The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by korapodkamlodpit, 2021-09-28 05:14:53

ebook 631081007

ebook 631081007

ความผดิ ฐานตดิ สินบนเจ้าพนักงานตามมาตรา144
ความผดิ ฐานเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนมาตรา146

ผู้จัดทา
631081007 นายกรพจน์ กาลดพศิ

นาเสนอ
อาจารย์ วริ ัตน์ นาทพิ เวทย์
รายวชิ ากฎหมายอาญา 2 0801221 ภาคการเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564
คณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ทักษิณ

บทที1่

โครงสร้างความรับผิดทางอาญา

มาตร 144 ผใู้ ดให้ ขอใหห้ รือรับวา่ จะใหท้ รัพยส์ ิน หรือประโยชนอ์ ่ืนใดแก่เจา้ พนกั งาน สมาชิกสภา
นิติบญั ญตั ิแห่งรัฐ สมาชิกสภาจงั หวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจใหก้ ระทาการ ไมก่ ระทาการ หรือ
ประวิงการกระทาอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ที่ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหา้ ปี หรือปรับไมเ่ กินหน่ึงแสนบาท หรือ
ท้งั จาท้งั ปรับ

1.ผใู้ ด ให้ สมาชิกสภานิติบญั ญตั ิแห่งรัฐ
2.กระทาการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ขอให้ สมาชิกสภาจงั หวดั
3.ทรัพยส์ ิน หรือประโยชน์อืน่ ใด รับว่าจะให้ สมาชิกเทศบาล
เจา้ พนกั งาน
4.แก่ เจตนาประสงคผ์ ล
1.เจตนาธรรมาดา เจตนายอ่ มเลง็ เห็นผล
องคป์ ระกอบภายนอก 2.เจตนาพิเศษ

องคป์ ระกอบของความผิด

องคป์ ระกอบภายใน

เพอื่ จูงใจใหก้ ระทาการ ไม่กระทาการ หรือประวงิ การกระทาอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี

โครงสร้างความรับผดิ ทางอาญา

มาตรา 149 ผใู้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน สมาชิกสภานิติบญั ญตั ิแห่งรัฐ สมาชิกสภาจงั หวดั หรือสมาชิกสภา
เทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพยส์ ิน หรือประโยชน์อ่ืนใดสาหรับตนเองหรือผอู้ ่ืนโดยมิชอบ เพ่ือ
กระทาการหรือไมก่ ระทาการอยา่ งใดในตาแหน่งไมว่ า่ การน้นั จะชอบหรือมิชอบดว้ ยหนา้ ที่ ตอ้ งระวางโทษ
จาคกุ ต้งั แต่หา้ ปี ถึงยสี่ ิบปี หรือจาคกุ ตลอดชีวิต และปรับต้งั แต่หน่ึงแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต

1.ผใู้ ด เป็นเจา้ พนกั งาน สมาชิกสภานิติบญั ญตั ิแห่งรัฐ
สมาชิกสภาจงั หวดั
2.การกระทา เรียก สมาชิกสภาเทศบาล
รับ
3.ทรพั ยส์ ินหรือประโยชนส์ ำหรบั ตนเองหรือผอู้ ่ืน
ยอมจะรับ 4.โดยมิชอบ

องคป์ ระกอบภายนอก 5.ไมว่ า่ การน้นั จะชอบหรือมิชอบ
ดว้ ยหนำ้ ท่ี

องคป์ ระกอบของความผิด

องคป์ ระกอบภานใน 1.เจตนาธรรมดา เจตนาประสงคต์ อ่ ผล
เพือ่ กระทาการในตาแหน่งหนา้ ที่ เจตนายอ่ มเลง็ เห็นผล
2.เจตนาพิเศษ ไมก่ ระทาการในตาแหน่งหนา้ ท่ี

บทท่ี2

คาอธบิ ายจากบรรทดั ฐานคาพพิ ากษาศาลฎีกา

คาอธบิ าย ความผดิ ฐานให้สินบนแก่เจ้าพนกั งาน มาตรา 144

มีการกระทา ดงั นี้

คาวา่ “ให้” หมายถึง มอบโดยส่งหรือยน่ื ใหเ้ พราะถกู เรียก การใหท้ รัพยส์ ินหรือประโยชนอ์ ่ืนใด
และเจา้ พนกั งาน ไดร้ ับเอาไว้ การใหจ้ ึงอาจเกิดจากผกู้ ระทาใหเ้ จา้ พนกั งานเองหรือเจา้ พนกั งานเรียกเอาและ
ผนู้ ้นั ไดใ้ หไ้ ป เมื่อผดิ ฐานใหส้ ินบนเจา้ พนกั งานแลว้ ไม่ผิดฐานสนบั สนุนเจา้ พนกั งานรับสินบนอีก (ถา้ ยน่ื
ทรัพยส์ ินใหแ้ ลว้ แมเ้ จา้ พนกั งานไม่รับ กเ็ ป็นความผิดสาเร็จ เพราะ การยน่ื ให้ ก็เป็นการเสนอใหอ้ ยใู่ นตวั
ถือเป็นการ “ขอให”้ อยนู่ น่ั เอง

