35 ระยะที่ 2 3. พัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับ ชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก (1) รวมกลุ่มสมาชิกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้ เปลือกโกโก้ ประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ ผู้ว่างงาน และผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และประชาชนที่สนใจ (2) พัฒนารูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้ เปลือกโกโก้ และพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยการประสานความร่วมมือกับนักวิชาการ จากสถาบันการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญ (3) อบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปจากเปลือกโกโก้หลายรูปแบบโดยการประสานความร่วมมือกับ ภาคีภาคีวิชาการสถาบันการศึกษา ระยะที่ 3 (4) พัฒนาศักยภาพของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ในชุมชนโดยการพัฒนากลไก โครงสร้างของกลุ่ม เช่น การบริหารจัดการกลุ่ม การระดมทุนในการสมัครสมาชิกกลุ่ม (5) พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ (6) ประชุมติดตามและประเมินผล 4. หาช่องทางการจัดจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับ ประชาชนในพื้นที่ จังหวัดตาก (1) ส ารวจกลุ่มเกษตรกรผู้เกี่ยวข้อง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้ผลิตภัณฑ์ จากเปลือกโกโก้เพื่อหาช่องทางการจัดจ าหน่ายถ่ายทอดและต่อยอดผลิตภัณฑ์ (2) ออกแบบสัญลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ของโกโก้โดยการประสานความร่วมมือของนักวิชาการ จากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (3) การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์การผลิต และการจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จาก เปลือกโกโก้ 5. สังเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยเพื่อชุมชน “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างนวัตกรรมจาก เปลือกโกโก้ในพื้นที่ จังหวัดตาก” ที่เน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยชุมชนมีส่วนร่วม การถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง 6. สรุปผลการวิจัยเพื่อจัดท ารายงานความก้าวหน้าและรายงานฉบับสมบูรณ์ การด าเนินกิจกรรมด้วยกระบวนการงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ระยะที่ 1ศึกษาบริบทพื้นที่ การใช้ประโยชน์ และวิธีการก าจัดเปลือกโกโก้ ได้แก่ ศึกษาบริบทพื้นที่ การปลูก วิธีการก าจัดเปลือกโกโก้ การแปรูปโกโก้ และประโยชน์จากเปลือกโกโก้ของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ เพื่อการทบทวนองค์ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชน ประสานรวมกลุ่มเกษตรกร และทาบทามปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการ เพื่อสร้างภาคีเครือข่าย ศึกษาช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวโกโก้ ประโยชน์และการด าเนินกิจกรรมของกลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกโกโก้ และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง หารูปแบบที่เหมาะสมของการสร้างนวัตกรรมจาก
36 โกโก้และเปลือกโกโก้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก ศึกษาสรรพคุณ คุณสมบัติของ เปลือกโกโก้ โดยการประสานความร่วมมือกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก มหาวิทยาลัย ราชภัฏก าแพงเพชร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก การศึกษาดูงาน รูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จาก เปลือกโกโก้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการใช้ประโยชน์จากโกโก้ประชุมภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมกันก าหนดรูปแบบ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือก โกโก้กับวัสดุหรือพืชผลอื่น ๆ ในชุมชนที่ช่วยเพิ่มสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จาก เปลือกโกโก้ในชุมชนและน าไปทดลองใช้ ประเมินผล สรุปผลการทดลอง เช่น กิจกรรมการประชุมวางแผนการด าเนินงานในพื้นที่อ าเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 ณ ศูนย์ประสานงานวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก ต าบลช่องแคบ อ าเภอพบพระ และประชุมทีมนักวิจัย ณ ศูนย์การ เรียนรู้ทางภาษาด้วยตนเอง อ าเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยทีมวิจัย เกษตรกรผู้วิจัยโกโก้ กลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้แทนจากภาครัฐ พัฒนาชุมชน องค์การบริหารส่วนต าบล ปศุสัตว์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ วัตถุประสงค์เพื่อเปิดตัวโครงการ สร้างการรับรู้ในการด าเนินงานวิจัยในระดับพื้นที่ เพื่อให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการพัฒนาและก าหนดแผนงานในการด าเนินงานวิจัย กระบวนการและเครื่องมือคือ การพูดคุย หารือ หาแนวทาง ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และแลกเปลี่ยน ข้อเสนอแนะในการสร้างภาคีเครือข่ายร่วมด าเนินงานในพื้นที่และระดับกลุ่ม ผลที่เกิดขึ้น คือ ได้ภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่จะเข้ามาร่วมในการด าเนินการวิจัย พัฒนาหารูปแบบผลิตภัณฑ์ หาและส่งเสริมช่องทางการตลาด และได้ภาคีเครือข่ายภายในที่เกี่ยวข้องเป็นผู้น า ชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายที่จะร่วมด าเนินการวิจัย ทดลองและพัฒนาศักยภาพ และแกนน าเกษตรกร ผู้ปลูกโกโก้และเลี้ยงสัตว์ บทเรียนและข้อค้นพบจากการด าเนินกิจกรรม ดังนี้ 1. การสร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นจะส่งผลให้เกิดภาคี 2. การใช้เวทีประชุม สนทนาหารือช่วยให้เกิดการเรียนรู้ 3. การด าเนินกิจกรรมต้องการการหนุนเสริม การบูรณาการจากหลายภาคส่วนที่มีองค์ความรู้และ ความถนัดที่แตกต่างกัน
37 ระยะที่ 2 พัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก รวมกลุ่มสมาชิกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้ เปลือกโกโก้ ประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ ผู้ว่างงาน และผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และประชาชนที่สนใจ พัฒนารูปแบบการแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากโกโก้ เปลือกโกโก้ และพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์โดยการประสาน ความร่วมมือกับนักวิชาการ จากสถาบันการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญ อบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปจากเปลือกโกโก้หลายรูปแบบโดยการประสาน ความร่วมมือกับภาคีภาคีวิชาการสถาบันการศึกษา เช่น กิจกรรมจัดประชุมกลุ่มนักวิชาการ เกษตรกรและทีมนักวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ จากโกโก้ เปลือกโกโก้ และพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยการประสานความร่วมมือกับนักวิชาการจากวิทยาลัย เกษตรและเทคโนโลยีตากและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อน าเสนอและร่วมหารือแนวทางการพัฒนาสู่มาตรฐานครั้งที่ 1 วัตถุประสงค์1. เพื่อน าเสนอผลการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโก้โก้ 2. เพื่อพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปจากโกโก้และเปลือกโกโก้ กระบวนการและเครื่องมือ คือ วงสนทนา การสรุป การวางแผนการด าเนินงาน ผลที่เกิดขึ้น รูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ทั้ง 3 รูปแบบ บทเรียนและข้อค้นพบจากการด าเนินกิจกรรม 1. การแปรรูปภายใต้ชื่องานวิจัย: การสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกโกโก้) มี หลากหลายรูปแบบตามความสนใจเกษตรกร เช่น อาจท าเป็นดินปลูก ถ่าน หรืออาหารสัตว์ ตามความถนัดของ รายบุคคล หรืออาจท าเป็นรายกลุ่มเพื่อจ าหน่ายในราคาถูกให้กับเครือข่าย ซึ่งเป็นการลดต้นทุนได้ 2. การที่จะน าองค์ความรู้ไปถ่ายทอดและสามารถวัดได้ ต้องใช้เวลาและต้องออกแบบการเก็บข้อมูลให้ง่าย สะดวกต่อผู้ทดลอง เมื่อได้ผลที่แน่ชัดแล้ว จึงจะสามารถน าไปถ่ายทอดได้ ต้องวางแผนงานให้ชัดเป็นระบบ ระยะที่ 3 พัฒนาศักยภาพของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ในชุมชนโดยการพัฒนากลไก โครงสร้างของกลุ่ม เช่น การบริหารจัดการกลุ่ม การระดมทุนในการสมัครสมาชิกกลุ่ม พัฒนา ศักยภาพการบริหาร จัดการกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ประชุมติดตามและประเมินผล หาช่องทางการจัดจ าหน่ายการแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดตาก ส ารวจกลุ่มเกษตรกร ผู้เกี่ยวข้อง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้เพื่อหาช่องทางการจัด
38 จ าหน่ายถ่ายทอดและต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกแบบสัญลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ของโกโก้โดยการประสานความ ร่วมมือของนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์การผลิต และการจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ สังเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยเพื่อชุมชน “การพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานราก ด้วยการสร้างนวัตกรรมจากเปลือกโกโก้ในพื้นที่ จังหวัดตาก” ที่เน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การ พัฒนาอย่างยั่งยืนโดยชุมชนมีส่วนร่วมการถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง 6. สรุปผลการวิจัยเพื่อจัดท ารายงานความก้าวหน้าและรายงานฉบับสมบูรณ์ เช่น กิจกรรมประชุมภาคีเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ ทีมนักวิจัย เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ นักวิชาการ เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเกษตรกรด้านการแปรูปและการหาช่องทางการจ าหน่ายระหว่างภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อ ร่วมก าหนดแนวทางในการสร้างช่องทางการตลาดการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกโกโก้) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพทีมนักวิจัยและเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกผู้ปลูกโกโก้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และ ผู้สนใจด้านการบริหารจัดการกลุ่มและการหาช่องทางการตลาด 2. เพื่อหารือข้อตกลงร่วมในการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อหาช่องทางสร้างรายได้ลดรายจ่าย ลดต้นทุนการผลิตของเครือข่ายเกษตรกร กระบวนการและเครื่องมือ คือ กระบวนการกลุ่ม การบรรยาย การระดมความคิดเห็น ผลที่เกิดขึ้น ได้รูปแบบและแนวทางในการก าหนดช่องทางการตลาดระหว่างภาคีเครือข่ายเพื่อผลการ ทดลองสมบูรณ์ เพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก รวมทั้งรวมกลุ่มสมาชิกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ ผู้ว่างงาน และผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ และประชาชนที่สนใจ บทเรียนและข้อค้นพบจากการด าเนินกิจกรรม การด าเนินกิจกรรมกลุ่มที่รวมตัวขึ้นจากโครงการวิจัยอาจยังไม่สามารถสร้างและพัฒนากลุ่มได้อย่างเป็น ทางการในระยะเวลาจ ากัด เพื่อให้เกิดภาคีจึงเกิดเครือข่ายที่เป็นช่องทางการตลาดที่เกี่ยวข้องโดยการเชื่อมโยง ถ่ายทอดการทดลองกับสหกรณ์โคขุนจังหวัดตากและผู้ประกอบการดินปลูก เพราะเป็นเครือข่ายที่มีสมาชิกเป็น ระบบสหกรณ์เดิม มีเครือข่ายเดิมที่จะส่งผลถึงการน าเปลือกโกโก้มาแปรรูปที่เกิดประโยชน์ ประหยัด คุ้มค่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
39 2. ขอบเขตการศึกษา 2.1 พื้นที่ด าเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ ก าหนดพื้นที่ในการศึกษาแบบเจาะจง มุ่งที่จะศึกษาในประเด็นที่เกี่ยวกับการ สร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกโกโก้) ของเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในพื้นที่จังหวัดตาก 2.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2.2.1 ประชากร บุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ปศุสัตว์อ าเภอแม่สอด พัฒนาชุมชนอ าเภอแม่สอด เกษตร จังหวัดตาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร วิทยาลัยชุมชนตาก บุคลากรจากหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าการเกษตร ผู้ประกอบการ อาหารสัตว์ ผู้ประกอบการไม้ดอกไม้ประดับและผู้ประกอบการตลาดโค บุคลากรภายในชุมชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ แกนน า ปราชญ์ ผู้น าชุมชนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ออร์แกนิก ประกอบด้วย สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิกจังหวัดตาก ประกอบด้วย สมาชิกในพื้นที่อ าเภอแม่สอด จ านวน 10 ราย อ าเภอท่าสองยาง 11 ราย อ าเภอแม่ระมาด 2 ราย อ าเภอพบพระ 30 ราย อ าเภออุ้มผาง 15 ราย อ าเภอวังเจ้า 4 ราย และอ าเภอสามเงา 1 กลุ่ม (เครือข่ายปราชญ์ ชาวบ้าน) เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เยาวชน และ ประชาชนที่สนใจ 2.2.2 กลุ่มตัวอย่าง ในการท าวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย บุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ปศุสัตว์อ าเภอแม่สอด พัฒนาชุมชนจังหวัดตาก เกษตร จังหวัดตาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร วิทยาลัยชุมชนตาก บุคลากรจากหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าการเกษตร ผู้ประกอบการ อาหารสัตว์ผู้ประกอบการไม้ดอกไม้ประดับและผู้ประกอบการตลาดโค เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้ 1. เครื่องมือการศึกษาบริบทชุมชน 2. การสัมภาษณ์ / การพูดคุย 3. การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observations) 4. แบบสอบถามกึ่งทางการ (Questionnaire)
