คณะศษิ ยข์ อน้อมถวายเปน็ อาจริยบูชา
เนอ่ื งในวาระครบรอบอายุ ๗๓ ปี
พระจุลนายก (พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)
วดั ญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จังหวัดชลบุรี
๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
ธรรมะสากัจฉา
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารยส์ ุชาติ อภชิ าโต
วดั ญาณสงั วรารามวรมหาวิหาร จงั หวดั ชลบรุ ี
พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน
ห้ามจำ� หน่าย
ISBN : 978-616-572-799-0
พิมพค์ ร้งั ที่ ๑ : พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓
จำ� นวน : ๑,๐๐๐ เลม่
จดั พมิ พโ์ ดย : คณะศิษยานุศิษย์
พิมพท์ ่ ี : บริษัท ศลิ ป์สยามบรรจภุ ณั ฑแ์ ละการพมิ พ์ จ�ำกัด
Tel. ๐-๒๔๔๔-๓๓๕๑-๒ Fax. ๐-๒๔๔๔-๐๐๗๘
E-mail: [email protected]
ค�ำน�ำผูจ้ ัดพิมพ์
หนงั สือเลม่ นจ้ี ดั พิมพ์ข้นึ เพื่อถวายเปน็ อาจรยิ บูชา ในวาระครบรอบ ๗๓ ปี ของ
ทา่ นพระอาจารยส์ ชุ าติ อภชิ าโต เพอื่ เผยแผธ่ รรมะคำ� สอนทที่ า่ นไดแ้ สดงไวใ้ นวาระตา่ งๆ
โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในบทแรกของ "ธรรมะสากจั ฉา" ทา่ นพระอาจารยไ์ ดใ้ หโ้ อกาส
ลกู ศษิ ยส์ อบถามปญั หาเพอื่ ไขขอ้ ขอ้ งใจในหลายเรอื่ งหลายราว และทา่ นไดเ้ มตตาตอบ
คำ� ถามทกุ คำ� ถามอยา่ งชดั เจน นบั วา่ เปน็ พระคณุ อนั เปย่ี มลน้ ทล่ี กู ศษิ ยไ์ ดร้ บั ความเมตตา
จากองค์ทา่ นในคร้งั น้ี
คณะผจู้ ดั ทำ� หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สอื เลม่ นจ้ี ะเปน็ กำ� ลงั ใจและเกดิ ประโยชนใ์ ห้
แกผ่ สู้ นใจทก่ี ำ� ลงั ประพฤตปิ ฏบิ ตั ไิ ดเ้ หน็ แนวทางของพระพทุ ธเจา้ ของพระอรหนั ตสาวก
ตลอดถึงครบู าอาจารย์ในปจั จบุ นั
ในการจดั ทำ� ครง้ั น้ี หากมถี อ้ ยความใดขาดตกบกพรอ่ งไมส่ มบรู ณใ์ นธรรม คณะศษิ ย์
กราบขอขมาท่านพระอาจารยส์ ชุ าติ อภชิ าโต มา ณ ที่นดี้ ว้ ยความเคารพอยา่ งสงู
คณะศษิ ยานศุ ิษย์
สารบัญ ๗
ธรรมะสากจั ฉา ๓๙
พระธรรมเทศนา พระอาจารยส์ ชุ าติ อภชิ าโต ๔๗
• การสรา้ งปญั ญาบารมีใหก้ ับพุทธศาสนกิ ชน ๕๑
• ร่างกายนท้ี ่านใชเ้ พ่อื ประโยชนแ์ กช่ าวพุทธ ๕๗
• หวั ใจของท่านเตม็ ไปด้วยปรมัง สุขงั ๖๙
• เจยี ระไนจิตให้เปน็ พระอริยเจ้า ๘๓
• กจิ สำ� คัญส�ำหรับผู้ปรารถนาการสนิ้ สดุ ของความทกุ ข ์
ปุจฉา-วสิ ัชนา สนทนาธรรมหนา้ กฏุ ิ
ธรรมะสากัจฉา
สนทนาธรรมเพอื่ ไขขอ้ สงสัย
ระหวา่ งท่านพระอาจารยส์ ุชาติ อภิชาโต และลกู ศษิ ย์
วันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
7
จิตพระอรหนั ต์เปน็ แบบไหนคะ
จติ พระอรหนั ต์ เปน็ จติ ที่ไมม่ กี เิ ลสเทา่ นนั้ ไม่มีโลภ โกรธ หลง ไม่มี
ความอยาก กามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หา ถา้ เปน็ รา่ งกายกไ็ มม่ เี ชอื้ โรค
คนทยี่ งั ไมไ่ ดร้ บั การรกั ษากย็ งั มเี ชอื้ โรค แตค่ นทรี่ กั ษาแลว้ เชอ้ื โรคกไ็ มม่ ี อนั นี้
กเ็ หมอื นกนั กเิ ลสเปน็ เชอื้ โรคของใจ พอเราไดร้ บั ธรรมโอสถ คอื ศลี สมาธิ
ปญั ญา เขา้ ไป มนั ก็เขา้ ไปฆา่ เชอ้ื โรคทีม่ ีอยู่ในใจ กค็ ือฆา่ กเิ ลสให้หมดไป
ใจก็สะอาดบริสุทธิ์ แต่ขันธก์ ็ยงั มี ร่างกายก็ยงั มี ความรู้สึกนึกคดิ ก็ยังมีอยู่
เพียงแต่ว่าท่านสามารถไม่ให้มันไปนึกคิดทางกิเลสเท่าน้ันเอง แต่ว่ามัน
ก็ยังคิดได้ คิดไปทางกิเลสก็ได้ หรือคิดไปทางไหนก็ได้ แต่ท่านคุมมันได้
ไมป่ ลอ่ ยใหม้ นั คดิ ไปทางกเิ ลส คอื คดิ ไปตามความโลภ ความโกรธ ความหลง
ตรงนี้ไม่มี จิตของท่านเห็นด้วยธรรมว่าทุกอย่างในโลกน้ีมันเป็นทุกข์
มนั เปน็ ของปลอม ถา้ ไปอยากไดม้ นั กจ็ ะทกุ ข์ พอไดม้ าเดยี๋ วมนั กเ็ ปลย่ี นไป
มันไม่เที่ยง มันต้องดับ พอดับแล้วมันก็จะท�ำให้เราทุกข์ จิตของท่านไม่
9
ตอ้ งการอะไรทงั้ หมดในสงั สารวฏั น้ี ในไตรภพน้ี กามภพกเ็ ปน็ ทกุ ข์ รปู ภพก็
เปน็ ทกุ ข์ อรปู ภพกเ็ ปน็ ทกุ ข์ เพราะมนั ไมเ่ ทยี่ ง มนั ไดแ้ ลว้ เดย๋ี วมนั กเ็ สอ่ื มไป
พอท่านตดั ความอยากไดห้ มด จติ ของทา่ นกไ็ ม่มที กุ ข์เหลอื อยูใ่ นใจ จติ กม็ ี
ความสงบสุขตลอดเวลาโดยทีไ่ มต่ อ้ งไปหาความสขุ จากอะไร
การดำ� รงชีวิตอยูใ่ นโลก ทา่ นก็ดแู ลธาตขุ นั ธไ์ ป แลว้ กจ็ ะเกี่ยวขอ้ งกับ
ใครก็ได้แล้วแต่จริตของแต่ละคน อย่างหลวงตาท่านเก่ียวข้องกับคนมาก
เพราะว่าท่านพร้อมที่จะรับคนได้ ส่วนหลวงปู่ลีนี้ท่านไม่เกี่ยวข้องกับใคร
เพราะท่านไม่พร้อม ไม่มีเครื่องท่ีจะติดต่อคน ท่านพูดคุยอะไรไม่เป็น
ทา่ นไมม่ คี วามรทู้ างโลกทจี่ ะเปน็ เครอ่ื งประกอบในการสอนธรรมะใหก้ บั คน
ช่วงท่ีหลวงตายังอยู่ ท่านก็เลยหลบน่ังด้านหลังหลวงตา คนก็เลยไม่ไป
รบกวนทา่ นมาก แตพ่ อไมม่ หี ลวงตาแล้ว คนกเ็ ลยมุ่งไปหาทา่ น พอไปหา
