The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ssr., 2022-08-18 04:57:36

หนังสือเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4

หนังสือเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4

บรษิ ทั สรางสรรคสอื่ เพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

บรษิ ทั สรา งสรรคส อ่ื เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ใชส ําหรบั เปนตัวอยา งประกอบการสัง่ ซื้อแบบเรียนเทาน้ัน
หา มสาํ เนา ทาํ ซ้ํา ดดั แปลง เผยแพร
หรือคดั ลอกสว นหนงึ่ สว นใดไปใช

บริษทั สรางสรรคส ื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

บริษทั สรางสรรคส่ือเพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สังคมศึกษา หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน

ศาสนา และวัฒนธรรม

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔

ตามมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ช้วี ัด สาระภมู ศิ าสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรมบริษทั สรา งสรรคสือ่ เพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD

คณะผู้เรียบเรยี ง บรษิ ทั สรางสรรคส อ่ื เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

ดร.เอกกมล วรรณเมธี .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ผศ.สภุ าพรรณ พวงจ่นั เพชร
ศรยี า เนตรน้อย

คณะผู้ตรวจ

รศ.นโรตม์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
ผศ.สุชาดา โกรศุภมติ ร
ปิยฉตั ร ฆงั ฆะ

บรรณาธิการ

รศ.ผอ่ งศรี จ่ันห้าว

บรษิ ัท สร้างสรรคส์ อ่ื เพ่ือการเรยี นรู้ (สสร.) จ�ากดั จดั พิมพ์และจ�าหนา่ ยโดย พิมพ์คร้งั ที่ ๒
SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD.
บรษิ ทั สรา้ งสรรค์สื่อเพอ่ื การเรียนรู้ (สสร.) จา� กดั สงวนลขิ สทิ ธิต์ ามพระราชบัญญัติ
๑๕๑๘/๗ ถนนประชาราษฎร์ ๑ แขวงวงศส์ วา่ ง เขตบางซอื่ กรงุ เทพฯ ๑๐๘๐๐ ISBN 978-616-7768-26-7
โทรศพั ท์ : ๐-๒๕๘๗-๗๙๗๒, ๐-๒๕๘๖-๐๙๔๘, ๐-๒๕๘๗-๙๓๒๒-๒๖ ปีท่พี ิมพ์ ๒๕๖๕
โทรสาร : ๐-๒๐๔๔-๔๔๗๒
E-mail : [email protected]

คา� ชแ้ี จงการใชส้ อื่ การเรยี นรู้

องคป์ ระกอบตา่ งๆในแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้

ภาพประกอบ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ และตัวชว้ี ดั
ภาพประกอบทเี่ ชื่อมโยง
หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่
ก�าหนดให้สอดคล้องในแต่ละหน่วย
การเรียนรู้

บริษทั สรางสรรคสื่อเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด สรปุ

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สาระสา� คัญ เป็นการสรุปเน้ือหาของแต่ละหน่วย
ใจความส�าคัญของ การเรียนรู้ เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนไดท้ บทวน
เน้ือหาที่ท�าให้ผู้เรียน ความรู้ก่อนท�ากิจกรรมและตอบ
เข้าใจง่าย ค�าถาม

แผนผงั สาระการเรียนรู้
เป็นการก�าหนดหัวข้อ
ให้กับผู้เรียน

หน้าน�าเขา้ สบู่ ทเรยี น บรษิ ัท สรางสรรคสื่อเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั
เพือ่ กระตนุ้ ผู้เรยี นให้เกิด
ความสนใจก่อนการเรียน .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ดว้ ยเนอ้ื หาและภาพที่
น่าสนใจ กิจกรรมบูรณาการการเรยี นรู้
เป็นกิจกรรมบูรณาการการเรียนรู้
ภาพประกอบเนื้อหา เน้นทักษะและกระบวนการเพ่ือให้
เพื่อเพมิ่ ความน่าสนใจ ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และน�าไป
และกระตนุ้ ใหเ้ กิด ใช้ในชีวิตประจ�าวันได้
การเรียนรู้
คา� ถามพฒั นาผู้เรียน
เป็นค�าถามพัฒนาผู้เรียน เพ่ือวัด
และประเมินความเข้าใจของผู้เรียน
ให้สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้

คำ� นำ�

หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๔ จัดท�าข้ึน
ตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชีว้ ัด สาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) กลุ่ม
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูและนักเรียนได้ใช้เป็น
สื่อการเรียนการสอน พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนให้มีคุณภาพ และเกิด
ประสิทธิภาพอยา่ งหลากหลาย

บรษิ ทั สรางสรรคส ื่อเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

เน้ือหาสาระของหนังสือเรียนเลม่ น้ี แบง่ เปน็ ๕ สาระ.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD ได้แก่
๑. สาระศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
๒. สาระหนา้ ทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการด�าเนนิ ชีวติ ในสังคม
๓. สาระเศรษฐศาสตร์
๔. สาระประวตั ศิ าสตร์
๕. สาระภมู ศิ าสตร์
โดยเนอื้ หาสาระเหล่านม้ี เี นื้อหามงุ่ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นรู้ และเขา้ ใจในการอย่รู ว่ มกนั
ในสังคมท่ามกลางการเปล่ียนแปลงอย่างเท่าทันและรอบด้าน มีความศรัทธาต่อศาสนา
และวัฒนธรรม รักและภูมิใจในความเป็นชาติไทย และความเป็นสากลของประเทศ
เพื่อนบ้าน ปลูกฝงั และบม่ เพาะคุณธรรม จริยธรรมทดี่ ใี ห้กบั นกั เรียน สามารถดา� รงชวี ติ
ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข และเปน็ พลเมืองดขี องประเทศอย่างมีคุณภาพ
บรษิ ัท สร้างสรรคส์ อื่ เพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จ�ากัดบริษทั สรา งสรรคส อ่ื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จําหกดั วงั เป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเรียน

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เล่มนี้จะช่วยให้ครูและนักเรียนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงตามเจตนารมณ์
ที่มุ่งหวัง และได้รับประโยชน์ที่พอจะเป็นพื้นฐานหรือแนวทางการต่อยอดองค์ความรู้
เพื่อสร้างเป็นความคิดรวบยอดใหแ้ กผ่ ู้เรยี นไดอ้ ย่างครบถ้วนและสมบูรณ์

บรษิ ัท สรา้ งสรรคส์ อ่ื เพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จ�ากัด

สำรบัญ หน้ำ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ พระพุทธ ๑
๑. ความส�าคัญของพระพทุ ธศาสนา
๒. พทุ ธประวตั ิ ๒
๓. ชาดก ๕
๔. ประวัติศาสดาของศาสนาตา่ งๆ ๑๑
๑๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ พระธรรม ๑๘

๑. พระรัตนตรัย บรษิ ัท สรางสรรคส่อื เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั ๑๙
๒๐
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ๓๐
๓๒
๒. หลกั ธรรมสา� คัญทางพระพุทธศาสนา

๓. พุทธศาสนสุภาษติ

๔. การบรหิ ารจติ และการเจริญปญั ญา

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ พระสงฆ์ ๔๐

๑. พุทธสาวกและชาวพุทธตวั อย่าง ๔๒
๒. หน้าทช่ี าวพทุ ธ ๕๐
๓. ศาสนพิธี ๕๔

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ การเมอื งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ๖๒

๑. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ๖๓
๖๘
๒. บทบาทหน้าทีข่ องพลเมอื งในการเลอื กตั้ง ๗๑

๓. สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ บริษัท สรางสรรคส ื่อเพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด ๗๔

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ๗๕
๗๙
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตย ๘๓
๘๕
๑. พลเมืองท่ดี ขี องชุมชนตามวิถปี ระชาธิปไตย
๒. การปฏบิ ัตติ นเป็นผูน้ �าและผตู้ าม
๓. สทิ ธขิ นั้ พื้นฐานของเด็ก
๔. การอยูร่ ว่ มกนั อย่างสันติสุข

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๖ วฒั นธรรมไทยร่วมใจกันอนุรกั ษ์ ๘๘

๑. ความหมาย ความส�าคญั ลักษณะ และประเภทของวฒั นธรรม ๘๙
๒. วฒั นธรรมไทย ๔ ภาค ๙๓

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ การบรโิ ภคสนิ ค้าและบรกิ าร หน้ำ

๑. การเลือกซ้อื สนิ คา้ และบรกิ าร ๑๐๒
๒. เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑๐๓
๑๑๐

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๘ เศรษฐกจิ และการเงนิ ๑๑๕

๑. เศรษฐกิจของคนในชมุ ชน บริษัท สรา งสรรคส่ือเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จํากดั ๑๑๖
๑๒๐
๒. หน้าท่ีของเงิน .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๙ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ๑๒๕

๑. การนบั ช่วงเวลาในอดตี ๑๒๖
๒. ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ๑๓๑
๓. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ๑๓๔
๔. การศึกษาประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถ่ิน ๑๓๖

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ การต้งั ถิน่ ฐานและพัฒนาการของมนษุ ย์ ๑๔๐
ในดนิ แดนประเทศไทย ๑๔๒
๑๔๖
๑. การต้ังถ่ินฐานและพัฒนาการของมนษุ ย์
สมยั ก่อนประวัติศาสตรใ์ นดนิ แดนไทย

๒. การตัง้ ถนิ่ ฐานและพัฒนาการของมนษุ ย์บริษทั สรา งสรรคส อ่ื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สมยั ประวตั ิศาสตรใ์ นดินแดนไทย

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ เลา่ เรอื่ งสมัยสโุ ขทัย ๑๕๔

๑. พัฒนาการของสมัยสโุ ขทัย ๑๕๕
๒. บคุ คลส�าคัญสมัยสโุ ขทัย ๑๖๐
๓. ภูมปิ ัญญาสมัยสุโขทัย ๑๖๓

หนำ้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ จังหวดั ของเรา ๑๖๘

๑. การใช้แผนที่และรปู ถ่ายเพื่อการเรยี นรู้ในจงั หวัด ๑๗๐
๒. ลักษณะทางกายภาพ ๑๗๓
๓. ลกั ษณะทางกายภาพทสี่ ง่ ผลตอ่ แหลง่ ทรพั ยากรและสถานท่ี ๑๘๑

ส�าคัญของจงั หวัด ๑๘๗
๔. ตัวอยา่ งการใชแ้ ผนทแ่ี ละรปู ถา่ ยเพื่อการเรยี นรู้
๒๐๖
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑๓ บรษิ ทั สรา งสรรคสอื่ เพ่อื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
๒๐๗
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ๒๑๑
๒๑๓
ส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกับ ๒๑๗
การด�าเนนิ ชวี ิตของคนในจังหวัด

๑. การดา� เนนิ ชวี ิตของคนทอี่ าศัยอยบู่ รเิ วณภเู ขาและทิวเขา
๒. การด�าเนนิ ชวี ติ ของคนทีอ่ าศยั อยบู่ ริเวณท่ีสูง
๓. การดา� เนนิ ชวี ิตของคนท่ีอาศยั อย่บู รเิ วณทร่ี าบลมุ่
๔. การด�าเนินชีวิตของคนท่อี าศัยอยูบ่ ริเวณชายฝั่งทะเล

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑๔ การเปล่ียนแปลงสิ่งแวดล้อมในจงั หวัด ๒๒๑
และแนวทางการจดั การ
๒๒๒
๑. สาเหตขุ องการเปลีย่ นแปลงส่ิงแวดลอ้ ม ๒๒๔
๒. การเปลี่ยนแปลงสง่ิ แวดลอ้ มตามลกั ษณะทางกายภาพ
๒๒๙
และผลกระทบต่อคนในจังหวัด
๓. แนวทางการจัดการส่ิงแวดลอ้ มบรษิ ทั สรางสรรคส ่อื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

บรรณานุกรม ๒๓๗

๑หน่วยการเรียนรทู้ ี่ พระพทุ ธ
• มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ดั
๑. อธิบายความส�าคัญของพระพุทธศาสนา
ห รื อ ศ า ส น า ที่ ต น นั บ ถื อ ใ น ฐ า น ะ
เป็นศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน
(มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๑)บริษทั สรางสรรคสื่อเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒. สรุปพุทธประวัติตั้งแต่บรรลุธรรมจนถึง
ประกาศธรรมหรือประวัติศาสดาท ี่
ตนนับถือตามท่ีก�าหนด
(มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๒)
๓. เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ติ ามแบบอย่างการ
ด�าเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก
ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง
ตามท่กี �าหนด (มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๓)
๔. อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอื่นๆ
โดยสังเขป (มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๘)

สาระสา� คญั

พระพุทธศาสนาเกิดข้ึนที่ดินแดนชมพูทวีป แผนผังสาระการเรียนรู้บรษิ ทั สรา งสรรคส่ือเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ในอดีต พระพทุ ธเจ้าไดป้ ระกาศหลักธรรมไปท้ังทวปี
จนได้พุทธสาวกจา� นวนมาก ๑ ความสา� คญั ของพระพทุ ธศาสนา
พระพุทธศาสนามีความส�าคัญต่อชาวไทยมา
นานจนถงึ ปจั จบุ นั พทุ ธศาสนกิ ชนชาวไทยไดย้ ดึ มน่ั ใน ๒ พทุ ธประวัติ
หลักธรรม และน�าหลักธรรมมาเป็นเคร่ืองน�าทางท่ี
ถกู ตอ้ งในการดา� เนนิ ชวี ติ และอยรู่ ว่ มกนั กบั ผทู้ นี่ บั ถอื ๓
ชาดก
ศาสนาอนื่ ในประเทศไทยอยา่ งสงบสขุ รม่ เยน็ ดว้ ยกนั
มายาวนาน
ชาดกเปน็ เรอื่ งราวในอดตี ชาตขิ องพระพทุ ธเจา้ ๔ ประวตั ศิ าสดาของศาสนาตา่ ง ๆ

ท่ีทรงบ�าเพ็ญบารมี เพ่ือจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ในกาลต่อมา การศึกษาประวัติศาสดาของศาสนา
ครสิ ตแ์ ละศาสนาอสิ ลาม เพ่อื ปฏิบตั ติ นอยา่ งถูกตอ้ ง
ในการอย่รู ่วมกับผ้ทู ่ีนบั ถอื ศาสนาอนื่

๑ ความสา� คญั ของพระพทุ ธศาสนา
พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่คนไทยนับถือมาตั้งแต่อดีต

จนถึงปัจจุบัน พระพุทธศาสนาจึงมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทย ถือเป็น
สถาบันหลักของสังคมไทยสถาบันหน่ึง ทั้งนี้พระพุทธศาสนาจึงมีความส�าคัญ
ในฐานะเป็นศูนยร์ วมจติ ใจของพุทธศาสนกิ ชน ดังน้ี