คาวา่ “ขอให้” หมายถึงขอมอบใหโ้ ดยส่งหรือยนื่ ให้โดยมิไดถ้ กู เรียก เสนอจะใหท้ รัพยส์ ินหรือ
ประโยชน์แก่เจา้ พนกั งาน แมเ้ จา้ พนกั งาน จะยงั ไม่ตกลงรับกเ็ ป็นความผดิ สาเร็จแลว้ เช่น นายแดงโทรศพั ท์
ติดต่อเจา้ พนกั งานวา่ จะใหเ้ งิน หากเจา้ พนกั งานอนุมตั ิโครงการ เป็นการ “ขอให”้ แลว้ แมเ้ จา้ พนกั งานจะ
บอกปัดไมย่ อมรับและ จะดาเนินคดีนายแดงดว้ ยการกระทาของนายแดงก็ผิดสาเร็จทนั ที

คาวา่ “รับว่าจะให้” หมายถึง สญั ญาวา่ จะมอบใหใ้ นอนาคตไมว่ า่ จะถูกเรียกหรือไม่ก็ตาม หรือ เจา้
พนกั งานเป็นฝ่ายเรียก และผกู้ ระทาก็รับปากวา่ จะให้ สุดทา้ ยแมไ้ มม่ ีการใหเ้ ลย การรับวา่ จะใหก้ เ็ ป็น
ความผดิ สาเร็จแลว้ เช่น เจา้ พนกั งานขอใหจ้ ่ายเงิน คา่ เปิ ดร้านอาหารเกินเวลา จาเลยตกลงวา่ จะใหเ้ งินเป็น
รายเดือน ตกลงวา่ จะให้เงินถา้ ไม่จบั กุม

ความผิดสาเร็จทันทีท่ีให้ขอให้หรือรับว่าจะให้กรณใี ห้ความผดิ สาเร็จทันที่เมื่อมีการรับส่วนกรณี
ขอให้หรือรับว่าจะให้ความผดิ สาเร็จทนั ทที ี่ขอให้หรือรับว่าจะให้แม้ว่าจะยังไม่ได้ย่ืนทรัพย์หรือประโยชน์ให้
หรือเจ้าพนกั งานยงั ไม่ทันรับหรือยอมจะรับสินบนน้ัน

สาหรับตวั การในการกระทาความผดิ ฐานใหส้ ินบนตามมาตรา144น้นั พิจารณาขณะที่ให้ ขอให้
หรือรับวา่ จะให้ แก่เจา้ พนกั งานเทา่ น้นั บุคคลท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นตวั การแมว้ า่ จะร่วมตกลงดว้ ยก่อนลงมือกระทาหรือ
นาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อื่นใดมาใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานหลงั จากที่ผอู้ ่ืนไดข้ อหรือรับวา่ จะใหส้ ินบนน้นั ไมม่ ี
ความผดิ ฐานใหส้ ินบนเพราะความผดิ สาเร็จต้งั แต่เวลาท่ีขอให้ หรือรับวา่ จะใหแ้ ลว้ แค่เป็นความผดิ ที่ผนู้ ้นั ได้
ใหท้ รัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดแก่พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ซ่ึงเป็นความผิดแยกตา่ งหาก

วัตถแุ ห่งการกระทา

ส่วนถอ้ ยคาที่บญั ญตั ิวา่ “ทรัพย์สินหรือประโยชน์อ่ืนใด” กเ็ ป็นไปตามท่ีอธิบายไวใ้ นมาตรา143 เช่น
เงินค่าเคลียร์แรงงานตา่ งดา้ วใหแ้ ก่ตารวจเพื่อมิใหถ้ กู ดาเนินคดี

วตั ถุงแห่งการกระทาตามมาตราน้ีก็เป็นเช่นเดียวกบั มาตรา 143 ที่สาคญั เจา้ พนกั งานตอ้ งมีหนา้ ที่
ดว้ ยถา้ ไม่มีหนา้ ที่หรือหมดหนา้ ที่ไปแลว้ ก็ไม่เป็นความผดิ ตามมาตรา 144 คือ

“ทรัพย์สิน” ท้งั วตั ถุท่ีมีรูปร่างและไมม่ ีรูปร่าง เช่น ใหเ้ งินทอง-หุน้ -รถยนต-์ ที่ดิน-โทรศพั ท์ รวมถึง
กระเชา้ ของชาร่วยหรือขนมนมเนย อยา่ งหลงั น้ีแมด้ ูเหมือนเป็นน้าใจ แตถ่ า้ ใหเ้ พื่อจูงใจ เจา้ พนกั งาน ก็เป็น
ความผิดได้ ฯลฯ

“หรือประโยชน์อ่ืนใด” เช่น ใหใ้ ชบ้ ริการต่างๆ ฟรี รับประทานอาหารฟรี นวดฟรี ฯลฯ จาเลยบอก
วา่ จะช่วยวงิ่ เตน้ ใหเ้ ป็นสารวตั ร ถา้ ไมด่ าเนินคดีแก่จาเลย กเ็ ป็นการขอใหป้ ระโยชน์ อื่นใดเพอื่ จูงใจไม่ให้
กระทาการในหนา้ ที่ตามมาตรา ๑๔๔

