The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Satit.aru, 2021-05-13 10:17:03

คู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2564

คู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2564

โรงเรยี นสาธิตมัธยม

มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนครศรอี ยธุ ยา

คู่มอื ครู ผ้ปู กครอง และนักเรียน
ปีการศกึ ษา 2564

ความรเู้ ดน่ บุคลิกภาพดี
มคี ุณธรรม นาสังคม



บทนา

การศกึ ษาและความรู้ในยุคศตวรรษท่ี 19 และ 20 เปลยี่ นผ่านเขา้ สยู่ ุคการศึกษาและความรู้ในศตวรรษ
ที่ 21 ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อเช่ือมโยงข้อมูลต่าง ๆ ของ
ทุกภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน พลังขับเคลื่อนของเทคโนโลยียุคดิจิทัลส่งผลทาใ้้เกิดการเปล่ียนแปลง
อย่างรวดเร็วมากย่ิงข้ึน และเป็นความรวดเร็วที่การทา้น้าที่และบทบาทของผู้บริ้ารสถานศึกษาและผู้อยู่ใน
วงการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ต้องตระ้นัก เพราะ
การเปลีย่ นแปลงดังกล่าวทาใ้เ้ กิดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาตามไปด้วยอย่าง้ลีกเล่ียงไม่ได้ สถานศึกษา
จึงต้องมีความต่ืนตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้เพ่ือเตรียมพร้อมใ้้นักเรียนมีทักษะสา้รับออกไป
ดารงชีวิตในโลกยุคศตวรรษที่ 21 อย่างเขม้ แขง็ และมน่ั คง

สา้รับโรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ภายใต้การกากับดูแลของคณะครุศาสตร์ ม้าวิทยาลัยราชภัฏ
พระนครศรีอยุธยา โดยเป็นสถานศึกษาท่ีจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานช้ันแนว้น้าของประเทศ มุ่งเน้นการพัฒนา
ผเู้ รยี นใ้้มีความเป็นผนู้ าในการสร้างสรรค์สังคมโลก มี้ัวใจประชาธิปไตย กลา้ แสดงออก มีทักษะชีวิต คิดเชิง
บวก สามารถส่ือสารไดใ้ นระดับนานาชาติ เป็นพลเมืองไทยและพลเมอื งโลกท่ีมคี วามสขุ อย่างย่ังยืน ด้วยเ้ตนุ ้ี
จงึ ทาใ้โ้ รงเรียนสาธิตมีภารกิจ้รอื ้น้าทต่ี ้องทาเพิ่มมากข้นึ กว่าโรงเรียนทว่ั ๆ ไป

คู่มือนักเรียนฉบับน้ีมีสาระสาคัญคือ ทิศทางและแผนการ ในการพัฒนาโรงเรียนสาธิตมัธยม วิสัยทัศน์
และยุทธศาสตร์การบริ้าร เพื่อการพัฒนาโรงเรียนสาธิตมัธยมที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในกิจกรรมต่าง ๆ
นับตั้งแต่บุคลิกภาพ ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมและคุณธรรม เพื่อใ้้มีค่านิยมตรงกับความต้องการของ
สังคม โดยกระบวนการต่าง ๆ การควบคุมส่ิงแวดล้อมใ้้มีผลต่อบุคคลและอาศัยทรัพยากร ตลอดจนเทคนิค
ต่าง ๆ เพอ่ื ใ้้ผเู้ รียนพัฒนาตรงตามเป้า้มายของสังคมท่ีดาเนนิ ชวี ิตอยู่ นอกจากนี้ยังต้องการสรา้ งความม่ันใจ
ว่าการจัดการศึกษาของโรงเรียนสาธิตมีคุณภาพเชื่อถือได้ มีความปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้ การสร้าง
บรรยากาศที่สนับสนุนความสาเรจ็ ในการเรียนรู้ สร้างตัวแบบการปฏิบัติงานท่ีดี ความสาเร็จและก้าว้น้าของ
นักเรียนและบุคลากร โดยมีนักเรียนเป็นสิ่งสาคัญและสร้างแนวทางในการบริ้าร เพ่ือใ้้เกิดการพัฒนาสุข
ภาวะทางจิตใจของนกั เรียนเพ่ือนาไปส่กู ารพฒั นา คณุ ภาพการศกึ ษาของชาติต่อไป

(ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยป์ ิยะ มีอนนั ต์)
ผูอ้ านวยการโรงเรียนสาธติ มธั ยม



สารบัญ หนา้

บทนา 3
สารบัญ 5
ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู พืน้ ฐานของโรงเรยี นสาธิตมัธยม 7

ประวตั ิความเป็นมาของโรงเรียนและลกั ษณะชมุ ชน 9
ปรชั ญา อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ 11
วสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ 11
ปณธิ านของโรงเรยี น 12
บทบาท้นา้ ท่ีของโรงเรยี น 12
โครงสรา้ งการบร้ิ ารงาน 13
ทาเนียบผูบ้ ร้ิ าร 14
คณะผบู้ ริ้ารโรงเรียนสาธิตมัธยม 15

สว่ นท่ี 2 วิสยั ทศั น์ ยุทธศาสตร์ การบริหารงานโรงเรยี นสาธติ มธั ยม 17

บริบททวั่ ไปของโรงเรยี นสาธิตมัธยม 19
แนวทางการพัฒนาศักยภาพของโรงเรยี นสาธติ มธั ยม 21
แนวทางการจดั การศึกษาของโรงเรียนสาธติ มัธยม 25
แนวทางการพัฒนาคุณภาพของนกั เรยี น 25
ผลผลิต 27

สว่ นที่ 3 ระเบียบโรงเรียน การศึกษาตอ่ และหลักสูตร 29

ระเบียบปฏิบตั ิของนักเรยี นโรงเรียนสาธติ มัธยม 31
ระเบียบข้อบังคับของนกั เรียนโรงเรียนสาธิตมัธยม 41
จรรยา มารยาทของนกั เรียนโรงเรยี นสาธติ มัธยม 41
การมาโรงเรียน และการอออกนอกบริเวณโรงเรยี น 42
การแสดงความเคารพ 42
การขาดเรยี น 43
การมาโรงเรยี นสาย 43
การมาพบ้รือนาของมาใ้้นักเรียน 45
การเคารพกฎระเบียบของโรงเรยี น 45
การฝ่าฝืนระเบียบ ข้อ้้าม และการพจิ ารณา 46
การพ้นสภาพการเป็นนักเรยี น 47
เกณฑ์การเข้าศกึ ษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 48
กรอบโครงสร้างเวลาเรยี น 51
การวัดและประเมนิ ผล 67
เกณฑ์การจบการศึกษา 74



ส่วนท่ี 1

____________________________________________________________

ขอ้ มูลพน้ื ฐานของโรงเรยี นสาธติ มธั ยม
ม้าวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครศรอี ยุธยา



ประวัตคิ วามเป็นมาของโรงเรยี นสาธติ มัธยม

ประวัติความเป็นมาของโรงเรยี นและลักษณะชมุ ชน

โรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ( The Laboratory School of
Phranakhon Si Ayutthaya Rajabhat University ) ตั้งอยู่เลขท่ี 96 ถนนปรีดีพนมยงค์ ตาบลประตูชัย
อาเภอพระนครศรีอยธุ ยา จัง้วัดพระนครศรีอยุธยา ร้ัสไปรษณีย์ 13000 โทรศัพท์ 0-3524-5506 โทรสาร
0-3524-5506 website: www.satitayutthaya.com เป็นโรงเรียนประเภทส้ศึกษา ภายใต้การกากับดูแล
ของคณะครุศาสตร์ ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ
นวัตกรรม (Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation) ้รอื อว.

โรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เดิมใช้ช่ือโรงเรียนว่า “โรงเรียนสาธิต
วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา” ก่อตั้งขึ้นมาจากการมองการณ์ไกลของท่านอาจารย์โสภณ สุวรรณโรจน์
อธิการวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา ที่ต้องการใ้้วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางการจัด
การศึกษาที่มีคุณภาพของจัง้วัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะอย่างย่ิงท่านต้องการใ้้โรงเรียนสาธิต
วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา เป็น้้องปฏิบัติการทางการศึกษาของอาจารย์และนักศึกษาครู โรงเรียนสาธติ
วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา จึงได้ถือกาเนิดข้ึนในปีการศึกษา 2528 ณ บริเวณวิทยาลัยครู
พระนครศรีอยุธยา เร่ิมเปิดสอนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 2 ้้องเรียน โดยใช้อาคารของ
คณะครศุ าสตรเ์ ป็นอาคารเรียนช่ัวคราว

วันท่ี 14 กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2535 วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา ได้รับ พระราชทานชื่อจาก
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร ม้าภูมพิ ลอดุลยเดชม้าราช บรมนาถบพิตร รัชกาลท่ี 9 วา่ “สถาบัน
ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา” และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยในร่างพระราชบัญญัติ
สถาบันราชภัฏพุทธศักราช 2538 ซึ่งทางสานกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรีได้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ที่
112 ตอนท่ี 4 ก ลงวันที่ 24 มกราคม 2538 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2538 โรงเรียนสาธิต
วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา จึงเปล่ียนช่ือเป็น “โรงเรียนสาธิต สถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา” ต้ังแต่
นน้ั เปน็ ต้นมา

และด้วยพระม้ากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ม้าภูมิพลอดุลยเดช
ม้าราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระ้ม่อมใ้้ตรา
พระราชบัญญัติม้าวิทยาลัยราชภัฏพุทธศักราช 2547 และประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี 121 ตอน
พเิ ศษ 23 ก. ลง วนั ท่ี 14 มถิ ุนายน พ.ศ. 2547 ซึง่ มผี ลบงั คับใชต้ ั้งแตว่ ันที่ 15 มถิ ุนายน พ.ศ. 2547 ดว้ ยเ้ตุ
นี้ โรงเรียนสาธิตสถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จึงได้เปล่ียนชื่อเป็น “โรงเรียนสาธิตม้าวิทยาลัยราชภัฏ
พระนครศรอี ยธุ ยา” จวบจนปัจจบุ ัน โดยเปดิ สอนตงั้ แต่ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ถงึ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ตราประจาโรงเรยี นสาธติ มัธยม ม้าวิทยาลัยราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา เป็นตราของม้าวิทยาลัยราช
ภัฏพระนครศรีอยุธยาที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร ม้าภูมิพลอดุลยเดชม้าราช บรมนาถบพิตร
รัชกาลท่ี 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตราสัญลักษณ์ประจาม้าวิทยาลัยราชภัฏ ตามที่
กระทรวงศึกษาธิการได้นาความกราบทูลพระกรุณาขอพระราชทาน เพื่อเป็นศิริมงคล ตั้งแต่เปล่ียนเป็น
สถาบันราชภัฏ ตราสัญลักษณ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน คือ ตราพระราชลัญจกร ใน
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร ม้าภมู ิพลอดลุ ยเดชม้าราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

