต้นระบำ จุดประสงค์ เพื่อให้เด็กบอกวิธีทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. ภาพงู 2.สี 3. เทียน 4. เส้นด้าย 5. ไฟแช็ค 6. กรรไกร 7. เทปใส 8. ใบงาน สำหรับบันทึกผลการ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เวลาเด็กๆนั่งรถยนต์กับคุณพ่อคุณแม่เด็กๆเคยเห็นไอลอยขึ้นมาจากถนนบ้างไหมคะ เด็ก : เคยเห็น ค่ะ/ครับ ครู : เด็กเคยเห็นไอที่ลอยขึ้นจากกองไฟไหมคะ เด็ก : เคยเห็น ค่ะ/ครับ กิจกรรมที่ 10 งูเต้นระบำ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


30 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตขั้นตอนการทดลองนำภาพงูที่ปริ้นมาระบายสี ให้สวยงามจากนั้นนำกรรไกรมาตัดภาพงูที่ระบายสีแล้ว นำด้ายมาติดที่ภาพด้วยเทปใสจากนั้นทำการจุดเทียนและ ยืนจับเส้นด้ายที่ติดภาพแล้วไว้ข้างบนเทียนเว้นระยะห่างสักเล็กน้อยและสังเกตการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการทดลองนำภาพงูที่ปริ้นมาระบายสีให้สวยงามจากนั้นนำกรรไกรมาตัดภาพงูที่ ระบายสีแล้วให้เป็นเกลียว นำเส้นด้ายมาติดที่ภาพด้วยเทปใสจากนั้นทำการจุดเทียนและยืนจับเส้นด้ายที่ติดภาพ แล้วไว้ข้างบนเทียนเว้นระยะห่างสักเล็กน้อยจะสังเกตว่าภาพงูมีการหมุนเป็นเกลียว หลังการทดลองพร้อมใช้ คำถามดังนี้ ครู: กลุ่มไหนที่ทำให้ภาพงูหมุนเร็วบ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูหมุนช้าค่ะ เด็ก: กลุ่มผมหมุนเร็วมากครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองงูเต้นระบำ ดังนี้ - ภาพงูที่เป็นเกลียวสามารถหมุนเร็วขึ้นเมื่ออยู่ใกล้เทียนที่จุดไฟแล้ว ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า อากาศประกอบด้วยอนุภาคเล็กๆ ที่เราเรียกว่าโมเลกุลของอากาศจำนวนมาก ที่ไม่ สามารถมองเห็นได้ เมื่ออากาศร้อนขึ้นโมเลกุลของอากาศจะเคลื่อนที่เร็วขึ้นและขยายตัวทำให้ระยะห่างระหว่าง โมเลกุลมีมากขึ้น กลายเป็นกระแสลมที่เคลื่อนที่สู่ด้านบนจึงทำให้งูกระดาษหมุนได้ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


31 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆ แสดงความกระตือรือร้นในการทดลอง และได้เรียนรู้ว่าการที่ภาพงูหมุนเร็วเมื่ออยู่ใกล้เทียนที่จุดไฟ เนื่องจากอากาศร้อนขยายตัวเคลื่อนที่เร็วและมีน้ำหนักเบา อากาศร้อนจึงเคลื่อนที่ลอยขึ้นด้านบนทำให้ภาพงูของ เรานั้นหมุนได้เร็ว พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 5. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการเกิดไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นได้ด้วยการเอาผ้าถูกับลูกโป่ง ลูกโป่งจะดูดผมเพื่อนตั้งขึ้นมาการ ทดลองนี้ได้ผลดีในวันที่อากาศแห้งการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น เด็ก สนทนา ซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และ สรุปผลทดลองร่วมกัน 6. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 7. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 8. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


