E-Book โปรแกรมกราฟิก 2204-2105

(1) จากภาพเปน็ การสร้างเส้นตรงจากเครื่องมือ Pen จากเส้นตรงนี้ หากต้องการเพม่ิ จุด
กง่ึ กลางอีก 1 จุดเพ่ือดัดเส้นใหค้ ลกิ ขวาที่เครอ่ื งมอื Pen เลอื กเครอ่ื งมอื

(2) คลกิ ท่กี ึ่งกลางของเสน้ ค้างไว้ จะปรากฏจุดดังภาพ

(3) เลือ่ นเมาส์ไปทางซา้ ยหรือขวา แลว้ ปลอ่ ยเมาส์ เส้นจะถูกดงึ ดงั ภาพ

หมายเหตุ หากปลอ่ ยเมาส์แล้วแต่ยังไม่ไดเ้ สน้ เป็นท่ีพอใจ สามารถคลิกทจ่ี ดุ ควบคมุ ความโค้งของ เส้น
Path ท่ีดา้ นใดด้านหนง่ึ จากน้นั เลือ่ นเมาส์ไปทางซา้ ยหรือขวา จะสามารถตัดเสน้ ตามที่ต้องการได้

(4) คลิกทพ่ี ื้นทีท่ ำงานวา่ ง จดุ ที่แสดงจะหายไป



4. การใชเ้ คร่ืองมือ Delete Anchor Point จากตัวอยา่ งในขอ้ 3 หากตอ้ งการลบจดุ กึ่งกลาง ท่ี
เพมิ่ ออกไปจากเสน้ Path สามารถทำไดโ้ ดยใช้เคร่ืองมือ Delete Anchor Point ได้ดังนี้

(1) คลกิ ขวาที่เคร่ืองมอื Pen เลือกเคร่ืองมือ
(2) คลกิ ท่ีก่ึงกลางของเส้น จดุ ตรึงที่อยู่กึง่ กลางจะหายไป

รปู ภาพแสดงการลบจดุ โดยใช้เครอื่ งมอื Delete Anchor Point

5. การใช้เครอื่ งมือ Convert Point หากตอ้ งการย้อนกลับไปยงั ความโค้งเดิมของเสน้ Path
สามารถทำไดโ้ ดยใช้เครื่องมือ Convert Point ได้ดงั น้ี

(1) สร้างเสน้ Path จากเครื่องมือ Pen โดยให้มีการปรบั ความโคง้ ของเส้นใหโ้ คง้ งอ
(2) คลกิ ขวาทเี่ ครื่องมอื Pen เลือกเครื่องมือ
(3) คลกิ ทจ่ี ุดซา้ ยหรือขวาองศาของเส้น Path จะกลบั ไปเป็นความโคง้ เรม่ิ ตน้ (เส้นตรง)

รูปภาพแสดงการลบจดุ โดยใช้เครอ่ื งมือ Convert Point



การใชเ้ ครือ่ งมอื สร้างรูปภาพกราฟกิ แบบ Vector (Shape Tool)

การใชเ้ ครือ่ งมือ Shape ในการสร้างงาน เป็นการนำรูปทรงทีม่ อี ยู่ในโปรแกรมมาใช้ โดยการ
ทำงานโปรแกรมจะมีการสรา้ ง Layer ของรปู ทรงข้นึ มาใหม่ โดยรปู ภาพที่ได้จะมีลกั ษณะเปน็ รปู ภาพ
แบบ Vector แต่โปรแกรมจะทำเป็นชัน้ ภาพ (Layer) แยกในแตล่ ะรปู ทรงท่สี รา้ ง ซงึ่ สามารถจดั การ
กบั รูปทรงต่างๆ ท่สี ร้างในโปรแกรมได้ เช่น การเตมิ สีใหเ้ สน้ Path การใสส่ ีเส้นขอบของเส้น Path
การสรา้ งขอบเขตการเลือกจากเส้น Path การลบเสน้ Path เป็นตน้

การสร้างรูปภาพกราฟิกแบบ Vector โดยใชเ้ คร่อื งมือ Shape สามารถจดั การชัน้ ภาพ
(Layer) เชน่ การใสเ่ งา การใสแ่ สงขอบในหรือขอบนอก ฯลฯ ซง่ึ รายละเอียดจะกลา่ วถึงในหน่วยเรียน
เรือ่ ง Layer