ตราประจาโรงเรียน ตราของโรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
มีลักษณะเป็นรูปวงรี ภายในเป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์
ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระเป็น อุ ้รือเลข 9 รอบวงจักร
มีรัศมีเปล่งออกโดยรอบเ้นือจักรเป็นรูปเศวตฉัตรเจ็ดช้ัน ฉัตรท่ีตั้งอยู่บน
พระที่น่ังอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ (แปลความ้มายว่า ทรงมีพระบรมเดชา-
นุภาพในแผ่นดิน) โดยท่ีวันบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี ได้เสด็จ
ประทับเ้นือพระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ และสมาชิกรัฐสภาถวาย
น้าอภิเษกจากทิศท้ังแปดมีวงรวี ง้นงึ่ เปน็ กรอบรอบตราพระลัญจกร จารึกช่ือ
สถาบันราชภัฏ ต่อมาเมื่อสถาบันราชภัฏได้ปรับสถานภาพเป็น ม้าวิทยาลัย
ช่ือท่อนบนจึงจารึกเป็นตัวอักษรภาษาภาษาไทยว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏ
พระนครศรีอยุธยา” และท่อนล่างจารึกเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า
“PHRANAKHON SI AYUTTHAYA RAJABHAT UNIVERSITY”

ปรชั ญา อัตลักษณ์ เอกลักษณ์

ปรชั ญา ความรเู้ ด่น บุคลิกภาพดี มีคุณธรรม นาสงั คม
อัตลกั ษณ์ เก่ง ดี มเี กยี รติ เช่ือถือได้
เอกลักษณ์ สังคมดี สามคั คี ปลอดภัย
สปี ระจาโรงเรยี น เหลอื ง – แดง

วิสัยทัศน์

ต้นแบบการศึกษา ก้าว้น้านวตั กรรม สร้างคนดีมีคณุ ธรรม นาสังคมพัฒนา

พนั ธกจิ

1. สง่ เสริมและสนับสนุนใ้ผ้ ู้เรียนได้รบั การศกึ ษาตาม้ลักสตู รอย่างทวั่ ถงึ และมีคุณภาพ
2. พัฒนาระบบสารสนเทศเพ่อื สนับสนุนการดาเนนิ งานด้านการสอน การวิจัย และการบร้ิ ารจัดการ
3. ส่งเสรมิ ใ้้ผ้เู รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม และมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
4. เสริมพลงั ทางสงั คมในทุกภาพสว่ น เพื่อการมสี ว่ นร่วมในการจัดสวสั ดกิ ารและการพัฒนาสังคม

ปณิธานของโรงเรยี น

โรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จะธารงรักษามาตรฐานการจัดการศึกษา
และส่งเสริมใ้้พัฒนาก้าว้น้าต่อไปอย่างไม่้ยุดย้ัง โดยมุ่งบุกเบิกแสวง้าองค์ความรู้ใ้ม่ สาธิตการจัด
การศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ใ้้บริการศาสตร์ทางการศึกษาแก่สังคม ตลอดจนทานุบารุง
ศิลปวัฒนธรรมของชาติ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบสานความเป็นอยุธยามรดกโลก สร้าง้ลักการที่จะ
สนบั สนนุ สง่ เสรมิ พัฒนานักเรียนและบุคลากร ใ้้เปน็ ทรพั ยากรท่ีมีคุณภาพ มีประสทิ ธภิ าพ มีความเป็นเลิศ
ทางด้านวิชาการ เป็นผู้มีคุณธรรม สามารถทาประโยชน์ใ้้แก่สังคม และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข
โดยยึด้ลกั ตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ความรู้ คคู่ ณุ ธรรม

บทบาทและหน้าทขี่ องโรงเรยี น

1. จัดการศึกษาเพ่ือมุ่งใ้้นักเรียนคิดเป็น ทาเป็น รู้จักแก้ปัญ้า รักการทางาน และสนใจที่จะมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมของส่วนรวมตามวิถีทางของระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระม้ากษัตริย์
ทรงเปน็ ประมุข ยึดมน่ั ในสถาบันชาติ ศาสนา พระม้ากษตั รยิ ์ มีระเบียบวินยั มีวฒั นธรรมและศีลธรรม
รจู้ กั ใช้สิทธแิ ละ้น้าท่ีในขอบเขตของกฎ้มาย

2. จัดการศึกษาเพื่อมุ่งใ้้นักเรียนมีความรู้ท้ังทางด้านวิชาการ และด้านวิชาชีพที่เ้มาะสมกับวัย
ความต้องการ ความสนใจ และความถนัด เพื่อใ้้แต่ละบุคคลเข้าใจ และรู้จักเลือกอาชีพ ที่เป็น
ประโยชนแ์ ก่ตนเองและสังคม

3. เป็นโรงเรยี นปฏิบัติการ (Laboratory School) ของอาจารย์และนักศึกษาครู เปน็ สถานศึกษา คน้ คว้า
วจิ ัย และทดลองทฤษฎีทางการศึกษาของอาจารย์และนักศกึ ษาครู

4. เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาท่ีเป็นแ้ล่งวิชาการทางด้านการจัดการ การดาเนินการ การศึกษา และ
การจดั การเรยี นการสอนใ้ม้ มี าตรฐานสูง มุง่ ส่มู าตรฐานสากล

โครงสรา้ งการบริหารงานโรงเรยี นสาธิตมัธยม มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนครศรีอยุธยา

คณะกรรมการชมรมผปู้ กครองและครฯู อธกิ ารบดี คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน

คณบดีคณะครุศาสตร์
ผ้อู านวยการ

รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ รองผู้อานวยการฝ่ายบริหาร รองผู้อานวยการฝา่ ยกจิ การนักเรยี น
ผู้ชว่ ยผอู้ านวยการฝ่ายวชิ าการ หวั หนา้ สานกั งาน (เจ้าหนา้ ที่บริหารงานทั่วไป) ผู้ชว่ ยผอู้ านวยการฝา่ ยกจิ การนกั เรยี น

งานหลกั สตู ร นักวิชาการศึกษา งานสนับสนนุ งานสารบรรณ งานนโยบายวางแผน งานทานุบารุงและ งานกิจกรรม งานชมุ ชน งานพฒั นา
และการสอน งานทะเบียนวดั ผล การสอน และงานธรุ การ และงบประมาณ อาคารสถานที่ นกั เรียน สัมพนั ธ์ นักเรียน

- งานพฒั นา้ลักสตู ร - งานทะเบียนนักเรยี น - งานแนะแนว - งานสารบรรณ - งานงบประมาณ - งานดแู ลอาคารสถานที่ - งานกจิ กรรมวัน - งานประชาสมั พนั ธ์ - งานสภานักเรียน
และแผนการเรียน - งานจดั ทาผลการเรยี น - งานวจิ ยั ในชนั้ เรยี น
- งานกลมุ่ สาระการ - งานเอกสารประจาตวั - งานแสดงผลงาน - งานลงทะเบียน - งานบร้ิ ารจดั การ - งานไฟฟา้ นา้ ประปา สาคญั - งานรักษาดินแดน - งานวนิ ยั นกั เรยี น
เรยี นรู้ นักเรียน ประจาปี
- งานจดั การเรียนการ - งานเทคโนโลยี - งานครูประจาชั้น - งานเอกสารการพมิ พ์ งบประมาณเรยี นฟรี - งานซอ่ มบารงุ - งานกิจกรรมกีฬา - งานลูกเสอื ฯ - งานพยาบาล
สอนและการสอบ สารสนเทศ - งานอนื่ ๆ ท่ีได้รบั
- งานประกนั คณุ ภาพ - งานอืน่ ๆ ทไ่ี ด้รับ มอบ้มาย - งานเบกิ จา่ ยวัสดุ 15 ปอี ย่างมีคณุ ภาพ - งานสารวจและทาบัญชี และนนั ทนาการ - งานกจิ กรรมศิษยเ์ กา่ - งานประกัน
การศกึ ษา มอบ้มาย
- งานนิเทศการสอน ครุภณั ฑ์ - งานจดั ซอื้ /จัดจ้าง วัสดคุ รภุ ณั ฑ์ - งานกจิ กรรมชมรม - งานร่วมมอื กับชมุ ชน อุบตั ิเ้ตุ
- งานฝึกประสบการณ์
วิชาชีพครู - งานบคุ ลากร - งานรบั นักเรียนใ้ม่ - งานภูมทิ ัศน์ - งานกิจกรรมเชดิ ชู - งานอนื่ ๆ ท่ีได้รับ - งานวทิ ยบริการ
- งานอ่นื ๆ ท่ไี ด้รับ
มอบ้มาย - งานชมรมผู้ปกครอง - งานอน่ื ๆ ที่ไดร้ บั - งานรักษาความสะอาด เกียรติ มอบ้มาย - งานอื่น ๆ ทีไ่ ดร้ ับ

และครู มอบ้มาย - งานรักษาความปลอดภยั - งานอ่ืน ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบ้มาย

- งานปฏิคม - งานโสตทศั นูปกรณ์ มอบ้มาย

- งานวิเทศสมั พันธ์ - งานอ่ืน ๆ ทไ่ี ดร้ บั

- งานอนื่ ๆ ท่ไี ด้รบั มอบ้มาย

มอบ้มาย

ทาเนียบผู้บริหารโรงเรยี นสาธติ มัธยม

1. อาจารยอ์ รธิรา บวั พมิ พ์ พ.ศ. 2528 – 2532
2. อาจารย์ ว่าท่ี ร.ต.ดาวเรอื ง เรืองมณี พ.ศ. 2532 – 2534
3. อาจารยอ์ รธิรา บัวพิมพ์ พ.ศ. 2534 – 2538
4. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์บุญเชิด รตั นานันท์ พ.ศ. 2538 – 2546
5. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์สวุ ฒั น์ ทบั ทมิ เจือ พ.ศ. 2546 – 2548
6. ผชู้ ่วยศาสตราจารยพ์ นิ พง สตั ยพนั ธ์ พ.ศ. 2548 – 2552
7. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยส์ วุ ัฒน์ ทบั ทิมเจือ พ.ศ. 2552 – 2560
8. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สวุ ิทย์ ไวยกุล พ.ศ. 2560 – 2562

9. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ปยิ ะ มอี นนั ต์ พ.ศ. 2562 – ปจั จบุ นั

คณะผู้บริหารโรงเรียน

ผู้ช่วยศาสตราจารยป์ ยิ ะ มีอนนั ต์

ผู้อานวยการโรงเรยี นสาธติ มัธยม

อาจารยศ์ กั ดา จนั ทราศรี

รองผู้อานวยการโรงเรยี นสาธติ มธั ยม

อาจารยพ์ ิศาล สีสด

รองผ้อู านวยการโรงเรยี นสาธติ มัธยม

อาจารย์สุนยี ์ มณีโชติ

ผ้ชู ว่ ยผู้อานวยการโรงเรียนสาธติ มธั ยม

อาจารย์พิเชษฐ์ อยสู่ ด

ผูช้ ่วยผูอ้ านวยการโรงเรียนสาธิตมธั ยม



ส่วนที่ 2

____________________________________________________________

วิสยั ทศั น์ ยทุ ธศาสตร์
การบริ้ารงานโรงเรยี นสาธติ มัธยม



บริบททั่วไปของโรงเรียน

โรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (Laboratory School of Phranakhon
Si Ayutthaya Rajabhat University) สังกัดคณะครุศาสตร์ ม้าวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นโรงเรียนประเภทส้ศึกษาขนาดกลาง มีการ
จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาผู้เรียนใ้้มีความเป็นผ้นู าในการสร้างสรรค์โลกท่ีมี้ัวใจประชาธปิ ไตย กล้าแสดงออก
มีทักษะชีวิต คิดเชิงบวก สามารถส่ือสารได้ในระดับนานาชาติ เป็นพลเมืองไทย และพลเมืองโลกท่ีมีความสขุ
อย่างยั่งยืน และยังมีบทบาท้รือ้น้าท่ีท่ีสาคัญคือเตรียมผู้เรียน้รือเยาวชนใ้้เป็นผู้ใ้ญ่ที่ดี สามารถ
ดารงชวี ิตอยใู่ นสังคมอย่างมคี วามสุข

บทบาทที่นอกเ้นือจากการเรียนการสอนอันเป็น้น้าท่ี้ลักของโรงเรียนทั่วไป คือการฝึกสอน
การสาธิตการสอน การสังเกตการณ์สอน การทดลองและการวิจัย โดยการจัดการเรียนการสอนของ
โรงเรียนสาธิตน้ัน ยังมีจุดมุ่ง้มายท่ีจะสั่งสอนและฝึกฝนใ้้นักเรียนมีการพัฒนาทางร่างกายและทางจิตใจ
มีพลานามัยท่ีสมบูรณ์ และจิตใจผ่องใสมีความสุข รู้จักใช้วิจารณญาณ มีเ้ตุผล สามารถแก้ไขปัญ้าในทาง
ท่ีถูกทีค่ วร มีความคดิ สร้างสรรค์ควบคมุ และพฒั นาอารมณใ์ ้้ถกู ต้อง รจู้ ักปฏิบัตติ นและปรบั ตัวเข้ากบั ผู้อ่ืนได้
ตลอดจนส่งเสริมใ้้ผู้เรียนได้รับความรู้อย่างเต็มท่ี และสามารถค้นคว้า้าความรู้เพิ่มเติมได้ สา้รับบทบาท
ของโรงเรียนสาธิตในการนาการเปล่ียนแปลงการศึกษาไทย จากการปฏิรูปการศึกษา ที่ผ่านมาน้ันเป็นการ
ปฏิรูปโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการเป็นส่วนมาก ไม่ได้เป็นการปฏิรูปการศึกษาอย่างเ้็นได้ชัด ดังน้ัน
โรงเรียนสาธิตจึงต้องมีบทบาทในการนาการเปล่ียนแปลงการศึกษาเพ่ือสร้ างคุณภาพการศึกษา
สร้างทรัพยากรมนุษย์ ที่เป็นคนเก่ง ดี และคนฉลาดในการสร้างความม่ังค่ังใ้้กับประเทศชาติ และการที่
โรงเรียนสาธิตอยู่ภายใต้กากับของคณะครุศาสตร์ ถือว่ามีปัจจัยท่ีดีกว่าโรงเรียนอ่ืน ๆ และในฐานะที่
โรงเรียนสาธิตเป็นสถาบันการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีมีพันธกิจในการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยต้องยึด้ลักว่า
ผู้เรียนทกุ คนมคี วามสามารถเรียนรูแ้ ละพฒั นาตนเองได้ และถอื ว่าผู้เรียนมีความสาคญั ทสี่ ุด

ท้ังนี้ในการบริ้ารโรงเรียนสาธติ ้รือการบริ้ารการศึกษาในโรงเรยี น ผู้บริ้ารต้องมีบทบาทอย่างยงิ่
โดยเฉพาะในกจิ กรรมต่าง ๆ ทบ่ี คุ คล้ลายคนร่วมมือกนั ดาเนนิ การเพื่อพฒั นาสมาชิกของสังคมในทกุ ๆ ด้าน
นับต้ังแต่บุคลิกภาพ ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมและคุณธรรม เพื่อใ้้มีค่านิยมตรงกับความต้องการ
ของ สังคม โดยกระบวนการต่าง ๆ ที่อาศัยการควบคุมส่ิงแวดล้อมใ้้มีผลต่อบุคคลและอาศัยทรัพยากร
ตลอดจน เทคนิคต่าง ๆ อย่างเ้มาะสม เพ่ือใ้้ผู้เรียนพัฒนาไปตรงตามเป้า้มายของสังคมที่ดาเนินชีวิตอยู่
นอกจากน้ี ผู้บริ้ารต้องมีบทบาทในการ สนับสนุนใ้้มีการสร้างสรรค์วัฒนธรรมในทางบวก และสร้าง
วัฒนธรรมโรงเรียนโดยรวมใ้้เอื้อต่อการเรียนการ สอน เช่น สร้างความม่ันใจว่าการจัดการศึกษา
ของโรงเรียนสาธิตมีคุณภาพเชื่อถือได้ จัดสภาพแวดล้อมใ้้เ้มาะสม และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน
มีความปลอดภัย และเอ้ือต่อการเรียนรู้ การสร้างบรรยากาศท่ีสนับสนุนความสาเร็จในการเรียนรู้ สร้าง
ตัวแบบการปฏิบัติงานที่ดี มีการช่ืนชมในความสาเร็จและก้าว้น้าของนักเรียนและบุคลากร ต้องใ้้
ความสาคัญและส่งเสริมใ้้การจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน (ทั้งในและนอก้้องเรียน) การบริ้ารโรงเรียน
ทีเ่ สรมิ สรา้ งใ้เ้ กดิ บรรยากาศการเรยี นรู้ อย่างมีความสขุ และสนกุ สนาน

จัดการศึกษาโดยมุ่งสร้างเสริมคุณภาพของนักเรียนใ้้เป็นผู้รอบรู้ในวิทยาการ ต่าง ๆ มีระเบียบวินัย
มีความขยัน้มั่นเพียร ประ้ยัด และอดออมเข้มแข็ง เด็ดเด่ียว และ ขณะเดียวกัน ก็สุภาพอ่อนโยน สามารถ
ดารงชีวิตและทาประโยชน์ใ้้แก่สังคมได้ ตลอดจนตระ้นักถึงความอยู่รอดปลอดภัย ความมั่ นคง
และความผาสุกร่วมกันในสังคมไทย เพื่อใ้้บรรลุตามเป้าประสงค์ดังกล่าว โรงเรียนได้วางแนวทางการ
พฒั นาศกั ยภาพของโรงเรยี นสาธติ มัธยม ดังนี้

แนวทางการพัฒนาศักยภาพของโรงเรียนสาธิตมธั ยม

ประเด็นกลยุทธท์ ่ี 1 : โรงเรียนตน้ แบบการพฒั นาคุณภาพการศึกษา

1. พัฒนา้ลักสตู รเฉพาะของโรงเรยี นโดยองิ ผลงานวิจัยทางวิชาการ
2. การพฒั นาศกั ยภาพผเู้ รยี น ดว้ ยทักษะการเรยี นรู้ท่ีจาเปน็ ในศตวรรษที่ 21
3. การจดั ระบบการศกึ ษาแบบมสี ่วนร่วม
4. สร้างเครือขา่ ยความร่วมมือกับผมู้ สี ่วนเกย่ี วข้องในการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นใ้้มีความเข้มแข็ง
มีส่วนรบั ผิดชอบต่อการจดั การศึกษา และการขับเคล่อื นคณุ ภาพการจดั การศึกษา
5. ส่งเสริมใ้้มีกิจกรรมการเรียนการสอนท้ังในและนอก้้องเรียน ที่สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
ความมีวินัย การมีจิตสาธารณะ รวมทั้งเร่งสร้างสภาพแวดล้อมทั้งภายในและโดยรอบสถานศึกษา
ใ้้ปลอดภัยจากอบายมุขอยา่ งจริงจัง

ประเดน็ กลยุทธท์ ี่ 2 : สนับสนุนการวิจัยและพฒั นา

1. ส่งเสริมและสนับสนุนใ้้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ทางานวิจัย ผลิตส่ือ และสร้างสรรค์
นวัตกรรมทางการศกึ ษาท่ที ันสมยั

2. ส่งเสริมและสนับสนุนใ้้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ใ้้รับการพัฒนาศักยภาพใ้้สูงขึ้น
ในด้านการสอน และด้านคุณธรรม จริยธรรม

3. สง่ เสริมและพัฒนาการสร้างความร่วมมือกบั เครอื ข่าย สถานประกอบการ ชมุ ชน และองค์กรต่าง ๆ

ประเด็นกลยทุ ธ์ที่ 3 : สง่ เสริมคุณภาพผ้เู รยี นและบุคลากรทางการศกึ ษา

1. พัฒนาบุคลากรใ้้มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ความสามารถทางด้านภูมิปัญญาท้องถน่ิ
รวมท้งั ทานบุ ารงุ ศิลปะวฒั นธรรมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

