๔๔ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (สังคมศึกษา ป.๕)
ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง หน้าทขี่ องพลเมือง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ เร่ือง พลเมอื งดี
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๓ เร่ือง หน้าท่ีของพลเมือง
รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นเขยี นแผนผังความคิด เรือ่ ง สถานภาพ บทบาท หน้าที่ สิทธิ และเสรีภาพ
สถานภาพ บทบาท หน้าที่ สิทธิ และเสรีภาพ
๑. ชื่อ-นามสกลุ ......................................................................................เลขท.่ี ..................ชนั้ ป.๕/..........
๒. ชอื่ -นามสกลุ ......................................................................................เลขท.่ี ..................ชน้ั ป.๕/..........
๓. ชอ่ื -นามสกุล......................................................................................เลขที่...................ชน้ั ป.๕/..........
๔. ช่อื -นามสกุล......................................................................................เลขท่.ี ..................ชน้ั ป.๕/..........
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ เร่ือง พลเมืองดี ๔๕
ใบความร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง คุณลักษณะของพลเมอื งดี
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เรื่อง พลเมอื งดี
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๔ เรือ่ ง คุณลกั ษณะของพลเมอื งดี
รายวชิ าสงั คมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
คุณลักษณะของพลเมืองดี
พลเมืองดีมีความสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก คุณลักษณะของพลเมืองดีท่ีสำคัญ
และจำเป็นสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างราบร่ืนและจะช่วยจรรโลงให้สังคมประเทศชาติพัฒนา
กา้ วหนา้ มดี งั นี้
๑. เปน็ บคุ คลทีเ่ คารพกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบขอ้ บังคบั ของสังคม
๒. เป็นบุคคลที่เคารพสทิ ธิและเสรภี าพของตนเองและบคุ คลอ่ืน
๓. เป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่มีต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน
ประเทศชาติ และสงั คมโลก
๔. เปน็ บุคคลทม่ี ีคุณธรรมและจรยิ ธรรมในการดำเนินชีวิตประจำวนั
๕. เป็นบคุ คลทม่ี ีคุณธรรมและจรยิ ธรรมในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวัน
๖. เป็นบุคคลที่มีความกระตือรือร้นที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาของชุมชนประเทศชาติและสังคมโลกหรือองค์กรที่ตนสังกัดอยู่ เช่น ร่วมกันแก้ปัญหา
และพฒั นาสภาพแวดลอ้ มของโรงเรียนและชุมชนให้ดขี ึ้น เป็นตน้
๗. เป็นบุคคลที่มีความสนใจและกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทาง
การเมืองการปกครอง เช่น การไปใชส้ ทิ ธิเลอื กต้งั เป็นตน้
พลเมืองที่ดีมีลักษณะดังกล่าว ท้ังน้ีจะเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่ครอบครัว โรงเรียน
ประเทศชาติ และสังคมโลกเสมอ ประเทศใดก็ตามท่ีมีพลเมืองดีเป็นจำนวนมากประเทศนั้น
กจ็ ะมีแตค่ วามสงบสุขและเจรญิ ก้าวหนา้ อยา่ งต่อเน่ือง
แหลง่ ท่ีมา : ชดุ เอกสารส่อื ๖o พรรษา สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี
๔๖ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรับนกั เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๕)
ใบงานที่ ๓ เร่ือง คุณลักษณะของพลเมืองดี
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ เร่อื ง พลเมืองดี
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ เร่อื ง คุณลกั ษณะของพลเมืองดี
รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
คำชี้แจง ให้นักเรยี นทำแผนผงั ความคิด เรอื่ ง คณุ ลักษณะของพลเมืองดี
คณุ ลักษณะ
ของพลเมอื งดี
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๔ เรอ่ื ง พลเมืองดี ๔๗
ใบความรทู้ ี่ ๒ เร่ือง คำสอนพอ่
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เรอ่ื ง พลเมอื งดี
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๕ เร่อื ง การปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดี
รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕
คำพ่อสอน
(พระบรมราโชวาท พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ ๙)
“ …ความสามัคคีพร้อมเพรียงกัน เป็นพื้นฐานท่ีสำคัญย่งิ ในการปฏิบัติ บริหารงานใหญ่ ๆ เช่น
งานของแผ่นดิน และความสามัคคีนี้จะเกิดมีข้ึนม่ันคงได้ ก็ด้วยบุคคลในหมู่คณะมีคุณธรรม
เป็นเครือ่ งยดึ เหนี่ยวผกู พันจติ ใจของกันและกนั คุณธรรมเครอ่ื งยดึ เหนย่ี วจติ ใจนั้น
ประการที่หนึ่ง ได้แก่ การให้ คือ การให้สงเคราะห์ช่วยเหลือกัน ให้อภัยไม่โทษกัน
ใหค้ ำแนะนำตักเตือนท่ีดีต่อกัน
ประการท่ีสอง ได้แก่ การมีวาจาดี คือ พูดแต่คำสัจ คำจริงต่อกัน พูดให้กำลังใจกัน
พูดแนะนำประโยชน์กัน และพูดให้รักใคร่ปรองดองกัน
ประการที่สาม ได้แก่ การทำประโยชน์ให้แก่กัน คือ ประพฤติปฏิบัติตนให้เกิด
ประโยชนเ์ กื้อกูลท้ังแกก่ ันและกัน และแกห่ มู่คณะโดยสว่ นร่วม
ประการท่ีส่ี ได้แก่ การวางตนได้สม่ำเสมออย่างเหมาะสม คือ ไม่ทำตัวดีเด่นเกินกว่า
ผู้อื่นและไม่ด้อยให้ต่ำทรามไปจากหมู่คณะ หมู่ใดมีคุณธรรมเครื่องยึดเหน่ียวกันไว้ดังกล่าว
หม่คู ณะนัน้ ย่อมจะมคี วามเจรญิ มั่นคงขน้ึ ดว้ ยสามคั คีธรรม…”
(พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่
สามัคคีสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์การเปิดการประชุมประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ระหว่างวันท่ี
๑o-๑๑ เมษายน ๒๕๒๕
แหลง่ ท่ีมา : ชุดเอกสารสื่อ ๖o พรรษา สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี
๔๘ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๕)
ใบงานท่ี ๔ เรอ่ื ง การเปน็ พลเมอื งดีของสงั คม
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๔ เรอื่ ง พลเมอื งดี
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๖ เร่อื ง ผลของการเปน็ พลเมืองดี
รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
คำชแี้ จง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์บทความจากการอ่านขา่ วท่ีกำหนดใหถ้ ูกต้อง
กรณี ฆาตกรต่อเนื่อง นายสมคิด พุ่มพวง หรือ “คิด เดอะริปเปอร์” ถูกตั้งรางวัลนำจับจำนวน
*๕o,ooo บาท เพื่อจะมอบให้กับพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อตามล่าจับกุมตัวซึ่งเมื่อวันที่
๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ได้มีพลเมืองดีนั้นแอบถ่ายชายคล้าย นายสมคิด พุ่มพวง กำลังจะนั่งกินข้าวบน
รถไฟ จนล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวรวบได้บนรถไฟที่ อ.ปากช่อง โคราช โด ยเรื่องราวนั้น
เกิดขึ้นจากการที่พลเมืองดีที่ชื่อน้องเอ (นามสมมุติ) เป็นนักศึกษาหนุ่มกับน้องบี (นามสมมุติ) แฟนสาว
กำลังจะเดินทางจากนครราชสีมาไปกรุงเทพฯ จึงไปขึ้นรถไฟขบวนสุรินทร์-กรุงเทพฯ โดยที่ทั้งสองได้ที่นั่ง
ตรงข้ามกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งสวมหมวกและใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ชายคนดังกล่าวพยายามหันหน้าไปทาง
ผนังตลอด แต่ก็มีจังหวะที่น้องบีแฟนสาวของน้องเอหันไปเห็นหน้าพอดี เลยทำให้น้องบีเกิดอาการตกใจ
เพราะชายคนดังกล่าวคล้าย “สมคิด พุ่มพวง” ที่ตำรวจกำลังตามล่าตัวมาก รวมทั้งมีรอยแผลเป็นที่คิ้ว
ซ้ายเหมือนกันด้วย
ทำให้ทั้งคู่ชวนกันย้ายไปนั่งที่ตู้อื่น แล้วรีบโทรแจ้งตำรวจ จากนั้นน้องเอแกล้งทำเป็นเดินผ่านที่ที่
นายสมคิดนั่ง เพื่อแอบถ่ายรูปส่งให้ตำรวจดู ตำรวจกับน้องเอติดต่อกันทางไลน์เป็นระยะ เพื่อให้
รายละเอียดเพิ่มเติมอ่ืน ๆ เช่น รถไฟถึงไหนแล้ว นายสมคิดยังอยู่ที่เดิมหรือไม่ ในที่สุดตำรวจก็นำกำลังมา
จับกุมตัวนายสมคิดได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา จากการค้นตัวพบมีด ๑ เล่ม
แหลง่ ท่ีมา : หนังสือพิมพ์ คม ชดั ลึก : วนั พฤหัสบดที ี่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ : เวลา o๙.๒๗ น.