๑.๑ บรษิ ทั สรา งสรรคส ื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เปน็ เครอ่ื งยดึ เหน่ยี วจติ ใจ

คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนามานาน โดยยึดหลักธรรม
ค�าสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจให้ปฏิบัติดี ประพฤติชอบใน
การดา� เนนิ ชวี ติ เพราะทกุ หมบู่ า้ นจะมพี ระสงฆป์ ระจา� อยวู่ ดั พระสงฆเ์ ปน็ ผเู้ ผยแผ่
หลักธรรมค�าสอน และช่วยช้ีแนะแนวทางการด�าเนินชีวิตของชาวพุทธ ให้ยึด
หลกั ธรรมคา� สอนเปน็ หลกั ปฏบิ ตั เิ พอ่ื แกไ้ ขปญั หาความทกุ ขต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ดงั นนั้
พระพุทธศาสนาจึงเป็นเครื่องยึดเหน่ียวจิตใจของชาวพุทธ

บริษัท สรางสรรคส อื่ เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

พระสงฆเ์ ป็นผนู้ า� คา� สอนของพระพุทธเจา้ มาเผยแผแ่ ละช้แี นะแกช่ าวพทุ ธ
2 ป.๔สังคมศึกษา

ศาสนา และวัฒนธรรม

๑.๒ วดั เปน็ ศนู ย์รวมของการทา� ความดีและพัฒนาจิตใจ

คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งมีวัดเป็นศาสนสถาน เป็น

ศูนย์รวมการท�าความดี และพัฒนาจิตใจ คือ เป็นสถานท่ีส�าหรับปฏิบัติธรรม

ฝกึ สมาธ ิ สวดมนตไ์ หวพ้ ระของชาวพุทธ การฟังพระธรรมเทศนา การศึกษา

หลักธรรม เช่น การเปิด

โรงเรียนสอนพระพุทธ-

ศ า ส น า วั น อ า ทิ ต ย ์ ใ ห ้ บรษิ ทั สรา งสรรคส่ือเพ่อื การเรียนรู (สสร.) จํากัด
เยาวชนไดศ้ กึ ษาเลา่ เรยี น
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

วดั เปน็ สถานทป่ี ฏบิ ตั ธิ รรมและฝกึ สมาธิ

๑.๓ วัดเปน็ ท่ีประกอบศาสนพธิ ี

งานบุญประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับศาสนพิธี เพ่ือให้เกิดกุศลบุญและ
อนุรักษ์สืบสานไว้ ชาวพุทธมักไปร่วมประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาที่วัด เช่น

๑) การทอดกฐิน หมายถึง การถวายผ้ากฐิน คือ ผ้าไตรจีวรแก่ บรษิ ทั สรางสรรคสอื่ เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

คณะพระสงฆ์ท่ีจ�าพรรษาครบก�าหนด ๓ เดือน ประเพณีการทอดกฐินจะเร่ิม
ตั้งแต่วันแรม ๑ ค�่า เดือน ๑๑ ถึงวันข้ึน ๑๕ ค�่า เดือน ๑๒ รวมเป็นเวลา ๑ เดือน

๒) การทอดผ้าป่า การทอดผ้าป่าจะคล้ายกับการทอดกฐิน แต่ไม่ม ี
การก�าหนดระยะเวลา ในแต่ละปีทางวัดจัดให้มีการทอดผ้าป่ากี่คร้ังก็ได ้
และไม่มีการเจาะจงพระภิกษุเป็นผู้รับ ปัจจุบันการทอดผ้าป่ามีจุดประสงค์
เพื่อรว่ มกนั หาเงนิ สรา้ งถาวรวตั ถทุ างศาสนา เชน่ โบสถ ์ วหิ าร ศาลาการเปรยี ญ
และอน่ื ๆ

3ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๓) การเวยี นเทยี น การเวยี นเทยี นจะทา� พธิ ใี นวนั สา� คญั ทางพระพทุ ธศาสนา
เชน่ วนั มาฆบชู า วนั วสิ าขบชู า วนั อาสาฬหบชู า และวนั อฐั มบี ชู า โดยชาวพทุ ธที่
เวยี นเทยี นจะถอื เครอ่ื งสกั การบชู าเดนิ วนขวามอื รอบพระอโุ บสถ พระวหิ าร หรือ
พระพุทธรูปส�าคัญ จ�านวน ๓ รอบ พร้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย

บรษิ ัท สรา งสรรคส อ่ื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

การเวยี นเทยี นในวนั สา� คญั ทางพระพทุ ธศาสนา

๑.๔ วดั เปน็ แหลง่ ทา� กจิ กรรมของสงั คมไทย

วัดเป็นแหล่งเผยแผ่ค�าสั่งสอน บเริษปัท สร็นา งสรศรคส อืู่นเพ่อื กยารเรีย์รนรูว(สสมร.) จจาํ กัดิตใจของชาวพุทธ รวมถึง
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เปน็ ศนู ยก์ ลางการศกึ ษาธรรม การฝกึ อบรมใหค้ วามรโู้ ดยตรงแกผ่ เู้ ขา้ ไปบวชเรยี น
อยู่ในวัด และแก่ทุกคนในชุมชนท่ีอยู่แวดล้อมวัด เป็นศูนย์กลางการท�ากิจกรรม
ของชุมชน ดังนั้น วัดจึงมีความผูกพันแนบแน่นกับวิถีชีวิตของชุมชน

นอกจากน้ีวัดยังเป็นสถานท่ีชุมนุมของคนไทยในเทศกาลต่าง ๆ เช่น
ประเพณีบวชนาค ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีการท�าบุญ เป็นสถานท่ีประกอบ
พธิ กี รรมทางศาสนาเกย่ี วกบั การตาย เชน่ การตง้ั ศพสวดพระอภธิ รรม การเผาศพ
ใช้เป็นสถานท่ีประชุมของชาวบ้านเพ่ือท�ากิจกรรมสาธารณประโยชน์ และจัด
งานเทศกาลรื่นเริงประจ�าปี

4 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

2 พุทธประวตั ิ
พทุ ธประวตั ิ คอื ประวตั ขิ องพระพทุ ธเจา้
การศกึ ษาพทุ ธประวตั จิ ะทา� ใหเ้ กดิ ความศรทั ธา
ในพระพทุ ธเจา้ และไดย้ ดึ หลกั ธรรมมาปรบั ใช้
ในการดา� เนนิ ชวี ติ

๒.๑ ประสตู แิ ละเหตกุ ารณ์หลังประสตู ิบรษิ ัท สรางสรรคส อ่ื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

พระพุทธเจ้ามีพระนามเดิมว่า สิทธัตถะ เป็นพระราชโอรสของพระเจ้า

สุทโธทนะกับพระนางสิริมหามายา ประสูติเม่ือวันขึ้น ๑๕ ค่�า เดือน ๖

ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี ณ ลุมพินีวัน ใต้ต้นสาละ เม่ือพระองค์ประสูติได ้

๗ วัน พระนางสิริมหามายาผู้เป็นพระมารดาก็สวรรคตจึงอยู่ในความดูแลของ

พระนางมหาปชาบดีโคตมี ผู้เป็นพระน้านาง พระราชบิดาทรงสร้างปราสาท

สามฤดูให้เจ้าชายสิทธัตถะเป็นที่ประทับ เม่ือพระชนมายุได้ ๑๖ พรรษา

เจ้าชายสิทธัตถะได้อภิเษกสมรสกับพระนางยโสธรา (พิมพา) จนเมื่อม ี

พระชนมายุ ๒๙ พรรษา พระนางพิมพาได้ประสูติพระโอรสพระนามว่า

“ราหุล” ซง่ึ หมายถึง “บว่ ง”

วันหน่ึงเจ้าชายสิทธัตถะทรงเบื่อหน่ายในปราสาทสามฤดู จึงเสด็จออก บริษัท สรางสรรคส อ่ื เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ประพาสอุทยาน และพระองค์ทรงได้

พบกบั เทวทตู ทงั้ ๔ คอื คนแก่ คนเจ็บ

คนตาย และนกั บวช พระองคท์ รงคดิ วา่

สงิ่ เหลา่ นคี้ อื ธรรมชาตขิ องโลก

ครั้นถึงเวลากลางคืน เจ้าชาย

สิทธัตถะจึงทรงม้ากัณฐกะพร้อม

คนรบั ใชช้ อ่ื นายฉันนะ เสด็จออกผนวช ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนงั พระพุทธเจ้าทรง
บ�าเพญ็ ทกุ รกริ ยิ า วัดจามเทวี จังหวัดล�าพนู
เพ่อื แสวงหาทางพน้ ทกุ ข์

5ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๒.๒ ตรสั รู้

เมอื่ เจา้ ชายสทิ ธตั ถะเสดจ็ ออกผนวชแลว้ ไดไ้ ปศกึ ษาอยใู่ นสา� นกั อาฬารดาบส
กาลามโคตรและอุทกดาบสรามบุตร ศึกษาจนครบทุกศาสตร์แล้ว แต่ก็ไม ่
สามารถค้นพบหนทางพน้ ทกุ ข์ได ้ จึงเสดจ็ ไปแสวงหาธรรมทีอ่ ่ืนตอ่ ไป
พระองค์ได้บ�าเพ็ญทุกรกิริยา ๖ ปี คือ การทรมานร่างกายด้วยวิธ ี
กลนั้ ลมหายใจเขา้ -ออก อดอาหารจนพระวรกายซบู ผอม แตก่ ย็ งั ไมพ่ บหนทางพน้
ทกุ ขไ์ ด ้ จงึ ทรงเลกิ วธิ ที รมานพระวรกาย เบรปิษทั สน็รางสเรรหคสื่อเตพอ่ื กาใุรเรหยี นรูก้(สสรล.) จมาํุ่ กดั ปญั จวคั คยี ท์ เ่ี ฝา้ ปรนนบิ ตั ิ

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เห็นวา่ พระองคท์ รงเลกิ บา� เพญ็ เพียรแล้ว จึงได้พากนั ละท้งิ พระองค์ไปพักอยู ่ ณ
อสิ ิปตนมฤคทายวนั แขวงเมอื งพาราณสี

พระสิทธัตถะได้กลับมาเสวย
พระกระยาหาร เพอื่ ใหพ้ ระวรกายแขง็ แรง
แล้วเร่ิมบ�าเพ็ญเพียรทางจิต จนเกิด
สมาธิ จิตใจสงบ ใช้ปัญญาพิจารณา
ความเป็นไปของธรรมชาติจนเกิด
ปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ได้ทรงตรัสรู้
อริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ
และมรรค ซ่ึงถือเป็นหนทางแห่งการ
ดับทุกข์ ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธ ิ์ บรษิ ัท สรางสรรคสื่อเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ริมฝั่งแม่น�้าเนรัญชรา ต�าบลอุรุเวลา
เสนานคิ ม เม่อื วันขน้ึ ๑๕ ค�่า เดอื น ๖
ขณะทีม่ ีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ริมฝั่งแม่น้�า
เนรญั ชรา เมอื่ วนั ขนึ้ ๑๕ คา�่ เดอื น ๖

6 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

๒.๓ ประกาศธรรม

เม่ือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ได้เสด็จไปแสดง
ปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ และต่อมาได้เสด็จไปประกาศธรรมแก่บุคคลตาม
สถานทีต่ ่าง ๆ เช่น

๑) โปรดชฎลิ
ในแควน้ มคธ มชี ฎลิ ๓ พน่ี อ้ งนบั ถอื ลทั ธบิ ชู าไฟ ซง่ึ เปน็ ลทั ธใิ หญท่ ม่ี ปี ระชาชน
นับถือมาก พี่ชายชอื่ อรุ ุเวลกัสสปะ มบรษิ บีทั สรารงสริวรคสาื่อเพร่ือกา รเร๕ียนรู ๐(สสร.๐) จาํ ก ดั คน คนทีส่ องชื่อ นทีกสั สปะ

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

มีบริวาร ๓๐๐ คน และคนสดุ ทา้ ยชอ่ื คยากสั สปะ มีบรวิ าร ๒๐๐ คน ทัง้ หมด
ตัง้ อาศรมอยตู่ ามรมิ ฝัง่ แม่น้�าเนรญั ชรา

ขณะน้ันพระพุทธเจ้าทรงพิจารณาด้วยพระญาณเห็นว่า ถ้าจะประกาศ
ศาสนาใหไ้ ด้รวดเรว็ จะตอ้ งท�าให้ชฎิล ๓ พ่ีน้องนบั ถือกอ่ น เพราะท้งั ๓ พ่นี อ้ ง
เป็นผ้มู หี มู่ชนนบั ถือมากมาย พระองค์จงึ ไดเ้ สดจ็ ไปแสดงธรรมโปรดพ่ชี ายคนโต
กอ่ น และแสดงธรรมแกช่ ฎลิ คนท ่ี ๒ และคนท ี่ ๓ ตามลา� ดบั ดว้ ยพระธรรมเทศนา
ชอื่ ว่า อาทิตตปรยิ ายสตู ร จนชฎิล
๓ พี่น้องเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
ขอบวชในพระพทุ ธศาสนา พรอ้ มดว้ ย
ชฎิลท่ีเป็นสาวก ๑,๐๐๐ คน และ
ไ ด ้ บ ร ร ลุ ธ ร ร ม เ ป ็ น พ ร ะ อ ร หั น ต ์ บรษิ ทั สรางสรรคสื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ท้ังหมด

พระพทุ ธเจ้าแสดงธรรม ช่ือ อาทติ ตปริยายสตู ร
แกช่ ฎิล ๓ พ่ีนอ้ ง

ฉลาดรู้ ฉลาดคดิ

อาทติ ตปรยิ ายสตู ร คอื หลกั ธรรมที่กลา่ วถงึ ไฟภายในใจทคี่ อยเผาผลาญจติ ใจ
มนุษย์ ๓ อย่าง ได้แก่ ราคคั คิ ไฟ คอื ราคะ โทสคั คิ ไฟ คอื โทสะ และโมหคั คิ ไฟ
คอื โมหะ

7ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

๒) โปรดพระเจ้าพิมพิสาร

เมอ่ื พระพทุ ธเจา้ แสดงธรรมโปรดชฎลิ ๓ พน่ี อ้ งพรอ้ มสาวก ๑,๐๐๐ คน

จนส�าเร็จเป็นพระอรหันต์จ�านวน ๑,๐๐๓ องค์แล้ว พระองค์ได้เสด็จไปยังกรุง

ราชคฤหเ์ พอ่ื แสดงธรรมแก่พระเจ้าพิมพิสาร เพราะมีข้าราชบริพารมาก เม่ือเสด็จ

ถึงกรุงราชคฤห์ พระเจ้าพมิ พสิ ารพรอ้ มดว้ ยขา้ ราชบรพิ ารเสดจ็ เขา้ เฝา้ พระพทุ ธเจา้