32 กิจกรรมที่ 11 การจัดหมวดหมู่ รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 11 การจัดหมวดหมู่ จุดประสงค์ เด็กๆสามารถจัดหมวดหมู่ของของเล่นที่เล่นในชีวิตประจำวันได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. ของเล่นไม้ 2.ของเล่นพลาสติก 3. ของเล่นตัวอักษร 4. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.2 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู: เวลาเด็กๆเล่นของเล่นเด็กๆได้จัดหมวดหมู่บ้างไหมคะ เด็ก: ได้ค่ะ/ครับ ครู: เด็กๆสังเกตจากอะไรบ้างในการจัดหมวดหมู่ของของเล่นคะ เด็ก: ผมดูจากสีของของเล่นครับ เด็ก: หนูดูจากรูปร่างของของเล่นค่ะ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


33 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการจัดหมวดหมู่โดยการอธิบายให้นักเรียน สังเกตสิ่งที่เป็นจุดเด่นของของเล่นนั้นๆเพื่อจะได้ง่ายต่อการจัดหมวดหมู่ 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มครูจะนำของเล่นแต่ละชนิดปะปนกันไปเพื่อให้เด็กๆนำของเล่นที่เด็กเล่นเป็นประจำมา จัดหมวดหมู่โดยสังเกตจากลักษณะเด่นของ ของเล่นนั้นๆ เช่น สี ขนาด และรูปร่าง พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : กลุ่มไหนจัดหมวดหมู่ในกลุ่มได้เร็วที่สุดคะ เด็ก : กลุ่มหนูค่ะ ครู : กลุ่มหนูทำไมจึงจัดหมวดหมู่ได้เร็วคะสังเกตจากอะไร เด็ก: กลุ่มหนูสังเกตจากรูปร่างและสีของของเล่นค่ะ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองการจัดหมวดหมู่ดังนี้ - การจัดหมวดหมู่สามารถสังเกตได้โดยจากลักษณะเด่นของ ของเล่นนั้นๆ เช่น สี ขนาด และรูปร่าง ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การจัดหมวดหมู่ประเภทของ ของเล่นเป็นสิ่งที่เด็กๆได้พบเห็นเป็นประจำเด็กๆจึง สามารถสังเกตลักษณะเด่นของเองเล่นนั้นๆได้เป็นอย่างดี เช่นสีของของเล่น ขนาดของเล่น รูปร่างและรูปทรงต่างๆ ของอขงเล่น 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


34 ผลที่เกิดกับเด็ก - เด็กๆได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ประเภทของเล่นว่าลักษณะของของเล่นที่เด็กๆเล่นใน ชีวิตประจำวัน สังเกตได้จากสิ่งได้บ้าง เช่น สี ขนาด รูปร่าง รูปทรง - พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 5. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายการจัดหมวดหมู่ประเภทของของเล่นได้ มีสติในการจัดหมวดหมู่ของเล่น - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลการทดลองร่วมกัน 6. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับหกลุ่มรู้จักการรอคอยและเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 7. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำกิจกรรม จนสำเร็จ 8. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


35 กิจกรรมที่ 12 หลอดดำน้ำ รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 12 หลอดดำน้ำ จุดประสงค์ เด็กๆรู้เกี่ยวกับน้ำหนักและขนาดที่ทำให้วัตถุลอยน้ำได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. กะละมัง 3. หลอดดูด 4.คลิปหนีบกระดาษ 5. ใบงานสำหรับ บันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นขันตักน้ำที่ลอยอยู่ในอ่างบ้างไหมคะ เด็ก: เคยค่ะ/ครับ ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตนำหลอดดูดพลาสติกนำมาตัดจากนั้นนำคลิป หนีบกระดาษประมาณ 3-5 อันมาหนีบหลอดดูดให้ 2 ฝั่ง ติดกันและนำไปลอยน้ำในกะละมังและอธิบายถึงวิธีทำ การทดลอง ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