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เร่ือง พลเมอื งดี ๔๙
๑. จากการอ่านข่าวนกั เรยี นคิดวา่ เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. ถา้ นกั เรียนอยู่ในเหตุการณ์นน้ั จะทำอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๕๐ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๕)
แบบประเมินตนเอง
ช่อื : __________________ สกลุ : _________________วัน____ เดือน___________พ.ศ. ____
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรอ่ื ง พลเมืองดี
๑. ประเมินการเรยี นรูข้ องตนเอง
กาเครอ่ื งหมาย ✓ ในช่องระดับความสามารถของแตล่ ะกิจกรรมทนี่ ักเรยี นคิดวา่ ทำได้ เพ่ือประเมิน
ความสามารถของตนเอง
ที่ รายการ ระดบั ความสามารถ
ดมี าก ค่อน ดี พอใช้ ปรบั
๑ สิทธแิ ละเสรีภาพ
๒ หนา้ ท่ีของพลเมือง ข้างดี ปรงุ
๓ แผนผงั ความคดิ เรื่อง คณุ ลักษณะของพลเมืองดี
๔ วเิ คราะหบ์ ทความจากการอ่านขา่ ว
๒. สิ่งท่ฉี ันยังไมเ่ ข้าใจ/ยังทำได้ไม่ดี คือ……(สามารถเขียนไดม้ ากกวา่ ๑ อยา่ ง)
……………………………………………......................................................................................... ....................
…………………………………………….......................................................................................................
............................................................................................................................................... ..........
................................................................................................................ ..........................................
๓. สิ่งท่ฉี ันต้ังใจจะทำให้ดขี ึ้นในการเรยี นหนว่ ยตอ่ ไป (สามารถเขียนไดม้ ากกว่า ๑ อย่าง)
……………………………………………........................................................................................................
……………………………………………......................................................................................... ...............
......................................................................................................................................... ..................
.................................................................................................................. .........................................
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง การปกปอ้ งคุ้มครองสิทธเิ ด็ก ๕๑
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕
การปกปอ้ งค้มุ ครองสทิ ธเิ ดก็
๕๒ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนกั เรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๕)
ใบงานท่ี ๑ เรื่อง สิทธิทจ่ี ะไดร้ ับการปกปอ้ งคุ้มครอง
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เรื่องการปกป้องคมุ้ ครองสิทธิเด็ก
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง สิทธเิ ด็กขั้นพน้ื ฐาน
รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
คำช้แี จง จงพจิ ารณาข้อความต่อไปน้ี ขอ้ ความใดเป็นการละเมดิ สทิ ธเิ ดก็ ให้ใส่เคร่ืองหมาย X ข้อความใดเปน็
การคมุ้ ครองสิทธิเด็กใหใ้ สเ่ คร่ืองหมาย Y
๑. (……...) สนใจติดตามการเรียนของลูก
๒. (……...) สอนใหล้ ูกสูบบหุ ร่ี
๓. (….…..) ใช้เข็มขดั ตีเมื่อลกู ทำผิด
๔. (……...) สอนลกู ใหร้ ะวังคนแปลกหน้า
๕. (………) เตือนถงึ อนั ตรายของสารเสพตดิ
๖. (……...) ไม่ให้ลูกไปโรงเรียน
๗. (….…..) สง่ ลูกอายุ ๑๒ ขวบไปทำงานโรงงาน
๘. (…..….) ตักเตอื นเมื่อลกู ทำผิด
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง การปกปอ้ งคุ้มครองสิทธเิ ด็ก ๕๓
แหล่งทม่ี า : สถาบนั พฒั นาคุณภาพใบวงชิ าานกทาี่ร๒(พเรว่อื .ง) การละเมิดสทิ ธิเด็ก
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ เร่ือง การปกป้องคุม้ ครองสทิ ธเิ ดก็
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง การละเมิดสิทธเิ ดก็
รายวชิ าสงั คมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นวเิ คราะห์สถานการณ์ทกี่ ำหนดให้
เด็กหญิงเพชรน้ำใจ อายุ ๑๓ ปี เป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่เขามาทำงานบ้านและต้องรอนายจ้างกลับ
บ้านเวลาประมาณตี ๑-๓ เป็นประจำทุกวัน เพ่ือนำเส้ือผ้ามาซักและรีดให้เสร็จในแต่ละวัน โดยไม่มีวันหยุด
พักผอ่ นให้กบั เดก็ หญงิ เพชรน้ำใจ บางครั้งถูกนายจา้ งทุบตจี นไดร้ ับบาดเจบ็
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
.......................................................................................... ....................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
๕๔ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (สังคมศกึ ษา ป.๕)
ใบงานท่ี ๓ เรอ่ื ง แนวทางการปกปอ้ งคุ้มครองตนเองหรือผ้อู นื่ จากการถกู ละเมดิ สิทธเิ ดก็
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรื่อง การปกป้องคุ้มครองสทิ ธเิ ดก็
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เร่อื ง การละเมิดสทิ ธิเด็ก
รายวชิ าสังคมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นร่วมเสนอแนวทางการปกป้องคุ้มครองตนเองหรือผู้อื่นถา้ ตกอยใู่ นสถานการณ์ดังกลา่ ว
ถ้าถูกลอ่ ลว่ งทางส่ือ แนวทางในการปกป้องคุ้มครองตนเอง
อินเทอร์เน็ตตา่ ง ๆ หรอื ผอู้ ่นื
ถา้ เกดิ เหตุการณ์ทำรา้ ย แนวทางในการปกป้องคุ้มครองตนเอง
รา่ งกายจะปกปอ้ งตนเอง หรือผ้อู ืน่
อย่างไร
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เร่ือง การปกป้องคุ้มครองสทิ ธิเด็ก ๕๕
แบบประเมนิ ตนเอง
ชือ่ : __________________ สกุล : _________________วัน____ เดอื น___________พ.ศ. ____
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรือ่ ง การปกปอ้ งสทิ ธิเด็กไทย
๑. ประเมินการเรียนรูข้ องตนเอง
กาเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องระดบั ความสามารถของแตล่ ะกจิ กรรมที่นกั เรยี นคิดวา่ ทำได้ เพ่ือประเมินความสามารถ
ของตนเอง
ที่ รายการ ระดับความสามารถ
ดมี าก ค่อน ดี พอใช้ ปรบั
ขา้ งดี ปรุง
๑ ยกตวั อย่างสทิ ธิที่ตนเองพึงได้รับและความสำคัญของสิทธิ
๒ เลอื กบทความและหาแนวทางป้องกนั กรณีตวั อยา่ งท่ี
มูลนธิ เิ พือ่ การพัฒนาเด็กรายงานการละเมิดสิทธิเดก็
๓ ยกตวั อยา่ งสถานการณ์ การละเมนิ สทิ ธเิ ด็ก
๒. สง่ิ ท่ีฉันยงั ไมเ่ ข้าใจ/ยังทำไดไ้ มด่ ี คอื ……(สามารถเขยี นไดม้ ากกว่า ๑ อย่าง)
……………………………………………......................................................................................... ....................
…………………………………………….......................................................................................................
............................................................................................................................. ............................