ท่านบ่อยๆ ท่านก็ต้องพูด แต่ทีน้ีจะพูดได้มากได้น้อยก็อยู่ที่ความ
สามารถของทา่ น
10 ธรรมะสากจั ฉา
ดังนั้นครูบาอาจารย์แต่ละองค์ท่านถึงมีการสั่งสอนมากน้อยต่างกัน
ในบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่มั่นก็มีหลวงตามหาบัวท่านมีความสามารถมาก
ทสี่ ดุ เพราะทา่ นมปี ฏภิ าณ มไี หวพรบิ การพดู การจา มคี วามรอู้ ะไรเยอะแยะ
ทา่ นจงึ สามารถพดู ใหค้ นเขา้ ใจธรรมะได้ เขากต็ ดิ ใจ แลว้ กไ็ ปหาทา่ น แลว้ ทา่ น
กม็ ีท�ำหนังสืออะไรต่างๆ ออกมา
กเ็ หมอื นเราเนย่ี คนทเี่ ขามากว็ า่ เราพดู ฟงั งา่ ย ฟงั แลว้ เขากเ็ ขา้ ใจ
ท�ำให้เขาเห็นธรรมะว่าไม่ใช่เป็นของลึกลับซับซ้อน ไม่ใช่เป็นของ
ยงุ่ ยากอะไร เปน็ การปฏบิ ตั ิ แลว้ คนกบ็ อกวา่ ไดร้ บั ผลดจี ากการนำ� เอาไป
ปฏบิ ตั ิ เขากเ็ ลยเขา้ มาหาเรา แถวนเ้ี ขามาเอง เราไมไ่ ดไ้ ปประกาศอะไร
ตอนแรกลงมาแสดงธรรมทขี่ า้ งลา่ ง (หนา้ กฏุ )ิ กค็ ดิ วา่ ไมม่ ใี ครมา เขาก็
ตามมาฟังทน่ี อ่ี ีก
11
ทุกอย่างมันก็มาของมันเอง ทั้งหนังสือ ซีดี หรืออะไร มันก็ตาม
มาเอง ก็มีคนมาช่วยท�ำให้โดยท่ีเราไม่ต้องไปท�ำเอง คือเราก็อาจจะ
ฟรีหน่อยคือเปิดกว้างหน่อย คือใครอยากจะเอาไปท�ำก็ท�ำ ท�ำให้มัน
ถกู กแ็ ลว้ กนั แตเ่ ราไมม่ เี วลาทจี่ ะมาตรวจตรา แตอ่ าศยั มลี กู ศษิ ยส์ ายหลวงตา
รู้เรื่องค�ำสอนนี้พอสมควร ก็เลยพอที่จะดักได้ว่าค�ำสอนอันไหนที่มัน
แปลกๆ เพย้ี นๆ กจ็ ะสง่ มาถามเราได้ แตส่ ว่ นใหญห่ นงั สอื ทอี่ อกมา คนอา่ น
ก็ไม่มีใครมาบ่นอะไร เพราะเราก็สอนแบบตรงไปตรงมา ไม่มีเก่ียวกับ
อิทธิฤทธ์ิปาฏิหาริย์ ไม่มีเก่ียวกับอะไรท้ังส้ิน มีแต่เร่ืองการช�ำระกิเลส
อย่างเดียว
พระอรหันต์แต่ละรูปท่านจะสอนก็ได้หรือไม่สอนก็ได้ คือใจท่านมัน
เต็มเปี่ยมแล้ว ถ้าเป็นแก้วน�้ำ น�้ำมันก็เต็มแก้วแล้ว จะท�ำอะไรมันก็ไม่ได้
เพ่ิมขน้ึ ถ้าเพมิ่ ข้ึนมนั ก็ลน้ ออกไป หรอื ถ้าไม่ท�ำอะไรมนั ก็ไมไ่ ด้ลดนอ้ ยลง
แต่ถ้าได้ท�ำอะไรแล้วมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อโลกต่อไป เช่นมีคน
12 ธรรมะสากัจฉา
มาบริจาคข้าวของเงินทอง ท่านก็จะเอาไปท�ำประโยชน์ให้แก่คนที่เขา
ขาดแคลนต่อไป
การสอนของท่านอาจารยน์ ่ีครอบคลมุ หมดเลยคะ
เราก็สอนท้ังหมดตง้ั แตท่ าน ศีล ภาวนา สังเกตดกู ณั ฑ์เทศน์ทุกกณั ฑ์
เราจะเร่ิมจากทานบ้าง จากศีลบ้าง หรือภาพรวมบ้าง เพื่อให้คนรู้ว่าเรา
เป็นใคร เราจะไปไหนต่อ เราไม่ได้เป็นร่างกาย เราเป็นจิตวิญญาณท่ีมา
เกาะร่างกายช่ัวคราว แล้วเด๋ียวเราก็ไปแล้ว ถ้าเราท�ำบุญเราก็จะมีของดี
ติดตัวไป แต่ถ้าเราท�ำบาปเราก็จะมีของที่เป็นโทษติดตัวไป ถ้าเราหยุด
กเิ ลสได้ เรากไ็ มต่ อ้ งกลบั มาเวยี นวา่ ยตายเกดิ อนั นจี้ ะเปน็ แนวคำ� สอนของ
เราตลอดแทบทกุ วัน
ธรรมะน่ีเป็นเหมือนเน้ือนะ โดยที่เน้ือน้ีสามารถไปท�ำกับข้าวได้
หลายชนดิ เชน่ เอาไปป้งิ เอาไปยา่ ง เอาไปย�ำ เอาไปท�ำต๋นุ เอาไปทำ�
13
อะไร แตต่ วั หลกั ๆ ของธรรมะกต็ วั นี้ แตจ่ ะมเี รอ่ื งตา่ งๆ เขา้ มาประกอบ
ผสมผสานใหม้ นั ไมเ่ บอ่ื
ความคดิ ของพระอรหนั ต์ บางครงั้ ญาตโิ ยมกค็ าดเดาไมถ่ งึ และกไ็ มเ่ ขา้ ใจ
ดว้ ยคะ
คนทว่ั ไปจะไมเ่ ขา้ ใจพระอรหนั ตว์ า่ concept ทแ่ี ทจ้ รงิ มนั อยทู่ ใี่ จทไี่ มม่ ี
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความอยากจะตอ้ งการอะไร เวลาทำ� บางสงิ่
บางอย่าง เวลาท�ำไปก็เพือ่ ให้คนเขา ไม่ไดท้ ำ� เพ่ือตนเอง
ท�ำไมท่านพระอาจารย์ถึงอนุญาตให้ทำ� เหรยี ญรปู ล็อกเกต็
จรงิ ๆ แล้วเราไม่เคยคิดจะทำ� หรอก พอดีมันก็แปลก มีโยมทีเ่ ป็นฝร่ัง
เขาก็ศรัทธา เขาก็บอกว่าอยากจะท�ำล็อกเก็ตให้แจก เราก็บอกว่า ท�ำได้
แตไ่ มม่ ปี ลกุ เสกนะ ไมใ่ หถ้ อื วา่ เปน็ เครอ่ื งลางของขลงั นะ เพราะเรากค็ ดิ วา่
14 ธรรมะสากัจฉา
มนั กเ็ ปน็ เหมอื นกบั ภาพทแี่ จก หรอื พวกสตก๊ิ เกอรท์ ต่ี ดิ รถ กเ็ ปน็ ของทรี่ ะลกึ
ไม่ได้ไปทำ� วา่ เปน็ เครื่องลางของขลงั หรอื อะไร
ของแบบนมี้ นั กม็ อี ยแู่ ลว้ เหมอื นทพ่ี อ่ แมท่ ำ� ใหล้ กู ใสก่ นั ตดิ กนั มนั ไมไ่ ด้
เป็นแบบของขลังนิ ซ่งึ มันก็แลว้ แต่คนจะไปมอง แล้วเราก็ไมไ่ ดท้ �ำเพอ่ื หา
เงินด้วย ไมม่ กี ารเก็บสตางคแ์ ต่ให้ฟรี ส่วนใหญท่ ่เี ขาท�ำเครอื่ งรางของขลัง
อนั นเ้ี ขาจะหาเงนิ เขา้ วดั เพอื่ ไวส้ ำ� หรบั สรา้ งโบสถ์ สรา้ งเจดยี ์ หรอื สรา้ งอะไร
ทนี ี้เขากลัวไมม่ ีคนบรจิ าคกเ็ ลยมขี องลอ่ ใจ เวลาทำ� กม็ ีอยู่ ๓ แบบ มเี นอ้ื
ทองแดง มเี น้อื เงิน มีเนื้อทอง ทำ� เทา่ น้ีๆ ก็เทา่ กบั เป็นการขายเลยแหละ
ขายเพ่ือหาเงินเข้าวัด แต่เราน้ีไม่มีโครงการคิดจะหาเงินเข้าวัด เวลามี
ญาตโิ ยมมาฟังธรรม ถา้ มอี ะไรแจกกแ็ จกไป ตอนต้นกแ็ จกหนงั สือ แจกซดี ี
แจกแฟลชไดร์ฟ ทีนี้มีคนศรัทธาถ่ายรูปมาพิมพ์เป็นโปสเตอร์แจก และก็
มีพวกสต๊ิกเกอร์ติดรถยนต์ เราก็คิดว่าเขามาขอท�ำพวกนี้ เอ้า ท�ำก็ท�ำซิ
