The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 8 การสืบพันธุ์ของพืชดอก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siri_tongcharoen, 2022-06-12 03:31:26

บทที่ 8 การสืบพันธุ์ของพืชดอก

บทที่ 8 การสืบพันธุ์ของพืชดอก

บทที่ 8 การสืบพันธุ์ของ
พชื ดอก

โครงสรา้ งของดอกและ
ชนิดของผล

ดอกที่มีสว่ นประกอบท้ัง 4 สว่ น คือ กลีบเล้ียง กลีบดอก
เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี เรยี กว่า ดอกสมบูรณ์ ถ้า
ขาดสว่ นประกอบใดไปจะเรยี กว่า ดอกไมส่ มบูรณ์







ดอกท่ีมีท้ังเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมยี อยูภ่ ายในดอก
เดียวกัน เรยี กว่า ดอกสมบูรณ์เพศ ถ้าดอกชนดิ ใดมเี ฉพาะ
เกสรเพศผู้หรอื เกสรเพศเมียอยา่ งใดอย่างหน่งึ เรยี กว่า
ดอกไมส่ มบูรณ์เพศ

ดอกเด่ียวคือ ดอกท่ีมดี อกเพยี ง 1 ดอกบนก้านดอก
และดอกชอ่ คือ ดอกท่ีมดี อกชอ่ คือ ดอกย่อย
มากกว่า 1 ดอกติดอยู่บนก้านชอ่ ดอก
ตัวอย่างของ
ดอกเดย่ี ว

กุหลาบ ตาลึง บวั หลวง
สายหยุด

ตัวอย่างของ
ดอกชอ่

ดอกเข็ม หญา้ หนวดแมว กล้วยไม้
สกุลหวาย

บางชนิดมเี กสรเพศผทู้ ี่เป็นหมนั เกสรเพศผู้ท่ีใชส้ ืบพนั ธุ์
ได้มีเพยี งอับเรณยู าว ๆ เทา่ นน้ั พบได้ในดอกพทุ ธรกั ษา
บางชนิดมกี ลีบเลี้ยงที่คล้ายกลีบดอก สีสันสวยงาม เช่น
ดอนยา่ นอกจากนี้บางชนิดมใี บประดับท่ีมสี ีสนั สวยงาม
คล้ายกับกลีบดอก
เช่น โปย๊ เซยี น

พทุ ธรกั ษา ดอนย่า
โปย๊ เซยี น

ดอกช่อบางชนดิ อาจมีรูปรา่ งลักษณะท่ีมองคล้ายเปน็ ดอก
เด่ียว เชน่ ดอกทานตะวัน





การเกิดผล
ภายหลังการปฏิสนธิ

ออวุลเจรญิ ไปเป็นเมล็ด
รงั ไข่จะเจรญิ ไปเปน็ ผล
ผลบางชนิดสามารถเจรญิ จากฐานรองดอก เช่น
ชมพู่ แอปเปิล สาล่ี ฝร่งั



ผลของพชื บางชนิดอาจเจรญิ เตบิ โตมาจากรงั
ไขโ่ ดยไมม่ ีการปฏิสนธิ หรอื มกี ารปฏิสนธิตามปกติ
แต่ ออวุลไมเ่ จรญิ เติบโตเป็นเมล็ด สว่ นรงั ไข่
สามารถเจรญิ เติบโตเปน็ ผลได้ เชน่ กล้วยหอม
อง่นุ ไม่มเี มล็ด



ชนดิ ของผล ซ่ึงแบง่ เป็น 3 ประเภท คือ ผลเดี่ยว ผล
กล่มุ และผลรวม
1. ผลเดยี่ ว (simple fruit) เป็นผลที่เกิดจากดอก
เดี่ยวหรอื ดอกชอ่ ซ่งึ แต่ละดอกมรี งั ไข่เพียงอันเดียว
เช่น ลิ้นจี่ ลาไย ทุเรยี น ตะขบ

2. ผลกลุ่ม (aggregate fruit) เป็นผลท่ีเกิดจากดอก
หน่ึงดอก ซ่งึ มหี ลายรงั ไข่อยูแ่ ยกกัน หรอื ติดกันก็ได้ อยู่
บนฐานรองดอกเดียวกัน เช่น นอ้ ยหน่า กระดังงา
สตอเบอร่ี มณฑา