36 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการตัดหลอดดูดตามขนาดที่ตนเองต้องการจากนั้นพับหลอดดูดพลาสติกและนำคลิป หนีบกระดาษประมาณ 3-5 อันมาหนีบให้หลอดดูดติดกันและนำไปลอยน้ำในกะละมัง พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : กลุ่มที่หลอดดูดลอยน้ำได้บ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูค่ะ เด็ก : กลุ่มผมหลอดจมน้ำครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองหลอดดำน้ำ ดังนี้ - หลอดดูดสามารถลอยน้ำได้เมื่อใช้คลิปหนีบกระดาษประมาณ 3-4 อัน ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่หลอดดูดสามารถลอยน้ำได้เพราะหลอดมีน้ำหนักที่เบากว่าน้ำ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


37 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและค้นพบว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้หลอดสามารถลอยน้ำได้นานที่สุด เด็กๆมีความ พยายามที่จะหาวิธีทำ พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 5. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบาย และการพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันที่พบเห็น - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 6. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 7. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 8. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง


38 กิจกรรมที่13 ทอร์นาโดในขวด รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 13 ทอร์นาโดในขวด จุดประสงค์ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ว่าอากาศมีตัวตน วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. ขวดพลาสติก 3. สีผสมอาหาร 4. แลคซีน 5. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นพายุทอร์นาโดในข่าวบ้างไหมคะ เด็ก: ไม่เคยค่ะ/ครับ ครู : เด็กๆทราบหรือไม่คะว่าพายุเกิดจากอะไร เด็ก : ไม่ทราบค่ะ/ครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


39 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการทดลองเรื่องทอร์นาโดในขวดและอธิบายถึง วิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการทดลองผสมสีผสมอาหารกับน้ำเปล่าจากนั้นน้ำเทใส่ลงไปในขวดประมาณครึ่ง ขวดและนำขวดน้ำเปล่ามาประกบด้านบนขวดจากนั้นนำแลคซีนมาพันรอบๆปากขวดเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกหลัง จากนั้นหมุนขวดแล้วคว่ำขวดลงเพื่อสังเกตผลการทดลอง พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : กลุ่มไหนน้ำไหลจากบนลงสู่ด้านล่างเร็วบ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูค่ะ เด็ก : กลุ่มผมครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองทอร์นาโดในขวด ดังนี้ - น้ำในขวดสามารถไหลจากบนลงล่างได้เร็วเมื่อทำการหมุนขวดน้ำก่อนคว่ำ ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การการที่น้ำไหลลงสู่ด้านล่างเร็วเพราะภายในที่ว่างเปล่าจะมีอากาศอยู่ดังนั้นแม้ น้ำหนักจะพยายามดึงน้ำให้ไหลลงด้านล่างแต่อากาศที่อยู่ในขวดด้านล่างก็ออกแรงผลักไม่ให้น้ำไหลลงมาเช่นกันซึ่ง การเกิดสมดุลในลักษณะนี้ยังคงอยู่จนกว่าจะมีแรงภายนอก เช่นแรงบีบ หรือการหมุนขวดมากระทำ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


40 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้เรียนรู้ว่าขวดที่อยู่ด้านล่างเต็มไปด้วยอากาศน้ำจะไหลลงมายังขวดด้านล่างใต้ก็ต่อเมื่ออากาศจขึ้น ไปอยู่ด้านบนและน้ำในปริมาณเท่ากันจะไหลลงมาด้านล่าง เมื่อเราสร้างทอร์นาโดขึ้นฟองอากาศจะพุ่งขึ้นและน้ำ จะไหลลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็ว พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 9. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กอธิบายพูดเชื่อมโยงปรากฏการณ์ที่เกิดในชีวิต ประจำวันที่พบเห็น - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 10. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 11. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 12. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