แจกกแ็ จก ก็มีเทา่ นน้ั แหละ
15
เรอ่ื งการทำ� ลอ็ กเกต็ จรงิ แลว้ ๆ เรากค็ ดิ วา่ เปน็ เหมอื นสตกิ๊ เกอร์ ถา้ มี
รถยนต์ก็ไปติดไว้ให้รู้ว่าเราเคารพนับถือครูบาอาจารย์สายนี้นะ ธรรมะ
บนเขาแบบน้ี ก็อาจจะช่วยเผยแพร่ พอมีคนอ่ืนเห็นแล้วก็อาจจะคิดว่า
ธรรมะบนเขาเปน็ ใครวะ เขาก็อาจจะไป search ดู กอ็ าจจะท�ำใหเ้ ขาได้มี
โอกาสไดศ้ ึกษาธรรมะเพมิ่ ขึน้
เปา้ หมายของเรากอ็ ยทู่ ก่ี ารใหธ้ รรมะเทา่ นนั้ แหละ ซง่ึ ของพวกนี้
(พวกของแจกตา่ งๆ) ไมร่ เู้ หมอื นกนั มนั มาเอง เรากเ็ หน็ วา่ เปน็ ประโยชน์
ตอ่ โยม เขากอ็ ยากจะท�ำบญุ แลว้ ก็เปน็ ประโยชนก์ บั คนทไ่ี ด้รับ ก็เป็น
ของทร่ี ะลกึ กเ็ ลยไมเ่ หน็ วา่ มนั จะเสยี หายตรงไหน แตถ่ า้ ไปมองวา่ เปน็
เครอื่ งรางของขลงั เวลาทำ� กม็ แี ตพ่ วกทม่ี กี เิ ลสทำ� พอคนไมม่ กี เิ ลสมาทำ�
ก็เลยสงสยั
16 ธรรมะสากจั ฉา
ได้เห็นครูบาอาจารย์หลายท่าน เม่ือท่านมีอายุมากข้ึน รู้สึกว่าท่านจะดุ
นอ้ ยลงและอนโุ ลมในบางเรอื่ งมากขึ้น
เพราะการเข้าหามันไม่เหมือนกัน รุ่นแรกๆ น้ีเป็นรุ่นเข้าหาธรรมะ
ซงึ่ ถา้ มาใหข้ องพวกน้ี (พวกเหรยี ญ พวกสตก๊ิ เกอร์ติดหน้ารถ หรอื รูปภาพ)
เขาก็ไมเ่ อา วันก่อนพระท่ีมาชว่ ยท�ำความสะอาด เรากก็ ลวั วา่ ถ้าไม่ให้เขา
แลว้ เขาจะนอ้ ยใจ กเ็ ลยถามพระดวู า่ มใี ครอยากจะไดล้ อ็ กเกต็ ไหม พระตอบ
ว่าไม่มีใครอยากได้ เพราะเขาเป็นอีกพวกหน่ึง พวกนี้เขาเป็นพวกที่เห็น
เขารู้ธรรมไง เขารวู้ า่ ธรรมตอ้ งเกดิ จากการปฏบิ ัติ ไม่ไดเ้ กิดจากการได้ของ
สง่ิ เหล่าน้ี
การทเ่ี ราถามพระเพราะกลวั วา่ พระจะหาวา่ เราแจกแตโ่ ยม ไมใ่ หพ้ ระเลย
เรากเ็ ลยแกลง้ ถามดู พอไดค้ ำ� ตอบแลว้ เรากไ็ มไ่ ดด้ ใี จหรอื เสยี ใจ เขาไมเ่ อา
เรากไ็ มเ่ สยี ใจ หรอื ถา้ เขาเอา เรากไ็ มด่ ใี จ เปน็ แตเ่ ราคดิ วา่ มนั เปน็ เรอื่ งความ
17
สมั พนั ธก์ นั บางทกี ต็ อ้ งมแี บง่ ปนั กนั เหมอื นอยา่ งของพวกนี้ (ของสงั ฆทาน)
พอเราไดม้ าเรากใ็ หพ้ ระไปหมด อันไหนทเี่ ราไม่ใช้เรากใ็ หท้ า่ นไป ทีนีท้ ่าน
จะเอาไปใชห้ รอื ไมใ่ ชก้ เ็ ปน็ เรอื่ งของทา่ น เราไมไ่ ดไ้ ปตดิ ตามวา่ ใชห้ รอื เปลา่
ชว่ งนพ้ี ระอาจารยเ์ ปน็ ทรี่ จู้ กั ของพระและญาตโิ ยมมากมายทง้ั ในประเทศ
และตา่ งประเทศ
ชว่ งยคุ แรกๆ นไ่ี มม่ ใี ครรจู้ กั เรานะ ญาตโิ ยมไมห่ าเราหรอก เพราะเขา
ไมม่ ศี รทั ธา เขาไมร่ จู้ กั เรา และสว่ นใหญพ่ ระกอ็ ยแู่ ตบ่ นเขา อยแู่ คอ่ งคส์ ององค์
ถ้ามีเข้ามาก็อาจจะสะเปะสะปะหลงมา แล้วพอมาอยู่ด้วยกันไปนานๆ
เริม่ รู้จักกัน กเ็ ริม่ จะเกดิ ศรทั ธาเพมิ่ มากข้ึนอะไรทำ� นองน้ี จรงิ ๆ เรากไ็ มม่ ี
ลกู ศษิ ยท์ เี่ ปน็ พระมากนะ พอเรามาอยทู่ น่ี เ่ี รากอ็ ยแู่ ตข่ องเราคนเดยี วเงยี บๆ
แล้วก็อาศัยญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงตา เช่น คุณชายปั๋ม เพราะ
เขาเป็นคนที่ตามเราตั้งแต่เราออกมาจากบ้านตาดมา เขาจะคอยถามว่า
18 ธรรมะสากจั ฉา
พระอาจารย์ตอนน้ีไปอยู่ที่ไหน แล้วเขาก็จะมาเยี่ยม ส่วนกลุ่มจุลธรรมนี้
เขารจู้ กั เราจากการทห่ี ลวงตาบอกอกี ทวี า่ ทา่ นมลี กู ศษิ ยช์ อื่ ทา่ นสชุ าตมิ าอยู่
ท่ชี ลบรุ ีนี้ กลุม่ จลุ ธรรมเขาก็เลยมา พวกเขามาฟงั ธรรมทนี่ ก่ี ็สบิ กว่าปีแล้ว
ก็มีเทา่ นีบ้ รรดาญาติโยมทีม่ าเปน็ ประจ�ำ
ต่อมามีหนงั สืออะไรออกไป คนก็เร่ิมมาเยอะขนึ้ แล้วต่อมาก็มีพวก
facebook พวก Youtube มนั กเ็ ลยระเบดิ เลยทนี ้ี เพราะมคี นมาอาสาทำ� ให้
เราไมไ่ ดไ้ ปสงั่ ใหเ้ ขามาทำ� พอดมี คี นหนง่ึ อยพู่ ทั ยา เขาเกง่ เรอื่ งไอที ตอนแรก
กะวา่ จะทำ� แบบถ่ายทอดสด เพราะเขาท�ำสถานี FM. ท่ีพทั ยา ทีนท้ี ำ� ไป
ทำ� มามนั ไมเ่ วริ ค์ เขากเ็ ลยเปลยี่ นมาเปน็ facebook Youtube ดกี วา่ แลว้ กม็ า
เรมิ่ ถ่ายทอดสด แลว้ มันกก็ ระจายของมันไป ทีนคี้ นมนั กร็ ู้จกั นะซิ
แลว้ พอเราพรรษาเยอะ พวกญาตโิ ยมกม็ ศี รทั ธามากขน้ึ ดว้ ย สว่ นหนงึ่
เขาดูท่ีระยะเวลาบวช ถ้าบวชนานๆ และอยู่มาได้ถึงขนาดน้ี คงจะเป็น
19
ของแทข้ องจรงิ ม้ัง ไม่ใช่ของปลอม แตถ่ า้ เป็นพระหนมุ่ ๆ หรอื บวชได้ไมก่ ี่
พรรษา พวกญาติโยมเขาก็ไม่คอ่ ยม่ันใจ เพราะมีขา่ วเสียหายตามมาเยอะ
การทต่ี อ้ งเผยแพรธ่ รรมะทกุ วนั ทำ� ใหพ้ ระอาจารยเ์ หนอื่ ยมากขน้ึ ไหมคะ
ต้ังแต่เราเทศนอ์ อกเผยแพรท่ าง facebook ทาง Youtube ทาง Line
ยอดคนติดตามก็ข้ึนมาเปน็ แสนสองแสน แต่ชว่ งน้ีกด็ ีกวา่ เมื่อก่อน เพราะ
เมอื่ กอ่ นตอ้ งเทศนท์ กุ วนั แตพ่ อมโี ควดิ มากเ็ ลยสามารถจดั ตารางได้ ตอ่ ไปนี้
เอาแคว่ ันเสาร์ วนั อาทิตย์ วนั พระ และวนั หยุดราชการ เลยทำ� ให้เราก็ได้
พกั ผอ่ นมากข้นึ
สว่ นเรอื่ งการ Zoom กป็ ระมาณอาทติ ยล์ ะ ๒ ครง้ั วนั หนงึ่ เปน็ ภาษา-
องั กฤษ อกี วนั หนง่ึ เปน็ ภาษาไทย แตม่ นั กไ็ มล่ ำ� บากอะไร เพราะเปน็ เหมอื น
