นอมถวายเปนอาจาริยบูชา
ËÅǧ»áÙ† ส§ ญา³Çâร
หลวงปแู สง ญาณวโร
ประวัตยิ อและพระธรรมเทศนา
พมิ พค รง้ั ท่ี ๒ : พฤษภาคม ๒๕๖๕
จาํ นวนพิมพ : ๒,๐๐๐ เลม
ผ้จู ดั พิมพ : คณะศษิ ยานศุ ิษย
ʾھ·Ò¹í ¸ÁÁÚ ·Ò¹í ª¹Ô ÒµÔ
¡ÒÃã˸Œ ÃÃÁР‹ÍÁª¹Ð¡ÒÃãË·Œ Ñ駻ǧ
พมิ พที่ : บริษัท ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพมิ พ จาํ กดั
๖๑ ถนนเลยี บคลองภาษีเจรญิ ฝัง เหนอื ซอยเพชรเกษม ๖๙
แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ
โทรศพั ท ๐-๒๔๔๔-๓๓๕๑-๒ โทรสาร ๐-๒๔๔๔-๐๐๗๘
E-mail: [email protected]
สารบัญ
ประวัติยอ่ หลวงป่แู สง ญาณวโร
พระธรรมเทศนา หลวงปู่แสง ญาณวโร
กรรมฐาน ๕
สจั จะคอื ของจริง
ปจั จัตตัง
มหาสติ มหาปัญญา
จติ ผ้รู ู้
หากมีข้อธรรมใดผิดพลาดจากความ
รู้เทาไมถึงการณ ผู้จัดทํากราบขอขมา
หลวงปูม่ า ณ โอกาสนี้ด้วย
»ÃÐÇµÑ Ô‹Í
ËÅǧ»Ùᆠʧ ÞÒ³ÇâÃ
เดมิ ชอื่ นายแสง ดหี อม เกดิ เมอื่ วนั ท่ี ๑ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๖๗
อ.ฟาหยาด จ.อุบลราชธานี (ตอมาอ.ฟาหยาดไดเปล่ียนช่ือเปน
อ.มหาชนะชยั และข้นึ กับจ.ยโสธร ในปจ จุบนั )
หลวงปูเขารับการบรรพชาอุปสมบท เม่ือวันที่ ๑ มิถุนายน
พ.ศ. ๒๔๙๐ ณ วดั ศรจี นั ทร อ.เมอื ง จ.ขอนแกน ทา นเคยจาํ พรรษา
และวิเวกธดุ งคทัง้ ในประเทศไทย ลาว และพมา
๑
ประวัติการวิเวกธุดงคและการอยูศึกษากับครูบาอาจารย
สายกรรมฐาน
- ศึกษาหลักธรรมกับหลวงปูมั่น ภูริทัตโต ท่ีวัดปาบาน
หนองผอื ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
- หลวงปคู าํ ดี ปภาโส วดั ถาํ้ ผาปู จ.เลย (พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๔๙๖)
- หลวงปูฝน อาจาโร วัดปาอุดมสมพร อ.พรรณานิคม
จ.สกลนคร ไดรวมสรางวดั ถํ้าขาม (พ.ศ. ๒๔๙๗)
- หลวงปูเทสก เทสรังสี วัดหินหมากเปง อ.ศรีเชียงใหม
จ.หนองคาย (๑ พรรษา)
- หลวงปูบัว สิริปุณโณ วัดปาหนองแซง อ.หนองวัวซอ
จ.อดุ รธานี (๒๐ พรรษา)
- พระอาจารยแบน ธนากโร ไดรวมสรางกุฏิศาลาที่วัด
ดอยธรรมเจดยี จ.สกลนคร
- หลวงปูดลู ย อตุโล วดั บูรพาราม อ.เมือง จ.สุรนิ ทร
- หลวงปูขาว อนาลโย วัดถํ้ากลองเพล จ.หนองบัวลําภู
ไดรว มธุดงคท ีภ่ ูวัว
- หลวงปูแหวน สุจณิ โณ วดั ดอยแมปง อ.พรา ว จ.เชยี งใหม
- หลวงปูชอบ ฐานสโม วัดปา สัมมานุสรณ อ.วังสะพุง จ.เลย
- หลวงปศู รี มหาวโี ร ไดว เิ วกธดุ งคท ภี่ เู กา ภเู วยี ง จ.ขอนแกน
๒
- หลวงปูเหรียญ วรลาโภ วดั อรญั ญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม
จ.หนองคาย ไดวิเวกธุดงคด วยกันท่ีวัดหนิ หมากเปง
- หลวงปูจันทรโสม กิตติกาโร วัดปานาสีดา จ.อุดรธานี
ไดวเิ วกธุดงคดวยกันที่ อ.บา นผอื และอ.นาํ้ โสม
- พระอาจารยจวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารยวัน อุตตโม
หลวงปูหลา เขมปตโต และพระอาจารยสิงหทอง ธัมมวโร
ไดว เิ วกธดุ งครวมกนั ที่ภูสงิ ห ภูพานคาํ และภทู อก ฯลฯ
- หลวงปูมหาบุญมี สิริธโร วัดปาวังเลิง จ.มหาสารคาม
(พ.ศ. ๒๕๓๒ - ๒๕๓๓)
- ตั้งแต พ.ศ. ๒๕๓๔ - ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ จาํ พรรษา
ทวี่ ัดปา อรญั ญาวิเวก บานไกค าํ จ.อาํ นาจเจริญ
- ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๑๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จาํ พรรษาที่
วดั ปา อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั (เสนาสนะปา โคกคา ย) บา นหนองไฮนอ ย
ต.หนองขา อ.ปทุมราชวงศา จ.อาํ นาจเจริญ
- ๑๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จาํ พรรษาท่ีวัดปา นาเกง้ิ ญาณวโร
บานนาเก้งิ อ.เสนางคนิคม จ.อํานาจเจรญิ
- ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ จาํ พรรษาทว่ี ดั ปา มโนรมย
สมประสงค (สํานักสงฆภูทิดสา) บานหวยฆอง ตําบลหนองขา
อาํ เภอปทมุ ราชวงศา จังหวดั อาํ นาจเจริญ
- ๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๖ - กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๗ สาํ นกั สงฆ
บานเวินชยั อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร
๓
ชว งบน้ั ปลาย หลวงปูพกั จาํ พรรษา ท่วี ัดปา ดงสวา งธรรม จ.ยโสธร และ
สํานักสงฆพ ุทธรตั นวนาราม จ.เชียงใหม ปจ จบุ นั พักท่วี ัดปาอรัญญาวเิ วก
บานไกคํา อ.เมือง จ.อาํ นาจเจรญิ
๔
¾ÃиÃÃÁà·È¹Ò
ËÅǧ»áÙ† ʧ ÞÒ³Çâà ๕
กรรมฐานไมใชอ่นื ไกล
กรรมฐานน้ัน
มีอยใู นตวั เรานแี่ หละ
๖
¡ÃÃÁ°Ò¹ õ
â´Â ËÅǧ»áÙ† ʧ ÞÒ³ÇâÃ
à·È¹ÍºÃÁ¾ÃÐáÅЦÃÒÇÒÊ
áÊ´§¸ÃÃÁ ³ Ç´Ñ »†ÒÍÃÑÞÞÒÇàÔ Ç¡ (ºÒŒ ¹ä¡‹¤íÒ)
Çѹ·èÕ ó Á¶Ô عÒ¹ ¾.È. òõôõ
ของทมี่ อี ยแู ละของเกา เรอ่ื งของกรรมฐาน จะผม จะขน จะเลบ็
จะฟน จะเนอ้ื จะเอน็ จะกระดกู นน่ั แหละของทม่ี นั มอี ยู ใหพ จิ ารณา
ของทมี่ ีอยใู หมนั แจมใหมันแจง ใหม นั ชัดใหมันเขาอกเขาใจ จะได
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ใิ หม นั ถกู ตอ งตามทาํ นองคลองธรรมของพระศาสดา
ท่ีทรงส่งั สอนไว สงิ่ เหลา น้ีฟง เพื่ออะไร ฟง เพื่อท่จี ะแกทกุ ข ใหมัน
พน ทกุ ข พน จากวฏั สงสาร ถา เราไมฟ ง เรากไ็ มม คี วามรู ถา ฟง แลว
กใ็ หน อ มเขา สดู วงจติ ดวงใจ ใหใ จเมอ่ื พดู เมอ่ื ไดย นิ แลว กใ็ หร ู หไู ดย นิ
ใหใจรูอยูดวย ถาใจมันรูอยูดวยมันก็สงเขาไปหาจิต จิตกับใจก็
อันเดยี วกันนั่นแหละ
พดู วา พระทีไ่ ปบวชใหมๆ ตอ งใหก รรมฐาน ๕ “เกสา โลมา
นขา ทันตา ตโจ” เกสา ก็แปลวา ผม โลมา ก็แปลวา ขน นขา
กแ็ ปลวา เล็บ ทันตา ก็แปลวา ฟน ตโจ แปลวา หนงั ส่งิ เหลานีเ้ ปน
๗
ของปฏกิ ูลนาเกลยี ดโสโครก ถา เหน็ เปนแตของสวยของงาม มนั ก็
ติดเทาน้นั แหละ ตดิ สวยติดงามนะ ถา ของสกปรกมนั ไมต ดิ หรอก
เราพิจารณาใหเปนของสกปรกถึงจะเปนกรรมฐานได กรรมฐาน
ไมใ ชอ น่ื ไกล กรรมฐานนน้ั มอี ยใู นตวั เรานแี่ หละ กรรมฐานกด็ แี ตเ ขา
ไปพมิ พไ วใ นหนงั สอื โนน ในหนงั สอื ขา งนอกโนน แนะ ไปพมิ พไ วแ ลว
มาพจิ ารณา ผมของเราพิจารณา ขนของเราพิจารณา เลบ็ ของเรา
ฟนของเรา หนังของเรา ถาจิตมันรวมได เอาอันน้ีเปนบริกรรม
กไ็ ด ถารวมไมไดก็เอา “พุทโธ ธัมโม สงั โฆ” หรอื อานาปานสติ
ลมหายใจเขาออก ใหจติ มันสงบ ถาจิตสงบแลว มนั ก็ตงั้ มั่น ต้ังมั่น
ลงไปแลวสมาธิมันจะเกิดข้ึนมาน่ี สมาธิเกิดแลวถาสมาธิมัน
แกกลาแลวก็กลายเปนปญญา ปญญาความรอบรูในกองสังขาร
สงั ขารเรานเี้ กดิ ขน้ึ มาจากบดิ ามารดา บดิ ามารดาปน มรดกตกทอดให
เราจะพาบิดามารดามาคาขายหงายมือใหขาดทุนศูนยดอก หรือ
จะใหมีกาํ ไร ถาไมมกี าํ ไรมันก็ขาดทุนนั่นละ
เราเกิดมาไมใชเปนของงาย เราเกิดมาเปนมนุษยมนานี่นะ
ถา บญุ ไมม กี ไ็ มไ ดเ กดิ เปน มนษุ ย จะเปน สตั ว เปน ววั เปน ควาย เปน
ไกเปน กาเปน นกเปน หนูเปน สตั วน อ ยสตั วใ หญในนา้ํ บนบกเขาเอา
มากนิ เปน อาหารทกุ วนั ๆ นนั่ แหละ มนษุ ยน มี้ อี าํ นาจวาสนาหนอ ย
เขากินไมได เกิดมาเปนมนุษยน่ีมันทําไดทุกอยาง ทําดีก็ได
ทาํ ชว่ั กไ็ ด ทาํ ผดิ กไ็ ด ทาํ ถกู กไ็ ด ทาํ ใหม รรค ผล นพิ พาน เกดิ ขน้ึ
กไ็ ด ถามนั เกดิ ข้นึ จะเอาไปไหน เอาไปคา ขายทางไหน ไมต อ งเอา
ไปคาขายทางไหนหรอก มาพิจารณาใหมันเห็น มันแจม มันชัด