รูปภาพแสดงตวั อยา่ งการใชเ้ ครอื่ งมือ Shape เพอื่ สรา้ งรูปทรงท่ีตา่ งกนั

1. การใช้เครือ่ งมือ
เคร่ืองมือ Rectangle เปน็ เครื่องมือสรา้ งรูปทรงสีเ่ หลี่ยม วิธีการใช้งานสามารถทำได้ดงั นี้
(1) คลิกท่ีเคร่ืองมือ Rectangle
(2) เลือกสี หรือรูปแบบท่ีต้องการท่ี Color หรอื Style อย่างใดอยา่ งหนงึ่
(3) คลกิ คา้ งไว้แล้วลากบนพืน้ ท่ีทำงานปรากฏรูปสเ่ี หลย่ี มตามทต่ี ้องการสังเกตทห่ี นา้ ตา่ ง

Layer มี Layer ชือ่ Shape1 ปรากฏขึ้น



รูปภาพแสดงการใช้เครอ่ื งมือ Rectangle

2. การใช้เคร่อื งมือ
เคร่ืองมอื Rounded Rectangle เปน็ เครื่องมือใช้สรา้ งรปู ทรงสีเ่ หลีย่ มขอบมน วธิ ีการใชง้ าน
สามารถทำไดด้ งั นี้

(1) คลิกขวาท่ีเคร่ืองมอื ท่เี คร่ืองมือ Rectangle เลอื กเครอ่ื งมอื Rounded Rectangle
(2) เลอื กสี หรือรปู แบบทต่ี ้องการที่ Color หรอื Style อย่างใดอยา่ งหน่ึง
(3) ปรับความมนที่ Redius จากรูปภาพปรบั ความมนเปน็ 40 Pixel
(4) คลกิ คา้ งไวแ้ ล้วลากบนพื้นทที่ ำงานปรากฏรปู สเ่ี หลี่ยมขอบมนตามทีต่ ้องการ สงั เกต ท่ี
หนา้ ตา่ ง Layer มี Layer ชอ่ื Shape1 ปรากฏข้นึ



รูปภาพแสดงการใช้เคร่อื งมอื Rounded Rectangle

3. การใชเ้ ครือ่ งมอื
เครื่องมอื Elipse เป็นเคร่อื งมือใช้สร้างรปู ทรงกลม วิธกี ารใช้งานสามารถทำไดด้ ังนี้
(1) คลิกขวาที่เคร่ืองมอื Rectangle เลือกเคร่ืองมือ Elipse
(2) เลอื กสี หรือรปู แบบทต่ี ้องการท่ี Color หรอื Style อย่างใดอยา่ งหนึง่
(3) คลกิ ค้างไวแ้ ลว้ ลากบนพ้ืนท่ที ำงานปรากฎวงกลมทตี่ ้องการสงั เกตท่ีหนา้ ตา่ ง Layer มี

Layer ช่ือ Shape1 ปรากฏขน้ึ



รูปภาพแสดงการใชเ้ คร่ืองมอื Elipse

4. การใช้เครอ่ื งมือ
เครื่องมือ Polygon เป็นเครื่องมอื ใช้สรา้ งรปู ทรงรปู หลายเหล่ยี ม วิธีการใช้งานสามารถ ทำได้
ดังนี้

(1) คลกิ ขวาท่ีเคร่ืองมอื Rectangle เลือกเคร่ืองมือ Polygon
(2) เลอื กสี หรือรูปแบบทีต่ ้องการท่ี Style หรือ Color อย่างใดอย่างหน่ึง
(3) ปรบั ความเหลย่ี มที่ Sides จากรูปภาพปรบั ความเหลี่ยมเปน็ 7
(4) คลิกค้างไว้แล้วลากบนพนื้ ท่ีทำงานปรากฏรูปหลายเหล่ียมตามที่ต้องการ สังเกตที่
หนา้ ต่าง Layer มี Layer ชื่อ Shape1 ปรากฏข้ึน



รปู ภาพแสดงการใชเ้ ครือ่ งมือ Polygon

5. การใชเ้ ครอ่ื งมอื
เครื่องมือ Line เป็นเคร่ืองมือใชส้ รา้ งรปู ทรงที่มีลกั ษณะเป็นเส้นตรงวธิ ีการใช้งานสามารถ ทำ

ไดด้ งั น้ี
(1) คลิกขวาทเี่ ครื่องมือ Rectangle เลอื กเครื่องมือ Line
(2) เลอื กสี หรือรปู แบบท่ตี ้องการท่ี Style หรอื Color อยา่ งใดอย่างหนึ่ง
(3) ปรับความหนาของเส้นท่ี Weight จากรปู ภาพปรับความหนาของเส้นเปน็ 10 Pixel