............................................................................................................................. .............................
๓. สิ่งทฉ่ี ันตั้งใจจะทำให้ดีข้ึนในการเรยี นหนว่ ยตอ่ ไป (สามารถเขียนไดม้ ากกวา่ ๑ อย่าง)
……………………………………………........................................................................................................
……………………………………………......................................................................................... ...............
............................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..............................
๕๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นักเรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๕)
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖
การปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ เรอื่ ง การปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ๕๗
ใบงานที่ ๑ เร่ือง โครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่นและอำนาจหนา้ ท่ีขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เรือ่ ง การปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง อำนาจหนา้ ท่ีขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่
รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นอธบิ ายโครงสร้างการปกครองส่วนท้องถ่นิ และอำนาจหน้าที่ขององคก์ รปกครองสว่ น
ท้องถ่ิน
โครงสร้างการปกครองส่วนท้องถ่นิ
๔...........................................................
๑.............................. ๒........................... ๓............................
.............................. .............................
อำนาจหน้าท่ีขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๕๘ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรบั นกั เรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๕)
ใบงานที่ ๒ เรื่อง โครงสร้างการบรหิ ารงานการปกครองสว่ นท้องถ่นิ
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๖ เรอื่ ง การปกครองสว่ นท้องถน่ิ
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒ เรื่อง โครงสร้างการบรหิ ารงานการปกครองสว่ นท้องถ่ิน
รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
คำชแี้ จง นกั เรยี นเติมคำตอบทีถ่ ูกต้อง โครงสรา้ งการบริหารงานการปกครองสว่ นท้องถ่ินใหส้ มบรู ณ์
องค์การบรหิ ารสว่ น
จังหวัด (อบจ.)
โครงสร้าง องคก์ ารบริหารส่วน
การปกครอง ตำบล (อบต.)
ส่วนทอ้ งถน่ิ
เทศบาล
กรุงเทพมหานคร
การปกครองรูปแบบ
พเิ ศษ
เมืองพทั ยา
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง การปกครองสว่ นท้องถิ่น ๕๙
ใบงานท่ี ๓ เรอื่ ง ความสำคญั ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง การปกครองท้องถน่ิ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓ เรื่อง ความสำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่
รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนสรุปองคค์ วามรเู้ ป็นแผนผงั ความคดิ เกย่ี วกับความสำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ
ความสำคัญขององค์กรปกครอง
สว่ นท้องถิ่น
๖๐ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนกั เรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๕)
ใบงานท่ี ๔ เรอื่ ง บทบาทหน้าท่ีของผูบ้ ริหารท้องถน่ิ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เรอื่ ง การปกครองส่วนท้องถ่ิน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๔ เรอ่ื ง บทบาทหนา้ ท่ีของผู้บริหารทอ้ งถ่ิน
รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕
คำรชายแี้ วจชิงาใสหงัน้ คกั มเรศยี กึ นษเขายี นรผหังสั มโสน๑ท๕ัศน๑์๐แ๑สภดงาบคทเรบยี านททแ่ีล๑ะหนา้ ทข่ีชอนั้ งปผรู้บะรถหิ มาศรกทึ ษอ้ งาถป่ินีท่ี ๕
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๖ เรื่อง การปกครองสว่ นท้องถน่ิ ๖๑
ใบงานที่ ๕ เรอื่ ง ตำแหนง่ ของผูบ้ ริหารท้องถ่ิน
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง การปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ เร่อื ง ตำแหน่งของผู้บรหิ ารท้องถิ่น
รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
คำช้ีแจง โยงเสน้ จับค่อู งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ กบั ผูบ้ ริหารทอ้ งถิน่ ใหถ้ ูกต้อง
องค์กรบรหิ ารสว่ นจงั หวดั นายกเทศมนตรี
องค์กรบรหิ ารสว่ นตำบล ผูว้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานคร
เทศบาล นายกรัฐมนตรี
เมอื งพทั ยา รัฐมนตรี
กรงุ เทพมหานคร นายกเมืองพัทยา
นายกองคก์ ารบริหารส่วนตำบล
นายกองค์การบริหารสว่ นจังหวดั
๖๒ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรับนักเรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (สงั คมศึกษา ป.๕)
ใบงานท่ี ๖ เรื่อง องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นกับการบริการสาธารณประโยชนใ์ นชุมชน
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ เรอื่ ง การปกครองส่วนท้องถิน่
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรอื่ ง องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินกับการบรกิ ารสาธารณประโยชนใ์ นชมุ ชน
รายวชิ าสังคมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕
คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนเลือกองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น ๑ องคก์ ร รว่ มกันอภปิ รายแล้วบันทกึ ผลตามหัวข้อท่ี
กำหนดให้
๑. องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นท่เี ลอื ก คือ............................................................................................................
๒. โครงสร้างขององคก์ รเป็นอย่างไร.....................................................................................................................
.................................................................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
๓. ผ้บู รหิ ารท้องถิ่นคือใคร (ตำแหน่ง) ..................................................................................................................
๔. องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินทำประโยชน์อะไรให้แกช่ มุ ชนบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. ช่อื -นามสกลุ ............................................................................................เลขท.ี่ ..................ช้ัน ป.๕/..........
๒. ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................................เลขท.ี่ ..................ช้นั ป.๕/..........
๓. ช่อื -นามสกุล............................................................................................เลขท.่ี ..................ช้ัน ป.๕/..........
๔. ชือ่ -นามสกุล............................................................................................เลขท.่ี ..................ชน้ั ป.๕/..........
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๖ เรือ่ ง การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ๖๓
ใบงานท่ี ๗ เร่อื ง การบริการสาธารณประโยชนข์ องประชาชนในท้องถน่ิ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เร่ือง การปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรอ่ื ง การบริการสาธารณประโยชนข์ องประชาชนในท้องถ่ิน
รายวิชาสงั คมศึกษา รหัสวิชา ส๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕
คำชแี้ จง ให้นกั เรียนยกตัวอย่างบรกิ ารสาธารณประโยชนใ์ นชมุ ชนของตนเอง พรอ้ มทัง้ บอกประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับ
และแนวทางการดูแลรักษาบริการสาธารณประโยชนใ์ นชุมชน
๑. บริการสาธารณประโยชนใ์ นชมุ ชนทนี่ ักเรยี นไดร้ บั
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั คือ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการดแู ลรักษาบริการสาธารณประโยชน์ในชุมชนได้อยา่ งไรบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑. ชื่อ-นามสกุล............................................................................................เลขที่...................ชั้น ป.๕/..........
๒. ช่ือ-นามสกุล............................................................................................เลขที่...................ช้ัน ป.๕/..........
๓. ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................................เลขท่ี...................ชนั้ ป.๕/..........
๔. ชื่อ-นามสกุล............................................................................................เลขท.ี่ ..................ชนั้ ป.๕/..........
๖๔ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศกึ ษา ป.๕)
แบบประเมนิ ตนเอง
ชอ่ื : _________________ สกุล : _________________วนั ____ เดอื น____________พ.ศ. ____
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง การปกครองส่วนท้องถ่นิ
๑. ประเมนิ การเรียนรขู้ องตนเอง
กาเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งระดบั ความสามารถของแตล่ ะกจิ กรรมทน่ี ักเรยี นคิดวา่ ทำได้ เพอ่ื ประเมินความสามารถ
ของตนเอง
ที่ รายการ ระดับความสามารถ
ดมี าก ค่อน ดี พอใช้ ปรบั
ขา้ งดี ปรุง
๑ แยกโครงสรา้ งการปกครองสว่ นท้องถ่นิ และอำนาจหนา้ ที่
ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ
๒ แผนผงั ความคดิ เกย่ี วกบั ความสำคัญขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ
๓ เขียนผังมโนทศั น์ แสดงบทบาทและหน้าที่ของผบู้ รหิ ารท้องถน่ิ
๔ โยงเส้นจบั คู่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ กับผ้บู รหิ ารท้องถ่นิ
๕ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ๑ องคก์ ร
๖ ยกตวั อยา่ งบริการสาธารณประโยชน์ในชมุ ชนของตนเอง
๒. สงิ่ ท่ฉี ันยงั ไมเ่ ข้าใจ/ยังทำไดไ้ มด่ ี คือ…… (สามารถเขยี นได้มากกว่า ๑ อย่าง)
……………………………………………......................................................................................... ....................