40 5. อุปกรณ์ส าหรับงานสนาม รายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. เครื่องมือการศึกษาบริบทชุมชน เครื่องมือการศึกษาบริบทชุมชน ประกอบด้วย ประชุมกลุ่ม, Timeline, Focus Group ประสาน รวมกลุ่มประชาชน และทาบทามปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการ เพื่อสร้างภาคีเครือข่าย 2. การสัมภาษณ์ ทีมนักวิจัยชุมชนใช้การสัมภาษณ์ 2 แบบ ดังนี้ 2.1) การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกรายบุคคล (In-depth interview) ใช้ซักถามพูดคุยกับกลุ่ม เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อศึกษาศึกษาบริบทพื้นที่ การใช้ประโยชน์ และ วิธีการก าจัดเปลือกโกโก้ ศึกษาบริบทพื้นที่การปลูก วิธีการก าจัดเปลือกโกโก้ การแปรรูปโกโก้ และประโยชน์จาก เปลือกโกโก้ของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ เพื่อการทบทวนองค์ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชนและศึกษาช่วงเวลาการเก็บ เกี่ยวผลผลิตโกโก้ ประโยชน์และการด าเนินกิจกรรมของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ 2.2) การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง (non-Structured interview) ใช้สัมภาษณ์ความจ าเป็น พื้นฐาน สภาพปัญหา การสร้างรายได้จากการปลูกโกโก้และวิถีปกติของการท าการเกษตร การให้อาหารสัตว์และ สภาพปัญหาสถานการณ์ ข้อกังวลของกลุ่มเป้าหมาย 3. การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observations) ใช้ในการสังเกตการมีส่วนร่วมของทีมวิจัย ชุมชนและผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ สังเกตการณ์ประชุมกลุ่ม การท า Focus Group การด าเนินกิจกรรมวิสาหกิจ การพัฒนาศักยภาพ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การส่งเสริม สนับสนุน และการบริหารจัดการกลุ่มวิถีเกษตรกรรม 4. แบบสอบถามกึ่งทางการ (Questionnaire) 4.1) แบบสอบถามที่มีค าถามแบบปลายปิด (Close end) ใช้สอบถามความต้องการของ ผู้เกี่ยวข้อง โดยเป็นแบบสอบถามที่ให้ผู้ตอบเลือกตอบตามตัวเลือกที่ก าหนดได้หลายค าตอบ 4.2) แบบสอบถามที่มีค าถามแบบปลายเปิด (Open end) ใช้สอบถามความต้องการของ ผู้เกี่ยวข้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และเกษตรผู้ปลูกโกโก้ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในกรณีที่แบบสอบถามที่ให้ผู้ตอบ เลือกตอบไม่มีข้อที่ตรงกับความต้องการ โดยให้ผู้ตอบเขียนตอบอย่างอิสระตามเงื่อนไขที่ข้อค าถามได้ก าหนดไว้ การเก็บรวบรวมข้อมูล 1) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ผู้ด าเนินการเก็บข้อมูลด้วยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลทาง เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากโกโก้ การปลูกโกโก้ ประโยชน์เปลือกโกโก้ เอกสารที่ เกี่ยวข้องกับโกโก้ การด้านการปลูกโกโก้ รวมทั้งผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นส่วนที่ ท าให้ผู้วิจัยเข้าใจพื้นฐานประโยชน์จากโกโก้และน ามาสังเคราะห์กับ นักวิชาการ ผู้เกี่ยวข้องและทีมนักวิจัย 2) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) ผู้วิจัยด าเนินการเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In depth Interview) โดยตรงจากผู้รู้ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เกี่ยวข้องกับเกษตร ผู้น าชุมชนภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้สูงอายุ กลุ่มปฏิบัติการ ได้แก่ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการและผู้สนใจ
41 ทั่วไป และกลุ่มผู้ให้ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ เกษตรกร เยาวชน ครูอาจารย์ องค์กรภาคประชาชน นักศึกษา นักวิชาการ ปฏิบัติการ และผู้สนใจทั่วไปร่วมกับทีมนักวิจัยและบันทึกเทประหว่างท าการสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ด าเนินการวิเคราะห์ข้อมูลจะท าไปพร้อมกับการเก็บรวบรวมข้อมูล ตามแนวทางวิจัยเชิง คุณภาพ โดยน าข้อมูลที่ในแต่ละครั้งมาแยกหมวดหมู่ พิจารณาถึงความพอเพียงและสมบูรณ์ของข้อมูลแนวคิดและ วัตถุประสงค์ของการวิจัย โดยมีแบบสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group) น ามาวิเคราะห์ข้อมูลตามทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) แล้วน ามาเสนอแบบพรรณนาความเรียง การทดสอบเครื่องมือและความเชื่อมั่น การทดสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content validity test) และการทดสอบความน่าเชื่อถือ (Reliability test) ของแบบสอบถาม (Questionnaire) งานวิจัยนี้จะน าแบบสอบถามที่สร้างเสร็จแล้วมอบให้กับผู้ทรงคุณวุฒิ จ านวน 3 ท่าน ตรวจสอบความ ถูกต้องของเนื้อหา และท าการแก้ไขตามข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่องานวิจัย การทดสอบความน่าเชื่อถือ (Reliability test) เมื่อผู้วิจัยได้แก้ไขแบบสอบถามตามที่ผู้ทรงคุณวุฒิระบุเรียบร้อยแล้วจะต้องน าแบบสอบถามมาท าการ ทดสอบความน่าเชื่อถือ (Reliability test) โดยท าการแจกกับกลุ่มตัวอย่างที่มีสภาพเป็นกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการและผู้บริโภค จ านวน 50 คน เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือโดยการวิเคราะห์ประมวลหาค่า ครอนบาร์ค แอลฟ่า (Cronbach’s Alpha analysis test) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) 3. ระยะเวลาท าการวิจัยและการด าเนินงานตลอดโครงการวิจัย (timeline) การวิจัยครั้งนี้ใช้เวลาศึกษาและพัฒนา 12 เดือนโดยแบ่งระยะการท างานออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ แผนการด าเนินงานในระยะที่ 1 (เดือนเมษายนถึงกรกฎาคม 2565) สอดคล้องกับแผนการด าเนินงานที่ ก าหนด โดยมีทีมภาคีเครือข่ายในพื้นที่จนท าให้สามารถจัดส่งรายงานให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ก าหนด โดยใน ระยะต่อไปจะด าเนินกิจกรรมการหารูปแบบที่เหมาะสมของการสร้างนวัตกรรมจากโกโก้และเปลือกโกโก้ด้วย การศึกษาสรรพคุณ คุณสมบัติของเปลือกโกโก้โดยการประสานความร่วมมือกับนักวิชาการมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก ไปศึกษาดู งานรูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้การออกแบบผลิตภัณฑ์และการใช้ประโยชนจากโกโก้ประชุม ภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมกันก าหนดรูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้กับวัสดุหรือพืชผลอื่น ๆในชุมชนที่ ช่วยเพิ่มสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ในชุมชนและน าไปทดลองใช้ประเมินผล สรุปผลการทดลอง หลังจากนั้นก็จะด าเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เพื่อสร้าง อาชีพและรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก
42 แผนการด าเนินงานในระยะที่ 2 (เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม 2565) สอดคล้องกับแผนการด าเนินงานที่ ก าหนด โดยมีทีมภาคีเครือข่ายในพื้นที่จนท าให้สามารถจัดส่งรายงานให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ก าหนด โดยใน ระยะต่อไปจะด าเนินกิจกรรมพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เพื่อสร้างอาชีพ และรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก รวมกลุ่มสมาชิกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เปลือกโกโก้ ประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ ผู้ว่างงานและผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และประชาชนที่สนใจพัฒนา รูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์เปลือกโกโก้และพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยการประสานความร่วมมือกับ นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปจากเปลือกโกโก้หลายรูปแบบโดย การประสานความร่วมมือกับภาคีภาคีวิชาการสถาบันการศึกษา แผนการด าเนินงานระยะที่ 3 (เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงกุมภาพันธ์2566) พัฒนาศักยภาพของกลุ่ม แปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ในชุมชนโดยการพัฒนากลไกโครงสร้างของกลุ่ม เช่น การบริหารจัดการกลุ่ม การระดมทุนในการสมัครสมาชิกกลุ่ม พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ประชุม ติดตามและประเมินผล หาช่องทางการจัดจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและ รายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดตาก ส ารวจกลุ่มเกษตรกรผู้เกี่ยวข้อง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ผู้มีส่วนได้ส่วน เสียในการใช้ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ เพื่อหาช่องทางการจัดจ าหน่ายถ่ายทอดและต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกแบบ สัญลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ของโกโก้โดยการประสานความร่วมมือของนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์การผลิต และการจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จาก เปลือกโกโก้สังเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยเพื่อชุมชน “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างนวัตกรรมจาก เปลือกโกโก้ในพื้นที่จังหวัดตาก” ที่เน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยชุมชนมีส่วนร่วม การถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงและสรุปผลการวิจัยเพื่อจัดท ารายงานความก้าวหน้าและ รายงานฉบับสมบูรณ์ แผนการด าเนินงานในระยะที่ 1 (เดือนเมษายนถึงกรกฎาคม 2565) 1. ศึกษาบริบทพื้นที่ การใช้ประโยชน์และวิธีการก าจัดเปลือกโกโก้ได้แก่ (1) ศึกษาบริบทพื้นที่การปลูก วิธีการก าจัดเปลือกโกโก้การแปรูปโกโก้และประโยชน์จาก เปลือกโกโก้ของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้เพื่อการทบทวนองค์ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชน (2) ประสาน รวมกลุ่มเกษตรกร และทาบทามปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการ เพื่อสร้างภาคี เครือข่าย (3) ศึกษาช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวโกโก้ประโยชน์และการด าเนินกิจกรรมของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก โกโก้และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง 2. หารูปแบบที่เหมาะสมของการสร้างนวัตกรรมจากโกโก้และเปลือกโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก (1) ศึกษาสรรพคุณ คุณสมบัติของเปลือกโกโก้โดยการประสานความร่วมมือกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก
43 (2) การศึกษาดูงาน รูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้การออกแบบผลิตภัณฑ์และ การใช้ประโยชนจากโกโก้ (3) ประชุมภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมกันก าหนดรูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้กับ วัสดุหรือพืชผลอื่น ๆ ในชุมชนที่ช่วยเพิ่มสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ในชุมชนและน าไปทดลองใช้ ประเมินผล สรุปผลการทดลอง แผนการด าเนินงานในระยะที่ 2 (เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม 2565) 3. พัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับ ชุมชนในพื้นที่จังหวัดตาก (1) รวมกลุ่มสมาชิกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เปลือกโกโก้ประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ ผู้ว่างงาน และผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และประชาชนที่สนใจ (2) พัฒนารูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้เปลือกโกโก้และพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยการประสานความร่วมมือกับนักวิชาการ จากสถาบันการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญ (3) อบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปจากเปลือกโกโก้หลายรูปแบบโดยการประสานความร่วมมือกับ ภาคีภาคีวิชาการสถาบันการศึกษา (4) พัฒนาศักยภาพของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ในชุมชนโดยการพัฒนากลไก โครงสร้างของกลุ่ม เช่น การบริหารจัดการกลุ่ม การระดมทุนในการสมัครสมาชิกกลุ่ม แผนการด าเนินงานระยะที่ 3 (เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงกุมภาพันธ์2566) (5) พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ (6) ประชุมติดตามและประเมินผล 4. หาช่องทางการจัดจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับ ประชาชนในพื้นที่ จังหวัดตาก (1) ส ารวจกลุ่มเกษตรกรผู้เกี่ยวข้อง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้ผลิตภัณฑ์ จากเปลือกโกโก้เพื่อหาช่องทางการจัดจ าหน่ายถ่ายทอดและต่อยอดผลิตภัณฑ์ (2) ออกแบบสัญลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ของโกโก้โดยการประสานความร่วมมือของนักวิชาการ จากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (3) การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์การผลิต และการจ าหน่ายการแปรรูปผลิตภัณฑ์จาก เปลือกโกโก้ 5. สังเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยเพื่อชุมชน “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างนวัตกรรมจากเปลือก โกโก้ในพื้นที่ จังหวัดตาก” ที่เน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยชุมชนมีส่วนร่วมการ ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง 6. สรุปผลการวิจัยเพื่อจัดท ารายงานความก้าวหน้าและรายงานฉบับสมบูรณ์
