The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tuahuay, 2022-12-18 19:20:26

รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพัฒนาและขับเคลื่อนการทำเหมืองในเมือง (Urban Mining)

สำนักกรรมาธิการ๑

2 บทท่ี 2
แนวคดิ กำรทำเหมืองในเมือง (Urban Mining) และกรณีศกึ ษำในต่ำงประเทศ

2.1 แนวคดิ และควำมหมำยของกำรทำเหมืองในเหมือง (Urban Mining)

ในระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ทั่วโลกมีการนาทรัพยากรธรรมชาติประเภทต่าง ๆ
มาใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพ่ือใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค
และสิ่งอานวยความสะดวกต่าง ๆ ท่ีมนุษย์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของ
ประเทศ โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นเฉล่ียร้อยละ 2.6 ต่อปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) ท่ีมีการนาทรัพยากร
มาใช้ประโยชน์ 27.1 พนั ลา้ นตัน เป็น 92.1 พนั ลา้ นตนั ในปี พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017) และหากพจิ ารณา
อัตราการเพ่ิมข้ึนต้ังแต่เข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 21 พบวา่ มีอัตราเพิ่มข้ึนเฉลี่ยร้อยละ 3.2 ต่อปี โดยมสี าเหตุ
จากความต้องการใช้ทรัพยากรเพอื่ พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและเมืองต่าง ๆ รวมท้ังยกระดับคุณภาพ
ชีวิตของประชาชนในแต่ละประเทศ (United Nations Environment Programme 2020) ซ่ึง Jacobs
(1969) ได้ให้ความเห็นในหนงั สือ The Economy of Cities ว่า ในอนาคตเมอื งตา่ ง ๆ จะกลายเป็นเหมือง
(Mines) ขนาดใหญ่ทม่ี ีความอดุ มสมบูรณ์ มีทรัพยากรหลากหลายชนิดเป็นจานวนมาก และท่ีสาคัญจะเป็น
แหล่งทรัพยากรท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดจะมีการนาทรัพยากร
เหล่าน้ีมาใช้ประโยชน์กลายเป็นแหล่งทรัพยากรใหม่ และในปี พ.ศ. 2531 (ค.ศ. 1988) ศาสตราจารย์
Michio Nanjo มหาวิทยาลัยโทโฮกุ ได้ให้ข้อมูลท่ีสอดคล้องกับ Jacobs ว่า ปรมิ ำณโลหะในผลิตภัณฑ์ท่ีไม่ใช้
งานแล้วหรือหมดอายุการใช้งานท่ีถูกทิ้งไว้ มีสัดส่วนมากกว่าปริมาณโลหะในแหล่งแร่ตามธรรมชาติ และ
ได้นิยามพ้ืนที่ที่มีการสะสมของซากผลิตภัณฑ์เหล่าน้ีว่า “เหมืองในเมือง (Urban Mines)” (Nakamura
and Halada 2015) ซึง่ ถือเปน็ การใชค้ าว่า “เหมืองในเมือง (Urban Mines)” อยา่ งเปน็ ทางการเป็นคร้งั แรก

จากแนวคดิ ของ Jacobs ในปี พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) ว่าเมืองจะกลายเป็นเหมือง (Mines)
ขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรหลากหลายชนิดท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ และกลายมาเป็นคาว่า “เหมืองในเมือง
(Urban Mines)” ของศาสตราจารย์ Michio Nanjo ในปี พ.ศ. 2531 (ค.ศ. 1988) แนวคิดน้ีได้รับการ
ยอมรับอย่างกว้างขวางต้ังแต่เข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศต่าง ๆ มีความต้องการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติเพ่ิมขึ้นเป็นอย่างมาก ขณะท่ีหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนา
ของโลกประสบปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญสาหรับใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิต
สินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น โดยเฉพาะ
ธาตหุ ายาก (Rare Earth Elements) หรือโลหะหายาก (Rare Earth Metals) เชน่ นโี อดเิ มียม ซาแมเรยี ม
เพรซีโอดิเมียม ดิสโพรเซียม เป็นต้น เน่ืองจากสาธารณรัฐประชาชนจีนซ่ึงเป็นประเทศผู้ผลิตโลหะหายาก
รายใหญ่ของโลกทีม่ ีสัดส่วนการผลิตกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณการผลิตท่ัวโลก ได้ลดปริมาณการส่งออก
โลหะหายากลง เนื่องจากปริมาณความต้องการในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนา
ของโลกได้ให้ความสาคัญกับแนวคิดนี้เป็นอย่างมาก เพ่ือลดการพ่ึงพาการนาเข้าแร่/โลหะจากต่างประเทศ
โดยใช้แหล่งทรัพยากรทดแทน (Secondary Resources) ทีม่ าจาก Urban Mines ซึ่งนอกจากจะเปน็ การ
ลดใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ยังสนับสนุนการเกิดการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน จากการ
ประเมนิ ของสถาบนั วัสดศุ าสตร์แหง่ ชาติ (National Institute of Material Science) ประเทศญ่ปี ุน่ พบว่า
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ท่เี กิดขึ้นในประเทศญีป่ ุ่น สามารถแยกสกัดเป็นทองคาได้ 6,800 ตัน ซ่งึ คิดเปน็ ร้อยละ



16 ของปริมาณทองคาสารองโลกท่ีทุกประเทศเก็บไว้เป็นทุนสารองระหว่างประเทศ ยังไม่รวมโลหะและ
วสั ดุอกี หลายชนิดท่ีสามารถแยกสกดั ไดจ้ ากขยะอิเล็กทรอนิกส์ (Kawakami 2010, Yu et al. 2011)

การทาเหมืองหรือการทาเหมืองแร่ (Mining) คือ กระบวนการนาแร่จากแหล่งแร่ธรรมชาติ
มาใช้ประโยชน์ ซ่ึงประกอบด้วยขั้นตอนท่ีสาคัญ ได้แก่ การสารวจหาแร่ (Prospecting) การสารวจแหล่งแร่
(Exploration) การประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตแร่ (Determining the Feasibility of Exploitation)
การพัฒนาแหล่งแร่ (Development) และการผลิตแร่ (Exploitation) กำรทำเหมืองในเมือง (Urban
Mining) เช่นเดียวกันกับการทาเหมือง (Mining) ประกอบด้วยขั้นตอนที่สาคัญ ได้แก่ การสารวจหาแร่ ซึ่ง
เป็นการสารวจหาพื้นท่ีที่เป็นเหมืองในเมือง (Urban Mines) การสารวจแหล่งแร่ ซึ่งเป็นการสารวจเชิง
ปริมาณและคุณภาพในพื้นที่ Urban Mines ที่มีศักยภาพ การประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตแร่ และ
การผลิตแร่ ซ่ึงเป็นการแยกสกดั แร่/โลหะจากซากผลิตภัณฑ์ท่ีไมใ่ ช้งานแล้วหรอื หมดอายุการใช้งานท่ีถูกทิ้ง
หรือเก็บรวบรวมและสะสมไว้ในพื้นที่ Urban Mines (Lederer et al. 2014, Lederer et al. 2016,
Lederer et al. 2020, Aldebei and Dombi 2021)

ดังน้นั การทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) ในความหมายอย่างกว้าง หมายถึง กระบวนการ
นาแร่ โลหะ รวมถึงวัสดุต่าง ๆ จากส่ิงที่มนุษย์สร้างข้ึนและไม่ใช้แล้วหรือหมดอายุการใช้งาน ซ่ึงส่วนใหญ่
จะถูกทิ้งหรือสะสมไว้กลายเป็นขยะหรือของเสีย (Waste) ในพ้ืนท่ีชุมชนเมืองหรือเขตเมือง (Urban Area)
กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ตัวอย่างแหล่งทรัพยากรของ Urban Mining เช่น ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์ (Waste Electrical and Electronic Equipment, WEEE) หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Waste หรือ E-waste) ซากยานยนต์ ขยะหรือเศษวัสดุจากการก่อสร้างและร้ือถอน กากตะกอน
จากระบบบาบัดน้าเสีย ขยะจากหลุมฝังกลบเก่า กากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น โดยแหล่งทรัพยากรของ
Urban Mining ที่เปน็ เปา้ หมายลาดบั แรกทป่ี ระเทศตา่ ง ๆ ให้ความสาคญั คอื ขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เนอื่ งจาก
มีองค์ประกอบของโลหะมีค่าและโลหะหายากในสัดส่วนท่ีสูงกว่าขยะหรือของเสียประเภทอ่ืน (Cossu
2013, Cossu and Williams 2015) ซ่ึงกระบวนการนาแร่ โลหะ รวมถงึ วัสดุต่าง ๆ จากผลติ ภัณฑ์ท่ีไม่ใช้แล้ว
หรือขยะหรอื ของเสีย กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ จาเป็นต้องอาศัยกระบวนการและเทคโนโลยีรีไซเคิล ดังนั้น
Urban Mining จึงเป็นกระบวนการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้วหรือขยะหรือของเสียให้กลายเป็น
ทรัพยากรหรือวัตถุดิบทดแทน (Secondary Resources หรือ Secondary Raw Materials) โดยการแยก
สกัดแร่ โลหะ และสารประกอบโลหะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ รวมถึงแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน
(ธีรวุธ ตันนุกิจ 2555) นอกจากน้ี Urban Mining ยังเป็นการหมุนเวียนการใชท้ รัพยากรให้เกดิ ประโยชน์
สูงสุดอย่างย่ังยืน และเป็นวงรอบสุดท้ายของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ก่อนที่ขยะหรือ
ของเสยี จะถูกกาจดั หรือฝังกลบ (Tunnukij 2019)

สาหรับประเทศไทย จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศไทย พบว่า มีตัวอย่างสิ่งท่ี
มนุษย์สร้างขึ้นและไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ตามแนวคิด Urban Mining ต้ังแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระ
น่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ท่ีได้มีพระราชโองการปราบฝ่ินคร้ังใหญ่ในปี พ.ศ. 2382 โดยนาฝิ่นที่ได้
รวบรวมจากการปราบปรามมาเผาทาลายที่สนามชัย หน้าพระท่ีน่ังพุทไธสวรรย์ปราสาท สาหรับกลักฝ่ินท่ี
ใช้บรรจแุ ละสูบฝิ่น ซึ่งทาจากโลหะชนิดตา่ ง ๆ เช่น ทองเหลือง ดีบุก นาก เงิน เป็นต้น ทรงเห็นว่าสามารถ
นามาใช้ประโยชน์ได้ จึงโปรดให้นามาหลอมและหล่อ เป็นพระพุทธรูปที่โรงหล่อของหลวงใน
พระบรมมหาราชวัง เม่ือวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2382 และอัญเชิญมาประดษิ ฐานท่ีศาลาการเปรียญ วัด
สุทัศน์เทพวราราม โดยผู้คนในขณะนั้นเรียกว่า “พระกลักฝิ่น” หรือ “หลวงพ่อกลักฝิ่น” ต่อมา



พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุนี” อันมี
ความหมายว่า “พระพทุ ธรูปอันประเสรฐิ ดเี ลศิ ”1

แนวคิด Urban Mining ได้ถูกนามาใช้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2552 โดยกรม
อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยถือเปน็ นโยบายสาคัญในการสร้างความ
ม่ันคงทางด้านวัตถุดิบให้กับภาคอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการ
เปลี่ยนขยะหรือของเสียให้กลายเป็นทรัพยากรหรือวัตถุดิบทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ภายใต้กรอบ
แนวคิด “ขยะหรือของเสีย คือ ทรัพยำกร (Waste = Resource)” ซ่ึงที่ผ่านมาได้ดาเนินโครงการ
ต่อเน่ืองเพื่อส่งเสริมการนาวสั ดุเหลือใช้หรอื ขยะหรอื ของเสีย รวมถงึ ผลพลอยได้ (หรือ By-products) จาก
กระบวนการผลิต กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนด้านแร่ และโลหะ รวมถึง
พลังงานให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ตามแนวคิด Urban Mining โดยอาศัยจุดแข็งของกรมอุตสาหกรรม
พน้ื ฐานและการเหมืองแร่ท่มี ีผเู้ ช่ียวชาญด้านเทคโนโลยีแต่งแร่ และดา้ นเทคโนโลยีโลหการ ซึ่งเปน็ รากฐาน
ของเทคโนโลยีรีไซเคิล ร่วมดาเนินงานกับที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยปัจจุบันมี
เทคโนโลยีรีไซเคิลต้นแบบท่ีผ่านการพิสูจน์ความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีและในเชิงพาณิชย์กว่า 70
เทคโนโลยี มีผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจได้รับถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีรีไซเคิลที่ได้พัฒนาขึ้น
ในแต่ละปีกว่า 300 ราย สามารถก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศจากการลงทุน/การนาของเสียกลับมาใช้
ประโยชน์ใหม่ในเชิงพาณิชย์กว่า 150 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ได้มีการพัฒนา “ศูนย์วิจัยและพัฒนา
เทคโนโลยีรีไซเคิล” ของภาครัฐแห่งแรกในประเทศไทย ซ่ึงได้เปิดดาเนินการอย่างเป็นทางการเม่ือวันท่ี 6
กันยายน 2561 เพื่อเป็นศูนย์วิชาการด้านเทคโนโลยีรีไซเคิลที่มุ่งเน้นให้บริการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
รีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมท้ังในระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) และระดับโรงงานต้นแบบ (Pilot
scale) เพ่ือผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งเป็นต้นแบบให้
ผู้ประกอบการได้ศึกษาเรียนรู้กระบวนการรีไซเคิลท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม ตลอดจนให้บริการเครื่องจักร
และอุปกรณ์รองรับการวิจัย พัฒนา และขยายผลเทคโนโลยีรีไซเคิลร่วมกับผู้ประกอบการ โดยศูนย์ฯ
มีเครื่องจักรและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ทั้งใน Lab Scale และ Pilot Scale ครอบคลุมกระบวนการรีไซเคิล
ครบวงจรตั้งแต่กระบวนการวิเคราะห์และตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพและเคมี กระบวนการคัดแยก
ส่วนประกอบของขยะหรือของเสียด้วยกระบวนการทางกายภาพ กระบวนการรีไซเคิลด้วยกระบวนการ
โลหวิทยาสารละลาย โลหวิทยาความร้อน และโลหวิทยาไฟฟ้า พร้อมระบบบาบัดน้าเสียและมลพิษทาง
อากาศที่เกดิ ขนึ้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการนาขยะหรือของเสียไปใช้ประโยชน์ของประเทศไทยจะมีแนวโน้ม
เพิ่มขึ้นจากการผลักดันและขับเคล่ือนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ และความร่วมมือจาก
ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ แต่การนาขยะหรือของเสียไปใช้ประโยชน์ยังมี
สัดส่วนต่า เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีสัดส่วนการนาขยะหรือของเสียทั้งจากภาคครัวเรือนและ
ภาคอุตสาหกรรมไปใช้ประโยชน์เฉล่ียร้อยละ 70 เช่น สหพันธรัฐเยอรมนี (Federal Ministry for the
Environment Nature Conservation and Nuclear Safety 2018) เป็นต้น นอกจากน้ี ขยะหรือของเสีย
ที่เกิดขึ้นในประเทศยังมีการจัดการอย่างไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และ
เป็นภาระต่องบประมาณภาครฐั ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนที่ได้รับ

1 ทม่ี า : www.matichonweekly.com/column/article_302891 และ
www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1778323

๑๐

ผลกระทบจากมลพิษท่ีเกิดขึ้น โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์จากภาคครัวเรือนที่มีการจัดการอย่างถูกต้อง
เพียงร้อยละ 10 จากปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จากภาคครัวเรือนท่ีเกิดขึ้นในประเทศเฉล่ีย 420,000-
430,000 ตันต่อปี (กรมควบคุมมลพิษ 2564b, กุลชา ธนะขว้าง 2564) ซึ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้
หากมีการจัดการอย่างถูกต้อง และนาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม เพ่ือแยกสกัดแร่
โลหะ และสารประกอบโลหะกลับมาใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ตามแนวคิด Urban
Mining คาดวา่ จะสามารถสรา้ งมลู คา่ เพ่มิ ทางเศรษฐกจิ ในประเทศไดก้ วา่ 30,000 ลา้ นบาทต่อปี

2.2 ตวั อยำ่ งกรณศี ึกษำกำรพัฒนำและขับเคลอ่ื นกำรทำเหมอื งในเมอื ง (Urban Mining)
ในตำ่ งประเทศ

การศึกษานี้ได้คัดเลือกประเทศญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็น
กรณีศึกษาการพัฒนาและขับเคลื่อนการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) เนื่องจากมีนโยบายและการ
ดาเนนิ งานท่เี ก่ียวข้องกับ Urban Mining ท่เี ปน็ รปู ธรรม โดยมีรายละเอยี ดดังต่อไปนี้

2.2.1 ประเทศญปี่ ุ่น

ประเทศญ่ีปุ่นได้ให้ความสาคัญกับแนวคิดการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) โดยถือเป็น
นโยบายสาคัญและเร่งด่วนตั้งแต่เข้าสู่คริสต์ศตวรรษท่ี 21 เพื่อลดการพึ่งพาการนาเข้าแร่/โลหะจาก
ต่างประเทศ โดยตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) ประเทศญ่ีปุ่นได้ประกาศนโยบายระดับชาติวา่ ดว้ ยการ
สร้างสังคมแห่งการรีไซเคิล (Sound Material-Cycle Society) หรือสังคมท่ีมีการใช้หลักการ 3R (3R
Society) ซง่ึ ได้แก่ การลดการใช้ทรัพยากร (Reduce) ใช้ซ้า (Reuse) และรีไซเคิล (Recycle) ใหม้ ากท่ีสุด
โดยการสร้างความตระหนักให้แก่สังคม (Social Awareness) ด้วยการเร่ิมปลูกฝังตัง้ แต่ในระดับครอบครัว
โรงเรียน และชุมชน เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีการจัดการขยะที่ดี ครอบคลุมตั้งแต่
ขั้นตอนการผลิต การบริโภค การท้ิงเป็นของเสีย การรีไซเคิล ไปจนถึงบาบัดและกาจัด รวมท้ังได้มีการ
บญั ญัติกฎหมายพน้ื ฐานด้านการจัดการสงิ่ แวดล้อม และกฎหมายการเสรมิ สร้างสงั คมรีไซเคลิ กฎหมายในการ
จัดการของเสียแต่ละประเภท โดยมีการแบ่งอานาจหน้าท่ีและความรับผิดชอบในแต่ละภาคส่วนท่ีชัดเจน
ได้แก่ ภาครัฐส่วนกลาง ภาครัฐส่วนท้องถิ่น ภาคผู้ประกอบการ และภาคประชาชน (METI 2010,
Klinsrisuk and Jangprajak 2016)

มาตรการเชิงนโยบายของประเทศญี่ปุ่นด้านการจัดการขยะหรือของเสียเพ่ือสร้างสังคมแห่ง
การรีไซเคิล ประกอบด้วยมาตรการท่ีสาคัญ 3 มาตรการ ได้แก่ (Ministry of the Environment 2006)
ได้แก่

1) มาตรการว่าด้วยผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle, PPP) โดยมุ่งเน้น
การจัดการของเสียอุตสาหกรรม ด้วยการให้ผู้ก่อมลพิษหรือผู้ประกอบการท่ีเป็นแหล่งกาเนิดมลพิษ
รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการของเสียและมลพิษท่ีเกิดข้ึนด้วยกระบวนการท่ีเหมาะสมท้ังการรีไซเคิล
และการกาจัดอย่างถูกต้อง รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังสาหรับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตาม
กฎหมายการจดั การขยะ (Waste Management Law)

2) มาตรการการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility,
EPR) เพ่ือส่งเสริมให้เกิดระบบการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ โดยออกกฎหมายส่งเสริมการรีไซเคิลสาหรับ
ผลติ ภัณฑ์แตล่ ะประเภทตามคณุ สมบัติของผลิตภณั ฑ์ เชน่ ภาชนะและบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
วัสดุก่อสร้าง อาหาร ยานยนต์ เป็นต้น และขยายขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ผลิตให้ครอบคลุมการ

๑๑

จัดการผลิตภัณฑ์ของตนเองเมื่อหมดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นการผลักดันให้ผู้ผลิตออกแบบและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ให้สามารถนากลับมารไี ซเคิลได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขนึ้ ตวั อย่างมาตรการส่งเสริม
EPR เช่น การรับคืนผลิตภัณฑ์ทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ หรือหมดอายุการใชง้ าน (Product Take-back) การวางเงนิ มัดจา/
การคืนเงินเม่ือนาผลิตภัณฑ์ท่ีไม่ใช้แล้วมาส่งคืน การกาหนดภาษีวัสดุที่แตกต่างกันตามผลกระทบต่อ
สง่ิ แวดลอ้ ม การจ่ายคา่ ธรรมเนียมการจัดการผลติ ภัณฑท์ ่ีไม่ใชแ้ ล้วล่วงหนา้ การกาหนดสดั สว่ นวัสดุรไี ซเคิล
ที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ การให้บริการเช่าผลิตภัณฑ์โดยผู้ผลิตหรือตัวแทนจาหน่ายแทนการขาย
ผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภค การยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ การพัฒนาระบบการรับผลิตภัณฑ์ที่ชารุดมา
ซ่อมแซม เป็นต้น

3) มาตรการการจัดสรรงบประมาณแบบวงเงินรวม (Block Grant) จากภาครัฐ
ส่วนกลางให้แก่ภาครัฐส่วนท้องถิ่น เพ่ือให้สามารถบริหารงบประมาณในการจัดการขยะครัวเรือนได้อย่าง
คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสังคมที่มีการใช้หลักการ 3R โดยให้ความส้าคัญกับ
การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและลดปริมาณของเสียที่เกิดข้ึน รวมทั้งลดการปลดปล่อยไดออกซนิ (Dioxin)
ทีเ่ กิดขน้ึ จากเตาเผาขยะ

นอกจากน้ี ยังมีมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งการรีไซเคิลอีกหลาย
มาตรการ เช่น การจัดซ้ือจัดจา้ งสีเขียว ฉลากส่ิงแวดล้อม การบูรณาการระบบการจัดการขยะหรือของเสีย
การสนับสนุนการใช้ซ้าและการรีไซเคิล การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เก่ียวข้องกับการ
จัดการขยะหรือของเสีย เปน็ ตน้ (Yabar et al. 2009)

สาหรับขยะหรือของเสียเป้าหมายที่สาคัญของ Urban Mining ประเทศญ่ีปุ่นได้ประกาศใช้
กฎหมายเฉพาะในการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จานวน 3 ฉบับที่สาคัญ
(METI 2010, Klinsrisuk and Jangprajak 2016) ไดแ้ ก่

1) กฎหมายส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Law for the Promotion
of Effective Utilization of Resources: LPUR) ท่ีเน้นการนาทรัพยากรที่อยู่ในขยะหรือของเสียกลับมา
ใช้ใหม่ด้วยการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี มีการกาหนดบทบาทของแต่ละภาคส่วนอย่างชัดเจน ครอบคลุมซาก
ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและแบตเตอรี่ โดยคอมพิวเตอร์ที่วางจาหน่ายต้ังแต่วันท่ี 31 ตุลาคม
2546 ท่ีมีตราสัญลักษณ์รีไซเคิล จะมีการบวกค่าธรรมเนียมสาหรับการรีไซเคิลอยู่ในราคาสินค้า ทาให้
ผู้บริโภคสามารถส่งคืนซากคอมพิวเตอร์กลับไปยังผู้ผลิตผ่านท่ีทาการไปรษณีย์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ
อย่างไรก็ตาม ซากคอมพิวเตอร์ท่ีกลับมาสู่ระบบยังมีจานวนน้อย เน่ืองจากการส่งคืนที่ทาการไปรษณีย์มี
ความยงุ่ ยากและไม่สะดวกเท่ากบั การคนื ท่ีร้านคา้ ปลีก