๘
จติ มนั จะไดค ลายออกๆ มนั จะไมห นกั หนว งถว งใจ ใจจะไดส บายขน้ึ ๆ
แลวเวลาจะหมดลมมันก็ไป “สุคโต” เทาน้ันแหละ ไปดีมาดีแจง
ทงั้ โลก โลกกแ็ จง ธรรมกแ็ จง ใหม นั แจง มนั กไ็ มม ดื เหน็ อะไรมนั กร็ ู
ดูอะไรมันก็ออก บอกอะไรมันก็ถูกเทาน้ันถามันเห็นมันรู ถาไมรู
อะไรเปนอะไร เปนคนมืดคนดํา คนบอด คนหนวก มืดดํากําตา
ทําใหเปนคนสวางไสวในดวงจิตดวงใจของเรา ถาไมสวางไสว
มันก็จะเวียนตายเวียนเกิดอยูน่ีแหละ เกิดแลวเกิดเลาเกิดเชา
เกดิ คํา่ เกิดตํ่า เกดิ สงู ลุมๆ ดอนๆ สงู ๆ ตา่ํ ๆ ไมมีเวลาทจ่ี ะจบส้นิ
การเกิดนี่ไมใชของงายนะ มาเปนมนุษยนี่ก็ไมใชของงาย ทํามา
หาเลย้ี งชพี กไ็ มใ ชข องงา ย ตากแดด ตากฝน ถา คนอยา ง “สมบรู ณ”
นนี่ ะ ซอ มรถวนั ยงั คาํ่ คนื ยนั รงุ นไี่ มไ ดน อนนะ นอนกน็ อนนดิ หนอ ย
ธาตอุ นั นีข้ ันธอนั นี้มันยุงทสี่ ุดนะ ทาํ ใหห นักหนว งถว งใจ
เราจะไดด บิ ไดด กี เ็ พราะอนั นแ้ี หละ มาเหน็ ธาตเุ หน็ ขนั ธน แ่ี หละ
เปนกองทุกข ชาติความเกิดเปนทุกข ขันธน่ีแหละเปนกองทุกข
ชาติความเกิดเปนทุกข ชราความแกเปนทุกข พยาธิความ
เจ็บไขไดพยาธิเปนทุกข มรณะความตายเปนทุกข ทุกข
อันนี้ละพาคนเวียนวายตายเกิดในภพนอยภพใหญไมรูสิ้น
รจู บสกั ทเี ลยกเ็ พราะเราหลงถา เราไมห ลงแลว มนั กไ็ มเ กดิ ถา คนรู
เขาไมเ กดิ หรอก คนรไู ปสวรรคน พิ พานไปหมดแลว เหลอื แตค นหลง
งมงายอยใู นวฏั สงสารน่ี เหน็ ของดเี ปน ของชว่ั เหน็ ของชวั่ เปน ของดี
เห็นของผิดเปนของถูก เห็นของถูกเปนของผิด นี่เปนมิจฉาทิฏฐิ
ความเหน็ ผดิ มาเหน็ ชอบ ตามทาํ นองคลองธรรม ใครเหน็ ชอบตาม
๙
สง่ิ ไหนเปน ของจรงิ
คอื เปน สจั ธรรมคาํ สอนของพระศาสดา
สิ่งไหนของปลอม
นั่นเปนคาํ สอนของโลก
ทํานองคลองธรรมมันก็เชื่อจริงลงไป จิตใจมันก็คลายออกๆ เรา
มาอยูในของท่ีไมแนนอนไมจีรังยั่งยืน เกิดแลวดับ เกิดแลวดับ
เกดิ แลว ดบั กไ็ มม อี ะไร จะเอาอะไรกบั สง่ิ เหลา น้ี เรากระวนกระวาย
กระเสอื กกระสนหาวนั ยงั คา่ํ คนื ยนั รงุ เมอื่ หมดลมจะเอาไปนดิ เดยี ว
อะไรกเ็ อาไปไมไ ดเ ลยนะ ท้งิ ไวกับโลกนแี่ หละ ไมมีใครได หลานก็
ไมไ ด ลกู กไ็ มไ ด ลกู กต็ ายเปน พอ แมก ต็ ายเปน ปยู า ตายายกต็ ายเปน
จะตายชาตายเรว็ ตางกันกเ็ ทา น้นั แหละ
ความเกิด ความแก ความตาย นีม่ นั เปนของจริงสจั จะ ส่ิงไหน
เปนของจริงคือเปนสัจธรรมคําสอนของพระศาสดา สิ่งไหนของ
ปลอมนน่ั เปน คาํ สอนของโลก เขาตม เขาตนุ กนั เขาโกหกพกลมกนั
เบียดเบียนเพ่ือนบานรานตลาดกัน อิจฉาตารอนกัน กูดี มึงดี
กูเกง มงึ เกง กูสวย มงึ ขเ้ี หร กรู า่ํ รวย มงึ จน ดูถูกดหู มิ่นดแู คลนกนั
เหยียดหยามกันก็มนุษยมนานี่ละ เราทําใหมันรูจักโลกธรรมซะ
โลกธรรมน่ีมันมีแตไหนแตไรมาไมใชวายุคเราสมัยเรา แตคร้ัง
พทุ ธกาลพระพทุ ธเจาองคไ หนมาตรสั มนั กม็ อี ยอู ยางน้ี
๑๐
โลกธรรมมีลาภเสื่อมลาภ มียศเส่ือมยศ สุข ทุกข สรรเสริญ
นนิ ทา มันมีมาแตไ หนแตไรมา คนดเี ขาก็นนิ ทา คนชั่วเขาก็นนิ ทา
แตนนิ ทามนั ไมถ กู กม็ ี นินทาผิดๆ นนิ ทาคนดีน่นั มนั ไมถกู เขาวา
คนดีเปน คนชว่ั กไ็ มถกู วาคนชัว่ เปน คนดนี ัน่ ก็ไมถกู อกี แหละ ดกี ็
ตอ งวา ดี ชว่ั กต็ อ งวา ชวั่ ผดิ กต็ อ งวา ผดิ ถกู กต็ อ งวา ถกู จะไมด ลี ว น
มนั กไ็ มไ ด คนเรามนั กม็ สี งู บา งตา่ํ บา ง ดบี า งชวั่ บา ง ผดิ บา งถกู บา ง
เจรญิ บา ง จติ ของคนเราน่ีมันไมเหมือนกัน นานาจิตตัง บางคนฟง
อะไรกฟ็ ง ออก มสี ตมิ ปี ญ ญาคมแหลมเสย้ี นแหลม บางคนฟง เทา ไร
กย็ งิ่ มดื ดาํ กาํ ตา ถา ไดย นิ พระเทศนก ถ็ อยหนเี ทา นนั้ แหละ ถา ไดย นิ
พวกหมอรองหมอลาํ พวกละครลิเกพวกหนงั พวกกนิ ดนิ กินแดง
กินเหลาเมาสุราตีกันฆากันนี่ มันรูเร่ืองดี ถาคนดีเขาไมทํากัน
อยา งนน้ั คนดเี ขาไมฆ า ใครเขาไมเ บยี ดเบยี นใครทางกาย ทางวาจา
ก็ไมเบียดเบียน ทางใจก็ไมเบียดเบียน ตนเองก็ไมเบียดเบียน
ไมเ บยี ดเบยี นตนเองและบคุ คลอนื่ ทาํ จติ ใหเ ปน กลางๆ อยู อยา ไป
หวั่นไหวในโลกธรรม โลกธรรมมันมีมาแตไหนแตไรมา ถาเรา
ทําจิตใจได มันก็ไมหว่ันไหวทั้งน้ันละ โลกธรรมถูกตองมันเปน
ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง
วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง เปนมงคลอันอุดมเลิศ
เราชอบอปั มงคลหรอื ชอบมงคล กพ็ จิ ารณาลงในจติ ในใจของเรานะ
เราชอบดหี รอื ชอบชวั่ ชอบผดิ หรอื ชอบถกู ชอบเจรญิ หรอื ชอบเสอ่ื ม
ชอบรวยหรือชอบจน มันมีอยูในตัวเรานี่แหละ มีอยูในจิตในใจ
ของเรานแี่ หละ
๑๑
เกิดข้ึนมาเปน กองทุกขเ หลือเกิน
ทกุ ขใ นภพนชี้ าตนิ ี้กย็ งั ไมแ ลว
ตอไปก็ทุกขไ ปเรอื่ ยๆ ไป
จนเราหยดุ เกดิ ไดเ ม่ือไรนั่นแหละ
กองทกุ ขม นั จะหมด
สงิ่ เหลา นไี้ มไ ดห ามาจากทไี่ หนหรอก ธรรมมนั มอี ยแู ลว ธรรม
เปนของเกาไมใชของใหม ผมก็มีอยูแลวแตไหนแตไรมา เล็บก็มี
อยแู ลวแตไ หนแตไ รมา ฟนกม็ ีอยแู ลว แตไ หนแตไรมา หนังกม็ อี ยู
แลวแตไหนแตไรมา เรามาหลงเนื้อหลงหนังกันวาสวยวางามวา
นา รกั นา ชมเลยตดิ กนั พนั กนั ผหู ญงิ ตดิ ผชู าย ผชู ายตดิ ผหู ญงิ ดงึ ไม
ออกหรอกมนั เหนยี วท่ีสุด ตงั ของโลกมนั นี่นะ ตงั อันน้มี นั เหนยี วๆ
เหลือเกินนะ ดึงไมคอยออกหรอก อะไรๆ มีแตของสวยของงาม
ท้ังน้ัน ของขี้เหรไมมีในตับในไตในไสในพุง เราก็ผาดูสิมันมีอะไร
อยูในนั้น มันสวยที่ไหน มันงามที่ไหน มันสะอาดสะอานท่ีไหน
มนั ดีทไี่ หน มนั ผิดทไ่ี หน มันถูกที่ไหน บญุ วาสนาบารมีเรานีแ้ หละ
สรางเอา เราไมสรางมันก็ไมมี เหมือนเราทํานาน้ีแหละสรางเอา
เราไมสรางมันก็ไมมี เหมือนเราทํานาน้ีแหละ ถาเราไมทํานา
เราก็ไมไดขาว ถาเรามีเงินซื้อก็ไดเหมือนกัน ถาไมมีเงินซื้อเราก็
ไมม ี มนั มาจากเหตทุ งั้ นน้ั ทกุ สง่ิ ทกุ อยา ง “เหตปุ จ จโย อารมั มณ-
ปจ จโย” ธรรมทง้ั หลายมาจากเหตุ เมื่อจะดบั ก็เพราะเหตุ เหตคุ อื
๑๒
การกระทาํ ดว ยกาย วาจา ใจ พดู ดี คดิ ดี ไมอ จิ ฉาตารอ น บคุ คลผใู ด
ไมเ หยยี ดหยาม ไมร งั แก ใหม เี มตตาสงสารซงึ่ กนั และกนั เพราะมนั
หลงมาดว ยกนั ใครๆ กห็ ลงถงึ ไดม าเกดิ ถา ไมห ลงไมม าเกดิ หรอก
เกิดข้ึนมาเปนกองทุกขเหลือเกิน ทุกขในภพน้ีชาติน้ีกย็ งั ไมแ ลว
ตอ ไปกท็ กุ ขไ ปเรอ่ื ยๆ ไป จนเราหยดุ เกดิ ไดเ มอื่ ไรนน่ั แหละกองทกุ ข
มนั จะหมด ถา ยังเกิดอยูมนั ก็ตายอยอู ยางนน้ั แหละ มนั ก็แกก็เจ็บ
อยอู ยา งนนั้ แหละ
เรอื่ งของธาตขุ องขนั ธม นั เปน เรอ่ื งของเกดิ ของแกของเจบ็
ของตาย เรอ่ื งจติ ใจไมเ คยตายสกั ที เปน อมตะ เปน นามธรรม
ไปกอรางภพนั้นภพนี้ ถารถคันนี้พังมันก็ไปซ้ือเอารถคันใหมซะ
ไปเขา ปฏสิ นธกิ บั คนอนื่ อกี ตอ ไป ไปตกนรกอยใู นทอ งเขานน่ั แหละ
นํ้าปู น้ําปลา ปลาแดก เผาอยูอยางนี้แหละ จะไดคลอดออกมา
เม่ือคลอดออกมาก็เหม็นคาวมากยิ่งกวาผีตายหานะ คลอดบุตร
ออกมามนั ไมเ หมน็ เหรอ เหมน็ ใครวา ไมเ หมน็ อาตมาวา คนเดยี วนะ
หอม ลูกเยี่ยวก็หอม ลูกขี้ออกมากห็ อม ไมมขี องสกปรกสักอยาง
มนั เปน อยา งนโ้ี ลกอนั นเ้ี พราะความลมุ หลงถงึ ไดม าเกดิ มาเจอโนน
เจอนี้ มาสุขมาทกุ ขอ ยูอยางนี้ พอดกี ็สขุ พอดกี ท็ ุกข พอดีก็เจริญ
