The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน +1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sesao16, 2020-07-14 08:15:13

การเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน +1

การเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน +1

รายงานผลการเดนิ ทางเข้าร่วมประชมุ

สภาครอู าเซียน +1 คร้งั ที่ 33
(33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

หวั ข้อ

“Role Education in Adopting Global Culture
and Preserving National Identity”

15-18 กันยายน 2560
ณ โรงแรมแซนดบี้ ีชรสี อร์ท เมอื งดานงั ประเทศเวยี ตนาม



รายงานผลการเดนิ ทางเขา้ รว่ มประชมุ สภาครอู าเซยี น +1 ครงั้ ท่ี 33
หัวขอ้ “Role Education in Adopting Global Culture and

Preserving National Identity”
15-18 กันยายน 2560

ณ โรงแรมแซนดบ้ี ีชรีสอรท์ เมอื งดานัง ประเทศเวียตนาม

รายงานผลการท่ีได้เข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน +1 คร้ังที่ 33
หัวข้อ “Role Education in Adopting Global Culture and
Preserving National Identity” ดงั น้ี

1. ส่ิงที่ได้รับจาการเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน ได้รับ
องคค์ วามร้ปู ระสบการณ์และแนวคิด

• จากการประชมุ •

“บทบาทการศกึ ษาในการรับเอาวฒั นธรรมของโลกและการอนุรักษ์
ความเป็นอัตลกั ษณ์ของชาตมิ าใช้ในระบบการศกึ ษา”
ศาสตราจารย์ดร. สมบัติ นพรตั น์

• เกรน่ิ นำ� •

เพ่ือให้มั่นใจในการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ข้าพเจ้าพยายามท่ีจะค้นหาความ
หมายของคำ� ส�ำคัญๆ ในรายงานฉบับนี้ ซ่งึ คำ� ส�ำคัญๆ เหลา่ นัน้ คอื “บทบาท
ของการศึกษา” “การรับเอาวัฒนธรรมของโลก” และ “การอนุรักษ์อัตลักษณ์
ของชาติ” นี่คือส่ิงต่างๆ ท่ีข้าพเจ้าพบจากการถอดรหัส หรือจากบทความน้ี
น่นั เอง
การศกึ ษาคอื อะไร

การศึกษาเป็นกระบวนการในการเอ้ืออ�ำนวยให้เกิดการเรียนรู้
หรือการได้มาซ่ึงความรู้ ทักษะ คุณค่า ความเช่ือและนิสัย วิธีการด้านการ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 1
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

ศึกษารวมถึงเร่อื งเลา่ การถกเถียง การสอน การอบรม และการท�ำวิจยั โดยตรง
การศึกษามักจะเกิดข้ึนภายใต้การแนะน�ำของนักการศึกษาแต่ผู้เรียนอาจจะ
ต้องศึกษาด้วยตนเอง การศึกษาสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริบทที่เป็นทางการและ
ไม่เปน็ ทางการ รวมถงึ ประสบการณท์ ุกอย่างท่ีจะส่งผลกระทบท่ีเปน็ รปู เป็นร่าง
ต่อวธิ กี ารทบ่ี คุ คล คิด รูส้ ึก หรือการปฏิบัติ อาจจะถกู พจิ ารณาว่าเป็นเรื่องการ
ศึกษาได้ ระเบยี บวธิ ใี นการสอนกถ็ ูกเรยี กว่าเปน็ วิชาครู (ครศุ าสตร์)
โดยท่ัวไป การศึกษาถูกแบ่งแบบเป็นทางการ ต้ังแต่ระดับชั้นเตรียม
เข้าโรงเรียน หรืออนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และเข้าสู่วิทยาลัย
มหาวทิ ยาลยั หรอื การฝกึ หดั ต่างๆ
เม่อื เราพดู ถึงการศกึ ษาเราหมายถงึ ประเภทของระบบการศกึ ษา 3 อย่าง
คือ การศึกษาแบบเป็นทางการ การศึกษาแบบไม่เป็นทางการ และการศึกษา
ตามอัธยาศัย
บทบาทของการศึกษาคอื อะไร
บทบาทของการศึกษาควรจะเป็นวิธีการในการสร้างเสริมพลังภายใน
ของเด็กและผู้ใหญ่ คล้ายกับการท่ีท�ำให้พวกเขากลายเป็นผู้เข้าร่วมการเรียนรู้
ที่กระตอื รอื ร้นในการเปล่ียนแปลงสังคมของพวกเขา การเรยี นรู้ควรจะเน้นเรื่อง
คณุ คา่ ทัศนคติ และพฤตกิ รรมทีท่ �ำใหแ้ ต่ละบคุ คลเรียนรู้ที่จะอยูร่ ว่ มกนั ในโลกท่ี
มลี กั ษณะที่มคี วามหลากหลายและเป็นพหวุ ฒั นธรรมด้วย
บทบาทของครคู อื อะไร
บทบาทของครู เก่ียวข้องกับส่ิงท่ีมากกว่าการยืนอยู่หน้าช้ันเรียนและ
การสอนแบบพื้นๆ ในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าครูคนหนึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ทั้ง
วันในชั้นเรียน องค์ประกอบการสอนท่ีถูกต้องเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาชีพ
ครูท่ีมีประสิทธิภาพคนหนึ่งพึงเข้าใจว่าการสอนเก่ียวข้องกับการสวมหมวก
หลายใบเพอ่ื ทำ� ใหม้ นั่ ใจไดว้ า่ วนั ในการเรยี นการสอนจะดำ� เนนิ ไปไดอ้ ยา่ งราบรนื่

2 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

และนักเรียนทุกคนจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพบทบาทของครูในการศึกษา
คอื อะไร
วฒั นธรรมของโลกคืออะไร
วัฒนธรรมของโลกหมายถึงกลุ่มคนต่างๆ ท่ีสมาชิกของกลุ่มเป็นส่วน
หน่ึงของกันและกัน บนฐานของความเป็นลักษณะเฉพาะท่ีวัดจากการเช่ือมโยง
ของวัฒนธรรม ภาษาศาสตร์ ศาสนา พฤติกรรมและหรือลกั ษณะทางชีววิทยา
ความหมายนี้ยืมมาจากปรัชญาขององค์กรยูเนสโก (2005) ท่ียืนยันอีกคร้ังถึง
ประเดน็ ทมี่ ชี ่ือเสียง 15 ประการ ได้แก่ “ชาติ ศาสนา ภูมศิ าสตร์ ภาษาศาสตร์
และกลุ่มด้านวัฒนธรรมต่างๆ ซ่ึงไม่จ�ำเป็นที่กลุ่มเผ่าพันธุ์ต่างๆ เหล่าน้ี
ต้องเป็นเผ่าพันธุ์ท่ีเหมือนกัน และร่องรอยด้านวัฒนธรรมของกลุ่มต่างๆ เหล่า
น้ีอาจไม่มีการเช่ือมโยงด้านพันธุกรรมที่แสดงให้เห็นเลยว่ามีร่องรอยว่าเป็นชน
เผา่ เดียวกนั กไ็ ด”้
โลกาภิวัฒน์ส่งเสริมพันธมิตรที่ข้าม
วัฒนธรรมระหว่างกัน การแบ่งปันด้านความ
รู้ และการส่งต่อด้านเทคโนโลยี พนั ธมติ รทข่ี ้าม
วัฒนธรรมถูกท�ำให้คงรูปในเกือบทุกระดับ อาทิ
องค์กรรัฐบาลระดับนานาชาติ (IGOs) การสร้าง
ความร่วมมือโดยนานาชาติ และทีมท�ำงานระดับ
ชาตทิ มี่ ีความหลากหลาย
บทบาทด้านการศึกษาในการรับเอา
วฒั นธรรมของโลกมาใช้ เปน็ อย่างไร
บทบาทด้านการศึกษาสามารถรับเอา
วัฒนธรรมของโลกมาใช้ผ่านระบบการศึกษา
แบบเป็นทางการ แบบไม่เป็นทางการและการ
ศกึ ษาตามอัธยาศัย อาทิ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 3
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

ส�ำหรับการศึกษาในระบบ พวกเราสามารถเติมหลักสูตร และกิจกรรม
ส�ำหรบั ท้ังระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานและระดับมหาวิทยาลยั
ส�ำหรับการศึกษาแบบไม่เป็นทางการ พวกเราสามารถท�ำเหมือน
การศึกษาแบบเป็นทางการได้เช่นกัน โดยเฉพาะนักศึกษาสามารถที่จะรับเอา
กจิ กรรมวัฒนธรรมของโลกเขา้ ไปในชมุ ชนของพวกเขาได้
ส่วนการศึกษาตามอัธยาศัย บทบาทด้านการศึกษาสามารถรับและ
อนุรักษ์ในวิถีชีวิตประจ�ำวันและกิจกรรมต่างๆ ในพิธีกรรมตามขนบธรรมเนียม
ประเพณี (Global Culture/infoscion demand/search/?P=global culture
& pg =1)
อย่างไรก็ตาม การรับเอาวัฒนธรรมของโลกมาใช้นั้นไม่เพียงแต่การพูด
คุย แต่มันต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงของมัน มิฉะนั้นการรับมาน้ันจะเป็น
เพียงการพูดเท่าน้นั
อัตลกั ษณข์ องชาติคอื อะไร
อตั ลกั ษณ์ของชาติ คือ อัตลกั ษณข์ องคนๆ หนงึ่ ที่มีความรู้สึกเป็นเจา้ ของ
ต่อรัฐหรือต่อประเทศของตน เป็นความรู้สึกของความเป็นหน่ึงเดียวในชาติ
ซึ่งกลายเป็นตัวแทนของขนบประเพณีที่มีลักษณะเฉพาะ วัฒนธรรม ภาษา
และการเมือง อัตลักษณ์ของชาติอาจส่งต่อจากความรู้สึกท่ีเป็นอัตวิสัยของ
คนๆ หน่ึงในการแบ่งปันกับกลุ่มบุคคลในประเทศ โดยไม่ได้ค�ำนึงถึง สถานะ
ด้านความเป็นพลเมืองท่ีถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลคนนั้นก็ได้ อัตลักษณ์
ของชาติถูกมองในความหมายด้านจิตวิทยาในฐานะที่เป็น “การรับรู้ถึงความ
แตกตา่ ง” “ความร้สู ึกหนึง่ และการรูถ้ งึ สิง่ ท่ีเป็นเราและพวกเขา” การแสดงออก
ของอัตลักษณ์ของชาติของบุคคลหน่ึงสามารถมองในแง่บวกว่าเป็นความรัก
ชาติ ที่ถูกก�ำหนดลักษณะโดยความภาคภูมิใจในชาติและอารมณ์รักเชิงบวก
ต่อประเทศของตน การแสดงออกท่ีสุดโต่งของ อัตลักษณ์ของชาติเป็นการ
เชื่อว่าประเทศหรือเช้ือชาติของตนส�ำคัญที่สุด ที่ส่งต่อถึงความเช่ือท่ีม่ันคงใน
ความเป็นชาติที่เหนือกว่าประเทศอื่นๆ และความจงรักภักดีอย่างเข้มข้นที่มีต่อ
ประเทศของตนเอง (National identity, Wikipedia, https://en.wikipedia.org)

4 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

บทบาทด้านการศึกษาอนุรกั ษ์อตั ลกั ษณข์ องชาตไิ ดอ้ ยา่ งไร
ตามที่ได้อธิบายข้างตน้ ว่า บทบาทการศกึ ษาสามารถหาความคิดในการ
อนุรักษ์จากนักศึกษาในช้ันเรียน นักศึกษานอกห้องเรียน รวมถึงนักศึกษาและ
คนในชุมชน ตวั อยา่ งไดแ้ ก่
“พวกเราสามารถสร้างกรอบและรักษาอัตลักษณ์ความเป็นชาติของเรา
ผา่ นทางวรรณคดี ศลิ ปะ วฒั นธรรม ขนบธรรมเนียม ศาสนา การแตง่ กาย เพลง
และอื่นๆ เพื่อท่ีจะยังคงรักษาความเป็นอัตลักษณ์ของคนเขมร เยาวชนจ�ำเป็น
ต้องเรียนเก่ียวกับสิ่งต่างๆ เหล่าน้ี และยังคงต้องรักในการเรียนเก่ียวกับส่ิง
เหล่านีด้ ้วย พวกเราควรจะหยุดวัฒนธรรมตา่ งชาติทีส่ ่งอิทธพิ ลตอ่ เรา และพวก
เราต้องปฏิบัติการเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของชาติให้มากข้ึน และส่งเสริมกิจกรรม
ทางวัฒนธรรมทุกรูปแบบและสินค้าต่าง ๆ ท่ีผลิตในประเทศของเราด้วย”
(CheLida, 19 นักศึกษาท่ีมหาวิทยาลัยแห่งชาติด้านกฏหมายและเศรษฐกิจ)
(หนังสอื พิมพพ์ นมเปญโพสต์ ฉบบั วนั ศุกร์ท่ี 7 มถิ นุ ายน ปคี .ศ.2017. ประเทศ
กมั พชู า)
การพฒั นาเพอื่ ความยง่ั ยนื ในประเทศอาเซยี นโดยบทบาทดา้ นการศกึ ษา
วัฒนธรรมของชาติและอัตลักษณ์ของชาติควรได้รับการส่งเสริมและ
อนุรักษ์โดยบทบาทด้านการศึกษา พวกเขาจะต้องสร้างการพัฒนาท่ีย่ังยืนใน
ประเทศอาเซยี น ดงั นน้ั เมอื่ เราพูดถึงการศกึ ษา เราหมายถงึ การศกึ ษาแบบเป็น
ทางการ แบบไมเ่ ปน็ ทางการ และการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มีความสำ� คญั อย่าง
ยง่ิ ต่อการเรยี นร้ตู ลอดชีวติ
การเรียนร้ตู ลอดชวี ิตคืออะไร
ทุกคนในทุกๆ ข้ันตอนของชีวิตควรจะมีโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เพ่ือให้ได้มาซ่ึงความรู้ และทักษะ เพื่อที่จะน�ำมาเติมเต็มแรงบันดาลใจและ
อุทิศต่อสังคมท่ีพวกเขาอาศัยอยู่ “ระบบการศึกษาทั้งหมดถูกออกแบบในการ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 5
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเรียนรู้ที่กว้างขวาง รวมถึงการสร้างสรรค์
โอกาสในการเรียนรู้ตามการศึกษาแบบเป็นทางการ ไม่เป็นทางการและการ
ศึกษาตามอัธยาศัย ส�ำหรับบุคคลทุกช่วงอายุ…แนวคิดในการเรียนตลอด
ชีวิตต้องการการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ท่ีออกจากความคิดในการสอน
หรือการอบรมต่อผู้เรียน จากการสอนท่ีเป็นแค่น�ำความรู้ไปให้ น�ำไปสู่การ
สร้างการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนาตนเอง และจากการได้มาซึ่งทักษะที่
พิเศษไปสู่การค้นพบที่กว้างขวางกว่าของผู้เรียน รวมถึงการศึกษาที่ไม่ได้พูด
ความจริงและการควบคุมศักยภาพที่สร้างสรรค์(ก็ต้องได้รับการเปล่ียนแปลง)
น่ีเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จ�ำเป็นในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น และประเภทของ
การให้การศึกษานั้น ควรจะด�ำเนินการไม่ว่าจะเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ
และตามอัธยาศยั ” (แหลง่ ข้อมลู : ยุทธศาสตร์ด้านการศกึ ษาของ UNESCO
2014-2021)
การได้มาซึ่งความรู้ ทักษะ ความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิตควร
จะสร้างในแบบที่ไม่มีข้อจ�ำกัด โดยเข้าใจแนวคิดของมัน เพื่อเป็นการเพ่ิมพูน
ทักษะพื้นฐาน และยังคงเป็นการรวบรวมทักษะท้ังหมดท่ีกว้างขวางข้ึน
โดยยอมรับถึงการเกิดขึ้นของทักษะใหม่ๆ ของตน และเห็นว่าเป็นสิ่งจ�ำเป็น
ส�ำหรับแต่ละบุคคล (ในฐานะท่ีการเรียนรู้เป็นการเรียนรู้ ทักษะส�ำหรับการ
เป็นพลเมืองของโลก ทักษะส�ำหรับผู้ประกอบการ และทักษะท่ีจ�ำเป็นต่างๆ)
(World Education Forum 2015, 19-22 พฤษภาคม 2015, อนิ ชอน, ประเทศ
เกาหลใี ต)้ ศาสนาเปน็ สิง่ สำ� คัญประการหน่งึ ในวฒั นธรรม
ศาสนาและความส�ำคัญประการหนง่ึ ในวฒั นธรรม คืออะไร
ศาสนาเป็นระบบทางสังคมในการออกแบบพฤติกรรมและการปฏิบัติ
มุมมองต่อโลก ค�ำสอน สถานที่ศักด์ิสิทธิ์ จริยธรรม หรือองค์กรต่างๆ
ที่เก่ียวข้องกับมนุษย์ในเร่ืองเหนือจริง หรือเหนือธรรมชาติ ศาสนาเก่ียวข้อง
กับมนุษย์ ซ่ึงนักมานุษยวิทยาที่ชื่อคลิฟฟอร์ด เกียร์ทซ์ (Clifford Geertz