41 กิจกรรมที่ 14 พับหรือตัดก็ทับกันสนิท รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 14 พับหรือตัดก็ทับกันสนิท จุดประสงค์ เด็กได้รับความรู้เกี่ยวกับรูปสมมาตรและแกนสมมาตร วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำ 2. สีน้ำ 3. กระดาษ 4. จานสีและพู่กัน 5. ใบงานสำหรับบันทึกผลการ ทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยพับกระดาษเป็นรูปทรงอะไรบ้างคะ เด็ก: หนูพับเป็นนกค่ะ เด็ก: ผมพับเป็นจรวดครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


42 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการทดลองเรื่องพับหรือตัดก็ทับกันสนิทและ อธิบายถึงวิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการพับกระดาษ จากนั้นนำสีน้ำมาหยดลงบนกระดาษโดยหยดสีน้ำลงในกระดาษ ด้านเดียวจากนั้นพับกระดาษอีกรอบและเปิดกระดาษสังเกตภาพที่ได้ พร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : กลุ่มไหนที่สามารถทำให้ภาพทั้ง 2 ด้านเหมือนกันบ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูค่ะ เด็ก : กลุ่มผมครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองพับหรือตัดก็ทับกันสนิท ดังนี้ - การพับกระดาษให้เท่ากันและนำสีน้ำมาหยดฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาและทำการพับผลการทดลอง รูปทั้ง 2 ด้านเหมือนกัน ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่รูปมีความเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน เรียกว่ารูปสมมาตรและมีรอยพับเป็นแกน สมมาตรเสมอ 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


43 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและได้สนุกกับการทำศิลปะตกแต่งและได้รับความรู้ในเรื่องแกนสมมาตร เมื่อพับ กระดาษและหยดสีน้ำลงไปในกระดาษจากนั้นพับกระดาษและเปิดออกรูปฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาจะเหมือนกัน พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 13. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 14. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 15. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 16. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


44 กิจกรรมที่ 15 เครื่องกรองน้ำ รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 15 เครื่องกรองน้ำ จุดประสงค์ เด็กได้รับความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำเครื่องกรองน้ำ วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำขุ่น 2. สำลี 3. ทราย 4. ถ่าน 5. หินกรวด 6.หิน ก้อนใหญ่ 7. ขวดพลาสติก 8. มีดคัตเตอร์ 9. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยสังเกตเวลาฝนตกแล้วน้ำไหลลงท่อระบายที่ถนนแล้วน้ำไหลไปเก็บไว้ไหนคะ เด็ก: เก็บลงสระน้ำค่ะ เด็ก: เก็บลงถังใส่น้ำครับ ครู : เด็กๆทราบมั๊ยคะว่าน้ำที่สีขุ่นๆทำอย่างไรน้ำจึงจะเป็นน้ำที่สะอาดใสได้คะ เด็ก: นำน้ำไปกรองค่ะ เด็ก: เอาน้ำไปต้มครับ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


