The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Teeranan Burakaiนย, 2023-12-18 21:45:10

การประเมินความเสี่ยงทางการยศาสตร์ในกล่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี

นิตยา กัญหาญาติ

การüิจัยในงานอนามัยÿิ่งแüดล้อม การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี นางÿาüนิตยา กันĀาญาติ รĀัÿนักýึกþา 62190240251 นางÿาüนิภาภรณ์ บุญกล้า รĀัÿนักýึกþา 62190240262 รายüิชา 1902 408-59 การüิจัยในงานอนามัยÿิ่งแüดล้อม ภาคเรียนที่ 1 ปีการýึกþา 2565 Āลักÿูตรüิทยาýาÿตรบัณฑิต ÿาขาüิชาอนามัยÿิ่งแüดล้อม üิทยาลัยแพทยýาÿตร์และการÿาธารณÿุข มĀาüิทยาลัยอุบลราชธานี


ใบรับรองการüิจัยในงานอนามัยÿิ่งแüดล้อม üิทยาลัยแพทยýาÿตร์และการÿาธารณÿุข มĀาüิทยาลัยอุบลราชธานี Āลักÿูตรüิทยาýาÿตรบัณฑิต ÿาขาüิชาอนามัยÿิ่งแüดล้อม ชื่อเรื่อง การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี ชื่อผู้ทำการüิจัย นางÿาüนิตยา กันĀาญาติ รĀัÿนักýึกþา 62190240251 นางÿาüนิภาภรณ์ บุญกล้า รĀัÿนักýึกþา 62190240262 อาจารย์ที่ปรึกþาและกรรมการÿอบการüิจัยในงานอนามัยÿิ่งแüดล้อม ......................................................อาจารย์ที่ปรึกþา (ผý.ดร.ลักþณีย์ บุญขาü) ..........................................................กรรมการÿอบ (อ.ดร.ฐิติรัช งานฉมัง) ...........................................................กรรมการÿอบ (อ.ýุภกาญจน์ แก่นท้าü) ลิขÿิทธิ์ของüิทยาลัยแพทยýาÿตร์และการÿาธารณÿุข มĀาüิทยาลัยอุบลราชธานี Supakan ko


ก นิตยา กันĀาญาติ และ นิภาภรณ์ บุญกล้า [2565]. การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่ม ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี การüิจัยในงานอนามัยÿิ่งแüดล้อม Āลักÿูตรüิทยาýาÿตรบัณฑิต ÿาขาüิชาอนามัยÿิ่งแüดล้อม üิทยาลัยแพทยýาÿตร์และการÿาธารณÿุข มĀาüิทยาลัยอุบลราชธานี อาจารย์ที่ปรึกþาการüิจัย: ผู้ช่üยýาÿตราจารย์ดร.ลักþณีย์บุญขาü คำÿำคัญ: การประเมินคüามเÿี่ยง, การยýาÿตร์, ผ้าฝ้ายทอมือ, RULA บทคัดย่อ การüิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขüางนี้มีüัตถุประÿงค์เพื่อประเมินคüามเÿี่ยงทางการย ýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ และเพื่อýึกþาปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยง ทางการยýาÿตร์ในผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีจำนüน 34 คน โดยใช้ แบบÿอบถามและแบบประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ üิเคราะĀ์และนำเÿนอข้อมูลโดยใช้ ค่าคüามถี่ ร้อยละ ค่ามัธยฐาน ค่าÿ่üนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำÿุด ค่าÿูงÿุด ÿถิติไคÿแคüร์ (ChiSquare Test) และÿถิติฟิชเชอร์ (Fisher’s Exact Test) ที่ระดับคüามเชื่อมั่น 95% ผลการüิจัยพบü่า ผู้ประกอบอาชีพทอผ้าÿ่üนใĀญ่เป็นเพýĀญิง ร้อยละ 82.35 มีอายุอยู่ ในช่üง 45-64 ปีร้อยละ 41.18 ÿถานภาพÿมรÿ ร้อยละ 52.94 มีระดับการýึกþาประถมýึกþามาก ที่ÿุด ร้อยละ 47.06 ไม่มีโรคประจำตัü ร้อยละ 85.30 นอนĀลับน้อยกü่า 8.00 ชั่üโมงต่อüัน ร้อยละ 70.59 ระยะเüลาการประกอบอาชีพทอผ้าน้อยกü่า 25 ปี ร้อยละ 55.88 ไม่ได้ประกอบอาชีพอื่น นอกจากทอผ้า ร้อยละ 91.17 ทำงานน้อยกü่า 8.00 ชั่üโมงต่อüัน ร้อยละ 64.71 และมีเüลาพัก ระĀü่างüันทำงานน้อยกü่า 1.00 ชั่üโมงต่อüัน ร้อยละ 55.88 จากการประเมินคüามเÿี่ยงด้าน การยýาÿตร์โดยใช้เทคนิค RULA พบระดับคüามเÿี่ยงÿูงÿุดที่ระดับ 4 (7 คะแนน) ในงานปลูกฝ้าย/ ปลูกคราม งานทอผ้า งานย้อมÿีธรรมชาติ และงานĀาฟืน/Āาเปลือกไม้ งานนั้นมีปัญĀาทาง การยýาÿตร์ และต้องมีการปรับปรุงทันทีและการýึกþาคüามÿัมพันธ์ระĀü่างข้อมูลด้านการทำงาน กับระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ พบü่า ชนิดของงานและระยะเüลาการทำงาน (ชั่üโมงต่อüัน) มี คüามÿัมพันธ์กับระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์อย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิติp-value < 0.05 ÿำĀรับ ข้อมูลการทำงานอื่นมีคüามÿัมพันธ์กับระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์อย่างมีไม่นัยÿำคัญทางÿถิติ p-value > 0.05


ข Nittaya Kunhayat and Nipaporn Boonkla [2022]. Ergonomic risk assessment among hand woven cotton producers in Khemmarat District, Ubon Ratchathani Province. Research in Environmental Health, Bachelor of Science in Environmental Health, College of Medicine and Public Health, Ubon Ratchathani University Advisor: Asst. Prof. Laksanee Boonkhao, Ph.D. Keywords: Risk Assessment, Ergonomic, Hand Woven Cotton, RULA Abstract This cross-sectional descriptive research The purpose of this study was to assess the ergonomic risks among hand-woven cotton producers. and to study factors related to ergonomic risk among 34 handwoven cotton manufacturers in Khemmarat District, Ubon Ratchathani Province by using a questionnaire and an ergonomic risk assessment form. Data were analyzed and presented using frequency, percentage, median, standard deviation, minimum, maximum, chisquare and Fisher's Exact Test at 95% confidence level. The results showed that Most of the weaving professionals are female, 82.35%, aged 45-64 years, 41.18%, marital status, 52.94%, have the most elementary education, 47.06%, no underlying disease 85.30%, sleep less than 8.00 hours per day. 70.59% of the weaving occupation period is less than 25 years, 55.88% do not engage in other occupations other than weaving, 91.17% work less than 8.00 hours per day, 64.71% and have less breaks during the working day. 1.00 hours per day, 55.88%. The ergonomic risk assessment using the RULA technique found that the risk level was high at level 4 (7 points) in cotton/indigo planting, weaving, and natural dyeing. And firewood/bark work That job had an ergonomic problem. and must be updated immediately And the study of the relationship between work data and ergonomic risk level found that the type of work and the duration of work. (Hours per day) had a statistically significant correlation with the ergonomic risk p-value < 0.05. Other work data had a statistically non-significant correlation with the ergonomic risk p-value > 0.05.


ค กิตติกรรมประกาý การüิจัยครั้งนี้ÿำเร็จได้ด้üย คüามช่üยเĀลือ และคำชี้แนะจากอาจารย์Āลายๆท่าน ซึ่งใĀ้การ ÿนับÿนุนผู้üิจัยตั้งแต่เริ่มต้นงานüิจัยจนงานüิจัยเÿร็จÿมบูรณ์ ขอขอบพระคุณ ผู้ช่üยýาÿตราจารย์ ดร. ลักþณีย์ บุญขาü ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกþางานüิจัยนี้ ที่ÿละเüลาในการใĀ้คำแนะนำ และใĀ้ข้อคิดเĀ็นที่เป็นประโยชน์เกี่ยüกับแนüทางการทำüิจัย ทำใĀ้ ผู้üิจัยได้รับข้อมูลที่ครบถ้üน และÿามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการüิเคราะĀ์และÿรุปผลข้อมูลได้ ขอขอบพระคุณ อาจารย์ ดร. ฐิติรัช งานฉมัง และอาจารย์ ýุภกาญจน์ แก่นท้าü กรรมการ ÿอบüิจัย ที่ใĀ้คำแนะนำในการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อใĀ้üิจัยนี้มีคüามถูกต้องÿมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ขอขอบพระคุณคณาจารย์ทุกท่านในüิทยาลัยแพทยýาÿตร์และการÿาธารณÿุข มĀาüิทยาลัย อุบลราชธานี ที่ประÿิทธิ์ประÿาทüิชาคüามรู้ ใĀ้คำแนะนำต่างๆ จนผู้üิจัยÿามารถนำคüามรู้ที่ได้ไป ประยุกต์ใช้ในการจัดทำรายงานüิจัยครั้งนี้ÿำเร็จด้üยดี ขอขอบพระคุณกลุ่มฝ้ายแท้ทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี ที่อนุเคราะĀ์ คอย ช่üยเĀลือ อำนüยคüามÿะดüก และช่üยตอบแบบÿอบถาม ÿุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณครอบครัüที่ใĀ้การÿนับÿนุน ใĀ้กำลังใจตลอดมา และ ขอขอบพระคุณผู้ที่เกี่ยüข้องทุกท่านที่ไม่ได้กล่าüไü้ที่นี้ ที่กรุณาÿละเüลาเอื้อเฟื้อข้อมูลและคüาม ช่üยเĀลือในด้านต่างๆ ที่มีÿ่üนช่üยในการüิจัยฉบับนี้ÿำเร็จลุล่üงไปด้üยดี นิตยา กันĀาญาติ และ นิภาภรณ์ บุญกล้า ธันüาคม 2565


ง ÿารบัญ Āน้า บทคัดย่อภาþาไทย ก บทคัดย่อภาþาอังกฤþ ข กิตติกรรมประกาý ค ÿารบัญ ง ÿารบัญตาราง ช ÿารบัญรูป ฌ บทที่1 บทนำ 1.1 คüามเป็นมาและคüามÿำคัญของปัญĀา 1 1.2 คำถามการüิจัย 3 1.3 üัตถุประÿงค์ของการüิจัย 3 1.4 ขอบเขตของการüิจัย 3 1.5 คำจำกัดคüามที่ใช้ในงานüิจัย 4 บทที่2 üรรณกรรมและงานüิจัยที่เกี่ยüข้อง 2.1 ข้อมูลทั่üไปของกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 6 2.2 คüามĀมายของการยýาÿตร์ 12 2.3 คüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ 13 2.4 ปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์กับปัญĀาด้านการยýาÿตร์ 14 2.5 ÿถานการณ์การเกิดโรค/ปัญĀาด้านการยýาÿตร์ 15 2.6 การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ 16 2.7 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) 20 2.8 งานüิจัยที่เกี่ยüข้อง 32 2.9 กรอบแนüคิดการüิจัย 35 บทที่3 ระเบียบüิธีüิจัย 3.1 รูปแบบการüิจัย 36 3.2 พื้นที่üิจัย 36 3.3 ประชากรและกลุ่มตัüอย่าง 36 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการýึกþา 37 3.5 การตรüจÿอบเครื่องมือ 42 3.6 üิธีการเก็บรüบรüมข้อมูล 42


ฉ ÿารบัญ (ต่อ) Āน้า 3.7 การüิเคราะĀ์ข้อมูล 43 บทที่ 4 ผลการýึกþา 4.1 ข้อมูลÿ่üนบุคคลของผู้ตอบแบบÿอบถาม 46 4.2 ข้อมูลด้านการทำงานของผู้ตอบแบบÿอบถาม 49 4.3 การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 53 4.4 การýึกþาคüามÿัมพันธ์ระĀü่างข้อมูลด้านการทำงานกับระดับคüามเÿี่ยงทางการย ýาÿตร์ 55 บทที่ 5 ÿรุป อภิปรายผล และข้อเÿนอแนะ 5.1 ÿรุปผลการüิจัย 58 5.2 อภิปรายผลการüิจัย 58 5.3 ข้อเÿนอแนะจากงานüิจัยและการนำไปใช้ประโยชน์ 60 5.4 ข้อเÿนอแนะในการทำüิจัยครั้งต่อไป 60 บรรณานุกรม ภาคผนüก ภาคผนüก ก แบบÿอบถาม ภาคผนüก ข รูปภาพลงเก็บข้อมูลüิจัย


ช ÿารบัญตาราง Āน้า ตารางที่ 2.1 แÿดงคะแนนการประเมินแขนÿ่üนบนในüิธีRULA 21 ตารางที่ 2.2 แÿดงคะแนนการประเมินแขนÿ่üนล่างในüิธีRULA 22 ตารางที่ 2.3 แÿดงคะแนนการประเมินข้อมือในüิธีRULA 23 ตารางที่ 2.4 แÿดงคะแนนการประเมินการĀมุนของข้อมือ 23 ตารางที่ 2.5 แÿดงคะแนนประเมินกลุ่ม A 24 ตารางที่ 2.6 แÿดงคะแนนการประเมินการใช้กล้ามเนื้อแขนĀรือมือในüิธีRULA 25 ตารางที่ 2.7 แÿดงคะแนนประเมินการใช้แรงĀรือภาระงานในüิธีRULA 25 ตารางที่ 2.8 แÿดงคะแนนประเมินÿ่üนคอ ในüิธีRULA 26 ตารางที่ 2.9 แÿดงคะแนนประเมินในÿ่üนลำตัüในüิธีRULA 27 ตารางที่ 2.10 แÿดงคะแนนประเมินÿ่üนขาในüิธีRULA 28 ตารางที่ 2.11 แÿดงคะแนนท่าทางในกลุ่ม B 29 ตารางที่ 2.12 แÿดงคะแนนการประเมินการใช้กล้ามเนื้อขาĀรือเท้าในüิธีRULA 29 ตารางที่ 2.13 แÿดงคะแนนประเมินแรงĀรือภาระงานในÿ่üนขาĀรือเท้าในüิธีRULA 30 ตารางที่ 2.14 แÿดงคะแนนประเมินตามเÿี่ยงรüมโดยüิธีRULA (ตาราง C) 31 ตารางที่ 2.15 แÿดงการแปลผลคะแนนคüามเÿี่ยงรüมในüิธีRULA 31 ตารางที่ 3.1 แÿดงกลุ่มประชากรผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ 37 ตารางที่ 3.2 การประเมินคะแนนท่าทางในกลุ่ม A ในüิธีRULA (ตาราง A) 39 ตารางที่ 3.3 การประเมินคะแนนท่าทางในกลุ่ม B ในüิธีRULA (ตาราง B) 40 ตารางที่ 3.4 แÿดงคะแนนประเมินตามเÿี่ยงรüมโดยüิธีRULA (ตาราง C) 41 ตารางที่ 3.5 แÿดงการแปลผลคะแนนคüามเÿี่ยงรüมในüิธีRULA 41 ตารางที่ 4.1 จำนüนและร้อยละของกลุ่มตัüอย่างจำแนกตามข้อมูลÿ่üนบุคคลในกลุ่มผู้ผลิต ผ้าฝ้ายทอมือ ตำบลเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 46 ตารางที่ 4.2 จำนüนและร้อยละของกลุ่มตัüอย่างจำแนกตามข้อมูลด้านการทำงานในกลุ่ม ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ 49