6 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

1926-2006) ได้อา้ งอิงในฐานะของ “ระเบียบการคงอยู่” ทางจักรวาล ศาสนา
ท่ีแตกต่างกันอาจหรืออาจจะไม่รวมเอาองค์ประกอบท่ีหลากหลาย ซึ่งแปรผัน
จาก “พระผูเ้ ป็นเจ้า” “ส่ิงศักดส์ิ ิทธ”ิ์ “ความเชือ่ ” “สงิ่ เดียวท่ีเหนือธรรมชาติ”
หรือ “หลายส่ิงที่เหนือธรรมชาติ” “หรือ” บางประเภทของสัจธรรมค�ำสอน
และส่ิงเหนือธรรมชาติ ท่ีสร้างบรรทัดฐานและอ�ำนาจในชีวิตท่ีเหลืออยู่” “การ
ปฏิบตั ทิ างศาสนาอาจรวมถงึ พิธกี รรม ค�ำสงั่ สอน พิธีระลึกถงึ หรือความเลือ่ มใส
(ในหนา้ ทตี่ ่างๆ) การบวงสรวง เทศกาล งานฉลอง การเข้าฌาน การอุปสมบท
การบรกิ ารงานศพ การบรกิ ารดา้ นการแตง่ งาน การท�ำสมาธิ การสวดอธษิ ฐาน
ดนตรี งานศิลปะ เต้นรำ� การบริการสาธารณะ หรือมมุ ของอื่นๆ ตามวัฒนธรรม
ของมนุษย์ ศาสนามีประวัติศาสตร์ที่ศักด์ิสิทธ์ิและเล่าเรื่อง ซ่ึงอาจจะเป็นการ
อนรุ กั ษใ์ นรปู แบบของคมั ภีรอ์ นั ศักด์สิ ิทธิ์ และสญั ลักษณ์ตา่ งๆ สถานท่ีศักดิส์ ทิ ธ์ิ
มุ่งหมายในการให้ความหมายต่อชีวิตเป็นส่วนใหญ่ ศาสนาอาจจะมีเรื่องราว
เชิงสัญลักษณ์ ที่ถูกพูดถึงความจริงโดยลูกศิษย์ โดยมีวัตถุประสงค์ในด้านที่
จะอธบิ ายจดุ กำ� เนดิ ของชีวติ จกั รวาล และสิ่งต่างๆ โดยธรรมเนียมแลว้ ความ
เชื่อท่ีเพิ่มเติมมากกว่าเหตุผลถูกพิจารณาว่าเป็นแหล่งความเชื่อด้านศาสนา
ประมาณว่ามีศาสนาในโลกนี้ 10,000 ศาสนาที่มีความแตกต่างกัน ประมาณ
รอ้ ยละ 84 ของประชากรในโลกเข้ารว่ มกบั หนงึ่ ใน 5 ศาสนาท่ใี หญ่ๆ ของโลก
ซึ่งหมายถงึ ศาสนาครสิ ต์ อสิ ลาม ฮนิ ดู พทุ ธ หรือรปู แบบของศาสนาพื้นบ้าน”
(https://enwikipedia.org.)
ศาสนาอาจจะมีผลต่อความส�ำเร็จด้านการศึกษาอย่างไรนั้น ทฤษฏีของ
นักวิชาการและพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ (https://www.pewforum.org/
2016/12/13/how-religion-may-affect....ional-attainment-scholarly-
theories-and-historical background/) พบว่าศาสนาและการศึกษา ซ่ึง
เป็นความมานะบากบ่ันที่เก่าแก่ท่ีสุดสองอย่างของมนุษยชาติ มีความสัมพันธ์
ท่ีใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน นักประวัติศาสตร์และนักสังคมศาสตร์ได้เขียนเก่ียว
กับความสัมพันธ์และอธิบายว่าทั้งสองอย่างน้ีมีอิทธิพลต่อกันอย่างไรบ้าง มุม

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 7
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

มองเชิงประวัติศาสตร์ท่ีนักวิชาการแนะน�ำคือ ศาสนาท่ีหลากหลายมีอิทธิพล
ต่อการศึกษา โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเร่ืองการขยายฐานการอ่านออกเขียนได้ใน
กลุ่มฆราวาส

มองยอ้ นอดตี
การเข้าถึงการเรียนการสอนท่ีร่วมสมัย ซึ่งเป็นทางเดินท่ีเข้มแข็ง
เพื่อความส�ำเร็จด้านการศึกษา ข้ึนอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาของ
ประเทศ ตัวอยา่ งหลายด้านพบว่า การวางรากฐานของโครงสร้างดา้ นการศึกษา
อยู่บนพื้นฐานของการสร้างส่ิงอ�ำนวยความสะดวกในจุดแรกเริ่มจากผู้น�ำทาง
ศาสนา หรือหนว่ ยงานท่สี ่งเสริมการเรยี นรู้และเผยแพรค่ วามศรัทธา
ในประเทศอินเดีย ผู้ชายท่ีได้รับการศึกษา (บางครั้งก็เป็นผู้หญิง)
ในยุคโบราณ อาศัยอยู่ในวัดวาอารามของพระพุทธและฮินดู ในสมัยกลางของ
ตะวันออกและยุโรป พระชาวคริสต์เตียนสร้างห้องสมุด และก่อนหน้านั้นก็มี
การสร้างระบบการพิมพบ์ นแทน่ อัด เพือ่ อนุรกั ษก์ ารเขยี นที่สำ� คัญๆ กอ่ นหน้านี้
ในรูปแบบของภาษาลาติน ภาษากรีก และภาษาอาหรับ ในหลายๆ กรณี
วัดวาอารามของศาสนาวิวัฒนาการส่กู ารเป็นมหาวิทยาลยั
มหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรปถูกสร้างโดย
นิกายของศาสนิกชน เพ่ือสร้างการศึกษาให้แก่บาทหลวงและศิษยานุศิษย์ที่
8 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

เป็นฆราวาส สถาบันต่างๆเหล่านี้โดยส่วนใหญ่กลายมาเป็นเรื่องของฆราวาส
ในช่วงเริ่มต้นแต่การคงอยู่ด้านการศึกษาอาจจะช่วยอธิบายว่าเหตุใดประชากร
ในอเมริกาและยุโรปถึงได้รับการศึกษาที่สูงส่ง นอกเหนือจากบทบาทในการ
สร้างให้เกิดโครงสร้างพ้ืนฐานด้านการศึกษาแล้ว กลุ่มด้านศาสนาเป็นฐานราก
ในโอบอุ้ม ทศั นคติทางสังคมผา่ นการศึกษา
อสิ ลาม
มีการถกเถียงที่น่าพิจารณาระหว่างนักวิชาการท่ีเก่งกล้า โดยถกเถียง
กันมาหลายศตวรรษว่าอิสลามส่งเสริมหรือบั่นทอนการศึกษาของฆราวาส
ผู้เช่ียวชาญบางคนบันทึกไว้ว่าค�ำแรกของ กุรอ่าน ในฐานะท่ีถูกเปิดเผยโดย
ท่านศาสดามูฮัมหมัดคือ “อิคร่า” ซ่ึงหมายถึง “อ่าน” หรือ “ท่อง” พวกเขา
กล่าวว่ามุสลิมถูกกระตุ้นให้ติดตามความรู้ เพื่อที่จะน�ำไปสู่ความเข้าใจค�ำพูด
ของพระเจ้าที่ได้รับการเปิดเผยมาแล้วได้อย่างดียิ่งขึ้น ชาวมุสลิมสมัยก่อนน้ัน
อทุ ศิ การสรา้ งปัญญาใหม่ๆ ในหลากหลายสาขา เชน่ คณติ ศาสตร์ ดาราศาสตร์
ปรัชญา การแพทย์ และกวีนพิ นธ์ พวกเขาสร้างโรงเรียน และมักจะเปน็ สเุ หร่า
ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็น “Katatib” และ “Madrasas” ผู้ปกครองของ
อิสลามสรา้ งห้องสมดุ และการศึกษาเชิงซ้อน ตวั อยา่ งเช่น บา้ นแห่งมนั ตาท่กี รุง
แบกแดด (House of Wisdom) และมหาวทิ ยาลยั อลั อซั ฮรั เพื่อทนุบ�ำรงุ การ
ศึกษาท่ีทันสมัย ภายใต้กฎของอิสลาม สเปนทางตอนใต้เคยเป็นศูนย์กลางใน
การเรียนรู้ท่ีสูงกว่า โดยได้ผลิตตัวอักษรโดยนักปรัชญาชาวมุสลิมท่ีมีช่ือเสียง
ทีช่ ือ่ วา่ อบูวาลดิ มฮู ัมมดั บนิ อะหห์ มดั อิบนิ รชุ ด์ หรอื อบิ นุ รุชด์ หรอื ที่ร้จู ักกัน
ในชื่อ อาเวร์โรเอส เปน็ แพทยแ์ ละนักปรัชญาชาวอาหรับ (Averroes)
แตน่ กั วิชาการอ่ืนๆ ต่อสู้และพิจารณาว่า ความส�ำเร็จดา้ นการศึกษาของ
มุสลิมนั้นเกิดข้ึนจากการค้นหาปัญญาในอาณาเขตที่กว้างขวางนอกศาสนา
พวกเราน้ันค่อยๆ ถูกท�ำให้เร่ืองนี้หายไป เพราะความซับซ้อนทางเหตุการณ์
ทางสงั คมและการเมอื งในชว่ งหลายศตวรรษ (ตอ่ มา)

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 9
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

คริสตศ์ าสนา
ในมุมมองของนักวิชาการบางท่าน การปฏิรูปของนิกายโปรเตสแตนต์
ในศตวรรษท่ี 16 เป็นผลมาจากการผลักดันการศึกษาสาธารณะในยุโรป
นักปฏิรูปชาวโปสแตสแตนท์ส่งเสริมการรู้หนังสือเพราะการต่อสู้ที่ทุกคน
จ�ำเป็นต้องอ่านคัมภีร์ไบเบิล ที่พวกเขามองในฐานะอ�ำนาจที่จ�ำเป็นในเรื่อง
หลักค�ำสอน การถูกผลักดันความเชื่อม่ันทางเทววิทยา ท�ำให้ผู้น�ำทางศาสนา
ยืนยันในการสร้างโรงเรียน และแปลคัมภีร์ไบเบิลไปสู่ภาษาท้องถ่ินต่างๆ ผู้น�ำ
ด้านการปฏิรปู ชือ่ มารต์ นิ ลเู ธอร์ (Martin Luther) ท�ำให้ดเู ป็นตัวอยา่ งในการ
แปลคัมภีร์ไบเบิลไปสู่ภาษาเยอรมัน อย่างไรก็ตามนักวิชาการบางคนเถียง
ว่า น่ีเป็น “การปฏิรูปคร้ังท่ีสอง” ในการเคลื่อนไหวของนักบวชชาวเยอรมัน
ในศตวรรท่ี 17-18 ท่ีสร้างอิทธิพลอย่างมากในการส่งเสริมให้คนอ่านออกเขียน
ได้ นักประวัตศิ าสตรท์ ี่ชอ่ื รชิ าร์ด เอล เกลทรอป์ (Richard L.Gawthrop) จาก
วิทยาลัยแฟรงค์กลิน และมหาวิทยาลัยเจเรลด์ สเทราส์ (Gerald Strauss)
แห่งอินเดียน่าในสมัยหลังบันทึกว่า แทนท่ีจะเน้นความจ�ำเป็นท่ีแต่ละบุคคลจะ
ต้องอ่านคัมภีร์ไบเบิลให้ได้ นักบวชในศาสนาคริสต์ได้ชักชวนผู้มีอ�ำนาจชาว
เยอรมันก�ำหนดให้การอ่านคัมภีร์ไบเบิลกลายเป็น “เคร่ืองมือส�ำคัญของการ
สอนศาสนาในโรงเรียนช้ันประถมศึกษา ที่เคยเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลังในการ
เผยแพร่ให้คนได้รู้หนังสือในวงกว้าง” ในเวลาต่อมา ศาสนากลายเป็นแรงผลัก
ดันหลักในการก่อตั้งโรงเรียนในอเมริกาท่ีด�ำเนินการโดยกลุ่มที่มีความเช่ือทาง
ศาสนา รวมถงึ พวก เควกเกอร์, โปรเตสแตนต์ และคาทอลิก ท่ใี ห้ความรู้จากรนุ่
ส่รู นุ่ ส�ำหรบั ครอบครัวทอี่ พยพเข้ามา
ศาสนาฮนิ ดู
ส�ำหรับชาวฮินดู อนันตาและรามบาจันทร์ กล่าวว่า การศึกษาเอาชนะ
ความทุกข์ยากพื้นฐานประการหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งความทุกข์น้ันหมายถึงความ
ไม่รู้ ผลท่เี กิดข้นึ ทำ� ให้

10 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

การศึกษาได้รับคุณค่าอย่างสูงในศาสนาฮินดูตั้งแต่เร่ิมต้นของศาสนา
ฮินดูในสมัยโบราณ คัมภีร์ของฮินดูกระตุ้นความต่อเนื่องในการค้นหาความรู้
ผ่านสนุ ทรยี สนทนาและการต้งั ค�ำถาม และการให้ความนบั ถอื แกผ่ ูส้ อน รามบา
จันทร์ กล่าวว่า “การเรียนรู้เป็นพื้นฐานท่ีส�ำคัญในความเป็นฮินดูท่ีเกี่ยวข้อง
กับค�ำถามที่ว่าการสร้างความหมายของชีวิตท่ีดีว่าคืออะไร” นับตั้งแต่ความ
ไม่รู้ของคนถูกมองว่าเป็นแหล่งส�ำคัญของความทุกข์ เขากล่าวเพ่ิมเติมว่า
“การแก้ไขปญั หาความไมร่ ู้คอื ความร้หู รือการเรยี นร”ู้
รามบาจันทร์กลา่ ววา่ ความชื่นชอบในการศกึ ษาของชาวฮนิ ดถู กู สะทอ้ น
ในวิถที างหลายๆแบบ เร่มิ ด้วย พระคัมภีรข์ องชาวฮนิ ดทู ่ีทรงอำ� นาจท่สี ดุ ทเ่ี รยี ก
กว่าพระเวท (Vedas) ซึ่งเป็นค�ำท่ีมาจากรากค�ำสันสกฤต ที่หมายถึงความ
รู้ ศาสตราจารย์ด้านศาสนาจากมหาวิทยาลัยฟลอริดาที่ช่ือว่า วิศณุ นารายา
นนั ท์ กลา่ วว่าชาวฮินดมู องความรูอ้ ย่สู องประเภทที่จำ� เปน็ และทรงคุณคา่ อย่าง
แรกคือวิทยา (Vidya) เป็นความรู้ในวิถีชีวิตประจ�ำวัน และสร้างให้บุคคลใน
การเสาะหาชีวิตที่ถูกครรลองคลองธรรม และมีศักด์ิศรี อย่างที่สองคือ ญาณ
(Jnana) เปน็ ความรู้หรือปญั ญาที่นำ� ไปสู่ความร้แู จ้งของพระผเู้ ป็นเจา้ สงิ่ เหลา่ น้ี
จะประสบผลส�ำเร็จโดยการอ่านและการทำ� สมาธิในคมั ภรี ์ของชาวฮนิ ดู
ศาสนาจดู าห์
ตามการให้ทุนการศึกษาล่าสุดน้ี สะท้อนว่าความส�ำเร็จด้านการศึกษา
ของคนยิวในระดับสูงๆ นั้น อาจจะถูกท�ำเป็นฐานรากจากบรรทัดฐานด้าน
ศาสนาแต่โบราณ คัมภีร์โทราห์ (Torah) ช่วยกระตุ้นให้ผู้ปกครองให้การ
ศึกษาแกล่ กู ๆ ของตน อยา่ งไรก็ตาม เรอื่ งการศึกษาคัมภรี ์น้ไี มไ่ ด้เปน็ ข้อบงั คับ
จนกระทั่งถงึ ศตวรรษที่ 1
ในบางช่วงเวลา ประมาณ 65 ก่อนคริสตศักราช พระชาวยิวช้ันผู้ใหญ่
ชื่อว่าโยซูวา (Joshua ben Gamla) ตีพิมพ์ข้อบังคับทางศาสนาที่ให้คุณพ่อ
ชาวยิวทุกคนส่งลูกชายคนเล็กไปโรงเรียนเพื่อเรียนการอ่าน เพ่ือที่จะท�ำให้