จงึ โปรดใหพ้ ระอรุ เุ วลกสั สปะชี้แจงแก่พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยข้าราชบริพาร

ถึงสาเหตุที่เปล่ียนมานับถือพระพุทธศาสนา พระอุรุเวลกัสสปะได้ช้ีแจงและ
ประกาศวา่ พระพทุ ธเจา้ เปน็ พระศาสดาและตวั ทา่ นเปน็ สาวกของพระพทุ ธเจา้บริษทั สรางสรรคส ื่อเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

จากน้ันพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร

พร้อมท้ังข้าราชบริพาร จนเกิดความ

เลอื่ มใสในพระพทุ ธศาสนา พรอ้ มกบั ได้

ประกาศตนเปน็ สาวก พระเจา้ พมิ พสิ าร

ไดแ้ สดงความเคารพนบั ถอื พระรตั นตรยั

และได้ถวายพระราชอุทยานเวฬุวัน

(สวนไผ่) เพื่อให้เป็นที่ประทับของ

พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกทั้ง

หลายนบั แตน่ นั้ มา พระเจ้าพมิ พสิ ารพร้อมบริวารฟังธรรมจาก
๓) โปรดพระอคั รสาวก พระพุทธเจ้า

บริษทั สรา งสรรคส ่ือเพ่อื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ขณะท่ีพระพุทธเจ้าประทับอยู่ใกล้กรุงราชคฤห์ มีเจ้าลัทธิผู้หนึ่งช่ือ

สญั ชัย พร้อมสาวกสองคนชอ่ื อุปตสิ สะและโกลิตะ ทัง้ สองคนนม้ี ีสตปิ ญั ญามาก

และมสี าวกอกี ประมาณ ๕๐๐ คน ตั้งส�านักอยใู่ กลก้ รุงราชคฤห ์ ท้ังอุปติสสะและ

โกลติ ะไดศ้ กึ ษาคา� สอนของเจา้ ลทั ธสิ ญั ชยั พบวา่ คา� สอนของทา่ นสญั ชยั ไมอ่ าจนา�

ไปสคู่ วามพน้ ทกุ ขไ์ ด ้ จงึ ตกลงกนั วา่ ถา้ ผใู้ ดเหน็ ธรรมกอ่ น กใ็ หก้ ลบั มาบอกแกก่ นั

วันหน่ึงอุปติสสะได้พบกับพระอัสสชิ ซ่ึงเป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์

ก�าลังเดินบิณฑบาตอยู่ และเห็นอาการส�ารวมของท่านจึงเกิดความเลื่อมใส

8 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

เข้าไปสนทนาและซักถามว่าใครเป็นศาสดาของท่าน พระอัสสชิได้กล่าวว่า
พระพทุ ธเจา้ เปน็ ศาสดาของทา่ น อปุ ตสิ สะไดข้ อรอ้ งใหพ้ ระอสั สชแิ สดงคา� สงั่ สอน
ของพระพุทธเจ้าให้ฟัง พระอัสสชิจึงกล่าวว่า พระศาสดาได้สั่งสอน ดังนี้

“ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุเกิดแหง่ ธรรมนน้ั
และตรสั ความดบั แหง่ ธรรมเหลา่ นน้ั พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้”

เม่ือพระอัสสชิกล่าวจบ อุปติสสะก็ได้บรรลุธรรมเบ้ืองต้นและกลับมา
แจ้งแก่โกลิตะ เม่ือโกลิตะได้ฟังจบก็บรรลุธรรมเบื้องต้นเช่นเดียวกัน ท้ัง บริษทั สรา งสรรคส่ือเพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

อุปติสสะและโกลิตะจึงได้กล่าวลาเจ้าลัทธิสัญชัย และชวนเพื่อนสหายอีก

๒๕๐ คน ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่วัดเวฬุวัน เม่ือได้ฟังพระธรรมเทศนา

แล้วจึงทูลขอบวช โดยอุปติสสะมี

นามว่า พระสารีบุตร ส่วนโกลิตะ
มีนามว่า พระโมคคัลลานะ
ท้ังสองได้ปฏิบัติธรรมจนส�าเร็จ

เป็นพระอรหันต์ และพระพุทธเจ้าได ้

แตง่ ตงั้ พระสารบี ตุ ร เปน็ พระอคั รสาวก
เบื้องขวา พระโมคคัลลานะ เป็น
พระอัครสาวกเบื้องซา้ ย
อุปตสิ สะและโกลิตะพร้อมสหายฟังบรษิ ัท สรา งสรรคสอ่ื เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั
พระธรรมเทศนาจากพระพทุ ธเจา้.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

พระพุทธเจา้ แสดงโอวาทปาตโิ มกข์แก่ ๔) แสดงโอวาทปาตโิ มกข์
พระสงฆ์ทเ่ี ปน็ พระอรหนั ต ์ ๑,๒๕๐ องค์ ภายหลังจากท่ีพระพุทธเจ้า
ประกาศพระพุทธศาสนาเป็นเวลา ๙
เดอื นแลว้
เม่อื ถงึ วันขึ้น ๑๕ ค�า่ เดอื น ๓
มีพระสงฆ์จา� นวน ๑,๒๕๐ องค์ มาเฝา้
พระองคท์ เี่ วฬวุ นารามโดยมไิ ดน้ ดั หมาย

9ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

กันมาก่อน ในการประชุมครั้งนี้ พระพุทธเจ้าได้แสดงโอวาทปาติโมกข์ คือ
การไม่ท�าบาปท้ังปวง การท�าความดีให้ถึงพร้อม การท�าจิตของตนให้บริสุทธ ิ์
ซึ่งถอื เปน็ หลกั ค�าสอนทเ่ี ปน็ หวั ใจสา� คญั ของพระพุทธศาสนาอยา่ งแทจ้ รงิ

ฉลาดรู้ ฉลาดคิด

วนั มาฆบชู า ตรงกบั วันขึน้ ๑๕ คา�่ เดือน ๓ เปน็ วนั ท่พี ระพุทธเจา้ ทรงแสดง
โอวาทปาตโิ มกขแ์ ก่พระสงฆท์ ่ีเปน็ พระอรหนั ตจ์ า� นวน ๑,๒๕๐ องค์ ณ วดั เวฬวุ นั
เมืองราชคฤห์ แควน้ มคธ
บริษทั สรา งสรรคส ่อื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒.๔ ปรนิ ิพพาน

พระพทุ ธเจา้ ไดป้ ระกาศพระศาสนาและแสดงพระธรรมเทศนาตลอดระยะ

เวลา ๔๕ พรรษา ขณะนั้นพระองค์ได้ประทับจา� พรรษา ณ เวฬคุ าม ใกลเ้ มอื ง

เวสาล ี แคว้นวัชชี ทรงปลงอายสุ งั ขารวา่ อีก ๓ เดอื นขา้ งหนา้ จะปรนิ ิพพาน โดย

กอ่ นเสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน ๑ วนั ไดเ้ สดจ็ มงุ่ หนา้ ไปยงั เมอื งกสุ นิ ารา ระหวา่ งทาง

ได้เสด็จประทับพักผ่อนที่สวนมะม่วงของนายจุนทะ กัมมารบุตร ซ่ึงนายจุนทะ

กไ็ ด้ถวายอาหารปรงุ พิเศษทีช่ อ่ื วา่ สกู รมทั ทวะ หลงั จากเสวยภัตตาหารดงั กล่าว

แลว้ พระโรคไดก้ �าเรบิ จนกระทั่งหลั่งพระโลหิต แตท่ รงข่มทกุ ขเวทนาไว ้

พระพุทธเจ้าทรงประชวรหนักแต่ทรงอดกล้ันไว้ เมื่อเสด็จไปถึงเมือง บรษิ ัท สรางสรรคส ่อื เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

กุสินาราได้ประทับ ณ ป่าสาละ

เพือ่ เสด็จดับขันธปรนิ ิพพาน โดย

กอ่ นทจี่ ะเสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน

นนั้ ไดม้ สี ภุ ทั ทะปรพิ าชก (นกั บวช

นอกพระพุทธศาสนานิกายหนึ่ง)

ม า ข อ เ ฝ ้ า เ พื่ อ ทู ล ถ า ม ป ั ญ ห า

ข้อข้องใจต่างๆ จนเกิดความ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง พระพุทธเจ้าเสด็จ
ดับขันธปรนิ ิพพาน ส�านกั สงฆส์ ันเหมอื งประชาราม
จงั หวัดเชยี งใหม่

๑0 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

เล่ือมใสในพระพุทธศาสนาแล้วทูลขออุปสมบทกับพระพุทธเจ้า พระองค์ได้
อปุ สมบทให้ พระสุภทั ทะถือเป็นพุทธสาวกองคส์ ดุ ทา้ ยของพระพทุ ธเจ้า

พระพุทธเจ้าได้ตรสั ปจั ฉิมโอวาทไวว้ ่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนเธอท้ังหลาย สังขารทั้งหลายมีความ
เสื่อม และความสลายไปเปน็ ธรรมดา เธอทง้ั หลายจงท�าประโยชนแ์ กต่ นและ
ปร ะ โ ย ช นแ์ กค่ นอน่ื ดว้ ยความไม่ประมาทเถดิ ”

จากนนั้ พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน ใตต้ น้ สาละ ณ สาลวโนทยาน บริษัท สรางสรรคส ่ือเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

3เมอื งกสุ นิ ารา แควน้ มลั ละ ในวนั ขน้ึ ๑๕ คา�่ เดอื น ๖ รวมพระชนมายไุ ด ้ ๘๐ พรรษา
ชาดก

ชาดกเป็นเรื่องเล่าในอดีตชาติของพระพุทธเจ้าท่ีเกิดในภพชาติต่าง ๆ
ที่ได้น�าคติธรรมค�าสอนในชาดกเร่ืองน้ันๆ มาเป็นแบบอย่างให้เยาวชน
ได้ประพฤติปฏิบัติตาม ในชั้นนี้นักเรียนจะได้ศึกษาชาดก ๒ เรื่อง คือ
กุฏิทูสกชาดก และมหาอุกกุสชาดก ดังน้ี

๓.๑ กุฏิทสู กชาดก (อา่ นวา่ กุ–ต–ิ ทู–สะ–กะ–ชา–ดก)

ในอดีตกาล มีนกขมิ้นตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในรังบนต้นไม้สูง สร้างรัง บรษิ ทั สรางสรรคส ่ือเพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

อย่างแนน่ หนาเพ่อื ปอ้ งกนั แดดและฝน แม้ฝนตกหนัก แดดจ้า แตก่ ไ็ มส่ ามารถ

ท�าให้รังนกขมิ้นเปียกหรือร้อนอบอ้าวได้ อยู่มาวันหนึ่งฝนตกหนักท้ังวัน

น ก ข ม้ิ น เ ห ลื อ บ ไ ป เ ห็ น ลิ ง ตั ว ห น่ึ ง

น่ั ง ต า ก ฝ น อ ยู ่ ด ้ ว ย ค ว า ม ห น า ว ส่ั น

นกขมิ้นจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า

“เจา้ กม็ มี อื มเี ทา้ ทา� ไมจงึ ไมส่ รา้ งบา้ นเลา่ ลงิ ทา� ลายรงั นกขมน้ิ บนตน้ ไมด้ ว้ ยความโกรธ
เพราะถา้ ฝนตกเจา้ กจ็ ะไดไ้ มต่ อ้ งมานงั่
หนาวอยา่ งน”ี้ ลงิ รสู้ กึ โกรธมากจงึ ตอบ

๑๑ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

ดว้ ยความไม่พอใจวา่ “ขา้ มีมือ มีเท้าอย่างมนุษยก์ จ็ ริง แต่ข้าไมม่ ีสติปญั ญาอย่าง
มนษุ ย ์ ขา้ เลยสร้างบา้ นไม่ได”้

นกขมน้ิ แนะนา� วา่ “ถา้ เจา้ อยากมสี ตปิ ญั ญา เจา้ กห็ ยดุ นสิ ยั ขโี้ กง และชอบ
เอาเปรยี บ” ลงิ ขยบั เขา้ ไปใกลๆ้ บริเวณรงั นกขม้ิน เพื่อคิดจะทา� ลายรังนกขม้ิน
เพราะไมพ่ อใจทน่ี กขมนิ้ สงั่ สอนตน เมอื่ นกขมนิ้ เหน็ จงึ รบี บนิ หนไี ป ลงิ ไมส่ ามารถ
ทา� อะไรนกขมน้ิ ได ้ จงึ ทา� ลายรงั ของนกขมนิ้ ทงิ้ ดว้ ยความโกรธแคน้ นกขมน้ิ จงึ บนิ
ไปสร้างรังที่อยู่ใหม่

บรษิ ัท สรา งสรรคสื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

คติธรรมนทิ านชาดก

นทิ านเรอ่ื งน้ีสอนให้รู้ว่า

คนพาลเปน็ บคุ คลท่สี รา้ งความเดือดรอ้ นให้แกผ่ อู้ นื่ ดังนนั้ เราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ
คนพาล เพราะคนพาลจะนา� ความหายนะมาให้

๓.๒ มหาอุกกุสชาดก (อ่านว่า มะ–หา–อุ–กะ–กดุ –สะ–ชา–ดก)

กาลครั้งหนึ่งนานมาแลว้ ณ ป่าแหง่ หนึ่ง มีสตั ว ์ ๔ ชนิด อาศัยอยรู่ อบ
สระน�้า ดา้ นขวาของสระมเี หยย่ี ว ๒ ผัวเมยี อาศัยอยูท่ ต่ี น้ กระทมุ่ ทศิ เหนอื เป็น
ถนิ่ ทอ่ี ยขู่ องราชสหี ์ (ครง้ั นนั้ พระพทุ ธเจา้ เกดิ เปน็ ราชสหี )์ ทศิ ตะวนั ออกเปน็ ทอ่ี ยู่
อาศัยของพญานกออก สว่ นในสระน้�ามีเตา่ ตวั หนงึ่ อาศัยอยู่

อยู่มาวันหน่ึงเหยี่ยวตัวผู้ได้ปรึกบรษษิ ัท สราา งสกรรคสับื่อเพื่อเกาหรเรียนยรู (ส่ียสร.)วจํากตดั ัวเมียว่า พวกเราควรจะ
มีลูกได้แล้ว เหย่ียวตัวเมียกล่าวว่า ก่อนจะมีลูก เราค.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD วรจะเข้าไปผูกมิตรกับ
สัตว์อ่ืนก่อนเพ่ือเอาไว้พ่ึงพากันและกัน เหยี่ยวตัวผู้เห็นด้วยจึงไปผูกมิตรกับ
พญานกออก ราชสีห์ และเต่า หลงั จากน้ันไม่นานเหย่ยี วทั้งสองก็มลี กู ๒ ตวั