ซ ÿารบัญตาราง (ต่อ) Āน้า ตารางที่ 4.3 จำนüนและร้อยละของกลุ่มตัüอย่างจำแนกตามระดับคüามเÿี่ยงทางการย ýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ 53 ตารางที่ 4.4 ตารางแÿดงผลการüิเคราะĀ์ข้อมูลในการýึกþาคüามÿัมพันธ์ระĀü่างข้อมูลด้าน การทำงานกับระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ของกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ 55


ฌ ÿารบัญรูปภาพ Āน้า รูปที่ 2.1-1 การปลูกฝ้าย 7 รูปที่ 2.1-2 การเก็บดอกฝ้าย 8 รูปที่ 2.1-3 การอิ้üฝ้าย 8 รูปที่ 2.1-4 การดีดฝ้าย 8 รูปที่ 2.1-5 การล่อฝ้าย 9 รูปที่ 2.1-6 การเข็นฝ้าย 9 รูปที่ 2.1-7 การย้อมÿี 9 รูปที่ 2.1-8 การฆ่าฝ้าย 10 รูปที่ 2.1-9 การกüักฝ้าย 10 รูปที่ 2.1-10 การปั่นĀลอด 11 รูปที่ 2.1-11 การมัดĀมี่ 11 รูปที่ 2.1-12 การทอผ้า 11 รูปที่ 2.7-1 แÿดงลักþณะการประเมินแขนÿ่üนบนในüิธี RULA 21 รูปที่ 2.7-2 แÿดงลักþณะการประเมินแขนÿ่üนล่างในüิธี RULA 22 รูปที่ 2.7-3 แÿดงลักþณะการประเมินข้อมือในüิธี RULA 23 รูปที่ 2.7-4 แÿดงการประเมินÿ่üนคอในüิธี RULA 27 รูปที่ 2.7-5 แÿดงการประเมินในÿ่üนลำตัüในüิธี RULA 28


1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 คüามเป็นมาและคüามÿำคัญ ÿภาพการทำงานที่มีคüามเÿี่ยงต่อการบาดเจ็บทางการยýาÿตร์คืองานที่เคลื่อนไĀüซ้ำๆ อย่างรüดเร็ü การยกน้ำĀนักที่เกินขีดจำกัดของร่างกาย งานที่มีท่าทางการทำงานรูปแบบใดรูปแบบĀนึ่ง อย่างการทำงานซ้ำๆ Āรือใช้แรงฉุดกระชาก การยกน้ำĀนักถือค้าง ท่าทางร่างกายที่ไม่ÿมดุล การ เคลื่อนไĀüที่รีบเร่ง แรงอัดกระแทกĀรือแรงÿั่นÿะเทือนจากภายนอก ÿามารถÿ่งผลกระทบต่อกระดูก กล้ามเนื้อ เÿ้นประÿาทและเนื้อเยื่อการไĀลเüียนเลือด (Kuma and Sato, 1999) การÿัมผัÿกับปัจจัย เĀล่านี้ก่อใĀ้เกิดคüามผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น การบาดเจ็บที่เกิดจากคüามเครียดจากการ ทำงานซ้ำๆ Āรือคüามผิดปกติที่เกิดจากการบาดเจ็บÿะÿมซึ่งเป็นÿาเĀตุĀลักของโรคระบบกระดูกและ กล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นปัญĀาÿำคัญที่พบมากในกลุ่มคนในโรงงานอุตÿาĀกรรมและกลุ่มผู้ใช้แรงงานทั่üไป ÿ่งผลไปถึงการĀยุดงาน ÿูญเÿียรายได้ เÿียค่ารักþาพยาบาลĀรือทำใĀ้พิการได้ในที่ÿุด อย่างไรก็ตาม แม้การบาดเจ็บที่เกิดจากการทำงานที่ไม่ถูกต้องตามĀลักการยýาÿตร์จะพบได้ในทุกประเภทอุตÿาĀกรรม แต่มักไม่ได้รับคüามÿนใจเท่าที่คüร เพราะคüามรุนแรงของปัญĀามักจะค่อยๆ เกิดขึ้นและไม่อันตรายถึง ขั้นต้องเÿียชีüิต การýึกþาที่ผ่านมาพบü่า ลักþณะของการทอผ้าแบบดั้งเดิมที่นั่งอยู่กับกี่ทอผ้าเป็นเüลานานและมี ลักþณะท่าทางการทำงานเบี่ยงเบนไปจากท่าปกติเป็นระยะเüลานานๆ เป็นÿาเĀตุที่ทำใĀ้เกิดโรคคüาม ผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ (musculoskeletal disorders; MSDs) ÿูงมาก ในกลุ่ม พนักงานทอผ้า (Naz, Kwatra, & Ojha, 2015) และจากการýึกþาอาการผิดปกติของกระดูกและ กล้ามเนื้อในĀมู่คนĀัตถกรรมที่ทำงานทอผ้าด้üยมือในประเทýอิĀร่าน พบคüามชุกของอาการผิดปกติ ค่อนข้างÿูงบริเüณคอ (ร้อยละ 57.90) Āลังÿ่üนล่าง (ร้อยละ 51.60) และไĀล่ (ร้อยละ 40.50) พบใน เพýĀญิง และเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น (Dianat, & Karimi, 2016) และจากการประเมินท่าทางการทำงาน โดยใช้เทคนิค RULA (Rapid Upper Limb Assessment; RULA) พบคüามชุกและคüามรุนแรงของ อาการผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อในกลุ่มที่ýึกþา ค่าเฉลี่ยคะแนน RULA เท่ากับ 6.20 ซึ่งÿ่üนใĀญ่ เกี่ยüเนื่องจากการทำงานต่อเนื่องโดยไม่Āยุดพัก และท่าทางการทำงานที่เบี่ยงเบนไปจากท่าปกติ


2 (Dianat, & Salimi, 2014) จากข้อมูลการบาดเจ็บของผู้ปฏิบัติงานทอผ้าด้üยมือในแถบตะüันตกของ อ่าüเบงกอล พบü่าปัญĀาระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อÿ่üนใĀญ่ เกี่ยüข้องและต่อเนื่องจากการทำงาน โดยเพýĀญิงมีคüามเÿี่ยงจากการปüดĀลังÿ่üนบนและÿ่üนล่างประมาณ 2 เท่าของผู้ปฏิบัติงานทั่üไป ทำใĀ้เกิดปัญĀาบาดเจ็บÿะÿมต่อระบบกระดูก กล้ามเนื้อ และเÿ้นประÿาท มีÿาเĀตุจากท่าทางการ ทำงานĀรือการเคลื่อนไĀüซ้ำๆ (Repetitive Motion Disorders) อย่างต่อเนื่อง (มาโนช ริทินโย, 2562) ซึ่งจะพบü่า มีĀลากĀลายขั้นตอนที่คนงานทอผ้าต้องใช้ท่าทางในการทำงานซ้ำๆ และใช้ระยะเüลา ยาüนาน จึงทำใĀ้ผู้ประกอบอาชีพทอผ้าเÿี่ยงต่ออาการผิดปกติของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็น กลุ่มโรคที่มีÿาเĀตุมาจากĀลายปัจจัย ได้แก่ ท่าทางการทำงานซ้ำๆ Āรือการออกแรงเกินกำลัง รüมทั้ง ท่าทางที่ฝืนธรรมชาติ โดยปัจจัยจากการทำงานเป็นÿาเĀตุĀนึ่งที่เพิ่มคüามเÿี่ยงต่อการเกิดโรคได้ (พัชรินทร์ใจจุ้ม ทัýนพงþ์ตันติปัญจพร, 2561) กระบüนการทอผ้าไĀมด้üยมือมีลักþณะการทำงานอยู่ใน ท่านั่งใช้มือและเท้าทำงานตลอดเüลา ซึ่งมีคüามเÿี่ยงต่อการเกิดปัญĀาอาการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งจาก การýึกþาปัญĀาการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงานของกลุ่มอาชีพการทอผ้าด้üยมือ ในเขตภาคเĀนือ ตอนบนของประเทýไทย พบคüามชุกของอาการปüดเมื่อยมากที่ÿุดคือ กล้ามเนื้อไĀล่ขüา และมีคะแนน ปüดเมื่อยมากที่ÿุดคือ กล้ามเนื้อไĀล่ขüา (น้ำเงิน จันทรมณีและคณะ, 2557) ÿ่üนÿตรีทอผ้าในจังĀüัด อุบลราชธานี มีอาการปüดตามร่างกายซึ่งบริเüณที่ปüด ได้แก่ ขา (ร้อยละ 54.80) เอü (ร้อยละ 49.20) ýรีþะ (ร้อยละ 47.50) เข่า (ร้อยละ 46.80) และĀลัง (ร้อยละ 45.00) (ÿงüน ธานีและคณะ, 2561) ÿำĀรับกลุ่มผู้ผลิตฝ้ายทอมืออำเภอเขมราฐมีจำนüน 34 คน เป็นกลุ่มคนที่ร่üมกันฟื้นฟูและÿืบ ÿานýิลปะผ้าทอมัดĀมี่เขมราฐที่เคยÿูญĀายไปแล้üใĀ้กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งĀนึ่ง และการทำงานของกลุ่ม ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือในขั้นตอนการทำนั้นเป็นการใช้แรงงานคนทั้งĀมดไม่มีการใช้เครื่องจักรĀรือเทคโนโลยี เข้ามาช่üย เพราะเป็นÿินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาที่ÿืบทอดมาตั้งแต่ในอดีต จึงเป็นเอกลักþณ์เฉพาะการทอ ผ้ามัดĀมี่ ซึ่งผู้ปฏิบัติงานต้องนั่งในท่าทางซ้ำๆ ระยะเüลานาน โดยมีการนั่งกับพื้น ตัüตรง ปราýจากที่พิง Āลัง ทำใĀ้เกิดการยืดตัüของกล้ามเนื้อĀลัง ที่นั่งต่ำเกินไปทำใĀ้ปüดĀัüไĀล่และคอ ขณะกระทบฟืมจะต้อง โน้มตัüไปข้างĀน้ามีผลต่อบริเüณเอü การÿอดกระÿüยต้องใช้นิ้üมือและข้อมือในลักþณะซ้ำๆ และจะต้อง ใช้เท้าเĀยียบเพื่อแยกเÿ้นยืนลักþณะซ้ำๆ ทั้งÿองข้าง ภายĀลังจากการทอผ้า ผู้ทอมีอาการปüดเมื่อย บริเüณไĀล่ คอ เอü มือ ข้อมือ และขา ดังนั้น ผู้üิจัยจึงÿนใจประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ของกลุ่ม ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ โดยใช้แบบประเมินคüามเÿี่ยงด้üยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) ซึ่งเป็นแบบประเมินการยýาÿตร์ที่เĀมาะÿมกับลักþณะท่าทางการทำงานของกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ


3 อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นข้อมูลที่จะนำไปÿู่การป้องกันและแก้ไขปัญĀาด้านการย ýาÿตร์ของกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือต่อไป 1.2 คำถามการüิจัย 1. ระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัด อุบลราชธานีเป็นอย่างไร 2. มีปัจจัยอะไรบ้างที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 1.3 üัตถุประÿงค์การüิจัย 1. เพื่อประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัด อุบลราชธานี 2. เพื่อýึกþาปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 1.4 ขอบเขตของการüิจัย 1.4.1 ขอบเขตด้านเนื้อĀา การýึกþาüิจัยครั้งนี้เป็นการýึกþาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขüาง (Cross-sectional descriptive study) เพื่อประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์และýึกþาปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยง ทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีโดยใช้เทคนิค RULA (Rapid Upper Limp Assessment) 1.4.2 ขอบเขตด้านประชากร และกลุ่มตัüอย่าง กลุ่มตัüอย่างที่ใช้ในการüิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ บ้านเĀนือ ตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีจำนüน 34 คน โดยกำĀนดคุณÿมบัติ เกณฑ์คัดเข้า และคัดออก ดังนี้ เกณฑ์คัดเข้า - เป็นผู้มีอาชีพและอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ - มีประÿบการณ์ในการการทำงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป


4 - ÿมัครใจและยินยอมเข้าร่üมüิจัย เกณฑ์คัดออก - ผู้ทอผ้าที่ได้รับการบาดเจ็บรุนแรงĀรือที่เคยได้รับการผ่าตัดเกี่ยüกับระบบ โครงร่างและกล้ามเนื้อ 1.4.3 ขอบเขตด้านระยะเüลา ระĀü่างเดือนมิถุนายน ถึงเดือนธันüาคม พ.ý.2565 1.5 คำจำกัดคüามที่ใช้ในการüิจัย การประเมินทางด้านการยýาÿตร์Āมายถึง การüิเคราะĀ์ท่าทางการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน โดย ใช้แบบประเมินคüามเÿี่ยงด้üยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) ซึ่งเป็นแบบประเมิน การยýาÿตร์ในลักþณะงานนั่ง และยืน โดยมุ่งเน้นการประเมินท่าทางการเคลื่อนไĀüของร่างกายÿ่üนบน และÿ่üนล่าง เพื่อที่จะได้เĀมาะÿมกับลักþณะงานในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีโดยงานที่จะทำการประเมิน ได้แก่ ปลูกฝ้าย/ปลูกคราม, อิ้üฝ้าย, มัดĀมี่, ทอผ้า, ย้อมÿีธรรมชาติ/ย้อมคราม, ตัดเÿื้อผ้าแปรรูป/ช่างเย็บ, Āาฟืน/Āาเปลือกไม้และช่างซ่อม คüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์Āมายถึง ผลกระทบต่อÿุขภาพที่เกิดจากลักþณะท่าทางการทำงาน ทั้งในด้านการบาดเจ็บ อาการปüดเมื่อยล้าตามÿ่üนต่างๆ ของร่างกายของผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี โดยพิจารณาจากลักþณะท่าทางการทำงาน แปลผลเป็นคะแนน คüามเÿี่ยง จัดคะแนนเป็น 4 ระดับคือ ระดับ 1 Āมายถึง ยอมรับได้แต่อาจจะมีปัญĀาทางการยýาÿตร์ได้ ถ้ามีการทํางานดังกล่าüซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเüลานานกü่าเดิม ระดับ 2 Āมายถึง คüรมีการýึกþาเพิ่มเติมและ ติดตามüัดผลอย่างต่อเนื่องอาจจะจําเป็นที่จะต้องมีการออกแบบงานใĀม่ ระดับ 3 Āมายถึง งานนั้น เริ่มเป็นปัญĀาคüรทําการýึกþาเพิ่มเติมและคüรรีบปรับปรุง และระดับ 4 Āมายถึง งานนั้นมีปัญĀา ทางการยýาÿตร์และต้องมีการปรับปรุงทันที(McAtamney & Corlett, 1993) ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ Āมายถึง ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ บ้านเĀนือ ตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีโดยเป็นผู้มีอาชีพและอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือมีลักþณะการทำงานอย่าง ต่อเนื่อง เช่น การทอผ้าที่ใช้ มือ แขน และขาในการทำงาน


5 ปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ Āมายถึง ปัจจัยอื่นๆ ที่มี คüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีเช่น เพý อายุ โรคประจำตัü การออกกำลังกาย เป็นต้น