2) กฎหมายส่งเสริมการรไี ซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้าในครวั เรือน (Law for the Recycling of
Specified Kinds of Home Appliances, LRHA) ซึ่งมีเป้าหมายเพ่ือควบคุมปริมาณซากผลิตภัณฑ์
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีเพิ่มขึ้นจากการใช้งานของภาคครัวเรือน โดยมีการกาหนดประเภท
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน 4 ชนิด ได้แก่ ทีวีแบบจอรังสีแคโทด (Cathode Ray Tube, CRT)
เคร่ืองซักผ้า ตู้เย็น และเคร่ืองปรับอากาศ ซ่ึงต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้มีการเพ่ิมประเภทของผลิตภัณฑ์
เนื่องจากการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ได้แก่ เครื่องอบผ้า โทรทัศน์ชนิดจอแบนหรือจอผลึกเหลว และ
จอพลาสมา ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องทาการออกแบบสินค้าเพื่อให้ง่ายต่อการนาไปรีไซเคิลในอนาคต มีการ
กาหนดอัตราส่วนประกอบของสินค้าท่ีต้องนากลับมากลับมาใช้ใหม่เทียบกับน้าหนักสินค้า ร้อยละ 50-70
ตามแต่ละชนิดผลิตภัณฑ์ และเมื่อผู้ใช้ไม่ต้องการใช้งานสินค้าเหล่านั้นแล้วต้องนากลับไปยังร้านขายสินค้า
และเสียค่าธรรมเนียมขนส่งและรีไซเคิลแก่ร้านค้าปลีก จากน้ันร้านค้าปลีกจะส่งต่อของเสียและ

๑๒

คา่ ธรรมเนยี มไปยังผู้ผลิตหรอื ผู้นาเข้าเพอื่ นาไปรีไซเคิลอกี ต่อหนึ่ง ท้ังนี้ เมอ่ื ของเสียถกู ส่งเข้าส่สู ถานขี นถา่ ย
ของผู้ผลิตจะถูกแยกออกไปตามกลุ่มบริษัทของผู้ผลิตสินค้าน้ัน ๆ สาหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถระบุ
ผู้รบั ผิดชอบได้ สมาคมเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าในครัวเรอื น (Association for Electric Home Appliances, AEHA)
จะเปน็ ผู้รับผิดชอบในการรีไซเคลิ ซากผลติ ภัณฑ์ดงั กลา่ ว

3) พระราชบัญญัติการส่งเสริมการรีไซเคิลซากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กและ
อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ (Act on Promotion of Recycling of Small Waste Electrical and Electronic
Equipment) ในปี พ.ศ. 2556 โดยกระทรวงเศรษฐกจิ การคา้ และอตุ สาหกรรม และกระทรวงส่งิ แวดลอ้ ม
ประเทศญี่ปุ่น ได้กาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริโภค เทศบาล และภาคธุรกิจ ในการใช้ทรัพยากร
อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันไม่ให้เกิดมลภาวะต่อส่ิงแวดล้อม ครอบคลุมซากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ขนาดเล็กและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 100 รายการ เช่น โทรศัพท์มือถือ วิทยุ กล้อง เป็นต้น
จากนั้นเทศบาลจะทาการเลือกประเภทและนาส่งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตในการคัดแยกและ
รีไซเคลิ ต่อไป

นอกจากการใช้กฎหมายในการขับเคลื่อน Urban Mining ประเทศญ่ีปุ่นได้ใช้กลไกการ
สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคนิคควบคู่กับการใช้กฎหมายด้วย โดยในปี พ.ศ. 2555
(ค.ศ. 2012) ประเทศญี่ปุ่นได้ดาเนินโครงการสาคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Urban Mining คือ โครงการ
“Strategic Metal Resource Circulation Technology (Urban Mining)” ซ่ึงริเร่ิมโดย Tatsuya Oki
นักวิจัยของ The National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) กระทรวง
เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry, METI) ประเทศญ่ปี นุ่
และในปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) ได้มีการเปล่ียนชื่อโครงการเป็น “Strategic Metal Domestic
Resource Circulation” โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรอย่าง
เป็นรูปธรรม รวมท้ังบูรณาการงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการรีไซเคิลกลุ่มโลหะท่ีมีความสาคัญต่อ
การพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ โครงการดังกล่าวได้ดาเนินการศึกษาวิจัยในหัวข้อที่สาคัญ 5 ประเด็น
ตามกรอบการดาเนินงานโครงการ (ดรู ูปท่ี 2) ได้แก่ (Oki 2013)

1) การคัดเลือกชนิดของโลหะท่ีมีความสาคัญในอนาคตและประเมินศักยภาพความ
เปน็ ไปไดใ้ นการรไี ซเคิล

2) การสร้างฐานข้อมูลคุณสมบัติและการคัดแยกขยะหรือของเสียเป้าหมายท่ีมี
องค์ประกอบของโลหะท่ีมีความสาคัญ และการพัฒนาเทคโนโลยีการคัดแยกอัตโนมัติสาหรับขยะหรือของ
เสยี ท่มี อี งค์ประกอบของโลหะที่มีความสาคัญในปริมาณสงู

3) การพัฒนาเทคโนโลยีการปรับสภาพขยะหรือของเสียก่อนเข้าสู่กระบวนการถลุง
(Smelting) เพอ่ื แยกสกัดโลหะทีม่ คี วามสาคัญกลับมาใชป้ ระโยชน์ใหม่ ทง้ั น้ี หวั ข้อ 1) – 3) มีวตั ถุประสงค์
เพ่ือให้โลหะที่มีความสาคัญท่ีอยู่ในขยะหรือของเสียเป้าหมายท่ีเป็นแหล่ง Urban Mines ถูกนากลับมา
รีไซเคลิ อย่างเปน็ ระบบ

4) การศึกษาแนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-design)
เพ่ือให้เอ้ือต่อการรีไซเคิล และสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานรองรับการรีไซเคิลของประเทศ
ญป่ี ุ่น

๑๓

5) การส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การ
ดาเนินงานในหัวข้อ 1) – 4) เกิดผลสาเร็จท่ีเป็นรูปธรรม โดยได้จัดต้ัง “Strategic Urban Mining
Research Base (SURE)” ข้ึน เพ่ือเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลสาหรับอุตสาหกรรมของ
ประเทศญี่ปุ่น

รูปที่ 2 กรอบการดาเนินงานโครงการ
Strategic Metal Resource Circulation Technology (Urban Mining) (Oki 2013)

2.2.2 สหภำพยโุ รป
สหภาพยุโรปไดใ้ ห้ความสาคัญกับแนวคิดการทาเหมอื งในเมือง (Urban Mining) ต้ังแต่ช่วงต้น

ของคริสต์ศตวรรษที่ 21 เพือ่ ลดการพึ่งพาการวัตถุดบิ จากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มโลหะมคี ่าและโลหะ
หายาก โดยในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้ระบุ
วัตถุดิบท่ีสาคัญ (Critical Raw Materials, CRMs) จานวน 14 ชนิด ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการขาดแคลน
และมีผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในสหภาพยุโรป (European Commission 2010)
โดยพบว่า วัตถุดิบท่ีสาคัญเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นวตั ถุดิบต้ังต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและ
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น ซากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวซึ่งมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเน่ืองในสหภาพยุโรป
จงึ เป็นแหล่งทรัพยากรทีส่ าคญั ของวตั ถดุ ิบท่สี าคัญ รวมถงึ โลหะมีค่าตา่ ง ๆ (Beolchini et al. 2013)

อย่างไรก็ตาม การน้าขยะหรือของเสียท่ีมีองค์ประกอบของแร่/โลหะที่ส้าคัญเพื่อเป็นแหล่ง
ทรัพยากรทดแทนตามแนวคิด Urban Mining รวมทั้งเพิ่มอัตราการรีไซเคิลขยะหรือของเสียในสหภาพ
ยุโรปให้เกิดผลส้าเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จ้าเป็นต้องมีการบูรณาการข้อมูลที่เก่ียวข้องขยะหรือของเสียที่มี
ศักยภาพในการเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน (Secondary Raw Materials) เช่น ปริมาณ องค์ประกอบ
ทางเคมี แนวโน้ม การไหลของขยะหรือของเสียแต่ละชนิด พ้ืนที่เป็นแหล่งท้ิงหรือสะสมขยะหรือของเสีย

๑๔

หรือเหมืองในเมือง (Urban Mines) เป็นต้น ซ่ึงข้อมูลเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ในหน่วยงานต่าง ๆ
หลากหลายหน่วยงาน เช่น หน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย สถาบัน องค์การนอกภาครัฐ (Non-
governmental Organization, NGO) สถานประกอบการอุตสาหกรรม เป็นต้น ดังน้ัน ในปี พ.ศ. 2558
(ค.ศ. 2015) สหภาพยุโรปและรัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสจึงได้ให้ทุนสนับสนุนในการดาเนินโครงการ
“ ProSUM ( Prospecting Secondary raw materials from the Urban Mine and Mining waste) ”
ซ่ึงมีความหมายในภาษาละตินว่า “ฉันมีประโยชน์” เพ่ือจัดทาฐานข้อมูลกลางที่ทันสมัยสาหรับประเทศ
สมาชิกสหภาพยุโรป 28 ประเทศ รวมท้ังสมาพันธรัฐสวิสและราชอาณาจักรนอร์เวย์ (EU28+2) เพ่ือให้
ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรีไซเคิลใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และให้รัฐบาลต่าง ๆ ใช้เป็น
ข้อมลู ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย โครงการ ProSUM ประกอบดว้ ยสมาชิกหลายองค์การจากสหภาพ
ยุโรปทั้งที่มาจากองค์การการศึกษาและวิจัย องค์การด้านการจัดการข้อมูล และสมาคมขององค์การความ
รับผิดชอบของผู้ผลิต (Producer Responsibility Organizations, PRO) ได้แก่ (Huisman et al. 2017,
ProSUM 2022a, b)

- BRGM - Bureau de Recherches Géologiques et Minières, France
- CBS- Centraal Bureau voor de Statistiek, Netherlands
- CGS - Czech Geological Survey, Czech Republic
- Chalmers University of Technology, Sweden
- C-tech Innovation, UK
- EGS - EuroGeoSurveys, Belgium
- Empa, Switzerland
- Eucobat, Belgium
- GeoZS - Geological Survey of Slovenia, Slovenia
- GEUS, Denmark
- RECHARGE, Belgium
- SGU - Geological Survey of Sweden, Sweden
- TUB - Technische Universität Berlin, Germany
- TU Delft - Technische Universiteit Delft, Netherlands
- UNU - United Nations University, Sustainable Cycles Programme, Germany
- WEEE Forum, Belgium
- WRAP, UK

โครงการ ProSUM ได้พัฒนาและจัดทาฐานข้อมูลกลางดังกล่าว ที่เรียกว่า “Urban Mine
Platform (UMP)” ท่ี www.urbanmineplatform.eu โดยได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือน
มกราคม พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) โดยเป็นแพลตฟอร์มท่ีทาหน้าท่ีแสดงข้อมูลที่เก่ียวข้องกับผลิตภัณฑ์
เคร่ืองใช้ไฟฟา้ และอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และแบตเตอรี่ ประกอบด้วยปริมาณสินค้าที่เข้าสู่ตลาด
(Put on Market) ปริมาณสนิ คา้ คงคลังในระบบทง้ั ผลิตภัณฑ์ท่ีอยู่ระหวา่ งการใชง้ านและถกู เกบ็ อย่แู ต่ไมไ่ ด้
ถกู ท้ิงเป็นขยะ (In Stock) ปริมาณของเสีย (Waste Generated) วัสดุท่ีเป็นองค์ประกอบ รวมไปถึงข้อมูล
การไหลของของเสียจากสนิ ค้าดังกล่าว สามารถจาแนกให้เหน็ ปริมาณวัสดุมีค่าทถี่ ูกกูค้ ืนหรือปริมาณวัสดุท่ี
สูญหายอยู่ในระบบ ผู้ใช้สามารถเลือกรายละเอียดของข้อมูลที่ต้องการให้แสดงได้ตามวัตถุประสงค์ท่ี
ต้องการ เช่น โรงงานรีไซเคิลสามารถค้นหาข้อมูลว่าขยะหรือของเสียชนิดหนึ่งประกอบด้วยวัสดุอะไรบ้าง

๑๕

ปัจจุบนั มีปริมาณเท่าไรและมีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร เพ่ือใชใ้ นการวางแผนหรือพัฒนากระบวนการ
ภาคอุตสาหกรรมท่ีมีความสนใจในการใช้ทรัพยากรหรือวัตถุดิบทดแทนสามารถระบุตาแหน่งหรือแหล่งท่ี
สามารถพบทรัพยากรเหล่าน้ันได้ ภาครัฐสามารถใช้ข้อมูลเพ่ือพิจารณาออกกฎหมายสนับสนุนการ
ดาเนินงานท่ีเป็นรูปธรรมและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันด้วยหลักการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม
เปน็ ต้น โดยการพัฒนาและจัดทา UMP มวี ัตถปุ ระสงค์ ดังนี้ (Huisman et al. 2017, ProSUM 2022b)

1) เพื่อสร้างฐานข้อมูลกลางด้านการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) แห่งแรกท่ี
รวบรวมข้อมลู ทั้งหมดทเ่ี กี่ยวข้องกับการกอ่ เกิด การสะสม การไหล และการกาจัดขยะหรือของเสียประเภท
ผลิตภัณฑ์ประเภทเคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) ยานพาหนะที่หมดอายุการใช้งาน
(ELV) ซากแบตเตอร่ี และของเสียจากการทาเหมือง ที่เข้าถึงได้สะดวก พร้อมความสามารถในการอ้างอิง
ขอ้ มูลเชงิ พน้ื ที่ สามารถเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจด้านนโยบายของสหภาพยโุ รปในการจดั หาวตั ถดุ ิบ
และการรีไซเคิลขยะหรือของเสียเพ่ือใช้เปน็ ทรัพยากรหรือวัตถดุ ิบทดแทน

2) เพอ่ื ให้บริการขอ้ มลู อย่างเป็นระบบ มีข้อมูลท่ที ันสมัย มมี าตรฐานข้อมูลเดียวกนั และ
สามารถตรวจสอบได้ เพ่ือให้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถปรับปรุงการจัดการขยะหรือของเสีย และเพิ่ม
ประสทิ ธิภาพการเกบ็ รวบรวม การบาบัด และการรีไซเคิล รวมท้ังจัดเตรยี มข้อมูลทางเทคนคิ ตา่ ง ๆ เพื่อให้
สามารถนาไปใช้งานไดใ้ นอนาคต

3) เพ่ือสร้างเครือข่ายข้อมูลท่ีอนุญาตให้สมาชิกสามารถส่งข้อมูลและใช้ข้อมูลขยะหรือ
ของเสียท่ีมีศักยภาพในการเป็นแหล่งวัตถุดิบทดแทนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มขาดแคลน โดยออกแบบการ
แสดงผลและการจัดระเบียบข้อมูลให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานท่ีหลากหลาย เช่น
อุตสาหกรรมรไี ซเคิล ผผู้ ลิตและผทู้ เี่ กี่ยวขอ้ ง ผกู้ าหนดนโยบาย เปน็ ต้น

UMP จะแสดงข้อมูลองค์ประกอบของวัสดุท่ีมีสะสมอยู่ในผลิตภัณฑ์และของเสีย ซ่ึงรวมถึง
โลหะพืน้ ฐาน โลหะมคี า่ และวตั ถดุ ิบท่ีมีแนวโน้มขาดแคลน โดยข้อมลู แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น ดังนี้ (Huisman
et al. 2017, ProSUM 2022b)

1) Urban Mine แสดงถึงจานวนและประเภทของผลิตภัณฑ์ในตลาดและที่สะสมใน
ระบบไมว่ ่าจะเปน็ ผลติ ภณั ฑร์ ะหวา่ งการใชง้ าน ไม่ถูกใชง้ าน และทีถ่ กู ท้ิงกลายเป็นขยะ

2) องค์ประกอบหลักที่สาคัญ เช่น อะลมู ิเนียม ทองแดง ทองคา หรอื นีโอดเี มียม เปน็ ต้น
ทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์เครอื่ งใช้ไฟฟ้าและอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ยานยนต์ และแบตเตอร่ี

3) การไหลของของเสียและปริมาณการเก็บรวบรวมโดยประมาณ ของข้อมูลผลิตภัณฑ์
แบตเตอร่ีและผลิตภัณฑ์เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กซึ่งมาจากในแหล่งขยะชุมชนที่
ไม่ได้แยกประเภท การไหลของยานยนต์ท่ีใช้แล้ว และการประมาณการข้อมูลแบตเตอรี่และผลิตภัณฑ์
เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ และอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ รวมทง้ั ยานยนตใ์ ชแ้ ลว้ ท่ไี ม่สามารถระบุตาแหนง่ ได้

โครงการ ProSUM ทาการรวบรวมข้อมูลปริมาณซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ
อิเล็กทรอนิกส์จากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งท่ีมรี ูปแบบไมส่ อดคล้องกัน หรือมีการรายงานในเวลาทีแ่ ตกตา่ งกัน
โดยทาการปรับข้อมูลให้เป็นหน่วยเดียวกัน ดังแสดงในรูปท่ี 3 โดยจะเห็นว่าในระหว่างปี พ.ศ. 2543 ถึง
พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2000 ถงึ ค.ศ. 2020) ปริมาณซากฯ เพมิ่ ข้ึน ขณะท่ีองค์ประกอบวัสดบุ างอย่างมีการ
เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ว่าปริมาณสัดส่วนโลหะมีค่าท่ีอยู่ในซากฯ จะมีเท่าเดิม แต่
สัดส่วนของแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ลดลง และมีปริมาณพลาสติกเพ่ิมข้ึน ท้ังน้ี เป็นผลมาจากแนวโน้มของ
การผลิตผลิตภัณฑ์ฯ ท่ีเน้นให้มีขนาดเล็กลง ระบบฐานข้อมูล UMP สามารถแสดงข้อมูลปริมาณ

๑๖

เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และแบตเตอร่ีท่ีขายอยู่ในตลาด ส่วนที่ยังไม่ได้ถูกใช้ รวมไปถึง
ส่วนท่ีกลายเป็นขยะและของเสีย ซ่ึงจากข้อมูลดังกล่าวทาให้สมาชิกสามารถวางแผนการจัดการวัตถุดิบที่
สาคญั ต่าง ๆ ได้ เช่น โคบอลต์ (Cobalt) ท่ใี ช้เปน็ หน่งึ ในวัตถุดบิ สาหรับการผลิตแบตเตอรี่ เป็นต้น ดังแสดง
ในรูปท่ี 4 โดยจะเห็นวา่ จากปริมาณแบตเตอร่ีทีเ่ ปน็ ของเสีย 2 ลา้ นตัน มีปริมาณโคบอลต์ 2,700 ตนั และ
ยังมีปรมิ าณโคบอลต์ 3,500 ตันจากผลิตภัณฑ์ท่ีอยู่ในตลาด รวมท้ังยังคงค้างในระบบอีก 21,000 ตัน ซึ่งมี
ศักยภาพในการนากลับมารีไซเคิลในอนาคตได้ เม่ือผลิตภัณฑ์หมดอายุการใชง้ าน (Huisman et al. 2017,
ProSUM 2022b)

รูปท่ี 3 ขอ้ มูลซากผลิตภัณฑเ์ คร่อื งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ในเหมืองในเมือง (Urban Mines)
(Huisman et al. 2017, ProSUM 2022b)

๑๗

รูปท่ี 4 ภาพรวมข้อมูลเหมืองในเมือง พรอ้ มวัสดุองคป์ ระกอบที่สาคัญในผลติ ภณั ฑ์เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าและ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และแบตเตอร่ี (ปี พ.ศ. 2558) และยานยนต์ (ปี พ.ศ. 2557)
(Huisman et al. 2017, ProSUM 2022b)
นอกจากน้ี สาหรับซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงเป็นกลุ่มของเสีย

เป้าหมายที่สาคัญของ Urban Mining สหภาพยุโรปได้มีการออกระเบียบการจัดการซากผลิตภัณฑ์
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Directive 2002/96/EC on Waste Electrical and Electronic
Equipment หรือ WEEE Directive) และข้อกาหนดว่าด้วยเร่ืองของการใช้สารท่ีเป็นอันตรายในอุปกรณ์
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Restriction of Hazardous Substances, RoHS) เพ่ือเป็นแนวทาง
(Guideline) ให้ประเทศในสหภาพยุโรปปฏิบตั ิตาม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
เกือบทุกประเภทท่ีผลิตหรือจาหน่ายในสหภาพยุโรป (Long et al. 2016) โดยมีมาตรการท่ีสาคัญ คือ
มาตรการการขยายความรบั ผิดชอบของผผู้ ลิต (Extended Producer Responsibility, EPR) ให้ครอบคลมุ
การจัดการผลิตภัณฑ์ของตนเองเม่ือหมดอายุการใช้งาน โดยรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายท่ีเกิดขึ้นในการ
จัดการซากผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถดาเนินการเองอย่างเป็นเอกเทศหรือร่วมกันกับผู้ผลิตรายอื่นในรูปแบบ
ของการจ่ายค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บรวบรวม การรีไซเคิล ไปจนถึงการบาบัด
และกาจดั โดยอัตราค่าธรรมเนียมที่ต้องจา่ ยสมทบเข้ากองทนุ จะข้นึ อยู่กบั ความยาก-ง่ายในการรีไซเคิลและ
มูลค่าวัสดุที่เป็นองค์ประกอบในซากผลิตภัณฑ์ ซ่ึงการจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนความ
รับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์จากผู้เสียภาษีทุกคนไปยังผู้ผลิตและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle, PPP) สาหรับซาก
ผลิตภัณฑ์ท่ีเกิดขึ้นก่อนหน้ามาตรการนี้จะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของผู้ผลิตทุกราย (European
Union 2012) มาตรการ EPR สามารถด้าเนินการผ่านเครื่องมือหรือกลไกได้หลายแนวทาง เช่น การรบั คืน
ซากผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ การใช้กฎระเบียบ การใช้แนวปฏิบัติท่ีดีโดยสมัครใจ การใช้เครื่องมือทาง
เศรษฐศาสตร์ เปน็ ตน้ (Khetriwal et al. 2009) ดงั แสดงในตารางท่ี 1

๑๘

ตารางท่ี 1 ตัวอย่างแนวทาง EPR ของประเทศสมาชิกในกลมุ่ สหภาพยโุ รปและประเทศอื่น ๆ (Khetriwal

et al. 2009)

ประเภทของแนวทำง ประเภทของเครือ่ งมอื กรณีตวั อยำ่ งกำรใช้แนวทำง EPR

EPR

การรับคนื ซาก  การรับคืนภาคบงั คบั  บรรจภุ ณั ฑ์ (เยอรมนี)

ผลติ ภณั ฑ์/บรรจภุ ณั ฑ์  การรบั คนื โดยสมัครใจ  บรรจภุ ัณฑ์ (เนเธอรแ์ ลนด์ นอร์เวย์)

การใช้กฎระเบยี บ  การกาหนดเป็นมาตรฐานผลติ ภัณฑ์  ผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องใช้ไฟฟา้ และ

อเิ ลก็ ทรอนิกส์ แบตเตอรี่

 การห้ามใช้วสั ดหุ รอื ผลิตภณั ฑ์ที่เปน็  แคดเมียมในแบตเตอร่ี (สวเี ดน)

อันตราย

 การกาหนดขอ้ ห้ามในการกาจดั ซาก  ห้ามฝังกลบซากผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟ้า

ผลิตภณั ฑ์ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (สมาพันธรัฐสวสิ )

 การกาหนดเง่ือนไข/ข้อบังคบั ในการรไี ซเคลิ  บรรจภุ ณั ฑ์ (เยอรมนี สวีเดน ออสเตรยี )