3. ผลรวม (multiple fruit)
เปน็ ผลเกิดจากรงั ไข่ของดอกยอ่ ย
แต่ละดอกของชอ่ ดอกหลอม
รวมกันเปน็ ผลใหญ่ เช่น ยอ ขนุน
หม่อน สบั ปะรด มะเด่ือ



รงั ไข่ 1 รงั ไข่ ท่ีอยู่

ในดอกเด่ียว 1 ดอก

หรอื ดอกยอ่ ย 1

ดอกในดอกช่อ เม่ือ

เจรญิ เปน็ ผลผลน้ัน

จะเป็นผลเด่ียว รงั ไข่หลายรงั ไขท่ ี่อยู่

ในดอกเด่ียว 1 ดอก

เม่ือเจรญิ เปน็ ผล ผล

รงั ไขข่ องดอกย่อยแต่ละ น้ันจะเป็นผลกลุ่ม

ดอกที่อยูช่ ิดกันแน่นจะ

เจรญิ รว่ มกันข้นึ มาเปน็ ผล

ย่อยท่ีอยูเ่ บยี ดชดิ กันบน





วัฏจักรชวี ิตแบบสลับ

ของพืชดอก

วัฏจักรชวี ิตแบบสลับ ประกอบด้วย ระยะที่สรา้ งสปอร์
เรยี กว่า สปอโรไฟต์ และระยะที่สรา้ งเซลล์สบื พันธุ์
เรยี กว่า แกมโี ทไฟต์

วัฏจักรชวี ิตและการสืบพันธุ์แบบ
อาศยั เพศของพชื ดอก

วัฏจักรชวี ิตของเฟริ ์น สปอโรไฟต์ เม่ือ
สปอโรไฟต์โตเต็มท่ี สปอรม์ าเทอรเ์ ซลล์ใน
อับสปอรจ์ ะแบง่ เซลล์แบบไมโอซสิ ได้สปอร์ซ่ึง
มีโครโมโซมลดลงคร่ึงหน่ึง เม่ือมีการกระจาย
สปอร์ สปอรจ์ ะหลดุ จากสปอโรไฟต์และ
ถ้าสปอรอ์ ยู่ในสภาพแวดล้อมท่ีมคี วามช้นื

เหมาะสม สปอรจ์ ะงอกแล้วแบง่ เซลล์แบบ
ไมโทซสิ เจริญเป็นแกมโี ทไฟต์ ซ่ึงจะมี
โครงสร้างท่ีสรา้ งเซลล์สบื พันธุต์ ่อไป



เม่อื สปอโรไฟต์โตเต็มที่
สปอรม์ าเทอรเ์ ซลล์ในอับ
สปอรจ์ ะแบง่ เซลล์แบบไม
โอซิสได้สปอรซ์ ่ึงมี
โครโมโซมลดลงครง่ึ หน่ึง
เม่อื มกี ารกระจายสปอร์
สปอรจ์ ะหลดุ จาก สปอโร
ไฟต์และถ้าสปอรอ์ ยูใ่ น
สภาพแวดล้อมที่มีความช้ืน
เหมาะสม สปอรจ์ ะงอกแล้ว
แบง่ เซลล์แบบไมโทซสิ
เจรญิ เปน็ แกมีโทไฟต์ ซ่ึงจะ