ตอ่ มาไดม้ ชี าวบา้ นกลมุ่ หนงึ่ เขา้ ไปในปา่ เพอื่ ลา่ สตั ว ์ แตไ่ มไ่ ดส้ ตั วอ์ ะไรเลย
จงึ ปรึกษากันว่า คนื นจ้ี ะคา้ งแรมกนั ในปา่
ตอนเชา้ จงึ จะเดนิ ทางกลบั พอตกกลางคนื
พวกชาวบ้านได้ก่อไฟเพื่อไล่ยุง ท�าให ้ ความรเู้ พ่มิ เตมิ
ควันไฟลอยเข้าไปในรังนกของเหย่ียว
นกออก คือ นกเหยยี่ วขนาด
ใหญช่ นดิ หนงึ่ ชอบหากินปลาในทะเล

๑2 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

ลกู เหยย่ี วรอ้ งดว้ ยความกลวั พอพวกชาวบา้ น

รู้ว่ามีลูกนกอยู่ในรังบนต้นกระทุ่ม จึงปีน

ข้ึนไปเพ่ือจับลูกนกมาท�าอาหาร เม่ือ

แมเ่ หยยี่ วได้ยินลูกส่งเสียงร้องก็ทราบว่า

มีภัยอันตราย จึงรีบบอกเหยี่ยวตัวผู้ให ้

ไปขอความช่วยเหลือจากพญานกออก พญานกออก ราชสีห ์ เตา่ และเหยยี่ ว
พญานกออกทราบเรื่องกย็ นิ ดชี ่วยเหลอื ต่างเปน็ มิตรทีด่ ซี ึ่งกนั และกัน
ชาวบ้านถือคบเพลิงปีนข้ึนต้นไม้ใกล้จะถึงรังเหย่ียว พญานกออก บรษิ ัท สรางสรรคส อื่ เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

กร็ บี บนิ ลงในสระน�้าใช้ปีกวิดน้�ามาดับคบเพลิง เมื่อไฟดับชาวบ้านก็กลับลงมา

จดุ คบเพลงิ แลว้ ปนี ขนึ้ ไปใหม ่ พญานกออกกน็ า� นา้� มาดบั คบเพลงิ อกี จนเหนด็ เหนอื่ ย
เหยย่ี วเหน็ ดงั นนั้ จงึ รบี ไปขอความชว่ ยเหลอื จากเตา่ เตา่ ตวั ใหญข่ น้ึ มาจากสระนา้�
นา� ตมและสาหรา่ ยขึ้นไปดับกองไฟ แตถ่ ูกชาวบา้ นจบั ไว้ได้
เหย่ียว ๒ ผัวเมียเห็นเหตุการณ์เช่นน้ัน จึงรีบไปขอความช่วยเหลือ
จากราชสีห์ ราชสีห์ทราบเร่ืองจึงรีบไปท่ีต้นกระทุ่มที่ชาวบ้านก่อไฟสุมอยู่ พวก
ชาวบา้ นเห็นราชสีห์เดินมา ต่างพากนั วงิ่ หนีดว้ ยความกลัว
ราชสีห์เดินไปใต้ต้นกระทุ่มได้
พบกับเหย่ียว ๒ ผัวเมีย พญานกออก
และเตา่ อย่รู วมกัน จงึ กลา่ ววา่ “พวกเจ้า
ท้ังหลายอย่าท�าลายมิตร เพราะการม ีบรษิ ทั สรางสรรคส่ือเพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
มิตรดีจะคอยช่วยเหลือยามล�าบากได้”
หลงั จากน้นั ท้งั ราชสีห ์ พญานกออก เต่า
และเหยย่ี ว ๒ ผวั เมยี กแ็ ยกยา้ ยกนั กลบั ไป ชาวบา้ นเมอื่ เหน็ ราชสหี เ์ ดนิ มา
ตา่ งพากันตกใจกลัวจงึ รบี หนไี ป
ยงั ทอี่ ย่ขู องตนตามเดมิ

คติธรรมนทิ านชาดก

นิทานเรอื่ งนีส้ อนให้ร้วู ่า

บุคคลพงึ คบมติ รแทไ้ ว้ เพ่อื ไดร้ ับความสุข เพราะมติ รแทส้ ามารถชว่ ยเหลือในยาม
ทกุ ข์ยามลา� บากได้

๑3ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

เดก็ ดคี วรรู้

นทิ านชาดก เป็นเรื่องเกีย่ วกับความเป็นมาในอดตี ชาติต่าง ๆ ของพระพทุ ธเจ้า ๕๐๐ ชาติ
นทิ านชาดกมที งั้ สิ้น ๕๔๗ เร่ือง ซ่ึงในแตล่ ะภพชาติของพระองค์ไดก้ ล่าวถึงการสรา้ งบารมีกอ่ นจะ
ตรสั รเู้ ปน็ พระพทุ ธเจา้

4 ประวัตศิ าสดาของศาสนาตา่ ง ๆ
ศาสนาในประเทศไทยมีหลายศาสนา โดยศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ ่
นับถือ คือ พระพุทธศาสนา แม้ว่าคนไทยจะนับถือศาสนาแตกต่างกัน แต่ก็รักบรษิ ทั สรา งสรรคส่ือเพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

และสามัคคีกัน เพราะทุกศาสนาสอนให้คนท�าความดี ละเว้นการท�าความชั่ว
ทั้งนี้ศาสนาต่าง ๆ ท่ีคนไทยนับถือล้วนมีประวัติของศาสดาท่ีน่าสนใจ ดังน้ี

๔.๑ ศาสนาอสิ ลาม

ศาสดาของศาสนาอิสลาม ช่ือ มุฮัมมัด เกิดเมื่อวันท่ี ๒๐ เมษายน

พ.ศ. ๑๑๑๓ ท่ีนครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู ่

แถบตะวันออกกลาง บิดาช่ืออับดุลลอฮ์ มารดาชื่ออามีนะฮ์ บิดาเสียชีวิต

ในขณะท่านอยู่ในครรภ์มารดา ต่อมา

มารดาก็เสียชีวิตอีก ในวัยเด็กทา่ นจงึ ได ้

ไ ป อ ยู ่ กั บ ปู ่ ช่ื อ อั บ ดุ ล มุ ฏ ฏ อ ลิ บ แ ล ะ ลุ ง
เมื่ออายุ ๒๕ ปี ท่านไปท�างานอยู่กับบรษิ ทั สรา งสรรคส่ือเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เศรษฐีหม้ายชื่อคอดีญะฮ์ ซึ่งเป็นเจ้าของ

กิจการค้าในนครมักกะฮ์ และต่อมาได้ ชาวมสุ ลมิ ประกอบพธิ ฮี จั ญ ์ เมอื งมกั กะฮ ์
(เมกกะ)
แต่งงานกับนางคอดีญะฮ ์

เม่ืออายุ ๔๐ ปี มุฮัมมัดได้รับการดลใจหรือการแต่งตั้งให้เป็นศาสดา
จากพระผเู้ ปน็ เจา้ ณ ถา�้ ฮริ ออ ์ ซงึ่ อยบู่ นภเู ขาลกู หนง่ึ นอกเมอื งมกั กะฮ ์โดยทตู สวรรค์
เป็นผู้น�ามาบอก เรียกร้องให้ท่านรับหน้าท่ีเป็นนบีผู้เผยแผ่ศาสนา โดยคร้ังแรก

๑4 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

นบีมุฮัมมัดได้เผยแผ่ศาสนาแก่วงศาคณาญาติและเพ่ือนใกล้ชิดกอ่ น และตอ่ มา

ไดเ้ ดินทางประกาศศาสนาไปยังสถานที่อ่ืนๆ จนแพร่หลาย ท�าให้มีประชาชน

จ�านวนมากศรัทธานับถือพระเจ้าเพียงองค์เดียว

ตามพระราชโองการซงึ่ พระผเู้ ปน็ เจา้ ทรงประทาน

มาให้ที่เรียกว่า คัมภีร์อัลกุรอาน นบีมุฮัมมัดได้
เผยแผศ่ าสนาเปน็ เวลา ๒๓ ปี และถึงแก่กรรมเมอ่ื

อายุ ๖๓ ปี บริษัท สรางสรรคสื่อเพื่อการเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD พิธีละหมาดของชาวมสุ ลมิ

๔.๒ ศาสนาคริสต์

พระเยซ ู ประสตู ิเมื่อวนั ที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๕๔๓ ท่ีเมืองเบธเลเฮม
กรุงเยรูซาเลม ดินแดนปาเลสไตน์ ประเทศอสิ ราเอล บดิ าชอื่ โยเซฟ มารดาชอ่ื
มาเรีย พระเยซูวัยเด็กเป็นเด็กฉลาด ช่างสังเกต ช่างคิด ได้ทรงศึกษาค้นคว้า
พระคัมภีร์ของศาสนายิวอย่างละเอียด มีความรอบรู้ภาษาต่างชาติหลายภาษา
เชน่ ภาษาอียปิ ต ์ อาหรบั และภาษากรกี นอกจากนี้ยงั ทรงมคี วามสามารถพเิ ศษ
ใชพ้ ลงั ทางจติ อยา่ งสงู ในการรกั ษาโรคภยั ไขเ้ จบ็ ดว้ ย

เมื่อพระชนมายุ ๓๐ พรรษา ได้พบกับ
โยฮันหรือจอห์นซ่ึงเป็นศาสดานักบุญในยุคน้ัน
เปน็ ผใู้ หศ้ ีลจุม่
บริษัท สรางสรรคส่ือเพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

การรับศีลจุ่มหรือพิธีบัพติศมาเป็น
การใชน้ า�้ เทลงบนศรี ษะ ๓ ครงั้ หมายถงึ การชา� ระ
ล้างบาปมลทินโทษต่างๆ อันเป็นเคร่ืองหมาย
แสดงวา่ ผเู้ ขา้ พธิ เี ปน็ ผเู้ ขา้ ถงึ พระเจา้ พระเยซไู ด้
ขอรบั ศลี จ่มุ ตามลัทธิของโยฮนั ณ บรเิ วณแมน่ ้า�
จอรแ์ ดน
หลังจากนั้นพระเยซูได้ออกเทศนา
ประกาศหลักธรรมทางศาสนาอันเป็นหนทาง พระเยซ ู ศาสดาของศาสนาครสิ ต์

๑5ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

แห่งความรอดพ้นจากบาปไปสู่ชีวิตนิรันดร์ การประกาศศาสนาของพระเยซูนั้น
เน้นความรักต่อพระเจ้าและความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ให้มีความเมตตา
และให้อภัยต่อกัน รวมท้ังได้อนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้เจ็บป่วย
ผู้ไม่มีท่ีพ่ึงทางใจ เมื่อค�าสอนเหล่าน้ีแพร่หลายออกไป จนประสบผลส�าเร็จ
อยา่ งน่าพอใจย่ิง มีผนู้ บั ถือเพ่มิ จา� นวนมากข้ึน ทา� ใหผ้ ู้นา� ศาสนาดงั้ เดิม รวมถงึ
คนบางกลุ่มบางพวกท่ีเป็นท้ังขุนนางและคนร�่ารวยเห็นว่าค�าสอนของ
พระเยซูหลายเร่ืองผิดจากค�าสอนเดิมของศาสนายิว จึงเกิดความโกรธแค้น
ไม่พอใจคิดหาทางท�าร้ายพระองค์ ต่อมาพระองค์ถูกจับตัวไปข้ึนศาลของ บริษัท สรางสรรคสอ่ื เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เจ้าเมืองชาวโรมัน ซึ่งคณะกรรมการศาสนาของนักบวชยิวได้พิพากษาตัดสิน
ให้ลงโทษประหารชีวิต พระองค์
สน้ิ พระชนมใ์ นขณะที่มีพระชนมายุได้
๓๒ ป ี หลงั จากใชเ้ วลาประกาศศาสนา
เพยี ง ๓ ปี

ผนู้ ับถือศาสนาครสิ ตท์ �าพธิ ศี ีลจุม่

สรุป

บริษัท สรา งสรรคสือ่ เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

พระพทุ ธเจา้ เมอื่ ตรสั รแู้ ลว้ ไดเ้ สดจ็ ไปเ.SผRANยGSANแSUEผPHUพ่AKARรNRIAะNRUธU(SรSR.ร)COม.,LTDคา� สอนแกเ่ หลา่ สาวกจา� นวน
มาก จนพระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองไปยังประเทศต่างๆ คนไทยส่วนใหญ่นับถือ
พระพุทธศาสนา และปฏิบัติตามหลักธรรมค�าสอนในการด�าเนินชีวิต มีวัดเป็นศูนย์รวม
ทางจติ ใจ และเป็นศนู ยก์ ลางการทา� กจิ กรรมของชุมชน ทา� ใหอ้ ยู่ร่วมกันอย่างมีความสขุ
ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ ชาวไทยแม้จะนับถือ
ศาสนาแตกต่างกันแต่ทุกคนต่างยึดม่ันในหลักค�าสอนของศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตน
โดยยึดม่ันในจารีตประเพณีทางศาสนาท่ีตนนับถือ เพ่ือความสงบร่มเย็นของจิตใจ และ
ความมั่นคงสงบสขุ ของชาตสิ บื ไป

๑6 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

กิจกรรมบรู ณาการการเรยี นรู้

๑. ให้นักเรยี นเขยี นบรรยายความสา� คญั ของวัดในท้องถ่ินของตนเองลงในสมดุ สง่ ครู
๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มค้นควา้ เกี่ยวกับความส�าคญั ของพระพทุ ธศาสนาต่อสงั คมไทย
๓. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุม่ ออกมาเล่าสรุปพทุ ธประวัติเป็นตอน ๆ โดยสังเขป
๔. ให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ และสรุป
เป็นแผนผังความคิด
๕. ให้นักเรียนแสดงบทบาทสมมติจากนิทานชาดกเร่ืองกุฏิทูสกชาดก และมหาอุกกุส- บรษิ ัท สรา งสรรคส่อื เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ชาดก พร้อมสรุปคติธรรมเม่ือแสดงจบ แล้วน�ามาสนทนากันว่า นักเรียน
มีความรู้สึกอย่างไรต่อชาดกทงั้ ๒ เรื่อง และให้ขอ้ คิดอะไรบา้ ง