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 11
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

เขาได้ศึกษาคัมภีร์โทราห์ หลายปีต่อมาในปีท่ี 70 กองทัพโรมันบุกท�ำลาย
วัดแห่งที่สองตามมาด้วยการปฏิวัติชาวยิว วัดที่ท�ำพิธีกรรมกลายมาเป็นเสา
หลักของชีวิตทางศาสนาของชาวยิว เพื่อทดเชยให้ตนเอง ผู้น�ำศาสนาชาว
ยิวเน้นย้�ำความต้องการในการศึกษาในคัมภีร์โทราห์ในโบสถ์ของศาสนายิว
พวกเขาให้ความส�ำคัญในเร่ืองข้อบังคับทางศาสนาในช่วงแรกๆ ในการให้
การศึกษาแก่ลูกชายท่ีเพ่ิมข้ึน ท�ำให้ข้อน้ีกลายเป็นหน้าที่ทางศาสนาที่บังคับ
ใหต้ ้องทำ� ส�ำหรบั พ่อชาวยิวทกุ คน ในหลายศตวรรษต่อมา การศกึ ษาอยา่ งเป็น
ทางการถกู ผนวก เข้าไปสโู่ บสถ์ของศาสนายวิ
ศาสนาพุทธ
นักวิชาการด้านพุทธศาสนาบันทึกไว้ว่า เจ้าชายสิทธัตถะ โคตรมะ
(Siddhartha Gautama) ผกู้ อ่ ตั้งศาสนาพทุ ธ มกั จะถกู เรียกว่า “คร”ู เนื่องจาก
ท่านเน้นย้�ำในเรื่อง “การสั่งสอนเป็นสิ่งมหัศจรรย์” ท่านมองว่าการเรียนรู้เป็น
สิง่ สำ� คญั ในการเข้าถงึ จุดมุง่ หมายทางพทุ ธในเรื่องการนพิ พาน
สตีเฟน ที. อัสมา ซ่งึ เปน็ อาจารย์ทางปรชั ญาของวทิ ยาลัยโคลัมเบยี ใน
ชิคาโก กลา่ วว่า “ในหลายๆ ทางนั้น พบวา่ ศาสนาพุทธได้อุทิศตนโดยเฉพาะ
เร่ืองการศึกษา เพราะศาสนาพุทธไม่เหมือนกับศาสนาอื่นๆ ท่ีต่อสู้ว่ามนุษย์
สามารถบรรลุนิพพานโดยตนเองไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย (การไถ่บาป) โดย
ปราศจากการแทรกแซงของพระผเู้ ป็นเจา้ ”
ศาสนาพุทธ เป็น ระเบียบวิธีเชิงประสบการณ์ท่ีลึกซึ้ง โดยแนะน�ำว่า
ศิษยต์ ้องพยายามในการทดลองธรรมะ (ตัวอยา่ ง อริยสจั 4) โดยตวั เองเพื่อได้
กระจ่างในกรณีที่จะพัฒนาอิสรภาพจากภายในตัวของพวกเขา อัสมายังบันทึก
เพิ่มเติมอีกว่า “เพราะว่าปรัชญาของศาสนาพุทธน�ำเอาวิธีการทางปฏิบัติที่
ชื่นชอบมาใช้ทางการศึกษาและการทดลอง ศาสนาพุทธมีส่วนเล็กน้อยท่ีไม่ได้
ไม่เห็นด้วยแบบเป็นทางการกับวิทยาศาสตร์ (เช่น หลักฐานที่ท่านดะไลลามะ
กำ� ลังมีความรว่ มมอื กับนกั ประสาทวทิ ยา)”

12 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

ในประเทศไทย โรงเรียนที่เก่ียวกับศาสนาต้ังในวัดพุทธ เป็นแหล่ง
การศึกษาที่ส�ำคัญส�ำหรับเด็กชายมาหลายศตวรรษ ผ่านทางการที่พวกเขา
ได้รับการศึกษาทางศาสนาในขั้นแรก เม่ือรัฐบาลไทยได้แนะน�ำการศึกษา
ของฆราวาสชาวตะวันตกประมาณช่วงเริ่มต้นศตวรรษท่ี 20 รัฐบาลไทยได้ใช้
โรงเรียนศาสนาเป็นเคร่ืองมือในการเข้าถึงกลุ่มประชากรในวงกว้างมากข้ึน
ในทศวรรษท่ี 1970 “เกือบรอ้ ยละ 50 ของโรงเรยี นประถมศึกษาในประเทศไทย
ยงั คงต้งั อย่ใู นเขตท่อี ยู่ของพระสงฆ์” คล้ายๆ กบั ในประเทศญป่ี ุน่ ท่ีการศกึ ษา
เชิงขนบธรรมเนียมเก่ียวกับศาสนาพุทธมีอิทธิพลซ่ึงหน่ึงในนักวิชาการของ
ประเทศญีป่ ่นุ เขยี นไว้วา่ “พทุ ธศาสนาเปน็ ครู ซง่ึ ภายใตค้ ำ� สอนของท่านนน้ั ได้
สร้างให้ชาตเิ ติบโตขึ้นได”้
หลังจากศึกษาความส�ำคัญของศาสนาต่างๆ ของโลก ข้าพเจ้าได้พบว่า
ทุกศาสนานัน้ มคี วามใกล้ชดิ กบั การศึกษาอยา่ งมาก
ส�ำหรับการรายงานจากประเทศไทย ข้าพเจ้าใคร่อยากจะน�ำเสนอ
กรณีศึกษาเก่ียวกับการเรียนรู้ตลอดชีวิตจากโรงเรียนทางเลือก โรงเรียนนี้
ได้เตรียมการศึกษาท่ีไม่เป็นทางการ และการศึกษาตามอัธยาศัยไปด้วยกัน
“มหาวิทยาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์” จะกลายเป็นตัวอย่างของ “บทบาทด้าน
การศึกษาท่ีรับเอาวัฒนธรรมของโลก และการอนุรักษ์อัตลักษณ์ของความ
เป็นชาติมาใช้ในระบบการศึกษา” (สัมภาษณ์ท่านวชิรเมธีในวันพฤหัสบดีท่ี 6
กรกฎาคม ปพี .ศ.2560)

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 13
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

อะไรคือ “มหาวิทยาลยั พทุ ธเศรษฐศาสตร์”
มหาวิทยาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์เป็นสถานบันด้านการศึกษาที่เป็นทาง
เลือกทางหน่ึงในงานพัฒนา โดยด�ำเนินรอยตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยได้ก่อต้ังโดยพระมหาวชิรเมธี หรือท่าน ว.วชิรเมธีในวันท่ี 29
มกราคม ปีค.ศ. 2012 หรอื ในปีทม่ี ีการเฉลมิ ฉลองครบรอบ 2,600 ปใี นการกอ่
ต้ังศาสนาพทุ ธ หรอื การฉลองครบรอบ 750 ปีของจังหวัดเชยี งราย ว.วชริ เมธี
ก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและการพัฒนาปรัชญาด้าน
พุทธท่ีเกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์ ท่านยังเน้นในการประยุกต์ใช้ศาสนาพุทธใน
การแกไ้ ขปัญหาความยากจนในประชากรท่ีเป็นเกษตรกร เพราะวา่ ท่านสรุปวา่
ความทุกของเกษตรกรน้ันอยู่ลึกและส่งผลกระทบท่ีไม่มีวันส้ินสุดในสังคมของ
ไทย และสง่ิ นจ้ี ะต้องไดร้ บั การพูดถงึ ในตอนนี้
ท่านว. วชิรเมธี มีความหวังว่าเม่ือคนๆ หนึ่งไม่ว่าจะชายหรือหญิงเมื่อ
สำ� เรจ็ การศกึ ษาแลว้ คนๆ นน้ั จะตอ้ งมคี วามสามารถในการพฒั นาตนเองใน 3 ขน้ั
1) สามารถทจี่ ะพึง่ พาตนเองได้
2) สามารถพจิ ารณาในการเลอื กเช่อื ถอื คนอ่ืนได้
3) สามารถให้การศึกษาผู้อื่น เพ่ือที่จะท�ำให้เขาเป็นครูส�ำหรับประเทศ
ชาติตอ่ ไป
หากคนหน่ึงสามารถท�ำทั้งสามข้ันตอนข้างต้นน้ีได้ เขาหรือหล่อนจะ
ส�ำเร็จการศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลัยพทุ ธเศรษฐศาสตร์ และเขาหรอื หล่อนได้เรียน
รทู้ ี่สมบรู ณ์ในทางพทุ ธศาสนาควบคู่ไปกับการใชช้ ีวติ ท่ียง่ั ยืน
มหาวิทยาลัยเน้นในการสอนคนให้ประยุกต์ทฤษฏีพุทธเศรษฐศาสตร์
กับวิถีทางของพระพุทธเจ้าในการเรียนรู้การท�ำเกษตรอินทรีย์ ด้วยเวลาเรียน
ยาวนานกว่า 1 ปี นักศกึ ษาสามารถทัง้ เรยี นทฤษฏแี ละภาคปฏบิ ตั แิ กต่ นเองได้
อย่างดีควบคู่กันไป หลักสูตรน้ีถูกสอนโดยครูท่ีทรงเกียรติและนักพูดจากกระ
ทรวงเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยพะเยา และฝึกประสบการณ์เปน็

14 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

ชาวนาในเชียงราย นอกจากน้ี หลักสูตรนี้เน้นการสร้างทักษะควบคู่กับธรรมะ
ดังน้ันนักศึกษาสามารถที่จะได้รับท้ังความรู้และการเอาใจใส่ไปด้วยกันท้ังคู่
และสามารถท่ีจะพง่ึ ตนเองทั้งในเร่ืองเศรษฐกจิ และทางจติ ใจ

แนวคิดทางปรัชญาเป็นการสร้างความรับผิดชอบทางสังคม โดยเริ่ม
จากเม็ดของข้าวเพียงเมล็ดเดียว “ข้าวอินทรีย์ทุกๆ เมล็ดเป็นความม่ันใจด้าน
สุขภาพส�ำหรับผู้บริโภคในประเทศชาติท้ังหมด ดังนั้นการรับผิดชอบทางสังคม
เริ่มท่ีระดับท้องถิ่นพ้ืนๆ คล้ายกับชาวนา คนไม่จ�ำเป็นที่จะต้องอยู่ในระดับสูง
และเป็นผู้มีอ�ำนาจเท่านั้นท่ีจะรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อท�ำให้ประเทศชาติของ
เราเป็นประเทศที่ดี ส่ิงท่ีทุกคนต้องการท�ำเป็นการสร้างความมั่นใจว่าแต่ละ
เมล็ดเดียวของข้าวเม่ืออยู่ในมือของคนๆ น้ันจะเป็นข้าวอินทรีย์และเป็นข้าวที่
ปราศจากสารพษิ ต่างๆ”

รากของวิทยาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (เศรษฐศาสตร์สายกลางด้วยการ
พัฒนาที่ยั่งยืน) ที่ศูนย์วิปัสนาสากล ไร่เชิญตะวัน ต�ำบลห้วยสัก อ�ำเภอเมือง
จังหวดั เชยี งราย

แรงบนั ดาลใจ

วันหยุดทางพุทธศาสนาวันหน่ึงในกลางพรรษาหน้าฝน (เป็นช่วงเข้า
พรรษาของพระสงฆ์) ในปีค.ศ. 2013 ทา่ น ว.วิชรเมธี ไปเทศนาในหมบู่ ้านตาม
แผนการที่วางไว้ก่อนหน้าน้ี “ในวันส�ำคัญทางพุทธศาสนาท่ีเป็นวันหยุดทุกๆ
วันนั้น ข้าพเจ้าจะไปเทศนาให้คนในหมู่บ้านใกล้เคียง” (ในต�ำบลนั้นมีหมู่บ้าน
ประมาณ 30 หมูบ่ ้าน) ผลปรากฏวา่ กอ่ นท่จี ะเทศนาในเช้าวนั น้นั ผู้ชายคนหนึ่ง
กระซบิ กบั ทา่ นวา่ ให้เทศนาสน้ั ๆ และเมอ่ื ทา่ นถามว่าท�ำไมละ่ เขาก็ตอบว่าเทศ
นายาวๆ หมายถงึ รายได้ต่อวันของเขาอาจจะถูกตัดไปคร่ึงหนง่ึ (เพราะว่าผู้ฟัง
เทศนาอาจจะต้องไปท�ำงานสาย) หลังจากเหตุการณ์น้ีผ่านไป ท่านว.วชิรเมธี
สะทอ้ นถึงวิธกี ารท่ที �ำใหค้ นยึดม่ันในธรรมะ ปกติแลว้ เมอ่ื ทา่ นไปเทศนาสงั่ สอน
มกั จะมผี ูฟ้ งั เทศน์กลุม่ ใหญ่ๆ น่ังรอฟังเทศน์จากท่าน ตารางของทา่ นถูกจองไว้
โดยเป็นการจองล่วงหนา้ ไวเ้ ป็นปี

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 15
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