6 บทที่ 2 üรรณกรรมและงานüิจัยที่เกี่ยüข้อง การýึกþาครั้งนี้เป็นการýึกþาการประเมินคüามเÿี่ยงทางด้านการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้าย ทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีผู้üิจัยได้ทำการýึกþาค้นคü้าเอกÿาร ทบทüนüรรณกรรมและ งานüิจัยที่เกี่ยüข้อง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 2.1 ข้อมูลทั่üไปของกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 2.1.1 ประüัติคüามเป็นมา 2.1.2 ขั้นตอนการผลิตผ้าฝ้ายทอมือ 2.2 คüามĀมายของการยýาÿตร์ 2.3 คüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ 2.4 ปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์กับปัญĀาด้านการยýาÿตร์ 2.5 ÿถานการณ์การเกิดโรค/ปัญĀาด้านการยýาÿตร์ 2.6 การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ 2.7 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) 2.8 งานüิจัยที่เกี่ยüข้อง 2.9 กรอบแนüคิดการüิจัย 2.1 ข้อมูลทั่üไปของกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 2.1.1 ประüัติคüามเป็นมา กลุ่มผลิตผ้าฝ้ายทอมือเกิดขึ้นเมื่อปีพ.ý. 2553 โดย นางธนิþฐา üงý์ปัดÿา ได้รับคัดเลือกเป็น ประธานกลุ่มฝ้ายแท้ทอมือเขมราฐ ได้ýึกþาüิธีการทอผ้ามัดĀมี่ การÿร้างลายผ้ามัดĀมี่ üิธีการย้อมคราม ย้อมÿีเปลือกไม้ต่างๆ จากคุณยายบุญมี แท่นคำ Āลังจากนั้นได้นำคüามรู้มาพัฒนาตนเอง และคนในกลุ่ม ใĀ้ÿามารถแกะลายผ้าโบราณบ้านüงý์ปัดÿาได้14 ลายและÿร้างลายผ้าขึ้นใĀม่เองได้ประมาณ 25 ลาย มีการÿนับÿนุนใĀ้เข้าร่üมโครงการอบรมพัฒนาต่อยอดแปรรูปเÿื้อผ้าและการตลาดต่างๆ มีการเผยแพร่ การนุ่งผ้าซิ่นผ่านกิจกรรมการแÿดงการฟ้อนรำทุกüันเÿาร์ที่ถนนคนเดินเขมราฐ ของชมรมýิลปüัฒนธรรม


7 คนÿามüัยใÿ่ใจÿุขภาพเขมราฐ และเปิดเป็นแĀล่งเรียนรู้เมื่อปี พ.ý. 2556 ÿำĀรับผู้ที่ÿนใจในการทำผ้า มัดĀมี่ย้อมคราม ย้อมเปลือกไม้ ÿร้างลายผ้าทอผ้าทุกขั้นตอน อาทิเช่น นักเรียน นักýึกþา และ นักท่องเที่ยü ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีการทำกิจกรรมในแĀล่งเรียนรู้ชุมชนเพื่ออนุรักþ์üิถีชีüิตของคน ในชุมชนกับโรงเรียน โครงการการÿร้างมูลค่าผ้ามัดĀมี่ผ้าท้องถิ่นโดยการถอดท่าฟ้อนรำ และการตกแต่ง Ā้องพักด้üยผ้าย้อมครามüงý์ปัดÿาผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล มĀาüิทยาลัยอุบลราชธานี(ธนิþฐา üงý์ปัดÿา, 2553) โดยกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ มีจำนüน 34 คน ใน 1 ÿัปดาĀ์ ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือทำงานประมาณ 4-5 üันต่อÿัปดาĀ์ และใน 1 üัน ทำงานประมาณ 7-8 ชั่üโมงต่อüัน โดยลักþณะการทำงานของผู้ผลิตผ้า ฝ้ายทอมือ มีเüลาพักที่ไม่แน่นอน เนื่องจากเป็นงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง Āากเมื่อยล้าจึงจะĀยุดพัก ซึ่ง พบü่าผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือÿ่üนใĀญ่มีอาการปüดบริเüณĀลัง เอü ÿะโพก แขน ข้อมือ และขา เนื่องจากงาน ที่ทำมีการนั่งอยู่กับที่เป็นเüลานาน และมีการใช้แขนและขาซ้ำๆ เช่นการทอผ้า ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ จำเป็นต้องใช้แขนและข้อมือในการตำĀูก ซึ่งเป็นการขยับแขนและข้อมือตลอดการทำงาน และใช้เท้าใน การเĀยียบคานÿับตะกอใĀ้ด้ายแยกจากกัน 2.1.2 ขั้นตอนการผลิตผ้าฝ้ายทอมือ ขั้นตอนการผลิตผ้าฝ้ายทอมือมีทั้งĀมด 12 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การปลูกฝ้าย ปลูกฝ้าย เริ่มปลูกเดือนตุลาคมใช้ระยะเüลา 4 เดือน รูปที่ 2.1-1 การปลูกฝ้าย


8 ขั้นตอนที่ 2 การเก็บดอกฝ้าย ÿามารถเก็บดอกฝ้ายที่เริ่มแตกบานเป็นระยะๆ รูปที่ 2.1-2 การเก็บดอกฝ้าย ขั้นตอนที่ 3 การอิ้üฝ้าย นำดอกฝ้ายไปตากแดดÿามแดด แล้üนำมาอิ้üฝ้าย (คัดแยกเมล็ดฝ้าย) รูปที่ 2.1-3 การอิ้üฝ้าย ขั้นตอนที่ 4 การดีดฝ้าย ดีดฝ้าย นำดอกฝ้ายมาดีดใĀ้ฟู รูปที่ 2.1-4 การดีดฝ้าย


9 ขั้นตอนที่ 5 การล่อฝ้าย ตีล่อ ล่อฝ้าย นำฝ้ายที่ดีดฟูดีแล้üมากลิ้ง (ล่อฝ้าย) รูปที่ 2.1-5 การล่อฝ้าย ขั้นตอนที่ 6 การเข็นฝ้าย เข็นเป็นเÿ้นฝ้าย นำฝ้ายที่ล่อแล้üนำมาใÿ่เข็มเตรียมดึงเÿ้นฝ้ายตามจังĀüะการ ĀมุนĀลาเข็นฝ้ายแล้ü โดยใช้มืออีกข้างในการĀมุน เมื่อได้ฝ้ายออกมาแล้üÿามารถนำไปย้อมครามĀรือÿี เปลือกไม้ ก่อนนำไปÿู่การฆ่าฝ้ายได้ รูปที่ 2.1-6 การเข็นฝ้าย ขั้นตอนที่ 7 การย้อมÿี/ย้อมคราม นำเÿ้นใยฝ้ายที่ผ่านกระบüนการที่ทําใĀ้เป็นเÿ้นด้üย และมีการแบ่ง เÿ้นด้ายใĀ้เป็นใจ โดยการย้อมÿีจะเป็นการย้อมÿีจากüัÿดุÿ่üนผÿมĀลักเป็นÿีจากดอกไม้ ต้นไม้ ใบคราม และน้ำคั่งĀรือน้ำขี้เถ้า


10 รูปที่ 2.1-7 การย้อมÿี/ย้อมคราม ขั้นตอนที่ 8 การฆ่าฝ้าย นำเÿ้นฝ้ายที่เข็นได้แล้üนำไปชุบน้ำต้มข้าüจ้าüแล้üนำไปตากจะทำใĀ้เÿ้นฝ้าย แข็งแรง รูปที่ 2.1-8 การฆ่าฝ้าย ขั้นตอนที่ 9 การกüักฝ้าย คือการนำฝ้ายที่เข็นเป็นเÿ้นเÿร็จแล้üมาปั่น (กüัก) ใÿ่อัก (ที่เก็บเÿ้นฝ้าย) ไü้ รูปที่ 2.1-9 การกüักฝ้าย


11 ขั้นตอนที่ 10 การปั่นĀลอด ปั่นĀลอด นำĀมี่ที่แกะเชือกฟางออกแล้üนำมาใÿ่ตีนกงเพื่อปั่นĀลอด เรียงลำดับลายผ้าเพื่อนำไปทอ รูปที่ 2.1-10 การปั่นĀลอด ขั้นตอนที่ 11 การมัดĀมี่ เป็นการÿร้างลายผ้า ก่อนนำไปทอ รูปที่ 2.1-11 การมัดĀมี่ ขั้นตอนที่ 12 การทอผ้า ทอผ้า นำผ้าที่ปั่นĀลอดเÿร็จแล้ü มาใÿ่กระÿüยแล้üนำไปทอเป็นผืนผ้า รูปที่ 2.1-12 การทอผ้า


12 2.2 คüามĀมายของการยýาÿตร์ การยýาÿตร์ (Ergonomics) เป็นคำที่มาจากภาþากรีก คือ “ergon” ที่Āมายถึงงาน (work) และอีกคำĀนึ่ง "nomos" ที่แปลü่า กฎตามธรรมชาติ (Natural Laws) เมื่อนำมารüมกันจะกลายเป็น การยýาÿตร์ (Ergonomics) เป็นคำที่มาจากภาþากรีก คือ “ergon” ที่Āมายถึงงาน (work) คำü่า “ergonomics” Āรือ “laws of work” ที่อาจแปลได้ü่ากฎของงาน ซึ่งเป็นýาÿตร์Āรือüิชาการที่เป็นการ ปรับเปลี่ยนÿภาพงานใĀ้Āมาะÿมกับผู้ปฏิบัติงาน Āรือเป็นการปรับปรุงÿภาพการทำงานอย่างเป็นระบบ โดยมีผู้ใĀ้คำนิยามไü้ดังนี้ ÿุดธิดา กรุงไกรüงý์ และรัตนาภรณ์ อมรรัตนไพจิตร ได้นิยามคüามĀมายของการยýาÿตร์ (ergonomics) ü่าเป็นเรื่องการýึกþาÿภาพการทำงานที่มีคüามÿัมพันธ์ระĀü่างผู้ปฏิบัติงานและ ÿิ่งแüดล้อมการทำงาน เป็นการพิจารณาü่าÿถานที่ทำงานดังกล่าü ได้มีการออกแบบĀรือปรับปรุงใĀ้มี คüามเĀมาะÿมกับผู้ปฏิบัติงานอย่างไร เพื่อป้องกันปัญĀาต่าง ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อคüามปลอดภัย และÿุขภาพอนามัยในการทำงาน และÿามารถเพิ่มประÿิทธิภาพการทำงานได้ด้üย Āรืออาจกล่าüอีก นัยĀนึ่งได้ü่า เพื่อทำใĀ้งานที่ต้องปฏิบัติดังกล่าü มีคüามเĀมาะÿมกับผู้ปฏิบัติงาน แทนที่จะบังคับใĀ้ ผู้ปฏิบัติงานต้องทนฝืนปฏิบัติงานนั้น ๆ (ÿุดธิดา กรุงไกรüงý์และรัตนาภรณ์ อมรรัตนไพจิตร, 2544) ÿมาคมการยýาÿตร์นานาชาติ (international ergonomics association; IEA) ได้ใĀ้คำจำกัด คüามของการยýาÿตร์ดังนี้“การยýาÿตร์ คือ ýาÿตร์แขนงĀนึ่งที่ýึกþาคüามÿัมพันธ์ระĀü่าง คน และÿ่üนต่าง ๆ ของระบบ และคüามเชี่ยüชาญในการประยุกต์ใช้ทฤþฎีĀลักการข้อมูล และüิธีการในการ ออกแบบเพื่อทำใĀ้มนุþย์มีคüามเป็นอยู่ที่ดีที่ÿุด และระบบได้ทำงานอย่างมีประÿิทธิภาพÿูงÿุด” (ÿมาคมการยýาÿตร์นานาชาติ, IEA) กิตติ อินทรานนท์ได้นิยามคüามĀมายของการยýาÿตร์ (ergonomics) ü่า เป็นการประยุกต์ Āลักการทางüิทยาýาÿตร์ รüมทั้งระเบียบüิธี และข้อมูลคüามรู้ที่มาจากÿาขาüิชาการต่างๆ เพื่อพัฒนา ระบบüิýüกรรมที่ใĀ้คนมีบทบาทÿำคัญเป็นýูนย์กลางของการออกแบบ การÿร้าง การปฏิบัติ การบำรุงรักþา การตัดÿินใจ (กิตติ อินทรานนท์, 2548) üรรธนะ ชลายนเดชะ ได้นิยามคüามĀมายของ การยýาÿตร์ (ergonomics) ü่า เป็นการýึกþา ÿภาüะแüดล้อมของการทำงาน โดยใช้Āลักคิดü่า “เราจะทำใĀ้คนทำงานอย่างมีประÿิทธิภาพได้อย่างไร” การจัดÿภาพแüดล้อมอย่างไร ที่จะทำใĀ้คนทำงานอย่างมีประÿิทธิภาพ โดยจ่ายค่าแรงน้อยที่ÿุด


13 ใช้ทรัพยากรน้อยที่ÿุด เพื่อใĀ้ผลผลิตออกมามากที่ÿุด ยุคĀลังคนÿ่üนใĀญ่มีคุณภาพชีüิตที่ดีขึ้น และในปัจจุบันได้มีÿĀภาพแรงงานเกิดขึ้น (üรรธนะ ชลายนเดชะ, 2545) ÿรุปการยýาÿตร์ คือ การýึกþาÿภาพการทำงานที่มีคüามÿัมพันธ์ระĀü่างผู้ปฏิบัติงาน และจัดท่าทางการทำงานของพนักงานใĀ้มีคüามเĀมาะÿมกับÿถานีงาน แทนที่จะบังคับใĀ้ผู้ปฏิบัติงาน ต้องทนฝืนปฏิบัติงาน 2.3 คüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ คüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ คือปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์กับคüามเÿี่ยงทางด้านการยýาÿตร์ที่ เกี่ยüข้องกับการประกอบอาชีพ และมีคüามÿัมพันธ์กับผลกระทบต่อÿุขภาพเกี่ยüกับคüามผิดปกติของ ระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ (Work-related Musculoskeletal Disorders; WMSDs) ซึ่งปัจจัยที่ÿำคัญ ที่มีคüามÿัมพันธ์กับคüามผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ โดยเน้นประเด็นของการใĀ้ คüามÿำคัญระĀü่างคüามÿมดุลระĀü่างกล้ามเนื้อเฉพาะที่กับคüามÿามารถในการฟื้นตัüของบุคคลจาก คüามล้า (Fatigue) และการไĀลเüียนของเลือดอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยÿำคัญในการคüบคุมคüามล้า ของกล้ามเนื้อด้üย (MIDDLESWORTH, M. 2015) คüามผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อจากการ ทำงาน (Work-related Musculoskeletal Disorders; WMSDs) เป็นกลุ่มอาการผิดปกติของการ เจ็บปüดที่กล้ามเนื้อ เอ็น และเÿ้นประÿาท ตัüอย่างของโรคที่มีคüามผิดปกติดังกล่าü เช่น กลุ่มอาการ คาร์ปัล ทัลเนล (Carpal Tunnel Syndrome) โรคเอ็นอักเÿบ (Tendonitis) กลุ่มอาการกดรัดĀลอด เลือด และเÿ้นประÿาทบริเüณทางออกทรüงอก (Thoracic Outlet Syndrome) และกลุ่มอาการที่มี อาการปüด เมื่อยล้า แข็งตึงของกล้ามเนื้อที่บริเüณคอ บ่า ไĀล่ (Tension Neck Syndrome) ซึ่งกลุ่ม อาการผิดปกติดังกล่าüมักจะเกิดจากการที่ผู้บาดเจ็บมีการใช้งานอüัยüะดังกล่าüมากเกินไป เช่น การทำงานที่มีกิจกรรมเดิมทำใĀ้เกิดการเคลื่อนไĀüอüัยüะเดิมบ่อยครั้งและซ้ำๆ (Repetitive Motion) Āรือการทำงานในท่าทางที่ผิดปกติ (Awkward Postures) จนÿ่งผลใĀ้เกิดอาการเจ็บปüด Āรือบาดเจ็บ ของกล้ามเนื้อบริเüณที่เÿี่ยงทั้งในระĀü่างการทำงานและระยะพัก และโดยปกติการทำงานเกือบทุก ประเภทต้องใช้มือและแขนในการทำ ดังนั้นจึงมักจะพบü่าคüามผิดปกติของระบบโครงร่าง และกล้ามเนื้อ จะเกิดขึ้นได้มากกับอüัยüะที่เกี่ยüข้องบริเüณ มือ ข้อมือ ข้อýอก คอ และไĀล่ ในขณะที่ÿามารถนำไปÿู่ ผลกระทบด้านคüามผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อบริเüณขา ÿะโพก เข่า และเท้า อีกทั้งปัญĀา ที่เกิดขึ้นภายĀลังยังอาจเป็นผลมาจากการทำงานที่มีกิจกรรมช้ำๆ ได้ (CCOHS, 2014)