ค�าถามพัฒนาผูเ้ รียน

๑. เพราะเหตใุ ดพทุ ธศาสนกิ ชนชาวไทยจงึ ยดึ มนั่ ในประเพณที างศาสนามาอยา่ งยาวนาน
๒. เม่อื พระพุทธเจ้าตรสั รแู้ ล้ว เพราะเหตใุ ดจึงแสดงธรรมแกพ่ ระอุรุเวลกัสสปะ
๓. ถา้ นกั เรยี นพบคนอนั ธพาล นกั เรยี นมีวธิ แี ก้ปญั หาอยา่ งไร
๔. ถ้านกั เรยี นคบเพอ่ื น เพื่อนท่ีควรคบดว้ ยต้องมีลักษณะอยา่ งไร

บรษิ ัท สรา งสรรคส ่อื เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๑7ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๒หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี พระธรรม

• มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด

๑. แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติ
ตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓
ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของ
ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามทกี่ า� หนด บรษิ ทั สรา งสรรคส ือ่ เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

(มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๔)
๒. เหน็ คณุ คา่ และสวดมนต ์ แผเ่ มตตา มสี ต ิ
ทเ่ี ปน็ พน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา
หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของ
ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามทกี่ �าหนด
(มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๖)

สาระส�าคัญ
พระรัตนตรัย เป็นแก้วอันประเสริฐ ๓ แผนผังสาระการเรียนรู้บริษัท สรางสรรคสอ่ื เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ประการ ไดแ้ ก ่ พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์
ทพ่ี ทุ ธศาสนกิ ชนใหค้ วามเคารพนบั ถอื เพราะเปน็ ๑ พระรัตนตรัย

เสาหลักของพระพุทธศาสนา โดยมีหลักธรรม ๒ หลักธรรมส�าคัญทางพระพทุ ธศาสนา
ที่ส�าคัญ เช่น ไตรสิกขา โอวาท ๓ ให้มนุษย ์

มีหลักยึดเป็นที่พ่ึงทางใจ มีแนวทางการฝึก ๓ พุทธศาสนสุภาษิต
ปฏิบัติด้วยการบริหารจิตและเจริญปัญญา

ท่ีจะท�าให้เกิดศีล สมาธิ และปัญญา ถือ ๔ การบริหารจติ และการเจริญปัญญา
เป็นมงคลแก่ชีวิต หลักธรรมท่ีพุทธศาสนิกชน

ยึดม่ัน และปฏิบัติตามอย่างแน่วแน่ จะท�าให้

สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข

เจรญิ กา้ วหนา้ และหลดุ พน้ จากทุกขไ์ ด้

เราไหวพ้ ระสวดมนต์
เพอื่ เปน็ การระลกึ ถงึ พระคณุ ของ
พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์

บริษัท สรางสรรคส ่อื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๑ พระรัตนตรัย
พระรัตนตรัย แปลว่า แก้วอันประเสริฐ ๓ ประการ ได้แก ่

พระพุทธเจา้ คือ ผู้ตรสั รูเ้ องและสอนให้ผอู้ น่ื รู้ตาม พระธรรม คือ คา� สงั่ สอนของ
พระพทุ ธเจา้ และพระสงฆ ์ คอื หมสู่ าวกผปู้ ฏบิ ตั ติ ามคา� สงั่ สอนของพระพทุ ธเจา้

บรษิ ัท สรางสรรคส อื่ เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จํากัด

ซงึ่ พระรตั นตรยั ทง้ั ๓ ประการเปน็ สงิ่ ท.SRAชี่ NGSาANSวUEPพHUAKAทุRNRIAธNRUมU(SSคีR.)COว.,LTาD มเลอื่ มใสศรทั ธาและเคารพ
สูงสุด ได้แก่

๑.๑ พระพุทธ

พระพุทธ หมายถึง พระพุทธเจ้าผู้สละชีวิตท่ีสุขสบายในพระราชวัง
เพอ่ื เสดจ็ ออกผนวชและแสวงหาหนทางดบั ทกุ ข ์ ทรงตรสั รหู้ ลกั ธรรมอนั ประเสรฐิ
ด้วยพระองค์เอง และน�าหลักธรรมมาเผยแผ่ให้ประชาชนได้เรียนรู้และปฏิบัติ
พระองคท์ รงมุ่งมน่ั ถงึ ประโยชน์สุขสว่ นรวมมากกวา่ ความสขุ ส่วนตวั

๑9ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๑.๒ พระธรรม

พระธรรม หมายถงึ หลกั ธรรมทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงสอนเรอ่ื งการทา� ความดี
และละเวน้ ความช่วั ทรงสอนเรอื่ งกรรมหรือหลกั ของกรรม คอื การกระทา� ทาง
กาย วาจา หรอื ใจ ท่ปี ระกอบด้วยเจตนาดแี ละเจตนาไม่ด ี

๑.๓ พระสงฆ์

พระสงฆ ์ หมายถงึ บคุ คลทบ่ี วชเปน็ พระภกิ ษดุ ว้ ยความศรทั ธาในคา� สอน
ของพระพุทธเจ้า เมื่อได้ฟังค�าสั่งสอนแล้วเกิดความเล่ือมใสจนสละเรือนเพ่ือบรษิ ัท สรา งสรรคส่ือเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ออกบวชตามพระพุทธเจ้า พระภิกษุปฏิบัติรักษาศีล ๒๒๗ ข้อ ภิกษุรูปแรกใน
พระพุทธศาสนา คอื พระอัญญาโกณฑญั ญะ

ฉลาดรู้ ฉลาดคิด

พระอญั ญาโกณฑญั ญะ เปน็ พราหมณค์ นหนงึ่ ในกลมุ่ ปญั จวคั คยี ์ เเละเปน็ หนง่ึ ในพราหมณ์
ท่ีพระเจ้าสุทโธทนะเชิญมาท�านายพระลักษณะในอนาคตของพระพุทธเจ้าหลังประสูติได้ ๕ วัน
พราหมณ์คนอ่ืนไดท้ า� นายไว้ ๒ แนวทาง ไดเ้ เก่
๑. ถ้าขึ้นครองราชยเ์ ปน็ กษตั ริยจ์ ะไดเ้ ป็นมหาราชผู้ยิ่งใหญ่
๒. ถ้าเสด็จออกผนวชจะไดต้ รัสรู้เปน็ พระพทุ ธเจ้าเพียงองคเ์ ดยี วในโลก
ขณะทพ่ี ระอญั ญาโกณฑญั ญะเชอื่ มนั่ วา่ พระพทุ ธเจา้ จะเสดจ็ ออกผนวชและตรสั รเู้ ปน็ ศาสดา
เอกของโลกอย่างเเนน่ อน
๒ บริษัท สรางสรรคส่ือเพ่อื การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

หลักธรรมสา� คัญทางพระพุทธศาสนา

ในแตล่ ะศาสนาสอนใหท้ กุ คนเปน็ คนด ี อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ ไมท่ ะเลาะ
เบาะแวง้ รกั และสามคั คซี งึ่ กนั และกนั โดยแตล่ ะศาสนามจี ดุ มงุ่ หมายทเ่ี หมอื นกนั
คือ สอนใหท้ กุ คนทา� ความด ี และละเว้นความชั่ว พระพทุ ธศาสนาจึงมหี ลกั ธรรม
สา� คญั ทเ่ี ปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ติ นอยา่ งถกู ตอ้ ง นกั เรยี นควรศกึ ษาและปฏบิ ตั ิ
ตามหลักธรรมค�าส่ังสอนของพระพุทธเจ้า

๒0 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

๒.๑ ศรทั ธา

ศรัทธาในทางพระพุทธศาสนา หมายถึง ความเชื่อที่ประกอบด้วย
เหตผุ ล เป็นความเชื่อทป่ี ระกอบด้วยปัญญา ไม่มศี รัทธาเดียวโดด ๆ แต่มปี ญั ญา
มาประกอบการพิจารณาอยู่ด้วย ศรัทธาเอ้ือให้เกิดการพัฒนาปัญญาไปสู่ความ
รู้แจ้ง เพราะในฐานะพุทธศาสนิกชนจะไม่เชื่ออย่างเดียว แต่ประพฤติปฏิบัติ
ดว้ ยความศรทั ธา ๔ ประการ คือ

๑. กมั มสทั ธา คอื เชอ่ื กฎแหง่ กรรม เชอื่ วา่ กรรมนนั้ มอี ยจู่ รงิ เมอื่ ทา�
อะไรที่เป็นความดีหรือความชั่วแล้ว ย่อมได้รับผลดีหรือผลร้ายตอบสนอง บรษิ ัท สรางสรรคส ื่อเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สบื เนอ่ื งต๒อ่ ไ.ปวิปากสัทธา คอื เชอ่ื ว่าผลของกรรมมจี รงิ เม่อื ทา� กรรมแล้วตอ้ งมีผล
และผลตอ้ งมีเหต ุ ผลดเี กิดจากกรรมด ี ผลชัว่ เกดิ จากกรรมช่ัว

๓. กัมมัสสกตาสัทธา คือ เช่ือว่าความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน
จะตอ้ งรับผิดชอบเสวยวบิ ากเป็นไปตามกรรมของตนเอง

๔. ตถาคตโพธิสัทธา คือ เชื่อในความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าว่า
พระพทุ ธเจ้าทรงเปน็ พระสมั มาสมั พทุ ธะ ตรสั ธรรม บัญญัตวิ นิ ัยไว้ด้วยดี

๒.๒ พุทธคุณ ๓

๑. พระปญั ญาคุณ ๒. พระบริสทุ ธคิ ณุ ๓. พระกรุณาคุณ
(ทรงเปน็ ผูม้ สี ตปิ ญั ญา) (ทรงเปน็ ผู้ปราศจากบรษิ ัท สรางสรรคส ่ือเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากัด (ทรงมีความเมตตากรุณา
และต้องการใหส้ ัตว์โลก
พระพุทธเจ้ามีความรู้ทางโลก .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ทัง้ หลายพ้นจากความทุกข์)
แลว้ เสดจ็ ออกผนวช เพอ่ื แสวงหา เมื่อตรัสรู้แล้วพระพุทธเจ้าได้
สัจธรรมที่ท�าให้หลุดพ้นจาก กเิ ลสทง้ั ปวง) เสด็จไปแสดงพระธรรมเทศนา
กเิ ลสดว้ ยพระองค์เอง พระองค์ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมและ แก่มวลมนุษย์และสัตว์โลก
ทรงคน้ พบความจรงิ ๔ ประการ ห ลุ ด พ ้ น จ า ก กิ เ ล ส ด ้ ว ย ใ จ ทั้งหลาย เพ่ือให้ได้รู้พระธรรม
คอื รูท้ ุกข ์ (ทกุ ข)์ รเู้ หตุทที่ า� ให้ บรสิ ทุ ธิ์ และสะอาด ผ่องใส ไม่ ที่พระองค์ตรัสรู้แล้ว พระองค์
เกิดความทกุ ข์ (สมทุ ัย) ร้คู วาม ขอ้ งเก่ยี วกับความอยาก (โลภ) ทรงส่ังสอนอย่างเท่าเทียมกัน
ดบั ทกุ ข์ (นิโรธ) และร้ขู ้อปฏบิ ัติ ค ว า ม เ ก ลี ย ด ห รื อ ไ ม ่ พ อ ใ จ จนเสด็จดับขันธปรินิพพาน
ใหถ้ งึ ความดับทกุ ข์ (มรรค) (โกรธ) ความหลง (โมหะ) ถือวา่ พระองค์ทรงมพี ระคุณอัน
ย่ิงใหญ่ตอ่ มวลมนุษยอ์ ย่างยิง่

๒๑ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๒.๓ หลักกรรม

หลกั กรรม คอื การกระท�า การกระท�านั้นมี ๒ อยา่ ง ได้แก่
๑) กุศลกรรม คือ การกระท�ากรรมดี เป็นการกระท�าท่ีเป็นบุญหรือ
เป็นกศุ ล เช่น การใหท้ าน การพูดจาไพเราะและจรงิ ใจ คดิ ด ี ท�าดี
๒) อกุศลกรรม คือ การกระท�ากรรมช่ัว การกระท�าท่ีเป็นบาปอกุศล
เช่น การฆา่ สัตว ์ การลักขโมย การเสพสิ่งเสพตดิ และของมึนเมา

ผลของกรรมน้ันจะส่งผลดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับว่า บริษทั สรางสรรคส ือ่ เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด ผู้กระท�ามีเจตนาต้ังใจ
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ท�าหรือไมต่ ัง้ ใจทา�

ถา้ เจตนาตง้ั ใจท�าความดี ผลของความดกี ็จะส่งผลดีมาก ถ้าไม่ไดต้ งั้ ใจ
ท่ีจะท�าความดี ผลของความดีก็จะส่งผลดีน้อยหรือส่งผลช้า และถ้ากุศลกรรม
สง่ ผลเม่ือไร ก็จะพบกับความสขุ ความเจริญรุง่ เรอื ง ความส�าเร็จ ความสมหวัง
ในชีวิต

ถา้ เจตนาตงั้ ใจจะทา� ความชวั่ ผลของการกระทา� ความชว่ั กจ็ ะสง่ ผลรา้ ยให ้
กบั ผู้กระทา� มาก แตถ่ า้ ไม่มเี จตนาหรือไมม่ ีความต้งั ใจทจ่ี ะท�าความชว่ั ผูก้ ระทา�
ก็จะได้รับผลของความช่ัวน้อยเช่นกัน หากอกุศลกรรมส่งผลเมื่อไร ก็จะพบกับ
ความทกุ ข์ ความเสอื่ ม ความลม้ เหลว ความผดิ หวงั การติดขดั ในชวี ติ

ดงั นนั้ การกระทา� ความด ี(กศุ ลกรรม) หรอื การกระทา� ความไมด่ ี(อกศุ ลกรรม)
จะใหผ้ ลมากหรือนอ้ ย ล้วนมาจากเจตนาต้งั ใจท�าทั้งนนั้บรษิ ทั สรางสรรคส ่อื เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒.๔ ไตรสกิ ขา

ไตรสกิ ขา หมายถงึ หลกั ในการพฒั นาชวี ติ ๓ ขนั้ ม ี ๓ ประการ ไดแ้ ก่

๑ สลี สกิ ขา (ศลี ) คือ การฝึกส�ารวมกาย วาจา ใจ มีวินัยในการ
ดา� เนนิ ชวี ิตท่ดี ีงามทั้งตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน

ลกั ษณะผูม้ ีศีล คอื ผูม้ คี วามประพฤตทิ ส่ี จุ รติ ทง้ั ทางกาย วาจา
ใจ

๒๒ ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

๒ จิตตสกิ ขา (สมาธิ) คอื การม่งุ พัฒนาจิตใจให้เขม้ แข็งและมคี วาม
แน่วแน่ตงั้ ใจมั่น