บทที่ 4 ผลการวิจัย การวิจัยเรื่อง “การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกโกโก้) ของเครือข่าย เกษตรกร ผู้ปลูกโกโก้ในพื้นที่จังหวัดตาก” ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ข้อที่ 1. ศึกษาบริบทพื้นที่ การใช้ประโยชน์ และ วิธีการก าจัดเปลือกโกโก้และเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกในพื้นที่ จังหวัดตาก 2. พัฒนาถ่ายทอดรูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้3. ส่งเสริมช่องทางการจัดจ าหน่าย ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้โดยมีขั้นตอนการด าเนินการวิจัยเพื่อให้ได้ผลแต่ละวัตถุประสงค์ดังนี้ 4.1 ผลการด าเนินงานเทียบกับแผนการด าเนินงานวิจัย และผลการด าเนินงานตามวัตถุประสงค์ ผลการด าเนินงานตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ศึกษาบริบทพื้นที่ การใช้ประโยชน์ และวิธีการก าจัดเปลือก โกโก้และเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกในพื้นที่จังหวัดตาก ทีมนักวิจัยใช้กระบวนการวิจัยเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมโดยเริ่มประชุมทีมนักวิจัย จ านวน 2 ครั้ง ณ ศูนย์ ประสานงานวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก ต าบลช่องแคบ อ าเภอพบพระ จังหวัดตาก มีผู้ร่วมประชุม 20 คน ประกอบ ไปด้วยทีมวิจัย เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ กลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้แทนจากภาครัฐ ประกอบ ไปด้วย พัฒนาชุมชน องค์การบริหารส่วนต าบลและปศุสัตว์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเปิดตัวโครงการ และสร้างภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่จะเข้ามาร่วมในการด าเนินการวิจัยเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ การหนุนเสริม การบูรณาการจากหลายภาคส่วนที่มีองค์ความรู้และความถนัดที่แตกต่างกัน หลังจากนั้นประชุมทีม วิจัยจ านวน 20 คน ประกอบไปด้วยทีมวิจัย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ กลุ่มเกษตรกรผู้ เลี้ยงสัตว์ และเพื่อพัฒนาเพื่อเรียนรู้เครื่องมือเก็บข้อมูลชุมชน การบันทึกข้อมูล การสังเกต เทคนิคการสัมภาษณ์ การสืบค้นข้อมูล การสื่อสาร การส่งข้อมูลผ่านเครื่องมือสังคม ออนไลน์และการวิเคราะห์ข้อมูล เช่นการใช้เครื่องมือ Timeline ปฏิทินทางการเกษตร การท าบันทึกเบื้องต้นและ แบ่งบทบาทหน้าที่ให้ทีมนักวิจัยและแกนน าได้รับผิดชอบ ตามด้านต่าง ๆเช่น การสืบค้นข้อมูล การลงพื้นที่การส ารวจการสัมภาษณ์ศึกษาบริบทพื้นที่การปลูก วิธีการก าจัด เปลือกโกโก้ การแปรูปโกโก้ และประโยชน์จากเปลือกโกโก้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกและเกษตรกรผู้ปลูก โกโก้ เพื่อทบทวนองค์ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชนในพื้นที่อ าเภอแม่สอด (ต าบลพะวอ ต าบลแม่กาษา) อ าเภอพบพระ (ต าบลช่องแคบ ต าบลรวมไทยพัฒนา ต าบลพบพระ) อ าเภออุ้มผาง (ต าบลโมโกร ต าบลแม่กลอง ต าบลแม่ละมุ้ง) ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์และกลุ่มเกษตรผู้ปลูกโกโก้ รวมทั้งเยาวชนในชุมชนและประชาชนในพื้นที่เพื่อ น ามาเป็นแนวทางการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือ และสามารถถ่ายทอดต่อยอดให้กับเกษตรกรภาคี และผู้สนใจ ประชุมหารือร่วมกันกับภาคีรับฟังข้อเสนอแนะความคิดเห็นของทีมนักวิชาการ เกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนออร์แกนิก เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ปราชญ์ชาวบ้านและจัดท าแบบสอบถามเพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมตามความ ต้องการน ามาออกแบบและทดลองใช้ ผลจากการศึกษาบริบทพื้นที่การปลูก วิธีการก าจัดเปลือกโกโก้ การแปรรูปโกโก้ และประโยชน์จากเปลือก โกโก้ของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ เพื่อการทบทวนองค์ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชน พบว่า
45 (1.1) การปลูกโกโก้ โกโก้เป็นพืชเศรษฐกิจพิชิตเทรนด์โลกที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกับโกโก้กันเพราะในชีวิตประจ าวันของเรา ต่างก็มีผลิตภัณฑ์โกโก้อยู่รอบตัวทั้งเป็นเครื่องดื่มและเป็นขนมที่มีส่วนผสมของโกโก้หรือช็อกโกแลต เช่น เครื่องดื่ม โกโก้ร้อน โกโก้เย็น โกโก้ปั่น เป็นต้น แหล่งก าเนิดของโกโก้นั้นอยู่บริเวณเขตร้อนทางทวีปอเมริกาแถบลุ่มน้ า อะเมซอน และบางส่วนของทวีปอเมริกากลางโดยชาวอินเดียแดงเป็นพวกแรกที่ปลูกโกโก้แล้วน าเมล็ดมาท าเป็น เครื่องดื่มที่รู้จักกันในนามของเครื่องดื่มของพระเจ้าชาวอินเดียเรียกเมล็ดโกโก้ว่าคาคาฮลูท (Cacahualt) ต่อมาได้ เรียกว่า คาเค้าท์ (Chacoa) และเรียกเครื่องดื่มที่ผลิตได้จากเม็ดโกโก้ว่า โซเคลาท์ (Xocoatl) จนต่อมาผันมาเป็น ช็อคโกแลต (Chocolate) จากนั้นชาวสเปนก็ได้น าเครื่องดื่มจากเมล็ดโกโก้นี้ไปผสมกับน้ าตาลจากอ้อยกลายเป็นที่ ได้รับความนิยมมากในแถบยุโรปต่อมาศตวรรษที่ 16 ชาวสเปนก็เริ่มเพาะปลูกโกโก้อย่างจริงจังในประเทศแถบ อเมริกา เช่น โคลัมเบีย เวเนซุเอล่า เม็กซิโก ทรินิ แดดและเอกวาดอร์ จากนั้นก็ได้เริ่มปลูกแพร่หลายไปยังอาณา นิคมของสเปน ดัตช์และโปรตุเกสตามทวีปต่าง ๆ ส าหรับไทยนั้นเริ่มมีการปลูกโกโก้ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2446 โดย หลวงราชคนิกรแต่ก็ถูกปล่อยปะละเลยเพราะไม่รู้วิธีน าไปใช้ประโยชน์ ต่อมาในปีพ.ศ. 2495 กรมกสิกรรมโดย ดร.พิศ ปัญยาลักษณ์ ได้น าพันธุ์โกโก้จากต่างประเทศมาปลูก แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม จนถึงปี พ.ศ. 2515 เป็นต้นมา ได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยโกโก้อย่างจริงจัง โดยกองการยาง กรมกสิกรรม ได้น าเมล็ดพันธุ์โกโก้จากประเทศมาเลเซีย มาปลูกที่สถานีทดลองยาง จังหวัดกระบี่ และในปี พ.ศ. 2523 ฯพณฯ พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่า การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้น าพันธุ์โกโก้ลูกผสมพันธุ์การค้าจากมาเลเซียมาปลูกที่สถานีทดลองพืชสวนสวี จังหวัดชุมพร และได้มีการน าเข้าสายพันธุ์แท้ในปี พ.ศ. 2525 จ านวน 18 สายพันธุ์จากสหรัฐอเมริกา และในปี พ.ศ. 2535 ก็ได้น าเข้ากิ่งพันธุ์โกโก้อีก 10 สายพันธุ์จากประเทศอังกฤษมาปลูกไว้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร โดยเริ่มมีการ กระจายพันธุ์ให้เกษตรกรทางภาคใต้ประมาณปี พ.ศ. 2532 และขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2557 จนถึง ปัจจุบัน สรุปว่าประเทศไทยสามารถปลูกโก้โก้ได้ จากการศึกษาทีมวิจัยสามารถสรุปเป็นช่วงเวลาการน าเข้าโกโก้สู่ ประเทศไทยได้ดังภาพ
46
47 ที่มาของการส่งเสริมการปลูกโกโก้พันธุ์ IM 1 ของวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิค วิสาหกิจชุมชนออร์แกนิค ตั้งขึ้นจากการรวมตัวของเกษตรกรที่ต้องการสร้างแหล่งอาหารคุณภาพที่ ปลอดจากสารพิษตกค้างในผลผลิต และต้องการรักษาสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยยึดหลักสัมมาชีพ โดยใช้ กระบวนการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ยึดหลักการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีความ มั่นคงแข็งแรง วิสาหกิจชุมชนออร์แกนิค มีกิจกรรมอะไรบ้าง 1. ส่งเสริมการปลูกพืชระบบอินทรีย์ 2. ส่งเสริมให้มีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) 3. รับซื้อผลผลิตจากสมาชิกเพื่อน าไปจ าหน่าย โกโก้ในพื้นที่มีที่มาอย่างไร 1. มีเกษตรกรส่วนหนึ่งปลูกโกโก้พันธุ์ลูกผสมชุมพรอยู่ในพื้นที่ก่อนอยู่แล้วจ านวนหนึ่ง 2. กรรมการวิสาหกิจได้มีโอกาสไปดูงานจัดแสดงนิทรรศการโกโก้ที่ประเทศสิงคโปร์ จึงเกิดแนวคิดที่ จะส่งเสริมสมาชิก โดยใช้สายพันธุ์ IM1 มาทดลองปลูกในพื้นที่ 3. กรรมการวิสาหกิจเกิดแนวคิดสร้างป่าสร้างรายได้จากผลผลิตโกโก้ หลังจากทดลองปลูกในพื้นที่ พบว่ามีการเจริญเติบโตได้ดี ผลผลิตมีคุณภาพดีกว่าพันธุ์ลูกผสมชุมพรที่เกษตรกรท าการปลูกอยู่ ก่อนหน้านี้ 4. แหล่งผลิตต้นกล้าน่าเชื่อถือเพราะผลิตโดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมีการท าสัญญา ซื้อคืนผลผลิต วิสาหกิจมีวิธีบริหารจัดการอย่างไร 1. สมาชิกของวิสาหกิจที่มีความประสงค์จะปลูกโกโก้สายพันธุ์ IM1 ต้องใช้ต้นพันธุ์จากวิสาหกิจฯ เท่านั้น 2. สมาชิกต้องมีการท าสัญญากับวิสาหกิจฯ เพื่อประกันราคาผลผลิตขั้นต่ าผลสดที่สุกแล้วในราคา กิโลกรัมละ 8 บาท ปัจจุบันสมาชิกสามารถจ าหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท 3. สมาชิกต้องปลูกในระบบอินทรีย์เท่านั้น องค์ความรู้เรื่องชีวภัณฑ์ การป้องกันโรคและแมลงและ เทคนิคการดูแล บ ารุงรักษา วิสาหกิจฯ เป็นผู้สนับสนุน ภายใต้ความร่วมมือจากสถาบันการศึกษา ในจังหวัด อาทิ วิทยาลัยชุมชนตาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก มหาวิทยาลัยราชภัฏ ก าแพงเพชร แม่สอด เป็นต้น 4. วิสาหกิจมีโครงการแปรรูปผลผลิตจากโกโก้เพื่อเพิ่มศักยภาพและรายได้ให้แก่สมาชิก โดยน า หลักการ BCG Model มาปรับใช้ในทุกขั้นตอน 5. การขยายพื้นที่และส่งเสริมการปลูกให้แก่เกษตรกรอยู่ในรูปเกษตรพันธสัญญา เพื่อสร้างความ เชื่อมั่นให้แก่เกษตรกรและสร้างความยั่งยืนต่อคุณภาพชีวิต ตลอดจนสร้างแหล่งอาหารและ สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยในอนาคต
48 (1.2) การปลูกโกโก้และการเก็บเกี่ยว การปลูกโกโก้ปัจจัยที่ส าคัญอีกประการหนึ่งคือการเตรียมร่มเงาส าหรับต้นโกโก้การปลูกโกโก้แบ่งออก ได้เป็น 3 ลักษณะคือ 1. การปลูกโกโก้ภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติซึ่งอาจปลูกปะปนกับต้นไม้หลากหลายชนิดที่มีขนาดเล็กใหญ่ และต้องตัดต้นไม้ที่ไม่จ าเป็นออกเพื่อป้องกันการแย่งอาหารโกโก้ไม่ปลูกต้นไม้ที่แคระแกรนหรือมีพุ่มหนา จนเกินไป พอเข้าฤดูฝนก็สามารถน าต้นกล้ามาปลูกได้เลย 2. การปลูกโกโก้แซมระหว่างแถวพืชเศรษฐกิจอื่นโดยธรรมชาติแล้วพืชที่ให้ร่มเงาโกโก้ได้ดีที่สุดคือต้น มะพร้าวเพราะแสงแดดสามารถผ่านได้ถึง 50% และเราไม่จ าเป็นต้องตัดต้นมะพร้าวทิ้งสามารถเป็นร่มเงาให้กับ โกโก้ได้นานเป็นการลดต้นทุนการผลิตและโกโก้ก็ให้ผลผลิตสูงแต่ต้องปลูกในสภาพดินที่เหมาะสม 3. การปลูกโกโก้แบบเดี่ยว อาจมีการปลูกโกโก้กับพืชตระกูลถั่วหรือปลูกพืชอายุสั้นหนึ่งถึงสองปี เช่น กล้วย มะละกอ จะช่วยให้ร่มเงาโกโก้การปลูกแบบนี้จะได้แถวปลูกที่เป็นระเบียบแต่การปลูกแบบนี้อาจเป็นการ เพิ่มต้นทุนสูงและอาจจะต้องใช้ปุ๋ยในการบ ารุงค่อนข้างจะเยอะกว่าการปลูกแบบอื่น จากการส ารวจข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ส่วนใหญ่ปลูกโกโก้แซมระหว่างพืชเศรษฐกิจ เช่น การปลูกต้น โกโก้กับกล้วย มะพร้าว ทุเรียน และอาโวกาโด้ที่เป็นพืชผลไม้ที่ชุมชนในพื้นที่อ าเภอพบพระ จังหวัดตาก ปลูกเป็น ส่วนมากในการปลูกโกโก้เริ่มจากการขุดหลุมเพื่อเตรียมดินแล้วแบ่งดินออกเป็นสองชั้นดินบนกับดินล่างแล้วน าเอา ดินบนผสมกับปุ๋ยคอกแล้วเอากลับเข้าไปในหลุมก่อนและตามด้วยดินชั้นบน หลังจากนั้นก็ปลูกโกโก้ เวลาปลูกให้ กดดินให้แน่นและท าหลักไว้เพื่อยึดต้นโกโก้ไม่ให้มันโยกโดยส่วนใหญ่แล้วใช้ระยะห่างในการปลูก 30 × 30 x 30 เซนติเมตร ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักจากนั้นเกลี่ยดินที่ผสมลงในหลุมระวังอย่าให้ดินแตกใช้ไม้ปักเป็นหลักเพื่อ ยึดต้นโกโก้รถน้ าให้พอชุ่ม ส่วนการปลูกโกโก้ของกลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิกท าได้3 ระบบ คือ 1) ปลูกเป็นพืช เชิงเดี่ยวต้องท าร่มเงาพลางแสง 2) ปลูกเป็นพืชแซมกับพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ 3) ปลูกแซมในสภาพป่าธรรมชาติและ สวนสมุนไพร และนิยมปลูกแซมกับพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ในขั้นตอนการปลูกนั้นมีดังนี้ ขุดหลุมลึก 50 เซนติเมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ที่เตรียมไว้ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากับดินที่ขุดขึ้นมาแล้วน าดินที่ผสมแล้วกลับเข้า ไปในหลุมที่ขุดเหมือนเดิมแล้วน าต้นกล้าโกโก้ปลูกตรงกลางหลุมรดน้ าให้ชุ่มหลังจากนั้นท าร่มพลางแสงโดยใช้ไม้ ไผ่ปักท าเสาสี่เสาใช้กระสอบปุ๋ยสวมลงไปในช่วงแรกของการปลูกให้รถน้ าให้ชุ่มทุกเช้าเย็นประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นให้น้ าสามวันต่อหนึ่งครั้ง ปริมาณการปลูกโกโก้ 1 ไร่ สามารถปลูกโกโก้ได้ 200 ต้น โดยเฉลี่ยรายได้ต่อ ปีต่อปี ดังนี้ พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกต้นโกโก้ได้ 200 ต้น และ 1 ต้นจะให้ผลผลิตขั้นต่ า 200 กิโลกรัม/ต้น/ปี(ผลสุก) เมื่อ อายุครบ 3-4 ปีขึ้นไปหนึ่งไร่ 200 x 200 = 4,000 กิโลกรัม ผลสุกประกันราคารับซื้อคืนกิโลกรัมละ 8 บาท 4,000 x 8 = 32,000 บาท/ไร่ (1.3) การดูแลต้นโกโก้ การให้น้ าต้นโกโก้หากปลูกในช่วงฤดูฝนไม่ต้องให้น้ าต้นโกโก้หากฝนทิ้งช่วงนานนานควรให้น้ าสองถึง สามวันต่อครั้งเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งควรกลบโคนต้นโกโก้ด้วยทางหรือกาบมะพร้าวหรือใบน าใบไม้หนาคลุมดิน เพื่อให้ดินชื้นอยู่เสมอจะช่วยให้โกโก้ไม่ขาดน้ าต้องท าให้ดินชื้นอยู่เสมอและจะช่วยให้โกโก้ไม่ขาดน้ าตาย หลังจากปลูกโกโก้ได้แล้วเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้กลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิกจะใส่ปู่ยอินทรีย์ทุก ๆ สามเดือน หมั่นตัด