เช่น จาเลยใหส้ ินบนแก่ตารวจที่จบั กุมเพือ่ จุงใจใหเ้ บิกความในศาลเป็นคญุ แก่จาเลยไมม่ ีความผิด
ฐานใหส้ ินบนแก่เจา้ พนกั งานเพราะการเบิกความตอ่ ศาลมิใช่หนา้ ที่โดยตรงของตารวจแต่เป็นหนา้ ที่อยา่ ง
เดียวกบั ประชาชน

องค์ประกอบภายใน คือ เจตนาธรรมดาและเจตนาพเิ ศษเพ่ือจูงใจให้กระทาการ ไม่กระทาการ หรือ
ประวิงการกระทา “อนั มชิ อบด้วยหน้าที่" คือ ตอ้ งเป็นหนา้ ท่ีโดยตรงของ เจา้ พนกั งาน (หลกั การเช่นเดียวกบั
มาตรา ๑๔๓) การท่ีจาเลยเสนอใหเ้ งินตารวจเพอื่ เบิกความ เขา้ ขา้ งคนผิด จาเลยไม่ผิดมาตรา ๑๔๔ เพราะการ
เบิกความตอ่ ศาล ไมใ่ ช่หนา้ ท่ีโดยตรงของเจา้ พนกั งาน

เจตนาธรรมดา คือ เจตนาประสงคห์ รือเจตนาเลง็ เห็น

ประเด็นสาคญั ของความผดิ ฐานให้สินบนแก่เจ้าพนกั งานมีเจตนาพเิ ศษคือจูงใจให้กระทาการไม่
กระทาการหรือประวงิ การกระทาอนั มิชอบด้วยหน้าทซี่ ึ่งพจิ ารณาได้ 3 ข้อ ดังนี้

1.เพ่ือจูงใจใหก้ ระทาการอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ที่ เช่น ใหส้ ินบนเพื่อขอใหต้ ารวจเปล่ียนขอ้ หาจากหนกั
เป็ นเบา

2.เพ่ือจูงใจไม่ใหก้ ระทาการการอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี เช่น เม่ือถกู จบั ก็ใหส้ ินบนเพอื่ ไม่ใหต้ ารวจ
จบั กมุ

3.เพ่อื จูงใจใหป้ ระวิงการกระทาอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี เช่น ใหส้ ินบนเพ่ือให้หน่วงคดีเอาไวจ้ น
หมดอายคุ วามเป็นตน้

ขอ้ สงั เกตุ การใหท้ รัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดแก่เจา้ พนกั งานเพือ่ จูงใจใหก้ ระทาการไม่กระทา
การหรือประวิงการกระทาอนั ชอบดว้ ยหนา้ ที่น้นั ไม่เป็นความผดิ ตามมาตรา 144 เช่น ใหเ้ งินแก่ตารวจ
เพื่อใหค้ ดีของตนจากเห็นวา่ ลา่ ชา้ มากแลว้ ใหก้ ระทาการใหเ้ ร็วข้นึ

ประเด็นท่ีน่าสนใจ

การที่คนกลางเรียกรับสินบนนาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดจากบุคคลหน่ึงไปใหแ้ ก่เจา้ พนกั งาน
ท่ีเรียกรับสินบนน้นั มีปัญหาวา่ คนกลางและบุคคลผใู้ หท้ รัพยส์ ินหรือประโยชน์อื่นใดแก่คนกลางดงั กล่าวจะ
มีความผดิ ทางอาญาหรือไม่

พจิ ารณาเป็ น 2 กรณีดงั นี้

1.กรณีบคุ คลขอใหค้ นกลางนาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดไปใหแ้ ก่เจา้ พนกั งาน

สาหรับกรณีน้ี คนกลางยอ่ มมีความผิดฐานเป็นคนกลางเรียกรับสินบนตามมาตรา 143 กรรมหน่ึง
และเม่ือเป็นผใู้ หส้ ินบนแก่เจา้ พนกั งานโดยตรงกย็ อ่ มมีความผดิ ฐานใหส้ ินบนแก่เจา้ พนกั งานตามมาตรา144
อีกกรรมหน่ึงตา่ งหาก

ส่วนบคุ คลที่ขอใหค้ นกลางนาทรัพยส์ ินหรือประโยชนอ์ ื่นใดไปใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานน้นั อยใู่ นฐานะ
ผใู้ ชใ้ หผ้ อู้ ่ืนกระทาความผดิ ฐานใหส้ ินบนแก่เจา้ พนกั งานตามมาตรา144ประกอบมาตรา84ตอ้ งรางโทษ
เสมือนตวั การท้งั น้ีเพราะบุคคลดงั กล่าวก่อใหค้ นกลางกระทาตความผิดฐานใหส้ ินบนเจา้ พนกั งานดว้ ยการ
ใชห้ รือจา้ งวานน้นั เองถา้ หากคนกลางถกู ใชแ้ ลว้ แต่ไมไ่ ดห้ รือยงั ไมท่ นั นาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดไป
ใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานผูน้ ้นั ก็ยงั คงตอ้ งรับผดิ ฐานผใู้ ชซ้ ่ึงตอ้ งระวางโทษหน่ึงในสามของโทษท่ีกกาหนดไวข้ อง
มาตรา144 ดงั ที่บญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา84วรรคสอง