ลักษณะผ้มู ีสมาธ ิ คือ ผมู้ จี ิตใจสงบสขุ แน่วแน่ ไมเ่ กดิ ความ

ฟุ้งซ่าน มสี มาธิจดจอ่ อยกู่ ับสงิ่ ใดส่ิงหนงึ่

๓ ปญั ญาสกิ ขา (ปญั ญา) ค อื การมคี วามรทู้ ถี่ กู ตอ้ ง มศี กั ยภาพในการคดิ

และแก้ปญั หา
คอื ผู้มีความรอบรใู้ นเรอื่ งต่าง ๆ การร้จู กับริษัท สรา งสรรคส อื่ เพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จํากัด
ลกั ษณะผู้มปี ัญญา .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

แยกแยะความดี ความช่วั ใชป้ ญั ญาดว้ ย

เหตุผลตามความเป็นจรงิ

การรกั ษาศลี ๕ และศลี ๘ อยา่ งต่อเนอ่ื งเป็นประจา� จะท�าใหจ้ ิตเกิด
สมาธิได้ง่าย การฝึกสมาธิจะสัมพันธ์กับปัญญา ทั้งจิตและปัญญาล้วนมีความ
เกยี่ วข้องกันเสมอ กลา่ วคอื เมอ่ื จติ มีสมาธิกจ็ ะเกิดปญั ญา

ศีล สมาธิ ปญั ญา

บรษิ ัท สรางสรรคสื่อเพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒3ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

๓หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี พระสงฆ์
• มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชว้ี ดั

๑. เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามแบบอย่าง
การด�าเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติ
สาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชน
ตวั อยา่ งตามทกี่ า� หนด (มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๓)บรษิ ัท สรา งสรรคสอื่ เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒. ชื่นชมการท�าความดีของตนเอง บุคคล
ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนตาม
หลักศาสนา พร้อมท้ังบอกแนวปฏิบัติ
ในการดา� เนินชวี ิต (มฐ. ส ๑.๑ ป.๔/๕)
๓. อภิปรายความส�าคัญและมีส่วนร่วม
ในการบ�ารุงรักษาศาสนสถานของ
ศาสนาที่ตนนับถือ (มฐ. ส ๑.๒ ป.๔/๑)
๔. มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชน
ทด่ี ตี ามท่กี า� หนด (มฐ. ส ๑.๒ ป.๔/๒)
๕. ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และ
วนั ส�าคัญทางศาสนาตามที่ก�าหนดได ้
ถกู ตอ้ ง (มฐ. ส ๑.๒ ป.๔/๓)

สาระส�าคัญ

แผนผังสาระการเรียนรู้ พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวโลก บริษัท สรางสรรคสอ่ื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากดั
อยา่ งมาก ทรงประกาศและเผยแผค่ า� สอน จนไดพ้ ระส.งSRAฆNGSเ์ AปNSUน็EPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
๑พุทธสาวกที่เป็นผู้น�าหลักธรรมมาเผยแผ่แก่พุทธศาสนิกชน พทุ ธสาวกและชาวพุทธ
ตวั อยา่ ง
คอยชี้แนะแนวทางการด�าเนินชีวิตที่ดีแก่คนในสังคม เป็นผู้

ควรแกก่ ารแสดงความเคารพ พทุ ธศาสนกิ ชนตอ้ งแสดงออก ๒ หน้าที่ชาวพทุ ธ

ถงึ มรรยาททเ่ี หมาะสมตอ่ พระภกิ ษสุ งฆแ์ ละมสี ว่ นรว่ มในการ

บา� รุงรกั ษาศาสนสถาน ๓ ศาสนพธิ ี
ศาสนพิธีเป็นระเบียบปฏิบัติท่ีจะช่วยให้น้อมร�าลึกถึง

พระรัตนตรัย พุทธศาสนิกชนจึงต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้อง

ในศาสนพิธีและพิธีกรรมในวันส�าคัญทางศาสนา เพ่ือเป็น

การสบื ทอดพระพทุ ธศาสนาต่อไป

พระสงฆเ์ ปน็ พทุ ธสาวก เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ดิ ี
ปฏบิ ตั ชิ อบ และมหี นา้ ที่

ในการสบื ทอดพระพทุ ธศาสนา
และชาวพทุ ธตวั อยา่ งมจี ริยวตั รงดงาม

เราควรชนื่ ชมในความดขี องทา่ น
และนา� มาปฏบิ ตั ติ น

บรษิ ทั สรางสรรคส่อื เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

คนดคี วรชนื่ ชม
คนดี คือ คนท่ีมีหลักคุณธรรมท่ีมีความประพฤติดีทางกาย ทางวาจา
และทางใจ หลักคุณธรรมในการท�าความดี เป็นข้อควรปฏิบัติตามท่ีทุกคน
สามารถท�าได้ เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข การชื่นชมคนดี
เพื่อน�ามาเป็นแบบอย่างในการด�าเนินชีวิตนั้น ในฐานะนักเรียนเป็นชาวพุทธ
ควรศึกษาเรียนรู้ถึงแนวปฏิบัติการด�าเนินชีวิตของบุคคลอ่ืนเพื่อให้ตนได้ยึด
การท�าความดีของท่านเหลา่ น้ันมาเป็นหลักปฏิบัติตาม เช่น
๑) การเคารพเช่ือฟังพ่อแม่ หรือญาติผใู้ หญ ่
๒) การชว่ ยเหลอื ครอบครวั ทา� งานบา้ น
๓) การตงั้ ใจศึกษาเล่าเรยี น
๔) การรกั ษาระเบยี บวนิ ยั ในหอ้ งเรยี น บรษิ ัท สรางสรรคส ่อื เพ่อื การเรียนรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๕) การเคารพเช่อื ฟังคุณครู
๖) การมนี า้� ใจชว่ ยเหลือเพื่อน
๗) การให้ความร่วมมือกับกิจกรรม
ตา่ ง ๆ ของชมุ ชน
๘) การบา� เพญ็ สาธารณประโยชน์ ความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่
คือคุณสมบัติของคนดีท่ีควรท�า
แก่ส่วนรวม
การช่วยเหลือชุมชนท่ีอยู่อาศัยและการปฏิบัติตนเป็นคนดีจะต้องฝึกฝน
ปฏิบัติเป็นประจ�า เช่น การท�าความดี การพูดเจรจาด้วยค�าไพเราะและ

41ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

การมีจิตใจดีงามชอบช่วยเหลือผู้อ่ืน
ซึ่งนักเรียนสามารถยึดเอาแบบอย่าง
คุณธรรมของบุคคลทก่ี ระทา� ความด ี
ตอ่ สงั คม ประเทศชาต ิ มาเปน็ แนวทาง
ในการดา� เนนิ ชีวิตได้

1 คุณครูเป็นผู้ปลูกฝังค่านิยมการท�าความด ี
ความซ่ือสัตย์ และคุณธรรมให้นักเรียนบริษัท สรา งสรรคส ื่อเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

พทุ ธสาวกและชาวพทุ ธตวั อยา่ ง

พุทธสาวก คือ บุคคลท่ีเล่ือมใสศรัทธาในค�าสอนของพระพุทธเจ้า

และสละชวี ติ เพศฆราวาสออกบวชเพ่ือปฏบิ ัติธรรม และการบรรลธุ รรมข้นั สงู สดุ
คอื นพิ พาน (หมดสิน้ กเิ ลสทัง้ หลาย)

ชาวพุทธตัวอย่าง หมายถึง บุคคลรุ่นหลังที่นับถือพระพุทธศาสนา

ซง่ึ เกดิ ในสมยั หลงั จากทพี่ ระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พานแลว้ อาจจะไมเ่ ปน็
พระอริยบุคคลก็ได้ ชาวพุทธตัวอย่างในพระพุทธศาสนามีมากมายหลายคน
ทเ่ี ราควรยึดถือเปน็ แบบอยา่ งในการด�าเนินชวี ิต
ในช้ันนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของพระอุรุเวลกัสสปะ

บริษัท สรางสรรคสอื่ เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบร.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD มราชชนก และสมเด็จ
พระศรนี ครินทราบรมราชชนนี

๑.๑ พทุ ธสาวก

พระอุรุเวลกสั สปะ

พระอุรุเวลกัสสปะมีพ่ีน้อง ๒ คน คือ นทีกัสสปะและคยากัสสปะ
ได้ถือเพศเป็นชฎลิ (นักบวชที่เกลา้ ผมเปน็ มวยสงู บา� เพ็ญพรตด้วยการบูชาไฟ)
ตงั้ อาศรมอยรู่ มิ แมน่ า�้ เนรญั ชรา พรอ้ มสาวกรวมทง้ั สนิ้ ๑,๐๐๐ คน เมอื่ พระพทุ ธเจา้

42 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

ตรัสรู้แล้ว พระองคท์ รงพจิ ารณาเหน็ ประโยชน์จากการประกาศพระศาสนาจาก

ชฎิล ๓ พี่น้อง เพราะมสี าวกจา� นวนมาก ด้วยการทา� ใหช้ ฎิล ๓ พี่น้องยอมรบั

นับถือพระองค์ก่อน โดยการขอเข้าพักค้างแรมที่อาศรมด้วย ซึ่งอุรุเวลกัสสปะ

ก็ไม่ยินดี เพราะเห็นพระพุทธเจ้าเป็นนักบวชต่างลัทธิ แต่ก็อยากจะรู้ว่า

พระพุทธเจ้ามีอานุภาพอะไรบ้างจึงให้เข้าพัก

ในโรงไฟ ซงึ่ มพี ญานาคทด่ี รุ า้ ยอาศยั อย ู่ แตป่ รากฏ

ว่าพระพุทธเจ้าทรงก�าจัดฤทธิ์ของพญานาค
บริษัท สรา งสรรคสอื่ เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จํากดั
ไดโ้ ดยบันดาลใหข้ ดกายในบาตร
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เม่ืออุรุเวลกัสสปะได้เห็นพระพุทธเจ้าทรง

มีอานุภาพมาก จึงขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จพัก

ในอาศรม พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงธรรมโปรด

อุรุเวลกัสสปะและยังได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ พระอรุ เุ วลกสั สปะตอ้ งการทดสอบ
ปรากฏด้วย ถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะทรงแสดง อานภุ าพของพระพทุ ธเจา้ โดยให ้
ปาฏิหาริย์ทรมานอุรุเวลกัสสปะให้ยอมรับแต ่ พระองค์พักในโรงไฟท่ามกลาง
อรุ เุ วลกสั สปะกย็ งั ดอ้ื รนั้ ไมย่ อมรบั พระพทุ ธเจา้ พญานาคท่ดี รุ า้ ย

ทรงเมตตาตรัสส่ังสอนจนอุรุเวลกัสสปะได้คิดและรู้สึกตัว เกิดความละอายใจ

จงึ ยอมละความถอื ดแี ละกราบทลู ขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า

ก็อนญุ าตให้บวช แต่กอ่ นอปุ สมบทพรบริษะทั สรพางสรทุรคสื่อธเพอ่ื กเารจเรียนา้รู (สไสรด.) จําใ้กัดหอ้ รุ เุ วลกัสสปะชี้แจงให้ชฎิล
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
บริวารท้ัง ๕๐๐ คนทราบกอ่ น

อุรุเวลกัสสปะได้ฟังพระด�ารัสนั้นแล้วจึงบอกชฎิลบริวารของตนให้พากัน

ลอยบรขิ ารดาบส ซง่ึ มีเครอื่ งแตง่ ผมเป็นชฎา

และเครื่องบูชาไฟลงในแม่น�้า แล้วทูลขอ ความรู้เพิ่มเติม

อปุ สมบท พระพทุ ธเจา้ ประทานการอปุ สมบท เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พิธี
ด้วยวิธี “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” พร้อมกัน อุปสมบทท่ีพระพุทธเจ้าบวชให้ด้วย
ทง้ั หมด พระองคเ์ อง

43ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

ฝ่ายน้องชายท้ังสองของท่าน คือ
นทกี สั สปะ พรอ้ มดว้ ยบรวิ าร ๓๐๐ คน
และคยากสั สปะพร้อมด้วยบริวาร
๒๐๐ คน ซ่ึงต้ังอาศรมอยู่ท่ีคุ้งน้�า
ทางตอนใต้ลงไป เห็นบริขารของ
พ่ีชายลอยมาตามน้�า ท�าให้คิดว่า
“อันตรายคงจะเกิดแก่พ่ีชายของ ชฎิลบริวารของอุรเุ วลกัสสปะได้ลอยบริขาร
ตน” น้องชายท้ังสองและบรวิ ารจึง ลงในแม่น้�าเนรัญชรา ก่อนจะทูลขออปุ สมบทบรษิ ัท สรา งสรรคส่อื เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

รบี มาทสี่ า� นกั อาศรมของพช่ี าย เหน็ พชี่ ายอยใู่ นเพศบรรพชติ เมอ่ื ทราบความจริง
จึงเกิดความศรัทธาในพระพุทธเจ้า จึงพากันลอยบริขารลงในแม่น้�าแล้วขอ
อุปสมบทด้วยกันท้ังหมด หลังจากพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมชื่อ
อาทติ ตปริยายสูตร พระสาวกท้งั ๑,๐๐๓ องค ์ ไดบ้ รรลุธรรมเปน็ พระอรหนั ต์
ท้ังหมด

๑.๒ ชาวพุทธตัวอยา่ ง
สมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม

พระบรมราชชนก เป็นพระราชโอรสองค์ท่ี ๖๙

ในพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และบรษิ ัท สรา งสรรคสื่อเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สมเดจ็ พระศรสี วรนิ ทริ าบรมราชเทว ี พระพนั วสั สา

อยั ยกิ าเจา้ ประสตู เิ มอ่ื วนั ท ่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๔

๑) ทรงบรรพชาเป็นสามเณร

สมเดจ็ ฯ พระบรมราชชนก ทรงบรรพชา

เป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ถึงวันที่ ๑๓

ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๗ ขณะทรงบรรพชาเป็น

สามเณรประทบั ณ วดั บวรนเิ วศวหิ าร ทรงสนพระทยั สมเดจ็ พระมหิตลาธิเบศร
ศึกษาและปฏบิ ตั ิธรรมอย่างเครง่ ครดั อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก

44 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

๒) การศึกษา
ภายหลงั จากบรรพชาเปน็ สามเณรแลว้ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้
เจ้าอยู่หวั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้เสดจ็ ไปศึกษา ณ กรุงลอนดอน ประเทศ
อังกฤษ ทรงเข้าศกึ ษาท่โี รงเรยี นแฮร์โรวใ์ น พ.ศ. ๒๔๔๘