(4) คลิกคา้ งไว้แล้วลากบนพื้นท่ีทำงานปรากฏรปู ทรงเสน้ ตรงตามที่ต้องการ สงั เกตท่ี
หนา้ ต่าง Layer มี Layer ชอื่ Shape1 ปรากฏข้ึน

รูปภาพแสดงการใช้เคร่อื งมือ Line

6. การใชเ้ ครือ่ งมือ
เครื่องมือ Custom Shape เปน็ เคร่อื งมอื ใชส้ รา้ งรูปทรงเฉพาะอื่นๆ ซึ่งโปรแกรม

Photoshop ได้เตรียมไวใ้ ห้ วธิ ีการใช้งานสามารถทำได้ดงั น้ี
(1) คลกิ ขวาที่เครื่องมือ Rectangle เลอื กเครื่องมือ Custom Shape
(2) เลือกสี หรอื รูปแบบท่ีตอ้ งการที่ Style หรอื Color อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ



(3) ในส่วน Shape สามารถเลอื กรูปทรงได้เพมิ่ เติม โดยคลกิ ท่ี (รูปทรง) จากนัน้

เลือก แล้วเลอื ก All เพือ่ ให้แสดงรูปทรงท้ังหมดแล้วเลอื กรูปทรงท่ตี ้องการ (จากภาพเลอื ก

รปู ทรง )
(4) คลกิ คา้ งไว้แลว้ ลากบนพน้ื ทีท่ ำงานปรากฏรูปทรงตามที่ต้องการ สังเกตทหี่ น้าตา่ ง Layer

มี Layer ชื่อ Shape1 ปรากฏขึ้น



รปู ภาพแสดงการใชเ้ คร่อื งมอื Custom Shape



การย้ายรูปทรงใดยใช้เครื่องมอื Move

หากมีรปู ทรงหลายรูปทรงทตี่ ้องการย้ายตำแหนง่ ไปยังตำแหน่งที่ตอ้ งการ สามารถทำได้โดย
การใชเ้ ครอ่ื งมือ Move การใชเ้ ครอ่ื งมือ Move สามารถทำได้ดงั น้ี

รูปภาพแสดงภาพเริม่ ต้นกอ่ นการใชเ้ ครือ่ งมือ Move

กอ่ นใชเ้ คร่ืองมอื Move ใหส้ รา้ งรูปทรง 2 ทรงคอื Shape1 เป็นรูปบา้ น และ Shape2 เป็น
รูปทรงกลม

1. การย้าย Shape1 (บา้ น) คลิกท่ี Layer ทตี่ อ้ งการจากหนา้ ต่าง Layers (จากตัวอยา่ งคือ
Shape1)

2. คลกิ ทีเ่ คร่ืองมือ ทีก่ ลอ่ งเครอ่ื งมือ
3. ท่ีพนื้ ท่ีทำงาน ใหค้ ลิกทรี่ ปู บ้านคา้ งไว้ แล้วย้ายไปยังตำแหน่งที่ตอ้ งการ



การปรบั ขนาดรูปทรง โดยใชค้ ำสงั่ Free Transform

การปรับขนาดของภาพหรือวัตถตุ ่างๆ ในภาพ สามารถทำได้โดยการใช้คำสงั่ Edit > Free
Transform (Ctrl+T) โปรแกรมจะปรากฏเสน้ กรอบที่มีจุดควบคมุ อยู่ 8 จตุ และจุดศนู ย์กลางอีก 1
จดุ โดยปกตกิ ารย่อหรือขยายจะคลกิ ทมี่ ุมใดมุมหน่ึงแล้วลากเข้าหรือออกเพือ่ ย่อ-ขยายภาพจากน้นั
กด Enter หรือ Double Click เพ่อื ยนื ยันการปรบั ขนาดเพ่ือท่ีจะได้ควบคมุ ได้ดยี ่ิงข้นึ ควรทดลองใช้
ควบคกู่ บั แป้นพิมพด์ ังน้ี

1. กด Shift คา้ งไวใ้ นขณะที่ลากมมุ เพื่อปรับขยายภาพการย่อหรือขยายภาพจะยงั คงสดั สว่ น
เดมิ ไว้