อยา่ งไรก็ตามบุคคลท่ีใหค้ นกลางนาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดไปให้แก่เจา้ พนกั งานไม่มี
ความผดิ ฐานตวั การผใู้ ชห้ รือผสู้ นบั สนุนฐานเป็นคนกลางเรียกรับตามมาตรา143

2.กรณีคนกลางมาเรียกทรัพยห์ รือประโยชน์อื่นใดเพ่ือไปใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานสามารถแยกเป็น2กรณี
ดงั น้ี

2.1กรณีคนกลางนาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดไปให้แก่เจา้ พนกั งานคนกลางยอ่ มมีความผิดตา
มาตรา143และมาตรา144

สาหรับบคุ คลท่ีคนกลางเรียกรับสินบนน้นั มีความผดิ ฐานเป็นผสู้ นบั สนุนใหค้ นกลางกระทา
ความผิดตามมาตรา144ประกอบมาตรา86

2.2กรณีคนกลางไม่ไดน้ าทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อื่นใดไปใหแ้ ก่พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีคนกลางมี
ความผิดตามมาตรา143 แตไ่ ม่มีความผดิ ตามมาตรา144

บุคคลท่ีใหท้ รัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดแก่คนกลางยงั ไม่มีความผดิ เพราะการช่วยเหลือหรือให้
ความสะดวกในการใหส้ ินบนแก่เจา้ พนกั งานยงั ไม่เกิดข้ึนนอกจากน้ีบุคคลดงั กลา่ วยงั ไม่เป็นตวั การผใู้ ชห้ รือ
ผสู้ นบั สนุนในความผิดฐานเป็นคนกลางและรับสินบนตามมาตรา143เพราะเป็นบคุ คลท่ีจาเป็นตอ้ งมีอยดู่ งั
ไดก้ ล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้

คาพพิ ากษาฎกี าทน่ี ่าสนใจ

คาพพิ ากษาฎกี าที่2221/2519 จาเลยเป็นผจู้ ดั การทว่ั ไปของบริษทั แห่งหน่ึงมอบเงินแก่
นายกเทศมนตรีเทศบาลเม่ือจูงใจใหน้ ายกเทศมนตรีอนุมตั ิใหจ้ าเลยปลกู สร้างอาคารโดยเร็วท้งั ท่ีเรื่องราว
หลกั ฐานการขออนุญาติปลกู สร้างอาคารยงั ไมเ่ รียบร้อยพอที่จะอนุญาติไดอ้ นั เป็นมิชอบดว้ ยหนา้ ที่จาเลยจึง
มีความผิดตามมาตรา144

คาพพิ ากษาฎีกาท4ี่ 35/2520 จาเลยท่ีหน่ึงนาเอกสารปลอมพร้อมดว้ ยเงินมอบใหจ้ าเลยที่สองซ่ึงเป็น
เจา้ พนกั งานเพ่ือใหจ้ ดั การจดทะเบียนรถยนตใ์ หจ้ าเลยท่ีสองตกลงดาเนินการใหโ้ ดยจาเลยท้งั สองรู้อยแู่ ลว้ วา่
เป็นเอกสารปลอมจาเลยท้งั สองมีความผดิ ฐานร่วมกนั ใชเ้ อกสารปลอมจาเลยท่ีหน่ึงมีความผิดฐานใหส้ ินบน
และจาเลยท่ีสองมีความผิดฐานรับสินบนจาเลยท่ีหน่ึงไม่มีความผดิ ฐานเป็นผส็ นบั สนุนการกระทาความผิด
ของจาเลยที่สองตามมาตรา149อีกกระทงหน่ึง

คาพพิ ากษาฎีกาที่4212/2550 ส. และสามีมิไดก้ ระทาความผิดเกี่ยวยาเสพติดใหโ้ ทษและทางราชการ
มิไดย้ ดึ ทรัพยส์ ินของ ส. การท่ี ส. มอบเงินแก่จาเลยสืบเนื่องมาจากการหลบอกลวงของจาเลยดว้ ยขอ้ ความ
อนั เป็นเทจ็ มิใช้ ส. หรือสามีกระทาความผิดเก่ียวกบั ยาเสพติดใหโ้ ทษและ ส. มอบเงินแก่จาเลยเพ่อื ให้
สินบนแก่เจา้ พนกั งานเพอ่ื ให้ ส. หรือสามีพน้ จากความผิดจึงถือไม่ไดว้ า่ ส. ไดร้ ่วมกบั จาเลยนาสินบนไป
ใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานเพือ่ จูงใจใหก้ ระทาการอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี ส. ยอ่ มเป็นผเู้ สียหายตามกฎหมายมีสิทธิที่จะ
ร้องทกุ ขเ์ พ่ือดาเนินคดีแก่จาเลยฐานฉอ้ โกงได้

