ประโยชนข์ องซากดกึ ดาบรรพ์
2) การกาหนดอายหุ ิน
ซากดกึ ดาบรรพ์ดัชนี คณุ สมบตั ิ
1) พบเป็นจานวนมาก
(Index Fossil) 2) กระจายตัวเป็นบรเิ วณกว้าง
3) มีวิวฒั นาการอยา่ งรวดเรว็ หนา้ ตาเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา
ซากดกึ ดาบรรพ์ท่สี ามารถ 4) ปรากฏขึ้นมาในช่วงเวลาหนึง่ และสูญพันธ์ุไป
ระบอุ ายขุ องชนั้ หินได้แนน่ อน Fusulinids
ยุคคารบ์ อนเิ ฟอรัสตอนปลาย-
เพอรเ์ มียน
สระบุรี ราชบรุ ี
ประโยชนข์ องซากดึกดาบรรพ์
3) การเทยี บสัมพันธล์ าดบั ชนั้ หนิ
นครราชสีมา
ชนั้ หนิ ที่อยหู่ า่ งไกลกัน
หากพบซากดกึ ดาบรรพ์ชนดิ เดียวกัน
กส็ ามารถเทียบสัมพันธ์ไดว้ า่ เปน็
ชัน้ หนิ ทเ่ี กิดในชว่ งเวลาเดียวกัน
ชัยภมู ิ
ประโยชน์ของซากดกึ ดาบรรพ์
4) การศึกษาสภาพแวดลอ้ มและภมู ิอากาศบรรพกาล
ประโยชนข์ องซากดึกดาบรรพ์
5) การศึกษาสภาพภมู ศิ าสตรบ์ รรพกาลและธรณแี ปรสัณฐาน
ซากดกึ ดาบรรพ์ชนิดเดียวกนั พบต่างทวีปกัน
ชว่ ยอธบิ ายว่าเดมิ ทวปี นนั้ เคยอยใู่ กล้กันมากอ่ น
ประโยชนข์ องซากดึกดาบรรพ์
6) การค้นหาแหล่งแร่ แหล่งถา่ นหนิ และแหลง่ ปโิ ตรเลยี ม
การศึกษาเรณวู ิทยา การศึกษาสาหร่ายวิทยา
(Palynology) (Algology)
ชว่ ยอธบิ าย ช่วยตามหาแหล่ง
สภาพแวดล้อม ต้นกาเนดิ ปโิ ตรเลยี มได้
โบราณ ชว่ ยตามหา
แหล่งถา่ นหนิ
แหล่งซากดึกดาบรรพ์
บริเวณทค่ี ้นพบซากดึกดาบรรพ์ หรือ เคยมซี ากดกึ ดาบรรพ์
แหล่งธรรมชาติ แหล่งทเี่ กดิ จาก
- หว้ ย ลาธาร น้าตก - หนอง บงึ การกระทาของมนุษย์
- ผาหนิ ภูเขา ถ้า
- การตดั ถนน - การทาเหมอื ง
- โขดหินชายฝ่ ังทะเล - การขดุ สระน้า - การเจาะสารวจ
- การไถปรบั หนา้ ดินเพื่อทาการเกษตร
แหลง่ ธรรมชาติ ภเู ขา
ชายหาด
น้าตก
ถ้า
แหลง่ ที่เกดิ จากการกระทาของมนษุ ย์
ตดั ถนน ทาเหมือง
ขดุ รอกสระ เจาะสารวจ
ประเทศไทย
มโี อกาสพบซากดกึ ดาบรรพ์ ท่ไี หนบ้าง?