พอดีก็เสื่อมไป ไดม าก็เสยี ไป ถา ไมไดม นั ก็ไมเสียนะ ความเสียนี่
มนั กเ็ พราะเราไดม ามนั กเ็ สยี ไป ไมม อี ะไรจรี งั ยง่ั ยนื อะไร มแี ลว มนั
จะอยยู งคงทน มนั กไ็ มอ ยู เรากเ็ หมอื นกนั ตวั เราเหมอื นกนั พากนั
อยูไปๆ ผลสุดทายก็เลยลืมหลักจิตหลักใจของตัวเอง ตัวกอภพ
กอชาติ วัฏสงสาร โมหะ อวชิ ชา มันครอบงําจิตใจ จติ ใจมดื ใจดาํ
๑๓
ทาํ จติ ใจใหม นั สวา งกระจา งแจง ฉายแสงออกมาดว ยความสงา
ผาเผย ใหเปนผูบริสุทธิ์ กายบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธ์ิ
ถาทําไดอยางน้ีจะไมมีเวรมีภัยอีกตอไป ภพชาติก็หมดไปในตัว
ไมผูกเวร เวรยอมระงับดวยความไมมีเวร ถามีเวรอยูนั่นนะเขา
มาทําเรา เราไปตอบเขา เวรก็ไมร ูจกั ระงับสักที เวรภยั กเ็ พราะเรา
ทาํ ไมห ยดุ ไมย ง้ั เขาตเี รา เราตเี ขา เขาฆา เรา เราฆา เขา ผลสดุ ทา ย
กผ็ กู อาฆาตบาดหมางกนั อยอู ยา งน้ี วนุ วายกนั อยอู ยา งน้ี เวยี นวา ย
ตายเกิดกันอยูอ ยางนี้ สขุ ๆ ทกุ ขๆ อยูอยา งนี้ บางทีกจ็ นไป บางที
กร็ า่ํ รวยขนึ้ มา เลยหลงความราํ่ ความรวยวา สวยวา งามอยอู ยา งนน้ั
มนั งามทไ่ี หนถา มนษุ ยน ะ มนั ไมม ที งี่ ามนะมหี นงั หมุ หอ อยเู ฉยๆ
ในตวั ในตนของเรานนี้ ะ ทางผมกข็ ผี้ มขหี้ วั ชะออกมา ทางตา
กข็ ต้ี าชะออกมา ทางหกู ข็ หี้ นู ะ ออกมาทางเลบ็ กข็ เ้ี ลบ็ ออกมา
ทางฟนก็ข้ีฟนซะ มีแตขี้ท้ังน้ันรอบตัวของเรานี้ อะไรเปน
ของสวยของงาม อะไรเปน ของสะอาดสะอา น ถา ไมซ กั ลา งอยบู อ ยๆ
อาบนา้ํ อาบทา อยบู อ ยๆ เอาแฟบ เอาผง เอาสบูมาซกั ฟอกอยบู อ ยๆ
ฟนก็ตองสีอยูบอยๆ ขี้ฟนมันเยอะนะ ถาไมสีฟนวันหน่ึง โอย
เขาไปใกลใครไมไดหรอก มันเหม็นนะ ข้ีฟนก็เหม็น ย่ิงข้ีออก
จากทวารหนักย่ิงเหม็นมาก แตเหม็นมันก็ไดประโยชนอยูนะ
เอาไปใสตน ไมอะไรกย็ งั ไดป ระโยชนอยนู ่ัน ไอพ วกนักตดิ เรอื นจาํ
เขาซ้ือกันสน่ันหวั่นไหวเอาไปใสไรใสนาผักใสอะไรก็ไดมาขายอยู
จะมีประโยชนถาใชเปน ถาใชไมเปนไมมีประโยชน ข้ีเปดขี้ไกก็ดี
ขี้วัวข้ีควายเอาไปใสอะไรมันก็สวยก็งามอยู เดี๋ยวนี้ไมมีนะ มีแต
ขี้ของคนนะ ของอะไรมีโทษของอันน้ันก็มีคุณ กายของเรามีโทษ
๑๔
ใครจะเทศนท่ไี หน
กไ็ มห นจี ากกายจากใจของเราหรอก
เขาจะเทศนฝ ากโลก
ก็ไมหนีจากกายจากใจ
กายของเราก็มีคุณ เจ็บไขไดปวยก็ว่ิงเขาโรงพยาบาลเสียเงิน
เสยี ทองหลายพนั หลายหมื่นหลายแสนอยูน ะ ถา ไมม ีกายทาํ อะไร
กไ็ มไ ดนะ
จิตใจก็เปนนามธรรมเฉยๆ เปนผูนึก ผูคิด ผูปรุง ผูแตง
มนั วุนวายกเ็ พราะจิตน่นั นะ จิตเปน ตวั การ เหตุใหญทีส่ ดุ ทําใหคน
งมงาย ทาํ ใหค นมวั เมาประมาทเลนิ เลอ เผลอตวั กเ็ พราะเรอื่ งของจติ
น้ีแหละ ทําใหคิดโนนคิดนี้ เวลานั่งสมาธิก็ไปแลว วิ่งไปขางโนน
ว่ิงไปขา งนี้ จติ ไมสงบกย็ ิ่งฟงุ ซา นรําคาญปวดหวั มัวเกลาประสาท
จะแตกตายเพราะมันคิดมากนะ ควรใหพักผอนซะหนอยถึงจะได
มกี าํ ลงั จติ จะพกั ผอ นไดก เ็ พราะจติ มสี มาธนิ นั้ แหละ สมาธติ ง้ั มนั่ กม็ ี
กาํ ลงั วงั ชา คลา ยๆ เราไดร บั ประทานอาหาร ไดน อนอม่ิ หนาํ สาํ ราญ
มนั กม็ กี าํ ลงั ตอ สกู ารงานทกุ อยา ง แลว กม็ าพจิ ารณารา งกายสงั ขาร
ใหมันแกกลาขนึ้ มาจริงๆ กเ็ ปนตวั ปญญา ตวั ปญญากม็ าฟอกฝน
กิเลสภายในดวงจิตดวงใจใหหลุดลอยไปออกจากภพจากชาติไป
ไมต อ งมาเวยี นวา ยตายเกดิ ในภพนอ ยภพใหญอ กี ตอ ไป อนั นมี้ นั ก็
๑๕
เปนอยูอ ยา งน้ี ธาตขุ ันธข องเรา ใจของเรา กเ็ ปน อยูอยา งนแี้ หละ
ก็มีกายและใจเทาน้ันแหละ ดกี เ็ รือ่ งของกายของใจน่แี หละ ถา ใจดี
เสียอยางเดียว กายและใจของเราก็ดีไปดวย ถาใจไมดี มันก็เสีย
ไปหมดเหมอื นปลานนี่ ะ ถา มปี ลาเนา อยใู นตระกรา หรอื ขอ ง ถา ปลา
เนาตัวเดียวมันก็เนาไปหมด ถาใจเสียมันก็เสียไปหมด รางกาย
กเ็ สยี ไปหมด อะไรกเ็ สยี ไปหมด ถา จติ ใจดกี ด็ ไี ปหมด เราชอบดหี รอื
ชอบชวั่ ชอบผดิ หรอื ชอบถูก ชอบฉลาดหรือชอบโง ชอบรวยหรอื
ชอบจน เลอื กเอา เลือกไดก็มนุษย เลอื กไมไดก็มนุษยเ รานแ่ี หละ
พยายามหาํ้ หน่ั ฟน แทงใหม นั ออกจากจติ ใจ เอากเิ ลสใหม นั หลดุ ลอย
ออกไปจากจิตจากใจ
จติ ใจของเราเปน ของสาํ คญั ใครจะเทศนท ไ่ี หนกไ็ มห นจี ากกาย
จากใจของเราหรอก เขาจะเทศนฝากโลก กไ็ มห นจี ากกายจากใจ
รวมมานน้ี ะไมม มี ากนอ ยกา ยกองไป พดู มากกม็ ากไป ถา พดู นอ ยนะ
กน็ อ ยไป พดู นอยมนั จะงาย พดู มากมนั กเ็ ลยหลงทาง ชโ้ี นน ชี้นไ้ี ป
ถา เจา ของวา ยากกย็ าก ถา เจา ของวา ไมย ากกไ็ มย าก เพราะอยากมี
น่ีแหละ ถาลมหมด เจาของยังไมไ ดทํา เขาใสโ ลงเอาพระมาสวด
มาเทศน “กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อัพยากตา ธัมมา”
กุสลา ธมั มา คอื กุศลเปนฝา ยบญุ อกุสลาเปน ฝายบาป อพั ยากตา
๑๖
มาเปนกลางๆ สุขาคือความสุข ทุกขาคือความทุกข อุเบกขาคือ
ความวางเฉย พระบรมศาสดาไปเทศนโปรดพระมารดาทานถึง
ช้นั ดาวดึงสใ นไตรมาส ๓ เดือน กเ็ ทศนนีแ่ หละ เร่ืองอภธิ รรมเรอ่ื ง
กุสลา ธัมมา น่ีแหละ เทพเจาเหลาเทวาไดสําเร็จมรรคผลนิพาน
เปน โกฏิ โกฏหิ นง่ึ มีกล่ี า น
ถามันไมม ีบญุ มันก็มีบาป ถา มันไมม ีบาปก็มบี ุญนะ ถา บสุข
มันก็ทุกขนะตัว ถาบทุกขมันก็สุขนะ ถาบไดมันก็เสีย ถาบมีมัน
ก็จนนะ กิเลสมันครองหัวใจมาเปนกัปเปนกัลปอสงไขย
จะมาภาวนาทีเดียวใหมันขาดไปไมได ทําก็ทําใหจริงใหจัง
ถาจับปลาหลายมือมันก็ยุง “จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง จิตตัง
ทันตงั พลงั สขุ ัง” สขุ อ่ืนต่นื จากความสงบไมมี ถา จิตสงบมันก็มี
ความสขุ นะ ถาจติ ไมส งบ จติ วนุ วาย มนั กท็ กุ ข ทุกขใจนะ “ทกุ ข
อยูในขันธหา รวมลงมาขนั ธส่ี ทกุ ขอยูใ นโลกนี้ มารวมขอย
ผูเดียวนะ” สุขก็สุขในหัวใจ ทุกขก็ทุกขในหัวใจ ดีก็ดีอยูหัวใจ
ถามันชงั คน หวั ใจนะมันชัง ถา มันรกั คน หวั ใจนะมันรักคน
๑๗
การแกกด็ ี การเจ็บกด็ ี การตายกด็ ี
มันเปลีย่ นแปลงไมไ ด
ยุคไหนสมัยไหนมันกเ็ ปน อยางน้นั
เพราะเปน ของจริง
๑๘
欄 ¨Ð¤×ͧ͢¨Ã§Ô
â´Â ËÅǧ»†á٠ʧ ÞÒ³ÇâÃ
Çѹ·èÕ ñ Ê§Ô ËÒ¤Á ¾.È. òõôõ
ธรรมะคําสั่งสอนของพระบรมศาสดาท่ีทรงส่ังสอนไวดีแลว
ตรสั รูไวดีแลว ไมมอี ะไรจะเปล่ยี นแปลงไปได อยตู ัว พระพุทธเจา
พูดคําไหนอยูตัว ไมเคล่ือนไปเหมือนชาวโลก โลกสงสารน่ีนะ
กลางวนั ทําอยา งหนง่ึ กลางคนื ทําอยา งหน่งึ ตอนคาํ่ ทําอยา งหนึ่ง
ตอนเชาทําอกี อยา งหนงึ่ เปลี่ยนแปลงอยตู ลอด เพราะของไมจ ริง
ถา ของจรงิ มันเปลี่ยนไมไ ด สจั จะคอื ของจริง สจั จบารมี อธิษฐาน
บารมี เมตตา ขันติ อุเบกขา ทุกส่ิงทุกอยาง เชน การเกิดก็ดี
การแกก ็ดี การเจ็บก็ดี การตายก็ดี มนั เปลย่ี นแปลงไมได ยุคไหน
สมัยไหนมันก็เปนอยางนั้นเพราะมันของจริง ใครจะเปล่ียนไป
มันก็ไมเปนไปตามน้ัน ตอนเชาก็เชาธรรมดา ตอนเย็นก็เย็น
ธรรมดา ตอนกลางคืนก็กลางคืนธรรมดาอยู มันจะเปลี่ยนแปลง
อันไหนกเ็ ปล่ยี นแปลงไปเถอะ ไมไ ปดวย
๑๙
โลกกบั ธรรมกเ็ ปน คนละอยา ง โลกสบั เปลย่ี น ลนิ้ มนั หนั อยู
ตลอดเวลาเหมอื น ล ลิง ร เรือ นะ มนั หันอยตู ลอดเวลา ธรรมะ
คําสั่งสอนของพระพุทธเจาน่ันรูแจงเห็นจริง จะรื้อสัตวขนสัตว
สงสารใหพนจากโอกแองกันดาร ขามทะเลวนใหหนีจากภพชาติ