คาอธบิ าย ความผดิ ฐานเจ้าพนักงานเรียกหรือรับสินบนตามาตรา149

ผ้กู ระทา

1 เป็ นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิตบิ ัญญตั แิ ห่งรัฐ สมาชิกสภาจงั หวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล

มาตราน้ีนอกจากกาหนดความผิดแก่เจา้ พนกั งานแลว้ ยงั ขยายความไปถึงสมาชิก สภานิติบญั ญตั ิ
แห่งรัฐ สมาชิกสภาจงั หวดั และสมาชิกสภาเทศบาลดว้ ย เพราะเป็นผทู้ ี่มีอานาจหนา้ ท่ี สาธารณะเช่นเดียวกบั
เจา้ พนกั งาน เช่น เจา้ พนกั งานรับเงินจาก ป. ช่วยเหลือ ป. ใหไ้ ม่ตอ้ งถกู ยา้ ย ตาแหน่ง หรือสมาชิกสภาผแู้ ทน
ราษฎรรับเงินจากอีกฝ่ายหน่ึงเพ่อื ช่วยลงคะแนนให้อีกฝ่ายหน่ึงน้นั

เจา้ พนกั งานและสมาชิกสภาดงั กล่าวจะต้องมีอานาจกระทาการตามหน้าที่ น้นั ดว้ ยจึงจะมีความผดิ
ถา้ ไม่ใช่เจา้ พนกั งาน หรือเป็นเจา้ พนกั งานซ่ึงไมม่ ีหนา้ ที่ในการน้นั ก็ไม่อาจ เป็นตวั การในความผดิ ตาม
มาตรา 149 ได้ แต่อาจมีความผดิ ฐานเป็นผสู้ นบั สนุนได้

ตวั อย่าง จาเลยท่ี 2 เป็นตารวจไดจ้ บั กุมผเู้ สียหายในขอ้ หาเล่นการพนนั สลาก กินรวบ จาเลยท่ี 1 เป็น
ตารวจประจาสถานีเดียวกนั แต่ไมไ่ ดร้ ่วมจบั กมุ และมิใช่พนกั งานสอบสวน ไดเ้ รียกเงินจากผเู้ สียหายกบั
พวกนาไปใหจ้ าเลยท่ี 2 เพอ่ื ใหป้ ล่อยผเู้ สียหายไป และจาเลยท่ี 2 ไดร้ ับเงินจากฝ่ายผเู้ สียหายแลว้ ไดป้ ล่อยตวั
ผเู้ สียหายไปโดยไม่ดาเนินคดีตามกฎหมาย อนั เป็น การกระทาโดยมิชอบต่อหนา้ ท่ี แต่จาเลยที่ 1 ไม่มีอานาจ
หนา้ ท่ีเกี่ยวกบั คดีที่จาเลยที่ 2 จบั กุมผเู้ สียหาย มาโดยตรง จึงเป็ นเร่ืองปฏบิ ัตินอกหน้าท่ี ถือไดว้ า่ เป็นเพียง
การสนบั สนุนการกระทาความผดิ ตามมาตรา 149 ของจาเลยท่ี 2 เท่าน้นั

องค์ประกอบด้านการกระทา ไดแ้ ก่ เรียก รับ หรือยอมจะรับ ซ่ึงเป็นการ กระทาท่ีไม่อาจทาไดโ้ ดย
ชอบ

(1) เรียก หมายถึง เรียกร้องเอาโดยมิไดเ้ สนอให้ โดยแสดงเจตนาใหบ้ คุ คลอื่นส่งทรัพยส์ ินหรือ
ประโยชน์อ่ืนใดให้ อาจเรียกโดยมีพฤติการณ์ให้เขา้ ใจวา่ เป็นการเรียกกไ็ ด้ เช่น จบั กมุ ผกู้ ระทาผดิ แลว้ ไม่
นาส่งสถานี ตารวจ แต่พาตระเวนไปที่อ่ืนและใหโ้ ทรศพั ทห์ าญาติเพ่อื ใหม้ าตกลงกนั ถือเป็นการเรียก
ทรัพยส์ ิน แลว้ เพียงแต่ยงั ไมไ่ ดก้ าหนดจานวนเงินผิดมาตรา ๑๔๙ เป็นความผดิ สาเร็จ

(2) รับ หมายถึง รับมอบเอาไวจ้ ากการเสนอให้ เม่ือมีบคุ คลอ่ืนใหท้ รัพยส์ ินหรือ ประโยชน์อื่นใดแก่
เจา้ พนกั งานและเจา้ พนกั งานรับไวถ้ า้ บุคคลอ่ืนใหท้ รัพยส์ ินเพื่อให้เจา้ พนกั งาน กระทาการตามหนา้ ท่ี ผใู้ ห้
ไม่ผิดมาตรา ๑๔๔ แต่เจา้ พนกั งานผรู้ ับผดิ มาตรา ๑๔๙ แมจ้ ะรับไป บางส่วนก็ตาม หากเพ่อื ใหก้ ระทาการ
อนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี เช่น เม่ือผขู้ บั ข่ีถกู ตารวจ จบั ขอ้ หาฝ่าไฟแดง กเ็ สนอใหเ้ งินแก่ตารวจ แลว้ ตารวจยอมรับ