ซากดกึ ดาบรรพ์มักพบในหนิ ตะกอน
เชน่ หินปนู หนิ ทราย หนิ ทรายแป้ง หนิ โคลน
และในชัน้ ตะกอนธรรมชาติ
หนิ ตะกอนทส่ี ะสมตัวในทะเล
(500 – 145 ลา้ นปีกอ่ น)
หินตะกอนที่สะสมตวั บนบก
(225 – 5 ลา้ นปีกอ่ น)
ตะกอนยุคควอเทอร์นารี
(2.6 ลา้ นปีก่อน – ปจั จุบัน)
ซากดกึ ดาบรรพ์ของไทย
ประเทศไทยมีการค้นพบ
ซากดึกดาบรรพ์ทุกประเภท
พบไดท้ ุกยคุ ตงั้ แตย่ ุค
แคมเบรียน (ประมาณ 500
ล้านปกี ่อน) จนถึงอายุ
ไมก่ พ่ี ันปี ส่วนใหญก่ วา่
70% เปน็ สัตวไ์ มม่ กี ระดกู
สันหลงั
ซากดกึ ดาบรรพ์สัตว์ไมม่ กี ระดูกสันหลัง
(Invertebrate Fossils)
1) ไทรโลไบต์ (Trilobites) สัตว์ทะเลกล่มุ อาร์โรพอด หรอื สัตวม์ ขี ้อปลอ้ ง
กลุม่ เดียวกบั พวกกงุ้ ปู แมลง และแมงต่างๆ
Q หน้าตาคลา้ ยแมงดาทะเลในปัจจุบัน แต่ไม่ได้
Ng จัดอยู่ตระกูลเดยี วกัน
Pg
K
J
T
P
C ไทรโลไบตส์ ูญพันธห์ุ มดแล้ว แมงดาทะเล (Horseshoe crab)
D (Subphylum Chelicerata-ตระกลู แมงมมุ แมงปอ่ ง)
S อนกุ รมวิธาน : Phylum : Arthropoda (อาร์โธรโพดา หรือ สัตวม์ ขี อ้ ปลอ้ ง)
O Class : Trilobita (ไทรโลไบตา)
€ ชว่ งเวลาทพ่ี บ : ยุคแคมเบรียน – เพอรเ์ มียน (521 – 252 ลา้ นปกี ่อน)
ซากดึกดาบรรพ์ท่ีเกา่ แก่ท่ีสุดในประเทศไทย
ไทรโลไบตเ์ กาะตะรุเตา จังหวดั สตลู (500 ลา้ นปกี ่อน)
ไทรโลไบต์ (Trilobites)
เป็นซากดกึ ดาบรรพ์ดชั นที ี่สาคญั
ในชว่ งมหายุคพาลโี อโซอกิ
อ.ศรสี วสั ดิ์ จ.กาญจนบุรี
ยุคดโี วเนียน
(395 ลา้ นปีก่อน)
อ.ละงู จ.สตูล
ยุคไซลเู รียน (400 ล้านปกี อ่ น)
อ.ควนขนนุ จ.พัทลุง อ.วังสะพุง จ.เลย
ยคุ ดีโวเนียน (395 ลา้ นปกี ่อน) ยุคคารบ์ อนเิ ฟอรสั (300 ล้านปีกอ่ น)
2) นอติลอยด์ (Nautiloids)
Q
Ng
Pg
K
หอยงวงช้างในปัจจบุ นั
J
T สัตวท์ ะเลกลมุ่ เดยี วกับหอยงวงชา้ ง (Nautilus) มีบรรพบุรษุ รว่ มกันกบั พวกหมกึ ในปจั จบุ นั
P มเี ปลือกแข็งเหมือนหอย แต่มีตัวเหมอื นหมกึ ภายในเปลือกมแี ผน่ กัน้ เปน็ หอ้ ง ๆ และมีท่อ
C กลางสาหรับใชล้ าเลียงน้าและอากาศในลอยตัวในน้าได้
D อนกุ รมวิธาน : Phylum : Mollusca (มอลลัสกา) พวกแรก ๆ มเี ปลอื กทรงกรวยตรง
ภายหลงั เริม่ มวี วิ ฒั นาการเปลอื กขด
S Class : Cephalopoda (เซฟาโลโพดา)
Subclass : Nautiloidea (นอติลอยเดีย)
O ช่วงเวลาท่ีพบ : ยคุ แคมเบรียนตอนปลาย – ปัจจุบนั
€ (495 ลา้ นปีก่อน - ปจั จุบัน)
นอติลอยด์ (Nautiloids) อ.หนองไผ่ จ.เพชรบรู ณ์