……………………………………………................................................................................................... .........
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
๓. สิ่งทฉ่ี นั ตง้ั ใจจะทำใหด้ ีขึ้นในการเรยี นหนว่ ยตอ่ ไป (สามารถเขียนไดม้ ากกว่า ๑ อย่าง)
…………………………………………….......................................................................................................
……………………………………………......................................................................................... ...............
............................................................................................................................. ..............................
............................................................................................ ..............................................................
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เร่อื ง การปกครองสว่ นท้องถน่ิ ๖๕
บันทึกการเรียนรู้ (Learning logs)
ช่อื : __________________ สกลุ : _________________วัน____ เดือน_______________ พ.ศ. _____
สง่ิ หน่ึงทฉ่ี ันไดเ้ รยี นรู้จากการเรยี นวชิ าน้ีในปลายภาคเรยี น คอื ……………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ฉนั นา่ จะเรยี นรไู้ ดด้ กี วา่ นี้หาก……………………………………………………...…………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
สง่ิ ทฉ่ี นั อยากจะบอกคณุ ครู คือ………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ส่ิงท่ฉี ันควรปรับปรงุ ตวั เองใหด้ ีข้นึ คอื ……………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ปญั หาในการเรียนของฉัน คือ……………………………………………………………..…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
๖๖ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๕)
ตอนที่ ๒
ประวตั ศิ าสตร์
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เร่อื ง วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ ๖๗
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑
วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์
๖๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรับนักเรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๕)
ใบความรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง ขั้นตอนวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์
รายวิชาประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
ขนั้ ตอนวธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์
วิธีการทางประวัติศาสตร์ คือ การรวบรวม พิจารณาไตร่ตรอง วิเคราะห์และตีความจากหลักฐานแล้ว
นำมาเปรียบเทียบอย่างเป็นระบบ เพื่ออธิบายเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอดีตว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้น หรือ
เหตกุ ารณ์ในอดตี น้นั ได้เกิดและคลีค่ ลายอย่างไร ซงึ่ เป็นความมุ่งหมายทส่ี ำคญั ของการศึกษาประวัติศาสตร์
ขน้ั ตอนวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์
ขั้นตอนท่ี ๑ การกำหนดเป้าหมาย
เป็นขั้นตอนแรก นักประวัติศาสตร์ต้องมีจุดประสงค์ชัดเจนว่าจะศึกษาอะไร อดีตส่วนไหน สมัยอะไร
และเพราะเหตุใด เปน็ การตงั้ คำถามที่ต้องการศึกษา นกั ประวัติศาสตร์ต้องอาศัยการอ่าน การสงั เกต และควร
ต้องมีความรู้กว้าง ๆ ทางประวัตศิ าสตร์ในเรื่องนั้น ๆ มาก่อนบ้าง ซึ่งคำถามหลักท่ีนักประวตั ิศาสตร์ควรคำนงึ
อยูต่ ลอดเวลากค็ อื ทำไมและเกิดข้ึนอย่างไร
ข้นั ตอนที่ ๒ การรวบรวมข้อมลู
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ให้ข้อมูลมีทั้งหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรและหลักฐานที่ไม่เป็น
ลายลักษณ์อักษร มีทั้งที่เป็นหลักฐานชั้นต้น (ปฐมภูมิ) และหลักฐานชั้นรอง (ทุติยภูมิ) การรวบรวมข้อมูลน้ัน
หลักฐานชั้นต้นมีความสำคัญและความน่าเชื่อถือมากกว่าหลักฐานชั้นรอง แต่หลักฐานชั้นรองอธิบายเรื่องราว
ให้เข้าใจได้ง่ายกว่าหลักฐานชั้นต้น ในการรวบรวมข้อมูลประเภทต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ควรเริ่มต้นจาก
หลักฐานชน้ั รองแลว้ จึงศกึ ษาหลักฐานช้ันต้น ถา้ เปน็ หลกั ฐานประเภทไม่เปน็ ลายลักษณ์อักษรก็ควรเร่ิมต้นจาก
ผลการศึกษาของนักวิชาการที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านก่อนไปศึกษาจากของจริงหรือสถานที่จริง การศึกษา
ประวัติศาสตร์ที่ดีควรใช้ข้อมูลหลายประเภทขึ้นอยู่กับว่าผู้ศึกษาต้องการศึกษาเรื่องอะไร ดังนั้น การรวบรวม
ข้อมูลที่ดีจะต้องจดบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งข้อมูลและแหล่งข้อมูลให้สมบูรณ์และถูกต้องเพื่อการอ้างอิง
ที่นา่ เชอื่ ถือ
ขัน้ ตอนที่ ๓ การประเมนิ คุณค่าของหลักฐาน
วิพากษ์ วิธีทางประวัติศาสตร์ คือ การตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลในหลักฐานเหล่านั้นว่ามีความ
น่าเชื่อถือหรือไม่ ประกอบด้วยการวิพากษ์หลักฐานและวิพากษ์ข้อมูลโดยขั้นตอนทั้งสองจะกระทำควบคู่กัน
ไป เนือ่ งจากการตรวจสอบหลักฐานต้องพิจารณาจากเนื้อหาหรือข้อมลู ภายในหลักฐานน้ัน และในการวิพากษ์
ข้อมูลก็ต้องอาศัยรูปลักษณะของหลักฐานภายนอกประกอบด้วยการวิพากษ์หลักฐานหรือวิพากษ์ภายนอก
การวิพากษ์หลักฐาน (external criticism) คือ การพิจารณาตรวจสอบหลักฐานที่ได้คัดเลือกไว้แต่ละชิ้นว่ามี
ความน่าเชื่อถือเพียงใด แต่เป็นเพียงการประเมินตัวหลักฐาน มิได้มุ่งที่ข้อมูลในหลักฐาน ดังนั้น ขั้นตอนนี้เปน็
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ๖๙
การสกัดหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือออกไปการวิพากษ์ ข้อมูลหรือวิพากษ์ภายในการวิพากษ์ข้อมูล (internal
criticism) คือ การพิจารณาเนื้อหาหรือความหมายที่แสดงออกในหลักฐานเพื่อประเมินว่าน่าเชื่อถือเพียงใด
โดยเน้นถึงความถูกต้อง คุณคา่ ตลอดจนความหมายทีแ่ ท้จริง ซ่ึงนับวา่ มีความสำคัญตอ่ การประเมินหลักฐานท่ี
เป็นลายลักษณ์อักษร เพราะข้อมูลในเอกสารมีทั้งที่คลาดเคลื่อน และมีอคติของผู้บันทึกแฝงอยู่ หากนัก
ประวตั ศิ าสตรล์ ะเลยการวิพากษข์ อ้ มูลผลทีอ่ อกมาอาจจะผดิ พลาดจากความเปน็ จรงิ
ข้ันตอนที่ ๔ การตีความหลักฐาน
การตีความหลักฐาน หมายถึง การพิจารณาข้อมูลในหลักฐานว่าผู้สร้างหลักฐานมีเจตนาที่แท้จริง
อย่างไร โดยดูจากลีลาการเขียนของผู้บันทึกและรูปร่างลักษณะโดยทั่วไปของประดิษฐกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ได้
ความหมายที่แท้จริงซึ่งอาจแอบแฝงโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามในการตีความหลักฐาน นักประวัติศาสตร์จึงต้อง
พยายามจับความหมายจากสำนวนโวหาร ทัศนคติความเชื่อฯลฯ ของผู้เขียนและสังคมในยุคสมัยนั้น
ประกอบด้วยเพื่อที่จะได้ทราบว่าถ้อยความนั้นนอกจากจะหมายความตามตัวอักษรแล้วยังมีความหมายที่
แทจ้ ริงอะไรแฝงอยู่
ขน้ั ตอนท่ี ๕ การสังเคราะห์และการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
จัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้าจะต้องเรียบเรียงเรื่องหรือ
นำเสนอข้อมูลในลักษณะทเ่ี ป็นการตอบหรืออธิบายความอยากรู้ ขอ้ สงสัยตลอดจนความรู้ใหม่ ความคิดใหม่ท่ี
ได้จากการศึกษาค้นคว้านั้นในขั้นตอนนี้ ผู้ศึกษาจะต้องนำข้อมูลที่ผ่านการตีความมาวิเคราะห์ หรือแยกแยะ
เพื่อจัดแยกประเภทของเรื่องโดยเรื่องเดยี วกันควรจัดไว้ด้วยกัน รวมทั้งเรือ่ งที่เกี่ยวข้องหรอื สัมพันธก์ ัน เรื่องที่
เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน จากนั้นจึงนำเรื่องทั้งหมดมาสังเคราะห์หรือรวมเข้าด้วยกัน คือ เป็นการจำลอง
ภาพบุคคลหรือเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์และความต่อเนื่อง โดยอธิบายถึงสาเหตุ
ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผล ทั้งนี้ผู้ศึกษาอาจนำเสนอเป็นเหตุการณ์พื้นฐานหรือ
เปน็ เหตกุ ารณ์เชิงวเิ คราะห์ก็ได้ ขึ้นอยกู่ ับจดุ ม่งุ หมายของการศกึ ษา
แหลง่ ทมี่ า/อา้ งองิ
https://sites.google.com › site › withi-kar-thang-prawatisastr
๗๐ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๕)
ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง การสืบค้นข้อมูลโดยวิธีการทางประวตั ิศาสตร์
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรื่อง วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ เร่อื ง การสบื ค้นข้อมลู โดยวิธีการทางประวัติศาสตร์
รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕
การศกึ ษาเร่อื ง ..........................................................................................................................................