2. กด Alt ค้างเอาไว้ เพ่ือย่อหรอื ขยายโดยเร่ิมจากจุดศนู ย์กลาง
3. กด Ctrl คา้ งเอาไว้ เพือ่ ดึงจุดควบคุมท้ังส่ีมมุ ไดอ้ ยา่ งอสิ ระไมเ่ กีย่ วข้องกบั จุดควบคุมอ่ืนๆ
4. กด Alt + Ctrl คา้ งเอาไว้ เพ่อื ย่อหรอื ขยายโดยลอกตำแหนง่ จุดฝ่ังตรงข้าม
5. กด Shift + Ctrl พรอ้ มกันแลว้ ลากเมาส์บริเวณเสน้ จะลากเส้นได้ตามระนาบของเสน้
น้ันๆ ถา้ จะยืนยนั การปรบั ตง้ั ก็กด Enter ถา้ ตอ้ งการยกเลกิ การปรับขนาดให้กลับไปเป็นภาพเดมิ กด
ปุ่ม Escape

ตัวอย่างการปรับแต่งวงลมให้มีขนาดเลก็ ลงจากตัวอย่างเดิม
1. คลิก Shape2 ทีห่ นา้ ตา่ ง Layers ทแ่ี ป้นพมิ พ์
2. เลือกแถบเมนู Edit แลว้ เลอื ก Free Transform หรอื กดคยี ์ลดั Ctrl + T
3. ปรากฏจดุ แปดจดุ ให้คลกิ ที่มมุ ในมุมหนึ่งค้างไว้ แล้วทำงานย่อวงกลมให้เลก็ ลง



4. กดปุ่ม Enter หรอื ทแ่ี ถบตวั เลือก (Option bar) เพื่อยนื ยันการปรับขนาดหากจะ
ยกเลกิ การปรบั ขนาดให้กลบั ไปเปน็ ภาพเดิม กดปุ่ม Escape หรอื คลิกที่ ท่ีแถบตวั เลือก
(Option bar)