49 กิ่งกระโดนออกจากต้นในแต่ละช่วงอายุของต้นโกโก้นั้นจ าเป็นที่จะต้องตัดกิ่งต้นโกโก้เพื่อให้ได้สมดุลที่เหมาะสม ช่วยลดโรคระบาดและแมลงและท าให้ได้ผลผลิตสูง ในการตัดแต่งกิ่งมีสองลักษณะดังนี้ การตัดแต่งให้ได้ทรงพุ่ม ที่เหมาะสมนั้นควรท าดังนี้ตัดแต่งให้มีล าต้นเดียวสูงประมาณ 1.20 ถึง 1.50 เมตร หมั่นตัดกิ่งกระโดงออกให้ เหลือแต่ล าต้นเดียว รักษาระดับของต้นโกโก้ให้สูงประมาณ 120 เซนติเมตร คอยก าจัดศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อน และเพลี้ยแป้งไม่ให้ท าลายยอดอ่อนของโกโก้ และควรมีการก าจัดวัชพืชรอบโคนต้นความกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร หลังจากนั้นเมื่อต้นโกโก้อายุหนึ่งปีต้อง ตัดกิ่งกระโดงออกทุก ๆ 2-4 เดือนและก าจัดวัชพืชรอบ รอบโคนต้นเพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่ของศัตรูโกโก้ ควรระวังไม่ให้ต้นโกโก้ถูกแสงแดดมากเกินไป ส่วนการตัดแต่ง รักษากิ่งที่ได้รับความเสียหายจากโรคแมลงออกเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์ในการตัดแต่งกิ่งที่เหมาะสม คือ ท าทุก ๆ หกเดือนในช่วงปีแรกหลังจากปลูกแล้ว และตัดแต่งกิ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตโกโก้จนหมดต้น เพราะหากตัดแต่งกิ่งโกโก้ไม่ถูกช่วงเวลาอาจท าให้โกโก้แตกใบมากเกินไปอาหารจะถูกดึงไปใช้ท าให้โกโก้ติดผล น้อยลงและไม่ควรตัดแต่งกิ่งในช่วงฤดูฝนส่วนใหญ่ควรตัดแต่งกิ่งในช่วงประมาณเดือนธันวาเป็นต้นไป (1.4) การใช้ประโยชน์จากโกโก้ ส าหรับโกโก้นั้นถือว่าเป็นพืชที่ก าลังมาแรงอยู่ในตอนนี้เลยก็ว่าได้เพราะปัจจุบันผู้คนนิยมบริโภคโกโก้ ในรูปแบบต่าง ๆ กันมาก โกโก้ก็มีความส าคัญต่อภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนี้ 1.อุตสาหกรรมช็อกโกแลตหวานและช็อกโกแลตนม โดยอุตสาหกรรมนี้ใช้ช็อกโกแลตเคี่ยวกับน้ าตาล โกโก้บัตเตอร์และส่วนผสมอื่น ๆ 2.อุตสาหกรรมลูกอมและลูกกวาด โดยใช้ผงโกโก้และช็อคโกแลตในการปรุงแต่งรสและกลิ่น 3.อุตสาหกรรมเครื่องดื่มช็อคโกแลต โดยใช้ผงโกโก้ผสมกับนมน้ าตาลและสารปรุงแต่งอื่น ๆ 4.อุตสาหกรรมเบเกอรี่ ใช้โกโก้เพื่อปรุงแต่งรส 5.อุตสาหกรรมผลิตยา ใช้น้ าเชื่อมโกโก้และลบความขมของยา 6.อุตสาหกรรมยาสูบ ใช้โกโก้ในยาสูบให้มีกลิ่นหอม 7.อุตสาหกรรมเครื่องส าอาง นิยมใช้โกโก้บัตเตอร์ในการท าลิปสติก โกโก้มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยโกโก้ผง 100 กรัม จะประกอบด้วย โปรตีน 24 กรัม ไขมัน 25.6 กรัม และ คาร์โบไฮเดรต 35 กรัม โดยให้พลังงาน 452 แคลอรี่ โดยมีธาตุอาหารอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย ได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส ก ามะถันและคลอรีน นอกจากนี้แล้วยังมีสรรพคุณของโกโก้ อีกมากมาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพช่วยกระตุ้นประสาท บรรเทาภาวะของโรค เครียดและโรคซึมเศร้า ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับน้ าตาลในเลือด ช่วยกระตุ้น หัวใจ ขยายหลอดเลือด ช่วยป้องกันฟันพุ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยท าให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว แก้หอบหืด บรรเทาอาการอักเสบ ในประเทศฟิลิปปินส์จะใช้น้ าต้มจากรากโกโก้ท าเป็นยาขับฤดูของสตรี และใช้เป็นยาพื้นฐาน ในการเตรียมยาเด็กและเครื่องส าอางถึงแม้ว่าประเทศไทยจะสามารถปลูกโกโก้เป็นพื้นเศรษฐกิจได้เเต่ก็ยังไม่ เพียงพอต่อความต้องการของตลาดจึงต้องอาศัยการน าเข้าเมล็ดโกโก้และช็อกโกแลตจากต่างประเทศในปี พ.ศ. 2562 ข้อมูลจากส านักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุว่า ประเทศไทยน าเข้าเมล็ดโกโก้และช็อกโกแลตกว่า
50 20,000 ตัน มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยมีแหล่งปลูกที่ส าคัญ ได้แก่ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ จันทบุรีและ เชียงใหม่ ซึ่งโกโก้สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทยที่มีปริมาณน้ าฝนและความชื้นในอากาศที่เหมาะสม หลายคนอาจคิดว่าสามารถน าเมล็ดของโกโก้มาใช้ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่หารู้ไม่ว่าเมล็ดของต้นโกโก้ ส่วนต่าง ๆ ของต้นโกโก้ก็สามารถน ามาใช้ประโยชน์ได้เช่นกันเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของโกโก้ได้อีกหนึ่งทาง ดังนั้น จึงต้องมาศึกษาว่าส่วนต่าง ๆ ของโกโก้มีอะไรบ้างที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ 1.ส่วนของล าต้นของโกโก้โดยธรรมชาตินั้นจะมีความสูงของล าต้นถึง 20 เมตร แต่เมื่อน ามาปลูกในแปลง ปลูกความสูงก็อยู่ประมาณ 3 เมตรถึง 6 เมตร พอเป็นต้นกล้าล าต้นจะตั้งตรงไม่มีกิ่งแขนงเมื่อสูงประมาณ 1 เมตร ถึง 2 เมตรจะเริ่มแตกค้าคบมีกิ่งทาน 3-5 กิ่ง บริเวณล าต้นจะมีตาที่แก่แตกเป็นกิ่ง ต้องคอยตัดแต่งทิ้งจะมีปุ่มตา ดอกกระจายอยู่ทั่วล าต้น ส าหรับในส่วนของรากโกโกนั้นจะงอกลงไปในดินตามแนวดิ่งประมาณ 2 เมตรและจะมี กิ่งแขนงยาวประมาณ 5-6 เมตรส่วนมากจะอยู่ลึกจากผิวดินประมาณ 15-20 เซนติเมตร แต่หากมีน้ าในดินน้อย รากแก้วก็จะแทงลงไปลึกมาก ต้นโกโก้ที่ปลูกด้วยเมล็ดจะมีรากแก้วแต่ต้นโกโก้ที่โตจากการขยายพันธุ์ด้วยกิ่ง การตัด ช ากิ่ง จะไม่มีรากแก้ว ในส่วนของใบโกโก้นั้นหากเป็นใบที่มีกิ่งกระโดงจะมีกิ่งก้านใบยาวกว่าใบ หากมีใบ แก่ที่สมบูรณ์ใบแก่จะร่วงลงน้อยกว่าใบที่สมบูรณ์หากเป็นใบโกโก้ที่อยู่ในร่มเงาหนาทึบใบจะมีขนาดใหญ่และมีสี เขียวเพราะรับแสงเต็มที่ ส่วนดอกโกโก้นั้นจะออกดอกตามต้นละตามกิ่งฐานรองดอกมีห้าแฉกสีชมพูและกีบดอกสี ขาวเหลืองเป็นรูปถุงห้าถุงมีละอองเกสร 10 อัน โดยมีอาบละอองเกสรตัวผู้หลบอยู่ในถุงกีบดอกต้องอาศัยแมลง คลานขนาดเล็กเพื่ออาศัยการผสมเกสรในหนึ่งปีโกโก้ออกดอกได้มากกว่า 10,000 ดอก แต่จะมีการผสมแค่ 5% แต่ในจ านวนนี้เมื่อผสมติดแล้วมันก็อาจจะแห้งตายไปจะได้จ านวนผลโกโก้สุขอยู่ที่ 0.5 ถึง 0.7% ส่วนของผลโกโก้ หลังจากที่ผสมเกสรแล้วผลโกโก้จะเริ่มแก่ ผลโกโก้พร้อมเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณห้าถึงหกเดือนแต่ในช่วงที่เป็น ผลอออก 2-3 เดือนแรก หากได้รับน้ าและสารอาหารที่เพียงพอผลโกโก้ก็จะออก แต่หากผ่านระยะนี้ไปผลก็จะไม่ เกิดการเหี่ยวก็สามารถเติบโตไปจนถึงแก่และเก็บเกี่ยวได้ ผลโกโก้แก่หรือเรียกว่าฝักโกโก้จะมีหลายขนาดและ หลายสี เช่น ผลอ่อนสีเขียวเป็นผลสุกสีเหลืองหรือผลอ่อนสีแดงเป็นผลสุกสีส้มแตกต่างไปตามลักษณะของแต่ละ พันธุ์นั่นเอง ส าหรับฝักโกโก้หนึ่งฝักนั้นจะมีเมล็ดตั้งแต่ 20-40 เมล็ด แต่ละเมล็ดจะมีเยื่อหุ้มและเมือกจะท าให้เกิด กลิ่นหอมของช็อกโกแลต เมื่อแกะส่วนของเมล็ดแล้วจะมีสีม่วงหรือสีขาวซึ่งเมล็ดโกโก้จะไม่มีระยะฟักตัวหากเก็บ ผลแก่ไว้นานเมล็ดก็จะงอกภายในฝัก การใช้ประโยชน์ของโกโก้สามารถใช้ได้ทุกส่วน เช่น เราสามารถน าใบมาขึ้นรูปเป็นจานลดภาวะโลกร้อน หรือเอาสารจากเปลือกโกโก้มาเคลือบบาง ๆ ที่ยารับประทาน การเอาช็อกโกแลตไปผสมกับใบยาสูบเพราะเวลาสูบ จะมีกลิ่นช็อกโกแลตไปด้วย ถ้าน าไปสกัดเป็นไขมันก็จะได้เป็นเนยของโกโก้แล้วท าเป็นเครื่องส าอางได้ส่วนในเรื่อง ของฝักสามารถน ามาท าเป็นสีย้อมผ้าได้ฝักโกโก้เองก็สามารถน ามาแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ได้หรือเอามาย่อยหรือ หมักใส่ในต้นโกโก้ได้เพราะฝักโกโก้มีธาตุอาหารอยู่ครึ่งหนึ่งถ้าเราปลูกแบบอินทรีย์ก็สามารถเอามาท าเป็นปุ๋ยให้กับ ต้นโกโก้ลดต้นทุนให้กับเกษตรกรได้
51 2. การด าเนินการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก 2.1 ประวัติกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก วิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 ตั้งอยู่ที่ 26/6 หมู่ที่ 9 บ้านห้วยนกแล ต าบลช่องแคบ อ าเภอพบพระ จังหวัดตาก 63160 โดยมีเลขทะเบียนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก คือ 6-63-07- 02/1-011 โดยมีวิสัยทัศน์ คือ มุ่งมั่น ส่งเสริม เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและ รายได้อย่างมั่นคง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกมีกิจกรรมกลุ่มส่งเสริมการปลูกโกโก้รับซื้อและรับซื้อคืน รับซื้อ และขายพืชผักออร์แกนิกทุกชนิดของกลุ่ม เช่น กล้วยน้ าว้า / กล้วยไข่ / กล้วยหอมทอง / ขมิ้นชั้น / ดาวอินคา และแปรรูปผลิตภัณฑ์โกโก้ / ดาวอินคา มีสมาชิกสมทบทั้งหมด 100 รายมีพื้นที่ปลูกโกโก้ 768 ไร่ ผลผลิตโกโก้ที่ ได้จ านวน 10,000-15,000 กิโลกรัม/เดือน วิสาหกิจฯ ด าเนินการมาแล้ว 3 ปี ขณะนี้ได้มีการแปรรูปเป็นโกโก้ นิสบ์/โกโก้เมล็ดแห้ง กลุ่มได้มีการส่งกล้วยทุกอาทิตย์ เช่น กล้วยน้ าหว้า กล้วยหอมทอง กล้วยไข่ ให้แก่ บริษัท N&P ออร์แกนิก และบริษัทโซกู๊ด วิสาหกิจเพื่อสังคม จ ากัด พันธกิจ 1. การพลิกฟื้นผืนป่าตากตะวันออกและตากตะวันตกและบริเวณใกล้เคียง 2. การส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรในการปลูกพืชเกษตรปลอดภัยจากสารเคมี เข้าสู่เกษตรอินทรีย์ อย่างยั่งยืน 3. การพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปสู่ตลาดในประเทศและตลาด ต่างประเทศ 2.2 รายชื่อคณะกรรมการกลุ่มมีจ านวน 8 คนประกอบด้วย ล าดับ ชื่อ – สกุล ต าแหน่ง 1 นางสาวพรนภา โวหาร ประธาน 2 นายภิรมย์ ทองคุ้ม รองประธาน 3 นางสมใจ ศรีแสง เลขานุการ 4 นางจ ารัส พุ่มพุทธา ปฏิคม 5 นางสาวเนาะเลเล - ประสัมพันธ์ 6 นายธีรรัตน์ ใจโปร่ง สมาชิก 7 นางสาวมิ่งขวัญ - เหรัญญิก 8 นายสุริยาศักดิ ปินขาว ที่ปรึกษา
52 2.3 สมาชิกวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก (1) จ านวนสมาชิกสมทบที่ท าสัญญากับวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกในพื้นที่จังหวัดตาก ดังตาราง ล าดับที่ พื้นที่ปลูก จ านวนสมาชิกสมทบ จ านวนต้นโกโก้ 1. อ าเภอแม่สอด 10 ราย 20,800 ต้น 2. อ าเภอท่าสองยาง 11 ราย 3,400 ต้น 3. อ าเภอแม่ระมาด 2 ราย 800 ต้น 4. อ าเภอพบพระ 30 ราย 30,800 ต้น 5. อ าเภออุ้มผาง 15 ราย 10,000 ต้น 6. อ าเภอวังเจ้า 4 ราย 1,050 ต้น 7. อ าเภอสามเงา 1 กลุ่ม 550 ต้น ภาพที่ 4.1 แผนที่แสดงจ านวนสมาชิกวิสาหกิจออร์แกนิกและจ านวนการปลูกโกโก้
53 (2) รายชื่อสมาชิกที่ปลูกโกโก้ของวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก ล าดับ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ พืชที่ปลูก จ านวนไร่ 1 นายสมเด็จ แก้วสุรินทร์ 502 ม.2 ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โกโก้/พืชผสมผสาน 74 2 นายจ าลอง ตุ่นทา 139 ม.1 ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้/ผักผสมผสาน 5 3 นายธีรรัตน์ ใจโปร่ง 13/11 ถ.บัวคูณ ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้/กล้วยน้ าว้า 100 4 นายสุทัศน์ สุต๋า 9 ม.1 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้ /กล้วยหอมทอง 5 5 นายภิรมย์ ทองคุ้ม 3/19 ถ.สายเอเชีย ต.แม่สอด จ.ตาก โกโก้/มะนาว /กล้วย น้ าว้า 11 6 นางสุภิญรัตน์ รุ่งเรือง 229 ม.2 ต.พระวอ อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้/กล้วยหอม/ทุเรียน 65 7 นางปาลินน์ รุตติมา 325 ม.11 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้/นาข้าว 52 8 น.ส.ทองศรี ทารินสุ 155 ม.7 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้/กล้วยน้ าว้า /ฝรั่ง 5 9 น.ส.พรพรรณ ส่างโน 272/1 ม.3 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้/ กล้วยน้ าว้า / กล้วยไข่ 15 10 นายพนม เจริญผา 46 ม.4 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้ / กล้วยน้ าว้า/ผัก 6 11 นายปราโมทย์ ฉิมพาลี 189/1 ม.15 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้/ ทุเรียน / กล้วยน้ าว้า 28 12 นางวิมล มาเชียง 240 ม.3 ต.พบพระ อ.พบระ จ.ตาก โกโก้/กล้วยน้ าว้า 2 13 น.ส.พรนภา โวหาร 26/6 ม.9 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้ / กล้วยน้ าว้า 15 14 นางกนกลักษณ์ กิติรัตน์ 90 ม.15 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้/สะตอ/กล้วยน้ าว้า 100 15 นางหนูยิ้ม อัมพุนันท์ 126 ม.7 ต.พบพระ อ. พบพระ จ.ตาก โกโก้ / กล้วยน้ าว้า /ไผ่ 27
54 ล าดับ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ พืชที่ปลูก จ านวนไร่ 16 นายวันชัย ไพรฤกษ์ 25 ม.1 ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ / กล้วยน้ าว้า 30 17 นางนิชมลวรรณ นาหัวหิน 221 ม.3 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้/มะนาว/ข้าว 50 18 นายปัญญา พาทอน 53 ม.2 ต.แม่กลอง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ / มะนาว / กล้วยน้ าว้า 10 19 นางบัวลอย ชาญเชียว 126 ม.2 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ /ยางพารา 17 20 นางภคนันท์ แก้ววิจิตร 243 ม.1 ต.แม่ละมุ้ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ /กาแฟ/กล้วยน้ าว้า 4 21 นายประชา ตระกองรัตน์ 10 ม.2 ต.แม่ละมุ้ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ / มะละกอ 20 22 น.ส.นันทิดา เวทย์สกุล 2 ม.3 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ /ดาวอินคา 20 23 สมศักดิ์ มรกตเลิศ 155 ม.3 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้/ดาวอินคา /กล้วย 20 24 นายสุริยา รอบคอบคีรี 21 ม.15 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โกโก้ / กล้วย / ดาวอินคา 10 25 นายปิติพงษ์ ห้วยไพรจิตร 131 ม.15 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โกโก้ /กล้วยน้ า 15 26 นายสงการณ์ ตระกอง รัตน์กุล 30 ม.2 ต.แม่ละมุ้ง อ.อุ้งผาง จ.ตาก โกโก้ / มะละกอ 10 27 นายยุทธชัย เดชวกุลไพร 31 ม.2 ต.แม่ละมุ้ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โกโก้ / พริก /มะละกอ 30 28 น.ส.จิราภรณ์ อย่าง คุณธรรม 44 ม15 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้/อาโวคาโด 15 29 นางอรอนงค์ ขวานอก 235 ม.1 ต.พระวอ อ.แม่สอด จ.ตาก โกโก้ / ยางพารา 5 30 นางบัวผัด ตาวงค์เสน 136 ม.7 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้/มะนาว 5 31 นางบุษบา ภาปัน 158/3 ม.7 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก โกโก้ / กล้วยน้ าว้า 12