ชรา พยาธิ มรณะ ความตาย ไมตองมาเกิดมาแกมาเจ็บมาตาย
ทาํ อะไรกท็ าํ ใหม นั จรงิ มนั จงั ลงไป ใหม นั เหน็ มรรคเหน็ ผลขน้ึ มาใน
จติ ใจของตวั เอง ไมใ ชอ ยทู อี่ นื่ ทไี่ กล มรรคผลนิพพานกด็ ี เพราะวา
มรรคผลนิพพานมันสมมุติเฉยๆ ถาจิตใจเราเปนไป มันไมสมมุติ
อะไร ใหมันขาดจากสมมุติขาดจากบัญญัติไปเลย มันจริงนะที่น่ี
พูดไปแลวก็แลวไป ทําไปแลวก็แลวไป บานเมืองมันเดือดรอน
เผาผลาญกันทุกวันน้ีเพราะมันเปลี่ยนแปลงยกน้ันยกนี้นี่ข้ึนมา
วุนวายเปล่ียนอยูตลอดกัปตลอดกัลปตลอดวันตลอดคืน หาเร่ือง
หาราว คนหนง่ึ เหน็ อยา งหนงึ่ อกี คนหนงึ่ เหน็ อกี อยา งหนง่ึ คนโนน
เห็นอยางน้ี คนน้ีเห็นอยางนั้น มันก็ไมเขากันโลกกับธรรม มันก็
ไมเ หมอื นกนั ธรรมกอ็ ยูตัว โลกไมอ ยตู วั นะ เปล่ียนแปลงหว่นั ไหว
ไปเรือ่ ยๆ เปน อนิจจงั อนัตตา โอย เบอื่ แลว กเ็ กดิ ขึน้ มาใหม
ถาเอาคนที่รักษาแผนดินมีศีลมีธรรม บานเมืองก็อยูเปนสุข
ถา ไมม ศี ลี มธี รรมกเ็ ดอื ดรอ น เพราะมนั ไมเ ทย่ี งนเ่ี อง เพราะความโลภ
โกรธ หลง อยูภายในดวงจิตดวงใจมันเยอะแยะ มันเปลี่ยนไปได
ทุกขณะ ของจริงมันก็วาของไมจริง ของไมจริงมันก็วาของจริง
มันตมตุน มันหลอกลวง มันโกหกพกลมอยูเรื่อยไป โลกอันน้ี
นาสลดสังเวชเหลือเกิน เราควรจะประพฤติปฏิบัติใหมันหนีจาก
๒๐
ถาจติ เปนของจริงขึ้นมา อะไรก็ไหลเขา
คณุ งามความดี ทุกสิ่งทกุ อยาง
มรรค ผล นิพพาน กไ็ หลเขา หัวใจ
เพราะจติ เราเปนของจรงิ
สง่ิ เหลา นี้ สงิ่ ไมแ นน อนนะ สง่ิ แนน อนทาํ ไมไมเ อาใสจ ติ ใสใ จของตวั
พยายามนอมเขาสูดวงจิตดวงใจ ส่ิงไหนมันจริง ส่ิงไหนไมจริง
ก็พยายามไลจากดวงจิตดวงใจ ถาจิตเปนของจริงขึ้นมา อะไรก็
ไหลเขา คณุ งามความดี ทุกสงิ่ ทุกอยา ง มรรค ผล นพิ พาน ก็ไหล
เขา หัวใจ เพราะจติ เราเปนของจริง ของท่จี ะมาเขา ของจรงิ มนั ก็
คือของจริง ถาของปลอมก็ไปหาของปลอม ปลอมกบั จริง มันกอ็ ยู
ดวยกัน ทีแรกแลวเราก็แยกออก ของจริงก็ไวที่หน่ึง ขาวเหนียว
ก็ไวท่ีหน่ึง ขา วหอมมะลิกไ็ วท ่หี นงึ่ ขาวเมลด็ ขาวเหนียวเมล็ดส้ัน
ก็ไวท่ีหน่ึง เมล็ดยาวก็ไวที่หน่ึง ราคาก็ผิดแปลกแตกตางกันไป
เราอาศัยโลกตอไป เราก็รูเดียงสา แลวก็เอาธรรมมาเขาสูดวงจิต
ดวงใจ จิตใจจะไดมีความเยือกความเย็นความสวางไสวขึ้นมา
ทีแรกเปนโลก ทําไมเปนโลก ก็เพราะเราหลงมาเกิดแกเจ็บตาย
มาวนมาวายอยูอยางน้ี บุญกุศลทํามาก็ดี ยังไมทําก็ดี ถาเราทํา
ขน้ึ เยอะๆ มนั จะคอ ยแกก ลา ขน้ึ ไปทกุ วนั ทกุ ชว่ั โมง ทกุ ป ทกุ เดอื น
ขน้ึ ไป บารมมี นั แกก ลา ทานะมนั แกก ลา สลี ะมนั แกก ลา เนกขมั มะ
๒๑
ใหม นั แกก ลา สัจจะ อธิษฐานะ เมตตา ขนั ติ ปญ ญา บารมี ทุกส่ิง
ทุกอยางใหมันแกกลา ทุกสิ่งใหมันแกกลาข้ึนไป น่ีมันออนแอ
เราหวงั ความกา วหนา ทาํ อะไรกใ็ หม นั แกก ลา ไปทกุ เวลา ทกุ วนิ าที
เม่ือมันแกกลา ฟงอะไรก็ฟงออก ปฏิบัติก็ปฏิบัติถูก ถามันรู
ถามนั ผดิ ปฏิบตั กิ ็ผดิ ๆ ถกู ๆ อยางนนั้ ละ บางทกี ผ็ ดิ ไป บางทีก็
ถูกไป กเ็ ลยชาทางทีน้ี
สงิ่ ไหนมนั ของจรงิ เรากใ็ หถ กู จรติ กบั นสิ ยั ทคี่ รบู าอาจารย
เทศนไป เอาสิ่งน้ันไปประพฤติปฏิบัติสอนจิตสอนใจของ
เจา ของ ยาขนานไหนมนั ถกู กบั โรคกบั ภยั กใ็ หก นิ ยาขนานนนั้
โรคภยั มนั จะไดห ายจากการปว ยเจบ็ ไขไ ดถา เปน โรคภายนอก
กด็ ี โรคภายในก็ดี โรคภายในก็ถกู จรติ นสิ ยั
ถาคําบริกรรมคําไหนถูกกับจริตนิสัย จิตใจภายในก็คอยสงบ
สงัดลงออนไป ความคิดก็คอยออนตัวไป ผลสุดทายมันก็รวมได
ถาจิตรวมไดมันก็เปนกอน มันตั้งหลักตั้งฐานได ลมนอยลมใหญ
มนั พดั มาทศิ ทง้ั สมี่ นั กไ็ มห วน่ั ไหว มนั กอ็ ยตู วั แลว ใครจะวา ดวี า ชว่ั
มันก็ไมไปตาม มันอยูตวั แลวน่ี ตกนาํ้ ไมไหลตกไฟไมไ หม ถาเรา
ตองการความจริงใหเอาของจริงไปประพฤติปฏิบัติ การฟง
ธรรมก็ฟงใหเปนประโยชน นอมเอาธรรมใหเปนหลักจิต
หลกั ใจ ธรรมจะไหลเขา ดวงจติ ดวงใจ พยายามชาํ ระใจ ชาํ ระ
กาย วาจา ใจของเจาของใหมันเรียบรอยซะกอน ผลสุดทา ย
สง่ิ อ่ืนมนั ก็เรียบรอ ยไปตาม
๒๒
ถาใจมันเรียบรอยแลว ใจมันบริสุทธิ์แลว ใจมันสะอาดแลว
การชําระจิตใจของเรามันสําคัญ ชําระใหมันสะอาด เพราะ
ธรรมชอบของทสี่ ะอาด ของทสี่ กปรกธรรมไมไ หลเขา ถา ของ
สกปรกยังเหลืออยู ธรรมก็ยังไมเขา ธรรมก็เบื่อเหมือนกัน
ธรรมเบ่ือของสกปรก ของสกปรกมันไหลไดทุกสิ่งทุกอยาง
มนั ไหลไปทว่ั ดนิ แดนทวั่ โลกทว่ั สงสาร ไหลไปเปน พษิ เปน ภยั เปน ปู
เปน ปลาอะไรอยใู นนา้ํ กม็ ี หว ยหนองคลองบงึ กไ็ มแ กน พษิ อยทู ห่ี ว ย
หนองคลองบงึ ชลประทาน หรอื เขือ่ นก็ดี มันไมแกน มีอสรพิษอยู
ตองขับไลเอาอสรพิษออกจากใจ เหลือแตคุณงามความดีของเรา
ทําจิตของเราใหม ันเยอื กมันเย็น สวา งไสว สงบสงัดออกไป
การใหท าน การกศุ ล กด็ ี มนั เปนเบ้ืองตน ทานบารมี สีลบารมี
เนกขัมมบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตา ขันติ ปญญา
อเุ บกขา บารมี ๑๐ มนั กไ็ ปได พทุ ธบรษิ ทั ทงั้ หลาย ภกิ ษกุ ด็ ี อบุ าสก
อบุ าสิกาก็ดี ถาบารมี ๑๐ มันตองไปได ถา พระพุทธเจา ตอ ง ๓๐
เพราะเปนผูร้ือสัตวขนสัตว ถาเปนรถก็รถไฟหัวใหญถึงจะได
ลากตูไหว
เอาเฉพาะตัวของเรา ไมตองไปลากมากมายกายกองอะไร
พยายามสอนตัวใหมาก ใหมองที่หัวใจ อยาไปสงจิตไปขางนอก
ถาสงจิตออกไปภายนอก มันไปหาโทษหาภัยหาเหตุหาผลเขา
มาใสจิตใสใจใหวุนวายกระสับกระสายไปมา เพราะจิตไมอยูกับที่
ถาจติ อยูกับที่ มนั ต้งั หลกั ต้งั ฐานอยูกับท่ี ทห่ี ูไดย ินเสยี งก็นอมเขา
สดู วงจติ ตาเห็นรปู กน็ อมเขาสูดวงจติ พิจารณามนั นะ รปู ก็เพยี ง
๒๓
ธรรมในโลกใหโ ลกรม เยน็
ถา ธรรมเขามาแทรกสิงโลก โลกก็เย็น
ถา โลกเขาไปสงิ มากๆ
กม็ แี ตค วามรอนดัง่ ไฟจดุ กันเผากัน
สักแตร ูปเฉยๆ เวทนา ความสขุ ความทกุ ข กเ็ ปนความสขุ ความ
ทุกขเฉยๆ ถา เราไมไ ปยดึ ไปถือ มนั ก็ไมคา งอยใู นหวั ใจ มันอาศัย
อุปาทานความยึดม่ันถือมั่น มันถึงเปนโมหะอวิชชาความลุมหลง
ถา จติ รจู ติ มนั กป็ ลอ ยวางถา จติ ปลอ ยจติ วางจติ มนั จะเบาไปเรอ่ื ยๆไป
ถา มนั หนกั ทไี่ หนกป็ ลอ ยวางลงทน่ี น่ั สอนจติ สอนใจของเราใหม นั รู
ถา ขนื แบกขนื หาบขนื ดนั อยอู ยา งนน้ั กห็ ลงั หกั ตาย ถา ใครปลอ ยได
วางไดก็จะเบา เบาทั้งกาย เบาท้ังใจ เบากาย เบาใจ ธรรม
ก็สิงแทรกเขาไปในดวงจิตดวงใจ ผลสุดทายมันไดที่แลว
กิเลสทั้งหลายก็ไมสามารถเขาไปสูดวงจิตดวงใจของเราได
มาทีไหนก็เห็นแตธรรมน่ังอยูบนธรรมาสนน่ังอยูบนหัวใจ
มันกก็ ลวั เหมือนกนั ถาเรารูม ันกห็ ายไป ถา เราหลงมันกเ็ ขามา
ถามันหลงก็ทําใหมันรูก็พอแลว ไมใหหลงไปตาม ถาหลงไปตาม
มนั กเ็ ปน ทกุ ข อปุ าทานความยดึ มนั่ ถอื มนั่ ตวั กอ ภพกอ ชาติ ยดึ มนั่
อันโนนเปนของเรา อันนั้นเปนของกู อันนั้นเปนของมึง สุดทาย
มันก็ผิดวันยังค่ําคืนยันรุง ถามีแตธรรมลวนๆ อยูในโลกน้ี โลกนี้
คงจะสวางไสวเยือกเย็นไปท่ัวสารทิศทุกหยอมหญา ใครก็มีธรรม
๒๔
อยา งนอ ยกใ็ หถ งึ พระไตรสรณคมน พระพทุ ธเจา พระธรรม พระสงฆ
ไปหาโสดา สกทิ าคา อนาคา อรหนั ตนี่นะ
ธรรมในโลกใหโ ลกรม เยน็ ถา ธรรมเขา มาแทรกสงิ โลก โลกกเ็ ยน็
ถาโลกเขาไปสิงมากๆ ก็มีแตความรอนดั่งไฟจุดกันเผากัน