การใช้แนวปฏิบตั ิทดี่ ี  การใช้หลักปฏบิ ตั ิทีด่ โี ดยสมคั รใจ  บรรจภุ ัณฑส์ าหรับการขนส่ง (เดนมารก์ )

โดยสมัครใจ  การร่วมเปน็ พันธมิตรของภาครฐั /  ซากผลติ ภณั ฑ์เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าและ

ภาคเอกชน อิเล็กทรอนกิ ส์ (สมาพันธรัฐสวสิ )

 การใหบ้ รกิ ารเช่า การใหบ้ รกิ ารซอ่ มแซม  เครือ่ งถา่ ยเอกสาร ยานพาหนะ

การใชฉ้ ลากหรอื สญั ลกั ษณ์

การใช้เครอื่ งมือทาง  การเก็บค่ามดั จา-คนื เงนิ  บรรจภุ ณั ฑเ์ ครื่องดม่ื (เกาหลี แคนาดา)

เศรษฐศาสตร์  การเก็บคา่ ธรรมเนียมรไี ซเคลิ ล่วงหน้า  ผลิตภณั ฑ์เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ และ

อเิ ล็กทรอนิกส์ (สมาพันธรฐั สวิส สวีเดน)

 การเก็บคา่ ธรรมเนยี มการกาจดั  ผลติ ภณั ฑเ์ คร่อื งใช้ไฟฟา้ และ

อิเลก็ ทรอนิกส์ (ญป่ี ่นุ )

 การเก็บภาษีวสั ด/ุ การใหเ้ งินอดุ หนนุ

ตัวอย่างแนวทาง EPR ที่สาคัญ ซึ่งประสบความสาเร็จในการบริหารจัดการซากผลิตภัณฑ์
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ กรณีตัวอย่างของสมาพันธรัฐสวิส ท่ีมีการ
ดาเนินการโดยองค์การความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Producer Responsibility Organizations, PRO) ซ่ึง
เปน็ องค์การทไี่ มแ่ สวงหากาไร เช่น SWICO, SENS eRecycling เป็นตน้ ทาหน้าที่รบั ภาระความรบั ผิดชอบ
ของบริษัทที่เป็นสมาชิกในการปฏิบัติตามมาตรการ EPR เพื่อบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ท่ีเกิดข้ึน
อยา่ งครบวงจรต้ังแต่เก็บรวบรวม จนกระท่งั กาจัด ซ่ึงรวมถึงความรับผดิ ชอบในการบรหิ ารการเงินดว้ ย เช่น
การกาหนดค่าธรรมเนียมรีไซเคิลล่วงหน้า การพิจารณาราคาและเงื่อนไขของบริษัทที่ประมูลขยะ
อิเล็กทรอนิกส์ไปรีไซเคิล เป็นต้น นอกจากนี้ สมาพันธรัฐสวิสได้กาหนดขอบเขตความรับผิดชอบของแต่ละภาค
ส่วนอย่างชัดเจนในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ดังแสดงในตารางท่ี 2 โดยมีรูปแบบการบริหาร
จัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการบรหิ ารการเงิน เพ่ือหมุนเวียนนาวัสดุกลับมาใช้ประโยชนต์ ามแนวคิด
Urban Mining ดังแสดงรูปท่ี 5 (Khetriwal et al. 2009)

๑๙

ตารางที่ 2 บทบาทและความรบั ผิดชอบของในการบรหิ ารจดั การขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ของภาคสว่ นต่าง ๆ

ในสมาพันธร์ ฐั สวิส (Khetriwal et al. 2009)

ภำคส่วน บทบำทและควำมรับผดิ ชอบ

รัฐบาล  รัฐบาลกลางควบคุมดแู ล ก้าหนดแนวปฏบิ ัติและกฎหมาย

 หนว่ ยงานระดบั รัฐหรือระดับท้องถิ่นควบคมุ ก้ากับดูแลและตดิ ตามการ

ประกอบการในฐานะผอู้ อกใบอนญุ าตสา้ หรับผู้ประกอบการรีไซเคิล

ผู้ผลิต/ผ้นู าเข้า องคก์ าร  ผู้น้าเข้ารบั ผิดชอบการจดั การผลิตภัณฑ์ทน่ี ้าเข้าเมอื่ หมดอายกุ ารใช้งานตงั้ แตก่ าร

ความรับผดิ ชอบของผู้ผลติ เก็บรวบรวมจนกระทง่ั กา้ จดั รวมถงึ การบริหารการเงนิ

(PRO)  ผผู้ ลติ /PRO รบั ผดิ ชอบในการบรหิ ารจัดการระบบการจดั การซากผลิตภณั ฑ์

รวมถึงการก้าหนดค่าธรรมเนียมรไี ซเคลิ ล่วงหน้า ตลอดจนการออกใบอนุญาตและ

การตรวจประเมนิ ผปู้ ระกอบการรไี ซเคลิ ทร่ี ับซากผลติ ภณั ฑไ์ ปรไี ซเคลิ

ผูก้ ระจายสินคา้ และผู้  ผูก้ ระจายสินคา้ และผ้จู า้ หน่ายรับผิดชอบในการเกบ็ รวบรวมและรับคนื ซาก

จาหนา่ ย ผลติ ภณั ฑ์ในกลุ่มประเภทผลติ ภัณฑท์ ีจ่ ้าหนา่ ย ไมว่ า่ จะเปน็ ผลิตภณั ฑ์ทต่ี นเอง

จ้าหน่ายหรอื ไม่ รวมทั้งรบั ผดิ ชอบในการระบคุ า่ ธรรมเนียมรีไซเคลิ ลว่ งหนา้ ในใบ

แจง้ หนี้ของลกู คา้ ใหช้ ดั เจน

ผ้บู รโิ ภค  ผบู้ ริโภครับผิดชอบในการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายในการส่งคืนซากผลิตภัณฑไ์ ปยงั ผู้

จาหนา่ ยหรอื จุดรวบรวมซากผลติ ภัณฑ์ทกี่ าหนด และจา่ ยคา่ ธรรมเนยี มรไี ซเคลิ

ลว่ งหน้าเมอ่ื ซื้อผลติ ภณั ฑ์ใหม่

จดุ รวบรวม  จดุ รวบรวมมีหน้าทเ่ี ก็บรวบรวมซากผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งใช้ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

ทุกชนิดโดยไม่มีการเรยี กเกบ็ ค่าใชจ้ ่ายจากผู้บริโภค และป้องกนั ไม่ให้เกิดการ

ขโมยซากผลติ ภณั ฑห์ รือลักลอบนาซากผลิตภณั ฑไ์ ปส่งออก

ผู้ประกอบการรไี ซเคลิ  ผู้ประกอบการรไี ซเคลิ ต้องปฏิบตั ติ ามมาตรฐานการควบคมุ มลพิษและมาตรการ

ด้านความปลอดภยั เพอ่ื ปอ้ งกันอนั ตรายต่อสุขภาพของพนักงาน โดยตอ้ งได้รบั

ใบอนญุ าตประกอบการจากรัฐบาลสว่ นทอ้ งถน่ิ และใบอนุญาตจาก PRO

รูปที่ 5 รปู แบบการบรหิ ารจัดการขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ และการบริหารการเงนิ ของสมาพนั ธร์ ัฐสวสิ
(Khetriwal et al. 2009)

๒๐

2.2.3 สำธำรณรฐั ประชำชนจนี

สาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับแนวคิดเร่ืองการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) ในช่วงต้น
ศตวรรษท่ี 21 และได้รับความสนใจจากกลุ่มนักวิจัยและภาครัฐอย่างสูงในเวลาต่อมา โดยภาครัฐได้ริเริ่ม
โครงการ “Urban Mining Demonstration Base Construction (UMDBC)” เพ่ือเป็นหรือฐานสาธิต
Urban Mining (Urban Mining Demonstration Base, UMDB) ที่มีลักษณะเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม
พิเศษ เพ่ือขับเคลื่อนแนวคิด Urban Mining ให้เกิดผลสาเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นกลไกท่ีสาคัญใน
การสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของประเทศ ท่ีได้
ประกาศใช้ The Circular Economy Promotion Law ในปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) รวมท้ังแก้ไข
ปัญหาด้านทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม โดยการสร้าง UMDBC เพ่ือรองรับอุตสาหกรรมรีไซเคิลขนาดใหญ่ที่
ใช้กระบวนการรีไซเคิลท่ีสร้างมูลค่าเพิ่มสูง เผยแพร่เทคโนโลยีรีไซเคิลข้ันสูง และเป็นต้นแบบในการศึกษา
รูปแบบ Urban Mining รวมถึงกลไกด้านนโยบายท่ีเหมาะสม โดยได้กาหนดนิยามของ Urban Mining ว่า
เป็นการรีไซเคิลทรัพยากรท่ีมาจากเศษวัสดุหรือขยะหรือของเสียจาพวกเหล็กและเหล็กกล้า โลหะท่ีไม่ใช่
เหล็ก โลหะหายาก พลาสติก และยางท่มี าจากขยะหรือของเสียครวั เรือนซึ่งเกิดข้ึนจากการใช้งานในชุมชน
รวมทั้งขยะอตุ สาหกรรมท่ีมักจะเปน็ องค์ประกอบอยใู่ นขยะหรือของเสียอปุ กรณเ์ คร่ืองกลไฟฟ้า สายไฟและ
สายเคเบิล เคร่ืองมือสื่อสาร ยานพาหนะ อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์โลหะและ
พลาสติก (Hu and Poustie 2018, Xue et al. 2019)

แผนระดับชำติ
National 12th Five Years Plan

กฎหมำย โครงกำร “Urban Mining กำรเงนิ
The Circular Economy Demonstration Base กองทนุ Circular Economy
Construction (UMDBC)”
Promotion Law

แผนการดาเนนิ งานท่สี าคญั
 โครงการด้านเทคโนโลยรี ไี ซเคลิ ขยะหรอื ของเสยี
 การพฒั นาอตุ สาหกรรมประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสง่ิ แวดลอ้ ม
 การพฒั นาอุตสาหกรรมใหม่ทมี่ ีความส้าคญั ตอ่ กลยทุ ธ์ระดบั ชาติ
 การลดการใช้พลงั งานและการลดการปลดปลอ่ ยมลพษิ

รูปที่ 6 ความเชอื่ มโยงโครงการ Urban Mining Demonstration Base Construction (UMDBC) กบั
แผนระดบั ชาติ และกลไกการสนบั สนนุ ท่ีสาคญั (Xue et al. 2019)

๒๑

โครงการ UMDBC เปน็ โครงการภายใต้ภายใตแ้ ผนระดบั ชาติ 5 ปี ฉบับท่ี 12 (National 12th
Five Years Plan) ซึ่งได้รับการสนับสนุนทั้งด้านกฎหมาย ด้านการเงิน และด้านแผนการดาเนินงานท่ีสาคัญ
(ดูรูปท่ี 6) รวมถึงการสนับสนุนจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (National Development
and Reform Commission, NDRC) และกระทรวงการคลัง (Ministry of Finance, MOF) ของสาธารณรฐั
ประชาชนจีน (Hu and Poustie 2018, Xue et al. 2019) โดยในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) รัฐบาลจีน
ได้ประสบความสาเร็จในการก่อต้ัง UMDB ซ่งึ ทาหนา้ ท่ีเป็นฐานสาหรับอุตสาหกรรมรีไซเคลิ ขยะหรือของเสีย
ท่ีเชื่อมโยงกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในโซ่อุปทานในพื้นที่ เช่น Tianjing Ziya Circular Economy
Industry Park, The Guangdong Qingyuan Huaqing Circular Economy Park เป็นตน้ โดยมเี ปา้ หมาย
เพ่ือสนับสนุนการรีไซเคิลแบบมหภาคและขับเคลื่อนแนวคิด Urban Mining เพ่ือให้เกิดการใช้ประโยชน์
สูงสุดของทรัพยากรท่ีมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ท่ีหมดอายุการใช้งานหรือไม่ใช้แล้ว โดยการพัฒนาและเพ่ิมปริมาณ
การใช้ประโยชน์ด้วยเทคโนโลยีรีไซเคิล นอกจากนี้ กิจกรรมใน UMDB ยังครอบคลุมถึงการจัดการในระดับ
ท้องถ่ิน และการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อให้สาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถผลกั ดันการดาเนนิ งานให้บรรลุผล
สาเร็จตามเป้าหมายของการรีไซเคิลทรัพยากรด้วย Urban Mining ท้ังนี้ การคัดเลือกพ้ืนท่ีที่จะได้รับการ
กาหนดเป็น UMDB จะมาจากการเสนอของรัฐบาลท้องถ่ินน้ัน ๆ โดยเป็นการต่อยอดเขตอุตสาหกรรมท่ี
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Industrial Park) เดิม และต้องมีคุณสมบัติเบ้ืองต้นตามท่ีรัฐบาลระบุไว้ดังน้ี
(Hu and Poustie 2018)

1) เปน็ หนึง่ ในสถานทน่ี าร่องดา้ นเศรษฐกิจหมนุ เวียนระดบั ประเทศหรือระดับมณฑล
2) มีการดาเนินการแบบเขตพื้นท่ีอุตสาหกรรม กล่าวคือ ต้องประกอบไปด้วยสถาน
ประกอบการหลายแห่ง และต้องมีการใช้ประโยชน์พ้ืนท่ีอย่างเต็มที่ มีการใช้โครงสร้างพ้ืนฐานส่วนกลาง
ร่วมกัน เช่น พลังงาน ระบบกาจัดมลพิษ เป็นต้น และมีการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนของเสียเพ่ือนากลับมาใช้
ใหมภ่ ายในโซ่อุปทาน
3) ตอ้ งดาเนินการอย่างถกู กฎหมายภายใต้แผนการใช้ที่ดนิ และแผนเมอื งของรฐั บาลของ
ท้องถนิ่
4) ต้องมีอุปกรณ์สาหรับการจัดการด้านส่ิงแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน โดยต้องมีระบบการ
จัดการมลพษิ สว่ นกลางทีม่ ีประสทิ ธิภาพ
5) ต้องมีปริมาณวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้มากกว่า 0.3 ล้านตันต่อปี โดยวัสดุเหล่านั้น
ต้องสามารถนามาใช้ประโยชน์ซ้าหรือรีไซเคิลภายในเขตได้ที่ร้อยละ 30 ข้ึนไป ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
และมแี นวปฏบิ ัติท่ดี ีในการรไี ซเคิล

พื้นท่ีท่ีได้รับเลือกให้เข้าสู่โครงการ UMDBC จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางและ
ส่วนท้องถิ่นในด้านกฎหมายและอื่น ๆ เช่น เงินอุดหนุน ฐานข้อมูลและบริการสาธารณะ ความช่วยเหลือ
ด้านเทคนิค โครงสร้างพ้ืนฐาน สิทธิประโยชน์ด้านท่ีดินและภาษี โดยกระทรวงการคลังได้ให้การสนับสนุน
เงินอุดหนุนจากกองทุน Circular Economy ร้อยละ 10 ของเงินลงทุนท้ังหมดในพื้นที่ท่ีได้รับเลือกเป็น
UMDB ซ่ึงที่ผ่านมาได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พ้ืนที่ที่ได้รับเลือกเป็น UMDB กว่า 40 แห่ง ประมาณ
4,000 ล้านหยวน คิดเป็นจานวนเงินเฉลย่ี ประมาณ 100 ล้านหยวนต่อพื้นท่ี UMDB (Xue et al. 2019)
โดยพ้ืนทท่ี ีไ่ ดร้ บั เลอื กจะถูกกาหนดเป้าหมายสาหรบั การเป็น UMDB ดงั น้ี (Hu and Poustie 2018)

1) ควรมรี ะบบการเกบ็ รวบรวมขยะหรือของเสียที่มีประสิทธิภาพ
2) ควรมีระบบนิเวศวิทยาอุตสาหกรรมท่ีเหมาะสมในการการคัดแยก แปรรูป การใช้
ประโยชน์ และการบาบัดมลพิษ

๒๒

3) ต้องมีขนาดที่เหมาะสมและสามารถดึงดูดองค์การภายนอกให้มาลงทุนในฐานได้ด้วย
แรงจงู ใจตา่ ง ๆ

4) ควรมเี ทคโนโลยที ที่ นั สมัยและเป็นมิตรกับสงิ่ แวดล้อม
5) ควรมีโครงสร้างพ้ืนฐานและบริการท่ีจาเป็น เช่น บริการด้านโลจิสติกส์และการ
บรกิ ารข้อมูล
6) ควรมอี ุปกรณ์และสิง่ อานวยความสะดวกดา้ นสิง่ แวดล้อม
7) ควรมีโครงสร้างพ้ืนฐาน เพอ่ื ใหบ้ ริการข้อมูลโลจิสตกิ ส์ เทคโนโลยีการจัดการของเสีย
และมลพษิ แบบรวมศนู ย์ ด้วยระบบปฏิบตั กิ ารท่ีทันสมยั และมรี ะบบประเมินผลที่เหมาะสม

ดว้ ยการสนับสนนุ เงินลงทนุ จากภาครฐั ทีม่ ากกวา่ 3,500 ล้านหยวน และจากภาคเอกชนกว่า
65,600 ล้านหยวน ส่งผลให้การดาเนินโครงการ UMDBC สามารถดึงดูดสถานประกอบการรีไซเคิลเข้าสู่
พื้นท่ี UMDB เพื่อเป็นเขตอุตสาหกรรมรีไซเคิลขนาดใหญ่และครบวงจร จากสถิติในปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ.
2012) แสดงให้เห็นว่า 29 ฐานแรกที่เป็นพื้นที่ UMDB (ดูตารางที่ 3) มีสถานประกอบการรีไซเคิลที่ได้รับ
อนุมัติให้ตั้งใน UMDB จานวน 2,149 ราย โดยสามารถเก็บรวบรวมขยะหรือของเสียได้รวม 23.996
ล้านตันต่อปี สามารถรีไซเคิลขยะหรือของเสียดังกล่าวได้รวม 15.934 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ
247,000 ล้านหยวน โดยแต่ละพ้ืนที่ UMDB มีอัตราการเก็บรวบรวมและอัตราการรีไซเคิลขยะหรือของ
เสียเพ่ิมข้ึนอย่างมีนัยสาคัญ ยกตัวอย่างเช่น Tianying Industrial Park ซึ่งต้ังอยู่ในเมือง Jieshou มณฑล
อานฮุย (Auhui Province) ในปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) มีผลผลิตของตะกั่วรีไซเคิลภายในฐานเพ่ิมข้ึน
สูงถึง 0.33 ล้านตัน คิดเป็น 1 ใน 3 ของผลผลิตตะก่ัวรีไซเคิลท้ังหมดในประเทศ Jinsheng Industrial
Park ซง่ึ ตง้ั อยมู่ ณฑลซานตง (Shandong Province) (ดรู ูปที่ 7) สามารถรวบรวมขยะหรอื ของเสียประเภท
โลหะได้ถึง 1.2 ล้านตัน และมีผลผลิตทองแดงรีไซเคิลถึง 0.52 ล้านตันต่อปี เป็นต้น นอกจากการ
สนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว โครงการ UMDBC ยังให้การส่งเสริมด้านการพัฒนาและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี
และนวัตกรรมระหว่างสถานประกอบการด้านการนาทรัพยากรกลบั มาใช้ประโยชน์ใหม่และด้านการรักษา
สง่ิ แวดล้อมด้วย เช่น การพัฒนาเครอื่ งเก็บรวบรวมขยะประเภทขวดพลาสติกอัจฉริยะ โดยการประยกุ ต์ใช้
เทคโนโลยี Internet of Things ส่งผลให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริม สามารถจดสิทธิบัตรได้ถึง 23 ฉบับ
และจดลิขสทิ ธิ์ซอฟต์แวร์ได้ 12 ผลงาน เป็นต้น ทง้ั น้ี หากเปรียบเทียบกับการดาเนินการในอดีตที่ขยะหรือ
ของเสียส่วนใหญ่ถูกเก็บรวบรวมส่งไปยังชาวบ้านที่มีอาชีพเก็บและคัดแยกขยะ ซึ่งมักจะมีการจัดการที่ไม่
ถกู ต้องและก่อให้เกิดมลพษิ ต่อสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐประชาชนจีนมองว่าการดาเนินการของ UMDB ท่ีมี
การส่งเสริมการรีไซเคิลท่ีใช้เทคโนโลยที ่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและสามารถตรวจสอบได้ จะช่วยสนับสนุน
ให้ประเทศบรรลุเป้าหมายตัวช้ีวัดด้านเศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรและการลดปริมาณการปลดปล่อย
คารบ์ อนของสาธารณรฐั ประชาชนจีนไดอ้ ย่างมีนยั สาคญั (Hu and Poustie 2018)

๒๓

ตารางท่ี 3 จานวนฐานสาธิตการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) แยกตามรายปี (Hu and Poustie 2018)

Batch Number of Province

bases approved

1st in 7 Tianjin Municipality. Zhejiang Province. Hunan Province, Guangdong

2010 Province, Anhui Province, Shandong Province, Sichuan Province

2nd in 15 Shanghai Municipality, Guangxi Autonomous Region. Jiangsu Province.

2011 Shandong Province, Chongqing Municipality. Zhejiang Province, Hubei

Province, Liaoning Province, Jiangxi Province, Hebei Province, Henan

Province, Fujian Province. Ningxia Autonomous Region, Beijing

Municipality, Liaoning Province

3rd in 7 Guangdong Province. Anhui Province, Xinjiang Autonomous Region.