(3) ยอมจะรับ หมายถงึ ตกลงรับเอาไวต้ ามที่มีผเู้ สนอให้ แมจ้ ะยงั ไมไ่ ดม้ ากต็ าม การที่บคุ คลอื่น
เสนอจะใหท้ รัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดแก่เจา้ พนกั งานและเจา้ พนกั งายตกลงยอมจะรับ แมย้ งั ไมไ่ ดร้ ับ
จริง ๆ กเ็ ป็นความผิดสาเร็จ และบุคคลอ่ืนรับวา่ จะใหก้ ็ ผดิ มาตรา ๑๔๔ แมจ้ ะยงั ไม่ไดใ้ หก้ ็ตาม เช่น เมื่อผู้
ขบั ขีถ่ ูกตารวจจบั ขอ้ หาฝ่าไฟแดง ก็เสนอใหเ้ งินตารวจในวนั รุ่งข้ึนและ ตารวจยอมตกลงรับ

ความผดิ สาเร็จเมื่อเรียก รับ หรือยอมจะรับ แม้ว่าเรียกหรือยอมจะรับแล้ว แต่ยังไม่ทนั ได้ทรัพย์สิน
น้นั มากต็ าม

วตั ถุแห่งการกระทา คือ

“ทรัพย์สิน” หมายความรวมท้งั ทรัพยแ์ ละวตั ถไุ มม่ ีรูปร่างซ่ึงอาจมีราคาและอาจถือเอาไดต้ าม
ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘

ส่วน “ประโยชน์อื่นใด” หมายถึง สิ่งใด ๆ ก็ได้ ไมจ่ ากดั เฉพาะประโยชนท์ างทรัพยส์ ิน เช่น ใหใ้ ช้
บริการฟรี ใหต้ าแหน่งสูงข้ึน ใหเ้ ป็นสมาชิกวไี อพตี ลอดชีพ หลีกทางไมล่ งสมคั รเลือกต้งั ในคร้ังต่อไป

คาว่า “โดยมชิ อบ” หมายถึง

การเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อ่ืนใดสาหรับตนเอง หรือผ้อู ื่น ต้องกระทา
“โดยมิชอบ” หมายความว่า โดยไม่มีอานาจท่ีจะเรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพยส์ ินหรือประโยชน์น้นั ไดต้ าม
กฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั ระเบียบแบบแผน หรือคาสั่งของทางราชการ ท่ีชอบดว้ ยกฎหมาย

หากเป็นสิ่งที่ตอ้ งใหต้ ามกฎหมาย หรือเป็นส่ิงที่รัฐอนุญาตใหเ้ จา้ พนกั งาน เรียกหรือรับเอาได้ ไม่
เป็นสิ่งท่ีเรียกร้องหรือรับโดยมิชอบ เช่น เงินเดือนขา้ ราชการ เงินคา่ รางวลั ท่ีกฎหมายกาหนดใหแ้ ก่เจา้
พนกั งานที่จบั ผกู้ ระทาความผดิ บางอยา่ ง

ข้อสังเกต :ไม่ว่าการน้ันจะชอบหรือมชิ อบด้วยหน้าที่

ถอ้ ยบญั ญตั ิท่ีวา่ “ไม่ว่าการน้ันจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าท”่ี แสดงใหเ้ ห็น เจตนารมณ์ของมาตรา
149 ที่ไมป่ ระสงคใ์ หเ้ จา้ พนกั งานรับทรัพยส์ ินหรือประโยชน์เพอ่ื กระทาการหรือไม่กระทาการในตาแหน่ง
ของเจา้ พนกั งานท้งั สิ้น ไมว่ า่ การเรียก รับ หรือยอมจะรับเพือ่ กระทาการ หรือไม่กระทาการน้นั จะเป็นการ
ชอบหรือไม่ชอบดว้ ยหนา้ ท่ี เพราะมิฉะน้นั ก็จะเปิ ดโอกาสให้ เจา้ พนกั งานหาช่องทางกระทาการทจุ ริตโดย
ไมผ่ ดิ กฎหมายได้ เป็นตน้ วา่ แกลง้ ทาเร่ืองลา่ ชา้ เพื่อ ประวิงการปฏิบตั ิงานจนกวา่ จะมีผมู้ า “หยอดนา้ มัน”
หรือใหท้ รัพยส์ ินหรือประโยชนใ์ หป้ ฏิบตั ิการตามหนา้ ท่ี

องค์ประกอบภายใน

เจตนาธรรมดา คือ เจตนาประสงคห์ รือเจตนาเลง็ เห็น

เจตนาพเิ ศษ – เพอื่ กระทาหรือไม่กระทาการอยา่ งใดในตาแหน่ง

ความผดิ ตามมาตราน้ีตอ้ งมีเจตนาพเิ ศษ คือ “เพ่ือกระทาการหรือไม่กระทาการอย่างใดในตาแหน่ง”
หมายถึง กระทาหรือไม่กระทาในขอบเขตตาแหน่งหนา้ ท่ี แต่จะไดม้ ีการกระทาการหรือไมก่ ระทาการใน
ตาแหน่งตามเจตนาพิเศษน้นั หรือไม่ ไมส่ าคญั