ตอ่ มาทรงศกึ ษาตอ่ โรงเรยี นเตรยี มนายรอ้ ยทหารบกทป่ี ระเทศเยอรมนี
จนส�าเร็จการศึกษา และไดท้ รงศกึ ษาวชิ าดา้ นทหารเรือ จนส�าเรจ็ การศกึ ษาเปน็
นายทหารเรือใน พ.ศ. ๒๔๕๔ ต่อมาทรงเข้ารบั ราชการอยู่ในกองทพั เรอื เยอรมนี
และเสด็จจากประเทศเยอรมนีกลับประเทศไทย ทรงเข้ารับราชการในกระทรวงบริษัท สรา งสรรคสอ่ื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ทหารเรือ
๓) ทรงอภเิ ษกสมรส
สมเด็จฯ พระบรมราชชนก ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระศรี-

นครนิ ทราบรมราชชนน ี (พระนามเดมิ คอื สงั วาลย ์ ตะละภฏั ) ในวนั ท ่ี ๑๐ กนั ยายน
พ.ศ. ๒๔๖๓ มพี ระราชโอรสและพระราชธดิ า รวม ๓ พระองค์ คือ
๑. สมเดจ็ พระเจา้ พน่ี างเธอ เจ้าฟ้ากลั ยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าส
ราชนครนิ ทร์
๒. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทร-
มหาอานนั ทมหดิ ล พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร
๓. พระบาทสมเด็จพระบร ม บริษทั สรา งสรรคสอื่ เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร

๔) พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
พระราชโอรส และพระราชธิดา

สมเด็จฯ พระบรมราชชนกทรงมีพระราชจริยวัตรอันงดงาม

ในฐานะแพทย์ที่มีน�้าพระทัยเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาต่อราษฎร ทอดพระเนตร

เห็นความทุกข์ยากของราษฎรที่เจ็บป่วย ทรงทราบปัญหาของการศึกษาด้าน

45ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๔หน่วยการเรียนรทู้ ี่ การเมืองการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตย

• มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ัด

๑. อธิบายอ�านาจอธิปไตยและความส�าคัญ
ของระบอบประชาธิปไตย
(มฐ. ส ๒.๒ ป.๔/๑)บริษัท สรางสรรคสอ่ื เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒. อธิบายบทบาท หน้าที่ของพลเมืองใน
กระบวนการเลือกตง้ั (มฐ. ส ๒.๒ ป.๔/๒)
๓. อธบิ ายความสา� คญั ของสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหา
กษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ (มฐ. ส ๒.๒ ป.๔/๓)

สาระสา� คญั บริษัท สรางสรรคส ่อื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหลักหรือเป็น ๑ แผนผังสาระการเรียนรู้
กตกิ าทกี่ า� หนดแนวทางในการบรหิ ารและปกครอง ๒
ประเทศ ๓ การปกครองระบอบประชาธิปไตย
บทบาทหนา้ ที่ของพลเมือง
การเลือกต้ัง เป็นกระบวนการหนึ่งเพ่ือให ้ ในการเลอื กตั้ง
ไดม้ าซงึ่ ผแู้ ทนทจี่ ะเขา้ ไปทา� หนา้ ทใ่ี นการปกครอง สถาบันพระมหากษตั ริย์
ประเทศแทนประชาชน

พระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นประมุขของ
ประเทศ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย
ทง้ั ประเทศ

นกั เรียนทราบไหมคะว่า
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย

คืออะไร

บรษิ ทั สรา งสรรคส่อื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๑ การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุขมาต้ังเเต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ การที่มีผู้คนอยู่รวมกันมากๆ ท้ังใน
ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ ย่อมตอ้ งเกิดปัญหาตา่ งๆ ตามมา กฎระเบียบ

บริษัท สรา งสรรคส่ือเพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

และกฎหมายจึงเป็นสิ่งที่ส�าคัญอย่าง.SRมANGSAาNSUกEPHUใAKนARNRIกANRUาU(SSรR.)ทCO.,LT่ีจD ะท�าให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้
อยา่ งสันตสิ ขุ ซึ่งระบอบประชาธิปไตยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหลักที่ก�าหนด
แนวทางของรัฐในการใช้อ�านาจปกครองและจัดระเบียบการปกครองประเทศ
โดยประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียมกัน
มบี ทบาทและหน้าที่ในการพัฒนาประเทศชาติอีกดว้ ย

ประชาธปิ ไตย ประกอบดว้ ยคา� วา่ “ประชา” หมายถงึ หมคู่ นหรอื ปวงชน
กับค�าว่า “อธิปไตย” หมายถึง ความเป็นใหญ่ ดังน้ัน ค�าว่า “ประชาธิปไตย”
จึงหมายถึง ความเปน็ ใหญข่ องปวงชน

63ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๑.๑ หลกั การพนื้ ฐานของระบอบประชาธิปไตย

๑) หลักความเสมอภาค
(๑) ความเสมอภาคทางการเมือง ประชาชนทุกคนสามารถมี
สว่ นร่วมทางการเมืองได้อย่างเท่าเทยี มกนั

(๒) ความเสมอภาคทางเศรษฐกจิ ประชาชนทกุ คนตอ้ งไมถ่ กู กดี กนั
ในการประกอบอาชพี สามารถประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งเสรแี ละเปน็ ธรรม ไมม่ กี าร

ผกู ขาดทางการค้า บริษทั สรา งสรรคสอ่ื เพ่อื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

(3) ความเสมอภาคทางโอกาส บุคคลมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษา
การรกั ษาพยาบาล และให้บริการจากรัฐอยา่ งเท่าเทยี มกัน

๒) หลกั สทิ ธิ เสรีภาพ และหน้าที่
(๑) สทิ ธิ คอื อ�านาจอันชอบธรรม หรือประโยชน์ทก่ี ฎหมายรับรอง
และคมุ้ ครอง
(๒) เสรภี าพ คือ การมีสิทธิที่จะกระท�าสิ่งใด โดยตอ้ งไม่ละเมดิ สิทธิ
ของผูอ้ นื่
(3) หนา้ ท ี่ คอื สง่ิ ทบ่ี คุ คลตอ้ งปฏบิ ตั หิ รอื งดเวน้ จากการปฏบิ ตั ิ บคุ คล
ยอ่ มมสี ทิ ธ ิ เสรภี าพ และหนา้ ท ี่ การใชส้ ทิ ธเิ สรภี าพตอ้ งไมไ่ ปละเมดิ สทิ ธเิ สรภี าพ
ของผู้อื่น ปฏิบัติหน้าท่ีของตนภายใต้กฎหมายและการเป็นพลเมืองดีในสังคม บริษัท สรา งสรรคสอื่ เพ่อื การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

และประเทศชาติ

๓) หลกั นติ ธิ รรม คอื การใชก้ ฎหมาย การประชมุ เปน็ การแสดงออกทาง
เป็นหลักในการบริหารประเทศ บุคคลต้อง ความคิดเหน็
อยู่ภายใต้กฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐต้องใช้
กฎหมายต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดย
ไม่เลอื กปฏบิ ัติ

64 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

๔) หลักการใช้เหตุผล คือ การใช้หลักเหตุผลมาเป็นพ้ืนฐานในการ
ตดั สินใจ และหากมกี ารตัดสินปัญหาดว้ ยการออกเสียง ต้องยอมรบั มตขิ องเสียง
ข้างมาก แต่ตอ้ งเคารพสทิ ธขิ องเสียงส่วนนอ้ ย

๕) หลกั การมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื ง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
นนั้ ประชาชนตอ้ งมีสว่ นร่วมในการปกครองประเทศ ดังนี้

(๑) ทางตรง คอื การใชส้ ทิ ธเิ สรภี าพตามรฐั ธรรมนญู เชน่ การแสดง
ความคิดเห็น การออกเสียงประชามติ การขอรับรู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ
การชุมนมุ โดยสงบและปราศจากอาวธุ การรอ้ งทุกข์บริษทั สรางสรรคส ื่อเพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

(๒) ทางออ้ ม คอื การเลอื กตง้ั ตวั แทน เชน่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร
(ส.ส.) สมาชกิ วฒุ สิ ภา (ส.ว.) ไปทา� หนา้ ทใี่ นการออกกฎหมายและบรหิ ารประเทศ

การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย เป็นระบอบการปกครองท่ปี ระชาชน
ทกุ คนมสี ว่ นรว่ มในการปกครองประเทศ และปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องตนภายใตก้ ฎหมาย
เจ้าหน้าทข่ี องรัฐต้องใช้กฎหมายต่อทกุ คนอยา่ งเท่าเทยี มกนั

๑.๒ ความส�าคัญของการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตย

ระบอบประชาธปิ ไตย เปน็ ระบอบการปกครองแบบหนงึ่ ผเู้ ปน็ เจา้ ของ
อา� นาจอธปิ ไตย คือ ประชาชน อาจใช้อ�านาจในการปกครองของตนโดยตรงหรือ
ผา่ นผู้แทนทตี่ นเลือกไปใช้อ�านาจแทนกไ็ ด้ บริษทั สรา งสรรคส่ือเพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

รปู แบบการปกครองทดี่ ี คอื การปกครองทเ่ี คารพสทิ ธแิ ละความเสมอภาค
ของมนุษย์ สมาชิกของสังคมทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันท่ีจะเข้ามามีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ การเมอื ง และสงั คม เพอื่ พฒั นาตนเองและสงั คมโดยสว่ นรวม
โดยท่ีระบบการเมืองจะต้องเปิดโอกาส หรือให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการ
ดา� เนนิ การใดๆ ภายใตก้ ฎระเบยี บของสงั คม และมสี ว่ นรว่ มในฐานะทเี่ ปน็ เจา้ ของ
อ�านาจอธปิ ไตย ใช้อ�านาจผ่านทางองคก์ รทางการเมอื งต่างๆ เพ่อื ประโยชนส์ ขุ
ของตนเอง บทบาทของประชาชนในทางการเมอื งจงึ มคี วามสา� คญั มากในระบอบน้ี
โดยเปน็ ระบอบทเี่ ปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนรว่ มดา� เนนิ การเพอ่ื สรา้ งสรรคส์ งั คมของ

65ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

ตนเอง กจิ กรรมการเขา้ รว่ มทางการเมอื งของประชาชนอาจเปน็ ทางออ้ มโดยผา่ น
กระบวนการเลือกต้ังสมาชิกสภา
ผแู้ ทนราษฎรเขา้ ไปทา� หนา้ ทแี่ ทนตน

การเขา้ คหู าเลอื กตงั้ เป็นวิธกี ารท่ปี ระชาชน
จะเลือกคนดเี ข้าสภาเพ่อื ทา� หนา้ ทีแ่ ทนตน
ในการปกครองประเทศ

๑.๓ อ�านาจอธิปไตย บรษิ ัท สรา งสรรคสอื่ เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

อา� นาจอธปิ ไตย หมายถงึ อา� นาจสงู สดุ ในการปกครองประเทศทเ่ี ปน็ ของ
ปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผทู้ รงเป็นประมุข ทรงใช้อ�านาจนน้ั ทางรัฐสภา
คณะรฐั มนตร ี และศาล ตามบทบญั ญตั แิ หง่ รฐั ธรรมนญู โดยทวั่ ไปอา� นาจอธปิ ไตย
แยกใช้เปน็ ๓ ฝา่ ย คือ ฝ่ายนติ บิ ญั ญตั ิ ฝา่ ยบรหิ าร และฝ่ายตลุ าการ

บริษทั สรางสรรคส ่อื เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

อนุสาวรยี ์ประชาธปิ ไตยตัง้ อยทู่ ถ่ี นนราชดา� เนนิ กรุงเทพมหานคร

ความรู้เพ่ิมเติม

รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ซึ่งกฎหมายอื่นใด
จะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ และเป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบ
การปกครองของประเทศ
66 ป.๔สังคมศึกษา

ศาสนา และวัฒนธรรม

รัฐธรรมนูญ
พระมหากษัตรยิ ์

อธปิ ไตย

ฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ บริษัท สรางสรรคส อื่ เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั ฝ่ายตลุ าการ

ฝา่ ยบรหิ าร.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

รฐั สภา คณะรฐั มนตรี ศาลยตุ ธิ รรม
ศาลรัฐธรรมนูญ
สภาผูแ้ ทนราษฎร นายกรัฐมนตรี ศาลปกครอง
วฒุ สิ ภา รัฐมนตรี ศาลทหาร

แผนผงั การใช้อ�านาจอธิปไตย

ฝ่าย มีอ�านาจหน้าที่ในการออกกฎหมาย เพื่อใช้เป็นแนวทางและ
นติ บิ ญั ญตั ิ เครื่องมือในการบริหารประเทศ รฐั สภาประกอบด้วยสภาผแู้ ทน
ราษฎรและวุฒสิ ภา
ฝา่ ย
บรหิ าร บรษิ ัท สรา งสรรคส่อื เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

มอี า� นาจหนา้ ทใี่ นการกา� หนดนโยบายการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย เพ่ือให้ประชาชน
ด�าเนินชีวิตไดอ้ ยา่ งปกตสิ ขุ

ฝา่ ย มีอ�านาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีความต่างๆ
ตลุ าการ เพอื่ อา� นวยความยตุ ิธรรมแกป่ ระชาชนในชาติ

67ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวัฒนธรรม

๕หน่วยการเรียนรทู้ ี่ พลเมืองดี
ตามวิถีประชาธิปไตย

• มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวช้วี ดั

๑. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
ในฐานะสมาชิกทีด่ ีของชมุ ชน
(มฐ. ส ๒.๑ ป.๔/๑)บรษิ ทั สรา งสรรคสื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒. ปฏิบตั ติ นในการเปน็ ผู้นา� และผ้ตู ามทด่ี ี
(มฐ. ส ๒.๑ ป.๔/๒)
๓. วเิ คราะหส์ ทิ ธพิ นื้ ฐานทเี่ ดก็ ทกุ คนพงึ ไดร้ บั
ตามกฎหมาย (มฐ. ส ๒.๑ ป.๔/๓)
๔. เสนอวธิ กี ารทจี่ ะอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ
ในชวี ติ ประจา� วนั (มฐ. ส ๒.๑ ป.๔/๕)

สาระส�าคัญ

แผนผังสาระการเรียนรู้ การท่ีมนุษย์มาอยู่ร่วมกันในสังคม จ�าเป็นบริษัท สรางสรรคส ่ือเพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันในรูปของ.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑ พลเมืองทด่ี ขี องชุมชนตามวถิ ี
กฎระเบียบหรอื กฎหมาย และมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ประชาธิปไตย
ในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การมีส่วนร่วมใน