ยุคเพอรเ์ มียน (250 ล้านปีกอ่ น)
อ.ละงู จ.สตลู
ยคุ ออร์โดวเิ ชยี น (470 ลา้ นปกี ่อน)
อ.ศรสี วสั ดิ์ จ.กาญจนบรุ ี
ยุคออรโ์ ดวิเชยี น (450 ลา้ นปกี ่อน)
อ.งาว จ.ลาปาง
ยคุ เพอรเ์ มยี น (250 ล้านปกี อ่ น)
3) แอมโมนอยด์ (Ammonoids)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P สัตว์ทะเลกลมุ่ เดยี วกบั พวกหมึก คล้ายนอตลิ อยด์ แต่มีเปลอื กส่วนใหญ่มัก
C ขดเปน็ เกลยี ว มีลวดลายทซ่ี ับซอ้ นบนเปลอื ก และมที อ่ ลาเลียงอยูด่ า้ นขา้ ง
D
S อนกุ รมวิธาน : Phylum : Mollusca (มอลลัสกา)
O
Class : Cephalopod (เซฟาโลโพดา) สูญพันธุ์พร้อมไดโนเสาร์
Subclass : Ammonoidea (แอมโมนอยเดยี )
€ ช่วงเวลาที่พบ : ยุคดีโวเนยี น – ครเี ทเชียส (410 - 66 ล้านปีกอ่ น)
แอมโมนอยด์ (Ammonoids)
ในประเทศไทยพบตงั้ แตป่ ลายมหายุคพาลโี อโซอกิ
และพบมากในชว่ งมหายคุ มีโซโซอิก (ยุคไดโนเสาร)์
จ.สตูล ยุคคารบ์ อนิเฟอรัส จ.สระบรุ ี ยคุ เพอรเ์ มยี น จ.กาญจนบรุ ี ยุคเพอรเ์ มียน
(350-300 ล้านปกี ่อน) (295-250 ลา้ นปกี ่อน) (295-250 ลา้ นปีกอ่ น)
จ.พัทลงุ ยุคไทรแอสสิก จ.ตาก ยคุ จูแรสสิกตอนกลาง จ.ชมุ พร ยุคจูแรสสิก
(250 ล้านปกี อ่ น) (170 ลา้ นปีกอ่ น) (200-150 ลา้ นปกี ่อน)
4) แกรปโตไลต์ (Graptolites) สูญพันธ์แุ ลว้
Q สัตว์ทะเลท่ีอยู่รวมกนั เปน็ กลุ่ม มกี ารสร้างเปลือกหุ้ม
Ng ทค่ี าดว่าสรา้ งมาจากสารพวกเจลลาตนิ หรือไคติน
รปู ร่างคลา้ ยกับใบไม้ หรอื ใบเล่ือยจึงมักเรียกวา่
Pg “ใบเลือ่ ยทะเล”
K
J
T
P
C
D
อนกุ รมวธิ าน : Phylum : Hemichordata (เฮมคิ อรด์ าตา)
S Class : Pterobrachia (เทอโรบราเคีย)
O Subclass : Graptolithina (แกรปโตลิธนิ า)
€ ช่วงเวลาท่ีพบ : ยคุ แคมเบรยี น – คารบ์ อนิเฟอรสั (510 – 320 ล้านปกี ่อน)
แกรปโตไลต์ (Graptolites)
แกรปโตไลตม์ ักพบเปน็ รอยพิมพ์บนแผน่ หนิ
ในประเทศไทยเปน็ ซากดกึ ดาบรรพ์ดชั นีในชว่ งมหายคุ พาลีโอโซอิกตอนตน้
(ยคุ ออรโ์ ดวเิ ชยี น – ดีโวเนียน)
อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ยุคดโี วเนียนตอนต้น
(400 ลา้ นปกี อ่ น)
อ.ศรสี วัสด์ิ จ.กาญจนบรุ ี
ยคุ ไซลเู รียน-ดีโวเนยี น
(440-360 ลา้ นปกี อ่ น)
อ.ละงู จ.สตูล
ยุคออรโ์ ดวิเชียนตอนปลาย
(445 ลา้ นปีกอ่ น)
จ.นครศรีธรรมราช
ยุคไซลเู รียนตอนต้น
(440 ลา้ นปกี ่อน)
5) เทนทาคิวไลต์ (Tentaculites)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P สัตว์ทะเลขนาดเล็กไมเ่ กนิ 1 ซม. มีเปลือกแขง็ หุ้มเปน็ ทรงกรวย คลา้ ยหอย ปัจจุบันยงั
