The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สมุดบันทึกการเรียนรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aphichaya Sakunhuha, 2023-10-10 09:54:24

สมุดบันทึกการเรียนรู้

สมุดบันทึกการเรียนรู้

สมุดบัน บั ทึกการเรีย รี นรู้ รายวิช วิ าหลักสูต สู รการวัด วั และประเมิน มิ การศึกษาและการเรีย รี นรู้


สมุดบันทึกการเรีย รี นรู้ จัดทำ โดย นางสาวอภิชญา สกุลฮูฮา รหัสนักศึกษา 65115265115 เสนอ รองศาสตราจารย์ ดร.สำ ราญ กำ จัดภัย สมุดบันทึกการเรียนรู้นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาหลักสูตรการวัดและประเมินการศึกษาและการเรียนรู้ รหัสวิชา 21042103 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเคมี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร


คำ นำ บันทึกการเรีย รี นรู้ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิช วิ าหลักสูตรการวัดและประเมินการศึกษาและการเรีย รี นรู้ รหัสวิช วิ า21042103 ภาคเรีย รี นที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จัดทำ ขึ้นเพื่อสรุปองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวิช วิ า หลักสูตรการวัดเเละประเมินผลการเรีย รี นรู้รวมถึงเกร็ดความรู้ต่างๆ เพื่อใช้ในการทบทวนองค์ความรู้ที่ได้รับ ในห้องเรีย รี นให้เกิดองค์ความรู้และความเข้าใจในเนื้อหายิ่งขึ้น ผู้จัดทำ ขอขอบคุณรองศาสตราจารย์ ดร.สำ ราญ กำ จัดภัย อาจารย์ผู้สอนที่มอบความรู้และเเนว ทางการศึกษาเกี่ยวกับวิช วิ าหลักสูตรการวัด วั และประเมินผลการศึกษาและการเรีย รี นรู้ ผู้จัดทำ หวัง เป็นอย่างยิ่งว่าบันทึกการเรีย รี นรู้ฉบับนี้จะสามารถให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่าน หาก มีข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทำ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย นางสาวอภิชญา สกุลฮูฮา ผู้จัดทำ


สารบัญบั คำ นำเรื่อรื่ ง หน้าน้ สัญสั ญาการเรียรี น แนวคิดเกี่ยวกับการเรียรี นรู้ แนวคิดเบื้อบื้ งต้นเกี่ยวกับการวัดวั และประเมินมิ ผลการเรียรี นรู้ หลักการและจุดมุ่งมุ่หมายของการประเมินมิ ผลการเรียรี นรู้ การวัดวั และประเมินมิ ผลจากการสื่อสื่ สารระหว่าว่งบุคคล การประเมินมิ การปฏิบัติบั ติ การประะเมินมิ ตมสภาพจริงริ การประเมินมิ โดยใช้แช้ ฟ้มฟ้ สะสมผลงาน การใช้รูช้ บ รู ริกริ ส์ใส์ นการวัดวั และประเมินมิ ผลการเรียรี นรู้ การวิเวิ คราะห์ตัห์ ตัวชี้วัชี้ ด วั สู่กสู่ ารออกแบบหน่วน่ยการเรียรี นรู้ การออกแบบหน่วน่ยการเรียรี นรู้ แบบทดสอบความเรียรี งหรือรื แบบทดสอบอัตนัยนั แบบทดสอบปรนัยนั ชนิดนิ ถูกถู ผิดผิ แบบทดสอบปรนัยนั ชนิดนิ จับจั คู่ แบบทดสอบปรนัยนั ชนิดนิ เติมคำ และชนิดนิ ตอบแบบสั้นสั้ แบบทดสอบปรนัยนั ชนิดนิ เลือกตอบ การตรวจสอบคุณคุภาพของแบบทดสอบความรู้สึรู้กสึหลังจากที่ได้เด้รียรีนในรายวิชวิาหลักสูตสู รการวัดวั และประเมินมิ ผลการเรียรี นรู้ Profile -นักนัศึกษา -อาจารย์ผู้ย์ สผู้ อน สารบัญบั กขคงจ1258111417 20232629323538414447 50


My Pr o f i l e


Profile ประวัติส่วนตัว ชื่อ ชื่ -สกุล กุ : นางสาวอภิชญา สกุล กุ ฮูฮา ชื่อ ชื่ เล่น:เอเปค รหัส หั นักศึกษา:65115265115 วัน วั /เดือ ดื น/ปีเกิด:24/10/2546 อายุ:19ปี ที่อยู่ต ยู่ ามภูมิ ภู ลำมิ ลำ เนา: 138/1 บ.หนองห้า ห้ ง ต.หนองห้า ห้ ง อ.กุฉิ กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินสิธุ์ 46110 หมายเลขโทรศัพท์:0611310980 มหาวิทวิยาลัยราชภัฏสกลนคร กำ ลังศึกษาอยู่ที่ ยู่ ที่ : นักศึกษาชั้น ชั้ ปีที่ ปี ที่2 คณะครุศ รุ าสตร์ สาขาวิชวิาเคมี


profile รองศาสตราจารย์ ดร.สำ ราญ กำ จัดภัย อาจารย์ประจำ วิช วิ าหลักสูตรการวัด วั และประเมินผลการเรีย รี นรู้ รหัสวิช วิ า 21042103 ภาคเรีย รี นที่ 1 ปีการศึกษา 2566 มหาวิท วิ ยาลัยราชภัฏสกลนคร


บับัน บั น บั ทึทึ ทึ ก ทึ กการเรีรีย รี ย รี นรู้รู้รู้รู้


ใบสัญ สั ญาการเรีย รี นและบัน บั ทึกผลการร่ว ร่ มกิจกรรมในชั้น ชั้ เรีย รี น ใบสัญญาการเรียน บัน บั ทึกผลการร่ว ร่ มกิจกรรมในชั้น ชั้ เรีย รี น


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่1 ใบความรู้ที่ รู้ ที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการเรีย รี นรู้ 1.ความหมายของการเรีย รี นรู้ 2.พฤติกรรมการเรีย รี นรู้ด้ รู้ ด้ านพุทธิพิธิสัพิย สั 3.พฤติกรรมการเรีย รี นรู้ด้ รู้ ด้ านจิตจิพิสัพิย สั 4.พฤติกรรมการเรีย รี นรู้ด้ รู้ ด้ านทักษะพิสัพิย สั


แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ ความหมายของการเรียรีนรู้ พฤติกรรมการเรียรีนรู้ด้รู้าด้น จิตจิพิสัพิยสั พฤติกรรมการเรียรีนรู้ด้รู้าด้นพุทธิพิธิสัพิยสั พฤติกรรมการรียรีนรู้ ด้าด้นทักษะพิสัพิยสั เป็น ป็ ความสามารถของบุคคลใน การใช้อช้วัยวัวะต่างๆของร่าร่งกาย ทำ งานอย่าย่งประสานสัมสัพันพัธ์กัธ์ กัน ขั้นขั้การเกิดทักษะปฏิบัติบั ติของ Simpson ซึ่งซึ่มี7มีขั้นขั้ตอน การดัดดัแปลง การปฏิบัติบั ติได้ด้ด้วด้ยตนเอง การเตรียรีมความพร้อร้ม การเรียรีนรู้ (learning) ความเข้าข้ใจ การนำ ไปใช้ ความรู้ การประเมินมิค่า ขั้นขั้เห็น ห็ คุณคุค่า หรือรื สร้าร้งค่านิยนิม ขั้นขั้จัดจัระบบค่านิยนิม ขั้นขั้ตอบสนอง ขั้นขั้สร้าร้งลักษณะ นิสันิยสัจากค่านิยนิม ลงมือมืปฏิบัติบั ติและทำ ตามได้ ลดความผิดผิพลาดจน สามารถทำ ได้ถูด้กถูต้อง รับรัรู้แรู้ละเลียนแบบ ปฏิบัติบั ติได้อด้ย่าย่ง ชัดชัเจนและต่อเนื่อนื่ง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ ค่อนข้าข้งถาวร อันเนื่อนื่งมาจาก การได้รับรั ประสบการณ์ การวิเวิคาระห์ เกิดจากพลังความสามารถทางสมอง โดยเเนวคิดของ bloomและคณะได้จำ เเนกออกเป็น ป็ 6 ระดับ การสังสัเคราะห์ พฤติกรรมการเรียรีนรู้ด้รู้ ด้านจิตจิพิสัพิยสัเป็น ป็ พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อข้ง กับความรู้สึรู้กสึความเชื่อชื่เจตคติ ค่านิยม ขั้นขั้รับรัรู้ ขั้นขั้การเกิดทักษะปฏิบัติบั ติของ Dave ซึ่งซึ่มี 5มีขั้นขั้ตอน ปฏิบัติบั ติได้อด้ย่าย่งเป็น ป็ ธรรมชาติ การริเริริ่มริ่ การตอบสนอง ตามแนวชี้แ ชี้ นะ การรับรัรู้ การตอบสนองที่ ซับซัซ้อซ้น