2. มีการประกันคุณภาพภายในและภายนอกทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ
3. ส่งเสริมใ้้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีสูงข้ึน นักเรียนกล้าแสดงออก ร่าเริง แจ่มใส สุขภาพ
ร่างกายแข็งแรง มีระเบียบวนิ ัย ตามปรัชญาของโรงเรียน “ความรูเ้ ดน่ บคุ ลิกภาพดี มีคุณธรรม นาสงั คม”

ประเด็นกลยทุ ธ์ที่ 4 : การบร้ิ ารจดั การองคก์ รสสู่ ังคม

1. พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาใ้้มีความมุ่งมั่น มี้ลักการบริ้ารการสอนที่มีมาตรฐานสูง และมี
ศักยภาพในการปฏิบัติราชการตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน คือ “ต้นแบบการศึกษา ก้าว้น้านวัตกรรม
สร้างคนดมี คี ณุ ธรรม นาสงั คมพฒั นา

2. พัฒนาการบริ้ารจัดการของผู้บริ้ารใ้้มีความมุ่งมั่น ในการบริ้ารงานตาม้ลักธรรมาภิบาล
สามารถเป็นแบบอย่างท่ีดีในการทางาน และสามารถบริ้ารจดั การโรงเรียนอย่างเป็นระบบ มีเทคนิคการ
บริ้ารจดั การใน้ลายรปู แบบ

3. เปดิ โอกาสใ้้ผปู้ กครองไดม้ ีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเ้น็ ในการจัดการศึกษาเพือ่ พฒั นาผู้เรียน

แนวทางการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นสาธิตมัธยม

จัดการศึกษาโดยมุ่งสร้างเสริมคุณภาพของนักเรียนใ้้เป็นผู้รอบรู้ในวิทยาการ ต่าง ๆ มีระเบียบวินัย
มีความขยัน้ม่ันเพียร ประ้ยัด และอดออมเข้มแข็ง เด็ดเด่ียว และขณะเดียวกันมีความสุภาพอ่อนโยน
สามารถดารงชีวิต และทาประโยชน์ใ้้แก่สังคมได้ ตลอดจนตระ้นักถึงความอยู่รอดปลอดภัย ความมั่นคง
และความผาสุกร่วมกันในสังคมไทย เพื่อใ้้บรรลุตามเป้าประสงค์ดังกล่าว โรงเรียนจึงได้วางแนวทางในการ
จดั การศึกษาแก่นกั เรยี น ดงั นี้

1. ด้านการเรียนรู้ นอกจากจะมุ่งจัดการเรียนการสอนใ้้นักเรียนได้รับความรู้เต็มตามที่กา้นดไว้
ใน้ลักสูตรแกนกลางและ้ลักสตู รของสถานศกึ ษาแลว้ ยงั จะมุ่งใ้้เกิดสง่ิ ต่อไปนี้ คอื

1.1 ใ้้นักเรียนมีความรู้กว้างขวางออกไปอีก โดยเฉพาะใ้้รู้เรื่องเก่ียวกับสภาพของส่ิงแวดล้อม
ปัญ้าของชาติ ความก้าว้น้าทางวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพ่ือใ้้นักเรียน
รู้จักตนเอง และมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม อนั จะนาไปส่กู ารพฒั นาตนและสังคมในทีส่ ุด

1.2 ใ้้นักเรียนมีความสามารถและเจตคติในการศึกษาค้นคว้า้าความรู้ด้วยตนเอง ฝึกฝนใ้้เรียนรู้
วธิ กี ารแสวง้าความรู้

1.3 ใ้้นักเรียนมีทักษะในการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันโดยเฉพาะในเร่ืองของภาษา
คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยี

1.4 ใ้้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน และการค้นคว้า ดังน้ันวิธีการจัดการเรียนการสอนนอกจากจะใช้
ภาษาเป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะ เจตคติ โดยเน้นใ้้นักเรียน ได้อ่าน ได้ฟัง ได้เขียน
และได้กล้าแสดงความคิดเ้็นแล้ว ยังต้องเสนอโดยวิธีการสาธิตใ้้ดูตัวอย่าง และปฏิบัติจาก
ของจริงควบคู่กันไปโดยใช้ นวัตกรรรมและเทคโนโลยีเข้าช่วยท้ังด้านทฤษฎี การสอน ข้อมูล
และสภาพขอ้ เท็จจรงิ ในสังคม ผลการค้นควา้ วจิ ยั โสตทศั นูปกรณแ์ ละโสต ทศั นศึกษา

1.5 ใ้้นักเรียนรู้จักการแก้ปัญ้า มีความคิดริเริ่ม รู้จักช่วยตนเอง ทางานร่วมกันเป็น้มู่คณะ ฉะน้ัน
ในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนจะเน้นกระบวนการกลุ่ม

2. ดา้ นคณุ ธรรม ใ้้มีการฝกึ และอบรมในเร่ือง คณุ ธรรม กริ ิยามารยาทและความประพฤติ เพ่อื ใ้้เปน็ ผู้ท่ี
มีมีศีลธรรมอันดีงามตาม้ลักของศาสนาที่ตนนับถือ ใ้้มีกิริยามารยาทดี ท้ังกาย วาจา โดยยึดแบบแผน
ตามวัฒนธรรมไทย แต่ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมใ้้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงกฎของธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
อย่างถูกวิธี ท้ังน้ีเพ่ือใ้้นักเรียนมีความเจริญงอกงามในทุก ๆ ด้าน ครบถ้วนและกลมกลืนกันระ้ว่าง
ความเจริญงอกงามทางคุณธรรม จริยธรรม และปัญญาธรรมกับความเจริญงอกงามทางวัตถุธรรม และ
ระ้ว่างความเจรญิ งอกงามทางร่างกายและจติ ใจ เพือ่ การดารงชีวิตทส่ี มบูรณ์ตามสภาพการณ์ท่เี ปลย่ี นแปลง
อยู่ตลอดเวลา

3. ด้านบุคลิกภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมใ้้นักเรียนได้แสดงความสามารถในด้านต่าง ๆ เช่น การเล่นกีฬา
การสรา้ งสรรคด์ า้ นสนุ ทรียภาพ และการเข้าสมาคม

3.1 ด้านกีฬา นักเรียนจะต้องเล่นกีฬาทุกคนและต้องฝึกฝนด้านกีฬาท่ีตนเองมีความถนัดและสนใจ
อย่างนอ้ ยคนละ 1 ชนิด

3.2 ด้านสุนทรียภาพ นักเรียนจะต้องได้รับการฝึกใ้้มีความสามารถ พิเศษในด้านดนตรี ขับร้อง
นาฏศิลป์ การละคร วาดภาพ ้รอื ศลิ ปะแขนงอื่น ๆ อย่างนอ้ ย คนละ 1 ด้าน

3.3 ด้านการเข้าสมาคม นักเรียนจะได้รับการฝึกใ้้รู้จักการเข้าสมาคมในวาระและโอกาสต่าง ๆ กัน
เช่น การเข้าสมาคมกับคนรุ่นเดียวกัน การเข้าสมาคมกับ ครู อาจารย์ และการเข้าสมาคมกับ
ผปู้ กครอง้รอื ผใู้ ้ญ่โดยท่ัวไป

แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพของนักเรียน

1. ดา้ นความรูเ้ ด่น

1.1 สามารถใชภ้ าษาและเทคโนโลยีในการส่ือสารและสืบค้นได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ
1.2 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะ้์ เลอื กสรรและดาเนนิ ชีวิตได้ถกู ต้อง
1.3 มีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ มีวิสยั ทัศนก์ วา้ งไกล มกี ระบวนการในการแสวง้าความรู้

อย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล

2. ดา้ นบุคลิกภาพดี

2.1 รู้จกั ตนเอง มีความภมู ิใจในตนเอง พดู จาดี มกี ริ ิยามารยาทและการแตง่ กายเ้มาะสม
2.2 เป็นคนทันสมยั มคี วามเปน็ สากล แต่คงไว้ซ่ึงเอกลกั ษณ์ของความเปน็ คนไทย
2.3 มคี วามมั่นคงทางอารมณ์ ปฏบิ ัตติ ัวไดด้ ี มมี นุษยสมั พนั ธท์ ี่ดี

3. ดา้ นคณุ ธรรม

3.1 มีระเบียบวินัย มีความรบั ผดิ ชอบสงู เ้น็ แก่ประโยชน์ส่วนรวมเทา่ เทยี มกับเ้็นแก่
ประโยชน์สว่ นตน

3.2 มคี วามซื่อสัตย์ สจุ ริต มีความกตัญญกู ตเวที มีความเมตตากรุณา เออื้ เฟ้อื เผอื่ แผ่
3.3 รรู้ ักสามัคคี มีจติ สาธารณะ ดารงชีวติ อย่างพอเพียง

4. ด้านสังคม

4.1 ปฏบิ ัติงานตามบทบาท้นา้ ที่ และมคี วามรบั ผดิ ชอบของตนเองได้
4.2 มีภาวะความเปน็ ผนู้ า ใ้เ้ กยี รติ และเคารพในความเปน็ มนษุ ย์ของบุคคลอนื่
4.3 มีจติ สานกึ และมีสว่ นรว่ มในการปกป้องสงั คม และประเทศชาติ

5. มที ักษะของเด็กไทยในศตวรรษท่ี 21 และการเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ภายใต้หลักการ การเรยี นรู้ 3R x 8C

3R คอื Reading (อา่ นออก), Writing (เขียนได้), และ Arithemetics (คิดเลขเป็น) 8C ไดแ้ ก่

Critical Thinking and Problem Solving : มีทักษะในการคิดวิเคราะ้์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
และแกไ้ ขปัญ้าได้