แต่ท่ีน่ี ในหมบู่ า้ นของชมุ ชนทตี่ ัง้ ไร่เชิญตะวัน ทำ� ไมคนถึงไม่เหน็ คุณคา่
ของการเทศนาจากท่าน (ท่านคาดหวังว่าคนในชุมชนน่าจะเห็นคุณค่าของ
การเทศนาของท่านสูงกว่าท่ีอื่นๆ ด้วยซ�้ำ) ตอนท่านท่ีท่านกลับวัดในวันน้ัน
ท่านลองสุ่มค้นคว้าหมู่บ้านใกล้เคียง 4 แห่ง ท่านก็พบว่าชาวบ้านนั้นมีหนี้
สิน หน้ีสินที่สะสมเพ่ิมข้ึนเรื่อยๆ ใน 4 หมู่บ้านน้ีมีมูลค่าราวๆ 84 ล้านบาท
โดยเฉล่ียแล้ว แต่ละครอบครัวมีหน้ีสินมากกว่า 200,000 บาท หน้ีสินต่อครัว
เรือนของชาวบ้านเริ่มท�ำให้พระท่ีน่านับถือท่านน้ีคิดในการหาวิธีการที่จะค้นหา
ทางในการบรรเทาทุกข์ให้พวกเขาท่ียากจนและน่าสงสาร และช่วยให้พวก
เขายืนด้วยตัวของพวกเขาเอง ท้ังด้านเศรษฐกิจและจิตวิญญาณ ในขั้นเบื้อง
ต้น ท่านให้การอบรมในเรื่องสิทธิในการมีชีวิตอยู่ในเกษตรกรรมแบบอินทรีย์
วิถีพุทธให้แก่เกษตรกร ซึ่งในต่อมาถูกขยายมาครอบคลุมเกือบทุกอ�ำเภอของ
จังหวดั เชยี งราย
ท�ำไมจึงเป็นเกษตรกรรมแบบอนิ ทรยี ์
ไร่เชิญตะวันครอบคลุมพ้ืนท่ีมากกว่า 170 ไร่ ท้ังหมดเคยเป็นสวนผล
ไม้และนาข้าว เกษตรกรท่ีท�ำนาและปลูกผลไม้ก่อนหน้าน้ีพ่ึงพาการท�ำเกษตร
แบบใชส้ ารเคมีประเภทต่างๆ จึงทำ� ให้ผักและตน้ ไม้ในไรเ่ ชญิ ตะวันถกู ปนเปือ้ น
ด้วยสารเคมีมาอย่างหนักหน่วง ท่านว.วชิรเมธีเคยกล่าวถึงเม่ือครั้งเทศนา
ว่า “ในช่วงฝนแรกของการมาจ�ำพรรษาท่ีนี่ ในขณะท่ีน่ังสมาธิ สารเคมีท่ีถูก
ผสมและน้�ำฝนส่งกลิ่นมาเข้าจมูกท�ำให้ท่านหายใจล�ำบาก ท่านจึงตระหนักรู้ใน
ทันทีว่าอากาศในบริเวณนี้เต็มไปด้วยสารพิษและเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก”
จากการสังเกตที่มากขึ้น ท่านพบความจริงท่ีน่าตกใจย่ิงกว่าว่าต้นไม้แย่ลง
ให้ดอกนอ้ ยลงๆ ให้ผลนอ้ ยลง ผิวหน้าของดนิ เลวลง และน้ำ� ในอ่างเก็บน�้ำก็ไม่
สะอาด ความเลวร้ายนั้นยังคงอยู่ ในฤดูฝนของปีหนึ่ง ท่านก็เห็นปลาเป็นฝูง
ตายลอยขึ้นมาเหนือน�ำ้ ในอา่ งเก็บนำ้� ความทุกข์ท่ีปรากฏขนึ้ ในพืชและการผลิต
ท�ำให้ท่านมาสู่ข้อสรุปท่ีว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิรูปวิธีการท�ำการเกษตรของ
เกษตรกรในหมู่บา้ นใกล้เคยี งทงั้ หมด

16 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

วิถีทางที่น�ำมาใช้ในการปฏิรูปไร่เชิญตะวันจากความป่าเถื่อนท่ีส่ัน
คลอนให้พ้ืนดินจากท่ีอ้างว้างกลับกลายเป็นพ้ืนท่ีแห่งความต่ืนรู้และเป็นพ้ืนดิน
แห่งธรรมะส�ำหรับชาวนาในจังหวัดเชียงราย ท่ีเรียกว่าเป็น “การเกษตรแบบ
อินทรยี ์” หรือ “เกษตรศาสตรว์ ถิ พี ุทธศาสนา” ที่เนน้ ในทุกขัน้ ตอนของการปลกู
พืชแบบอินทรีย์ ท่านว.วชิรเมธีกล่าวว่า “ความรับผิดชอบต่อสังคมเร่ิมต้นจาก
เมลด็ ขา้ วเพยี งเมลด็ เดยี ว” หมายความว่า นเี่ ป็นวิธีการในการทำ� งานทเ่ี ห็นเปน็
ภาพรวม “เม่ือเกษตรกรคนหน่ึงเห็นความอันตรายของการเกษตรท่ีพึ่งพาสาร
เคมีและหันไปสู่การท�ำการเกษตรกรรมแบบอินทรีย์ พวกเขากลายมาเป็นคน
อนิ ทรยี ์”
คนอินทรีย์จะฝึกฝนในการท�ำเกษตรแบบอินทรีย์ ท�ำไร่ ท�ำการเพาะปลูก
ท�ำนาข้าว และแหล่งน้�ำก็ปราศจากการปนเปื้อนสารเคมี ดังนน้ั จึงเป็นการกอ่ ต้ัง
“สภาพแวดล้อมอินทรีย์” สภาพแวดล้อมแบบอินทรีย์ปล่อยให้การเติบโตแบบ
การผลิตในปริมาณมากกลายไปสู่ “ผลผลิตแบบอินทรีย์” ผลผลิตแบบอินทรีย์
ที่ไปถึงมือผู้บริโภคได้รับการประกันได้ว่าพวกเขาจะบริโภคอาหารที่ปลอดภัย
และน�ำไปสู่การเป็นผู้บริโภคแบบอินทรีย์ ผู้บริโภคแบบอินทรีย์ช่ืนชมผล
ประโยชน์จากการผลิตแบบอินทรีย์ท่ีมุ่งให้เกิดการบริโภคเองและขายหรือการ
แจกจ่ายกันไป ซงึ่ กลายเป็น “เศรษฐกิจแบบอินทรีย์ (การเงินแบบอินทรีย์)”
เศรษฐกิจแบบอินทรีย์เกี่ยวข้องกับเกษตรกร ผู้บริโภค ผู้ขายและผู้
แจกจ่ายในเครือข่ายของสังคมผู้บริโภคท่ีกินอาหารสีเขียว ผลผลิตสีเขียว และ
บรกิ ารสเี ขยี ว ซงึ่ สง่ ผลใหเ้ กิด “สังคมอนิ ทรีย”์
การผลิต ผลผลิตและการบริการ ได้รับมาจากกระบวนการอินทรีย์ที่ถูก
จ�ำหน่ายท้งั ในประเทศและตา่ งประเทศ ให้ประเทศมีชอื่ เสยี งในทางที่ดหี รือ “ชือ่
เสียงทางอินทรีย”์
กระบวนการทางอินทรีย์ที่เร่ิมจากคนหนึ่งคน กลายเป็นการกล้ิงกระทบ
(snowballs) และน�ำไปสู่ “สังคมอินทรยี ”์ หรือ “โลกอนิ ทรีย”์

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 17
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

พระที่น่านับถือเช่นท่านว.วชิรเมธีสรุปแนวคิดท้ังหมดในประโยคเดียวว่า
“การรับผิดชอบต่อสังคมเริ่มจากเมล็ดข้าวเพียงเมล็ดเดียว” ส่ิงน้ีหมายความ
ว่า “เมล็ดทุกเมล็ดของข้าวอินทรีย์เป็นความม่ันใจในสุขภาพส�ำหรับผู้บริโภค
โดยภาพรวมของประเทศ ดังน้ันการรับผิดชอบทางสังคมเร่ิมจากระดับท้องถ่ิน
เลก็ ๆ ดัง่ เชน่ เกษตรกร คนๆ หน่ึงไม่จำ� เปน็ ตอ้ งอยูใ่ นตำ� แหนง่ ทส่ี งู และมีอำ� นาจ
มากมายในการแสดงความรับผดิ ชอบต่อสงั คม สำ� หรับทำ� ให้ประเทศของเรานั้น
เป็นประเทศที่ดี ส่ิงที่คนทุกคนต้องท�ำคือการสร้างความมั่นใจว่าเมล็ดพันธุ์ข้าว
แต่ละเมลด็ ในมือของคนๆ หน่งึ นน้ั จะเป็นอินทรยี ์และปราศจากสารพิษ”
18 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

สถาบนั พทุ ธเศรษฐศาสตร์
ความยากจนที่เห็นได้ชัดในสังคมแวดล้อมท่ีไร่เชิญตะวัน ท�ำให้หนี้สิน
ในครัวเรือนมากเกินไป และปัญหาการเกษตรกรรมท่ีใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย
ต่อชีวิตของมนุษย์ สัตว์ และสภาพแวดล้อม ท�ำให้ท่านว.วชิรเมธีพยายาม
ยื้อยุดปัญหาทั้งสองโดยการแก้ไขปัญหาท่ีย่ังยืน ในที่สุดในวันที่ 29 มกราคม
ปีค.ศ. 2012 สถาบันพุทธเศรษฐศาสตร์ ในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาทาง
เลือกแห่งหน่ึงในการพัฒนาภายใต้ปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์ก็ได้ก่อต้ังข้ึน
โครงสร้างการบริหารงานถูกแบ่งออกเป็นโรงเรียน 3 แห่ง ดังน้ี สถาบันพุทธ
เศรษฐศาสตร์ (การศึกษาเศรษฐศาสตร์สายกลางเพื่อสันติภาพ) โรงเรียน
สขุ ภาพและความเป็นอยทู่ ด่ี ี (โรงเรยี นชีวคณุ านุสรณ์) และโรงเรยี นส�ำหรับการ
อนรุ ักษม์ รดกทางวัฒนธรรมของล้านนาภาคเหนือให้คงอยู่
โรงเรียนสขุ ภาพและความเปน็ อยทู่ ี่ดี ประกอบไปดว้ ย
1) การสง่ เสรมิ การใชส้ มนุ ไพร
2) การเล้ยี งสัตว์และกระบวนการเลย้ี งสัตว์
3) การนวดแผนไทย
4) การดแู ลสุขภาพแบบองคร์ วม
สถาบนั พทุ ธเศรษฐศาสตร์ ประกอบไปดว้ ย
1) การเกษตรกรรมทัว่ ไป
2) การเกษตรบนฐานการใช้สารเคมี
3) การเกษตรอนิ ทรีย์
4) การเกษตรวิถีพุทธ
5) กระบวนการผลิตอาหาร
6) การจัดการด้านการเงิน
7) ผูป้ ระกอบการทางสงั คม
8) พทุ ธเศรษฐศาสตร์
9) การท�ำสมาธิ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 19
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

10) การผลิตและการตลาด
11) การรบั ผิดชอบทางสังคม
12) การกอ่ ตัง้ และการจดั การศูนย์การเรียนรู้
โรงเรียนส�ำหรับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของล้านนาภาคเหนือ
ให้คงอยู่
1) คณุ คา่ ของศลิ ปะและวฒั นธรรม
2) การอนรุ กั ษ์ดา้ นวัฒนธรรม
3) การสอนในดา้ นศลิ ปะและวฒั นธรรม
4) การเผยแพรด่ ้านศลิ ปะและวัฒนธรรม
5) การแลกเปลีย่ นในดา้ นศิลปะและวฒั นธรรม
6) เครือข่ายครูในด้านศลิ ปะและวัฒนธรรม
7) การมอบรางวัลให้ครูในโครงสร้างของหลักสูตรการเรียนการสอน
ด้านศิลปะและวัฒนธรรมค�ำแถลงในทฤษฏีของพุทธเศรษฐศาสตร์
ของท่านว.วชิรเมธี เป็นแก่นสาระส�ำคัญของพุทธเศรษฐศาสตร์
ในมุมมองของท่าน ว.วชริ เมธี
สติเป็นการก้าวกระโดดส�ำหรับพุทธเศรษฐศาสตร์ เพราะมันสร้างให้
เกิดความสมดุลย์ส�ำหรับความเป็นคู่ ตัวอย่างเช่น ความต้องการในการบริโภค
ต่อสู้กับ ความจ�ำเป็นในการมีคุณภาพชีวิตท่ีดี การท�ำมาหากินต่อสู้กับการมี
ชีวิตตามธรรมะ ผู้ประกอบการต่อสู้กับความรับผิดชอบทางสังคม คนท่ีมุ่งแต่
การหาเงินตรงกันข้ามกับสุขภาพ แรงกระตุ้นเพ่ือสนองต่อความต้องการตาม
ความโลภท่ัวไป ต่อสกู้ ับ ความเติบโตของตนเพ่อื ทจี่ ะมีอิสรภาพจากความโลภ
ความห่วงกงั วลสว่ นตน ต่อสกู้ ับความจำ� เป็นของสาธารณะ
ศูนย์วิปัสนาสากลไร่เชิญตะวนั
ศูนย์วิปัสนาสากลไร่เชิญตะวัน ถูกต้ังขึ้นเพ่ืออุทิศให้เกิดการตระหนัก
และการรู้แจ้ง ศูนย์น้ีก่อตั้งโดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือท่านว.วชิรเมธี
ในปีค.ศ.2009 และตั้งอยู่ที่บ้านใหม่สันป่าเหียง ต�ำบลห้วยสัก อ�ำเภอเมือง
จงั หวดั เชยี งราย วตั ถปุ ระสงคใ์ นการต้งั ศนู ยด์ งั กล่าวคือ

20 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

1) การส่งเสริมดา้ นการศึกษา
2) การท�ำให้ศาสนาพทุ ธเป็นทร่ี ู้จักอยา่ งกวา้ งขวาง
3) การสง่ เสริมการพฒั นาสงั คม
4) การสรา้ งคุณคา่ ท่ีสงบสุข

ในแง่ของการพัฒนาทางสังคม ท่านว.วชิรเมธี ได้ก่อต้ัง “สถาบันพุทธ
เศรษฐศาสตร์” ซง่ึ เปน็ สถาบันการศกึ ษา

ทางเลือกในการพัฒนา ตามมาด้วยปรัชญาด้านพุทธเศรษฐศาสตร์
ท้ังนีใ้ นสว่ นของสถาบนั ดงั กลา่ วมอี ยทู่ งั้ สิน้ 3 ส่วนคอื
1) โรงเรยี นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซ่งึ เป็นเรือ่ งของการใช้สมนุ ไพร
การรักษาแบบขนบนยิ ม และการนวดแผนไทย
2) โรงเรียนเกษตรกรรมแบบพุทธเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นเร่ืองของ
เกษตรกรรมอินทรีย์
โรงเรียนแห่งนี้สอนนักเรียนถึงพืชสวน และท�ำอย่างไรท่ีเราจะใช้
ประโยชน์จากการปลูกพืชให้มากท่ีสุด เกษตรกรจากจังหวัดเชียงรายและ
จังหวัดใกล้เคียงจะถูกสอนทักษะอาชีพต้ังแต่รายสัปดาห์ไปจนถึง 1 ปีเต็ม
เม่ือพวกเขาส�ำเร็จการศึกษา พวกเขาจะสามารถได้รับประกาศนียบัตรความรู้
ความสามารถจากท่านองคมนตรี หรือ เกษม วฒั นชัย

3) โรงเรียนส�ำหรับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมล้านนาภาคเหนือ
ซ่ึงเป็นเรือ่ งของ
การอนุรักษ์ทุกอย่างท่ีเกี่ยวกับมรดกทางภาคเหนือจากรุ่นบรรพบุรุษสู่
รุ่นใหม่ พูดอีกแบบหนึง่ “อนุรักษ์วฒั นธรรมและขนบประเพณี สบื ทอดคำ� สอน
ของพระพทุ ธเจ้า และส่งเสรมิ ความสมั พันธร์ ะหว่างมนุษย”์

ด้วยความรักและความซาบซ้ึงใจ ท่านว.วชิรเมธีได้สร้างศูนย์วิปัสนาสา
กลไรเ่ ชิญ
ตะวันเพ่ือสะท้อนคุณค่าทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ด้วยความ
พร้อมของสิ่งอ�ำนวยความสะดวกที่ได้รับการตบแต่งและสร้างด้วยการน�ำเสนอ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 21
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