C สรปุ ไม่แนช่ ัดว่าเปน็ สัตวก์ ลุม่ ไหน
D สูญพันธ์แุ ลว้
อนกุ รมวิธาน : Class : Tentaculita (เทนทาคูลิตา)
S ช่วงเวลาทพ่ี บ : ยุคออรโ์ ดวเิ ชยี น – จแู รสสิก (485 –165 ลา้ นปกี อ่ น)
O แตพ่ บมากในช่วงยุคไซลูเรียน – ดีโวเนียน
€ (440 – 360 ล้านปีก่อน)
เทนทาคิวไลต์ (Tentaculites)
ในประเทศไทยเปน็ ซากดกึ ดาบรรพ์ดัชนี
ยคุ ไซลูเรยี น-ดโี วเนยี น (440-360 ล้านปีกอ่ น)
จ.สตูล
ยุคดโี วเนยี น (400 ลา้ นปกี ่อน)
จ.สตูล
ยคุ ไซลเู รียน (440 ลา้ นปีกอ่ น)
จ.กาญจนบุรี
ยคุ ไซลูเรียน – ดโี วเนยี น
(440-360 ลา้ นปีก่อน)
6) แบรคโิ อพอด (Brachiopod)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P
C สัตว์ทะเลท่ีคลา้ ยหอย มกั เรยี กวา่ “หอยตะเกียง” เนื่องจากบางชนดิ ลกั ษณะคลา้ ยกบั ตะเกียง
D โบราณ มีเปลอื กสองฝาไมเ่ ท่ากัน และมสี มมาตรซา้ ย-ขวาในฝาเดียวกนั
S อนุกรมวธิ าน : Phylum : Brachiopoda (แบรคิโอโพดา) ซากดกึ ดาบรรพ์ดชั นีทีส่ าคญั
O ชว่ งเวลาท่ีพบ : ยุคแคมเบรียน (542 ลา้ นปีกอ่ น) - ปจั จบุ นั ในช่วงมหายุคพาลโี อโซอกิ
€
แบรคิโอพอด (Brachiopods)
เกาะตะรเุ ตา จ.สตูล จ.สตูล อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ยุคแคมเบรยี นตอนปลาย ยคุ ไซลเู รียน (440 ลา้ นปีกอ่ น) ยคุ ดีโวเนยี นตอนต้น (400 ลา้ นปกี อ่ น)
(495 ลา้ นปกี อ่ น)
อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เขาถา่ น อ.สวี จ.ชุมพร ยคุ เพอร์เมยี น จ.กาญจนบุรี ยคุ เพอร์เมียน
(295-250 ลา้ นปกี ่อน)
ยุคเพอรเ์ มียน (295-250 ลา้ นปกี อ่ น) (295-250 ล้านปีกอ่ น)
7) หอยสองฝา/หอยกาบคู่ (Bivalves)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P
C สัตวน์ ้าที่พบได้ทัง้ ในน้าจดื และน้าเค็ม มเี ปลอื กหอ่ หมุ้ ตวั จานวน 2 ฝา ส่วนใหญม่ ขี นาดเทา่ กนั
D และไมม่ ีสมมาตรในฝาเดยี วกัน
S อนุกรมวธิ าน : Phylum : Mollusca (มอลลัสกา)
O Class : Bivalvia / Pelecypoda (ไบวาลเวีย/พีลไี ซโพดา)
€ ช่วงเวลาท่พี บ : ยุคแคมเบรยี น (542 ล้านปีก่อน) - ปัจจบุ นั
หอยสองฝา (Bivalves)
Pholadomya sp.
อ.อุม้ ผาง จ. ตาก ยคุ จแู รสสิก
(170 ลา้ นปกี อ่ น)
Plicatounio (Guanxiconcha) sp.
อ.หนองบัวระเหว จ. ชยั ภมู ิ ยคุ ครีเทเชียสตอนตน้
(115 ล้านปีกอ่ น)
Posidonomya sp.