2012 Shanxi Province, Heilongjian Province.

Hunan Province, Jilin Province

4th in 10 Hubei Province, Jiangxi Province. Jiangsu Province. Zhejiang Province,

2013 Hebei Province, Sichuan Province. Henan Province, Guizhou Province,

Fujian Province, Fujian Province

5th in 6 Shandong Province, Inner Mongolia Autonomous Region, Gansu

2014 Province, Xinjiang Autonomous Region.

Heilongjiang Province, Guangxi Autonomous Region

6th in 4 Jiangsu Province, Jiangxi Province, Hubei Province, Shaanxi Province

2015

รปู ท่ี 7 การกระจายทางภมู ิศาสตรข์ อง UMDB (Hu and Poustie 2018)

๒๔

นอกจากโครงการ UMDBC ท่ีรฐั บาลสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ความสาคัญ ยังมีกลไกสาคัญ
ในการขับเคลื่อน Urban Mining โดยรัฐบาลส่วนท้องถ่ิน ได้แก่ การต้ังระบบตลาดกลางสาหรับซื้อ-ขาย
ขยะหรือของเสีย พร้อมออกกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือควบคุมให้เกิดการซ้ือ-ขายอย่างเป็นระบบ ดังเช่นใน
กรณีศึกษาของเมือง Miluo ในมณฑล Hunan ซ่ึงเดิมเป็นเมืองเกษตรกรรม แต่ชุมชนในท้องถิ่นมีการเก็บ
รวบรวมขยะเป็นอาชีพหรอื อาชพี เสรมิ ด้วย โดยในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) มีจานวนผเู้ ก็บรวมรวมขยะ
รายย่อยกว่า 4,000 ราย และเม่อื มกี ารคา้ ขายขยะเพม่ิ ขึน้ ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาดา้ นสิ่งแวดล้อมและอืน่ ๆ
ตามมา ดังน้ัน ในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2000) รัฐบาลท้องถิ่นจึงได้ก่อตั้งระบบตลาดค้ากลาง (Trading
Platform) สาหรับซ้ือ-ขายขยะ พร้อมกับออกกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง และต่อมาได้สร้างเป็นศูนย์การค้า
Tuanshan Central Trading Market ข้ึน โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนในการลงทุนจากภาคเอกชนเพ่ิมเติม
กว่า 50 ล้านหยวน ในการสร้างศูนย์การค้าดังกล่าว เน้ือท่ี 50,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ รัฐบาล
ท้องถ่ินได้ต้ังหน่วยงานกลางในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสาหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและ
ขนาดยอ่ ม (SMEs) เพอ่ื เพม่ิ เครือข่ายในการเก็บรวบรวมและกระจายสนิ คา้ รวมถึงการสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม
รีไซเคิล ทาให้ในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) เมือง Miluo สามารถเก็บรวบรวมขยะได้สูงถึง 830,000
ตัน เพม่ิ ขนึ้ จากปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) 36 เทา่ ทม่ี กี ารเกบ็ รวบรวมขยะไดเ้ พียง 23,000 ตนั และได้
เป็นฐานสาธิตเศรษฐกจิ หมนุ เวียน (Miluo Circular Economy Pilot Base) ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2548–
2557 (ค.ศ. 2005–2014) Miluo ได้พยายามพัฒนารูปแบบการสรา้ งรายได้จากการซ้ือ-ขายขยะ ไปสู่การ
สรา้ งมลู ค่าเพ่ิมจากขยะใหม้ ากขึ้น เพ่ือขยายเข้าสตู่ ลาดอตุ สาหกรรมมูลค่าสงู โดยการออกนโยบายเฉพาะที่
มุ่งเน้นการให้สิทธิประโยชน์ พร้อมออกกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือดึงดูดผู้ประกอบการ/นักลงทุนในโซ่
อปุ ทานอุตสาหกรรมรีไซเคลิ ขยะหรือของเสีย จากนโยบายดังกล่าวและการสนบั สนุนผู้เช่ียวชาญในการให้
คาปรึกษาแก่สถานประกอบการ ส่งผลให้เกิดกลุ่มอุตสาหกรรมรีไซเคิลทองแดง อะลูมิเนียม และพลาสติก
ท่ีเชื่อมโยงกับ Miluo Circular Economy Industrial Park เป็นเครือข่ายการนาขยะหรือของเสียไปใช้
ประโยชน์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง นอกจากน้ี รัฐบาลท้องถ่ินของ Miluo ยังได้จัดต้ังระบบจัดการการ
นาเข้าขยะมูลฝอย (Solid Waste Platform) ศูนย์ทดสอบคุณภาพสินค้าหมุนเวียน (Renewable
Product) และระบบซ้ือ-ขายทางอิเล็กทรอนิกส์สินค้า (E-commerce Platform) ท่ีเกี่ยวข้องกับการ
หมุนเวียนทรัพยากรตลอดโซ่อุปทาน รวมถึงให้การส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการโลจิสติกส์ ส่งผลให้มูลค่า
ทางเศรษฐกิจของกิจกรรมและอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับ Urban Mining ในพื้นที่เมือง Miluo เพิ่มข้ึน
อย่างมาก จาก 2,100 ล้านหยวน ในปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) เป็น 59,000 ล้านหยวน ในปี พ.ศ.
2560 (ค.ศ. 2017) และสามารถสร้างรายได้ให้แก่รัฐในรูปแบบของการเก็บภาษีได้ถึง 936 ล้านหยวน
(Wang et al. 2019)

2.2.4 สรปุ กรณศี กึ ษำกำรพัฒนำและขับเคลื่อนกำรทำเหมืองในเมอื ง (Urban Mining) ในต่ำงประเทศ

จากกรณีศึกษาการพัฒนาและขับเคล่ือนการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) ในประเทศ
ญ่ีปุ่น สหภาพยุโรป และสาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถสรุปกลุ่มขยะหรือของเสียเป้าหมาย นโยบาย
และแนวทางการขับเคลอื่ น Urban Mining ท่ีสาคัญได้ ดงั แสดงในตารางท่ี 4

ตารางท่ี 4 สรุปกรณศี กึ ษาการพัฒนาและขับเคล่อื นการทาเหมอื งในเมือง (Urban M

ประเทศ ของเสียเปำ้ หมำย นโยบำย/กฎหมำยที่สำคญั
ญ่ปี นุ่
ขยะหรอื ของเสยี ที่มี  นโยบายระดับชาติวา่ ดว้ ยการสรา้ งสังคมแห่ง 

องคป์ ระกอบของกลุ่ม การรไี ซเคลิ (Sound Material-Cycle Society)

โลหะทมี่ คี วามสาคัญต่อ หรอื สังคมทม่ี ีการใชห้ ลกั การ 3R (3R Society) 

การพัฒนาอตุ สาหกรรม  กฎหมายพืน้ ฐานด้านการจดั การสง่ิ แวดล้อม 

ในประเทศ เชน่ ขยะ  กฎหมายการเสริมสรา้ งสังคมรไี ซเคลิ 

อเิ ล็กทรอนิกส์ ซาก  กฎหมายเฉพาะในการจดั การของเสียแตล่ ะ

รถยนต์ เปน็ ตน้ ประเภท 




สหภาพยโุ รป  ขยะอิเล็กทรอนกิ ส์  นโยบายการบรู ณาการข้อมลู ทเ่ี กี่ยวข้องขยะ 

 ซากยานยนต์ หรอื ของเสยี ที่มีศกั ยภาพในการเปน็ แหล่ง

 ซากแบตเตอรี่ ทรัพยากรทดแทน (Secondary Raw 

Materials) 

 ระเบยี บการจดั การซากผลติ ภณั ฑเ์ ครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ 

และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (WEEE Directive)

 ข้อกาหนดวา่ ดว้ ยเร่ืองของการใชส้ ารท่เี ปน็ 

อนั ตรายในอปุ กรณเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ และ

อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (RoHS)

Mining) ในประเทศญ่ีปุน่ สหภาพยุโรป และสาธารณรฐั ประชาชนจนี ๒๕

แนวทำงกำรขับเคล่อื นทีส่ ำคญั
การสรา้ งความตระหนกั ให้แกส่ งั คม (Social Awareness) ดว้ ยการเร่ิมปลกู ฝังตัง้ แต่ในระดบั
ครอบครวั โรงเรียน และชุมชน
มาตรการว่าด้วยผู้กอ่ มลพษิ เป็นผจู้ ่าย (Polluter Pays Principle, PPP)
มาตรการการขยายความรับผดิ ชอบของผ้ผู ลติ (Extended Producer Responsibility, EPR)
มาตรการการจัดสรรงบประมาณแบบวงเงนิ รวม (Block Grant) จากภาครฐั ส่วนกลางให้แกภ่ าครัฐ
สว่ นทอ้ งถนิ่
มาตรการสนบั สนุนและสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ สังคมแห่งการรไี ซเคลิ เชน่ การจัดซ้ือจดั จ้างสีเขยี ว ฉลาก
สิ่งแวดล้อม การบูรณาการระบบการจัดการขยะหรือของเสีย การสนบั สนนุ การใชซ้ า้ และการรี
ไซเคลิ การสนบั สนนุ การวิจยั และพฒั นาเทคโนโลยี เป็นต้น
การบังคบั ใชก้ ฎหมาย
การสนับสนุนการวิจยั และพัฒนาทางด้านเทคนิคควบคู่กับการใชก้ ฎหมาย อาทิ โครงการ
“Strategic Metal Resource Circulation Technology (Urban Mining)” หรือ โครงการ
“Strategic Metal Domestic Resource Circulation”
การบรู ณาการขอ้ มลู โดยจดั ทาฐานขอ้ มูลกลาง “Urban Mine Platform (UMP)” สาหรบั สมาชกิ
สหภาพยโุ รป รวมท้ังสมาพันธรัฐสวสิ และราชอาณาจักรนอรเ์ วย์
มาตรการวา่ ด้วยผู้ก่อมลพษิ เป็นผจู้ า่ ย (PPP)
มาตรการการขยายความรบั ผดิ ชอบของผ้ผู ลติ (EPR)
การขับเคลือ่ นผ่านองคก์ ารความรบั ผิดชอบของผู้ผลิต (Producer Responsibility
Organizations, PRO)
การกาหนดขอบเขตความรับผดิ ชอบของแต่ละภาคส่วนอยา่ งชดั เจนในการบรหิ ารจัดการขยะ

ประเทศ ของเสียเปำ้ หมำย นโยบำย/กฎหมำยท่ีสำคัญ

สาธารณรฐั ขยะหรือของเสยี ท่ีมี  นโยบายการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจหมนุ เวยี น 

ประชาชนจีน องค์ประกอบของเหลก็ (Circular Economy) ของประเทศ 

และเหล็กกลา้ โลหะที่  กฎหมาย The Circular Economy 

ไมใ่ ช่เหลก็ โลหะหายาก Promotion Law

พลาสติก และยาง

แนวทำงกำรขบั เคลื่อนทส่ี ำคัญ

โครงการ “Urban Mining Demonstration Base Construction (UMDBC)” เพ่อื เปน็ หรือฐาน
สาธติ Urban Mining (Urban Mining Demonstration Base, UMDB) ทีม่ ลี ักษณะเปน็ เขตนิคม
อตุ สาหกรรมพเิ ศษ รองรบั การขบั เคลื่อน Urban Mining ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
มาตรการสนับสนนุ ด้านการเงนิ ผ่านกองทนุ Circular Economy
มาตรการสนับสนุนและส่งเสรมิ ด้านการพัฒนาและแลกเปล่ยี นเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมระหวา่ ง
สถานประกอบการดา้ นการนาทรพั ยากรกลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หม่และดา้ นการรกั ษาสง่ิ แวดล้อม
การสนับสนนุ และส่งเสรมิ โดยรัฐบาลส่วนท้องถน่ิ เช่น การตง้ั ระบบตลาดกลางสาหรบั ซอื้ -ขายขยะ
หรือของเสยี การออกกฎหมายเพื่อควบคุมใหเ้ กดิ การซื้อ-ขายอย่างเป็นระบบ การใหค้ วาม
ช่วยเหลอื ทางการเงนิ การสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมรไี ซเคิลในพื้นที่ การสง่ เสรมิ การสรา้ งมลู คา่ เพิ่มจาก
ขยะ การใหส้ ทิ ธิประโยชนเ์ พ่อื ดงึ ดูดผ้ปู ระกอบการ/นักลงทุนในโซอ่ ปุ ทานอตุ สาหกรรมรีไซเคลิ ขยะ
หรอื ของเสีย การสนับสนนุ ผ้เู ชี่ยวชาญในการใหค้ าปรึกษาแกส่ ถานประกอบการ เปน็ ต้น

๒๖

3 บทท่ี 3
สถำนกำรณข์ ยะหรือของเสีย และกำรทำเหมอื งในเมืองในประเทศไทย

3.1 ภำพรวมสถำนกำรณ์ขยะหรือของเสยี ในประเทศไทย

3.1.1 สถำนกำรณ์ขยะหรอื ของเสียครวั เรือนและอุตสำหกรรม
ประเทศไทยมีขยะหรือของเสียเกิดขึ้นเฉลี่ย 45 ล้านตันต่อปี เป็นขยะหรือของเสียจาก

ภาคครวั เรือนและสานักงาน เช่น เศษอาหาร/อินทรีย์สาร พลาสติก กระดาษ แก้ว โลหะ ผ้า ไม้ ยาง/หนัง
ขยะอื่น ๆ เป็นต้น ประมาณ 27-28 ล้านตันต่อปี และเป็นขยะหรือของเสียจากภาคอุตสาหกรรม เช่น
ของเสยี จากอุตสาหกรรมการเกษตร/การแปรรูปอาหาร ของเสยี จากกระบวนการใชค้ วามร้อน การตดั แต่ง/
ปรับสภาพผิวโลหะหรือพลาสติก เป็นต้น ประมาณ 17-18 ล้านตันต่อปี โดยในปี พ.ศ. 2563 มีขยะหรือ
ของเสยี เกิดขึ้นรวม 43.42 ล้านตนั เปน็ ขยะหรือของเสียจากภาคครวั เรอื นและสานักงาน จานวน 25.37
ลา้ นตัน (เปน็ ขยะมลู ฝอยไม่อันตราย 24.71 ล้านตัน และขยะอันตราย เช่น ซากผลิตภัณฑเ์ ครื่องใช้ไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอร่ียานยนต์ใช้แล้ว ถ่านไฟฉาย ภาชนะบรรจุสารเคมี เป็นต้น 0.66 ล้านตัน)
และเป็นขยะหรอื ของเสยี จากภาคอุตสาหกรรม จานวน 18.05 ลา้ นตนั (เป็นขยะหรือของเสยี ท่ไี ม่อันตราย
16.77 ล้านต้น และขยะหรือของเสียอันตราย 1.28 ล้านตัน) (กรมควบคุมมลพิษ 2564a) ดังแสดงใน
รูปท่ี 8 โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี

รปู ที่ 8 ภาพรวมสถานการณก์ ารจดั การขยะหรอื ของเสยี ครวั เรอื นและอตุ สาหกรรมปี พ.ศ. 2563

๒๘

3.1.1.1 ขยะหรือของเสียครวั เรอื นและสำนกั งำน

ขยะหรือของเสียครัวเรือนและสานักงานสามารถแบ่งตามลักษณะทางกายภาพได้
เป็น 4 ประเภท (กรมควบคุมมลพษิ 2558) ไดแ้ ก่

1) ขยะย่อยสลาย (Compostable Waste) ซึ่งเป็นกลุ่มขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร
เศษผัก เปลือกผลไม้ ใบไม้ เศษเน้ือสัตว์ เป็นต้น โดยมีสัดส่วนร้อยละ 64 ของปริมาณขยะหรือของเสีย
ครวั เรอื นและสานกั งานที่เกดิ ขึ้น

2) ขยะรีไซเคิล (Recyclable Waste) เช่น แก้ว กระดาษ เศษพลาสติก เศษโลหะ
ยางรถยนต์ใช้แล้ว กล่องเคร่ืองด่ืมแบบ UHT กระป๋องหรือขวดบรรจุเคร่ืองด่ืมหรืออาหาร เป็นต้น โดยมี
สดั ส่วนร้อยละ 30 ของปริมาณขยะหรอื ของเสยี ครวั เรือนและสานักงานท่เี กดิ ข้ึน

3) ขยะอันตราย (Hazardous Waste) เช่น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic
waste หรือ E-waste) หรือซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Waste from Electrical
and Electronic Equipment, WEEE) แบตเตอรี่ยานยนต์ใชแ้ ล้ว ภาชนะบรรจุสารเคมี กระป๋องสเปรย์บรรจุสี
หรอื สารเคมี เปน็ ต้น โดยมีสัดส่วนรอ้ ยละ 3 ของปริมาณขยะหรอื ของเสยี ครัวเรือนและสานกั งานท่ีเกดิ ขึ้น

4) ขยะทั่วไป (General Waste) ซ่ึงเป็นขยะประเภทอ่ืนนอกเหนือจากขยะ 3
ประเภทข้างตน้ มีลักษณะย่อยสลายยากและไม่คุม้ คา่ สาหรับการนากลับมาใช้ประโยชนใ์ หม่ แตอ่ าจแปรรูป
เป็นขยะเชอ้ื เพลิง (Refuse Derived Fuel, RDF) เพ่ือใชเ้ ป็นพลังงานทดแทนให้กับอตุ สาหกรรมปูนซเิ มนต์
หรือโรงไฟฟ้าขยะชุมชนได้ เช่น ห่อพลาสติกใส่ขนม ถุงพลาสติกบรรจุผงซักฟอก ถุงพลาสติก/โฟม/ฟอยล์
เปื้อนเศษอาหาร เป็นตน้ โดยมสี ดั สว่ นรอ้ ยละ 3 ของปริมาณขยะหรือของเสียครัวเรือนและสานักงานที่เกดิ ข้ึน

ในปี พ.ศ. 2563 ขยะหรือของเสียครัวเรือนและสานักงานท่ีเกิดข้ึน จานวน
25.37 ล้านตัน มีการจัดการโดยการนากลับมาใช้ประโยชน์ 8.36 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 33
(ปี 2555-2559 ร้อยละ 20) กาจัดอยา่ งถูกต้อง 9.13 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 36 และกาจัดอย่าง
ไม่ถูกต้อง 7.88 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 31 (กรมควบคุมมลพิษ 2564a) ซ่ึงแม้ว่าการนาขยะหรือ
ของเสียครัวเรอื นและสานักงานไปใชป้ ระโยชน์จะมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นจากการผลักดันและขับเคลื่อนนโยบาย
และมาตรการต่าง ๆ ของภาครฐั และความร่วมมือจากภาคเอกชน สถาบันการศกึ ษาและหน่วยงานวจิ ยั ตา่ ง
ๆ อย่างไรก็ตาม การนาขยะหรือของเสียไปใช้ประโยชน์ยังมีสัดส่วนต่า เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
เช่น สหพันธรัฐเยอรมนี มีสัดส่วนการนาขยะหรือของเสียครัวเรือนและสานักงานไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ
67 (Federal Ministry for the Environment Nature Conservation and Nuclear Safety 2018)
เป็นต้น นอกจากนี้ ขยะหรือของเสียที่เกิดข้ึนในประเทศยังมีการจัดการอย่างไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหา
มลพิษต่อส่ิงแวดล้อมและชุมชน และเป็นภาระต่องบประมาณภาครัฐในการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมและ
ดแู ลสุขภาพอนามัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษที่เกดิ ข้นึ

เมื่อพิจารณาประเภทขยะหรือของเสียครัวเรือนและสานักงานตามแนวคิดการทา
เหมืองในเมือง (Urban Mining) พบว่า ขยะรีไซเคิล และขยะอันตราย เป็นกลุ่มขยะหรือของเสียที่มีแร่/
โลหะเป็นองค์ประกอบ ซึ่งมีศักยภาพในการนากลบั มาใชป้ ระโยชน์ตามแนวคิด Urban Mining โดยในกลุ่ม
ขยะรไี ซเคลิ ท่เี ป็นเศษโลหะ (อาทิ เหล็ก อะลูมเิ นียม ทองแดง ทองเหลอื ง) และเศษแก้ว (วัตถุดบิ ตง้ั ตน้ คือ
ทรายแก้วหรือทรายซิลิกา) เป็นขยะไม่อันตราย มีโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศที่สามารถใช้ขยะรีไซเคิล
เหล่านี้เป็นวตั ถุดิบทดแทนได้ รวมทั้งมีความต้องการขยะรไี ซเคลิ เหล่าน้ีทงั้ จากโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศ

๒๙

และต่างประเทศเนื่องจากสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ ส่งผลให้เกิดกลไกตลาดท่ีก่อให้เกิดระบบการ
รวบรวมและขนส่งไปยงั โรงงานอตุ สาหกรรม

สาหรับกลุ่มขยะอันตราย โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic waste หรือ
E-waste) หรือซากผลิตภัณฑ์เคร่อื งใช้ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ (Waste from Electrical and Electronic
Equipment, WEEE) ซ่ึงมีองค์ประกอบของโลหะมีค่า (Precious Metals) เช่น ทอง เงิน แพลทินัม
แพลเลเดียม เป็นต้น โลหะพ้ืนฐาน (Base Metals) เช่น ทองแดง เหล็ก นิกเกิล อะลูมิเนียม สังกะสี ดีบุก
เปน็ ต้น และธาตุหายาก (Rare Earth Elements) เชน่ นีโอดเิ มยี ม ซาแมเรยี ม เพรซีโอดิเมยี ม ดิสโพรเซยี ม
เปน็ ต้น รวมถงึ วัสดตุ ่าง ๆ เป็นจานวนมาก และมปี ริมาณสูงเมอ่ื เทียบกบั แหล่งแร่ตามธรรมชาติ รวมทั้งเป็น
ขยะหรือของเสยี เป้าหมายท่ีสาคัญในการทา Urban Mining ของประเทศต่าง ๆ ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะใน
การบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ขายขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ซาเล้ง/รถเร่
หรือท้ิงปะปนกับขยะท่ัวไป ซ่ึงนาไปสู่การจัดการที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น การคัดแยกที่ไม่ได้คานึงถึงอันตราย
ต่อสุขภาพและผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม โดยการนาชิ้นส่วนท่ีไม่ต้องการไปเผากลางแจ้ง หรือการท้ิง
สารเคมีอันตรายลงสู่ธรรมชาติโดยไม่มีการบาบัด เป็นต้น และส่วนใหญ่เป็นการดาเนินการโดยประชาชน
ในแหล่งชุมชนถอดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่กระจายอยู่ทัว่ ประเทศเกือบ 100 แห่ง และมีแนวโนม้ เพ่ิมขึ้น
อย่างต่อเน่ือง ไม่นับรวมร้านค้าของเก่าบางรายที่มีการถอดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยนาขยะ
อิเล็กทรอนิกส์มาถอดแยกภายในบริเวณบ้านพักหรือท่ีสาธารณะหรือร้านค้าของเก่า ซ่ึงไม่เข้าข่ายโรงงาน
และรวบรวมวัสดุที่จาหน่ายได้ เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก อะลูมิเนียม
ทองแดง เป็นต้น ส่งขายให้เครือข่ายรวบรวมของโรงงานคัดแยก/รีไซเคิล รวมถึงผู้รวบรวมเศษโลหะ/ขยะ
อิเล็กทรอนิกส์ท่ีผ่านการถอดแยกแล้วท้ังในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับประเทศไทยยังไม่มี
โรงงานรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจรในประเทศ โดยเฉพาะการรีไซเคิลซากแผงวงจรและช้ินส่วน
อิเล็กทรอนิกส์ที่มีองค์ประกอบของโลหะมีค่า ส่วนใหญ่เป็นการถอดแยก/คัดแยก/บดย่อยแล้วส่งออกไป
ต่างประเทศ ส่งผลให้ปัจจุบันขยะอิเล็กทรอนิกส์จากภาคครัวเรือนมีการจัดการอย่างถูกต้องเพียงร้อยละ
10 จากปริมาณขยะอิเลก็ ทรอนิกส์จากภาคครัวเรือนท่ีเกิดขึ้นในประเทศเฉลี่ย 420,000-430,000 ตัน
ต่อปี (กรมควบคุมมลพิษ 2564b, c, กุลชา ธนะขว้าง 2564) อย่างไรก็ตาม ภายในปี พ.ศ. 2565
ประเทศไทยจะมีโรงงานรีไซเคิลซากแผงวงจรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบวงจร ได้แก่ บริษัท จุ้นจ้ี
แมททีเรียล เทคโนโลยี จากัด จังหวัดชลบุรี โดยสามารถรีไซเคิลซากแผงวงจรและช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์
และเศษทองแดง โดยการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ แผ่นทองแดงบริสุทธิ์ เงินบริสุทธ์ิ ทองบริสุทธ์ิ
ดีบุก สังกะสีออกไซด์ นิกเกิลซัลเฟต เกลือพาลาเดียม และเกลือทอง เพื่อเป็นวัตถุดิบให้แก่อุตสาหกรรม
ต่อเน่ืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในระยะแรกของการผลิตจะใช้ซากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์จาก
ภาคอุตสาหกรรมและเศษทองแดงเป็นวัตถุดิบ และมีแผนที่จะรับวัตถุดิบเพิ่ม ได้แก่ ตะกรัน/ฝุ่นจาก
กระบวนการหลอมถลงุ ทองแดง และซากแผงวงจรและช้นิ ส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์จากภาคครัวเรอื น

นอกจากนี้ ยงั มีซากรถยนต์ท่ีเป็นขยะอันตรายจากภาคครัวเรือนและสานักงาน ซ่ึง
ยังไม่มีกฎหมาย หลักเกณฑ์ หรือมาตรการในการบริหารจัดการซากรถยนต์ ส่งผลให้ซากรถยนต์ท่ีเกิดขึ้น
บางส่วนมีการแยกชิ้นส่วนโดยประชาชน ซ่ึงไม่เข้าข่ายโรงงาน ด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิด
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ 2564b) อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานถอด
แยกชิน้ ส่วนรถยนต์แบบครบวงจร จานวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท ฮีดากาโยโก เอ็นเตอร์ไพรส์ จากัด จงั หวัด
ชลบุรี และบริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จากัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยดาเนินการตั้งแต่