14 การทำงานของแรงงานนอกระบบ มีĀลายปัจจัยที่ÿ่งผลใĀ้เกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ เช่น ปัญĀาการเจ็บป่üยและบาดเจ็บของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นอีกปัญĀาที่ทำใĀ้ÿถานประกอบ กิจการÿูญเÿียเüลาการทำงาน ผลผลิตเÿียĀายไม่เป็นไปตามเป้าĀมาย รüมถึงÿูญเÿียบุคลากรที่มีคüามรู้ ทักþะ และคüามÿามารถขององค์กร เพราะไม่ÿามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มประÿิทธิภาพ อันเนื่องมาจากปัญĀาทางการยýาÿตร์ที่มาจากการออกแบบพื้นที่การทำงาน ÿถานีงาน รüมถึงท่าทาง การทำงานของผู้ปฏิบัติงานไม่ถูกต้องเĀมาะÿม และนำไปÿู่การบาดเจ็บและเจ็บป่üย ท่าทางในการทำงาน เป็นการจัดรูปแบบของร่างกายระĀü่างÿ่üนýีรþะ ลำตัü และรยางค์ต่างๆ ใĀ้อยู่ในตำแĀน่งที่เĀมาะÿม ซึ่งตามĀลักการยýาÿตร์การยกĀัüไĀล่ การเĀยียดýอกมากเกินไป การบิดข้อมือ การĀยิบจับอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ อาจนำไปÿู่การบาดเจ็บและอาจเกิดโรคที่เกี่ยüกับระบบ โครงร่าง และกล้ามเนื้อได้ (ÿุทธิ์ ýรีบูรพา, 2544) การประเมินคüามเÿี่ยง (Risk Assessment) Āมายถึง การจําแนกและพิจารณาจัดลำดับ คüามÿำคัญของคüามเÿี่ยงที่มีอยู่ โดยการประเมินจากโอกาÿที่จะเกิด (Likelihood) และผลกระทบ (Impact) - โอกาÿที่จะเกิด (Likelihood) เป็นการพิจารณาคüามเป็นไปได้ที่จะเกิดเĀตุการณ์คüามเÿี่ยง ในช่üงเüลาĀนึ่ง Āรือจะเรียกü่า คüามถี่Āรือโอกาÿที่จะเกิดเĀตุการณ์คüามเÿี่ยงก็ได้ - ผลกระทบ (Impact) ระดับคüามรุนแรงของผลเÿียĀายที่เกิดขึ้นจากคüามเÿี่ยง และมี ผลกระทบต่อองค์กรซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งในด้านบüกและด้านลบ โดยแบ่งผลกระทบได้Āลายประเภท ขั้นตอนในการประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ เริ่มต้นจากการคัดเลือกกลุ่มประชากร ที่จะทำการýึกþา จากนั้นทำการýึกþากระบüนการทำงาน รüมถึงเก็บข้อมูลทางการยýาÿตร์ของการ ทำงานของผู้ปฏิบัติงาน โดยการเก็บข้อมูลจะบันทึกภาพเคลื่อนไĀüของท่าทางการทำงาน จากนั้นนำภาพ ที่ได้มาüิเคราะĀ์ท่าทางการทำงานเพื่อĀาระดับคüามเÿี่ยงจากการทำงาน โดยพิจารณาผลการประเมินü่า อยู่ในระดับคüามเÿี่ยงที่ÿามารถยอมรับได้Āรือไม่ แล้üจึงทำการปรับปรุงการทำงานใĀ้ดีขึ้น 2.4 ปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์กับปัญĀาด้านการยýาÿตร์ คüามÿัมพันธ์ระĀü่างข้อมูลÿ่üนบุคคล ข้อมูลด้านการทำงาน กับระดับคüามเÿี่ยงทาง การยýาÿตร์พบü่า ขั้นตอนการทอผ้า อายุและระยะเüลาทำงาน (ชั่üโมงต่อüัน) มีคüามÿัมพันธ์เชิงบüกกับ ระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์อย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิตินั่นคือ เมื่อผู้ทอผ้ามีอายุมากขึ้น ระยะเüลาการ


15 ทอผ้าที่ยาüนานขึ้น จะมีคüามเÿี่ยงทางด้านการยýาÿตร์มากขึ้น (มาโนช ริทินโย, อมรýักดิ์ มาใĀญ่, และ ภรณี Āลาüทอง, 2562) ในÿ่üนของขั้นตอนการค้นĀูก การทำงานท่าที่กล้ามเนื้อแข็งเกร็งคงที่เป็นเüลา 3 นาทีขึ้นไป มีคüามÿัมพันธ์เชิงบüกกับระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์อย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิติ (P < 0.05) นั่นคือ ผู้ค้นĀูกที่ทำงานในท่าทางที่กล้ามเนื้อแข็งเกร็งคงที่เป็นเüลานาน จะมีคüามเÿี่ยงทางด้าน การยýาÿตร์มากยิ่งขึ้น (ยุพยง Āมั่นกิจ, และกติกา ÿระมณีอินทร์, 2561) ที่พบü่า ลักþณะท่าทางการ ทำงานมีคüามÿัมพันธ์กับอาการปüดเมื่อยโครงร่างและกล้ามเนื้อในบริเüณไĀล่ Āลังÿ่üนบน Āลังÿ่üนล่าง ÿะโพก/ต้นขาอย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิติ (p < 0.05) ซึ่งท่าทางการทำงานที่ไม่เĀมาะÿม ท่าทางทำงาน แบบช้ำๆ นานๆ จะเกิดแรงเครียดของร่างกายโดยตรง อาจเป็นÿาเĀตุÿ่üนĀนึ่งของการปüดĀลังได้ (ÿุนิÿา ชายเกลี้ยง, ธüัชชัย คำป้อง, และüรüรรณ ภูชาตา, 2560) ในกลุ่มอาชีพทอผ้าซึ่งเป็นงานที่มีลักþณะการ ทำงานแบบซ้ำชากแทบทั้งüัน ดังนั้นในการดูแลÿุขภาพเมื่อเกิดอาการเมื่อยล้า และปüดเมื่อยจากการ ทอผ้า จึงเป็นเรื่องที่น่าÿนใจ เนื่องจากมีปัจจัยĀลายอย่างที่มีผลต่อการเลือกใช้üิธีการดูแลÿุขภาพ กลุ่มอาชีพทอผ้า ผู้üิจัยจึงÿนใจที่จะýึกþาปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ใน ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีเพื่อเป็นข้อมูลที่จะนำไปÿู่การÿนับÿนุนการ ประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ 2.5 ÿถานการณ์การเกิดโรค/ปัญĀาด้านการยýาÿตร์ ปัจจุบันพบü่าอาการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อĀรือบางครั้งเรียกโดยรüมü่า อาการผิดปกติของระบบ โครงร่างและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal Disorders: MSDs) เป็นคüามผิดปกติของเนื้อเยื่อโครงร่าง ของร่างกาย ได้แก่ กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อและเอ็นกระดูก รüมถึงระบบประÿาท ÿามารถพบได้ ในงานĀลายลักþณะ ĀรือในĀลายกลุ่มอาชีพ ÿาเĀตุของการเกิด MSDs มักจะเกิดมาจากการที่พนักงาน ต้องทํางานซ้ำๆ ในท่าทางเดิมเป็นเüลานาน และมีท่าทางการทํางานที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบ ของการปüดเมื่อยตามÿ่üนต่าง ๆ ของร่างกาย การเกิดคüามรู้ÿึกอ่อนล้า Āรือคüามไม่ÿบายตัü (จุฑาทิพย์ üิญญูเจริญกุล กลางเดือน โภชนา, 2558) โดยอาชีพทอผ้าเป็นอาชีพที่ÿำคัญอาชีพĀนึ่ง มีลักþณะการ รüมกลุ่มและการทำงานภายในครัüเรือน ขบüนการทอผ้านั้นต้องใช้เüลา แรงงาน และคüามตั้งใจ เพื่อใĀ้ ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและÿüยงาม จะต้องมีการเคลื่อนไĀüÿ่üนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งÿัมพันธ์กับ เครื่องมือเครื่องใช้ และการüางท่าทางตำแĀน่งของร่างกาย การทอผ้าจึงมีโอกาÿเกิดปัญĀาทางÿุขภาพได้ ปัญĀาÿุขภาพที่เกิดขึ้น ได้แก่ การปüดเมื่อยร่างกาย ปัญĀาคüามเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ โดยบริเüณปüด เมื่อยมากที่ÿุดคือบริเüณเอü เข่า ไĀล่ต้นขา และĀลังÿ่üนบน ตามลำดับ ซึ่งเกิดขึ้นจากการนั่งอยู่ท่าเดียü


16 นานๆ มีการก้ม โก้งโค้ง และการทำท่าทางซ้ำๆ กันต่อเนื่องเป็นเüลานาน การเอี้ยüตัüขณะทำงาน เป็นประจำมีคüามÿัมพันธ์กับการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเüณข้อýอกซ้ายและเอü และการบิดข้อมือขณะ ทำงานเป็นประจำ มีคüามÿัมพันธ์กับการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเüณ ต้นขา เข่าและน่อง อย่างมีนัยÿำคัญ ทางÿถิติ(ÿงüน ธานีและคณะ, 2561) ปัญĀาเกี่ยüกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูก อาจเกิดขึ้นได้ใน ลักþณะเฉียบพลัน Āรือค่อยเป็นค่อยไป จากการทำงานที่ต้องใช้กำลังค่อนข้างมาก Āรือเป็นงานช้ำซากที่ เป็นการออกแรงใช้กล้ามเนื้อกลุ่มเดียüทำงานช้ำๆ กันอยู่เÿมอ เกินขอบเขตคüามÿามารถของร่างกายที่จะ รองรับได้ ก็จะเกิดคüามผิดปกติขึ้นกับกระดูก และกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเอ็นต่างๆ ที่เกี่ยüข้อง เช่น กระดูกอาจจะแตกĀัก Āรือบิ่น กล้ามเนื้อและเอ็นอาจฉีกขาดอักเÿบ ข้อต่อเกิดการอักเÿบ เÿ้นประÿาทที่ อยู่ข้างเคียงถูกกดทับ อาจทำใĀ้เÿียคüามรู้ÿึกÿัมผัÿĀรือเกิด คüามเจ็บปüดได้คüามผิดปกติของระบบ กล้ามเนื้อ และกระดูก ที่พบบ่อยนอกจากปüดĀลังตอนล่างที่มีคüามÿำคัญไม่น้อย คือการปüดไĀล่ ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอต่อคüามต้องการของกล้ามเนื้อ และการออกแบบÿถานีงานที่ไม่เĀมาะÿมกับ ขนาดของร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน ล้üนเป็นปัจจัยเÿี่ยงที่มีคüามÿัมพันธ์กับอาการปüดบริเüณไĀล่ 2.6 การประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ 2.6.1 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี REBA üิธีการประเมินทั่üทั้งร่างกาย (Rapid Entire Body Assessment, REBA) เป็นการประเมิน ท่าทางการทำงานที่เป็นการประเมินตั้งแต่ÿ่üนของ คอ ลำตัü ขา แขน และมือ เป็นเทคนิคที่คิดค้นโดย ซู ฮิกเน็ท (Sue Hignett) ซึ่งเป็นนักการยýาÿตร์ของโรงพยาบาลแĀ่งเมือง Nottingham ประเทýÿĀราช อาณาจักร และ Lyn McAtamney ผู้อำนüยการของบริþัทที่ใĀ้บริการทางด้านการยýาÿตร์และ อาชีüอนามัย (Occupational health and ergonomic services Ltd.) ในประเทýÿĀราชอาณาจักร เช่นกัน การประเมินด้üยüิธีREBA จะเĀมาะÿำĀรับการประเมินÿ่üนต่างๆ ของร่างกายÿำĀรับงานที่มี ลักþณะเปลี่ยนท่าทางอย่างรüดเร็ü Āรืองานที่ไม่อยู่กับที่ งานที่ไม่นั่งĀรือยืน ปฏิบัติงานในท่าทางเดิมๆ ซ้ำๆ ตลอดเüลา รüมถึงงานที่มีท่าทางการทำงานที่ไม่ÿามารถคาดเดาได้ เช่นงานบริการเป็นต้น üิธีREBA ได้ถูกนำมาใช้ในการประเมินท่าทางการทำงานของพนักงานในภาคอุตÿาĀกรรมด้üย เช่น โรงงานเลื่อยไม้(Jones & Kumar, 2010)


17 2.6.2 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี RULA Rapid Upper Limb Assessment (RULA) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินท่าทางที่ใช้ร่างกาย ÿ่üนบนในการทำงาน ซึ่งมีจุดเด่นคือ ระยะเüลาที่ใช้ในการประเมินÿั้นเĀมาะÿมÿำĀรับลักþณะงานที่มี คüามเÿี่ยงต่อคอและร่างกายÿ่üนบน และการคำนüณคะแนนง่าย โดยค่าคะแนนที่คำนüณได้จะแÿดงใĀ้ เĀ็นถึงคüามเÿี่ยงในภาพรüมของงานที่คนงานทำ ซึ่งจะพิจารณาตามปัจจัยที่ÿำคัญ 3 อย่างคือ ท่าทางใน การทำงาน คüามĀนักเบาของการออกแรง และคüามถี่ในการเคลื่อนไĀü ในÿ่üนของการแปลผลคะแนน ของคüามเÿี่ยงนั้น จะมีค่าตั้งแต่เÿี่ยงน้อยซึ่งมีคะแนนเท่ากับ 1 ถึงเÿี่ยงมากซึ่งมีคะแนนเท่ากับ 7 โดยที่ คะแนนเĀล่านี้จะถูกจัดระดับออกเป็น 4 กลุ่มตามคะแนนที่ประเมินได้ ซึ่งจะมีการพิจารณาแนüทาง ดำเนินการต่อไปภายใต้กรอบเüลาในการรับÿัมผัÿคüามเÿี่ยงนั้น และระยะเüลาในการเริ่มมาตรการในการ คüบคุมคüามเÿี่ยงต่อไป (Stanton, N. et.al., 2004) ในระยะต่อมานักการยýาÿตร์ชื่อ Rani Lueder ได้ทำการเพื่อปรับปรุง RULA ÿำĀรับงานที่มี การใช้คอมพิüเตอร์ ซึ่งมีข้อจำกัดÿำĀรับการใช้ RULA ต้นฉบับการประเมินคüามเÿี่ยงด้านการยýาÿตร์ ของการใช้ร่างกายÿ่üนบนในการทำงานลักþณะนี้โดย Lueder จึงได้ทำการพัฒนาและนำเÿนอแนüทาง ในการüิเคราะĀ์ท่าทางเพิ่มเติมเพื่อใĀ้เĀมาะÿมในการประเมินคüามเÿี่ยงÿำĀรับคนที่ทำงานกับ คอมพิüเตอร์ (Lueder, R., 1996) เพิ่มเติมโดยใช้ประยุกต์ท่าทางทำงานกับคอมพิüเตอร์ที่มีคüาม เฉพาะเจาะจงมาปรับเข้าเกณฑ์การใĀ้คะแนนที่มีอยู่เดิมอย่างเĀมาะÿม 2.6.3 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี ROSA การประเมิน (Rapid Office Strain Assessment, ROSA) ใช้บ่งชี้ปัจจัยเÿี่ยงของพนักงานที่ ทำงานในÿำนักงาน ROSA เป็นเครื่องมือที่ออกมาĀลัง REBA และ RULA แต่ใช้Āลักการประเมินโดย รูปภาพเช่นเดียüกัน üัตถุประÿงค์ของการประเมินโดย ROSA คือการใช้เป็นเครื่องมือในการบ่งชี้จุดที่มี ปัจจัยเÿี่ยงในการทำงานในÿำนักงานเป็นĀลัก โดยพิจารณาจากอุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่นเก้าอี้ Āน้าจอ คอมพิüเตอร์ โทรýัพท์ เมาÿ์ แป้นพิมพ์ นอกจากนั้นยังพิจารณาถึงระยะเüลาในการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ ด้üยผลคะแนนของการประเมินจะมีค่าตั้งแต่ 1 ถึง 10 คะแนน ROSA ที่มากกü่า 5 แปลü่าเป็นจุดที่มี คüามเÿี่ยงÿูงและคüรจะมีการüิเคราะĀ์ÿถานีงานเพิ่มเติม เพื่อการปรับปรุงและลดภาüะเÿี่ยงที่เกิดขึ้น


18 2.6.4การประเมินคüามเÿี่ยงโดยใช้ÿมการ NIOSH NIOSH (The National Institute for Occupational Safety and Health) เป็นĀน่üยงานทาง ÿุขýาÿตร์อุตÿาĀกรรมในÿĀรัฐอเมริกาที่ทำĀน้าที่Āลักเกี่ยüกับการýึกþาüิจัยทางด้านอาชีüอนามัยและ คüามปลอดภัย และจัดทำข้อเÿนอแนะต่างๆ ในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันการบาดเจ็บเนื่องจากการ ทำงาน (Work-related injury and illness) NIOSH ยังทำการตรüจÿอบอันตรายทางด้านต่างๆ ที่อาจ เกิดขึ้นได้จากการทำงาน ใĀ้คำแนะนำในการออกข้อกำĀนดกฎĀมายที่เกี่ยüข้อง เÿนอแนะมาตรการใช้ ÿารพิþและระดับของÿารเคมีที่ปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเรียกü่าค่าปริมาณขีดจำกัดของÿารที่ แนะนำ (Recommended Exposure Limits, RELs) นอกจากĀน้าที่ดังกล่าüข้างต้น NIOSH ยังเÿนอ üิธีการในการüิเคราะĀ์และประเมินปัจจัยเÿี่ยงด้านการยýาÿตร์ในÿถานที่ทำงานที่มีลักþณะการทำงานที่ ต้องมีการยกขนย้ายüัตถุด้ายแรงคน ซึ่งüิธีการดังกล่าüรู้จักกันในนามü่า ÿมการการยกของ NIOSH (NIOSH lifting equation) NIOSH ได้เÿนอÿมการการยกครั้งแรกเมื่อปี ค.ý. 1981 ต่อมา NIOSH ได้มีการüิจัยเพิ่มเติมเพื่อ ปรับปรุงÿมการดังกล่าüใĀ้มีคüามเĀมาะÿมมากยิ่งขึ้น และในปี ค.ý. 1991 จึงได้เÿนอÿมการการยกที่มี การปรับปรุงใĀม่ (Revised NIOSH lifting equation) ซึ่งÿมการนี้ก็ได้มีการนำมาใช้งานอย่างแพร่Āลาย จนถึงปัจจุบันนี้ ÿมการการยกของ NIOSH ใช้ในการประเมินÿภาพการยกและเคลื่อนย้ายÿิ่งของด้üยแรงกายของ ผู้ปฏิบัติงาน โดยพิจารณาคüามÿามารถในการใช้แรงกล้ามเนื้อของมนุþย์รüมถึงคüามÿำคัญของปัจจัยที่ เกี่ยüข้องและÿัมพันธ์กับงานยกนั้นๆ การประเมินโดยใช้ÿมการยกของ NIOSH จะใช้ประเมินได้ภายใต้ เงื่อนไขและข้อจำกัด ดังต่อไปนี้ 1. ลักþณะการยก ต้องเป็นการยกĀรือขนย้ายด้üยมือทั้งÿองข้าง ยกทางด้านĀน้าของลำตัü มือทั้งÿองข้างอยู่ในระดับเดียüกัน üัตถุÿิ่งของที่จะเคลื่อนย้ายมีขนาดไม่กü้างมากเกินไปและมีการกระจาย น้ำĀนักไปยังมือทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กันÿมการนี้ไม่ÿามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการยกด้üยมือเพียงข้างเดียü การยกที่มีระยะเüลาทำงานมากกü่า 8 ชั่üโมงต่อüัน งานยกในท่าทางนั่งĀรือคุกเข่า การยกในบริเüณที่มี พื้นที่จำกัดคับแคบ งานยกÿิ่งของที่ไม่มั่นคง งานยกในลักþณะที่มีการฉุดกระชาก การดึงĀรือการลาก งานยกที่ใช้คüามเร็üในการเคลื่อนไĀüÿูง การใช้รถเข็นĀรือการขุดเจาะ


19 2. ÿภาพของÿถานที่ปฏิบัติงาน ÿภาพแüดล้อมในที่ทำงานคüรอยู่ที่อุณĀภูมิระĀü่าง 19-27๐C คüามชื้นระĀü่าง 35-50% นอกจากนั้นÿภาพของพื้นผิüที่ยืนทำงานจะต้องอยู่ในÿภาพราบเรียบĀรือยืน ได้อย่างมั่นคง และผู้ปฏิบัติงานÿüมใÿ่รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าที่เĀมาะÿม ถ้าÿภาพแüดล้อมในการทำงาน อยู่นอกเĀนือช่üงĀรือลักþณะดังกล่าü อาจเป็นการเพิ่มคüามเÿี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บได้ 2.6.5 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี OWAS การüิเคราะĀ์ท่าทางการทำงานโดยüิธีOWAS (Ovako Working Posture Analysis System) ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยโรงงานเĀล็กในประเทýฟินแลนด์ร่üมกับÿถาบันอาชีüอนามัยประเทý ฟินแลนด์ (Finnish Institute of Occupational Health) เมื่อประมาณปีค.ý. 1970 โดยใช้ในการ ประเมินคนงานในโรงงานเĀล็ก เนื่องจากพบปัญĀาจำนüนคนงานที่มีการเจ็บป่üยเพิ่มขึ้นและมีการลาออก เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัญĀาที่เกิดจากมีอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกของพนักงานüิธีOWAS เป็นüิธีที่ ง่ายต่อการประเมินและมีการประยุกต์ใช้ในอุตÿาĀกรรมและบริการอย่างกü้างขüาง เช่น งานก่อÿร้าง (Kivi & Mattila, 1991) งานช่างไม้(Mattila, etal., 1993) งานตัดอ้อย (Messias & Okuno, 2012) เป็นต้น การประเมินด้üยüิธีOWAS ใช้ประเมินอิริยาบถโดยการเฝ้าÿังเกตการทำงานของพนักงานแต่ละ ท่าทางตลอดช่üงการทำงาน โดยÿังเกตĀลัง แขน ขา และการออกแรงกล้ามเนื้อ การÿังเกตท่าทางในการ ทำงาน คüรจะทำโดยการÿังเกตในÿถานที่จริงและÿภาพแüดล้อมจริง Āรืออาจจะมีการบันทึก VDO เพื่อ ใช้ในการประเมินรายละเอียดได้มากขึ้น ข้อดีของการใช้VDO คือทำใĀ้ผู้ประเมินÿามารถย้อนกลับเพื่อ ÿังเกตท่าทางที่ประเมินได้ และทำใĀ้มองเĀ็นรายละเอียดได้อย่างครบถ้üน ซึ่งจะทำใĀ้ÿามารถประเมินได้ อย่างถูกต้องมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อมีการปรับปรุงการทำงานใĀม่จะÿามารถใช้VDO ในการแนะนำĀรือ ชี้แจงใĀ้พนักงานเĀ็นคüามแตกต่างของการทำงานก่อน และĀลังการปรับปรุงได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น การÿังเกตท่าทางในการทำงานแบ่งช่üงเüลาÿังเกตออกเป็นช่üงเüลาที่เท่าๆ กันโดยทั่üไปจะใช้30 üินาที Āรือ 60 üินาที ซึ่งในทางปฏิบัติการใช้คüามถี่ในการÿังเกตĀรือช่üงเüลาที่ÿั้นกü่านี้จะทำได้ยาก ถ้า ต้องการÿังเกตโดยใช้ช่üงเüลาที่ÿั้น เช่น งานที่มีรอบเüลาÿั้นÿามารถทำใĀ้ได้โดยการบันทึก VDO การ ÿังเกตการทำงานไม่คüรเกิน 40 นาที กรณีที่เกิน 40 นาทีคüรมีช่üงพัก 10 นาที การประเมินท่าทางการทำงานด้üยüิธีOWAS เป็นการประเมินท่าทางการทำงานที่มักจะพบทั่üไป ในการทำงานปกติ โดยได้มีการแบ่งท่าทางออกเป็น 84 ท่าทาง และมีการประเมินน้ำĀนักจะแยก


20 เป็น 4 ด้าน คือĀลัง แขน ขา และออกแรง ซึ่งจะได้เป็นรĀัÿของแต่ละด้านรüม 4 ตำแĀน่ง เรียกü่า รĀัÿ OWAS ขั้นตอนการประเมินโดยüิธีOWAS จากüิธีการประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ทั้งĀมดที่ได้กล่าüมาข้างต้นนั้น ผู้üิจัยได้เลือกใช้ การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) เนื่องจากü่าüิธีนี้เป็นüิธีที่ เĀมาะÿมกับการประเมินผู้ทอผ้ามากที่ÿุด เพราะการประเมินด้üยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) เป็นการประเมินท่าทางการทำงานในท่านั่ง Āรือมุ่งเน้นการประเมินท่าทางการเคลื่อนไĀü ของร่างกายÿ่üนบน การประเมินด้üยüิธีนี้ได้แก่ การนำมาใช้ในการประเมินท่าทางการทำงานของ พนักงานทอผ้า พนักงานเย็บผ้า พนักงานขับรถ เป็นต้น ซึ่งพบü่า ÿามารถใช้ในการชี้บ่งระดับคüามเÿี่ยง Āรือระดับอันตรายของการทำงานของพนักงานได้เป็นอย่างดีโดยขั้นตอนการประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) มีรายละเอียดดังนี้ 2.7 การประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) การประเมินด้üยüิธี RULA (Rapid Upper Limp Assessment) เป็นüิธีการที่พัฒนาขึ้นโดย Lynn McAtamney และ Nigel Corlett ใน ปี ค.ý. 1993 เพื่อใช้ประเมินท่าทางการทำงานในท่านั่ง Āรือมุ่งเน้นการประเมินท่าทางการเคลื่อนไĀüของร่างกายÿ่üนบน ตัüอย่างของการประเมินด้üยüิธีนี้ได้แก่ การนำมาใช้ในการประเมินท่าทางการทำงานของพนักงานทอผ้า พนักงานเย็บผ้า พนักงานขับรถ เป็นต้น ซึ่งพบü่า ÿามารถใช้ในการชี้บ่งระดับคüามเÿี่ยงĀรือระดับอันตรายของการทํางานของพนักงานได้เป็น อย่างดี การประเมินนี้แบ่งการประเมินเป็น 2 กลุ่มĀลัก คือ กลุ่ม A ประกอบด้üย การประเมินÿ่üนแขน และข้อมือ และกลุ่ม B ประกอบด้üยการประเมินในÿ่üน คอ ลำตัü และขา มีแบบฟอร์มในการประเมินดัง แÿดงในภาคผนüก โดยการประเมินจะแบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้ (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 1 การประเมินแขนÿ่üนบน (Upper arm) การประเมินแบบÿ่üนบนจะพิจารณาระดับของแขนตั้งแต่ĀัüไĀล่จนถึง ข้อýอก ถ้าระดับของแขน ÿ่üนบนยกÿูงขึ้นจะมีคะแนนประเมินมากขึ้น ระดับแขนที่อยู่ในแนüระดับแนüดิ่งจะมีค่าคะแนนประเมิน ต่ำลง นั่นคือ มีคüามเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อยน้อยกü่าเมื่อแขนถูกยกใĀ้ÿูงขึ้น ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติงานมีท่าทาง การยกĀัüไĀล่ĀรือไĀล่กางออกก็จะทำใĀ้เพิ่มคüามเÿี่ยงในการปüดเมื่อยมากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าผู้ปฏิบัติงานÿามารถพาดแขนĀรือüางแขนไü้กับอุปกรณ์ Āรือÿ่üนต่างๆ ในÿถานีงานได้ก็จะทําใĀ้มี คüามเÿี่ยงในการปüดเมื่อยน้อยลง รายละเอียดคะแนนการประเมินในÿ่üนแขนÿ่üนบน


21 แÿดงดังตารางที่ 2.1 และรูปที่ 2.7-1 ในการประเมินจะพิจารณาÿ่üนของคะแนนĀลักก่อน แล้üจึง พิจารณาปรับเพิ่ม/ลด จากท่าทางที่มีลักþณะเฉพาะ เช่น มีการยกĀัüไĀล่ (ปรับเพิ่ม 1 คะแนน) ĀัüไĀล่ กางออก (ปรับเพิ่ม 1 คะแนน) มีที่üางแขน (ลบ 1 คะแนน) ดังนั้นคะแนนของÿ่üนนี้จะมีค่าÿูงÿุดไม่ เกิน 6 คะแนน ตารางที่ 2.1 แÿดงคะแนนการประเมินแขนÿ่üนบนในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 แขนอยู่ในตำแĀน่งไปข้างĀน้า-Āลังไม่เกิน 20๐ 2 แขนอยู่ด้านĀลัง เกิน 20๐ 2 แขนอยู่ด้านĀน้า 20-45๐ 3 แขนอยู่ด้านĀน้า 45-90๐ 4 แขนอยู่ในตำแĀน่งเĀนือไĀล่ (มีมุมเกิน 90๐ เมื่อเทียบกับลำตัü) คะแนนปรับเพิ่ม +1 มีการยกĀัüไĀล่ +1 ĀัüไĀล่กางออก -1 ถ้ามีที่üางแขน Āรือÿามารถพาดแขนได้ รูปที่ 2.7-1 แÿดงลักþณะการประเมินแขนÿ่üนบนในüิธี RULA ที่มา : (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 2 การประเมินแขนÿ่üนล่าง (Lower arm Āรือ forearm) การประเมินแขนÿ่üนล่างจะเป็นการประเมินลักþณะของแขนตั้งแต่ข้อýอกไปจนถึงข้อมือ โดยจะ พิจารณามุมของแขนÿ่üนล่างü่า อยู่ในแนüใดเมื่อเทียบกับแกนแนüดิ่ง ตำแĀน่งของแขนที่ทำมุมกับแกน


22 แนüดิ่งมากก็จะยิ่งมีคüามเÿี่ยงมากขึ้น นอกจากนั้น ถ้าผู้ปฏิบัติงานมีการทำงานไขü้แขนเลยแกนกลางของ ลำตัü Āรือทำงานในลักþณะกางแขนออกไปด้านข้างของลำตัü จะทำใĀ้มีคüามเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อยมาก ขึ้นจึงทำใĀ้ค่าคะแนนมีการปรับเพิ่มขึ้น +1 คะแนนด้üย รายละเอียดของคะแนนการประเมินแขน ÿ่üนล่างแÿดงดังตารางที่ 2.2 และรูปที่ 2.7-2 ค่าคะแนนÿูงÿุดในขั้นตอนนี้มีค่าไม่เกิน 3 คะแนน ตารางที่ 2.2 แÿดงคะแนนการประเมินแขนÿ่üนล่างในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 แขนÿ่üนล่างอยู่ในระดับที่มีมุมระĀü่าง 60-100๐ เมื่อเทียบกับแนüดิ่ง 2 แขนÿ่üนล่างตกลงมาด้านล่างโดยมีมุมน้อยกü่า 60๐ Āรือแขนอยู่ในตำแĀน่งยกขึ้น ด้านบนทำมุมมากกü่า 100๐ เมื่อเทียบกับแนüดิ่ง คะแนนปรับเพิ่ม +1 แขนไขü้เลยแกนกลางของลำตัü Āรือแขนกางออกไปด้านข้างของลำตัü รูปที่ 2.7-2 แÿดงลักþณะการประเมินแขนÿ่üนล่างในüิธี RULA ที่มา : (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 3 การประเมินข้อมือ (Wrist) การประเมินลักþณะของข้อมือใĀ้ÿังเกตแนüระĀü่างกระดูกฝ่ามือกับกระดูกแขนÿ่üนล่าง ลักþณะท่าทางของข้อมือที่เĀมาะÿม จะต้องอยู่ในแนüเดียüกันกับแนüแขนÿ่üนล่าง และไม่เบี่ยงไป ทางซ้าย Āรือขüา ถ้ามีการงอของข้อมือจะทำใĀ้มีโอกาÿเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อยได้รายละเอียดการ ประเมินท่าทางของข้อมือแÿดงดังตารางที่ 2.3 และรูปที่ 2.7-3 คะแนนÿูงÿุดในขั้นตอนนี้มีค่าไม่ เกิน 4 คะแนน


23 ตารางที่ 2.3 แÿดงคะแนนการประเมินข้อมือในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 ตำแĀน่งของข้อมือ (แนüกระดูกฝ่ามือ) อยู่ในแนüเดียüกับแขนÿ่üนล่าง 2 ตำแĀน่งของข้อมือ (แนüกระดูกฝ่ามือ) ทำมุมขึ้นĀรือลงไม่เกิน 15๐ เมื่อเทียบกับ แนüแขนÿ่üนล่าง 3 ตำแĀน่งของข้อมือ (แนüกระดูกฝ่ามือ) ทำมุมขึ้นĀรือลงมากกü่า 15๐ เมื่อเทียบ กับแนüแขนÿ่üนล่าง คะแนนปรับเพิ่ม +1 มีการเอียงข้อมือเบี่ยงไปด้านข้าง (ซ้าย–ขüา) รูปที่ 2.7-3 แÿดงลักþณะการประเมินข้อมือในüิธี RULA ที่มา : (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 4 การประเมินการĀมุนของข้อมือ (Wrist twist) การใช้งานข้อมือของผู้ปฏิบัติงานไม่คüรจะมีการĀมุนข้อมือมากขึ้นเกินไป ผู้ปฏิบัติงานที่ต้อง ทำงานที่มีลักþณะการĀมุนของข้อมือมากจนเกือบÿุดจะทำใĀ้ยิ่งมีคüามเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อยได้ÿูงขึ้น รายละเอียดคะแนนของการประเมินการĀมุนของข้อมือ แÿดงในตารางที่ 2.4 โดยคะแนนÿูงÿุดใน ขั้นตอนนี้มีค่าไม่เกิน 2 คะแนน ตารางที่ 2.4 แÿดงคะแนนการประเมินการĀมุนของข้อมือ ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 ไม่มีการบิดĀรือĀมุนข้อมือ ĀรือĀมุนบิดข้อมือเล็กน้อยไม่เกินครึ่ง 2 มีการĀมุนบิดของข้อมือตั้งแต่ครึ่งถึงเกือบÿุด


24 ขั้นตอนที่ 5 การประเมินคะแนนกลุ่ม A นำคะแนนที่ได้จากขั้นตอนที่ 1-4 มาอ่านค่าในตารางการประเมินคะแนนกลุ่ม A ดังตาราง เช่น ถ้าคะแนนแขนÿ่üนบนได้ 4 คะแนนแขนÿ่üนล่างได้ 3 คะแนนการประเมินข้อมือได้ 2 คะแนนการĀมุน ของข้อมือได้ 2 จะอ่านค่าคะแนนกลุ่ม A (Score A) จากตารางที่ 2.5 ได้5 เป็นต้น ตารางที่ 2.5 แÿดงคะแนนประเมินกลุ่ม A ที่มา : (McAtamney & Corlett, 1993) แขน ÿ่üนบน แขน ÿ่üนล่าง คะแนนท่าทางของมือ และข้อมือ 1 2 3 4 การบิดของข้อมือ การบิดของข้อมือ การบิดของข้อมือ การบิดของข้อมือ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 1 1 2 2 2 2 3 3 3 2 2 2 2 2 3 3 3 3 3 2 3 3 3 3 3 4 4 2 1 2 3 3 3 3 4 4 4 2 3 3 3 3 3 4 4 4 3 3 4 4 4 4 4 5 5 3 1 3 3 4 4 4 4 5 5 2 3 4 4 4 4 4 5 5 3 4 4 4 4 4 5 5 5 4 1 4 4 4 4 4 5 5 5 2 4 4 4 4 4 5 5 5 3 4 4 4 5 5 5 6 6 5 1 5 5 5 5 5 6 6 7 2 5 6 6 6 6 6 7 7 3 6 6 7 7 7 7 7 8 6 1 7 7 7 7 7 8 8 9 2 8 8 8 8 8 9 9 9 3 9 9 9 9 9 9 9 9


25 ขั้นตอนที่ 6 การประเมินการใช้กล้ามเนื้อแขนĀรือมือในการทำงาน ลักþณะการใช้กล้ามเนื้อในการทำงานที่จะมีคüามเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อย อาจจะเป็นการใช้แรง จากกล้ามเนื้อแบบÿถิต คือ มีการใช้แรงโดยเกร็งกล้ามเนื้อต่อเนื่อง นานกü่า 1 นาที Āรือมีการทำงานเป็น แบบซ้ำๆ โดยมีการเคลื่อนไĀüกลับไป กลับมา ตั้งแต่ 4 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป รายละเอียดคะแนนการ ประเมินการใช้กล้ามเนื้อในการทำงานแÿดงดังตารางที่ 2.6 กรณีที่ลักþณะการใช้แรงไม่อยู่ในภาüะเÿี่ยง ตามที่ระบุในตาราง จะทำใĀ้คะแนนการประเมินเป็นýูนย์ ÿ่üนคะแนนÿูงÿุดในขั้นตอนนี้จะมีค่า เพียง 1 เท่านั้น ตารางที่ 2.6 แÿดงคะแนนการประเมินการใช้กล้ามเนื้อแขนĀรือมือในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 แขนĀรือมือใช้แรงอยู่นิ่งนานเกิน 1 นาที 1 แขนĀรือมือมีการเคลื่อนไĀüซ้ำไปมาตั้งแต่ 4 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป ขั้นตอนที่ 7 การประเมินแรงĀรือภาระงานในÿ่üนแขนĀรือมือ การประเมินแรงที่ใช้Āรือภาระงานที่กล้ามเนื้อต้องรับภาระÿามารถประเมินได้จากน้ำĀนักของ üัตถุที่ถือ ซึ่งผู้ปฏิบัติงานที่รับภาระงานที่มากจะมีผลต่อการปüดเมื่อยมากยิ่งขึ้น รายละเอียดการประเมิน แรงĀรือภาระงานมีรายละเอียดดังตารางที่ 2.7 โดยคะแนนÿูงÿุดในขั้นตอนนี้คือ 3 คะแนน ตารางที่ 2.7 แÿดงคะแนนประเมินการใช้แรงĀรือภาระงานในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 0 แรงที่ใช้Āรือน้ำĀนักที่ถือน้อยกü่า 2 กก. (ทำงานไม่ต่อเนื่อง) 1 แรงที่ใช้Āรือน้ำĀนักที่ถืออยู่ระĀü่าง 2–10 กก. (ทำงานไม่ต่อเนื่อง) 2 แรงที่ใช้Āรือน้ำĀนักที่ถืออยู่ระĀü่าง 2–10 กก. โดยมีการใช้แรงĀรือจับถือน้ำĀนัก อยู่ตลอดเüลา Āรือมีการออกแรงซ้ำไปมาบ่อยๆ 3 แรงที่ใช้Āรือน้ำĀนักที่ถือ มากกü่า 10 กก. ไม่ü่าจะเป็นการใช้แรงแบบÿถิตĀรือ เคลื่อนที่ซ้ำไปมาบ่อยๆ Āรือมีการใช้แรงแบบกระแทกเป็นครั้งคราü


26 ขั้นตอนที่ 8 การÿรุปคะแนนรüมของÿ่üนแขนและข้อมือ การÿรุปคะแนนรüมของÿ่üนแขนและข้อมือจะเป็นการนำคะแนนประเมินของกลุ่ม A (Score A) ที่ได้จากขั้นตอนที่ 5 มารüมกับคะแนนการใช้กล้ามเนื้อ (ขั้นตอนที่ 6) และคะแนนการใช้แรงและภาระ งาน (ขั้นตอนที่ 7) โดยคะแนนที่ได้จะนำไปใช้ในการเปิดตารางÿุดท้ายในขั้นตอนที่ 16 ต่อไป ขั้นตอนที่ 9 การประเมินÿ่üนคอ การประเมินในÿ่üนของกลุ่ม B ประกอบด้üยการประเมินÿ่üนคอ ลำตัü และขา โดยในขั้นตอนนี้ จะเป็นการประเมินในÿ่üนคอ ü่าผู้ปฏิบัติงานมีท่าทางของคอเĀมาะÿมĀรือไม่ ลักþณะของýีรþะและคอที่ เĀมาะÿมจะต้องอยู่ในลักþณะýีรþะตรงĀรือก้มไปข้างĀน้าเล็กน้อย ถ้าผู้ปฏิบัติงานมีการก้มมากเกินไป ĀรือมีการเงยýีรþะจะทำใĀ้อยู่ในท่าทางที่มีคüามเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อยได้ รายละเอียดของการประเมิน ท่าทางของýีรþะและคอ รายละเอียดของการประเมินท่าทางของýีรþะและคอ แÿดงดังตารางที่ 2.8 และ รูปที่ 2.7-4 โดยคะแนนในการประเมินÿ่üนนี้อาจจะมีการปรับเพิ่มในกรณีที่มีการĀมุนคอĀรือมีการเอียง คอด้üย ซึ่งคะแนนÿูงÿุดในขั้นตอนนี้จะมีค่าไม่เกิน 6 คะแนน ตารางที่ 2.8 แÿดงคะแนนประเมินÿ่üนคอ ในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 ýีรþะตรงĀรือก้มไปข้างĀน้าเล็กน้อย (แนüของýีรþะทำมุมกับแนüดิ่งĀรือ แนüแกนของคอไม่เกิน 10๐ ) 2 ýีรþะก้มไปข้างĀน้าทำมุมกับแนüดิ่งอยู่ระĀü่าง 10-20๐ 3 ýีรþะก้มไปข้างĀน้า ทำมุมกับแนüดิ่ง มากกü่า 20๐ 4 ýีรþะเงยไปด้านĀลัง คะแนนปรับเพิ่ม +1 มีการĀมุนýีรþะด้üย +1 มีการเอียงýีรþะไปด้านข้าง


27 รูปที่ 2.7-4 แÿดงการประเมินÿ่üนคอในüิธี RULA ที่มา : (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 10 การประเมินÿ่üนลำตัü การประเมินÿ่üนของลำตัüจะพิจารณามุมของลำตัüเมื่อเทียบกับแนüดิ่งลักþณะของลำตัüที่ เĀมาะÿมคüรอยู่ในลักþณะตั้งตรง Āรือเอนตัüไปด้านĀน้าเล็กน้อย ท่าทางการทำงานที่ต้องเองตัüไปจาก แนüดิ่งมากเกินไปจะทำใĀ้มีคüามเÿี่ยงต่อการปüดเมื่อยได้ และถ้ามีการĀมุนตัüและเอียงตัüไปทาง ด้านข้างก็ยิ่งทำใĀ้เพิ่มระดับคüามเÿี่ยงมากขึ้นด้üย รายละเอียดการประเมินในขั้นตอนนี้แÿดงดังตารางที่ 2.9 และรูปที่ 2.7-5 โดยมีคะแนนÿูงÿุดไม่เกิน 6 คะแนน ตารางที่ 2.9 แÿดงคะแนนประเมินในÿ่üนลำตัüในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 ลำตัüตั้งตรง 2 ลำตัüเอนไปด้านĀน้า 0-20๐ 3 ลำตัüเอนไปด้านĀน้า 20-60๐ 4 ลำตัüเอนไปด้านĀน้า มากกü่า 60๐ คะแนนปรับเพิ่ม +1 มีการĀมุนตัü +1 มีการเอนตัüไปด้านข้าง


28 รูปที่ 2.7-5 แÿดงการประเมินในÿ่üนลำตัüในüิธี RULA ที่มา : (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 11 การประเมินÿ่üนขา การประเมินในÿ่üนของขาจะพิจารณาท่าทางของขาทั้ง 2 ข้างและการมีอุปกรณ์รองรับเท้าที่ เĀมาะÿม โดยรายละเอียดของการประเมินในÿ่üนนี้แÿดงในตารางที่ 2.10 ซึ่งคะแนนÿูงÿุดของการ ประเมินไม่เกิน 2 คะแนน ตารางที่ 2.10 แÿดงคะแนนประเมินÿ่üนขาในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 ขาและเท้าทั้ง 2 ข้างอยู่ในท่าทางÿมดุลและมีที่รองรับอย่างเĀมาะÿม 2 ขาและเท้าทั้ง 2 ข้างอยู่ในท่าทางไม่เĀมาะÿมĀรือไม่มีที่รองรับเท้า ขั้นตอนที่ 12 การประเมินคะแนนท่าทางกลุ่ม B นำคะแนนการประเมินในขั้นตอนที่ 9-11 มาเปิดตารางที่ 2.11 เพื่อĀาคะแนนท่าทางของกลุ่ม B (score B)


29 ตารางที่ 2.11 แÿดงคะแนนท่าทางในกลุ่ม B ลำตัü คอ 1 2 3 4 5 6 ขา ขา ขา ขา ขา ขา 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 1 3 2 3 3 4 5 5 6 6 7 7 2 2 3 2 3 4 5 5 5 6 7 7 7 3 3 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 7 4 5 5 5 6 6 7 7 7 7 7 8 8 5 7 7 7 7 7 8 7 8 8 8 8 8 6 8 8 8 8 8 8 8 9 9 9 9 9 ที่มา (McAtamney & Corlett, 1993) ขั้นตอนที่ 13 การประเมินกล้ามเนื้อขาĀรือเท้าในการทำงาน การประเมินการใช้แรงจากกล้ามเนื้อขาเป็นการประเมินลักþณะการใช้แรงจากกล้าเนื้อขาĀรือ เท้า ในการคüบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น จักรเย็บผ้า การเĀยียบคันเร่ง Āรือคันเบรก ในการขับรถĀรือ คüบคุมเครื่องจักร เป็นต้น โดยการพิจารณาü่า การออกแรงเป็นไปในลักþณะใดเป็นแบบÿถิต Āรือแบบ พลüัติ ด้üยคüามถี่มากน้อยเพียงใดรายละเอียดคะแนนการประเมินการใช้แรงจากกล้ามเนื้อขาĀรือเท้า แÿดงดังตารางที่ 2.12 การประเมินในขั้นตอนนี้มีคะแนนÿูงÿุดไม่เกิน 1 คะแนน ถ้ามีการใช้แรงจาก กล้ามเนื้อในÿภาพปกติจะได้คะแนนประเมินในขั้นตอนนี้เป็นýูนย์ ตารางที่2.12 แÿดงคะแนนการประเมินการใช้กล้ามเนื้อขาĀรือเท้าในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 1 ขาĀรือเท้าอยู่ในท่านิ่งนานเกิน 1 นาที 1 ขาĀรือเท้ามีการเคลื่อนไĀüĀรือใช้แรงแบบซ้ำๆ ไปมา ตั้งแต่ 4 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป


30 ขั้นตอนที่ 14 การประเมินแรงĀรือภาระงานในÿ่üนของขาĀรือเท้า การประเมินระดับภาระงาน น้ำĀนักÿิ่งของ Āรือแรงที่ใช้ในการทำงาน เช่น แรงที่ใช้ในการเĀยียบ คันเร่งรถยนต์ ซึ่งÿามารถüิเคราะĀ์ได้ü่า คันเร่งนั้นมีแรงต้านกี่กิโลกรัม Āรือกี่นิüตัน และลักþณะของการ ออกแรงเป็นแบบÿถิต Āรือแบบพลüัต ทำเป็นครั้งคราü Āรือทำซ้ำๆ บ่อยๆ ซึ่งจะมีผลต่อการปüดเมื่อย ของผู้ปฏิบัติงานแตกต่างกันไป รายละเอียดการประเมินระดับภาระงาน น้ำĀนักÿิ่งของ Āรือแรงที่ใช้ใน การทำงานในÿ่üนของขา Āรือเท้า แÿดงดังตารางที่ 2.13 โดยในการประเมินขั้นตอนนี้จะมีคะแนนÿูงÿุด ไม่เกิน 3 คะแนน ตารางที่ 2.13 แÿดงคะแนนประเมินแรงĀรือภาระงานในÿ่üนขาĀรือเท้าในüิธีRULA ÿ่üน คะแนน ท่าทาง คะแนนĀลัก 0 ภาระงานที่ใช้มีค่าน้อยกü่า 2 กก. อย่างไม่ต่อเนื่อง 1 ภาระงานที่ใช้มีค่าระĀü่าง 2-10 กก.อย่างไม่ต่อเนื่อง 2 ภาระงานที่ใช้มีค่าระĀü่าง 2-10 กก.โดยออกแรงแบบÿถิต Āรือเกิดขึ้นซ้ำๆ ตั้งแต่ 4 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป 3 ภาระงานที่ใช้มีค่ามากกกü่า 10 กก. โดยออกแรงแบบÿถิต Āรือ เกิดขึ้นซ้ำๆ Āรือ มีการออกแรงแบบกระแทก Āรือกระชาก ขั้นตอนที่ 15 ÿรุปคะแนนรüมของÿ่üนขาและเท้า การÿรุปคะแนนรüมÿ่üนของขาและเท้าจะเป็นการนำเอาคะแนนของกลุ่ม B (Score B) ที่ได้จาก ขั้นตอนที่ 12 มารüมกับคะแนนการใช้กล้ามเนื้อ (ขั้นตอนที่ 13) และคะแนนประเมินแรงĀรือภาระงาน (ขั้นตอนที่ 14) โดยคะแนนรüมที่ได้จะนำไปใช้ในการเปิดตารางÿุดท้ายของการประเมินโดยüิธี RULA ใน ขั้นตอนถัดไป ขั้นตอนที่ 16 การÿรุปผลคะแนนคüามเÿี่ยงโดยรüม ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนÿุดท้ายของการประเมินด้üยüิธี RULA ผู้ประเมินนำคะแนนÿรุปรüมของ ÿ่üนแขนและข้อมือ (ขั้นตอนที่ 8) และคะแนนรüมของการประเมินÿ่üนขาและเท้า (ขั้นตอนที่ 15) มา อ่านค่าคะแนนคüามเÿี่ยงโดยรüมจากตารางÿุดท้าย ซึ่งมีรายละเอียดคะแนนดังตารางที่ 2.14 โดยค่า คüามเÿี่ยงที่อ่านได้จากตารางÿุดท้ายจะนำมาแปลผลได้ดังตารางแปลผล


31 ตารางที่2.14 แÿดงคะแนนประเมินตามเÿี่ยงรüมโดยüิธีRULA (ตาราง C) คะแนนÿรุป (แขน ข้อมือ) คะแนนÿรุป (คอ ลำตัü ขา) 1 2 3 4 5 6 7+ 1 1 2 3 3 4 5 5 2 2 2 3 4 4 5 5 3 3 3 3 4 4 5 6 4 3 3 3 4 5 6 6 5 4 4 4 5 6 7 7 6 4 4 5 6 6 7 7 7 5 5 6 6 7 7 7 8+ 5 5 6 7 7 7 7 ที่มา (McAtamney & Corlett, 1993) ตารางที่ 2.15 แÿดงการแปลผลคะแนนคüามเÿี่ยงรüมในüิธีRULA ระดับคüามเÿี่ยง คะแนน การแปลผล 1 1-2 ยอมรับได้ แต่อาจจะมีปัญĀาทางการยýาÿตร์ได้ถ้ามีการทำงานดังกล่าüซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเüลานานกü่าเดิม 2 3-4 คüรมีการýึกþาเพิ่มเติมและติดตามüัดผลอย่างต่อเนื่องอาจจะจำเป็นที่จะต้อง มีการออกแบบงานใĀม่ 3 5-6 งานนั้นเริ่มเป็นปัญĀา คüรทำการýึกþาเพิ่มเติม และคüรรีบปรับปรุง 4 7 งานนั้นมีปัญĀาทางการยýาÿตร์ และต้องมีการปรับปรุงทันที


32 2.8 งานüิจัยที่เกี่ยüข้อง กฤþดา เพ็งอารีย์และคณะ (2564) ได้ทำการýึกþาเรื่องการประเมินคüามเÿี่ยงและปรับปรุง ÿภาพการทํางานเพื่อลดคüามเÿี่ยงด้านการยýาÿตร์ในขั้นตอนการทําลüดลายบนผืนผ้าไĀมด้üยüิธีมัดĀมี่ กรณีýึกþาĀมู่บ้านแĀ่งĀนึ่งในจังĀüัดบุรีรัมย์กลุ่มตัüอย่างกรณีýึกþาจํานüน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ üิเคราะĀ์ได้แก่ แบบประเมินอาการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อตามÿ่üนต่างๆ ของร่างกาย แบบประเมินคüาม เÿี่ยงด้านการยýาÿตร์(RULA) ผลการประเมินคüามเÿี่ยงโดยüิธีRULA ทั้งด้านซ้ายและด้านขüามีระดับ คüามเÿี่ยงอยู่ในช่üง 5-6 คะแนน (ร้อยละ 100) Āมายถึง งานนั้นเริ่มเป็นปัญĀา คüรทําการýึกþาเพิ่มเติม และคüรรีบปรับปรุง และĀลังจากการปรับปรุงÿภาพการทํางานโดยใช้โฮงมัดĀมี่ที่ÿามารถปรับระดับ ขึ้น-ลงได้จัดมีการใช้เก้าอี้ ตาข่ายพิงĀลัง เบาะรองนั่ง และเบาะรองĀลัง พบü่าระดับคüามเÿี่ยงทั้ง ด้านซ้ายและด้านขüามีระดับคüามเÿี่ยงลดลงซึ่งมีระดับคüามเÿี่ยงอยู่ในช่üง 3-4 คะแนน (ร้อยละ 100) Āมายถึง งานนั้นคüรมีการýึกþาเพิ่มเติมและติดตามüัดผลอย่างต่อเนื่องอาจจะจําเป็นที่จะต้องมีการ ออกแบบงานใĀม่ ÿรุปได้ü่าการปรับปรุงÿภาพการทํางานทําใĀ้คüามเÿี่ยงด้านการยýาÿตร์ลดลงและ คüามเมื่อยล้าลดลงด้üยและแบบประเมินคüามคิดเĀ็นและคüามพึงพอใจการก่อนและĀลังปรับปรุงÿภาพ การทํางาน ผลการýึกþาพบü่า ในÿ่üนของร่างกายด้านซ้ายที่มีคüามรู้ÿึกเมื่อยล้ามากที่ÿุด 3 อันดับแรก คือ Āลังÿ่üนล่างรองลงมา คอ ÿะโพกและต้นขา ตามลําดับ และด้านขüาÿ่üนที่มีคüามรู้ÿึกเมื่อยล้ามาก ที่ÿุด คือ Āลังÿ่üนล่าง และÿะโพกและต้นขา รองลงมา คอ ไĀล่ ตามลําดับ มาโนช ริทินโย และคณะ (2562) ได้ทำการýึกþาเรื่องปัจจัยที่ÿ่งผลต่อคüามผิดปกติทางระบบ โครงร่างและกล้ามเนื้อจากการทำงานของกลุ่มอาชีพทอผ้าไĀม จังĀüัดชัยภูมิจำนüน 150 เครื่องมือที่ใช้ ในการüิจัยครั้งนี้คือ แบบÿอบถามที่ประยุกต์จาก Standardized Nordic questionnaire เป็นการýึกþา แบบภาคตัดขüาง (cross-section analytic study) ใช้การÿุ่มตัüอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) โดยใช้üิธีจับÿลากเพื่อใĀ้กลุ่มตัüอย่างมีโอกาÿที่ได้รับการคัดเลือกอย่างเท่าเทียมกัน ดำเนินการÿำรüจข้อมูลการทำงาน ข้อมูลคüามชุกของการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อและปัจจัยที่ÿ่งผลต่ออาการ ผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของผู้ปฏิบัติงานทอผ้าไĀม และüิเคราะĀ์ข้อมูลโดยใช้ÿถิติเชิง พรรณนาและการถดถอยพĀุคูณ (Binary logistic regression) กำĀนดใĀ้ระดับนัยÿำคัญ Alpha (α)=0.05 ที่คüามเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ผลการýึกþา พบü่าตำแĀน่งที่มีการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อของ ÿมาชิกกลุ่มอาชีพทอผ้าไĀมมากที่ÿุด คือ เท้า ข้อเท้า ก้นและ ÿะโพก คิดเป็นร้อยละ 100 Āลังÿ่üนล่าง และ เข่า คิดเป็นร้อยละ 98.00 และ 96.67 ตามลำดับ ปัจจัยที่ÿ่งผลต่ออาการผิดปกติทางระบบโครงร่าง


33 และกล้ามเนื้อของÿมาชิกกลุ่มอาชีพทอผ้าไĀม ได้แก่ ดัชนีมüลกาย ขณะทอผ้าไĀมต้องมีการออกแรงบีบ Āรือกด การบิดĀมุนลำตัü Āรือเอี้ยüตัü เüลาในการทอผ้าไĀมต่อüัน การก้มต่อเนื่อง และอายุของผู้ทอผ้า ไĀม ตามลำดับ ÿุนทรี ÿารางคำ และคณะ (2563) ทำการýึกþาเรื่องการประเมินภาüะÿุขภาพและปัจจัยจาก การทำงานของÿตรีในกลุ่มทอเÿื่อกกตำบลก่อเอ้อำเภอเขื่องใน จังĀüัดอุบลราชธานี จำนüน 40 คน เก็บ รüบรüมข้อมูลโดยใช้แบบÿอบถามและแบบประเมินทางการยýาÿตร์ด้üยเทคนิค RULA üิเคราะĀ์ข้อมูล ด้üยÿถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ÿ่üนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และüิเคราะĀ์Āาคüามÿัมพันธ์โดยใช้ÿถิติ Pearson Correlation และ Spearman Rank Correlation ที่ระดับคüามเชื่อมั่น 95% ผลการýึกþา พบü่า ÿตรีในกลุ่มทอเÿื่อกกÿ่üนใĀญ่มีอายุมากกü่า 60 ปี ร้อยละ 52.50 ÿถานภาพÿมรÿ ร้อยละ 87.50 อาชีพเกþตรกร ร้อยละ 97.50 ประÿบการณ์มากกü่า 10 ปีร้อยละ 62.50 และทำงานน้อยกü่า 8 ชั่üโมง ต่อüันร้อยละ 65.00 และพบü่า ด้านงานและคüามชำนาญโดยรüมอยู่ในระดับปานกลาง (= 2.73, S.D. = 0.64) ด้านการออกแบบÿถานที่ทำงานโดยรüมอยู่ในระดับดีมาก (= 4.32, S.D. = 0.29) ด้านท่าทางการ ทำงานโดยรüมอยู่ในระดับน้อย (= 2.24, S.D. = 0.77) และด้านÿิ่งแüดล้อมในการทำงานโดยรüมอยู่ใน ระดับดี (= 4.03, S.D. = 0.58) ÿตรีในกลุ่มทอเÿื่อกกมีภาüะÿุขภาพโดยรüมอยู่ในระดับดีร้อยละ 97.50 การประเมินท่าทางการทำงานโดยüิธีRULA คะแนนท่าทางÿ่üนใĀญ่อยู่ในระดับ 3 ร้อยละ 55.00 โดยจะ มีการเคลื่อนไĀüของมือและข้อมือซ้ำๆ และมีการเกร็งกล้ามเนื้อแขนต่อเนื่องคüรได้รับการปรับปรุง ออกแบบกระบüนการทำงานใĀ้ลดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ในขณะที่ปัจจัยÿ่üนบุคคลไม่มีคüามÿัมพันธ์กับ ภาüะÿุขภาพและปัจจัยการทำงานไม่มีคüามÿัมพันธ์กับภาüะÿุขภาพ ยกเü้นระยะเüลาทำงานเฉลี่ยต่อ เดือนมีคüามÿัมพันธ์กับภาüะÿุขภาพอย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิติที่ระดับ 0.05 (r = 0.314) การüิจัยในครั้งนี้ มีข้อเÿนอแนะใĀ้ÿตรีในกลุ่มทอเÿื่อกกคüรปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงานที่มีการเคลื่อนไĀüของมือและ ข้อมือซ้ำๆ ลดการออกแรงกล้ามเนื้อแขนมากเกินไป และปรับท่านั่งที่มีการก้มĀลังĀรือโน้มลำตัüไป ข้างĀน้าลดลงเพื่อป้องกันอาการปüดเมื่อยตามร่างกายและÿ่งเÿริมใĀ้ตรüจÿุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็น ประจำทุกปี ÿุนทรี ÿารางคำ และคณะ (2564) ได้ทำการýึกþาเรื่องการประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ ในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพทอผ้าบ้านĀัüเมือง จังĀüัดยโÿธร จำนüน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการüิจัยครั้งนี้ คือ แบบÿอบถามและแบบประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ด้üยเทคนิค RULA และüิเคราะĀ์ข้อมูลโดย


34 ใช้ÿถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้üย คüามถี่ ร้อยละ ค่าต่ำÿุด ค่าÿูงÿุด ค่าเฉลี่ยและÿ่üนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และüิเคราะĀ์Āาคüามÿัมพันธ์โดยใช้ÿถิติ Pearson Correlation และ Spearman Rank Correlation ที่ ระดับคüามเชื่อมั่น 95% ผลการüิจัย พบü่า คüามเÿี่ยงด้านการยýาÿตร์โดยใช้เทคนิค RULA พบระดับ คüามเÿี่ยงÿูงมาก (7 คะแนน) ในขั้นตอนการÿืบĀูก ร้อยละ 14.30 และขั้นตอนการทอผ้า ร้อยละ 62.50 การýึกþาคüามÿัมพันธ์ พบü่า ขั้นตอนการทอผ้า อายุของผู้ทอผ้าและระยะเüลาทำงานมีคüามÿัมพันธ์เชิง บüกกับระดับคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์อย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิติ (p < 0.05) และขั้นตอนการค้นĀูก การทำงานท่าที่กล้ามเนื้อแข็งเกร็งคงที่เป็นเüลา 3 นาทีขึ้นไปมีคüามÿัมพันธ์เชิงบüกกับระดับคüามเÿี่ยง ทางการยýาÿตร์อย่างมีนัยÿำคัญทางÿถิติ (p < 0.05) จึงคüรจัดท่าทางการทำงานใĀ้เĀมาะÿม โดยปรับ ท่านั่งที่มีการก้มĀลังĀรือโน้มลำตัüไปข้างĀน้าลดลง มีการเปลี่ยนอิริยาบถการทำงานและมีการยืดเĀยียด กล้ามเนื้อ เพื่อลดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ที่อาจÿ่งผลใĀ้เกิดอาการผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อ ÿรุปการทบทüนüรรณกรรมและงานüิจัยที่เกี่ยüข้อง จากการทบทüนüรรณกรรมและüิจัยที่เกี่ยüข้อง พบü่างานüิจัยด้านการประเมินคüามเÿี่ยง ทางการยýาÿตร์ ในการประเมินอาการปüดเมื่อยกล้ามเนื้อตามÿ่üนต่างๆ ของร่างกาย ผู้ที่ได้รับการ ประเมินÿ่üนใĀญ่มีอาการปüดเมื่อยล้าที่บริเüณĀลังÿ่üนล่าง ÿะโพก และต้นขา เนื่องจากมีท่าทาง ปฏิบัติงานที่ไม่เĀมาะÿม ผู้ปฏิบัติงานจะนั่งกับพื้นในลักþณะการนั่งขัดÿมาธิ ท่าทางการนั่งอยู่ในท่าเดิม เป็นระยะเüลานาน ÿ่üนมากนั่งĀลังงอ และโน้มตัüไปด้านĀน้า ก่อใĀ้เกิดคüามเมื่อยล้า โดยการประเมิน ลักþณะงานจะใช้üิธีการประเมินโดยใช้üิธี RULA ดังนั้นในการüิจัยครั้งนี้มีüัตถุประÿงค์เพื่อประเมินคüาม เÿี่ยงทางการยýาÿตร์ และปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ RULA


35 2.9 กรอบแนüคิดการüิจัย ตัüแปรต้น ตัüแปรตาม ข้อมูลÿ่üนบุคคล - เพý - อายุ - ÿถานภาพÿมรÿ - ระดับการýึกþา - โรคประจำตัü - การนอนĀลับ - การออกกำลังกาย - การดื่มÿุรา - การÿูบบุĀรี่ ฯลฯ คüามเÿี่ยงทางด้านการยýาÿตร์โดยüิธี RULA คะแนนคüามเÿี่ยงโดยรüม แบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ ระดับ 1 Āมายถึงยอมรับได้แต่อาจจะมี ปัญĀาทางการยýาÿตร์ได้ถ้ามีการทํางานดังกล่าü ซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเüลานานกü่าเดิม ระดับ 2 Āมายถึง คüรมีการýึกþา เพิ่มเติมและติดตามüัดผลอย่างต่อเนื่องอาจจะ จําเป็นที่จะต้องมีการออกแบบงานใĀม่ ระดับ 3 Āมายถึง งานนั้นเริ่มเป็นปัญĀา คüรทําการýึกþาเพิ่มเติมและคüรรีบปรับปรุง ระดับ 4 Āมายถึง งานนั้นมีปัญĀา ทางการยýาÿตร์และต้องมีการปรับปรุงทันที ข้อมูลด้านการทำงาน - ชนิดของงาน - ประÿบการณ์การทำงาน - การประกอบอาชีพอื่น - ระยะเüลาการทำงาน (ชั่üโมงต่อüัน) - ระยะเüลาการทำงาน (üันต่อÿัปดาĀ์) - เüลาพักในระĀü่างทำงาน (ชั่üโมง) - นั่งทำงานอยู่ในตำแĀน่งที่คงที่เป็นเüลา มากกü่า 20 นาที - ทำงานท่าที่กล้ามเนื้อแข็งเกร็งคงที่เป็นเüลา 3 นาทีขึ้นไป - เอื้อมมือĀยิบจับÿิ่งของĀรือเครื่องมืออยู่เÿมอ - บิดตัüĀรือเอี้ยüตัüอยู่เÿมอ - ใช้มือĀรือแขนทำงานในลักþณะเคลื่อนไĀü ซ้ำๆ ฯลฯ


36 บทที่ 3 ระเบียบüิธีüิจัย 3.1 รูปแบบการüิจัย การýึกþาüิจัยครั้งนี้เป็นการýึกþาüิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขüาง (Cross-sectional descriptive study) เพื่อýึกþาการประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์และปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อ การเกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานี 3.2 พื้นที่üิจัย กลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ บ้านเĀนือ ตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีเนื่องจาก อำเภอเขมราฐเป็นแĀล่งท่องเที่ยü ที่มีการÿืบÿานüัฒนธรรมอันดีงามมาอย่างยาüนานที่ÿำคัญของจังĀüัด อุบลราชธานี 3.3 ประชากรและกลุ่มตัüอย่าง กลุ่มตัüอย่างที่ใช้ในการüิจัยในครั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ บ้านเĀนือ ตำบลเขมราฐ อำเภอ เขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีจำนüน 34 คน จากข้อมูลรายชื่อÿมาชิกในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ โดย กำĀนดคุณÿมบัติ เกณฑ์คัดเข้า และคัดออก ดังนี้ เกณฑ์คัดเข้า - เป็นผู้มีอาชีพและคüามชำนาญในการทอผ้า - มีประÿบการณ์ในการทอผ้าตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป - ÿมัครใจและยินยอมเข้าร่üมüิจัย เกณฑ์คัดออก - ผู้ทอผ้าที่ได้รับการบาดเจ็บรุนแรงĀรือที่เคยได้รับการผ่าตัดเกี่ยüกับระบบ โครงร่างและกล้ามเนื้อ


37 ตารางที่ 3.1 แÿดงกลุ่มตัüอย่างผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ รายการ จำนüน (คน) ปลูกฝ้าย/ปลูกคราม 3 อิ้üฝ้าย 5 มัดĀมี่ 3 ทอผ้า 11 ย้อมคราม 2 ย้อมÿีธรรมชาติ 2 ตัดเÿื้อผ้าแปรรูป/ช่างเย็บ 5 Āาฟืน/Āาเปลือกไม้ 1 ช่างซ่อม 2 รüม 34 ผู้üิจัยทำการเก็บข้อมูลกับกลุ่มตัüอย่างผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือทั้งĀมด 34 คน ในจำนüนนี้จะมีคนที่ ทำงานได้Āลายแผนก จึงคัดเลือกกลุ่มตัüอย่างตามงานĀลักที่ผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือถนัดมากที่ÿุด 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการýึกþา เครื่องมือที่ใช้เก็บรüบรüมข้อมูลüิจัยครั้งนี้เป็นแบบÿอบถาม และแบบประเมินคüามเÿี่ยง ทางการยýาÿตร์ แบ่งออกเป็น 2 ÿ่üน ได้แก่ แบบÿอบถามเกี่ยüกับข้อมูลÿ่üนบุคคล และข้อมูลด้านการ ทำงาน และแบบประเมินคüามเÿี่ยงด้üยüิธี RULA (Rapid upper limp assessment) ดังนี้ 1. แบบÿอบถามเกี่ยüกับข้อมูลÿ่üนบุคคล และข้อมูลด้านการทำงานซึ่งเป็นปัจจัยที่มีคüามÿัมพันธ์ต่อการ เกิดคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์โดยแบบÿอบถาม แบ่งออกเป็น 2 ÿ่üน คือ


38 ÿ่üนที่ 1 แบบÿอบถามเกี่ยüกับข้อมูลÿ่üนบุคคล จำนüน 17 ข้อ ได้แก่ เพý อายุแผนกงาน ÿถานภาพÿมรÿ ระดับการýึกþา โรคประจำตัü การนอนĀลับ การออกกำลังกาย การดื่มÿุรา การÿูบ บุĀรี่ ประÿบการณ์การทำงาน ระยะเüลาการทำงาน (ชั่üโมงต่อüัน) และระยะเüลาการทำงาน (üันต่อ ÿัปดาĀ์) ÿ่üนที่ 2 แบบÿอบถามเกี่ยüกับข้อมูลด้านการทำงาน จำนüน 10 ข้อ ได้แก่ลักþณะงาน เช่น นั่ง ทำงานอยู่ในตำแĀน่งที่คงที่เป็นเüลามากกü่า 20 นาทีทำงานท่าที่กล้ามเนื้อแข็งเกร็งเป็นเüลา 3 นาทีขึ้น ไป และเพ่งจดจ่อเป็นเüลา 3 นาทีขึ้นไป ลักþณะท่าทางการทำงาน เช่น เอื้อมมือĀยิบจับÿิ่งของ บิดตัü Āรือเอี้ยüตัüเÿมอ ทำงานซ้ำๆ เป็นเüลานาน และกรณีไม่มีเก้าอี้ จะนั่งยองๆ ในการทำงาน การเคลื่อนไĀü ซ้ำๆ เช่น ใช้มือĀรือแขนทำงานในลักþณะเคลื่อนไĀüซ้ำ ๆ ออกแรงบีบจับÿิ่งของในขณะเคลื่อนไĀü และ เคลื่อนไĀüร่างกายข้างเดียüĀรือไม่ÿมมาตร เป็นต้น 2. แบบประเมินคüามเÿี่ยงด้üยüิธี RULA (Rapid upper limp assessment) โดยใช้แบบประเมิน ประกอบด้üย ÿ่üนที่ 1 แบบประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอเขมราฐ จังĀüัดอุบลราชธานีจำนüน 11 ข้อ โดยผู้üิจัยเป็นผู้ประเมินคüามเÿี่ยงทางการยýาÿตร์โดยประเมินตาม ลักþณะงานด้üยüิธีRULA (Rapid upper limp assessment) การประเมินคüามเÿี่ยงด้านการýาÿตร์ โดยüิธีRULA (Rapid Upper Limp Assessment) แบ่งการประเมินเป็น 2 กลุ่มĀลัก คือ กลุ่ม A ประกอบด้üยการประเมินÿ่üนแขนและข้อมือ ประกอบด้üย การประเมินแขนÿ่üนบน (Upper arm) การประเมินแขนÿ่üนล่าง (Lower arm Āรือ forearm) การประเมินข้อมือ (Wrist) การ ประเมินการĀมุนของข้อมือ (Wrist twist) การประเมินการใช้กล้ามเนื้อแขนĀรือมือในการทํางาน การประเมินแรงĀรือภาระงานในÿ่üนแขน Āรือมือ


39 ตารางที่ 3.2 การประเมินคะแนนท่าทางในกลุ่ม A ในüิธีRULA (ตาราง A) แขน ÿ่üนบน แขน ÿ่üนล่าง คะแนนท่าทางของมือ และข้อมือ 1 2 3 4 การบิดของข้อมือ การบิดของข้อมือ การบิดของข้อมือ การบิดของข้อมือ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 1 1 2 2 2 2 3 3 3 2 2 2 2 2 3 3 3 3 3 2 3 3 3 3 3 4 4 2 1 2 3 3 3 3 4 4 4 2 3 3 3 3 3 4 4 4 3 3 4 4 4 4 4 5 5 3 1 3 3 4 4 4 4 5 5 2 3 4 4 4 4 4 5 5 3 4 4 4 4 4 5 5 5 4 1 4 4 4 4 4 5 5 5 2 4 4 4 4 4 5 5 5 3 4 4 4 5 5 5 6 6 5 1 5 5 5 5 5 6 6 7 2 5 6 6 6 6 6 7 7 3 6 6 7 7 7 7 7 8 6 1 7 7 7 7 7 8 8 9 2 8 8 8 8 8 9 9 9 3 9 9 9 9 9 9 9 9


40 กลุ่ม B ประกอบด้üย การประเมินในÿ่üนประกอบด้üย คอ ลําตัü ขา การประเมินกล้ามเนื้อขา Āรือเท้าในการทํางาน และการประเมินแรงĀรือภาระงานในÿ่üนของขา Āรือเท้า ตารางที่ 3.3 การประเมินคะแนนท่าทางในกลุ่ม B ในüิธีRULA (ตาราง B) ลำตัü คอ 1 2 3 4 5 6 ขา ขา ขา ขา ขา ขา 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 1 3 2 3 3 4 5 5 6 6 7 7 2 2 3 2 3 4 5 5 5 6 7 7 7 3 3 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 7 4 5 5 5 6 6 7 7 7 7 7 8 8 5 7 7 7 7 7 8 7 8 8 8 8 8 6 8 8 8 8 8 8 8 9 9 9 9 9 การประเมินด้üยüิธี RULA ผู้ประเมินนำคะแนนÿรุปรüมของÿ่üนแขนและข้อมือ อ่านค่าคะแนน คüามเÿี่ยงโดยรüมจากตารางÿุดท้าย ซึ่งมีรายละเอียดคะแนนดังตาราง C โดยค่าคüามเÿี่ยงที่อ่านได้จาก ตารางÿุดท้ายจะนำมาแปลผลได้ดังตารางแปลผล


Click to View FlipBook Version