ยคุ คาร์บอนิเฟอรสั (355 – 300 ล้านปกี ่อน)
อ.รอ่ นพิบูลย์
จ.นครศรธี รรมราช
Trigonioides sp.
อ.มญั จาครี ี จ.ขอนแกน่
ยุคครีเทเชียสตอนต้น (115 ลา้ นปีก่อน)
หอยนางรมยักษ์ (Crassostrea gigas) ยคุ ควอเทอร์นารี อายุ 5,500 ปี
วัดเจดีย์หอย อ. ลาดหลมุ แก้ว จ. ปทุมธานี
ก่งึ ซากดกึ ดาบรรพ์ (Subfossil)
คือ เร่มิ กลายเป็นซากดึกดาบรรพ์
8) หอยฝาเดียว/หอยกาบเดย่ี ว (Gastropods)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P
C สัตวท์ ี่พบไดเ้ กือบทกุ สภาพแวดลอ้ มทัง้ บนบกและในน้า
มีเปลอื กห่อห้มุ ชิ้นเดยี ว ส่วนมากเปลอื กจะมีลักษณะขด
D เปน็ วงเกลียวรอบแกนกลาง
S อนุกรมวธิ าน : Phylum : Mollusca (มอลลัสกา)
O Class : Gastropoda (แกสโตรโพดา)
€ ชว่ งเวลาทพี่ บ : ยคุ แคมเบรยี น (510 ล้านปีกอ่ น) - ปจั จบุ ัน
หอยฝาเดียว (Gastropods)
จ.นครสวรรค์
ยคุ เพอรเ์ มียน
(295-250 ล้านปกี อ่ น)
เกาะตะรเุ ตา จ.สตูล สุสานหอยแมเ่ มาะ จ.ลาปาง
ยุคออร์โดวิเชียน(485-470 ลา้ นปีก่อน) สมยั ไมโอซีนตอนกลาง
(15-13 ลา้ นปีกอ่ น)
สุสานหอยแหลมโพธิ์ จ.กระบ่ี
สมัยอโี อซนี ตอนปลาย (40-35 ลา้ นปกี อ่ น)
9) เอไคโนเดิร์ม (Echinoderm)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P
C สัตว์ทะเลท่ีส่วนใหญม่ ีสมมาตร 5 แฉก มสี ารแคลเซียม
D คาร์บอเนตสะสมในร่างกาย ไดแ้ ก่ กลมุ่ ดาวทะเล เมน่ ทะเล
S อีแปะทะเล พลับพลึงทะเล และปลงิ ทะเล
O อนุกรมวธิ าน : Phylum : Echinodermata (เอไคโนเดอรม์ าตา)
€ ช่วงเวลาท่พี บ : ยคุ แคมเบรยี น (542 ลา้ นปกี อ่ น) - ปจั จบุ นั
ซากดึกดาบรรพ์ไครนอยด์ (Crinoids) หรอื พลบั พลึงทะเล
เป็นกลุ่มเอไคโนเดิรม์ ทีพ่ บบอ่ ยในหนิ ทส่ี ะสมตัวในทะเล โดยเฉพาะหนิ ปนู
ไครนอยด์ (Crinoids) ในประเทศไทยมักพบพวกไครนอยด์ หรือพลบั พลงึ
ทะเล มักเป็นเศษก้าน คล้ายน็อต พบไดท้ วั่ ไปในหินปูน
อ.ล้ี จ. ลาพูน เกือบทุกยคุ และทวั่ ประเทศ
ยคุ ไซลูเรยี น
(440-420 ลา้ นปกี ่อน) ไครนอยด์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
ยคุ เพอรเ์ มียน (295-250 ลา้ นปกี อ่ น)
นอ็ ตพระร่วง
อ.ชนแดน จ. เพชรบูรณ์
ยคุ เพอรเ์ มียน
(295-250 ล้านปกี ่อน)
10) ไบรโอซัว (Bryozoans)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P สัตว์ทะเล (บางชนดิ อยู่ในแหลง่ น้าจืด) ที่อาศัย