การเปรียบเทยี บบทบัญญตั มิ าตรา 148 กบั มาตรา 149

ขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งมาตรา 148 กบั มาตรา 149 คือ มาตรา 148 ตอ้ งเป็นกรณีที่ ผกู้ ระทาใชอ้ านาจใน
ตาแหน่งโดยมิชอบมาต้งั แต่ตน้ โดยผถู้ ูกเรียกไมไ่ ดก้ ระทาความผิด ส่วนมาตรา 149 เป็นกรณีท่ีเร่ิมตน้ ดว้ ย
การใชอ้ านาจในตาแหน่งโดยชอบ แลว้ เรียกเอาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์ ในภายหลงั

ตัวอย่างที่ 1 จาเลยเป็นเจา้ พนกั งานในตาแหน่งปลดั อาเภอมีหนา้ ท่ีเก่ียวกบั การเงินตามโครงการ
กสช. ไดส้ ่งั ใหค้ ณะกรรมการสภาตาบลแกไ้ ขหลกั ฐานการเบิกจ่ายเงินใหเ้ ป็น ความเป็นจริง แลว้ จาเลยเอา
เงินน้นั ไปเป็นประโยชน์ส่วนตวั โดยทุจริต แสดงวา่ จาเลยมเี จตนา มาแต่แรกที่จะกระทาการทจุ ริตโดยใช้
ตาแหน่งหน้าทีข่ องตน มิใช่ว่าจาเลยกระทาโดยชอบ ด้วยอานาจในตาแหน่งแล้วกระทาการทจุ ริตในภายหลงั
จึงเป็นความผิดตามมาตรา 148 เทา่ น้นั หาเป็นความผิดตามมาตรา 149 อีกดว้ ยไม่

ตัวอย่างที่ 2 จาเลยท้งั สามเป็นเจา้ พนกั งานตารวจ มีอานาจหนา้ ท่ีสืบสวนจบั กมุ ผกู้ ระทาผิดอาญา
เมื่อไดพ้ บและกลา่ วหาวา่ ผเู้ สียหายใหท้ ่ีพกั อาศยั แก่คนต่างดา้ วโดยไมป่ ฏิบตั ิตาม กฎหมาย อนั เป็นความผิด
ตามพระราชบญั ญตั ิคนเขา้ เมืองฯ จึงไมใ่ ช่การกลนั่ แกลง้ กล่าวหาวา่ ผเู้ สียหาย กระทาผิดอาญาโดยไมม่ ีมูล
ความผิด การที่จาเลยท้ังสามปฏบิ ัติการไปตามหน้าทดี่ งั กล่าว โดยชอบแล้วกลบั ไม่จบั กมุ แต่ขู่เข็ญเรียกร้อง
เอาเงนิ แล้วละเว้นไม่จับกมุ ผ้เู สียหาย จึงไม่เป็น ความผิดตามมาตรา 148 แตก่ ารท่ีจาเลยท้งั สามขเู่ ขญ็
เรียกร้องเอาเงินจากผเู้ สียหายภายหลงั เช่นน้ี ยอ่ มเป็นความผดิ ฐานเป็นเจา้ พนกั งานเรียกรับทรัพยส์ ินใน
ตาแหน่งโดยมิชอบดว้ ยหนา้ ที่ตามมาตรา 149

คาพพิ ากษาฎกี าทน่ี ่าสนใจ

คาพพิ ากษาฎกี าที่ 720/2512 จาเลยเป็นเจา้ พนกั งานตารวจ ขณะปฏิบตั ิหนา้ ที่ เวรตารวจจราจรไดส้ ั่ง
ใหผ้ เู้ สียหายซ่ึงขบั รถยนตบ์ รรทกุ ฝ่าฝืนกฎจราจรหยดุ รถเพื่อตรวจใบอนุญาตขบั ข่ี แลว้ ภายหลงั เรียกเงินจาก

ผเู้ สียหายเช่นน้ี ไมเ่ ป็นความผดิ ตามมาตรา 148 เพราะมิไดใ้ ชอ้ านาจในตาแหน่งหนา้ ที่โดยมิชอบ แตเ่ ป็น
ความผิดตามมาตรา 149 ฐานเจา้ พนกั งานเรียกรับ ทรัพยส์ ินโดยมิชอบ

คาพพิ ากษาฎกี าท่ี 1749/2545 จาเลยจบั กุมผเู้ สียหายในขอ้ หาลกั ทรัพย์ ของ ส. แลว้ ใหผ้ เู้ สียหายลง
ลายมือช่ือในบนั ทึกการจบั กุม จากน้นั นาผูเ้ สียหายไปควบคมุ ไวท้ ี่สถานี ตารวจประมาณ 30 นาที จึง
เรียกร้องเอาเงินจากผเู้ สียหายเพอ่ื แลกเปลี่ยนกบั การปลอ่ ยตวั ไม่ดาเนินคดี โดยนาผเู้ สียหายออกมาโทรศพั ท์
หา ก. ภริยาผเู้ สียหาย ต่อมาเมื่อจาเลยไดร้ ับเงิน 3,000 บาท จากผเู้ สียหายแลว้ จึงปล่อยผเู้ สียหายไปน้นั เป็น
กรณีไม่กระทาการในตาแหน่งหนา้ ที่โดยมิชอบ ดว้ ยหนา้ ที่ จาเลยมีความผดิ ตามมาตรา 149