55 ล าดับ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ พืชที่ปลูก จ านวนไร่ 32 นายวันต์ ศีรีสุธาลัย 167 ม.12 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โกโก้/ดาวอินคา 20 3. ผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์กลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิก จากการด าเนินกิจกรรมประชุมกลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกโดยใช้เครื่องมือ Why-Why Diagram เพื่อให้ทราบสถานการณ์สาเหตุของปัญหาและปัจจัยที่ส่งผลต่อการด าเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจฯ เพื่อน ามาเป็นส่วนเชื่อโยงในการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อเป็นกิจกรรมและ องค์ความรู้ที่จะสามารถน ามาพัฒนาหนุนเสริมสร้างรายได้มีทางเลือกทางรอดให้กับสมาชิกและเกษตรกรผู้ปลูก โกโก้อื่นที่สนใจ ซึ่งจากการด าเนินกิจกรรมพบ ประเด็นปัญหา 3 ด้าน ดังนี้ 1.ด้านความรู้ความเข้าใจด้านเกษตร อินทรีย์ 2.ด้านการผลิตผลผลิตที่ไม่ต่อเนื่องไม่ได้มาตรฐานและ 3.ปัญหาด้านการตลาด สามารถสรุปได้ ดังภาพ ภาพที่ 4.2 ผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์กลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิก 4. ผลการหารูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้(เปลือกโกโก้) ทีมนักวิจัยได้ประชุมหารือ ประสานความร่วมมือกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก เกษตรกรและภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาสรรพคุณ คุณสมบัติของเปลือกโกโก้ หารูปแบบที่เหมาะสมของการสร้างนวัตกรรมจากเปลือกโกโก้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ จังหวัดตาก เพื่อร่วมกันก าหนดรูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้กับวัสดุหรือพืชผลอื่น ๆ ในชุมชน ที่ช่วยเพิ่มสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ในชุมชน ช่วยลดปัญหาของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิก ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ให้กับเกษตรกรที่เกี่ยวข้องและจัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อน าไปสู่
56 การปฏิบัติ ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง น าแนวทางในการแปรรูปเปลือกโกโก้จากการศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อน าเป็นองค์ความรู้ น าเสนอผลในกระบวนการ Focus group หาแนวทางการแปรรูปที่เกิดประโยชน์ต่อ ผู้เกี่ยวข้อง สร้างการมีส่วนร่วม สร้างความร่วมมือและสร้างภาคีน าผลจากกระบวนการดังกล่าวมาประชุมหารือกับ ทีมนักวิจัยและสร้างแบบสอถามเพื่อน ามาเป็นแนวทางแปรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ทีมนักวิจัยชุมชนได้จัดท าแบบสอบถามศึกษาความต้องการของตลาด และส่งให้กับที่ปรึกษา และ ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจากกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรเพื่อศึกษาความคิดเห็นและ ผู้สนใจใช้ผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยเครือข่ายสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เกษตรกร ที่สนใจ และผู้ประกอบการสินค้าทางการเกษตร นักวิชาการ จ านวน 80 คน แล้วลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยการแบ่งทีม นักวิจัยประสานสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และเกษตรกรในพื้นที่อ าเภอแม่สอด อ าเภอพบพระ อ าเภอสามเงา และอ าเภออุ้มผาง นักวิชาการ ผู้ประกอบการสินค้าทางการเกษตร บุคคลทั่วไปเพื่อ หารูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ที่เหมาะสม เพื่อศึกษาความคิดเห็นในการใช้ประโยชน์จาก ผลิตภัณฑ์เปลือกโกโก้ให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้ ส่วนที่ 1 สถานภาพและข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นในผลิตภัณฑ์เปลือกโกโก้ และส่วนที่ 3 เกี่ยวกับการ พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ผลการวิเคราะห์แบบสอบถาม พบว่า แบบสอบถามชุดที่1 แบบสอบถามศึกษาความต้องการการใช้ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ จากการศึกษา ความต้องการในการใช้รูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้เพื่อท าผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ให้ตรงกับความต้องการ ของกลุ่มเกษตรกร จ านวน 80 คน แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ส่วนที่ 1 สถานภาพและข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นในผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้และส่วนที่ 3 เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลการวิเคราะห์แบบสอบถาม พบว่า ส่วนที่ 1 : สถานภาพและข้อมูลทั่วไป ตางรางที่ 1.1 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามเพศ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย จ านวน 56 คน (ร้อยละ 70) รองลงมา เป็นเพศหญิง จ านวน 24 คน (ร้อยละ 30) ตามล าดับ ตารางที่ 1.2 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามอายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุ ระหว่าง 47 -52 ปี มากที่สุด จ านวน 25 คน (ร้อยละ 31.00) รองลงมา มีอายุระหว่าง 60 ปีขึ้นไป จ านวน 22 คน (ร้อยละ 27.50) อายุระหว่าง 36 –40 ปี จ านวน 12 คน (ร้อยละ 15.00) อายุระหว่าง 53 - 59 ปี จ านวน 11 คน (ร้อยละ 13.75) และอายุระหว่าง 41 – 46 ปี จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ ตางรางที่ 1.3 แสดงจ านวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามสถานภาพ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีสถานภาพสมรส จ านวน 51 คน (ร้อยละ 63.75) รองลงมา มีสถานภาพโสด จ านวน 19 คน (ร้อยละ 23.75) ตามล าดับ ตางรางที่ 1.4 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามระดับการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส./อนุปริญญา จ านวน 43 คน (ร้อยละ 53.75) รองลงมาคือ มีระดับการศึกษา ประถมศึกษา จ านวน 25 คน (ร้อยละ 31.25) และมีระดับการศึกษาปริญญาตรีจ านวน 12 คน (ร้อยละ 15.00) ตามล าดับ ตางรางที่ 1.5 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามอาชีพ พบว่า ผู้ตอบ แบบสอบถามส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ จ านวน 23 คน (ร้อยละ 28.75) รองลงมา อาชีพรับจ้าง จ านวน
57 20 คน (ร้อยละ 25.00), ธุรกิจส่วนตัว จ านวน 14 คน (ร้อยละ 17.50), เกษตรกรดินปลูก จ านวน 13 คน (ร้อยละ 16.25) และอาชีพเกษตรกรแปรรูปถ่ายไบโอชาร์ จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ ตางรางที่ 1.6 แสดง จ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาท จ านวน 53 คน (ร้อยละ 66.25) รองลงมา มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท จ านวน 27คน (ร้อยละ 33.75) ตามล าดับ ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นในผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ตารางที่ 1.7แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามรูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ที่ท่านชอบ พบว่า รูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ที่ผู้ตอบแบบสอบถามชื่นชอบมากที่สุด คือ อาหารสัตว์ จ านวน 47คน (ร้อยละ 58.75) รองลงมาคือ ดินปลูก จ านวน 23คน (ร้อยละ 28.75) และถ่านไบโอชาร์ (Biochar) จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ ตารางที่ 1.8 แสดงจ านวนและร้อยละ ของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตาม คุณสมบัติจากเปลือกโกโก้ที่จะตัดสินใจซื้อ (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า คุณสมบัติจากเปลือกโกโก้ที่ผู้ตอบ แบบสอบถามจะตัดสินใจซื้อมากที่สุด คือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จ านวน 26 คน (ร้อยละ 32.50) รองลงมาคือ ไม่อันตรายต่อการใช้งาน จ านวน 23คน (ร้อยละ 28.75) ราคาถูก จ านวน 22คน (ร้อยละ 27.50) และหาซื้อได้ง่าย และสะดวก จ านวน 9 คน (ร้อยละ 11.25) ตามล าดับ ตารางที่ 1.9 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามปัจจัยที่มีอิทธิพลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ (เลือกได้มากกว่า 1ข้อ) พบว่า ปัจจัยที่มี อิทธิพลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ของผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุด คือราคา จ านวน 37คน (ร้อยละ 46.25) รองลงมาคือ ตัวท่านเอง จ านวน 30 คน (ร้อยละ 37.50) และบรรจุภัณฑ์ จ านวน 13 คน (ร้อยละ 16.25) ตามล าดับ ส่วนที่ 3 ข้อมูลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ช่องทางการจัดจ าหน่าย และการท าการตลาดของผลิตภัณฑ์ จากเปลือกโกโก้ ตารางที่ 1.10แสดงความต้องการช่องทางการจัดจ าหน่ายสินค้าจากเปลือกโกโก้ (เลือกได้มากกว่า 1ข้อ) พบว่า ความต้องการช่องทางการจัดจ าหน่ายสินค้าจากเปลือกโกโก้ของผู้ตอบแบบสอบถาม มากที่สุด คือ กลุ่มภาคี เครือข่าย จ านวน 31 คน (ร้อยละ 38.75) รองลงมาคือ ช่องทางกลุ่มไลน์ จ านวน 28 คน (ร้อยละ 35.00) และ ทางเฟสบุ๊ค จ านวน 21 คน (ร้อยละ 26.25) ตามล าดับ ตารางที่ 1.11 แสดงช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ที่ท าให้ ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าจากเปลือกโกโก้ (เลือกได้มากกว่า 1ข้อ) พบว่า ช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ที่ท าให้ผู้บริโภคเข้าถึง สินค้าจากเปลือกโกโก้ มากที่สุด คือ สื่อสังคมออนไลน์ Facebook, line, Instagram จ านวน 36 คน (ร้อยละ 45.00) รองลงมาคือ การบอกต่อ จ านวน 34 คน (ร้อยละ 42.50) และแผ่นพับ จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ แบบสอบถามชุดที่ 1 แบบสอบถามศึกษาความต้องการการใช้ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้จากการศึกษา ความต้องการในการใช้รูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้เพื่อท าผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ให้ตรงกับความต้องการ ของกลุ่มเกษตรกร จ านวน 80 คน แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ส่วนที่ 1 สถานภาพและข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นในผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ และส่วนที่ 3 เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลการวิเคราะห์แบบสอบถาม พบว่า
58 ส่วนที่ 1 : สถานภาพและข้อมูลทั่วไป ตางรางที่ 1.1 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามเพศ เพศ จ านวน ร้อยละ ชาย 56 70.00 หญิง 24 30.00 รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย จ านวน 56 คน (ร้อยละ 70) รองลงมา เป็นเพศหญิง จ านวน 24 คน (ร้อยละ 30) ตามล าดับ ตารางที่ 1.2 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามอายุ อายุ จ านวน ร้อยละ 18 - 23 ปี - - 24 – 29 ปี - - 30 - 35 ปี - - 36 – 40 ปี 12 15.00 41 – 46 ปี 10 12.50 47 - 52 ปี 25 31.00 53 - 59 ปี 11 13.75 60 ปีขึ้นไป 22 27.50 รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุระหว่าง 47 - 52 ปี มากที่สุด จ านวน 25 คน (ร้อยละ 31.00) รองลงมา มีอายุระหว่าง 60 ปีขึ้นไป จ านวน 22 คน (ร้อยละ 27.50) อายุระหว่าง 36 – 40 ปี จ านวน 12 คน (ร้อยละ 15.00) อายุระหว่าง 53 - 59 ปี จ านวน 11 คน (ร้อยละ 13.75) และอายุระหว่าง 41 – 46 ปี จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ
59 ตางรางที่ 1.3 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามสถานภาพ สถานภาพ จ านวน ร้อยละ โสด 19 23.75 สมรส 51 63.75 หย่าร้าง - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.3 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีสถานภาพสมรส จ านวน 51 คน (ร้อยละ 63.75) รองลงมา มีสถานภาพโสด จ านวน 19 คน (ร้อยละ 23.75) ตามล าดับ ตางรางที่ 1.4 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา จ านวน ร้อยละ ต่ ากว่าประถมศึกษา - - ประถมศึกษา 25 31.25 มัธยมศึกษา - - ปวช./ปวส./อนุปริญญา 43 53.75 ปริญญาตรี 12 15.00 สูงกว่าปริญญาตรี - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.4 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส./อนุปริญญา จ านวน 43 คน (ร้อยละ 53.75) รองลงมาคือ มีระดับการศึกษาประถมศึกษา จ านวน 25 คน (ร้อยละ 31.25) และมีระดับ การศึกษาปริญญาตรีจ านวน 12 คน (ร้อยละ 15.00) ตามล าดับ
60 ตางรางที่ 1.5 แสดงจ านวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามอาชีพ อาชีพ จ านวน ร้อยละ ข้าราชการ - - พนักงานราชการ - - พนักงานเอกชน - - ธุรกิจส่วนตัว 14 17.500 รับจ้าง 20 25.00 เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ 23 28.75 เกษตรกรดินปลูก 13 16.25 เกษตรกรแปรรูป ถ่ายไบโอชาร์ 10 12.50 อื่น ๆ โปรดระบุ - - รวม 80 100.00 ตางรางที่ 1.5 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามอาชีพ พบว่า ผู้ตอบ แบบสอบถามส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ จ านวน 23 คน (ร้อยละ 28.75) รองลงมา อาชีพรับจ้าง จ านวน 20 คน (ร้อยละ 25.00), ธุรกิจส่วนตัว จ านวน 14 คน (ร้อยละ 17.50), เกษตรกรดินปลูก จ านวน 13 คน (ร้อยละ 16.25) และอาชีพเกษตรกรแปรรูปถ่ายไบโอชาร์ จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ ตางรางที่ 1.6 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ จ านวน ร้อยละ ต่ ากว่า 5,000 บาท - - 5,000 - 10,000 บาท - - 10,001 - 20,000 บาท 53 66.25 20,001 - 30,000 บาท 27 33.75 มากกว่า 30,000 บาท - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.6 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาท จ านวน 53 คน (ร้อยละ 66.25) รองลงมา มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท จ านวน 27 คน (ร้อยละ 33.75) ตามล าดับ