C รวมกนั เปน็ กลุม่ โดยการสร้างโครงร่างแขง็
มีหลายรูปรา่ ง เช่น คล้ายกับตาขา่ ย หรอื ร่างแห
D หรอื กง่ิ ไม้ ส่วนใหญ่มักพบคลา้ ยกบั พรม หรอื
S เสื่อ จึงเรยี กวา่ “พรมทะเล” หรือ “ เส่ือทะเล”
O อนกุ รมวิธาน : Phylum : Bryozoa (ไบรโอซัว)
€ ชว่ งเวลาทีพ่ บ : ยคุ ออร์โดวเิ ชยี น (485 ล้านปีกอ่ น) - ปจั จบุ นั
ไบรโอซวั (Bryozoans) ในประเทศไทยพบมาก
ชว่ งยุคคาร์บอนเิ ฟอรัสถึงเพอรเ์ มยี น
อ.เขาย้อย จ.เพชรบรุ ี (350 -250 ล้านปกี อ่ น)
ยคุ คารบ์ อนิเฟอรสั -เพอร์เมียน
(300-280 ล้านปีก่อน)
อ.เมอื ง จ.กาญจนบุรี อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ยุคเพอรเ์ มยี น (295 -250 ลานปีก่อน) ยุคเพอรเ์ มียน (295 -250 ลานปกี อ่ น)
11) ปะการัง (Corals)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P เป็นสัตวท์ ะเลท่มี โี ครงร่างแข็งหมุ้ ตวั
C เปน็ แคลเซียมคารบ์ อเนต มที งั้ อยรู่ วมกันเปน็ กลุ่ม
D และเปน็ ตวั เดี่ยว ๆ มกั พบซากดึกดาบรรพ์ในหินปูน
S อนุกรมวธิ าน : Phylum : Cnidaria (ไนดาเรีย)
O Class : Anthozoa (แอนโธซวั )
€ ชว่ งเวลาท่พี บ : ยุคแคมเบรียน (542 ล้านปีก่อน) - ปจั จุบัน
ปะการงั (Corals)
อ.หนองมว่ ง จ.ลพบรุ ี ยคุ เพอรเ์ มียน จ.เลย
(295 -250 ลานปีก่อน) ยุคคาร์บอนิเฟอรัส
(300 ลา้ นปกี อ่ น)
อ.วิเชยี รบรุ ี จ.เพชรบรู ณ์ ยุคเพอรเ์ มยี น
(295 -250 ลา้ นปีกอ่ น)
12) ฟองน้า (Sponges)
Q
Ng
Pg
K
J
T
P
C สัตวน์ ้าทีส่ ่วนใหญ่อาศัยในทะเล มตี วั เป็นรูพรุน มีโครงรา่ งแข็งท่เี ปน็ ซลิ กิ า หรอื แคลเซยี มคารบ์ อเนต อาศัยในน้า
D สะอาด และสงบนิ่ง มักพบซากดกึ ดาบรรพ์ในหินปูน ฟองน้าเปน็ สัตว์ชนดิ แรก ๆ ท่เี รม่ิ ปรากฏขึ้นมาบนโลก และ
ยงั คงดารงเผ่าพันธ์ุอยู่ในปัจจุบนั
S
O อนกุ รมวธิ าน : Phylum : Porifera (พอรเิ ฟอรา)
€ ชว่ งเวลาท่พี บ : มหายุคพรแี คมเบรยี นตอนปลาย (635 ล้านปกี ่อน) - ปจั จบุ ัน
ฟองน้า (Sponges)
อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ยุคเพอร์เมียน
(295-250 ล้านปีก่อน)
อ.ปากชม จ.เลย
ยคุ ดีโวเนียน
(410 -390 ล้านปีก่อน)
ซากดกึ ดาบรรพ์สัตว์มกี ระดูกสันหลัง
(Vertebrate Fossils)
1) ปลา (Fishes) ปลามหี นาม
(Spiny sharks -
Q Acanthodians)
สูญพันธ์แุ ลว้
Ng
ปลากระดกู แขง็
Pg (Bony fishes -