ท่ีเต็มไปด้วยลักษณะทางศิลปวัฒนธรรมท่ีละเอียดอ่อนยิ่ง ศูนย์วิปัสนาสา
กลไร่เชิญตะวันกลายเป็นทั้งจุดหมายปลายทางท้ังคนในประเทศและนักท่อง
เที่ยวจากต่างประเทศ จ�ำนวนผู้เย่ียมชมศูนย์แห่งน้ีที่เพิ่มข้ึนในแต่ละปี ดังน้ัน
ในวนั ท่ี 27 กนั ยายน ปคี .ศ.2015 กระทรวงวฒั นธรรมไดย้ กยอ่ งด้วยเกรยี ตใิ ห้
ศูนยว์ ิปสั นาสากลไร่เชญิ ตะวัน เปน็ “ศูนยส์ รา้ งแรงบันดาลใจของคนไทย”
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธีหรือว.วชิรเมธคี ือใคร
“ท่านภิกษุทั้งหลาย ผู้เป็นผู้บุกเบิกเพ่ือประโยชน์ถึงความสุขส�ำหรับ
ผ้คู นและมีความเหน็ อกเหน็ ใจสำ� หรับมนุษยท์ ุกคนบนโลกน…้ี ”
พระพุทธเจ้าได้ให้ค�ำเทศนาสั่งสอนเพื่อให้ทูตด้านธรรมะที่ท่านได้ส่งอัคร
สาวกมาใหเ้ ผยแพร่ศาสนาพุทธในโลกใบนี้
น่ีกลายเป็นรากฐานของ “สังคมพุทธศาสนา” ที่ทราบกันในนามของ
“การเข้าร่วมทางพุทธศาสนา” ในประเทศไทย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธีหรือ
ว.วชิรเมธี เป็นพระที่มีชื่อเสียง เป็นนักคิด นักเขียน นักเทศน์ และนักบุญ
ท่านเป็นหนึ่งในพระชั้นน�ำท่ีประยุกต์พระพุทธศาสนาไปสู่การพัฒนาทางสังคม
ที่ยั่งยืน การท�ำงานหลายด้านของท่านมีช่ือเสียงมามากกว่าสองทศวรรษ
ว.วชิรเมธีได้เคยเทศนาคร้ังหน่ึงเก่ียวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธศาสนา
กบั การพัฒนาสงั คม โดยกลา่ ววา่ “เสถียรภาพของพทุ ธศาสนาข้นึ อยกู่ ับคณุ คา่
ของพระสงฆ์ที่ให้ต่อสังคม และพระสงฆ์มีอยู่เพ่ือเผยแพร่ธรรมะสู่สังคม”
ด้วยโลกทัศน์เช่นนี้ ท�ำให้ท่านอุทิศตนในการพัฒนาสังคมของพวกเราโดยผ่าน
โครงการตา่ งๆ หลากหลายโครงการ
สรุป
พวกเราสามารถส่งเสริมวัฒนธรรมของโลกผ่านศาสนาท้ังหมดโดยใช้
รูปแบบของการศึกษาได้ทุกรูปแบบ ไม่เพียงแต่การศึกษาแบบเป็นทางการ
แต่ยังเป็นการศึกษาแบบไม่เป็นทางการและการศึกษาตามอัธยาศัย เพราะการ
ศึกษาทุกอย่างเป็นการวัฒนธรรมของโลกและอัตลักษณ์ของชาติส�ำหรับการ
เรียนรู้ตลอดชวี ิต

22 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

โครงสรา้ งหลักสูตรของสถาบนั พทุ ธเศรษฐศาสตร์

(สถาบนั การศกึ ษาทางเลอื –กเพอื่ พฒั นาภายใตป้ รชั ญาพทุ ธเศรษฐศาสตร)์

เศรษฐกิจ ธรรมะ

พุทธ
เศรษฐศาสตร์

พระพุทธเจ้า-ธรรมะ พทุ ธเศรษฐศาสตร์

ขนบประเพณที าง ขนบธรรมเนียมของ
การเกษตรของพุทธศาสนิกชน พทุ ธศาสนิกชน

บุคคล การกนิ ดีอยู่ดี
ครอบครวั

สงั คม
เศษฐกจิ
จติ วญิ ญาณ

สภาพแวดลอ้ ม

การเอาตัวรอด โลก มชี ีวิตอยตู่ อ่ ไป

ตวั บง่ ช้ี

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 23
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

ประเทศบรูไน

วัฒนธรรมเป็นส่ิงส�ำคัญในกระบวนการของการพัฒนาทางสังคมและ
เศรษฐกิจโดยเฉพาะวัฒนธรรมท่ีแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ตัวตนและสังคม
ส่งผลต่อการมีส่วนช่วยให้มีเงินทุนเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ ซ่ึงการ
ศึกษาจะมีบทบาทส�ำคัญการในการเสริมสร้างเอกลักษณ์ประจ�ำชาติ ดังนั้น
หลักสูตรของโรงเรียนในประเทศบรูไน จึงเป็นหลักสูตรที่สะท้อนภาพลักษณ์
ความตระหนัก และวิธีคิดของเยาวชนรุ่นใหม่เพ่ือปลูกฝังค่านิยมในตัวของพวก
เขาอย่างแท้จริง
โดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศบรูไน ได้จัดหาระบบการศึกษา
เพ่ือเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่ในฐานะพลเมืองให้มีความคิดสร้างสรรค์
และรักษาคุณค่าวัฒนธรรมท้องถ่ิน ภายใต้ปรัชญาของอิสลามมลายู-
Malay Islamic Monarchy (MIB) ควบคู่ไปกบั ภาพลักษณ์ตัวตนที่สามารถ
แข่งขันท่านกลางโลกาภิวัตน์ โดยการศึกษาของบรูไนได้ตั้งวิสัยทัศน์ที่เรียก
ว่า Wawasan Brunei 2035 โดยภายในปี 2035 จะน�ำมาซึ่ง 1) ความสำ� เรจ็
ของคนท่ีมีการศึกษาดีและมีทักษะสูงตามมาตรฐานสากลสูงสุด 2) คุณภาพ
ชวี ิตเปน็ 1 ใน 10 ประเทศช้ันน�ำของโลก 3) เศรษฐกิจทีย่ ัง่ ยืนมรี ายได้ต่อหวั
ภายใน 10 ประเทศช้นั น�ำของโลก
SPN21 (Sistem Pendidikan Negara Abad KE-21 เป็นระบบการ
ศึกษาท่ีได้รับการพัฒนาท่ีมุ่งเน้นไปท่ีวัฒนธรรมและมรดกของประเทศบรูไน
โดยให้ความส�ำคัญไปที่ตัวนักเรียนให้มีการศึกษา จิตวิญญาณของ ความเป็น
ชาติ ความเข้าใจ ความศรัทธาตามแนวคิดของศาสนาอิสลามท่ีมีพระมหา
กษตั ริย์เปน็ ประมขุ ดงั น้ัน SPN21 จงึ มีวัตถุประสงคเ์ พื่อ
1) กระทรวงศึกษาธิการบรรลุตามวิสัยทัศน์ Wawasan Brunei
ในปี2035
2) เพ่ิมมูลค่าและยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับ
ความต้องการในปจั จุบันและความตอ้ งการทคี่ าดการณ์ไวใ้ นอนาคต

24 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

3) ตอบสนองความต้องการและความท้าทายของการพัฒนาสังคมและ
เศรษฐกิจของศตวรรษท่ี 21
4) นักเรียนมที ักษะในศตวรรษที่ 21
5) ส่งเสริม พัฒนาคุณค่า และทัศนคติท่ีพึงประสงค์ของนักเรียนให้เป็น
ไปตามแนวคดิ มลายอู สิ ลาม (MIB)

แบบจ�ำลองหลกั สูตร SPN21
(SPN21 Curriculum Model)

สำ� หรบั หลกั สูตร SPN21 น้ัน สามารถสรปุ สาระส�ำคญั ไดด้ งั นี้
- กรอบแรก : เปา้ หมายหลัก คอื ผู้เรยี น (Learner) ท่มี ีกระบวนการ
จัดการเรียนการสอนท่ีสนองตอบความต้องการ ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
นกั เรียนตามความสามารถ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 25
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

- กรอบสอง : ความรู้และความเข้าใจ ทักษะท่ีจ�ำเป็น ทัศนคติ และ
ค่านิยม เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การพัฒนา โดยเนน้ ความรคู้ วามเข้าใจทกั ษะที่สำ� คญั
ทศั นคติ และคา่ นยิ ม เพื่อเพิ่มจุดแขง็ ให้กบั นกั เรียน
- กรอบสาม : การศึกษาศาสนาอิสลาม; การศึกษาในระดับชาติ;
ภาษา;คณิตศาสตร์; วิทยาศาสตร์; การศึกษาทางกายภาพและสุขภาพ
สงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ เทคโนโลยี ศลิ ปะและวฒั นธรรม
- กรอบสี่ : ระบอบกษัตริย์อิสลามมาเลย์ (MIB); ทักษะการคิด;
การรู้หนงั สอื ดิจิทลั ผปู้ ระกอบการ; โปรแกรมทกั ษะทางสังคม และกจิ กรรมร่วม
หลกั สูตร
ท้งั นี้ หลักสูตร SPN21 ระบุประเด็นส�ำคัญในการเรยี นรู้ 9 ประเด็นทใี่ ช้
กับทุกระดับการศึกษาต้ังแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษา
ซึ่งอธิบายถึงความรู้ความเข้าใจท่ีผู้เรียนทุกคนต้องได้รับ การก�ำหนดพ้ืนท่ี
การเรียนรู้ท่ีส�ำคัญได้ค�ำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรมเศรษฐกิจและสังคมและ
เทคโนโลยีของบรูไนดารุสซาลาม การเรียนรู้ที่ส�ำคัญ ได้แก่ 1) การศึกษา
ศาสนาอิสลาม 2) การศึกษาในระดับประเทศ 3) ภาษา 4) คณิตศาสตร์ 5)
วิทยาศาสตร์ 6) วิทยาศาสตร์สุขภาพ 7) สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ 8)
เทคโนโลยี และ 9) ศลิ ปะและวัฒนธรรม
โดยสรุป หน่ึงในเป้าหมายหลักของกระทรวงศึกษาธิการบรูไน คือ
การท�ำให้การศึกษาประสบผลส�ำเร็จ มีความเป็นเลิศด้านการเรียนการสอน
โดยอยใู่ นกรอบของหลกั สูตร SPN21 ซึง่ สนองตอบความทา้ ทายทางสังคมและ
เศรษฐกิจของศตวรรษที่ 21 นนั่ เอง
การประชุมครั้งน้ีได้กล่าวถึงความท้าทายในทักษะวิชาชีพครู
โดยมวี ิทยาลัยครู BRUNEI MALAY แห่งบรูไนดารสุ ซาลาม เปน็ ผนู้ �ำเสนอ
รายงาน โดยกล่าวถึงความเป็นมืออาชีพที่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะ
เป็นการเตรียมนักการศึกษาท่ีต้องมีความรู้ ทักษะที่จ�ำเป็นต่อการเป็นผู้สอน
เพื่อให้นักเรียนน�ำไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน โดยความเป็นครูมืออาชีพนั้น จะมี
องค์ประกอบอยู่ 3 อย่างดว้ ยกันคอื ความรูด้ ้านกฎหมาย จรยิ ธรรมทางวิชาชีพ

26 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

พฤติกรรมการปฏิบัติ และความรับผิดชอบต่ออาชีพ นักเรียน โรงเรียนและ
ชุมชน ท้ังน้ีครมู อื อาชีพ จะตอ้ งสามารถ

1) สะทอ้ นการสอน
2) การบนั ทึกและปรับปรงุ ผลการเรยี นของนกั เรียน
3) การสือ่ สารกับครอบครัว
4) การร่วมมอื กับชมุ ชม
5) การรว่ มมือกบั องค์กรวิชาชพี ตา่ งๆ และ
6) การปฏบิ ตั ิตนต่อตนเองเพือ่ ความเปน็ มอื อาชพี
โดยบรูไนเชื่อว่าความส�ำเร็จด้านการศึกษาจะเป็นกุญแจแห่งความส�ำเร็จ
ของชาติ ทั้งนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการได้จัดท�ำระบบการศึกษาแห่งชาติเพ่ือ
ศตวรรษที่ 21 (Sistem Pendidikan Negara Abad KE-21 หรอื SPN21)
ซึ่งได้เน้นถึงความช�ำนาญด้านข้อมูลดิจิทัลและข้อมูลข่าวสารด้าน ICT
เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจสังคมและการศึกษา โดยเน้นความคิด
ของนักเรยี นเปน็ ศนู ย์กลาง ทั้งนหี้ ลกั สูตร SPN21 ค�ำนึงถึงจุดแขง็ และจุดอ่อนข
องแตล่ ะคนในขณะทีม่ กี ารเตรียมความกา้ วหน้าและความตอ่ เน่อื ง ทำ� ใหผ้ ูเ้ รียน
เป็นหัวใจส�ำคัญของการเรียนการสอนตามความต้องการของแต่ละคนเพื่อการ
เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยหลักสูตร SPN21 มีวัตถุประสงค์เพ่ือเสริมสร้าง
ทัศนคตแิ ละค่านยิ มทด่ี ีในผ้เู รียน อยู่ในความสามัคคี, ใหค้ วามเคารพอีกคนหน่ึง
ท่ีส่งเสริมการสอบถามครั้งท่ีส่งเสริมให้นักศึกษาที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้น
ส�ำหรับการเรียนรู้ของพวกเขา ทัศนคติและค่านิยมมีความสัมพันธ์กัน ทัศนคติ
เป็นเรื่องส่วนตัว ขอ้ ก�ำหนดท่จี �ำเปน็ ในการด�ำเนินการงานให้ดี
เพอ่ื ให้หลกั สูตร SPN21 ประสบความส�ำเร็จ จึงเน้นไปท่สี มรรถนะของครู
7 ประการ ไดแ้ ก่
1) การฝกึ อบรมและจดั การเรยี นรู้ศตวรรษที่ 21
2) การจัดการออกแบบการเรียนรู้ (LD- Learning Design)
ซ่ึงเป็นแผนการสอนที่ใช้ร่วมกันส�ำหรับแนวทางปฏิบัติที่ดีท่ีสุดและกลยุทธ์

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 27
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบของบทเรียนการพัฒนา ICT ทั้งโรงเรียน, โครงการ
Initiative Numeracy และโครงการอื่น ๆ ที่มีการสรา้ งองคค์ วามรู,้ นกั เรยี น
เป็นศนู ย์กลาง
3) มาตรฐานและสมรรถนะประเมินผ..ลการปฏิบัติงานของครูเพื่อให้มี
มาตรฐาน (Brunei Teachers’ Standards (BTS) and Teacher Performance
Appraisal) (TPA)
4) การพัฒนาโครงการ WSID (Whole School ICT Development)
(การพฒั นา ICT ทว่ั โรงเรยี น) เพือ่ ให้สามารถน�ำ ICT มาใชใ้ นการเรยี นการ
สอนและการเรยี นรรดู้ จิ ทิ ลั ในศตวรรษที่ 21
5) การพัฒนาวิทยาศาสตร์การศึกษา (Inquiry-based Science
Education or IBSE) ได้จัดการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
Context-based teaching and learning, constructivism, Student-centred
teaching and learning, Scientific inquiry, Creative and higher order
thinking skills, ICT
6) โครงการ Numeracy Initiative Projects (NIPS) ปรับปรุงการ
เรยี นการสอนของครแู ละผลติ สือ่ การเรียนการสอนส�ำหรบั ครูคณิตศาสตร์
ท่เี รียนรู้จากวิธกี ารทีใ่ ช้จากสงิ คโปร ์ และ
7) กรอบการพฒั นาวิชาชพี ครู (Teacher Professional Development
Framework -TPD Framework)
โดยกรอบการพฒั นาทัง้ 7 ประการน้ี ดำ� เนินงานโดยสถาบันครู Brunei
Darussalam Teacher Academy (BDTA) ทเี่ นน้ คุณภาพครแู ละความเป็น
มอื อาชพี ยิง่ ข้ึน

28 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

ประเทศฟิลิปปินส์

“การยกระดับคุณภาพครตู ามช่องทางวฒั นธรรมและมรดกทางการศกึ ษา”
กรอบการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน

เปา้ หมาย

ชาวฟิลิปปนิ สส์ ามารถเขา้ ใจและมสี ่วนรว่ มในการสรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ของประเทศ

ผลลัพธ์

การพฒั นาชาวฟิลิปปินสแ์ บบองคร์ วมดว้ ยทกั ษะในศตวรรษที่ 21 เพอ่ื เตรียม
ความพรอ้ มสกู่ ารศกึ ษาทสี่ ูงขน้ึ , การเป็นผปู้ ระกอบการและการทำ�งาน

ผลลัพธ์ทเี่ ปน็ กลาง

ผู้เรยี นมีความสามารถท่หี ลากหลาย มีความสุขและฉลาด

ผนู้ ำ�ทางการ ผเู้ รยี นอยู่ใน ผเู้ รียนเข้าถงึ ผู้เรียนมีสว่ นรว่ ม ผู้เรียนบรรลุ ผูม้ ีส่วนรว่ ม
ศึกษาและ โรงเรยี นและ โปรแกรมที่ อย่างระตอื รือรน้ จดุ ประสงค์ บริการ
ผู้บรหิ าร ศนู ย์การเรยี น ตอบสนองต่อ ในสภาพแวดล้อม การเรยี นรู้ สนบั สนุน
มสี ว่ นรว่ ม ความตอ้ งการ ทเ่ี ปน็ มิตรกับ
ในการดำ�เนนิ ของพวกเขา ผู้เรียนให้ดีขึ้น
และการบรหิ าร ผู้เรียน
จัดการอยา่ ง
ครอบคลมุ การลงทุนเพ่อื การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ผูค้ น, ระบบภายใน และ
ทงั้ ระบบ เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมสี ภาพแวดลอ้ ม กระบวนการให้ บริการแก่ผูเ้ รยี น
การเรียนรูท้ ่ีเหมาะสม
ท่ดี ีนน้ั ตอ้ งได้รับการพัฒนา
ปรบั ปรุงอยา่ งต่อเนื่อง

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 29
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

K to 12

โปรแกรมการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน

“ใจความสำ�คัญของ K to 12 สร้างมาจาก วฒั นธรรมและความร้สู กึ ของตวั บุคล”
“ k to 12 คือการนำ�เอาวัฒนธรรมที่เปน็ ฐานของการศึกษา”

รูปแบบของหลักสูตร k to 12

ผเู้ รยี นเป็นศนู ยก์ ลางซ่ึงครอบคลมุ ฐาน มาตรฐานและความสามารถพ้นื ฐานอย่างไรท้ ่ตี ิ
การวิจัย

ตอบสนองต่อวัฒนธรรมและได้รับอิทธิพลจาก มคี วามยดื หยุ่น, ใช้เทคโนโลยเี ป็นฐานและ
วฒั นธรรมซง่ึ มเี นอ้ื หาเกี่ยวขอ้ งกับสงิ่ แวดลอ้ ม เป็นสากล

รูปแบบของหลกั สูตร k to 12 และการศกึ ษาของชนพน้ื เมือง

k to 12 IP Education

ผเู้ รียนเปน็ ศนู ยก์ ลางซ่ึงครอบคลุมฐานการวจิ ยั ใชก้ ารเรยี นการสอนข้ันพนื้ ฐานท่ีเหมาะสม,
ใชเ้ น้ือหาการประเมินผลโดยอาศยั การบูรณาการ
ของ IKSPs ในทกุ พน้ื ที่ของกระบวนการเรียนรู้

ตอบสนองตอ่ วัฒนธรรมและได้รบั อิทธิพลจาก จัดเตรยี มแหลง่ เรยี นรูท้ างวฒั นธรรมใหเ้ พยี งพอ
วัฒนธรรมซงึ่ มเี นือ้ หาเกย่ี วขอ้ งกบั สง่ิ แวดลอ้ ม และเหมาะสมกับธรรมชาติของผ้เู รยี น

ขยายและเสริมสรา้ งสถาบันให้มีความแข็งแรงมน่ั คง,
การผนึกกำ�ลงั ของพลเมอื งในสงั คม แบง่ ปัน
ความร้แู ละพัฒนา IP Education program
ให้มีความยัง่ ยืน

30 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

การศกึ ษาของชนพน้ื เมอื งแนวโนม้ ทางยุทศาสตร์

ใช้การเรียนการสอน สิ่งอำ�นวยความสะดวก ขยายและเสริมสร้างสถาบัน
ขนั้ พ้นื ฐานท่เี หมาะสม จดั เตรียมแหลง่ เรียนร้ทู าง ใหม้ ีความแขง็ แรงมัน่ คง,
ใช้เนื้อหาการประเมนิ ผล การผนึกกำ�ลังของพลเมอื ง
โดยอาศัยการบูรณาการ วัฒนธรรมใหเ้ พียงพอ ในสงั คม แบ่งปนั ความรู้และ
ของ IKSPs ในทุกพ้ืนที่ และเหมาะสมกบั ธรรมชาติ พฒั นา IP Education
ของกระบวนการเรียนรู้ program ใหม้ คี วามยง่ั ยืน
ของผู้เรียน สนับสนนุ จากสถาบนั ต่างๆ
หลักสตู ร

พวกเรามอี ะไร

พระราชบญั ญัตสิ าธารณรัฐ
ฉบบั ท4่ี 670 มหากฎบัตร

สำ�หรับครูโรงเรยี นรัฐ

การกระทำ�ของคนพ้นื เมือง พระราชบัญญตั วิ ชิ าชีพครู
ทถ่ี กู ต้อง ปี 1997 (IPRA) การรักษาคุณภาพครูดว้ ยการ ฟลิ ิปปินส์ ปี 19946
(RA 8371) กระตุน้ ทางวฒั นธรรมและ เรื่องการวา่ จา้ งครู IP
มรดกทางการการศกึ ษา

วฒั นธรรม SOCCSKSARGEN บริบทของหลกั สูตร และ
: หวั ใจสำ�คญั ของการพัฒนา โครงการ Flalok
สื่อการสอน MTB - MLE

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 31
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

สถานะของครูครคู ือผูร้ กั ชาตแิ ละเปน็ แบบอย่างของประชาชน

- ถ่ายทอดวัฒนธรรมและ - ปลูกฝงั ให้รักประเทศ - อทุ ิศตนเพือ่ หน้าท่ี
มรดกทางการศกึ ษา - สนับสนนุ ส่งเสริม
กฎหมายและนโยบาย

ภูมภิ าคที่ 12 ใน SOCCSKSARGEN ข้นั ตอนการศึกษาของชนพ้ืนเมือง
(IP Education)

และประสบการณก์ ารเรยี นรู้

• ชนเผา่ สำ� คญั ใน SOCCSKSARGEN •
*SOCCSKSARGEN เป็นภูมิภาคของฟิลิปปินส์ซ่ึงต้ังอยู่ในภาคกลาง
ของมินดาเนาและได้รับการแต่งต้ังอย่างเป็นทางการเป็นเขต XII ชื่อนี้เป็น
ตัวย่อที่ย่อมาจากจังหวัดท้ังส่ีแห่งและหนึ่งในภูมิภาคของเมืองน้ี ได้แก่ South
Cotabato Cotabato Sultan Kudarat Sarangani และ General Santos City
ใช้การเรียนการสอนขนั้ พื้นฐานทเี่ หมาะสม , ใช้เนอื้ หาการประเมินผลโดยอาศัย
การบูรณาการของ ชาวพน้ื เมอื ง , ทกั ษะ ,การปฏิบตั ิ (IKSPs) ในทกุ พื้นท่ีของ
กระบวนการเรียนรู้วัฒนธรรม SOCCSKSARGEN : หัวใจส�ำคัญของการ
พฒั นาส่ือการสอน MTB - MLE
ชนเผ่า BLAAN
ในบรรดาหลายชนเผ่าในฟิลิปปินส์ ชาวเผ่า B’laans ในซารางานิ
เขตเทศบาลของ South Cotabato อาศัยอยู่มากในภูมิภาคท่ี 12 พวกเขามี
บทบาทที่ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ในการพัฒนาเมืองต่างๆและหมู่บ้านบารัง
ไกยซ์ ่ึงถกู ตั้งช่อื ตามท่มี าของชาว B’laan
ชาว B’laans จะอนุรักษ์พื้นท่ีศักดิ์สิทธ์ิเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของ
พวกเขากับพระแม่ธรณี ซ่ึงพื้นที่ศักด์ิสิทธิ์ตั้งอยู่ใน Lamifew , Malandag ,
Malungon Sarangani : Melai Bolul , Moleng , Bantay Macao

32 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

ชนเผา่ TBOLI
ชาว T’boli เรอื่ งราวของการสร้างสรรค์ โดยพวกเขาเช่ือวา่ โลกท่ีเขาอยู่
อาศัย ไม่วา่ จะเปน็ ต้นไม้ แม่น�้ำ ทะเลสาบและภูเขา ลว้ นตา่ งมปี ระสทิ ธิภาพด้วย
ตัวมันเองท้ังนนั้
แรกเร่ิมของประวัติศาสตร์ ชนเผ่า T’boli คือ Proto – Malayan
ซึ่งพบวา่ อาศยั อยู่บนเทือกเขา South Catabato และจังหวดั Sutan Kudarat
Proto – Malay และ Malay จะมคี วามสัมพันธ์ใกลช้ ดิ กนั และกัน มีมรดกทาง
วฒั นธรรมที่โดดเดน่ ชาว T’boli ทอ่ี ย่ทู า่ มกลาง หมูช่ นในท่ีราบลุม่ “tagabili”
คล้ายกับค�ำว่า “Tao bili” หมายถึง มนุษย์ท่ีอาศัยอยู่ในหุบเขาโดยโดยมี
ภาษาพืน้ เมอื งเป็นของตวั เอง
เผ่า T’Boli มีต้นก�ำเนิดมาจากสองพ่ีน้อง ที่มีช่ือว่า Mamalu และ
Tabunaway เป็นเจ้าหญิงของเผ่า เธอตัดสินใจแต่งงานเป็นชายาของสุลต่าน
เธอชวนพ่ีชายของเธอไปล่ากวางขาว “Uhu” เพื่อน�ำมาใช้ในงานแต่ง นับแต่
นั้นจงึ กลา่ วไดว้ ่า Mamalu และ Tabunaway คอื บรรพบุรษุ ของเผ่า T’Boli
ชนเผ่า TEDURAY
เพือ่ นบ้านจะเรยี กกนั ง่ายๆ วา่ Teduray ประเพณดี ง้ั เดมิ ของพวกเขาคอื
การทอผ้าตะกร้าซ่ึงเป็นสัญลักษณ์ของชาว Teduray ก็ว่าได้ เป็นงานศิลปะที่
โดดเดน่ ผ้าท่ีใชท้ อคอื ผา้ “monom” รวมไปถงึ งานหัตถกรรมทกุ ชนิดทท่ี อ
ผู้คนใน Teduray เชื่อว่า katya (ค�ำอธิษฐาน), murka , endangi-
ton (จิตวิญญาณ) และพลังที่เหนือธรรมชาติมีอิทธิพลต่อการด�ำรงชีวิตของ
kuwek, busaw, fagad (kapre),และ alagasi (higante) ส่วนใหญจ่ ะประกอบ
อาชีพเกษตรกรรม เช่น ท�ำฟาร์ม , เพาะปลูก และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็ได้
รับผลเป็นที่พอใจ เหมือนดวงดาวที่คอยน�ำทางให้พ้นอุปสรรค และนี่คือหน่ึง
เอกลกั ษณ์ของชนเผา่ Teduray ชนเผา่ MANOBO
Obo Manobo เป็นเพยี งคนกลุ่มหนึง่ ในหมู่ Manobos อาศยั อยูท่ างปา่
ทิศเหนือและทิศใต้ ของเมือง Kidapawan ในจังหวัด Cotabato โดยเฉพาะ

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 33
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

ในภูเขา Apo เขตแดนกับ Davao del Sur,เมอื ง Davao จังหวัด Bukidnon
และจังหวัด Cotabato ใน Mindanao Philippines
ชาว Manobo ค่อนข้างที่จะรักและหลงใหลในธรรมชาติประกอบกับ
พวกเขามีความสามารถและมีร่างกายที่แข็งแรงท�ำให้การด�ำรงชีวิตเป็นไป
อย่างเรียบง่าย ช่วงอายุท่ีเหลือของพวกเขาเป็นไปอย่างเหมาะสมและพอดี
ในเม่อื คร้งั ทีม่ ินดาเนายงั มรี อ่ งรอยของปา่ ทีก่ วา้ งใหญ่ มีบรรยากาศที่บรสิ ุทธิ์
เร่ืองราวและวัฒนธรรมอันวิเศษของเผ่า Obo Manobo พวกเขามีวิธี
จัดการชวี ติ ความเป็นอยูด่ ว้ ยตัวเอง ไมว่ ่าจะเป็นระบบความยุติธรรม, พธิ ีเฉลิม
ฉลอง , อธบิ ายพิธมี งคลสมรส Datu (ผู้ปกครอง) ครอบครัว , Manobo มีพธิ ี
ฝงั ศพทีศ่ ักดส์ิ ทิ ธิ์ , การทำ� เกษตรกรรม , ป้องกันดินแดน , ร้องและเตน้ แมก้ ระ
ท้ังวันท่ีมีพิธีกรรมทางศาสนาก็ด�ำเนินกิจกรรมทุกอย่างเหมือนเดิม, ความขัด
แย้งของสมาชิกในเผ่าและส่ิงอื่นๆอีกมากมายที่พวกเขาปฏิบัติได้อย่างราบร่ืน
ชดั เจน และนีเ่ องคือความโดดเดน่ ของกล่มุ ชน Manobo
ชนเผ่า MAGUINDANAO
นานมาแล้วจังหวัด Shariff Kabunsuan (1475) ได้ถูกค้นพบโดย
ชาวฟิลิปปินส์ คือ Magellan (1521) พบว่ามีคนมาต้ังรกรากอยู่ใกล้แม่น้�ำ
Pulagi หรือแม่น้�ำ maguindanaon บนสองฝั่งแม่น้�ำตอนนี้คือเมือง Datu
Piang ตั้งแตอ่ ดตี จนถึงปจั จุบนั แม่น้ำ� Mindanao ได้ท่วมริมฝ่ังแม่น้ำ� ไปจนถงึ
ปากแม่น้�ำ อุทกภยั คร้งั น้ีชาว Maguindanaon เรยี กว่า “midsanao”
ก่อนหน้าที่ชาวสเปนจะเข้ามา ประชาชนริมฝั่งแม่น้�ำที่ประสบอุทกภัย
มีลักษณะเป็นชุมชนญาติพ่ีน้องท่ีเข้มแข็ง ปกครองโดยผู้น�ำหมู่บ้าน Datu
หรือ สุลต่าน (Sultan) ชาว Maguindanaon จะแต่งกายสุภาพ สงบเสงี่ยม
พูดจาไพเราะอ่อนหวาน

34 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

กรอบแนวคิด IPKSPs เกย่ี วกบั 5 ชนเผา่

ประวตั ศิ าสตร์ ความเป็นผู้นำ� โครงสร้าง ดอกไม้และ ความสัมพันธ์ใน
ของคนและชุมชน ทางการเมือง สงั คม และ สตั วป์ ระจำ� ท้องถิ่น ครอบครวั วงจรชวี ิต
กระบวนการยุติธรรม
ประเทศและการบรหิ าร
จัดการเศรษฐกิจ กรอบการเรยี นรู้ การสงั เกต การเลอื กสถานที่
และสังคม ของชนพ้นื เมือง สภาพอากาศ

การเรียกจติ วิญญาณ วรรณกรรม ความเช่ือทางศาสนา พธิ ีทางศาสนาและ
พธิ ีเฉลมิ ฉลอง

เทคโนโลยี บา้ นและ โครงสรา้ งทางภาษา
ลักษณะของบา้ น

INDIGENIZED IMs DEVELOPMENT BASED IN IPKSP FRAMEWOR

เรอ่ื งสน้ั -หนงั สือขนาดใหญ่ L1 & L2
พจนานกุ รม

MTB- MLE กฎของการสะกดคำ�

ตวั หนงั สือขนาดกลาง

สะกดคำ� กำ�กับรายการคำ�

*the Mother Tongue Based-Multilingual Education (MTB-MLE)
การเรยี นรหู้ ลายภาษาแบบใชภ้ าษาแม่