ผลสุดทายก็กระเสือกกระสนกระวนกระวาย จติ ไมเปนสขุ จติ มีแต
รบั แตท ุกขอ ยา งเดยี ว เราชอบสขุ หรอื ชอบทกุ ข กเ็ ราสอนจิตสอน
ใจเราเอา “จิตตัง ทันตงั สขุ าวหัง” จติ ฝกฝนดีแลว นําความสขุ
มาให มาใหแ กเ รานแี่ หละ ไมไ ดใ หแ กค นอนื่ อะไรนห่ี รอก ถา พวกเรา
ปฏบิ ตั พิ ระธรรม พระธรรมกย็ อ มรกั ษาเรา ใหเ รานอ มนกึ ระลกึ ถงึ
พระพุทธเจา พระธรรม พระอรยิ สงฆ สิ่งเหลา นัน้ กม็ าปกปก
รักษาคุมกัน ถานอมเอาผีมาเปนสรณะที่พึ่ง ผีก็มากินหัว
กนิ หาง ถา นอ มถงึ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ ทาํ บญุ กไ็ ดบ ญุ เตม็
เมด็ เตม็ หนว ย ถา ถอื โนน ถอื นอี่ ยู พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ กไ็ ม
ไวเ นอื้ เชอื่ ใจ วา มหี ลายหวั หวั หลายนก นแ่ี หละนกหลายหวั ไปหา
อีกคนหนึ่งก็พูดอีกอยางหน่ึง หลายจิตหลายใจ เปลี่ยนแปลงไป
ทุกเวลา
ถา มธี รรมประจําจิตประจําใจ ไมเปล่ียนแปลง มนั อยูตวั
เอาสอี ะไรมายอ มกไ็ มต ดิ เอาสดี าํ สแี ดงสขี าวมายอ มกไ็ มต ดิ
มนั อยตู วั แลว ไมม อี ะไรจะเขา ได ยงั ไมอ ยตู วั กฝ็ ก หดั ใหอ ยตู วั
ใหม นั แกใ หม นั กลา สามารถอาจหาญ ใหม สี ตปิ ญ ญาผอ งแผว
ปญ ญาศรทั ธาวริ ยิ ะใหม นั แกก ลา จติ ของเราจะไดส ะอาดสะอา น
จิตสะอาดเปนบุญ จิตสกปรกเปนบาป มันไมอยูไกลหรอก
๒๕
บุญบาปอยูที่หัวใจของเรานี่แหละ ความสุขความทุกขก็อยู
ท่ีหัวใจ ดีช่ัวผิดถูกก็อยูที่หัวใจ ถาจิตคิดไปผิด มันก็ผิดนะ
ถา จติ คดิ ไปทางถกู มนั กถ็ กู ถกู กบั ผดิ จะเอาอะไรไมม เี รอื่ งราว
อะไรจะเกิดขึ้นน้ี ถามันผิดมันก็เกิดวุนวายนะ เดินทาง
ไมถูกทาง มันก็หลงทางวันยังค่ําคืนยันรุง แมแตนอนหลับ
กย็ งั หลงทางอยถู า จติ มนั หลง ถา จติ มนั รนู ะแมห ลบั ไปตนื่ ขน้ึ มา
กย็ งั เหมอื นเกา ไมแ จง กส็ วา งอยอู ยา งนนั้ สตกิ ป็ ระจาํ หวั ใจอยู สมาธิ
ก็ประจําหัวใจอยู ศรัทธาก็ประจําหัวใจอยู วิริยะความพากเพียร
ก็ประจําหัวใจอยู ความดีคุณงามความดีบารมีทุกสิ่งทุกอยาง
มันกม็ ารวมกัน “มโน ปุพพงั คมา ธมั มา มโนเสฏฐา มโนมยา”
มาประชุมที่ใจของเราน่ีแหละ ถาจะรูก็รูท่ีน่ี ถาจะหลงก็หลงท่ีน่ี
ถาจะขามไดก็ขามที่หัวใจน่ีแหละ กิเลสมาจากหัวใจ มันฝงลึก
มันเกลี้ยกลอมมาหลายกัปหลายกัลปหลายอสงไขยแลว ถาเรา
จะเพิกจะถอนจะไลจากหัวใจ จะขับไลไสสงจากดวงจิตดวงใจ
เปน ของยากอยู เพราะมนั เคยชนิ พอแรงแลว มนั เปน นสิ ยั แลว นสิ ยั
กิเลสมันเสี้ยมสอนใหคนหลงคนมัวคนเมาผูกมัดรัดรึงสัตวไวใน
วฏั สงสารเพราะกเิ ลสนะ ความหลงนะ โมหะอวชิ ชาครอบงาํ ถา ไม
หลงเกดิ หลงแกห ลงเจ็บหลงตาย ไปๆ มาๆ ผิดๆ ถกู ๆ ต่าํ ๆ สงู ๆ
ลุม ๆ ดอนๆ บางทไี ปตกนรก บางทีไปตกสวรรค บางทกี ไ็ ปเปน
สัตวเ ดรัจฉาน บางทกี ็ไปเปนเปรต บางทกี ็ไปเปนเปรต อสรู กาย
ภตู ผปี ศาจ บางทกี ็เปนมนษุ ย
มาเปนมนุษยมันก็สมควรแลวจะสรางคุณงามความดีใหเกิด
ใหม ภี ายจิตในใจ กเ็ พราะมนษุ ยจ ะทําได สงิ่ อ่ืนก็ทําไมไ ด เปน ววั
๒๖
ชาํ ระสะสางของชว่ั ชา ลามก
ออกจากจิตจากใจ
นัน้ ช่อื วา
ปฏบิ ตั ิศาสนา
เปนควาย เปนชาง เปนมา เปนโค กระบือ ก็ทําไมได เพราะ
พระศาสดากม็ อบธรรมะคาํ สงั่ สอนจะไปปรนิ พิ พาน จะมอบธรรมะ
คําส่ังสอนธรรมวินัยใหเปนพระศาสดาแทนพระองค ถึงพระองค
จะดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน พระองคก ไ็ มไ ดเ อาไปดว ย เพยี งแตท ง้ิ ไวก บั
โลกนี่แหละ แตโ ลกไมเ อา ศาสนาเจรญิ ใจคนไมเ จริญ แตถ า ใจคน
มีหิริโอตตัปปะ คือมียางอายตอบาปตอกรรม ไมกลาทําความผิด
ชั่วชาลามกตอหนาและลับหลัง มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
สงสารเพื่อนมนุษยตาดําๆ ดวยกัน ไมอิจฉาตารอนกัน อยูกัน
ดวยความผาสุก มันก็สงบน่ันละ ถาไมสามัคคีกันก็วุนวาย กูดี
มึงดี กูเกง มึงเกง กูสติดี กูปญญาดี กูหาทรัพย กูหาสมบัติได
เอามาอางกนั ผลสดุ ทา ยสง่ิ เหลานกี้ เ็ อาไปไมไ ด
สง่ิ เดยี วทท่ี าํ ได ถา เปน เงนิ ทองของขาวเรากม็ าใหท านการกศุ ล
อยางนแ้ี หละจะติดสอยหอ ยตามเหมือนเงาตามตวั ตกอยแู หงหน
ตาํ บลไหน บญุ เหลา นจี้ ะประคบั ประคองใหเ ราอยเู ยน็ เปน สขุ ถา บาป
มีแตเผาใหรอนอยูอยางน้ันนะ เหมือนเราไปตากแดดเดือนเมษา
๒๗
มิถนุ า นี่นะ ฤดูรอ นก็ตองรอ น ไฟกเิ ลส ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ
ไฟราคะมันก็เผาจิตของผูหญิงผูชายมนุษยนอยใหญไมเลือกหนา
เลือกตา ไมวาช้ันวรรณะไหนมันก็ไมเลือก เพราะสิ่งเหลาน้ีมัน
ประจํามาแตไหนแตไร เราจะฝนอารมณขมนิวรณจะหนีจากมัน
แตก อ นเรากค็ อยดาํ เนนิ มาตามกเิ ลส มนั สอนอยา งไรกเ็ อาอยา งนน้ั
ของใครกไ็ มร ลู ะ กคู วา เอาจบั ไดก เ็ อาไปเลย มนั กเ็ ดอื ดรอ น ของเขา
เขากเ็ สยี ดาย ของตวั ตวั กเ็ สยี ดาย มนั ไมค ดิ เสยี อยา งนี้ บางคนกโ็ ลภ
จนตาดําตาแดงอยากไดแตของเขา ถาเขามาเอาของตัวหนาบูด
หนา เบย้ี วมนั ไมค ดิ เอาของเขาเขากเ็ สยี ดาย ของเราเรากเ็ สยี ดาย
ถามันคิดอยางนี้ มันคงไมกลาเอาหรอกทุกส่ิงทุกอยาง ลูกเขาก็
ไมก ลา เอา ผวั เขากไ็ มก ลา เอา เมยี เขากไ็ มก ลา เอา เขามยี างอายตอ
บาปตอ กรรม มนั ทาํ ไมไ ดม นั เดอื ดรอ น ถา คนมนั ทาํ ไดอ ยา งน้ี มนั ก็
มคี วามสงบสุข “สมัคคานงั ตาโป สโุ ข” ความพรอมเพรียงนํามา
ซงึ่ ความสขุ สขุ ทไ่ี หนสขุ ทใ่ี จ ทกุ ขท ไ่ี หนทกุ ขท ใ่ี จ ใจนแี่ ลเปน ตวั ทกุ ข
ความพน ทกุ ขอ ยทู ใี่ จ สขุ กอ็ ยทู ใี่ จ บาปกอ็ ยทู ใี่ จ บญุ กอ็ ยทู ใ่ี จ อะไร
มากกวา กนั สงิ่ นน้ั มนั ชนะ ถา บาปมากบาปกช็ นะบญุ ถา บญุ มากก็
ชนะกเิ ลส ชนะความชว่ั ชา ลามก ถา มนั ชนะไปแลว กเ็ อากลบั คนื มา
ไมได จมูกมันหักปากมันก็พังแลว ปากกิเลสก็พังแลว เหลือแต
คุณงามความดี พูดกันดวยความไพเราะเสนาะโสต ไมอิจฉา
ตารอ น เมตตาซงึ่ กนั และกนั อยกู นั ดว ยความผาสกุ อยา ไปแตกแยก
สามคั คกี นั ทาํ แตค ณุ งามความดพี รอ มเพรยี งเรยี งหนา กนั ศาสนา
มนั กเ็ จริญนะ
๒๘
ศาสนามันเสื่อมทุกวันน้ีเพราะคนไมหันหนาเขาสูศาสนา
หันหลังเขาสูศาสนา หันหนาไปหาโลก หาความม่ังความมีม่ังค่ัง
สมบรู ณอ ยา งโนน อยา งน้ี ใหไ ปหาอยไู มใ ชห า มไมใ หห า หาทางโลก
ไปดวยเปนผูมีศีลมีธรรม อยาเอาความโลภไปหา มันไมรูวา
ของใครหรอก มนั เอาไปหมดละ ความโลภนะ มอบใหห มดในโลกนี้
มันก็ยังไมพอ ความโลภนะมันยิ่งใหญไพศาล “โลโภ ธัมมานัง
ปรปิ น โถ” ความโลภเปน อนั ตรายแกธ รรมทง้ั หลาย ถา ไลค วามโลภ
ความหลงออกจากจิตจากใจ จิตใจก็หมดจากสิ่งเหลานี้ เหลือแต
คุณงามความดีบริสุทธิ์ผุดผองสะอาดสะอาน ถาเปนทองนากก็
ทองนากเต็มตัว ถาเปนทองคําก็ทองคําเต็มตัว ถาเปนเหล็กไหล
กเ็ ปนเหล็กไหลเตม็ ตัว ถาเปนพลอยก็เปน พลอยเต็มตัว ไมมอี ะไร
มาเจือปน “ชําระสะสางของชั่วชาลามกออกจากจิตจากใจ”
นั้นช่อื วา “ปฏิบตั ศิ าสนา”
ศาสนาคือคําสอน สอนใหค นดี ใหล ะชัว่ ชัว่ มนั ไมด ี ถาเกิดมา
ก็ทําใหเราเดือดรอน คนเดือดรอนกับคนสบายอะไรมันดีกวากัน
คนอยูในเรือนจํากับคนอยูนอกเรือนจําอะไรมันดีกวากัน คนที่
เขายิงเปาทิ้งกับคนที่เขาไมมีกรรมมีเวรความชั่วชาลามกประจํา
จิตประจําใจ อยูก็อยูเปนสุข นอนก็นอนหลับหูหลับตาดี ไมได