การกำหนดหัวข้อ ....................................................................................
การรวบรวมขอ้ มูลและหลกั ฐาน
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..
..............................................................................................................................................................................
การตรวจสอบข้อมลู และหลกั ฐาน
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................... ...................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................... ...
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ ๗๑
การสรุปความรู้
................................................................................................................ ..............................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................. .............................
...................................................................................................... ........................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................ ..................................................................................
................................................................................................ ..............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ...................................................... ......................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
การนำเสนอขอ้ มลู
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................... ..........................................................
............................................................................................ ..................................................................................
*********************************
๗๒ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรับนักเรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๕)
ใบความรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ เรอ่ื ง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์
๑) แบง่ ตามยคุ สมยั
(๑) หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ คือ หลักฐานที่เกิดขึ้นในสมัยที่ยังไม่มีการบันทึกเป็นอักษร
แต่เป็นพวกซากโครงกระดูกมนุษย์ ซากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องประดับ ร่องรอยการตั้งถ่ิน
ฐานของชุมชน ตลอดจนความพยายามที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ ในลักษณะ
ของการบอกเล่าต่อ ๆ กนั มา เป็นนทิ านหรือตำนานซงึ่ เราเรียกว่า “มขุ ปาฐะ”
(๒) หลักฐานสมัยประวัติศาสตร์ คือ หลักฐานสมัยที่มนุษย์สามารถประดิษฐต์ ัวอักษร และบันทึกใน
วสั ดุตา่ ง ๆ มรี อ่ งรอยทแ่ี น่นอนเกี่ยวกับสงั คมเมือง มกี ารรู้จกั ใช้เหล็กและโลหะอืน่ ๆ มาเปน็ เครื่องมือใช้สอยที่
ประณีต มรี ่องรอยศาสนสถานและประตมิ ากรรมรปู เคารพในศาสนาอย่างชดั เจน
๒) แบง่ ตามลกั ษณะหรือวิธีการบนั ทึก
(๑) หลักฐานประเภทลายลักษณ์อักษร ได้แก่ จารึก ตำนาน พงศาวดาร จดหมายเหตุ บันทึกความ
ทรงจำ เอกสารทางวิชาการ ชวี ประวตั ิ จดหมายส่วนตัว หนังสือพมิ พ์ นิตยสาร วารสาร กฎหมาย วรรณกรรม
ตำรา วิทยานิพนธ์ งานวิจัย ในการศึกษาประวัติศาสตร์ในประเทศไทย มีการเน้นการฝึกฝนทักษะการใช้
หลักฐานประเภทลายลักษณ์อักษรเป็นส่วนใหญ่ จนอาจกล่าวได้ว่าหลักฐานประเภทนี้เป็นแก่นของงานทาง
ประวตั ิศาสตร์ไทย
(๒) หลักฐานไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ได้แก่ หลักฐานโบราณคดี เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ
เงนิ ตรา หลกั ฐานจากการบอกเลา่ ที่เรียกวา่ “มขุ ปาฐะ” หลกั ฐานด้านภาษา เก่ยี วกับพัฒนาการของภาษาพูด
หลักฐานทางศิลปกรรม ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม นาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ หลักฐาน
ประเภทโสตทัศน์ ได้แก่ ภาพถ่าย ภาพสไสด์ แผนที่ โปสเตอร์ แถบบันทึกเสยี ง แผ่นเสียง ภาพยนตร์ ดวงตรา
ไปรษณยี ากร
๓) แบ่งตามลำดบั ความสำคัญ
(๑) หลักฐานชั้นต้นหรือหลักฐานปฐมภูมิ (Primary sources) หมายถึง หลักฐานที่บันทึก สร้าง
หรือจัดทำขึ้น โดยผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นโดยตรง หรือบ่งบอกให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นจริงๆ
ทั้งที่เป็นลายลกั ษณ์อักษร เช่น สนธิสัญญา บันทึกคำให้การ จดหมายเหตุ กฎหมาย ประกาศของทางราชการ
ศิลาจารึก จดหมายโต้ตอบ และที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ภาพเขียนสีผนังถ้ำ เครื่องมือเคร่ืองใช้
เครอื่ งประดบั เจดยี ์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ๗๓
(๒) หลักฐานชั้นรองหรือหลักฐานทุติยภูมิ (Secondary sources) หมายถึง หลักฐานที่เกิดจาก
การนำหลกั ฐานชนั้ ตน้ มาวเิ คราะห์ ตีความเม่ือเวลาผ่านพ้นไปแลว้ ไดแ้ ก่ ตำนาน พงศาวดาร นักประวตั ิศาสตร์
บางท่านยังได้แบ่งหลักฐานประวัติศาสตร์ออกไปอีกเป็น หลักฐานชั้นที่สามหรือตติยภูมิ (Tertiary sources)
หมายถึง หลกั ฐานท่เี ขียนหรือรวบรวมข้นึ จากหลักฐานปฐมภูมแิ ละทุตยิ ภูมิ เพื่อประโยชนใ์ นการศึกษาอ้างอิง
เชน่ สารานกุ รม หนังสอื แบบเรยี นประวัตศิ าสตร์ตา่ ง ๆ
แหล่งทม่ี า/อา้ งอิง
สรุ ิยันตร์ เชาวนปรีชา. (๒๕๕๒)
๗๔ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรับนกั เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๕)
ใบงานที่ ๒ เรื่อง ประเภทหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๔ เรื่อง หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์
รายวิชาประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
คำชแี้ จง จากภาพท่ีกำหนดใหน้ กั เรียนแยกประเภทของหลกั ฐานให้ถูกต้อง
ภาพหลกั ฐาน ชือ่ หลักฐาน ประเภทของหลักฐาน
ที่มาของภาพ :
https://quizizz.com/admin/quiz
/5cff68af1c274a001a37e0ec/-1
ที่มาของภาพ :
http://www.khunmaebook.com/
ทม่ี าของภาพ : https://go.ayutthaya.go.th
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ ๗๕
ประเภทของหลักฐาน
ภาพหลกั ฐาน ชื่อหลักฐาน
ท่มี าของภาพ : https://www.se-ed.com/
ท่มี าของภาพ :
https://www.trueplookpanya.com
/
ที่มาของภาพ :
https://www.isangate.com/new/khmer
/32-art-culture/knowledge/579-silapa-
tam-2.html
๗๖ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๕)
แบบทดสอบ เรื่อง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่อื ง วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์
รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวชิ า ส๑๔๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
แบบทดสอบ
เร่ือง หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์