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 35
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

โครงการทำ� มาหากนิ เลย้ี งชีพ

ศนู ย์กลางของชนพืน้ เมอื ง
ในหมู่บ้านจะมีห้องแห่งการเรียนรู้ มีส่ิงประดิษฐ์ต่างๆที่หลากหลาย
ซง่ึ ชาวพน้ื เมอื งสรา้ งข้นึ เพอ่ื เปน็ แหล่งเรียนรแู้ ละฝกึ ปฏิบตั ิ
ขยายและเสริมสร้างสถาบันให้มีความแข็งแรงมั่นคง , การผนึกก�ำลังของ
พลเมืองในสังคม แบ่งปันความรู้และพัฒนา IP Education program
ให้มีความยั่งยนื เป็นการรวมตวั ของ NGOs, CSOs,IPOs

การจัดตง้ั สมาคมผสู้ ูงอายุ , ผ้นู �ำชนเผา่ และผู้น�ำชุมชน

โครงการ Flalok :

ฟื้นฟูศิลป์ Blaan ของการเล่าเร่ืองเพ่ือปรับปรุงการรู้หนังสือและ
การพัฒนาชุมชนของผูอ้ า่ นในมิดเดิลเซ็นทรัลมินดาเนา

FLALOK : ศิลปะการเล่าเรอ่ื ง Blaan
ประเพณีน้ีเป็นท้ังของครอบครัวและชุมชน ซึ่งก่อนหน้าน้ี พ่อแม่จะเล่า
เร่ืองราวให้เด็กๆฟังก่อนนอน คนเล่าเรื่องจะเล่าเร่ืองราวให้คนในชุมชนฟังใน

36 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

ระหว่างท่ีชุมนุมกัน Flalok สามารถอยู่ในรูปแบบของการท่องจ�ำหรือการเล่า
เรื่องเชิงสรา้ งสรรค์
เป้าหมายและวตั ถุประสงค์
โครงการ Flalok เปา้ หมายของพวกเขาคือการเพิม่ ความรู้ระหว่างผ้ใู หญ่
และนักเรียนช้ันประถมศึกษาในชุมชน Blaan โดยการส่งเสริมวัฒนธรรมการ
อ่านโดยใช้การเล่าเร่ืองราวของ Flalok อีกท้ังยังเตรียมเนื้อหาและวัสดุส�ำหรับ
การอา่ นให้ดว้ ย
จดุ มุ่งหมายของโครงการ :
- ปรับปรุงผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงความส�ำคัญการอ่านออก
เขยี นไดข้ องนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาและผู้ใหญใ่ นชมุ ชน Blaan
- เพิม่ เน้ือหาและวัสดกุ ารอา่ นท่มี ีคุณภาพให้เข้าถงึ ภาษาแม่ (การเรียน
รู้ด้วยภาษาแมแ่ บบหลายภาษา)
- ยกระดับวัฒนธรรมและความหลากหลายทางภาษาในการศึกษา
ผ่านการเรียนรพู้ ื้นฐานจากภาษาแม่
ภาพรวมของโครงการ
- สนับสนุนโดยองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
(USAID) ผ่าน
กองทนุ อเมรกิ า
- ด�ำเนินการโดยมูลนิธิ Conrado และ Ladislawa Alcantara
ร่วมมือกับ DepEd ภูมิภาคท่ี 12 , ส�ำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติของชน
พืน้ เมอื ง (NCIP) , NGOs , และชุมชน Blaan
- โครงการนี้ดำ� เนนิ การ 2 ปี ต้ังแต่ เดอื นสงิ หาคม ปี ค.ศ. 2015 ถงึ
เดอื นกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2017

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 37
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

- หุ้นส่วนชุมชนวัฒนธรรมท้องถ่ิน Blaan : เมือง Koronadal ,
โคตาบาโตใต้ , เมอื งเจเนอรลั ซานโตส และจงั หวัดซารางานิ
- หุ่นส่วนโรงเรียน : โรงเรียน Blaan IP จากหน่วยงานของเมือง
Koronadal โคตาบาโตใต้ , เมืองเจเนอรัล ซานโตส และจังหวดั ซารางานิ
- ผู้รับประโยชน์ : นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1และ 2 , ครู และ
ผูเ้ รียน
ความรว่ มมือและการสนับสนุนจากชมุ ชน
- Blann ชุมชนเผ่าพ้ืนเมือง ยินยอมให้เผยแพร่เอกสารแก่โครงการ
Flalok stories (การเล่าเรอ่ื งแบบดั้งเดิม)
- MOU (ข้อตกลงท่ีจะร่วมมือระหว่างสองฝา่ ย) กบั DepEd Region 12
เป็นผูน้ ำ� รว่ มกันในการพฒั นาเน้ือหาและวสั ดุท่ีมคี ุณภาพแก่ผูเ้ รียน
- ตีพมิ พใ์ บรบั รอง 2 ใบจาก NCIP และการใหค้ วามยนิ ยอม (FPIC) :
เอกสารเรื่องเล่าแบบดั้งเดิม Flalok ใช้เอกสารเหล่านี้พัฒนาหนังสือ Blaan
MTBMLE ; ตพี ิมพ์ FPIC เพอื่ โฆษณาหนงั สือ
- Blaan NGO : บรษิ ัท KafyeBlaan Empowerment
- องค์การนอกภาครัฐระหว่างประเทศ (NGOs) : ช่วยเด็ก ๆ ให้
มีความสามารถเป็นนักเขียนในสถาบันภาษาศาสตร์ภาคฤดูร้อน Flalok
ผลิตภณั ฑค์ วามรู้
Deped Blaan เขียนขึ้นเพื่อเป็นแนวทางหรือตัวอย่างแก่ Blaan
Reader และรว่ มมือกบั DepED เพอ่ื ผลิตสื่อและพัฒนา
- หนงั สือขนาดใหญ่ 72 เลม่
- ครผู สู้ อนนักเรยี นช้นั ป.1 และ ป.2
- เนื้อหาและวสั ดุสำ� หรบั ผูเ้ รียนชนั้ ป.1 และ ป.2
- แผนภมู ิตัวอกั ษรและแผนภมู ิตัวเลข
- แบบฝกึ หดั
- พจนานุกรม Blaan
- บทสรปุ ของเร่ืองราว 142 เร่ือง

38 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

สรา้ งขีดความสามารถของนกั เขียนและครู
- ฝกึ การเขยี นสะกดค�ำใหถ้ กู ต้อง
- กำ� หนดแนวทางของหนงั สอื
- ให้ค�ำปรกึ ษา การศึกษาพิเศษ DepEd ในระหวา่ งท่เี ขยี น
- ฝึกนักเรยี นชนั้ ป.1 ป.2 และครู ของทั้ง 76 โรงเรียนหุน้ สว่ น
- ฝึกครูและตัวแทนชุมชน อ�ำนวยความสะดวกโปรแกรมการอ่าน
Flalok ในภาคฤดูร้อน
จดั เตรียมเนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์
โครงการโรงเรียนหนุ้ ส่วนมีถึง 76 โรงเรียน จงึ ตอ้ งจดั หาครูและอปุ กรณ์
การเรียนรู้
- หนงั สือ Flalok ขนาดใหญ่ จำ� นวน 5,472เลม่
- ครู 240 คน
- ผเู้ รียน 5,023 คน
- แผนภมู ิตวั อักษรและตวั เลขจำ� นวน 500 แผนภมู ิ
กิจกรรมหลกั ทีด่ �ำเนินการ
- กลุ่มชมุ ชน
- รวบรวมเอกสารเรอ่ื งเล่า flalok
- ประชุมปรกึ ษาหารอื เพอ่ื พฒั นาเนอ้ื หาและวสั ดอุ ปุ กรณ์
- ชมุ ชนตรวจสอบเนื้อหาและวัสดอุ ุปกรณ์
- ประเมนิ ผลเนื้อหาโดยแหลง่ เรยี นรู้และระบบพัฒนา
- ครเู ป็นผูฝ้ กึ
- ลงมือ เปลยี่ นแปลง เผยแพร่ เน้อื หาและวสั ดุอปุ กรณ์
- โรงเรยี นและชุมชนลงมอื ปฏิบตั ิในห้องเรยี น flalok
- ประชมุ ปรกึ ษากับผบู้ รหิ ารและครู
- ประชมุ ผจู้ ดั โครงการน้อี ย่างสม่ำ� เสมอ
- รวมกล่มุ flalok

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 39
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

ความพยายามทจี่ ะพัฒนาให้ย่งั ยืน
- จัดสรรงบประมาณการทำ� หนังสือเพมิ่
- LGU Malungon of Sarangani and SMI - 2 แสนเล่ม
- LGU เมอื งเจเนอรลั ซานโตส – 3 แสนเล่ม
- LGU South cotabato
- DepEd IPED program
- บริษัทพลงั งานซารางานิ
- นโยบาย LGU ส่สู ถาบนั Blaan รว่ มกันเล่าเรื่อง FLALOK
- จดั สรรทนุ ท่ีได้จาก USAID ไปพัฒนาพจนานกุ รม Blaan
- ร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของส�ำนักงาน
กลาง DepEd Blaan , ส�ำนกั งาน MTB-MLE

K to 12
คณุ สมบตั ิท่ีโดดเดน่ และแนวคิด

ประกอบดว้ ย

การตอบสนองได้อยา่ งรวดเรว็
ต่อวัฒนธรรม

การตอบสนองท่เี กีย่ วขอ้ งกัน ผู้เรียนเป็นศูนยก์ ลาง

ค่าทีข่ ับเคลอื่ น ความคลอ่ งตัว

ฐานการวิจัย ครอบคลุมมาตรฐานและความสามารถพื้นฐาน

บูรณาการตามเน้อื หา ไร้ท่ีติ

การใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ฐาน

พฒั นาใหเ้ หมาะสม

40 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

การพัฒนาชาวฟลิ ิปปินสแ์ บบองค์รวมดว้ ยทกั ษะ ในศตวรรษท่ี 21

ผา้ ทอ Tabih ผ้าทอ Loom

(Tabih เป็นคำ� ส�ำหรบั ผ้าทอมอื เสร็จแลว้ และยังหมายถึง
กระโปรงกระโปรง Blaan แบบด้ังเดมิ )

สานตะกรา้ อาหารพื้นเมอื ง

งานหัตถกรรมไม้
“ การศึกษาของชาวพื้นเมอื ง ด�ำเนินการจนเสรจ็ สน้ิ ด้วยหลกั สูตร
K to 12 รวมไปถงึ วัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน ชุมชน และผเู้ รยี น IP ”

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 41
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

ประเทศสิงค์โปร์

“บทบาทของการศึกษาในการยอมรบั วัฒนธรรมโลกและ
การรักษาเอกลักษณ์ประจำ� ชาติ”

การศึกษามีบทบาทส�ำคัญในการเตรียมพร้อมลูกหลานของเราและ
ผู้เรียนสู่สังคมโลกในขณะที่การพัฒนาเอกลักษณ์ประจ�ำชาติก็จะต้องด�ำเนิน
ควบคู่ไปด้วย ในประเทศสิงคโปร์เรามุ่งม่ันที่จะส่งเสริมให้นักเรียนของเรามี
ศักยภาพเต็มที่ ในรายงานฉบับน้ีจะแสดงให้เห็นบทบาทของการศึกษาใน
การเตรียมความพร้อมนักเรียนของพวกเราในด้านการศึกษา และในขณะ
เดียวกันก็มีการส่งเสริมเอกลักษณ์ประจ�ำชาติไปด้วย เพื่อแบ่งปันให้ท่ัวโลก
และทุกท้องถิ่นได้รับรู้ โดยจุดประสงค์และภารกิจแรกของระบบการศึกษา
ในสิงคโปร์คือ ติดตามด้วยการวิเคราะห์กรอบและหลักสูตรที่ใช้ในปัจจุบัน
บทความนจี้ ะนำ� เสนอหลกั การและแนวทางการสอนทีใ่ ช้
ในการเผชิญกับกระแสโลกาภิวัฒน์และความท้าทายต่างๆ ความส�ำเร็จ
ของประเทศขึ้นอยู่กับประชาชนท่ีอุทิศตัวให้กับสังคมและประเทศ ความรับผิด
ชอบ ความสามรถในการคิด และความพยายามในการประสบความสำ� เร็จกด็ ว้ ย
ในที่สุดแล้วอนาคตของประเทศข้ึนอยู่กับการพัฒนาการศึกษาของผู้น�ำและ
ประชาชนอย่างใกลช้ ิด
เป้าหมายคือการสร้างประสบการณ์ที่ผ่านมาและท�ำปัจจุบันให้ดีท่ีสุด
เพื่อพร้อมส�ำหรับความท้าท้ายในอนาคตของเศรษฐกิจโลก แนวทางท่ีพวกเรา
อบรมเล้ียงดูเด็กๆที่บ้านและพัฒนาพวกเขาท่ีโรงเรียนจะเป็นตัวก�ำหนดความ
สำ� เรจ็ ของเราภายในภมู ภิ าคนใี้ นปีต่อ ๆ ไป
นโยบายของคณะรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการในประเทศสิงคโปร์จะ
เป็นนโยบายแม่บทในประเทศชาติในอนาคต โดยนโยบายแรกคือประชากร
คณะรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการพยายามท่ีจะให้การศึกษาแบบองค์รวมและ
มีคุณธรรมเพ่ือให้ผู้เรียนได้รับค่านิยมและลักษณะที่ดี ดังนั้นเพ่ือช่วยให้พวก

42 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

เขากลายเป็นคนดี และในท่สี ุดกเ็ ปน็ ประชากรที่ดกี ็จะตอ้ งเร่ิมจากคณะรัฐมนตรี
กระทรวงศึกษาธกิ ารกอ่ น นาย Heng Swee Keat กล่าวว่า ระบบการศึกษา
ของพวกเราจะต้องอบรมเล้ียงดูประชากรของสิงคโปร์ให้มีคุณลักษณะท่ีดี
ให้ทุกคนมีคุณธรรมในการแก้ไขปัญหาในอนาคตที่ไม่แน่นอนและมีความรู้สึก
รับผิดชอบต่อการมีส่วนร่วมในการประสบความส�ำเร็จของประเทศสิงคโปร์และ
กลายเปน็ ประชากรทดี่ ขี องประเทศต่อไป

การท�ำงานให้ประสบความส�ำเร็จในโลกยุคโลกาภิวัตน์ซ่ึงมีการ
เปล่ียนแปลงและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งสร้างความสมดุลท้ังความ
รู้และศักยภาพที่สะท้อนคุณลักษณะท่ีส�ำคัญท่ีพร้อมรับกับอนาคต และยังคง
ความเป็นคนสิงคโปร์ที่มีจิตส�ำนึกของความเป็นรากเหง้าของสิงคโปร์ นักเรียน
และผู้เรียนจะหันไปสู่โลกท่ีก�ำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและค�ำถามท่ีเป็นกุญแจ
ส�ำคัญคือพวกเราจะอบรมส่ังสอนประชากรในอนาคตท่ีมีความเปลี่ยนแปลง
ทางวัฒนธรรมของโลกอย่างไร ในขณะที่ยังคงต้องรักษาความเป็นเอกลักษณ์
ของชาติไว้ด้วย และค�ำตอบที่จะท�ำให้ส�ำเร็จก็คือองค์กรหรือหลักสูตรที่เก่ียว
กับคุณลักษณะท่ีพ่ึงประสงค์และสิทธิหน้าท่ีในการศึกษา Character and
Citizenship Education (CCE) คือพ้ืนฐานหลักในระบบการศึกษาของ
ประเทศสิงคโปร์ ซ่ึงพ้ืนฐานนี้จะท�ำให้เด็กนักเรียนของเรามีความรับผิดชอบต่อ
ครอบครัวและสงั คม พวกเขาเขา้ ใจถึงบทบาทของตนในการกำ� หนดอนาคตของ
ประเทศและเพ่ือเออ้ื ต่อความส�ำเรจ็ ของภูมิภาค