๓๐

การรวบรวมซากรถยนต์หรือรถยนต์ท่ีหมดอายุการใช้งาน การรื้อและถอดแยกช้ินส่วน และการกาจัดของ
เสียท่ีเกิดขึ้นจากซากรถยนต์ที่ไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ สาหรับชิ้นส่วนและวัสดุท่ีจาหน่ายได้ เช่น
เหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดง ยาง พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องฟอกไอ
เสยี เชิงปฏกิ ิรยิ า (Catalytic Converter) เปน็ ต้น จะถกู รวบรวมสง่ ขายให้โรงงานรีไซเคิลท้งั ในประเทศและ
ต่างประเทศ

3.1.1.2 ขยะหรอื ของเสยี อตุ สำหกรรม

กระทรวงอุตสาหกรรมได้กาหนดกฎระเบยี บในการบริหารจัดการขยะหรือของเสีย
อุตสาหกรรม ต้ังแต่การกาหนดประเภทของเสียท่ีเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน การควบคุมของ
เสียที่มีการขออนุญาตนาออกนอกบริเวณโรงงานเพ่ือการกาจัด โดยกาหนดให้โรงงานต้องระบุประเภท
ปริมาณ และวธิ ีการกาจัด ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรือ่ ง การกาจดั สิง่ ปฏกิ ูลหรือวสั ดุที่
ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกาจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว
(ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เร่ือง ยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตนาส่ิงปฏิกูลหรือ
วสั ดุทไี่ ม่ใช้แลว้ ท่ีไม่เป็นของเสียอันตรายออกนอกบริเวณโรงงาน พ.ศ. 2561 ดังนั้น ของเสยี อุตสาหกรรม
ท่ีมีการนาออกนอกบริเวณโรงงาน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องดาเนินการให้เป็นไปตามประกาศ
กระทรวงอตุ สาหกรรมท่ีกาหนด ซึ่งตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมดงั กล่าว ของเสียอุตสาหกรรม หรือ
ท่ีเรียกว่าสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หมายถึง ส่ิงของที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียทั้งหมดที่เกิดข้ึนจากการ
ประกอบกิจการโรงงาน ตั้งแต่กระบวนการรับวัตถุดิบ การผลิต การตรวจสอบคุณภาพ การบาบัดมลพิษ
การซ่อมบารุงเคร่ืองจักร/อุปกรณ์ การรื้อถอน/ก่อสร้างอาคารภายในบริเวณโรงงาน รวมท้ังกากตะกอน
หรือสิง่ ตกค้างจากสิง่ เหล่าน้ัน ทัง้ ที่อยู่ในสภาวะของแข็ง ของเหลว หรอื ก๊าซ ท้ังนร้ี วมถงึ ของเสียอันตรายท่ีเกิด
จากอาคารสานกั งานและทีพ่ ักคนงานที่อย่ภู ายในบริเวณโรงงาน ยกเว้นของเสียไมอ่ ันตรายทีเ่ กิดจากอาคาร
สานักงานและบ้านพักคนงาน เช่น หนังสือพิมพ์ เศษอาหาร ขยะมูลฝอยทั่วไป เป็นต้น ทั้งน้ี ตามประกาศ
กระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกาจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 ได้แบ่งของเสีย
อุตสาหกรรมเป็น 19 หมวดหมู่ และมีการกาหนดรหัสเฉพาะของของเสีย โดยใช้รหัสเลข 6 หลัก ซ่ึงมี
รายละเอยี ด (กระทรวงอุตสาหกรรม 2549) ดงั นี้

1) เลข 2 หลักแรก แสดงถึงประเภทของการประกอบกิจการ หรือชนิดของของ
เสีย ดังแสดงในตารางท่ี 5

2) เลข 2 หลักกลาง แสดงถึงกระบวนการเฉพาะในการประกอบกิจการนั้น ๆ ท่ี
ทาใหเ้ กิดของเสยี หรือเปน็ ชนิดของของเสีย

3) เลข 2 หลกั สุดทา้ ย แสดงถึงลักษณะเฉพาะของของเสียน้ัน เชน่ รหัส 05 07
01 หมายถึง ของเสียหรือสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุท่ีไม่ใช้แล้วจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (05) จากกระบวนการ
แยกกา๊ ซธรรมชาติ (07) ท่ปี นเปื้อนดว้ ยปรอท (01) เป็นต้น

โดยตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมดังกล่าว ได้กาหนดวิธีการจัดการของเสีย
เป็น 8 ประเภทหลกั รวม 37 วธิ ี ดังแสดงในตารางท่ี 6

๓๑

ตารางที่ 5 รหสั และชนิดของเสยี อตุ สาหกรรม (กระทรวงอุตสาหกรรม 2549)

รหสั ชนดิ ของเสีย
01 ของเสียจากการสารวจ การทาเหมืองแร่ การทาเหมอื งหนิ และการปรบั สภาพแรธ่ าตโุ ดยวิธกี ายภาพและเคมี
02 ของเสยี จากการเกษตรกรรม การเพาะปลูกพืชสวน การเพาะเลี้ยงสตั ว์น้า การทาปา่ ไม้ การล่าสตั ว์ การประมง

การแปรรปู อาหารตา่ งๆ
03 ของเสยี จากกระบวนการแปรรูปไม้ และการผลติ แผ่นไม้ เครื่องเรือน เยอื่ กระดาษ กระดาษ หรอื กระดาษแข็ง
04 ของเสยี จากอุตสาหกรรมเคร่ืองหนัง ขนสัตว์ และอุตสาหกรรมสงิ่ ทอ
05 ของเสยี จากกระบวนการกลนั่ ปโิ ตรเลยี ม การแยกกา๊ ซธรรมชาติ และกระบวนการบาบดั ถ่านหินโดยการเผาแบบ

ไมใ่ ชอ้ อกซิเจน
06 ของเสยี จากกระบวนการผลติ สารอนนิ ทรยี ต์ า่ งๆ
07 ของเสียจากกระบวนการผลติ สารอินทรยี ์ต่างๆ
08 ของเสียจากการผลติ การผสมตามสูตร การจดั สง่ และการใช้งานของสี สารเคลอื บเงา สารเคลอื บผวิ กาว สาร

ติดผนกึ และหมกึ พมิ พ์
09 ของเสียจากอตุ สาหกรรมทเี่ ก่ยี วกบั การถ่ายภาพ
10 ของเสียจากกระบวนการใช้ความรอ้ น
11 ของเสียจากการปรับสภาพผิวโลหะและวสั ดุตา่ งๆ ดว้ ยวิธเี คมี รวมทง้ั การชุบเคลือบผวิ และของเสยี จาก

กระบวนการ non-ferrous hydro-metallurgy
12 ของเสยี จากการตดั แตง่ และปรบั สภาพผิวโลหะพลาสติก ด้วยกระบวนทางกายภาพ หรือเชิงกล
13 ของเสยี ประเภท น้ามนั และเชื้อเพลงิ เหลว ไมร่ วมน้ามันทบี่ รโิ ภคได้
14 ของเสยี ประเภทตวั ทาละลายอนิ ทรยี ์ สารทาความเย็นสารขบั เคลื่อน ท่ไี มร่ วมไว้ในรหสั 07 และ 08
15 ของเสียประเภทบรรจุภณั ฑ์ วสั ดุดดู ซับ ผา้ สาหรบั เชด็ วัสดตุ วั กรอง และชุดปอ้ งกันท่ีไมไ่ ดร้ ะบไุ วใ้ นหมวดอน่ื
16 ของเสียประเภทตา่ ง ๆ ทไ่ี ม่ไดร้ ะบใุ นหมวดอื่น
17 ของเสียจากงานก่อสรา้ งและการรอื้ ทาลายสิ่งก่อสร้างรวมถงึ ดินทข่ี ดุ จากพนื้ ที่ปนเป้ือน
18 ของเสียจากการสาธารณสขุ สาหรบั มนุษยแ์ ละสัตว์ รวมถึงการวิจยั ทางดา้ นสาธารณสุข
19 ของเสียจากโรงปรบั คณุ ภาพของเสยี โรงบาบดั นา้ เสยี โรงผลติ น้าประปา และ โรงผลติ น้าใช้อตุ สาหกรรม

๓๒

ตารางท่ี 6 วธิ ีการจัดการของเสียอุตสาหกรรม (กระทรวงอตุ สาหกรรม 2549)

ประเภทหลกั รหัสวิธกี ำร วิธีกำรจัดกำร

จดั กำร

01 การคัดแยก 011 คัดแยกประเภทเพ่อื จาหน่ายต่อ (Sorting)

(Sorting)

02 การกักเก็บใน 021 กกั เก็บในภาชนะบรรจุ (Storage) ใหระบุลกั ษณะการกักเกบ็ และภาชนะ

ภาชนะบรรจุ (Storage) บรรจุ

03 การนากลับมาใช้ซ้า 031 เปน็ วัตถุดบิ ทดแทน (Use as Raw Material Substitution) ใหระบุ

(Reuse) กระบวนการหรือผลิตภัณฑ์

032 สงกลับผูขายเพอื่ กาจดั (Return to Original Producer for Disposal) ให

ระบุชอื่ ผขู้ ายทร่ี บั คืน

033 สงกลับผูขายเพ่ือนากลบั ไปบรรจุใหมห่ รือใช้ซ้า (Reuse Container; to be

Refilled) ใหระบุชอ่ื ผู้ขายท่ีรับคนื

039 นากลับมาใชซ้าดว้ ยวธิ ีอน่ื ๆ (Other Reuse Methods) ใหระบุ

04 การนากลับมาใช 041 เปน็ เชอ้ื เพลงิ ทดแทน (Use as Fuel Substitution or Burn for Energy

ประโยชนอีก (Recycle) Recovery)

042 ทาเชอ้ื เพลงิ ผสม (Fuel Blending)

043 เผาเพ่ือเอาพลงั งาน (Burn for Energy Recovery) ใหระบุลกั ษณะการเผา

044 เป็นวตั ถุดิบทดแทนในเตาเผาปูนซเี มนต Use as Co-material in Cement

Kiln or Rotary Kiln) ใหระบผุ ลติ ภัณฑ์

049 นากลบั มาใชประโยชนอีกด้วยวธิ ีอืน่ ๆ (Other Recycle Methods) ใหระบุ

05 การนากลับคนื มา 051 เขากระบวนการนาตัวทาละลายกลับมาใหม่ Solvent

ใหม่ Recovery) Reclamation/Regeneration)

052 เขากระบวนการนาโลหะกลับมาใหม่ (Reclamation/Regeneration of

Metal and Metal Compounds)

053 เขากระบวนการคืนสภาพกรด/ด่าง (Acid/Base Regeneration)

054 เขากระบวนการคืนสภาพตวั เรง่ ปฏิกิริยา (Catalyst Regeneration)

059 นาสิง่ ปฏิกลู หรือวัสดทุ ่ีไม่ใช้แล้วอนื่ ๆ กลับคืนมาใหม่ Other Recovery

Unlisted Materials) ใหระบุ

06 การบาบัด 061 บาบัดด้วยวธิ ีชวี ภาพ (Biological Treatment)

(Treatment) 062 บาบัดด้วยวิธีทางเคมี (Chemical Treatment)

063 บาบดั ดว้ ยวธิ ที างกายภาพ (Physical Treatment)

064 บาบดั ดว้ ยวธิ ที างเคมีกายภาพ (Physicochemical Treatment)

065 บาบดั นา้ เสียด้วยวิธีทางเคมกี ายภาพ (Physicochemical Treatment of

Wastewater)

066 เขาระบบบาบัดนา้ เสยี รวม (Direct Discharge to Central Wastewater

Treatment Plant)

067 ปรบั เสถยี รด้วยวิธที างเคมี (Chemical Stabilization)

068 ปรับเสถยี ร/ตรึงทางเคมโี ดยใชซเี มนตหรอื วัสดุ Pozzolanic (Chemical

Fixation using Cementitious and/or Pozzolanic Material)

069 วิธีบาบดั อนื่ ๆ เพ่อื ลดค่าความเป็นอันตราย (Other Detoxification

Methods) ใหระบุ

๓๓

ประเภทหลกั รหัสวิธีกำร วิธกี ำรจัดกำร
07 การกาจัด จัดกำร
(Disposal) 071 ฝงกลบตามหลักสุขาภิบาล (Sanitary Landfill) เฉพาะส่ิงปฏกิ ลู หรอื วสั ดทุ ่ีไม่
ใช้แลว้ ทไี่ ม่เปน็ ของเสยี อันตรายเทาน้ัน
08 การจัดการดว้ ยวิธี 072 ฝงกลบอย่างปลอดภยั (Secure Landfill)
อ่นื ๆ 073 ฝงกลบอย่างปลอดภยั เมื่อทาการปรบั เสถยี รหรอื ทาใหเป็นกอนแข็งแลว
(Secure Landfill of Stabilized and/or Solidified Wastes)
074 เผาทาลายในเตาเผาขยะทั่วไป (Burn for Destruction) เฉพาะสงิ่ ปฏกิ ลู หรอื
วัสดุทไี่ มใ่ ชแลวทไี่ ม่เป็นของเสยี อนั ตรายเทานน้ั
075 เผาทาลายในเตาเผาเฉพาะสาหรับของเสยี อนั ตราย (Burn for Destruction
in Hazardous Waste Incinerator)
076 เผาทาลายรว่ มในเตาเผาปนู ซเี มนต Co-incineration in Cement Kiln)
077 อัดฉดี ลงบอ ใตดิน หรอื ช้ันดินใตทะเล (Deepwell or Underground
Injection; Sea-Bed Insertion)
079 กาจัดดว้ ยวธิ อี ่ืนๆ (other disposal methods) ใหระบุ
081 รวบรวมและสงออกนอกประเทศ (Collect and Export)
082 ถมทะเลหรือที่ลมุ (Land Reclamation) เฉพาะส่ิงปฏิกลู หรือวสั ดทุ ี่ไมใ่ ช้แล
วทไี่ ม่เป็นของเสยี อันตรายเทาน้นั
083 หมกั ทาปยุ หรือสารปรบั ปรงุ คณุ ภาพดนิ (Composting or Soil
Conditioner) เฉพาะสิ่งปฏกิ ลู หรอื วัสดุท่ีไม่ใช้แลวทไ่ี ม่เปน็ ของเสียอนั ตราย
084 เทาน้ัน
ทาอาหารสตั ว Animal Feed) เฉพาะส่งิ ปฏกิ ลู หรือวสั ดุท่ีไมใ่ ช้แลวทไ่ี มเ่ ป็น
ของเสียอนั ตรายเทาน้ัน

จากข้อมูลการแจ้งขนส่งของเสียออกนอกโรงงานโดยผู้ก่อกาเนิดของกรมโรงงาน
อตุ สาหกรรม พบว่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2562-2563 มีปริมาณของเสียที่มีการแจ้งขนส่งออกนอกโรงงาน
โดยผู้ก่อกาเนิดประมาณ 17-18 ล้านตันต่อปี โดยมีสัดส่วนปริมาณของเสียอันตรายค่อนข้างคงที่
ประมาณ 1.2-1.3 ล้านตนั ต่อปี ท่เี หลือเปน็ ของเสยี ไมอ่ นั ตราย สาหรบั ประเภทของเสียท่มี ีสัดส่วนการแจ้ง
ขนสง่ ฯ เฉลยี่ สูงสดุ 3 อนั ดับแรก ไดแ้ ก่

1) ของเสียจากการเกษตรกรรม การเพาะเล้ียงสัตว์น้า การทาป่าไม้ การประมง
การแปรรูปอาหารตา่ ง ๆ (รหสั 02) โดยมีสัดสว่ นเฉลี่ยร้อยละ 35 ของปริมาณของเสยี ทีม่ กี ารแจง้ ขนส่งฯ

2) ของเสียจากกระบวนการใช้ความร้อน (รหัส 10) ซ่ึงได้แก่ ของเสียจาก
กระบวนการผลิตไฟฟ้า โลหะ แก้วและผลิตภัณฑ์แก้ว เซรามิก อิฐ กระเบื้อง และผลิตภัณฑ์สาหรับงาน
ก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ปูนขาว ปูนปลาสเตอร์ และผลิตภัณฑ์จากปูน โดยมีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 26 ของ
ปริมาณของเสยี ท่ีมีการแจ้งขนสง่ ฯ

3) ของเสียจากการตัดแต่ง และปรับสภาพผิวโลหะ พลาสติก (รหัส 12) โดยมี
สัดสว่ นเฉล่ยี รอ้ ยละ 11 ของปริมาณของเสยี ที่มกี ารแจ้งขนส่งฯ ทั้งหมด

โดยของเสียท้ัง 3 ประเภทดังกล่าวมีสัดส่วนคิดเป็นกว่าร้อยละ 70 ของปริมาณ
ของเสียทม่ี กี ารแจง้ ขนส่งฯ (ทีม่ า : สรปุ จากระบบการจัดการวสั ดุที่ไมใ่ ช้แล้วทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กรมโรงงาน
อุตสาหกรรม)

๓๔

เมื่อพิจารณาสัดส่วนการนากลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ2 พบว่า ในระหว่าง
ปี พ.ศ. 2562-2563 ของเสียท่ีมีการแจ้งขนส่งออกนอกโรงงานโดยผู้ก่อกาเนิด มีสัดส่วนการนากลับมา
ใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ เฉล่ียร้อยละ 70 ใกล้เคียงกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหพันธรัฐเยอรมนี
มีสัดส่วนการนาขยะหรือของเสียอุตสาหกรรมไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 70 (Federal Ministry for the
Environment Nature Conservation and Nuclear Safety 2018) เป็นต้น ซึ่งปัจจัยสาคัญที่ทาให้มี
สัดส่วนการใช้ประโยชน์ของเสียอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ได้แก่ การมีกฎหมายควบคุมและกากับดูแลการ
บริหารจัดการของเสียอุตสาหกรรม รวมท้ังการผลักดันและขับเคล่ือนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของ
ภาครัฐ และความร่วมมือจากภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและ
สนับสนุนให้มีการนาของเสียอุตสาหกรรมไปใช้ประโยชน์ โดยของเสียที่มีการแจ้งขนส่งฯ เฉลี่ยสูงสุด 3
อนั ดบั แรก มสี ัดส่วนการนากลบั มาใช้ประโยชนใ์ นรปู แบบต่าง ๆ ดังน้ี

1) ของเสียจากการเกษตรกรรม การเพาะเลี้ยงสัตว์น้า การทาป่าไม้ การประมง
การแปรรูปอาหารต่าง ๆ (รหัส 02) ซ่ึงเป็นของเสียอินทรีย์ที่ไม่อันตรายและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้
มีสดั ส่วนการนากลบั มาใช้ประโยชนใ์ นประเทศเฉล่ียกวา่ ร้อยละ 80

2) ของเสียจากกระบวนการใช้ความร้อน (รหัส 10) ซ่ึงเป็นหนึ่งในกลุ่มของเสีย
สาคัญท่ีมีแร่/โลหะเป็นองค์ประกอบ และมีศักยภาพในการนากลับมาใช้ประโยชน์ตามแนวคิด Urban
Mining มีสดั สว่ นการนากลบั มาใช้ประโยชน์ในประเทศเฉล่ียกวา่ รอ้ ยละ 85

3) ของเสยี จากการตดั แต่ง และปรับสภาพผิวโลหะ พลาสตกิ (รหัส 12) มสี ัดสว่ น
การนากลับมาใช้ประโยชน์ในประเทศเฉล่ียร้อยละ 26 (ท่ีมา : สรุปจากระบบการจัดการวัสดุท่ีไม่ใช้แล้ว
ทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม)

สาหรับของเสียอุตสาหกรรมที่เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ มีการแจ้งขนส่งออกนอก
โรงงานโดยผู้ก่อกาเนิด ประมาณ 16,000-20,000 ตันต่อปี โดยมีสัดส่วนการนากลับมาใช้ประโยชน์ใน
ประเทศเฉล่ียกว่าร้อยละ 50 (ท่ีมา : สรุปจากระบบการจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วทางอิเล็กทรอนิกส์ กรม
โรงงานอุตสาหกรรม) ซึ่งจะเห็นได้ว่าขยะอเิ ล็กทรอนิกส์จากภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณท่ีเกิดขึ้นในแต่ละปี
น้อยกว่าขยะอเิ ล็กทรอนกิ สจ์ ากภาคครวั เรือนเป็นจานวนมาก

อย่างไรก็ตาม ของเสียอุตสาหกรรมท่ีจัดเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ท่ีภายในระยะเวลา
ไม่เกิน 5 ปีนี้ คาดว่าจะมีปริมาณเพ่ิมข้ึนเป็นจานวนมาก จากหลักพันต่อปี เป็น หลักหมื่นตันต่อปี ได้แก่
ซากแผงเซลลแ์ สงอาทติ ย์จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เนอ่ื งจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชุดแรก ๆ ท่ีได้มี
การติดต้ังในประเทศไทย จะเริ่มทยอยหมดอายุ นอกจากน้ี ยังมีแผงเซลล์แสงอาทิตย์ท่ีถูกปลดระวางจาก

2 การนาของเสียกลับมาใชป้ ระโยชน์ ในรายงานนี้ รวมเฉพาะการจัดการของเสยี ประเภท 03 การนากลบั มาใช้ซา้
(Reuse) เฉพาะ 031 033 039 ประเภท 04 การนากลบั มาใชป้ ระโยชน์อีก (Recycle) ประเภท 05 การนากลับคืนมา
ใหม่ (Recovery) ประเภท 083 การหมกั ทาป๋ยุ (เฉพาะของเสยี ที่ไมเ่ ปน็ อันตราย) และประเภท 084 ทาอาหารสตั ว์
(เฉพาะของเสยี ท่ีไม่เป็นอนั ตราย) ไมร่ วมการคดั แยกประเภทเพ่ือจาหน่ายตอ่ 01 การรวบรวมและส่งออกนอกประเทศ
081 และการถมทะเลหรอื ที่ลมุ่ (เฉพาะของเสยี ทไ่ี ม่เป็นอนั ตราย) 082 เนื่องจากการคดั แยกประเภทเพื่อจาหนา่ ยต่อ ยัง
มขี องเสียทไี่ มส่ ามารถจาหน่ายได้เกิดข้ึนซงึ่ เปน็ ของเสยี ทตี่ อ้ งนาไปบาบัด/กาจดั และของเสยี บางประเภททค่ี ดั แยกถูก
สง่ ออกไปต่างประเทศไม่ไดใ้ ชป้ ระโยชน์เปน็ วัตถุดิบในประเทศ เช่นเดียวกบั การรวบรวมและส่งออกนอกประเทศ ขณะท่ี
การถมทะเลหรือทล่ี ่มุ (เฉพาะของเสยี ท่ไี ม่เป็นอนั ตราย) ยังไมก่ ่อให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ เนอื่ งจากของเสยี บางประเภท
สามารถนามาใช้ประโยชน์ในรปู แบบอืน่ ๆ เพ่อื ให้เกิดมลู ค่าเพ่ิมได้ เช่น กากตะกอนดนิ จากกระบวนการผลติ น้าประปา
สามารถนามาใชว้ ัตถุดบิ ในการผลติ เป็นผลิตภณั ฑ์เครอื่ งป้ันดินเผาได้ นอกจากการถมท่ี เป็นตน้