รปู ภาพแสดงการปรบั รูปทรงใหม้ ขี นาดเลก็ ลง



แบบประเมินผลหลงั เรยี นหน่วยที่ 4

คำสงั่ จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องเพยี งข้อเดยี ว

1. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้อง

ก. ขนาดแฟ้ม Raster เลก็ กวา่ แบบ Vector

ข. Vector เปน็ ภาพกราฟิกความสมั พันธ์ทางคณติ ศาสตร์

ค. Vector นิยมใชเ้ พือ่ งานสถาปตั ย์ ตกแตง่ ภายใน

ง. Vector เม่ือถกู ขยายภาพความละเอยี ดจะไมล่ ดลง

2. ขอ้ ใดหมายถึง Draw type graphics

ก. การเติมสลี งบนโครงรา่ ง

ข. ภาพลายเสน้

ค. พ้นื ทที่ ่ถี ูกลอ้ มรอบโดยโครงรา่ งนนั้ ๆ

ง. สร้างเป็นโครงร่าง

3. ขอ้ ใดมีลักษณะเป็น Object Oriented

ก. Resolution Dependent ข. Bitmap

ค. Vector Graphic ง. ถูกทกุ ข้อ

4. เครอ่ื งมือใดใชใ้ นการสร้างรปู ภาพกราฟิกแบบ Vector

ก. Pen Tool ข. Rectangle Tool

ค. Add Anchor Point Tool ง. ถกู ทุกขอ้

5. ขอ้ ใดคือสิ่งสำคัญทีส่ ดุ ในการเติมสีให้ Path

ก. เลอื กสที ่ตี ้องการเตมิ ท่ี Forground color

ข. ผู้ใช้โปรแกรมต้องสร้างเสน้ Path ขึน้ มาก่อน

ค. เลอื ก Fil Path

ง. การกำหนดรหัสสี

6. ข้อใดคือคุณสมบัติของ Stroke Path

ก. เปน็ การเติมสใี ห้ Path

ข. เป็นการเตมิ สีให้เส้นขอบ Path

ค. เป็นการสร้างขอบเขตการเลอื กจากเสน้ Path

ง. เป็นการวาดเสน้ Path ได้ในทันที



7. ข้อใดคือคุณสมบัติของเครื่องมือ Add Anchor Point Tool

ก. เปน็ การสร้างขอบเขตการเลือกจากเสน้ Path

ข. เปน็ การใชเ้ พิม่ จุดตรงึ สำหรบั การดัดใหก้ ับเสน้ Path

ค. เพิม่ เส้น Path ทีม่ ลี กั ษณะเดยี วกับท่ีต้งั ค่าไว้

ง. การเพ่มิ ชั้นภาพในตำแหน่งทีต่ ้องการ

8. ขอ้ ใดคือคุณสมบัติของ Radius

ก. ปรับความมนของรปู ทรง Rectangle

ข. ปรับความกว้างของรูปทรง Rectangle

ค. ขยายขนาดของรูปทรง Rectangle เปน็ 2 เท่า

ง. ช่วยกำหนดรปู ทรง Rectangle ให้เหมาะสม

9. ข้อใดคือการใช้ป่มุ คำส่ังลดั Free Transform

ก. Ctrl + C ข. Alt + Ctrl

ค. Shift + Carl ง. Ctrl + T

10. ข้อใดกล่าวถกู ต้องท่สี ดุ

ก. Custom Shape ยอ้ นกลับไปยงั ตำแหน่งองศาเดมิ ของ Shape

ข. Delete Anchor Point ใช้ลบตำแหน่งขอบเขตทเ่ี ลือก

ค. Move ใช้เพื่อย้ายตำแหนง่ ของรูปทรง

ง. กด Alt ค้าง เม่อื ต้องการย่อหรือขยายภาพคงสัดสว่ นเดิม



ใบงานท่ี 4.1

คำส่ัง ใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งภาพ ความกว้าง 500 Pixel สูง 500 Pixel ความละเอยี ด 72 Pixel per inch
โดยใชเ้ คร่อื งมือ Shape สร้างรปู ภาพดังภาพแลว้ บันทึกไฟล์ช่อื “ใบงานที่ 8.psd” และ “ใบงานที่
8.jpg

ลำดบั ที่ ตารางการให้คะแนน คะแนน (เตม็ 10 คะแนน)
1
2 หวั ข้อ
3 การใช้เครอ่ื งมือ
4 ความสมบรู ณ์
5 ความสวยงาม
6 การกำหนดสีให้ Shape
การเปลย่ี นชอื่ Layer
การบนั ทกึ ชื่อไฟลถ์ ูกต้อง

คะแนนเฉลีย่



ใบงานที่ 4.2

คำสง่ั ให้ผู้เรยี นสร้างภาพ ความกวา้ ง 1024Pixel สงู 76BFixel ความละเอียด 72 Pixel per inch
โดยใช้เครอ่ื งมือ Shape สรา้ งรปู ภาพโดยกำหนดหัวขอ้ ให้เป็น “ภาพบอกเรือ่ งราว” แล้วบันทกึ ไฟล์
ชือ่ “ใบงานที่ 9.psd” และ “ใบงานท่ี 9.jpg” จากน้นั ใหน้ ำภาพทไี่ ดจ้ ากการบนั ทึก ไปใส่ลงใน
โปรแกรม Microsoft Word แล้วบรรยายรูปทว่ี าดดว้ ยข้อความประมาณ 5-7 บรรทดั กำหนดแบบ
อกั ษรเป็น “Cordia New” ขนาด 16 Point

ลำดบั ที่ ตารางการให้คะแนน คะแนน (เต็ม 10 คะแนน)
1
2 หัวข้อ
3 กำหนดขนาดภาพตามใบงาน
4 การใชเ้ ครื่องมือ
5 ความสวยงาม
6 การกำหนดสีใหร้ ูปภาพ
การบันทกึ ช่ือไฟล์ถูกตอ้ ง
การบรรยายรปู ภาพ

คะแนนเฉลย่ี



หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 ชนั้ รูปภาพ (Layer)

แนวคิด
รูปภาพกราฟิกทเ่ี กดิ ขึน้ จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต้องมชี ั้นรปู ภาพอยา่ งน้อยหน่ึงชนั้ รูปภาพ

แตล่ ะรูปอาจจะ มีจำนวนชัน้ ท่ีไม่เท่ากัน ขน้ึ อยู่กับความจำเปน็ ของช้นั รปู ภาพในแตล่ ะภาพ ดงั นัน้ จงึ
จำเป็นตอ้ งเรยี นรูเ้ กี่ยวกับ การจัดการชนั้ ของรปู ภาพเพ่ือนำไปประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสมกบั งานกราฟิก
ตามที่ต้องการ

สาระการเรียนรู้
1.ความหมายและลกั ษณะการทำงานแบบเลเยอร์
2. ส่วนประกอบของชน้ั รปู ภาพ
3. การจดั การชนั้ รูปภาพ
4. ลกั ษณะของชน้ั รูปภาพในรูปแบบตา่ งๆ
5. การกำหนดแบบของชนั้ รูปภาพ
6. การใช้คำส่งั Blending Modes

ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั
1. อธิบายความหมายและลกั ษณะการทำงานแบบเลเยอร์ได้
2. บอกส่วนประกอบของชั้นรูปภาพได้
3. จดั การชน้ั รูปภาพได้
4. อธิบายลกั ษณะของชน้ั รปู ภาพในรูปแบบต่างๆ ได้
5. กำหนดแบบของชัน้ รปู ภาพได้
6. ใช้คำส่งั Blending Modes ได้



แบบประเมินผลก่อนเรียนหน่วยท่ี 5

คำสงั่ จงเลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้องเพียงข้อเดยี ว
1. ขอ้ ใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้องในเร่อื งของชั้นรูปภาพ

ก. รูปภาพกราฟิกต้องมีชั้นรูปภาพอย่างน้อยหนึง่ ชน้ั
ข. รปู ภาพแตล่ ะรูปอาจจะมีจำนวนชั้นที่ไม่เท่ากนั
ค. Layer (เลเยอร์) คอื ช้นั รปู ภาพ ซ่งึ เปรียบเสมือนกับกระดาษลอกลาย
ง.ข้อ ก. และ ข. ถูก
2. ขอ้ ใดต่อไปน้ีกลา่ วขัดแย้งในเรอื่ งของช้ันรูปภาพ
ก. ชน้ั รปู ภาพท่สี มบรู ณ์น้นั ต้องมมี ากกวา่ 1 ชัน้ ขึ้นไป
ข. การทำงานแบบเลเยอร์เหมอื นการวางแผน่ ใสซอ้ นทบั กันเป็นลำดบั ข้นั ข้นึ มาเร่อื ยๆ
ค. บริเวณของเลเยอรท์ ่ีไม่มรี ูปจะเห็นทะลุถงึ เลเยอร์ท่ีอยู่ข้างลา่ ง
ง. การใช้ชัน้ ของภาพน้นั จะขึ้นอย่กู ับงานในแต่ละงาน
3. ขอ้ ใดหมายถงึ Windows Layers
ก. กระดาษแผ่นใส
ข. หน้าต่างชั้นรปู ภาพ
ค. ชนั้ ท่ชี ื่อวา่ Background
ง. การสรา้ งชน้ั รปู ภาพใหม่
4. “รูปภาพท่วั ไปจะมีชั้นที่ชือ่ วา่ Background เปน็ ชน้ั ล่างสดุ " หมายถึงข้อใด
ก. ภาพทว่ั ไปจะมีช้นั ทช่ี ือ่ ว่า Background เป็นชนั้ บนสุด
ข. รปู ภาพทว่ั ไปจะมีชน้ั ที่ช่ือว่า Background เป็นชัน้ กลาง
ค. รูปภาพท่ัวไปจะไม่มชี ้นั ท่ีช่ือว่า Background
ง. รูปภาพทัว่ ไปจะมชี ้นั ทีช่ ือ่ ว่า Background เปน็ ชั้นลา่ งสุดและไมส่ ามารถเคล่ือนไหวได้
5. “เมอ่ื มองชั้นรูปภาพท้ังหมดพรอ้ มกนั จึงจะไดร้ ูปภาพทสี่ มบูรณ์” สอดคล้องกบั ข้อใด
ก. ภาพที่สมบรู ณส์ ามารถมองช้นั ใดช้ันหน่งึ ก็ได้
ข. รูปภาพทกุ ช้นั แสดงออกมาพรอ้ มกันอย่แู ลว้ ไมส่ ามารถปิดชัน้ ใดได้
ค. รปู ภาพการมองชั้นรวมทกุ ช้นั ทีต่ ้องการใหแ้ สดงคือรูปท่ีสมบูรณ์
ง. การมองเพยี งบางชั้นกส็ ามารถเปน็ ภาพที่สมบูรณไ์ ด้
6. ข้อใดคือคำสัง่ ในการจดั การช้นั รูปภาพ
ก. การเพ่ิมชั้นรปู ภาพใหม่