กับการน่ังคยุ สนทนากัน โดยจะมกี ลอ้ งตง้ั ขา้ งหนา้ แลว้ ก็จะมที มี งานคอย
20 ธรรมะสากจั ฉา
ชว่ ยกนั คนอ่ืน คอื พวกคนประสาทท่จี ะเข้ามารบกวน พอเหน็ ป๊บุ เขากจ็ ะ
ตัดเลย แต่ถ้าเราท�ำเองจะไม่ทันเพราะเราจะต้องคุยไปตอบค�ำถามไป
ซ่งึ เรอ่ื งการ Zoom น้กี ม็ ที ีมงานชว่ ยทำ� ให้ เขาก็ happy เพราะเขาอยาก
จะให้เราทำ� เราก็ท�ำให้ ซ่งึ เราท�ำไปก็ไมไ่ ด้เหนื่อยอะไร มนั กด็ ตี รงทว่ี ่าเรา
ไม่ต้องไปรับแขกทีละคนสองคน เราสามารถรับแขกได้ทีละเยอะๆ เลย
อยา่ งเมือ่ คืนนด้ี ู Live สด ก็ ๖๐-๗๐ คน แล้วกม็ าดูยอ้ นหลังอกี เป็นพนั คน
มาจากทว่ั โลกทกุ ประเทศเลย
มันก็ตรงกับเป้าหมายของเราคืออยู่ท่ีการเผยแพร่ธรรม เพราะ
วันๆ หนึ่งเราไม่มอี ะไรทำ� นอกจากคุยธรรมะ พดู ธรรมะ นอกนั้นก็หา
เวลาพกั ผอ่ นของเราไปเทา่ นั้นเอง เราไมเ่ คยไปยุ่งเกย่ี วอะไรกับใคร
ตอนหลงั ทค่ี ยุ ธรรมะเยอะ เพราะสว่ นหนง่ึ คนเขา้ มาถามคำ� ถามเยอะ
อย่าง Zoom เนี่ย ส่วนใหญจ่ ะเน้นการตอบคำ� ถาม ไม่ไดม้ กี ารแสดงธรรม
21
พอเขา้ มาป๊ับ เอา้ มีใครอยากจะถามอะไรกใ็ ห้ถามเลย เรากพ็ ดู ไปสอนไป
เขาก็ดีใจเพราะได้ฟังธรรมจากพระปฏิบัติ เพราะมันไม่เหมือนกับธรรมท่ี
เขาไดย้ ิน เรอ่ื งจิตเรื่องอะไรเขาไม่เข้าใจ เขางง เรอ่ื งขนั ธ์ ๕ นี่งงกนั พอเรา
อธบิ ายใหเ้ ขาฟังวา่ อะไรเปน็ อะไร เด๋ียวนีเ้ ขากเ็ ร่มิ เขา้ ใจดขี ้ึน
การเผยแพร่ธรรมะทกุ อย่าง มนั เป็นธรรมะจัดสรร เพราะจริงๆ
แล้วเราเองก็อยู่ของเราเฉยๆ แต่ทุกอย่างมันก็เข้ามารับใช้เราเอง
ถา้ ตราบใดเราไมต่ อ้ งไปวนุ่ วายกบั ใคร เรากโ็ อเค เรากท็ ำ� หนา้ ทส่ี อนไป
ถา้ เปน็ เวลาบา่ ยสองโมงของวนั เสาร์ วนั อาทติ ย์ หรอื วนั พระ เรากอ็ อก
มาน่งั เทศน์ โดยจะเทศน์ ๑ ชวั่ โมง และตอบค�ำถามอีกครง่ึ ชวั่ โมง กจ็ บ
สว่ น Zoom มี ๒ คนื แตถ่ า้ บางทีเราว่างๆ เรากจ็ ะท�ำ Q&A ในส่วนภาษา-
องั กฤษเอง โดยจะใหเ้ ขาสง่ ขอ้ ความเขา้ มา เรากอ็ า่ นขอ้ ความแลว้ กต็ อบไปๆ
แล้วคำ� ตอบของเรา พวกลกู ศิษย์เขาก็จะคดั ลอกออกมาเพือ่ มา Post อกี
22 ธรรมะสากัจฉา
เดย๋ี วตอ่ ไปกม็ ารวมทำ� เปน็ หนงั สอื อกี เพราะถา้ ตราบใดเรายงั พดู ธรรมะ
อย่นู ้ี มนั ก็จะมเี รือ่ งตอ่ ไปอีกเรื่อยๆ เพราะธรรมะมันเปน็ ของใหมอ่ ยู่
เสมอ คำ� ถามแตล่ ะคำ� ถามมนั จะพลกิ ไปพลกิ มา คำ� ตอบมนั กต็ อ้ งพลกิ
ไปพลกิ มาตามค�ำถามไป คนฟงั มนั กเ็ ลยไดค้ วามรู้แปลกๆ ใหมๆ่ ขึ้น
แต่อย่างที่บอกมันก็เป็นธรรมะอันเดียวกันน่ีแหละ แต่ได้กินน่ึงบ้าง
ไดก้ นิ ปง้ิ บ้าง ไดก้ ินทอดบา้ ง มนั ก็เลยทำ� ให้มรี สมีชาติ กนิ แล้วไม่เบือ่
ท่านอาจารย์มีเมตตาสั่งสอนธรรมะให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก
เลยคะ
เพราะชวี ติ เราไมเ่ คยสนใจ ชวี ติ ของเราจบแลว้ ไมม่ อี ะไรทต่ี อ้ งแสวงหา
ของพวกนเ้ี ปน็ ของสมมตุ ทิ ง้ั นน้ั มนั จะออกไปในรปู แบบไหนกป็ ลอ่ ยใหเ้ ปน็
เรอื่ งของบญุ กรรมไปเทา่ นนั้ เอง เราไมไ่ ดไ้ ปคดิ อะไร เพราะเดย๋ี ววนั หนง่ึ มนั
ก็จบ เพราะเหมือนกับครูบาอาจารย์ท้ังหลายท่านก็มีบทมีบาทของท่าน
23
แล้วแต่บญุ กรรม ธรรมะจัดสรรใหท้ ่านเป็น บางองคท์ า่ นก็มคี นรูจ้ ักเยอะ
บางองคก์ ไ็ มม่ คี นรจู้ กั แตก่ ไ็ มห่ วงั อะไร ไมไ่ ดค้ ดิ อะไร เพยี งแตว่ า่ ขอใหม้ เี วลา
พักผ่อนหลบั นอนใหส้ บาย กินให้สบาย มเี วลาออกกำ� ลงั กาย ตอนเยน็ เรา
ก็ยังเดินจงกรมวันละช่ัวโมง ตอนเช้าก็เดนิ บิณฑบาตวนั ละชัว่ โมง
เรอื่ งธาตขุ นั ธร์ า่ งกายเรากป็ ลอ่ ยไปตามธรรมชาติ ถา้ มนั ไมไ่ หวกไ็ มไ่ หว
อย่างบางช่วงที่เราไม่สบายเราก็ไม่ไปบิณฑบาต เราก็หยุดบิณฑบาตเพื่อ
หยดุ พัก เรากฉ็ นั ที่กุฏไิ ป ไม่ได้ออกไปบณิ ฑบาต แต่พอหายแลว้ ก็กลับไป
บิณฑบาตใหม่ อันไหนท�ำได้ก็ท�ำ แต่ต่อไปอาจจะบิณฑบาตแค่หัวแถว
กับปลายแถวก็ได้ เพราะว่าคนส่วนใหญ่จะมาดักใส่ท่ีหัวแถวกับท้ายแถว
ตรงกลางนอ้ี าจจะไมค่ อ่ ยมคี นเทา่ ไร ซง่ึ ถา้ เดนิ ไมไ่ หวจรงิ ๆ กอ็ าจจะเอาแค่
ช่วงแรกกับช่วงปลาย ช่วงกลางก็อาจจะน่ังอยู่บนรถไป แต่อย่างท่ีบอก
มันเปน็ เรอื่ งของธรรมะจดั สรร
24 ธรรมะสากจั ฉา
เรอื่ งการบณิ ฑบาตน้ี เราจะไมเ่ ลกิ ถา้ มนั ไมส่ ดุ วสิ ยั จรงิ ๆ เหน็ มลี กู ศษิ ย์
ของหลวงปูม่ ั่นองค์หน่งึ ตอนนที้ ่านยงั มชี ีวิตอยู่ ซ่ึงทา่ นก็ยงั บณิ ฑบาตอยู่
แต่ท่านนั่งรถกอล์ฟแล้วเขาก็ท�ำที่ต้ังบาตรให้ท่าน ก็เห็นท่านน่ังรับ
บณิ ฑบาตแตท่ า่ นนง่ั ในรถกอลฟ์ เปดิ ฝาบาตรแลว้ ญาตโิ ยมกม็ าใส่ ซง่ึ ตอ่ ไป
เรากอ็ าจจะตอ้ งทำ� อย่างนน้ั ก็ได้ถ้าเราเดนิ ไม่ไหว เพราะท�ำแล้วคนกจ็ ะได้
ใส่บาตร เขากจ็ ะได้ดใี จ
เนอื่ งจากอายขุ องพระอาจารยก์ ม็ ากขน้ึ ทา่ นอาจารยไ์ มเ่ มตตาใหพ้ ระมา
ชว่ ยอปุ ฏั ฐากหรือคะ
เราไมเ่ อาทจี่ ะใหม้ พี ระมาอปุ ฏั ฐากตลอดเวลา เราจะทำ� ของเราไปเอง