Creativity and Innovation : คิดอย่างสรา้ งสรรค์ คดิ เชิงนวตั กรรม
Collaboration Teamwork and Leadership : ความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา
Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการสื่อสาร และการรูเ้ ท่าทันสอ่ื
Cross-cultural Understanding : ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคิดข้าม
วฒั นธรรม
Computing and ICT Literacy : ทกั ษะการใชค้ อมพวิ เตอร์ และการรเู้ ท่าทันเทคโนโลยี ซ่ึงเยาวชนใน
ยุคปัจจุบันมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอย่างมาก้รือเป็น Native Digital ส่วนคนรุ่นเก่า
้รอื ผ้สู งู อายุเปรียบเสมอื นเป็น Immigrant Digital แตเ่ ราต้องไม่อายท่จี ะเรยี นรู้แม้วา่ จะสงู อายุแล้วก็ตาม
Career and Learning Skills : ทักษะทางอาชพี และการเรยี นรู้
Compassion : มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย ซ่ึงเป็นคุณลักษณะพื้นฐานสาคัญของทักษะ
ข้ันต้นทัง้ ้มด และเปน็ คุณลักษณะท่ีเด็กไทยจาเปน็ ต้องมี

แนวคิดทักษะแ้่งอนาคตใ้ม่ : การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 และกรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษ
ท่ี 21 การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 เป็นการกา้นดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ โดยร่วมกันสร้าง
รูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นที่องค์
ความรู้ ทักษะ ความเช่ียวชาญและสมรรถนะท่ีเกิดกับตัวผู้เรียน เพ่ือใช้ในการดารงชีวิตในสังคมแ้่งความ
เปลี่ยนแปลงในปจั จุบัน

6. ดา้ นความซอื่ สตั ย์ ขยนั อดทน อาสา

มีประพฤติตรงและจริงใจ ไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกงและไม่้ลอกลวง ขยันในการทางานอย่างแข็งขัน ไม่
ปล่อยปละละเลย ทา้รือประพฤติ เป็นปรกติอย่างสม่าเสมอ มีความอดทน ยอมรับสภาพความ ลาบาก มุ่งสู้
งาน อาสา มีจิตใจโอบอ้อมอารี เอ้อื เฟอื้ เผื่อแผ่ และยนิ ดีชว่ ยเ้ลือผู้อ่นื

7. การสรา้ งสงั คมดี สามัคคี ปลอดภัย

คือสังคมที่อบอุ่น มีความรักและความเอ้ืออาทรต่อกัน ปกป้องดูแลช่วยเ้ลือกัน มีความคิดเ้็นแตกต่าง
กนั ไดแ้ ตไ่ ม่แตกแยก ตดั สนิ ปญั ้าตา่ ง ๆ ร่วมกันอยา่ งมเี ้ตุมผี ล เข้าใจ เข้าถึงและใ้้อภัย

ผลผลิต

1. ดา้ นความรู้

1.1 นกั เรียนใช้ภาษาและเทคโนโลยใี นการส่อื สารและสบื คน้ ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
1.2 นกั เรยี นมีความสามารถในการคดิ วเิ คราะ้์ เลอื กสรร และดาเนินชวี ิตได้ถูกต้อง
1.3 นกั เรียนมีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ มีวสิ ยั ทัศนก์ วา้ งไกล มีกระบวนการในการแสวง้าความรู้

อย่างเปน็ ระบบ

2. ด้านบคุ ลกิ ภาพ

2.1 นกั เรยี นมีความรจู้ ักตนเอง มีความภมู ิใจในตนเอง พูดจาดี มกี ิรยิ ามารยาทและการแต่งกาย
เ้มาะสม

2.2 นักเรยี นเปน็ คนทนั สมยั มคี วามเป็นสากล แต่คงไวซ้ ึง่ เอกลกั ษณข์ องความเปน็ คนไทย
2.3 นักเรียนมีความม่ันคงทางอารมณ์ ปรบั ตวั ไดด้ ี มมี นุษยสมั พันธท์ ี่ดี

3. ด้านคุณธรรม

3.1 นกั เรียนมีระเบียบวนิ ยั มคี วามรบั ผิดชอบสงู เ้น็ แกป่ ระโยชน์ส่วนรวมเท่าเทียมกับเ้น็ แก่
ประโยชน์สว่ นตน

3.2 นักเรียนมีความซอื่ สตั ย์สจุ รติ มีความกตญั ญูกตเวที มีความเมตตากรณุ า เอื้อเฟอ้ื เผอื่ แผ่
3.3 นกั เรียนมคี วามร้รู ักสามัคคี มีจิตสาธารณะ ดารงชีวติ อยา่ งพอเพียง

4. ดา้ นสังคม

4.1 นกั เรยี นปฏิบัตงิ านตามบทบาท้น้าทแี่ ละมีความรับผิดชอบ
4.2 นักเรยี นมีภาวะผนู้ า ใ้เ้ กียรติ และเคารพในความเปน็ คนของบุคคลอน่ื
4.3 นักเรยี นมจี ิตสานกึ และมีสว่ นร่วมในการปกป้องสงั คมและประเทศไทย



ส่วนที่ 3

____________________________________________________________

ระเบยี บโรงเรียน การศกึ ษาตอ่ และ้ลักสูตร
โรงเรียนสาธติ มธั ยม ม้าวทิ ยาลยั ราชภัฏ
พระนครศรอี ยุธยา



ระเบียบปฏิบตั ขิ องนักเรยี นโรงเรียนสาธติ มัธยม

การแต่งกาย

1. นักเรียนชาย

1.1 ทรงผม เปน็ แบบทรงผมสน้ั เกรยี นทรงนักเรยี น ้รือแบบรองทรงสูงด้าน้ลงั ต้องไม่ตา่ กว่า
กงึ่ กลางใบู้ ผมดา้ น้น้ายาวไม่เกนิ 5 เซนติเมตร ้า้ มไวจ้ อนไว้้นวด ้้ามตัดผมตามแฟชน่ั
้้ามทาสผี ม ้า้ มแต่งผมดว้ ยเครือ่ งสาอางแต่งผม

1.2 เสื้อ เส้ือเช้ติ ผ้าขาวเกล้ยี ง ไม่บางจนเกนิ ไป ไม่มีลวดลาย ตัดตวั ตรง ไม่รดั รูป ปลายแขนไม่ผ่า
เวลาสวมไมพ่ ับแขน และใ้เ้ ก็บชายเส้ือไวใ้ นกางเกง ต้องเ้็นเข็มขัด นักเรียนชายระดบั ชั้น
มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ปักเครื่อง้มายโรงเรยี นทกี่ ระเป๋าเส้อื ด้านซา้ ยด้วยด้ายสีกรมทา่ นักเรียน
ชายระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย ตดิ เขม็ ตรา พระราชลัญจกรสีเงินท่ีอกเส้ือด้านซา้ ย (ไมต่ ้องมี
เครือ่ ง้มายโรงเรยี นทก่ี ระเป๋าเสื้อ) ปักชื่อท่ี้นา้ อกเส้ือดา้ นขวา ขนาด 0.5 – 1.0 ซม. และปัก
สัญลกั ษณ์แสดงระดับช้ันตามที่โรงเรียนกา้นด ดว้ ยด้ายสีกรมทา่

1.3 กางเกง ขาสั้นสดี า ยาวเ้นือเข่า พน้ กลางลูกสะบา้ ประมาณ 5 ซม. มีกระเป๋าดา้ นข้าง ๆ ละ 1
กระเป๋า ไม่มีกระเป๋า้ลัง

1.4 เข็มขดั เป็น้นงั สีดาแบบนกั เรียน ้ัวเข็มขดั เปน็ โล้ะสีเงนิ เป็นตราของโรงเรยี น
1.5 ถงุ เท้า ถุงเท้านักเรยี นแบบยาวสขี าวไมม่ ลี วดลาย พับเ้นือข้อเท้า (ไมใ่ ชถ้ งุ เท้าทาดว้ ยผ้าลกู ฟกู )
1.6 รองเทา้ ใช้รองเทา้ ้นงั เรียบสีดา้ัวมน้มุ้ สน้ ขดั มนั ชนดิ ผกู ไม่มลี วดลาย้รอื สอี ื่นปน เชือกร้อย

เป็นสีดา

เม่อื อยใู่ นเครอ่ื งแบบนักเรียน ให้ใสร่ องเทา้ หนงั สดี าเทา่ น้นั หา้ มใส่รองเทา้ ผ้าใบสขี าว

2. นกั เรียนหญงิ

2.1 ทรงผม ถ้าผมสน้ั ต้องเปน็ ทรงบ๊อบ ้้ามซอยผมเดด็ ขาด ความยาวไม่ประปกเส้ือ ถ้าไวผ้ มยาว
ต้องรวบใ้เ้ รยี บร้อย ้า้ มทาสผี ม ้้ามสไลดผ์ ม และเก็บผม้น้าใ้้เรียบร้อย

โบว์ : ผูกผมเปน็ สดี าแบบเรียบไมม่ ีลวดลาย
กบิ๊ เหนบ็ ผม : ใชไ้ ด้เฉพาะสีดา้รือสเี งนิ แบบเรียบบางเท่านัน้

้า้ มใช้ที่คาดผม ้วสี บั ้รอื ส่ิงอนื่ เดด็ ขาด

2.2 เสื้อ ใช้ผ้าขาวเกล้ียง ไม่บางจนเกินไป ไม่มีลวดลาย ปกบัวมนแขนสั้นเ้นือข้อศอกพองาม
นักเรียน้ญิงช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น ด้าน้น้าเป็นสาบโปโล สวมศีรษะติด กระดุม 3 – 4 เม็ด
อกเสือ้ ดา้ นซ้ายมกี ระเปา๋ ทป่ี กั เคร่ือง้มายโรงเรียนดว้ ยดา้ ยสกี รมทา่ นักเรยี น้ญิงชน้ั มัธยมศึกษา
ตอนปลาย เส้ือเป็นกระดุมผ่า้น้า และติดเข็มตราพระราชลัญจกร สีเงินท่ีอกเสื้อด้านซ้าย (ไม่มี
กระเป๋าเส้ือ) เวลาสวมใ้้เก็บชายเส้ือไว้ในกระโปรงและต้องเ้็น เข็มขัด ปักช่ือที่้น้าอกเสื้อ
ดา้ นขวา ขนาด 0.5 – 1.0 ซม. และปกั สญั ลักษณ์แสดงระดับชนั้ ตามท่ีโรงเรียนกา้นด ด้วยดา้ ย
สีกรมท่า และใ้้ใสเ่ สื้อซบั ในสขี าวเรียบ

2.3 โบว์ติดเส้อื นกั เรียน เปน็ โบว์สดี า (สเี ดยี วกับกระโปรง)
2.4 กระโปรง สดี าไม่มลี วดลายมีจบี สองขา้ ง้ันจบี ออกนอกตวั ดา้ นละ สามจีบ เ้มือนกันท้ัง