Osteichthyes)
K 535 Ma - Recent
J ปลากระดกู ออ่ น
ปลาไม่มีขากรรไกร (Cartilaginous fishes -
T (Jawless fishes) Chondrichthyes)
P ปลามขี ากรรไกร
C (Jawed fishes)
D
S ปลามีเกราะ
(Armoured fishes -
O Placoderms)
€ สูญพันธ์แุ ล้ว
1) ปลา (Fishes) ปลากระดกู ออ่ น
สยามโมดัส (Siamodus) จ. แม่ฮอ่ งสอน ไทยโอดัส (Thaiodus) ไฮโบดัส (Hybodus)
ดีโวเนยี นตอนปลาย (380-360 ลา้ นปีกอ่ น) อบุ ลราชธานี นครราชสีมา ขอนแกน่ ภนู ้อย กาฬสินธ์ุ
ยุคครีเทเชียสตอนต้น (110 ลา้ นปกี อ่ น)
ยคุ จูแรสสิกตอนปลาย (150 ลา้ นปกี อ่ น)
1) ปลา (Fishes) ปลากระดูกแข็ง
โคราชอกิ ธิส (Khoratichthys)
อ.วังนา้ เขยี ว จ.นครราชสีมา
ยุคจูแรสสิกตอนปลาย (150 ล้านปีกอ่ น)
อิสานอิกธสิ (Isanichthys) ไทยอกิ ธิส (Thaiichthys) ภนู ้าจนั้ จ.กาฬสินธุ์ ปลาปอด เฟอกาโนเซอราโตดสั (Fegfanoceratodus) จ.กาฬสินธ์ุ
จ.กาฬสินธ์ุ / ยคุ จูแรสสิกตอนปลาย ยุคจแู รสสิกตอนปลาย (150 ล้านปีก่อน) ยคุ จูแรสสิกตอนปลาย (150 ลา้ นปีกอ่ น)
(150 ลา้ นปกี อ่ น)
1) ปลา (Fishes) ปลากระดกู แขง็
Proluciosoma pasakensis (ตระกูลปลาซิวควาย)
จ.เพชรบูรณ์ สมัยไมโอซนี (15 ล้านปีกอ่ น)
Cetopangasius chaetobrachus (ตระกูลปลาสวาย)
จ.เพชรบูรณ์ สมยั ไมโอซีน (15 ล้านปีก่อน)
Parambassis paleosiamensis (ตระกูลปลาแปน้ )
จ.เพชรบรู ณ์ สมัยไมโอซนี (15 ลา้ นปีก่อน)
2) สัตว์สะเทนิ น้าสะเทินบก และทีเ่ กี่ยวขอ้ ง (Amphibians and related)
Q
Ng
Pg 395 Ma - Recent
K อกิ ธโิ อสเตกาเลยี น (Ichthyostegalians - แอนทราโคซอร์ (Anthracosaurs -
J Fish-like amphibians) Reptile-like amphibians)
T
สูญพันธแ์ุ ล้ว สูญพันธแุ์ ล้ว
P
C
D
S เท็มโนสปอนดิล (Temnospondyl - กบ (Frogs - เขียดงู ซาลามานเดอร์
Salamander-like amphibians) Anuran) (Caecilians - (Salamanders -
O Gymnophiona) Caudata)
€ สูญพันธแ์ุ ลว้
2) สัตว์สะเทนิ น้าสะเทนิ บก (Amphibians)
Q ในประเทศไทยมักพบกล่มุ เท็มโนสปอนดลิ
(Temnospondyl)
Ng
Plagiosauroid
Pg 370 Ma - Recent
ยคุ ไทรแอสสิกตอนปลาย (220 ล้านปกี อ่ น)
K จ.ชัยภมู ิ
J Temnospondyl
Cyclotosaurus sp. ยุคจรู าสสิกตอนปลาย (150 ล้านปกี ่อน)
ภนู ้อย จ.กาฬสินธ์ุ
T ยุคไทรแอสสิกตอนปลาย (220 ลา้ นปีก่อน)
P จ.ชยั ภูมิ
C
D
S
O Brachyopid?