กิจกรรมต่างๆ ของสังคม เช่น การมีส่วนร่วมใน ๒ การปฏิบัติตนเป็นผนู้ า� และผ้ตู าม

กิจกรรมทางการเมือง การปกครอง การมสี ว่ นรว่ ม

ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการ ๓ สิทธขิ น้ั พน้ื ฐานของเด็ก
ให้การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายเเละ

คุ้มครองสิทธิขั้นพ้ืนฐานแก่เด็กซึ่งเป็นอนาคต ๔ การอยรู่ ่วมกันอย่างสันตสิ ุข
ของชาติ เรียนรู้การปฏิบัติตนตามสิทธิเสรีภาพ

วัฒนธรรม และประเพณีที่ดีงาม อันจะท�าให ้

ประชาชนสามารถอย่รู ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ขุ

นกั เรียนทราบไหมวา่ พลเมอื งดีตาม
วิถีประชาธปิ ไตยควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร

บรษิ ทั สรา งสรรคส ือ่ เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๑ พลเมืองท่ดี ขี องชมุ ชนตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
การเป็นพลเมืองดีของชุมชน สามารถท�าได้ด้วยการปฏิบัติตนเป็น
สมาชกิ ทด่ี ขี องชุมชน โดยจะต้องมีคณุ สมบตั ิ ๓ ประการ ดังน ้ี คารวธรรม (การมี
ความเคารพ) ปัญญาธรรม (การใช้สติปัญญา)

บรษิ ัท สรา งสรรคสื่อเพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

และสามคั คธี รรม (การรว่ มมอื รว่ มใจ) นอกจากนี้.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
ยงั ตอ้ งใหค้ วามรว่ มมอื ในกจิ กรรมของชมุ ชนตาม
วถิ ีประชาธปิ ไตย เชน่ การเลือกต้งั ท้องถน่ิ รู้จกั
การปฏบิ ตั ติ นเปน็ ทง้ั ผนู้ า� และผตู้ ามทด่ี ี รจู้ กั การ
แก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีเม่ือเกิดปัญหาความ
ขดั แยง้ จะทา� ใหส้ มาชกิ ในชมุ ชนสามารถอยรู่ ว่ ม
กันได้อยา่ งมีความสขุ

การปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผนู้ า� เเละผตู้ ามทดี่ เี ปน็
คุณสมบัติของพลเมืองท่ีดีของชุมชน

75ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

ประชาธปิ ไตย คอื ระบอบการปกครองทอี่ า� นาจสงู สดุ เปน็ ของประชาชน
การบรหิ ารอา� นาจรฐั มาจากเสยี งขา้ งมากของพลเมอื ง โดยพลเมอื งอาจใชอ้ า� นาจ
ของตนโดยตรงหรอื ผา่ นผแู้ ทนทตี่ นเลอื กไปใชอ้ า� นาจแทน ประเทศไทยเรม่ิ ใชก้ าร
ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาตั้งเเต ่
พ.ศ. ๒๔๗๕

พลเมือง หมายถึง ชาวเมือง ราษฎร ประชาชน

วิถี บริษัท สรางสรรคส ือ่ เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั

หมายถึง สาย แนว ทาง ถนน.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD

ประชาธิปไตย หมายถึง รปู แบบการปกครองทถ่ี อื มตปิ วงชนเปน็ ใหญ่
โดยถือเสียงข้างมาก

พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย หมายถึง พลเมืองท่ีมีคุณลักษณะที่
ส�าคัญ คือ เป็นผู้ที่ยึดมั่นในหลักศีลธรรมและคุณธรรมของศาสนา มีหลักการ
ทางประชาธิปไตยในการด�ารงชีวิต ปฏิบัติตนตามกฎหมาย และด�ารงตนเป็น
ประโยชน์ต่อสังคมโดยมีการช่วยเหลือเก้ือกูลกัน อันจะก่อให้เกิดการพัฒนา
สังคมและประเทศชาติให้เป็นประเทศแห่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

บุคคลจะเป็นพลเมืองดีของสังคมนั้น ต้องตระหนักถึงบทบาทหน้าท่ี
ท่ีจะต้องปฏิบัติสอดคล้องกับหลักธรรม วัฒนธรรม ประเพณี และรัฐธรรมนูญบรษิ ัท สรา งสรรคส ่อื เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ที่ก�าหนดไว้ รวมทั้งบทบาททางสังคมท่ีตนด�ารงอยู่ ด้วยการเป็นพลเมืองดี
ท่ีเคารพกฎหมาย เคารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู้ นื่ มคี วามกระตอื รอื รน้ ทจี่ ะเขา้ มา
มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของชุมชนและสังคม มีคุณธรรมและจริยธรรม
เป็นหลักในการด�าเนินชีวิต เมื่อสามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้อย่างถูกต้องสมบูรณ ์
ย่อมเกิดความภาคภูมิใจ และเกิดผลดีต่อตนเองและสังคม

๑.๑ การปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย

การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ควรมีคุณธรรม
จริยธรรม และสามัคคีธรรม ๓ ข้อ ได้แก่

76 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

๑) คารวธรรม คือ การมีความเคารพซึ่งกันและกัน เช่น เคารพบุคคล
ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะบิดามารดาซึ่งเป็นผู้ให้ก�าเนิด เคารพญาติผู้ใหญ่ เคารพ
กฎระเบียบของสังคม เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น เคารพความคิดเห็น
ของผู้อื่น เคารพและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

๒) ปญั ญาธรรม คอื การใชส้ ตปิ ญั ญาในการดา� เนนิ ชวี ติ เชน่ มคี วามคดิ กวา้ งไกล
โดยรับฟังข่าวสารและความคิดเห็นของผู้อ่ืน ใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ไม่น�าอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวมาใช้ตัดสินปัญหา แสดงความคิดเห็น
โดยปราศจากอคติ วางใจเป็นกลาง รู้จักการคิด วิเคราะห์ วิพากษ์ และวิจารณ์บริษทั สรา งสรรคสอื่ เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

อย่างมีเหตุผล รู้จักโต้แย้งด้วยเหตุผล ถ้ามีการโต้แย้งในหมู่คณะให้ใช้เหตุผล
และสติปัญญา เพ่ือให้อีกฝ่ายหน่ึงยอมรับฟัง ไม่ใช้อารมณ์มาตัดสินปัญหา

๓) สามัคคีธรรม คือ การร่วมมือช่วยเหลือ
ซ่ึงกันและกัน เช่น มีความเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ต่อกัน
ร่วมกันคิด วางแผน และท�างานร่วมกันด้วยความ
เต็มใจ มีความรับผิดชอบ ท�างานท่ีได้รับมอบหมาย
ใหส้ า� เรจ็ รว่ มกนั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดา� เนนิ งาน
อย่างต่อเน่ือง ร่วมกันปรับปรุง แก้ไข และพัฒนา
งานให้มีประสิทธิภาพ โดยค�านึงถึงประโยชน์ของ การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชดิ
ส่วนรวมเป็นหลัก จัดเป็นคารวธรรมท่ีพลเมือง
ทุกคนควรปฏบิ ตั ิ
๑.๒ การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ใี นชมุ ชนตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตยบริษทั สรางสรรคสื่อเพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

การอาศยั รว่ มกนั ในชมุ ชนจะตอ้ งมคี วามสา� นกึ วา่ ตนเปน็ สว่ นหนง่ึ ของชมุ ชน
โดยการเปน็ สมาชิกทด่ี ีของชุมชนสามารถปฏิบตั ิได้ ดงั นี้

๑) อนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม คือ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม
อย่างประหยัดและคุ้มค่า โดยใช้ให้น้อยและเกิดประโยชน์สูงสุด และก่อให้เกิด
ผลเสียตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มนอ้ ยที่สดุ

๒) อนรุ กั ษส์ าธารณสมบตั ิ คอื การไมท่ า� ลายสาธารณสมบตั แิ ละชว่ ยกนั
ดแู ลรกั ษาทรพั ย์สินในชุมชน เช่น เมอ่ื พบผูท้ ี่ท�าลายสาธารณสมบตั ิของส่วนรวม
ต้องรีบแจง้ พนักงานหรอื เจ้าหนา้ ท่ีท่ีเกย่ี วขอ้ ง

77ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

๓) อนรุ กั ษโ์ บราณสถาน โบราณ

วัตถุ คือ การร่วมกันอนุรักษ์สมบัติอันล้�าค่าของ

ท้องถน่ิ ประเทศ และโลก ซึ่งเราควรชว่ ยกนั รกั ษา

ไว้ เช่น ไม่ท�าลาย ไม่ขีดเขียนโบราณวัตถุ ไม่หยิบ

ส่ิงของตา่ งๆ ในโบราณสถานไปเปน็ ของตนเอง และ

ชว่ ยกนั ดแู ลโบราณสถาน โบราณวัตถุ เพราะถือว่า โบราณสถานเป็นสมบัติ
ส�าคญั ของชาติ
เป็นสมบัติของชาติและของทุกคน

บริษัท สรา งสรรคส อื่ เพื่อการเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๔) การพฒั นาชมุ ชน คอื มสี ว่ นรว่ มในการเสรมิ สรา้ งความเจรญิ

ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมให้แก่ท้องถ่ิน เช่น

การทา� ความสะอาด เกบ็ ขยะมลู ฝอย ปลกู ปา่ สรา้ งสะพาน

ดแู ลแมน่ า�้ ลา� คลองภายในชมุ ชน เพอื่ ใหช้ มุ ชนนา่ อยมู่ าก

ย่งิ ขน้ึ

นกั เรยี นชว่ ยกันเกบ็ ขยะตามทอ้ งถนนเพ่อื ให้เกิดความสะอาด

๕) การเข้าร่วมกิจกรรมประชาธิปไตยในชุมชน การอยู่
ร่วมกันในชุมชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตนตามกระบวนการ
ประชาธปิ ไตยของชมุ ชน เชน่ ปฏบิ ัตติ ามกฎจราจรโดยข้ามถนนตรงทางม้าลาย บริษัท สรา งสรรคส ือ่ เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

หรอื สะพานลอย ไมท่ งิ้ ขยะลงในทสี่ าธารณะ ไมท่ า� ลายสง่ิ ของทเ่ี ปน็ ของสาธารณะ
และทรพั ย์สินส่วนตวั ของผูอ้ นื่ ให้เสยี หาย ชว่ ยเก็บขยะที่พบเห็นในบรเิ วณตา่ งๆ
ชว่ ยดแู ลตน้ ไม้ ดอกไม้ในสวนสาธารณะของชุมชน และม ี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง เช่น ผู้ท่ีมีอายุครบ
ตามท่กี ฎหมายกา� หนด สามารถใช้สทิ ธเิ ลือกต้งั เพ่อื
เลอื กตวั แทนมาเปน็ ผนู้ า� ทง้ั ระดบั ทอ้ งถนิ่ หรอื ประเทศ
รบั ฟงั ขอ้ มลู ขา่ วสารอยู่เสมอ

กิจกรรมรณรงคช์ มุ ชนสีเขยี ว
ช่วยฟน้ื ฟธู รรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม

78 ป.๔สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

๒ การปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้นา� และผตู้ าม
การเปน็ พลเมอื งทดี่ ตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ทกุ คนจะอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมได ้
จะตอ้ งชว่ ยกนั พฒั นาชมุ ชนใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ ทง้ั ดา้ นจติ ใจ และดา้ นวตั ถ ุ นอกจากนี้
ในแตล่ ะสงั คมกจ็ า� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งมผี นู้ า� และผตู้ าม เพอื่ คอยดแู ล ใหค้ วามชว่ ยเหลอื กนั
และให้ค�าชแ้ี นะแก่กนั เพ่ือที่จะทา� ให้ชุมชนเกดิ ความเข้มแขง็ ตอ่ ไปได้

๒.๑ คณุ ลกั ษณะของการเปน็ ผนู้ า� ทด่ี ี

ผนู้ า� คอื บคุ คลทม่ี ภี าระหนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบโดยตรงทจี่ ะตอ้ งวางแผน บริษทั สรางสรรคสอ่ื เพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ส่ังการ ดูแล และควบคุมให้ผู้ตามปฏิบัติงานต่างๆ ให้ประสบความส�าเร็จตาม
เปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี ง้ั ไว ้ นอกจากนผี้ นู้ า� ทดี่ จี ะตอ้ งมคี วามร ู้ มวี สิ ยั ทศั นท์ ดี่ ี
มมี นษุ ยสมั พนั ธท์ ดี่ ี ไมถ่ อื ตวั มคี วามยตุ ธิ รรม มคี วามเสยี สละ มคี วามอดทน และ
มคี วามซอื่ สตั ยส์ จุ รติ

คณุ ลกั ษณะของการเปน็ ผู้น�าทด่ี ี

๑. มีเป้าหมาย ๘. ยตุ ธิ รรม

๒. ความรอบรู้ ๙. การใช้ดุลพนิ จิ และกลา้ ตดั สินใจ
๓. กล้าเปลย่ี นแปลง
๑๐. รบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ื่นบรษิ ทั สรางสรรคสอ่ื เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
หรอื รเิ ริม่ สงิ่ ใหม่ ๆ
๔. กระตือรอื ร้น .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๕. มคี วามอดทน ๑๑. กล่าวชมเชย ใหเ้ กียรติผูอ้ ่นื
๖. กกาารรคบวงั บคคบั มุตนตนเอเงอหงรอื ๑๒. เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวม
๗. มมี นุษยสัมพนั ธ์
มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
๑๓. มีเมตตา กรณุ า โอบออ้ มอารี

ไม่เหน็ แก่ตวั เออื้ เฟอื้ เผ่ือแผ่
๑๔. ปฏิบัตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ดี ี

79ป.๔สั ง ค ม ศึ ก ษ า

ศาสนา และวฒั นธรรม

๖หน่วยการเรียนรทู้ ่ี วฒั นธรรมไทย
รว่ มใจกันอนรุ ักษ์

• มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั

๑. อธิบายความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ของกลมุ่ คนในท้องถ่นิ

(มฐ. ส ๒.๑ ป.๔/๔)บรษิ ทั สรา งสรรคส อื่ เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

บรษิ ทั สรา งสรรคส่ือเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สาระสา� คัญ

วฒั นธรรมไทยเปน็ สง่ิ ทม่ี คี ณุ คา่ มรี ะเบยี บ แผนผังสาระการเรียนรู้

แบบแผน และขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่

ท่ีสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่อคงไว้ซ่ึง ๑ ความหมาย ความสา� คญั
เอกลกั ษณข์ องความเปน็ วฒั นธรรมไทยใหค้ งอยู่ ลกั ษณะ และประเภทของ
สืบไป วัฒนธรรม

๒ วัฒนธรรมไทย ๔ ภาค


Click to View FlipBook Version