การพัฒนาทั่วโลกและมีแนวโน้มท่ีเพ่ิมข้ึน เช่น ความก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยี แนวโน้มทางสงั คม และ โลกในยุคโลกาภิวฒั น์ เปน็ ปัจจัยหลกั ในการ
พิจารณาอย่างรอบคอบเพ่อื สร้างหลักสตู ร CCE

ซึ่งเป้าหมายของ CCE คือ การรักษาคุณค่าและพัฒนาสมรรถนะหรือ
ความสามารถของนักเรียน เพ่ือให้พวกเขาเป็นบุคคลและประชากรท่ีดีของ
ประเทศ ในปี ค.ศ. 1959 ได้มีการริเร่ิมโปรแกรมในการพัฒนาความสามารถ
งานอดิเรก ความเช่ียวชาญ ทักษะต่างๆของนักเรียนอย่างหลากหลาย เช่น
ในปี ค.ศ. 1922 การศึกษาที่เน้นคุณธรรมและจริยธรรม(CME) ปี ค.ศ.1997

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 43
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

การศกึ ษาแหง่ ชาติ (NE) ปี ค.ศ. 2005 การศกึ ษาทางสังคมและอารมณ์ (SEL)
การเรียนรู้จากประสบการณ์เช่น กิจกรรมบูรณาการ(CCA) ส่วนจุดเน้นของ
หลักสูตร CCE ในปัจจุบันได้พัฒนามาจากโปรแกรมท่ีเป็นพื้นฐานไปสู่จุด
ประสงคร์ ่วมกันมากขน้ึ
CCE เป็นพื้นฐานในกรอบการท�ำงานส�ำหรับสมรรถนะและผลลัพธ์ของ
นักเรียนในศตวรรษท่ี 21 เพื่อจะช่วยให้นักเรียนได้เตรียมพร้อมส�ำหรับอนาคต
ในสังคมโลก และดูแลเป็นรายบุคคลได้อย่างท่ัวถึงโดยมีแนวคิดการพัฒนา
สมรรถนะท่ีสร้างมาจาก “คุณค่าหลัก” ภายในบุคคล แล้วพัฒนา “สมรรถนะ
ทางด้านสงั คมและอารมณ”์ เพ่ือให้เกดิ “สมรรถนะสำ� หรับศตวรรษที่ ๒๑” และ
“ผลลัพธท์ ต่ี ้องการ” ท้งั นี้ ประเทศสิงคโปรม์ ีการดำ� เนินการยกระดับการจัดการ
ศึกษาเพ่ือพัฒนานักเรียนอย่างเป็นระบบ ต้ังแต่การก�ำหนดกรอบแนวคิดใหม่
ของสมรรถนะของผู้เรียน การปรับปรุงหลักสูตร การพัฒนาครู ในการพัฒนา
นักเรยี น

กรอบแนวคดิ ส�ำหรบั สมรรถนะและผลลัพธข์ องนักเรยี นในศตวรรษที่ 21
Figure 2: Core Values คณุ คา่ หลัก
ตรงกลางของกรอบแนวคิดน้ีก็คือคุณค่าหลักได้แก่ ความเคารพ
ความเอาใจใส่ ความรับผิดชอบ ความยดื หยุ่น ความซอื่ สัตย์ ความสมบรู ณแ์ ข็ง
แรง การดูแล และความสามคั คี คณุ ค่าหรอื คณุ ธรรมอนั เปน็ สากลเหลา่ นี้จ�ำเปน็
ท่ีนักเรียนต้องมี และต้องรู้ส่ิงไหนผิดหรือถูก มีความรับผิดชอบ รู้จักบทบาท
หนา้ ที่ในสงั คม และเป็นประชากรทชี่ ว่ ยพัฒนาประเทศ
คุณค่าหลักเหล่าน้ีมากจากสังคมสิงคโปร์ สังคมครอบครัว วิสัยทัศน์
สิงคโปร์ในศตวรรษที่ 21 และบทความทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ
1. คณุ คา่ หลกั (Core Values)
ชนั้ ในสดุ ของกรอบแนวคดิ คอื “คณุ คา่ หลกั ” ซงึ่ เปน็ แกน่ ของสมรรถนะ

44 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

และผลลพั ธข์ องนกั เรยี นในศตวรรษที่ ๒๑ ทแ่ี สดงคณุ ลกั ษณะภายในของแตล่ ะ
บคุ คลโดยประกอบดว้ ยความรแู้ ละทกั ษะเปน็ แกนหลกั และมคี ณุ ลกั ษณะสำ� คญั ท่ี
มอี ทิ ธพิ ลทำ� ใหเ้ กดิ ความเชอื่ ทศั นคติ รวมถงึ พฤตกิ รรมของบคุ คล ดงั นี้
1.1 ความเคารพ (Respect): บุตรหลานจะเป็นผู้ที่มีความเคารพ
เมอ่ื เขามคี วามเช่ือในคุณค่าของตนเอง และเห็นคณุ คา่ ของคนทุกคน
1.2 ความรับผิดชอบ (Responsibility):บุตรหลานจะเป็นผู้มีความ
รบั ผิดชอบ เม่ือเขามคี วามตระหนักในหนา้ ทข่ี องตัวเอง หนา้ ทต่ี อ่ ครอบครัว ตอ่
ชุมชน ต่อประเทศ และต่อโลกอกี ท้งั ตอบสนองความรบั ผิดชอบของตนเองด้วย
ความรกั และการให้คำ� มนั่ สญั ญา
1.3 ความซ่ือสัตย์ (Integrity): บุตรหลานจะเป็นคนท่ีมีความ
ซ่ือสัตย์ เม่ือเขาเทิดทูนในหลักของจริยธรรม และมีความกล้าหาญในเรื่องศีล
ธรรมทจี่ ะสามารถลุกขน้ึ และยืนหยดั เพ่อื ส่งิ ท่ถี ูกต้อง
1.4 ความยืดหยุ่น (Resilience): บุตรหลานจะเป็นผู้ท่ีมีความ
ยืดหย่นุ เมอื่ เขามีความเข้มแข็งทางอารมณ์ และเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับความ
ท้าทาย เขาจะแสดงออกซึ่งความกล้าหาญมองโลกในแง่ดี มีความสามารถใน
การปรบั ตัวและมปี ญั ญาในการคิดริเร่มิ แกป้ ญั หา
1.5 การดูแลเอาใจใส่ (Care): บุตรหลานจะเปน็ ผทู้ ม่ี ีการดูแลเอาใจ
ใส่ เมื่อเขาท�ำการใดๆ ด้วยความเมตตาและกรุณา และสนับสนุนหรือให้ความ
ชว่ ยเหลือผ้อู นื่ เพ่อื ใหเ้ กิดสงิ่ ท่ีดขี นึ้ ตอ่ ชุมชนและโลก
1.6 ความสามัคคี (Harmony): บุตรหลานจะให้คุณค่ากับความ
สามัคคี เมือ่ เขาพยายามคน้ หาความสุขภายใน ในขณะเดยี วกันกย็ งั ส่งเสรมิ การ
ท�ำงานร่วมกันในสังคม นอกจากน้ีพวกเขายังช่ืนชมท้ังความเป็นเอกภาพและ
ความหลากหลายของสงั คมพหุวัฒนธรรม
2. สมรรถนะทางด้านสังคมและอารมณ์(Social and Emotional
Competencies)
ในชั้นถัดออกมาเป็นสมรรถนะทางด้านสังคมและอารมณ์ซึ่งเป็น

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 45
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งที่ 33

คุณลกั ษณะทจ่ี ำ� เปน็ สำ� หรับนกั เรยี นในการเห็นคณุ คา่ ของตนเอง การจัดการกับ
อารมณ์ของตนเอง รวมถึงความเข้าใจผู้อื่น และการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้
อืน่ โดยสมรรถนะทางดา้ นสงั คมและอารมณ์ ประกอบดว้ ย
2.1 การตระหนกั รู้เกี่ยวกบั ตนเอง(Self-awareness): บตุ รหลานจะ
มีความตระหนักรู้เก่ียวกับตนเอง เม่ือเขาเข้าใจอารมณ์ของตัวเองทราบจุดแข็ง
ความโน้มเอยี ง รวมทั้งจุดอ่อนของตนเอง
2.2 การจดั การตนเอง (self -management): บตุ รหลานจะสามารถ
จัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเขามีความสามารถในการจัดการกับ
อารมณ์ของตนเองนอกจากนี้ เขาควรเป็นคนที่สามารถสร้างแรงจูงใจได้ด้วย
ตนเอง มีวินัย และมีการก�ำหนดเป้าหมายของชีวิตได้อย่างชัดเจน อีกท้ังมี
ทกั ษะองคก์ ร
2.3 การตระหนกั รูเ้ ก่ยี วกบั สังคม(Social Awareness): บุตรหลาน
จะมีความตระหนักรู้เก่ียวกับสังคม เม่ือเขามีความสามารถในการแยกแยะมุม
มองท่ีแตกตา่ งได้อย่างถูกต้อง มีการยอมรับและเห็นคุณค่าในความหลากหลาย
ของความคิด นอกจากนี้ มคี วามเอาใจใส่และเคารพความคดิ ของผอู้ ่ืน
2.4 การจัดการกับความสัมพันธ์(Relationship Management) :
บุตรหลานจะสามารถจัดการความสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเม่ือเขามี
ความสามารถในการดูแลและรักษาสุขภาพตนเอง มีการให้คุณค่ากับความ
สัมพันธ์ผ่านการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ อีกท้ังสามารถท�ำงานร่วมกับผู้อ่ืนเพื่อ
แกไ้ ขปัญหาและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตา่ งๆ ได้
2.5 การตดั สินใจอยา่ งมีความรับผิดชอบ (Responsible Decision-
Making) : บุตรหลานจะสามารถตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ เมื่อเขา
มีความสามารถระบุและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้าน ท้ังน้ี เขาควร
สามารถสะท้อนนัยยะของการตัดสินใจบนพื้นฐานของการพิจารณาด้วยตนเอง
รวมท้งั การคำ� นงึ ถึงหลกั คุณธรรมและจรยิ ธรรม
3. Skill Related to Citizenship Competencies

46 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)

3.1 การรู้เกี่ยวกับพลเมือง ความตระหนักต่อโลก และทักษะ
ขา้ มวฒั นธรรม(Civic Literacy, Global Awareness and Cross-Cultural
Skills) : สังคมของสิงคโปร์ก�ำลังก้าวไปเป็นสังคมที่ประกอบด้วยผู้คนหลาก
หลายเชื้อชาติมากข้ึนเร่ือยๆ อีกทั้งมีผู้คนอาศัยอยู่ในสิงคโปร์และออกไป
ท�ำงานต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น บุตรหลานของชาวสิงคโปร์จะต้องมีมุมมองต่อ
โลกท่ีกว้างข้ึน และต้องมีความสามารถในการท�ำงานกับผู้คนท่ีมีพ้ืนฐานทาง
วัฒนธรรมท่ีหลากหลายรวมทั้งผู้คนที่มีความคิดและมุมมองท่ีมีความแตกต่าง
กนั ได้ ในขณะเดียวกนั เด็กๆต้องบอกเล่าเกีย่ วกับชาติ ความเปน็ สงิ คโปร์ และมี
ความภาคภูมิใจในความเป็นชาวสิงคโปร์ อีกท้ังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและ
ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ชุมชุนอย่างแขง็ ขัน
3.2 การคิดอย่างมีวิจารณญาณและเชิงคดิ ค้นพฒั นา (Critical and
InventiveThinking): เพ่ือเตรยี มความพรอ้ มสำ� หรบั อนาคตเดก็ ๆ ตอ้ งมคี วาม
สามารถในการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ มคี วามสามารถในการประเมินทางเลือก
และมีความสามารถในการตัดสินใจ พวกเขาต้องมีความใฝ่รู้ ช่างส�ำรวจ และ
มีความพร้อมท่ีจะคิดนอกกรอบได้ นอกจากนี้ พวกเขาไม่ควรกลัวท่ีจะท�ำผิด
พลาด รวมท้ังการเผชิญหน้ากับความท้าทายซึ่งอาจท�ำให้เกิดความกลัวข้ึนใน
ครั้งแรก
3.3 ทักษะทางด้านสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and
CommunicationSkills): ด้วยการเปล่ียนแปลงของโลกอินเตอร์เน็ตที่ท�ำให้
ขอ้ มูลสารสนเทศสามารถเข้าถึงไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เพยี งแคก่ ารคล๊ิกเทา่ นนั้ จงึ เปน็
เรื่องส�ำคัญมากท่ีเด็กๆ ต้องรู้จักตั้งค�ำถาม กรองข้อมูลสารสนเทศ และสกัด
สิ่งท่ีส�ำคัญและเป็นประโยชน์ได้ ในขณะเดียวกัน พวกเขาจ�ำเป็นต้องมีความ
สามารถในการตัดสินใจซ่ึงจะเป็นสิ่งท่ีป้องกันพวกเขาจากอันตราย รวมท้ังมี
การปฏิบัติตามหลักจริยธรรมในโลกแห่งไซเบอร์ด้วย นอกจากน้ี พวกเขาควร
สามารถสอื่ สารความคดิ ได้อยา่ งชดั เจนและมีประสิทธิภาพ
4. Learning outcomes ผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนกบั ผเู้ รยี น

รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมประชุม 47
สภาครูอาเซียน +1 ครั้งท่ี 33

เป้าหมายการเรียนรู้และการบรรลุเป้าหมายสามารถพบได้ใน
ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ของ CCE ซ่งึ มที ัง้ หมด 8 ขอ้ ข้อ 1-4 อธบิ ายถึงความแตก
ต่างสมรรถนะทางสังคมและอารมณ์ ส่วนข้อส�ำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21 คือขอ้ 5-8 ซึง่ เก่ียวกบั วัฒนธรรม นโยบายเชงิ รกุ การมีสว่ น
ร่วมอยา่ งรบั ผดิ ชอบในฐานะสมาชิกของสังคม
4.1 มีความรู้ความเข้าใจตนเองและใช้ทักษะการจัดการตนเองเพ่ือ
ใหเ้ กดิ ความพงึ พอใจและประสทิ ธิผลในการท�ำงาน
4.2 ด�ำเนินการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ
ซึ่งยึดหลกั จรยิ ธรรม
4.3 มีจิตส�ำนึกทางสังคมและใช้ทักษะในการติดต่อส่ือสารระหว่าง
บุคคลเพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์ท่ีดีบนพ้ืนฐานของความเคารพซึ่งกัน
และกัน
4.4 ยืดหยุ่นและมีความสามารถในการเปลี่ยนความท้าทายเป็น
โอกาส
4.5 มีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ประจ�ำชาติ มีความภูมิใจ
ในความเป็นสงิ คโปรแ์ ละมงุ่ มน่ั ท่ีจะสรา้ งชาติ
4.6 คุณค่าของความหลายหลายทางวัฒนธรรมและการท�ำงานร่วม
กนั ในสังคม
4.7 ดูแลเอาใจใสค่ นอืน่ และมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
4.8 ตอบสนองและรับผิดชอบในฐานะประชากรต่อสังคม ต่อชาติ
และตอ่ โลก
เพื่อให้การด�ำเนินการตามกรอบและบรรลุเป้าหมายมีความจ�ำเป็นที่จะ
ต้องมีองค์ประกอบท่ีมีประสิทธิผลและมีประโยชน์ซ่ึงจะสนับสนุนกระบวนการ
สอนการเรียนรแู้ ละการอำ� นวยความสะดวกโดยรวม

48 33rd ASEAN Council of Teachers (ACT+1)


Click to View FlipBook Version