ข. การลบชนั้ รูปภาพ
ค. การรวมชน้ั รูปภาพ
ง. ถูกทกุ ข้อ
7. ขอ้ ใดหมายถึงค่า Opacity
ก. ขนาดภาพ
ข. ความโปรง่ ใส
ค. เสน้ ขอบภาพ
ง. สขี องภาพ
8. การเพิม่ ชน้ั รูปภาพใหมส่ ามารถทำได้โดย Shift + Ctrl + N
ก. ไมเ่ ห็นดว้ ย เพราะฟังก์ชันดงั กล่าวเปน็ การลบชั้นรปู ภาพ
ข. ไมเ่ หน็ ด้วย เพราะฟังก์ชนั ดังกล่าวเปน็ การรวมชัน้ รูปภาพ
ค. เห็นดว้ ย เพราะฟังกช์ ันดงั กล่าวเพ่มิ ชน้ั รปู ภาพใหมไ่ ด้
ง. ไมเ่ หน็ ดว้ ย เพราะฟังกช์ นั ดังกลา่ วเปน็ การแปลงชนั้ รปู ภาพเปน็ สีทบึ
9. เม่ือใชเ้ คร่ืองมือ Move เราสามารถสังเกตว่าวตั ถุเคลอ่ื นย้ายจากชั้นไดจ้ ากข้อใด
ก. ไม่สามารถมีจุดสังเกตได้ต้องอาศยั ความจำเท่าน้ัน .
ข. ที่หนา้ ตา่ ง History
ค. ทหี่ น้าตา่ ง Layer Thumbnail
ง. ขอ้ ข. และ ค. ถกู ตอ้ ง
10. “การใช้คำสัง่ Blending Modes ใชไ้ ด้กับเลเยอร์ท่ไี ม่ถกู ลอ็ กเทา่ น้ัน” คอื ขอ้ ใด
ก. คำส่ัง Blending Modes ใช้ไดก้ บั เลเยอร์ทไ่ี มถ่ กู ล็อกเท่านน้ั
ข. คำสง่ั Blending Modes ใชไ้ ด้กับทุกเลเยอร์
ค. คำส่ัง Blending Modes ใชไ้ ดก้ ับทุกเลเยอรเ์ มือ่ มกี ารเปลี่ยนชือ่ เป็น Background
ง. คำสัง่ Blending Modes ใชไ้ ดก้ บั ทุกเลเยอร์ท่ีถกู ลือกเท่าน้ัน



ความหมายและลกั ษณะการทำงานแบบเลเยอร์

Layer (เลเยอร)์ คือ ช้นั รูปภาพ ซงึ่ เปรยี บเสมือนกับแผน่ ใส โดยลักษณะการทำงานแบบเล
เยอร์ เป็นเหมือนการวางแผน่ ใส ซ้อนทับกนั เปน็ ลำดับขัน้ ข้ึนมาเรือ่ ยๆ โดยแต่ละแผ่นใส
เปรียบเสมือน เปน็ แตล่ ะเลเยอร์ บริเวณของเลเยอร์ที่ไม่มรี ูปจะเห็นทะลุถงึ เลเยอรท์ อี่ ยู่ข้างล่าง
กระบวนการเช่นน้ี จะทำใหเ้ กิดเปน็ รปู ภาพสมบูรณ์ และทำให้เราสามารถจัดวางงานไดง้ ่าย

รปู ภาพแสดงรูปภาพท่ีประกอบไปด้วยเลเยอรห์ ลายช้นั

การใช้ชั้นรูปภาพในการสร้างรูปเป็นสิ่งสำคัญของ
การสร้างงานกราฟิกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนประกอบ ของ
หน้าต่างชั้นรูปภาพ (Windows Layers) นั้นมี คำสั่งเป็น
จำนวนมาก ในการใช้งานจริงอาจจะไม่จําเป็น ต้องใช้คำสั่ง
ของชัน้ รูปภาพครบถ้วน ซึ่งอาจกลา่ วได้ว่า การใช้ชั้นของภาพ
น้ันจะขึ้นอย่กู บั งานในแต่ละงาน

รูปภาพแสดงการเรยี กหน้าตา่ ง Layer

การกำหนดหน้าต่าง Layers ให้แสดงหรือซ่อน สามารถทำได้โดยใชเ้ มนคู ำสั่ง Window แลว้
เลอื ก Layer หรอื กด F7 ท่ีแป้นพิมพ์ หากมีเคร่ืองหมายถูกหน้าข้อความ Layers หมายถึงหน้าตา่ งได้
แสดงอยู่ หากไม่มเี ครื่องหมายถกู หน้าข้อความ หมายถึงซ่อนหนา้ ตา่ ง



รปู ภาพประกอบการอธิบายชั้นรปู ภาพ

จากรูปภาพ มชี ัน้ รูปภาพ จำนวน 6 ชัน้ โดยรปู ภาพทว่ั ไปจะมีชนั้ ท่ีชื่อว่า Background เป็น
ชน้ั ลา่ งสุดและชัน้ ของ Background จะมรี ูปแมก่ ุญแจ การทชี่ ั้นรูปภาพนมี้ รี ูปแม่กญุ แจน้ันหมายถงึ
ชน้ั รปู ภาพน้ีไม่สามารถเคลื่อนไหว (Move) ไดเ้ นือ่ งจากถูกล็อกไว้ไม่ใหแ้ ก้ไขไดม้ ีการเรยี งลำดับของ
ช้นั ได้ถูกต้อง ซ่ึงชัน้ ที่อยลู่ ่างจะถกู ชน้ั บนทับ เมอ่ื มองชั้นรูปภาพทง้ั หมดพร้อมกันจึงจะไดร้ ูปภาพ ที่
สมบรู ณ์