ต่ืนเตนผวา ถามีความชั่วชาลามกติดมือติดตีนละ เจาหนาที่
เขาเดินอยูรอบโลกก็ตื่นแลวทางนี้ มันมีของชั่วชาลามกติดตัว
ติดกระเปาติดตนไป น่ีเรามีกิเลสตัณหาติดตนติดตัวเขาไปหา
นักปราชญบัณฑิตก็กลัวทานจะทักทวงอยางโนนอยางนี้ มันมี
๒๙
ความละอาย นม่ี ีความช่ัวชาลามกมันละอาย แตมันยังทํา เพราะ
ไมร ูจ ริง ถือวา ส่งิ เหลา นั้นเปน ของดบั ของดีของวิเศษวโิ ส
เราเปนชาวพุทธ พุทธะแปลวาผูรู พุทโธแปลวาผูรู ถาผูรู
จะไกลจากผูหลง รูแลวก็ทําใหมันเดนดวงขึ้นไปทุกเวลาทุกนาที
ก็ยง่ิ ดี รบี ทําเขา อยา ไปรอวันรอเวลาผัดวนั ประกนั พรงุ ความตาย
มนั ตายไดท ุกเวลา ถาหมดลมหายใจเมือ่ ไหรก็ตายเมื่อนั้น อยดู ๆี
กต็ าย นอนหลบั ไปกต็ ายไปเลยกม็ ี อยใู นครรภข องมารดายงั เลก็ ๆ
อยเู ลย เกดิ แทง ขน้ึ มา ถา เกดิ เอายาไปกนิ ใหล กู ตาย หาทเ่ี กดิ ยากนะ
ถาเราเกิดมาเปนมนุษยเปนคนก็รีบทําใหมันเกิดมันมี อยาผัดวัน
ประกนั พรงุ งมงายอยใู นความลมุ ความหลง มวั เมาประมาทเลนิ เลอ
เผลอตัวนอนหลบั ทับสิทธิ์ไมเขา เร่ือง
เรารีบทําคุณงามเสียแตในวันนี้ รูแลววาความตายจะ
มาถึง ใหระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเขาออก ใหมัน
ปลุกจิตปลุกใจใหมันต่ืน มันกลัวจะตายมันก็รีบทําคุณงาม
ความดี ไมป ระมาทนอนใจเลนิ เลอ เผลอตวั ตวั กลวั จะไมต าย
มันตายแนนอนแหละ ตายชาตายเร็วตางกัน ทุกคนจะตอง
ตาย อาตมาก็ย่งิ จะตายเรว็ กอนใครทง้ั น้นั ละ เอาความตาย
มาเปนบริกรรมใหสอนใจ มันจะไมน อนหลบั ทบั สทิ ธิ์ ถาเรา
นอนหลับทับสิทธิ์มันเสียเวลาเสียชาติท่ีเกิดมาเปนมนุษย
พบพทุ ธศาสนา
พระพทุ ธเจา ไมใ หป ระมาทนอนใจ ใหม นั รไู ป เปน เดก็ เปน เลก็
เปนหนุมเปนสาวนะยิ่งดี เกิด ๗ ป ๘ ป ใหไดเปนพระโสดา
๓๐
มีสตปิ ระจาํ จิตประจาํ ใจ
สตแิ กกลากลายเปนปญ ญา
นตั ถิ ปญ ญาสมา อาภา
แสงสวา งเสมอดวยปญ ญาไมมี
เปน พระสกทิ าคา พระอนาคา พระอรหนั ต มนั คงจะดี บา นเมอื งคงจะ
สงบรม เยน็ อยไู หนกไ็ มเ ดอื ดรอ น ไวเ นอื้ เชอื่ ใจกนั ได อยดู ว ยกนั ฉนั
พ่ีฉนั นอ ง ไมคดไมงอในกระดูก ในตับ ในไต ในไส ในพงุ มนั ไวใ จ
ไมไ ดห รอกความคดความงอเนยี่ ความเอาเปรยี บเอารดั เนย่ี สาํ คญั
ท่ีสุดนะ กูดีมึงดีกูเกงมึงเกงเน่ีย ถาตัวเอาของเขามากินไดก็วา
ตัวเกงแลว หลอกลวงหนาเฉยเอาไปอยางเคย ลักเอาไปก็มีนะ
พอไปเห็นกอนเน้ือนะก็คาบเอาไปเลย ของใครไมรู ใหเปนคน
ซือ่ สัตยสจุ ริต กายกส็ ุจรติ วาจาก็สุจรติ ใจกส็ จุ รติ นีพ่ ระพุทธเจา
สอนอยา ใหไ ปทจุ รติ ทจุ รติ นะ ฝา ยบาป มนั โลภของคนอน่ื นะ ทจุ รติ
สจุ รติ นะ มนั ดแี ลว อะไรมนั กส็ จุ รติ หมด จติ กบ็ รสิ ทุ ธ์ิ วาจากบ็ รสิ ทุ ธิ์
ใจก็บริสทุ ธ์ิ กายก็บรสิ ุทธิ์ ไมเปรอะไมเ ปอ นอะไร สไี หนกไ็ มเปอ น
จติ กข็ าว จติ กส็ ะอาด ถา จติ ขาวจติ สะอาด อะไรเกดิ มากร็ ู อะไรเกดิ
มากเ็ ห็น มันจะไดสอนจิตสอนใจไมใ หไ ปยดึ ไปถอื ถา จติ มนั ถือมัน
เปนทุกข มันหนัก เราหาบของหนักๆ นะ ถาวางไปเม่ือใดก็เบา
เมื่อน้ัน ถาแบกกอนหินหรือกระสอบขาวก็ดี ถามันหนักก็ท้ิงลง
๓๑
จากบานะ อยาไปยอมใหมันท่ิมถาหาบอยูอยางนั้น ถึงวาตน
มีกําลังวังชามากมายกายกอง มันจะตายกอนนะ คนอยางนั้น
คนประมาทนอนใจเลินเลอ เผลอสติ
มีสติประจําจิตประจําใจ สติแกกลากลายเปนปญญา “นัตถิ
ปญญาสมา อาภา” แสงสวางเสมอดวยปญญาไมมี ถาปญญา
เกิดแลวก็มีแสงสวางเกิดขึ้นนะสิ ธรรมก็ไหลเขามา ไหลเขามา
ดวงใจ ดวงใจถา มนั ดี ดวงใจถา มนั ชว่ั ถา เกดิ มาเวยี นวา ยในภพนอ ย
ภพใหญก ็เรือ่ งของใจ เร่ืองของกายมนั ไมทนทานเทาไหร เดี๋ยวก็
แตกดับไป มรดกตกทอดบนกรรมฐานพระบรมศาสนา หรือบิดา
มารดาปน มรดกตกทอดให อาการ ๓๒ ตา หู จมกู ลิ้น กาย ใจ ผม
ขน เล็บ ฟน หนงั เนื้อ เอน็ กระดูก น่ีของมารดาของบิดาปน ให
สิ่งเหลานี้แตกดับแตจิตใจไมแตกไมดับ กอภพกอชาติ ชาติน้ี
ชาตไิ หนกต็ ัวจิตตวั ใจที่มนั หลงนะ คนเรากม็ ีกายมีใจ ถา ไมมใี จอยู
มันก็พูดไมไดนะ ตองนอนทับถมแผนดินแลวน่ี เปอยเนาผุพัง
ไปแลว น้ําเหลืองน้ําเนาก็ไหลออกมาเหม็นสาบถึงพรหมโลกโนน
เหม็นขางลางถึงอเวจีมหานรกโนน ไมเหมือนคนมีศีลมีธรรม
มนั หอมไปทวนลมและใตล ม ดอกไมน ่ีหอมตามลม มันหอมเหนือ
ลมไมไ ด เรื่องของคนทาํ คณุ งามความดี คุณงามความดเี กดิ อยู
ที่ไหน เกิดอยูในดวงจิตดวงใจของคนไหน หอมไปได
ทุกทิศทุกทาง หอมแตอเวจีถึงพรหมโลกโนน มันของดี
ของดีไมชอบหรือ ถาชอบของดีก็ทําของดีนะ ดีกับชั่วก็คูกัน
ถารูจักความก็เลือกเอาแตความดี ความชั่วก็ทิ้งมันไปเสีย เราก็
๓๒
ครองมานานแลว เราก็ทงิ้ ไปเสยี ที ไมม ีความสุขอะไรหรอื ทง้ิ ไมได
เสียดายอยู กลัวจะไมไดเปนเศรษฐีกุฎมพีเหมือนเขา มันชอบ
อยหู รอื ชอบอยู ขา พเจา ยงั ไมไ ดเ ปน เศรษฐี ไมไ ดม งั่ ไมไ ดม แี สนลา น
โกฏเิ หมอื นเขา บา นเรอื นกย็ งั ไมม ี ๒๐ ชน้ั ๓๐ ชน้ั ยงั ไมม เี หมอื นเขา
แคไหนถาใจยังทุกขนะ ข้ึนรถลงเรือไปเหนือมาใต ถาใจยังทุกข
มันก็ทุกขน่ันนะ ถาใจมันสุข น่ังอยูในที่ดินในโคนไมมันก็สุขอยู
นั่นนะ อยูในรมไมมันก็มีความสุข อยูในท่ีแจงมันก็มีความสุข
อยใู นถ้ําในเหวกม็ คี วามสขุ ถา ในใจทุกข ไปไหนมาไหนมนั กท็ ุกข
เพราะใจเปนตัวทุกข ความพนทุกขก็อยูที่ใจน่ีเอง ถาไปหาที่อ่ืน
ไมเ จอนะ
รีบกระทําคุณงามความดีเขามันไมใชเร่ืองใหญหรอก สอน
เด็กนอยยังไมยาก ถาสอนคนแกคนเฒามันยาก เฒาแกบางคน
กส็ อนงา ยอยู บางคนกส็ อนยากแสนยาก รบี ทาํ เขา ไป นเี่ ทศนส อน
ผปู ฏบิ ตั ิ ถา เทศนค นนสิ ยั ออ นๆ นะเทศนแ ตท านแตร กั ษาศลี นนั่ นะ
นี่มนั เทศนพ วกภาวนา ภาวนามาหลายปห ลายเดือนกเ็ ทศนพ วก
ภาวนา ถานิสัยยังออนอยูก็เทศนใหนิสัยมีทาน ถาไมมีศีลก็สอน
ใหมีศีล ทําสมาธิไมเปนก็ทําสมาธิใหมันเปน จิตไมเคยสงบสงัด
ก็สอนใหจิตสงบสงัด เอาคําบริกรรมมาผูกมัดรัดรึงมันไว อยาให
มันทองเท่ียวไปภพนอยภพใหญ มนั รอู ยกู ับนี่ เกิดอยกู ับน่ี ดับให
มนั ดับกับนีใ่ นรา งกาย
๓๓
ถา จติ ของคนไหนออกจากรา งกายคอื ทงั้ คหู า ยอ มถกู หว งแหง
มาร ถกู รปู ถกู เสยี ง ถกู กลน่ิ ถกู รส โผฏฐพั พะ ธรรมารมณ ไปไถนา
ตรงโนน ตรงนอี้ ยู ผลสดุ ทา ยกจ็ มอยนู ่ี ในวงั วฏั ฎะวนนน่ี ะ อยา งไหน
จะขามวัฏฏะวนไปได รีบทําใหมันเกิดใหมันมี ไมมีก็ทําใหมันมี
มนั มแี ลว กท็ าํ ใหม นั แกใ หม นั กลา สามารถอาจหาญชาญชยั เปน จติ
นักปราชญ ปราชญกป็ ราชญจริงๆ อยา ปราชญเลน
เอาใหมันจริงมันจังลงไป คนเราทําจริงทําจังได เปนสุนัข
เปนโค กระบอื เปน ปู เปน ปลา เปนกบ เปนเขยี ด เปนนก เปน หนู
มันทําไมไดหรอก เราจะทําได ดีก็ทําได ผิดก็ทําได ถูกก็ทําได
รีบกระทําบําเพ็ญใหมันเกิดมันมีภายในจิตในสันดาน รีบสรางสม
บารมีใหมันแกกลา ถาบารมีแกกลาไมไดหายากเทาไรหรอก
เงินทองของขาวมันคอยเปนเครื่องแมเหล็กดึงดูดเขามาสูหัวใจ
ของเรา ทาํ ไมส มพอไดก ไ็ ด เพราะบญุ บญุ เปน ของดี บาปเปน ของ
ชวั่ ชา นกั ปราชญต าํ หนติ เิ ตยี น คนพาลสรรเสรญิ ความชวั่ ชา ลามก
ปลนไดลักไดขโมยของผูอ่ืนไดสรรเสริญกัน นั่นพวกอันธพาลนะ
คนดีบไดสรรเสริญเชนน้ัน สรรเสริญคนมีศีลมีธรรม สรรเสริญ
ผูบริสุทธ์ิผุดผอง สรรเสริญคนมีศีลมีธรรม สรรเสริญผูบริสุทธ์ิ