คำชแี้ จง จงเลือกคำตอบท่ถี ูกทสี่ ดุ
๑. เรื่องราวท่เี กิดขน้ึ ในอดีตและมกี ารเลา่ สืบต่อกันมา ๕. ขอ้ ใดไม่จัดว่าเป็นการแบ่งประเภทหลักฐาน
จัดเปน็ หลักฐานชนิดใด ทางประวัติศาสตร์
ก. จารกึ ก. หลักฐานชน้ั ต้น–หลกั ฐานช้นั รอง
ข. ตำนาน ข. หลักฐานท่เี กดิ ขนึ้ ก่อน–เกิดขึ้นหลงั
ค. โบราณวัตถุ ค. หลักฐานทเี่ ป็นตัวอกั ษร-
ง. พงศาวดาร หลักฐานทไี่ มเ่ ป็นตวั อักษร
๒. หลักฐานทางประวัติศาสตรข์ ้อใด แตกต่าง จากข้ออื่น ง. หลกั ฐานสมัยก่อนประวัตศิ าสตร์-
ก. จารกึ สมยั ประวตั ศิ าสตร์
ข. รูปถ่าย ๖. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการศึกษาประวัติศาสตรท์ อ้ งถ่นิ
ค. โบราณวตั ถุ ก. การตคี วามข้อมลู
ง. อาวุธโบราณ ข. การรวบรวมข้อมลู
๓. วธิ กี ารตรวจสอบขอ้ มลู ดว้ ยวิธีการใดไม่เหมาะสม ค. การตรวจสอบข้อมูล
ก. การตคี วามข้อมูล ง. การสร้างแบบจำลอง
ข. การเปรียบเทียบขอ้ มลู ๗. หากตอ้ งการศึกษาประวตั ิศาสตรท์ ้องถนิ่ ขั้นตอนแรก
ค. การนำข้อมูลมาเขียนบนั ทึก ทจ่ี ะต้องปฏิบัตคิ ือข้อใด
ง. การให้ผู้เชีย่ วชาญมาชว่ ยวเิ คราะห์ข้อมูล ก. การตีความขอ้ มลู
๔. ข้อใดจัดเป็นหลกั ฐานช้ันต้น ข. การรวบรวมขอ้ มลู
ก. รปู ถ่าย ค. การกำหนดหวั ข้อเรอ่ื งทจ่ี ะศึกษา
ข. ตำนาน ง. การตรวจสอบข้อมูลและพิสจู นข์ ้อเท็จจรงิ
ค. หนงั สือเรยี น
ง. นิทาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ๗๗
๘. แหล่งขอ้ มูลทางประวัติศาสตรข์ อ้ ใดอยู่ใน ๑๐. หลกั ฐานข้อใด แตกต่าง จากข้ออ่นื
ภาคอีสาน ก. จารกึ
ข. ตำนาน
ก. ถำ้ ผีแมน จ.แม่ฮ่องสอน ค. โบราณวัตถุ
ข. พระปฐมเจดยี ์ จ.นครปฐม ง. พงศาวดาร
ค. เมืองศรีมโหสถ จ.ปราจนี บุรี
ง. เครื่องป้นั ดินเผาบ้านเชยี ง จ.อุดรธานี
๙. ข้อใดเปน็ หลกั ฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์
ก. ภาพเขยี นสีทผ่ี าแตม้
ข. ศลิ าจารึกวัดเชียงมัน่
ค. หลกั ศลิ าจารกึ สมยั สโุ ขทยั
ง. จดหมายเหตกุ รุงศรอี ยุธยา
๗๘ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรบั นกั เรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๕)
ใบความรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง ความจรงิ กับข้อเทจ็ จริงทางประวัติศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรอ่ื ง วิธกี ารทางประวัติศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง ความจริงกบั ขอ้ เท็จจริงทางประวัติศาสตร์
รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
ความจริงกบั ขอ้ เท็จจรงิ
ความจรงิ หมายถึง เร่อื งราวหรือเหตุการณ์ ที่มกี ารพิสูจน์ ตรวจสอบ ว่าถกู ตอ้ งเป็นจรงิ
ขอ้ เท็จจริง มคี วามหมาย ๒ ประการคือ เรอื่ งราว เหตกุ ารณ์ ขอ้ ความหรือความคิดเห็นทวี่ นิ ิจฉัยแลว้ วา่ เป็นจรงิ
อกี ความหมายคือ ข้อมลู ทรี่ วบรวมไดจ้ ากประสบการณ์ทแ่ี ตกตา่ งไป จากขอ้ สรปุ ท่ใี ห้ไว้
ยกตัวอย่าง
ความจรงิ
ไทยเสียกรงุ ศรีอยธุ ยา ครง้ั ที่ ๒ เม่อื พ.ศ. ๒๓๑๐
ข้อเท็จจริง
๑. กองทพั พมา่ ยกทัพมาเป็นทพั ใหญ่ มีกำลังทหารมหาศาล
๒. เกิดความแตกแยกในราชสำนกั อยธุ ยา
๓. กองทพั พม่าได้เตรียมพรอ้ มมาอยา่ งดี ปดิ ลอ้ มกรงุ ศรอี ยุธยาจนทำใหภ้ ายในเมืองหลวงขาดแคลนอาหาร
๔. กรุงศรอี ยธุ ยาไม่ได้ทำสงครามนานแลว้ ทำใหท้ หารไมช่ ำนาญในการทำสงคราม
สรปุ
ความจริง คือ สงิ่ ท่เี กิดขนึ้ จรงิ
ข้อเท็จจรงิ คือ คำอธิบายหรอื เหตผุ ลเกยี่ วกับความจริงนนั้
แหล่งท่ีมา/อา้ งอิง
https://akke1881.wordpress.com
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่อื ง วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ ๗๙
ใบงานที่ ๓ เรือ่ ง ความจรงิ กับข้อเทจ็ จริงทางประวตั ิศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๖ เรื่อง ความจรงิ กับขอ้ เทจ็ จริงทางประวตั ิศาสตร์
รายวชิ าประวัติศาสตร์ รหสั วิชา ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะหค์ วามแตกต่างระหว่างความจริงและข้อเท็จจริง
ความจริง ขอ้ เทจ็ จริง
๏ การแยกแยะความจริงกบั ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มีความสำคัญอยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
.......................................................... .......................................................................................................... ..........
๏ “สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีเปน็ ราชธานี เมอื่ พ.ศ. ๒๓๑๐” จากขอ้ ความข้างตน้
เป็นความจริงหรือข้อเท็จจริง เพราะอะไร
.................................................................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
*********************************
๘๐ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรบั นกั เรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๕)
แบบประเมินตนเอง
ชอื่ : __________________ สกุล : _________________วัน____ เดอื น___________พ.ศ. ____
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ เรือ่ ง วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์
๑. ประเมนิ การเรยี นร้ขู องตนเอง
กาเครื่องหมาย ✓ ในชอ่ งระดบั ความสามารถของแตล่ ะกจิ กรรมท่ีนกั เรยี นคดิ วา่ ทำได้ เพอื่ ประเมินความสามารถ
ของตนเอง
ท่ี รายการ ระดบั ความสามารถ
ดีมาก คอ่ น ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
ข้างดี
๑ นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจและเกิดทักษะในการ
สืบคน้ ข้อมูลโดยใช้วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์
๒ บอกความหมายและเหน็ ความสำคญั ของประเภท
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้
๓ นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับความจริงกบั
ขอ้ เท็จจริง
๒. สงิ่ ที่ฉนั ยังไมเ่ ขา้ ใจ/ยังทำไดไ้ ม่ดี คอื ……(สามารถเขียนไดม้ ากกว่า ๑ อยา่ ง)
……………………………………………......................................................................................... ....................
……………………………………………................................................................................................... .........
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
๓. สิง่ ทฉ่ี นั ตั้งใจจะทำให้ดีขึ้นในการเรียนหนว่ ยตอ่ ไป (สามารถเขยี นได้มากกวา่ ๑ อย่าง)
…………………………………………….......................................................................................................
……………………………………………......................................................................................... ...............
......................................................................................................................... ..................................
............................................................................................................................. ..............................