ในการกำหนดค่าให้กับชน้ั รปู ภาพในแต่ละชน้ั อาจจะเปน็ รปู ภาพท่นี ำเข้ามาจากภาพอน่ื หรอื
ใช้เคร่ืองมือในโปรแกรมวาดขึ้นมา (เช่น Shape, Type เป็นต้น) ซงึ่ อาจจะสร้างช้นั รปู ภาพใหม่แลว้
ใช้พกู่ ัน (Brush) หรอื ดนิ สอ (Pencil) วาดหรือระบายได้



สว่ นประกอบของชั้นรูปภาพ

รปู ภาพแสดงส่วนประกอบของหนา้ ตา่ ง Layers

ชื่อเรยี ก ความหมาย
Mode รูปแบบของช้นั รปู ภาพ
Locking Control ตวั ควบคุมการลอ็ กชน้ั รูปภาพ
Visibility Toogle การมอง/ไมม่ องช้ันรปู ภาพ
Thumbnail รปู ภาพเล็กของช้ันรปู ภาพ
Background Layer ช้ันรปู ภาพท่ีเป็นพ้นื หลัง
Link Layer เช่ือมโยงชัน้ รูปภาพ
Add Layer Style เพิม่ รปู แบบของช้ันรูปภาพ
Add Layer Mask เพิ่มชนั้ หนา้ กากรูปภาพ
Create Adjustment สรา้ งการปรบั แตง่ ชั้นรปู ภาพ
New Group สร้างกลมุ่ ชั้นรปู ภาพใหม่
New สรา้ งชนั้ รูปภาพใหม่
Delete ลบช้นั รูปภาพ
Lock ล็อกชน้ั รปู ภาพ



Active ช้ันรปู ภาพทก่ี ำลงั ทำงาน
Group Folder กลมุ่ ของชนั้ รูปภาพ
Name ช่อื ช้นั รปู ภาพ
Menu เมนขู องชน้ั รปู ภาพ
Opacity กำหนดความใสใหก้ ับชัน้ รูปภาพ

การจดั การชั้นรูปภาพ

การจดั การช้ันรปู ภาพสามารถใช้คำสงั่ เมนูในการจดั การได้ ซึง่ คำสัง่ ที่ใช้ เช่น การเพม่ิ ชนั้
รูปภาพใหม่, การลบช้ันรูปภาพ หรอื การรวมชั้นรปู ภาพ เป็นต้น ซง่ึ การสรา้ งภาพกราฟิกนน้ั ต้อง ดู
ความเหมาะสมของการทำงานด้วย คำสัง่ จดั การชัน้ รปู ภาพด้วยเมนูที่ใชบ้ ่อยมีดงั นี้

1. การเพม่ิ ชั้นรูปภาพใหม่ สามารถทำดังนี้
(1) คลิกที่เมนู Layer
(2) เลือก New
(3) เลอื ก Layer... หรือกด Shift + Ctrl + N ที่แป้นพิมพ์
(4) ปรากฎหน้าตา่ ง New Layer ในช่อง Name ให้ใส่ช่อื เลเยอร์ทต่ี ้องการ
(5) หากต้องการสรา้ ง Clipping Mask ให้คลิกเคร่ืองหมายถูก
(6) เลือกสีของเลเยอร์ เพ่ือง่ายตอ่ การจดจำ โดยปกติสโี ปรแกรมจะกำหนดให้เป็นสขี า
(7) เลือกแบบของชน้ั ของภาพ โดยปกติโปรแกรมจะกำหนดใหเ้ ปน็ Normal
(8) กำหนดคา่ Opacity ความทบึ แสงโดยปกตโิ ปรแกรมจะกำหนดใหเ้ ปน็ 100%
(9) เลอื กตวั เลอื กใดตัวเลอื กหนง่ึ ต่อไปนี้
a กด OK เพือ่ ยนื ยันการสร้างช้นั รูปภาพใหม่ตามคา่ ที่กำหนด
b. กด Cancel เพ่ือยกเลกิ การสรา้ งชน้ั รูปภาพใหม่

รปู ที่ 1 แสดงการสรา้ ง Layer ใหม่