เพราะเราไมม่ งี านอะไรมาก วนั หนงึ่ เรากซ็ กั ผา้ สองผนื สว่ นผา้ จวี รนอ่ี าทติ ย์
หนงึ่ เรากเ็ อาไปซกั พอซกั แลว้ พอดมี เี ครอ่ื งปน่ั แหง้ พอปน่ั แหง้ แลว้ เรากเ็ อา
มาตากในกุฏิ งานส่วนตัวของเราก็มีแค่น้ี เราพยายามลดให้มันน้อยที่สุด
25
26 ธรรมะสากจั ฉา
เพราะเราต้องท�ำเอง ตอนนี้ก็มีพระมาช่วยกวาดถูศาลา ช่วยล้างบาตร
เราให้พระช่วยทำ� แคน่ ้ี เพราะเราไมค่ ่อยอยากใหใ้ ครมาใกล้ตัวเรา มาช่วย
จบั มาชว่ ยนวดใหเ้ รา เพราะเราไมใ่ ช่เปน็ คนแบบนัน้ เราเปน็ แบบทอ่ี ยาก
จะท�ำอะไรของเราเอง ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับใคร เพราะเราสามารถ
เลือกเวลาของเราทำ� ได้สะดวก จะท�ำเมือ่ ไรก็ได้ แตถ่ ้ามคี นอ่นื กต็ อ้ ง
นัดเวลากัน ยกเว้นแต่ที่ทำ� ไม่ได้จริงๆ เรากต็ อ้ งขอให้เขาช่วย แตถ่ า้
ตราบใดที่เรายงั ทำ� เองไดอ้ ยู่ เรากพ็ ยายามทำ� ของเราไปเอง
ความท่ีเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก เราก็ต้องหัดช่วยตัวเอง
ทกุ อยา่ ง ไมม่ ใี ครมาทำ� ใหเ้ ราทกุ อยา่ ง แตม่ นั กด็ ี มนั เปน็ ความสขุ ดว้ ย มคี วาม
อิสระทไ่ี ม่ต้องไปยุง่ เก่ียวกับใคร เพราะการไปย่งุ เกย่ี วกับคนอนื่ บางทเี ขา
ไมว่ ่างหรอื เขาไม่มา เขาโกรธเราบ้าง นอ้ ยใจบา้ ง งอนบ้าง มันก็ตอ้ งไปมี
ปฏสิ มั พนั ธก์ นั ใหม่ นเ่ี ราทำ� ของเราคนเดยี วไมต่ อ้ งไปยงุ่ อะไรกบั ใคร เพราะ
คนทกุ คนกม็ อี ารมณ์ บางวนั กด็ ี บางวนั กไ็ มด่ ี บางวนั ทไี่ มด่ ี พอถงึ เวลากไ็ ม่
27
มาชว่ ยแลว้ เราจะทำ� ยงั ไง เรากต็ อ้ งทำ� ของเราเอง ดงั นน้ั กอ็ ยา่ ไปยงุ่ กบั ใคร
ไมด่ กี วา่ เหรอ ทกุ อยา่ งมนั เปน็ อนจิ จงั ไง มนั ไมเ่ ทย่ี ง มนั เปน็ อนตั ตา เราไป
บงั คบั เขาไมไ่ ด้ ดงั นน้ั เราทำ� ในสง่ิ ทเ่ี ราทำ� ได้ และพยายามทำ� ใหม้ นั นอ้ ยทสี่ ดุ
เพอ่ื จะไดไ้ มห่ นกั คอื ใชใ้ หม้ นั นอ้ ย อยา่ งผา้ จวี รผนื เดยี วกพ็ อแลว้ ไมต่ อ้ งมี
หลายผืน ใหม้ นั ขาดก่อนแลว้ ค่อยเปลย่ี นใหม่
ขอแง่คิดในการวางใจในเหตกุ ารณ์บ้านเมืองปัจจบุ นั ด้วยคะ
เร่ืองของโลกมันมีมาทุกยุคทุกสมัย มันยุ่งตลอดเวลา ถ้าไม่ทะเลาะ
กนั เองกท็ ะเลาะกบั เพอื่ นบา้ น คนเรามนั อยา่ งน้ี เพราะมกี เิ ลสคอื ความโลภ
มนั ไมม่ วี นั พอ มนั กเ็ ลยตอ้ งไปรบกวนคนนน้ั คนน้ี แกง่ แยง่ ชงิ ดกี นั มนั มมี า
ตงั้ แตย่ คุ สมยั พระพทุ ธเจา้ แลว้ แลว้ มนั กจ็ ะเปน็ ตอ่ ไปไมม่ วี นั สนิ้ สดุ ถา้ ตราบใด
ยงั มกี เิ ลสอยู่ในหวั ใจคน เพราะมันเปน็ ธรรมชาติ
28 ธรรมะสากจั ฉา
ดังน้ันเราก็แยกตัวเราไป เราก็อย่าไปยุ่งกับเขาแล้วกัน เราก็มาดูแล
ตัวเราดีกว่า ดูแลคนที่เราดูแลได้ก็ดูแลกันไป ไม่ต้องไปบ้าตามเขาหรอก
ส่วนเร่ืองเศรษฐกิจมันก็เป็นเหมือนดินฟ้าอากาศ เราก็ไปบังคับมันไม่ได้
เศรษฐกจิ มนั ลดลง ความเปน็ จรงิ ความตอ้ งการของคนเรามนั กไ็ มม่ าก กแ็ ค่
ปจั จยั ๔ กอ็ ยกู่ นั ไดแ้ ลว้ แลว้ ยงั ไงถา้ อยไู่ มไ่ ดก้ ต็ าย อยทู่ ไี่ หนกต็ อ้ งตายอยดู่ ี
สรุปคนท่ีมาบ้าบอ คนท่มี าแก่งแย่งชงิ ดกี ัน เด๋ียวมนั กต็ อ้ งตายอยดู่ ี เดี๋ยว
ร่นุ ใหมม่ นั ก็ขนึ้ มาแก่งแยง่ ชงิ ดกี ันตอ่
เด็กสมัยน้ีไม่มีใครส่ังใครสอน เด๋ียวนี้ศาสนาก็ถูกตัดออก ไม่มีการ
นับถือ ไม่มีสัมมาคารวะ ไม่มีการกตัญญูกตเวทีต่อผู้อ่ืน มันมาเอาแบบ
ฝร่ังแบบเมืองนอก คือมีสิทธิเสรีภาพในตนเอง นี่คือกิเลสตัวใหญ่ตัวน้ี
สทิ ธเิ สรภี าพ ท�ำอะไรก็ได้ จะท�ำอะไรก็ตามกเิ ลสทงั้ นน้ั
29
ดงั นน้ั ทกุ อยา่ งมนั กจ็ ะเสอ่ื มไปเลยๆ ตามทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงทำ� นายไว้
วา่ ๕,๐๐๐ ปี คนจะไมเ่ ขา้ หาศาสนาเพราะไมเ่ หน็ คณุ ประโยชนข์ องศาสนา
ก็จะมีแต่คนส่วนน้อยท่ีเป็นวิญญูชนที่จะเห็นประโยชน์สุขที่ได้รับจาก
ศาสนา ต่อไปโลกก็จะเป็นมิคคสัญญี คนก็จะฆ่าฟันกัน ประเทศท่ีไม่มี
พระพุทธศาสนาก็ยังท�ำสงครามกันอยู่เลย สงครามกลางเมือง สงคราม
ระหวา่ งประเทศ แยง่ นำ้� มนั กนั แยง่ ไอน้ นู้ ไอน้ กี่ นั ตอ่ ไปกไ็ ปแขง่ กนั ไปฆา่ กนั
บนโลกพระจนั ทร์
ตอนน้ีครูบาอาจารย์ท่านละไปหลายองค์มาก เราจะรู้ได้ยังไงว่าองค์ท่ี
เหลอื อยเู่ ป็นพระอรหนั ต์หรอื ไม่คะ
เวลาดูพระอรหันต์ก็ให้เอาหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาเป็นเครื่อง
วดั มาตรฐาน ทา่ นสอนตามทพ่ี ระพทุ ธเจา้ สอนหรอื เปลา่ และปฏบิ ตั ติ ามที่
พระพทุ ธเจา้ ปฏบิ ัติหรอื เปลา่ ดหู ลวงปมู่ น่ั ดหู ลวงตามหาบวั เปน็ ตัวอยา่ ง
30 ธรรมะสากจั ฉา
เนี่ยเรามีเครื่องวัดอยู่แล้ว เราจะไปกลัวอะไร ตอนนี้พวกเราโชคดีที่ยังมี
เครอื่ งวดั ดหู ลวงปู่ตา่ งๆ ท่านปฏบิ ตั ิยังไง ทา่ นยงุ่ เกี่ยวกับอะไรบ้างหรอื
เปล่า ไมม่ ี
ได้ยินข่าวว่าท่านอาจารย์อนุเคราะห์ในด้านสังคมสงเคราะห์หลายที่
เหมือนกันใชไ่ หมคะ