พืชมีดอกหรอื ไมม่ ีดอกก็ตาม จะมชี ว่ งชวี ิตเปน็ 2

ระยะสลับกัน คือ สปอโรไฟต์และแกมโี ทไฟต์ ในพืชดอก

น้นั แกมโี ทไฟตซ์ ่ึงทาหนา้ ท่ีสรา้ งเซลล์สืบพันธุ์นน้ั เกิดข้ึนท่ี

ดอก ท้ังเซลล์สบื พันธุ์เพศผู้ (สเปริ ม์ ) และเซลล์สืบพันธุ์

เพศเมยี (เซลล์ไข)่ เม่ือสเปริ ม์ และเซลล์ไขป่ ฏิสนธจิ ะได้

เปน็ ไซโกตซ่งึ มกี ารพฒั นาและเจรญิ เติบโตต่อไปจนเป็น

ผลและเมล็ด เม่อื เมล็ดงอกเปน็ ต้นอ่อนและมกี าร

เจรญิ เติบโตระยะนี้จะเรยี กว่า สปอโรไฟต์

การสบื พนั ธุ์แบบอาศยั

เพศของพชื ดอก

เซลล์สบื พนั ธุ์ของพชื

ดอ1ก.มเซี 2ลลช์สนบื ิดพนั ธุเ์ พศผู้
2. เซลล์สืบพันธุ์เพศเมยี







เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้จะเกิดข้นึ ภายใน
อับเรณู (anther)

การสรา้ ง
ละอองเรณู

ไมโครสปอรม์ าเทอรเ์ ซลล์ (microspore mother

cell) แบง่ เซลล์แบบ ไมโอซีสได้ 4 ไมโครสปอร์

(microspore) แต่ละเซลล์มโี ครโมโซมเท่ากันคือ n

หลังจากน้ันนิวเคลียสของแต่ละเซลล์จะแบง่ เซลล์แบบไม

โทซสิ ได้ 2 นิวเคลียส คือ เจเนอเรทฟี นิวเคลยี ส

(generative nucleus) และ ทิวบ์นิวเคลยี ส (tube

nucleus) เรยี กเซลล์ในระยะน้ีว่า ละอองเรณู (pollen

grain) หรอื แกมโี ทไฟต์เพศผู้ (male gametophyte)





ลักษณะของละอองเรณมู ีความแตกต่างกันท้ังขนาด
รูปรา่ ง ลักษณะ และจานวน เน่ืองจากพืชดอกมี
วิวัฒนาการยาวนานมาก จึงมคี วามหลากหลาย

เซลล์สบื พนั ธุ์

เพศเมเยี กิดข้ึนภายในรงั ไข่ ซ่งึ ภายในรงั ไข่อาจมหี น่ึงออวุล

(ovule) หรอื หลายออวุล ภายในออวุลมหี ลายเซลล์ แต่

มีหน่งึ เซลล์ท่ีใหญ่กว่าเซลล์อ่ืนๆ เรยี กว่า เมกะ

สปอรม์ าเทอรเ์ ซลล์ (megaspore mother cell) มี

จานวนโครโมโซมเปน็ 2n จากน้นั จะแบ่งเซลล์แบบไมโอ

ซสิ ได้ 4 เซลล์ สลายไป 3 เซลล์ เหลือเพยี ง 1 เซลล์

เรยี กว่า เมกะสปอร์ (megaspore) จากน้นั นิวเคลียส

ของเมกะสปอรจ์ ะแบ่งแบบไมโทซีส 3 คร้งั ได้ 8

นวิ เคลียส จัดเรยี งตัวเปน็ 3 กล่มุ









1. กลุ่มทอ่ี ยู่ตรงข้ามกับ
ไมโครไพล์ มี 3 เซลล์ 3
นวิ เคลียส มีเย่อื หุม้ เปน็ 3
เซลล์เรยี กว่า แอนติโพ
แดล (antipodels cell)

2. กล่มุ ทอ่ี ยู่ด้านไมโคร
ไพล์ มี 3 เซลล์ 3
นิวเคลียส นวิ เคลียสอัน
กลางมีขนาดใหญ่
เรยี กว่า เซลล์ไข่ (egg
cell) อีก 2 อันข้างๆ
เรยี กว่า ซินเนอน์จิดส์

3. กล่มุ ทอ่ี ยู่กลางเซลล์ มี 2
นวิ เคลียส แต่มเี ย่อื หมุ้
รวมกันกลายเปน็ 1 เซลล์
เรยี กว่า โพลารน์ ิวคลไี อ
(polar nuclei cell)
ดังน้ัน ภายในออวุลจึง
ประกอบด้วย 7 เซลล์ ที่มี
8 นิวเคลียส เมกะสปอรใ์ น
ระยะนีเ้ รยี กช่อื ใหมว่ ่า ถุง
เอ็มบรโิ อ (embryo sac)
หรอื แกมโี ทไฟต์เพศเมีย






Click to View FlipBook Version