61 ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นในผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ ตารางที่ 1.7 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามรูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือก โกโก้ที่ท่านชอบ รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ชื่นชอบ จ านวน ร้อยละ อาหารสัตว์ 47 58.75 ดินปลูก 23 28.75 ถ่านไบโอชาร์ (Biochar) 10 12.50 อื่นๆ - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.7 พบว่า รูปแบบผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ที่ผู้ตอบแบบสอบถามชื่นชอบมากที่สุด คือ อาหารสัตว์ จ านวน 47คน (ร้อยละ 58.75) รองลงมาคือ ดินปลูก จ านวน 23คน (ร้อยละ 28.75) และถ่านไบโอชาร์ (Biochar) จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ ตารางที่ 1.8 แสดงจ านวน และร้อยละ ของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามคุณสมบัติจากเปลือกโกโก้ที่ จะตัดสินใจซื้อ (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) คุณสมบัติจากเปลือกโกโก้ที่ตัดสินใจซื้อ จ านวน ร้อยละ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 26 32.50 ราคาถูก 22 27.50 หาซื้อได้ง่ายและสะดวก 9 11.25 ไม่อันตรายต่อการใช้งาน 23 28.75 อื่นๆ - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.8 พบว่า คุณสมบัติจากเปลือกโกโก้ที่ผู้ตอบแบบสอบถามจะตัดสินใจซื้อมากที่สุด คือ เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม จ านวน 26 คน (ร้อยละ 32.50) รองลงมาคือ ไม่อันตรายต่อการใช้งาน จ านวน 23 คน (ร้อยละ 28.75) ราคาถูก จ านวน 22 คน (ร้อยละ 27.50) และหาซื้อได้ง่ายและสะดวก จ านวน 9 คน (ร้อยละ 11.25) ตามล าดับ
62 ตารางที่ 1.9 แสดงจ านวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จ าแนกตามปัจจัยที่มีอิทธิพลในการเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการเลือกซื้อ จ านวน ร้อยละ ตัวท่านเอง 30 37.50 เพื่อน - - สื่อประชาสัมพันธ์/โฆษณา - - บรรจุภัณฑ์ 13 16.25 การส่งเสริมการขาย (สินค้าขนาดทดลอง ลดราคา แลก) - - ราคา 37 46.25 อื่น ๆ - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.9 พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ของผู้ตอบแบบสอบถาม มากที่สุด คือ ราคา จ านวน 37 คน (ร้อยละ 46.25) รองลงมาคือ ตัวท่านเอง จ านวน 30 คน (ร้อยละ 37.50) และ บรรจุภัณฑ์ จ านวน 13 คน (ร้อยละ 16.25) ตามล าดับ ส่วนที่ 3 ข้อมูลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ช่องทางการจัดจ าหน่าย และการท าการตลาดของผลิตภัณฑ์จาก เปลือกโกโก้ ตารางที่ 1.10 แสดงความต้องการช่องทางการจัดจ าหน่ายสินค้าจากเปลือกโกโก้ (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) ช่องทางจัดจ าหน่าย จ านวน ร้อยละ กลุ่มภาคีเครือข่าย 31 38.75 ช่องทางกลุ่มไลน์ 28 35.00 เฟสบุ๊ค 21 26.25 สื่อทางอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ - - อื่นๆ - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.10 พบว่า ความต้องการช่องทางการจัดจ าหน่ายสินค้าจากเปลือกโกโก้ของผู้ตอบ แบบสอบถาม มากที่สุด คือ กลุ่มภาคีเครือข่าย จ านวน 31 คน (ร้อยละ 38.75) รองลงมาคือ ช่องทางกลุ่มไลน์ จ านวน 28 คน (ร้อยละ 35.00) และทางเฟสบุ๊ค จ านวน 21 คน (ร้อยละ 26.25) ตามล าดับ
63 ตารางที่ 1.11 แสดงช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ที่ท าให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าจากเปลือกโกโก้ (เลือกได้ มากกว่า 1 ข้อ) ช่องทางที่ท าให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้า จ านวน ร้อยละ การบอกต่อ 34 42.50 สื่อโฆษณาทางทีวี - - สื่อโฆษณาทางวิทยุ - - สื่อทางอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ - - หนังสือพิมพ์ - - ได้รับค าแนะน าจากพนักงานขายตรง - - แผ่นพับ 10 12.50 สื่อสังคมออนไลน์ Facebook, line, Instagram 36 45.00 อื่นๆ โปรดระบุ - - รวม 80 100.00 จากตารางที่ 1.11 พบว่า ช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ที่ท าให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าจากเปลือกโกโก้ มากที่สุด คือ สื่อสังคมออนไลน์ Facebook, line, Instagram จ านวน 36 คน (ร้อยละ 45.00) รองลงมาคือ การบอกต่อ จ านวน 34 คน (ร้อยละ 42.50) และแผ่นพับ จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) ตามล าดับ จากผลการส ารวจข้อมูลหารูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ทีมนักวิจัยได้ท าการทดลอง ท าผลิตภัณฑ์จากโกโก้จ านวน 3 รูปแบบดังนี้ 1. อาหารสัตว์ทีมนักวิจัยได้ท าการทดลองท าโกโก้หมักยีสต์โดยการน าผลสดของโกโก้มาบดแล้ว คลุกเคล้ากับยีสต์ใส่ภาชนะปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 21 วันแล้วน ามาทดลองให้สัตว์กิน ภาพที่ 4.3 การทดลองท าอาหารสัตว์
64 2. ดินปลูก ทีมนักวิจัยได้ท าการทดลองท าดินปลูกโดยการน าเปลือกโกโก้ที่มีตากแห้งด้วยแสงแดดตาม ธรรมชาติและน ามาบดท าเป็นส่วนผสมดินเปลือกโกโก้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกโดยมีส่วนผสมดินปลูก ดังนี้ ขุยมะพร้าว 2 ส่วน แกลบด า 2 ส่วน หน้าดิน 2 ส่วน เปลือกโกโก้ตากแห้งบด 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ภาพที่ 4.4 การท าดินปลูก 3. ถ่านไบโอชาร์Biochar น าเปลือกโกโก้มาเผาด้วยอุณหภูมิ 350-500 องศาเซลเซียสและบดละเอียด ผสมกับดินปลูก ภาพที่ 4.5 การท าถ่านไปโอชาร์ (Biochar) จากการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้พบว่าการท าในแต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลาทดลองและต้องการ องค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมือในกระบวนการแปรรูปทีมนักวิจัยได้ร่วมกับเครือข่ายปราชญ์ชุมชนที่ใช้ อุปกรณ์จากภาคีผู้ประกอบการเพื่อที่ผลิตผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ก่อนที่จะน าไปทดลองและขยายผล ผลจากการ ทดลองท าอาหารสัตว์ได้น าไปให้สัตว์ต่าง ๆกินปรากฏว่าสัตว์เช่น โค ปลา แพะ หมูและปลากิน การน าเปลือกโกโก้
65 มาผสมกับดินปลูกต้องท าการตากแดดจนแห้งและน ามาบดละเอียดจากการทดลองดินปลูกและถ่านไบโอชาร์ สามารถผสมดินปลูกได้ สรุปผลการด าเนินกิจกรรมการวิจัยตามจุดประสงค์ข้อที่ 1 ศึกษาบริบทพื้นที่ การใช้ประโยชน์ และวิธีการ ก าจัดเปลือกโกโก้และเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกในพื้นที่จังหวัดตาก พบว่า พื้นที่จังหวัดตากเริ่มมีการปลูกโกโก้มาเมื่อปี 2560 หลากหลายสายพันธุ์โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ออร์แกนิก ส่งเสริมการปลูกโกโก้สายพันธุ์ M1 มีพื้นที่การปลูกกระจายอยู่หลายแห่งประกอบไปด้วย อ าเภอพบพระ อ าเภอแม่สอด อ าเภอแม่ระมาด อ าเภออุ้มผาง และอ าเภอวังเจ้า อ าเภอสามเงาและอ าเภอท่าสองยาง การปลูกโกโก้ ของกลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิกมี3 ระบบ คือ 1) ปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยวต้องท าร่มเงาพลางแสง 2) ปลูกเป็นพืชแซมกับ พืชเศรษฐกิจอื่น ๆ 3) ปลูกแซมในสภาพป่าธรรมชาติและสวนสมุนไพร ส่วนใหญ่นิยมปลูกแซมกับพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ประโยชน์จากโกโก้สามารถใช้ได้ทุกส่วน เช่น น าใบมาท าจานลดภาวะโลกร้อน หรือเอาสารจากเปลือกโกโก้มา เคลือบบาง ๆ ที่ยารับประทาน การน าเมล็ดมาแปรรูปหลากหลายรูปแบบ เช่น ช็อกโกแลต สกัดเป็นไขมันท า เครื่องส าอาง ส่วนฝักน ามาย้อมผ้าและแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ หรือน ามาหมักใส่ต้นโกโก้เพราะฝักโกโก้มีธาตุอาหาร อยู่ครึ่งหนึ่งน ามาท าปุ๋ย ลดต้นทุนให้กับเกษตรกรได้การใช้ประโยชน์จากเปลือกโกโก้ของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ออร์แกนิกและเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท าให้มีเปลือกโกโก้ทิ้งเปล่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นกัน ส่งผลให้เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม เกิดขยะในพื้นที่เพราะจ านวนเปลือกโกโก้ทิ้งเปล่าต่อการเก็บเกี่ยวสูงถึง 70 เปอร์เชนต์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิกจึงได้สนใจในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากเปลือกโกโก้ ทีมนักวิจัยจึงได้เก็บ รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแบบสอบถามเพื่อน ามาก าหนดเป็นรูปแบบในการแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์จากเปลือกโกโก้ เหลือทิ้งให้เกิดประโยชน์ พบว่า มีความต้องการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ดังกล่าวเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน ลดปัญหาขยะ และลดค่าใช้จ่าย ให้กับเกษตรกร จากการส ารวจข้อมูลหารูปแบบสามารถสรุปออกมาเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้ รูปแบบ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ที่ผู้ตอบแบบสอบถามชื่นชอบมากที่สุด คือ อาหารสัตว์ จ านวน 47 คน (ร้อยละ 58.75) รองลงมาคือ ดินปลูก จ านวน 23คน (ร้อยละ 28.75) และถ่านไบโอชาร์ (Biochar) จ านวน 10 คน (ร้อยละ 12.50) คุณสมบัติจากเปลือกโกโก้ที่จะตัดสินใจซื้อมากที่สุด คือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จ านวน 26 คน (ร้อยละ 32.50) รองลงมาคือ ไม่อันตรายต่อการใช้งาน จ านวน 23คน (ร้อยละ 28.75) ราคาถูก จ านวน 22คน (ร้อยละ 27.50) และ หาซื้อได้ง่ายและสะดวก จ านวน 9 คน (ร้อยละ 11.25) ตามล าดับ ผลการด าเนินงานตามจุดประสงค์ข้อที่ 2 พัฒนาถ่ายทอดรูปแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือก โกโก้ การด าเนินการวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งค าตอบตามจุดประสงค์ที่ 2 นั้นทีมนักวิจัยได้ศึกษาองค์ความรู้และ ประสานนักวิชาการเพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้เพื่อน าไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทาง การเกษตรจากการด าเนินการวิจัยทีมนักวิจัยเห็นปัญหาขยะที่เกิดจากการแปรรูปผลโกโก้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม เมื่อขยะคือภาระของทุกคนจึงเป็นที่มาของความต้องการใช้ชีวิตแบบ Zero Waste คือ การหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะไม่สร้างขยะใหม่ ๆ โดยพยายามไม่ให้มีอะไร หลงเหลือจนเป็นขยะได้ โดยยึดหลักปฏิบัติง่าย ๆ 1A3R ประกอบด้วย Avoid หลีกเลี่ยงใช้สิ่งที่ก่อให้เกิดขยะเพิ่ม
66 Reduce ใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดขยะให้น้อยลง Reuse การน ากลับมาใช้ใหม่ และ Recycle การหมุนเวียนน ากลับมา ใช้ใหม่ ซึ่งเราสามารถน าแนวทางนี้มาปรับใช้กับสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก ด้วยการปรับเปลี่ยน Mind set เห็นคุณค่าและสามารถบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ได้ ทีมนักวิจัยชุมชนจัดประชุมภาคีเครือข่ายประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจออร์แกนิก สมาชิกเกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ นักวิชาการจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก ประธานสหกรณ์โคขุนจังหวัดตาก ร่วมเป็นวิทยากร ลงมือปฏิบัติแลกเปลี่ยนถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมพัฒนาซึ่งประกอบด้วย เครือข่ายกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก เครือข่ายสหกรณ์โคขุนจังหวัดตาก เกษตรกรที่สนใจและเครือข่ายผู้ประกอบการสินค้า ทางการเกษตร เข้าร่วมแลกเปลี่ยนการท าการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกโกโก้) โดยแบ่งช่วงเช้า เป็นช่วงการระดมความคิดเห็นและการถ่ายทอดข้อมูลจากนักวิชาการ ช่วงบ่ายแบ่งกลุ่มร่วมลงมือปฏิบัติและร่วม สรุปผลการอบรมหลังจากนั้นร่วมหารือหารือหาข้อสรุปเพื่อการทดลองและประเมินผลตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดย จากการหารือร่วมในเวทีสรุปดังนี้ 1.ขออาสาสมัครน าผลิตภัณฑ์การแปรรูปไปทดลอง 2.แบ่งทีมนักวิจัยเป็นพี่เลี้ยง 3.น าผลที่ได้จากการทดลองมาหารือสรุปเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 4.ส่งตรวจหาคุณค่าทางโภชนาการจากเวทีได้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อาสาน าอาหารจากเปลือกโกโก้หมักยีสต์ไปทดลองโดยมีทีมนักวิจัยเป็นพี่เลี้ยงในการเก็บ บันทึกข้อมูล ส่วนดินปลูกและถ่านไบโอชาร์มีอาสาสมัครผู้ประกอบการดินปลูกเครือข่ายทีมนักวิจัยน าไปแปรรูป เพื่อทดสอบคุณภาพดินกับสูตรเดิมโดยแบ่งทีมนักวิจัยชุมชนเป็นพี่เลี้ยงบันทึกผลการทดลองสามารถสรุปและ รายงานผลการทดลองได้ ดังนี้ 1.ผลการพัฒนารูปแบบการแปรรูปจากเปลือกโกโก้พบว่า นวัตกรรมที่เลือกใช้ เพื่อให้บรรลุการใช้ชีวิตแบบ Zero Waste ของสมาชิกวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก ประกอบด้วย 1. การผลิตอาหารสัตว์จากเปลือกโกโก้ 2. การผลิตปุ๋ยอินทรีย์และดินพร้อมปลูกโดยใช้เปลือกโกโก้เป็นส่วนผสม 3. การผลิตถ่านชีวภาพ หรือ Biochar จากผลและเปลือกโกโก้ 1.1 รูปแบบที่ 1 แปรรูปเป็นอาหารสัตว์ ในรูปเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 1) เปลือกโกโก้
67 ภาพที่ 4.6 รูปแบบที่ 1 แปรรูปเป็นอาหารสัตว์ ในรูปเปลือกโกโก้หมักยีสต์ ตารางที่ 4.1 การแสดงค่าใช้จ่ายต้นทุนในการผลิตเปลือกโกโก้เป็นอาหารสัตว์ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการผลิตเปลือกโกโก้หมักยีสต์ ล าดับที่ รายการจ่าย จ านวน ราคาต่อหน่วย รวมเงิน หมายเหตุ 1 ค่าเปลือกโกโก้ 1 ตัน 300 - 300 - กากมันส าปะหลัง ราคาตันละ 500 บาท หญ้าเนเปียร์ ราคาตันละ 1,500 บาท ต้นข้าวโพดสด ราคาตันละ 800 บาท 2 ค่ากากน้ าตาล 10 กก. 250 - 250 - 3 ค่าน้ าตาลทรายแดง 1 กก. 25 - 25 - 4 ค่าผงยีสต์ 0.5 กก. 120 - 120 - 5 ค่ายูเรีย 8 กก. 40 - 320 - 6 ค่าแรงคนงาน 2 คน 200 - 400 - รวมค่าผลิตเปลือกโกโก้หมักยีสต์ : 1 ตัน 1,415 - กก.ละ 1.42 บาท 7 ค่าร าละเอียด 300 กก. 10 - 3,000 - เปลือกโกโก้หมักยีสต์+ ร าละเอียด รวม 1 ตัน อัตราส่วน 7 : 3 (700+300) เป็นเงิน (994+3,000) 3,994 - กก.ละ 4.00 บาท 8 ค่าข้าวโพดบด 300 กก. 30 - 9,000 -