บทที่3

สรุปเนื้อหา

มาตรา 144

การกระทาท่ีจะเป็นความผิดฐานใหส้ ินบนเจา้ พนกั งานตามาตรา144น้นั ผกู้ ระทาจะตอ้ งกระทาอยา่ ง
ใดอยา่ งหน่ึงต่อไปน้ี ให้ ขอให้ หรือรับวา่ จะให้ ทรัพยส์ ินซ่ึงจะหมายถึงวตั ถุที่มีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่างกไ็ ด้
หรือประโยชน์อื่นใด เช่น การให้บริการตา่ ง ๆ ฟรี แก่เจา้ พนกั งาน สมาชิกนิติบญั ญตั ิแห่งรัฐ สมาชิกสภา
จงั หวดั สมาชิกสภาเทศบาล ซ่ึงคาวา่ เจา้ พนกั งานในท่ีน้ี หมายถึงเจา้ พนกั งานทว่ั ไป ไม่รวมถึงเจา้ พนกั งาน
ในตาแหน่งตลุ าการ อยั การ และพนกั งานสอบสวน

ซ่ึงการกระทาดงั กล่าวมาขา้ งตน้ ผูก้ ระทาจะตอ้ งกระทาโดยมีเหตุจุงใจหรือเจตนาพิเศษหรือจูงใจให้
เจา้ พนกั งานกระทาการไม่กระทาการหรือประวิงการกระทาอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ีก็เป็นความผิดตามาตราน้ี
และเจา้ พนกั งานผรู้ ับทรัพยส์ ินหรือประโยชน์น้นั กม็ ีความผดิ ตามาตรา149ดว้ ยส่วนราษฎรผใู้ หไ้ มม่ ีความผดิ
ฐานสนบั สนุนเจา้ พนกั งานอีก

ซ่ึงการพูดคาวา่ ให้ ขอให้ หรือรับวา่ จะให้ แคม่ ีเจตนาแสดงออกไปวา่ จะกระทาการดงั กล่าวแมเ้ จา้
พนกั งสานจะยงั ไม่รับสินบนน้นั กต็ ามกถ็ ือวา่ มีความผิดสาเร็จแลว้ ตามมาตรา144

ในส่วนของมาตรา149น้นั

การกระทาที่จะเป็นความผดิ ฐานเจา้ พนกั งานเรียกหรือรับสินบนตามาตรา149น้นั ผกู้ ระทาคนใดคน
หน่ึงต่อไปน้ี เจา้ พนกั งาน สมาชิกนิติบญั ญตั ิแห่งรัฐ สมาชิกสภาจงั หวดั สมาชิกสภาเทศบาล ซ่ึงคาวา่ เจา้
พนกั งานในท่ีน้ี หมายถึงเจา้ พนกั งานทว่ั ไป ไม่รวมถึงเจา้ พนกั งานในตาแหน่งตุลาการ อยั การ และพนกั งาน
สอบสวน จะตอ้ งกระทาอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงต่อไปน้ี เรียก รับ ยอมจะรับทรัพยส์ ินซ่ึงจะหมายถึงวตั ถุท่ีมีรูปร่าง
หรือไม่มีรูปร่างกไ็ ดห้ รือประโยชน์อ่ืนใดแก่ตนเองหรือผอู้ ื่นโดยมิชอบ

ซ่ึงการกระทาดงั กลา่ วมาขา้ งตน้ จะตอ้ งเพ่ือกระทาการอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงในตาแหน่งหนา้ ท่ีถา้
นอกเหนือจากตาแหน่งหนา้ ที่กไ็ มเ่ ป็นความผิด เช่น สหกรอาเภอเป็ นกรรมการออกขอ้ สอบมิใช่กระทาการ
ในตาแหน่งหนา้ ที่ไม่มีความผิดตามาตรา149หรือหากหมดหนา้ ท่ีไปแลว้ ถือวา่ กระทาการนอกตาแหน่งไม่มี
ความผดิ ตามาตรา149เช่นกนั

ถา้ เรียกทรัพยส์ ินโดยไมม่ ีหนา้ ท่ีที่เก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีเรียกน้นั ถือเป็นการเรียกเพอื่ กระทาการในเร่ือง
นอกตาแหน่งหนา้ ที่เจา้ พนกั งานก็ไม่มีความผดิ ตามาตรา149 เช่นกนั

บรรณานุกรม
คณะพล จนั ทร์หอม. คาอธบิ ายกฎหมายอาญาภาคความผดิ เล่ม 1. พมิ พค์ ร้ังท่ี 4 กรุงเทพฯ :

วญิ ญชู น 2564.
สหรัฐ กิติ ศุภการ. หลกั และคาพพิ ากษากฎหมายอาญา. คร้ังที่ 10 กรุงเทพฯ :

อมรินทร์พริ้นติง้ แอนดพ์ บั ลิชช่ิง 2564.


Click to View FlipBook Version