๓๕

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ก่อนหมดอายุการใช้งาน เพื่อติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะ
สงู ข้ึน ซ่ึงจะทาให้ผู้ประกอบการได้รบั กาไรจากการขายไฟฟ้าเพ่ิมข้ึน เน่ืองจากผู้ประกอบการไดค้ ืนทนุ และ
ได้กาไรจากการขายไฟฟ้าที่ผลิตโดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์เดิมแล้ว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ได้รับการ
สนับสนุนส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า (Adder) ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน สาหรับแผงเซลล์แสงอาทิตย์
ที่ถูกปลดระวาง จะถูกขายหรือบริจาคเป็นแผงเซลล์แสงอาทิตย์มือสอง ฝังกลบ หรือเก็บไว้รอการจัดการ
ต่อไป ซ่ึงแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ถูกขายหรือบริจาคเป็นแผงเซลล์แสงอาทิตย์มือสองเพ่ือใช้ผลิตไฟฟ้าตาม
สถานท่ีต่าง ๆ เช่น บ้านเรือน ชุมชน วัด โรงเรียน ฟาร์ม สวน เป็นต้น จะกลายเป็นขยะหรือของเสีย
ครัวเรือนในอนาคตเมื่อหมดอายุการใช้งาน ท้ังนี้ ยังไม่รวมแผงเซลล์แสงอาทิตย์มือสองที่ถูกนาเข้าจาก
ต่างประเทศมาขาย และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีการติดตั้งตามครัวเรือนและสานักงาน ซึ่งแผงเซลล์
แสงอาทิตย์ท่ีหมดอายุการใช้งานหรือซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์เป็นขยะหรือของเสียท่ีมีแร่/โลหะเป็น
องค์ประกอบ เชน่ กระจก (วัตถุดิบต้ังตน้ คอื ทรายแกว้ หรือทรายซิลิกา) อะลูมิเนยี ม ทองแดง เงิน ซลิ ิกอน
ดีบุก ตะกัว่ เป็นตน้ และมีศกั ยภาพในการนากลบั มาใชป้ ระโยชน์ตามแนวคิด Urban Mining

ดงั น้นั เมอ่ื พิจารณาประเภทขยะหรือของเสียครัวเรือนและอตุ สาหกรรมที่มีศักยภาพในการทา
เหมืองในเมือง (Urban Mining) แต่ยังมีสัดส่วนการนากลับมาใช้ประโยชน์ในประเทศตามแนวคิด Urban
Mining ต่า รวมทั้งหากไม่มีระบบการบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพและครบวงจรอาจก่อให้ปัญหามลพิษ
ต่อส่ิงแวดล้อมและชุมชนในระดับท่ีส่งผลกระทบสูง จะเห็นได้ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซากรถยนต์ และซาก
แผงเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นกลุ่มประเภทขยะหรือของเสียที่มีศักยภาพในการทา Urban Mining เพ่ือแยก
สกัดแร่ โลหะ และสารประกอบโลหะกลับมาใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรมในประเทศ
(ดูรายละเอียดในหัวข้อ 3.2) ซึ่งเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการเกิดขยะและมลพิษต่อ
สิ่งแวดล้อมและชุมชน แก้ไขปัญหาโลกร้อน ลดงบประมาณในการจัดการขยะท่ีเกิดข้ึน และเพ่ิมมูลค่าทาง
เศรษฐกิจในประเทศจากการลงทุนและ/หรือการนาขยะหรือของเสียไปใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างความมั่นคง
ทางด้านวัตถดุ บิ ให้กบั ภาคอตุ สาหกรรม ควบค่ไู ปกับการสรา้ งความยั่งยนื ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม

3.1.2 หน่วยงำนที่เกยี่ วขอ้ งกบั กำรจดั กำรขยะหรือของเสีย

แผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. 2559-2564) ได้ระบุ
หน่วยงานท่เี กยี่ วขอ้ งกับการจัดการขยะหรอื ของเสยี (กรมควบคุมมลพิษ 2559) ดังนี้

1) หน่วยงานระดบั พืน้ ที่

หน่วยงานที่เก่ียวข้องในการจัดการขยะหรือของเสียในระดับพื้นท่ี ประกอบด้วยจังหวัด
และองคก์ ารปกครองสว่ นท้องถน่ิ ดังนี้

(1) จังหวัด โดยมีบทบาทหน้าที่ในการดาเนินการจัดทาแผนปฏิบัติการเพื่อดาเนินงาน
ในการจัดการขยะหรือของเสยี ของจังหวดั เรง่ รัดการดาเนินการกาจดั ขยะหรือของเสียตกค้างภายในจงั หวัด
กากับดูแลองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินดาเนินการปิด/ปรับปรุงฟ้ืนฟูสถานท่ีกาจัดขยะหรือของเสียเดิมให้
ถูกต้อง สนับสนุนองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินรวมกลุ่มพ้ืนท่ีและจัดตั้งศูนย์กาจัดขยะหรือของเสียรวม
(ขนาดใหญ่ (L) ขนาดกลาง (M) ขนาดเล็ก (S)) โดยใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน ส่งเสริมเอกชนลงทุน
การจัดการขยะหรือของเสีย สนับสนุนให้มีศูนย์รวบรวมขยะหรือของเสียอันตรายชุมชนของจังหวัดหรือ
องค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการลด คัดแยกขยะหรือของเสียที่ต้นทาง
ให้กับประชาชน สนับสนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นดาเนินการลดและคัดแยกขยะหรอื ของเสีย และ

๓๖

นากลบั มาใช้ประโยชน์ใหม่ ตดิ ตามและกากับดูแลองค์การปกครองส่วนท้องถิน่ ให้ดาเนินการบริหารจดั การ
ขยะหรือของเสียภายในจังหวัดให้มีประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลักวิชาการ สนับสนุนการจัดหาพื้นที่ในการ
จดั การขยะหรือของเสยี ขององค์การปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ

(2) องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีบทบาทหน้าที่ในการดาเนินการร่วมกับจังหวัด
จัดทาแผนปฏิบัติการเพ่ือดาเนินงานในการจัดการขยะหรือของเสียขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และ
ของจังหวัด ดาเนินการกาจัดขยะหรือของเสียตกค้างภายในพื้นที่ ปิด/ปรับปรุงฟื้นฟูสถานที่กาจัดขยะหรือ
ของเสียเดิมให้ถูกต้อง ดาเนินการลดและคัดแยกขยะหรือของเสียในพื้นท่ี และจัดระบบการเก็บรวบรวม
ขนส่งขยะหรือของเสียแบบแยกประเภทเพ่ือส่งกาจดั อย่างถูกต้องตามหลกั วิชาการ รวมกลุ่มพืน้ ทแี่ ละจดั ต้ัง
ศนู ยก์ าจัดขยะมูลฝอยรวม (ขนาดใหญ่ (L) ขนาดกลาง (M) ขนาดเลก็ (S)) โดยใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน
ส่งเสริมเอกชนลงทุนการจัดการขยะหรือของเสีย และได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ เตรียมการ
ในการหาพื้นที่ท่ีเหมาะสมเพื่อรองรับการจัดการขยะหรือของเสีย ออกข้อบัญญัติท้องถ่ินเกี่ยวกับการจัดการ
ขยะหรือของเสียภายใต้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เช่น การคัดแยก การเก็บรวบรวม
การเก็บขนและกาจัดขยะหรือของเสีย การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการเก็บขนและกาจัดขยะหรือของเสียให้
เหมาะสม เป็นต้น รวมทั้งกฎหมายอ่ืนที่เก่ียวข้องกับการจัดการขยะหรือของเสีย ติดตามและบังคับใช้
กฎหมายกับเอกชนผู้รับจ้างจัดการขยะหรือของเสียให้เอกชนดาเนินการจัดการขยะหรือของเสียในพ้ืนที่
บริการอย่างถูกต้องตามหลกั วชิ าการ

2) หน่วยงานสว่ นกลาง

หน่วยงานส่วนกลางท่ีเกี่ยวข้องในการจัดการขยะหรือของเสีย ประกอบด้วยหน่วยงาน
หลัก 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวง
สาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานสนับสนุน 8 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา สานักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงกลาโหม โดยมี
รายละเอียดดังน้ี

(1) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการเสนอ
นโยบาย แผนงาน มาตรการ มาตรฐาน หลักวิชาการในการจัดการสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากปัญหาการ
จัดการขยะหรือของเสีย โดยมีบทบาทหน้าที่ในการดาเนินการพัฒนากฎหมายเก่ียวกับการบริหารจัดการ
ขยะหรือของเสียครัวเรือน เช่น พระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. .... เป็นต้น รวมทั้งดาเนินการท่ีเกี่ยวข้อง เป็นต้น ออกประกาศ กฎเกณฑ์ หรือหลักเกณฑ์วิชาการ
หรือเกณฑ์การปฏิบตั ิ (Code of Practice : COP) ทเี่ กีย่ วข้องกบั การจดั การขยะหรอื ของเสียครวั เรอื น เช่น
เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม การคัดเลือกพื้นที่ ออกแบบก่อสร้าง และการจัดการสถานท่ีกาจัดขยะหรือของเสีย
โดยวิธตี ่าง ๆ เปน็ ตน้ สนับสนนุ คาปรึกษาและเอกสารทางวิชาการหรือคู่มือการดาเนนิ การให้แกจ่ ังหวัดในการ
จัดการขยะหรือของเสีย ตั้งแต่ต้นทาง จนถึงการกาจดั ขั้นสุดท้าย รณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสานึกแก่
เยาวชน และประชาชนในการลด คัดแยกขยะหรือของเสียในโรงเรียน สถาบันการศึกษา องค์การเอกชน
ชุมชน ผ่านทางเครือข่ายท่ีมีอยู่ สร้างเครือข่ายในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ด้านการจัดการขยะหรือของเสีย
สนับสนุนการเลือกใช้สินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลด/เลิกการใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟม
รวมถึงการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมของภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคบริการ
(Green Procurement) จัดให้มีระบบการเรียกคืนซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ตาม

๓๗

หลักการขยายความรับผดิ ชอบของผู้ผลิต ขับเคล่อื นการดาเนินการด้านกฎหมายทเี่ กี่ยวกบั การจัดการขยะ
หรือของเสียครวั เรือน ติดตามและตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการขยะหรอื ของเสีย
ตามมาตรฐานทกี่ าหนด ประเมนิ ผลการดาเนินงานจัดการขยะหรือของเสยี ในภาพรวมของประเทศ

(2) กระทรวงมหาดไทย เป็นหนว่ ยงานในการดาเนินการจัดการขยะหรือของเสียชุมชน
ในพ้ืนที่ท่ัวประเทศ โดยมีบทบาทหน้าที่ในการเร่งรัดการดาเนินการกาจัดขยะหรือของเสียตกค้างท่ัวประเทศ
โดยกากับดูแลจังหวัดและองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินดาเนินการปิด/ปรับปรงุ ฟื้นฟูสถานท่ีกาจัดขยะหรือ
ของเสียเดิมให้ถูกต้อง จัดต้ังงบประมาณการจัดการขยะหรือของเสียของจังหวัด/องค์การปกครองส่วน
ทอ้ งถน่ิ กากับ ตดิ ตาม เร่งรัดองคก์ ารปกครองส่วนท้องถน่ิ ให้ดาเนินการตามแผนปฏบิ ตั กิ ารจดั การขยะหรือ
ของเสียของจังหวัด และแผนแม่บทการบรหิ ารจัดการขยะหรือของเสียของประเทศ สนับสนุนการรวมกลุ่ม
พ้นื ทีแ่ ละจัดต้งั ศนู ย์กาจดั ขยะหรอื ของเสียรวมในทุกจังหวัด (ขนาดใหญ่ (L) ขนาดกลาง (M) ขนาดเล็ก (S))
โดยใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน และส่งเสริมเอกชนลงทุนการจัดการขยะหรอื ของเสีย สนับสนุนการจัดตั้ง
โรงกาจัดขยะหรือของเสียตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ดาเนินการลดและคัดแยกขยะหรือของเสีย
ในส่วนราชการของจังหวัด สร้างความรู้ ความเข้าใจกับภาคประชาชน เพ่ือลดการต่อต้านในการดาเนิน
มาตรการเกี่ยวกบั มาตรการจดั การขยะหรอื ของเสยี

(3) กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการดาเนินการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ
รวมถึงกาหนดกฎระเบียบการจัดการขยะหรือของเสียต้ังแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ตาม
พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เพื่อให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นนาไปออกข้อบัญญัติ
ท้องถ่ินต่อไป รวมท้ังมีบทบาทหน้าท่ีในการวางระบบการป้องกันสุขภาพให้ผู้ปฏิบัติงานในสถานท่ีกาจัด
ขยะหรือของเสีย และในกระบวนการจัดการขยะหรือของเสีย เช่น ระหว่างการเก็บขน ร้านรับซื้อของเก่า
เป็นต้น จัดทาแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ และผลักดันการดาเนินการแบบ
ศนู ย์รวมในการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อ ตดิ ตามตรวจสอบเรื่องสุขภาพอนามัยในการปฏิบัติหน้าที่ของ
ผ้ปู ฏิบัติงานทเ่ี กย่ี วข้องกับการจัดการขยะหรอื ของเสีย รวมถงึ มลู ฝอยติดเช้อื

(4) กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลักในการจัดการขยะหรือของเสีย
อุตสาหกรรม โดยมีบทบาทหน้าที่ในการกากับและติดตามการจัดการขยะหรือของเสียอุตสาหกรรมให้
เป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายที่กาหนด และดาเนินการทางกฎหมายกับผู้ลักลอบทิ้งของเสีย
อุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด ปรับปรุงและออกกฎระเบียบท่ีเก่ียวข้องการจัดการของเสียอุตสาหกรม
สนับสนุนการจัดต้ังสถานที่กาจัดของเสียอุตสาหกรรมและของเสียอันตรายชุมชนท่ีเป็นอันตราย และ
โรงงานคัดแยก/รไี ซเคิลซากผลิตภณั ฑเ์ ครอ่ื งใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ใหค้ รอบคลมุ ทุกภูมิภาค กากับดแู ล
ส่งเสริมและพัฒนาโรงงานกาจัด/บาบัด/รีไซเคิลของเสียอุตสาหกรรม โรงงานคัดแยก/รีไซเคิลซาก
ผลิตภัณฑ์เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้มีมาตรฐานและมีประสทิ ธิภาพ เขม้ งวดมิให้มีการลักลอบท้ิง
ของเสียอุตสาหกรรม กาหนดอัตราค่ากาจัดของเสียอันตรายชุมชนที่องค์การปกครองส่วนท้องถ่ินสามารถ
รับภาระค่ากาจัดได้ สนับสนุนการผลิตผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม พัฒนาระบบ
แลกเปลย่ี นของเสยี (Waste Exchange System) ระหว่างผู้ประกอบการอตุ สาหกรรม

(5) กระทรวงศึกษาธกิ าร เป็นหน่วยงานสนับสนนุ การดาเนินการให้ความรู้ และการสร้าง
วินัยในการจัดการขยะหรือของเสียให้กับนักเรียน นักศึกษา โดยมีบทบาทหน้าท่ีในการดาเนินการออก
นโยบายให้ผู้บริหารโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกแห่งดาเนินการลดปริมาณการเกิด การคัดแยกขยะ
หรอื ของเสยี และสร้างจติ สานึกและวินัยใหก้ ับเยาวชน และพัฒนาให้เปน็ แหล่งเรยี นรู้ในการลดและคัดแยก

๓๘

และนาขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ธนาคารขยะในโรงเรียน เป็นต้น กาหนดให้มีหลักสูตร
การเรียนโดยสอดแทรกความรู้เร่ืองการลด คัดแยกและการจัดการขยะหรือของเสียในบทเรียนหรือการเรียน
การสอนทั้งในและนอกระบบโรงเรียน ให้แรงจูงใจกับโรงเรียนและสถาบันการศึกษาท่ีดาเนินการเป็น
ต้นแบบ/แหล่งเรียนรู้ในการลดและคัดแยกขยะหรือของเสีย ศึกษาวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการ/
การบริหารจดั การขยะหรือของเสีย

(6) กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานสนับสนุนบทบาทการร่วมทุนเพ่ือดาเนินการ
จดั การขยะหรือของเสยี โดยมีบทบาทหน้าท่ีในการออกมาตรการสนบั สนนุ การลงทุนก่อสร้างโรงกาจัดขยะ
หรือของเสียเพอ่ื แปรรูปเป็นพลงั งาน (ไฟฟ้า นา้ มนั ก๊าซชีวภาพ) โรงงานกาจัด/บาบัดของเสยี อันตราย และ
โรงงานรีไซเคิลขยะหรือของเสียของภาคเอกชน โดยมาตรการด้านภาษี (เช่น ออกระเบียบยกเว้นภาษี
เครื่องจักรอุปกรณ์) และมาตรการด้านการเงิน ออกกฎ หรือระเบียบที่เอ้ืออานวยให้เอกชนลงทุนด้านการ
จัดการขยะหรือของเสีย

(7) กระทรวงพลังงาน เป็นหน่วยงานสนับสนุนการดาเนินการแปรรูปขยะหรือของเสีย
เพื่อผลิตพลังงาน โดยมีบทบาทหน้าที่ในการกาหนดพ้ืนที่ที่มีศักยภาพ และพื้นที่สายส่งไฟฟ้าเพื่อการแปรรูป
ขยะหรือของเสียเป็นพลังงาน สนับสนุนการรับซ้ือไฟฟ้าจากเตาเผาขยะ โดยการจัด Zoning และให้
ความสาคัญกบั การผลิตพลงั งานทดแทนจากขยะเป็นลาดบั แรก กาหนดหลกั เกณฑ์คุณสมบตั ิของน้ามันทไี่ ด้
จากการแปรรูปขยะหรือของเสีย รวมท้ังกฎเกณฑ์อ่ืน ๆ ที่เอ้ืออานวยในการนาน้ามันจากขยะหรือของเสีย
มาใช้ประโยชน์ ดาเนนิ การเร่ืองระบบอนุญาตการประกอบกจิ การแปรรูปขยะหรือของเสียเพ่ือผลิตพลังงาน
ให้มีความรวดเร็ว สนบั สนุนการดาเนินโครงการนาร่องและขยายผลในการจัดทาโครงการขยะหรือของเสีย
เป็นเชื้อเพลิง และโรงไฟฟา้ จากขยะหรือของเสียในพืน้ ที่ทีม่ ีศักยภาพ ร่วมกับกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม และกระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุนการศึกษาความเป็นไปได้และ
ออกแบบรายละเอียดในการการแปรรูปขยะหรือของเสียเป็นพลังงาน สนับสนุนการศึกษาวิจัยการแปรรูป
ขยะหรือของเสยี เป็นพลังงานในรูปแบบตา่ ง ๆ

(8) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นหนว่ ยงานสนับสนุน
การวิจัย พัฒนา และการให้คาแนะนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการจัดการขยะหรือของเสีย โดยมีบทบาทหน้าที่
ในการให้คาแนะนาและความรู้เทคโนโลยีการจัดการขยะหรือของเสีย และตรวจวิเคราะห์ค่าต่าง ๆ ที่
เก่ียวกับขยะหรือของเสียเพ่ือสร้างความมั่นใจให้กับจังหวัดและองค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน ศึกษา วิจัย
เพ่ือพัฒนาเทคโนโลยีขยะหรือของเสียท่ีเหมาะสม เช่น จัดทาเทคโนโลยีต้นแบบเพื่อการวิจัยและพัฒนาที่
พร้อมต่อการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากขยะหรือของเสีย เป็นต้น ศึกษาและพัฒนาระบบการรับรอง
เทคโนโลยีการจัดการขยะหรอื ของเสีย และการนาขยะหรอื ของเสียมาผลติ นา้ มนั หรือไฟฟ้า

(9) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานสนับสนุนการนาขยะหรือของเสียไปใช้
ประโยชน์ โดยมีบทบาทหน้าท่ีในการบูรณาการร่วมกนั ในการกาหนดมาตรฐานเพ่ือรับรองคุณภาพปุ๋ยที่ได้
จากการกาจัดขยะหรือของเสีย ตรวจสอบ สนับสนุนและควบคุมคุณภาพของปุ๋ยอินทรีย์จากขยะหรือของเสีย
เพ่ือเป็นแรงจูงใจในการลงทุนของเอกชน ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์จาก
ขยะหรอื ของเสยี

(10) สานักนายกรัฐมนตรี (โดยกรมประชาสัมพนั ธ์) เป็นหน่วยงานสนับสนุนในการสรา้ ง
ความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการจดั การขยะหรอื ของเสีย โดยมีบทบาทหน้าทีใ่ นการสนบั สนุนการดาเนินงาน

๓๙

เก่ียวกับการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และจิตสานึกให้กับเยาวชน และประชาชนท่ัวไป ในการลด คัดแยก
และนาขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ และร่วมมือจัดการปัญหาขยะหรือของเสียตั้งแต่ต้นทาง
จนถึงการกาจัดขั้นสดุ ทา้ ย เผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์เชงิ รุกในการบริหารจดั การขยะหรือของเสียผ่านสื่อต่าง ๆ

(11) กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา เปน็ หน่วยงานสนับสนุนการจัดการขยะหรือของเสีย
โดยมีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการขยะหรือของเสียในพ้ืนที่ท่องเที่ยว เพ่ือให้สามารถ
จัดการขยะหรือของเสียในพื้นที่ได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวดาเนินการ
ตามมาตรฐานด้านส่ิงแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว ดาเนินงานร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการผลักดัน
หน่วยงานที่มีอานาจหนา้ ที่ในการกากบั ดูแลแหล่งท่องเที่ยวกาหนดมาตรการ ข้อกาหนด กฎระเบียบทชี่ ัดเจน
ในการจัดการขยะหรือของเสียในพื้นท่ีแหล่งท่องเที่ยว รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเท่ียวและ
ผู้ประกอบการทราบกฎระเบียบ กติกาในการทิ้งและจัดการขยะหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากแหล่งท่องเที่ยว
ในสอ่ื ตา่ ง ๆ ควบคูไ่ ปกบั การประชาสมั พันธก์ ารทอ่ งเทยี่ ว

(12) กระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยงานสนับสนุนการจัดการขยะหรือของเสีย โดยมี
บทบาทหน้าที่ในการสนับสนุนพ้ืนที่สาหรับดาเนินการในการจัดการขยะหรือของเสีย พัฒนาพื้นท่ีต้นแบบ
การลด คดั แยก และนาขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ในพ้นื ท่ีทหาร รวมทง้ั ดาเนินการกาจัดขยะหรือ
ของเสียเพ่ือแปรรปู เป็นพลังงานในพ้ืนที่กระทรวงกลาโหม โดยลงทนุ รว่ มกับเอกชน

3) ภาคเอกชน/ผู้ประกอบการ โดยมีบทบาทหน้าท่ีในการลดการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ฟุ่มเฟือย
หรือย่อยสลายได้ยาก และเพ่ิมศักยภาพในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีความคงทนสามารถนากลับมาใช้ซ้าได้
และกาจัดได้ง่าย ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้บรรจุภัณฑ์ท่ีฟุ่มเฟือย เช่น พลาสติก
และโฟม เป็นต้น ดาเนินการจัดการขยะหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการของตนเองอย่าง
ถูกต้องตามหลักวิชาการ และกฎหมายที่เก่ียวข้อง ลงทุน/ร่วมลงทุนในการจัดการขยะหรือของเสีย
สนับสนุนภาครัฐในการเก็บรวบรวมซากผลิตภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์เส่ือมคุณภาพเพ่ือนาไปรีไซเคิลหรือกาจัด
อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ รวมทั้งสนับสนุนการเป็นศูนย์รวบรวมขยะหรือของเสียท่ีนากลับมาใช้
ประโยชนไ์ ด้

4) ภาคประชาชน องค์การเอกชน หรือประชาสังคม โดยมีบทบาทหน้าท่ีในการมีส่วนร่วม
ในการจัดการขยะหรือของเสียตัง้ แต่ต้นทาง เปล่ียนแปลงพฤติกรรมการบรโิ ภคสินค้า โดยหันมาใช้สินค้าที่
เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและสินค้ารีไซเคิล มีการคัดแยกขยะหรือของเสียจากบ้านเรือนเพื่อนาไปจัดการได้
อย่างถูกวิธี เข้าร่วมรับรู้ ให้ข้อเสนอแนะร่วมตัดสินใจและร่วมมือในการดาเนินการบริหารจัดการขยะหรือ
ของเสียอันตรายต้ังแต่ต้น เพ่ือลดความขัดแย้งและการต่อต้านจากประชาชนในการก่อสร้างสถานที่กาจัด/
รีไซเคิลขยะหรือของเสีย สร้างเครือข่ายภาคประชาชนในการลดขยะหรือของเสียท่ีต้นทาง การคัดแยกขยะ
หรือของเสีย และการนาขยะหรือของเสียไปใช้ประโยชน์ ร่วมกนั ตง้ั เป้าหมายในการลดขยะหรอื ของเสีย