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ ๘๑
บนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning logs)
ชอื่ : __________________ สกุล : _________________วนั ____ เดอื น_______________ พ.ศ. _____
สิง่ หนึ่งทฉี่ ันไดเ้ รียนรจู้ ากการเรียนวชิ านี้ในครงึ่ ภาคเรยี น คอื ……………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ฉนั นา่ จะเรยี นรไู้ ดด้ กี วา่ นี้หาก……………………………………………………...…………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ส่งิ ทีฉ่ ันอยากจะบอกคณุ ครู คือ………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ส่งิ ทฉี่ ันควรปรบั ปรุงตัวเองให้ดีขึน้ คือ……………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
ปญั หาในการเรียนของฉัน คือ……………………………………………………………..…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………….…
๘๒ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นักเรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๕)
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒
อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติทม่ี ีต่อไทย
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรื่อง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทมี่ ตี ่อไทย ๘๓
ใบความรทู้ ี่ ๑ เร่อื ง อารยธรรมอนิ เดยี และจีน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรอื่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี ่อไทย
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรือ่ ง อารยธรรมอินเดยี และจีน
รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหัสวิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
อารยธรรมอนิ เดยี และจีน
การเข้ามาของอารยธรรมอนิ เดยี และจีนในดินแดนไทยและภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
ดนิ แดนไทยและภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้มีความเจริญรงุ่ เรืองมาต้ังแต่คร้ังอดีต ผู้คนในดินแดน
บริเวณแถบนี้ได้มีการติดต่อชาวจีนและอินเดียมานานแล้ว ทำให้ได้รับอารยธรรมของจีนและอินเดียมาตั้งแต่
ครง้ั อดีตส่งผลมาถึงปัจจุบัน
อารยธรรมบางอย่างนำมาใชโ้ ดยตรง เช่น ภาษา ศาสนา อาหารบางอย่างปรบั เปลยี่ นให้กับวัฒนธรรม
เดิม เช่น วัฒนธรรมการดำรงชีวิตรูปแบบงานศลิ ปะอารยธรรมอินเดียและจีนได้มาในดินแดนไทยและภูมิภาค
เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตห้ ลายปัจจยั ดว้ ยกนั ดงั นี้
๑. การตดิ ต่อค้าขาย พอ่ คา้ ชาวจนี และชาวอนิ เดียได้นำสินคา้ มาขายในดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้และได้นำวัฒนธรรมของตนเข้ามาเผยแพร่ เช่น วัฒนธรรมด้านภาษา การแต่งกาย อาหาร
การกิน เปน็ ตน้
สินค้าที่พ่อค้าชาวจีนนำมาขาย เช่น ใบชา ผ้าไหม กระดาษ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่พ่อค้าชาวอิ นเดีย
นำมาขาย เช่น พรม ผา้ หินสี เครื่องเทศ เป็นต้น
๒. การเผยแผ่ศาสนา บริเวณภูมิภาคตะวันออกเฉียงใตไ้ ด้รับพระพุทธศาสนาจากอินเดยี และศรีลังกา
ได้รับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดีย ได้รับศาสนาอิสลามจากพ่อค้ามุสลิม ได้รับพระพุทธศาสนานิกาย
มหายานจากจนี
๓. การติดต่อทางการทูต ทูตชาวจีนได้เดินทางมายังดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เพือ่ ตดิ ตอ่ สมั พนั ธก์ ับผูค้ นในภมู ิภาคน้ี จงึ ทำใหเ้ กิดการถา่ ยทอดวัฒนธรรมให้แก่กันและกนั
๔. การเขา้ มารับราชการของชาวอนิ เดยี ชาวจนี และการแตง่ งานกบั ชาวพื้นเมอื ง ทำใหม้ ีการถ่ายทอด
วัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ เช่น การแต่งกายแบบจีน การพูดภาษาจีน การรับเอางานศิลปะในพระพุทธศาสนา
จากอินเดีย เช่น เจดีย์ทรงลังกา พระพุทธรูป การรับเอางานวรรณกรรม เช่น รามเกียรติ์จากอินเดีย และ
พธิ กี รรมต่าง ๆ ทพี่ ราหมณจ์ ากอนิ เดยี นำมาเผยแพร่
อทิ ธพิ ลของอารยธรรมอินเดียและจนี ท่มี ีต่อไทยและคนในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
อารยธรรมอนิ เดยี และจนี ท่ีมอี ิทธพิ ลต่อไทยและผู้คนในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ทเี่ ราสงั เกตได้
ง่าย เช่น อารยธรรมด้านศาสนาและความเชื่ออารยธรรมด้านภาษา อารยธรรมด้านการแต่งกาย และ
อารยธรรมด้านอาหาร เป็นตน้
๘๔ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๕)
๑. อิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอินเดียมีผลตอ่ ลักษณะการดำเนินชีวติ ของไทยและผ้คู น
ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้หลายด้าน เช่น
๑) ด้านศาสนา ผู้คนพื้นเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเอาศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ
พระพุทธศาสนาที่มีผลต่อการสร้างงานศิลปะที่มีหลักฐานปรากฏอยู่มากมาย เช่น ปราสาทนครวัดนครธมใน
กัมพูชา เจดยี ์ชเวดากองในเมียนมา บุโรพทุ โธในอนิ โดนีเซีย สำหรับในดนิ แดนไทยได้รับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
และพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น ทวารวดีในสมัยสโุ ขทัยรับพระพุทธศาสนาจากนครศรธี รรมราช
ทำใหพ้ ระพุทธศาสนาเปน็ ส่วนสำคัญในวิถีชวี ิตของคนไทย
๒) ด้านการเมืองการปกครอง รับความเชื่อเรื่องสมมติเทพและกฎหมายพระมนูธรรมศาสตร์ของ
อินเดียมาเป็นแม่แบบของกฎหมายในหลายประเทศ เช่น เมียนมา กัมพูชา ไทย ในอดีตประเทศไทยมีการ
ปกครองแบบพ่อปกครองลูก การรับศาสนาพราหมณ์ทำให้มีความเชื่อเรื่องกษัตริย์เป็นสมมติเทพตามแนว
ความเชื่อของอินเดีย ต่อมาได้นำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาผสมผสานเพื่อใช้ในการปกครอง
พระมหากษตั ริยจ์ ึงเปน็ ธรรมราชาในเวลาตอ่ มา
๓) ด้านอักษรศาสตร์ รับภาษาบาลี สันสฤตจากอินเดียมาใช้ ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั้งไทย กัมพูชา
อินโดนีเซียมีภาษาที่มีคำในภาษาบาลี สันสกฤต ผสมอยู่มากมาย เช่น ชื่อของคนในประเทศเหล่านี้
รับวรรณคดีอินเดีย เช่น มหากาพย์รามายณะ ซึ่งมีอิทธิพลต่อวรรณคดีของไทย เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย
รวมถึงวรรณคดีทางพระพุทธศาสนา เช่น ชาดก
๔) ด้านวิถีชีวิต คนไทยและคนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วนได้รับวัฒนธรรมการ
แตง่ กายและวัฒนธรรมการกินอาหารจากอารยธรรมอนิ เดยี เชน่ รับประทานอาหารทม่ี ีเคร่ืองเทศเปน็ ส่วนผสม
ใส่เสือ้ ผา้ แบบชาวอนิ เดีย เปน็ ตน้
๕) ด้านกฎหมาย ได้รับรากฐานกฎหมายจากอินเดียคือคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ซึ่งกลายเป็นหลักของ
กฎหมายของประเทศต่าง ๆ เช่น เมยี นมา กมั พชู า ไทย
๖) ด้านศิลปะวิทยาการ รับรูปแบบสถาปัตยกรรมของพระพุทธศาสนาจากอินเดีย ลังกา เช่น เจดีย์
ทรงลงั กา พระพทุ ธรูป
๒. อทิ ธพิ ลของอารยธรรมจีน
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดินแดนไทยได้รับอารยธรรมจีนมานานแล้ว โดยผ่านทางการคา้
การเผยแผ่ศาสนา การศกึ ษา อิทธิพลของอารยธรรมจนี ทีม่ ตี อ่ โลก และเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีหลายประการ
เชน่
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติทมี่ ตี อ่ ไทย ๘๕
- วรรณกรรมจนี แพร่หลายในดนิ แดนนี้ - ใชช้ าวจีนทำหน้าท่ีเดินเรือ
เชน่ สามก๊ก ไซอิว๋ - ใช้แบบแผนการเดินเรือจากจีน
- ภาษาจนี มีใช้ปะปนในภาษาไทย เช่น - จา้ งพอ่ คา้ ชาวจนี รบั ราชการ
จ้ิมกอ้ ง (ของถวาย) ตน้ หน (ผนู้ ำร่อง) ในราชสำนักทำหน้าท่ีดูแลการค้าขาย
ด้านอักษรศาสตร์ ด้านการค้าและการเดินเรือ
อทิ ธิพลของ
อารยธรรมจนี
ดา้ นอักษรศิลปวิทยาการ ด้านศาสนา ด้านวิถชี วี ติ
- ไทยรับอิทธพิ ลงาน พระพทุ ธศาสนานิกาย - การทำอาหาร เช่น การใช้
จติ รกรรม และการทำ มหายานมกี ารเผยแผ่เข้ามา กระทะ การผัดอาหาร การใช้
เครอ่ื งป้นั ดินเผามาจากจนี รวมถึงประเพณีการไหวเ้ จ้า นำ้ มนั
- เวยี ดนามรับรูปแบบ การกินเจ การไหวบ้ รรพบรุ ุษ - การใช้ตะเกยี บกนิ อาหาร
สถาปัตยกรรมศลิ ปกรรม - การดื่มน้ำชา
จากจีน
แหล่งท่ีมา/อ้างองิ
https://sites.google.com/site/uunntelarning/unit5022?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftempla
tes%2Fprint%2F&showPrintDialog=1
๘๖ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๕)
ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง อารยธรรมอินเดยี
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เรื่อง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ่มี ตี ่อไทย
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เรือ่ ง อารยธรรมอนิ เดียและจีน
รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
อารยธรรมอนิ เดยี
คำชแ้ี จง จงตอบคำถามดงั ต่อไปนี้
อารยธรรมอินเดีย
ด้านศาสนา ด้านภาษา ดา้ นอาหาร ด้านสถาปตั ยกรรม
นาฏศลิ ป์
และวรรณกรรม
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
…………………………….… ..................................... ..................................... .....................................