ผุดผอง ตรงไปตรงมา บใหมันงอมันเงี้ยว ถามันงอ มันดัดยาก
๓๔
ดัดแลวหักซ้ํา ไมซ่ือกับไมคดอันไหนมันงามกวากัน คนซื่อกับ
คนสอ คนโกงอันไหนมนั ดกี วา กนั เด๋ยี วนี้ ผูใด__ไปบานไหนกม็ แี ต
ตมแตตั๋ว ไผจะเช่ือหัวมัน พูดบตรงไปตรงมา คําพูดก็อยางหน่ึง
การทําก็อยางหนึ่ง สัมมาวาจานี่มันวาจาพูดแลวกายก็ทําคือ
วาจาทาํ สัมมาวาจามนั สิเขาในองคม รรค มันบมอี ยางอ่นื หรอก
การภาวนาคือเฮานี่ละมาทําจิตทําใจทํากายของเรานี่ใหมัน
สะอาด บแมนเวาเร่ืองสวรรคเมฆไหลอยูพูน มันบถืกนะ มาเบิ่ง
เจาของหัวใจน่ี “โอปนยิโก” นอมเขาสูดวงจิตดวงใจของเรา
“ปจจัตตัง” มนั ถงึ เกิดขึ้นมา ใหร ใู หเหน็ เหน็ ของแปลกๆ ตา งๆ
บเคยรูมันสิรูข้ึนมา รูแจงแทงตลอด รีบทําคุณงามความดีเสียแต
วันนี้ อยารอใหความตายมาถึงกอน มันจะเสียทีท่ีบิดามารดาปน
มรดกตกทอดมาให ใหมาคามาขาย สิยอมขาดทุนหรือตองการ
มีกําไร ถาตองการมีกําไรก็รีบทําเสีย อยาไปนอนใจ อยาไป
ผลัดวันโนนวันน้ี มันคาดเดาไมไดสิ่งเหลาน้ี อายุจะเทานั้นเทานี้
มนั กาํ หนดไมไ ด ความตายมนั ไมไ วห นา ใครทงั้ นน้ั ละ เจา ใหญน ายโต
พระสงฆอ งคเ ณร ราชามหากษัตริย ตายไดทง้ั นั้น
๓๕
อยาไปเบิ่งไกลหลาย
บญุ ก็อยูหัวใจคน บาปก็อยหู วั ใจคน
สวรรค นรก ก็อยูนล่ี ะ
จะพนก็พน อยูนี่ บพ นกบ็ พนอยนู ี่
มันบพน อยทู ช่ี ้นั ดาวดึงสห รอื พรหมโลกหรอก
พนก็อยูในหัวใจเจา ของนล่ี ะ
๓๖
»¨˜ ¨ÑµµÑ§
â´Â ËÅǧ»†á٠ʧ ÞÒ³ÇâÃ
ô ¸¹Ñ ÇÒ¤Á ¾.È. òõôõ
พระศาสดาองคส มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา ประสทิ ธป์ิ ระสาท
กลอมเกลาจิตใจของเราใหสะอาดสะอานและต้ังมั่นลงเปนสมาธิ
จติ ใจจะไดร ดู ี รชู ว่ั รผู ดิ รถู กู รฉู ลาด หรอื โงเ ขลาเบาปญ ญากด็ ี เฉลยี ว
ฉลาดอาจหาญกด็ ี กเ็ พราะเราอบรมบม นสิ ยั เรามศี รทั ธาความเชอื่
ความเลื่อมใสแลว ก็มีวิริยะความพากความเพียรประกอบเขาใน
จิตในใจของเรา อยาใหขาดเสนขาดสาย ทําใหติดตอกันทุกวันๆ
ทกุ เวลานาที ทกุ ลมหายใจเขา ออกกย็ งิ่ ดี เพอื่ มนั จะไดไ มม ชี อ งโหว
กเิ ลสจะไมม าแทรกซอนเขา มชี อ งโหวม ชี อ งขาด สตสิ ตงั อยา ใหข าด
พยายามตงั้ ใหมั่นใหเหนยี ว อยา งอ นแงน คลอนแคลน พอดีก็ถอย
หนาถอยหลัง จะเอาก็ไมเอาจริง ทําเลนๆ ทําเหยาะๆ แหยะๆ
แลว กเ็ ลกิ ราพาจากไป กเิ ลสกห็ มุ หอ ยงิ่ หนากวา เกา ถา ทาํ อยา งนนั้
ถาทํากท็ ําจริง ไมใ ชของทาํ เลน ๆ นะ
๓๗
เรื่องของคําสอนของพระบรมศาสดาเปนเร่ืองของจริงของจัง
พระองคท ํามารอดลม รอดตาย สรา งบารมีกร็ อดลม รอดตาย ทกุ ข
แสนทุกข มีความเมตตาแกสัตวโลก หวังจะรื้อขนสัตวออกจาก
วัฏสงสารใหพนจากโอกแองแกงกันดาร เพราะโลกเราเกิดมา
กม็ าทกุ ขอยูอยา งนี้ ทุกขเ พราะความเกดิ ก็ดี ทุกขเพราะความแก
ก็ดี ทุกขเพราะความเจ็บไขไดพยาธิก็ดี ทุกขเพราะมรณะก็ดี
ลวนกองทุกขท้ังนนั้
ถา เราพจิ ารณาอะไรเกดิ ขนึ้ กด็ ี การกระทบกระเทอื นอฏิ ฐารมณ
อนิฏฐารมณ อารมณที่ชอบใจ อารมณท่ีไมชอบใจ ทําใหจิตใจ
เศราหมองขุนมัว ถามันเขามาถึงจิตใจของเรา ถาจิตใจของเรา
ไปยึดไปถือวาเปนตัวเปนตนเปนเราเปนเขาก็ย่ิงวิ่งตาม กอไฟ
กองใหญล กุ ทว มหวั เอาตวั ไปไมร อด เพราะกเิ ลสมนั เปน ของรอ นนะ
ถาเขาสูจิตสูใจของใครก็รอนอยูอยางนั้นละ ไมมีความสุขสบาย
เยน็ อกเยน็ ใจผอ งใสอะไรหรอก มแี ตค วามขนุ มวั อาฆาตบาดหมาง
เขา ทบั ถมจติ ใจ จติ ใจเปน อกศุ ล จติ ไมเ ปน กศุ ล กศุ ลคอื จติ เปน บญุ
กุศลแปลวาความฉลาด บุญคือความสุขกายสบายจิต ส่ิงเหลาน้ี
ก็เพราะเราทําเอาฝกหัดเอา ประพฤติปฏิบัติไมลดหยอนผอนผัน
หวังกาวหนาไปเร่ือยๆ ไป หวังชัยชนะ ไมหวังแพ ถาหวังแพ
อยา ทาํ ดกี วา กเิ ลสมนั จะหวั เราะเยาะเยย นะ ถา เราทาํ เลน ๆ ทาํ อะไร
ก็ทําใหมันจริงจังลงไป ใหมันเห็นแดงเห็นดําไป ไมใชทําเลนๆ
แตง านภายนอกกด็ ี โภคทรพั ยก ด็ ี เรากห็ ารอดลม รอดตาย อาบเหงอ่ื
ตา งนาํ้ ทาํ ไรไ ถนากด็ ี ทาํ รว้ั ทาํ สวน ทกุ สง่ิ ทกุ อยา งลว นแตล งกาํ ลงั
วังชาทุกสงิ่ ทกุ อยา งนี้
๓๘
จะไปหาบุญหาบาป
ทีไ่ หนอกี
มนั กเ็ กิดจากจิตนีแ้ หละ
ทรพั ยภ ายในยงิ่ ละเอยี ดกวา นน้ั ยงิ่ ดกี วา นนั้ กย็ ง่ิ ทาํ ยาก เพราะ
เปน นามธรรม มนั ไมม ตี วั มตี น มเี รามเี ขา มสี ตั วม บี คุ คล เพราะเปน
นามธรรมเฉยๆ ไมเ ปน ตนเปน ตวั เมอื่ โกรธขนึ้ มากเ็ ปน อกี อยา งหนงึ่
เมื่อโลภข้ึนมาก็เปนอีกอยางหนึ่ง เม่ือหลงขึ้นมาก็เปนอยางหน่ึง
ถา รขู นึ้ มา จติ กส็ วา งกระจา งแจง ฉายแสงออกมา ความผอ งใสความ
รมเย็นเปนสุขอยูภายในดวงจิตดวงใจของใครของมันละ ใครทํา
ใครก็ได ใครไมทําก็ไมได มัน “ปจจัตตัง” รูเฉพาะคนปฏิบัติ
คนไมป ฏบิ ตั มิ นั นอนอยเู ฉยๆ ทาํ ไมมนั จะรู ไมร อู ะไรหรอก รแู ตร ปู
แตเสียงแตกลิ่น ธรรมารมณ รักคนน้ัน ชังคนนี้ เกลียดคนน้ี
โกรธคนนี้อยู อยา งนั้นละ อิจฉาตารอ นเขาอยู ไมมธี รรมประจําจิต
ประจําใจ ถาคนมีธรรมประจําจิตประจําใจคงจะไมเปนอยางน้ัน
ยิ่งธรรมเขาแทรกสิงจิตใจ จิตใจก็มีแตความเมตตาปรานี เมตตา
กรณุ า มทุ ิตา อุเบกขา อยูภ ายในดวงจิตดวงใจ ไมท าํ จิตใจของตน
ใหวุนวาย น่ันคนไมรูเร่ืองเดียงสา จะทําใหมันขุนมัวทําไม จิตใจ
เปนอกุศล บาปมันเกิดขึ้นไมรูบาปเหรอ ถาจิตรอนมันเปนบาป
จิตผองจิตใสจิตสงบสุขน้ันละจิตเปนบุญ จะไปหาบุญหาบาป
ท่ีไหนอกี มันกเ็ กิดจากจิตน้ีแหละ
๓๙
บุญบาปก็ดี สวรรคนรก มันก็เกิดจากจิตจากใจ ตัวทําไมได
ก็หาวาของไมมี ไมเปน ไมไป เอากิเลสตัวไปวัดคนอ่ืน อยางนี้
มันใชไมไดนะ ทําไมไดก็วาทําไมไดยังจะดีกวา คนทําไดก็มีอยู
นักปราชญบัณฑิตก็มีอยู ถามีนักปราชญก็มีอันธพาลมากอกวน
ทุกส่ิงทุกอยางพระศาสดายิ่งไดรับความทุกขทรมานแสนทุกข
ทรมาน พระองคไมไดทําอะไร มีแตเมตตาแกสัตวโลกแกสงสาร
ก็ยังหาวาพระพุทธองคไปหานางมาคันทิยะ มารลูกมารหลาน
นางจญิ จมาณวกิ ากด็ ี หาเรอ่ื งใสพ ระองค บาปกต็ ามสนองแผน ดนิ
ก็สูบเทานั้นลงพื้นปฐพีอเวจีมหานรกโนน เปนพ่ีนองกับเทวทัต
อยูน ั้น หมกมนุ อยู กเ็ พราะเราไปดแู ตข องภายนอก มันจะดี จะช่ัว
จะผิด จะถูก ก็เรื่องของเขา เรื่องของตัวใหหม่ันชําระจิตของเรา
ใหผ อ งแผว ปราศจากมลทนิ อยเู ปน นจิ ใหใ จใสอยเู ปน นจิ เอาเรอื่ งราว
คนอ่ืนมาทับถมใจตนเอง คนไมรูเร่ืองเดียงสา ถารูเดียงสา ดีก็
เรื่องของเขา ชัว่ กเ็ ร่ืองของเขา ทาํ ไมเกบ็ เอามาใสจ ิตใสใจของเรา
ใหเ ศราหมองขนุ มวั เปน บาปเปน อกศุ ล ส่งิ เหลา นน้ั มันไมดี ถา ดกี ็
ทําจติ ของเราใหส ะอาดสะอาน ถา เปนผา เปน แพรก็ยอมสยี อ มสัน
ดกู ส็ วยกง็ ามดี ถา ยงั มจี ดุ แดงจดุ ดาํ ดกู ไ็ มส วยไมง าม เปน เสอื โครง
เสอื เหลืองไปหมดนะ
ถาตองการใหธรรมะเขาสูจิตสูใจ ทําจิตใจใหสะอาดบริสุทธิ์
อยเู ปน นจิ สะอาดอยเู ปน นิจ “สพั พปาปส สะ อกรณัง กสุ ลัสสู-
ปสมั ปทา สจติ ตปรโิ ยทปนงั เอตงั พทุ ธานะ สาสนงั ฯ” คนไหน
หม่ันชําระจิตเจาของใหผองใสอยูเปนนิจ ใหสะอาดอยูเปนนิจ
๔๐
คนนั้นช่ือวาทําตามคําสอนของพระศาสดา พระศาสดาไมไดสอน
วาทําจิตใหเศราหมองนะถึงจะไดไปสวรรคนิพพาน มันจะไปนรก
อเวจี พระพุทธเจาสอนใหทําดี ละชั่ว ประพฤติดี สิ่งไหนไมเกิด