ดา้ น้น้าและดา้ น้ลงั ยาวเพียงคลุมเขา่ ไมร่ ัดตวั
2.5 เขม็ ขดั เปน็ ้นงั สีดาแบบนักเรยี น ้ัวเขม็ ขดั เป็นโล้ะสเี งนิ เป็นตราของโรงเรียน

(เฉพาะนกั เรยี น้ญิงระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย)
2.6 รองเท้า ใชร้ องเทา้ ้นงั สีดาุ้้มส้น ขัดมนั ้ัวมนชนดิ มสี ายรดั เท้าไม่มลี วดลาย ้รือสอี ่นื ปน
2.7 ถงุ เทา้ ถุงเทา้ นักเรยี นแบบยาวสขี าวไมม่ ีลวดลาย พับเ้นือขอ้ เท้า (ไม่ใช้ถุงเท้าทาด้วยผ้าลูกฟูก)

เมอื่ อยู่ในเครือ่ งแบบนกั เรียน ให้ใสร่ องเทา้ หนงั สีดาเทา่ นนั้ ห้ามใสร่ องเท้าผ้าใบสขี าว

เครอื่ งแบบพลศกึ ษา

1. เสอ้ื ใช้เส้อื โปโล ตรา และสขี องโรงเรียน (ต้องซ้ือจากโรงเรียนเทา่ น้ัน) และปักช่อื ท่อี กเส้อื ดา้ นขวา
ดว้ ยอักษรขนาดประมาณ 0.5 – 1.0 ซม. และปกั สัญลกั ษณ์แสดงระดับชัน้ ตามที่โรงเรียนกา้นดด้วย
ดา้ ยสกี รมท่า

2. กางเกง ใช้กางเกงขายาว (ชุดวอรม์ ) สีดาตามแบบของโรงเรียน
3. ถงุ เทา้ ถุงเท้านักเรยี นแบบยาวสีขาวไม่มลี วดลาย พับเ้นือข้อเท้า (ไม่ใชถ้ งุ เท้าทาดว้ ยผ้าลูกฟูก)
4. รองเท้า ใช้รองเทา้ ผ้าใบสขี าวลว้ น ไมม่ ีลวดลาย

การแตง่ กายในวนั ท่ีมีเรยี นพลศึกษา

1. ใ้ใ้ ส่เส้ือพลศกึ ษา (เสือ้ โปโลสีเทา)
2. นกั เรียนชายใ้ใ้ ส่กางเกงนักเรยี น (สีดา)
3. นกั เรียน้ญงิ ใ้ใ้ ส่กระโปรงนักเรยี น (สีดา)
4. ใ้ใ้ ส่รองเท้าผา้ ใบสขี าว (ตามระเบียบของโรงเรยี น)
5. ส่วนกางเกงวอร์มใ้น้ ามาเปลี่ยนและใสเ่ ฉพาะช่ัวโมงเรยี นพลศึกษาเทา่ นน้ั โรงเรยี นไม่อนุญาต

ใ้้ใส่กางเกงวอร์มเข้าเรยี นวชิ าอื่น
6. ในวนั ท่ไี ม่มีการเรยี นพลศึกษา โรงเรยี นไม่อนญุ าตใ้้นักเรียนใส่เสอ้ื โปโลสีเทา และรองเท้าผา้ ใบ

สีขาวมาโรงเรียนโดยเด็ดขาด

เคร่อื งประดับทอี่ นุญาต

1. โบวผ์ กู ผมสดี า แบบไมม่ ีลวดลาย
2. กิบ๊ เ้นบ็ ผมตามทโ่ี รงเรียนกา้นดเท่านัน้
3. ยางรดั ผมสดี าเรยี บ ไม่มลี วดลาย ไมใ่ ชย้ างรดั ผมแบบโดนัท
4. ต่างู้ อนุญาตใ้้ใสท่ ีเ่ ป็น้ว่ ง ไมม่ ตี ุ้งต้ิง
5. สร้อยคล้องคอที่มีความยาวพอเ้มาะ ไม่รัดคอ (ไม่อนุญาตใ้ใ้ สส่ รอ้ ยทอง)
6. นาฬกิ าสีสภุ าพ











1



ระเบียบขอ้ บังคบั ของนักเรียนโรงเรยี นสาธิตมัธยม

ระเบียบข้อบังคับ เป็นกฎท่ีโรงเรียนกา้นดไว้เพื่อเป็นบรรทัดฐานใ้้นักเรียนยึดปฏิบัติ เพ่ือใ้้เกิด
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมโรงเรียน นักเรียนทุกคน มีสิทธ์ิเท่าเทียมกัน ดังนั้นจึงควรยึดมั่นและ
ประพฤติตนใ้้ถูกต้องครบถ้วน ตามระเบียบ ข้อบังคับที่มีอยู่โดยเคร่งครัด ควรจดจาและมีจิตสานึกใน
กฎเกณฑ์เ้ลา่ นีอ้ ยูต่ ลอดเวลา เพ่อื ความสงบสุขของส่วนรวม

จรรยา มารยาทของนักเรยี นโรงเรยี นสาธิตมัธยม

1. นกั เรียนต้องมีความเคารพนบนอบเชื่อฟังคณุ ครูทกุ ท่านในโรงเรียน
2. นกั เรียนต้องเคารพเชื่อฟงั บิดา-มารดาผปู้ กครองและช่วยเ้ลืองานบา้ นตามศกั ยภาพของตน
3. นักเรียนต้องเป็นผู้มีมารยาทที่ดี มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดัง ้รือแสดงพฤติกรรมที่

ไมส่ ภุ าพ ทงั้ ดว้ ยวาจา และการกระทาตอ่ บุคคลอนื่ ทงั้ ภายในโรงเรยี นและภายนอกโรงเรียน
4. นกั เรียนตอ้ งรู้จกั กลา่ วคาวา่ “สวัสดี” “ขอบคณุ ” และ “ขอโทษ” ตามโอกาสอันเ้มาะสม
5. นกั เรียนตอ้ งขยนั ้ม่ันเพียร ตัง้ ใจศกึ ษาเลา่ เรยี น และขวนขวายใฝ้่ าความร้อู ยู่เสมอ
6. นักเรยี นต้องมีความซ่อื สตั ย์ สจุ ริต เสียสละ ไม่พดู ปด ไม่คดโกง ไมเ่ อาเปรียบบุคคลอืน่
7. นักเรยี นต้องรักษาความสามัคคใี น้มู่คณะ รนุ่ พต่ี ้องปฏบิ ัตติ นใ้เ้ ป็นตัวอย่างท่ีดีและเอื้ออาทรต่อ

รนุ่ น้อง และรุ่นน้องต้องรกั และเคารพรุน่ พี่
8. นกั เรียนตอ้ งเข้าใจในสิทธิและ้น้าทีข่ องตนเองและรู้จักเคารพในสทิ ธ้ิ น้าท่ีของบุคคลอนื่
9. นักเรียนต้องรู้จักมัธยัสถ์ไม่ใช้จ่ายเกินความจาเป็น (สุรุ่ยสุร่าย) ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่นาทรัพย์สินท่ีมีค่า

้รือเครื่องประดับที่มีราคาแพง (เช่น สร้อยทองคา แ้วน กาไล) ติดตัวมาโรงเรียน เพราะจะทา
ใ้้เกิดความไม่ปลอดภัยกับตัวนักเรียน และทางโรงเรียน จะไม่รับผิดชอบในกรณีเกิดความสูญ
้าย เสีย้ายต่อทรพั ย์สินดงั กลา่ ว
10. นักเรียนจะต้องแต่งกายสะอาดเรียบร้อย และถูกต้องตามระเบียบการแต่งกายของโรงเรียน
ท่ีกา้นดไว้
11. นักเรียนต้องช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของโรงเรียนตามท่ีได้รับมอบ้มาย และมี้น้าท่ีดูแล
ช่วยกันรกั ษาทรัพย์สนิ ของโรงเรียนไมใ่ ้เ้ กดิ ชารดุ เสีย้าย
12. นักเรียนต้องฝึกฝนตนเองใ้้เป็นท่ีตรงต่อเวลา เคารพ ปฏิบัติตามนัด้มายต่าง ๆ ของโรงเรียน
อย่างเครง่ ครดั และไมม่ าโรงเรียนสาย
13. นักเรียนทุกคนต้องประพฤติตนใ้้เ้มาะสมกับสภาพนักเรียน ต้องรักษาชื่อเสียง เกียรติยศของ
โรงเรยี นอยู่เสมอ
14. นกั เรียนต้องใ้้ความร่วมมือกบั โรงเรยี นในการทากิจกรรมต่าง ๆ และควรนาชอ่ื เสยี งมาสโู่ รงเรยี น
ด้วยการแสดงออกในทางท่ีดงี าม

การมาโรงเรียน และการออกนอกบริเวณโรงเรียน

1. นกั เรยี นตอ้ งมาโรงเรยี นใ้ท้ ันเคารพธงชาติ (เวลา 07.50 น.)
2. นักเรียนท่ีผู้ปกครองขับรถมาส่ง ขอใ้้ส่งที่จุดจอดรถตามท่ีโรงเรียนกา้นด เพ่ือความสะดวกใน

การใ้้บรกิ ารทางดา้ นจราจร
3. เม่ือได้ยินสัญญาณเข้าแถว นักเรียนทุกคนต้องยุติภารกิจอื่น ๆ แล้วไปเข้าแถวเคารพธงชาติตาม

สถานที่ทกี่ า้นดใ้้เรียบร้อย
4. การมาสาย ้มายถงึ นักเรยี นทม่ี าโรงเรียน้ลงั จาก “ธงชาติข้ึนสูย่ อดเสา” ถอื วา่ “มาสาย”
5. นกั เรยี นคนใดทมี่ าสายจะถูกลงโทษตามมาตรการของโรงเรยี น
6. เมื่อนักเรียนมาโรงเรียนแล้วจะออกนอกบริเวณโรงเรียนไม่ได้จนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน้รือได้รับ

อนุญาตเปน็ กรณพี เิ ศษ
7. กรณีตอ้ งการรับบัตรอนญุ าตออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นประเภทกลับเข้ามาใ้ม่ เมื่อนานกั เรยี นมาส่ง

ใ้น้ กั เรยี นนาบัตรน้ันมาแจง้ เขา้ ้อ้ งเรียนทฝ่ี ่ายกิจการนกั เรียนผมู้ ารับ ตอ้ งเปน็ ผู้ปกครองเท่านั้น
8. กรณีนักเรียนกลับบ้านเอง ไม่อนญุ าตใ้น้ ักเรยี นอย่ใู นบรเิ วณโรงเรียน้ลังเวลา 17.00 น.
9. ในกรณีท่ีนักเรียน มีเ้ตุจาเป็นต้องมาโรงเรียนเพื่อทากิจกรรมในวัน้ยุดราชการ จะต้องได้รับ

อนุญาตจาก ผู้อานวยการล่วง้น้าอย่างน้อย 1 วัน และต้องมีครูคอยดูแล ท้ังนี้ไม่อนุญาตอยู่ใน
บริเวณโรงเรียนเกิน 17.00 น. และตอ้ งแต่งกายดว้ ยชุดสภุ าพ

การแสดงความเคารพ

1. เมอื่ ครทู กุ ท่านเดนิ ผ่านในระยะใกลพ้ อสมควร ใ้น้ ักเรยี นแสดงความเคารพดว้ ย การไ้ว้
2. เมื่อนักเรียนเดินสวนทางกับครูทุกท่าน ใ้้แสดงความเคารพด้วยการไ้ว้ ้รือ้ยุดยืนตรง เมื่อครู

เดนิ ผ่านไปแลว้ จึงเดินต่อ
3. ไม่ควรเดินแซง้รือผ่าน้น้าครู้รือผู้ใ้ญ่ ้ากมีความจาเป็น ต้องกล่าวขออนุญาต ้รือขอโทษ

เสยี กอ่ น
4. ถ้ามคี รู้รือผู้ใ้ญ่เดนิ ตาม้ลงั นักเรยี นมาในระยะใกล้ ตอ้ ง้ยุดใ้้ครู้ รอื ผู้ใ้ญเ่ ดินไปกอ่ น
5. ถ้านักเรยี นเดินผา่ นครู้รือผใู้ ้ญ่ ในระยะทพ่ี อสมควร ใ้ก้ ม้ ศีรษะคอ้ มตัว แล้วเดนิ ผ่านไป
6. ลูกเสือ – เนตรนารี ้รือนักศึกษาวิชาท้ารที่อยู่ในเคร่ืองแบบใ้้ทาความเคารพตามระเบียบ

ลกู เสอื – เนตรนารี ้รอื นกั ศกึ ษาวิชาท้าร
7. เม่ืออยู่ภายนอกบริเวณโรงเรียน โปรดทาความเคารพครู้รือผู้ใ้ญ่ด้วยการไ้ว้ และกล่าวคาว่า

“สวัสดีครบั /คะ่ ”

การขาดเรยี น

1. นักเรียนที่ไม่มาโรงเรียนด้วยเ้ตุใดเ้ตุ้น่ึง ผู้ปกครองต้องแจ้งใ้้ทางโรงเรียนทราบด้วยตนเอง
้รือทางโทรศัพท์และมีจด้มายลาที่มีลายมือผู้ปกครองลงชอ่ื รับทราบ นามายื่น ก่อนการกลับเข้า
เรยี น นักเรียนต้องสง่ ใบลาไวท้ อ่ี าจารยท์ ี่ปรกึ ษาทกุ คร้ัง

2. นักเรยี นทล่ี าป่วยเกิน 3 วนั จะตอ้ งมใี บรับรองแพทย์มาแสดงพร้อมใบลา
3. ถ้าไม่มีเ้ตุจาเป็น ผู้ปกครองไม่ควรรับนักเรียนกลับบ้านก่อนโรงเรียนเลิก เน่ืองจากจะกระทบต่อ

เวลาเรยี น (วชิ าท่ีมีเวลาเรยี นไมถ่ งึ ร้อยละ 80 นกั เรยี นจะไมม่ สี ทิ ธสิ อบปลายภาคเรยี นวชิ านนั้ )
4. การขาดเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองทางโรงเรียนถือว่านกั เรียนผ้นู ั้น ้นีเรียน โรงเรียน

จะดาเนนิ การโดยเชิญผู้ปกครองมาพบอาจารยฝ์ ่ายปกครอง ทง้ั นนี้ กั เรยี นผูน้ ั้นจะไม่มีสิทธิ์เขา้ เรียน
จนกวา่ การพูดคุยกบั ผ้ปู กครองจะแลว้ เสร็จ
5. ในกรณีท่ีนักเรียนขาดเรียนติดต่อเกิน 3 วัน โดยไม่ได้รับการแจ้งจากผู้ปกครอง ทางโรงเรียนจะ
ดาเนินการโดยโทรศัพท์ติดต่อทางบ้าน เพ่ือสอบถามข้อมูลกับ ผู้ปกครองเมื่อนักเรียนกลับมาเรียน
จะต้องนาจด้มายลงลายมือช่ือผู้ปกครอง รับทราบใ้้กับอาจารย์ฝ่ายปกครอง เพ่ืออนุญาตใ้้
นกั เรียนเขา้ เรียนตามปกติ
6. กรณีผู้ปกครองต้องการรับนักเรียนกลับบ้านก่อนเวลาเลิกเรียน ใ้้ติดต่อกับฝ่าย กิจการนักเรียน
เพ่ือติดต่อกับอาจารย์และนักเรียน จากน้ันลงบันทึกวัน เดือน ปี ชื่อนักเรียน ช่ือผู้มารับกลับ เวลา
การรับกลบั จากนั้น นัง่ รอนักเรยี นที้่ ้องกจิ การนกั เรยี น

การมาโรงเรยี นสาย

นักเรียนท่ีมาไม่ทันเคารพธงชาติถือว่าสายจะถูกบันทึกการมาโรงเรียนสาย และนักเรียนที่มาสาย
ต้องไปรับแบบฟอร์มการขอเข้าช้ันเรียนท่ีฝ่ายปกครอง และดาเนินการตามข้ันตอนท่ีกา้นดใ้้เรียบร้อย
จึงจะเขา้ ชน้ั เรยี นได้

ตวั อย่างแบบบันทกึ การมาสาย

การมาพบหรือนาของมาให้นักเรยี น

1. ผู้ปกครองที่ต้องการพบ ้รือเยี่ยมนักเรียนในเวลาเรียน ้รือเวลาพักใ้้ติดต่อและรอพบที่้้อง
กิจการนักเรียนของโรงเรยี น ไมอ่ นุญาตใ้ผ้ ปู้ กครองไปพบนักเรียนที่้อ้ งเรียน

2. ถ้าผู้ปกครองท่ีจะติดต่อกับทางโรงเรียน ด้วยเร่ืองอื่นที่ไม่ใช่การมาพบนักเรียนใ้้แจ้งความ
ประสงคท์ ี่้้องธุรการของโรงเรยี น

การเคารพกฎระเบียบของโรงเรียน

1. ้้ามเลน่ การพนนั ้รอื การกระทาใด ๆ ที่มีลักษณะเขา้ ข่ายการพนนั
2. ้า้ มนกั เรยี น สูบบุ้ร่ี ด่ืมเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ และเสพยาเสพตดิ ทุกชนดิ
3. ้า้ มลักทรัพย์ ้รอื นาสง่ิ ของผ้อู ื่นมาเป็นของตนเองแมจ้ ะมคี ่าเพยี งเลก็ น้อย
4. ไมพ่ ดู คาโก้ก ไมพ่ ดู คา้ยาบ แสดงกริ ิยาก้าวร้าว ้รอื กระทากิริยาใด ๆ ทีไ่ มส่ ุภาพ
5. ไม่ก่อการทะเลาะวิวาท ทาร้ายร่างกายผู้อื่น ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนและไม่พกอาวุธมา

โรงเรียน
6. ไมป่ ระพฤตติ นเป็นอนั ธพาล เกเร ใชว้ าจาขม่ เ้ง้รอื ข่มข่ผู ้อู ่นื
7. ไมแ่ ตง่ ชดุ เคร่อื งแบบนกั เรยี นไปในสถานท่ที ่ีไม่เ้มาะสม
8. ไมป่ ระพฤติตนไปในทานองชู้สาว ถ้า้ากมี้ลักฐานแนช่ ัดวา่ นกั เรียนกระทาตนไม่เ้มาะสม ตาม

สภาพนักเรียน และประพฤติผิดไปในทานองชู้สาว โรงเรียนจะพิจารณาใ้้พ้นสภาพการเป็น
นกั เรยี นโรงเรียนสาธติ มธั ยมโดยทนั ที
9. ไม่แสดงอาการไมเ่ คารพ ลบ้ลู่ ก้าวรา้ ว ครผู ู้สอน เจ้า้น้าท่ี คนงาน และผ้ใู ้ญ่ทกุ ทา่ น
10. ้า้ ม้นเี รียน ้รอื ้ลบ้นีชั่วโมงเรยี น
11. ไม่ทุจรติ ในการสอบ
12. ไมท่ าลายทรพั ย์สินของผูอ้ น่ื และของโรงเรยี น
13. ไม่แตง่ กายผิดระเบียบของโรงเรยี น
14. ไม่ทาใ้้อาคารเรยี น และบรเิ วณโรงเรยี นสกปรก
15. ้า้ มนาอา้าร เครอ่ื งดื่ม ฯลฯ เข้าไปใน้อ้ งเรียน้รือข้นึ บนอาคารเรยี น
16. ้า้ มนาสอ่ื ลามกทกุ ชนิดเขา้ มาในโรงเรยี น
17. ไม่อนุญาตใ้ใ้ ช้โทรศัพท์มือถือในเวลาเรยี น นอกจากได้รบั อนุญาตจากอาจารยผ์ สู้ อนเท่าน้นั

การฝ่าฝนื ระเบียบ ข้อหา้ ม และการพจิ ารณา

เม่ือนักเรียนประพฤติ ้รือไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กา้นดไว้้รือฝ่าฝืนคาส่ัง และข้อ้้าม
สา้รบั นกั เรยี น โรงเรียนจะพจิ ารณาลงโทษตามควรแก่กรณี คอื

1. ตักเตือน ในกรณีท่ีนักเรียนประพฤติตนไม่เ้มาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน ทาความผิด
สถานเบา จะถูกตักเตือนด้วยวาจา ้รือจดบันทึกว่ากล่าวเป็นลายลกั ษณ์อักษร เพ่ือใ้้นักเรียน
มี โอกาสแก้ไขปรบั ปรงุ ตอ่ ไป

2. ภาคทัณฑ์และตัดคะแนนความประพฤติ ถ้า้ากนักเรียนประพฤติผิด และไม่เชื่อฟังการ
ตกั เตอื นจะถูกลงโทษดว้ ยการภาคทัณฑแ์ ละตัดคะแนนความประพฤติตามประเภทของความผิด
(้นกั – เบา)

3. ทาทัณฑ์บนโดยเชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อรับทราบ และใ้้ทาทัณฑ์บนไว้ เมื่อนักเรียนกระทา
ความผิดโดยเจตนา และฝ่าฝนื กฎระเบียบข้อบงั คบั ของโรงเรียนในครั้งต่อไป จะถกู ลงโทษตามท่ี
ตกลงไว้ และผู้ปกครองจะถูกเชิญมาพบเพื่อรับทราบ พร้อมกับใ้้คารับรองกับทางโรงเรียนว่า
จะควบคุมดูแลนักเรียนไม่ใ้้ประพฤติผดิ อีก และยินดีใ้้ พิจารณาโทษตามความเ้มาะสม้าก
เกิดกรณีเดมิ ขึน้ อกี

4. ให้พักการเรียน นักเรียนท่ีกระทาความผิดไม่เคารพกฎ และข้อ้้ามของทางโรงเรียนที่กา้นด
ไว้ และได้รับโทษดังกล่าวข้างต้นมาแล้วยังกระทาซ้าอีกจะถูกลงโทษใ้้พักการเรียน ตามท่ี
โรงเรียนเ้น็ สมควรแตไ่ มเ่ กนิ 7 วนั

5. ให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียน สา้รับกรณีความผิดร้ายแรงซ่ึงทางโรงเรียน พิจารณาแล้วว่า
นักเรียนที่กระทาผิดนั้นเม่ืออยู่ศึกษาต่อไป จะเป็นเย่ียงอย่างท่ีไม่ดีจะทาใ้้เกิดความเส่ือมเสีย
ชื่อเสียง และเกียรติภูมิของโรงเรียน จะถูกพิจารณาใ้้ออก้รือคัดชื่อออก และพ้นสภาพจาก
การเปน็ นักเรียนของโรงเรียนสาธติ ฯ ทันที

การพน้ สภาพการเป็นนักเรยี น

นักเรยี นจะถกู คดั ชอ่ื ออกจากทะเบยี นโรงเรียน และพน้ สภาพการเปน็ นกั เรียน จากกรณดี ังตอ่ ไปนี้
1. ลาออกเพื่อศกึ ษาต่อท่ีอ่นื
2. จบการศึกษา
3. เป็นโรคติดตอ่ ร้ายแรง (พจิ ารณาเปน็ รายกรณี)
4. ถงึ แกก่ รรม
5. ขาดเรียนติดต่อกันเป็นเวลา 7 วนั โดยไม่ไดต้ ดิ ต่อ้รอื แจ้งเ้ตุใ้ท้ าง

โรงเรียนทราบ้รอื โรงเรียนไม่สามารถติดต่อได้
6. นกั เรียนกระทาผิดเง่ือนไขสญั ญาที่ผู้ปกครองไดท้ าไวก้ ับทางโรงเรียน

้ลังจากทถี่ ูกภาคทัณฑ์ไวแ้ ลว้
7. ฝา่ ฝนื กฎระเบียบตา่ ง ๆ ของทางโรงเรยี นอย่างร้ายแรง
8. กระทาตนไปในทางท่ีทาใ้้เสอ่ื มเสยี ช่ือเสียง และเกียรติภมู ขิ องโรงเรียน

“นกั เรียนทกุ คนตอ้ งยดึ มน่ั ปฏิบัติตามระเบยี บ ขอ้ บังคับของทางโรงเรยี นโดยเครง่ ครดั ”

เกณฑ์การเข้าศึกษาตอ่ ในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

นักเรียนท่ีจบการศึกษาในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 แล้ว ทางโรงเรียนสาธิตมัธยม ม้าวิทยาลัย
ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ไม่มีข้อผูกพันว่านักเรียนจะมีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4
ทกุ คน โดยมีข้อปฏบิ ัติตามเง่อื นไข ดงั น้ี

1. นักเรียนท่มี คี วามประสงค์ จะเรียนในสายคณิตศาสตร์ – วิทยาศาสตร์

1.1 นักเรียนท่ีมีผลการเรียนเฉล่ียสะสมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึง
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 (รวม 6 ภาคเรียน) ต้ังแต่ 3.50 – 4.00 มีสิทธิ์เข้าเรียนได้ โดยไม่ต้องมี
การสอบคดั เลือก

1.2 นักเรียนที่มีผลการเรียนเฉล่ียสะสมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึง
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 (รวม 6 ภาคเรียน) ต้ังแต่ 2.80 – 3.49 ต้องสอบคัดเลือกเพื่อการจัด
อนั ดบั และจะเรียกเพ่ือการเข้าศึกษาต่อเท่าจานวนที่ต้องการ้รือทยี่ ังขาดอยู่ จากคะแนนสูงสุดไปยัง
คะแนนต่าสุดตามลาดับ

1.3 นักเรียนที่มีผลการเรียนเฉล่ียสะสมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึง
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 (รวม 6 ภาคเรียน) ตั้งแต่ 2.50– 2.79 ต้องสอบคัดเลือกเพ่ือ
การจัดอันดับ และจะเรียกเพื่อการเข้าศึกษาต่อเท่ากับจานวนท่ีนักเรียนในข้อ 1.1 และ 1.2
สละสทิ ธิ์ โดยเรยี กจากคะแนนสูงสุดไปยังคะแนนตา่ สุด ตามลาดับ

ท้ังน้ี นักเรียนท่ีมีคุณสมบัติตามข้อ 1.1 – 1.3 ท่ีมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ต้ังแต่ 2.50 - 4.00 ยังมีสิทธ์ิเข้าเรียนในสาย
คณิตศาสตร์ - ภาษาศาสตร์ ได้โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก (แต่ท้ังนี้จะใ้้สิทธิ์กับนักเรียนท่ีสมัครเรี ยน
คณิตศาสตร์ - ภาษาศาสตร์ โดยตรงก่อน) ยกเว้นแต่ว่าได้ทาการมอบตัวและลงทะเบียนเรียนในสาย
คณิตศาสตร์ - วทิ ยาศาสตร์ ไปแลว้ จะเปล่ยี นสายการเรียนภายหลงั ไม่ได้

2. นักเรียนที่มีความประสงค์ จะเรียนในสายคณิตศาสตร์ - ภาษาศาสตร์

2.1 นกั เรียนท่ีมผี ลการเรียนเฉล่ยี สะสมทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ในระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ถึงระดบั ชั้ม
มัธยมศึกษาปีที่ 3 (รวม 6 ภาคเรยี น) ตัง้ แต่ 2.50 – 4.00 มีสิทธ์ิเขา้ เรียนได้ โดยไม่ต้องมกี ารสอบ
คัดเลือก

2.2 นกั เรยี นทมี่ ีผลการเรยี นเฉล่ียสะสมในทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ไม่เป็นไปตามข้อ 2.1 ใ้เ้ ปน็ ไปตาม
นโยบาย้รอื อานาจการตัดสินใจของคณะกรรมการอานวยการโรงเรยี นสาธิต

3. วิชาที่ใช้สอบเพ่อื การคัดเลอื กและจดั อนั ดบั

3.1 สายคณิตศาสตร์ – วทิ ยาศาสตร์ สอบในรายวชิ า คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย
และภาษาอังกฤษ

3.2 สายคณิตศาสตร์ – ภาษาศาสตร์ สอบในรายวิชา คณติ ศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ
และสังคมศกึ ษา

4. เปน็ นกั เรียนมคี วามประพฤตเิ รียบรอ้ ย และปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของโรงเรียน
โดยมบี ันทกึ คะแนนความประพฤตไิ ม่นอ้ ยกวา่ 80% และไมเ่ คยได้รบั การลงโทษ
ถึงขนั้ ทาทัณฑ์บน

5. เป็นนักเรียนร่วมกิจกรรมกีฬา ดนตรี นาฏศลิ ป์ ศลิ ปะ งานจิตอาสา หรืองานอืน่ ๆ
ของโรงเรียนอยา่ งสม่าเสมอ ไม่นอ้ ยกว่า 80%

6. ผปู้ กครองเอาใจใสด่ แู ลนกั เรียนอย่างดยี ง่ิ และนาพาบตุ ร-ธดิ า กระทาแตส่ ิ่งทด่ี งี าม

7. ผู้ปกครองให้ความร่วมมอื กับทางโรงเรียนอย่างดยี ิ่ง

7.1 ใ้เ้ กยี รติและยกย่อง ครู-อาจารย์ และโรงเรียนสาธติ มัธยม ปกป้องและประกาศเกยี รติคุณ
ใ้ป้ รากฏแกส่ าธารณชน

7.2 เข้ารว่ มประชมุ ครู – ผ้ปู กครอง และร่วมกจิ กรรมอนื่ ๆ ในวาระสาคญั ที่โรงเรยี นรอ้ งขอ
7.3 ชว่ ยแจง้ ข่าวสารและใ้ค้ วามคดิ เ้็นทีด่ ี ๆ แก่ทางโรงเรียนอยา่ งตรงไปตรงมาและเปิดเผย
7.4 ใ้้ความอุปถัมภ์ค้าชูและร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการศึกษาอย่างเต็มความสามารถ

เพือ่ พัฒนาการศึกษาและคุณภาพนักเรยี นของ บตุ ร – ธดิ า ของท่านด้วยความเตม็ ใจ

8. เกณฑ์และวิธกี ารพิจารณาให้นักเรียนไดเ้ ข้าศึกษาในระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
หรือการรับสมัครนักเรียนที่ไม่ใช่นักเรียนที่จบการศึกษาช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3
จากโรงเรียนสาธิตมัธยม เป็นอานาจการตัดสินใจของผู้บริหารและโรงเรียน
หรือมติของคณะกรรมการอานวยการโรงเรียนสาธิต ทั้งน้ีเป็นไปเพื่อประโยชน์
สูงสดุ ของนกั เรยี น


Click to View FlipBook Version