ถ้าเรามีกำ� ลังเรากช็ ว่ ยไป เพราะเรากไ็ ม่ได้ใชจ้ า่ ยอะไร
ของตา่ งๆ ทคี่ นมาทำ� บญุ ถา้ อนั ไหนทโี่ รงเรยี นใชไ้ ด้ เรากบ็ อกพระให้
แบง่ ไป มที ง้ั ไปทโ่ี รงเรยี น และไปทำ� บญุ ทอ่ี น่ื ดว้ ย เชน่ วดั ทตี่ า่ งจงั หวดั และ
ให้เจ้าหน้าทป่ี า่ ไม้ เราก็ให้แบง่ ปนั ไปหมด เพราะเราไมส่ รา้ งหอ้ งเก็บของ
ทุกวันนเ้ี ราไม่ได้ใช้เงินสักบาท เรามบี าตรหน่ึงใบเราก็พอแล้ว
31
ฟังเรอื่ งราววนั นี้ ท่านอาจารย์เป็นพระทสี่ มถะมากคะ
ความท่ใี จมันอ่มิ แล้ว มนั กเ็ ลยสมถะโดยปริยาย ท�ำใจใหม้ นั อ่ิมมันก็
จะสมถะ อยา่ งหลวงตาท่านก็อม่ิ ท่านกส็ มถะ
ครบู าอาจารยท์ กุ รปู ทจ่ี ติ ทา่ นอม่ิ แลว้ ทา่ นไมต่ อ้ งการอะไร ปรมงั
สุขงั มนั ไดแ้ ล้วนิ แล้วจะไปเอาอะไร พวกโยมน้มี นั จะเนน้ ปรมังท่ไี หน
มนั เนน้ กะละมังมากกวา่ กะละมัง สขุ ัง ความสุขขนาดกะละมงั
พระอาจารย์จะอย่ทู ่นี ่ี โดยไม่คดิ ยา้ ยไปไหนใชไ่ หมคะ
ทกุ วนั นอ้ี ยทู่ นี่ ก่ี ด็ ที ส่ี ดุ แลว้ มนั พรอ้ มทส่ี ดุ แลว้ หนไี มไ่ ดห้ รอก พอคนรู้
ก็ตามไปอยู่ดี อยอู่ ยา่ งนด้ี ีแลว้ ไดท้ ำ� ประโยชน์ไป
สว่ นหนงึ่ ทเี่ ราไมไ่ ปสรา้ งวดั เพราะเราไมอ่ ยากเปน็ ภาระ ไมอ่ ยากเปน็
สมภาร ไมอ่ ยากคอยสรา้ งถาวรวตั ถุ เพราะเวลาไปสรา้ งวดั ใหม่ บางทกี อ็ าจ
32 ธรรมะสากัจฉา
จะต้องยอมญาติโยมเพราะเขามาช่วยเรา บางทีเขาอยากจะให้สร้างเมรุ
แต่เราไมอ่ ยากให้สรา้ ง เด๋ียวก็ทะเลาะกบั เขาอีก เดย๋ี วกอ็ ยูก่ ันไมไ่ ด้อกี
อยวู่ ดั นด้ี แี ลว้ เหมาะกบั จรติ ของเรา เหมาะกบั สเปคของเราพดู งา่ ยๆ
เราก็จะมีจุดยืนของเรา ถ้าเราอยู่ได้เราก็อยู่ ถ้าเราอยู่ไม่ได้เราก็ไป
ตอนนี้มนั ยังอยไู่ ดก้ ็อยู่ไป แต่ถา้ มันมาถงึ จุดทเ่ี ราอยไู่ ม่ได้เราก็ไป
บทสรปุ
คนรจู้ กั เพราะธรรมะนะ ไมใ่ ชเ่ พราะอะไร คนไหนทแ่ี สดงธรรมเยอะๆ
คนก็จะรู้จักเยอะ ถ้าไม่มีธรรมะก็ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่เราก็ไม่ใช่ว่าจะให้
คนมารู้จักเรา แต่มันเปน็ ไปตามท่บี อก คอื ธรรมะจดั สรร ทุกอยา่ งมนั เป็น
ธรรมะจดั สรร
33
กะละมัง สขุ งั
คือ ความสุขของทางโลก
ปรมงั สุขัง
คอื ความสุขทางธรรมซ่งึ ย่ิงใหญไ่ พศาล
34 ธรรมะสากจั ฉา
35
พระธรรมเทศนา
37
“การสรา้ งปัญญาบารมีให้กับพุทธศาสนิกชน”
พระอาจารย์สชุ าติ อภิชาโต
ถ้าเราได้ศึกษาประวัติของพระพุทธเจ้า เราจะเห็นว่าพระพุทธเจ้าน้ี
ไม่ได้ให้ความส�ำคัญต่อการสร้างวัดวาอารามต่างๆ ไม่ได้ให้ความส�ำคัญ
ตอ่ การสร้างถาวรวตั ถุตา่ งๆ เช่น เจดยี ์ โบสถ์ วิหาร หรอื กุฏิ ศาลาอะไร
ตา่ งๆ แตท่ รงใหค้ วามสำ� คญั ตอ่ การเผยแผป่ ญั ญาบารมี ทรงปฏบิ ตั พิ ทุ ธกจิ
ในแต่ละวนั น้ี มกี ารเผยแผ่ปัญญาบารมีถึง ๔ รอบด้วยกนั คือในรอบบา่ ย
ก็ทรงแสดงธรรมให้แก่ศรัทธาญาติโยมที่มีศรัทธาความปรารถนาที่จะ
หลดุ พน้ จากกองทกุ ขแ์ หง่ การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ในยามคำ่� กท็ รงแสดงธรรม
ให้กับภิกษุภิกษุณีและสามเณรผู้ท่ีปรารถนาในการหลุดพ้นจากการเวียน
39
วา่ ยตายเกดิ ผเู้ หน็ ภยั ในวฏั สงสาร ในยามดกึ กท็ รงแสดงธรรมใหก้ บั เทวดา
กายทิพย์ท้ังหลาย และในยามรุ่งอรุณตอนก่อนที่จะเสด็จออกบิณฑบาต
ก็ทรงเล็งญาณดูว่าวันนี้จะไปแสดงธรรมให้กับผู้ใดเป็นกรณีพิเศษ ผู้ใดมี
ความพร้อมที่จะรับธรรมอันประเสริฐ พร้อมท่ีจะบรรลุธรรมได้ในวันน้ัน
หรือมีเหตุท่ีอาจจะต้องท�ำให้เสียชีวิตไปในวันน้ันหรือในระยะอันใกล้
พระองค์ก็จะทรงเมตตาบคุ คลนน้ั เป็นกรณพี ิเศษ
นค่ี อื สงิ่ ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงใหค้ วามสำ� คญั คอื การสรา้ งปญั ญาบารมี
ใหก้ บั พทุ ธศาสนกิ ชน ไมไ่ ดส้ นใจกบั การสรา้ งวดั วาอาราม สรา้ งโบสถ์
สร้างเจดีย์กนั สิง่ เหลา่ นีพ้ ระองคท์ รงปลอ่ ยใหเ้ ปน็ ไปตามศรทั ธาของ
ญาตโิ ยม ผใู้ ดมศี รทั ธามกี ำ� ลงั ทจ่ี ะสรา้ งวดั ถวาย พระองคก์ ไ็ มท่ รงหา้ ม
มพี ระราชามหากษตั รยิ ม์ เี ศรษฐที มี่ กี ำ� ลงั ทรพั ยก์ ไ็ ดส้ รา้ งวดั วาอารามตา่ งๆ
ถวายให้กับพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้านี้พระองค์เองนี้จะไม่ให้เวลากับ
การกอ่ สรา้ งตา่ งๆ คอื ทรงใชเ้ วลาใหก้ บั การสง่ั สอนอบรมธรรมะความรอู้ นั
40 ธรรมะสากจั ฉา
ประเสรฐิ ทจ่ี ะทำ� ใหผ้ ทู้ ไี่ ดเ้ รยี นรไู้ ดห้ ลดุ พน้ จากกองทกุ ขน์ น้ั เอง และความรู้
คือปัญญาที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้นี้ ก็เป็นความรู้ท่ีเกิดข้ึนได้ยากมาก
นานๆ จะมคี นฉลาดอยา่ งพระพทุ ธเจา้ นม้ี าตรสั รปู้ ญั ญาทจ่ี ะถา่ ยถอนจติ ใจ
ของสัตว์โลกให้หลุดออกจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิดได้ และ
ปัญญานี้ก็จะไม่ได้อยู่คู่กับโลกไปตลอด เพราะการที่จะมีปัญญาอยู่ไปได้
เร่ือยๆ นั้น จำ� เปน็ จะต้องมีการสืบทอดมีการถา่ ยทอด ตอ้ งมีการสั่งสอน