68 ประมาณการค่าใช้จ่ายในการผลิตเปลือกโกโก้หมักยีสต์ ล าดับที่ รายการจ่าย จ านวน ราคาต่อหน่วย รวมเงิน หมายเหตุ เปลือกโกโก้หมักยีสต์+ ข้าวโพดบด 1 ตัน (700+300) (994+9,000) 9,940 - กก.ละ 10 บาท เปลือกโกโก้หมักยีสต์+ ร าละเอียด + ข้าวโพดบด รวม 1 ตัน อัตราส่วน 7 : 2 : 1 ตัน (700+200+100) เป็นเงิน (994+2,000+3,000) 5,994 - กก.ละ 6 บาท จากตารางที่ 4.1 แสดงให้เห็นว่า ราคาวัตถุดิบหลักเมื่อเปรียบเทียบกับวัตถุดิบที่เกษตรกรเคยใช้อยู่เดิม เปลือกโกโก้มีราคาถูกกว่า ท าให้ต้นทุนการผลิตน้อยกว่า กากมันส าปะหลัง หญ้าเนเปียร์และต้นข้าวโพดสด ตารางที่ 4.2 การเปรียบเทียบอาหารสัตว์ส าเร็จรูปในท้องตลาดกับเปลือกโกโก้หมักยีสต์ อาหารสัตว์ส าเร็จรูป ราคาเปลือกโกโก้หมักยีสต์ (บาท) ผลต่างของราคา (บาท) ประเภท ราคาต่อ หน่วย (ถุง/ บาท) ราคา ต่อ กก. (บาท) สูตร 1 สูตร 2 สูตร 3 สูตร 4 สูตร 1 สูตร 2 สูตร 3 สูตร 4 โคขุน 350 (30กก.) 11.67 1.42 4 10 6 10.25 7.67 1.67 5.67 แพะ/ แกะ 500 (30กก.) 16.67 15.25 12.67 6.67 10.67 สุกรขุน 600 (30กก.) 20 18.58 16.11 10.00 14 ปลากิน พืช 350 (20กก.) 17.50 16.08 13.50 7.50 11.50 ปลากิน เนื้อ 380 (20กก.) 19 17.58 15.00 9.00 13 หมายเหตุ เปลือกโกโก้ที่ใช้ท าอาหารปลาต้องใช้วิธีบดละเอียด - สูตร 1 หมายถึง เปลือกโกโก้หมักยีสต์100% - สูตร 2 หมายถึง เปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 30% - สูตร 3 หมายถึง เปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมข้าวโพดบด 30% - สูตร 4 หมายถึง เปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 20% และข้าวโพดบด 10%
69 การเพิ่มส่วนผสม ร าละเอียด และเมล็ดข้าวโพดบด เป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารที่เกษตรกรที่เป็น ปราชญ์ชาวบ้านแนะน า เนื่องจากระยะเวลาในการศึกษาถูกจ ากัดด้วยเงื่อนเวลา จึงต้องท าการหาส่วนผสมที่วัวกินได้เร็วที่สุด เพื่อน าไปสู่การสังเกตการณ์เจริญเติบโต ต่อไป 4) ผลการทดลองการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ วิธีการทดลอง ด าเนินการดังนี้ สัตว์ที่ใช้ทดลองเป็นโคพื้นเมืองเพศผู้ อายุ 2 – 3 ปี น้ าหนักประมาณ 300 กิโลกรัม จ านวน 5 ตัว โดย ใช้ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล 4 สัปดาห์ ด าเนินการดังต่อไปนี้ อาหารที่เกษตรกรใช้เลี้ยงวัว 1 ตัวใน 1 วัน ได้แก่ 1. อาหารหยาบ ประกอบด้วย ฟางข้าว 3% หญ้าสด 4% ของน้ าหนักตัว (9+12=21 กิโลกรัม) 2. อาหารข้น เป็นอาหารส าเร็จรูปที่สหกรณ์ขุนโคจังหวัดตากจัดจ าหน่าย จ านวน 3 กิโลกรัม แบ่งให้กิน 2 ครั้ง เช้าเวลา 08.30 น. และ บ่ายเวลา 15.00 น. การทดลองครั้งนี้ ใช้อาหารหยาบปริมาณเท่ากับเกษตรกรใช้เลี้ยงโคใน 1 วัน ส่วนอาหารข้นจะใช้อาหาร ส าเร็จรูปที่เกษตรกรเคยใช้ 50 % และอาหารทดลองจากเปลือกโกโก้ 50% สัปดาห์ที่ 1 ให้อาหารหยาบ และอาหารข้นเป็นอาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก. และเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 100% 1.5 ก.ก. (สูตรที่ 1 เปลือกโกโก้หมักยีสต์) สัปดาห์ที่ 2 ให้อาหารหยาบและอาหารข้นเป็นอาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก. และเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 30% 1.5 ก.ก. (สูตรที่ 2 เปลือกโกโก้หมักยีสต์) สัปดาห์ที่ 3 ให้อาหารหยาบ และอาหารข้นเป็นอาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก และเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมข้าวโพดบด 30% 1.5 ก.ก. (สูตรที่ 3 เปลือกโกโก้หมักยีสต์+ข้าวโพดบด) สัปดาห์ที่ 4 ให้อาหารหยาบและอาหารข้นเป็นอาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก. และเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 20% และข้าวโพดบด 10% 1.5 ก.ก. (สูตรที่ 4 เปลือกโกโก้หมักยีสต์) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นแบบสังเกตโดยการจดบันทึก หมายเหตุ : เทียบอัตราการกินอาหารของวัวแทนค่าเป็น % ดังนี้ (0% ไม่กิน) (25% กิน 1 ใน 4) (50% กิน 2 ใน 4) (75% กิน 3 ใน 4) (100% กินหมด)
70 ตารางที่ 4.3 แสดงผลการสังเกตพฤติกรรมการกินอาหารข้น สัปดาห์ที่ 1 (1 – 7 ก.ค. 2565) (เป็นอาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก. ผสมกับเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 100% 1.5 ก.ก.) ตัวที่ สภาพการกินอาหารในเวลา 60 นาที หมายเหตุ 0% 25% 50% 75% 100% 1 - √ - - - มีถ่ายเหลวกว่า การถ่ายปกติ 2 - √ √ - - 3 - √ - - - 4 - √ - - - 5 - - - - - ตารางที่ 4.4 แสดงผลการสังเกตพฤติกรรมการกินอาหารข้น สัปดาห์ที่ 2 (8 – 14 ก.ค. 2565) อาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก. ผสมเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 30%1.5 ก.ก. ตัวที่ สภาพการกินอาหารในเวลา 60 นาที หมายเหตุ 0% 25% 50% 75% 100% 1 - - - √ - มีถ่ายเหลว เล็กน้อย 2 - - - √ - 3 - - √ - - 4 - - - √ - 5 - - - √ - ตารางที่ 4.5 แสดงผลการสังเกตพฤติกรรมการกินอาหารข้น สัปดาห์ที่ 3 (15 – 21 ก.ค. 2565) อาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก ผสมเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมข้าวโพดบด 30% 1.5 ก.ก. ตัวที่ สภาพการกินอาหารในเวลา 60 นาที หมายเหตุ 0% 25% 50% 75% 100% 1 - - √ - - การถ่าย เกือบปกติ 2 - - - √ - 3 - - √ - - 4 - - - √ - 5 - - - √ -
71 ตารางที่ 4.6 แสดงผลการสังเกตพฤติกรรมการกินอาหารข้น สัปดาห์ที่ 4 (22 – 31 ก.ค. 2565) อาหารส าเร็จรูป 1.5 ก.ก. ผสมเปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 20% และข้าวโพดบด 10% 1.5 ก.ก. ตัวที่ ปริมาณการกินอาหารในเวลา 60 นาที หมายเหตุ 0% 25% 50% 75% 100% 1 - - - - √ การถ่ายเริ่มปกติ 2 - - - - √ 3 - - - - √ 4 - - - - √ 5 - - - - √ จากการใช้เปลือกโกโก้หมักยีสต์สูตรต่าง ๆ ที่คณะผู้วิจัยได้ท าการทดลอง พบว่าอาหาร สูตรที่ 4 ซึ่ง ประกอบด้วย เปลือกโกโก้หมักยีสต์ 70% ผสมร าละเอียด 20% และข้าวโพดบด 10% ผสมกับอาหารส าเร็จรูปที่ เกษตรกรใช้ในอัตราส่วน 50 : 50 วัวชอบกินมากที่สุดสรุปเป็นกราฟดังภาพ ภาพที่ 4.7กราฟแสดงพฤติกรรมโคต่อการกินอาหาร 4 สัปดาห์
72 ข้อเสนอแนะจากเกษตรกร ควรผสมแร่ธาตุที่จ าเป็นลงไปในอาหารทุก 100 กิโลกรัม ต่อ พรีมิกซ์ 1 ถุง เนื่องจากการด าเนินการทดลองมีระยะเวลาจ ากัด ท าให้ไม่สามารถผ่าดูคุณภาพของซากได้ จึงไม่ ทราบว่าคุณภาพเป็นอย่างไร กระท าได้โดยการสังเกตการณ์เจริญเติบโตของวัวมีการเจริญเติบโตได้ตามปกติ อาหาร ผสมไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อวัวแต่อย่างใด ส าหรับตารางสูตรอาหารที่น าเสนอนั้น ต้องการแสดงให้เห็นว่าเปลือกโกโก้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 5) การทดลองเพื่อเปรียบเทียบอัตราการเจริญเติบโตระหว่างอาหารที่เกษตรกรใช้ในปัจจุบันกับการ อาหารที่ผลิตโดยใช้เปลือกโกโก้หมักยีสต์ สูตรที่ 4 โคที่ใช้ในการทดลองเป็นโคของสมาชิกสหกรณ์ขุนโคจังหวัดตาก แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ๆ ละ 3 ตัว เป็นโค พื้นเมืองเพศผู้ อายุ 2 – 3 ปี น้ าหนักประมาณ 300 กิโลกรัมต่อตัว ท าการทดลองเป็นระยะเวลา 90 วัน โดย ด าเนินการดังนี้ กลุ่มที่ 1 จ านวน 3 ตัว เลี้ยงโดยใช้อาหารที่สหกรณ์ใช้อยู่ในปัจจุบัน คืออาหารหยาบและอาหารข้น อาหารหยาบประกอบด้วย ฟางข้าว 3% หญ้าสด 4% ของน้ าหนักตัว ส่วนอาหารข้นวันละ 3 กิโลกรัม แบ่งให้2 ครั้ง ครั้งแรกเวลา 08.00 น. ครั้งที่ 2 เวลา 15.30 น. กลุ่มที่ 2 จ านวน 3 ตัว เลี้ยงโดยใช้อาหารหยาบชนิดเดียวกันกับกลุ่มที่ 1 เปลี่ยนอาหารข้นเป็นใช้ อาหารของทีมวิจัย (สูตรที่ 4) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นแบบสังเกตโดยการจดบันทึก ตารางที่ 4.7 ข้อมูลการเจริญเติบโตของโคน าเสนอผลรวมเป็นกลุ่ม โคกลุ่มที่ 1 โคกลุ่มที่ 2 วันที่ น้ าหนัก (Kg) ผลต่าง วันที่ น้ าหนัก (Kg) ผลต่าง 1 15 30 45 60 75 90 904 925.6 948 969.8 992.3 1,014.8 1,037.7 - 21.6 22.4 21.8 22.5 22.5 22.9 1 15 30 45 60 75 90 907 925 943.9 963.4 984.1 1,005.1 1,027.4 - 18 18.9 19.5 20.7 21 22.3 รวม 133.7 รวม 120.4
73 จากตารางที่ 4.7 ผลต่างการเจริญเติบโตของโคในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ต่างกัน 11 กิโลกรัม ซึ่งจาก การวิเคราะห์พบว่าในระยะเริ่มต้นเป็นระยะที่โคกลุ่มที่ 2 ปรับเปลี่ยนอาหาร เมื่อพ้นระยะ 30 วันแรกไปแล้ว จะเห็นพัฒนาการดีขึ้น ซึ่งระยะเวลาการขุนโคของสมาชิกสหกรณ์แห่งนี้ใช้ระยะเวลาในการขุน 8 เดือน ถึง 1 ปี แนวโน้มในการเพิ่มน้ าหนักจากเดือนที่ 4 ถึงเดือนที่ 8 ในโคกลุ่มที่ 2 เพิ่มขึ้น ผลการเจริญเติบโตในระยะต่อไปไม่ น่าแตกต่างกัน แสดงให้เห็นว่าคุณภาพอาหารที่ใช้ขุนโคทั้ง 2 กลุ่ม มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน อัตราการเจริญเติบโต ของโค กลุ่มที่ 1 เฉลี่ย 0.495 : ตัว : วัน กลุ่มที่ 2 เฉลี่ย 0.445 : ตัว : วัน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของ สมบัติ (2530) ได้รายงานว่าอิทธิพลของพันธุ์มีผลต่อประสิทธิภาพการ เปลี่ยนอาหารและอัตราการเจริญเติบโตต่อวัน โคพื้นเมืองจะมีประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหาร และอัตราการ เจริญเติบโตต ่ากว่าโคเนื้อลูกผสม ซึ่งการเจริญเติบโตของโคพื้นเมืองมีค่าเท่ากับ 0.43 กิโลกรัม/วัน ตารางที่ 4.8 แสดงข้อมูลราคาค่าอาหารที่ใช้ในการขุนโค โคกลุ่มที่ 1 โคกลุ่มที่ 2 วัตถุดิบ เป็นเงิน (บาท) วัตถุดิบ เป็นเงิน (บาท) อาหารหยาบ 1.ฟางข้าว ก.ก.ละ 3 บาท 3% = 9 ก.ก. 2.หญ้าสด ก.ก.ละ 2 บาท 4% = 12 ก.ก. อาหารข้น ก.ก.ละ 10 บาท 3 ก.ก. 27 24 30 อาหารหยาบ 1.ฟางข้าว ก.ก.ละ 3 บาท 3% = 9 ก.ก. 2.หญ้าสด ก.ก.ละ 2 บาท 4% = 12 ก.ก. อาหารข้น ก.ก.ละ 6 บาท 3 ก.ก. 27 24 18 รวม 81 รวม 69 สรุปราคาอาหารของทีมวิจัยถูกกว่าราคาอาหารที่สหกรณ์ขุนโคจังหวัดตากใช้อยู่วันละ 12 บาท ต่อตัว ต่อวัน ดังนั้น ค่าอาหารที่ใช้ในการขุนโคของโคกลุ่มที่ 2 ถูกกว่า ตลอดการทดลอง 90 วัน สามารถประหยัดต้นทุนได้ ตัวละ 1,080 บาท โคขุน 3 ตัว ประหยัดค่าอาหารได้ 3,240 บาท แสดงว่า เกษตรกรจะมีก าไรเพิ่มขึ้น 1,080 บาท ต่อตัว อนึ่ง ปัจจัยส าคัญในการเปลี่ยนอาหารเป็นการเจริญเติบโตมีปัจจัยส าคัญหลายประการดังนี้ 1. พันธุ์ของโคที่ใช้ในการขุน ควรเป็นโคลูกผสม ผู้วิจัยเลือกทดลองโคพื้นเมืองเพราะเกษตรกรรายย่อย ส่วนใหญ่เลี้ยงพันธุ์นี้ 2. การพัฒนาสายพันธุ์ถ้าโคในฝูงเป็นโคเลือดชิด จะส่งผลถึงการเจริญเติบโต 3. การเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ 4. คุณภาพวัตถุดิบที่น ามาใช้เป็นอาหารขุนโค
74 ภาพที่ 4.8 กราฟแสดงการเปรียบเทียบราคาค่าใช้จ่ายในการขุนโค 1.2 รูปแบบที่ 2 การผลิตปุ๋ยหมักและดินปลูกโดยใช้เปลือกโกโก้เป็นส่วนผสม 1) การผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยหมัก เป็นปุ๋ยท าจากอินทรีย์วัตถุ มีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ส าหรับการเจริญเติบโตของพืช ผลิตจากวัสดุอินทรีย์ของเสียจากโรงงาน (บางประเภท) มูลวัว มูลไก่ มูลค้างคาว ซากต้นไม้ ใบไม้ กรดอะมิโน โดโลไมท์ และแร่ธาตุต่าง ๆ น ามาบด เติมจุลินทรีย์ บ่มหมัก จนย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย ส่วนผสมของปุ๋ยหมัก 1. ปุ๋ยคอก (มูลวัว/มูลไก่/มูลแพะ/มูลสุกร) 1 ส่วน 2. อินทรียวัตถุ วัสดุเหลือใช้จากการเกษตรในพื้นที่ (วัชพืช ต้นถั่ว เปลือกถั่ว ฟางข้าว ต้นข้าวโพด แกลบ ขุยมะพร้าว เปลือกโกโก้ ใบและกิ่งก้านจากการตัดแต่งต้นโกโก้และเปลือกไข่) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือ หลายอย่างรวมกัน 1 ส่วน 3. แร่ธาตุที่ได้จากการผลิตถ่านหิน เช่น ฮิวมัส ยิปซั่ม โดโลไมท์ 1 ส่วน 4. แกลบด า / ถ่านชีวภาพหรือถ่านไบโอชาร์ ที่เผาจากผลโกโก้ที่คัดทิ้งและเปลือกโกโก้ 1 ส่วน น าวัสดุหมักรวมกัน โดยใช้น้ าจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงและจุลินทรีย์จาวปลวกราดรด เพื่อเพิ่มความชื้น และประสิทธิภาพการย่อยสลายแก่กองปุ๋ย หมักทิ้งไว้ 45 -60 วัน สามารถน ามาใช้หรือจ าหน่ายได้
75 ตารางที่ 4.9 การเปรียบเทียบราคาวัตถุดิบทดแทน อินทรีย์วัตถุที่ใช้อยู่เดิม อินทรีย์วัตถุที่ใช้ทดแทน ผลต่างราคา ประเภท อินทรีย์วัตถุ ราคา(บาท) ต่อตัน ประเภท อินทรีย์วัตถุ ราคา(บาท) ต่อตัน (บาท) ต้นถั่ว เปลือกถั่ว ฟางข้าว ต้นข้าวโพด ขุยมะพร้าว 600 1,000 800 1,000 เปลือกโกโก้ 300 300 700 500 700 จากตารางแสดงให้เห็นว่า การใช้เปลือกโกโก้เป็นอินทรียวัตถุทดแทน สามารถลดรายจ่ายการซื้อวัตถุดิบ และสามารถแก้ไขการขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากเปลือกโกโก้เป็นวัตถุที่มีตลอดทั้งปีส่วนวัตถุดิบอย่างอื่นจะมี เฉพาะฤดูกาลปลูกเท่านั้น การท าดินพร้อมปลูก ส่วนผสมของดินพร้อมปลูก 1. ดินร่วน 1 ส่วน 2. ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน เมื่อต้นทุนอินทรียวัตถุที่ใช้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ลดลง ต้นทุนของการท าดินพร้อมปลูกย่อมลดลงไปด้วย ท าให้ธุรกิจมีก าไรมากขึ้น 3) ประโยชน์ของการใช้เปลือกฝักโกโก้เพื่อปรับปรุงผลผลิตพืชผลและคุณภาพดินที่ได้รับการ รับรองและเผยแพร่ 1. ประโยชน์ของ Cocoa Pod Husk Compost ส่งเสริมดินที่อุดมด้วยสารอาหารและเพิ่มความสามารถ ในการกักเก็บน้ า 2. ป้องกันแบคทีเรีย ไวรัส หรือจุลินทรีย์อื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดโรค (เช่น เชื้อที่ท าให้เกิดโรคฝักด า) รองรับ การเจริญเติบโตของพืชที่มีสุขภาพดี 3. ส่งเสริมการแพร่กระจายของรากที่ดี 4. ช่วยลดวัชพืช 5. ลดมลภาวะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านลบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปุ๋ยเคมีและสารฆ่าเชื้อรา ปรับปรุงดินส าหรับพืชผลในอนาคต 4) ตารางเทียบผลการทดลองการผลิตปุ๋ยหมักและดินปลูกโดยใช้เปลือกโกโก้เป็นส่วนผสม