………………………………. ..................................... ..................................... .....................................
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติท่มี ีตอ่ ไทย ๘๗
ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง อารยธรรมจนี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ี่มีต่อไทย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง อารยธรรมจีน
รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕
อารยธรรมจีน
คำช้ีแจง จงตอบคำถามดังต่อไปน้ี
อารยธรรมจนี
ดา้ นศาสนา ดา้ นภาษา ด้านอาหาร ดา้ นสถาปัตยกรรม
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
..................................... ..................................... ..................................... .....................................
…………………………….… ..................................... ..................................... .....................................
………………………………. ..................................... ..................................... .....................................
๘๘ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๕)
ใบงานท่ี ๓ เรอื่ ง อารยธรรมอินเดียและจีน
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๒ เร่อื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาติท่มี ตี ่อไทย
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรอ่ื ง อารยธรรมอินเดียและจีน
รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
คำชีแ้ จง จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้
๑. อิทธพิ ลของอารยธรรมอินเดยี ส่งผลต่อสังคมไทยอยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. .........................................
............................................................................................................................................. .................................
.................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................... ...........................................
๒. อทิ ธพิ ลของอารยธรรมจีนสง่ ผลตอ่ สังคมไทยอย่างไร
ตอบ................................................................................................................................................................. .....
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... ..........................................................
๓. นกั เรียนนำอารยธรรมของชาติจนี และอินเดยี มาใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้อย่างไร
ตอบ.......................................................................................................................... ............................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................... ...........
........................................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การรบั อารยธรรมอนิ เดยี ในด้านศาสนาส่งผลต่อสังคมไทยอยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. .........................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................................... ....
๕. การรบั อารยธรรมอนิ เดยี ในดา้ นศาสนาก่อใหเ้ กิดประโยชน์อยา่ งไร
ตอบ......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เร่อื ง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทม่ี ีต่อไทย ๘๙
ใบงานที่ ๔ เร่ือง การเข้ามาและความสำคญั ของอารยธรรมอนิ เดยี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่ือง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาติที่มตี อ่ ไทย
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง การเขา้ มาของอารยธรรมอนิ เดยี สู่ประเทศไทย
รายวิชาประวัตศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเขยี นวเิ คราะห์และสรปุ ประเด็นการเข้ามาและความสำคัญของอารยธรรมอินเดยี เปน็
แผนภาพความคิด
การเข้ามาและความสำคัญ
ของอารยธรรมอนิ เดีย
๙๐ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ สำหรบั นักเรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๕)
ใบงานที่ ๕ เร่อื ง การเขา้ มาและความสำคัญของอารยธรรมจนี
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติท่ีมตี อ่ ไทย
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เร่อื ง การเข้ามาของอารยธรรมจีนสู่ประเทศไทย
รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหัสวชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขียนวเิ คราะห์และสรปุ ประเด็นการเข้ามาและความสำคญั ของอารยธรรมอนิ เดียเป็น
แผนภาพความคิด
การเขา้ มาและความสำคญั
ของอารยธรรมจนี
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติทีม่ ีต่อไทย ๙๑
ใบงานที่ ๖ เรื่อง อิทธิพลของอารยธรรมอนิ เดียที่มีต่อสังคมไทยและภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เรอ่ื ง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๖ เร่ือง อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียทีม่ ีต่อสังคมไทยและภมู ิภาคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้
รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหัสวิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕
คำชแี้ จง ให้นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์อทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดียในด้านตา่ ง ๆ มตี ่อสังคมไทยและคนใน
ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ โดยใช้แผนภาพความคิด แล้วสรปุ เป็นความคดิ รวบยอด
สงั คมไทย ภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
ใต้
ด้านศาสนา
สังคมไทย ภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้
สงั คมไทย ดา้ นภาษา
ภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้
ดา้ นอาหาร
๙๒ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๕)
ใบงานที่ ๗ เรื่อง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมจนี ท่ีมีต่อสงั คมไทยและภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เรือ่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทมี่ ตี อ่ ไทย
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๗ เร่ือง อิทธิพลของอารยธรรมจีนทมี่ ีตอ่ สังคมไทยและภูมภิ าคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้
รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์อิทธิพลของอารยธรรมจีนในด้านต่าง ๆ มีต่อสังคมไทยและคนในภมู ภิ าค
เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยใช้แผนภาพความคิด แลว้ สรุปเป็นความคดิ รวบยอด
สสงัังคคมมไไททยย ภภมู ูมิภิภาคาคเอเอเชเชียียตตะวะันวันออออกกเฉเฉยี ียงใงตใต้ ้
ใต้
ด้านศาสนา
สังคมไทย ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
สงั คมไทย ดา้ นภาษา
ภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้านอาหาร
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาติทีม่ ีตอ่ ไทย ๙๓
ใบงานที่ ๘ เร่ือง ความแตกตา่ งของอิทธพิ ลของอารยธรรมอินเดยี และจีนที่มีต่อไทย
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เรือ่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาติทมี่ ีต่อไทย
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๘ เรอื่ ง ความแตกต่างของอิทธิพลของอารยธรรมอนิ เดียและจนี ที่มตี ่อไทย
รายวิชาประวัตศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นยกตัวอย่างความเจรญิ ทางอารยธรรมจีนและอารยธรรมอนิ เดยี พร้อมวเิ คราะห์ว่ามี
อทิ ธพิ ลต่อประเทศไทยและภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ อยา่ งไร
อารยธรรมจีน อารยธรรมอนิ เดีย
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
…………………………………………………………….. ……………………………………………………………..
ใหน้ ักเรียนเขยี นสรปุ วา่ ความเจรญิ ทางอารยธรรมของอินเดียและจีนมีอทิ ธพิ ลตอ่ ประเทศไทยและภูมิภาค
เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้อยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................