ยุคจรู าสสิกตอนกลาง (170 ลา้ นปกี ่อน)
€ มาบชงิ จ.นครศรธี รรมราช
3) เตา่ และทเ่ี ก่ยี วข้อง (Turtles and related)
Q 240 Ma - Recent
Ng
Pg
K บาซโิ ลคีลสิ มาโครไบออส (เตา่ ยกั ษ์)
(Basilochelys macrobios)
J โปรกาโนคีลสี รจุ าอิ (Proganochelys ruchae)
ยุคจรู าสสิกตอนปลาย (150 ล้านปีก่อน)
ยุคไทรแอสสิกตอนปลาย (220 ล้านปีกอ่ น) จ.มกุ ดาหาร
T จ.ขอนแกน่ และเพชรบรู ณ์
P
C
D
S
O อิสานนมี ีส ศรีสุขกิ (Isanemys srisuki) ฮารด์ เดลลา สยามเอนซสิ (Hardella siamensis)
ยคุ ครีเทเชียสตอนตน้ (130 ลา้ นปกี ่อน) สมัยอโี อซีนตอนปลาย (38 ลา้ นปีกอ่ น)
€ จ.หนองบวั ลาภู และกาฬสินธ์ุ
จ.กระบ่ี
4) จระเข้ และทีเ่ กย่ี วขอ้ ง (Crocodiles and related)
Q 252 Ma - Recent
Ng
Pg
K ไฟโตซอร์ (Phytosaur) สยามโมซคู สั ภพู อกเอนซสิ (Siamosuchus phuphokensis)
J ยุคไทรแอสสิกตอนปลาย (220 ลา้ นปกี ่อน) ยุคครีเทเชียสตอนตน้ (130 ลา้ นปีกอ่ น)
ภพู อก จ.สกลนคร
เขื่อนจฬุ าภรณ์ จ.ชยั ภมู ิ
T
P
C
D
S
O ชาละวนั ไทยแลนดคิ สั (Chalawan thailandicus) โคราโตซูคสั จนิ ตสกุลไล (Khoratosuchus jintasakuli)
ยุคจูราสสิกตอนปลาย (150 ลา้ นปีกอ่ น) ยคุ ครเี ทเชยี สตอนตน้ (115 ลา้ นปีกอ่ น)
€ จ.หนองบัวลาภู และมุกดาหาร จ.นครราชสีมา
5) สัตวเ์ ล้อื ยคลานในทะเล (Marine Reptiles)
Q
Ng
Pg
K อกิ ธโิ อซอร์ (Ichthyosaurs)
250 – 66 Ma
J
T
P
C ซอโรเทอรเี จยี น (Sauropterygians)
D ไทยซอรสั จงลกั ษณม์ ณอี ิ
Thaisaurus chonglakmanii
S ยคุ ไทรแอสสิกตอนต้น (252 – 240 ล้านปกี อ่ น)
O โมซาซอร์ (Mosasaurs) อ.ควนขนนุ จ.พัทลงุ
€ อิกธิโอซอรท์ ี่เกา่ แก่ทส่ี ุดชนดิ หนง่ึ ในโลก
6) สัตวเ์ ล้ือยคลานบินได้ (Flying reptiles/Pterosaurs)
Q230 – 66 Ma
Ng Ornithocheirid
Pg
ภพู อก จ.สกลนคร ยคุ ครีเทเชยี สตอนตน้
K (130 ลา้ นปีกอ่ น)
J
T
P
C
D
Rhamphorhynchid
S ภูน้อย จ.กาฬสินธุ์ ยุคจูแรสสิกตอนปลาย
(150 ล้านปกี อ่ น)
O
€
7) ไดโนเสาร์ (Dinosaurs) กลมุ่ มีกระดูกเชิงกรานแบบนก
(Ornithischians)
Q กลุม่ มีกระดูกเชงิ กรานแบบสัตว์เล้อื ยคลาน
เซอราทอปเซียน (Ceratopsians)
(Saurischians) กินพืช มีเขา จะงอยปากคลา้ ยนก
Ng
Pg 235 - 66 Ma
K
J
T แพคเี ซฟาโลซอร์
(Pachycephalosaurs)
P สเตโกซอร์ (Stegosaurs)
กนิ พืช กะโหลกหนา กินพืช มีกระโดงหลงั
C
D
S
O เทอโรพอด (Theropods) ซอโรพอด (Sauropods) แองคโี ลซอร์ (Ankylosaurs) ออร์นิโธพอด (Ornithopods)
€ กนิ เนอ้ื เดินสองขา กนิ พืช มเี กราะ กินพืช ปากเปด็
กินพืช คอยาว หางยาว