ตารางที่ 4.10 ตารางเทียบผลการทดลองการผลิตปุ๋ยหมักและดินปลูกโดยใช้เปลื แบบบันทึกข้อมูลก ชนิดพืช (ไม้ประดับ) ประเภทของดิน ค่า PH การให้น้ า วิธีการดูแล พริกชี้ฟ้า (ต้นที่ 1) ดินร่วน ประกอบด้วย ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน แกลบดิบ 1 ส่วน ขุยมะพร้าว ½ ส่วน 6.4 1.ช่วง 3 วัน แรก ให้น้ าวัน ละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น 2.ช่วง 4 วัน ต่อมา ให้น้ า วันละครั้ง 3.ช่วงสัปดาห์ ที่ 2 - สัปดาห์ ที่ 4 ให้น้ า สัปดาห์ละ 3 ครั้ง - รดน้ าทุกเช้า-เย็น - ตัดแต่งใบและก้าน - ตั้งในพื้นที่ที่มี อากาศถ่ายเท แสงแดดส่องทั่วถึง - พรวนดินเพื่อก าจัด วัชพืชออกไป และ ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง
76 ลือกโกโก้เป็นส่วนผสม การใช้ดินจากเปลือกโกโก้ ระยะเวลาการเจริญเติบโต 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน น ด ในช่วงระยะเวลาเพาะปลูก - 1 เดือนเมล็ดพริกมีการ เจริญเติบโตแข็งแรงมีใบจริง 5 ใบ โดยเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดด ส่องถึงตลอดทั้งวัน และดูแล ต้นกล้าในถุงเพาะต่อไปอีก 30 วัน แล้วย้ายไปปลูกที่กระถาง ต่อไป ช่วงระยะเวลา 1 เดือนขึ้นไป - 2 เดือน ล าต้นมีการ เจริญเติบโตขึ้นและมีใบ เพิ่มขึ้น เริ่มออกดอกพริก เล็กน้อย ช่วงระยะเวลา 90 - 140 วัน เป็นช่วงเวลาพริกเริ่มมีผลสุก และเก็บเกี่ยว ล าต้นแข็งแรง
แบบบันทึกข้อมูลก ชนิดพืช (ไม้ประดับ) ประเภทของดิน ค่า PH การให้น้ า วิธีการดูแล พริกชี้ฟ้า (ต้นที่ 2) ดินจากเปลือกโกโก้ ประกอบด้วย ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน แกลบดิบ 1 ส่วน ขุยมะพร้าว ½ ส่วน 6.5 4.ช่วงสัปดาห์ ที่ 5 - สัปดาห์ ที่ 7 ให้น้ า สัปดาห์ละ 2 ครั้ง 5.ช่วงสัปดาห์ ที่ 7 ไปแล้ว ให้น้ าสัปดาห์ ละ 1 ครั้ง - รดน้ าทุกเช้า-เย็น - ตัดแต่งใบและก้าน - ตั้งในพื้นที่ที่มี อากาศถ่ายเท แสงแดดส่องทั่วถึง - พรวนดินเพื่อก าจัด วัชพืชออกไป และ ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง เหตุผลที่เลือกปลูกพริก เป็นพืชที่ปลูกง่าย เก็บเกี่ยวไว ได้ราคาดี และพริกถือเป็นพืชผักสวนครัวชนิ นิยมปลูกมากเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งปลูกเพื่อบริโภคเอง และส่งจ าหน่ายในประเทศ แ
77 การใช้ดินจากเปลือกโกโก้ ระยะเวลาการเจริญเติบโต 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน น ด ในช่วงระยะเวลาเพาะปลูก - 1 เดือนเมล็ดพริกมีการ เจริญเติบโตแข็งแรงมีใบจริง 4-5 ใบ โดยเลือกพื้นที่ที่มี แสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน และดูแลต้นกล้าในถุงเพาะ ต่อไปอีก 30 วัน แล้วย้ายไป ปลูกที่กระถางต่อไป ช่วงระยะเวลา 1 เดือนขึ้นไป - 2 เดือน ล าต้นมีการ เจริญเติบโตขึ้นและมีใบ เพิ่มขึ้น เริ่มออกดอกพริก เล็กน้อย ช่วงระยะเวลา 90 - 140 วัน เป็นช่วงเวลาพริกเริ่มมีผลสุก และเก็บเกี่ยว ล าต้นแข็งแรง ผลดก นิดหนึ่งที่มีความจ าเป็นแทบขาดไม่ได้ส าหรับการประกอบอาหารหลายชนิด ถือเป็นพืชที่ และต่างประเทศ ท าให้เกษตรกรในบางพื้นที่มีรายได้หลักมาจากการปลูกพริก
1.3 รูปแบบที่ 3 การผลิตถ่านชีวภาพ หรือ Biochar จากผลและเปลือกโกโก้ ถ่านชีวภาพ หรือไบโอชาร์ (Biochar) เป็นชื่อเรียกถ่านที่ผลิตจากวัตถุดิบทางชีวมวล เพื่อใช้ใน วัตถุประสงค์ทางด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านการเกษตรแบบยั่งยืน ถ่านชีวภาพสามารถผลิตโดยการเปลี่ยน องค์ประกอบของมวลชีวภาพให้สลายตัวด้วยความร้อน และเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบของคาร์บอนที่คงตัวผ่าน กระบวนการให้ความร้อนในสถานที่จ ากัดแบบอับออกซิเจน (Pyrolysis) ซึ่งเรียกกันว่า “การเผาถ่าน” ที่มีการ ควบคุมปัจจัยการเผาเพื่อให้ได้ถ่านชีวภาพที่ สามารถผลิตซ้ าที่มีสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่การเลือกใช้วัตถุดิบ เพื่อการผลิตถ่านชีวภาพนั้น จะมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากของเหลือใช้จากภาคการเกษตร เช่น เศษไม้ เปลือก ผลไม้ มูลสัตว์และวัสดุที่ใช้เพื่อการท าปศุสัตว์ ในที่นี้ใช้ผลโกโก้ที่ไม่ได้คุณภาพและเปลือกโกโก้โดยน าไปเผาที่ อุณหภูมิในช่วง 300 -500 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ใช้ในการสันดาปหรือการเผาชีวมวลชนิดนั้น ๆ คุณสมบัติที่ดีของถ่านชีวภาพและปุ๋ยหมักจากเปลือกโกโก้ ถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ ที่ผลิตขึ้นภายใต้การควบคุมปัจจัยที่เหมาะสม มีคุณสมบัติในการรักษา ความชื้นในดินได้ดี โดยดูดความชื้นจากอากาศไวในตัวถ่าน ซึ่งความชื้นที่เหมาะสมนี้สามารถเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อพืช นอกจากนี้ ยังสามารถกักเก็บธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชไว้ในถ่านได้นานขึ้น ไม่สูญเสียไป กับการพัดพาของน้ าอันเนื่องมาจากมีลักษณะเป็นรูพรุน และยังช่วยเร่งการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินที่เป็น ประโยชน์ต่อพืชได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นพลังงานความร้อนทดแทนพลังงานที่จ าหน่ายในท้องตลาด ทั้งที่อยู่ในรูปแก๊สหุงต้มหรือถ่านไม้ต่าง ๆ การป้องกันโรคฝักด าและการส่งเสริมดินที่อุดมด้วยสารอาหารเป็นภาระราคาแพงส าหรับเกษตรกร รายย่อย ดินและโรคทางการเกษตรที่เสื่อมโทรมเป็นสาเหตุหลักของการผลิตพืชผลต่ าส าหรับเกษตรกรรายย่อย ส าหรับต้นโกโก้ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกโดยเกษตรกรรายย่อย โรคฝักด าจ ากัดการผลิต โรคฝักด าเกิดจากเชื้อราชื่อ Phytophthora โรคที่ท าลายล้างนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วท่ามกลางเปลือกฝักโกโก้ที่เปลี่ยนสีเหลืองสดใสที่มี สุขภาพดีเป็นสีด าและท าลายพืชผล เกษตรกรจ านวนมากหันไปใช้สารเคมีฆ่าเชื้อราและต้องก าจัดฝักที่เป็นโรคอยู่ เป็นประจ า ซึ่งต้องใช้เวลาและเงินค่าใช้จ่ายในการดูแลให้ปราศจากโรคสามารถคิดเป็นร้อยละ 50 ของยอดขาย สิ่งนี้ ท าให้เกิดภาระทางการเงินอย่างหนักส าหรับเกษตรกรรายย่อยที่ต้องพึ่งพาการเกษตรเพื่อหาเลี้ยงชีพและหาเลี้ยง ครอบครัว ปุ๋ยหมักและถ่านไบโอชาร์ที่ท าจากเปลือกฝักโกโก้มีวิธีแก้ปัญหาสองแบบในราคาประหยัด ในขณะที่ หลายคนมองว่าฝักโกโก้เป็นของเสีย เกษตรกรสามารถน าวัสดุที่หาได้ง่ายเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ได้ การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าปุ๋ยหมักที่ท าจากเปลือกฝักโกโก้ (ทั้งที่มีสุขภาพดีและเป็นโรค) มีประสิทธิภาพทั้งในการปรับปรุง คุณภาพดินและยับยั้งโรคฝักด าในโกโก้ งานวิจัยนี้ยังแสดงให้เห็นว่าถ่านไบโอชาร์ที่ผลิตด้วยเปลือกฝักโกโก้สามารถ ช่วยสร้างดินที่ใช้มากเกินไปโดยการเพิ่มสารอาหารและปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของดิน ซึ่งสนับสนุนการ เจริญเติบโตของพืช
79 2. การพัฒนากลุ่มสมาชิกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ 2.1) การรวมกลุ่มสมาชิก ทีมนักวิจัยได้ลงพื้นที่ชักชวนกลุ่มคนที่สนใจร่วมแลกเปลี่ยน พัฒนาและแปรรูปเปลือกโกโก้ การชักชวน ผู้สนใจในตอนแรกไม่สามารถหาผู้สนใจเข้าร่วมได้ตามเป้าหมายจ านวน 30 คน ทีมนักวิจัยจึงหารือกันร่วมวิเคราะห์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและใช้วิธีเชิญชวนโดยแบ่งทีมเพื่อไปเชิญชวนคนเข้าร่วมซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายเกษตรกร ผู้ปลูกโกโก้ 4 คน เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จ านวน 5 คน สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก จ านวน 17 คน เยาวชน จ านวน 3 คน และผู้ประกอบการสินค้าทางการเกษตรจ านวน 3 คน เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มในการพัฒนา ศักยภาพด้านการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในการเชิญชวนคนเข้าร่วมประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น จ านวน 32 คน จากการประชุมหารือได้ข้อเสนอว่าให้จัดตั้งเป็นกลุ่มภายใต้ชื่อ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปวัสดุ เหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดตาก” โดยเน้นการน าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรสร้างมูลค่าเพิ่ม แปรรูปสร้าง เศรษฐกิจชุมชนดังรายชื่อในตาราง ล าดับ ชื่อ – สกุล ล าดับ ชื่อ – สกุล 1 นางสาวพรนภา โวหาร 16 นางบัวลอย ขาญเชียว 2 นายภิรมย์ ทองคุ้ม 17 นายปราโมทย์ ฉิมพาลี 3 นางสมใจ ศรีแสง 18 นางหนูยิ้ม อัมพุนันท์ 4 นางจ ารัส พุ่มพุทธา 19 นายปรเมธ แสงรุ่งโรจน์ทวี 5 นางสาวเนาะเลเล - 20 นายพงษ์สิริ นนทะชัย 6 นายธีรรัตน์ ใจโปร่ง 21 นายนายอินสูร การะยม 7 นายสกล สิทธิกัน 22 นายวันชัย ไพรฤกษ์ 8 นายสุริยาศักดิ ปินขาว 23 น.ส.พรพรรณ ส่างโน 9 นายวันชัย ไพรฤกษ์ 24 น.ส.หนูยิ้ม อัมพุนันท์ 10 นายวันต์ ศีรีสุธาลัย 25 น.ส.นันทิดา เวทย์สกุล 11 สมศักดิ์ มรกตเลิศ 26 นายพนม เจริญผา 12 นางกนกลักษณ์ กิติรัตน์ 27 นางบัวผัด ตาวงค์เสน 13 นายชนะพล จิตต์ธรรม 28 น.ส.จิราภรณ์ อย่างคุณธรรม 14 นายยุทธชัย เดชวกุลไพร 29 นายณรงค์ฤทธิ์ แสนค า 15 นายปราโมทย์ ฉิมพาลี 30 นายทนงศักดิ์ ใจกัน 16 นายประทุม สาดทอง 31. นายประทวน แก้วประสิทธิ์
80 2.2) การถ่ายทอดกระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปลือกโกโก้ การจัดเวทีเพื่อพัฒนาศักยภาพ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดตาก” นั้น มีกลุ่มคนสนใจน าเอาการแปรรูปเปลือกโกโก้รูปแบบที่ 1 การท าปุ๋ยหมักและดินปลูก และรูปแบบที่ 2 การแปรรูป เปลือกโกโก้เป็นถ่านไบโอชาร์ไปผลิตและต่อยอดท าดินปลูกเพื่อจ าหน่าย ส่วนรูปแบบที่ 3 การแปรรูปเปลือกโกโก้เป็น อาหารสัตว์นั้นยังต้องรอผลการตรวจวัดคุณค่าทางโภชนาการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ทีมนักวิจัยซึ่งเป็นเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์จึงน าอาหารสัตว์นี้ไปทดลองใช้ในเบื้องต้นในระยะเวลา 1 เดือน และเก็บข้อมูล บันทึกผล การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้เข้าร่วมพัฒนาพบว่าหากเกิดการแปรรูปและน าไปขยายผลต้องใช้เวลา และความต่อเนื่องเกษตรกรหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่มีเวลาและ ไม่ถนัดในการแปรรูปไม่สนใจน าไปท าเอง และอยากให้มีการจัดตั้งเป็นเครือข่ายโดยมีต้นน้ า คือ สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออร์แกนิก และกลางน้ าเป็นกลุ่ม เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และปลายน้ า คือ ผู้จัดจ าหน่ายและต่อยอดเป็นสินค้าราคาประหยัดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับ เกษตรกรที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตาก 2.3) การพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการกลุ่ม ทีมนักวิจัยได้จัดเวทีเพื่อพัฒนาศักยภาพกลุ่มเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย “กลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดตาก” ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจ านวนทั้งสิ้น 32 คน ในเวทีร่วมคิด ร่วมสนทนา ระดมความคิดเห็นและเรียนรู้โดยเนื้อหาที่ใช้ในการพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มประกอบด้วย การจัดท าแผนวิสาหกิจชุมชน การใช้เครื่องมือชุมชนและการท าโครงสร้างกลุ่ม ได้ร่างแผนการด าเนินกิจกรรมของ กลุ่มและข้อตกลงกลุ่มดังนี้ 1.) ร่างแผน “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดตาก” 1. ชื่อเรื่องที่จะด าเนินการพัฒนา: ส่งเสริมและพัฒนาการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรของ เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตากภายใต้ BGG Model 2. เหตุผล/วัตถุประสงค์ที่จะด าเนินการท าไม (ท าเพื่ออะไร): 1. ส่งเสริมการพัฒนาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่ภายใต้แนวคิด BCG 2. เชื่อมโยงเครือข่ายร่วมพัฒนาแบบองค์รวม 3. ส่งเสริมการตลาดเครือข่ายเกษตรกร 3. เป้าหมายที่จะด าเนินการ (จ านวนเท่าไร): ด าเนินการแปรรูป/ผลิตภัณฑ์/นวัตกรรม อย่างน้อยปีละ 1 ชนิด 4. วิเคราะห์ศักยภาพ: 4.1 สิ่งที่มี: วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่หลากหลายและจ านวนมาก 4.2 สิ่งที่ขาดและสามารถหาเองได้: วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือประกอบการผลิตแปรรูปวัสดุเหลือ ใช้ทาง 4.3 สิ่งที่ขาดที่ต้องการการสนับสนุน: องค์ความรู้ การสนับสนุนด้านวิชาการและงบประมาณ
81 5.การบริหารจัดการ (ท าอย่างไร) ใช้รูปแบบการแปรรูปจากเปลือกโกโก้ของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เป็นตัวเริ่มกระบวนการพัฒนากลุ่มและต่อยอดการน าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่หลากหลาย เช่น ฟางข้าว ข้าวโพด อ้อย ฯลฯ มาท าเป็นนวัตกรรม ผลิภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ประหยัด เกิดประโยชน์ และเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมตลอดจนส่งเสริมพัฒนาศักยภาพสมาชิกในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งทักษะ กระบวนการคิดและเทคโนโลยีที่ช่วย ส่งเสริมการด าเนิน กิจกรรมกลุ่ม การตลาด สร้างรายได้เกิดเศรษฐกิจชุมชน 5.1 ด้านบริหารสมาชิก: มีการระดมทุนแรกเข้าสมาชิกรายละ 500 บาท/ปี ประชุมกันเดือนละ 1ครั้ง 5.2 ด้านการบริหารทุน: มีการจัดท าบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างเป็นระบบและรายงานต่อที่ประชุม อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง 5.3 ด้านวัตถุดิบและการผลิต: รับซื้อวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่จังหวัดตากและพื้นที่ใกล้เคียง 5.4 ด้านการบริหารตลาด: เน้นการแลกเปลี่ยนซื้อขายระหว่างเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร 6.สถานที่ด าเนินการ:ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชุมชนบ้านแม่ตาว ต าบลแม่ตาว อ าเภอแม่สอด จังหวัดตาก 7. ระยะเวลา: 3 ปี 8. ผู้รับผิดชอบ: ประธานกลุ่ม (นายปรเมธ แสงรุ่งโรจน์ทวี) 2.) โครงสร้างกลุ่ม “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดตาก” ภาพที่ 4.9 โครงสร้างกลุ่ม “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดตาก”