ก คำนำ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับสถานศึกษาในการนำมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สู่การปฏิบัติในสถานศึกษาเพื่อการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่การ จัดการเรียนรู้ในระดับชั้นเรียนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วยแนวทางดังนี้ การพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษา การบริหารจัดการโครงสร้างเวลาเรียน การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ การยกเลิกและเปลี่ยนชื่อมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด การประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษา การบริหาร จัดการโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษาตามเกณฑ์การจบ ปฏิทินการดำเนินงาน คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการใช้เป็นแนวทางใน การดำเนินงานในสถานศึกษาและเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจต่อไป คณะผู้จัดทำ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพป.น่าน เขต 1
สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก ความเป็นมาของการปรับหลักสูตร กระบวนการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา องค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา ส่วนนำของหลักสูตรสถานศึกษา โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา คำอธิบายรายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โครงสร้างรายวิชา การวิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา แนวทางการนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐ สู่การปฏิบัติ - การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ๑ ๓ ๔ ๕ ๘ ๒๑ ๒๔ ๒๗ ๒๘ ๓๐ - การบริหารจัดการโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษา ๓๐ - การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ๓๓ - การยกเลิกและเปลี่ยนชื่อมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ๓๕ - การประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษา - การบริหารจัดการโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษา - เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา - เกณฑ์การจบระดับมะยมศึกษา ๓๕ ๓๕ ๓๕ ๓๕ ภาคผนวก - แบบประเมินหลักสูตรสถานศึกษา - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระ และ ๑ รายวิชาพื้นฐาน - หนังสือ สพฐ.ชี้แจงแนวปฏิบัตินโยบายการจัดการเรียนการสอนประวิติศาสตร์ - คำสั่งสพฐ.ที่ ๖๒๓/๒๕๕๒ การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียนและเกณฑ์การจบ - คำสั่ง สพฐ.ที่ ๑๑๐/๒๕๕๕ การแก้โครงสร้างเวลาเรียนและเกณฑ์การจบตามหลักสูตร ฯ - หนังสือ สพฐ. แนวการจัดการเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ การเพิ่มรายวิชาหน้าที่พลเมืองเป็นรายวิชาเพิ่มเติม - หนังสือ สพฐ. การชีแจงความเข้าใจการบริหารจัดการเวลาเรียน ชั้น ป.๑- ม.๓ - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ การบริหารจัดการเวลาเรียนภาษาอังกฤษชั้น ป.๑- ม.๓ - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ การบริหารจัดการเวลาเรียนโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ - คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ ๒๕๖๐) - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ การบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน - คำสั่ง สพฐ.ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด - ประกาศสพฐ. การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ - คำสั่ง สพฐ.ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด - คำสั่ง สพฐ. การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลาง ฯ - ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารหลักสูตร
1 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ เมื่อวันที่ 11 กรกฎคม 2551 เริ่มใช้ในโรงเรียนต้นแบบการใช้ หลักสูตรและโรงเรียนที่มีความพร้อม ในปีการศึกษา 2552 และเริ่มใช้ในโรงเรียนทั่วไปในปีการศึกษา 2553 ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้ด าเนินการติดตาม ผลการน าหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ ทั้งการประชุมรับฟังความคิดเห็น การนิเทศ ติดตามผลการใช้หลักสูตรของโรงเรียน การรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของส านักวิชาการและมาตรฐาน การศึกษา รายงานผลการวิจัยของหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรและการใช้หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ผลจากการศึกษา พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีข้อดีในหลายประการ เช่น ก าหนดเป้าหมายการพัฒนาไว้ชัดเจน มีความยืดหยุ่นเพียงพอให้ สถานศึกษาบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาได้ ส าหรับปัญหาที่พบส่วนใหญ่เกิดจากการน าหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สู่การปฏิบัติในสถานศึกษาและในห้องเรียน นอกจากนี้ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ทิศทาง กรอบยุทธศาสตร์แผนแม่บท และกฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ พบว่า ประเด็นส าคัญเพื่อแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่าง แท้จริง คือ การเตรียมพร้อมด้านก าลังคนและการเสริมสร้างศักยภาพของประชากรในทุกช่วงวัย มุ่งเน้นการ ยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศ โดยพัฒนาคนให้เหมาะสมตามช่วงวัย เพื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการในตลาดแรงงานและทักษะที่จ าเป็นต่อการด ารงชีวิตในศตวรรษ ที่ 21 ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความเหมาะสม การเตรียมความพร้อมของก าลังคนด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตลอดจนการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ดังนั้น การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมคนให้สามารถปรับตัวรองรับ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม กระทรวงศึกษาธิการจึงก าหนดเป็นนโยบายส าคัญและ เร่งด่วนให้มีการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รวมทั้งสาระเทคโนโลยี โดยมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ด าเนินการปรับปรุง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสาระเทคโนโลยี และมอบหมายให้ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานด าเนินการปรับปรุงสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม การปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้ ยังคงหลักการและโครงสร้างเดิมของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 คือ ประกอบด้วย 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การ งานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ แต่มุ่งเน้นการปรับปรุงเนื้อหาให้มีความทันสมัย ทันต่อการ เปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่าง ๆ ค านึงถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียน มีทักษะที่จ าเป็น ส าหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นส าคัญ เตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมที่จะ ประกอบอาชีพ เมื่อจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับ ประชาคมโลกได้ ๑. ความเป็ นมาของการปรับหลักสูตร
2 กรอบในการปรับปรุง คือ ให้มีองค์ความรู้ที่เป็นสากลเทียบเท่านานาชาติ ปรับมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจน ลดความซ้ าซ้อน สอดคล้องและเชื่อมโยงกันภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตลอดจนเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เข้าด้วยกัน จัดเรียงล าดับความยากง่ายของเนื้อหาในแต่ละระดับชั้นตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัย ให้มีความ เชื่อมโยงความรู้และกระบวนการเรียนรู้ โดยให้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด สาระส าคัญของการปรับปรุงหลักสูตร มีดังนี้ 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ 1.1 จัดกลุ่มความรู้ใหม่และน าทักษะกระบวนการไปบูรณาการกับตัวชี้วัด เน้นให้ผู้เรียนเกิด การคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหาและมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ๑.๒ ก าหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดส าหรับผู้เรียนทุกคน ที่เป็นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจ าวัน และเป็นพื้นฐานส าคัญในการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น ๑.๓ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 ก าหนดตัวชี้วัดเป็นรายปี เพื่อเป็นแนวทางให้ สถานศึกษาจัดตามล าดับการเรียนรู้ อย่างไรก็ตามสถานศึกษาสามารถพิจารณาปรับเลื่อนไหลระหว่างปีได้ตาม ความเหมาะสม 2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้เพิ่มสาระเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยการออกแบบและ เทคโนโลยี และวิทยาการค านวณ ทั้งนี้เพื่อเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กับกระบวนการเชิงวิศวกรรม ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา ๓. สาระภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นสาระหนึ่งในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้ปรับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพัฒนาการตามช่วงวัย มีองค์ความรู้ที่ เป็นสากล เพิ่มความสามารถ ทักษะ และกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ที่ชัดเจนขึ้น
3 การจัดท าหลักสูตรสถานศึกษามีกระบวนการ ดังนี้ 1. แตงตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการของสถานศึกษา และคณะท างาน 2. ศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กรอบหลักสูตร ระดับทองถิ่นและเอกสารประกอบหลักสูตรต่างๆ รวมทั้งข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับสภาพปญหา จุดเนน ความตอง การของสถานศึกษา ผูเรียน และชุมชน 3. จัดท าหลักสูตรสถานศึกษาซึ่งมีองคประกอบส าคัญ ดังนี้ส่วนน า โครงสร้างหลักสูตร สถานศึกษา ค าอธิบายรายวิชา เกณฑ์การวัดและประเมินผล และเกณฑ์การจบการศึกษา 4. ตรวจสอบองค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โดยพิจารณาคุณภาพ ความถูกต้อง และความ เหมาะสม 5. น าเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาใหความเห็นชอบ หากมีข้อเสนอแนะ จากคณะกรรมการ ให้น าข้อเสนอแนะไปพิจารณาปรับปรุงก่อนการอนุมัติใช้หลักสูตร 6. จัดท าเป็นประกาศหรือค าสั่งเรื่องให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา โดยผู้บริหารสถานศึกษาและ ประธานกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้ลงนาม หรือผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ลงนาม 7. ใช้หลักสูตรสถานศึกษา ครูผู้สอนน าหลักสูตรสถานศึกษาไปก าหนดโครงสร้างรายวิชา และ ออกแบบหน่วยการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเป้าหมาย 8. วิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตร ด าเนินการติดตามผลการใช้หลักสูตรอย่างต่อเนื่องเป็น ระยะๆ เพื่อน าผลจากการติดตามมาใช้เป็นข้อมูลพิจารณาปรับปรุงหลักสูตรให้มีคุณภาพ และมีความเหมาะสม ยิ่งขึ้น ๒. กระบวนการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษา ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ แต่งตั้ง คณะ กรรมการ จัดท า ประกาศ/ ค าสั่งใช้ เสนอ กรรมการ พิจารณา ตรวจสอบ คุณภาพ จัดท า หลักสูตร ศึกษา ข้อมูล วิจัยและ ติดตามผล กระบวนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา น าไปใช้ ปรับปรุง พัฒนา น าหลักสูตรสถานศึกษาที่มีอยู่ มา เทียบกับหลักสูตรแกนกลาง ส่วนที่ ปรับปรุง แล้วปรับหลักสูตร สถานศึกษาให้สอดคล้องกัน
4 องคประกอบส าคัญของหลักสูตรสถานศึกษา มีดังนี้ 1. ส่วนน า ข้อมูลในส่วนนี้ช่วยให้ครูผู้สอน และผู้เกี่ยวข้อง ทราบถึงเป้าหมายโดยรวมของ สถานศึกษาในการพัฒนาผู้เรียน ประกอบด้วยส่วนส าคัญ คือ ความน า วิสัยทัศน์ สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการก าหนดรายวิชาที่จัดสอน ในแต่ละปี/ ภาคเรียน ประกอบด้วย รายวิชาพื้นฐาน รายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พร้อมทั้งจ านวนเวลา เรียน หรือหน่วยกิตของรายวิชาเหล่านั้น (โครงสร้างเวลาเรียน และโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี) 3. ค าอธิบายรายวิชา ส่วนนี้เป็นรายละเอียดที่ช่วยให้ทราบว่าผู้เรียนจะเรียนรู้อะไรจากรายวิชา นั้นๆ ในค าอธิบายรายวิชาจะประกอบด้วยรหัสวิชา ชื่อรายวิชา ประเภทรายวิชา (พื้นฐาน/เพิ่มเติม) กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ระดับชั้นที่สอน พร้อมทั้งค าอธิบายให้ทราบว่าเมื่อเรียนรายวิชานั้นแล้วผู้เรียนจะมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะหรือเจตคติอะไร ซึ่งอาจระบุให้ทราบถึงกระบวนการเรียนรู้ หรือประสบการณ์ส าคัญที่ผู้เรียนจะ ได้รับด้วยก็ได้ 4. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นส่วนหนึ่งที่สถานศึกษาก าหนดให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตาม ศักยภาพ ประกอบดด้วยกิจกรรม ๓ ลักษณะ ได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อ สังคมและสาธารณประโยชน์ โดยระบุแนวการจัด เวลา และแนวทางการประเมินกิจกรรม ๕.เกณฑ์การจบการศึกษา เป็นส่วนที่สถานศึกษาก าหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะจบการศึกษาใน แต่ละระดับ โดยพัฒนาเกณฑ์ดังกล่าวให้สอดคล้องสัมพันธ์กับเกณฑ์การจบหลักสูตรตามหลักสูตรแกนกลาง และสถานศึกษาจะตองจัดท าระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน เพื่อใชควบคูกับหลักสูตร สถานศึกษา ๓. องค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา องค์ประกอบส ำคัญ ๕ ของหลักสูตรสถานศึกษา โครงสร้ำง หลักสูตร - โครงสร้าง เวลาเรียน - โครงสร้าง หลักสูตรชั้นปี ค ำอธิบำยรำยวิชำ - ส่วนหัว: รหัสวิชา ชื่อรายวิชา ประเภท วิชา กลุ่มสาระ ระดับชั้น - ค าอธิบาย - ตัวชี้วัด/ผลการ เรียนรู้ - เกณฑ์ กำรจบ - ระเบียบ การวัดและ ประเมินผล การเรียน กิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน -กิจกรรมแนะแนว -กิจกรรมนักเรียน -กิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณประโยชน์ ส่วนน ำ - ความน า - วิสัยทัศน์ - สมรรถนะ ส าคัญ - คุณลักษณะ
5 แนวการเขียนปก ประกาศ/ค าสั่ง และส่วนน าของหลักสูตรสถานศึกษา มีดังนี้ 1. ปกหลักสูตรสถานศึกษา ควรประกอบไปด้วยตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน ชื่อโรงเรียน ปี พ.ศ. ที่เริ่มใช้หลักสูตร และหน่วยงานที่โรงเรียนสังกัด หากหลังจากใช้ไประยะหนึ่งแล้วสถานศึกษามีการปรับปรุง หลักสูตร ให้ปรับเปลี่ยนปี พ.ศ. ใหม่ให้สอดคล้องกับปีที่ปรับปรุง ๔. ส่วนน าของหลักสูตรสถานศึกษา ตราโรงเรียน หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียน........................ พุทธศักราช.........(ปีที่เริ่มใช้) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา............... ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตราโรงเรียน หลักสูตรโรงเรียน........................ พุทธศักราช.........(ปีที่เริ่มใช้) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา............... ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปกหลักสูตรควรมี องค์ประกอบส าคัญ ส่วนการ ออกแบบ สถานศึกษาท าได้ ตามความเหมาะสม ตัวอย่างปกหลักสูตรสถานศึกษา
6 2. ประกาศหรือค าสั่งให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา หลังจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เห็นชอบแล้ว ให้จัดท าประกาศหรือค าสั่ง โดยผู้บริหารสถานศึกษาและประธานกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้ลงนาม หรือผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ลงนามแต่เพียงผู้เดียว 3. ความน า เขียนแสดงให้เห็นความเชื่อมโยง ระหว่างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ ภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 รวมทั้ง ค าสั่งและประกาศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น จุดเน้น และความต้องการของโรงเรียน ตัวอย่างประกาศโรงเรียน ประกาศโรงเรียน...................... เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียน...........พุทธศักราช......... ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ----------------------------- .................................................................................. ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ทั้งนี้ หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ ............เดือน..........พ.ศ...........จึงประกาศให้ใช้ หลักสูตรโรงเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่...เดือน....พ.ศ....... ............................... ................................. (.............................) (................................) ประธานคณะกรรมการ ผู้อ านวยการโรงเรียน .......... สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกาศโรงเรียน...................... เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียน..............พุทธศักราช......... ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ----------------------------- ..................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ทั้งนี้ หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่............ เดือน..........พ.ศ...........จึงประกาศให้ใช้หลักสูตร โรงเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่...เดือน....พ.ศ....... ................................. (................................) ผู้อ านวยการโรงเรียน..............
7 4. วิสัยทัศน์โรงเรียน เป็นเจตนารมณ์ อุดมการณ์ หลักการ ความเชื่อ อนาคตที่พึงประสงค์ เอกลักษณ์ของโรงเรียนเพื่อสร้างศรัทธา จุดประกายความคิดในการพัฒนาองค์กร และคุณภาพผู้เรียน ที ่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น จุดเน้น และความต้องการของโรงเรียน มีแนวทางการก าหนด ดังนี้ 4.1 ศึกษาข้อมูล ต่อไปนี้ 1) ศึกษา วิเคราะห์ วิสัยทัศน์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2) ศึกษากรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น 3) ศึกษาข้อมูลความต้องการ จุดเน้นของท้องถิ่นและโรงเรียน 4.2 ก าหนดค าส าคัญที่มุ่งบอกถึงเจตนารมณ์ อุดมการณ์ หลักการ ความเชื่อ อนาคตที่ พึงประสงค์ที่จะพัฒนาผู้เรียนไปสู่จุดหมายของหลักสูตร 4.3 ลักษณะของวิสัยทัศน์ที่สมบูรณ์ ควรประกอบด้วยประเด็นต่อไปนี้ 1) สอดคล้องกับจุดหมาย หลักการของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2) สอดคล้องกับกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น 3) แสดงภาพอนาคตของผู้เรียนที่ครอบคลุมสภาพความต้องการของโรงเรียน ชุมชน และ ท้องถิ่น 4) ใช้ภาษากะทัดรัด ชัดเจน สามารถปฏิบัติได้ 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน เป็นสมรรถนะจ าเป็นพื้นฐาน 5 ประการที่ผู้เรียนพึงมีซึ่ง ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนอาจจะเพิ่มเติมได้ตามความ เหมาะสม 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ก าหนดไว้ 8 ประการ เป็นคุณลักษณะที่ต้องการให้เกิดแก่ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียน อาจจะเพิ่มเติมตามจุดเน้นของโรงเรียนได้ตามความเหมาะสม ไม่ควรคัดลอกวิสัยทัศน์ของ หลักสูตรแกนกลาง ฯ มา ทั้งหมด ควรน ามาเทียบเคียง และปรับให้เป็นของสถานศึกษา เอง
8 การจัดท าโครงสร้าง หลักสูตรสถานศึกษา จะต้องจัดท า 2 ส่วน ได้แก่ โครงสร้างเวลาเรียน และโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี โดย พิจารณาจากข้อมูล ต่อไปนี้ 1. เวลาเรียนที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ก าหนด ภายหลังจากประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เมื่อ วันที่ 11 กรกฎาคม 2551 ได้มีค าสั่ง ประกาศ และหนังสือราชการ เกี่ยวกับโครงสร้างเวลาเรียนอยู่หลายฉบับ ซึ่งบางฉบับยังมีผลบังคับใช้ และบางฉบับยกเลิกไปแล้ว รายละเอียดในภาคผนวก โดยสรุปดังนี้ กลุ่มส าระการเรียน รู้/ กิจกรรม เวลาเรียน ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม - ประวัติศาสตร์ ๔๐ ชั่วโมงต่อปี ๔๐ ชั่วโมงต่อปี ๘๐ ชั่วโมงต่อ ๓ ปี - ๔ สาระ สุขศึกษาและพล ศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ รวมเวลาเรียนพื้นฐาน 840 ชั่วโมง/ปี 880 ชั่วโมง/ปี รวม 3 ปี1,640 ชั่วโมง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 ชั่วโมงต่อปี 120 ชั่วโมงต่อปี รวม 3 ปี 360 ชั่วโมง รายวิชา/กิจกรรมที่ สถานศึกษาจัดเพิ่มเติม ตามความพร้อมและ จุดเน้นกลุ่มสาระการ เรียนรู้ สถานศึกษาก าหนด สถานศึกษาก าหนด สถานศึกษาก าหนด หมายเหตุ๑. ชั้น ป. ๑ – ๓ อาจจัดเวลาเรียนเพิ่มเติมให้เป็นเวลาส าหรับสาระการเรียนรู้พื้นฐานในกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ๕. โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา จัดสรรเวลา ตามความ เหมาะสม จัดสรรเวลา ตามความ เหมาะสม จัดสรรเวลา ตามความ เหมาะสม
9 ๒. การจัดสรรเวลาเรียนในรายวิชาพื้นฐาน ผู้เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชี้วัดที่หลักสูตรแกนกลาง ฯ ก าหนด ๓. การจัดเวลาเรียนต้องให้สอดคล้องกับเกณฑ์การจบ และค านึงถึงศักยภาพของผู้เรียน ๔. วิชาหน้าที่พลเมือง สถานศึกษาทุกแห่งยังคงต้องจัดการเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง เป้าหมาย ของการจัด คือ การส่งเสริมการสร้างความเป็นพลเมืองดีของชาติตามความพร้อม และบริบท ของสถานศึกษา โดยมีทางเลือกในการจัดการเรียนการสอน 4 ทางเลือก ดังนี้ 1) เพิ่มวิชาหน้าที่พลเมืองในหลักสูตรสถานศึกษา โดยจัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษาฯ (วัดผลรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง) 2) บูรณาการกับการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นทั้งรายวิชาพื้นฐาน หรือเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษาฯ (วัดผลรวมอยู่ในรายวิชานั้น ๆ) 3. บูรณาการกับการเรียนรู้ในรายวิชาพื้นฐาน หรือรายวิชาเพิ่มเติม ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น (วัดผลรวมอยู่ในรายวิชานั้นๆ) 4. บูรณาการการเรียนรู้กับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือกิจกรรม/โครงการ/โครงงานหรือวิถี ชีวิตประจ าวันในโรงเรียน (วัดผล ผ่าน – ไม่ผ่าน ตามลักษณะของกิจกรรม) ทั้งนี้ สถานศึกษาควรระบุได้ว่าจัดการเรียนการสอนหน้าที่พลเมืองในลักษณะใด ผลการจัด บรรลุเป้าหมายหรือไม่ ๕. การเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ระดับประถมศึกษาให้เรียนสาระประวัติศาสตร์ 40 ชม./ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 40 ชม./ปี (3 นก.) และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 80 ชม./3 ปี (2 นก.) ๖. การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ สถานศึกษาทุกแห่งยังคงต้องจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในชั้น ป.1 - 3 จ านวน 200 ชม./ปีโดยเสนอทางเลือก 2 ทาง ดังนี้ 1) จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เป็นรายวิชาพื้นฐาน จ านวน 200 ชม./ปี 2) จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เป็นรายวิชาพื้นฐาน อย่างน้อย 120 ชม./ปี และจัดเป็น รายวิชาเพิ่มเติม หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือกิจกรรมเสริมหลักสูตร 80 ชม./ปี รวมเวลาเรียน ภาษาอังกฤษทั้งหมด จ านวน 200 ชม./ปี 2. จ านวนมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด และลักษณะตัวชี้วัด ๒.๑ จ านวนมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ศึกษาและพิจารณาจ านวนตัวชี้วัดชั้นปีและตัวชี้วัดช่วงชั้นในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อ การก าหนดเวลาเรียนในแต่ละวิชาตามโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ส าหรับจ านวน มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มีดังนี้
10 คณติ ศาสตร์พนื้ฐาน ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 1. จ ำนวนและพีชคณติ 3 ค 1.1 5 8 1 1 1 6 9 1 2 3 2 - 1 1 - 68 ค 1.2 1 - 1 - - 1 - 2 2 - 2 - 9 ค 1.3 - - - - - - 3 - 3 - 1 - 7 2. กำรวัดและเรขำคณิต 2 ค 2.1 2 6 1 3 3 4 3 - 2 2 - - - 35 ค 2.2 1 1 1 2 4 4 2 5 3 - - - 23 3. สถิติและควำมน่ำจะเป็น 2 ค 3.1 1 1 2 1 2 1 1 1 1 - - 1 1 2 ค 3.2 - - - - - - - - 1 2 - - 3 7 - 10 16 28 22 19 21 9 12 12 3 4 1 157 รวมตัวชวี้ัด 116 33 8 มาตรฐานการเรียนรู้จ านวนตัวชวี้ัดแต่ละระดับ/แต่ละสาระ รวม จ านวน ตวัชี้วัด ชอื่สาระ จา นวน ประถมศึกษา ม.ต้น มาตรฐาน รหัส มาตรฐาน ม.ปลาย วิทยาศาสตร์พนื้ฐาน ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 1. วิทยำศำสตร์ชวีภำพ 3 ว 1.1 2 - - - 4 - - - 6 4 - - 1 6 ว 1.2 2 3 4 1 - 5 1 8 1 7 - 1 2 - - 62 ว 1.3 - 1 - 4 2 - - - 1 1 6 - - 24 3 ว 2.1 2 4 2 4 4 1 1 0 6 8 - 25 - 66 ว 2.2 - - 4 3 5 1 1 1 5 - - 1 0 - 39 ว 2.3 1 2 3 1 5 8 7 6 21 - 1 2 - 66 2 ว 3.1 2 - 3 3 2 2 - - 4 - - 1 0 26 ว 3.2 1 2 4 - 5 9 7 1 0 - - - 1 4 52 4. เทคโนโลยี 2 ว 4.1 - - - - - - 5 5 5 5 1 - 21 ว 4.2 5 4 5 5 5 4 4 4 4 1 1 1 43 10 - 15 16 25 21 32 30 52 63 59 28 49 25 415 รหัส มาตรฐาน ม.ปลาย 174 ชอื่สาระ ม.ต้น 3. วทิยำศำสตรโ์ลก และอวกำศ 2. วทิยำศำสตร์ กำยภำพ ประถมศึกษา รวมตัวชวี้ัด 139 102 มาตรฐานการเรียนรู้ จ านวนตัวชวี้ัดแต่ละระดับ/แต่ละสาระ รวม จ านวน ตวัชี้วัด จา นวน มาตรฐาน ๒.๒ ลักษณะตัวชี้วัด การท าความเข้าใจลักษณะตัวชี้วัดเพื่อน าไปใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจก าหนดรายวิชา โดยศึกษาความยากง่าย และล าดับความต่อเนื่องสัมพันธ์ของแต่ละตัวชี้วัด ตัวอย่างการบันทึกการศึกษา มี ดังนี้
11 กลุ่มสาระการเรียนรู้..................................................................ชั้น............................................ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ วิชา.....................................จ านวน................หน่วย กิต สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. สาระ.......................................................................... มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. มาตรฐาน............................................................. ตัวชี้วัด............................................................. 3. เป้าหมาย จุดเน้น การพัฒนาผู้เรียนของท้องถิ่นและของโรงเรียน เพื่อให้การจัดการศึกษาของแต่ละโรงเรียนส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนตามที่ท้องถิ่นและโรงเรียน ต้องการ ดังนั้น โรงเรียนควรพิจารณาก าหนดรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในโครงสร้างหลักสูตร
12 สถานศึกษาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย/จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนของกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น (จัดท าโดย เขตพื้นที่การศึกษา) และความต้องการ/จุดเน้นของโรงเรียน 4. ระเบียบ แนวปฏิบัติในการบริหารจัดการหลักสูตร ได้แก่ 4.1 การก าหนดรายวิชา สถานศึกษาจะต้องน าความรู้และทักษะตามมาตรฐานการเรียนรู้ ของแต่ละ “กลุ่มสาระการเรียนรู้” (Learning areas) ไปจัดท าเป็น “รายวิชา” (Courses) โดยตั้งชื่อรายวิชา ให้สะท้อนสิ่งที่สอนในรายวิชานั้น ๆ ก าหนดรหัสวิชา รวมทั้งระบุจ านวนเวลาเรียน หรือจ านวนหน่วยกิต ของ รายวิชาเหล่านั้นก ากับไว้ด้วย ทั้งนี้ระดับประถมศึกษาจัดท ารายวิชาเป็นรายปี ระดับมัธยมศึกษาจัดท าเป็นราย ภาคเรียน 4.2 ประเภทของรายวิชา มีดังนี้ 1) รายวิชาพื้นฐาน: เป็นรายวิชาที่เปิดสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้แกนกลางที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เรียนทุกคนในระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานต้องเรียนรู้การตั้งชื่อรายวิชาพื้นฐานควรสอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือสะท้อน ถึงจุดเน้นและเนื้อหาสาระที่สอน และระดับความยากง่ายของสิ่งที่สอนในรายวิชานั้น 2) รายวิชาเพิ่มเติม : เป็นรายวิชาที่สถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถเปิดสอนเพิ่มเติม จากสิ่งที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง เพื่อให้สอดคล้องกับจุดเน้น ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน หรือความต้องการของท้องถิ่น โดยมีการก าหนด “ผลการเรียนรู้” เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน ทั้งนี้ จะต้องสอดคล้องกับเกณฑ์การจบการศึกษา ส าหรับชื่อรายวิชาเพิ่มเติมนั้น ควรสอดคล้องกับกลุ่มสาระการ เรียนรู้ หรือสะท้อนถึงจุดเน้นและเนื้อหาสาระที่สอน และระดับความยากง่ายของสิ่งที่สอนในรายวิชานั้น 4.3 การจัดรายวิชา 4.3.1 ระดับประถมศึกษา รายวิชาพื้นฐาน ๑. ให้สถานศึกษาจัดรายวิชาพื้นฐานตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มละ ๑ รายวิชาต่อปี ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ก าหนดเป็นรายวิชาสังคมศึกษา และรายวิชา ประวัติศาสตร์ โดยรายวิชาประวัติศาสตร์ให้จัดการเรียนการสอน ๔๐ ชั่วโมงต่อปี ๒. สาระเทคโนโลยี เป็นสาระหนึ่งในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จึงจัดอยู่ใน รายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยไม่แยกเป็นรายวิชาเฉพาะ รายวิชาเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถก าหนดรายวิชาเพิ่มเติมตามความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษา ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน โดยจัดเป็นรายปี และมีการก าหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้นๆ 4.3.๒ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รายวิชาพื้นฐาน - ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้รวมทั้งกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ อาจจัดได้มากกว่า ๑ รายวิชาในแต่ละภาค/ปี - สามารถจัดรายวิชาพื้นฐานใน ๑ ภาคเรียน ให้เรียนครบ/ ไม่ครบทั้ง ๘ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ได้ แต่เมื่อจบหนึ่งปีการศึกษา สถานศึกษาต้องจัดให้เรียนรายวิชาพื้นฐานครบทั้ง ๘ กลุ่มสาระการ เรียนรู้
13 - ก าหนดให้ ๑ รายวิชามีค่าน้ าหนัก ไม่น้อยกว่า ๐.๕ หน่วยกิต (๑ หน่วยกิต คิดเป็น ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน) และเมื่อรวมจ านวนหน่วยกิตของรายวิชาพื้นฐานในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้แล้ว ต้อง มีเวลาเรียนรวม ๘8๐ ชั่วโมงต่อปี(22 หน่วยกิต) - กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ให้จัดสาระประวัติศาสตร์ เป็นรายวิชาเฉพาะ ภาคเรียนละ ๑ รายวิชา (๐.๕ หน่วยกิต) ทุกภาคเรียน รวม ๖ รายวิชา (๓.๐ หน่วยกิต) รายวิชาเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถก าหนดรายวิชาเพิ่มเติมตามความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษา ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน โดยจัดเป็นรายภาค และมีการก าหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้นๆ 4.3.๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รายวิชาพื้นฐาน - ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้รวมทั้งกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ อาจจัดได้มากกว่า ๑ รายวิชา โดยภายใน ๓ ปี ต้องครบทุกตัวชี้วัดที่ก าหนดในกลุ่มสาระการ เรียนรู้นั้น ๆ - ก าหนดให้ ๑ รายวิชามีค่าน้ าหนัก ไม่น้อยกว่า ๐.๕ หน่วยกิต (๑ หน่วยกิต คิดเป็น ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน) และเมื่อรวมจ านวนหน่วยกิตของรายวิชาพื้นฐานในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้แล้ว ต้อง มีเวลาเรียนรวม 1,640 ชั่วโมงต่อ 3 ปี(41 หน่วยกิต) - กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ก าหนดตัวชี้วัดเป็นรายปี ใน การน าไปใช้ อาจจัดให้ตรงตามชั้นปีที่ก าหนด หรือยืดหยุ่นระหว่างปี ซึ่งอาจจัดไม่ตรงตามชั้นปีที่ก าหนดได้ตาม ความเหมาะสมและศักยภาพของผู้เรียน - กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ให้จัดรายวิชา ประวัติศาสตร์ให้ครบ ๒ หน่วยกิต ภายใน ๓ ปี รายวิชาเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถก าหนดรายวิชาเพิ่มเติมตามความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษา ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน โดยจัดเป็นรายภาค และมีการก าหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้นๆ 4.๔ การก าหนดรหัสวิชา เพื่อให้เกิดความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในการสื่อสาร สถานศึกษาจ าเป็นต้องก าหนดรหัสวิชาอย่างเป็นระบบ ระบบรหัสวิชา การก าหนดรหัสวิชาควรใช้ตัวเลขอารบิก เพื่อสื่อสารและการจัดท า เอกสารหลักฐานการศึกษา ส าหรับรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลข ๖ หลัก ดังนี้
14 หลักที่ ๑ เป็นรหัสตัวอักษรแสดงกลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ ท หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ค หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ว หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ส หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พ หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศ หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ง หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศให้ใช้รหัสของแต่ละภาษาตามรายการ หมายเหตุ ๑. รหัสตัวอักษรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ๑.๑ รายการรหัสตัวอักษรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่จะน าไปใส่แทน มีดังนี้ ก หมายถึง ภาษาเกาหลี ข หมายถึง ภาษาเขมร จ หมายถึง ภาษาจีน ซ หมายถึง ภาษารัสเซีย ญ หมายถึง ภาษาญี่ปุ่น ต หมายถึง ภาษาเวียดนาม ล าดับของรายวิชา หลักที่ ๑ หลักที่ ๒ หลักที่ ๓ หลักที่ ๔ หลักที่ ๕ หลักที่ ๖ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ระดับ การศึกษา ปีในระดับ การศึกษา ประเภท ของรายวิชา ท ค ว ส พ ศ ง 1 2 3 1 2 3 4 5 6 1 2 01 - 99
15 น หมายถึง ภาษาลาติน บ หมายถึง ภาษาบาลี ป หมายถึง ภาษาสเปน ฝ หมายถึง ภาษาฝรั่งเศส ม หมายถึง ภาษามลายู ย หมายถึง ภาษาเยอรมัน ร หมายถึง ภาษาอาหรับ ล หมายถึง ภาษาลาว อ หมายถึง ภาษาอังกฤษ ฮ หมายถึง ภาษาฮินดู ๑.๒ กรณีที่มีสถานศึกษาใดจัดท ารายวิชาภาษาต่างประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ก าหนดไว้ ให้สถานศึกษาท าเรื่องเสนอส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อ ก าหนดรหัสตัวอักษรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพิ่มเติมและประกาศให้ สถานศึกษาทั่วประเทศได้รับทราบและใช้ให้ตรงกัน ๒. กรณีก าหนดรายวิชากลุ่มเทคโนโลยีในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ให้ใช้รหัสวิชา ว และถ้าก าหนดในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ให้ใช้รหัสวิชา ง หลักที่ ๒ เป็นรหัสตัวเลขแสดงระดับการศึกษาในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษา ตอนปลาย สะท้อนระดับความรู้และทักษะในรายวิชาที่ก าหนดไว้ คือ 1 หมายถึง รายวิชาระดับประถมศึกษา 2 หมายถึง รายวิชาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3 หมายถึง รายวิชาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักที่ ๓ เป็นรหัสตัวเลขแสดงปีที่เรียนของรายวิชา ซึ่งสะท้อนระดับความรู้และทักษะในรายวิชาที่ก าหนดไว้ ในแต่ละปี คือ 0 หมายถึง รายวิชาที่ไม่ก าหนดปีที่เรียน จะเรียนปีใดก็ได้ในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย 1 หมายถึง รายวิชาที ่เรียนในปีที ่ ๑ ของระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ป.๑ ม.๑ และม.๔) 2 หมายถึง รายวิชาที ่เรียนในปีที ่ ๒ ของระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ป.๒ ม.๒ และม.๕) 3 หมายถึง รายวิชาที ่เรียนในปีที ่ ๓ ของระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ป.๓ ม.๓ และ ม.๖) 4 หมายถึง รายวิชาที่เรียนในปีที่ ๔ ของระดับประถมศึกษา (ป.๔) 5 หมายถึง รายวิชาที่เรียนในปีที่ ๕ ของระดับประถมศึกษา (ป.๕) 6 หมายถึง รายวิชาที่เรียนในปีที่ ๖ ของระดับประถมศึกษา (ป.๖)
16 หลักที่ ๔ เป็นรหัสตัวเลขแสดงประเภทของรายวิชา คือ 1 หมายถึง รายวิชาพื้นฐาน 2 หมายถึง รายวิชาเพิ่มเติม หลักที่ ๕ และหลักที่ ๖ เป็นรหัสตัวเลขแสดงล าดับของรายวิชาแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในปี/ระดับการศึกษา เดียวกัน ในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น หรือมัธยมศึกษาตอนปลาย มีจ านวนตั้งแต่ 01-99 ดังนี้ - รายวิชาที่ก าหนดปีที่เรียน ให้นับรหัสหลักที่ ๕-๖ ต่อเนื่องในปีเดียวกัน หากจัดรายวิชาเป็นรายภาค ให้ก าหนดเรียงล าดับรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้เดียวกันให้เสร็จสิ้นในภาคเรียนแรกก่อน แล้วจึงก าหนดต่อ ในภาคเรียนที่สอง - รายวิชาที่ไม่ก าหนดปีที่เรียน ให้นับรหัสหลักที่ ๕-๖ ต่อเนื่องในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย - รหัสหลักที่ ๕ และหลักที่ ๖ ของรายวิชาเพิ่มเติม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๔-๖) กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ให้ก าหนดรหัสวิชา เป็นช่วงล าดับ ดังนี้ ล าดับที่ 01 - 19 หมายถึง รายวิชาในกลุ่มฟิสิกส์ ล าดับที่ 21 - 39 หมายถึง รายวิชาในกลุ่มเคมี ล าดับที่ 41 - 59 หมายถึง รายวิชาในกลุ่มชีววิทยา ล าดับที่ 61 - 79 หมายถึง รายวิชาในกลุ่มโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ล าดับที่ 81 - 99 หมายถึง รายวิชาในกลุ่มวิทยาศาสตร์อื่น ๆ 5. เกณฑ์การจบการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก าหนดเกณฑ์กลางส าหรับการจบการศึกษาเป็น 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 5.1 เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา 1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ตาม โครงสร้างเวลาเรียนที่หลักสูตรแกนลางการศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนด และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามที่ สถานศึกษาก าหนด 2) ผู้เรียนมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษาก าหนด 3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษาก าหนด 4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด 5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาด าหนด 5.2 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษาก าหนด
17 2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต 3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษาก าหนด 4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษา 5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด 5.3 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษาก าหนด 2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษาก าหนด 4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด 5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด นอกจากนั้น การจัดท าโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องให้ ความส าคัญกับเงื่อนไขคุณสมบัติผู้สมัครสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา คณะ/สาขาต่างๆ เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ พยาบาลศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถานศึกษาจ าเป็นต้องจัดท า โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาให้มีรายวิชาและหน่วยกิตที่เรียนครบตามคุณสมบัติ
18 โครงสร้างเวลาเรียนของโรงเรียน........................................................... ระดับประถมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ / กิจกรรม ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม - ประวัติศาสตร์ - ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม - หน้าที่พลเมืองวัฒนธรรม และการด าเนินชีวิตในสังคม - เศรษฐศาสตร์ - ภูมิศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ รวมเวลาเรียน(พื้นฐาน) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รายวิชา / กิจกรรมที่ สถานศึกษาจัดเพิ่มเติมตาม ความพร้อมและจุดเน้น รวมเวลาเรียนทั้งหมด
19 โครงสร้างเวลาเรียนของโรงเรียน........................................................... ระดับมัธยมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ / กิจกรรม ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔ ม.๕ ม.๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม - ประวัติศาสตร์ - ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม - หน้าที่พลเมืองวัฒนธรรม และการด าเนินชีวิตในสังคม - เศรษฐศาสตร์ - ภูมิศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ รวมเวลาเรียน(พื้นฐาน) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รายวิชา / กิจกรรมที่ สถานศึกษาจัดเพิ่มเติมตาม ความพร้อมและจุดเน้น รวมเวลาเรียนทั้งหมด
20 โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี/รายภาค
21 เมื่อสถานศึกษาก าหนดรายวิชาที่จะเปิดสอนในแต่ละปี/ ภาคเรียน เรียบร้อยแล้ว จะต้องเขียน ค าอธิบายรายวิชา ทั้งรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาเพิ่มเติมไว้ในหลักสูตรสถานศึกษาด้วย ค าอธิบายรายวิชาคืออะไร ค าอธิบายรายวิชา เป็นข้อมูลรายละเอียดของแต่ละรายวิชา ประกอบด้วยมาตรฐานการเรียนรู้ เนื้อหาสาระ เวลาเรียน รหัสวิชา ชื่อวิชา จ านวนหน่วยกิต ระดับชั้น เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางที่ผู้สอนใช้ใน การวางแผนและออกแบบการเรียนการสอน ค าอธิบายรายวิชามีไว้เพื่ออะไร 1. เพื่อสร้างความเข้าใจว่าในรายวิชานั้น ผู้เรียนจะได้เรียนรู้องค์ความรู้ ฝึกทักษะ/กระบวนการ และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ส าคัญอะไรบ้าง 2. เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สอนน าไปออกแบบการจัดการเรียนรู้ ค าอธิบายรายวิชามีลักษณะอย่างไร ค าอธิบายรายวิชามีลักษณะเป็นความเรียงที่ประกอบด้วยองค์ความรู้ทักษะ/กระบวนการ และ คุณ ลักษณ ะอันพึงป ระสงค์ค าอธิบ ายรายวิชาของรายวิชาพื้นฐานให้วิเคราะห์จากตัวชี้วัดและ สาระการเรียนรู้แกนกลางที่หลักสูตรแกนกลางฯ ก าหนด ส าหรับค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติมให้วิเคราะห์จาก ผลการเรียนรู้ที่สถานศึกษาก าหนดขึ้น ค าอธิบายรายวิชาเขียนเป็นรายปีส าหรับระดับประถมศึกษา และเป็น รายภาคเรียนส าหรับระดับมัธยมศึกษา องค์ประกอบส าคัญของค าอธิบายรายวิชาคืออะไร องค์ประกอบส าคัญของค าอธิบายรายวิชา... จ าแนกได้ 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ประกอบด้วย รหัสวิชา......ชื่อรายวิชา……กลุ่มสาระการเรียนรู้........ชั้นปี....... จ านวน ชั่วโมงหรือหน่วยกิต ส่วนที่ 2 ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยมี แนวการเขียนที่ส าคัญ ดังนี้ 1. ผู้เรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง 2. ผู้เรียนสามารถท าอะไรได้บ้าง 3. ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อะไรบ้าง ตามหลักสูตรแกนกลาง ฯ และตาม ธรรมชาติของวิชา ส่วนที่ 3 ประกอบด้วยรหัสตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ทั้งหมดในรายวิชานั้น ๖. ค าอธิบายรายวิชา
22 ค าอธิบายรายวิชาเขียนอย่างไร รายวิชาพื้นฐาน รายวิชาพื้นฐานเป็น รายวิชาที่สอนให้ผู้เรียนบ รรลุมาตรฐานการเรียน รู้และตัวชี้วัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 การเขียนค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน มีขั้นตอนดังนี้ 1. วิเคราะห์ตัวชี้วัดชั้นปีในระดับประถมศึกษา ส าหรับมัธยมศึกษาตอนต้นวิเคราะห์ตัวชี้วัดชั้นปี เพื่อก าหนดเป็นรายภาค หรือตัวชี้วัดช่วงชั้นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นรายภาคและสาระการเรียนรู้ แกนกลางตามที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2. วิเคราะห์สาระการเรียนรู้ท้องถิ่นจากกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นของส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ความต้องการและบริบทของโรงเรียน เพื่อก าหนดสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดใน รายวิชานั้น 3. จัดกลุ่มตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่นที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน เพื่อหลอมรวมและเรียบเรียง เขียนเป็นความเรียง ให้เห็นสิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียน มีความรู้ความสามารถ และ คุณลักษณะในรายวิชานั้น 4. เขียนรายละเอียดตามองค์ประกอบของค าอธิบายรายวิชา รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติมเป็นรายวิชาที่โรงเรียนก าหนดขึ้นตามจุดเน้น ความต้องการของโรงเรียน หรือ ท้องถิ่น การเขียนค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม มีขั้นตอนดังนี้ 1. ก าหนดผลการเรียนรู้ซึ่งโรงเรียนเป็นผู้ก าหนดขึ้น 2. ก าหนดสาระการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ 3. จัดกลุ่มผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันเพื่อหลอมรวมและ เรียบเรียง เขียนเป็นความเรียง ให้เห็นสิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียน มีความรู้ความสามารถ และคุณลักษณะใน รายวิชานั้น 4. เขียนรายละเอียดตามองค์ประกอบของค าอธิบายรายวิชา การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สถานศึกษาสามารถท าได้หลายวิธี ในที่นี้ได้เสนอ ตัวอย่างการวิเคราะห์ตัวชี้วัดประกอบการสร้างความรู้ความเข้าใจ 2 รูปแบบ ดังต่อไปนี้
23 รูปแบบที่ 1 การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด เป็นสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้และสามารถปฏิบัติได้ แบบบันทึกการวิเคราะห์เพื่อจัดท าค าอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้......................................... รายวิชา ...............................ชั้น............................... สาระ......................................................................... มาตรฐาน ....................................................................................................................................................................... ตัวชี้วัด รู้อะไร ท าอะไรได้ สาระการเรียนรู้ แกนกลาง สาระการเรียนรู้ ท้องถิ่น รูปแบบที่ 2 การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด เป็นความรู้ ทักษะ/กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ แบบบันทึกการวิเคราะห์เพื่อจัดท าค าอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้......................................... รายวิชา ...............................ชั้น............................... สาระ......................................................................... มาตรฐาน ....................................................................................................................................................................... ตัวชี้วัด ความรู้ ทักษะ / กระบวนการ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ท้องถิ่น
24 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ คือ ๑) กิจกรรมแนะแนว ๒) กิจกรรมนักเรียน และ ๓) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยพิจารณาจากโครงสร้างเวลาเรียนที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร แกนกลาง และเป้าหมาย/จุดเน้นของท้องถิ่น พร้อมทั้งพิจารณาความต้องการและจุดเน้นของสถานศึกษา เพื่อ จัดเวลาเรียนให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาแต่ละแห่ง หลักสูตรแกนกลางได้ก าหนดกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนส าหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีละ ๑๒๐ ชั่วโมง และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖ จ านวน ๓๖๐ ชั่วโมง จ านวนเวลาที่ก าหนด เป็นเวลารวมในการปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในส่วนของกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์นั้น หลักสูตร แกนกลางระบุให้สถานศึกษาจัดสรรเวลาให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ ระดับประถมศึกษา (ป.๑-๖) รวม ๖ ปี จ านวน ๖๐ ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑-๓) รวม ๓ ปี จ านวน ๔๕ ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๔-๖) รวม ๓ ปี จ านวน ๖๐ ชั่วโมง จากโครงสร้างเวลาเรียนดังกล่าว สถานศึกษาสามารถพิจารณาจัดแบ่งจ านวนเวลาส าหรับผู้เรียน แต่ละระดับชั้นปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้ตามความเหมาะสม และอาจจัดให้ผู้เรียนได้ ท ากิจกรรมดังกล่าวในบางชั่วโมงของลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด หรือกิจกรรมชุมนุมต่างๆ ก็ได้ นอกจากนั้น ยังสามารถสอดแทรกในการเรียนการสอนรายวิชาต่างๆ โดยมีหลักฐานที่สามารถยืนยันเวลาที่ผู้เรียนได้ปฏิบัติ กิจกรรมดังกล่าวครบตามเวลาที่สถานศึกษาก าหนด พร้อมทั้งการประเมินการปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน การจบหลักสูตรในแต่ละระดับ ผู้เรียนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละประเภท ดังนี้ ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น จัดให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมดังนี้ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๒. กิจกรรมนักเรียน ๒.๑ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์ ๒.๒ ชุมนุม ชมรม ผู้เรียนต้องเข้าร่วมและได้รับการประเมินกิจกรรมทั้ง ๒.๑ และ ๒.๒ ๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมดังนี้ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๒. กิจกรรมนักเรียน ๒.๑ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์ หรือนักศึกษาวิชาทหาร ๒.๒ ชุมนุม ชมรม ผู้เรียนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง ๒.๑ และ ๒.๒ หรือเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตาม ความเหมาะสม ๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๗. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
25 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แนวการเขียนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียน แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้แก่ 1) กิจกรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนักเรียน และ3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในแต่ละกิจกรรมให้ระบุแนวการจัดกิจกรรม เวลาการจัดกิจกรรม และแนวทางการประเมินกิจกรรมที่โรงเรียนก าหนด ตัวอย่างกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่าง รอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็น ผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตส านึกของการท าประโยชน์เพื่อสังคม สามารถ จัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข โรงเรียน....................................................................... ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยแบ่ง ออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ ๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ………………………………………………………………………………………………………..............................................……..… นักเรียนทุกคนควรเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ระดับประถมศึกษา..........ชั่วโมงต่อปีการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา..........ชั่วโมงต่อภาคเรียน แนวการจัดกิจกรรมแนะแนว ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... 2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้................................................. ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย 2.1 กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร ระดับ ประถมศึกษา..........ชั่วโมงต่อปีการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา..........ชั่วโมงต่อภาคเรียน แนวการจัดกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร ............................................................................................................................. ..................... ......................................................................................................................................................................... ..... .............................................................................................................................................................................. 2.2 กิจกรรมชุมนุม ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม ระดับประถมศึกษา..........ชั่วโมง ต่อปีการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา..........ชั่วโมงต่อภาคเรียน
26 แนวการจัดกิจกรรมชุมนุม ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................... .................................................. ............................................................................................................................. ................................................ หมายเหตุ สามารถระบุชื่อกิจกรรมชุมนุมที่โรงเรียนจัดให้ผู้เรียนเลือกเรียน หรือชื่อกิจกรรมชุมนุมที่ โรงเรียน จัดให้มี 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ………………………………………………………………………………………….................................................…………………… ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ระดับประถมศึกษา.......... ชั่วโมงต่อปีการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา..........ชั่วโมงต่อภาคเรียน แนวการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ............................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..........................………………… ............................................................................................................................. ................................…………… แนวทางการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน .................................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ...................................................................................................................... ...................................................... หมายเหตุ การประเมินผลอาจเขียนแยกการประเมินผลแต่ละกิจกรรม หรือเขียนรวมในภาพรวมของ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนก็ได้
27 ในระดับชั้นเรียนครูผู้สอนแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดท าโครงสร้างรายวิชา และ ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วหากรายวิชาใดมีผู้สอนมากกว่าหนึ่งคน ครูอาจร่วมมือกัน ท างานเป็นทีม เพื่อวางแผนและออกแบบการเรียนการสอนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ การจัดท าโครงสร้างรายวิชา รายวิชาแต่ละรายวิชานั้นประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้หลายหน่วย ซึ่งได้วางแผนและออกแบบ ไว้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเป้าหมาย ดังนั้นเพื่อที่จะช่วยให้ผู้สอน และผู้เกี่ยวข้องเห็นภาพรวมของ แต่ละรายวิชา จ าเป็นต้องมีการจัดท าโครงสร้างรายวิชา เพื่อให้ได้ทราบว่ารายวิชานั้นประกอบด้วยหน่วยการ เรียนรู้จ านวนเท่าใด เรื่องใดบ้าง แต่ละหน่วยพัฒนาให้ผู้เรียนบรรลุตัวชี้วัดใด โดยใช้เวลาในการจัดการเรียน การสอนเท่าใด สัดส่วนการเก็บคะแนนของรายวิชานั้นเป็นอย่างไร ตัวอย่างโครงสร้างรายวิชา รายวิชา................................................................................ กลุ่มสาระ............................................................ ชั้น.......................................... ภาคเรียนที่............................ จ านวน.................. .หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชม.) คะแนน รวมทั้งสิ้น ๘. โครงสร้างรายวิชา
28 การวิจัยจะเป็นที่มาของข้อมูลข่าวสารที่แม่นตรงแสดงจุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหา สาเหตุ และ แนวทางปรับปรุงพัฒนาให้สถานศึกษาสามารถจัดหลักสูตรการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น สถานศึกษาควรด าเนินการ ดังนี้ การวิจัยพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา มุ่งเน้นการวิจัยเพื่อน าผลมาประกอบการพิจารณา ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาให้เหมาะสม สอดคล้องกับผู้เรียน และความต้องการของผู้ปกครอง ชุมชน 1) การประเมินความต้องการจ าเป็นในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพของผู้เรียนใน อนาคต เพื่อน ามาใช้ก าหนดโครงการเรียนรู้ และเวลาเรียน 2) การประเมินความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครอง และชุมชนในการพัฒนาผู้เรียน เพื่อ น ามาใช้ก าหนดโปรแกรมการเรียน และโครงการต่าง ๆ 3) การประเมินผลหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีหัวข้อในการพิจารณา เช่น ความครบถ้วนของ องค์ประกอบหลักสูตร ความสอดคล้องของแต่ละองค์ประกอบสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางฯ และกรอบ หลักสูตรระดับท้องถิ่น สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน พ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชน ความเหมาะสม ของแนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และระบบการวัดและประเมินผล เป็นต้น การวิจัย ประเมินผลการใช้หลักสูตร การประเมินผลการใช้หลักสูตรเป็นส่วนส าคัญส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาหลักสูตร ซึ่งสถานศึกษาจะต้องมีความตระหนักในการปรับปรุงหรือพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหลักประกัน ว่าผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาทั้งด้านสติปัญญา ร่างกาย คุณธรรม บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ระดับชาติ และสามารถด ารงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข กระบวนการประเมินผลการใช้หลักสูตรสามารถด าเนินการ ได้ ทั้งระหว่างการใช้หลักสูตร และเมื่อน าหลักสูตรไปใช้เรียบร้อยแล้ว หรือการติดตามจากผลผลิตของ หลักสูตร คือ ผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตร เพื่อให้การประเมินผลการใช้หลักสูตรบรรลุเป้าหมายของการควบคุมคุณภาพ สถานศึกษา ควรจัดให้มีการประเมินทั้งระบบ คือ 1) ก าหนดให้มีการประเมินการใช้หลักสูตร เป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษา 2) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินการใช้หลักสูตรด้วยตนเองให้เกิดขึ้นกับคณะครู 3) วางระบบเครือข่ายการท างานและมอบหมายงานการประเมินให้คณะผู้ปฏิบัติงานแต่ละ คณะด าเนินการประเมินเป็นระยะๆ โดยก าหนดให้ชัดเจนว่าคณะใดต้องประเมินรายการใดบ้าง 4) สรุปผลการประเมิน และน าผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การประเมินผลการใช้หลักสูตรมีแนวทางการด าเนินการที่ส าคัญ คือ พิจารณาองค์ประกอบ ของหลักสูตรที่จะประเมิน พิจารณาหลักเกณฑ์ที่จะใช้ในการประเมิน ออกแบบการจัดเก็บข้อมูล ด าเนินการ เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้พิจารณาตัดสินใจในการปรับปรุงหลักสูตรต่อไป ส าหรับประเด็นใน การประเมินนั้น สามารถประเมินได้ทั้งเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการใช้หลักสูตร กระบวนการใช้หลักสูตร และผล จากการใช้หลักสูตร อย่างไรก็ตาม สถานศึกษาควรมุ่งเน้นการประเมินส่วนที่เกี่ยวข้องต่อคุณภาพของผู้เรียน ๙. การวิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา
29 เป็นส าคัญและควรค านึงถึงทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน สถานศึกษา จะต้องให้ความส าคัญ โดยน าผลการประเมินระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ มาพิจารณาทั้งผลการประเมินในภาพรวม และผลการประเมินที่แยกรายวิชา และแยกรายมาตรฐาน หากผล การประเมินไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดหวัง ควรศึกษาวิเคราะห์เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งสาเหตุย่อมเกิด มาจากปัจจัยและกระบวนการใช้หลักสูตรสถานศึกษานั้นเอง จากนั้นจึงหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาคุณภาพ ต่อไป ประเด็นเกี่ยวข้องในการประเมินผลการใช้หลักสูตร ปัจจัยของการใช้หลักสูตร กระบวนการใช้หลักสูตร ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน • หลักสูตรสถานศึกษา • ความพร้อมของ บุคลากร • ทักษะการถ่ายทอดของ ครู • เทคนิคการสอน • สื่อการเรียนการสอน • การวัดผลประเมินผล • การบริหารจัดการ หลักสูตร ฯลฯ • การออกแบบและการ จัดการเรียนรู้ของครู • การนิเทศ ติดตามผล การใช้หลักสูตร • การประเมินผลการ เรียนรู้ ฯลฯ • คุณภาพของผู้เรียนตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด • การเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมของผู้เรียน • คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะส าคัญของ ผู้เรียน • ความส าเร็จในการศึกษา ต่อและประกอบอาชีพ ฯลฯ นอกจากนั้นสถานศึกษาควรสนับสนุนส่งเสริมให้ครูท าวิจัยปฏิบัติการ (Action research) เพื่อ แก้ปัญหาและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของตนเอง โดยการวิจัยนั้นอาจเริ่มต้นจากการเลือกปัญหาการ วิจัยที่มีความส าคัญและส่งผลกระทบต่อผู้เรียนมากที่สุด และที่มาของปัญหาการวิจัยอาจเกิดจากผู้เรียน เช่น ปัญหาพฤติกรรม ปัญหาการเรียนรู้ เป็นต้น หรืออาจเกิดจากการจัดการเรียนรู้ของครูไม่เหมาะสมสอดคล้อง กับผู้เรียนรายคน เมื่อได้ปัญหาการวิจัยแล้วจึงด าเนินการตามขั้นตอนการวิจัยต่อไป
๓๐ แนวทางการนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สู่การปฏิบัติ ๑. การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สู่การปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ.๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลง มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ ๒๕๖๐) โดยให้เปลี่ยนแปลง มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ส่วนสาระภูมิศาสตร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงใช้ตามคำสั่ง สพฐ. ที่ ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ ดังแผนภาพที่ ๑ แผนภาพที่ ๑ กระบวนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา (ที่มา : เอกสารทบทวนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ๒. การบริหารจัดการโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และ คำสั่งสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ ๙๒๒/๒๕๖๑ เรื่อง การปรับโครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ดำเนินการดังนี้ ๑.๑ ระดับประถมศึกษา ๑.๑.๑ ปรับเวลาเรียนแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ตามความเหมาะสม สอดคล้องกับบ ริบท จุดเน้นของสถานศึกษา และศักยภาพของผู้เรียน โดยจัดเวลาเรียนพื้นฐานสำหรับสาระประวัติศาสตร์ ๔๐ ชั่วโมงต่อปี ทั้งนี้ต้องมีเวลาเรียนพื้นฐานรวม จำนวน ๘๔๐ ชั่วโมงต่อปี และผู้เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนด
๓๑ ๑.๑.๒ จัดเวลาเรียนเพิ่มเติม โดยจัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม หรือกิจกรรมเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับจุดเน้น และความพร้อมของสถานศึกษา และเกณฑ์การจบหลักสูตร เฉพาะระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ สถานศึกษา อาจจัดให้เป็นเวลาสำหรับสาระการเรียนรู้พื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ๑.๑.๓ จัดเวลาสำหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจำนวน ๑๒๐ ชั่วโมงต่อปี ๑.๑.๔ จัดเวลาเรียนรวมทั้งหมด ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของสถานศึกษา ทั้งนี้ ควรคำนึง ถึงศักยภาพและพัฒนาตามช่วงวัยของผู้เรียนและเกณฑ์การจบหลักสูตร ๑.๒ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑.๒.๑ ปรับเวลาเรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ตามความเหมาะสม สอดคล้องกับบริบท จุดเน้นของสถานศึกษา และศักยภาพของผู้เรียน โดยจัดเวลาเรียนพื้นฐานสำหรับประวัติศาสตร์ ๔๐ ชั่วโมงต่อปี หรือ ๑ หน่วยกิตต่อปี ทั้งนี้ต้องมีเวลาเรียนพื้นฐานรวม จำนวน ๘๘๐ ชั่วโมงต่อปีหรือ ๒๒ หน่วยกิต ต่อปี และผู้เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนด และสอคล้องกับเกณฑ์การจบหลักสูตร ๑.๒.๒ จัดเวลาเรียนเพิ่มเติม โดยจัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม หรือกิจกรรมเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับจุดเน้นและ ความพร้อมของสถานศึกษา และเกณฑ์การจบหลักสูตร ๑.๒.๓. จัดเวลาสำหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจำนวน ๑๒๐ ชั่วโมงต่อปี ๑.๒.๔ จัดเวลาเรียนรวมทั้งหมด ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของสถานศึกษา ทั้งนี้ควรคำนึงถึง ศักยภาพและพัฒนาตามช่วงวัยของผู้เรียนและเกณฑ์การจบหลักสูตร ๑.๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑.๓.๑ ปรับเวลาเรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ตามความเหมาะสม สอดคล้องกับบริบท จุดเน้นของสถานศึกษา และศักยภาพของผู้เรียน โดยจัดเวลาเรียนพื้นฐานสำหรับประวัติศาสตร์รวม ๓ ปี ๘๐ ชั่วโมงต่อปีหรือ ๒ หน่วยกิตต่อปี ทั้งนี้ต้องมีเวลาเรียนพื้นฐานรวม ๓ ปี จำนวน ๑,๖๔๐ ชั่วโมงต่อปี หรือ ๔๑ หน่วยกิตต่อปีและผู้เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนด และสอคล้องกับเกณฑ์การ จบหลักสูตร ๑.๓.๒ จัดเวลาเรียนเพิ่มเติม โดยจัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม หรือกิจกรรมเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับจุดเน้น และความพร้อมของสถานศึกษา และเกณฑ์การจบหลักสูตร ๑.๓.๓. จัดเวลาสำหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรวม ๓ ปี จำนวน ๓๖๐ ชั่วโมง ๑.๓.๔.จัดเวลาเรียนรวมทั้งหมด ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของสถานศึกษา ทั้งนี้ ควรคำนึง ถึง ศักยภาพและพัฒนาตามช่วงวัยของผู้เรียนและเกณฑ์การจบหลักสูตร ๑.๔ การเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง สถานศึกษาทุกแห่งยังคงต้องจัดการเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง เป้าหมายของการจัด คือ การส่งเสริมการสร้างความเป็นพลเมืองดีของชาติตามความพร้อม และของสถานศึกษา โดยมีทางเลือกในการจัดการเรียนการสอน ๔ ทางเลือก ดังนี้ ๑ .๔ .๑ เพิ่ มวิชาห น้าที่พ ลเมืองในหลักสูตรสถานศึกษ า โดยจัดเป็ นรายวิชาเพิ่ มเติมใน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ (วัดผลรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง)
๓๒ ๑.๔.๒ บูรณาการกับการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นทั้งรายวิชาพื้นฐาน หรือเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาฯ (วัดผลรวมอยู่ในรายวิชานั้น ๆ) ๑.๔.๓ บูรณาการกับการเรียนรู้ในรายวิชาพื้นฐาน หรือรายวิชาเพิ่มเติม ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น (วัดผลรวมอยู่ในรายวิชานั้นๆ) ๑.๔.๔ บูรณาการการเรียนรู้กับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือกิจกรรม/โครงการ/โครงงานหรือ วิถีชีวิตประจำวันในโรงเรียน (วัดผล ผ่าน – ไม่ผ่าน ตามลักษณะของกิจกรรม) ทั้งนี้ สถานศึกษาควรระบุได้ว่า จัดการเรียนการสอนหน้าที่พลเมืองในลักษณะใด ผลการจัดบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ๑.๕ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ สถานศึกษาทุกแห่งยังคงต้องจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษใน ชั้น ป.๑ - ๓ จำนวน ๒๐๐ ชม./ปีโดยเสนอทางเลือก ๒ ทาง ดังนี้ ๑.๕.๑ จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เป็นรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๒๐๐ ชม./ปี ๑.๕.๒ จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เป็นรายวิชาพื้นฐาน อย่างน้อย ๑๒๐ ชม./ปี และ จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือกิจกรรมเสริมหลักสูตร ๘๐ ชม./ปีรวมเวลาเรียน ภาษาอังกฤษทั้งหมดจำนวน ๒๐๐ ชม./ปีโดยบริหารจัดการโครงสร้างเวลาเรียนดังตารางที่ ๑ ดังนี้ ตารางแสดงที่ ๑ การบริหารโครงสร้างเวลาเรียน
๓๓ ๓. บริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ตามประกาศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิ ตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐ ) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ ๓.๑ การจัดรายวิชา ๓.๑.๑ ระดับประถมศึกษา ๑) สถานศึกษาควรจัดรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ กลุ่มละ ๑ รายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ จำนวนและ พีชคณิต สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณิต และสาระที่ ๓ สถิติและความน่าจะเป็น ไปจัดทำเป็นรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ ชีวภาพ สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ และสาระที่ ๔ เทคโนโลยี จัดทำเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๒) สถานศึกษาสามารถจัดรายวิชาเพิ่มเติมได้ตามความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษาความ ต้องการและความถนัดของผู้เรียน โดยจัดเป็นรายปี ตามโครงสร้างเวลาเรียนที่กำหนด และกำหนดผลการเรียนรู้ ของรายวิชานั้น ๆ ๓.๑.๒ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑) สถานศึกษาสามารถจัดรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ได้ตามความเหมาะสม ในแต่ละกลุ่มสารการเรียนรู้อาจจัดได้มากกว่า ๑ รายวิชา ในแต่ละภาค/ปี กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ จำนวนและ พีชคณิต สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณิต และสาระที่ ๓ สถิติและความน่าจะเป็น ไปจัดทำเป็นรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ ชีวภาพ สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ และสาระที่ ๔ เทคโนโลยี จัดทำเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๒) สถานศึกษาสามารถจัดรายวิชาเพิ่มเติมได้ตามความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษา ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน และเกณฑ์การจบ โดยจัดเป็นรายภาค ตามโครงสร้างเวลาเรียนที่กำหนด และกำหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้น ๆ ๓.๑.๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑) สถานศึกษาสามารถจัดรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ได้ตามความเหมาะสม ในแต่ละกลุ่มสารการเรียนรู้อาจจัดได้มากกว่า ๑ รายวิชา โดยภายใน ๓ ปี ต้องครบทุกตัวชี้วัดที่กำหนด
๓๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ จำนวนและ พีชคณิต สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณิต และสาระที่ ๓ สถิติและความน่าจะเป็น ไปจัดทำเป็นรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ ชีวภาพ สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ และสาระที่ ๔ เทคโนโลยี จัดทำเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๒ ) สถานศึกษ าสามารถจัดรายวิชาเพิ่ มเติมได้ตามความพ ร้อม จุดเน้ นของสถานศึกษ า ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน และเกณฑ์การจบ โดยจัดเป็นรายภาค ตามโครงสร้างเวลาเรียนที่กำหนด และกำหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้น ๆ สำหรับผู้เรียนที่มีศักยภาพด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เพื่อ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ และการศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สถานศึกษา ควรพิจารณานำผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ซึ่งอาจจัดไม่ตรงตามชั้นปีที่กำหนดได้ตามความ เหมาะสมและตามศักยภาพของผู้เรียน ๓) สถานศึกษานำตัวชี้วัดและผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ไปสู่ การปฏิบัติ โดยอาจจัดให้ตรงตามชั้นปีที่กำหนด หรือยืดหยุ่นระหว่างชั้นปี ซึ่งอาจจัดไม่ตรงตามชั้นปีที่กำหนดได้ ตามความเหมาะสมและศักยภาพของผู้เรียน ๓.๒ การบริหารจัดการเวลาเรียน เป็นไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เรื่อง การบริหารจัดการ เวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓.๓ การจัดการเรียนการสอน ๑) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เน้นการเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ใช้กระบวนการสืบเสาะหา ความรู้และแก้ปัญหาที่หลากหลาย เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริงอย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชั้น ตามบริบท ความต้องการ ความเหมาะสม ความพร้อมของสถานศึกษาและศักยภาพผู้เรียน ๒) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เทคโนโลยี สถานศึกษาวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับ บริบท ความต้องการ ความพร้อมของสถานศึกษาและศักยภาพของผู้เรียน โดยพิจารณาดำเนินการ บูรณาการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสารการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยนำมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๔ เทคโนโลยี กับสาระอื่น ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มาบูรณาการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
๓๕ ๔. การยกเลิกและเปลี่ยนชื่อมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานที่ ๙๒๑/๒๕๖๑ เรื่อง ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๒ การออกแบบและ เทคโนโลยี และสาระที่ ๓ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปลี่ยนเชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดำเนินการดังนี้ ๑) ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ ๓ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ คงเหลือ ๒ สาระ คือ สาระที่ ๑ การดำรงชีวิตและครอบครัวและ สาระที่ ๔ การอาชีพ ๒) เปลี่ยนชื่อ สาระที่ ๔ การอาชีพ เป็น สาระที่ ๒ การอาชีพ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ เงื่อนไขและระยะเวลาการยกเลิกและเปลี่ยนชื่อสาระ ตามข้อ ๑ และข้อ ๒ ให้เป็นไปดังนี้ - ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ให้ยกเลิกและเปลี่ยนชื่อสาระในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ - ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ให้ยกเลิกและเปลี่ยนชื่อสาระในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๒ ๔ และ๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒ ๔ และ๕ - ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เป็นต้นไปให้ยกเลิกและเปลี่ยนชื่อสาระทุกชั้นเรียน ๓) ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ให้เปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ ๓.๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ๓.๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕. ประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน....... พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดังนี้ - ปี ๒๕๖๑ ให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ - ปี ๒๕๖๒ ให้ใช้ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ / ๒ / ๔ และ ๕ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ / ๒ / ๔ และ ๕ - ปี ๒๕๖๓ ให้ใช้ทุกชั้นเรียน (ที่มา : คำสั่ง กระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๓๘/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง การใช้มาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัด คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ๖. การบริหารจัดการโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษา เป็นไปตามเกณฑ์การจบดังนี้ เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา ๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐานตาม โครงสร้างเวลาเรียนที่สถานศึกษากำหนดและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด ๒. ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด ๓. ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด
๓๖ ๔. ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด ๕. ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมที่สถานศึกษากำหนด ๒. ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า ๑๑ หน่วยกิต ๓. ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด ๔. ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณ ลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด ๕. ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒ นาผู้เรียนและมีผลการประเมิน ผ่านเกณ ฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมที่สถานศึกษากำหนด ๒. ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า ๓๖ หน่วยกิต ๓. ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด ๔. ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณ ลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด ๕. ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒ นาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณ ฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด
๓๗ สรุปการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดำเนินการดัง แผนภาพที่ ๒ ดังนี้ แผนภาพที่ ๒ แสดงการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
แบบประเมินหลักสูตรสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 โรงเรียน ........................................................................................ กลุ่มโรงเรียน ....................................... คำชี้แจง 1. แบบประเมินหลักสูตรสถานศึกษาฉบับนี้ประกอบด้วยการประเมิน หลักสูตรสถานศึกษาและ การประเมินผลการนำหลักสูตรไปใช้เพื่อให้สถานศึกษานำผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาในปีการศึกษาต่อไป 2. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาดำเนินการตรวจสอบองค์ประกอบหลักสูตร สถานศึกษา ตามลำดับดังนี้ 2.1 ตรวจสอบองค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ตามรายการที่กำหนด แล้วเขียน ลงในช่องผลการตรวจตามความเป็นจริง 2.2 บันทึกแนวทางในการปรับปรุง/แก้ไขแต่ละรายการเพื่อให้โรงเรียนนำไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนต่อไป 2.3 หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น บันทึกลงในข้อเสนอแนะอื่น 3. สรุปผลการตรวจสอบภาพรวมองค์ประกอบหลักสูตรโรงเรียน โดยเขียนเครื่องหมายลงในตาราง แสดงผลการตรวจสอบภาพรวมองค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา การให้คะแนนระดับคุณภาพ ให้ระดับคุณภาพตามที่ได้พิจารณาตรวจสอบหลักสูตร โดยเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องระดับ คุณภาพ ดังนี้ ตอนที่ 1 ด้านองค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา ระดับคุณภาพ 3 (มาก) หมายถึง ครบถ้วน ถูกต้อง สอดคล้อง เหมาะสมทุกรายการ ระดับคุณภาพ 2 (ปานกลาง) หมายถึง มีครบทุกรายการ แต่บางรายการควรปรับปรุง ระดับคุณภาพ 1 (น้อย) หมายถึง ไม่มี มีไม่ครบทุกรายการ ไม่สอดคล้อง ต้องปรับปรุงแก้ไข
2 ตอนที่ 2 ด้านผลการนำหลักสูตรไปใช้ เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ 3 (มาก) หมายถึง การดำเนินการและผลการดำเนินการบรรลุตามเป้าหมาย ที่กำหนด ระดับคุณภาพ 2 (ปานกลาง) หมายถึง การดำเนินการและผลการดำเนินการบรรลุตามเป้าหมาย แต่บางเรื่องต้องปรับปรุง ระดับคุณภาพ 1 (น้อย) หมายถึง ไม่ได้ดำเนินการหรือดำเนินการแล้วแต่ไม่บรรลุตาม เป้าหมาย เกณฑ์การตัดสิน คะแนนเฉลี่ย 1.00 -1.67 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง มาก คะแนนเฉลี่ย 1.68 – 2.33 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปานกลาง คะแนนเฉลี่ย 2.34 - 3.00 ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง มาก
3 ตอนที่ 1 องค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา รายการ ระดับคุณภาพ ข้อเสนอแนะปรับปรุง แก้ไข 1 2 3 1. ปกหลักสูตร ระบุชื่อหลักสูตรสถานศึกษา ปีที่เริ่มใช้หลักสูตรได้ สอดคล้องกับการนำไปสู่การปฏิบัติ 2. ประกาศใช้หลักสูตร - ระบุวันที่นำเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาให้ ความเห็นชอบ (ก่อนเปิดภาคเรียน 16 พฤษภาคม ) - ระบุเวลาในการนำหลักสูตรไปใช้สอดคล้องกับ การปฏิบัติจริงในสถานศึกษา - ระบุผู้ลงนามอนุมัติให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา (ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้อำนวยการ สถานศึกษาหรือเฉพาะผู้อำนวยการสถานศึกษา) 3. ส่วนนำ 3.1 ความนำ แสดงความเชื่อมโยงระหว่างหลักสูตร แกนกลางการศึกษาพื้นฐาน พุทธศักราช 2551/ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560/กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น จุดเน้น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ของผู้เรียนและความต้องการของสถานศึกษา ในการพัฒนาผู้เรียน 3.2 วิสัยทัศน์ 3.2.1 แสดงภาพอนาคตของผู้เรียนที่ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จุดเน้นของชุมชน ท้องถิ่น และ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (การสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้ เทคโนโลยี) ชัดเจนสามารถปฏิบัติได้จริง 3.2.1 มีความชัดเจนสามารถปฏิบัติได้
4 รายการ ระดับคุณภาพ ข้อเสนอแนะปรับปรุง แก้ไข 3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน มีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 4. โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 4.1 โครงสร้างเวลาเรียน 4.1.1 มีการระบุรายวิชาพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ และรายวิชาเพิ่มเติมจำแนกแต่ละชั้นปีอย่างชัดเจน - เวลาเรียนรายวิชาพื้นฐานระดับประถมศึกษา 840 ชั่วโมง/ปีมัธยมศึกษา ม.1-3 880 ชั่วโมง/ปี - เวลาเรียนภาษาอังกฤษ ป.1-3 200 ชั่วโมง/ปี (เลือกได้ 2 รูปแบบ พร้อมระบุรูปแบบในหมายเหตุใต้ โครงสร้างหลักสูตร) - ประวัติศาสตร์ 40 ชั่วโมง/ปีมีการตัดสินผล การเรียนทุกชั้นปีพร้อมจัดทำ ปพ.5 - หน้าที่พลเมือง 40 ชั่วโมง/ปี(เลือกได้ 4 รูปแบบ ) โดยมีการตัดสินผลการเรียนตามรูปแบบที่เลือก 4.2 โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี 4.2.1 มีการระบุรายวิชาพื้นฐานทั้ง 8 กลุ่มสาระ และ 1 รายวิชาพื้นฐาน (ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ระบุเป็นรายวิชาพื้นฐานกลุ่มสาระสังคม ฯ ลำดับที่ 2) 4.2.2 มีการระบุรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษา กำหนดโดยสอดคล้องและส่งผลให้บรรลุผลตาม วิสัยทัศน์จุดเน้นของหลักสูตรสถานศึกษา 4.2.3 มีรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมที่ระบุ รหัสวิชา ชื่อรายวิชา เวลาเรียน และ/หรือหน่วยกิต ไว้อย่างถูกต้องชัดเจน 5. คำอธิบายรายวิชา 5.1 มีการระบุรหัสวิชา ชื่อรายวิชา และชื่อกลุ่ม สาระการเรียนรู้อย่างถูกต้องชัดเจน 5.2 มีการระบุชั้นปีที่สอนและจำนวนเวลาเรียน และ หรือหน่วยกิต อย่างถูกต้องชัดเจน
5 รายการ ระดับคุณภาพ ข้อเสนอแนะปรับปรุง แก้ไข 5.3 การเขียนคำอธิบายรายวิชา เขียนเป็นความ เรียง โดยระบุองค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ และ คุณลักษณะ หรือเจตคติที่ต้องการ จำนวนตัวชี้วัดในแต่ ละรายวิชาในแต่ละชั้นปี 5.4 มีการจัดทำคำอธิบายราชวิชาพื้นฐานที่ ครอบคลุมตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (4 สาระ) คณิตศาสตร์ (3 สาระ) และสังคมศึกษา ฯ (5 สาระ) (สาระภูมิศาสตร์ปรับตัวชี้วัดใหม่) 5.5 มีการระบุรหัสตัวชี้วัด ในรายวิชาพื้นฐาน และ จำนวนรวมของตัวชี้วัด 5.6 มีการจัดทำคำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ครอบคลุมผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ที่ครูผู้สอนรายวิชานั้น ๆ จัดทำขึ้นเองโดยไม่ตรงกับ ตัวชี้วัดของรายวิชาพื้นฐาน 5.7 มีการระบุผลการเรียนรู้ในรายวิชาเพิ่มเติม และจำนวนรวมของผลการเรียนรู้ 6. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 6.1 มีการระบุกิจกรรมทั้ง 3 กิจกรรมตามที่กำหนด ไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (กิจกรรมแนะแนว ชุมนุม ลูกเสือ/ เนตรนารี กิจกรรมสาธารณะประโยชน์) 6.2 จัดโครงสร้างเวลาเรียนทั้ง 3 กิจกรรมตาม ที่กำหนดในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 6.3 จัดโครงสร้างเวลาทั้ง 3 กิจกรรมสอดคล้องกับ โครงสร้างเวลาเรียนที่หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (กิจกรรมแนะแนว: 40 ชั่วโมง/ปี ชุมนุม : 30-40 ชั่วโมง/ปี ลูกเสือ/เนตรนารี: 30-40 ชั่วโมง/ปีกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์: 10 ชั่วโมง/ปี)
6 รายการ ระดับคุณภาพ ข้อเสนอแนะปรับปรุง แก้ไข 6.4 มีการระบุหลักการ แนวทางการจัดกิจกรรมและ แนวทางการวัดและประเมินผลกิจกรรมที่ชัดเจน 7. เกณฑ์การจบการศึกษา 7.1 มีการระบุเวลาเรียน หน่วยกิตของรายวิชา พื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม ตามเกณฑ์การจบ ระดับประถมศึกษา ชั้น ป.1-6 ผู้เรียนได้เรียน - รายวิชาพื้นฐาน 840 ชั่วโมง/ปี (21 หน่วยกิต/ปี) - รายวิชาเพิ่มเติม (ทุกชั้นปีแต่รายวิชาและ จำนวนชั่วโมง/ปีขึ้นอยู่กับนโยบายและจุดเน้นของ สถานศึกษา) ระดับมัธยมศึกษา ชั้น ม.1-3 - รายวิชาพื้นฐาน 880 ชั่วโมง/ปี (ปีละ 22 หน่วยกิต รวม ม.1-3 จำนวน 66 หน่วยกิต) - รายวิชาเพิ่มเติม รวม ม.1-3 ไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิตได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต 7.2 มีการระบุเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนอย่างชัดเจน 7.3 มีการระบุเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ อย่างชัดเจน 7.4 มีการระบุเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนอย่างชัดเจน 8. หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8.1 มีการวิเคราะห์ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ แกนกลาง และระบุสาระท้องถิ่น จุดเน้นของ สถานศึกษา 8.2 จัดทำโครงสร้างรายวิชา ประกอบด้วย หน่วยการเรียนรู้โดยจัดกลุ่มตัวชี้วัดที่สามารถจัดการ เรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้เดียวกันกำหนดเวลาเรียน และคะแนนที่เหมาะสม 8.3 ออกแบบหน่วยการเรียนรู้โดยบูรณาการแหล่ง เรียนรู้ในท้องถิ่นตามบริบทพื้นที่ของแต่ละโรงเรียน
7 ตอนที่ 2 ผลการนำหลักสูตรไปใช้ รายการ ระดับคุณภาพ ข้อเสนอแนะปรับปรุง แก้ไข 3 2 1 8.4 กำหนดแนวทางในการวัดและประเมินของ สาระการเรียนรู้ได้อย่างชัดเจน โดยระบุ วิธีการ เครื่องมือและเกณฑ์การประเมิน ด้านปัจจัยของการใช้หลักสูตร (Input) 1. หลักสูตรสถานศึกษามีความสมบูรณ์และ ถูกต้อง 2. ความพร้อมของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ 3. ครูผู้สอนมีทักษะการถ่ายทอดความรู้ 4. เทคนิคการสอนของครูมีความหลากหลาย 5. สื่อการเรียนการสอนมีความพร้อม 6. สื่อมีความหลากหลายน่าสนใจ 7. ใช้แหล่งเรียนรู้และสื่อที่มีอยู่ในท้องถิ่น 8. วิธีการและเครื่องมือในการวัดและประเมินผล มีความหลากหลาย 9. เน้นการประเมินตามสภาพจริง 10. มีคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและ งานวิชาการที่เข้มแข็ง ด้านกระบวนการใช้หลักสูตร (Process) 1. ครูออกแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดยบูรณาการแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น ก่อนจัดการเรียนรู้ทุกครั้ง 2. ครูจัดทำและนำแผนการจัดการเรียนรู้ Active Learning โดยบูรณาการแหล่งเรียนรู้ ท้องถิ่นไปจัดการเรียนรู้ 3. ครูผู้สอนดำเนินการประเมินผลการเรียนรู้ โดยเน้นการประเมินตามสภาพจริง 4. ครูผู้สอนดำเนินการประเมินผลการเรียนรู้โดยใช้ เครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย 5. โรงเรียนแต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศ ติดตาม การใช้หลักสูตร 6. คณะกรรมการดำเนินการนิเทศ ติดตาม การใช้หลักสูตร
8 รายการ ระดับคุณภาพ ข้อเสนอแนะปรับปรุง แก้ไข 3 2 1 ด้านผลการเรียนรู้ของผู้เรียน 1. คุณภาพของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชี้วัดบรรลุตามเป้าหมายของหลักสูตรตาม ที่สถานศึกษากำหนด 2. นักเรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายและ วิสัยทัศน์ของหลักสูตรที่สถานศึกษากำหนด 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์บรรลุ ตามที่สถานศึกษากำหนด 4. นักเรียนมีสมรรถนะสำคัญตามที่หลักสูตร สถานศึกษากำหนด ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................
9 สรุปผลการประเมินหลักสูตร ตอนที่ 1 ด้านองค์ประกอบของหลักสูตร ที่ รายการตรวจสอบ ระดับคุณภาพ 3 2 1 1 ปกหลักสูตร 2 ประกาศใช้หลักสูตร 3 ส่วนนำ 4 โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 5 คำอธิบายรายวิชา 6 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 7 เกณฑ์การจบการศึกษา 8 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ สรุปผลการประเมินหลักสูตร จุดเด่น และจุดที่ต้องเพิ่มเติม /พัฒนา จุดเด่นของหลักสูตรสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ส่วนที่ต้องเพิ่มเติม/พัฒนา 1. ปกหลักสูตร ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ประกาศใช้หลักสูตร ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. ส่วนนำ 3.1 ความนำ ......................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ................................................................
10 3.2 วิสัยทัศน์สถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. 3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 3.4 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. 4. โครงสร้างหลักสูตรของสถานศึกษา ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... 5. คำอธิบายรายวิชา ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... 6. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... 7. เกณฑ์การจบ ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... 8. หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ ...................................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ..........................................