สรุป การเรีย รี นรู้ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ค่อนข้า ข้ งถาวรอันเนื่อ นื่ งมา จากได้รับ รั ประสบการณ์พฤติกรรมการเรีย รี นรู้แ รู้ บ่ง บ่ ได้เป็น ป็ 2 ด้านใหญ่ๆ คือ ด้าน พุทธิพิธิสัพิย สั เช่น ช่ ความจำ ความเข้า ข้ใจ ด้านจิตจิพิสัพิย สั เช่น ช่ ความรู้สึ รู้ ก สึ ความเชื่อ ชื่ ด้าน ทักษะ พิสัพิย สั เป็น ป็ พฤติกรรมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว การปฏิบัติ บั ติกิจกรรมต่างๆ เช่น ช่ การร้อ ร้ งเพลง


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่2 ใบความรู้ที่ รู้ ที่2 แนวคิดเบื้อ บื้ งต้นเกี่ยวกับการวัด วั และประเมิน มิ ผลการเรีย รี นรู้ 1.แนวคิดเกี่ยวกับการวัด วั 2.แนวคิดเกี่ยวกับการประเมินมิ 3.แนวทางการนำ ผลการประเมินมิ 4.บทสรุป


แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แนวคิดเกี่ยวกับการประเมินมิ แนวคิดเกี่ยวกับการวัดวัผล องค์ประกอบสำ คัญของการ วัดวัผลการเรียรีนรู้ การรใช้ผช้ลการ ประเมินมิเพื่อพื่สรุปรุ และตัดสินสิผลการ เรียรีนรู้ การใช้ผช้ลการประเมินมิเพื่อพื่ ปรับรั ปรุงรุพัฒพันา การใช้ผช้ลการประเมินมิเพื่อพื่การรายงานต่อผู้ปผู้ กครองและผู้เผู้กี่ยวข้อข้ง วิธีวิกธีารและเครื่อรื่งมือมืที่ใช้ใช้นการวัดวัผลสิ่งสิ่ที่ต้องการวัดวัผล การใช้ผช้ลการประเมินมิเพื่อพื่ วางแผนการจัดจัการเรียรีนรู้ ข้อข้มูลซึ่งซึ่เป็น ป็ ตัวเลขหรือรืสัญสัลักษณ์แณ์ทน ปริมริาณหรือรืคุณคุภาพของพฤติกรรมการ เรียรีนรู้ที่รู้ที่ได้จด้ากการวัดวัผล แนวทางการนำ ของการประเมินมิการเรียรีนรู้ไรู้ปใช้ปช้ ระโยชน์ การประเมินมิหมายถึงการตัดสินสิคุณคุค่าสิ่งสิ่ประเมินมิ การวัดเป็น ป็ กระบวนการกำ หนดการวัดเป็น ป็ กระบวนการกำ หนดตัวเลขหรือรื สัญลักษณ์แทนปริมริาณหรือรืคุณภาพของลักษณะหรือรืคุณสมบัติของสิ่งที่ต้องการวัด การวัดวัผลทางตรง การวัดวัผลทางอ้อม


การวัด วั ผลการเรีย รี นรู้ เป็น ป็ กระบวนการที่ครูผู้สผู้ อนนำ เป็น ป็ กระบวนการที่ครูผู้สผู้ อนนำ เครื่อ รื่ งมือ มื อย่า ย่ งใดอย่า ย่ งหนึ่ง นึ่ไปใช้กั ช้ กั บผู้เผู้รีย รี นโดยมีจุ มี จุ ดมุ่ง มุ่ หมายเพื่อ พื่ ให้ผู้เผู้รีย รี น ตอบสนองหรือ รื แสดงพฤติกรรมการเรีย รี นรู้อ รู้ อกมาการวัด วั ผลมีวิ มี ธีวิก ธี ารใหญ่ๆ ญ่ 2อย่า ย่ งคือ การวัด วั ผลทางตรง หมายถึง วิธีวิก ธี ารวัด วั ผลที่สามารถวัด วั สิ่งสิ่ที่ต้องการวัด วั ได้โดยตรงจริงริๆ และการวัด วั ผลทางอ้อม หมายถึง วิธีวิก ธี ารวัด วั ผลที่ไม่ส ม่ ามารถวัด วั สิ่งสิ่ที่ต้องการวัด วั ได้โดยตรง สรุปได้ว่า ว่ การวัด วั ผล เป็น ป็ กระบวนการกำ หนดตัวเลขหรือ รื สัญ สั ลักษณ์แ ณ์ ทนปริมริาณหรือ รื คุณ คุ ภาพของลักษณะหรือ รื สมบัติ บั ติของสิ่งสิ่ที่ต้องการวัด วั และการประเมินมิหมายถึงการตัดสินสิ คุณ คุ ค่าสิ่งสิ่ที่จะประเมินมิ สรุป


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่3 ใบความรู้ที่ รู้ ที่3 หลักการและจุดมุ่ง มุ่ หมายของการวัด วั และประเมิน มิ ผลการเรีย รี นรู้ 1.ความสำ คัญของการวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้ 2.ประเภทขอการวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้ 3.หลักการของการวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้ 4.จุดมุ่ง มุ่ หมายของการวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้


หลักการและจุดมุ่ง มุ่ หมายของการ วัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้ ประเภทของการวัดวัและการประเมินมิ ผลการเรียรีนรู้ 1. การวัดวัและการประเมินมิผลเพื่อพื่จัดจัวางตำ แหน่งน่ การวัดวัและการประเมินมิผลเพื่อพื่จัดจัวางตำ แหน่งน่ ความสำ คัญของการวัดวัและการ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้ หลักการของการวัดวัและ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้ สถานศึกษาเป็นป็ผู้รัผู้ บรัผิดผิชอบการวัดวัและการ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้โรู้ดยเปิดปิ โอกาสให้ผู้ห้เผู้รียรีนที่ เกี่ยวข้อข้งมีส่มีวส่นร่วร่ม จุดมุ่งมุ่หมายของการวัดวัและ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ในบทบาทเป็นองค์ประกอบหนึ่งของ ระบบการศึกษา 2. การวัดวัและการประเมินมิผลเพื่อพื่ทำ การวัดวัและการ ประเมินมิผลเพื่อพื่ทำ วินิวิจนิฉัย 3. การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่การพัฒพันา 4.การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่สรุปรุผลการเรียรีนรู้ การวัดวัและการประเมินมิผลการเรียรีนรู้มีรู้จุมีจุดมุ่งมุ่ หมายเพื่อพื่พัฒพันาผู้เผู้รียรีนและตัดสินสิผลการเรียรีน ใช้สช้ถานศึกษาจัดจัทำ และออกเอกสารหลักฐานการ ศึกษา เพื่อพื่เป็นป็หลักฐานการประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ในบทบาทเป็นเครื่อรื่งมือมืประกัน คุณคุภาพการศึกษา บทบาททำ หน้าที่ตรวจสอบผล การเรียรีนรู้ มีกมีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ก่รู้ก่อนเรียรีนในเรื่อรื่งใด เรื่อรื่งหนึ่งนึ่ การวัดวัและประเมินมิเพื่อพื่จัดจัวางลำ ดับดั การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่วินิวิจนิฉัย การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่การพัฒพันา การวัดวัและประเมินมิเพื่อพื่สรุปผลการเรียรีนรู้ มีกมีารวัดวัและประเมินมิระหว่าว่งการจัดจัการเรียรีนการสอน เรื่อรื่งใดเรื่อรื่งหนึ่งนึ่อย่าย่งต่อเนื่อนื่ง จะทำ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนรู้จุรู้ จุด เด่นด่จุดบกพร่อร่งที่ควรปรับรั ปรุงรุอะไรบ้าบ้ง การวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้จำรู้จำแนกตามการวัดวัและ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้จำรู้จำแนกตามขั้นขั้ตอนการจัดจัการ เรียรีนการสอนก่อนเรียรีนระหว่าว่งเรียรีนและหลังเรียรีน มี4มีประเภท