3.2 ขยะหรอื ของเสยี ทีม่ ศี ักยภำพในกำรทำเหมืองในเมอื ง

3.2.1 ขยะอเิ ล็กทรอนิกส์

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Waste หรือ E-waste) หรือซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้า
และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (Waste from Electrical and Electronic Equipment, WEEE) เป็นขยะหรือของเสีย
อันตราย ซึ่งมีองค์ประกอบของโลหะมีค่า (Precious Metals) โลหะพ้ืนฐาน (Base Metals) และธาตุหายาก

๔๐

(Rare Earth Elements) รวมถึงวัสดุต่าง ๆ เป็นจานวนมาก และมีปริมาณสูงเมื่อเทียบกับแหล่งแร่ตาม
ธรรมชาติ รวมท้งั เปน็ ขยะหรือของเสียเปา้ หมายทสี่ าคัญในการทา Urban Mining ของประเทศต่าง ๆ

ในประเทศไทยขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นมีปรมิ าณเฉล่ีย 450,000 ตันต่อปี โดยกว่าร้อยละ
90 เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์จากภาคครัวเรือนท่มี ีปริมาณ 420,000-430,000 ตันต่อปี ท่ีเหลือเปน็ ขยะ
อิเล็กทรอนิกส์จากภาคอุตสาหกรรมที่มีปริมาณ 16,000-20,000 ตันต่อปี ดังน้ัน ขยะอิเล็กทรอนิกส์
จากภาคครัวเรือนจึงเป็นสัดส่วนหลักของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และคิดเป็นสัดส่วน
ร้อยละ 65 ของขยะหรือของเสียอันตรายครัวเรือน และมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง (ดูรูปที่ 9 และ
ตารางที่ 7) อย่างไรก็ตาม ขยะอเิ ล็กทรอนิกส์จากภาคครัวเรือนทเี่ กิดขึ้นมกี ารจัดการอย่างถูกต้องเพียงร้อยละ
10 (กรมควบคุมมลพิษ 2564b, กุลชา ธนะขว้าง 2564) ส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ตามบ้านเรือนประมาณร้อยละ
50 ถูกขายให้ร้านรับซ้ือของเก่าประมาณร้อยละ 40 ถูกขายให้ซาเล้ง/รถเร่และนาไปสู่การถอดแยกขยะ
อเิ ล็กทรอนิกส์ในแหล่งชุมชนประมาณรอ้ ยละ 9-10 และถูกเก็บรวบรวมโดยองค์การปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน
เพียงไมถ่ งึ รอ้ ยละ 1 (กรมควบคมุ มลพิษ 2564d)

รปู ท่ี 9 ปรมิ าณขยะหรือของเสียอันตรายจากภาคครวั เรือนระหว่าง ปี พ.ศ. 2557-2563
(กรมควบคมุ มลพิษ 2564b)

ตารางท่ี 7 ปรมิ าณขยะอิเลก็ ทรอนิกส์ครัวเรอื นระหว่างปี พ.ศ. ๒๕59-๒๕๖๓ (กรมควบคมุ มลพิษ

2564b)

ลำดับ ผลติ ภัณฑ์ ปรมิ ำณซำกผลติ ภณั ฑ์ (ตัน/ป)ี
พ.ศ. ๒559 พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๓

๑ โทรทศั น์ ๑๐๘,๗๘๑ ๙๘,๓๗๐ ๙๘,๖๑๓ ๙๙,๔๔๘ ๑๐๐,๕๑๕

๒ เครอื่ งปรับอากาศ ๗๖,๕๑๙ ๗๕,๔๒๐ ๗๖,๖๕๓ ๗๗,๖๕๓ ๗๘,๖๓๙

๓ ตู้เย็น ๖๗,๒๗๘ ๖๓,๘๘๕ ๖๔,๙๗๐ ๖๕,๙๙๕ ๖๖,๘๘๐

๔ เครอ่ื งซักผ้า ๖๑,๘๘๓ ๖๐,๘๕๒ ๖๑,๙๒๘ ๖๒,๘๐๘ ๖๓,๗๒๐

๕ คอมพวิ เตอร์ ๕๘,๓๗๐ ๕๖,๐๘๘ ๕๘,๒๖๑ ๕๙,๗๑๑ ๖๐,๗๕๖

๖ เคร่ืองเลน่ วีซดี /ี ดีวดี ี ๑๘,๓๒๔ ๓๐,๔๓๖ ๓๒,๖๓๑ ๓๒,๘๓๑ ๓๓,๑๗๖

๗ โทรศัพท์ ๑,๗๒๑ ๘,๗๙๘ ๑๑,๘๒๕ ๑๒,๙๑๕ ๑๔,๒๔๑

๘ กล่องถา่ ยรูปดจิ ติ อล ๑๙๔ ๗,๕๔๐ ๙,๗๗๔ ๙,๙๗๔ ๑๐,๑๘๕

รวม ๓๙๓,๐๗๐ ๔๐๑,๓๘๗ ๔๑๔,๖๕๔ ๔๒๑,๓๓๕ ๔๒๘,๑๑๓

๔๑

จากการศึกษาขยะอิเล็กทรอนิกส์ จานวน 12 ชนิด ได้แก่ 1) พัดลม 2) โทรทัศน์ 3) เครื่อง
ซักผ้าชนิด 2 ถัง 4) เคร่ืองซักผ้าชนิดถังเดยี ว ฝาบน 5) เตารดี 6) ตู้เย็น 7) หม้อหุงขา้ ว 8) กระติกนา้ รอ้ น
9) เคร่อื งพมิ พ์ 10) โทรศัพทม์ ือถือ Feature Phone 11) โทรศพั ท์มอื ถือ Smart Phone 12) คอมพวิ เตอร์
โน้ตบุ๊ก พบว่า มีสว่ นประกอบท่ีสามารถนากลับมารีไซเคิลได้หลายชนิด โดยมีวัสดุที่เป็นส่วนประกอบหลัก
คือ เหล็ก รองลงมา ได้แก่ พลาสติก แบตเตอรี่ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ โลหะผสม อะลูมิเนียม สายไฟ
ทองแดง ตลับหมึก มอเตอร์จากเครื่องพิมพ์ สแตนเลส และฮาร์ดดิสก์จากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ตามลาดับ
ดังแสดงในรูปท่ี 10 (กรมอตุ สาหกรรมพน้ื ฐานและการเหมืองแร่ 2564a)

33.43%
28.98%

5.18% 5.03% 4.92% 3.08% 2.30% 1.57% 0.84% 0.41% 0.40% 0.35%

รปู ที่ 10 สัดส่วนของวสั ดุที่สามารถนากลับมารีไซเคลิ ได้จากขยะอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 12 ชนิด
(กรมอตุ สาหกรรมพน้ื ฐานและการเหมืองแร่ 2564a)

สาหรับแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Boards, PCBs) ซ่ึงมีสัดส่วนโดยน้าหนัก
ร้อยละ 3-7 ของผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วยโลหะมีค่า (Precious Metals)
เช่น ทอง (Au) เงิน (Ag) แพลทินัม (Pt) แพลเลเดียม (Pd) เป็นต้น โลหะพื้นฐาน (Base Metals) เช่น
ทองแดง (Cu) เหล็ก (Fe) นิกเกิล (Ni) อะลูมิเนียม (Al) สังกะสี (Zn) ดีบุก (Sn) เป็นต้น และธาตุหายาก
(Rare Earth Elements) เช่น นีโอดิเมียม (Nd) ซาแมเรียม (Sr) เป็นต้น (ดูรูปท่ี 11) ในปริมาณสูงเมื่อ
เทียบกับแหล่งแร่ตามธรรมชาติ เช่น โทรศัพท์ Smart Phone ไม่รวมแบตเตอร่ี 1 ตัน มีองค์ประกอบของ
โลหะมีค่า อาทิ ทองคา 270 กรัม เงิน 2.78 กิโลกรัม แพลเลเดียม 100 กรัม โลหะพื้นฐาน อาทิ
ทองแดง 140 กิโลกรมั ธาตุหายาก อาทิ นีโอดเิ มยี ม 450 กรมั เพรซโี อดเิ มียม 90 กรัม (Szamalek and
Galos 2016) ซ่ึงโลหะส่วนใหญ่จะอยู่ในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขณะท่ีแร่ทองคาในแหลง่ แร่ธรรมชาติท่ีมี
การทาเหมืองแร่ 1 ตนั มปี รมิ าณทองคาเปน็ องคป์ ระกอบประมาณ 1-2 กรมั เปน็ ตน้

๔๒

รปู ท่ี 11 องค์ประกอบของโลหะในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Müller et al. 2019)

รปู ท่ี 12 ตน้ ทนุ ของการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) ของขยะอิเล็กทรอนกิ สป์ ระเภทจอภาพ CRT
และซากแผงวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (PCBs) เมอื่ เปรียบเทียบกับการทาเหมืองจากแหล่งแรธ่ รรมชาติ
(Zeng et al. 2018)

๔๓

จากการศึกษาของ Zeng และคณะ (2018) พบว่า การทาเหมืองในเมือง (Urban Mining)
ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีต้นทุนโดยเปรียบเทียบต่ากว่าการทาเหมืองจากแหล่งแร่ธรรมชาติ เช่น ขยะ
อิเล็กทรอนิกส์ประเภทจอภาพ CRT และซากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBs) (ดูรูปที่ 12) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนตามแนวคิด Urban
Mining จาเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการและกระบวนการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นมิตรต่อ
สงิ่ แวดล้อม มีประสิทธิภาพ และครบวงจร เพื่อกอ่ ให้เกดิ มลู ค่าเพมิ่ และประโยชน์สูงสุด รวมทั้งไม่กอ่ ให้เกิด
ปญั หามลพษิ ต่อสิง่ แวดลอ้ มและชุมชน เน่ืองจากขยะอิเล็กทรอนกิ ส์มีองค์ประกอบท่เี ป็นโลหะหนักหรอื สาร
อันตราย เช่น พลวง สารหนู ตะก่ัว ปรอท (ซ่ึงอยู่ในซากหลอดฟลูออเรสเซนต์) สารหน่วงการติดไฟกลุ่ม
โบรมีน (Br) ที่ผสมในพลาสติกซึ่งเป็นสารมลพิษท่ีตกค้างยาวนาน เป็นต้น แม้ว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ สร์ นุ่ ใหม่จะไม่มสี ่วนประกอบของโลหะหนักหรือสารอันตราย หรอื มีปรมิ าณ
ไม่เกินค่ามาตรฐาน ตามข้อกาหนดหรือมาตรฐานด้านส่ิงแวดล้อมและความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น RoHS
(Restriction of Hazardous Substances in Electrical and Electronic Equipment ) CE (The Conformitè
Europëenne) เป็นต้น โดยหากประเทศไทยมีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง และนาเข้าสู่
กระบวนการรีไซเคิลท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อแยกสกัดแร่ โลหะ และสารประกอบโลหะกลับมาใช้
ประโยชน์เป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรมตามแนวคิด Urban Mining คาดว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่
เกิดขนึ้ ในประเทศจะสามารถสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ ในประเทศได้กวา่ 30,000 ลา้ นบาทตอ่ ปี

3.2.2 ซำกแผงเซลล์แสงอำทิตย์

แผงเซลล์แสงอาทิตย์แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ 3 ชนิด (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์
พลงั งาน 2560) ไดแ้ ก่

1) เซลล์แสงอาทิตย์ชนิดซลิ ิกอนผลึก (Crystalline Silicon Solar Cells) ประกอบด้วยชนิด
ผลึกเด่ียว (Single/Mono-Crystalline Silicon Solar Cells, M-Si) ชนิดผลึกรวม (Poly/Multi-Crystalline
Silicon Solar Cells, P-Si)

2) ชนิดฟิล์มบาง ประกอบด้วยชนิดฟิล์มบางซิลิคอนหรืออะมอร์ฟัสซิลิคอน (Amorphous
Silicon, A-Si) ชนิดแคดเมียมเทลลูไรด์ (Cadmium Telluride, CdTe) และชนิดคอปเปอร์อินเดียมไดซีลีไนด์
(Copper Indium diSelenide, CIS) หรือคอปเปอรอ์ นิ เดียมแกลเลี่ยมซีลไี นด์ (Copper Indium Gallium
Selenide, CIGS)

3) ชนิดท่ีพัฒนาใหม่ เช่น เซลล์แสงอาทิตย์ชนิดสีย้อมไวแสง (Dye -Sensitized Solar Cells)
เซลล์แสงอาทิตย์ชนิดควอนตัมดอต (Quantum Dot Solar Cells) เป็นต้น ซ่ึงอยู่ในระหว่างการพัฒนา
โดยยงั ไมม่ ีการผลิตในเชงิ พาณชิ ย์

โดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ท่มี ีสัดส่วนการติดต้ังใชง้ านมากท่ีสุดในประเทศไทย คือ ชนิดซิลิกอน
ผลึก โดยมีสัดส่วนเกือบร้อยละ 90 (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน 2562) ดังแสดงใน
รปู ที่ 13

ปจั จบุ ันประเทศไทยมกี ารตดิ ตง้ั แผงเซลล์แสงอาทิตย์ประมาณ 3,000 เมกะวตั ต์ (ดูรปู ที่ 14)
เป็นการติดต้ังในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงงานอุตสาหกรรมกว่าร้อยละ 90 ที่เหลือเป็นการ
ตดิ ตั้งในภาคครวั เรือน ซ่ึงโดยทว่ั ไปแผงเซลลแ์ สงอาทิตย์จะมีอายกุ ารใชง้ าน 20-30 ปี และแม้วา่ แผงเซลล์
แสงอาทิตย์จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ภายหลังจากหมดอายุการใช้งาน แต่ประสิทธิภาพการผลิต
พลังงานไฟฟ้าจะลดต่าลงตามอายุการใช้งาน ส่งผลให้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีนี้ คาดว่าจะมีปริมาณ

๔๔

ซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์เพ่ิมข้ึนเป็นจานวนมาก จากหลักพันตันต่อปี เป็น หลักหมื่นตันต่อปี (แผงเซลล์
แสงอาทิตย์ โดยทั่วไปมี ขนาด 1 x 2 เมตร มีน้าหนักเฉลี่ย 25-27 กิโลกรัมต่อแผ่น) และจะมีปริมาณ
เพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ดูรูปท่ี 15) เน่ืองจากแผงเซลลแ์ สงอาทิตย์ชุดแรก ๆ ท่ีได้มีการติดตั้งในประเทศไทย
จะเร่ิมทยอยหมดอายุ นอกจากน้ี ยังมีแผงเซลล์แสงอาทิตย์ท่ีถูกปลดระวางจากโรงไฟฟ้าพลังงาน
แสงอาทิตย์กอ่ นหมดอายุการใช้งาน เพ่ือติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตยร์ ุ่นใหม่ท่มี ีสมรรถนะสงู ข้ึน สาหรับแผง
เซลล์แสงอาทิตย์ท่ีถูกปลดระวาง จะถูกขายหรือบริจาคเป็นแผงเซลล์แสงอาทิตย์มือสอง ฝังกลบ หรือเก็บไว้
รอการจัดการต่อไป ซ่ึงแผงเซลล์แสงอาทิตย์ท่ีถูกขายหรือบริจาคเป็นแผงเซลล์แสงอาทิตย์มือสองเพ่ือใช้
ผลติ ไฟฟ้าตามสถานท่ตี า่ ง ๆ เช่น บ้านเรอื น ชุมชน วัด โรงเรยี น ฟารม์ สวน เปน็ ต้น จะกลายเปน็ ขยะหรือ
ของเสียครัวเรือนในอนาคตเมื่อหมดอายุการใช้งาน ท้ังนี้ ยังไม่รวมแผงเซลล์แสงอาทิตย์มือสองที่ถูกนาเข้า
จากต่างประเทศมาขาย และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีการติดต้ังตามครัวเรือนและสานักงาน โดยซากแผง
เซลลแ์ สงอาทิตย์จัดอยูใ่ นกลุ่มขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ ซึ่งมแี ร่/โลหะเปน็ องค์ประกอบ และมีศักยภาพในการนา
กลับมาใช้ประโยชน์ตามแนวคิด Urban Mining แต่หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง อาจก่อให้เกิด
ปญั หามลพษิ ต่อสงิ่ แวดล้อมและชมุ ชน เชน่ เดยี วกบั ขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ประเภทอนื่

รปู ที่ 13 ประเภทและสดั ส่วนการตดิ ตง้ั แผงเซลล์แสงอาทติ ย์ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561
(กรมพฒั นาพลังงานทดแทนและอนรุ ักษพ์ ลังงาน 2560, 2562)

รปู ที่ 14 กาลงั การผลิตพลงั งานไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตยใ์ นประเทศไทย
(กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษพ์ ลังงาน 2561, 2565)

๔๕

รปู ที่ 15 การคาดการณ์ปริมาณซากแผงเซลลแ์ สงอาทิตย์สะสมในประเทศไทย
(กรมโรงงานอุตสาหกรรม 2563)

รูปท่ี 16 สว่ นประกอบของแผงเซลล์แสงอาทติ ยช์ นดิ ซลิ ิคอนผลึก
(Kang et al. 2012, กรมอุตสาหกรรมพ้ืนฐานและการเหมืองแร่ 2564b)
จากข้อมูลสัดส่วนการติดต้ังแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดต่าง ๆ ในประเทศไทย ทาให้คาดได้ว่า
ซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ท่ีเกิดข้ึนในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดซิลิกอนผลึก
ซึ่งมีสัดส่วนโดยน้าหนักขององค์ประกอบที่สาคัญ ได้แก่ กระจกร้อยละ 71 กรอบและข้อต่ออะลูมิเนียม
ร้อยละ 14 แผ่นซิลิกอนร้อยละ 3 แถบลวดนาไฟฟ้าร้อยละ 1 แผ่นกาวและแบ็คชีทร้อยละ 10 และ
Junction Box ร้อยละ 1 (กรมอตุ สาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ 2564b) ดังแสดงในรูปที่ 16 โดย
ในปี พ.ศ. 2564 กรมอุตสาหกรรมพ้ืนฐานและการเหมืองแร่ (2564b) ได้ประสบความสาเร็จในการ
พัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ครบวงจรได้สาเร็จเป็นคร้ังแรกในประเทศไทย โดย
สามารถรีไซเคิลส่วนประกอบต่าง ๆ ในซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดซิลกิ อนผลึก ให้สามารถนากลับมาใช้
เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมได้เกือบทั้งหมด ได้แก่ เศษกระจกซึ่งสามารถนาไปเป็นวัตถุดิบทดแทนใน
การผลติ ฟริท (Frit) หรอื กระจกท่ีใชใ้ นอุตสาหกรรมก่อสร้าง อะลูมิเนียม (จากกรอบและข้อต่อ) โลหะผสม
อะลูมิเนียมซิลิกอน (จากกรอบ/ข้อต่อ และแผ่นซิลิกอนเวเฟอร์) เงินบริสุทธ์ิ (จากแผ่นซิลิกอนเวเฟอร์)
ทองแดงบริสุทธ์ิ (จากแถบลวดนาไฟฟ้า) และผงโลหะซ่ึงประกอบด้วยเงิน ดีบุก และตะกั่ว (จากแถบลวด
นาไฟฟ้า) ซ่ึงปัจจุบันได้มีผู้ประกอบการท่ีได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวจากกรมอุตสาหกรรม
พืน้ ฐานและการเหมอื งแร่อยูใ่ นระหวา่ งการลงทุนขยายผลในเชิงพาณิชย์

๔๖

3.2.3 ซำกรถยนต์
จากข้อมูลสถิติจานวนรถจดทะเบียนสะสมจาแนกตามอายุรถของกรมการขนส่งทางบก ณ

วันที่ 31 ธันวาคม 2564 พบว่า ประเทศไทยมีรถยนต์ท่ีมีอายุการใช้งานเกิน 20 ปี ทุกประเภทรวม
4,636,164 คัน (กรมการขนส่งทางบก 2565a) ซึ่งท้ังหมดเป็นรถยนต์ท่ีใช้เคร่ืองยนต์สันดาปภายใน
(Internal Combustion Engine, ICE) ที่ใช้น้ามันเช้ือเพลิงจากฟอสซิล (Fossil Fuel) เป็นแหล่งพลังงาน
ในการขับเคลื่อน และในอนาคตอันใกล้รถยนต์เหล่านี้จะกลายเป็นซากรถยนต์ (End-of-Life Vehicles,
ELVs) ท่ีจะต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและชุมชน ซ่ึง
ปัจจุบันซากรถยนต์ท่ีเกิดข้ึนในประเทศไทยมีประมาณ 6,000-8,000 คันต่อปี และมีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน
อยา่ งต่อเนือ่ ง (ที่มา : บริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จากดั )

ซากรถย นต์ที่ใช้เ ครื่องยน ต์สันดาป ภายในป ระกอบด้วย ส่วนป ระกอบ แ ละวัสดุที่สามาร ถ
นามารีไซเคิลได้ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดง ยาง พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ช้ินส่วน
อิเล็กทรอนิกส์ เคร่ืองฟอกไอเสียเชิงปฏิกิริยา (Catalytic Converter) แบตเตอร่ีรถยนต์ เป็นต้น ดังแสดง
ในรูปที่ 17 สาหรับ Catalytic Converter ซ่ึงเป็นส่วนประกอบของท่อไอเสีย โดยเป็นอุปกรณ์สาหรับ
กาจัดและลดปริมาณมลพิษท่ีเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ สันดาปภายในก่อนปล่อยสู่
อากาศ มีองค์ประกอบท่ีสาคัญ คือ โลหะมีค่า (Precious Metal) กลุ่มแพลทินัม (Platinum Group
Metals, PGMs) ได้แก่ แพลทินัม (Pt) แพลเลเดียม (Pd) และโรเดียม (Rh) (ดูรูปที่ 18) ประมาณ 1-15
กรมั ขึ้นอยกู่ บั ขนาดเคร่ืองยนต์ของรถ ชนดิ ของนา้ มันท่ีใช้ (เบนซิน/ดีเซล) ย่ีหอ้ และรุ่นของรถ (เกา่ /ใหม)่

จากข้อมูลการผลิตโลหะมีค่ากลุ่ม PGMs ท่ัวโลกในปี พ.ศ. 2563 พบว่า ปริมาณการผลิต
โลหะมีค่ากลุ่ม PGMs มีสัดส่วนการผลิตจากการรีไซเคิลซากยานยนต์ร้อยละ 25 เป็นอันดับสอง รองจาก
การผลิตจากเหมืองแร่ธรรมชาติท่ีมีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 69 ท่ีเหลือเป็นการผลิตจากการรีไซเคิลเศษโลหะ
ในอุตสาหกรรมเคร่ืองประดับร้อยละ 3 และการรีไซเคิลขยะอิเลก็ ทรอนิกส์ร้อยละ 3 (Statista 2022) ดัง
แสดงในรูปท่ี 19 ซง่ึ สัดสว่ นการผลติ โลหะมีคา่ กลมุ่ PGMs จากการรีไซเคลิ มีสัดส่วนเพม่ิ ข้นึ อย่างต่อเน่อื ง

รปู ที่ 17 ตัวอยา่ งส่วนประกอบและวสั ดทุ ี่ไดจ้ ากการรีไซเคลิ ซากรถยนต์ (Toyota 2013)

๔๗

รูปที่ 18 องค์ประกอบของเครอ่ื งฟอกไอเสยี เชิงปฏิกิริยา (Catalytic Converter)
(ที่มา : www.cars.com/auto-repair/glossary/catalytic-converter/)

รูปที่ 19 แหลง่ ท่ีมาของโลหะมีคา่ กลุ่ม PGMs ของโลก ในปี พ.ศ. 2563 (Statista 2022)