ทาํ ใหม นั เกดิ มนั มี ใหม นั เจรญิ อยา ใหอ ยอู ยา งเกา พยายามสงั่ สอน
ตวั เอง นาํ ธรรมะคาํ สอนของพระศาสดามาสอนหวั ใจตวั เอง ตวั ไมร ู
ก็อาศยั พระพทุ ธเจา พระธรรม พระสงฆ เปนสรณะทพ่ี ึ่งบนดวงใจ
จิตใจจะไดผองไดใส สิ่งไมรูก็จะไดรูไดเห็น มันก็ประหลาดไป
ทุกวนั ๆ ถาเราจะเดินทางนะ เราผา นบา นโนนบา นน้ไี ป มนั ก็เหน็
เรอ่ื ยไปจนหมดทผ่ี า น มนั กห็ ยดุ แลว นี่ ไมไ ปไหนมาไหน อยตู วั แลว
ถาเรายังมีกิเลสตัณหาอยูน้ี ถายังตองผานโนนผานนี้ ผานดี
ผานชั่ว ผานผิดผานถูกอยูนี่ มันเกิดมาใหเห็นอยูนี้ คือปลาท่ีอยู
ในนํา้ มนั มปี ลาอะไร ปลานอย ปลาใหญ อยใู นสระกด็ ี อยใู นทะเล
ก็ดี อยูในลําโขง ลําชี ลํามูลก็ดี มันก็ตองโผลหัวขึ้นมาหรือมา
กระดิกน้ําวนใหคนไดเห็น ถามันไมมี มันก็ไมมีอะไรจะมาวาย
ที่หัวใจเราน่ีแหละ กิเลสมันหมดแหละ กิเลสมันมีอยูนะอยาไป
เขาขางกิเลส มันเสียเปรียบ อยาไปเขากิเลส มิจฉาทิฏฐิ ความ
เหน็ ผิดจากทาํ นองคลองธรรม มนั บาปหนกั บาปหนา วา บาปไมม ี
บุญไมมี สวรรคไมมี นรกไมมี ตายแลวสูญ ใครทําดีก็ไมไดดี
ใครทาํ ชว่ั กไ็ มไ ดช ว่ั อยา งนเี้ ปน มจิ ฉาทฏิ ฐิ บาปหนกั ยง่ิ กวา เทวทตั
เสียอกี อยา ไปทาํ ใครจะทําอยางน้นั ยังไปทาํ ฝน ความเปนจรงิ อยู
มันมีอยู ของเรานดี่ ูใจของตวั ทําไมไมดู บางทีมันก็ผองใส บางที
มันก็เศรา หมอง บางทมี นั กพ็ อผอ งใสอยู พอดพี องาม จติ อยปู กติ
๔๑
ทกุ ขเกิดขนึ้ มากําหนดรู
กาํ หนดอยูอยางน้นั ละ
ถาเห็นทุกข
จิตจะไดถอนจากทุกขหนี
ไมคิดโนนคิดน้ี ไมไดไปหาเรอ่ื งหาราว หาโทษหาภัย หาสกุ หาดบิ
ใสใคร ปรบั ปรงุ จิตใจของเจา ของใหม ันมี ใหมันแหลมคม ใหมันรู
มันจะไดปลดไดปลอยไดวางความช่ัวชาลามกออกจากดวงจิต
ดวงใจ จิตใจจะไดสะอาดสะอาน จิตใจจะไดรูถึงธรรมะคําสั่งสอน
ของพระศาสดาสอนใหพ น ทุกข ถา เราจะปฏบิ ตั ิเพื่อถอดเพือ่ ถอน
ไมใ ชป ฏบิ ัติเพ่อื กอบเพ่ือโกยเขา สูดวงจติ ดวงใจ
ถา คนไหนหมน่ั เอาของชว่ั ชา ลามกมาใสจ ติ ใจ ทาํ บาปดว ยนนั่ นะ
มนั ไมม แี สงสวา งขนึ้ ได มแี ตท างเสอื่ มนน่ั นะ ทาํ ใจใหจ ติ ใจใสสะอาด
อยาไปเอาเรื่องของคนอ่ืนมาใสตัวเอง ดีช่ัวผิดถูกก็เร่ืองของเขา
ไดเ สยี กเ็ ร่ืองของเขา เราพยายามทาํ กาย วาจา จติ ของเจาของให
บริสุทธ์ิอยูเปนนิจ มันก็พอแลว อยาเอาเรื่องของคนอื่นมาใสจิต
ใสใ จ จะดจี ะช่วั จะผิดจะถกู จะเขา ตาราง จะกินยาบา ยาบอ กเ็ รอ่ื ง
ของเขา อยา เปน คนเชน นน้ั เราอยา ไปนาํ มาสอนจติ สอนใจของตวั
พยายามถอดถอนความชว่ั ชา ลามกใหม นั หมดไป หมดกรรมหมดเวร
ไมม กี รรมมเี วรตดิ ตัวท้ังอดตี อนาคต ปจ จุบัน เราขยนั หมน่ั เพียร
๔๒
สอนจิตสอนใจของเจาของใหมันต่ืนอยูเปนนิจ ใหมันรูอยูเปนนิจ
เพ่ือธรรมะของพระองคจะไดสอนจิตสอนใจ จิตใจจะไดผองใส
มีแสงสวางเหมือนดวงอาทิตย พยายามทําใหมันเกิดมันมี ถายัง
ไมเกิดไมมีก็พยายามใหเปนคนหมั่นคนขยันหม่ันเพียร ขัดเกลา
เผากิเลสทม่ี ันเรา รอ นอยูเปน นจิ ทุกขเกิดขึน้ มากําหนดรู กาํ หนด
อยอู ยางนน้ั ละ ถา เหน็ ทุกขจติ จะไดถ อนจากทกุ ขหนี หนีจากทุกข
ใหได ทุกขเกิดอริยสัจขอท่ี ๑ กําหนดเขาไปอยาไปถอย ทุกข
เทาไหรย่ิงเปนฟนเปนไฟก็ย่ิงกําหนดเขาไปเขาไป ผลสุดทาย
เม่ือความรอนดับไป ความเย็นก็มาแทนท่ีมากกวาเกา “ตโป จะ
พรัหมจริยัญจะ” ผูใดมีความเพียรจะเผากิเลส กิเลสเรารอน
อยา ไปถอื ตวั เรารอ น กเิ ลสไมร อ นมนั อยไู มไ ด เผาเขา ไปเผาเขา ไป
มนั กเ็ ปน ปยุ เปน ผงไป ทกุ ขค วรกาํ หนดรู สมทุ ยั ควรปลอ ยควรวาง
ตัวของเราเปนกอนสมุทัยนะ อาการ ๓๒ ผม ขน เล็บ ฟน
หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ตับ ไต ไส พุง อาหารเกา อาหารใหม
ทุกขมันเกิดจากกอนสมุทัยนี่นะ กอนเทาน้ีแหละ ผูหญิง
ผูชาย เด็กใหญ เด็กนอย ก็เกิดจากกอนเนาเนี่ยแหละ เดี๋ยวก็
เปนโรคอันนั้น เด๋ียวก็เปนโรคอันนี้ มันเกิดจากที่นี่เอง กําหนดรู
นโิ รธ ทําใหม นั แจง ถามนั แจงก็เปน นโิ รธได มรรค ปฏบิ ตั ิใหถึง
ความดบั ทกุ ข แคน ถ้ี า ไดเ ขา ไปถงึ อรยิ สจั ๔ มนั สวา งเอง มนั เหน็ เอง
มันเปนเอง เราทําต้ังแตตนเหตุ ทีแรกเราก็ขยันหมั่นเพียรทํา
ไมมีคืนมีวันนะ ทําความเพียรเอามาก เหตุผลมันเกิด เกิดขึ้น
มามากเลย ขอใหทําจริงเถอะ มันมีอยู ถาส่ิงไหนไมมี พระองค
ไมสอนหรอก พระองคส่ังสอนเพราะความเมตตาแกสัตวโลก
๔๓
แกสงสาร สตั วโ ลกชอบเท่ียวในวัฏสงสารนี่ หมุนไปเวียนมา ไมร ู
จกั สนิ้ จกั จบ ไมร ทู างออกทางเขา พระองคก เ็ ลยมาแนะนาํ พรา่ํ สอน
สรางบารมี หวังวาจะรื้อสัตวทุกตนทุกตัว มันรื้อไมได พูดไปเขา
กไ็ มฟ ง ไมฟ ง พระองคก ถ็ อน ชกั สะพานทงิ้ สอนเอาแตค นทสี่ อนได
คนสอนไมไ ดก ช็ ักสะพานท้ิง ปลอ ยทิง้ ไปตามยถากรรม
“กัมมุนา วัตตตี โลโก” สัตวโลกยอมเปนไปตามกรรม
กรรมทาํ ดี กรรมทําชว่ั กรรมทําผดิ กรรมทําถูก เจา ของรับเอาเอง
ใชเอาเอง ไมมีใครไปทําใหหรอก เจาของทําขึ้นมาก็รับผลเอง
สุขทุกขก็ดี ผิดถูกเจาของก็รับเอง โทษภัยทุกสิ่งทุกอยางตัวเอง
ทําขึ้นมาก็รับ ไมมีใครอาสาขันทําให ทําใหมันหยุด ทําใหมัน
สวางไสวเอง ตวั เองทาํ มันถึงจะสวา งไสวข้ึนมา ย่งิ ขยันหมนั่ เพยี ร
เทาไร กองทุกขมันก็ลดนอยถอยลงไป ธรรมเขาไปสวมจิตสวม
ใจมากเทาไร กิเลสก็เหลือนอยเขาไป ผลสุดทายก็หมดสิ้นไป
มันก็พนทุกขเทาน้ัน กิเลสไมหมดมันจะพนทุกขยังไง เพราะ
กิเลสเปนเหตุใหเกิดทุกขนะ เด๋ียวมันก็สอนอยางนั้นอยางนี้
มันเสี้ยมสอนมาหลายกัปหลายกัลปหลายอสงไขยพอแรงแลว
มันสอนนิดเดียวก็ฟงมันแลวเพราะเราโงเขลาเบาปญญา อวิชชา
ครอบงําจิตใจของเรามันจึงถึงมาเกิดมาแกมาเจ็บมาตายไมรูส้ิน
รจู บ บางทกี ม็ าเกดิ เปน สตั วเ ดรจั ฉาน นรก เปรต อสรู กาย สตั วน อ ย
สัตวใหญ ในน้ําบนบก เปนนก หนู แมลงวัน แมลงหว่ี มันเปน
ไดทุกอยาง ไมใชมาเกิดเปนคนไดอยางเดียว ถามาเกิดอีก
ถา ทาํ ไมด ี มนั ตกหนา ผาลงไปกเ็ กดิ ตาํ่ เปน สตั วน รก สตั วเ ดรจั ฉาน
๔๔
ทกุ ขอ ยูในขันธ ๕
รวมมาขนั ธ ๔
ทกุ ขใ นโลกนีม้ าโฮมนองผเู ดยี ว
มาโฮมขอยผเู ดียว
เปนนก หนู ชา ง โค กระบือ ปู ปลา ไปใหเ ขากิน ถา มันพน กรรม
มันก็จะเกิดเปนมนุษยเหมือนกัน มันยังไมพนจากกรรม มันไมรู
จะทําดีทําชั่วอะไร พระพุทธเจาไมไดสอนใหสัตวเหลาน้ีประพฤติ
ปฏบิ ตั ศิ าสนา พระองคส อนใหม นษุ ยน ะ รดู รี ชู ว่ั รผู ดิ รถู กู มบี รษิ ทั ๔
ภกิ ษุ ภกิ ษุณี อุบาสก อุบาสกิ านี่ละ คนจะรกั ษาศาสนา ถา ศาสนา
ยงั อยู บา นเมอื งกย็ งั พออยูไ ด ศาสนาหมดแลว จะฉีกเนื้อเถือหนัง
กันกินวุนวายไปหมด มีแตคนบาปหนาเห็นกันเปนผักเปนปลา
ความช่วั ไดเทาไรกไ็ มพอ ขนเทา ไรกไ็ มพ อ ไมมเี ตม็ เสียที ขนมา
เทา ไรกย็ ิ่งหมดไป มาไมถูกทาง ถา มาถกู ทางมนั ก็แกน อยู มาเปน
ขา วเปน ของสมบตั พิ สั ถานทกุ สง่ิ ทกุ อยา ง มาเปน ธรรมละ ก็ อยมู นั
ก็เยือกเย็น ไมรอน ถาไมมาจากธรรม มันรอน เขามาสูกระเปา
จบวันยันคํ่าคืนยันรุง ไมกี่วันไมก่ีนาทีมันก็หมดไปเอง มันมา
ไมเปนธรรม มันก็ไปไมเปนธรรมเหมือนกัน ถามาเปนธรรมมัน
ของเยอื กของเยน็ จะอยกู เ็ ปน ของเยน็ ของสริ มิ งคล อยา ไปเอาของ
ไมเ ปน ธรรมมา มนั เปน อปั มงคล อปั มงคลคอื ความเศรา หมองจติ ใจ
๔๕