สิ่งสิ่ที่ได้เรียรีนจากใบความรู้ที่ รู้ ที่3 แบ่ง บ่ ออกเป็น ป็ 4 หัวข้อ ข้ ใหญ่ ได้แก่ ความสำ คัญของการวัดวัและการประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ประเภทของ การวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ หลักการของการวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ จุดมุ่ง มุ่ หมายของการวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ โดยหัวข้อ ข้ ที่1 ความสำ คัญของการวัดวัและการประเมินมิผลการเรียรีนรู้ แบ่ง บ่ ออกเป็น ป็ ความสำ คัญต่อผู้เผู้รียรีน ผู้สผู้ อนมีกมีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ทั้ รู้ ทั้งก่อนเรียรีน ระหว่า ว่ ง เรียรีน และหลังเรียรีน เพื่อพื่ ให้ผู้เผู้รียรีนรู้ว่ รู้ า ว่ ตนเองมีพื้มีพื้ นพื้ฐานความรู้เ รู้ กี่ยวกับเรื่อรื่งนั้นนั้ๆ เพียพีงใด และเพื่อพื่ ให้ผู้เผู้รียรีนรู้จุ รู้ จุ ดเด่น และจุดบกพร่อ ร่ งของตนเองที่ควร ปรับรั ปรุงมีอมีะไรบ้า บ้ ง ความสำ คัญต่อผู้สผู้ อน มีกมีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ก่ รู้ ก่ อนเรียรีน ระหว่า ว่ งเรียรีน และหลังเรียรีน เพื่อพื่ ให้ผู้สผู้ อนวางแผนจัดจัการ เรียรีนการ สอนได้อย่า ย่ งเหมาะสมสอดคล้องกับพื้นพื้ฐานของผู้เผู้รียรีน และเพื่อพื่เป็น ป็ การให้ข้อ ข้ มูลย้อ ย้ นกลับต่อผู้เผู้รียรีนเพื่อพื่พัฒพันาปรับรั ปรุงแก้ไข หัวข้อ ข้ ที่ ประเภทของการวัดวั และประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ถ้าจำ แนกตามขั้นขั้ตอนการจัดจัการเรียรีนการสอน แบ่ง บ่ ได้เป็น ป็ 4 ประเภท 1.การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่จัดจัวางตำ แหน่ง น่ 2.การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่วินิวิจนิฉัยฉั 3.การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่การพัฒพันา 4.การวัดวัและการประเมินมิเพื่อพื่สรุปผลการเรียรีนรู้ แต่ ถ้าหากจํา จํ แนกตามวิธีวิกธีารแปลความหมายของการเรียรีนรู้ห รู้ รือรืตามการอ้างอิง แบ่ง บ่ ได้เป็น ป็ 3 ประเภท 1) การวัดวัและการประเมินมิแบบอิงตน 2) การวัดวัและการประเมินมิแบบอังกลุ่ม ลุ่ 3) การวัดวัและการประเมินมิแบบอิงเกณฑ์ หัวข้อ ข้ ที่3 หลักการของการวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ตามหลักสูต สู รแกนกลางการศึกษาขั้นขั้พื้นพื้ฐาน พุทธศักราช 2551 สถานศึกษาควรกำ หนดหลักการวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ต รู้ ามหลักสูต สู รสถานศึกษา ดังนี้ 1 สถาน ศึกษาเป็น ป็ ผู้รัผู้ บรัผิดผิชอบการวัดวัและการประเมินมิผลการเรียรีนรู้ข รู้ องผู้เผู้รียรีนโดยเปิดปิ โอกาสให้ผู้เผู้รียรีนที่เกี่ยวข้อ ข้ งมีส่มีว ส่ นร่ว ร่ ม 2 การวัดวัและการประเมินมิผล การเรียรีนรู้มี รู้ จุมีจุ ดมุ่ง มุ่ หมายเพื่อพื่พัฒพันาผู้เผู้รียรีนและตัดสินสิผลการเรียรีน 3 การวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ต้ รู้ ต้ องสอดคล้องและครอบคลุม ลุ มาตรฐานการเรียรีนรู้ ตัวชี้วั ชี้ ดวัตามกลุ่ม ลุ่ สาระการเรียรีนรู้ที่ รู้ ที่ กำ หนดในหลักสูต สู รสถานศึกษา 4 การวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้เ รู้ป็น ป็ ส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ ของกระบวนการจัดจัการเรียรีนการสอน ต้องคําเนินนิการด้วยเทคนิคนิวิธีวิกธีารที่หลากหลายเพื่อพื่ ให้สามารถวัดวัและประเมินมิผลผู้เผู้รียรีนได้อย่า ย่ งรอบด้าน 5 การประเมินมิผู้เผู้รียรีนพิจพิารณาจากพัฒพันาการของ ผู้เผู้รียรีน เปิดปิ โอกาสให้ผู้เผู้รียรีนและผู้มีผู้ ส่มีว ส่ นเกี่ยวข้อ ข้ งตรวจสอบผลการประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ให้มีกมีารเทียบโอนผลการเรียรีนระหว่า ว่ งสถานศึกษาและ ระหว่า ว่ ง รูปแบบการศึกษาต่างๆ ให้สถานศึกษาจัดจัทำ และออกเอกสารหลักฐานการศึกษา เพื่อพื่เป็น ป็ หลักฐานการประเมินมิผลการเรียรีนรู้ และหัวข้อ ข้ สุด สุ ท้าย จุดมุ่ง มุ่ หมายของการวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ แบ่ง บ่ ออกเป็น ป็ 2 ทาง ในทางการศึกษานั้นนั้จุดมุ่ง มุ่ หมายในทางการศึกษาเน้น น้ ในด้านการวัดวัและประเมินมิ ผู้เผู้รียรีนและผู้สผู้ อนเพื่อพื่พัฒพันาและปรับรั ปรุงจุดที่บกพร่อ ร่ ง และอีกทางคือตามหลักสูต สู รแกนกลางการศึกษาขั้นขั้พื้นพื้ฐาน พุทธศักราช 2551 จะเน้น น้ ที่จุดมุ่ง มุ่ หมายของการวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ร รู้ ะดับชั้นชั้เรียรีน สรุป


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่4 ใบความรู้ที่ รู้ ที่12 การวัด วั และประเมิน มิ ผลจากการสื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคล 1.ความรู้เ รู้ บื้อ บื้ งต้นเกี่ยวกับการสื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคล 2.ความหมาย 3.องค์ประกอบ 4.วิธีวิก ธี ารวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้จ รู้ ากการสื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคล


ผู้ส่ผู้ งส่สาร สาร สื่อสื่หรือรืช่อช่งทาง ผู้รัผู้ บรัสาร 1. 2. 3. 4. องค์ประกอบของการสื่อสื่สารระหว่าว่งบุคคล การประเมินมิจากการ สื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคล การสื่อสื่สารระหว่าว่งบุคคลเป็น ป็ กระ บวนการของการติดต่อสื่อสื่สารหรือรื การแสดงปฏิกิริยริาโต้ตอบระหว่าว่ง บุคคลสองคนหรือรืมากกว่าว่นั้นนั้ ได้ หมายถึง กระบวนการเก็บรวมรวบ วิเวิคราะห์ ตีความ บันบัทึกข้อข้มูลที่ได้จากการ ติดต่อสื่อสื่สาร วิธีวิหธีลากหลายของการวัดวัและการประเมินมิผล การเรียรีนรู้จรู้ากการสื่อสื่สารระหว่า ว่ งบุคคล วิธีวิกธีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้จรู้าก การบันบัทึกเหตุกตุรณ์ขณ์องผู้เผู้รียรีน ความรู้เ รู้ บื้อบื้งต้นเกี่ยวกับการ สื่อสื่สารระหว่า ว่ งบุคคล วิธีวิกธีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ จากการพูดคุยคุกับผู้ที่ผู้ ที่ เกี่ยวข้อข้งกับผู้ เรียรีน ความหมายของการวัดวัและประเมินมิผล การเรียรีนรู้จ รู้ ากการสื่อสื่สารระหว่า ว่ งบุคคล วิธีวิกธีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้จรู้าก การถามตอบในชั้นชั้เรียรีน วิธีวิกธีารวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ จากการตรวจการบ้าบ้นหรือรืแบบ ฝึกหัดหั ประจำ วันวั