๔๘

สาหรับรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle, xEV) ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ท่ีจะเข้ามาแบ่งส่วนตลาด
ของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเพิ่มข้ึน จากนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐเพ่ือ
ลดปัญหามลพิษทางอากาศท่เี กิดข้ึน โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และการ
ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากไอเสียของรถยนต์ท่ีใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าที่จด
ทะเบียนสะสมในประเทศไทยยังมีอายุไม่เกิน 20 ปี โดยรถยนต์ไฟฟ้าสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท
(สถาบันยานยนต์ 2562) (ดรู ูปท่ี 20) ดงั นี้

1) รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมหรือไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle, HEV) เป็นรถยนต์
ไฟฟา้ ทใ่ี ช้เคร่ืองยนต์สนั ดาปภายในทางานร่วมกบั มอเตอร์ไฟฟ้าเพ่ือขับเคลื่อน โดยนาพลงั งานกลท่ีเหลอื มา
เปลย่ี นเปน็ พลังงานไฟฟา้ เกบ็ ในแบตเตอร่ีสาหรับจ่ายให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า

2) รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมแบบเสียบปลั๊กหรือปล๊ักอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric
Vehicle, PHEV) เป็นรถไฟฟ้าท่ีพัฒนามาจาก HEV โดยสามารถประจุพลังงานไฟฟ้าได้จากแหล่งภายนอก
(Plug-in) ทาให้สามารถขับเคล่อื นดว้ ยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างได้ระยะทางที่มากกว่า HEV แต่เนื่องจากใช้
แบตเตอรี่ทม่ี ขี นาดใหญ่ จึงทาใหม้ รี าคาสงู กว่า HEV

3) รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle, BEV) เป็นรถไฟฟ้าที่ใช้
มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ทาให้มีแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์ไฟฟ้าชนิดอ่ืน ท้ังนี้
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้มีข้อจากัดของระยะทางใช้งานต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง ทาให้ผู้ผลิต
รถยนต์บางรายติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพ่ิมเติมเพื่อยืดระยะทางในการใช้งาน โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวมี
หน้าท่ีป่ันไฟเพื่อประจุไฟฟ้าให้แก่แบตเตอรี่เท่านั้น โดยรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ เรียกว่า รถยนต์ไฟฟ้าเพ่ิม
ระยะ (Extended Range Electric Vehicle, EREV)

4) รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle, FCEV) เป็นรถยนต์
ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนเซลล์เชื้อเพลิงที่ผลิตกระแสไฟฟ้าและกักเก็บพลังงานอยู่ในรูปของก๊าซไฮโดรเจน (H2)
โดยรถยนต์ประเภทน้ีสว่ นใหญอ่ ยใู่ นขั้นการวจิ ัยและพฒั นา ยงั ไม่มีการผลติ ออกมาจาหน่ายในเชิงพาณชิ ย์

รูปท่ี 20 แหลง่ พลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle, xEV) แตล่ ะประเภท
(ที่มา : erdi.cmu.ac.th/?p=1489)

๔๙

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะยังไม่เกิดเป็นซากรถยนต์ในอนาคตอันใกล้น้ี แต่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
ซ่ึงเป็นส่วนประกอบหลักของรถยนต์ไฟฟ้า โดยทั่วไปจะมีการรับประกันจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 8-10 ปี
จงึ คาดได้วา่ ปริมาณแบตเตอร่ีรถยนต์ไฟฟ้าที่เสอื่ มสภาพหรือหมดอายุการใช้งานจะมเี พ่ิมข้ึนอยา่ งต่อเนื่อง
ตามปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนเพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2564 มียอดจด
ทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท รวม 48,743 คัน เพ่ิมขึ้นจากปี พ.ศ. 2563 ที่มียอดจดทะเบียน
รถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท รวม 35,270 คัน เกือบร้อยละ 40 (กรมการขนส่งทางบก 2565b) ซ่ึง
แบตเตอรีร่ ถยนตไ์ ฟฟา้ ส่วนใหญจ่ ะเปน็ ชนิดลิเทียมไอออน ซ่ึงมโี ลหะทมี่ ีมูลค่าสงู เป็นองค์ประกอบหลัก เช่น
ลิเทียม นิกเกิล แมงกานีส โคบอลต์ เป็นต้น นอกจากน้ี ปัญหาการขาดแคลนลิเทียมในตลาดโลก ส่งผลให้
ทั่วโลกให้ความสนใจกับการนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานกลับมาใช้
ประโยชน์ใหม่ ทั้งการนากลับมาใช้เป็นอุปกรณ์กักเก็บพลังงานสาหรับขับเคลื่อนรถไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ
การใช้งานในรปู แบบอน่ื เชน่ อาคารสถานท่ี โรงงานอุตสาหกรรม ฟาร์มเพาะปลูก เปน็ ต้น และการรีไซเคิล
เพื่อนาโลหะ/สารประกอบโลหะในแบตเตอร่ีกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นสาหรับการผลิตแบตเตอร่ี ใหม่
รวมถึงเป็นวัตถุดิบทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ซากแบตเตอร่ีรถยนต์ไฟฟ้าจัดเป็นขยะ
หรือของเสียอันตรายที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและ
ชุมชน โดยในปี พ.ศ. 2565 กรมอุตสาหกรรมพน้ื ฐานและการเหมืองแร่อยรู่ ะหวา่ งการพัฒนาต้นแบบการ
จดั การแบตเตอร่ีรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานแล้วอย่างครบวงจร เพ่ือเป็นข้อมูลสาหรับภาครัฐในการวางระบบการ
บริหารจัดการแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใช้งานแล้วในประเทศท่ีมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของ
ประเทศไทย ท้ังนี้ เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าท่ีจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากมาตรการส่งเสริมยานยนต์ที่
ขบั เคลอ่ื นด้วยมอเตอรไ์ ฟฟา้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหมจ่ ากแบตเตอรี่รถยนตไ์ ฟฟา้ ใชง้ านแล้ว

ปจั จุบันซากรถยนต์ ยังไม่มีกฎหมาย หลักเกณฑ์ หรือมาตรการในการบริหารจัดการซากรถยนต์
สง่ ผลให้ซากรถยนตท์ ี่เกิดข้ึนบางสว่ นมีการแยกชิ้นส่วนโดยประชาชน ซ่ึงไมเ่ ข้าข่ายโรงงาน ดว้ ยวิธีการที่ไม่
เหมาะสมก่อให้เกิดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ 2564b) โดยมีโรงงานถอดแยกชิ้นส่วน
จากซากรถยนต์แบบครบวงจร เพียง 2 ราย ได้แก่ บรษิ ัท ฮีดากาโยโก เอ็นเตอรไ์ พรส์ จากดั จังหวดั ชลบุรี
และบริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จากัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยดาเนินการตั้งแต่การ
รวบรวมซากรถยนต์ การรื้อและถอดแยกชิ้นส่วน และการกาจัดของเสียท่ีเกิดขึ้นจากซากรถยนต์ที่ไม่
สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ สาหรับชิ้นส่วนและวัสดุที่จาหน่ายได้ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดง ยาง
พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคร่ืองฟอกไอเสียเชิงปฏิกิริยา (Catalytic
Converter) เป็นตน้ จะถูกรวบรวมส่งขายให้โรงงานรีไซเคิลท้งั ในประเทศและต่างประเทศ

๕๐

3.3 กำรคดั เลือกขยะหรอื ของเสียที่มศี กั ยภำพสูงในกำรทำเหมอื งในเมือง

การคัดเลือกขยะหรือของเสียทม่ี ศี ักยภาพสงู ในการทาเหมืองในเมือง (Urban Mining) จานวน
1 ชนิด เพื่อศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกและจัดทาข้อเสนอแนะมาตรการเชิงนโยบายสาหรับเป็นต้นแบบให้กับ
ขยะหรือของเสยี ท่ีมีศักยภาพสงู อ่ืน ๆ จะคัดเลือกจากขยะหรือของเสียท่มี ศี ักยภาพในการทาเหมืองในเมอื ง
3 ชนิด ได้แก่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และซากรถยนต์ โดยพิจารณาคัดเลือกจาก
ประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ปริมาณที่เกิดข้ึน การเก็บรวบรวมขนส่งจากแหล่งกาเนิด ศักยภาพการนากลับมาใช้
ประโยชน์ เทคโนโลยีรองรับในปัจจุบัน ความเป็นพิษ/อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และความพร้อมของ
ผปู้ ระกอบการ/นักลงทุน ซ่ึงในแต่ละประเดน็ มีหลักเกณฑก์ ารให้คะแนน โดยคะแนนสูงบ่งบอกถึงขยะหรือ
ของเสียมศี ักยภาพสงู ในการทาเหมืองในเมือง โดยมีรายละเอียดของเกณฑ์การประเมนิ และให้คะแนนในแต่ละ
ประเด็น ดังน้ี

ประเด็นที่ 1 ปรมิ าณท่ีเกิดข้ึน

ปริมาณขยะหรือของเสียท่ีเกิดข้ึน เป็นตัวชี้วัดว่าขยะหรือของเสียมีปริมาณเพียงพอที่จะ
นากลับมาใช้ประโยชนไ์ ดใ้ นเชิงพาณิชย์หรือไม่ โดยขยะหรอื ของเสียท่ีมีปริมาณมากมีโอกาสที่จะนากลับมา
ใช้ประโยชนใ์ หม่ได้มากกว่าขยะหรือของเสยี ที่มีปรมิ าณน้อยซ่ึงอาจไมเ่ พยี งพอในการนากลบั มาใช้ประโยชน์
ใหมใ่ นเชงิ พาณิชย์ ดงั แสดงในตารางที่ 8

ตารางที่ 8 เกณฑก์ ารให้คะแนนประเด็นด้านปริมาณท่ีเกิดข้นึ

ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑ์กำรประเมนิ คะแนน
5
มีปริมาณทเ่ี กิดขน้ึ เฉลี่ยต่อปี มากกวา่ 100,000 ตนั
4
มปี รมิ าณที่เกิดขนึ้ เฉลย่ี ต่อปีต้ังแต่ 10,001 - 100,000
3
ปรมิ ำณทเ่ี กิดขน้ึ ตนั 2
มีปริมาณทเ่ี กิดข้นึ เฉลย่ี ต่อปตี ้ังแต่ 1,001 - 10,000 ตนั 1

มีปริมาณที่เกิดขึ้นเฉล่ยี ต่อปตี ้ังแต่ 101 – 1,000 ตัน

มปี รมิ าณทเี่ กดิ ขึ้นเฉล่ยี ต่อปี ตา่ กวา่ หรอื เท่ากบั 100 ตนั

ประเดน็ ท่ี 2 การเกบ็ รวบรวมขนส่งจากแหลง่ กาเนิด

การเก็บรวบรวมขนส่งจากแหล่งกาเนิด เป็นตัวช้ีวัดว่าขยะหรือของเสียมีข้ันตอนและ
กระบวนการในการเก็บรวบรวมขนส่งจากแหล่งกาเนิดเพื่อท่ีจะนากลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ยุ่งยากหรือไม่
โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เช่น สถานะทางกายภาพ (ของแข็ง ของเหลว ฝุ่น) ขนาด น้าหนักต่อ
หน่วย ภาชนะท่ีตอ้ งใชใ้ นการจัดเก็บ การขนย้าย (ใช้แรงงานคนได้หรือต้องใช้เครื่องจักร/อุปกรณ)์ พาหนะ
ที่ใช้ในการขนส่ง เป็นต้น โดยขยะหรือของเสียท่ีมีขั้นตอนและกระบวนการในการเก็บรวบรวมขนส่งจาก
แหล่งกาเนิดที่ไม่ยุ่งยาก จะมีโอกาสในการนากลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้มากกว่าขยะหรือของเสียท่ีมี
ขั้นตอนและกระบวนการในการเกบ็ รวบรวมขนสง่ จากแหลง่ กาเนิดทย่ี ่งุ ยาก ดังแสดงใน

ตารางที่ 9

๕๑

ตารางท่ี 9 เกณฑก์ ารให้คะแนนประเด็นดา้ นการเก็บรวบรวมขนส่งจากแหล่งกาเนดิ

ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน
5
เกบ็ รวบรวมไดง้ า่ ย ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งภาชนะในการจดั เก็บ ขนยา้ ย 4
3
สะดวกสามารถใช้แรงงานคนได้ ไมต่ ้องใช้พาหนะเฉพาะในการขนส่ง
2
เก็บรวบรวมไดง้ ่าย ใชภ้ าชนะท่ัวไปในการจัดเก็บได้ ขนยา้ ยสะดวก
1
สามารถใช้แรงงานคนได้ ไม่ต้องใช้พาหนะเฉพาะในการขนสง่

เกบ็ รวบรวมได้ ใช้ภาชนะทวั่ ไปในการจัดเก็บได้ ต้องใชเ้ คร่ืองจกั ร/

กำรเก็บรวบรวม อุปกรณ์ในการขนย้ายหรอื ใช้แรงงานคนเพ่ิมในการขนย้าย ไมต่ ้องใช้
ขนสง่ จำก พาหนะเฉพาะในการขนสง่
แหล่งกำเนิด
เก็บรวบรวมได้ยาก ต้องใชภ้ าชนะจัดเก็บเฉพาะ ไม่สามารถใช้
แรงงานคนในการขนย้ายได้ ต้องใช้เคร่ืองจกั ร/อปุ กรณใ์ นการขนยา้ ย

ต้องใช้พาหนะเฉพาะในการขนส่ง

เก็บรวบรวมไดย้ าก ต้องใช้ภาชนะจดั เกบ็ เฉพาะ ไม่สามารถใช้

แรงงานในการขนยา้ ยได้ ต้องใช้เครื่องจักร/อุปกรณเ์ ฉพาะในการขน

ยา้ ยและต้องใช้ผชู้ านาญการควบคมุ ต้องใช้พาหนะเฉพาะในการ

ขนส่ง

ประเด็นท่ี 3 ศักยภาพการนากลบั มาใช้ประโยชน์

ศกั ยภาพการนากลบั มาใช้ประโยชน์ เปน็ ตัวช้ีวัดว่าขยะหรือของเสียดังกล่าวมีความคุ้มค่า
ในการนากลับมาใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาจากองค์ประกอบและราคาของวัสดุหรือ
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนาขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ โดยขยะหรือของเสียท่ีมีองค์ประกอบและ
ราคาของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ท่ีได้จากการนากลับมาใช้ประโยชน์สูง จะมีโอกาสในการนากลับมาใช้
ประโยชน์สูงกว่าขยะหรือของเสียที่มีมูลค่าของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนากลับมาใช้ประโยชน์ต่า
ดังแสดงในตารางที่ 10

ตารางท่ี 10 เกณฑ์การใหค้ ะแนนประเด็นศักยภาพการนากลบั มาใชป้ ระโยชน์

ประเด็นกำรประเมิน เกณฑ์กำรประเมนิ คะแนน
5
องคป์ ระกอบและราคาของวัสดหุ รือผลติ ภณั ฑท์ ่ีไดจ้ ากการนากลบั มา 4
3
ใช้ประโยชน์มมี ลู คา่ มากกว่า 10,000 บาทตอ่ ตัน 2
1
องคป์ ระกอบและราคาของวัสดุหรือผลิตภณั ฑท์ ่ีได้จากการนากลับมา

ใชป้ ระโยชน์มีมูลคา่ ตง้ั แต่ 5,001 - 10,000 บาทตอ่ ตนั

ศักยภำพกำรนำ องคป์ ระกอบและราคาของวัสดหุ รือผลติ ภัณฑ์ที่ได้จากการนากลบั มา

กลบั มำใช้ประโยชน์ ใชป้ ระโยชนม์ ีมลู คา่ น้อยกว่า 3,001 - 5,000 บาทต่อตนั

องคป์ ระกอบและราคาของวัสดหุ รอื ผลติ ภณั ฑท์ ่ีได้จากการนากลับมา

ใช้ประโยชน์มีมลู ค่าตา่ กว่า 3,000 บาทต่อตนั

องค์ประกอบและราคาของวสั ดุหรือผลติ ภัณฑ์ท่ีไดจ้ ากการนากลับมา

ใชป้ ระโยชนม์ ีมลู ค่าต่า ต้องบาบดั กาจัดอย่างเดียว

๕๒

หมายเหตุ มลู คา่ ขยะหรือของเสียวสั ดหุ รอื ผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ดจ้ ากการนากลับมาใชป้ ระโยชน์เปน็ การประมาณ
การเทยี บเคียงคา่ กาจดั ขยะหรอื ของเสียอนั ตราย

ประเด็นท่ี 4 เทคโนโลยีรองรับในปัจจุบัน

เทคโนโลยีรองรับในปัจจุบันเพ่ือนาขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ เป็นตัวช้ีวัดว่า
ขยะหรือของเสียดังกล่าวมีเทคโนโลยีรองรับการนากลับมาใช้ประโยชนม์ ากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาจาก
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่รองรับว่าอยู่ในระดับใด เช่น ระดับห้องปฏิบัติการ (Lab Scale) ระดับ
โรงงานต้นแบบ (Pilot Scale) ระดับท่ีมีการใช้งานในเชิงพาณิชย์แลว้ (ในตา่ งประเทศ/ในประเทศ) เป็นต้น
รวมท้ังพิจารณาความซับซ้อนของเทคโนโลยีว่าสามารถพัฒนา/ต่อยอดในประเทศได้เองหรือไม่ โดยขยะ
หรือของเสียที่มีเทคโนโลยีรองรับในเชิงพาณิชย์แล้วและมีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดในประเทศได้เอง
จะมีโอกาสในการนากลบั มาใชป้ ระโยชน์มากกวา่ ขยะหรือของเสียทีม่ ีเทคโนโลยีรองรับเพียงใน Lab Scale
ดงั แสดงในตารางท่ี 11

ตารางท่ี 11 เกณฑ์การใหค้ ะแนนประเด็นด้านเทคโนโลยีรองรับในปจั จุบนั

ประเดน็ กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน

มีเทคโนโลยีรองรับในเชงิ พาณิชย์แล้วในต่างประเทศ ยังไม่มี

เทคโนโลยดี ังกล่าวในประเทศ แตส่ ามารถพฒั นา/ต่อยอดเทคโนโลยี 5
ในประเทศได้ ในประเทศมีเทคโนโลยีรองรบั เบ้ืองต้น (คดั แยก/รี

ไซเคลิ )

มีเทคโนโลยีรองรับในเชิงพาณิชยแ์ ลว้ ในต่างประเทศ ยงั ไม่มี

เทคโนโลยีรองรับใน เทคโนโลยใี นประเทศ แตส่ ามารถพฒั นา/ต่อยอดเทคโนโลยีใน 4

ปจั จบุ นั ประเทศได้

มเี ทคโนโลยรี องรับในเชิงพาณิชย์แล้วในตา่ งประเทศ ยังไม่มี

เทคโนโลยใี นประเทศ เทคโนโลยีมีความซบั ซ้อนไม่สามารถพฒั นา/ต่อ 3

ยอดในประเทศไดเ้ อง

มเี ทคโนโลยรี องรับใน Pilot Scale 2

มเี ทคโนโลยรี องรับใน Lab Scale 1

ประเด็นท่ี 5 ความเปน็ พิษ/อนั ตรายตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม

ความเป็นพิษ/อันตรายตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม เป็นตัวชี้วดั วา่ ขยะหรือของเสยี ดังกล่าวมีความเป็น
พษิ /อันตรายต่อสิ่งแวดลอ้ มและบุคคลมากน้อยเพียงใดหากไม่มกี ารจัดการหรือนากลบั มาใช้ประโยชน์อย่าง
เหมาะสม โดยพิจารณาจากคุณสมบัติทั้งทางกายภาพและเคมีของขยะหรือของเสีย โดยขยะหรือของเสียที่มี
ความเปน็ พิษ/อันตรายตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มมาก ควรเร่งนามาจัดการหรอื นากลับมาใชป้ ระโยชน์มากกวา่ ขยะหรือ
ของเสยี ทม่ี คี วามเป็นพษิ /อันตรายตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มน้อย ดงั แสดงในตารางท่ี 12

๕๓

ตารางท่ี 12 เกณฑ์การให้คะแนนประเดน็ ด้านความเปน็ พิษ/อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน

เป็นขยะหรือของเสยี อนั ตรายทถี่ กู จดั อยใู่ นระดับ HA 5

(Hazardous waste – Absolute entry)

เป็นขยะหรือของเสยี อนั ตรายท่ีถกู จัดอยูใ่ นระดับ HM 4

(Hazardous waste – Mirror entry)

เปน็ ขยะหรือของเสยี ทมี่ ีองคป์ ระกอบทีเ่ ป็นพษิ และส่งผลต่อ 3

ควำมเปน็ พษิ และ สงิ่ แวดล้อม ตอ้ งถูกควบคุมตามคา่ มาตรฐานของกรมควบคุม 2
อันตรำยต่อส่ิงแวดล้อม มลพิษ

เปน็ ขยะหรือของเสียไมเ่ ป็นพิษ ไม่สามารถย่อยสลายตาม

ธรรมชาติได้ อาจส่งผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อมและชมุ ชน อาทิ กลนิ่

เหมน็ เปน็ แหลง่ เพาะพันธุส์ ตั วม์ พี ษิ

เปน็ ขยะหรือของเสยี ไม่เป็นพิษ สามารถย่อยสลายตามธรรมชาตไิ ด้ 1

อาจส่งผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ มและชมุ ชน อาทิ กล่นิ เหม็น เปน็

แหล่งเพาะพันธส์ุ ัตวม์ ีพิษ

ประเดน็ ท่ี 6 ความพร้อมของผู้ประกอบการ/นักลงทุน

ความพร้อมของผู้ประกอบการ/นักลงทุน เป็นตัวช้ีวัดว่าขยะหรือของเสียดังกล่าวมี
ผู้ประกอบการ/นักลงทุนสนใจและพร้อมลงทุนในการนาขยะหรือของเสียดังกล่าวมาใช้ประโยชน์เพ่ือเป็น
วัตถุดิบทดแทนในประเทศหรือไม่ หากมีการส่งเสริมการนาขยะหรือของเสียดังกล่าวมาใช้ประโยชน์อย่าง
เป็นระบบและครบวงจร โดยพิจารณาจากความสนใจและความพร้อมในการลงทุน/นาขยะหรือของเสียมา
ใช้ประโยชน์ของผู้ประกอบการ/นักลงทุนในโซ่อุปทาน (Supply Chain) โดยขยะหรือของเสียท่ีมี
ผู้ประกอบการ/นักลงทุนสนใจและพร้อมลงทุนในการนาขยะหรือของเสียดังกล่าวมาใช้ประ โยชน์ใน
ประเทศตลอด Supply Chain จะมีโอกาสในการนากลับมาใช้ประโยชน์มากกว่าขยะหรือของเสียท่ีไม่มี
ผู้ประกอบการ/นักลงทุนสนใจ ดังแสดงในตารางท่ี 13

ตารางที่ 13 เกณฑ์การให้คะแนนประเดน็ ดา้ นความพร้อมของผ้ปู ระกอบการ/นักลงทุน

ประเดน็ กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ คะแนน

มีผู้ประกอบการ/นักลงทุนที่สนใจและพร้อมลงทนุ ตลอด Supply Chain 5

มผี ้ปู ระกอบการ/นักลงทุนสนใจและพร้อมลงทนุ ในการคดั แยก/รี 4

ควำมพรอ้ มของ ไซเคิล ผปู้ ระกอบการในประเทศท่ีมีศักยภาพในการนาวัสดหุ รอื

ผูป้ ระกอบกำร/ ผลติ ภัณฑ์ทไี่ ด้จากการคดั แยก/รไี ซเคลิ สนใจนาวัสดุหรือผลิตภณั ฑ์

นักลงทุน ดงั กล่าวไปใชเ้ ป็นวตั ถดุ ิบทดแทน

มีผู้ประกอบการ/นักลงทนุ สนใจและพร้อมลงทุนในการคดั แยก/รี 3

ไซเคิล แตผ่ ูป้ ระกอบการในประเทศทม่ี ศี ักยภาพในการนาวัสดุหรอื


Click to View FlipBook Version