45 ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการทดลอง 2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองแต่ละชนิด และสาธิตการทดลองเรื่องเครื่องกรองน้ำและอธิบายถึง วิธีทำการทดลอง 2.2 ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจเพื่อเตรียมทำการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดลอง 3.1 แต่ละกลุ่มทำการนำมีดคัตเตอร์มาตัดขวดพลาสติก(ครูผู้สอนเป็นคนช่วยตัดเพื่อความปลอดภัย)ให้ เป็น 2 ชิ้น จากนั้นใช้ส่วนด้านบนที่มีปากขวดนำสำลีมาใส่ลงไปเป็นชั้นที่ 1 ตามด้วยถ่านเป็นชั้นที่ 2 ตามด้วยทราย เป็นชั้นที่ 3 ตามด้วยหินกรวดเป็นชั้นที่ 4 และหินก้อนใหญ่เป็นชั้นที่ 5 หลังจากนั้นเทน้ำขุ่นในขวดลงไปในเครื่อง กรองน้ำและสังเกตการทดลองพร้อมใช้คำถามดังนี้ ครู : กลุ่มไหนที่เครื่องกรองน้ำกรองน้ำจากสีขุ่นๆเป็นน้ำสีใสๆบ้างคะ เด็ก: กลุ่มหนูค่ะ เด็ก : กลุ่มผมครับ ขั้นตอนที่ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 เด็กและครูร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลองเครื่องกรองน้ำ ดังนี้ - การทดลองเครื่องกรองน้ำ หลังจากนำน้ำขุ่นมาเทลงไปในเครื่องกรองน้ำผลที่ได้น้ำมีสีที่ใสมาก ขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่กรอง ครูแนะนำเพิ่มเติมว่า การที่นำ หินกรวด ทราย ถ่าน สำลี นำมากรองน้ำได้ รวดเร็วและไม่ต้องเสียเวลา ที่มารอน้ำจากการแกว่งสารส้มและรอให้น้ำตกตะกอนไม่มีสารเคมีต่างๆและยังประหยัดเวลาในการรอน้ำให้ ตกตะกอน 4.2 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลองตามจินตนาการของตนเอง ภาพที่ 2 การทดลองของแต่ละกลุ่ม


46 ผลที่เกิดกับเด็ก เด็กๆได้ทดลองร่วมกันและได้รับความรู้ในเรื่องของการทำเครื่องกรองน้ำที่นำวัสดุมาจากธรรมชาติมาใช้ใน การทำและเด็กๆจะได้สังเกตรอเวลาที่น้ำขุ่นผ่านเครื่องกรองน้ำจนเกิดเป็นน้ำใส พัฒนาความสามารถพื้นฐานและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 17. ด้านการเรียนรู้/ภาษา/สติปัญญา - เด็กสนทนาซักถาม การตอบคำถามการทดลอง และการนำเสนอผลการทดลองด้วยการวาดภาพ พูด อภิปรายผล และสรุปผลทดลองร่วมกัน 18. ด้านสังคม - เด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม และห้องเรียนในขณะทำการทดลอง - เด็กปฏิบัติกิจกรรมการทดลองร่วมกับกลุ่มรู้จักการรอคอย และเก็บอุปกรณ์หลังการทดลอง 19. ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีความสนใจ และมั่นใจในการทดลอง กล้าแสดงออก รู้จัก ช่วยเหลือแบ่งปันกัน แสดงความพอใจ ชื่นชมในผลงานของตนเองและผู้อื่น มีความอดทนทำ กิจกรรม จนสำเร็จ 20. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เด็กได้เคลื่อนไหวหยิบจับอุปกรณ์ - เด็กเตรียมอุปกรณ์การทดลอง หยิบจับใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเก็บอุปกรณ์ไว้ที่เก็บ - เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลอง ภาพที่ 3 เด็กวาดภาพที่ทำการทดลอง


47 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย โรงเรียนบ้านโนนโพธิ์ สำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กิจกรรมที่ 16 ความหลากหลายของเมล็ดพันธุ์ จุดประสงค์ เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ของพืชผักต่างๆ วัสดุอุปกรณ์ 1. จานกระดาษ 2. แว่นขยาย 3. เมล็ดข้าวโพด 4. เมล็ดถั่วเขียว 5. เมล็ดผักบุ้ง 6.เมล็ดบวบงู 7. เมล็ดผักกาดดอก 8. เมล็ดถั่วฝักยาว 9. ใบงานสำหรับบันทึกผลการทดลอง ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอนที่ 1 เด็กตั้งคำถาม (รวบรวมความคิดและตั้งสมมติฐาน) 1.1 ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ครู : เด็กๆเคยเห็นเมล็ดของผักกาดดอกมั๊ยคะว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เด็ก : ไม่เคยเห็นคะ/ครับ กิจกรรมที่ 16 ความหลากหลายของเมล็ดพันธุ์ ภาพที่ 1 อุปกรณ์การทดลอง


Click to View FlipBook Version