สรุป การสื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคล เป็น ป็ กระบวนการของการติดต่อสื่อ สื่ สารหรือ รื การแสดง ปฏิกิริยริาโต้ตอบระหว่า ว่ งบุคคลสองคนหรือ รื มากกว่า ว่ นั้น นั้ ขึ้น ขึ้ ไป เช่น ช่ การพูดคุย คุ การอภิปราย องค์ประกอบของการสื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคลมี 4 องค์ประกอบ คือ ผู้ส่ผู้ ง ส่ สาร สาร สื่อ สื่ หรือ รื ช่อ ช่ งทาง ผู้รัผู้ บ รั สาร การวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้จ รู้ ากการ สื่อ สื่ สารระหว่า ว่ งบุคคล หมายถึง กระบวนการเก็บรวบรวมวิเวิคราะห์ตีความ บัน บั ทึก ข้อ ข้ มูล ที่ได้จากการติดต่อสื่อ สื่ สารหรือ รื การแสดงปฏิกิริยริาโต้ตอบระหว่า ว่ งผู้สผู้ อนกับ ผู้เผู้รีย รี น หรือ รื ผู้ที่ผู้ ที่ เกี่ยวข้อ ข้ ง


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่5 ใบความรู้ที่ รู้ ที่13 การประเมิน มิ การปฏิบัติ บั ติ 1.แนวคิดและความหมายของการประเมินมิการปฏิบัติ บั ติ 2.ลักษณะสำ คัญของการประเมินมิการปฏิบัติ บั ติ 3.ขั้น ขั้ ตอนการประเมินมิการปฏิบัติ บั ติ 4.จุดแข็ง ข็ จุดอ่อนของการประเมินมิการปฏิบัติ บั ติ


การประเมินการปฏิบัติ แนวคิดและความหมายของการประเมินมิการปฏิบัติบั ติ ลักษณะสำ คัญของการ ประเมินมิ ปฏิบัติบั ติ จุดแข็งข็และจุดอ่อนของการ ประเมินมิ ปฏิบัติบั ติ การประเมินมิการปฏิบัติบั ติต้องมีภมีาระงานให้ ผู้เผู้รียรีนได้ปฏิบัติบั ติจริงริ การประเมินมิพฤติกรรมการเรียรีนรู้ ของผู้เผู้รียรีน การประเมินมิ ปฏิบัติบั ติมักมัมีคมีวามเป็น อัตนัย (subjective) การประเมินมิการปฏิบัติบั ติสามารถ ประเมินมิพฤติกรรมของผู้เผู้รียรีน จุดแข็งข็ การให้คห้ะเเนนให้มีห้คมีวามเชื่อชื่มั่นมั่หรือรืมีคมีวามคงเส้นส้คงวา ค่อนข้าข้งทำ ได้ยด้าก สามารถประเมินมิ ได้ทั้ด้ ทั้งทั้กระบวนการ และผลผลิตหรือรืผลงาน เป็นป็การขยายวิฑีวิ ฑีการวัดวัและ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้ขรู้องผู้เผู้รียรีน ให้มีห้คมีวามหลากหลาย การประเมินมิการปฏิบัติบั ติสามารถ ใช้ไช้ด้สอดคล้องตามแนวปฏิบัติบั ติ การวัดวัและประเมินมิผลการเรียรีนรู้ การประเมินมิการปฏิบัติบั ติที่เน้นการ ประเมินมิ สามารถวัดวัความสามรถที่ไม่ อาจวัดวั ได้โด้ดยวิธีวิอื่ธีอื่น 1. ค่อนข้าข้งใช้เช้วลานานและยากใน การพัฒพันาการปฏิบัติบั ติงานให้ สมบูรณ์ จุดอ่อน หมานถึง การเก็บรวบรวมข้อข้มูลที่เกี่ยว กับพฤติกรรมการเรียรีนรู้ขรู้องผู้เผู้รียรีนผ่าผ่น การลงมือมืปฏิบัติบั ติจริงริตามภาระงานที่ผู้ สอนได้อด้อกแบบไว้


สรุป จากการประเมินมิ ปฏิบัติ บั ติเป็น ป็ อีกหนึ่ง นึ่ ทางเลือกในการประเมินมิการเรีย รี นรู้ข รู้ องผู้เผู้รีย รี น ที่ส่ง ส่ ผลดีต่อการจัด จั การเรีย รี นการสอนได้ดีกว่า ว่ การใช้วิ ช้ ธีวิก ธี ารทดสอบเพีย พี งอย่า ย่ งเดียว การประเมินมิ ปฏิบัติ บั ติหมายถึง กระบวนการเก็บรวบรวมข้อ ข้ มูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรีย รี น รู้ข รู้ องผู้เผู้รีย รี นที่ได้ออกแบบไว้


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่5 ใบความรู้ที่ รู้ ที่14 การประเมิน มิ ตามสภาพจริง ริ 1.แนวคิดและความหมายของการประเมินมิการตามสภาพจริงริ 2.ลักษณะสำ คัญของการประเมินมิตามสภาพจริงริ 3.ข้อ ข้ แตกต่างระหว่า ว่ งการประเมินมิการปฏิบัติ บั ติกับการประเมินมิตามสภาพจริงริ 4.แนวทางการประเมินมิตามสภาพจริงริในการจัด จั การเรีย รี นการสอน 5.ขั้น ขั้ ตอนการประเมินมิตามสภาพจริงริในการจัด จั การเรีย รี นการสอน


การประเมิน มิ ตามสภาพจริง ริในชั้น ชั้ เรีย รี น กำ หนดผู้ปผู้ ระเมินมิ โดยผู้สผู้ อนกับผู้ เรียรีนร่วร่มกัน พิจพิารณา กำ หนดวัตวัตุ ประสงค์และเป้าป้ หมายของกการ ประเมินมิ กำ หนดขอบเขต ของส่งส่ ประเมินมิ ให้ ชัดชัเจน กำ หนดภาระงาน ให้ผู้ห้เผู้รียรีนได้ ลงมือมืปฏิบัติบั ติ การประเมินมิความสามารถของผู้เผู้รียรีนแบบองค์ รวมทั้งทั้ด้สานพุทธิพิธิสัพิยสัทักษะพิสัพิยสัและจิตจิพิสัพิยสั การที่ผู้เผู้รียรีนได้ตด้อบสนองหรือรืแสดงออกอย่าย่ง หลากหลาย ได้ใช้ทั้ช้ ทั้งทั้ความเข้าข้ใจที่ลุ่มลุ่ลึกทักษะ ในการแก้ปัญหาทักษะ ทางสังสัคมและเจตคติ การส่งส่เสริมริสนับสนุนและเป็นส่วส่นหนึ่งของการ จัดจัการ เรียรีนการสอนที่เน้นผู้เผู้รียรีนเป็นสำ คัญ การใช้วิช้ธีวิกธีารและเครื่อรื่งมือมืที่หลากหลายสำ หรับรั ใช้ใช้นการวัดวัและประเมินมิการปฏิบัติบั ติงานของผู้ เรียรีน มุ่งมุ่ ประเมินมิความสามารถของผู้เผู้รียรีนแบบองค์รวม ผู้เผู้รียรีนต้องได้ใช้ทัช้ ทักษะการคิดขั้นขั้สูงสูและการประยุกต์ ใช้คช้วามรู้ ประเมินมิผลการเรียรีนรู้ขรู้องผู้เผู้รียรีนที่มีลัมี ลักษณะเฉพาะ เจาะจง ให้ผู้ห้เผู้รียรีนประเมินมิผลงานตนเอง ความหมายของการประเมินมิ สภาพจริงริในชั้นชั้เรีย รี น ขั้นขั้ตอนการประเมินมิตามสภาพจริงริ แนวคิดคิและความหมายของการ ประเมินมิตามสภาพจริงริ ลักลัษณะสำ คัญคัของการประเมินมิ ตามสภาพจริงริ การประเมินมิตามสภาพจริงริในฉันฉั เรียรีน หมายถึง กระบวนการวัดวั และประเมินมิศักยภาพของผู้เผู้รียรีน แบบองค์รวมทั้ง ด้านพุทธิพิธิสัพิยสั ทักษะพิสัพิยสัและจิตจิพิสัพิยสัผ่า ผ่ นการ ลงมือมืปฏิบัติบั ติ


สรุป การประเมินมิตามสภาพจริงริในชั้น ชั้ เรีย รี น หมายถึง กระบวนการวัด วั และประเมินมิกายภาพ ของผู้เผู้รีย รี นแบบองค์รวมทั้งด้านพุทธิพิธิสัพิย สั ทักษะพิสัพิย สั และจิตจิพิสัพิย สั ผ่า ผ่ นการลงมือ มืปฏิบัติ บั ติ ในการออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้อ รู้ ย่า ย่ งมีค มี วามหมายเพื่อ พื่ มุ่ง มุ่ เน้น น้ การเรีย รี นรู้ข รู้ องผู้เผู้รีย รี น ผู้สผู้ อนควรดำ เนินนิการประการแรกสุด สุ คือ ระบุผลลัพธ์ก ธ์ ารเรีย รี นรู้ที่ รู้ ที่ คาดหวัง วั และกำ หนดหลักฐานการเรีย รี นรู้จ รู้ ากนั้น นั้ ดำ เนินนิการวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้ โดยใช้เ ช้ ครื่อ รื่ งมือ มื และแหล่งที่มาที่หลากหลาย ขั้น ขั้ ตอนการประเมินมิตามสภาพจริงริ 1. กำ หนดงานหรือ รื ภาระงาน 2.กำ หนดขอบเขตของฝั่ง ฝั่ ประเมินมิ ในชัด ชั เจน 3. กำ หนด วัต วั ถุป ถุ ระสงค์และเป้าหมายของการประเมินมิ 4. กำ หนดผู้ปผู้ ระเมินมิ โดยผู้สผู้ อนกับผู้เผู้รีย รี น ร่ว ร่ มกันพิจพิารณา 5. เลือกวิธีวิก ธี ารและเครื่อ รื่ งมือ มื ที่ใช้ใช้ นการวัด วั และประเมินมิผลการเรีย รี นรู้


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่6 ใบความรู้ที่ รู้ ที่16 การประเมิน มิ โดยใช้แ ช้ ฟ้ม ฟ้ สะสมผลงาน 1.ความหมาย 2.หลักการ 3.ประเภท 4.จุดมุ่ง มุ่ หมาย 5.ขั้น ขั้ ตอน


ความหมายของการประเมินมิ โดยใช้แช้ ฟ้มฟ้สะสมผลงาน การประเมินมิ โดยใช้ แฟ้ม ฟ้ สะสมผลงาน หลักการของการประเมินมิ โดยใช้ แฟ้มฟ้สะสมผลงาน ประเภทของแฟ้มฟ้สะสมผลงานของผู้เผู้รียรีน จุดมุ่งมุ่หมายของการประเมินมิ แฟ้มฟ้สะสมผลงาน ขั้นขั้ตอนการประเมินมิ โดยใช้ แฟ้มฟ้สะสมผลงาน working portfolio เป็นป็การทำ งานร่วร่มกันกั ระหว่าว่งผู้สผู้ อนกับกัผู้เผู้รียรีน การประเมินมิ โดยใช้แ้ช้มแ้สะสมผลงาน หมายถึงถึที่ก ที่ ารประเมินมิผลการเรียรีนรู้ อย่าย่งหนึ่งนึ่ที่มี ที่ สิ่มีงสิ่ประเมินมิคือคืแฟ้มฟ้สะสม ผลงาน ขั้นขั้เตรียรีมการประเมินมิ โดยใช้แช้ ฟ้มฟ้ สะสมผลงาน ขั้นขั้จัดจัทำ แฟ้มฟ้สะสมผลงาน ขั้นขั้ ประเมินมิแ้มแ้สะสมผลงานที่ส ที่ มบูรบูณ์ ขั้นขั้ ประชาสัมสัพันพัธ์ผธ์ลงาน ต้องมีกมีารวางแผนล่วงหน้า อย่าย่งเป็นระบบ เพื่อพื่ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนได้พัด้ฒพันาปรับรั ปรุงรุหรือรืขัดขัเกลาผลงานต่างๆ เพื่อพื่ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนได้พัด้ฒพันาความสามารถในการสะท้อน และประเมินมิผลงานต่างๆของตนเอง เพื่อพื่ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนได้พัด้ฒพันาความสามารถในการ คัดเลือกผลงาน Disply or show portfolio Assessment portfolio ผู้เผู้รียรีนต้อต้งเป็นป็ผู้ที่ผู้ มี ที่ ส่มีวส่นร่วร่มทั้งทั้ใน กระบวนการเรียรีนรู้แรู้ละกระบวน การประเมินมิผลการเรียรีนรู้ ผู้เผู้รียรีนต้องมีส่มีวส่นร่วร่มในการ เลือกรายการผลงาน


สรุป การประเมินมิ โดยใช้แ ช้ ฟ้ม ฟ้ สะสมผลงาน หมายถึง วิธีวิก ธี ารประเมินมิผลการเรีย รี นรู้อ รู้ ย่า ย่ งหนึ่ง นึ่ ที่มีสิ่ มี งสิ่ประเมินมิคือ แฟ้ม ฟ้ สะสมผลงานซึ่ง ซึ่ ผู้เผู้รีย รี นจัด จั ทำ ขึ้น ขึ้ โดยรวบรวมผลงานจากการ ปฏิบัติ บั ติงานที่เกี่ยวข้อ ข้ งกับการเรีย รี นการสอนอย่า ย่ งมีจุ มี จุ ดมุ่ง มุ่ หมาย การประเมินมิ โดยใช้แ ช้ ฟ้ม ฟ้ สะสม ผลงานใช้ไช้ ด้ ทั้งที่เป็น ป็ การประเมินมิเพื่อ พื่ พัฒ พั นาการเรีย รี นรู้ค รู้ วบคู่ไ คู่ ปกับการเรีย รี นการสอน แฟ้ม ฟ้ สะสมผลงาน ของผู้เผู้รีย รี นแบ่ง บ่ ออกเป็น ป็ 2 ประเภท ได้แก่ working portfolio แฟ้ม ฟ้ สะสมผลงานประเภทนี้ ทำ หน้า น้ ที่เป็น ป็ เหมือ มื นศูนย์รั ย์ บ รั ฝากผลงานต่างๆ ของผู้เผู้รีย รี นที่เกิด ขึ้น ขึ้ ในระหว่า ว่ งปฏิบัติ บั ติงานเพื่อ พื่ รอการก้าวไปสู่คสู่ วามสำ เร็จ ร็ Display or show portfolio แฟ้ม ฟ้ สะสมผลงานประเภทนี้จัด จั ทำ ขึ้น ขึ้ โดยมีจุ มี จุ ดมุ่ง มุ่ หมายเพื่อ พื่ คัดเลือกผลงานดีเด่นสำ หรับ รั นำ เสนอผู้สผู้ อนหรือ รื นำ ไปจัด จั แสดงต่อไป Assessment portfolio มีจุ มี จุ ดมุ่ง มุ่ หมายเพื่อ พื่ ให้ผู้สผู้ อน ทำ การประเมินมิคุณ คุ ภาพการเรีย รี นรู้ด้ รู้ ด้ านต่างๆ ตามเกณฑ์หรือ รื รายการประเมินมิที่ได้กำ หนดไว้ ล่วงหน้า น้ ระหว่า ว่ งผู้สผู้ อนกับผู้เผู้รีย รี น


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่7 ใบความรู้ที่ รู้ ที่15 การใช้รู ช้ บ รู ริก ริ ส์ใส์ นการวัด วั และประเมิน มิ ผลการเรีย รี นรู้ 1.ความหมายของรูบริกริส์ 2.องค์ประกอบของรูบริกริส์ 3.การแบ่ง บ่ ประเภทของรูบริกริส์ 4.แนวทางและขั้น ขั้ ตอนการสร้า ร้ งรูบริกริส์


แนวทางและขั้น ตอนการสร้างรู บริกส์ การแบ่งประเภท ของรูบริกส์ การใช้รูบริกส์ในการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ องค์ประกอบของ รูบริกส์ ระดับดัความสามารถ หรือรืระดับดัคุณคุภาพ การบรรยายคุณคุภาพ ของแต่ละระดับดั เกณฑ์การประเมินมิ กำ หนดประเภทrubric ที่ใช้ปช้ระเมินมิงาน กำ หนดจำ นวนระดับดัคุณคุภาพ กำ หนดงานที่ต้องการประเมินมิ เขียขีนบรรยายคุณคุภาพของ แต่ละระดับดั รูบรูริกริส์แส์บบองค์รวม(Holistic rubric) รูบรูริกริส์แส์บบแยกส่วส่น (Analytic rubrics) รูบรูริกริส์แส์บบทั่วทั่ ไป(General rubric) รูบรูริกริส์แส์บบเฉพาะงาน (Task specific rubric) กำ หนดเกณฑ์หรือรืประเด็น ด็ ที่จะประเมินมิ ทดลองและฝึกใช้rช้ubric จัดจัทำ เครื่อรื่งมือมืการใช้คช้ะแนนที่สมบูรณ์ หมายถึง เกณฑ์หรือรืมาตราฐานที่ ออกแบบอย่า ย่ งสอดคล้องกับเป้า ป้ หมาย การเรียรีนรู้สำ รู้ สำหรับรั ใช้เ ช้ป็น ป็ แนวทางในการ ให้คะแนน


สรุป รูบริกริส์ เป็น ป็ ชุดของเกณฑ์หรือ รื มาตรฐานที่ออกแบบอย่า ย่ งสอดคล้อง กับเป้า ป้ หมาย การเรีย รี นรู้เ รู้ พื่อ พื่ ใช้เ ช้ป็น ป็ แนวทางในการให้คะแนนคุณ คุ ภาพการปฏิบัติ บั ติงานของผู้เผู้รีย รี น ทั้งในส่ว ส่ นที่เป็น ป็ ผลการปฏิบัติ บั ติและผลผลิต เพื่อ พื่ ให้ข้อ ข้ มูลย้อ ย้ นกลับ ได้อย่า ย่ งชัด ชั เจนและ เป็น ป็ รูปธรรม บริกริส์ มี 3 องค์ประกอบ คือ เกณฑ์การประเมินมิระดับความสามารถ หรือ รื ระดับคุณ คุ ภาพ และการบรรยายคุณ คุ ภาพของแต่ละระดับ ประเภทของรูบริกริส์ แบ่ง บ่ ได้เป็น ป็ 2 ลักษณะ โดยลักษณะแรกแบ่ง บ่ เป็น ป็ 2 ประเภท ได้แก่ รูบริกริส์แ ส์ บบองค์รวม และรูบินบิส์แ ส์ บบแยกส่ว ส่ น ลักษณะที่สอง แบ่ง บ่ เป็น ป็ 2 ประเภท ได้แก่ รูบริกริส์แ ส์ บบทั่วไป และรูบริกริส์ แบบเฉพาะงาน


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า 1.ความหมาย 2.ประเภท 3.การกำ หนดหลักฐานการเรีย รี นรู้ 4.วิธีวิก ธี ารวิเวิคราะห์ตั ห์ ตั วชี้วั ชี้ ด วั สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่8 ใบความรู้ที่ รู้ ที่10 การวิเ วิ คราะห์ตั ห์ ตั วชี้วั ชี้ ด วั สู่กสู่ าร ออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้


การ กำ หนด หลักฐาน การเรียรีนรู้ ความหมายและ มาตราฐานการ เรียรีนรู้แ รู้ ละตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียรีนรู้ หมายถึง สิ่งที่ผู้เรียรีนเพิ่งรู้แ รู้ ละปฏิบัติมี คุณธรรมจริยริธรรม และค่านิยมที่พิงประสงค์ที่ต้องการให้ เกิดแก่ผู้เรียรีนเมื่อจบการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน วิธีการวิเคราะห์ตัวชี้วัด เพื่อการออกแบบหน่วยการ เรียรีนรู้ ประเภทของ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดด้านความรู้ ความเข้าใจ การคิดอย่างมี เหตุผล ทักษะการปฏิบัติ ด้านผลผลิต/ด้าน จิตนิสัย ขั้นที่ 1 ค้นหาคำ สำ คัญ (Key word) ขั้นที่ 2 กำ หนดหลักฐานการเรียรีนรู้ ขั้นที่ 3 กำ หนดวิธีการวัดและประเมินผลการเรียรีนรู้ ขั้นที่ 4 กำ หนดเครื่อรื่งมือที่ใช้ในการวัดและ ประเมินผลการเรียรีนรู้ การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่ การออกแบบหน่วย การเรียนรู้ ผลการปฏิบัติบั ติ ผลผลิต ตัวชี้วัด หมายถึง สิ่งที่ผู้เรียรีนเพิ่งรู้แ รู้ ละปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียรีนในแต่ละระดับชั้นชั้ ขั้นขั้ที่ 5 กำ หนดกิจกรรมการเรียรีนรู้ หรือรืวิธีวิกธีารจัดจัการเรียรีนการสอน


สรุป มาตรฐานการเรีย รี นรู้ หมายถึง สิ่งสิ่ที่ผู้เผู้รีย รี นเพิ่งพิ่รู้แ รู้ ละปฏิบัติ บั ติมีคุ มี ณ คุ ธรรม จริยริธรรมและ ค่านิยนิมที่พึง พึประสงค์ที่ต้องการให้เกิดแก่ผู้เผู้รีย รี นเมื่อ มื่ จบการศึกษา ขั้น ขั้ พื้น พื้ ฐาน ส่ว ส่ นตัวชี้วั ชี้ ด วั หมายถึง สิ่งสิ่ที่ผู้เผู้รีย รี นพึง พึ รู้แ รู้ ละปฏิบัติ บั ติได้รวมทั้ง คุณ คุ ลักษณะของผู้เผู้รีย รี นใน แต่ละระดับชั้น ชั้ หลักฐานการเรีย รี นจำ แนก ได้เป็น ป็ 2 ประเภทหลักคือ ผลผลิต และ ผลการปฏิบัติ บั ติและขั้น ขั้ ตอนวิเวิคราะห์ ตัวชี้วั ชี้ ด วั เพื่อ พื่ ออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้มี รู้ มี5 ขั้น ขั้ ตอน ได้แก่ ขั้น ขั้ ที่ 1 ค้นหาคำ สำ คัญขั้น ขั้ ที่ 2 กำ หนดหลักฐานการเรีย รี นรู้ ขั้น ขั้ ที่ 3 กำ หนดวิธีวิก ธี ารวัด วั และ ประเมินมิผลการเรีย รี นรู้ ขึ้น ขึ้ ที่ 4 กำ หนดเครื่อ รื่ งมือ มื ที่ใช้ใช้ น การวัด วั และประเมินมิผล การเรีย รี นรู้แ รู้ ละขั้น ขั้ สุด สุ ท้าย กำ หนดกิจกรรมการเรีย รี นรู้ห รู้ รือ รื วิธีวิก ธี ารจัด จั การเรีย รี น การสอน


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า 1.ความหมาย 2.การออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้อิ รู้อิงมาตรฐานโดย ใช้ก ช้ ระบวนการออกแบบย้อ ย้ นกลับ 3.ขั้น ขั้ ตอนการออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้อิ รู้อิงมาตรา ฐานโดยใช้ก ช้ ระบวนการออกแบบย้อ ย้ นกลับ สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่8 ใบความรู้ที่ รู้ ที่11 การออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้


การออกแบบ หน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้ ขั้นขั้ตอนการออกแบบหน่วยการเรียรีนรู้อิ รู้ อิงมาตรฐาน โดยใช้ก ช้ ระบวนการออกแบบย้อ ย้ นกลับ ระบุผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ ต้องการ กำ หนดหลักฐานการเรียรีนรู้ที่รู้ที่ ยอมรับรัได้ วางแผนการจัดจั ประสบการณ์ใณ์นการเรียรีนการสอน การออกแบบหน่ว น่ ยการเรียรีนรู้อิรู้อิงมาตรฐาน โดยใช้ก ช้ ระบวนการออกแบบย้อ ย้ นกลับ ความหมายของการออกแบบหน่วน่ยการเรียรีนรู้อิรู้ อิงมาตรฐาน การออกแบบหน่วน่ยการเรียรีนรู้อิรู้อิง มาตรฐานเป็น ป็ การวางแผนและจัดจัทำ หน่วน่ยการเรียรีนรู้ซึ่รู้ซึ่งซึ่เป็น ป็ สาระการเรียรีนรู้ ย่อย่ยของรายวิชวิา ชื่อชื่หน่วน่ยการเรียรีนรู้ มาตราฐานและตัวชี้วั ชี้ ดวั สาระสำ คัญ/สาระการเรียรีนรู้ ชิ้นชิ้งานหรือรืภาระงานที่ให้ผู้ห้เผู้รียรีนปฏิบัติบั ติ เวลาเรียรีนและนํ้านํ้หนักนัคะแนนประจำ หน่วน่ยการเรียรีนรู้


สรุป การออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้อิ รู้ อิงมาตรฐาน เป็น ป็ การวางแผนและจัด จั ทำ หน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้ ซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ สาระการเรีย รี นรูย่อ ย่ ยของรายวิชวิ โดยมีม มี าตรฐาน การเรีย รี นรู้ และตัวชีวี ชี ด วี เป็น ป็ เป้า ป้ หมายสำ คัญของการเรีย รี นรู้ ขึ้น ขึ้ ตอนการ ออกแบบหน่ว น่ ยการเรีย รี นรู้อิ รู้ อิงมาตรฐานโดยใช้ก ช้ ระบวนการออกแบบ ย้อ ย้ นกลับมี 3 ขั้น ขั้ ตอนหลัก คือ 1.ระบุผลลัพธ์ที่ ธ์ ที่ ต้องการ 2. กำ หนดหลักฐานการเรีย รี นรู้ที่ รู้ ที่ ยอมรับ รั ได้ 3. วางแผนการจัด จั ประสบการณ์เ ณ์ รีย รี นรู้ห รู้ รือ รื การเรีย รี นการสอน


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่9 ใบความรู้ที่ รู้ ที่4 แบบทดสอบความ เรีย รี งหรือ รื แบบ ทดสอบอัตนัย นั 1.ความหมาย 2.หลักการหรือ รื แนวทางในการสร้า ร้ งแบบทดสอบ 3.แนวทางการตรวจให้ค ห้ ะแนน


การวัดและประเมินผลการเรีย รี นรู้โดยใช้แบบทดสอบ แบบทดสอบความเรีย รี ง หรือ รื แบบทดสอบอัตนัย ความหมายของแบบทดสอบความเรียรีง เป็นป็ชุดของข้อข้คำ ถามที่ผู้สผู้ อนกำ หนดขึ้นขึ้เพื่อพื่ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนเขียขีน เรียรีบเรียรีงคำ ตอบอย่าย่งอิสระ เเนวทางการตรวจใช้ค ช้ ะแนนข้อ ข้ สอบความเรียรีง สร้าร้งเกณฑ์การให้คห้ะแนนอย่าย่งละเอียดชัดชัเจน ระมัดมัระวังวัเกี่ยวกับความลำ เอียงหรือรือคติ ควรตรวจสอบให้คห้ะเนนคำ ตอบของผู้เผู้รียรีนทุกทุครั้งรั้ ให้เห้สร็จร็ทีละข้อข้คำ ถามในเวลาที่ต่อเนื่อนื่งกัน ในขณะตรวจให้คห้ะเเนนข้อข้คำ ถามหนึ่งนึ่ๆควรเก็บรวบรวม บันบัทึกข้อข้ผิดผิพลาดต่างๆที่ผู้ตผู้ รวจได้มีกมีารหักหัคะแนนไว้ ในกรณีที่ณี ที่ จำ เป็นต้องใช้ผู้ช้ตผู้ รวจสอบหลายคนและผู้ตผู้ รวจทุกทุ คน ทุกทุคนควรแบ่งบ่ข้อข้สอบให้ผู้ห้ตผู้ รวจคนละหนึ่งหรือรืสองชุด แล้วตรวจให้คห้ะแนนคำ ตอข้อข้นั่นนั่ๆ หลักการหรือรืแนวทางในการสร้างแบบทดสอบความเรียรีง เลือกและกำ หนดผลการเรีย รี นรู้ เขียนข้อคำ ถามโดยใช้ถ้อยคำ ที่ชัดเจน กำ หนดจำ นวนข้อคำ ถามในแต่ละผลการเรีย รี นรู้ที่เลือกไว้ หลักการนำ ข้อสอบไปใช้ควรมีการทบทวนหรือ รื ขอบข่าย คำ ตอบของผู้เรีย รี นในแต่ละหัวข้อ ตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้นของข้อสอบแต่ละข้อก่อนนำ ไปใช้ ระบุเกณฑ์การให้คะแนนทดสอบให้ผู้เรีย รี นได้ทราบ ระบุน้ำ หนักคะแนนความยาวของช่วงคำ ตอบ และช่วงระยะเวลา


สรุป แบบทดสอบความเรีย รี งเป็น ป็ ชุดของข้อ ข้ คำ ถามที่ผู้เผู้รีย รี นกำ หนดขึ้น ขึ้ เพื่อ พื่ ให้ผู้เผู้รีย รี น เขีย ขี นเรีย รี บเรีย รี งคำ ตอบอย่า ย่ งอิสระโดยใช้ค ช้ วามรู้ค รู้ วามสามารถในการคิดระดับสูง สู ข้อ ข้ สอบความเร็ว ร็ ต้องมีเ มี กณฑ์การให้คะแนนที่ชัด ชั เจนแต่ต้องเป็น ป็ การตอบคำ ถาม ที่ไม่ใม่ ช่คำ ช่ คำ ตอบที่ตายตัวเพื่อ พื่ ให้ผู้เผู้รีย รี นได้ใช้ค ช้ วามคิดและความสามารถในการตอบ แบบหลากหลาย


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่10 ใบความรู้ที่ รู้ ที่5 แบบทดสอบ ปรนัย นั ชนิด นิ ถูก ถู ผิด ผิ 1.ความหมาย 2.หลักการหรือ รื แนวทางในการสร้า ร้ งแบบทดสอบ 3.แนวทางการตรวจให้ค ห้ ะแนน


ในกรณีที่ข้อข้สอบหลายประเภทอยู่ใยู่นฉบับบัเดียวกัน ควรจะนำ ข้อข้สอบถูกถู -ผิดผิ ไว้ตว้อนต้นๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำช้ คำศัพท์ที่ผู้เผู้รียรีนไม่คุ้ม่ คุ้นคุ้เคยหรือรื ไม่เม่หมาะสมกับวัยวัของผู้เผู้รียรีน ควรให้มีห้จำมีจำนวนข้อข้ผิดผิ ใกล้เคียงกัน ความหมายและลักษณะของแบบทดสอบปรนัยชนิดนิถูกถูผิดผิ หลักการหรือรืเเนวทางในการสร้างแบบทดสอบ ปรนัยชนิดถูกผิด เป็นการเขียนที่อยู่ในรูปประโยคบอกเล่าธรรมดาหรือ รื ประโยคคำ ถามก็ได้ เพื่อให้ผู้เรีย รี นพิจารณาว่า ข้อความ นั้นๆ ถูกหรือ รื ผิดตามหลักวิชวิาโดยอาจเลือกตอบจาก 2 ทางเลือกระหว่าง ถูก-ผิด หรือ รื ใช่-ไม่ใช่ เป็นต้น สิ่งที่กำ หนดว่าถูกหรือ รื ผิดควรเป็นส่วนสำ คัญของข้อความและ เกี่ยวข้องกับข้อความที่ถาม แบบทดสอบปรนัยนัชนิดนิถูกถูผิดผิ ข้อข้ถูกถูและผิดผิควรกระจายกันออกไป เขียขีนคำ ชี้แ ชี้ จงในการทำ แบบทดสอบให้ชัห้ดชัเจนว่าว่จะ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนตอบอย่าย่งไร เขียขีนข้อข้ความที่เป็นป็สถานการณ์ขณ์องข้อข้คำ ถามด้วด้ย ภาษาที่เรียรีบง่าย และชัดชัเจนที่สุดสุเท่าที่เป็นป็ ไปได้ ในแต่ละข้อข้คำ ถามควรให้ข้ห้อข้มูลสาระสนเทศพื้นพื้ ฐานที่เพียพีงพอเพื่อพื่ช่วช่ยให้สห้ามารถตัดสินสิ ใจได้ว่ด้าว่ ข้อข้ความนั้นนั้ถูกถูหรือรืผิดผิ ในแต่ละข้อข้คำ ถามควรถามเพียพีงประเด็นเดียดีว ในกรณีที่ณี ที่ ข้อข้สอบหลายประเภทอยู่ใยู่นฉบับบัเดียดีวกัน ควรจะนำ ข้อข้สอบแบบถูกถู -ผิดผิ ไว้ตว้อนต้นๆ ข้อข้ความที่เป็นสถานการณ์ของข้อข้คำ ถามจะต้องถูกถูหรือรืผิดผิ อย่าย่งแท้จริงริอย่าย่งใดอย่าย่งหนึ่งนึ่เท่านั้นนั้ โดยไม่มีม่ข้มีอข้ยกเว้นว้


สรุป แบบทดสอบปรนัย นั ชนิดนิถูก ถู ผิดผิเป็น ป็ ชุดของข้อ ข้ ความซึ่ง ซึ่ อาจเขีย ขี นอยู่ใยู่ นรูปประโยคบอกเล่า ธรรมดาหรือ รืประโยคคำ ถามก็ได้เพื่อ พื่ ใหผู้เผู้รีย รี น พิจพิารณาว่า ว่ ข้อ ข้ ความนั่น นั่ ๆถูก ถู หรือ รื ผิดผิตาม หลักวิชวิาโดยอาจเลือกตอบจากสองทางเลือกระหว่า ว่ ว ถูก ถู -ผิดผิหรือ รื จริงริ-ไม่จ ม่ ริงริ หรือ รื ใช่-ช่ไม่ไม่ ช่ เป็น ป็ ต้น ข้อ ข้ คำ ถามทั่วไปนิยนิมเขีย ขี นอยู่ใยู่ นประโยคบอกเล่าธรรมดาแตถา จำ เป็น ป็ ตองเขีย ขี นเป็น ป็ ประโยคปฏิเสธให้ขีด ขี เส้น ส้ ใต้และไม่ค ม่ วรใช้ข้ ช้ อ ข้ ความปฏิเสธซ้อ ซ้ น


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่11 ใบความรู้ที่ รู้ ที่6 แบบทดสอบ ปรนัย นั ชนิด นิ จับ จั คู่ 1.ความหมาย 2.หลักการหรือ รื แนวทางในการสร้า ร้ งแบบทดสอบ 3.แนวทางการตรวจให้ค ห้ ะแนน


แบบทดสอบปรนัยชนิดจับคู่ หลักการหรือรืแนวทางในการสร้า ร้ งแบบ ทดสอบปรนัยชนิดจับจัคู่ แบบทดสอบปรนัยนัชนิดนิจับจัคู่เคู่ป็นรูปรูแบบหนึ่งของแบบ ทดสอบปรนัยนัซึ่งซึ่ลักษณะโดยทั่วทั่ ไป มักมัจะวางกลุ่มลุ่ของคำ วลี ตัวเลข หรือรืสัญสัลักษณ์ไณ์ว้เว้ป็นป็คอลัมน์โน์ดยคอลัมน์ซ้น์าซ้ย เรียรีก ว่าว่กลุ่มลุ่ข้อข้คำ ถาม และคอลัมน์ขน์วา เรียรีกว่าว่กลุ่มลุ่คำ ตอบ ความหมายและลักษณะของแบบ ทดสอบปรนัยชนิดจับคู่ คำ วลี ตัวเลข หรือรืสัญสัลักษณ์ต่างๆ ทั้งทั้ที่อยู่ใยู่นคอลัมน์ข้อข้คำ ถาม และคอลัมน์คำ ตอบ ควรเป็นเรื่อรื่งราวเนื้อหาเดียวกัน รายการข้อข้คำ ถามและรายการข้อข้คำ ตอบทั้งทั้หมดในชุดหนึ่งๆ ของข้อข้สอบจับจัคู่แคู่ต่ละชุดควรจัดจั ให้อห้ยู่ใยู่นกระดาษหน้าเดียวกัน การเรียรีงลำ ดับก่อนหลังของรายการข้อข้คำ ตอบควรจัดจัเรียรีงให้ สมเหตุสตุมผลเพื่อพื่ความสะดวกในการค้นหาคำ ตอบ ชุดข้อข้สอบจับจัคู่ชุคู่ ชุดหนึ่งๆ ควรกำ หนดจำ นวนรายการข้อข้คำ ถามอยู่ ในช่วช่ง 5 ถึง 8 ข้อข้หรือรืมากสุดสุไม่คม่วรเกิน 10 ข้อข้ ควรทบทวนรายการข้อข้คำ ถามและคำ ตอบ ของชุดข้อข้สอบจับจัคู่อคู่ย่าย่งรอบคอบ


สรุป แบบทดสอบปรนัย นั ชนิดนิจับ จั คู่ เป็น ป็ รูปแบบหนึ่ง นึ่ ของแบบทดสอบปรนัย นั ซึ่ง ซึ่ ลักษณะ โดยทั่วไปมัก มั จะวางกลุ่ม ลุ่ ของคำ วลีตัวเลขหรือ รื สัญ สั ลักษณ์ไณ์ ว้เ ว้ป็น ป็ สองคอลัมน์ค น์ อลัมน์ซ้ น์ า ซ้ ย และคอลัมน์ข น์ วา โดยที่คอลัมน์ซ้ น์ า ซ้ ยจะวางคำ วลี ตัวเลข หรือ รื สัญ สั ลักษณ์เ ณ์ป็น ป็ ข้อ ข้ ๆ เรีย รี กว่า ว่ กลุ่ม ลุ่ ข้อ ข้ คำ ถาม ส่ว ส่ นคอลัมน์ข น์ วาจะวางคำ วลี ตัวเลข หรือ รื สัญ สั ลักษณ์ต ณ์ ามลำ ดับ ตัวอักษร เรีย รี กว่า ว่ กลุ่ม ลุ่ คำ ตอบโดยทั่วไปควรมีจำ มี จำนวนข้อ ข้ คำ ถามอยู่ใยู่ นช่ว ช่ ง 5 ถึง 8 ข้อ ข้ หรือ รื มากสุด สุ ไม่ค ม่ วรเกิน 10 ข้อ ข้ และควรเรีย รี งลำ ดับก่อนหลังของรายการขอคำ ตอบ ที่อยู่ท ยู่ างขวามือ มื เช่น ช่ เรีย รี งจำ นวนที่เป็น ป็ ตัวเลขจากน้อ น้ ยไปมากเรีย รี งตาม ตัวอักษร ได้ข้อ ข้ คำ ถามและรายการขอคำ ตอบทั้งหมดในชุดหนึ่ง นึ่ ๆ ของข้อ ข้ สอบจับ จั คู่แ คู่ ต่ละชุดควรจัด จั ให้ อยู่ใยู่ นกระดาษหน้า น้ เดียวกัน


ข อ บ ข่ า ย เ นื้ อ ห า สัปสั ดาห์ที่ ห์ ที่11 ใบความรู้ที่ รู้ ที่7 แบบทดสอบปรนัย นั ชนิด นิ เติมคำ และ ชนิด นิ ตอบแบบสั้น สั้ 1.ความหมาย 2.หลักการหรือ รื แนวทางในการสร้า ร้ งแบบทดสอบ 3.แนวทางการตรวจให้ค ห้ ะแนน


แบบทดสอบปรนัยชนิด เติมคำ และชนิดตอบแบบสั้น ความหมายและลักษณะของแบบ ทดสอบปรนัยชนิดเต็มคำ และ ชนิดตอบแบบสิ้น แบบทดสอบชนิดเติมคำ เป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดหนึ่งที่มุ่งให้ผู้เรียรีนคิดหาคำ ตอบด้วยตนเอง ซึ่งอาจเป็นคำ วลีหรือรื ประโยคแล้วเขียนคำ ตอบ นั้นลงในช่องว่างต่อจากข้อความที่ได้เขียนค้างไว้ หลักการหรือรืแนวทางการสร้า ร้ งแบบ ทดสอบปรนัยชนิดตอบแบบสิ้น หลักการหรือ รื แนวทางการสร้า ร้ งแบบ ทดสอบปรนัย นั ชนิดนิเติมคำ ให้ข้ห้อข้แนะนำ ในการตอบข้อข้สอบอย่าย่งชัดชัเจนโดยระบุรายละเอียด ของคำ ตอบว่าว่ควรเป็นอย่าย่งไร ควรเว้นว้ช่อช่งว่าว่งสำ หรับรัเติมคำ ตอบให้มีห้คมีวามยาวเพียพีงพอในการ เขียขีนคำ ตอบที่คาดหวังวัไว้ เขียขีนประโยคข้อข้ความที่เป็นข้อข้คำ ถามให้ชัห้ดชัเจนและสมบูรณ์เพียพีงพอ เพื่อพื่ ให้มีห้คำมี คำตอบที่ถูกถูต้องเพียพีงคำ ตอบเดียวเท่านั้นนั้ ข้อข้แนะนำ ในการตอบข้อข้สอบอย่าย่งชัดชัเจนโดยระบุราย ละเอียดของคำ ตอบว่าว่ควรเป็นอย่าย่งไร โดยปกติข้อข้สอบชนิดเขียขีนตอบแบบสั้นสั้ๆ มักจมัะวัดวัความ สามารถด้านเนื้อหาความรู้เรู้กี่ยวกับข้อข้เท็จจริงริต่างๆ ข้อข้คำ ถามควรให้มีห้คำมี คำตอบถูกถูต้องเพียพีงคำ ตอบเดียวเท่านั้นนั้


Click to View FlipBook Version