ตอ้ งมกี ารศกึ ษาและตอ้ งมกี ารปฏบิ ตั ใิ หบ้ รรลธุ รรมขน้ั ตา่ งๆ ถงึ จะสามารถ
อนุรักษ์ปัญญาอันน้ีให้อยู่กับโลกไปได้ต่อไป ฉะนั้นจึงมีความจ�ำเป็น
อย่างยิ่งส�ำหรับชาวพุทธเราท่ีจ�ำเป็นจะต้องหมั่นศึกษากันอยู่เร่ือยๆ
เพราะครบู าอาจารยผ์ ทู้ จ่ี ะใหป้ ญั ญากบั เรา อายขุ องทา่ นกจ็ ะมากกวา่ เรา
และสังขารร่างกายของท่านก็จะต้องเสื่อมโทรมจากโลกน้ีไปก่อน
พวกเรา ถา้ พวกเราไมม่ าศกึ ษาไมม่ าปฏบิ ตั เิ พอ่ื บรรลธุ รรม เรากจ็ ะไม่
สามารถทจ่ี ะถา่ ยทอดธรรมหรอื ปญั ญานใ้ี หก้ บั อนชุ นรนุ่ หลงั ตอ่ ไปได้
41
เม่ือไม่มีการถ่ายทอดปัญญาอันประเสริฐท่ีพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้
กจ็ ะจางหายไปจากโลกตอ่ ไป ดงั ทพี่ ระองคไ์ ดท้ รงทำ� นายไวว้ า่ ปญั ญาของ
พระองคน์ จ้ี ะอยภู่ ายในโลกนไี้ ดไ้ มเ่ กนิ ๕,๐๐๐ ปี หลงั จาก ๕,๐๐๐ ปไี ปแลว้
ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องปัญญาที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ แล้วก็จะไม่มีใครจะ
สามารถหลดุ พน้ จากกองทกุ ขแ์ หง่ การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ไดอ้ กี ตอ่ ไป จะตอ้ ง
รอให้มพี ระพทุ ธเจ้าองคใ์ หม่มาตรัสร้ปู ญั ญาอีกครัง้ หนึง่ แล้วน�ำปญั ญานี้
มาเผยแผ่สั่งสอนให้แก่สัตว์โลกอีกครั้งหนึ่ง แต่ตอนน้ีเรายังมีปัญญาของ
พระพทุ ธเจ้าอยู่ในโลกนีอ้ ยู่ ยังมคี รบู าอาจารย์ มีพระสปุ ฏิปันโนท้ังหลาย
ยังมีพระไตรปิฎกที่เรายังสามารถท่ีจะศึกษาพระธรรมอันประเสริฐของ
พระพุทธเจ้าได้ และสามารถน้อมน�ำเอาไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุมรรคผล
นพิ พานไดอ้ ยู่ ดงั นนั้ สงิ่ ทพี่ วกเราควรจะวติ กกงั วลกค็ อื ความไมแ่ นน่ อนของ
ชีวิตของพวกเรา เพราะเราไมร่ ู้วา่ วนั ใดวนั หน่ึง เราจะเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่วยขึน้ มา
มากนอ้ ยเพยี งใดกไ็ มร่ ู้ หรอื วนั ใดวนั หนงึ่ เราอาจจะสนิ้ ชวี ติ ไปกไ็ ด้ ถา้ เราเกดิ
42 ธรรมะสากจั ฉา
อาพาธเกดิ โรคภยั ไข้เจ็บ หรอื เกดิ ความตาย เราก็อาจจะไมส่ ามารถศกึ ษา
และปฏบิ ัติธรรมตามท่พี ระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนได้
ดงั นนั้ เราจงึ ไมค่ วรประมาทกนั ควรเตอื นใจสอนใจอยเู่ รอื่ ยๆ วา่ เวลา
ของพวกเราน้ีไม่เที่ยงแท้แน่นอน ชีวิตของพวกเรานี้ไม่เท่ียงแท้แน่นอน
จะเป็นอะไรข้ึนมาเมื่อไรน้ีก็เป็นได้เสมอ ให้คิดอย่างน้ี เพื่อท่ีเราจะได้รีบ
ตกั ตวงธรรมะอนั ประเสรฐิ ของพระพทุ ธเจา้ ในขณะทเี่ รายงั กระทำ� กนั ไดอ้ ยู่
ถา้ เปรียบเทยี บธรรมะกับส่ิงต่างๆ ที่มีอย่ใู นโลกนี้ คุณคา่ ของธรรมะกบั ส่งิ
ตา่ งๆ นเ้ี ปน็ เหมอื นฟา้ กบั ดนิ คณุ คา่ ของพระธรรมคำ� สอนของพระพทุ ธเจา้
นเี้ ปน็ เหมอื นเพชรนลิ จนิ ดา แตส่ ่ิงต่างๆ คือโลกธรรมทีม่ ีอยูใ่ นโลกน้ี เชน่
ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข นี้เป็นเหมือนก้อนหินก้อนกรวด คุณค่าราคาน้ี
เปรียบเทยี บกันไม่ได้ เพราะคุณคา่ ของธรรมนท้ี ำ� ให้เราหลุดพ้นจากความ
ทกุ ขท์ ง้ั ปวงได้ แตค่ ณุ คา่ ของโลกธรรม คอื ลาภ ยศ สรรเสรญิ สขุ นจ้ี ะผกู มดั
ให้เราติดอยู่กับกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิดไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
43
นน่ั เอง จงึ ไมค่ วรใหค้ วามสำ� คญั ตอ่ การแสวงหาลาภ ยศ สรรเสรญิ สขุ ถา้ จะ
ทำ� งานกท็ ำ� เพอ่ื เลยี้ งชพี กพ็ อ ประคบั ประคองรา่ งกายชวี ติ นใี้ หอ้ ยตู่ อ่ ไปได้
เพราะเรายงั ตอ้ งอาศยั รา่ งกายนศ้ี กึ ษาพระธรรมคำ� สอน และอาศยั รา่ งกาย
นีป้ ฏบิ ตั ธิ รรมเพือ่ ให้จติ ได้บรรลุได้หลุดพ้นจากการเวียนวา่ ยตายเกิดได้
นั่นคือหน้าท่ีของเราท่ีเราควรจะท�ำมีเท่านี้ คือท�ำอาชีพเล้ียงปาก
เลย้ี งทอ้ ง ใหเ้ ราเลยี้ งดรู า่ งกายใหอ้ ยเู่ ปน็ ปกตสิ ขุ ได้ ไมเ่ จบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย ไมพ่ กิ ล
พกิ าร มกี ำ� ลงั วงั ชาทจ่ี ะศกึ ษาทจี่ ะปฏบิ ตั พิ ระธรรมคำ� สอนของพระพทุ ธเจา้
นี่คือส่ิงท่ีเราควรจะกระท�ำเท่านั้น นอกน้ันแล้วไม่ควรท่ีจะไปท�ำเลย เช่น
ไปมีครอบครัว ก็อย่าไปมี มีครอบครัวก็มีภาระผูกพันตามมายาวเหยียด
มีครอบครัวมีสามีมีภรรยา เดี๋ยวก็ต้องมีบุตรมีธิดา แล้วก็ต้องเลี้ยงดูกัน
ไปส่งเสียกันให้ได้ร�่ำเรียน ได้มีวิชาความรู้เพ่ือเขาจะได้ดูแลรักษาชีวิตของ
เขาได้ เวลาอนั มคี า่ ของพวกเรากจ็ ะหมดไปถา้ เราไปตดิ กบั การมคี รอบครวั
ข้ึนมา ดังน้ันส�ำหรับท่านท่ียังเป็นโสดอยู่นี้ก็ระมัดระวังไว้กับความคิดท่ี
44 ธรรมะสากัจฉา
อยากจะไปมคี รอบครวั ถา้ ไมอ่ ยากจะตดิ อยกู่ บั กองทกุ ขแ์ หง่ การเวยี นวา่ ย
ตายเกดิ อยเู่ รอื่ ยๆ กต็ อ้ งคอยเตอื นคอยสอนบอกวา่ ถา้ ไปมคี รอบครวั แลว้
เราจะไมม่ ีเวลามาศกึ ษามาปฏิบัตธิ รรมกนั
ถ้าเราไม่ได้ศึกษาไม่ได้ปฏิบัติธรรม เราก็จะไม่สามารถหลุดพ้นจาก
กองทกุ ขแ์ หง่ การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ได้ หรอื วา่ ถา้ เราไมม่ คี รอบครวั แตเ่ รายงั
แสวงหาสงิ่ ต่างๆ ทม่ี ีอยใู่ นโลกนี้ คอื โลกธรรม เช่น ลาภ ยศ สรรเสรญิ สุข
เราก็ต้องสอนให้ใจให้รู้ว่าโลกธรรมน้ีจะเป็นสิ่งท่ีคอยผูกมัดให้ใจเราต้อง
กลบั มาเกิดแก่เจบ็ ตายอย่เู รื่อยๆ เพราะเมอื่ เรามีความผกู พัน เรากอ็ ยาก
จะกลับมาหามันอยเู่ ร่ือยๆ พอรา่ งกายนีต้ ายไป เรากจ็ ะกลับมามรี า่ งกาย
อนั ใหม่ เพื่อมาหาโลกธรรมใหมอ่ ีกตอ่ ไป
ดงั นน้ั เราตอ้ งพยายามตดั มนั ตดั ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งทผ่ี กู พนั กบั เราทค่ี อย
ดึงเอาเวลาอันมีค่าของเราไป ให้เราเอาเวลาอันมีค่าน้ีมาให้กับการศึกษา
45
ใหก้ บั การปฏบิ ตั ธิ รรมเพยี งอยา่ งเดยี ว นค่ี อื ความคดิ ของคนฉลาด คอื ความ
คดิ ของพระพทุ ธเจา้ และความคดิ ของพระอรหนั ตสาวกทงั้ หลาย ทคี่ อยสอน
คอยเตอื นใหพ้ วกเราน้ี มองใหเ้ หน็ ความทกุ ขใ์ นสง่ิ ตา่ งๆ โลกนเี้ ปน็ โลกของ
ความทุกข์ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างน้ีเป็นสิ่งท่ีไม่เท่ียงแท้แน่นอน มีการ
เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ มีการเกิดแล้วก็มีการดับไปไม่ช้าก็เร็ว เวลามีการ
เปลย่ี นแปลง มกี ารดบั ไป ความทกุ ขก์ เ็ ขา้ มาในใจทนั ที ใหม้ องเหน็ ความทกุ ข์
แลว้ เราจะได้เกิดความเบอ่ื หนา่ ยกบั ลาภ ยศ สรรเสรญิ สุข แลว้ เราจะได้
หันหนา้ เข้าหาธรรมกนั ศกึ ษาธรรมปฏบิ ัติธรรมกัน
46 ธรรมะสากจั ฉา
“รา่ งกายนี้ทา่ นใช้เพ่ือประโยชนแ์ กช่ าวพุทธ”
พระอาจารย์สชุ าติ อภชิ าโต
สงิ่ ไหนทเี่ ราทำ� ไมไ่ ดก้ ต็ อ้ งปลอ่ ยใหม้ นั เปน็ ไป เกดิ โรคภยั ไขเ้ จบ็ ขนึ้ มา
รกั ษาไดห้ รอื เปลา่ รกั ษาไดก้ ร็ กั ษาไป พระอรหนั ต์ พระพทุ ธเจา้ กย็ งั กนิ ยากนั
อยู่ เวลารา่ งกายไมส่ บาย ถา้ กนิ ยานแ้ี ลว้ รกั ษาใหโ้ รคภยั หายได้ ทา่ นกก็ นิ กนั
ทา่ นไมไ่ ดบ้ อกวา่ เปน็ พระอรหนั ตแ์ ลว้ ไมต่ อ้ งรกั ษา กไ็ มใ่ ช่ ถงึ แมร้ กั ษา
ทา่ นกไ็ มไ่ ดร้ กั ษาเพอื่ ตวั ทา่ นอกี เหมอื นกนั รา่ งกายทท่ี า่ นใชน้ ี้ ทา่ นไมไ่ ด้
ใชเ้ พอ่ื ตวั ทา่ นแลว้ ท่านใช้เพอ่ื ประโยชน์สขุ ของชาวพทุ ธเรา ของผู้ที่
ปรารถนาการหลดุ พน้ เพราะทา่ นตอ้ งใชร้ า่ งกายทแี่ ขง็ แรงเพอื่ ทจี่ ะได้
เอาธรรมะมาส่ังสอนใหก้ ับผทู้ ่ยี ังไม่รู้นั่นเอง
47
ถ้าท่านไม่รักษาร่างกาย ถ้าร่างกายท่านตายไป เราก็จะไม่มีครูบา-
อาจารยม์ าคอยสงั่ คอยสอนเรา แตใ่ หเ้ ราเขา้ ใจวา่ ทา่ นไมไ่ ดร้ กั ษาเพอ่ื รกั ษา
ตวั ทา่ น รา่ งกายทา่ นรวู้ า่ ไมใ่ ชต่ วั ทา่ นอยแู่ ลว้ ตวั ทา่ นคอื จติ ใจ และจติ ใจ
ของทา่ นนกี้ ็อิ่มแลว้ พอแลว้ เพราะไมต่ ้องการอะไรอกี แลว้ แตท่ ่ดี แู ล
รา่ งกายเลี้ยงดรู ่างกาย ออกก�ำลังกาย ท�ำอะไรให้กบั รา่ งกายน้เี พราะ
ยังท�ำได้อยู่ เพ่ือท่ีจะได้ใช้ร่างกายเป็นเคร่ืองมือในการเผยแผ่ธรรมะ
ใหก้ บั ผทู้ สี่ นใจเทา่ นนั้ เอง แตเ่ มอ่ื ถงึ เวลาทที่ า่ นรวู้ า่ รกั ษาไมไ่ ด้ เลย้ี งไมไ่ ด้
ดูแลไม่ได้ ท่านก็จะปล่อย ท่านก็จะหยุดทันที ท่านไม่ฝืนความจริง
แตผ่ ทู้ ย่ี งั มกี เิ ลสมตี ณั หามโี มหะอวชิ ชาอยนู่ ้ี จะพยายามทกุ วถิ ที าง ไมว่ า่ จะ
ทำ� ไดห้ รอื ไมไ่ ด้ก็ตามก็ตอ้ งลองทำ� ดกู อ่ นแล้ว หมอบอกวา่ ไมร่ บั ประกันวา่
จะหายไมห่ ายกไ็ มเ่ ปน็ ไร ขอใหท้ ำ� หมอบอกรกั ษาแบบนอี้ าจจะไมห่ าย บอก
วา่ ไมห่ ายกไ็ มเ่ ปน็ ไร ดกี วา่ ไมท่ ำ� ไมท่ ำ� แลว้ ไมร่ ู้ แตถ่ า้ เปน็ พระอรหนั ตผ์ ทู้ ี่
ไมม่ กี เิ ลสแลว้ ทา่ นกด็ วู า่ ถา้ มนั ไมห่ ายจรงิ ๆ กอ็ ยา่ ไปทรมานมนั ดกี วา่
48 ธรรมะสากจั ฉา
ปลอ่ ยใหม้ นั เปน็ ไปตามสภาพของมนั เพราะไมม่ ใี ครทจ่ี ะไปเหนยี่ วรง้ั
ความตายได้ เหนี่ยวร้ังให้มันอยู่ตอ่ ไปได้เมื่อถึงเวลาทีต่ อ้ งตาย
น่ีก็คือสิ่งที่เราต้องศึกษาเก่ียวกับเรื่องขันธ์นี่ ถ้าเรายังรักษาขันธ์ได้
เรากร็ กั ษาไป ถา้ เกดิ ทกุ ขเวทนาขนึ้ มา ถา้ เราบรรเทามนั ได้ เรากบ็ รรเทา
มนั ไป ถา้ บรรเทาไมไ่ ดก้ ต็ อ้ งใชธ้ รรมโอสถ คอื ใชส้ มาธิ ใชป้ ญั ญา มาสอน
ใหใ้ จใหอ้ ยกู่ บั สง่ิ ทที่ ำ� อะไรไมไ่ ด้ ถา้ มที กุ ขเวทนาขน้ึ มาแลว้ ไมส่ ามารถกำ� จดั
มันได้ กต็ อ้ งสอนใจใหอ้ ยู่กับมนั ไป อย่าไปมคี วามอยากให้ทกุ ขเวทนามนั
หายไป พอเกดิ ความอยากแลว้ เวลามนั ไมห่ ายมันจะท�ำให้ใจทกุ ขน์ น่ั เอง
ซ่ึงความทุกข์ใจท่ีเกิดจากความอยากน้ีมันรุนแรงกว่าความทุกข์ที่เกิดจาก
ความเจบ็ ไข้ไดป้ ่วยของร่างกาย
ดังนั้นผู้ปฏิบัติธรรมน้ีสามารถระงับเวทนาทางใจได้ ระงับความทุกข์
ทางใจได้ แต่ความทุกข์ทางร่างกายน้ี บางทีก็ระงับได้ บางทีก็ระงับไม่ได้
49